Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงานการวิจัย

รายงานการวิจัย

Published by Rujiraporn Ramsiri, 2021-10-30 04:42:21

Description: รายงานการวิจัย
การประเมินหลักสูตรโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
วิทยาเขตกำแพงแสน ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
(ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560)

Search

Read the Text Version

170 ประเด็นการประเมนิ หลักสูตร X ระดบั ความคิดเหน็ S.D. ความหมาย ลาดบั ท่ี สอน 3.23 3.9 วดั ผลและประเมนิ ครอบคลุมการเรยี นรูท้ ้ังดา้ นความรู้ เจตคติ 3.14 0.93 ปานกลาง 8 3.32 และการปฏบิ ตั ิ 3.24 0.99 ปานกลาง 14 3.10 ใชว้ ิธีการและเครอ่ื งมือในการวดั และประเมนิ ผลที่ 3.42 3.18 1.07 ปานกลาง 5 หลากหลาย 3.18 1.03 ปานกลาง 7 3.11 เปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี นมีส่วนรว่ มในการวดั และประเมนิ ผล 3.14 3.12 มกี ารนาผลการประเมินมาสะท้อนผลใหน้ กั เรยี นไดพ้ ฒั นา 3.23 1.09 ปานกลาง 2 3.39 ตนเองเต็มศกั ยภาพ 3.45 0.99 ปานกลาง 10 3.13 มอี าจารยท์ ี่ปรึกษาดแู ล ใหค้ าแนะนา และชว่ ยเหลือ 3.44 1.08 ปานกลาง 12 นกั เรียนอย่างใกล้ชดิ 1.13 ปานกลาง 15 3.14 มีการจัดกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียนท่ีเป็นระบบ ชดั เจน และ 3.38 0.67 ปานกลาง  ปฏิบัติไดจ้ ริง 3.36 3.15 กจิ กรรมพัฒนาผ้เู รยี นมีความหลากหลาย 3.31 1.01 ปานกลาง 4 3.16 กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน ช่วยสะท้อนความสามารถและความ 3.24 0.97 ปานกลาง 1 ถนัดของนักเรยี นไดด้ ี 3.44 สรุปผลการประเมนิ กระบวนการ (P: Process Evaluation) 1.04 ปานกลาง 3 4. ประเมนิ ผลผลติ (P: Product Evaluation) 4.1 นักเรยี นมีผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี นบรรลตุ ามวตั ถุประสงคข์ อง 0.97 ปานกลาง 5 หลักสตู ร 0.97 ปานกลาง 7 4.2 นักเรยี นมสี มรรถนะสาคัญบรรลุตามวัตถปุ ระสงค์หลกั สตู ร 1.06 ปานกลาง 8 (ความสามารถในการสื่อสาร การคิด การแกป้ ัญหา การใช้ 0.93 ปานกลาง 9 ทักษะชีวติ และการใชเ้ ทคโนโลย)ี 1.03 ปานกลาง 2 4.3 นักเรยี นมีคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์บรรลุตามวัตถุประสงค์ หลักสตู ร (รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ซอ่ื สตั ยส์ ุจรติ มีวนิ ยั ใฝ่ เรยี นรู้ อยอู่ ยา่ งพอเพียง มงุ่ ม่ันในการทางาน รกั ความเปน็ ไทย มีจติ สาธารณะ มสี ุนทรียภาพ และมสี ุขนิสัย สขุ ภาพกาย และสุขภาพจติ ที่ด)ี 4.4 นักเรียนมบี คุ ลกิ ภาพทด่ี ีตามเป้าหมายของหลกั สตู ร ในด้าน การเรยี นรอู้ ย่างมีความสขุ การเปน็ ท่ยี อมรับของผอู้ ่นื การ ชว่ ยเหลือ โอบออ้ มอารี สื่อสาร และใฝเ่ รียนรสู้ งิ่ ใหมๆ่ 4.5 นักเรยี นมีความรคู้ วามสามารถในการอ่าน การเขียน และคิด คานวณ (3R) ตามเปา้ หมายของหลักสตู ร 4.6 นักเรยี นมคี วามสามารถทางปัญญา 8 ด้าน ตามเป้าหมาย ของหลักสูตร (ความสามารถดา้ นภาษา คณิตศาสตร์ มติ ิ สมั พันธ์ การควบคมุ ความคดิ ความรู้สกึ ดนตรี มนุษยส์ ัมพันธ์ เข้าใจตนเอง และเข้าใจธรรมชาต)ิ 4.7 นกั เรยี นมีความสามารถตามคณุ ลักษณะของผู้เรียนใน ศตวรรษท่ี 21 (7C) ตามเป้าหมายของหลกั สูตร 4.8 นักเรียนมคี วามมงุ่ ม่ันในการเรียน การทางาน และกล้า

171 ประเดน็ การประเมินหลักสตู ร ระดบั ความคิดเห็น แสดงออกในทางทถ่ี ูกต้องเหมาะสม X S.D. ความหมาย ลาดบั ที่ 4.9 นักเรยี นมกี ระบวนการทางานอยา่ งเปน็ ระบบ 3.24 1.00 ปานกลาง 10 4.10 นกั เรยี นมคี วามสามารถในการสรา้ งสรรค์ชนิ้ งาน 3.37 1.08 ปานกลาง 6 สรุปผลการประเมินผลผลติ (P: Product Evaluation) 3.36 0.74 ปานกลาง  5. ประเมินผลกระทบ (I: Impact Evaluation) 5.1 นักเรียนมคี วามรสู้ กึ รักและภาคภูมใิ จต่อสถาบัน 3.44 1.07 ปานกลาง 6 5.2 นักเรียนมคี วามรคู้ วามสามารถเป็นท่ียอมรับของชุมชน สงั คม 3.52 0.96 มาก 2 ท้งั ภายในและภายนอกสถาบัน 5.3 นกั เรียนที่จบการศกึ ษาจากโรงเรียนเปน็ ท่ยี อมรับของ 3.48 1.01 ปานกลาง 5 สถาบนั การศกึ ษาทงั้ ในและต่างประเทศ 5.4 นักเรยี นท่ีจบการศึกษาจากโรงเรียน ประสบผลสาเรจ็ ใน 3.70 0.88 มาก 1 การศึกษาตอ่ ในระดบั ท่ีสูงขน้ึ 5.5 นกั เรยี นท่จี บการศกึ ษาจากโรงเรยี นได้รับการยอมรับวา่ 3.48 0.99 ปานกลาง 4 “เปน็ คนดใี นสังคม” 5.6 โรงเรียนมชี อื่ เสียงและเป็นผนู้ าในด้านการจดั การศกึ ษาและ 3.51 1.07 มาก 3 พฒั นาคุณภาพผ้เู รยี น ท้ังในระดบั ปฐมวยั ประถมศกึ ษา และ มัธยมศกึ ษา สรุปผลการประเมินผลกระทบ (I: Impact Evaluation) 3.52 0.73 มาก  สรุปผลการประเมินหลกั สตู รของโรงเรยี นในภาพรวม 3.33 0.61 ปานกลาง จากตารางที่ 23 ผลการประเมินหลักสูตรของโรงเรียนในภาพรวมตามความคิดเห็นของ นกั เรียนทีม่ ีตอ่ หลกั สูตรโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกาแพงแสน ศูนย์วิจัย และพัฒนาการศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) หลกั สูตรปกติ พบวา่ นกั เรียนมีความคดิ เห็นต่อหลักสูตรในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง ( X =3.33, S.D.=0.61) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน 5 ด้าน ได้แก่ ด้านบริบท ด้านปัจจัยนาเข้า ด้าน กระบวนการ ดา้ นผลผลติ และด้านผลกระทบ พบวา่ นกั เรียนมีความคดิ เห็นตอ่ หลักสตู รโดยมีค่าเฉลี่ย ของระดับความคิดเห็นมากท่ีสุดอยู่ในระดับมากเพียงด้านเดียวคือ ด้านผลกระทบ ( X =3.52, S.D.=0.73) รองลงมาอีก 4 ด้าน มีความคิดเห็นอยู่ในระดับปานกลาง โดยมีค่าเฉลี่ยของระดับความ คิดเห็นจากมากไปน้อย คือ ด้านปัจจัยนาเข้า ด้านผลผลิต ด้านบริบท และด้านกระบวนการ ( X = 3.39, S.D.=0.72, X =3.36, S.D.=0.74, X =3.27, S.D.=0.63 และ X =3.23, S.D.=0.67 ตามลาดับ) และเม่ือพิจารณาเป็นรายประเด็นของแต่ละด้าน มีข้อค้นพบผลการประเมินหลักสูตร 5 ดา้ นดงั น้ี 1. ด้านบริบท มี 2 องค์ประกอบคือ องค์ประกอบด้านหลักสูตร และองค์ประกอบด้าน รายวิชาและกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน พบว่า นักเรียนมีความคิดเห็นต่อท้ัง 2 องค์ประกอบอยู่ในระดับ ปานกลาง โดยมีค่าเฉลย่ี ของระดับความคิดเห็นมากที่สุด คือ องค์ประกอบด้านรายวิชาและกิจกรรม พัฒนาผู้เรียน รองลงมาคือ องค์ประกอบด้านหลักสูตร ( X =3.30, S.D.=0.71 และ X =3.24, S.D.=0.63 ตามลาดบั ) เมอื่ พจิ ารณาเป็นรายประเด็นยอ่ ยของแตล่ ะองคป์ ระกอบ พบวา่ องค์ประกอบ

172 ด้านหลักสูตรมีประเด็นย่อย 10 ประเด็น ทุกประเด็นมีความคิดเห็นอยู่ในระดับปานกลาง โดย ประเด็นท่ีมีค่าเฉล่ียของระดับความคิดเห็นมากที่สุดคือ 1.5) โรงเรียนได้พัฒนาให้นักเรียนมี ความสามารถในการอ่าน คดิ วิเคราะห์ และเขยี น ช่วยใหน้ กั เรยี นมที กั ษะพ้ืนฐานท่จี าเป็นในการศึกษา รายวิชาตามความถนัดและความสนใจ รองลงมาคือ 1.6) การจัดการศึกษาของโรงเรียนมีความ ตอ่ เน่อื งเชื่อมโยงกันตั้งแตร่ ะดับประถมศกึ ษา และมัธยมศกึ ษา และน้อยทีส่ ุดคือ 1.10) เนื้อหาสาระที่ เรียนแตล่ ะรายวิชาในภาพรวมมีความเหมาะสม นักเรียนสามารถนาไปใช้ได้จริงในชีวิตประจาวัน ( X =3.36, S.D.=0.97, X =3.33, S.D.=1.03 และ X =3.07, S.D.=0.96 ตามลาดับ) ส่วนองค์ประกอบ ด้านรายวิชาและกิจกรรมพฒั นาผู้เรียนมีประเด็นย่อย 8 ประเดน็ พบว่า ทุกประเด็นมีความคิดเห็นอยู่ ในระดับปานกลาง โดยประเด็นท่ีมีค่าเฉลี่ยของระดับความคิดเห็นมากท่ีสุดคือ 1.15) รายวิชาและ กจิ กรรมการเรยี นการสอนในโรงเรียนช่วยส่งเสริมให้นักเรียนมีความรู้ความสามารถ และทักษะด้าน การอา่ น เขียน คดิ คานวณ รองลงมาคอื 1.11) รายวิชาและกจิ กรรมพฒั นาผู้เรียนส่งเสริมให้นักเรียน มคี วามสามารถในการสื่อสาร การคิด การแกป้ ัญหา การใชท้ กั ษะชวี ิต และการใช้เทคโนโลยี และน้อย ทสี่ ดุ คือ 1.18) รายวชิ าและกิจกรรมการเรียนการสอนในโรงเรียนช่วยส่งเสริมให้นักเรียนมีทักษะชีวิต และเข้าใจอาชีพ ( X =3.46, S.D.=0.96, X =3.41, S.D.=0.86 และ X =3.12, S.D.=1.11 ตามลาดับ) 2. ดา้ นปจั จัยนาเขา้ มี 2 องคป์ ระกอบคือ องค์ประกอบด้านบุคคล และองค์ประกอบด้าน เอกสาร ส่ือ เทคโนโลยี และสิ่งสนับสนนุ ท่เี อ้ือตอ่ การเรียนรู้ พบว่า องค์ประกอบด้านบุคคล นักเรียน มคี วามคิดเหน็ อยู่ในระดับมาก ( X =3.50, S.D.=0.83) สว่ นองค์ประกอบด้านเอกสาร สื่อ เทคโนโลยี และส่ิงสนับสนุนท่ีเอ้ือต่อการเรียนรู้ นักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับปานกลาง ( X =3.30, S.D.=0.79) และพบว่า องค์ประกอบด้านบุคคล มีประเด็นย่อย 6 ประเด็น โดยประเด็นที่มีค่าเฉล่ีย ของระดับความคิดเห็นมากที่สุดและรองลงมา ซึ่งนักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก คือ 2.6) ผู้ปกครองส่งเสริมนักเรียนได้พัฒนาศักยภาพเพิ่มเติมจากในชั้นเรียนโดยยินดีให้นักเรียนเข้าร่วม กิจกรรมของทางโรงเรียนทุกกิจกรรม และ2.2) อาจารย์ผู้สอนได้สอนในรายวิชาท่ีตรงกับความ เชยี่ วชาญ ( X =3.75, S.D.=1.03 และ X =3.64, S.D.=1.00 ตามลาดบั ) ส่วนประเด็นที่มีค่าเฉลี่ยของ ระดับความคิดเห็นน้อยท่ีสุด ซ่ึงนักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับปานกลาง คือ เจ้าหน้าที่ มีความ พร้อมในการใหบ้ ริการ สนับสนุน และอานวยความสะดวกเพอ่ื การบรรลเุ ปา้ หมายของงาน ( X =3.05, S.D.=1.13) สาหรบั องคป์ ระกอบด้านเอกสาร สื่อ เทคโนโลยี และส่ิงสนับสนุนที่เอื้อต่อการเรียนรู้ มี ประเด็นย่อย 8 ประเด็น ประเด็นท่ีมีค่าเฉล่ียของระดับความคิดเห็นมากท่ีสุดโดยนักเรียนมีความ คิดเห็นอยู่ในระดับมากคือ 2.11) มีห้องสมุดให้บริการหนังสืออย่างเพียงพอกับความต้องการของ นกั เรียน ( X =3.55, S.D.=1.12)สว่ นลาดบั รองลงมาและน้อยที่สุดพบว่านักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ใน ระดับปานกลางคือ 2.8) มีหนังสือ/ตารา/เอกสารเพียงพอสาหรับใช้ประกอบการเรียน และ2.14) มี กจิ กรรมกบั เพ่ือนต่างโรงเรียนหรอื บคุ คลภายนอกเพื่อแลกเปล่ียนประสบการณ์การเรียนรู้ซึ่งกันและ กนั ( X =3.49, S.D.=1.13 และ X =2.92, S.D.=1.23 ตามลาดับ) 3. ดา้ นกระบวนการ มปี ระเดน็ ย่อย 16 ประเดน็ พบว่าทกุ ประเด็น นักเรยี นมีความคิดเห็น อยู่ในระดับปานกลาง โดยประเด็นที่มีค่าเฉล่ียของระดับความคิดเห็นมากท่ีสุด รองลงมา และน้อย ทส่ี ดุ คอื 3.6) เปิดโอกาสให้นกั เรยี นมสี ่วนร่วมในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 3.13) มีอาจารย์ท่ีปรึกษา

173 ดูแล ให้คาแนะนา และช่วยเหลือนักเรียนอย่างใกล้ชิด และ3.2) มีการจัดการเรียนรู้โดยคานึงถึง ความสามารถของผ้เู รียนเป็นรายบุคคล ( X =3.42, S.D.=0.97, X =3.42, S.D.=1.09 และ X =2.89, S.D.=1.06 ตามลาดบั ) 4. ด้านผลผลติ มีประเดน็ ยอ่ ย 10 ประเด็น พบวา่ ทุกประเดน็ นักเรียนมคี วามคิดเหน็ อยู่ใน ระดับปานกลาง โดยประเด็นทม่ี คี ่าเฉลีย่ ของระดับความคิดเห็นมากที่สุด รองลงมา และน้อยที่สุดคือ 4.2) นักเรยี นมสี มรรถนะสาคัญบรรลตุ ามวัตถปุ ระสงค์หลักสูตร (ความสามารถในการส่ือสาร การคิด การแก้ปัญหา การใช้ทักษะชีวิต และการใช้เทคโนโลยี) 4.8) นักเรียนมีความมุ่งม่ันในการเรียน การ ทางาน และกลา้ แสดงออกในทางท่ถี กู ต้องเหมาะสม และ4.9) นกั เรยี นมกี ระบวนการทางานอย่างเป็น ระบบ ( X =3.45, S.D.=0.97, X =3.44, S.D.=1.03 และ X =3.24, S.D.=1.00 ตามลาดบั ) 5. ด้านผลกระทบ มีประเด็นย่อย 6 ประเด็น พบว่า ประเด็นท่ีมีค่าเฉล่ียมากที่สุดและ รองลงมา ซ่ึงนักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก คือ 5.4) นักเรียนที่จบการศึกษาจากโรงเรียน ประสบผลสาเร็จในการศึกษาต่อในระดับท่ีสูงข้ึน และ5.2) นักเรียนมีความรู้ความสามารถเป็นท่ี ยอมรับของชุมชน สังคม ทั้งภายในและภายนอกสถาบัน ( X =3.70, S.D.=0.88 และ X =3.52, S.D.=0.96 ตามลาดับ) และประเด็นท่ีมีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด ซ่ึงนักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับ ปานกลาง คอื 5.1) นกั เรียนมีความรสู้ กึ รักและภาคภูมิใจต่อสถาบนั ( X =3.44, S.D.=1.07) นอกจากนี้ นักเรียนหลักสูตรปกติได้ให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมในองค์ประกอบของการ ประเมินหลักสตู ร 5 ด้าน มีรายละเอียดดงั นี้ 1. ดา้ นบริบท ควรเพิ่มการจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรให้มากข้ึนเพ่ือเน้นความกล้า แสดงออกของนักเรยี น ควรลดเวลาเรียนลงบ้าง บางอยา่ งเรยี นไปก็ไมไ่ ด้ใช้ทาให้จานวนคาบการเรียน มากเกินไป อาจารย์ควรสอนให้เต็มเวลาและไม่ต้องให้มีการบ้าน ควรเพ่ิมจานวนคาบเรียนวิชา เทคโนโลยี พลศกึ ษา และดนตรีใหม้ ากขนึ้ ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายควรมีแผนการเรียนเพ่ิมข้ึน และเน้นด้านอาชีพ เช่น วิทย์-แพทย์ วิทย์-กีฬา ภาษาต่างประเทศ-ภาษาเกาหลี เป็นต้น ควรนา หลักสูตรในมหาวิทยาลัยมาทดลองใช้ในระดับมัธยมศึกษาเพ่ือให้นักเรียนมีทางเลือกท่ีเหมาะสมกับ ตนเองหลากหลายมากข้ึน ควรมีวิชาเสริมในรายวิชาเลือกหรือชมรมมากกว่านี้เพ่ือให้นักเรียนเลือก เรียนสิ่งท่ีชอบตามศักยภาพจริง ควรมีการฝึกฝนการเอาชีวิตรอดในสังคมมากข้ึน ควรปรับปรุง หลักสตู รให้ตรงกับความเปน็ จรงิ มวี ชิ าเลอื กใหน้ ักเรยี นไดเ้ ลอื กเรียนมากข้ึนครอบคลุมทุกกลุ่มสาระฯ มีรายวิชาอาชีพท่ีเจาะลึกถึงเร่ืองนั้น ๆ เพ่ิมหลักสูตรวิชาพละให้มีมวยสากล ในระดับม.ปลายคาบ ภาษาท่ี 3 ฝร่ังเศส จีน ญี่ปุ่น ควรคงไว้ที่ 10 คาบเหมือนเดิมเพ่ือจะช่วยเร่ืองการพัฒนาภาษาท่ีสาม ของเด็กแผนศิลป์-ภาษา บางแผนการเรียนท่ีสนใจต้องใช้เกรดสูงบางคนเข้าเรียนไม่ได้ บางรายวิชา ควรปรับให้นาไปใช้ได้จริง ควรสอนปฏิบัติมากกว่าทฤษฎี ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายอยากให้ เปล่ียนระบบแผนการเรียนเป็นเตรียมศิลปกรรม เตรียมวิทย์-คอมพ์ เตรียมนิเทศ-มนุษย์ เป็นต้น แทนแผนการเรียนทีเ่ ปิดในปัจจุบนั ควรมีห้องเรียนมัธยมศกึ ษามากขน้ึ เรยี นแบบใหม่ เช่น ตามสายท่ี อยากจะเรียนต่อในมหาลัย ควรปรับการเรียนเป็นเรียนช่วงเช้าเพ่ิมช่วงกลางวันเป็นเรียนวิชาตาม ความถนดั ไมอ่ ยากใหร้ บั เด็กท่ีสอบไม่ติดดว้ ยตนเอง ตอ้ งการใหว้ ิชา \"งานช่างไม้\" อยู่ในวิชาเลือกหรือ ชมรมอย่างเดียว ไมต่ อ้ งการใหอ้ ยู่ในวิชาปกติ ในโครงการแลกเปลี่ยนนักเรียนในต่างประเทศอยากให้

174 มีเกาหลีมาดว้ ย ควรสร้างยิมที่เป็นของกีฬาบาสเกตบอลโดยเฉพาะโดยใช้พ้ืนยิมเป็นไม้ปาเก้ ใช้แป้น บาสของ SPALDING ลกู บาสโรงเรยี นมใี ห้ใช้แบบดๆี ควรมีชมรมบาสและวิชาเลือกบาส เริ่มตั้งแต่ ป. 1-ม.6 จะใหเ้ ด็กได้ฝกึ ความแขง็ แรงและมีคุณภาพในด้านกีฬาบาสเกตบอล ควรมีการจัดการดูแลเด็ก ให้ทั่วถึง ใครทาผิดควรรับผิดชอบ ร้านสวัสดิการควรมีอาจารย์เข้ามาดูแลทุกวัน อาจารย์แนะแนว ระดับประถมควรแนะนามากกว่านี้โดยเฉพาะประถมศึกษาตอนปลาย หลักสูตรโรงเรียนช้ากว่าที่ กรงุ เทพและงา่ ยกวา่ คอ่ นขา้ งมาก ควรลดเวลาเรียน ลดงาน ลดการบา้ นลง เพ่อื ใหน้ ักเรยี นนาเวลาว่าง ไปอ่านหนังสือ หรือค้นคว้าหาความรู้ในสิ่งท่ีสนใจและส่ิงที่ชอบเพ่ือต่อยอดในอนาคต ควรพัฒนา หลักสตู รวิทย-์ คณิตให้เขม้ ข้นขึ้น เพื่อการสอบแข่งขันต่างๆ และเน้นภาษาอังกฤษมากขึ้น ควรมีคาบ เรยี นแบบตอนเรียนปรับพื้นฐาน ม.1 เพราะไม่มากเกินไปและมีเวลาพัก ควรมีการจัดความถนัดของ เดก็ ทัง้ 8 ดา้ น โรงเรยี นสมควรเปน็ สถานทที่ ี่ทาใหเ้ ด็กไดร้ ู้วา่ ชอบอะไร หลักสูตรควรเนน้ ความสามารถ ของเดก็ มากกวา่ การใหแ้ ตค่ วามรู้ ควรลดชวั่ โมงวชิ าภาคบังคับลงและเพ่ิมชั่วโมงวชิ าเลอื กและชมรมให้ มากขึน้ ควรเรยี นวนั ละ 4-5 ชม. แบง่ เรียนหนกั เบาสลบั กนั ไป สอบแค่วิชาหลัก ควรลดคาบวิชาเรียน แล้วเพิ่มกิจกรรมอ่ืนๆ ทดแทนการนั่งเรียนท่ีไม่ได้ขยับตัวยืดเหยียดกล้ามเนื้อท่ีทาให้เกิดผลเสียใน ภายหลงั นกั เรียนควรเรยี นเพียงคร่ึงวัน หลังเท่ียงควรให้เลือกเรียนตามความสนใจ ควรให้จัดตาราง เรียนเอง ทุกคนควรมีสิทธิเสรีภาพในการเสนอความคิดเห็น ควรจัดห้องเรียนแบบคัดมากกว่าแบบ คละช้ันเพื่อให้อาจารย์ในรายวิชาสอนได้อย่างท่ัวถึง ถ้าเป็นห้องเรียนแบบคละเด็กบางคนอาจยังไม่ เข้าใจแต่ผู้สอนปล่อยผ่านไป ควรทาตารางกิจกรรมต่าง ๆ ให้นักเรียนตั้งแต่ต้น-จบปีการศึกษาว่ามี กิจกรรมใดวันท่ีเท่าไหร่ ซึ่งให้ภายในช่วงเวลาที่เปิดเทอมต้นการศึกษาน้ันๆ โรงเรียนควรรับฟัง ความเห็นของนักเรียนจากตัวแทนนักเรียนแต่ละระดับชั้น ควรมีสระว่ายน้าในโรงเรียน ให้อาจารย์ เพมิ่ เทคนิคใหม่ ๆ ในการสอน ใหเ้ ดก็ ไดป้ ฏิบัติลงมือทาจรงิ และเรียนนอกห้องเรียนบ้าง เพ่ิมทักษะใน การใชช้ ีวิตประจาวัน ใหเ้ ด็กมีโอกาสเลอื กเรียนในสิ่งทีจ่ ะนาไปใช้ได้จริงมากกว่านี้ จัดรูปแบบการสอน ใหน้ า่ สนใจ ควรปรบั ปรงุ หลกั สูตรแบบระบบของประเทศฟินแลนด์ ให้อสิ รภาพกบั ผูเ้ รียนมากข้ึน ช่วย แนะนาผู้เรียน และเข้าถึงผู้เรียนให้มากขึ้น และสามารถประเมินผู้เรียนได้ตามความประสงค์ของ ผู้เรียน ควรมเี วลาวา่ งท่ีให้นักเรียนได้ลองทาสงิ่ ต่างๆ มากกว่าการเรียนคาบท่ี 8 หรือคาบที่ 7 ของแต่ ละวัน การติว GAT, PAT ควรให้มีการติวของแผนภาษาและสนับสนุนการสอบวัดระดับให้นักเรียน ดว้ ย อาจารยค์ วรใหค้ าแนะนาในเรอื่ งการศึกษาต่ออยา่ งเป็นกลางไมพ่ ดู โน้มน้าวให้เด็กเกดิ ความรู้สึกท่ี ไม่ดตี อ่ บางสถาบัน และพรอ้ มให้มรี ะบบการแนะแนวที่เขม้ ข้นเพ่อื ใหเ้ ด็กได้รู้เส้นทางและเตรียมความ พร้อมสาหรับตนเองมากข้ึน ควรสนับสนุนให้นักเรียนเข้าร่วมกิจกรรม Open house ของ มหาวทิ ยาลัยต่าง ๆ โดยนับเวลาเรียนรายวิชาให้ โรงเรียนไม่สามารถพัฒนานักเรียนให้มีศักยภาพท้ัง ดา้ นความรแู้ ละคุณธรรม 2. ด้านปัจจัยนาเข้า การปฏิบัติหน้าท่ีสอนของอาจารย์บางท่านที่พบคือเข้าสอนแต่ไม่ สามารถสอนให้เด็กทุกคนเข้าใจได้ มีการปล่อยเกรดและคะแนน สอนตามหนังสือไม่ได้อธิบายความ ให้เขา้ ใจมากข้นึ ไมเ่ ข้าสอน ไม่มีความเชี่ยวชาญในการสอน สอนไม่ตรงกับหัวข้อ สอนผิด ควบคุมช้ัน เรียนไม่ได้ทาให้บางคร้ังไม่ได้เรียนต่อ ใช้ภาษาไม่สุภาพในชั้นเรียน อาจารย์และเจ้าหน้าที่ควรเป็น ตน้ แบบที่ดใี ห้นกั เรียน มีความยุติธรรม ให้ความเสมอภาค ควรมีอุปกรณ์ประกอบการสอน ควรเน้น ปฏิบัติมากกว่าทฤษฎี ควรมีอาจารย์มาสอนวิชา English เป็นชาวอเมริกันมากกว่าฟิลิปปินส์

175 เนอ่ื งจากเรียนมาตั้งแต่ช้ันป.1-ม.6 ไม่สามารถทาให้นักเรียนฟังพูดอ่านเขียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ การสอนในระดับประถมศึกษาโดยอาจารยใ์ ห้คาอา่ นไทยคิดว่าเป็นการสอนที่ผิดมากๆ ทาให้นักเรียน ไม่สามารถอ่านอังกฤษออกได้ ควรจัดหาห้องเรียนท่ีเหมาะสมกับผู้เรียน ควรอนุญาตให้นักเรียนใช้ เทคโนโลยีประกอบการเรียนได้เป็นส่วนตัว เช่น iPAD ในการ Lecture และค้นคว้าข้อมูลได้อย่าง รวดเร็ว และให้ใช้โทรศัพท์ในขณะเรียนได้แต่มีมาตรการควบคุม ห้องสมุดมีหนังสือน้อย ปกหนังสือ บางเลม่ จะขาดแลว้ และไมน่ ่าสนใจ เคร่ืองคอมพิวเตอร์ทีใ่ ห้บริการไม่ทันสมัยและอินเตอร์เนตช้า ควร สร้างและพฒั นาสนามกฬี าใหห้ ลากหลายชนิดกฬี า เช่น แฮนด์บอล บาสเกตบอล เพม่ิ อุปกรณ์งานช่าง ให้เพยี งพอตอ่ จานวนนกั เรียน เพม่ิ ครูผู้สอนเพ่อื จะไดด้ ูแลเดก็ ได้อยา่ งท่วั ถงึ อยากใหอ้ าจารย์ผู้สอนทา ความเข้าใจกับเด็กเพราะเด็กมีความสามารถในการรับรู้ไม่เท่ากันและอยากให้ปรับทัศนคติเด็กๆ เพอื่ ให้เดก็ เป็นคนดคี ดิ ดที าดีข้นึ ควรพฒั นาเร่ืองความสะอาดในโรงเรียนโดยเฉพาะบริเวณโรงอาหาร โต๊ะอาหารและทนี่ ง่ั เร่อื งระเบยี บวินยั ปรับปรุงหอ้ งน้าให้สะอาดและพร้อมใช้ได้ทุกห้อง ควรเข้มงวด ในเรอ่ื ง ยาเสพติดไม่ใหม้ ีในโรงเรยี น แนะนาให้เด็กๆ มโี อกาสทางานพารท์ ไทม์ ควรมีกิจกรรมรุ่นพ่ีรุ่น น้องเพื่อสร้างความผูกพันและให้ความเคารพซึ่งกันและกัน ควรมีระบบการตรวจสอบการให้บริการ ของธรุ การและร้านค้าต่าง ๆ ของโรงเรียน เช่น ร้านค้าสวัสดิการ ร้านสหกรณ์ และร้านถ่ายเอกสาร ในเรื่องการใช้คาพูดที่ไม่สุภาพและการแสดงอาการต่างๆท่ีไม่เหมาะสม ร้านอาหารบางร้านที่มีสิ่ง แปลกปลอมติดมากับอาหาร เช่น เส้นผม ฝอยขัดหม้อ ควรมีร้านถ่ายเอกสารมากกว่า 1 ร้าน ห้อง คอมพิวเตอร์ระดับประถมมีแต่เด็กเล่มเกม ทุกรายวิชาควรมีหนังสือเรียนหรือเอกสารประกอบการ เรียนเพื่อให้นักเรียนได้ใช้ในการศึกษามาล่วงหน้า ควรมีห้องเทคโนโลยีและส่ือการสอนที่ทันสมัย เข้าถงึ ได้งา่ ยรวมท้งั มีกิจกรรมบูรณาการในรายวิชาต่าง ๆ ให้มากข้ึน เจ้าหน้าที่ควรให้ความเป็นมิตร กับนกั เรียน 3. ด้านกระบวนการ การเรียนการสอนควรให้เด็กๆสามารถนาไปใช้ในชีวิตประจาวันและ ทาอะไรได้จริงดว้ ย ควรมีการตง้ั คาถามชวนคิดใหน้ ักเรียนมากกว่าคาถามท่ีทั่วๆไป ควรจัดกิจกรรมให้ นักเรียนได้พบกับเพือ่ นต่างโรงเรยี นมากข้นึ การวดั และประเมินผลควรแจง้ นักเรียนให้ชัดเจนเกี่ยวกับ วธิ กี ารประเมนิ และการใหค้ ะแนน ควรเสรมิ สรา้ งประสบการณท์ างดา้ นการแข่งขันให้กับนักเรียนมาก ขึ้น ส่งเสริมกิจกรรมการแสดงความสามารถของนักเรียนทุกสัปดาห์ ควรให้เด็กศึกษาการใช้ชีวิต มากกว่าการเรียนหลักสูตรกระทรวงฯ จดั การเรียนการสอนนอกห้องเรียนมากกว่าในห้องเรียนเพราะ ในชีวิตจริงไม่ได้อยู่ในห้องเรยี น มอบหมายงานแบบพอดี ไม่มอบหมายก่อนสอบและให้เหมาะสมกับ วัยของนักเรียน อุปกรณ์การปฏิบัติสาหรับนักเรียนไม่พร้อมและไม่เพียงพอ ลดกิจกรรมการบริจาค ควรสอนนอกเหนือจากท่ีหนังสอื มีเพราะในหนังสือนกั เรยี นอ่านเองได้ เน้นกระบวนการแก้ปัญหาจาก ชวี ติ ในปจั จบุ นั อยากใหอ้ าจารยเ์ ข้าใจนักเรียนทุกคนไม่แบ่งแยก เน้นวิชาในสายอาชีพในหลักสูตร มี ระบบการดูแลนกั เรยี นอยา่ งใกล้ชดิ เวลาทางานทอ่ี าจเกิดอบุ ัติเหตุอาจารย์ควรสอนวิธีป้องกันหรือทา ให้ดูเป็นตัวอย่าง ควรมีการพัฒนามารยาทนักเรียนให้มากข้ึน ควรมีกิจกรรมราตรีเขียว-ม่วงสาหรับ เดก็ มัธยมเหมอื นเด็กประถม ควรมีกจิ กรรมค่ายเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างรุ่นพ่ีรุ่นน้องบ่อยๆ ควรออกแบบการจัดงานปัจฉิมนิเทศให้รู้สึกผูกพันและประทับใจ ควรดูแลและควบคุมเด็กดื้อโดยใช้ หลกั จิตวทิ ยา ควรนาปญั หาที่พบในกระทู้ kuskfact มาพัฒนาในบางส่วน อยากให้มีกิจกรรมแข่งขัน ตอบปัญหา ความสามารถต่างๆ ในแต่ละวิชาและแต่ละระดับชั้น ควรมีการส่งเสริมการเรียนเพ่ิมเติม

176 สาหรบั นกั เรียนท่มี ีความสามารถพิเศษ งานกิจกรรมต่าง ๆ ถ้าเป็นตามรายวิชาก็ควรจัดรวมกันแบบ วันวิชาการ การจัดแยกบ่อยๆก็วุ่นวาย งานกีฬาสีควรเพ่ิมกีฬา e-sport สาหรับวัยรุ่น เพราะถ้า นักเรียนบางส่วนไม่ได้ทาก็ไม่อยากอยู่ร่วมงาน อยากได้ระบบการสอนที่ทาให้นักเรียนได้สนุกไปกับ การเรียนและอยากมาเรียนมากกว่าอยู่บ้าน ครตู ้องเข้าใจพื้นฐานของเด็กแต่ละคนอย่าดูถูกหรือใช้คา ไม่เหมาะสมในการดุว่าเด็ก ออกข้อสอบตรงกับเนื้อหาท่ีสอน อยากให้อาจารย์มีเวลาใส่ใจและ พยายามเขา้ ใจเดก็ มากขนึ้ 4. ดา้ นผลผลติ นักเรียนส่วนใหญ่ของโรงเรียนมีผลการเรียนผ่านเกณฑ์ และได้รับเหรียญ ทอง และเกียรติบัตรประเภทที่ 1-3 เรียนดี พฤตกิ รรมดีเดน่ และสรา้ งชือ่ เสยี งให้แกโ่ รงเรียน 5. ดา้ นผลกระทบ นักเรียนกล้าพูดในท่ีชุมชนและเป็นที่น่าเชื่อถือของนักเรียนจากสถาบัน อื่น สังเกตจากการเข้าร่วมกิจกรรมค่ายต่างสถาบันท่ีเตรียมให้นักเรียนศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา นักเรียนท่ีสาเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีพบว่า มีจานวนหน่ึงที่ได้รับเกียรตินิยมจากคณะใน มหาวิทยาลัยท่สี าเร็จการศกึ ษา และบางส่วนได้รบั ทนุ จากรัฐบาลเพื่อศึกษาต่อทง้ั ในและต่างประเทศ

177 ตารางท่ี 24 ผลการสอบถามความคิดเห็นของนักเรียนท่ีมีต่อหลักสูตรโรงเรียนสาธิตแห่ง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกาแพงแสน ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา ตามหลักสูตร แกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) หลักสูตร English Program ประเด็นการประเมนิ หลกั สตู ร ระดับความคดิ เห็น 1. ประเมนิ บริบท (C: Context Evaluation) X S.D. ความหมาย ลาดบั ที่  หลกั สูตร 1.1 โรงเรียนพฒั นาคณุ ภาพนักเรยี นไมต่ า่ กว่าเกณฑม์ าตรฐาน 3.52 0.58 มาก 4 การศกึ ษาของชาติ พ.ศ.2561 (เป็นผู้เรยี นรู้ เป็นผรู้ ว่ ม สร้างสรรคน์ วัตกรรม และเปน็ พลเมืองทีเ่ ข้มแขง็ ) 1.2 โรงเรยี นสง่ เสริมใหน้ ักเรยี นสามารถแสวงหาและสร้างความรู้ 3.37 0.97 ปานกลาง 8 ด้วยตนเองได้ 1.3 โรงเรียนส่งเสริมให้นักเรยี นมีความพร้อมในการศึกษาตอ่ ตาม 3.33 1.21 ปานกลาง 9 ความถนดั ความสนใจ ซ่งึ สอดคล้องกบั ความต้องการของ นักเรียน 1.4 โรงเรียนไดพ้ ฒั นาคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงคข์ องผ้เู รยี น เปน็ 3.59 0.84 มาก 3 การชว่ ยสะท้อนความมงุ่ มนั่ ศกึ ษา กลา้ แสดงออกของ นักเรียน 1.5 โรงเรยี นได้พัฒนาใหน้ กั เรยี นมีความสามารถในการอ่าน คดิ 3.41 0.93 ปานกลาง 6 วเิ คราะห์ และเขียน ชว่ ยให้นกั เรยี นมที กั ษะพื้นฐานทีจ่ าเปน็ ในการศกึ ษารายวิชาตามความถนัดและความสนใจ 1.6 การจัดการศึกษาของโรงเรียนมีความตอ่ เน่ืองเชือ่ มโยงกนั ต้งั แต่ 3.74 0.94 มาก 1 ระดับประถมศกึ ษา และมัธยมศึกษา 1.7 รายวิชาตามกลมุ่ สาระการเรียนรู้ 8 กลุ่ม และกิจกรรมพัฒนา 3.48 0.70 ปานกลาง 5 ผเู้ รียน ทาใหน้ ักเรยี นมที กั ษะการคิด และสามารถแก้ปัญหา ในชีวิตประจาวนั ได้ 1.8 รายวชิ าตามกล่มุ สาระการเรยี นรู้ 8 กลุม่ และกิจกรรมพฒั นา 3.37 0.84 ปานกลาง 7 ผูเ้ รียน ทาให้นักเรียนมบี ุคลิกภาพทีด่ ีในด้านการเรียนรู้อย่าง มีความสขุ การเปน็ ทย่ี อมรบั ของผู้อนื่ การช่วยเหลอื โอบออ้ ม อารี ส่อื สาร และใฝเ่ รยี นรสู้ ่งิ ใหมๆ่ 1.9 จานวนเวลาเรียน 6-8 คาบตอ่ วนั มคี วามเหมาะสม 3.65 1.06 มาก 2 1.10 เนอื้ หาสาระทเ่ี รียนแต่ละรายวิชาในภาพรวมมีความ 3.23 1.03 ปานกลาง 10 เหมาะสม นกั เรยี นสามารถนาไปใช้ได้จริงในชีวิตประจาวัน สรปุ ดา้ นหลกั สูตร 3.47 0.51 ปานกลาง   รายวิชา (พ้นื ฐานและเพม่ิ เติม) และกจิ กรรมพัฒนา ผเู้ รยี น 1.11 รายวชิ าและกจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น ส่งเสริมให้นักเรียนมี 3.48 0.92 ปานกลาง 6 ความสามารถในการสื่อสาร การคิด การแก้ปญั หา การใช้ ทกั ษะชวี ิต และการใช้เทคโนโลยี

178 ประเด็นการประเมนิ หลักสตู ร ระดบั ความคิดเห็น X S.D. ความหมาย ลาดบั ท่ี 1.12 รายวิชาและกจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน สง่ เสริมให้นกั เรียนมี 3.64 0.95 มาก 4 สมรรถนะในการเปน็ ผ้เู รียนรู้ ไดแ้ ก่ มคี วามเพยี ร ใฝ่เรยี นรู้ และมที กั ษะการเรียนรู้ตลอดชีวิต กา้ วทันโลกยคุ ดิจทิ ลั และ โลกในอนาคต มสี นุ ทรยี ะ มที ักษะชวี ติ มีคุณภาพชวี ติ ท่ดี ี ตอ่ ตนเอง ครอบครวั และสงั คม 1.13 รายวิชาและกจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น ส่งเสริมให้นักเรยี นมี 3.68 0.85 มาก 3 สมรรถนะในการเป็นผู้รว่ มสร้างสรรค์นวตั กรรม ได้แก่ มี ทกั ษะทางปญั ญา สามารถใช้เทคโนโลยีดิจิทลั อย่าง เหมาะสม มีทกั ษะการคิดสร้างสรรค์ สามารถปรับตัวเขา้ กบั ผอู้ ื่นได้ดี และมกี ารสรา้ งสรรค์งานใหม่ 1.14 รายวิชาและกจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน สง่ เสริมให้นกั เรยี นมี 3.36 0.91 ปานกลาง 8 สมรรถนะในการเป็นพลเมอื งที่เขม้ แข็ง ไดแ้ ก่ มคี วามรกั ชาติ รักท้องถิน่ มจี ติ อาสา มอี ดุ มการณ์ มีความยุตธิ รรม และใช้ทรพั ยากรอย่างรคู้ ณุ ค่า 1.15 รายวิชาและกิจกรรมการเรยี นการสอนในโรงเรยี น ชว่ ย 3.72 0.94 มาก 2 สง่ เสริมให้นกั เรยี นมีความรู้ ความสามารถ และทักษะดา้ น การอา่ น เขียน คิด คานวณ 1.16 รายวิชาและกจิ กรรมการเรยี นการสอนในโรงเรียน ช่วยสง่ เสรมิ 3.80 0.71 มาก 1 ให้นกั เรยี นมีคุณลักษณะผเู้ รียนในศตวรรษที่ 21 ได้แก่ ความสามารถในการคิดไตร่ตรอง คดิ แก้ปัญหา มที กั ษะการ ทางานรว่ มกนั มีทกั ษะการสื่อสาร มีความรอบรู้ทางขอ้ มูล สารสนเทศและทางดิจิทลั มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถ สรา้ งสรรคผ์ ลงานใหม่ได้ 1.17 รายวิชาและกจิ กรรมการเรียนการสอนในโรงเรยี น ชว่ ย 3.48 0.92 ปานกลาง 6 สง่ เสรมิ ใหน้ กั เรยี นมบี คุ ลิกภาพทด่ี ีในดา้ นการเรียนร้อู ยา่ งมี ความสขุ การเปน็ ที่ยอมรับของผูอ้ นื่ การช่วยเหลือ โอบอ้อม อารี สือ่ สาร และใฝเ่ รยี นรสู้ ิง่ ใหมๆ่ 1.18 รายวชิ าและกิจกรรมการเรยี นการสอนในโรงเรียน ช่วย 3.52 1.08 มาก 5 ส่งเสริมใหน้ ักเรียนมที ักษะชวี ติ และเข้าใจอาชพี สรปุ ดา้ นรายวิชา(พื้นฐานและเพม่ิ เตมิ ) 3.59 0.66 มาก  และกิจกรรมพัฒนาผูเ้ รยี น สรปุ ผลการประเมินบรบิ ท (C: Context Evaluation) 3.52 0.54 มาก  2. ประเมนิ ปจั จยั นาเขา้ (I: Input Evaluation)  บุคคล 2.1 ความรูค้ วามสามารถ ความเช่ียวชาญ และประสบการณข์ อง 3.44 0.87 ปานกลาง 4 อาจารยผ์ ู้สอน มคี วามเหมาะสม 2.2 อาจารยผ์ ู้สอนไดส้ อนในรายวิชาทต่ี รงกบั ความเช่ยี วชาญ 3.25 1.22 ปานกลาง 5 2.3 เจา้ หนา้ ที่ มีความพรอ้ มในการให้บรกิ าร สนับสนนุ และ 3.20 1.00 ปานกลาง 6 อานวยความสะดวกเพ่ือการบรรลเุ ปา้ หมายของงาน

179 ประเด็นการประเมินหลักสตู ร ระดับความคิดเห็น X S.D. ความหมาย ลาดบั ท่ี 2.4 ผเู้ รยี นมพี ืน้ ฐานความรู้ความสามารถตรงตามระดับชนั้ ที่เรยี น 3.56 0.87 มาก 3 และสามารถศึกษาตอ่ ในระดบั ทส่ี งู ข้ึน 2.5 ผู้ปกครองมีความเขา้ ใจ และสนับสนุนกิจกรรมการเรยี นการ 4.13 0.85 มาก 1 สอนของโรงเรียน 2.6 ผปู้ กครองส่งเสริมนกั เรียนได้พัฒนาศักยภาพเพิ่มเติมจากในช้ัน 4.04 0.89 มาก 2 เรียน โดยยนิ ดีใหน้ ักเรยี นเขา้ ร่วมกิจกรรมของทางโรงเรยี นทกุ กจิ กรรม สรปุ ดา้ นบคุ คล 3.61 0.59 มาก   เอกสาร สอ่ื เทคโนโลยี และส่งิ สนบั สนนุ ท่ีเอ้ือต่อการ เรยี นรู้ 2.7 หอ้ งเรียนมีสภาพท่เี อื้อตอ่ การเรยี นรู้ 3.40 1.26 ปานกลาง 7 2.8 มีหนังสอื /ตารา/เอกสารเพยี งพอสาหรับใช้ประกอบการเรยี น 3.67 0.96 มาก 5 2.9 มสี อ่ื วสั ดุ อุปกรณป์ ระกอบการเรียนเพียงพอ 3.72 0.94 มาก 4 2.10 มวี ัสดอุ ุปกรณก์ ารเรยี น สอ่ื และเทคโนโลยใี นชน้ั เรยี นเพ่ือ 3.80 0.82 มาก 1 ช่วยให้นกั เรียนเรียนรไู้ ด้ดขี ้ึน 2.11 มหี ้องสมดุ ให้บรกิ ารหนังสอื อย่างเพียงพอกบั ความต้องการ 3.76 1.01 มาก 2 ของนกั เรยี น 2.12 มหี อ้ งบริการสืบคน้ ข้อมูลดว้ ยระบบเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ท่ี 3.52 1.16 มาก 6 เหมาะสมและทนั สมัย 2.13 มีการจัดสภาพแวดล้อมในโรงเรยี นทีเ่ หมาะสมและเอื้อต่อ 3.72 0.84 มาก 3 การเรยี นรู้ 2.14 มีกจิ กรรมกับเพ่อื นต่างโรงเรยี นหรอื บุคคลภายนอกเพ่อื 3.04 1.21 ปานกลาง 8 แลกเปลย่ี นประสบการณก์ ารเรยี นรซู้ ง่ึ กนั และกัน สรุปดา้ นเอกสาร สอ่ื เทคโนโลยี 3.58 0.75 มาก  และส่งิ สนับสนนุ ท่เี ออ้ื ต่อการเรยี นรู้ สรปุ ผลการประเมินปัจจัยนาเข้า (I: Input Evaluation) 3.59 0.63 มาก  3. ประเมินกระบวนการ (P: Process Evaluation) 3.1 มกี ารจัดการเรียนรู้ดว้ ยวธิ กี ารท่ีหลากหลาย 3.67 1.11 มาก 1 3.2 มีการจดั การเรยี นรูโ้ ดยคานึงถึงความสามารถของผ้เู รียนเป็น 3.14 0.99 ปานกลาง 11 รายบุคคล 3.3 มกี ิจกรรมการเรยี นร้ทู เี่ นน้ ให้นกั เรียนไดค้ ดิ วเิ คราะห์ และลง 3.05 1.40 ปานกลาง 15 มือปฏบิ ัตจิ รงิ 3.4 จดั การเรียนรู้โดยกระตุ้นใหผ้ เู้ รยี นกระตือรือรน้ ในการ 3.14 1.13 ปานกลาง 13 แสวงหาความรดู้ ้วยตนเอง 3.5 จดั การเรยี นร้โู ดยสอดแทรกคุณธรรมจรยิ ธรรม 3.32 1.21 ปานกลาง 8 3.6 เปดิ โอกาสให้นักเรียนมีส่วนรว่ มในการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 3.50 1.19 มาก 5 3.7 มกี ารบอกวิธกี ารวัดและประเมินผลแต่ละครง้ั ใหผ้ เู้ รียนทราบ 3.55 1.01 มาก 3 ลว่ งหน้า

180 ประเด็นการประเมินหลกั สูตร ระดับความคดิ เหน็ X S.D. ความหมาย ลาดบั ท่ี 3.8 มกี ารวดั และประเมนิ ผลอยา่ งต่อเน่ืองควบค่ไู ปกับการเรยี นการ 3.45 1.01 ปานกลาง 6 สอน 3.9 วดั ผลและประเมินครอบคลุมการเรยี นรูท้ งั้ ด้านความรู้ เจตคติ 3.18 0.91 ปานกลาง 9 และการปฏบิ ตั ิ 3.10 ใชว้ ิธกี ารและเครื่องมือในการวัดและประเมนิ ผลท่ี 3.18 1.05 ปานกลาง 10 หลากหลาย 3.11 เปิดโอกาสให้นกั เรยี นมีส่วนรว่ มในการวดั และประเมินผล 3.59 1.33 มาก 2 3.12 มีการนาผลการประเมนิ มาสะท้อนผลใหน้ กั เรยี นได้พฒั นา 3.32 1.09 ปานกลาง 7 ตนเองเตม็ ศักยภาพ 3.13 มอี าจารย์ทีป่ รกึ ษาดูแล ให้คาแนะนา และชว่ ยเหลอื 3.55 1.30 มาก 4 นกั เรียนอย่างใกลช้ ดิ 3.14 มีการจัดกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียนท่ีเปน็ ระบบ ชัดเจน และ 3.14 1.04 ปานกลาง 12 ปฏบิ ตั ิได้จริง 3.15 กจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี นมีความหลากหลาย 3.09 0.87 ปานกลาง 14 3.16 กิจกรรมพัฒนาผ้เู รียนช่วยสะท้อนความสามารถและความ 3.00 1.15 ปานกลาง 16 ถนดั ของนักเรียนไดด้ ี สรุปผลการประเมินกระบวนการ (P: Process Evaluation) 3.30 0.85 ปานกลาง  4. ประเมนิ ผลผลติ (P: Product Evaluation) 4.1 นกั เรยี นมผี ลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นบรรลุตามวตั ถปุ ระสงค์ของ 3.50 1.06 มาก 5 หลกั สูตร 4.2 นักเรยี นมสี มรรถนะสาคญั บรรลุตามวัตถุประสงค์หลกั สูตร 3.55 1.34 มาก 4 (ความสามารถในการส่อื สาร การคิด การแก้ปญั หา การใช้ ทกั ษะชวี ิต และการใชเ้ ทคโนโลยี) 4.3 นักเรยี นมีคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์บรรลุตามวตั ถุประสงค์ 3.61 0.84 มาก 3 หลักสูตร (รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซ่ือสตั ยส์ จุ ริต มวี นิ ัย ใฝ่ เรียนรู้ อย่อู ย่างพอเพียง มุ่งมนั่ ในการทางาน รักความเป็น ไทย มีจติ สาธารณะ มีสนุ ทรียภาพ และมีสุขนิสยั สขุ ภาพกาย และสุขภาพจติ ท่ดี ี) 4.4 นักเรยี นมบี คุ ลิกภาพท่ีดตี ามเปา้ หมายของหลักสูตร ในด้าน 3.39 0.84 ปานกลาง 8 การเรียนรูอ้ ยา่ งมคี วามสขุ การเป็นทีย่ อมรบั ของผอู้ น่ื การ ชว่ ยเหลอื โอบออ้ มอารี สอ่ื สาร และใฝเ่ รยี นรสู้ ิง่ ใหมๆ่ 4.5 นกั เรียนมีความรู้ความสามารถในการอ่าน การเขียน และคิด 3.43 0.84 ปานกลาง 6 คานวณ (3R) ตามเป้าหมายของหลกั สตู ร 4.6 นักเรียนมีความสามารถทางปญั ญา 8 ดา้ น ตามเปา้ หมาย 3.43 0.90 ปานกลาง 7 ของหลักสูตร (ความสามารถดา้ นภาษา คณติ ศาสตร์ มิติ สัมพันธ์ การควบคุมความคิดความรสู้ กึ ดนตรี มนุษย์สัมพันธ์ เขา้ ใจตนเอง และเขา้ ใจธรรมชาติ) 4.7 นักเรยี นมีความสามารถตามคณุ ลกั ษณะของผูเ้ รียนใน 3.26 0.75 ปานกลาง 10 ศตวรรษท่ี 21 (7C) ตามเป้าหมายของหลกั สตู ร

181 ประเดน็ การประเมนิ หลกั สตู ร ระดับความคดิ เห็น 4.8 นกั เรียนมคี วามม่งุ มนั่ ในการเรยี น การทางาน และกล้า X S.D. ความหมาย ลาดับท่ี 3.39 0.99 ปานกลาง 9 แสดงออกในทางทถี่ กู ตอ้ งเหมาะสม 4.9 นกั เรียนมกี ระบวนการทางานอยา่ งเปน็ ระบบ 3.65 0.98 มาก 2 4.10 นักเรียนมคี วามสามารถในการสร้างสรรคช์ น้ิ งาน 3.65 0.93 มาก 1 สรปุ ผลการประเมนิ ผลผลิต (P: Product Evaluation) 3.48 0.70 ปานกลาง  5. ประเมินผลกระทบ (I: Impact Evaluation) 5.1 นกั เรียนมีความรู้สึกรักและภาคภูมิใจตอ่ สถาบัน 3.39 0.84 ปานกลาง 6 5.2 นักเรียนมีความรคู้ วามสามารถเปน็ ที่ยอมรบั ของชุมชน สงั คม 3.73 1.08 มาก 5 ทง้ั ภายในและภายนอกสถาบัน 5.3 นักเรยี นทีจ่ บการศกึ ษาจากโรงเรียนเป็นทีย่ อมรับของ 3.74 0.75 มาก 4 สถาบันการศกึ ษาทง้ั ในและต่างประเทศ 5.4 นักเรยี นทีจ่ บการศกึ ษาจากโรงเรยี น ประสบผลสาเรจ็ ใน 4.00 0.93 มาก 2 การศึกษาตอ่ ในระดับทสี่ งู ขน้ึ 5.5 นักเรยี นท่จี บการศกึ ษาจากโรงเรยี นได้รบั การยอมรบั ว่า 3.78 1.00 มาก 3 “เปน็ คนดีในสงั คม” 5.6 โรงเรยี นมชี อ่ื เสยี งและเป็นผูน้ าในด้านการจดั การศึกษาและ 4.04 0.95 มาก 1 พัฒนาคุณภาพผู้เรียน ทง้ั ในระดบั ปฐมวัย ประถมศึกษา และ มธั ยมศึกษา สรปุ ผลการประเมินผลกระทบ (I: Impact Evaluation) 3.75 0.69 มาก  สรปุ ผลการประเมนิ หลักสตู รของโรงเรยี นในภาพรวม 3.52 0.59 มาก จากตารางท่ี 24 ผลการประเมินหลักสูตรของโรงเรียนในภาพรวมตามความคิดเห็นของ นกั เรียนท่มี ตี อ่ หลักสูตรโรงเรยี นสาธติ แหง่ มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกาแพงแสน ศูนย์วิจัย และพฒั นาการศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) หลักสตู ร English Program พบว่า นกั เรยี นมีความคิดเห็นต่อหลักสูตรในภาพรวมอยู่ใน ระดับมาก ( X =3.52, S.D.=0.59) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน 5 ด้าน ได้แก่ ด้านบริบท ด้านปัจจัย นาเข้า ด้านกระบวนการ ด้านผลผลิต และด้านผลกระทบ พบว่า นักเรียนมีความคิดเห็นต่อหลักสูตร อยใู่ นระดับมาก 3 ดา้ น โดยมีค่าเฉล่ยี ของระดับความคิดเห็นจากมากไปน้อยคือ ด้านผลกระทบ ด้าน ปัจจัยนาเข้า และด้านบริบท ( X =3.75, S.D.=0.69, X =3.59, S.D.=0.63 และ X =3.52, S.D.=0.54 ตามลาดบั ) รองลงมาพบวา่ นกั เรียนมคี วามคดิ เห็นตอ่ หลักสูตรอยู่ในระดับปานกลาง โดย มีค่าเฉลี่ยของระดับความคิดเห็นจากมากไปน้อยคือ ด้านผลผลิต และด้านกระบวนการ ( X =3.48, S.D.=0.70 และ X =3.30, S.D.=0.85 ตามลาดับ) และเมอ่ื พจิ ารณาเป็นรายประเด็นของแต่ละด้าน มี ข้อค้นพบผลการประเมนิ หลักสูตร 5 ดา้ นดงั น้ี 1. ด้านบริบท มี 2 องค์ประกอบคือ องค์ประกอบด้านหลักสูตร และองค์ประกอบด้าน รายวิชาและกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน พบว่า นักเรียนมีความคิดเห็นต่อองค์ประกอบด้านรายวิชาและ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนอยู่ในระดับมาก ส่วนองค์ประกอบด้านหลักสูตรอยู่ในระดับปานกลาง ( X =3.59, S.D.=0.66 และ X =3.47, S.D.=0.51 ตามลาดับ) และพบว่า องค์ประกอบด้านหลักสูตร มี

182 ประเด็นย่อย 10 ประเดน็ โดยมีประเด็นที่มีค่าเฉล่ียมากทสี่ ุดและรองลงมา ซ่ึงนักเรียนมีความคิดเห็น อยู่ในระดับมาก คือ 1.6) การจัดการศึกษาของโรงเรียนมีความต่อเนื่องเชื่อมโยงกันต้ังแต่ระดับ ประถมศึกษา และมัธยมศึกษา และ1.9) จานวนเวลาเรียน 6-8 คาบต่อวัน มีความเหมาะสม ( X = 3.74, S.D.=0.94 และ X =3.65, S.D.=1.06 ตามลาดับ) และประเด็นที่มีค่าเฉลี่ยน้อยท่ีสุด ซ่ึง นกั เรียนมีความคดิ เห็นอยูใ่ นระดบั ปานกลาง คอื 1.10) เน้อื หาสาระท่เี รยี นแตล่ ะรายวชิ าในภาพรวมมี ความเหมาะสม นักเรียนสามารถนาไปใช้ได้จริงในชีวิตประจาวัน ( X =3.23, S.D.=1.03) ส่วน องค์ประกอบด้านรายวิชาและกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน มีประเด็นย่อย 8 ประเด็น โดยมีประเด็นท่ีมี ค่าเฉล่ียมากที่สุดและรองลงมา ซ่ึงนักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก คือ 1.16) รายวิชาและ กิจกรรมการเรียนการสอนในโรงเรียน ช่วยส่งเสริมให้นักเรียนมีคุณลักษณะผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 ได้แก่ ความสามารถในการคดิ ไตร่ตรอง คิดแก้ปัญหา มีทักษะการทางานร่วมกัน มีทักษะการส่ือสาร มคี วามรอบรทู้ างขอ้ มูลสารสนเทศและทางดิจทิ ัล มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ สามารถสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ได้ และ1.15) รายวิชาและกิจกรรมการเรียนการสอนในโรงเรียน ช่วยส่งเสริมให้นักเรียนมีความรู้ ความสามารถ และทักษะด้านการอ่าน เขียน คิด คานวณ ( X =3.80, S.D.=0.71 และ X =3.72, S.D.=0.94 ตามลาดับ) และประเด็นที่มีค่าเฉลี่ยน้อยท่ีสุด ซ่ึงนักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับปาน กลาง คอื 1.14) รายวิชาและกิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี น ส่งเสริมใหน้ ักเรียนมีสมรรถนะในการเป็นพลเมือง ทเ่ี ขม้ แข็ง ได้แก่ มีความรักชาติ รักท้องถิน่ มจี ติ อาสา มีอดุ มการณ์ มีความยุติธรรม และใช้ทรัพยากร อย่างรคู้ ณุ คา่ ( X =3.36, S.D.=0.91) 2. ด้านปจั จัยนาเขา้ มี 2 องค์ประกอบคอื องค์ประกอบด้านบุคคล และองค์ประกอบด้าน เอกสาร สื่อ เทคโนโลยี และสิ่งสนับสนุนท่ีเอ้ือต่อการเรียนรู้ พบว่า ท้ัง 2 องค์ประกอบ นักเรียนมี ความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก โดยมีค่าเฉล่ียของระดับความคิดเห็นมากท่ีสุด คือ องค์ประกอบด้าน บุคคล รองลงมาคอื องค์ประกอบด้านเอกสาร สื่อ เทคโนโลยี และส่ิงสนับสนุนท่ีเอื้อต่อการเรียนรู้ ( X =3.61, S.D.=0.59 และ X =3.58, S.D.=0.75 ตามลาดับ) และพบว่า องค์ประกอบด้านบุคคล มี ประเด็นย่อย 6 ประเด็น โดยประเด็นท่ีมีค่าเฉลี่ยของระดับความคิดเห็นมากที่สุดและรองลงมา ซ่ึง นกั เรยี นมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก คือ 2.5) ผู้ปกครองมีความเข้าใจ และสนับสนุนกิจกรรมการ เรยี นการสอนของโรงเรยี น และ2.6) ผู้ปกครองส่งเสริมนักเรียนได้พัฒนาศักยภาพเพิ่มเติมจากในช้ัน เรียน โดยยนิ ดีให้นักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมของทางโรงเรียนทุกกิจกรรม ( X =4.13, S.D.=0.85 และ X =4.04, S.D.=0.89 ตามลาดับ) ส่วนประเด็นที่มีค่าเฉล่ียของระดับความคิดเห็นน้อยที่สุด ซึ่ง นักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับปานกลาง คือ 2.3) เจ้าหน้าที่มีความพร้อมในการให้บริการ สนบั สนุน และอานวยความสะดวกเพื่อการบรรลุเป้าหมายของงาน ( X =3.20, S.D.=1.00) สาหรับ องค์ประกอบด้านเอกสาร สื่อ เทคโนโลยี และสิ่งสนับสนุนที่เอื้อต่อการเรียนรู้ มีประเด็นย่อย 8 ประเด็น โดยประเด็นท่ีมีค่าเฉล่ียของระดับความคิดเห็นมากท่ีสุดและรองลงมา ซึ่งนักเรียนมีความ คดิ เห็นอยู่ในระดับมาก คือ 2.10) มีวัสดุอุปกรณ์การเรียน สื่อ และเทคโนโลยีในช้ันเรียนเพื่อช่วยให้ นักเรียนเรียนรู้ได้ดีขึ้น และ2.11) มีห้องสมุดให้บริการหนังสืออย่างเพียงพอกับความต้องการของ นักเรียน ( X =3.80, S.D.=0.82 และ X =3.76, S.D.=1.01 ตามลาดับ) และประเด็นท่ีมีค่าเฉล่ียของ ระดบั ความคดิ เหน็ น้อยทส่ี ดุ ซ่ึงนักเรียนมีความคดิ เหน็ อยู่ในระดับปานกลาง คือ 2.14) มีกิจกรรมกับ

183 เพ่ือนต่างโรงเรียนหรือบุคคลภายนอกเพ่ือแลกเปล่ียนประสบการณ์การเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ( X = 3.04, S.D.=1.21) 3. ด้านกระบวนการ มีประเด็นย่อย 16 ประเด็น โดยประเด็นท่ีมีค่าเฉลี่ยของระดับความ คดิ เหน็ มากทีส่ ดุ และรองลงมา ซ่ึงนักเรยี นมคี วามคิดเหน็ อยใู่ นระดบั มาก คือ 3.1) มีการจัดการเรียนรู้ ด้วยวิธีการที่หลากหลาย และ3.11) เปิดโอกาสให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการวัดและประเมินผล ( X =3.67, S.D.=1.11 และ X =3.59, S.D.=1.33 ตามลาดับ) และประเด็นที่มีค่าเฉล่ียของระดับความ คิดเห็นน้อยที่สุด โดยนักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับปานกลาง คือ 3.16) กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ชว่ ยสะทอ้ นความสามารถและความถนัดของนกั เรยี นไดด้ ี ( X =3.00, S.D.=1.15) 4. ด้านผลผลิต มีประเด็นยอ่ ย 10 ประเดน็ โดยประเด็นทีม่ คี ่าเฉล่ยี ของระดับความคิดเห็น มากท่สี ดุ และรองลงมา ซ่ึงนกั เรียนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก คือ 4.10) นักเรียนมีความสามารถ ในการสร้างสรรค์ชิ้นงาน และ4.9) นักเรียนมีกระบวนการทางานอย่างเป็นระบบ ( X =3.65, S.D.=0.93 และ X =3.65, S.D.=0.98 ตามลาดับ) และประเด็นที่มีค่าเฉลี่ยของระดับความคิดเห็น น้อยที่สุด ซึ่งนักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับปานกลาง คือ 4.7) นักเรียนมีความสามารถตาม คณุ ลกั ษณะของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 (7C) ตามเปา้ หมายของหลักสตู ร ( X =3.26, S.D.=0.75) 5. ด้านผลกระทบ มีประเด็นย่อย 6 ประเด็น พบว่า ประเด็นที่มีค่าเฉลี่ยของระดับความ คดิ เห็นมากท่สี ดุ และรองลงมา ซงึ่ นกั เรียนมคี วามคิดเห็นอยู่ในระดับมาก คือ 5.6) โรงเรียนมีชื่อเสียง และเป็นผู้นาในด้านการจัดการศึกษาและพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ทั้งในระดับปฐมวัย ประถมศึกษา และมัธยมศึกษา และ5.4) นักเรียนที่จบการศึกษาจากโรงเรียน ประสบผลสาเร็จในการศึกษาต่อใน ระดบั ทีส่ งู ขึ้น ( X =4.04, S.D.=0.95 และ X =4.00, S.D.=0.93 ตามลาดับ) และประเด็นท่ีมีค่าเฉล่ีย ของระดับความคดิ เห็นนอ้ ยท่สี ุด ซ่ึงนักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับปานกลาง คือ 5.1) นักเรียนมี ความรสู้ กึ รกั และภาคภมู ใิ จต่อสถาบนั ( X =3.39, S.D.=0.84) นอกจากนี้ นักเรยี นหลกั สตู ร English Program ได้ให้ขอ้ เสนอแนะเพมิ่ เติมในองค์ประกอบ ของการประเมินหลักสตู ร 2 ดา้ น มรี ายละเอยี ดดังน้ี 1. ด้านปจั จยั นาเข้า ควรเพ่ิมความละเอยี ดในการดแู ลเด็กให้ปรับตัวสาหรับการเรียน ควร เปลี่ยนอาจารยส์ อนในบางท่านเน่ืองจากไม่ค่อยได้สอนนักเรียนและสอนไม่เข้าใจ ควรพัฒนาอาคาร เรยี นให้พร้อมสาหรับนกั เรียน EP เจ้าหน้าท่ีในห้องธุรการ/ห้องพยาบาล ควรพูดจาให้สุภาพขึ้นไม่ใส่ อารมณ์ตอนท่ีพูด อาจารย์ไม่ควรพูดดูถูกนักเรียนและให้ความยุติธรรมกับนักเรียน ไม่เลือกปฏิบัติ และควรมีทัศนคติท่ีดีต่อนักเรียน EP ควรเพ่ิมห้องดนตรีสากล ควรเตรียมความพร้อมในการพัฒนา นักเรียน EPกอ่ นที่จะเพ่ิมห้องเรยี น ทั้งดา้ นบคุ ลากรและสถานที่ ควรมีตกึ ของ EP เป็นกิจจะลักษณะ 2. ด้านกระบวนการ ควรให้ความสาคัญกับนักเรียน EP มากข้ึน ควรได้รับข่าวสารที่ รวดเร็ว โรงเรียนควรเข้มงวดในเรื่องการเรียนและนักเรียนต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของโรงเรียน เพือ่ ให้มคี วามสงบในห้องเรียน ควรมีการคัดเลือกนักเรียนทั้ง EP และห้องธรรมดาอย่างละเอียดตาม เกณฑ์ท้ังด้านความรู้และทัศนคติ มีการประกาศกิจกรรมให้ท่ัวถึงและพัฒนานักเรียน EP ให้มีความ เป็นผนู้ า

184 2.2 ความคดิ เห็นของอาจารย์ ในการวจิ ยั ครัง้ น้ี ผ้วู จิ ัยศกึ ษาความคดิ เหน็ ของอาจารย์ท่มี ตี ่อหลกั สูตรโรงเรียนสาธิตแห่ง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกาแพงแสน ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา ตามหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) มีผลการประเมินใน ภาพรวมและรายด้าน 5 ด้าน คือ ด้านบริบท ด้านปัจจัยนาเข้า ด้านกระบวนการ ด้านผลผลิต และ ดา้ นผลกระทบ โดยจาแนกเป็นหลักสูตรปกติ และหลักสูตร English Program ดงั ตารางท่ี 25-26 ตารางที่ 25 ผลการศึกษาความคิดเห็นของอาจารย์ท่ีมีต่อหลักสูตรโรงเรียนสาธิตแห่ง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกาแพงแสน ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา ตามหลักสูตร แกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ.2560) หลกั สตู รปกติ ประเดน็ การประเมินหลักสตู ร ระดบั ความคิดเห็น 1. ประเมนิ บริบท (C: Context Evaluation) X S.D. ความหมาย ลาดับท่ี  หลกั สตู ร 1.1 ปรชั ญา วัตถุประสงค์ และเป้าหมายของหลักสูตร มคี วาม 4.11 0.71 มาก 12 สอดคล้องกับความตอ้ งการของผเู้ รยี นและสงั คม 1.2 วตั ถุประสงค์ เปา้ หมายของหลักสูตรเหมาะสมกับสภาพการณ์ 4.07 0.74 มาก 17 ปจั จบุ ัน 1.3 วสิ ัยทัศน์และพันธกิจมคี วามสอดคลอ้ งกนั และสามารถ 4.11 0.75 มาก 13 นาไปสู่การปฏิบตั ไิ ด้จรงิ 1.4 คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผ้เู รยี น สะท้อนอตั ลกั ษณ์ และ 4.16 0.75 มาก 8 เอกลกั ษณข์ องโรงเรียน 1.5 คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ของผ้เู รียน สอดคลอ้ งกบั เปา้ หมาย 4.09 0.75 มาก 15 ของหลกั สูตรแต่ละระดับการศึกษา และมาตรฐานการศกึ ษาที่ เน้นผลลัพธท์ ีพ่ ึงประสงค์ 3 ด้าน (Desired Outcomes of Education : DOE Thailand) คือ ผู้เรยี นรู้ ผรู้ ่วม สร้างสรรคน์ วัตกรรม และพลเมืองท่ีเขม้ แข็ง 1.6 การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนของผเู้ รียน สอดคล้องกบั 3.99 0.70 มาก 19 เป้าหมายของหลักสตู รแต่ละระดับการศกึ ษา และมาตรฐาน การศึกษาที่เน้นผลลัพธ์ท่ีพงึ ประสงค์ (DOE Thailand) 1.7 โครงสรา้ งหลักสูตรสถานศกึ ษาโดยภาพรวม 3 ระดับ คือ ปฐมวัย 4.07 0.81 มาก 18 ประถมศึกษา และมัธยมศึกษา มคี วามต่อเน่ืองเชื่อมโยงกัน 1.8 โครงสรา้ งหลกั สูตรระดับปฐมวัย มคี วามเหมาะสม และ 4.18 0.81 มาก 5 สอดคล้องกับมาตรฐานการศกึ ษาระดบั ปฐมวยั พ.ศ.2561 1.9 โครงสรา้ งหลกั สตู รระดับประถมศึกษา ซงึ่ ประกอบดว้ ย สาระ 4.36 0.68 มาก 2 การเรยี นรู้ 8 กล่มุ และกิจกรรมพฒั นาผูเ้ รยี น มีความ เหมาะสม และสอดคล้องกับมาตรฐานการศกึ ษาระดับ การศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน พ.ศ.2561 1.10 โครงสร้างหลกั สูตรระดับมธั ยมศกึ ษา ซง่ึ ประกอบดว้ ย สาระ 4.39 0.63 มาก 1

185 ประเด็นการประเมินหลกั สูตร ระดบั ความคดิ เห็น X S.D. ความหมาย ลาดบั ท่ี การเรยี นรู้ 8 กลมุ่ และกิจกรรมพฒั นาผูเ้ รยี น มคี วาม เหมาะสม และสอดคล้องกบั มาตรฐานการศกึ ษาระดบั การศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พ.ศ.2561 1.11 โครงสร้างหลกั สูตรสถานศกึ ษาสามารถทาใหผ้ ู้เรียนบรรลุ 4.17 0.69 มาก 6 ตามวัตถุประสงค์ เป้าหมายของหลักสตู รสถานศกึ ษาได้ 1.12 จานวนหนว่ ยกติ หรอื เวลาเรยี นตลอดหลักสตู รระดับปฐมวัย 4.28 0.72 มาก 3 มคี วามเหมาะสม 1.13 จานวนหน่วยกิตหรอื เวลาเรียนตลอดหลกั สูตรระดับ 4.17 0.76 มาก 7 ประถมศึกษา มคี วามเหมาะสม 1.14 จานวนหนว่ ยกติ หรอื เวลาเรียนตลอดหลักสูตรระดับ 4.12 0.75 มาก 11 มัธยมศกึ ษา มคี วามเหมาะสม 1.15 เนื้อหาสาระของหลักสตู รระดับปฐมวัย เหมาะสม สอดคล้อง 4.13 0.73 มาก 9 กับมาตรฐาน/ตวั ชีว้ ัด คาอธิบายรายวิชา และสามารถนาไปใช้ ได้จรงิ 1.16 เน้ือหาสาระของหลักสตู รระดบั ประถมศกึ ษา เหมาะสม 4.12 0.62 มาก 10 สอดคลอ้ งกับมาตรฐาน/ตัวชวี้ ดั คาอธิบายรายวิชา และ สามารถนาไปใช้ได้จรงิ 1.17 เน้อื หาสาระของหลกั สูตรระดบั มธั ยมศึกษา เหมาะสม 4.10 0.64 มาก 14 สอดคลอ้ งกบั มาตรฐาน/ตวั ชีว้ ัด คาอธบิ ายรายวิชา และ สามารถนาไปใช้ได้จรงิ 1.18 คาอธิบายรายวิชา เหมาะสมและสอดคล้องกบั มาตรฐาน/ 4.20 0.61 มาก 4 ตัวชวี้ ดั 1.19 หน่วย/ แผนการจดั การเรยี นรู้ มคี วามเหมาะสม ถูกต้อง มี 4.07 0.60 มาก 16 องค์ประกอบครบถว้ น และมีขัน้ ตอนของการจัดกิจกรรมการ เรียนร้ตู ามแนวคดิ Active Learning ที่สะท้อนผลลัพธ์ที่พึง ประสงค์ของการศึกษา (DOE Thailand) ในมาตรฐาน การศึกษาของชาติ พ.ศ.2561 สรุปดา้ นหลกั สตู ร 4.15 0.53 มาก   รายวิชา (พนื้ ฐานและเพม่ิ เตมิ ) และกิจกรรมพฒั นา ผเู้ รยี น 1.20 รายวชิ าและกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน ส่งเสรมิ ใหผ้ ู้เรยี นมี 4.19 0.80 มาก 4 สมรรถนะสาคัญ 5 ด้าน (การสื่อสาร การคิด การแก้ปญั หา การใชท้ ักษะชวี ิต และการใชเ้ ทคโนโลย)ี 1.21 รายวิชาและกจิ กรรมพัฒนาผ้เู รียน ส่งเสริมให้ผูเ้ รยี นมี 4.13 0.69 มาก 6 สมรรถนะในการเปน็ ผู้เรยี นรู้ 1.22 รายวิชาและกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น สง่ เสริมให้ผเู้ รียนมี 4.00 0.72 มาก 9 สมรรถนะในการเปน็ ผรู้ ว่ มสร้างสรรค์นวัตกรรม 1.23 รายวิชาและกิจกรรมพฒั นาผ้เู รยี น ส่งเสริมให้ผู้เรียนมี 4.11 0.71 มาก 8 สมรรถนะในการเป็นพลเมอื งท่เี ขม้ แข็ง

186 ประเดน็ การประเมินหลักสตู ร ระดบั ความคดิ เหน็ X S.D. ความหมาย ลาดบั ท่ี 1.24 กจิ กรรมและประสบการณใ์ นระดบั ปฐมวัย (อ.1-3) สง่ เสริม 4.34 0.75 มาก 1 ให้เดก็ มีบุคลกิ ภาพ 5 ด้าน และมคี วามสามารถทางปัญญา 8 ดา้ น ตามแนวคิดทฤษฎีพหุปัญญา (Multiple Intelligences Theory : MI) 1.25 รายวชิ าและกิจกรรมในระดับประถมศึกษา (ป.1-3) ส่งเสริม 4.30 0.63 มาก 2 ให้ผเู้ รียนมคี วามรู้ความสามารถในการอ่าน การเขยี น และคดิ คานวณ (3R) มบี ุคลิกภาพ 5 ด้าน และมีความสามารถทาง ปัญญา 8 ดา้ น ตามแนวคิดทฤษฎีพหุปญั ญา (Multiple Intelligences Theory : MI) 1.26 รายวชิ าและกิจกรรมในระดบั ประถมศกึ ษา (ป.4-6) สง่ เสรมิ 4.28 0.60 มาก 3 ให้ผเู้ รียนมคี วามร้คู วามสามารถในการอ่านออก เขียนได้ และ คิดเลขเปน็ (3R) มีบุคลกิ ภาพ 5 ด้าน และมีความสามารถ ตามคุณลกั ษณะผเู้ รยี นในศตวรรษท่ี 21 (7C) 1.27 รายวชิ าและกจิ กรรมในระดบั มัธยมศึกษาตอนตน้ (ม.1-3) 4.12 0.70 มาก 7 ส่งเสรมิ ให้ผ้เู รียน มีบคุ ลกิ ภาพ 5 ดา้ น มีความสามารถตาม คุณลกั ษณะผูเ้ รียนในศตวรรษท่ี 21 (7C) และมีทักษะอาชีพ 1.28 รายวิชาและกจิ กรรมในระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย (ม.4-6) 4.16 0.72 มาก 5 สง่ เสรมิ ให้ผูเ้ รียนมีบคุ ลกิ ภาพ 5 ด้าน มีความสามารถตาม คณุ ลกั ษณะผเู้ รียนในศตวรรษที่ 21 (7C) และมีทกั ษะอาชพี สรุปด้านรายวชิ า (พื้นฐานและเพมิ่ เติม) 4.18 0.57 มาก  และกิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น สรปุ ผลการประเมนิ บริบท (C: Context Evaluation) 4.16 0.51 มาก  2. ประเมินปัจจยั นาเขา้ (I: Input Evaluation)  บคุ คล 2.1 คุณวุฒิ ความรู้ ประสบการณ์ ผลงานทางวิชาการและ 4.29 0.73 มาก 4 ผลงานวจิ ยั ด้านการบริหารของผบู้ รหิ ารมศี ักยภาพทเ่ี หมาะสม 2.2 คุณวุฒิ ความรู้ ประสบการณ์ ผลงานทางวชิ าการ และ 4.33 0.65 มาก 3 ผลงานวิจัยดา้ นการเรียนการสอนของอาจารย์ผูส้ อนมี ศกั ยภาพท่ีเหมาะสม 2.3 อาจารย์ผสู้ อนได้สอนในรายวิชาทีต่ รงกับคณุ วุฒิและความ 4.56 0.56 มากที่สดุ 1 เชย่ี วชาญ 2.4 เจา้ หน้าท่ี มีความรูค้ วามสามารถเฉพาะตาแหน่งและได้ 4.35 0.72 มาก 2 ทางานตรงกบั คณุ วฒุ แิ ละความสามารถ 2.5 เจ้าหน้าที่ มีความพรอ้ มในการใหบ้ รกิ าร สนับสนนุ และ 4.08 0.77 มาก 7 อานวยความสะดวกเพอ่ื การบรรลุเปา้ หมายของงาน 2.6 ผู้เรียนมพี น้ื ฐานความรคู้ วามสามารถตรงตามระดบั ชัน้ ทเี่ รียน 4.15 0.68 มาก 5 และสามารถศกึ ษาต่อในระดับทสี่ ูงขึ้น 2.7 ผปู้ กครองมีความเขา้ ใจ และสนบั สนนุ กิจกรรมการเรยี นการ 3.93 0.84 มาก 8 สอนของโรงเรยี น

187 ประเด็นการประเมนิ หลกั สูตร ระดับความคิดเหน็ X S.D. ความหมาย ลาดบั ที่ 2.8 ผู้ปกครองสง่ เสริมใหผ้ ู้เรียนไดพ้ ฒั นาศกั ยภาพเพิม่ เติมจากใน 4.12 0.78 มาก 6 ชน้ั เรียน โดยยินดใี หผ้ ู้เรียนเขา้ รว่ มกิจกรรมของทางโรงเรยี น สรุปดา้ นบุคคล 4.23 0.53 มาก   เอกสาร สอ่ื เทคโนโลยี และสิ่งสนบั สนุนที่เอ้ือตอ่ การ เรยี นรู้ 2.9 หอ้ งเรียนมีสภาพท่เี อ้อื ตอ่ การเรียนรู้ 3.85 0.95 มาก 6 2.10 มหี นังสือ/ตารา/เอกสารประกอบการสอนเพยี งพอกบั 4.09 0.81 มาก 1 จานวนผู้เรยี น 2.11 มีวัสดุอปุ กรณ์การเรยี น สอ่ื และเทคโนโลยใี นชนั้ เรยี นเพื่อ 3.81 1.02 มาก 8 ชว่ ยให้ผเู้ รียนเรียนรไู้ ด้ดีข้ึน 2.12 มีสื่อ วัสดุ อปุ กรณส์ าหรับการเรียนการสอนเพียงพอต่อ 3.83 0.99 มาก 7 จานวนนักเรยี น 2.13 มีงบประมาณสนับสนุนในการจัดทาสือ่ การเรยี นรู้อย่าง 3.85 0.90 มาก 5 เพียงพอ 2.14 มกี ารจัดสรรงบประมาณเพ่ือใช้ในโครงการหรือกิจกรรมการ 3.96 0.86 มาก 3 เรยี นรขู้ องผู้เรยี นอย่างเพยี งพอ 2.15 มงี บประมาณสนบั สนนุ และพัฒนาความรคู้ วามสามารถของ 3.91 0.83 มาก 4 บุคลากรอยา่ งเพยี งพอ 2.16 มีการจัดแหลง่ เรียนรสู้ อดคล้องกับกจิ กรรมการเรียนรู้ของ 3.80 0.87 มาก 9 ผู้เรียน 2.17 มีแหล่งการเรยี นร้ทู ี่เหมาะสมกบั วยั ของผ้เู รียน 3.80 0.93 มาก 11 2.18 มแี หล่งเรยี นรูผ้ า่ นระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ทีเ่ หมาะสม 3.80 0.87 มาก 9 2.19 มีการจดั สภาพแวดล้อมในโรงเรยี นที่เหมาะสมและเออ้ื ต่อ 3.96 0.78 มาก 2 การเรียนรู้ 2.20 มกี จิ กรรมแลกเปล่ยี นเรยี นรูก้ บั ชุมชน และชมุ ชนมีส่วนร่วม 3.40 1.03 ปานกลาง 12 ในการจัดการศกึ ษาของโรงเรยี น สรปุ ดา้ นเอกสาร ส่ือ เทคโนโลยี 3.84 0.75 มาก  และส่งิ สนบั สนนุ ทีเ่ ออ้ื ต่อการเรยี นรู้ สรปุ ผลการประเมนิ ปจั จยั นาเข้า (I: Input Evaluation) 3.99 0.62 มาก  3. ประเมนิ กระบวนการ (P: Process Evaluation)  การบริหารจดั การหลักสูตร 3.1 มีแผนการดาเนินงานดา้ นหลักสตู รอยา่ งชัดเจนและเปน็ ระบบ 4.15 0.63 มาก 12 3.2 มกี ระบวนการคดั เลือกนกั เรียนเข้าศึกษาในโรงเรยี นอย่าง 4.16 0.74 มาก 11 เหมาะสม 3.3 มีการพิจารณาอาจารย์ผู้สอนรายวชิ าใหเ้ หมาะสมกับความรู้ 4.46 0.57 มาก 1 ความสามารถและคุณวฒุ ิ 3.4 มกี ารจัดระบบอาจารย์ประจาช้นั /อาจารย์ท่ปี รึกษานักเรยี น 4.28 0.75 มาก 2 อยา่ งเหมาะสม

188 ประเด็นการประเมนิ หลกั สตู ร ระดบั ความคิดเหน็ X S.D. ความหมาย ลาดบั ที่ 3.5 มกี ารวางแผนการนาหลักสตู รไปใชท้ ุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ 4.24 0.74 มาก 4 และทกุ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 3.6 โรงเรยี นมกี ารเตรยี มความพรอ้ มให้อาจารย์ผสู้ อนจัดกิจกรรม 4.24 0.62 มาก 3 การเรียนรู้เพอ่ื พฒั นาผู้เรยี นตามเปา้ หมายของหลักสตู ร เช่น การส่งเสริมให้เขา้ รบั การอบรม-สมั มนาทางวชิ าการ การ ประชมุ เชงิ ปฏิบตั ิการ หรือการศึกษาดูงานด้านหลักสูตร การ เรียนการสอน การวัดและประเมินผล 3.7 อาจารย์ผ้สู อนมกี ารพฒั นาตนเองอยเู่ สมอในด้านหลักสตู ร 4.19 0.58 มาก 6 การเรยี นการสอน การวัดและประเมนิ ผล 3.8 อาจารย์ผสู้ อนจัดทาหน่วย/แผนการจัดการเรียนร้ทู ุกรายวิชา 4.20 0.64 มาก 5 3.9 สง่ เสรมิ ใหอ้ าจารยผ์ ู้สอนจดั กิจกรรมการเรยี นรเู้ พอ่ื การพัฒนา 4.17 0.74 มาก 9 ผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 เชน่ การจัดการเรยี นรู้ตามแนวคิด Active Learning/ STEM เป็นตน้ 3.10 อาจารยผ์ สู้ อนจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ตามแผนการจดั การ 4.17 0.63 มาก 8 เรยี นรู้ได้อยา่ งเหมาะสม 3.11 มรี ะบบการนเิ ทศ ติดตาม เพ่ือให้คาแนะนา ช่วยเหลือ (การ 3.83 0.77 มาก 13 พฒั นาวชิ าชีพ) เกยี่ วกับการจัดกิจกรรมการเรยี นรขู้ อง อาจารยผ์ สู้ อน 3.12 มีระบบการสะท้อนผลการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ของอาจารย์ 3.82 0.85 มาก 14 ผูส้ อนอย่างตอ่ เนอื่ งเพ่อื ให้การสนบั สนุนและช่วยเหลอื 3.13 อาจารยผ์ สู้ อนเปน็ ต้นแบบที่ดีแกผ่ ู้เรยี น 4.18 0.65 มาก 7 3.14 มรี ะบบ/รปู แบบ/กระบวนการ การประกันคุณภาพ 4.16 0.62 มาก 10 การศกึ ษาด้านหลักสูตรทช่ี ัดเจน สามารถนามาปฏิบัติไดจ้ รงิ และนาผลมาปรบั ปรุง พฒั นาหลักสตู รทุกระดบั การศกึ ษา 3.15 โรงเรยี นและชุมชนมีการจดั กจิ กรรมร่วมกันเพอ่ื พัฒนา 3.71 0.84 มาก 15 คุณภาพผเู้ รียนอย่างต่อเน่ือง สรุปด้านการบริหารจัดการหลกั สูตร 4.13 0.50 มาก   กระบวนการจัดการเรยี นรู้ การวดั และประเมินผล 3.16 จัดการเรยี นรูโ้ ดยใชร้ ูปแบบ วธิ ีการท่ีหลากหลาย 4.09 0.72 มาก 8 3.17 จัดการเรยี นรโู้ ดยคานึงถงึ ความสามารถของผเู้ รยี นเปน็ 3.82 0.82 มาก 12 รายบุคคล 3.18 มกี จิ กรรมการเรยี นร้ทู ่ีเนน้ ให้ผ้เู รียนไดค้ ิดวเิ คราะหแ์ ละลงมอื 4.06 0.68 มาก 9 ปฏบิ ตั จิ รงิ 3.19 จัดการเรยี นรู้โดยกระตุ้นใหผ้ ้เู รยี นกระตอื รือร้นในการ 4.02 0.72 มาก 10 แสวงหาความรู้ดว้ ยตนเอง 3.20 จัดการเรยี นรู้โดยสอดแทรกคณุ ธรรมจริยธรรม 4.13 0.77 มาก 6 3.21 เปดิ โอกาสให้ผูเ้ รยี นมีสว่ นร่วมในการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ 4.17 0.76 มาก 4 3.22 มีการบอกวธิ กี ารวัดและประเมินผลแต่ละครั้งให้ผเู้ รยี นทราบ 4.31 0.68 มาก 2 ล่วงหนา้

189 ประเด็นการประเมินหลกั สูตร ระดับความคิดเหน็ X S.D. ความหมาย ลาดบั ที่ 3.23 มีการวัดและประเมินผลอย่างต่อเนอ่ื งควบคู่ไปกับการเรยี น 4.33 0.64 มาก 1 การสอน 3.24 วัดผลและประเมินครอบคลมุ การเรยี นรทู้ ง้ั ดา้ นความรู้ 4.25 0.70 มาก 3 เจตคติ และการปฏิบัติ 3.25 ใช้วิธีการและเคร่ืองมือในการวดั และประเมนิ ผลท่ี 4.09 0.70 มาก 7 หลากหลาย 3.26 เปิดโอกาสใหผ้ ้เู รียนมสี ว่ นรว่ มในการวัดและประเมนิ ผล 3.90 0.80 มาก 11 3.27 มีการนาผลการประเมินมาพฒั นาการเรยี นการสอนและ 4.16 0.72 มาก 5 สะท้อนผลให้ผเู้ รียนไดพ้ ัฒนาตนเองเต็มศักยภาพ สรปุ ดา้ นกระบวนการจดั การเรียนรู้ 4.11 0.58 มาก  การวัดและประเมนิ ผล สรปุ ผลการประเมนิ กระบวนการ (P: Process Evaluation) 4.12 0.50 มาก  4. ประเมนิ ผลผลิต (P: Product Evaluation) 4.1 ผเู้ รยี นมผี ลสัมฤทธิท์ างการเรียนบรรลุตามวัตถุประสงค์ของ 4.09 0.58 มาก 3 หลักสตู ร 4.2 ผู้เรยี นมสี มรรถนะสาคญั บรรลุตามวตั ถุประสงค์หลักสตู ร 4.02 0.54 มาก 9 4.3 ผเู้ รียนมีคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์บรรลุตามวัตถุประสงค์ 4.07 0.60 มาก 4 หลักสตู ร 4.4 ผู้เรยี นมีบคุ ลิกภาพที่ดี 5 ด้าน ตามเปา้ หมายของหลักสูตร 4.07 0.60 มาก 4 4.5 ผเู้ รียนมีความรู้ความสามารถในการอา่ น การเขียน และคิด 4.10 0.62 มาก 1 คานวณ (3R) ตามเป้าหมายของหลกั สตู ร 4.6 ผู้เรียนมคี วามสามารถทางปัญญา 8 ดา้ น ตามเปา้ หมายของ 4.04 0.64 มาก 8 หลกั สตู ร 4.7 ผเู้ รียนมีความสามารถตามคุณลกั ษณะของผเู้ รยี นในศตวรรษ 4.01 0.67 มาก 10 ท่ี 21 (7C) ตามเปา้ หมายของหลักสตู ร 4.8 ผเู้ รยี นมีความมุ่งมั่นในการเรียน การทางาน และกลา้ 4.06 0.74 มาก 7 แสดงออกในทางที่ถกู ต้องเหมาะสม 4.9 ผู้เรยี นมกี ระบวนการทางานอยา่ งเปน็ ระบบ 3.96 0.71 มาก 12 4.10 ผ้เู รยี นมีสมรรถนะในการสรา้ งสรรค์ชน้ิ งาน 4.01 0.72 มาก 11 4.11 อาจารย์ผูส้ อนมีสมรรถนะในการจัดการเรียนรูเ้ พ่ือพัฒนา 4.07 0.65 มาก 6 ผเู้ รยี นในศตวรรษท่ี 21 4.12 ผู้บริหารมีสมรรถนะในการบรหิ ารจัดการหลักสูตร โดยการ 4.10 0.64 มาก 2 นาหลักสูตรสูช่ ้ันเรียนเพือ่ ยกระดบั คุณภาพอาจารย์ผู้สอน และผู้เรยี น สรุปผลการประเมนิ ผลผลติ (P: Product Evaluation) 4.05 0.53 มาก  5. ประเมินผลกระทบ (I: Impact Evaluation) 5.1 ผูเ้ รยี นมคี วามรู้สึกรักและภาคภมู ใิ จตอ่ สถาบนั 4.00 0.75 มาก 4 5.2 ผเู้ รียนมีความรคู้ วามสามารถเป็นที่ยอมรบั ของชุมชน สงั คม 4.10 0.71 มาก 3

190 ประเด็นการประเมินหลกั สตู ร ระดบั ความคิดเหน็ ท้งั ภายในและภายนอกสถาบัน X S.D. ความหมาย ลาดับที่ 5.3 ผู้ทจี่ บการศกึ ษาจากโรงเรยี นเป็นทยี่ อมรับของ 4.27 0.72 มาก 1 สถาบันการศกึ ษาท้ังในและตา่ งประเทศ 5.4 อาจารย์ผสู้ อนสรา้ งนวตั กรรมการเรยี นการสอนผ่าน 3.74 0.87 มาก 6 กระบวนการวจิ ัยอยา่ งต่อเน่อื ง 5.5 อาจารยผ์ สู้ อนมกี ารเผยแพร่ผลงานวิชาการ งานวิจัยอยา่ ง 3.73 0.84 มาก 7 ต่อเนื่อง 5.6 อาจารยผ์ สู้ อนไดร้ ับเชญิ เปน็ วทิ ยากรเพือ่ ช่วยพัฒนาการ 3.76 0.87 มาก 5 จดั การเรยี นร้ใู หแ้ ก่บคุ ลากรทงั้ ภายในและภายนอกสถาบนั 5.7 โรงเรยี นเปน็ ทยี่ อมรับของผู้ปกครอง ชุมชน และสงั คม 4.25 0.73 มาก 2 สรปุ ผลการประเมนิ ผลกระทบ (I: Impact Evaluation) 3.98 0.64 มาก  สรปุ ผลการประเมินหลักสตู รของโรงเรียนในภาพรวม 4.09 0.48 มาก จากตารางที่ 25 ผลการประเมินหลักสูตรของโรงเรียนในภาพรวมตามความคิดเห็นของ อาจารย์ท่มี ีต่อหลกั สตู รโรงเรยี นสาธิตแหง่ มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกาแพงแสน ศูนย์วิจัย และพัฒนาการศึกษา ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) หลักสตู รปกติ พบวา่ อาจารย์มคี วามคดิ เห็นต่อหลกั สตู รในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( X =4.09, S.D.=0.48) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน 5 ด้าน ได้แก่ ด้านบริบท ด้านปัจจัยนาเข้า ด้าน กระบวนการ ด้านผลผลิต และด้านผลกระทบ พบว่า อาจารย์มีความคิดเห็นต่อหลักสูตรอยู่ในระดับ มากทุกด้าน โดยมีค่าเฉลี่ยของระดับความคิดเห็นจากมากไปน้อย คือ ด้านบริบท ด้านกระบวนการ ดา้ นผลผลิต ด้านปัจจยั นาเขา้ และด้านผลกระทบ ( X =4.16, S.D.=0.51, X =4.12, S.D.=0.50, X =4.05, S.D.=0.53, X =3.99, S.D.=0.62 และ X =3.98, S.D.=0.64 ตามลาดับ) และเมื่อพิจารณา เป็นรายประเดน็ ของแตล่ ะดา้ น มีข้อคน้ พบผลการประเมินหลักสตู ร 5 ด้านดงั น้ี 1. ด้านบริบท มี 2 องค์ประกอบคือ องค์ประกอบด้านหลักสูตร และองค์ประกอบด้าน รายวิชาและกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน พบว่า อาจารย์มีความคิดเห็นต่อท้ัง 2 องค์ประกอบอยู่ในระดับ มาก โดยมีคา่ เฉลย่ี ของระดับความคิดเหน็ มากทส่ี ดุ คือ องค์ประกอบด้านรายวิชาและกิจกรรมพัฒนา ผู้เรียน รองลงมาคือ องค์ประกอบด้านหลักสูตร ( X =4.18, S.D.=0.57 และ X =4.15, S.D.=0.53 ตามลาดบั ) และพบวา่ องค์ประกอบด้านหลกั สูตร มปี ระเดน็ ย่อย 19 ประเด็น อาจารย์มีความคิดเห็น อยใู่ นระดบั มากทุกประเด็น โดยประเด็นที่มีค่าเฉลี่ยของระดับความคิดเห็นมากท่ีสุด รองลงมา และ น้อยทส่ี ุด คือ 1.10) โครงสร้างหลักสูตรระดับมัธยมศึกษา ซ่ึงประกอบด้วย สาระการเรียนรู้ 8 กลุ่ม และ กจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รียน มีความเหมาะสม และสอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2561 1.9) โครงสร้างหลักสูตรระดับประถมศึกษา ซ่ึงประกอบด้วย สาระการเรียนรู้ 8 กลุ่ม และ กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน มีความเหมาะสม และสอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษาระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พ.ศ.2561 และ1.6) การอา่ น คิดวิเคราะห์และเขียนของผู้เรียน สอดคล้องกับเป้าหมายของหลักสูตรแต่ละ ระดับการศึกษา และมาตรฐานการศึกษาที่เน้นผลลัพธ์ท่ีพึงประสงค์ (DOE Thailand) ( X =4.39, S.D.=0.63, X =4.36, S.D.=0.68 และ X =3.99, S.D.=0.70 ตามลาดับ) ส่วนองค์ประกอบด้าน รายวชิ าและกิจกรรมพฒั นาผู้เรียน มีประเดน็ ยอ่ ย 9 ประเด็น อาจารย์มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก

191 ทุกประเด็น โดยมีประเด็นที่มีค่าเฉล่ียของระดับความคิดเห็นมากที่สุด รองลงมา และน้อยที่สุด คือ 1.24) กิจกรรมและประสบการณ์ในระดับปฐมวัย (อ.1-3) ส่งเสริมให้เด็กมีบุคลิกภาพ 5 ด้าน และมี ความสามารถทางปัญญา 8 ด้าน ตามแนวคิดทฤษฎีพหุปัญญา (Multiple Intelligences Theory : MI) 1.25) รายวชิ าและกจิ กรรมในระดับประถมศึกษา (ป.1-3) สง่ เสริมให้ผู้เรียนมีความรู้ความสามารถใน การอา่ น การเขียน และคิดคานวณ (3R) มบี คุ ลิกภาพ 5 ด้าน และมีความสามารถทางปัญญา 8 ด้าน ตามแนวคิดทฤษฎีพหุปัญญา (Multiple Intelligences Theory : MI) และ1.22) รายวิชาและ กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รียน ส่งเสริมให้ผเู้ รียนมีสมรรถนะในการเปน็ ผู้ร่วมสร้างสรรค์นวัตกรรม ( X =4.34, S.D.=0.75, X =4.30, S.D.=0.63 และ X =4.00, S.D.=0.72 ตามลาดบั ) 2. ดา้ นปจั จัยนาเข้า มี 2 องค์ประกอบ คือ องคป์ ระกอบด้านบคุ คล และองคป์ ระกอบด้าน เอกสาร สื่อ เทคโนโลยี และส่ิงสนับสนุนท่ีเอื้อต่อการเรียนรู้ พบว่า ทั้ง 2 องค์ประกอบ อาจารย์มี ความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ยของระดับความคิดเห็นมากที่สุดคือ องค์ประกอบของ บุคคล รองลงมาคอื องค์ประกอบด้านเอกสาร ส่ือ เทคโนโลยี และส่ิงสนับสนุนท่ีเอื้อต่อการเรียนรู้ ( X =4.23, S.D.=0.53 และ X =3.84, S.D.=0.75 ตามลาดับ) และพบว่า องค์ประกอบด้านบุคคล มี ประเดน็ ย่อย 8 ประเด็น โดยประเด็นท่ีมีค่าเฉลี่ยมากที่สุด ซ่ึงอาจารย์มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก ท่ีสุด คือ 2.3) อาจารย์ผู้สอนได้สอนในรายวิชาที่ตรงกับคุณวุฒิและความเชี่ยวชาญ ( X =4.56, S.D.=0.56) ส่วนประเด็นท่ีมีค่าเฉล่ียของระดับความคิดเห็นรองลงมาและน้อยท่ีสุด พบว่า อาจารย์ ความคิดเห็นอยใู่ นระดบั มาก คอื 2.4) เจ้าหนา้ ที่ มีความรู้ความสามารถเฉพาะตาแหน่งและได้ทางาน ตรงกับคุณวุฒิและความสามารถ และ2.7) ผู้ปกครองมีความเข้าใจและสนับสนุนกิจกรรมการเรียน การสอนของโรงเรียน ( X =4.35, S.D.=0.72 และ X =3.93, S.D.=0.84 ตามลาดับ) สาหรับ องค์ประกอบด้านเอกสาร ส่ือ เทคโนโลยี และสิ่งสนับสนุนท่ีเอื้อต่อการเรียนรู้ มีประเด็นย่อย 12 ประเด็น โดยประเด็นท่ีมีค่าเฉล่ียของระดับความคิดเห็นมากท่ีสุดและรองลงมา ซึ่งนักเรียนมีความ คดิ เหน็ อยู่ในระดบั มาก คอื 2.10) มีหนงั สอื /ตารา/เอกสารประกอบการสอนเพยี งพอกบั จานวนผเู้ รียน และ2.19) มีการจัดสภาพแวดล้อมในโรงเรียนที่เหมาะสมและเอื้อต่อการเรียนรู้ ( X =4.09, S.D.=0.81 และ X =3.96, S.D.=0.78 ตามลาดับ) และประเด็นที่มีค่าเฉล่ียของระดับความคิดเห็น นอ้ ยทีส่ ดุ ซึ่งนกั เรียนมีความคดิ เหน็ อยู่ในระดับปานกลาง คือ 2.20) มีกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับ ชุมชน และชุมชนมีสว่ นร่วมในการจัดการศกึ ษาของโรงเรียน ( X =3.40, S.D.=1.03) 3. ด้านกระบวนการ มี 2 องค์ประกอบ คือ องค์ประกอบด้านการบริหารจัดการหลักสูตร และองค์ประกอบด้านกระบวนการจัดการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล พบว่า ทั้ง 2 องค์ประกอบ อาจารยม์ ีความคิดเห็นอยู่ในระดบั มาก โดยมีคา่ เฉลี่ยของระดับความคดิ เห็นมากทส่ี ุดคือ องคป์ ระกอบ ด้านการบริหารจัดการหลักสูตร รองลงมา คือ องค์ประกอบด้านกระบวนการจัดการเรียนรู้ การวัด และประเมินผล ( X =4.13, S.D.=0.50 และ X =4.11, S.D.=0.58 ตามลาดับ) และพบว่า องคป์ ระกอบดา้ นการบริหารจัดการหลักสูตร มีประเด็นย่อย 15 ประเด็น อาจารย์มีความคิดเห็นอยู่ ในระดบั มากทกุ ประเด็น โดยประเด็นท่ีมคี า่ เฉลีย่ ของระดบั ความคิดเห็นมากที่สุด รองลงมา และน้อย ที่สุดคือ 3.3) มีการพิจารณาอาจารย์ผู้สอนรายวิชาให้เหมาะสมกับความรู้ความสามารถและคุณวุฒิ 3.4) มีการจดั ระบบอาจารย์ประจาชนั้ /อาจารยท์ ีป่ รึกษานักเรียนอย่างเหมาะสม และ3.15) โรงเรียน และชุมชนมีการจัดกิจกรรมร่วมกันเพ่ือพัฒนาคุณภาพผู้เรียนอย่างต่อเน่ือง ( X =4.46, S.D.=0.57,

192 X =4.28, S.D.=0.75 และ X =3.71, S.D.=0.84 ตามลาดับ) สาหรับองค์ประกอบด้านกระบวนการ จดั การเรียนรู้ การวัดและประเมนิ ผล มปี ระเด็นย่อย 12 ประเด็น อาจารย์มีความคิดเห็นอยู่ในระดับ มากทุกประเดน็ โดยประเดน็ ทีม่ คี า่ เฉลย่ี ของระดับความคิดเห็นมากที่สุด รองลงมา และน้อยท่ีสุดคือ 3.23) มีการวดั และประเมนิ ผลอยา่ งตอ่ เนอ่ื งควบคู่ไปกับการเรยี นการสอน 3.22) มีการบอกวิธีการวัด และประเมนิ ผลแตล่ ะคร้ังใหผ้ เู้ รยี นทราบลว่ งหนา้ และ3.17) จัดการเรียนรู้โดยคานึงถึงความสามารถ ของผู้เรียนเป็นรายบุคคล ( X =4.33, S.D.=0.64, X =4.31, S.D.=0.68, X =3.82, S.D.=0.82 ตามลาดับ) 4. ด้านผลผลติ มปี ระเด็นยอ่ ย 12 ประเด็น พบว่า อาจารย์มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก ทุกประเด็น โดยประเด็นท่ีมคี า่ เฉลี่ยของระดับความคดิ เห็นมากที่สุด รองลงมา และน้อยที่สุดคือ 4.5) ผูเ้ รียนมีความรู้ความสามารถในการอ่าน การเขียน และคิดคานวณ (3R) ตามเป้าหมายของหลักสูตร 4.12) ผู้บริหารมสี มรรถนะในการบริหารจัดการหลักสูตร โดยการนาหลักสูตรสู่ช้ันเรียนเพื่อยกระดับ คณุ ภาพอาจารย์ผสู้ อนและผู้เรียน และ4.9) ผู้เรียนมีกระบวนการทางานอย่างเป็นระบบ ( X =4.10, S.D.=0.62, X =4.10, S.D.=0.64, X =3.96, S.D.=0.71 ตามลาดับ) 5. ดา้ นผลกระทบ มปี ระเด็นยอ่ ย 7 ประเด็น พบวา่ อาจารย์มีความคดิ เหน็ อยใู่ นระดับมาก ทกุ ประเดน็ โดยประเดน็ ทีม่ คี ่าเฉล่ียของระดับความคิดเห็นมากท่ีสุด รองลงม และน้อยที่สุดคือ 5.3) ผู้ท่จี บการศกึ ษาจากโรงเรียนเป็นท่ียอมรับของสถาบันการศกึ ษาท้ังในและต่างประเทศ 5.7) โรงเรียน เปน็ ทีย่ อมรับของผู้ปกครอง ชุมชน และสังคม และ5.5) อาจารย์ผู้สอนมีการเผยแพร่ผลงานวิชาการ งานวิจัยอย่างต่อเน่ือง ( X =4.27, S.D.=0.72, X =4.25, S.D.=0.73, X =3.73, S.D.=0.84 ตามลาดบั ) นอกจากนี้ อาจารย์ผู้สอนนักเรียนหลักสูตรปกติ ได้ให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมใน องค์ประกอบของการประเมินหลักสตู ร 5 ดา้ น มรี ายละเอียดดงั น้ี 1. ดา้ นบริบท 1.1 การวางหลักสูตรในระดับประถมศึกษา ควรเพ่ิมจานวนเวลาเรียนในด้านการ อ่าน และการคานวณขั้นพื้นฐานให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาด้านการอ่าน มาใช้ในการศึกษาในระดับสูง ต่อไป 1.2 ในสภาพความเปน็ จรงิ โรงเรยี นดาเนินการทาแต่ไม่ได้รวบรวมเก็บเป็นหลักฐาน เพ่ือตอบคาถามในการพัฒนาเด็กในด้านตา่ ง ๆ 1.3 ควรเนน้ ยา้ เรื่องการสร้างนวัตกรรมในแผนการจัดการเรยี นรู้และการนาไปใชจ้ ริง 1.4 โรงเรียนควรเนน้ ด้านคุณธรรมจริยธรรมให้เดน่ ชัด 1.5 อาจารย์ควรมีการประชมุ ร่วมกบั คณะกรรมการสถานศกึ ษาเทอมละ 1 คร้งั 1.6 อัตลักษณ์ของโรงเรียนคณะกรรมการประกันคุณภาพได้เสนอแนะให้ปรับแก้ หลายครง้ั แตท่ างคณะผบู้ รหิ ารไมเ่ คยปรับแก้ 1.7 หลักสูตรสถานศึกษามีบริบท ปัจจัยนาเข้า กระบวนการที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนมี เปา้ หมายตามทีห่ ลกั สูตรกาหนด แต่มแี บบไมช่ ดั เจน และบางขั้นบางตอนยังไม่สอดคล้องกัน จึงทาให้ ผลผลติ ยังไปไม่ถึงยอดเย่ียม

193 1.8 เหน็ ด้วยกบั จานวนหนว่ ยกติ ในวิชาพื้นฐาน และวิชาเลอื กเสรี 1.9 ในรายวิชาเพิ่มเติม (เลือกเสรี) แต่ละกลุ่มสาระที่มี มีมากเกินไปควรให้มี วตั ถุประสงค์ในการเปดิ เพอ่ื ให้นกั เรยี นนาไปใช้ในกรศึกษาต่อหรือการประกอบอาชีพในอนาคต และ ให้ทนั ในยกุ ตป์ จั จุบนั ท่เี ป็น 4.0 1.10 ในมัธยมศกึ ษาตอนปลาย เหน็ ด้วยทใี่ ห้วิชาพื้นฐานจบในภาคเรียนที่ 1 ใน ม.5 และต่อด้วยเพมิ่ เตมิ เพราะพน้ื ฐานจะช่วยใหเ้ รยี นเพม่ิ เติมดขี ้ึน (โครงสรา้ งแผนวิทย์-คณิต) 1.11 วัตถุประสงค์ อัตลักษณ์ เอกลักษณ์ ให้เก็บหลักฐานด้วยคุณลักษณะอันพึง ประสงคต์ อ้ งมี 10 ขอ้ 1.12 รายวชิ าบรู ณาการชน้ั ป.4-6 (2 คาบ/สปั ดาห์) มีความเห็นว่าควรลดเวลาเรียน ให้เหลือ 1 คาบ/สปั ดาห์ หรือปดิ รายวิชาเพราะจากทีส่ ังเกตการเรียนการสอน พบว่า เน้ือหาในแต่ละ ช้ันเรียนมีไม่มากแต่มีเวลาเรียนมากเกินเนื้อหา นักเรียนไม่ค่อยได้ประโยน์เท่าท่ีควร การเรียนการ สอนไมม่ แี ผนการสอนเปน็ รายสัปดาห์ ผู้สอนจะสอนไปเร่ือย ๆ เพื่อให้หมดเวลาเรียนไปเอง เสียดาย เวลา นักเรียนควรได้รับประโยชน์มากกว่าน้ี อาจจัดการเรียนการสอนสอดแทรกไปในแต่ละวิชา โดยเฉพาะไทย คณิต วิทย์ องั กฤษ 1.13 ระดบั ชั้นประถมศึกษาตอนปลาย ไม่ควรจัดให้มกี ารเรยี นการสอนในคาบที่ 8 1.14 ควรจดั กจิ กรรมลดเวลาเรียนเพ่ิมเวลารู้ 1.15 การจดั หลักสูตรควรให้เห็นจุดเด่นของนักเรียนท่ีจะได้รับเม่ือจบช่วงชั้นต่าง ๆ เช่น ระดบั ประถม ระดบั มัธยมต้น ระดับมธั ยมปลาย 2. ดา้ นปจั จยั นาเขา้ 2.1 ควรพิจารณาวุฒิการศึกษาสาหรับอาจารย์ผู้สอนให้เป็นวุฒิครู หรือหากจบวุฒิ อนื่ ทส่ี อดคล้องกับสาขาที่ใชใ้ นการสอนก็ควรมกี ารเรียนครูเพิ่ม เพราะจาเป็นต้องใช้ในการศึกษาและ การอบรมสง่ั สอนนกั เรียน 2.2 ควรสนบั สนนุ และส่งเสริมให้บุคลากรมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ด้าน วิชาชีพกับสถาบันอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อการพัฒนาตนเองอย่างสม่าเสมอ โดยอาจจัดเวทีเสวนา ศึกษา ดูงาน เชิญนักวิชาการมาให้ความรู้และประสบการณ์ในโรงเรียน กระตุ้นสร้างแรงจูงใจ แรง บันดาลใจในการพฒั นาวิชาชีพใหก้ ้าวทนั การเปลีย่ นแปลงด้านการศึกษา และสร้างจุดแข็งด้านวิชาชีพ ให้มีความโดดเด่นตามความสนใจและความถนัดของบุคลากรแต่ละคนรวมทั้งการสร้างหรือพัฒนา อาจารย์ใหจ้ ดั การเรยี นการสอน การวดั และประเมินผลสอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาตามวิสัยทัศน์ และพันธกจิ ของโรงเรียน 2.3 หลักสูตรในระดับปฐมวัยท่ีเน้นด้านพหุปัญญานั้น การจัดกิจกรรมต่าง ๆ ของ ระดับปฐมวัยมีความหลากหลายดี แต่ควรมุ่งเน้นด้านความสามารถในการอ่านออกเขียนได้ควบคู่ไป กบั พหุปัญญาด้วย เพราะเป็นสิง่ สาคญั ทีจ่ ะเป็นพ้ืนฐานในการศึกษาต่อในระดับประถมศึกษา อาจจะ เน้นความสามารถด้านการอ่านเขียนในระดับอนุบาล 3 เพ่ือให้นักเรียนมีความสามารถเหมือนเด็ก อนุบาลจากโรงเรยี นสงั กดั สพฐ.ที่สามารถอ่านออกเขียนไดแ้ ต่ขาดประสบการณ์ดา้ นกจิ กรรมตา่ ง ๆ 2.4 สภาพแวดลอ้ มทเ่ี อื้อตอ่ การเรียนรยู้ งั ไม่เดน่ ชัด แต่ด้านกฬี าเหน็ ชัดเจน

194 2.5 สภาพส่ือการเรียนการสอนไม่ทันสมัย ไมค์ ลาโพงตามห้องไม่มี มีแต่สภาพไม่ พร้อมใช้ 2.6 ควรติดลาโพงและตู้เกบ็ ของในหอ้ ง 2.7 ควรปรบั ปรงุ ห้องปฏบิ ัตกิ าร และอุปกรณ์ต่างๆ ในหอ้ งเรยี นใหอ้ ยใู่ นสภาพพร้อม ใชง้ าน 2.8 มีการลาออกบ่อยของอาจารย์และการคัดเลือกอาจารย์เห็นควรมีการสอบ ข้อเขียน และประกาศรบั สมคั รในวงกวา้ งหลายช่องทางจะทาให้มีผู้มาสมัครมากๆ และจะได้คัดเลือก บคุ ลากรท่คี ุณภาพ 3. ดา้ นกระบวนการ 3.1 อาจารย์ผ้สู อนสว่ นหน่งึ เหน็ วา่ ควรมีการสนบั สนุนและส่งเสริมให้บุคลากรมีการ แลกเปล่ียนเรียนรู้ประสบการณ์ด้านวิชาชีพกับสถาบันอื่น ๆ อย่างต่อเน่ืองเพ่ือพัฒนาตนเองอย่าง สม่าเสมอ โดยอาจจัดเวทีเสวนา ศึกษาดูงาน เชิญนักวิชาการมาให้ความรู้และประสบการณ์ใน โรงเรียนเพอื่ สรา้ งแรงจงู ใจและแรงบันดาลใจในการพัฒนาวิชาชีพครูให้ก้าวทันการเปล่ียนแปลงทาง การศึกษา และสร้างจุดแข็งด้านวิชาชีพให้มีความโดดเด่นตามความสนใจของบุคลากรแต่ละคน รวมท้งั การพฒั นาอาจารย์ให้สามารถจดั การเรยี นการสอนและประเมินผลได้สอดคล้องกับทิศทางการ พัฒนาหลักสตู รและวสิ ยั ทัศนข์ องโรงเรยี น 3.2 การบรหิ ารจัดการหลักสูตรมีความเหมาะสม แต่ด้านการจัดการความรู้ควรเน้น การปฏิบัติเพ่ือให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ฝึกการปฏิบัติ และควรมีการพิจารณานักเรียนท่ีอาจจะมีความ บกพร่องด้านการเรียนรู้โดยมีการสังเกต และประเมินอย่างจริงจัง และให้ความช่วยเหลือเพ่ือให้ นกั เรียนและผสู้ อนได้จดั การเรยี นรแู้ ละประเมินความสามารถตามความเหมาะสม 4. ด้านผลผลติ 4.1 ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน มีสมรรถนะสาคัญ และมีคุณลักษณะที่พึง ประสงค์ทไี่ ดจ้ ากการประเมินท่ีเชื่อถือได้ แต่กรณีของบุคลิกภาพท่ีเป็นเป้าหมายของหลักสูตรยังไม่มี การประเมินซ่งึ ก็ควรมกี ารประเมนิ ที่ชดั เจนมากกว่าวิธกี ารสังเกตของอาจารย์ 4.2 คณุ ลกั ษณะผูเ้ รยี นในศตวรรษที่ 21 ก็ยังไมม่ ีผลการประเมินนักเรียนเพื่อสะท้อน 7 C เชน่ กนั 5. ดา้ นผลกระทบ 5.1 ปัจจุบันมีอาจารย์ผู้สอนที่สร้างนวัตกรรมการเรียนการสอน รวมท้ังอาจารย์ท่ี ไดร้ บั เชญิ เปน็ วทิ ยากรดา้ นการจดั การเรยี นรทู้ งั้ ภายในและภายนอกโรงเรียนจานวนนอ้ ยกว่า 50% ซึ่ง อาจารย์ควรได้รบั การพัฒนาเพอื่ ให้มสี มรรถนะทางวิชาชีพเพม่ิ ขน้ึ 5.2 ศิษย์เก่าส่วนใหญ่ประสบผลสาเร็จในการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาและส่ง บตุ รหลานเขา้ มาเรยี นทโี่ รงเรยี นสาธิตเป็นร่นุ ตอ่ ไป ตารางที่ 26 ผลการศึกษาความคิดเห็นของอาจารย์ท่ีมีต่อหลักสูตรโรงเรียนสาธิตแห่ง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกาแพงแสน ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา ตามหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) หลักสูตร English Program

195 ประเดน็ การประเมนิ หลักสูตร ระดบั ความคดิ เหน็ X S.D. ความหมาย ลาดบั ที่ 1. ประเมินบริบท (C: Context Evaluation)  หลักสูตร 1.1 ปรชั ญา วัตถุประสงค์ และเปา้ หมายของหลกั สตู ร มคี วาม 4.18 0.66 มาก 9 สอดคลอ้ งกับความตอ้ งการของผูเ้ รียนและสังคม 1.2 วัตถปุ ระสงค์ เปา้ หมายของหลกั สตู รเหมาะสมกับสภาพการณ์ 4.05 0.72 มาก 18 ปจั จบุ ัน 1.3 วสิ ยั ทัศน์และพันธกจิ มคี วามสอดคล้องกนั และสามารถ 4.18 0.73 มาก 11 นาไปสู่การปฏิบัตไิ ด้จริง 1.4 คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ของผู้เรยี น สะท้อนอตั ลกั ษณ์ และ 4.27 0.63 มาก 4 เอกลกั ษณ์ของโรงเรียน 1.5 คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ของผเู้ รยี น สอดคลอ้ งกบั เปา้ หมาย 4.27 0.70 มาก 5 ของหลักสตู รแตล่ ะระดบั การศกึ ษา และมาตรฐานการศกึ ษาที่ เนน้ ผลลพั ธท์ ี่พึงประสงค์ 3 ดา้ น (Desired Outcomes of Education : DOE Thailand) คอื ผูเ้ รยี นรู้ ผู้ร่วม สร้างสรรค์นวัตกรรม และพลเมืองทีเ่ ขม้ แข็ง 1.6 การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนของผ้เู รียน สอดคลอ้ งกบั 4.05 0.65 มาก 17 เป้าหมายของหลกั สตู รแต่ละระดับการศกึ ษา และมาตรฐาน การศกึ ษาท่ีเน้นผลลัพธท์ ่ีพึงประสงค์ (DOE Thailand) 1.7 โครงสร้างหลกั สูตรสถานศกึ ษาโดยภาพรวม 3 ระดับ คือ ปฐมวัย 4.14 0.71 มาก 12 ประถมศึกษา และมัธยมศึกษา มีความต่อเนื่องเชอื่ มโยงกัน 1.8 โครงสรา้ งหลกั สูตรระดบั ปฐมวัย มคี วามเหมาะสม และ 4.32 0.65 มาก 3 สอดคล้องกบั มาตรฐานการศึกษาระดับปฐมวัย พ.ศ.2561 1.9 โครงสร้างหลักสูตรระดับประถมศกึ ษา ซ่งึ ประกอบดว้ ย สาระ 4.59 0.50 มากทส่ี ุด 1 การเรยี นรู้ 8 กล่มุ และกิจกรรมพัฒนาผูเ้ รียน มคี วาม เหมาะสม และสอดคลอ้ งกบั มาตรฐานการศกึ ษาระดบั การศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พ.ศ.2561 1.10 โครงสรา้ งหลกั สตู รระดบั มธั ยมศกึ ษา ซง่ึ ประกอบดว้ ย สาระ 4.50 0.67 มากทส่ี ดุ 2 การเรียนรู้ 8 กล่มุ และกจิ กรรมพัฒนาผ้เู รยี น มีความ เหมาะสม และสอดคล้องกบั มาตรฐานการศึกษาระดบั การศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พ.ศ.2561 1.11 โครงสร้างหลกั สตู รสถานศึกษาสามารถทาใหผ้ ู้เรยี นบรรลุ 4.18 0.66 มาก 9 ตามวตั ถุประสงค์ เปา้ หมายของหลกั สูตรสถานศกึ ษาได้ 1.12 จานวนหนว่ ยกิตหรอื เวลาเรียนตลอดหลกั สูตรระดับปฐมวัย 4.23 0.87 มาก 8 มคี วามเหมาะสม 1.13 จานวนหน่วยกิตหรอื เวลาเรียนตลอดหลกั สูตรระดับ 4.09 0.68 มาก 15 ประถมศึกษา มคี วามเหมาะสม 1.14 จานวนหนว่ ยกิตหรอื เวลาเรยี นตลอดหลกั สตู รระดับ 4.23 0.69 มาก 6 มธั ยมศึกษา มคี วามเหมาะสม 1.15 เนอื้ หาสาระของหลกั สตู รระดบั ปฐมวัย เหมาะสม สอดคล้อง 4.09 0.68 มาก 15

196 ประเดน็ การประเมินหลกั สูตร ระดับความคิดเห็น X S.D. ความหมาย ลาดับท่ี กบั มาตรฐาน/ตัวชว้ี ัด คาอธบิ ายรายวชิ า และสามารถนาไปใช้ ได้จรงิ 1.16 เนื้อหาสาระของหลกั สูตรระดับประถมศกึ ษา เหมาะสม 4.09 0.53 มาก 13 สอดคล้องกับมาตรฐาน/ตวั ชวี้ ัด คาอธบิ ายรายวชิ า และ สามารถนาไปใช้ได้จริง 1.17 เนอ้ื หาสาระของหลกั สตู รระดับมัธยมศึกษา เหมาะสม 4.09 0.61 มาก 14 สอดคลอ้ งกบั มาตรฐาน/ตัวช้ีวดั คาอธบิ ายรายวชิ า และ สามารถนาไปใชไ้ ดจ้ ริง 1.18 คาอธบิ ายรายวิชา เหมาะสมและสอดคลอ้ งกับมาตรฐาน/ 4.23 0.75 มาก 7 ตัวชีว้ ดั 1.19 หน่วย/แผนการจดั การเรียนรู้ มคี วามเหมาะสม ถกู ต้อง มี 4.00 0.62 มาก 19 องคป์ ระกอบครบถว้ น และมีขน้ั ตอนของการจดั กิจกรรมการ เรียนรูต้ ามแนวคิด Active Learning ที่สะท้อนผลลพั ธ์ที่พึง ประสงคข์ องการศกึ ษา (DOE Thailand) ในมาตรฐาน การศกึ ษาของชาติ พ.ศ.2561 สรุปด้านหลักสูตร 4.20 0.48 มาก   รายวชิ า (พื้นฐานและเพมิ่ เติม) และกิจกรรมพฒั นา ผ้เู รียน 1.20 รายวิชาและกจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น สง่ เสรมิ ให้ผเู้ รยี นมี 4.14 0.83 มาก 6 สมรรถนะสาคัญ 5 ด้าน (การส่ือสาร การคิด การแกป้ ัญหา การใช้ทกั ษะชวี ิต และการใชเ้ ทคโนโลยี) 1.21 รายวชิ าและกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน สง่ เสรมิ ให้ผู้เรียนมี 4.09 0.75 มาก 9 สมรรถนะในการเปน็ ผู้เรียนรู้ 1.22 รายวิชาและกจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน สง่ เสรมิ ให้ผเู้ รยี นมี 4.09 0.68 มาก 7 สมรรถนะในการเป็นผู้ร่วมสร้างสรรค์นวตั กรรม 1.23 รายวชิ าและกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน ส่งเสรมิ ให้ผู้เรยี นมี 4.27 0.70 มาก 4 สมรรถนะในการเป็นพลเมืองท่เี ข้มแขง็ 1.24 กิจกรรมและประสบการณใ์ นระดับปฐมวัย (อ.1-3) ส่งเสรมิ 4.50 0.60 มากทสี่ ุด 1 ให้เด็กมบี คุ ลิกภาพ 5 ด้าน และมีความสามารถทางปัญญา 8 ด้าน ตามแนวคิดทฤษฎพี หปุ ัญญา (Multiple Intelligences Theory : MI) 1.25 รายวิชาและกจิ กรรมในระดบั ประถมศึกษา (ป.1-3) สง่ เสริม 4.32 0.57 มาก 2 ให้ผูเ้ รียนมคี วามร้คู วามสามารถในการอ่าน การเขยี น และคิด คานวณ (3R) มบี คุ ลิกภาพ 5 ด้าน และมีความสามารถทาง ปัญญา 8 ด้าน ตามแนวคดิ ทฤษฎพี หุปัญญา (Multiple Intelligences Theory : MI) 1.26 รายวิชาและกิจกรรมในระดับประถมศึกษา (ป.4-6) สง่ เสริม 4.27 0.55 มาก 3 ให้ผเู้ รียนมคี วามรู้ความสามารถในการอา่ นออก เขยี นได้ และ คิดเลขเปน็ (3R) มีบคุ ลกิ ภาพ 5 ดา้ น และมคี วามสามารถ

197 ประเดน็ การประเมนิ หลกั สูตร ระดบั ความคดิ เห็น X S.D. ความหมาย ลาดบั ท่ี ตามคณุ ลักษณะผู้เรียนในศตวรรษท่ี 21 (7C) 1.27 รายวชิ าและกจิ กรรมในระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ (ม.1-3) 4.09 0.68 มาก 7 สง่ เสริมให้ผู้เรยี น มบี ุคลกิ ภาพ 5 ด้าน มคี วามสามารถตาม คณุ ลักษณะผู้เรยี นในศตวรรษท่ี 21 (7C) และมีทักษะอาชีพ 1.28 รายวชิ าและกิจกรรมในระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย (ม.4-6) 4.18 0.66 มาก 5 ส่งเสรมิ ให้ผู้เรยี นมีบุคลิกภาพ 5 ด้าน มีความสามารถตาม คุณลกั ษณะผู้เรยี นในศตวรรษท่ี 21 (7C) และมีทกั ษะอาชีพ สรปุ ด้านรายวิชา (พนื้ ฐานและเพม่ิ เตมิ ) 4.22 0.55 มาก  และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน สรุปผลการประเมนิ บรบิ ท (C: Context Evaluation) 4.20 0.48 มาก  2. ประเมินปจั จยั นาเข้า (I: Input Evaluation)  บคุ คล 2.1 คณุ วฒุ ิ ความรู้ ประสบการณ์ ผลงานทางวิชาการและ 4.18 0.96 มาก 5 ผลงานวจิ ัยด้านการบรหิ ารของผู้บรหิ ารมศี กั ยภาพท่ีเหมาะสม 2.2 คณุ วุฒิ ความรู้ ประสบการณ์ ผลงานทางวชิ าการ และ 4.41 0.73 มาก 2 ผลงานวจิ ัยดา้ นการเรียนการสอนของอาจารย์ผูส้ อนมี ศกั ยภาพที่เหมาะสม 2.3 อาจารย์ผสู้ อนได้สอนในรายวิชาทต่ี รงกับคุณวุฒแิ ละความ 4.64 0.58 มากทส่ี ุด 1 เชย่ี วชาญ 2.4 เจ้าหน้าท่ี มคี วามรูค้ วามสามารถเฉพาะตาแหน่งและได้ 4.23 0.61 มาก 3 ทางานตรงกบั คณุ วฒุ แิ ละความสามารถ 2.5 เจา้ หน้าที่ มคี วามพร้อมในการใหบ้ รกิ าร สนับสนนุ และ 4.09 0.75 มาก 6 อานวยความสะดวกเพื่อการบรรลเุ ป้าหมายของงาน 2.6 ผ้เู รียนมีพนื้ ฐานความรูค้ วามสามารถตรงตามระดับชน้ั ทเี่ รียน 4.23 0.75 มาก 4 และสามารถศกึ ษาต่อในระดบั ทสี่ งู ขนึ้ 2.7 ผู้ปกครองมีความเขา้ ใจ และสนับสนนุ กจิ กรรมการเรยี นการ 4.05 0.72 มาก 8 สอนของโรงเรยี น 2.8 ผ้ปู กครองส่งเสรมิ ใหผ้ เู้ รยี นไดพ้ ฒั นาศักยภาพเพิม่ เติมจากใน 4.09 0.87 มาก 7 ช้นั เรยี น โดยยินดใี ห้ผู้เรยี นเข้ารว่ มกจิ กรรมของทางโรงเรยี น สรุปด้านบุคคล 4.24 0.57 มาก   เอกสาร สอ่ื เทคโนโลยี และสิง่ สนบั สนุนที่เอ้อื ต่อการ เรียนรู้ 2.9 หอ้ งเรียนมสี ภาพท่ีเอื้อตอ่ การเรยี นรู้ 4.05 0.65 มาก 3 2.10 มหี นงั สือ/ตารา/เอกสารประกอบการสอนเพยี งพอกับ 4.00 0.93 มาก 6 จานวนผเู้ รยี น 2.11 มีวัสดอุ ุปกรณ์การเรยี น สื่อ และเทคโนโลยีในชน้ั เรยี นเพอื่ 3.91 0.81 มาก 9 ชว่ ยให้ผูเ้ รยี นเรยี นรไู้ ด้ดขี ้ึน 2.12 มสี อื่ วสั ดุ อปุ กรณส์ าหรบั การเรียนการสอนเพียงพอต่อ 4.05 0.72 มาก 5 จานวนนกั เรียน

198 ประเด็นการประเมนิ หลกั สูตร ระดับความคิดเห็น X S.D. ความหมาย ลาดับท่ี 2.13 มงี บประมาณสนับสนุนในการจดั ทาสอ่ื การเรยี นรู้อย่าง 3.95 0.84 มาก 8 เพียงพอ 2.14 มีการจัดสรรงบประมาณเพอ่ื ใช้ในโครงการหรือกจิ กรรมการ 4.14 0.64 มาก 1 เรียนรู้ของผู้เรียนอย่างเพยี งพอ 2.15 มงี บประมาณสนับสนนุ และพฒั นาความรคู้ วามสามารถของ 4.09 0.61 มาก 2 บุคลากรอยา่ งเพียงพอ 2.16 มีการจดั แหล่งเรยี นรสู้ อดคลอ้ งกับกจิ กรรมการเรยี นร้ขู อง 3.82 0.73 มาก 10 ผู้เรยี น 2.17 มีแหลง่ การเรยี นรู้ท่ีเหมาะสมกับวยั ของผู้เรยี น 3.95 0.79 มาก 7 2.18 มแี หล่งเรียนรู้ผา่ นระบบเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ที่เหมาะสม 3.82 0.73 มาก 10 2.19 มกี ารจัดสภาพแวดลอ้ มในโรงเรียนท่ีเหมาะสมและเอ้ือตอ่ 4.05 0.65 มาก 3 การเรยี นรู้ 2.20 มกี ิจกรรมแลกเปล่ียนเรยี นรกู้ บั ชมุ ชน และชมุ ชนมีสว่ นรว่ ม 3.41 1.10 ปานกลาง 12 ในการจดั การศึกษาของโรงเรยี น สรุปดา้ นเอกสาร สื่อ เทคโนโลยี 3.94 0.53 มาก  และสิ่งสนบั สนนุ ทเี่ ออ้ื ตอ่ การเรยี นรู้ สรปุ ผลการประเมินปจั จัยนาเขา้ (I: Input Evaluation) 4.06 0.52 มาก  3. ประเมนิ กระบวนการ (P: Process Evaluation)  การบรหิ ารจดั การหลกั สตู ร 3.1 มีแผนการดาเนินงานด้านหลักสตู รอย่างชดั เจนและเป็นระบบ 4.23 0.69 มาก 8 3.2 มีกระบวนการคดั เลือกนกั เรียนเข้าศึกษาในโรงเรียนอยา่ ง 4.36 0.66 มาก 4 เหมาะสม 3.3 มีการพิจารณาอาจารย์ผสู้ อนรายวิชาใหเ้ หมาะสมกบั ความรู้ 4.64 0.58 มากที่สุด 1 ความสามารถและคณุ วุฒิ 3.4 มกี ารจัดระบบอาจารย์ประจาชน้ั /อาจารย์ทป่ี รึกษานกั เรียน 4.45 0.67 มาก 2 อยา่ งเหมาะสม 3.5 มีการวางแผนการนาหลักสตู รไปใชท้ ุกกลมุ่ สาระการเรียนรู้ 4.36 0.66 มาก 4 และทุกกจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน 3.6 โรงเรียนมกี ารเตรยี มความพร้อมให้อาจารยผ์ ู้สอนจดั กจิ กรรม 4.18 0.73 มาก 10 การเรียนรู้เพ่อื พัฒนาผเู้ รียนตามเปา้ หมายของหลักสูตร เชน่ การสง่ เสรมิ ใหเ้ ขา้ รบั การอบรม-สมั มนาทางวชิ าการ การ ประชุมเชงิ ปฏบิ ัติการ หรอื การศกึ ษาดงู านด้านหลักสตู ร การ เรียนการสอน การวดั และประเมนิ ผล 3.7 อาจารย์ผู้สอนมีการพัฒนาตนเองอยเู่ สมอในดา้ นหลักสตู ร 4.18 0.59 มาก 9 การเรยี นการสอน การวัดและประเมนิ ผล 3.8 อาจารยผ์ สู้ อนจดั ทาหน่วย/แผนการจดั การเรยี นรทู้ ุกรายวชิ า 4.27 0.83 มาก 7 3.9 สง่ เสรมิ ใหอ้ าจารยผ์ ู้สอนจดั กจิ กรรมการเรียนรู้เพื่อการพัฒนา 4.14 0.71 มาก 11 ผ้เู รียนในศตวรรษท่ี 21 เช่น การจดั การเรยี นรตู้ ามแนวคดิ Active Learning/ STEM เปน็ ตน้

199 ประเด็นการประเมนิ หลักสูตร ระดับความคิดเห็น X S.D. ความหมาย ลาดบั ที่ 3.10 อาจารยผ์ สู้ อนจดั กจิ กรรมการเรียนรตู้ ามแผนการจดั การ 4.32 0.65 มาก 6 เรยี นรไู้ ดอ้ ย่างเหมาะสม 3.11 มรี ะบบการนเิ ทศ ติดตาม เพื่อใหค้ าแนะนา ช่วยเหลอื (การ 3.73 1.03 มาก 15 พฒั นาวชิ าชีพ) เก่ยี วกบั การจัดกจิ กรรมการเรยี นร้ขู อง อาจารย์ผสู้ อน 3.12 มรี ะบบการสะทอ้ นผลการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ของอาจารย์ 3.77 1.02 มาก 14 ผ้สู อนอย่างตอ่ เน่ืองเพือ่ ให้การสนบั สนุนและช่วยเหลือ 3.13 อาจารย์ผสู้ อนเปน็ ต้นแบบท่ีดีแกผ่ ู้เรียน 4.41 0.50 มาก 3 3.14 มรี ะบบ/รูปแบบ/กระบวนการ การประกันคณุ ภาพ 4.05 0.65 มาก 12 การศึกษาด้านหลกั สตู รที่ชัดเจน สามารถนามาปฏิบัตไิ ด้จริง และนาผลมาปรบั ปรุง พัฒนาหลกั สตู รทุกระดับการศึกษา 3.15 โรงเรียนและชมุ ชนมีการจดั กจิ กรรมร่วมกนั เพื่อพัฒนา 3.82 1.05 มาก 13 คณุ ภาพผู้เรียนอย่างตอ่ เนือ่ ง สรปุ ดา้ นการบรหิ ารจัดการหลกั สตู ร 4.19 0.50 มาก   กระบวนการจัดการเรียนรู้ การวัดและประเมนิ ผล 3.16 จัดการเรยี นรู้โดยใช้รปู แบบ วธิ กี ารที่หลากหลาย 4.23 0.53 มาก 8 3.17 จัดการเรียนรโู้ ดยคานงึ ถงึ ความสามารถของผู้เรยี นเปน็ 4.09 0.87 มาก 12 รายบคุ คล 3.18 มีกิจกรรมการเรยี นรูท้ เ่ี นน้ ให้ผ้เู รียนได้คดิ วิเคราะห์และลงมือ 4.23 0.75 มาก 10 ปฏิบตั จิ ริง 3.19 จัดการเรียนรโู้ ดยกระตนุ้ ใหผ้ ้เู รยี นกระตือรอื ร้นในการ 4.23 0.69 มาก 9 แสวงหาความรู้ดว้ ยตนเอง 3.20 จัดการเรียนรูโ้ ดยสอดแทรกคณุ ธรรมจริยธรรม 4.45 0.67 มาก 1 3.21 เปิดโอกาสใหผ้ เู้ รยี นมสี ว่ นร่วมในการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 4.32 0.72 มาก 6 3.22 มีการบอกวธิ ีการวัดและประเมนิ ผลแต่ละครง้ั ให้ผเู้ รยี นทราบ 4.41 0.67 มาก 2 ล่วงหนา้ 3.23 มกี ารวัดและประเมินผลอย่างตอ่ เนอ่ื งควบคไู่ ปกบั การเรยี น 4.36 0.66 มาก 3 การสอน 3.24 วัดผลและประเมนิ ครอบคลุมการเรียนร้ทู ั้งดา้ นความรู้ 4.36 0.73 มาก 4 เจตคติ และการปฏบิ ัติ 3.25 ใชว้ ิธกี ารและเครื่องมอื ในการวัดและประเมนิ ผลท่ี 4.27 0.70 มาก 7 หลากหลาย 3.26 เปดิ โอกาสให้ผู้เรยี นมีส่วนรว่ มในการวัดและประเมนิ ผล 4.23 0.75 มาก 10 3.27 มกี ารนาผลการประเมินมาพฒั นาการเรยี นการสอนและ 4.32 0.65 มาก 5 สะทอ้ นผลให้ผเู้ รยี นไดพ้ ฒั นาตนเองเต็มศักยภาพ สรปุ ดา้ นกระบวนการจดั การเรยี นรู้ 4.29 0.59 มาก  การวัดและประเมนิ ผล สรปุ ผลการประเมนิ กระบวนการ (P: Process Evaluation) 4.24 0.51 มาก 

200 ประเด็นการประเมนิ หลกั สูตร ระดบั ความคิดเห็น X S.D. ความหมาย ลาดบั ท่ี 4. ประเมินผลผลติ (P: Product Evaluation) 4.1 ผเู้ รยี นมผี ลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนบรรลุตามวัตถุประสงค์ของ 4.23 0.53 มาก 1 หลกั สูตร 4.05 0.58 มาก 10 4.2 ผู้เรยี นมสี มรรถนะสาคญั บรรลุตามวตั ถปุ ระสงค์หลักสูตร 4.14 0.56 มาก 3 4.3 ผู้เรยี นมคี ุณลักษณะอันพึงประสงค์บรรลุตามวัตถปุ ระสงค์ 4.09 0.61 มาก 6 หลักสตู ร 4.05 0.58 มาก 10 4.4 ผเู้ รยี นมีบุคลกิ ภาพที่ดี 5 ดา้ น ตามเปา้ หมายของหลักสตู ร 4.5 ผู้เรยี นมีความรู้ความสามารถในการอ่าน การเขียน และคิด 4.09 0.61 มาก 6 คานวณ (3R) ตามเป้าหมายของหลักสตู ร 4.09 0.75 มาก 9 4.6 ผ้เู รยี นมคี วามสามารถทางปัญญา 8 ด้าน ตามเป้าหมายของ 4.14 0.71 มาก 5 หลกั สตู ร 4.7 ผเู้ รียนมีความสามารถตามคุณลกั ษณะของผเู้ รยี นในศตวรรษ 4.05 0.65 มาก 12 4.09 0.61 มาก 6 ท่ี 21 (7C) ตามเปา้ หมายของหลักสตู ร 4.14 0.64 มาก 4 4.8 ผ้เู รียนมีความมุ่งมั่นในการเรียน การทางาน และกลา้ 4.23 0.61 มาก 2 แสดงออกในทางทีถ่ กู ตอ้ งเหมาะสม 4.9 ผเู้ รยี นมกี ระบวนการทางานอยา่ งเปน็ ระบบ 4.11 0.52 มาก  4.10 ผเู้ รยี นมีสมรรถนะในการสร้างสรรค์ชิน้ งาน 4.11 อาจารย์ผูส้ อนมีสมรรถนะในการจัดการเรยี นรู้เพ่ือพฒั นา 4.18 0.80 มาก 4 4.27 0.70 มาก 3 ผู้เรียนในศตวรรษท่ี 21 4.12 ผู้บริหารมีสมรรถนะในการบริหารจัดการหลกั สตู ร โดยการ 4.36 0.58 มาก 2 นาหลักสตู รสูช่ น้ั เรียนเพื่อยกระดับคณุ ภาพอาจารย์ผู้สอน 4.05 0.90 มาก 6 และผู้เรยี น สรุปผลการประเมนิ ผลผลิต (P: Product Evaluation) 4.00 0.98 มาก 7 5. ประเมนิ ผลกระทบ (I: Impact Evaluation) 5.1 ผู้เรียนมคี วามรสู้ กึ รกั และภาคภูมใิ จต่อสถาบนั 4.09 1.02 มาก 5 5.2 ผู้เรยี นมีความร้คู วามสามารถเปน็ ที่ยอมรับของชมุ ชน สงั คม ท้ังภายในและภายนอกสถาบนั 4.50 0.67 มากท่สี ดุ 1 5.3 ผู้ท่ีจบการศกึ ษาจากโรงเรยี นเปน็ ท่ียอมรบั ของ 4.21 0.67 มาก  สถาบนั การศึกษาทง้ั ในและต่างประเทศ 4.17 0.43 มาก 5.4 อาจารยผ์ ู้สอนสรา้ งนวัตกรรมการเรียนการสอนผ่าน กระบวนการวจิ ยั อยา่ งต่อเนอื่ ง 5.5 อาจารย์ผู้สอนมกี ารเผยแพรผ่ ลงานวิชาการ งานวิจัยอย่าง ตอ่ เน่อื ง 5.6 อาจารยผ์ ู้สอนได้รับเชิญเปน็ วทิ ยากรเพ่ือช่วยพัฒนาการ จัดการเรยี นรูใ้ หแ้ ก่บคุ ลากรทั้งภายในและภายนอกสถาบัน 5.7 โรงเรยี นเปน็ ทยี่ อมรับของผปู้ กครอง ชุมชน และสงั คม สรปุ ผลการประเมนิ ผลกระทบ (I: Impact Evaluation) สรุปผลการประเมินหลกั สูตรของโรงเรยี นในภาพรวม

201 จากตารางท่ี 26 ผลการประเมินหลักสูตรของโรงเรียนในภาพรวมตามความคิดเห็นของ อาจารย์ทม่ี ีตอ่ หลักสูตรโรงเรียนสาธติ แห่งมหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกาแพงแสน ศูนย์วิจัย และพัฒนาการศึกษา ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) หลกั สตู ร English Program พบวา่ อาจารย์มคี วามคดิ เหน็ ต่อหลักสูตรในภาพรวมอยู่ใน ระดับมาก ( X =4.17, S.D.=0.43) เม่ือพิจารณาเป็นรายด้าน 5 ด้าน ได้แก่ ด้านบริบท ด้านปัจจัย นาเขา้ ดา้ นกระบวนการ ด้านผลผลิต และด้านผลกระทบ พบว่า อาจารย์มีความคิดเห็นต่อหลักสูตร อยู่ในระดับมากทุกด้าน โดยมีค่าเฉล่ียของระดับความคิดเห็นจากมากไปน้อย คือ ด้านกระบวนการ ด้านผลกระทบ ด้านบริบท ด้านผลผลิต และด้านปัจจัยนาเข้า ( X =4.24, S.D.=0.51, X =4.21, S.D.=0.67, X =4.20, S.D.=0.48, X =4.11, S.D.=0.52 และ X =4.06, S.D.=0.52 ตามลาดับ) และเมือ่ พิจารณาเปน็ รายประเด็นของแตล่ ะด้าน มีข้อคน้ พบผลการประเมนิ หลกั สตู ร 5 ด้านดังนี้ 1. ด้านบริบท มี 2 องค์ประกอบคือ องค์ประกอบด้านหลักสูตร และองค์ประกอบด้าน รายวิชาและกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน พบว่า อาจารย์มีความคิดเห็นต่อท้ัง 2 องค์ประกอบอยู่ในระดับ มาก โดยมีค่าเฉลีย่ ของระดบั ความคิดเห็นมากทสี่ ดุ คอื องคป์ ระกอบด้านรายวิชาและกิจกรรมพัฒนา ผู้เรียน รองลงมาคือ องค์ประกอบด้านหลักสูตร ( X =4.22, S.D.=0.55 และ X =4.20, S.D.=0.48 ตามลาดับ) และพบวา่ องคป์ ระกอบด้านหลกั สูตร มปี ระเดน็ ยอ่ ย 19 ประเด็น อาจารย์มีความคิดเห็น อยู่ในระดับมากที่สุด 2 ประเด็น โดยประเด็นท่ีมีค่าเฉลี่ยของระดับความคิดเห็นมากที่สุด คือ 1.9) โครงสรา้ งหลกั สตู รระดบั ประถมศกึ ษา ซง่ึ ประกอบด้วย สาระการเรียนรู้ 8 กลุ่ม และกิจกรรมพัฒนา ผเู้ รยี น มคี วามเหมาะสม และสอดคล้องกับมาตรฐานการศกึ ษาระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พ.ศ.2561 และ1.10) โครงสร้างหลักสูตรระดับมัธยมศึกษา ซ่ึงประกอบด้วย สาระการเรียนรู้ 8 กลุ่ม และ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน มีความเหมาะสม และสอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษาระดับการศึกษาขั้น พ้ืนฐาน พ.ศ.2561 ( X =4.59, S.D.=0.50 และ X =4.50, S.D.=0.67 ตามลาดับ) ส่วนประเด็นท่ีมี คา่ เฉลี่ยของระดับความคิดเห็นน้อยท่ีสุด ซ่ึงอาจารยม์ คี วามคิดเห็นอยู่ในระดับมาก คือ 1.19) หน่วย/ แผนการจัดการเรียนรู้มีความเหมาะสม ถูกต้อง มีองค์ประกอบครบถ้วน และมีขั้นตอนของการจัด กิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคดิ Active Learning ท่ีสะท้อนผลลัพธท์ ่พี ึงประสงค์ของการศึกษา (DOE Thailand) ในมาตรฐานการศกึ ษาของชาติ พ.ศ.2561 ( X =4.00, S.D.=0.62) ส่วนองค์ประกอบด้าน รายวิชาและกิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น มปี ระเด็นย่อย 9 ประเด็น โดยอาจารย์มีความคิดเห็นอยู่ในระดับ มากท่ีสุดในประเด็น 1.24) กิจกรรมและประสบการณ์ในระดับปฐมวัย (อ.1-3) ส่งเสริมให้เด็กมี บุคลิกภาพ 5 ด้าน และมีความสามารถทางปัญญา 8 ด้าน ตามแนวคิดทฤษฎีพหุปัญญา (Multiple Intelligences Theory : MI) ( X =4.50, S.D.=0.60) ประเด็นรองลงมาและน้อยท่ีสุด อาจารย์มี ความคดิ เหน็ อยใู่ นระดับมาก คอื 1.25) รายวิชาและกิจกรรมในระดับประถมศึกษา (ป.1-3) ส่งเสริม ใหผ้ ้เู รียนมคี วามรู้ความสามารถในการอ่าน การเขียน และคิดคานวณ (3R) มีบุคลิกภาพ 5 ด้าน และ มคี วามสามารถทางปญั ญา 8 ด้าน ตามแนวคิดทฤษฎีพหุปัญญา (Multiple Intelligences Theory : MI) และ1.21) รายวชิ าและกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียนสง่ เสริมให้ผู้เรยี นมีสมรรถนะในการเป็นผเู้ รียนรู้ ( X =4.32, S.D.=0.57 และ X =4.09, S.D.=0.75) 2. ดา้ นปัจจยั นาเข้า มี 2 องค์ประกอบ คอื องค์ประกอบดา้ นบุคคล และองค์ประกอบด้าน เอกสาร ส่ือ เทคโนโลยี และส่ิงสนับสนุนที่เอื้อต่อการเรียนรู้ พบว่า ทั้ง 2 องค์ประกอบ อาจารย์มี

202 ความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก โดยมีค่าเฉล่ียของระดับความคิดเห็นมากที่สุด คือ องค์ประกอบด้าน บคุ คล รองลงมาคือ องค์ประกอบด้านเอกสาร ส่ือ เทคโนโลยี และสิ่งสนับสนุนท่ีเอื้อต่อการเรียนรู้ ( X =4.24, S.D.=0.57 และ X =3.94, S.D.=0.53 ตามลาดับ) และพบว่า องค์ประกอบด้านบุคคล มี ประเด็นยอ่ ย 8 ประเดน็ โดยประเด็นที่มีค่าเฉลี่ยของระดับความคิดเห็นมากที่สุด ซึ่งอาจารย์มีความ คิดเห็นอยู่ในระดับมากท่ีสุดคือ 2.3) อาจารย์ผู้สอนได้สอนในรายวิชาท่ีตรงกับคุณวุฒิและความ เชย่ี วชาญ ( X =4.64, S.D.=0.58) สว่ นประเดน็ ทม่ี คี ่าเฉลี่ยของระดับความคิดเห็นรองลงมาและน้อย ทส่ี ดุ โดยอาจารย์มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก คือ 2.2) คุณวุฒิ ความรู้ ประสบการณ์ ผลงานทาง วิชาการ และผลงานวิจัยด้านการเรียนการสอนของอาจารย์ผู้สอนมีศักยภาพท่ีเหมาะสม และ2.7) ผูป้ กครองมีความเข้าใจ และสนบั สนุนกิจกรรมการเรยี นการสอนของโรงเรียน ( X =4.41, S.D.=0.73 และ X =4.05, S.D.=0.72 ตามลาดับ) สาหรับองค์ประกอบด้านเอกสาร ส่ือ เทคโนโลยี และสิ่ง สนับสนุนท่ีเอื้อต่อการเรียนรู้ มีประเด็นย่อย 12 ประเด็น โดยประเด็นที่มีค่าเฉลี่ยของระดับความ คิดเห็นมากท่ีสุดและรองลงมา ซ่ึงนักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก คือ 2.14) มีการจัดสรร งบประมาณเพื่อใช้ในโครงการหรือกิจกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนอย่างเพียงพอ และ2.15) มี งบประมาณสนับสนุน และพัฒนาความรู้ความสามารถของบุคลากรอย่างเพียงพอ ( X =4.14, S.D.=0.64 และ X =4.09, S.D.=0.61 ตามลาดับ) และประเด็นที่มีค่าเฉล่ียของระดับความคิดเห็น นอ้ ยทส่ี ดุ ซง่ึ อาจารย์มีความคิดเห็นอยู่ในระดับปานกลาง คือ 2.20) มีกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับ ชมุ ชน และชุมชนมีส่วนรว่ มในการจดั การศกึ ษาของโรงเรยี น ( X =3.41, S.D.=1.10) 3. ดา้ นกระบวนการ มี 2 องค์ประกอบ คือ องค์ประกอบด้านการบริหารจัดการหลักสูตร และองค์ประกอบด้านกระบวนการจัดการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล พบว่า ท้ัง 2 องค์ประกอบ อาจารย์มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก โดยมีค่าเฉล่ียของ ระดับความคิดเห็นมากที่สุด คือ องค์ประกอบดา้ นกระบวนการจดั การเรยี นรู้ การวัดและประเมินผล รองลงมา คือ องค์ประกอบด้าน การบริหารจัดการหลักสตู ร ( X =4.29, S.D.=0.59 และ X =4.19, S.D.=0.50 ตามลาดับ) และพบว่า องคป์ ระกอบด้านการบรหิ ารจดั การหลกั สูตร มีประเดน็ ยอ่ ย 15 ประเด็น และอาจารย์มีความคิดเห็น อยูใ่ นระดับมากท่ีสุด 1 ประเด็น คอื 3.3) มกี ารพจิ ารณาอาจารยผ์ ้สู อนรายวิชาให้เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถและคุณวุฒิ ( X =4.64, S.D.=0.58) ประเด็นที่มีค่าเฉลี่ยของระดับความคิดเห็น รองลงมาและน้อยที่สุด ซ่ึงพบว่าอาจารย์มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก คือ 3.4) มีการจัดระบบ อาจารย์ประจาชั้น/อาจารย์ท่ีปรึกษานักเรียนอย่างเหมาะสม และ3.11) มีระบบการนิเทศ ติดตาม เพือ่ ให้คาแนะนา ชว่ ยเหลอื (การพัฒนาวิชาชพี ) เก่ยี วกับการจัดกจิ กรรมการเรยี นรขู้ องอาจารย์ผู้สอน ( X =4.45, S.D.=0.67 และ X =3.73, S.D.=1.03 ตามลาดับ) สาหรับองค์ประกอบด้านกระบวนการ จดั การเรยี นรู้ การวดั และประเมนิ ผล มปี ระเดน็ ย่อย 12 ประเด็น พบว่า อาจารย์มีความคิดเห็นอยู่ใน ระดับมากทุกประเด็น โดยประเด็นที่มีค่าเฉล่ียของระดับความคิดเห็นมากที่สุด รองลงมา และน้อย ท่ีสุด คือ 3.20) จัดการเรียนรู้โดยสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรม 3.22) มีการบอกวิธีการวัดและ ประเมินผลแตล่ ะคร้ังใหผ้ ้เู รยี นทราบล่วงหน้า และ3.17) จัดการเรียนรู้โดยคานึงถึงความสามารถของ ผู้เรียนเป็นรายบุคคล ( X =4.45, S.D.=0.67, X =4.41, S.D.=0.67, X =4.09, S.D.=0.87 ตามลาดบั )

203 4. ดา้ นผลผลติ มปี ระเด็นยอ่ ย 12 ประเด็น พบว่า อาจารย์มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก ทุกประเด็น โดยประเด็นท่ีมคี า่ เฉลยี่ ของระดับความคดิ เหน็ มากท่ีสุด รองลงมา และน้อยท่ีสุดคือ 4.1) ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนบรรลุตามวัตถุประสงค์ของหลักสูตร 4.12) ผู้บริหารมีสมรรถนะใน การบริหารจัดการหลักสูตร โดยการนาหลักสูตรสู่ช้ันเรียนเพื่อยกระดับคุณภาพอาจารย์ผู้สอนและ ผู้เรียน และ4.9) ผู้เรียนมีกระบวนการทางานอย่างเป็นระบบ ( X =4.23, S.D.=0.53, X =4.23, S.D.=0.61 และ X =4.05, S.D.=0.65 ตามลาดับ) 5. ด้านผลกระทบ มีประเด็นย่อย 7 ประเด็น พบว่า ประเด็นท่ีมีค่าเฉลี่ยของระดับความ คิดเหน็ มากท่ีสุด ซึง่ อาจารยม์ ีความคดิ เหน็ อยู่ในระดับมากที่สุดมี 1 ประเด็น คือ 5.7) โรงเรียนเป็นท่ี ยอมรับของผู้ปกครอง ชุมชน และสังคม ( X =4.50, S.D.=0.67) ส่วนประเด็นท่ีมีค่าเฉลี่ยของระดับ ความคิดเห็นรองลงมาและน้อยที่สุด ซึ่งอาจารย์มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก คือ 5.3) ผู้ท่ีจบ การศึกษาจากโรงเรียนเป็นท่ียอมรับของสถาบันการศึกษาท้ังในและต่างประเทศ และ5.5) อาจารย์ ผู้สอนมีการเผยแพร่ผลงานวิชาการ งานวิจัยอย่างต่อเน่ือง ( X =4.36, S.D.=0.58, X =4.00, S.D.=0.98 ตามลาดบั ) นอกจากนี้ อาจารย์ผู้สอนนักเรียนหลักสูตร English Program ได้ให้ข้อเสนอแนะ เพม่ิ เตมิ ในองคป์ ระกอบของการประเมินหลกั สูตร 5 ด้าน มีรายละเอยี ดดงั นี้ 1. Context 1.1 Provide learners a venue for inclusive and collaborative learning where they (learners) can showcase their potentials and be able to think outside the box. 1.2 The context has a very strong objectives in regards to the (Learners) individuals. 1.3 Making a more inclusive learning institution requires the restatement of the selection process in assigning learners to academic level by age only. Some learners are advanced. 2. Input 2.1 To produce a much better learning environment, the school “MUST” have a strict implementing “Policy” with regards to the use “Mobile Phones”. Mobile phones are useful BUT in most cases they are very disruptive to students especially during the teaching and learning situation. 2.2 Innovating enough to support both instructors & Learners. 2.3 The availability of learning materials and resources is more than appropriate but the challenge is on the management of these resources to make if more accessible. 3. Process

204 3.1 Harbor a more inclusive network of educators by allowing maternal and resources to be more accessible. 3.2 Support teachers’ innovative ideas and give then where they can showcase their innovations and evaluate the output. 3.3 To produce a much better learning environment, the school “MUST” have a strict implement policy with rebounds to the use of Mobile phones. Mobile phones are useful but in most cases they are very disruptive to student especially diving the teaching and vitiation. 3.4 Require and train teachers to facilitate at least one class in blended learning mode. Teachers’ knowledge in LMS can come in handy as an existing structure of the school’s contingence plan. (blended-learning classroom through computer-assisted learning/internet assisted learning using LMS) 4. Product EP will be a training ground or home to learners of the 21st century. They are critical thinkers, creative and knows how to collaborate with others to arrive very satisfactorily at a given goal and also very capable of communicating their know league and skills using traditional and contemporary media. 5. Impact 5.1 Support teachers’ innovative approach and encourage teachers to be more innovative in dealing with their teaching and instructions to develop more productive individuals. 5.2 Support teachers’ innovative ideas and give them a venue where they can showcase their innovations and evaluate the output. 5.3 Support and encourage foreign employees to participate and contribute in instructional innovation through academic research. ในการประเมินหลักสูตรด้านบริบท (C : Context) ผู้วิจัยได้กาหนดให้มีการตรวจสอบ องคป์ ระกอบและคุณภาพหลักสูตรสถานศกึ ษา โดยคณะกรรมการฝ่ายวิชาการของโรงเรียน มีผลการ วิเคราะห์ขอ้ มลู ดงั ตารางท่ี 27 ตารางที่ 27 ผลการตรวจสอบองค์ประกอบและคณุ ภาพหลักสูตรสถานศกึ ษา รายการตรวจสอบ ระดบั คุณภาพ ข้อเสนอแนะ X S.D. ความหมาย ลาดับที่ เพอ่ื การปรบั ปรงุ /แกไ้ ข 1. สว่ นนา

205 รายการตรวจสอบ X ระดับคณุ ภาพ ข้อเสนอแนะ S.D. ความหมาย ลาดบั ท่ี เพื่อการปรับปรุง/แก้ไข 1.1 ความนา 2.30 0.82 ปานกลาง 1.1.1 แสดงความเช่อื มโยงระหวา่ ง 1 ไม่พบกรอบหลกั สูตร หลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้น 2.30 0.82 ปานกลาง ระดับทอ้ งถ่นิ จุดเน้น พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 กรอบ 2.50 0.71 มาก และความตอ้ งการของ หลักสตู รระดับท้องถิน่ จดุ เน้น และ โรงเรียน ความตอ้ งการของโรงเรยี น 2.30 0.67 ปานกลาง - สรุปความนา 2.20 0.79 ปานกลาง 1- 1.2 วิสัยทัศน์ 1.2.1 แสดงภาพอนาคตทพี่ งึ ประสงค์ 2.10 0.74 ปานกลาง 2- ของผูเ้ รยี นที่สอดคล้องกับวิสยั ทัศน์ 2.28 0.66 ปานกลาง ของหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ัน 2.50 0.71 มาก 3- พื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 อยา่ ง ชัดเจน 2.50 0.71 มาก 4- 1.2.2 แสดงภาพอนาคตทีพ่ งึ ประสงค์ 2.60 0.70 มาก - ของผู้เรียนสอดคลอ้ งกบั กรอบ 1- หลักสตู รระดับท้องถิ่น 2.60 0.52 มาก 1.2.3 แสดงภาพอนาคตทีพ่ งึ ประสงค์ 2.70 0.48 มาก - ของผูเ้ รียนครอบคลุมสภาพความ 2.63 0.48 มาก 3- ต้องการของโรงเรียน ชุมชน ทอ้ งถ่ิน 2.42 0.51 ปานกลาง 1.2.4 มคี วามชัดเจนสามารถปฏบิ ัติได้ 2- 2.70 0.48 มาก 1- สรุปวิสยั ทัศน์ - 1.3 สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รยี น - 1.3.1 มีความสอดคล้องกบั หลกั สตู ร แกนกลางการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน 1- พทุ ธศกั ราช 2551 สรุปสมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน 1.4 คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 1.4.1 มคี วามสอดคลอ้ งกับหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 1.4.2 มคี วามสอดคลอ้ งกับเป้าหมาย จดุ เน้นกรอบหลักสตู รระดับทอ้ งถนิ่ 1.4.3 สอดคลอ้ งกับวสิ ัยทัศนข์ อง โรงเรียน สรปุ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ สรปุ สว่ นนา 2. โครงสรา้ งหลักสูตรสถานศึกษา 2.1 โครงสรา้ งเวลาเรยี น 2.1.1 มกี ารระบเุ วลาเรยี นของ 8 กลมุ่

206 รายการตรวจสอบ ระดบั คณุ ภาพ ขอ้ เสนอแนะ สาระการเรยี นรู้ ทีเ่ ปน็ เวลาเรียน X S.D. ความหมาย ลาดับท่ี เพื่อการปรับปรุง/แกไ้ ข พ้ืนฐานและเพม่ิ เตมิ จาแนกแตล่ ะช้ัน ปอี ย่างชัดเจน 2.70 0.48 มาก 1 - 2.1.2 มีการระบุเวลาการจัดกจิ กรรม 2.60 พฒั นาผู้เรียนจาแนกแต่ละชัน้ ปีอย่าง 0.70 มาก 3 ควรแสดงตาราง ชดั เจน เปรียบเทียบเวลาเรยี น 2.1.3 เวลาเรียนรวมของหลกั สตู ร 0.54 มาก รวมของหลกั สตู ร สถานศกึ ษาสอดคล้องกับโครงสรา้ ง 0.32 มาก สถานศึกษากบั เวลาเรียนตามหลกั สูตรแกนกลาง โครงสร้างเวลาเรยี นตาม การศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน พุทธศักราช หลักสูตรแกนกลาง 2551 การศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 สรุปโครงสรา้ งเวลาเรียน 2.67 2.90 - 2.2 โครงสร้างหลักสตู รช้ันปี 2.90 1- 2.2.1 มกี ารระบุรายวชิ าพนื้ ฐานท้งั 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ พร้อมทง้ั ระบุ 2.60 0.32 มาก 1 - เวลาเรียนและหรือหนว่ ยกิต 2.90 0.52 มาก 5 - 2.2.2 มีการระบุรายวิชาเพ่ิมเติมท่ี 2.80 0.32 มาก 1 - สถานศกึ ษากาหนด พร้อมท้ังระบุเวลา เรียนและหรอื หน่วยกติ 2.82 0.42 มาก 4 - 2.76 2.2.3 มีการระบุกจิ กรรมพัฒนาผ้เู รยี น 2.90 0.32 มาก  - พรอ้ มท้งั ระบเุ วลาเรยี น 0.32 มาก  - 2.90 2.2.4 มีรายวิชาพื้นฐานทรี่ ะบรุ หัสวิชา 0.32 มาก 1 - ช่ือรายวิชา จานวนเวลาเรยี น และ หรือหน่วยกติ ไว้อย่างถกู ต้องชดั เจน 0.32 มาก 1 - 2.2.5 มรี ายวชิ าเพิม่ เติม/กจิ กรรม เพ่มิ เติมสอดคลอ้ งกับวสิ ยั ทศั น์ จุดเน้น ของโรงเรยี น สรปุ โครงสรา้ งหลกั สตู รชน้ั ปี สรุปโครงสร้างหลกั สูตรสถานศกึ ษา 3. คาอธบิ ายรายวิชา 3.1 มีการระบุรหัสวชิ า ช่อื รายวิชา และชือ่ กลุ่มสาระการเรยี นรไู้ วอ้ ยา่ ง ถกู ตอ้ งชดั เจน 3.2 มีการระบุชัน้ ปีที่สอนและจานวน เวลาเรยี นและหรอื หน่วยกิตไวอ้ ยา่ ง ถกู ตอ้ งชัดเจน

207 รายการตรวจสอบ ระดับคณุ ภาพ ข้อเสนอแนะ 3.3 การเขียนคาอธบิ ายรายวชิ า เขียน X S.D. ความหมาย ลาดบั ที่ เพื่อการปรบั ปรงุ /แกไ้ ข เปน็ ความเรยี ง โดยระบุองค์ความรู้ ทักษะกระบวนการ และคณุ ลักษณะ 2.40 0.70 ปานกลาง 3 - หรอื เจตคติท่ตี อ้ งการ 3.4 มีการจัดทาคาอธบิ ายรายวชิ า 2.40 0.70 ปานกลาง 3 - พื้นฐานครอบคลุมตวั ช้วี ัด สาระการ 2.40 เรียนรู้ 2.20 0.70 ปานกลาง 3 - 3.5 มีการระบุรหัสตัวช้ีวดั ในรายวิชา 1.90 0.79 ปานกลาง 6 - พ้นื ฐานและจานวนรวมของตวั ชีว้ ัด 2.44 3.6 มีการระบุผลการเรียนร้ใู นรายวิชา 0.74 ปานกลาง 7 - เพิ่มเตมิ และจานวนรวมของผลการ เรยี นรู้ 0.43 ปานกลาง  ไม่ได้ทารวมเปน็ เล่ม 3.7 มีการกาหนดสาระการเรียนรู้ เดยี วกบั เลม่ เอกสาร ทอ้ งถน่ิ สอดแทรกอยูใ่ นคาอธบิ าย 0.71 มาก หลกั สูตร รายวิชาพืน้ ฐานหรือรายวิชาเพ่มิ เตมิ 0.67 ปานกลาง 1- สรุปคาอธบิ ายรายวิชา 2- 4. โครงสร้างรายวิชา 2.50 2.30 0.66 ปานกลาง  - 4.1 มกี ารระบุชือ่ หนว่ ยการเรยี นรูแ้ ละ 0.67 มาก 1 - เวลาเรยี นไว้อยา่ งถกู ตอ้ งชดั เจน 2.40 4.2 มกี ารระบุสาระ/มาตรฐาน/ 2.70 0.71 มาก 2 - ตวั ชี้วดั ทสี่ อดคล้องกบั หน่วยการ เรยี นร้ทู ี่จัดทาขนึ้ ทุกหน่วยการเรยี นรู้ 2.50 0.84 ปานกลาง 4 - 0.71 มาก 2 - สรุปโครงสรา้ งรายวิชา 2.40 2.50 0.67 มาก  - 5. กจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น 2.53 5.1 จัดกิจกรรมท้ัง 3 กจิ กรรมตามท่ี กาหนดไวใ้ นหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 5.2 จดั เวลาทั้ง 3 กิจกรรมสอดคล้อง กบั โครงสรา้ งเวลาเรยี นที่หลักสูตร แกนกลางการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 5.3 มีแนวทางการจัดกจิ กรรมทชี่ ดั เจน 5.4 มีแนวทางการประเมินกิจกรรมที่ ชัดเจน สรุปกิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น 6. เกณฑ์การจบการศึกษา

208 รายการตรวจสอบ ระดบั คณุ ภาพ ข้อเสนอแนะ 6.1 มีการระบุเวลาเรียน/หน่วยกติ X S.D. ความหมาย ลาดบั ที่ เพือ่ การปรับปรงุ /แกไ้ ข 2.60 0.52 มาก 1 - รายวิชาพืน้ ฐานและรายวชิ าเพ่มิ เติม ตามเกณฑ์การจบหลกั สูตรของ โรงเรียนไว้อยา่ งชดั เจนและสอดคลอ้ ง กบั โครงสร้างหลกั สตู รของโรงเรียน 6.2 มกี ารระบุเกณฑ์การประเมนิ การ 2.60 0.52 มาก 1 - อา่ น คดิ วเิ คราะห์ และเขียนไว้อยา่ ง ชดั เจน 6.3 มีการระบเุ กณฑ์การประเมิน 2.50 0.71 มาก 3 - คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ไว้อยา่ ง ชดั เจน สรุปเกณฑก์ ารจบการศึกษา 2.57 0.50 มาก  - สรปุ ภาพรวมองคป์ ระกอบและ 2.53 0.32 มาก - คุณภาพหลกั สตู รสถานศึกษา จากตารางท่ี 27 ผลการตรวจสอบองค์ประกอบและคุณภาพหลักสูตรสถานศึกษาโดย คณะกรรมการฝา่ ยวิชาการของโรงเรียนไดป้ ระเมินคณุ ภาพหลกั สตู รสถานศกึ ษาตามเกณฑ์ในภาพรวม พบว่า หลักสูตรโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกาแพงแสน ศูนย์วิจัยและ พัฒนาการศึกษา ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) มีคุณภาพอยใู่ นระดบั มาก ( X =2.53, S.D.=0.32) เมื่อพิจารณาตามองค์ประกอบของหลักสูตร สถานศกึ ษาจานวน 6 องค์ประกอบ ไดแ้ ก่ 1) สว่ นนา 2) โครงสร้างหลักสตู รสถานศึกษา 3) คาอธิบาย รายวิชา 4) โครงสร้างรายวิชา 5) กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน และ6) เกณฑ์การจบการศึกษา พบว่า องค์ประกอบด้านโครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษามีค่าเฉลี่ยของระดับคุณภาพมากท่ีสุดโดยมีระดับ คุณภาพอย่ใู นระดบั มาก รองลงมามรี ะดับคุณภาพอย่ใู นระดับมากคอื องค์ประกอบด้านเกณฑ์การจบ การศกึ ษา และนอ้ ยท่สี ดุ มรี ะดับคณุ ภาพอยูใ่ นระดับปานกลางคือ องค์ประกอบดา้ นโครงสร้างรายวิชา ( X =2.76, S.D.=0.32, X =2.57, S.D.=0.50 และ X =2.40, S.D.=0.66 ตามลาดับ) เมื่อพิจารณา ประเด็นย่อยขององค์ประกอบหลักสูตรสถานศึกษา 1) องค์ประกอบด้านส่วนนา พบว่า ประเด็น คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ มีค่าเฉลี่ยของระดับคุณภาพมากท่ีสุดโดยมีระดับคุณภาพอยู่ใน ระดับมาก รองลงมามีระดับคุณภาพอยู่ในระดับมากคือ สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน และน้อยท่ีสุดมี ระดบั คณุ ภาพอยูใ่ นระดบั ปานกลางคือ วิสัยทัศน์ ( X =2.63, S.D.=0.48, X =2.50, S.D.=0.71 และ X =2.28, S.D.=0.66 ตามลาดับ) 2) องค์ประกอบด้านโครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษา พบว่า ประเด็นท่ีมีค่าเฉล่ียของระดับคุณภาพมากท่ีสุดและรองลงมาคือ โครงสร้างหลักสูตรชั้นปี และ โครงสรา้ งเวลาเรียน ตามลาดับ โดยมคี ณุ ภาพอยู่ในระดับมาก ( X =2.82, S.D.=0.32 และ X =2.67, S.D.=0.54) 3) องค์ประกอบด้านคาอธิบายรายวิชา พบว่า ประเด็นท่ีมีค่าเฉลี่ยของระดับคุณภาพ มากท่ีสดุ มี 2 ประเดน็ คือ มกี ารระบรุ หัสวิชา ชื่อรายวิชา และชื่อกลุ่มสาระการเรียนรู้ไว้อย่างถูกต้อง ชดั เจน และมกี ารระบชุ นั้ ปที สี่ อนและจานวนเวลาเรียนและหรอื หนว่ ยกิตไว้อย่างถูกต้องชัดเจน โดยมี คุณภาพอยูใ่ นระดับมาก ( X =2.90, S.D.=0.32) และประเด็นที่มคี ่าเฉลี่ยของระดับคุณภาพน้อยที่สุด

209 คือ มีการกาหนดสาระการเรียนรู้ท้องถิ่นสอดแทรกอยู่ในคาอธิบายรายวิชาพื้นฐานหรือรายวิชา เพ่มิ เติม โดยมีคณุ ภาพอยใู่ นระดับปานกลาง ( X =1.90, S.D.=0.74) 4) องคป์ ระกอบด้านโครงสร้าง รายวิชา พบวา่ ประเดน็ ท่มี คี ่าเฉลีย่ ของระดบั คุณภาพมากท่ีสุดคือ มกี ารระบุชื่อหน่วยการเรียนรู้และ เวลาเรยี นไวอ้ ย่างถกู ตอ้ งชดั เจน โดยมีคุณภาพอยู่ในระดับมาก ( X =2.50, S.D.=0.71) รองลงมาคือ มีการระบุสาระ/มาตรฐาน/ตัวช้ีวัดท่ีสอดคล้องกับหน่วยการเรียนรู้ที่จัดทาข้ึนทุกหน่วยการเรียนรู้ โดยมีคณุ ภาพอย่ใู นระดับปานกลาง ( X =2.30, S.D.=0.67) 5) องค์ประกอบด้านกิจกรรมพัฒนา ผู้เรียน พบว่า ประเด็นที่มีค่าเฉลี่ยของระดับคุณภาพมากท่ีสุดคือ จัดกิจกรรมทั้ง 3 กิจกรรมตามท่ี กาหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 โดยมีคุณภาพอยู่ในระดับ มาก ( X =2.70, S.D.=0.67) รองลงมามีค่าเฉลยี่ เท่ากัน 2 ประเด็นโดยมีคุณภาพอยู่ในระดับมาก คือ มีแนวทางการประเมินกจิ กรรมทชี่ ดั เจน และจัดเวลาทั้ง 3 กิจกรรมสอดคล้องกับโครงสร้างเวลาเรียน ที่หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ( X =2.50, S.D.=0.71) และประเด็นท่ีมี ค่าเฉล่ียน้อยที่สุดคือ มีแนวทางการจัดกิจกรรมที่ชัดเจน โดยมีคุณภาพอยู่ในระดับปานกลาง ( X = 2.40, S.D.=0.84) และ6) องค์ประกอบดา้ นเกณฑก์ ารจบการศึกษา พบว่า ประเด็นที่มีค่าเฉลี่ยของ ระดบั คณุ ภาพมากทีส่ ุด มี 2 ประเด็น คือ มีการระบุเวลาเรียน/หนว่ ยกิต รายวิชาพ้ืนฐานและรายวิชา เพมิ่ เตมิ ตามเกณฑ์การจบหลกั สูตรของโรงเรียนไว้อย่างชัดเจนและสอดคล้องกับโครงสร้างหลักสูตร ของโรงเรียน และมีการระบเุ กณฑ์การประเมินการอ่าน คิด วิเคราะห์ และเขียนไว้อย่างชัดเจน และ ประเด็นที่มีค่าเฉล่ียน้อยที่สุด คือ มีการระบุเกณฑ์การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ไว้อย่าง ชัดเจน โดยทั้ง 3 ประเด็นมีคุณภาพอยู่ในระดับมาก ( X =2.60, S.D.=0.52 และ X =2.50, S.D.=0.71 ตามลาดบั ) คณะกรรมการฝ่ายวชิ าการของโรงเรยี น เสนอความคิดเหน็ เก่ียวกบั องคป์ ระกอบและคุณภาพ หลกั สูตรสถานศึกษาเพิม่ เตมิ ดังนี้ 1. การกาหนดเป้าหมายของหลักสูตร ควรคานึงถึงวิธีการท่ีจะมุ่งสู่ความเป็นไปได้ของ เป้าหมายที่ต้ังไว้ 2. กรอบหลกั สตู รระดบั ท้องถิน่ จดุ เนน้ และความต้องการของโรงเรยี น ไมพ่ บในหลักสตู ร 3. วิสัยทัศน์ ไม่พบในเอกสารหลักสูตร ยังไม่ชัดเจน ไม่สอดคล้อง และไม่มีแนวทางการ ปฏบิ ตั ิที่ชดั เจน 4. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ไม่พบในเอกสารหลกั สตู ร 5. ควรรวมเอกสารหลักสตู รและเอกสารการวดั และประเมินผลให้อยใู่ นเล่มเดยี วกัน 6. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ โรงเรียนมีประเด็นในการประเมินมากกว่าหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาข้ันพนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551 7. กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เวลาเรียน และแผนการจัดกิจกรรม การวัดและประเมินผล ไม่มี รายละเอยี ดในเล่มหลกั สตู ร 8. ส่วนประกอบในเล่มหลักสูตรสถานศึกษา ควรมีรายละเอียดท่ีครบถ้วนและสอดคล้องกับ หลักสูตรแกนกลางฯ มีกรอบหลักสูตรที่ชัดเจน ปฏิบัติได้ เพ่ือให้ไปสู่จุดมุ่งหมายของหลักสูตรอย่าง แทจ้ ริง

210 9. ในโครงสร้างรายวชิ าระดับประถมศึกษา ควรเพ่ิมรายวชิ าภาษาต่างประเทศนอกเหนือจาก รายวิชาภาษาองั กฤษทม่ี อี ยู่ในโครงสรา้ งแล้ว 10. การสอนกิจกรรมบูรณาการระดับประถมศึกษาตอนปลาย ควรจัดผู้เชี่ยวชาญเข้าไปให้ ความช่วยเหลือ 11. บางหัวขอ้ ในเล่มหลกั สูตรไมม่ ี ควรเพมิ่ หวั ขอ้ ในเอกสารหลักสูตรท่ีใช้ในการตรวจสอบให้ ครบถว้ น 12. The previous EP curriculum needs to be revised to meet the demands of an EP program. We need to focus on languages mathematics and sciences including social studies arts and other 2 language hance the new IEP (Intensive English Program) curriculum is developed the committee and will be implemented in the next school year B.E.2020. โดยสรปุ จากขอ้ เสนอแนะของคณะกรรมการฝ่ายวิชาการของโรงเรียนเห็นว่า ในการกาหนด เปา้ หมายของหลักสูตรควรคานงึ ถึงวิธกี ารทจี่ ะนาไปสกู่ ารบรรลุเป้าหมายที่หลักสูตรกาหนดไว้ ในเล่ม เอกสารหลักสูตรสถานศึกษา ควรมีรายละเอียดที่ครบถ้วนและสอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 มีกรอบหลักสูตรที่ชัดเจน ปฏิบัติได้ ซึ่งพบว่า มีส่วนที่ขาด หายไปหลายองค์ประกอบ เช่น วิสัยทัศน์ กรอบหลักสูตรระดับท้องถิ่น จุดเน้น ความต้องการของ โรงเรยี น สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เวลาเรียน แผนการจัดกิจกรรม การวัด และประเมนิ ผล โดยควรนาเนื้อหาตามองค์ประกอบของหลักสูตรมาเรียบเรียงรวมในเล่มเดียวกันให้ สมบรู ณ์ ในระดับประถมศึกษาควรเพิ่มรายวิชาภาษาต่างประเทศและควรมีผู้เชี่ยวชาญมาช่วยเหลือ การจัดกิจกรรมบูรณาการ และสาหรับหลักสูตร English Program ควรมีการทบทวนปรับแก้ไขให้ ตรงตามความต้องการหรอื จดุ เนน้ ของหลักสตู รกอ่ นทีจ่ ะมีการพฒั นาหลกั สตู รต่อไป นอกจากนี้ ในการประเมินหลักสูตรด้านบริบท (C : Context) ครั้งนี้ ผู้วิจัยได้สอบถามความ คิ ด เ ห็ น ข อ ง อ า จ า ร ย์ เ กี่ ย ว กั บ ค ว า ม เ ห ม า ะ ส ม ข อ ง ร า ย วิ ช า ใ น ห ลั ก สู ต ร โ ร ง เ รี ย น ส า ธิ ต แ ห่ ง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกาแพงแสน ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา ตามหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ.2560) มผี ลการวิเคราะห์ความ เหมาะสมของรายวิชา ซ่งึ ประกอบด้วย รายวิชาพ้ืนฐาน รายวิชาเพ่ิมเติม และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน จาแนกเป็นหลกั สูตรปกติ และหลักสูตร English Program มีรายละเอียดและผลการวิเคราะห์ข้อมูล ดังตารางที่ 28-31

211 ตารางที่ 28 ผลการวเิ คราะหค์ วามเหมาะสมของรายวชิ าในหลักสูตรโรงเรียนสาธิตแ การศึกษา ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับป กลมุ่ สาระ รายวชิ า ระดบั ประถมศกึ ษา ระดับมธั การเรยี นรู้ 1. ภาษาไทย พน้ื ฐาน X S.D. ความ ลาดับ X S.D เพิ่มเตมิ (ตามจดุ เน้น) 2. คณติ ศาสตร์ หมาย ท่ี 4.68 0.5 3. วทิ ยาศาสตร์ 4.67 0.50 มาก 1 -- และเทคโนโลยี ที่สุด -- - - เพม่ิ เตมิ (ตามความสนใจ) - - - - 4.63 0.5 รวมทุกรายวิชาในกลุม่ สาระ 4.67 0.50 มาก  4.66 0.5 ที่สุด พื้นฐาน 4.38 0.65 มาก 1 4.46 0.6 เพม่ิ เตมิ (ตามจดุ เนน้ ) - - - - 4.56 0.5 เพ่มิ เติม (ตามความสนใจ) - - - - 4.51 0.5 รวมทกุ รายวิชาในกล่มุ สาระ 4.38 0.65 มาก  4.51 0.5 พ้นื ฐาน 4.56 0.62 มาก 2 4.61 0.5 เพม่ิ เตมิ (ตามจุดเนน้ ) 4.64 0.54 ท่ีสดุ 1 4.76 0.4 เพิม่ เตมิ (ตามความสนใจ) -- มาก 4.63 0.4 ท่ีสุด -

แห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกาแพงแสน ศูนย์วิจัยและพัฒนา ปรุง พ.ศ.2560) หลักสตู รปกติ ระดบั ความเหมาะสม ธยมศึกษาตอนตน้ ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย รวมรายวชิ าทุกระดบั D. ความ ลาดบั X S.D. ความ ลาดบั X S.D. ความ ลาดับ หมาย ที่ หมาย ท่ี หมาย ที่ 53 มาก 1 4.72 0.45 มาก 1 4.70 0.48 มาก 2 ท่สี ุด ที่สุด ที่สดุ -- 4.71 0.47 มาก 2 4.71 0.47 มาก 1 ทส่ี ุด ทสี่ ดุ 59 มาก 2 4.67 0.48 มาก 3 4.65 0.54 มาก 3 ที่สดุ ท่ีสุด ทีส่ ดุ 54 มาก  4.70 0.43 มาก  4.68 0.46 มาก  ทส่ี ดุ ที่สุด ทส่ี ุด 64 มาก 3 4.52 0.59 มาก 1 4.47 0.60 มาก 3 ท่สี ุด 58 มาก 1 4.43 0.54 มาก 3 4.49 0.53 มาก 2 ที่สุด 50 มาก 2 4.50 0.50 มาก 2 4.50 0.50 มาก 1 ทส่ี ุด ทส่ี ดุ ทส่ี ดุ 54 มาก  4.49 0.51 มาก  4.49 0.52 มาก  ทส่ี ดุ 50 มาก 3 4.57 0.51 มาก 3 4.58 0.52 มาก 3 ท่ีสุด ที่สดุ ท่สี ุด 48 มาก 1 4.66 0.44 มาก 2 4.66 0.44 มาก 2 ทสี่ ดุ ทีส่ ดุ ทส่ี ดุ 44 มาก 2 4.72 0.45 มาก 1 4.68 0.43 มาก 1 ทส่ี ดุ ทีส่ ดุ ทสี่ ดุ

212 กลมุ่ สาระ รายวิชา ระดบั ประถมศึกษา ระดับมธั การเรียนรู้ รวมทกุ รายวชิ าในกลมุ่ สาระ X S.D. ความ ลาดับ X S.D 4. สงั คมศกึ ษา พืน้ ฐาน ศาสนา และ เพิ่มเตมิ (ตามจดุ เน้น) หมาย ท่ี 4.67 0.4 วัฒนธรรม เพิ่มเตมิ (ตามความสนใจ) รวมทกุ รายวชิ าในกลุ่มสาระ 4.66 0.52 มาก  4.66 0.5 5. สุขศกึ ษาและ พน้ื ฐาน ทส่ี ดุ พลศกึ ษา -- 4.69 0.46 มาก 1 4.30 0.6 4.43 0.5 ทส่ี ุด 4.57 0.5 -- - - -- - - 4.69 0.46 มาก  ทสี่ ดุ 4.45 0.86 มาก 1 เพ่มิ เติม (ตามจุดเนน้ ) -- - --- เพิ่มเตมิ (ตามความสนใจ) - - - - 4.49 0.5 รวมทกุ รายวชิ าในกลุ่มสาระ 4.45 0.86 มาก  4.50 0.5 6. ศลิ ปะ พื้นฐาน 4.57 0.59 มาก 1 4.57 0.5 ที่สุด เพิ่มเติม (ตามจุดเน้น) -- --- เพมิ่ เติม (ตามความสนใจ) -- - - 4.50 0.5 - 7. การงานอาชีพ รวมทุกรายวิชาในกลุ่มสาระ 4.57 0.59 มาก  4.51 0.5 พน้ื ฐาน 4.64 0.49 ท่ีสดุ 1 4.62 0.5 มาก ทส่ี ดุ

ระดับความเหมาะสม ธยมศกึ ษาตอนตน้ ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย รวมรายวชิ าทุกระดบั D. ความ ลาดบั X S.D. ความ ลาดับ X S.D. ความ ลาดบั หมาย ที่ หมาย ที่ หมาย ที่ 40 มาก  4.69 0.43 มาก  4.68 0.43 มาก  ที่สดุ ทส่ี ดุ ทส่ี ุด 56 มาก 1 4.51 0.58 มาก 1 4.62 0.47 มาก 1 ที่สุด ทสี่ ุด ทส่ี ดุ - - - 4.29 0.57 มาก 2 4.29 0.57 มาก 2 65 มาก 2 4.28 0.76 มาก 3 4.29 0.68 มาก 3 57 มาก  4.36 0.61 มาก  4.44 0.53 มาก  59 มาก 1 4.65 0.45 มาก 1 4.57 0.49 มาก 1 ท่สี ุด ท่สี ุด ทส่ี ุด - - --- - --- - - 57 มาก 2 4.51 0.48 มาก 2 4.49 0.47 มาก 2 ทสี่ ุด 50 มาก  4.53 0.46 มาก  4.51 0.43 มาก  ทส่ี ุด ที่สุด ท่สี ุด 59 มาก 1 4.43 0.79 มาก 2 4.50 0.62 มาก 1 ที่สดุ ท่สี ุด - - --- - --- - - 58 มาก 2 4.43 0.58 มาก 1 4.46 0.56 มาก 2 ท่สี ดุ 57 มาก  4.43 0.57 มาก  4.47 0.56 มาก  ท่ีสุด 58 มาก 1 4.58 0.66 มาก 1 4.61 0.53 มาก 1 ทส่ี ดุ ทส่ี ุด ทส่ี ุด

213 กลมุ่ สาระ รายวชิ า ระดับประถมศกึ ษา ระดับมธั การเรียนรู้ เพม่ิ เติม (ตามจุดเน้น) X S.D. ความ ลาดับ X S.D เพมิ่ เตมิ (ตามความสนใจ) หมาย ท่ี -- 4.50 0.5 -- - - -- - - 8. ภาษาตา่ งประเทศ รวมทกุ รายวิชาในกล่มุ สาระ 4.64 0.49 มาก  4.52 0.5 ท่ีสุด สรุปรายวิชาของ พน้ื ฐาน 4.25 0.87 มาก 1 4.27 0.8 หลกั สูตรใน เพ่ิมเตมิ (ตามจุดเน้น) 4.19 0.88 มาก 2 4.15 0.9 ภาพรวม เพิม่ เติม (ตามความสนใจ) - 4.35 0.5 รวมทกุ รายวชิ าในกลมุ่ สาระ -- -  4.33 0.4 พน้ื ฐาน 4.22 0.81 มาก  4.52 0.6 4.49 0.70 มาก เพ่มิ เตมิ (ตามจุดเน้น)  4.40 0.7 4.38 0.78 มาก เพิม่ เตมิ (ตามความสนใจ) - - - - 4.53 0.5 รวมรายวชิ าในทกุ กล่มุ สาระ 4.53 0.65 มาก 4.56 0.4 ทส่ี ุด

ระดับความเหมาะสม ธยมศึกษาตอนตน้ ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย รวมรายวิชาทกุ ระดบั D. ความ ลาดบั X S.D. ความ ลาดบั X S.D. ความ ลาดบั หมาย ท่ี หมาย ที่ หมาย ท่ี - - --- - - -- - - 56 มาก 2 4.54 0.55 มาก 2 4.52 0.55 มาก 2 ที่สุด ที่สุด ทส่ี ดุ 54 มาก  4.54 0.54 มาก  4.54 0.53 มาก  ที่สุด ที่สดุ ที่สุด 87 มาก 2 4.04 0.87 มาก 3 4.19 0.83 มาก 3 92 มาก 3 4.38 0.51 มาก 1 4.30 0.62 มาก 2 50 มาก 1 4.31 0.56 มาก 2 4.33 0.52 มาก 1 48 มาก  4.30 0.47 มาก  4.31 0.48 มาก  69 มาก  4.43 0.72 มาก  4.49 0.65 มาก  ทส่ี ุด 79 มาก  4.51 0.53 มาก  4.48 0.58 มาก  ทีส่ ุด 52 มาก  4.54 0.56 มาก  4.54 0.52 มาก  ทส่ี ุด ทีส่ ดุ ทสี่ ดุ 4.55 0.48 มาก 48 มาก 4.53 0.50 มาก ทส่ี ดุ ที่สดุ ทส่ี ดุ

214 จากตารางที่ 28 หลักสูตรโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขต กาแพงแสน ศนู ยว์ ิจยั และพฒั นาการศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ.2560) สาหรับหลักสูตรปกติ มีผลการประเมินความเหมาะสมของรายวิชา ตามความคดิ เหน็ ของอาจารย์ ท้งั ในภาพรวม และจาแนกเป็นรายวิชาพื้นฐาน รายวิชาเพ่ิมเติม (ตาม จุดเนน้ ) และรายวิชาเพม่ิ เตมิ (ตามความสนใจ) ดงั น้ี ผลการประเมนิ ความเหมาะสมของรายวชิ าในภาพรวม พบวา่ มคี วามเหมาะสมอยู่ในระดับ มากที่สุด ( X =4.55, S.D.=0.48) เม่ือจาแนกเปน็ รายวชิ าพบว่า รายวิชาเพ่ิมเติม (ตามความสนใจ) มี ความเหมาะสมอยู่ในระดับมากท่ีสุด ( X =4.54, S.D.=0.52) รองลงมาพบว่ามีความเหมาะสมอยู่ใน ระดับมากคือ รายวิชาพื้นฐาน และรายวิชาเพิ่มเติม (ตามจุดเน้น) ( X =4.49, S.D.=0.65 และ X =4.48, S.D.=0.58 ตามลาดับ) และเม่ือพิจารณารวมทุกรายวิชาท้ัง 3 ระดับคือ ระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และระดับมัธยมศึกษาตอนปลายโดยจาแนกตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ พบว่า รวมทุกรายวิชาของกลมุ่ สาระการเรียนรู้ที่มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากท่ีสุดคือ กลุ่มสาระ การเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รองลงมาคือกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ( X =4.68, S.D.=0.43 และ X =4.68, S.D.=0.46 ตามลาดับ) และน้อยที่สุดคือ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาตา่ งประเทศมคี วามเหมาะสมอยูใ่ นระดบั มาก ( X =4.31, S.D.=0.48) เมื่อพิจารณารายวชิ าตามระดบั การศึกษาเปน็ 3 ระดบั พบวา่ ระดับประถมศึกษา รายวิชา ของหลักสูตรในภาพรวมมคี วามเหมาะสมอยูใ่ นระดับมากที่สุด ( X =4.53, S.D.=0.65) โดยมีกลุ่มวิชา พื้นฐานและเพิ่มเติม (ตามจุดเน้น) มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ( X =4.49, S.D.=0.70 และ X =4.38, S.D.=0.78 ตามลาดับ) และเมื่อพิจารณารายวิชาตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ในระดับ ประถมศึกษา พบว่าทุกรายวิชาของกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุดคือ กลุม่ สาระการเรยี นรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม รองลงมาคอื กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ( X =4.69, S.D.=0.46 และ X =4.67, S.D.=0.50 ตามลาดับ) และน้อยท่ีสุดคือ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ( X =4.22, S.D.=0.81) เม่ือพิจารณารายวิชาใน ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น พบว่า รายวิชาของหลักสูตรในภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ทส่ี ดุ ( X =4.56, S.D.=0.48) โดยมีกลุ่มวิชาเพิ่มเติม (ตามความสนใจ) และกลุ่มวิชาพื้นฐาน มีความ เหมาะสมอยู่ในระดับมากท่ีสุด ( X =4.53, S.D.=0.52 และ X =4.52, S.D.=0.69 ตามลาดับ) ส่วน กลุ่มวิชาเพิ่มเติม (ตามจุดเน้น) มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ( X =4.40, S.D.=0.79) และเม่ือ พิจารณารายวิชาตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น พบว่า ทุกรายวิชาของกลุ่ม สาระการเรียนรู้ที่มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากท่ีสุดคือ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี รองลงมาคือกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ( X =4.67, S.D.=0.40 และ X =4.66, S.D.=0.54 ตามลาดบั ) และนอ้ ยท่ีสุดคือ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศมีความเหมาะสมอยู่ ในระดับมาก ( X =4.33, S.D.=0.48) และเมื่อพิจารณารายวิชาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย พบว่า รายวชิ าของหลกั สูตรในภาพรวมมีความเหมาะสมอย่ใู นระดับมากท่ีสุด ( X =4.53, S.D.=0.50) โดยมีกลุม่ วชิ าเพ่ิมเติม (ตามความสนใจ) และกลุ่มวิชาเพ่ิมเติม (ตามจุดเน้น) มีความเหมาะสมอยู่ใน ระดบั มากที่สุด ( X =4.54, S.D.=0.56 และ X =4.51, S.D.=0.53 ตามลาดบั ) สว่ นกลุ่มวิชาพื้นฐาน มี ความเหมาะสมอย่ใู นระดบั มาก ( X =4.43, S.D.=0.72) และเมื่อพิจารณารายวิชาตามกลุ่มสาระการ

215 เรยี นรูใ้ นระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย พบว่า ทุกรายวิชาของกลุ่มสาระการเรียนรู้ท่ีมีความเหมาะสม อย่ใู นระดบั มากท่ีสุดคอื กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย รองลงมาคอื กลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ( X =4.70, S.D.=0.43 และ X =4.69, S.D.=0.43 ตามลาดับ) และน้อยท่ีสุดคือ กลุ่ม สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศมคี วามเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ( X =4.30, S.D.=0.47) ตารางที่ 29 ผลการวิเคราะห์ความเหมาะสมของรายวิชาในหลักสูตรโรงเรียนสาธิตแห่ง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกาแพงแสน ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา ตามหลักสูตร แกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) หลักสูตร English Program ระดับมัธยมศกึ ษาตอนตน้ กล่มุ สาระการ รายวชิ า ระดบั ความเหมาะสม เรียนรู้ X S.D. ความหมาย ลาดบั ท่ี 1. ภาษาไทย พ้ืนฐาน 4.86 0.38 มากทส่ี ุด 1 เพ่ิมเตมิ (ตามจุดเนน้ ) -- - - เพิม่ เติม (ตามความสนใจ) 4.75 0.43 มากทส่ี ุด 2 รวมทกุ รายวิชาในกลมุ่ สาระ 4.79 0.39 มากทส่ี ุด  2. คณติ ศาสตร์ พื้นฐาน 4.80 0.45 มากที่สุด 2 เพมิ่ เติม (ตามจุดเนน้ ) 4.83 0.41 มากทส่ี ุด 1 เพิม่ เติม (ตามความสนใจ) 4.67 0.52 มากท่สี ุด 3 รวมทกุ รายวชิ าในกลุ่มสาระ 4.78 0.40 มากท่ีสดุ  3. วิทยาศาสตร์ พื้นฐาน 4.75 0.50 มากทส่ี ดุ 3 และเทคโนโลยี เพิ่มเติม (ตามจดุ เนน้ ) 4.83 0.41 มากทีส่ ดุ 1 เพม่ิ เตมิ (ตามความสนใจ) 4.78 0.40 มากทส่ี ุด 2 รวมทุกรายวิชาในกลมุ่ สาระ 4.80 0.40 มากทส่ี ดุ  4. สงั คมศกึ ษา พืน้ ฐาน 4.88 0.35 มากทส่ี ดุ 1 ศาสนา และ เพิม่ เติม (ตามจดุ เน้น) -- - - วฒั นธรรม เพม่ิ เติม (ตามความสนใจ) 4.42 0.72 มาก 2 รวมทุกรายวชิ าในกลมุ่ สาระ 4.59 0.50 มากที่สดุ  5. สขุ ศึกษาและ พื้นฐาน 4.71 0.49 มากท่สี ดุ 1 พลศกึ ษา เพิ่มเตมิ (ตามจดุ เน้น) -- - - เพ่ิมเตมิ (ตามความสนใจ) 4.38 0.75 มาก 2 รวมทุกรายวิชาในกลมุ่ สาระ 4.44 0.62 มาก  6. ศิลปะ พน้ื ฐาน 4.50 0.53 มากทส่ี ดุ 2 เพิม่ เตมิ (ตามจุดเน้น) -- - - เพม่ิ เติม (ตามความสนใจ) 4.56 0.50 มากทส่ี ุด 1

216 กลุม่ สาระการ รายวิชา ระดับความเหมาะสม เรียนรู้ X S.D. ความหมาย ลาดบั ท่ี รวมทกุ รายวิชาในกลมุ่ สาระ 4.55 0.48 มากทส่ี ุด  7. การงานอาชีพ พื้นฐาน 4.50 0.55 มากท่สี ดุ 2 เพิ่มเตมิ (ตามจุดเนน้ ) -- - - เพ่มิ เตมิ (ตามความสนใจ) 4.62 0.49 มากที่สดุ 1 รวมทุกรายวิชาในกลุ่มสาระ 4.60 0.47 มากที่สุด  8. ภาษาตา่ งประเทศ พ้ืนฐาน 4.80 0.45 มากทส่ี ุด 1 เพม่ิ เติม (ตามจุดเนน้ ) 4.60 0.55 มากทส่ี ุด 2 เพิ่มเติม (ตามความสนใจ) 4.54 0.51 มากที่สุด 3 รวมทุกรายวชิ าในกลุ่มสาระ 4.57 0.45 มากทส่ี ดุ  สรุปรายวชิ าของ พ้ืนฐาน 4.79 0.40 มากทส่ี ดุ  หลักสตู รใน เพิ่มเตมิ (ตามจดุ เน้น) 4.81 0.38 มากที่สดุ  ภาพรวม เพม่ิ เติม (ตามความสนใจ) 4.65 0.55 มากท่สี ดุ  รวมทุกรายวชิ าในกลุ่มสาระ 4.71 0.42 มากทสี่ ดุ จากตารางที่ 29 หลักสูตรโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขต กาแพงแสน ศนู ยว์ ิจยั และพฒั นาการศกึ ษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ.2560) สาหรับหลกั สตู ร English Program ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น มีผล การประเมินความเหมาะสมของรายวิชาตามความคิดเห็นของอาจารย์ทั้งในภาพรวม และจาแนกเป็น รายวิชาพ้นื ฐาน รายวชิ าเพม่ิ เติม (ตามจดุ เน้น) และรายวิชาเพม่ิ เติม (ตามความสนใจ) ดงั นี้ ผลการประเมินความเหมาะสมของรายวิชาในภาพรวม พบว่า ทุกรายวิชาของหลักสูตร ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากท่ีสุด ( X =4.71, S.D.=0.42) และเม่ือ จาแนกเปน็ รายวชิ าพบวา่ รายวชิ าเพ่ิมเติม (ตามจุดเน้น) รายวิชาพ้ืนฐาน และรายวิชาเพ่ิมเติม (ตาม ความสนใจ) มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากท่ีสุด ( X =4.81, S.D.=0.38, X =4.79, S.D.=0.40 และ X =4.65, S.D.=0.55 ตามลาดับ) เม่ือพิจารณารายวิชาตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ในระดับ มัธยมศึกษาตอนต้น พบว่า ทุกรายวิชาของกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ท่สี ดุ คือ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รองลงมาคือกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ( X =4.80, S.D.=0.40 และ X =4.79, S.D.=0.39 ตามลาดบั ) และน้อยที่สุดคือ กลุ่มสาระการเรียนรู้ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา มคี วามเหมาะสมอยใู่ นระดับมาก ( X =4.44, S.D.=0.62)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook