แนวทางการพฒั นาและปรบั ปรงุ หลักสตู ร 256 เรยี นการสอนของโรงเรยี นตอบสนองความต้องการของนกั เรียนและผู้ปกครอง แต่ควรมี การเพิ่มกิจกรรมร่วมกับชุมชนหรือมีการสารวจความตอ้ งการของชุมชน และเปิดโอกาส ให้ผู้ปกครอง ศษิ ย์เกา่ เขา้ มามสี ว่ นร่วมในการพัฒนาโรงเรียนและติดตามความก้าวหน้า ในผลการเรียนของนกั เรยี น และการเรยี นการสอนของโรงเรียน 2) อาจารย์และผู้บรหิ ารมคี วามคิดเห็นสอดคลอ้ งกันว่า ปัจจัยสาคัญที่จะช่วยขับเคลื่อน การนาหลักสตู รสถานศึกษาสชู่ ัน้ เรียน คือ นักเรียน อาจารย์ และผู้บรหิ าร ตอ้ งมีความรู้ ความเข้าใจเร่ืองการนาหลักสูตรสู่ช้ันเรียน และการบริหารจัดการหลักสูตรอย่างเป็น ระบบและต่อเนื่อง เห็นความสาคัญและมีความพร้อมตามบทบาทหน้าที่ของตนเอง มองเหน็ เปา้ หมายเดยี วกัน วางแผนการดาเนินงานรว่ มกันเร่มิ ต้ังแต่การคัดเลือกนักเรียน การสร้างและปรับเปล่ียน mindset เพ่ือการนาหลักสูตรไปใช้ตามวัตถุประสงค์ มีการ พัฒนาวิธีการหรือขั้นตอนการนาหลักสูตรไปใช้ร่วมกัน มีการให้คาแนะนา ติดตาม แลกเปลี่ยนเรียนรู้ เลือกวิธีการจัดการเรียนรู้และการประเมินผลที่หลากหลายและ เหมาะสมเพือ่ การปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพนักเรียนให้บรรลุเป้าหมาย มีการจัดการ ความร้รู ว่ มกันอยา่ งต่อเน่อื ง ร่วมคิด ร่วมทา รว่ มรับผิดชอบ ร่วมกันแก้ไข/ปรับปรุงและ สรา้ งขวญั และกาลงั ใจในการทางาน นอกจากน้ีเห็นว่า ปัจจุบันมีศิษย์เก่ามาช่วยพัฒนา ดา้ นกฬี าใหแ้ กน่ ักเรยี นที่สนใจ ควรให้ผู้ปกครองหรืออาจารย์ในมหาวิทยาลัยได้มาร่วม แลกเปล่ียนเรียนรแู้ ละรว่ มจดั กิจกรรมให้แก่นักเรียน เช่น กิจกรรมชมรม กิจกรรมด้าน กีฬา กิจกรรมจิตอาสา การแนะแนวอาชีพ หรือกิจกรรมทางวิชาการ เช่น มาเป็น อาจารย์พิเศษในบางรายวิชาเพ่ือเพ่ิมพูนประสบการณ์และช่วยสร้างแรงจูงใจในการ เรียนให้แก่นักเรียนมากขึ้น กิจกรรมชมรมไม่จาเป็นต้องเป็นอาจารย์เป็นผู้จัดกิจกรรม อาจจะเป็นนักเรียน ผู้ปกครอง หรือเชิญผู้เชี่ยวชาญในชุมชนก็ได้ เพ่ือให้กิจกรรมมี ประสทิ ธิภาพและได้ประโยชนอ์ ย่างแทจ้ ริง 3) ผทู้ รงคุณวุฒิเหน็ ว่า ควรเปดิ โอกาสให้ผู้ปกครองและชุมชน เข้ามามีส่วนร่วมอย่างย่ิง เพราะผู้ปกครองและชุมชน เป็นต้นทุนทางสังคมท่ีโรงเรียนสามารถใช้จุดแข็งของ ผู้ปกครอง ชุมชน มาสร้างสรรค์นวัตกรรมหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ได้อย่างมาก
257 ขอ้ ปัญหา ขอ้ 2.4 ด้านเอกสาร ส่ือ เทคโนโลยี และส่ิงสนับสนุนที่เอื้อตอ่ การเรียนรู้ 1) มกี ิจกรรมแลกเปลยี่ นเรียนรู้กบั ชมุ ชน และชุมชนมสี ว่ นรว่ มในการจดั การศกึ ษาของโรงเรียน 2) มแี หล่งการเรยี นรทู้ เ่ี หมาะสมกบั วยั ของผู้เรียน 3) มกี ารจัดแหล่งเรยี นรู้สอดคล้องกับกจิ กรรมการเรียนร้ขู องผูเ้ รียน 4) มแี หลง่ เรียนรูผ้ ่านระบบเครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์ทเี่ หมาะสม 3. ดา้ นกระบวนการ (P: Process) ปกติ ความคิดเหน็ ของนกั เรียนทมี่ ตี ่อหลักสตู รปกติ (รายงานผลการสอบถามความคดิ ประเด็น 3 ลาดบั ท้าย ซง่ึ นักเรยี นมีความคดิ เห็นอยใู่ น 3.1 1) มีการจดั การเรียนรูโ้ ดยคานงึ ถึงความสามารถของผู้เรยี นเปน็ รายบุคคล 3.1 2) กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ช่วยสะท้อนความสามารถและความถนัดของ นกั เรียนได้ดี 3) ใชว้ ิธกี ารและเครื่องมือในการวัดและประเมนิ ผลท่หี ลากหลาย
แนวทางการพฒั นาและปรับปรุงหลกั สตู ร 257 โดยการเปิดโอกาสการมีส่วนร่วม ทาได้ตั้งแต่การมีส่วนร่วมในการออกแบบหลักสูตร การออกแบบการวัดผลการเรียนรู้ การเป็นครูภูมิปัญญาให้กับนักเรียน การเป็นแหล่ง เรยี นรเู้ ชิงสรา้ งสรรค์ และการมสี ว่ นรว่ มในการสะทอ้ นคณุ ภาพผูเ้ รียน และเห็นว่าปัจจัย สาคัญในการขับเคล่ือนการนาหลักสูตรสถานศึกษาสู่ชั้นเรียน ควรประกอบด้วย 3.1) Growth mindset และ Passion ของบุคลากรทุกฝ่ายในการนาหลักสูตรไปใช้ในช้ัน เรียนตามเจตนารมณ์ของหลักสูตร 3.2) ความรู้ความเข้าใจและทักษะในการออกแบบ นวัตกรรมการเรียนรู้ของผู้สอน ที่สามารถตอบสนองธรรมชาติและความต้องการของ ผู้เรียน 3.3) ความเข้มแข็งของการมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาของชุมชนและ ผปู้ กครอง 1) ผปู้ กครองเห็นว่า โรงเรียนควรเป็นสถานศึกษาที่เป็นท่ียอมรับของชุมชน ควรมีการ เพม่ิ กิจกรรมรว่ มกับชุมชนหรือมกี ารสารวจความตอ้ งการของชมุ ชนมากข้ึน และหนังสือ เรียนทอ่ี าจารยส์ ั่งซ้อื มาใหน้ กั เรยี นใช้ ควรไดน้ ามาให้เด็กใช้เรยี นจรงิ ๆ ดเหน็ ตารางที่ 22 จากตอนที่ 2 และผลการการสนทนากลุ่มนกั เรยี น จากตอนที่ 3) นระดับ “ปานกลาง” ควรนามาพิจารณาแก้ไขปรับปรุง) 1) ควรมีการจัดการดแู ลเดก็ ใหท้ ั่วถึงใครทาผิดควรรบั ผิดชอบ 2) ควรทาตารางกจิ กรรมต่าง ๆ ใหน้ กั เรียนตัง้ แตต่ ้น-จบปีการศกึ ษาว่ามีกิจกรรมใดวันที่ เทา่ ไหร่ 3) โรงเรยี นควรรับฟงั ความเห็นของนกั เรยี นจากตัวแทนนักเรยี นแตล่ ะระดบั ช้ัน 4) อาจารย์ควรเพ่ิมเทคนิคใหม่ ๆ ในการสอน ให้เด็กได้ปฏิบัติลงมือทาจริงและเรียน นอกห้องเรียนบ้าง เพ่ิมทักษะในการใช้ชีวิตประจาวัน และจัดรูปแบบการสอนให้ น่าสนใจ
258 ขอ้ ปัญหา ขอ้
แนวทางการพฒั นาและปรบั ปรุงหลักสตู ร 258 5) ควรให้เด็กมีโอกาสเลือกเรียนในส่ิงที่จะนาไปใช้ได้จริงมากกว่านี้ ควรปรับปรุง หลักสูตรแบบระบบของประเทศฟินแลนด์ ให้อิสรภาพกับผู้เรียนมากข้ึน ช่วยแนะนา ผู้เรียน และเข้าถึงผู้เรียนให้มากขึ้น และสามารถประเมินผู้เรียนได้ตามความประสงค์ ของผู้เรียน ควรมีเวลาว่างท่ีให้นักเรียนได้ลองทาสิ่งต่างๆ มากกว่าการเรียนคาบท่ี 7 หรือคาบที่ 8 ของแตล่ ะวนั 6) การติว GAT, PAT ควรให้มีการติวในแผนภาษาและสนับสนุนการสอบวัดระดับให้ นักเรยี นด้วย 7) อาจารยค์ วรใหค้ าแนะนาในเรื่องการศึกษาตอ่ อยา่ งเปน็ กลางไม่พูดโน้มน้าวให้เด็กเกิด ความรู้สึกที่ไม่ดีต่อบางสถาบัน และควรมีความพร้อมให้มีระบบการแนะแนวที่เข้มข้น เพ่ือให้เด็กได้รู้เส้นทางและเตรียมความพร้อมสาหรับตนเองมากข้ึนด้วย และควร สนับสนุนให้นักเรียนเข้าร่วมกิจกรรม Open house ของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ โดยนับ เวลาเรยี นรายวชิ าให้ 8) โรงเรียนควรพัฒนานักเรียนให้มีศักยภาพท้ังด้านความรู้และคุณธรรม ซ่ึงที่ผ่านมา โรงเรียนไม่สามารถทาได้ 9) ควรแนะนาให้เด็กๆ มีโอกาสทางานพาร์ทไทม์ ควรมีกิจกรรมรุ่นพ่ีรุ่นน้องเพ่ือสร้าง ความผกู พนั และใหค้ วามเคารพซ่งึ กนั และกนั 10) การเรยี นการสอนควรใหเ้ ด็กๆ สามารถนาไปใช้ในชวี ิตประจาวันและทาอะไรได้จริง ด้วย 11) ควรมีการต้ังคาถามชวนคดิ ให้นักเรียนมากกว่าคาถามท่ีทัว่ ๆไป และควรจัดกิจกรรม ให้นักเรยี นไดพ้ บกับเพื่อนตา่ งโรงเรียนมากขนึ้ 12) การวดั และประเมินผลควรแจ้งนักเรยี นให้ชัดเจนเก่ียวกับวิธีการประเมินและการให้ คะแนน 13) ควรเสรมิ สรา้ งประสบการณ์ทางด้านการแข่งขันให้กบั นกั เรียนมากขึน้ เช่น กจิ กรรม แข่งขนั ตอบปัญหา ส่งเสริมกิจกรรมการแสดงความสามารถของนักเรียนทุกสัปดาห์ใน แต่ละวิชาและแต่ละระดับชั้น และให้เด็กศึกษาการใช้ชีวิตมากกว่าการเรียนตาม
259 ขอ้ ปัญหา ขอ้ ความคดิ เหน็ ของอาจารย์ทีม่ ตี ่อหลกั สตู รปกติ (รายงาน ปกติ และผลการสนทนากลุม่ ผ้ปู กครอง อาจารยแ์ ประเดน็ 3 ลาดับท้าย ซ่งึ อาจารยม์ ีความคดิ เหน็ อยใู่ น 3.2 ดา้ นการบริหารจัดการหลักสูตร 3.2 1) โรงเรยี นและชมุ ชนมีการจดั กจิ กรรมร่วมกนั เพื่อพัฒนาคณุ ภาพผู้เรียนอย่าง
แนวทางการพฒั นาและปรบั ปรุงหลกั สูตร 259 หลักสูตรกระทรวงฯ ควรจัดการเรยี นการสอนนอกหอ้ งเรยี นมากกว่าในห้องเรียนเพราะ ในชีวิตจรงิ ไมไ่ ด้อยใู่ นหอ้ งเรียน มอบหมายงานแบบพอดี ไม่มอบหมายก่อนสอบและให้ เหมาะสมกับวัยของนักเรียน ควรมีอุปกรณ์การปฏิบัติสาหรับนักเรียนให้พร้อมและ เพียงพอ ควรสอนนอกเหนือจากที่หนังสือมีเพราะในหนังสือนักเรียนอ่านเองได้ เน้น กระบวนการแกป้ ัญหาจากชวี ิตในปัจจบุ นั 14) ควรมีระบบการดูแลนักเรียนอย่างใกล้ชิด เวลาทางานที่อาจเกิดอุบัติเหตุอาจารย์ ควรสอนวิธปี อ้ งกนั หรอื ทาใหด้ เู ป็นตัวอย่าง ควรมีการพัฒนามารยาทนักเรียนให้มากข้ึน ควรมีกิจกรรมราตรีเขียว-ม่วงสาหรับเด็กมัธยมเหมือนเด็กประถม ควรมีกิจกรรมค่าย เพ่ือสร้างความสัมพันธ์ท่ีดีระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้องบ่อยๆ ควรออกแบบการจัดงานปัจฉิม นิเทศให้ร้สู ึกผกู พนั และประทับใจ ควรดแู ลและควบคุมเด็กดื้อโดยใช้หลักจิตวิทยา ควร นาปญั หาที่พบในกระทู้ kuskfact มาพัฒนาในบางส่วน อยากให้มีกิจกรรมแข่งขันตอบ ปัญหา ความสามารถต่างๆ ในแตล่ ะวชิ าและแตล่ ะระดับช้นั ควรมีการส่งเสริมการเรียน เพ่ิมเตมิ สาหรบั นักเรียนทีม่ คี วามสามารถพเิ ศษ งานกจิ กรรมตา่ ง ๆ ถา้ เป็นตามรายวิชาก็ ควรจัดรวมกันแบบวันวิชาการ งานกีฬาสีควรเพิ่มกีฬา e-sport สาหรับวัยรุ่น ควรมี ระบบการสอนทที่ าให้นกั เรยี นได้สนกุ ไปกับการเรียนและอยากมาเรียนมากกว่าอยู่บ้าน ครตู อ้ งเขา้ ใจพนื้ ฐานของเด็กแตล่ ะคน 15) จากการสนทนากลุม่ นักเรยี นส่วนหนง่ึ เห็นวา่ ควรจดั สภาพแวดล้อมในโรงเรียนให้มี ต้นไมม้ ากข้ึน และทาปา้ ยชอื่ ต้นไมใ้ ห้เดก็ ไดเ้ รียกชอ่ื ได้ถูกตอ้ ง ดูแลเรือ่ งระเบียบวินัยของ นักเรียนให้มากข้ึน และควรให้นักเรียนได้ใช้โทรศัพท์หรือ IPad เป็นเคร่ืองมือใน การศกึ ษาคน้ คว้าในระหว่างการเรยี นได้ นผลการสอบถามความคิดเห็นตารางที่ 24 จากตอนท่ี 2 และผ้บู รหิ าร และผทู้ รงคุณวฒุ ิ จากตอนที่ 3) นระดับ “ปานกลาง” ควรนามาพิจารณาแกไ้ ขปรบั ปรุง) 1) ผู้ปกครองมีความเห็นว่า หลักสูตรควรมีวัตถุประสงค์เพ่ือสร้างแรงบันดาลใจให้กับ นกั เรยี น และควรพฒั นาการทางานใหแ้ กน่ ักเรียน ไมค่ วรให้เปน็ หนา้ ทข่ี องนักเรียนคนใด
260 ขอ้ ปัญหา ขอ้ ตอ่ เนื่อง 2) มีระบบการสะท้อนผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของอาจารย์ผู้สอนอย่าง ตอ่ เนอ่ื งเพอ่ื ใหก้ ารสนับสนนุ และชว่ ยเหลือ 3) มีระบบการนเิ ทศ ติดตาม เพ่อื ใหค้ าแนะนา ช่วยเหลือ (การพัฒนาวิชาชีพ) เก่ียวกบั การจดั กจิ กรรมการเรียนรขู้ องอาจารยผ์ สู้ อน
แนวทางการพฒั นาและปรับปรงุ หลกั สตู ร 260 คนหนึ่งในกลุ่ม และเห็นว่าปัจจัยสนับสนุนเพื่อให้หลักสูตรมีประสิทธิภาพและบรรลุ เป้าหมายมากขึ้น คือ ด้านอาจารย์ ควรเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถตรงตามสาขาที่ สอน มีการปฏบิ ัตติ นเปน็ แบบอยา่ งทด่ี ีให้แก่นกั เรียน มีจิตใจโอบอ้อมอารีกับนักเรียน มี บทบาทท่ีหลากหลาย เช่น เป็นครู เป็นท่ีปรึกษา เป็นเพ่ือน มีคุณธรรม มีการติดตาม ข่าวสารและเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อนามาใช้ในการเรียนการสอน และมีการนิเทศและ ติดตามการสอนของอาจารยท์ ีเ่ ข้ามาสอนใหม่ ดา้ นนักเรียน ควรต้องอยู่ในกฎและรักษา ระเบียบวินัยของโรงเรียน มีความอ่อนน้อมถ่อมตน มีเป้าหมายและมีแรงบันดาลใจใน การเรยี น ดา้ นบรรยากาศในห้องเรียน ควรสร้างบรรยากาศในห้องเรียนเพื่อกระตุ้นให้ นกั เรียนอยากเรียนรู้ กระตุน้ ใหน้ ักเรียนอยากเรียน มีความสุขและสนกุ กับการเรียน ควร มีมมุ ท่สี ร้างบรรยากาศให้เกดิ การเรียนรู้ในห้องเรียน และห้องเรียนต้องสะอาด ด้านส่ือ อุปกรณ์และแหล่งเรียนรู้ ควรมีสื่ออุปกรณ์และเทคโนโลยีท่ีทันสมัย และเพียงพอกับ จานวนนักเรียน และด้านการสนบั สนนุ จากผู้บริหาร โดยควรยึดม่ันในความถูกต้องและ ความดี กล้าตัดสินใจ มีความยุติธรรม เข้าใจนักเรียนและดูแลนักเรียนอย่างท่ัวถึงทุก ระดบั ช้นั สนบั สนนุ นักเรียนในดา้ นการแข่งขันท้ังในและนอกโรงเรียน รวมท้ังสนับสนุน นกั เรยี นท่มี ีความสามารถพิเศษ 2) อาจารย์และผู้บริหารเห็นว่า โรงเรียนควรมี “รูปแบบการพัฒนาหลักสูตร”ที่ ประกอบด้วย 5 องค์ประกอบ ได้แก่ 2.1) หลักการ คือ การจัดการศึกษาที่เน้นการมี ส่วนรว่ มของทุกฝา่ ย เพ่ือส่งเสริมพฒั นาการของนักเรียนทุกด้าน สร้างขวัญและกาลังใจ ในการปฏิบัติงานให้บุคลากร 2.2) วัตถุประสงค์ คือ เพ่ือพัฒนาหลักสูตรให้สอดคล้อง กับจุดเน้นและอัตลักษณ์ของโรงเรียน และเพื่อพัฒนาคุณภาพนักเรียนให้มีทักษะที่ จาเป็นในศตวรรษท่ี 21 และคุณธรรมและจริยธรรมตามที่สังคมต้องการ 2.3) กระบวนการ ดาเนนิ การโดย การสรา้ งความเข้าใจร่วมกันเกี่ยวกับหลักสูตรสถานศึกษา และการกาหนดเป้าหมายในการพฒั นาหลกั สูตร กาหนดบทบาทหน้าท่ีความรับผิดชอบ ในการดาเนินการพัฒนาหลักสูตร จัดทารายละเอียดตามองค์ประกอบหลักสูตรให้ ครบถ้วน ติดตามตรวจสอบความถูกต้องและเหมาะสมเพื่อปรับปรุงและแก้ไข นา
261 ขอ้ ปัญหา ขอ้
แนวทางการพฒั นาและปรบั ปรงุ หลกั สตู ร 261 หลักสูตรไปใช้ในการจัดการเรียนการสอน ประเมินผล และตรวจสอบโดยผู้เช่ียวชาญ เพื่อรบั รองหลักสูตร 2.4) การวัดและประเมินผล ได้แก่ ประเมินคุณภาพนักเรียนด้าน ทักษะที่จาเปน็ ในศตวรรษท่ี 21 และประเมนิ คณุ ภาพนักเรียนตามจุดเน้นและอัตลักษณ์ ของโรงเรียนรวมทั้งคุณธรรมและจริยธรรม 2.5) ปัจจัยสนับสนุน ประกอบด้วย การ สนับสนุนจากโรงเรียนเพ่ือพัฒนาการเรียนการสอนและการสร้างส่ื อนวัตกรรมขอ ง อาจารย์ การสรา้ งขวญั และกาลังใจของผบู้ ริหาร และความรว่ มมือในการนาหลักสูตรไป ใช้ของอาจารย์ และความร่วมมือจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและผู้มีส่วนเก่ียวข้อง ได้แก่ นักเรยี น ผู้ปกครอง ชุมชน และสถาบนั เครือขา่ ยความร่วมมือ 3) ผทู้ รงคณุ วฒุ เิ สนอแนะว่า รปู แบบการพัฒนาหลกั สูตรของโรงเรยี น ควรประกอบด้วย 3.1) หลักการ คือ ให้ความสาคัญกับ Growth mindset ในการพัฒนาหลักสูตรที่ คณะกรรมการพัฒนาหลกั สูตร และบุคลากรทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการพัฒนาหลักสูตรท่ี ให้ความสาคัญกับคุณภาพผูเ้ รียนด้านต่างๆ และพัฒนาหลักสูตรให้ตอบสนองธรรมชาติ และความต้องการของผเู้ รียนในลกั ษณะ Personalized learning และใช้ Technology เปน็ Platform ของการเรียนรู้ รว่ มกับการเรยี นรูแ้ บบ Creative Team Learning 3.2) วัตถุประสงค์ คอื เพื่อพัฒนาหลกั สูตรสถานศึกษาที่ตอบสนองธรรมชาติและความ ต้องการของผูเ้ รยี น เสรมิ สร้างคุณภาพผู้เรียนแบบบูรณาการ เพื่อพัฒนานวัตกรรมการ เรียนรู้ท่ีสอดคล้องกับผู้เรียน และเพื่อพัฒนาชุมชน ผู้นานวัตกรรมหลักสูตร และการ เรียนรู้ของครูในโรงเรียน 3.3) กระบวนการ ดาเนินการโดย การกระตุ้น Growth mindset และ Passion ของผู้มีส่วนเก่ียวข้องในการพัฒนาหลักสูตร การถอดบทเรียน จุดแข็ง และจุดท่ีควรปรับปรุงหลักสูตรเดิม การกาหนดเป้าหมายคุณภาพผู้เรียนที่ ตอบสนองการเปลยี่ นแปลงของสงั คมในอนาคต การดาเนนิ การพฒั นาหลกั สูตรท่ีมีความ เป็นนวัตกรรม Curriculum innovation ตอบสนองเป้าหมายคุณภาพผู้เรียน การใช้ หลักสตู รแบบวจิ ัยเป็นฐานที่มกี ารประเมินและปรบั ปรงุ อยา่ งตอ่ เน่อื งตามวงจร Plan Do Check Reflection 3.4) การวัดและประเมินผล ไดแ้ ก่ การประเมนิ คณุ ภาพการจัดการ เรียนรู้ของผู้สอนอย่างต่อเน่ือง การประเมินคุณภาพของผู้เรียนอย่างต่อเนื่อง การ
262 ขอ้ ปัญหา ขอ้ 3.3 ดา้ นกระบวนการจดั การเรยี นรู้ การวัดและประเมนิ ผล 1) จัดการเรียนรู้โดยคานึงถึงความสามารถของผู้เรียนเป็นรายบุคคล 2) เปดิ โอกาสใหผ้ เู้ รยี นมีสว่ นรว่ มในการวดั และประเมนิ ผล 3) จัดการเรยี นรู้โดยกระตุ้นให้ผู้เรียนกระตือรือร้นในการแสวงหาความรู้ด้วย ตนเอง
แนวทางการพฒั นาและปรบั ปรุงหลกั สตู ร 262 สะท้อนผลการประเมินและนาไปปรับปรุงหลักสูตร และการถอดบทเรียนนวัตกรรม หลักสูตรและการเรียนรู้ของโรงเรียน 3.5) ปัจจัยสนับสนุน ได้แก่ การสนับสนุนเชิง วิชาการของผู้บริหารท้ังระดับมหาวิทยาลัย ระดับคณะ และระดับโรงเรียน Growth mindset ของบคุ ลากรทมี่ ีต่อการพัฒนาหลักสูตรและนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ การ สนับสนุนจากชุมชน องค์กรภาครัฐ และเอกชน ทรัพยากรหลักสูตรและการจัดการ เรียนรู้ งบประมาณในการดาเนนิ การ และการได้รับความรว่ มมอื จากผ้ปู กครอง 1) ผู้ปกครองมีความเห็นวา่ ควรมีการประเมินผลตรงกบั ความเป็นจริงของนักเรียน ควร เน้นการส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมของผู้เรียน พัฒนากิจกรรมเสริมทักษะของ นักเรียนด้านวิชาการ ด้านอาชีพ ด้านทักษะต่างๆ ในชีวิตประจาวัน ควรเน้นการเรียน การสอนท่มี ีการลงมือปฏิบัติที่มีความหลากหลาย และเน้นให้นักเรียนลงมือปฏิบัติจริง ด้วยตนเอง มีการนาแหล่งเรียนรู้หรือบุคลากรในมหาวิทยาลัยเข้ามามีส่วนร่วมในการ เรยี นการสอน มีการแนะแนวให้กบั นักเรียนเพ่ือใหน้ ักเรยี นสามารถเลอื กเรียนได้ตรงตาม ความตอ้ งการและความสามารถของตนเอง รวมท้ังการเพ่ิมทักษะต่างๆ ท่ีเกี่ยวข้องกับ การดาเนินชีวิต เช่น ทักษะการคดิ วเิ คราะห์ ทักษะการแก้ปัญหา ทักษะการทางานเป็น ทีม และทักษะการส่อื สาร และโรงเรยี นควรดึงศักยภาพของผู้ปกครองมาสนับสนุนการ เรียนการสอนและกจิ กรรมต่างๆ 2) ผูบ้ ริหารได้เสนอใหโ้ รงเรยี นมกี ารนาหลกั สูตรไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนในชั้น เรียน โดยเสนอให้มีรูปแบบการเรียนการสอนเป็นของตนเอง (สาธิตเกษตรโมเดล) ซ่ึง เป็นรูปแบบการเรียนการสอนที่มีความเป็นเอกลักษณ์ของสาธิตเกษตร กาแพงแสน โดยเฉพาะ ท้ังนี้ต้องม่ันใจได้ว่าโมเดลนั้นสามารถนาผู้เรียนไปสู่เป้าหมายสอดคล้องกับ ความต้องการของประเทศและชุมชน โดยอาจารย์ต้องปรับเปล่ียนวธิ กี ารคดิ ปรับเปล่ียน วิธีการสอน และในทุกภาคส่วนที่เก่ียวข้องกับการจัดการเรียนการสอนจะต้อง ปรับเปล่ียนกระบวนการทางานทตี่ ้องทาให้เดก็ บรรลุเปา้ หมายของหลักสูตรสถานศึกษา รวมถึงการบริหารจัดการของผู้บริหารจะต้องตอบสนองต่อเป้าหมายของโมเดล ดังนั้น ผบู้ รหิ ารโรงเรียนต้องกล้าคิด กล้าทา และกลา้ ปรับเปลีย่ น
263 ขอ้ ปญั หา ขอ้ 4. ดา้ นผลผลติ (P: Product) ปกติ ความคิดเหน็ ของนกั เรยี นทีม่ ีต่อหลกั สตู รปกติ (รายงานผลการสอบถามความค ประเด็น 3 ลาดบั ท้าย ซงึ่ นกั เรยี นมคี วามคดิ เห็นอยใู่ น 4.1 1) นักเรยี นมกี ระบวนการทางานอยา่ งเปน็ ระบบ 4.1 2) นักเรียนมีความสามารถตามคุณลักษณะของผู้เรียนในศตวรรษท่ี 21 (7C) ตามเปา้ หมายของหลักสตู ร 3) นักเรียนมีความสามารถทางปัญญา 8 ด้าน ตามเป้าหมายของหลักสูตร (ความสามารถด้านภาษา คณิตศาสตร์ มิติสัมพันธ์ การควบคุมความคิด ความรสู้ กึ ดนตรี มนุษยส์ ัมพันธ์ เขา้ ใจตนเอง และเขา้ ใจธรรมชาต)ิ ความคดิ เห็นของอาจารย์ทม่ี ีต่อหลกั สูตรปกติ (รายงาน ปกติ และผลการสนทนากลุ่มผปู้ กครอง อาจารยแ์ ประเด็น 3 ลาดับท้าย ซง่ึ อาจารยม์ คี วามคดิ เห็นอย่ใู น 4.2 1) ผเู้ รยี นมีกระบวนการทางานอยา่ งเปน็ ระบบ 2) ผ้เู รยี นมีสมรรถนะในการสร้างสรรคช์ ้ินงาน 3) ผู้เรียนมีความสามารถตามคุณลักษณะของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 (7C) ตามเปา้ หมายของหลกั สูตร
แนวทางการพฒั นาและปรับปรุงหลกั สูตร 263 คดิ เห็นตารางที่ 22 จากตอนที่ 2 และผลการสนทนากลุ่มนักเรียน จากตอนที่ 3) นระดับ “ปานกลาง” ควรนามาพิจารณาแก้ไขปรับปรงุ ) 1) จากผลการสนทนากลุ่มนักเรียนส่วนหนึ่งเห็นว่า คุณลักษณะครูที่พึงประสงค์ของ โรงเรยี น ควรเป็นผู้มีความรู้ และเข้าใจนักเรยี น สอนเขา้ ใจและเน้นให้นักเรียนได้ปฏิบัติ จรงิ และคณุ ลกั ษณะนักเรียนที่พึงประสงค์ของโรงเรียน ควรมีทักษะการคิดวิเคราะห์ คดิ สรา้ งสรรค์ ทักษะการแกป้ ัญหา และทกั ษะด้านการใช้ภาษาส่อื สาร นผลการสอบถามความคิดเห็นตารางท่ี 24 จากตอนที่ 2 และผู้บรหิ าร และผทู้ รงคณุ วฒุ ิ จากตอนท่ี 3) นระดบั “ปานกลาง” ควรนามาพิจารณาแกไ้ ขปรบั ปรงุ ) 1) ผปู้ กครองเห็นว่า คณุ ลักษณะครูที่พึงประสงค์ของโรงเรียน ควรเป็นผู้มีความรู้และ ความชานาญในวิชาท่ีสอน มคี วามเข้าใจนกั เรยี น ดแู ลและเอาใจใส่นักเรียนทั่วถึง และมี จติ ใจโอบออ้ มอารกี บั นกั เรยี น คุณลกั ษณะนักเรียนทพี่ งึ ประสงค์ของโรงเรียน ควรเป็น ผู้มีความรู้ความสามารถทางวชิ าการ มีความรับผิดชอบ มวี ินัย และมีคณุ ธรรม-จรยิ ธรรม 2) อาจารยแ์ ละผู้บริหารเห็นว่า คุณลักษณะครูท่ีพึงประสงค์ของโรงเรียน ควรเป็นผู้มี ความร้คู วามสามารถเฉพาะทาง มีสมรรถนะในการจัดการเรยี นรู้ มีความสามารถในการ วิจัยในชั้นเรียน และมีความเอาใจใส่ในการพัฒนานักเรียน คุณลักษณะนักเรียนท่ีพึง ประสงค์ของโรงเรียน ควรเปน็ ผมู้ ีความรู้ความเข้าใจในส่ิงท่ีเรียน มีทักษะการแก้ปัญหา มคี วามคิดสร้างสรรค์ มคี วามรบั ผดิ ชอบตอ่ ตนเอง มีวนิ ยั และมีจิตอาสา 3) ผทู้ รงคณุ วฒุ ิเห็นวา่ คุณลักษณะครูทพี่ งึ ประสงค์ของโรงเรียน ควรมี Passion ในการ พัฒนาคุณภาพผู้เรียน รักการสอน/รักการจัดการเรียนรู้ รักผู้เรียน มีความเป็น กัลยาณมิตร เป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ และเป็นนักสร้างสรรค์นวัตกรรมหลักสูตรและ การเรียนรู้ คุณลักษณะนักเรียนท่ีพึงประสงค์ของโรงเรียน ควรเป็นผู้มีคุณลักษณะ
264 ขอ้ ปญั หา ขอ้ 5. ด้านผลกระทบ (I: Impact) ปกติ ความคดิ เห็นของนกั เรียนท่มี ีต่อหลักสูตรปกติ (รายงานผลการสอบถามความค ประเดน็ 3 ลาดับทา้ ย ซ่ึงนักเรียนมคี วามคิดเหน็ อยูใ่ น 5.1 1) นักเรียนมคี วามรูส้ ึกรักและภาคภมู ิใจตอ่ สถาบัน 5.1 2) นกั เรียนทีจ่ บการศึกษาจากโรงเรยี นเป็นที่ยอมรับของสถาบันการศึกษาท้ัง ในและตา่ งประเทศ 3) นักเรียนท่ีจบการศึกษาจากโรงเรียนได้รับการยอมรับว่า “เป็นคนดีใน สงั คม” ความคิดเหน็ ของอาจารย์ที่มตี อ่ หลกั สูตรปกติ (รายงาน ปกติ และผลการสนทนากลุ่มผู้ปกครอง อาจารยแ์ ประเด็น 3 ลาดบั ทา้ ย ซึ่งอาจารยม์ ีความคดิ เหน็ อยใู่ น 5.2 1) อาจารยผ์ สู้ อนมีการเผยแพรผ่ ลงานวิชาการ งานวจิ ัยอยา่ งตอ่ เนือ่ ง 2) อาจารย์ผ้สู อนสร้างนวตั กรรมการเรยี นการสอนผ่านกระบวนการวิจัยอย่าง ตอ่ เนอื่ ง 3) อาจารยผ์ สู้ อนไดร้ บั เชิญเป็นวิทยากรเพื่อชว่ ยพัฒนาการจัดการเรียนรู้ให้แก่ บุคลากรทง้ั ภายในและภายนอกสถาบนั 4) จากผลการสนทนากลุ่มอาจารย์และผู้บริหารเห็นว่า การเผยแพร่ผลงาน หรือให้บริการวิชาการของอาจารย์ มีจานวนยังไม่ถึงคร่ึงหน่ึงของอาจารย์ ทัง้ หมดของโรงเรยี น
แนวทางการพฒั นาและปรับปรงุ หลักสตู ร 264 ตามที่หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) กาหนดไว้และควรเพิ่มเติมคุณลักษณะการเห็นคุณค่าในตนเอง และมีทักษะใน การสร้างสรรค์นวตั กรรม ท่ีสามารถแปลงความคิดสร้างสรรคม์ าเป็นนวัตกรรมได้ อีกทั้ง ควรมีความเอ้ือเฟ้ือเผ่ือแผ่และแบ่งปัน (เมตตากรุณา) คิดเหน็ ตารางท่ี 22 จากตอนที่ 2 และผลการสนทนากลุ่มนกั เรียน จกตอนที่ 3) นระดบั “ปานกลาง” ควรนามาพิจารณาแกไ้ ขปรับปรงุ ) 1) จากผลการสนทนากลุ่มนักเรียนส่วนหนึ่งเห็นว่า หลักสูตรสถานศึกษาฯแห่งนี้ สามารถพฒั นานกั เรียนได้ตรงตามความตอ้ งการของสถาบนั ทีจ่ ะรับนกั เรยี นเขา้ ศึกษาต่อ โดยดจู ากสถติ กิ ารสอบเข้ามหาวิทยาลยั ของร่นุ พท่ี ี่สามารถเรยี นต่อในมหาวิทยาลัยได้ทุก คนในทุกปีการศึกษา แต่หลักสูตรควรจัดรายวิชาท่ีใช้เรียนในช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 6 ให้ น้อยลงเพือ่ จะได้มีเวลาเตรยี มความพร้อมเขา้ มหาวทิ ยาลยั ได้มากขน้ึ นผลการสอบถามความคิดเห็นตารางที่ 24 จากตอนท่ี 2 และผู้บรหิ าร และผ้ทู รงคุณวฒุ ิ จากตอนท่ี 3) นระดบั “ปานกลาง” ควรนามาพิจารณาแกไ้ ขปรับปรุง) 1) ผู้ปกครองเห็นว่า หลักสูตรสถานศึกษาสามารถพัฒนานักเรียนได้ตรงตามความ ต้องการของสถาบันท่ีจะรับนักเรียนเข้าศึกษาต่อ เนื่องจากเห็นว่าโรงเรียนสาธิต เกษตรศาสตร์ กาแพงแสน สามารถส่งนักเรยี นเขา้ ศึกษาต่อในมหาวทิ ยาลัยได้หลายแห่ง และผู้เรียนสามารถจบการศึกษาได้ตามหลักสูตร ในระดับอุดมศึกษาและมีทักษะที่ดี สาหรับการศึกษาในระดับท่ีสงู ขน้ึ และมีความสาเรจ็ ในอาชพี ทเี่ ลือกเป็นสว่ นใหญ่ 2) อาจารย์และผบู้ รหิ ารเหน็ ว่า หลกั สตู รสถานศึกษาสามารถพัฒนานักเรียนได้ตรงตาม ความต้องการของสถาบันทจี่ ะรบั นกั เรยี นเข้าศึกษาต่อหรอื ประกอบอาชีพ สังเกตได้จาก ร้อยละ 100 ของนักเรียนท่ีสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยท่ีต้องการได้ และเห็นว่า อาจารย์ขอทุนวิจัยในชั้นเรียนมีจานวนเพ่ิมขึ้น แต่ควรพัฒนาให้อาจารย์ได้เผยแพร่ ผลงานหรอื ให้บรกิ ารวชิ าการมากข้นึ
265 ขอ้ ปญั หา ขอ้ ตารางที่ 35 ผลการสังเคราะห์ปญั หาและแนวทางการพฒั นาและปรบั ปรงุ หลักสูตรโร และพัฒนาการศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 255 องค์ประกอบ 5 ด้านของการประเมนิ หลกั สตู รโดยใช้ CIPPI Model ขอ้ ปญั หา ขอ้ 1. ด้านบริบท (Context : C) EP สังเคราะหผ์ ลการสมั ภาษณ์ผู้อานวยการโ 1.1 ตัวช้วี ัดบางขอ้ วัดไดย้ าก 1.1 1.2 ตัวชีว้ ดั ทป่ี รับปรุงใหมแ่ ลว้ ยังมีจานวนมาก 1.2 1.3 ครูวิทยาศาสตร์ไม่สามารถสอนบูรณาการ STEM ตามท่ีหลักสูตรกาหนด 1.3 แนวทางไวไ้ ด้ 1.4 โครงสร้างเวลาเรียนในระดับประถมศึกษาและระดับมัธยมศึกษา มีการ 1.4 กาหนดเวลาเรียนจานวนมาก ทาให้สถานศึกษาไม่สามารถจัดรายวิชาเรียนตาม จุดเนน้ ได้เท่าทคี่ วร 1.5 การนาหลักสูตรไปใช้ โดยครูยังไม่สามารถพัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้ไปถึง 1.5 เป้าหมายของผูเ้ รียนในศตวรรษท่ี 21 ได้ครบถ้วน ซ่ึงเกิดจากความไม่พร้อมใน
แนวทางการพฒั นาและปรบั ปรุงหลักสตู ร 265 3) ผู้ทรงคณุ วฒุ ิเหน็ ว่า ควรส่งเสริมและสนับสนุนให้อาจารย์มีการเผยแพร่ผลงาน และ กระตุ้นให้อาจารย์ได้ใช้ความรู้ความสามารถในการสร้างสรรค์งานและจัดกิจกรรม แลกเปลี่ยนเรียนรู้รวมท้ังให้บริการวิชาการแก่เพ่ือนร่วมวิชาชีพทั้งในและนอกโรงเรียน มากข้นึ รงเรียนสาธติ แห่งมหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกาแพงแสน ศูนย์วิจัย 51 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) หลักสูตร English Program จาแนกตาม แนวทางการพฒั นาและปรบั ปรุงหลกั สตู ร โรงเรียนสาธิต 4 โรงเรยี น (จากตอนที่ 1) ควรปรับข้อความเนน้ เป็นพฤตกิ รรมทนี่ กั เรยี นแสดงออกไดช้ ัดเจน ควรปรับลดจานวนตัวชี้วัดให้เหลือเท่าที่จาเป็นท่ีสามารถสะท้อนความรู้ ทักษะ และ คุณลักษณะท่ีจาเป็นของนักเรียนในชีวิตจริง และควรปรับการเรียนการสอนในวิชา หนา้ ท่ีพลเมอื งในรปู แบบบรู ณาการกบั รายวิชาอืน่ โรงเรยี นควรบริหารให้ครผู ู้สอนสามารถสอนบูรณาการ STEM ได้ ควรมีการแนะนาการ เลือกส่อื หรือหนงั สือเรยี นใหเ้ หมาะสมกับวัยของนกั เรียน หลกั สูตรแกนกลางฯควรปรับสัดส่วนใหส้ ถานศกึ ษาสามารถจัดรายวิชาเรียนตามจุดเน้น ได้มากขึน้ ควรใหส้ ถานศกึ ษามีอสิ ระในการออกแบบหลักสูตรได้อย่างแท้จริง หลักสูตร ควรตอบสนองนักเรียนแต่ละคน และควรมีรูปแบบการประเมินท่ีหลากหลายและเน้น ความแตกตา่ งระหวา่ งบุคคล 1) ควรสร้างแรงจูงใจให้ครูได้รับการพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้และการ ประเมินผลท่ีส่งเสริมทักษะผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 ได้ และพัฒนาเคร่ืองมือประเมินท่ี
266 ขอ้ ปญั หา ขอ้ การปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ี ไมเ่ ข้าใจหลักสตู ร และจัดการเรยี นการสอนและประเมินผลไม่ ตรงตามมาตรฐาน/ตวั ชี้วดั ไมม่ ีเครื่องมือสะท้อนผลลัพธ์การบรรลุเป้าหมายใน การพัฒนาคุณภาพนกั เรยี น นกั เรียนควรได้รบั การพัฒนาทักษะที่จาเป็นต่อการ นาไปใช้ศกึ ษาตอ่ ในระดบั มหาวทิ ยาลัยมากกว่า 1.6 แรงกดดันจากครอบครัว และสังคม ทาให้พัฒนาการตามวัยและคุณธรรม 1.6 จรยิ ธรรมลดลง ความหลากหลายของรายวิชา/กิจกรรม และความยืดหยุ่นของ หลักสตู รที่ตอบสนองความต้องการและความสามารถพิเศษของนักเรียนมีน้อย เนอ่ื งจากหลักสตู รแกนกลางเน้นท่ีความรู้พื้นฐานตามมาตรฐานและตัวชี้วัดที่มี จานวนมาก EP สังเคราะหผ์ ลการสนทนากลุ่มคณะกรรม 1.7 เอกสารหลกั สูตรของโรงเรยี นสาธติ เกษตรฯ กาแพงแสน 1.7 การกาหนดกรอบแนวคดิ ยงั ไม่ชัดเจน 1.8 เป้าหมายของหลักสูตรยังไม่มีกระบวนการหรือเคร่ืองมือในการวัดและ 1.8 ประเมินผลทส่ี ะทอ้ นถงึ การบรรลุเปา้ หมายของหลักสตู ร 1.9 จดุ เนน้ ของหลกั สูตรยงั ไมช่ ดั เจนและเพียงพอ 1.9 1.10 การนาหลกั สตู รสู่ชั้นเรียน อาจารย์ผู้สอนส่วนหนึ่งอาจยังไม่ทราบถึงเป้าหมาย 1.10 สาคัญของหลักสูตรทั้งในภาพรวมของโรงเรียน และหลักสูตรเฉพาะกลุ่มสาระ การเรยี นรู้ 1.11 1) การจดั การเรียนการสอนมีลักษณะเป็นแบบแยกส่วน ยังไม่มีการบูรณาการ 1.11 ระหวา่ งกลุ่มสาระการเรียนรู้อาจส่งผลให้เกิดความไม่ต่อเนื่องและไม่เช่ือมโยง
แนวทางการพฒั นาและปรับปรุงหลกั สตู ร 266 สะทอ้ นผลลพั ธ์การบรรลุเปา้ หมายของหลักสตู ร 2) ควรทาความเขา้ ใจหลักสตู รและกระบวนการพัฒนานักเรียนตามเป้าหมายให้ชัดเจน รว่ มกัน นาหลักสตู รไปใชใ้ หเ้ หมาะสมกับบริบทของสถานศึกษา มีการติดตามผลการใช้ หลักสูตรอย่างเป็นระบบ และนาผลการประเมินหลักสูตรไปใช้ในการจัดทาแผนพัฒนา สถานศึกษา โรงเรียนและครอบครัวควรให้ความสาคัญกับการดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจของ นักเรียนที่อยู่ในยุคการเปลี่ยนแปลงแบบหักศอก (Disruption) แนะนาให้นักเรียนได้ ปรบั ตัวและกลา้ ยอมรบั ความเปล่ียนแปลงทเี่ กิดข้ึน มการฝ่ายวชิ าการ 12 คน (จากตอนท่ี 1) 1) ควรจาแนกเปน็ ระดับการศึกษาและมีภาพประกอบคาบรรยาย 2) เอกสารหลักสูตรและคู่มือการวัดและประเมินผลควรรวมเป็นเล่มเดียวกัน และให้มี องค์ประกอบครบถ้วนเพยี งพอทจี่ ะนาไปใชป้ ฏิบตั ไิ ดจ้ ริงในชนั้ เรยี น ควรทาความเข้าใจหลักสูตรและกระบวนการพัฒนานักเรียนตามเป้าหมายให้ชัดเจ น ร่วมกัน นาหลักสตู รไปใช้ใหเ้ หมาะสมกับบริบทของสถานศึกษา มีการติดตามผลการใช้ หลกั สูตรอย่างเป็นระบบ และนาผลการประเมินหลักสูตรไปใช้ในการจัดทาแผนพัฒนา สถานศึกษา ควรเพ่มิ จดุ เน้นและความโดดเดน่ ของโรงเรยี นใหเ้ ดน่ ชดั กว่าที่ปรากฏอยใู่ นหลกั สูตร ควรต้องสรา้ งความเข้าใจร่วมกัน กาหนดให้มีการเลือกวิธีหรือรูปแบบการจัดการเรียน การสอนและการประเมินผลที่เหมาะสมเพื่อให้นักเรียนบรรลุเป้าหมายคุณภาพผู้เรียน ตามทหี่ ลกั สูตรกาหนด ควรมีระบบการบริหารจัดการหลักสูตรรายวิชา โดยควรให้มีการปรับปรุงรูปแบบการ เรียนการสอนและการวัดและประเมินผลให้มีความชัดเจนในแนวทางการปฏิบัติและมี
267 ขอ้ ปัญหา ขอ้ ของสาระการเรียนรู้ท่ีต้องอาศัยพ้ืนฐานความรู้ซ่ึงกันและกันระหว่างรายวิชา เข่น วทิ ยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ และสงั คมศกึ ษา 2) รายวิชาบูรณาการในระดบั ประถมศกึ ษาตอนปลาย (ป.4-6) ขาดการบริหาร จัดการรายวิชาเน่ืองจากมีอาจารย์ผู้สอนเป็นทีม จานวน 3 คน นอกจากนี้ยัง พบว่ามีการเปล่ียนอาจารย์ผู้สอนในแต่ละปีการศึกษา ซึ่งอาจมีผลทาให้การ พฒั นารายวชิ าเปน็ ไปด้วยความลา่ ช้า 1.12 ในหลกั สูตรระดับประถมศกึ ษา ควรจัดให้มีการเรียนการสอนรายวิชาภาษาจีน 1.12 และในระดบั มธั ยมศกึ ษาควรมอี าจารย์พิเศษมาให้ความรู้และประสบการณ์กับ นกั เรยี น 1.13 อาจารย์ผู้สอนบางส่วนยังขาดความเข้าใจเกี่ยวกับหลักสูตรของโรงเรียน ส่วน 1.13 ใหญ่จัดการเรียนการสอนโดยยึดเน้ือหาเป็นหลัก ใช้ประมวลการสอน (Corse Syllabus) เพ่ือให้นักเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาได้รับทราบ รายละเอียดของรายวชิ า และแมว้ า่ หลักสูตรจะมีการกาหนดเป้าหมายที่ชัดเจน แลว้ แตย่ ังไม่มีวิธีการที่จะทาให้ทราบว่าคุณภาพนักเรียนบรรลุเป้าหมายตามท่ี หลักสูตรแต่ละระดับการศึกษากาหนดไว้หรือไม่ รวมทั้งบางรายวิชามีความ จาเป็นต้องให้มีการเชื่อมโยงความรู้ระหว่างศาสตร์ เพื่อนาความรู้ของศาสตร์ หนึง่ ไปใช้เป็นพืน้ ฐานต่อยอดความรู้ของอกี ศาสตรห์ นึ่งได้อย่างเขา้ ใจ EP ความคิดเหน็ ของนักเรียนทีม่ ตี อ่ หลกั สตู ร English Program (รายงานผลการสอบถาม ประเดน็ 3 ลาดับทา้ ย ซ่ึงนกั เรยี นมีความคดิ เหน็ อยใู่ นร 1.14 ดา้ นหลักสูตร 1.14 1) เน้ือหาสาระท่ีเรียนแต่ละรายวิชาในภาพรวมมีความเหมาะสม นักเรียน สามารถนาไปใชไ้ ดจ้ รงิ ในชวี ิตประจาวัน 2) โรงเรียนส่งเสริมให้นักเรียนมีความพร้อมในการศึกษาต่อตามความถนัด ความสนใจ ซ่ึงสอดคลอ้ งกับความต้องการของนักเรยี น
แนวทางการพฒั นาและปรบั ปรุงหลักสตู ร 267 ความตอ่ เนอื่ งของสาระที่ใช้ในการจัดกิจกรรม ควรพจิ ารณาปรบั รายวิชาใหเ้ หมาะสม และบริหารจดั การผู้สอนเพ่อื เพิม่ ประสบการณใ์ ห้ นักเรียนในระดบั มธั ยมศกึ ษา ควรให้อาจารย์ผู้สอนทุกท่านโดยเฉพาะอาจารย์ใหม่ของโรงเรียนได้ตระหนักถึงความ จาเปน็ ท่จี ะต้องรับรูแ้ ละทาความเขา้ ใจหลักสูตรของโรงเรียนให้ชัดเจน และสามารถนา หลกั สูตรไปใชใ้ นการออกแบบและจัดการเรียนการสอนให้บรรลเุ ป้าหมายคณุ ภาพผู้เรียน ในศตวรรษที่ 21 ได้ ดังนั้นควรต้องมีการกาหนดกระบวนการในการนาหลักสูตรสู่ช้ัน เรียนให้ชัดเจน มีระบบพ่เี ลีย้ งสาหรบั อาจารย์ใหม่ของโรงเรียน และมีการนิเทศ ติดตาม และช่วยเหลือเพ่ือการพัฒนาวิชาชีพ นอกจากน้ีควรให้อาจารย์ผู้สอนมีการวิเคราะห์ สาระ มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด เพื่อจัดลาดับความสาคัญของเนื้อหาสาระในกรณีท่ีต้องมีการ ต่อยอดความรู้ข้ามศาสตร์เพ่ือให้นักเรียนมีความรู้พื้นฐานเพียงพอสาหรับการศึกษาใน เร่อื งท่ีซบั ซ้อนมากขึน้ หรอื ในระดับช้ันเรียนท่ีสูงขึน้ ได้ มความคิดเหน็ ตารางที่ 23 จากตอนท่ี 2 และผลการสนทนากลมุ่ นกั เรียน จากตอนที่ 3) ระดบั “ปานกลาง” ควรนามาพิจารณาแกไ้ ขปรบั ปรงุ 1) จากผลการสนทนากลุ่มนักเรียนส่วนหน่ึงมีความเห็นว่า หลักสูตรควรพัฒนาความ พร้อมของบุคลากร อาจารย์ผู้สอน สถานท่ี และแหล่งเรียนรู้ต่างๆ ในโรงเรียน และ พัฒนาภาวะผู้นาให้แก่นักเรียน ควรเพ่ิมการดูแลนักเรียนให้ปฏิบัติตามระเบียบของ โรงเรยี นมากขึ้น
268 ขอ้ ปัญหา ขอ้ 3) โรงเรียนส่งเสรมิ ใหน้ กั เรียนสามารถแสวงหาและสรา้ งความรดู้ ้วยตนเองได้ 1.15 ด้านรายวชิ า (พนื้ ฐานและเพ่ิมเติม) และกิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน 1.15 1) รายวชิ าและกจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น สง่ เสรมิ ให้นกั เรียนมสี มรรถนะในการเป็น พลเมืองที่เข้มแข็ง ได้แก่ มีความรักชาติ รักท้องถิ่น มีจิตอาสา มีอุดมการณ์ มี ความยตุ ธิ รรม และใช้ทรพั ยากรอยา่ งรู้คุณค่า 2) รายวชิ าและกจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น สง่ เสริมให้นกั เรยี นมคี วามสามารถในการ ส่ือสาร การคิด การแก้ปัญหา การใชท้ ักษะชีวิต และการใช้เทคโนโลยี 3) รายวิชาและกจิ กรรมการเรยี นการสอนในโรงเรียน ช่วยส่งเสริมให้นักเรียนมี บคุ ลิกภาพทด่ี ีในด้านการเรยี นรู้อยา่ งมคี วามสขุ การเป็นที่ยอมรับของผู้อ่ืน การ ชว่ ยเหลือ โอบออ้ มอารี ส่อื สาร และใฝ่เรยี นรสู้ ิ่งใหม่ๆ ความคดิ เหน็ ของอาจารยท์ มี่ ีตอ่ หลักสตู ร English Progr EP และผลการสนทนากลุ่มผปู้ กครอง อาจารยแ์ ประเดน็ 3 ลาดับท้าย ซงึ่ อาจารย์มคี วามคดิ เหน็ อยใู่ นร ไม่มปี ระเดน็ 3 ลาดบั ท้าย ทอี่ าจารย์มคี วามคดิ เห็นอยู่ในระดบั “ปานกลาง” ดา้ นหลกั สตู ร 1) จากผลการสนทนากลุ่มผู้ปกครองเห็นว่า นักเรียนไม่สามารถเรียนรู้ได้และ อาจจะฟงั อาจารยไ์ ม่เข้าใจบ้างในบางช่วงของการเรยี นในระยะแรกๆ 2) จากผลการสนทนากลุม่ อาจารย์และผู้บรหิ ารเหน็ วา่ หลักสูตร EP ท่ีเปิดสอน ในปัจจุบัน นักเรียนส่วนใหญ่มีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนก่อนเข้ามาเรียนอยู่ใน ระดับปานกลางถึงตา่ ซง่ึ เป็นปจั จยั สาคญั ต่อการออกแบบหลกั สูตรให้เหมาะสม
แนวทางการพฒั นาและปรับปรุงหลักสูตร 268 - ram (ข้อเสนอแนะเพ่มิ เตมิ จากตารางท่ี 25 จากตอนที่ 2 และผบู้ รหิ าร และผ้ทู รงคณุ วฒุ ิ จากตอนที่ 3) ระดับ “ปานกลาง” ควรนามาพิจารณาแก้ไขปรบั ปรุง ขอ้ เสนอแนะเพ่ิมเตมิ ดา้ นบริบท โดยอาจารย์ชาวต่างชาติ 1) Provide learners a venue for inclusive and collaborative learning where they (learners) can showcase their potentials and be able to think outside the box. 2) The context has a very strong objectives in regards to the (Learners) individuals. 3) Making a more inclusive learning institution requires the restatement of the selection process in assigning learners to academic level by age only. Some learners are advanced. ผลการสนทนากลุ่มผ้ปู กครอง อาจารย์และผูบ้ รหิ าร และผ้ทู รงคณุ วฒุ ิ 4) ผู้ปกครองเหน็ วา่ หลกั สูตร English Program จะช่วยพัฒนาทักษะด้านภาษาอังกฤษ และภาษาท่นี ักเรียนสนใจ เพ่อื เปน็ ส่งิ ท่จี าเปน็ ในการศึกษาต่อในระดับท่ีสูงขึ้นและใช้ใน
269 ขอ้ ปัญหา ขอ้
แนวทางการพฒั นาและปรบั ปรงุ หลกั สตู ร 269 การทางานในอนาคต ซงึ่ นกั เรยี นก็สามารถเรียนร้ไู ดแ้ ตอ่ าจจะฟังอาจารยไ์ ม่เข้าใจบ้างใน บางช่วงของการเรียนในระยะแรกๆ หลักสูตรช่วยให้นักเรียนกล้าพูดและฟัง ภาษาองั กฤษไดด้ ขี ึน้ แต่ควรมีการพัฒนาทักษะและคุณลักษณะอ่ืนๆ เพิ่มเติมด้วย เช่น การแก้ปญั หาดว้ ยตนเองในชีวิตประจาวนั การมีเป้าหมายในการเรยี น มีนา้ ใจ มีจิตอาสา มคี วามรบั ผดิ ชอบต่อตนเอง และหลักสตู รควรมีกจิ กรรมท่ใี หเ้ ด็กไดฝ้ ึกฝนการใช้ภาษาให้ คลอ่ งขนึ้ 5) อาจารยแ์ ละผู้บริหารเห็นว่า หลักสูตร English Program เป็นทางเลือกหน่ึงสาหรับ นักเรยี นและผู้ปกครองทีม่ ีความต้องการให้นักเรียนได้มพี ฒั นาการทางด้านภาษาอังกฤษ เพอื่ ประโยชนแ์ ละความจาเปน็ ในการศกึ ษาในระดับที่สูงข้ึน นักเรียนจะได้ฝึกฝนการใช้ ภาษาอังกฤษในการฟัง-พูด และเรียนรู้กับอาจารย์ชาวต่างชาติในรายวิชาต่าง ๆ อย่าง ต่อเน่ือง และมีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมเพ่ือแลกเปล่ียนเรียนรู้ท้ังภายในและภายนอก โรงเรียน แต่หลักสูตร EP ท่ีเปิดสอนในปัจจุบัน นักเรียนส่วนใหญ่มีผลสัมฤทธ์ิทางการ เรียนก่อนเข้ามาเรียนอยู่ในระดับปานกลางถึงต่า ซ่ึงเป็นปัจจัยสาคัญต่อการออกแบบ หลักสูตรให้เหมาะสมกับความพร้อม ความสามารถและความต้องการของนักเรียน รวมท้ังบรบิ ทความพร้อมของโรงเรยี นและผปู้ กครองด้วย เพ่ือจะช่วยกันพัฒนาคุณภาพ นักเรียนใหบ้ รรลุจุดมุ่งหมายของหลักสูตร โดยในปีการศึกษา 2563 โรงเรียนได้พัฒนา ปรับหลักสูตรเป็น หลักสูตร Intensive English Program หมายถึงเป็นหลักสูตรท่ี พัฒนานักเรียนให้มีความสามารถในด้านภาษาอังกฤษท่ีเข้มข้น เน้นวิทยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ และเทคโนโลยี และการทาโครงงานเพื่อสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง และ เหน็ ว่าหลักสูตรควรมีความชัดเจนในทางปฏิบัติที่มีการดาเนินการอย่างเป็นรูปธรรมให้ เหน็ ผลทีเ่ กดิ ข้ึนกบั นกั เรียนโดยตรงวา่ นักเรยี นสามารถทาอะไรได้บ้างเม่ือเข้ามาเรียนใน หลักสูตรนี้ และควรให้มีการติดตามผลการศึกษาต่อของนักเรียนท่ีสาเร็จการศึกษาไป แล้วว่ามคี วามก้าวหนา้ เพยี งใด 6) ผทู้ รงคณุ วฒุ ิเห็นวา่ การเปดิ หลกั สตู ร English Program นอกจากเป็นการส่งเสริมให้ นักเรียนได้มีพัฒนาการด้านภาษาที่เป็นสากลแล้ว ยังเปิดโอกาสให้นักเรียนและ
270 ขอ้ ปญั หา ขอ้ 2. ด้านปจั จยั นาเข้า (I: Input) EP ความคิดเห็นของนักเรยี นท่มี ตี ่อหลักสตู ร English Program (รายงานผลการสอบถาม ประเดน็ 3 ลาดับท้าย ซ่ึงนักเรียนมคี วามคดิ เห็นอยใู่ นร 2.1 ด้านบคุ คล 2.1 1) เจา้ หน้าท่ี มีความพร้อมในการใหบ้ รกิ าร สนบั สนุน และอานวยความสะดวก เพอื่ การบรรลุเป้าหมายของงาน 2) อาจารย์ผู้สอนไดส้ อนในรายวิชาทต่ี รงกับความเช่ยี วชาญ 3) ความรู้ความสามารถ ความเช่ียวชาญ และประสบการณ์ของอาจารย์ผู้สอน มีความเหมาะสม
แนวทางการพฒั นาและปรบั ปรุงหลักสูตร 270 ผู้ปกครองที่ตอ้ งการเตรียมเดก็ เพอ่ื ก้าวเข้าสู่อาชีพที่ต้องใช้ความสามารถด้านภาษาเพื่อ การสื่อสารจะมีโอกาสเข้าทางานที่ต้องการได้มากกว่า ด้านการจัดการเรียนการสอน ภาษาอังกฤษในปัจจบุ ันมคี วามสาคญั มาก ควรมีการเพิม่ เติมทักษะการสื่อสารในภาษาที่ เปน็ สากล และครอบครัวจะเป็นปัจจัยหนึ่งท่ีสาคัญในการสร้างและส่งเสริมบรรยากาศ ในการใช้ภาษาอังกฤษในชีวติ ประจาวันของนักเรียนหลักสูตร English Program ได้เป็น อยา่ งดี ดงั น้ันแนวทางการพฒั นาหลักสตู รโรงเรียนโดยผู้บริหารและอาจารย์ผู้สอนควรมี การสร้างความเข้าใจรว่ มกันเก่ยี วกบั ทิศทางการพัฒนานักเรียนของโรงเรียน และความ ร่วมมือระหว่างโรงเรียนและครอบครัวของนักเรียนเพื่อส่งเสริมบรรยากาศในการใช้ ภาษาอังกฤษกอ่ นมกี ารเรียนการสอน และในระหว่างจัดการเรียนการสอนควรมกี จิ กรรม ร่วมกันบางกิจกรรมและร่วมกันสะท้อนพัฒนาการของนักเรียนระหว่างทางบ้านกับ โรงเรียน โรงเรยี นควรพิจารณาสดั ส่วนการเรียนการสอนเป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ให้มีความสมดุล ใช้เทคโนโลยีเพ่ือการจัดการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพและควรเน้น สาระสาคญั ทีน่ กั เรยี นจะได้รบั ตามแตล่ ะระดับชน้ั เรียน นอกจากน้ี การจัดอาจารย์ผู้สอน ท่ีเป็นอาจารย์ชาวตา่ งชาติทเ่ี ป็นเจา้ ของภาษาโดยตรง เชน่ สญั ชาตอิ งั กฤษ และอเมริกัน จะชว่ ยให้นกั เรยี นมคี วามสามารถในการสอื่ สารด้านการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนได้ สงู กว่าอาจารย์ที่ไมใ่ ชเ่ จา้ ของภาษา มความคดิ เห็นตารางที่ 23 จากตอนที่ 2 และผลการสนทนากลุม่ นักเรียน จากตอนท่ี 3) ระดับ “ปานกลาง” ควรนามาพจิ ารณาแกไ้ ขปรับปรงุ 1) จากผลการสนทนากลุ่มนักเรียนส่วนหนึ่งเห็นว่า เด็กๆ ควรได้รับความสาคัญจาก โรงเรียนมากข้ึน เนื่องจากข่าวสารข้อมูลหรือกิจกรรมต่างๆ ของโรงเรียนมักรับรู้ได้ช้า กว่านักเรียนหลกั สูตรปกติ ควรมกี ารคัดเลือกนักเรยี น EP อย่างละเอียดเพ่ือให้ได้ผู้เรียน ท่ีมีความพร้อมและความสนใจในหลักสูตรน้ีอย่างแท้จริง ควรพิจารณาคุณสมบัติของ อาจารยผ์ สู้ อนทมี่ ีความเข้าใจ ใส่ใจในการดูแลนกั เรียน และส่อื สารกับนกั เรียนด้วยภาษา สุภาพ และเห็นว่าไม่จาเป็นต้องให้ผู้ปกครองเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาของ
271 ขอ้ ปญั หา ขอ้ 2.2 ด้านเอกสาร ส่อื เทคโนโลยี และสิ่งสนับสนนุ ที่เอื้อต่อการเรยี นรู้ 2.2 1) มีกิจกรรมกับเพ่ือนต่างโรงเรียนหรือบุคคลภายนอกเพ่ือแลกเปลี่ยน ประสบการณก์ ารเรยี นรซู้ งึ่ กนั และกัน 2) ห้องเรียนมีสภาพท่เี ออ้ื ต่อการเรยี นรู้ 3) มีห้องบริการสืบค้นข้อมูลด้วยระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เหมาะสมและ ทนั สมยั ความคิดเห็นของอาจารย์ทมี่ ีตอ่ หลักสตู ร English Program (ร EP และผลการสนทนากล่มุ ผู้ปกครอง อาจารยแ์ ประเด็น 3 ลาดบั ท้าย ซึ่งอาจารย์มคี วามคิดเห็นอยใู่ นร 2.3 ดา้ นบคุ คล 2.3 1) ความชดั เจนของคณุ สมบัติอาจารย์ผู้สอนนักเรียนหลกั สตู ร EP
แนวทางการพฒั นาและปรบั ปรงุ หลักสูตร 271 โรงเรียนเพราะนักเรียนคิดว่าตนเองควรมีอิสระในการเลือกเรียนและรับผิดชอบด้วย ตนเองได้ 1) นักเรียนเห็นวา่ ควรเพิ่มแหล่งเรียนรตู้ า่ งๆ ในโรงเรยี น รายงานผลการสอบถามความคิดเหน็ ตารางท่ี 25 จากตอนที่ 2 และผบู้ รหิ าร และผูท้ รงคณุ วฒุ ิ จากตอนที่ 3) ระดบั “ปานกลาง” ควรนามาพิจารณาแกไ้ ขปรับปรุง 1) ผ้ปู กครองเหน็ วา่ โรงเรยี นควรกาหนดเป้าหมายของนักเรียนหลักสูตร EP ให้ชัดเจน วา่ แตกต่างจากหลักสูตรปกติของโรงเรียนอย่างไร ความพร้อมของอาจารย์ผู้สอน เช่น ความสามารถในการสอน คุณลักษณะท่ีเป็นมิตรของอาจารย์ผู้สอน คุณสมบัติของ อาจารย์ชาวต่างชาติท่ีสอน และความกระตือรือร้นในการเรียนรู้ของนักเรียนด้วย และ ในกรณีที่โรงเรียนต้องการให้ผู้ปกครองมาเข้าร่วมหรือช่วยจัดกิจกรรมให้นักเรียน ผู้ปกครองก็ยินดี เพราะบางท่านมีความสามารถท่ีเหมาะสมกับกิจกรรมของนักเรียน หลักสูตร EP บางท่านก็อาจมีความชานาญท่ีสอดคล้องกับกิจกรรมพอดี และโรงเรียน อาจจดั หลกั สูตรท่ใี หผ้ ู้ปกครองไดพ้ ฒั นาดา้ นภาษาองั กฤษเพอื่ ใช้ในการพดู สือ่ สารเพ่ือจะ ไดส้ ามารถพดู คยุ กับลูกเปน็ ภาษาอังกฤษท่ีบ้านไดด้ ้วย 2) อาจารยแ์ ละผู้บรหิ ารเห็นว่า ปัจจยั สาคญั ทีจ่ ะชว่ ยขับเคล่อื นการนาหลกั สตู รไปใช้ คือ ความสามารถของอาจารยใ์ นการใช้ส่อื เทคโนโลยี และแหล่งเรียนรู้ ในการจัดกิจกรรม การเรยี นรู้ให้มากข้ึนในแต่ละรายวิชา และถ้านักเรียนเป็นผทู้ มี่ คี วามพร้อมและสนใจด้าน ภาษาจริง ๆ เข้ามาเรียนจะช่วยให้นักเรียนได้เรียนรู้ได้ดีและรวดเร็วมากข้ึน ดังนั้น แนวทางในการดาเนนิ การใหเ้ กดิ ประสิทธผิ ลสงู สดุ ต่อนักเรียน ควรต้องเกี่ยวข้องกับการ
272 ขอ้ ปญั หา ขอ้ 2.4 ด้านเอกสาร สอื่ เทคโนโลยี และสิง่ สนับสนนุ ทเ่ี อ้อื ต่อการเรียนรู้ 2.4 1) มกี ิจกรรมแลกเปลย่ี นเรยี นร้กู บั ชุมชน และชุมชนมสี ว่ นร่วมในการจดั การศกึ ษาของโรงเรยี น 2) จากผลการสนทนากลมุ่ ผปู้ กครองเหน็ ว่า หนังสอื และส่ือ วสั ดุอุปกรณ์ที่ นักเรยี นใช้เรียนยงั ไม่ค่อยมีใชป้ ระกอบการเรียน
แนวทางการพฒั นาและปรับปรุงหลกั สูตร 272 บรหิ ารจัดการอาจารย์ผู้สอน ให้มคี วามสามารถในการจดั กิจกรรมการเรียนรู้โดยเนน้ การ ใช้สือ่ เทคโนโลยี และแหลง่ เรยี นรู้ นอกจากนี้ควรเชิญผปู้ กครอง และชมุ ชนเข้ามามีส่วน ร่วมในการจัดการศึกษาในกิจกรรมพิเศษของโรงเรียน เช่น กิจกรรมชมรม กิจกรรม ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ หรืออาจเชิญมาช่วยจัดกิจกรรมในรายวิชาเพื่อสร้าง แรงจงู ใจและเปน็ ตน้ แบบทางวิชาชีพใหแ้ ก่นกั เรียน 3) ผทู้ รงคุณวฒุ เิ หน็ ว่า ปัจจยั สาคัญที่จะชว่ ยขับเคล่ือนการนาหลักสูตรสถานศึกษาสู่ช้ัน เรียน คือ การสร้างความเข้าใจในการจัดการเรียนรู้ร่วมกัน และการมีเจตคติที่ดีต่อ หลกั สูตร นกั เรยี น อาจารย์ และผูบ้ รหิ าร ต้องมีความรคู้ วามเข้าใจเร่อื งการนาหลักสูตรสู่ ชนั้ เรยี น เนือ่ งจากเปน็ การสอนโดยอาจารย์ชาวต่างชาติเป็นหลัก ดังน้ัน โรงเรียนควรมี การบริหารจัดการความร้ทู เี่ ป็นระบบโดยมีการแลกเปล่ียนเพื่อการพัฒนาการเรียนการ สอนอยา่ งต่อเน่ือง มรี ะบบการช่วยเหลือทุกฝ่ายท่ีเก่ียวข้องกับการพัฒนานักเรียน การ สง่ เสรมิ ให้นกั เรียนไดม้ องเห็นเสน้ ทางในอนาคตของตนเองหรือการค้นพบตนเองรวมทั้ง การเห็นคุณค่าของตนเองจะเป็นแรงจูงใจท่ีดีสาหรับการเรียนในระดับมัธยมศึกษา ตอนตน้ เพอ่ื ก้าวสกู่ ารเรยี นในระดับท่ีสูงข้ึน ควรเปิดโอกาสให้ผู้ปกครองและชุมชน เข้า มามีส่วนร่วมโดยโรงเรียนสามารถใช้จุดแข็งของผู้ปกครอง ชุมชน มาสร้างสรรค์ นวัตกรรมหลักสตู รและการจัดการเรียนรู้ การมีส่วนร่วมในการออกแบบหลักสูตร การ ออกแบบการวดั ผลการเรียนรู้ การเปน็ ครูภูมปิ ญั ญาให้กบั นักเรียน การเป็นแหล่งเรียนรู้ เชงิ สรา้ งสรรค์ และการมีสว่ นรว่ มในการสะท้อนคณุ ภาพผู้เรียน 1) ควรสง่ เสริมการทากจิ กรรมร่วมกนั เพอื่ แลกเปล่ยี นประสบการณ์ระหว่างโรงเรยี น 2) ควรมีกจิ กรรมใหผ้ ูป้ กครองหรือชุมชนมีสว่ นร่วมกับนักเรยี น 3) ผู้ปกครองเห็นว่า ควรมีหนังสือเรียน สื่อ-อุปกรณ์การสอนทุกประเภทและ หลากหลายที่จะช่วยให้นักเรียนมีความเข้าใจและนาไปใช้ได้จริง รวมท้ังวัสดุอุปกรณ์ ประกอบการเรยี น ขอ้ เสนอแนะเพมิ่ เตมิ ดา้ นปจั จัยนาเขา้ โดยอาจารยช์ าวต่างชาติ 2.1 To produce a much better learning environment, the school “MUST”
273 ขอ้ ปัญหา ขอ้ 3. ด้านกระบวนการ (P: Process) EP ความคิดเหน็ ของนกั เรียนท่ีมีต่อหลักสูตร English Program (รายงานผลการสอบถาม ประเด็น 3 ลาดบั ทา้ ย ซึง่ นกั เรยี นมคี วามคดิ เห็นอย่ใู นร 3.1 1) กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี นชว่ ยสะท้อนความสามารถและความถนัดของนักเรียน 3.1 ไดด้ ี 2) มกี จิ กรรมการเรียนรูท้ เี่ นน้ ให้นกั เรยี นไดค้ ิดวิเคราะหแ์ ละลงมอื ปฏบิ ัตจิ ริง 3) กิจกรรมพฒั นาผู้เรยี นมคี วามหลากหลาย ความคิดเห็นของอาจารย์ท่ีมตี อ่ หลกั สตู ร English Progr EP และผลการสนทนากลุม่ ผ้ปู กครอง อาจารยแ์ ประเด็น 3 ลาดับทา้ ย ซึง่ อาจารยม์ ีความคดิ เหน็ อย่ใู นร
แนวทางการพฒั นาและปรบั ปรงุ หลกั สูตร 273 have a strict implementing “Policy” with regards to the use “Mobile Phones”. Mobile phones are useful BUT in most cases they are very disruptive to students especially during the teaching and learning situation. 2.2 Innovating enough to support both instructors & Learners. 2.3 The availability of learning materials and resources is more than appropriate but the challenge is on the management of these resources to make if more accessible. มความคดิ เหน็ ตารางที่ 23 จากตอนที่ 2 และผลการสนทนากลมุ่ นกั เรียน จากตอนท่ี 3) ระดบั “ปานกลาง” ควรนามาพจิ ารณาแกไ้ ขปรับปรงุ 1) ควรเพ่ิมความเขม้ ข้นของการให้บริการแนะแนวตามเวลาท่นี กั เรยี นว่างจากการเรียน 2) ทุกรายวิชาควรให้นักเรยี นไดเ้ รยี นรจู้ ากการทาจรงิ จะไดเ้ ข้าใจและจาได้ 3) ควรมชี มรมให้นักเรียนเลือกเรียนหลากหลายมากข้ึน หรืออาจให้นักเรียนเปิดชมรม เองตามทสี่ นใจ 4) ควรให้ความสาคัญกับนักเรียน EP มากขึ้น และพัฒนานักเรียน EP ให้มีความเป็น ผู้นา 5) จากผลการสนทนากลมุ่ นักเรียนส่วนหน่ึงเห็นว่า โรงเรียนควรพัฒนาส่ิงอานวยความ สะดวกและเทคโนโลยีท่ีจาเป็นต้องใช้ในการเรียน ที่น่ังพักผ่อนของนักเรียนที่เพียงพอ ให้ความสาคัญและจัดกิจกรรมให้นักเรียน EP ได้แสดงออกบนเวทีมากข้ึน และให้ นักเรียนสามารถใช้โทรศัพท์ที่โรงเรียนได้อิสระมากข้ึนเนื่องจากบางครั้งจาเป็นต้อง คน้ คว้าจาก Website เพอื่ ทางานส่งอาจารย์ใหท้ ัน ram (ข้อเสนอแนะเพ่มิ เติมจากตารางที่ 25 จากตอนที่ 2 และผู้บริหาร และผูท้ รงคณุ วุฒิ จากตอนท่ี 3) ระดบั “ปานกลาง” ควรนามาพจิ ารณาแก้ไขปรับปรงุ
274 ขอ้ ปัญหา ขอ้ 3.2 ไมม่ ปี ระเดน็ 3 ลาดบั ท้าย ทอ่ี าจารยม์ คี วามคิดเหน็ อยู่ในระดับ “ปานกลาง” ด้านการบริหารจดั การหลกั สูตร 1) จากผลการสนทนากลุ่มผู้ปกครองเห็นว่า โรงเรียนควรมีทิศทางการพัฒนา นกั เรยี นสาหรบั หลกั สตู ร EP ทีช่ ัดเจน
แนวทางการพฒั นาและปรับปรงุ หลักสูตร 274 1) ผู้ปกครองเห็นว่า โรงเรียนควรมี “รูปแบบการพัฒนาหลักสูตร” ขึ้นอยู่กับทาง โรงเรียนจะเห็นสมควร แต่นักเรียน EP ควรมีความม่ันใจในการพูดภาษาอังกฤษอย่าง เปน็ ธรรมชาติ ไม่เขนิ อาย และสามารถอ่านเขียนได้เพ่ือเป็นพื้นฐานในการศึกษาต่อของ นกั เรยี น และให้ผปู้ กครองได้เห็นพฒั นาการดา้ นภาษาของนักเรียนได้ชัดเจน 2) อาจารยแ์ ละผบู้ ริหารเห็นว่า ควรพฒั นาหลักสตู รเพื่อส่งเสริมสมรรถนะของผู้เรียน ที่ เนน้ ให้ผ้เู รยี นเกิดทักษะทง้ั Hard Skills และ Soft Skills ทักษะการคิดข้ันสูง ได้แก่ คิด วเิ คราะห์ สามารถแกป้ ญั หาที่ซับซ้อน และสร้างสรรค์นวัตกรรมได้ สามารถเรียนรู้ด้วย ตนเอง มีความสามารถในการวิพากษ์และวิจารณ์ สามารถปรับตัวเข้ากับการ เปล่ยี นแปลงได้ มคี วามฉลาดทางอารมณ์ และมีภาวะความเปน็ ผนู้ า 3) ผู้ทรงคุณวุฒิมีความเห็นเช่นเดียวกับหลักสูตรปกติ โดยเสนอแนะว่า รูปแบบการ พัฒนาหลักสูตรของโรงเรียน ควรประกอบด้วย 3.1) หลักการ คือ ให้ความสาคัญกับ Growth mindset ในการพัฒนาหลกั สูตรท่ีคณะกรรมการพัฒนาหลกั สูตร และบุคลากร ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการพัฒนาหลักสูตรที่ให้ความสาคัญกับคุณภาพผู้เรียนด้านต่างๆ และพัฒนาหลักสูตรให้ตอบสนองธรรมชาติและความต้องการของผู้เรียนในลักษณะ Personalized learning และใช้ Technology เป็น Platform ของการเรียนรู้ ร่วมกับ การเรยี นรแู้ บบ Creative Team Learning 3.2) วัตถุประสงค์ คือ เพ่ือพัฒนาหลักสูตร สถานศึกษาที่ตอบสนองธรรมชาติและความต้องการของผู้เรียน เสริมสร้างคุณภาพ ผู้เรียนแบบบูรณาการ เพ่ือพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับผู้เรียน และเพ่ือ พัฒนาชุมชน ผู้นานวัตกรรมหลักสูตร และการเรียนรู้ของครูในโรงเรียน 3.3) กระบวนการ ดาเนนิ การโดย การกระตุ้น Growth mindset และ Passion ของผู้มีส่วน เก่ียวข้องในการพัฒนาหลักสูตร การถอดบทเรียน จุดแข็ง และจุดที่ควรปรับปรุง หลักสูตรเดิม การกาหนดเป้าหมายคุณภาพผู้เรียนท่ีตอบสนองการเปลี่ยนแปลงของ สังคมในอนาคต การดาเนินการพัฒนาหลักสูตรท่ีมีความเป็นนวัตกรรม Curriculum innovation ตอบสนองเป้าหมายคุณภาพผู้เรียน การใช้หลักสูตรแบบวิจัยเป็นฐานท่ีมี การประเมินและปรับปรุงอย่างต่อเน่ืองตามวงจร Plan Do Check Reflection 3.4)
275 ขอ้ ปัญหา ขอ้ 4. ด้านผลผลิต (P: Product) EP ความคดิ เห็นของนกั เรยี นทีม่ ตี อ่ หลกั สูตร English Program (รายงานผลการสอบถาม ประเดน็ 3 ลาดบั ทา้ ย ซึ่งนกั เรียนมีความคิดเหน็ อยใู่ นร
แนวทางการพฒั นาและปรับปรงุ หลกั สตู ร 275 การวัดและประเมินผล ได้แก่ การประเมินคุณภาพการจัดการเรียนรู้ของผู้สอนอย่าง ต่อเนือ่ ง การประเมนิ คณุ ภาพของผู้เรยี นอย่างต่อเนื่อง การสะท้อนผลการประเมินและ นาไปปรับปรุงหลักสูตร และการถอดบทเรียนนวัตกรรมหลักสูตรและการเรียนรู้ของ โรงเรียน 3.5) ปัจจัยสนับสนุน ได้แก่ การสนับสนุนเชิงวิชาการของผู้บริหารท้ังระดับ มหาวิทยาลัย ระดับคณะ และระดับโรงเรียน Growth mindset ของบุคลากรที่มีต่อ การพัฒนาหลักสูตรและนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ การสนับสนุนจากชุมชน องค์กร ภาครัฐ และเอกชน ทรัพยากรหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ งบประมาณในการ ดาเนินการ และการได้รบั ความร่วมมอื จากผ้ปู กครอง ข้อเสนอแนะด้านกระบวนการ โดยอาจารยช์ าวตา่ งชาติ 1) Harbor a more inclusive network of educators by allowing maternal and resources to be more accessible. 2) Support teachers’ innovative ideas and give then where they can showcase their innovations and evaluate the output. 3) To produce a much better learning environment, the school “MUST” have a strict implement policy with rebounds to the use of Mobile phones. Mobile phones are useful but in most cases they are very disruptive to student especially diving the teaching and vitiation. 4) Require and train teachers to facilitate at least one class in blended learning mode. Teachers’ knowledge in LMS can come in handy as an existing structure of the school’s contingence plan. (blended-learning classroom through computer-assisted learning/internet assisted learning using LMS) มความคดิ เห็นตารางท่ี 23 จากตอนที่ 2 และผลการสนทนากลุ่มนักเรียน จากตอนท่ี 3) ระดบั “ปานกลาง” ควรนามาพิจารณาแก้ไขปรบั ปรงุ
276 ขอ้ ปัญหา ขอ้ 4.1 1) นักเรียนมีความสามารถตามคุณลักษณะของผู้เรียนในศตวรรษท่ี 21 (7C) 4.1 ตามเปา้ หมายของหลกั สูตร 2) นักเรียนมีความมุ่งม่ันในการเรียน การทางาน และกล้าแสดงออกในทางที่ ถกู ต้องเหมาะสม 3) นกั เรียนมีบุคลกิ ภาพทด่ี ตี ามเป้าหมายของหลักสตู ร ในดา้ นการเรียนรู้อย่างมี ความสขุ การเป็นทยี่ อมรบั ของผูอ้ นื่ การช่วยเหลอื โอบออ้ มอารี สอ่ื สาร และใฝ่ เรยี นรู้ส่ิงใหม่ ๆ ความคดิ เห็นของอาจารย์ทีม่ ีต่อหลักสูตร English Progr EP และผลการสนทนากลุ่มผู้ปกครอง อาจารยแ์ ประเด็น 3 ลาดับทา้ ย ซง่ึ อาจารยม์ คี วามคดิ เหน็ อยใู่ นร ไม่มีประเด็น 3 ลาดบั ทา้ ย ทอี่ าจารยม์ ีความคิดเหน็ อยู่ในระดบั “ปานกลาง”
แนวทางการพฒั นาและปรบั ปรุงหลักสูตร 276 1) จากผลการสนทนากลุ่มนักเรียนสว่ นหน่งึ เห็นว่า คณุ ลักษณะของครูที่พึงประสงค์ คือ อยากให้อาจารยส์ อนเก่งๆ ใจดี ไม่ดุ ฟังเหตุผลของนักเรียน เป็นกันเอง และจัดการกับ นักเรียนท่ีทาผิดให้จริงจัง ห้องเรียนจะได้ไม่วุ่นวาย คุณลักษณะของนักเรียนท่ีพึง ประสงค์ คอื ต้งั ใจเรียน รับผดิ ชอบทางาน ไม่เอาเปรยี บเพ่ือน และเขา้ ใจผ้อู ่ืน ram (ขอ้ เสนอแนะเพิม่ เตมิ จากตารางที่ 25 จากตอนท่ี 2 และผ้บู รหิ าร และผู้ทรงคุณวฒุ ิ จากตอนที่ 3) ระดบั “ปานกลาง” ควรนามาพจิ ารณาแกไ้ ขปรบั ปรุง 1) ผู้ปกครองเหน็ ว่าคณุ ลกั ษณะของครทู พี่ ึงประสงค์ คอื ดูแลเอาใจใส่เดก็ ทุกคน เข้าใจ เด็ก พัฒนาเทคนิคการสอนให้นา่ สนใจ ประเมินผลอย่างเป็นธรรมตรวจสอบได้ มีความ ยุติธรรม เข้าสอนตรงเวลามอบหมายงานให้ชัดเจน และเป็นคนมีเหตุผล คุณลักษณะ ของนักเรียนที่พึงประสงค์ คือ เป็นคนดี ขยันและรับผิดชอบ กล้าแสดงออก มี ความสามารถในการเรยี น พัฒนาความคิด และมที กั ษะชีวิต 2) อาจารย์และผบู้ ริหารเห็นว่า คุณลักษณะของครทู พี่ ึงประสงค์ คือ รักการเรียนรู้และ ชอบค้นหาสิ่งใหม่ ๆ มีทักษะการปรับตัวเพื่อรองรับการเปล่ียนแปลง มีทักษะอ่านใจ ผู้เรียน มีความชานาญในการจัดการเรียนรู้และใช้เทคโนโลยี มีทักษะด้านการวิจัย มี ทักษะในการพัฒนานวัตกรรม มีคุณธรรมจริยธรรม และมีจิตอาสา คุณลักษณะของ นักเรียนท่พี งึ ประสงค์ คือ มคี วามรบั ผดิ ชอบ มคี ณุ ธรรมจรยิ ธรรม กลา้ แสดงออกในสงิ่ ท่ี ดี มีจิตอาสา ปฏิบัติตนตามระเบียบของโรงเรียน สามารถปรับตัวและยอมรับการ เปล่ียนแปลง สามารถเรียนรู้ด้วยตนเอง เป็นคนท่ีมีเหตุผล เป็นนักคิด ชอบค้นคว้าหา ความรู้ มีทกั ษะในการทางานเป็นทมี มีทกั ษะในการสื่อสาร มีความเข้าใจในตนเองและ ผูอ้ ื่น 3) ผู้ทรงคุณวุฒิเหน็ ว่า คณุ ลกั ษณะของครทู ี่พึงประสงค์ คือ เป็นคนท่ีนักเรียนไว้วางใจ
277 ขอ้ ปัญหา ขอ้ 5. ดา้ นผลกระทบ (I: Impact) EP ความคิดเห็นของนกั เรียนท่มี ตี ่อหลกั สูตร English Program (รายงานผลการสอบถาม ประเด็น 3 ลาดบั ท้าย ซ่งึ นักเรียนมคี วามคดิ เหน็ อยู่ในร 5.1 1) นกั เรียนมคี วามรสู้ ึกรักและภาคภูมิใจต่อสถาบนั 5.1 2) จากผลการสนทนากลุ่มนักเรยี นสว่ นหนึ่งเห็นว่า โรงเรยี นยังไม่มีหลักสูตร EP ต่อในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จึงจาเป็นต้องเลือกเรียนเท่าที่โรงเรียนเปิด สอน ในขณะท่ีมีนักเรยี นบางคนไม่ต้องการที่จะเรียนต่อในหลักสูตร EP เพราะ รสู้ กึ วา่ ไมถ่ นัดด้านภาษา ความคดิ เหน็ ของอาจารย์ที่มตี อ่ หลักสตู ร English Progr EP และผลการสนทนากลุ่มผูป้ กครอง อาจารยแ์ ประเดน็ 3 ลาดบั ทา้ ย ซงึ่ อาจารยม์ ีความคิดเห็นอยใู่ นร 5.2 ไม่มปี ระเด็น 3 ลาดบั ท้าย ทอี่ าจารย์มีความคิดเหน็ อยู่ในระดบั “ปานกลาง”
แนวทางการพฒั นาและปรบั ปรุงหลักสูตร 277 มีความพร้อมในการพัฒนาวิชาชีพให้ทันสมัยอยู่เสมอ ใจกว้าง มีภาวะผู้นา มี ความสามารถในการทาวิจัย มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อนักเรียนและบุคคลท่ีเก่ียวข้อง มีจิต เมตตา และเอ้ือเฟ้ือเผ่ือแผ่ คุณลักษณะของนักเรียนท่ีพึงประสงค์ คือ รู้จักแสวงหา ความรอู้ ยู่เสมอ เขา้ ใจผอู้ น่ื รจู้ กั การเปน็ ผู้ใหแ้ ละผ้รู บั ทดี่ ี มีความกตัญญู อดทน เข้มแข็ง มคี วามรับผดิ ชอบ มคี วามสามารถในการเลือกใชเ้ ทคโนโลยีใหเ้ กดิ ประโยชน์ และรักการ เรียนรู้ตลอดชีวิต ข้อเสนอแนะด้านผลผลิต โดยอาจารยช์ าวต่างชาติ EP should be a training ground or home to learners of the 21st century. They are critical thinkers, creative and knows how to collaborate with others to arrive very satisfactorily at a given goal and also very capable of communicating their know league and skills using traditional and contemporary media. มความคดิ เห็นตารางท่ี 23 จากตอนท่ี 2 และผลการสนทนากลมุ่ นักเรยี น จากตอนที่ 3) ระดบั “ปานกลาง” ควรนามาพจิ ารณาแก้ไขปรับปรุง 1) โรงเรียนควรมีกิจกรรมท่ีให้รุ่นพี่รุ่นน้องได้ทากิจกรรมร่วมกันมากข้ึน เพ่ือให้มี ความคุ้นเคยกัน 2) จากผลการสนทนากลุม่ นกั เรียนส่วนหนงึ่ เหน็ วา่ หลักสูตรสถานศึกษาฯ ควรมีการต่อ ยอดหลักสตู รโดยควรใหน้ กั เรียนมีทางเลอื กในแผนการเรียนท่ีตรงกับความต้องการและ ความถนดั ของนกั เรียนแต่ละคน ram (ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมจากตารางที่ 25 จากตอนท่ี 2 และผ้บู ริหาร และผู้ทรงคณุ วฒุ ิ จากตอนท่ี 3) ระดบั “ปานกลาง” ควรนามาพจิ ารณาแกไ้ ขปรบั ปรงุ 1) ผู้ปกครองคิดว่า หลักสูตรสถานศึกษาสามารถพัฒนานักเรียนได้ตรงตามความ
278 ขอ้ ปัญหา ขอ้ 1) การเผยแพร่ผลงานหรือให้บริการวิชาการของอาจารย์ มีจานวนยังไม่ถึง ครึ่งหน่งึ ของอาจารยท์ ง้ั หมดในโรงเรยี น
แนวทางการพฒั นาและปรบั ปรงุ หลักสตู ร 278 ต้องการของมหาวิทยาลัยที่จะรับนักเรียนเข้าศึกษาต่อ แต่นักเรียน EP ที่จบม.3 ส่วน ใหญ่สามารถเรียนต่อในชั้นม.4 ของโรงเรียนได้จนจบม.6 และสอบเข้าเรียนต่อใน มหาวิทยาลัยได้ และทราบว่ามีอาจารย์บางท่านเท่าน้ันท่ีให้บริการวิชาการแก่สถาบัน อื่นๆบา้ ง 2) อาจารย์และผูบ้ รหิ ารเหน็ วา่ หลกั สตู รสถานศึกษาสามารถพัฒนานักเรียนได้ตรงตาม ความตอ้ งการของสถาบันท่จี ะรับนกั เรยี นเข้าศึกษาต่อหรอื ประกอบอาชีพ สังเกตได้จาก รอ้ ยละ 100 ของนักเรียนทสี่ ามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยท่ีต้องการได้ และนักเรียนม.3 ของหลักสูตร EP เรียนตอ่ ในชนั้ ม.4 ของโรงเรยี น โดยมีการเลอื กเรยี นในแผนการเรียนที่ แตกต่างกนั ไป ควรสรา้ งแรงจูงใจให้อาจารย์ได้เห็นความสาคัญของการพัฒนาการสอน และทาวจิ ัย และสง่ เสรมิ ใหม้ ีเผยแพร่ผลการวจิ ยั ให้เป็นทป่ี ระจักษ์ 3) ผู้ทรงคณุ วุฒิเหน็ วา่ นักเรยี นมีโอกาสดีท่ีได้รับโควตาของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หลายท่ีนั่ง และมีข้อมูลการเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยของนักเรียน 100% สาหรับ อาจารย์ควรมกี ารพัฒนางานแบบ Routine to Research โดยทาการสอนควบคู่กับการ ทาวิจัยไปพร้อมๆกัน เพื่อผลิตและเผยแพร่ผลงานโดยสามารถเขียนบทความวิจัยและ เผยแพร่ผ่านวารสารต่างๆ ได้ หรืออาจเลือกการนาเสนอผลงานในงานสัมมนาทาง วชิ าการทัง้ ในระดับชาตแิ ละนานาชาติ เพื่อใช้ในการทาผลงานทางวิชาการของตนเองได้ โรงเรียนควรส่งเสริมและสนับสนุนให้อาจารย์มีการเผยแพร่ผลงาน และกระตุ้นให้ อาจารย์ได้ใช้ความรู้ความสามารถในการสร้างสรรค์งานและจัดกิจกรรมแลกเปล่ียน เรียนร้รู วมท้ังให้บรกิ ารวิชาการแกเ่ พือ่ นร่วมวชิ าชพี ทั้งในและนอกโรงเรยี นมากข้นึ ขอ้ เสนอแนะดา้ นผลกระทบ โดยอาจารยช์ าวต่างชาติ 1) Support teachers’ innovative approach and encourage teachers to be more innovative in dealing with their teaching and instructions to develop more productive individuals 2) Support teachers’ innovative ideas and give them a venue where they can showcase their innovations and evaluate the output.
279 ขอ้ ปัญหา ขอ้
แนวทางการพฒั นาและปรับปรุงหลักสูตร 3) Support and encourage foreign employees to participate and contribute in instructional innovation through academic research. 279
280 จากผลการศึกษาปัญหาและแนวทางการพัฒนาและปรับปรุงหลักสูตรโรงเรียนสาธิตแห่ง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกาแพงแสน ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา ตามหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) พบว่าทุกปัญหาท่ี นักเรียน อาจารย์ ผู้บริหาร และผู้ทรงคุณวุฒิได้เสนอความคิดเห็นไว้น้ัน ได้มีการเสนอแนะแนว ทางการพัฒนาและปรับปรุงหลักสูตรโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขต กาแพงแสน ศนู ย์วิจยั และพัฒนาการศกึ ษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.2560) ในทุกประเด็น และทุกด้าน ท้ังหลักสูตรปกติ และหลักสูตร English Program ผ้ทู เ่ี ก่ยี วขอ้ งสามารถนาข้อค้นพบจากการประเมินหลักสูตรครั้งน้ีไปใช้เป็นแนวทางในการ พัฒนาหลกั สูตรสถานศกึ ษาได้ในโอกาสตอ่ ไป
281 บทที่ 5 สรปุ ผล อภปิ รายผล และข้อเสนอแนะ การวิจัยเรื่อง “การประเมินหลักสูตรโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกาแพงแสน ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560)” ในครั้งน้ี เป็นการวิจัยเชิงประเมิน (Evaluation Research) โดยมวี ตั ถุประสงคก์ ารวิจยั 1) เพือ่ ศึกษาสภาพปัญหาของหลักสูตรสถานศึกษาในปัจจุบัน และความต้องการประเมินหลักสูตรสถานศึกษา 2) เพื่อประเมินหลักสูตรโรงเรียนสาธิตแห่ง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกาแพงแสน ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา ตามหลักสูตร แกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ในด้านบริบท ด้าน ปัจจัยนาเข้า ด้านกระบวนการ ด้านผลผลิต และด้านผลกระทบ โดยจาแนกเป็นหลักสูตรปกติ และ หลักสูตร English Program และ3) เพ่ือศึกษาปัญหาและเสนอแนวทางการพัฒนาและปรับปรุง หลักสูตรโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกาแพงแสน ศูนย์วิจัยและพัฒนา การศกึ ษา ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) โดยจาแนกเป็นหลักสูตรปกติ และหลักสูตร English Program คณะผู้วิจัยได้ประเมินหลักสูตร สถานศึกษาครั้งน้ี โดยใช้วิธีการประเมินของ Danial L. Stufflebeam รูปแบบการประเมินแบบ CIPPI Model โดยประเมินผลหลกั สูตรใน 5 ด้าน คอื ด้านบรบิ ท ดา้ นปัจจัยนาเข้า ด้านกระบวนการ ด้านผลผลติ และดา้ นผลกระทบ เกบ็ รวบรวมข้อมลู โดยการสอบถามความคิดเห็น การสัมภาษณ์ และ สนทนากลุ่ม ความคิดเห็นผู้ท่ีเกี่ยวข้องกับการใช้หลักสูตร 4 กลุ่ม เป็นกลุ่มเป้าหมายซ่ึงได้มาโดย วธิ ีการเลือกแบบเจาะจง ได้แก่ 1) นักเรียนหลักสูตรปกติ ระดับช้ันประถมศึกษาปีที่ 4-6 จานวน 12 คน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-2 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-5 รวมจานวน 442 คน ท่ีเรียนในปีการศึกษา 2562 ซึ่งใช้หลักสูตรโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกาแพงแสน ศูนย์วิจัย และพัฒนาการศกึ ษา ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) รวมท้ังสิ้น 454 คน และนักเรียนหลักสูตร English Program ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 1-2 จานวน 27 คน 2) อาจารย์ผู้สอนรายวิชาต่าง ๆ 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ หลักสูตรปกติมีจานวน 89 คน และหลกั สตู ร English Program มจี านวน 22 คน 3) ผู้บริหาร ประกอบด้วย ผู้บริหารระดับคณะ ผู้บริหารโรงเรยี น และคณะกรรมการวิชาการ ซึ่งประกอบด้วย หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ หัวหน้า งานกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน และหัวหน้างานทะเบียนและประมวลผล รวมจานวน 19 คน และ4) ผปู้ กครองของนักเรียนที่ศกึ ษาในหลกั สูตรปกติ ระดบั ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 4-6 ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 1-2 และชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4-5 ของปกี ารศึกษา 2562 มีจานวน 15 คน และหลักสูตร English Program ระดับช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 1-2 มจี านวน 5 คน รวมจานวนผู้ปกครอง 20 คน เครื่องมือท่ีใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย แบบสอบถาม และแบบสัมภาษณ์ และประเด็นสนทนากลุ่ม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ ค่าสถิติ ความถี่ (Frequency) ร้อยละ (%) ค่าเฉล่ีย (Mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) และการวิเคราะห์เน้ือหา (Content Analysis) มีผลสรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ ดังน้ี
282 สรุปผลการวจิ ัย การประเมินหลักสูตรโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกาแพงแสน ศูนยว์ จิ ัยและพัฒนาการศกึ ษา ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับ ปรบั ปรุง พ.ศ.2560) ในครงั้ น้ี สรปุ ตามวตั ถุประสงค์ 3 ข้อได้ดงั น้ี 1. ผลการศึกษาสภาพปัญหาของหลักสูตรสถานศึกษาในปัจจุบัน และความต้องการ ประเมินหลักสูตรสถานศึกษา มีข้อค้นพบ จาแนกเป็นหลักสูตรปกติ และหลักสูตร English Program ดงั น้ี 1.1 หลักสูตรปกติ 1.1.1 หลกั สตู รสถานศึกษาท่ีพฒั นาขึ้นตามกรอบหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ัน พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) มีสิ่งท่ีดีควรพัฒนาต่อยอด คือ เป็นหลักสูตร สถานศึกษาพัฒนาข้ึนตามกรอบหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับ ปรับปรุง พ.ศ.2560) โดยครบถ้วนและสมบูรณ์ สามารถรายงานผลการศึกษาของนักเรียนได้ตามที่ กระทรวงศึกษาธิการกาหนดทุกประเด็น มีแนวทางให้ครูได้นาไปกาหนดเนื้อหาสาระท่ีใช้ในการ จัดการเรียนการสอน และมีส่ิงท่ีควรแก้ไข/ปรับปรุง คือ ตัวช้ีวัดบางข้อวัดได้ยาก ควรปรับข้อความ เน้นเป็นพฤติกรรมท่ีนักเรียนแสดงออกได้ชัดเจน การกาหนดกรอบแนวคิดยังไม่ชัดเจน เอกสาร หลักสูตรและคู่มือการวัดและประเมินผลควรรวมเป็นเล่มเดียวกัน เป้าหมายของหลักสูตรยังไม่มี กระบวนการหรือเครื่องมือในการวัดและประเมินผลที่สะท้อนถึงการบรรลุเป้าหมายของหลักสูตร จุดเน้นของหลักสูตรยังไม่ชัดเจนและเพียงพอ การนาหลักสูตรสู่ช้ันเรียนควรต้องสร้างความเข้าใจ ร่วมกัน การจัดการเรียนการสอนไม่มีการบูรณาการระหว่างกลุ่มสาระการเรียนรู้อาจส่งผลให้เกิด ความไมต่ อ่ เน่ืองและไมเ่ ชอ่ื มโยง ขาดการบริหารจดั การรายวิชาบูรณาการในระดับประถมศึกษาตอน ปลาย (ป.4-6) ในหลกั สตู รระดับประถมศึกษา ควรจัดใหม้ ีการเรียนการสอนรายวิชาภาษาจีน และใน ระดับมธั ยมศึกษาควรมอี าจารย์พิเศษมาใหค้ วามรแู้ ละประสบการณ์กบั นักเรียน 1.1.2 สภาพปญั หาของหลักสตู รสถานศกึ ษาทีค่ วรต้องเร่งแก้ไขปรับปรงุ และพัฒนา เพือ่ มุ่งส่คู ุณภาพผเู้ รียนในศตวรรษที่ 21น้ัน ปัญหาอยู่ท่กี ารนาหลกั สตู รไปใช้ โดยครูไม่สามารถพัฒนา คณุ ภาพผู้เรยี นใหไ้ ปถงึ เปา้ หมายของผู้เรยี นในศตวรรษท่ี 21 ไดค้ รบถ้วน ซ่ึงเกิดจากความไม่พร้อมใน การปฏิบัติหน้าท่ี ไม่เข้าใจหลักสูตร การจัดการเรียนการสอนและประเมินผลไม่ตรงตามมาตรฐาน/ ตัวช้ีวัด การเรียนการสอนยึดเนื้อหาเป็นหลัก ไม่มีวิธีการท่ีจะทาให้ทราบว่าคุณภาพนักเรียนบรรลุ เปา้ หมายตามท่ีหลักสูตรแต่ละระดับการศึกษากาหนดไว้หรือไม่ ส่ิงที่ควรแก้ไขและปรับปรุงคือ ควร ให้อาจารยผ์ ้สู อนทุกท่านโดยเฉพาะอาจารยใ์ หม่ของโรงเรียนได้ตระหนักถึงความจาเป็นท่ีจะต้องรับรู้ และทาความเข้าใจหลกั สตู รของโรงเรียนให้ชัดเจน และสามารถนาหลักสูตรไปใช้ในการออกแบบและ จัดการเรียนการสอนให้บรรลุเป้าหมายคุณภาพผู้เรียนในศตวรรษท่ี 21 ได้ ดังน้ันควรต้องมีการ กาหนดกระบวนการในการนาหลักสูตรสู่ชั้นเรียนให้ชัดเจน มีระบบพ่ีเล้ียงสาหรับอาจารย์ใหม่ของ โรงเรียน และมีการนิเทศ ติดตาม และช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาวิชาชีพ โรงเรียนควรมีการประเมิน หลักสตู รเพื่อสะท้อนผลการใชห้ ลกั สตู ร และควรมีการประเมนิ หลักสูตรอย่างต่อเนื่องโดยกาหนดให้มี การเกบ็ รวบรวมข้อมูลและวเิ คราะหผ์ ลการศึกษาหลกั สูตรในแต่ละปีการศึกษา เพื่อนาผลไปปรับปรุง แก้ไขและพัฒนาคุณภาพนักเรียน จากนั้นนามาประมวลผลตามวัตถุประสงค์ของหลักสูตร
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 474
Pages: