๒๘๘ ความหมายของการ “Á”Õ เครอ่ื งมอื หรอื วตั ถุ การ “ÁÕ” คงหมายถึงยึดถือหรือครอบครองอยางใดอยางหน่ึงก็ได เพียงแตชวยถือ กค็ งถือวา เปน การ “ÁÕ” เพราะ “ยึดถอื ” ไวแ ลว เพราะไมจ าํ ตองถึงขนาด “ครอบครอง” อยา งไรก็ตาม ก็อาจมีการครอบครองโดยผูอื่นยึดถือไว หากซื้อเครื่องมือปลอมแลว แตผูขายยังไมสงมอบ คงยัง ไมถือวาผูซื้อครอบครอง นอกจากผูซ้ือจะใหผูขายยึดถือไวให หากเปนเชนนี้ก็คงตองถือวาผูซื้อ ครอบครองแลว และเปนความผดิ ตามมาตรา ๒๖๙/๒ น้ี โดยถือวา เปนการ “Á”Õ แลว ®Õ¡Ò·Õè ñùöù/òõðõ การมีเคร่ืองมือปลอมเงินตราไวเพ่ือใชในการปลอมอันเปน ความผิดตามมาตรา ๒๔๖ ดังนี้ นายแดงนําเคร่ืองมือปลอมเงินตราไปทําการปลอมเงินตราที่บานนายดํา เพื่อทําให นายดําดู ศาลฎีกาวินิจฉัยวา นายดําไมใชตัวการในการปลอมเงินตรา (ปลอมเงินตราเปนความผิด ตามมาตรา ๒๔๐) ทง้ั นเี้ พราะนายดาํ มไิ ดร ว มในการทดลองดว ย อยา งไรกต็ ามนายดาํ ยอมใหใ ชส ถานที่ ภาชนะ เตาไฟเปน การใหค วามสะดวกในการทาํ ปลอมเงนิ ตรา นายดาํ จงึ มคี วามผดิ ฐานเปน ผสู นบั สนนุ ตามมาตรา ๘๖ แตการทนี่ ายแดงนาํ เคร่ืองมือปลอมเงนิ ตราไปทาํ ปลอมทีบ่ านนายดํา แตไมเหมือน ของจริง นายแดงจึง “½Ò¡” เครื่องมือนั้นไว วันรุงข้ึนจะมาทดลองทําใหดูใหม นายดํา “ÃѺ½Ò¡” เคร่ืองมือไว ศาลฎีกาวินิจฉัยวา นายดํา “ไดช่ือวามีเคร่ืองมือและเครื่องมือน้ีจะใชปลอมเงินตรา ทดลองอกี จงึ เปน การมเี ครอ่ื งมอื สาํ หรบั ปลอมเงนิ ตราเพอ่ื ใชใ นการปลอม...แลว ” นายดาํ มคี วามผดิ ตาม มาตรา ๒๔๖ ฐานÁàÕ ¤Ã×èͧÁÍ× สําËÃºÑ »ÅÍÁà§¹Ô μÃÒà¾èÍ× ãªãŒ ¹¡ÒûÅÍÁà§¹Ô μÃÒ คาํ พพิ ากษาฎกี าเรอื่ งนี้ คงเปน บรรทดั ฐานทจี่ ะใชก บั การมเี ครอื่ งมอื ปลอมบตั รอเิ ลก็ ทรอนกิ ส เพ่อื ใชใ นการปลอมบัตรอิเล็กทรอนิกสต ามมาตรา ๒๖๙/๒ ไดเปนอยา งดี ¤ÇÒÁ¼´Ô °Ò¹ “นาํ à¢ÒŒ ã¹” ËÃÍ× “ʧ‹ Í͡仔 ¹Í¡ÃÒªÍÒ³Ò¨¡Ñ à «§èÖ ºμÑ ÃÍàÔ Å¡ç ·Ã͹¡Ô Ê» ÅÍÁ ËÃ×Íà¤Ãè×ͧÁ×ÍËÃ×ÍÇÑμ¶ØสําËÃѺ»ÅÍÁºÑμÃÍÔàÅç¡·ÃÍ¹Ô¡Ê ËÃ×Íà¤Ã×èͧÁ×ÍËÃ×ÍÇÑμ¶ØสําËÃѺãˌ䴌¢ŒÍÁÙŠ㹡ÒûÅÍÁºμÑ ÃÍÔàÅ¡ç ·ÃÍ¹Ô¡Ê ÁÒμÃÒ òöù/ó บัญญตั ิวา ผูใดนําเขาในหรือสงออกไปนอกราชอาณาจักร ซ่ึงสิ่งใดๆ ตามมาตรา ๒๖๙/๑ หรือ มาตรา ๒๖๙/๒ ตองระวางโทษจาํ คุกต้ังแตสามปถงึ สบิ ป และปรบั ต้งั แตห กหมื่นบาทถึงสองแสนบาท ͧ¤»ÃСͺÀÒ¹͡ (๑) ผใู ด (๒) นาํ เขา ใน หรือสง ออกไปนอกราชอาณาจักร (๓) ซึ่งสิ่งใดๆ ตามมาตรา ๒๖๙/๑ (บัตรอิเล็กทรอนิกสปลอม) หรือสิ่งใดๆ ตาม มาตรา ๒๖๙/๒ (เครอื่ งมอื หรือวัตถุสําหรบั ปลอมบตั รอิเล็กทรอนกิ ส หรอื เครื่องมอื หรือวัตถสุ าํ หรับ ใหไดขอ มูลในการปลอมบัตรอิเลก็ ทรอนิกส)
๒๘๙ ͧ¤» ÃСͺÀÒÂã¹ เจตนา ¢ŒÍÊѧà¡μ ราชอาณาจักรมีความหมายอยางเดียวกับมาตรา ๔ วรรคแรก ซ่ึงไมรวมถึง เรือไทยหรืออากาศยานไทยซึ่งอยูนอกราชอาณาจักร และไมรวมถึงสถานทูตไทยในตางประเทศดวย เพราะไมใชราชอาณาจกั ร μÇÑ ÍÂÒ‹ § นายจมิ คนองั กฤษปลอมบตั รเครดติ ของธนาคารของไทยแหง หนงึ่ ในประเทศไทย โดยทําการปลอมที่ประเทศอังกฤษ นายจิมมีความผิดตามมาตรา ๒๖๙/๑ เปนความผิดซ่ึงลงโทษ ในราชอาณาจกั รไดต ามมาตรา ๘(๒/๑) เพราะคนไทย (ธนาคารของไทย) เปนผูเ สยี หาย หากตอมาภายหลัง นายจิมมอบบัตรเครดิตปลอมใหแกนายแดงท่ีประเทศอังกฤษ เพอื่ ใหน าํ เขา มาในประเทศไทย นายแดงรบั ไวโ ดยรวู า เปน ของปลอม นายแดงผดิ มาตรา ๒๖๙/๔ (ฐานมไี ว เพอื่ ใช) ซง่ึ ลงโทษในประเทศไทยไดตามมาตรา ๘ (๒/๑) หากนายแดงนาํ บตั รเครดติ ปลอมขน้ึ อากาศยานไทยซงึ่ จอดอยทู ป่ี ระเทศองั กฤษ เพอ่ื เดนิ ทาง มาประเทศไทย หากอากาศยานยังอยูเหนือนานฟานอกราชอาณาจักร นายแดงผิดมาตรา ๒๖๙/๔ (ฐานมีไวเ พือ่ ใช) ซงึ่ ลงโทษในประเทศไทยไดต ามมาตรา ๔ วรรคสอง เพราะเปน การกระทําความผดิ ตามมาตรา ๒๖๙/๔ ในอากาศยานไทยซงึ่ อยนู อกราชอาณาจกั รมขี อ สงั เกตวา กรณตี ามมาตรา ๔ วรรคสอง ไมต อ งรองขอใหล งโทษ ซึง่ ตา งกับมาตรา ๘ (๒/๑) หากอากาศยานไทยลาํ นนั้ เขา มาในราชอาณาจกั รแลว นายแดงกผ็ ดิ ตามมาตรา ๒๖๙/๓ นี้ (นําเขาในราชอาณาจักร) โดยเปนการกระทําความผิดในราชอาณาจักรตามมาตรา ๔ วรรคแรก ซง่ึ ลงโทษในราชอาณาจกั รไดโดยไมต องมกี ารรอ งขอ ¤ÇÒÁ¼Ô´°Ò¹ “㪌” ËÃ×Í “ÁÕäÇŒà¾×èÍ㪌” «§Öè ºμÑ ÃÍÔàÅç¡·Ã͹ԡʻ ÅÍÁ ¤ÇÒÁ¼Ô´°Ò¹ “จํา˹ҋ ” ËÃ×Í “ÁÕäÇàŒ ¾Í×è จํา˹ҋ ” «èÖ§ºμÑ ÃÍàÔ Å¡ç ·Ã͹ԡʻ ÅÍÁ ÁÒμÃÒ òöù/ô บญั ญัติวา ผใู ดใชห รอื มไี วเ พอื่ ใชซ งึ่ สง่ิ ใดๆ ตามมาตรา ๒๖๙/๑ อนั ไดม าโดยรวู า เปน ของทที่ าํ ปลอม หรอื แปลงขน้ึ ตอ งระวางโทษจาํ คกุ ตง้ั แตห นง่ึ ปถ งึ เจด็ ป หรอื ปรบั ตงั้ แตส องหมน่ื บาทถงึ หนง่ึ แสนสห่ี มนื่ บาท หรอื ทง้ั จําทั้งปรบั ผใู ดจาํ หนา ยหรอื มไี วเ พอ่ื จาํ หนา ยซง่ึ สงิ่ ใดๆ ทท่ี าํ ปลอมหรอื แปลงขนึ้ ตามมาตรา ๒๖๙/๑ ตอ งระวางโทษจาํ คกุ ตง้ั แตห นงึ่ ปถ งึ สบิ ป หรอื ปรบั ตง้ั แตส องหมนื่ บาทถงึ สองแสนบาท หรอื ทง้ั จาํ ทงั้ ปรบั ถาผูกระทําความผิดตามวรรคแรกหรือวรรคสองเปนผูปลอมซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส ตามมาตรา ๒๖๙/๑ ใหลงโทษตามมาตราน้ีแตก ระทงเดยี ว ความผิดฐาน “ใช” หรือ “มีไวเ พอ่ื ใช” ͧ¤»ÃСͺÀÒ¹͡ (๑) ผใู ด (๒) ใช หรือมีไวเพือ่ ใช (เพอ่ื ใช คือ เจตนาพิเศษ)
๒๙๐ (๓) ซ่ึงส่งิ ใดๆ ตามมาตรา ๒๖๙/๑ (บัตรอิเลก็ ทรอนกิ สป ลอม) อนั ไดม าโดยรวู าเปน ของ ท่ที ําปลอมข้ึน ͧ¤» ÃСͺÀÒÂã¹ (๑) เจตนา (๒) เจตนาพเิ ศษ เพอ่ื ใช (มีไวเ พอื่ ใช) ความผดิ ฐาน “จําหนาย” หรือ “มไี วเพื่อจําหนา ย” ͧ¤»ÃСͺÀÒ¹͡ (๑) ผูใด (๒) จาํ หนา ย หรอื มไี วเพือ่ จําหนาย (เพอ่ื จําหนาย คือ เจตนาพิเศษ) (๓) ซ่ึงส่งิ ใดๆ ตามมาตรา ๒๖๙/๑ (บัตรอเิ ลก็ ทรอนิกสป ลอม) ͧ¤» ÃСͺÀÒÂã¹ (๑) เจตนา (๒) เจตนาพิเศษ เพอื่ จาํ หนาย (มีไวเ พ่ือจาํ หนา ย) คํา͸ԺÒ ตามวรรคแรกเปนกรณกี าร “ใช” หรือ “มไี วเ พ่อื ใช” ซึง่ บัตรอเิ ลก็ ทรอนกิ สปลอม ซง่ึ ขณะ ไดม ารวู า เปน ของปลอม หากขณะไดม าไมร วู า เปน ของปลอม แตภ ายหลงั รวู า เปน ของปลอมแลว ยงั ขนื นาํ ออกใช หรอื ยงั ขนื มไี วเ พอื่ นาํ ออกมาใช การกระทาํ จะไมเ ปน ความผดิ ตามมาตรา ๒๖๙/๔ วรรคแรก น้ี ขอใหเ ปรยี บเทยี บกบั มาตรา ๒๔๕ กรณไี ดม าซงึ่ เงินตราปลอมโดยขณะไดม าไมรูว าเปน ของปลอม แตตอมารูวาเปนของปลอม แตยังขืนนําออกใชซึ่งเปนความผิดตามมาตรา ๒๔๕ แตกรณีตาม มาตรา ๒๖๙/๔ นีก้ ารใชห รอื มีไวเ พือ่ ใชซึง่ บตั รอิเลก็ ทรอนิกสปลอม ¨Ð¼Ô´¡çμ‹ÍàÁ×èÍä´ÁŒ Òâ´ÂÃÙÇŒ Ò‹ ໹š ¢Í§»ÅÍÁà·‹Ò¹éѹ หากขณะไดมาไมรูแตตอมารูแลวยังนําออกใช หรือมีไวเพ่ือนําออกใชก็ไมผิด มาตรา ๒๖๙/๔ วรรคแรกน้ี จะถือวา ผดิ มาตรา ๒๖๙/๕ กค็ งไมได เพราะมาตรา ๒๖๙/๕ เปน เรอ่ื ง ใชบตั รอิเล็กทรอนิกส ของผูอื่นโดยมิชอบ ซึง่ บัตรทใ่ี ชน ัน้ เปน บัตรท่ีแทจรงิ ไมใ ชเรื่องการใชบ ัตรปลอม “จํา˹‹Ò” ตามวรรคสอง หมายความวา สงตอไปยังบุคคลอื่นจะโดยมีคาตอบแทน หรือไมก ไ็ ด กรณีตามวรรคสามบัญญัติเชนเดียวกับมาตรา ๒๖๘ วรรคสอง กลาวคือถาผูใช หรือ ผูจําหนายบัตรปลอมเปนผูปลอมบัตรนั้นก็ใหลงโทษฐานเปนผูใชหรือผูจําหนายตามมาตรา ๒๖๙/๔ นี้ แตเ พียงกระทงเดยี ว Á¢Õ ÍŒ 椄 à¡μÇÒ‹ หากการปลอมบตั รอเิ ลก็ ทรอนกิ สน นั้ ในตวั เอง เปน การปลอมเอกสารดว ย ผูปลอมบัตรกผ็ ิดมาตรา ๒๖๙/๑ และผิดมาตรา ๒๖๔ (หรอื ๒๖๕ หรือ ๒๖๖) ดวย เปนการกระทาํ กรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ลงโทษ “บทหนัก” ตามมาตรา ๙๐ หากผูปลอมบัตรน้ันนําไปใช กผ็ ดิ ฐานใชม าตรา ๒๖๙/๔ วรรคแรก และผดิ ฐานใชเ อกสารปลอมตามมาตรา ๒๖๘ แตล งโทษฐาน “ใช” กระทงเดยี ว คอื ลงโทษตามมาตรา ๒๖๙/๔ วรรคแรก และลงโทษตามมาตรา ๒๖๘ เปน กรณกี รรมเดยี ว
๒๙๑ ผดิ กฎหมายหลายบท ใหล งโทษ “บทหนกั ” แตเ พยี งบทเดยี ว ซง่ึ กข็ น้ึ อยวู า โทษตามมาตรา ๒๖๙/๔ และ โทษตามมาตรา ๒๖๘ วรรคสอง บทใดจะหนกั กวากัน (โทษตามมาตรา ๒๖๘ เทากับโทษฐานปลอม ซง่ึ แลว แตเ อกสารท่ีปลอมวาเปน เอกสารตาม มาตรา ๒๖๔ หรือมาตรา ๒๖๕ หรอื มาตรา ๒๖๖) หากผูปลอมเปน “਌Ҿ¹Ñ¡§Ò¹” ผูมีหนาท่ี “ทําเอกสาร” น้ัน และเอกสารนั้นเปน บัตรอเิ ลก็ ทรอนิกส และเปนเอกสารราชการ เจา พนักงานมีความผดิ ดังน้ี (๑) ผดิ มาตรา ๑๖๑ (เจา พนักงานปลอมเอกสาร) (๒) ผิดมาตรา ๒๖๕ (ปลอมเอกสารราชการ) (๓) ผิดมาตรา ๒๖๙/๑ (ปลอมบตั รอิเล็กทรอนิกส) หากเจา พนกั งานนําเอกสารน้ันออก “ใช” เจา พนักงานมคี วามผดิ ดังน้ี (๑) ผิดมาตรา ๒๖๘ วรรคแรก ซ่งึ มาตรา ๒๖๘ วรรคสองใหลงโทษฐาน “ใช” แตเพียง กระทงเดียว โดยไมต องลงโทษฐาน “ปลอม” ตามมาตรา ๒๖๕ ดว ยอีกกระทงหน่ึง กลา วคือ ลงโทษ ตามมาตรา ๒๖๘ วรรคแรก ซงึ่ กรณนี ้ี คอื ลงโทษตามมาตรา ๒๖๕ เพราะเปน การปลอมเอกสารราชการ (๒) ผิดมาตรา ๒๖๙/๔ วรรคแรก ซึ่งมาตรา ๒๖๙/๔ วรรคสาม ใหลงโทษฐาน “ใช” ตามมาตรา ๒๖๙/๔ วรรคแรก แตเ พยี งกระทงเดยี ว โดยไมต อ งลงโทษฐาน “ปลอม” ตามมาตรา ๒๖๙/๑ ดวยอีกกระทงหนึ่ง กลาวคือลงโทษตามมาตรา ๒๖๙/๔ วรรคแรก ¢ÍŒ 椄 à¡μ ระหวา งมาตรา ๒๖๕ และมาตรา ๒๖๙/๔ วรรคแรก ถอื วา เปน เรอ่ื งกรรมเดยี ว ผิดกฎหมายหลายบท ลงโทษ “บทหนกั ” ซงึ่ กค็ ือโทษตามมาตรา ๒๖๙/๔ วรรคแรก เพราะหนกั กวา โทษตามมาตรา ๒๖๕ ÍÂÒ‹ §äáμç ÒÁ เจา พนกั งานผกู ระทาํ การปลอมยงั ตอ งรบั โทษตามมาตรา ๑๖๑ ดว ย ซง่ึ โทษ ตามมาตรา ๑๖๑ ยงั คงมอี ยู มไิ ดถ กู เกลอ่ื นกลนื ไป เนอ่ื งจากมาตรา ๒๖๘ วรรคสอง เกลอ่ื นกลนื เฉพาะ การปลอมตามมาตรา ๒๖๔ มาตรา ๒๖๕ มาตรา ๒๖๖ หรือมาตรา ๒๖๗ เทา นั้น มไิ ดเกลอ่ื นกลนื การปลอมเอกสารตามมาตรา ๑๖๑ ดว ย มาตรา ๒๖๙/๔ วรรคสาม กเ็ ชน เดยี วกนั กลา วคอื เกลอ่ื นกลนื เฉพาะการปลอมบัตรอิเล็กทรอนิกสตามมาตรา ๒๖๙/๑ เทานั้น มิไดเกลื่อนกลืนการปลอมเอกสาร ตามมาตรา ๑๖๑ ดว ย ในกรณีเชนนี้ เจาพนักงานจึงตองรับโทษตามมาตรา ๒๖๙/๔ และตองรับโทษตาม มาตรา ๑๖๑ ซึ่งระหวางมาตรา ๒๖๙/๔ และมาตรา ๑๖๑ นี้ หากถือวาเปน “หลายกรรมตางกัน” ตามมาตรา ๙๑ กล็ งโทษทั้งสองมาตรารวมกัน แตถาถือวา เปน “กรรมเดยี ว” ตามมาตรา ๙๐ ก็ลงโทษ บทหนกั เพยี งบทเดียว ¤ÇÒÁ¼´Ô °Ò¹ãªŒºÑμÃÍÔàÅç¡·Ã͹ԡʢͧ¼ŒÍÙ ×è¹â´ÂÁԪͺ ÁÒμÃÒ òöù/õ บญั ญัตวิ า ผูใดใชบ ัตรอิเล็กทรอนิกสข องผูอ ื่นโดยมชิ อบ ในประการทีน่ าจะกอ ใหเกดิ ความเสียหาย แกผ อู น่ื หรอื ประชาชน ตอ งระวางโทษจาํ คกุ ไมเ กนิ หา ป หรอื ปรบั ไมเ กนิ หนงึ่ แสนบาท หรอื ทงั้ จาํ ทงั้ ปรบั
๒๙๒ ͧ¤» ÃСͺÀÒ¹͡ (๑) ผูใด (๒) ใชโ ดยมชิ อบ (๓) บัตรอิเล็กทรอนิกสของผูอ น่ื (๔) ในประการทีน่ าจะกอใหเกดิ ความเสียหายแกผูอ ่นื หรอื ประชาชน ͧ¤»ÃСͺÀÒÂã¹ เจตนา ¢ŒÍ椄 à¡μ (๑) มาตรานเี้ ปน เรอ่ื งการใชบ ตั รอเิ ลก็ ทรอนกิ สโ ดยมชิ อบ และบตั รนนั้ จะตอ งเปน ของผอู น่ื มใิ ชใ ชบตั รของตนเองโดยมิชอบ (๒) บัตรนน้ั ตอ งมใิ ชบ ัตรปลอมเพราะการใชบ ตั รปลอมเปน กรณตี ามมาตรา ๒๖๙/๔ (๓) การกระทําอาจเปนความผิดฐานอ่ืนๆ เชน ลักทรัพย ดวย เชน นายแดงลักบัตร ของนายดําไปกดเงินที่เคร่ืองจายเงิน นอกจากมีความผิดฐานลักทรัพย คือ ลักบัตรและลักเงิน และความผิดตามมาตรา ๑๘๘ แลว ยังมีความผิดตามมาตราน้ีอีกบทหน่ึงดวย เพราะบัตรเอทีเอ็ม ก็คอื บัตรอิเลก็ ทรอนกิ สตามนยิ ามในมาตรา ๑ (๑๔) ทีเ่ พ่ิมเติมแกไขใหมนี้ (๔) ไดเคยกลาวไวแลววา หมายเลขบนบัตรเครดิตรวมทั้งวันหมดอายุของบัตรไมใช “บัตรอิเล็กทรอนิกส” ตามนิยามในมาตรา ๑ (๑๔) (ก) (ค) และก็ไมเขาตาม (ข) เพราะเปนขอมูล หรือหมายเลขท่ีผูออกไดออกใหแกผูมีสิทธิใช โดยมีการออกเอกสารหรือวัตถุอ่ืนใดใหดวย กลาวคือ ปรากฏอยูบนบัตรเครดิตน้ันเอง ดวยเหตุน้ีหากนายแดงเอาเฉพาะหมายเลขบัตรเครดิตของนายดํา ไปใชโดยมิชอบ นายแดงก็ไมผิดมาตรานี้ เพราะหมายเลขดังกลาว มิใช “บัตรอิเล็กทรอนิกส” ตามนิยามในมาตรา ๑ (๑๔) (๕) คาํ วา “โดยมชิ อบ” มบี ญั ญตั ไิ วใ นมาตราอน่ื ในประมวลกฎหมายนี้ เชน มาตรา ๓๒๐ วรรคสอง เปนตน (๖) ถอ ยคาํ ท่ีวา “ã¹»ÃСÒ÷Õ蹋ҨС‹ÍãËàŒ ¡´Ô ¤ÇÒÁàÊÕÂËÒÂ᡼‹ ÍÙŒ è×¹ ËÃ×Í»ÃЪҪ¹” เปน “พฤติการณประกอบการกระทาํ ” (ฎกี าที่ ๗๖๙/๒๕๔๐) แมจ ะเปน องคป ระกอบภายนอก แตก็ มใิ ช “ขอ เทจ็ จรงิ ” จงึ ไมอ ยภู ายใตห ลกั ทวั่ ไปในมาตรา ๕๙ วรรคสาม กลา วคอื “นา จะเสยี หาย” หรอื ไม ใชมาตรฐานของ “วิญูชน” หากวิญูชนเห็นวาเสียหายก็ถือวาเสียหาย แมผูกระทําจะไมรูวา จะทาํ ใหเสียหายก็ตาม ¢ÍŒ 椄 à¡μ เพยี งแต “นา จะกอ ใหเ กดิ ความเสยี หาย” กเ็ ปน ความผดิ สาํ เรจ็ แลว โดยไมจ าํ ตอ ง เกดิ ความเสยี หายขนึ้ จรงิ ๆ (ฎีกาท่ี ๑๒๘๑-๑๒๘๒/๒๕๓๘) μÑÇÍ‹ҧ นายมวงมอบบัตรเอทีเอ็ม ของนายมวงพรอมรหัสใหนายดําไปชวยกดเงินใหจํานวน หน่ึงหม่ืนบาท นายดําไปกดเงินสองหม่ืนบาทโดยเก็บไวใชเองหน่ึงหม่ืนบาท นายดํามีความผิดฐาน ใชบัตรอิเล็กทรอนิกสข องผูอื่นโดยมิชอบตามมาตรา ๒๖๙/๕ น้ี (นอกจากความผิดฐานลกั ทรพั ย)
๒๙๓ ¤ÇÒÁ¼Ô´°Ò¹ÁÕäÇàŒ ¾×Íè นําÍ͡㪫Œ §Öè ºμÑ ÃÍàÔ Åç¡·Ã͹ԡʢ ͧ¼ŒÍÙ ¹×è â´ÂÁªÔ ͺ ÁÒμÃÒ òöù/ö บญั ญัตวิ า ผใู ดมีไวเ พอื่ นําออกใชซึ่งบตั รอเิ ลก็ ทรอนิกสข องผูอ่ืนโดยมชิ อบตามมาตรา ๒๖๙/๕ ในประการทน่ี า จะกอ ใหเ กดิ ความเสยี หายแกผ อู นื่ หรอื ประชาชน ตอ งระวางโทษจาํ คกุ ไมเ กนิ สามป หรอื ปรบั ไมเกินหกหมนื่ บาท หรอื ท้งั จําท้งั ปรบั ͧ¤»ÃСͺÀÒ¹͡ (๑) ผูใด (๒) มีไว (๓) ซึ่งบตั รอิเลก็ ทรอนิกสข องผอู น่ื (๔) ในประการทน่ี า จะกอใหเ กิดความเสียหายแกผูอ ่นื หรอื ประชาชน ͧ¤» ÃСͺÀÒÂã¹ (๑) เจตนา (๒) เจตนาพิเศษ “เพื่อนําออกใชโ ดยมชิ อบตามมาตรา ๒๖๙/๕” คาํ ͸ºÔ Ò “การมไี วเพ่อื นําออกใชโดยมิชอบ” เชน นายแดงสะสมรหสั เอทีเอ็มของบคุ คลตา งๆ ไวเปนจํานวนมาก หากพิสูจนไดวามีไวเพื่อนําออกใชโดยมิชอบ เชน กําลังจะไปขโมยบัตรเอทีเอ็ม ของบุคคลตางๆ เหลาน้ัน แลวนํามากดเงินจากเครื่อง การสะสมดังกลาวก็เปนความผิดตามมาตรา ๒๖๙/๖ นี้ ซึ่งหากไมมีบทบัญญัติมาตรานี้ การสะสมของนายแดงดังกลาวยังไมเปนความผิด เพราะเปนเพียงการตระเตรียมไปกระทําความผดิ เทา นน้ั àËμØ©¡Ãè¢ ͧ¡ÒáÃÐทํา¤ÇÒÁ¼Ô´°Ò¹μ‹Ò§æ ÁÒμÃÒ òöù/÷ บญั ญัติวา ถาการกระทําดังกลาวในหมวดนี้ เปนการกระทําเกี่ยวกับบัตรอิเล็กทรอนิกสที่ ผอู อกไดอ อกใหแ กผ มู สี ทิ ธใิ ช เพอ่ื ใชป ระโยชนใ นการชาํ ระคา สนิ คา คา บรกิ ารหรอื หนอ้ี นื่ แทนการชาํ ระ ดว ยเงินสด หรือใชเ บกิ ถอนเงินสด ผกู ระทําตองระวางโทษหนักกวา ที่บญั ญัตไิ วในมาตราน้ันๆ ก่ึงหนึง่ คาํ ͸ԺÒ มาตราน้ีเปน “àËμØ©¡Ãè” ของมาตราตางๆ ตามหมวด ๔ กลาวคือ เปนเหตุฉกรรจของมาตรา ๒๖๙/๑ ถึงมาตรา ๒๖๙/๖ ซึ่งผูกระทําจะตองรับโทษหนักข้ึนกึ่งหน่ึง โดยผกู ระทําจะตองรู “ขอ เทจ็ จริง” ทท่ี ําใหร บั โทษหนกั ขนึ้ ดวย เชน รวู าบัตรอิเล็กทรอนกิ สท่ตี นปลอม (ความผดิ มาตรา ๒๖๙/๑) หรอื ตนใชโ ดยมชิ อบ (ความผดิ มาตรา ๒๖๙/๕) นน้ั เปน บตั รทผ่ี อู อกไดอ อกใหแ ก ผมู สี ิทธิใช เพื่อใชประโยชนในการ (ก) ชําÃФҋ Ê¹Ô ¤ÒŒ คา บรกิ าร หรือหนอ้ี นื่ แทนการชําระดวยเงินสด หรอื (ข) ãªŒàº¡Ô ¶Í¹à§¹Ô Ê´ หากผูกระทําไมรูขอเท็จจริงดังกลาว ผูกระทําก็ไมตองรับโทษหนักขึ้นก่ึงหนึ่งตาม มาตรานี้
๒๙๔ ¤ÇÒÁ¼´Ô à¡ÂÕè ǡѺ˹ѧÊÍ× à´Ô¹·Ò§ หนังสือเดินทางเปนเอกสารสําคัญอยางย่ิง ในปจจุบันมีการใชหนังสือเดินทางในการ ไปมาระหวา งประเทศ และนําไปใชในการกอการราย โดยการปลอมหนังสือเดนิ ทาง ทําใหเ ปน ภยั แก ความมั่นคงของประเทศทั้งภายนอกและภายใน ซึ่งไดบัญญัติเปนความผิดไวในประมวลกฎหมาย ซงึ่ แบง ออกไดเปน ๓ ลกั ษณะคือ (๑) การปลอมหนงั สือเดินทาง (๒) การใชหนังสอื เดินทางของผูอื่น โดยมิชอบ และ (๓) การใชดวงตรา รอยตรา หรือแผนปะตรวจลงตราในหนังสือเดินทางปลอม หรอื โดยมชิ อบ ñ. ¡ÒûÅÍÁ˹ѧÊÍ× à´Ô¹·Ò§ มี ๓ กลุม คอื (๑.๑) ปลอม (๑.๒) ใช มีไวเพ่ือใชหรอื จาํ หนา ย และ (๓) นําเขา หรอื สง ออกซ่ึงหนังสือเดินทางปลอม ÁÒμÃÒ òöù/ø ผูใดทําหนังสือเดินทางปลอมขึ้นท้ังฉบับหรือแตสวนหน่ึงสวนใด เติมหรือตัดทอนขอความ หรือแกไขดวยประการใดๆ ในหนังสือเดินทางที่แทจริง หรือประทับตราปลอม หรอื ลงลายมอื ชอ่ื ปลอมในหนงั สอื เดนิ ทาง โดยประการทนี่ า จะเกดิ ความเสยี หายแกผ อู นื่ หรอื ประชาชน ถาไดก ระทาํ เพอ่ื ใหผหู นง่ึ ผูใดหลงเช่ือวาเปนหนงั สือเดนิ ทางท่แี ทจ ริง ผูน้ันกระทาํ ความผิดฐานปลอม หนงั สอื เดนิ ทาง ตอ งระวางโทษจาํ คกุ ตงั้ แตห นงึ่ ปถ งึ สบิ ป และปรบั ตง้ั แตส องหมน่ื บาทถงึ สองแสนบาท คาํ ͸ԺÒ ñ.ñ ¤ÇÒÁ¼´Ô °Ò¹»ÅÍÁ˹ѧÊ×Íà´Ô¹·Ò§ ÁÕ ó ¤ÇÒÁ¼´Ô ¤Í× ¤ÇÒÁ¼Ô´·Õè ñ ͧ¤» ÃСͺÀÒ¹͡ (๑) ทําหนงั สือเดินทางปลอมขึ้นทง้ั ฉบบั หรือแตสว นหน่งึ สวนใด (๒) โดยประการท่นี า จะเกดิ ความเสียหายแกผูอ ่นื หรอื ประชาชน ͧ¤»ÃСͺÀÒÂã¹ (๑) เจตนาธรรมดา (๒) มูลเหตุชักจูงใจ เพ่ือใหผหู นง่ึ ผูใดหลงเช่อื วา เปนเอกสารทแ่ี ทจ ริง ¤ÇÒÁ¼´Ô ·èÕ ò ͧ¤»ÃСͺÀÒ¹͡ (๑) กระทําการอยา งใดอยา งหนงึ่ ดังตอไปนี้ (ก) เดมิ (ข) ตัดทอนขอ ความ หรอื (ค) แกไ ขดวยประการใด (๒) ในหนังสือเดินทางทีแ่ ทจรงิ (๓) โดยประการท่นี าเสยี หายแกผอู ่นื หรอื ประชาชน
๒๙๕ ͧ¤» ÃСͺÀÒÂã¹ (๑) เจตนาธรรมดา (๒) มลู เหตุชกั จูงใจ เพอ่ื ใหผูหนง่ึ ผูใ ดหลงเช่อื วา เปน เอกสารทแี่ ทจ ริง ¤ÇÒÁ¼Ô´·Õè ó ͧ¤»ÃСͺÀÒ¹͡ (๑) ประทบั ตราปลอมหรือลงลายมือชอื่ ปลอม (๒) ในหนังสือเดนิ ทาง (๓) โดยประการทน่ี าเสียหายแกผอู ่นื หรอื ประชาชน ͧ¤»ÃСͺÀÒÂã¹ (๑) เจตนาธรรมดา (๒) มลู เหตุชกั จงู ใจ เพอ่ื ใหผ ูหน่งึ ผูใ ดหลงเชอ่ื วาเปนเอกสารทแ่ี ทจ ริง ÁÒμÃÒ òöù/ù ผใู ดใชห รอื มไี วเ พอ่ื ใชซ งึ่ หนงั สอื เดนิ ทางปลอมตามมาตรา ๒๖๙/๘ ตอ งระวางโทษจําคุกต้งั แตห นึง่ ปถ งึ สบิ ป และปรบั ตง้ั แตส องหม่นื บาทถงึ สองแสนบาท ผูใดจําหนายหรือมีไวเพื่อจําหนายซึ่งหนังสือเดินทางปลอมตามมาตรา ๒๖๙/๘ ตองระวางโทษจาํ คกุ ตง้ั แตสามปถ ึงยี่สบิ ป และปรบั ตัง้ แตห กหมน่ื บาทถงึ ส่แี สนบาท การมีหนังสือเดินทางปลอมตามมาตรา ๒๖๙/๘ จํานวนต้ังแตสองฉบับข้ึนไป ใหสันนษิ ฐานไวก อ นวามไี วเ พื่อจําหนา ย ถาผูกระทําความผิดตามวรรคหน่ึงหรือวรรคสองเปนผูปลอมซ่ึงหนังสือเดินทาง ตามมาตรา ๒๖๙/๘ ใหลงโทษตามมาตรานี้แตกระทงเดยี ว ñ.ò ¡ÒÃãªËŒ Ã×Íจํา˹‹Ò มี ๔ ความผิดคือ ¤ÇÒÁ¼´Ô ·Õè ñ ͧ¤»ÃСͺÀÒ¹͡ (๑) ใช คือนําออกใชในลักษณะท่ีเปนหนังสือเดินทาง หากนําไปใชพับถุงกระดาษ ไมเขามาตราน้ี (๒) หนงั สือเดินทางปลอมตามมาตรา ๒๖๙/๘ ͧ¤»ÃСͺÀÒÂã¹ เจตนาธรรมดา คือรูวาเปนหนังสือเดินทางปลอมและไดใช หนังสือเดนิ ทางปลอมน้ัน ¤ÇÒÁ¼´Ô ·èÕ ò ͧ¤» ÃСͺÀÒ¹͡ (๑) มีไว (๒) หนังสอื เดนิ ทางปลอม
๒๙๖ ͧ¤»ÃСͺÀÒÂã¹ (๑) เจตนาธรรมดา คอื รูว าเปนหนังสือเดนิ ทางปลอม และประสงคจ ะมีไว (๒) มูลเหตุชักจงู ใจพิเศษ เพื่อใชหนังสอื เดินทางปลอมนัน้ อยา งหนงั สือเดนิ ทาง หากเกบ็ ไวเ พือ่ เปน ตัวอยา งหรอื เพ่ือทาํ ลายเสีย ไมมีความผิดตามมาตราน้ี ¤ÇÒÁ¼Ô´·Õè ó ͧ¤»ÃСͺÀÒ¹͡ (๑) จาํ หนา ย คอื การสงตอ ใหผอู ่ืนไมว า จะมคี าตอบแทนหรือไม (๒) หนังสอื เดนิ ทางปลอมตามมาตรา ๒๖๙/๘ ͧ¤» ÃСͺÀÒÂã¹ เจตนาธรรมดา ¤ÇÒÁ¼´Ô ·Õè ô ͧ¤»ÃСͺÀÒ¹͡ คอื มหี นังสือเดนิ ทางปลอมตามมาตรา ๒๖๙/๘ ไว โดยมี มูลเหตชุ ักจงู ใจพิเศษ คือ à¾Íè× จาํ ˹‹Ò แมจ ะยงั ไมท ันไดจาํ หนายออกไปก็เปนความผิดสําเรจ็ ¢ÍŒ Ê¹Ñ ¹ÉÔ °Ò¹¢Í§¡®ËÁÒ (มาตรา ๒๖๙/๙ วรรคแรก) การมหี นงั สอื เดนิ ทางปลอม ตง้ั แต ๒ ฉบับขนึ้ ไป ใหสนั นษิ ฐานไวกอ นวา มไี วเพ่อื จําหนาย เปนขอสันนษิ ฐานไมเด็ดขาด ผูกระทํา สามารถนําสบื หักลา งได º·ºÑÞÞÑμÔ¾ÔàÈÉ (มาตรา ๒๖๙/๙ วรรคส่ี) หากเปนการกระทําของผูท่ีปลอม หนังสือเดินทางเองใหล งโทษตามมาตราน้เี พยี งกระทงเดียว ÁÒμÃÒ òöù/ñð ผใู ดนาํ เขา ในหรอื สง ออกไปนอกราชอาณาจกั รซง่ึ หนงั สอื เดนิ ทาง ปลอมตามมาตรา ๒๖๙/๘ ตองระวางโทษจําคุกต้ังแตหน่ึงปถึงสิบป และปรับตั้งแตสองหมื่นบาท ถึงสองแสนบาท ถาการกระทําความผดิ ตามวรรคหนึง่ ไดกระทาํ ไปเพ่ือจําหนาย ตองระวางโทษจําคกุ ตง้ั แตสามปถ งึ ยีส่ บิ ป และปรับต้ังแตหกหมนื่ บาทถึงสแ่ี สนบาท ñ.ó นาํ à¢ÒŒ Ê‹§ÍÍ¡ ͧ¤»ÃСͺÀÒ¹͡ (๑) นําเขาในหรอื สงออกไปนอกราชอาณาจักร หมายถึง ราชอาณาจักรท่แี ทจรงิ ตามมาตรา ๔ วรรคแรก เทานัน้ (๒) หนังสือเดนิ ทางปลอมตามมาตรา ๒๖๙/๘ ͧ¤» ÃСͺÀÒÂã¹ เจตนาธรรมดา àËμàØ ¾ÔÁè â·É หากทาํ ไปเพ่อื จําหนาย ตอ งระวางโทษหนักข้ึน ÁÒμÃÒ òöù/ññ ผใู ดใชหนังสอื เดินทางของผอู ื่นโดยมิชอบในประการทีน่ า จะกอ ใหเกิดความเสียหายแกผูอื่นหรือประชาชน ตองระวางโทษจําคุกไมเกินสิบป และปรับไมเกิน สองแสนบาท
๒๙๗ ผูใดจัดหาหนังสือเดินทางใหผูกระทําความผิดตามวรรคหนึ่ง ตองระวางโทษ เชน เดยี วกัน ò. ¡ÒÃãªËŒ ¹§Ñ ÊÍ× à´Ô¹·Ò§ (·áèÕ ·¨Œ Ã§Ô ) ¢Í§¼ŒÙÍ×è¹â´ÂÁԪͺ ͧ¤» ÃСͺÀÒ¹͡ (๑) ใชหนังสือเดินทางของผอู น่ื โดยมชิ อบ (๒) ในประการที่นาจะกอ ใหเ กิดความเสียหายแกผอู ืน่ หรอื ประชาชน ͧ¤» ÃСͺÀÒÂã¹ เจตนาธรรมดา ÇÃäÊͧ ลงโทษ ¼·ŒÙ ¨èÕ ´Ñ ËÒหนงั สอื เดนิ ทางใหผ กู ระทาํ ความผดิ ตามวรรคหนง่ึ ใชม เี ทา กนั ó. ¡ÒáÃÐทํา¡Ñº´Ç§μÃÒ ÃÍÂμÃÒ ËÃÍ× á¼¹‹ »ÐμÃǨŧμÃÒ มี ๔ ความผิด คือ (๑) ปลอม (๒) ใชด วงตรา รอยตราฯ ปลอม (๓) นําเขา สงออก ซ่ึงของปลอม และ (๔) ใชข องจริงโดยมชิ อบ ÁÒμÃÒ òöù/ñò ผูใดทําปลอมข้ึนซึ่งดวงตรา รอยตรา หรือแผนปะตรวจลงตรา อันใชในการตรวจลงตราสําหรับการเดนิ ทางระหวางประเทศ ตอ งระวางโทษจาํ คกุ ตั้งแตห น่งึ ปถงึ สบิ ป และปรบั ตงั้ แตส องหมื่นบาทถึงสองแสนบาท ¤ÇÒÁ¼Ô´·Õè ñ ปลอมดวงตรา รอยตราฯ ปลอม ͧ¤» ÃСͺÀÒ¹͡ (๑) ทาํ ปลอมข้ึน (๒) ดวงตรา รอยตรา หรอื แผน ปะตรวจลงตรา (๓) อันใชใ นการตรวจลงตราสาํ หรบั เดินทางระหวางประเทศ ͧ¤»ÃСͺÀÒÂã¹ เจตนาธรรมดา “การปลอม” คอื การทาํ ใหเ หมือนของจรงิ แมไมเหมือนทง้ั หมดก็ตาม ทํานองเดยี วกับ การปลอมเงินตรา ทัง้ น้ตี อ งมีดวงตรา รอยตรา หรอื แผนปะตรวจทแ่ี ทจริงอยูก อน ÁÒμÃÒ òöù/ñó ผูใ ดใชด วงตรา รอยตรา หรือแผนปะตรวจลงตราทีท่ ําปลอมขนึ้ ตามมาตรา ๒๖๙/๑๒ ตอ งระวางโทษจาํ คกุ ตงั้ แตห นงึ่ ปถ งึ สบิ ป และปรบั ตงั้ แตส องหมนื่ บาทถงึ สองแสนบาท ถาผูกระทําความผิดตามวรรคหน่ึงเปนผูปลอมซ่ึงดวงตรา รอยตราหรือแผนปะ ตรวจลงตราตามมาตรา ๒๖๙/๑๒ ใหล งโทษตามมาตรานี้แตก ระทงเดียว ¤ÇÒÁ¼Ô´·èÕ ò ใชด วงตรา รอยตรา หรือแผน ปะฯ ปลอม ͧ¤»ÃСͺÀÒ¹͡ (๑) ใช (๒) ดวงตรา รอยตรา หรอื แผน ปะตรวจลงตรา (๓) อนั ใชใ นการตรวจลงตราสําหรับเดินทางระหวางประเทศ
๒๙๘ ͧ¤» ÃСͺÀÒÂã¹ เจตนาธรรมดา ÇÃäÊͧ ถาผูใชดวงตราปลอมดังกลาว เปนผูปลอมเอง ใหลงโทษตามมาตรานี้ เพียงกระทงเดยี ว ÁÒμÃÒ òöù/ñô ผใู ดนาํ เขา ในหรอื สง ออกไปนอกราชอาณาจกั รซงึ่ ดวงตรา รอยตรา หรอื แผน ปะตรวจลงตราซึง่ ระบุไวใ นมาตรา ๒๖๙/๑๒ อันเปนของปลอม ตองระวางโทษจาํ คุกตั้งแต หนึ่งปถ งึ สิบป และปรบั ตงั้ แตส องหม่นื บาทถึงสองแสนบาท ¤ÇÒÁ¼Ô´·Õè ó การนาํ เขา-สง ออกซ่ึงดวงตรา รอยตราฯ ปลอม ͧ¤»ÃСͺÀÒ¹͡ (๑) นําเขา ในหรอื สง ออกไปนอกราชอาณาจักร (๒) ซง่ึ ดวงตรา รอยตรา หรือแผนปะตรวจลงตราท่รี ะบไุ วใ นมาตรา ๒๖๙/๑๒ (๓) อนั เปน ของปลอม ͧ¤»ÃСͺÀÒÂã¹ เจตนาธรรมดา คือรูวาเปนของปลอมและประสงคจะนําเขา หรือสงออกไปนอกราชอาณาจักร ÁÒμÃÒ òöù/ñõ ผใู ดใชดวงตรา รอยตรา หรือแผน ปะตรวจลงตราอนั แทจรงิ ทใ่ี ช ในการตรวจลงตราสาํ หรบั การเดนิ ทางระหวา งประเทศโดยมชิ อบ ในประการทน่ี า จะกอ ใหเ กดิ ความเสยี หาย แกผอู น่ื หรอื ประชาชนตอ งระวางโทษสองในสามสว นของโทษท่บี ัญญัตไิ วใ นมาตรา ๒๖๙/๑๓ ¤ÇÒÁ¼´Ô ·èÕ ô ͧ¤» ÃСͺÀÒ¹͡ (๑) ใชดวงตรา รอยตรา หรอื แผนปะตรวจลงตรา (๒) อนั แทจ รงิ ทใ่ี ชใ นการตรวจลงตราสาํ หรบั การเดนิ ทางระหวา งประเทศโดยมชิ อบ (๓) ในประการทน่ี าจะกอใหเกิดความเสยี หายแกผอู นื่ หรอื ประชาชน ͧ¤»ÃСͺÀÒÂã¹ เจตนาธรรมดา คือ รูวา เปน ของจริง และประสงคจะใชส าํ หรบั การเดนิ ทางระหวา งประเทศโดยมชิ อบ แตไ มจ าํ เปน ตอ งรวู า การกระทาํ ของตนนา จะกอ ความเสยี หาย อยา งไร หรือแมไมมผี ลเสยี หายเกิดขึ้นก็เปนความผดิ ได ความผิดเกี่ยวกับหนังสือเดินทางน้ีเกี่ยวพันกับความผิดเกี่ยวกับเอกสาร การปลอมแปลง ดวงตรา รอยตรา และบางสวนของบัตรอเิ ลก็ ทรอนิกสด วย
สรุปการต้งั ขอหา ลําดบั ขอหา/ฐานความผดิ องคป ระกอบความผดิ มาตรา อัตราโทษ หมายเหตุ ๑. ปลอมเอกสาร ๑. ผูใ ด ๒๖๔ ตองระวางโทษจําคุกไมเกินสามปและปรับ ฎ.๑๐๖/๒๔๙๗ ๒. ทําเอกสารปลอมขน้ึ ไมเ กนิ หกหม่ืนบาท ฎ.๒๔๖๓/๒๕๔๘ ๒.๑ ทั้งฉบบั หรือแตสว นหน่ึงสวนใด ฎ.๙๐๒๖/๒๕๕๓ ๒.๒ เติมหรือตัดทอนขอความ หรือแกไขดวยประการ ฎ.๑๑๔๓/๒๕๒๓ ใดๆ ในเอกสาร ฎ.๓๐๗๘/๒๕๒๕ ๒.๓ ประทบั ตราปลอมหรือลงลายมอื ชือ่ ปลอม ฎ.๒๒๔๑/๒๕๒๓ ๓. โดยประการทน่ี า จะเกดิ ความเสยี หายแกผ อู นื่ หรอื ประชาชน ฎ.๓๘๑/๒๔๗๕ (พฤติการณป ระกอบการกระทํา) ฎ.๖๒๖๖/๒๕๔๕ ๔. โดยเจตนา ฎ.๑๖๗/๒๕๑๗ ๕. เพอื่ ใหผ หู นงึ่ ผใู ดหลงเชอ่ื วา เปน เอกสารทแ่ี ทจ รงิ (เจตนา ฎ.๑๕๗๒/๒๕๕๗ พิเศษ) ฎ.๗๖๙/๒๕๔๐ ๒. ปลอมเอกสารสิทธิ ๑. ผูใด ๒๖๕ ตองระวางโทษจําคุกตั้งแตหกเดือนถึงหาป ฎ.๑๖๗/๒๕๑๗ หรอื เอกสารราชการ ๒. ปลอม หรอื ปรบั ตั้งแตห น่ึงหมืน่ บาทถึงหนงึ่ แสนบาท ฎ.๑๕๗๒/๒๕๔๙ ๓. เอกสารสทิ ธิหรือเอกสารราชการ ฎ.๒๔๔๑/๒๕๒๓ ๔. เจตนา ฎ.๒๘๓๐/๒๕๒๔ ฎ.๑๐๓๘๕/๒๕๔๖ ฎ.๗๘๒/๒๕๔๗ ๒๙๙
ลาํ ดับ ขอ หา/ฐานความผดิ องคป ระกอบความผดิ มาตรา อตั ราโทษ หมายเหตุ ๓๐๐ ๓. ปลอมเอกสารสิทธิ ๑. ผูใ ด ๒๖๖ ตอ งระวางโทษจาํ คกุ ตงั้ แต หนง่ึ ถงึ สบิ ป หรอื ปรบั ฎ . ๒ ๗ ๘ - อันเปนเอกสาร ๒. ปลอม ตง้ั แตส องหม่ืนบาทถงึ สองแสนบาท ๒๗๙/๒๕๐๑ ราชการ พินัยกรรม ๓. เอกสารพเิ ศษดงั ตอ ไปนี้ ฎ.๑๗๖๔/๒๕๐๖ ใบหุน ตว๋ั เงนิ ๓.๑ เอกสารสิทธอิ ันเปนเอกสารราชการ ฎ.๑๕๑/๒๕๐๗(ป) ๓.๒ พนิ ัยกรรม ฎ.๕๕๗/๒๕๐๙ ๓.๓ ใบหนุ ใบหนุ กู หรอื ใบสาํ คญั ของใบหนุ หรอื ใบหนุ กู ฎ.๑๓๘๕/๒๕๒๒ ๓.๔ ตวั๋ เงิน ฎ.๒๙๑๗/๒๕๓๘ ๓.๕ บตั รฝากเงนิ ๔. แจง ใหเ จา พนกั งานจด ๑. ผใู ด ๒๖๗ ตองระวางโทษจําคุกไมเกินสามป หรือไมเกิน ฎ.๑๐๕๑/๒๕๐๕ ขอ ความอนั เปน เทจ็ ๒. แจงใหเ จาพนักงานผกู ระทาํ การตามหนา ที่ หกหมนื่ บาท ฎ.๕๖๑/๒๕๐๘ ๓. จดขอความอันเปนเท็จ ฎ.๔๘๕/๒๕๒๒ ๔. ลงในเอกสารมหาชน หรอื เอกสารราชการ ซง่ึ มวี ตั ถปุ ระสงค ฎ.๒๐๔๘/๒๕๔๗ สาํ หรบั ใชเปนพยานหลกั ฐาน ๕. โดยประการทนี่ า จะเกดิ ความเสยี หายแกผ อู นื่ หรอื ประชาชน ๖. โดยเจตนา
ลาํ ดับ ขอ หา/ฐานความผดิ องคประกอบความผิด มาตรา อตั ราโทษ หมายเหตุ ๕. ใชหรืออางเอกสาร ๑. ผูใ ด ๒๖๘ ÇÃäáá ตองระวางโทษดังท่ีบัญญัติไวใน ฎ.๑๖๕๔/๒๕๐๓(ป) ปลอม ๒. ใชหรอื อาง มาตรานน้ั ๆ (มาตรา ๒๖๔ มาตรา ๒๖๕ มาตรา ฎ.๑๒๖๙/๒๕๐๓ ๓. เอกสารอันเกิดจากการกระทําผิดตามมาตรา ๒๖๔ ๒๖๖ หรอื มาตรา ๒๖๗) ฎ.๖๕๘/๒๕๑๓ มาตรา ๒๖๕ มาตรา ๒๖๖ หรอื มาตรา ๒๖๗ ÇÃäÊͧ ถาผูกระทําความผิดตามวรรคแรก ฎ.๓๑๗/๒๕๒๑ ๔. ในประการทน่ี า จะเกดิ ความเสยี หายแกผ อู น่ื หรอื ประชาชน เปนผูปลอมเอกสารนั้น หรือเปนผูแจงให ฎ.๑๑๔๑/๒๕๒๓ (พฤติการณประกอบการกระทํา) เจา พนกั งานจดขอ ความนนั้ เอง ใหล งโทษตาม ฎ.๑๙๖๙/๒๕๒๔ ๕. โดยเจตนา มาตราน้กี ระทงเดยี ว ฎ.๑๘๙๕/๒๕๔๖ ฎ.๒๕๐๓/๒๕๔๘ ๓๐๑
๓๐๒ ô. คาํ ¶ÒÁ·ÒŒ º·àÃÂÕ ¹ ๑. หนงั สอื สัญญากยู มื เงินถอื วาเปน เอกสารประเภทใด ๒. ใบอนญุ าตใหมีอาวุธปนถือวาเปน เอกสารประเภทใด ๓. การนําใบเสร็จรับเงินของการไฟฟาสวนภูมิภาค เพื่อใหผูอื่นหลงเช่ือวาเปนใบเสร็จ ทแี่ ทจ รงิ อนั อาจนาํ ไปเรยี กเกบ็ เงนิ ซา้ํ ไดอ กี นน้ั แตไ มไ ดม กี ารลงชอ่ื ในชอ งพนกั งานเกบ็ เงนิ วา ไดร บั เงนิ ไวถกู ตองแลว การกระทาํ ดงั กลา วมคี วามผิดฐานปลอมเอกสารหรอื ไม ๔. นายโฉด เอาปา ยทะเบยี นรถยนตอซี ซู ุ ทท่ี างราชการออกใหไ ปติดใชกบั รถยนตซูซูกิ ซงึ่ ปา ยทะเบยี นหลดุ หายไปเพราะนา้ํ ทว ม แลว นาํ รถยนตซ ซู กู คิ นั ดงั กลา วไปใชง านเพอื่ ใหค นหลงเชอื่ วา หมายเลขปา ยทะเบียนตามท่ีนายโฉด ทําเปน ของรถยนตซูซูกิ นายโฉด มคี วามผดิ ขอ หาใด
๓๐๓ àÍ¡ÊÒÃÍÒŒ §Í§Ô เกยี รตขิ จร วจั นสวสั ด.์ิ (๒๕๕๑).คาํ อธบิ ายกฎหมายอาญา ภาค ๑ กรงุ เทพฯ:พลสยามพรนิ้ ตงิ้ . คณติ ณ นคร.(๒๕๔๗). กฎหมายอาญา ภาคทั่วไป. กรุงเทพฯ:วญิ ชู น. ทวเี กยี รติ มนี ะกนษิ ฐ.(๒๕๕๓).คาํ อธบิ ายกฎหมายอาญา ภาคทว่ั ไป. กรงุ เทพฯ:วญิ ชู น. ประภาศน อวยชยั .(๒๕๒๖).ประมวลกฎหมายอาญา ภาค ๑. กรงุ เทพฯ:สาํ นกั อบรมศกึ ษา กฎหมายแหงเนติบัณฑิตยสภา. สหรัฐ กิติศุภการ.(๒๕๕๗).หลักและคําอธิบายกฎหมายอาญา.กรุงเทพฯ:อมรินทร พริ้นตงิ้ แอนดพับลชิ ชงิ่ บญุ เพราะ แสงเทียน.(๒๕๕๒).กฎหมายอาญา ๑ ภาคท่ัวไป.กรงุ เทพฯ:บริษทั วิทยพฒั น จํากัด สหรัฐ กิติศุภการ.(๒๕๕๗.)หลักและคําอธิบายกฎหมายอาญา.กรุงเทพฯ:บริษัทอมรินทร พริ้นต้งิ แอนดพ ับลิชช่ิง. สุพจน นาถะพินธุ.(๒๕๓๓).ประมวลกฎหมายอาญา.กรุงเทพฯ:สํานักพิมพรุงเรืองธรรม. สุวัฒน ศรีพงษสุวรรณ.(๒๕๔๙).คําอธิบายประมวลกฎหมายอาญา.กรุงเทพฯ: นติ ิบรรณาการ. วนิ ยั เลิศประเสรฐิ .(๒๕๔๗).วธิ ีไลสายกฎหมายอาญา เลม ๑.กรงุ เทพฯ:อนิ เตอรบ คุ ส. เกียรติขจร วัจนสวัสดิ์.(๒๕๕๐).คําอธิบายกฎหมายอาญา ภาคความผิด เลม ๑. กรงุ เทพฯ:หา งหนุ สวนจาํ กัด จริ ชั การการพิมพ. บุญเพราะ แสงเทียน.(๒๕๕๒).กฎหมายอาญา ๑ ภาคทว่ั ไป.กรงุ เทพฯ:บริษทั วทิ ยพฒั น จํากัด. สหรัฐ กิติศุภการ.(๒๕๕๗).หลักและคําอธิบายกฎหมายอาญา.กรุงเทพฯ:บริษัทอมรินทร พริน้ ต้ิงแอนดพ ับลชิ ชง่ิ .
๓๐๔
๓๐๕ º··èÕ ô ¤ÇÒÁ¼´Ô à¡èÂÕ Ç¡ºÑ à¾È ñ. ÇÑμ¶Ø»ÃÐʧ¤¡ ÒÃàÃÂÕ ¹Ã»ÙŒ ÃÐจาํ º· ๑. เพือ่ ใหนกั เรยี นนายสิบตาํ รวจมีความรคู วามเขาใจ กฎหมายอาญาเก่ียวกบั ความผดิ ฐานตางๆ ๒. เพอื่ ใหน กั เรยี นนายสบิ ตาํ รวจ ทราบถงึ การวดั ผลและประเมนิ ผล วชิ ากฎหมายอาญา ภาคเรียนท่ี ๒ ๓. เพ่ือใหน กั เรยี นนายสบิ ตาํ รวจมีความรคู วามเขา ใจเกยี่ วกบั ความผดิ เกยี่ วกับเพศ ò. ʋǹนาํ นักเรียนนายสิบตํารวจจะไดศึกษาประมวลกฎหมายอาญา ภาค ๒ ในเร่ืองความผิด เก่ียวกบั เพศ ในเร่อื งการขม ขืนกระทําชาํ เราในเร่อื งการขมขืนกระทาํ ชาํ เราผอู ื่น การกระทาํ ชาํ เราเดก็ อายไุ มเ กนิ ๑๕ ป การกระทาํ ชาํ เราทที่ าํ ใหผ กู ระทาํ ผดิ ตอ งรบั โทษหนกั ขน้ึ การกระทาํ อนาจาร การกระทาํ อนาจารแกเ ดก็ อายไุ มเ กนิ ๑๕ ป การกระทาํ อนาจารทที่ าํ ใหผ กู ระทาํ ผดิ ตอ งรบั โทษหนกั ขนึ้ การกระทาํ ความผดิ ขม ขนื และกระทาํ อนาจารอนั ยอมความได การกระทาํ ความผดิ ฐานเปน ธรุ ะจดั หา การกระทาํ ความผิดเก่ียวกับการคาประเวณี การกระทําความผิดเก่ียวกับการคาส่ิงลามก ความตลอดจน แนวคาํ พิพากษาทีเ่ กย่ี วของเพ่ือใหนักเรียนนายสิบตาํ รวจใชป ระกอบการเรยี กการสอน ó. à¹×éÍËÒ ความผดิ เกย่ี วกบั เพศมกี ารแกไ ขลา สดุ ตามพระราชบญั ญตั แิ กไ ขเพม่ิ เตมิ ประมวลกฎหมาย อาญา (ฉบบั ท่ี ๒๗) พ.ศ. ๒๕๖๒ ซง่ึ มีผลบงั คบั ใชเม่ือวันที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๖๒ โดยมีการปรับปรุง บทนยิ ามคาํ วา “กระทาํ ชาํ เรา” โดยมเี จตนารมณใ หส อดคลอ งกบั ลกั ษณะการกระทาํ ชาํ เราตามธรรมชาติ รวมทั้งปรับปรุงบทบัญญัติความผิดเก่ียวกับเพศบางประการเพ่ือเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช กฎหมาย และเพ่ือใหความคุม ครองบคุ คลซง่ึ ถูกกระทาํ ทางเพศกลมุ ตาง ๆ มากยิง่ ข้นึ เชน เดก็ ผอู ยู ภายใตอํานาจของผูกระทําและไมสามารถปกปองตนเองได อีกทั้งเพ่ือปองปรามมิใหมีการกระทําที่ เปน การเอาเปรียบหรอื รบั ประโยชนจากผซู ึ่งคาประเวณหี รือจากการคาประเวณี
๓๐๖ ¡ÒâÁ‹ ¢¹× ¡ÃÐทาํ ชาํ àÃÒ ÁÒμÃÒ ò÷öñ ผูใดขมขืนกระทําชําเราผูอ่ืนโดยขูเข็ญดวยประการใดๆ โดยใชกําลัง ประทุษราย โดยผูอ่ืนนั้นอยูในภาวะท่ีไมสามารถขัดขืนได หรือโดยทําใหผูอื่นน้ันเขาใจผิดวา ตนเปนบคุ คลอืน่ ตอ งระวางโทษจําคกุ ตั้งแตสี่ปถ งึ ย่ีสิบป และปรับตง้ั แตแปดหม่ืนบาทถงึ สแ่ี สนบาท ถาการกระทําความผิดตามวรรคหน่ึง ไดกระทําโดยทําใหผูถูกกระทําเขาใจวาผูกระทํามี อาวธุ ปน หรอื วตั ถรุ ะเบดิ ตอ งระวางโทษจาํ คกุ ตง้ั แตเ จด็ ปถ งึ ยสี่ บิ ป และปรบั ตง้ั แตห นง่ึ แสนสห่ี มน่ื บาท ถงึ สแ่ี สนบาท ถา การกระทาํ ความผดิ ตามวรรคหนง่ึ ไดก ระทาํ โดยมอี าวธุ ปน หรอื วตั ถรุ ะเบดิ หรอื โดยใช อาวธุ หรอื โดยรว มกระทาํ ความผดิ ดว ยกนั อนั มลี กั ษณะเปน การโทรมหญงิ หรอื กระทาํ กบั ชายในลกั ษณะ เดียวกัน ตองระวางโทษจําคุกตัง้ แตสบิ หา ปถ ึงยีส่ บิ ป และปรับตง้ั แตส ามแสนบาทถึงสี่แสนบาท หรือ จาํ คุกตลอดชีวิต ถา การกระทาํ ความผดิ ตามวรรคหนงึ่ เปน การกระทาํ ความผดิ ระหวา งคสู มรส และคสู มรสนน้ั ยังประสงคจะอยูกินดวยกันฉันสามีภริยา ศาลจะลงโทษนอยกวาที่กฎหมายกําหนดไวเพียงใดก็ได หรอื จะกาํ หนดเงอื่ นไขเพอื่ คมุ ความประพฤตแิ ทนการลงโทษกไ็ ด ในกรณที ศี่ าลมคี าํ พพิ ากษาใหล งโทษ จําคุกและคูสมรสฝายใดฝายหน่ึงไมประสงคจะอยูกินดวยกันฉันสามีภริยาตอไป และประสงคจะหยา ใหค ูสมรสฝายน้ันแจงใหศ าลทราบ และใหศาลแจง พนักงานอัยการใหด ําเนินการฟอ งหยา ให ÁÒμÃÒ ò÷ö ÇÃä˹§Öè ͧ¤»ÃСͺÀÒ¹͡ (๑) ผใู ด (๒) ขม ขนื กระทําชําเรา โดยวธิ ีการอยางใดอยางหนงึ่ ดงั ตอ ไปน้ี (ก) โดยขเู ขญ็ ดวยประการใด ๆ (ข) โดยใชกําลังประทุษรา ย (ค) โดยผูอ นื่ อยใู นภาวะที่ไมสามารถขัดขืนได หรอื (ง) โดยทําใหผ อู ่นื นน้ั เขา ใจผิดวาตนเปน บุคคลอน่ื (๓) ผอู ่ืน ͧ¤»ÃСͺÀÒÂã¹ ๑. เจตนาธรรมดา (ม.๕๙) ๒. เจตนาพเิ ศษ เพ่ือสนองความใครของผูกระทํา ๑ พ.ร.บ.แกไขเพิม่ เตมิ ประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๗) พ.ศ. ๒๕๖๒ ลง รกจ.เลม ๑๓๖/ตอนที่ ๖๙ ก/หนา ๑๒๘/ ๒๗ พ.ค. ๖๒
๓๐๗ ͸ԺÒ ÁÒμÃÒ ò÷ö ÇÃÃ¤Ë¹Ö§è ¤ÇÒÁ¼Ô´°Ò¹¢‹Á¢¹× ¡ÃÐทําชาํ àÃÒ ๑) คําวา “¢‹Á¢×¹” หมายถึง การขืนใจ คือ ไดกระทําชําเราโดยผูอ่ืนมิไดสมัครใจ หากยนิ ยอมโดยสมคั รใจก็มใิ ชการขมขนื และการขม ขืนในทน่ี ี้อาจทาํ โดยวิธีอยางใดอยา งหนึง่ ดงั น้ี (¡) â´Â¢à‹Ù ¢Þç ´ÇŒ »ÃСÒÃã´æ ตวั อยา งเชน ชกั มดี ออกมาขูใหยอมกระทําชําเรา มฉิ ะน้ันจะแทง (คําพิพากษา ศาลฎีกาที่ ๑๒๔/๒๔๕๘), ขูวาหากไมถอดเส้ือผาจะยัดเยียดขอหายาบาใหและหยิบอาวุธปนมาขู ผเู สยี หายกลวั จงึ ยอมใหก ระทาํ ชาํ เรา (คาํ พพิ ากษาศาลฎกี าที่ ๕๗๙๓/๒๕๔๔) นายจา งขลู กู จา งซง่ึ เปน แรงงานตางดาววาหากไมยินยอมใหกระทําชําเราจะสงตัวไปใหเจาพนักงานตํารวจดําเนินคดีในขอหา หลบหนีเขา เมือง (คาํ พิพากษาศาลฎกี าที่ ๗๗๒๑/๒๕๔๙) (¢) â´Â㪌กาํ Åѧ»ÃÐ·ÉØ ÃÒŒ  ตัวอยางเชน ใชกําลังจับแขนขาของหญิงไวแลวกระทําชําเรา (คําพิพากษา ศาลฎกี าที่ ๘๐๕/๒๔๙๐), ชกตอ ยใหห ญงิ ยนิ ยอมใหก ระทาํ ชาํ เรา (คาํ พพิ ากษาศาลฎกี าที่ ๓๘๐/๒๕๓๔) (¤) â´Â¼ÙŒÍ¹×è ¹é¹Ñ Í‹ãÙ ¹ÊÀÒÇзèäÕ Á‹ÊÒÁÒö¢Ñ´¢×¹ä´Œ ตัวอยางเชน ชําเราหญิงขณะหญิงเมาสุราหมดสติอยูในสภาวะท่ีไมสามารถ ขดั ขนื ได (คาํ พพิ ากษาศาลฎกี าที่ ๓๘๒/๒๕๒๒), กระทาํ ชาํ เราผเู สยี หายทม่ี สี ภาพกายพกิ าร ขาทง้ั สองขา ง ไมส ามารถใชการได (คําพพิ ากษาศาลฎกี าที่ ๗๐๐๘/๒๕๕๔) (§) â´Â·íÒã˼Œ ŒÙ͹×è ¹éѹࢌÒ㨼Դ¤´Ô ÇÒ‹ μ¹à»¹š ºØ¤¤ÅÍ×è¹ หมายความวา ทาํ ใหผ อู นื่ สาํ คญั ผดิ ในตวั บคุ คลเปน คนละคน ไมใ ชส าํ คญั ผดิ ใน คณุ สมบตั ขิ องบคุ คลผนู ั้น ตวั อยา งเชน หญงิ มสี ามขี ณะนอนหลบั จาํ เลยแกลง วดิ นาํ้ ออกจากเรอื ทาํ ใหห ญงิ เขา ใจผดิ คดิ วา เปน สามขี องหญงิ กลบั มา แลว จาํ เลยกระทาํ ชาํ เราโดยทห่ี ญงิ ไมร ตู วั และคดิ วา จาํ เลยเปน สามี เชน น้ีจาํ เลยมีความผิดฐานขม ขืนกระทําชาํ เรา (คาํ พิพากษาศาลฎีกาท่ี ๒๓๓/๒๔๖๒) ò) ¡ÒáÃÐทาํ ชาํ àÃÒ μÒÁº·¹ÂÔ ÒÁ ÁÒμÃÒ ñ (ñø) “¡ÃÐทาํ ชําàÃÒ” หมายความวา กระทําเพอื่ สนอง ความใครของผูก ระทาํ โดยการใชÍÇÑÂÇÐà¾Èของผกู ระทําŋǧล้ําÍÇÑÂÇÐà¾È ·ÇÒÃ˹ѡ หรือª‹Í§»Ò¡ ของ¼ÙÍŒ è¹× ¢ŒÍ椄 à¡μ ๑. องคป ระกอบในสว นของการกระทาํ จะตอ งเปน การใชÍ ÇÂÑ ÇÐà¾È¢Í§¼¡ŒÙ ÃÐทาํ ÅÇ‹ §ลา้ํ เทา นนั้ ÊÇ‹ ¹ÇμÑ ¶áØ Ë§‹ ¡ÒáÃÐทาํ คอื ÍÇÂÑ ÇÐà¾È ·ÇÒÃ˹¡Ñ หรอื ªÍ‹ §»Ò¡ของผอู น่ื โดยมàี ¨μ¹Ò ¾ÔàÈÉ คือ à¾×Íè ʹͧ¤ÇÒÁã¤Ãข‹ องผกู ระทํา จึงจะเปน¡ÒáÃÐทาํ ชําàÃÒตามกฎหมายท่แี กไ ขใหม ¡ÒáÃÐทําชําàÃÒสําเร็จจะตองปรากฏวา อวัยวะเพศของฝายชายไดŋǧÅéíÒ ËÃ×ÍÊÍ´ãÊเ‹ ขาไปในชอ งสงั วาสหรืออวัยวะเพศของฝายหญิง (คาํ พพิ ากษาศาลฎกี าที่ ๑๐๔๘/๒๕๑๘)
๓๐๘ áÁŒ¨ÐÁÕ¡ÒÃŋǧลํ้าࢌÒä»à¾Õ§àÅ硹ŒÍ¡ç໚¹¤ÇÒÁสําàÃç¨ (คําพิพากษาศาลฎีกาที่ ๑๑๓๓/๒๕๐๙, ๔๐๒๔/๒๕๓๔) โดยไมจ าํ เปน จะตอ งมรี อยฉกี ขาดทชี่ ว งคลอด ปากมดลกู หรอื ทเ่ี ยอื่ พรหมจารี (คาํ พพิ ากษา ศาลฎกี าท่ี ๒๔๑๓/๒๕๒๐) หรอื มีการสาํ เร็จความใครหรือไม (คาํ พิพากษาศาลฎกี าท่ี ๑๑๓๓/๒๕๐๙, ๑๖๔๖/๒๕๓๒, ๘๔๘/๒๕๔๘) μÇÑ ÍÂÒ‹ § คํา¾Ô¾Ò¡ÉÒÈÒŮաҷÕè ññóó/òõðù จําเลยไดกระทําชําเราผูเสียหาย จนของลบั ของจาํ เลยไดเ ขา ไปในของลบั ผเู สยี หายราว ๑ องคลุ ี เชน นี้ ถอื ไดว า เปน การกระทาํ ชาํ เราสาํ เรจ็ ตามความหมายของประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๗๗ แลว การทท่ี างพจิ ารณาไมป รากฏวา มนี าํ้ อสจุ ิ ของจําเลยออกมาอยูที่ของลับของผูเสียหายหรือที่ของลับของจําเลยน้ันเปนเร่ืองสําเร็จความใครแลว หรือไม เปน อกี สวนหน่งึ ไมเ ปน เหตใุ หเ ห็นวา จําเลยกระทําชําเราไมสําเรจ็ หรอื เปนเพยี งขั้นพยายาม คาํ ¾¾Ô Ò¡ÉÒÈÒÅ®¡Õ Ò·Õè ñöôö/òõóò ความผดิ ฐานขม ขนื กระทําชําเรานัน้ เมอ่ื อวยั วะเพศของจาํ เลยไดล ว งลา้ํ เขา ไปในอวยั วะเพศของผเู สยี หายแลว แมจ าํ เลยไมส าํ เรจ็ ความใคร ก็เปน ความผิดสาํ เรจ็ คาํ ¾¾Ô Ò¡ÉÒÈÒÅ®¡Õ Ò·Õè øôø/òõôø จาํ เลยนาํ อวยั วะเพศของจาํ เลยใสอ วยั วะเพศ ของผูเสียหายท่ี ๑ และไดความจากแพทยผูตรวจพิสูจนผูเสียหายท่ี ๑ วาพบเยื่อพรหมจารีฉีกขาด ดังนี้ แสดงวา อวัยวะเพศของจําเลยไดล ว งลาํ้ เขา ไปในอวัยวะเพศของผเู สยี หายที่ ๑ แลว การกระทํา ของจาํ เลยจงึ เปนความผดิ ฐานกระทําชําเราเด็กหญงิ อายุยังไมเกินสบิ สามปตาม ป.อ. มาตรา ๒๗๗ วรรคสอง สวนจาํ เลยจะสาํ เรจ็ ความใครห รอื ไมย อมมิใชส าระสําคญั ๒. หากชายมิไดเอาของลับของตนÊÍ´ãÊ‹ไปในของลับของหญิง เพียงแตถูไถ ทปี่ ากชอ งคลอดมคี าํ พพิ ากษาศาลฎกี าที่ ๘๗๔/๒๔๙๑, ๑๗๐๖/๒๔๙๘, ๔๑๖๖/๒๕๔๗, ๑๓๙๐/๒๕๕๕ และ ๕๔๔๘/๒๕๕๗ μÑ´ÊÔ¹ÇÒ‹ ໹š ¤ÇÒÁ¼´Ô °Ò¹¾ÂÒÂÒÁ¢Á‹ ¢×¹¡ÃÐทําชําàÃÒ μÇÑ ÍÂÒ‹ § คาํ ¾¾Ô Ò¡ÉÒÈÒÅ®¡Õ Ò·Õè õôôø/òõõ÷ จําเลยเพียงใชอ วัยวะเพศของจาํ เลย ถูไถเสียดสีกับอวัยวะเพศของผูเสียหาย โดยเจตนากระทําชําเราแตเม่ือมิไดสอดใสจึงยังไมเปนการ กระทาํ ชาํ เราสําเร็จตามมาตรา ๒๗๗ วรรคสอง จําเลยคงผิดฐานพยายามกระทําชําเรา ๓. ดังไดกลาวแลววา การกระทําชําเราตามกฎหมายใหมตองเปนใชÍÇÑÂÇÐà¾È ของผูกระทําลวงล้ําเทาน้ัน หากเปนการใชÊèÔ§Í×è¹ã´ (วัตถุ) หรืออวัยวะอื่นซ่ึงไมใชÍÇÑÂÇÐà¾Èŋǧลํ้า ÍÇÑÂÇÐà¾Èหรือ·ÇÒÃ˹ѡของผูถูกกระทํากä็ Áà‹ »¹š ¤ÇÒÁ¼´Ô °Ò¹¢Á‹ ¢¹× กระทาํ ชาํ เราตามมาตรา ๒๗๖ วรรคหนึง่ หรอื ฐาน¡ÃÐทาํ ชําàÃÒà´¡ç ตามมาตรา ๒๗๗ วรรคหน่งึ หรอื วรรคสอง เพราะไมใ ชเปนการใช ÍÇÑÂÇÐà¾Èลวงลํ้า แตการกระทําดังกลาวผูกระทําอาจมีความผิดฐานกระทําอนาจารโดยการลวงล้ํา ตามมาตรา ๒๗๘ วรรคสอง หรอื มาตรา ๒๗๙ วรรคสี่หรือวรรคหาแลวแตก รณี ซง่ึ จะไดก ลา วตอไป
๓๐๙ ๔. มาตรา ๒๗๖ วรรคหนึ่งทแี่ กไขใหมบัญญัตวิ า “ผใู ดขมขืนกระทําชําเราผูอื่น...” และมาตรา ๑ (๑๘) บัญญัติวา “การกระทําชําเรา หมายความวา กระทําเพ่ือสนองความใครของ ผูก ระทําโดยการใชอวยั วะเพศของผกู ระทําลว งลํา้ อวัยวะเพศ ทวารหนัก หรอื ชอ งปากของผูอ่นื ” ตามบทบญั ญตั ดิ งั กลา วจะเหน็ ไดว า ¼¡ŒÙ ÃÐทาํ กฎหมายใชค าํ วา “ผใู ด” และ¼¶ŒÙ ¡Ù ¡ÃÐทาํ กฎหมายใชคาํ วา “ผูอ่นื ” ดงั นั้นผูก ระทาํ และผถู ูกกระทาํ อาจเปนà¾Èà´ÂÕ Ç¡Ñ¹ คือ ชายกระทาํ กับชาย หรอื หญงิ กระทํากบั หญงิ กไ็ ด หรอื μÒ‹ §à¾È¡¹Ñ คอื ชายกระทาํ กบั หญงิ หรอื หญิงกระทํากบั ชาย กไ็ ด หรือเปน ¤Ù‹ÊÁÃÊกัน คือ สามีกระทาํ ตอ ภริยา หรือภริยากระทําตอสามีกไ็ ดเ ชน กนั ¡Ã³ªÕ Ò¡ÃÐทาํ μÍ‹ ËÞ§Ô ตอ งเปน การใชอ วยั วะเพศของชายลว งลาํ้ หรอื สอดใสเ ขา ไป ในอวัยวะเพศ ทวารหนกั หรือชองปากของหญงิ ¡Ã³ÕªÒ¡ÃÐทําμ‹ÍªÒ ดวยกนั ตอ งเปนการใชอ วยั วะเพศของชายผกู ระทําลวงลํ้า หรือสอดใสเขา ไปในทวารหนกั หรอื ชอ งปากของชายผูถ ูกกระทาํ ทงั้ นี้ การãªÍŒ ÇÂÑ ÇÐà¾Èของชายผกู ระทาํ μÍ‹ ¼¶ŒÙ ¡Ù ¡ÃÐทาํ นนั้ ผกู ระทาํ อาจจะอยใู นสภาพ หรือเปน ฝา ย active (เคลอื่ นไหวเอง) ก็ได เชน ชายใชอ วัยวะเพศของตนÅÇ‹ §ลํ้าÍÇÂÑ ÇÐà¾Èของหญงิ ·ÇÒÃ˹¡Ñ ของชายหรือหญิง หรือª‹Í§»Ò¡ของชายอ่ืนหรอื หญงิ หรอื อาจจะอยใู นสภาพหรอื เปน ฝา ย passive (อยเู ฉยๆ) กไ็ ดเ ชน ชายบงั คบั ใหห ญงิ หรือชายอน่ื ÍÁÍÇÑÂÇÐà¾Èของตน ทั้งสองกรณีดังกลาวถือไดวาเปนการกระทําชําเราตามกฎหมายที่แกไขใหม (เทียบ ไดกับคําพิพากษาศาลฎีกาที่ ๑๕๓๐๙/๒๕๕๓ ซ่ึงไดตัดสินตามกฎหมายเดิมวา การที่จําเลย (ชาย) ใหเ ดก็ หญงิ อายไุ มเ กนิ ๑๓ ป อมอวยั วะเพศของจาํ เลย เปน การกระทาํ ชาํ เราเดก็ หญงิ ตาม ป.อ.มาตรา ๒๗๗ วรรคสอง เพราะเปน การใชอวัยวะเพศของจําเลยกระทาํ กบั ชองปากของเดก็ หญงิ ซ่ึงเปนกรณี จําเลยอยูใ นสภาพหรอื เปนฝา ย passive เชน กนั ศาลฎกี าก็ตัดสนิ วาเปน การกระทาํ ชาํ เราเด็ก) Ëҡ໚¹¡Ã³ÕËÞÔ§¡ÃÐทําμ‹ÍªÒ ตองเปนกรณีใหอวัยวะเพศของชายผูถูกกระทํา ลวงลํา้ เขา ไปในอวยั วะเพศของหญิงผูกระทาํ ตวั อยา งเชน นาง ก. แตง กายโปป ลกุ อารมณท างเพศของ ด.ช. ข. อายุ ๑๔ ป จากนนั้ นาง ก. ใชอวยั วะเพศของตนลวงลํ้าอวัยวะเพศ ด.ช. ข. ดงั น้ี ถอื วา การกระทาํ ของ นาง ก. เปนการ กระทําชาํ เรา ด.ช. ข. แลว ¡Ã³ÕËÞÔ§¡ÃÐทําμ‹ÍËÞÔ§ จะเปนการกระทําชําเราไดหรือไม เห็นวา นาจะไมได โดยสภาพหญงิ ไมอาจใชอ วยั วะเพศของตนลว งล้ําอวัยวะเพศของหญงิ ผูถ ูกกระทําได แตมีประเด็นนาคิดวา กรณีหญิงแปลงอวัยวะเพศเปนชาย (หากในอนาคตแพทย สามารถแปลงอวยั วะเพศหญงิ เปน อวยั วะเพศชายไดแ ลว ) แลว ใชอ วยั วะเพศลว งลาํ้ อวยั วะเพศของหญงิ ผูถูกกระทําเพื่อสนองความใครของตนจะถือเปนการกระทําชําเราไดหรือไม เห็นวา กรณีเชนวานี้ ตองถือวาอวัยวะเพศชายท่ีแปลงมาเปนอวัยวะเพศของหญิงดวย เมื่อหญิงใชอวัยวะเพศชายที่แปลง
๓๑๐ มาลวงลํ้าอวัยวะเพศหญิงผูถูกกระทําเพื่อสนองความใครของตน ก็นาจะเปนการกระทําชําเราตาม กฎหมายไดเ ชนกัน õ. ¼ÙŒÃ‹ÇÁ¡ÃÐทํา¤ÇÒÁ¼Ô´ เน่ืองจากการขมขืนกระทําชําเราเปนความผิดท่ีรวมกัน กระทําความผิดไดเชนเดียวกับความผิดอ่ืนๆ ท่ัวไป เม่ือรวมกันกระทําผิดเปนμÑÇ¡ÒÃได ก็ยอมเปน ¼ŒãÙ ªตŒ ามมาตรา ๘๔ หรอื เปน ผสู นับสนนุ ตามมาตรา ๘๖ ไดเชนกัน คํา¾¾Ô Ò¡ÉÒÈÒŮաҷèÕ òð÷ó/òõó÷ จําเลยท่ี ๑ กระทําชาํ เราดวยความยนิ ยอม ของผูเสียหายจึงไมมีความผิดฐานขมขืนกระทําชําเรา แตจําเลยท้ังสองไดสมคบรวมคิดกันมากอนวา จะใหจาํ เลยที่ ๒ ขมขนื กระทําชาํ เราผูเ สียหาย เมือ่ จําเลยที่ ๑ กระทาํ ชําเราผูเสียหายเสรจ็ แลว จําเลย ที่ ๑ ก็ออกจากหองไป เปด ประตไู วใ หจ าํ เลยท่ี ๒ เขา ไปขมขนื กระทาํ ชําเราผเู สยี หายถือไดว า เปน การ ชวยเหลอื หรอื ใหความสะดวกแกจ าํ เลยท่ี ๒ ในการกระทาํ ความผิดจาํ เลยท่ี ๑ จึงมคี วามผดิ ฐานเปน ผสู นบั สนนุ จาํ เลยที่ ๒ ในการกระทาํ ความผดิ ฐานขม ขืนกระทําชาํ เราผเู สยี หาย ó) ¼ŒÍÙ ¹è× คาํ วา “¼ÙŒÍ×è¹” ในทนี่ ้คี ือผถู กู กระทํา ซึง่ อาจเปน à¾Èà´ÂÕ Ç¡¹Ñ μ‹Ò§à¾Èหรือ¤Ê‹Ù ÁÃÊ กันกไ็ ด ô) à¨μ¹Ò ในสวนของเจตนาผูกระทําจะตองมีเจตนาตามมาตรา ๕๙ ทานศาสตราจารยจิตติ ตงิ ศภทั ย ไดอ ธบิ ายวา ถา มàี ¨μ¹Ò¡ÃÐทาํ ชาํ àÃÒ แมไ มส ามารถกระทาํ ไดส าํ เรจ็ กเ็ ปน ความผดิ ฐาน¾ÂÒÂÒÁ ถาเจตนาเพยี ง¡ÃÐทําÀÒ¹͡ ไมประสงคใ หข องลบั ลวงลํ้าเขา มาภายในชอ งสงั วาสของหญิง ไมเปน ความผดิ ฐานพยายามขม ขนื กระทาํ ชาํ เรา แตอ าจเปน การกระทาํ ͹ҨÒÃเทา นนั้ (คาํ พพิ ากษาศาลฎกี า ที่ ๓๑๑/๒๔๙๐, ๑๓๑๖/๒๕๐๘, ๒๘๗๘/๒๕๒๒) อนงึ่ การกระทาํ ชาํ เราตามกฎหมายใหมต อ งกระทาํ à¾Í×è ʹͧ¤ÇÒÁã¤Ãข‹ อง¼¡ŒÙ ÃÐทาํ อันเปนà¨μ¹Ò¾àÔ ÈÉ ¡Ã³Õ¼Œ¡Ù ÃÐทาํ ¼Ô´μÍŒ §ÃѺâ·Éʧ٠¢é¹Ö (ÁÒμÃÒ ò÷ö ÇÃäÊͧ, ÇÃäÊÒÁ) ÁÒμÃÒ ò÷ö ÇÃäÊͧ การกระทาํ ความผดิ ตามวรรคหนึ่ง ผูกระทาํ ตอ งรบั โทษหนักขึน้ ถาä´Œ¡ÃÐทําâ´ÂทําãËŒ¼ÙŒ¶Ù¡¡ÃÐทําࢌÒã¨Ç‹Ò¼ÙŒ¡ÃÐทําÁÕÍÒÇØ¸»„¹ หรือÇÑμ¶ØÃÐàºÔ´ตองระวางโทษจําคุก ตัง้ แตเจด็ ปถงึ ย่ีสิบปและปรบั ตงั้ แตห นึ่งแสนส่ีหมน่ื บาทถงึ ส่แี สนบาท ͸ºÔ Ò บทบญั ญตั ใิ นมาตรา ๒๗๖ วรรคสองนี้ เปน บทบญั ญตั ทิ ไ่ี ดม กี ารแกไ ขใหม โดยองคป ระกอบ ความผดิ ทสี่ าํ คญั คือ การทาํ ใหผ ูถกู กระทาํ เขา ใจวา ผูกระทาํ มอี าวุธปนหรอื วตั ถรุ ะเบิด ตวั อยา งเชน นายดาํ ใชป น ของเลน หรอื ปน บบี กี นั ขใู หน างสาวแดงยนิ ยอมใหต นกระทาํ ชาํ เรา ซ่ึงนางสาวแดงเขาใจวาเปนปนของจริง ในกรณีแมนายดําจะไมมีอาวุธปนติดตัวมาก็ดี หากนายดํา ไดก ระทาํ ใหน างสาวแดงเขา ใจวา อาวธุ ปน ปลอมทน่ี ายดาํ ใชข เู ขญ็ หรอื สงิ่ ทอี่ ยใู นกระเปา สะพายของนายดาํ
๓๑๑ ดงั กลา วเปนอาวธุ ปน เชนนีก้ ็เปนความผิดทนี่ ายดาํ จะตอ งรบั โทษสงู ขึน้ ตามมาตรา ๒๗๖ วรรคสอง อนั เปนเหตฉุ กรรจของมาตรา ๒๗๖ วรรคหนงึ่ ÁÒμÃÒ ò÷ö ÇÃäÊÒÁ ถา การกระทาํ ความผิดตามวรรคหนึ่ง ไดก ระทาํ โดยมีอาวธุ ปน หรือวตั ถุระเบดิ หรือโดยใชอ าวธุ หรือโดยรว มกระทําความผิดดวยกันอันมลี ักษณะเปนการโทรมหญิง หรือกระทํากับชายในลักษณะเดียวกัน ตองระวางโทษจําคุกตั้งแตสิบหาปถึงย่ีสิบป และปรับตั้งแต สามแสนบาทถงึ ส่ีแสนบาทหรอื จาํ คกุ ตลอดชวี ติ ͸ºÔ Ò ÁÒμÃÒ ò÷ö ÇÃäÊÒÁ การกระทําความผดิ ตามวรรคหน่ึง ผกู ระทําตอ งรบั โทษหนักขึ้น ถา ๑) ไดก ระทําโดยมีอาวธุ ปน หรือวตั ถรุ ะเบิด ๒) ไดกระทําโดยใชอ าวุธ ๓) ไดก ระทาํ โดยรว มกระทาํ ความผดิ ดว ยกนั อนั มลี กั ษณะเปน การโทรมหญงิ หรอื กระทาํ กับชายในลักษณะเดยี วกัน ¢ÍŒ 椄 à¡μ ÁÒμÃÒ ò÷ö ÇÃäÊÒÁ เปน àËμ©Ø ¡Ãèท ที่ าํ ใหผ กู ระทาํ ตอ งรบั โทษหนกั ขน้ึ กวา วรรคสอง แยกพจิ ารณาได ๒ ประการดงั น้ี (ñ) ä´¡Œ ÃÐทาํ â´ÂÁÍÕ ÒÇØ¸»„¹ËÃ×ÍÇμÑ ¶ÃØ Ðàº´Ô หากอาวธุ นนั้ คอื ปน หรอื วตั ถรุ ะเบดิ เพยี งแตม อี าวธุ ปน หรอื วตั ถรุ ะเบดิ ã¹¢³Ð¢Á‹ ¢¹× ¡ÃÐทาํ ชาํ àÃÒ áÁ¼Œ ¡ŒÙ ÃÐทาํ ÁäÔ ´ãŒ ªกŒ เ็ ปน ความผดิ ตามวรรคสามแลว แตถ า เปน ÍÒÇ¸Ø ÍÂÒ‹ §Í¹×è ตอ งมกี าร㪌 ดวยจงึ จะมีความผดิ ตามวรรคสาม (ò) â´ÂãªÍŒ ÒÇ¸Ø คําÇ‹Ò “â´Â㪌ÍÒÇØ¸” ตามกฎหมายที่แกไขใหม หมายถึง ÍÒÇØ¸»ÃÐàÀ·ã´ก็ได ซึ่งอาวุธในท่ีน้ีหมายรวมถึงสิ่งซึ่งไมเปนอาวุธโดยสภาพ แตซ่ึงไดใชหรือเจตนาจะใชนาจะประทุษราย รา งกายหรอื อนั ตรายสาหสั อยา งอาวธุ ตามความหมายใน ป.อ.มาตรา ๑ (๕) และตอ งเปน การใชใ นขณะ กระทาํ ความผดิ ตวั อยา งเชน การใชม ดี คตั เตอรแ มจ ะเปน อาวธุ โดยสภาพ แตถ า จะเอามาใชข ม ขผู เู สยี หาย ทุกคร้ัง จงึ ถอื เปน อาวุธโดยเจตนาจะใช (คําพพิ ากษาศาลฎกี าท่ี ๑๔๐๐/๒๕๓๘) μÇÑ Í‹ҧ คาํ ¾¾Ô Ò¡ÉÒÈÒÊ®¡Õ Ò·èÕ ÷÷ø÷/òõõñ จาํ เลยนาํ อาวธุ มดี ทต่ี ดิ ตวั ออกมาวางบรเิ วณเสอ่ื ที่จัดเตรียมไวแลวจึงกระทําชําเราผูเสียหาย โดยผูเสียหายมิไดยืนยันวาจําเลยใชอาวุธมีดขูเข็ญบังคับ ใหผูเสียหายยอมใหจําเลยกระทําชําเรา เมื่อจําเลยสําเร็จความใครแลว จําเลยนําอาวุธมีดมาถือไว และขมขูผูเสียหายมใิ หบ อกแกผอู นื่ วา ถูกจาํ เลยกระทําชําเรา «Öè§à»¹š ¡ÒÃ㪌ÍÒÇØ¸ÁÕ´ËÅ§Ñ ¨Ò¡·èจÕ ําàÅ ¡ÃÐทาํ ชําàÃÒ¼ÙŒàÊÂÕ ËÒÂáÅŒÇ ซง่ึ เปน ความผดิ ตาม ป.อ.มาตรา ๒๗๗ วรรคหน่ึง
๓๑๒ แมผูกระทําการขมขืนกระทําชําเราผูอื่นจะไมมีปน แตหากผูที่รวมกระทําดวยกันมีปน ผกู ระทํากต็ อ งรับโทษหนักขึน้ ตามมาตรา ๒๗๖ วรรคสาม μÇÑ Í‹ҧ คํา¾Ô¾Ò¡ÉÒÈÒÅ®¡Õ Ò·Õè øùñ/òõòñ จาํ เลยขมขืนชําเราหญิง โดยพวกของจําเลยมปี น บงั คบั ไมใ หค นอน่ื ชว ยหญงิ จาํ เลยรว มกระทาํ กบั พวกทมี่ อี าวธุ ปน จาํ เลยตอ งรบั โทษหนกั ขนึ้ ตามมาตรา ๒๗๖ วรรคสอง (»˜¨¨ºØ ѹ¤×ÍÇÃäÊÒÁ) คํา¾Ô¾Ò¡ÉÒÈÒŮաҷèÕ ó÷ô/òõòö โจทกรว มยอมไปโรงแรมกบั จําเลยที่ ๒ เพราะ หลงกลอบุ ายหลอกลวงวา สามโี จทกร ว มนอกใจ ใหไ ปจบั ผดิ สามี แลว จาํ เลยที่ ๑ สามจี าํ เลยท่ี ๒ ไดเ ขา มา ชว ยกนั ถอดเสอื้ ผา และจาํ เลยที่ ๒ ä´ãŒ ª»Œ ¹„ บงั คบั ขเู ขญ็ ขณะจาํ เลยที่ ๑ ขม ขนื กระทาํ ชาํ เราโจทกร ว ม จาํ เลยท่ี ๒ กถ็ า ยภาพไว จาํ เลยทง้ั สองจงึ มคี วามผดิ ฐานรว มกนั ขม ขนื กระทาํ ชาํ เราโจทกร ว มโดยมแี ละ ใชอาวุธปน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๖ วรรคสอง (»¨˜ ¨Øº¹Ñ ¤×ÍÇÃäÊÒÁ), ๘๓ คาํ ¾¾Ô Ò¡ÉÒÈÒÅ®¡Õ Ò·èÕ òò÷/òõòù จาํ เลยที่ ๑ ใชอ าวุธปนขบู งั คบั หญงิ ผเู สยี หายให ยอมใหจ าํ เลยที่ ๒ กระทาํ ชาํ เราโดยจาํ เลยท่ี ๑ มไิ ดก ระทาํ ชาํ เราผเู สยี หายดว ยถอื ไมไ ดว า จาํ เลยทง้ั สอง ไดรวมกันขมขืนกระทําชําเราผูเสียหายอันมีลักษณะเปนการโทรมหญิงแตถือเปนตัวการรวมกันขมขืน กระทาํ ชาํ เราผเู สยี หายโดยมหี รอื ใชอ าวธุ ปน อนั เปน ความผดิ ตาม ป.อ.มาตรา ๒๗๖ วรรคสอง (»¨˜ ¨ºØ ¹Ñ ¤×ÍÇÃäÊÒÁ) ¤ÇÒÁáμ¡μÒ‹ §ÃÐËNjҧÁÒμÃÒ ò÷ö ÇÃäÊͧáÅÐÇÃäÊÒÁ กรณวี รรคสองแมผ กู ระทาํ ไมม อี าวธุ ปน หรอื วตั ถรุ ะเบดิ แตถ า ไดก ระทาํ ใหผ ถู กู กระทาํ เขา ใจวา ผมู อี าวธุ ปน หรอื วตั ถรุ ะเบดิ กเ็ ขา องคป ระกอบเหตฉุ กรรจท มี่ โี ทษหนกั กวา การขม ขนื กระทาํ ชาํ เราทวั่ ไป ตามวรรคหนึง่ สว นวรรคสาม เปน กรณีทผี่ กู ระทําตองมีอาวธุ ปนหรอื วัตถรุ ะเบิดในขณะกระทาํ ความผดิ จึงจะครบองคประกอบเหตุฉกรรจต ามวรรคสามน้ี (ó) â´ÂÃÇ‹ Á¡ÃÐทาํ ¤ÇÒÁ¼´Ô ´ÇŒ ¡¹Ñ Í¹Ñ ÁÅÕ ¡Ñ ɳÐ໹š ¡ÒÃâ·ÃÁËÞ§Ô ËÃÍ× ¡ÃÐทาํ ¡ºÑ ªÒ ã¹ÅѡɳÐà´ÕÂÇ¡¹Ñ ¢ÍŒ 椄 à¡μ ๑. การรว มกระทาํ ความผดิ ดว ยกนั อนั มลี กั ษณะเปน การโทรมหญงิ นน้ั μÍŒ §Á¡Õ ÒÃ¼Å´Ñ à»ÅèÕ¹¡¹Ñ ¢Á‹ ¢¹× ¡ÃÐทาํ ชาํ àÃÒμ§éÑ áμÊ‹ ͧ¤¹¢Öé¹ä» (คําพิพากษาศาลฎกี าท่ี ๑๒๐๒/๒๕๒๙) โดยμŒÍ§ÁÕ ¡ÒÃÃÇ‹ Á¡¹Ñ ¡ÃзÒí ¤ÇÒÁ¼´Ô ประการหนงึ่ และ¡ÒáÃÐทาํ ·ÃèÕ Ç‹ Á¡¹Ñ ¹¹éÑ à¢ÒŒ Å¡Ñ É³ÐÍ¹Ñ à»¹š ¡ÒÃâ·ÃÁËÞ§Ô อีกประการหนึง่ ดว ย (คาํ พพิ ากษาศาลฎกี าท่ี ๓๘๖๓/๒๕๓๓)
๓๑๓ μÇÑ ÍÂÒ‹ § คาํ ¾¾Ô Ò¡ÉÒÈÒÅ®¡Õ Ò·èÕ öö÷/òõòñ จาํ เลยท่ี ๒ กบั พวกอกี หนงึ่ คนรว มกนั ขม ขนื กระทําชําเราผูเสียหายโดยพวกของจําเลยจับขาผูเสียหายไวใหจําเลยที่ ๒ ขมขืนกระทําชําเรากอน เสรจ็ แลวจําเลยท่ี ๒ มายนื คุมใหพวกของตนขม ขืนกระทําชําเราอีกจนสาํ เรจ็ ความใครคนละครั้งเชนน้ี เขา ลกั ษณะเปน การโทรมหญงิ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๗๖ วรรคสอง (»¨˜ ¨ºØ ¹Ñ ¤Í× ÇÃäÊÒÁ) ๒. การโทรมหญงิ ผลู งมอื กระทาํ ตอ งมากกวา หนง่ึ คนผลดั เปลย่ี นกนั กระทาํ อยา งนอ ย ¤¹ÅФçÑé ดว ย (คาํ พพิ ากษาศาลฎกี าท่ี ๑๖๘๕/๒๕๐๓ (ประชุมใหญ), ๑๙๙๒/๒๕๑๗, ๖๗๗/๒๕๒๑) ๓. แมค นหนงึ่ กระทาํ ชาํ เราสาํ เรจ็ ความใคร แตอ กี คนหนงึ่ แคพ ยายามขม ขนื กระทาํ ชําเรา กย็ งั ถอื วาเปน การโทรมหญิงแลว (คาํ พิพากษาศาลฎีกาท่ี ๓๐๐๗/๒๕๓๒ (ประชมุ ใหญ) ) μÇÑ ÍÂÒ‹ § คาํ ¾¾Ô Ò¡ÉÒÈÒÅ®¡Õ Ò·Õè óðð÷/òõóò (»ÃЪÁØ ãËÞ)‹ การทจี่ าํ เลยกบั พวกรว มกนั บกุ รกุ เขา ไปในบา นของผเู สยี หายในเวลากลางคนื โดยจาํ เลยมอี าวธุ มดี พวกของจาํ เลยมอี าวธุ ปน แลว จําเลยไดใชอาวุธมีดจ้ีบังคับกระทําชําเราผูเสียหาย ในขณะเดียวกันนั้นพวกของจําเลยไดใชอาวุธปน จบี้ งั คบั ขม ขนื กระทาํ ชาํ เราพวกของผเู สยี หายอกี คนหนง่ึ ซง่ึ นอนอยบู นเตยี งเดยี วกนั นน้ั จาํ เลยมคี วามผดิ ฐานรว มกนั ขม ขนื กระทาํ ชาํ เราหญงิ ซง่ึ มใิ ชภ รยิ าของตนโดยขเู ขญ็ ใชก าํ ลงั ประทษุ รา ยและไดร ว มกนั กระทาํ โดยมหี รือใชอาวธุ ปนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๖ วรรคสอง (»¨˜ ¨ØºÑ¹¤×ÍÇÃäÊÒÁ) เม่ือจําเลยขมขืนกระทําชําเราผูเสียหายแลว พวกของจําเลยไดผละจากพวกของ ผูเสียหายมาขมขืนกระทําชําเราผูเสียหายตออีก แมพวกของจําเลย¨ÐäÁ‹ÊÒÁÒöÊÍ´ãÊ‹ÍÇÑÂÇÐà¾È ࢌÒä»ã¹ÍÇÂÑ ÇÐà¾È¢Í§¼ŒÙàÊÂÕ ËÒÂä´Œ แตก ไ็ ดลงมอื กระทําการขมขนื กระทาํ ชําเราผูเสียหายจนถงึ ขน้ั พยายามแลว การทจ่ี ําเลยกับพวกผลดั เปลี่ยนกันกระทาํ ชาํ เราผเู สียหายตอเนื่องกนั ถอื ไดว า เปน การ รว มกนั กระทาํ ชาํ เราผเู สยี หายอนั มลี กั ษณะเปน การโทรมหญงิ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๗๖ วรรคสอง (»¨˜ ¨ØºÑ¹¤Í× ÇÃäÊÒÁ) คํา¾Ô¾Ò¡ÉÒÈÒŮաҷÕè ñöóð/òõôô จําเลยกับพวกรวมกันกระทําผิด แมจะ ปรากฏวา หลงั จากจาํ เลยขม ขนื กระทาํ ชาํ เราผเู สยี หายเสรจ็ แลว พวกของจาํ เลยคนหนงึ่ ทร่ี ว มกนั มาฉดุ ผเู สยี หายไปขม ขนื กระทาํ ชาํ เราซง่ึ เขา ขม ขนื กระทาํ ชาํ เราเปน คนตอ มาจะไมส ามารถสอดใสอ วยั วะเพศ ของตนเขา ไปในอวยั วะเพศของผเู สยี หายไดเ พราะอวยั วะเพศไมแ ขง็ ตวั กต็ าม แตก ารทพี่ วกของจาํ เลย พยายามสอดใสอ ยนู าน ๑๐ นาที กแ็ สดงใหเ หน็ เจตนาทจ่ี ะรมุ กนั ขม ขนื กระทาํ ชาํ เราผเู สยี หาย การกระทาํ ของจาํ เลยกบั พวกจงึ ไดช อ่ื วา เปน การรว มกนั ขม ขนื กระทาํ ชาํ เราผเู สยี หายอนั มลี กั ษณะเปน การโทรมหญงิ ๔. แตถ า คนหนงึ่ กระทาํ ชาํ เราจนสาํ เรจ็ แตอ กี คนหนง่ึ 处 äÁ¶‹ §Ö ¢¹Ñé ¾ÂÒÂÒÁ¢Á‹ ¢¹× ¡ÃÐทาํ ชําàÃÒ กรณีนี้ยังäÁ¶‹ ×ÍÇ‹Ò໹š ¡ÒÃâ·ÃÁËÞÔ§ ทั้งสองคนมีความผดิ ฐานเปนตวั การรวมกนั ขม ขืน กระทาํ ชําเราตามมาตรา ๒๗๖ วรรคหนงึ่ ประกอบมาตรา ๘๓ เทา น้นั
๓๑๔ μÑÇÍÂÒ‹ § คาํ ¾¾Ô Ò¡ÉÒÈÒÅ®¡Õ Ò·Õè ñòðò/òõòù การรว มกระทาํ ความผดิ ดว ยกนั อนั มลี กั ษณะ เปน การโทรมหญงิ นนั้ μÍŒ §Á¡Õ ÒÃÃÇ‹ Á¡¹Ñ ¼Å´Ñ à»ÅÂÕè ¹¡¹Ñ ¢Á‹ ¢¹× ¡ÃÐทาํ ชาํ àÃÒμ§éÑ áμÊ‹ ͧ¤¹¢¹éÖ ä» จาํ เลย ท่ี ๑ ขม ขนื กระทาํ ชาํ เราผเู สยี หายà¾ÂÕ §¤¹à´ÂÕ Ç จาํ เลยท่ี ๒ 处 äÁä‹ ´¢Œ Á‹ ¢¹× ¡ÃÐทาํ ชาํ àÃÒ´ÇŒ  เพยี งแต กอดจูบและกดผูเสียหายใหจําเลยท่ี ๑ ขมขืนกระทําชําเราผูเสียหายเทานั้น ดังนี้ลักษณะการกระทํา ดงั กลา วของจาํ เลยท่ี ๒ เปน เพยี งตวั การรว มกระทาํ ผดิ ขม ขนื กระทาํ ชาํ เราดว ยกนั กรณ¨ี §Ö äÁà‹ ¢ÒŒ Å¡Ñ É³Ð à»š¹¡ÒÃâ·ÃÁËÞ§Ô ÁÒμÃÒ ».Í.ÁÒμÃÒ ò÷ö ÇÃäÊͧ (»¨˜ ¨ºØ ¹Ñ ¤Í× ÇÃäÊÒÁ) จําเลยทง้ั สองมี ความผิดตามมาตรา ๒๗๖ วรรคหนง่ึ ประกอบมาตรา ๘๓ เทานัน้ ๕. เมอื่ ไดข ม ขนื กระทาํ ชาํ เราอนั มลี กั ษณะเปน การโทรมหญงิ โดยกระทาํ ตงั้ แตส องคน ข้ึนไปแลว หากยังมีพวกที่รวมกระทําดวยกัน แตยังไมทันไดลงมือกระทําชําเราก็ตองรับผิดฐานเปน μÑÇ¡ÒÃรว มกนั ขมขืนกระทาํ ชําเราอนั มีลกั ษณะเปนการโทรมหญิงดวย μÇÑ Í‹ҧ คาํ ¾¾Ô Ò¡ÉÒÈÒÅ®¡Õ Ò·èÕ òòðð/òõò÷ ระหวา งทผ่ี เู สยี หายไปเทยี่ วงานมหกรรมชา ง จําเลยท่ี ๒ ซ่งึ ผูเ สยี หายไมเ คยรจู ักมากอน ไดเขามาทักทายและไปเท่ียวงานดวยกนั จนกระทั่งตกดึก ผเู สยี หายจะกลบั บานก็ขอใหจ าํ เลยที่ ๒ กบั พวกไปสง จําเลยท่ี ๒ ทาํ รรี อวา จะรอเพอ่ื นกอน แตเ มอ่ื ผเู สยี หายเดนิ ออกจากบรเิ วณงาน กเ็ หน็ จาํ เลยท่ี ๒ กบั พวกเดนิ นาํ หนา ไปกอ น ครน้ั ถงึ ทเี่ กดิ เหตผุ เู สยี หาย ก็ถูกชายวัยรุนซ่ึงมีจําเลยที่ ๑ รวมอยูดวยฉุดไปขมขืนกระทําชําเราท่ีขางทาง สวนจําเลยท่ี ๒ ถอดกางเกงรออยู ผูเสยี หายขอรอ งวา อยา ทําหนูเลย จําเลยที่ ๒ ตอบวา อีกคนหน่ึง แตมีคนเดินมา คนรา ยจงึ อมุ ผเู สยี หายไปทอี่ นื่ แลว ขม ขนื กระทาํ ชาํ เราจนผเู สยี หายสลบไป ตามพฤตกิ ารณส อ วา จาํ เลย ท่ี ๒ ไดรวมกับพวกเพอื่ กระทาํ ความผดิ มาแตตน การรวมกันขมขืนกระทําชําเราอันมีลักษณะเปนการโทรมหญิงนั้นจะตองกอนหลัง กันอยู พวกของจําเลยบางคนไดขม ขนื กระทาํ ชําเราผูเสยี หายแลว บางคนกําลงั ขม ขืนกระทําชาํ เราอยู จาํ เลยที่ ๒ ซง่ึ ไดถ อดกางเกงรออยพู รอมที่จะขมขืนกระทาํ ชําเราเปนคนตอ ไป แมจ ะยังไมท ันไดขมขนื กระทําชําเราผเู สียหาย เพราะมีผูอ ื่นมายังที่เกดิ เหตุจึงหลบหนีไปเสยี กอ น กไ็ ดช่อื วา เปนผรู วมกระทาํ ความผิดแลว คาํ ¾¾Ô Ò¡ÉÒÈÒÅ®¡Õ Ò·èÕ öööó/òõóù จาํ เลยท่ี ๓ จบั มอื ปด ปากผเู สยี หายเพอ่ื ให จาํ เลยท่ี ๑ และจาํ เลยที่ ๒ ผลดั เปลยี่ นกนั ขม ขนื กระทาํ ชาํ เราผเู สยี หายตอ เนอ่ื งกนั เปน การรมุ กนั กระทาํ ตอผูเสยี หาย ถือไดว า จําเลยที่ ๑ ท่ี ๒ และท่ี ๓ รว มกนั กระทาํ ชําเราอันมีลักษณะเปน การโทรมหญงิ คาํ ¾Ô¾Ò¡ÉÒÈÒŮաҷèÕ ñõõø/òõôó แมจําเลยจะมิไดเปน ผลู งมือขม ขืนกระทํา ชําเราผูเสียหาย แตพฤติการณที่จําเลยชวยกันฉุดผูเสียหายและชวยกดคอและตบตีผูเสียหายเพื่อให พวกของจาํ เลยขม ขนื กระทาํ ชาํ เราผเู สยี หายในลกั ษณะโทรมหญงิ นน้ั ถอื ไดว า จาํ เลยไดà »¹š μÇÑ ¡ÒÃรว ม กระทาํ ผดิ ดว ยกนั กบั พวกของจาํ เลยแลว จาํ เลยจงึ มคี วามผดิ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๖ วรรคสอง (»˜¨¨ØºÑ¹¤×ÍÇÃäÊÒÁ) ประกอบดวยมาตรา ๘๓
๓๑๕ คาํ ¾¾Ô Ò¡ÉÒÈÒÅ®¡Õ Ò·Õè öùøô/òõôô จาํ เลยพาผเู สยี หายและ ส. คนรกั ผเู สยี หาย ไปยังกระทอมที่เกิดเหตุ ตอมา ส. กลัววาจะเกิดเรื่องไมดีจึงคิดจะกลับ ขณะท่ี ส. กําลังติดเคร่ือง รถจกั รยานยนตแ ละผเู สยี หายจะนงั่ ซอ นทา ย จาํ เลยไดเ ขา มาลอ็ กคอผเู สยี หาย ลากลงมาและกอดปลา้ํ ผูเสยี หาย จากนน้ั มี ต. และ ช. เขามาจับแขนขาผเู สียหายพาไปท่แี ครขา งกระทอ มแลว ชว ยกนั ถอด กางเกงผเู สยี หาย แลว μ. ¢Á‹ ¢¹× ¡ÃÐทาํ ชาํ àÃÒ¼àŒÙ ÊÂÕ ËÒÂà»¹š ¤¹áá โดยมี ช. ชว ยจบั แขนขาผเู สยี หาย ระหวา งนนั้ จาํ เลยซง่ึ อยบู รเิ วณแครไ ดต ะโกนบอกให จ. ไปตามหา ส. ซง่ึ หนอี อกไปหาคนชว ยเหลอื แลว จาํ เลยและ จ. ว่งิ ออกไปเพ่ือหวงั สะกดั ก้ันมใิ ห ส. ไปรองขอความชว ยเหลือ หลงั จาก ต. ขมขืน กระทาํ ชาํ เราเสรจ็ แลว ª. ä´¢Œ Á‹ ¢¹× ¡ÃÐทาํ ชาํ àÃÒ¼àŒÙ ÊÂÕ ËÒÂà»¹š ¤¹μÍ‹ ä» ดงั นี้ แมจ าํ เลยจะมไิ ดช ว ยจบั แขนขา ผูเสียหายระหวา ง ต. หรอื ช. ขมขนื กระทาํ ชําเรากต็ าม แตก ารกระทาํ ของจาํ เลยดงั กลา วนับไดว าเปน μÇÑ ¡ÒÃในการรว มกนั ขม ขนื กระทาํ ชาํ เราผเู สยี หายอนั มลี กั ษณะเปน การโทรมหญงิ ตาม ป.อ. มาตรา ๒๗๖ วรรคสอง (»¨˜ ¨ºØ ¹Ñ ¤×ÍÇÃäÊÒÁ) แลว ¡Ã³Õ໹š ¡ÒáÃÐทํา¤ÇÒÁ¼´Ô ÃÐËNjҧ¤Ù‹ÊÁÃÊ ÁÒμÃÒ ò÷ö ÇÃäÊÕè ถาการกระทําความผิดตามวรรคหนึ่ง เปนการกระทําความผิด ระหวางคูสมรสและคูสมรสนั้น ยังประสงคจะอยูกินดวยกันฉันสามีภริยา ศาลจะลงโทษนอยกวาที่ กฎหมายกําหนดไวเพียงใดก็ได หรือจะกําหนดเงื่อนไขเพื่อคุมความประพฤติแทนการลงโทษก็ได ในกรณีท่ีศาลมีคําพิพากษาใหลงโทษจําคุก และคูสมรสฝายใดฝายหนึ่งไมประสงคจะอยูกินดวยกัน ฉันสามีภรยิ าตอ ไป และประสงคจะหยา ใหค ูสมรสฝา ยน้นั แจง ใหศ าลทราบ และใหศ าลแจงพนกั งาน อัยการใหดําเนนิ การฟอ งหยา ให ͸ºÔ Ò ñ. ¡ÒáÃÐทํา¤ÇÒÁ¼´Ô μÒÁÇÃä˹Öè§ ¶ŒÒ ๑) เปนการกระทําความผิดระหวางคูส มรส และ ๒) คูสมรสน้ันยังประสงคจ ะอยกู ินกันฉนั สามภี รยิ า ÈÒÅÁÕอาํ ¹Ò¨ (ก) ลงโทษนอ ยกวาทก่ี ฎหมายกําหนดไวเ พียงใดกไ็ ด หรือ (ข) กาํ หนดเงื่อนไขเพือ่ คมุ ประพฤติแทนการลงโทษ ò. แตใ นกรณที ศ่ี าลมคี าํ พพิ ากษาใหล งโทษจาํ คกุ และคสู มรสฝา ยใดฝา ยหนง่ึ ไมป ระสงค จะอยูก ินฉันสามภี รยิ าตอไปและประสงคจ ะหยา กฎหมายใหค สู มรสฝา ยนัน้ แจง ใหศาลทราบ และให ศาลแจงพนกั งานอยั การใหด าํ เนนิ การฟองหยา ให
๓๑๖ ¡ÒáÃÐทําชําàÃÒà´ç¡ÍÒÂäØ Áà‹ ¡¹Ô ñõ »‚ ÁÒμÃÒ ò÷÷ò ผูใ ดกระทาํ ชําเราเดก็ อายุยงั ไมเ กินสบิ หา ปซ ่ึงมิใชภรยิ าหรือสามีของตน โดยเดก็ นนั้ จะยนิ ยอมหรอื ไมก ต็ าม ตอ งระวางโทษจาํ คกุ ตงั้ แตห า ปถ งึ ยสี่ บิ ป และปรบั ตง้ั แตห นงึ่ แสนบาท ถงึ สแ่ี สนบาท ถาการกระทําความผิดตามวรรคหนึ่ง เปนการกระทําแกเด็กอายุยังไมเกินสิบสามป ตอ งระวางโทษจําคุกต้งั แตเจด็ ปถึงยีส่ ิบป และปรับตั้งแตห นง่ึ แสนสห่ี ม่ืนบาทถึงสี่แสนบาท หรอื จําคกุ ตลอดชีวติ ถา การกระทาํ ความผดิ ตามวรรคหนง่ึ หรอื วรรคสอง ไดก ระทาํ โดยทาํ ใหผ ถู กู กระทาํ เขา ใจวา ผกู ระทาํ มอี าวธุ ปน หรอื วตั ถรุ ะเบดิ ตอ งระวางโทษจาํ คกุ ตงั้ แตส บิ ปถ งึ ยสี่ บิ ป และปรบั ตงั้ แตส องแสนบาท ถึงส่แี สนบาท หรอื จาํ คกุ ตลอดชีวติ ถาการกระทําความผิดตามวรรคหน่ึงหรือวรรคสอง ไดกระทําโดยมีอาวุธปนหรือวัตถุ ระเบิดหรือโดยใชอาวุธ หรือโดยรวมกระทําความผิดดวยกันอันมีลักษณะเปนการโทรมเด็กหญิงหรือ กระทาํ กับเดก็ ชายในลกั ษณะเดียวกนั ตอ งระวางโทษจาํ คกุ ตลอดชีวิต ความผิดตามท่ีบัญญัติไวในวรรคหนึ่ง ถาเปนการกระทําโดยบุคคลอายุไมเกินสิบแปดป กระทาํ ตอ เดก็ ซง่ึ มอี ายกุ วา สบิ สามปแ ตย งั ไมเ กนิ สบิ หา ป โดยเดก็ นนั้ ยนิ ยอม ศาลทม่ี อี าํ นาจพจิ ารณาคดี เยาวชนและครอบครวั จะพจิ ารณาใหม กี ารคมุ ครองสวสั ดภิ าพของเดก็ ผถู กู กระทาํ หรอื ผกู ระทาํ ความผดิ ตามกฎหมายวาดวยการคุมครองเด็กแทนการลงโทษก็ได ในการพิจารณาของศาล ใหคํานึงถึงอายุ ประวัติ ความประพฤติ สติปญ ญา การศึกษาอบรม สขุ ภาพ ภาวะแหง จิต นสิ ยั อาชพี สิ่งแวดลอ มของ ผูกระทาํ ความผดิ และเด็กผถู กู กระทาํ ความสมั พนั ธร ะหวา งผูก ระทําความผิดกับเดก็ ผูถ ูกกระทาํ หรอื เหตอุ ่นื อันควรเพื่อประโยชนของเด็กผูถ ูกกระทาํ ดวย ในกรณที ไ่ี ดม กี ารดาํ เนนิ การคมุ ครองสวสั ดภิ าพของเดก็ ผถู กู กระทาํ หรอื ผกู ระทาํ ความผดิ ตามกฎหมายวา ดว ยการคมุ ครองเดก็ แลว ผกู ระทาํ ความผดิ ไมต อ งรบั โทษ แตถ า การคมุ ครองสวสั ดภิ าพ ดังกลาวไมสําเร็จ ศาลจะลงโทษผูกระทําความผิดนอยกวาท่ีกฎหมายกําหนดไวสําหรับความผิดนั้น เพยี งใดก็ไดใ นการพิจารณาของศาล ใหค าํ นงึ ถงึ เหตตุ ามวรรคหาดว ย ͸ºÔ Ò ÁÒμÃÒ ò÷÷ ÇÃä˹֧è ๑. ผูกระทําและà´ç¡¼ŒÙ¶¡Ù ¡ÃÐทํา¨Ð໚¹ËÞÔ§หรือªÒÂก็ได ดังนน้ั ชายอาจกระทําชาํ เรา เดก็ หญงิ หรอื เด็กชายกไ็ ด และหญิงก็อาจกระทําชาํ เราเด็กชายหรือเดก็ หญงิ กไ็ ด แตà ´ç¡¼¶ŒÙ ¡Ù ¡ÃÐทําจะตอ งมÍี ÒÂäØ Áà‹ ¡Ô¹ ñõ »‚ และÁÔãªÀ‹ ÃÂÔ ÒËÃ×ÍÊÒÁÕของผูกระทํา ดวย ๒ พ.ร.บ.แกไขเพิม่ เติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๗) พ.ศ. ๒๕๖๒ ลง รกจ.เลม ๑๓๖/ตอนท่ี ๖๙ ก/หนา ๑๒๘/ ๒๗ พ.ค. ๖๒
๓๑๗ หากภรยิ าซึง่ อายยุ ังไมเกิน ๑๕ ป ÂÔ¹ÂÍÁใหสามีกระทาํ ชําเรา การกระทําของสามี ก็ไมผ ิดมาตรา ๒๗๗ วรรคหนึ่ง หรอื หากภริยาäÁ‹Â¹Ô ÂÍÁ แมการกระทําของสามไี มผดิ มาตรา ๒๗๗ วรรคหน่งึ แตส ามีจะมีความผิดตามมาตรา ๒๗๖ วรรคหนงึ่ ๒. การนบั อายขุ องเดก็ ใหเ รมิ่ นบั แตว นั เกดิ (คาํ พพิ ากษาศาลฎกี าท่ี ๗๘๔๑/๒๕๕๒ และ ๑๐๘๔/๒๕๕๔) ๓. ในสว นของการกระทาํ คอื การกระทาํ ชาํ เราเดก็ â´ÂäÁμ‹ ÍŒ §คาํ ¹§Ö ÇÒ‹ à´¡ç ¹¹Ñé ¨ÐÂ¹Ô ÂÍÁ ËÃ×ÍäÁ‹ แมเ ด็กจะยนิ ยอมการกระทําก็เปน ความผิด ๔. ความหมายของการกระทาํ ชาํ เรา มบี ทนยิ ามอยใู น ป.อ.มาตรา ๑ (๑๘) ขอใหน กั เรยี น ดคู ําอธิบายในมาตรา ๒๗๖ ๕. ปญ หาเกย่ี วกับการรว มประเวณีกับเดก็ หญงิ อายุไมเกิน ๑๕ ป โดยเขา ใจวาอายุเกนิ ๑๕ ป ผูกระทาํ จะมคี วามผดิ ตามมาตรานี้หรอื ไม มีคําพิพากษาศาลฎีกาตัดสนิ ไว ๒ แนว ซึ่งใหเ หตผุ ล ตางกนั ดงั นี้ á¹Çáá เห็นวา เปนเร่ืองผกู ระทาํ สําคัญผิดในขอเท็จจริงตามมาตรา ๖๒ วรรคแรก ที่วา ขอเท็จจริงใด ถามีอยูจริงจะทําใหการกระทําไมเปนความผิด แมขอเท็จจริงน้ันจะไมมีอยูจริง แตผูกระทาํ สาํ คญั ผิดวา มีอยจู รงิ ผูก ระทํายอ มไมม ีความผิดตามมาตรา ๒๗๗ วรรคหน่งึ เชน คํา¾Ô¾Ò¡ÉÒÈÒŮաҷÕè õñ÷ö/òõóø จําเลยรวมประเวณีกับเด็กหญิงมะปราง ผูเสียหายซึง่ มีอายุ ๑๔ ป ๕ เดือน โดยสําคัญผดิ คิดวาผูเ สียหายมอี ายุ ๑๘ ป มีปญหาวาจาํ เลยจะ อางความสําคัญผิดในเร่ืองอายุของผูเสียหายไดหรือศาลฎีกาวินิจฉัยวา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๗ และมาตรา ๒๗๙ ผกู ระทาํ ผดิ จะตอ งกระทาํ แกเ ดก็ อายไุ มเ กนิ ๑๕ ป เรอ่ื งอายขุ องผเู สยี หาย เปน องคป ระกอบของความผดิ ดว ย จงึ เปน ขอ เทจ็ จรงิ ทวี่ า ผกู ระทาํ ผดิ ไดร หู รอื ไม การรหู รอื ไมร ขู อ เทจ็ จรงิ จะผดิ หรอื ไม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๖๒ วรรคหนึ่ง บัญญตั ิวา ขอเท็จจรงิ ใดถา มีอยูจริงจะ ทาํ ใหก ารกระทาํ ไมเ ปน ความผดิ ฯลฯ แมข อ เทจ็ จรงิ นนั้ จะไมม อี ยจู รงิ แตผ กู ระทาํ สาํ คญั ผดิ วา มอี ยจู รงิ ผกู ระทาํ ยอ มไมม คี วามผดิ ฯลฯ จงึ เหน็ ไดว า เมอื่ จาํ เลยสาํ คญั ผดิ ในเรอื่ งอายขุ องผเู สยี หาย แมค วามจรงิ ไมใชอ ยา งทีจ่ ําเลยสําคัญผิด จาํ เลยยอมไมม ีความผิด á¹Ç·èÕÊͧ เห็นวา อายุของหญิงเปนขอเท็จจริงซึ่งเปนองคประกอบของความผิด ถา ผกู ระทาํ ไมรู ถือวา ผกู ระทาํ ไมมเี จตนากระทําความผดิ ฐานนี้ ตามมาตรา ๕๙ วรรคสาม เชน คํา¾Ô¾Ò¡ÉÒÈÒÅ®¡Õ Ò·Õè öôðõ/òõóù จําเลยกระทาํ ชาํ เราผูเ สียหายÍÒÂØ ñô »‚ ô à´Í× ¹ โดยผเู สยี หายยนิ ยอม แตจ าํ เลยà¢ÒŒ 㨼´Ô ÇÒ‹ ผเู สยี หายÍÒÂØ ñ÷ »‚ เพราะผเู สยี หายมรี ปู รา งใหญ ตัวสูงเทาจําเลย พูดจาฉะฉานเหมือนผูใหญ อีกทั้งยังทํางานท่ีโรงงานผลไมกระปองซ่ึงจะรับเฉพาะ คนทมี่ อี ายุ ๑๗ ปข นึ้ ไปทาํ งาน ศาลฎกี าวนิ จิ ฉยั วา เชอื่ ไดว า จากรปู รา ง การพดู จา และงานทผี่ เู สยี หายทาํ มเี หตผุ ลทาํ ใหผ พู บเหน็ เขา ใจวา ผเู สยี หายมอี ายเุ กนิ กวา ๑๕ ปไ ด ฟง ไดว า จาํ เลยสาํ คญั ผดิ โดยเขา ใจวา ผเู สยี หายอายุ ๑๗ ป ยอ มมผี ลใหจ าํ เลยไมร ขู อ เทจ็ จรงิ วา ผเู สยี หายอายไุ มเ กนิ ๑๕ ป ซงึ่ เปน ขอ เทจ็ จรงิ
๓๑๘ อันเปนองคประกอบของความผิดตามมาตรา ๒๗๗ วรรคหนึ่ง เมื่อจําเลยไมรูขอเท็จจริงดังกลาว จงึ ถือวา จาํ เลยไมมเี จตนากระทําความผิดฐานน้ี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๙ วรรคสาม ¢ÍŒ Êѧà¡μ กรณีตามปญหานี้ อายุของเด็กเปน¢ŒÍà·ç¨¨ÃÔ§Íѹ໚¹Í§¤»ÃСͺÀÒ¹͡ของ ความผิดตามมาตรา ๒๗๗ วรรคหน่ึง การที่ผูเสียหายอายุยังไมเกิน ๑๕ ป แตผูกระทําเขาใจไปวา ผูเสียหายอายุเกินกวา ๑๕ ป และศาลก็เช่ือวาผูกระทําเขาใจผิดเชนน้ันจริง ตองถือวาผูกระทํา ¢Ò´à¨μ¹Òกระทาํ ความผิดฐานนต้ี ามมาตรา ๕๙ วรรคสาม ทีบ่ ญั ญัติวา “ถาผูก ระทาํ มิไดร ขู อ เท็จจริง อนั เปน องคป ระกอบของความผดิ จะถอื วา ผกู ระทาํ ประสงคต อ ผล หรอื ยอ มเลง็ เหน็ ผลของการกระทาํ นนั้ มไิ ด” เมอื่ ไมร กู ค็ อื ไมม เี จตนาอนั เปน การกระทาํ ทข่ี าดองคป ระกอบภายในเรอ่ื งเจตนานน่ั เอง ผกู ระทาํ จงึ ไมม คี วามผดิ มาตรา ๒๗๗ คดใี นทาํ นองนจี้ งึ นา จะปรบั ดว ยมาตรา ๕๙ วรรคสามมากกวา ทจี่ ะปรบั ดว ยมาตรา ๖๒ วรรคแรก เพราะมาตรา ๖๒ วรรคแรกจะนํามาใชเ ปน คุณแกผูกระทํากต็ อเม่ือมีการ กระทาํ น้ันครบองคประกอบภายนอกและผกู ระทํารูขอ เท็จจริงคอื มีเจตนาแลว เทานน้ั อยา งไรกต็ าม ปจ จบุ นั มบี ญั ญตั ใิ นมาตรา ๒๘๕/๑ บญั ญตั วิ า “ถา การกระทาํ ความผดิ ตามมาตรา ๒๗๗... หากเปนการกระทําตอà´¡ç ÍÒÂäØ Áà‹ ¡¹Ô ÊºÔ ÊÒÁ»‚ ËŒÒÁÍÒŒ §¤ÇÒÁäÁË ͌٠ÒÂØ¢Í§à´ç¡ à¾×èÍãËŒ¾Œ¹¨Ò¡¤ÇÒÁ¼Ô´¹Ñé¹” ดังน้ัน ขอเท็จจริงตามฎีกาในกรณีเด็กอายุยังไมเกินสิบสามป ฎีกานั้น จะใชเปนบรรทัดฐานไมไดแลว แตถาเปนกรณีที่เด็กอายุเกินสิบสามป เชน ในคําพิพากษาศาลฎีกา ที่ ๖๔๐๕/๒๕๓๙ ซึ่งเด็กอายุ ๑๔ ป ๔ เดอื น ไมอ ยใู นหลกั เกณฑข องมาตรา ๒๘๕/๑ นี้ ฎกี านจ้ี ึงยงั ใชเปน บรรทัดฐานไดอ ยู ÁÒμÃÒ ò÷÷ ÇÃäÊͧ ถากระทําความผิดตามวรรคหนึง่ เปนการกระทําแกเด็ก อายุไมเ กนิ ๑๓ ป ผกู ระทําตอ งรับโทษหนักข้นึ ÁÒμÃÒ ò÷÷ ÇÃäÊÒÁ ถาการกระทําความผิดตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสอง ไดก ระทาํ โดยทาํ ใหผ ถู กู กระทาํ เขา ใจวา ผกู ระทาํ มอี าวธุ ปน หรอื วตั ถรุ ะเบดิ ผกู ระทาํ กต็ อ งรบั โทษหนกั ขน้ึ ขอใหนักเรียนดูคําอธิบายในมาตรา ๒๗๖ วรรคสอง ÁÒμÃÒ ò÷÷ ÇÃäÊÕè ถา การกระทาํ ความผดิ ตามวรรคหนงึ่ หรอื วรรคสอง ไดก ระทาํ โดยมอี าวธุ ปน หรอื วตั ถรุ ะเบดิ หรอื โดยใชอ าวธุ หรอื โดยรว มกระทาํ ความผดิ ดว ยกนั อนั มลี กั ษณะเปน การ โทรมเด็กหญงิ หรือกระทาํ กับเดก็ ชายในลกั ษณะเดยี วกนั ผูกระทําตองรับโทษหนกั ขนึ้ ขอใหน ักเรยี นดู คําอธิบายในมาตรา ๒๗๖ วรรคสาม ÁÒμÃÒ ò÷÷ ÇÃÃ¤ËŒÒ ความผิดตามที่บัญญัติไวในวรรคหน่ึง ถาเปนการกระทําโดยบุคคลอายุäÁ‹à¡Ô¹ ÊºÔ á»´»ก‚ ระทาํ μÍ‹ à´¡ç «§Öè ÁÍÕ ÒÂ¡Ø ÇÒ‹ ÊºÔ ÊÒÁ»á‚ μ‹ §Ñ äÁà‹ ¡¹Ô ÊºÔ ËÒŒ »‚ โดยà´¡ç ¹¹éÑ Â¹Ô ÂÍÁ ศาลทม่ี อี าํ นาจ พิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัวจะพิจารณาใหมี¡Òä،Á¤ÃͧÊÇÑÊ´ÔÀÒ¾¢Í§à´ç¡¼ÙŒ¶Ù¡¡ÃÐทําËÃ×Í ¼ÙŒ¡ÃÐทํา¤ÇÒÁ¼Ô´ตามกฎหมายวาดวยการคุมครองเด็กแทนการลงโทษก็ได ในการพิจารณาของศาล
๓๑๙ ใหค ํานึงถึงอายุ ประวัติ ความประพฤติ สตปิ ญ ญา การศึกษาอบรม สุขภาพ ภาวะแหง จิต นสิ ยั อาชพี ส่ิงแวดลอมของผูกระทําความผิดและเด็กผูถูกกระทํา ความสัมพันธระหวางผูกระทําความผิดกับเด็ก ผูถ ูกกระทาํ หรือเหตอุ น่ื อันควรเพือ่ ประโยชนของเดก็ ผูถ ูกกระทาํ ดวย ¢ŒÍ椄 à¡μ ÁÒμÃÒ ò÷÷ ÇÃäËÒŒ ศาลจะสง่ั ใหม กี ารคมุ ครองสวสั ดภิ าพของเดก็ แทนการลงโทษกไ็ ด ถา เขา เงอื่ นไข ดงั นี้ ๑. ผูก ระทาํ ความผิดจะตองอายุไมเกนิ ๑๘ ป (ขณะกระทาํ ความผิด) ๒. เด็กผถู กู กระทําอายุกวา ๑๓ ป แตยงั ไมเ กิน ๑๕ ป ๓. เดก็ ผูถูกกระทํายนิ ยอม ๔. ศาลท่ีมีอํานาจพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว มีอํานาจพิจารณาใหมี การคมุ ครองสวสั ดภิ าพของเดก็ ผถู กู กระทาํ หรอื ผกู ระทาํ ความผดิ ตามกฎหมายวา ดว ยการคมุ ครองเดก็ แทนการลงโทษกไ็ ด ÁÒμÃÒ ò÷÷ ÇÃäˡ ในกรณีท่ีไดมีการดําเนินการคุมครองสวัสดิภาพของเด็กผูถูกกระทําความผิดตาม กฎหมายวาดวยการคมุ ครองเด็กแลว ผกู ระทาํ ความผดิ äÁ‹μŒÍ§ÃºÑ â·É แตถ า การคมุ ครองสวสั ดภิ าพ ดังกลาวไมสําเร็จ ศาลจะŧâ·Éผูกระทําความผิดนอยกวาที่กฎหมายกําหนดไวสําหรับความผิดน้ัน เพยี งใดกไ็ ด ในการพจิ ารณาของศาลใหค ํานึงถงึ เหตตุ ามวรรคหาดว ย ¢ÍŒ Êѧà¡μ ÁÒμÃÒ ò÷÷ ÇÃäˡ มาตรา ๒๗๗ วรรคหกนี้บญั ญัติข้นึ เพือ่ ใหร บั กับความในมาตรา ๒๗๗ วรรคหา ๑) ¡àǹŒ â·É ใหแ กผ กู ระทาํ ความผดิ ในกรณที ไี่ ดม กี ารดาํ เนนิ การคมุ ครองสวสั ดภิ าพ ของเด็กผถู ูกกระทําหรือผูก ระทําความผิดตามกฎหมายวา ดว ยการคมุ ครองเด็กแลว หรอื ๒) ŧâ·É ผูกระทําความผิดนอยกวาท่ีกฎหมายกําหนดไวสําหรับความผิดนั้น เพียงใดก็ได ในกรณีท่กี ารคมุ ครองสวัสดิภาพดังกลาว äÁ‹สาํ àÃç¨ ทั้งน้ี ศาลจะตองคาํ นึงถึงเหตตุ ามวรรคหา ดวย ÁÒμÃÒ ò÷÷ ·ÇóÔ ถาการกระทําความผดิ ตามมาตรา ๒๗๖ วรรคหนงึ่ หรือมาตรา ๒๗๗ วรรคหนงึ่ หรอื วรรคสอง เปนเหตุใหผ ถู กู กระทาํ (๑) รบั อนั ตรายสาหสั ผกู ระทาํ ตอ งระวางโทษจาํ คกุ ตง้ั แตส บิ หา ปถ งึ ยสี่ บิ ป และปรบั ต้ังแตส ามแสนบาทถึงส่แี สนบาท หรือจาํ คกุ ตลอดชวี ติ (๒) ถงึ แกความตาย ผูก ระทําตองระวางโทษประหารชีวติ หรือจาํ คุกตลอดชวี ิต ͸ԺÒ มาตรานเี้ ปน ผลทที่ าํ ใหผ กู ระทาํ ความผดิ ตามมาตรา ๒๗๖ วรรคหนง่ึ หรอื มาตรา ๒๗๗ วรรคหน่งึ หรอื วรรคสอง ตองรบั โทษหนกั ขน้ึ ถา มผี ลเกิดขน้ึ คอื อนั ตรายสาหสั ตามอนุมาตรา (๑) หรือ ๓ พ.ร.บ.แกไขเพิม่ เติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบบั ที่ ๒๗) พ.ศ. ๒๕๖๒ ลง รกจ.เลม ๑๓๖/ตอนท่ี ๖๙ ก/หนา ๑๒๙/ ๒๗ พ.ค. ๖๒
๓๒๐ ถงึ แกความตายตามอนมุ าตรา (๒) และเปน ผลธรรมดาตามมาตรา ๖๓ ผูกระทาํ กต็ องรับโทษหนักขึ้น ตามมาตราน้ี ÁÒμÃÒ ò÷÷ μÃôÕ ถา การกระทาํ ความผิดตามมาตรา ๒๗๖ วรรคสาม หรือมาตรา ๒๗๗ วรรคสี่ เปนเหตุใหผูถ กู กระทํา (๑) รบั อันตรายสาหัส ผกู ระทําตองระวางโทษประหารชีวิต หรือจาํ คุกตลอดชวี ติ (๒) ถึงแกความตาย ผูกระทาํ ตองระวางโทษประหารชวี ิต ͸ԺÒ มาตรานกี้ ม็ ลี กั ษณะทาํ นองเดยี วกบั มาตรา ๒๗๗ ทวิ กลา วคอื ถา การกระทาํ ความผดิ ตามมาตรา ๒๗๖ วรรคสาม หรอื มาตรา ๒๗๗ วรรคส่ี มผี ลเกดิ ขน้ึ คอื อนั ตรายสาหสั ตามอนมุ าตรา (๑) ความตายตามอนุมาตรา (๒) และเปนผลธรรมดา ตามมาตรา ๖๓ ผูกระทําก็ตองรับโทษหนักขึ้น ตามมาตรานี้ ¤ÇÒÁ¼´Ô °Ò¹¡ÃÐทาํ ͹ҨÒà ÁÒμÃÒ ò÷ø ผใู ดกระทําอนาจารแกบคุ คลอายุกวาสบิ หาปโ ดยขเู ข็ญดวยประการใดๆ โดยใชกําลังประทุษราย โดยบุคคลน้ันอยูในภาวะที่ไมสามารถขัดขืนได หรือโดยทําใหบุคคลน้ัน เขาใจผิดวาตนเปนบุคคลอื่น ตองระวางโทษจําคุกไมเกินสิบป หรือปรับไมเกินสองแสนบาท หรือ ทง้ั จาํ ท้งั ปรบั ถาการกระทําความผิดตามวรรคหนึ่ง เปนการกระทําโดยใชวัตถุหรืออวัยวะอื่นซ่ึงมิใช อวัยวะเพศลวงล้ําอวัยวะเพศหรือทวารหนักของบุคคลนั้น ผูกระทําตองระวางโทษจําคุกต้ังแตส่ีป ถงึ ย่ีสิบป และปรับตั้งแตแ ปดหม่ืนบาทถงึ สแ่ี สนบาท๕ ถาการกระทําความผิดตามวรรคสอง ไดกระทําโดยทําใหผูถูกกระทําเขาใจวาผูกระทํามี อาวธุ ปน หรอื วตั ถรุ ะเบดิ ตอ งระวางโทษจาํ คกุ ตงั้ แตเ จด็ ปถ งึ ยสี่ บิ ป และปรบั ตงั้ แตห นงึ่ แสนสหี่ มน่ื บาท ถงึ สแี่ สนบาท๖ ถาการกระทําความผดิ ตามวรรคสอง ไดกระทาํ โดยมอี าวุธปนหรอื วตั ถรุ ะเบิดหรือโดยใช อาวธุ หรอื โดยรว มกระทาํ ความผดิ ดว ยกนั อนั มลี กั ษณะเปน การโทรมหญงิ หรอื กระทาํ กบั ชายในลกั ษณะ เดยี วกนั ตอ งระวางโทษจาํ คกุ ตง้ั แตส บิ หา ปถ งึ ยส่ี บิ ป และปรบั ตง้ั แตส ามแสนบาทถงึ สแ่ี สนบาท หรอื จาํ คกุ ตลอดชวี ติ ๗ ๔ พ.ร.บ.แกไ ขเพม่ิ เตมิ ประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับท่ี ๒๗) พ.ศ. ๒๕๖๒ ลง รกจ.เลม ๑๓๖/ตอนท่ี ๖๙ ก/หนา ๑๒๙/ ๒๗ พ.ค. ๖๒ ๕ พ.ร.บ.แกไ ขเพิม่ เตมิ ประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๗) พ.ศ. ๒๕๖๒ ลง รกจ.เลม ๑๓๖/ตอนท่ี ๖๙ ก/หนา ๑๓๐/ ๒๗ พ.ค. ๖๒ ๖ พ.ร.บ.แกไ ขเพ่มิ เติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบบั ท่ี ๒๗) พ.ศ. ๒๕๖๒ ลง รกจ.เลม ๑๓๖/ตอนท่ี ๖๙ ก/หนา ๑๓๐/ ๒๗ พ.ค. ๖๒ ๗ พ.ร.บ.แกไ ขเพิ่มเตมิ ประมวลกฎหมายอาญา (ฉบบั ที่ ๒๗) พ.ศ. ๒๕๖๒ ลง รกจ.เลม ๑๓๖/ตอนที่ ๖๙ ก/หนา ๑๓๐/ ๒๗ พ.ค. ๖๒
๓๒๑ ͸ԺÒ ๑. มาตรา ๒๗๘ วรรคหน่ึง ͧ¤» ÃСͺÀÒ¹͡ ๑. ผใู ด ๒. กระทาํ อนาจารแกบุคคลอายุกวา ๑๕ ป ๓. โดยขูเขญ็ ดว ยประการใดๆ โดยใชก ําลงั ประทษุ รา ย โดยบุคคลน้นั อยูในภาวะที่ ไมสามารถขดั ขืนได หรือโดยทาํ ใหบ ุคคลน้ันเขา ใจผดิ วาตนเปนบคุ คลอ่ืน ͧ¤»ÃСͺÀÒÂã¹ à¨μ¹Ò (ÁÒμÃÒ õù) ๑.๑ การกระทาํ ͹ҨÒà คอื ¡ÒáÃзÒí “·äèÕ ÁÊ‹ Á¤ÇÃã¹·Ò§à¾È” μÍ‹ ÃÒ‹ §¡Ò¢ͧ ºØ¤¤ÅÍè×¹ (คําพิพากษาศาลฎกี าที่ ๔๐๒๔/๒๕๓๔) อนั เปนการ¡ÃÐทาํ μÍ‹ à¹Í×é μÇÑ ºØ¤¤Å เชน หอมแกม และจับหนา อกผหู ญงิ (คาํ พพิ ากษาศาลฎกี าท่ี ๒๒๔๕/๒๕๓๗) กอดจบู ลูกคลาํ แตะเนือ้ ตรวจรางกาย ในทางไมสมควรก็เปนความผิดสําเร็จแลว (คําพิพากษาศาลฎีกาที่ ๒๐๔๙/๒๕๕๐) อาจจะเปนการ กระทาํ ตอ เน้ือตวั ของผูเสียหาย เชน นายแดงลบู ไลอ วัยวะเพศของนางสาวขาว หรอื อาจใหผ เู สียหาย กระทาํ ตอ เนอื้ ตวั รา งกายของผกู ระทาํ เชน นายแดงบงั คบั ใหน างสาวขาวลบู ไลอ วยั วะเพศของนายแดง áÁŒ¨Ð໚¹¡ÒáÃÐทําã¹·èÕÅѺ¡ç໚¹Í¹Ò¨ÒÃä´Œ เชน การท่ีชายอื่นรวมประเวณีกับผูเสียหายซึ่งเปน ผูเยาวที่ถูกจําเลยพาไปในหองของโรงแรมáÁŒ¨Ð໚¹·ÕèÁÔ´ªÔ´แตเปนการกระทําที่ไมสมควรในทางเพศ ตอ รางกายของผเู สยี หายจึงเปน การกระทําเพอื่ การอนาจาร (คําพพิ ากษาศาลฎีกาที่ ๑๖๒๗/๒๕๓๙) การกระทาํ ตอ เนอื้ ตวั บคุ คลทไ่ี มส มควรทางเพศมไิ ดห มายความเฉพาะการคา ประเวณี หรือความใครเทาน้ัน แตÃÇÁ¶Ö§¡ÒáÃÐทําãËŒÍѺÍÒ¢ÒÂ˹ŒÒã¹·Ò§à¾È´ŒÇ เชน การกอดเอว ผเู สยี หาย จบั มือ และดงึ แขนผูเสียหายก็เปน การกระทําอนาจารแกผ ูเสียหายโดยใชกาํ ลังประทุษรา ย เปนความผดิ ตามมาตรา ๒๗๘ (คาํ พพิ ากษาศาลฎีกาท่ี ๔๘๓๖/๒๕๔๗) การกระทาํ ทไ่ี มส มควรในทางเพศอนั เปน การกระทาํ ผดิ อนาจารนนั้ ใหพ จิ ารณา การกระทําน้ันจากที่ปรากฏออกมาภายนอก หากคนท่ัวไปเห็นวาไมสมควรในทางเพศก็เปนอนาจาร แมผ กู ระทาํ จะมไิ ดก ระทาํ เพอ่ื ความใคร แตก ระทาํ ไปดว ยเหตอุ นื่ ๆ เชน เพอื่ แกแ คน หรอื โกรธแคน กต็ าม μÇÑ Í‹ҧ คํา¾Ô¾Ò¡ÉÒÈÒŮաҷèÕ ñóñô/òõòö จําเลยกับผูเสียหายอยูกินดวยกัน โดยไมไ ดจ ดทะเบยี นสมรสเพยี ง ๒ เดอื นกเ็ ลกิ กนั ตอ มาจาํ เลยฟอ งเรยี กเอาคา สนิ สอดคนื จากฝา ยผเู สยี หาย ศาลพิพากษายกฟอง แสดงวาจําเลยไดแสดงเจตนาเลิกกับผูเสียหายโดยเด็ดขาดแลว ผูเสียหายหามี ความสัมพันธฉันสามีภริยากับจําเลยอีกตอไปไม ผูเสียหายขี่รถจักรยานยนตมีคนน่ังซอนทายมาดวย จาํ เลยเขา มาขวางกระชากแขนผเู สยี หายลงจากรถ เขา กอดปลาํ้ และพยายามฉดุ ใหไ ปกบั จาํ เลย จาํ เลย จงึ มีความผดิ ฐานกระทาํ อนาจารตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๘ หากการกระทําตามทปี่ รากฏออกมาภายนอกน้นั ไมใชก ารกระทําท่ไี มสมควร กลา วคือ คนทั่วไปเหน็ วา ผูก ระทํามิไดมคี วามมงุ หมายในทางความใคร กä็ Á‹à»¹š ͹ҨÒà แมผูกระทํา
๓๒๒ จะมีความรูสึกในทางเพศอยูในขณะกระทําก็ตาม เชน นายแพทยตรวจรางกายภายในของหญิง เพราะจําเปน ในการตรวจโรคแมขณะตรวจนน้ั นายแพทยจะมีความรูสกึ ทางเพศขนึ้ มา การกระทาํ ของ นายแพทย กä็ Áà‹ »š¹¡ÒáÃÐทาํ ͹ҨÒà การกระทําใดท่ีจะมีพฤติการณหรือลักษณะท่ีไมสมควรในทางเพศน้ัน ตอ งพจิ ารณาจากประเพณนี ยิ มหรอื กาลเทศะ ถา ตามประเพณนี ยิ มคนทว่ั ไปเหน็ วา äÁà‹ »¹š ¡ÒáÃÐทาํ ͹ҨÒà เชน นายแพทยจ ับหนา อกหรือของลับผหู ญิงเพ่ือรักษาโรคตามความจําเปน หรอื การทีบ่ ิดา มารดาหรือญาติผูใหญกอดหรือหอมแกมลูกหลานดวยความรักความเอ็นดู หรือการจับมือลูบหัว เพอ่ื หยอกลอ เน่ืองจากความสนทิ สนม เปนตน สวนการกลาวถอยคําหรือพูดจาหยาบคาย หรือการเขียนภาพลามกอนาจาร หรือการเลาเร่ืองรวมเพศลามกอนาจารใหเด็กฟง (คําพิพากษาศาลฎีกาท่ี ๒๘๕๘/๒๕๔๐) แมจะไม สมควรในทางเพศ แตÁ äÔ ´Œ¡ÃÐทาํ μÍ‹ à¹é×ÍμÑǺؤ¤Å จงึ ไมใ ชอนาจารตามมาตราน้ี อยางไรก็ตาม มีแนวคําพิพากษาศาลฎีกาใหมตัดสินวา การบันทึกภาพใต กระโปรงหญงิ â´ÂÁäÔ ´ÊŒ ÁÑ ¼ÊÑ μÍ‹ à¹Í×é μÇÑ ÃÒ‹ §¡Ò¢ͧËÞ§Ô แตท าํ ใหห ญงิ อบั อายเปน การกระทาํ อนาจาร โดยใชก าํ ลังประทษุ ราย (ᡨ‹ Ôμã¨) คาํ ¾¾Ô Ò¡ÉÒÈÒÅ®¡Õ Ò·Õè ñòùøó/òõõø การทจี่ าํ เลยแอบตดิ ตงั้ กลอ งบนั ทกึ ภาพ ไวที่ใตโตะทํางานของโจทกรวม และบันทึกภาพสรีระรางกายของโจทกรวมตั้งแตชวงล้ินปจนถึง อวัยวะชวงขามองเห็นกระโปรงที่โจทกรวมสวมใส ขาทอนลางและขาทอนบนของโจทกรวม โดยท่ี กลอ งบนั ทกึ ภาพมแี สงไฟสาํ หรบั เพมิ่ ความสวา งเพอื่ ใหม องเหน็ ภาพบรเิ วณใตก ระโปรงของโจทกร ว มให ชดั เจนยง่ิ ขน้ึ การกระทาํ ของจาํ เลยสอ แสดงใหเ หน็ ถงึ ความใครแ ละกามารมณ โดยทโ่ี จทกร ว มมไิ ดร เู หน็ หรอื ยนิ ยอม อนั ໹š ¡ÒáÃзÒí ·äèÕ ÁÊ‹ Á¤ÇÃã¹·Ò§à¾ÈμÍ‹ ⨷¡Ã Ç‹ Á â´Â⨷¡Ã Ç‹ Áμ¡ÍÂã‹Ù ¹ÀÒÇзäÕè Á‹ ÊÒÁÒö¢´Ñ ¢¹× ä´Œ áÁ¨Œ Òí àŨÐÁäÔ ´ÊŒ ÁÑ ¼ÊÑ μÍ‹ à¹Í×é μÇÑ ÃÒ‹ §¡Ò¢ͧ⨷¡Ã Ç‹ Áâ´Âμç แตก ารทจ่ี าํ เลยใช กลอ งบนั ทกึ ภาพใตก ระโปรงโจทกร ว มในระยะใกลช ดิ โดยโจทกร ว มไมร ตู วั ยอ มรบั ฟง ไดว า จาํ เลยไดก ระทาํ โดยประสงคต อ ผลอนั ไมส มควรในทางเพศตอ โจทกร ว ม โดยใชก าํ ลงั ประทษุ รา ยตามมาตรา ๑ (๖) แหง ประมวลกฎหมายอาญา ซงึ่ การใชก าํ ลงั ประทษุ รา ยอนั เปน องคป ระกอบความผดิ ตาม ป.อ. มาตรา ๒๗๘ นอกจากหมายความวา ทําการประทุษรายแกกายแลว ยังหมายความวาทําการประทุษรายแกจิตใจ ดวย ไมวาจะทําดวยใชแรงกายภาพหรือดวยวิธีอ่ืนใด และใหหมายความรวมถึงการกระทําใด ๆ ซงึ่ เปน เหตใุ หบ คุ คลหนง่ึ บคุ คลใดอยใู นภาวะทไี่ มส ามารถขดั ขนื ได การกระทาํ ของจาํ เลยดงั กลา ว ทาํ ให โจทกรวมตองรูสึกสะเทือนใจอับอายขายหนา จึงถือวาเปนการประทุษรายแกจิตใจของโจทกรวมแลว การกระทําของจําเลยจึงเปนการกระทําอนาจารโจทกรวม ครบองคประกอบความผิดตาม ป.อ. มาตรา ๒๗๘ ¢ŒÍÊѧà¡μ แนวฎีกาใหมน้ีขัดกับแนวฎีกาเดิมซึ่งผูกระทําตองมีการสัมผัสตอ เนอื้ ตวั รา งกายของผเู สยี หายหรอื บงั คบั ใหผ เู สยี หายสมั ผสั ตอ เนอื้ ตวั รา งกายของผกู ระทาํ และมนี กั วชิ าการ
๓๒๓ โตแยงวาเปนการตีความที่เกินจากบทบัญญัติของกฎหมาย คงตองรอศาลฎีกาโดยท่ีประชุมใหญวา จะวินิจฉยั ไปใทางใดตอ ไป ๑.๒ การกระทาํ อนาจารตามมาตรานต้ี อ งกระทาํ โดยขเู ขญ็ ดว ยประการใดๆ โดยใช กําลังประทุษรายโดยบุคคลน้ันอยูในภาวะที่ไมสามารถขัดขืนได โดยทําใหบุคคลนั้น เขาใจผิดวา ตนเปนบุคคลอื่น ทํานองเดียวกับมาตรา ๒๗๖ ซ่ึงแสดงใหเห็นวาผูถูกกระทํามิไดยินยอมใหกระทํา ตอ งมีการขเู ขญ็ หรอื ใชกาํ ลังประทษุ ราย เปนตน μÑÇÍ‹ҧ คาํ ¾¾Ô Ò¡ÉÒÈÒÅ®¡Õ Ò·èÕ õðñ/òõðó จาํ เลยจบั มอื และกอดเดก็ หญงิ ผเู สยี หาย อายุ ๑๔ ป ถอื ไดว า เปน การใชแ รงกายภาพ ซงึ่ เปน การใชก าํ ลงั ประทษุ รา ยตามความหมายใน มาตรา ๑ (๖) แลว การกระทาํ ของจาํ เลยดงั กลาว เปนความผิดฐานกระทาํ อนาจารตามมาตรา ๒๗๘ คํา¾¾Ô Ò¡ÉÒÈÒŮաҷèÕ óùõó/òõóù จาํ เลยกอดคอผูเสียหายและจับแขน ผูเสียหายลากเพ่ือจะพาเขาหองพักในโรงแรม เปนการกระทําที่ไมสมควรในทางเพศ มีความผิดฐาน กระทําอนาจารโดยใชก ําลังประทุษรายตอ ผูเ สียหาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๘ ¢ŒÍ椄 à¡μ หากไมเปน การขูเขญ็ โดยกําลงั ประทษุ รา ยหรือขูเข็ญจนผูเสยี หาย อยูในภาวะท่ีไมสามารถขัดขืนได แตผูเสียหายโงเขลาเบาปญญาหลงเชื่องมงายจึงยอมใหทําอนาจาร เชนน้ีผูกระทําไมผิดตามมาตรานี้ (คาํ พิพากษาศาลฎีกาท่ี ๕๘๓๗/๒๕๓๐) คาํ ¾¾Ô Ò¡ÉÒÈÒÅ®¡Õ Ò·èÕ õøó÷/òõóð ผเู สยี หายยอมใหจ าํ เลยซง่ึ เปน แพทย แผนโบราณกระทําอนาจารโดยโงเขลาเบาปญญาหลงเช่ืออยางงมงายวาจําเลยทําการรักษาโรคใหได การกระทําของจาํ เลยจึงไมเ ปนการขูเข็ญโดยใชก ําลงั ประทุษราย หรือขูเข็ญจนผเู สียหายอยูใ นภาวะท่ี ไมส ามารถขดั ขนื ได เมอ่ื จาํ เลยกระทาํ ตอ ผเู สยี หายซง่ึ มอี ายเุ กนิ กวา ๑๓ ป การกระทาํ ของจาํ เลยจงึ ไมเ ปน ความผิดฐานกระทําอนาจารตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๘ ๑.๓ ผูถกู กระทาํ จะเปน ชายหรอื หญิงก็ได แตตองมอี ายกุ วา ๑๕ ป ถาอายไุ มเ กิน ๑๕ ป ก็จะมคี วามผดิ ตามมาตรา ๒๗๙ ซ่งึ จะอธบิ ายตอไป สวนผกู ระทําจะเปน ชายหรือหญิงก็ได ๑.๔ ผกู ระทาํ ตอ งมเี จตนาตามมาตรา ๕๙ คอื เจตนากระทาํ อนาจารตามทไี่ ดอ ธบิ าย ขา งตน ·§éÑ ¹éÕ Á¢Õ ÍŒ 椄 à¡μÇÒ‹ ในกรณกี ารจบั เนอ้ื ตอ งตวั หญงิ มใิ ชเ ปน การกระทาํ อนาจาร เสมอไป เชน การจับแขนหญิงบังคับพาไปขมขืนกระทําชําเรา การจับแขนกรณีน้ี ไมเปนการกระทํา อนาจารอกี บทหนง่ึ (คําพิพากษาศาลฎีกาท่ี ๕๒๗/๒๕๑๘) แตน า จะเปน เพราะการจับแขนเปนเจตนา บงั คบั พาไปมากกวา การยึดแขนหญิงและน่ังเบียดหญิงในรถระหวางพาไปเพื่อการอนาจาร เปนการกระทําปกติธรรมดาในการควบคุมมิใหหนี ไมม ีลกั ษณะเปน การทาํ อนาจารตามมาตรา ๒๗๘ (คําพพิ ากษาศาลฎกี าท่ี ๒๔๐๑/๒๕๒๒)
๓๒๔ ผูเสียหายและจําเลยมีความสัมพันธกันฉันชูสาว ในวันเกิดเหตุจําเลยมาหา ผูเสยี หายที่บานและกอดรดั ผเู สยี หายในฐานะท่เี คยมคี วามสัมพันธกนั มากอน แมผูเ สยี หายจะปฏเิ สธ และจําเลยไมเลิกราก็นาจะเปนเพราะจําเลยตองการแสดงความรักตอผูเสียหายตามวิสัยชายที่มี ตอ หญงิ ทเ่ี คยมคี วามสมั พนั ธก นั มากอ น การกระทาํ ของจาํ เลยจงึ ขาดเจตนาบกุ รกุ และ¢Ò´à¨μ¹Ò͹ҨÒà ผเู สียหาย (คาํ พิพากษาศาลฎกี าท่ี ๑๒๔๘๒/๒๕๔๗) การท่จี าํ เลยกับพวกรวมกันจบั แขนท้งั สองขางของผูเสยี หายที่ ๒ ชไู วบนศรี ษะ กดใหผ เู สยี หายท่ี ๒ นอนหงาย และใชม อื ปด ปากผเู สยี หายที่ ๒ มใิ หร อ ง พรอ มกบั ถอดกางเกงผเู สยี หาย ที่ ๒ ออกกเ็ พอ่ื จาํ เลยกบั พวกจะ¢Á‹ ¢¹× ¡ÃÐทาํ ชาํ àÃÒผเู สยี หายที่ ๒ เทา นนั้ จาํ เลยกบั พวกมไิ ดก ระทาํ การ อยา งใดตอ ผเู สยี หายที่ ๒ อกี ดงั น้ี ¨Ð¶Í× ÇÒ‹ ¨Òí àÅ¡ºÑ ¾Ç¡¡ÃÐทาํ ͹ҨÒüàŒÙ ÊÂÕ ËÒ·Õè ò ´ÇŒ  ËÒä´äŒ Á‹ แมจ าํ เลยใหก ารรบั สารภาพ ศาลกไ็ มอ าจพพิ ากษาวา จาํ เลยกระทาํ ความผดิ ฐานดงั กลา วได (คาํ พพิ ากษา ศาลฎีกาที่ ๑๕๒๕/๒๕๔๘) ๒. ÁÒμÃÒ ò÷ø ÇÃäÊͧ การกระทาํ ความผดิ ตามวรรคหนง่ึ ผกู ระทาํ ตอ งรบั โทษหนกั ขน้ึ หากเปนการกระทําโดย㪌ÇÑμ¶ØหรือÍÇÑÂÇÐÍè×¹ซึ่งÁÔ㪋ÍÇÑÂÇÐà¾Èŋǧล้ําÍÇÑÂÇÐà¾ÈËÃ×Í·ÇÒÃ˹ѡ ของบคุ คลน้นั ͸ºÔ Ò ๒.๑ มาตรา ๒๗๘ วรรคสองเปน àËμ©Ø ¡Ãèข องวรรคหนง่ึ ถา ผกู ระทาํ กระทาํ โดย㪌 ÇÑμ¶ØหรือÍÇÑÂÇÐÍ×蹫èÖ§ÁÔ㪋ÍÇÑÂÇÐà¾È เชน ใชอวัยวะเพศเทียมŋǧล้ําÍÇÑÂÇÐà¾Èหรือ·ÇÒÃ˹ѡของ ผถู กู กระทาํ ซงึ่ ตามกฎหมายเดมิ ในกรณี เปน ¡ÒáÃÐทาํ ชาํ àÃÒ (เพราะเปน ¡ÒÃãªÊŒ §Ôè ͹è× ã´ (วตั ถ)ุ กระทาํ กับอวัยวะเพศหรือทวารหนักของผูอ่ืน) เปลี่ยนมาเปน¡ÒáÃÐทํา͹ҨÒôŒÇ¡ÒÃŋǧÅíéÒ (sexual assault by penetration) และเปนความผิดตามมาตรา ๒๗๘ วรรคสอง ซ่ึงมีอัตราโทษเทากับ ความผิดฐานขมขนื กระทําชาํ เราตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๗๖ วรรคหนง่ึ ๒.๒ ¹Ò‹ 椄 à¡μÇ‹Ò ตอ ไปนี้การทช่ี ายใชล้ิน (คาํ พพิ ากษาศาลฎกี าท่ี ๔๑๖๔/๒๕๕๕) หรือใชนิ้วมือ (คําพิพากษาศาลฎีกาที่ ๕๘๒๘/๒๕๕๘) ŋǧลํ้าÍÇÑÂÇÐà¾ÈËÃ×Í·ÇÒÃ˹ѡของหญิง อายกุ วา ๑๕ ป จะ໹š ¤ÇÒÁ¼´Ô °Ò¹¡ÃÐทาํ ͹ҨÒÃโดยการลว งลา้ํ ตามมาตรา ๒๗๘ วรรคสอง äÁã‹ ªà‹ »¹š ¤ÇÒÁ¼´Ô °Ò¹¡ÃÐทําชําàÃҴѧ·ÕèÈÒÅ®¡Õ Òà¤ÂÇ¹Ô Ô¨©ÂÑ äÇÍŒ Õ¡μÍ‹ ä» ๒.๓ ÁÒμÃÒ ò÷ø ÇÃäÊÒÁáÅÐÇÃäÊÕè ในมาตรา ๒๗๘ วรรคสามและวรรคสี่ จะเหน็ ไดว ามีขอความทาํ นองเดียวกับ ท่ีบัญญัติไวในมาตรา ๒๗๖ วรรคสอง และมาตรา ๒๗๖ วรรคสาม ขอใหนักเรียนดูคําอธิบาย ในมาตรา ๒๗๖
๓๒๕ ¡ÃÐทาํ ͹ҨÒÃá¡‹à´ç¡ÍÒÂØÂ§Ñ äÁà‹ ¡Ô¹ ñõ »‚ ÁÒμÃÒ ò÷ùø ผูใดกระทาํ อนาจารแกเด็กอายุยังไมเกินสบิ หา ป โดยเด็กนั้นจะยินยอม หรือไมก ต็ ามตองระวางโทษจําคุกไมเ กินสบิ ป หรอื ปรบั ไมเ กนิ สองแสนบาท หรือทง้ั จาํ ท้ังปรับ ถาการกระทําความผิดตามวรรคหน่ึง เปนการกระทําแกเด็กอายุไมเกินสิบสามป ตอ งระวางโทษจาํ คกุ ตง้ั แตห นงึ่ ปถ งึ สบิ ป หรอื ปรบั ตงั้ แตส องหมนื่ บาทถงึ สองแสนบาท หรอื ทง้ั จาํ ทงั้ ปรบั ถาการกระทําความผิดตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสอง ผูกระทําไดกระทําโดยขูเข็ญดวย ประการใดๆ โดยใชก าํ ลงั ประทษุ รา ย โดยเดก็ นน้ั อยใู นภาวะทไี่ มส ามารถขดั ขนื ได หรอื โดยทาํ ใหเ ดก็ นน้ั เขา ใจผดิ วา ตนเปน บคุ คลอนื่ ตอ งระวางโทษจาํ คกุ ตงั้ แตห นงึ่ ปถ งึ สบิ หา ป หรอื ปรบั ตงั้ แตส องหมน่ื บาท ถึงสามแสนบาทหรอื ทั้งจําทงั้ ปรับ ถา การกระทาํ ความผดิ ตามวรรคหนงึ่ หรอื วรรคสาม เปน การกระทาํ โดยใชว ตั ถหุ รอื อวยั วะอนื่ ซึ่งมิใชอวัยวะเพศลวงลํ้าอวัยวะเพศหรือทวารหนักของเด็กนั้น ผูกระทําตองระวางโทษจําคุกตั้งแต หาปถ งึ ย่สี ิบป และปรับตั้งแตหนงึ่ แสนบาทถึงสแ่ี สนบาท ถา การกระทาํ ความผดิ ตามวรรคสี่ เปน การกระทาํ แกเ ดก็ อายยุ งั ไมเ กนิ สบิ สามป ตอ งระวางโทษ จาํ คกุ ตัง้ แตเจด็ ปถึงย่สี บิ ป และปรบั ตั้งแตหนง่ึ แสนสห่ี มืน่ บาทถึงสีแ่ สนบาท หรือจาํ คกุ ตลอดชวี ิต ถาการกระทําความผิดตามวรรคส่ีหรือวรรคหา ไดกระทําโดยทําใหผูถูกกระทําเขาใจวา ผกู ระทาํ มอี าวธุ ปน หรอื วตั ถรุ ะเบดิ ตอ งระวางโทษจาํ คกุ ตง้ั แตส บิ ปถ งึ ยส่ี บิ ป และปรบั ตงั้ แตส องแสนบาท ถงึ ส่ีแสนบาทหรือจาํ คุกตลอดชีวติ ถาการกระทําความผิดตามวรรคสี่หรือวรรคหา ไดกระทําโดยมีอาวุธปนหรือวัตถุระเบิด หรือโดยใชอาวุธ หรือโดยรวมกระทําความผิดดวยกันอันมีลักษณะเปนการโทรมเด็กหญิงหรือกระทํา กับเด็กชายในลกั ษณะเดยี วกนั ตอ งระวางโทษจําคุกตลอดชวี ติ ͸ºÔ Ò ๑. วรรคหนงึ่ ของมาตราน้ี มอี งคป ระกอบความผดิ เชน เดยี วกบั มาตรา ๒๗๘ แตต า งกนั ตรงท่ี ¼ŒÙ¶¡Ù ¡ÃÐทาํ μŒÍ§à»¹š à´¡ç ÍÒÂäØ Á‹à¡¹Ô ñõ »‚ áÅÐäÁ‹ÇÒ‹ à´ç¡¹éѹ¨ÐÂÔ¹ÂÍÁËÃÍ× äÁ‹¡μç ÒÁ¡ç໚¹¤ÇÒÁ¼´Ô คํา¾Ô¾Ò¡ÉÒ®Õ¡Ò·èÕ ñö÷ó/òõôö จําเลยมีอาชีพขับรถรับสงเด็กนักเรียนขณะท่ี เด็กหญิงผูเสียหายเรียนอยูช้ันประถมศึกษาปท่ี ๖ จําเลยทําอนาจารผูเสียหายโดยใชมือลูบคลําท่ี อวัยวะสืบพันธุและจับหนาอกผูเสียหาย จําเลยมีความผิดฐานกระทําอนาจารเด็กอายุไมเกิน ๑๕ ป ตามมาตรา ๒๗๙ วรรคแรก การกระทาํ ตามมาตรานี้ แมช ายกระทาํ ตอ ชาย หรอื หญงิ กระทาํ ตอ หญงิ กเ็ ปน ความผดิ ท้งั สิน้ ๘ พ.ร.บ.แกไ ขเพมิ่ เตมิ ประมวลกฎหมายอาญา (ฉบบั ที่ ๒๗) พ.ศ. ๒๕๖๒ ลง รกจ.เลม ๑๓๖/ตอนที่ ๖๙ ก/หนา ๑๓๐/ ๒๗ พ.ค. ๖๒
๓๒๖ ขอ สาํ คญั อกี ประการหนง่ึ คอื ผกู ระทาํ ตอ งรขู อ เทจ็ จรงิ เกย่ี วกบั อายขุ องเดก็ ดว ยตาม มาตรา ๕๙ วรรคสาม ถา ไมร ูกข็ าดเจตนา คาํ ¾¾Ô Ò¡ÉÒ®¡Õ Ò·Õè óøøñ/òõôò จาํ เลยพาเดก็ หญงิ ส. ผเู สยี หายไปเพอื่ จะกระทาํ ชาํ เรา ในขณะท่ผี ูเสียหายอายุ ๑๔ ป ๑๐ เดือนเศษ โดยผูเสยี หายสมคั รใจยินยอมไปกบั จาํ เลย และจาํ เลย กอดจูบกระทาํ อนาจารแกผ เู สียหาย แมก ารกระทาํ ของจาํ เลยอาจเปน ความผิดตามประมวลกฎหมาย อาญา มาตรา ๒๗๙ วรรคแรก ก็ตาม แตการทผ่ี ูเสยี หายมรี ูปรา งและลกั ษณะการพูดจาทําใหจ าํ เลย สําคญั ผดิ วา ผเู สยี หายอายุ ๑๘ ถงึ ๑๙ ป ซึง่ เปนการสําคญั ผดิ ในขอ เท็จจรงิ อันเปนองคป ระกอบของ ความผดิ ฐานอนาจารผเู สยี หายอายไุ มเ กนิ ๑๕ ป ตามมาตรา ๒๗๙ วรรคแรก การกระทาํ ของจาํ เลยจงึ ¢Ò´à¨μ¹Òกระทาํ ความผดิ ฐานดงั กลาวตามมาตรา ๕๙ วรรคสาม นาสังเกตวา คดนี ้ีเด็กอายุ ๑๔ ป ๑๐ เดือน จึงไมอยภู ายใตบ ังคบั มาตรา ๒๘๕/๑ ซงึ่ เปน กฎหมายใหมท บ่ี ญั ญตั กิ รณเี ดก็ อายไุ มเ กนิ ๑๓ ป หา มอา งความไมร อู ายขุ องเดก็ เพอ่ื ใหพ น จาก ความผิดนน้ั ๒. ความในวรรคสอง เปน การกระทําแกเ ด็กอายุไมเ กินสบิ สามป ซงึ่ เปนเหตใุ หผูกระทาํ ตอ งรับโทษหนักขน้ึ ๓. ความในวรรคสามแสดงวา เดก็ ไมย นิ ยอม เพราะถกู กระทาํ โดยขเู ขญ็ ดว ยประการใดๆ โดยใชกาํ ลงั ประทุษราย โดยเด็กนั้นอยใู นภาวะทไ่ี มส ามารถขดั ขนื ได หรอื โดยทําใหเดก็ นน้ั เขาใจผิดวา ตนเปน บุคคลอ่นื ซ่ึงเปน เหตุใหผกู ระทาํ ตองรบั โทษหนกั ข้ึน ๔. ความในวรรคสี่ ถาการกระทาํ ความผิดตามวรรคหนงึ่ หรือวรรคสาม เปน การกระทํา โดยใชวัตถุหรืออวยั วะอ่ืนซ่งึ มิใชอ วัยวะเพศลวงล้าํ อวยั วะเพศหรือทวารหนักของเดก็ นัน้ ผูกระทาํ ตอง รับโทษหนักขึ้นอีก มีขอความทํานองเดียวกับมาตรา ๒๗๘ วรรคสอง ขอใหนักเรียนดูคําอธิบาย ในมาตราดังกลา ว ๕. สวนความในวรรคหกและวรรคเจ็ด มีขอความเชนเดียวกับมาตรา ๒๗๖ วรรคสอง วรรคสาม และมาตรา ๒๗๗ วรรคสาม วรรคส่ี ขอใหนกั เรยี นดูคําอธบิ ายในมาตราดังกลาว
๓๒๗ ÃѺâ·É˹ѡ¢Öé¹à¹×èͧ¨Ò¡¼Å¢Í§¡ÒáÃÐทํา¤ÇÒÁ¼Ô´μÒÁÁÒμÃÒ ò÷ø ËÃ×Í ÁÒμÃÒ ò÷ù ÁÒμÃÒ òøðù ถา การกระทาํ ความผิดตามมาตรา ๒๗๘ หรอื มาตรา ๒๗๙ เปน เหตุให ผูถูกกระทาํ (๑) รบั อนั ตรายสาหสั ผกู ระทําตอ งระวางโทษจาํ คกุ ตงั้ แตห า ปถ ึงยส่ี ิบป และปรับต้งั แต หนึ่งแสนบาทถึงสแ่ี สนบาท หรือจําคกุ คลอดชีวติ (๒) ถงึ แกค วามตาย ผกู ระทําตอ งระวางโทษประหารชวี ิต หรอื จําคุกตลอดชีวติ ͸ºÔ Ò มาตรานี้เปนผลที่ทาํ ใหผูก ระทาํ ความผดิ ตามมาตรา ๒๗๘ ตองรับโทษหนักข้ึน ถา มีผล เกิดข้นึ คือ อันตรายสาหสั ตามอนุมาตรา (๑) หรอื ความตายตามมาตรา (๒) และเปนผลธรรมดาตาม มาตรา ๖๓ ผูกระทําตอ งรบั โทษหนักขน้ึ ตามมาตรานี้ ÁÒμÃÒ òøð/ñ ถาผูก ระทําความผิดตามมาตรา ๒๗๖ มาตรา ๒๗๗ มาตรา ๒๗๘ หรอื มาตรา ๒๗๙ ไดº ¹Ñ ·¡Ö ÀÒ¾หรอื àÊÂÕ §การกระทาํ ชาํ เราหรอื การกระทาํ อนาจารนน้ั ไว à¾Í×è áÊǧËÒ »ÃÐ⪹â´ÂÁԪͺสําหรับตนเองหรือผูอ่ืน ตองระวางโทษหนักกวาท่ีบัญญัติไวในมาตราน้ันๆ ˹֧è ã¹ÊÒÁ ถาผกู ระทาํ ความผดิ ตามวรรคหน่ึง เผยแพรหรอื สง ตอ ซึ่งภาพหรอื เสียงการกระทําชําเรา หรอื การกระทําอนาจารทบ่ี ันทกึ ไว ตองระวางโทษหนกั กวา ทบี่ ัญญัติไวใ นมาตรานัน้ ๆ กึง่ หน่ึง ͸ԺÒ ๑. มาตรานเี้ พมิ่ โทษผกู ระทาํ ความผดิ ตามมาตรา ๒๗๖ มาตรา ๒๗๗ มาตรา ๒๗๘ หรอื มาตรา ๒๗๙ ทไ่ี ดบ นั ทกึ ภาพหรอื เสยี งการกระทาํ ชาํ เราหรอื การกระทาํ อนาจารเพอ่ื แสวงหาประโยชน โยดมชิ อบ โดยจะบนั ทกึ เองหรอื ดาํ เนนิ การใหผ อู นื่ บนั ทกึ กไ็ ด แตห ากมกี ารลกั ลอบบนั ทกึ โดยผกู ระทาํ ความผิดไมมสี ว นรูเหน็ ดวยผูกระทาํ ความผิดก็ไมม คี วามผดิ ตามมาตรานี้ ๒. ผูกระทําความผิดตามมาตราดังกลาวนอกจากผูลงมือแลว ยังหมายถึงตัวการ ตามมาตรา ๘๓ ผูใชตามมาตรา ๘๔ และผสู นับสนุนตามมาตรา ๘๗ ดวย ๓. หากผกู ระทาํ ความผดิ ตามวรรคหนงึ่ ไดเ ผยแพร หรอื สง ตอ ซงึ่ ภาพหรอื เสยี งดงั กลา ว ตอ งระวางโทษหนักขน้ึ กึ่งหนึง่ ตามวรรคสอง μÑÇÍÂÒ‹ §·Õè ñ นาย ก. ขม ขืนกระทาํ ชําเรา นาง ข. นาย ก. มคี วามผิดเชนตามมาตรา ๒๗๖ วรรคหนงึ่ หากนาย ก. บนั ทกึ ภาพและเสยี งขณะขม ขนื กระทาํ ชาํ เรา นาง ข. เพอื่ แสวงหาประโยชน โดยมิชอบ กรณนี ี้ นาย ก. มคี วามผิดตามมาตรา ๒๘๐/๑ วรรคหนึง่ μÍŒ §ÃºÑ â·É˹¡Ñ ¢Ö¹é ˹֧è ã¹ÊÒÁ ¢Í§â·É·Õºè ÞÑ ÞμÑ ÔäÇ㌠¹ÁÒμÃÒ ò÷ö ÇÃä˹§èÖ ๙ พ.ร.บ.แกไขเพม่ิ เติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบบั ท่ี ๒๗) พ.ศ. ๒๕๖๒ ลง รกจ.เลม ๑๓๖/ตอนท่ี ๖๙ ก/หนา ๑๓๑/ ๒๗ พ.ค. ๖๒
๓๒๘ ถาวันรุงขึ้น นาย ก. นําภาพท่ีตนบันทึกไวไปÊ‹§μ‹Íหรือà¼Âá¾Ã‹ เพื่อประจาน คนท่ัวไป กรณนี ี้ นาย ก. มคี วามผดิ ตามมาตรา ๒๘๐/๑ วรรคสอง อนั เปน เหตุฉกรรจข องวรรคหนึง่ μŒÍ§ÃѺâ·É˹¡Ñ ¢Ö¹é ¡Ö§è Ë¹Ö§è ¢Í§â·É·ºèÕ ÞÑ ÞÑμäÔ ÇŒã¹ÁÒμÃÒ ò÷ö ÇÃä˹Öè§ μÑÇÍ‹ҧ·èÕ ò นางดําใชนายแดงใหขมขืนนางขาวศัตรูของนางดํา โดยนางดํา แอบบันทึกภาพและเสียงไวเพ่ือประสงคจะใชเผยแพรเพ่ือประจานนางขาวใหอับอาย โดยการบันทึก ดงั กลาวนายแดงไมมีสว นรูเหน็ ดว ย กรณีนี้ นางดาํ ผิดมาตรา ๒๘๐/๑ เพราะคําวา “ผูกระทาํ ความผิด ตามมาตรา ๒๗๖ ฯลฯ” ยอมหมายถงึ (๑) ผูลงมอื (นายแดง) (๒) ตวั การ (เชน คนดตู น ทาง) (๓) ผูรับโทษเสมือนเปนตัวการ ซ่ึงไดแก “ผูใชในกรณีที่ผูถูกใชไดกระทําความผิด ตามทใ่ี ช” (ã¹·¹èÕ ¤éÕ Í× ¹Ò§ดํา) (๔) ผูส นับสนนุ (เชน ใหยมื หองใหใชข มขืน) ดังน้ัน นางดําจึงผิดมาตรา ๒๘๐/๑ หากตอมานางดํานําภาพและเสียงท่ีตน บันทึกไปเผยแพรหรือสง ตอ นางดําก็ผิดมาตรา ๒๘๐/๑ วรรคสอง ซ่ึงเปน “เหตุฉกรรจ” ของวรรคหน่ึง ·¹Õè Ò§ดาํ μÍŒ §ÃѺâ·É˹¡Ñ ¢Ö¹é ¡Öè§Ë¹Ö觢ͧâ·É·ºÕè ÞÑ ÞμÑ äÔ Ç㌠¹ÁÒμÃÒ ò÷ö ÇÃä˹è§Ö ¡ÒáÃÐทาํ ¤ÇÒÁ¼Ô´¢‹Á¢¹× ¡ÃÐทําชําàÃÒËÃÍ× ¡ÒáÃÐทาํ ͹ҨÒ÷ÂèÕ ÍÁ¤ÇÒÁä´Œ ÁÒμÃÒ òøññð ความผดิ ตามมาตราดังตอไปนี้ เปน ความผิดอนั ยอมความได (๑) มาตรา ๒๗๖ วรรคหน่ึง และมาตรา ๒๗๘ วรรคสอง ซ่ึงเปนการกระทําระหวาง คสู มรส ถา มไิ ดเ กดิ ตอ หนา ธารกาํ นลั หรอื ไมเ ปน เหตใุ หผ ถู กู กระทาํ รบั อนั ตรายสาหสั หรอื ถงึ แกค วามตาย (๒) มาตรา ๒๗๘ วรรคหน่ึง ถามิไดเกิดตอหนาธารกํานัล ไมเปนเหตุใหผูถูกกระทํา รบั อนั ตรายสาหสั หรอื ถงึ แกค วามตาย หรอื มไิ ดเ ปน การกระทาํ แกบ คุ คลดงั ระบไุ วใ นมาตรา ๒๘๕ และ มาตรา ๒๘๕/๒ ͸ºÔ Ò ๑. ความผดิ เกีย่ วกบั เพศท่จี ะยอมความได มีดงั น้ี (ก) กรณีตามมาตรา ๒๘๑ (๑) (๑) ตองเปนการกระทําความผิดตามมาตรา ๒๗๖ วรรคหนึ่ง มาตรา ๒๗๘ วรรคสอง (๒) เปน การกระทาํ ระหวา งคูสมรส (๓) มิไดเ กดิ ตอหนาธารกํานลั และ (๔) ไมเปนเหตุใหผ ูถ ูกกระทาํ รบั อันตรายสาหสั หรอื ถงึ แกค วามตาย ๑๐ พ.ร.บ.แกไขเพิม่ เตมิ ประมวลกฎหมายอาญา (ฉบบั ที่ ๒๗) พ.ศ. ๒๕๖๒ ลง รกจ.เลม ๑๓๖/ตอนที่ ๖๙ ก/หนา ๑๓๑/ ๒๗ พ.ค. ๖๒
๓๒๙ (ข) กรณตี ามมาตรา ๒๘๑ (๒) (๑) ตองเปน การกระทําความผดิ ตามมาตรา ๒๗๘ วรรคหนึ่ง (๒) มิไดเ กิดตอหนาธารกํานลั (๓) ไมเ ปนเหตุใหผ ถู ูกกระทาํ รับอนั ตรายสาหัสหรอื ถึงแกความตาย และ (๔) มไิ ดเ ปน การกระทาํ แกบ คุ คลดงั ระบไุ วใ นมาตรา ๒๘๕ และมาตรา ๒๘๕/๒ ๒. คาํ วา “μÍ‹ ˹Ҍ ¸ÒÃกาํ ¹ÅÑ ” หมายถงึ กระทาํ ในลกั ษณะทเ่ี ปด เผยใหบ คุ คลอน่ื สามารถ เหน็ การกระทําของตนได (ฎ.๑๑๗๓/๒๕๐๘ ประชมุ ใหญ) และบคุ คลอ่นื น้นั จะตองมใิ ชผูท ี่รวมกระทาํ ความผิดดวยกัน μÇÑ ÍÂÒ‹ § กรณีมใิ ชก ารกระทําตอ หนาธารกาํ นลั คาํ ¾¾Ô Ò¡ÉÒ®¡Õ Ò·èÕ ๑๑๗๓/๒๕๐๘ (ประชมุ ใหญ) จาํ เลยขม ขนื กระทาํ ชาํ เราผเู สยี หาย ตอ หนา เดก็ หญงิ คนหนงึ่ ã¹ËÍŒ §¹Í¹Á´× เพยี งแตเ หตเุ กดิ ตอ หนา เดก็ หญงิ เทา นน้ั และโจทกม ไิ ดย นื ยนั โตแ ยง วา จาํ เลยไดก ระทาํ โดยประการทใี่ หเ ดก็ หญงิ ไดเ หน็ การกระทาํ ของจาํ เลย หรอื วา จาํ เลยไดก ระทาํ ในลักษณะที่เปดเผยใหบุคคลอื่นสามารถเห็นการกระทําของจําเลยได ดังน้ี พฤติการณแหงคดีจึงถือ ไมไ ดว า จาํ เลยไดก ระทาํ ผดิ ตอ หนา ธารกาํ นลั หากผเู สยี หายไดแ ถลงตอ ศาลไมต ดิ ใจเอาความจากจาํ เลย ขอถอนคํารองทุกข ศาลกต็ อ งสั่งจําหนายคดอี อกจากสารบบความ μÑÇÍ‹ҧ กรณีการกระทําตอหนาธารกํานลั คํา¾¾Ô Ò¡ÉÒ®¡Õ Ò·Õè ๔๖๙๓/๒๕๕๓ จําเลยจบั หนา อกผเู สยี หายซึง่ เปน หญงิ ในราน อาหาร ซ่ึงมีลูกคามาน่ังรับประทานอาหารและมีพนักงานรานอาหารนั้นเห็น ดังนี้ เปนการกระทํา อนาจารแกผูเสยี หายตอหนา ธารกํานัลแลว ¤ÇÒÁ¼´Ô à¡ÕÂè Ç¡ºÑ ¡ÒäŒÒ»ÃÐàÇ³Õ ÁÒμÃÒ òøöññ ผใู ดกระทาํ ดว ยประการใดๆ ดงั ตอ ไปน้ี ตอ งระวางโทษจาํ คกุ ไมเ กนิ ยส่ี บิ ป และปรบั ไมเ กินสีแ่ สนบาท หรอื จําคุกตลอดชวี ติ (๑) ชว ยเหลือ ใหความสะดวก หรือคมุ ครองการคา ประเวณขี องผูอน่ื (๒) รับประโยชนไมวา รปู แบบใดจากการคาประเวณีของผอู ่ืนหรือจากผูซง่ึ คา ประเวณี (๓) บังคบั ขูเข็ญ หลอกลวง หรอื ใชอ ํานาจครอบงาํ ผูอื่น หรอื รบั ผอู ่นื เขาทาํ งานเพือ่ การ คาประเวณี (๔) จัดใหมีการคา ประเวณีระหวา งผซู ึ่งคาประเวณีกับผใู ชบ รกิ าร (๕) ปกปด หรอื อําพรางแหลงที่มาของรายไดหรอื ทรัพยส นิ ซึง่ ไดมาจากการคาประเวณี (๖) อยูรวมกับผูซ่ึงคาประเวณีหรือสมาคมกับผูซึ่งคาประเวณีคนเดียวหรือหลายคน เปนอาจิณ และไมส ามารถแสดงที่มาของรายไดในการดาํ รงชีพของตน ๑๑ พ.ร.บ.แกไ ขเพมิ่ เติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๗) พ.ศ. ๒๕๖๒ ลง รกจ.เลม ๑๓๖/ตอนที่ ๖๙ ก/หนา ๑๓๒/ ๒๗ พ.ค. ๖๒
๓๓๐ (๗) ขัดขวางการดําเนินการของหนวยงานที่ดูแลในการปองกัน ควบคุม ชวยเหลือ หรือใหการศึกษาแกผูซ่ึงคาประเวณี ผูซึ่งจะเขารวมในการคาประเวณี หรือผูซ่ึงอาจไดรับอันตราย จากการคาประเวณี ความในวรรคหนึ่ง (๒) และ (๖) มิใหใ ชบ งั คบั แกผูร ับประโยชนไ มว ารปู แบบใดซึง่ พึงไดร ับ ตามกฎหมายหรือตามธรรมจรรยา ͸ԺÒ ๑. มาตรา ๒๘๖ (เดิม) เปนความผิดฐานดําçªÕ¾ÍÂÙ‹¨Ò¡ÃÒÂä´Œ¢Í§¼ÙŒ«èÖ§¤ŒÒ»ÃÐàÇ³Õ หรอื ทเี่ รยี กกนั วา “แมงดา” ซง่ึ จะเปน ความผดิ ดงั กลา วจะตอ งไดค วามวา ผนู น้ั ดาํ รงชพี อยไู ด โดยอาศยั รายไดทั้งหมดหรือบางสวนจากผูซึ่งคาประเวณี หากขาดปจจัยแมเพียงบางสวนจากรายไดของผูซึ่ง คาประเวณีจะดาํ รงชีพอยูไมไ ด (คาํ พิพากษาฎกี าท่ี ๑๒๐๘/๒๕๓๕) ดังน้ัน หากผูนั้นมีรายไดจากการประกอบอาชีพเพียงพอในการดํารงชีพ แมผูน้ัน จะไดรับเงินสวนแบงจากผูซึ่งคาประเวณีดวยก็ตาม ไมเปนความผิดตามมาตรานี้ (คําพิพากษาฎีกา ท่ี ๒๕๕๕/๒๕๕๒ และ ๑๗๘/๒๕๒๘) เชน คาํ ¾¾Ô Ò¡ÉÒ®¡Õ Ò·Õè ñ÷ø/òõòø แมจ าํ เลยอายเุ กนิ ๑๖ ป ซ่งึ เปนผดู ูแลจดั การ สถานการคา ประเวณไี ดร บั สว นแบง จากการคา ประเวณขี องหญงิ ทคี่ า ประเวณี แตจ าํ เลยกป็ ระกอบอาชพี อน่ื อยดู วย คือ ขายผาและนํ้าปลา มีรายไดเ ดือนละ ๕,๐๐๐ - ๖,๐๐๐ บาท แสดงวา จําเลยมีÃÒÂä´Œ จากการคาขาย และไมป รากฏวา รายไดด ังกลาวไมเพยี งพอสําหรับดํารงชีพ ถงึ จําเลยจะไดร บั สวนแบง จากหญงิ ซง่ึ คาประเวณกี ไ็ มเปน ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๖ จะเหน็ ไดว า ตามมาตรา ๒๘๖ (เดมิ ) ไมส ามารถเอาผดิ กบั ผทู เี่ ปน แมงดาได หากผนู นั้ มรี ายไดอยางอื่นนอกเหนือจากท่ีไดร บั จากผูซึ่งคาประเวณีอยดู ว ย ดวยเหตุนี้กฎหมายใหม จึงเพ่ิมบทบัญญัติมากขึ้นเพื่อปองปรามมิใหมีการกระทํา ที่เปนการเอาเปรียบหรือรับประโยชนจากผูซ่ึงคาประเวณีหรือจากการคาประเวณี ดังจะเห็นไดจาก กรณจี าํ เลยตามคาํ พพิ ากษาที่ ๑๗๘/๒๕๒๘ ขา งตน ยอ มถอื ไดว า มคี วามผดิ ฐานรบั ประโยชนจ ากผซู งึ่ คาประเวณตี ามมาตรา ๒๘๖ (๒) ท่แี กไ ขใหมแ ลว ๒. ผกู ระทาํ และผูซง่ึ คาประเวณจี ะเปน ชายหรอื หญงิ กไ็ ด ๓. นา สงั เกตความในวรรคสองเปน ¢ÍŒ ¡àǹŒ ความรบั ผดิ ไวใ นกรณกี ารกระทาํ ตามความ ในวรรคหนงึ่ (๒) และ (๖) มใิ หน าํ มาใชบังคับแก¼ ÃÙŒ ºÑ »ÃÐ⪹ เชน บตุ รซึง่ อยูในความดแู ลของมารดา ผซู งึ่ คา ประเวณจี าํ เปน ตอ งรบั ประโยชนห รอื อยรู ว มกบั มารดาตามกฎหมาย หรอื ตามธรรมจรรยาไมเ ปน ความผดิ ตามมาตราน๑ี้ ๒ ๑๒ วรี ะวัฒน ปวราจารย คําบรรยายวิชากฎหมายอาญา ภาค ๑, ๒๕๖๒, คร้ังที่ ๖-๗ น.๒๔๑-๒๘๐
๓๓๑ ¤ÇÒÁ¼´Ô °Ò¹à»š¹¸ØÃШѴËÒÏ ÁÒμÃÒ òøò ผูใดà¾è×Íʹͧ¤ÇÒÁã¤Ã‹¢Í§¼ÙŒÍ×è¹ เปนธุระจัดหา ลอไป หรือพาไป à¾×èÍ¡ÒÃ͹ҨÒÃซ่ึงªÒÂหรือËÞÔ§ แมผูน้ันจะยินยอมก็ตาม ตองระวางโทษจําคุกตั้งแตหน่ึงปถึงสิบป และปรบั ตั้งแตส องหม่นื บาทถึงสองแสนบาท ถา การกระทาํ ความผดิ ตามวรรคแรกเปน การกระทาํ แกบ คุ คลอายเุ กนิ สบิ หา ป แตย งั ไมเ กนิ สบิ แปดป ผกู ระทาํ ตอ งระวางโทษจาํ คกุ ตงั้ แตส ามปถ งึ สบิ หา ป และปรบั ตงั้ แตห กหมน่ื บาทถงึ สามแสนบาท ถา การกระทาํ ความผดิ ตามวรรคแรกเปน การกระทาํ แกเ ดก็ อายยุ งั ไมเ กนิ สบิ หา ป ผกู ระทาํ ตองระวางโทษจาํ คกุ ต้ังแตห า ปถึงย่ีสบิ ป และปรบั ตัง้ แตห น่ึงแสนบาทถงึ สี่แสนบาท ผใู ดเพอื่ สนองความใครข องผอู นื่ ÃºÑ μÇÑ บคุ คลซง่ึ มผี จู ดั หา ลอ ไป หรอื พาไปตามวรรคแรก วรรคสอง หรอื วรรคสาม หรอื ʹºÑ ʹ¹Ø ในการกระทาํ ความผดิ ดงั กลา ว ตอ งระวางโทษตามทบี่ ญั ญตั ไิ ว ในวรรคแรก วรรคสอง หรือวรรคสาม แลว แตก รณี ͸ԺÒ ๑) ÇÃäáá ๑. ¡ÒáÃÐทํา คือ ໚¹¸ØÃШѴËÒ Å‹Íä» ËÃÍ× ¾Òä»à¾Í×è ¡ÒÃ͹ҨÒà การกระทาํ à¾Íè× ¡ÒÃ͹ҨÒÃตามมาตรา ๒๘๒ และมาตรา ๓๑๙ นนั้ หมายความถงึ การกระทาํ ทไ่ี มส มควรในทางเพศตอ รา งกายของบคุ คลอน่ื ซง่ึ ตอ งเปน การกระทาํ ตอ เนอ้ื ตวั ของบคุ คล โดยตรง จะกระทาํ ในทรี่ โหฐานหรอื สาธารณสถานกไ็ มม ผี ลทแ่ี ตกตา งกนั เชน การทชี่ ายอน่ื รว มประเวณี กับผูเสียหายซ่ึงเปนผูเยาวที่ถูกจําเลยพาไปในหองของโรงแรม แมจะเปนที่มิดชิดแตก็เปนการกระทํา ที่ไมสมควรในทางเพศตอรางกายของผเู สียหาย จงึ เปน การกระทําเพ่อื การอนาจาร (คาํ พิพากษาฎกี า ท่ี ๑๖๒๗/๒๕๓๙) จําเลยกับพวกพาผูเสียหายซ่ีงึ เปน หญงิ โสเภณีอายุ ๑๗ ป ไปอยูในซองโสเภณี ของจาํ เลย แลว ใหร บั จา งรว มประเวณกี บั ชายอนื่ เชน น้ี แมผ เู สยี หายจะสมคั รใจไปกบั จาํ เลยและตกลง ยินยอมรับจางรวมประเวณีกับชายอื่นตอมาก็ตาม ก็ถือวาจําเลยเปนธุระจัดหา ลอไป หรือชักพาไป เพอ่ื การอนาจารซง่ึ หญงิ อายยุ งั ไมเ กนิ ๑๘ ป มคี วามผดิ ตามมาตรา ๒๘๒ (คาํ พพิ ากษาฎกี าท่ี ๘๙๑/๒๕๑๕) คําÇ‹Ò à»š¹¸ØÃШѴËÒ หมายความวา ¨Ñ´ãˌ䴌ÁÒ«Ö觪ÒÂËÃ×ÍËÞÔ§ Å‹Íä» หมายความวา Å‹ÍÅǧä»Âѧʶҹ·èÕ·Õè¨Ñ´äÇŒ สวน¾Òä» หมายความวา นําä» (คํา¾Ô¾Ò¡ÉÒ®Õ¡Ò·èÕ øøö÷/òõõô) ๒. กฎหมายใชคําวา ªÒÂหรือËÞÔ§ ผูท่ีถูกพาไปดังกลาวจึงอาจเปนชายหรือหญิง ก็ได และแมผูทถี่ ูกพาไปนนั้ จะยนิ ยอม ผูกระทํากม็ คี วามผดิ ตามมาตรานี้ ๓. องคป ระกอบภายใน คอื เจตนาตามมาตรา ๕๙ ในการเปน ธรุ ะจดั หา ลอ ไป หรอื พาไปและตอ งมเี จตนาพเิ ศษทง้ั สองประการ คอื à¾Í×è ʹͧ¤ÇÒÁã¤Ã¢‹ ͧ¼ÍŒÙ ¹×è áÅÐà¾Íè× ¡ÒÃ͹ҨÒônj  ¤ÇÒÁã¤Ã‹ ในทนี่ ้ี ทา นศาสตราจารยจ ติ ติ อธบิ ายวา นา จะหมายความà¾ÂÕ §¤ÇÒÁ ¾Íã¨ã¹·Ò§à¾È äÁจ‹ าํ ໹š μÍŒ §¶§Ö ¡ºÑ ÃÇ‹ Á»ÃÐàdzสÕ าํ àèç เชน เพยี งแตก อดจบู ลบู คลาํ กไ็ ด และมาตรานี้
๓๓๒ ใชคาํ วา à¾×èÍʹͧ¤ÇÒÁã¤Ã‹¢Í§¼ÍŒÙ ¹×è มิใชข องตัวผกู ระทําเอง ดวยเหตุน้ีถาพาหญิงไปเพ่ือความใคร ของผูพาไปเอง ไมเปนความผดิ ตามมาตรานี้ คาํ ¾¾Ô Ò¡ÉÒ®¡Õ Ò·èÕ øòô/òõðó วนิ ิจฉัยวา ความผดิ ตามประมวลกฎหมาย อาญา มาตรา ๒๘๒ ตองเปนกรณีท่ีเปนธุระจัดหา ลอไป หรือชักพาเพื่อสําเร็จความใครของ¼ÙŒÍè×¹ ถา เปนกรณีที่กระทําไปเพ่ือสําเรจ็ ความใครของผกู ระทําน้นั เองแลว ไมเ ปนความผิดตามมาตรา ๒๘๒ (แตอ าจเปน ความผดิ ตามมาตรา ๒๘๔ โปรดดมู าตรา ๒๘๔) กบั มคี าํ พพิ ากษาฎกี าท่ี ๖๔๒-๖๔๔/๒๕๓๗ à¾Í×è ¡ÒÃ͹ҨÒà เชน พาหญงิ ไปขายซอ งโสเภณี (คาํ พพิ ากษาฎกี าที่ ๑๗๖๗/๒๕๑๕) การหลอกลวงพาหญงิ ไปรว มประเวณี โดยไมป ระสงคจ ะเลยี้ งดเู ปน ภรยิ ากเ็ ปน การอนาจาร (คาํ พพิ ากษา ฎีกาที่ ๓๕๘/๒๔๘๖, ๒๐๒๙/๒๕๒๐) แตถาพาหญิงไปเพื่ออยูกินเปนสามีภริยากันโดยชายไมมีภริยาอยูกอนมีแนว คําพิพากษาฎกี าไมถ อื วา เปนการพาไปเพือ่ การอนาจาร เชน หญิงอายุ ๑๕ ป หนอี อกจากบา นแลว เรียกจาํ เลยอายุ ๒๗ ป ÂѧäÁ‹ÁÀÕ ÃÔÂÒ มาพบจําเลยพาหญงิ ไปตามที่ตา งๆ เพอื่ อยกู ินเปน สามีภริยา ไมเปน การพรากผูเยาว แลวไมเปนการ พาไปเพือ่ การอนาจาร (คาํ พพิ ากษาฎกี าที่ ๑๘๑๙/๒๕๒๐) ผเู ยาวกับจําเลยรักใครกันโดยทจี่ ําเลยยงั äÁÁ‹ ÀÕ ÃÂÔ ÒÁÒ¡Í‹ ¹ จาํ เลยพาผเู ยาวไ ปอยกู บั จาํ เลยไดเ สยี กนั เพอ่ื ประสงคจ ะอยกู นิ ดว ยกนั ฉนั สามภี รยิ า แตมารดาจําเลยไมยอมรับผูเยาวเปนสะใภ การกระทําของจําเลยไมเปนความผิดฐานพรากผูเยาวไป เพอื่ การอนาจาร (คําพพิ ากษาฎกี าที่ ๖๖๓๔/๒๕๔๖) ๒) ÇÃäÊͧáÅÐÇÃäÊÒÁ เปน àËμ©Ø ¡Ãèท ท่ี าํ ใหผ กู ระทาํ ตอ งรบั โทษหนกั ขน้ึ ซง่ึ ผกู ระทาํ ตองรูขอเท็จจริงน้ัน ตามมาตรา ๖๒ วรรคทาย กลาวคือ ตองรูวาผูที่ถูกพาไปนั้น อายุเกิน ๑๕ ป แตยังไมเกิน ๑๘ ป จึงจะผิดตามวรรคสอง หรอื ตอ งรวู า ผทู ่ถี ูกพาไปนั้นอายยุ งั ไมเ กิน ๑๕ ป จงึ จะผดิ ตามวรรคสาม คํา¾¾Ô Ò¡ÉÒ®Õ¡Ò·èÕ øøö÷/òõõô จาํ เลยเพยี งแตพดู ชกั ชวนผเู สียหายซ่ึงเปน เดก็ อายุไมเกินสิบหาปใหไปรวมหลับนอนกับ อ. สามีของจําเลย แลวจะใหโทรศัพทเคลื่อนที่ ๑ เครื่อง และเงิน ๓,๐๐๐ บาท เปน การตอบแทน ผูเ สยี หายทํา·¾Õ Âѡ˹Ҍ áμä‹ Áμ‹ ¡Å§´ÇŒ  à·Ò‹ ¡Ñº¼ÙŒàÊÂÕ ËÒ äÁ‹ ¹Ô ÂÍÁ อนั เปน การกระทํา¤ÃºÍ§¤» ÃСͺ¤ÇÒÁ¼´Ô ตามมาตรา ๒๘๒ วรรคสาม ซึง่ จําเลยŧÁ×Í กระทาํ ความผดิ และกระทาํ ไปตลอดแลว áμ¼‹ àŒÙ ÊÂÕ ËÒÂäÁä‹ »´ÇŒ  ทาํ ใหก ารกระทาํ ของจาํ เลยäÁº‹ ÃÃÅ¼Ø Å ตามท่มี ุงหวังไว จงึ เปนการพยายามกระทาํ ความผิดตามมาตราดังกลาว ๓) สว นÇÃäÊÕè กฎหมายบญั ญตั ใิ ห ¼ÃŒÙ ºÑ μÇÑ กบั ¼ÊŒÙ ¹ºÑ ʹ¹Ø การกระทาํ ความผดิ ตามวรรคแรก วรรคสอง หรอื วรรคสาม มคี วามผิดตอ งระวางโทษเชน เดียวกบั ¼Ù¡Œ ÃÐทาํ ÁÒμÃÒ òøó ผูใดà¾×èÍʹͧ¤ÇÒÁã¤Ã‹¢Í§¼ÙŒÍè×¹ เปนธุระจัดหา ลอไป หรือพาไป เพอ่ื การอนาจารซง่ึ ชายหรอื หญงิ โดยใชอ บุ ายหลอกลวง ขเู ขญ็ ใหก าํ ลงั ประทษุ รา ย ใชอ าํ นาจครอบงาํ ผดิ คลองธรรมหรอื ใชว ธิ ขี ม ขนื ใจดว ยประการอนื่ ใด ตอ งระวางโทษจาํ คกุ ตงั้ แตห า ปถ งึ ยสี่ บิ ป และปรบั ตงั้ แต หนงึ่ แสนบาทถึงส่ีแสนบาท
๓๓๓ ถา การกระทาํ ความผดิ ตามวรรคแรกเปน การกระทาํ แกบ คุ คลอายเุ กนิ สบิ หา ปแ ตย งั ไมเ กนิ สิบแปดป ผูกระทําตองระวางโทษจําคุกตั้งแตเจ็ดปถึงยี่สิบป และปรับตั้งแตหนึ่งแสนสี่หม่ืนบาท ถงึ สแ่ี สนบาท หรือจาํ คุกตลอดชวี ิต ถา การกระทาํ ความผดิ ตามวรรคแรกเปน การกระทาํ แกเ ดก็ อายยุ งั ไมเ กนิ สบิ หา ป ผกู ระทาํ ตองระวางโทษจําคุกตั้งแตสิบปถึงย่ีสิบป และปรับต้ังแตสองแสนบาทถึงส่ีแสนบาท หรือจําคุก ตลอดชวี ิตหรอื ประหารชวี ติ ผใู ดเพอื่ สนองความใครข องผอู นื่ ÃºÑ μÇÑ บคุ คลซง่ึ มผี จู ดั หา ลอ ไป หรอื พาไป ตามวรรคแรก วรรคสอง หรอื วรรคสาม หรอื ʹºÑ ʹ¹Ø ในการกระทาํ ความผดิ ดงั กลา ว ตอ งระวางโทษตามทบี่ ญั ญตั ไิ ว ในวรรคแรก วรรคสอง หรือวรรคสาม แลว แตก รณี ͸ºÔ Ò ๑) ÇÃäáá ๑. นาสังเกตวา องคประกอบภายนอกในสวนของการกระทํา คือ ໚¹¸ØÃШѴËÒ ÅÍ‹ ä» ËÃÍ× ¾Òä»à¾×Íè ¡ÒÃ͹ҨÒà เหมือนกับมาตรา ๒๘๒ คงตางกันตรงท่มี าตรา ๒๘๓ น้ี ผกู ระทาํ ตอ งกระทาํ โดยใชอ บุ ายหลอกลวง ขเู ข็ญ ใชก าํ ลงั ประทุษราย ใชอ ํานาจครอบงําผดิ คลองธรรมหรือใช วธิ ขี ม ขืนใจดวยประการอ่นื ใดดวยจงึ จะเปน ความผดิ μÑÇÍÂÒ‹ § â´ÂãªÍŒ ºØ ÒÂËÅÍ¡Åǧ คาํ ¾¾Ô Ò¡ÉÒ®¡Õ Ò·èÕ òñð/òõôð การทจี่ าํ เลยËÅÍ¡Åǧผเู สยี หายซง่ึ มอี ายุ ๑๕ ปเ ศษ วาจะพาผูเสียหายไปทํางานในรานอาหาร แตกลับพาไปขายใหแก บ. เพ่ือใหคาประเวณี จะนับวา ผูเสียหายเต็มใจไปดวยไมได เพราะผูเสียหายไมไดเต็มใจไปคาประเวณีมาแตตน แตไปกับจําเลย เพราะจาํ เลยหลอกลวงวา จะพาไปทาํ งานทรี่ า นขายอาหารของนอ งสาวจาํ เลย และการทจี่ าํ เลยหลอกลวง ผูเสียหายแลวพาผูเสียหายไปขายใหแก บ. เพ่ือใหคาประเวณีก็เปนท่ีเห็นไดวา จําเลยมีเจตนาที่จะ ลอผูเสียหายไปเพ่ือการอนาจารและเพื่อสําเร็จความใครของผูอ่ืน â´ÂãªŒÍØºÒÂËÅÍ¡Åǧผูเสียหาย จาํ เลยจงึ มคี วามผดิ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๓ วรรคสอง และมาตรา ๓๑๘ วรรคสาม μÇÑ Í‹ҧ ¡ÒâÙà‹ ¢çÞ คํา¾Ô¾Ò¡ÉÒ®Õ¡Ò·èÕ õøò/òõò÷ จําเลยชักชวนเด็กหญิงท้ังสามไปอยูดวย อา งวา จะหดั ลเิ กให แตก ม็ ไิ ดห ดั ให กลบั จะใหค า ประเวณâี ´Â¢ว‹Ù า ไมย อมจะสง ไปตา งจงั หวดั ¨¹เดก็ หญงิ คนหนง่ึ จาํ μÍŒ §ÂÍÁ仡ºÑ ªÒÂและชายนนั้ พยายามจะกระทาํ มดิ มี ริ า ยในระหวา งทาง ดงั น้ี จาํ เลยกระทาํ การ เปน ธรุ ะจัดหาหรือพาเดก็ หญงิ อายไุ มเ กิน ๑๓ ป ไปเพ่อื การอนาจาร เพอ่ื ใหส ําเรจ็ ความใครของผูอื่น เปน ความผิดตามมาตรา ๒๘๓ วรรคสาม ¢ÍŒ 椄 à¡μ คดีนี้มีการขูบังคับใหเด็กหญิงไปกับชายและถูกชายพยายามทํามิดีมิราย ถาไมย อมจะสง ไปตา งจังหวดั เดก็ หญิงน้ันจึงยอมไป จําเลยผดิ มาตรานี้
๓๓๔ μÑÇÍÂÒ‹ § ¡ÒÃ㪡Œ íÒÅѧ»ÃÐ·ÉØ ÃÒŒ  คํา¾¾Ô Ò¡ÉÒ®¡Õ Ò·èÕ ñõòó/òõññ จําเลยเปนเจาของกจิ การสถานคา ประเวณี รบั ตวั นางสมจติ ผเู สยี หายไว แลว º§Ñ ¤ºÑ ãˤŒ ÒŒ »ÃÐàÇ³Õ ครน้ั นางสมจติ ไมย นิ ยอมกถ็ กู ผลกั เขา ไปในหอ ง มีชายรออยู เม่ือขดั ขืนตอไปก็ถูกจาํ เลยตบหนา บางคร้ังนางสมจิตถูกชายอ่ืนเขาไปในหองแลวจําเลย กใ็ สก ญุ แจหอ งขา งนอกและคอยเฝา อยู ทง้ั ยงั ตะโกนบอกใหช ายใหต บตไี ดถ า ไมย อม ถอื ไดว า การกระทาํ ของจําเลยเปนการกระทําเพ่ือความใครของผูอื่น เปนธุระจัดหาเพ่ือการอนาจารซ่ึงหญิงโดย㪌กําÅѧ »ÃзØÉÃÒŒ  อนั เปน ความผดิ ตามมาตรา ๒๘๓ แลว 㪌อํา¹Ò¨¤Ãͺงํา¼Ô´¤Åͧ¸ÃÃÁ เชน จะไมจางตอไป ถาคนใชไมทําตาม ความประสงคของนายจา ง ๒. ผทู ่ีถูกพาไปจะเปน ªÒÂหรือËÞ§Ô ก็ได ๓. ตองมเี จตนาและเจตนาพิเศษเชนเดียวกับมาตรา ๒๘๒ ๒) ÇÃäÊͧáÅÐÇÃäÊÒÁเปนเหตุฉกรรจซึ่งมีระวางโทษหนักขึ้น เชนเดียวกับ มาตรา ๒๘๒ ๓) ÇÃäÊÕèกําหนดให¼ÙŒÃѺμÑÇกับ¼ÙŒÊ¹ÑºÊ¹Ø¹การกระทําความผิดตามวรรคแรก วรรคสอง หรอื วรรคสามมีความผิดตองระวางโทษเชนเดียวกับผูกระทํา ÁÒμÃÒ òøó ·ÇÔ ผใู ดพาบคุ คลอายเุ กนิ สบิ หา ปแ ตย งั ไมเ กนิ สบิ แปดปไ ปเพอ่ื การอนาจาร แมผูน้ันจะยินยอมก็ตาม ตองระวางโทษจําคุกไมเกินหาป หรือปรับไมเกินหน่ึงแสนบาท หรือท้ังจํา ทง้ั ปรบั ถา การกระทาํ ความผดิ ตามวรรคแรกเปน การกระทาํ แกเ ดก็ อายยุ งั ไมเ กนิ สบิ หา ป ผกู ระทาํ ตอ งระวางโทษจาํ คกุ ไมเกินเจ็ดป หรอื ปรับไมเ กนิ หน่ึงแสนส่ีหมืน่ บาท หรือท้ังจาํ ทั้งปรบั ผใู ด«‹Í¹àùŒ บุคคลซึ่งถกู พาไปตามวรรคแรกหรอื วรรคสอง ตองระวางโทษตามทบี่ ัญญตั ิ ในวรรคแรกหรอื วรรคสอง แลวแตกรณี ความผิดตามวรรคแรกและวรรคสามเฉพาะกรณีที่กระทําแกบุคคลอายุเกินสิบหาป เปน ความผดิ อนั ยอมความได นาสังเกตวา ความผิดตามวรรคแรกและวรรคสามเฉพาะกรณีท่ีกระทําแกบุคคลอายุเกิน ๑๕ ป เทาน้นั ท่ีเปนความผิดอันยอมความได ÁÒμÃÒ òøô ผูใ ด¾Ò¼ŒÍÙ ×¹è ä»à¾Í×è ¡ÒÃ͹ҨÒà โดยใชอุบายหลอกลวง ขูเ ขญ็ ใชก าํ ลัง ประทษุ รา ย ใชอ าํ นาจครอบงาํ ผดิ คลองธรรม หรอื ใชว ธิ ขี ม ขนื ใจดว ยประการอนื่ ใด ตอ งระวางโทษจาํ คกุ ต้ังแตห นึ่งปถ ึงสบิ ป และปรับต้ังแตส องหมืน่ บาทถงึ สองแสนบาท ผูใด«‹Í¹àÃŒ¹บุคคลซึ่งถกู พาไปตามวรรคแรก ตอ งระวางโทษเชนเดียวกับผพู าไปนัน้ ความผิดตามมาตราน้ี เปน ความผิดอันยอมความได ¢ŒÍ¾¨Ô ÒÃ³Ò ñ) ÇÃäáá เปน การพาไปเพอ่ื การอนาจาร
๓๓๕ ñ. ¡ÒáÃÐทํา คือ พาผูอ่ืนไป ตองกระทําโดยใชอุบายหลอกลวง ขูเข็ญ ใชกําลัง ประทุษราย ใชอํานาจครอบงําผิดคลองธรรม หรือใชวิธีขมขืนใจดวยประการอ่ืนใดเชนเดียวกับ ในมาตรา ๒๘๓ μÇÑ ÍÂÒ‹ § â´ÂãªŒÍºØ ÒÂËÅÍ¡Åǧ คาํ ¾¾Ô Ò¡ÉÒ®¡Õ Ò·Õè òùôõ/òõóõ จาํ เลยหลอกลวงผเู สยี หายวา จะพาผเู สยี หาย ไปสงที่บริเวณงานหนาศาลากลางจังหวัด เมื่อผูเสียหายขึ้นรถยนตสามลอรับจางของจําเลยแลว จําเลยกลับพาผูเสียหายไปที่โรงเรียนแหงหน่ึงแลวกระทําอนาจารผูเสียหายแสดงวาจําเลยมีเจตนา จะ¾Òผเู สยี หาย仡ÃÐทาํ ͹ҨÒÃซงึ่ เปน ความประสงคม าตง้ั แตแ รกแลว การกระทาํ ดงั กลา วเปน ความผดิ ตามมาตรา ๒๗๘ และ ๒๘๔ ซง่ึ กระทาํ ตอ เนอื่ งกนั มาตลอดโดยไมข าดตอน จงึ เปน การกระทาํ กรรมเดยี ว ผดิ กฎหมายหลายบท μÑÇÍ‹ҧ ãªกŒ าํ Å§Ñ »ÃÐ·ÉØ ÃÒŒ  ©Ø´¤ÃÒ‹ คาํ ¾¾Ô Ò¡ÉÒ®¡Õ Ò·Õè ùøò/òôøò ชายฉดุ ครา หญงิ เพอ่ื การอนาจารเคลอ่ื นทไ่ี ป ไดส กั ๑ วา หญงิ สะบดั หลดุ ชายจะเขา ฉดุ อกี แตม คี นดงึ มอื หญงิ ไว ชายจงึ หยดุ เลกิ ไป ดงั น้ี เปน ความผดิ ฐานฉดุ ครา สาํ เร็จบริบูรณ หาใชเปน เพียงพยายามกระทาํ ผิดไม ¢ÍŒ 椄 à¡μ คดีนต้ี ัดสนิ ตามกฎหมายลกั ษณะอาญา มาตรา ๒๗๖ ซง่ึ ใชค ําวา©Ø´¤Ã‹Ò¾Òä» ´ÇŒ Âกาํ Å§Ñ กม็ ีผลเชนเดยี วกบั การ㪌กาํ Å§Ñ »ÃзØÉÃÒŒ Âตามมาตรานี้ ·‹Ò¹ÈÒÊμÃÒ¨ÒèÔμμÔ μÔ§ÈÀÑ·Ô อธิบายวา การใชกําลังประทุษรายไดแก ตวั อยา งเชน ฉดุ ครา หญงิ ไป ความผดิ สาํ เรจ็ เมอื่ มกี าร¾Òà¤ÅÍ×è ¹·äèÕ » เพยี งแต ท. จบั มอื ม. จะฉดุ ม. รอ ง มคี นเขามา ท. จึงปลอ ย ม. ยังไมไ ดฉ ุดà¤Å×è͹¨Ò¡·èÕ ดงั นี้ เปน เพียงขัน้ พยายาม (คาํ พิพากษาฎกี า ที่ ๔๐๓/๒๔๙๗) ¶ŒÒ©´Ø 仨ҡ·äÕè ´Œก็เปน ความผดิ สาํ เรจ็ (คาํ พิพากษาฎกี าท่ี ๔๐๓/๒๔๙๗) คาํ ¾¾Ô Ò¡ÉÒ®¡Õ Ò·èÕ ùõõù/òõôó จาํ เลยทง้ั สองใชมีดปลายแหลมเปน อาวธุ จ้ี ขบู งั คบั ผเู สยี หายนงั่ รถจกั รยานยนตไ ปจากบรเิ วณทจ่ี าํ เลยทงั้ สองพบผเู สยี หายครงั้ แรกไปจนถงึ กระทอ มนา ท่ีจําเลยทั้งสองกับพวกรวมกันผลัดเปล่ียนกันขมขืนกระทําชําเราผูเสียหาย โดยพวกจําเลยยืนคุมอยู การกระทําชําเราในลักษณะเชนน้ี จําเลยทั้งสองกับพวกกระทําในลักษณะติดตอกันและอยูคุมให พวกของตนขมขืนกระทําชําเราผูเสียหายจนสําเร็จความใครเปนการสมคบกันกระทําผิดอันมีลักษณะ เปนการโทรมหญิงและเปนความผดิ ฐาน¾ÒËÞÔ§ä»à¾Íè× ¡ÒÃ͹ҨÒÃâ´Â㪌กาํ Å§Ñ »ÃзØÉÃÒŒ  ๒. การพาไปเพ่อื การอนาจาร໹š ¤ÇÒÁ¼´Ô μ‹Íà¹×Íè § ขอน้ี ·‹Ò¹ÈÒÊμÃÒ¨ÒèÔμμÔ μÔ§ÈÀÑ·Ô อธิบายวา ถาฉุดไปจากท่ีไดก็เปน ความผดิ สาํ เรจ็ แมฉ ดุ ไปไดเ พยี ง ๑ ถงึ ๒ วา และยงั คง໹š ¡ÒáÃÐทาํ ¤ÇÒÁ¼´Ô ÍÂμ‹Ù ÅÍ´àÇÅÒ·¾Õè Òä»โดยใช กําลังประทุษรายหรือหลอกลวง ไมใชผิดเฉพาะเมื่อพาเคลื่อนที่ (คําพิพากษาฎีกาท่ี ๑๒๓๕/๒๕๐๙, ๔๕๐๒/๒๕๒๘) เพราะการพาไปกเ็ ปน การกระทาํ อนั เปน องคค วามผดิ อยอู นั หนงึ่ «§Öè ÁÊÕ ÀÒ¾μ´Ô μÍ‹ ¡¹Ñ àÃè×ÍÂ仨¹¡Ç‹Ò¨ÐàÅÔ¡¾Òä» เชน ถึงท่ีพักแลวกักขังหญิงไวตอไป ความผิดฐานฉุดคราสิ้นสุดลง
๓๓๖ มคี วามผดิ ฐานกกั ขงั เกดิ ขน้ึ อกี กระทงหนงึ่ (คาํ พพิ ากษาฎกี าท่ี ๑๓๒๗/๒๔๙๕, ๕๑๒/๒๔๙๘) ถา ขม ขนื กระทําชําเราดวย ก็เปนความผิดอีกกระทงหน่ึง (คําพิพากษาฎีกาที่ ๒๒๒/๒๔๗๐, ๑๑๑๑/๒๕๑๙, ๑๕๑๘/๒๕๒๒) ÁÒμÃÒ òøõ ถา การกระทาํ ความผดิ ตามมาตรา ๒๗๖ มาตรา ๒๗๗ มาตรา ๒๗๗ ทวิ มาตรา ๒๗๗ ตรี มาตรา ๒๗๘ มาตรา ๒๗๙ มาตรา ๒๘๐ มาตรา ๒๘๒ หรอื มาตรา ๒๘๓ เปน การกระทาํ แกบุพการี ผูสืบสันดาน พี่นองรวมบิดามารดาหรือรวมแตบิดาหรือมารดา ญาติสืบสายโลหิต ศิษย ซง่ึ อยใู นความดแู ล ผอู ยใู นความควบคมุ ตามหนา ทร่ี าชการ ผอู ยใู นความปกครอง ในความพทิ กั ษห รอื ในความอนบุ าล หรอื ผอู ยภู ายใตอํานาจดว ยประการอ่ืนใด ผกู ระทําตองระวางโทษหนกั กวาทบ่ี ัญญัติ ไวใ นมาตรานน้ั ๆ หนึ่งในสาม ͸ԺÒ ๑. มาตรานเี้ ปน àËμ©Ø ¡Ãèท ท่ี าํ ใหผ กู ระทาํ ตอ งรบั โทษหนกั ขน้ึ ซง่ึ ผกู ระทาํ ตอ งรขู อ เทจ็ จรงิ นนั้ ตามมาตรา ๖๒ วรรคทาย คือตอ งรวู าเปน การกระทาํ แกบพุ การี ผูส บื สันดาน พีน่ อ งรวมบิดามารดา หรือรวมแตบิดาหรือมารดา ญาติสืบสายโลหิต ศิษยซ่ึงอยูในความดูแล ผูอยูในความควบคุมตาม หนาท่ีราชการ ผูอยูในความปกครอง ในความพิทักษหรือในความอนุบาล หรือผูอยูภายใตอํานาจ ดวยประการอื่น การไมรูขอเท็จจริงดังกลาวก็ไมตองรับโทษหนักข้ึนตามมาตรานี้ แตตองรับโทษตาม มาตรา ๒๗๖ มาตรา ๒๗๗ มาตรา ๒๗๗ ทวิ มาตรา ๒๗๗ ตรี มาตรา ๒๗๘ มาตรา ๒๗๙ มาตรา ๒๘๐ มาตรา ๒๘๒ หรอื มาตรา ๒๘๓ แลวแตก รณี ๒. ผถู กู กระทํากระทาํ ตามมาตราน้ี ไดแ ก (๑) º¾Ø ¡ÒÃÕ คือญาตทิ างสายโลหติ โดยตรงขน้ึ ไป เชน บิดามารดา ปูยา ตายาย ทวด (ò) ¼ŒÙÊº× Êѹ´Ò¹ ในทนี่ Ë้ี ÁÒ¶§Ö ¼ŒÊÙ º× Ê¹Ñ ´Ò¹ã¹·Ò§Êº× ÊÒÂâÅËμÔ â´Âá·¨Œ ÃÔ§ เพราะมาตราน้ี ไมไ ดม งุ ลงโทษหนกั ขนึ้ เฉพาะการกระทาํ แกบ ตุ รชอบดว ยกฎหมายเทา นน้ั จงึ ใชค าํ วา กระทาํ แกผ สู บื สนั ดาน ดงั นน้ั การทจี่ าํ เลยขม ขนื กระทาํ ชาํ เรา¼ÊŒÙ º× ÊÒÂâÅËμÔ โดยตรงลงมา áÁ¼Œ ¹ŒÙ ¹Ñé ¨ÐÁãÔ ª‹ ໹š ºμØ ÃªÍº´ÇŒ ¡®ËÁÒ¢ͧจาํ àÅ¡μç ÒÁ กถ็ อื ไดว า จาํ เลยไดก ระทาํ μÍ‹ ¼ÊŒÙ º× Ê¹Ñ ´Ò¹ ตามความหมาย ของมาตรา ๒๘๕ น้ีแลว (คาํ พพิ ากษาฎีกาที่ ๒๙๙๓/๒๕๓๐) ¢ŒÍÊѧà¡μ คดีน้ีผูเสียหายเปนบุตรของจําเลยซ่ึงเกิดแตภริยาจําเลยโดยไมไดจดทะเบียน สมรส แมจะมิใชบุตรโดยชอบดวยกฎหมายของจําเลย แตก็เปนผูสืบสายโลหิตโดยแทจริงของ จําเลย การท่ีจําเลยกระทําชําเราผูสืบสายโลหิตโดยแทจริงของตนจึงเปนการกระทําตอผูสืบสันดาน ตามมาตรา ๒๘๕ แตถาºÔ´ÒàÅÕé§ขมขืนกระทําชําเราºØμÃàÅéÕ§ (เชน บุตรเลี้ยงมีอายุ ๑๒ ป) มีความผดิ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๗ เทาน้นั กรณีไมต อ งดว ยมาตรา ๒๘๕ เพราะ
๓๓๗ อํานาจปกครองเด็กตกอยูแกมารดาตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชยมาตรา ๑๕๔๐ บุตรเล้ียง มไิ ดอ ยใู นความปกครองของบดิ าเล้ียง (คาํ พิพากษาฎกี าที่ ๓๒๘/๒๕๐๒) (ó) ¾¹Õè ŒÍ§ÃÇ‹ Áº´Ô ÒÁÒôÒËÃ×ÍÃÇ‹ Ááμ‹ºÔ´ÒËÃ×ÍÁÒÃ´Ò (ô) ÞÒμÔÊº× ÊÒÂâÅËÔμ (õ) ÈÉÔ Â« Öè§ÍÂÙã‹ ¹¤ÇÒÁ´ÙáÅ คาํ วา ÈÉÔ Â« §èÖ ÍÂã‹Ù ¹¤ÇÒÁ´áÙ Åตามมาตรา๒๘๕มไิ ดห มายถงึ เฉพาะผทู ม่ี คี วามสมั พนั ธ ในฐานะครูหรืออาจารย ซ่ึงÁÕ˹ŒÒ·èÕÊ͹ÈÔÉÂเทานั้น แตครูหรืออาจารยน้ันμŒÍ§ÁÕ˹ŒÒ·èդǺ¤ØÁ ´ÙáÅ»¡»‡Í§ÃÑ¡ÉÒμÑÇÈÔÉ áÅСÃÐทํา¤ÇÒÁ¼Ô´μÒÁ·èÕ¡®ËÁÒºÑÞÞÑμÔμ‹ÍÈÔÉÂã¹ÃÐËNjҧÁÕ˹ŒÒ·èÕ ´§Ñ ¡Å‹ÒÇ´ŒÇ (คาํ พิพากษาฎีกาที่ ๔๒๑/๒๕๔๖, ๗๙๘๖/๒๕๔๐) μÇÑ ÍÂÒ‹ § ¡Ã³Õ¡ÃÐทําμÍ‹ ÈÔÉ«èÖ§ÍÂã‹Ù ¹¤ÇÒÁ´áÙ Å จาํ เลยเปน ¤ÃÊ٠͹วชิ าพลศกึ ษาในโรงเรยี นซงึ่ ผเู สยี หายเปน นกั เรยี นอยู จาํ เลย กระทําอนาจารแกผูเสียหาย ¢³ÐจําàÅÂทํา˹ŒÒ·èÕÊͺ¤ÇÒÁÃÙŒÇÔªÒ¾ÅÈÖ¡ÉҢͧ¼ÙŒàÊÕÂËÒÂถือไดวา ผูเสียหายเปนศิษยซึ่งอยูในความดูแลของจําเลยตามความหมายของมาตรา ๒๘๕ (คําพิพากษาฎีกา ที่ ๑๗๕๙/๒๕๒๖) การท่ีจําเลยดํารงตําá˹‹§¼ÙŒª‹Ç¤ÃÙãËÞ‹ จําเลย‹ÍÁÁÕ˹ŒÒ·èÕ»¡¤Ãͧ´ÙáÅ ¼ÙŒàÊÕÂËÒ«è§Ö ໹š ÈÉÔ Âข องจําเลย เม่ือจําเลยพยายามกระทาํ ชําเราผูเสยี หาย จาํ เลยจึงมีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๐, ๒๗๗ วรรคสอง (เดิม), ๒๘๔ วรรคแรก, ๒๘๕ (คําพิพากษา ฎกี าที่ ๓๑๑๐/๒๕๕๑) ¢ŒÍ椄 à¡μ คดีนี้จําเลยเปนผชู ว ยครูใหญ แมจ ะไมไดสอนในชัน้ ที่ผูเสียหายเรยี น ศาลฎกี า กย็ งั เหน็ วา จาํ เลยมหี นา ทป่ี กครองดแู ลผเู สยี หายซงึ่ เปน ศษิ ยข องจาํ เลย เมอื่ จาํ เลยพยายามกระทาํ ชาํ เรา ผูเ สยี หาย จาํ เลยจึงมคี วามผิดตามมาตรา ๒๘๕ ดว ย ¡Ã³ÁÕ ãÔ ª‹à»¹š ¡ÒáÃÐทําμ‹ÍÈÉÔ Â« §Öè ÍÂã‹Ù ¹¤ÇÒÁ´áÙ Å จาํ เลยเปน เพยี งครหู รอื อาจารยใ นการสอนกวดวชิ าตามทมี่ ผี ไู ปสมคั รเรยี นตาม ความสมคั รใจ และเมอื่ ผสู มคั รเรยี นชาํ ระคา สมคั รแลว จะไปเรยี นหรอื ไมก ข็ น้ึ อยกู บั ความสนใจทจ่ี ะใฝห า ความรู อกี ทง้ั ไมไ ดค วามวา สถาบนั กวดวชิ าของจาํ เลยมรี ะเบยี บหรอื ขอ บงั คบั เครง ครดั อยา งใด ยอ มแสดง วา จําเลยäÁÁ‹ Õ˹Ҍ ·ÃÕè ºÑ ¼Ô´ªÍº¤Çº¤ÁØ ´ÙáÅ»¡»‡Í§ÃÑ¡ÉÒμÑÇÈÉÔ ÂμÅÍ´ÃÐÂÐàÇÅÒ·Õทè าํ ¡ÒÃÊ͹ ดังนนั้ แมจ าํ เลยจะขม ขนื กระทาํ ชาํ เราโจทกร ว มซงึ่ เปน ผเู รยี นกวดวชิ ากบั จาํ เลย กม็ ใิ ชเ ปน การกระทาํ ตอ ศษิ ย ซ่ึงอยูในความดแู ล (คาํ พพิ ากษาฎกี าที่ ๔๒๑/๒๕๔๖) (ö) ¼ŒÙÍÂãÙ‹ ¹¤ÇÒÁ¤Çº¤ØÁμÒÁ˹Ҍ ·ÕèÃÒª¡Òà หมายถึง ผูกระทําความผิดมีหนาท่ีควบคุมตามหนาท่ีราชการและผูถูกกระทํา ตอ งเปน ผอู ยใู นความควบคุมดว ย (คําพิพากษาฎีกาท่ี ๒๔๕๓/๒๕๑๕)
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 538
Pages: