www.kalyanamitra.org
It rCM\" ธรรพส่ารเผฝin ฟฬ (ท พรร:มหาโพธิวงศาจารย (ทองด) ๙ www.kalyanamitra.org
ธรรพส่ารเMฝพา เส่พ ฅ โดย : พรร!มหาโพธวงศาจารย (ทองค) ISBN 978-616-455-419-1 พิมพ์ครั้งท ๑ กุมภาพันธ ๒๕๖๑ จำ นวน ๕,๕00 เลม จั'คพิมพ์โดย วัคราชโอรสาราม ราชวรวิหาร พิมพ์ท แชวงบางก้อ เฃคจอมทอง กรุงเทพมหานกร ๑0๑๕0 โทร. 0-๒๕๑๕-๓๓๒ฟ่ : บริษัท รุ่งวิลฟ้การพิมพ์(๑ ๗)จำ วัค โทร. 0-๒๑๑๗-๓๕๕๕ www.kalyanamitra.org
www.kalyanamitra.org
www.kalyanamitra.org
ปรร!วัติ พรร!มหาโพธิวงสาจารย ฟ้ถานฟ้จจุบัน พรรมหาโพธิวงอาจารย์ ฉายา สุรเฅโซ อายุ ๗๒ พรรษา ๕® เอ้าอาวา{(วัคราชโอรสาราม แขวงบางก้อ เขตจอมทอง กรง เทพมหานกร สถานร;เดิม ซอ ทองค นามศกุล สุรเคช เกิคพฤห้ฟ้บคั๋ท ๑๕ กุมภาพันธ ป็จอ พ.ศ. ๒๕๘๙ ทอำ เภอพรานกระต่าย จังหวัค กำ แพงเพชร บรรพชา วันท ๑๓ พฤษภากม พ-ศ. ๒๕0๓ ปีซวค ณ วัคไฅรภูมิ อำ เภอพรานกระต่าย จังหวัคกำแพงเพชร อุปสมบท วันท ๒๘. มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๑0 มิมะแม ณ วัคไฅรภูมิ อำ เภอพรานกระต่าย จังหวัคกำแพงเพชร วิทยฐาน^ ทางธรรม ประโยก ป.ธ.๙ฟ้านกเรยนวัคปากนํ้า ภาษเ'จริญ พ.ศ. ๒๕๑๕ ทางโลก ประโยกวิชาครูพิเศษมัธยม (พ.ม.) พ.ศ. ๒๕๑๘ ตำ แหน่งหน้าทในอดิต เมินเลขานการเจ้าคณะอำ เภอพรานกระต่าย 1 3^ เมินเลขานุการเจ้าคณะเขตบางฃุนเทยน -(^๕^๙^- www.kalyanamitra.org
* เป็นอา'จารยส์อนวิชาแฅ่งฉันทภาษามกธซั้นปร::โยก ป.ธ. ๘โรงเรยน พระปริยัติธรรมส่วนกลางฃองกณะศงฉั >k เป็นผู้ซ่วยเ'จ้าอาวาศวิ'คราซโอรศาราม ^ เป็นเจ้ากณะแซวงบางก้อ ^ เป็นรองประธานกรรมการตรวจสอบก้นฉบับพระไตรปิฎก ฉบับ ยังกายนา ภาษาไทยและภาษาบาล * เป็นประธานกณะอนกรรมการพิจารณาและคำ เนินการจัคตั้งส์าฉัก ทุบผาสวรรกเป็นสถานสืกษาทางพระพุทธกาสนา * เป็นรองประธานกรรมการตรวจส์านวนการแปลพระไตรปิฎก ฉบับ มหาจุฬ'าลงกรณราชวิทยายัย เป็นกรรมการผู้ทรงกณวุฒิในกณะกรรมการการสืกษาฃองคณะสงฆ เป็นกรรมการจ'คทำแผนพัฒนาก้านศาสนา กรมการศาสนา ^ เป็นประธานกรรมการจัคทำก้นฉบับพระไตรปิฎก ฉบับภาษาไทย เป็นกรรมการตรวจก้นฉบับและจัคพิมพัพระไตรปิฎกฉบับภาษาบาล และฉบับภาษาไทย เป็นเจ้ากณะภาก ๑■๖ y^ เป็นกรรมการมหาเถรสมากม ตำ แหน่งหน้าทในปีจจุบัน yk เป็นเจ้าอาวาสวิ'คราชโอรสาราม yk เป็นเจ้าส่านกเริยนวิฅราชโอรสาราม yk เป็นราชบัณฑิต สาขาวิชาตันติภาษา ส่าบักติลปกรรม ราชบัณฑิตยสภา yk เป็นอาจารยัสอนวิชาแต่งไทยเป็นมกธ ขั้นประโยก ป.ธ. ๙โรงเริยน พระปริยัติธรรมส่วนกลางชองกณะสงฆ yk เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิสภามหาวิทยายัย มหาจุฬ'าลงกรณ ราชวิทยายัย www.kalyanamitra.org
^ เป็นหัวหน้าพร::ธรรมทูคศายท ๘ เป็นรองประธานโกรงการป็ใาอบรมพร^นกเทศน้ส่วนกลาง เป็นน้อำนวยการแกอบรมพร::นักเทศน้!นหนกลาง เป็นยูอุปนัมกศฑ้งวัคในปร^เทศเยอรมนคือ วัคพุทธวิหารนครเบอรลิน วัคธรรมวิหาร เมืองหันโนเวอร แล^ วัคสิ'งฆวิหาร เมืองลตุคการค เป็นผู้ธุปสิมภศฑ้งวัคในลาธารณฬัเซก คือ วัคธรรมกิคฅิวงคื กรุงปราก ผลงานด้านวิชาการ หนังสิอและตำราทไค้เฃั๋ยน แปล และรวบรวมไว้มืหลายประเกท เฉพาะทไคจัคพิมพออกเผยแพร่แล้วมืหังน ปรรเภทธรรม-ธรรมปรรยุกต์ ๑. พระในบ้าน ๒. หน้าทฃองกน ๓. กำ พ่อกำแม่ พุทธธรรม ๕ นาท ๕. ๑ นาทเพอซวิฅ \\ว. ไขข้อข้องใร ๗. ธรรมสารหัศน้ ๘. ธรรมสารทปน ๘. คืล ๕ รกษาโลก ๑๑. หันเหลอเชอ เล่ม ๑-๓ และฉนับรวมเล่ม ประเภทวิชาการ-คู่มือ ๑. หสิกการแต่งนันทกาษามคธ ป.ธ.๘ ๒. คู่มือแต่งไทยเป็นมคธ ป-ธ.๙ 0ไ www.kalyanamitra.org
ร--^^^ ถก. คู่มือการสืกษาบาล เล่ม ๑-<1 d. คลังธรรม เล่ม ๑-ถก ๕. แนวปฏิบัติคาสนพิธ ^5. ซาคกในธรรมบท ๓). ฃุมปีญญา'จากซาคก ๘. การเรยนรู้พระพุทธพ'จน ๙ พระวินัยบัญญัติ ประเภทเทศนา ๑. ธรรมสารเทศนา เล่ม ๑-๓ ๒. กิร ลังไค้สลับมา เล่ม ๑-ถก, และฉบับรวมเล่ม ถก. เทคน : การเผยแผ่ทส์าลัญลักติสิทธ ๕. หลักและวิธการเทคน ๕. การฅความพุทธคาสนสุภาบิต ภาษาไทย ภาษาเทคนั ๓). อุปมาสาธกไนเทคนา ๘. วิธเทคนา ประ๓ททั่วไป ๑. นิราค'จอมทอง ๒. ข้อติค ข้อเขยน ถก. สมณลักทั่ ยคข้าง ขุนนางพระ ๕. ภาบิฅนิทัคนั ๕. ธรรมบทซวิฅ ประกายกวามคิค www.kalyanamitra.org
ประะเภทพจนานุกรม ๑. ภาษาธรรม ๒. กำ วัค เล่ม ๑-๕ และ:ฉบับรวมเล่ม ๓. ศพทวิเคราะ:ห <1. ภาษาซาวบ้าน ๕. พจนานุภรม ไทย-บาล ประ:เภทหนงสือแปล ๑. คนกินคน (มหาสุฅโศมซาคภ) ๒. บัวใจอมฅ^ (วิธุรซาคก) รายจ่ายในการบริหารวัคราชโอรฟ้าราม และ:อุปถมภ์บำรุงทอนๆ บับฅั้งแฅ่กำรงแหน่งเจ้าอาวาศวัคราซโอรลารามมาในปี พ.ศ.๒๕๒๕ จนถงปี พ.ศ.๒๕^0ไค้บูรณปฏิร'งฃรณและ:ก่อลร้างถาวรวัฅถ ศาลนลถาน ค่างๆ และกิจกรรมทส์ากญในพระ:อาราม ทั้งไค้อุปบัมภบำรุงลถานทอนๆ ม ยอครายจ่ายรวมทั้งทั้นฅามล่วนงาน คังน ๑. งานศาลนสืกษา ๒\\ว,๙๙๑,'๖๕๙ บาท (ล่งเลริมการศาลนกํภษา) ๒. งานเฆยแม่ (ในค่างประ:เทศ) ๑๒๙,๖๒๕,000 บาท ๓. งานลาธารพูปการ ๓๑๘,๕๒๓,๖๒๓ บาท (ก่อลร้างและบูรณะ:) ๕. งานลาธารณลงเกราะหและอุปถัมภ ๒๘,๒๕,๕๖Vj บาท ๕. งานกํกษาลงเคราะห ๓๙,๘๙๑,๕๘๙ บาท รวมเ!เนเงินทั้งสิน ๕๕๓,๕๙๕,๓๑๘ บาท ^5๙^y. www.kalyanamitra.org
รางวลแลร๓ยรติคุณทได้รับ พ.ศ. ka^mo ไ^บพระราชทานรางวัลเสาเศมาธรรมจกร ในฐานะยู้ท็า คุณประโยซนต่อพระพุทธศาศนา ประเภทส่งเสริมการสืกษา พระพุทธศาสนา สาขาการแต่งหนังสือทางพระพุทธศาสนา พ.ศ. ๒๕๕0 ไครับปริญญาพุทธศาสตรคษฎบัณฑิตกิตติมวักค สาขาวิชา ภาษาบาล จากมหาวิทยาวัยมหา'รุฬ'าลงกรณราชวิทยาลัย พ.ศ. ๒๕๕๒ ไค้รบฑงวัลฑงวัล\"พุทธคุณูปการ\"ระวับ\"วัซรเกยรติคุณ\"วัคโตย กณะอนุกรรมาธิการกิจการพระพุทธศาสนา ไนนามกณะ กรรมาธิการการศาสนา ติลปะ และวัณนธรรม สภายู้แทนฑษฎร พ.ศ. ๒๕๕๓) ไค้รับรางวัล \"ผู้นำพุทธโลก\"วัคโคยส์านักงานพระพุทธศาสนา แห่งชาติร่วมวับองคการยุวพุทธศาสนิกวัมพันธแห่งโลก พ.ศ. ๒๕๕๓) ไค้รับรางวัล \"บัวทิพย ๒๕๕๗\" จากกองทุน ๑00 นั พระพุทธวรญาณ (กิตติ กิตติทินนมหาเถระ) วังหวัคลพบุรั๋ สมณวักคิ้ พ.ศ. ๒๕๑๙ เป็นพระราชาคณะชั้นสามญ ท พระศรวิสุทธิวงสื พ.ศ.๒๕๒๕ เป็นพระราชาคณะชั้นราช ท พระราชวิสุทธิโมสื พ.ศ. ๒๕๓๑ เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ท พระเทพปริวัติโมสื พ.ศ. ๒๕๓๕ เป็นพระราชาคณะชั้นธรรมท พระธรรมกิตติวงส่ พ.ศ.๒๕๕๓) เป็นพระราชาคณะ เจ้าคณะรอง ชั้นหิรัญบัฎ ท พระมหาโพธิวงศาจารย >ร-^^^ ♦ www.kalyanamitra.org
คำ นำ :>Q^ การเทศนาถือว่ามความส์าคัญอย่างยั๋งในงานพิธฅ่างๆ เป็นทฅั้ง แห่งศรัทธา เป็นบ่อเกิคปีญญา แลร:เป็นการเผยแผ่พระพุทธศาศนาทส์ากัญ ทศุค ซงศมเคี่อพระกัมมากัมพุทธเอ้าทรงปฏิบัติกัวยพระองกเองในการประกาศ พระศาศนาฅลอคพระซนมายุ ทำ ให้พระพุทธศาศนากระ'จายกัวไค้รวคเร็่วและ ธำ รงมั่นคงมาไค้ฅราบเท่าทุกวนน การรักษาเทศนาไว่โคยปฏิบัติคามรูปแบบท พระพุทธองกัทรงแนะนำไว้ และคามทพระโบราณา'จารย่ยู้เป็นปูชนยบุคคล ไค้สานต่อ โคยสร้างรูปแบบไห้ปฏิบัติเป็นกัวอย่างสืบมานั้น เป็นเรองใหญ่และ ส์ากัญทสุค กังนั้น พงไคจัคพิมพบทเทศนํเหล่านั้!ว้เพอเป็นแบบอย่างส่วนหนง ส์าหรับนำไปเป็นแบบอย่างโคยผสมผสานกับแบบอย่างของพระเถระทงไนอดฅ และปิพพุบันเพอไห้เกิคความสมบูรณมากขน หนงสือ \"ธรรมสารเทศนา\" เล่มนั้เป็นเส่มท ๓ เป็นทรวบรวมบท เทศนาทบันทกเก็่บไว้คั้งแต่ป็ พ.ศ. ๒๕๕๘ แต่มพำนวนไม่มาก พํงไค้นำ เทศนาเก่าชงเป็นเทศนาเกยวกับงานพระราซพิธ ชงไค้พิมพเผยแพรไปแล้ว ไนธรรมสารเทศนา เล่มท ๑ และเล่มท ๒ มารวมไว้ค้วย กังนั้น ไนหนังสือนั้ พึงมทั้งบทเทศนาทั้งเก่าและใหม่รวมกันไค้ ๕๘ กัณท โคยแยกเป็นเทศนา ไนงานหลวง ๓๑ กัณฑ เทศนาไนงานทั่วไป ๑V? กัณฑ www.kalyanamitra.org
และในหน้าทว่างเมอ'ๆบกัณฑแฅ่ละกัณฑ ไค้นำกฅิธรรมบางบท 'จากหนังสือ \"ราชนํฅิ-ธรรมนํคิ\" ท ราชนัณฑิฅสภา จัคพิม'พเผยแพร่ เมอ fi พ.ศ. ๒๕mcol มาใส่ไว้ เพอเป็นอาภรณให้หนังสือมกวามงคงามยงขน ฃออ'นญาฅและขออนุโมทนาต่อราซนัณฑิฅศภามา ณ โอภาศนค้วย หนังสือนจัคพิมพข็้นเนองในโอกาลทำบุญฉลองอายุวัณนมงกล ๖ รอบ ๗๒ ปี วันท ๑๕ กมภาพันธ'พุทธวักราช ๒๕๖๑ ทั้งนไครับกวาม อนุเกราะห'จาก คุณเ'จริญ คุณหญิงวรรณา สิริวัณนภ'กค และกรอบกรัว ผู้ม ศรัทธามั่นคงในพระพุทธศาสนา มนํ้าใ'จรับเป็นเว้าภาพธุปถัมร็ในการวัคพิมพั เป็นการสร้างเสริมปิญญาบารมให้สูงส่งกว้างขวางมากชน เพราะหนังสือน วักเป็นประโยช'นส่วนหนงต่อการเผยแผ่พระพุทธศาสนาเป็นส่วนรวมไป ฅลอคกาลนาน รออนุโมทนาบุญมา ณ โอกาสน และขอให้พรทํ่ปรารถนา สมประฟ้งกทุกประการโคยเร็่วพลน หวังว่าหนังสือนวักอำนวยคุณประโยชนํแก่ท่านผู้อ่าน แก่ท่านผู้สนใ'จ และแก่ท่านทเป็นนักเผยแผ่พระพุทธศาสนาไค้[นระวับหนง (พระมหาโพธิวงศาจารย) เจ้าอาวาสวัคราชโอรสๆราม เขตจอมทอง กรุงเทพฯ ๑๖ มกราคม ๒๕๖๑ www.kalyanamitra.org
สารบญ ปรร(วัติ {๕) คำ นำ (๑๑) ภาคทํ่ ๑ เทศนางานหลวง ๑ £ฑ ๑ ธัมมจริยากถา เรอง การประพฤติธรรม ๑๓ 1๓ มรณสติกถา เรํ่ป็ง การนึกถึงกวามฅาย 1๓๑ NT' ๓ อัปปมาทธรรมกถา เรํ่อง กวามไม่ประมาท 1๓ <i เหวตาทิสสทักขิณานโมทนากถา ๓๓! <1๕ เริอง การทำบุญธุทิศเทวดา ๕๕ \"๖๓ ๕ รัมมทัคคหกถา เรํ่อง การยกย่องธรรม ๗๕ ๘๕ ทุกซกถา เรํ่อง ทุกซ ๘๗ ๑0๗ กฅญฌูกตเวทิตากถา เรํ่อง กวามกฅ้ญฌูกดเวทิ ๑๑<๘ ๑๒๘ ปูชนารหปุคคลกถา เรํ่อง บุกคลผู้กวรบูชา จาคกถา เรํ่อง กวามเถึยสละรักษาชาติ ๑0 ทัจจวาจากถา เรํ่อง กำ จริง ๑๑ จิตตทมกถา เรํ่อง การพัฒนาจิฅ ๑!๓ กตญฌูกถา เรํ่อง ผ้กทัฌณผร้คณ ■บ่ 0 ^-บ่น i ๑๓ สาธุกมมกถา เรํ่อง การทำกวามด ๑<i จิตตกถา เรํ่อง จิฅ ๑ร ปาปนิวารณกถา เรอง กำ แพงทัองทันบาป ๑<£๓ ๑๕๓ ๑v> เมตตาวิหาริกถา เรอง ผู้มเมดดาธรรม ๑๓) อุปายโกทัถลกถา เรอง ความฉลาดในนโยบายบริหารจัดการ ๑^)๕ ๑(m ปูชกกถา เรอง ฒ้ช'! ๑๗๕ www.kalyanamitra.org
๑<๙ สาราสารกถา เรอง สิงทํ่เป็นสาระและอสาระ ๑๘๕ ๑๘๕ .4 ๒0 อตตนาถกถา เรอง การพํ่งตน ๒0๕ ๒๑๗ ๒๑ กตคุกมยตาฉันทกถา เรอง กวามรู้สิกสร้างสรรก ๒๒๗ ๒๓๗ ๒๒ ฉตตกถา เรอง เกรองปีองกันภย ๒๕๘ ๒\"๖๑ ๒๓ ร้เญญาพลกถา เรอง พลังปีญญา ๒๗๑ ๒๘๑ ๒๕ ฉัตตโจทนากถา เรํ่อง เตือนฅนไค้[กรจะเหมอน ๒๘๑ ๒๕ บุริสาชญญกถา เรํ่อง บุรุษอาชาไนย ๓0๑ ๓๑๑ ๒V? อตตทมกถา เรํ่อง การปีกฝนตน cn ๒๗ ธัมมิกราชกถา [รอง พระราชาผู้ทรงตั้งอยู่ในธรรม ๓๒๑ ๒๘ ปริหารกพลกถา เรอง พลังของผู้บริหาร ๓๓๑ ๒๘ สติกถา เรอง ระลึกไค้ก็่กัณนา ๓<£๓ ๓0 ทํปธัมมกถา [รอง ธรรมลันเป็นเกาะพงพา ๓๕๕ ๓'๖๓1 ๓๑ สจจธมมกถา เรํ่อง ลัจจธรรม กวามลัฅย ๓๗0^ ๓ร«^๑ ภาคท ๒ เทศนางานทั่วไป ๕0๑ ๕๑๑ ๑ เอกธ้ฆผฑถา เรึ๋อง อำ นาพิค ๒ ตโยธัมมกถา เรอง ธรรมบำบั(ๆ?โฅรู ๓ อุทานธัมมกถา เรํ่อง คับเย็่นไค้ค้วยธรรม <£ ซญญาจกซุกถา เรอง ตาปีญญา ๕ ปีณฑิตวิสยกถา เรอง วิคัยบณฑิฅ '๖ นิธิกถา เรอง ซุมปมบัฅิ ๗ กิตติกถา เรอง ยู้มเกิยรติยศงคงาม เรอง กลนของคัฅบุรุษ ๘ พปปุริสคนธกถา เรอง ^ทำบุญไวแล้ว ฑตปุญญกถา www.kalyanamitra.org
๑0 วิญญปสังสิตฑถา เรอง กนทวิญญซนสรรเสรีญ <^๒๕ ดา๕ ๑๑ มรณกถา เรอง กวามฅาย ดา ๑๒ พลธัมมกถา เรํ่อง พลังให้ถึงกวามสำเรึ่จ <1๕๕ ๑ดา สาธุนรธมมกถา เรอง กนคอยู่ทเหตุ <l^o๕ <1ด)ร๓ร ๑<i มรณธัมมกถา เรอง มรณะกือทํ่สุคแฟงซวิฅ ๕๘๓i ๑๕ โยนิโสมนสิการกถา เรอง กวามกิคทแยบกาย ๑V) จาคสมปทากถา เรึ๋อง กวามเสิยสละ 1. ' www.kalyanamitra.org
www.kalyanamitra.org
ธมมจริยากถา เรื่อง การประพฤติธรรม ธมฺโม หเว รกฃติ ธมมจาร ธมฺโม สุจิณฺโณ สุขมาวหาติ เอสานิสํโส ธม.เม สุจิณเณ น ทุคุคต คจฺฉติ ธมุมจารติ ฯ ขฺ.วิ. ๒๖/๓ฅ๒/ฅ©๔ คน็้ จักรบพระราชทานถวายวิสิ'ชนาพร::ธรรมเทfjนาใน ธมมจริยา- ฆกถา ฉลองพระแๆชพระกุณประจับพระปิญญาบารม อนุรูปแก่กุศล บุญราสืทักษิณานุประทานกิจทราชลกุลจัคณางก่ โคยหม่อมราชวงก่หญิง รศริน จัคณางค พร้อมพระประยูรญาฅิไค้ทรงบำ เพ็่ญอุทิศถวายลมเค็่จ พระนางเจ้ารำไพพรรณ พระบรมราชินไนพระบาทลมเคี่จพระปกเกล้าเจ้าอยู่ทัว รัชกาลท ๗ แห่งพระบรมราชจักริวงค้ ค้วยอำนาจแห่งพระญาติธรรมและ คารวธรรมทม่ประจำจัธยาจัย ไค้มาเริยกร้องไห้อนสรณคำปึงถึง ไนจานะ พรรราซวิฟ้ทเโมล (ทองสื) วัคราชโอรฟ้าราม กรุงเทพมหานกร แฟ้คงไนการบำเพี่ญพรรราชกุศลฟ้คมวาร พระบรมศพฟ้มเคี่๚พรรนางเจ้ารำไพพรรณ ณ พระทํ่นั่งกุสิศมหาปราฟ้าท ไนพระบรมมหาราชวัง วันอังการ ท ๑<1 ^งหากม พ.ศ. ๒๕๒๗ www.kalyanamitra.org
k ๔ ฿ sssuaisinfluiiau๓ พระ ชMาโพรวง ศใ'^ใรย์(ทอง ดี ช.ร.๙) ทสมเค็่ฯพระบรมราซินพระองกนั้นทรงคำรงอยูในฐาน^พระเชษฐภกินแห่ง ราชศกุลกักณางกทางฟ้ายพระซนน กล่าวกือสมเค็่จพระนางเจ้ารำไพพรรณ พระบรมราชินทรงเป็นพระธิคาของพระเจ้าบรมวง อ กรมพระสวัสคิวัฒนวิกัษฏ และพระเจ้าวรวงกัเธอพระองกัเจ้าอาภาพรรณ พระธิคาองก!หญ่ฃองพลฅร พระเจ้าบรมวงคเธอกรมหลวงพิซิฅปรซากร ผู้ทรงเป็นต้นราซสกุลกักณางกั และหม่อมล่น กักณางกั ณ อยุธยา พลฅรพระเจ้าบรมวงกัเธอกรมหลวง พิซิฅปรซากรและหม่อมล่น มพระธิคาและพระโอรส กือ ๑. พระเจ้าวรวงกัเธอ พระองกัเจ้าอาภาพรรณ ผู้เป็นพระซนนของ สมเค็่'จพระนางเจ้ารำไพรรณ พระบรมราชินในรัซกาลทํ่ ๗ ๒.หม่อมเจ้าหญิงฉววิลัย สวัสคิวัฒน ๓.หม่อมเจ้าปรฅิยากร กักณางกั ผู้เป็นพระบิคาของหม่อมราซวงกั- หญิงรสลิน กักณางกั และหม่อมราซวงกัหญิงรสมาล เกษมลันฅ เพราะสืบเซอสายราซสกุลวงกั!กลัซคมากังน รวมทั้งกวามทํ่เกยไครับ พระมหากรุณาธิคุณต้วยคเสมอมา ทำ ให้ราซสกุลกักณางกอนุสรtนถงพระมหา- กรุณาธิคุณมิรู้วาย แม้จะเสค็่จล่สวรรกาลัยแล้วก็่ตาม พระมหากรุณาธิคุณนั้น ยังเตือนหทัยให้รำลึกถึงสมเค็่จพระบรมราชินพระองกันั้นอยู่เสมอ แห้จริง สมเค็่จพระนางเจ้ารำไพพรรณ พระบรมราชินพระองกันั้น ทรงเป็นฃัฅฅิยานนาริรัฅนผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ทรงพระบุญญาธิการ จัคเป็นฃัฅฅิยกัลยาณ ทรงพระสิริโฉมงคงามน่าเจริญคาเจริญใจ ทรงเจริญต้วย พระอิสริยสมบัติ ทรงไครับสถาปนาพระราซอิสริยยศฐาบันครกักคิฃนเป็น สมเค็่จฯ พระบรมราชิน เมํ่อมพระซนมายุไม่มากนัก ทั้งทรงเจริญต้วยพระคุณ สมบัติ สมกวรไครับการถวายกวามยกย่องว่าเป็น ธรรมจารบุคคล กอทรง www.kalyanamitra.org
๕ sumsoinm ->^0 ISOO กใรประพฤติธรรบ ฟ้นยู้มธรรม ฟ้นผู้ปรร;พฤติธรรม ฟ้นอปูด้วยธรรม แลร;เ!เนผู้หนกแน่น ในธรรม คังจร:เห็่นไค้'จากเมํ่อทรงไครับสถาปนาขนเป็นสมเค็่'ไเฯ พรร:บรม ราชินแล้วก็่ทรงปฏิบัติพรร:ราซกรณยกิ'จสนองพรร:เคซพรร:คุณ เป็นกู่พรร:บารม พรร:บาทสมเค็่'จพรร:เจ้าอยู่หัวรัชกาลทํ่ ๓)ในททุกสถาน ทั้งในยามสุขยามทุกฃ ทั้งในปรร:เทศแลร:ค่างปรร:เทฟ้คยมิไค้ปรร:มาท แม้พรร:บาทสมเค็่'จพรร:เจ้าอยู่หัว พรร:องกนั้น'จร:ทรงสลร:ราชสมบัติเพํ่อปรร:โยซนใหญ่แก่ปวงชนชาวไทยแลร: เสค็่'จสวรรกฅในทํ่สุค ณ ปรร:เทศอังกฤษ สมเค็่'จฯ บรมบพิตรฯ พรร:องคนั้น แม้จะทรงเป็นสตรกื่มพรร:หฤทัยหนักแน่นอา'จหาญ สามารถรองรับกาวการถ4 ทเปลยนแปลงโคยฉับพลันนั้นไค้ ทรงสามารถปรับพระราชหฤทัยให้มั่นกง ไม่หวั่นไหว รักษาพระวรกาย พระอนามัยไค้เป็นปกติ จนมพระชนมายุเจริญ เช้ากู่ปิจฉิมวัยไค้ทง ๘0 พระพรรษา ทรงพระเกษมส์าราญคลอคมา นับว่า หาไค้[มงายนัก ทั้งนั้เพราะผลแห่งการปฏิบัติธรรมและทั้งมั่นอยู่ในธรรมหาก 'อำนวยให้เป็นไป ก็่สมตามเทศนานัยพระบาลมหาธัมมปาลชาคกทไค้ยกอุเทศ ไว้ ณ เบองค้นว่า ธมฺโม หเว รฤฃติ ธมมจาร เป็นอาทิ ถอคใจกวามไค้ว่า \"ธรรมแลปอมรักษาผูปรร;พฤติธรรมเป็นปกติวิลัย ธรรม ทั้บุคคลปรร;พฤติดแล้วย่อมนำสุขมาให้ นเป็นผลแห่งธรรม ทั้ปรร;พฤติติแล้ว ผู้ประพฤติเป็นปกติวิลัยย่อมไมใปปูทุคติ'' กำ ว่า ธรรม นั้น มอรรถทจะพิงบรรยายเป็นหลายกระบวน ความติ ชนิดใดชนิดหนงซงรักษาคุณภาพของผู้บำเพ็่ญประพฤติปฏิบติตามไว้มิให้ ตกตำ มแตให้เจริญสูงขึนโดยลำด้บ ให้ใด้รับความสุขกายสบายใจโดยอาการ www.kalyanamitra.org
i ๖ ฿ sssuaisiimm lau ๓ พระมHใใพรวง ภใใารย์(ทอง ดี ช.ธ.๙) เมอแสคงโฅยปรร:สงก ธรรมในทนคือหน้าทแลร:การตั้งฅววางตน ไว้ชอบ ปรรเกอบตนไว้Iนทางทสมควร หน้าทํ่แลร:การตั้งคนวางตั้งไว้ชอบ ไคืซอว่าธรรม เพราร:สามารถรักษาคุณภาพชองยู้ปรร:พฤติไว!ค้ แลร:สามารถทำ ผู้ปรร:พฤติไห้มกวามสุฃมความสงบในชวิฅไค้อย่างแท้จริง กำ ว่า ปรร;พฤติธรรม นั้น มนัยทจร:พึงอธิบายให้แจ้งชัค ในทางปฏิบัติ อาจแบ่งการปรร:พฤติธรรมไค้เร็เน ๒ ปรร:เภทคือ ปรร;พฤติธรรมเพึ๋อผล ในทางโลก เป็นผลทางบังคม เป็นผลทให้เกิคความเริยบร้อยคืงามในบังคม คือเพํ่อจรรโลงบังคม กับ ปรร;พฤติธรรมเพอผลในทางธรรม เป็นผลทางค้าน จิฅใจโคยฅรง เป็นผลทํ่ให้เกิคความสงบสุขในซวิฅปรร:จำวันชองบุคคลชงเป็น ผลสุคยอคฃองการปฏิบัติธรรม การปรร:พฤติธรรมเพอผลในทางโลกก็่คือการปฏิบัติหน้าทฅ่างๆ ของ คน โคยมิให้บกพร่อง ค้วยความรับผิคชอบ ค้วยสติบัญญา ค้วยความรู้ความ สามารถอย่างเฅ็่มท ตั้งหน้าทโดยสมมติ ตั้งหน้าทโดยธรรมชาติ หน้าทโคย สมมติคือหน้าททไครับหมอบหมายไคืรับการแต่งตั้งให้เป็น เซ่น หน้าทํ่ผูบังคับ บัญชา หน้าทผู้อย่ใค้บังคับบัญชา หน้าทเป็นนายจ้าง หน้าทลูกจ้าง หน้าท ทหารตำรวจ เป็นค้น ส่วน หน้าทโดยธรรมชาติ คือ หน้าททเป็นโดยอดโนมติไม่ต้องแต่งตั้ง เป็นข็้นมาเอง เซ่นหน้าทบิดามารดา หน้าทบุดรธิดา หน้าทพลเมือง บุคคล ผู้ปฏิบัติหน้าทชองคนไปคามปกติ คนมหน้าทอย่างไร ก็่ทำ หน้าทํ่นั้นไปโคย มิให้ชาคคกบกพร่อง ค้วยการเอาใจใส่ ไม่ทอคทงกลางคัน เซ่น เป็นช้าราชการ ก็่ปฏิบัติภารกิจต่างๆ ทไคืรับมอบหมายโคยถอเป็นหน้าท มืความพอใจทจร:รับ ภารธุรร:นั้นๆ ค้วยความเค็่มใจ ปฏิบัติหน้าทํ่ไปค้วยความฃบันชันแข็่ง ค้วย ความรับผิคชอบ เอาใจใส่สอคส่องไม่ทอคทง ใช้สติบัญญาในฃณร:ปฏิบัติหน้าท โคยใช้สมองทำงานควบคูไปกับใช้กำบังทำงาน มืความซอสคย่สุจริคเป็นทตั้ง www.kalyanamitra.org
๗ # sumsaไnm ISOO กใรชระพฤติธรรบ มกวามจงรักภักคฟ้นหลักยึค ข้าราซการผู้ปฏิบัติไค้คังนย่อมเจริญในหน้าท ข้อนมพรร:พุทธวจน::รับรองไว้ว่า อุฏจfๆนวโต สติมโฅ สุจิกม.มสฺส นิสม.มการิโน สฌ.ฌตสฺส จ ธม.มชวิโน อปฺปมด.ฅสฺส ยโสภิวฑฺฒติ ฯ ชุ.ธ. ๒๕/©๒/๑๘ ถึอเอากวามไค้ว่า บศศถผู้ประกอบด้วยทุณสมบัฅิ ๗ อย่างคือ เปีนผู้ ขยันหมั่นเพยร กด้าหาญ อดทน &) เปีนฒูสติ ฅนศัวอยู่เสมอ ๑ เป็นผู้ทำงาน เรยบร้อย ไม่มั่งด้างอากูถ ๑ เป็นผู้ทำงานด้วยความใคร่ครวญรอบคอบ (5) เป็นผู้คืารวมเรยบร้อย ควบคมฅัวเองได้เสมอ <5) เป็นผู้มความซอยัตยัสุจริต ยุติธรรม คือความถูกด้องเป็นหลัก (5) เป็นผู้ทำงานไม่พลาดเผลอ มความ รับผิดชอบเสมอ <5) ย่อมเจริญด้วยยสม่ประการต่างๆ คือ เจริญด้วยตำแหน่ง หน้าท ทรัพย่สมบัติ ความนับคือ และซอเคืยงเกยรติคุฌ คังนิ้ ส่วนการปฏิบัติธรรมเพํ่อผลในทางธรรมนั้นกือการตั้งฅนวางตัวไว้ถูกค้อง เหมาะ:สม เป็น อดตลัมมาปณิธิ กำ ว่า ดน ในทํ่นั้หมายเอาทั้งกายตั้งใจ การวางตัวได้อย่างเหมาร;สมถกต้อง การทำใจได้อย่างเหมาร;สมถูกต้อง ได้ซอว่าตั้งดนไว้ชอบในอรรถน ในทางปฏิบัติ การประ:พฤติธรรมในส่วนนั้ ก็่กือ การทำตัวให้เล็่ก และ: ทำ ใจให้กว้าง บุกกลทจะ:ไค้ซึ่อว่าประ:พฤติธรรม และ:ไครับผลแห่งธรรมโคยกรงกือกวามสงบสุขในซวิฅ มซวิกอย่อย่างเริยบง่าย ไร้ทุกข[ร้กังวล ไม่กกอยู่ในอำนาจของสิงใคๆ ไม่ว่าจะ:เป็นอิฏฐารมณหรือ อนิฏฐารมณ ก็่กือกนทํ่สามารถทำตัวให้เล็่กลงไค้ และสามารถทำใจให้กว้าง ฃ็้นไค้ การทำตัวให้เล็ก ในทนั้ก็่กือการสร้างกวามร้สิกหรือกวามนึกกิคในใจ โกยไม่มทิฐมานะ ร้ตัวเองเข้าใจตัวเองในทางทถูกค้อง ปกติกนทั่วไปนั้น www.kalyanamitra.org
i ๘ 0 sssuaisinfiuiiau๓ พระฆHาโพริวง ศใใใรย์(ทอง ดี ช.ธ.๙) มักสร้างความร้สิกในทางหลอกตัวเอง โคยวัคจากองคปรร:กอบในซวิฅคือ เกยรติยศซอเคืยงบ้าง ทรัพยสมมัติบ้าง บริวารพวกพ้องบ้าง ตำ แหน่ง หน้าทบ้าง ชงมอยู่ปรร:จำตัว แล้วคิคอยู่เสมอว่าตัวเองใหญ่กว่าเซา ตัวเอง มเกยรติยศมชึ่อเคืยงมากกว่าเซาเป็นค้น ความรู้สิกทสร้างขนหลอกตัวเองน แหลร:เป็นเหตุให้บุคคลรร:เริงหลงตัวเอง กลายเป็นคนจมไม่ลง ค้วยความเข้าใจ ตัวเองผิค เมอความรู้รกเช่นนเกิคฃนมาแล้วจงทำให้วางตัวไค้ยาก ปฏิบัติตัว ก็่ค้องใหญ่ใปคามความรู้สิก จร:มอร:ไร จร:ไค้อฟ้.ร ค้องให้สมเกยรติสมตักคิศร บัญหาค่างๆ จึงคามมา เมอไค้สมหวังก็่คิ้นรนทะเยอทร:ยานยั๋งฃน เมอไมไค้ สมหวังณรยใจเป็นทุกฃ บางครั้งก็่ก่อกรรมทำเซ็่ญอย่างอนค่อไปอก ซวิคจึง ไม่ประสบกับความสุขสงบ หากทำตัวไห้เล็่กลงได้บ้าง โดยรู้รกว่าแห้จริงตัวเองก็่เ!เนมนุษย์ คนหนง ทมความเกิด ความแก่ ความเจ็่บ และความดาย เซ่นเตยวกบ คนอํ่นๆ ไม่ย์ดมั่นถือมั่นในองคประกอบชวิตคือเกิยรติยศชอเรยงและ สมบ้ติภายนอกมากจนเกินไป รู้จกปล่อยวางเรยบ้าง รู้จกพอเรยบ้าง ความรู้รกเซ่นนั้จะมองเห็่นตัวเองไม่ดไม่วิเศษไปกว่าคนอึ๋น ทั้งจะสามารถ ลดความเห็่นแก่ตัว ความเห็่นแกได้ ความเอาแดใจตัวเองลงได้[ดยลำตับ จะทำให้ซ่วยเหรอเก็้อกูลยู้อนได้ ทำ งานร่วมกบคนอึ๋นได้ สามารถวางตัว ได้เหมาะสมในทุกโอกาสในทุกสิงคม เพราะไม่มอะไรมาขวางกั้น กั้งเป็นเหตุ ให้ประพฤติธรรมทั้สูงฃ็้นไปได้[ดยไม่ยากนก อนง การทำตัวให้เล็่ก ในทั้นมิใช่หมายถืงการสร้างความรู้รกว่าตัวเอง ค้อยหริอคํ่าค้อยกว่าเซา ทั้งมิใช่หมายรงใหฅตัวเองเสมอกับคนทุกคน ทั้งน ไม่ว่าจะมความรู้รกว่าคืกว่าเซา หริอค้อยกว่าเซา หริอเสมอเขา ล้วนเป็น ความรู้รกนึกคิคทั้ไม่ถูกค้องไม่เหมาะสมทั้งสิน เพราะประกอบค้วยทิฐมานะ คือรอค้วยความเข้าใจผิค ล้วนมโทษทกประการ กล่าวคือ www.kalyanamitra.org
๙ ฿ sumsainm llSSi IS0\\] ก ไร ชระ พฤติ ธร รน s การถือตัวว่าดกว่าเขาเ!เนเหตุให้ทร!นงตน ดูหมนเหยยดหยามคนอน ชอบยกตนข่มท่าน การถือตัวว่าด้อยกว่าเขาเป็นเหตุให้เกิดความน้อยเนอ ตาใจทำให้ห้อแห้ร้นหวงแลร;เกิดความอิจฉาริษยา การถือตัวว่าเสมอเขา เป็นเหตุให้คิดแข่งขนในทางทไม่ชอบธรรมแลร;คิดตเสมอแม้กบท่านทสูงกว่า เพราร;คิดว่าเสมอกน แฅ่กาพำตัวให้เถ็่กลงในMหมายถื้งการถอนความรู้^กว่าเปีนตัวเป็นตน ความรู้^กว่าตัวเองใหญ่ สร้างความรู้^กอปูเลมอว่า ตัวเองก็่เปีนเหมอนตับ คนอน ไม่มอะไรควิเสษไปกว่าคนอน ถอนองคประกอบชวิฅไว้นอกความร้รก เมอปลตเปลองร่งทเกาะกุมใจเกาะกุมความคิดออกไห้ ตัวศนก็่จะเล็่กลง ยํ่ง ตัวตนเล็่กลงในความรู้^กไห้มากเท่าไร ไดซอว่าประพฤติรรรมไห้คิาเร็่จมาก เท่านั้น หากถึงชั้นรู้รกว่าตัวตนไม่ม รู้ถึกว่าตัวตนหมดไป ไมม่อะไทปีนตัวตน อกต่อไป กุกส่งเปีนอนัตตาหมด ก็่เรยกไห้ว่าประพฤติธรรมบรรลุถึงชั้นสุดยอดแล้ว การปรร:พฤติธรรมอกdวนหนงคือ การทำใจให้กว้าง นั้นหมายกวามว่า ปกติคนเรามักไม่ยอมรับสภาพความจริงของโลกของซวิฅ เป็นคนใจแคบเสมอ ในเรองของธรรมคา ไมให้ความยุติธรรมกับธรรมคาธรรมชาติ หากประสบ กวามคืมสุขก็่ซมว่าธรรมชาติทำถูก หากประสบความวิบัติระทมทุกฃ ก็่ชัง ธรรมชาติ หาว่าธรรมชาติกลั่นแกล้ง ไมให้ความเป็นธรรมแก่คน อันทจริง ผู้ประพฤติธรรมนั้นต้องยอมรับสภาพความจริงในทุกแง่ทุกมุม ต้องเปิคใจให้กว้างในเรองของธรรมชาติ ในเรองชองธรรมคา ชงเริยกว่า โลกธรรม ซงมอยู่คู่กับโลกคู่กับชวิฅ ต้องเช้าใจให้ถ่องแห้ และยอมรับความจริง ต้วยใจ ก่วนจะยอมจำนนไม่คนรนแก่ไขปล่อยเลยคามเลยหรือไม่นั้นเป็น อกล่วนหนั้ง ผู้สามารถทำใจในโลกธรรมได้ ชํ่อว่าเป็นผู้ปรร;พฤติธรรม โดยแห้ คือเมอไครับโลกธรรมล่วนคื ไต้ลาภ ไต้ยศ ไต้สรรเสริญ ไต้สุข ก!มยนคืจนเกิน ไม่เพลิคเพลินจนหลง ไม่ห่วงพะวงจนเลิยการ เมอไต้ประสบ www.kalyanamitra.org
i 00 $: sssuaisinfim lau ๓ พระบHใโพรวง ศใใใรย์(ทอง ดี น.ธ.๙) กับโลกธ'รรมส่วนไม่คก็่กล้าเผชิญอย่างอาจหาญ เมอล้องเส์ยทรพย่บ้าง เสือมยศบ้าง ถูกนินทาบ้าง ไค้รับทุกฃบ้าง กี่ทำ ใจไค้ ไม่เสืยใจจนเกินการ ไม่ ทุกขทรมานจนเกินเหตุ ผู้ศามารถทำใจไค้เซ่นนั้ย่อมไม่แลคงกิริยาอาการฃนๆ ลงๆ คือ เคืยวคืใจเคยวเสืยใจ แค่จะวางเฉยเป็นกลาง สงบเสงยมเริยบร้อย เหมือนไม่มอะไรเกิคเน บุกกลเซ่นน็้ท่านให้เกิยรฅิเริยกว่าเป็นบัณฑิตชน ตาม พระพทธนิพนธทว่า สุเขน ผุฏฺจfๆ อถวา ทุก.เขน น อุจฺจาวจํ ปณฺฑิตา ทสฺสยนฺติ ฯ ชุ.ธ. ๒๕/๑๖/๒๑ \"บัณฑิตทั้งหลายประสบสุขหรือทุกฃก็่ตามปอมไม่แสคง อาการฃ็้นๆ ลงๆ\" บุกกลผู้ปฏิบัติหน้าทั้ซองฅนค้วยคืโตยไม่บกพร่องทุกประการกี่คื ผู้ สามารถทำตัวให้เล็่กลง ทำ ใจให้กว้างชนไค้กี่คื จัตเป็นผู้ประพฤติธรรมโตยแห้ หากไค้ประพฤติเซ่นนิ้ติกค่อกันจนเป็นสาตัจจกิริยาไม่ขาตสาย ไม่ทำๆ หยุตๆ ตามสะตวกหรือตามใจชอบ กี่!ค้ซอว่าธรรมจารืบุกกล บุกกลผู้ประพฤติธรรม เป็นปกติวิกัยในเทศนานิ้ ธรรมย่อมรักษาคุ้มกรองและนำสุชมาให้แก่บุกกลผู้เป็น ธรรมจารืเซ่นนแล บุกกลผู้ประพฤติธรรมค้วยการทำหน้าทั้ฃองตนโตยถูกค้องมิไค้บกพร่อง ย่อมไค้รับความเจริญก้าวหน้าในหน้าทั้ ไค้รับกำยกย่องว่าทำหน้าทั้โตย สมบูรโน เป็นกนมืกวามรับผิตชอบคื หากเป็นมารตาบิตากี่จักเป็นมารตาบิตา ทั้คื หากเป็นบุตรธิตากี่เป็นบุตรธิตาทั้คื ค่างฝ่ายค่างกี่จะไค้รับกวามรักจากกัน และกัน ไค้รับกวามอบอุ่น กวามแซ่มชนเบิกบาน ไค้รับกวามเข้าใจอันคืค่อกัน อันเป็นเหตุให้เกิคกวามสุชในซวิฅ ในกรอบกรัว ในกังกมเป็นส่วนรวม ชงเป็น ผลทั้ไค้รับในบัจจุบันทันตาเห็่น ส่วนผู้ปฏิบัติธรรมค้วยการวางตัวถูกค้อง www.kalyanamitra.org
00 0 sumsmnm iSEl Iรอง กใรนระพฦติธรรม ร^ ทำ ใจไค้ถูกต้อง ย่อมไm^บผลกือความศงบสุขทางใจ ไม่ต้องวุ่นวายใจ ไม่ต้อง เสือคร้อนใจ ในเมอไม่สมหวังหรอเมอกวามหวังสลายไป ทั้งไม่ต้องวิตกกังวล ห่วงใยในการทจะดูแลรักษาสิงทตนมหรอสิงทไต้มาจนเกินเหตุ เมอไม่ต้อง วุ่นวายใจ ไม่ต้องวิตกกังวลใจอะไร ทำ ใจให้ปลอคโปร่งไคในทุกๆ เรอง จะนั่ง ก็่เป็นสุข จะนอนก็่เป็นสุข จะหลับก็่เป็นสุข จะฅํ่นก็่เป็นสุข คังทพระจอมมน ลัมมาลัมพทธเจ้าตรัสไว้ว่า ธมฺมจาร้ สุฃํ เสติ ฯ คนประพฤติธรรมเป็นปกติย่อมอยู่เป็นสุข (ขุ.ธ. ๒๕/๒๓/ฅ๗) อนั่ง บุกคลผู้ประพฤติธรรมนั้นย่อมไมไปยู่ทุคติทั้งในโลกนและโลกหน้า ทุคติในโลกนั้ก็่สือย่อมไม่ลำบากในการไปมา ไม่ลำบากในการกินอยู่หลับนอน ไม่ลำบากในการทำงาน ไม่ลำบากในการลังคมสมาคมกับผูอน ไม่ลำบากในทํ่ ทุกสถานในกาลทุกเมอ ทั้งนั้เพราะสามารถปฒัฅัวปณัใจให้เข้ากับสภาพแวคล้อม ในททุกสถานไต้ สามารถวางตัวให้เข้ากับผู้อนไต้ทุกหมู่เหล่า จื้งไม่มทใคเป็น ทุคติลำหรับผู้ประพฤติธรรม ทุกถนททุกลังคมล้วนเป็นสุคติทอยูไต้ กินไต้ นอนไต้ และทำงานไคทั้งสิน ล่วนทุคติในโลกหน้าก็่สือภพภูมิทปราศจากความเจริญ ในทุกๆ ต้าน มอบายภูมิเป็นต้น ผู้ประพฤติธรรมเป็นปกติวิลัยย่อมสามารถ รักษาใจของตนใหนั่นคง คำ รงตนให้ถูกต้องอยู่ในธรรมจึงปลอคจากอบายภูมิ อันเป็นทุคติไต้ต้วยประการฉะนั้ สมเสืจพระนางเจ้ารำไพพรรณ พระบรมราชิน ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ พระองคนั้นสมควรไครับยกย่องว่าทรงเป็นธรรมจาริน ผู้ทรงนั่นอยู่ต้วยธรรม ทรงมธรรมเป็นหลักประพฤติคลอคพระชนมายุ สามารถคำรงพระองกใว้1ต้อย่าง งคงาม ถูกต้องเหมาะสม และสงบระงับไค[นทุกๆ สถานะ แม้จะทรงประสบกับ ความแปรปรวนเปลยนแปลงอย่างใหญ่หลวง แม้จะต้องเผชิญกับความวิปโยค www.kalyanamitra.org
A ๑๒ '.^' sssuaisinflui lau ๓ พระบหาโพริวงศาใารย์(ทองดื ช.ร.๙) อย่างหนัก ด้วยต้องนิราศร้างจากพรร;ราชนิเวศนัใปยังต่างแคน ทั้งเนึ๋องจาก การเศค็่จศวรรกฅแห่งพระ;บาทศมเค็่จพระ;ปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ก็่ทรงศามารถ ปรับพระ;ราชหฤทัยใหมั่นกง ไม่หวั่นไหวจนเกินเหตุ จนพระ!ราชหฤทัยศงบเย็่น เหมือนดังไม่มอะ;ไรเกิคชน ศามารถรักษาพระ;ราชหฤทัยและ;พระ;วรกายให้มืศุช เกษมศำราญมาคราบเท่าปิจฉิมวัย อันเร็เนเกรองซให้เห็่นว่าธรรมย่อมจะ;ไม่ทั้ง ผู้ประ;พฤติธรรม ย่อมนำศชมาให้แก่ผู้ประ;พฤติธรรมโคยแห้จริง ดังอรรถาธิบาย ทไครับพระ;ราชทานแศคงมา ขออำนวยพระ;ราชทุศลทักษิณานุประ;ทานทั้ราชศกลดักณางก โคยหม่อม ราชวงก่หญิงรศลิน ดักณางก่ และ;พระ;ประ;ยูรญาติได้ทรงบำเพ็่ญพระ;ราชอุทิศน จงเป็นผลอัมฤทธิ้อำเร็่จแต่ศมเค็่จพระ;นางเจ้ารำไพพรรณ พระ;บรมราชิน พระ;องกทั้น ศมคามพระ:ปณิธานอุทิศจงทุกประ;การ รับพระ;ฑชทานถวายวิอัชนา พระ;ธรรมเทศนา ศมกวรแก่เวลาด้วยประ;การฉะ;น ฯ ซอถวายพระ;พร www.kalyanamitra.org
มรณสติกถา เรื่อง การนึกถงความตาย ทหรา จ มหนุตา จ เย พาลา เย จ ปณฺฑิตา ลพฺเพ มจจวส์ ยนุติ ฟ้พฺเพ มจฺจุปรายนาติ ฯ ขุ.ส. ๒๕/๓๘อ/๔๔๘ บ^^คน็้ รักรบพระราชทานถวายวิร'ชนาพระธรรมเทศนาใน มรณสติกถา ฉลองพระเคซพระกุณประคับพระปิญญาบารม อนุรูปแค่พระราชกุศล ทักษิณานุประทานกิ'ไเทสมเค็่'ไ)บรมบพิฅรพระราชสมภารเรัาทั้งสองพระองศ ทรงบำเพ็่ญพระราชอุทิศส่วนพระราชกุศลถวายแค่สมเคื่'จพระบุรพมหา- กษัฅริยาธิราชเรัาและสมเค็่'ๆพระบุรพอักรมเหสิผู้ทรงพระกุณอันประเสริฐ ทุกพระองก!นพระบรมราชรักริวงส่ ผู้ทรงเป็นพระราชบุรพการิและพระราช- บุรพการิน ทั้งนทรงมพระราชประสงกปงให้ส่าเร็่าเป็นทิฅสุฃฅามสมกวรแก่ ฐานะในอัมปรายภพ ห้วยอำนาจแห่งพระกคัญญกตเวทิตาธรรมและอป'ๆายน- ธรรมซงมประจำมั่นกงอยูในพระราชหฤทัย พระIทพปริยคิโมถ (ทองค) วั'คราซโอรศาราม กรุงเทพมหานกร แฟิคง ในการพระราซพิริทรงป้าเพ็่ญพระราชกุกลทกษิณานประทาน ณ พระทนั่งอมรินทรวินิฯฉัย ในพระบรมมหาราชวัง วันพฤหสบค vi ๓ พฤษภากม พ.ศ. 1๓๕๓๓ www.kalyanamitra.org
i ©๔ # sssuaisinflui lau ๓ พระ นHใโพรวง ศใใไรย์(ทอง ดี ช.ร.๙) การทชมเค็่จพรร:บรมบพิตรพรiราชสมภารเจ้าทั้งสองพร::;องก ทรง บำ เพ็่ญพรร;ราชกุศลอุทิศถวายแค่พรร;ราชบุรพการแล::พร:;ราชบุรพการิน เป็นนิพัทธกาลประ'จำทุก!เตลอตมา ไคชอว่าทรงอนุวัติตามหลักธรรมชอง สมเค็่จพรร;บรมศรสุคตทปรากฏในติโรกุฑฑสูตรว่า - โส ฌาติธมฺโม จ อยํ นิทสฺสิโต คือ ไค้ทรงบำเพ็่ญพรร;ญาติธรรม กล่าวคือทักษิณาทานทญาติยูย'งมชวิตอยู่ 'จะพิงทำอุทิศไปให้แก่ญาติผู้ล่วงลับ ไปแล้ว โคยไค้ทรงบำเพ็่ญให้เป็นแบบอย่างรบต่อกันไปในภายหน้า - เปตาน ปูชา จ กตา อุฬารา ไค้ทรงบูชาสมเค็่'จพระราชบุรพการและ พระราชบุรพการินทั้งค้วยอามิสบูชาและปฏิบัติบูชาเป็นอันคื - พลญจ ภิกขนมนุปฺปทินฺนํ ไค้ทรงอุปกัมภบำรุงพระภิกษุสงฆสาวก ให้มกำลังทปฏิบัติศาสนกิ'จ ค้วยการพระราชทาน'จฅบั'จ'จยวรามิสอันสมควร แก่สมณบริโภค - ตม.เหหิ ปุญฌํ ปสุตํ อนป.ปกํ และไค้ทรงบำเพ็่ญพระราชกุศล บุญกิริยาทั้งทานมัย คืลมัย ภาวนามัยครบทั้งสามประการ พระราชกุศลสมภารทั้งหมคน เมอไค้ทรงบำเพ็่ญครบถ้วนสมบูรณ ค้วยคืแล้วก็่ทรงพระราชอุทิศถวายแต่สมเค็่'จพระราชบุรพการิและพระราช- บุรพการินทุกๆ พระองกต่อไป พระธรรมเทศนาทจ้กริบพระราชทานถวายวิลัชนา ณ โอกาสนนั้น ไคอั'ญเชิญมา'จากชุททกนิกาย สุคตนิบาต ตามพระบาลอุเทศเบองค้นว่า ทหรา จ มหนฺตา จ เย พาลา เย จ ปณฺฑิตา สพฺเพ มจฺจุวสิ ยนุติ สพฺเพ มจ.จุปรายนา ฯ \"ทั้งเด็่ก ทั้งผู้ใหญ่ ทั้งคนโง่ ทั้งคนฉลาด ทั้งหมดล้วนไป ล่อำ นาจแห่งมัจจุราชคือความตาย ล้วนมความตายเ!เนทั้ ไปช้างหน้า\" www.kalyanamitra.org
0๕ :«> usniaMfim โรอง ทารนึกกึงทวใมต!ย พรร:บาลนิ้มเน็้อกวามชัคเ'จนแล้วว่า บุคคลผู้เกิดมาในโลกนั้ ไม่ว่าจร; เพศใด อยู่ในฐานร;ใด ล้วนมดวามตายเ!เนทสุด เกิดมาเท่าใดก็่ต้องตาย เท่านั้น ไม่มขาดไม่ม่เกินไปกว่านั้ เพราร;ทสุดของชวิตทุกชวิตคือความตาย ความตายแม้เบ็่เนสิงทน่ากล้ว แม้เพยงแค่คิดถงก็่ทำให้หวาดสร;ดุ้งได้ ปรากฏ เหมือนเพชฌฆาตทจ่อดาบอยู่ทลำคอ ถงกรร;นั้นก็่ตาม ทุกชวิตก็่จร;ด้อง ปรร;สบกบความตายไม่วนใดก็่วนหนั้งในอนาคต ไม่ปรากฏว่ามึใครหลกพ้นได้ แลรไม่มืสถานทึ๋ใดในโลกทพอจร;อาด้ยหลบหนความตายได้ เพราร;ความจริง ของชวิตย่อมเบ็่เนอย่างนั้แน่แห้ แม้จร;พยายามโกหกหลอกลวงตวเอง พยายามปกปีดบิดเมือนตวเองว่าตวจร;ยงไม่ตาย ยังไม่ถงเวลาตาย เวลานั้ ตวยังหนุ่มยังสาวอยู่ ยังแข็่งแรงดอยู่ คงนั้เ!เนด้น ก็่โกหกแลร;บิดเมือน ไปได้!ม่นาน อาการทปงบอกว่าความตายได้คืบคลานเข้ามาหาตวแล้ว กี่ จร;ค่อยๆ เกิดปรากฏไห้เห็่นเมืนทปรร;จกฟ้ดยมิข้าพล้น อาการเซ่นนั้นคือ ความแก่ ความถดถอยกำล้ง ความเจ็่บป่วย ความพ้นเพ้อนเลือนหลง ความได้หน้าลืมหล้งเป็นด้น อาการเหล่านั้ เป็นบริวาร เป็นทัพหน้าทมาก่อน ไม่นานแน่นอน ทัพหลวง ชงมืมัจ'รุราชเป็นแม่ทัพใหญ่ก็่จะดามมาอย่างกรร:ซั้นชิค เมอความแก่กวามเจ็่บ ป่วยเป็นด้นนั้นเกิดชนแก่ยูโดแล้ว ก็่เป็นล้ญญาณบอกยู้นั้นว่าไม่ซ้ามัจ'รุราช กี่จร;มาถงทัวแล้ว อันทัจ'รุราชนั้นไม่มืผูใดจะสามารถรบหรือต่อล้!ห้ชนร;ได้ด้วย พลรบประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพลช้าง พลม้า พลรถ หรือพลราบ ทั้งไม่อาจ เอาชนะได้ด้วยเวทมนฅ คาถา ด้วยการดีดสินบน หรือแม้ด้วยวิทยาการสมัยใหม่ ประเภทต่างๆ เมอมาถงแล้วมัจ'รุราชนั้นกี่จะบดขยซวิดสรรพอัฅว่ทั้งปวงไห้ แดภคับไปโดยไมม้ยภเว้นไห้แก'ยู!ด ไม่มืการเลือกทํ่รักผลักทซัง ปฏิบัดีเสมอ ภาคกันหมด มัจ'รุราชลือความดายจึงเป็นใหญ่แต่ยู้เคืยวไนโลภนั้ สมเค็่จพระลัมมาลัมพุทธเจ้าดรัสพระบาลืนั้!ว้กี่เพอเลือนใจชาวโลภ ทั้งมวลไห้มืสดีในเรองความดายกันบ้าง ไห้นภถึงหลัภความจริงชองซ่วิดว่า www.kalyanamitra.org
i ๑๖ sssuaisuifiui โส่บ ๓ พระนผใโพรัวงศใใไรย์(ทองดี น.ธ.๙) ทศุคของชวิฅก็่กือกวามฅาย ทุกกนมกวามฅายรออยู่ข้างหน้าแล้ว เมอมศฅิ นกไค้อย่างนกันเป็นdวนใหญ่ ก็่จะเป็นเหตุใหัลคโลกโมห1ทร'นลงไค้ ทำ ไหซวิฅ สงบสุขขน และโลกก็่จiพลอยร่มเย็่นเป็นสุขไปค้วย กล่าวกือกำสอนขององกสมเค็่จพระล้มมาร'มพุทธเจ้านั้น เมอสรุปรวบยอก แล้วก็่ใค้เพยงประการเคยว ประการเคยวนั้นก็่กือ สติ สฅิจ้คเป็นองกํธรรม ทสุคยอคแห่งธรรมทั้งปวง สตินั้มชึ๋อเรยกอกอย่างหนงว่าอปปมาทะ ไค้แก่ ความไม่ประมาท ความไม่พลั้งเผลอ ความไม่หลงลืม ในทางปฏิบติ สติกบอปปมาทะฟ้นธรรมอย่างเตยวกน การปฏิบัติธรรม ทํ่จะให้ผลแก่ยู้ปฏิบัติไค้อย่างแน่นอนและถูกค้อง ก็่กือการมสติ การรักษาสติ การกวบคุมสติไว้ให้!ค้ การมสติก็่กือการไม่ปล่อยวางสติ นึกไว้เสมอ นึกให้!ค้ ในทุกขณะจิต การควบคุมสติก็่คอการทำให้สติอยู่กบตวตลอดเวลา จะทำ อะไรก็่มสติกำกับ ทำ ด้วยความมสติ จะพูดอะไรก็่มสติกำกับ พูดด้วยความ มสติ จะคิดอะไรก็่มสติกำกับ คิดด้วยความมสติ เมอกวบคุมสติรักษาสติไค้ ฅลอคเวลาทั้งก่อนทำ ก่อนพูค ก่อนกิค และในขณะทกำล้งทำ กำ ล้งพูค กำ ล้ง กิคอย่างนั้ กวามพลั้งเผลอก็่จะไม่ม กวามหลงหน้าลืมหลังก็่จะไม่ม จะนึกไค้ รู้ลืกต'วอยู่เสมอ และทำอะไรก็่จะไม่ผิคพลาค พูคอะไรก็่จะไม่ผิคพลาค กิคอะไร ก็่จะไม่ผิคพลาค ได้บ่อยๆ จนเกิดความเคยชินแล้ว ย่อมได้รับผลคือทำให้!ม่ทวาดสะดุ้งตกใจ กล้วความตายอกต่อไป จะสามารถกล้าเผชิญหน้ากับความตายได้อย่าง ไม่พรั่นพรง จะคลายความยดมั่นลือมั่นในชวิตกังขารลงได้ตามลำดบ และ จะสามารถอายชั่วกกัวบาปได้ด้วยตนเอง ทั้งจะค่อยๆ ปล่อยวางละวาง ความตระหน ความเห็่นแก่ตว ความยดมั่นในวตถในสมบติฃองตนเองได้ www.kalyanamitra.org
©๗ บรณสฅิทm Siib i 1รอง กไรนฉทึงควไมตใย *\">*-0/ ฟ้นเหตุให้เสิยสลร;ช่วยเหลือเกอกูล สงเคราร;ห้อนุเคราร;ห้ผูอึ๋นได้ห้วยความ สมครใจแลร;เต็่มใจ ธรรมคาผู้ฟ้.ม่เกยนกถึงกวามฅาย มัวประมาทอยู่ว่าคัวจร:ยังไม่คายง่ายๆ มัวหลงผิคเพลินอยู่กับกวามสนุกสนานในการใช้ซวิฅ หลงฅิคอยู่กับการหาลาภ หาเกยรติยศรํ่าใป เป็นเหตุให้[ม่รู้จักอั๋ม ใม่รู้จักเฅ็่ม พร่องอยู่เป็นนิจ เหมือนกับ มหาสมุทรทใมอมนํ้าและเหมือนใฟใมอมเชอฉะนั้น ผู้นั้นจงฅกเป็นทาสชอง กวามทะยานอยากยั๋งๆ ซนใปจนหาทสุคมิใค้ ซวิฅจึงเฅ็่มใปค้วยการคนรน ฅ่อผู้และการแช่งชันซิงคชิงเค่นกันและกัน เพราะใม่เกยนึกถึงเรองกวามคาย ใม่เกยนึกว่าใม่ช้าคนจะต้องจากทุกลิงทุกอย่างใป ใม่มืสมบัติอะใรติคคามคน ใปใต้เลย จึงทำไห้[ม่รูจักอั๋มใม่รู้จักพอ เพราะใม่อมใม่พอจึงต้องคนรนแสวงหา เพราะต้องคนรนหาอยู่เสมอจึงวิคกทุกฃร้อนอณ่ป็นนิจ เมอยังใมไต้คามทกิค ก็่คนรนมากชน ใต้มาแล้วก็่คนรนให้[ต้มากยั๋งฃน กระแสแห่งกวามต้องการ ก็่ยํ่งไหลท่วมทับจิคใจมากยํ่งฃ็้น หรือเมอใต้มาแล้วก็่ยังต้องคนรนในการรักษา ลิงทํ่ใต้มานั้นมิให้หธุคจากคนไป จึงชอว่าต้องคิ้นรนทุกฃร้อนอยู่คลอคเวลา ท จะให้เชาเถึยสละช่วยเหลือผูอนหรือเห็่นอกเห็่นใจผูอนต้วยกวามสุจริคใจ ต้วย กวามจริงใจโคยใม่หวังผลคอบแทน ย่อมเป็นเรํ่องทยากเย็่นนักหนา เชาย่อม เห็่นแก่ประโยชนึส่วนคนมากกว่าประโยชนชองส่วนรวม ท่านว่าการเลืยสละการบริจาคเป็นความทุกขอย่างแสนสาห้สฃอง ผู้^งไม่พอไม่อมในลาภผล การทต้องเลืยสละห้วยความจำเป็น เป็นความ ทรมานใจอย่างยงลืาหรับผู้นั้น ครงกันช้าม ผูมสตินึกถึงกวามคายใต้ย่อมเห็่นว่าสมบัติพัสถานทั้งหลาย ในโลกนั้ล้วนเป็นชองกลางประจำโลก เป็นลิงอำนวยกวามสุชให้แก่กนในโลก ไคชั่วระยะเวลาหนงเท่านั้น ไม่ช้าพลันคนก็่จะต้องจากสมบัติเหส่านั้นไปเอง หรือไม่สมบัติเหส่านั้นก็่จะต้องจากคนไป เมอหามาใต้เหลือกินเหลือใช้แล้ว ก็่ กวรกิคว่าเท่านั้ก็่พอเพยงแล้วส์าหรับเลยงซพคนและเลยงกรอบกรัวให้เป็นสุขใต้ www.kalyanamitra.org
k ©๘ 0 sssuaisinfimiau๓ พระบ!ทโพริวง ศใาไรย์(ทองด ช.ร.๙) ส่วนทํ่เหลือก็่กวรจร:เจือ'จานไปถงยูอน{ทง กวามรู้จักอํ่มรูจักพอก็่'จะได้ทางเกิด พอกพูนขนในใ'จ เมออํ่นได้พอเป็น^ม่ด้องคนรน เมอไม่ด้องคนรนก็่ไม่ด้อง ทุก#อน ไม่ด้องวิฅกกังวลอะไร เพราะอมได้พอได้ประฅูใ'จณปิคกว้างออก สามารถปล่อยได้วางได้ สามารถนำสมบัติพัสถานของคนออกมาบริ'จาก นำ ออกมาช่วยเหลือยูอนได้ แมไม่มสมบัติวัฅถุอะไร'จะเลืยสละ ก็่ช่วยเหลือยูอึ๋น ด้วยกำลังกายกำลังกวามคิคหรือด้วยเลือดด้วยเนอของคน บุกกลเช่นนิ้ย่อมม กวามสุขอยู่ด้วยการช่วยเหลือผูอน ได้ช่วยรอนแล้วก็่มกวามสุขใ'จมกวาม สบายใ'จ ลักษณะเช่นนจัคเ?!นลักษณะของมหาบุรุษโดยแท้ ธรรมดาบุกกลยู้กวรยกย่องว่าเป็นมหาบุรุษรูยงใหญ่ สมกวรนำมาเป็น แบบฉบับของคนนั้นลือรูทมปฏิปทามั่นกงในการเลืยสละ รูมองเห็่นประโยซนํ ส่วนรวมมากกว่าประโยชนํส่วนคน เปรยบไคกับด้นไม[หญใบดกหนา เช่นด้นโพธิ ด้นไทรทยืนด้นให้ร่มให้เงาแก่ผู้ผ่านไปมา ด้นไม้เหล่านั้ยืนหยัดแผ่กั๋งก้านสาขา ออกไป ให้กวามเย็่นกายเย็่นใ'จแก่ทุกซวิคทอยู่ภายได้ร่มเงาของคน โดยไม่เลือก ว่าผู้ทเข้ามาอาลัยร่มเงาของคนนั้น'จะเป็นกนเช่นใด เป็นรูรายหรือเป็นรูด หรือ แม้แค่ผู้ทกอยปอง'จะโก่น'จะลิดรอนกํ่งก้านสาขาของคน ด้นโพธิ้ด้นไทรก็่แผ่ปก ให้ร่มให้เงาให้กวามเย็่นเช่นเคยวกันโดยไม่รังเกิย'จ ในขณะทให้กวามเย็่นและ กวามสบายแก่รูอึ๋นอยู่นั้น ด้นโพธิด้นไทรเองด้องถูกแดดแผดเผา'จนกั๋งและใบ แทบ'จะมอดไหม้!ปด้วยกวามร้อนแรงของแสงอาทิคย่ แตกยังยืนหยัดลำด้น ขยายกั๋งก้านเรอยไปเพอให้บริการแก่เขา และกโม่เกย'จะได้อาลัยร่มเงาของ คัวเองเลย มแคให้ร่มเงาแก่รูอนเท่านั้น ด้นโพธิด้นไทรใบดกหนา ม'อุปมาฉันใด ผู้เป็นมหาบุรุษผู้กวรยกย่องว่า เป็นรูยงใหญ่น่าเการพนับถือน่ากราบไหวกมอุปไมยฉันนั้น ลักษณะทํ่เห็่นเด่นซดของผู้เป็นมหาบุรุษนั้นคือเ!เนผูไม่อมในการ เคืยสละ ไม่อั๋มในการช่วยเหลือผู้อน และมิเคยหวงผลตอบแทนจากใคร เลืยสละช่วยเหลือเกอกูลเขาด้วยความเต็่มใจ ม้กทนดูไมใด้เมึ๋อผู้อนไค้รม www.kalyanamitra.org
๑๙ # usmaanm ใรอง การนึกทงควไนตาย ความทุกข ความลำบาก มหนทางใดจร;ช่วยเหลือได้กจฟ้.มรรอชกช้า จร;รบ เดินหน้ายึ๋นมือเช้าไปช่วยเหลือทนท มหาบุรุษเซ่นนเปรยบไคกบต้นโพธต้นไทรใบคกหนาโคยแท้ เพรา^เหตุว่า มหาบุรุษนั้นเกิคมาในโลกก็่เพอปรร:โยซนบุฃฃองผู้อึ๋นโคยส่วนเคยว คังเซ่นองก สมเค็่จพรร;คลากฅส่'มมาร'มพุทธเจ้าทั้งหลายทรงอุบัติฃ็้นในโลกก็่เพอเกอกูลแก่ กนหมู่มาก ทั้งทเป็นสฅร ทั้งทเป็นบุรุษ ผู้กรร;ทำคามพรร:โอวาทซองพรร;องก่ คามทรับพรร;ราซทานแสคงมานั้ย่อมชให้เห็่นว่าความรู้จักปส่อยวางเลืย บ้าง ความรู้จักพอเส์ยบ้าง ย่อมก่อความสุขให้[นททุกสถานในกาลทุกเมอ ส่วน ความไม่รู้จักปส่อยวาง ความไม่รู้จักพอ ก่อความทุกข!ห้คลอคกาล รูรู้จักพอ เป็นคนน่าเช้าใกล้ ผูน!รู้จักพอเป็นคนน่ากล้ว เพราร;ความไม่รู้จักพอเป็นร่งท น่ารังเก่ยจส่าหรับคนทั่วไป เพราร;บังไม่พอจึงต้องแสวงหาความสุฃเพอคัวต่อ ไป จึงต้องแสวงหามาเพมเติมความพร่องทางใจต่อไป บางคราวก[มกานงว่า วิธหาความสุฃเพอคัวเซ่นนั้นจร;ก่อความทุกซ!ห้แกใครหรือไม่ปรร;การใค เมอหา ความสุขหาลาภยคเพอคัวบนความทุกฃบนหยาคเหงอแลร;นาคาซองยูอน ก็่ซอว่า สร้างเวรสร้างกรรมให้แก่คัวเองไว้ แลร;คนเองก็่จร;ไม่พ้นจากเวรจากกรรมนั้น คามพระพุทธบรรหารทครัสไว้ว่า ปรทุกฃปธาเนน โย อตฺตโน สุฃมิจฉดิ เวรลํสคฺคลํสฎโจf เวรๆ โส น ปริมุจฺจดิ ฯ ชุ.ธ. ๒๕/๓๑/๕๓ \"^ดต้องการสุขเพึ๋อตนด้วยการก่อทุกขให้แก่ผู้อึ๋น ผูนนซอว่าพ้วพ้นด้วยเวร ย่อมไม่พ้นจากเวร\" สมเค็่จพระบรมมหากษัฅริยาธิราซเจ้าและสมเค็่จพระอัครมเหส่ผู้ทรงเป็น พระราซบุรพการืและพระราซบุรพการิน ผู้ทรงคุณอันประเสริฐ ในพระบรน- ราซจักรืวงส่ทุกๆ พระองค และพระบาทสมเค็่จบรมบพิครพระราซสมภารเจ้า www.kalyanamitra.org
k ๒๐ sssuaisinfiin lau ๓ พระนพไโพริวงศาใไรย์(ทองM น.ร.๙) ทั้งสองพระองค ทรงมพระราชหฤทัยมั่นกงอยูในธรรม ทรงมพระปรชาญาณ หยั่งทราบโกยแจ้งซัคถงอรรถแห่งพระบรมพุทโธวาททว่า ทั้งเด็่ก ทั้ง^หญ่ ทั้งคนโง่ ทั้งคนฉลาด ล้วนไปส่อำนาจแห่งความตาย ล้วนมความตายเ!เน ทั้ไปในฒ็้องหน้า กังน จึงทรงบำเพ็่ญพระราชกรณยกิจน้อยใหญ่เพิ่อเกอกูล เพํ่อประโยชนสุชแห่งมหาชนชาวสยามเป็นนิจกาล มิไค้ทรงท้อแท้กกกอยหรือ แสกงพระอาการเหน็่กเหนอยใท้ปรากฏ ทรงยืนหยักก่อค้มั่นกงอยู่ค้วยความ เกิยสละ ทรงเป็นร่มโพธิร่มไทรทยั๋งใหญ่กว่าร่มโพธิ้ร่มไทรทั้งหลาย พระโลหิต และพระเสโททหลั่งไหลจากพระวรกายทุกหยากหยกก็่เพอพสกนิกรบนผืน แผ่นกินไทย เพอร'องเมืองค้มเหย้าให้แก่อาณาประชาราษฎร่ทั้งเน ทุกๆ พระองก่ ทรงมืพระราชกณูปการงกงามตามแบบอย่างของมหาบุรุษให้ชาวโลกแซ่ซ้อง สรรเสริญไค้เป็นนิจนิรันกร ซ้อนั้นเป็นทประจักษซักอยู่ในพระราชหฤทัยชอง สมเค็่จพระบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้าทั้งสองพระองก่ และเป็นทประจักษ ซักอยูในใจของพสกนิกรชาวไทยทั้งหลายแล้ว จึงสมกวรแก่พระราชทักษิณา- บุประทานทสมเค็่จพระบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้าทั้งสองพระองก่ทรงบำ เพ็่ญ พระราชอุทิศกวายเป็นนิพัทธกาล ค้วยประการฉะนั้ อิมินา กตปุญเฌน ค้วยอำนาจแห่งพระราชกุศลบุญรากิทักษิณาบุ ประทานกิจชงสมเค็่จพระบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้าทั้งสองพระองก!ค้ทรง บำ เพ็่ญพระราชอุทิศในกรั้งนั้ ชอจงเป็นผลอำเร็่จอำนวยให้เกิกเป็นทิพยสุฃ ทิพยสมบัติแก่สมเค็่จพระบรมมหากบัตริยาธิราชเจ้า และสมเก็่จพระอักรมเหกิ ในพระบรมราชจักรืวงกิ ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ผู้ทรงเป็นพระราชบุรพการื และพระราชบุรพการินทุกๆ พระองกิ ตามกวรแก่กฅินิยมในอัมปรายภพ จง ทุกประการ รับพระราชทานกวายวิอัชนาพระธรรมเทศนา ฉลองพระเดชพระคุณ ประกับพระปีญญาบารมื ยุติลงค้วยเวลา ค้วยประการฉะนั้ ฯ ชอกวายพระพร www.kalyanamitra.org
อัปปมาทธรรมกถา เรื่อง ความไม่ประมาท อปฺปมาโท อมตํ ปทํ ปมๆโท มจฺจุโน ปทํ อปฺปมตฺตา น มย14ติ เย ปมตฺตา ยถา มตาติ ฯ ฃุ.ร. ๒๕/๐๒/0๘ บคนิ้ จักรับพร::ราชทานถวายพระธรรมเทศนาใน อปปมาทธรรมกถา ฉลองพระเดชพระคุณเพํ่มพูนพระปิญญาบารม อนุโมทนาพระราช- กศลทักษิณาบุประทานกิจทศมเค็่จบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้าทั้งสอง พระองกทรงบำเพ็่ญพระราชอุทิศ เนองในอภิลักชิตกาลกล้ายวันเสค็่จสวรรกฅ แห่งพระบาทสมเค็่จพระปรมินทรมหาจุฟ'าลงกรณ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระปิยมหาราชเจ้า โคยทรงพระกรุณาโปรคเกล้าฯ ใหัตงการพระราชพิธ ทรงบำ เพ็่ญพระราชกุศลอัญเชิญพระโกศพระบรมอัฐพระบาทสมเค็่จ พระจลจอมเกล้าเจ้าอยุ'หัว พระโกศพระบรมอัจัสมเค็่จพระศรพัชรินทรา- 0ง่ พระ:ธรรมกิฅฅิวง1^ (ทองค) วัคราชโอรฟ้าราม กรุงเทพมหานคร แฟ้คง ในการพระ:ราชพิธทรงบำเพี่ญพรรราชกุศลวันจยมหาราช ณ พระ:ทํ่นุงอมรนทรวินิจฉัย ในพระ:บรมมหาราชวัง วันศุกรื่ ทํ่ ๒๓ คุลากม พ.ศ. ๒๕๓๕ www.kalyanamitra.org
i ๒๒ ฿ sssฆส!ร!ทศน!ฟบ ๓ พระบMาโพรวง ศาใารย์(ทอง ดี ช.ธ.๙) บรมราชินนาถ แตร;พรร:โกศฟ้มเพ็่พระ:ศรสวรินทราบรมราชเทว พรร:พันวัสศา- อัยยิกาเจ้า ปรร:คิษฐานบนพรร:ราชบัตลังกภายใต้นพปฎลมหาเศวฅฉัฅรแวคล้อม ต้วยเกรํ่องฃัฅฅิยราชูปโภค แตร:อัญเชิญพรร:พุทธรูปปรร:'จำพรร:ชนมวารคู่ พรร:บรมอัฐปรร:คิษฐานบนพรร:ทนั่งบุษบกมาตา ณ พรร:ทนั่งอมรินทรวินิ'ไเฉัย กภั้นไต้เวตาแล้ว ณสค็่'จพรร:ราชคำเนินมาทรงถวายราชอักการร:บูชาพระ:บรม- อัฐ แล้วทรงบำเพ็่ญพรร:ราชกุศตอุทิศถวายต่อไป ทั้งนต้วยพรร:ราชหฤทัย บุ่ง'จ^ให้ส์าเร็่'จเป็นปิฅฅิทานมัยอนฅริยกุศต ส์าเร็่'จผตเป็นหิฅศุชฅามฅวรแก่ ฐานะในอัมปรายภพ ต้วยอำนา'จแห่งพรร:กฅัญฌูกตเวทิตาธรรมแตร:อป'จายน- ธรรมชงมปรร:'จำมั่นกงอยูในพรร:ราชหฤทัย แท้'จริง พรร;บาทสมเด็่จพรร!ปรมินทรมหาจุฟัาลงกรณ พรร! จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หว พรร!ปียมหาราชเจ้า พรร:องก่นั้น ทรงมพรร:ราช- กณูปการแก่ประ:เทศไทย แก่พรร:บรมราชจักริวงก่ แก่พสกนิกรชาวไทย แตร: แก่พรร:บวรพุทธศาสนาเป็นอเนกอมันฅ สุดท'จร:รับพรร:ราชทานถวายวิอัชนา ให้หมดร้นไต้ต้วยกาตสมัยเต็่กน้อยน็้ ต้วยตตอคระ:ยร:เวตาททรงเสวยราชสมบัติ อยู่ <1๒ ป็นั้นมิไต้ทรงว่างเว้นในการบำเพ็่ญปรร:โยชนเตยแมอักรร:ยร:เคํยว พรร:ราช'จริยาวัตรแตร:พรร:ราชกรณยกิ'จต่างๆ ททรงบำ เพ็่ญนั้นล้วนเป็น ทิตาบุหิตประ:โยชน้แก'อาณาประ:ชาราษฎรแตร:ประ:เทศชาติ ทั้งมผตสืบเนอง เป็นกวามเ'จริญรุ่งเริองชองประ:เทศชาติมาตราบเท่าทุกวันนั้ทั้งร้น สมเค็่จพรร:อัมมาอัมพุทธเจ้าทรงเป็นทเการพของเหล่าพุทธสาวกแตร: พุทธมามกชนทั้งหตายตราบเท่าทุกวันนั้ ก็่ต้วยพรร:องคทรงบำเพ็่ญพรร:พุทธ -จริยา ๓ ประ:การคือ โลกตถจริยา ทรงบำเพ็่ญปรร:โยชนแก'ชาวโตกต้วยการ เออประ:โยชน้เกอกูตแตร:กวามสุขแก'ชาวโตก โคยมิไต้ทรงเหน็่คเหนอยตตอด พรร:ชนมายุ ญาตตถจริยา ทรงบำเพ็่ญปรร:โยชนแก'พรร:ประ:บูรญาติให้[ต้บรรลุ มรรกผตนิพพาน อันเป็นอริยทรัพยตามกวรแก่อุปนิอัย แตร: พุทธัตถจริยา ทรงบำเพ็่ญปรร:โยชน้!นฐานร:ททรงเป็นพรร:พุทธเจ้าต้วยทรงบัญญัติพรร:วินัย www.kalyanamitra.org
๒๓ อันUuinsssufim 5? Iรอง ทวานใน่ชระนไท ทรงแสคงธรรม ทรงวางรากฐานพระศาสนาไว้จนมั่นกง พระพุทธจริยา ทั้งสามนิ้สมเค็่จพระชินส์หร'มมาร'มพุทธเจ้าทรงบำ เพ็่ญครบถ้วน ฉันใค พระบาทสมเคื่จพระจุลจอมเกถ้าเจ้าอยู่หัวก็่ทรงบำเพ็่ญพระจริยาทั้งสามน็้ คามอย่างคามรอยพระบาทสมเค็่จพระบรมศาสคากรบถ้วนบริบูรณ ฉันนั้น กล่าวกือพระองก ทรงบำเพ็่ญโลกตถจริยา อันเบเนประโยซนั้แก'อาณา ประซาราษฎรซาวไทยทุกถ้วนหน้า เป็นค้นว่าโปรคฯ ใหฅัคถนนหนทาง ฃุค กลองซลประทาน สร้างทางรถไฟ รถราง ให้การเคินทางระหว่างเมืองหลวง กับหัวเมืองรอบนอกสะควกรวคเร็่วฃ็้น การโทรเลข การโทรกัพท การไปรษณย่ ก็่เกิคฃนเป็นกรั้งแรกในรัซสมัยซองพระองก ทรงบำเพ็่ญญาตตถจริยา อัน เป็นประโยซนั้แก'พระบรมวงศานุวง^ โคยทรงพระราซทานยศกักคิ เงินเคือน เงินป็ให้สูงซนกว่าแค'ก่อนคามฐานานุกักค เพอเป็นกำลังรักษาพระอิสริยยศ และช่วยเหลือราซการแผ่นคิน ทรงบำเพ็่ญพุทธตถจริยา อันเป็นประโยซน ในฐานะทรงเป็นพระเจ้าแผ่นคิน เป็นค้นว่าทรงป้'องกันรักษาเอกราซซองซาฅิ ไว้[ค้ค้วยพระปริซา แม้ว่าประเทศเพอนบ้านจะเลืยเอกราซไปหมคร้นแล้ว โคยเหตุทพระองกํทรงบำเพ็่ญพระราซจริยาคามรอยพระบาทพระบรมศาสคา ลัมมาลัมพุทธเจ้ากังนั้ พสกนิกรทั้งหลายจงสมักรใจทํ่จะเริยกซานพระองกํว่า สมเด็่จพรร;พุทธเจ้าหลวง มาคราบเท่าทุกวันนั้ อนง พระบาทสมเค็่จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระองกํนั้นทรงเป็น ทั้งมักปฏิบัติและนักปฏิรูป ลือสิงใคทรงเห็่นว่าไม่เหมาะแก่กาลสมัย กวรยกเลิก เลืย ก็่ทรงยกเลิกและเปลยนแปลงใหม่ เช่นทรงปฏิวัติระบบการปกกรองเก่า แบบเว้ยง วัง กลัง นา มาเป็นแบบกระทรวง ลิงใคทํ่ทรงเห็่นว่ากวรจะแก่ไซ ปรับปรุงขยายให้กว้างขวางฃนก็่ทรงกระทำ เช่นทรงปฏิรูปการลืกษาเลืยใหม่ ให้ซยายกว้างออกไปจนถึงอาณาประซาราษฎรค้วย พระองกัทรงเป็นนักการ ปกกรอง นักการทูค นักการกว้ เป็นค้น ซงนับว่าทรงเป็นพระมหากษัคริย่ อัจฉริยะพระองก่หนงในโลกนั้ www.kalyanamitra.org
i ๒๔ ^ sssuaisinflui lau ๓ พระนMาใพรวง ศT=ทรย์(ทอง ดี บ.ร.๙) พระราชจริยาวัตรของพระองกทยังปรร:ทับอยู่ในใจของประชาชนซาวไทย และเล่าขานสืบต่อกันมาจนถึงทุกวันน็้ก็่กึอการเลิกทาสและการเสค็่จประพาส ต้น โคยพระองกเสค็่จเยยมเยยนประชาชนเพอทอคประเนตรสุขทุกฃของ ราษฎรตามชนบทหัวเมืองต่างๆ บางกรั้งทรงปลอมพระองคเป็นสามัญชนเสค็่จ ไปสอคล่องคูกวามเป็นอยู่ของราษฎรอย่างใกลซค จึงทรงทราบถึงวิถึซวิตของ ราษฎรคลอคถึงข้อเท็่จจริงและข้อบกพร่องต่างๆ ต้วยพระองฅเอง และไต้ทรง แกไขให้บรรเทาเบาบางลงโคยฉับพลัน พระราชจริยาสองประการนเป็นทจับใจราษฎรมาก - แสคงให้เห็่นถึง นํ้าพระราชหฤทัยว่าทรงรักราษฎร ไม่ทอคทิ้งราษฎรอย่างแห้จริง ทรงกระทำ ทุกอย่างเพอบำมัคทุกฃบำรุงสุขแก่ราษฎร โคยไม่ทรงเห็่นแก่เหน็่คเหนอย ไม่ทรงถึอพระองก่ว่าเป็นเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นคิน ทั้งททรงเป็นเจ้าชวิตและมืพระ ราขอำนาจสูงสุค ต้วยเหตุนประชาราษฎรจึงไม่ลังเลใจทจะกิคเลยในเมอจะ ทูลเกล้าฯ ถวายพระราชสมัญญาพระองก่ว่า สมเด็่จพระปียมหาราชเจ้า ชงหมายถึงว่าพระองก่ทรงเป็นพระมหาราชทรงเป็นเจ้าซวิตผู้เป็นทิ้รักยั๋งฃอง ปวงชน การทพระบาทสมเค็่จพระปียมหาราชเจ้าทรงบำเพ็่ญพระราชกรณยกิจ ไต้มากมายถึงปานน[ต้ ก็่ต้วยทรงมืพระราชหฤทัยกอปรต้วยพระคุณธรรมอัน สืากัญยํ่งข้อหนง พระคุณธรรมข้อนั้นคือ สติ ชงมืชํ่อเริยกอกอย่างหนงว่า อปปมาทะ ชงธรรมทั้งสองอย่างนั้แม้จะมืซํ่อเริยกต่างกัน แต่โคยกวามหมาย แล้ว เป็นธรรมอย่าง เคืยวกัน สติ นั้นก็่คือ การระลึกได้นกได้อยู่เสมอ เป็นธรรมทิ้มืลักษณะทำให้ตน ตัวอยู่ตลอคเวลา แสคงใหซัคกื่คือกวามทิ้บุกกลมืกวามฅนตัว มืสามัญสืานก มืความนึกไต้ ไม่ปล่อยใจให้เผลอไผลหลงสืมในกิจทิ้จะทำ ในกำทิ้จะพูค และ ในลิงทิ้จะกิค เป็นลักษณะของสติหรืออัปปมาทะ ข้อนั้ กวามมืสติจะกระตุ้นให้ www.kalyanamitra.org
๒๕ oJUmnsssunai ร^ใ 1ร0ง ค วาบใช่ ชระ ฆไท ^ บุกกลกวบกุมใจกวบคุมอารมณ ทำ ให้นกไค้ ทำ ให้[ม'หลงลืม ทำ ให้[ม่เผลอเรอ กังนั้น ผูทึ๋มฟ้ติจงเ!เนผู้ทชอบคิดก่อนทำ คิดก่อนพูด คิดก่อนคิด แดร;รู้ลืก ตวขณร;ททำ ขณร;ทพูด แดร;ขณร;ทคิด ทำ อร:ไรก็่จะไม่ผิคพลาค พูคอร:ไรก็่จร: ไม่ผิคพลาค แลร:กิคอร:ไรก็่จร:ไม่ผิคพลาค ทั้งนั้เพราะการทำการพูค แลร:การ กิคนั้นๆ ถูกสติกอยกำกับกวบกุมไว้อยู่เลมอ อกอย่างหนง สตินั้นจร:กอยเตือนใจให้นกไค้ถึงฐานร: นึกถึงภาวร:แลร: หน้าททค้องรับผิคชอบของคัวเองอยู่เสมอว่ากัวเองเรนใกร มกาวร:อย่างไร มหน้าทํ่ทจร:ค้องทำอย่างไรบ้าง เตือนใจให้นึกถึงว่า สิงใคกวรทำ รงใคกวรเว้น เตือนใจให้พิจารณาว่าสิงทฅนทำไปแล้วนั้นคหรือไม่ค กวรหรือไม่กวรอย่างไร สตินั้นจร:กอยสนับสนุนในเมอบุกกลทำตื พูคค แลร:กิคคแล้ว แค่จร:กอยยับยั้ง ในเมอบุกกล ทำ ไม่ค พูคไม่ค แลร:กิคไม่ค สตินั้จึงเป็นธรรมมอุปการร:มาก เป็นธรรมทกอยเป็นพํ่เลยงอยู่คลอคเวลา พรร:บาทสมเค็่จพรร:ปิยมหาราชเจ้าทรงมั่นกงอยู่ในอัปปมาทร:หรือสติ เป็นนิจ พรร:คุณธรรมข้อนั้จื้งกอยกรร:ค้นเตือนพรร:ราชหฤทัยของพรร:องกั[ห้ คนคัวอยู่เสมอ ทำ ให้ทรงรร:ลืกไค้ว่าในฐานร:ททรงเป็นพรร:เจ้าแผ่นกิน ทรง เป็นพรร:เจ้าอยู่หัวชองพสกนิกรทั้งแผ่นกิน จงทรงบำเพ็่ญพระราชกรณยกิจ ค่างๆ เพอพสกนิกรเหล่านั้นจนคลอคพระชนมายุ ทรงสละประโยซนึสุชล่วน พระองกเพอประโยซนึสุชชองประชาราษฎร ทรงยอมเลืยในล่วนชองพระองกํ เพอให้[ค้[นล่วนชองพสกนิกร กังนั้น แบ้พระองกิจะเสค็่จสวรรกคไปแล้วเถึอบ ร้อยป็ แค'พระองกิก็่ยังเสค็่จสถิคอยู่ในควงใจชองกนไทยอยู่คราบเท่าทุกวันนั้ เหมือนพระองกิยังมิไค้เสค็่จจากกนไทยไปเลยฉะนั้น เป็นกวามจริงกังนั้น ผู้มืสติหรือผู้ประกอบค้วยอัปปมาทธรรมนั้น ท่าน เรืยกว่าผูไม่ประมาท ผู้[ม่ประมาทนั้นแบ้จะล่วงลับกับซพแล้วก็่เหมือนยังคำรง อยุ' ตือคายแล้วก็่เหมือนยังไม'คาย เพราะสติหรืออัปปมาทธรรมเป็นธรรมอมคะ www.kalyanamitra.org
A ๒๖ ธรรบสไร!ทฝ็น! lau ๓ พระนHาโพรวงศไใไรย์(ทองดี ช.8.๙) ทำ ใหใม่ฅาย ส่วนผู้ฃาคสฅิมกวามปร:;มาทเป็นนิ'ไเ แมยังไม่ฅายก็่เหมือนกนฅาย แล้ว กือไม่กายก็่เหมือนฅาย หรอเป็นกนทกายก่อนกาย เพรา^กวามปร::มาท หรือกวามขากสติเป็นมั'จ'จุบทกือเป็นทางแห่งกวามกาย กามเทศนานัยทพร:; บรมศาสคาทรงแสคงไว้ คังทํ่อัญเชิญมาเป็นอเทศบทเบองก้นว่า อปฺปมาโท อมตํ ปทํ ปมๆโท มจฺจุโน ปทํ อปปมต.ตา น มืยนฺติ เย ปมต.ตา ยถา มตา ฯ \"ความไม่ปร:;มาทเป็นทางไม่ตาย ความปร:;มาทเป็นทาง แห่งความตาย ผู1ม่ปร:;มาทย่อมไม่ตาย ผู้ปร:;มาทแล้ว เหมือนคนตายแล้ว\" พระพุทธพจนนสมเค็่จพร^อัมมาอัมพุทธเว้ากรัสไว้เพํ่อเตือนใจซาวพุทธ ว่าอย่าไก้ประมาท ขอให้อยู่ก้วยกวามไม่ประมาท ตือทรงเตือนให้มืสติ อยู่ก้วย กวามมืสติ เพราะสตินั้นเป็นธรรมสุคยอคแห่งธรรมทั้งหลาย รักษาสติไว้!ก้ ก้มกรองสติไว้!ก้ ก็่เท่ากับว่าไครักษาไก้กุ้มกรองธรรมทุกอย่างไว้!ก้ ขาคสติ เพยงอย่างเคยว ซอว่าขาคธรรมทั้งหมค เพราะยู้ขาคสติจะประพฤติธรรมอะไร จริงจังไก้ สตินั้นเป็นเหฅุใหโลกร่มเย็่น สงบสุข เป็นเหตุให้บุกกล กรอบกรัว และอังกมประเทศชาติสงบเย็่น ไม่เบยคเบยนกัน มืเมกคาธรรมก่อกัน แก่ถ้า ฃาคสติ โลกก็่เตือคร้อน บุกกลก็่เตือกร้อน กรอบกรัว อังกม รวมทั้งประเทศ ซาติณตือคร้อน การแก้ปีญหาในครอบครัว ในล้งคม รวมทั้งปีญหาในบ้านเมือง ล้าแก้กน ด้วยความมืสติ ใช้ส^นการแก้!(ญหา จะมืล้กษณะนมนวล ผ่อนปรนให้อภย และแก้ปีญหาได้ในทั้สุด ทั้งไม่ก่อ!(ญหาอึ๋นติดตามมา แต่ล้าแก้ปีญหาด้วย ขาดสติไมใช้สติแก้ปีญหา จะมืล้กษณะทั้ร้อนและรุนแรง เอาชนะคะคานกัน ยอมกันไมได้ มืแต่จะเผชิญหน้ากัน ทั้งจะก่อบ้ญหาเพั๋มขนมาอก กล่าวคือ บ้ญหานั้หมดไป ปีญหาใหม่ทั้เป็นผลพวงจะเกิดข็้นมาแทน ด้องตามแล้กัน เรํ่อยไปไม่รู้จบ ความเดือดร้อนวุ่นวายก!มยุติลงได้ www.kalyanamitra.org
๒๗ อัชชบ!ทธรรบทท'! 1รอง ควาบใช่นระมไท จริงอยู่ เพราะกนเราฃาคสติ ไมนกไม่คิคให้รอบคอบรอบตัว ไม่ติคถึงอกเขา อกเรา ไม่กิคถงคซั่ว บาปบุญคุณโทษ กิคถี้งแฅ่ประโยชนส่วนตัว กิคเอาแก่ จะไคโคยมตัวเองเป็นแกนกลาง ทำ อะไรก็่เพอตัวเองเป็นทฅั้ง จงเบยคเบยนยูอน ทำ ลายทำร้ายผูอน เอารัคเอาเปร้ยบยูอื่นคัวยกวามฃาคสติฃาคความยั้งติค ช่วยเหลือผูอื่นไมไคั บำ เพ็่ญประโยชนเพํ่อยูอื่นไมไคั กิคสร้างสรรก่เพอรูอื่น ไมใคั จะทำ จะพูค จะกิคอะไรก็่ม่งเพอตัวเอง เพอพวกพ้องตัวเองเท่านั้น ในโลกนั้ถ้ามกนทฃาคสติขาคความยั้งกิคมากเท่าไร โลกก็่เสือคร้อนวนวาย ผิคสืลผิคธรรม เบยคเบยนกันทำลายล้างกัน เอารัคเอาเปรยบกันมากฃ็้นเท่านั้น ส่วนยู้มสติย่อมเสือนฅนเสือนใจอยู่เสมอ ย่อมคิคนึกอยู่เสมอว่าคน เป็นใคร มภาวะอย่างไร ควรทำอะไรบ้าง ทั้งคิดไกลไปถงว่าไม่ช้าไม่นานตน ก็่จร;ต้องจากทุกสิงทุกอย่างไปแล้ว โลภไปก็่เท่านั้น โกรธไปก็่เท่านั้น หลง ไปก็่เท่านั้น พยาบาทจองเวรไปก็่เท่านั้น มแต่จะทำให้ใจพ้งซ่านไม่สงบ อย่างเดยว คนมสติย่อมคิคอยู่อย่างนั้ จงให้อภัยรูอื่นไคั ช่วยเหลือเกอกูล รูอื่นไคั เลืยสละเพํ่อรูอื่นไคั พระบาทสมเสืจพระปรมินทรมหาจุพ้าลงกรณ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระปิยมหาราชเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ทรงบำเพ็่ญพระองก่เป็นผู้ม สติ ไม่ประมาททุกเมํ่อ จึงไคัทรงบำเพ็่ญพระราชกรณยกิจก่างๆ ไว้เป็นแบบ มากมาย ทรงปลกคันไมคือความเจริญแก่ประเทศชาติบ้างเมืองไว้แล้ว ทรง เอาพระหัยใส่รคนาพรวนตินจนรากแห่งความเจริญนั้นงอกงามแฅกกงก้าน สาชา มืคอกมืผลเป็นมรคกฅกทอคลืบมาคราบเท่าทุกวันนั้ ทั้งนั้ก็่คัวยนั้าพระ ราชหฤทัยอันหมคจคคัวยพระสติ พระขันติ และพระธิติคลอคพระชนมายุของ พระองก ควรทชาวไทยผู้มืความจงรักกักคในพระองคืจะไคลอพระองคืเป็น แบบอย่าง รักษาแบบแผนทพระองกทรงบำเพ็่ญเป็นแบบฉบับไว้ โคยมืสติ เป็นททั้ง ไม่ประมาทเผลอเรอปส่อยให้ทุกสิงทุกอย่างทํ่ทรงเรมคันไว้สูญสินไป ก็่จะไคซอว่าเป็นผู้จงรักกักคและทรงไว่ซงความกตัญฌูกคเวทิคาธรรมอย่าง www.kalyanamitra.org
i ๒๘ sssuaisinfluiiau๓ พระนMาโพรวง ศT=ทรย์(ทองดี ช.8.๙) แท้จริง หากพระองกทรงทราบว่าท้นไมกือกวามเจริญของประเทศชาติททรง ปลูก และทำนุบำรุงไว้นั้นยังเจริญงอกงาม มผู้ศานฅ่อคูแลรักษาอย่างก ก็่จะ ทรงปลาบปลมพระราชหฤทัยเป็นอย่างยํ่ง แก่หากทรงทราบว่าท้นไม้แห่งกวาม เจริญททรงพระราชอุกสาหะปลูกไว้และทรงทะนุถนอมมานั้นถูกทอคทง ไมไท้ รับการดูแลเอาใจไก่เห่าทํ่กวร หรือมกาฝากมาเกาะอาทัยดูกอาหารเลยงซพอยู่ หรือมท้วงมแมลงมากอยชอนไชอยู่ ก็่กงเสิยพระราชหฤทัยเป็นล้นพ้นแน่นอน ในทสุกแห่งพระธรรมเทศนา ขออำนาจพระราชฤศลทักษิณานุประทาน ทสมเค็่จบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้าทั้งสองพระองก่ ผู้ทรงพระคุณอัน ประเสริฐ ทรงบำเพ็่ญพระราชอุทิศแล้วนั้จงก่าเร็่จเป็นวิบากสมบัติปิฅติทานมัย แก่พระบาทสมเค็่จพระปรมินทรมหาจุพ้าลงกรณ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระปียมหาราชเจ้า สมเค็่จพระศรืพัชรินทราบรมราชินนาถ และสมเค็่จพระ ศรืสวรินทราบรมราชเทวิ พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า สมกามพระราชประสงก่ และพระราชอุทิศในพระเจตนาทุกประการ รับพระราชทานวิอัชนาพระธรรมเทศนาในอัปปมาทธรรมกถา เป็น ปสาทนยานุโมทนา สมกวรแก่เวลา ท้วยประการฉะนั้ ฯ ขอถวายพระพร www.kalyanamitra.org
เทวดาทิสฝ็ทักขิณานุโมทนากถา เรื่อง การทำบุญอุทิศเทวดา ยสฺมึ ปเทเส กปฺเปติ วาสํ ปณฺฑิตชาติโย สิลวนฺเตตฺถ โภเซตวา สฌฺฌเต พฺรหฺมจา?โน ยา ตตฺถ เหวตา อาสุ๊ ตาสํ หก.ฃิณมาทิเสติ ฯ ที.ม. 0๐/๘๔/00๔ บคน จักรับพร๓ซทานถวายวิสิ'ชนาพระธรรมเทศนาใน เทวตาทิส์ฟ้- ทกฃิณๆนุโมทนากถา ฉลองพระเดชพระคุณประคับพระปิญญาบารม อนุรูปฅามพระราชกศลคักษิณาบุประทานกิจ ทศมเค็่จบรมบพิตรพระราช- สมภารเจ้าทั้งศองพระองก ทรงบำเพ็่ญพระราชธุทิศส่วนพระราชกุศลถวาย แค่สมเค็่จพระบุรพมหากร'ฅริยาธิราชเจ้าและสมเคี่จพระบุรพคักรมเหส่ ผู้ทรงพระคุณคันประเสริฐ ผู้ทรงเปีนพระราชบุรพการิและพระราชบุรพการิน ในพระบรมราชจักริวงคัทุกๆ พระองค่ ทั้งนก็่ด้วยทรงมพระราชประสงก ณ พฺรรทนั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง วันทึ๋ ๓ พฤษภากม พ.ศ. ๒๕๓๗ www.kalyanamitra.org
A ฅ0 ฿ sssuaisinflin lau ๓ พระฆแใโพธิวงศไาไรย์(ทองดี ช.ร.๙) มุ่งให้ส์าเรจเป็นหิฅสุฃสมควรแก่ฐานร;ในร'มปรายิกภพ ค้วยอำนาจแห่ง พรร:ราชหฤทัยทเร่ยมด้วยพรร;กฅัญฌูกฅเวทีฅาธรรมแลร;อปจายนธรรมชงม ปรร;จำมั่นอยูในพรร;ราชหฤทัย การทสมเค็่จพรร;บรมบพิฅรพรร;ราชสมภารเจ้าทั้งสองพรร;องก่ทรงบำเพ็่ญ พรร;ราชกุศลอุทีศถวายแค่สมเค็่จพรร;ราชบุรพการแลร;สมเค็่จพรร;ราชบุรพ- การินเป็นนิพัทธกาลปรร;จำทุก!เมามิได้ฃาคนั้น นอกจากจร;ไค่ซอว่าทรงอนวัตร ตามโบราณราชปรร;เพณทั้ปฏิบัติสืบๆ กันมาแค่โบราณแล้ว ยังไคซอว่าทรงอนุวัตร ตามพรร;พุทธดำรัสชองสมเค็่จพรร;ยู้มพรร;ภาคเจ้าทั้ตรัสปรร;ทานเตือนใจชาว พุทธไว้ ตามนัยพรร;บาลทปรากฏในสุตตนิบาต ทีฆนิกาย มหาวรรค ชงอัญเชิญ มาเป็นนิกเฃปบทเบองด้นเทศนาว่า ยสฺม ปเทเส กปฺเปติ วาส์ เป็นอาที ชง ท่านยูรูทั้งหลายได้แปลไว้ว่า \"บณฑิตซนอยูในภูมิปรรแทศ่ใด พงเลยงดูท่านผู้มตืล ผู้มความส์ารวม ผู้ปรร;เสริฐ ผู้ปรร;พฤติพรหมจรรย ในภูมิปรร;เทศนั้น แล้วพึงอุทิศทักษิณาแก่เหล่าเทวดาผู้ สลิดอยูในภูมิปรร;เทศนั้นด้วย\" ตามนัยแห่งพรร:บาลนั้ท่านอธิบายไว้ว่า บัณฑิศชนมู้มป็ญญาฉลาด เมอ อา^ยอยู่ ณ สถานทใดๆ จ:;เป็นหมู่บานก็่ฅาม เป็นดำบล อำ เภอ จังหวัด หรึอเป็นปร:;เทสใดๆ ก็่ตาม ย่อมมนํ้าใจอันงดงามทิดถึงบญคุณของสถานท นั้นๆ บ้าง ทิดถึงบุญคุณของผู้ทเคยเป็นเจ้าของสถานทนั้นบ้าง โดยทิดอยู่ เสมอว่าสถานทํ่ทฅนอยู่อาวัยในป็จจุบันนั้นย่อมมเจ้าของมาก่อนแล้วบ้าง ย่อม มคนเคยอาวัยอยู่มาก่อนบ้าง เมอทิดอย่างนั้แล้วจึงหาโอกาสป้าเพ็่ญบุญด้วย การเชิญหรือนิมนฅสมณ:;ขพราหมณาจารย่ผู้ทรงทิลทรงธรรม มความอำรวม ปร:;พฤติพรหมจรรย่ ชึ่งถึอว่าเป็นเนั้อนาบุญอันปร:;เสริฐ ให้มาบังสถานทอยู่ ของฅนเพอความเป็นอํริมงคลแก'ตน แก'สถานทอย่ของฅนฅลอดไป แล้วเลยงด www.kalyanamitra.org
๓อ฿ 1ทวฅ1ทสสททซิ0ทนโบทน1ท01 1รอง ms ทำบญอุทิศ!ทวดไ ใmมหนำ ราญด้วยโภชนาหารอันประณต หลังจากนั้นก็่อุทิffทักษิณาคือ อุทิปส่วนบุญไปให้แก'เทวฅาทั้งหลายทอาลัยอยูใน^ถานทนั้นด้วย ทํ่บัณฑิฅซนแฅ่อคฅไค้ปฏิบัติฅามกฅินิยมกันมาอย่างนก็่ค้วยความเชอว่า สถานทอยู่ของตนนั้นย่อมมเทวคาเป็นเค้าซองหรออากัยอยู่ค้วย เทวคาเหล่านั้น โทษมปรร!การต่างๆ ข้อนั้เป็นเหตุผลอย่างหนั้ง อกเหตุผลหนั้งททำบุญอุทิศแก่เทวคาเหล่านั้นก็่เพราะมลวามเการพ นับถือเทวคาเหล่านั้น ค้วยเชอว่าเทวคาเหล่านั้นเคยเป็นเค้าของ เกยกรอบ กรองสถานทนั้นๆ มาก่อนสมัยเป็นมนุษย่บ้าง เกยเป็นญาติของคนบ้าง เป็นค้น เพราะกำว่า เทวดา หรือ เทพ นั้นเป็นกำรวมๆ หมายถืงบุรพเทพคือ มารคาบิคากึ๋ใค้ หมายถืงสมมติเทพคือพระเค้าแผ่นตินกใค้ หมายถืงอุปิฅติเทพ คือเทวคา'จริงๆ รวมถืงพระพรหมและเทพระคับล่าง เซ่น ภุมมเทวคา รุกฃ- เทวคา เป็นค้นก็่ไค้ เมอเชออย่างนั้คืงไค้ทำบุญแล้วอุทิศทักษิณาหรืออุทิศ ล่วนบุญไปให้แก่เทวคาเหล่านั้น กวาม'จริง กวามเชอหรือกตินิยมอย่างนั้แบ้พระทุทธเค้าเองก็่ทรงรับรอง ไว้ว่าถูกค้องและเป็น'จริงไค้โคยทรงแสคงว่าเมอเทวคาเหล่านั้นไครับทักษิณา ไค้รับกวามเการพ ไค้รับกวามนับถือ'จากบัณฑิตชนนั้นแล้วย่อม'อำนวย ประโยชนัแก่ผู้นั้น คังพระบาลทตรัสต่อไปว่า คา ปูชิตา ปูชย'นฺติ มานิตา มานยนฺติ นิ ตโต นิ อนุกมฺปนฺติ มาตา ปุตฺตํว โอรส์ เทวตานุกมฺปีโต โปโส ศทา ภทรานิ ปสฺสติ ฯ ที.ม. 0๐/๘๔/๐๐๔ www.kalyanamitra.org
i ๓๒ sssuaisinfluiiau๓ พระฆ!ทโพธวง ศไาารย์(ทอง ดี ช.ร.๙) \"เทวดาเหล่านั้น เมึ๋อบณฑิฅซนบูชาแล้วนบถือแล้ว ย่อม บูชา ย่อมนบถือตอบบณฑิตนั้น แต่นั้นย่อมอนุเคราร;ห บณฑิตชนนั้น เหมือนดงมารดาอนุเคราร;หนุตรทํ่เกิดแต่ อกฉร;นั้น ผู้ทเทวดาอนุเคราร;หแล้วย่อมพบเห็่นแต่สิงท เจริญทุกเมึ๋อ\" พรร;บาลล่วนนั้เ!เนหลักฐานยืนยันว่า การกรร;ทำชองบณฑิตในเรองนั้ ไมใช่เรืองทํไร้สารร; ไม่ใช่เรํ่องทไร้ผล หากเบ็่เนเรึ๋องทควรทำควรปรร;พฤติ ไม่ควรมองข้ามว่าไมจาเป็นแลส์ไม่ล่าคญอ^ไรต่อซวิตแลร;ครอบคริว เพราร; ผู้ทเทวคาสงเกราร;หนั้นย่อมไค้พบไค้เห็่นแต่ร่งทเจริญหูเจริญคา ไคริบแต่ร่งท คงาม น่าเจริญใจ ไคริบแต่ความรุ่งเรือง แลร;ไ^บการริกษาค้มกรองจากเทวคา เหล่านั้น ให้อยู่รอคปลอคภัยเป็นอย่างค หากจร;อธิบายในทางตรงภันฃ้ามก็่ ย่อมไค้กวามว่า ยู้ทเทวดาลงโทษนั้นย่อมจร;พบพานแต่ความหายนร; ความ วิบติ ความเถือมถอยลงเ'รื้อยๆ ไม่อาจเจริญรุ่งเรืองได้ด้วยปรร;การทั้งปวง หากจร;มองอกมุมหนงของพรร;บาลนั้ย่อมอธิบายไค้ว่า สมเค็่จพรร;บรม- ศาสคาลัมมาลัมพทธเจ้าทรงพรร;ปรร;สงก!ห้กนเรามืนํ้าใจ มืกวามกฅัญฌู มื กวามริก มืกวามเสิยสลร;ต่อสถานท ต่อแผ่นคิน ต่อปรร;เทศซาฅิทตนอาลัยอยู่ แลร:ต่อเพอนร่วมสถานท ร่วมแผ่นคิน แลร;ร่วมปรร;เทศซาฅิค้วย กล่าวกือตน อาลัยอยู่ ณ ทใค ณ แผ่นคินไค ก็่พี้งพยายามกบหาแต่เหล่าผู้ทรงถืลทรงธรรม ฒู กวามล่ารวมกาย ล่ารวมวาจา ผู้ปรร;พฤติพรหมจรรย่ ชงไค้แก่สมณร;ซพราหมณ หรือนักบวชทั้งหลายทั้งปวงทํ่อยูในถั๋นนั้นๆ เลยงดูท่านเหล่านั้นให้คำรงซพ อยู่ใค้ ทั้งนั้ก็่เพอให้ท่านเหล่านั้นกอยแนร;นำ ตักเฅือน ลังสอน ซทางถูกทาง ผิคให้เห็่น เท่าภับว่ามืท่านเหล่านั้นเป็นทปรืกษาปรร;จำตัวหรือเป็นแบบอย่าง ทคํงามล่าหริบปรร;พฤติปฏิบัติตามภัน เพราร;ในหมูใคในกณร:ไคไร้ผู้ทรงติล ทรงธรรม มืแต่ผู้ซาคธรรม หมู่นั้นกณร:นั้นย่อมปรร;สบแต่กวามหายนร; กวาม เคือคร้อนค้วยปรร;การทั้งปวง หากวามสุซหากวามสงบร่มเย็่นมิไค้ เพราร;ว่า www.kalyanamitra.org
ฅ๓$ 1ทว1511ทสสททซิณ1นโบทinnai 1รอง ms ทำบุญอุทิศ!ทวฟิา การล่วงละเมิดสิทธิของกันและกัน การเบยคเบยน การเอารัดเอาเปรยบกัน ย่อมเกิดขนไค้ทุกเวลาในหม่ในกณะทไร้สืลไร้ธรรม ไร้ผู้ทรงกิลทรงธรรม ไร้ผู้ ประพฤติพรหม'จรรย่ ไร้^นํ้าใ'จอันงาม ดังนั้น กิลธรรมก็่ค ผู้ทรงสืลทรงธรรม ก็่ค ผู้ประพฤติพรหม'จรรย่ก็่ค 'จำ เ!)น'จะค้องมในสถานทนั้นๆ ยั๋งมมากเท่าใด อังกมยํ่งสงบสุขมากขนเท่านั้น ค้วยเหฅนั้การชุบเลยงและการดูแลเอาใ'จใล่ ผู้ทรงกิลทรงธรรมใหค ไม่ดูหมํ่นเหยยดหยาม ไม่มองข้ามกวามสิาดัญของท่าน เหล่านั้น ย่อมจะ'อำนวยประโยซนแก่หมู่กณะนั้นแน่นอน กล่าวให้ชดเจนก็่คือ อยู่ในสถานทใดๆ จร;ต้องยกย่องส์ลธรรม ยกย่องความดงาม ยกย่องผู้มส์ลมธรรม ยกย่องผูมความประพฤติดงาม ในทนั้นๆ และต้องยกย่องต้วยความจริงใจและจริงจงไม่ขาดตอน เพราะ ติลธรรมความดงามนั้นเร็่เนสมบติทมค่ามากทสุดประเสริฐทสุดของมนุษย่ ขาติยงกว่าสมบตินั้งหลาย นอกจากเลิ้ยงดูชูชุบท่านผู้ทรงกิลทรงธรรมแล้ว พึงธุทิสทักษิณาแก่ เทวดาทั้งหลายค้วย กำ ว่า อุทิศทักษิณา ในปริยายนั้มิใช่หมายกงการ'อุทิศ ล่วนบุญเหมอนในกวามหมายแรก แด่หมายถึงการบำเพ็่ญทานบำเพ็่ญประโยขน่ ให้เกิดแก'เทวดาทั้งหลายทั้เป็นบุรพเทพกือบิดามารคา ทั้เป็นสมมติเทพกอ พระเจ้าแผ่นดิน ทเป็นอุปิฅติเทพกือเทวดาจริงๆ และทั้เป็นวิสุทธิเทพดือ พระอรทันฅดามลำดับ อันดับแรกดือ อุทิศทักษิณาให้แก่บุรพเทพคือบิดามารดา วิธอุทิศดือ เล็้ยงดูบิดามารดาให้เป็นสุข ไม่ทอดทั้งให้ทุกฃยากให้เหงาหงอย เชํ่อทังทั้ง อยู่ในโอวาทของท่าน ไม่ทำให้ท่านเถึยใจ ไม่ทำให้ท่านผิดหวังเพราะกวาม ประพฤติของตน พยายามทำให้ท่านเกิดกวามป็ติยินคเพราะกวามประพฤติ ทั้คและความเจริญก้าวหน้าของฅน กล่าวดือทำอย่างไรจงจะให้มารดาบิดา สมหวังปรารถนาในฅน ก็่ทำ สิงนั้นให้ท่าน ผู้ทำ ไค้อย่างนั้ซอว่าอุทิศทักษิณา www.kalyanamitra.org
k ๓๔ # sssuaisinflin lau ๓ พระมHาโพริวงศาใารย์(ทอง ฅี ช.ร.๙) ให้แก่บุรพเทพกือบิคามารคาซงมฐานะฟ้นเทพหรอเทวคาปร^จำซวิฅ ประ:จำ กรอบกรัว ผู้ปฏิบัติดปฏิบติชอบต่อมารดาบิดานอกจากจร{ได้ซึ่อว่าฟ้นลูกกตัญฌู แล้ว ผูนนย่อมมั่งคั่งแลร;มั่นคงตออดไปด้วย เพราร!ความกตญฌูเ!เนพ็้น^าน ชวิฅซองมนุษย่ คนทฃาดความกตญฌูก็่เท่ากบว่าเ^นคนฃาดพฐานทจร; มารองรับความด้ ความงาม ความเจริญก้าวหน้า เหมือนสิงก่อส!ๆงทขาด รากฐานทด้ย่อมขาดความมั่นคงไปฉร;นั้น สำ หรับ การอุทิศทกษิณาให้แก่สมมติเทพคือพรร!เจ้าแผ่นติน นั้นคือ มืกวามจงรักภักคืทั้งต่อหน้าแลร:ลับหลัง ยินคืรับสนองงานต่างๆ ค้วยนั้าใจ อันงาม รับใซ้เบองพระ:ยุกลบาทคัวยกวามขยันขันแฃ็่ง ปฏิบัติราชการและ:ราชกิจ ต่างพระ:เนตรพระ:กรรณคัวยกวามชอลัฅย่ คัวยกวามรับผิคชอบ มิกวรให้ บกพร่อง มิให้กระ:ทบกระ:เทือน มิให้ระ:กายเคืองถงเบองพระ:ยุกลบาท ปฏิบัติงาน ปฏิบัติหน้าทให้เป็นทเบาพระ:ราชหฤทัย เป็นทไว้วางพระ!ราชหฤทัยไคั!นทุกเรํ่อง ในทุกกรณ อย่างสูงสุคกื่คือสามารถสละ:ชพเพํ่อรักษาพระ:ราชมรคกคือแผ่นคิน ของพระ:องก!ว!ห้Iคั เพราะ:แผ่นตินนั้พระ:เจ้าอยู'หัวในอคืคทุกๆ พระ:องก่!คัทรง หลั่งพระ:โลหิตและ:พระ:เสโทกอบกู้ พัฒนา สร้างสรรก จรรโลง ปกปีกรักษาไว้ เป็นพระ:ราชมรคกคืบมาจนทืงทุกวันนั้ คัวยกวามยากสำบากเหคือประ:มาณ หากทำไคืคังนั้ซอว่าไคัธุทิศทักษิณาให้แก'สมมติเทพคือพระ:เจ้าแผ่นดิน อนั้ง การทำสถานทหรือแผ่นดินทดนอาด้ยอยูให้เจริญรุ่งเรือง ให้สงบ ร่มเย็่น ให้เหมาร;ทจร;เป็นทอย่อาด้ย ก็่ชอว่าอุทิศทักษิณาแก่สมมติเทพ อกสํวนหนง กล่าวคือตนอาลัยอยู่ ณ ทั้ใค ณ ล่วนใคของแผ่นคิน ก็่ทำ ทั้ ตรงนั้นล่วนนั้นให้เจริญ ทำ ให้สะ:ควกสบาย ทำ ลั่งแวคล้อมในบริเวณนั้นๆ ให้น่าคูและ:น่าอยู่ อนุรักษภาพและ:อนุรักษสถานททคือยู่แล้วให้กงไว้ตลอคไป ไม'ปอนทำลายสถานทนั้นๆ ไม'บ่อนทำลายแผ่นตินทตนอยู่อาลัย และ: www.kalyanamitra.org
๓๕:^> 1ทวฅ1ทสสททซิณแเโบทนวทm rtfXAi 1รอง ms ทำบุญอุทิศ!ทวดใ ไม่อาสื'ยแผ่นดินอยู่เพยงฟ้ายเดยว ต้องให้แผ่นดินอาศยได้บ้าง ทำ ไคคังน แผ่นคินทเป็นพระราซมรคกก็่จ::กงอยู่คลอคกาลนาน และแผ่นคินพระราชมรคก นก็่จะเป็นทน่าดูแลและน่าอยู่อาต้ยฅลอคกาลนานเซ่นกัน การกระทำเซ่นน ก็่ชอว่าอุทิศทักษิณาให้แก่สมมติเทพอกประการหนง เมึ๋อคนเราปฏิบ้ดิดิปฏิบ้ดิชอบต่อสมมดิเทพหรือต่อแผ่นดิน แผ่นดิน นั้นก็่ย่อมอำนวยประโยชน อำ นวยสุขแก่ผู้อยู่อาต้ย หากไม่รู้คุณแผ่นดิน เบยดเบยนแผ่นดิน แผ่นดินก็่ให้๒ษ เป็นพิษเป็นภยฃั้นมา ย่อมเป็นเซ่นน ทุกแห่งหน ส่วน การอุทิศทักษิณาให้แก่อุปีตดิเทพหรือเทวดาจริงๆ รวมถึง พระพรหมและเหส่าเทพระคับส่างๆ เซ่นภุมมเทวคา รุกฃเทวคา เป็นค้นนั้น ชัคเจนในเบองค้นแล้ว ส่าหรับ การอุทิศทักษิณาให้แก่วิสุทธิเทพคือพระอรทันตทั้งหลาย นั้นหมายถึงการทกนเราประพฤติอยู่ในกรอบแห่งกำสอนซองพระอรหันฅ ม พระพทธเจ้าเป็นค้น กส่าวกอฅั้งใจไม่ทำกวามซั่วกวามผิคต่างๆ มุ่งมั่นใน การทำกวามคืให้คนเอง มุ่งมั่นทำซวิคให้มก่า มคักคิ้ศรืและมเกยรติค้วยการ ทำ กวามคืงาม บำ เพ็่ญประโยซน่ และตั้งใจปล่อยวางกวามโลก กวามโกรธ และกวามหลงผิคเมามัวต่างๆ ให้พ้นไปจากจิคใจ เพอใหจคใจไค้เป็นอิสระ ไม่ถูกกรอบไม่ถูกกธุมค้วยกิเลสเหส่านั้น ผู้อุทิศทักษิณาให้แกวสุทธิเทพค้วย การประพฤติเซ่นนั้ย่อมไครับผลไครับอานิสงส์คือกวามสงบเย็่นแห่งจิคใจ ซงเป็นกวามสุซอย่างสมบูรณส่าหรับชวิคซองทุกกน กล่าวโคยรวมก็่คือศมเด็่จพระผู้มพระภาคเจ้าทรงมพระพุทธประสงคให้ มนุษย่เรามจิตใจอ่อนโยน มความรัก มความเอออาทรต่อกัน ซ่วยเหลือกัน สงเคราะห่กัน ให้เห็่นคุณค่าเห็่นประโยชน่ฃองสถานทอยู่อาศย ของแผ่นดิน ของเพอนร่วมทอยู่อากัย ของเพึ๋อนร่วมแผ่นดิน และให้มความกตญฌู www.kalyanamitra.org
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 512
Pages: