พระผู้มีพระภาคข้างนอกพระนครทางทิศใต้ แต่พวกเทวดามี ความประสงค์ว่า •พวกเราจะสักการะ เคารพ นบนอบ บูชา พระสรีระของพระผู้มีพระภาคด้วยการฟ้อนรำ ขับร้อง ประโคมดนตรี ระเบียบดอกไม้ และของหอมอันเป็นทิพย์ จะ อัญเชิญ(พระสรีระ) ไปทางทิศเหนือของเมีอง แล้วอัญเชิญ เข้าส่เมีองทางประตูด้านทิศเหนือ อัญเชิญผ่านใจกลางเมีอง แล้วออกทางประตูด้านทิศตะวันออก เสร็จแล้วจึงถวายพระ เพลิงพระสรีระของพระผู้มีพระภาคที่มกุฏพันธนเจดีย์®ของ พวกเจ้ามัลละ ทางทิศตะวันออกของเมีอง\" พวกเจ้ามัลละตรัสว่า \"ขอให้เป็นไปตามความประสงค์ ของพวกเทวดาเถิดพระคุณเจ้า\" [๒๒๙] ก็ในเวลานั้น ทั่วกรุงกุลินารากระทั่งชอกเรีอน ท่อนํ้าทิ้งและกองขยะ ดารดาษไปด้วยดอกมณฑารพ อย่าง ตํ่าสูงถึงเข่าพวกเทวดาและพวกเจ้ามัลละพากันสักการะ เคารพ นบนอบ บูชาพระสรีระของพระผู้มีพระภาค ด้วยการฟ้อนรำ ขับร้อง ประโคมดนตรี ระเบียบดอกไม้และของหอมทิ้งที่เป็น ของทิพย์และที่เป็นของมนุษย์ อัญเชิญ(พระสรีระ)ไปทางทิศ เหนือของเมีองแล้วเข้าส่เมีองทางประตูด้านทิศเหนือ อัญเชิญ ผ่านใจกลางเมีองไปออกทางประตูด้านทิศตะวันออก เสร็จ แล้วจึงประดิษฐาน พระสรีระของพระผู้มีพระภาค ณ มกุฎ พันธนเจดีย์ของพวกเจ้ามัลละทางทิศตะวันออกของเมีอง ® มกฏพันธนเจดีย์ เป็นชื่อเรียกศาลามงคล^งเป็นสถานที่ประดับเครื่องทรง พระวรกายของพวกเจ้ามัลละในพระราชพิธีราชาภิเษก ที่เรียกว่า เจดีย์ เพราะ เป็นสถานที่ควรเคารพย่าเกรง (ที.ม.อ. ๒๒๘/๒๐๔,ที.ม.ฎีกา ๒๒๘/๒๓๒) [๑๓๗) \\เซาพระทุทธส์รีระ www.kalyanamitra.org
[๒๓๐] จากนั้น พวกเจ้ามัลละได้ตรัสถามท่านพระ อานนท์ด้งนี้ว่า \"พวกข้าพเจ้าจะพึงปฏิบัติต่อพระสรัระของ พระตถาคตอย่างไร พระคุณเจ้า\" ท่านพระอานนท์ถวายพระพรว่า \"มหาบพิตรพึงปฏิบัติ ต่อพระสรีระของพระตถาคต เหมึอนอย่างที่พวกเขาปฏิบัติ ต่อพระบรมศพของพระเจ้าจักรพรรดินั่นแหละ\" พวกเจ้ามัลละตรัสถามว่า \"พวกเขาปฏิบัติต่อพระบรม ศพของพระเจ้าจักรพรรดิอย่างไร พระคุณเจ้า\" ท่านพระอานนท์ถวายพระพรว่า \"พวกเขาไข้ผ้าใหม่ห่อ พระบรมศพของพระเจ้าจักรพรรดิเสร็จแล้ว จึงห่อด้วยสำลี บริสุทธ แล้วจึงห่อด้วยผ้าใหม่อีกชั้นหนึ่ง ท่าโดยวิธีนี้ จนห่อ ใช้รางเหล็กอีกอันหนึ่งครอบแล้วท่าจิตกาธานด้วยไม้หอมล้วน แล้วถวายพระเพลิงพระบรมศพพระเจ้าจักรพรรดิ สร้างพระ สถูปของพระเจ้าจักรพรรดิไว้ที่ทางใหญ่ลีแพร่ง พวกท่านพึง ปฏิบัติต่อพระสรีระของพระตถาคต เหมือนอย่างที่พวกเขา ปฏิบัติต่อพระบรมศพของพระเจ้าจักรพรรดิ พึงสร้างพระ สถูปของพระตถาคตไว้ที่ทางใหญ่ลีแพร่ง ชนเหล่าใดจักยก ระเบียบดอกไม้ ของหอม หรีอจุรณ จักถวายอภิวาท หรีอจัก ท่าจิตเลื่อมใสในพระสถูปนั้น การกระท่านั้นจักเป็นไปเพี่อ เกื้อกูล เพี่อสุขแก่ชนเหล่านั้นตลอดกาลนาน\" สำ ด้บนั้น พวกเจ้ามัลละผู้ครองกรุงกุลินารารับสังข้า ราชบริพารว่า \"ท่านทั้งหลาย ถ้าอย่างนั้น พวกท่านจงเตรียม [6)๓๘] www.kalyanamitra.org
สำ ลีบริสุทธไ^ห้พร้อม\" จากนั้นทรงใช้ผ้าใหม่ห่อพระ๙รีระ ของพระผู้มีพระภาค เสร็จแล้วจึงห่อด้วยสำลีบริสุทธิ แล้วจึง ห่อด้วยผ้าใหม่อีกชั้นหนึ่ง ทำ โดยวิธีด้งนี้ จนห่อพระสรีระ ของพระผู้มีพระภาคด้วยผ้าและสำลีได้ ๑,๐๐๐ ชัน แล้วอัญ เชิญพระสรีระลงในรางเหล็กเต็มด้วยนำมัน ใช้รางเหล็กอีก อันหนึ่งครอบแล้ว ทำ จิตกาธานด้วยไม้หอมล้วน แล้วอัญ เชิญพระสรีระของพระผู้มีพระภาคขึ้น^จิตกาธาน เรื่องพระมหากสสปเถระ® [๒๓๑] สมัยนั้น ท่านพระมหากัสสปะพร้อมด้วย ภิก!^สงฆ์หมู่ใหญ่ประมาณ ๕๐๐ รูป เดินทางไกลจากกรุง ปาวาไปยังกรุงฤสินารา ขณะที่ท่านพระมหากัสสปะ แวะลง ช้างทางนั่งที่โคนไม้ต้นหนึ่ง พอดีมีอาชีวกคนหนึ่งถือดอก มณฑารพจากกรุงกุสินารา เดินสวนทางจะไปกรุงปาวา ท่าน พระมหากัสสปะเห็นอาชีวกนั้นกำลังเดินมาแต่ไกล จึงถามว่า \"ท่านผู้มีอายุ ท่านรู้ข่าวพระศาสดาของพวกเราบ้างไหม\" เขาตอบว่า \"เรารู้ข่าว ท่านพระสมณโคดมปรินิพพานได้ ๗ วันเช้าวันนี้ เราถือดอกมณฑารพดอกนี้มาจากที่ปรินิพพาน นั้น\" บรรดาภิกชุเหล่านั้น ผู้ที่ยังมีราคะบางพวกประคองแขน ครํ่าครวญ ล้มกลิ้งเกลีอกไปมา เหมือนคนเท้าขาด เพ้อรำพัน ว่า \"พระผู้มีพระภาคด่วนปรินิพพาน พระสุคตด่วนปรินิพพาน เลีย จักษุของโลกด่วนอันตรธานไปแล้ว\"ส่วนภิกษุผู้ไม่มีราคะ ® ดูเทียบ วิ.จู.(แปล)๗/๔๓๗/๓๗๕ 1๑๓«1 เรื่องพระมหากัสสปIถระ www.kalyanamitra.org
มีสติสัมปชัญญะก็อดกลั้นได้ว่า \"สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง เหล่าสัตว์จะพึงหาได้อะไรจากที่ไหนในสังขารนี้\" [๒๓๒] สมัยนั้น มีภิกษุผู้บวชตอนแก่ชึ่อสุภัททะ นั่งอยูในที่ประชุมนั้นได้กล่าวกับภิกษุเหล่านั้นดังนี้ว่า\"อย่าเลย ท่านผู้มีอายุ อย่าเศร้าโศก อย่าครํ่าครวญเลย พวกเรา รอดพ้นแล้วจากมหาสมณะรูปนั้น ที่คอยจํ้าจี้จํ้าไชพวกเราอยู่ ว่า •สิงนี้ควรแก่พวกเธอ สิงนี้!ม่ควรแก่พวกเธอ' บัดนี้ เรา ปรารถนาสิงใด ก็จักท่าสิงนั้น พวกเราไม่ปรารถนาสิงใด ก็จัก ไม่ทำสิงนั้น\" ลำ ดับนั้น ท่านพระมหากัสสปะเรียกภิกษุทั้งหลายมา ดักเตือนว่า \"อย่าเลย ท่านผู้มีอายุ อย่าเศร้าโศก อย่า ครํ่าครวญเลย พระผู้มีพระภาคตรัสสอนไว้ก่อน อย่างนี้ว่า 'ความพลัดพราก ความทอดทิ้ง ความแปรเปลี่ยนเป็นอย่าง อื่นจากของรักของชอบใจทุกอย่างจะต้องมี ฉะนั้น จะพึงหา ได้อะไรจากที่ไหนในสังขารนี้ สิงที่เกิดขึ้น มีขึ้น ถูกปัจจัยปรุง แต่ง ล้วนแตกสลายเป็นธรรมดา เป็นไปไม่ได้ที่จะปรารถนาว่า 'ขอสิงนั้นอย่าเลี่อมสลายไปเลย\" การถวายพระเพลิงพระพุทธสรืระ [๒๓๓] สมัยนั้น ประมุขเจ้ามัลละ ๔ องค์ ทรง สนานพระเสืยรแล้วทรงพระภูษาใหม่ ด้วยตั้งพระทัยว่า \"พวกเราจะจุดไฟที่จิตกาธานของพระผู้มีพระภาค\" แต่ไม่อาจ จะจุดไฟให้ติดได้ [๑๙๐] www.kalyanamitra.org
ลำ ดับนั้น พวกเจ้ามัลละผู้ครองกรุงฤสินาราตรัสถาม ท่านพระอนุรุทธะว่า \"ท่านอนุรุทธะ อะไรหนอแลเป็นเหตุ อะไรเป็นปัจจัย ที่ท่าให้ประนุขเจ้ามัลละ ๔ องค์นี้ ผู้ทรง สนานพระเสืยรแล้วทรงพระภูษาใหม่ด้วยตั้งพระทัยว่า 'พวก เราจะจุดไฟที่จิตกาธานของพระผู้มีพระภาค' แต่ไม่อาจจะจุด ไฟให้ติดได้เล่า\" ท่านพระอนุรุทธะถวายพระพรว่า \"วาเสฎฐะทั้งหลาย พวกเทวดามีความประสงค์อีกอย่างหนึ่ง\" พวกเจ้ามัลละตรัสถามว่า \"พวกเทวดามีความประสงค์ อย่างไร พระคุณเจ้า\" ท่านพระอนุรุทธะถวายพระพรว่า \"พวกเทวดามีความ ประสงค์ว่า 'ท่านพระมหากัสสปะพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์หมู่ ใหญ่ประมาณ ๕๐๐ รูป เดินทางไกลจากกรุงปาวามายังกรุง คุสินารา จิตกาธานของพระผู้มีพระภาคจะยังไม่ลุกโพลง ตราบเท่าที่ท่านพระมหากัสสปะยังไม่ได้ถวายอภิวาทพระ ยุคลบาทของพระผู้มีพระภาคด้วยเสืยรเกล้า\" พวกเจ้ามัลละตรัสว่า \"ขอให้เป็นไปตามความประสงค์ ของพวกเทวดาเถิดพระคุณเจ้า\" [๒๓๔] ต่อมา ท่านพระมหากัสสปะเข้าไปยังมกุฎ พันธนเจดีย์ของพวกเจ้ามัลละในกรุงกุสินารา ถึงจิตกาธาน ของพระผู้มีพระภาค ห่มจีวรเฉวียงปาประนมมีอกระท่า ประทักษิณจิตกาธาน ๓ รอบเปิดผ้าคลุมทางพระบาท ถวาย อภิวาทพระยุคลบาท ของพระผู้มีพระภาคด้วยเดียรเกล้า แม้ภิกษุ ๕๐๐ รูปเหล่านั้นก็ห่มจีวรเฉวียงปา ประนมมีอ |®๔®] การถวายพระเพลงพระทุทธสรีระ www.kalyanamitra.org
ทำ ประทักษิณจิตกาธาน ๓ รอบ ถวายอภิวาทพระยุคลบาท ของพระผู้มีพระภาคด้วยเสียรเกล้า เมื่อท่านพระมหากัสสปะ และภิกชุ- ๕๐๐ รูป ถวายอภิวาทเสร็จ จิตกาธานของพระผู้มี พระภาคได้ติดไฟลุกโพลงขึ้นเอง [๒๓๕] เมื่อพระเพลิงไหม้พระสรีระของพระผู้มี พระภาค พระอวัยวะ คือ พระฉวี (ผิวนอก) พระจัมมะ(หนัง) พระมังสา(เนื้อ) พระนหารู(เอ็น) หรีอพระลลิกา (ไขข้อหรีอ ไขกระดูก) ไม่ปรากฏเถ้า ไม่ปรากฏเขม่าเลย คงเหลืออยู่แต่ พระสรีระเท่านั้น เปรียบเหมือนเมื่อไฟไหม้เนยใสและนํ้ามัน ก็ไม่ปรากฏเถ้า ไม่ปรากฏเขม่า ฉันใด เมื่อพระเพลิงไหม้พระ สรีระของพระผู้มืพระภาค พระอวัยวะ คือ พระฉวี พระจัมมะ พระม้งสา พระนหารู หรีอพระลลิกา ไม่ปรากฏเถ้า ไม่ปรากฏ เขม่า คงเหลืออยู่แต่พระสรีระ®เท่านั้น ฉันนั้นเหมือนกัน และ บรรดาผ้า ๕๐๐ คู่นั้น มืเพียง ๒ ผืนเท่านั้นที่ถูกไฟไหม้ คือ ผืนในสุดกับผืนนอกสุด ก็เมื่อพระเพลิงไหม้พระสรีระของ พระผู้มืพระภาคแล้วแล ท่อนํ้าไหลหลั่งมาจากอากาศดับ จิตกาธานของพระผ้มืพระภาค นํ้าพ่งขึ้นจากไม้สาละดับ จิตกาธานของพระผ้มืพระภาค พวกเจ้ามัลละผู้ครอง กรุงกุลินาราดับจิตกาธานของพระผู้มืพระภาคด้วยนั้าหอม ล้วนๆ ต่อจากนั้น เจ้ามัลละ ผู้ครองกรุงกุลินาราได้จัดกำลัง พลหอกไว้รอบสัณฐาคารล้อมด้วยกำแพงธนู'\" (ป้องกัน ® พระส์เระในที่นี้หมายถึงพระบรมสารีริกธาตุของพระทุทธเจ้า(ที.ม.อ. ๒๓๕/ ๒๑๒) ^ ในการอารักขาพระบรมสารีริกธาตุ^งประดิษฐานบนสัณฐาคารแน พวกเจ้า มัลละได้ทรงจ้ดวางกำลัง อารักขาไว้เป็นชั้นๆ โดยรอบ ด้งนี้ [๑(£๒] www.kalyanamitra.org
พระบรมสารีริกธาตุของพระผู้มีพระภาค)แล้วสักการะ เคารพ นบนอบ บูชาพระสรีระของพระผู้มีพระภาคด้วยการฟ้อนรำ ขับร้อง ประโคมดนตรี ระเบียบดอกไม้และของหอมตลอด ๗ วัน แจกพระบรมสารึริกธาตุของพระพทธเจ้า [๒๓๖] พระราชาแห่งแคว้นมคธพระนามว่าอชาต ด้ตรู เวเทหิบุตร ได้ทรงสดับว่า \"พระผู้มีพระภาคปรินิพพาน ไนกรุงกุสินารา\" จึงทรงส่งทูตไปถึงพวกเจ้าม้ลละผู้ครองกรุง กุสินาราว่า \"พระผู้มีพระภาคทรงเป็นกษัตริย์ แม้เราก็เป็น กษัตริย์ จึงควรจะได้ริบส่วนแปงพระบรมสารีริกธาตุบ้าง จะ ได้สร้างพระสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและทำการฉลอง\" พวกเจ้าลิจฉวีผู้ครองกรุงเวสาลี ได้ทรงสดับว่า \"พระผู้ มีพระภาคปรินิพพานในกรุงทุสินารา\" จึงทรงส่งทูตไปถึงพวก ๒ (ต่อ) ๑.ทรงจัดวางกำลังพลหอกที่เรียกว่า ลัตติบัญชรไว้รอบลัณฐานคารซึ่ง จัดเป็นกองกำลังรอบในสุด ๒.ทรงจัดวางกำแพงธ^ที่เรียกว่า ธา^ปราการถัดออกมาจากกำลังพลหอก ธนูปราการ(กำแพงธนู)ประกอบด้วย ๒.® พลช้าง (ให้ยืนแถวชิดถันจนกระพองจดกระพอง) ๒.๒ พลม้า (ให้ยืนแถวชิดกันจนคอจดคอ) ๒.๓ พลรถ (ให้จอดแถวชิดกันจนดุมจดตุม) ๒.๔ พลราบ (ให้ยืนแถวชิดถันจนแขนจดแขน) ๒.๕ พลธนู (ให้ยืนแถวถือธนูขัดถันและถัน) ซึ่งจัดเป็นกองกำลัง อารักขารอบนอกสุด (ที.ม.อ. ๒๓๕/๒๑๔,ที.ม.ฎีกา ๒๓๕/๒๓๕) [๑๔๓) แจกพระบรมสารรกธาตุของพระทุทธพ้า www.kalyanamitra.org
เจ้ามัลละผู้ครองกรุงกุสินาราว่า \"พระผู้มีพระภาคทรงเป็น กษัตริย์ แม้พวกเราก็เป็นกษัตริย์ จึงควรจะได้รับส่วนแบ่ง พระบรมสารีริกธาตุบ้าง จะได้สร้างพระสถูบ่บรรจุพระบรม สารีริกธาตุและทำการฉลอง\" พวกเจ้าศากยะชาวกบิลพัสดุ ได้ทรงสดับว่า \"พระผู้ พระภาคปรินิพพานในกรุงกุสินารา\" จึงทรงส่งทูตไบ่ถึงพวก เจ้ามัลละผู้ครองกรุงกุสินาราว่า \"พระผู้มีพระภาคทรงเป็น พระญาติผู้บ่ระเสริฐที่สุดของพวกเรา พวกเราควรจะได้รับ ส่วนแบ่งพระบรมสารีริกธาตุบ้าง จะได้สร้างพระสถูบ่บรรจุ พระบรมสารีริกธาตุและทำการฉลอง\" พวกเจ้าถูลีผู้ครองกรุงอัลลกับ่บ่ะ ได้ทรงสดับว่า \"พระ ผู้มีพระภาคบ่รินิพพาน ในกรุงกุสินารา\" จึงทรงส่งทูตไบ่ถึง พวกเจ้ามัลละผู้ครองกรุงกุสินาราว่า \"พระผู้มีพระภาคทรง เป็นกษัตริย์ แม้พวกเราก็เป็นกษัตริย์ จึงควรจะได้รับส่วน แบ่งพระบรมสารีริกธาตุบ้าง จะได้สร้างพระสถูบ่บรรจุพระ บรมสารีริกธาตุและทำการฉลอง\" พวกเจ้าโกลิยะผู้ครองกรุงรามคาม ได้ทรงสดับว่า \"พระผู้มีพระภาคบ่รินิพพาน ในกรุงกุลินารา\" จึงทรงส่งทูต ไบ่ถึงพวกเจ้ามัลละผู้ครองกรุงกุลินาราว่า \"พระผู้มีพระภาค ทรงเป็นกษัตริย์ แม้พวกเราก็เป็นกษัตริย์ จึงควรจะได้รับ ส่วนแบ่งพระบรมสารีริกธาตุบ้าง จะได้สร้างพระสถูบ่บรรจุ พระบรมสารีริกธาตุและทำการฉลอง\" พราหมณ์ผู้ครองกรุงเวฏฐทีบ่กะ ได้สดับว่า \"พระผู้มี พระภาคบ่รินิพพานในกรุงกุลินารา\" จึงส่งทูตไบ่ถึงพวกเจ้า มัลละผู้ครองกรุงกุลินาราว่า \"แม้พระผู้มีพระภาคทรงเป็น www.kalyanamitra.org
กษัตริย์ เราเป็นพราหมณ์ เราก็ควรจะได้รับส่วนแบ่งพระ บรมสารีริกธาตุบ้าง จะได้สร้างพระสถูบ่บรรจุพระบรมสาริริก ธาตุและทำการฉลอง\" พวกเจ้ามัลละผู้ครองกรุงบ่าวา ได้ทรงสดับว่า พระผู้มี พระภาคบ่รินิพพาน ในกรุงกุสินารา จึงทรงส่งพูตไบ่ถึงพวก เจ้ามัลละผู้ครองกรุงกุสินาราว่า \"แมัพระผู้มีพระภาคเป็น กษัตริย์ แม้พวกเราก็เป็นกษัตริย์ จึงควรจะได้รับส่วนแบ่ง พระบรมสารีริกธาตุบ้าง จะได้สร้างพระสถูบ่บรรจุพระบรม สารีริกธาตุและทำการฉลอง\" เมื่อทูตจากเมืองต่างๆ กราบทูลอย่างนี้ พวกเจ้ามัลละ ผู้ครองกรุงกุสินาราได้ตรัสตอบกับหมู่คณะทูตเหล่านั้นด้งนี้ว่า \"พระผู้มืพระภาคบ่รินิพพานในเขตบ้านเมืองของเรา พวกเรา จะไม่ให้ส่วนแบ่งพระบรมสารีริกธาตุ\" [๒๓๗] เมื่อพวกเจ้ามัลละผู้ครองกรุงกุสินาราได้ ตรัสอย่างนี้ โทณพราหมณ์ ได้กล่าวกับหมู่คณะทูตเหล่านัน ด้งนี้ว่า \"ท่านผู้เจริญทั้งหลาย โบ่รดฟังคำชี้แจงของฃ้าพเจ้าหน่อยหนึ่งเถิด พระพุทธเจ้าของพวกเราทรงถือหลักขันติธรรม ไม่ควรที่จะประหัตบ่ระหารกัน เพราะส่วนแบ่งพระบรมสารีริกธาตุ ของพระพุทธเจ้าผู้เป็นอุดมบุคคล (๑๔๕] แจกพระบรมสารริกธาตุชองพระทุทธพ้า www.kalyanamitra.org
ขอให้ทุกฝ่ายพร้อมใจกัน แบ่งพระบรมสารีริกธาตุออกเป็น ๘ ส่วน พระสถูบ่จะได้แพร่กระจายไบ่ยังทิศต่างๆ มีบ่ระชาชนจำนวนมาก ผู้เลึ่อมใสในพระทุทธเจ้าผู้มีพระจักทุ'\" [๒๓๘] หผู่คณะทุตเหล่านั้นตอบว่า \"ท่านพราหมณ์ ถ้าเล่นนั้น ท่านนั่นแหละจงแบ่งพระบรมสารีริกธาตุออกเป็น ๘ ส่วนเท่าๆ กันให้เรียบร้อย\" โทณพราหมณ์รับคำแล้ว แบ่งพระบรมสารีริกธาตุออก เป็น ๘ ส่วนเท่าๆ กันให้เรียบร้อยแล้ว จึงได้กล่าวกับหยู่ คณะทูตเหล่านั้นด้งนี้ว่า \"ท่านผู้เจริญทั้งหลาย โปรดให้ ทะนานนี้แก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะสร้างพระสถูปบรรจุ ทะนาน(ตุมพะ)และทำการฉลอง\" พวกเขาจึงได้มอบทะนานให้โทณพราหมณ์ พวกเจ้าโมริยะผู้ครองกรุงปีปผลิวันได้ทรงสดับว่า \"พระผู้มีพระภาคปรินิพพาน ในกรุงฤลินารา\" จึงทรงส่งทูต ไปถึงพวกเจ้ามัลละผู้ครองกรุงกุลินาราว่า \"พระผู้มีพระภาค ทรงเป็นกษัตริย์ แม้พวกเราก็เป็นกษัตริย์ จึงควรจะได้รับ ส่วนแปงพระบรมสารีริกธาตุบ้าง จะได้สร้างพระสถูปบรรจุ พระบรมสารีริกธาตุและทำการฉลอง\" พวกเจ้ามัลละผู้ครองกรุงๆลินาราตอบว่า \"(บ้ดนี้) ไม่มี ส่วนแปงพระบรมสารีริกธาตุ พระบรมสารีริกธาตุได้แบ'งกัน หมดแล้ว พวกท่านจงนำเอาพระอังคาร (เถ้า)ไปจากที่นี้เถิด\" พวกทูตเหล่านั้น จึงนำเอาพระอังคารไปจากที่นั้น [๑๔๖] www.kalyanamitra.org
บูชาพระบรมธาตุและสรางพระสถูป [๒๓๙] เวลานั้นพระราชาแห่งแคว้นมคธพระนามว่า อชาตสัตรู เวเทหิบุตร ทรงสร้างพระสถูปบรรจุพระบรมสารี- ริกธาตุและทำการฉลองในกรุงราชคฤห์ พวกเจ้าลิจฉวีผู้ ครองกรุงเวสาลี ทรงสร้างพระสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และทำการฉลองในกรุงเวสาลี พวกเจ้าศากยะชาวกบิลพัสดุ ทรงสร้างพระสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและทำการฉลอง ในกรุงกบิลพัสดุ พวกเจ้าถูลีผู้ครองกรุงอัลลกัปปะ ทรงสร้าง พระสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและทำการฉลองในกรุง อัลลกัปปะ พวกเจ้าโกลิยะผู้ครองกรุงรามคาม ทรงสร้างพระ สถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและทำการฉลองในกรุงรามคาม พราหมณ์ผู้ครองกรุงเวฎฐทีปกะ สร้างพระสถูปบรรจุ พระบรมสารีริกธาตุและทำการฉลองในกรุงเวฏฐทีปกะ พวก เจ้ามัลละผู้ครองกรุงปาวา ทรงสร้างพระสถูปบรรจุพระบรม สารีริกธาตุและทำการฉลองในกรุงปาวา พวกเจ้า มัลละผู้ ครองกรุงกุลินารา ทรงสร้างพระสถูปบรรจุพระบรมสารีริก ธาตุและทำการฉลองในกรุงทุลินารา แม้โทณพราหมณ์ก็สร้าง พระสถูปบรรจุทะนานและทำการฉลอง พวกเจ้าโมริยะผู้ ครองกรุงปิปผลิว้น ทรงสร้างพระสถูปบรรจุพระอังคารและ ทำ การฉลองในกรุงปีปผลิวัน รวมเป็นพระสถูปที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ๘ แห่ง พระสถูปที่บรรจุทะนานเป็นแห่งที่ ๙ และพระสถูปทีบรรจุ พระอังคารเป็นแห่งที่ ๑๐ การแปงพระบรมสารีริกธาตุและ การสร้างพระสถูปเคยมีมาแล้วอย่างนี้ (๑๕๗! ผูชาvnะไทมธาตุและศร้างพระสถูป www.kalyanamitra.org
[๒๔๐] พระบรมสารีริกธาตุของพระผู้มีพระจักษุ 4งเป็นบุคคลประเสริฐสุดมี ๘ ทะนาน ประชาชนบูชากันอยู่ในชมพูทวีป ๗ ทะนาน พระราชาเผ่านาคบูชาอยู่ในรามคาม ๑ ทะนาน เทพชั้นดาวดึงส์บูชาพระเขี้ยวแก้วองค์หนึ่ง ส่วนพระเขี้ยวแก้วอีกองค์หนึ่งบูชากันอยู่ในคันธารบุรี อีกองค์หนึ่ง บูชากันอยู่ในแคว้นของพระเจ้ากาลิงคะ อีกองค์หนึ่ง พระราชาเผ่านาคบูชาอยู่ ด้วยพระเดชแห่งพระบรมสารีริกธาตุนั้น แผ่นดินใหญ่นี้ประดับด้วยนักพรตผู้ประเสริฐ พระบรมสารีริกธาตุของพระผู้มีพระจักษุนี้ ชื่อว่าอันสาธุชนสักการะกันดีแล้ว พระพุทธเจ้าพระองค์ใด อันจอมเทพ จอมนาค และจอมคนบูชาแล้ว อันจอมมนุษย์ผู้ประเสริฐสุดบูชาแล้วเหมีอนกัน ท่านทั้งหลายจงประนมมีอไหว้พระบรมสารีริกธาตุ องค์นั้นๆ พระพุทธเจ้าทั้งหลายเป็นบุคคลหาได้ยาก โดยใช้เวลาถึง ๑๐๐ กัป พระทนต์ ๔๐ องค์ พระเกศา และพระโลมาทั้งหมด เหล่าเทพนำไปองค์ละองค์(บูชา)สิบๆกันไปในจักรวาล มหาปรินิพพานสูตรที่ ต จบ (90โ๘] www.kalyanamitra.org
พระภาวนาวิริยคุณ (เผด็จ ทตุตดูโว) ปัจจุบันดำรงสมณกิจ รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย รองประธานผูลนิธิธรรมกาย และ President of Dhammakaya International Meditation Center (U.S.A.) เกิดเมื่อวันที่ ๒๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๘๓ สำ เร็จการสืกษาปริญญาตรี คณะกสิกรรมและ สัตวบาล มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน และ Diploma of Dairy Technology Hawkesbury College, Australia อุปสมบทเมื่อวันที่ ๑๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๔ ณ พัทธสีมาวัดปากนํ้า ภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร www.kalyanamitra.org
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 513
Pages: