333 สารสนเทศและทางดิจิทัล มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถสร้างสรรค์ผลงานใหม่ได้ และน้อยที่สุดคือ เนื้อหาสาระท่ีเรียนแต่ละรายวิชาในภาพรวมมีความเหมาะสม นักเรียนสามารถนาไปใช้ได้จริงใน ชวี ิตประจาวนั รายวชิ าและกิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี น ส่งเสรมิ ใหน้ กั เรยี นมีสมรรถนะในการเปน็ พลเมืองที่ เข้มแขง็ ได้แก่ มีความรักชาติ รักท้องถิ่น มีจิตอาสา มีอุดมการณ์ มีความยุติธรรม และใช้ทรัพยากร อยา่ งรคู้ ณุ คา่ ประเดน็ ท่ีมีค่าเฉลีย่ ของระดบั ความคิดเหน็ ของอาจารย์มากท่ีสุดคือ โครงสร้างหลักสูตร ระดับประถมศึกษา ซ่ึงประกอบด้วย สาระการเรียนรู้ 8 กลุ่ม และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน มีความ เหมาะสม และสอดคล้องกบั มาตรฐานการศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2561 กิจกรรมและ ประสบการณ์ในระดับปฐมวัย (อ.1-3) ส่งเสริมให้เด็กมีบุคลิกภาพ 5 ด้าน และมีความสามารถทาง ปญั ญา 8 ดา้ น ตามแนวคิดทฤษฎีพหุปัญญา (Multiple Intelligences Theory : MI) และน้อยท่ีสุด คอื หนว่ ย/แผนการจัดการเรยี นรมู้ ีความเหมาะสม ถกู ต้อง มีองคป์ ระกอบครบถ้วน และมขี ัน้ ตอนของ การจดั กจิ กรรมการเรียนรตู้ ามแนวคดิ Active Learning ท่ีสะท้อนผลลพั ธท์ ี่พึงประสงคข์ องการศึกษา (DOE Thailand) ในมาตรฐานการศึกษาของชาติ พ.ศ.2561 รายวิชาและกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน สง่ เสริมให้ผเู้ รยี นมีสมรรถนะในการเป็นผูเ้ รยี นรู้ ผลการตรวจสอบองค์ประกอบและคุณภาพหลักสูตร สถานศึกษาในภาพรวมพบว่า หลักสูตร English Program มีคุณภาพอยู่ในระดับมากเช่นเดียวกับ หลักสตู รปกติ ดังนัน้ ผู้บรหิ ารด้านวชิ าการและอาจารยผ์ ูส้ อนควรร่วมกนั พิจารณารายวชิ าและกิจกรรม พฒั นาผเู้ รยี นท่เี น้นสมรรถนะในการเปน็ พลเมืองทีเ่ ข้มแขง็ ของนกั เรยี น โดยใหน้ ักเรียนสามารถปฏิบัติ ได้จริง และสรา้ งแรงจูงใจใหอ้ าจารยผ์ สู้ อนเหน็ ความสาคญั ของการเขียนหนว่ ย/แผนการจัดการเรียนรู้ ท่ีสะท้อนผลลัพธ์ที่พึงประสงค์ของการศึกษา ด้านปัจจัยนาเข้า (Input) ประเด็นท่ีมีค่าเฉลี่ยของ ระดับความคดิ เหน็ ของนักเรยี นมากทส่ี ดุ คอื ผู้ปกครองมีความเข้าใจ และสนับสนุนกิจกรรมการเรียน การสอนของโรงเรียน มีวสั ดุอุปกรณ์การเรียน ส่อื และเทคโนโลยใี นชั้นเรียนเพ่อื ชว่ ยใหน้ ักเรียนเรียนรู้ ไดด้ ขี ึน้ และน้อยทีส่ ดุ คือ เจา้ หน้าทีม่ คี วามพรอ้ มในการใหบ้ รกิ าร สนับสนุน และอานวยความสะดวก เพอ่ื การบรรลเุ ปา้ หมายของงาน มีกิจกรรมกับเพื่อนต่างโรงเรียนหรือบุคคลภายนอกเพ่ือแลกเปลี่ยน ประสบการณ์การเรียนรู้ซ่ึงกันและกัน ประเด็นที่มีค่าเฉลี่ยของระดับความคิดเห็นของอาจารย์มาก ที่สุดคือ อาจารย์ผู้สอนได้สอนในรายวิชาที่ตรงกับคุณวุฒิและความเช่ียวชาญ มีการจัดสรร งบประมาณเพ่ือใช้ในโครงการหรือกิจกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนอย่างเพียงพอ และน้อยที่สุดคือ ผู้ปกครองมคี วามเข้าใจ และสนับสนุนกิจกรรมการเรียนการสอนของโรงเรียน มีกิจกรรมแลกเปล่ียน เรียนรู้กบั ชุมชน และชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาของโรงเรียน ดังนั้นอาจารย์และเจ้าหน้าที่ ควรเป็นต้นแบบท่ีดีให้แก่นักเรียน มีทัศนคติท่ีดีและให้ความเป็นมิตรกับนักเรียน ควรเพ่ิมความ ละเอียดในการดูแลเด็กให้ปรับตัวสาหรับการเรียน ทุกรายวิชาควรมีหนังสือเรียนหรือเอกสาร ประกอบการเรียน และมีกิจกรรมบูรณาการในรายวิชาต่าง ๆ ผู้บริหารควรสนับสนุนและส่งเสริมให้ บุคลากรมีการแลกเปล่ียนเรียนรู้ประสบการณ์ด้านวิชาชีพกับสถาบันอ่ืนๆ อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมี กิจกรรมแลกเปลยี่ นประสบการณก์ ารเรยี นรู้ระหวา่ งนักเรียนต่างสถาบันโดยจัดกิจกรรมให้นักเรียนได้ พบกับเพ่ือนต่างโรงเรียนมากข้ึน และกิจกรรมระหว่างโรงเรียนกับผู้ปกครองและชุมชน ด้าน กระบวนการ (Process) ประเดน็ ท่ีมีค่าเฉลี่ยของระดับความคิดเห็นของนักเรียนมากท่ีสุดคือ มีการ จัดการเรียนรู้ด้วยวิธีการท่ีหลากหลาย และน้อยที่สุดคือ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนช่วยสะท้อน ความสามารถและความถนดั ของนักเรียนไดด้ ี ประเดน็ ที่มคี ่าเฉล่ียของระดับความคิดเห็นของอาจารย์
334 มากท่ีสุดคือ มีการพิจารณาอาจารย์ผู้สอนรายวิชาให้เหมาะสมกับความรู้ความสามารถและคุณวุฒิ จัดการเรียนรู้โดยสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรม และน้อยที่สุดคือ มีระบบการนิเทศ ติดตาม เพ่ือให้ คาแนะนา ชว่ ยเหลือ (การพฒั นาวิชาชีพ) เกีย่ วกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของอาจารย์ผู้สอน และ จัดการเรียนรู้โดยคานึงถึงความสามารถของผู้เรียนเป็นรายบุคคล ดังนั้น อาจารย์ผู้สอน ควรจัดการ เรียนการสอนท่ีส่งเสริมความสามารถของผู้เรียนเป็นรายบุคคล ส่งเสริมกิจกรรมการแสดง ความสามารถของนกั เรียนทุกสัปดาห์ และผู้บริหารควรจัดโครงการพัฒนาวิชาชีพครูที่เน้นการนิเทศ แบบกัลยณมิตรเพ่ือช่วยเหลือและให้คาแนะนาในการพัฒนาคุณภาพนักเรียนตามเป้าหมายของ หลักสูตร ดา้ นผลผลิต (Product) ประเด็นท่ีมีค่าเฉล่ียของระดับความคิดเห็นของนักเรียนมากท่ีสุด คอื นกั เรยี นมีความสามารถในการสร้างสรรค์ช้ินงาน และน้อยที่สุดคือ นักเรียนมีความสามารถตาม คุณลักษณะของผู้เรียนในศตวรรษท่ี 21 (7C) ตามเป้าหมายของหลักสูตร ประเด็นที่มีค่าเฉลี่ยของ ระดบั ความคิดเห็นของอาจารย์มากท่ีสุดคือ ผู้เรียนมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนบรรลุตามวัตถุประสงค์ ของหลักสูตร และน้อยที่สุดคือ ผู้เรียนมีกระบวนการทางานอย่างเป็นระบบ ดังน้ัน EP will be a training ground or home to learners of the 21st century. They are critical thinkers, creative and knows how to collaborate with others to arrive very satisfactorily at a given goal and also very capable of communicating their know league and skills using traditional and contemporary media. และการนาหลักสูตรรายวิชาและกิจกรรมพัฒนาผเู้ รียนไป ใช้ในชั้นเรียน อาจารย์ผู้สอนควรเน้นการพัฒนาสมรรถนะผู้เรียนให้สามารถทางานอย่างเป็นระบบ และทางานเป็นทีมได้ เห็นคุณค่าของการทางานร่วมกัน และรู้จักการแก้ปัญหาเพ่ือความสาเร็จของ ผลงาน ดา้ นผลกระทบ (Impact) ประเด็นท่ีมีค่าเฉลี่ยของระดับความคิดเห็นของนักเรียนมากที่สุด คือ โรงเรียนมีชื่อเสียงและเป็นผู้นาในด้านการจัดการศึกษาและพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ท้ังในระดับ ปฐมวัย ประถมศึกษา และมัธยมศึกษา และน้อยท่ีสุดคือ นักเรียนมีความรู้สึกรักและภาคภูมิใจต่อ สถาบัน ประเด็นท่ีมีค่าเฉล่ียของระดับความคิดเห็นของอาจารย์มากที่สุดคือ โรงเรียนเป็นท่ียอมรับ ของผู้ปกครอง ชุมชน และสังคม และน้อยที่สุดคือ อาจารย์ผู้สอนมีการเผยแพร่ผลงานวิชาการ งานวิจัยอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นโรงเรียนควรมีกิจกรรมสาหรับอาจารย์ นักเรียนรุ่นพ่ีรุ่นน้องท่ีเป็น ประเพณีเพ่ือสร้างความรักความผูกพันต่อสถาบันอย่างต่อเน่ือง และผู้บริหารควรสนับสนุนสร้าง แรงจงู ใจและชว่ ยเหลือให้อาจารย์มกี ารเผยแพรผ่ ลงานวิชาการและงานวิจยั อยา่ งตอ่ เน่อื งมากขึ้น 3. จากผลการศึกษาปัญหาและแนวทางการพัฒนาและปรับปรุงหลักสูตรสถานศึกษา ตามองค์ประกอบของการประเมินหลักสูตร 5 ด้าน หลักสูตรปกติ ด้านบริบท ท่ีพบว่า รายวิชา พ้ืนฐานมีเวลาเรียนจานวนมากไม่สามารถจัดรายวิชาเรียนตามจุดเน้นได้เท่าท่ีควร ครูยังไม่สามารถ พัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้ไปถึงเป้าหมายของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 ได้ครบถ้วน และไม่มีเคร่ืองมือ สะท้อนผลลัพธก์ ารบรรลุเป้าหมายในการพัฒนาคุณภาพนักเรียน ด้านปัจจัยนาเข้า ที่พบว่า มีความ ไมพ่ รอ้ มในการใหบ้ ริการของเจ้าหนา้ ท่ี ความเชีย่ วชาญและประสบการณ์ของอาจารย์ผู้สอนขาดความ เข้าใจเรือ่ งหลักสตู ร และขาดการมสี ว่ นร่วมของผูป้ กครองและชุมชน ด้านกระบวนการ ที่พบว่า ขาด ระบบการบริหารจัดการหลักสูตรที่มีความต่อเนื่อง ขาดความชัดเจนในเร่ืองระบบการนิเทศติดตาม การจัดการความรู้ และการสะท้อนผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพ่ือการพัฒนา รวมทั้งรูปแบบการ พฒั นาหลักสตู รเพ่อื นาสู่การปฏิบตั ิจริงของทกุ ฝา่ ยท่เี ก่ียวข้อง ด้านผลผลิต ท่ีพบว่า มีปัญหาเกี่ยวกับ
335 การเรียนรู้กระบวนการทางานเป็นทีม ความรู้ความสามารถและคุณลักษณะของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 และนักเรียนส่วนใหญ่ขาดสมรรถนะในการสร้างสรรค์ช้ินงาน และด้านผลกระทบ มีข้อกังวลคือ ความร้สู ึกรักและภาคภูมใิ จต่อสถาบันของนักเรียน และการเผยแพร่ผลงานวิชาการและงานวิจัยของ อาจารย์ท่มี ีจานวนไมถ่ งึ ครง่ึ หน่ึงของอาจารย์ในโรงเรียน แนวทางการพัฒนาและปรับปรุงหลักสูตร สถานศึกษา ทาได้โดยควรปรับโครงสร้างเวลาเรียนให้สามารถจัดรายวิชาเรียนตามจุดเน้นได้มากข้ึน สถานศึกษาควรมีอิสระในการออกแบบหลักสูตรได้อย่างแท้จริง ควรสร้างและพัฒนาเคร่ืองมือ ประเมนิ ที่สะท้อนผลลัพธ์การบรรลุเปา้ หมายของหลักสูตร ปรับปรุงวิสัยทัศน์ของหลักสูตรให้เน้นการ จัดการศึกษาเพื่อเสริมสร้างทักษะการคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม เพ่ิมเติมการคิดขั้นสูง กาหนด Creative Based, Technology Based ไว้ในกรอบแนวคิดหลักสูตร ร่วมกับ Project Based และ Career Based โดยเน้น Competency Based และแนวทางการจัดหลักสูตรควรเน้นการบูรณาการ เชิงสร้างสรรค์ (Creative Integration) ให้มากขึ้น อาจารย์และเจ้าหน้าที่ควรเป็นต้นแบบที่ดีให้ นกั เรียน การเรียนการสอนควรเนน้ ปฏิบตั มิ ากกวา่ ทฤษฎี มกี ารจัดการความรู้ร่วมกันอย่างต่อเนื่อง มี ระบบการพัฒนาวิชาชีพครูแบบพลิกโฉมเพื่อก้าวทันการเปลี่ยนแปลง และมี “รูปแบบการพัฒนา หลักสูตร” ท่ีช่วยให้ผลการดาเนินงานบรรลุเป้าหมายของการพัฒนาหลักสูตร และที่สาคัญที่สุดคือ การสร้างความเข้าใจร่วมกันอย่างกัลยาณมิตรของทุกฝ่ายท่ีเก่ียวข้อง สาหรับหลักสูตร English Program ด้านบริบท ท่ีพบว่า การนาหลักสูตรสู่ช้ันเรียน อาจารย์ผู้สอนส่วนหน่ึงไม่ทราบถึง เป้าหมายและขาดความเข้าใจเกี่ยวกับหลักสูตรสถานศึกษา การจัดการเรียนการสอนมีลักษณะเป็น แบบแยกส่วน สว่ นใหญจ่ ดั การเรียนการสอนโดยยึดเนื้อหาเปน็ หลกั ด้านปัจจัยนาเข้า ท่ีพบว่าปัญหา คือ คุณสมบัติอาจารย์ผู้สอน ความเป็นกัลยาณมิตรของเจ้าหน้าท่ีในการให้บริการ การกาหนด เป้าหมายของหลักสูตร EP ให้ชัดเจน ด้านกระบวนการ มีปัญหาคือ ขาดระบบการบริหารจัดการ หลักสตู ร กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รียนยังไม่สะทอ้ นความสามารถและความถนดั ของนักเรียนเพ่ือให้นักเรียน ได้ค้นพบตนเอง กิจกรรมการเรียนรู้ไม่ได้เน้นให้นักเรียนได้คิดวิเคราะห์และลงมือปฏิบัติจริง การ ใหบ้ รกิ ารแนะแนวไม่ตรงกับช่วงท่ีนักเรียนว่างจากการเรียน และนักเรียนยังขาดความเป็นผู้นา ด้าน ผลผลติ มปี ัญหาคือ ความสามารถตามคณุ ลกั ษณะของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 และการมีบุคลิกภาพ ท่ีดีตามเป้าหมายของหลักสูตร และด้านผลกระทบ มีข้อกังวลคือ ความรู้สึกรักและภาคภูมิใจต่อ สถาบนั ของนกั เรียน โรงเรียนยังไมม่ หี ลกั สตู ร EP ใหน้ กั เรยี นศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย และการเผยแพร่ผลงานหรือให้บริการวิชาการของอาจารย์มีจานวนยังไม่ถึงครึ่งหนึ่ งของอาจารย์ใน โรงเรียน แนวทางการพฒั นาและปรับปรุงหลักสูตรสถานศึกษา ทาได้โดย ควรสร้างแรงจูงใจให้ครู ไดร้ บั การพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้และการประเมินผลที่ส่งเสริมทักษะผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 ที่สอดคล้องกับการเปล่ียนแปลงทางการศึกษาแบบหักศอก (Disruption) พัฒนาเครื่องมือ ประเมินทส่ี ะทอ้ นผลลัพธก์ ารบรรลุเป้าหมายของหลักสูตร มีการติดตามผลการใช้หลักสูตรอย่างเป็น ระบบ และนาผลการประเมินหลักสูตรไปใช้ในการจัดทาแผนพัฒนาสถานศึกษา เชิญผู้ปกครองและ ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาในกิจกรรมพิเศษของโรงเรียน มีการจัดการความรู้ที่เป็น ระบบและต่อเนื่อง ส่งเสริมให้นักเรียนได้ค้นพบและเห็นคุณค่าของตนเอง ควรเพ่ิมความเข้มข้นของ การให้บริการแนะแนวตามเวลาท่ีนักเรียนว่างจากการเรียน และพัฒนานักเรียน EP ให้มีความเป็น ผนู้ า ทั้งนม้ี ปี ัจจัยสาคญั ทีจ่ ะชว่ ยขับเคล่ือนการนาหลักสูตรสถานศึกษาสู่ชั้นเรียน คือ การสร้างความ
336 เข้าใจในการจัดการเรียนรู้ร่วมกัน และการมีเจตคติที่ดีต่อหลักสูตร จากผลการศึกษาปัญหาและแนว ทางการพัฒนาและปรับปรุงหลักสูตรโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขต กาแพงแสน ศูนย์วจิ ัยและพัฒนาการศึกษา ตามองค์ประกอบของการประเมินหลักสูตร 5 ด้านท่ีเป็น ข้อคน้ พบข้างต้น ดังนน้ั โรงเรยี นจงึ ควรมีระบบการบริหารจัดการหลักสูตรที่ชัดเจนและครอบคลุมทุก องค์ประกอบของหลักสูตร มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และแสวงหาวิธีการใหม่ ๆ ที่ตอบสนองความ ต้องการของผเู้ รียนและสังคม ส่งเสริมและสร้างแรงจูงใจให้อาจารย์ได้พัฒนาการเรียนการสอนอย่าง ต่อเนือ่ ง มีระบบการช่วยเหลือทุกฝ่ายท่ีเก่ียวข้องกับการพัฒนานักเรียน มีการส่งเสริมให้นักเรียนได้ มองเห็นเส้นทางในอนาคตของตนเองหรือการค้นพบตนเองรวมทั้งการเห็นคุณค่าของตนเองจะเป็น แรงจูงใจท่ดี สี าหรับการเรียนในระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐานเพ่ือก้าวสู่การเรียนในระดับที่สูงขึ้น เรียนรู้ อยา่ งสร้างสรรค์และเรียนรตู้ ลอดชีวติ ข้อเสนอแนะเพ่ือการวิจยั ครง้ั ตอ่ ไป 1. ควรมีการประเมินหลักสูตรโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขต กาแพงแสน ศูนย์วิจยั และพฒั นาการศกึ ษาโดยจาแนกตามกล่มุ วชิ า 2. ควรมีการประเมินหลักสูตรโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขต กาแพงแสน ศนู ย์วจิ ัยและพฒั นาการศึกษาโดยกาหนดขอบเขตการประเมินตามมาตรฐานการศึกษา 3. ในกระบวนการประเมินหลักสูตรสถานศึกษา ควรกาหนดวัตถุประสงค์ของการ ประเมินหลักสูตรเกยี่ วกบั การนาผลการประเมนิ มาเสนอรูปแบบการพฒั นาหลักสตู รเพ่ือความเป็นเลิศ ด้านคุณภาพผู้เรียนตามเป้าหมายของหลักสูตร และควรมีขั้นตอนการวิพากษ์หลักสูตรโดย ผทู้ รงคณุ วฒุ ิ ผบู้ ริหาร ผู้สอน ผปู้ กครอง และนกั เรยี น 4. ควรมีการวิจัยเร่ืองการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาที่มุ่งเน้นความเป็นเลิศ โดยนา ผลการวิจัยประเมินหลักสูตรโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกาแพงแสน ศนู ย์วิจยั และพฒั นาการศึกษา มาใชเ้ ป็นแนวทางในการพัฒนาหลกั สูตรสถานศกึ ษา
337 รายการอ้างองิ คมสัน ตรีไพบูลย์ และคณะ. (2558). การประเมินหลกั สูตรการศกึ ษาบัณฑติ (หลักสตู ร 5 ปี) สาขาวชิ าการสอนคณิตศาสตร์ (หลักสตู รปรับปรงุ พ.ศ. 2554) คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวิทยาลยั บรู พา. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยบรู พา, 26(3), กันยายน-ธันวาคม, 41-52. ฆนทั ธาตุทอง. (2550). การพัฒนาหลักสูตรทอ้ งถ่นิ . กรงุ เทพมหานคร: สานักพิมพ์จฬุ าลงกรณ์ มหาวิทยาลยั . จันทิวา เตจะ๊ , นพพร ธนะชยั ขันธ,์ และสุดาพร ปัญญาพฤกษ์. (2560). การประเมินหลักสูตร สถานศกึ ษากลมุ่ สาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์ โรงเรยี นแมล่ าววิทยาคม อาเภอแม่ลาว จังหวัด เชียงราย. วารสารบัณฑิตวจิ ยั , 8(1), มกราคม-มถิ ุนายน, 45-56. จริ ภทั ร เพ็ชรมงคล. (2555). การประเมินหลักสูตรวิชาวิทยาการทหาร (งานนพิ นธ์หลักสตู รรฐั ศาสตร มหาบณั ฑติ สาขาวชิ าการจดการทรัพยากรเพอื่ ความมน่ั คง คณะรฐั ศาสตรและนิติศาสตร). ชลบุรี: มหาวทิ ยาลยั บูรพา. จิราวดี พวงจนั ทร์. (2554). การบรหิ ารจัดการหลักสตู รสถานศกึ ษา ระดับสถานศกึ ษา สังกัด สานกั งานเขตพน้ื ทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษาราชบุรี เขต 2 (วิทยานพิ นธ์ ปริญญาศึกษาศาสตร มหาบณั ฑิต). นครปฐม: มหาวิทยาลัยศิลปากร. จฑุ ารตั น์ ทิพย์บุญทรัพย์, และศศิธร โรจน์สงคราม. (2560). การศึกษาความผูกพันของนกั ศึกษาต่อ วิทยาลยั นานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล. วารสาร Mahidol R2R e-Journal, 4(1), มกราคม– มถิ นุ ายน, 56-69. ใจทพิ ย์ เชือ้ รัตนพงษ์. (2539). การพฒั นาหลกั สตู ร : หลกั การและแนวปฏบิ ตั .ิ กรงุ เทพมหานคร: โรงพมิ พ์อลนี เพลส. ชญากาณฑ์ ขนั ธ์แกว้ . (2560). การประเมินหลักสตู รการจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตร กระทรวงศึกษาธกิ ารเป็นภาษาอังกฤษ โรงเรียนสาธิต มหาวิทยาลยั ราชภฏั ราชนครนิ ทร์ (วทิ ยานพิ นธ์ หลกั สูตรครศุ าสตรม์ หาบณั ฑิต สาขาวิชาการสอนภาษอังกฤษ). ฉะเชิงเทรา: มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั ราชนครินทร.์ ชวลิต ชูกาแพง. (2551). การพัฒนาหลกั สูตร. มหาสารคาม: สานกั พิมพม์ หาวทิ ยาลยั มหาสารคาม. ไชยยศ ไพวิทยศิรธิ รรม. (2550). การพัฒนารูปแบบการประเมนิ หลักสูตร: การประยุกตใ์ ช้การ ประเมนิ อภมิ าน (ปริญญานิพนธ์การศกึ ษาดษุ ฎบี ณั ฑติ สาขาวชิ าการวิจยั และพฒั นา หลกั สูตร บัณฑิตวิทยาลัย). กรงุ เทพมหานคร: มหาวิทยาลยั ศรีนครินทรวโิ รฒ. ฐติ กิ า เสนาจิตต์ และจุฑามณี ตระกูลมุทุตา. (2560). สภาพการดาเนนิ งานตามโครงการจดั การเรียน การสอนตามหลักสตู รกระทรวงศกึ ษาธิการเปน็ ภาษาองั กฤษ (Mini English Program : MEP) : กรณศี กึ ษา สานกั งานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา จงั หวดั สงขลา. วารสารวชิ าการ มหาวิทยาลยั ธนบรุ ,ี 11(24), มกราคม–เมษายน, 74-80.
338 ฐิติมา นิติกรวรากุล. (2553). การประเมินหลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นวัดบ้านโป่งสามัคคีคุณปู ถัมภ์ จังหวัดราชบุรี ชว่ งชั้นที่ 3-4 โดยใช้รปู แบบการประเมิน CIPP Model (วิทยานพิ นธป์ รญิ ญา ศกึ ษาศาสตรมหาบณั ฑิต). นครปฐม: มหาวิทยาลัยศิลปากร. ทิศนา แขมมณี. (2545). ศาสตรการสอน. กรุงเทพมหานคร: สานักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย. ธารง บวั ศรี. (2542). ทฤษฎีหลักสูตร : การออกแบบหลักสตู รและพฒั นา. กรงุ เทพมหานคร: ธนรชั . นพมณี เช้อื วัชรินทร์ และคณะ. (2558). การประเมินหลักสตู รการศกึ ษาบณั ฑิต (หลักสตู ร 5 ป)ี สาขาวชิ าการสอนชีววทิ ยา (หลักสตู รปรบั ปรงุ พ.ศ. 2554) คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลัย บูรพา. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั บูรพา, 26(3), กันยายน-ธันวาคม, 77-91. นารี อุไรรักษ,์ พชั นี กลุ ฑานันท์, และเบญจพร วรรณปู ถมั ภ์. (2562). การประเมินการใชห้ ลักสูตร สถานศึกษา โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลยั ราชภัฏบุรีรมั ย์. วารสารวิชาการ มหาวิทยาลัย ราชภัฏบรุ รี ัมย์, 11(1), มกราคม-มิถนุ ายน, 59-82. เนตรนภา หยมู าก. (2562). การศกึ ษาคุณลักษณะของครูท่พี ึงประสงคต์ ามทัศนะของนกั เรียนช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 1 (รายงานการวจิ ัย). สงขลา: โรงเรียนตะเครียะวทิ ยาคม. บงกช เอ่ียมช่นื . (2555). การประเมินหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ การแพทย์ (หลกั สตู รปรบั ปรุง พ.ศ. 2550) คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (วทิ ยานพิ นธ์ศกึ ษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวชิ าวิจัยและประเมนิ ผลการศึกษา). กรุงเทพมหานคร: มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร.์ บุญชม ศรีสะอาด. (2546). การพฒั นาการสอน. กรงุ เทพมหานคร: สุวรี ยิ าสาสน์. ปิยะ ศิลากุล. (2550). การประเมินการบรหิ ารหลกั สูตรสถานศกึ ษาตามทัศนะของผู้อานวยการ โรงเรยี นและครูวชิ าการ ในโรงเรยี นสงั กดั สานกั งานเขตพืน้ ที่การศกึ ษาบรุ รี ัมย์ เขต 1 (วทิ ยานพิ นธศ์ กึ ษาศาสตรมหาบณั ฑิต สาขาการบรหิ ารการศึกษา). บุรรี มั ย์: มหาวิทยาลยั ราชภฏั บุรีรมั ย.์ พงศป์ ระเสรฐิ หกสุวรรณ และนุสรา พีระพฒั นพงศ์. (2559). การประเมินหลักสูตรและความคิดเห็น ของผู้ใช้บัณฑิต : กรณีศกึ ษาหลักสูตรการศึกษามหาบณั ฑิต สาขาวชิ าเทคโนโลยกี ารศกึ ษา คณะ ศกึ ษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั บรู พา. วารสารศกึ ษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั บูรพา, 27(1), มกราคม- เมษายน, 49-60. พรทิพย์ ไชยโส, วสนั ต์ ทองไทย, และแม้นมาศ ลีลสัตยกุล. (2551). การประเมนิ หลักสตู รปรัชญาดุษฎี บัณฑิต สาขาวิชาวทิ ยาศาสตร์ศึกษา หลักสูตร 5 ปี ภาควชิ าการศกึ ษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. ในเร่อื งเตม็ การประชุมทางวชิ าการของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ครง้ั ท่ี 46: สาขาศึกษาศาสตร์ สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาเศรษฐศาสตรแ์ ละ บริหารธุรกจิ สาขาส่งเสริมการเกษตรและคหกรรมศาสตร์ (น. 89-96). กรงุ เทพมหานคร: มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์; สานักงานคณะกรรมการอดุ มศกึ ษา; กระทรวงศกึ ษาธกิ าร;กระทรวง เกษตรและสหกรณ์; กระทรวงวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี;กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละ สิง่ แวดลอ้ ม; กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สาร; สานักงานคณะกรรมการวจิ ัย แหง่ ชาติ;สานกั งานกองทนุ สนบั สนุนการวจิ ยั .
339 มนสั จันทรพ์ วง. (2549). การประเมนิ หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนสิรนิ ธรราชวิทยาลยั จงั หวัด นครปฐม โดยใชแ้ นวคดิ BALANCED SCORECARD [BSC]. กรงุ เทพมหานคร: มหาวทิ ยาลยั ศลิ ปากร. doi: 10.14457/SU.the.2006.29 มารตุ พัฒผล. (2555). การประเมินหลักสูตรเพอ่ื การเรียนร้แู ละพัฒนา. กรงุ เทพมหานคร: จรัลสนทิ วงศก์ ารพมิ พ.์ มารุต พัฒผล. (2558). การประเมนิ หลกั สูตรเพื่อการเรยี นร้แู ละพัฒนา. กรุงเทพมหานคร: จรัลสนิท วงศ์การพมิ พ์. มาเรียม นิลพันธ์ุ และคณะ. (2554). การประเมินหลกั สูตรปรชั ญาดุษฎีบณั ฑติ สาขาวชิ าหลักสูตร และการสอน คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร (รายงานการวิจยั ). นครปฐม: คณะ ศึกษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยศลิ ปากร. มาเรียม นลิ พนั ธ์ุ และคณะ. (2556). การประเมินผลการใชห้ ลักสตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ในโรงเรยี นต้นแบบการใช้หลกั สตู ร (รายงานการวจิ ยั ). นครปฐม: คณะ ศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร. มาเรียม นลิ พนั ธ.์ุ (2553). การประเมนิ หลกั สูตรท่ีเนน้ การตัดสนิ ใจโดยใช้วธิ เี ชงิ ระบบโดยใช้รปู แบบ CIPP Model. ใน บัณฑติ วิทยาลยั (บ.ก.), คู่มือการประเมินหลกั สตู รระดบั บณั ฑติ (น. 30-35). นครปฐม: มหาวทิ ยาลัยศลิ ปากร. มาเรยี ม นลิ พนั ธ.์ุ (2555). การประเมินหลกั สูตรศึกษาศาสตรมหาบณั ฑิต สาขาวชิ าหลกั สูตรและการ นเิ ทศ คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยศิลปากร (รายงานการวจิ ยั ). นครปฐม: คณะ ศึกษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ศิลปากร. มาเรยี ม นลิ พันธ.ุ์ (2558). วธิ วี จิ ยั ทางการศึกษา (พิมพค์ รงั้ ที่ 9). นครปฐม: คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร. มีนา ดาวเรอื ง. (2555). การประเมนิ หลกั สูตรอตุ สาหกรรมท่องเท่ียวและบริการ แขนงวิชาธรุ กจิ การบนิ โรงเรียนการท่องเทยี่ วและการบริการ พ.ศ. 2548 มหาวิทยาลยั ราชภัฏสวนดุสิต. วารสารวิจยั มสด สาขามนุษยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์, 8(1), มกราคม–เมษายน, 71-85. รตั นศริ ิ เขม็ ราช และคณะ. (2558). การประเมินหลกั สูตรการศกึ ษามหาบัณฑติ สาขาวชิ าการสอน ภาษาอังกฤษในฐานะเป็นภาษาโลก (รายงานการวิจยั ). ชลบุรี: คณะศึกษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั บรู พา. รัตนะ บัวสนธิ์. (2556). รูปแบบการประเมิน CIPP และ CIPPIEST มโนทัศน์ท่ีคลาดเคล่ือนและถกู ตอ้ ง ในการใช้ CIPP and CIPPIEST Evaluation Models: Mistaken and Precise Concepts of Applications. วารสารศิลปากรศกึ ษาศาสตร์วิจยั , 5(2), กรกฎาคม- ธนั วาคม, 7-24. รจุ ิร์ ภสู่ าระ. (2546). การพัฒนาหลักสูตร: ตามแนวปฏริ ปู การศึกษา (พิมพ์ครงั้ ที่ 2). กรงุ เทพมหานคร: บุ๊ค พอยท.์ รจุ ิร์ ภู่สาระ. (2551). การพัฒนาหลักสูตรตามแนวปฏิรูปการศึกษา. กรุงเทพมหานคร: บุ๊ค พอยท์. โรงเรยี นสาธิตแห่งมหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์ วทิ ยาเขตกาแพงแสน ศนู ย์วิจยั และพัฒนาการศึกษา. (2560). หลักสตู รโรงเรียนสาธติ แห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกาแพงแสน ศูนย์วจิ ยั และพัฒนาการศกึ ษา ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช
340 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560). ฤดีมาศ ศรสี ขุ . (2557). การประเมนิ หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นในฝนั ระดบั ช้นั มัธยมศึกษาปีท1ี่ –6 โดยใช้แนวคิดการวัดผลเชงิ ดุลยภาพ (Balanced Scorecard)กรณศี กึ ษา โรงเรียนราชวินติ บางเขน (การคน้ ควา้ อิสระ หลักสตู รบญั ชีมหาบัณฑติ สาขาวิชาการบญั ชีธรุ กจิ แบบบูรณาการ). กรุงเทพมหานคร: คณะพาณชิ ยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์. วชิ ยั วงษใ์ หญ่. (2537). กระบวนการพฒั นาหลักสูตรและการเรียนการสอนภาคปฏบิ ัติ. กรุงเทพมหานคร: สุรวี ยิ าสาส์น. วิชัย วงษ์ใหญ.่ (2551). กระบวนการพัฒนาหลักสูตรและการเรียนการสอน. กรุงเทพมหานคร: สวุ ีริยาสาส์น. วิชยั วงษใ์ หญ่. (2552). หลกั สูตร. ใน สารานกุ รมวชิ าชพี ครูเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเดจ็ พระ เจ้าอยหู่ ัว เนอื่ งในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา (น.469–474). กรงุ เทพมหานคร: สานกั งานเลขาธกิ ารครุ ุสภา. วิชยั วงษ์ใหญ่. (2554). การพัฒนาหลกั สตู รระดับอุดมศกึ ษา (พมิ พค์ รง้ั ท่ี 2). กรงุ เทพมหานคร: อาร์ แอนด์ปร้ิน จากัด. เวชฤทธ์ิ อังกนะภทั รขจร. (2558). การประเมนิ หลกั สูตรการศึกษามหาบัณฑติ สาขาวชิ าการสอน คณิตศาสตร์ คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั บูรพา. วารสารศกึ ษาศาสตร์ มหาวิทยาลยั บูรพา, 26(2), พฤษภาคม-สงิ หาคม, 223-235. ศิริชยั กาญจนวาสี. (2553). การประเมินหลักสตู ร : หลกั การและแนวปฏบิ ัติ. สืบคน้ เมอ่ื วนั ที่ 25 มกราคม 2563. http://www.edu.tsu.ac.th/major/eva/files/journal/scan1.pdf ศริ ิวรรณ วณิชวฒั นวรชัย. (2559). การจดั การเรียนรทู ี่เนนความแตกตางระหวางบุคคล. วารสารศกึ ษา ศาสตร มหาวิทยาลัยศิลปากร, 13(2), 65-75. สงดั อุทรานันท์. (2532). พนื้ ฐานและหลกั การพฒั นาหลกั สูตร (พิมพค์ รัง้ ที่ 3). กรงุ เทพมหานคร : ภาควิชาบรหิ ารการศึกษา คณะครศุ าสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั . สมหวงั พิธิยานุวัฒน.์ (2541). วิธวี ิทยาการประเมินทางการศกึ ษา. กรุงเทพมหานคร: สานกั พมิ พ์แหง่ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั . สานักวชิ าการและมาตรฐานการศึกษา. (2553). แนวทางการบริหารจัดการหลกั สตู ร ตามหลกั สูตร แกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 (พมิ พค์ รั้งท่ี 2). กรงุ เทพมหานคร: โรงพมิ พ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแหง่ ประเทศไทย จากดั . สริ าวรรณ จรสั รวีวฒั น์ และคณะ. (2558). การประเมินหลักสูตรการศึกษาบัณฑิต (หลักสตู ร 5 ปี) สาขาวชิ าการสอนภาษาจนี (หลักสตู รปรบั ปรงุ พ.ศ. 2554) คณะศึกษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั บรู พา. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา, 26(3), กนั ยายน-ธนั วาคม, 243-255. สชุ าดา สุดจติ ร. (2562). คณุ ลักษณะของอาจารย์ผูส้ อนตามความคิดเห็นของนักศกึ ษา สถาบนั อุดมศึกษาระดับปรญิ ญาตรใี นจงั หวัดภเู กต็ . วารสารร่มพฤกษ์ มหาวิทยาลัยเกริก, 37(1), มกราคม–เมษายน, 145-156. สนุ ีย์ ภู่พันธ์. (2546). แนวคดิ พนื้ ฐานการสรา้ งและการพัฒนาหลกั สูตร. กรงุ เทพมหานคร: โรงพมิ พ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั .
341 สุภา นลิ พงษ์. (2554). การประเมนิ หลักสูตรโรงเรยี นมหิดลวทิ ยานสุ รณ์ พุทธศักราช 2552 (วิทยานพิ นธ์ วท.ม. (วิทยาการการประเมิน)). กรงุ เทพมหานคร: บณั ฑิตวทิ ยาลยั มหาวิทยาลัย ศรนี ครินทรวโิ รฒ. อรวรรณ จลุ วงษ.์ (2555). การศึกษาเชงิ คุณภาพเก่ียวกบั ความรู้สกึ ผกู พัน ตอ่ สถาบนั การศกึ ษาของ นกั เรียนพยาบาลกองทัพบก. วารสารพยาบาลทหารบก, 13(2), พฤษภาคม-สงิ หาคม, 18-27. อศิ เรศ พิพฒั น์มงคลพร และคณะ. (2556). การประเมินหลักสูตรศกึ ษาศาสตรบณั ฑิต สาขาวิชาการ ประถมศึกษา คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ศิลปากร (รายงานการวิจัย). คณะศึกษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยศลิ ปากร. Armstrong. David G. (2003). Curriculum today. New Jersey : Merrill Prentice Hall. Beauchamp, George A. (1981). Curriculum Theory (4th ed.). Illinois: F E Peacock. Bobbitt, Flankin. (1981). The Curriculum. Boston: Houghton Mifflin. Brigman, Greg A. (1992). The Effects of Student Readiness Training on the Listening Comprehension, Attending, and Social Skill of Kindergarten Students (Readiness, Attention). Dissertation Abstracts Intentional, 52(8), February, 2814-A. Cronbach, Lee J. (1970). Essentials of Psychological Testing. New York: Harper and Row. Crow & Crow. (1980). Introduction to Education. New Delhi: Enrage Publishing House. Diamond, Robert. M. (2006). Designing and Assessing Course and Curricular Guide (3rd ed.). United State: Jossey – Bass. Eggert, L.L., Thompson, E.A. Herting, J.R.,Nicolas, L.J.,&Dicker, B.G. (1994). Preventing adolescent drug abuse and high school dropout through an intensive school- based social network development program. American Journal of Health Promotion, 8, 202-215. Eisner, E. (1976). Education Connoisseurship and Criticism : Their Form and Functions in Educational Evaluation. Journal of Aesthetic Education, 10(3), 135. Good, Carter V. (1973). Dictionary of Education. New York: Mcgraw – Hill Book Company. Hammond, Robert, L. (1967). Evaluation at Local Level in Educational Evaluation Theory and Practice. Beiwont Company. Libbey, H. P. (2004). Measuring student relationships to school: Attachment, bonding, connectedness, and engagement. Journal of School Health, 74, 274-283. doi: 10.1111/j.1746-1561.2004.tb08284.x Oliva P.F. (2013). Developing the Curriculum (8th ed.). Boston: Allyn and Bacon. Ornstein, A.C. & Hunkins, F.P. (2004). Curriculum Foundations, Principles and Issues. The United States of America: Pearson Education, Inc.
342 Sowell, E.J. (1996). Curriculum : An Integrative Introduction. United States of America: Merrill. Stake, R. E. (1975). Evaluating the Arts in Education : A Responsive Approach. Columbus, OH: Merrill. Stufflebeam, D. L. (2003). The CIPP model for evaluation. In the international handbook of educational evaluation. Edited by D.L.Stufflebeam and T. Kellaghan. Boston: kluwer Academic Publishers. Stufflebeam, D. L. and other. (1971). Education Evaluation and Decision Making. ltasca, lllinois: Peacock Publisher. Stufflebeam, D. L., & Shinkfield, A. J. (2007). Evaluation: Theory, models and applications. San Francisco: Jossey-Bass. Sweeney, D. (2011). Student–Centered Coaching : A Guide for K–8 Coachers and Principles. California: Corwin Press. Taba, H. (1962). Curriculum Development Theory and Practice. New York : Harcourt, Brace and World. Taba, H. (1996). Curriculum Development : Theory and Practice. New York: Harcourt, Brace and World Inc. Tomlinson. C. A. (2001). How To Differentiate Instruction in Mix-Ability Classrooms. ASCD. Tyler, R.W. (1969). Basic Principles of Curriculum and Instruction. Chicago: University of Chicago Press. Wheeler, D.K. (1974). Curriculum Process. London: University of London Press. Wiles, Jon W. (2009). Leading curriculum development (8th ed.). California: Corwin Press. Wiles, Jon W. and Bondi, C. Joseph. (2011). Curriculum development a guide to practice (8th ed.). Boston: Pearson. Worthen, B.R. and Sanders, J.R. (1987). Educational Evaluation: Alternative Approaches and Practical Guidelines. New York: Longman Press.
ภาคผนวก
344 ภาคผนวก ก รายนามผ้เู ชยี่ วชาญพจิ ารณาคุณภาพเคร่อื งมอื ที่ใชใ้ นการวจิ ยั
345 รายนามผเู้ ชี่ยวชาญพิจารณาคณุ ภาพเคร่ืองมอื ทีใ่ ช้ในการวจิ ยั โครงการวิจยั “การประเมนิ หลกั สตู รโรงเรียนสาธติ แหง่ มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ วทิ ยาเขต กาแพงแสน ศูนย์วจิ ยั และพฒั นาการศกึ ษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ.2560)” 1. ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.เพญ็ พนอ พ่วงแพ วฒุ กิ ารศึกษา ปรัชญาดุษฎบี ณั ฑติ สาขาวิชาหลกั สูตรและการสอน ตาแหน่งงาน อาจารยป์ ระจาสาขาวชิ าการสอนสงั คมศกึ ษา สถานทีท่ างาน คณะศึกษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ศิลปากร ผู้เช่ยี วชาญ ดา้ นการเรียนการสอน 2. ดร.พรี ะพรรณ ทองศูนย์ วฒุ ิการศึกษา ปรัชญาดุษฎบี ัณฑติ สาขาวิชาหลกั สูตรและการสอน ตาแหน่งงาน รองผู้อานวยการสานักงานเขตพ้นื ทกี่ ารศกึ ษา สถานทีท่ างาน สานักงานเขตพืน้ ทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาศรีสะเกษ เขต 4 ผ้เู ชี่ยวชาญ ดา้ นหลักสูตร 3. ดร.บญุ ยฤทธ์ิ ปิยะศรี วฒุ ิการศึกษา ปรัชญาดุษฎบี ณั ฑิต สาขาวิชาหลกั สูตรและการสอน ตาแหน่งงาน ศึกษานิเทศก์ วิทยฐานะครูชานาญการพเิ ศษ สถานทีท่ างาน สานกั งานเขตพนื้ ท่ีการศึกษามัธยมศึกษาชยั ภมู ิ ผู้เช่ียวชาญ ดา้ นหลกั สตู ร 4. ดร.พีชญา พานะกจิ วฒุ กิ ารศกึ ษา ปรัชญาดษุ ฎีบัณฑิต สาขาวชิ าหลกั สูตรและการสอน ตาแหน่งงาน อาจารย์กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สถานทท่ี างาน โรงเรียนวัดราษฎรร์ งั สรรค์ สานักงานเขตพ้ืนทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาสมทุ รสาคร ผู้เชี่ยวชาญ ดา้ นการเรยี นการสอน 5. ดร.เอกสทิ ธิ์ ชนนิ ทรภูมิ วุฒกิ ารศึกษา ปรัชญาดุษฎบี ณั ฑิต สาขาวิชาหลกั สูตรและการสอน ตาแหน่งงาน อาจารย์กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี สถานทท่ี างาน โรงเรียนสาธติ มหาวิทยาลยั ศลิ ปากร ผู้เชย่ี วชาญ ด้านการวดั และประเมินผล
346 ภาคผนวก ข รายนามผ้ทู รงคณุ วฒุ สิ าหรบั การสัมภาษณ์ ปญั หาและแนวทางการพฒั นาและปรบั ปรงุ หลกั สตู รสถานศกึ ษา
347 รายนามผทู้ รงคุณวุฒิสาหรับการสัมภาษณ์ ปัญหาและแนวทางการพฒั นาและปรบั ปรงุ หลกั สตู รสถานศึกษา โครงการวจิ ยั “การประเมนิ หลกั สตู รโรงเรียนสาธติ แหง่ มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์ วทิ ยาเขต กาแพงแสน ศูนยว์ ิจัยและพัฒนาการศึกษา ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ.2560)” รองศาสตราจารย์ ดร.วินัย พูลศรี คณบดีคณะศกึ ษาศาสตร์และพัฒนศาสตร์ รองศาสตราจารย์ ดร.ศริ ิพงษ์ เศาภายน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกาแพงแสน รองศาสตราจารย์ ดร.มารตุ พัฒผล รองศาสตราจารย์ ดร.กฤษณา ชนิ สิญจน์ คณบดีคณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคาแหง ดร.พรี ะพรรณ ทองศูนย์ รักษาการแทนหัวหน้าสาขาพหุวทิ ยาการ/ ดร บุญยฤทธบิ.ปยิ ะศรี สหวิทยาการ บัณฑิตวทิ ยาลัย มหาวทิ ยาลยั ศรีนครนิ ทรวโิ รฒ ประธานงานฝกึ ประสบการณว์ ิชาชพี ครู โรงเรยี นสาธติ แห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศูนยว์ ิจัยและพัฒนาการศกึ ษา มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ รองผอู้ านวยการสานกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษา สานกั งานเขตพ้นื ทีก่ ารศึกษาประถมศึกษา ศรสี ะเกษ เขต 4 ศึกษานเิ ทศก์ วิทยฐานะครูชานาญการพเิ ศษ สานักงานเขตพ้นื ท่กี ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษาชัยภมู ิ
348 ภาคผนวก ค เคร่ืองมอื ท่ีใช้ในการวจิ ยั ประกอบดว้ ย 6 ฉบบั ฉบบั ที่ 1 แบบสัมภาษณ์สภาพปญั หาและความต้องการจาเป็นของการประเมนิ หลักสูตรสถานศกึ ษาในปัจจุบนั ฉบบั ที่ 2 ประเดน็ สนทนากลุ่มสภาพปญั หาและความต้องการจาเป็นของการประเมิน หลกั สูตรสถานศกึ ษาในปจั จุบัน ฉบบั ที่ 3 แบบสอบถามความคิดเห็นของนักเรยี นท่มี ตี ่อหลกั สูตรสถานศึกษา ฉบับที่ 4 แบบสอบถามความคิดเหน็ ของอาจารย์ทม่ี ตี อ่ หลักสตู รสถานศกึ ษา ฉบบั ท่ี 5 แบบตรวจสอบองคป์ ระกอบและคุณภาพหลักสูตรสถานศกึ ษา ฉบับท่ี 6 ประเด็นสนทนากลุ่มเกย่ี วกบั ปญั หาและแนวทางการพฒั นาและปรบั ปรุง หลักสตู รสถานศกึ ษาระดับการศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน
349 KUSK CE1_สัมภาษณ์ผู้บริหารโรงเรยี น แบบสัมภาษณ์สภาพปัญหาและความต้องการจาเป็น ของการประเมนิ หลกั สตู รสถานศึกษาในปัจจุบัน ผ้ใู ห้ขอ้ มูล : ผบู้ ริหารโรงเรียน โครงการวิจยั “การประเมนิ หลักสูตรโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกาแพงแสน ศูนยว์ จิ ัยและพฒั นาการศกึ ษา ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.2560)” ตอนท่ี 1 ข้อมูลทัว่ ไป 1. เพศ 1) ชาย 2) หญิง 2. วิทยฐานะ 1) ชานาญการ 2) ชานาญการพเิ ศษ 3) เชีย่ วชาญ 4) อน่ื ๆ โปรดระบ…ุ ……........ 3. ประสบการณ์การบรหิ าร 1) นอ้ ยกว่า 5 ปี 2) 5-10 ปี 3) มากกว่า 10 ปี 4. วุฒิการศกึ ษาสูงสดุ 1) ปรญิ ญาตรี สาขา................................................. 2) ปริญญาโท สาขา.................................................. 3) ปรญิ ญาเอก สาขา................................................ 4) อื่นๆ ระบุ............................................................. ตอนท่ี 2 ประเด็นสัมภาษณเ์ กีย่ วกบั สภาพปัญหาของหลักสูตรสถานศึกษาในปัจจุบัน และความต้องการ จาเปน็ ของการประเมนิ หลกั สูตรสถานศึกษา 1. ท่านคิดว่าหลกั สูตรสถานศึกษาท่ีพัฒนาข้ึนตามกรอบหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ซึ่งเป็นหลักสูตรอิงมาตรฐานนั้น มีสิ่งที่ดีควรพัฒนาต่อยอด และมีส่ิงที่ควร แก้ไข/ปรับปรุง ในประเด็นใดบา้ ง อยา่ งไร (โปรดระบุเปน็ ดา้ น ๆ) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2. ทา่ นคิดว่าสภาพปญั หาของหลักสตู รสถานศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ทีค่ วรต้องเร่งแก้ไขปรบั ปรงุ และพัฒนาในสถานศึกษา เพื่อม่งุ สู่คณุ ภาพผู้เรียน ในศตวรรษที่ 21 มีอะไรบา้ ง อย่างไร .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................
350 3. ท่านคิดว่า สถานศึกษามีความต้องการจาเป็นในการประเมินหลักสูตรหรือไม่ อย่างไร และช่วงเวลาที่ เหมาะสมในการประเมนิ หลักสูตรสถานศึกษา ควรเปน็ ชว่ งเวลาใด (เช่น 3 ปี 5 ปี ทุกปี หรือตามประกาศของ กระทรวงศึกษาธิการ ฯลฯ) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 4. ข้อคิดเหน็ และขอ้ เสนอแนะเพ่มิ เติม .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอขอบคุณทา่ นทก่ี รุณาให้ข้อมูลอย่างสมบูรณ์เพอ่ื ประโยชนใ์ นการพฒั นาหลกั สูตรสถานศกึ ษาตอ่ ไป
351 KUSK CE2_FGD คณะกรรมการฝา่ ยวชิ าการ ประเด็นสนทนากลุ่มสภาพปัญหาและความต้องการจาเป็น ของการประเมนิ หลักสูตรสถานศึกษาในปัจจบุ ัน ผู้ใหข้ ้อมูล : คณะกรรมการฝ่ายวิชาการ โครงการวิจยั “การประเมนิ หลักสูตรโรงเรยี นสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วทิ ยาเขตกาแพงแสน ศูนยว์ ิจยั และพฒั นาการศกึ ษา ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ.2560)” ตอนท่ี 1 ข้อมลู ท่วั ไป 1. เพศ 1) ชาย 2) หญงิ 2. วิทยฐานะ 1) อาจารย์ 2) ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ 3) รองศาสตราจารย์ 4) อื่น ๆ โปรดระบุ………....... 3. ประสบการณก์ ารปฏิบัตงิ านในสถานศึกษา 1) ต่ากว่า 5 ปี 2) 5-10 ปี 3) มากกวา่ 10 ปี 4. ประสบการณ์การเปน็ คณะกรรมการฝ่ายวิชาการ 1) ตา่ กวา่ 2 ปี 2) 2-4 ปี 2) 5-8 ปี 3) มากกว่า 8 ปี 5. วุฒิการศึกษาสงู สุด 1) ปริญญาตรี สาขา......................................................................................... 2) ปริญญาโท สาขา......................................................................................... 3) ปรญิ ญาเอก สาขา....................................................................................... 4) อื่นๆ ระบ.ุ .................................................................................................... ตอนท่ี 2 ประเด็นสนทนากลุ่มเก่ียวกับสภาพปัญหาของหลักสูตรสถานศึกษาในปัจจุบัน และความ ตอ้ งการจาเป็นของการประเมินหลกั สูตรสถานศึกษา 1. ทา่ นคดิ ว่าหลกั สตู รสถานศึกษาท่ีพัฒนาขึ้นตามกรอบหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ซึ่งเป็นหลักสูตรอิงมาตรฐานน้ัน มีส่ิงที่ดีควรพัฒนาต่อยอด และมีส่ิงที่ควร แก้ไข/ปรับปรงุ ในประเดน็ ใดบ้าง อยา่ งไร (โปรดระบุเป็นดา้ น ๆ) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................
352 2. ท่านคิดว่าสภาพปญั หาของหลกั สตู รสถานศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ.2560) ท่คี วรต้องเรง่ แกไ้ ขปรบั ปรุงและพัฒนาในสถานศึกษา เพื่อมุง่ สู่คณุ ภาพผเู้ รียน ในศตวรรษที่ 21 มอี ะไรบ้าง อยา่ งไร ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... 3. ท่านคิดว่า สถานศึกษามีความต้องการจาเป็นในการประเมินหลักสูตรหรือไม่ อย่างไร และช่วงเวลาที่ เหมาะสมในการประเมินหลักสตู รสถานศกึ ษา ควรเป็นชว่ งเวลาใด เพราะเหตใุ ด (เช่น 3 ปี 5 ปี ทุกปี หรือตาม ประกาศของกระทรวงศึกษาธิการ ฯลฯ) ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................................................. ....................................................................................................................................................................... 4. ข้อคิดเหน็ และข้อเสนอแนะเพ่ิมเติม .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอขอบคุณท่านท่ีกรณุ าใหข้ อ้ มูลอย่างสมบูรณ์เพอื่ ประโยชน์ในการพฒั นาหลักสตู รสถานศกึ ษาตอ่ ไป
353 KUSK CE3_ความคดิ เหน็ ของนกั เรยี น แบบสอบถามความคิดเหน็ ที่มตี อ่ หลกั สตู รสถานศกึ ษา ผใู้ ห้ข้อมลู : นักเรยี น โครงการวิจัย “การประเมนิ หลักสตู รโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วทิ ยาเขตกาแพงแสน ศูนยว์ ิจยั และพัฒนาการศกึ ษา ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ.2560)” ************************************************************** คาชี้แจง แบบสอบถามน้ีจัดทาข้ึนเพ่ือเก็บข้อมูลในโครงการวิจัย เร่ือง “การประเมินหลักสูตรโรงเรียนสาธิต แหง่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วทิ ยาเขตกาแพงแสน ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560)” จึงขอความร่วมมือจากนักเรียนได้ตอบ แบบสอบถามความคดิ เหน็ ทีม่ ีต่อหลักสูตรสถานศึกษาทุกข้อ เพื่อความสมบูรณ์และความน่าเชื่อถือของข้อมูล สามารถนาผลการศึกษาครั้งนีไ้ ปใช้ประโยชน์ได้โดยตรงในการพัฒนาหลักสูตรของโรงเรียน โดยผู้วิจัยจะรักษา ความลับของข้อมูลและขอยืนยันว่าไม่มีผลกระทบใด ๆ ที่เป็นความเส่ียงต่อตัวนักเรียนและผู้เก่ียวข้องท้ัง ทางตรงและทางอ้อม ตอนท่ี 1 ข้อมลู ทัว่ ไป 1. เพศ 1) ชาย 2) หญิง 2. ระดบั ชัน้ ทเ่ี รียนในปกี ารศกึ ษา 2562 หลกั สูตรที่เรยี น 1) หลกั สตู รปกติ 2) หลักสูตร EP 1) ม.1 2) ม.2 3) ม.4 4) ม.5 3. ระยะเวลาที่เรยี นอยู่ทโี่ รงเรยี นสาธิตเกษตรศาสตร์ กาแพงแสน 1) 1- 3 ปี 2) 4-6 ปี 3) 7-9 ปี 4) 10-12 ปี 5) มากกวา่ 12 ปี 4. กิจกรรม/โครงการของโรงเรียนท่ีนักเรียนรู้สึกประทับใจ คือ กิจกรรม/โครงการใด (ตอบได้มากกว่า 1 กิจกรรม)............................................................................................................................................................... ตอนท่ี 2 ความคดิ เห็นท่มี ีตอ่ หลกั สูตรโรงเรียนสาธติ แห่งมหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์ วทิ ยาเขตกาแพงแสน ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับ ปรบั ปรุง พ.ศ.2560) คาชีแ้ จง โปรดพิจารณาประเด็นการประเมินหลักสูตรตามองค์ประกอบ 5 ด้าน และทาเครื่องหมายลงใน ทต่ี รงกบั ระดับความคดิ เหน็ ของท่านมากทสี่ ดุ เกณฑ์การให้ระดับความคดิ เห็น 5 หมายถึง ความคดิ เหน็ ทม่ี ตี ่อหลักสูตรสถานศกึ ษา เห็นด้วยในระดบั มากท่ีสุด 4 หมายถึง ความคิดเหน็ ทม่ี ตี ่อหลักสตู รสถานศึกษา เหน็ ดว้ ยในระดับมาก 3 หมายถึง ความคดิ เหน็ ที่มีต่อหลักสูตรสถานศกึ ษา เห็นด้วยในระดบั ปานกลาง 2 หมายถึง ความคดิ เหน็ ที่มีตอ่ หลักสูตรสถานศึกษา เห็นด้วยในระดบั นอ้ ย 1 หมายถึง ความคิดเหน็ ทมี่ ีตอ่ หลกั สูตรสถานศกึ ษา เหน็ ด้วยในระดับน้อยทส่ี ุด
354 ตาราง ความคดิ เห็นของนักเรียนทีม่ ีตอ่ หลกั สูตรโรงเรยี นสาธิตแหง่ มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์ วทิ ยาเขต กาแพงแสน ศูนยว์ จิ ัยและพฒั นาการศึกษา ประเด็นการประเมินหลกั สตู ร ระดับความคิดเหน็ ขอ้ เสนอแนะ 54321 1. ประเมนิ บรบิ ท (C: Context Evaluation) หลักสตู ร 1.1 โรงเรยี นพฒั นาคุณภาพนักเรียนไม่ต่ากว่าเกณฑ์มาตรฐาน การศกึ ษาของชาติ พ.ศ.2561 (เปน็ ผเู้ รยี นรู้ เป็นผู้ร่วมสร้างสรรค์ นวัตกรรม และเป็นพลเมอื งท่ีเขม้ แข็ง) 1.2 โรงเรยี นสง่ เสรมิ ใหน้ ักเรียนสามารถแสวงหาและสรา้ งความรู้ ด้วยตนเองได้ 1.3 โรงเรยี นส่งเสริมใหน้ กั เรียนมีความพร้อมในการศกึ ษาต่อตาม ความถนดั ความสนใจ ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของนกั เรียน 1.4 โรงเรียนไดพ้ ฒั นาคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ของผเู้ รยี น เปน็ การชว่ ยสะท้อนความมุ่งมน่ั ศึกษา กลา้ แสดงออกของนักเรยี น 1.5 โรงเรียนได้พัฒนาใหน้ ักเรยี นมีความสามารถในการอา่ น คิด วเิ คราะห์ และเขียน ชว่ ยใหน้ ักเรียนมีทักษะพ้ืนฐานทจี่ าเป็นใน การศกึ ษารายวชิ าตามความถนัดและความสนใจ 1.6 การจัดการศึกษาของโรงเรียนมคี วามต่อเน่ืองเชื่อมโยงกันตั้งแต่ ระดับประถมศึกษา และมัธยมศกึ ษา 1.7 รายวิชาตามกลุ่มสาระการเรยี นรู้ 8 กลุ่ม และกิจกรรมพฒั นา ผู้เรียน ทาให้นักเรยี นมีทักษะการคิด และสามารถแกป้ ญั หาใน ชวี ิตประจาวันได้ 1.8 รายวชิ าตามกล่มุ สาระการเรยี นรู้ 8 กลุม่ และกจิ กรรมพฒั นา ผู้เรียน ทาให้นกั เรยี นมีบคุ ลิกภาพท่ดี ีในดา้ นการเรยี นรู้อย่างมี ความสุข การเป็นทีย่ อมรบั ของผ้อู ่ืน การชว่ ยเหลือ โอบอ้อมอารี สื่อสาร และใฝ่เรยี นรสู้ ิง่ ใหม่ๆ 1.9 จานวนเวลาเรียน 6-8 คาบต่อวัน มคี วามเหมาะสม 1.10 เน้อื หาสาระทีเ่ รยี นแต่ละรายวิชาในภาพรวมมคี วามเหมาะสม นกั เรยี นสามารถนาไปใช้ได้จรงิ ในชวี ิตประจาวัน รายวชิ า (พนื้ ฐานและเพิ่มเตมิ ) และกิจกรรม พฒั นาผเู้ รียน 1.11 รายวิชาและกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน สง่ เสรมิ ให้นกั เรยี นมี ความสามารถในการสื่อสาร การคิด การแกป้ ญั หา การใช้ทกั ษะชวี ิต และการใชเ้ ทคโนโลยี 1.12 รายวิชาและกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน ส่งเสริมให้นกั เรยี นมี สมรรถนะในการเป็นผู้เรยี นรู้ ไดแ้ ก่ มีความเพยี ร ใฝ่เรยี นรู้ และมี ทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวติ กา้ วทันโลกยุคดจิ ทิ ลั และโลกในอนาคต มีสุนทรยี ะ มีทกั ษะชวี ติ มคี ณุ ภาพชวี ิตทด่ี ี ต่อตนเอง ครอบครวั และสงั คม
355 ประเด็นการประเมินหลกั สตู ร ระดบั ความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ 54321 1.13 รายวิชาและกจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน ส่งเสรมิ ให้นกั เรยี นมี สมรรถนะในการเปน็ ผรู้ ว่ มสรา้ งสรรค์นวัตกรรม ได้แก่ มีทกั ษะทาง ปญั ญา สามารถใช้เทคโนโลยีดจิ ทิ ลั อย่างเหมาะสม มีทักษะการคิด สร้างสรรค์ สามารถปรับตวั เขา้ กบั ผู้อื่นได้ดี และมกี ารสรา้ งสรรค์ งานใหม่ 1.14 รายวิชาและกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน สง่ เสริมให้นักเรยี นมี สมรรถนะในการเปน็ พลเมอื งท่เี ขม้ แขง็ ได้แก่ มีความรักชาติ รกั ท้องถ่ิน มีจิตอาสา มอี ดุ มการณ์ มคี วามยุตธิ รรม และใช้ทรัพยากร อย่างร้คู ณุ คา่ 1.15 รายวิชาและกิจกรรมการเรียนการสอนในโรงเรยี น ชว่ ย สง่ เสรมิ ให้นักเรยี นมีความรู้ ความสามารถ และทักษะด้านการอา่ น เขียน คดิ คานวณ 1.16 รายวชิ าและกจิ กรรมการเรียนการสอนในโรงเรยี น ชว่ ย ส่งเสริมให้นกั เรียนมีคณุ ลักษณะผู้เรยี นในศตวรรษที่ 21 ได้แก่ ความสามารถในการคดิ ไตรต่ รอง คิดแก้ปญั หา มีทกั ษะการทางาน รว่ มกนั มที ักษะการส่ือสาร มคี วามรอบรู้ทางข้อมูล สารสนเทศและทางดิจทิ ลั มคี วามคดิ สร้างสรรค์ สามารถสร้างสรรค์ ผลงานใหมไ่ ด้ 1.17 รายวชิ าและกจิ กรรมการเรยี นการสอนในโรงเรยี น ชว่ ย สง่ เสริมให้นกั เรยี นมบี คุ ลกิ ภาพท่ดี ีในด้านการเรยี นรู้อย่างมคี วามสขุ การเป็นท่ียอมรับของผู้อนื่ การช่วยเหลอื โอบอ้อมอารี สือ่ สาร และ ใฝ่เรียนรูส้ ิ่งใหมๆ่ 1.18 รายวชิ าและกิจกรรมการเรียนการสอนในโรงเรียน ชว่ ย สง่ เสรมิ ให้นักเรียนมที ักษะชวี ิตและเขา้ ใจอาชีพ 2. ประเมินปัจจยั นาเขา้ (I: Input Evaluation) บคุ คล 2.1 ความรู้ความสามารถ ความเช่ยี วชาญ และประสบการณข์ อง อาจารย์ผูส้ อน มคี วามเหมาะสม 2.2 อาจารย์ผูส้ อนไดส้ อนในรายวิชาทต่ี รงกบั ความเชี่ยวชาญ 2.3 เจ้าหน้าท่ี มคี วามพรอ้ มในการใหบ้ รกิ าร สนบั สนุน และอานวย ความสะดวกเพ่ือการบรรลุเป้าหมายของงาน 2.4 ผู้เรยี นมพี ้นื ฐานความรคู้ วามสามารถตรงตามระดับชน้ั ทเ่ี รียน และสามารถศกึ ษาต่อในระดบั ท่ีสงู ขนึ้ 2.5 ผปู้ กครองมีความเขา้ ใจ และสนับสนุนกิจกรรมการเรยี นการ สอนของโรงเรยี น 2.6 ผู้ปกครองสง่ เสริมนักเรยี นได้พัฒนาศักยภาพเพม่ิ เติมจากในชนั้ เรียน โดยยินดใี ห้นักเรยี นเขา้ รว่ มกจิ กรรมของทางโรงเรียนทกุ กจิ กรรม เอกสาร สื่อ เทคโนโลยี และส่ิงสนับสนนุ ที่เออื้ ตอ่ การเรยี นรู้
356 ประเด็นการประเมนิ หลักสตู ร ระดบั ความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ 54321 2.7 หอ้ งเรียนมีสภาพทเี่ อื้อต่อการเรยี นรู้ 2.8 มหี นังสือ/ตารา/เอกสารเพยี งพอสาหรับใชป้ ระกอบการเรยี น 2.9 มสี ือ่ วสั ดุ อุปกรณ์ประกอบการเรียนเพียงพอ 2.10 มีวสั ดอุ ุปกรณก์ ารเรยี น สื่อ และเทคโนโลยีในช้ันเรียนเพอ่ื ช่วย ให้นักเรียนเรยี นรู้ไดด้ ีขน้ึ 2.11 มหี ้องสมดุ ให้บรกิ ารหนังสอื อยา่ งเพยี งพอกับความต้องการ ของนกั เรยี น 2.12 มหี ้องบริการสบื คน้ ข้อมูลดว้ ยระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่ เหมาะสมและทันสมยั 2.13 มกี ารจดั สภาพแวดล้อมในโรงเรียนท่ีเหมาะสมและเอือ้ ตอ่ การ เรยี นรู้ 2.14 มีกิจกรรมกบั เพ่ือนต่างโรงเรียนหรอื บคุ คลภายนอกเพอ่ื แลกเปลีย่ นประสบการณ์การเรยี นรูซ้ ง่ึ กันและกัน 3. ประเมินกระบวนการ (P: Process Evaluation) 3.1 มีการจดั การเรยี นรู้ดว้ ยวิธีการท่ีหลากหลาย 3.2 มกี ารจดั การเรยี นร้โู ดยคานึงถึงความสามารถของผู้เรียนเป็น รายบุคคล 3.3 มกี ิจกรรมการเรียนรทู้ เี่ น้นให้นกั เรียนได้คดิ วิเคราะห์ และลงมอื ปฏิบัติจรงิ 3.4 จดั การเรยี นรู้โดยกระตนุ้ ใหผ้ ูเ้ รียนกระตือรอื ร้นในการแสวงหา ความรูด้ ้วยตนเอง 3.5 จดั การเรียนรูโ้ ดยสอดแทรกคณุ ธรรมจรยิ ธรรม 3.6 เปิดโอกาสให้นักเรยี นมสี ่วนร่วมในการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ 3.7 มีการบอกวิธกี ารวัดและประเมินผลแตล่ ะครัง้ ใหผ้ ู้เรียนทราบ ลว่ งหนา้ 3.8 มีการวัดและประเมนิ ผลอย่างตอ่ เน่อื งควบคูไ่ ปกับการเรียนการ สอน 3.9 วัดผลและประเมนิ ครอบคลมุ การเรยี นรทู้ งั้ ด้านความรู้ เจตคติ และการปฏบิ ตั ิ 3.10 ใชว้ ิธีการและเคร่อื งมอื ในการวัดและประเมนิ ผลทห่ี ลากหลาย 3.11 เปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนมสี ว่ นร่วมในการวัดและประเมินผล 3.12 มีการนาผลการประเมินมาสะท้อนผลให้นักเรยี นได้พัฒนา ตนเองเตม็ ศกั ยภาพ 3.13 มีอาจารย์ท่ีปรกึ ษาดแู ล ให้คาแนะนา และช่วยเหลือนกั เรียน อยา่ งใกล้ชิด 3.14 มกี ารจดั กิจกรรมพฒั นาผู้เรยี นทเี่ ปน็ ระบบ ชดั เจน และปฏบิ ตั ิ ไดจ้ ริง 3.15 กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี นมคี วามหลากหลาย
357 ประเด็นการประเมนิ หลักสูตร ระดบั ความคดิ เห็น ขอ้ เสนอแนะ 54321 3.16 กจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน ชว่ ยสะทอ้ นความสามารถและความ ถนดั ของนักเรียนไดด้ ี 4. ประเมินผลผลิต (P: Product Evaluation) 4.1 นกั เรียนมีผลสมั ฤทธิท์ างการเรียนบรรลุตามวัตถุประสงค์ของ หลกั สตู ร 4.2 นกั เรียนมีสมรรถนะสาคญั บรรลุตามวตั ถปุ ระสงคห์ ลกั สตู ร (ความสามารถในการสอ่ื สาร การคดิ การแกป้ ัญหา การใช้ทักษะ ชีวติ และการใชเ้ ทคโนโลย)ี 4.3 นักเรยี นมคี ณุ ลักษณะอันพึงประสงคบ์ รรลุตามวตั ถุประสงค์ หลกั สตู ร (รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ซือ่ สตั ย์สจุ ริต มวี นิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ อยู่ อยา่ งพอเพยี ง มงุ่ มั่นในการทางาน รกั ความเป็นไทย มจี ิตสาธารณะ มสี นุ ทรยี ภาพ และมสี ุขนิสัย สุขภาพกายและสุขภาพจิตทีด่ )ี 4.4 นักเรยี นมีบุคลิกภาพท่ดี ีตามเป้าหมายของหลักสูตร ในด้านการ เรียนรูอ้ ย่างมคี วามสขุ การเปน็ ท่ยี อมรับของผอู้ ื่น การชว่ ยเหลือ โอบออ้ มอารี สอ่ื สาร และใฝ่เรียนร้สู ่งิ ใหมๆ่ 4.5 นักเรียนมีความรคู้ วามสามารถในการอ่าน การเขียน และคิด คานวณ (3R) ตามเป้าหมายของหลกั สูตร 4.6 นกั เรยี นมีความสามารถทางปญั ญา 8 ด้าน ตามเป้าหมายของ หลักสตู ร (ความสามารถด้านภาษา คณิตศาสตร์ มติ ิสัมพนั ธ์ การ ควบคมุ ความคิดความรูส้ ึก ดนตรี มนษุ ย์สมั พนั ธ์ เขา้ ใจตนเอง และ เขา้ ใจธรรมชาต)ิ 4.7 นกั เรียนมีความสามารถตามคุณลักษณะของผู้เรียนในศตวรรษ ที่ 21 (7C) ตามเปา้ หมายของหลกั สตู ร 4.8 นักเรียนมีความมุ่งม่นั ในการเรียน การทางาน และกลา้ แสดงออกในทางทีถ่ ูกต้องเหมาะสม 4.9 นักเรยี นมีกระบวนการทางานอย่างเปน็ ระบบ 4.10 นกั เรียนมีความสามารถในการสร้างสรรค์ชิน้ งาน 5. ประเมินผลกระทบ (I: Impact Evaluation) 5.1 นกั เรยี นมคี วามรู้สกึ รักและภาคภูมิใจต่อสถาบัน 5.2 นกั เรียนมคี วามรู้ความสามารถเป็นท่ยี อมรบั ของชุมชน สงั คม ทง้ั ภายในและภายนอกสถาบนั 5.3 นักเรยี นท่ีจบการศึกษาจากโรงเรยี นเปน็ ที่ยอมรบั ของ สถาบนั การศึกษาท้งั ในและต่างประเทศ 5.4 นักเรยี นที่จบการศกึ ษาจากโรงเรยี น ประสบผลสาเรจ็ ใน การศกึ ษาตอ่ ระดับท่สี ูงขนึ้ 5.5 นกั เรียนท่จี บการศกึ ษาจากโรงเรยี นได้รบั การยอมรบั ว่า “เปน็ คนดใี นสงั คม” 5.6 โรงเรยี นมชี อื่ เสียงและเป็นผนู้ าในด้านการจัดการศึกษาและพฒั นา คณุ ภาพผูเ้ รยี น ท้ังในระดบั ปฐมวยั ประถมศึกษา และมัธยมศกึ ษา
358 ขอ้ เสนอแนะเพิ่มเตมิ .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... ขอขอบคณุ ท่ีใหค้ วามอนเุ คราะหต์ อบแบบสอบถามโดยสมบูรณ์ คณะกรรมการประเมนิ หลกั สูตรโรงเรียนฯ
359 KUSK CE4_ความคดิ เห็นของอาจารยผ์ ้สู อน แบบสอบถามความคดิ เหน็ ทมี่ ีตอ่ หลักสูตรสถานศกึ ษา ผู้ใหข้ อ้ มูล : อาจารยผ์ ู้สอน โครงการวิจัย “การประเมนิ หลกั สูตรโรงเรยี นสาธติ แหง่ มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ วทิ ยาเขตกาแพงแสน ศูนยว์ จิ ยั และพฒั นาการศึกษา ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ.2560)” ************************************************************** คาชแ้ี จง แบบสอบถามน้ีจัดทาข้ึนเพื่อเก็บข้อมูลในโครงการวิจัย เร่ือง “การประเมินหลักสูตรโรงเรียนสาธิต แหง่ มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกาแพงแสน ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560)” จึงขอความอนุเคราะห์อาจารย์ผู้สอน กรณุ าตอบแบบสอบถามความคิดเหน็ ทีม่ ตี อ่ หลักสูตรสถานศกึ ษาในปจั จบุ นั ทุกขอ้ เพื่อความสมบูรณ์และความ นา่ เชอ่ื ถือของขอ้ มูล สามารถนาผลการศกึ ษาครั้งนไี้ ปใชป้ ระโยชนไ์ ด้ตรงกับสงิ่ ทโี่ รงเรียนตอ้ งพัฒนามากทส่ี ดุ สว่ นที่ 1 ข้อมูลทว่ั ไป 2) หญงิ 1. เพศ 1) ชาย 2. วุฒิการศกึ ษาสูงสุด 1) ปรญิ ญาตรี สาขา……………………………………………………………………………...................... 2) ปริญญาโท สาขา……………………………………………………………………………...................... 3) ปรญิ ญาเอก สาขา…………………………….………………………………….…………….................... 4) อน่ื ๆ ระบ…ุ ………………………….…………………………………………….......................... 3. ประสบการณก์ ารสอนในโรงเรียนสาธติ เกษตรฯ กาแพงแสน 1) นอ้ ยกว่า 10 ปี 2) 10-15 ปี 3) มากกวา่ 15 ปี 4. ระดับการศกึ ษาทีส่ อนในโรงเรียนสาธิตเกษตรฯ กาแพงแสน (เลือกได้มากกว่า 1 ข้อ) 1) ระดับปฐมวยั 2) ระดับประถมศึกษา 3) ระดับมัธยมศกึ ษา 4) ระดับมัธยมศึกษา (โครงการพิเศษ EP) ส่วนที่ 2 ความคิดเหน็ ทีม่ ตี ่อหลกั สูตรโรงเรยี นสาธติ แหง่ มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์ วทิ ยาเขตกาแพงแสน ศูนย์วจิ ยั และพฒั นาการศกึ ษา ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.2560) คาชี้แจง โปรดพจิ ารณาประเด็นการประเมนิ หลักสูตรตามองคป์ ระกอบ 5 ด้าน และทาเครอื่ งหมายลงใน ท่ตี รงกบั ระดับความคิดเห็นของท่านมากท่ีสดุ 5 หมายถงึ เหน็ ด้วยมากท่สี ุด 4 หมายถึง เหน็ ด้วยมาก 3 หมายถึง เห็นด้วยปานกลาง 2 หมายถงึ เห็นดว้ ยนอ้ ย 1 หมายถึง เห็นด้วยน้อยที่สุด
360 ประเด็นการประเมินหลักสตู ร ระดับความคิดเหน็ ข้อเสนอแนะ 5432 1. ประเมนิ บริบท (C: Context Evaluation) 1 หลกั สูตร 1.1 ปรชั ญา วตั ถุประสงค์ และเปา้ หมายของหลักสูตร มคี วาม สอดคล้องกบั ความตอ้ งการของผู้เรยี นและสงั คม 1.2 วัตถุประสงค์ เป้าหมายของหลักสตู รเหมาะสมกับ สภาพการณ์ปัจจบุ ัน 1.3 วิสยั ทัศนแ์ ละพนั ธกิจมีความสอดคลอ้ งกนั และสามารถ นาไปส่กู ารปฏบิ ัติได้จรงิ 1.4 คุณลักษณะอันพงึ ประสงคข์ องผเู้ รยี น สะท้อนอตั ลกั ษณ์ และเอกลักษณ์ของโรงเรยี น 1.5 คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงคข์ องผู้เรยี น สอดคลอ้ งกับ เปา้ หมายของหลักสูตรแตล่ ะระดับการศึกษา และมาตรฐาน การศึกษาทเี่ นน้ ผลลัพธท์ พ่ี ึงประสงค์ 3 ด้าน (Desired Outcomes of Education : DOE Thailand) คอื ผู้เรียนรู้ ผู้รว่ มสร้างสรรค์นวตั กรรม และพลเมืองท่ีเขม้ แขง็ 1.6 การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนของผู้เรียน สอดคล้องกับ เป้าหมายของหลกั สูตรแตล่ ะระดับการศกึ ษา และมาตรฐาน การศกึ ษาท่ีเน้นผลลัพธ์ท่ีพึงประสงค์ (DOE Thailand) 1.7 โครงสรา้ งหลกั สูตรสถานศึกษาโดยภาพรวม 3 ระดับ คือ ปฐมวัย ประถมศกึ ษา และมัธยมศึกษา มคี วามตอ่ เน่ืองเช่ือมโยงกัน 1.8 โครงสร้างหลักสูตรระดบั ปฐมวัย มีความเหมาะสม และ สอดคล้องกับมาตรฐานการศกึ ษาระดับปฐมวัย พ.ศ.2561 1.9 โครงสรา้ งหลักสตู รระดับประถมศกึ ษา ซง่ึ ประกอบดว้ ย สาระการเรยี นรู้ 8 กล่มุ และกจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น มีความ เหมาะสม และสอดคลอ้ งกบั มาตรฐานการศกึ ษาระดับ การศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน พ.ศ.2561 1.10 โครงสร้างหลักสูตรระดบั มัธยมศึกษา ซงึ่ ประกอบดว้ ย สาระการเรยี นรู้ 8 กล่มุ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน มีความ เหมาะสม และสอดคลอ้ งกบั มาตรฐานการศึกษาระดบั การศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน พ.ศ.2561 1.11 โครงสรา้ งหลกั สตู รสถานศึกษาสามารถทาให้ผูเ้ รียนบรรลุ ตามวตั ถุประสงค์ เปา้ หมายของหลักสตู รสถานศึกษาได้ 1.12 จานวนหน่วยกิตหรอื เวลาเรียนตลอดหลกั สูตร ระดับปฐมวัย มคี วามเหมาะสม 1.13 จานวนหนว่ ยกิตหรือเวลาเรยี นตลอดหลกั สตู ร ระดับประถมศกึ ษา มคี วามเหมาะสม 1.14 จานวนหน่วยกติ หรือเวลาเรยี นตลอดหลักสตู ร ระดบั มัธยมศึกษา มคี วามเหมาะสม 1.15 เนอื้ หาสาระของหลักสูตรระดบั ปฐมวัย เหมาะสม สอดคลอ้ งกบั มาตรฐาน/ตัวชี้วัด คาอธบิ ายรายวิชา และสามารถ นาไปใช้ได้จริง
361 ประเดน็ การประเมินหลกั สตู ร ระดับความคิดเหน็ ขอ้ เสนอแนะ 5432 1.16 เน้อื หาสาระของหลักสตู รระดับประถมศกึ ษา เหมาะสม 1 สอดคล้องกับมาตรฐาน/ตัวชี้วัด คาอธิบายรายวชิ า และสามารถ นาไปใชไ้ ด้จรงิ 1.17 เนื้อหาสาระของหลกั สตู รระดับมธั ยมศกึ ษา เหมาะสม สอดคลอ้ งกับมาตรฐาน/ตัวช้วี ัด คาอธิบายรายวิชา และสามารถ นาไปใช้ไดจ้ ริง 1.18 คาอธิบายรายวิชา เหมาะสมและสอดคลอ้ งกบั มาตรฐาน/ ตัวชี้วดั 1.19 หนว่ ย/ แผนการจดั การเรียนรู้ มคี วามเหมาะสม ถูกต้อง มอี งค์ประกอบครบถ้วน และมขี นั้ ตอนของการจดั กิจกรรมการ เรียนรู้ตามแนวคดิ Active Learning ที่สะท้อนผลลพั ธ์ที่พึง ประสงคข์ องการศกึ ษา (DOE Thailand) ในมาตรฐาน การศึกษาของชาติ พ.ศ.2561 รายวชิ า (พื้นฐานและเพมิ่ เตมิ ) และกิจกรรมพฒั นา ผเู้ รียน 1.20 รายวชิ าและกิจกรรมพัฒนาผูเ้ รยี น ส่งเสริมให้ผ้เู รยี นมี สมรรถนะสาคัญ 5 ด้าน (การสือ่ สาร การคดิ การแก้ปัญหา การ ใช้ทกั ษะชวี ิต และการใช้เทคโนโลย)ี 1.21 รายวิชาและกจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน สง่ เสริมให้ผเู้ รียนมี สมรรถนะในการเป็นผเู้ รยี นรู้ 1.22 รายวิชาและกิจกรรมพัฒนาผูเ้ รียน สง่ เสริมให้ผเู้ รียนมี สมรรถนะในการเป็นผ้รู ่วมสร้างสรรค์นวัตกรรม 1.23 รายวชิ าและกิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน สง่ เสริมให้ผเู้ รียนมี สมรรถนะในการเป็นพลเมืองทเ่ี ข้มแขง็ 1.24 กจิ กรรมและประสบการณ์ในระดับปฐมวยั (อ.1-3) ส่งเสรมิ ให้เดก็ มีบุคลกิ ภาพ 5 ดา้ น และมคี วามสามารถทาง ปญั ญา 8 ด้าน ตามแนวคดิ ทฤษฎพี หุปญั ญา (Multiple Intelligences Theory : MI) 1.25 รายวิชาและกจิ กรรมในระดบั ประถมศึกษา (ป.1-3) สง่ เสริมให้ผู้เรียนมีความรู้ความสามารถในการอา่ น การเขียน และคดิ คานวณ (3R) มีบุคลิกภาพ 5 ด้าน และมคี วามสามารถ ทางปญั ญา 8 ด้าน ตามแนวคดิ ทฤษฎพี หปุ ญั ญา (Multiple Intelligences Theory : MI) 1.26 รายวิชาและกิจกรรมในระดับประถมศกึ ษา (ป.4-6) สง่ เสริมให้ผูเ้ รียนมีความรู้ความสามารถในการอ่านออก เขียนได้ และคิดเลขเปน็ (3R) มีบุคลิกภาพ 5 ด้าน และมคี วามสามารถ ตามคุณลกั ษณะผเู้ รียนในศตวรรษท่ี 21 (7C) 1.27 รายวิชาและกจิ กรรมในระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ (ม.1-3) ส่งเสรมิ ให้ผูเ้ รยี น มบี คุ ลกิ ภาพ 5 ดา้ น มีความสามารถตาม คณุ ลกั ษณะผเู้ รียนในศตวรรษที่ 21 (7C) และมีทักษะอาชีพ
362 ประเด็นการประเมินหลักสตู ร ระดับความคิดเห็น ขอ้ เสนอแนะ 54321 1.28 รายวชิ าและกจิ กรรมในระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย (ม.4- 6) สง่ เสริมให้ผ้เู รยี นมบี คุ ลกิ ภาพ 5 ด้าน มคี วามสามารถตาม คุณลกั ษณะผ้เู รยี นในศตวรรษท่ี 21 (7C) และมีทักษะอาชพี ข้อคิดเหน็ และข้อเสนอแนะ ดา้ นบริบท (C: Context) ............................................................................................................................. ..................................................................................... .......................................................................................................................................................................... ...................................... .................................................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................................................................................... 2. ประเมนิ ปัจจยั นาเข้า (I: Input Evaluation) บคุ คล 2.1 คุณวุฒิ ความรู้ ประสบการณ์ ผลงานทางวิชาการและ ผลงานวิจยั ด้านการบรหิ ารของผบู้ รหิ ารมีศกั ยภาพที่เหมาะสม 2.2 คุณวุฒิ ความรู้ ประสบการณ์ ผลงานทางวิชาการ และ ผลงานวิจยั ดา้ นการเรยี นการสอนของอาจารย์ผสู้ อนมศี กั ยภาพ ทีเ่ หมาะสม 2.3 อาจารย์ผสู้ อนไดส้ อนในรายวิชาท่ีตรงกบั คุณวฒุ แิ ละความ เชย่ี วชาญ 2.4 เจา้ หน้าที่ มีความรูค้ วามสามารถเฉพาะตาแหน่งและได้ ทางานตรงกับคุณวฒุ ิและความสามารถ 2.5 เจา้ หน้าท่ี มีความพรอ้ มในการให้บริการ สนบั สนนุ และ อานวยความสะดวกเพ่ือการบรรลุเป้าหมายของงาน 2.6 ผเู้ รียนมีพ้นื ฐานความรูค้ วามสามารถตรงตามระดับชนั้ ท่ี เรียน และสามารถศกึ ษาตอ่ ในระดับทส่ี ูงขนึ้ 2.7 ผปู้ กครองมคี วามเข้าใจ และสนับสนนุ กจิ กรรมการเรยี น การสอนของโรงเรียน 2.8 ผู้ปกครองส่งเสรมิ ให้ผเู้ รยี นไดพ้ ัฒนาศกั ยภาพเพม่ิ เติมจาก ในชนั้ เรียน โดยยินดใี ห้ผเู้ รยี นเข้ารว่ มกิจกรรมของทางโรงเรยี น เอกสาร สอื่ เทคโนโลยี และสิ่งสนับสนนุ ท่ีเอื้อตอ่ การเรยี นรู้ 2.9 หอ้ งเรยี นมสี ภาพท่ีเอือ้ ตอ่ การเรยี นรู้ 2.10 มหี นังสอื /ตารา/เอกสารประกอบการสอนเพียงพอกบั จานวนผู้เรยี น 2.11 มวี สั ดอุ ุปกรณ์การเรียน สอ่ื และเทคโนโลยใี นช้ันเรียนเพอื่ ช่วยให้ผู้เรยี นเรยี นรู้ได้ดขี ้ึน 2.12 มสี ่อื วสั ดุ อปุ กรณ์สาหรบั การเรียนการสอนเพยี งพอตอ่ จานวนนักเรยี น 2.13 มงี บประมาณสนับสนุนในการจัดทาสือ่ การเรยี นรอู้ ย่าง เพียงพอ 2.14 มีการจัดสรรงบประมาณเพ่อื ใชใ้ นโครงการหรือกิจกรรม การเรียนรขู้ องผู้เรียนอยา่ งเพยี งพอ
363 ประเดน็ การประเมินหลักสูตร ระดับความคดิ เห็น ข้อเสนอแนะ 54321 2.15 มงี บประมาณสนับสนนุ และพฒั นาความรู้ความสามารถ ของบุคลากรอยา่ งเพยี งพอ 2.16 มีการจดั แหล่งเรยี นร้สู อดคล้องกับกจิ กรรมการเรยี นรู้ของ ผ้เู รียน 2.17 มีแหล่งการเรยี นร้ทู ่เี หมาะสมกับวยั ของผเู้ รียน 2.18 มีแหลง่ เรยี นรู้ผ่านระบบเครอื ขา่ ยคอมพิวเตอร์ทเี่ หมาะสม 2.19 มกี ารจดั สภาพแวดล้อมในโรงเรียนท่ีเหมาะสมและเออื้ ต่อ การเรียนรู้ 2.20 มกี ิจกรรมแลกเปลย่ี นเรียนรกู้ บั ชมุ ชน และชมุ ชนมสี ่วน รว่ มในการจดั การศกึ ษาของโรงเรยี น ข้อคิดเหน็ และข้อเสนอแนะ ด้านปัจจยั นาเขา้ (I: Input) ............................................................................................................................. ..................................................................................... .................................................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................................................................................... 3. ประเมนิ กระบวนการ (P: Process Evaluation) การบริหารจดั การหลกั สตู ร 3.1 มีแผนการดาเนินงานดา้ นหลักสตู รอยา่ งชัดเจนและเปน็ ระบบ 3.2 มกี ระบวนการคัดเลอื กนกั เรยี นเข้าศึกษาในโรงเรียนอยา่ ง เหมาะสม 3.3 มกี ารพิจารณาอาจารยผ์ สู้ อนรายวิชาใหเ้ หมาะสมกบั ความรู้ ความสามารถและคุณวุฒิ 3.4 มีการจัดระบบอาจารย์ประจาชัน้ /อาจารย์ทป่ี รึกษานกั เรยี น อย่างเหมาะสม 3.5 มกี ารวางแผนการนาหลกั สตู รไปใชท้ กุ กล่มุ สาระการเรียนรู้ และทกุ กิจกรรมพฒั นาผู้เรียน 3.6 โรงเรยี นมกี ารเตรยี มความพร้อมให้อาจารย์ผู้สอนจดั กิจกรรมการเรยี นรู้เพอ่ื พัฒนาผเู้ รียนตามเปา้ หมายของหลกั สูตร เช่น การส่งเสริมให้เข้ารับการอบรม-สมั มนาทางวิชาการ การ ประชมุ เชงิ ปฏบิ ัติการ หรือการศึกษาดงู านดา้ นหลักสูตร การ เรยี นการสอน การวัดและประเมินผล 3.7 อาจารยผ์ ู้สอนมีการพัฒนาตนเองอยูเ่ สมอในด้านหลักสตู ร การเรียนการสอน การวัดและประเมินผล 3.8 อาจารยผ์ ู้สอนจดั ทาหน่วย/แผนการจดั การเรยี นรทู้ กุ รายวิชา 3.9 ส่งเสริมให้อาจารยผ์ ู้สอนจัดกจิ กรรมการเรยี นรูเ้ พ่อื การ พัฒนาผู้เรียนในศตวรรษท่ี 21 เช่น การจดั การเรยี นรตู้ าม แนวคิด Active Learning/ STEM เป็นตน้
364 ประเดน็ การประเมินหลักสตู ร ระดบั ความคดิ เห็น ขอ้ เสนอแนะ 54321 3.10 อาจารย์ผสู้ อนจดั กิจกรรมการเรยี นรตู้ ามแผนการจดั การ เรยี นรูไ้ ดอ้ ย่างเหมาะสม 3.11 มรี ะบบการนเิ ทศ ติดตาม เพื่อให้คาแนะนา ช่วยเหลือ (การพัฒนาวชิ าชพี ) เกย่ี วกบั การจดั กิจกรรมการเรียนร้ขู อง อาจารยผ์ สู้ อน 3.12 มรี ะบบการสะท้อนผลการจัดกิจกรรมการเรียนรขู้ อง อาจารย์ผ้สู อนอย่างต่อเนื่องเพ่ือใหก้ ารสนบั สนนุ และชว่ ยเหลือ 3.13 อาจารยผ์ ูส้ อนเปน็ ตน้ แบบท่ีดีแกผ่ ู้เรยี น 3.14 มรี ะบบ/รปู แบบ/กระบวนการ การประกนั คณุ ภาพ การศึกษาด้านหลักสตู รทีช่ ัดเจน สามารถนามาปฏิบตั ิได้จริง และนาผลมาปรบั ปรุง พฒั นาหลกั สตู รทกุ ระดับการศึกษา 3.15 โรงเรยี นและชมุ ชนมกี ารจดั กิจกรรมรว่ มกนั เพือ่ พัฒนา คุณภาพผเู้ รยี นอยา่ งต่อเนือ่ ง กระบวนการจดั การเรยี นรู้ การวดั และประเมนิ ผล 3.16 จัดการเรยี นรู้โดยใช้รปู แบบ วิธกี ารทหี่ ลากหลาย 3.17 จัดการเรียนรู้โดยคานึงถึงความสามารถของผู้เรียนเป็น รายบุคคล 3.18 มีกิจกรรมการเรียนรู้ทีเ่ น้นใหผ้ ู้เรียนไดค้ ิดวิเคราะห์ และ ลงมือปฏิบัตจิ รงิ 3.19 จัดการเรียนรู้โดยกระตนุ้ ให้ผเู้ รียนกระตอื รือร้นในการ แสวงหาความรู้ดว้ ยตนเอง 3.20 จัดการเรียนรู้โดยสอดแทรกคณุ ธรรมจริยธรรม 3.21 เปิดโอกาสให้ผเู้ รยี นมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมการ เรียนรู้ 3.22 มกี ารบอกวธิ กี ารวัดและประเมนิ ผลแตล่ ะครงั้ ใหผ้ ูเ้ รยี น ทราบลว่ งหน้า 3.23 มีการวัดและประเมนิ ผลอยา่ งต่อเนื่องควบคไู่ ปกับการ เรียนการสอน 3.24 วดั ผลและประเมนิ ครอบคลมุ การเรยี นรู้ทั้งด้านความรู้ เจตคติ และการปฏบิ ตั ิ 3.25 ใชว้ ิธกี ารและเครื่องมอื ในการวัดและประเมินผลท่ี หลากหลาย 3.26 เปดิ โอกาสใหผ้ เู้ รยี นมสี ว่ นรว่ มในการวัดและประเมินผล 3.27 มกี ารนาผลการประเมนิ มาพฒั นาการเรยี นการสอนและ สะทอ้ นผลให้ผู้เรยี นไดพ้ ฒั นาตนเองเต็มศกั ยภาพ ขอ้ คดิ เหน็ และขอ้ เสนอแนะ ด้านกระบวนการ (P: Process) ............................................................................................................................. ..................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ....................................... .................................................................................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................................................................................................
365 ประเด็นการประเมินหลักสูตร ระดบั ความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ 54321 4. ประเมินผลผลิต (P: Product Evaluation) 4.1 ผูเ้ รียนมผี ลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนบรรลุตามวัตถปุ ระสงค์ของ หลกั สูตร 4.2 ผเู้ รียนมสี มรรถนะสาคญั บรรลุตามวตั ถุประสงคห์ ลกั สูตร 4.3 ผู้เรียนมคี ุณลกั ษณะอันพึงประสงค์บรรลุตามวัตถปุ ระสงค์ หลกั สตู ร 4.4 ผเู้ รยี นมีบคุ ลกิ ภาพท่ีดี 5 ด้าน ตามเปา้ หมายของหลกั สูตร 4.5 ผเู้ รยี นมีความร้คู วามสามารถในการอา่ น การเขียน และคดิ คานวณ (3R) ตามเป้าหมายของหลักสูตร 4.6 ผู้เรียนมีความสามารถทางปญั ญา 8 ด้าน ตามเปา้ หมาย ของหลกั สูตร 4.7 ผเู้ รยี นมีความสามารถตามคุณลักษณะของผูเ้ รียนใน ศตวรรษที่ 21 (7C) ตามเป้าหมายของหลักสูตร 4.8 ผู้เรยี นมีความมุง่ มนั่ ในการเรียน การทางาน และกลา้ แสดงออกในทางท่ถี กู ต้องเหมาะสม 4.9 ผู้เรียนมีกระบวนการทางานอย่างเปน็ ระบบ 4.10 ผู้เรียนมีสมรรถนะในการสรา้ งสรรค์ชิน้ งาน 4.11 อาจารยผ์ ูส้ อนมีสมรรถนะในการจัดการเรียนร้เู พอื่ พฒั นา ผู้เรยี นในศตวรรษที่ 21 4.12 ผบู้ ริหารมีสมรรถนะในการบริหารจัดการหลักสูตร โดย การนาหลกั สตู รสูช่ น้ั เรยี นเพ่ือยกระดับคุณภาพอาจารยผ์ สู้ อน และผเู้ รียน ขอ้ คิดเหน็ และข้อเสนอแนะ ดา้ นผลผลติ (P: Product) ............................................................................................................................. ..................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ....................................... .................................................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................................................................... 5. ประเมนิ ผลกระทบ (I: Impact Evaluation) 5.1 ผู้เรยี นมคี วามรู้สึกรักและภาคภูมใิ จต่อสถาบัน 5.2 ผู้เรยี นมีความรคู้ วามสามารถเปน็ ท่ียอมรับของชมุ ชน สงั คม ทัง้ ภายในและภายนอกสถาบนั 5.3 ผู้ทจ่ี บการศกึ ษาจากโรงเรียนเปน็ ท่ยี อมรับของ สถาบันการศกึ ษาทง้ั ในและต่างประเทศ 5.4 อาจารย์ผ้สู อนสร้างนวตั กรรมการเรยี นการสอนผ่าน กระบวนการวิจยั อย่างต่อเนอื่ ง 5.5 อาจารย์ผูส้ อนมีการเผยแพร่ผลงานวิชาการ งานวจิ ยั อยา่ ง ต่อเนอื่ ง 5.6 อาจารย์ผู้สอนไดร้ ับเชิญเปน็ วทิ ยากรเพ่ือช่วยพัฒนาการ จัดการเรียนรู้ใหแ้ ก่บคุ ลากรทง้ั ภายในและภายนอกสถาบัน 5.7 โรงเรยี นเป็นทีย่ อมรบั ของผูป้ กครอง ชุมชน สงั คม
366 ประเดน็ การประเมินหลกั สตู ร ระดบั ความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ 54321 ขอ้ คดิ เห็นและข้อเสนอแนะ ดา้ นผลกระทบ (I: Impact) ............................................................................................................................. ..................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ....................................... .................................................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................................................................... ข้อคดิ เห็นและข้อเสนอแนะเพ่ิมเติม ............................................................................................................................. ................................................... ....................... ......................................................... ............................................................................................................................. ................. ....................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .............................................. ............................ ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................................... ขอขอบคณุ ท่ีใหค้ วามอนุเคราะหต์ อบแบบสอบถามโดยสมบรู ณ์ คณะกรรมการประเมนิ หลกั สตู รโรงเรียน
367 สว่ นท่ี 3 ความคดิ เห็นเกีย่ วกับความเหมาะสมของรายวชิ าในหลักสูตรสถานศกึ ษา ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษา ขนั้ พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ.2560) คำช้แี จง โปรดพจิ ารณาประเดน็ การประเมินหลักสตู รในดา้ นความเหมาะสมของรายวชิ า และทาเครอื่ งหมาย ลงใน ทีต่ รงกับความคิดเห็นของท่านมากท่สี ุด 5 หมายถงึ เหมาะสมมากท่ีสุด 4 หมายถึง เหมาะสมมาก 3 หมายถึง เหมาะสมปานกลาง 2 หมายถึง เหมาะสมน้อย 1 หมายถึง เหมาะสมนอ้ ยท่ีสุด รำยวชิ ำในหลกั สูตร ระดบั ควำมเหมำะสม ไมเ่ หมำะสม เหตผุ ลและ (จำนวนหนว่ ยกิต/เวลำเรยี น) 54321 ขอ้ เสนอแนะ 1. กล่มุ สำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย 5 4 3 2 1 ไมเ่ หมำะสม โปรดระบเุ หตผุ ล และขอ้ เสนอแนะ รำยวชิ ำพ้ืนฐำน (ประถมศกึ ษำ) ท 11101 ภาษาไทย 1 (6 คำบ/สปั ดำห)์ 54321 ท 12101 ภาษาไทย 2 (6 คำบ/สปั ดำห)์ 54321 ท 13101 ภาษาไทย 3 (6 คำบ/สปั ดำห)์ 54321 ท 14101 ภาษาไทย 4 (5 คำบ/สปั ดำห)์ 54321 ท 15101 ภาษาไทย 5 (5 คำบ/สปั ดำห์) 54321 ท 16101 ภาษาไทย 6 (5 คำบ/สปั ดำห)์ 54321 รำยวชิ ำพนื้ ฐำน (มธั ยมศกึ ษำตอนตน้ ) ท 21101 ภาษาไทย 1 (1.5 นก.) 54321 ท 21102 ภาษาไทย 2 (1.5 นก.) 54321 ท 22101 ภาษาไทย 3 (1.5 นก.) 54321 ท 22102 ภาษาไทย 4 (1.5 นก.) 54321 ท 23101 ภาษาไทย 5 (1.5 นก.) 54321 ท 23102 ภาษาไทย 6 (1.5 นก.) 54321 รำยวิชำพ้นื ฐำน (มธั ยมศึกษำตอนปลำย) ท 31101 ภาษาไทย 1 (1 นก.) 54321 ท 31102 ภาษาไทย 2 (1 นก.) 54321 ท 32101 ภาษาไทย 3 (1 นก.) 54321 ท 32102 ภาษาไทย 4 (1 นก.) 54321 ท 33101 ภาษาไทย 5 (1 นก.) 54321 ท 33102 ภาษาไทย 6 (1 นก.) 54321 รำยวชิ ำเพิ่มเตมิ (มธั ยมศกึ ษำตอนปลำย) ท 31201 ประวตั ิวรรณคดี 1 (1 นก.) 54321 ท 31202 ประวัติวรรณคดี 2 (1 นก.) 54321 ท 32201 ภาษากบั วัฒนธรรม (1 นก.) 54321 ท 32202 วรรณคดมี รดก (1 นก.) 54321
368 รำยวิชำในหลกั สูตร ระดบั ควำมเหมำะสม ไมเ่ หมำะสม เหตผุ ลและ (จำนวนหนว่ ยกิต/เวลำเรียน) 54321 ข้อเสนอแนะ 54321 ท 33201 การพฒั นาทกั ษะทางภาษา (1 นก.) 54321 ท 33202 ภาษาในเพลง (1 นก.) 54321 ท 31203 ภาษาไทยเพอื่ การพัฒนาตนเอง (2 นก.) 54321 ท 31204 หลักภาษาไทย (2 นก.) 54321 ท 32203 การพิจารณาวรรณกรรม (2 นก.) 54321 ท 32204 ศลิ ปะการสื่อสาร (2 นก.) 54321 ท 33203 การอ่านตีความ (2 นก.) 54321 ท 33204 สัมมนาภาษาไทย (2 นก.) 54321 ท 21210 นิทานหรรษา (1.5 นก.) 54321 ท 21211 ภาษาเพ่อื การแสดง (1.5 นก.) 54321 ท 21212 การเขียนเชิงสร้างสรรค์ (1.5 นก.) 54321 ท 21213 การอา่ นคาประพนั ธ์รอ้ ยแกว้ (1.5 นก.) 54321 ท 22210 ภาษาเชิงสร้างสรรค์ (1.5 นก.) 54321 ท 22211 วรรณกรรมนาสุข (1.5 นก.) 54321 ท 22212 การอา่ นงานประพันธ์รอ้ ยกรอง (1.5 นก.) 54321 ท 22213 หลักภาษาไทยเบอ้ื งตน้ (1.5 นก.) 54321 ท 23210 เสรมิ ทักษะภาษา (1.5 นก.) 54321 ท 23211 ภาษาเพื่อการสื่อสาร (1.5 นก.) 54321 ท 23212 การพดู เบอื้ งตน้ (1.5 นก.) 54321 ท 23213 การอ่านและพิจารณาหนังสือ (1.5 นก.) 54321 ท 31210 ภาษาต่างประเทศในภาษาไทย 1 (1 นก.) 54321 ท 31211 ภาษาต่างประเทศในภาษาไทย 2 (1 นก.) 54321 ท 32210 ภาษาบาลี 1 (1 นก.) 54321 ท 32211 ภาษาบาลี 2 (1 นก.) 54321 ท 33210 เสริมประสบการณท์ างภาษา 1 (1 นก.) 54321 ท 33211 เสริมประสบการณ์ทางภาษา 2 (1 นก.)
369 รำยวิชำในหลกั สูตร ระดบั ควำมเหมำะสม ไม่เหมำะสม เหตผุ ลและ (จำนวนหน่วยกติ /เวลำเรียน) 54321 ไมเ่ หมำะสม ข้อเสนอแนะ 2. กลุม่ สำระกำรเรียนรคู้ ณติ ศำสตร์ 54321 โปรดระบเุ หตผุ ล และขอ้ เสนอแนะ รำยวิชำพน้ื ฐำน 54321 ค 11101 คณิตศาสตร์ 1 (6 คำบ/สปั ดำห์) 54321 ค 12101 คณิตศาสตร์ 2 (6 คำบ/สปั ดำห)์ 54321 ค 13101 คณติ ศาสตร์ 3 (6 คำบ/สปั ดำห)์ 54321 ค 14101 คณติ ศาสตร์ 4 (5 คำบ/สปั ดำห์) 54321 ค 15101 คณิตศาสตร์ 5 (5 คำบ/สปั ดำห์) 54321 ค 16101 คณิตศาสตร์ 6 (5 คำบ/สปั ดำห)์ รำยวิชำพื้นฐำน (มัธยมศึกษำตอนตน้ ) 54321 ค 21101 คณิตศาสตร์ 1 (1.5 นก.) 54321 ค 21102 คณติ ศาสตร์ 2 (1.5 นก.) 54321 ค 22101 คณิตศาสตร์ 3 (1.5 นก.) 54321 ค 22102 คณติ ศาสตร์ 4 (1.5 นก.) 54321 ค 23101 คณติ ศาสตร์ 5 (1.5 นก.) 54321 ค 23102 คณิตศาสตร์ 6 (1.5 นก.) รำยวชิ ำพน้ื ฐำน (มธั ยมศึกษำตอนปลำย) 54321 ค 31107 คณติ ศาสตร์ (2 นก.) 54321 ค 31108 คณิตศาสตร์ (2 นก.) 54321 ค 32109 คณติ ศาสตร์ (2 นก.) 54321 ค 31101 คณติ ศาสตร์ 1 (1 นก.) 54321 ค 31102 คณติ ศาสตร์ 2 (1 นก.) 54321 ค 32101 คณติ ศาสตร์ 3 (1 นก.) 54321 ค 32102 คณติ ศาสตร์ 4 (1 นก.) 54321 ค 33101 คณติ ศาสตร์ 5 (1 นก.) 54321 ค 33102 คณิตศาสตร์ 6 (1 นก.) รำยวิชำเพม่ิ เติม (มัธยมศกึ ษำตอนตน้ ) 54321 ค 21201 การประยกุ ต์ 1 (1 นก.) 54321 ค 21202 การประยุกต์ 2 (1 นก.) 54321 ค 22201 การประยกุ ต์ 3 (1 นก.) 54321 ค 22202 การประยุกต์ 4 (1 นก.) 54321 ค 23201 การประยกุ ต์ 5 (1 นก.) 54321 ค 23202 การประยุกต์ 6 (1 นก.) รำยวชิ ำเพมิ่ เติม (มัธยมศกึ ษำตอนปลำย) 54321 ค 31201 เมทรกิ ซ์-เรขาคณิตวเิ คราะห์ (1 นก.) 54321 ค 31202 ภาคตดั กรวย (1 นก.) 54321 ค 32201 จานวนเชงิ ซอ้ น-เวกเตอร์สามมติ ิ(1 นก.) 54321 ค 32202 ฟังก์ชันประยกุ ต์ (2.5 นก.) 54321 ค 33201 อนกุ รม-แคลคลู สั (2.5 นก.)
370 รำยวชิ ำในหลกั สตู ร ระดบั ควำมเหมำะสม ไม่เหมำะสม เหตผุ ลและ ข้อเสนอแนะ (จำนวนหนว่ ยกติ /เวลำเรยี น) 54321 ค 33202 การแจกแจงความน่าจะเป็น-สถติ ิ (2.5 นก.) 5 4 3 2 1 ค 21210 คณิตกับศิลป์ (1.5 นก.) 54321 ค 21211 การสรา้ งแบบรูป (1.5 นก.) 54321 ค 22210 ทกั ษะทางคณติ ศาสตร์ (1.5 นก.) 5 4 3 2 1 ค 22211 คณิตศาสตร์ในชวี ิตประจาวัน (1.5 นก.) 5 4 3 2 1 ค 23210 การพสิ จู น์ทฤษฎบี ททางเรขาคณติ (1.5 นก.) 5 4 3 2 1 ค 23211 เรขาคณิตวิเคราะห์ (1.5 นก.) 54321 ค 31210 พชี คณติ (1 นก.) 54321 ค 31211 สมการเชิงพยากรณ์ (1 นก.) 54321 ค 32210 โปรแกรมคณิตศาสตร์เบอื้ งตน้ (1 นก.) 5 4 3 2 1 ค 32211 โปรแกรมคณิตศาสตร์ประยกุ ต์ (1 นก.) 5 4 3 2 1 ค 32212 เมทรกิ ซป์ ระยุกต์ (1 นก.) 54321 ค 33210 ทฤษฎคี วามน่าจะเป็น (1 นก.) 54321 ค 33211 แคลคลู สั ประยกุ ต์ (1 นก.) 54321 ค 33212 สถิตเิ ชิงวิเคราะห์ (1 นก.) 54321 ค 31220 ทักษะการใช้โปรแกรมคานวณทาง 54321 คณติ ศาสตร์ (1 นก.) ค 31221 การดาเนินการทางคณิตศาสตร์ (1 นก.) 5 4 3 2 1 ค 32220 คณิตศาสตร์กบั GSP (1 นก.) 54321 ค 32221 เศรษฐมติ เิ บ้ืองต้น (1 นก.) 54321 ค 33220 เวกเตอรใ์ นสามมิติ (1 นก.) 54321 ค 33221 คณติ ศาสตรก์ บั การตัดสินใจ (1 นก.) 5 4 3 2 1
371 รำยวชิ ำในหลักสตู ร ระดบั ควำมเหมำะสม ไม่เหมำะสม เหตผุ ลและ (จำนวนหนว่ ยกิต/เวลำเรียน) 54321 ไมเ่ หมำะสม ข้อเสนอแนะ 3. กลมุ่ สำระกำรเรยี นร้วู ิทยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี 5 4 3 2 1 โปรดระบเุ หตผุ ล และขอ้ เสนอแนะ รำยวชิ ำพื้นฐำน ว 11101 วทิ ยาศาสตร์ 1 (3 คำบ/สปั ดำห)์ 54321 ว 12101 วทิ ยาศาสตร์ 2 (3 คำบ/สปั ดำห)์ 54321 ว 13101 วิทยาศาสตร์ 3 (3 คำบ/สปั ดำห)์ 54321 ว 14101 วิทยาศาสตร์ 4 (3 คำบ/สปั ดำห์) 54321 ว 15101 วิทยาศาสตร์ 5 (3 คำบ/สปั ดำห)์ 54321 ว 16101 วทิ ยาศาสตร์ 6 (3 คำบ/สปั ดำห)์ 54321 รำยวชิ ำพ้นื ฐำน (มธั ยมศึกษำตอนตน้ ) ว 21101 วิทยาศาสตร์ 1 (1.5 นก.) 54321 ว 21102 วทิ ยาศาสตร์ 2 (1.5 นก.) 54321 ว 22101 วทิ ยาศาสตร์ 3 (1.5 นก.) 54321 ว 22102 วิทยาศาสตร์ 4 (1.5 นก.) 54321 ว 23101 วิทยาศาสตร์ 5 (1.5 นก.) 54321 ว 23102 วทิ ยาศาสตร์ 6 (1.5 นก.) 54321 รำยวชิ ำพน้ื ฐำน (มธั ยมศึกษำตอนปลำย) ว 31107 วทิ ยาศาสตร์ (2 นก.) 54321 ว 31108 วิทยาศาสตร์ (2 นก.) 54321 ว 32109 วิทยาศาสตร์ (2 นก.) 54321 ว 31101 วทิ ยาศาสตร์ 1 (1 นก.) 54321 ว 31102 วทิ ยาศาสตร์ 2 (1 นก.) 54321 ว 32101 วทิ ยาศาสตร์ 3 (1 นก.) 54321 ว 32102 วิทยาศาสตร์ 4 (1 นก.) 54321 ว 33101 วิทยาศาสตร์ 5 (1 นก.) 54321 ว 33102 วิทยาศาสตร์ 6 (1 นก.) 54321 รำยวิชำเพ่มิ เตมิ (มัธยมศกึ ษำตอนตน้ ) ว 21201 วิทยาศาสตรส์ ่งิ แวดลอ้ ม (1 นก.) 54321 ว 21202 พลงั งานสะอาด (1 นก.) 54321 ว 22201 รกั ษ์โลกดว้ ย 5R (1 นก.) 54321 ว 22202 ผลติ ภณั ฑจ์ ากพนั ธ์ุไม้ (1 นก.) 54321 ว 23201 STEM กบั การอนรุ ักษพ์ ลังงาน (1 นก.) 5 4 3 2 1 ว 23202 สรา้ งสรรค์งานไฟฟ้าและเครือ่ งกล(1 นก.) 5 4 3 2 1 รำยวิชำเพม่ิ เตมิ (มธั ยมศกึ ษำตอนปลำย) ว 31201 ฟสิ กิ ส์ 1 (1 นก.) 54321 ว 31202 ฟสิ ิกส์ 2 (1 นก.) 54321 ว 32203 ฟิสกิ ส์ 3 (1 นก.) 54321 ว 32204 ฟิสกิ ส์ 4 (2.5 นก.) 54321 ว 33205 ฟิสิกส์ 5 (2.5 นก.) 54321
372 รำยวิชำในหลักสตู ร ระดบั ควำมเหมำะสม ไมเ่ หมำะสม เหตผุ ลและ (จำนวนหนว่ ยกติ /เวลำเรยี น) 54321 ข้อเสนอแนะ 5 432 1 ว 33206 ฟสิ ิกส์ 6 (2.5 นก.) 5 432 1 ว 31221 เคมี 1 (1 นก.) 5 432 1 ว 31222 เคมี 2 (1 นก.) 5 432 1 ว 32223 เคมี 3 (1 นก.) 5 4 321 ว 32224 เคมี 4 (1.5 นก.) 5 4 321 ว 33225 เคมี 5 (1.5 นก.) 5 4 321 ว 33226 เคมี 6 (1.5 นก.) 5 4 321 ว 31241 ชีววิทยา 1 (1 นก.) 5 4 321 ว 31242 ชีววทิ ยา 2 (1 นก.) 5 4 321 ว 32243 ชีววทิ ยา 3 (1 นก.) 5 4 321 ว 32244 ชีววทิ ยา 4 (1.5 นก.) 5 4 321 ว 33245 ชีววทิ ยา 5 (1.5 นก.) 5 4 321 5 4 321 ว 33246 ชีววทิ ยา 6 (1.5 นก.) 5 4 321 ว 31281 เทคโนโลยีสารสนเทศ 1 (0.5 นก.) 5 4 321 ว 31282 เทคโนโลยีสารสนเทศ 2 (0.5 นก.) 5 4 321 ว 32283 เทคโนโลยีสารสนเทศ 3 (0.5 นก.) 5 4 321 ว 32284 เทคโนโลยีสารสนเทศ 4 (0.5 นก.) 5 4 321 รำยวิชำเพิ่มเติม (เลอื กเสรี) 5 4 321 ว 21210 การใช้อปุ กรณว์ ิทยาศาสตร์ (1.5 นก.) 5 4 321 ว 21211 วิทยาศาสตรก์ ับการดารงชวี ติ (1.5 นก.) 5 4 321 ว 21212 การคดิ กบั วิทยาศาสตร์ (1.5 นก.) 5 4 321 ว 22210 ตามรอยนกั วิทยาศาสตร์ (1.5 นก.) 5 4 321 ว 22211 ของเลน่ เชิงวิทยาศาสตร์ (1.5 นก.) 5 4 321 ว 22212 นาโนเทคโนโลยเี บอ้ื งต้น (1.5 นก.) 5 4 321 5 4 321 ว 23210 วถิ โี คง้ วิถกี ารเดินทาง (1.5 นก.) 5 4 321 ว 23211 พลงั งานแสงพลังงานสะอาด (1.5 นก.) 5 4 321 ว 23212 เครอื่ งกลเพอื่ การผอ่ นแรง (1.5 นก.) 5 4 321 ว 21213 หุ่นยนต์เบื้องต้น (1.5 นก.) ว 21214 การเขียนโปรแกรมเบ้ืองต้น (1.5 นก.) 5 432 1 ว 21215 การใช้โปรแกรมสานกั งาน (1.5 นก.) ว 21216 การใช้โปรแกรมประยุกต์ (1.5 นก.) 5 432 1 ว 22213 การเขียนโปรแกรมควบคมุ หุ่นยนต์ 5 432 1 (1.5 นก.) 5 432 1 ว 22214 การสรา้ งเกมส์คอมพวิ เตอร์ (1.5 นก.) ว 22215 การผลิตส่ือมลั ติมเี ดีย (1.5 นก.) 5 432 1 ว 22216 การออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์ 5 432 1 ด้านมลั ตมิ เี ดยี (1.5 นก.) ว 23213 โครงงานหนุ่ ยนต์ (1.5 นก.) ว 23214 ระบบคอมพวิ เตอร์ (1.5 นก.)
373 รำยวชิ ำในหลักสูตร ระดบั ควำมเหมำะสม ไมเ่ หมำะสม เหตผุ ลและ (จำนวนหนว่ ยกิต/เวลำเรียน) 54321 ข้อเสนอแนะ ว 23215 การออกแบบและสร้างแอนเิ มชนั 2 มิติ 5 432 1 (1.5 นก.) 5 432 1 ว 23216 คอมพิวเตอร์กราฟกิ และแอนิเมชัน ประยุกต์ (1.5 นก.) 5 432 1 5 432 1 ว 31250 วิศวกรรมปิโตร (1 นก.) 5 432 1 ว 31251 กลศาสตรว์ ิศวกรรม (1 นก.) 5 432 1 ว 31252 วิศวกรรมแสงสีเสยี ง (1 นก.) 5 432 1 ว 31253 ระบบหนุ่ ยนต์ (1 นก.) 5 432 1 5 432 1 ว 31254 การพฒั นาแอพพลิเคช่นั (1 นก.) 5 432 1 ว 31255 ดจิ ติ อลพืน้ ฐาน (1 นก.) 5 432 1 ว 31256 โครงสร้างฐานขอ้ มูล (1 นก.) 5 432 1 ว 31260 เทคโนโลยสี เี ขียว (1 นก.) 5 432 1 ว 31261 การออกแบบผลิตภณั ฑ์ในอาเซยี น(1 นก.) ว 31262 เทคโนโลยีชีวภาพ (1 นก.) 5 432 1 ว 31270 การออกแบบและสร้างภาพกราฟิก 2 5 432 1 5 432 1 มิติ (1 นก.) 5 432 1 ว 31271 นวตั กรรมและเทคโนโลยีสือ่ ดิจติ อล (1 นก.) 5 432 1 ว 32250 เคมวี ิศวกรรม (1 นก.) 5 432 1 ว 32251 วศิ วกรไฟฟา้ แมเ่ หลก็ (1 นก.) ว 32252 การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ (1 นก.) 5 432 1 ว 32253 ฐานขอ้ มลู ออนไลน์ (1 นก.) ว 32254 การพฒั นาเว็บไซต์พาณชิ ย์อเิ ล็กทรอนกิ ส์ 5 432 1 (1 นก.) 5 432 1 ว 32255 โปรแกรมประยกุ ต์ดา้ นธุรกจิ (1 นก.) 5 432 1 ว 32260 สถาปตั ยกรรมเพ่อื การอนรุ ักษพ์ ลังงาน 5 432 1 (1 นก.) 5 432 1 5 432 1 ว 32270 การจดั องคป์ ระกอบศิลปด์ ้าน 5 432 1 คอมพิวเตอร์กราฟิก (1 นก.) 5 432 1 5 432 1 ว 32271 ศิลปะเชงิ กราฟิกและมัลติมีเดยี (1 นก.) 5 432 1 ว 32272 การพฒั นาเวบ็ ไซตอ์ ิเล็กทรอนกิ ส์(1 นก.) 5 432 1 ว 32273 การใช้งานโปรแกรมประยกุ ต์ (1 นก.) 5 432 1 ว 32274 นวัตกรรมและเทคโนโลยแี อนนิเมช่ัน(1 นก.) 5 432 1 ว 33250 วิศวกรรมสงั เคราะห์ (1 นก.) ว 33251 พลงั งานกับชวี ิต (1 นก.) ว 33252 ฟิสิกสส์ าหรับวิศวกร (1 นก.) ว 33260 ออกแบบอารยสถาปัตย์ (1 นก.) ง 33210 สถาปตั ยกรรมคอมพวิ เตอร์ (1 นก.) ง 33211 การซ่อมบารงุ คอมพิวเตอร์ (1 นก.) ง 33212 หุน่ ยนต์อัตโนมตั ิ (1 นก.)
374 รำยวิชำในหลกั สูตร ระดบั ควำมเหมำะสม ไมเ่ หมำะสม เหตผุ ลและ (จำนวนหนว่ ยกิต/เวลำเรยี น) 54321 ข้อเสนอแนะ ง 33213 โครงงานคอมพิวเตอร์ (1 นก.) 5 432 1 ง 33220 การออกแบบสอื่ ส่ิงพิมพแ์ ละสือ่ ดจิ ิตอล 5 432 1 (1 นก.) ง 33221 การออกแบบด้วยคอมพวิ เตอร์ 5 432 1 5 432 1 ดา้ นสถาปตั ยกรรม (1 นก.) ง 33222 สร้างส่อื มัลติมีเดีย (1 นก.) 5 432 1 รำยวชิ ำ/กิจกรรมเพิ่มเติม 5 432 1 ว 12201 คอมพวิ เตอร์ 2 (1 คำบ/สปั ดำห์) 5 432 1 5 432 1 ว 13201 คอมพวิ เตอร์ 3 (1 คำบ/สปั ดำห์) 5 432 1 ว 14201 คอมพิวเตอร์ 4 (2 คำบ/สปั ดำห)์ 5 432 1 ว 15201 คอมพิวเตอร์ 5 (2 คำบ/สปั ดำห์) 5 4 321 ว 16201 คอมพิวเตอร์ 6 (2 คำบ/สปั ดำห์) 5 4 321 5 4 321 ว 14201 ร้จู ักโครงงาน (2 คำบ/สปั ดำห)์ 5 4 321 ว 15201 เรียนรโู้ ครงงาน (2 คำบ/สปั ดำห์) 5 4 321 ว 16201 สร้างสรรค์โครงงาน (2 คำบ/สปั ดำห์) ว 14202 สะเตม็ ศกึ ษา 1 ว 15202 สะเตม็ ศกึ ษา 1 ว 16202 สะเตม็ ศึกษา 1
375 รำยวิชำในหลกั สูตร ระดบั ควำมเหมำะสม ไม่เหมำะสม เหตผุ ลและ (จำนวนหนว่ ยกิต/เวลำเรยี น) 54321 ไม่เหมำะสม ข้อเสนอแนะ 4. กลุ่มสำระกำรเรียนรู้สงั คมศกึ ษำ ศำสนำและ 54321 โปรดระบเุ หตผุ ล วัฒนธรรม และข้อเสนอแนะ รำยวิชำพื้นฐำน ส 11101 สงั คมศึกษา 1 (3 คำบ/สปั ดำห)์ 54321 ส 11102 ประวัติศาสตร์ (1 คำบ/สปั ดำห์) 54321 ส 12101 สังคมศึกษา 2 (3 คำบ/สปั ดำห)์ 54321 ส 12102 หน้าที่พลเมอื ง (1 คำบ/สปั ดำห)์ 54321 ส 13101 สงั คมศึกษา 3 (3 คำบ/สปั ดำห์) 54321 ส 13102 ภมู ศิ าสตร์ (1 คำบ/สปั ดำห์) 54321 ส 14101 สังคมศึกษา 4 (2 คำบ/สปั ดำห)์ 54321 ส 14102 ประวตั ศิ าสตร์ (1 คำบ/สปั ดำห)์ 54321 ส 15101 สงั คมศกึ ษา 5 (2 คำบ/สปั ดำห)์ 54321 ส 15102 หนา้ ท่พี ลเมือง (1 คำบ/สปั ดำห)์ 54321 ส 16101 สงั คมศกึ ษา 6 (2 คำบ/สปั ดำห)์ 54321 ส 16102 ภูมศิ าสตร์ (1 คำบ/สปั ดำห)์ 54321 รำยวิชำพืน้ ฐำน (มัธยมศกึ ษำตอนต้น) ส 21101 สังคมศึกษา 1 (1.5 นก.) 54321 ส 21102 สังคมศึกษา 2 (1.5 นก.) 54321 ส 21103 ประวัติศาสตร์ 1 (0.5 นก.) 54321 ส 21104 ประวตั ิศาสตร์ 2 (0.5 นก.) 54321 ส 22101 สงั คมศกึ ษา 3 (1.5 นก.) 54321 ส 22102 สงั คมศึกษา 4 (1.5 นก.) 54321 54321 ส 22103 หนา้ ที่พลเมือง 1 (0.5 นก.) 54321 ส 22104 หน้าที่พลเมอื ง 2 (0.5 นก.) 54321 ส 23101 สงั คมศกึ ษา 5 (1.5 นก.) 54321 ส 23102 สงั คมศกึ ษา 6 (1.5 นก.) 54321 ส 23103 ภูมศิ าสตร์ 1 (0.5 นก.) 54321 ส 23104 ภมู ศิ าสตร์ 2 (0.5 นก.) รำยวิชำพื้นฐำน (มัธยมศึกษำตอนปลำย) 54321 ส 31101 ศาสนศึกษาและคณุ ธรรมเพ่ือชีวติ 54321 (1นก.) 54321 ส 31102 มนษุ ย์กบั สงั คม (1 นก.) 54321 ส 31103 ประวตั ิศาสตร์ไทย (0.5 นก.) 54321 ส 31104 ประวตั ศิ าสตรส์ ากล (0.5 นก.) 54321 ส 32101 ภมู ิศาสตร์ (1 นก.) 54321 ส 32102 เศรษฐศาสตร์ (1 นก.) 54321 ส 32103 หน้าท่พี ลเมือง 1 (0.5 นก.) 54321 ส 32104 หน้าทพี่ ลเมือง 2 (0.5 นก.) ส 33101 อารยธรรมโลก (1 นก.)
376 รำยวชิ ำในหลักสตู ร ระดบั ควำมเหมำะสม ไมเ่ หมำะสม เหตผุ ลและ (จำนวนหนว่ ยกิต/เวลำเรยี น) 54321 ขอ้ เสนอแนะ 54321 ส 33102 เหตุการณ์โลกปจั จุบัน (1 นก.) รำยวิชำเพ่มิ เตมิ (มัธยมศกึ ษำตอนปลำย) 54321 ส 31201 ทอ่ งแดนอารยธรรมโลก (2 นก.) 54321 ส 31202 ภูมิศาสตร์การท่องเที่ยว (2 นก.) 54321 54321 ส 32201 สิง่ แวดล้อมศกึ ษา (2 นก.) 54321 ส 32202 โลกศึกษา (2 นก.) 54321 ส 33201 สังคมและวฒั นธรรมไทย (2 นก.) ส 33202 กฎหมายน่ารู้ (2 นก.) 54321 54321 รำยวชิ ำเพิม่ เติม (เลอื กเสรี) 54321 ส 21210 นครปฐมศกึ ษา (1.5 นก.) ส 21211 ภูมิปัญญาไทยศึกษา (1.5 นก.) 54321 ส 21212 ธุรกจิ ชมุ ชน (1.5 นก.) 54321 ส 21213 ความร้เู บือ้ งต้นเกีย่ วกับกฎหมาย 1 (1.5 54321 นก.) 54321 54321 ส 21214 ทอ่ งแดนธรรมะ (1.5 นก.) ส 21215 ศาสนาพาสนุก (1.5 นก.) 54321 ส 22210 ธรรมะใกลต้ วั (1.5 นก.) ส 22211 พทุ ธศาสนากบั สงั คมไทย (1.5 นก.) 54321 54321 ส 22212 ความรู้เบ้ืองต้นเกี่ยวกับกฎหมาย 2 (1.5 54321 นก.) 54321 54321 ส 22213 เอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้ (1.5 นก.) 54321 ส 22214 วิถไี ทย (1.5 นก.) ส 22215 เศรษฐศาสตรน์ ่ารู้ 1 (1.5 นก.) 54321 ส 22216 อาเซียนศึกษา 1 (1.5 นก.) 54321 ส 23210 ประวตั ศิ าสตร์การเมืองไทย (1.5 นก.) ส 23211 ประชาธปิ ไตยในสงั คมไทย (1.5 นก.) 54321 ส 23212 ความร้เู บ้อื งต้นเก่ยี วกับกฎหมาย3 (1.5 54321 นก.) 54321 ส 23213 พุทธศาสนากับการแก้ปัญหาสังคม (1.5 นก.) 54321 ส 23214 พนื้ ฐานอารยธรรม (1.5 นก.) ส 23215 เศรษฐศาสตรน์ ่ารู้ 2 (1.5 นก.) 54321 54321 ส 23216 อาเซยี นศกึ ษา 2 (1.5 นก.) ส 31210 เตรียมความพร้อมสวู่ ิชาชีพครู (1 54321 นก.) ส 31211 อดุ มการณค์ วามเปน็ ครู (1 นก.) ส 31212 ครูในศตวรรษที่ 21 (1 นก.) ส 31213 นวตั กรรมการศึกษาในยคุ ปัจจุบนั (1 นก.)
377 รำยวชิ ำในหลกั สูตร ระดบั ควำมเหมำะสม ไมเ่ หมำะสม เหตผุ ลและ (จำนวนหน่วยกิต/เวลำเรียน) 54321 ข้อเสนอแนะ 54321 ส 31214 เทคนิคการจดั การเรียนรู้สาหรบั ครู (1 นก.) 54321 54321 ส 31215 เสริมประสบการณ์วิชาชีพครู 1 (1 54321 นก.) 54321 ส 32210 ครูยคุ ใหม่ใสใจ IT (1 นก.) 54321 ส 32211 ศาสตรแ์ ละศลิ ปแ์ ห่งความเปน็ ครู (1 54321 นก.) 54321 ส 32212 เสรมิ ประสบการณว์ ชิ าชพี ครู 2 (1 54321 นก.) 54321 ส 32213 ครูในบริบทของสังคมไทย (1 นก.) ส 33210 จรรยาบรรณวชิ าชีพครู (1 นก.) ส 33211 วัฒนธรรมของความเปน็ ครู (1 นก.) ส 33212 เสริมประสบการณ์วชิ าชีพครู 3 (1 นก.) ส 33213 จติ วทิ ยาการเรยี นการสอนและความ เปน็ ครู (1 นก.)
378 รำยวิชำในหลักสูตร ระดบั ควำมเหมำะสม ไมเ่ หมำะสม เหตผุ ลและ (จำนวนหนว่ ยกิต/เวลำเรียน) 54321 ขอ้ เสนอแนะ 5. กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้สุขศกึ ษำและพลศึกษำ 5 4 3 2 1 ไม่เหมำะสม โปรดระบเุ หตผุ ล และข้อเสนอแนะ รำยวิชำพืน้ ฐำน พ 11101 สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา 1 (2 คำบ/ 54321 สปั ดำห์) พ 12101 สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา 2 (2 คำบ/ 54321 สัปดำห์) พ 13101 สุขศึกษาและพลศึกษา 3 (2 คำบ/ 54321 สปั ดำห์) พ 14101 สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา 4 (2 คำบ/ 54321 สปั ดำห)์ พ 15101 สุขศึกษาและพลศึกษา 5 (2 คำบ/ 54321 สัปดำห์) พ 16101 สุขศกึ ษาและพลศึกษา 6 (2 คำบ/ 54321 สปั ดำห)์ รำยวชิ ำพื้นฐำน (มัธยมศึกษำตอนตน้ ) 54321 พ 21101 สุขศึกษา 1 (0.5 นก.) 54321 พ 21102 สุขศึกษา 2 (0.5 นก.) 54321 พ 21103 พลศกึ ษา 1 (0.5 นก.) 54321 พ 21104 พลศึกษา 2 (0.5 นก.) 54321 พ 22101 สขุ ศึกษา 3 (0.5 นก.) 54321 พ 22102 สุขศึกษา 4 (0.5 นก.) 54321 พ 22103 พลศึกษา 3 (0.5 นก.) 54321 พ 22104 พลศกึ ษา 4 (0.5 นก.) 54321 พ 23101 สุขศกึ ษา 5 (0.5 นก.) 54321 พ 23102 สุขศึกษา 6 (0.5 นก.) 54321 พ 23103 พลศกึ ษา 5 (0.5 นก.) 54321 พ 23104 พลศึกษา 6 (0.5 นก.) รำยวิชำพ้ืนฐำน (มัธยมศกึ ษำตอนปลำย) 54321 พ 31101 สุขศกึ ษา 1 (0.5 นก.) 54321 พ 31102 สขุ ศึกษา 2 (0.5 นก.) 54321 พ 31103 พลศกึ ษา 1 (0.5 นก.) 54321 พ 31104 พลศกึ ษา 2 (0.5 นก.) 54321 พ 32101 สขุ ศกึ ษา 3 (0.5 นก.) 54321 พ 32102 สขุ ศกึ ษา 4 (0.5 นก.) 54321 พ 32103 พลศึกษา 3 (0.5 นก.) 54321 พ 32104 พลศกึ ษา 4 (0.5 นก.) 54321 พ 33101 สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา 1 (0.5 นก.) 54321 พ 33102 สขุ ศึกษาและพลศึกษา 2 (0.5 นก.)
379 รำยวิชำในหลักสตู ร ระดบั ควำมเหมำะสม ไม่เหมำะสม เหตผุ ลและ ขอ้ เสนอแนะ (จำนวนหน่วยกิต/เวลำเรียน) 54321 รำยวชิ ำเพ่ิมเติม (เลอื กเสรี) พ 21210 พน้ื ฐานแบดมินตัน (1.5 นก.) 54321 พ 21211 พน้ื ฐานฟตุ บอล (1.5 นก.) 54321 พ 21212 พน้ื ฐานฟุตซอล (1.5 นก.) 54321 พ 21213 พน้ื ฐานตะกร้อ (1.5 นก.) 54321 พ 21214 การเคลอ่ื นไหวพนื้ ฐาน (1.5 นก.) 5 4 3 2 1 พ 21215 พื้นฐานวอลเลย์บอล (1.5 นก.) 54321 พ 21216 พน้ื ฐานแฮนดบ์ อล (1.5 นก.) 54321 พ 21217 พน้ื ฐานเปตอง (1.5 นก.) 54321 พ 21218 พน้ื ฐานซอฟทบ์ อล (1.5 นก.) 54321 พ 21219 พน้ื ฐานเบสบอล (1.5 นก.) 54321 พ 21220 พน้ื ฐานกรีฑาลู่ (1.5 นก.) 54321 พ 21221 พื้นฐานกรีฑาลาน (1.5 นก.) 54321 พ 21222 พื้นฐานเทเบิลเทนนิส (1.5 นก.) 5 4 3 2 1 พ 21223 พืน้ ฐานฮอกกี้ (1.5 นก.) 54321 พ 21224 พ้ืนฐานว่ายน้า (1.5 นก.) 54321 พ 21225 พื้นฐานบาสเกตบอล (1.5 นก.) 54321 พ 21226 หมากกระดานไทย (1.5 นก.) 54321 พ 22210 แบดมนิ ตันเพอื่ ความสนุกสนาน (1.5 54321 นก.) พ 22211 ฟุตบอลเพอื่ ความสนกุ สนาน (1.5 54321 นก.) พ 22212 ฟุตซอลเพ่ือความสนุกสนาน (1.5 54321 นก.) พ 22213 ตะกรอ้ เพอ่ื ความสนกุ สนาน (1.5 54321 นก.) พ 22214 การเคลอื่ นไหวประยกุ ต์ (1.5 นก.) 5 4 3 2 1 พ 22215 วอลเลย์บอลเพ่ือความสนกุ สนาน (1.5 5 4 3 2 1 นก.) พ 22216 แฮนด์บอลเพอ่ื การแข่งขัน (1.5 นก.) 5 4 3 2 1 พ 22217 เปตองเพ่อื ความสนกุ สนาน (1.5 นก.) 5 4 3 2 1 พ 22218 ซอฟท์บอลเพ่ือความสนกุ สนาน (1.5 5 4 3 2 1 นก.) พ 22219 เบสบอลเพือ่ ความสนกุ สนาน (1.5 54321 นก.) พ 22220 กรฑี าลู่เพอ่ื ความสนกุ สนาน (1.5 54321 นก.) พ 22221 กรฑี าลานเพ่อื ความสนุกสนาน (1.5 54321 นก.)
380 รำยวชิ ำในหลกั สูตร ระดบั ควำมเหมำะสม ไมเ่ หมำะสม เหตผุ ลและ (จำนวนหน่วยกิต/เวลำเรยี น) 54321 ข้อเสนอแนะ พ 22222 เทเบิลเทนนสิ เพือ่ ความสนุกสนาน (1.5 54321 นก.) 54321 พ 22223 จักรยานเพ่ือสุขภาพ (1.5 นก.) 54321 พ 22224 การฝึกดว้ ยนา้ หนัก (1.5 นก.) 54321 พ 22225 พื้นฐานฮอกกีอ้ นิ ดอร์ (1.5 นก.) 54321 พ 22226 พ้นื ฐานเทนนสิ (1.5 นก.) 54321 54321 พ 22227 ว่ายนา้ เพอ่ื การแข่งขนั (1.5 นก.) 54321 พ 22228 หมากกระดานสากล (1.5 นก.) 54321 พ 23210 แบดมินตันเพ่อื สขุ ภาพ (1.5 นก.) 54321 พ 23211 ฟุตบอลเพอื่ สขุ ภาพ (1.5 นก.) 54321 พ 23212 ฟุตซอลเพือ่ สุขภาพ (1.5 นก.) 54321 พ 23213 ตะกร้อเพื่อสขุ ภาพ (1.5 นก.) พ 23214 การเคล่ือนไหวแสดงวิถีชีวิต (1.5 54321 นก.) พ 23215 วอลเลย์บอลเพอ่ื สุขภาพ (1.5 นก.) 54321 พ 23216 แฮนด์บอลเพื่อความเป็นเลิศ (1.5 นก.) 54321 พ 23217 เปตองเพ่ือสุขภาพ (1.5 นก.) 54321 54321 พ 23218 ซอฟท์บอลเพอื่ สขุ ภาพ (1.5 นก.) 54321 พ 23219 เบสบอลเพอ่ื สขุ ภาพ (1.5 นก.) 54321 พ 23220 กรีฑาลเู่ พือ่ สขุ ภาพ (1.5 นก.) 54321 พ 23221 กรีฑาลานเพื่อสุขภาพ (1.5 นก.) 54321 54321 พ 23222 เทเบลิ เทนนสิ เพ่ือสุขภาพ (1.5 นก.) 54321 พ 23223 จกั รยานแรลล่ี (1.5 นก.) 54321 พ 23224 โยคะเพ่อื สขุ ภาพ (1.5 นก.) 54321 พ 23225 เทนนสิ เพ่อื การแข่งขัน (1.5 นก.) 54321 พ 23226 ฮอกกี้เพื่อการแข่งขนั (1.5 นก.) พ 23227 มวยไทย (1.5 นก.) 54321 พ 23228 บาสเกตบอลเพ่อื การแข่งขัน (1.5 54321 นก.) 54321 พ 31210 แบดมินตนั เพ่อื การแข่งขัน (1 นก.) 54321 พ 31211 ฟตุ บอลเพอื่ การแขง่ ขนั (1 นก.) 54321 พ 31212 ฟตุ ซอลเพื่อการแขง่ ขนั (1 นก.) พ 31213 ตะกร้อเพ่อื การแขง่ ขัน (1 นก.) 54321 พ 31214 การเคลอ่ื นไหวท่ีประสบความสาเร็จ (1 54321 นก.) 54321 พ 31215 วอลเลย์บอลเพือ่ การแขง่ ขัน (1 นก.) พ 31216 แฮนดบ์ อลมืออาชีพ (1 นก.) พ 31217 เปตองเพอื่ การแขง่ ขัน (1 นก.)
381 รำยวชิ ำในหลกั สูตร ระดบั ควำมเหมำะสม ไมเ่ หมำะสม เหตผุ ลและ (จำนวนหน่วยกติ /เวลำเรยี น) 54321 ข้อเสนอแนะ 54321 พ 31218 ซอฟทบ์ อลเพ่ือการแข่งขัน (1 นก.) 54321 พ 31219 เบสบอลเพอ่ื การแขง่ ขนั (1 นก.) 54321 พ 31220 กรีฑาล่เู พอื่ การแขง่ ขัน (1 นก.) 54321 พ 31221 กรฑี าลานเพือ่ การแข่งขัน (1 นก.) 54321 54321 พ 31222 เทเบลิ เทนนสิ เพอื่ การแขง่ ขัน (1 นก.) 54321 พ 31223 จกั รยานเพอ่ื สงั คม (1 นก.) 54321 พ 31224 นวดเพอื่ การเลน่ กีฬา (1 นก.) 54321 พ 31225 ฮอกกีอ้ ินดอรเ์ พอ่ื การแข่งขัน (1 นก.) 54321 54321 พ 31226 แอโรบิกประยุกต์ (1 นก.) 54321 พ 31227 ลีลาศเพือ่ ความสนกุ สนาน (1 นก.) 54321 พ 31228 มวยสากล (1 นก.) 54321 พ 31229 บาสเกตบอลเพ่ือการแขง่ ขนั (1 นก.) 54321 54321 พ 32210 แบดมินตันเพ่อื ความเป็นเลิศ (1 นก.) พ 32211 ฟุตบอลเพื่อความเปน็ เลศิ (1 นก.) 54321 พ 32212 ฟตุ ซอลเพ่อื ความเป็นเลศิ (1 นก.) พ 32213 ตะกรอ้ เพื่อความเป็นเลิศ (1 นก.) 54321 พ 32214 การเคลอ่ื นไหวท่สี ่งผลตอ่ พฤตกิ รรม (1 54321 นก.) 54321 54321 พ 32215 วอลเลย์บอลเพอื่ ความเปน็ เลศิ (1 54321 นก.) 54321 54321 พ 32216 แฮนดบ์ อลเพอื่ สุขภาพ (1 นก.) พ 32217 เปตองเพ่ือความเป็นเลศิ (1 นก.) 54321 พ 32218 ซอฟทบ์ อลเพื่อความเป็นเลศิ (1 นก.) พ 32219 เบสบอลเพอ่ื ความเปน็ เลิศ (1 นก.) 54321 54321 พ 32220 กรฑี าลู่เพือ่ ความเปน็ เลศิ (1 นก.) 54321 พ 32221 กรฑี าลานเพื่อความเปน็ เลิศ (1 นก.) 54321 พ 32222 เทเบลิ เทนนสิ เพื่อความเปน็ เลิศ (1 นก.) 54321 พ 32223 การฝึกดว้ ยนา้ หนัก (1 นก.) พ 32224 กฬี าพืน้ บ้าน (1 นก.) 54321 54321 พ 32225 ฮอกกีเ้ พอ่ื การแขง่ ขัน (1 นก.) 54321 พ 32226 การปฐมพยาบาลเบอ้ื งต้น (1 นก.) 54321 พ 32227 บาสเกตบอลเพ่ือความเปน็ เลศิ (1 54321 นก.) พ 33210 แบดมนิ ตนั มอื อาชพี (1 นก.) พ 33211 ฟตุ บอลมอื อาชีพ (1 นก.) พ 33212 ฟตุ ซอลมืออาชพี (1 นก.) พ 33213 ตะกร้อมืออาชพี (1 นก.) พ 33214 การเคลือ่ นไหวที่ยอมรบั ความแตกตา่ ง
382 รำยวิชำในหลกั สูตร ระดบั ควำมเหมำะสม ไม่เหมำะสม เหตผุ ลและ (จำนวนหนว่ ยกิต/เวลำเรยี น) 54321 ข้อเสนอแนะ ระหวา่ งบุคคล (1 นก.) 54321 พ 33215 วอลเลย์บอลมืออาชีพ (1 นก.) พ 33216 แฮนด์บอลเพอ่ื ความสนกุ สนาน (1 54321 นก.) พ 33217 เปตองมืออาชพี (1 นก.) 54321 พ 33218 ซอฟทบ์ อลมืออาชพี (1 นก.) 54321 54321 พ 33219 เบสบอลมอื อาชพี (1 นก.) 54321 พ 33220 กรฑี าลู่มืออาชพี (1 นก.) 54321 พ 33221 กรฑี าลานมืออาชพี (1 นก.) 54321 พ 33222 เทเบิลเทนนิสมอื อาชีพ (1 นก.) 54321 พ 33223 ยโู ด (1 นก.) 54321 พ 33224 อาหารชีวจิต (1 นก.) 54321 พ 33225 แอโรบกิ เพอื่ สุขภาพ (1 นก.) 54321 พ 33226 ลีลาศเพื่อการเข้าสงั คม (1 นก.) 54321 พ 33227 บาสเกตบอลมอื อาชพี (1 นก.)
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 474
Pages: