๔๘๘ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงส์ นิพพานเววจนกถา ว่าด้วยซื่อของพระนิพพาน ๓ ๑. วิเวก ความสงัด ๒. วิราคะ ความสำรอกกิเลส ฅ. นิโรธ ความดับสนิท ที่มา : อริยวังฝึจตุกกวัณณนา ส์งสืติสูตร อรรถกถาสุมังคลวิลาสินี ที.ปา.อ. ต/๒๑๖ วิเวโก วิราโค นิโรโธติ ตี^ นิพพานสุส นามานิ ฯ นิพพานญหิ อุปธิวิเวกตุตา วิเวโก, ตํ อาคมม ราคาทโย วิรชุชนฺตีติ วิราโค, นิเชุฌนติติ นิโรโธ ฯ แปล : พระนิพพานมีซื่อเรียก ฅ คือ วิเวก ๑ วิราคะ ๑ นิโรธ ๑ พระนิพพานซื่อว่าวิเวก เพราะเป็นภาวะที่สงัดจากอุปธิ ซื่อว่าวิราคะ เพราะเป็นที่ที่กิเลสทั้งหลายมีราคะเป็นต้นมาสำรอกไป ซื่อว่านิโรธ เพราะเป็นสภาพดับสนิท ฯ สมสืสืกถา ว่าด้วยพระอรหันต์สมสีสี ฅ ๑. อิริยาปถสมสีสี ผู้สำ เร็จพร้อมอิริยาบถ ๔ ๒. โรคสมสีสี ผู้สำ เร็จพร้อมกับสินโรค ฅ. ชีวิตสมสึสี ผู้สำ เร็จพร้อมกับสินชีวิต www.kalyanamitra.org
และคณะ] หมวด ฅ ๔๘๙ ที่มา : โคธิกสุตตวัณณนา มารส์งยุต อรรถกถาสารัตถปกาสินี ฟ้.ส.อ.๙๑๗๕ เถโร ทฑนํ วิคุขมเภตุวา ... อรหตุตํ ปดวา สมสีสี ชุตุวา ปรินิพุพายิ ฯ สมสีสี นาม ติวิโธ โหติ อิริยาปถสมสีสี โรคสมสีสี ชีวิตสมสึสี ฯ แปล : ท่านพระโคอิกเถระข่มเวทนาแล้ว ... บรรลุพระอรหัต เป็นสมสิสิบุคคล {ผู้สำเร็จเป็นพระอรหันต์พร้อมกับเหตุ) ปรินิพพานแล้ว บุคคลที่เรียกว่าสมสิสีนั้น มี ฅ ประเภท คือ อิริยาปถสมสีสิ ๑ โรคสมสิสิ ๑ ชีวิตสมสิสี ๑ ฯ อาตุรกถา ว่าด้วยผู้เร่าร้อน ฅ ๑. ชราดูร เร่าร้อนเพราะชรา ๒. โรคาดูร เร่าร้อนเพราะโรค ฅ. กิเลสาดูร เร่าร้อนเพราะกิเลส ที่มา : อุปัฏฐานสุตตวัณณนา วนส์งยุต อรรถกถาสารัตถปกาสินี สํ.ส.อ.๑/๒๗ต อาตุรสฺสาติ ชราตุโร โรคาตุโร กิเลสาตุโรติ ฅโย อาตุรา ฯ แปล : คำว่า ผู้เร่าร้อน ความว่า บุคคลผู้เร่าร้อนมี ฅ คือ ผู้เร่าร้อนเพราะชรา ๑ ผู้เร่าร้อนพราะโรค ๑ ผู้เร่าร้อนเพราะกิเลส ๑ ฯ www.kalyanamitra.org
๔๙๐ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงส์ ^ปนิสสยกลา ว่าด้วยอุปนิสัย ๓ ๑. ทายูปนิสสัย อุปนิสัยในการให้ทาน ๒. สีสูปนิสสัย อุปนิสัยในการรักษาสิล ต. ภาวยูปนิสสัย อุปนิสัยในการอบรมพัฒนาจิต ที่มา : อุทานสุตตวัณณนา อุปยวรรค อรรถกถาสารัตถปกาสินี สํ.ซไ4ธ.อ. ta/noo ตโยเม อุปนิชุสยา ทาผูปนิสสโย สีดูปนิสฺสโย ภาวยูปนิสสโย จ ฯ แปล : อุปนิสัย ต เหล่านี้ คือ ทานูปนิสสัย ๑ สีลูปนิสสัย ๑ ภาวนูปนิสสัย ๑ ฯ ทานเจตนากถา ว่าด้วยเจตนาในการใด้V ๓ ๑. 1]พพเจตนา ความตั้งใจก่อนให้ ๒. บุญจนเจตนา ความตั้งใจในเวลาให้ ต. อปรเจตนา ความตั้งใจหลังการให้แล้ว ที่มา ะ ทานสุตตวัณณนา เสซปริหาป็ยวรรค อ. มโนรถปูรณี องฺ.ฉฤก.อ.(ท/๑๑๗ 1^พุเพว ทานา อุ[มโนติ ทานํ ทสสารติ มาสฑฺฒมาสโต ปฎจาย โสมนสฺสปฺปดุโต โหติ, เอตถ หิ ใ^พุพเจตนา ... ทฑํ จิตุตํ ปสาเทติติ เอวํ \"{ตุตา บุญจนเจตนา ปน ทานคาเสเยว ลพฺภติ ฯ ทตฺวา อตตมโน โหตีติ อยํ ปน อปรเจตนา อปราปรํ อบุอุ[สรนตสฺส ลพฺภติ ฯ www.kalyanamitra.org
และคณะ] หมวด (ท ๔๙๑ แปล : คำ ว่า \"ก่อนแต่ให้ ฟ็นผู้มีความยินดี\" ความว่า ฟ็นผู้ถึง ความดีใจ ตั้งแต่หนึ๋งเดือนหรือครึ๋งเดีอนว่าเราจักให้ทาน ในความข้อนี้ ซื่อว่าปุพพเจตนา ... มุญจนเจตนาที่ตรัสไว้อย่างนี้ว่า \"ขณะให้ ย่อมทำ จิตให้เลื่อมใส\" ทายกจะได้(จะเกิดแก่ทายก)เฉพาะในเวลาให้เท่านั้น ส่วน อปรเจตนาที่ตรัสว่า \"ครั้นให้แลว เป็นผู้ปลาบปลื้มใจ\" นี้ ทายกจะได้เมื่อ ระลึกถึงทานนั้นในกาลต่อ ๆ มา ฯ พุทธจริยากถา ว่าด้วยพุทธจริยา ฅ ๑. โลกัตลจริยา พระพุทธจริยาเพื่อประโยชน์แก่โลก ๒. ญาตัตลจริยา พระพุทธจริยาเพื่อประโยชน์แก่พระญาดี ฅ. พุทธัตถจริยา พระพุทธจริยาในฐานะที่เป็นพระพุทธเจ้า ที่มา : เอกปุคคลวัคควัณณนา อรรถกถามโนรถปูรณี องฺ.เอกก.อ.๙๘๙ ณาตตถจริยํ โลกตฺถจริยํ พุทุธตถจริยํ 1]รยมาโนปี ลูปปชุชมาโน นาม ฯ แปล : พระตถาคตอรหันตสัมมาส์'มพุทธเจ้าแม้เมื่อทรงบำเพ็ญ ญาตัตถจริยา ๑ โลกัตถจริยา ๑ พุทธัตถจริยา ๑ ซื่อว่าเมื่อทรงอุบัติ ฯ www.kalyanamitra.org
๔๙๒ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงส์ มัตตกถา ว่าด้วยประมาณ ฅ ๑. ประมาณในการแสวงหา ๒. ประมาณในการรับ ฅ. ประมาณในการบริโภค ทมา : จุลลกาลมหากาลวัตลุ ยมกวัคควัณณนา อรรถกถาธรรมบท ชุ.ธ.อ. ๑/๖๔ อมตุตณญนุติ ปริเยสนมตุตา ปฏิคคหณมตุตา ปริโภคมตุตาติ อิมิสุสา มตุตาย อชามนโต โภชนมุหิ อมตุตญญํ ฯ แปล : คำ ว่า ^ม่รู้จักประมาณ อธิบายว่า ซื่อว่าผู1ม่รู้จัก ประมาณในโภชนะ เพราะไม่รู้จักประมาณ {ฅ) นี้ คือ ประมาณในการ แสวงหา ๑ ประมาณในการรับ ๑ ประมาณในการบริโภค ๑ ฯ พทธกถา ว่าด้วยพุทธบุคคล ๓ ๑. สัมมาสัมทุทธะ ท่านผู้ตรัสรู้ชอบได้ด้วยตนเองแล้วสอนผู้อื่นให้รู้ตาม ๒. ปัจเจกชุทธะ ท่านผู้ตรัสรู้เฉพาะตน ไม่สามารถสอนผู้อื่นให้รู้ตาม ต. อชุทุทธะ ท่านผู้ตรัสรู้ตามพระสัมมาส์'มพุทระ หมา : อานันทัตเถรปัญหวัตลุ ทุทธวัคควัณณนา อรรถกถาธรรมบท ชุ.ธ.อ. ๖/ นิพุพานํ ปรมํ วฑนุติ ชุทุธาติ ทุทธา จ ปจุเจกทุทธา จ อทุทุทธา จาติ อิเม ตโย ทุทุธา นิทุพานํ ยูตุตมนฺติ วฑนติ ฯ www.kalyanamitra.org
และคณะ] หมวด ๓ ๔๙๓ แปล : บาทพระคาถาว่า ท่านผู้รู้ทั้งหลายกล่าวสรรเสริญนิพพาน ว่าเป็นธรรมที่ยอดเยี่ยม ความว่า ท่านผู้รู้(พุทธบุคคล)ทั้งฅประเภทเหล่านี้ คือ พระพุทธเจ้า ๑ พระปัจเจกพุทธเจ้า ๑ พระอนุพุทธะ ๑ ย่อมกล่าว สรรเสริญพระนิพพานว่าเป็นธรรมอันสูงสุด ฯ ทานสัมงตติกฝืา ว่าด้วยทานสมบัติ ๓ ๑. เขตตสมบติ ถึงพร้อมด้วยบุญเขต (ผู้รับบริสุทธิ้) ๒. เทยยธัมมสมบต ถึงพร้อมด้วยไทยธรรม ฅ. จิฅฅสมบติ ถึงพร้อมด้วยเจตนา (ทั้ง ฅ กาล) ที่มา : สักกุทานสุตตวัณณนา อรรถกถาปรมัตถทีปนี ชุ.อุ.อ. ๒6)6) สฤโค หิ เทวานมินฺโท ... เขดุฅสมปๆดิ เทยุยธมมสมฺปดฺติ จิดุดสมฺปดฺดีดิ ติวิธายปี สมปดฺติยา สมนุนาคฅตุตาย สพุพงุคสมปนุนํ วต มม ทานํ ปวตุติตนุติ อจฉริยพุฦตจิตุตชาโต ฯ แปล : ก็ท้าวอักกะจอมเทพทรงเกิดความอัศจรรย์พระทัยว่า ... เพราะประกอบด้วยสมบัติคือความถึงพร้อมแม้ทั้ง ต ประการ คือ เขตต สมบัติ ๑ ไทยธรรมสมบัติ ๑ จิตตสมบัติ ๑ ทานที่เราดำเนินการถวายจึง สมบูรถ!ด้วยองค์ทั้งปวงแล ฯ www.kalyanamitra.org
๔๙๔ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงส์ วุฑฒปุคคลกฝืา ว่าด้วยบุคคลผู้เจริญ ๓ ๑. ชาติๅฒ ผู้เจริญโดยชาติ ๒. วัย'3ฒ ผู้เจริญโดยวัย ฅ. ดูณ'3ฒ ผู้เจริญโดยคุณ ที่มา : ติตติรชาดก เอกกนิบาต อรรถกถาชาดก ชุ.ซา.อ.๑/ต0๑ ตฅถ พ ^ฑฒมปจไยนตีติ ชาติ^ๆใโฒ วโยรุฑฺโฒ ดูณรุฑโฒติ ตโย รุฑฺฒา ฯ เตธุ[ ชาติสมปนฺโน ชาติรุฑุโฒ นาม, วเย รโต วโยรุฑฺโฒ นาม, ดูณสมปนฺโน ดูณรุฑฺโฒ นาม ฯ แปล : โนคาถานั้น คำ ว่า ชนเหล่าโดประพฤติอ่อนน้อม ต่อวุฑฒบุคคล ความว่า รุฑฒบุคคลมี ฅ คือ ผู้เจริญโดยชาติ ๑ ผู้เจริญ โดยวัย ๑ ผู้เจริญโดยคุณ ๑ บรรดารุฑฒบุคคลทั้ง ฅ นั้น บุคคลผู้มีชาติ กำเนิดสูง ซื่อว่าผู้เจริญโดยชาติ บุคคลผู้อยูในวัย(สูงกว่า) ซื่อว่าผู้เจริญ โดยวัย บุคคลผู้มีคุณธรรม ซื่อว่าผู้เจริญโดยคุณ ฯ ฌานปริหานิคฝิา ว่าด้วยเหตุเส์อมแห่งฌาน ฅ ๑. เพราะกิเลสฟูขึ้น ๒. เพราะทำส์งที่ขัดกัน (อกัปปายะ) ต. เพราะไฝหมั่นบำเพ็ฌ www.kalyanamitra.org
และคณะ] หมวด (ท ๔๙๕ ทีมา : ญาณกถาวัณณนา มหาวรรค อรรถกถาส์ทซัมมปกาสินี ชุ.ปฏิ.อ. ๙๑๕๑ ฌานา ปริหายนฺโต ตีหิ ยารเณหิ ปริหายติ กิเลสส3^ทาจาเรน วา อสปฺปายกิริยาย วา อนนุโยเคน วา ฯ แปล : บุคคลเมื่อฟอมจากฌาน ย่อมเส์อมเพราะเหตุ ฅ อย่าง คือ เพราะความฟ้งฃึ้นแห่งกิเลส ๑ เพราะการกระทำส์งที่เป็นอส์ปปายะ ๑ เพราะไฝหมั่นบำเพ็ญเนือง ๆ ๑ ฯ อปูรกกลา ว่าด้วยส์งที่ไม่รู้จักเต็มอิ่ม ๓ Q. ไฟไม่เต็มอํ่มด้วยเชื้อ ๒. ทะเลไม่เต็มอิ่มด้วยนํ้า ฅ. คนละโมบไม่เต็มอิ่มด้วยปัจจัย ที่มา : เอกกนิเทสวัณณนา ชุททกวัตถุวิภังค์ อ. ส์มโมหวิโนทนิ อภิ.วิ.อ. ๘๕©/๕๑๑ ตโย หิ ชุ!เรตุ๊ น สฤกา อคติ ฤปาทาเนน, สบุทุโท ฤทเกน, มหิจโฉ ปจจเยหิ ฯ แปล : ใคร ๆไม่สามารถทำให้สิงและบุคคลทั้ง ฅ เต็มอิ่มได้ คือ ไม่สามารถทำให1ฟเต็มอิ่มด้วยเชื้อ ๑ ไม่สามารถทำให้ทะเลเต็มอิ่มด้วยนํ้า ๑ ไม่สามารถทำให้คนละโมบเต็มอิ่มด้วยปัจจัยทั้งหลาย ๑ ฯ อคติคุขนโธ สบุทฺโท จ มหิจโฉ จาปี า^คคโล พชุเก ปจจเย เทนฺเด ดโยเปเด น ชุ]รเย ฯ www.kalyanamitra.org
๔๙๖ คลังธรรม แปล : กองไฟ ๑ ทะเล ๑ รวมทั้งคนละโมบ ๑ ทั้งฅ นี้แม้จะให้ปัจจัยจำนวนมาก ก็ทำ ให้เต็มอิ่มไม่ได้เลย ฯ ทานกถา ว่าด้วยทาน ฅ ๑. จาคเจตนาทาน ให้ด้วยเจตนาที่เสิยสลJ ๒. วิร้ติทาน ให้ด้วยการงดเว้น (อภัยทาน) ฅ. เทยยธัมมทาน ให้วัตลุส์งของ ทีมา : ทานกถา มังคลัตถทีปนี ภาค ๒ มงคลตฺถ. ๒/๑ ทานํ นาม จาคเจตนาวิรติเทยุยธมฺมวเสน ติวิธํ โหติ ฯ แปล : ซื่อว่าทาน มี ต อย่าง คือ จาคเจตนาทาน ๑ วิรัติ ทาน ๑ ไทยธรรมทาน ๑ ฯ จบ หมวด ๓ www.kalyanamitra.org
คลังธรรม หมวด ๔(ตอน ๑) www.kalyanamitra.org
หมวด ๔(ตอน ๑) อปา^ปฟ้ฅติคลา ว่าด้วยสาเหตุที่ทำให้เข้าถึงอบาย ๙ ๑. คิดซัว ทาซัว พูดซัว ๒. ว่าร้ายพระอริยเจ้า ฅ. มีดวามเห็นผิด ๔. มีพฤติกรรมไปตามความเห็นผิด ที่มา : เวรัฌซกัณฟ้ วิ.มหาวิ. ๑/๑ต อิเม วต โภนุใด สตตา กายชุชุจริเตน สมนนาคตา วจีชุจจริเตน สมนุนาคตา มโนทุจฺจริเตน สมนุนาคตา, อริยา'พํ รุปวาทกา, มิจฉาทิฎรกา, มิจฉาทิฎจิกมุมสมาทานา, เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ า]คคดี วินิปาตํ นิรยํ อุปปนุนา ฯ แปล ะ หมู่สัตว์เหล่า'นี้หนอประกอบด้วยกายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต ว่าร้ายพระอริยเจ้า เป็นมิจฉาทิฐิ ยึดถือการกระทำด้วยอำนาจ มิจฉาทิฐิ หมู่สัตว์เหล่า'นั้นหลังจากตายไปจึงเข้าถึงอบาย ทุคติ ริ'นิบาต นรก ฯ www.kalyanamitra.org
หมวด ๔ dSS พทธเทสนาวิธิกฝืา ว่าสัวยวิธีแสดงธรรมของพระพุทธเจ้า ๔ ๑. สันทัสสนา ซี้แจงแจ่มแ?งสัดเจน (แจ้งใจ) ๒. สมาทปนา ซักซวนให้รับไปปฏิบัติ (จูงใจ) ต. สตเตชนา ให้อาจหาญแกล้วกล้าอยากทำตาม (เร้าใจ) ๔. สัมปหังสนา ให้สดชื่น อิ่มใจ อยากฟ้งอีก (เริงใจ, จับใจ) ที่มา : เวรัญชกัณฑ์ วิ.มหาวิ. ๑/๒ต อถ โข ภควา เวรญชํ พราหมณํ ธมมิยา กลาย สนฺทสเสตุวา สมาทเปตุวา สชุตุเตเชตุวา สมุปหํเสตุวา อุฎฮายาสนา ปฤกามิ ฯ แปล : ต่อจากนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงชี้แจงเวรัญซพราหมณ์ ให้เห็นแจ้ง ให้สมาทาน ให้อาจหาญ ให้ร่าเริงด้วยธรรมีกถา แล้วทรงลุก จากที่ประทับเสด็จกลับ ฯ หมายเหตุ เรียกอีกอย่างว่า พุทธลีลาในการสอน ๔ พทธอุทานกถา ว่าด้วยพุทธอุทาน ๔ ๑. ความสงัดเปีนสุขของผู้ลันโดษ มีธรรมปรากฏเห็นอยู่ ๒. ความไฝพยาบาท คือความสำรวมในลัตว์ทั้งหลายเป็นสุขในโลก ต. ความปราศจากกำหนัด คือความล่วงกามเลียได้เป็นสุขในโลก ๔. การกำจัดอัสมีมานะเลียได้นั้นแลเป็นสุขอย่างยิ่ง www.kalyanamitra.org
๕๐๐ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงลั ที่มา : มหาขันธกะ วิ.มหา. ๔/๕ อุ[โข วิทโก ดุฎฺ«สส อุ[ตธมุมสฺส ปสสโต อพุยาปชุฌํ อุ[ขํ โลเก ปาณฎเฅอุ[ สผผโม ฯ อ[ุ ขา วิราคฅา โลเก กามานํ สมติกกโม อสุมิมานสุส โย วินโย เอดํ เว ปรมํ สุขํ ฯ แปล : ความสงัดของบุคคลผู้ส์นโดษ มีธรรมปรากฏแล้ว ผู้เห็นอยู่เป็นความสุข ๑ ความไม่เบียดเบียนคือความ ระมัดระวังในสัตว์ทั้งหลายเป็นความสุขในโลก ๑ ความปราศจากความกำหนัดคือความล่วงกามทั้งหลาย เสิยได้เป็นความสุขในโลก ๑ การกำจัดอสมีมานะเสิยได้ นั่นแลเป็นความสุขอย่างยิ่ง ๑ ฯ มัชฌิมาปฏิปทากลา ว่าด้วยจุดหมายของข้อปฏิบัติสายกลาง ๔ ๑. เพี่อความสงบ ๒. เพี่อความรู้ยิ่ง ต. เพี่อความตรัสรู้ ๔. เพี่อนิพพาน ที่มา : มหาขันธกะ วิ.มหา. ๔/๑ต อยํ โข สา ภิฤขเว มชุฌิมา ปฏิปทา ฅถาคเคน อภิสมุชุทุธา จกขุกรณี ผาณกรณี อุปสมาย อภิผุผาย สมุโพธาย นิพุพานาย สํวฅคติ ฯ www.kalyanamitra.org
และคณะ] หมวด ๔ ๕๐๑ แปล : ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นี้แลคือข้อปฏิบัติสายกลางนั้นอัน ตถาคตได้ตรัสรู้แล้วด้วยป้ญญาอันยิ่ง ทำ ดวงตาให้เกิด ทำ ญาณให้เกิด ย่อม เปีนไปเพื่อความสงบ ๑ เพื่อความรู้ยิ่ง ๑ เพื่อความตรัสรู้ ๑ เพื่อนิพพาน ๑ ฯ อริยสัจจกถา ว่าด้วยอริยส์จ ๔ ๑. ชุกฃ์ สภาพที่ทนได้ยาก ความเกิด แก่ เจ็บ ตาย ๒. สมุทัย เหตุให้ทุกข์เกิดคือตัณหา ทุกขสมุทัย ฅ. นิโรธ ความตับทุกข์ ทุกฃนิโรธ ๔. มรรค ข้อปฏิบัติให้ถึงความตับทุกข์ ทุกขนิโรธคามินิปฏิปทา ที่มา : มหาขันธกะ วิ.มหา. ๔/®๔ อิทํ โข ปน ภิกขเว ทุกฃํ อริยสจจํ: ชาติปี ทุฤขา ชราปี ทุฤชา พุยาธิปี ทุกโข มรณมุปี ทุฤขํ ... ทุกขสมุทโย อริยสจจํ ะ ยายํ ฅฌหา โปโนพุภวิกา นนทิราคสหคตา ตตุร ตตราภินนฺทินี ... ทุฤขนิโรโธ อริยสชุจํ : โย ตสุสาเยว ตณฺหาย อเสสวิราคนิโรโธ ... อนาลโย ... ทุฤขนิโรธคามินิ ปฏิปทา อริยสจจํ : อยเมว อริโย อฎุธงุคิโก มคโค ฯ แปล : ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ทุกขอริยสัจนี้แล คือ ความเกิดก็ เป็นทุกข์ ความแก่ก็เป็นทุกข์ ความเจ็บไข้ก็เป็นทุกข์ ความดายก็เป็น ทุกข์ ... ทุกขสมุทัยอริยสัจนี้แล คือ ตัณหาอันทำให้เกิดในภพใหม่ ... ทุกฃนิโรธอริยสัจนี้แล คือ ความคลายกำหนัดและความตับโดยไม่เหลือ ... ความไม่อาลัยตัณหานั้นนั่นแหละ ... ก็ทุกขนิโรธคามินิปฏิปทาอริยสัจนี้แล คือ อริยมรรคมีองค์ ๘ นี้แหละ ฯ www.kalyanamitra.org
๕©๒ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงสั อริยสัจจกิจจกถา ว่าด้วยหน้าที่อันจะพึงทำต่ออริยส์จ ๔ ๑. ปริญญา การกำหนดรู้ เปีนหน้าที่ในทุกข์ ๒. ปหานะ การละ ฟ็นหน้าที่ในสมุทัย ๓. สัจฉิกิริยา การทำให้แจ้ง เปีนหน้าที่ในนิโรธ ๔. ภาวนา การเจริญแกอบรม เปีนหน้าที่ในมรรค ที่มา มหาฃันธกะ วิ.มหา. ๔/๑๕ ต โข ปนิทํ ชุกฃํ อริยสจจํ ปริญฒยุยนฺติ เม ภิคุขเว ใ]พฺเพ อนบุสอุ[เตสุ ธมุเมสุ จกุฃํ อุทปาฑิ ฌาล5 ลูทปาทิ ปณณา รุทปาทิ วิชชา อุทปาทิ อาโลโก อุฑปาทิ ฯ 'ตํ โข ปนิทํ ชุกขํ อริยสชุจํ ปริณฌาฅนฺติ ... 'ตํ โข ปนิทํ ชุกขสมุทโย อริยสจจํ ปหาฅพฺพนุติ เม ภิกขเว ... ปหีนนฺติ ...'ต โข ปนิทํ ชุกขนิโรโธ อริยสจจํ สชุฉิกาฅพุพนฺติ เม ภิกฺขเว ... สชุฉิกตนติ ... ต โข ปนิทํ ชุกฃนิโรธคามินื ปฏิปทา อริยสชุจํ ภาเวคพพนติ เม ภิกขเว ... ภาวิตนฺติ...ฯ แปล : ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย จักษุ ญาณ ปัญญา วิชชา แสงสว่างได้เกิดขึ้นแล้วแก่เราในธรรมทั้งหลายที่เราไม่เคยได้ฟ้งมาก่อน ว่า 'ทุกขอริยส์'จนี้นั้นแลควรกำหนดรู้' ...'ทุกชอริยสัจนี้นั้นแลเราได้กำหนด รู้แล้ว' ... 'ทุกขสมุทัยอริยสัจนี้นั้นแลควรละ' ... 'ทุกขสมุทัยอริยสัจนี้ นั้นแลเราละได้แล้ว' ... 'ทุกขนิโรธอริยสัจนี้นั้นแลควรทำให้แจ้ง' 'ทุกขนิโรธอริยสัจนี้นั้นแลเราได้ทำให้แจ้งแล้ว' 'ทุกขนิโรธคามินิปฏิปทาอริย สัจนี้นั้นแลควรให้เจริญ' ... 'ทุกขนิโรธคามินิปฏิปทาอริยสัจนี้นั้นแลเราได้ ให้เจริญแล้ว' ฯ www.kalyanamitra.org
และคณะ] หมวด ๔ ๕๐๓ ฟ้พพชิตนิสสยกถา ว่าด้วยเครื่องอาสัยฃองบรรพชิต ๔ ๑. ปีณฑิยาโลปโภชนะ โภชนะคือคำข้าวอันหาได้ด้วยกำลังปลีแข้ง ๒. ฟ้งธุ[คูลจืวร ผ้าที่เขาทิ้งตามกองขยะหรือตามป่าช้า ฅ. เกฃยูลเสนาสนะ เสนาสนะคือโคนไม้ ๔. 'yติยุตตเภสัช ยาดองนํ้ามูตรเน่า ที่มา ๑: มหาขันรกะ วิ.มหา. ๔/๗ค อนุชานามิ ภิฤฃเว คูปสมปาเทนุเตน จตฅาโร นิสุสเย อาจิกฺฃิตุ ปีณฑิยาโลปโภชนํ นิสุสาย ปพฺพชชา ... ป็อุ[คูลจีวรํ นิสุสาย ปพพชชา ... เกฃมูลเสนาสนํ นิสุสาย ปพุพชุชา ... \\|ฅิมูตุฅเภสชุชํ นิสสาย ปพพชุชา ฯ แปล : ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ภิกษุ^ห้อุปสมบท บอกนิสลัย ๔ ว่าดังนี้ บรรพซาอาดัยโภชนะคือคำข้าวอันหาได้ด้วยกำลัง ปลีแข้ง ๑ ... บรรพชาอาดัยมูตรเน่าเป็นยา ๑ ฯ ที่มา ๒: ส์นตุฏฐิสูตร ปฐมปัณณาสก์ องฺ.จตุทก. ๒๑/๒๗ อนวชุเชน ตุฎฮสส อปุเปน นุลเภน จ น เสนาสนมารพภ จีวรํ ปานโภชนํ วิฆาโต โหติ จิตุตสฺส ทิสา น ปฎิหณณติ ฯ แปล : ภิกษุผ้ลันโดษด้วยปัจจัยอันไม่มีโทษ ทั้งเล็กน้อย และ หาได้ง่าย ย่อมไม่มีคํวามดับใจ เพราะปรารภเสนาสนะ จีวร ปานะ และโภชนะ ไม่กระทบกระเทือนทุกทิศ ฯ www.kalyanamitra.org
๕๐๔ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงสั วินยมหาปเฑสกถา ว่าด้วยหลักอ้างใหญ่ทางพระวินัย ๔ ๑. สิงใดไม่ได้ทรงห้ามไว้ว่าไม่ควร แต่เข้ากันกับสิงทีไม่ควร (อกัปป็ยะ) ขัด กับสิงที่ควร (กัปปิยะ) สิงนั้นไม่ควร ๒. สิงใดไม่ได้ทรงห้ามไว้ว่าไม่ควร แต่เข้ากันกับสิงที่ควร (กัปปิยะ) ขัดกับ สิงที่ไม่ควร (อกัปปิยะ) สิงนั้นควร ฅ. สิงใดไม่ได้ทรงอนุญาตไว้ว่าควร แต่เข้ากันกับสิงที่ไม่ควร (อกัปปิยะ) ขัดกับสิงที่ควร (กัปปิยะ) สิงนั้นไม่ควร ๔. สิงใดไม่ได้ทรงอนุญาตไว้ว่าควร แต่เข้ากันกับสิงที่ควร (กัปปิยะ) ขัด กับสิงที่โม่ควร (อกัปปิยะ) สิงนั้นควร ที่มา : ๓ลัซซขันธกะ วิ.มหา. ๙๖๔ ยํ ภิฤฃท มยา อิทํ น กม่ปตีติ อปฺปฎิฤขิตุตํ, ตณเจ อกฟ่ปียํ อนุโลเมติ กปุปียํ ปฎิพาหติ, ตํ โวน กปฺปติ...ตณเจ กปปียํ อนุโณมติ อกปปียํ ปฏิพาหติ, ฅํ โว กปุปติ ฯ ยํ ภิกฃเว มยา อิทํ กปปติติ อนนุญณาตํ, ตญเจ อกปป็ยํ อนุโลเมติ กปป็ยํ ปฏิพาหติ, ตํ โวน กปปติ ... ตณุเจ กปุปียํ อนุโลเมติ อกปป็ยํ ปฎิพาหติ, ส์ โว กป.ปติ ฯ แปล : ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สิงใดที่เราไม่ได้ห้ามไว้ว่าสิงนื้1ม่ควร หากสิงนั้นเข้ากันได้กับสิงที่ไม่ควร ขัดกับสิงที่ควร สิงนั้นไม่ควรแก่เธอ ทั้งหลาย ๑ สิงใดที่เราไม่ได้ห้ามไว้ว่าสิง'น!ม่ควร หากสิงนั้นเข้ากันได้กับสิง ที่ควร ขัดกับสิงที่ไม่ควร สิงนั้นควรแก่เธอทั้งหลาย ๑ สิงใดที่เราไม่ได้ อนุญาตไว้ว่าสิงนี้ควร หากสิงนั้นเข้ากันได้กับสิงที่ไม่ควร ขัดกับสิงที่ควร สิงนั้นไม่ควรแก่เธอทั้งหลาย ๑ สิงใดที่เราไม่ได้อนุญาตไว้ว่าสิงนี้ควร หากสิง นั้นเข้ากันได้กับสิงที่ควร ขัดกับสิงทีไม่ควร สิงนั้นควรแก่เธอทั้งหลาย ๑ ฯ www.kalyanamitra.org
และคณะ] หมวด๔ ๕๐๕ สุดตันตมหาป(ทสคลา ว่าด้วยหลักอ้างใหญ่ทางพระสูตร ๔ ๑. ทุฑธาปเฑส ยกเอาพระพุทธเจ้าขึ้นอ้าง ๒. สังฆาปเทส ยกเอาคณะสงฆ์ขึ้นอ้าง ต. สัมพชุลัฅเถราปเทส ยกเอาพระเถระจำนวนมากขึ้นอ้าง ๔. เอกเถราปเฑส ยกเอาพระเถระรูปหนึ่งขึ้นอ้าง ที่มา : จตุมหาปเทสกถา มหาปรินิพพานสูตร ที.ม. ๑0/๑๘๘ อิธ ภิคุขเว ภิคุชุ เอวํ วเทยย สมุเ^ขา เมตํ อาวุโส ภควโต อุ[ตํ สม3Jขา ปฎิคคหิตํ 'อยํ ธมโม, อยํ วินโย, อิทํ สต.ฤ สาสนนุดิ, ตสุส ภิคุขเว ภิกชุโน ภาสิตํ เนว อภินนทิตพุพํ นปุปฎิคุโกสิตพุพํ ... อิทํ ภิกขเว ปธมํ มหาปเทสํ ธาเรยุยาถ ... ทุติยํ ... ตติยํ ... จดูตถํ ... ฯ แปล : ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็มหาปเทส ๔ เป็นไฉน คือ ภิกษุโน ธรรมวินัยนี้พึงกล่าวอย่างนี้ว่า 'ดูก่อนอาวุโส ข้อนี้ข้าพเจ้าได้สดับมา ได้ รับมาเฉพาะพระพักตร์พระผู้มีพระภาคเจ้าว่า 'นี้เป็นธรรม นี้เป็นวินัย นี้ เป็นคำส์งสอนของพระศาสดา' ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายไม่พึงยินดี ไม่พึงดัดด้านคำกล่าวของภิกษุนั้น ครั้นแล้วพึงเรียนบทพยัญชนะเหล่านั้น ให้ดี แล้วพึงเทียบเคียงในสูดร พึงสอบดูในวินัย ถ้าเมื่อเทียบเคียงในสูดร สอบดูในวินัยอยู่ บทพยัญชนะเหล่านั้นเทียบเคียงกันไม่ได้ในสูดร สอบดู ไม่ได้ในวินัย ในข้อนี้พึงสันนิษฐานได้ว่า 'นี้มิใช่คำของพระผู้มีพระภาคเจ้า แน่แห้ และภิกษุนี้รับมาผิดแล้ว' เธอทั้งหลายพึงทิ้งคำนี้เสิยทีเดียว ถ้า เมื่อเทียบเคียงในสูดร สอบดูในวินัยอยู่ บทพยัญชนะเหล่านั้นเทียบเคียง กันได้ในสูดร สอบดูได้ในวินัย ในข้อนี้พึงสันนิษฐานได้ว่า 'นี้เป็นคำของ www.kalyanamitra.org
๕๐๖ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงลั พระผู้มีพระภาคเจ้าแน่แท้ และภิกษุนี้รับมาดีแล้ว' ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย มหาปเทสข้อที่ ๑ นี้พวกเธอพึงทรงจำกันไว้ ... ก็ภิกษุในธรรมวินัยนี้พึง กล่าวอย่างนี้ว่า 'สงฆ์อยู่ในอาวาสซื่อโน้น มีทั้งพระเถระทั้งหัวหน้า ข้าพเจ้าได้สดับมา ได้รับมาเฉพาะหน้าสงฆ์นั้นว่า 'นี้เปีนธรรม นี้เปีนวินัย นี้เปีนคำส์งสอนของพระศาสดา' .... ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย มหาปเทสข้อที่ ๒ นี้พวกเธอพึงทรงจำกันไว้ ... ก็ภิกษุในธรรมวินัยนี้พึงกล่าวอย่างนี้ว่า 'ภิกษุ ผู้เปีนเถระมากด้วยกันอยู่ในอาวาสซื่อโน้น เปีนพหูสูต ชำ นาญในนิกาย ทรงธรรม ทรงวินัย ทรงมาติกา ข้าพเจ้าได้สดับมา ได้รับมาเฉพาะหน้า พระเถระเหล่านั้นว่า 'นี้เปีนธรรม นี้เปีนวินัย นี้เปีนคำส์งสอนของพระ ศาสดา' ... ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย มหาปเทสข้อที่ ฅ นี้พวกเธอพึงทรงจำกันไว้ ... ก็ภิกษุในธรรมวินัยนี้พึงกล่าวอย่างนี้ว่า 'ภิกษุผู้เปีนเถระรูปหนึ่งอยู่ใน อาวาสซื่อโน้น เปีนพหูสูต ชำ นาญในนิกาย ทรงธรรม ทรงวินัย ทรง มาติกา ข้าพเจ้าได้สดับมา ได้รับมาเฉพาะหน้าพระเถระรูปนั้นว่า 'นี้เปีน ธรรม นี้เปีนวินัย นี้เปีนคำส์งสอนของพระศาสดา'... ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย มหาปเทสข้อที่ ๔ นี้พวกเธอพึงทรงจำกันไว้ ฯ วิฟ้ตติกลา ว่าด้วยความเสีย ๔ ๑. ศีลวิบัติ ดีลเล้ย ๒. อาจารวิบัติ ความประพฤติเสิย ฅ. ทิฎเวิบัติ ความเห็นเสิย ๔. อาชีววิบัติ อาชีพเสิย (เลี้ยงชีพในทางที่ผิด) www.kalyanamitra.org
และคณะ] หมวด๔ ๕๐๗ ที่มา : สมถขันธกะ วิ.จุล.๖/๒๑๕ อิธ ปน ภิกฃเว ภิฤยู ภิกชุ๊ อบุวทนฺติ สีลวิปตุติยา วา อาจาร- วิปอุติยา วา ทิฎจิวิปตุติยา วา อาชีววิปตุติยา วา ฯ แปล : ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุทั้งหลายในธรรมวินัยนี้ย่อมโจท ภิกษุด้วยสืลวิบัติ ๑ ด้วยอาจารวิบัติ ๑ ด้วยทิฏฐิวิบัติ ๑ ด้วยอาซีววิบัติ ๑ ฯ ยัญญสัมปทาคลา ว่าด้วยยัญสมบัติที่มีผลานิสงส์มาก ๔ ๑. นิจจทาน การให้ประจำตระกูล ๒. วิหารทาน การสร้างกุฏิวิหาร £ท. สรณคมน์ การถึงพระรัตนตรัยฟ้นที่พึ่ง ๔. สิกขาบทสมาทาน การสมาทานถึอสืล ๕ ที่มา : กูฏทันตสูตร ที.สี. ๙/ต๔๙-ต๕๒ ยานิ โข ปน ตานิ พุราหมณ นิชุจทานานิ อษุคูลยณฺณานิ สีสวนเต ปพุพชิเต กุทฺทิสส ฑียนติ ... จาดูทุทิสํ สงุฆํ ลูทุทิสุส วิหารํ กโรติ ... ปสนุนจิตฺโต พุทธํ สรณํ คจฉติ ... ปสนฺนจิตโต สิฤขาปทานิ สมาทิยติ ...ฯ แปล : ดูก่อนพราหมณ์ ทานประจำอันเป็นยัญที่ทำสิบต่อกันมา บรรดามีที่บุคคลถวายเจาะจงพวกบรรพชิตผู้มีสืล๑ ...การที่บุคคลสร้างวิหาร อุทิศสงฆ์ที่มาจากทิศทั้งส์ ๑ ...การที่บุคคลมีจิตเลื่อมใสถึงพระพุทธเจ้าเป็น สรณะ ๑ ...การที่บุคคลเป็นผู้มีจิตเลื่อมใสสมาทานสิกขาบททั้งหลาย ๑ ...ฯ www.kalyanamitra.org
๕๐๘ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงสั อธิบาย : นิจจฑาน หมายถึงการให้ประจำตระกูลสีบกันมาหลาย ชั่วคนไม่ขาดสาย มีผลานิสงส์มาก วิหารทาน หมายถึงการสร้างกุฏิวิหาร ถวายสงฆ์ที่สัญจรมาจากจตุรทิศ มีผลานิสงส์มากกว่านิจจทาน สรณคมน์ หมายถึงการถึงพระรัตนตรัยเป็นที่พึ๋งจนตลอดชีวิต มีผลานิสงส์มากกว่า วิหารทาน สิกขาบทสมาทาน หมายถึงการสมาทานถึอสิล ๕ อย่างมั่นคง ไม่ด่างพร้อย มีผลานิสงส์มากกว่าสรณคมน์ อริยijคคลคลา ว่าด้วยพระอริยบุคคล ๔ ๑. พระโสดาบัน ผู้เข้าถึงกระแสนิพพาน ๒. พระสกทาคามี ผู้กสับมาเกิดอีกครั้งเดียว ฅ. พระอนาคามี ผู1ม่เวียนกลับมาเกิดอีก ๔. พระอรหันต์ ^กลจากกิเลสโดยสันเซิง ที่มา : มหาสิสูตร ที.สิ. ๙/ฅ๗ฅ อิธ มหาสิ ภิกทเ ติฌุณํ สญโณชนานํ ปริกขยา โสตาปนใน โหติ ... ติณฺณํ สญโฌชนานํ ปริกขยา ราคโทสโมหานํ ฅนุตฺตา สกทาคามี โหติ ... ปณจนุนํ โอรมฺภาคิยานํ สญโณชนานํ ปริกขยา โอปปาติโก โหติ ... อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิ3Jดดึ ปญผาวิดติ ทิฎเฮ ว ธม^ม สยํ อภิณุณา สจฉิกตุวา ดูปสมฺปชุช วิหรติ ฯ แปล : ดูก่อนมหาลิ ภิกษุโนธรรมวินัยนี้เป็นโสดาบันเพราะ สังโยชน์ ฅ อย่างหมดสันไป ... ภิกษุเป็นสกทาคามีเพราะสังโยชน์ ฅ อย่าง หมดสันไปและเพราะราคะ โทสะ โมหะเบาบาง ๑ ... ภิกษุไปเกิดใน โอปปาติกกำเนิดเพราะสังโยชน์เบื้องต์า ๕ อย่างหมดสันไป ๑ ... ภิกษุทำให้ www.kalyanamitra.org
และคณะ] หมวด ๔ ๕๐๙ แจ้งซึ่งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติอันหาอาสวะมิได้เพราะอาสวะทั้งหลาย สินไปด้วยปัญญาอันยิ่งเองในปัจจุบันเข้าถึงอยู่ ๑ ฯ อริยธัมมกถา ว่าด้วยอริยธรรมที่เป็นเหตุให้สินทุกข์ ๔ ๑. อริยศีล สืลอันเป็นอริยะ ๒. อริยสมาธิ สมาธิอันเป็นอริยะ ฅ. อริยฟ้ญญา ปัญญาอันเป็นอริยะ ๔. อริยวิมุตติ ความหลุดพ้นอันเป็นอริยะ ที่มา : มหาปรินิพพานสูตร ที.ม. ๑0/๑๘๖, อนุทุทธสูตร องฺ.จตุาท. te6)/o จตุนนํ ภิฤฃเว ธมมานํ อนมุโพธๆ อใ!ปฎิเวธา เอวมิฑํ ทีฆมทุธานํ สนุธาวิตํ สํสริตํ มมฌฺเจว ตุมุหากญจ ฯ กดเมสํ จตุนนํ ฯ อริยสส ภิกฃเว สีลสส ... อริยสส ภิฤขเว สมาธิสุส ... อริยาย ภิกขเว ปญณาย ... อริยาย ภิคุฃเว วิมุตติยา ... ตยิทํ ภิกฃเว อริยํ สีลํ อมุทุทุธํ ปฎิวิทุธํ, อริโย สมาธิ ... อริยา ปญณา ... อริยา วิมุตติ... ฯ แปล : ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ทั้งเราทั้งเธอทั้งหลายได้เวียนว่ายตาย เกิดมาอย่างนี้สินกาลนาน เพราะยังไม่รู้แจ้ง ไม่แทงตลอดซึ่งธรรม๔ประการ ธรรม ๔ ประการคืออะไรบ้าง คือ อริยคืล ๑ อริยสมาธิ ๑ อริยปัญญา ๑ อริยวิมุตติ ๑ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บัดนี้อริยคืล อริยสมาธิ อริยปัญญา และอริยวิมุตติอันเราและเธอทั้งหลายได้ตรัสรู้ ได้แทงตลอดแล้ว ถอน ตัณหาในภพขึ้นได้แล้ว ตัณหาอันนำไปยู่ภพสินไปแล้ว บัดนี้Iม่มิภพใหม่ อีกต่อไป ฯ www.kalyanamitra.org
๕๑0 คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงสั สีลํ สมาธิ ปญผา จ วิมุตติ จ อนุฅตรา อนุพุทฺธา อิฒ ธมุมา โคตฒน ยสชุสินา อิติ พุทฺโธ อภิผฺผาย ธมุมมกุขาสิ ฟิคขุนํ ทฤฃสฺสนุตกโร สตุถา จกฃุมา ปรินิพุพุโต ฯ แปล : ธรรมเหล่านี้ คือ คืล สมาธิ ปัญญา และวิมุตติ ซึ่งไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่า (เป็นอริยธรรม) อันพระโคดม ศาสดาผู้มียศได้ตรัสรู้แล้ว พระพุทธเจ้าผู้พระศาสดาทรงมีพระจักษุ ผู้ทรงทำ ที่สุดแห่งทุกข์ ตรัสรู้ธรรมแล้ว ตรัสแก่ภิกษุทั้งหลาย พระองค์เสด็จปรินิพพานแล้วด้วยประการฉะนี้ ฯ สังเวชนียกถา ว่าด้วยส์งเวซนียสถาน ๔ ๑. ชาตสถาน สถานที่ประสูติ ๒. อภิส้มพุทธสถาน สถานที่ตรัสรู้ ๓. ธัมมจักกปวัตติฅสถาน สถานที่แสดงปฐมเทศนา ๔. ปรินิพพุตสถาน สถานที่ปรินิพพาน ทีมา ; มหาปรินิพพานสูตร ที.ม. ๑0/๒0๒.ลังเวชนิยสูตร อง..จตุกก. ๒๑/๑๑๘ จตุตาริมานิ อานนุท สทุธสฺส กล!jตุตสุส ทสุสนียานิ สํเวชนียานิ ฮานานิ ... *อิธ ตถาคโต ชาโตติ ...*อิธ ตถาคโต อนุตุตรํ สมมาสมุโพธี อภิสมุพุทุโธติ ... 'อิธ ตถากโต อนุตุตรํ ธมุมจกกํ ปวตุเตสิติ ... 'อิธ ตถาคโต อนุปาทิเสสาย นิพุพานธาตุยา ปรินิพุพุโตติ ... ฯ www.kalyanamitra.org
และคณะ] หมวด๔ ๕๑๑ แปล : ดูก่อนอานนท์ ส์งเวซนียลถานที่กุลบุตรผู้มีศรัทธาควร จะเห็นมี ๔ แห่งเหล่านี้ ๔ แห่งคืออะไรบ้าง คือ ส์งเวซนียลถานอัน เป็นที่ที่กุลบุตรผู้มีศรัทธาควรจะเห็นว่า 'พระตถาคตประสูติ ณ ที่น'ี้ ๑ ... 'พระตถาคตตรัลรู้พระอนุตตรอัมมาอัมโพธิญาณ ณ ที่น'ี้ ๑ ... 'พระตถาคต ทรงอังอนุตตรธรรมจักรให้เป็นไป ณ ที่น'ี้ ๑ ...'พระตถาคตเลคืจปรินิพพาน แล้วติวยอนปาทิเลลนิพพานราต ณ ที่น'ี้ ๑ ฯ ถูปารหปุคคลกลา ว่าด้วยถูปารหบุคคล ๔ ๑. พระอัมมาอัมพุทธเจ้า ๒. พระป้จเจกพุทธเจ้า ฅ. พระพุทธลาวก ๔. พระเจ้าจักพรรติ ที่มา : มหาปรินิพพานสูตร ที.ม.๑©/๒0๖, ถูปารหสูตร ปัญจม... องฺ.จตุกุก. ๒๑/๒๔๗ จตตาใรฌ อานนุท ดูปารหา ฯ กดเม จตุคาโร ฯ ฅถาคโฅ อรหํ สมุมาสมฺพุฑุโธ ดูปารโห, ปจเจกสมุพุฑโธ ดูปารโห, ตถาคตสส สาวโก ดูปารโห, ราชา จกกวตุติ ดูปารโห ฯ แปล : ดูก่อนอานนท์ ถูปารทบุคคล (ผู้ลมควรแก่ลถูป) มี ๔ ประเภทเหล่านี้ ถูปารหบุคคล ๔ ประเภทคืออะไรบ้าง คือ พระตถาคต อรหันตอัมมาอัมพุทธเจ้าเป็นถูปารทบุคคลประเภทหนึ๋ง พระป้จเจก อัมพุทธเจ้าเป็นถูปารทบุคคลประเภทหนึ่ง ลาวกของพระตถาคตเป็น ถูปารทบุคคลประ๓ทหนึ่ง พระเจ้าจักรพรรติเป็นถูปารทบุคคลประเภทหนึ่ง ฯ www.kalyanamitra.org
๕๑๒ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงลั สติฟ้ฏฐานกถา ว่าด้วยสติปัฏฐาน ๔ ๑. กายาบุฟ้สสนา พิจารณาเห็นกายในกายอยู่ ๒. เวทนานุป็สสนา พิจารณาเห็นเวทนาในเวทนาอยู่ ฅ. จิตตาชุป็สสนา พิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่ ๔. ธัมมาชุฟ้สสนา พิจารณาเห็นธรรมในธรรมอยู่ ที่มา : มหาสติปัฏฐานสูตร ที.ม.๑อ/ต๗ต เอกายโน อยํ ภิกฃเว มฤโค สตตาฟ้ วิสูทุธิยา ... ยทิทํ จตุตาโร สติปฎฮานา ฯ กตเม จตุตาโร ฯ อิธ ภิกฃเว ภิฤชุ กาเย กายาบุปสสี วิหรติ อาตาปี สมุปชาโน สติมา วิเนย.ย โอเก อภิชุฌาโทมนสฺสํ ฯ เวทนาลุ[ เวทนาบุปสุสื ... จิตุเต จิตุตาบุปลุ[สี ... ธม.เมลุ[ ธม.มาบุปสสี ... ฯ แปล : ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ทางนี้เป็นทางเดียวเพื่อความบริสุทธี้ ของเหล่าส์'ตว์ เพื่อล่วงโลกะและปริเทวะ เพื่อความดับสูญแห่งทุกข์และ โทมนัส เพื่อบรรลุญายธรรม เพื่อทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน ทางนี้คือ สติปัฏฐาน ๔ ประการ ๔ ประการเป็นไฉน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุใน ธรรมวินัยนี้พิจารณาเห็นกายในกายอยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำ จัดอภิซฌาและโทมนัสในโลกเสิยได้ ๑ พิจารณาเห็นเวทนาในเวทนา ...๑ พิจารณาเห็นจิตในจิต ... ๑ พิจารณาเห็นธรรมในธรรมอยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำ จัดอภิซฌาและโทมนัสในโลกเสิยได้ ๑ ฯ www.kalyanamitra.org
และคณะ] หมวด ๔ ๕๑๓ ภัสสสมาจารกถา ว่าด้วยมารยาทในการพด ๔ ๑. ไม่ใ51ดเท็จ ๒. ไม่า5jดส่อเสิยด ฅ. ไม่พดแข่งดี ๔. ใ5)ดมีหลักน่าเชื่อถือตามกาลอันควร ที่มา : ส์มปสาทนียสตร ที.ปา. ๑๑/๑๕ต อปรํ ปน ภนุเด เอคทา){ดฅริยํ ยถา ภควา ธมุมํ เทเสดิ ภสฺสสมาจาเร ฯ อิธ ภนเฅ เอกชุโจ น เจว ชุสาวาดูปสณหิตํ วาจํ ภาสติ, น จ เวภูติยํ เปลุ[ณิยํ, น จ สารมภชํ ชยาเปคุโข, มนดา จ วาจํ ภาสติ นิธานวตึ กาเลน ฯ แปล ะ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ความยอดเยี่ยมนั้นอังมีอีกข้อหนึ๋ง คือ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงธรรมในฝ่ายภัสสสมาจาร (มารยาทโน การพูด) ได้แก่ คนบางคนในโลกนื้!ม่กล่าววาจาที่เกี่ยวด้วยมุสาวาท ๑ ไม่ พูดส่อเสียดชื่งทำให้แดกสามัคคื ๑ไม่มุ่งเอาชนะพูดจาทำให้เกิดการแข่งดี ๑ ไดร่ดรองแล้วจึงกล่าวแต่วาจามีหลักน่าเชื่อถือดามกาลอันควร ๑ ฯ www.kalyanamitra.org
๕๑๔ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงค สุขัลลิคานุโยคกลา ว่าด้วยวิธีหาความสุขแบบโลก ๔ ๑. ฆ่าสัตว์ ๒. สักทรัพย์ ฅ. พูดเท็จ ๔. บำ เรอตนด้วยกามคุณ ๕ ที่มา : ปาสาทิกสูตร ที.ปา. ๑๑/®๘(ท อิธ จุนุท เอกชุโจ พาโล ปาเณ วธิตวา อชุตานํ อุ[เขติ ปีเณติ ฯ อยํ ปฮโม อุ[ขลุลิกานุโยโค ... อทินุนํ อาทิยิตุวา ... มุสา ภฌิตวา ... ปณจหิ กามคุเณหิ สมปุ!เโต สมงุคีภูโต ปริจาเรติ ... ฯ แปล : ดูก่อนจนทะ คนพาลบางคนในโลกนี้ฆ่าสัตว์แล้วทำตน ให้ถึงความสุขให้เอิบอิ่มอยู่ ข้อนี้เ!เนสุฃัลลิกาน่โยคข้อที่ ๑ คนบางคนใน โลกนี้สักทรัพย์ ... คนบางคนในโลกนี้พูดเท็จ ... คนบางคนในโลกนี้เป็นผู้ เพียบพร้อม เอิบอิ่ม ให้ปรนเปรออยู่ด้วยกามคุณ ๕ ... ฯ กัมมกิเลสกถา ว่าด้วยกรรมกิเลส ๔ ๑. ปาณาติบาต ฆ่าสัตว์ ๒. อทินนาทาน สักทรัพย์ ฅ. กาเมอุ[มิจฉาจาร ประพฤติผิดในกาม ๔. มสาวาท พดเท็จ www.kalyanamitra.org
และคณะ] หมวด ๔ ๕๑๕ ที่มา : สิงคาลกสูตร ที.ปา.พ๒๔๕. นิรยสูตร ทุติยปัณณาสก์ อง..จตุกก. ๒๑^๔ ปาณาติปาโต อทินุนาทาฟ้ ยุสาวาโท จ วุจจติ ปรทารคมนฌเจว นใเปส์สนติ ปณฺฑิตา ฯ แปล : การฆ่าส์'ตว์ ๑ การลักทรัพย์ ๑ การเป็นซู้กับ ภรรยาของผู้อื่น ๑ การพูดเท็จ ๑ เรากล่าวว่าเป็นกรรม กิเลส บัณฑิตทั้งหลายไม่สรรเสริญเลย ฯ มิตตปฏิรูปกกถา ว่าด้วยมิตรเทียม ๔ ๑. คนปอกลอก ๒. คนดีแต่พูด ฅ. คนหัวประจบ ๔. คนซักซวนในทางฉิบหาย ที่มา : สิงคาลกสูตร ที.ปา. ๑๑/๒๕๙ อญณทตุลุหโร มิตุโต โย จ มิตุโต วจีปรโม อบุปปียณุจ โย อาห อปาเยอุ[ จ โย สฃา เอเต อมิตฺเต จตุตาโร อิติ วิฌณาย ปณฑิโต อารกา ปริวชุเชยุย มคคํ ปฏิภยํ ยถา ฯ แปล : บัณฑิตรู้แจ้งมิตร ๕ ประ๓ทเหล่านี้ คือ มิตรปอก ลอก ๑ มิตรดีแต่พูด ๑ มิตรหัวประจบ ๑ มิตรซักชวน ไปในทางเส์อมเสิย ๑ ว่าไม่ใช่มิตรแท้ดังนี้แล้วพึงเว้นเสิย ให้ห่างไกลเหมือนคนเดินทางเว้นทางที่มีภัยฉะนั้น ฯ www.kalyanamitra.org
<^©๖ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงลั อัญญทัตถุหรกถา ว่าด้วยคนปอกลอกมีลักษณะ ๔ ๑. คิดเอาแต่ได้ถ่ายเดียว ๒. เสียให้น้อย คิดเอาให้1ด้มาก ฅ. มีภัยแก่ตัว จึงรับทำกิจของเพื่อน ๔. คบเพื่อนเพราะเห็นแก่ประโยชน์ของตัว ที่มา : สิงคาลกสูตร ที.ปา. ๑๑/๒๕๕ อญณทตุลุหโร โหติ อปฺฟน พทุมิจฉติ ภยสส กิจจํ กโรติ เสวติ อตุถการณา ฯ แปล : (ดูก่อนบุดรคฤหบดี คนปอกลอกท่านพึงทราบเถิด ว่าไม่ใช่มิตรแห้ เป็นมิตรเทียมโดยเหตุ ๔ ประการ คือ) เป็นคนคิดเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว ๑ เสียให้น้อย คิดเอาให้ ได้มาก ๑ เมื่อมิภัยถึงตัวจึงรับทำกิจของเพื่อน ๑ คบ เพื่อนเพราะเห็นแก่ประโยชน์ของตัว ๑ ฯ วจีปรมกถา ว่าด้วยคนดีแต่พูดมีลักษณะ ๔ ๑. เก็บเอาของล่วงแล้วมาปราศรัย ๒. อ้างเอาเรื่องที่ยังไม่มีมาปราศรัย ต. สงเคราะห์ด้วยสิงหาประโยชน์[ม่ได้ ๔. ออกปากพื่งมิได้ www.kalyanamitra.org
และคณะ] หมวด๔ ๕๑๗ ที่มา : สิงคาลกสูตร ที.ปา.ฟเอ๕๖ จสูหิ โข คหปติใ]ตด ฮาเนหิ วจีปรโม อมิตุโต มิตุตปฏิรูปโก เวทิตพโพ : อตีเตน ปฏิสนถรติ, อนาคเตน ปฏิสนถรติ, นิรตถเกน สงคณหาติ, ปชุธุปุปนเนลุ[ กิจุเจธุ[ พุยสนํ ทสฺเสติ ฯ แปล : ดูก่อนคฤหบดีบุตร คนดีแต่พูดviวนพึงทราบเถิดว่าไม่ใช่ มิดรแท้ เป็นมิดรเทียมโดยเหตุ ๔ ประการ คือ เก็บเอาเรื่องล่วงแล้วมา ปราศรัย ๑ อ้างเอาเรื่องที่ยังไม่มาถึงมาปราศรัย ๑ สงเคราะห์ด้วยส์งหา ประโยซใ!มิได้ ๑ เมื่อมีกิจเกิดขึ้นก็แสดงความขัดข้อง ๑ ฯ อใ^!เยฟิาณีคฝืา ว่าด้วยคนหัวประจบมีลักษณะ ๔ ๑. จะทำชั่วก็คล้อยดาม ๒. จะทำดีก็คล้อยดาม ฅ. ต่อห'น้าว่าสรรเสริญ ๔. ลับหลังตั้งนินทา ที่มา : สิงคาลกสูตร ที.ปา. ๑๑/๒๕๗ จสูหิ โข คหปติปุตต ฮาเนหิ อ'พ'ปุปียภาณึ อมิตุโต มิตุตปฏิรูปโก เวทิตพุโพ ะ ปาปกํป็สุส อใ านาติ, กลุยาลร!เสฺส อใ4ชานาติ, สมฺบุขาสส วณลร ภาสติ, ปรมุบุขาสฺส อวณุณํ ภาสติ ฯ แปล : ดูก่อนบุดรคฤหบดี คนหัวประจบท่านพึงทราบเถิดว่า ไม่ใช่มิตรแท้ เป็นมิดรเทียมโดยเหตุ ๔ประการ คือ จะทำชั่วก็คล้อยดาม ๑ จะทำดีก็คล้อยดาม ๑ ต่อหน้าสรรเสริญ ๑ ลับหลังนินทา ๑ ฯ www.kalyanamitra.org
๕๑๘ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงสั อปายสหายกฝืา ว่าด้วยคนซักซวนไปในทางรบหายมีลักษณะ ๔ ๑. ซักซวนดี่มนํ้าเมา ๒. ซักซวนเที่ยวกลางคืน ฅ. ซักซวนให้มัวเมาในการเล่น ๔. ซักซวนเล่นการพนัน ที่มา : สิงคาลกสูตร ที.ปา.๑๑/๒๕๘ จดูหิ โข คหปติใ]ตุต ฮาเนหิ อม่ายสหาโย อมิตุโต มิดฅiJ- ม่ฎิรูใ]โก ทฑิฅ'พุโพ ะ อ[ุ ราเมรยมชุชม่มาทฎฮานาใjโย!ค สหาโย โหติ, วิกาลวิสิขาจริยาใเโยเค สหาโย โหติ, สมชุชากิจรเณ สหาโย โหติ, ชุฅใ]ม่มาทฎฮานาใ^โยเค สหาโย โหติ ฯ แปล : ดูกอนคฤหบคืใJตร คนซักซวนไปในทางเส์อมเสิย'ท่านพึง ทราบเถิดว่าไมโซ่มิตรแห้ เป็นมิตรเ'กียมโดยเหตุ ๔ ประการ คือ ซักซวน ให้ดื่ม'นาเมาคือสุราและเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท ๑ ซักซวนให้ เที่ยวไปตามตรอกต่าง ในเวลาคาคืน ๑ ซักซวนให้เที่ยวดูมหรสพ ๑ ซักซวนให้เล่นการพนันอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท ๑ ฯ www.kalyanamitra.org
และคณะ] หมวด๔ ๕๑๙ สุหฑมิฅตกถา ว่าด้วยมิตรแท้ ๔ ๑. มิตรมีอุปการะ ๒. มิตรร่วมสุขร่วมทุกข์ ๓. มิตรแนะประโยชน์ ๔. มิตรมิความรักใคร่ ทีมา : สิงคาลกสูตร ที.ปา. ๑๑/เอ๖๕ อุปกาโร จ โย มิตฺโต อุ[เข ทุกเข จ โย สขา อฅถฤขายิ ข โย มิตฺโต โย จ มิตุตาทุกมปโก เอเตปี มิตุเต จตดาโร อิดิ วิญผาย ปณฑิโต สฤกจจํ ปยิเปาเสยย มาตา ใ]ตตํว โอรสํ ฯ แปล มิตร ๔ ประเภท คือ มิตรมีอุปการะ ๑ มิตรร่วมสุข ร่วมทุกข์ ๑ มิตรแนะประโยชน์ ๑ มิตรมิความรักใคร่ ๑ บัณฑิตรู้ว่ามิตรเหล่านี้เป็นมิตรแท้ฉะนี้แล้วพึงเข้าไปนั่ง ใกล้!ดยเคารพเหมีอนมารดากับบุตรฉะนั้น ฯ อุปการมิตตกลา ว่าด้วยมิตรมีอุปการะมีลักษณะ ๔ ๑. ป้องกันเพื่อนผู้ประมาทแล้ว ๒. ป้องกันทรัพย์สมบัติของเพื่อนผู้ประมาทแล้ว ๓. เมื่อมีภัย เป็นที่พื่งพำนักได้ ๔. เมื่อมีธุระ ช่วยออกทรัพย์ใท้เกินกว่าที่ออกปาก www.kalyanamitra.org
๕๒0 คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงลั ที่มา : สิงคาลกสูตร ที.ปา. ๑๑/๒๖๑ จดูหิ โข คหปติปุตต ราฌหิ อุปการโก มิตโต อ[ุ หโท เวทิตพโพ : ปมตตํ รกขติ, ปมตตสส สาปเต๗ รคุขติ, ภีตสุส ปฏิสรณํ โหติ, อุปปนฌอุ[ กิชุเจสู กรณีเยสู ตทุทิคูฌํ โภคํ อบุปปเทติ ฯ แปล : ดูก่อนบุตรคฤหบดี มิตรมีอุปการะท่านพึงทราบว่าเป็น มิตรแที่!ดยเหตุ ๔ ประการ คือ รักษาเพื่อนผู้ประมาทแล้ว ๑ รักษา ทรัพย์สมบัติของเพื่อนผู้ประมาทแล้ว ๑ เมื่อมีภัยเป็นที่พื่งพำนักได้ ๑ เมื่อ มีธุระ ช่วยออกทรัพย์ให้เกินกว่าที่ออกปาก ๑ ฯ สมานสุขทุกขมิตตกถา ว่าด้วยมิตรร่วมสุขร่วมทุกข์มีลักษณะ ๔ ๑. ขยายความลับของตนแก่เพื่อน ๒. ปิดความลับของเพื่อนไม่ให้แพร่งพราย ฅ ไม่ละทิ้งในยามวิบัติ ๔. แม้ชีวิตก็อาจสละแทนได้ ทีมา : สิงคาลกสูตร ที.ปา. ๑๑/๒๖๒ จดูหิ โข คหปติ'ว่ตต ราเนหิ สมานสูข'ทุกโข มิฅฺโต สูหโท เวทิต'พุโพ ะ ทุยหมสูส อาจิฤขติ, ทุยหมสูส ปริทุยุหติ, อาปทาสู น วิชหติ, ชีวิตํปีชุส อๆถาย ปริชุจตตํ โหติ ฯ แปล : ดูก่อนบุตรคฤหบดี มิตรร่วมสุขร่วมทุกข์ท่านพึงทราบ เถิดว่าเป็นมิตรแห้โดยเหตุ ๔ ประการ คือ บอกความลับของตนแก่เพื่อน ๑ ปิดความลับของเพื่อน ๑ ไม่ละทิ้งเพื่อนในยามวิบัติ ๑ แม้ชีวิตก็สละเพื่อ ประโยชน์แก่เพื่อนได้ ๑ ฯ www.kalyanamitra.org
และคณะ] หมวด ๔ ๕๒๑ อัตถักฃายีมิตตกถา ว่าด้วยมิตรแนะประโยชน์มีลักษณะ ๔ ๑. ห้ามไม่ให้ทำความชั่ว ๒. แนะนำให้ตั้งอยูในความดี ฅ. ให้ฟ้งส์งที่ยังไม่เคยฟ้ง ๔. บอกทางสวรรคให้ ทีมา : สิงคาลกสูตร ที.ปา. ๑๑/๒๖ฅ จตูหิ โข คหปติใ]ตุต ฮาฌหิ อตถกขายี มิตุโต อ[ุ หโท เวทิตพโพ ะ ปาปา นิวาเรติ, กลุยาเณ นิเวเสติ, อสฺอุ[ตํ สาเวติ, สคฺคสส มคคํ อาจิฤขติ ฯ แปล : ดูก่อนบุตรคฤหบดี มิตรแนะประโยซน์ท่านพึงทราบ เถิดว่าเป็นมิตรแทโดยเหตุ ๔ ประการ คือ ห้ามจากความชั่ว ๑ ให้ตั้งอยู่ ในความดี ๑ ให้พึงสิงที่ยังไม่เคยพึง ๑ บอกทางสวรรค์ให้ ๑ ฯ อ'เ^ก้มปกมิตตคลา ว่าด้วยมิตรมีความรักใค'ร่มีลักษณะ ๔ a. ทุกข์ ทุกข์ด้วย ๒. สุข สุขด้วย ฅ. ได้เถียงคนที่ใJเดติเดียนเพื่อน ๔. รับรองคนที่พูดสรรเสริญเพื่อน www.kalyanamitra.org
๕๒๒ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงลั ที่มา : สิงคาลกสูตร ที.ปา.๑๑/๒๖๕ จสูหิ โข คหปติใ]ตฺต ฮาเนหิ อใjกมุปโก มิตฺโต ธ[ุ หโท เวทิฅพโพ ะ อภทนสุส น นนุทติ, ภเวนสส นนทติ, อวณณํ ภณมไใร นิวาเรติ, วถเณํ ภณมานํ ปสํสติ ฯ แปล : ดูก่อนบุตรคฤหบดี มิตรมีความรักใคร่ท่านพึงทราบเทิด ว่าเป็นมิตรแที่!ตยเหตุ ๔ ประการ คือ ไม่ยินดีด้วยความเส์อมของเพื่อน ๑ ยินดีด้วยความเจริญของเพื่อน ๑ ห้ามคนที่กล่าวโทษเพื่อน ๑ สรรเสริญ คนที่สรรเสริญเพื่อน ๑ ฯ โภควิภาคกลา ว่าด้วยหลักการแบ่งทรัพย์เป็น ๔ ๑. ใช้จ่ายเลี้ยงตน ๑ ส่วน ๒-ฅ.ใช้ลงทุนประกอบการงาน ๒ ส่วน ๔. เก็บไวใช้ในคราวจำเป็นอีก ๑ ส่วน ที่มา : สิงคาลกสูตร ที.ปา.๑๑/๒๖๕ จตุธา วิภเช โภเค ส เว มิตุฅานิ คนถติ เอเกน โภเค ฦญเชยุย ทุวีหิ กมมํ ปโยชเย จตุตุลญจ นิธไเปยฺย อาปทาสุ ภวิสุสติ ฯ แปล : คฤใโสถ์พึงแปงโภคทรัพย์ออกเป็น ๔ ส่วน เขาย่อม ผูกไมตรีไว1ด้ คือ พึงใช้สอยโภคทรัพย์ด้วยส่วนหนึ่ง พึงประกอบการงานด้วยสองส่วน พึงเก็บส่วนที่ ๔ ไว้ ด้วยหมายว่า 'จักมีไว้ใช้ในยามอันตราย' ฯ www.kalyanamitra.org
และคณะ] หมวด ๔ ๕๒๓ จ^โลคปาลกลา ว่าด้วยท้าวโลกบาล ๔ ๑. ท้าวธตรฐ ๒. ท้าววิรุฬหก ๓. ท้าววิรูปักษ์ ๔. ท้าวกุเวร ๑. ท้าวธตรฐมีหน้าที่พิทักษ์รักษาอยู่ทางทิศรyรพามีพวกคนธรรพ์เป็นบริวาร ที่มา : อาฏานาฏิยสูตร ที.ปา.๑๑/๒๗๔ อิโต สา ยู่ริมา ทิสา อิสิ นํ อาจิกฃตี ชโน ยํ ทิสํ อภิปาเลสิ มหาราชา ยสสสิ โส คนธพพานํ อาธิปสิ ธตรฏฺโฮสิ นามโส รมตี นจจคึเตหิ คนธพเพหิ ยู่รฤฃโต ฯ แปล : ทิศนั้นอยู่ทางด้านหน้าจากที่นื้1ป มหาซนเรียกกันว่า ทิศบูรพา เป็นที่ศที่ท้าวมหาราซผู้ทรงยศ เป็นเจ้าใหญ่ ของพวกคนธรรพ พระนามว่าท้าวธตรฐ มีพวกคนธรรพ์ แวดล้อม ทรงรื่นรมย์ด้วยการฟ้อนรำขับร้อง ทรงอภิบาล อยู่ ฯ ๒. ท้าววิรฬหกมีหน้าที่พิทักษ์รักษาอยู่ทางทิศทักษิณ มีพวกอสูรเป็นบริวาร ที่มา : อาฏานาฏิยสูตร ที.ปา.๑๑/๒๗๙ อิโต สา ทิกฃิณา ทิสา อิสิ ฟ้ อาจิกขตี ชโน ยํ ทิส์ อภิปาเลสิ มหาราชา ยสสุสิ โส www.kalyanamitra.org
๕la)๔ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงลั ภูมุภฌฺฑานํ อาธิปติ วิรุฬโห อิติ นามใส รมติ นจจคีเตหิ ภูมุภณเฑหิ คุฃโต ฯ แปล ทิศนั้นอยู่ทางด้านขวาจากที่นี๋fly มหาซนเรียกกันว่า ทิศทักษิณ เป็นทิศที่ท้าวมหาราซผู้ทรงยศ เป็นเจ้าใหญ่ ของพวกกุมภัณฑ์ พระนามว่าท้าววิรุฬหก มีพวกกุมภัณฑ์ แวดล้อม ทรงรื่นรมย์ด้วยการฟ้อนรำขับร้อง ทรงอภิบาล อยู่ ฯ ๓. ท้าววิรูฟ้กษ์มีหน้าทีพิทักษ์รักษาอยู่ทางทิศฟ้จฉิม มีผู้งนาคเป็นบริวาร ที่มา : อาฏานาฏิยสูตร ที.ปา. ๑๙๒๘© อิโต สา ปชุฉิมา ทิสา อิติ นํ อาจิภูฃติ ชโน ยํ ทิสํ อภิปาเลติ มหาราชา ยสสสิ ใส นาคานญจ อาธิปติ วิรูปกใขติ นามใส รมติ นจจคีเตหิ นาเคเหว ยู่รกฃใต ฯ แปล ทิศนั้นอยู่ทางด้านหลังจากที่นั้Iป มหาซนเรียกกันว่า ทิศปัจฉิม เป็นทิศที่ท้าวมหาราซผู้ทรงยศ เป็นเจ้าใหญ่ ของพวกนาค พระนามว่าท้าววิรูปักษ์ มีพวกนาคแวดล้อม ทรงรื่นรมย์ด้วยการฟ้อนรำขับร้อง ทรงอภิบาลอยู่ ฯ ๔. ท้าวภูเวร (หรือท้าวเวสสวัณ) มีหน้าที่พิทักษ์รักษาอยู่ทางทิคภูดร มี พวกยักษ์เป็นบริวาร ทิมา : อาฏานาฏิยสูตร ที.ปา. ๑๑/๒๘๑ สา อุตุตรา ทิสา อิติ นํ อาจิกฃติ ชใน ยํ ทิสํ อภิปาเลติ มหาราชา ยสสุสิ ใส www.kalyanamitra.org
และคณะ] หมวด ๔ ๕๒๕ ยคุฃานฌจ อาธิปติ คูเวโร อิติ นามโส รมตี นชุจคีเตหิ ยณฃเหว ใ]รกฃโต ฯ แปล , ทิศนั้นอยู่ทางทิศเหนือจากที่'น!ป มหาซนเรียกกันว่า ทิศอุดร เป็นทิศที่ท้าวมหาราชผู้ทรงยศ เป็นเจ้าใหญ่ของ ยักษ์ทั้งหลาย พระนามว่าท้าวกุเวร มีพวกยักษ์แวดล้อม รื่นรมย์ด้วยการฟ้อนรำขับร้อง ทรงอภิบาลอยู่ ฯ สัมมัปปรานกลา ว่าด้วยความเพียรชอบ ๔ ๑. เพียรระวังมีใท้บาปอกุศลเกิดขึ้น (ส์งวรปธาน) ๒. เพียรละบาปอกุศลที่เกิดขึ้นแล้ว (ปหานปธาน) ฅ. เพียรบำเพ็ญกุศลธรรมที่ยังไม่เกิดขึ้นใท้เกิดขึ้น (ภาวนาปธาน) ๔. เพียรรักษากุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้ว (อ'นุรักชนาปธาน) ที่มา ๑: ส์งคีติสูตร ที.ปา.พฅอ๖ จตุตาโร สมมปฺปธานา ะ อิธาๅโส ภิฤข อนุปุปนุนา'พํ ปาปกา'น อคูสลา'พํ ธมฺมา'พํ อนุปฺปาทาย ฉนุทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตุตํ ปคุคณฺหาติ ปทหติ, อุปปนุนา'น ปาปกา'น อกุสลา'น ธม.มานํ ปหานาย ... อนุป.ปน.นานํ คูสลา'น ธม.มานํ อุปฺปาทาย ... อุป.ปน.นา'พํ คูสลา'น ธมมานํ ฮิติยา อสมฺโมสาย ภิยุโยภาวาย เวปุล.ลาย ภาวนาย ปาริ\\!ริยา ... ฯ แปล : สัมมัปธาน (ความเพียรชอบ) ๔ คือ ภิกษุในพระธรรม วิ'นัยนี้ทำฉันทะใท้เกิด พยายาม ปรารภความเพียร ประคับประคองจิตไร้ เรื่มตั้งความเพียรเ'พื่อยังธรรมที่เป็นบาปอกุศลซึ่งยังไม่เกิดขึ้นมีใท้เกิดขึน® - www.kalyanamitra.org
คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงลั เริ่มตั้งความเพียรเพี่อละธรรมที่เปีนบาปอกุศลซึ่งเทิดขึ้นแล้ว ๑ ... เริ่มตั้ง ความเพียรเพี่อยังธรรมที่เปีนกุศลซึ่งยังไม่เกิดขึ้นให้เทิดขึ้น ๑ ... เริ่มตั้ง ความเพียรเพี่อความตั้งมั่น เพี่อความไม่เลือนหาย เพี่อความมียิ่งขึ้น เพี่อความไพบูลย์ เพี่อความเจริญ เพี่อความบริบูรณ์แห่งธรรมที่เปีนกุศล ซึ่งเทิดขึ้นแล้ว ๑ ฯ ที่มา ๒: ปธานสูตร ปฐมปัณณาสก์ อง..จตุทก. ๒๑/๑ต สมมปฺปธานา มารเธยยาภิฎดๆ เต อสิตา ชาติมรณภยสส ปารสู เต ตุสิตา เชตฺวาน มารํ สวาหนํ ฯ แปล : พระขีณาสพเหล่านั้นมีความเพียรอันชอบ ครอบงำ เตภูมิกวัฏอันเปีนปวงแห่งมารได้แล้ว เปีนผู้อันกิเลสไม่ อาส์'ยแล้ว ถึงฝืงแห่งภัยคือชาติและมรณะ ห่านเหล่า นั้นชนะมารพร้อมทั้งเสนามาร รนดีแล้ว ฯ อิทธิปาทคฝืา ว่าด้วยอิทธิบาท ๔ ๑. ฉันทะ พอใจรักใครในส์งนั้น ๒. วิริยะ เพียรประกอบในสิงนั้น ต. จิตตะ เอาใจฝืกใฝ่ในสิงนั้น ไม่วางธุระ ๔. วิมังสา หมั่นตริตรองพิจารณาเหตุผลในสิงนั้น www.kalyanamitra.org
และคณะ] หมวด ๔ ๕๒๗ ทีมา ะ ส์งคีติสูตร ที.ปา.๑๑/ฅ0๖ จตุตาโร อิทุธิปาทา ะ อิธาๅโส ภิฤชุ ฉนุทสมาธิปธานสงฺขาร- สมนนาคตํ อิทธิปาฑํ ภาทติ, วีริยสมาธิปธานสงขารสมนนาคตํ อิทุธิปาทํ ภาทติ, จิตุฅสมาธิปธานสงขารสมนุนาคตํ อิทธิปาทํ ภาเวติ, วีมํสาสมาธิ- ปธานสงุขารสมนุนาคตํ อิทธิปาทํ ภาทติ ฯ แปล : อิทธิบาท (คุณเครื่องให้สำเร็จความประสงค์) ๔ คือ ภิกษุโนพระธรรมวินัยนี้ย่อมเจริญอิทธิบาท อันประกอบด้วยฉันทสมาธิ ปรานสํงขาร ๑ เจริญอิทธิบาทอันประกอบด้วยวิริยสมาธิปธานสํงฃาร ๑ เจริญอิทธิบาทอันประกอบด้วยจิตตสมาธิปธานสํงขาร ๑ เจริญอิทธิบาทอัน ประกอบด้วยวิมังสาสมาธิปธานสํงขาร ๑ ฯ ฌานกถา ว่าด้วยรูปฌาน ๕ ๑. ปฐมฌาน ฌานที่ ๑ มีองค์ ๕ คือ วิตก วิจาร ปีติ สุข เอกัคคตา ๒. ทุติยฌาน ฌานที่ ๒ มีองค์ ๓ คือ ปีติ สุข เอกัคคตา ฅ. ตติยฌาน ฌานที่ ฅ มีองค์ ๒ คือ สุข เอกัคคตา ๔. จตุตถฌาณ ฌานที่ ๔ มีองค์ ๒ คือ อุเบกขา เอกัคคตา ที่มา : สังคีติสูตร ที.ปา. ๑๑/ฅ0๖ สวิตกกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติอุ[ขํ ป«มชุฌานํ อุปสมปชุช วิหรติ ... สมาธิชํ ปีติอุ[ขํ ทุติยชุฌานํ ... อุเปกขโก สติมา อุ[ขวิหารืติ ตติยชุฌานํ ... อทุกุฃมอุ[ขํ อุเปคุขาสติปาริอุ[ทุธึ จตุตุถชุฌานํ อุปสนุปชุช วิหรติ ฯ www.kalyanamitra.org
๕๒๘ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงสั แปล ; (ฌาน ๔ คือ ภิกษุในพระธรรมวินัย/นSTส.งัดแล้วจากกาม สงัดแล้วจากอกุศลธรรม) บรรลุปฐมฌานที่มีวิตก มีวิจาร มีปีติและสุข อันเกิดแต่วิเวกอยู่ ๑ บรรลุทุติยฌาน ... มีปีติและสุขอันเกิดแต่สมาธิอยู่ ๑ ... บรรลุตติยฌานที่พระอริยะทั้งหลายสรรเสริญว่า ฟ้ด้ฌานนี้เป็นผู้มี อุเบกขา มีสติ อยู่เป็นสุข' ดังนี้อยู่ ๑ บรรลุจตุตกฌานที่ไม่มีทุกข์ ไม่มีสุข มีแต่อุเบกขาเป็นเหตุให้สติบริสุทธิ้ ... ๑ ฯ สมาธิภาวนากถา ว่าด้วยอานิสงส์ของสมาธิภาวนา ๔ ๑. ทำ ให้อยู่เป็นสุขในปัจจุบัน ๒. ทำ ให้!ด้ญาณทัสสนะ ฅ. ทำ ให้มีสติและส์'มปซัญญะบริบูรถ! ๔. ทำ ให้เนอาสวะได้ ที่มา : ลังคีติสูดร ที.ปา.๑๑/๓0๗ จตสฺใส สมาธิภาวนา ะ อตุลาวุโส สมาธิภาวนา ภาวิตา พชุลีกฅา ทิฏฮธมุมอุ[ฃวิหาราย สํวตุคติ ... ณาณฑสุสนปฎิลาภาย สํวตุคติ ... สติสมุปชณฺณาย สํวตุคติ ... อาสวานํ ขยาย สํวตุคติ ฯ แปล : สมาธิภาวนา (การอบรมจิตเจริญปัญญา) ๔ คือ สมาธิ ภาวนาที่ภิกษุเจริญแล้ว ทำ ให้มากแล้วย่อมเป็นไปเพื่อความอยู่เป็นสุขใน ปัจจุบัน๑ ... ย่อมเป็นไปเพื่อได้เฉพาะญาณหัสสนะ ๑ ... ย่อมเป็นไปเพื่อสติ สัมปชัญญะ ๑ ... ย่อมเป็นไปเพื่อความเนไปแห่งอาสวะทั้งหลาย ๑ ฯ www.kalyanamitra.org
และคณะ] หมวด ๔ ๕๒๙ อัปปมัญญาคฝืา ว่าด้วยอัปปมัญญา ๔ ๑. เมตตา ความปรารถนาให้เป็นสุข ๒. กเณๆ ความคิดจะช่วยให้พ้นทุกข์ ฅ. มุทิตา ความพลอยยินดี ๔. อุเบกขา ความวางจิตเป็นกลาง ที่มา : สังคีติสูตร ที.ปา.๑๑/ฅ0๘ จตสฺโส อปปมณณา : อิธาวุโส ภิๆฃ เมตุตาสหเตน เจตสา เอกํ ทิส์ ผริตุวา วิหรติ ฯ ตถา ชุติยํ ตถา ตติยํ ตถา จตุตุลํ อิติ อุทุธมโธ ติริยํ สพพธิ สพพตุตตาย สพุพาวนุตํ โลกํ เมตุตาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคคเตน อปปมาเณน อเวเรน อพยาปชุเฌน ผริตุวา วิหรติ ... กเณาสหคเตน ... มุทิตาสหคเตน ... อุเปคุขาสหคเตน ... ฯ แปล : อัปปมัญญา ๔ คือ ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้มีใจประกอบ ด้วยเมตตาแผ่ไปตลอดทิศหนึ๋งอยู่ ทิศที่ ๒ ทิศที่ ฅ ทิศที่ ๔ ก็เหมือนกัน ปฏิบัติโดยนัยนี้ทั้งเบื้องบน เบื้องล่าง เบื้องขวาง แผ่ไปตลอดโลกทั้วส์โตว์ ทุกหมู่เหล่าในที่ทุกสถานด้วยใจประกอบด้วยเมตตาอันไพบูลย์ เป็นมหัคคตะ ไม่มีประมาณ ไม่มีเวร ไม่มีความเบียดเบียนอยู่ ๑... มีใจประกอบด้วยกรุณา ...๑... มีใจประกอบด้วยมุทิตา ...๑... มีใจประกอบด้วยอุเบกขา ...๑...ฯ อธิบาย : อัปปมัญญา แปลว่า ธรรมที่แฝไปไม่มีประมาณ เป็นอึก ซื่อหนึ่งของ พรหมวิหารธรรม ๔ หมายถึงการแผ่พรหมวิหารธรรม ๔ คือ เมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขาทั้วไปในมนุษย์และสรรพอัตว์อย่างกว้าง ขวางสมีาเสมอกัน ไม่มีประมาณ คือไม่จำกัดขอบเขต (นัย ที.ปา.อ. ๒0๔) www.kalyanamitra.org
๕๓0 คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงลั อรูปฌานคฝืา ว่าด้วยอรปฌาน ๔ ๑. อากาสานัญจายตนฌาน ๒. วิญญาณัญจายตนฌาน ฅ. อากิฌจัญญายตนฌาน ๔. เนวสัญญานาส์'ญญายตนฌาน ที่มา : ส์งคีติสูตร ที.ปา. ๑๑/ฅ0๘ จตุตาโร อรูปไ ะ อิธารูโส ภิฤจุ! สพพโส รูปสณณานํ สมติฤกมา ... 'อนนฺโฅ อากาโสต อากาสานญจายตนํ อุปสมปชุช วิหรติ ... 'อนนตํ วิฌฺณาณน ต วิณฺณาฌณจายตนํ ... 'นตุลิ กิญจี ต อากิณจฌณายตนํ ... ฌวสฌณานาสณณายตนํ อุปสมปชุช วิหรติ ฯ แปล : อรูป ๔ คือ ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้เพราะล่วงรูปสัญญา โดยประการทั้งปวง ... เข้าถึงอากาสานัญจายตนะโดยมนสิการว่า 'อนนฺโต อากาโส อากาศไม่มีที่สุด' ดังนี้อยู่ ๑ ... เข้าถึงวิญญาณัญจายตนะโดย มนสิการว่า 'อน'นตํ วิพฺฌาณํ วิญญาณไม่มีที่สุด' ดังนี้อยู่ ๑ ... เข้าถึง อาภิญจัญญายตนะโดยมนสิการว่า 'นต.ถึ ภิญจิ ไม่มีอะไร' ดังนี้อยู่ ๑ ... เข้าถึงเนวสัญญานาสัญญายตนะอยู่ ๑ ฯ อธิบาย : ข้อที่๑ หมายถึงฌานที่กำหนดที่ว่างคืออากาศไม่มีที่สุด เป็นอารมณ์ ข้อที่ ๒ หมายถึงฌานที่กำหนดวิญญาณไม่มีที่สุดเป็นอารมณ์ ข้อที่ ฅ หมายถึงฌานที่กำหนดภาวะที่ไม่มีอะไรเป็นอารมณ์ ข้อที่ ๔ หมาย ถึงฌานที่เข้าถึงภาวะมีสัญญาก็ไม่โซ่ ไม่มีสัญญาก็ไม่โซ่ www.kalyanamitra.org
นละคณะ] หมวด ๔ ๕cท๑ อ11สเสนกฝืา ว่าแวยธรรมดุจพนักพิงของสืกษุ ๔ ๑. พิจารณาแล้วเสพอาสัยของอย่างหนึ่ง ๒. พิจารณาแล้วอดกลั้นของอย่างหนึ่ง ต. พิจารณาแล้วเว้นของอย่างหนึ่ง ๔. พิจารณาแล้วบรรเทาของอย่างหนึ่ง ที่มา ะ ลํโงคีติสูตร ที.ปา. «6)/ต0๘ จตุตาริ อปสเสนานิ ะ อิธาวุโส ภิกขุ สงขาเยกํ ปฎิเสวติ, สงุฃาเยกํ อธิวาเสติ, สงขาเยกํ ใเริวชุเชติ, สงขาเยกํ วิโนเทติ ฯ แปล : อปีสเสนะ (ธรรมอันเป็นที่อิงหรือพึ่งอาส์โย) ๔ คือ ภิกษุ ในพระธรรมวินัยนี้พิจารณาแล้วเสพอาอัยของอย่างหนึ่ง พิจารณาแล้วอด กลั้นของอย่างหนึ่ง พิจารณาแล้วเว้นของอย่างหนึ่ง พิจารณาแล้วบรรเทา ของอย่างหนึ่ง ฯ อริยวังสกถา ว่าด้วยธรรมเนียมปฏิบัติซองพระอริยะ ๕ ๑. อันโดษด้วยจีวร ๒. อันโดษด้วยบิณฑบาต ต. อันโดษด้วยเสนาสนะ ๔. ยินดีในการเจริญกุศลและในการละอกุศล www.kalyanamitra.org
๕๓๒ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงลั ที่มา : ลังคีติสดร ที.ปา.ฟต0๙ จตุตาโร อริยวํสา ะ อิธา^ใส ภิกชุ สนุตุฎุโจ โหติ อิดริตเรน จีวเรน ... อิดริฅเรน ปีณฺฑปาเดน ... อิดรีดเรน เสนาสเนน ... ปหานา- ราโม โหติ ปหานรโด, ภาวนาราโม โหติ ภาวนารโด ... ฯ แปล : อริยวงสั(ธรรมเนียมปฏิบัติของพระอริยะ)๔ คือ ภิกษุใน พระธรรมวบัยนี้ย่อมเป็นผู้ส์นโดษด้วยจีวรตามมีตามได้ ๑ ด้วยบิณฑบาต ตามมีตามได้ ๑ ด้วยเสนาสนะตามมีตามได้ ๑ เป็นผู้มีการละเป็นที่มายินดี ยินดีแล้วในการละ มีการเจริญเป็นที่มายินดี ยินดีแล้วในการเจริญ ๑ ฯ ปธานกฝืา ว่าด้วยปฮานคือความเพียร ๔ ๑. สังวรปธาน เพียรระวัง ๒. ปหานปธาน เพียรละ ฅ. ภาวนาปธาน เพียรเจริญ ๔. อษุรักฃนาปธาน เพียรวักษา ที่มา ๑: ลังสืติสูดร ที.ปา.๑๑/ต๑อ จตุดาริ ปธานานิ ะ สํวรปธานํ ปหานปธานํ ภาวนาปธานํ อษุรกฃนาปธานํ ฯ แปล : ปธาน (ความเพียร) ๔ คือ ส์งวรปธาน ๑ ปหานปธาน ๑ ภาวนาปธาน ๑ อนวักขนาปธาน ๑ ฯ www.kalyanamitra.org
และคณะ] หมวด ๔ ๕๓๓ ที่มา ๒: ส์งวรสูตร ปฐมปัณณาสก์ องฺ.จตุทก. ๒๑/๑๔ ส์วโร จ ปหานณจ ภาวนา อบุรกฃนา เอเต ปธานา จตุคาโร เทสิตาทิชุจพนฺธุนา เยหิ ภิฤชุ อิธาตาปี ขยํ ทฤขสส ปาใJเณ ฯ แปล : ปธาน ๔ ประการนี้ คือ ส์งวรปธาน ๑ ปหานปธาน ๑ ภาวนาปราน ๑ อนุรักฃนาปราน ๑ อันพระพุทรเจ้า ผู้ทรงเป็นเผ่าพันธุแห่งพระอาทิตย์ตรัสแสดงไว้แล้ว ซึ๋ง เป็นเหตุให้ภิกษุผู้มีความเพียรในรรรมวินัยนี้ถึงความล้น ทุกฃ1ด้ ฯ ญาณคลา ว่าด้วยญาณ ๔ (นัยที่ ๑) ๑. ธัมมญาณ ความรู!นรรรม ๒. อันวยญาณ ความรู!นการคล้อยตาม ต. ปริจเฉทญาณ ความรู!นการกำหนด ๔. ส้มมติญาณ ความรู!นการสมมติ ที่มา : สังคีติสูตร ที.ปา.๑๑/ต๑0 จตุตาริ ณาณานิ ะ ธมเม ณาณํ, อนุวเย ณาณํ, ปริจเฉทณาณํ, สมมติผาณํ ฯ แปล : ญาณ ๔ คือ ความรู!นรรรม ๑ ความรูในการคล้อย ตาม ๑ ความรู!นการกำหนด ๑ ความรู!นการสมมติ ๑ ฯ www.kalyanamitra.org
๕0)๔ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงสั อธิบาย : ความเในธรรม หมายถึงความรู้ในอริยสัจ ๔ หริอ ความรู้ในมรรค ๔ ผล ๔ ความเในการคล้อยตาม หมายถึงความรู้ที่คล้อย ตามความรู้ในธรรมนั้น เซ่น เมื่อรู้อริยสัจ ๔ อย่างประจักษ์แล้ว ก็สามารถ กำ หนดได้ว่าทั้งในอดีตทั้งในอนาคต เบญจขันธ์เหล่านี้แหละจัดเรนทุกฃสัจ ตัณหานี้แหละจัดเป็นสมุทยสัจ นิโรธนี้แหละจัดเป็นนิโรธสัจ มรรคนี้แหละ จัดเป็นมรรคสัจ เป็นด้น ความรูในการกำหนด หมายถึงความรู้ในการ กำ หนดจิตผู้อี่น ความเในการสมมติ หมายถึงความรู้ทั้วไปที่นอกจาก.ความ รู้ทั้ง ฅ ข้างด้น (ที.ปา.อ. ๒๑๗) ญาณกถา ว่าด้วยญาณ ๔ (นัยที่ ๒) ๑. ธุกฃญาณ ความรู้ในทุกข์ ๒. ทุกฃสชุทยญาณ ความรู้ในเหตุเกิดทุกข์ ฅ. ทุกฃนิโรธญาณ ความรู้ในความตับทุกข์ ๔. ทุกฃนิโรธคามินีปฏิปทาญาณ ความรู้ในข้อปฏิบตให้ถึงความตับทุกข์ ที่มา : ลังคีติสูตร ที.ปา. «>๑/ต๑อ อปรานิปี จตุฅาริ ณาณานิ : ทุคุเฃ ณาณํ, ทุฤขสทุฑเย ณาณํ, ทุฤขนิโรเธ ณาณํ, ทุกฃนิโรธคามินิยา ปฏิปทาย ณาฉ่เ ฯ แปล : ญาณ ๔ คือ ความรู้ในทุกข์๑ ความรู้ในเหตุเกิดทุกข์๑ ความรู้ในความตับทุกข์ ๑ ความรู้ในข้อปฏิบัติให้ถึงความตับทุกข์ ๑ ฯ www.kalyanamitra.org
และคณะ] หมวด ๔ ๕CO๕ โสตาฟ้ตติยังคกลา ว่าด้วยองค์แห่งการบรรลุโสดาปัตติผล ๔ ๑. สัปใ]ริสสังเสวะ การคบส์'ตบุรุษ ๒. สัฑธัมมัสสวนะ การฟ้งพระส์ทธรรม ฅ. โยนิโสมนสิการ การกระทาฬนใจโดยแยบคาย ๔. ธัมมา•บุธัมมปฎิฟ้ฅติ การปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ที่มา : ส์งสืติสูตร ที.ปา.๑๑/ฅ๑๑ จตุตาริ โสตาปตุติยงุคานิ : สปใ]ริสสํเสโว สฑธมมสสวฟ้ โยนิโสมนสิคาโร ธมมาบุธบุมปฎิปตุติ ฯ แปล : องค์แห่งการบรรลุโสดาปัตติผล ๔ คือ การคบส์ตบุรุษ ๑ การฟ้งพระส์ทธรรม ๑ การทำไ^นใจโดยแยบคาย ๑ การปฏิบัติธรรม สมควรแก่ธรรม ๑ ฯ โสตาฟ้นนังคกถา ว่าด้วยองค์แห่งพระโสดาบัน ๔ ๑. เลื่อมใสมั่นคงในพระพุทธเจ้า ๒. เลื่อมใสมั่นคงในพระธรรม ๓. เลื่อมใสมั่นคงในพระสงฆ์ ๔. ประกอบด้วยคืลที่พระอริยเจ้าพอใจ www.kalyanamitra.org
๕๓๖ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงสั ที่มา : ลังคีติสูตร ที.ปา.๑®/ต๑® จตตาริ โสตาปนนสส องคานิ ะ รธา^ใส อริยสาวโก ทุทุเธ อiวอจปปสา&ทน สมนนาคโต โหดิ ... ธมฺ&ม อเวจจปปสาเทน ... สงฺเฆ อเวจจปปสาเทน ... อริยกน.เตหิ สึเลหิ สมนนาคโต โหติ ... ฯ แปล : องค์แห่งพระโสดาบัน ๔ คือ พระอริยสาวกในพระ ธรรมวินัยนี้เป็นผู้ประกอบด้วยความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระทุทธเจ้า ๑ เป็นผู้ประกอบด้วยความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระธรรม ๑ เป็นผู้ ประกอบด้วยความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระสงฆ์ ๑ เป็นผู้ประกอบด้วย สืลที่พระอริยเจ้าพอใจแล้ว ไม่ขาด ไม่ทะลุ ไม่ด่าง ไม่พร้อย เป็นไท วิญฌูซนสรรเสริญ อันตัณหาและทิฏเไม่อัมผ้สแล้ว เป็นไปเพี่อสมาธิ ๑ ฯ สามัญญผลคลา ว่าด้วยสามัญญผล ๔ ๑. โสดาฟ้ตติผล ผลอันพระโสดาบันพึงได้รับ ๒. สกทาคามิผล ผลอันพระสกทาคามีพึงได้รับ ฅ. อนาคามิผล ผลอันพระอนาคามีพึงได้รับ ๔. อรหัตตผล ผลอันพระอรหันต์พึงได้รับ ที่มา : ลังคติสูตร ที.ปา. ๑๑/(ท®® จตุตาริ สามผุผผลานิ : โสตาปตุดิผลํ สกทาคามิผลํ อนาคามิผลํ อรหตุตผลํ ฯ www.kalyanamitra.org
และคณะ] หมวด๔ ๕๓๗ แปล : สามัญญผล (ผลแห่งความเป็นสมณะ) ๔ คือ โสดาปัตติ ผล ๑ สกทาคามิผล ๑ อนาคามิผล ๑ อรหัตตผล ๑ ฯ ธาตุกถา ว่าด้วยธาตุ ๔ ๑ ธาตุดิน มิลักษณะแข้นแข็ง ต. เตโชธาตุ ธาตุนํ้า มิลักษณะเอิบอาบ ๔. วาโยธาตุ ธาตุไฟ มีลักษณะร้อน ธาตุลม มีลักษณะฟัดผันไปมา ที่มา : ส์งคีติสูตร ที.ปา.•๑๑/ต๑๑ จตสโส ธาตุโย : ปธวีธาตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตุ ฯ แปล : ธาตุ (สิงที่ทรงสภาวะอยู่เอง) ๔ คือ ธาตุดิน ๑ ธาตุนํ้า ๑ ธาตุไฟ ๑ ธาตุลม ๑ ฯ อาหารกถา ว่าด้วยอาหาร ๔ ๑. กวฬิงการาหาร อาหารคือคาข้าว ๒. ผัสสาหาร อาหารคือผัสสะ ต. มโนสัญเจตนาหาร อาหารคือมโนลัญเจตนา ๔. วิญญาณาหาร อาหารคือวิญญาณ www.kalyanamitra.org
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 599
- 600
- 601
- 602
- 603
- 604
- 605
- 606
- 607
- 608
- 609
- 610
- 611
- 612
- 613
- 614
- 615
- 616
- 617
- 618
- 619
- 620
- 621
- 622
- 623
- 624
- 625
- 626
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 600
- 601 - 626
Pages: