283 1.1.3 สถานศึกษามีความต้องการจาเป็นมากที่จะต้องมีการประเมินหลักสูตรเพื่อ การปรับปรุงและพัฒนา โดยอาจประเมินทุกปีการศึกษา หรืออาจประเมินเม่ือครบรอบการใช้ หลกั สูตรอย่างนอ้ ย 3 ปี ตามความเหมาะสม ท้ังน้ีโรงเรียนควรมีการประเมินหลักสูตรเพ่ือสะท้อนผล การใช้หลักสูตร และควรมกี ารประเมินหลักสูตรอย่างต่อเน่ืองโดยกาหนดให้มีการเก็บรวบรวมข้อมูล และวิเคราะห์ผลการศึกษาหลักสูตรในแต่ละปีการศึกษา เพ่ือนาผลไปปรับปรุงแก้ไขและพัฒนา คุณภาพนักเรยี น จากนน้ั นามาประมวลผลตามวัตถปุ ระสงค์ของหลกั สูตรเม่ือใช้หลักสตู รครบรอบทุกๆ 3 ปี 1.1.4 ความสาคัญของการนาหลักสูตรสถานศึกษาไปใช้อยู่ท่ีการทาความเข้าใจ หลักสูตรและกระบวนการพัฒนานักเรียนตามเป้าหมายให้ชัดเจนร่วมกัน หลักสูตรควรมุ่งเน้นการ พฒั นาพฤติกรรมของนักเรยี นทั้งดา้ นการเรยี นควบค่กู ับการพัฒนาคณุ ธรรม-จริยธรรม 1.2 หลกั สตู ร English Program 1.2.1 หลกั สูตรสถานศกึ ษามีส่ิงทดี่ คี วรพัฒนาตอ่ ยอดและมสี ่ิงทีค่ วรแก้ไข/ปรบั ปรุง คือ This Curriculum aim to benefit the learners to the fullest and to be a well- rounded individual in the future but some aspects are just too much for the students and teachers to accommodate. The students study a little of so many things that we forgot. The most important thing “mastery”. We try to know more but master only a few. This I guess we have to look upon and do something. 1.2.2 สภาพปญั หาของหลักสตู รสถานศกึ ษาทคี่ วรตอ้ งเรง่ แก้ไขปรบั ปรงุ และพัฒนา ในสถานศึกษาเพ่ือมุ่งสู่คุณภาพผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 คือ The Basic Core Curriculum of the MOE and the KUSK curriculum aims to develop learners potentials and abilities but there are some areas in the Basic Core Curriculum that need to be considered, some of the learning indicators that should be specifically designed for a certain level are missing so sometimes it leads to the problem about making a syllabus. 1.2.3 สถานศึกษามีความต้องการจาเป็นในการประเมินหลักสูตร กล่าวคือ Evaluation of Curriculum is necessary but changing it needs to be assessed evaluate the curriculum to see if it worked or not. If it works reuse and improve to cope with recent educational trend. But if not immediate change is recommended for the betterment of the curriculum and the institution. 1.2.4 ความสาคัญของการนาหลักสูตรสถานศึกษาไปใช้ คือ 1) The school needs to activate the school support system, 2) Support teachers innovative ideas to benefit the learners, and 3) Provide the latest educational technologies and applications to promote and enhance learning. 2. ผลการประเมินหลักสูตรโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกาแพงแสน ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ.2560) ในภาพรวมและเป็นรายด้าน 5 ด้าน คือ ด้านบริบท ด้านปัจจัยนาเข้า
284 ด้านกระบวนการ ด้านผลผลิต และด้านผลกระทบ โดยจาแนกเป็นหลักสูตรปกติ และหลักสูตร English Program มขี อ้ ค้นพบโดยสรปุ คอื 2.1 นักเรียนหลกั สูตรปกติ ผลการศึกษาความคดิ เห็นของนักเรียนหลักสูตรปกติ ที่มีต่อหลักสูตรสถานศึกษา มีผล การประเมินในภาพรวมอย่ใู นระดับปานกลาง และรายด้าน 5 ด้าน คือ ด้านบริบท ด้านปัจจัยนาเข้า ด้านกระบวนการ ด้านผลผลิต และด้านผลกระทบ พบว่า นักเรียนมีความคิดเห็นต่อหลักสูตรอยู่ใน ระดับมากเพียงด้านเดียวคือ ด้านผลกระทบ อีก 4 ด้านอยู่ในระดับปานกลาง และมีข้อเสนอแนะ เพ่ิมเติมในด้านบริบท คือ ควรเพ่ิมการจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรให้มากข้ึนเพื่อเน้นความกล้า แสดงออกของนักเรียน ด้านปจั จัยนาเข้า คือ อาจารย์บางท่านควรสอนให้เข้าใจและสอนให้เต็มเวลา ดา้ นกระบวนการ คือ การเรียนการสอนควรให้นกั เรยี นสามารถนาไปใช้ในชีวิตประจาวันและทาอะไร ได้จริง ด้านผลผลิต คือ นักเรียนส่วนใหญ่ของโรงเรียนมีผลการเรียนผ่านเกณฑ์การประเมิน ด้าน ผลกระทบ นักเรยี นกล้าพดู ในท่ีชุมชนและเปน็ ทนี่ ่าเชื่อถือของนักเรยี นจากสถาบันอื่น 2.2 อาจารยผ์ สู้ อนหลกั สูตรปกติ ผลการศึกษาความคิดเหน็ ของอาจารย์ผู้สอนหลักสูตรปกติท่ีมีต่อหลักสูตรสถานศึกษา มีผลการประเมินในภาพรวมและรายด้านทุกด้านอยู่ในระดับมาก โดยมีข้อเสนอแนะเพ่ิมเติมในด้าน บรบิ ท คือ การกาหนดโครงสร้างเวลาเรียนของหลักสูตรในระดับประถมศึกษา ควรเพิ่มจานวนเวลา เรียนในด้านการอ่าน และการคานวณขั้นพ้ืนฐานให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาด้านการอ่าน มาใช้ใน การศกึ ษาในระดบั สูงข้ึน ด้านปจั จยั นาเข้า คอื ควรพจิ ารณาวุฒิการศึกษาสาหรับอาจารย์ผสู้ อนให้เป็น วุฒิครู หรือหากจบวุฒิอื่นที่สอดคล้องกับสาขาที่ใช้ในการสอนก็ควรมีการเรียนครูเพ่ิม เพราะ จาเป็นต้องใช้ในการศึกษาและการอบรมสั่งสอนนักเรียน ด้านกระบวนการ คือ ควรมีการสนับสนุน และส่งเสริมให้บุคลากรมีการแลกเปล่ียนเรียนรู้ประสบการณ์ด้านวิชาชีพกับสถาบันอ่ืน ๆ อย่าง ต่อเนื่องเพ่ือพัฒนาตนเองอย่างสม่าเสมอ โดยอาจจัดเวทีเสวนา ศึกษาดูงาน เชิญนักวิชาการมาให้ ความรู้และประสบการณ์ในโรงเรียนเพื่อสร้างแรงจูงใจและแรงบันดาลใจในการพัฒนาวิชาชีพครูให้ กา้ วทนั การเปล่ียนแปลงทางการศึกษา และสรา้ งจดุ แข็งดา้ นวชิ าชีพให้มีความโดดเด่นตามความสนใจ ของบุคลากรแต่ละคน รวมทั้งการพัฒนาอาจารย์ให้สามารถจัดการเรียนการสอนและประเมินผลได้ สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาหลักสูตรและวิสัยทัศน์ของโรงเรียน ด้านผลผลิต คือ ผู้เรียนมี ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน มีสมรรถนะสาคัญ และมีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ที่ได้จากการประเมินท่ี เช่ือถือได้ แตก่ รณีของบคุ ลิภาพที่เปน็ เป้าหมายของหลกั สูตรยังไมม่ กี ารประเมนิ ซ่งึ กค็ วรมีการประเมิน ที่ชัดเจนมากกว่าวิธีการสังเกตของอาจารย์ และด้านผลกระทบ คือ อาจารย์ควรได้รับการพัฒนา เพอ่ื ให้มีสมรรถนะทางวชิ าชีพเพิม่ ขนึ้ 2.3 ผลการประเมินหลักสูตรโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยา เขตกาแพงแสน ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ตามความคิดเห็นของนักเรียนและอาจารย์ผู้สอน ของหลกั สตู รปกติ พบว่า ในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง และมีความคิดเห็นในด้านผลกระทบอยู่ ในระดับมาก โดยมีความคดิ เห็นที่ไม่สอดคล้องกัน คือนักเรียนมีความคิดเห็นต่อหลักสูตรในภาพรวม อยู่ในระดับปานกลาง ส่วนอาจารย์ผู้สอนเห็นว่าอยู่ในระดับมาก สาหรับความคิดเห็นตาม
285 องค์ประกอบของการประเมินหลักสูตรเป็นรายด้านโดยการจัดลาดับความคิดเห็นแล้วพบว่า มีลาดับ ของความคิดเห็นที่สอดคล้องกันเพียง 1 ด้านเท่านั้น คือ ด้านผลผลิต อยู่ในลาดับที่ 3 และโดยสรุป พบว่า นักเรียนมีความคิดเห็นในด้านผลกระทบเป็นลาดับที่ 1 และด้านกระบวนการเป็นลาดับท่ี 5 ส่วนอาจารย์ผู้สอนมีความคิดเห็นในด้านบริบทเป็นลาดับที่ 1 และด้านผลกระทบเป็นลาดับท่ี 5 มี ผลสรุปของประเดน็ ในแต่ละด้าน 5 ด้านดงั นี้ 2.3.1 ด้านบริบท (Context) นักเรียนมีความคิดเห็นต่อองค์ประกอบด้าน หลักสูตร และองค์ประกอบด้านรายวิชาและกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนอยู่ในระดับปานกลาง โดยมี ค่าเฉล่ียของระดับความคิดเห็นมากท่ีสุด คือ องค์ประกอบด้านรายวิชาและกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน รองลงมาคือ องค์ประกอบด้านหลักสูตร เม่ือพิจารณาเป็นรายประเด็นย่อยของแต่ละองค์ประกอบ พบว่า องค์ประกอบด้านหลักสูตรมีประเด็นย่อย 10 ประเด็น ทุกประเด็นมีความคิดเห็นอยู่ในระดับ ปานกลาง โดยประเด็นท่ีมีค่าเฉล่ียของระดับความคิดเห็นมากท่ีสุดคือ 1.5) โรงเรียนได้พัฒนาให้ นักเรียนมีความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน ช่วยให้นักเรยี นมีทักษะพ้ืนฐานที่จาเป็นใน การศึกษารายวิชาตามความถนัดและความสนใจ รองลงมาคือ 1.6) การจัดการศึกษาของโรงเรียนมี ความตอ่ เนอ่ื งเช่ือมโยงกันต้ังแตร่ ะดบั ประถมศึกษา และมัธยมศึกษา และน้อยที่สุดคือ 1.10) เนื้อหา สาระที่เรียนแต่ละรายวิชาในภาพรวมมีความเหมาะสม นักเรียนสามารถนาไปใช้ได้จริงใน ชีวิตประจาวัน ส่วนองค์ประกอบด้านรายวิชาและกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนมีประเด็นย่อย 8 ประเด็น พบว่า ทกุ ประเด็นมคี วามคดิ เห็นอยใู่ นระดบั ปานกลาง โดยประเด็นที่มคี า่ เฉล่ียของระดับความคิดเห็น มากที่สดุ คอื 1.15) รายวชิ าและกจิ กรรมการเรียนการสอนในโรงเรยี นชว่ ยส่งเสริมให้นักเรียนมีความรู้ ความสามารถ และทักษะด้านการอ่าน เขียน คิด คานวณ รองลงมาคือ 1.11) รายวิชาและกิจกรรม พัฒนาผเู้ รยี นสง่ เสรมิ ใหน้ กั เรียนมคี วามสามารถในการส่อื สาร การคดิ การแกป้ ญั หา การใช้ทักษะชีวิต และการใชเ้ ทคโนโลยี และนอ้ ยท่สี ุดคือ 1.18) รายวิชาและกจิ กรรมการเรียนการสอนในโรงเรียนช่วย ส่งเสริมให้นักเรียนมีทักษะชีวิตและเข้าใจอาชีพ อาจารย์มีความคิดเห็นต่อท้ัง 2 องค์ประกอบอยู่ใน ระดับมาก โดยมีคา่ เฉลี่ยของระดบั ความคิดเห็นมากท่ีสุด คือ องค์ประกอบด้านรายวิชาและกิจกรรม พัฒนาผู้เรียน รองลงมาคือ องค์ประกอบด้านหลักสูตร องค์ประกอบด้านหลักสูตร อาจารย์มีความ คิดเห็นอยู่ในระดับมากทุกประเด็น โดยประเด็นทม่ี คี ่าเฉลยี่ ของระดบั ความคิดเห็นมากท่ีสุด รองลงมา และน้อยท่ีสุด คือ 1.10) โครงสร้างหลักสูตรระดับมัธยมศึกษา ซึ่งประกอบด้วย สาระการเรียนรู้ 8 กลุ่ม และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน มีความเหมาะสม และสอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษาระดับการศึกษาข้ัน พ้ืนฐาน พ.ศ.2561 1.9) โครงสร้างหลักสูตรระดับประถมศึกษา ซึ่งประกอบด้วย สาระการเรียนรู้ 8 กลุ่ม และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน มีความเหมาะสม และสอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษาระดับการศึกษาข้ัน พื้นฐาน พ.ศ.2561 และ1.6) การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนของผู้เรียน สอดคล้องกับเป้าหมายของ หลักสูตรแต่ละระดับการศึกษา และมาตรฐานการศึกษาที่เน้นผลลัพธ์ท่ีพึงประสงค์ (DOE Thailand) ตามลาดับ ส่วนองค์ประกอบด้านรายวิชาและกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน อาจารย์มีความคิดเห็นอยู่ใน ระดบั มากทกุ ประเด็น โดยมีประเด็นท่ีมีค่าเฉลี่ยของระดับความคิดเห็นมากท่ีสุด รองลงมา และน้อย ทส่ี ดุ คือ 1.24) กิจกรรมและประสบการณ์ในระดับปฐมวัย (อ.1-3) ส่งเสริมให้เด็กมีบุคลิกภาพ 5 ด้าน และมีความสามารถทางปัญญา 8 ด้าน ตามแนวคิดทฤษฎีพหุปัญญา (Multiple Intelligences Theory : MI) 1.25) รายวิชาและกิจกรรมในระดับประถมศึกษา (ป.1-3) ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีความรู้
286 ความสามารถในการอ่าน การเขียน และคิดคานวณ (3R) มีบุคลิกภาพ 5 ด้าน และมีความสามารถ ทางปัญญา 8 ดา้ น ตามแนวคิดทฤษฎีพหุปัญญา (Multiple Intelligences Theory : MI) และ1.22) รายวชิ าและกิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น สง่ เสรมิ ใหผ้ ู้เรียนมสี มรรถนะในการเปน็ ผู้รว่ มสร้างสรรค์นวัตกรรม ตามลาดับ นอกจากน้ีในด้านบริบท มีผลการตรวจสอบองค์ประกอบและคุณภาพหลักสูตร สถานศึกษาโดย คณะกรรมการฝา่ ยวชิ าการของโรงเรียนได้ประเมินคุณภาพหลักสูตรสถานศึกษาตาม เกณฑ์ในภาพรวมพบว่า หลักสูตรสถานศึกษามีคุณภาพอยู่ในระดับมาก ส่วนผลการประเมินความ เหมาะสมของรายวิชาในหลกั สูตรสถานศกึ ษา หลักสตู รปกติ ทป่ี ระกอบดว้ ย รายวิชาพ้ืนฐาน รายวิชา เพิ่มเตมิ (ตามจดุ เน้น) และรายวชิ าเพิม่ เตมิ (ตามความสนใจ) พบว่า ในภาพรวมและรายวิชาเพ่ิมเติม (ตามความสนใจ) มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด และผลการประเมินความเหมาะสมของ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนในหลักสูตรสถานศึกษา หลักสูตรปกติ ซึ่งประกอบด้วย 4 กิจกรรม ได้แก่ กิจกรรมแนะแนว กิจกรรมลูกเสือ กิจกรรมชมรม และกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ พบวา่ ในภาพรวม กิจกรรมลูกเสือ และกิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ มีความเหมาะสม อยใู่ นระดับมากทีส่ ุด โดยมีขอ้ เสนอแนะเพมิ่ เตมิ คอื กิจกรรมแนะแนวทุกระดับชั้นควรมีคู่มือกิจกรรม การเรียนการสอนและการประเมินผลนักเรียน และเน้นแนวโน้มการเลือกอาชีพในอนาคตท่ีมีความ เป็นไปได้ของนักเรยี น กจิ กรรมเพอื่ สังคมและสาธารณประโยชน์ ควรปรบั เปลี่ยนวิธีการประเมินผลให้ สะท้อนถึงการปฏิบัติจริงมากกว่าการถ่ายภาพมาส่งอาจารย์เพียงอย่างเดียว และกิจกรรมจิตอาสา ควรปรับวธิ กี ารประเมนิ และปลกู ฝงั จติ ใต้สานึกให้นกั เรยี น 2.3.2 ด้านปัจจัยนาเข้า (Input) นักเรียนมีความคิดเห็นต่อองค์ประกอบด้าน บุคคลอยู่ในระดับมาก และองค์ประกอบด้านเอกสาร สื่อ เทคโนโลยี และส่ิงสนับสนุนท่ีเอื้อต่อการ เรียนรู้นักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับปานกลาง และพบว่าองค์ประกอบด้านบุคคล ประเด็นท่ีมี คา่ เฉลย่ี ของระดับความคดิ เหน็ มากที่สุดและรองลงมา ซ่ึงนักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก คือ 2.6) ผ้ปู กครองส่งเสรมิ นักเรยี นไดพ้ ัฒนาศกั ยภาพเพิ่มเติมจากในชั้นเรียนโดยยินดีให้นักเรียนเข้าร่วม กิจกรรมของทางโรงเรียนทุกกิจกรรม และ2.2) อาจารย์ผู้สอนได้สอนในรายวิชาที่ตรงกับความ เช่ียวชาญ ส่วนประเด็นที่มีค่าเฉล่ียของระดับความคิดเห็นน้อยท่ีสุดซ่ึงนักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ใน ระดับปานกลาง คือ เจ้าหน้าท่ี มีความพรอ้ มในการใหบ้ ริการ สนับสนุน และอานวยความสะดวกเพ่ือ การบรรลเุ ป้าหมายของงาน สาหรับองค์ประกอบด้านเอกสาร สื่อ เทคโนโลยี และส่ิงสนับสนุนท่ีเอ้ือ ต่อการเรียนรู้ ประเด็นที่มีค่าเฉลี่ยของระดับความคิดเห็นมากท่ีสุดโดยนักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ใน ระดับมากคือ 2.11) มีห้องสมุดให้บริการหนังสืออย่างเพียงพอกับความต้องการของนักเรียน ส่วน ลาดับรองลงมาและน้อยที่สุดพบว่านักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับปานกลางคือ 2.8) มีหนังสือ/ ตารา/เอกสารเพียงพอสาหรับใช้ประกอบการเรียน และ2.14) มีกิจกรรมกับเพ่ือนต่างโรงเรียนหรือ บุคคลภายนอกเพื่อแลกเปล่ียนประสบการณ์การเรียนรู้ซึ่งกันและกัน อาจารย์มีความคิดเห็นอยู่ใน ระดับมากทั้ง 2 องค์ประกอบ โดยมีค่าเฉล่ียของระดับความคิดเห็นมากที่สุดคือ องค์ประกอบของ บุคคล รองลงมาคือ องค์ประกอบด้านเอกสาร ส่ือ เทคโนโลยี และส่ิงสนับสนุนที่เอื้อต่อการเรียนรู้ และพบว่า องค์ประกอบด้านบุคคล มีประเด็นที่มีค่าเฉล่ียมากที่สุด ซ่ึงอาจารย์มีความคิดเห็นอยู่ใน ระดับมากที่สุด คือ 2.3) อาจารย์ผู้สอนได้สอนในรายวิชาท่ีตรงกับคุณวุฒิและความเชี่ยวชาญ
287 รองลงมาและน้อยท่ีสุด พบว่า อาจารย์ความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก คือ 2.4) เจ้าหน้าที่ มีความรู้ ความสามารถเฉพาะตาแหน่งและได้ทางานตรงกับคุณวุฒิและความสามารถ และ2.7) ผู้ปกครองมี ความเขา้ ใจและสนบั สนนุ กจิ กรรมการเรียนการสอนของโรงเรียน ตามลาดบั สาหรบั องค์ประกอบด้าน เอกสาร สื่อ เทคโนโลยี และส่ิงสนับสนุนท่ีเอื้อต่อการเรียนรู้ มีประเด็นท่ีมีค่าเฉล่ียของระดับความ คดิ เหน็ มากทส่ี ุดและรองลงมา ซ่ึงอาจารย์มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก คือ 2.10) มีหนังสือ/ตารา/ เอกสารประกอบการสอนเพียงพอกับจานวนผู้เรียน และ2.19) มีการจัดสภาพแวดล้อมในโรงเรียนท่ี เหมาะสมและเอื้อตอ่ การเรียนรู้ ตามลาดับ และประเด็นที่มีค่าเฉลี่ยของระดับความคิดเห็นน้อยที่สุด ซ่ึงอาจารย์มคี วามคิดเห็นอยูใ่ นระดับปานกลาง คอื 2.20) มกี ิจกรรมแลกเปล่ียนเรียนรู้กับชุมชน และ ชุมชนมีสว่ นรว่ มในการจดั การศกึ ษาของโรงเรยี น 2.3.3 ดา้ นกระบวนการ (Process) นกั เรยี นมีความคดิ เห็นอยู่ในระดับปานกลาง ทุกประเดน็ โดยประเด็นที่มคี า่ เฉลีย่ ของระดบั ความคดิ เหน็ มากที่สุด รองลงมา และน้อยที่สุดคือ 3.6) เปิดโอกาสให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 3.13) มีอาจารย์ท่ีปรึกษาดูแล ให้ คาแนะนา และชว่ ยเหลอื นกั เรยี นอย่างใกลช้ ิด และ3.2) มกี ารจัดการเรียนรู้โดยคานึงถึงความสามารถ ของผเู้ รยี นเปน็ รายบุคคล ตามลาดับ อาจารย์มคี วามคดิ เหน็ อยใู่ นระดับมากทงั้ 2 องค์ประกอบ โดยมี คา่ เฉล่ียของระดับความคิดเห็นมากที่สุดคือ องค์ประกอบด้านการบริหารจัดการหลักสูตร รองลงมา คอื องค์ประกอบด้านกระบวนการจัดการเรยี นรู้ การวดั และประเมินผล และพบว่า องค์ประกอบด้าน การบริหารจัดการหลักสูตร อาจารย์มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากทุกประเด็น โดยประเด็นที่มี ค่าเฉล่ียของระดับความคิดเห็นมากท่ีสุด รองลงมา และน้อยท่ีสุดคือ 3.3) มีการพิจารณาอาจารย์ ผู้สอนรายวิชาให้เหมาะสมกับความรู้ความสามารถและคุณวุฒิ 3.4) มีการจัดระบบอาจารย์ประจา ชัน้ /อาจารย์ที่ปรกึ ษานกั เรียนอยา่ งเหมาะสม และ3.15) โรงเรียนและชุมชนมีการจัดกิจกรรมร่วมกัน เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนอย่างต่อเน่ือง ตามลาดับ สาหรับองค์ประกอบด้านกระบวนการจัดการ เรียนรู้ การวัดและประเมินผล อาจารย์มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากทุกประเด็น โดยประเด็นท่ีมี คา่ เฉล่ยี ของระดับความคิดเห็นมากท่ีสุด รองลงมา และน้อยท่ีสุดคือ 3.23) มีการวัดและประเมินผล อย่างต่อเนื่องควบคู่ไปกับการเรียนการสอน 3.22) มีการบอกวิธีการวัดและประเมินผลแต่ละคร้ังให้ ผู้เรียนทราบล่วงหน้า และ3.17) จัดการเรียนรู้โดยคานึงถึงความสามารถของผู้เรียนเป็นรายบุคคล ตามลาดบั 2.3.4 ด้านผลผลิต (Product) นักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับปานกลางทุก ประเด็น โดยประเด็นท่ีมีค่าเฉลี่ยของระดับความคิดเห็นมากท่ีสุด รองลงมา และน้อยท่ีสุดคือ 4.2) นักเรยี นมีสมรรถนะสาคัญบรรลตุ ามวัตถปุ ระสงค์หลักสูตร (ความสามารถในการสื่อสาร การคิด การ แกป้ ัญหา การใช้ทกั ษะชวี ติ และการใช้เทคโนโลยี) 4.8) นกั เรยี นมคี วามมุง่ มน่ั ในการเรียน การทางาน และกล้าแสดงออกในทางทถ่ี กู ต้องเหมาะสม และ4.9) นักเรียนมีกระบวนการทางานอย่างเป็นระบบ ตามลาดบั อาจารย์มีความคดิ เหน็ อยใู่ นระดับมากทุกประเด็น โดยประเดน็ ทมี่ ีค่าเฉลี่ยของระดับความ คิดเหน็ มากท่สี ดุ รองลงมา และนอ้ ยท่สี ดุ คือ 4.5) ผเู้ รียนมีความรู้ความสามารถในการอ่าน การเขียน และคิดคานวณ (3R) ตามเป้าหมายของหลักสูตร 4.12) ผู้บริหารมีสมรรถนะในการบริหารจัดการ หลักสูตร โดยการนาหลักสูตรสู่ช้ันเรียนเพื่อยกระดับคุณภาพอาจารย์ผู้สอนและผู้เรียน และ4.9) ผู้เรยี นมีกระบวนการทางานอย่างเป็นระบบ ตามลาดับ
288 2.3.5 ด้านผลกระทบ (Impact) นักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากใน ประเด็นที่มีค่าเฉล่ียมากท่ีสุดและรองลงมา คือ 5.4) นักเรียนท่ีจบการศึกษาจากโรงเรียนประสบ ผลสาเรจ็ ในการศกึ ษาตอ่ ในระดับท่ีสูงขึ้น และ5.2) นักเรียนมีความรู้ความสามารถเป็นท่ียอมรับของ ชมุ ชน สังคม ทั้งภายในและภายนอกสถาบนั ตามลาดบั และประเด็นที่มคี า่ เฉล่ียน้อยที่สุด ซ่ึงนักเรียน มีความคิดเห็นอยู่ในระดับปานกลาง คือ 5.1) นักเรียนมีความรู้สึกรักและภาคภูมิใจต่อสถาบัน อาจารย์มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากทุกประเด็น โดยประเด็นท่ีมีค่าเฉล่ียของระดับความคิดเห็น มากที่สุด รองลงมา และน้อยที่สุดคือ 5.3) ผู้ท่ีจบการศึกษาจากโรงเรียนเป็นท่ียอมรับของ สถาบนั การศกึ ษาท้งั ในและตา่ งประเทศ 5.7) โรงเรียนเป็นที่ยอมรับของผู้ปกครอง ชุมชน และสังคม และ5.5) อาจารย์ผสู้ อนมกี ารเผยแพรผ่ ลงานวชิ าการ งานวจิ ัยอย่างต่อเนอื่ ง ตามลาดับ 2.4 นกั เรียนหลักสตู ร English Program ผลการศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนหลักสูตร English Program ที่มีต่อหลักสูตร สถานศึกษา มีผลการประเมินในภาพรวมอยู่ในระดับมาก และพบว่า นักเรียนมีความคิดเห็นต่อ หลกั สูตรอย่ใู นระดบั มาก 3 ดา้ น คอื ด้านผลกระทบ ด้านปัจจัยนาเข้า และด้านบริบท อีก 2 ด้านอยู่ ในระดับปานกลาง โดยมีข้อเสนอแนะเพ่ิมเติมในด้านปัจจัยนาเข้า คือ ควรเพ่ิมความละเอียดในการ ดูแลเด็กใหป้ รบั ตวั สาหรับการเรียน และดา้ นกระบวนการ คือ ควรใหค้ วามสาคัญกับนักเรียน EP มาก ข้ึน ให้ได้รับข่าวสารที่รวดเร็ว ควรเข้มงวดในเรื่องการเรียนและนักเรียนต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบ ของโรงเรยี นเพอ่ื ให้มีความสงบในหอ้ งเรยี น 2.5 อาจารยผ์ ้สู อนหลกั สตู ร English Program ผลการศึกษาความคิดเห็นของอาจารย์ผู้สอนหลักสูตร English Program ท่ีมีต่อ หลักสูตรสถานศึกษา มีผลการประเมินในภาพรวมและรายด้านทุกด้านอยู่ในระดับมาก โดยมี ข้อเสนอแนะเพ่ิมเติมในด้านบริบท คือ Provide learners a venue for inclusive and collaborative learning where they (learners) can showcase their potentials and be able to think outside the box. ด้านปัจจัยนาเข้า คือ To produce a much better learning environment, the school “MUST” have a strict implementing “Policy” with regards to the use “Mobile Phones”. Mobile phones are useful BUT in most cases they are very disruptive to students especially during the teaching and learning situation. ด้าน กระบวนการ คือ Harbor a more inclusive network of educators by allowing maternal and resources to be more accessible. ด้านผลผลิต คือ EP will be a training ground or home to learners of the 21st century. They are critical thinkers, creative and knows how to collaborate with others to arrive very satisfactorily at a given goal and also very capable of communicating their know league and skills using traditional and contemporary media. และด้านผลกระทบ คือ Support teachers’ innovative approach and encourage teachers to be more innovative in dealing with their teaching and instructions to develop more productive individuals. 2.6 ผลการประเมินหลักสูตรโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยา เขตกาแพงแสน ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
289 พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ตามความคิดเห็นของนักเรียนและอาจารย์ผู้สอน ของหลักสูตร English Program พบวา่ ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก และนักเรียนมีความคิดเห็นต่อ หลักสตู รในภาพรวมอยใู่ นระดับมากซง่ึ สอดคลอ้ งกันกบั ความคิดเห็นของอาจารย์ผู้สอน สาหรับความ คิดเห็นตามองค์ประกอบของการประเมินหลักสูตรเป็นรายด้านโดยการจัดลาดับความคิดเห็นท้ังของ นักเรียนและของอาจารย์ผู้สอนแล้วพบว่า มีลาดับของความคิดเห็นท่ีสอดคล้องกัน 2 ด้าน คือ ด้าน บรบิ ทอยู่ตรงกันในลาดับท่ี 3 และด้านผลผลิตอยู่ตรงกันในลาดับท่ี 4 และโดยสรุปพบว่า นักเรียนมี ความคดิ เห็นในด้านผลกระทบเป็นลาดบั ที่ 1 และดา้ นกระบวนการเป็นลาดับท่ี 5 ส่วนอาจารย์ผู้สอน มคี วามคิดเหน็ ในด้านกระบวนการ เปน็ ลาดบั ที่ 1 และด้านปัจจยั นาเข้าเป็นลาดับที่ 5 ซ่ึงไม่สอดคล้อง กัน มีผลสรุปของประเด็นในแตล่ ะด้าน 5 ดา้ นดังน้ี 2.6.1 ด้านบริบท (Context) นักเรียนมีความคิดเห็นต่อองค์ประกอบด้าน รายวิชาและกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนอยู่ในระดับมาก ส่วนองค์ประกอบด้านหลักสูตรอยู่ในระดับปาน กลาง และพบว่า องคป์ ระกอบด้านหลกั สูตร มีประเด็นทมี่ คี ่าเฉล่ียมากท่ีสุดและรองลงมา ซ่ึงนักเรียน มคี วามคดิ เหน็ อยใู่ นระดับมาก คือ 1.6) การจัดการศึกษาของโรงเรียนมีความต่อเนื่องเช่ือมโยงกันต้ังแต่ ระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษา และ1.9) จานวนเวลาเรียน 6-8 คาบต่อวัน มีความเหมาะสม ตามลาดับ และประเด็นท่ีมีค่าเฉลี่ยน้อยท่ีสุด ซ่ึงนักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับปานกลาง คือ 1.10) เน้ือหาสาระทีเ่ รียนแตล่ ะรายวชิ าในภาพรวมมีความเหมาะสม นักเรียนสามารถนาไปใช้ได้จริง ในชีวิตประจาวนั ส่วนองคป์ ระกอบด้านรายวิชาและกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน มีประเด็นที่มีค่าเฉล่ียมาก ท่ีสุดและรองลงมา ซ่ึงนักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก คือ 1.16) รายวิชาและกิจกรรมการ เรียนการสอนในโรงเรียน ช่วยส่งเสริมให้นักเรียนมีคุณลักษณะผู้เรียนในศตวรรษท่ี 21 ได้แก่ ความสามารถในการคิดไตรต่ รอง คิดแกป้ ญั หา มที ักษะการทางานรว่ มกนั มีทกั ษะการสื่อสาร มีความ รอบรู้ทางข้อมูลสารสนเทศและทางดิจิทัล มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถสร้างสรรค์ผลงานใหม่ได้ และ1.15) รายวิชาและกิจกรรมการเรียนการสอนในโรงเรียน ช่วยส่งเสริมให้นักเรียนมีความรู้ ความสามารถ และทักษะด้านการอ่าน เขียน คิด คานวณ ตามลาดับ และประเด็นท่ีมีค่าเฉลี่ยน้อย ที่สุด ซ่ึงนักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับปานกลาง คือ 1.14) รายวิชาและกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ส่งเสริมให้นักเรียนมีสมรรถนะในการเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง ได้แก่ มีความรักชาติ รักท้องถิ่น มีจิต อาสา มีอุดมการณ์ มีความยุติธรรม และใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า อาจารย์มีความคิดเห็นต่อท้ัง 2 องค์ประกอบอยู่ในระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ยของระดับความคิดเห็นมากท่ีสุด คือ องค์ประกอบด้าน รายวชิ าและกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น รองลงมาคือ องค์ประกอบด้านหลักสูตร และพบว่า องค์ประกอบ ด้านหลักสูตร อาจารย์มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากที่สุด 2 ประเด็น โดยประเด็นที่มีค่าเฉล่ียของ ระดบั ความคิดเห็นมากท่ีสุด คือ 1.9) โครงสร้างหลักสูตรระดับประถมศึกษา ซ่ึงประกอบด้วย สาระ การเรยี นรู้ 8 กลุ่ม และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน มคี วามเหมาะสม และสอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษา ระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน พ.ศ.2561 รองลงมาคือ 1.10) โครงสร้างหลักสูตรระดับมัธยมศึกษา ซึ่ง ประกอบดว้ ย สาระการเรียนรู้ 8 กลุม่ และกิจกรรมพัฒนาผูเ้ รยี น มคี วามเหมาะสม และสอดคล้องกับ มาตรฐานการศึกษาระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พ.ศ.2561 ส่วนประเด็นที่มีค่าเฉลี่ยของระดับความ คิดเห็นน้อยท่ีสดุ ซง่ึ อาจารย์มคี วามคิดเหน็ อยู่ในระดับมาก คือ 1.19) หน่วย/แผนการจัดการเรียนรู้มี ความเหมาะสม ถูกต้อง มีองค์ประกอบครบถ้วน และมีข้ันตอนของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตาม
290 แนวคิด Active Learning ที่สะท้อนผลลัพธ์ที่พึงประสงค์ของการศึกษา (DOE Thailand) ใน มาตรฐานการศึกษาของชาติ พ.ศ.2561 ส่วนองค์ประกอบด้านรายวิชาและกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน อาจารย์มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากท่ีสุดในประเด็น 1.24) กิจกรรมและประสบการณ์ในระดับ ปฐมวัย (อ.1-3) ส่งเสริมให้เด็กมีบุคลิกภาพ 5 ด้าน และมีความสามารถทางปัญญา 8 ด้าน ตาม แนวคิดทฤษฎีพหุปัญญา (Multiple Intelligences Theory : MI) ( =4.50, S.D.=0.60) รองลงมา และน้อยท่ีสุด อาจารย์มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก คือ 1.25) รายวิชาและกิจกรรมในระดับ ประถมศึกษา (ป.1-3) สง่ เสริมให้ผู้เรียนมีความรู้ความสามารถในการอ่าน การเขียน และคิดคานวณ (3R) มีบุคลิกภาพ 5 ด้าน และมีความสามารถทางปัญญา 8 ด้าน ตามแนวคิดทฤษฎีพหุปัญญา (Multiple Intelligences Theory : MI) และ1.21) รายวิชาและกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนส่งเสริมให้ ผเู้ รยี นมีสมรรถนะในการเป็นผ้เู รียนรู้ ตามลาดับ นอกจากน้ีในด้านบริบท มีผลการตรวจสอบองค์ประกอบและคุณภาพหลักสูตร สถานศึกษาโดย คณะกรรมการฝ่ายวชิ าการของโรงเรยี นไดป้ ระเมินคุณภาพหลักสูตรสถานศึกษาตาม เกณฑ์ในภาพรวมพบว่า หลักสตู ร English Program มีคุณภาพอยู่ในระดับมากเช่นเดียวกับหลักสูตร ปกติ ส่วนผลการประเมินรายวิชาของหลักสูตร English Program ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น พบว่า ทุกรายวิชาในภาพรวม รายวิชาพ้ืนฐาน รายวิชาเพ่ิมเติม (ตามจุดเน้น) และรายวิชาเพิ่มเติม (ตาม ความสนใจ) มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากท่ีสุด และผลการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนซึ่ง ประกอบดว้ ย 4 กจิ กรรม ได้แก่ กิจกรรมแนะแนว กิจกรรมลูกเสือ กิจกรรมชมรม และกิจกรรมเพ่ือ สังคมและสาธารณประโยชน์ พบว่า หลักสูตร English Program ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ใน ภาพรวมของกจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น และทกุ กจิ กรรมยอ่ ยมคี วามเหมาะสมอยู่ในระดบั มากท่ีสดุ 2.6.2 ด้านปัจจัยนาเข้า (Input) นักเรียนมีความคิดเห็นต่อองค์ประกอบด้าน บุคคล และองคป์ ระกอบดา้ นเอกสาร สื่อ เทคโนโลยี และส่ิงสนับสนุนท่ีเอ้ือต่อการเรียนรู้อยู่ในระดับ มาก โดยมีค่าเฉล่ียของระดับความคิดเห็นมากที่สุด คือ องค์ประกอบด้านบุคคล รองลงมาคือ องค์ประกอบด้านเอกสาร ส่ือ เทคโนโลยี และสิ่งสนับสนุนที่เอ้ือต่อการเรียนรู้ และพบว่า องค์ประกอบด้านบุคคล มีประเด็นท่ีมีค่าเฉลี่ยของระดับความคิดเห็นมากที่สุดและรองลงมา ซึ่ง นกั เรียนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก คือ 2.5) ผู้ปกครองมีความเข้าใจ และสนับสนุนกิจกรรมการ เรียนการสอนของโรงเรียน และ2.6) ผู้ปกครองส่งเสริมนักเรียนได้พัฒนาศักยภาพเพ่ิมเติมจากในช้ัน เรียน โดยยินดีให้นักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมของทางโรงเรียนทุกกิจกรรม ตามลาดับ ส่วนประเด็นที่มี ค่าเฉล่ียของระดับความคิดเห็นน้อยที่สุด ซึ่งนักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับปานกลาง คือ 2.3) เจ้าหน้าท่ีมีความพร้อมในการให้บริการ สนับสนุน และอานวยความสะดวกเพื่อการบรรลุเป้าหมาย ของงาน สาหรับองค์ประกอบด้านเอกสาร ส่ือ เทคโนโลยี และส่ิงสนับสนุนที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ประเด็นท่ีมีค่าเฉล่ียของระดับความคิดเห็นมากที่สุดและรองลงมา ซ่ึงนักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ใน ระดบั มาก คือ 2.10) มวี ัสดอุ ุปกรณ์การเรยี น ส่ือ และเทคโนโลยีในชนั้ เรียนเพื่อช่วยให้นักเรียนเรียนรู้ ได้ดีขึ้น และ2.11) มีห้องสมุดให้บริการหนังสืออย่างเพียงพอกับความต้องการของนักเรียน ตามลาดบั และประเด็นที่มีค่าเฉล่ียของระดับความคิดเห็นน้อยที่สุด ซ่ึงนักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ใน ระดับปานกลาง คือ 2.14) มีกิจกรรมกับเพ่ือนต่างโรงเรียนหรือบุคคลภายนอกเพ่ือแลกเปลี่ยน ประสบการณ์การเรียนรู้ซึ่งกันและกัน อาจารย์มีความคิดเห็นต่อท้ัง 2 องค์ประกอบอยู่ในระดับมาก
291 โดยมีค่าเฉลี่ยของระดบั ความคดิ เหน็ มากท่สี ุด คือ องคป์ ระกอบดา้ นบุคคล รองลงมาคือ องค์ประกอบ ดา้ นเอกสาร สือ่ เทคโนโลยี และสิ่งสนับสนุนท่ีเอื้อต่อการเรียนรู้ และพบว่า องค์ประกอบด้านบุคคล มีประเด็นท่มี คี ่าเฉลยี่ ของระดับความคิดเห็นมากท่ีสุด ซ่ึงอาจารย์มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากท่ีสุด คอื 2.3) อาจารยผ์ ู้สอนไดส้ อนในรายวิชาที่ตรงกับคุณวฒุ ิและความเชย่ี วชาญ รองลงมาและน้อยที่สุด โดยอาจารยม์ ีความคดิ เหน็ อยู่ในระดับมาก คอื 2.2) คุณวุฒิ ความรู้ ประสบการณ์ ผลงานทางวิชาการ และผลงานวจิ ัยด้านการเรียนการสอนของอาจารย์ผสู้ อนมีศักยภาพท่ีเหมาะสม และ2.7) ผู้ปกครองมี ความเข้าใจ และสนับสนุนกิจกรรมการเรียนการสอนของโรงเรียน ตามลาดับ สาหรับองค์ประกอบ ดา้ นเอกสาร สือ่ เทคโนโลยี และสิ่งสนับสนนุ ที่เอ้ือต่อการเรยี นรู้ มีประเด็นท่มี ีคา่ เฉลยี่ ของระดับความ คิดเห็นมากท่ีสุดและรองลงมา ซ่ึงอาจารย์มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก คือ 2.14) มีการจัดสรร งบประมาณเพ่ือใช้ในโครงการหรือกิจกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนอย่างเพียงพอ และ 2.15) มี งบประมาณสนับสนุน และพัฒนาความรู้ความสามารถของบุคลากรอย่างเพียงพอ ตามลาดับ และ ประเดน็ ทีม่ คี า่ เฉลยี่ ของระดับความคิดเห็นน้อยท่ีสุด ซ่ึงอาจารย์มีความคิดเห็นอยู่ในระดับปานกลาง คือ 2.20) มีกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับชุมชน และชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาของ โรงเรยี น 2.6.3 ด้านกระบวนการ (Process) นักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากใน ประเด็นท่ีมีค่าเฉล่ียของระดับความคิดเห็นมากที่สุดและรองลงมา คือ 3.1) มีการจัดการเรียนรู้ด้วย วิธีการทีห่ ลากหลาย และ3.11) เปิดโอกาสให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการวัดและประเมินผล ตามลาดับ และประเดน็ ทม่ี ีคา่ เฉลยี่ ของระดับความคิดเห็นน้อยที่สุด โดยนักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับปาน กลาง คือ 3.16) กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนช่วยสะท้อนความสามารถและความถนัดของนักเรียนได้ดี อาจารย์มคี วามคิดเห็นต่อท้ัง 2 องค์ประกอบ อยู่ในระดับมาก โดยมีค่าเฉล่ียของระดับความคิดเห็น มากท่ีสุด คือ องค์ประกอบด้านกระบวนการจัดการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล รองลงมา คือ องคป์ ระกอบดา้ นการบรหิ ารจัดการหลักสูตร และพบวา่ องค์ประกอบดา้ นการบริหารจดั การหลักสูตร อาจารยม์ คี วามคดิ เห็นอยู่ในระดับมากที่สุด 1 ประเดน็ คือ 3.3) มกี ารพจิ ารณาอาจารย์ผู้สอนรายวิชา ให้เหมาะสมกับความรู้ความสามารถและคุณวุฒิ รองลงมาและน้อยท่ีสุด ซึ่งพบว่าอาจารย์มีความ คิดเห็นอยู่ในระดับมาก คือ 3.4) มีการจัดระบบอาจารย์ประจาช้ัน/อาจารย์ท่ีปรึกษานักเรียนอย่าง เหมาะสม และ3.11) มีระบบการนิเทศ ติดตาม เพื่อให้คาแนะนา ช่วยเหลือ (การพัฒนาวิชาชีพ) เก่ียวกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของอาจารย์ผู้สอน ตามลาดับ สาหรับองค์ประกอบด้าน กระบวนการจัดการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล พบว่า อาจารย์มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากทุก ประเดน็ โดยประเดน็ ทมี่ ีค่าเฉลี่ยของระดับความคิดเห็นมากท่ีสุด รองลงมา และน้อยที่สุด คือ 3.20) จดั การเรยี นรู้โดยสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรม 3.22) มีการบอกวิธีการวัดและประเมินผลแต่ละคร้ัง ใหผ้ เู้ รียนทราบลว่ งหนา้ และ3.17) จดั การเรียนรู้โดยคานึงถึงความสามารถของผู้เรียนเป็นรายบุคคล ตามลาดับ 2.6.4 ด้านผลผลิต (Product) นักเรียนมีความคิดเหน็ อยใู่ นระดับมากในประเด็น ทีม่ ีค่าเฉลี่ยของระดับความคิดเห็นมากที่สุดและรองลงมา คือ 4.10) นักเรียนมีความสามารถในการ สร้างสรรคช์ ้ินงาน และ4.9) นักเรียนมกี ระบวนการทางานอยา่ งเป็นระบบ ตามลาดับ และประเด็นที่มี ค่าเฉล่ียของระดับความคิดเห็นน้อยท่ีสุด ซึ่งนักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับปานกลาง คือ 4.7)
292 นกั เรยี นมคี วามสามารถตามคุณลกั ษณะของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 (7C) ตามเป้าหมายของหลักสูตร อาจารย์มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากทุกประเด็น โดยประเด็นที่มีค่าเฉลี่ยของระดับความคิดเห็น มากที่สุด รองลงมา และน้อยที่สุดคือ 4.1) ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนบรรลุตามวัตถุประสงค์ ของหลกั สูตร 4.12) ผบู้ รหิ ารมีสมรรถนะในการบรหิ ารจัดการหลกั สตู ร โดยการนาหลักสูตรสู่ชั้นเรียน เพอ่ื ยกระดบั คณุ ภาพอาจารยผ์ ู้สอนและผเู้ รียน และ4.9) ผู้เรียนมีกระบวนการทางานอย่างเป็นระบบ ตามลาดบั 2.6.5 ด้านผลกระทบ (Impact) นักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากใน ประเดน็ ทมี่ ีคา่ เฉลีย่ ของระดับความคิดเห็นมากท่สี ุดและรองลงมา คอื 5.6) โรงเรยี นมีชือ่ เสียงและเป็น ผู้นาในด้านการจัดการศึกษาและพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ทั้งในระดับปฐมวัย ประถมศึกษา และ มธั ยมศกึ ษา และ5.4) นักเรียนท่ีจบการศึกษาจากโรงเรยี น ประสบผลสาเร็จในการศึกษาต่อในระดับที่ สงู ขึ้น ตามลาดบั และประเด็นทมี่ ีคา่ เฉลี่ยของระดับความคิดเห็นน้อยที่สุด ซ่ึงนักเรียนมีความคิดเห็น อยู่ในระดับปานกลาง คือ 5.1) นักเรียนมีความรู้สึกรักและภาคภูมิใจต่อสถาบัน อาจารย์มีความ คิดเห็นอยู่ในระดับมากที่สุด 1 ประเด็น คือ 5.7) โรงเรียนเป็นท่ียอมรับของผู้ปกครอง ชุมชน และ สังคม รองลงมาและน้อยท่ีสุด ซึ่งอาจารย์มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก คือ 5.3) ผู้ที่จบการศึกษา จากโรงเรียนเป็นท่ยี อมรับของสถาบนั การศกึ ษาท้ังในและต่างประเทศ และ5.5) อาจารย์ผู้สอนมีการ เผยแพรผ่ ลงานวชิ าการ งานวิจัยอย่างต่อเนอ่ื ง ตามลาดบั 3. ผลการศึกษาปัญหาและแนวทางการพฒั นาและปรบั ปรุงหลักสูตรโรงเรียนสาธิตแห่ง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกาแพงแสน ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา ตามหลักสูตร แกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) โดยจาแนกเป็น หลกั สตู รปกติ และหลักสตู ร English Program 3.1 หลักสูตรปกติ มผี ลการศกึ ษาปัญหาและแนวทางการพัฒนาและปรับปรุงหลักสูตร สถานศึกษาตามองค์ประกอบ 5 ดา้ นดังนี้ 3.1.1 ดา้ นบรบิ ท (Context) ตัวชีว้ ดั บางขอ้ วดั ไดย้ าก ควรปรับข้อความเน้นเป็น พฤติกรรมที่นักเรียนแสดงออกได้ชัดเจน ตัวชี้วัดที่ปรับปรุงใหม่แล้วยังมีจานวนมาก ควรปรับลด จานวนตัวช้ีวัดให้เหลือเท่าท่ีจาเป็นที่สามารถสะท้อนความรู้ ทักษะ และคุณลักษณะท่ีจาเป็นของ นักเรียนในชีวิตจริง และควรปรับการเรียนการสอนในวิชาหน้าท่ีพลเมืองในรูปแบบบูรณาการกับ รายวิชาอ่ืน ครูวิทยาศาสตร์ไม่สามารถสอนบูรณาการ STEM ตามที่หลักสูตรกาหนดแนวทางไว้ได้ โรงเรยี นควรบริหารให้ครผู สู้ อนสามารถสอนบูรณาการ STEM ได้ ควรมีการแนะนาการเลือกส่ือ หรือ หนังสือเรียนให้เหมาะสมกับวัยของนักเรียน โครงสร้างเวลาเรียนในระดับประถมศึกษาและระดับ มัธยมศึกษา มีการกาหนดเวลาเรียนจานวนมาก ทาให้สถานศึกษาไม่สามารถจัดรายวิชาเรียนตาม จดุ เน้นไดเ้ ทา่ ท่ีควร หลักสูตรแกนกลางฯ ควรปรับสดั ส่วนใหส้ ถานศึกษาสามารถจัดรายวิชาเรียนตาม จุดเน้นได้มากข้ึน ควรให้สถานศึกษามีอิสระในการออกแบบหลักสูตรได้อย่างแท้จริง หลักสูตรควร ตอบสนองนักเรียนแต่ละคน และควรมีรูปแบบการประเมินที่หลากหลายและเน้นความแตกต่าง ระหวา่ งบคุ คล การนาหลักสตู รไปใช้ โดยครูยงั ไม่สามารถพัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้ไปถึงเป้าหมายของ ผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 ได้ครบถ้วน ซ่ึงเกิดจากความไม่พร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ ไม่เข้าใจหลักสูตร
293 จัดการเรียนการสอนและประเมินผลไม่ตรงตามมาตรฐาน/ตัวช้ีวัด ไม่มีเครื่องมือสะท้อนผลลัพธ์การ บรรลุเป้าหมายในการพัฒนาคุณภาพนักเรียน นักเรียนควรได้รับการพัฒนาทักษะท่ีจาเป็นต่อการ นาไปใช้ศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยมากกวา่ ควรสรา้ งแรงจงู ใจให้ครไู ดร้ ับการพฒั นาสมรรถนะการ จัดการเรียนรู้และการประเมินผลที่ส่งเสริมทักษะผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 และพัฒนาเครื่องมือ ประเมินท่ีสะท้อนผลลัพธ์การบรรลุเป้าหมายของหลักสูตร ควรทาความเข้าใจหลักสูตรและ กระบวนการพัฒนานักเรียนตามเป้าหมายให้ชัดเจนร่วมกัน นาหลักสูตรไปใช้ให้เหมาะสมกับบริบท ของสถานศึกษา มีการตดิ ตามผลการใช้หลกั สตู รอยา่ งเป็นระบบ และนาผลการประเมินหลักสูตรไปใช้ ในการจัดทาแผนพัฒนาสถานศึกษา แรงกดดนั จากครอบครัว และสังคม ทาให้พัฒนาการตามวัยและ คุณธรรมจริยธรรมลดลง ความหลากหลายของรายวิชา/กิจกรรม และความยืดหยุ่นของหลักสูตรที่ ตอบสนองความตอ้ งการและความสามารถพเิ ศษของนกั เรียนมีนอ้ ยเน่ืองจากหลกั สูตรแกนกลางเน้นที่ ความรูพ้ ้นื ฐานตามมาตรฐานและตัวชีว้ ัดทีม่ จี านวนมาก โรงเรียนและครอบครัวควรให้ความสาคัญกับ การดแู ลสุขภาพรา่ งกายและจิตใจของนักเรียนท่ีอยู่ในยุคการเปลี่ยนแปลงแบบหักศอก (Disruption) แนะนาให้นกั เรยี นไดป้ รบั ตัวและกล้ายอมรับความเปล่ียนแปลงที่เกิดขึ้น การกาหนดกรอบแนวคิดใน เอกสารหลักสูตรของโรงเรยี นสาธิตเกษตรฯ กาแพงแสนยังไม่ชัดเจน ควรจาแนกเป็นระดับการศึกษา และใหม้ ีภาพประกอบคาบรรยาย เอกสารหลักสูตรและคู่มือการวัดและประเมินผลควรรวมเป็นเล่ม เดียวกนั และใหม้ ีองคป์ ระกอบครบถ้วนเพียงพอท่ีจะนาไปใช้ปฏิบัติได้จริงในช้ันเรียน เป้าหมายของ หลกั สตู รยังไมม่ ีกระบวนการหรือเครื่องมือในการวัดและประเมินผลที่สะท้อนถึงการบรรลุเป้าหมาย ของหลักสูตร จุดเน้นของหลักสูตรยังไม่ชัดเจนและเพียงพอ ควรทาความเข้าใจหลักสูตรและ กระบวนการพัฒนานักเรียนตามเป้าหมายให้ชัดเจนร่วมกัน นาหลักสูตรไปใช้ให้เหมาะสมกับบริบท ของสถานศกึ ษา มีการติดตามผลการใช้หลกั สูตรอย่างเป็นระบบ และนาผลการประเมินหลักสูตรไปใช้ ในการจดั ทาแผนพัฒนาสถานศึกษา และควรเพ่ิมจดุ เนน้ และความโดดเด่นของโรงเรียนให้เด่นชัดกว่า ที่ปรากฏอยู่ในหลกั สูตร การนาหลักสูตรสู่ชัน้ เรยี น อาจารยผ์ ู้สอนสว่ นหนงึ่ อาจยงั ไมท่ ราบถงึ เป้าหมาย สาคัญของหลักสูตรทั้งในภาพรวมของโรงเรียน และหลักสูตรเฉพาะกลุ่มสาระการเรียนรู้ ควรต้อง สร้างความเข้าใจร่วมกัน กาหนดให้มีการเลือกวิธีหรือรูปแบบการจัดการเรียนการสอนและการ ประเมินผลท่ีเหมาะสมเพ่ือให้นักเรียนบรรลุเป้าหมายคุณภาพผู้เรียนตามที่หลักสูตรกาหนด การ จดั การเรยี นการสอนมีลักษณะเป็นแบบแยกส่วน ยังไม่มีการบูรณาการระหว่างกลุ่มสาระการเรียนรู้ อาจสง่ ผลให้เกดิ ความไม่ต่อเนื่องและไมเ่ ชือ่ มโยงของสาระการเรียนรู้ท่ีต้องอาศัยพื้นฐานความรู้ซึ่งกัน และกนั ระหวา่ งรายวิชา เข่น วทิ ยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และสังคมศึกษา รายวิชาบูรณาการในระดับ ประถมศึกษาตอนปลาย (ป.4-6) ขาดการบริหารจัดการรายวิชาเนื่องจากมีอาจารย์ผู้สอนเป็นทีม จานวน 3 คน นอกจากน้ียังพบว่ามีการเปล่ียนอาจารย์ผู้สอนในแต่ละปีการศึกษา ซึ่งอาจมีผลทาให้ การพัฒนารายวชิ าเป็นไปดว้ ยความล่าช้า ควรมีระบบการบรหิ ารจัดการหลักสตู รรายวชิ า โดยควรให้มี การปรับปรุงรูปแบบการเรียนการสอนและการวัดและประเมินผลให้มีความชัดเจนในแนวทางการ ปฏบิ ัติและมคี วามต่อเนอ่ื งของสาระท่ใี ชใ้ นการจัดกจิ กรรม ในหลักสูตรระดับประถมศึกษา ควรจัดให้ มกี ารเรียนการสอนรายวิชาภาษาจีน และในระดับมัธยมศึกษา ควรมีอาจารย์พิเศษมาให้ความรู้และ ประสบการณ์กับนักเรียน ควรพิจารณาปรับรายวิชาให้เหมาะสม และบริหารจัดการผู้สอนเพ่ือเพิ่ม ประสบการณ์ให้นักเรียนในระดับมัธยมศึกษา อาจารย์ผู้สอนบางส่วนยังขาดความเข้าใจเกี่ยวกับ
294 หลักสูตรของโรงเรียน ส่วนใหญ่จัดการเรียนการสอนโดยยึดเนื้อหาเป็นหลัก ใช้ประมวลการสอ น (Corse Syllabus) เพื่อให้นักเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาได้รับทราบรายละเอียดของ รายวิชา และแมว้ ่าหลกั สตู รจะมกี ารกาหนดเป้าหมายท่ชี ัดเจนแล้วแตย่ งั ไม่มีวิธีการท่ีจะทาให้ทราบว่า คุณภาพนักเรียนบรรลุเป้าหมายตามท่ีหลักสูตรแต่ละระดับการศึกษากาหนดไว้หรือไม่ รวมท้ังบาง รายวชิ ามีความจาเป็นต้องให้มกี ารเชอื่ มโยงความรรู้ ะหวา่ งศาสตร์ เพอ่ื นาความรู้ของศาสตร์หนึ่งไปใช้ เป็นพ้นื ฐานต่อยอดความรู้ของอีกศาสตร์หน่ึงได้อย่างเข้าใจ ควรให้อาจารย์ผู้สอนทุกท่านโดยเฉพาะ อาจารย์ใหม่ของโรงเรียนได้ตระหนักถึงความจาเป็นที่จะต้องรับรู้และทาความเข้าใจหลักสูตรของ โรงเรียนให้ชัดเจน และสามารถนาหลักสูตรไปใช้ในการออกแบบและจัดการเรียนการสอนให้บรรลุ เป้าหมายคุณภาพผู้เรียนในศตวรรษท่ี 21 ได้ ดังนั้นควรต้องมีการกาหนดกระบวนการในการนา หลักสตู รสชู่ น้ั เรียนให้ชัดเจน มีระบบพ่เี ล้ียงสาหรับอาจารย์ใหม่ของโรงเรียน และมีการนิเทศ ติดตาม และช่วยเหลือเพอ่ื การพฒั นาวชิ าชีพ นอกจากน้คี วรใหอ้ าจารย์ผู้สอนมีการวิเคราะห์สาระ มาตรฐาน/ ตัวชีว้ ัด เพ่ือจัดลาดับความสาคัญของเนอ้ื หาสาระในกรณีทต่ี อ้ งมีการต่อยอดความรู้ข้ามศาสตร์เพื่อให้ นักเรียนมีความรู้พื้นฐานเพียงพอสาหรับการศึกษาในเร่ืองท่ีซับซ้อนมากขึ้นหรือในระดับชั้นเรียนท่ี สงู ขน้ึ ได้ นกั เรียนต้องการให้เน้ือหาสาระท่ีเรียนแต่ละรายวิชาในภาพรวมมีความเหมาะสม สามารถ นาไปใช้ไดจ้ ริงในชีวิตประจาวัน ส่งเสรมิ ให้นกั เรียนมคี วามพรอ้ มในการศกึ ษาต่อตามความถนัด ความ สนใจ และความต้องการของนักเรียน เวลาเรียนต่อวันมากเกินไป และมีนักเรียนท่ีไม่ผ่านเกณฑ์การ ประเมินของหลักสูตร ควรเพ่ิมการจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรให้มากข้ึนเพื่อเน้นความกล้าแสดงออก ของนักเรียน ควรเพิ่มจานวนคาบเรียนวิชาเทคโนโลยี พลศึกษา และดนตรีให้มากข้ึน วิชาพละให้มี มวยสากล ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายควรมีแผนการเรียนเพิ่มขึ้นและเน้นด้านอาชีพ เช่น วิทย์- แพทย์ วิทย์-กีฬา ภาษาต่างประเทศ-ภาษาเกาหลี ควรนาหลักสูตรในมหาวิทยาลัยมาทดลองใช้ใน ระดบั มัธยมศึกษาเพ่ือใหน้ ักเรยี นมีทางเลือกทีเ่ หมาะสมกบั ตนเองหลากหลายมากขน้ึ มีระบบแผนการ เรียนเตรียมศิลปกรรม เตรียมวิทย์-คอมพ์ เตรียมนิเทศ-มนุษย์ เป็นต้น แทนแผนการเรียนที่เปิดใน ปัจจุบัน ควรมีวิชาเลือกให้นักเรียนได้เลือกเรียนมากขึ้นครอบคลุมทุกกลุ่มสาระฯ มีรายวิชาอาชีพที่ เจาะลกึ ถงึ เรือ่ งนนั้ ๆ ควรให้วิชา \"งานช่างไม้\" อยู่ในวิชาเพิ่มเติมหรือชมรมอย่างเดียว ไม่ต้องการให้ อยใู่ นกล่มุ รายวชิ าพืน้ ฐาน ในโครงการแลกเปลย่ี นนักเรียนในต่างประเทศควรให้มีเกาหลีมาด้วย ควร พัฒนาหลักสูตรวิทย์-คณิตให้เข้มข้นข้ึนเพื่อการสอบแข่งขันต่างๆ และเน้นภาษาอังกฤษมากข้ึน โรงเรียนสมควรเป็นสถานที่ท่ีทาให้เด็กได้รู้ว่าชอบอะไร หลักสูตรควรเน้นความสามารถของเด็ก มากกว่าการให้แตค่ วามรู้ ควรลดช่วั โมงวชิ าภาคบงั คบั ลงและเพมิ่ ชัว่ โมงวิชาเลือกและชมรมให้มากข้ึน ควรจัดห้องเรียนแบบคัดมากกว่าแบบคละชั้นเพ่ือให้อาจารย์ในรายวิชาสอนได้อย่างท่ัวถึง ควรปรับ เวลาเรียนเปน็ เรียนวิชาหลกั ในช่วงเช้า เพม่ิ ชว่ งกลางวนั เปน็ เรียนวชิ าตามความถนดั ควรลดเวลาเรียน ลดงาน ลดการบ้านลง บางอย่างเรียนไปก็ไม่ได้ใช้ เพ่ือให้นักเรียนนาเวลาว่างไปอ่านหนังสือ หรือ ค้นคว้าหาความรู้ในส่ิงที่สนใจและส่ิงที่ชอบเพ่ือต่อยอดในอนาคต และอาจารย์ควรสอนให้เต็มเวลา และไม่ต้องให้มีการบ้าน นักเรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินของหลักสูตร โรงเรียนควรพิจารณา สาเหตทุ แ่ี ทจ้ ริงและมีระบบการให้ความช่วยเหลอื ใหท้ ันกอ่ นนกั เรยี นจบหลกั สูตร ควรจัดโครงการเพื่อ เช่ือมต่อการศึกษาระหวา่ งระดบั ปฐมวยั สู่ประถมศึกษา และมัธยมศึกษา ตามลาดับเพ่ือให้นักเรียนได้ ปรับตัวเข้ากับการเรียนการสอนในระดับท่ีสูงข้ึนได้ โดยมีเป้าหมายคือการพัฒนานักเรียนให้บรรลุ
295 มาตรฐานการศกึ ษาและคุณภาพนักเรยี นตามที่หลักสตู รสถานศึกษาทก่ี าหนด การนาหลักสูตรไปใช้ใน การจดั การเรยี นการสอน และการวัดและประเมินผลอาจยังมีส่วนท่ีต้องพฒั นาในเร่ืองกระบวนการใน การพัฒนานักเรียนให้ไปในทิศทางของหลักสูตร การสร้างความเข้าใจร่วมกันเป็นส่ิงสาคัญท่ีสุดของ อาจารย์และบุคลากรทีเ่ กยี่ วขอ้ งกบั การนาหลักสตู รไปใช้เพ่ือพัฒนาคุณภาพนักเรียนได้ตามเป้าหมาย เมอื่ พจิ ารณาบรบิ ทของสงั คมในปจั จุบัน หลกั สตู รโรงเรยี นสาธติ แห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยา เขตกาแพงแสน ควรมีการปรบั ปรุงวสิ ยั ทศั นข์ องหลักสตู รควรเปน็ การจัดการศึกษาเพ่ือเสริมสร้างการ คิดสร้างสรรค์ และทักษะนวัตกรรมให้มากข้ึน ควรเพิ่มเติมการคิดข้ันสูง (Higher-order thinking) Creative Based, Technology Based ไว้ในกรอบแนวคิดหลักสูตร ร่วมกับ Project Based, Career Based เน้น Competency Based ไว้ในกรอบแนวคิดหลักสูตร และแนวการจัดหลักสูตร ระดับประถมศึกษา และมัธยมศกึ ษา ควรเนน้ การบูรณาการเชิงสร้างสรรค์ Creative Integration ให้ มากข้ึนจะชว่ ยเสรมิ สรา้ ง Innovative skills 3.1.2 ด้านปัจจัยนาเข้า (Input) ปัญหาและแนวทางการพัฒนาและปรับปรุง หลักสูตรด้านบุคคล คือ ความพร้อมในการให้บริการ สนับสนุน และอานวยความสะดวกเพื่อการ บรรลุเป้าหมายของงานของเจ้าหน้าที่ ความรู้ความสามารถ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ของ อาจารยผ์ สู้ อน ความเขา้ ใจและการสนบั สนนุ กจิ กรรมการเรียนการสอนของผู้ปกครอง ดังน้ันอาจารย์ และเจ้าหน้าที่ควรเป็นต้นแบบที่ดีให้นักเรียน มีความยุติธรรม ให้ความเสมอภาค ควรมีอุปกรณ์ ประกอบการสอน ควรเน้นปฏิบัติมากกว่าทฤษฎี ไม่ทิ้งคาบสอบ ควรสอนให้เด็กเข้าใจได้โดยควร อธบิ ายเพิ่มเตมิ จากในหนังสอื เรยี น ไม่ปล่อยเกรดและคะแนน ควรควบคุมชั้นเรียนให้ได้ในขณะสอน และควรใช้ภาษาท่ีสุภาพในชั้นเรียน ควรมีอาจารย์มาสอนวิชา English เป็นชาวอเมริกันมากกว่า ฟิลิปปินส์ ที่จะช่วยให้นักเรียนสามารถฟังพูดอ่านเขียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ การสอนในระดับ ประถมศกึ ษาโดยอาจารย์ไม่ควรให้คาอ่านท่ีเป็นภาษาไทยให้เด็ก ควรเน้นให้เด็กออกเสียงให้ถูกต้อง จะเหมาะสมกวา่ ควรอนุญาตให้นักเรียนใช้เทคโนโลยีประกอบการเรียนได้เป็นส่วนตัว เช่น iPad ใน การ Lecture จะทาใหค้ ้นคว้าขอ้ มลู ไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ และให้ใช้โทรศัพท์ในขณะเรียนได้แต่มีมาตรการ ควบคุม เจ้าหน้าที่ควรให้ความเป็นมิตรกับนักเรียน อาจารย์ผู้สอนและอาจารย์ประจาชั้น/ที่ปรึกษา ควรมีหน้าทโ่ี ดยตรงที่จะช่วยพัฒนาคุณภาพนักเรียนให้ได้มากท่ีสุดในทุกด้าน เพราะใกล้ชิดนักเรียน และสามารถจะเข้าใจนักเรียนได้ดี เพื่อนและรุ่นพ่ีก็มีส่วนช่วยในเร่ืองการเรียนได้ ผู้ปกครองมีส่วน ชว่ ยเหลอื สาหรบั นักเรยี นระดบั ประถมศึกษา แต่ในระดับมัธยมศึกษานักเรียนต้องดูแลตัวเองมากข้ึน โรงเรียนควรมกี จิ กรรมท่ีอาจจะใหผ้ ้ปู กครองบางคนเขา้ มาร่วมกิจกรรมแนะนาเรอ่ื งอาชพี และแนวทาง การศึกษาต่อให้แก่นักเรียนได้ ในช่วงวัยประถมศึกษา อาจารย์ควรช่วยปลูกฝังลักษณะนิสัยท่ีดี ให้ คาแนะนา มีเหตุผลกับเด็ก การเรียนการสอนตอบสนองความต้องการของนักเรียน ผู้ปกครอง และ ชมุ ชน โดยนักเรียนสามารถเขา้ เรียนต่อในระดบั มหาวิทยาลัยได้ นักเรียนมีความปลอดภัย มีสังคมท่ีดี นกั เรยี นมคี วามพร้อมทางด้านวิชาการ ปัจจัยสาคัญที่จะช่วยขับเคล่ือนการนาหลักสูตรสู่ชั้นเรียน คือ ด้านอาจารยผ์ สู้ อนควรต้องไดร้ ับการดูแลและพัฒนาจากทางโรงเรียน ควรมีการเพ่ิมกิจกรรมร่วมกับ ชมุ ชนหรอื มกี ารสารวจความต้องการของชุมชน และเปิดโอกาสให้ผปู้ กครอง ศิษย์เก่าเข้ามามีส่วนร่วม ในการพัฒนาโรงเรียนและติดตามความก้าวหน้าในผลการเรียนของนักเรียน และการเรียนการสอน ของโรงเรียน ควรมีการบริหารจัดการหลักสูตรอย่างเป็นระบบและต่อเน่ือง มีการสร้างและ
296 ปรบั เปลี่ยน mindset เพือ่ การนาหลกั สตู รไปใชต้ ามวตั ถุประสงค์ มกี ารพัฒนาวธิ กี ารหรือข้ันตอนการ นาหลักสูตรไปใช้รว่ มกนั มกี ารให้คาแนะนา ติดตาม แลกเปลี่ยนเรียนรู้ เลือกวิธีการจัดการเรียนรู้และ การประเมินผลที่หลากหลายและเหมาะสมเพ่ือการปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพนักเรียนให้บรรลุ เป้าหมาย มีการจัดการความรู้ร่วมกันอย่างต่อเนื่อง ร่วมคิด ร่วมทา ร่วมรับผิดชอบ ร่วมกันแก้ไข/ ปรับปรุงและสร้างขวัญและกาลังใจในการทางาน มีครูภูมิปัญญาให้กับนักเรียน มีแหล่งเรียนรู้เชิง สรา้ งสรรค์ และชมุ ชนมีสว่ นรว่ มในการสะท้อนคุณภาพผู้เรียน และปัจจัยสาคัญในการขับเคล่ือนการ นาหลักสูตรสถานศึกษาสู่ช้ันเรียน ควรประกอบด้วย Growth mindset และ Passion ของบุคลากร ทุกฝา่ ยในการนาหลกั สูตรไปใช้ในชนั้ เรียนตามเจตนารมณข์ องหลักสตู ร ความรู้ความเข้าใจและทักษะ ในการออกแบบนวัตกรรมการเรียนรู้ของผู้สอน ทสี่ ามารถตอบสนองธรรมชาติและความต้องการของ ผเู้ รียน และความเข้มแขง็ ของการมสี ่วนร่วมในการจดั การศกึ ษาของชุมชนและผู้ปกครอง ปัญหาและแนวทางการพัฒนาและปรับปรุงหลักสูตรด้านเอกสาร ส่ือ เทคโนโลยี และส่ิงสนับสนุนที่เอื้อต่อการเรียนรู้ คือ กิจกรรมกับเพ่ือนต่างโรงเรียนหรือบุคคลภายนอกเพ่ือการ แลกเปล่ียนประสบการณ์การเรียนรู้ซ่ึงกันและกัน สภาพที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของห้องเรียน ส่ือ วัสดุ อุปกรณ์ประกอบการเรียน แหล่งการเรียนรู้ท่ีเหมาะสมกับวัยของผู้เรียนและสอดคล้องกับกิจกรรม การเรียนรู้ของผู้เรียน และแหล่งเรียนรู้ผ่านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ดังน้ันโรงเรียนควรพัฒนา แหล่งเรียนรู้และสถานท่ีฝึกปฏิบัติกิจกรรมของนักเรียน ประกอบด้วย สระว่ายน้า สนามกีฬา บาสเกตบอล แฮนดบ์ อล ห้องสมุดที่ทันสมัยมีหนังสือและเคร่ืองคอมพิวเตอร์ที่เพียงพอและน่าสนใจ เพ่มิ อุปกรณ์งานชา่ งให้เพยี งพอต่อจานวนนักเรยี น ควรพัฒนาเรือ่ งความสะอาดในโรงเรียนโดยเฉพาะ บริเวณโรงอาหาร และเขม้ งวดในเร่ือง ยาเสพติดไม่ใหม้ ใี นโรงเรียน ควรมีอาจารย์ดูแลความเรียบร้อย และควบคมุ การทางานของแหล่งบริการในโรงเรียนอย่างสม่าเสมอ เช่น ร้านสวัสดิการ ร้านสหกรณ์ ทดลอง ร้านถ่ายเอกสาร ร้านอาหาร และงานธุรการโรงเรียน ในเร่ืองความสะอาด ความเป็น กัลยาณมิตร ทุกรายวิชาควรมีหนังสือเรียนหรือเอกสารประกอบการเรียนเพื่อให้นักเรียนได้ใช้ใน การศึกษามาล่วงหน้า และควรมีห้องเทคโนโลยีและสื่อการสอนท่ีทันสมัยเข้าถึงได้ง่ายรวมท้ังมี กจิ กรรมบูรณาการในรายวชิ าต่าง ๆ ใหม้ ากขึ้น 3.1.3 ด้านกระบวนการ (Process) ปัญหาด้านการบริหารจัดการหลักสูตรที่ โรงเรียนยังไม่ได้ดาเนินการหรือดาเนินการไม่เป็นที่ประจักษ์ ได้แก่ การจัดกิจกรรมร่วมกันระหว่าง โรงเรยี นและชุมชนเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรยี นอย่างต่อเนอื่ ง การมีระบบการสะท้อนผลการจัดกิจกรรม การเรียนรขู้ องอาจารย์ผู้สอนอย่างต่อเน่ืองเพื่อให้การสนับสนุนและช่วยเหลือ การมีระบบการนิเทศ ติดตาม เพื่อให้คาแนะนา ช่วยเหลือ (การพัฒนาวิชาชีพ) เกี่ยวกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของ อาจารยผ์ สู้ อน การจดั การเรียนรูโ้ ดยคานงึ ถงึ ความสามารถของผู้เรียนเป็นรายบุคคล การจัดกิจกรรม พัฒนาผู้เรียนเพ่ือช่วยสะท้อนความสามารถและความถนัดของนักเรียน การเลือกใช้วิธีการและ เครอื่ งมอื ในการวัดและประเมนิ ผลทห่ี ลากหลายของครู ปัญหาดา้ นกระบวนการจัดการเรียนรู้ การวัด และประเมินผล ไดแ้ ก่ การจัดการเรยี นรโู้ ดยคานึงถึงความสามารถของผู้เรียนเป็นรายบุคคล การเปิด โอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการวัดและประเมินผล การจัดการเรียนรู้โดยกระตุ้นให้ผู้เรียน กระตือรือร้นในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง แนวทางการพัฒนาและปรับปรุงหลักสูตร คือ ควรมี การจัดการดูแลเด็กให้ทั่วถึง ควรทาตารางกิจกรรมต่าง ๆ ให้นักเรียนต้ังแต่ต้น-จบปีการศึกษาว่ามี
297 กิจกรรมใดวันใด โรงเรียนควรรับฟังความเห็นของนักเรียนจากตัวแทนนักเรียนแต่ละระดับช้ัน อาจารย์ควรเพ่ิมเทคนิคใหม่ ๆ ในการสอน ให้เด็กได้ปฏิบัติลงมือทาจริงและเรียนนอกห้องเรียนบ้าง เพิม่ ทักษะในการใชช้ ีวิตประจาวัน และจัดรูปแบบการสอนให้น่าสนใจ ควรให้เด็กมีโอกาสเลือกเรียน ในสิ่งที่จะนาไปใช้ได้จริงมากกว่าน้ี ควรปรับปรุงหลักสูตรแบบระบบของประเทศฟินแลนด์ ให้ อิสรภาพกับผู้เรียนมากข้ึน ช่วยแนะนาผู้เรียน และเข้าถึงผู้เรียนให้มากข้ึน และสามารถประเมิน ผู้เรียนได้ตามความประสงค์ของผู้เรียน ควรมีเวลาว่างที่ให้นักเรียนได้ลองทาสิ่งต่างๆ มากกว่าการ เรียนคาบที่ 7 หรือคาบที่ 8 ของแต่ละวัน การติว GAT, PAT ควรให้มีการติวในแผนภาษาและ สนับสนุนการสอบวัดระดับให้นักเรียนด้วย อาจารย์ควรให้คาแนะนาในเร่ืองการศึกษาต่ออย่างเป็น กลางไมพ่ ดู โน้มนา้ วให้เด็กเกิดความรู้สกึ ท่ไี มด่ ีตอ่ บางสถาบัน และควรมีความพรอ้ มใหม้ รี ะบบการแนะ แนวท่ีเข้มข้นเพ่ือให้เด็กได้รู้เส้นทางและเตรียมความพร้อมสาหรับตนเองมากขึ้นด้วย และควร สนับสนุนให้นักเรียนเข้าร่วมกิจกรรม Open house ของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ โดยนับเวลาเรียน รายวิชาให้ ควรพัฒนานกั เรยี นใหม้ ศี กั ยภาพทงั้ ดา้ นความรู้และคุณธรรม ควรแนะนาให้เด็กๆ มีโอกาส ทางานพาร์ทไทม์ ควรมีกิจกรรมรุ่นพี่รุ่นน้องเพ่ือสร้างความผูกพันและให้ความเคารพซึ่งกันและกัน การเรยี นการสอนควรใหเ้ ดก็ ๆ สามารถนาไปใช้ในชีวติ ประจาวันและทาอะไรได้จริงด้วย ควรมีการตั้ง คาถามชวนคดิ ใหน้ ักเรยี นมากกวา่ คาถามทที่ ่ัวๆไป และควรจัดกิจกรรมให้นักเรียนได้พบกับเพื่อนต่าง โรงเรียนมากขนึ้ การวัดและประเมินผลควรแจ้งนักเรียนให้ชัดเจนเกี่ยวกับวิธีการประเมินและการให้ คะแนน ควรเสรมิ สรา้ งประสบการณ์ทางด้านการแข่งขันให้กับนักเรียนมากข้ึน เช่น กิจกรรมแข่งขัน ตอบปัญหา ส่งเสริมกิจกรรมการแสดงความสามารถของนักเรียนทุกสัปดาห์ในแต่ละวิชาและแต่ละ ระดับช้ัน และให้เดก็ ศึกษาการใชช้ ีวติ มากกว่าการเรียนตามหลักสูตรกระทรวงฯ ควรจัดการเรียนการ สอนนอกห้องเรียนมากกว่าในห้องเรียนเพราะในชีวิตจริงไม่ได้อยู่ในห้องเรียน มอบหมายงานแบบ พอดี ไม่มอบหมายก่อนสอบและให้เหมาะสมกับวัยของนักเรียน ควรมีอุปกรณ์การปฏิบัติสาหรับ นกั เรยี นให้พร้อมและเพยี งพอ ควรสอนนอกเหนือจากท่ีหนังสือมีเพราะในหนังสือนักเรียนอ่านเองได้ เนน้ กระบวนการแก้ปัญหาจากชวี ิตในปัจจุบนั ควรมรี ะบบการดูแลนักเรยี นอย่างใกล้ชิด เวลาทางานท่ี อาจเกิดอุบัติเหตุอาจารย์ควรสอนวิธีป้องกันหรือทาให้ดูเป็นตัวอย่าง ควรมีการพัฒนามารยาท นกั เรยี นให้มากขึ้น ควรมีกจิ กรรมราตรีเขียว-ม่วงสาหรับเด็กมัธยมเหมือนเด็กประถม ควรมีกิจกรรม คา่ ยเพ่อื สร้างความสมั พันธท์ ่ีดีระหว่างร่นุ พ่ีรนุ่ น้องบ่อยๆ ควรออกแบบการจัดงานปัจฉิมนิเทศให้รู้สึก ผูกพันและประทับใจ ควรดูแลและควบคุมเด็กด้ือโดยใช้หลักจิตวิทยา ควรนาปัญหาที่พบในกระทู้ kuskfact มาพัฒนาในบางส่วน อยากให้มีกิจกรรมแข่งขันตอบปัญหา ความสามารถต่างๆ ในแต่ละ วิชาและแต่ละระดับชั้น ควรมีการส่งเสริมการเรียนเพ่ิมเติมสาหรับนักเรียนท่ีมีความสามารถพิเศษ งานกิจกรรมต่าง ๆ ถ้าเป็นตามรายวิชาก็ควรจัดรวมกันแบบวันวิชาการ งานกีฬาสีควรเพ่ิมกีฬา e- sport สาหรับวัยรุ่น ควรมีระบบการสอนที่ทาให้นักเรียนได้สนุกไปกับการเรียนและอยากมาเรียน มากกว่าอยู่บ้าน ครูต้องเข้าใจพื้นฐานของเด็กแต่ละคน ควรจัดสภาพแวดล้อมในโรงเรียนให้มีต้นไม้ มากขึ้น และทาป้ายช่อื ต้นไมใ้ หเ้ ด็กได้เรยี กชอ่ื ไดถ้ ูกต้อง ดแู ลเรอ่ื งระเบียบวินัยของนักเรียนให้มากขึ้น และควรใหน้ ักเรยี นได้ใชโ้ ทรศัพท์หรอื IPad เป็นเคร่ืองมือในการศึกษาค้นคว้าในระหว่างการเรียนได้ หลักสูตรควรมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักเรียน และควรพัฒนาการทางานให้แก่ นักเรียน ไม่ควรให้เป็นหน้าท่ีของนักเรียนคนใดคนหน่ึงในกลุ่ม และเห็นว่าปัจจัยสนับสนุนเพื่อให้
298 หลกั สตู รมีประสิทธิภาพและบรรลุเปา้ หมายมากข้ึนคือ อาจารย์ควรเป็นผู้ท่ีมีความรู้ความสามารถตรง ตามสาขาที่สอน มีการปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างท่ีดีให้แก่นักเรียน มีจิตใจโอบอ้อมอารีกับนักเรียน มี บทบาทที่หลากหลาย เช่น เป็นครู เป็นท่ีปรึกษา เป็นเพ่ือน มีคุณธรรม มีการติดตามข่าวสารและ เทคโนโลยีใหมๆ่ เพ่ือนามาใชใ้ นการเรียนการสอน และมกี ารนิเทศและติดตามการสอนของอาจารย์ท่ี เข้ามาสอนใหม่ ดา้ นนกั เรียน ควรตอ้ งอยู่ในกฎและรักษาระเบียบวินัยของโรงเรียน มีความอ่อนน้อม ถอ่ มตน มีเป้าหมายและมีแรงบนั ดาลใจในการเรยี น ด้านบรรยากาศในห้องเรียน ควรสร้างบรรยากาศ ในหอ้ งเรยี นเพื่อกระตุน้ ให้นักเรยี นอยากเรียนรู้ กระตุ้นให้นักเรียนอยากเรียน มีความสุขและสนุกกับ การเรยี น ควรมีมมุ ทส่ี รา้ งบรรยากาศใหเ้ กดิ การเรียนรใู้ นห้องเรียน และห้องเรียนต้องสะอาด ด้านสื่อ อปุ กรณแ์ ละแหลง่ เรยี นรู้ ควรมีส่ืออุปกรณ์และเทคโนโลยีท่ีทันสมัย และเพียงพอกับจานวนนักเรียน และดา้ นการสนับสนุนจากผู้บริหาร โดยควรยึดมั่นในความถูกต้องและความดี กล้าตัดสินใจ มีความ ยุตธิ รรม เข้าใจนกั เรียนและดูแลนักเรยี นอย่างท่วั ถงึ ทกุ ระดบั ชั้น สนบั สนุนนักเรียนในด้านการแข่งขัน ทงั้ ในและนอกโรงเรยี น รวมทัง้ สนบั สนนุ นักเรียนทมี่ คี วามสามารถพิเศษ โรงเรียนควรมี “รูปแบบการ พัฒนาหลกั สูตร” ท่ีประกอบด้วย 5 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) หลักการ คือ การจัดการศกึ ษาที่เน้นการมี ส่วนร่วมของทุกฝ่าย เพ่ือส่งเสริมพัฒนาการของนักเรียนทุกด้าน สร้างขวัญและกาลั งใจในการ ปฏบิ ตั ิงานให้บุคลากร 2) วตั ถปุ ระสงค์ คอื เพื่อพัฒนาหลักสูตรให้สอดคล้องกับจุดเน้นและอัตลักษณ์ ของโรงเรียน และเพ่อื พัฒนาคุณภาพนักเรียนให้มีทักษะท่ีจาเป็นในศตวรรษที่ 21 และคุณธรรมและ จรยิ ธรรมตามทสี่ ังคมตอ้ งการ 3) กระบวนการ ดาเนินการโดย การสร้างความเข้าใจร่วมกันเกี่ยวกับ หลักสูตรสถานศึกษาและการกาหนดเป้าหมายในการพัฒนาหลักสูตร กาหนดบทบาทหน้าที่ความ รบั ผิดชอบในการดาเนนิ การพฒั นาหลกั สตู ร จัดทารายละเอยี ดตามองค์ประกอบหลักสูตรให้ครบถ้วน ติดตามตรวจสอบความถูกต้องและเหมาะสมเพ่ือปรับปรุงและแก้ไข นาหลักสูตรไปใช้ในการจัดการ เรียนการสอน ประเมินผล และตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญเพ่ือรับรองหลักสูตร 4) การวัดและ ประเมินผล ไดแ้ ก่ ประเมินคณุ ภาพนักเรียนดา้ นทกั ษะท่ีจาเป็นในศตวรรษที่ 21 และประเมินคุณภาพ นักเรียนตามจุดเน้นและอัตลักษณ์ของโรงเรียนรวมทั้งคุณธรรมและจริยธรรม 5) ปัจจัยสนับสนุน ประกอบด้วย การสนับสนุนจากโรงเรยี นเพอ่ื พฒั นาการเรียนการสอนและการสร้างสื่อนวัตกรรมของ อาจารย์ การสร้างขวัญและกาลังใจของผู้บริหาร และความร่วมมือในการนาหลักสูตรไปใช้ของ อาจารย์ และความร่วมมือจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ได้แก่ นักเรียน ผู้ปกครอง ชมุ ชน และสถาบันเครือข่ายความรว่ มมอื นอกจากน้ีรูปแบบการพัฒนาหลักสูตรของโรงเรียน ควรให้ ความสาคัญกับ Growth mindset ในการพัฒนาหลักสูตรท่ีคณะกรรมการพัฒนาหลักสูตรและ บุคลากรทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการพัฒนาหลักสูตรที่ให้ความสาคัญกับคุณภาพผู้เรียนด้านต่างๆ และ พัฒนาหลักสูตรให้ตอบสนองธรรมชาติและความต้องการของผู้เรียนในลักษณะ Personalized learning และใช้ Technology เป็น Platform ของการเรียนรู้ร่วมกับการเรียนรู้แบบ Creative Team Learning ควรมีวัตถุประสงค์ในการพัฒนาหลักสูตร เพ่ือตอบสนองธรรมชาติและความ ต้องการของผู้เรียน เสริมสร้างคุณภาพผู้เรียนแบบบูรณาการ เพื่อพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ท่ี สอดคลอ้ งกับผเู้ รียน และเพ่ือพัฒนาชมุ ชน ผนู้ านวตั กรรมหลักสูตร และการเรียนรู้ของครูในโรงเรียน ควรมีกระบวนการโดย การกระตุ้น Growth mindset และ Passion ของผู้มีส่วนเก่ียวข้องในการ พฒั นาหลกั สูตร การถอดบทเรียน จุดแข็ง และจุดที่ควรปรับปรุงหลักสูตรเดิม การกาหนดเป้าหมาย
299 คณุ ภาพผู้เรียนท่ีตอบสนองการเปลี่ยนแปลงของสังคมในอนาคต การดาเนินการพัฒนาหลักสูตรที่มี ความเป็นนวัตกรรม Curriculum innovation ตอบสนองเป้าหมายคุณภาพผู้เรียน การใช้หลักสูตร แบบวจิ ยั เป็นฐานท่ีมีการประเมินและปรับปรุงอย่างต่อเนื่องตามวงจร Plan Do Check Reflection ควรมีการวัดและประเมินผล ได้แก่ การประเมินคุณภาพการจัดการเรียนรู้ของผู้สอนอย่างต่อเน่ือง การประเมนิ คุณภาพของผ้เู รยี นอย่างตอ่ เน่ือง การสะท้อนผลการประเมินและนาไปปรับปรุงหลักสูตร และการถอดบทเรยี นนวตั กรรมหลักสตู รและการเรียนรขู้ องโรงเรยี น และควรคานงึ ถึงปัจจัยสนับสนุน ได้แก่ การสนับสนุนเชิงวิชาการของผู้บริหารทั้งระดับมหาวิทยาลัย ระดับคณะ และระดับโรงเรียน Growth mindset ของบุคลากรท่ีมีต่อการพัฒนาหลักสูตรและนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ การ สนับสนุนจากชุมชน องค์กรภาครัฐ และเอกชน ทรัพยากรหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ งบประมาณในการดาเนินการ และการได้รับความร่วมมือจากผู้ปกครอง ควรมีการประเมินผลตรงกับ สภาพความเป็นจริงของนักเรียน ควรเน้นการส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมของผู้เรียน พัฒนา กิจกรรมเสริมทกั ษะของนกั เรียนด้านวชิ าการ ดา้ นอาชีพ ด้านทักษะต่างๆ ในชีวิตประจาวัน ควรเน้น การเรยี นการสอนท่ีมีการลงมือปฏิบัติที่มีความหลากหลาย และเน้นให้นักเรียนลงมือปฏิบัติจริงด้วย ตนเอง มกี ารนาแหลง่ เรยี นรูห้ รือบคุ ลากรในมหาวทิ ยาลยั เขา้ มามีส่วนร่วมในการเรียนการสอน มีการ แนะแนวใหก้ บั นักเรียนเพ่อื ใหน้ ักเรียนสามารถเลือกเรียนได้ตรงตามความต้องการและความสามารถ ของตนเอง รวมท้ังการเพิ่มทักษะต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดาเนินชีวิต เช่น ทักษะการคิดวิเคราะห์ ทักษะการแก้ปัญหา ทักษะการทางานเป็นทีม และทักษะการสื่อสาร และโรงเรียนควรดึงศักยภาพ ของผู้ปกครองมาสนับสนุนการเรียนการสอนและกิจกรรมต่างๆ ควรมีการนาหลักสูตรไปใช้ในการ จดั การเรียนการสอนในช้นั เรยี นโดยเสนอให้มีรูปแบบการเรียนการสอนเป็นของตนเอง (สาธิตเกษตร โมเดล) ซ่ึงเป็นรูปแบบการเรียนการสอนท่ีมีความเป็นเอกลักษณ์ของสาธิตเกษตร กาแพงแสน โดยเฉพาะ ทั้งนต้ี ้องมนั่ ใจได้ว่าโมเดลนั้นสามารถนาผู้เรียนไปสู่เป้าหมายสอดคล้องกับความต้องการ ของประเทศและชุมชน โดยอาจารยต์ อ้ งปรบั เปลี่ยนวธิ กี ารคดิ ปรบั เปล่ียนวิธีการสอน และในทุกภาค ส่วนท่ีเก่ียวข้องกับการจัดการเรียนการสอนจะต้องปรับเปล่ียนกระบวนการทางานท่ีต้องทาให้เด็ก บรรลุเปา้ หมายของหลักสตู รสถานศึกษา รวมถึงการบริหารจัดการของผู้บริหารจะต้องตอบสนองต่อ เป้าหมายของโมเดล ดงั นนั้ ผ้บู รหิ ารโรงเรียนต้องกล้าคดิ กลา้ ทา และกล้าปรบั เปลย่ี น 3.1.4 ดา้ นผลผลติ (Product) ปัญหาของนักเรียนที่โรงเรียนยังไม่ได้ดาเนินการ หรอื ดาเนนิ การแล้วแต่ยังไม่เป็นท่ีประจักษ์ ได้แก่ กระบวนการทางานอย่างเป็นระบบ สมรรถนะใน การสรา้ งสรรคช์ น้ิ งาน ความสามารถและคุณลักษณะของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 (7C) ตามเป้าหมาย ของหลักสูตร ความสามารถทางปัญญา 8 ด้าน (ความสามารถด้านภาษา คณิตศาสตร์ มิติสัมพันธ์ การควบคุมความคิดความรู้สึก ดนตรี มนุษย์สัมพันธ์ เข้าใจตนเอง และเข้าใจธรรมชาติ) ดังน้ัน โรงเรยี นควรใหค้ วามสาคัญกับการสรา้ งกลไกการพฒั นาผลผลิตจากหลักสตู รเพื่อให้กลมุ่ เป้าหมายของ การพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาบรรลุผลตามจุดมุ่งหมายที่เกี่ยวข้องคือ คุณลักษณะที่ดีของนักเรียน และอาจารย์ผสู้ อน กลา่ วคอื คณุ ลักษณะครทู ี่พึงประสงคข์ องโรงเรียน ควรเป็นผู้มีความรู้ และเข้าใจ นักเรียน สอนเข้าใจและเน้นให้นักเรียนได้ปฏิบัติจริง มีความรู้และความชานาญในวิชาท่ีสอน ดูแล และเอาใจใส่นักเรียนท่ัวถึง และมีจิตใจโอบอ้อมอารีกับนักเรียน มีสมรรถนะในการจัดการเรียนรู้ มี ความสามารถในการวิจัยในช้ันเรียน และมีความเอาใจใส่ในการพัฒนานักเรียน มี Passion ในการ
300 พฒั นาคณุ ภาพผ้เู รียน รกั การสอน/รักการจดั การเรียนรู้ รกั ผ้เู รียน มีความเปน็ กัลยาณมิตร เป็นบุคคล แห่งการเรียนรู้ และเปน็ นักสรา้ งสรรค์นวัตกรรมหลักสูตรและการเรียนรู้ ส่วนคุณลักษณะนักเรียนที่ พึงประสงค์ของโรงเรียน ควรเป็นผู้มีความรู้ความเข้าใจในส่ิงที่เรียน มีความรู้ความสามารถทาง วิชาการหรอื เฉพาะทาง มีทกั ษะการคิดวิเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ มที กั ษะในการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ สามารถแปลงความคิดสร้างสรรค์มาเป็นนวัตกรรมได้มีทักษะการแก้ปัญหา และทักษะด้านการใช้ ภาษาในการส่อื สาร มีความรับผดิ ชอบต่อตนเองและผู้อืน่ มีวนิ ัย มีคุณธรรม-จรยิ ธรรม มีจิตอาสา เห็น คุณค่าในตนเอง มีความเออื้ เฟ้ือเผือ่ แผแ่ ละแบ่งปัน (เมตตากรณุ า) 3.1.5 ด้านผลกระทบ (Impact) ปัญหาท่ีเป็นข้อกังวลของนักเรียนและอาจารย์ ได้แก่ ความรสู้ ึกรักและภาคภูมิใจต่อสถาบันของนักเรียน การเป็นท่ียอมรับของสถาบันการศึกษาทั้ง ในและต่างประเทศ การได้รับการยอมรับว่า “เป็นคนดีในสังคม” การเผยแพร่ผลงานวิชาการและ งานวิจัยของอาจารย์ การสร้างนวัตกรรมการเรียนการสอนของอาจารย์ผ่านกระบวนการวิจัย การ ไดร้ ับเชญิ เปน็ วทิ ยากรเพ่ือช่วยพฒั นาการจัดการเรียนรู้ให้แก่บุคลากรท้ังภายในและภายนอกสถาบัน การเผยแพรผ่ ลงานหรือใหบ้ รกิ ารวิชาการของอาจารย์ มีจานวนยังไม่ถึงคร่ึงหน่ึงของอาจารย์ทั้งหมด ของโรงเรียน ควรมีกิจกรรมท่ีส่งเสริมให้นักเรียนรู้สึกรักและภาคภูมิใจต่อสถาบัน และสนับสนุนให้ อาจารย์มีการเผยแพร่ผลงานหรือให้บริการวิชาการมากขึ้น รวมทั้งกระตุ้นให้อาจารย์ได้ใช้ความรู้ ความสามารถในการสร้างสรรค์งานและจัดกิจกรรมแลกเปล่ียนเรียนรู้รวมท้ังให้บริการวิชาการแก่ เพื่อนร่วมวิชาชีพทั้งในและนอกโรงเรียน หลักสูตรควรจัดรายวิชาเรียนในช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 6 ให้ นอ้ ยลงเพื่อให้นักเรียนมีเวลาเตรียมความพรอ้ มเขา้ มหาวิทยาลยั ไดม้ ากข้นึ 3.2 หลักสูตร English Program มีผลการศึกษาปัญหาและแนวทางการพัฒนาและ ปรับปรงุ หลักสูตรสถานศกึ ษาตามองค์ประกอบ 5 ดา้ นดงั น้ี 3.2.1 ด้านบริบท (Context) ปัญหาของหลักสูตรสถานศึกษาด้านบริบท พบ เชน่ เดยี วกบั หลกั สตู รปกติ คือ ตวั ช้ีวัดบางขอ้ วัดได้ยาก ตัวชีว้ ดั ท่ีปรับปรุงใหม่แล้วยังมีจานวนมาก ครู วิทยาศาสตร์ไม่สามารถสอนบูรณาการ STEM ตามที่หลักสูตรกาหนดแนวทางไว้ได้ โครงสร้างเวลา เรียนในระดับประถมศึกษาและระดับมัธยมศึกษา มีการกาหนดเวลาเรียนจานวนมาก ทาให้ สถานศึกษาไม่สามารถจัดรายวิชาเรียนตามจุดเน้นได้เท่าท่ีควร การนาหลักสูตรไปใช้ โดยครูยังไม่ สามารถพัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้ไปถึงเป้าหมายของผู้เรียนในศตวรรษท่ี 21 ได้ครบถ้วน ซึ่งเกิดจาก ความไม่พรอ้ มในการปฏิบตั ิหน้าที่ ไมเ่ ข้าใจหลักสูตร และจัดการเรียนการสอนและประเมินผลไม่ตรง ตามมาตรฐาน/ตวั ช้วี ัด ไมม่ เี ครอ่ื งมือสะท้อนผลลัพธก์ ารบรรลุเปา้ หมายในการพัฒนาคุณภาพนักเรียน นักเรียนควรได้รับการพัฒนาทักษะที่จาเป็นต่อการนาไปใช้ศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยมากกว่า แรงกดดันจากครอบครัว และสังคม ทาให้พัฒนาการตามวัยและคุณธรรมจริยธรรมลดลง ความ หลากหลายของรายวิชา/กิจกรรม และความยืดหยุ่นของหลักสูตรท่ีตอบสนองความต้องการและ ความสามารถพิเศษของนักเรยี นมนี ้อยเนือ่ งจากหลกั สตู รแกนกลางเน้นที่ความรพู้ ืน้ ฐานตามมาตรฐาน และตัวชี้วัดที่มีจานวนมาก การกาหนดกรอบแนวคิดยังไม่ชัดเจน เป้าหมายของหลักสูตรยังไม่มี กระบวนการหรือเคร่ืองมือในการวัดและประเมินผลที่สะท้อนถึงการบรรลุเป้าหมายของหลักสูตร จดุ เน้นของหลกั สูตรยงั ไม่ชดั เจนและเพยี งพอ การนาหลักสูตรสู่ชั้นเรียน อาจารย์ผู้สอนส่วนหน่ึงอาจ ยงั ไมท่ ราบถงึ เป้าหมายสาคัญของหลกั สตู รทั้งในภาพรวมของโรงเรียน และหลักสูตรเฉพาะกลุ่มสาระ
301 การเรียนรู้ การจัดการเรียนการสอนมีลักษณะเป็นแบบแยกส่วน ยังไม่มีการบูรณาการระหว่างกลุ่ม สาระการเรียนรู้ อาจารย์ผู้สอนบางส่วนยังขาดความเข้าใจเกี่ยวกับหลักสูตรของโรงเรียน ส่วนใหญ่ จดั การเรยี นการสอนโดยยึดเนือ้ หาเป็นหลัก แม้วา่ หลักสูตรจะมีการกาหนดเป้าหมายที่ชัดเจนแล้วแต่ ยังไม่มีวิธีการที่จะทาให้ทราบถึงการบรรลุเป้าหมายคุณภาพนักเรียนตามท่ีหลักสูตรกาหนด ปัญหา ด้านหลักสูตรมีประเด็นท่ีเป็นข้อกังวลเพ่ิมเติม คือ ความเหมาะสมของเน้ือหาสาระท่ีเรียนแต่ละ รายวิชาในภาพรวม นักเรียนควรสามารถนาไปใช้ได้จริงในชีวิตประจาวัน การส่งเสริมให้นักเรียน สามารถแสวงหาและสร้างความรู้ด้วยตนเอง นักเรียนไม่สามารถเรียนรู้ได้และอาจจะฟังอาจารย์ไม่ เข้าใจบ้างในบางช่วงของการเรียนในระยะแรก ๆ หลักสูตร EP ท่ีเปิดสอนในปัจจุบัน นักเรียนส่วน ใหญ่มีผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นกอ่ นเข้ามาเรยี นอยู่ในระดับปานกลางถึงต่า ซึ่งเป็นปัจจัยสาคัญต่อการ ออกแบบหลักสูตรให้เหมาะสม ส่วนปัญหาด้านรายวิชา (พื้นฐานและเพ่ิมเติม) และกิจกรรมพัฒนา ผู้เรียน คือ การส่งเสริมให้นักเรียนมีสมรรถนะในการเป็นพลเมืองท่ีเข้มแข็ง มีความสามารถในการ สื่อสาร การคิด การแก้ปัญหา การใช้ทักษะชีวิต และการใช้เทคโนโลยี มีบุคลิกภาพท่ีดีในด้านการ เรียนรอู้ ยา่ งมคี วามสุข การเป็นที่ยอมรับของผู้อื่น การช่วยเหลือ โอบอ้อมอารี ส่ือสาร และใฝ่เรียนรู้ สงิ่ ใหม่ ๆ แนวทางการพัฒนาและปรับปรุงหลักสูตรสถานศึกษาด้านบริบท คือ ควรปรับ ข้อความตัวชี้วัดท่ีเน้นพฤติกรรมท่ีนักเรียนแสดงออกได้อย่างชัดเจน ควรปรับลดจานวนตัวชี้วัดให้ เหลือเท่าที่จาเป็นท่ีสามารถสะท้อนความรู้ ทักษะ และคุณลักษณะที่จาเป็นของนักเรียนในชีวิตจริง และควรปรบั การเรียนการสอนในวิชาหน้าที่พลเมอื งในรูปแบบบูรณาการกับรายวิชาอื่น โรงเรียนควร บรหิ ารให้ครผู ู้สอนสามารถสอนบรู ณาการ STEM ได้ ควรมีการแนะนาการเลือกสื่อ หรือหนังสือเรียน ให้เหมาะสมกับวัยของนักเรียน หลักสูตรแกนกลางฯควรปรับสัดส่วนให้สถานศึกษาสามารถจัด รายวชิ าเรยี นตามจุดเน้นได้มากข้ึน ควรใหส้ ถานศกึ ษามีอสิ ระในการออกแบบหลักสูตรได้อย่างแท้จริง หลักสูตรควรตอบสนองนักเรยี นแต่ละคน และควรมีรูปแบบการประเมินท่ีหลากหลายและเน้นความ แตกตา่ งระหว่างบุคคล ควรสร้างแรงจูงใจให้ครูได้รับการพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้และการ ประเมินผลทีส่ ่งเสรมิ ทักษะผเู้ รียนในศตวรรษที่ 21 ได้ และพัฒนาเคร่ืองมือประเมินที่สะท้อนผลลัพธ์ การบรรลุเป้าหมายของหลักสูตร ควรทาความเข้าใจหลักสูตรและกระบวนการพัฒนานักเรียนตาม เป้าหมายให้ชัดเจนร่วมกัน นาหลักสูตรไปใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของสถานศึกษา มีการติดตามผล การใช้หลักสูตรอย่างเป็นระบบ และนาผลการประเมินหลักสูตรไปใช้ในการจัดทาแผนพัฒนา สถานศึกษา โรงเรียนและครอบครัวควรให้ความสาคัญกับการดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจของ นักเรียนทอี่ ยใู่ นยุคการเปลีย่ นแปลงแบบหักศอก (Disruption) แนะนาให้นักเรียนได้ปรับตัวและกล้า ยอมรับความเปลีย่ นแปลงท่ีเกดิ ขึน้ เอกสารหลักสูตรและคู่มือการวัดและประเมินผลควรรวมเป็นเล่ม เดยี วกัน และให้มอี งคป์ ระกอบครบถว้ นเพียงพอทจ่ี ะนาไปใช้ปฏิบตั ไิ ดจ้ ริงในชั้นเรียน ควรเพิ่มจุดเน้น และความโดดเดน่ ของโรงเรียนใหเ้ ด่นชดั กวา่ ทป่ี รากฏอยูใ่ นหลักสตู ร ควรกาหนดให้มีการเลือกวิธีหรือ รูปแบบการจัดการเรียนการสอนและการประเมินผลท่ีเหมาะสมเพื่อให้นักเรียนบรรลุเป้าหมาย คุณภาพผู้เรียนตามที่หลักสูตรกาหนด ควรมีระบบการบริหารจัดการหลักสูตรรายวิชา โดยควรให้มี การปรับปรุงรูปแบบการเรียนการสอนและการวัดและประเมินผลให้มีความชัดเจนในแนวทางการ ปฏิบัติและมีความต่อเน่ืองของสาระที่ใช้ในการจัดกิจกรรม ควรพิจารณาปรับรายวิชาให้เหมาะสม
302 และบริหารจัดการผู้สอนเพ่ือเพ่ิมประสบการณ์ให้นักเรียนในระดับมัธยมศึกษา ควรให้อาจารย์ผู้สอน ทุกท่านโดยเฉพาะอาจารย์ใหม่ของโรงเรียนได้ตระหนักถึงความจาเป็นท่ีจะต้องรับรู้และทาความ เข้าใจหลกั สตู รของโรงเรียนให้ชัดเจน และสามารถนาหลักสูตรไปใช้ในการออกแบบและจัดการเรียน การสอนให้บรรลุเป้าหมายคุณภาพผู้เรียนในศตวรรษท่ี 21 ได้ ดังน้ันควรต้องมีการกาหนด กระบวนการในการนาหลักสูตรสู่ช้ันเรียนให้ชัดเจน มีระบบพ่ีเล้ียงสาหรับอาจารย์ใหม่ของโรงเรียน และมกี ารนิเทศ ติดตาม และช่วยเหลือเพ่ือการพัฒนาวิชาชีพ นอกจากนี้ควรให้อาจารย์ผู้สอนมีการ วิเคราะห์สาระ มาตรฐาน/ตัวชี้วัด เพ่ือจัดลาดับความสาคัญของเน้ือหาสาระในกรณีที่ต้องมีการต่อ ยอดความรู้ข้ามศาสตร์เพ่อื ให้นักเรยี นมคี วามรพู้ น้ื ฐานเพียงพอสาหรับการศึกษาในเรื่องท่ีซับซ้อนมาก ขึ้นหรือในระดับช้ันเรียนท่ีสูงขึ้นได้ นอกจากนี้ควรพัฒนาความพร้อมของบุคลากร อาจารย์ผู้สอน สถานที่ และแหลง่ เรยี นร้ตู ่างๆ ในโรงเรยี น และพัฒนาภาวะผู้นาให้แก่นักเรียน และควรเพ่ิมการดูแล นกั เรียนให้ปฏบิ ัติตามระเบยี บของโรงเรยี นมากขน้ึ 3.2.2 ด้านปัจจัยนาเข้า (Input) ปัญหาของหลักสูตรสถานศึกษาด้านปัจจัย นาเขา้ มีขอ้ ที่กังวลคอื ความชัดเจนของคณุ สมบตั อิ าจารย์ผู้สอนนักเรยี นหลักสูตร EP ความพร้อมของ เจ้าหน้าท่ีในการให้บริการ สนับสนุน และอานวยความสะดวกเพื่อการบรรลุเป้าหมายของงาน อาจารย์ผสู้ อนไดส้ อนในรายวิชาที่ตรงกับความเชี่ยวชาญ ความรู้ความสามารถ ความเชี่ยวชาญ และ ประสบการณ์ของอาจารย์ผู้สอน ด้านเอกสาร ส่ือ เทคโนโลยี และส่ิงสนับสนุนที่เอ้ือต่อการเรียนรู้ เรื่องการมีกจิ กรรมกับเพือ่ นต่างโรงเรยี นหรือบุคคลภายนอกเพ่ือแลกเปล่ียนประสบการณ์การเรียนรู้ ซ่ึงกันและกัน แนวทางการพัฒนาและปรับปรุง คือ ห้องเรียนควรมีสภาพท่ีเอ้ือต่อการเรียนรู้ ควรมี ห้องบริการสืบค้นข้อมูลด้วยระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เหมาะสมและทันสมัย ควรมีกิจกรรม แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับชุมชน และชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาของโรงเรียน หนังสือและสื่อ วัสดุอุปกรณ์ที่นักเรียนใช้เรียนยังไม่ค่อยมีใช้ประกอบการเรียน นักเรียนควรได้รับความสาคัญจาก โรงเรียนมากขึ้น เนื่องจากข่าวสารข้อมูลหรือกิจกรรมต่างๆ ของโรงเรียนมักรับรู้ได้ช้ากว่านักเรียน หลกั สตู รปกติ ควรมกี ารคัดเลอื กนักเรยี น EP อย่างละเอียดเพ่ือให้ได้ผู้เรียนที่มีความพร้อมและความ สนใจในหลกั สตู รน้อี ยา่ งแทจ้ รงิ ควรพิจารณาคณุ สมบัตขิ องอาจารย์ผู้สอนที่มีความเข้าใจ ใส่ใจในการ ดูแลนกั เรียน และส่ือสารกับนักเรียนด้วยภาษาสุภาพ และเห็นว่าไม่จาเป็นต้องให้ผู้ปกครองเข้ามามี สว่ นร่วมในการจดั การศกึ ษาของโรงเรยี นเพราะนกั เรยี นคดิ ว่าตนเองควรมีอิสระในการเลือกเรียนและ รับผิดชอบด้วยตนเองได้ ควรเพ่ิมแหล่งเรียนรู้ต่างๆ ในโรงเรียน ควรมีการกาหนดเป้าหมายของ นักเรียนหลักสูตร EP ให้ชัดเจนว่าแตกต่างจากหลักสูตรปกติของโรงเรียนอย่างไร ความพร้อมของ อาจารยผ์ ้สู อน เชน่ ความสามารถในการสอน คณุ ลกั ษณะท่ีเปน็ มติ รของอาจารยผ์ ู้สอน คุณสมบัติของ อาจารย์ชาวต่างชาติที่สอน และความกระตือรือร้นในการเรียนรู้ของนักเรียนด้วย ผู้ปกครองยินดีมา เข้าร่วมหรือช่วยจัดกิจกรรมให้นักเรียน เพราะบางท่านมีความสามารถท่ีเหมาะสมกับกิจกรรมของ นักเรยี นหลักสตู ร EP บางท่านกอ็ าจมคี วามชานาญท่ีสอดคล้องกับกิจกรรมพอดี และโรงเรียนอาจจัด หลกั สตู รทใี่ ห้ผปู้ กครองไดพ้ ัฒนาด้านภาษาอังกฤษเพอื่ ใช้ในการพูดส่อื สารเพ่ือจะได้สามารถพูดคุยกับ ลูกเป็นภาษาอังกฤษท่ีบ้านได้ด้วย ปัจจัยสาคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนการนาหลักสูตรไปใช้ คือ ความสามารถของอาจารย์ในการใช้ส่ือ เทคโนโลยี และแหล่งเรียนรู้ ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้
303 มากข้นึ ในแต่ละรายวชิ า และถ้านักเรียนเป็นผู้ท่ีมีความพร้อมและสนใจด้านภาษาจริง ๆ เข้ามาเรียน จะชว่ ยให้นักเรียนได้เรยี นรู้ได้ดีและรวดเร็วมากข้ึน ดังน้นั แนวทางในการดาเนนิ การให้เกดิ ประสิทธิผล สูงสดุ ต่อนักเรยี น ควรตอ้ งเก่ียวข้องกับการบริหารจัดการอาจารย์ผู้สอน ให้มีความสามารถในการจัด กิจกรรมการเรยี นรโู้ ดยเนน้ การใช้สื่อ เทคโนโลยี และแหล่งเรียนรู้ นอกจากน้ีควรเชิญผู้ปกครอง และ ชุมชนเขา้ มามีส่วนร่วมในการจดั การศกึ ษาในกจิ กรรมพเิ ศษของโรงเรยี น เชน่ กจิ กรรมชมรม กิจกรรม ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ หรืออาจเชิญมาช่วยจัดกิจกรรมในรายวิชาเพื่อสร้างแรงจูงใจและเป็น ต้นแบบทางวิชาชีพให้แก่นักเรียน ปัจจัยสาคัญท่ีจะช่วยขับเคล่ือนการนาหลักสูตรสถานศึกษาสู่ชั้น เรยี น คอื การสร้างความเขา้ ใจในการจัดการเรียนรู้ร่วมกัน และการมีเจตคติท่ีดีต่อหลักสูตร นักเรียน อาจารย์ และผู้บริหาร ตอ้ งมคี วามร้คู วามเข้าใจเรื่องการนาหลักสูตรสู่ชั้นเรียน เน่ืองจากเป็นการสอน โดยอาจารย์ชาวตา่ งชาติเป็นหลกั ดงั นน้ั โรงเรียนควรมกี ารบรหิ ารจดั การความร้ทู ่เี ป็นระบบโดยมีการ แลกเปล่ยี นเพอื่ การพัฒนาการเรยี นการสอนอย่างต่อเนือ่ ง มรี ะบบการชว่ ยเหลือทุกฝา่ ยท่เี กย่ี วข้องกับ การพัฒนานักเรียน การส่งเสริมให้นักเรียนได้มองเห็นเส้นทางในอนาคตของตนเองหรือการค้นพบ ตนเองรวมท้ังการเห็นคุณค่าของตนเองจะเป็นแรงจูงใจที่ดีสาหรับการเรียนในระดับมัธยมศึกษา ตอนต้นเพ่ือกา้ วสู่การเรียนในระดับท่ีสูงขึ้น ควรเปิดโอกาสให้ผู้ปกครองและชุมชน เข้ามามีส่วนร่วม โดยโรงเรียนสามารถใชจ้ ุดแขง็ ของผปู้ กครอง ชมุ ชน มาสร้างสรรค์นวัตกรรมหลักสูตรและการจัดการ เรียนรู้ การมีส่วนร่วมในการออกแบบหลักสูตร การออกแบบการวัดผลการเรียนรู้ การเป็นครูภูมิ ปญั ญาให้กับนักเรียน การเป็นแหล่งเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ และการมีส่วนร่วมในการสะท้อนคุณภาพ ผู้เรียน ควรส่งเสริมการทากิจกรรมร่วมกันเพ่ือแลกเปล่ียนประสบการณ์ระหว่างโรงเรียน ควรมี กิจกรรมให้ผู้ปกครองหรือชุมชนมีส่วนร่วมกับนักเรียน ควรมีหนังสือเรียน สื่อ-อุปกรณ์การสอนทุก ประเภทและหลากหลายท่ีจะช่วยให้นักเรียนมีความเข้าใจและนาไปใช้ได้จริง รวมท้ังวัสดุอุปกรณ์ ประกอบการเรียนให้เพียงพอ ข้อเสนอแนะเพ่ิมเติมด้านปัจจัยนาเข้า คือ 1) To produce a much better learning environment, the school “MUST” have a strict implementing “Policy” with regards to the use “Mobile Phones”. Mobile phones are useful BUT in most cases they are very disruptive to students especially during the teaching and learning situation. 2) Innovating enough to support both instructors & Learners. และ3) The availability of learning materials and resources is more than appropriate but the challenge is on the management of these resources to make if more accessible. 3.2.3 ด้านกระบวนการ (Process) ปัญหาของหลักสูตรสถานศึกษาด้าน กระบวนการ ทค่ี วรไดร้ บั การแก้ไขและปรบั ปรุงในประเดน็ เกย่ี วกับกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนควรสะท้อน ความสามารถและความถนดั ของนักเรียนและควรมีความหลากหลายเพื่อให้นักเรียนได้ค้นพบตนเอง กิจกรรมการเรียนรู้ควรเน้นให้นักเรียนได้คิดวิเคราะห์และลงมือปฏิบัติจริง ด้านการบริหารจัดการ หลกั สูตรโรงเรียนควรมที ิศทางการพัฒนานกั เรียนหลักสตู ร EP ท่ชี ดั เจน ควรเพ่มิ ความเขม้ ข้นของการ ให้บริการแนะแนวตามเวลาที่นักเรียนว่างจากการเรียน ทุกรายวิชาควรให้นักเรียนได้เรียนรู้จากการ ทาจรงิ จะได้เขา้ ใจและจาได้ ควรมีชมรมให้นักเรยี นเลอื กเรยี นหลากหลายมากข้ึน หรืออาจให้นักเรียน เปิดชมรมเองตามท่ีสนใจ ควรให้ความสาคัญกับนักเรียน EP มากข้ึน และพัฒนานักเรียน EP ให้มี ความเป็นผู้นา โรงเรยี นควรพฒั นาส่งิ อานวยความสะดวกและเทคโนโลยที ่จี าเปน็ ต้องใชใ้ นการเรียน ท่ี
304 นง่ั พักผ่อนของนักเรียนท่เี พยี งพอ ให้ความสาคัญและจัดกิจกรรมให้นักเรียน EP ได้แสดงออกบนเวที มากขึ้น และให้นักเรียนสามารถใช้โทรศัพท์ท่ีโรงเรียนได้อิสระมากขึ้นเน่ืองจากบางคร้ังจาเป็นต้อง ค้นคว้าจาก Website เพื่อทางานส่งอาจารย์ให้ทัน ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม คือ 1) Harbor a more inclusive network of educators by allowing maternal and resources to be more accessible. 2) Support teachers’ innovative ideas and give then where they can showcase their innovations and evaluate the output. 3) To produce a much better learning environment, the school “MUST” have a strict implement policy with rebounds to the use of Mobile phones. Mobile phones are useful but in most cases they are very disruptive to student especially diving the teaching and vitiation. 4) Require and train teachers to facilitate at least one class in blended learning mode. Teachers’ knowledge in LMS can come in handy as an existing structure of the school’s contingence plan. (blended-learning classroom through computer-assisted learning/internet assisted learning using LMS) นอกจากน้ีโรงเรียนควรมี “รูปแบบการพัฒนา หลักสูตร” ที่มีเป้าหมายให้นักเรียนหลักสูตร EP มีความม่ันใจในการพูดภาษาอังกฤษอย่างเป็น ธรรมชาติ ไม่เขินอาย และสามารถอ่านเขียนได้เพ่ือเป็นพ้ืนฐานในการศึกษาต่อของนักเรียน และให้ ผู้ปกครองได้เห็นพัฒนาการด้านภาษาของนักเรียนได้ชัดเจน ควรพัฒนาหลักสูตรเพื่อส่งเสริม สมรรถนะของผ้เู รียน ทีเ่ นน้ ให้ผู้เรียนเกิดทักษะท้ัง Hard Skills และ Soft Skills ทักษะการคิดขั้นสูง ได้แก่ คิดวิเคราะห์ สามารถแก้ปัญหาที่ซับซ้อน และสร้างสรรค์นวัตกรรมได้ สามารถเรียนรู้ด้วย ตนเอง มคี วามสามารถในการวิพากษ์และวิจารณ์ สามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงได้ มีความ ฉลาดทางอารมณ์ และมีภาวะความเป็นผู้นา รูปแบบการพัฒนาหลักสูตรของโรงเรียนควร ประกอบด้วย 1) หลักการ คือ ให้ความสาคัญกับ Growth mindset ในการพัฒนาหลักสูตรท่ี คณะกรรมการพฒั นาหลักสูตร และบุคลากรทกุ ฝา่ ยมีส่วนร่วมในการพัฒนาหลักสูตรท่ีให้ความสาคัญ กับคณุ ภาพผเู้ รยี นดา้ นตา่ งๆ และพฒั นาหลักสูตรใหต้ อบสนองธรรมชาติและความต้องการของผู้เรียน ในลักษณะ Personalized learning และใช้ Technology เป็น Platform ของการเรียนรู้ ร่วมกับ การเรียนรู้แบบ Creative Team Learning 2) วัตถุประสงค์ คือ เพื่อพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาท่ี ตอบสนองธรรมชาติและความต้องการของผู้เรียน เสริมสร้างคุณภาพผู้เรียนแบบบูรณาการ เพื่อ พัฒนานวัตกรรมการเรยี นรู้ท่สี อดคลอ้ งกบั ผเู้ รียน และเพื่อพัฒนาชุมชน ผู้นานวัตกรรมหลักสูตร และ การเรยี นรูข้ องครใู นโรงเรียน 3) กระบวนการ โดยการกระตุ้น Growth mindset และ Passion ของ ผู้มีสว่ นเกย่ี วข้องในการพฒั นาหลกั สตู ร การถอดบทเรยี น จุดแข็ง และจุดท่ีควรปรับปรุงหลักสูตรเดิม การกาหนดเปา้ หมายคุณภาพผู้เรียนทต่ี อบสนองการเปลยี่ นแปลงของสงั คมในอนาคต การดาเนินการ พัฒนาหลักสูตรที่มีความเป็นนวัตกรรม Curriculum innovation ตอบสนองเป้าหมายคุณภาพ ผู้เรียน การใช้หลักสูตรแบบวิจัยเป็นฐานที่มีการประเมินและปรับปรุงอย่างต่อเนื่องตามวงจร Plan Do Check Reflection 4) การวัดและประเมินผล โดยการประเมินคุณภาพการจัดการเรียนรู้ของ ผู้สอนอย่างต่อเนื่อง การประเมินคุณภาพของผู้เรียนอย่างต่อเน่ือง การสะท้อนผลการประเมินและ นาไปปรับปรุงหลักสตู ร และการถอดบทเรียนนวัตกรรมหลักสูตรและการเรียนรู้ของโรงเรียน และ5) ปจั จยั สนบั สนนุ ไดแ้ ก่ การสนับสนุนเชิงวิชาการของผู้บริหารทั้งระดับมหาวิทยาลัย ระดับคณะ และ
305 ระดับโรงเรียน Growth mindset ของบุคลากรท่ีมีต่อการพัฒนาหลักสูตรและนวัตกรรมการจัดการ เรยี นรู้ การสนับสนนุ จากชมุ ชน องคก์ รภาครฐั และเอกชน ทรัพยากรหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ งบประมาณในการดาเนินการ และการได้รบั ความรว่ มมอื จากผู้ปกครอง 3.2.4 ด้านผลผลิต (Product) ปัญหาและแนวทางการพัฒนาและปรับปรุง หลักสูตรสถานศึกษาด้านผลผลิต ประกอบด้วยประเด็นเก่ียวกับ ความสามารถตามคุณลักษณะของ ผู้เรียนในศตวรรษท่ี 21 ตามเป้าหมายของหลักสูตร ความมุ่งมั่นในการเรียน การทางาน และกล้า แสดงออกในทางท่ถี ูกต้องเหมาะสม การมีบุคลิกภาพท่ีดีตามเป้าหมายของหลักสูตรในด้านการเรียนรู้ อยา่ งมคี วามสุข การเปน็ ทย่ี อมรับของผู้อ่ืน การช่วยเหลือ โอบอ้อมอารี ส่ือสาร และใฝ่เรียนรู้ส่ิงใหม่ นอกจากน้ีพบว่า คณุ ลักษณะของครูทพ่ี งึ ประสงค์ของโรงเรียน ควรเป็นบุคคลที่สอนเก่ง ดูแลเอาใจ ใส่ มเี หตผุ ล มีความยตุ ิธรรม รักการเรียนรู้ มีทักษะการปรับตัวเพ่ือรองรับการเปล่ียนแปลง มีทักษะ ด้านการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม มีคุณธรรมจริยธรรมและมีจิตอาสา มีความพร้อมในการพัฒนา วชิ าชีพให้ทนั สมยั อยู่เสมอ ใจกวา้ ง มีภาวะผ้นู า มปี ฏสิ ัมพนั ธท์ ด่ี แี ละเออ้ื เฟ้อื เผื่อแผ่ สาหรับนักเรียนที่ พึงประสงค์ของโรงเรียน ควรมีความรับผิดชอบ เข้าใจตนเองและผู้อ่ืน กล้าแสดงออกในส่ิงที่ดี มีจิต อาสา ปฏิบตั ติ นตามระเบียบของโรงเรียน มีเหตุผล มีความกตัญญู อดทน เข้มแข็ง เป็นนักคิด รู้จัก แสวงหาความรู้อยู่เสมอ มีทักษะในการทางานเป็นทีม มีทักษะในการสื่อสาร มีความสามารถในการ เลอื กใช้เทคโนโลยใี หเ้ กดิ ประโยชน์ และรกั การเรยี นรตู้ ลอดชวี ิต 3.2.5 ด้านผลกระทบ (Impact) ปัญหาและแนวทางการพัฒนาและปรับปรุง หลกั สูตรสถานศึกษาในประเด็นเร่อื ง ความรู้สึกรักและภาคภูมิใจต่อสถาบันของนักเรียน โรงเรียนยัง ไม่มีหลกั สูตร EP ให้นักเรียนศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จึงจาเป็นต้องเลือกเรียนเท่าท่ี โรงเรียนเปิดสอน ในขณะทีม่ ีนกั เรียนบางคนไม่ต้องการท่ีจะเรียนต่อในหลักสูตร EP เพราะรู้สึกว่าไม่ ถนัดดา้ นภาษา การเผยแพร่ผลงานหรือให้บริการวิชาการของอาจารย์มีจานวนยังไม่ถึงคร่ึงหน่ึงของ อาจารย์ทั้งหมดในโรงเรียน ดังนั้นหลักสูตรสถานศึกษาฯ ควรมีการต่อยอดหลักสูตรโดยควรให้ นักเรียนมีทางเลือกในแผนการเรียนที่ตรงกับความต้องการและความถนัดของนักเรียนแต่ละคน โรงเรยี นควรมกี ิจกรรมทใี่ ห้รุ่นพรี่ ุ่นน้องได้ทากจิ กรรมรว่ มกันมากขึ้นเพื่อสร้างความคุ้นเคย นอกจากน้ี มีข้อเสนอแนะเพิ่มเติมด้านผลกระทบ คือ 1) Support teachers’ innovative approach and encourage teachers to be more innovative in dealing with their teaching and instructions to develop more productive individuals. 2) Support teachers’ innovative ideas and give them a venue where they can showcase their innovations and evaluate the output. และ3) Support and encourage foreign employees to participate and contribute in instructional innovation through academic research. หลักสูตร สถานศึกษาสามารถพัฒนานักเรียนได้ตรงตามความต้องการของมหาวิทยาลัยที่จะรับนักเรียนเข้า ศึกษาต่อ และนกั เรียนม.3 ของหลักสูตร EP เรียนต่อในชั้นม.4 ของโรงเรียน โดยมีการเลือกเรียนใน แผนการเรียนท่ีแตกต่างกันไป โรงเรียนควรสร้างแรงจูงใจให้อาจารย์ได้เห็นความสาคัญของการ พัฒนาการสอนและทาวิจัย และส่งเสริมให้มีเผยแพร่ผลการวิจัยให้เป็นที่ประจักษ์ อาจารย์ควรมีการ พฒั นางานแบบ Routine to Research โดยทาการสอนควบคู่กับการทาวิจัยไปพร้อมๆกัน เพื่อผลิต และเผยแพร่ผลงานโดยสามารถเขียนบทความวิจัยและเผยแพร่ผ่านวารสารต่างๆ ได้ หรืออาจเลือก
306 การนาเสนอผลงานในงานสมั มนาทางวิชาการท้ังในระดับชาติและนานาชาติ เพ่ือใช้ในการทาผลงาน ทางวิชาการของตนเองได้ โรงเรียนควรส่งเสริมและสนับสนุนให้อาจารย์มีการเผยแพร่ผลงาน และ กระตุ้นใหอ้ าจารยไ์ ดใ้ ช้ความรู้ความสามารถในการสร้างสรรค์งานและจัดกิจกรรมแลกเปล่ียนเรียนรู้ รวมทัง้ ใหบ้ รกิ ารวิชาการแกเ่ พื่อนรว่ มวิชาชีพทงั้ ในและนอกโรงเรยี นมากขึ้น อภิปรายผลการวิจัย ผลจากการประเมินหลักสูตรโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขต กาแพงแสน ศนู ย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ.2560)” ในครงั้ นี้ มปี ระเด็นท่คี ณะผวู้ จิ ยั นามาอภิปรายผล 3 ข้อหลักดงั นี้ 1. จากผลการศกึ ษาสภาพปญั หาของหลักสตู รสถานศึกษาในปัจจุบัน และความต้องการ ประเมินหลักสูตรสถานศึกษา สาหรับหลักสูตรปกติท่ีพบว่า หลักสูตรสถานศึกษาท่ีพัฒนาข้ึนตาม กรอบหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) มีความ ครบถว้ นและสมบูรณ์ สามารถรายงานผลการศกึ ษาของนกั เรยี นได้ตามทก่ี ระทรวงศึกษาธิการกาหนด ทกุ ประเดน็ มแี นวทางใหค้ รูไดน้ าไปกาหนดเนอ้ื หาสาระท่ีใช้ในการจดั การเรยี นการสอน แตม่ ีสิ่งที่ควร แกไ้ ข/ปรับปรงุ คือ ตวั ชวี้ ัดบางขอ้ วัดได้ยาก ควรปรบั ขอ้ ความเน้นเปน็ พฤตกิ รรมท่ีนกั เรยี นแสดงออก ได้ชัดเจน เปา้ หมายของหลกั สตู รยงั ไมม่ กี ระบวนการหรือเคร่อื งมอื ในการวัดและประเมินผลที่สะท้อน ถึงการบรรลุเป้าหมายของหลักสูตร จุดเน้นของหลักสูตรยังไม่ชัดเจนและเพียงพอ การนาหลักสูตรสู่ ช้ันเรยี นควรต้องสร้างความเข้าใจร่วมกัน ขาดการบริหารจัดการรายวิชาบูรณาการ ในระดับประถม ศึกษาควรจดั ใหม้ ีการเรียนการสอนรายวิชาภาษาจีน และในระดับมัธยมศึกษาควรมีอาจารย์พิเศษมา ให้ความรู้และประสบการณ์กับนักเรียน และสภาพปัญหาของหลักสูตรสถานศึกษาที่ควรต้องเร่ง แก้ไขปรับปรุงและพัฒนาคือ การนาหลักสูตรไปใช้โดยครูไม่สามารถพัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้ไปถึง เป้าหมายของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 ได้ครบถ้วน ซึ่งเกิดจากความไม่พร้อมในการปฏิบัติหน้าท่ี ไม่ เขา้ ใจหลักสตู ร การจดั การเรียนการสอนและประเมินผลไม่ตรงตามมาตรฐาน/ตัวช้ีวัด การเรียนการ สอนยึดเนื้อหาเป็นหลักและไม่มีวิธีการท่ีจะทาให้ทราบว่าคุณภาพนักเรียนบรรลุเป้าหมายตามท่ี หลักสูตรแต่ละระดับการศึกษากาหนด ท้ังน้ีอาจเป็นเพราะว่าหลักสูตรสถานศึกษาท่ีพัฒนาข้ึนตาม กรอบหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ได้รับ การปรับปรุงและพัฒนาโดยมีกรอบในการปรับปรุงหลักสูตรให้มีองค์ความรู้ท่ีเป็นสากลเทียบเท่า นานาชาติปรับมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดให้มีความชัดเจน ลดความซ้าซ้อนสอดคล้องและ เชอื่ มโยงกนั ภายในกลุม่ สาระการเรยี นรูแ้ ละระหว่างกลุ่มสาระการเรยี นรู้ตลอดจนจัดเรียงลาดับความ ยากง่ายของเน้ือหาในแต่ละระดับช้ันตามพัฒนาการแต่ละช่วงวัยให้มีความเชื่อมโยงความรู้และ กระบวนการเรียนรู้โดยให้เรียนรู้ผ่านการปฏิบัติที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนพัฒนาความคิดโดยมีสาระสาคัญ ของการปรับปรุงหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์โดยจัดกลุ่มความรู้ใหม่ และนาทักษะกระบวนการไปบูรณาการกับตัวช้ีวัด ทาให้ผู้เรียนได้พัฒนาการคิดวิเคราะห์ คิด แก้ปัญหา และมีทักษะในศตวรรษที่ 21 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 กาหนดมาตรฐานการเรียนรู้ และตัวช้ีวัดเฉพาะเจาะจง กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ได้เพ่ิมสาระเทคโนโลยี ได้แก่ การ
307 ออกแบบ เทคโนโลยี และวิทยาการคานวณเพ่ือเอ้ือต่อการจัดการเรียนรู้ บูรณาการสาระทาง คณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี กับกระบวนการเชิงวิศวกรรมตามแนวคิดสะเต็มศึกษา จึง ทาให้หลักสูตรแกนกลางมีความครบถ้วนและสมบูรณ์มากขึ้นช่วยให้ครูได้มีแนวทางนาไปกาหนด เนอ้ื หาสาระทีใ่ ช้ในการจดั การเรียนการสอน อย่างไรก็ตามผู้บริหารโรงเรียนและครูยังเห็นสอดคล้อง กันว่าจานวนตัวช้ีวัดยังมากอยู่และบางข้อวัดพฤติกรรมผู้เรียนได้ยาก หลักสูตรสถานศึกษายังไม่ได้ ระบจุ ดุ เนน้ ที่ชัดเจน ความสามารถของครูในการนาหลักสูตรสู่การปฏิบัติในชั้นเรียนอาจมีไม่เพียงพอ ไม่สามารถช่วยให้ผู้เรียนมีทักษะในศตวรรษท่ี 21 การจัดการเรียนการสอนยังเน้นการบรรยายตาม หนังสือเรียนเป็นส่วนใหญ่ ไม่เน้นการออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ และไม่เน้นการลงมือปฏิบัติจริง การวัดและประเมินผลยังไม่สามารถสะท้อนความรู้ความสามารถและคุณลักษณะตามตัวช้ีวัดได้ ซ่ึง อาจเกิดจากความไมเ่ ขา้ ใจหรือความเข้าใจท่คี ลาดเคลอื่ นของครูในการนาหลักสูตรไปใช้ โรงเรียนอาจ ขาดการบรหิ ารจดั การหลักสูตรทด่ี ี ไมม่ ีระบบการนเิ ทศตดิ ตามให้ความช่วยเหลือหรือแนะนาท่ีชัดเจน ตามความต้องการของครู ซึง่ สอดคล้องกบั งานวิจัยของ มาเรยี ม นลิ พันธ์ุ และคณะ (2556: 191-192) เร่ือง การประเมินผลการใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ในโรงเรียน ต้นแบบการใช้หลกั สูตร ท่พี บวา่ ผลการประเมินการใชห้ ลักสตู รในด้านสภาพการใชห้ ลกั สูตร หลักการ จดุ หมาย วสิ ัยทศั น์ มรี ายละเอียดมากเกินไปจนหาอัตลักษณ์ไม่ได้ สมรรถนะท่ีสาคัญของผู้เรียนระบุ เปน็ ภาพกวา้ งยากแก่การปฏบิ ัติ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัดมีจานวนมากเกินไป และกลุ่มสาระการ เรยี นรู้ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3 มีจานวนมากเกินไปไม่เหมาะกับวัยของผู้เรียนที่ควรพัฒนา พื้นฐานการเรยี นรู้ไมจ่ าเปน็ ตอ้ งบังคบั ใหเ้ รียนถึง 8 กลุ่มสาระ ด้านปัญหาและข้อเสนอแนะในการนา หลกั สตู รไปใช้ในสถานศึกษา พบว่าครูขาดความเข้าใจในกระบวนการออกแบบการจัดการเรียนการ สอนท่ีอิงมาตรฐานการจัดการเรียนการสอนไม่มีความหลากหลาย ขาดความรู้เร่ืองการวัดและ ประเมินผล ไม่สามารถวิเคราะห์มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวช้วี ัด เพ่อื การประเมินได้ ครูไมเ่ ข้าใจการสร้าง เกณฑ์การประเมนิ รูปแบบตา่ ง ๆ ครขู าดความเข้าใจเรอ่ื งการประเมินผลตามสภาพจริง ไม่เน้นผู้เรียน เป็นศูนย์กลาง และไม่ส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง การบริหารจัดการหลักสูตรพบว่า ผู้บรหิ ารและครขู าดความรู้ด้านการบริหารจัดการหลักสูตรอย่างแท้จริง ท้ังน้ีการดาเนินงานด้านการ บริหารจัดการหลักสูตรส่วนใหญ่เป็นการดาเนินงานของกลุ่มบุคคลเพียงไม่กี่คนส่งผลให้การ ดาเนินงานไม่เป็นระบบ โรงเรียนจึงควรจัดอบรมเก่ียวกับหลักสูตรสถานศึกษาเพื่อให้ความรู้กับ บุคลากรทุกฝ่ายและทุกคน สร้างความเข้าใจร่วมกันและควรติดตามผลการนาหลักสูตรไปใช้อย่าง ต่อเน่ือง มีระบบการช่วยเหลือและให้คาปรึกษาตามความต้องการของครูเพ่ือพัฒนาสมรรถนะทาง วิชาชพี ท่ีจาเปน็ สาหรับครูนาไปสู่การพัฒนาคุณภาพของนักเรียนต่อไป และจากผลการศึกษาความ ตอ้ งการประเมินหลักสูตรสถานศกึ ษา ทพี่ บว่า สถานศึกษามีความต้องการจาเป็นมากท่ีจะต้องมีการ ประเมินหลักสูตรเพ่ือการปรับปรุงและพัฒนา โดยโรงเรียนควรมีการประเมินหลักสูตรอย่างต่อเนื่อง เพื่อสะท้อนผลการใช้หลักสูตรในแต่ละปีการศึกษา และนาผลไปปรับปรุงแก้ไขและพัฒนาคุณภาพ นกั เรยี น จากน้นั จึงนาข้อมูลทง้ั หมดมาประมวลผลตามวตั ถุประสงค์เมอ่ื ใช้หลักสูตรครบรอบทุกๆ 3 ปี ทั้งน้ีผลจากการประเมินหลักสูตรท่ีครอบคลุมทุกด้านจะสามารถนามาใช้ในการปรับปรุงและพัฒนา หลกั สูตรได้ตรงประเด็น ทาให้ผลการประเมินตรงตามสภาพความเป็นจริง ครอบคลุมและตอบสนอง ความต้องการของผู้ที่จะใช้ผลประเมิน และสามารถนาไปใช้ในการพิจารณาตัดสินใจในเชิงบริหาร
308 สถานศึกษาได้อย่างมปี ระสิทธิภาพและน่าเช่อื ถอื การประเมินหลักสูตรจะช่วยให้มีข้อมูล สารสนเทศ เพอื่ การปรับปรงุ เปลยี่ นแปลงหลกั สตู รให้มีความเหมาะสมและทันสมัยมากขึ้น ส่งผลต่อคุณภาพของ ผู้เรียนจากการนาผลการประเมนิ ไปใช้จรงิ โดยควรเลือกรูปแบบการประเมินหลักสูตรที่เหมาะสมกับ บริบทและความต้องการของสถานศึกษา ซึ่งสอดคล้องกับ ศิริชัย กาญจนวาสี (2553: ออนไลน์) ที่ กล่าววา่ การประเมนิ หลักสตู รจาเป็นตอ้ งดาเนนิ การอย่างเป็นระบบที่สอดคล้องสัมพันธ์กันโดยเฉพาะ อย่างย่งิ การประเมินหลักสูตรต้องเป็นกลไกที่มีประสิทธิภาพในการติดตามคุณค่าของหลักสูตรอย่าง ต่อเน่ือง อย่างน้อย 1 ครั้ง ทุกวงรอบของการใช้หลักสูตร เพ่ือให้ได้สารสนเทศสาหรับพัฒนาและ ปรับปรุงหลักสูตร ให้หลักสูตรมีความทันสมัย ทันการเปล่ียนแปลงทางวิชาการของโลกสามารถ ตอบสนองความต้องการของสงั คมในการนาความร้ทู ่ีไดไ้ ปใชป้ ระโยชน์ได้จริง และสร้างความพึงพอใจ ให้แก่ผู้เกี่ยวข้อง ในขณะเดียวกันการประเมินหลักสูตรจะต้องให้สารสนเทศที่สามารถรองรับการ ติดตามตรวจสอบคุณภาพของหลักสูตรท้ังจากผู้ประเมินภายในและภายนอก ดังน้ันควรให้อาจารย์ ผู้สอนทุกท่านโดยเฉพาะอาจารย์ใหม่ของโรงเรียนได้ตระหนักถึงค วามจาเป็นที่จะต้องรับรู้และทา ความเข้าใจหลักสตู รของโรงเรียนใหช้ ดั เจน และสามารถนาหลักสูตรไปใช้ในการออกแบบและจัดการ เรยี นการสอนให้บรรลเุ ปา้ หมายคณุ ภาพผู้เรียนในศตวรรษท่ี 21 มีการกาหนดกระบวนการในการนา หลักสูตรสชู่ นั้ เรยี นให้ชดั เจน มรี ะบบพ่เี ลีย้ งสาหรบั อาจารย์ใหม่ของโรงเรียน และมีการนิเทศ ติดตาม และช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาวิชาชีพ โรงเรียนควรมีการประเมินหลักสูตรเพื่อสะท้อนผลการใช้ หลักสูตร และควรมีการประเมินหลักสูตรอย่างต่อเนื่องโดยกาหนดให้มีการเก็บรวบรวมข้อมูลและ วิเคราะห์ผลการศึกษาหลักสูตรในแต่ละปีการศึกษา เพ่ือนาผลไปปรับปรุงแก้ไขและพัฒนาคุณภาพ นักเรียน จากนน้ั นามาประมวลผลตามวัตถปุ ระสงคข์ องหลักสูตร จากผลการศึกษาสภาพปัญหาของหลักสูตรสถานศึกษาในปัจจุบัน และความต้องการ ประเมินหลักสูตรสถานศึกษา สาหรับหลักสูตร English Program ที่พบว่า หลักสูตรสถานศึกษามี สิ่งท่ีดีควรพัฒนาต่อยอดและมีสิ่งท่ีควรแก้ไข/ปรับปรุง คือ This Curriculum aim to benefit the learners to the fullest and to be a well-rounded individual in the future but some aspects are just too much for the students and teachers to accommodate. The students study a little of so many things that we forgot. The most important thing “mastery”. We try to know more but master only a few. This I guess we have to look upon and do something. และสภาพปัญหาของหลักสูตรสถานศึกษาท่ีควรต้องเร่งแก้ไข ปรบั ปรุงและพัฒนาเพื่อม่งุ สคู่ ุณภาพผเู้ รยี นในศตวรรษที่ 21 คือ The Basic Core Curriculum of the MOE and the KUSK curriculum aims to develop learners potentials and abilities but there are some areas in the Basic Core Curriculum that need to be considered, some of the learning indicators that should be specifically designed for a certain level are missing so sometimes it leads to the problem about making a syllabus. ท้ังน้ี อาจเป็นเพราะวา่ หลกั สตู รแกนกลางใหอ้ ิสระแกส่ ถานศึกษาในการออกแบบหลักสูตรให้สอดคล้องกับ บริบทและตอบสนองความต้องการของผู้เรียนและชุมชน แต่เม่ือพิจารณาตัวช้ีวัดแล้วมีจานวนมาก และไม่มีตัวช้ีวัดสาหรับหลักสูตรที่มีลักษณะเฉพาะเพ่ือเป็นแนวทางให้โรงเรียนกาหนดรายละเอียด ของหลักสูตร ทาให้ยากต่อการพัฒนาหลักสูตรที่มีลักษณะเป็นหลักสูตรทางเลือก นอกจากนี้การ
309 พฒั นานักเรยี นให้มีความรอบรู้และรู้ลึกเฉพาะทางเปน็ ส่ิงท่ีควรให้ความสาคัญเพ่ือการพัฒนาคุณภาพ นักเรียนตามเป้าหมายของหลักสูตร อย่างไรก็ตามสาหรับหลักสูตร English Program มักประสบ ปญั หาการขาดแคลนอาจารย์ผู้สอนชาวต่างชาติ หรือความจาเป็นที่ต้องเปลี่ยนอาจารย์ผู้สอนบ่อยๆ อนั เนื่องมาจากการลาออก ส่งผลกระทบต่อการปรับตัวเพ่ือการเรียนรู้ของนักเรียนอย่างมาก ดังนั้น สถานศึกษาที่เปิดสอน EP ต้องมีการจัดองค์กร โครงสร้างการบริหารและระบบการบริหารท่ีมีความ คล่องตัวสูง ปรับเปล่ียนได้ตามความเหมาะสมโดยกาหนดบทบาทหน้าท่ีไว้อย่างชัดเจน บุคลากรท้ัง ส่วนของผบู้ รหิ าร หวั หนา้ โครงการและครูผู้สอน ควรเป็นผู้ท่ีมีความรู้ความเข้าใจในหลักการของการ จัดการเรยี นการสอน EP/MEP มีภาวะผู้นาและสามารถประสานงานบุคลากรได้อย่างดี (ฐิติกา เสนา จิตต์ และจฑุ ามณี ตระกูลมุทุตา, 2560: 78) และจากผลการศึกษาความต้องการประเมินหลักสูตร สถานศึกษา ที่พบว่า Evaluation of Curriculum is necessary but changing it needs to be assessed evaluate the curriculum to see if it worked or not. If it works reuse and improve to cope with recent educational trend. But if not immediate change is recommended for the betterment of the curriculum and the institution. ท้ังนี้อาจเป็น เพราะว่าการประเมินหลักสูตรเป็นกระบวนการรวบรวมข้อมูลสารสนเทศตลอดจนกิจกรรมต่างๆ เก่ียวกับหลักสูตรเพื่อนามาตัดสินคุณค่าหรือคุณภาพของหลักสูตรนั้น การรวบรวมข้อมูลและ วิเคราะหข์ อ้ มูลก็เพ่ือจะดูว่ากระบวนการจดั กจิ กรรมหลักสูตรและการสอนมีประสิทธิผล มีคุณค่าตาม เป้าหมายหรือมีคุณภาพตามมาตรฐานที่กาหนดไว้หรือไม่ เพียงใด เพ่ือนามาใช้ในการตัดสินใจ วางแผนกิจกรรมต่างๆ ในหลักสูตรให้ดีขึ้น (Cronbach, 1970, Stufflebeam. et al., 1971, Good, 1973, วิชัย วงษ์ใหญ่, 2554 และมารุต พัฒผล, 2558) ดังนั้นการประเมินหลักสูตรจึงเป็น ข้ันตอนหนึ่งที่สาคัญของการทางานด้านหลักสูตร เม่ือมีการใช้หลักสูตรทุกครั้ง จาเป็นต้องมีการ ประเมินหลักสูตรเพื่อให้ทราบว่า การทางานด้านหลักสูตรนั้นได้ผลตามความมุ่งหมายท่ีกาหนดไว้ เพยี งใด มีปญั หาหรอื อุปสรรคใดบ้าง จะได้หาแนวทางการแก้ไข ปรบั ปรงุ และพฒั นาต่อไป 2. จากผลการประเมินหลกั สตู รโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขต กาแพงแสน ศูนยว์ จิ ัยและพัฒนาการศกึ ษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ในภาพรวมและเป็นรายด้าน 5 ด้าน คือ ด้านบริบท ด้านปัจจัย นาเข้า ด้านกระบวนการ ด้านผลผลิต และด้านผลกระทบ ตามความคิดเห็นของนักเรียนและ อาจารย์ผู้สอนของหลักสูตรปกติ ท่ีพบว่า ในภาพรวมมีความคิดเห็นอยู่ในระดับปานกลาง และมี ความคิดเห็นในด้านผลกระทบอยู่ในระดับมาก โดยมีความคิดเห็นที่ไม่สอดคล้องกัน คือนักเรียนมี ความคิดเหน็ ตอ่ หลักสตู รในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง ส่วนอาจารย์ผู้สอนเห็นว่าอยู่ในระดับมาก สาหรับความคิดเห็นตามองค์ประกอบของการประเมินหลักสูตรเป็นรายด้านโดยการจัดลาดับความ คดิ เหน็ แล้วพบว่า มีลาดับของความคดิ เห็นทีส่ อดคลอ้ งกนั เพียง 1 ด้านเท่านั้น คือ ด้านผลผลิต อยู่ใน ลาดับที่ 3 และโดยสรุปที่พบว่า นักเรียนมีความคิดเห็นในด้านผลกระทบเป็นลาดับท่ี 1 และด้าน กระบวนการเป็นลาดับท่ี 5 ส่วนอาจารย์ผู้สอนมีความคิดเห็นในด้านบริบทเป็นลาดับท่ี 1 และด้าน ผลกระทบเป็นลาดบั ที่ 5 ทง้ั นอ้ี าจเปน็ เพราะวา่ นกั เรยี นมีมุมมองจากส่งิ ท่ไี ดพ้ บเห็นและได้สัมผัสด้วย ตนเองซึ่งส่วนใหญ่อาจไม่ได้รับรู้หรือไม่ได้สนใจเกี่ยวกับรายละเอียดของหลักสูตร ในทุกประเด็น
310 เน่ืองจากเห็นวา่ เป็นเรื่องไกลตัว โดยเฉพาะองคป์ ระกอบของการประเมินหลักสูตรด้านกระบวนการท่ี นักเรียนมีความคิดเห็นเป็นลาดับที่ 5 ซึ่งเป็นลาดับสุดท้าย ส่วนครูเป็นผู้ท่ีมีหน้าท่ีนาหลักสูตร สถานศกึ ษาสู่การปฏิบัติจึงทาให้ทราบกระบวนการและแนวทางการปฏิบัติที่ชัดเจนกว่านักเรียน แต่ เหตผุ ลสาคัญท่ีเปน็ ขอ้ คน้ พบสาหรับการวิจัยคร้ังน้ีคือ นักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับปานกลาง ในหลายประเดน็ ของทกุ องค์ประกอบทนี่ กั เรียนไดร้ ับจากโรงเรียน จึงเป็นผลใหน้ ักเรียนมคี วามคิดเห็น ตอ่ หลกั สูตรในภาพรวมอย่ใู นระดบั ปานกลางดว้ ย ได้แก่ องค์ประกอบด้านบริบท เก่ียวกับประเด็นท่ี โรงเรยี นส่งเสริมใหน้ กั เรยี นมีความพรอ้ มในการศึกษาต่อตามความถนัด ความสนใจ ซ่ึงสอดคล้องกับ ความต้องการของนักเรียน จานวนเวลาเรียน 6-8 คาบต่อวัน เน้ือหาสาระที่เรียนแต่ละรายวิชาใน ภาพรวมสามารถนาไปใช้ได้จริงในชีวิตประจาวัน รายวิชาและกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ส่งเสริมให้ นักเรยี นมีสมรรถนะในการเป็นพลเมอื งท่ีเข้มแข็ง รายวิชาและกิจกรรมการเรียนการสอนในโรงเรียน ชว่ ยสง่ เสริมให้นักเรียนมีบุคลิกภาพที่ดีในด้านการเรียนรู้อย่างมีความสุข การเป็นที่ยอมรับของผู้อ่ืน การชว่ ยเหลือ โอบออ้ มอารี สอ่ื สาร และใฝ่เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ รายวิชาและกิจกรรมการเรียนการสอนใน โรงเรียนช่วยสง่ เสรมิ ให้นกั เรยี นมีทักษะชวี ิตและเข้าใจอาชีพ องคป์ ระกอบด้านปจั จัยนาเข้า เก่ียวกับ ประเด็นเจ้าหน้าท่ี มีความพร้อมในการให้บริการ สนับสนุน และอานวยความสะดวกเพื่อการบรรลุ เป้าหมายของงาน องค์ประกอบด้านกระบวนการ เก่ียวกับประเด็นการจัดการเรียนรู้โดยคานึงถึง ความสามารถของผู้เรียนเป็นรายบุคคล กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนช่วยสะท้อนความสามารถและความ ถนัดของนักเรียนได้ดี ใช้วิธีการและเคร่ืองมือในการวัดและประเมินผลที่หลากหลาย มีกิจกรรมกับ เพอ่ื นตา่ งโรงเรยี นหรือบคุ คลภายนอกเพอื่ แลกเปลีย่ นประสบการณ์การเรียนรู้ซึ่งกันและกันมีสื่อ วัสดุ อุปกรณ์ประกอบการเรียนเพียงพอ และห้องเรียนมีสภาพที่เอ้ือต่อการเรียนรู้ องค์ประกอบด้าน ผลผลิต เกีย่ วกับประเด็นนกั เรยี นมีกระบวนการทางานอย่างเป็นระบบ มีความสามารถทางปัญญา 8 ดา้ น ตามเปา้ หมายของหลกั สูตร และมีความสามารถตามคณุ ลกั ษณะของผ้เู รียนในศตวรรษที่ 21 ตาม เป้าหมายของหลกั สตู ร และองคป์ ระกอบดา้ นผลกระทบ เก่ยี วกับประเดน็ นักเรียนมีความรู้สึกรักและ ภาคภูมิใจต่อสถาบัน นักเรียนที่จบการศึกษาจากโรงเรียนได้รับการยอมรับว่า “เป็นคนดีในสังคม” เปน็ ที่ยอมรับของสถาบันการศึกษาทั้งในและต่างประเทศ โดยประเด็นทั้งหมดที่กล่าวข้างต้นจะเป็น ฐานขอ้ มลู ท่ีสาคญั นาไปสูก่ ารหาแนวทางการปรับปรงุ และพฒั นาหลักสูตรในครั้งต่อไปได้ตรงประเด็น มากที่สุด น่ันย่อมหมายถึง ผู้บริหาร ครู และนักเรียนควรได้รับรู้และเห็นผลลัพธ์ของการปฏิบัติงาน ตามองค์ประกอบของการประเมินหลักสูตร 5 ด้านที่สอดคล้องกัน โดยในการพัฒนาหลักสูตร สถานศึกษาควรให้นักเรียนได้มีส่วนร่วมรับรู้และแสดงความคิดเห็นร่วมกับคณะกรรมการพัฒนา หลักสูตรสถานศึกษาเก่ียวกับข้อมูลพ้ืนฐานท่ีจาเป็นสาหรับนาไปใช้เป็นฐานข้อมูลในการกาหนด หลักสูตร และมีส่วนร่วมในการออกแบบหลักสูตรเพื่อตอบสนองความต้องการของนักเรียนเอง มี ความเข้าใจถงึ ทีม่ า ความจาเป็น และข้อจากดั ของการพัฒนาหลักสูตรตามบริบทของสถานศึกษาของ ตนเองและใจกว้างที่จะยอมรับการเปลี่ยนแปลงเพื่อการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ตามจุดเน้นของ สถานศึกษาเน่ืองจากผู้เรียนเป็นผลผลิตของการจัดการศึกษาโดยตรง ซ่ึงสอดคล้องกับแนวคิดของ วิชัย วงษ์ใหญ่ (2554: 16-20) และTyler (1969: 37) ท่ีกล่าวถึงการออกแบบหลักสูตรท่ีชัดเจนและ สอดคล้องกบั ความตอ้ งการ ความสนใจของผ้เู รียน และสอดคลอ้ งกบั ความต้องการของสังคมนั้น ต้อง พจิ ารณาส่ิงทม่ี ากาหนดหลกั สตู ร ทงั้ น้ีรวมถงึ ด้านวิชาการ และดา้ นคุณธรรมจรยิ ธรรมของผเู้ รยี น และ
311 จากผลการวิจัยท่ีพบว่า นักเรียนมีความคิดเห็นในด้านผลกระทบเป็นลาดับท่ี 1 อาจเน่ืองมาจาก นัก เรียน เห็น ตัว อย่าง จาก รุ่น พี่ ที่ จบก าร ศึก ษาจา ก โร ง เรียน ปร ะ สบผลสาเร็จใน ก าร ศึก ษาต่อ ใ น ระดบั อุดมศกึ ษาทตี่ ้องการได้ทกุ คน รวมทั้งเป็นทยี่ อมรบั ในความรู้ความสามารถหลังสาเร็จการศึกษา แล้วทั้งภายในและภายนอกสถาบัน และเห็นว่าโรงเรียนมีชื่อเสียงและเป็นผู้นาในด้านการจัด การศกึ ษาและพัฒนาคุณภาพผูเ้ รียนทั้งในระดบั ปฐมวัย ประถมศึกษาและมัธยมศึกษา โดยสังเกตจาก ที่มีสถาบนั การศึกษาต่าง ๆ ท้ังระดับโรงเรียนและระดับมหาวิทยาลัยมาศึกษาดูงานในโรงเรียน ส่วน อาจารย์ผู้สอนมีความคิดเห็นในด้านบริบทเป็นลาดับที่ 1 อาจเป็นเพราะอาจารย์เห็นว่าโครงสร้าง หลักสูตรและจานวนหน่วยกิตหรือเวลาเรียนตลอดหลักสูตรมีความเหมาะสมและสอดคล้องกับ มาตรฐานการศึกษาระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน พ.ศ.2561 ซึ่งสอดคล้องกับผลงานวิจัยประเมิน หลักสูตรของ มาเรียม นิลพันธุ์ (2011: 248-249) ท่ีพบว่า ผลการประเมินหลักสูตรปรัชญาดุษฎี บณั ฑติ สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร โดยภาพรวมและ จาแนกรายด้านท่ีพบว่า นักศึกษามีความคิดเห็นในด้านผลกระทบเป็นลาดับที่ 1 เนื่องมาจาก นักศึกษามีความภาคภูมิใจในสาขาวิชา สามารถทางานร่วมกับผู้อ่ืนได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีภาวะ ผนู้ าทางวชิ าการ สว่ นอาจารย์ผู้สอนมีความคิดเห็นในด้านบริบทเป็นลาดับท่ี 1 โดยเห็นว่าหลักสูตรนี้ ได้มาตรฐานตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษา วัตถุประสงค์หลักสูตรมีความสอดคล้องกับ ความต้องการของผู้เรียนและสังคม เน้ือหาและจานวนหน่วยกิตตลอดหลักสูตรมีความเหมาะสม สามารถนาไปใช้ไดจ้ ริง บณั ฑิตจากหลกั สูตรนเี้ ป็นท่ียอมรับทางวิชาการจากสถาบันต่าง ๆ และจากผล การประเมนิ ตามองค์ประกอบของการประเมนิ หลักสูตร 5 ดา้ น โดยหลกั สตู รปกตทิ ่พี บว่า 2.1 ด้านบริบท (Context) นักเรียนมีความคิดเห็นต่อองค์ประกอบด้านหลักสูตร และองค์ประกอบด้านรายวิชาและกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนอยู่ในระดับปานกลาง ส่วนอาจารย์มีความ คดิ เห็นตอ่ ทง้ั 2 องค์ประกอบอยู่ในระดับมากซง่ึ มมี มุ มองไม่สอดคล้องกัน แต่ท้ังนักเรียนและอาจารย์ มีค่าเฉลี่ยของระดับความคิดเห็นมากท่ีสุด คือ องค์ประกอบด้านรายวิชาและกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน รองลงมาคือ องค์ประกอบด้านหลักสูตร ท้ังนี้อาจเป็นเพราะว่า องค์ประกอบด้านรายวิชาและ กิจกรรมพฒั นาผูเ้ รียน โรงเรียนจดั การเรยี นรู้ท่ีช่วยส่งเสริมให้นกั เรยี นมีความรู้ ความสามารถ มีทักษะ ด้านการอ่าน เขียน คดิ คานวณ และมีสมรรถนะสาคญั ตามทีห่ ลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) กาหนดไว้ครบถ้วน และท่ีพบว่าองค์ประกอบด้าน หลกั สตู รทกุ ประเดน็ นกั เรยี นมีความคิดเห็นอยู่ในระดับปานกลาง โดยประเด็นที่มีค่าเฉลี่ยของระดับ ความคดิ เหน็ มากทส่ี ุดคอื โรงเรียนได้พัฒนาให้นักเรียนมีความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์ และ เขียน ชว่ ยให้นกั เรียนมีทักษะพืน้ ฐานท่จี าเปน็ ในการศกึ ษารายวชิ าตามความถนดั และความสนใจ และ น้อยทส่ี ดุ คอื เน้อื หาสาระทีเ่ รียนแต่ละรายวิชาในภาพรวมมีความเหมาะสม นักเรียนสามารถนาไปใช้ ได้จริงในชีวิตประจาวัน และอาจารย์มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากทุกประเด็น โดยประเด็นที่มี ค่าเฉลี่ยของระดับความคิดเห็นมากท่ีสุด คือ โครงสร้างหลักสูตรระดับมัธยมศึกษา ซ่ึงประกอบด้วย สาระการเรียนรู้ 8 กลุ่ม และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน มีความเหมาะสม และสอดคล้องกับมาตรฐาน การศกึ ษาระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พ.ศ.2561 และน้อยที่สุด การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนของ ผู้เรียน สอดคล้องกับเป้าหมายของหลักสูตรแต่ละระดับการศึกษา และมาตรฐานการศึกษาท่ีเน้น ผลลัพธ์ท่ีพงึ ประสงค์ (DOE Thailand) สาหรบั องคป์ ระกอบด้านรายวชิ าและกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
312 ทุกประเด็นนักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับปานกลาง โดยประเด็นที่มีค่าเฉลี่ยของระดับความ คดิ เหน็ มากที่สดุ คือ รายวิชาและกจิ กรรมการเรียนการสอนในโรงเรยี นชว่ ยสง่ เสริมใหน้ กั เรียนมีความรู้ ความสามารถ และทักษะดา้ นการอ่าน เขยี น คิด คานวณ และน้อยที่สุดคือ รายวิชาและกิจกรรมการ เรียนการสอนในโรงเรียนช่วยส่งเสริมให้นักเรียนมีทักษะชีวิตและเข้าใจอาชีพ และอาจารย์มีความ คิดเห็นอยู่ในระดับมากทุกประเด็น โดยมีประเด็นที่มีค่าเฉล่ียของระดับความคิดเห็นมากท่ีสุด คือ กิจกรรมและประสบการณ์ในระดับปฐมวัย ส่งเสริมให้เด็กมีบุคลิกภาพ 5 ด้าน และมีความสามารถ ทางปัญญา 8 ด้าน ตามแนวคิดทฤษฎีพหุปัญญา (Multiple Intelligences Theory : MI) และน้อย ทสี่ ุดคือ รายวชิ าและกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีสมรรถนะในการเป็นผู้ร่วมสร้างสรรค์ นวตั กรรม ทัง้ นอ้ี าจเป็นเพราะว่า หลกั สตู รในระดับประถมศกึ ษามีโครงการรักการอ่านเพ่ือส่งเสริมให้ นักเรียนมีความสามารถในการอ่าน และโครงการบูรณาการประสบการณ์ 3 ศาสตร์ ประกอบด้วย ภาษาไทย คณติ ศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ เพื่อพัฒนาทักษะการคิดขั้นสูงผ่านการทาโครงงาน และใน ระดับมัธยมศึกษามีกิจกรรมที่ส่งเสริมกระบวนการคิดขั้นสูงในระหว่างการเรียนการสอนรายวิชา เพมิ่ เตมิ โดยอาจารย์มีการจัดการเรียนการสอนตามแนวคิด STEM และ Active Learning หรือการ จัดการเรียนสอนในรูปแบบต่างๆ ท่ีผสมผสานเทคโนโลยีในบางรายวิชาเพ่ือพัฒนาการคิดข้ันสูงของ นกั เรียน แตใ่ นกิจกรรมชมรม อาจารย์เห็นว่ายงั ไม่สามารถสง่ เสริมให้นกั เรียนมีสมรรถนะในการเป็นผู้ รว่ มสร้างสรรค์นวัตกรรมได้ ดังน้ันโรงเรียนควรนาประเด็นที่มีความคิดเห็นอยู่ในระดับปานกลางทุก ประเด็นไปใช้ในการออกแบบหลักสูตรสถานศึกษา นอกจากนี้ในด้านบริบท ที่พบว่าผลการตรวจสอบ องค์ประกอบและคุณภาพหลักสูตรสถานศึกษาในภาพรวมมีคุณภาพอยู่ในระดับมาก และผลการ ประเมินความเหมาะสมของรายวิชาในหลักสูตรสถานศึกษา หลักสูตรปกติ พบว่า ในภาพรวมและ รายวชิ าเพิม่ เติม (ตามความสนใจ) มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากท่ีสุด ส่วนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน หลักสูตรปกติ พบว่า ในภาพรวม กิจกรรมลูกเสือ และกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ มี ความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีข้อเสนอแนะเพ่ิมเติม คือ กิจกรรมแนะแนวทุกระดับชั้น ควรมีค่มู ือกิจกรรมการเรียนการสอนและการประเมินผลนกั เรยี น และเน้นแนวโน้มการเลือกอาชีพใน อนาคต กิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ ควรปรบั เปลีย่ นวธิ ีการประเมินผลให้สะท้อนถึงการ ปฏิบัติจริง และกิจกรรมจิตอาสาควรปรับวิธีการประเมินและปลูกฝังจิตสานึกให้นักเรียน ทั้งนี้อาจ เนื่องมาจากโรงเรียนมีเอกสารหลักสูตรสถานศึกษาที่มีองค์ประกอบหลักครบถ้วน อาจารย์จึงมี แนวทางในการปฏิบัติงานท่ีดีและเป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยควรนาเล่มเอกสารหลักสูตรและการ ประเมินผลรวมเป็นเล่มเดียวกัน สาหรับรายวิชาเพ่ิมเติมมีรายวิชาท่ีนักเรียนมีโอกาสเลือกเรียนตาม ความถนัดและความสนใจ นักเรียนจึงเห็นว่ามีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากท่ีสุด และกิจกรรม แนะแนวนักเรียนมีความต้องการใช้บริการช่วงที่ว่างจากการเรียนหรือการทางานรวมทั้งส่งเสริม การศึกษาต่อและการเลือกอาชพี ในอนาคต ซงึ่ กิจกรรมแนะแนวควรมีระบบบริหารจัดการเชิงรุกเพ่ือ ตอบสนองความต้องการของนักเรยี นเป็นรายบคุ คล 2.2 ด้านปจั จยั นาเข้า (Input) นักเรียนมีความคิดเห็นต่อองค์ประกอบด้านบุคคล อยู่ในระดับมาก และองค์ประกอบด้านเอกสาร สื่อ เทคโนโลยี และส่ิงสนับสนุนท่ีเอ้ือต่อการเรียนรู้ นักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับปานกลาง อาจารย์มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากทั้ง 2 องคป์ ระกอบ และพบวา่ องค์ประกอบด้านบุคคล ประเดน็ ทม่ี ีคา่ เฉลี่ยของระดบั ความคิดเห็นมากท่ีสุด
313 โดยนักเรียนมีความคดิ เหน็ อย่ใู นระดบั มาก คือ ผูป้ กครองส่งเสริมนักเรียนได้พัฒนาศักยภาพเพ่ิมเติม จากในชั้นเรียนโดยยินดีให้นักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมของทางโรงเรียนทุกกิจกรรม และน้อยที่สุดซึ่ง นักเรยี นมีความคดิ เหน็ อยู่ในระดับปานกลาง คือ เจ้าหน้าที่ มีความพร้อมในการให้บริการ สนับสนุน และอานวยความสะดวกเพอื่ การบรรลุเป้าหมายของงาน ส่วนอาจารย์มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก ท่ีสุด คือ อาจารย์ผู้สอนได้สอนในรายวิชาที่ตรงกับคุณวุฒิและความเชี่ยวชาญ และน้อยที่สุดคือ ผู้ปกครองมีความเข้าใจและสนับสนุนกิจกรรมการเรียนการสอนของโรงเรียน สาหรับองค์ประกอบ ด้านเอกสาร ส่ือ เทคโนโลยี และส่ิงสนับสนุนท่ีเอ้ือต่อการเรียนรู้ ประเด็นท่ีมีค่าเฉล่ียของระดับ ความคดิ เหน็ มากท่สี ุดโดยนักเรยี นมคี วามคดิ เหน็ อย่ใู นระดับมากคอื มหี อ้ งสมดุ ให้บริการหนังสืออย่าง เพียงพอกับความต้องการของนักเรียน และน้อยที่สุดพบว่านักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับปาน กลางคือ มกี จิ กรรมกบั เพือ่ นตา่ งโรงเรยี นหรือบคุ คลภายนอกเพื่อแลกเปล่ียนประสบการณ์การเรียนรู้ ซึง่ กนั และกนั ส่วนประเดน็ ทม่ี คี ่าเฉลีย่ ของระดับความคิดเห็นมากท่ีสุดโดยอาจารย์มีความคิดเห็นอยู่ ในระดับมากคือ มีหนังสือ/ตารา/เอกสารประกอบการสอนเพียงพอกับจานวนผู้เรียน และน้อยที่สุดมี ความคดิ เห็นอย่ใู นระดบั ปานกลางคือ มกี ิจกรรมแลกเปล่ียนเรียนรู้กับชุมชน และชุมชนมีส่วนร่วมใน การจดั การศึกษาของโรงเรียน ทั้งนี้อาจเป็นเพราะว่า โรงเรียนมีนโยบายรับอาจารย์ตรงสาขาท่ีสอน นักเรยี นซ่งึ เป็นจดุ แขง็ ทโี่ รงเรียนไดอ้ าจารยท์ ีม่ คี วามเช่ียวชาญเฉพาะทางมาสอน ผู้ปกครองส่งเสริมให้ นักเรียนได้พัฒนาศักยภาพเพ่ิมเติมจากในชั้นเรียน แต่โรงเรียนจาเป็นต้องสร้างความเข้าใจท่ีดีกับ ผปู้ กครองเพื่อพัฒนานกั เรียนร่วมกนั และควรมีกิจกรรมแลกเปลย่ี นเรยี นรู้รว่ มกนั ระหว่างนกั เรียนต่าง สถาบันและโรงเรียนกับชุมชนเพื่อให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมและรับผิดชอบต่อหลักสูตร สถานศกึ ษาร่วมกนั 2.3 ดา้ นกระบวนการ (Process) นักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับปานกลางทุก ประเดน็ โดยประเดน็ ท่มี คี ่าเฉล่ยี ของระดับความคดิ เห็นมากท่ีสุดคือ เปิดโอกาสให้นักเรียนมีส่วนร่วม ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และน้อยที่สุดคือ มีการจัดการเรียนรู้โดยคานึงถึงความสามารถของ ผู้เรียนเป็นรายบุคคล อาจารย์มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากทั้ง 2 องค์ประกอบ โดยมีค่าเฉลี่ยของ ระดับความคิดเห็นมากท่ีสุดคือ องค์ประกอบด้านการบริหารจัดการหลักสูตร รองลงมา คือ องคป์ ระกอบดา้ นกระบวนการจดั การเรยี นรู้ การวดั และประเมินผล และพบว่าองค์ประกอบด้านการ บริหารจัดการหลักสูตร อาจารย์มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากทุกประเด็น โดยประเด็นที่มีค่าเฉล่ีย ของระดับความคิดเห็นมากที่สุดคือ มีการพิจารณาอาจารย์ผู้สอนรายวิชาให้เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถและคุณวุฒิ และน้อยที่สุดคือ โรงเรียนและชุมชนมีการจัดกิจกรรมร่วมกันเพ่ือพัฒนา คุณภาพผู้เรียนอย่างต่อเน่ือง สาหรับองค์ประกอบด้านกระบวนการจัดการเรียนรู้ การวัดและ ประเมินผล อาจารย์มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากทุกประเด็น โดยประเด็นที่มีค่าเฉล่ียของระดับ ความคิดเห็นมากท่ีสุดคือ มีการวัดและประเมินผลอย่างต่อเน่ืองควบคู่ไปกับการเรียนการสอน และ น้อยทสี่ ุดคอื จัดการเรียนรู้โดยคานึงถึงความสามารถของผ้เู รยี นเป็นรายบุคคล ท้ังนี้อาจเป็นเพราะว่า ในกระบวนการนาหลกั สูตรไปใชป้ ฏบิ ัติจรงิ ในชั้นเรยี นน้ัน บางรายวิชาเปิดโอกาสให้นักเรียนได้มีส่วน ร่วมในการออกแบบกิจกรรมที่จะนามาใช้เรียนตามที่นักเรียนต้องการ แต่การจัดการเรียนรู้ของ อาจารยผ์ ู้สอนใช้รปู แบบเดยี วกนั มอบหมายงานเหมอื นกนั ใช้เวลาเท่ากนั โดยเชอื่ วา่ จะทาให้นักเรียน ทุกคนได้รบั ความเทา่ เทียมกนั และมคี วามยตุ ิธรรมเกดิ ขึ้นในชัน้ เรียน และไม่ได้คานึงถึงความสามารถ
314 ในการเรียนรู้ของนักเรียนที่แตกต่างกัน ในกรณีนี้ ผู้บริหารและอาจารย์ผู้สอนควรต้องสร้างความ เขา้ ใจท่ีถกู ต้องรว่ มกนั เพอ่ื เน้นการจัดการเรยี นรู้โดยคานึงถึงความสามารถในการเรียนรู้ของนักเรียน เป็นรายบุคคล และมีอาจารย์ผู้สอนทาหนา้ ที่เป็นผู้เออื้ อานวยความสะดวกในการเรียนรู้ (Facilitator) ทง้ั น้ีเพ่อื ใหน้ กั เรียนทุกคนได้มีโอกาสที่จะเร่ิมต้นพฒั นาและคน้ พบเสน้ ทางในการเรียนรู้เป็นของตนเอง โดยไม่มีนักเรียนคนใดที่จะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง (No Child Left Behind) สอดคล้องบทความวิชาการ เร่ือง “การจัดการเรียนรูท่ีเนนความแตกตางระหวางบุคคล” ท่ีสรุปว่า จัดการเรียนรูใหผูเรียนได เรยี นอยางมีความสุข ไดรูวิธีเรียนรู วธิ คี ิดวเิ คราะหสามารถแสวงหาความรูไดดวยตนเองและคนพบเอง (Learn by Discovery) จากประสบการณจริงโดยการปฏิบัติและใฝใจที่จะเรียนรูอยางตอเน่ือง ตลอดชวี ติ (Lifelong Education) ทง้ั น้กี ระบวนการเรยี น การวัดผลประเมินผลก็จะตองยืดหยุนและ หลากหลายแมวาผูเรียนเหลาน้นั อาจจะออกเดินไมเทา่ กันแตควรมีลูว่ิงและเสนชัยของเขาเอง ผูเรียน สามารถไปสูจุดหมายปลายทางไดดีเชนกนั มีโอกาสเปนผูชนะตามแบบฉบับของตนเอง ดังน้ันครูตอง ไมบังคับใหเด็กทุกคนตองเรียนอยางเดยี วกนั ในเวลาเดียวกนั เพอ่ื เปาหมายอยางเดียวกัน ครูเปนเพียง ผูอานวยความสะดวกเพ่ือการพัฒนาของแตละบุคคล (The Teacher as a Facilitator of Individual Development) เปลี่ยนบทบาทจากผูสอนหรือผูถายทอดขอมูลความรูมาเปนผูจัด ประสบการณการเรียนรูใหผูเรียน เพราะครูมีหนาที่พัฒนาคนไมใชพัฒนาวิชาแตจะอาศัยวิชามา พัฒนาคน แนวคดิ ในการจดั การศกึ ษาจึงตองมีฐานอยูบนความเปน็ มนุษยดวยหลักการท่ีวา มนุษยทุก คนมคี วามแตกตางกนั เราตองเคารพในคุณคาความเปนมนุษยของคนอยางเทาเทียมกันจึงจะไดชื่อว าเป็นการจัดการศึกษาอยางเสมอภาคและยุติธรรม (ศิริวรรณ วณิชวัฒนวรชัย, 2559: 74) และ สอดคล้องกับบทบาทครู ดังคากล่าวของ วิชัย วงษ์ใหญ่ (2554: 26) ท่ีกล่าวว่า บทบาทของผู้สอนที่ สอดคล้องกบั หลักสตู รคอื เป็นผ้เู อ้ืออานวยความสะดวกในการเรียนรู้ (Facilitator) ซ่ึงมีคุณสมบัติคือ มคี วามสามารถในการฟังอย่างมีประสิทธิภาพ มีความจริงใจ มีความเข้าใจ มีการยอมรับ มีไหวพริบ และมีทักษะการส่ือสารระหว่างบุคคล นอกจากน้ี ท่ีพบว่าองค์ประกอบย่อยด้านการบริหารจัดการ หลักสูตร อาจารย์มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก อาจเน่ืองมาจากในการบริหารจัดการหลักสูตร สถานศึกษามีกระบวนการทางานท่ีมีความต่อเน่ือง แต่อาจยังไม่มีระบบการติดตามช่วยเหลืออย่าง เป็นรูปธรรมในระหว่างการนาหลักสูตรไปใช้ ควรมกี ารพจิ ารณานกั เรยี นที่อาจจะมคี วามบกพร่องด้าน การเรียนรู้โดยมีการสังเกต และประเมินอย่างจริงจัง และให้ความช่วยเหลือเพื่อให้นักเรียนและ อาจารย์ผูส้ อนได้จัดการเรียนรูแ้ ละประเมินความสามารถตามความเหมาะสม และควรมีการสนับสนุน และส่งเสริมให้บุคลากรมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ด้านวิชาชีพกับสถาบันอื่น ๆ อย่าง ต่อเนื่องเพ่ือพัฒนาตนเองอย่างสม่าเสมอ โดยอาจจัดเวทีเสวนา ศึกษาดูงาน เชิญนักวิชาการมาให้ ความรู้และประสบการณ์ในโรงเรียนเพื่อสร้างแรงจูงใจและแรงบันดาลใจในการพัฒนาวิชาชีพครูให้ กา้ วทนั การเปลยี่ นแปลงทางการศึกษา และสรา้ งจุดแขง็ ดา้ นวชิ าชีพให้มีความโดดเด่นตามความสนใจ ของบุคลากรแต่ละคน รวมท้ังการพัฒนาอาจารย์ให้สามารถจัดการเรียนการสอนและประเมินผลได้ สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาหลักสูตรและวิสัยทัศน์ของโรงเรียน สอดคล้องงานวิจัยของ จิราวดี พวงจันทร์ (2554: 78-79) เรื่อง การบริหารจัดการหลักสูตรสถานศึกษาระดับสถานศึกษา สังกัด สานักงานเขตพ้นื ทกี่ ารศกึ ษาประถมศึกษาราชบรุ ี เขต 2 ผลการวิจัยพบว่า แนวทางการแก้ปัญหาการ บรหิ ารจัดการหลักสตู รสถานศกึ ษา ระดับสถานศึกษา มี 3 แนวทาง คือ 1) จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ
315 การใช้หลกั สูตรสถานศึกษา ปีการศึกษาละ 1–2 คร้ัง ทบทวนสร้างความเข้าใจที่ตรงกัน 2) ไม่ควรมี การปรับปรุงหลักสูตรบ่อยทาให้เกิดความสับสนแก่ผู้ปฏิบัติ และ3) มีนโยบายลดงานกระดาษลง เพือ่ ให้ครผู สู้ อนได้ท่มุ เวลาไปกับการเรยี นการสอน 2.4 ด้านผลผลิต (Product) นักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับปานกลางทุก ประเด็น โดยประเดน็ ทม่ี คี า่ เฉลยี่ ของระดบั ความคดิ เหน็ มากที่สุดคือ นักเรียนมีสมรรถนะสาคัญบรรลุ ตามวตั ถุประสงค์หลกั สูตร และนอ้ ยท่ีสุดคอื นักเรียนมีกระบวนการทางานอย่างเป็นระบบ อาจารย์มี ความคิดเหน็ อย่ใู นระดับมากทุกประเด็น โดยประเด็นที่มีค่าเฉล่ียของระดับความคิดเห็นมากท่ีสุดคือ ผูเ้ รียนมีความรูค้ วามสามารถในการอ่าน การเขียน และคิดคานวณ (3R) ตามเป้าหมายของหลักสูตร และนอ้ ยทีส่ ุดคอื ผเู้ รยี นมีกระบวนการทางานอย่างเปน็ ระบบ ท้ังน้ีอาจเป็นเพราะว่า อาจารย์ผู้สอนมี การจัดการเรียนการสอนตามมาตรฐาน/ตัวชี้วัดที่สะท้อนสมรรถนะสาคัญจึงทาให้สมรรถนะสาคัญ ของนกั เรยี นบรรลวุ ัตถปุ ระสงคห์ ลกั สตู รสถานศึกษา 2.5 ดา้ นผลกระทบ (Impact) นกั เรียนมคี วามคดิ เห็นอยใู่ นระดับมากในประเด็น ท่ีมคี ่าเฉลยี่ มากท่สี ดุ คือ นกั เรียนทีจ่ บการศึกษาจากโรงเรียนประสบผลสาเร็จในการศึกษาต่อในระดับ ท่ีสูงข้ึน และประเด็นที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด ซ่ึงนักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับปานกลาง คือ นักเรียนมีความรู้สึกรักและภาคภูมิใจต่อสถาบัน อาจารย์มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากทุกประเด็น โดยประเดน็ ทม่ี คี า่ เฉล่ยี ของระดับความคดิ เห็นมากท่สี ุดคอื ผู้ที่จบการศกึ ษาจากโรงเรียนเป็นที่ยอมรับ ของสถาบันการศึกษาทั้งในและต่างประเทศ และน้อยท่ีสุดคือ อาจารย์ผู้สอนมีการเผยแพร่ผลงาน วิชาการ งานวจิ ยั อยา่ งต่อเนอ่ื ง ทั้งนี้อาจเปน็ เพราะวา่ นกั เรียนได้รบั ทราบข้อมลู ด้านการศกึ ษาต่อของ รุ่นพี่ซ่ึงพบว่านักเรียนท่ีสาเร็จการศึกษาสามารถศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาได้ทุกคนและเป็นที่ ยอมรับในความรู้ความสามารถ แต่ที่เป็นข้อกังวลคือ ประเด็นเก่ียวกับนักเรียนมีความรู้สึกรักและ ภาคภมู ใิ จตอ่ สถาบนั ซึ่งนักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับปานกลาง โรงเรียนควรมีกิจกรรมร่วมกัน อย่างหลากหลายและต่อเนื่องระหว่างรุ่นพ่ีรุ่นน้องเพื่อสร้างความผูกพันที่ดีต่อกันอย่างกัลยาณมิตร รวมทง้ั ส่งเสริมสนบั สนุน และให้มรี ะบบตดิ ตามเพ่ือสร้างขวัญและกาลังใจที่ดีของการเผยแพร่ผลงาน วชิ าการและงานวิจยั ของอาจารย์ จากผลการประเมินหลักสูตรสถานศึกษา ตามความคิดเห็นของนักเรียนและอาจารย์ ผู้สอนของหลักสูตร English Program ท่ีพบว่า ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก และนักเรียนมีความ คิดเห็นต่อหลักสูตรในภาพรวมอยู่ในระดับมากซ่ึงสอดคล้องกันกับความคิดเห็นของอาจารย์ผู้สอน สาหรับความคิดเห็นตามองค์ประกอบของการประเมินหลักสูตรเป็นรายด้านโดยการจัดลาดับความ คิดเห็นทั้งของนักเรียนและของอาจารย์ผู้สอนแล้วพบว่า มีลาดับของความคิดเห็นท่ีสอดคล้องกัน 2 ด้าน คือ ด้านบริบทอยู่ตรงกันในลาดับท่ี 3 และด้านผลผลิตอยู่ตรงกันในลาดับท่ี 4 และโดยสรุป พบว่า นักเรียนมีความคิดเห็นในด้านผลกระทบเป็นลาดับท่ี 1 และด้านกระบวนการเป็นลาดับท่ี 5 ส่วนอาจารยผ์ สู้ อนมีความคิดเหน็ ในดา้ นกระบวนการ เป็นลาดบั ท่ี 1 และด้านปัจจัยนาเข้าเป็นลาดับที่ 5 ซึ่งไม่สอดคล้องกัน โดยมีเหตุผลเช่นเดียวกับนักเรียนหลักสูตรปกติท่ีมีความคิดเห็นในด้าน ผลกระทบเป็นลาดบั ท่ี 1 และด้านกระบวนการเปน็ ลาดบั ท่ี 5 แต่เหตุผลสาคัญที่เป็นข้อค้นพบสาหรับ ความคิดเห็นของนักเรียนหลักสูตร English Program คือ นักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับ
316 ปานกลางในหลายประเดน็ ของทกุ องค์ประกอบ ซง่ึ โรงเรียนควรนาไปใช้เป็นแนวทางในการปรับปรุง แกไ้ ขและออกแบบหลกั สตู รสถานศกึ ษา ได้แก่ องค์ประกอบด้านบริบท เกี่ยวกับประเด็นเนอ้ื หาสาระ ที่เรียนแต่ละรายวิชาในภาพรวมมีความเหมาะสม นักเรียนสามารถนาไปใช้ได้จริงในชีวิตประจาวัน โรงเรยี นสง่ เสริมให้นักเรียนมีความพรอ้ มในการศึกษาต่อตามความถนัด ความสนใจ ซึ่งสอดคล้องกับ ความตอ้ งการของนักเรียน โรงเรียนสง่ เสรมิ ให้นกั เรยี นสามารถแสวงหาและสร้างความรู้ด้วยตนเองได้ รายวิชาและกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ส่งเสริมให้นักเรียนมีสมรรถนะในการเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง รายวิชาและกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ส่งเสริมให้นักเรียนมีความสามารถในการส่ือสาร การคิด การ แก้ปญั หา การใช้ทักษะชวี ิต และการใช้เทคโนโลยี รายวชิ าและกิจกรรมการเรียนการสอนในโรงเรียน ชว่ ยส่งเสริมให้นักเรียนมีบุคลิกภาพที่ดีในด้านการเรียนรู้อย่างมีความสุข การเป็นท่ียอมรับของผู้อื่น การชว่ ยเหลือ โอบอ้อมอารี สื่อสาร และใฝ่เรียนรู้ส่ิงใหม่ๆ องค์ประกอบด้านปัจจัยนาเข้า เกี่ยวกับ ประเด็นเจ้าหน้าที่ มีความพร้อมในการให้บริการ สนับสนุน และอานวยความสะดวกเพ่ือการบรรลุ เปา้ หมายของงาน ความรคู้ วามสามารถ ความเช่ยี วชาญ และประสบการณ์ของอาจารย์ผู้สอน มีความ เหมาะสม อาจารยผ์ ู้สอนได้สอนในรายวิชาที่ตรงกับความเช่ียวชาญ มีกิจกรรมกับเพื่อนต่างโรงเรียน หรอื บคุ คลภายนอกเพ่อื แลกเปลี่ยนประสบการณ์การเรียนรู้ซ่ึงกันและกัน ห้องเรียนมีสภาพท่ีเอื้อต่อ การเรียนรู้ มีห้องบริการสืบค้นข้อมูลด้วยระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เหมาะสมและทันสมัย องคป์ ระกอบดา้ นกระบวนการ เกย่ี วกบั ประเด็นกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนช่วยสะทอ้ นความสามารถและ ความถนัดของนกั เรียนไดด้ ี มีกิจกรรมการเรียนรู้ท่ีเน้นใหน้ กั เรียนไดค้ ิดวิเคราะห์ และลงมือปฏิบัติจริง กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนมีความหลากหลาย องค์ประกอบด้านผลผลิต เก่ียวกับประเด็นนักเรียนมี ความสามารถตามคุณลกั ษณะของผู้เรียนในศตวรรษท่ี 21 ตามเปา้ หมายของหลกั สูตร นักเรียนมีความ มุ่งมน่ั ในการเรียน การทางาน และกล้าแสดงออกในทางท่ีถูกต้องเหมาะสม นักเรียนมีบุคลิกภาพท่ีดี ตามเป้าหมายของหลักสูตร ในด้านการเรียนรู้อย่างมีความสุข การเป็นที่ยอมรับของผู้อ่ืน การ ช่วยเหลือ โอบอ้อมอารี สื่อสาร และใฝ่เรียนรู้ส่ิงใหม่ๆ และองค์ประกอบด้านผลกระทบ เกี่ยวกับ ประเด็นนักเรียนมีความรู้สึกรักและภาคภูมิใจต่อสถาบัน โดยประเด็นทั้งหมดที่กล่าวข้างต้นจะเป็น ฐานข้อมูลที่สาคัญนาไปสู่การหาแน วทาง การปรับปรุงและ ออกแบบหลักสูตร ในคร้ังต่อไปได้ตร ง ประเดน็ มากที่สุด ซึง่ สอดคล้องกับแนวคิดของวชิ ัย วงษใ์ หญ่ (2554: 16-20) และTyler (1969: 37) ที่ กลา่ วถึงการออกแบบหลักสูตรท่ีชัดเจนและสอดคล้องกับความต้องการ ความสนใจของผู้เรียน และ สอดคล้องกับความต้องการของสังคมน้ัน ต้องพิจารณาสิ่งท่ีมากาหนดหลักสูตร ท้ังนี้รวมถึงด้าน วิชาการ และดา้ นคุณธรรมจริยธรรมของผู้เรยี น และจากผลการวิจัยท่ีพบว่า นกั เรยี นมคี วามคิดเห็นใน ด้านผลกระทบเป็นลาดับท่ี 1 อาจเน่ืองมาจากเห็นว่าโรงเรียนมีช่ือเสียงและเป็นผู้นาในด้านการจัด การศึกษาและพัฒนาคุณภาพผู้เรียนทุกระดับโดยสังเกตจากการที่มีสถาบันการศึกษามาขอศึกษาดู งาน นอกจากนยี้ ังพบวา่ นักเรยี นทจ่ี บการศกึ ษาจากโรงเรยี นไดร้ ับการยอมรบั ว่า “เปน็ คนดใี นสงั คม” และประสบผลสาเร็จในการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น ส่วนอาจารย์ผู้สอนมีความคิดเห็นในด้าน กระบวนการ เป็นลาดับที่ 1 อาจเป็นเพราะอาจารย์เห็นว่า ด้านการบริหารจัดการหลักสูตร มีการ พิจารณาอาจารย์ผู้สอนรายวิชาให้เหมาะสมกับความรู้ความสามารถและคุณวุฒิ มีการจัดระบบ อาจารย์ประจาช้ัน/อาจารย์ท่ีปรึกษานักเรียนอย่างเหมาะสม และอาจารย์ผู้สอนเป็นต้นแบบท่ีดีแก่ ผู้เรยี น ดา้ นกระบวนการจดั การเรยี นรู้ การวดั และประเมนิ ผล มกี ารบอกวิธีการวัดและประเมินผลแต่
317 ละคร้ังให้ผู้เรียนทราบล่วงหน้า มีการวัดและประเมินผลอย่างต่อเน่ืองควบคู่ไปกับการเรียนการสอน และจดั การเรียนรู้โดยสอดแทรกคุณธรรมจรยิ ธรรม และจากผลการประเมินตามองค์ประกอบของการ ประเมนิ หลักสูตร 5 ดา้ น โดยหลักสตู ร English Program ท่ีพบว่า 2.6 ด้านบริบท (Context) นักเรียนมีความคิดเห็นต่อองค์ประกอบด้านรายวิชา และกจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รียนอยู่ในระดับมาก สว่ นองค์ประกอบดา้ นหลกั สูตรอยู่ในระดับปานกลาง และ พบว่า องค์ประกอบด้านหลักสูตร มีประเด็นที่มีค่าเฉลี่ยมากท่ีสุด ซึ่งนักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ใน ระดับมากคือ การจัดการศึกษาของโรงเรียนมีความต่อเน่ืองเช่ือมโยงกันตั้งแต่ระดับประถมศึกษา และ มัธยมศึกษา และประเด็นที่มีค่าเฉล่ียน้อยที่สุด ซ่ึงนักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับปานกลางคือ เนื้อหาสาระที่เรียนแต่ละรายวิชาในภาพรวมมีความเหมาะสม นักเรียนสามารถนาไปใช้ได้จริงใน ชีวิตประจาวัน อาจารย์มีความคิดเห็นต่อท้ัง 2 องค์ประกอบอยู่ในระดับมาก องค์ประกอบด้าน หลกั สูตร ประเด็นทีม่ คี ่าเฉลี่ยมากที่สดุ โดยอาจารย์มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากที่สุดคือ โครงสร้าง หลักสตู รระดับประถมศึกษา ซ่ึงประกอบด้วย สาระการเรียนรู้ 8 กลุ่ม และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน มี ความเหมาะสม และสอดคลอ้ งกับมาตรฐานการศึกษาระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน พ.ศ.2561 และน้อย ท่ีสุด ซึ่งอาจารย์มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากคือ หน่วย/แผนการจัดการเรียนรู้มีความเหมาะสม ถูกต้อง มีองค์ประกอบครบถ้วน และมีขั้นตอนของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิด Active Learning ท่สี ะท้อนผลลพั ธท์ พี่ ึงประสงคข์ องการศึกษา (DOE Thailand) ในมาตรฐานการศึกษาของ ชาติ พ.ศ.2561 สว่ นองค์ประกอบดา้ นรายวิชาและกิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น มีประเด็นที่มีค่าเฉล่ียมาก ท่ีสุด ซ่ึงนักเรยี นมคี วามคิดเหน็ อยู่ในระดับมาก คอื รายวชิ าและกิจกรรมการเรียนการสอนในโรงเรียน ช่วยส่งเสริมให้นักเรียนมีคุณลักษณะผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 และประเด็นที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด ซึ่ง นักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับปานกลาง คือ รายวิชาและกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนส่งเสริมให้ นกั เรียนมีสมรรถนะในการเป็นพลเมอื งที่เข้มแข็ง ส่วนอาจารย์มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากที่สุดใน ประเด็น กิจกรรมและประสบการณ์ในระดับปฐมวัยส่งเสริมให้เด็กมีบุคลิกภาพ 5 ด้าน และมี ความสามารถทางปัญญา 8 ด้าน ตามแนวคิดทฤษฎีพหุปัญญา (Multiple Intelligences Theory : MI) และน้อยที่สุดคือ รายวิชาและกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนส่งเสริมให้ผู้เรียนมีสมรรถนะในการเป็นผู้ เรียนรู้ ท้ังน้ีอาจเปน็ เพราะว่าเนื้อหาสาระท่ีเรยี นแตล่ ะรายวิชานักเรียนอาจยังไม่สามารถเชื่อมโยงกับ สถานการณท์ ่พี บในชวี ติ จริงได้ รายวิชาและกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนยังไม่ส่งเสริมสมรรถนะในการเป็น พลเมืองท่เี ขม้ แข็งของนกั เรียน ดงั นั้นหนว่ ย/แผนการจัดการเรยี นรู้ของอาจารย์จึงควรสอดแทรก หรือ กาหนดจุดประสงค์การเรียนรู้เพิ่มเติม และออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิด Active Learning ท่ีสะท้อนผลลัพธ์ทีพ่ งึ ประสงคข์ องการศึกษา (DOE Thailand) ในมาตรฐานการศึกษาของ ชาติ พ.ศ.2561 ท่ีเน้นด้านการเป็นผู้เรียนรู้ ผู้ร่วมสร้างสรรค์นวัตกรรม และพลเมืองที่เข้มแข็ง โดย กิจกรรมทเ่ี นน้ ในด้านพลเมืองที่เข้มแขง็ ก็เพือ่ สะท้อนความรักชาติ รักท้องถ่ิน มีจิตสานึกเป็นพลเมือง ไทย มีจิตอาสา มสี ่วนร่วมในการพัฒนา มีความยุติธรรม ความเท่าเทียม และการอยู่ร่วมกันในสังคม นอกจากนี้ในด้านบริบท ที่พบว่าผลการตรวจสอบองค์ประกอบและคุณภาพหลักสูตรสถานศึกษาใน ภาพรวมพบว่า หลักสูตร English Program มีคุณภาพอยู่ในระดับมากเช่นเดียวกับหลักสูตรปกติ ส่วนผลการประเมินรายวิชาของหลักสูตร English Program ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น พบว่า ทุก รายวชิ าในภาพรวม มีความเหมาะสมอยูใ่ นระดบั มากท่ีสุด และผลการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
318 ในภาพรวม และทกุ กิจกรรมยอ่ ยมคี วามเหมาะสมอยใู่ นระดบั มากที่สุด ทั้งน้ีอาจเป็นเพราะว่ารายวิชา ต่างๆ และกิจกรรมพัฒาผู้เรียน มีกิจกรรมให้นักเรียนได้เรียนรู้ผ่านการปฏิบัติจริง ฝึกทักษะให้ นักเรียนมีความชานาญตามความถนัดและความสนใจ จึงทาให้นักเรียนได้เรียนรู้ตามความต้องการ และมีความพร้อม สนุกกับการเรียนรู้และสามารถเชื่อมโยงความรู้สู่สถานการณ์ในชีวิตประจาวันได้ และสาหรับนกั เรยี นที่ไม่สามารถนาความรไู้ ปใชไ้ ด้ ครตู ้องให้คาแนะนาชว่ ยเหลอื เพิม่ เติม 2.7 ด้านปจั จัยนาเขา้ (Input) นกั เรยี นมีความคิดเหน็ ต่อองค์ประกอบด้านบุคคล และองค์ประกอบด้านเอกสาร สื่อ เทคโนโลยี และสิ่งสนับสนุนท่ีเอ้ือต่อการเรียนรู้อยู่ในระดับมาก และพบว่า องคป์ ระกอบดา้ นบคุ คล มปี ระเด็นที่มคี ่าเฉล่ียของระดับความคิดเห็นมากที่สุด ซ่ึงนักเรียน มคี วามคิดเห็นอยู่ในระดับมากคือ ผู้ปกครองมีความเข้าใจ และสนับสนุนกิจกรรมการเรียนการสอน ของโรงเรียน และน้อยท่ีสุด ซ่ึงนักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับปานกลางคือ เจ้าหน้าที่มีความ พรอ้ มในการให้บริการ สนบั สนนุ และอานวยความสะดวกเพอื่ การบรรลุเป้าหมายของงาน อาจารย์มี ความคดิ เห็นตอ่ ทงั้ 2 องคป์ ระกอบอยู่ในระดับมาก มีประเด็นที่มีค่าเฉลี่ยของระดับความคิดเห็นมาก ที่สุด ซ่ึงอาจารย์มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากท่ีสุดคือ อาจารย์ผู้สอนได้สอนในรายวิชาที่ตรงกับ คุณวฒุ ิและความเชยี่ วชาญ และน้อยท่ีสุดโดยอาจารย์มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากคือ ผู้ปกครองมี ความเขา้ ใจ และสนับสนุนกิจกรรมการเรยี นการสอนของโรงเรียน สาหรับองค์ประกอบด้านเอกสาร ส่ือ เทคโนโลยี และสิ่งสนับสนนุ ที่เออ้ื ตอ่ การเรียนรู้ ประเด็นท่ีมีค่าเฉลี่ยของระดับความคิดเห็นมาก ท่ีสดุ ซึ่งนักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากคือ มีวัสดุอุปกรณ์การเรียน สื่อ และเทคโนโลยีในชั้น เรยี นเพอ่ื ช่วยใหน้ ักเรยี นเรยี นรู้ได้ดีขึ้น และน้อยท่ีสุดซึ่งนักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับปานกลาง คอื มีกจิ กรรมกบั เพื่อนตา่ งโรงเรียนหรอื บุคคลภายนอกเพอ่ื แลกเปลีย่ นประสบการณ์การเรียนรู้ซึ่งกัน และกัน ประเดน็ ที่มีคา่ เฉล่ียของระดบั ความคิดเห็นมากทส่ี ดุ ซง่ึ อาจารย์มคี วามคิดเหน็ อย่ใู นระดับมาก คอื มีการจดั สรรงบประมาณเพอ่ื ใชใ้ นโครงการหรือกิจกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนอย่างเพียงพอ และ น้อยท่ีสุดซึ่งอาจารย์มีความคิดเห็นอยู่ในระดับปานกลางคือ มีกิจกรรมแลกเปล่ียนเรียนรู้กับชุมชน และชมุ ชนมสี ่วนร่วมในการจดั การศึกษาของโรงเรียน ท้งั นี้อาจเป็นเพราะการให้บริการของเจ้าหน้าท่ี มีช่องว่างของความสัมพันธ์ที่ดี นักเรียนต้องการให้มีความเป็นกัลยาณมิตรมากขึ้น โรงเรียนควรทา หน้าทป่ี รับความเขา้ ใจซ่ึงกนั และกนั และสง่ เสริมบุคลิกลักษณะทีด่ ี รวมทงั้ การใช้ภาษาที่สุภาพเพื่อลด ความขดั แยง้ ในการสื่อสาร 2.8 ด้านกระบวนการ (Process) นักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากใน ประเด็นท่ีมีค่าเฉล่ียของระดับความคิดเห็นมากที่สุดคือ มีการจัดการเรียนรู้ด้วยวิธีการที่หลากหลาย และน้อยทส่ี ดุ โดยนักเรยี นมีความคดิ เห็นอยู่ในระดับปานกลางคือ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนช่วยสะท้อน ความสามารถและความถนัดของนักเรียนได้ดี อาจารย์มีความคิดเห็นต่อองค์ประกอบด้าน กระบวนการจัดการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล และองค์ประกอบด้านการบริหารจัดการหลักสูตร อยู่ในระดับมาก องค์ประกอบด้านการบริหารจัดการหลักสูตร อาจารย์มีความคิดเห็นอยู่ในระดับ มากที่สุดคือ มีการพิจารณาอาจารย์ผู้สอนรายวิชาให้เหมาะสมกับความรู้ความสามารถและคุณวุฒิ และน้อยทสี่ ุด ซ่ึงพบวา่ อาจารย์มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก คือ มีระบบการนิเทศ ติดตาม เพ่ือให้ คาแนะนา ช่วยเหลือ (การพัฒนาวิชาชีพ) เก่ียวกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของอาจารย์ผู้สอน สาหรับองค์ประกอบด้านกระบวนการจัดการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล พบว่า อาจารย์มีความ
319 คดิ เหน็ อยู่ในระดับมากทกุ ประเด็น โดยประเด็นทม่ี คี า่ เฉลย่ี ของระดับความคดิ เหน็ มากที่สดุ คือ จัดการ เรยี นรู้โดยสอดแทรกคุณธรรมจรยิ ธรรม และน้อยทีส่ ดุ คือ จดั การเรียนรู้โดยคานงึ ถงึ ความสามารถของ ผ้เู รยี นเป็นรายบคุ คล ตามลาดบั ทัง้ น้อี าจเป็นเพราะว่า ครูยังมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนในเรื่องการ จัดการเรียนการสอนท่ีเน้นความแตกต่างระหว่างบุคคล ซ่ึงเป็นสิ่งที่ครูควรให้ความสาคัญอย่างยิ่ง สาหรบั การจัดการเรียนรใู้ นปจั จุบันและอนาคตเนื่องจากนักเรียนทุกคนจะได้รับการพัฒนาอย่างเต็ม ศักยภาพของตนเอง สอดคล้องกับ Tomlinson (2001: 1-7) การจัดการเรียนการสอนตามหลักการ แนวคิดนี้ ผู้เรียนน้ันถึงแม้จะมีเหมือนกันในด้านของเพศ อายุ และวัย แต่สิ่งที่ต่างกันคือ ความสามารถในการรับรู้ (Perception) แบบการเรียนรู้ (Learning Style) แนวคิด (Idea) และ ภมู หิ ลงั (backgrounds) ซ่งึ ความแตกต่างเหลา่ น้ีเป็นสงิ่ ที่มีความสาคัญต่อการสอนและการเรียนรู้ ซ่ึง ครูจะตอ้ งใหค้ วามสาคญั เพอื่ นาไปสู่การวางแผนการจัดการเรียนรู้ท่ีมีประสิทธิภาพบนความแตกต่าง ของผู้เรยี นในช้นั เรียนมิใชก่ ารมุ่งแกไ้ ขปญั หาเฉพาะผ้เู รียนคนดคนหน่ึง (No Individual Instruction) โดยท่ผี สู้ อนจะมีการวางแผนการสอน ส่ือการสอน วิธีการสอน การวัดผลประเมินผลให้เหมาะสมกับ ผู้เรียนในแต่ละกลุ่มในช้ันเรียนด้วยวิธีการท่ีหลากหลาย (Not just “tailor the same suit for clothes”) เน้นคุณภาพที่เกิดข้ึนกับผู้เรียน คือ ความรู้ความเข้าใจของผู้เรียนทุกคนในชั้นเรียน (whole class) มากกวา่ ปริมาณของเนือ้ หาท่ีสอนหรือสอนครบตามเน้ือหาสาระ(Qualitative more than Quantitative) หรอื ผเู้ รียนคนใดคนหน่ึง และเปิดโอกาสให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการออกแบบ การเรียนการสอน การวัดผลประเมินผลการเรยี นรขู้ องตนเอง 2.9 ด้านผลผลิต (Product) นักเรียนมคี วามคิดเห็นอยใู่ นระดับมากในประเด็นท่ี มีคา่ เฉล่ยี ของระดบั ความคิดเหน็ มากทีส่ ดุ คือ นักเรียนมีความสามารถในการสร้างสรรค์ช้ินงาน และ นอ้ ยท่ีสุดซง่ึ นักเรียนมีความคดิ เหน็ อย่ใู นระดับปานกลาง คือ นกั เรียนมีความสามารถตามคุณลักษณะ ของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 ตามเป้าหมายของหลักสูตร อาจารย์มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากทุก ประเด็น โดยประเด็นที่มีค่าเฉล่ียของระดับความคิดเห็นมากท่ีสุด ผู้เรียนมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน บรรลุตามวัตถุประสงค์ของหลักสูตร และน้อยท่ีสุดคือ ผู้เรียนมีกระบวนการทางานอย่างเป็นระบบ ทั้งน้ีอาจเป็นเพราะว่า การเรียนการสอนส่วนใหญ่ได้รับการออกแบบให้มุ่งเน้นการประเมินผลตาม มาตรฐาน/ตัวชว้ี ดั ของหลักสตู รเปน็ หลกั ดังนัน้ ถ้าต้องการพัฒนาคุณลักษณะของผู้เรียนในศตวรรษท่ี 21 ให้มีผลสะทอ้ นที่ชดั เจน ครูควรต้องมีการปรับวิธีเรียนและเปลี่ยนวิธีสอนเพ่ือออกแบบกิจกรรมท่ี จะชว่ ยพฒั นาผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 รวมท้ังสร้างและพัฒนาเครื่องมือวัดคุณลักษณะของผู้เรียนใน ศตวรรษที่ 21 ใหม้ คี ณุ ภาพพรอ้ มนาไปใช้ และประเมนิ หลกั สตู รต่อไป 2.10 ด้านผลกระทบ (Impact) นักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากใน ประเด็นท่ีมคี ่าเฉล่ียของระดบั ความคิดเห็นมากทส่ี ุดคือ โรงเรียนมีชื่อเสียงและเป็นผู้นาในด้านการจัด การศกึ ษาและพัฒนาคุณภาพผู้เรยี น ท้งั ในระดับปฐมวัย ประถมศึกษา และมัธยมศึกษา และน้อยที่สุด ซึ่งนกั เรยี นมคี วามคดิ เห็นอยู่ในระดับปานกลาง คือ นักเรียนมีความรู้สึกรักและภาคภูมิใจต่อสถาบัน อาจารย์มคี วามคิดเหน็ อยู่ในระดับมากท่สี ดุ คอื โรงเรยี นเปน็ ทยี่ อมรับของผู้ปกครอง ชุมชน และสังคม และน้อยที่สุดซ่ึงอาจารย์มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากคือ อาจารย์ผู้สอนมีการเผยแพร่ผลงาน วิชาการ งานวิจัยอย่างต่อเนื่อง ท้ังนอ้ี าจเนื่องมาจากกจิ กรรมที่โรงเรียนจัดให้นักเรียนยังไม่สะท้อนให้ นักเรียนเกิดความรัก ความภูมิใจ และความผูกพันต่อสถาบันเท่าที่ควร รวมท้ังอาจารย์ผู้สอนยังไม่
320 พร้อมท่ีจะทางานวิจัย หรือผลงานวิชาการอย่างจริงจังด้วยเหตุผลในเรื่องของเวลาและความรู้ ความสามารถ โรงเรยี นจงึ ควรหาวิธกี ารกระตุ้นใหอ้ าจารยไ์ ดเ้ ห็นความสาคัญ และสร้างแรงบันดาลใจ ในการทางานวิจัยหรอื ผลงานวชิ าการใหบ้ รรลผุ ลสาเรจ็ 3. จากผลการศึกษาปญั หาและแนวทางการพัฒนาและปรับปรุงหลักสูตรโรงเรียนสาธิต แห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกาแพงแสน ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา ตามหลักสูตร แกนกลางการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ตามองค์ประกอบของ การประเมนิ หลกั สูตร 5 ดา้ น โดยหลกั สตู รปกติ ทพี่ บว่า ดา้ นบรบิ ท (Context) ตวั ชี้วัดบางข้อวัดได้ ยาก และมีจานวนมากเกนิ ไป หลกั สตู รยงั ไม่มีจุดเน้นหรือความโดดเด่นรวมท้ังทิศทางของหลักสูตรท่ี บอกได้ชัดเจน แนวทางการพัฒนาและปรับปรุงหลักสูตรคือ ควรปรับข้อความเน้นเป็นพฤติกรรมท่ี นักเรยี นแสดงออกได้ชัดเจน ควรปรับลดจานวนตัวชี้วัดให้เหลือเท่าที่จาเป็นที่สามารถสะท้อนความรู้ ทักษะ และคุณลักษณะที่จาเป็นของนักเรียนในชีวิตจริง ควรให้สถานศึกษามีอิสระในการออกแบบ หลกั สตู รได้อยา่ งแท้จริง หลกั สูตรควรตอบสนองนกั เรียนแต่ละคน และควรมีรูปแบบการประเมินผลที่ หลากหลายและเน้นความแตกต่างระหว่างบุคคล หลักสูตรโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกาแพงแสน ควรมีการปรับปรุง วิสัยทัศน์ของหลักสูตรควรเป็นการจัดการศึกษาเพ่ือ เสรมิ สร้างการคดิ สรา้ งสรรค์ และทกั ษะนวัตกรรมใหม้ ากขึ้น ควรเพ่ิมเตมิ การคดิ ขั้นสูง (Higher-order thinking) Creative Based, Technology Based ไว้ในกรอบแนวคิดหลักสูตร ร่วมกับ Project Based, Career Based เน้น Competency Based ไว้ในกรอบแนวคิดหลักสูตร และแนวการจัด หลักสูตรระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ควรเน้นการบูรณาการเชิงสร้างสรรค์ (Creative Integration) ให้มากขึ้นจะช่วยเสริมสร้าง Innovative Skills ท้ังนี้อาจเนื่องมาจากยังไม่เคยมีการ กาหนดวิสัยทัศน์ของหลักสูตรสถานศึกษา และยังไม่เคยมีการประเมินหลักสูตรสถานศึกษาท่ี ครอบคลุมองค์ประกอบ 5 ด้านของการประเมินหลักสูตร ประกอบด้วย ด้านบริบท ปัจจัยนาเข้า กระบวนการ ผลผลิต และผลกระทบ ช่วยให้มองเห็นภาพของการประเมินรอบด้านมากขึ้น ทุก ประเด็นในด้านบริบท มีคณุ ค่าอย่างยิ่งสาหรับการนาไปปรับปรุงแก้ไขให้ตรงประเด็นท่ีบกพร่องมาก ที่สุด หลักสูตรท่ีดีสาหรับโรงเรียน คือ การกาหนดวิสัยทัศน์ของหลักสูตร จุดเน้นและทิศทางของ หลักสตู ร เป้าหมายของหลกั สตู ร กรอบแนวคิดหลกั สตู ร และแนวทางการบริหารจัดการหลักสูตร การ เลือกรูปแบบการประเมินสาหรบั การวจิ ัยครัง้ น้ีสอดคล้องกบั งานวิจยั ประเมนิ หลักสูตรทใ่ี ช้รูปแบบการ ประเมินแบบ CIPP Model ของ มาเรียม นิลพันธุ์ และคณะ (2556) เรื่อง การประเมินผลหลักสูตร แกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ในโรงเรียนต้นแบบการใช้หลักสูตร Brigman (1992: 2814-A) ได้ศึกษาเพ่ือประเมินผลของหลักสูตรการฝึกความพร้อมของนักเรียน ที่มีต่อความ ตงั้ ใจ ความเขา้ ใจในการฟังและทกั ษะทางสังคมของนกั เรียนอนบุ าล สริ าวรรณ จรัสรวีวัฒน์ และคณะ (2558) วิจัยเรือ่ ง การประเมนิ หลักสตู รการศกึ ษาบัณฑิต (หลักสูตร 5 ปี) สาขาวิชาการสอนภาษาจีน (หลักสตู รปรับปรุง พ.ศ. 2554) คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั บูรพา นพมณี เชอ้ื วัชรินทร์ และคณะ (2558) วิจยั เร่ือง การประเมนิ หลักสูตรการศึกษาบัณฑิต (หลักสูตร 5 ปี) สาขาวิชาการสอนชีววิทยา (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2554) คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา รัตนศิริ เข็มราช และคณะ (2558) วจิ ยั เรอื่ ง การประเมินหลกั สตู รการศกึ ษามหาบณั ฑิต สาขาวิชาการสอนภาษาอังกฤษในฐานะ
321 เปน็ ภาษาโลก อศิ เรศ พิพัฒนม์ งคลพร และคณะ (2556) รายงานการวิจัยเร่ือง การประเมินหลักสูตร ศึกษาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการประถมศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ฐิติมา นิติกรวรากุล (2554) การประเมินหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนวัดบ้านโป่ง “สามัคคีคุณูปถัมภ์” จ.ราชบรุ ี ช่วงชัน้ ท่ี 3-4 โดยใชร้ ปู แบบการประเมิน CIPP Model ด้านปัจจัยนาเข้า (Input) ปัญหา คอื ความพร้อมในการให้บริการ สนับสนุน และอานวยความสะดวกเพ่ือการบรรลุเป้าหมายของงาน เจ้าหน้าท่ี ความรู้ความสามารถ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ของอาจารย์ผู้สอน ความเข้าใจ และการสนับสนนุ กจิ กรรมการเรยี นการสอนของผูป้ กครอง แนวทางการพฒั นาและปรับปรุงหลักสูตร คือ อาจารย์และเจ้าหน้าที่ควรเป็นต้นแบบท่ีดีให้นักเรียน มีความยุติธรรม ให้ความเสมอภาค ควรมี อปุ กรณ์ประกอบการสอน ควรเนน้ ปฏิบตั ิมากกว่าทฤษฎี ไม่ท้ิงคาบสอบ ควรสอนให้เดก็ เข้าใจโดยควร อธิบายเพม่ิ เติมจากในหนงั สือเรียน ควรควบคุมชนั้ เรียนให้ได้ในขณะสอน และควรใช้ภาษาที่สุภาพใน ชั้นเรยี น ควรมีอาจารย์มาสอนวิชา English เป็นชาวอเมริกันมากกว่าฟิลิปปินส์ ที่จะช่วยให้นักเรียน สามารถฟังพูดอ่านเขียนไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพ ควรมีการบริหารจัดการหลักสูตรอย่างเป็นระบบและ ต่อเน่ือง มีการสร้างและปรับเปล่ียน mindset เพื่อการนาหลักสูตรไปใช้ตามวัตถุประสงค์ มีการให้ คาแนะนา ตดิ ตาม แลกเปล่ยี นเรียนรู้ เลอื กวิธีการจัดการเรยี นร้แู ละการประเมินผลที่หลากหลายและ เหมาะสมเพื่อการปรบั ปรุงและพัฒนาคุณภาพนักเรียนให้บรรลุเป้าหมาย มีการจัดการความรู้ร่วมกัน อย่างต่อเนือ่ ง ร่วมคิด ร่วมทา รว่ มรบั ผดิ ชอบ รว่ มกนั แก้ไข/ปรับปรุงและสร้างขวญั และกาลงั ใจในการ ทางาน มคี รูภูมิปญั ญาให้กบั นกั เรียน มแี หล่งเรียนรเู้ ชงิ สร้างสรรค์ และชมุ ชนมีส่วนร่วมในการสะท้อน คุณภาพผู้เรียน และปัจจัยสาคัญในการขับเคล่ือนการนาหลักสูตรสถานศึกษาสู่ชั้นเรียน ควร ประกอบด้วย Growth mindset และ Passion ของบุคลากรทุกฝ่ายในการนาหลักสูตรไปใช้ในช้ัน เรยี นตามเจตนารมณ์ของหลักสูตร ความรู้ความเขา้ ใจและทกั ษะในการออกแบบนวัตกรรมการเรียนรู้ ของผู้สอน ท่สี ามารถตอบสนองธรรมชาติและความต้องการของผู้เรียน และความเข้มแข็งของการมี ส่วนรว่ มในการจดั การศึกษาของชมุ ชนและผู้ปกครอง ควรมีห้องเทคโนโลยีและส่ือการสอนท่ีทันสมัย เข้าถึงได้งา่ ยรวมทั้งมีกจิ กรรมบูรณาการในรายวิชา ต่าง ๆ ให้มากข้ึน ท้ังน้ีอาจเป็นเพราะว่าบุคคลท่ี เกี่ยวข้องกับการประเมินด้านปัจจัยนาเข้า คือ ผู้บริหาร อาจารย์และเจ้าหน้าที่ นักเรียน ผู้ปกครอง และชุมชน ซ่ึงมีหลากหลายบทบาทที่จาเป็นต้องเป็นกัลยาณมิตรต่อกันเพื่อประโยชน์ในการพัฒนา งาน หลักสูตรสถานศึกษาควรกาหนดให้มีครูภูมิปัญญาและอาจารย์พิเศษมาให้ประสบการณ์กับ นักเรียน และให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการสะท้อนคุณภาพผู้เรียน มีแหล่งเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ และ ปัจจัยสาคัญในการขับเคลื่อนการนาหลักสูตรสถานศึกษาสู่ช้ันเรียน ควรประกอบด้วย Growth mindset และ Passion ของบุคลากรทุกฝ่ายในการนาหลักสูตรไปใช้ในชั้นเรียนเพ่ือให้การบรรลุ จดุ ม่งุ หมายของหลกั สตู ร 3.3 ด้านกระบวนการ (Process) ปัญหาด้านการบริหารจัดการหลักสูตรที่ โรงเรียนยังไม่ได้ดาเนินการหรือดาเนินการไม่เป็นท่ีประจักษ์ ได้แก่ การจัดกิจกรรมร่วมกันระหว่าง โรงเรยี นและชมุ ชนเพื่อพฒั นาคุณภาพผเู้ รียนอย่างต่อเน่อื ง การมีระบบการสะทอ้ นผลการจัดกิจกรรม การเรียนรขู้ องอาจารย์ผู้สอนอย่างต่อเนื่องเพ่ือให้การสนับสนุนและช่วยเหลือ การมีระบบการนิเทศ ติดตาม เพื่อให้คาแนะนา ช่วยเหลือ (การพัฒนาวิชาชีพ) เกี่ยวกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของ อาจารยผ์ ูส้ อน การจดั การเรยี นร้โู ดยคานึงถึงความสามารถของผู้เรียนเป็นรายบุคคล การจัดกิจกรรม
322 พัฒนาผู้เรียนเพ่ือช่วยสะท้อนความสามารถและความถนัดของนักเรียน การเลือกใช้วิธีการและ เคร่ืองมือในการวัดและประเมินผลที่หลากหลาย แนวทางการพัฒนาและปรับปรุงหลักสูตรคือ โรงเรยี นควรมี “รูปแบบการพฒั นาหลกั สตู ร” ท่ปี ระกอบด้วย 5 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) หลักการ คือ ให้ความสาคัญกับ Growth mindset ในการพัฒนาหลักสูตรที่เน้นการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย เพื่อ ส่งเสรมิ พัฒนาการของนักเรยี นทุกดา้ น และพัฒนาหลักสตู รใหต้ อบสนองธรรมชาติและความต้องการ ของผู้เรียนในลักษณะ Personalized learning และใช้ Technology เป็น Platform ของการเรียนรู้ ร่วมกับการเรียนรู้แบบ Creative Team Learning สร้างขวัญและกาลังใจในการปฏิบัติงานให้ บคุ ลากร 2) วตั ถุประสงค์ เพื่อตอบสนองธรรมชาติและความต้องการของผู้เรียน เสริมสร้างคุณภาพ ผู้เรียนแบบบูรณาการ เพ่ือพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ท่ีสอดคล้องกับผู้เรียน และเพื่อพัฒนาชุมชน ผนู้ านวตั กรรมหลกั สูตร และการเรยี นรูข้ องครูในโรงเรยี น และเพื่อพัฒนาคุณภาพนักเรียนให้มีทักษะ ที่จาเป็นในศตวรรษที่ 21 รวมท้ังคณุ ธรรมและจริยธรรมตามท่ีสงั คมต้องการ 3) กระบวนการ โดยการ สร้างความเข้าใจร่วมกนั เกีย่ วกบั หลกั สตู รสถานศึกษาและการกาหนดเปา้ หมายในการพัฒนาหลักสูตร กาหนดบทบาทหน้าท่ีความรับผิดชอบในการดาเนินการพัฒนาหลักสูตร การถอดบทเรียน จุดแข็ง และจดุ ท่ีควรปรบั ปรุงหลักสูตรเดิม การกาหนดเป้าหมายคุณภาพผเู้ รียนที่ตอบสนองการเปล่ียนแปลง ของสงั คมในอนาคต การดาเนนิ การพฒั นาหลกั สูตรที่มคี วามเปน็ นวัตกรรม Curriculum innovation ตอบสนองเป้าหมายคุณภาพผู้เรียน การใช้หลักสูตรแบบวิจัยเป็นฐานที่มีการประเมินและปรับปรุง อย่างต่อเน่ืองตามวงจร Plan Do Check Reflection จัดทารายละเอียดตามองค์ประกอบหลักสูตร ใหค้ รบถ้วน ติดตามตรวจสอบความถูกต้องและเหมาะสมเพ่ือปรับปรุงและแก้ไข นาหลักสูตรไปใช้ใน การจัดการเรียนการสอน ประเมินผล และตรวจสอบโดยผู้เช่ียวชาญเพื่อรับรองหลักสูตร 4) การวัด และประเมินผล ได้แก่ การประเมินคุณภาพการจัดการเรียนรู้ของผู้สอนอย่างต่อเน่ือง การประเมิน คุณภาพของผู้เรียนอย่างต่อเน่ือง และการสะท้อนผลการประเมินและนาไปปรับปรุงหลักสูตร 5) ปจั จยั สนบั สนุน ประกอบด้วย การสนับสนุนจากโรงเรียนเพื่อพัฒนาการเรียนการสอนและการสร้าง สื่อนวัตกรรมของอาจารย์ การสรา้ งขวัญและกาลงั ใจของผูบ้ รหิ าร และความรว่ มมือในการนาหลักสูตร ไปใช้ของอาจารย์ การสนบั สนนุ เชงิ วิชาการของผ้บู รหิ ารท้งั ระดบั มหาวิทยาลัย ระดับคณะ และระดับ โรงเรียน Growth mindset ของบคุ ลากรท่ีมีต่อการพัฒนาหลักสูตรและนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ การสนับสนุนจากชุมชน องค์กรภาครัฐ และเอกชน ทรัพยากรหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ งบประมาณในการดาเนินการ และการได้รับความร่วมมือจากผู้ปกครอง ทั้งนี้อาจเป็นเพราะว่า โรงเรยี นยงั ขาดการจัดการเชงิ ระบบในการพัฒนาหลกั สตู ร โดยเฉพาะด้านการบริหารจัดการหลักสูตร ซึง่ สามารถสะท้อนผลการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ของอาจารยผ์ สู้ อนได้อย่างต่อเนื่องโดยเน้นให้นักเรียน พัฒนาตนเองได้เพ่ือร่วมกันพัฒนาวิชาชีพในโรงเรียนในรูปแบบ PLC มีการแลกเปล่ียนเรียนรู้และมี ระบบการจัดการความรู้อยา่ งเป็นรปู ธรรม การจัดการเรียนรู้ตอ้ งคานึงถงึ ความสามารถของผู้เรียนเป็น รายบุคคล และควรมี “รูปแบบการพัฒนาหลักสูตร” เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาหลักสูตร สถานศึกษาใหส้ อดคลอ้ งกนั ทกุ ประเดน็ 3.4 ด้านผลผลิต (Product) ปัญหาของนักเรียนที่โรงเรียนยังไม่ได้ดาเนินการ หรือดาเนินการแล้วแต่ยังไม่เป็นท่ีประจักษ์ ได้แก่ กระบวนการทางานอย่างเป็นระบบ สมรรถนะใน การสร้างสรรค์ช้นิ งาน ความสามารถและคุณลักษณะของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 ตามเป้าหมายของ
323 หลักสูตร ความสามารถทางปัญญา 8 ด้าน (ความสามารถด้านภาษา คณิตศาสตร์ มิติสัมพันธ์ การ ควบคุมความคิดความรู้สึก ดนตรี มนุษย์สัมพันธ์ เข้าใจตนเอง และเข้าใจธรรมชาติ) ดังนั้นแนวทาง การพัฒนาและปรับปรุงหลักสูตรคือ โรงเรียนควรให้ความสาคัญกับการสร้างกลไกการพัฒนาผลผลิต จากหลักสูตรเพ่ือให้กลุ่มเป้าหมายของการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาบรรลุผลตามจุดมุ่งหมายที่ เกี่ยวข้องคือ คุณลักษณะที่ดีของนักเรียนและอาจารย์ผู้สอน กล่าวคือ คุณลักษณะนักเรียนท่ีพึง ประสงคข์ องโรงเรียน ควรเป็นผู้มีความรูค้ วามเข้าใจในส่ิงท่ีเรียน มีความรู้ความสามารถทางวิชาการ หรือเฉพาะทาง มที ักษะการคิดวเิ คราะห์ คดิ สร้างสรรค์ มีทักษะในการสรา้ งสรรค์นวัตกรรมท่ีสามารถ แปลงความคดิ สรา้ งสรรค์มาเปน็ นวัตกรรมได้มที กั ษะการแกป้ ัญหา และทกั ษะดา้ นการใช้ภาษาในการ สื่อสาร มีความรับผิดชอบต่อตนเองและผู้อื่น มีวินัย มีคุณธรรม-จริยธรรม มีจิตอาสา เห็นคุณค่าใน ตนเอง มีความเอ้ือเฟ้ือเผ่ือแผ่และแบ่งปัน (เมตตากรุณา) และคุณลักษณะครูที่พึงประสงค์ของ โรงเรยี น ควรเป็นผูม้ ีความรู้ และเขา้ ใจนักเรยี น สอนเขา้ ใจและเน้นให้นักเรียนได้ปฏิบัติจริง มีความรู้ และความชานาญในวชิ าท่สี อน ดูแลและเอาใจใสน่ กั เรียนท่วั ถึง และมจี ติ ใจโอบออ้ มอารีกับนักเรียน มี สมรรถนะในการจัดการเรียนรู้ มีความสามารถในการวิจัยในชั้นเรียน และมีความเอาใจใส่ในการ พฒั นานกั เรียน มี Passion ในการพัฒนาคณุ ภาพผ้เู รียน รักการสอน/รักการจัดการเรียนรู้ รักผู้เรียน มีความเปน็ กัลยาณมติ ร เป็นบุคคลแหง่ การเรียนรู้ และเป็นนักสร้างสรรค์นวัตกรรมหลักสูตรและการ เรียนรู้ ท้ังนี้อาจเน่ืองมาจากความคาดหวังของผู้ปกครอง ผู้บริหารและครู ผู้ทรงคุณวุฒิ รวมทั้ง นักเรียนเอง ทีต่ ้องการให้บตุ รหลาน/นกั เรยี นมคี วามพร้อมและมีพัฒนาการที่ดีตามวัยท้ังด้านร่างกาย และจิตใจ มีความสามารถในการตัดสินใจเลือกเรียนตามความสนใจและความถนัดด้วยตนเอง ได้รับ การส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ มีทักษะการคิดข้ันสูงและทักษะในศตวรรษท่ี 21 มีความรู้ ความสามารถเพียงพอสาหรับการศึกษาในระดับทส่ี งู ขึ้นและการเลือกอาชีพได้ตั้งแต่เรียนอยู่ในระดับ มธั ยมศกึ ษา เป็นคนดมี คี ุณธรรม มนี ้าใจ มีจิตอาสา มีภาวะผู้นา-ผู้ตามที่ดี รวมท้ังมีทักษะการจัดการ และการรู้จักแก้ปัญหา มีความรอบรู้การเปลี่ยนแปลงของโลก (World Changing) ในศตวรรษที่ 21 ดังนั้นครูจึงควรมี Passion ในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน มีความเป็นครูมืออาชีพท่ีก้าวทันการ เปล่ยี นแปลงในยุค Disruption เป็นนักพัฒนาและเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์อยู่เสมอ เพื่อเป็นต้นแบบใน การปฏิบัติตนที่ดีสาหรับนักเรียน โดยครูไม่จาเป็นต้องสอนความรู้ให้นักเรียนมากนักเพราะนักเรียน สามารถหาความรดู้ ว้ ยตนเองได้ แต่จากการสมั ภาษณน์ กั เรยี น พบวา่ มีสงิ่ ท่นี ักเรียนต้องการคือ ให้ครู จดั กิจกรรมเพอ่ื เพ่ิมประสบการณ์การเรียนรู้ให้นักเรียนสามารถนาไปใช้ในชีวิตประจาวันผ่านการลง มือปฏิบัติจริง ซ่ึงสอดคล้องกับงานวิจัยของ เนตรนภา หยูมาก (2562: 34-35) เร่ือง การศึกษา คุณลักษณะของครูท่ีพึงประสงค์ตามทัศนะของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่พบว่านักเรียนช้ัน มัธยมศกึ ษาปีที่ 1 โรงเรยี นตะเครียะวทิ ยาคม มที ัศนะต่อคุณลักษณะของครูที่พึงประสงค์อยู่ในระดับ ปานกลาง ให้ความสาคัญต่อคุณลักษณะของครูด้านการเป็นพลเมืองดีในสังคมประชาธิปไตยสูงเป็น อันดับท่ี 1 โดยครูต้องเป็นพลเมืองดีในสังคมประชาธิปไตย เพื่อเป็นตัวอย่างท่ีดีแก่ศิษย์ต่อไป ส่วน คุณลักษณะของครูท่ีพึงประสงค์ด้านวิชาการที่นักเรียนให้ความสาคัญน้อยเป็นลาดับท่ี 8 เนื่องจาก ปัจจุบันเทคโนโลยีและการส่ือสารเจริญก้าวหน้ามาก ความสาคัญต่อคุณลักษณะของครูในด้านนี้จึง น้อยท่ีสุด และพบว่า ด้านการสอน นักเรียนต้องการให้ครูจัดกิจกรรมประกอบการเรียนช่วยให้ นักเรียนมีความสุขในการเรียน ด้านวิชาการ นักเรียนต้องการให้ครูพานักรัยนเข้าห้องสมุดเพ่ือหา
324 ความร้เู พ่ิมเติม ดา้ นสขุ ภาพกายและจติ นักเรียนต้องการให้ครู เป็นคนใจเย็นไม่โกรธง่าย ด้านมนุษย สมั พันธ์ นกั เรียนตอ้ งการให้ครูใจดี ด้านบุคลิกลักษณะ นักเรียนต้องการให้ครูเป็นคนสุภาพอ่อนโยน และส่งเสรมิ ยกย่องนักเรียนทท่ี าดี และสอดคล้องกับงานวิจัยของ สุชาดา สุดจิตร (2562: 153) เร่ือง คณุ ลักษณะของอาจารย์ผู้สอนตามความคิดเห็นของนักศึกษา สถาบันอุดมศึกษาระดับปริญญาตรีใน จังหวดั ภูเก็ตที่พบวา่ คุณลกั ษณะของอาจารย์ผู้สอนตามความคิดเห็นของนักศึกษาสถาบันอุดมศึกษา ระดบั ปริญญาตรีในจงั หวัดภเู กต็ ด้านวิชาการ มีความรู้ความเข้าใจในเนื้อหาวิชาท่ีสอนอย่างลึกซึ้ง มี การจัดทาแผนและวางแผนในการสอน และศึกษาอบรมดูงานอย่างสม่าเสมอและสามารถนาความรู้ท่ี ไดม้ าถ่ายทอดใหน้ ักศึกษาไดเ้ ป็นอยา่ งดี ดา้ นทกั ษะและเทคนิควิธีการสอน ใช้เทคนิคและวิธีการสอน ท่ีหลากหลาย เอื้อต่อการเรียนรู้ ส่งเสริมให้นักศึกษาวิเคราะห์ วิจารณ์ สังเคราะห์ปัญหา และการ แกป้ ัญหาอย่างเป็นระบบ และเป็นผู้ริเริ่มค้นคว้าหาวิธีการสอนที่ทันสมัยอยู่เสมอ ด้านการวัดผลและ ประเมนิ ผล มีวิธกี ารวดั ผลและประเมินผลท่ีหลากหลายวิธี ทัง้ ปรนัย อัตนัย และการประเมินจากงาน ท่ีมอบหมาย มีการแจ้งข้อมูลป้อนกลับแก่ผู้เรียนอย่างสร้างสรรค์และทันกาล ด้านบุคลิกภาพ ครู ประพฤติปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างท่ีดี แต่งกายสุภาพเรียบร้อยและมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี และมีความ กระตือรือร้น พัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลา ด้านคุณธรรมและจริยธรรม มีความอดทนอดกล้ันต่อ พฤติกรรมต่างๆ ของนักศึกษาให้ความช่วยเหลือแก่นักศึกษาและเพ่ือนร่วมอาชีพและปฏิบัติต่อ นกั ศึกษาได้เหมาะสมและเสมอภาค 3.5 ด้านผลกระทบ (Impact) ปัญหาที่เป็นข้อกังวลของนักเรียนและอาจารย์ ได้แก่ ความรู้สึกรกั และภาคภูมิใจต่อสถาบันของนักเรียน การเป็นที่ยอมรับของสถาบันการศึกษาทั้ง ในและต่างประเทศ การได้รับการยอมรับว่า “เป็นคนดีในสังคม” การเผยแพร่ผลงานวิชาการและ งานวิจัยของอาจารย์ การสร้างนวัตกรรมการเรียนการสอนของอาจารย์ผ่านกระบวนการวิจัย การ ได้รับเชิญเปน็ วิทยากรเพือ่ ชว่ ยพฒั นาการจดั การเรียนรู้ให้แก่บุคลากรท้ังภายในและภายนอกสถาบัน การเผยแพรผ่ ลงานหรอื ใหบ้ ริการวิชาการของอาจารย์ มีจานวนยังไม่ถึงครึ่งหนึ่งของอาจารย์ท้ังหมด ในโรงเรียน แนวทางการปรับปรุงและพัฒนาคือ ควรมีกิจกรรมที่ส่งเสริมให้นักเรียนรู้สึกรักและ ภาคภูมิใจต่อสถาบัน และสนับสนุนให้อาจารย์มีการเผยแพร่ผลงานหรือให้บริการวิชาการมากขึ้น รวมท้ังกระต้นุ ใหอ้ าจารย์ได้ใช้ความรคู้ วามสามารถในการสร้างสรรค์งานและจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยน เรียนรูร้ วมทั้งใหบ้ รกิ ารวิชาการแก่เพื่อนร่วมวิชาชีพทั้งในและนอกโรงเรียน หลักสูตรควรจัดรายวิชา เรียนในชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 6 ให้น้อยลงเพ่ือให้นักเรียนมีเวลาเตรียมความพร้อมเข้ามหาวิทยาลัย ได้มากข้ึน ท้ังน้ีอาจเป็นเพราะว่า กิจกรรมหรือโครงการที่โรงเรียนจัดข้ึนเพื่อเสริมสร้างความผูกพัน ระหวา่ งนักเรียนรว่ มกนั ทกุ หลกั สูตรทุกระดับช้ันมีเพียง 2 โครงการเท่าน้ัน คือ โครงการปัจฉิมนิเทศ และโครงการกฬี าสภี ายใน จึงทาให้ความรักความผูกพันของนักเรียนระหว่างรุ่นพี่และรุ่นน้องซึ่งเกิด จากการทากิจกรรมร่วมกัน ดูแลห่วงใยช่วยเหลือแนะนาซึ่งกันและกันไม่เกิดข้ึน รวมทั้งความไม่ ประทับใจของนักเรียนท่ีมีต่อการให้บริการของเจ้าหน้าท่ี หรือจากการท่ีนักเรียนรู้สึกได้ว่าอาจารย์ ไม่ได้ดูแลผเู้ รยี นอย่างเต็มความสามารถ สงิ่ เหลา่ น้ีอาจส่งผลต่อความรู้สึกรัก ผูกพัน และภาคภูมิใจต่อ โรงเรียนหรือสถาบันของตนเองลดลงตามไปด้วยซง่ึ สอดคลอ้ งกับงานวิจยั ของจฑุ ารัตน์ ทิพย์บุญทรัพย์ และศศิธร โรจน์สงคราม (2560: 64-66) เรื่อง การศึกษาความผูกพันของนักศึกษาต่อวิทยาลัย นานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล ท่ีพบว่า ปัจจัยที่ส่งผลต่อความผูกพันของนักศึกษาต่อวิทยาลัย
325 นานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล โดยพบวา่ ความผูกพันต่ออาจารย์ เจ้าหน้าที่ และเพ่ือนส่งผลต่อความ ผูกพันของนักศึกษาในภาพรวม อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนความผูกพันต่อรุ่นพี่รุ่น น้องส่งผลต่อความผูกพันของนักศึกษาในภาพรวมอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ีระดับ .01 และ สอดคล้องกบั ผลงานวิจัยของ อรวรรณ จุลวงษ์ (2555) ได้ศึกษาเรื่อง การศึกษาเชิงคุณภาพเก่ียวกับ ความรู้สึกผูกพนั ต่อสถาบันการศึกษาของนกั ศกึ ษาพยาบาลกองทัพบก พบว่า การได้เข้าร่วมกิจกรรม ต่างๆ รว่ มกนั ทาให้รู้สึกผูกพันกับสถาบนั การศึกษา เนอ่ื งจากผู้ให้ข้อมูลมีโอกาสได้ผ่อนคลายความตึง เครียดจากการเรียน ทาให้มีความสนิทสนมกันมากขึ้น มีความเป็นหน่ึงเดียวมากข้ึน (Unity) และถ้า ผู้เรียนได้รับการคัดเลือกให้เป็นตัวแทนสถาบันจะเกิดความภาคภูมิใจ และรู้สึกหวงแหน และเกิด ความร้สู ึกเป็นเจ้าของสถาบัน ความรู้สกึ ของการเป็นส่วนหนึ่งจัดเป็นความรู้สึกที่แสดงถึงความผูกพัน (Libbey, 2004) การส่งเสริมความรู้สึกมีคุณค่าในตนเองของบุคคล (Self Esteem) โดยการเปิด โอกาสใหม้ กี ิจกรรมตามความสามารถของบคุ คล จะทาให้บคุ คลรู้สึกของการเป็นส่วนหน่ึงของสถาบัน (Eggert, 1994) จากผลการศกึ ษาปญั หาและแนวทางการพัฒนาและปรับปรุงหลักสูตรสถานศึกษา ตามองค์ประกอบของการประเมินหลักสตู ร 5 ดา้ น โดยหลักสูตร English Program ที่พบว่า 3.6 ดา้ นบริบท (Context) ปญั หาของหลักสตู รสถานศึกษาดา้ นบรบิ ท ท่ีพบว่า มี ขอ้ ค้นพบเชน่ เดียวกบั หลกั สตู รปกติ และมีส่วนที่เพิ่มเติม คือ ความเหมาะสมของเนื้อหาสาระที่เรียน แต่ละรายวชิ าในภาพรวม นักเรียนควรสามารถนาไปใชไ้ ดจ้ รงิ ในชวี ติ ประจาวนั การส่งเสริมใหน้ ักเรียน สามารถแสวงหาและสร้างความรู้ด้วยตนเอง นักเรียนส่วนใหญ่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเข้ามา เรียนอยู่ในระดบั ปานกลางถงึ ต่า ซึ่งเปน็ ปจั จยั สาคญั ตอ่ การออกแบบหลกั สูตรให้เหมาะสม ส่วนปัญหา ดา้ นรายวิชา (พ้ืนฐานและเพิ่มเตมิ ) และกิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น คอื การสง่ เสรมิ ให้นักเรียนมีสมรรถนะ ในการเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง มีความสามารถในการส่ือสาร การคิด การแก้ปัญหา การใช้ทักษะชีวิต และการใช้เทคโนโลยี แนวทางการปรับปรุงและพัฒนาคือ หลักสูตรควรตอบสนองนักเรียนแต่ละคน และควรมีรปู แบบการประเมนิ ที่หลากหลายและเน้นความแตกต่างระหว่างบุคคล ควรสร้างแรงจูงใจ ให้ครูได้รับการพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้และการประเมินผลที่ส่งเสริมทักษะผู้เรียนใน ศตวรรษที่ 21 และพัฒนาเครื่องมือประเมินที่สะท้อนผลลัพธ์การบรรลุเป้าหมายของหลักสูตร นอกจากนี้ควรพัฒนาความพร้อมของบุคลากร อาจารย์ผู้สอน สถานที่ และแหล่งเรียนรู้ต่างๆ ใน โรงเรียน และพัฒนาภาวะผนู้ าให้แก่นักเรียน ท้ังน้ีอาจเป็นเพราะว่าเน้ือหาสาระท่ีเรียนส่วนใหญ่เป็น เนอ้ื หาเดยี วกบั หลกั สตู รปกติแตเ่ รียนเปน็ ภาษาองั กฤษเท่านน้ั และไม่ได้เน้นสถานการณ์ที่นักเรียนจะ สามารถนาไปใช้ในชีวิตประจาวันได้ ทาให้นักเรียนไม่เห็นความสาคัญหรือประโยชน์ท่ีเกิดจากการ เรียนในรายวิชา โดยในการออกแบบหลักสูตรจึงควรคานึงถึงต้นทุนด้านความสามารถในการเรียนรู้ ของนกั เรยี นรว่ มดว้ ย 3.7 ด้านปจั จัยนาเข้า (Input) ปัญหาของหลักสูตรสถานศึกษาด้านปัจจัยนาเข้า มีข้อท่ีกังวลคือ ความชัดเจนของคุณสมบัติอาจารย์ผู้สอนนักเรียนหลักสูตร EP ความพร้อมของ เจ้าหน้าที่ในการให้บริการ สนับสนุน และอานวยความสะดวกเพื่อการบรรลุเป้าหมายของงาน อาจารย์ผู้สอนไดส้ อนในรายวชิ าท่ีตรงกับความเช่ียวชาญ ความรู้ความสามารถ ความเชี่ยวชาญ และ ประสบการณ์ของอาจารย์ผู้สอน ดา้ นเอกสาร ส่ือ เทคโนโลยี และสงิ่ สนบั สนุนทเี่ ออื้ ตอ่ การเรียนรู้ การ
326 มกี จิ กรรมกบั เพอ่ื นต่างโรงเรยี นหรือบคุ คลภายนอกเพอ่ื แลกเปล่ียนประสบการณ์การเรียนรู้ซ่ึงกันและ กนั แนวทางการปรับปรุงและพัฒนาคือ ห้องเรียนควรมีสภาพที่เอ้ือต่อการเรียนรู้ ควรมีห้องบริการ สบื ค้นขอ้ มลู ดว้ ยระบบเครอื ขา่ ยคอมพิวเตอรท์ เี่ หมาะสมและทันสมัย ควรมีกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ กับชุมชน และชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาของโรงเรียน หนังสือและส่ือ วัสดุอุปกรณ์ท่ี นักเรียนใช้เรียนยังไม่ค่อยมีใช้ประกอบการเรียน ควรพิจารณาคุณสมบัติของอาจารย์ผู้สอนท่ีมีความ เข้าใจ ใส่ใจในการดแู ลนกั เรยี น และสือ่ สารกบั นักเรียนดว้ ยภาษาสภุ าพ ควรเพ่มิ แหล่งเรียนรู้ต่างๆ ใน โรงเรยี น ควรมกี ารกาหนดเป้าหมายของนกั เรียนหลกั สตู ร EP ให้ชัดเจนว่าแตกต่างจากหลักสูตรปกติ ของโรงเรียนอย่างไร ความพร้อมของอาจารย์ผู้สอน คุณสมบัติของอาจารย์ชาวต่างชาติท่ีสอน และ ความกระตือรือร้นในการเรียนรู้ของนักเรียน โรงเรียนควรจัดหลักสูตรที่ให้ผู้ปกครองได้พัฒนาด้าน ภาษาอังกฤษเพ่ือใช้ในการพูดส่ือสารเพื่อจะได้สามารถพูดคุยกับลูกเป็นภาษาอังกฤษที่บ้านได้ด้วย ปัจจัยสาคัญท่ีจะช่วยขับเคลื่อนการนาหลักสูตรไปใช้ คือ ความสามารถของอาจารย์ในการใช้ส่ือ เทคโนโลยี และแหล่งเรียนรู้ ในการจดั กิจกรรมการเรยี นรใู้ หม้ ากขน้ึ ในแตล่ ะรายวชิ า ปจั จยั สาคัญที่จะ ช่วยขับเคล่ือนการนาหลักสูตรสถานศึกษาสู่ช้ันเรียน คือ การสร้างความเข้าใจในการจัดการเรียนรู้ ร่วมกัน และการมีเจตคติที่ดีต่อหลักสูตร เนื่องจากเป็นการสอนโดยอาจารย์ชาวต่างชาติเป็นหลัก ดังนั้น โรงเรียนควรมีการบริหารจัดการความรู้ที่เป็นระบบโดยมีการแลกเปล่ียนเพ่ือการพัฒนาการ เรียนการสอนอย่างต่อเน่ือง มีระบบการช่วยเหลือทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนานักเรียน การ สง่ เสริมใหน้ กั เรียนได้มองเห็นเสน้ ทางในอนาคตของตนเองหรอื การค้นพบตนเองรวมทง้ั การเหน็ คุณคา่ ของตนเองจะเป็นแรงจูงใจที่ดีสาหรับการเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นเพื่ อก้าวสู่การเรียนใน ระดบั ท่ีสูงขึน้ ทงั้ น้ีอาจเป็นเพราะว่าการให้บริการของเจ้าหน้าที่ใช้ภาษาสื่อสารที่ไม่เป็นกัลยาณมิตร กับนักเรียน ทาให้นักเรียนรู้สึกไม่ประทับใจ บางรายวิชาอาจารย์ผู้สอนไม่มีความเช่ียวชาญ หรือไม่ เตรียมอุปกรณ์สาหรับนักเรียนให้ท่ัวถึง ทาให้นักเรียนเข้าใจว่าโรงเรียนมีอุปกรณ์ไม่เพียงพอ นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่ควรได้รับการพัฒนา ได้แก่ แหล่งเรียนรู้ การกาหนดเป้าหมายของนักเรียน หลักสูตร EP คุณสมบัติของอาจารย์ชาวต่างชาติ การพัฒนาภาษาอังกฤษของผู้ปกครองเพ่ือความ พร้อมในการดูแลนักเรียน กิจกรรมกับเพ่ือนต่างโรงเรียนหรือบุคคลภายนอกเพ่ือแลกเปลี่ยน ประสบการณ์การเรียนรู้ซึ่งกันและกัน การใช้ประโยชน์จากหนังสือเรียน ปัญหาดังกล่าวท้ังหมดจะ เป็นกุญแจสาคัญต่อการออกแบบหลักสูตรที่โรงเรียนควรนาประเด็นไปสังเคราะห์ร่วมกัน ทาให้เกิด องค์ความร้นู าไปพัฒนาหลกั สูตรไดเ้ หมาะสมและกา้ วทนั การเปล่ยี นแปลง 3.8 ด้านกระบวนการ (Process)ปัญหาของหลักสูตรสถานศึกษาด้าน กระบวนการ ทคี่ วรไดร้ บั การแกไ้ ขและปรบั ปรงุ ในประเดน็ เกย่ี วกับกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนควรสะท้อน ความสามารถและความถนดั ของนักเรียนและควรมีความหลากหลายเพ่ือให้นักเรียนได้ค้นพบตนเอง กิจกรรมการเรียนรู้ควรเน้นให้นักเรียนได้คิดวิเคราะห์และลงมือปฏิบัติจริง ด้านการบริหารจัดการ หลักสูตรโรงเรียนควรมีทิศทางการพัฒนานกั เรยี นหลกั สตู ร EP ทีช่ ดั เจน ควรเพ่ิมความเข้มข้นของการ ใหบ้ รกิ ารแนะแนวตามเวลาท่ีนักเรียนว่างจากการเรียน ทุกรายวิชาควรให้นักเรียนได้เรียนรู้จากการ ทาจรงิ จะได้เข้าใจและจาได้ ควรมชี มรมใหน้ ักเรียนเลอื กเรียนหลากหลายมากข้ึน หรืออาจให้นักเรียน เปิดชมรมเองตามท่สี นใจ พัฒนานักเรียน EP ให้มีความเป็นผู้นา นอกจากน้ีโรงเรียนควรมี “รูปแบบ การพัฒนาหลักสตู ร” ทีม่ ีเปา้ หมายใหน้ กั เรียนหลักสตู ร EP มคี วามม่ันใจในการพูดภาษาอังกฤษอย่าง
327 เป็นธรรมชาติ และสามารถอ่านเขียนได้เพ่ือเป็นพ้ืนฐานในการศึกษาต่อของนักเรียน ควรพัฒนา หลักสตู รเพื่อสง่ เสรมิ สมรรถนะของผูเ้ รยี น ที่เน้นให้ผู้เรียนเกิดทักษะทั้ง Hard Skills และ Soft Skills ทักษะการคิดข้ันสูง และสร้างสรรค์นวัตกรรมได้ รูปแบบการพัฒนาหลักสูตรของโรงเรียนควร ประกอบด้วย 1) หลักการ คือ ให้ความสาคัญกับ Growth mindset ในการพัฒนาหลักสูตรที่ คณะกรรมการพฒั นาหลักสูตร และบุคลากรทกุ ฝา่ ยมีสว่ นร่วมในการพัฒนาหลักสูตรท่ีให้ความสาคัญ กับคณุ ภาพผู้เรียนด้านตา่ งๆ และพฒั นาหลกั สูตรให้ตอบสนองธรรมชาตแิ ละความต้องการของผู้เรียน ในลักษณะ Personalized learning และใช้ Technology เป็น Platform ของการเรียนรู้ ร่วมกับ การเรียนรู้แบบ Creative Team Learning 2) วัตถุประสงค์ คือ เพ่ือพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาท่ี ตอบสนองธรรมชาติและความต้องการของผู้เรียน เสริมสร้างคุณภาพผู้เรียนแบบบูรณาการ เพื่อ พัฒนานวตั กรรมการเรียนรทู้ ี่สอดคลอ้ งกับผู้เรยี น และเพือ่ พัฒนาชุมชน ผู้นานวัตกรรมหลักสูตร และ การเรยี นร้ขู องครูในโรงเรียน 3) กระบวนการ โดยการกระตุ้น Growth mindset และ Passion ของ ผมู้ สี ว่ นเกย่ี วขอ้ งในการพัฒนาหลกั สูตร การถอดบทเรยี น จุดแข็ง และจุดท่ีควรปรับปรุงหลักสูตรเดิม การกาหนดเปา้ หมายคุณภาพผ้เู รยี นทตี่ อบสนองการเปล่ยี นแปลงของสังคมในอนาคต การดาเนินการ พัฒนาหลักสูตรที่มีความเป็นนวัตกรรม Curriculum innovation ตอบสนองเป้าหมายคุณภาพ ผู้เรียน การใช้หลักสูตรแบบวิจัยเป็นฐานท่ีมีการประเมินและปรับปรุงอย่างต่อเนื่องตามวงจร Plan Do Check Reflection 4) การวัดและประเมินผล โดยการประเมินคุณภาพการจัดการเรียนรู้ของ ผู้สอนอย่างต่อเน่ือง การประเมินคุณภาพของผู้เรียนอย่างต่อเนื่อง การสะท้อนผลการประเมินและ นาไปปรบั ปรุงหลักสตู ร และการถอดบทเรียนนวัตกรรมหลักสูตรและการเรียนรู้ของโรงเรียน และ5) ปัจจยั สนับสนุน ไดแ้ ก่ การสนับสนุนเชิงวิชาการของผู้บริหารทั้งระดับมหาวิทยาลัย ระดับคณะ และ ระดับโรงเรียน Growth mindset ของบุคลากรท่ีมีต่อการพัฒนาหลักสูตรและนวัตกรรมการจัดการ เรียนรู้ การสนบั สนนุ จากชุมชน องค์กรภาครฐั และเอกชน ทรัพยากรหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ งบประมาณในการดาเนินการ และการได้รับความร่วมมือจากผู้ปกครอง ท้ังน้ีอาจเป็นเพราะว่า โรงเรยี นมกี ารจดั การเชิงระบบในการพัฒนาหลักสูตรยังไม่ชัดเจน โดยเฉพาะด้านการบริหารจัดการ หลักสตู รซ่งึ สามารถสะท้อนผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของอาจารย์ผู้สอนได้อย่างต่อเนื่องโดยเน้น ให้นักเรียนพัฒนาตนเอง และครูที่ต้องการการพัฒนาด้านวิชาชีพในโรงเรียนในรูปแบบ PLC โดยมี การแลกเปลี่ยนเรยี นรู้และมีระบบการจดั การความร้อู ยา่ งเป็นรูปธรรม การจัดการเรียนรู้ต้องคานึงถึง ความสามารถของผู้เรยี นเป็นรายบุคคล และควรมี “รปู แบบการพัฒนาหลกั สตู ร” เพ่ือใช้เป็นแนวทาง ในการพฒั นาหลกั สูตรสถานศึกษาให้สอดคลอ้ งกนั ทกุ ประเด็น 3.9 ด้านผลผลิต (Product) ปัญหาและแนวทางการพัฒนาและปรับปรุง หลักสูตรสถานศึกษาด้านผลผลิต ประกอบด้วยประเด็นเก่ียวกับ ความสามารถตามคุณลักษณะของ ผู้เรียนในศตวรรษท่ี 21 ตามเป้าหมายของหลักสูตร ความมุ่งม่ันในการเรียน การทางาน และกล้า แสดงออกในทางที่ถูกต้องเหมาะสม การมีบุคลิกภาพที่ดตี ามเป้าหมายของหลักสูตรในด้านการเรียนรู้ อย่างมีความสขุ การเป็นทยี่ อมรับของผู้อ่ืน การช่วยเหลือ โอบอ้อมอารี สื่อสาร และใฝ่เรียนรู้สิ่งใหม่ นอกจากนพ้ี บวา่ คุณลักษณะของครูทีพ่ งึ ประสงค์ของโรงเรียน ควรเป็นบุคคลที่สอนเก่ง ดูแลเอาใจ ใส่ มเี หตุผล มีความยตุ ิธรรม รักการเรียนรู้ มีทักษะการปรับตัวเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง มีทักษะ ด้านการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม มีคุณธรรมจริยธรรมและมีจิตอาสา มีความพร้อมในการพัฒนา
328 วิชาชพี ให้ทนั สมยั อย่เู สมอ ใจกวา้ ง มภี าวะผูน้ า มปี ฏสิ ัมพนั ธ์ทดี่ แี ละเออื้ เฟื้อเผื่อแผ่ สาหรับนักเรียนที่ พึงประสงค์ของโรงเรียน ควรมีความรับผิดชอบ เข้าใจตนเองและผู้อ่ืน กล้าแสดงออกในส่ิงท่ีดี มีจิต อาสา ปฏบิ ัติตนตามระเบียบของโรงเรียน มีเหตุผล มีความกตัญญู อดทน เข้มแข็ง เป็นนักคิด รู้จัก แสวงหาความรู้อยู่เสมอ มีทักษะในการทางานเป็นทีม มีทักษะในการสื่อสาร มีความสามารถในการ เลือกใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ และรักการเรียนรู้ตลอดชีวิต ทั้งนี้อาจเน่ืองมาจากนักเรียน ผปู้ กครอง ผู้บรหิ ารและครู ผทู้ รงคุณวุฒิ มคี วามคาดหวังต่อพัฒนาการการเรียนรู้ของนักเรียนโดยใช้ ภาษาอังกฤษในการเรียนการสอน ใหม้ ที กั ษะการคดิ และทักษะในศตวรรษท่ี 21 มีความรอบรู้ กล้าคิด กลา้ แสดงออก เปน็ คนดีมคี ณุ ธรรม มีน้าใจ มีจิตอาสา และมภี าวะผู้นา ดังนั้นครูจึงควรมี Passion ใน การพัฒนาคุณภาพผู้เรียน จัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์การเรียนรู้ให้นักเรียนสามารถนาไปใช้ใน ชีวติ ประจาวันผา่ นการลงมือปฏิบัติจริง และมีกิจกรรมใหน้ กั เรียนร่วมกันคิดและทาเพื่อให้นักเรียนได้ ฝกึ ฝนตนเองอย่างสมา่ เสมอ 3.10 ด้านผลกระทบ (Impact) ปัญหาหลักสูตรสถานศึกษาในประเด็นเร่ือง ความรูส้ กึ รกั และภาคภมู ใิ จต่อสถาบันของนักเรียน โรงเรียนยังไม่มีหลักสูตร EP ให้นักเรียนศึกษาต่อ ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จึงจาเป็นต้องเลือกเรียนเท่าที่โรงเรียนเปิดสอน ในขณะที่มีนักเรียน บางคนไม่ต้องการท่ีจะเรียนต่อในหลักสูตร EP เพราะรู้สึกว่าไม่ถนัดด้านภาษา การเผยแพร่ผลงาน หรือให้บริการวิชาการของอาจารย์มีจานวนยังไม่ถึงครึ่งหนึ่งของอาจารย์ทั้งหมดในโรงเรียน ดังน้ัน แนวทางการพัฒนาและปรับปรุงหลักสูตรสถานศึกษาฯ ควรมีการต่อยอดหลักสูตร EP ในระดับ มัธยมศกึ ษาตอนปลายโดยควรใหน้ กั เรยี นมที างเลอื กในแผนการเรยี นทีต่ รงกบั ความตอ้ งการและความ ถนัดของนกั เรยี นแตล่ ะคน โรงเรียนควรมีกิจกรรมท่ีให้รุ่นพ่ีรุ่นน้องได้ทากิจกรรมร่วมกันมากข้ึนเพ่ือ สร้างความคุ้นเคย โรงเรียนควรสร้างแรงจูงใจให้อาจารย์ได้เห็นความสาคัญของการพัฒนาการสอน และทาวจิ ัย และส่งเสริมให้มีการเผยแพร่ผลการวิจัยให้เป็นที่ประจักษ์ อาจารย์ควรมีการพัฒนางาน แบบ Routine to Research โดยทาการสอนควบคู่กับการทาวิจัยไปพร้อมๆกัน จัดกิจกรรม แลกเปลีย่ นเรียนรู้รวมท้ังให้บริการวิชาการแก่เพื่อนร่วมวิชาชีพทั้งในและนอกโรงเรียนมากข้ึน ท้ังนี้ อาจเนื่องมาจากกิจกรรมหรอื โครงการทีโ่ รงเรียนจัดข้ึนเพ่ือเสริมสร้างความผูกพันระหว่างนักเรียนใน แต่ละรุ่นและปลูกจิตสานกึ รักและภูมใิ จในสถาบันของตนเองนน้ั ยังไมช่ ว่ ยให้นกั เรียนเกิดความรู้สึกรัก และภาคภูมิใจต่อสถาบันของตนเองได้ ซ่ึงสอดคล้องกับงานวิจัยของ จุฑารัตน์ ทิพย์บุญทรัพย์ และ ศศิธร โรจนส์ งคราม (2560: 64-66) เรื่อง การศึกษาความผูกพันของนักศึกษาต่อวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล ท่ีพบว่า ปัจจัยท่ีส่งผลต่อความผูกพันของนักศึกษาต่อวิทยาลัยนานาชาติ มหาวทิ ยาลยั มหิดล โดยพบวา่ ความผูกพันต่ออาจารย์ เจ้าหน้าท่ี และเพื่อนส่งผลต่อความผูกพันของ นักศกึ ษาในภาพรวม อย่างมีนยั สาคญั ทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนความผูกพันต่อรุ่นพี่รุ่นน้องส่งผลต่อ ความผูกพันของนกั ศกึ ษาในภาพรวมอย่างมีนัยสาคญั ทางสถติ ทิ ่ีระดับ .01 จากผลการศึกษาปัญหาและแนวทางการพัฒนาและปรับปรุงหลักสูตรสถานศึกษาตาม องค์ประกอบของการประเมนิ หลกั สูตร 5 ด้าน ที่พบท้ังหลกั สตู รปกตแิ ละหลักสูตร English Program สรปุ เปน็ แนวทางในการพัฒนาหลักสตู รได้ คอื สถานศึกษาควรบูรณาการการพัฒนาคุณภาพนักเรียน ควบคกู่ บั การพฒั นาสมรรถนะการนาหลักสตู รสู่การปฏบิ ัตใิ นชั้นเรยี นของอาจารย์ มีระบบการติดตาม
329 ให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องเพ่ือการพัฒนา พลิกโฉมรูปแบบการจัดการเรียนรู้และการวัดและ ประเมินผลท่ีทา้ ทายบนความเปล่ียนแปลงแบบ Disruption โดยคานึงถึงปัจจัยความสาเร็จในการนา หลักสูตรฯไปสู่การปฎิบัติ คือ Growth mindset และ Passion ของบุคลากรทุกฝ่ายในการนา หลกั สตู รไปใช้ในชน้ั เรียนตามเจตนารมณ์ของหลักสูตร ความรู้ความเข้าใจและทักษะในการออกแบบ นวัตกรรมการเรียนรู้ของอาจารย์ผู้สอนท่ีสามารถตอบสนองธรรมชาติและความต้องการของผู้เรียน และความเข้มแข็งของการมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาของชุมชนและผู้ปกครอง โดยมีการกาหนด นโยบายการใชห้ ลักสูตรใหช้ ัดเจน ตรวจสอบคณุ ภาพของหลักสูตรที่พัฒนาข้ึน นาร่องการใช้หลักสูตร ตดิ ตาม ประเมินผลและปรับปรุง และกาหนดแนวทางการแก้ไขจากปญั หาท่ีพบในการพฒั นาหลักสูตร กอ่ นการประกาศใช้หลักสูตรสถานศึกษา ขอ้ เสนอแนะในการวิจัย ขอ้ เสนอแนะในการนาผลการประเมนิ หลักสตู รไปใช้ ผลจากการประเมินหลักสูตรโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขต กาแพงแสน ศูนย์วิจัยและพฒั นาการศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงหลักสูตรให้มีประสิทธิภาพต่อไป คณะผูว้ ิจัยมขี ้อเสนอแนะสาหรบั การปรบั ปรงุ หลักสูตรดงั นี้ 1. จากผลการศกึ ษาสภาพปัญหาของหลักสูตรสถานศึกษาในปัจจุบัน และความต้องการ ประเมินหลักสูตรสถานศึกษา สาหรับหลักสูตรปกติและหลักสูตร English Program พบว่า หลกั สูตรสถานศกึ ษาทพี่ ฒั นาขน้ึ ตามกรอบหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ.2560) มีความครบถ้วนและสมบูรณ์ สามารถรายงานผลการศึกษาของนักเรียนได้ ตามทก่ี ระทรวงศึกษาธกิ ารกาหนดทุกประเดน็ มแี นวทางใหค้ รไู ดน้ าไปกาหนดเนื้อหาสาระท่ีใช้ในการ จัดการเรียนการสอน This Curriculum aim to benefit the learners to the fullest and to be a well-rounded individual in the future. แต่มีส่ิงที่ควรแก้ไข/ปรับปรุง คือ The most important thing “mastery”. We try to know more but master only a few. ตัวชี้วัดบางข้อ วัดไดย้ าก ควรปรบั ขอ้ ความเนน้ เป็นพฤติกรรมท่ีนักเรียนแสดงออกได้ชัดเจน เป้าหมายของหลักสูตร ยังไม่มีกระบวนการหรือเคร่ืองมือในการวัดและประเมินผลท่ีสะท้อนถึงการบรรลุเป้าหมายของ หลักสูตร จดุ เน้นของหลักสตู รยังไมช่ ดั เจนและเพียงพอ การนาหลักสูตรสู่ชั้นเรียนควรต้องสร้างความ เข้าใจร่วมกัน ขาดการบริหารจัดการรายวิชาบูรณาการ ในระดับประถมศึกษาควรจัดให้มีการเรียน การสอนรายวิชาภาษาจนี และในระดับมธั ยมศกึ ษาควรมีอาจารย์พเิ ศษมาใหค้ วามรู้และประสบการณ์ กับนักเรียน สภาพปัญหาของหลักสูตรสถานศึกษาท่ีควรต้องเร่งแก้ไขปรับปรุงและพัฒนาคือ there are some of the learning indicators that should be specifically designed for a certain level are missing so sometimes it leads to the problem about making a syllabus. การนาหลกั สตู รไปใช้โดยครูไม่สามารถพัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้ไปถึงเป้าหมายของผู้เรียน ในศตวรรษที่ 21 ได้ครบถ้วน ซึ่งเกิดจากความไม่พร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ ไม่เข้าใจหลักสูตร การ จัดการเรียนการสอนและประเมินผลไม่ตรงตามมาตรฐาน/ตัวช้ีวัด การเรียนการสอนยึดเนื้อหาเป็น
330 หลัก ไม่มีวิธีการท่ีจะทาให้ทราบว่าคุณภาพนักเรียนบรรลุเป้าหมายตามท่ีหลักสูตรแต่ละระดับ การศึกษากาหนด และความต้องการประเมินหลักสูตรสถานศึกษา พบว่า มีความต้องการจาเป็น มากที่จะต้องมีการประเมินหลกั สตู รเพื่อการปรับปรุงและพัฒนา ดังน้ัน ผู้บริหารโรงเรียนโดยเฉพาะ คณะกรรมการฝา่ ยวชิ าการและอาจารยผ์ ูส้ อนควรให้ความสาคญั กบั การทบทวนหลักสูตรหรือประเมิน หลักสูตรในทกุ ปกี ารศึกษาเพ่ือวเิ คราะห์ตัวชว้ี ัดและนามากาหนดเป็นจุดประสงค์การเรียนรู้ที่สามารถ วัดพฤตกิ รรมนักเรยี นไดช้ ัดเจน การสร้างความเขา้ ใจรว่ มกันเก่ียวกบั เปา้ หมายของหลกั สตู รโดยมุ่งเน้น การพัฒนาพฤติกรรมของนักเรียนท้ังด้านการเรียนควบคู่กับการพัฒนาคุณธรรม-จริยธรรม การนา หลักสูตรสู่ช้ันเรียน การพัฒนาสมรรถนะทางวิชาชีพให้อาจารย์มีความเข้าใจร่วมกันถึงความจาเป็น และสามารถจดั การเรียนการสอนและประเมินผลได้เหมาะสมตรงตามมาตรฐาน/ตัวช้ีวัดและผลการ เรียนรู้ ตลอดจนการพัฒนาเครื่องมือและกระบวนการวัดและประเมินผลที่สะท้อนถึงการบรรลุ เปา้ หมายของหลกั สูตรสถานศกึ ษา 2. จากผลการประเมินหลกั สตู รสถานศกึ ษาในภาพรวมและเป็นรายด้าน 5 ด้าน ท่ีพบว่า หลักสูตรปกติในภาพรวมนกั เรียนและอาจารยผ์ ู้สอนมคี วามคิดเหน็ อยู่ในระดับปานกลาง และมีความ คิดเห็นในด้านผลกระทบอยู่ในระดับมาก โดยนักเรียนมีความคิดเห็นต่อหลักสูตรในภาพรวมอยู่ใน ระดับปานกลาง ส่วนอาจารย์ผู้สอนเห็นว่าอยู่ในระดับมาก ความคิดเห็นตามองค์ประกอบของการ ประเมินหลักสูตรมีลาดับของความคิดเห็นที่สอดคล้องกัน 1 ด้าน คือ ด้านผลผลิต อยู่ในลาดับที่ 3 นักเรียนมีความคิดเห็นในด้านผลกระทบเป็นลาดับที่ 1 และด้านกระบวนการเป็นลาดับที่ 5 ส่วน อาจารย์ผู้สอนมีความคิดเห็นในด้านบริบทเป็นลาดับท่ี 1 และด้านผลกระทบเป็นลาดับที่ 5 ดังน้ัน ผู้บริหารและอาจารย์ผู้สอนควรมีการช้ีแจงทาความเข้าใจกับนักเรียนในเรื่องเก่ียวกับหลัก สูตร สถานศึกษาโดยเฉพาะด้านกระบวนการซึ่งนักเรียนอาจไม่ได้รับทราบข้อมูลการดาเนินงานหรืออาจ ไมไ่ ดม้ สี ่วนรว่ มในกิจกรรม หรือเห็นว่ายังมีบางส่วนท่ีไม่สมบูรณ์และไม่เป็นไปตามความต้องการของ นักเรียน เช่น การจัดการเรียนรู้ด้วยวิธีการที่หลากหลายและคานึงถึงความสามารถของผู้เรียนเป็น รายบคุ คล การลงมอื ปฏบิ ตั จิ ริง การใหโ้ อกาสนกั เรยี นมสี ว่ นร่วมในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และการ วัดและประเมินผล การสะท้อนความสามารถและความถนัดของนักเรียนผ่านกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน และจากผลการประเมินตามองค์ประกอบของการประเมินหลกั สูตร 5 ด้าน โดยหลักสูตรปกติที่พบว่า ด้านบริบท (Context) ประเด็นทม่ี คี า่ เฉล่ียของระดบั ความคดิ เหน็ ของนกั เรียนมากท่ีสุดคือ โรงเรียน ได้พัฒนาให้นักเรียนมีความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน ช่วยให้นักเรียนมีทักษะ พื้นฐานที่จาเป็นในการศึกษารายวิชาตามความถนัดและความสนใจ รายวิชาและกิจกรรมการเรียน การสอนในโรงเรยี นช่วยสง่ เสริมใหน้ กั เรียนมีความรู้ความสามารถ และทักษะด้านการอ่าน เขียน คิด คานวณ และน้อยที่สุดคือ เน้ือหาสาระท่ีเรียนแต่ละรายวิชาในภาพรวมมีความเหมาะสม นักเรียน สามารถนาไปใช้ได้จริงในชีวิตประจาวัน รายวิชาและกิจกรรมการเรียนการสอนในโรงเรียนช่วย สง่ เสริมให้นกั เรียนมีทักษะชีวิตและเข้าใจอาชีพ และประเด็นท่ีมีค่าเฉลี่ยของระดับความคิดเห็นของ อาจารย์มากทส่ี ุด คือ โครงสร้างหลักสตู รระดบั มัธยมศึกษา ซ่ึงประกอบด้วย สาระการเรียนรู้ 8 กลุ่ม และกิจกรรมพฒั นาผู้เรียน มีความเหมาะสม และสอดคล้องกบั มาตรฐานการศึกษาระดบั การศึกษาขั้น พนื้ ฐาน พ.ศ.2561 กิจกรรมและประสบการณ์ในระดับปฐมวัย (อ.1-3) ส่งเสริมให้เด็กมีบุคลิกภาพ 5 ด้าน และมีความสามารถทางปัญญา 8 ด้าน ตามแนวคิดทฤษฎีพหุปัญญา (Multiple Intelligences
331 Theory : MI) และนอ้ ยทสี่ ดุ การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนของผู้เรียน สอดคล้องกับเป้าหมายของ หลักสูตรแตล่ ะระดับการศึกษา และมาตรฐานการศึกษาที่เน้นผลลัพธ์ที่พึงประสงค์ (DOE Thailand) รายวชิ าและกจิ กรรมพัฒนาผ้เู รียน สง่ เสริมให้ผเู้ รียนมีสมรรถนะในการเปน็ ผรู้ ่วมสร้างสรรค์นวัตกรรม ผลการตรวจสอบองค์ประกอบและคณุ ภาพหลักสตู รสถานศึกษาในภาพรวมมีคุณภาพอยู่ในระดับมาก และผลการประเมนิ ความเหมาะสมของรายวิชาในภาพรวมและรายวิชาเพ่ิมเติม (ตามความสนใจ) มี ความเหมาะสมอยู่ในระดับมากท่ีสุด ส่วนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ในภาพรวม กิจกรรมลูกเสือ และ กิจกรรมเพื่อสงั คมและสาธารณประโยชน์ มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด ดังนั้น โรงเรียนควร เพ่ิมกจิ กรรมเสรมิ หลักสตู รท่เี นน้ ใหน้ ักเรียนลงมือปฏิบัติและสามารถนาไปใช้ได้จริงในชีวิตประจาวัน ลดเวลาเรียน จัดการเรียนการสอนเต็มเวลาและไม่ต้องให้มีการบ้าน เพิ่มจานวนคาบเรียนวิชา เทคโนโลยี พลศกึ ษา และดนตรี ปรับเวลาเรยี นใหห้ มาะสมไม่มากเกินไป ให้มีเวลาทากิจกรรมมากข้ึน ควรมีแผนการเรียนท่ีเน้นด้านอาชีพโดยนาหลักสูตรในมหาวิทยาลัยมาทดลองใช้เพื่อให้นักเรียนมี ทางเลอื กที่เหมาะสมกับตนเองและหลากหลายมากข้นึ ควรมวี ิชาเลอื กหรือชมรมเพ่ือให้นักเรียนเลือก เรียนตามตอ้ งการ และให้มรี ะบบการแนะแนวที่เข้มข้นเพ่ือให้เด็กได้รู้เส้นทางและเตรียมความพร้อม สาหรับตนเอง ด้านปัจจัยนาเข้า (Input) ประเด็นที่มีค่าเฉลี่ยของระดับความคิดเห็นของนักเรียน มากทส่ี ดุ คือ ผปู้ กครองสง่ เสรมิ นกั เรียนได้พัฒนาศักยภาพเพิ่มเติมจากในช้ันเรียนโดยยินดีให้นักเรียน เข้าร่วมกิจกรรมของทางโรงเรียนทุกกิจกรรม มีห้องสมุดให้บริการหนังสืออย่างเพียงพอกับความ ต้องการของนักเรียน และน้อยท่ีสุดคือ เจ้าหน้าท่ี มีความพร้อมในการให้บริการ สนับสนุน และ อานวยความสะดวกเพื่อการบรรลุเป้าหมายของงาน มีกิจกรรมกับเพื่อนต่างโรงเรียนหรือ บุคคลภายนอกเพอื่ แลกเปลีย่ นประสบการณ์การเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ส่วนอาจารย์มีความคิดเห็นอยู่ ในระดับมากที่สุดคอื อาจารยผ์ ู้สอนได้สอนในรายวิชาท่ีตรงกับคุณวุฒิและความเชี่ยวชาญ มีหนังสือ/ ตารา/เอกสารประกอบการสอนเพียงพอกับจานวนผู้เรียน และน้อยท่ีสุดคือ ผู้ปกครองมีความเข้าใจ และสนับสนุนกิจกรรมการเรียนการสอนของโรงเรียน มีกิจกรรมแลกเปล่ียนเรียนรู้กับชุมชนและ ชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาของโรงเรียน ดังน้ันอาจารย์และเจ้าหน้าท่ีควรเป็นต้นแบบที่ดี ให้แกน่ กั เรียน มีความยตุ ิธรรม ให้ความเสมอภาค ใหค้ วามเป็นมิตรกบั นักเรียน มีหนังสือและอุปกรณ์ ประกอบการสอนให้พร้อม อนุญาตให้นักเรียนใช้เทคโนโลยีประกอบการเรียนได้ เพิ่มเครื่อง คอมพวิ เตอรท์ ี่ทนั สมยั ในหอ้ งสมุด มีระบบการตรวจสอบการให้บริการของงานธรุ การ ร้านอาหารและ ร้านค้าของโรงเรียน ทุกรายวิชาควรมีหนังสือเรียนหรือเอกสารประกอบการเรียน และมีกิจกรรม บูรณาการในรายวิชาต่าง ๆ ให้มากข้ึน ด้านกระบวนการ (Process) ประเด็นที่มีค่าเฉล่ียของ นักเรียนระดับความคิดเห็นมากที่สุด เปิดโอกาสให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และน้อยท่สี ดุ คือ มกี ารจัดการเรียนรูโ้ ดยคานึงถงึ ความสามารถของผู้เรียนเป็นรายบุคคล ประเด็นที่มี ค่าเฉลี่ยของระดับความคิดเห็นของอาจารย์มากท่ีสุด มีการพิจารณาอาจารย์ผู้สอนรายวิชาให้ เหมาะสมกับความรคู้ วามสามารถและคุณวุฒิ มีการวัดและประเมินผลอย่างต่อเน่ืองควบคู่ไปกับการ เรยี นการสอน และนอ้ ยท่สี ดุ คือ โรงเรยี นและชมุ ชนมกี ารจัดกจิ กรรมร่วมกนั เพือ่ พฒั นาคณุ ภาพผเู้ รียน อย่างต่อเน่ือง จัดการเรียนรโู้ ดยคานงึ ถึงความสามารถของผู้เรียนเป็นรายบุคคล ดังนั้น อาจารย์ผู้สอน ควรจัดการเรียนการสอนท่ีส่งเสริมความสามารถของผู้เรียนเป็นรายบุคคล โดยอาจมีการตั้งคาถาม ชวนคิดมากกว่าคาถามท่ัวไปเพ่ือส่งเสริมศักยภาพด้านการคิด ควรจัดกิจกรรมให้นักเรียนได้พบกับ
332 เพ่อื นตา่ งโรงเรียนมากข้ึน สง่ เสริมกจิ กรรมการแสดงความสามารถของนักเรยี นทกุ สัปดาห์ มอบหมาย งานให้เหมาะสมกับวัยของนักเรียน สอนนอกเหนือจากท่ีหนังสือมี ควรมีกิจกรรมค่ายเพื่อสร้าง ความสัมพันธ์ท่ดี รี ะหว่างรุ่นพี่รุ่นน้องและเพ่ือนต่างโรงเรียน ควรออกแบบการจัดงานปัจฉิมนิเทศให้ รู้สึกผูกพันและประทับใจ ควรดูแลและควบคุมเด็กโดยใช้หลักจิตวิทยา และควรมีการส่งเสริมการ เรียนสาหรบั นกั เรยี นทีม่ คี วามสามารถพิเศษ ด้านผลผลิต (Product) ประเด็นท่ีมีค่าเฉลี่ยของระดับ ความคิดเห็นของนักเรียนมากที่สุดคือ นักเรียนมีสมรรถนะสาคัญบรรลุตามวัตถุประสงค์หลักสูตร (ความสามารถในการส่ือสาร การคิด การแกป้ ัญหา การใชท้ กั ษะชวี ติ และการใช้เทคโนโลยี) และน้อย ทส่ี ดุ คือ นกั เรยี นมกี ระบวนการทางานอย่างเป็นระบบ ประเดน็ ที่มคี ่าเฉล่ยี ของระดับความคิดเห็นของ อาจารย์มากที่สุด ผู้เรียนมีความรู้ความสามารถในการอ่าน การเขียน และคิดคานวณ (3R) ตาม เปา้ หมายของหลกั สูตร และน้อยท่ีสุดคือ ผู้เรียนมีกระบวนการทางานอย่างเป็นระบบ ดังนั้น การนา หลกั สูตรรายวิชาและกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนไปใช้ในช้ันเรียน ควรเน้นการพัฒนาสมรรถนะผู้เรียนให้ สามารถทางานอยา่ งเปน็ ระบบและทางานเป็นทีมได้ เห็นคุณค่าของการทางานร่วมกัน และรู้จักการ แกป้ ญั หาเพอื่ ความสาเรจ็ ของผลงาน ด้านผลกระทบ (Impact) นักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับ มากในประเด็นที่มีค่าเฉลี่ยมากท่ีสุดคือ นักเรียนที่จบการศึกษาจากโรงเรียนประสบผลสาเร็จใน การศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น และน้อยที่สุดคือ นักเรียนมีความรู้สึกรักและภาคภูมิใจต่อสถาบัน ประเด็นที่มคี ่าเฉลี่ยของระดับความคิดเห็นของอาจารย์มากที่สดุ คือ ผู้ท่ีจบการศึกษาจากโรงเรียนเป็น ที่ยอมรับของสถาบนั การศึกษาทั้งในและต่างประเทศ และน้อยที่สุดคือ อาจารย์ผู้สอนมีการเผยแพร่ ผลงานวชิ าการ งานวจิ ัยอย่างต่อเนือ่ ง ดงั น้ันโรงเรียนควรมีกิจกรรมสาหรับอาจารย์ นักเรียนรุ่นพ่ีรุ่น น้องทเ่ี ปน็ ประเพณเี พ่ือสรา้ งความรกั ความผูกพนั ตอ่ สถาบันอยา่ งต่อเนื่อง และผู้บริหารควรสนับสนุน สรา้ งแรงจูงใจและชว่ ยเหลือใหอ้ าจารย์มกี ารเผยแพรผ่ ลงานวชิ าการและงานวิจัยอย่างตอ่ เน่ืองมากข้ึน สาหรบั หลกั สตู ร English Program มีผลการประเมินหลักสูตรสถานศึกษา โดยนักเรียนกับอาจารย์ ผู้สอนมีความคิดเห็นต่อหลักสูตรในภาพรวมสอดคล้องกันอยู่ในระดับมาก ความคิดเห็นตาม องคป์ ระกอบของการประเมินหลกั สตู รพบว่า นักเรียนมีความคิดเห็นในด้านผลกระทบเป็นลาดับท่ี 1 และด้านกระบวนการเป็นลาดับที่ 5 ส่วนอาจารย์ผู้สอนมคี วามคิดเหน็ ในด้านกระบวนการเป็นลาดับที่ 1 และด้านปจั จยั นาเข้าเปน็ ลาดับท่ี 5 ซง่ึ ไม่สอดคลอ้ งกัน ดงั น้ัน ผ้บู ริหารและอาจารยผ์ ้สู อนควรมีการ ช้ีแจงทาความเข้าใจกับนักเรียนในเรื่องเก่ียวกับหลักสูตรสถานศึกษาโดยเฉพาะด้านกระบวนการซ่ึง นกั เรียนอาจไม่ได้รับทราบข้อมูลการดาเนินงานหรืออาจไม่ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรม หรือเห็นว่ายังมี บางส่วนที่ไมส่ มบรู ณแ์ ละไม่เปน็ ไปตามความตอ้ งการของนกั เรียน เชน่ การจัดการเรียนรู้ด้วยวิธีการท่ี หลากหลายและคานึงถึงความสามารถของผู้เรียนเป็นรายบุคคล การลงมือปฏิบัติจริง การให้ ความสาคัญและใหโ้ อกาสนักเรยี นมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และการวัดและประเมินผล การสะท้อนความสามารถและความถนัดของนักเรียนในรายวิชาหรือกิจกรรมเสริมหลักสูตร และผล การประเมินตามองค์ประกอบของการประเมินหลักสูตร 5 ด้าน ท่ีพบว่า ด้านบริบท (Context) ประเด็นที่มีค่าเฉล่ียของระดับความคิดเห็นของนักเรียนมากท่ีสุดคือ การจัดการศึกษาของโรงเรียนมี ความต่อเน่อื งเชอื่ มโยงกนั ตง้ั แต่ระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษา รายวิชาและกิจกรรมการเรียนการ สอนในโรงเรียน ช่วยสง่ เสริมใหน้ กั เรยี นมีคณุ ลกั ษณะผู้เรียนในศตวรรษท่ี 21 ได้แก่ ความสามารถใน การคิดไตร่ตรอง คดิ แกป้ ัญหา มีทกั ษะการทางานร่วมกนั มีทักษะการสื่อสาร มีความรอบรู้ทางข้อมูล
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 474
Pages: