50 บทที่ ๒ ราชการท่กี รุงเทพฯ และจุดมุ่งหมายบางประการ เม่ือได้พิจารณาถึงความมุ่งมั่นจริงจังของสยามท่ีเพ่ิมมากขึ้นก็จะพบ แงม่ มุ ตา่ งๆ ทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั ประเดน็ น้ี จะเหน็ วา่ ผลพวงของประวตั ศิ าสตรใ์ นอดตี ที่ผ่านมา ในเรื่องท่ีเหล่าชนชาติศัตรูต่างเพิกเฉยไม่มารุกรานเน่ืองจากความ สับสนยงุ่ เหยงิ ภายใน ก็เป็นเร่ืองทีต่ อ้ งหยบิ ยกมาพจิ ารณาอย่างเป็นกลางด้วย กว่าจะมารวมตัวเป็นชาติอย่างในปัจจุบันได้น้ันสยามต้องใช้ความพยายามใน การปฏิรูปชนชาติของตนเองให้สมบูรณ์แบบเหมือนเช่นการปฏิรูปท่ีเคยส่งผล ในชาติตะวันตกมาแล้ว ส่วนเร่ืองความไม่จริงใจ ความเป็นคนท่ีมีเล่ห์เหลี่ยม และความไมซ่ อ่ื สตั ยส์ จุ รติ ซงึ่ เคยเปน็ ธรรมชาตวิ สิ ยั ของชนในชาตทิ ค่ี วรจะตอ้ ง ฝกึ ใหค้ วามซอ่ื ตรงและจรงิ ใจเขา้ มาแทนท่ี กด็ เู หมอื นจะเปน็ การฝกึ ทฝ่ี นื กบั นสิ ยั ของชาวเอเชยี ย่ิงนัก อปุ สรรคตา่ งๆ ทข่ี วางทางอยนู่ เ้ี ปน็ ทซ่ี าบซง้ึ ดอี ยแู่ กใ่ จของผทู้ ร่ี ดู้ วี า่ ความ ตรงไปตรงมาทแ่ี ทจ้ รงิ นนั้ หายากเพยี งใด และประเพณที ห่ี ลบั หหู ลบั ตาสบื ทอด กนั มาในหมปู่ ระชาชนของประเทศอยา่ งเชน่ สยามนนั้ เปน็ เชน่ ไร ถอื กนั วา่ จารตี ประเพณีน้ันมีความศักด์ิสิทธ์ิเช่นเดียวกับองค์พระมหากษัตริย์และพระราช จริยาวตั รของพระองค์ท่ีมิอาจไต่ถามได้ อย่างไรก็ดคี วามไมถ่ ูกกาลเทศะ และ ความไม่เป็นธรรมเช่นน้ีคือความหมายของค�ำศักด์ิสิทธิ์ว่า ธรรมเนียม น่ันเอง ในไม่ช้าไม่นานนักความศักด์ิสิทธิ์ท่ีครอบง�ำอยู่ก็จะบังคับให้เกิดการยอมรับ นับถือหรือเกดิ แม้กระท่งั การเสียสละ และดว้ ยคำ� ๆ นีเ้ รื่องของการทุจรติ และ การโกงกนิ ติดสินบนก็จะถกู ลมื เลอื นไป ความเหลาะแหละและความชว่ั ท่ีอาจ จะเป็นจดุ วกิ ฤตของวถิ ชี วี ิตชนในชาตกิ อ็ าจจะได้รบั การมองขา้ มไปด้วย การปฏิรูปวิถีชีวิตท่ีส�ำคัญที่สุดของชาวสยามซ่ึงถือเป็นสิ่งจ�ำเป็นอันดับ แรกของการก้าวไปสู่อนาคต ก็คือความสับสนท่ีมักจะเกิดขึ้นด้วยตัวของชาว สยามเองพอๆ กับความสับสนของพวกที่ปรึกษาและบรรดานักวิจารณ์ต่างๆ ในเรือ่ งทป่ี ระชาชนนิยมเรียกมนั ว่า “ความเจรญิ ” อย่างเชน่ แสงไฟฟ้า ตราท่ี พมิ พ์ไวบ้ นหัวกระดาษบนั ทกึ ภาพถา่ ยและชวี ติ ท่ีทันสมยั แต่เพยี งผวิ เผิน แล้ว
ห้าปใี นสยาม เล่ม ๑ 51 ก็ไม่มีส่ิงใดที่จะท�ำให้ท้อใจได้มากไปกว่าการขาดซ่ึงความเข้าใจ ท่ีมักจะเป็น ความแตกต่างทป่ี รากฏชดั ในระหว่างท้งั ๒ กลมุ่ ดังกล่าวข้างต้นเสมอ ในทางกลับกันก็ไม่อาจคาดหวังได้ว่าประชาชนที่เติบโตข้ึนท่ามกลาง ประเพณีนิยมแบบเก่าเช่นชาวสยามน้ันจะเข้าใจถึงความหมายท่ีแท้จริงของ ปรากฏการณใ์ หม่ที่เรยี กกนั ว่า อารยธรรมตะวนั ตกทีก่ ำ� ลังรกุ เขา้ ถึงตัวพวกเขา อยา่ งฉบั พลนั และการรบั เอาหลักธรรมใหม่หรือศาสนาใหมใ่ ดๆ ก็ตามมาใชใ้ น ทุกวันน้ีก็ยังไม่มีชนชาติใดสามารถท�ำได้ เพราะส่ิงท่ียืนยงถาวรเช่นนั้นต้องใช้ เวลาเติบโตมาอย่างช้าๆ ด้วยความสม�่ำเสมอมั่นคง ส่ิงที่ชาวญี่ปุ่นได้ท�ำก็คือ การร้วู ่าควรจะฆ่าฟนั ชนชาติที่อ่อนแอกวา่ ได้อยา่ งไร ไมม่ ีชนชาติใดในภมู ภิ าค นี้ท่ีจะมีพลังอ�ำนาจเท่าชาวญ่ีปุ่น ภารกิจแบบนั้นในสยามต้องค่อยๆ ท�ำไป ทีละเล็กละนอ้ ย แต่ก่อนนั้นจังหวัดต่างๆ บริเวณนอกเมืองจะปกครองโดยเจ้านายผู้ถือ ครองทดี่ นิ สว่ นใหญ่ ตราบใดทพ่ี วกเขายงั สง่ สว่ ยใหแ้ กพ่ ระเจา้ อยหู่ วั ทโ่ี ดยพฤตนิ ยั แลว้ คอื ผทู้ รงพระราชอำ� นาจทแี่ ทจ้ รงิ พวกเขากย็ งั สามารถครอบครองดนิ แดน นน้ั ไดต้ ามความพอใจไม่วา่ จะปกครองดว้ ยความเปน็ ธรรมหรอื ไม่ บรรดาบุตร ชายของพวกเขาจะยังคงเป็นผู้สืบทอดอ�ำนาจต่อไปได้นานวันตราบเท่าท่ีพวก เขายงั เหน็ ดว้ ยกบั พระเจา้ อย่หู ัว ในความเปน็ จรงิ นั้นการปกครองจะทำ� กนั โดย ใช้สัญญา อย่างเช่น “ถ้าเจ้าปกครองดูแลเมืองและส่งส่วยให้ข้า ข้าก็จะมอบ อ�ำนาจให้กับครอบครัวของเจ้า” จนกว่าจะมีศัตรูคู่แข่งขันที่เข้มแข็งกว่าเวียน เขา้ มา ในประวัติศาสตร์ท่ีผ่านมาของชาวอินโดจีนจะไม่มีข้าราชการคนใดเคย ได้รับเงินเบี้ยหวัดประจ�ำเดือนมาก่อน รายได้จะถือเป็นอ�ำนาจสิทธ์ิขาดของ เจา้ เมอื งทจ่ี ะจา่ ยใหข้ า้ ราชการตามทเี่ ขาสามารถท�ำได้ ผทู้ เี่ ปน็ รองจากเจา้ เมอื ง ก็จะใช้วิธีการเดียวกันโดยข้ึนอยู่กับต�ำแหน่งและขีดความสามารถของแต่ละ บุคคล โดยท่ัวไปเจ้าเมืองมักจะเป็นผู้ผูกขาดทางด้านการค้าโดยอาศัยอ�ำนาจ
52 บทที่ ๒ ราชการท่ีกรุงเทพฯ และจดุ มุ่งหมายบางประการ ทางราชการท่ตี วั เขามีอยู่ก�ำจดั บรรดาศัตรคู แู่ ข่งขนั ทางการค้าทกุ คน เป็นการ กระท�ำในรูปแบบเดียวกับที่พระเจ้าอยู่หัวพระองค์ก่อนๆ ได้ทรงกระท�ำเป็น เย่ียงอยา่ งไว้ ผนู้ ้อยย่อมดำ� เนินวิถีตามรอยของผูใ้ หญ่ ส่วนคนในระดับเดยี วกนั ก็ต้องถอื ปฏิบัติให้เหมือนๆ กนั เพราะวา่ มนั เปน็ ธรรมเนียม เมือ่ ท�ำกนั อย่าง พอประมาณ กจ็ ะไมม่ ใี ครตงั้ คำ� ถาม เพราะกระบวนการแบบนเี้ ปน็ หนทางเดยี ว ทที่ ำ� ใหข้ า้ ราชการดำ� รงชวี ติ อยไู่ ด้ ดงั นนั้ ภายใตก้ ารจดั การของเจา้ เมอื งสว่ นใหญ่ ที่ท�ำไปโดยมุ่งหวังให้ครอบครัวขนาดใหญ่ของพวกเขาอยู่รอด ก็เช่ือได้เลยว่า ใครกต็ ามทม่ี รี ายไดแ้ มเ้ พยี งเลก็ นอ้ ย กจ็ ะตอ้ งนำ� รายไดน้ นั้ สง่ ราชสำ� นกั ในอตั รา ท่ีเกินจริง ท้ังยังต้องถูกยึดสินค้าไว้ในขณะท่ีผู้ให้ราคาประมูลสูงสุดมักเป็น ผทู้ ีต่ ัดสนิ ชข้ี าดเสมอ หลงั จากทสี่ ยามผา่ นการกระทบกระทงั่ อยา่ งหนกั หนว่ งมาหลายครง้ั โดย เฉพาะอย่างยิ่งจากเขมรและจากพม่าในครั้งสุดท้าย เม่ือ พ.ศ. ๒๓๑๐ (ค.ศ. ๑๗๖๗) สยามจงึ ไดเ้ รมิ่ เจรญิ รงุ่ เรอื งมาเรอื่ ยๆ จนสามารถกลบั มาเอาชนะ ศตั รคู สู่ งครามได้ แลว้ ทา้ ยทสี่ ดุ กย็ ดึ ครองดนิ แดนทวั่ ทงั้ อาณาจกั รลาวจนถงึ สบิ สองปนั นาไวเ้ ปน็ หวั เมอื งประเทศราชรวมถงึ สหพนั ธรฐั มลายลู งไปถงึ รฐั เกดะห์ และตรังกานู สยามปกครองประเทศราชต่างๆ เหล่านี้โดยใช้แนวทางเก่าๆ ซ่ึงก�ำหนดโดยธรรมเนยี มแบบโบราณ และโดยแนวทางปฏบิ ัติประจำ� ชาติแบบ สยามเอง พระเจา้ อยหู่ วั พระองคป์ จั จบุ นั นบั เปน็ พระองคแ์ รกทที่ รงยอมรบั ในภาระ หน้าที่ของเจ้าเมืองในเร่ืองการปกครอง ไม่ใช่เพื่อพระองค์เองแต่ทรงท�ำด้วย ความรสู้ ึกรับผดิ ชอบเพอ่ื เหล่าพสกนิกรเท่านนั้ สงั เกตได้จากการเปลีย่ นแปลง ต่างๆ ซ่ึงเกดิ ขึ้นที่นี่ เหลา่ ขนุ นางกนิ เมืองในแบบเดยี วกนั ไมว่ ่าจะเปน็ คนพม่า กัมพชู าหรอื สยามแต่ละบคุ คลตา่ งกม็ ีบรรพบุรษุ ซึง่ ปกครองเพอื่ พวกตนเองมา ตลอดอายุขยั เขาเปรียบประชาชนของพวกเขาเปน็ เชน่ อาหารที่พวกเขามักจะ พดู กนั ไปทว่ั วา่ กนิ หรอื กนิ เมอื งทอี่ ยใู่ ตอ้ ำ� นาจของพวกเขา การทปี่ ระชาชนพา
หา้ ปใี นสยาม เลม่ ๑ 53 กนั สวดมนตก์ เ็ พอ่ื ใหค้ มุ้ ภยั จาก ไฟ นำ�้ ขโมยขโจรและยงั รวมไปถงึ พวกเจา้ เมอื ง ท่ีจะมามุ่งร้าย ด้วยเหตุนี้พระเจ้าอยู่หัวของสยามจึงทรงออกพระราชก�ำหนด เร่ืองวิธีปฏิบัติตนของขุนนาง ทรงเรียกร้องให้พวกเขาให้ความยุติธรรมต่อผู้ท่ี อ่อนแอกว่า อีกประการหนึ่งก็คือทรงยกเลิก ธรรมเนียม ในแบบท่ีเคยมีมา ทั้งหมด ปากของพวกเขานัน้ ต่างตอบรบั สนองพระบรมราชโองการแต่ในจิตใจ ยงั คงยนื กรานปฏเิ สธแบบเดยี วกบั ทช่ี าวตะวนั ออกทวั่ ไปมกั จะเปน็ ความสำ� นกึ ผิดชอบช่ัวดตี ามหลักศีลธรรมนัน้ เปน็ ค�ำที่รู้จกั กันเพยี งผวิ เผนิ ในภาษาของชาว ตะวันออกและในปรัชญาชีวิต แต่พระเจ้าอยู่หัวน้ันทรงซาบซ้ึงในความหมาย ของค�ำๆ น้นั ดีมาโดยตลอดระยะเวลาทีข่ ึน้ ครองราชยใ์ นชว่ งต้น ๆ และในพระ ราชหฤทัยท่ีทรงเปี่ยมล้นด้วยคุณงามความดีของพระองค์ ทรงใช้พระวิริยะ อุตสาหะเพ่ือทรงด�ำเนินการปกครองไปตามแนวทางน้ัน จะมพี ระมหากษตั รยิ ห์ รอื ผนู้ �ำในการปฏริ ปู สงั คมคนใดทต่ี อ้ งพบกบั ภารกจิ ที่ยุ่งยากมากกว่านี้บ้างหรือไม่ และส่ิงหน่ึงที่จะปลดเปล้ืองมันออกจากความ ยงุ่ ยากของภารกจิ นก้ี ค็ อื การทพ่ี ระเจา้ อยหู่ วั ทรงเลง็ เหน็ ถงึ ความสำ� คญั ของมนั หากในความเงียบแต่แฝงด้วยความดื้อรั้นนั้นเป็นการแสดงถึงการต่อต้านการ ปฏิรูปของพวกขุนนางส่วนใหญ่ที่ได้เข้ามาเป็นอุปสรรคขวางกั้นการต่อสู้เพ่ือ การปฏิรูปของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบัน ในที่สุดข้าหลวงที่มี เงนิ เดือนก็ไดร้ บั การแต่งต้งั ใหไ้ ปดำ� รงตำ� แหน่งเป็นผู้ปกครองของหัวเมอื งรอบ นอกทีละคนๆ จนกระทั่งเม่ือไม่ก่ีปีท่ีผ่านมาน้ีบรรดาเจ้าเมืองระบบศักดินาที่ ปกครองหวั เมอื งสำ� คญั ๆ บนฝง่ั แมน่ ำ�้ โขงเรอ่ื ยมาทางตะวนั ตกและในสหพนั ธรฐั มลายูจึงได้พบว่าอ�ำนาจของพวกเขาได้ถูกลิดรอนลงคร่ึงหนึ่งโดยไม่มีการบอก ใหร้ ตู้ วั จากสภุ าพบรุ ษุ ผไู้ มโ่ ออ้ วดคนหนงึ่ ซงึ่ เดนิ ทางมาจากกรงุ เทพฯ พรอ้ มกบั พระบรมราชโองการของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อย่หู ัว เขาไม่เพียงแต่มาให้คำ� ปรึกษาแนะน�ำและรายงานกลับไปกรุงเทพฯ เท่านั้น และหากไม่ท�ำตามค�ำ แนะน�ำของเขา ในไม่ช้าพวกเจ้าเมืองก็จะพบว่าไม่สามารถท�ำการบริหารใดๆ
54 บทท่ี ๒ ราชการทกี่ รงุ เทพฯ และจดุ มุ่งหมายบางประการ ให้เป็นผลได้ ปัญหาใหญ่มากก็เป็นไปตามท่ีคาดการณ์ไว้ นั่นก็คือการหาตัว ข้าหลวงท่ีเหมาะสม ซ่ึงในหลายๆ สถานการณ์ข้าหลวงเหล่าน้ันก็ได้พิสูจน์ให้ เหน็ แลว้ วา่ พวกเขามคี วามสามารถเหนอื กวา่ พวกเจา้ ทพี่ วกเขาไดล้ ดิ รอนบทบาท และอ�ำนาจหน้าท่ีมา อย่างน้อยที่สุดพวกข้าหลวงก็ข้ึนกับกรุงเทพฯโดยตรง ทงั้ ยงั สามารถเรยี กตวั กลบั หรอื ต�ำหนติ เิ ตยี นผใู้ ดกไ็ ดห้ ากจ�ำเปน็ โดยกระท�ำการ ได้อย่างคล่องตัวมากกว่า เจ้า สูงอายุท่ีถือยศถือศักดิ์ ไม่บ่อยนักที่จะพบว่า ขา้ หลวงจากกรงุ เทพฯ ไมค่ วามสามารถเขา้ ใจถงึ ลกั ษณะพเิ ศษและความตอ้ งการ ของผทู้ อี่ ยใู่ ตก้ ารปกครองของเขา หรอื ไมส่ ามารถปรบั เปลยี่ นแนวคดิ ของตนเอง ใหเ้ หมาะสมกบั สภาวะแวดลอ้ ม “การปฏริ ปู ” นา่ จะเปน็ คำ� พดู ทค่ี อยปลกุ ขวญั และกำ� ลงั ใจใหเ้ ขา และก็คงเป็นเหมือนนักปฏริ ูปรนุ่ ใหม่ๆ ทพ่ี วกเขาคงจะตอ้ ง ซวดเซเมอ่ื ตา้ นทานแรงลมดว้ ยความสน้ิ หวงั หรือไมม่ แี ม้กระทง่ั ความตอ้ งการ ที่จะก้าวพ้นมันไปให้ได้ แต่เม่ือดูโดยรวมแล้วข้าหลวงก็ได้น�ำเอาส่ิงดีงามมา แทนท่ีความเลวร้ายให้กับประชาชนอย่างเห็นได้ชัด และข้าหลวงส่วนใหญ่ที่ ขา้ พเจ้าได้พบมากป็ ฏบิ ัติงานตามหน้าที่ของตนเพ่อื ชาตไิ ดอ้ ย่างยอดเยยี่ มและ ตา่ งอทุ ศิ ตนให้แก่งานนน้ั ดว้ ยจิตใจอนั นา่ ยกย่อง กลา่ วกนั วา่ สภาพอากาศรอ้ นอบอา้ วของเขตพนื้ ทร่ี าบลมุ่ ในชว่ งศตวรรษ ทผ่ี า่ นมาไดท้ ำ� ใหป้ ระชาชนชาวสยามตอ้ งสญู เสยี ความมน่ั คงแขง็ แกรง่ ลงไปเปน็ อนั มาก ซงึ่ พวกเขากร็ บั มอื กับความยากลำ� บากไดอ้ ยา่ งรา่ เริง แตน่ บั ตัง้ แตว่ นั ที่ พวกเขาตอ้ งตรากตรำ� กรำ� ศกึ สงครามกบั ชาวพมา่ อยา่ งหนกั แลว้ กพ็ อจะตดั สนิ เอาจากขอ้ เขยี นของนกั เขยี นรนุ่ เกา่ หลายคนไดว้ า่ ดเู หมอื นวา่ พวกเขากย็ งั คงมี ลักษณะนิสัยอย่างเดิมและยังกระท�ำการผิดพลาดต่างๆ เหมือนเช่นเดิมมาจน กระทง่ั ทกุ วนั นี้ ใน “ประวตั ิศาสตร์ชาตสิ ยาม” ตุรแปง (Turpins)2 ไดบ้ รรยายถงึ ราย ละเอียดในอดีตของสยามในสมัยอยุธยากรุงเก่าได้อย่างถูกต้องแม่นย�ำมิได้ผิด เพย้ี นไปจากสภาพปจั จบุ นั แมแ้ ต่นอ้ ย 2 Histoire de Siam. ปารสี , ค.ศ. ๑๗๗๑, 2 Vols.12 mo. – ตน้ ฉบบั
ห้าปีในสยาม เลม่ ๑ 55 ในหนังสอื กลา่ วถงึ เรอื่ งลักษณะนิสัยของชาวสยามเอาไวว้ า่ “สภาพภมู ิ อากาศนนั้ สง่ ผลถงึ ลกั ษณะนสิ ยั เปน็ อยา่ งยง่ิ และผอู้ า่ นจะพบไดว้ า่ เรอื่ งผดิ ปกติ ทสี่ รา้ งความงนุ งงใหแ้ กผ่ มู้ าถงึ กรงุ เทพฯ ใหมๆ่ ในยคุ กอ่ นกย็ งั คงมอี ยใู่ นปจั จบุ นั โดยไมไ่ ดล้ ดนอ้ ยลงเลย คลงั แสงเปน็ สถานทเี่ กบ็ ปนื ใหญแ่ ละดนิ ปนื ซงึ่ ถกู ปลอ่ ย ให้ฝุ่นจับโดยไร้ประโยชน์ และด้วยนิสัย “เกียจคร้านเข้ากระดูกด�ำ” ที่มี พวกเขาจึงไม่ยอมเสียเวลาท�ำความสะอาดมันให้ตัวเองต้องยุ่งยาก คุกตะราง เปน็ เหมอื นเรอ่ื งเสแสรง้ ไมจ่ รงิ จงั “ความซอ่ื สตั ย”์ ไมส่ ามารถ “น�ำสรู่ าชบลั ลงั ก”์ ได้ ชนชน้ั หวั หนา้ กบ็ รหิ ารโดยใชอ้ ำ� นาจเพม่ิ พนู ความรำ�่ รวยของตนแตเ่ พยี งอยา่ ง เดียว และเจา้ พนกั งานท่มี ีหน้าทแี่ จกจ่ายอาหารหล่อเลีย้ งชวี ติ ของเหลา่ ทหาร หาญกช็ อบทจี่ ะเอาเสบยี งเหลา่ นน้ั ไปขายเปน็ รายไดจ้ ากกระเปา๋ ตวั เองมากกวา่ 3 จะมกี ารเปลยี่ นแปลงแกไ้ ขอะไรบา้ งไหมทจ่ี ะเขา้ มาแทนทไี่ ดโ้ ดยเรว็ ทส่ี ดุ และท�ำให้เกิดในส่ิงที่ดีกว่า แต่ก็มีหลายส่ิงหลายประการได้ถูกกระท�ำไปก่อน หน้าท่ีการเปล่ียนแปลงท่ีดจี ะหยุดตัวเองลงอย่างส้ินเชิงก่อนทจี่ ะสัมฤทธผิ์ ล แบบเดียวกับที่เรื่องของ “ความเกียจคร้านเข้ากระดูกด�ำ” ได้เข้ามา เกยี่ วข้องกบั การขาดซ่งึ ความซือ่ สตั ย์ตรงไปตรงมาซ่งึ เราพบไดใ้ นหมู่ชาวสยาม และเช่นเดยี วกับชนชาวเอเชียอนื่ ๆ เปน็ เรอ่ื งจรงิ ทข่ี า้ พเจา้ ไดร้ จู้ กั และรว่ มทางนบั เปน็ ปๆี กบั คนของขา้ พเจา้ ซ่งึ อยา่ งน้อยก็มีอยู่ ๒ คนที่ไมเ่ คยพดู โกหกกับขา้ พเจ้าเลยและมคี วามซอื่ สัตย์ ในตนเองมาตลอดชีวิต แต่เร่ืองน้ีต้องบีบบังคับถึงจะมีคนเช่ือ และชาวสยาม ดว้ ยกันเองก็ยงั ประกาศว่าคนแบบนเ้ี ปน็ บุคคลประเภททอ่ี ย่ใู นขา่ ยยกเวน้ 3 ในพ.ศ.๒๔๓๔ มรี ายงานเรอื่ งการส่งขา้ วสารจากกรงุ เทพฯไปยงั เมอื งลำ� ปางเพอื่ บรรเทาความทกุ ขย์ ากอนั มสี าเหตมุ าจาก ความอดอยากขาดแคลน แตข่ ้าวก็ไมเ่ คยถกู ส่งไปจนถึงปลายทาง ขา้ พเจ้าเคยร้เู รอื่ งราวคล้ายๆกันน้ีในการทเ่ี สบียงอาหาร ปนั ส่วนของทหารถูกขา้ ราชการยกั ยอกเอาไปเปน็ การส่วนตวั ผคู้ นต้องประทงั ชีวิตอย่ดู ว้ ยหวั เผอื กหวั มันและข้าวทย่ี งั เหลอื อยู่ในเดือนสดุ ท้าย เหตุการณ์ท่เี ป็นตน้ แบบนน้ั เกดิ ขึ้นในพ.ศ.๒๔๓๑ เมอื่ มีการออกระเบยี บบังคบั ใชท้ วั่ ไปใหผ้ ูใ้ ดก็ตาม ทที่ �ำการคา้ ขายสง่ ออกโคถกึ ตอ้ งมเี อกสารสทิ ธ์ิของทางการมาแสดงพรอ้ มสตั วท์ กุ ตวั ซึ่งเอกสารสิทธิการคา้ ท่ไี ม่ไดก้ รอก รายการถงึ ๒๕,๐๐๐ ฉบบั ถกู สง่ ออกไปจากโรงพมิ พข์ องรฐั บาลถงึ มอื ผคู้ า้ สตั ว์ ผลกค็ อื เปน็ ปที เี่ ลวรา้ ยทส่ี ดุ ส�ำหรบั การละเวน้ การฆ่าววั ควาย และเปน็ สถติ ิการส่งออกโคถกึ ทีม่ หาศาลที่สุด ใครกันคอื ผ้ไู ด้รับประโยชน์ – ตน้ ฉบบั
56 บทท่ี ๒ ราชการทีก่ รงุ เทพฯ และจดุ มุ่งหมายบางประการ ในหมขู่ า้ ราชการนน้ั จะหาความมคี ณุ ธรรมไดย้ ากยงิ่ กวา่ ในหมปู่ ระชาชน อย่างน้อยพวกราษฎรก็ยงั พอจะมคี ณุ งามความดีเฉพาะตวั แตกต่างออกไป แต่ กเ็ ปน็ ความดดี ว้ ยความบงั เอญิ โดยไมม่ เี หตผุ ลใดๆ ใหค้ ดิ เปน็ อน่ื ไปได้ จะกระทำ� การสิ่งใดก็เพราะส่ิงนน้ั ถูกต้องสำ� หรบั พวกเขา จะละเวน้ จากบางส่ิงก็เพราะว่า มันไม่เป็นสิริมงคลกับชื่อของพวกเขาหรือเกี่ยวพันกับเรื่องคอขาดบาดตาย ซ่ึงบางทีอาจตกอยู่ภายใต้อ�ำนาจลึกลับบางอย่าง ปัญหาในเรื่องความถูกหรือ ผดิ ไมไ่ ดเ้ ข้ามาแผ้วพานในความคดิ คำ� นึงเลย ข้อเสียเหล่าน้ีได้แพร่ขยายออกไปมากบ้างน้อยบ้างภายในหมู่ชนชาติ ชาวเอเชยี บา้ นใกลเ้ รอื นเคยี งโดยทว่ั ถงึ กนั แตค่ ณุ คา่ อนั ดงี ามซงึ่ เปน็ เสนห่ เ์ ฉพาะ ตวั ตามแบบชาวตะวนั ออกนนั้ กย็ งั มอี ยมู่ ากมาย มนั แทรกซมึ อยใู่ นวถิ กี ารดำ� รง ชวี ติ ประจำ� วันของชาวสยาม อยใู่ นความร่าเริงแจม่ ใสเป็นมติ ร การต้อนรับขับ สู้และความสุภาพอ่อนน้อมความอดกล้ันภายใต้ขอบเขตและเสน่ห์ของความ เรยี บง่ายเทยี บได้กับชนชาตเิ อเชียหลายๆ ชาติ ไมใ่ ชแ่ บบพวก ฝร่ัง ไม่กี่คนที่ เห็นในชว่ งหลงั ๆ นี้ ท่มี กั จะเชิดศรี ษะของตนด้วยความเยอ่ หยิ่ง มันจะเป็นกต็ ่อ เมือ่ เขาไดเ้ ข้ามารบั ราชการในตำ� แหน่งสงู ๆ ซง่ึ เปน็ เหมอื นบว่ งลอ่ ลวงให้ติดกับ หากจะเรียกวา่ เปน็ การเร่ิมต้นทผ่ี ิดพลาดของชาวสยาม มนั กไ็ มไ่ ด้มาจากความ ชั่วชา้ เลวทรามแต่เกดิ ขึ้นจากความออ่ นแอมากกวา่ ซงึ่ ความอ่อนแอนส้ี �ำหรบั ประเทศเพอื่ นบา้ นแลว้ มนั คอื ความลม้ เหลว แตส่ ำ� หรบั ชาวสยามกวา่ ทพ่ี วกเขา จะรู้สึกอยา่ งนนั้ ไดก้ ็ชาติหน้านนั่ แหละ ความบกพรอ่ งในเรอ่ื งลกั ษณะนสิ ยั ของชาวสยามนเ้ี องเปน็ เหตผุ ลทท่ี ำ� ให้ ความเจรญิ ก้าวหนา้ ตา่ งๆ ทพ่ี ระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หัวทรงรเิ รมิ่ ข้ึนน้นั เปน็ ไปอยา่ งลา่ ชา้ ชาวยโุ รปหลายคนทไ่ี ดร้ บั การแตง่ ตง้ั ใหเ้ ขา้ รบั ราชการในกรมกอง ต่างๆ ที่เป็นกิจการพลเรือนน้ันสิ่งหนึ่งท่ีพวกเขาจ�ำเป็นต้องยอมรับก็คือความ บกพรอ่ งตา่ งๆ ของชาวยโุ รปเหลา่ นน้ั จงึ ท�ำใหเ้ รอื่ งทม่ี เี พม่ิ ความยงุ่ ยากซบั ซอ้ น มากยงิ่ ข้นึ ไปอกี
ห้าปีในสยาม เลม่ ๑ 57 บางทีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของสยามอาจจะทรงเป็น พระมหากษตั รยิ ์ท่ีมีข้ารองพระบาททเ่ี ลวรา้ ยทสี่ ดุ ในโลกก็ได้ พระราชปณิธาน พระราชด�ำริและพระบรมราชโองการต่างๆ ของพระองค์ล้วนถูกละเลย เพิกเฉยนานตราบเท่าที่พวกเขาจะรสู้ ึกปลอดภยั ท่จี ะปฏบิ ตั ติ ามพระราโชบาย เหล่าน้ัน ข้อมูลที่เชื่อถือได้มิเคยได้ล่วงรู้ถึงพระเนตรพระกรรณ ขณะท่ีเหล่า ขุนนางทั่วท้ังแผ่นดินจะประกอบพิธีกล่าวสัตย์ปฏิญาณด้วยความจงรักภักดีปี ละ ๒ ครง้ั บคุ คลครง่ึ หนง่ึ ในจ�ำนวนนนั้ กลบั กระทำ� การประหนง่ึ ทา้ ทายไมเ่ กรง กลวั ตอ่ คำ� สตั ยต์ า่ งๆ ทพี่ วกเขาไดป้ ฏญิ าณไว้ และสง่ิ หนง่ึ ในการกระทำ� เหลา่ นน้ั กค็ อื ความไมซ่ อื่ สตั ยท์ ย่ี งั ดำ� รงอยตู่ ลอดไป พวกเขาปลอ่ ยใหค้ วามละโมบ ความ เกียจคร้าน หรือการไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจเข้ามาครอบงำ� เป็นนายตน ท�ำให้พวก ชาวบา้ นผสู้ ภุ าพออ่ นโยนและไมม่ ปี ากมเี สยี งตอ้ งแบกรบั ภาระทง้ั หมดไวเ้ พราะ ว่ามนั เปน็ ธรรมเนยี ม และพวกเขากร็ ้ดู วี ่าพระเจ้าอยหู่ ัวจะไม่มีวันทรงทราบ นอกเหนอื จากเรอ่ื งเหลา่ นแี้ ลว้ กค็ อื เรอ่ื งของความแขง็ ขนั ในการงานและ ความสามารถทมี่ อี ยใู่ นหมสู่ ตรชี าวสยามอยา่ งเหน็ ไดช้ ดั ซงึ่ ทำ� ใหพ้ วกเธอกลาย เป็นกลุ่มคนท�ำงานและค้าขายของประเทศ แต่พวกเธอกลับต้องถูกจ�ำกัดเขต อยู่ในพระบรมมหาราชวังท่ามกลางบรรยากาศท่ีไม่เป็นธรรมชาติและไม่ถูก สขุ ลกั ษณะ เตม็ ไปดว้ ยเรือ่ งลบั ลมคมในและการซุบซบิ นนิ ทา ซ่งึ กอ่ ให้เกดิ ผล เลวร้ายต่าง ๆ เมื่อจะย่างก้าวเข้าไปในเขตพระราชฐานก็จะต้องไม่มีข้อสงสัย ใดๆ เปน็ เพราะค�ำตอ้ งหา้ มอมตะท่ีเรียกวา่ ธรรมเนยี ม เพียงคำ� เดียวเท่านนั้ เช่นท่ี Megaronides กล่าวไวอ้ ย่างตรงไปตรงมา วา่ : Amicum castigare ob meritam noxiam Inmoene est facinus , verum in aetate utile Et conducibile ; ๑ และค�ำวิพากษว์ ิจารณ์ของขา้ พเจ้าก็ดูจะสอดคลอ้ งกับคำ� กล่าวขา้ งตน้ ๑ ภาษากรกี โบราณ คัดลอกมาตามต้นฉบบั - สวป.
58 บทที่ ๒ ราชการทก่ี รงุ เทพฯ และจุดมุ่งหมายบางประการ ในการเกณฑแ์ รงงานจากไพร่ หนที้ าสแรงงาน ระบบการจองจำ� อนั ครำ�่ ครึ และระเบยี บแบบแผนทส่ี รา้ งความทกุ ขเ์ ขญ็ ใหม้ ากหรอื นอ้ ยกวา่ นลี้ ว้ นเปน็ ระบบ ท่ีตกทอดกันมาจากอดีตกาลท่ีท�ำให้สยามได้รับมรดกอันหนักอ้ึงไปด้วยภาระ นานาประการ แต่ระเบียบแบบแผนต่างๆ เหล่าน้ีมิใช่เร่ืองแปลกประหลาดเลวทราม ส�ำหรับชาวสยามรวมทั้งประเทศอ่ืนๆท่ีติดต่อกันอยู่ อย่างเช่นชนชาติศัตรูที่สู้ รบกันมาอย่างยาวนานต่างพากันคิดตลอดมาว่า ชาวสยามน้ันมีความช่ัวช้า เลวทรามมาแตก่ ำ� เนดิ และคงจะเปน็ รปู แบบทชี่ าวสยามสบื สนั ดานมาจากนสิ ยั แบบชาวตะวนั ออก ซงึ่ เปน็ ผลโดยตรงมาจากต�ำแหน่งทตี่ ัง้ ทางภูมิศาสตรแ์ ละ ประวัติศาสตร์ของสยาม แล้วก็เป็นรูปแบบปกติธรรมดาส�ำหรับชนชาติต่างๆ ท่ีแวดล้อมสยามอยู่โดยรอบ ทั้งยังเหมาะสมกับความจ�ำเป็นต่างๆ ในยุคสมัย นน้ั การที่สยามตอ้ งสรู้ บกับชนชาตศิ ตั รูเก่าแก่อยู่บอ่ ยครั้ง จนมผี ลต่อการปรบั เปล่ียนเส้นแบ่งเขตแดน ตลอดจนเร่ืองการรุกรานผู้อ่ืนและการท่ีต้องถูกผู้อ่ืน รุกรานจนส่งผลให้ต้องมีการสร้างบ้านสร้างเมืองเรื่อยมา จึงท�ำให้ชาวสยามมี ทงั้ กระบวนความคดิ และธรรมเนยี มทท่ี ง้ั ดแี ละรา้ ย ซงึ่ กเ็ ปน็ เรอ่ื งสามญั ธรรมดา สำ� หรบั ชนชาติต่างๆ ในอินโดจีนทม่ี ีลกั ษณะเหมือนกันเสยี เปน็ ส่วนใหญ่ สยามต้องเหน่ือยล้าในการสู้รบปรบมือกับความชั่วร้ายภายในหมู่ชาว ตะวนั ออกแตเ่ พยี งลำ� พงั และดว้ ยเหตผุ ลนส้ี ยามจงึ ไมไ่ ดร้ บั ความเหน็ อกเหน็ ใจ และการยอมรับนับถอื แม้แตน่ ้อย ใน พ.ศ. ๒๔๓๕ (ค.ศ.๑๘๙๒) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกลา้ ฯ แตง่ ตั้งเสนาบดีเพ่มิ เติมจากสภาทีป่ รกึ ษาราชการแผน่ ดินทีม่ ี อยเู่ ดิม (Council of State) ขึ้นเป็นสภาเสนาบดจี ำ� นวน ๑๒ ตำ� แหนง่ ส่วน ใหญ่ไดร้ ับพระกรุณาฯ แตง่ ตง้ั ให้เป็นเจ้ากระทรวงตา่ งๆ ซงึ่ ในจ�ำนวนมากกว่า ครง่ึ นน้ั ประกอบดว้ ยสมเดจ็ พระเจา้ พย่ี าเธอและสมเดจ็ พระเจา้ นอ้ งยาเธอหลาย พระองค์ รวมท้ังเหลา่ ขนุ นางระดบั สูงอีกจำ� นวนหนง่ึ หลายหน่วยงานท่ีนบั ว่า
หา้ ปใี นสยาม เล่ม ๑ 59 มคี วามสำ� คญั กวา่ กระทรวงอน่ื ๆ ไดแ้ ก่ กระทรวงตา่ งประเทศ กระทรวงกลาโหม กระทรวงยทุ ธนาธกิ าร กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรพาณชิ การ กระทรวง ยุติธรรม (สวรรค์ช่วยปกป้องสัญลักษณ์น้ีด้วย!)๑ กระทรวงธรรมการและ กระทรวงพระคลงั การบรหิ ารสว่ นราชการภายในประเทศจะแยกความรบั ผดิ ชอบออกเปน็ ๒ สว่ น สว่ นหนง่ึ ปกครองฝา่ ยเหนอื และอกี ส่วนปกครองฝ่ายใต้ ดว้ ยเหตนุ ีจ้ งึ ท�ำใหค้ าดการณไ์ ดว้ ่านา่ จะกอ่ ให้เกิดความสับสนยงุ่ ยากและลา่ ชา้ มากมาย เปน็ เวลาหลายปมี าแลว้ ท่ีกระทรวงต่างประเทศบริหารงานโดยพระเจา้ น้องยาเธอกรมหลวงเทวะวงศ์วโรปการ๒ ผู้ทรงพระปรีชาสามารถและทรงเป็น ทไ่ี วว้ างพระราชหฤทยั ของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั สว่ นงานบรหิ ารราชการ แผ่นดินซึ่งส่วนใหญ่ให้ความเชื่อถือในตัวพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหม่ืน ดำ� รงราชานุภาพน้ัน ไดม้ าจากทีป่ รกึ ษาผมู้ ากดว้ ยประสบการณ์จากยโุ รปชาว เบลเยีย่ มช่ือนายโรลังค์ ยกั มินส์ (Rolin Jacquemyns) ทไ่ี ดเ้ ข้ามาท�ำงานใน เมอื งไทย นายโรลงั ค์ เปน็ นกั กฎหมายระดบั ชาตทิ เี่ คยไดร้ บั การวา่ จา้ งจากลอรด์ โครเมอร์ (Lord Cromer) ใหท้ �ำงานในประเทศอยี ปิ ตก์ อ่ นทจ่ี ะมาเมอื งไทย นบั เป็นความเคลื่อนไหวคร้ังยิ่งใหญ่ที่มีผลต่อความคิดเห็นทางการทูตแบบเก่า การมที ปี่ รกึ ษาเชน่ นแ้ี มว้ า่ ขอ้ เสนอแนะบางประการอาจมขี อ้ ผดิ พลาด แตอ่ ยา่ ง นอ้ ยทส่ี ดุ กเ็ ชอ่ื ไดว้ า่ จะไมม่ กี ารปลนิ้ ปลอ้ นตลบแตลงเชน่ ทเ่ี คยหลอกลวงในแบบ วิธีการเก่าๆ การยึดม่ันถือม่ันในค�ำสัญญาและกฎเกณฑ์แห่งเกียรติยศอย่าง เคร่งครัดน้นั เปน็ แนวทางท่คี วรปฏิบัติใหแ้ พรห่ ลายออกไป ๑ ต้นฉบับใช้วา่ “Heaven save the mark!” หลังกระทรวงยุติธรรม (Justice) นา่ จะเปน็ ความตง้ั ใจของผู้เขียนท่จี ะล้อเลียน การเมืองและการปกครองของสยามในสมัยนัน้ - สวป. ๒ ทรงมีพระนามเดมิ วา่ พระองค์เจา้ ชายเทวญั อไุ ทยวงศ์ เลอ่ื นเป็นกรมหลวงฯ เมือ่ พ.ศ. ๒๔๒๙ ทรงเปน็ ราชเลขานุการ แลว้ เป็นเสนาบดกี ระทรวงการตา่ งประเทศ ภายหลังทรงได้รับสถาปนาฐานนั ดรสงู สุดเป็นสมเดจ็ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการฯ สิ้นพระชนม์ในรัชกาลท่ี ๖ เมือ่ พ.ศ. ๒๔๖๖ เปน็ ต้นสกลุ เทวกุล - สวป.
60 บทท่ี ๒ ราชการทีก่ รุงเทพฯ และจุดมงุ่ หมายบางประการ ส�ำหรับกระทรวงกลาโหมและกระทรวงยุทธนาธิการ๓ กระทรวงหลังดู จะเป็นหน่วยงานที่แข็งแกร่งท่ีสุด แต่ท่ีน่าเสียใจยิ่งก็ด้วยเหตุที่มาจากนิสัย เกยี จครา้ นของชนในชาตมิ ใิ ชอ่ ยา่ งอน่ื รวมทงั้ การทไ่ี ดก้ �ำลงั พลมาจากการเกณฑ์ ทหารเสียเป็นส่วนมาก พอๆ กับการจ่ายเบ้ียหวัดอย่างน่าเอน็จอนาถและรูป ลกั ษณะงานราชการทเี่ ปน็ อยโู่ ดยทว่ั ๆ ไป ทำ� ให้ทหาร4 ถกู มองอยา่ งดถู กู เหยยี ด หยามไปทั่ว เด็กสาวๆ จะไม่ยอมพูดจากับเขา และคนท่ัวไปก็พากันหลบหลีก เขาจึงรู้สึกเหมอื นเป็นผูถ้ กู ทอดท้ิง ซึ่งสง่ ผลใหเ้ ขาประพฤตติ ัวเลวทรามทกุ ครั้ง เมื่อมโี อกาส ส�ำนึกของประชาชนทางด้านการทหารนั้นดูราวจะสูญส้ินไปหมดแล้ว พวกผู้ชายและครอบครัวมักจะพอใจที่จะเผชิญหน้ากับงานต่างๆ มากกว่ามุ่ง หวังจะเข้ารับราชการ ท้ังน้ีเพ่ือตัวของพวกเขาเองและเพ่ือบรรดาญาติพ่ีน้อง คงเป็นเร่ืองสิ้นหวังที่จะเสริมสร้างฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจของพวกเขา พวกผู้ชายนั้นยินยอมโดยดุษฎีท่ีจะเข้าฝึกท�ำงานแบบพวกกุลี ฉาบฝาผนังปูน ขาวหรอื ไมก่ ไ็ ปเขา้ รว่ มเดนิ อยใู่ นขบวนแหต่ า่ ง ซง่ึ เปน็ การกระทำ� แบบทพ่ี วกเขา เองกร็ ังเกยี จมันมาก ภายใต้สภาวการณ์เช่นน้ี แม้จะใช้อาวุธปืนที่มีทุกกระบอก ข้าราชการ ท้ังหมดและต�ำรับต�ำราฝึกฝนที่มีอยู่เหนือเส้นศูนย์สูตรน้ีทุกเล่มก็มิอาจสร้าง นกั สผู้ มู้ จี ติ วญิ ญาณของทหารหาญใหเ้ กดิ ขนึ้ มาได้ สภาพทเี่ ปน็ อยทู่ วั่ ไปในเวลา นตี้ อ้ งการการเปลยี่ นแปลงแบบถอนรากถอนโคนเปน็ อยา่ งย่งิ ความภาคภมู ใิ จ ในกองทัพน้ันข้ึนอยู่กับการท่ีต้องริเริ่มให้ทหารได้ใส่เคร่ืองแบบอันสง่างามกัน อยา่ งถว้ นหนา้ มรี ายไดป้ ระจำ� และไดก้ นิ อาหารดๆี ชาวสยามนนั้ กลา้ หาญพอที่ จะเผชญิ หนา้ กบั ภยนั ตรายทางธรรมชาตทิ ม่ี แี ละไมย่ อมทจ่ี ะโยกยา้ ยหนไี ปไหน จนกวา่ วนั ตาย หากทา่ นปฏบิ ตั ติ อ่ พวกเขาดว้ ยจติ ใจอนั กวา้ งขวางและมนั่ คงใน ๓ ในขณะนนั้ กระทรวงกลาโหมเปน็ กระทรวงราชการทหารตามตำ� ราโบราณ มหี นา้ ทใี่ นการบงั คบั บญั ชาหวั เมอื ง สว่ นกระทรวง ยุทธนาธกิ ารจะดูแลดา้ นการทหาร ท้ังทหารบกและทหารเรือ – สวป. 4 เปน็ คำ�ที่ใชเ้ รยี กชายฉกรรจ์ทีส่ มัครเข้าเป็นทหารทง้ั กองทัพบกและกองทพั เรอื – ตน้ ฉบับ
หา้ ปีในสยาม เลม่ ๑ 61 วิถีทางท่ีพวกเขาเข้าใจได้ เขาก็จะเจริญรอยตามท่านไม่ว่าจะในเร่ืองใดก็ตาม อยา่ งนอ้ ยทสี่ ดุ นกี่ ค็ อื ขอ้ คดิ เหน็ จากหลายๆ คนทเ่ี คยปฏบิ ตั งิ านรว่ มกบั พวกเขา ให้ดที ี่สุด ซงึ่ คงจะไม่เลวนกั ถ้าเราจะใชป้ ัจจยั ดงั กล่าวน้นั ต่อไป ในกองทพั บกซง่ึ ประกอบดว้ ยโครงสรา้ งกองทหารตา่ ง ๆ ทมี่ ชี อื่ เรยี กยาว เหยยี ดนน้ั มกี ระบวนการฝกึ หดั ตามแบบยโุ รปทค่ี งจะไมไ่ ดน้ ำ� มาใชใ้ นทางปฏบิ ตั ิ จะยกเว้นเพียงกรณีเดียวของข้าราชการเชื้อสายเดนมาร์กผู้มุงานหนักคนหนึ่ง เขาเปน็ ผมู้ คี วามกลา้ หาญแบบชาวเดนมารก์ มนี ำ�้ เสยี งทห่ี า้ วหาญและมรี า่ งกาย ที่ก�ำย�ำแข็งแรง เขาคือผู้ท่ีได้ท�ำการฝึกฝนชายฉกรรจ์ทั้งหมดมาเป็นเวลานาน แลว้ กรมทหารม้ายานเกราะมีอยู่ด้วยกัน ๓ กรมและมีม้าท้ังหมด ๑๒ ตัว ซงึ่ เปน็ มา้ พยศนสิ ยั เลวทไ่ี ดร้ บั การฝกึ มาแลว้ จากออสเตรเลยี และมลี กู มา้ ทแ่ี จม่ ใส ร่าเริงของสยามสูง ๑๑ ฝ่ามือคร่ึง๑ อยู่ ๒ ตัว เหล่าทหารปืนใหญ่ ๒ กรม พร้อมอาวุธปืนสนามขนาด ๗ ปอนด์จ�ำนวนเล็กน้อย รวมทั้งเหล่าทหารราบ ๘ กรม ซึ่งในจ�ำนวน ๔ กรมน้ัน ได้รับการระบุไว้ในเอกสารว่าประกอบด้วย ทหาร ๒ กองพัน สว่ นกองทัพเรอื น้นั เปน็ ไปในทางกลับกัน แมว้ า่ จะต้องตอ่ สกู้ บั การขาด ขวญั และกำ� ลงั ใจดงั ทข่ี า้ พเจา้ ไดเ้ คยกลา่ วถงึ แลว้ อกี ทงั้ ตอ้ งตอ่ สใู้ หส้ มกบั บทบาท ในฐานะสถาบนั ทเี่ ป็นความหวงั ของคนทัว่ ไปวา่ จะประสบความสำ� เร็จ แต่ดว้ ย พละก�ำลังและบุคลิกภาพอันกร้าวแกร่งของชาวเดนมาร์กอีกผู้หน่ึง ได้แก่ผู้ บังคับการเรือชื่อริชเชอร์ลิว๒ (Richelieu) ท�ำให้กองทัพเรือมีความแข็งแกร่ง และมีประสิทธภิ าพอยา่ งที่ไมเ่ คยเปน็ ในสยามมาก่อน นบั เปน็ งานทห่ี นกั หนว่ ง ยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นภูเขา บวกกับความอิจฉาริษยาของผู้ทรงอิทธิพลชาวสยาม หลายคนทม่ี ตี อ่ ความสำ� เรจ็ ของชาวตา่ งประเทศดว้ ยแลว้ กย็ งิ่ ทำ� ใหง้ านนนั้ ยาก ๑ ฝา่ มอื = ๔ นว้ิ ฟุต – สวป. ๒ พระยาชลยุทธโยธนิ หรือ Capt. Richelieu (Andre du Plesis de Richelieu) เป็นชาวเดนมารก์ ทเ่ี ข้ารับราชการใน ประเทศไทยเม่ือ พ.ศ. ๒๓๙๘ ภายหลังไดร้ บั การแตง่ ต้งั เป็นผู้บัญชาการกระทรวงทหารเรือใน พ.ศ. ๒๔๔๓ - สวป.
62 บทที่ ๒ ราชการทีก่ รงุ เทพฯ และจดุ มุ่งหมายบางประการ ขนึ้ ไปอกี แตแ่ มว้ า่ จะมเี พยี งตวั เรอื เกา่ ผพุ งั เครอ่ื งยนตช์ ำ� รดุ และวสั ดอุ ปุ กรณช์ นั้ เลว แตท่ า่ นผบู้ ญั ชาการเรอื และนายทหารเรอื ชาวเดนมารก์ ของเขากย็ งั สามารถ สร้างสรรค์กองทัพที่แข็งแกร่งเป็นท่ีน่าชมเชยอย่างแท้จริง เป็นประสิทธิผลที่ เห็นได้ว่ามีความคืบหน้าไปทุกๆ ปี กองพันเรือตามเขตชายแดนก็สามารถ รกั ษาดนิ แดน ของตนไวไ้ ด้ และสามารถกา้ วเดนิ ไดเ้ ทา่ ทนั ความถกู ตอ้ ง ซงึ่ ทำ� ให้ ได้รับค�ำสรรเสริญจากนาวิกโยธินอังกฤษทุกคนท่ีได้พบเห็น นับเป็นกองทัพที่ นา่ ภาคภมู ใิ จไมน่ อ้ ยไปกวา่ กองทพั ใดๆ ในโลกหากวดั กนั ทรี่ ะยะเวลาการฝกึ ฝน เพียงส้ันๆ ทพ่ี วกเขาไดร้ ับ เรอื ใบทพี่ านกั เรยี นนายรอ้ ยออกสอู่ า่ วในบางเดอื นเพอื่ ทำ� การฝกึ ประจำ� ปี นน้ั เปน็ ภาพทม่ี องแลว้ สดชนื่ รน่ื รมยท์ ส่ี ดุ ในประเทศ เปน็ ทส่ี ดุ ของความใสสะอาด สง่างาม และผลสำ� เรจ็ ทรี่ ฐั บาลสามารถภาคภูมิใจกบั มันได้ แสดงใหเ้ หน็ วา่ การ ฝกึ ฝนทเี่ หมาะสมกบั ชาวสยามนนั้ เปน็ เชน่ ไร แตก่ ระนน้ั กองทพั เรอื กย็ งั ถกู ความ ชวั่ รา้ ยของระบบราชการสยามเข้าไปแทรกแซงอย่เู สมอ เม่ือท่านผู้บัญชาการเรือไม่อยู่ สถานีตรวจการบริเวณชายฝั่งก็ยังคงท�ำ หน้าที่ต่อไป และในทุกคร้งั ทเ่ี ขากลบั มากม็ กั จะไดร้ บั ฟงั และรับมอื กับเร่อื งราว รอ้ งทกุ ขน์ บั รอ้ ย ๆ เรอ่ื งจากเจา้ หนา้ ทซี่ ง่ึ ถกู ขา้ ราชการทอ้ งถนิ่ กระทำ� การอยา่ ง ไร้เหตุผลหรือถูกลงโทษอย่างไม่เป็นธรรม หลังจากต่อสู้ดิ้นรนมาหลายปีมีอยู่ เพียงส่ิงเดียวที่เขาสามารถท�ำให้มันเป็นจริง น่ันก็คือการท่ีเขาให้ข้าราชการ ระดบั สงู ยอมจา่ ยคา่ ตอบแทนใหเ้ จา้ หนา้ ทบี่ า้ ง อยา่ งทใี่ นบางหนว่ ยงานอนื่ กย็ งั คงใช้วธิ กี ารนี้หรอื วธิ อี ่นื ๆ บา้ งเปน็ บางคร้งั พวกผู้ชายท่ีเกณฑ์มารับราชการในกองทัพเรือน้ี ส่วนมากมาจากชาว มอญหรือพะโคชนชาติที่แข็งแกร่งสง่างาม พวกเขาซึ่งดูคล้ายชาวสยามอย่าง มากน้ีเป็นพวกเหลือรอดมาจากสงครามในสมัยก่อน โดยแยกตัวออกมาเป็น ชุมชนอยู่ทางบริเวณลุ่มแม่น�้ำทางตอนเหนือและทางตะวันตกเฉียงเหนือของ กรงุ เทพฯ พวกเขารักษาไวซ้ ง่ึ ขนบธรรมเนยี มประเพณีของตนเอง เด็กชายจะ เขา้ ไปเลา่ เรียนเขียนอา่ นภาษามอญตามวัดวาอารามและไม่คอ่ ยจะรเู้ ร่อื งเกีย่ ว
หา้ ปีในสยาม เลม่ ๑ 63 กับสยามกันมากนัก มีการจัดให้เข้า เวร อยู่ ๕ ครั้ง หมายถึง การหยุดพัก ซ่งึ ก็คือระยะเวลา ๓ ใน ๑๒ เดอื น ทจี่ ะไดก้ ลบั มาอยบู่ ้าน พวกเด็กชายจะเปน็ ลกู หมู่ หรืออีกนัยก็คอื ลกู ของทหาร ซ่งึ ถูกน�ำตัวไปต้งั แตย่ ังเลก็ มากและไดร้ บั การฝกึ จนกระทง่ั อายุ ๑๘ หรือ ๒๐ แล้วมกั จะกลับมาอยา่ งสง่างามนา่ ชื่นชม ประชากรตามชายฝง่ั ทะเลทางตะวนั ออกของอา่ วนบั จากบางปลาสรอ้ ย ลงมาล้วนแตอ่ ยู่ภายใต้การดูแลของโรงหล่อ๑ ซึง่ เป็นชือ่ ทใี่ ช้เรียกกรมทหารเรือ เช่นเดียวกับประชาชนท่ีเป็นลูกหลานของชาวกัมพูชาหรือมลายู รวมไปถึง ชาวมอญบริเวณนน้ั ด้วย ความไมน่ ยิ มรบั ราชการในกองทพั ของประชาชนกอ่ นหนา้ ความพยายาม ของทา่ นผบู้ งั คบั การเรอื ดเู หมอื นคอ่ ยๆ ลดลงไปทลี ะเลก็ ทลี ะนอ้ ย แตถ่ งึ อยา่ งไร กย็ ังคงมีอยมู่ าก โดยเฉพาะอย่างยง่ิ บรเิ วณท่ีมีชาวสยามรบั หน้าท่เี ป็นผู้ดแู ล ท้ังกองทัพบกและกองทัพเรือต้องประสบความยากล�ำบากเช่นนี้เพราะ ขาดขา้ ราชการชาวยโุ รปมาทำ� งานดว้ ย นายทหารชาวสยามไมอ่ าจเขา้ ใจไดเ้ ลย วา่ พวกเขาจะดภู าคภมู มิ เี กยี รตไิ ดย้ งั ไง โดยไมต่ อ้ งทำ� เปน็ ยโสโอหงั ความมวี นิ ยั สร้างข้นึ มาได้โดยไม่จ�ำเป็นตอ้ งทารุณโหดรา้ ย และความเคารพนับถือในความ เป็นนายทหารน้ันต้องมาเป็นอันดับหน่ึง การนับถือตนเองเป็นท่ีสองโดยเป็น ลำ� ดับข้ันท่ีแตล่ ะคนตอ้ งไดร้ ับการฝึกฝน ยิ่งไปกว่านั้น โดยทว่ั ไปพวกขา้ ราชการชาวยุโรป มกั ไม่คอ่ ยไดร้ บั ความ ไว้วางใจอย่างทั่วถึง ท่ีส�ำคัญก็คือไม่เคยได้รับสิทธิให้ปฏิบัติการอย่างมีอิสระ ขา้ ราชการทหารชาวยโุ รปลว้ นตอ้ งพบกบั ความยากลำ� บากในเรอื่ งการขาดการ ยอมรบั นบั ถอื เชน่ เดยี วกบั ขา้ ราชการพลเรอื น เนอื่ งมาจากในอดตี นน้ั ชาวสยาม ตอ้ งการวทิ ยาการ ตา่ งๆ จากชาวยโุ รป จึงได้วา่ จ้างพวกเขามาทำ� งานและเรยี น รจู้ ากพวกเขา หากแตช่ าวสยามกย็ งั คงหยาบคายรา้ ยกาจตา่ งๆ นาๆ และระแวง สงสยั ทกุ คนทวี่ า่ จา้ งมาโดยตลอด เหตนุ จ้ี งึ นำ� ไปสรู่ ะบบในแบบทเ่ี กอื บทกุ คนที่ รบั ราชการจะพบวา่ ตวั เขาถูกจบั ตามองและถกู ขดั ขวาง โดยชาวสยามบางคน ๑ ตน้ ฉบับใชว้ า่ Rawng Law คือ โรงหล่อ ซง่ึ ในสมัยกอ่ นหมายถึงทวี่ า่ การกรมทหารเรอื ด้วยเชน่ กนั – สวป.
64 บทท่ี ๒ ราชการทีก่ รุงเทพฯ และจดุ มุ่งหมายบางประการ ซึง่ เป็นคนท่ีไดร้ บั มอบอ�ำนาจมาเกือบจะเท่ากนั และเป็นคนทโี่ ดยทว่ั ๆ ไปแล้ว มอี ทิ ธพิ ลอำ� นาจมากพอทจ่ี ะทำ� ตวั เปน็ อปุ สรรคตอ่ ความเคลอื่ นไหวของเขา หรอื ไมเ่ ขากจ็ ะพบวา่ ตวั เขาเองถกู ทอดทง้ิ ใหอ้ ยโู่ ดดเดย่ี วอยา่ งเขม้ งวด ไดร้ บั เงนิ เดอื น แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้ท�ำอะไรเลย งานท้ังหมดจะถูกส่งผ่านตามข้ันตอนไปยัง คนอื่น หรือไมอ่ ย่างน้ันขอ้ เสนอแนะหรือความคิดเหน็ ตา่ งๆ ท่ีเขาใหไ้ ปกจ็ ะถูก ปฏิบตั ิในทางตรงข้ามอยา่ งจงใจ การถกู บบี บงั คบั ใหเ้ ฉอ่ื ยชาและความไมพ่ งึ พอใจนลี้ ว้ นเปน็ สาเหตทุ ที่ ำ� ให้ เกดิ การสูญเสียหรอื ทำ� ใหค้ นดมี คี วามสามารถตอ้ งลาออกไปมากมาย และการ ลาออกด้วยสาเหตนุ ท้ี ำ� ใหก้ องทัพเรอื ต้องสูญเสยี คนดีๆ ไปเปน็ จำ� นวนมาก กระทรวงโยธาธิการมีงานหลักที่เก่ียวข้องกับการสร้างและการพัฒนา ถนนหรอื สะพานเฉพาะในเขตกรงุ เทพฯ ไมม่ กี ารสรา้ งงานเพอ่ื สาธารณประโยชน์ ทบี่ รเิ วณรอบนอกเมอื งหลวงอยา่ งชนดิ ทเ่ี รยี กไดว้ า่ ปราศจากการเหลยี วแล เปน็ มูลเหตุส�ำคัญท่ีท�ำให้เกิดเร่ืองราวร้องทุกข์ของเจ้าเมืองต่างๆ ในกรณีท่ีเงินซ่ึง พวกเขาอทุ ศิ ใหใ้ ชใ้ นการพฒั นากจิ การคมนาคมในจงั หวดั ของเขานน้ั ตอ้ งมาจม หายอยใู่ นกรงุ เทพฯ เสียหมด กรมรถไฟเป็นอีกหน่วยงานหน่ึงที่ได้ต้ังขึ้น มีวิศวกรผู้มีผลงานโดดเด่น ซึ่งเป็นตัวแทนของ Krupp๑ โดยตรงเป็นหัวหน้างาน ถือเป็นหน่วยงานท่ีมี พนักงานมากท่สี ุดและใชจ้ า่ ยฟุ่มเฟอื ยมากกวา่ หน่วยงานใดๆ ของรัฐบาล หลงั จากปฏบิ ัติงานไปได้ ๘ ปี กส็ ามารถกอ่ สรา้ งรถไฟไดย้ าว ๑๔๕ กโิ ลเมตร๒ กรมไปรษณยี แ์ ละโทรเลขกต็ งั้ ขน้ึ ภายใตก้ ารดแู ลของกระทรวงโยธาธกิ าร ดว้ ยเชน่ กนั กรมไปรษณยี น์ นั้ อยภู่ ายใตก้ ารบรหิ ารงานทมี่ ปี ระสทิ ธภิ าพของชาว เยอรมนั ๒ คน ซึ่งนับเปน็ แบบอย่างของผูม้ คี วามสามารถ การทีจ่ ะขยายตวั ไป ทั่วทุกพื้นท่ีของประเทศนั้นต้องต่อสู้กับความทุรกันดารของสภาพภูมิประเทศ อย่างใหญ่หลวง อย่างไรก็ดีไปรษณียภัณฑ์ต่างก็ถูกล�ำเลียงไปโดยคนส่งข่าว เดินเท้าที่มักต้องเดินทางผ่านป่าดงอันรกชัฎ การเดินทางเป็นไปอย่างรวดเร็ว ๑ คือโรงงานทำ� เหล็กและอาวุธ Krupp (ครุพพ)์ ประเทศอังกฤษ - สวป. ๒ หมายถึงการรถไฟสายแรกของเมอื งไทย จากกรุงเทพฯ ถงึ จงั หวดั นครราชสีมา - สวป.
หา้ ปีในสยาม เลม่ ๑ 65 และไม่ค่อยเกิดการสูญหาย ข้าราชการไปรษณีย์ชาวสยามทุกคนจะสวมเส้ือ ประณีตเรียบร้อยและสวม ผ้านุ่ง๓ แม้ว่าจะอยู่ในเมืองหรืออยู่ในป่ามองดูสง่า งามและสุภาพเป็นอย่างย่ิง และท่ีข้าพเจ้าพูดไม่ถนัดนักก็คือมันเป็นเรื่องที่น่า พึงพอใจเปน็ อยา่ งย่งิ เหตกุ ารณ์ในอดีตทีผ่ า่ นมาของการโทรเลขมีทงั้ เรอ่ื งทที่ ำ� ส�ำเร็จและไม่ส�ำเร็จ เงินก้อนใหญ่ถูกใช้จ่ายไปคร้ังแล้วคร้ังเล่าในการซื้อวัสดุ อปุ กรณ์ ช�ำระหนส้ี ิน บรรจหุ ่อไปรษณยี ภัณฑ์และอ่ืนๆ แต่เน่อื งจากการขาด ชา่ งซอ่ มสายท่ีชำ� นาญงานการดแู ลเอาใจใส่ ความเสียหายท่เี กิดขนึ้ จากฝูงชา้ ง นำ้� ท่วมและพายุ ทำ� ให้สายโทรเลขท่มี ีอยเู่ พยี งไมก่ เี่ สน้ นนั้ ใชก้ ารไมไ่ ด้เป็นเวลา กว่าคร่งึ ปี สำ� หรบั กระทรวงยตุ ธิ รรมในขณะนกี้ แ็ ทบจะกลา่ วไมไ่ ดเ้ ลยวา่ ดขี นึ้ เพราะ ยังไม่เป็นท่ียอมรับกันว่ามีความยุติธรรมเที่ยงตรงอย่างหมดจดในการตัดสิน จ�ำคกุ โจทกจ์ ำ� เลย พยานรูเ้ หน็ เหตุการณ์ทุกปากที่จับมาได้ รวมท้ังเหล่ามารดา และภรรยาของพยานที่ไมไ่ ดถ้ ูกจับกุมมาก็มีสภาพทไี่ มแ่ ตกต่างกนั คอื พวกเขา ถกู ปลอ่ ยใหต้ อ้ งเผชญิ กบั ความทกุ ขย์ ากตา่ งๆ ในคกุ อยเู่ ปน็ ปๆี และถา้ หากพวก เขามชี วี ิตรอดจากอหวิ าตกโรค โรคบิดหรือโรคขาดอาหาร หรอื หากโชคดีโดย บังเอิญและหาหนทางได้ภายใน ๑๐ ปีเขาก็จะถูกปล่อยตัวออกมาด้วยความ กรณุ าของขนุ นาง ประชาชนจงึ ไมจ่ ำ� เปน็ ตอ้ งมเี หตผุ ลทจี่ ะไมช่ อบใหต้ นเองหรอื บรรดาญาตพิ ีน่ อ้ งต้องเขา้ ไปอยใู่ นคกุ รว่ ม ๑๐ ปี หรอื ตลอดชวี ติ ด้วยการเข้าไป เปน็ พยานรเู้ หน็ การลกั ขโมย แมว้ า่ มนั จะเปน็ ธรรมเนยี ม กต็ าม และแมด้ เู หมอื น จะเปน็ การเหน็ แกต่ วั พวกเขากย็ งั พากนั หนั หลงั และปฏเิ สธทจ่ี ะมองดหู รอื ชว่ ย เหลือผู้บรสิ ุทธ์ิ เหล่าขนุ นางควรจะจัดการเชน่ ไรดกี ับประชาชนท่ีมจี ติ สำ� นกึ ใน เรื่องความยตุ ิธรรมพกิ ลพิการอยา่ งทเี่ ป็นอยู่ โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ เมอื่ มันเข้ามาริ ดรอนหนทางแหง่ การดำ� เนนิ ชวี ติ ของพวกเขาอย่างจงใจเชน่ น้ี กระทรวงเกษตรพาณชิ การกม็ ไิ ดป้ ฏบิ ตั กิ ารอะไรใหส้ มชอ่ื กระทรวงมาก ไปกวา่ การเปน็ หนว่ ยงานจดั เกบ็ ภาษที ดี่ นิ เพอ่ื เรยี กเกบ็ ภาษที น่ี าและภาษอี น่ื ๆ ๓ แปลตน้ ฉบับใช้วา่ panung แตท่ จี่ รงิ น่าจะหมายถงึ โจงกระเบน - สวป.
66 บทท่ี ๒ ราชการที่กรงุ เทพฯ และจุดมงุ่ หมายบางประการ หน่วยงานหนึ่งภายใต้การควบคุมของกระทรวงนี้คือกรมส�ำรวจทางและ ท�ำแผนท่ี ซึ่งผลงานอันวิเศษนี้ก็เป็นเช่นเดียวกับงานของกองทัพเรือท่ีข้ึน อยกู่ บั คนเพยี งคนเดยี วคอื นายแมค็ คาธยี ์ (Mr.Mc Carthy) ซงึ่ แตเ่ ดมิ นนั้ ทำ� งาน อยใู่ นกองแผนทอี่ งั กฤษในประเทศอนิ เดยี และไดร้ บั เลอื กใหเ้ ปน็ เจา้ กรมสำ� รวจ ทางและทำ� แผนทห่ี ลายปมี าแลว้ ตลอดเวลาทผ่ี า่ นมาเขาไดส้ รา้ งผลงานทด่ี ที สี่ ดุ ในชีวิตของเขาโดยต้องต่อสู้ด้ินรนอย่างยากล�ำบาก ไม่เพียงแต่ต้องต่อสู้กับ อนั ตรายของไขป้ า่ ในภมู ภิ าคทเ่ี ปน็ ปา่ เขาหนาทบึ ทางแถบภาคเหนอื เทา่ นนั้ แต่ ยงั ตอ้ งตอ่ สกู้ บั ความยตุ ธิ รรม ความหลอกลวง บดิ เบอื น และการวพิ ากษว์ จิ ารณ์ อย่างไม่เป็นมิตรจากกองบัญชาการ หากด้วยความชว่ ยเหลอื ของบรรดาผู้ชว่ ย ชาวสยามที่เขาฝึกมาด้วยตนเองที่ได้ชว่ ยกันเชื่อมตอ่ รงั วัดโครงข่ายสามเหลย่ี ม ของสยามทเี่ ชอ่ื มตอ่ กบั โครงการสำ� รวจทอี่ นิ เดยี ๑ แลว้ จงึ สำ� รวจตอ่ เนอ่ื งผา่ นไป ยังตอนล่างของเมืองลาวสู่ตอนใต้ของสยาม หลังจากน้ันข้าพเจ้าพบว่าได้เกิด งานดี ๆ ขนึ้ มากมาย กลา่ วไดว้ า่ นบั เปน็ ชยั ชนะอนั กลา้ หาญสำ� หรบั คนทมี่ ไิ ดร้ บั การฝกึ ฝนมาอยา่ งนกั สำ� รวจทไ่ี ดฟ้ นั ฝา่ อปุ สรรคใหญห่ ลวงนานปั การเชน่ ทน่ี าย แมค็ คารธ์ ยี แ์ ละนายสไมล์ (Smiles) ผชู้ ว่ ยของเขาไดท้ ำ� ขน้ึ จนกระทง่ั ถงึ ทกุ วนั นี้ ในความคดิ เหน็ ของข้าพเจ้ามันเป็นการสรา้ งสรรคง์ านท่มี หี ลักเกณฑ์ ประณตี งดงามท่ีสุดช้ินหนึ่งทีเ่ คยท�ำมาหรอื คล้ายกับวา่ ไดเ้ คยทำ� มาแลว้ ในประเทศน้ี กรมเหมอื งแร่ (Department of Mines) เปน็ หนว่ ยงานทเี่ พงิ่ ตงั้ ขน้ึ มา ใหม่อยู่ภายใต้การควบคุมของกระทรวงเกษตรพาณิชการด้วยเช่นกัน มีนาย เดอ มลุ เลอร์ (Mr.de Muller) และตวั ขา้ พเจา้ เปน็ ผไู้ ดร้ บั เลอื กเขา้ มาทำ� งานได้ ๒ ปมี าแลว้ งานของเรานน้ั คอื การจดั ตง้ั สว่ นราชการใหมข่ องรฐั บาลเพอ่ื บรหิ าร งานดา้ นเหมอื งแร่ เปน็ การเรม่ิ ตน้ งานสำ� รวจลกั ษณะทางธรณวี ทิ ยาและจดั ทำ� ตน้ รา่ งของระเบยี บแบบแผนการควบคมุ งานดา้ นเหมอื งแร่ (พ.ร.บ.เหมอื งแร)่ จำ� นวนเหมอื งแรข่ นาดใหญซ่ งึ่ ไดร้ บั สมั ปทานทม่ี อี ยใู่ นขณะนมี้ อี ยปู่ ระมาณ ๑๒ เหมอื งหรอื ราวๆ นน้ั ครอบคลมุ พนื้ ทป่ี ระมาณ ๑๐๐ ตารางไมล์ เปน็ เหมอื ง ๑ เปน็ งานสำ� รวจทีเ่ ช่อื มต่อกบั งานของกองแผนที่องั กฤษฝา่ ยเหนอื ในอนิ เดยี ท่ีไดว้ างโครงขา่ ยสามเหลีย่ มจากประเทศอนิ เดยี และพม่าเขา้ มาถึงเขตแดนของไทย – สวป.
ห้าปีในสยาม เลม่ ๑ 67 แรท่ ่สี รา้ งความรสู้ กึ เหน่ือยหนา่ ยให้กับผู้เป็นเจ้าของดว้ ยเหตทุ ี่เหมืองส่วนใหญ่ ไม่มีการจ่ายเงินค่าเช่าและไม่มีการท�ำงาน ส่วนมากพวกเจ้าของเหมืองมักจะ เชื่อถือในกลุ่มบุคคลที่เป็นพวกล่าสัมปทาน ซ่ึงสิ่งเดียวที่คนกลุ่มน้ีขายก็คือ สมั ปทานทมี่ อี ยู่ โดยจะขายมนั ใหแ้ กบ่ รษิ ทั บางบรษิ ทั ทไ่ี มร่ ปู้ ระสปี ระสาในราคา สงู สดุ โดยเรว็ ทสี่ ดุ ในบางสถานการณผ์ ถู้ อื สมั ปทานเหลา่ นก้ี จ็ ะเปดิ เผยตวั ออก มา แตไ่ มเ่ คยมสี มั ปทานใดทเ่ี คยจา่ ยเงนิ ใหแ้ กห่ ลวงแมแ้ ตบ่ าทเดยี ว และผลผลติ ของเหมืองแร่ท่ีได้จากผู้ถือสัมปทานเหล่าน้ีมีค่าเป็นตัวเลขแล้วเท่ากับศูนย์ อย่าให้พูดเสียเลยจะดีกว่าว่าเงินจ�ำนวนเป็นล้านปอนด์ได้ถูกใช้ไปเพื่อบ�ำรุง รักษาและใชจ้ า่ ยเฉพาะในเหมอื งท้งั ๓ แห่งน้ีเทา่ นัน้ เพอ่ื ยตุ เิ รอื่ งราวอัปยศอ้ือฉาวนี้ นาย เดอ มุลเลอร์ ไดพ้ ยายามท�ำการ ทดลองปฏิบัติในรูปแบบท่ีมักจะประสบความส�ำเร็จเมื่อใช้กับประเทศใหม่อีก คร้ังด้วยวิธีท�ำให้เกิดการยอมรับในเรื่องการให้เอกสิทธ์ิในราคาต่�ำพร้อมด้วย สญั ญาเชา่ เหมอื งในระยะสนั้ ๆ ซง่ึ กอ่ นทจ่ี ะยอมรบั ในเรอ่ื งสญั ญาเชา่ ไดน้ น้ั แผนที่ และตัวอย่างแร่จะต้องถูกผลิตออกมาเป็นหลักฐานให้ปรากฏชัดและต้องเป็น เรอ่ื งทท่ี ำ� โดยบรสิ ทุ ธใิ์ จเพอ่ื ทร่ี ฐั บาลจะไดม้ โี อกาสยน่ื มอื เขา้ ไปมสี ว่ นในการเกง็ กำ� ไรไดบ้ า้ ง และถา้ เปน็ ไปเชน่ นไี้ ด้ สญั ญาในเรอื่ งการทำ� เหมอื งแรก่ จ็ ะไดร้ บั การ ควบคมุ นอกเหนือจากเร่ืองสัมปทานเหมืองแล้ว โรงงานผลิตดีบุกขนาดมหึมา ของสยามในสหพันธรฐั มลายูกต็ อ้ งการความช่วยเหลือดว้ ยเช่นกนั กระทรวงธรรมการนั้นอยู่ในความดูแลของสมเด็จฯ กรมพระยาด�ำรง ราชานภุ าพ๑ ผู้ทรงได้รำ่� เรยี นทางดา้ นวิชาการศึกษาจากยโุ รปมาก่อน เมื่อสมเด็จฯ กรมพระยาด�ำรงราชานุภาพเสด็จกลับจากยโุ รปมาพร้อม แนวคดิ อันนา่ ชนื่ ชมซึง่ เปน็ สิง่ แปลกใหมส่ ำ� หรบั ชาวสยาม การท่ที รงศึกษาทาง ดา้ นการศกึ ษามาทำ� ใหท้ รงไดร้ บั การแตง่ ตงั้ ใหด้ �ำรงตำ� แหนง่ เสนาบดฝี า่ ยเหนอื ๑ พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจา้ อยู่หัว ทรงพระนามเดมิ ว่า พระองคเ์ จา้ ชายดิศวรกมุ าร ทรงสถาปนาเป็น กรมหมน่ื ด�ำรงราชานุภาพเมื่อ พ.ศ. ๒๔๒๙ ในสมยั รัชกาลที่ ๕ ทรงได้รบั สถาปนาฐานันดรศกั ดสิ์ งู สุดเป็นสมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศ์เธอ กรมพระยาด�ำรงราชานุภาพฯ สนิ้ พระชนม์ในรชั กาลท่ี ๘ เม่ือ พ.ศ. ๒๔๘๖ พระชนั ษา ๘๑ ปี เป็นต้นสกุล ดศิ กุล – สวป.
68 บทที่ ๒ ราชการท่กี รุงเทพฯ และจดุ มุ่งหมายบางประการ ดังนัน้ กระทรวงธรรมการจึงไดอ้ ยู่ในความดูแลของเช้อื พระวงศท์ ที่ รงนา่ เคารพ นับถือทั้งยังทรงเป็นผู้มีการศึกษาสูงและมีความรู้ความสามารถอันกว้างขวาง เปน็ ทีร่ ูจ้ ักกันทัว่ ไปวา่ พระองคไ์ มท่ รงสนพระทัยกับเงินจ�ำนวนนบั พนั ๆ ปอนด์ ที่จะมอบให้พระองค์หากทรงยอมเข้ารับภาระงานเบาๆ ในต�ำแหน่งเจ้ากรม ศุลกากรแม้แต่น้อย ไม่รู้ว่ากระทรวงธรรมการจะต้องสูญเสียอะไรไปบ้าง หากเกิดการโยกย้ายนี้ ส่วนมณฑลฝ่ายเหนือพร้อมด้วยส่วนราชการภายใน (มหาดไทย) นนั้ คงเปน็ ฝา่ ยไดร้ บั ประโยชนเ์ พราะสมเดจ็ ฯ กรมพระยาดำ� รงราชา นุภาพทรงมีขีดความสามารถในการบริหารงานและการจัดวางต�ำแหน่งหน้าที่ ในการปฏบิ ตั งิ านซง่ึ มชี าวสยามคนอน่ื ๆ อกี เพยี งไมก่ คี่ นเทา่ นนั้ ทมี่ ศี กั ยภาพเทา่ เทยี มพระองค์เชน่ น้ี ส�ำหรับการศึกษาในชนบทก็ยังคงด�ำเนินต่อไปโดยการสอนของพระใน วดั หรอื ในศาสนสถานของพทุ ธศาสนาทก่ี ระจดั กระจายอยทู่ ว่ั ประเทศเชน่ เดยี ว กับในประเทศพม่า ผู้ปกครองจะส่งตัวเด็กชายวัย ๘ หรอื ๙ ขวบเขา้ มารับใช้ พระสงฆบ์ างรปู ซงึ่ อาจเปน็ ญาตพิ นี่ อ้ งหรอื เพอ่ื นพอ้ งของพวกเขา เมอ่ื กลบั จาก ภารกจิ ปรนนบิ ตั วิ ตั ถากพระสงฆแ์ ลว้ พวกเขาจะไดเ้ ลา่ เรยี นเขยี นอา่ นพยญั ชนะ ก ข ค เรียนรูห้ ลกั ธรรมของพระพทุ ธเจ้าและหลักธรรมตา่ งๆ ของศาสนาพทุ ธ ตามแต่ท่เี ขาจะจดจำ� ได้ จนกระทัง่ อายุ ๑๔ หรอื ๑๕ ขวบ พวกเขากจ็ ะออก จาก วัด หรอื ไมก่ อ็ ยตู่ ่อไปเรือ่ ยๆ วงิ่ เลน่ ฟตุ บอลตอนบา่ ยๆ หรือไมก่ ็พายเรอื ล�ำเลก็ ของสมภารเลน่ หากวา่ เขารู้สกึ ซาบซง้ึ ในรสพระธรรมยงิ่ แล้วเขากจ็ ะห่ม ผ้าเหลืองบวชเป็นสามเณร โดยไม่ลังเล โดยละจากทางโลกด้วยจิตใจฝักใฝ่ท่ี จะศกึ ษาพระธรรมใหล้ กึ ซึ้งย่ิงข้ึน น่าพิจารณาไม่น้อยว่าการศึกษาในแบบนี้จะเพียงพอหรือไม่ แล้วก็ไม่ แนใ่ จวา่ จะพฒั นาไปไดง้ ่ายๆ ผลของมนั ที่เหน็ อยชู่ ัดเจนก็คอื ทั้งพวกผ้ชู ายและ เด็กชายชาวสยามมักต้องใช้ความพากเพียรอย่างหนักแค่เพียงแต่จะอ่านและ เขยี นชอ่ื ของตวั เองหรอื เขยี นหนงั สอื เพยี งไมก่ ต่ี วั ในจดหมาย เขาไมม่ หี นงั สอื จะ อา่ น แตเ่ ขาจะพอจะรเู้ รอื่ งทคี่ วรทำ� และไมค่ วรทำ� อยไู่ มก่ เี่ รอ่ื ง เขาไดเ้ รยี นหลกั สตู ร ภาษาบาลี และเรอื่ งราวของปา่ ดงสงิ สาราสตั ว์ หากเขาอาศยั อยใู่ กล้ ๆ กรุงเทพฯ
หา้ ปใี นสยาม เล่ม ๑ 69 เขากจ็ ะไดย้ นิ เรอื่ งราวของประเทศโพน้ ทะเลนบั ตง้ั แตเ่ รอื่ งคนหนา้ ขาวผโู้ หดรา้ ย และขโี้ มโหไดเ้ ดนิ ทางมาถงึ ผซู้ งึ่ มกั จะรบี รอ้ นและสบถคำ� วา่ ฉบิ หาย (Goddam) อยูเ่ สมอ แม้ว่าจะถือก�ำเนิดมาพร้อมกับมีประสบการณ์ด้านภูมิศาสตร์ติดตัวมา บา้ ง แต่ความรขู้ องเขาที่มีก็ยังไม่เคยเกินไปกวา่ บริเวณถ่นิ ฐานท่อี ยแู่ ละบริเวณ หมบู่ า้ นของตนเองเลย ทใ่ี นเมอื งหลวงนน้ั ไดม้ กี ารตดั สนิ ใจทจี่ ะเพมิ่ การเรยี นการสอนทท่ี �ำอยใู่ น วดั ด้วยการจัดเป็นรูปแบบโรงเรียนให้ก้าวหนา้ กว่าเดมิ ครใู หญท่ ่มี อี ยหู่ ลายๆ คนลว้ นเปน็ ผูท้ ไี่ ด้รับการคัดเลือกมาจากอังกฤษโดยตรง การถวายการศึกษาให้บรรดาพระราชโอรสของพระเจ้าอยู่หัวท่ียังทรง พระเยาวซ์ งึ่ ยงั ทรงกลบั ทปี่ ระทบั เองไมไ่ ดน้ น้ั จะใชว้ ธิ ฝี ากฝงั ใหอ้ ยใู่ นความดแู ล ส่วนตัวของครูพิเศษหลายคนที่จบการศึกษามาจากมหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด ขณะเดยี วกันเม่อื เรว็ ๆ นีก้ ารศึกษาของพระราชธดิ าทีท่ รงเจรญิ พระชนั ษาแลว้ จะอยใู่ นความดแู ลของสภุ าพสตรที มี่ าจากเคมบรดิ จ์ และศกึ ษาตอ่ จนสำ� เรจ็ ใน ระดบั สงู ขน้ึ กบั สภุ าพสตรผี สู้ �ำเรจ็ การศกึ ษามาจากมหาวทิ ยาลยั ลอนดอน และ หากต้องการศึกษาในสถาบันช้ันสูงขึ้นอีกก็จะใช้วิธีส่งพระบรมวงศานุวงศ์ของ พระเจา้ อยหู่ วั และขนุ นางชน้ั สงู ไปศกึ ษาทปี่ ระเทศองั กฤษ ฝรง่ั เศสหรอื เดนมารก์ เป็นประจ�ำทุกปีเพ่ือเรียนภาษายุโรปและศึกษาวิชาเฉพาะด้านต่างๆ หนทาง เดยี วทีจ่ ะพสิ ูจนค์ วามสามารถเฉพาะตวั และบคุ ลิกลักษณะได้กค็ ือการทดสอบ โดยตัดสนิ ความส�ำเรจ็ จากผลท่ีไดร้ บั หลงั จากที่กลบั มาว่าจะเรยี กว่าอยใู่ นขน้ั ท่ี เรยี กวา่ ประสบความสำ� เรจ็ ไดห้ รอื ไม่ โดยเฉลยี่ เดก็ ชายทฉี่ ลาดปานกลางไมอ่ าจ นำ� เอาวชิ าความรมู้ าปรบั ใชเ้ มอื่ กลบั มาศกึ ษาดว้ ยตนเอง “ทบี่ า้ น” เชน่ เดยี วกบั ทเี่ มอื่ เขากลบั มาสตู่ ะวนั ออกแลว้ มกั จะเกดิ ความแตกตา่ งในเรอื่ งคา่ นยิ ม ประเพณี ของทโ่ี รงเรยี นหรอื การใชช้ วี ติ ทบ่ี า้ นในยโุ รปขนึ้ ทนั ที ในทส่ี ดุ กจ็ ะสง่ ผลใหอ้ ทิ ธพิ ล ต่างๆ ท่ีเขาไดร้ ับมาแทบจะลบเลือนไปหมดส้นิ สว่ นในกรณอี ่นื น้ันหากวา่ ชาย คนใดดจู ะมปี ระโยชนต์ อ่ ประเทศชาตอิ ยา่ งแทจ้ รงิ กม็ กั จะตอ้ งออกจากงานโดย ถกู กลน่ั แกลง้ จากศตั รขู อี้ จิ ฉาและเลน่ ไมซ่ อ่ื สว่ นมากจะถกู พพิ ากษาใหเ้ กษยี ณ
70 บทท่ี ๒ ราชการทกี่ รุงเทพฯ และจดุ มุง่ หมายบางประการ ตัวเองออกไปใช้ชีวิตอย่างเฉื่อยชาและเปล่าประโยชน์ หากการเสด็จประพาส ยุโรปของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไม่ก่อให้เกิดผลใดๆ ขึ้นมาแล้ว บางที การเสด็จประพาสเช่นนีก้ ็อาจจะไม่มขี นึ้ อกี ในอนาคต กอ่ นทสี่ มเดจ็ ฯ กรมพระยาดำ� รงราชานภุ าพจะทรงดำ� รงตำ� แหนง่ เสนาบดี ฝา่ ยเหนอื เมอ่ื พ.ศ.๒๔๓๕ จงั หวดั ทางตะวนั ตกเฉยี งใตข้ องแหลมมลายแู ละทาง ตะวนั ออกเฉยี งใตถ้ งึ ชายแดนกมั พชู าจะมเี สนาบดหี ลายคนแยกกนั ดแู ล นอกจาก สถานการณย์ งุ่ ยากโดยทว่ั ๆ ไปแลว้ ผลงานทเ่ี สนาบดเี หลา่ นนั้ ทำ� ขน้ึ นบั วา่ นอ้ ย มาก และยังทอดทิง้ ให้ข้าหลวงประจำ� ทอ้ งถนิ่ ทงั้ ทเ่ี ปน็ คนดแี ละเลวหรอื บางที ก็ดูโดดเดน่ กว่าคนก่อนตอ้ งดูแลตนเองกนั มากพอควร แต่เมอื่ เรว็ ๆ น้ี ไดม้ กี าร รวมใหท้ กุ จงั หวดั มาอยภู่ ายใตก้ ารดแู ลของเสนาบดกี ระทรวงมหาดไทยโดยชอบ ด้วยสิทธิอ�ำนาจ ซึ่งมีสมเด็จฯ กรมพระยาด�ำรงราชานุภาพเป็นผู้ดูแลท�ำให้มี พฒั นาการในการบรหิ ารงานเกิดขึน้ อยา่ งมากมายมหาศาล กรุงเทพฯ ไดถ้ ูกปกครองโดยเจา้ เมือง (หรอื นายกเทศมนตร)ี และกอง กำ� ลงั ตำ� รวจซง่ึ ไรค้ วามสามารถมานานแลว้ โดยอยภู่ ายใตก้ ารดแู ลของกระทรวง มธรุ าธร (Home Department) ซึง่ ประกอบด้วยเจ้าหน้าทที่ ไี่ ร้ประโยชนแ์ ละ ไม่เอาไหนที่สุด ทั้งยังแต่งตัวด้วยเครื่องแบบที่ดูน่าอัศจรรย์ใจคล้ายต�ำรวจใน ละครใบ้ สิ่งสำ� คัญที่พึงสงั เกตก็คอื กางเกงทคี่ บั ตงึ ขนาดของหมวกเหล็ก และ สีที่เหลือบจางลงจากสีน้�ำเงินซีดๆ สีเดิม นับเป็นตัวอย่างของความพยายาม อย่างผิดทิศผิดทางอันนา่ เศรา้ หลังจาก “ความเจริญ” เขา้ มาถงึ ชายทถี่ กู เสรมิ แตง่ อยา่ งทค่ี ดิ วา่ ประณตี ทส่ี ดุ ในโลกแลว้ กย็ งั มองดคู ลา้ ยหนุ่ ไลก่ า ในเครอื่ งแบบ อย่างน้ันไปได้ ขณะท่ีชาวสยามเองก็มิได้มีความคุ้นเคยกับกางเกงมาก่อน ผา้ นงุ่ อนั เปน็ เครอื่ งแตง่ กายประจำ� ชาตขิ องเขานบั เปน็ เครอ่ื งแตง่ กายทสี่ มเหตุ สมผลตอ่ การน�ำมาประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์ เชน่ นงุ่ แลว้ ท�ำใหร้ สู้ กึ เยน็ สบาย ในอากาศร้อน ท�ำให้แขนขาเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระยามออกก�ำลังกาย และ ถกขนึ้ ไดอ้ ยา่ งงา่ ยดายเมอื่ อยใู่ นโคลนและสายฝนทง้ั ผา้ โสรง่ ของชาวพมา่ โสรง่ แบบชาวมาเลยแ์ ละ ผา้ นุง่ ของชาวสยามลว้ นสามารถน�ำมาดัดแปลงได้ตามใจ
ห้าปีในสยาม เล่ม ๑ 71 ชอบแล้วแต่วัตถุประสงค์และความต้องการของพวกเขา แต่เม่ือเขาเปลี่ยนมา ใช้เสื้อผ้าแบบชาวยุโรป ผลก็คือท�ำให้พวกเขาขาดความเป็นตัวของตัวเอง ดเู หมอื นคนครง่ึ ชาตใิ นสายตาของผพู้ บเหน็ ซง่ึ นบั วา่ เปน็ อนั ตรายตอ่ เอกลกั ษณ์ ของทุกชาติ ท่ีย่ิงกว่าเร่ืองน้ีก็คือ ไม่มีคนหนุ่มชาวสยามรุ่นใหม่ที่ยึดม่ันใน ขนบธรรมเนียมคนใดในกรุงเทพฯ ท่ีจะยอมนุ่งกางเกง ดังน้ันเคร่ืองแบบของ ต�ำรวจดังกล่าวจึงนับเป็นหน่ึงในจ�ำนวนอุปสรรคส�ำคัญในการสร้างสรรค์เร่ือง เอกลักษณท์ างกายซง่ึ จำ� เปน็ ตอ้ งปรับปรุงเปน็ อย่างย่งิ ขา้ พเจา้ เชอื่ วา่ เรือ่ งการ เปลี่ยนเคร่ืองแบบที่มีผลบังคับใช้แล้วในตอนน้ีเป็นเรื่องที่ถูกจับตามองกันมา นานแลว้ วา่ เปน็ หนงึ่ ในเรอ่ื งทต่ี อ้ งปฏริ ปู เปน็ อนั ดบั แรกและตอ้ งใหเ้ กดิ ผลปฏบิ ตั ิ อย่างจริงจงั เพราะตัวตลกคงไมส่ ามารถรักษาระเบยี บวนิ ัยได้เปน็ แน่ พระราชวงั ทีก่ รงุ เทพฯ
72 บทที่ ๒ ราชการท่กี รุงเทพฯ และจุดมงุ่ หมายบางประการ บางค�ำถามแรกท่ีเจอเป็นประจ�ำเกี่ยวกับประเทศอย่างสยามมักจะเป็น เร่ืองวิธีการจัดเก็บและจ�ำนวนภาษีอากร5 เป็นเรื่องเหลือเชื่อที่ทุกสิ่งทุกอย่าง นับตั้งแต่การปักหลักจับปลาในอ่าวไปจนถึงผลหมากรากไม้ในป่าล้วนแต่ต้อง จา่ ยภาษโี ดยไมม่ จี ำ� นวนทแี่ นน่ อน จนกระทง่ั เมอ่ื เรว็ ๆ นชี้ าวยโุ รปหรอื แทท้ จี่ รงิ กค็ ือชาวสยามนนั่ องไดร้ บั รกู้ นั ท่ัวไปว่ามีการยกั ยอกและการรวั่ ไหลโดยคาดไม่ ถึงเกิดข้ึนเป็นจำ� นวนมากมายมหาศาลจากการสำ� รวจพบเข้าโดยบังเอญิ ทีส่ ดุ 5 ภาคผนวก ๖ – ต้นฉบับ
ห้าปีในสยาม เล่ม ๑ 73 บริเวณแม่นำ้� ท่กี รงุ เทพฯ บทท่ี ๓ บริเวณทีร่ าบลมุ่ แมน่ ำ้� เจ้าพระยา สพุ รรณ - บริเวณทร่ี าบลุม่ แม่นำ�้ - ล�ำคลองต่าง ๆ ท่ีตัดผ่านตัวเมืองและเมืองอยุธยา ----------------------------------- หลงั จากครง้ั ทไ่ี ดเ้ ดนิ ทางระยะสน้ั ๆ ไปยงั ตำ� บลโพธสิ์ ะอาดในจงั หวดั จนั ทบรู ณ์เม่อื ตอนตน้ ฤดฝู นของปี พ.ศ. ๒๔๓๕ คร้งั ต่อมาคอื การเดินทางในเดือน สงิ หาคมไปยงั ทศิ ตะวนั ตกเฉยี งเหนอื สตู่ �ำบลทตี่ งั้ อยรู่ ะหวา่ งจงั หวดั สพุ รรณบรุ ี และกาญจนบรุ ี ข้าพเจา้ มีสุภาพบุรษุ ชาวสยามผู้หนึง่ ท�ำหนา้ ที่เป็นลา่ มให้ เขา สามารถพูดภาษาฝรัง่ เศสและเคยเรยี นวชิ าโลหวิทยามาจากปารีสเลก็ น้อย เรา มผี ชู้ ว่ ยนกั สำ� รวจคนหนง่ึ และคนเรอื ๖ คนตดิ ตามมาดว้ ย พวกเราทำ� หนา้ ทเ่ี ปน็ คณะส�ำรวจหาแหล่งแร่ของรัฐบาล ซึ่งถูกส่งมาบันทึกเรื่องราวเก่ียวกับเหมือง ทับทิมและมีหน้าที่ปฏิบัติตามค�ำสั่งนั้นโดยใช้เวลานับเป็นปีๆ รัฐบาลจะเก็บ เรอื่ งราวเกย่ี วกบั การสำ� รวจนไี้ วเ้ ปน็ ความลบั โดยทไี่ มม่ ผี ใู้ ดลว่ งรไู้ ดอ้ ยา่ งชดั แจง้
74 บทท่ี ๓ บรเิ วณท่ีราบล่มุ แมน่ ำ้� เจา้ พระยา จากแมน่ ำ�้ เจา้ พระยาเรอื ของพวกเราแลน่ เขา้ สลู่ ำ� นำ�้ สายสำ� คญั ทไี่ หลตดั ผ่านเมือง โดยมที ศิ ทางการไหลจากทิศใต้สตู่ ะวันตกไปยงั แม่น้�ำท่าจนี ซง่ึ เปน็ แมน่ ำ้� สายหนง่ึ ทแ่ี ยกมาจากแมน่ ำ�้ เจา้ พระยาบรเิ วณตอนเหนอื ของจงั หวดั ชยั นาท และไหลผ่านต�ำบลย่านชาวจีนที่เคยอุดมสมบูรณ์ในยุคก่อน เป็นต�ำบลผลิต น้�ำตาลของอ�ำเภอนครชัยศรีแล้วไหลลงสู่ทะเลทางตะวันตกเป็นระยะทาง ๒๕ ไมล์ ท่บี รเิ วณสถานจี ับปลาท่ีใหญ่ทสี่ ดุ ของแมน่ ำ้� ท่าจีน ในเวลานำ�้ เกดิ เราจะไดส้ มั ผสั กบั ตน้ กกตน้ ออ้ ทลี่ อยอยเู่ นบิ ๆ ตามบรเิ วณ ที่กระแสน�้ำท่วมถึง เข้าจังหวะกับกระแสน้�ำท่ีไหลลงไปทางตะวันตกพอดี นา่ ตำ� หนใิ นการไมม่ องการณไ์ กลของรฐั บาลทป่ี ลอ่ ยใหล้ ำ� นำ้� สายนแ้ี ละคลองดๆี อีกหลายๆ แห่งที่เป็นเสมือนเส้นทางคมนาคมของประเทศต้องตื้นเขินมากย่ิง ขึ้นทุกปี พวกเรือเล็กที่พลาดกระแสน้�ำต้องติดหนึบอยู่ในโคลนจนกว่ากระแส น้�ำท่วมสูงคร้ังใหม่จะพัดพาน�้ำมามากพอท่ีจะท�ำให้เขาหลุดจากโคลนไปได้ ซงึ่ ในเดอื นหนง่ึ กระแสนำ�้ ทว่ มสงู เชน่ น้ี กจ็ ะมแี คค่ รงั้ เดยี วในระยะเวลาเพยี ง ๒๔ ช่ัวโมง1 พวกกลุ่มโจรดากัว๑ พร้อมอาวุธมักจะมาดักรออยู่ตรงจุดน้ันเสมอ และจะลงมอื จโู่ จมบรรดาเรอื ทล่ี อยตดิ อยรู่ ะหวา่ งฝง่ั ซง่ึ ชว่ ยเหลอื ตวั เองไมไ่ ดน้ นั้ ในตอนกลางคืน ส่วนในหน้าแล้งก่อนท่ีจะมีฝนตกลงมาท�ำให้ระดับน้�ำสูงข้ึน เรือของพวกชาวบา้ นท่ีบรรทกุ หนกั จนเพียบแปลก้ ม็ ักจะได้รบั ความกรุณาจาก สภาพธรรมชาตเิ ลวรา้ ยนจ้ี นตอ้ งมาลอยลำ� ตดิ อยใู่ นคลองตา่ งๆ รว่ มกนั เปน็ เวลา หลายๆ วนั เมื่อ คลอง ได้รับการขุดลอกและท�ำความสะอาดอย่างดีแล้ว สยามก็ คงจะพออวดอ้างได้ว่าล�ำคลองเหล่านั้นเป็นเส้นทางคมนาคมท่ีดีเลิศเช่นเดียว กับทฮ่ี อลแลนด์แตก่ ว่าจะเป็นเชน่ นัน้ ได้ ชาวสยามจะตอ้ งแลกมาดว้ ยเวลาและ แรงงานจ�ำนวนมหาศาลที่ใช้อย่างเหมาะสมโดยคนยุคใหม่ท่ีมีสายตากว้างไกล มากกวา่ เดมิ รายจา่ ยเพยี งนอ้ ยนดิ ทสี่ ญู เสยี ไปจะทำ� ใหม้ ัน่ ใจไดว้ า่ สามารถเปิด ลำ� คลองใหเ้ รอื แลน่ มาไดต้ ลอดทงั้ ปโี ดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ในกรณที มี่ ที างเกวยี นอยู่ 1 ภาคผนวก ๑ - ตน้ ฉบับ ๑ ต้นฉบับภาษาอังกฤษใช้ dacoit gangs คอื ชอ่ื เรยี กกลมุ่ โจรทช่ี อบก่ออาชญากรรมซง่ึ พบบ่อยๆ ในอนิ เดียและพม่า เปน็ กลมุ่ โจรเร่ร่อนท่ีกระท�ำท้งั การโจรกรรมและฆาตกรรม –สวป.
ห้าปีในสยาม เลม่ ๑ 75 เพยี งไมก่ ส่ี ายในพน้ื ทซ่ี งึ่ ไมม่ กี ารขนสง่ ทางน้�ำ ตามความเหน็ ของขา้ พเจา้ มนั นา่ จะเปน็ การสรา้ งประโยชนใ์ หแ้ กป่ ระเทศชาตไิ ดม้ ากกวา่ โครงการสรา้ งทางรถไฟ ทไี่ ม่เคยน�ำไปสคู่ วามสำ� เร็จตามเปา้ หมาย มีการกล่าวกันมากถึงเร่ืองทางรถไฟไปเพชรบุรีซ่ึงอยู่ทางตอนใต้ของ จังหวัดราชบุรี ชาวสยามนั้นจะมีนิสัยเหมือนชาวพม่าตรงท่ีชอบเดินทางท่อง เท่ียวโดยทางรถไฟมาก แต่กอ็ ดสงสยั ไม่ไดจ้ รงิ ๆ วา่ พวกเขาสามารถหาหนทาง อน่ื ทดี่ กี วา่ ในการเดนิ ทางมากรงุ เทพฯ เมอื งอนั ยง่ิ ใหญง่ ดงามและแสนจะรา้ ยกาจ โดยใช้เวลาเพียงแค่ ๓ ช่ัวโมงแทนทจี่ ะเปน็ ๓ วันไดห้ รือไม่ เขาอาจจะมาได้ บ่อยคร้ังข้ึน หรือบางทีเขาก็อาจจะเล่นการพนันได้มากขึ้น เขาอาจจะพบว่า ความเมามายมิใช่เรื่องน่าอดสูและเขาก็จะเรียนรู้ในการลักขโมยหรือหักหลัง เพือ่ นของตนเองโดยแทบจะไม่รูส้ ึกเดอื ดเนื้อร้อนใจ มันจะกลายเปน็ เร่อื งใหญ่ ส�ำหรับเจ้าของร้านค้า ผู้ปลูกฝิ่นและบ่อนพนัน ซึ่งพวกน้ีจะเป็นพวกได้รับผล ประโยชน์เรื่องภาษีโดยทางอ้อม อีกท้ังช่วยผลักดันให้ความเป็นวัตถุนิยมเข้า บ่อนท�ำลายบุคลิกลักษณะแบบชาวบ้านท่ีพวกสยามเป็นอยู่ แต่หากจะพูดถึง พฒั นาการของประเทศในลกั ษณะอนื่ แลว้ ตามความคดิ ของขา้ พเจา้ มนั คอื ความ หน้าไหว้หลังหลอก เม่ือดูท่ีการคมนาคมทางน�้ำของพวกเขาและล�ำคลอง ๒ สายท่ีตัดผ่านพื้นท่ีซ่ึงเชื่อมต่อกันจะเห็นว่าการขนส่งทางน�้ำเป็นวิธีที่ถูกท่ีสุด และงา่ ยทส่ี ดุ ในการขนสง่ ผลผลติ ทงั้ หมดของจงั หวดั ทางตะวนั ตกไดแ้ ก่ กาญจนบรุ ี ราชบุรี และเพชรบุรี ชาวสยามจะต้องวิตกกังวลอะไรกันในการแบ่งสายและ เพม่ิ ทางรถไฟส�ำหรบั ขบวนรถบรรทกุ สินคา้ ทจ่ี ังหวัดเพชรบรุ ีหรอื ราชบรุ ี เพอื่ ทีจ่ ะไปขนถา่ ยสัมภาระลงอีกคร้งั ทก่ี รุงเทพฯ ก่อนทีจ่ ะยา้ ยไปสถานีปลายทาง ทกี่ รงุ เทพฯ เราไมส่ ามารถขนสง่ สง่ิ ใดไดน้ อกจากการใชท้ างนำ�้ แลว้ กไ็ มม่ สี ะพาน ข้ามแม่น้�ำเจ้าพระยาตรงจุดขนถ่ายนั้นทั้งๆ ท่ีสามารถมีได้ ถ้าเป็นการขนส่ง ทมี่ าจากทางตะวนั ตกการตดั ผา่ นเขา้ สใู่ จกลางเมอื งกต็ อ้ งใชท้ างแมน่ ้�ำ ชาวสยาม จงึ ตอ้ งพง่ึ พาทางนำ้� มาก บางทที งั้ หมดทไี่ ดร้ บั จากรถไฟอาจเปน็ แคก่ ารเดนิ ทาง เพียงวันครึง่ ส�ำหรับประเทศที่เวลาไมไ่ ดม้ ีราคาค่างวดอะไรนกั แถมยังตอ้ งเพิ่ม ค่าขนส่งสัมภาระมากกวา่ ท่ีจำ� เปน็ ต้องใช้จริงๆ ถงึ ๒ เท่าตวั วิธีการเชน่ นจ้ี ะยัง
76 บทที่ ๓ บรเิ วณท่รี าบลุม่ แม่นำ้� เจ้าพระยา คงเป็นไปอีกเน่ินนานเพื่อด�ำรงความเป็นชาวสยามแบบสยามแท้ๆ ที่พิเศษไป กว่านั้นคือในขณะที่เรือของเขาจอดซ่อมอยู่ที่บ้าน ครอบครัวของเขาก็อาจจะ ใชเ้ วลาหนง่ึ หรอื สองสปั ดาหเ์ ดนิ ทางไปกลบั ทก่ี รงุ เทพฯ พวกเขาจะไดแ้ ลกเปลยี่ น ส่งิ ของและพบปะเพือ่ ฝงู สว่ นภรรยาของเขาก็จะได้อวดลกู ๆ ถงึ ความงามและ ฉลาดหลักแหลมเย่ียงสตรีชาวสยามที่เธอได้ประสบมา ย่ิงไปกว่าน้ันจังหวัด เพชรบุรียังเป็นจังหวัดท่ีมีหนทางตันไม่สามารถเดินทางต่อไปยังที่ใดได้ ภูเขา ทางทศิ ตะวันตกบรเิ วณเชอ่ื มตอ่ เทอื กเขาตะนาวศรีซึง่ มพี วกชาวกะเหรยี่ งและ ชนเผ่าอ่นื ๆ อยปู่ ระปรายเพยี งเลก็ นอ้ ยน้นั เปน็ บรเิ วณทภ่ี ูมิประเทศเตม็ ไปดว้ ย ภเู ขาสลับซับซอ้ นและยากท่ีทางรถไฟจะเข้าไปถึงได้ สว่ นตำ� บลตา่ งๆ ที่อยู่ทาง ตอนใตข้ องเพชรบรุ กี ล็ ้วนแตม่ พี ลเมืองอาศยั อยนู่ อ้ ยพอๆ กนั เกย่ี วกบั เรอ่ื งนจี้ ะเหน็ ไดว้ า่ สยามยงั มคี วามเขา้ ใจทคี่ อ่ นขา้ งไมเ่ ดยี งสาอยู่ มากจึงเขา้ ใจผดิ ในเร่ืองความหมายทแ่ี ทจ้ รงิ ของสงิ่ ทีเ่ ราเรยี กวา่ “ความเจริญ” ชาวสยามมกั จะสนับสนนุ ความเช่ือท่ีว่าทางรถไฟนัน้ เป็นยา่ งก้าวอันม่นั คงก้าว หนง่ึ สูค่ วามเจริญกา้ วหนา้ และเห็นพอ้ งดว้ ยกับพวกยโุ รป เพราะเหตวุ ่าอังกฤษ และฝรั่งเศสต่างก็มีส่วนร่วมอยู่ในข่ายงานท่ีเก่ียวกับทางรถไฟ แต่ก็ใช่ว่าสิ่งท่ี ตดิ ตามมาจะเปน็ สง่ิ ทม่ี แี ตป่ ระโยชน์ เปน็ ทปี่ รารถนาหรอื สามารถเชอื่ มตอ่ เมอื ง ทกุ เมอื งในสยามกบั เมอื งตา่ งๆ ทกุ เมอื งไดโ้ ดยไมต่ อ้ งคำ� นงึ ถงึ ขอ้ อนั ควรพจิ ารณา อ่ืนๆ เสียเลย หรือเป็นเพราะว่าการโทรเลขและโทรศัพท์ได้ขยายตัวด้วย กระบวนการอันทันสมัยมาแล้วในดินแดนโลกตะวันตก แต่ส่ิงเหล่านั้นก็ไม่ได้ เป็นเคร่ืองพิสูจน์ว่ามันจะเป็นส่วนประกอบท่ีจ�ำเป็นที่สุดอันดับแรกของการ ปฏริ ปู ส�ำหรับประเทศในภาคพื้นตะวันออกไกล เรื่องน้ีอาจจะเป็นข่าวตอนหนึ่งในหนังสือพิมพ์ว่า “จะมีการคมนาคม ทางรถไฟและการตดิ ตอ่ สอ่ื สารทางโทรเลขระหวา่ งเมอื งตอ่ เมอื งขน้ึ ” แตส่ ำ� หรบั คนทร่ี จู้ กั ประเทศนด้ี อี ยา่ งทะลปุ รโุ ปรง่ แลว้ เรอื่ งทไี่ ดย้ นิ มาวา่ หนทางทมี่ อี ยเู่ ดมิ ได้รับการปรับปรุง มกี ารสรา้ งสะพานข้ามทางน�้ำลกึ และการจี้ปลน้ มอี ตั ราลด ลงเพราะความเขม้ งวดกวดขนั ลว้ นเปน็ เรอื่ งทตี่ อ้ งใชเ้ วลาอกี นานทเี ดยี วกวา่ จะ
ห้าปใี นสยาม เล่ม ๑ 77 มหี ลกั ฐานปรากฏเปน็ รปู เปน็ รา่ งใหเ้ หน็ ถงึ ความพยายามจรงิ จงั หลงั การปฏริ ปู ได้ แตถ่ า้ จะเปรยี บเปน็ หมอทสี่ งั่ ยามาบำ� บดั ไขก้ ารรถไฟอยา่ งพอเหมาะดว้ ยการ เยยี วยาง่าย ๆ ดังกล่าวข้างต้นและเข้าถงึ วิธีการแกป้ ัญหาอย่างมีสามัญส�ำนกึ ก็ ยงั คงจะถกู เยย้ หยนั อยา่ งมากไมแ่ พห้ มอคนทเ่ี สนองานเลก็ นอ้ ยอยา่ งการรกั ษา คนไข้ปัญญาน่ิมท่ีก�ำลังถูกคุกคามอยู่ด้วยโรคประสาทเหมือนกัน ทางเลือกที่ ฉลาดนน้ั กค็ อื ใหท้ างสายหลกั ทมี่ อี ยไู่ มก่ สี่ ายเปดิ ทางเขา้ สตู่ ำ� บลตา่ งๆ ทไี่ มม่ ที าง นำ�้ เขา้ ถงึ ไดต้ ามธรรมชาติ โดยจดั ใหม้ คี วามสำ� คญั เปน็ อนั ดบั แรก แตก่ ารพฒั นา ระบบคลองขนสง่ คอื ความจำ� เปน็ ประการเดยี วทจ่ี ะทำ� ใหพ้ น้ื ทขี่ นาดใหญอ่ ยา่ ง ทรี่ าบลมุ่ แมน่ ำ�้ เจา้ พระยากลายเปน็ พน้ื ทซ่ี ง่ึ อดุ มสมบรู ณท์ ส่ี ดุ และเปน็ พนื้ ทปี่ ลกู ข้าวท่ีให้ผลผลิตมากที่สุดทางตะวันออก มิใช่บริเวณพื้นที่หนึ่งในสี่ส่วนที่ไม่ได้ ท�ำการเพาะปลูก ด้วยเหตุผลง่ายๆ ที่ว่าหากปราศจากคลองหรือมีแต่คลองที่ ตดิ ขดั และตนื้ เขนิ การขยายทางและการชลประทานกค็ งเปน็ เรอื่ งไรค้ วามหมาย โดยเฉพาะเร่ืองการชลประทานน้ันมีความส�ำคัญพอๆ กับเรื่องการขยายทาง แต่กด็ ูเหมือนรัฐบาลจะไมไ่ ดใ้ ห้ความสนใจมนั เลย วันหน่ึงในขณะที่แล่นเรือทวนกระแสน้�ำในแม่น�้ำท่าจีนมาเรื่อยๆ เราก็ มาถงึ ปากคลองสองพีน่ อ้ ง และในวนั ทีส่ ามของการเดนิ ทางเราจึงเข้าสู่หมู่บา้ น ทม่ี ชี อ่ื เดยี วกนั นบั เปน็ ประสบการณค์ รง้ั แรกในประเทศนขี้ องขา้ พเจา้ ทไี่ ดส้ มั ผสั กบั ทัศนียภาพอนั มเี สนห่ ง์ ดงามแปลกตาเป็นพิเศษเช่นในขณะน้ี ข้าพเจา้ นงั่ อยู่ บนหลงั คาของชนั้ ดาดฟา้ เรอื มองออกไปลบิ ๆ ผา่ นภมู ปิ ระเทศสดุ ลกู หลู กู ตาอนั เงยี บสงบทท่ี อดตวั รอรับแสงตะวันยามเช้าซง่ึ กำ� ลงั ปรากฏขึ้นทีข่ อบฟ้าสคี ราม อนั เจดิ จา้ หากแทนทต่ี น้ ไผก่ บั ตน้ ตาลดว้ ยไมย้ นื ตน้ อยา่ งตน้ วลิ โล่ และพอ็ พพลา (Willow and poplar) แลว้ ละกจ็ ะยงิ่ ชวนใหร้ ำ� ลกึ ถงึ พนื้ ทร่ี าบลมุ่ อนั กวา้ งใหญ่ ทอ่ี ังกฤษ เพยี งแต่ทว่าไม่มีภาพหอคอยในเมอื งเคมบริดจใ์ หเ้ ห็นอยู่ไกลๆ ไม่มี เมืองปีเตอร์โบโร่๑ หรือ อีลาย๒ มาสร้างความรู้สึกอิ่มเอมใจให้จะมีก็แต่เพียง ทศั นยี ภาพของหมบู่ า้ นทก่ี ระจดั กระจายอยทู่ ว่ั ไปกบั โบสถ์ หลงั คาทรงสงู ในวดั ๑ Peterborough ช่ือเมอื งอยู่ทางตอนใตข้ อง New Hampshire – สวป. ๒ Ely เป็นชือ่ ตำ� บลชนบทในเขตเมืองเคมบริดจ์ ทางตะวนั ออกขององั กฤษ – สวป.
78 บทที่ ๓ บริเวณท่ีราบล่มุ แม่นำ้� เจ้าพระยา แหง่ หนง่ึ ชดิ รมิ ขอบเสน้ สเี งนิ ทด่ี คู ดเคยี้ ว ในขณะทว่ี นั เวลาลว่ งเลยไปดว้ ยสายลม อันสดชน่ื บรสิ ุทธ์ทิ พี่ ดั พลิ้วยอดตาลและยอดไผใ่ หแ้ กว่งไกว ที่เหน็ อยู่ลิบๆ คือ ใบเรอื สงู ทเี่ คลอ่ื นตวั อยา่ งวอ่ งไวไปตามแนวเขอื่ นทอี่ ยไู่ กลออกไป เดก็ เลก็ ๆ เนอ้ื ตัวมอมแมมส่งเสียงร้องแสบแก้วหูอยู่ในปลักข้างควายของตนหรือไม่ก็ ข้างๆ เศษไม้ที่ร่วงหล่นอยู่หลังจอบถากไม้ช้ินแล้วชิ้นเล่าในขณะที่เรือของเรา แล่นผ่านหลงั คาโกดงั อนั กว้างขวางของอู่ต่อเรอื ทอ่ี ำ� เภอสองพนี่ อ้ งมี วดั ทรี่ ม่ รน่ื นา่ สบายอยแู่ หง่ หนงึ่ เปน็ วดั ทพี่ ระภกิ ษุ สามเณรได้มีโอกาสฝึกความช�ำนาญในการพายเรือบดล�ำเล็กแคบไปตามเรือน แพริมน�้ำในยามเช้าตรู่เพ่ือขอรับบริจาคอาหาร๓ เรือกระจ้อยร่อยนี้มีจุดศูนย์ ถ่วงอยกู่ ลางล�ำเรอื ทคี่ ่อนขา้ งหนัก และจากการทเ่ี รอื มีด้านหัวเรือและท้ายเรอื เชดิ สงู ยามเมอื่ เรอื ไมม่ คี นนงั่ มนั กจ็ ะไมส่ ามารถลอยลำ� ไปตรงๆ ได้ บรเิ วณปาก เรอื เหลา่ น้ีจะมที ว่ี ่างขนาดพอเหมาะสำ� หรบั ให้คนทีม่ ีรปู รา่ งเล็กๆ น่งั ตรงกลาง ล�ำเรือ ตัวเรือจะแหลมเรียวลงไปจรดท้ายจนแทบหาท่ีว่างไม่ได้ และมีความ กวา้ งแค่ ๗ ถงึ ๑๑ ฟตุ แตกตา่ งกนั ไป ขา้ พเจา้ เคยมคี วามรสู้ กึ แบบทจ่ี ะเหน็ ดว้ ย กับความเห็นที่ว่า “ความสนุกสนาน” หรือ ความเบิกบานน้ันเกิดขึ้นได้ยาก พอๆ กบั การ “นง่ั ” ในสิ่งใดๆ ก็ตามท่ลี อยน�้ำได้ แต่เม่ืออยู่ท่ีอ�ำเภอสองพ่นี ้อง ขา้ พเจ้าจงึ ได้เรยี นรู้ว่ามันเป็นความเข้าใจผดิ อีกเรอ่ื งหน่ึงในชีวิตที่ถกู ปัดเป่าให้ หมดไปเสยี ได้ ขา้ พเจา้ ไดใ้ ชเ้ วลาเกอื บทงั้ ชวั่ โมงในการพยายามทจี่ ะนำ� งานฝมี อื ทชี่ า่ งประดษิ ฐค์ ดิ คน้ นอ้ี อกจากฝง่ั ใหไ้ ดส้ กั ลำ� แลว้ กว็ า่ ยนำ�้ กลบั สฝู่ ง่ั อกี ครง้ั เพอื่ เร่ิมพยายามใหม่ จากนั้นข้าพเจ้าจึงบังคับเรือไปได้ไกลขึ้น แต่สิ่งท่ีข้าพเจ้ายัง จดจำ� ไดด้ ถี งึ วนั สดุ ทา้ ยนน้ั คอื ความชนื่ ชมทม่ี ตี อ่ คนพายเรอื วณพิ กชาวสยาม ซง่ึ แม้วา่ จะเปน็ ชายชราหลังงองุ้มแต่มคี วามเชย่ี วชาญเป็นเลิศในการใชพ้ ายเล็กๆ เพียงอันเดียวพายเรือเสี่ยงภัยถือชามขอทานไปเรื่อยๆ แม้ว่าจะต้องเผชิญกับ ระลอกคล่นื และสายลมแรงในแม่นำ้� ก็ตาม แตใ่ นความคิดของพระสงฆ์องค์เจา้ ท่ีออกรบั บิณฑบาตอาหารน้นั มนั ดูจะเป็นเรอื อนั ตรายมากกวา่ ในทางกลับกนั ๓ ผเู้ ขยี นคงไม่เข้าใจว่าเปน็ การออกบิณฑบาตของพระภิกษุ – สวป.
หา้ ปีในสยาม เลม่ ๑ 79 ความพิกลพิการของพวกเขาท�ำให้ตัวคนพายเองไม่สามารถหันศีรษะไปมอง หญงิ งามได้ ซึง่ พระสงฆบ์ างองคก์ ค็ งจะทำ� เช่นเดยี วกันนน้ั ไดอ้ ยา่ งไมต่ ้องสงสยั เมอ่ื พดู ถงึ เรอื่ งการออกรบั บณิ ฑบาตของพระภกิ ษสุ งฆท์ อี่ าศยั อยรู่ วมกนั ในวดั วาอารามตา่ งๆ แลว้ บางครั้งชาวยโุ รปก็เคยขอบอกขอบใจเมือ่ มผี ู้น�ำข้าว ของมามอบให้ในแต่ละวันทั้งท่ีไม่จ�ำเป็นต้องท�ำอย่างนั้นเลย เพราะดูเหมือน พวกเขาจะมที า่ ทเี งอะงะไมเ่ คยชนิ ตอ่ การรบั คำ� ตอบขอบคณุ จากการกระทำ� อนั เป็นกุศลของพวกเขา เป็นการกระท�ำที่ส่งเสริมให้สยามเป็นเหมือนประเทศท่ี ถูกครอบง�ำด้วยพระสงฆ์ ดูราวกับว่าเหล่าสาวกห่มเหลืองผู้มีสมาธิใคร่ครวญ เป็นชนชั้นนักบวชที่หลุดพ้นจากกิเลสตัณหาที่คอยบ่อนท�ำลายจิตใจคนเรา ท้งั ยงั ไม่ยอมรบั ว่าพวกเขาเคารพบชู า “เทวรูป” เช่นเดียวกบั ที่พวกมิชชนั นารี บางกลุม่ และเช่นท่ีผเู้ ขียนหลายๆ คน2 กล่าวไว้ พวกเขาล้วนแต่เป็นผู้เคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นผู้มาจากบ้านนอกบ้านนา เป็นเชื้อพระวงศ์ ชาวป่าหรือข้าราชการแตท่ กุ คนต้องเคยไป วดั กนั มาบา้ งแลว้ หากพวกเขาไม่ฉวยโอกาสที่อยู่ใกล้มือแล้วพวกเขาจะสร้างสม “กุศลผลบุญ” ไดเ้ พยี งพอเพอื่ ชวี ติ ใหมท่ ดี่ ขี น้ึ ชาตหิ นา้ ไดอ้ ยา่ งไร การฝกึ จติ ใหส้ งบและการทำ� สมาธิที่บริเวณลาน วัด เพ่ือให้หลุดพ้นจากกิเลสตัณหาและความทุกข์โศกใน ชวี ิตสัก ๒ ถึง ๓ เดือนนน้ั เป็นสงิ่ จ�ำเป็นทชี่ าวสยามทกุ คนพึงปฏิบัตไิ มว่ นั ใดก็ วันหนึ่ง และหากเขาตกลงใจท่ีจะนั่งฝึกให้เนิ่นนานต่อไปโดยไม่สนใจต่อความ สะดวกสบายของโลกภายนอกแล้ว มันก็จะยิ่งส่งผลต่อโอกาสของเขาในโลก หน้าให้ย่ิงใหญ่ขึ้น หรือหากเขามีศรัทธาบารมีแก่กล้าคนในหมู่บ้านก็จะเริ่มส่ง ลูกชายมาศึกษาเล่าเรียนกับเขาราวกับว่าเขาเป็นครูกวดวิชาในวิทยาลัย และ จะมีกลุ่มเด็กหนุ่มล้วนๆ แวดล้อม “ข้างกาย” ในเวลาต่างๆ แทนที่ วัด จะเปน็ ภาระและจา่ ยภาษใี หแ้ กพ่ วกชาวบา้ น วดั กลบั กลายเปน็ สถาบนั ทคี่ นจะ แหก่ นั มาขอรบั ศลี รบั พรเพอื่ เปน็ สริ มิ งคลแกช่ วี ติ เปน็ สถานศกึ ษาของบตุ รชาย เป็นโอกาสที่จะได้ “ท�ำบุญ” ซึ่งนับเป็นสิ่งมีค่าย่ิงและเป็นความร่ืนเริงเล็กๆ 2 คารล์ บ็อค ในหนังสอื ชอื่ Temples and Elephants และแม้แต่เจ้าชายเฮนรี ดอรล์ นี ผทู้ รงได้ท่องไปทั่วในดนิ แดนของ ประเทศแห่งพุทธศาสนาทีน่ า่ จะรู้เร่ืองดกี วา่ ใคร ๆ กย็ ังทรงเรียกรูปป้นั ในศาสนาพุทธว่า “เทวรูป” ในหนังสอื เรอ่ื ง รอบ บริเวณตังเกยี๋ (Around Tankin) - ตน้ ฉบับ
80 บทท่ี ๓ บรเิ วณทีร่ าบลุ่มแมน่ ำ้� เจา้ พระยา นอ้ ย ๆ ทพ่ี วกเขาจะไดม้ ารว่ มสนกุ กนั ในงานฉลองพธิ ที างศาสนาประจำ� ปี สายตา ทพ่ี วกเขามองวดั นน้ั มแี ตค่ วามภาคภมู ใิ จเหมอื นเชน่ “นกั ศกึ ษามตี อ่ สถาบนั ของ ตน อนั เปน็ สถาบันทเ่ี คยมีคนในครอบครัวจบออกไปแลว้ หลายยุคหลายสมยั ” พวกเขาจะตอ้ งอดออมกนั ใหม้ ากกวา่ ทเ่ี คย เพอ่ื ทจ่ี ะไดม้ ปี จั จยั ใสบ่ าตรพระสงฆ์ องค์กอ่ นหน้าและท่ีก�ำลงั เรียงต่อแถวกันเป็นขบวนยาย และหากจะพดู ถึงการ หวังค�ำขอบคุณ พวกเขาน่าจะขอบคุณพวกวณิพกที่มาปรากฏตัวให้เขาได้มี โอกาสท�ำบุญเลก็ ๆ นอ้ ยๆ มากกว่า เพราะมันทำ� ใหพ้ วกเขาเป็นสขุ กบั การให้ มากกวา่ การรบั ผู้ให้ยอ่ มเป็นผเู้ ก็บเก่ียวผลบญุ ได้ ในวันถัดมาท้ังช้างและม้าของเราก็พร้อมเดินทาง ส่วนเครื่องมือเคร่ือง ใชแ้ ละสมั ภาระอนื่ ๆ นนั้ เราขนไปโดยใชว้ วั เทยี มเกวยี น หลงั จากมงุ่ หนา้ ไปทาง ทิศตะวนั ตกเฉยี งเหนือเปน็ เวลา ๓ วนั พวกเรากถ็ งึ บ้าบงึ หัวแหวน๑ หมบู่ ้านที่ มีแต่กระต๊อบโกโรโกโสแสนเข็ญอยู่ในป่าลึก และบริเวณกลางดงพงหญ้าแฝก หญ้าคาท่ัวบริเวณท่ีสูงร่วม ๑๐ ฟุต ๖ น้ิวของที่น่ีคือสัปดาห์แห่งการท�ำงาน อย่างสนุกสนาน พวกเราเดินทางไปท่ัวพื้นที่ราบท่ีเต็มไปด้วยสันเขาแหลมยื่น ออกไปทางตะวันออกซง่ึ มีเนินเขาแยกออกเปน็ อิสระสงู รว่ ม ๕๐๐ ฟุต เมอ่ื วัด จากยอดเขาในกล่มุ เขาเหลา่ น้ันบางลูกสูงถึง ๒,๗๐๐ ถงึ ๓,๓๐๐ ฟุต เทือกเขา ตั้งอยรู่ ะหวา่ งบรเิ วณทเ่ี ราอย่แู ละแม่นำ�้ แควใหญท่ เี่ ราสามารถมองผา่ นมา่ นฝน ไกลออกไปทางตะวนั ตก มหี มบู่ า้ นชาวนาทยี่ ากจนของสยาม มอญ และลาวกระ จาย กันอยู่ในบริเวณใกลเ้ คยี ง ขา้ พเจา้ ออกรสู้ ึกแปลกใจทพ่ี บวา่ ตวั เองถูกมอง ในคร้ังแรกด้วยความงุนงงสงสัยและกายเป็นความพิศวงในท้ายที่สุด น่ันเป็น เพราะชาวยโุ รปคนหนง่ึ ทขี่ า้ พเจา้ เสยี ใจเหลอื เกนิ ทต่ี อ้ งกลา่ ววา่ เปน็ ชาวองั กฤษ ไดเ้ คยเดนิ ทางมายังบรเิ วณใกล้เคยี งกับจงั หวดั กาญจนบรุ ีเมอ่ื หลายปกี อ่ นโดย ตงั้ ใจจะเขา้ มาทำ� เหมอื งแร่ แตช่ อ่ื เสยี งแหง่ ความปา่ เถอื่ นเลวรา้ ยของเขาไดแ้ พร่ กระจายออกไปนบั เปน็ รอ้ ยๆ ไมล์ ซงึ่ ยอ่ มตอ้ งทำ� ใหเ้ กดิ ผลเสยี หายตอ่ กระบวนการ ทำ� งานอยา่ งไมต่ อ้ งสงสยั และคงทำ� ใหค้ ดิ กนั ไปวา่ ชาวยโุ รปอนื่ ๆ กค็ งเปน็ แบบ เดยี วกนั เรอื่ งราวในแบบเดยี วกนั นเ้ี กดิ ซ้�ำอยบู่ อ่ ยๆ ในหวั เมอื งลาวและบางสว่ น ๑ ปจั จบุ นั เปน็ หมบู่ ้านแห่งหนง่ึ อยใู่ นต�ำบลบ่อพลอย อำ� เภอบ่อพลอย จงั หวดั กาญจนบรุ ี – สวป.
หา้ ปใี นสยาม เล่ม ๑ 81 ของสยาม และเม่ือเกิดเหตุการณ์นี้ข้ึนแต่ละคร้ังข้าพเจ้าก็ขอสารภาพตาม ตรงว่ามันท�ำให้สูญเสียความภาคภูมิใจในความเป็นชนชาติตะวันตกผู้มีความ เจรญิ ลงไปเร่ือยๆ ไมม่ ีเรื่องจริงอนั นา่ ขายหนา้ และไมม่ สี ิ่งใดจะตำ�่ ทรามไปกว่า การที่ชาวตะวนั ตกมาท�ำตัวเลวทรามชัว่ ช้าเช่นนี้อีกแลว้ ขณะน้ันเป็นช่วงหน้าฝนที่ฝนก�ำลังตกชุกที่สุด แม้ว่าตอนท่ีเราเดินทาง มงุ่ หนา้ ไปเราจะโชคดีที่ไดพ้ บทางแห้งๆ เป็นชว่ งสั้นๆ แตฝ่ นตกกก็ ลับกระหนำ�่ ใส่เราอย่างเอาเป็นเอาตาย ข้าพเจ้ารู้สึกเสียใจเหลือเกินเหมือนท่ีเคยนึกอยู่ บอ่ ยๆ ในภายหลงั ทมี่ ไิ ดเ้ ปน็ ผเู้ ชยี่ วชาญเรอื่ งแมลง เพอ่ื จะไดศ้ กึ ษาแมลงจำ� นวน มากมายหลายพนั ธท์ุ ม่ี นั ทง้ั กดั ตอ่ ย หรอื ไมก่ ส็ รา้ งภาระหนกั ใหก้ บั ชวี ติ ของพวก เราตลอดยามอากาศรอ้ นในตอนเช้านำ้� ท่วมยามบา่ ย และยามหนาวเยอื กตอน กลางคืน ท�ำให้พวกเราแทบจะกลายเป็นผเู้ ช่ยี วชาญในเร่ืองพวกมันดว้ ยความ เพลิดเพลินไปตามๆ กัน อย่างไรก็ดีข้าพเจ้าได้รับประสบการณ์มากมาย ซงึ่ พสิ จู นไ์ ดภ้ ายหลงั วา่ มปี ระโยชน์ ประการแรกกค็ อื ขา้ พเจา้ เรยี นรทู้ จ่ี ะไมห่ ลง เชื่อในความสมบูรณ์ม่ังคั่งของเหมืองทับทิมที่ถูกค้นพบและท�ำรายงานไว้โดย ข้าราชการชาวสยาม ถดั จากบริเวณหนิ ดำ� และหนิ ทึบแสงบางจุดซ่ึงแปรสภาพ เป็นเฮอร์ไซไนต์ (Hercynite)3 หรือหินแร่เหล็กพลอยแดงนั้นพวกเราไม่ พบรอ่ งรอยของสเี ลยแมแ้ ตน่ อ้ ย อาจเปน็ ไดท้ พี่ ลอยแดงทข่ี ดุ พบนน้ั ถกู เขา้ ใจผดิ ว่าเป็นทับทิม แต่เราก็ไม่พบอะไรและไม่ปรากฏว่าชาวบ้านเมืองต�ำบลน้ันเคย พบเหน็ หรอื ไดย้ นิ เรอื่ งใดๆ เหลา่ นมี้ ากอ่ น สว่ นประการทส่ี องนน้ั ขา้ พเจา้ พบวา่ เป็นไปไม่ได้เลยที่จะให้ชาวสยามลงไปท�ำงานใน บ่อ ส่วนหนึ่งมาจากความขี้ เกียจของพวกเขา แต่อีกสว่ นหนึ่งเปน็ เพราะพวกเขากลวั ผี หรือดวงวิญญาณ เจา้ ทเ่ี จ้าทาง ซึ่งดูเหมือนจะจงเกลียดจงชังพวกทช่ี อบมาขดุ ดนิ เป็นพเิ ศษ และ จะท�ำให้พวกเขาล้มเจ็บลงดว้ ยพิษไข้ในไมช่ ้าไม่นาน ๓ จากประสบการณ์ทเี่ ชยี งของสนิ แร่ชนดิ นจ้ี ะแปรเปลี่ยนควบคู่ไปกบั ซัฟไฟรเ์ สมอ และจากการคน้ หาอยา่ งหมดเปลอื กจงึ ท�ำให้พบต้นกำ� เนิดของอญั มณีนี้ ชนั้ หนิ ที่พบมันไดน้ นั้ มีรากเหงา้ มาจากเกลอื ในหนิ แร่ภเู ขาไฟซง่ึ ใหค้ ำ� อธิบายไว้โดย นาย ไพรเออร์ (Mr. Prior) แหง่ พพิ ธิ ภณั ฑสถานแหง่ ชาตอิ งั กฤษผทู้ ำ� การคน้ ควา้ ทดลองพบวา่ มนั ประกอบดว้ ยหนิ ประเภทหนิ อคั นี สีเขียวมะกอก ปะปนอยกู่ ับส่วนผสมหลกั ซ่งึ เป็นสนิ แร่ออไกตส์ ีม่วง แร่เหลก็ สดี ำ� เกลอื ในสินแร่ และหินฟนั ม้าซึง่ ปนอยเู่ ล็ก นอ้ ยสภาพหินในท้องที่ตามเนนิ เขาใกล้ ๆ กนั จะเป็นสะเก็ดหินทรายควอ็ ตซเ์ น้ือแข็ง – ต้นฉบบั
82 บทที่ ๓ บริเวณท่ีราบลมุ่ แม่นำ�้ เจา้ พระยา เม่ือเป็นดังน้ัน ข้าพเจ้าจึงใช้เวลาท้ังอาทิตย์ท�ำงานเป็นกุลีเสียเองโดย ลงมอื ขดุ หลมุ ขดุ บอ่ และลา้ งเศษกรวดเหลา่ นนั้ ในแอง่ น�้ำตน้ื ๆ ตามบรเิ วณทค่ี าด ว่านา่ จะมที บั ทมิ อยู่ คิดว่าเสือแถวหมู่บา้ นน้นั คงพอจะรูค้ ณุ คนอยู่พอสมควรที่ ข้าพเจ้าออกจะเหน็ดเหน่ือยสาหัสเกินกว่าจะไปส่องหามัน แม้ว่าเราจะได้ยิน เสยี งมนั มา ๒ คนื และมนั ไดฆ้ า่ กวางระมาดตวั ใหญไ่ ปตวั หนง่ึ ซงึ่ อยภู่ ายในระยะ ๕๐๐ หลาจากคา่ ยพกั ก่อนที่เราจะยา้ ยมานีเ่ อง กฬี าเพยี งอยา่ งเดยี วของพวกเรากค็ อื การดกั ยงิ นกปากซอ่ มและนกพริ าบ พันธ์ุหน่งึ กลางทุ่งตามเสน้ ทางการท�ำงานท่เี ราผา่ นไป คนน�ำทางสูงอายุของเราที่เป็นผู้ช�ำนาญในเส้นทางการเดินทางอย่าง ปราศจากขอ้ กงั ขา เพราะขา้ พเจา้ ไดร้ บั คำ� บอกเลา่ มาวา่ เราไดโ้ จรกลบั ใจมาเปน็ คนน�ำทางให้ เห็นแล้วท�ำให้ข้าพเจ้านึกถึงหัวขโมยผู้ถอดเขี้ยวเล็บในวงน�้ำชา แถบภาคตะวนั ออกของลอนดอน เมอื่ มคี นแนะนำ� ใหข้ า้ พเจา้ ไดร้ จู้ กั กบั สภุ าพบรุ ษุ ชราผมสเี ทามองดคู ลา้ ย บาทหลวงตอนอยทู่ อี่ ำ� เภอสองพนี่ อ้ งนนั้ มคี นบรรยายวา่ ชายคนนมี้ กั ชอบสะกด รอยเพ่ือจัดการกับเหยื่ออย่างเลือดเย็น ซึ่งท�ำให้คนเหล่านั้นต้องพบกับความ ประหวนั่ พร่นั พรึงอยา่ งรุนแรง แต่เรื่องจริงน้ันแปลกประหลาดย่ิงกว่านิยายเสียอีก ท้ายที่สุดเราก็เลย ไม่ค่อยประหลาดใจเท่าไหร่ท่ีเห็นว่าเขาจะได้รับการต้อนรับราวกับพระราชา อย่างแท้จริงในทุกๆ หมูบ่ ้านที่เราไปถงึ กล่มุ คนพร้อมอาวุธจะพากนั มาหมอบ ราบอยู่เบื้องหน้าเขา เม่ือเขามาถึงเขาจะน่ังเหมือนกษัตริย์เห็นผมสีดอกเลาดู นา่ เคารพและใบหนา้ เหย่ี วยน่ ทแ่ี ยม้ ยมิ้ อยา่ งมเี มตตา ทอดสายตาไปรอบๆ กลมุ่ คนเหล่านั้นจากที่น่ังยกพื้นอย่างสบายอกสบายใจพร้อมสูบซิการ์ของข้าพเจ้า อย่างจะเปน็ กษัตริยจ์ รงิ ๆ ความปรารถนาไมว่ ่ามากหรือนอ้ ยของเขาไดร้ บั การ ปฏบิ ตั จิ นลลุ ว่ งโดยฉบั พลนั และขา้ พเจา้ ในฐานะขา้ ราชการของรฐั บาลจงึ ไดร้ บั การรบั รองอยา่ งอบอนุ่ รื่นรมยโ์ ดยคนดีๆ ทง้ั สิน้ เพราะวา่ ข้าพเจ้าน้นั เปน็ เพ่ือน ของชายซ่ึงคร้ังหน่ึงเคยท้าทายรัฐบาลประกอบอาชีพไร้ยางอายเยี่ยงการเป็น
หา้ ปีในสยาม เลม่ ๑ 83 หัวหน้าโจรสร้างความหวาดกลัวไปทั่วทุกสารทิศ รัฐบาลได้ใช้วิธีการทางสันติ บางอยา่ งกบั เขา โดยยินยอมใหเ้ ขาเกบ็ เอาช้างมา้ ววั ควายท่ีไดม้ าอยา่ งไมส่ ุจริต เอาไวไ้ ด้ แตเ่ ขาตอ้ งตอบแทนโดยเปลย่ี นบทบาทเสยี ใหมอ่ นั ไดแ้ กบ่ ทบาทของโจร ทารุณไปเป็นผู้เปี่ยมด้วยศรัทธา ไม่ท�ำมากไปกว่าคอยให้ความช่วยเหลือด้าน ขา่ วสารขอ้ มูลแกร่ ัฐบาลเปน็ บางเวลา เขาเปน็ ชายชราทีม่ ีเสนห่ ์ดอู ่อนโยนใจดี และเปน็ ทรี่ กั ของเดก็ ๆ ผคู้ นนบั พนั คงตอ้ งโศกเศรา้ เสยี ใจหากวา่ เขาตอ้ งถกู ตดั ศรี ษะ เขาเปน็ ผมู้ ใี จกลา้ หาญดว้ ยเชน่ กนั ดไู ดจ้ ากครง้ั ทเี่ ราเกดิ ปญั หาขาดแคลน ข้าว เนื่องจากต้องสูญเสียข้าวบางส่วนไปในระหว่างการขนด้วยเกวียนมา ตามถนน เขาจึงข้ึนขี่ช้างของเขาทั้งวันทั้งคืนไปยังเมืองกาญจนบุรีและขนข้าว กลับมาเพิ่มเติมเป็นเสบียงใหเ้ รา เป็นการเดินทางผ่านแดนแวดล้อมด้วยเหล่า ชายฉกรรจท์ อ่ี ย่เู คยี งข้างเขาโดยตลอด ในคืนหนึ่งเม่อื ขา้ พเจา้ เสรจ็ จากงานเขา ไดอ้ อกไปขา้ งนอกคนเดยี วพรอ้ มกบั เอาปนื เอม็ .เอช.คารไ์ บนข์ องขา้ พเจา้ ไปดว้ ย จากนั้นจึงกลับมาเม่ือได้ยิงเสือตัวหน่ึงไปด้วยลูกกระสุนสองนัด แต่เขาไม่อาจ จะแบกมนั กลบั ไปเพราะเจา้ สตั วร์ า้ ยไดห้ ลบหนไี ปในความมดื สลวั ยามโพลเ้ พล้ สุภาพบุรุษชรากับขา้ พเจ้ากลายเปน็ มิตรแทท้ ่ียิ่งใหญ่ต่อกนั และในหลายปตี ่อ มาเม่ือเขาต้องกลับเข้าประจ�ำการในกรุงเทพฯ สองมือของเราน้ันได้จับอ�ำลา กนั นานนบั เปน็ นาที มดี จากนอรเ์ วยท์ ขี่ า้ พเจา้ มอบใหเ้ ขาไวก้ ย็ งั ไมม่ คี วามหมาย เทา่ ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งเรา จะท�ำอย่างไรดีกับฝูงเสือและเหล่าโจรท่ีท�ำให้ชาวบ้านนอกคอกนาท่ี ยากไรต้ อ้ งอบั จนหนทางทจ่ี ะปกปอ้ งววั ควายจากพวกมนั ได้ ใน ๒ หมบู่ า้ นทเ่ี รา เดินทางผ่านไปเสือได้ลากเอาวัวท่ีอยู่ในคอกออกไปกินภายในสัปดาห์เดียวกัน โดยทเ่ี จา้ สตั วร์ า้ ยกระโดดขา้ มรวั้ กระโจนเขา้ สงั หารมนั จากทางดา้ นหลงั ในสว่ น เรื่องการกระท�ำของพวกโจรนั้นชาวบ้านได้ขอร้องให้ข้าพเจ้าจัดการเรื่องราว แทนพวกเขาท่ีกรุงเทพฯ โดยให้ช่วยแจ้งแก่พระยาสุรศักด์ิ๑ ผู้มีช่ือเสียงใน เรื่องความซอ่ื สตั ยใ์ หช้ ่วยสง่ กำ� ลังมาปราบปรามหมโู่ จรในตำ� บลนี้ ๑ นา่ จะหมายถึงพระยาสุรศักดมิ์ นตรี (เจมิ แสง-ชโู ต) เสนาบดกี ระทรวงเกษตรพาณิชการในขณะนัน้ - สวป.
84 บทที่ ๓ บริเวณทรี่ าบลุ่มแมน่ ำ�้ เจ้าพระยา พาหนะในการเดนิ ทาง - ตดิ หล่ม ตอนเดินทางกลับเราเจอกับพายุฝนหลายครั้งจนทำ� ให้ภูมิประเทศเกิด การเปลยี่ นแปลง กระแสน้�ำตามเสน้ ทางทผี่ า่ นมาทว่ มสงู ถงึ ขอ้ เทา้ มา้ ขณะทเี่ รา พามันลุยไป จนเราต้องปล่อยมันไว้กลางทางแล้วใช้ช้างแทนทั้งหมด แต่ถึง อยา่ งไรชา้ งเองกต็ อ้ งเจอกบั ความยากเขญ็ ในทะเลโคลนอนั กวา้ งใหญ่ ซง่ึ ครอบคลมุ พ้ืนท่ีต่�ำบางส่วน เมื่อเดินๆ ไปก็จะต้องมีช้างตัวหนึ่งเกิดสะดุดหยุดชะงัก อนั เปน็ อาการทย่ี ากจะเกดิ ขนึ้ กบั ชา้ ง4พวกเราจงึ เพยี รพยายามเสาะหาหนทาง ขา้ มผา่ นหนองนำ้� ทแ่ี ผก่ วา้ งนน้ั โดยใหช้ า้ งอยขู่ า้ งหนา้ พวกมนั ชงู วงรอ้ งเสยี งดงั กอ้ งและพยายามยา่ งไปทกุ กา้ วอยา่ งระมดั ระวงั ตวั มนั เหนอะหนะไปดว้ ยโคลน ทนั ใดนน้ั เจา้ ชา้ งตวั เลก็ ในกลมุ่ กเ็ กดิ อาการขาหลงั หมนุ ควา้ งหวดี รอ้ งเสยี งแปรน๋ แลว้ กระโจนออกมา ตวั อื่นๆ เลยพยายามหันหลังกลบั แย่งกนั กระโจนลงไปใน ปลกั โคลนทจี่ มลึกถึงพุงเจา้ ชา้ งตวั เล็กในทันที แลว้ หมอบลงขา้ งตัวมันพลางสง่ เสียงค�ำรามด้วยความตนื่ กลัว พวกเราพากันกระโดดออกหา่ งตดั สายบงั เหยี น แลว้ ปลอ่ ยมนั ตามยถากรรม โดยมโี คลนรองรบั ทง้ั ตวั พวกเราและมา้ เอาไวอ้ ยา่ ง 4 จากรายงานของ นายแรนกิน (Mr.Rankin) เรื่อง “การทดลองเร่ืองช้าง” ในอัฟริกา – ตน้ ฉบบั
หา้ ปีในสยาม เลม่ ๑ 85 ปลอดภยั เมื่อยนื ได้มั่นคงดีแลว้ พวกเราจงึ เขา้ ไปปลอบขวัญมนั ใหม่ มนั คอ่ ย ๆ บากบ่ันใช้ความพยายามอย่างกล้าหาญในการเดินแต่ยังค่อนข้างขลาดกลัวใน การกลับมาเดินบนพ้ืนแข็งๆ นับเป็นวันท่ีหนักหนาสาหัสส�ำหรับพวกมัน เม่ือเราต้องเดินทางร่วม ๑๖ ชั่วโมงเข้าไปในป่าไผ่ซึ่งรกชัฏเต็มไปด้วยหนาม แหลมคมทค่ี อยเกยี่ วใบหพู วกมนั ใหเ้ ปน็ แผลอยา่ งนา่ เวทนา ขณะทแี่ มลงหวตี่ วั ใหญ่ก็พากันมารุมตอมดูดเลือดมันท่ัวไปท้ังตัว หากว่าท่านมีที่พักแรมแล้วขอ ไดอ้ ยา่ ใหช้ า้ งตอ้ งเดนิ ทางตอนกลางคนื ผา่ นปา่ ไผท่ ม่ี หี นามแหลมคมเปน็ อนั ขาด พวกเราได้พบววั เทียมเกวยี นจ�ำนวน ๔๐ ถึง ๕๐ ตัว มุง่ หนา้ จากท่ีราบ ไปสู่ต�ำบลเนินเขาเพ่ือหนีน�้ำท่วมในตอนปลายฤดูฝน ในใจกลางพ้ืนที่ราบลุ่ม แม่น้�ำเจ้าพระยาน้ันประชาชนไม่อาจหาสถานที่ไว้ส�ำหรับเก็บวัวยามน้�ำท่วม ท่ีปล่อยให้อยู่ได้ก็มีเพียงควายสีด�ำตัวใหญ่ เพราะพวกมันรักที่จะแช่อยู่ในน�้ำ ตามริมฝั่ง คลอง นำ�้ ทว่ มสูงหรือแถวๆ กอไม้ได้ท้ังวันทัง้ คืน ส่วนม้าท่ีมอี ยเู่ พียง ไม่ก่ีตัวน้ันพวกเขาจะเก็บมันไว้ในที่ม่ันคงปลอดภัยบนเสาตอม่อเหนือกระแส นำ�้ อนั เวงิ้ วา้ ง ในหมบู่ า้ นทอี่ ยบู่ รเิ วณรอบๆ ทร่ี าบลมุ่ นน้ั หากมที สี่ งู แหง่ ใดไปถงึ ได้ ที่น่นั มักมกี ารเล้ียงวัวแดงพันธ์ทุ ้องถนิ่ กันเป็นจ�ำนวนมาก จากพนื้ ที่เหล่านี้ ววั จะถกู นำ� สง่ ไปยงั กรงุ เทพฯ เพอ่ื เปน็ สนิ คา้ สง่ ออก5 ไปยงั สงิ คโปร์ ซง่ึ ตามตำ� บล ตา่ ง ๆ เหลา่ นเี้ องเปน็ แหลง่ ทว่ี วั ควายจะถกู ลกั ขโมยกนั เปน็ จำ� นวนมาก สำ� หรบั ววั จะมตี ลาดรอพรอ้ มอยแู่ ลว้ ใน ขณะทค่ี วายจะเปน็ สตั วท์ ไี่ มม่ ผี ใู้ ดเขา้ ไปยงุ่ เกย่ี ว ไดน้ อกจากเจา้ ของเท่านน้ั เปน็ เรอื่ งนา่ ยนิ ดที พี่ วกเราไดก้ ลบั มาสอู่ ำ� เภอสองพนี่ อ้ ง สถานทซ่ี ง่ึ เราไม่ ต้องเปยี กปอน ในข้าวในแกงกม็ ีข้าวโพด มีคสั ตาร์ดแอบเปลิ้ ให้อยา่ งเหลือเฟอื ปนื ของขา้ พเจา้ กระสุนหมดทุกกระบอกขณะที่นกปากซอ่ มชมุ เสียยง่ิ กว่ายงุ ซ่ึง สร้างความร�ำคาญใจให้มิใช่น้อย เมื่อเดินทางโดยใช้เรือ คนงานของเราจะยืน ทำ� งานอย่างแข็งแกรง่ อดทนทัง้ วันทั้งคนื จะมโี อกาสพักแค่ตอนทานอาหารกบั อาบนำ้� อาบทา่ เทา่ นน้ั ทา่ ยนื ซง่ึ ใชก้ นั ทว่ั ไปบนเรอื ทกุ ประเภทของประเทศนจี้ ะ 5 ภาคผนวก ๗ - ตน้ ฉบับ
86 บทที่ ๓ บริเวณที่ราบล่มุ แม่นำ�้ เจา้ พระยา ทำ� ใหส้ ามารถกรรเชยี งใบพายอนั แสนจะเหยยี ดยาวนนั้ ไดอ้ ยา่ งตอ่ เนอื่ ง ทา่ ทาง คลา้ ย ๆ กับคนพายเรอื กอนโดลา่ แตก่ บั คนทีเ่ พ่ิงฝกึ ใหม่ๆ แล้วจะเป็นการงา่ ย กวา่ หากจะใชว้ ธิ ยี ดื ไมพ้ ายไวด้ ว้ ยหแู จวทำ� ดว้ ยปา่ นซงึ่ มดั ขน้ึ ไปทางดา้ นหวั ของ ไม้พายท่ตี ง้ั ตรง โดยยดึ ไว้เป็นระยะ ๒ ฟตุ เหนอื ดาดฟา้ และกราบเรือ แทนทีจ่ ะ พักไมพ้ ายไวใ้ นไมค้ �้ำยนั ล่นื ๆ ที่ไว้ช่วยผอ่ นแรงเทา่ นนั้ ภาพที่เห็นเคล่ือนไหวอยู่ ในเรอื ลำ� เลก็ กค็ อื เมอ่ื ฝพี ายจว้ งพายครงั้ หนง่ึ กม็ กั จะเหวยี่ งขาขา้ งหนงึ่ ไปดว้ ยจงึ มองดอู ่อนช้อยแปลกตา สว่ นตำ� แหนง่ ท่ยี ืนสงู อยูข่ ้างทา้ ยเรอื และสามารถมอง ตรงไปข้างหน้าก็เหมาะอย่างยิ่งกับการพายเรือในล�ำน้�ำท่ีทั้งแคบและคดเคี้ยว เชน่ น้ี และถอื เป็นการดตู น้ ทางไปในตัว สำ� หรับการ แจว เรอื คนเดียวนั้นต้องมี การฝกึ ฝนกนั บา้ งเลก็ นอ้ ย เพราะเรอื มกั มที ศิ ทางหมนุ วนไปทางดา้ นขา้ งหนอี อก จากพาย ต้องแก้ด้วยการพลิกคว่�ำข้อมือจ้วงพายไปในน้�ำอย่างแผ่วเบาแล้ว คอ่ ยๆ ดงึ มอื กลบั ชว่ั โมงแลว้ ชว่ั โมงเล่าทเ่ี ราแกวง่ ไกวเปน็ จังหวะอยู่ในสายนำ้� ล่องไปตาม คลอง ทท่ี อดยาวกระทั่งในท่ีสดุ เราก็ถงึ หมู่บ้านท่หี นาแน่นไปดว้ ย ผู้คนและป่าตาลเขียวขจี ส่วนล�ำคลองนั้นจะไหลออกสู่ตอนกว้างของแม่น�้ำ เจา้ พระยาอีกครง้ั หน่งึ ทกี่ รุงเทพฯ พ้ืนท่ีทางตะวันตกที่เราเคยไปมาแล้วซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของที่ราบลุ่ม แม่น้�ำแควใหญ่ และแม่น�้ำศรีสวัสด์ิซึ่งเป็นล�ำน�้ำสายย่อยทางทิศตะวันออกที่ แยกออกจากแมน่ ำ้� แมก่ ลองเปน็ เมืองที่เลด็ ลอดสายตานกั ท�ำแผนทม่ี าไดอ้ ยา่ ง แปลกประหลาด จะมกี แ็ ตน่ กั ส�ำรวจชาวสยามเท่าน้ันทเี่ คยผ่านเมอื งน้ีมาแล้ว โดยใช้เส้นทางหนึ่งหรือสองทางเส้นทางปกติสู่ พระเจดีย์สามองค์ ซึ่งเคยเป็น จุดผ่านแดนที่ถูกก�ำหนดไว้ โดยคณะกรรมการก�ำหนดเขตชายแดนระหว่าง องั กฤษและสยามมากกวา่ หนง่ึ คณะจะอยเู่ หนอื แมน่ ำ�้ แควนอ้ ยไปทางตะวนั ตก ของแม่น�้ำแมก่ ลอง ชาวกะเหรย่ี งทอี่ าศยั อยกู่ ระจดั กระจายอนั ดว้ ยเหตทุ มี่ าจากการแบง่ แยก นี้เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการขนส่งของคณะส�ำรวจและงานแผ้วถางทาง ในป่า
หา้ ปีในสยาม เลม่ ๑ 87 ลีล (Leal) ได้ใช้เส้นทางนี้ตั้งแต่คร้ังแรกจนถึงครั้งสุดท้ายของการเดิน ทางข้ามไปมาระหว่างสยามและตะนาวศรี ส�ำหรบั รายงานอย่างละเอยี ดเก่ียว กบั เรื่องนป้ี รากฏอยู่ใน หนงั สอื จดหมายข่าวของรฐั บาล6ออกเผยแพร่เมื่อวนั ที่ ๒๕ มกราคม และ ๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๓๗๐ แอ่งที่ราบลุ่มแม่น้�ำแม่กลองถูกสกัดก้ันการขยายตัวโดยพวกชาวมอญ หรือตเลง ผู้มีความช�ำนาญในเร่ืองเกษตรกรรม เป็นพวกที่สืบเชื้อสายมาจาก อาณาจักรพะโคอันเก่าแก่ ท�ำอาชีพเพาะปลูกข้าวเปลือก ข้าวโพดและผลไม้ ตามแนว ๒ ฟากฝ่ังแม่นำ�้ พวกเขาจะอนุรกั ษภ์ าษาและศิลปวฒั นธรรมของเผ่า พนั ธ์ขุ องตนไว้ในวัดวาอาราม การปลกู ตน้ สกั จะทำ� กันบนเนนิ เขาท่ที อดตวั อยู่ ระหวา่ งแมน่ ำ�้ แควนอ้ ยและแมน่ ำ้� แควใหญล่ งมาตามแนวเสน้ ละตจิ ดู ท่ี ๑๓ องศา ๕๐ ลิปดา เปน็ จุดทีเ่ กือบจะอยู่ทางทิศใตข้ องอนิ โดจนี ซ่ึงรู้กนั ดวี า่ เป็นบรเิ วณ ทอี่ ดุ มสมบรู ณ์7แตก่ ารเพาะปลกู กไ็ มค่ อ่ ยจะไดผ้ ลนกั สาเหตสุ ำ� คญั เนอื่ งมาจาก กระแสลมอ่อนในฤดูร้อนจะพัดพาทรายมารวมตัวกันเป็นสันทรายแห้งๆ ทัง้ ๒ ฝัง่ กลายเปน็ ปลกั ใหค้ วายไปเกลอื กกลว้ั อกี ทัง้ ในฤดฝู นนน้ั ฝนกต็ กหนัก อยา่ งไม่ลมื หูลืมตา ไมเ้ นอ้ื แขง็ ทเี่ รยี กกนั วา่ ไม้ โคก ซง่ึ มอี ยทู่ บ่ี รเิ วณปา่ เปดิ กนิ แดนเขา้ มาถงึ เนินเขาในชนบทถกู น�ำมาท�ำเป็นไม้หมอนสำ� หรบั รางรถไฟกนั มาก และเพราะ ความท่มี นั มีขนาดเล็กจงึ งา่ ยตอ่ การขนสง่ ทางน�้ำโดยใช้แพไมไ้ ผ่เปน็ เครือ่ งช่วย พยงุ น้�ำหนักให้มันลอยไปได้ ผลอีกประการหน่ึงของลักษณะพื้นที่ป่าท่ีเป็นแนวยาวและหนาทึบทาง ผืนป่าด้านตะวันตกและการที่มีประชากรอยู่เพียงประปราย ก็คือ มันท�ำให้ จำ� นวนของสตั วป์ า่ ทน่ี น่ั ยงั มอี ยอู่ ยา่ งอดุ มสมบรู ณ์ ตา่ งจากบรเิ วณตน้ น้�ำลำ� ธาร ทางตะวนั ออกของท่ีราบลมุ่ แม่นำ้� อยา่ งเหน็ ได้ชดั 6 อยู่ใน เอกสารท่ใี ชอ้ ธิบายเร่ืองสงครามพมา่ รวบรวมและเรียบเรียงโดยสมเด็จพระสันตะปาปาวิลสนั โรงพิมพ์จดหมายข่าว รฐั บาล กัลกตั ตา พ.ศ. ๒๓๗๐ ดอ็ กเตอร์ แอนเดอรส์ นั นำ� มาเขยี นไวใ้ นเรื่อง องั กฤษและความสัมพนั ธ์กบั สยาม – ต้นฉบับ 7 “ตน้ สกั ออ่ น” ข้าพเจ้าเคยเห็นระบไุ วว้ ่ามกี ารปลกู อยู่ทีเ่ มือง เมยี มบนุ (Miembun) ในเกาะซลู ใู นหนงั สอื ของกลิ เลอรม์ ารด์ (Guillemard) เร่อื ง การท่องเที่ยวทางทะเลของมาร์เชสสา (The Cruise of the Marchessa) สำ� นกั พมิ พ์จอหน์ เมอร์เรย,์ พ.ศ. ๒๔๒๘ เลม่ ท่ี ๒ หน้า ๒๕ – ต้นฉบับ
88 บทท่ี ๓ บริเวณท่ีราบล่มุ แมน่ ำ�้ เจ้าพระยา จังหวัดกาญจนบุรีซึ่งตามแนวโน้มยุคใหม่กล่าวไว้ว่าจะกลายเป็นศูนย์ รวมประชากรของสยามนนั้ เคยมดี นิ แดนทางใตต้ ดิ กบั ทะเลเมอื่ ศตวรรษทแี่ ลว้ ตวั เมอื งเกา่ ซงึ่ ชอ่ื เดยี วกนั ทต่ี งั้ อยบู่ นฝง่ั แมน่ ำ้� ศรสี วสั ดไิ์ ดถ้ กู ทำ� ลายโดยชาวพมา่ ทเ่ี ข้ามารุกรานเม่อื พ.ศ. ๒๓๑๙ แตเ่ ดีย๋ วนก้ี ลบั ฟื้นตัวข้นึ มาใหม่ตรงบริเวณจุด เช่ือมต่อของล�ำน้�ำสายย่อยทางฝั่งตะวันออกและตะวันตกของแม่น�้ำแม่กลอง บางทที่ ชี่ าวองั กฤษรจู้ กั มนั เปน็ อยา่ งดกี เ็ พราะมนั เปน็ ทพี่ �ำนกั ของผคู้ วบคมุ สาย โทรเลขเสน้ ทางจากกรงุ เทพฯ ถงึ ทวาย ผู้คุมคนนไี้ ม่เคยทำ� ให้สายโทรเลขของ เขาวา่ งพอทีจ่ ะสง่ ไปยังเขตชายแดนได้ภายใน ๒ สปั ดาห์ แต่ก็ดูจะไม่ฉลาดเอา เสียเลยตรงท่ีเขากลับสามารถส่งโทรเลขไปยังเพื่อนบ้านของเขาบนฝั่งพม่าได้ สงิ่ ทนี่ า่ ชน่ื ชมกวา่ ซง่ึ เปน็ ทร่ี จู้ กั ทว่ั ไปกค็ อื เรอ่ื งพรกิ ไทยนำ้� ตาลทราย ยาสบู และ ด้วยผลผลิตอันมากมายมหาศาลเช่นน้ีจึงน่าจะมีการปราบปรามโจรผู้ร้ายให้ หมดส้ิน ข้าพเจ้าไม่ได้ไปยังต�ำบลแห่งนั้นนานพอดู แต่หวังว่าสิ่งต่างๆ คงจะ พัฒนาขึ้น และคงไมก่ ลับไปส่สู ภาพเลวรา้ ยเกนิ กว่าเม่ือปี พ.ศ. ๒๔๓๕ ไปได้ สง่ิ ทสี่ ะดดุ ใจขา้ พเจา้ มากทสี่ ดุ ในพน้ื ทร่ี าบอนั กวา้ งใหญน่ ก้ี ค็ อื พนื้ ดนิ อนั อุดมสมบูรณ์และกว้างไกลสุดลูกหูลูกตาท่ีไม่มีผู้ใดใส่ใจนอกจากควายและนก กระยางเทา่ นน้ั พ้ืนทน่ี ัน้ รกรา้ งวา่ งเปล่า ได้ยนิ แต่เสียงลมพัดหวีดหวิวไม่หยุด หย่อน กับเสียงร้องซ�้ำๆ ซากๆ ของฝูงแมลงในทุ่งหญ้า ท่ัวบริเวณที่ราบลุ่ม สามเหลี่ยมปากแม่น�้ำก็มีลักษณะแบบน้ีเช่นกัน บริเวณพื้นท่ีราบซ่ึงเป็นโคลน ตมอันกวา้ งใหญแ่ ถบตะวันออกเฉยี งเหนอื ของกรงุ เทพฯ เปน็ บรเิ วณหนองน�้ำ ท่ีถูกท้ิงร้างจนเว้ิงว้างและมีหญ้าขึ้นอยู่ตามริมฝั่งแม่น้�ำตอนท่ีไหลไปยังแม่น้�ำ นครนายก เมอื่ ไมม่ ที างนำ�้ ไหลผา่ นจงึ ไมม่ ผี คู้ นเขา้ มาตงั้ รกราก หากผใู้ ดพยายาม ย้อนรอยกลับเข้าไปอยู่ยังทุ่งหญ้าท่ีมีชื่อเรียกว่า ทุ่งใหญ่ แล้ว กระท่อมหลัง เลก็ ๆ ของพวกเขาจะตอ้ งถกู ฝงู ชา้ งทคี่ กึ คะนองและสอดรสู้ อดเหน็ เหยยี บยำ่� จน ล้มระเนระนาด ในฤดูกาลนี้พวกมนั จะลงมาจากดินแดนป่าสูงด้านริมเทือกเขา ดงพญาเยน็ เป็นประจำ� เม่ือ พ.ศ. ๒๔๓๕ ไดม้ ีบริษทั เตรียมการท่จี ะขุดคลอง ผา่ นดนิ แดนอันรกร้างทางตะวนั ตกนีเ้ พ่ือระบายนำ้� และเป็นการเพิม่ ประชากร
ห้าปีในสยาม เล่ม ๑ 89 สู่ต�ำบล นับเป็นโครงการตามความร่วมมือท่ีดีเลิศที่จะส่งผลแห่งความน่าเชื่อ ถอื มาสผู่ รู้ เิ ร่มิ โครงการมากมายเหลือคณานับ แตม่ ันกลับถกู ขดั ขวางตง้ั แตแ่ รก เริ่ม โดยประกาศิตทีม่ ีจากเบอ้ื งบน เพราะตามสัญญาท่ีบริษัทท�ำไว้กับรัฐบาล นนั้ มอี ยวู่ า่ ประชาชนทกุ คนทอ่ี าศยั อยตู่ ามบรเิ วณรายรอบคลองทไี่ ดท้ ำ� การขดุ จะตอ้ งเปน็ ผจู้ า่ ยภาษคี า่ ธรรมเนยี มตายตวั และเมอื่ แตล่ ะ คลอง ขดุ เสรจ็ บรษิ ทั จะเปน็ ผู้ถอื ครองทด่ี นิ ไวเ้ พื่อทำ� การค้าขายหรือเพาะปลูก เมือ่ บริษัทเริม่ งานไปไดไ้ มน่ านนัก ประชาชนไดพ้ ากันมาปรากฏตัวตาม เสน้ ทางทีร่ ่างไวใ้ นแผนที่ ในมอื ถือโฉนดกรรมสทิ ธิ์ท่ีดนิ ทถี่ กู ตอ้ งเรียบร้อยและ ทำ� การรบั รองโดยเสนาบดกี ระทรวงเกษตรพาณชิ การในตอนนนั้ ความผดิ พลาด ของบรษิ ทั กค็ อื การไลท่ พ่ี วกทถี่ อื ครองทด่ี นิ จำ� นวนมาก โดยคดิ ไปเองวา่ กฎหมาย อยใู่ นกำ� มอื ของพวกเขา หากฉลาดกวา่ นส้ี กั นดิ ประชาชนควรจะหนั หนา้ เขา้ หา รัฐบาลเพื่อตอ่ สู้กบั ผเู้ ป็นตวั การความไมถ่ กู ต้องตวั จรงิ ที่อยใู่ นกระทรวงเกษตร พาณชิ การ แตพ่ วกเขากร็ ดู้ ถี งึ การไตส่ วนอนั เชอ่ื งชา้ ของรฐั บาลในกรณที ม่ี เี รอ่ื ง ชอื่ เสยี งเกยี รตยิ ศของขา้ ราชการเขา้ มาเกย่ี วขอ้ งและมกั จะปกปอ้ งพวกพอ้ งของ ตน ดงั นน้ั การรอ้ งเรยี นสทิ ธขิ องผคู้ รอบครองทด่ี นิ ทอ่ี อกใหโ้ ดยเสนาบดกี ระทรวง เกษตรพาณิชการผมู้ เี ลห่ เ์ หล่ียมและการฟ้องเรียกร้องสิทธขิ องผูท้ ีจ่ ะถกู บริษทั ครอบครองทด่ี ินกถ็ กู ปลอ่ ยให้ปะทุขึ้นอย่างยงุ่ เหยงิ พวั พันวุน่ วายอยอู่ ยา่ งน้ัน นับเป็นปีๆ ท่านข้าหลวงพิเศษได้รับมอบหมายให้ใช้ความพยายามแก้ปมแห่ง ความยงุ่ เหยงิ นี้ และผลทป่ี รากฏออกมากด็ เู หมอื นวา่ บรษิ ทั ตอ้ งประสบกบั ความ ยงุ่ ยากแสนสาหสั ดังน้ัน จากการฉ้อโกงดังท่กี ลา่ วข้างต้น แผนการเพอ่ื ปลกุ จิตสำ� นึกสว่ น รวมและการมองการไกลซึง่ ผลกั ดนั ให้เกิดขน้ึ ในสยามในช่วงปที ี่แลว้ ดูทา่ ว่าจะ ถกู ทำ� ลายไปสิ้น ทง้ั ยังไดส้ ร้างศัตรูขึ้นมาหลายกลุ่ม และในจ�ำนวนไม่ใชน่ ้อยก็ เปน็ ศัตรูผมู้ ีก�ำลงั อ�ำนาจท่ีจะทำ� อนั ตรายได้เสยี ด้วย โครงการตามแผนท่ีกล่าวมาเก่ียวข้องกับการขุดคลองส�ำคัญ ๓ สาย โดยมุ่งหน้าสู่ทิศตะวันออก - เหนือ - ตะวันออกจากพื้นที่หลายจุดบนริมฝั่ง
90 บทท่ี ๓ บรเิ วณทร่ี าบลุม่ แม่นำ้� เจ้าพระยา แมน่ ำ้� เจา้ พระยาใหเ้ ชอื่ มตอ่ กบั ล�ำคลองสายยอ่ ยทอี่ ยหู่ า่ งออกไปทางตอนเหนอื และใต้ในระยะทางท่เี ทา่ ๆ กัน เมอื่ พ.ศ. ๒๔๓๘ ลำ� คลองที่เป็นศนู ย์กลางสาย หนึง่ ขุดไกลออกไปทางตะวันตกราว ๑๖ กโิ ลเมตร ตามรายทางท่ีกำ� ลังคนและ เครอื่ งขดุ เจาะจำ� นวนมหาศาลไดข้ ดุ ลอกคลองไปจะมองเหน็ ทอ้ งทงุ่ นากระจา่ ง ตากบั บา้ นเรอื นทกี่ ำ� ลงั ผุดข้ึนตาม ๒ ฝงั่ คลองไปพร้อมๆ กัน พ้นื ที่กว้างใหญ่สุด ลูกหูลูกตาฝั่งตะวันออกขยายตัวออกไปไม่ส้ินสุด เห็นหลังสีด�ำของช้างท่ัวไป ทุกหนแห่ง มีสายน้�ำอยู่เพียงสายเดียวไหลอยู่ตามแนวแอ่งแม่น้�ำเดิมจ�ำนวน มากมายหลายสายที่บดั นต้ี ้นื เขนิ จนหมด ท้งั ท่แี ต่เดมิ นนั้ เคยใช้เปน็ ปากนำ�้ และ ทางนำ้� ของแมน่ ำ�้ เจา้ พระยามากอ่ น ตามรมิ ตลงิ่ มตี น้ ไมใ้ หญท่ ล่ี ำ� ตน้ ฝงั ลกึ ลงไป ในโคลนอนั อ่อนนมุ่ ลึกรว่ ม ๑๐ ถงึ ๑๒ ฟตุ จรงิ ๆ แล้วไม้พวกนีจ้ ัดอยู่ในพวก ไมโ้ กงกาง แสดงใหเ้ หน็ วา่ พน้ื ทท่ี ง้ั หมดของบรเิ วณสามเหลยี่ มปากแมน่ ำ�้ ไดเ้ กดิ การเปลยี่ นแปลงทางธรณวี ทิ ยาอยา่ งรนุ แรงไปเมอ่ื เรว็ ๆ นี้ ดว้ ยเหตกุ ารณต์ า่ งๆ ทเ่ี ลา่ สบื กนั มาดงั กลา่ วจงึ เชอื่ กนั วา่ เมอื งลพบรุ เี คยเปน็ เมอื งทา่ ทางทะเลซง่ึ เปน็ บรเิ วณทสี่ ายนำ�้ เปลย่ี นเสน้ ทาง และจะตอ้ งเปน็ บรเิ วณทยี่ งั มกี ระแสนำ�้ ไหลผา่ น อยอู่ ยา่ งชา้ ทส่ี ดุ กจ็ นถงึ ศตวรรษทเ่ี กา้ และเรอ่ื งทว่ี า่ กระแสน้�ำนน้ั ไหลผา่ นมาถงึ อยธุ ยาในปจั จบุ นั นก้ี เ็ ปน็ เรอ่ื งทพ่ี อจะเชอื่ ถอื ได้ แตท่ เี่ ลา่ กนั ถงึ ซากเรอื อบั ปางท่ี บริเวณริมเทือกเขาดงพญาเย็นและดงรักเป็นเร่ืองที่ไม่น่าเช่ือถือเท่าใดนัก นอกเสยี จากวา่ ชาวบา้ นแถวนนั้ จะเคยเหน็ ซากเรอื โบราณมากอ่ น ความลกึ ของ ทรายทะเลท่ีก่อตัวอยู่ภายใต้ตะกอนหนาซ่ึงครอบคลุมอยู่แสดงให้เห็นว่าท่ีต้ัง ของกรุงเทพฯ ขณะน้ีเคยเป็นทะเลมาก่อนในช่วงการปรับตัวทางธรณีวิทยาท่ี ผา่ นมาไมน่ านนกั แตโ่ ดยแนวโนม้ ทว่ั ไปแลว้ การใชเ้ วลาตกตะกอนเปน็ พน้ื โคลน ตมอันหนาลึกกว้างใหญ่ไพศาลนั้นน่าจะน้อยกว่าเวลาท่ีได้ประมาณการไว้ ธรรมชาติจะเปลีย่ นแปลงไปอย่างชา้ ๆ ดังน้นั ชาวเรือหรือช่างต่อเรือในอา่ วนีก้ ็ มิต้องต่ืนตระหนกตกใจถ้าได้อ่านค�ำท�ำนายอันน่ากลัวของศาสตราจารย์คีน (Prof.Keene) ท่ีกล่าววา่ “เวลาทอี่ ่าวแคบๆ ตรงสว่ นปลายของอ่าวสยามจะ ถูกทับถมจนต้ืนเขินได้ใกล้เข้ามาแล้ว และเม่ือน้ันก็เป็นไปได้ที่เราสามารถจะ
ห้าปใี นสยาม เล่ม ๑ 91 เดินทางทางบกข้ามจากมะริด (Mergui) และตะนาวศรีไปทางตะวันออกสู่ จันทบูรณใ์ นภาคตะวันออกเฉียงใตข้ องสยามไดโ้ ดยตรง”8 ใน พ.ศ. ๒๔๓๙ (ค.ศ. ๑๘๙๖) แม้จะมีโขลงช้างแวะมาเยี่ยมเยียน บอ่ ย ๆ เหมอื นเขา้ มาไตถ่ ามทกุ ขส์ ขุ ในการทำ� งานของชา่ งขดุ และเขา้ มาทกั ทาย ใครก็ตามที่คิดว่าแสงไฟฟ้าหรือความเจริญน้ันคือการเปลี่ยนแปลงอันน่าเศร้า แต่คลองศูนย์กลางเส้นท่ีเชื่อมต่อถึงแม่น้�ำนครนายกก็ขุดจนส�ำเร็จ มีประตูที่ เหมาะสมอยตู่ อนปลายแตล่ ะดา้ น ดงั นน้ั ธารนำ�้ ตอนตน้ ในแมน่ ำ�้ บางปะกงหรอื แม่น้�ำนครนายกจะไหลเขา้ มาบรรจบกันที่ปลายคลองทางดา้ นตะวนั ออกเฉียง เหนือและจะทดน้�ำจ่ายไปทั่วพ้ืนที่ซึ่งอยู่ระหว่างแม่น้�ำท้ังสองในขณะที่แม่น�้ำ นนั้ เกิดขาดน้�ำ ล�ำนำ้� ต่างๆ จะแห้งขอดลงกอ่ น ดังนั้นประตนู �้ำทอ่ี ยู่ปลายคลอง ก็จะถูกปิดเพ่ือกักเก็บน้�ำไว้ ขณะที่ปลายคลองทางด้านตะวันตกได้รับกระแส นำ้� ท่วมสูงจากแม่นำ้� เจา้ พระยาในภายหลัง ก็จะท�ำการปล่อยน้�ำเข้ามาโดยเร็ว ทสี่ ดุ จนนำ�้ ในลำ� นำ�้ ตา่ งๆ สงู ไดร้ ะดบั คลองสายนมี้ คี วามกวา้ งประมาณ ๔๐ ฟตุ และลกึ ๑๐ ฟตุ ดว้ ยขนาดเชน่ นจ้ี งึ นา่ จะใชเ้ ปน็ เสน้ ทางหลกั สำ� หรบั เรอื ชาวบา้ น ไดเ้ ป็นอยา่ งดี ขณะเดยี วกับที่รมิ ตล่งิ สงู ทเี่ กดิ ขึน้ มาจากการทับถมของเศษหนิ ดินทรายจากการขดุ นนั้ อยหู่ ่างจากรมิ คลองทง้ั สองดา้ นถึง ๓๐ ฟุต สามารถใช้ เปน็ ทางเท้าอย่างดีได้ในทกุ สภาพอากาศ ทางดา้ นทศิ ใตข้ องบรเิ วณทบ่ี รษิ ทั ดำ� เนนิ งานอยมู่ คี ลองเกา่ แกอ่ ยู่ ๓ สาย ไหลจากเมอื งใกลก้ รงุ เทพฯ จากทางดา้ นตะวนั ออกของทศิ ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื สายหน่ึงไหลจากทางตะวันออกสายหน่ึง และไหลจากด้านตะวันออกของทิศ ตะวนั ออกเฉยี งใตส้ แู่ มน่ ำ้� บางปะกง คลองเหลา่ นก้ี เ็ ปน็ เหมอื นคลองอนื่ ๆ ซง่ึ อยู่ ตรงขา้ มทางทิศตะวนั ตกทถ่ี ูกปล่อยใหต้ ืน้ เขินกินบริเวณไปถงึ คลองแสนแสบท่ี อยู่ตอนเหนือสุดจนไม่สามารถแล่นหรือเข้าไปได้ตอนช่วงเดือนมีนาคมและ เมษายน ลักษณะภูมิประเทศซ่ึงมีการก่อถนนสูงมองดูคล้ายกับท่ีเป็นอยู่ทาง ดา้ นตะวนั ตก ถดั ไปคอื ทะเลบรเิ วณปา่ ชายเลนไมโ้ กงกาง มลี กั ษณะเปน็ ล�ำหว้ ย 8 สภาพภูมศิ าสตร์ของแหลมมลายู อนิ โดจนี และอนื่ ๆ พมิ พค์ ร้งั ท่ี ๒. ลอนดอน, ๒๔๓๕ “อา่ วแคบๆ” ท่ีกลา่ วถึงมพี น้ื ที่กวา่ ๓,๖๐๐ ตารางไมล์ ความลกึ โดยเฉลยี่ จาก ๑๐ ถงึ ๑๕ ฟาทอม การทจี่ ะเชอ่ื มตอ่ ตะนาวศรแี ละจนั ทบรู ณท์ ก่ี นิ เนอ้ื ทปี่ ระมาณ ๒.๒๕๐ ตารางไมลน์ ั้น หมายถงึ วา่ จะตอ้ งทับถมกันดว้ ยความลึกจรงิ ๆ ถงึ ๑๖ ฟาทอม !? – ตน้ ฉบับ
92 บทที่ ๓ บรเิ วณท่ีราบลุม่ แมน่ ำ�้ เจา้ พระยา คดเคย้ี วเลย้ี วลดเปน็ ทเ่ี พาะพนั ธย์ุ งุ และตวั เหยี้ และเปน็ สถานทตี่ งั้ หมบู่ า้ นประมง ซึ่งสร้างบ้านอยู่บนเสาตอม่อสูงเหนือพื้นโคลน เม่ือด้านในของพ้ืนที่ถมทับกัน สูงขึ้นจนโคลนแข็งตัวมากขึ้นก็จะใช้เพาะปลูกพืชที่ให้ประโยชน์สูงสุดอย่าง น้�ำตาลเมา หรอื ตน้ จาก๑ มนั เปน็ พืชทมี่ ีใบยาวอ่อนชอ้ ยเมอ่ื แห้งจนกลายเปน็ สี เหลอื งจงึ จะนำ� มาทำ� หลงั คาของบา้ นเรอื นเปน็ จำ� นวนถงึ ครงึ่ หนงึ่ ของบา้ นเรอื น ที่มีอยู่ในสยามเลยทีเดียว เพราะมันสามารถทนแดดทนฝนได้อย่างวิเศษ ทั่วบริเวณท่ีบ่ายหน้าไปสู่ทะเลจะมีการท�ำน้�ำเค็มให้ระเหยกลายเป็นไอในนา เกลอื กว้างใหญ่และเกลอื ทั้งหมดท่ีมีอยู่ในแถบทีร่ าบลุ่มแม่น้�ำนัน้ ต่างก็ผลิตมา จากทน่ี ี่ เม่อื ยอ้ นกลับขน้ึ ไปทางบกตามแนว คลอง ยาวตรงทขี่ ดุ ไวเ้ ราจะพบกับ ดงมะพร้าวและตน้ ปาล์ม ไร่สม้ ไร่ขนุนและทงุ่ นาขา้ ว แตเ่ มลด็ พนั ธขุ์ า้ วแถบนี้ สบู้ รเิ วณทปี่ ลุกทางตอนเหนอื ข้ึนไปไม่ได้ เนื่องจากได้รับกระแสน้�ำเค็มกร่อยที่ ไหลเข้ามาอยูบ่ ้างเปน็ ครัง้ คราว จากทางตอนใตข้ องทศิ ตะวนั ออกของกรงุ เทพฯ ไปตามแมน่ �้ำบางปะกง อนั คดเคยี้ วเปน็ ทตี่ ง้ั ของเมอื งเลก็ ๆ ทมี่ คี วามสำ� คญั ชอื่ แปดรว้ิ เปน็ เมอื งทม่ี กี าร สรา้ งโรงสขี า้ วจำ� นวนมากมายขน้ึ เมอ่ื ไดพ้ จิ ารณาเหน็ แลว้ วา่ แปดรว้ิ เปน็ ศนู ยก์ ลาง การค้าขายและมีทงุ่ นาข้าวอนั อุดมสมบูรณ์ทไ่ี ดร้ บั นำ้� จากแมน่ ำ้� บางปะกงหลอ่ เลี้ยง เมล็ดพนั ธุ์ข้าวของเมืองนี้ขนึ้ ชื่อในเรอื่ งคุณภาพ ถดั ไปทางเหนือเปน็ ที่ตั้ง เมืองประจิม๑ เมืองที่ต้ังส่วนราชการบริหารจังหวัด และเป็นจุดทางผ่านไปยัง เหมอื งทองของตำ� บลกบนิ ทรแ์ ละตำ� บลวฒั นา ทกุ ๆ สปั ดาหจ์ ะมเี รอื กลไฟเลก็ ๆ หนงึ่ หรอื สองล�ำแลน่ จากกรุงเทพฯ ไปยังแปดร้วิ เปน็ ประจำ� อยุธยาหรือ กรุงเก่า ซึ่งเป็นเมืองหลวงในอดีตกาลนั้นเป็นเมืองที่ควร คณุ คา่ แกก่ ารเขา้ เยย่ี มชม และมกั ไดร้ บั การพรรณนาไวว้ า่ เปน็ ดงั่ เมอื งในกระแส น้�ำยามบ่ายอันน่าชมถัดจากกรุงเทพฯ พระเจดีย์ก่ออิฐอันเก่าแก่ยังคงตั้งอยู่ กระจดั กระจายทวั่ บรเิ วณหลายๆ ตารางไมล์ แสดงใหเ้ หน็ ไดถ้ งึ อาณาเขตทเ่ี คย ๑ ต้นฉบบั ภาษาองั กฤษใช้ nipa fructicans – สวป. ๑ ตน้ ฉบบั ใช้วา่ Prachim หมายถงึ เมืองปราจีนในสมัยนน้ั และอยใู่ นเขตมณฑลปราจนี – สวป.
หา้ ปีในสยาม เลม่ ๑ 93 เปน็ เมอื งเกา่ มองเหน็ สแี ดงกำ�่ ของเนอ้ื อฐิ ตดั กบั สเี ขยี วของทงุ่ หญา้ รกทบึ ไปทวั่ ทงั้ บรเิ วณเจดยี เ์ หลา่ นม้ี ลี กั ษณะทไ่ี ดร้ บั แบบอยา่ งมาจากเจดยี แ์ ละวหิ ารในนครวดั แตข่ าดซง่ึ รายละเอยี ดอนั งดงามออ่ นชอ้ ยทมี่ ใี นนครมหศั จรรยซ์ ง่ึ ปรกั หกั พงั แหง่ นนั้ ทงั้ ยงั มคี วามสงู มากกวา่ แตท่ วา่ ดอ้ ยกวา่ ในเรอ่ื งสดั สว่ นอนั งดงามตรงึ ใจ วดั ทม่ี คี วามวิจติ รงดงามยังคงเหลอื อย่อู ีกเพยี งไมก่ แ่ี หง่ เชน่ วัดชา้ ง๑ ทม่ี ีพระพทุ ธ รปู องคใ์ หญป่ ระดษิ ฐานอยู่ สำ� หรบั ความคดิ เหน็ ดที ส่ี ดุ ทจ่ี ะกลา่ ววา่ กรงุ เกา่ เปน็ เช่นไรนั้นไดร้ ับการรวบรวมไวโ้ ดยนกั เขยี นอยา่ ง แฮมลิ ตัน และ ตรุ แปง จาก ทิศตะวันออกเฉียงเหนือล่วงเข้าสู่แม่น้�ำป่าสัก เมืองที่อยู่ติดกันจึงถูกซอยแบ่ง ออกแยกย่อยโดยล�ำน้�ำสลับซับซ้อนราวเป็นเครือข่ายท่ีสมบูรณ์แบบ ท�ำให้ ประชาชนได้ใช้เป็นเส้นทางสัญจรไปมา ท�ำการระบายน้�ำและทดน้�ำเข้ายังไร่ สวนท่ีเพาะปลูกผลไม้อยู่อย่างหนาแน่น ทุ่งนากว้างขยายตัวเป็นบริเวณกว้าง ใหญ่ไพศาล สามารถมองเห็นต้นไทร ตน้ โพธิ์ ต้นตาลและตน้ ไผ่เจริญงอกงาม เต็มท่ี ถา้ เทยี บในเร่อื งความอดุ มสมบูรณ์และความเจริญกา้ วหนา้ ทป่ี รากฏแก่ สายตาแลว้ คนชา่ งสงั เกตทไ่ี ดเ้ คยเหน็ พนื้ ทอ่ี น่ื ๆ ในประเทศมาบา้ งกด็ จู ะพออก พอใจดินแดนแหง่ นอี้ ยู่มากทีเดยี ว มบี รเิ วณทแี่ ปลกประหลาดอยสู่ ว่ นหนงึ่ ไปทางตะวนั ออกเฉยี งเหนอื สปู่ าก เพรียว คือแทบจะไม่มีต้นไผ่ให้เห็นซึ่งนับว่าผิดปกติไปจากส่วนอื่นๆ ของ ภูมิประเทศแถบน้ี เพราะทุกพ้ืนที่จะดาษด่ืนไปด้วยกอไผ่ต้นยักษ์ๆ ที่มีใบดก หนาเหมอื นเปน็ กฎเกณฑท์ จ่ี ะตอ้ งมตี น้ ไผส่ รา้ งความสดชนื่ ออ่ นไหวใหภ้ มู ปิ ระเทศ เช่นเดียวกับที่รอบๆ เมืองพระตะบองก็สังเกตเห็นได้เช่นน้ีเหมือนกัน ซึ่งส่วน ใหญจ่ ะเนอ่ื งมาจากสภาวะนำ้� ทว่ มประจำ� ปที ท่ี ว่ มสงู มากเกนิ กวา่ ปกติ โดยเฉพาะ พ้ืนทีใ่ นส่วนนมี้ ักจะทว่ มสงู เกนิ กว่า ๖ ฟุต สง่ิ สนใจทน่ี า่ ชมในอยธุ ยากค็ อื “การคลอ้ งชา้ งในเพนยี ด” ประจำ� ปี เมอื่ ชา้ งรว่ ม ๒๐๐ ตวั ทม่ี าจากเขตทรี่ าบตำ่� ของโคราชและบรเิ วณทงุ่ หญา้ ในจงั หวดั นครนายกถกู ตอ้ นโดยชา้ งพลายทไี่ ดร้ บั การฝกึ จนเชอ่ื งใหเ้ ขา้ สเู่ พนยี ดทส่ี รา้ งไว้ ๑ ต้นฉบบั ภาษาองั กฤษใช้ Wat Chang – สวป.
94 บทที่ ๓ บริเวณท่รี าบลุ่มแม่นำ�้ เจา้ พระยา นอกเมืองส�ำหรับคล้องช้าง จากนั้นจึงจะท�ำการคัดเลือกช้างบางตัวในจ�ำนวน นัน้ เพอ่ื เอาไวใ้ ชง้ าน โขลงช้างปา่ สยามจะมกี ารแสดงเชน่ นี้ตามสถานทตี่ า่ งๆ ทุกปี แตย่ งั จดั อยู่ในวงแคบ และมีผลต่อชาวป่าเพียงกลุ่มเล็กๆ ที่อาศัยอยู่ในป่าเขาห่างไกลจากเสียงแคน เสยี งผู้คนทป่ี รบมอื ให้ แตก่ าร “คลอ้ งชา้ ง” ทอ่ี ยธุ ยานน้ั นบั เปน็ พระราชกจิ ของราชวงศท์ สี่ บื ทอด มาเน่นิ นาน โดยถอื เปน็ พระราชประเพณขี องมหากษัตรยิ ์หรอื ผู้ทำ� หน้าทแี่ ทน พระองค์ที่จะต้องเสด็จพระราชด�ำเนินไปปรากฏตัวพร้อมด้วยข้าราชบริพาร และนางในราชสำ� นักจากกรงุ เทพฯ จะเฝา้ ตามเสด็จฯ ด้วย โขลงช้างมักจะเดินทางมาถึงในสภาพท่ีอิดโรยและกระปลกกระเปลี้ย ปว่ ยไขเ้ พราะถกู ควาญชา้ งกระตนุ้ อยา่ งไมห่ ยดุ หยอ่ นใหร้ ดุ เดนิ ไปขา้ งหนา้ ควาญ ช้างที่ล้อมโขลงช้างไว้เป็นรูปคร่ึงวงกลม คือผู้ที่ได้คล่อมขี่อยู่บนหลังช้างด้วย ความอดทนมารว่ มเดือน สง่ ผลใหพ้ วกมันพากันเดินขา้ มแมน่ ำ้� อย่างเงื่องหงอย
ห้าปีในสยาม เลม่ ๑ 95 ไปยงั แนวหมดุ ที่ตอกลเู่ ขา้ สจู่ น่ั ดักช้างหรือเพนยี ด ภาพท่ไี ด้เหน็ ขณะเม่อื ขบวน สัตว์ ๒๐๐ ตัว เดนิ ลัดเลาะรมิ ฝงั่ แมน่ ้�ำลงมาเปน็ จำ� นวนมากมายน้นั ดตู ระการ ตาย่งิ นัก อาจกล่าวได้ว่าชา้ งเคล่อื นตวั ลงมาราวกบั เป็นสายนำ้� ตกเลยทเี ดียว มกั มชี า้ งบางตวั หวดี รอ้ งเสยี งแปรน๋ และเกดิ การเบยี ดเสยี ดยดั เยยี ดกนั ท่ี บริเวณปากทางคอกแคบๆ ตวั แรกๆ ทน่ี ำ� มากอ่ นจะเกดิ อาการหวาดกลัวทจี่ ะ ต้องเข้าไปข้างในแม้ว่าจะใช้ช้างพลายที่ฝึกแล้วเป็นตัวน�ำมาก็ตาม ส่วนเจ้าตัว ที่อยู่ร้ังท้ายก็ร้อนรนท่ีจะออกไปให้พ้นแถวแคบๆ ที่พวกมันยืนเบียดกันอยู่ให้ ไดด้ งั ใจนกึ ภายใตค้ วามชลุ มนุ วนุ่ วายนขี้ อ้ สงั เกตทสี่ ำ� คญั ทส่ี ดุ กค็ อื การระมดั ระวงั ดแู ลลกู ชา้ งตวั เลก็ ๆ ทห่ี ลบอยใู่ ตต้ วั แมท่ ม่ี กั จะเดนิ หลดุ ออกมาเองโดยทไ่ี มม่ ใี คร คอยจบั แตแ่ มว้ า่ จะมกี ารผลกั ดนั กนั หรอื แมแ้ ตม่ กี าร “ตกนำ�้ มนั ” อยา่ งทเ่ี รยี ก กนั ในเวสตม์ นิ สเตอร์๑ แตไ่ มเ่ คยปรากฏวา่ มลี กู ชา้ งตวั ไหนถกู เหยยี บตาย แมอ้ ยู่ ในภาวะทน่ี า่ สะพรงึ กลวั เชน่ นี้ พวกมนั กย็ งั สงบนงิ่ อยไู่ ดเ้ พราะความเหนอื่ ยลา้ และ หิวโหย ถึงพวกมนั จะพากนั หมนุ ตวั เปน็ วงกลมสะบัดเทา้ เตะฝุ่นปลวิ ฟุง้ แต่ก็ไม่ ไดก้ อ่ ความตระหนกตกใจใหแ้ ต่อยา่ งใด ผ้มู าเหน็ ใหม่ๆ มกั จะพบกบั ความผิด หวงั และตัง้ ข้อสงั เกตวา่ “พวกมันดูไมค่ อ่ ยดุดันเหมอื นช้างป่าเลยนะ” ชา่ งนา่ สงสารที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ถึงความเป็นจริง หลายคร้ังที่ปฏิกิริยาเฉยเมยของมันนี้ เป็นเหตุให้มันต้องถูกทรมานโดยไม่จ�ำเป็นจากค�ำสั่งของผู้คุมที่มีอ�ำนาจครอบ ครองมันในตอนน้ัน ซ่ึงมักจะท�ำกันในวันท่ีสองเพื่อให้ภาพที่เห็นมองดูน่าตื่น ตระหนก ครงั้ ลา่ สดุ ทข่ี า้ พเจา้ ไดร้ บั รวู้ ธิ กี ารเชน่ นเ้ี ปน็ คำ� สง่ั ของสมเดจ็ เจา้ ฟา้ ชาย พระองคห์ นง่ึ ซงึ่ ทรงพำ� นกั อยใู่ นยโุ รปนานพอสมควรจนสามารถพดู ภาษายโุ รป ได้อย่างน้อยภาษาหนึ่งอย่างคล่องแคล่ว เจ้าฟ้าชายทรงด�ำรงต�ำแหน่งส�ำคัญ สูงสุดในจังหวัดท่ีมั่งค่ังที่สุดของสยาม เป็นผู้น�ำข้าราชการท้องถิ่นให้ปฏิบัติใน วถิ ที างทคี่ วรเปน็ และทรงพฒั นาทอ้ งถน่ิ ใหม้ คี วามเจรญิ พระองคท์ รงมงุ่ มน่ั เพอ่ื ไปสวู่ ตั ถปุ ระสงค์ แตข่ า้ พเจา้ เกรงวา่ จนถงึ ทกุ วนั นพี้ ระองคก์ ค็ งจะยงั ไมไ่ ดม้ าซง่ึ ส่ิงทีส่ มควรจะได้รับ ๑ Westminster ช่อื ต�ำบลหน่งึ ในลอนดอน – สวป.
96 บทท่ี ๓ บรเิ วณทรี่ าบล่มุ แม่นำ้� เจา้ พระยา การเลือกสรรและจับแต่ช้างตัวท่ีดีที่สุดโดยเน้นในเรื่องคุณลักษณะเป็น วิธกี ารที่ท�ำกันโดยทั่วไปในประเทศภมู ภิ าคตะวันออกท่มี ีการจบั ชา้ ง ส่วนเร่ือง ราวทมี่ กี ารพรรณนารายละเอียดไว้โดยสมบูรณ์มอี ยใู่ นหนังสือของนักเขยี นชื่อ แซนเดอร์สัน (Sanderson) เปน็ หนงั สอื ทยี่ ากจะหาหนังสอื เลม่ ใดเทยี บได9้ ชา้ งพลายทฝ่ี กึ แลว้ จะเขา้ มาในคอกตามจำ� นวนทก่ี ำ� หนดโดยมคี วาญชา้ ง ขอ่ี ยบู่ นคอชา้ งแตล่ ะตวั และมนี ายทา้ ยซอ้ นทา้ ยอยดู่ า้ นหลงั พรอ้ มขดหวายเปน็ สายยาว ๒ เส้น โขลงช้างไมเ่ คยพยายามทจ่ี ะตอ่ สู้กับชา้ งพลายและในทส่ี ดุ ก็ ยนิ ยอมใหช้ า้ งพลายเขา้ มาขนาบขา้ งตวั มนั ทง้ั ซา้ ยและขวา ควาญชา้ งจะเอาบว่ ง เชือกคล้องไปที่เท้าช้างขา้ งหนึ่งโดยใชไ้ มไ้ ผ่ยาวๆ ช่วย เขาจะคล้องบว่ งในขณะ ที่เท้าข้างนั้นลอยอยู่ไม่ติดพื้นโดยที่ตัวช้างยังยืนอยู่กับที่ซ่ึงไม่ใช่เร่ืองยากเย็น เทา่ ไรนกั เมอื่ คลอ้ งไดแ้ ลว้ กจ็ ะทง้ิ ขดเชอื กลงมาแลว้ ใหช้ า้ งพลายเอาปลายเชอื ก อีกข้างแยกออกไปทางต้นสักใหญ่ท่ีใกล้ที่สุดหรือไปยังไม้ตะเคียน1 ท่ียืนต้น ตระหง่านอยู่รอบรั้ว คนท่ีซุ่มรออยู่หลังต้นไม้ก็จะมัดเชือกไว้กับต้นไม้อย่าง รวดเรว็ เมอ่ื ชา้ งตวั ที่ถูกจับเปน็ เชลยรู้ตวั ว่าการเคลอ่ื นไหวของมนั มอี ปุ สรรคก็ มกั จะออกอาการปา่ เถอื่ นดดุ นั สะบดั กระชากขาทถ่ี กู หวายรดั แนน่ จนเชอื กขมงึ ตงึ เกอื บท�ำใหข้ าหลังแพลง มนั จะวิง่ ถลาจากดา้ นหนึ่งไปอีกด้านหนง่ึ และทกุ ครงั้ ท่ีมนั เขา้ ไปใกล้เสาหลักอันใหญเ่ ชอื กกจ็ ะมว้ นตวั พันรอบเสาแลว้ คอ่ ยๆ หด สั้นลงจนมันหมุนตัวไปทางซ้ายไม่ได้ ช้างพลายจะกลับเข้ามาใกล้อีกครั้ง ซึ่งหากมันยังแสดงอาการท่ีจะตอ่ สชู้ า้ งพลายตวั ใหญ่สดุ ก็จะเขา้ มาปราบให้มัน สงบลงได้โดยใช้น้�ำหนักกดหัวและงาของมันลง2 ตรงที่บริเวณหน้าผากและ ควบคุมมันไว้อย่างน้ันในขณะเดียวกับท่ีตัวอื่นๆ เข้ามาอยู่ข้างๆ มันจะถูกมัด รอบคออย่างเหนียวแน่นแล้วน�ำเชือกมาผูกอย่างแน่นหนากับช้างพลายฝึกตัว ใหญข่ า้ งละตวั จากนน้ั จงึ พากนั เดนิ ไปทท่ี างออกอยา่ งเปน็ ระเบยี บซงึ่ ตรงทางออก นั้นมันจะถูกแก้มัดและถูกเร่งให้รุดไปตามช่องทางแคบๆ การเดินทางของมัน 9 ชอื่ หนังสอื ๑๓ ปที ่ามกลางฝงู สัตว์รา้ ยในอนิ เดยี . ลอนดอน : ดับลวิ .เอช.อลั เล็น และบริษทั จ�ำกัด. พ.ศ. ๒๔๓๖. – ต้นฉบบั 1 พม่าเรยี ก Thingan (hopea odorata) เปน็ พืชชนิดหน่งึ ในเขตร้อน – ต้นฉบบั 2 ในการฝึกชา้ งพลายจนเชอ่ื ง จุดท่สี �ำคญั ทส่ี ดุ กค็ อื ตอ้ งฝึกใหม้ ันสามารถยกตวั และงาสูงเหนือฝ่ายตรงข้ามตำ� แหนง่ เชน่ นี้จะ ท�ำใหม้ นั มีอิสระและพละกำ� ลังที่เหนอื กวา่ ทงั้ ยงั เป็นการป้องกนั อนั ตรายใหแ้ กค่ วาญช้างด้วย – ต้นฉบับ
หา้ ปใี นสยาม เลม่ ๑ 97 การต่อสู้ของชา้ ง
98 บทท่ี ๓ บรเิ วณทร่ี าบลมุ่ แมน่ ำ้� เจ้าพระยา ครั้งน้ีเป็นแค่ช่วงส้ันๆ สู่โรงเรียนหลังคาสูงยาวที่รองรับไว้ด้วยเสาต้นมหึมา โรงเรือนน้ีใช้เป็นคอกขังและเป็นที่ซึ่งมันจะได้รับอาหารและได้รับการเลี้ยงดู ฝกึ ฝนจาก หมอ3 ในอนาคตของมัน ทา้ ยทส่ี ดุ ฝงู ชา้ งกจ็ ะถกู ปลอ่ ยออกมาขา้ งนอกเพอ่ื ใหม้ นั แชต่ วั และกนิ นำ�้ ในแมน่ ำ้� ซง่ึ แวดลอ้ มไปดว้ ยชา้ งพลายงายาวทที่ ำ� หนา้ ทตี่ า่ งยามรกั ษาการณ์ ขณะ ที่พวกมันยืนอย่างสับสนและรู้สึกร�ำคาญเหมือนถูกรบกวนจากการเฝ้ารอและ จ้องมอง ชา้ งท่ีถกู ควบคุมตัวหรือสองตัวจงึ มกั เกดิ ปฏิกิริยาขึ้น แตก่ ารเกดิ เรอ่ื ง ในสถานทีโ่ ล่งแจ้งเช่นนีย้ อ่ มควบคุมได้ยากกวา่ ในเพนยี ด เพราะชา้ งมบี รเิ วณท่ี ตน่ื เตลดิ ไปได้ไกลกว่าเกา่ ในสถานการณ์เชน่ น้ีบางทีจะมีช้างบางตัวถือโอกาส แหวกแนวควบคมุ ของชา้ งพลายออกมา ฝงู ชนชาวสยามทม่ี ารวมตวั กนั อยรู่ อบๆ เป็นวงใหญไ่ มไ่ กลนกั ต่างพากันวงิ่ หนีกระเจิดกระเจิงเปน็ กลุ่มไปยงั ท่ปี ลอดภยั ซงึ่ ใกลท้ สี่ ดุ อยา่ งไรกต็ ามชา้ งกส็ ามารถวงิ่ ไลค่ นทแี่ มจ้ ะวงิ่ เรว็ ทสี่ ดุ ไดท้ นั ดงั นน้ั ทุกๆ ปีจึงต้องมีคนตายไปเพราะเหตุการณ์เช่นนี้ การลังเลแม้เพียงเล็กน้อย การปลอบเหยือ่ ใหส้ งบ 3 ผ้ชู �ำนาญการพิเศษ หมายถึงควาญชา้ ง – ตน้ ฉบับ
หา้ ปีในสยาม เล่ม ๑ 99 การวิ่งไปบนพน้ื ขรขุ ระการสะดดุ ลม้ ล้วนเป็นจุดจบทัง้ สิน้ คนในกลุ่มบางคนท่ี คุ้นเคยกบั เหตกุ ารณ์เชน่ นม้ี ากอ่ นจะเผชิญหน้ากับฝงู ช้างท่ีวิ่งเข้ามาปะทะดว้ ย ก่ิงไม้และก้อนหิน เพียงแค่เขาคอยจ้องหาจังหวะอย่างสงบและเงียบเชียบแต่ เพยี งอย่างเดียวก็อาจทำ� ใหเ้ ขาเปล่ียนทศิ ทางใหพ้ น้ ฝงู ชา้ งไปได้เกือบทุกครง้ั ส่งิ ท่ีเห็นแลว้ ตดิ ตรึงอย่ใู นความทรงจำ� ทีส่ ุดกค็ ือ การต่อสูข้ องช้างพลาย ลกั ษณะดีอายุ ๕ ปี ซงึ่ ตดิ บว่ งอยภู่ ายนอกเพนียด ในขณะที่โขลงชา้ งพากันวิง่ ไปยังแม่น�้ำ โทสะและความร้ายกาจของมันได้แผลงฤทธ์ิออกมา เจ้าช้างน้อย อ่อนเยาว์ที่น่าสงสารกรีดร้องราวกับทารกแต่ต่อสู้ดุดันเช่นราชสีห์ ช้างพลาย ใหญ่ ๓ ตัวที่คุมมันไว้ก็ยังไม่สามารถท�ำอะไรมันได้ ท้ังมันยังดิ้นหลุดจากทุก อยา่ งทีน่ �ำมามดั มันเสยี ด้วย แต่ก็ยังมีหวายเส้นเหนียวยึดตัวมันเอาไว้ และทันทีท่ีมันส่งเสียงร้องซ้�ำ อกี ครง้ั ชา้ ง ๔ ตวั จากในโขลงกพ็ ากนั วง่ิ มาขนาบขา้ งมนั ทง้ั ซา้ ยและขวาเหมอื น ทหารเรยี งแถว หางทกุ ตวั ชต้ี รงพรอ้ มกบั สง่ เสยี งรอ้ งคำ� รามดว้ ยความพยาบาท ตวั นำ� ดูเหมือนจะเป็นชา้ งตัวเมยี อายุมากแล้วบางทอี าจเปน็ แม่ของเจา้ ตวั ที่ถกู จับมาก็เป็นได้ ส่วนอกี ๓ ตวั คงเปน็ เพื่อนหรือญาตทิ ผ่ี กู พนั กนั อยูใ่ นโขลงเปน็ พิเศษอย่างไมต่ ้องสงสัย ดเู หมอื นพวกชา้ งฝกึ จะตื่นตระหนกและไมก่ ลา้ เผชิญ หน้ากบั พวกมนั ส่วนช้างทัง้ ๔ ตัวท่ีล้อมรอบเจา้ ช้างเชลยตวั นอ้ ยอยู่น้นั ต่างก็ พากันสง่ เสยี งรอ้ งครวญครางนา่ สงสารอย่างไมห่ ยุดหยอ่ น ขณะท่มี ันตกอย่ใู น สภาพเช่นน้ีฝูงชนสยามกลับปรบมือโห่ร้องกันอย่างชื่นชมยินดี ช้างท้ัง ๔ ตัว ตา่ งเดนิ วนไปวนมารอบชา้ งเชลยและวงิ่ เขา้ ใสก่ ลมุ่ คนทกี่ ำ� ลงั แสดงความชน่ื ชม อยหู่ า่ งออกไป เดย๋ี วกพ็ งุ่ เขา้ ใสช่ า้ งพลายฝกึ ทห่ี นั หลงั เปดิ หนแี บบเดยี วกบั พวก คนดูวนไปเวียนมาอยู่เช่นน้ี ท้ายท่ีสุดพวกช้างฝึกจึงพากันผนึกก�ำลังอย่างเข้ม แขง็ ขับไล่เจ้าสัตว์ทีก่ ลา้ หาญจนล่าถอยไป พวกมันมงุ่ หนา้ เข้าไปยังป่าทางตอน เหนอื ไดเ้ หน็ เปน็ ครง้ั สดุ ทา้ ยตอนทมี่ นั เดนิ ขา้ มแมน่ ำ้� ดว้ ยฝเี ทา้ อนั รวดเรว็ ไปยงั ทศิ ตะวันออกเฉยี งเหนือ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 473
Pages: