หลกั สตู ร การปลูกพืชสมุนไพรพื้นบ้ากนลุ่มฟอา้าชทีพเะกลษาตยรกโรจรรม 47 การเตรียมดนิ ก่อนปลูก 1. การเตรยี มแปลงปลูก ยกแปลงปลูกสงู 15 - 20 เซนตเิ มตร กวา้ ง 1 เมตร ยาว 3-5 เมตร (หรือปรับ ขนาดตามสภาพพ้นื ที)่ บำรุงดว้ ยปุ๋ยอินทรีย์ ถ่านไบโอชาร์ และรดน้ำท้งิ ไว้อยา่ งนอ้ ย 30-45 วนั ก่อนปลกู 2. การเตรียมดิน โดยการขุดหรือไถพรวนเพื่อให้ดินร่วนซุย และตากดินไว้ประมาณ 2 สัปดาห์ แลว้ จงึ ทำการไถแปร และปรับปรุงดนิ ดว้ ยป๋ยุ อินทรีย์ปยุ๋ คอก หรือปุย๋ หมกั (ทีม่ าของภาพประกอบ : ศนู ยฝ์ ึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดนสระแกว้ ) 3. การเตรียมพันธุ์ ขยายพนั ธ์ดุ ว้ ยเมล็ด ใชเ้ มลด็ จากฝักแก่จดั เมลด็ ตอ้ งมสี นี ำ้ ตาลแดง ลักษณะสมบูรณ์ ปราศจากโรคและแมลง เนื่องจากเมล็ดมีเปลือกแข็ง ก่อนปลูกแช่เมล็ดในน้ำที่อุณหภูมิห้อง ประมาณ 6 – 12 ชั่วโมง เพอ่ื ให้น้ำซึมผ่านเมล็ด และเมล็ดสามารถงอกได้ (ทีม่ าของภาพประกอบ : ศนู ย์ฝกึ และพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดนสระแก้ว) 2. การปลกู ฟ้าทะลายโจรสามารถปลกู ไดห้ ลายวิธี ดงั นี้ 2.1. การปลูกแบบหว่าน นำเมล็ดมาผสมทรายหยาบ อัตรา 1:1-2 ใช้เมล็ด 100-400 เมล็ดต่อพื้นท่ี 1 ตารางเมตร วธิ ีน้ีเกษตรกรนิยมแตม่ ีขอ้ จำกัด คอื ทำให้สิน้ เปลืองเมล็ดพนั ธุ์ ซึ่งมรี าคาสงู ภาพประกอบที่ 1 ภาพประกอบท่ี 2 (ท่ีมาของภาพประกอบที่ 1 : https://sireepark.mahidol.ac.th/e-news/BehindtheGarden/BG01.html) (ทมี่ าของภาพประกอบที่ 2 : ศนู ย์ฝกึ และพัฒนาอาชพี ราษฎรไทยบรเิ วณชายแดนสระแกว้ ) 47
48 2.2. การปลกู แบบโรยเมล็ดเป็นแถว ขุดร่องต้นื ๆ เปน็ แถวยาว โรยเมล็ดและกลบดินบาง ๆ ระยะปลูก ระหว่างแถวประมาณ 40 เซนติเมตร ใช้เมล็ดประมาณ 50-100 เมล็ดต่อความยาว 1 เมตร วิธีนี้ทำให้สามารถ กำจดั วชั พชื ซ่งึ เป็นปัญหาสำคญั ไดส้ ะดวก (ทีม่ าของภาพประกอบ : ศูนย์ฝกึ และพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดนสระแกว้ ) 2.3. การปลูกโดยใช้กลา้ มีข้นั ตอนดงั นี้ 1) เพาะกล้า เพาะกล้าในถาดเพาะกล้า หรือเตรียมแปลงเพาะโดยยกแปลงกว้าง 1 เมตร สงู ประมาณ 15 - 20 เซนตเิ มตร ยอ่ ยดนิ ใหล้ ะเอียดใส่ป๋ยุ อินทรีย์รองพื้น ½-1 กโิ ลกรัมต่อพื้นท่ี 1 ตารางเมตร (ทีม่ าของภาพประกอบ : ศูนย์ฝกึ และพฒั นาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดนสระแกว้ ) 2) การเตรียมหลุมปลูก ขุดหลุมกว้างประมาณ 15 เซนติเมตร ลึกประมาณ 8-12 เซนติเมตร เป็นแถว ให้มีระยะปลูกระหว่างต้น 20 - 30 เซนติเมตร และระหว่างแถว 40 เซนติเมตร ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ รองกน้ หลุมประมาณ 125 กรัมตอ่ หลุม และคลุกเคล้าใหเ้ ขา้ กบั ดนิ 48
หลักสตู ร การปลูกพืชสมุนไพรพื้นบ้ากนลุ่มฟอา้าชทีพเะกลษาตยรกโรจรรม 49 (ที่มาของภาพประกอบ : ศูนยฝ์ ึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบรเิ วณชายแดนสระแก้ว) 3) ยา้ ยกลา้ ปลกู เม่ือกลา้ มอี ายปุ ระมาณ 30 วัน ก่อนย้ายกลา้ รดน้ำแปลงใหช้ มุ่ แลว้ จงึ ใช้ชอ้ นขดุ หรือเสียมแซะกลา้ ไปปลูกในหลุมทีเ่ ตรยี มไว้ 1 ต้นต่อหลมุ หลังปลกู รดน้ำทันที 3.1) ปลูกฤดแู ลง้ ระยะ 30 x 40 ซม. จะปลกู ได้ 8 ต้น/ตรม. 3.2) ปลกู ฤดฝู น ระยะ 30 x 60 ซม. จะปลูกได้ 6 ต้น/ตรม. (ทีม่ าของภาพประกอบ : ศนู ย์ฝึกและพฒั นาอาชีพราษฎรไทยบรเิ วณชายแดนสระแก้ว) 3. การดแู ลรกั ษา 3.1 การคลุมแปลง : โดยเฉพาะพื้นที่ปลูกเป็นที่โล่งแจ้ง ลมพัดแรงจัด แดดจัด ฝนตกชุก ควรคลุมแปลง ดว้ ยฟางหรือใบหญา้ คาบาง ๆ เพ่อื ลดการชะล้างของน้ำความชื้น ทำให้เมลด็ งอกไดเ้ ร็วขน้ึ 3.2 การปลูกซ่อม : หลังจากปลูกแล้วประมาณ 7 - 15 วัน ถ้าพบว่าต้นกล้าที่ปลูกตายหรือไม่งอก ควรปลูกซ่อมทนั ที 3.3 การถอนแยก : หลักจากปลูกแล้วประมาณ 30 - 45 วัน ถ้าพบว่าต้นกล้าที่ขึ้นแน่นมากเกินไป ให้ทำการถอนแยกไปปลูกในแปลงอน่ื 3.4 การใสป่ ุ๋ย : 1) แบ่งใสเ่ ปน็ ระยะ ดังน้ี - อายุ 60 วัน ให้ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ประมาณ 125 กรัมต่อต้น หรือ 300-400 กรัมต่อ พื้นที่ 1 ตารางเมตร - อายุ 90 - 110 วนั ให้ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ 300-500 กรัม ต่อพืน้ ท่ี 1 ตารางเมตร 49
50 2) วิธีการใส่ปุ๋ย - แบบหว่าน ต้องหว่านให้กระจายสม่ำเสมอ หลังหว่านแล้วต้องรดน้ำทันที อย่าให้ ปุ๋ยค้างทใี่ บ - แบบโรยหรือหว่านเป็นแถว ตามแนวขนานระหว่างแถวปลูกห่างจากแถวปลูก ประมาณ 10 - 15 เซนติเมตร โดยขุดเป็นร่อง ใส่ปุย๋ พรวนดินกลบ เหมาะกบั การปลูกแบบโรยเปน็ แถว - แบบหยอดโคน ใสป่ ยุ๋ ห่างจากโคนต้นประมาณ 10 เซนตเิ มตร โดยขุดหลุมฝังกลบ ดนิ หรอื โรยรอบ ๆ โคนตน้ แลว้ พรวนดินกลบกไ็ ด้ เหมาะกับการปลกู แบบมีระยะปลกู 3.5 การให้น้ำ : ระยะ 30 - 60 วันแรกหลังจากปลูก ถ้าแดดจัด ควรให้น้ำวันละ 2 ครั้ง เช้า เย็น ถ้าแดดไม่จัดควรให้น้ำวันละครั้ง หลังจากอายุ 60 วันไปแล้วอาจให้น้ำวันเว้นวันก็ได้ หรือให้ตามความเหมาะสม ตามสภาพพน้ื ท่แี ละสภาพอากาศ 4. โรคและศัตรูพืชทส่ี ำคญั 1) วัชพืช : ควรกำจัดโดยการถอน โดยเฉพาะในระยะแรกปลูกถึง 2 เดือน กำจัดวัชพืช ทุกคร่ึงเดอื น จนกระทัง้ ฟ้าทะลายโจรเจริญคลมุ แปล 2) โรค : ไม่พบโรคที่ทำความเสียหายรุนแรง เพียงแต่ทำความเสียหายเล็กน้อย ได้แก่ โรคโคนเน่า และรากเน่าจากเชื้อราหากพบให้ถอนทำลายทันที โรคแอนเทรคโนส พบตรงกลางหรือปลายใบ หากพบให้ตัด สว่ นทเ่ี ปน็ โรคท้งิ 3) แมลง : ไมพ่ บแมลงชนิดใดทท่ี ำความเสยี หายรุนแรง โรคฟ้าทะลายโจร ได้แก่ โรคโคนเน่า และรากเน่า เกิดจากเชื้อรา หากพบให้ถอนทำลายทันที โรคแอนเทรคโนส พบตรงกลางหรือปลายใบ หากพบให้ตัดส่วนที่เป็นโรคทิ้ง (โรคที่เกิดขึ้นกับฟ้าทะลายโจรนั้น ไมพ่ บว่าทำความเสียหายขนั้ รุนแรง) แมลงศตั รูฟ้าทะลายโจร ไม่พบแมลงชนดิ ใดท่ที ำความเสียหายรนุ แรง อาจพบ หนอนผีเสื้อได้บ้างก็สามารถจับไปทำลายทงิ้ ได้ ภาพประกอบที่ 1 ภาพประกอบท่ี 2 ภาพประกอบท่ี 3 (ท่ีมาของภาพประกอบท่ี 1 : https://farmerspace.co/มาดวู ิธีเลอื ก-ปุ๋ย-แบบ/ (ท่ีมาของภาพประกอบที่ 2 : ศนู ยฝ์ กึ และพฒั นาอาชีพราษฎรไทยบรเิ วณชายแดนสระแกว้ ) (ทม่ี าของภาพประกอบที่ 3 : https://www.thairath.co.th/content/507223) 50
หลักสตู ร การปลูกพืชสมุนไพรพื้นบ้ากนลุ่มฟอา้าชทีพเะกลษาตยรกโรจรรม 51 ตัวอย่างวิธกี ารปลูกพชื สมุนไพรพ้นื บ้าน ฟ้าทะลายโจร (ทมี่ า : https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/1826339) 51
52 (ท่ีมา : https://mgronline.com/infographic/detail/9640000071266) 52
หลกั สตู ร การปลูกพืชสมุนไพรพื้นบ้ากนลุ่มฟอา้าชทีพเะกลษาตยรกโรจรรม 53 (ทม่ี า : https://home.kapook.com/view224902.html) .......................................................... คลิปวิดีโอเรื่อง การปลูกพืชสมุนไพรพื้นบ้าน ฟ้าทะลายโจร โดยศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณ ชายแดนสระแก้ว และสามารถดาวน์โหลดได้ผ่านช่องทางเว็บไซต์กลุ่มพัฒนาคุณภาพและ มาตรฐานการศึกษา สำนักงาน กศน. 53
54 ใบงานที่ 3 เรอื่ ง การปลกู พืชสมุนไพรพน้ื บ้าน ฟา้ ทะลายโจร คำชี้แจง หลังจากที่ผู้เรียนได้ศึกษาข้อมูลความรู้เกี่ยวกับการปลูกพืชสมุนไพรพื้นบ้าน ฟ้าทะลายโจรแล้ว จงตอบคำถามดังตอ่ ไปน้ี 1. จงอธบิ ายการปลกู พชื สมุนไพรพน้ื บา้ น ฟ้าทะลายโจร อยา่ งละเอียด ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. 2. จากขอ้ 1 ใหน้ ำเสนอการปลูกพชื สมนุ ไพรพืน้ บ้าน ฟา้ ทะลายโจรในรูปแบบ Flowchart ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. 3. จงปลูกพชื สมุนไพรพื้นบา้ น ฟ้าทะลายโจร อย่างน้อย 1 วิธกี าร ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. 54
หลักสูตร การปลูกพืชสมุนไพรพ้ืนบ้ากนลุ่มฟอา้าชทีพเะกลษาตยรกโรจรรม 55 4. รายงานผลการพืชสมนุ ไพรพ้นื บา้ น ฟ้าทะลายโจร ตามขั้นตอนการปลูก พร้อมทงั้ ระบุปัญหา อุปสรรค และ แนวทางการแก้ไข ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. (ที่มาของภาพประกอบ : กลมุ่ พฒั นาคณุ ภาพและมาตรฐานการศกึ ษา) 55
ใบความร้ทู ี่ 4 เรื่อง การเก็บเกยี่ วและการแปรรูปพชื สมนุ ไพรพืน้ บ้าน ฟ้าทะลายโจร (ท่มี า : https://web.facebook.com/pg/Bio-one-ผลิตภัณฑเ์ กษตรชวี ภาพ-269882947072796/posts/) 56
หลักสตู ร การปลูกพืชสมุนไพรพื้นบ้ากนลุ่มฟอา้าชทีพเะกลษาตยรกโรจรรม 57 การปฏบิ ตั กิ อ่ นและหลังการเก็บเก่ียว [1] 1. เก็บเกี่ยวในช่วงที่พืชออกดอกตั้งแต่เริ่มออกดอกจนถึงดอกบาน 50% เป็นช่วงที่มีสารสำคัญสูง โดยพบมากจะอยู่ที่สว่ นยอดและใบ 2. การปฏบิ ัตหิ ลังการเก็บเกย่ี ว นำไปคัดแยกสิ่งปนปลอม เช่น วชั พืชที่ปะปนมา และล้างให้สะอาด ตัดเป็นท่อนๆ ยาวประมาณ 3-5 เซนติเมตร ผึ่งให้แห้ง ทำแห้งโดยตากแดดบนลานตากยกพื้นมีวัสดุรองรับที่สะอาด หรือใช้เครื่องอบแห้งแบบลมร้อน ที่อุณหภูมิ 50 องศาเซลเซียสใน 8 ชั่วโมงแรก และลดอุณหภูมิเหลือ 40-45 องศาเซลเซียส อบตอ่ จนแห้งสนิท วธิ ีการเกบ็ เกยี่ ว [1] วิธีการเก็บเกี่ยวให้ตัดทั้งต้นให้เหลือตอสูงประมาณ 5-10 เซนติเมตร เพื่อให้เจริญให้ผลผลิตต่อไป ใชเ้ วลาประมาณ 2-3 เดือน จึงสามารถเก็บเก่ยี วได้อกี ครั้ง (ทมี่ าของภาพประกอบ : ศนู ย์ฝกึ และพฒั นาอาชพี ราษฎรไทยบริเวณชายแดนสระแกว้ ) การเกบ็ เกย่ี ว [2] 1. เก็บเกย่ี วส่วนเหนอื ดนิ ในช่วงท่ีพชื เจริญเติบโตเต็มที่ คอื ช่วงท่ีพืชออกดอกนับตง้ั แต่เริ่มออกดอก จนถงึ ดอกบาน 50 % ซึ่งพชื จะมีอายุประมาณ 110 – 150 วัน โดยใชก้ รรไกรตดั หรือเคยี วเกย่ี วท้ังต้นให้เหลือตอ สงู ประมาณ 5-10 เซนตเิ มตร เพ่ือเลย้ี งตอใหเ้ จริญเตบิ โตให้ผลผลติ ในรนุ่ ต่อไป (ท่มี าของภาพประกอบ : ศูนยฝ์ กึ และพฒั นาอาชพี ราษฎรไทยบรเิ วณชายแดนสระแกว้ ) .......................................................... 1 กรมสง่ เสรมิ การเกษตร.(2556).ขน้ั ตอนการปลูกและการดูแลรกั ษาฟา้ ทะลายโจร. กรุงเทพมหานคร : กรมสง่ เสรมิ การเกษตร. 2 วิฑูรย์ ปัญญากุล และ กมลศรี ศรีวัฒน์. (2562). คู่มือปลูกสมุนไพรเกษตรอินทรีย์ : ฟ้าทะลายโจร. (ส่วนหนึ่งของ โครงการส่งเสริมสมนุ ไพรเกษตรอินทรยี ์). มลู นิธิสายใยแผ่นดิน มูลนิธโิ รงพยาบาลเจา้ พระยาอภยั ภูเบศร. 57
58 2. นำส่วนของพืชที่เก็บเกี่ยวแล้วมาล้างน้ำให้สะอาด ตัดหรือหั่นให้มีความยาวประมาณ 3-5 เซนติเมตร ผ่ึงใหส้ ะเดด็ นำ้ แลว้ นำมาเกลยี่ บนภาชนะท่ีสะอาด เชน่ กระดง้ หรือถาด (ทมี่ าของภาพประกอบ : ศนู ยฝ์ ึกและพัฒนาอาชพี ราษฎรไทยบรเิ วณชายแดนสระแกว้ ) 3. คลุมภาชนะด้วยผ้าขาวบาง เพื่อป้องกันฝุ่นละอองและการปลิวของสมุนไพรตากจนแห้งสนิท หรือโดยการอบที่อุณหภูมิ 50 องศาเซลเซียส ใน 8 ชั่วโมงแรก และอบที่อุณหภูมิ 40 -45 องศาเซลเซียส จนแห้งสนทิ 4. เก็บฟ้าทะลายโจรที่แหง้ สนิทแลว้ ใส่ถงุ พลาสติก ปิดปากถุงหรือมัดใหแ้ น่น และเก็บในที่ที่สะอาด ไม่ควรเกบ็ วัตถุดบิ ไวใ้ ชน้ านเกนิ ไป เพราะสมุนไพรอาจจะเสอื่ มคณุ ภาพได้ (ท่มี าของภาพประกอบ : ศนู ย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบรเิ วณชายแดนสระแก้ว) 5. ฟ้าทะลายโจรสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ปีละ2 ครั้ง ถ้าปลูกต้นฤดูฝนจะเก็บเกี่ยวครั้งแรก ไดป้ ระมาณปลายเดือนกรกฎาคม ถึงต้นเดือนสิงหาคม หลงั จากนั้น 3 เดือนหรอื ตน้ ฤดหู นาวก็สามารถเก็บเกยี่ วไดอ้ ีกครง้ั 58
หลกั สตู ร การปลูกพืชสมุนไพรพ้ืนบ้ากนลุ่มฟอา้าชทีพเะกลษาตยรกโรจรรม ผลผลติ 59 ผลผลิตสดเฉลี่ย 1,000 - 2,000 กิโลกรมั /ไร่/รนุ่ (อาจเก็บได้ 2 ครงั้ /ปี แต่ผลผลติ คร้งั 2 จะลดลง) ผลผลิตสด : ผลผลิตแหง้ 6 : 1 ตัวอย่างการดแู ลรกั ษา และการเกบ็ เกี่ยวฟา้ ทะลายโจร (ทม่ี า : https://esc.doae.go.th/ฟ้าทะลายโจร/) วธิ ีการแปรรปู พืชสมุนไพรพืน้ บา้ น ฟ้าทะลายโจร [3] 1. ยาชง – ใช้ใบฟ้าทะลายโจรสดหรือแห้งก็ได้ ประมาณ 5-7 ใบ ใช้ใบสด เติมน้ำเดือดลงจนเกือบเต็ม แก้ว ปิดฝาทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมง หรือพอยาอุ่นแล้วรินเอามาดื่ม ขนาดรับประทานครั้งละ 1 แก้ว วันละ 3-4 ครง้ั กอ่ นอาหารและก่อนนอน .......................................................... 3 27 สรรพคุณและประโยชน์ของฟ้าทะลายโจร ! (Kariyat) . [ออนไลน์]. เขา้ ถงึ ไดจ้ าก https://medthai.com/. (วันท่ี สบื คน้ ข้อมูล 28 กรกฎาคม 2564) 59
60 2. ยาเม็ดลูกกลอน – เด็ดใบฟ้าทะลายโจรสดมาล้างให้สะอาดผึ่งในที่ร่ม ห้ามตากแดด ควรผึ่งในที่มี ลมโกรก ใบจะแห้งเร็วนำมาบดเป็นผงให้ละเอียดปั้นกับน้ำผึ้งหรือน้ำเชื่อม เป็นเม็ดขนาดเท่าเม็ดถั่วเหลือง (หนัก 250 มิลลิกรัม) แล้วผึ่งลมให้แห้ง เพราะถ้าปั้นรับประทานขณะที่ยังเปียกอยู่จะขมมาก ขนาดรับประทาน คร้ังละ 4-10 เม็ด วันละ 3-4 ครัง้ กอ่ นอาหารและก่อนนอน 3. ยาแคปซูล – นำผงยาที่ได้จากการปั้นเป็นยาเม็ด นำกลับมาใส่ในแคปซูล เพื่อช่วยกลบรสขมของยา แคปซูลที่ใช้ ขนาดเบอร์ 2 (ผงยา 250 มิลลิกรัม) ขนาดรับประทาน ครั้งละ 3-5 แคปซูล วันละ 3-4 ครั้ง ก่อน อาหารและกอ่ นนอน 4. ยาทิงเจอร์หรือยาดองเหล้า – เอาผงใบฟ้าทะลายโจรแห้งใส่ขวด แช่สุราที่แรง ๆ เช่น สุราโรง 40 ดีกรี ถ้ามี alcohol ที่รับประทานได้ (Ethyl alcohol) จะดีกว่าเหล้า แช่พอให้ท่วมยาขึ้นมาเล็กน้อย ปิดฝาให้ แนน่ เขย่าขวดวันละ 1 ครั้ง พอครบ 7 วัน จึงกรองเอาแต่นำ้ เกบ็ ไวใ้ นขวดใหส้ ะอาดปิดสนทิ รบั ประทาน ครั้งละ 1-2 ชอ้ นโต๊ะ (รสขมมาก) วนั ละ 3-4 ครง้ั กอ่ นอาหาร 5. ยาผงใช้สูดดม – เอายาผงที่บดละเอียด มาใส่ขวดหรือกล่องยา ปิดฝาเขย่าแล้วเปิดฝาออก ผงยา จะเป็นควันลอยออกมา สูดดมควันนั้นเข้าไป ผงยาจะติดที่คอทำให้ยาไปออกฤทธิ์ที่คอโดยตรง ช่วยลดเสมหะ และแก้เจ็บคอได้ดี วิธีที่ดีกว่านี้คือวิธีเป่าคอ กวาดคอ หรือรับประทานยาชง ตรงท่ีคอจะรู้สึกขมน้อยมาก ไม่ทำให้ ขยาดเวลาใช้ ใชส้ ะดวกและง่ายมาก ประโยชน์ทน่ี า่ จะไดร้ ับเพิ่มคือ ผงยาทเ่ี ขา้ ทางจมกู สามารถลดนำ้ มูก และฆ่าเชื้อ ทจ่ี มูกด้วย ตัวอย่างวิธกี ารแปรรูปฟ้าทะลายโจรแคปซูล [4] วัสดุอุปกรณท์ ่ีใชใ้ นการทำฟ้าทะลายโจรประกอบด้วย 1. ฟ้าทะลายโจร 1 กิโลกรัม สด 2. กระทะ 3. ตะหลิว 4. เตาแก๊ส 5. เครอ่ื งป่ัน 6. แคปซลู ขนาด 200 มลิ ลิกรมั 7. กระปุกบรรจภุ ณั ฑ์ .......................................................... 4 วธิ กี ารแปรรปู ฟา้ ทะลายโจรแคปซลู . ศนู ย์สง่ เสรมิ และพฒั นาอาชพี การเกษตรจังหวัดเลย. [ออนไลน์]. เข้าถงึ ได้จาก. https://esc.doae.go.th/. (วันทีส่ ืบค้นขอ้ มูล 28 กรกฎาคม 2564) 60
หลกั สูตร การปลูกพืชสมุนไพรพ้ืนบ้ากนลุ่มฟอา้าชทีพเะกลษาตยรกโรจรรม 61 ข้ันตอนการทำ 1. นำฟา้ ทะลายโจรสด 1 กิโลกรมั นำมาล้างนำ้ ผง่ึ ให้แหง้ 2. นำมาหน่ั เป็นช้ินเล็กๆ 2-3 เซนติเมตร 3. นำมาคว่ั ด้วยไฟอ่อน 4. นำมาป่นั ในเครื่องป่ันใหล้ ะเอยี ด 61
62 5. รอ่ นเอาส่วนทลี่ ะเอยี ดเพื่อนำมาบรรจใุ นแคปซลู 6. นำมาบรรจุแคปซลู ฟ้าทะลายโจร 8. บรรจใุ นภาชนะเพื่อเกบ็ รักษาไวใ้ ชต้ ่อไป (ท่มี าของภาพประกอบวิธกี ารแปรรูปฟา้ ทะลายโจรแคปซลู : ศนู ยส์ ง่ เสรมิ และพัฒนาอาชพี การเกษตรจงั หวัดเลย) 62
หลักสูตร การปลูกพืชสมุนไพรพ้ืนบ้ากนลุ่มฟอา้าชทีพเะกลษาตยรกโรจรรม 63 ตัวอยา่ งผลติ ภณั ฑ์การแปรรปู จากฟ้าทะลายโจร ภาพประกอบท่ี 1 ภาพประกอบที่ 2 (ทม่ี าของภาพประกอบท่ี 1 : ท่ีมาของภาพประกอบ : https://www.sanook.com/health/21171/) (ท่มี าของภาพประกอบที่ 2 : https://shopee.co.th/พร้อมสง่ )เจลล้างมือฟ้าทะลายโจร-i.12316528.7078158391) ภาพประกอบที่ 3 ภาพประกอบที่ 4 (ทมี่ าของภาพประกอบท่ี 3 : https://shopee.co.th/เจลอาบน้ำ-ฟา้ ทะลายโจร-มสิ ทนี --240-มล---8859178737827-- i.217820692.6277178894?gclid=CjwKCAjw9 aiIBhA1EiwAJ_GTSmgdTJRVGZpO_3VyDDGv8q13TXTvhKOFz VWymfV8hybLM2xIgzkAXxoCHnIQAvD_BwE) (ทมี่ าของภาพประกอบที่ 4 : https://thaiherb.online/product/1395-ยาอมคงคาฟา้ ทะลายโจร.html) คลปิ วิดโี อเรื่อง การเก็บเกี่ยวพชื สมนุ ไพรพื้นบา้ น ฟา้ ทะลายโจร โดยศนู ย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณ ชายแดนสระแกว้ คลปิ วดิ ีโอเรอ่ื ง การแปรรปู พืชสมนุ ไพรพื้นบ้าน ฟา้ ทะลายโจรแคปซลู โดยศนู ยฝ์ ึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทย บรเิ วณชายแดนสระแกว้ ท้ังนสี้ ามารถดาวน์โหลดได้ผา่ นชอ่ งทางเวบ็ ไซต์กลมุ่ พัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษา สำนกั งาน กศน. 63
64 ใบงานท่ี 4 เร่อื ง การเกบ็ เกย่ี วและการแปรรปู พืชสมุนไพรพนื้ บา้ น ฟ้าทะลายโจร คำช้แี จง หลังจากที่ผู้เรียนได้ศึกษาข้อมูลความรู้เกี่ยวกับการเก็บเกี่ยวและการแปรรูปพืชสมุนไพรพื้นบ้าน ฟา้ ทะลายโจรแลว้ จงตอบคำถามดงั ตอ่ ไปน้ี 1. จงอธิบายการเก็บเกี่ยวปลูกพืชสมุนไพรพื้นบ้าน ฟ้าทะลายโจรอย่างละเอียด โดยการนำเสนอในรูปแบบ Flowchart ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. 2. ยกตวั อย่างการแปรรปู พชื สมุนไพรพ้ืนบ้าน ฟ้าทะลายโจร อย่างน้อย 3 ตัวอย่าง ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. 3. ผลผลิตจากการปลูกพืชสมนุ ไพรพื้นบ้าน ฟ้าทะลายโจรของตนเอง จะมีแนวทางการแปรรปู อย่างไร จงอธิบาย มาพอสังเขป ......................................................................................................................................................................... ..... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................................ .................. 64
หลกั สูตร การปลูกพืชสมุนไพรพื้นบ้ากนลุ่มฟอา้าชทีพเะกลษาตยรกโรจรรม ใบความรทู้ ี่ 5.1 เรอ่ื ง การเพมิ่ มลู คา่ ผลผลิตพชื สมุนไพรพืน้ บ้าน ฟ้าทะลายโจร ฟ้าทะลายโจร ( Kalmegh) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า (Andrographis paniculata(Burm. f. Need) เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะที่เป็นพืชที่มีความขมมากอยู่ในตระกูล Acanthaceae (Kumar et al., 2012) จัดเป็น ไม้พุ่มมีอายุปีเดียว มีการปลูกกันอย่างแพร่หลายในเขตรอ้ นแถบทวปี เอเชีย เป็นพืชที่มสี รรพคุณทางยารักษาโรค ในการต่อต้านโรคมะเร็ง การกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย (Kumar et al.,2012) และต้านทานต่อเชื้อ มาลาเรีย (Misha et al.,2007) ฟ้าทะลายโจรสามารถขึ้นได้ดีในเขตอบอุ่น เขตร้อน เขตกึ่งร้อน ซ่ึงมีปริมาณ น้ำฝนที่ตก 1,500 - 2,000 มิลลิลิตรต่อปี (Zaharah et al., 2001) และเจริญเติบโตได้ดีในที่มีร่มเงา เช่น ใตต้ น้ ไมใ้ นปา่ (Valdiani et al., 2012) ปจั จุบันฟา้ ทะลายโจรเปน็ พืชที่จัดว่ามคี วามสำคญั และมีการนำมาใช้เป็น ยารกั ษาโรคกันอยา่ งแพร่หลายในประเทศไทย จงึ ทำใหม้ ีความต้องการใช้ฟ้าทะลายโจรเป็นจำนวนมาก เกษตรกร จึงเพิ่มพื้นที่การปลูกฟ้าทะลายโจรและเก็บเกี่ยวใบมาตากแห้ง เพื่อนำมาจำหน่ายกันอย่างแพร่หลาย อย่างไร ก็ตามปัญหาในการปลูกฟ้าทะลายโจรที่พบกันคือ เกษตรกรมีการใช้ระยะปลูกฟ้าทะลายโจรอย่างไม่เหมาะสม การใช้ระยะปลูกพืชที่แคบมากจนเกินไป ทำให้มีการเจริญเติบโตทางลำต้นไม่ดี มีการแตกกิ่งน้อย มีความสูงของ ลำต้นมาก มีจำนวนใบต่อต้นและให้ผลผลิตใบต่อต้นน้อย แต่เมื่อใช้ระยะปลูกที่ห่างหรือกว้างขึ้นพืชก็จะมีการ เจริญเติบโตของลำต้นมาก มีการแตกกิ่งมาก เพราะมีการแข่งขันกันน้อย อย่างไรก็ตามเมื่อคิดเป็นผลผลิตต่อไร่ อาจมีค่าลดลงกไ็ ด้เพราะมจี ำนวนตน้ ต่อพ้ืนท่นี ้อยนน่ั เอง (สมยศและสมมารถ, 2551; สมยศ และคณะ, 2552) ดงั น้ัน ระยะปลูกฟ้าทะลายโจรที่เหมาะสมควรเป็นเท่ากับเท่าใดฟ้าทลายโจรจึงจะมีการเจริญเติบเจริญเติบโตที่ดี และ ใหผ้ ลผลิตสูงมากทีส่ ุด ในปจั จุบนั กย็ งั ไมเ่ คยมีการศึกษากันมาก่อน นอกจากการหาวธิ กี ารปลูกท่ีเหมาะสมแล้ว ผลผลิต ของฟา้ ทะลายโจรก็ควรมกี ารเพมิ่ คุณภาพดว้ ย ดังน้ี วธิ ีการเพิ่มผลผลิตและคณุ ภาพของฟ้าทะลายโจร วธิ เี พม่ิ ผลผลิตและคุณภาพของฟ้าทะลายโจร [1] 1. การเกบ็ เก่ียวให้ไดส้ ารสำคญั ออกฤทธ์ิสงู สดุ - การเกบ็ ผลผลติ ฟา้ ทะลายโจรแบบแยกสว่ น ไดแ้ ก่ ตัดส่วนยอด 25 เซนตเิ มตร ในระยะออกดอก 25-75 % จะไดส้ ารสำคัญออกฤทธส์ิ งู สุด และตัดส่วนทเี่ หลือเหนือดินหา่ งโคนตน้ 4 ขอ้ แยกผลผลติ จำหนา่ ยตามคุณภาพ - เก็บเกี่ยวถูกระยะโดยเป็นระยะเริ่มออกดอกถึงออกดอก 50 % ที่ฟ้าทะลายโจรมีใบมาก ใบฟ้าทะลายโจรจะมีปริมาณสารสำคัญสูงกว่าก่ิงก้าน และไม่ควรนับอายุการเก็บเกี่ยว (110-150 วัน) เพียงอย่างเดียว เนอื่ งจากในแต่ละช่วงการผลิตอายุการออกดอกอาจจะแตกต่างกัน หากเกบ็ เกี่ยวช้าในระยะทต่ี ิดเมล็ดแล้ว ใบจะ ลดลงเหลอื แตก่ ิ่งก้านทำให้มปี รมิ าณสารสำคัญต่ำ ........................................ 1 กรมส่งเสรมิ การเกษตร.(2556).ข้นั ตอนการปลูกและการดแู ลรักษาฟ้าทะลายโจร. กรุงเทพมหานคร : กรมส่งเสริม การเกษตร. 65
66 2. การปลกู แบบเพาะกล้าและกำหนดระยะปลูกเพื่อให้ไดป้ รมิ าณผลผลติ สงู สดุ - ปลกู ชว่ งฤดูแล้ง ใหป้ ลกู ระยะ 30x40 เซนตเิ มตร หรอื ประมาณ 13,333 ต้น/ไร่ - ปลกู ในชว่ งฤดูฝน ใหป้ ลกู ระยะ 30x60 เซนตเิ มตร หรอื ประมาณ 8,888 ตน้ /ไร่ 3. การให้น้ำเพอื่ ให้ผลผลิตและสารสำคญั สงู สุด - การปลูกฟา้ ทะลายโจร จำเปน็ ตอ้ งได้รบั นำ้ ปริมาณทีพ่ อเพยี งและสม่ำเสมอตั้งแต่ปลูกถึงเกบ็ เก่ียว วธิ ีการเพิม่ มลู คา่ ใหก้ บั ผลติ ภัณฑ์ดว้ ยการผลติ บรรจุภัณฑ์ทีส่ รา้ งสรรค์ [2] ในการเพิ่มมูลค่าของสินค้าด้วยการผลิตบรรจุภัณฑ์ที่สร้างสรรค์นั้นเราจะต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง สิ่งที่จะ ช่วยเพมิ่ มูลคา่ ของสินค้าได้ก็คือ บรรจภุ ณั ฑ์ ซ่งึ บรรจุภัณฑม์ คี วามสำคญั มากและมผี ลต่อการตดั สนิ ใจเลือกซ้ือของ ผบู้ ริโภค ถา้ หากสนิ ค้านั้น ๆ ดสู ะอาด ดูแปลกตา ดนู ่ารับประทาน และดูน่าเช่ือถอื กจ็ ะช่วยเพิ่มแรงจงู ใจในการซื้อสนิ คา้ หรือผลิตภัณฑ์ของเรามากข้ึน การเพิ่มมูลค่าสินคา้ ดว้ ยบรรจภุ ัณฑ์ที่ออกแบบหรือ ผลิตบรรจุภัณฑ์มาอย่างดีน้ัน จะสามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการซื้อสินค้าหรือผลิตภัณฑ์นั้น ๆ และยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ในผู้บริโภครับรู้ถึง คุณภาพของสินค้าและบริการตา่ ง ๆ อีกด้วย แถมยังช่วยทำให้สินค้าดูมีคุณค่า แตกต่างจากคู่แข่ง เนื่องจากพฤติกรรม ของผู้บริโภคเปลยี่ นไปไม่หยุดนิ่ง บรรจุภัณฑท์ เี่ ราใช้ก็จะต้องพัฒนาต่อไปไม่หยุดน่ิงเช่นกัน ซึง่ ในการเพิ่มมูลค่าสินค้า ดว้ ยบรรจภุ ณั ฑน์ น้ั เราสามารถทำได้โดยการใช้บรรจภุ ัณฑท์ สี่ รา้ งสรรค์ ซง่ึ จะส่งผลเกิดการตัดสนิ ใจซ้ือสินค้า ภาพประกอบที่ 1 ภาพประกอบท่ี 2 (ทม่ี าของภาพประกอบ : 1 https://www.proudpack.net/hot-item/spray-perfume11.html) (ทมี่ าของภาพประกอบ : 2 https://thaiscentplus.com/) บรรจุภัณฑ์สร้างสรรค์ จะช่วยสร้างความมั่นใจแก่ผู้ซื้อในระดับหนึ่ง คือ บรรจุภัณฑ์ที่มีการออกแบบ โดยอาศัยเทคโนโลยี นวตั กรรมและแนวคิดท่ีสร้างสรรค์ โดยมอี งค์ประกอบ 3 ส่วนหลัก ๆ ดังนี้ ........................................ 2 เพมิ่ มลู คา่ ใหก้ บั ผลติ ภณั ฑด์ ว้ ยการผลติ บรรจภุ ัณฑ์ทส่ี ร้างสรรค.์ [ออนไลน]์ . เข้าถึงไดจ้ าก. https://www.vkplastic.com/2019/07/22/. (วันท่สี ืบค้นข้อมูล 27 กรกฎาคม 2564) 66
หลักสตู ร การปลูกพืชสมุนไพรพื้นบ้ากนลุ่มฟอา้าชทีพเะกลษาตยรกโรจรรม 67 1. ประโยชน์ของการใช้งาน ในการออกแบบหรือผลิตบรรจุภัณฑ์สิ่งแรกที่เราควรจะนึกถึงก่อนทุกครั้ง คือ ประโยชน์ของการใชง้ านบรรจุภัณฑ์ ซึ่งเราจะต้องรู้ก่อนว่าสินค้าของเราคืออะไร และรู้ว่าลูกค้าต้องการแบบ ไหน เราถึงจะผลิตบรรจุภัณฑ์เพื่อเวลาที่เราออกแบบและผลิตบรรจุภัณฑ์ให้เหมาะสมกับการใช้งานนั้น ๆ ได้อย่างดี และสะดวกต่อการใช้งาน เชน่ บรรจุภัณฑ์ขนม อาหาร เครอื่ งด่ืม หรือบรรจุภัณฑ์เคร่ืองสำอาง โดยส่วนใหญ่แล้ว การออกแบบและผลิตบรรจุภัณฑ์ต้องออกแบบให้สะดวกต่อการใช้งาน คือ บรรจุภัณฑ์มีความแข็งแรง หยิบจับง่าย สวยงาม มขี นาดกะทัดรัด หยิบจับถนัดมือ มฝี าปดิ สนทิ และดสู ะอาดปลอดภัย 2. ใหค้ วามรู้สกึ ถึงอารมณ์ของผู้บรโิ ภค เชน่ การทผ่ี บู้ รโิ ภคเห็นครง้ั แรกจะต้องใหค้ วามรู้สกึ คุ้มค่า ไม่แพง ไม่ถกู แต่จะตอ้ งคุ้มค่า ลกู คา้ ไดค้ วามคุ้มคา่ ผู้ประกอบการกไ็ ด้ความคมุ้ ทนุ และสามารถสอ่ื สารใหล้ ูกค้าท่ีเห็นแล้ว เข้าใจชัดเจนว่าบรรจุภัณฑ์นั้นต้องการสื่อสารถึงอะไร โดยภาพที่จะสื่อสารจะต้องตรงกับเรื่องราวของแบรนด์ เพราะจะสร้างการจดจำได้ง่าย โดยพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้สามารถสื่อถึงสินค้าที่อยู่ภายในได้ ซึ่งการออกแบบและ ผลิตบรรจภุ ณั ฑ์ทีใ่ ช้ความคิดสร้างสรรค์ จะชว่ ยสรา้ งความมั่นใจแกผ่ ้ซู ื้อในระดบั หนึ่ง จะสง่ ผลให้เกิดการตัดสินใจ ซ้ือสนิ ค้า และนำสนิ ค้าไปใช้ ในออกแบบและผลิตบรรจุภัณฑ์อย่างสร้างสรรค์ กค็ อื การออกแบบและผลิตบรรจุภัณฑ์ ที่แปลกใหม่ แตกต่างจากแบบเดิมทั้งในแง่ของรูปทรง ฉลากและตัวอักษร รวมไปถึงข้อความที่สื่อสาร และสามารถ ดงึ ดูดความสนใจจากกล่มุ เปา้ หมายได้เป็นอยา่ งดี 3. ผลิตบรรจุภัณฑ์ที่มีคุณภาพ การนำวัสดุที่มีคุณภาพและความปลอดภัยเพื่อการผลิตบรรจุภัณฑ์ จะสามารถทำให้สินค้าของคุณดูน่าเชื่อถือมากกว่าการใช้วัสดุที่ไม่มีคุณภาพ วัสดุที่นำมาผลิตบรรจุภัณฑ์นั้นก็มี หลากหลาย ซึ่งวัสดุที่ใช้ในการผลิตบรรจุภัณฑ์ก็จะขึ้นอยู่กับว่าผลิตภัณฑ์ของเราคืออะไร และควรที่จะใช้บรรจุ ภณั ฑแ์ บบไหนใหเ้ หมาะกับสนิ ค้าและปลอดภยั (ท่มี าของภาพประกอบ : https://www.skincarecafefactory.com/category/2541/หมวดe-บรรจุภณั ฑค์ รมี - กระปุก-หลอด-ขวด) การเพิ่มมูลค่าด้วยบรรจุภัณฑ์ที่มีการคิดสร้างสรรค์นั้น ไม่เพียงแต่เป็นการออกแบบและผลิตบรรจุ ภัณฑ์ ให้มหี น้าตาทส่ี วยงามเท่านน้ั แตย่ ังจะต้องเน้นความแตกตา่ งให้กบั สินค้าของแบรนด์เพ่ือให้เกิดเป็นรูปแบบ ของการสร้างสรรค์บรรจุภัณฑ์แบบใหม่ ๆ ที่จะช่วยเพิ่มแรงจูงใจในการเลือกซื้อสินค้า ดังนั้นผู้ท่ีผลิตบรรจุภัณฑ์ ควรจะใส่ใจในการออกแบบบรรจุภัณฑ์ เพื่อให้ดึงดูดใจผู้ซือ้ ด้วย และนอกจากนี้เรามีบริการออกแบบบรรจุภณั ฑ์ 67
68 และผลิตบรรจุภณั ฑ์พลาสติกเพ่ือชว่ ยให้ทุกท่านสามารถเป็นเจ้าของบรรจภุ ัณฑ์พลาสติกที่สวยงามในรูปแบบของ ตนเอง ในราคาท่ีย่อมเยาเรายังมบี ริการสำหรบั ให้คำปรึกษาแนะนำสำหรับผ้ทู ีเ่ รมิ่ ทำธรุ กิจอีกดว้ ย ตัวอยา่ งผลติ ภณั ฑ์ดว้ ยการผลติ บรรจภุ ณั ฑท์ ี่สร้างสรรค์ (ท่ีมาของภาพประกอบ : https://perfect770.com/?p=2383) (ที่มาของภาพประกอบ : https://www.pinterest.com/benzpol/ชะลอมไผ่/) 68
หลกั สตู ร การปลูกพืชสมุนไพรพื้นบ้ากนลุ่มฟอา้าชทีพเะกลษาตยรกโรจรรม 69 ใบความรทู้ ี่ 5.2 เรอ่ื ง การตลาดพืชสมุนไพรพนื้ บา้ น ฟ้าทะลายโจร [1] รัฐบาลเดินหน้าส่งเสริมเกษตรกรทัว่ ประเทศให้เกษตรกรหนั มาปลกู พืชสมุนไพรท่ีมคี ุณภาพและ ได้มาตรฐานเพื่อรองรับความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นไปตามแผนแม่บทว่าด้วยการพัฒนา สมุนไพรไทย อีกทั้งผลักดันต่อเนื่องถึงการปลูกในระดับอุตสาหกรรมและการส่งออก ที่ต้องคำนึงถึงการแปรรูป เพ่มิ มูลคา่ และปริมาณการผลิต โดยแนวทางทีไ่ ด้ดำเนินการและมีการบูรณาการระหว่างภาคสว่ นแลว้ น้ัน จะสร้าง รายได้เพิ่มขึ้นแก่เกษตรกรอย่างยั่งยืน คนไทยมีพืชสมุนไพรบริโภคอย่างพอเพียง อีกทั้งส่งเสริมให้อุตสาหกรรม สมุนไพรเป็นอตุ สาหกรรมทโี่ ดดเด่น สรา้ งรายได้เข้าประเทศอยา่ งมาก ฟ้าทะลายโจร เป็นพืชสมุนไพรที่กำลังเป็นที่สนใจของสังคมไทยอยู่ในขณะน้ี เนื่องจากสามารถใช้ รกั ษาผ้ปู ว่ ยโรคโควิด (COVID - 19) ควบคกู่ ับการแพทย์แผนปัจจุบนั มสี าร “แอนโดรกราโฟไลด์” ซึ่งมีสรรพคุณ สามารถลดความรุนแรงของโรคในผู้ป่วยโรคโควิด (COVID - 19) ที่มีอาการไม่หนักได้ กรมส่งเสริมการเกษตร ในฐานะหน่วยงานส่งเสริมการเกษตรด้านพืชได้ดำเนินการสนับสนุน ถ่ายทอดองค์ความรู้แก่เกษตรกรผู้ปลูก พืชสมุนไพรอยา่ งต่อเนอ่ื งมาโดยตลอด เพื่อใหเ้ กษตรกรนำองค์ความรู้ไปปรับใชใ้ นพืน้ ท่ีการเพาะปลูก ให้ผลผลิตท่ี ได้มคี ุณภาพ มีมาตรฐาน และมสี าระสำคญั เพยี งพอ สำหรับการส่งเสริมการปลูกฟ้าทะลายโจรเพื่อให้มีเพียงพอต่อความต้องการในปัจจุบันนั้น มีหลาย หน่วยงานได้เข้ามาร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข อาทิ สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอธั ยาศัย (กศน.) จดั สง่ กลา้ และเมล็ดพันธุ์ ให้กับสำนกั งาน กศน.ท่ัวประเทศ เพอ่ื แจกแกน่ ักศึกษา กศน. และ ประชาชน ขณะที่กระทรวงยุติธรรมได้เดินหน้าให้เรือนจำ/ทัณฑสถานที่มีความพร้อม ดำเนินการเพาะปลูก ฟ้าทะลายโจร เบื้องต้นมี 125 แห่ง ทั้งนี้ เกษตรกรและประชาชนทั่วไปที่สนใจจะปลูกฟ้าทะลายโจรหรือ พืชสมุนไพรอนื่ ท่ีมีมูลค่าทางเศรษฐกจิ สามารถติดตอ่ เกษตรอำเภอได้ เพอ่ื รับคำแนะนำในเรื่องการเพาะปลูกและ การตลาด .......................................................... 1 รฐั บาลผลักดนั สมนุ ไพรไทย สง่ เสรมิ ปลกู สรา้ งรายไดท้ ง้ั เกษตรกรและประเทศ. [ออนไลน]์ . เข้าถงึ ได้จาก https://www.thairath.co.th/news/politic/2142750. (วันท่ีสืบค้นข้อมลู 28 กรกฎาคม 2564). 69
70 ตลาดพืชสมนุ ไพรพ้นื บ้าน ฟ้าทะลายโจร [2] (ท่มี า : กรมส่งเสรมิ การเกษตร) ศกั ยภาพ/จดุ เดน่ ปญั หา/ข้อจำกัด แนวทางพฒั นาแกไ้ ข - ฟ้าทะลายโจรเป็นพชื ที่ปลูก - เมล็ดพนั ธ์ุมรี าคาแพงและ - จัดเวทใี ห้มกี ารสมั มนาระหวา่ ง และดูแลรกั ษางา่ ย สามารถเก็บ คอ่ นข้างหายาก เกษตรกรส่วนมาก ภาครฐั ภาคเอกชน และเกษตรกร ผลผลิตได้ปลี ะ 2 ครงั้ หากมนี ้ำ เก็บเมลด็ พนั ธุ์เองซ่ึงบางคร้ัง การวางแผนการผลิตร่วมกัน เพยี งพอ เกษตรกรไม่ได้คัดเลือกเมลด็ ที่มี - สง่ เสริมใหเ้ กษตรกรมีการ - ฟ้าทะลายโจรสามารถใช้รักษา คณุ ภาพดีเพียงพอท่ีจะนำมา รวมกลุ่มผลิตฟ้าทะลายโจรเป็น โรคได้หลายชนดิ เช่น แกต้ ิดเชอื้ ขยายพันธุ์ การค้า แก้ไอ เจบ็ คอ แก้ไข้ทวั่ ไป และเปน็ - เกษตรกรเก็บเก่ียวผลผลิตไมไ่ ด้ - สง่ เสรมิ ให้เกษตรกรเก็บเก่ียว ยาขม เจริญอาหาร เป็นต้น คุณภาพทำใหเ้ กิดการปนเปื้อน ผลผลติ ในระยะทเ่ี หมาะสมและ - กระแสความต้องการบรโิ ภค จลุ ินทรยี ์ ปรบั ปรงุ กระบวนการหลังการเก็บ สนิ ค้าเพ่ือสขุ ภาพมกี ารขยายตัว - การแปรรปู ข้นั ต้นยังไม่ได้ เกี่ยวให้สะอาดได้มาตรฐาน เพ่มิ สูงขนึ้ ซ่ึงฟา้ ทะลายโจร มาตรฐานสะอาดและปลอดภัย - วจิ ัยและถา่ ยทอดเทคโนโลยีการ สามารถใชเ้ ป็นทางเลือกในการ - ขาดการวจิ ยั และพฒั นาสนิ ค้า ผลติ การเก็บเกี่ยวที่เหมาะสม และ ปอ้ งกนั และดูแลสุขภาพอีก เพือ่ เพ่ิมมูลค่าและสรา้ งความ การแปรรปู ท่ีไดม้ าตรฐาน ทางเลอื กหนงึ่ หลากหลายใหแ้ กส่ ินค้า 70
หลักสตู ร การปลูกพืชสมุนไพรพื้นบ้ากนลุ่มฟอา้าชทีพเะกลษาตยรกโรจรรม 71 ศกั ยภาพ/จดุ เด่น ปญั หา/ข้อจำกดั แนวทางพัฒนาแก้ไข - ฟา้ ทะลายโจรสามารถใช้ใน - ขาดการประชาสมั พนั ธถ์ ึง - สง่ เสรมิ ใหเ้ กษตรกรทำแปลง อุตสาหกรรมการผลิตสตั ว์เพอื่ สรรพคุณของฟ้าทะลายโจรและ ผลิตเมลด็ พนั ธ์ุ ทดแทนการใช้ยาปฏชิ วี นะที่ต้อง สรา้ งความตระหนักถงึ - ประชาสมั พนั ธใ์ หผ้ ู้บรโิ ภคมี นำเข้าจากต่างประเทศโดยใช้ผสม คณุ ประโยชนใ์ นการใชเ้ พ่ือทดแทน ความรู้ ความเข้าใจ ในการใช้ ในอาหารสัตว์ ยาแผนปจั จบุ นั สมนุ ไพรฟ้าทะลายโจร และรณรงค์ การใชผ้ ลติ ภัณฑฟ์ ้าทะลายโจรเพื่อ ทดแทนยาแผนปัจจบุ ัน .......................................................... 2 ฟา้ ทะลายโจร . [ออนไลน]์ . เขา้ ถงึ ไดจ้ าก http://www.agriman.doae.go.th/home/news/2563/61-62.pdf. (วันที่สืบค้นขอ้ มลู 28 กรกฎาคม 2564). 71
72 ใบความร้ทู ี่ 5.3 เรอื่ ง การคดิ คำนวณต้นทนุ ผลผลติ ธุรกิจ SMEs มักประสบปัญหาที่สำคัญประการหนึ่ง คือขณะที่ธุรกิจกำลังดำเนินไปด้วยดี กลับพบว่าขายดี แต่ไม่มีกำไรมากเท่าที่ควรจะเป็น หรือผู้ประกอบการหลายรายผลิตสินค้าออกมา กลับประสบกับภาวะการขาดทุน โดยไม่รู้ตวั นั่นเปน็ เพราะผู้ประกอบการไม่รูต้ ้นทุนที่แท้จริงของสินค้าท่ีขาย การคำนวณต้นทุนผลผลิตจึงเป็นส่วนหนึ่ง ของระบบบัญชีและการเงินของกิจการ เป็นการบันทึกการวัดผล และรายงานขอ้ มูลเกี่ยวกับต้นทุนของสินค้าของ กิจการ โดยทั่วไปการคำนวณต้นทุนจะใช้เวลาและลงรายละเอียดมากในกิจการที่ผลิตสินค้า แต่ไม่ได้หมายความว่า กิจการประเภทอื่น เช่นกิจการขายส่ง ขายปลีก ร้านอาหารหรือบริการต่าง ๆ ไม่มีความสำคัญในการที่ต้องคำนวณ ตน้ ทนุ เลย การคำนวณตน้ ทนุ สามารถนำไปใชไ้ ด้ในทุกกิจการ เพราะมีความสำคญั ต่อการบรหิ ารจัดการธรุ กจิ ดงั น้ี 1. เพอื่ ให้ทราบถึงต้นทุนการผลติ และตน้ ทุนขายของธรุ กจิ 2. เพื่อสามารถนำต้นทุนทั้งหมดของกิจการมาเปรียบเทียบกับรายได้จากการขายเพื่อจะได้ทราบว่ามี กำไร หรอื ขาดทนุ ในการขายสินค้า 3. เพ่ือคำนวณหรือตีราคาสินค้าคงเหลือทข่ี ายได้ไมห่ มดวา่ มมี ูลค่าเทา่ ไหร่ 4. เพื่อใช้ในการวางแผนและควบคุมการซื้อสินค้า และจัดทำงบประมาณในการซื้อสินค้า รวมทั้งต่อรอง ราคากบั ผูข้ ายวัตถดุ ิบ 5. เพื่อใช้ในการตัดสินใจว่าสินค้าใดควรขายต่อไป และสินค้าใดควรเลิกขาย (ในกรณีที่ผู้ผลิตมีสินค้า หลายชนดิ ) ตน้ ทนุ แบ่งออกไดเ้ ป็น 2 ลักษณะ [1] 1. ต้นทุนผันแปร คือต้นทุนที่ผันแปรตามจำนวนหน่วยที่ผลิตหรือขาย เช่น วัตถุดิบ ค่าแรงทางตรง ค่าใชจ้ ่ายในการผลติ ทางตรงเปน็ ต้น 2. ต้นทุนคงที่คือต้นทุนที่เกิดขึ้นไม่ว่ากิจการจะได้ขายสินค้าหรือไม่ ต้นทุนนี้จะไม่เปลี่ยนแปลงตาม จำนวนหนว่ ยทีผ่ ลติ หรอื ขาย เช่น เงินเดอื นพนกั งานหนา้ รา้ น ค่าเชา่ รา้ น ค่าเสือ่ มราคา และคา่ ประกนั ภัย เปน็ ต้น ดังนั้นต้นทุนการผลิตจะประกอบไปด้วยวัตถุดิบ บวกค่าแรงงาน บวกค่าใช้จ่ายในการผลิต ซึ่งทั้งสาม รายการนี้เปน็ เพียงส่วนของการผลิตเท่านั้น หากเราจะคิดต้นทุนรวมของสินค้าแล้วเราจำเปน็ ตอ้ งนำค่าใช้จ่ายใน การขายและดำเนินการมารวมด้วยเช่น เงินเดือน ค่าคอมมิชชั่นพนักงานขาย ค่าแรงพนักงานขายหน้าร้าน ค่า การตลาด (โฆษณา,แผน่ พบั ) ค่าเช่าสำนกั งานและรา้ น ค่าไฟฟ้าและนำ้ ประปา ค่าโทรศัพท์ ค่าน้ำมันรถ ดอกเบ้ีย ค่าเช่ารถ และค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด ฯลฯ เพื่อการคำนวณต้นทุนให้ใกล้เคียงความจริง หากเราคำนวณแค่วัตถุดิบ ค่าแรงงานและคา่ น้ำค่าไฟฟ้า กอ็ าจทำให้เราไดต้ ้นทุนสนิ คา้ ท่ีน้อยกว่าความเป็นจริง และมผี ลทำให้ตั้งราคาขายท่ี ต่ำไปและอาจขาดทุนได้ 72
หลักสูตร การปลูกพืชสมุนไพรพื้นบ้ากนลุ่มฟอา้าชทีพเะกลษาตยรกโรจรรม 73 วธิ ีการคำนวณหาตน้ ทนุ การผลิตแบบงา่ ยมสี ูตรดังน้ี [1] การคำนวณแบบง่าย ๆ นี้เหมาะกับผู้ประกอบการรายเล็กที่มีสินค้าหรือผลิตภัณฑ์น้อยชนิด อาจขาย เพียงนำ้ พริก หรอื แชมพกู ไ็ ด้ ซึ่งเหมาะกับการคำนวณสนิ คา้ ประเภท OTOP ท่ีมคี วามชัดเจนในเรื่องการใช้วัตถุดิบ ค่าแรงงานต่อรอบการผลิตและไม่มกี ารเก็บสต็อกวัตถุดิบไว้ การคำนวณจำเป็นต้องคดิ เพื่อให้ทราบถึงต้นทุนผลติ ตอ่ หนว่ ย และนำตน้ ทนุ ผลติ ไปรวมกบั คา่ ใชจ้ ่ายในการดำเนินการเพ่ือให้ทราบถึงตน้ ทุนรวมของสนิ ค้าอีกครงั้ หน่ึง สำหรับธรุ กิจ SMEs ที่เป็นธรุ กจิ ผลติ ทไี่ ม่ซับซอ้ นมาก ผูป้ ระกอบการสามารถคำนวณตน้ ทุนไดด้ งั นี้ [2] 1. ต้นทุนวัตถุดิบ เปน็ ตน้ ทุนหลักในการผลิตสนิ คา้ ยกตัวอย่างการคำนวณง่าย ๆ เช่น ผู้ประกอบการที่ทำขนมขาย วัตถุดิบได้แก่ แป้ง น้ำตาล ไข่ เป็นต้น รวมราคาวัตถุดิบท่ีซือ้ มาเทา่ กบั 500 บาท และผลิตขนมออกมาได้ 1,000 ชิ้น ดังนั้นตน้ ทนุ วตั ถุดิบต่อขนม 1 ชิ้น เทา่ กบั 2 บาท หรอื อกี วธิ หี นง่ึ คอื คำนวณต้นทุนวัตถุดบิ จากปริมาณทใี่ ช้จริง จากสมการนตี้ ้นทุนวัตถุดบิ = ปริมาณ วัตถุดิบที่ใช้จริง x (ราคาที่ซื้อหารด้วยปริมาณที่ซื้อ) เช่น ธุรกิจที่ทำขนมขายซื้อแป้งสาลีมาในราคา 50 บาทต่อ 1,000 กรมั (1ถงุ ) ใช้แป้งทำขนมไปแค่ 80 กรมั ดังนน้ั ตน้ ทุนวตั ถุดิบคือ 80x (50/1,000) เทา่ กับ 4 บาท 2. ค่าแรงการผลิต กรณีที่มีการจ้างพนักงานที่รับผิดชอบดูแลกระบวนการผลิต ค่าใช้จ่ายประเภทเงินเดือน ถือเป็นต้นทุน การผลิตโดยตรง การคำนวณค่าแรงมีดังน้ี เช่น โรงงานผลิตสินค้าได้ 50,000 ชิ้นต่อวัน เงินเดือนของพนักงานที่ ดูแลกระบวนการผลิตมี 2 คนเงินเดือนรวมกัน เดอื นละ 40,000 บาท ดังนนั้ ตน้ ทนุ คา่ แรงต่อสินค้า 1 ชิ้นเท่ากับ 40,000/50,000 เท่ากับ 0.8 บาทต่อ สินค้า 1 ชิ้น เป็นต้น หรืออย่างกรณีของโรงงานทำขนมที่จ้างลกู จา้ งรายวัน เช่นคา่ แรงวนั ละ400 บาท โดยเฉลีย่ ผลติ ขนมได้วนั ละ 1,000 ชน้ิ ค่าแรงต่อขนม 1 ชน้ิ เท่ากบั 0.4 บาท 3. คา่ ใชจ้ ่ายในการผลติ ได้แก่ คา่ ไฟฟ้า คา่ น้ำมนั รถ ของเสียท่เี กิดข้นึ ในกระบวนการผลติ 3.1 ค่าไฟฟ้า โดยค่าไฟต่อสินค้า 1 ชิ้น คำนวณจากค่าไฟที่จ่ายจริงแต่ละเดือนหารด้วยปริมาณการผลิต เช่น โรงงานผลติ สินค้าจา่ ยค่าไฟในเดือนตลุ าคม 100,000 บาทผลติ สินคา้ ได้ 20,000 ช้ินดังนัน้ คา่ ไฟตอ่ สินค้า 1 ชิ้นเทา่ กับ 5 บาท 3.2 ค่าน้ำมันรถ โดยคิดจากค่าน้ำมันที่ใช้จริงสำหรับรถแต่ละคัน หรือเทียบจากการใช้รถแท็กชี่โดย เข้าไปดรู าคาใน Application Grab 3.3 ของเสยี ทเี่ กดิ จากกระบวนการผลิต ในช่วงแรกๆ อาจใชว้ ิธกี ารประเมนิ เชน่ ผลิตขนม 10 ชิ้นเสยี 1 ชน้ิ เท่ากบั ของเสยี คิดเป็น 10% ของสนิ ค้าท่ีผลิตได้ ตอ่ ไปอาจจะใช้วธิ ีเก็บข้อมูลและประเมินจากของเสยี ท่เี กิดขนึ้ จริงได้ ........................................ 1 การคำนวณต้นทนุ การผลิตแบบง่าย. [ออนไลน]์ . เข้าถึงได้จาก. https://bsc.dip.go.th/th/category/account2/fs- productcost. (วนั ท่ีสืบค้นขอ้ มลู 27 กรกฎาคม 2564) 73
74 ขอ้ ดีของการทราบต้นทุนขาย [2] 1. นำไปใชใ้ นการตง้ั ราคาสินค้าได้อยา่ งถกู ต้อง เมื่อคำนวณต้นทุนขายได้แล้วในการตั้งราคาสินค้าค่อยบวกกำไรที่ต้องการเข้าไป โดยกำหนดเป็นกำไร เพมิ่ เข้าไป เช่น ตน้ ทุนขาย 5 บาทต่อชิ้น ต้องการกำไร 1 บาทตอ่ ช้ิน ราคาขายเท่ากับ 6 บาทต่อชิ้น ซ่ึงเป็นวิธีที่ง่าย ตรงไปตรงมา ทำใหผ้ ู้ประกอบการสามารถประเมินผลกำไรการดำเนนิ งานเพื่อใช้ในการวางแผนงานได้ 2. สามารถแข่งขันกับค่แู ขง่ ไดใ้ นเร่อื งราคา ผู้ประกอบการสามารถกำหนดกลยุทธ์เรื่องราคา ในการปรับเพิ่ม ลด ราคา หรือจัดการส่งเสริมการขาย เพ่ือใหแ้ ข่งขนั ทางด้านราคากบั ค่แู ขง่ ได้ 3. ผู้ประกอบการสามารถวางแผนการผลติ ได้ เนอ่ื งจากรู้ข้อมลู ต้นทุนที่แท้จริง ทำให้วางแผนในการจัดหาสินคา้ หรือวัตถุดิบ หรอื การจ้างแรงงานอย่าง มปี ระสทิ ธิภาพ ช่วยใหป้ ระหยดั ต้นทนุ ไดอ้ ยา่ งมาก 4. ช่วยลดการสูญเสยี ที่เกดิ จากกระบวนการผลติ ได้ เมื่อทราบต้นทุนของเสียผู้ประกอบการ สามารถวางแผนในการบริหารจัดการเพื่อลดของเสียใน กระบวนการผลติ ทำให้ต้นทนุ สนิ คา้ ลดลง 5. ตวั เลขตน้ ทุนขายและกำไรทางบญั ชีและภาษถี ูกต้อง การที่ธุรกิจสามารถคำนวณตัวเลขต้นทุนขายซึ่งเป็นรายการที่มีสาระสำคัญในงบการเงิน ย่อมทำให้ การคำนวณกำไรสุทธิถูกต้องและตัวเลขภาษีถูกต้องตามไปด้วย นอกจากจะลดความเสี่ยงในการเสียค่าปรับทาง ภาษีแล้ว ในกรณีธุรกิจต้องการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน งบการเงินก็มีความถูกต้องน่าเชื่อถือทำให้มีโอกาส จัดหาแหล่งเงินกู้ได้ การคิดตน้ ทุนขายเป็นเรื่องสำคัญ เป็นเหตุใหห้ ลายธุรกจิ ขายขาดทนุ กันมาแล้ว การคิดต้นทุนผิด อาจทำใหค้ ิดราคาขายผิด ยง่ิ คำนวณตน้ ทนุ ได้ถกู ต้องมากเท่าไร ทำใหท้ ราบผลกำไรบริษัทไดแ้ มน่ ยำยิง่ ข้นึ ช่วยลด การสญู เสยี ทเี่ กดิ จากการดำเนนิ ธุรกิจ เมอ่ื ตน้ ทุนขายลดลง ธุรกจิ ยอ่ มมีกำไรเพิ่มขึ้นและเติบโตยง่ิ ข้ึน การทำบญั ชีชาวบา้ น [3] บัญชีรายรับ รายจ่าย เป็นงานพื้นฐานที่เจ้าของธุรกิจ โดยเฉพาะผู้ที่มีช่องทางขายทางออนไลน์ จำเป็นต้อง จัดทำอยา่ งสม่ำเสมอ โดยข้อดขี องการทำธรุ กจิ ออนไลน์ที่เจ้าของธรุ กิจหลายคนช่ืนชอบ คอื มีชอ่ งทางการสื่อสาร ที่รวดเร็ว ไม่ต้องลงทุนมากในการสร้างหน้าร้าน และมีช่องทางในการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าได้ง่าย ๆ ซึ่งเจ้าของ ธุรกิจที่ยังไม่ได้จดทะเบียนบริษัท ก็จะทำธุรกิจในรูปแบบของบุคคลธรรมดา ในการเสียภาษเี งินได้บุคคลธรรมดา เจ้าของธุรกจิ สามารถเลอื กหกั ค่าใช้จ่ายในการคำนวณเงนิ ได้สุทธเิ พื่อเสียภาษีได้ 2 รูปแบบคือ อัตราเหมา หรือหักตามจรงิ ........................................ 2 วิธกี ารคำนวณตน้ ทนุ ขาย ก่อนตงั้ ราคาขายให้ค้มุ . [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงไดจ้ าก. https://peakaccount.com/blog/. (วันท่ีสืบคน้ ขอ้ มลู 27 กรกฎาคม 2564) 3 การทำบญั ชรี ายรับ รายจา่ ย เบอื้ งต้น. [ออนไลน]์ . เข้าถงึ ได้จาก. https://flowaccount.com/blog/. (วันทสี่ บื ค้น ขอ้ มลู 27 กรกฎาคม 2564) 74
หลกั สตู ร การปลูกพืชสมุนไพรพื้นบ้ากนลุ่มฟอา้าชทีพเะกลษาตยรกโรจรรม 75 หากเจา้ ของธรุ กิจทา่ นใดต้องการหักคา่ ใชจ้ ่ายตามจริง กรมสรรพากรกำหนดให้เจ้าของธุรกจิ ท่ยี งั ไมไ่ ด้จด ทะเบียนภาษีมลู ค่าเพม่ิ จดั ทำบัญชีแสดงรายได้และรายจา่ ยประจำวนั โดยมวี ิธีการทำดังน้ี (ท่ีมาของภาพประกอบ : https://bsc.dip.go.th/th/category/account2/fs-productcost) บัญชรี ายรบั รายจา่ ย วธิ ีการทำเบ้ืองต้น มดี ังน้ี 1. รายงานเงินสดรับ - จา่ ย ต้องมรี ายการ และข้อความในการรับจา่ ย 2. ต้องจัดทำเป็นภาษาไทย หากจดั ทำเป็นภาษาต่างชาติใหม้ ีภาษาไทยกำกบั 3. ต้องลงรายการรบั - จา่ ย ภายใน 3 วันทำการ นับแต่วันทม่ี รี ายไดห้ รือรายจา่ ย 4. รายการทนี่ ำมาลงในรายงานเงนิ สดรบั -จา่ ย - ต้องมเี อกสารประกอบการลงรายงาน เชน่ ใบกำกับภาษีหรือใบเสร็จรับเงนิ - รายจา่ ยท่ีนำมาลงในรายงานรายรับ-รายจา่ ย ตอ้ งเป็นรายจา่ ยทีเ่ กีย่ วข้องโดยตรงกบั การประกอบธุรกิจ ตอ้ งไมเ่ ป็นรายจา่ ยส่วนตวั - สำหรับภาษีซื้อที่เกิดจากรายจ่ายนั้น สามารถนำมาลงเป็นต้นทุนของสินค้า หรือค่าใช้จ่ายได้ท้ัง จำนวน เพราะผปู้ ระกอบการไม่ไดอ้ ยู่ในระบบภาษีมลู ค่าเพ่ิม - หากมีการขายสินค้า/ให้บรกิ าร ซื้อสินค้า หรือจ่ายค่าใช้จ่ายอื่นๆ เป็นเงินเชื่อ ให้บันทึกรายการน้ัน ในวันทไี่ ดร้ บั ชำระ หรือจ่ายชำระ โดยอธิบายเพ่มิ เติมในช่องหมายเหตุ - การลงรายการรายรับและรายจ่ายสามารถลงเป็นยอดรวมของวัน โดยมีเอกสารประกอบรายรับ - รายจ่ายนั้น หรอื ลงแยกเป็นรายการกไ็ ด้ 5. สรุปยอดรายรับ รายจ่ายทุก ๆ เดือนเพื่อเป็นหลักฐานประกอบการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เจ้าของธุรกิจที่ประกอบธุรกิจในรูปแบบของบุคคลธรรมดา ต้องทำการยื่นเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาครึ่งปี (ภ.ง.ด.94) หรือภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี (ภ.ง.ด.90) ซึ่งสามารถนำรายงานเงินสดรับ-จ่ายนี้ มาหัก ค่าใช้จ่ายเพื่อการคำนวณเงินได้สุทธิเพื่อเสียภาษีได้ตามจริง โดยรายจ่ายทั้งหมดต้องเป็นรายจ่ายที่เกี่ยวข้องกับ 75
76 กิจการ และเป็นไปตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดให้ปฏิบัติเช่นเดียวกับบริษัทจำกัด หรือห้างหุ้นส่วนจำกัด จะเห็นได้ว่า หากเราต้องการคำนวณภาษีในส่วนของค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นตามจริงกับธุรกิจของเรานั้น กเ็ หมือนเราต้องจดั ทำบัญชีต้ังแต่เรม่ิ ต้นธรุ กจิ ดว้ ยรูปแบบบคุ คลธรรมดาเลย สุดท้ายนี้ การทำบัญชีรายรับ รายจ่ายตั้งแต่เริ่มต้นธุรกิจถือว่าเป็นเรื่องดี เพราะเมื่อธุรกิจของเราเติบโต ขึ้นจนเป็นบริษัทในรูปแบบนิติบุคคล หรือเป็นนิติบุคคลที่อยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว การทำบัญชีจะเป็น ข้อบังคับที่กฎหมายกำหนดให้เราทำ หากเราทำอย่างคุ้นเคยแล้วการทำบัญชีก็จะเป็นสิ่งที่เราทำได้โดยไม่ต้อง ปรับเปลี่ยนการดำเนินธุรกิจของเราเลย สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มได้จาก รายวิชาเลือก ตามหลักสูตรการศึกษา นอกระบบระดับการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 76
หลกั สูตร การปลูกพืชสมุนไพรพื้นบ้ากนลุ่มฟอา้าชทีพเะกลษาตยรกโรจรรม 77 ใบงานท่ี 5 เรื่อง การเพ่ิมมลู คา่ ผลผลิต การตลาด และการคดิ คำนวณต้นทุนผลผลติ พชื สมนุ ไพรพนื้ บา้ น ฟา้ ทะลายโจร คำชี้แจง หลังจากที่ผู้เรียนได้ศึกษาข้อมูลความรู้เกี่ยวกับการเพิ่มมูลค่าผลผลิต การตลาด และการคิดคำนวณ ตน้ ทุนผลผลติ พืชสมนุ ไพรพนื้ บ้าน ฟา้ ทะลายโจรแลว้ จงตอบคำถามดังตอ่ ไปน้ี 1. จงอธบิ ายการเพิ่มมูลค่าผลผลิตท้งั วธิ ีเพ่มิ ผลผลติ และคณุ ภาพของฟ้าทะลายโจร และวิธีการเพิม่ มลู ค่าให้กับ ผลติ ภณั ฑด์ ว้ ยการผลติ บรรจุภัณฑ์ทส่ี รา้ งสรรค์ มาพอสงั เขป ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. 2. จงอธบิ ายศักยภาพ/จุดเด่น ปญั หา/ข้อจำกัด และแนวทางการพฒั นาแก้ไขการปลกู พชื สมนุ ไพรพ้นื บา้ น ฟ้า ทะลายโจร มาพอสงั เขป ................................................................................................................................................................. ............. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 3. จงคดิ คำนวณต้นทุนผลผลติ พืชสมุนไพรพ้นื บา้ น ฟา้ ทะลายโจร ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 77
78 4. จงอธิบายแนวทางการต่อยอดการความรู้เกี่ยวกับพืชสมุนไพรพื้นบ้าน ฟ้าทะลายโจรที่ได้รับในการนำไป ประกอบอาชีพทงั้ ตนเองและชมุ ชน มาพอสังเขป ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................. ................................. ................................................................................................. ............................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................ .............................................. 78
หลกั สูตร การปลูกพืชสมุนไพรพื้นบ้ากนลุ่มฟอา้าชทีพเะกลษาตยรกโรจรรม บรรณานุกรม สำนักยา กลุ่มงานพัฒนาระบบงานระบบยาแห่งชาติและสารสนเทศ. (2556).บัญชียาจากสมุนไพร บัญชียา หลักแหง่ ชาติ. นนทบรุ ี : สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข. ขอ้ มูลพืชสมุนไพร. คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร. [ออนไลน]์ . เข้าถึงได้จาก http://pharmacy.su.ac.th/herbmed/herb/text/herb_detail.php?herbID=164. (วันท่ีสืบค้น ข้อมูล 27กรกฎาคม 2564) ธนโชติ ธรรมชาติ.(2559).ฟ้าทะลายโจร (วิจัยนี้น้เี ป็นสว่ นหนึ่งของศูนย์ปฏิบัติการวจิ ัยและเรอื นปลูกพืชทดลอง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน). นครปฐม : มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขต กำแพงแสน. คุณคา่ แหง่ สมนุ ไพร สรา้ งรายได้เกษตรกรบา้ นดงบงั ปราจีนบุรี ดว้ ยแปลงเกษตรอินทรยี ์. [ออนไลน]์ . เข้าถึงได้ จาก https://www.technologychaoban.com/agricultural-technology/article_109740. (วนั ที่สบื ค้นข้อมูล 27กรกฎาคม 2564) ฟ้าทะลายโจร ยกระดับการผลติ สมนุ ไพรไทย สอู่ ตุ สาหกรรมยา. [ออนไลน]์ . เข้าถงึ ได้จาก https://kasikornresearch.com/th/analysis/k-social-media/Pages/ThaiHerb- FB200420.aspx. (วนั ที่สบื คน้ ข้อมลู 27กรกฎาคม 2564) กรมส่งเสริมการเกษตร หนนุ เกษตรกร-ประชาชนปลูก ‘ฟ้าทะลายโจร’ พร้อมหาตลาดรองรบั . [ออนไลน์]. เข้าถงึ ได้จาก https://www.posttoday.com/economy/news/658699. (วนั ทส่ี บื คน้ ข้อมูล 27 กรกฎาคม 2564) 27 สรรพคณุ และประโยชนข์ องฟ้าทะลายโจร ! (Kariyat) . [ออนไลน]์ . เข้าถงึ ไดจ้ ากhttps://medthai.com/. (วนั ที่สบื ค้นข้อมลู 28 กรกฎาคม 2564) วฑิ ูรย์ ปัญญากุล และ กมลศรี ศรีวัฒน์. (2562). คู่มือปลูกสมุนไพรเกษตรอินทรยี ์ : ฟ้าทะลายโจร. (ส่วนหนึ่ง ของโครงการสง่ เสรมิ สมุนไพรเกษตรอินทรีย์). มูลนิธิสายใยแผ่นดิน มูลนธิ ิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัย ภเู บศร. กรมส่งเสริมการเกษตร.(2556).ขนั้ ตอนการปลูกและการดูแลรกั ษาฟา้ ทะลายโจร. กรุงเทพมหานคร : กรม ส่งเสรมิ การเกษตร. วิธีการแปรรปู ฟ้าทะลายโจรแคปซูล. ศนู ย์สง่ เสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจงั หวัดเลย. [ออนไลน์]. เข้าถงึ ได้ จาก.https://esc.doae.go.th/. (วนั ทส่ี ืบคน้ ขอ้ มูล 28 กรกฎาคม 2564) เพม่ิ มูลค่าให้กบั ผลติ ภณั ฑ์ดว้ ยการผลิตบรรจุภณั ฑท์ ่ีสรา้ งสรรค์. [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงได้จาก. https://www.vkplastic.com/2019/07/22/. (วนั ท่ีสืบค้นขอ้ มลู 27 กรกฎาคม 2564) รฐั บาลผลักดนั สมนุ ไพรไทย ส่งเสริมปลูกสร้างรายไดท้ งั้ เกษตรกรและประเทศ. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก https://www.thairath.co.th/news/politic/2142750. (วนั ที่สืบคน้ ข้อมูล 28 กรกฎาคม 2564). 79
80 ฟ้าทะลายโจร . [ออนไลน]์ . เข้าถงึ ไดจ้ าก http://www.agriman.doae.go.th/home/news/2563/61- 62.pdf. (วนั ท่สี บื ค้นข้อมลู 28 กรกฎาคม 2564). การคำนวณต้นทุนการผลิตแบบงา่ ย. [ออนไลน]์ . เขา้ ถงึ ได้จาก. https://bsc.dip.go.th/th/category/account2/fs-productcost. (วนั ทีส่ บื ค้นข้อมูล 27 กรกฎาคม 2564) วธิ ีการคำนวณตน้ ทนุ ขาย กอ่ นตั้งราคาขายให้คุ้ม. [ออนไลน์]. เข้าถึงไดจ้ าก https://peakaccount.com/blog/. (วนั ทส่ี ืบค้นข้อมูล 27 กรกฎาคม 2564) การทำบญั ชีรายรับ รายจา่ ย เบ้ืองต้น. [ออนไลน์]. เขา้ ถงึ ได้จาก. https://flowaccount.com/blog/. (วนั ท่ี สบื ค้นขอ้ มูล 27 กรกฎาคม 2564) การใชฟ้ า้ ทะลายโจรเพื่อรักษาโรคโควิด -19 ตามประกาศคณะกรรมการพฒั นาระบบยาแหง่ ชาติ. [ออนไลน]์ . เข้าถงึ ไดจ้ าก. http://healthydee.moph.go.th/view_article.php?id=1531. (วันทีส่ ืบคน้ ขอ้ มลู 27 กรกฎาคม 2564) ประกาศคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ เร่ือง บัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพร พ.ศ. 2564 คณะกรรมการพฒั นาระบบยาแหง่ ชาติ. [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงได้จาก. http://www.ratchakitcha.soc.go.th /DATA/PDF /2564/E/103/T_0060.PDF. (วันท่ีสืบค้น ขอ้ มลู 27 กรกฎาคม 2564) ยาแคปซูลฟ้าทะลายโจร ตราอภยั ภเู บศร แกไ้ ข้. [ออนไลน์]. เขา้ ถงึ ได้จาก. https://www.abhaishop.com/th/ product/394966/product-394966. (วนั ทีส่ ืบค้นข้อมลู 28 กรกฎาคม 2564) 80
หลักสูตร การปลูกพืชสมุนไพรพื้นบ้ากนลุ่มฟอา้าชทีพเะกลษาตยรกโรจรรม คณะผจู้ ัดทำ ที่ปรึกษา เลขาธิการ กศน. 1. นายวรัท พฤกษาทวกี ลุ ผูเ้ ช่ยี วชาญเฉพาะด้านพัฒนาหลักสตู ร 2. นายชยั พฒั น์ พันนธ์ุวัฒนสกลุ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาหลักสูตรการศึกษานอกระบบและ 3. นางศุทธินี งามเขตต์ การศกึ ษาตามอธั ยาศยั ทีป่ รึกษาด้านเทคโนโลยที างการศกึ ษา 4. นางรกั ขณา ตณั ฑวฑุ โฒ คณะพัฒนาหลกั สตู ร 1. นางเอื้อมพร สุเมธาวฒั นะ ผอู้ ำนวยการกลมุ่ พฒั นาคณุ ภาพและมาตรฐานการศึกษา 2. นางสาวสร้อย สกลุ เดน็ ศูนยฝ์ ึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดนมุกดาหาร/ ผูเ้ ช่ยี วชาญเนือ้ หา 3. นางสาวกฤษณา โสภี ศูนยฝ์ ึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดนสระแก้ว/ ผู้เช่ยี วชาญเนื้อหา 4. สำนักงาน กศน. จังหวัดนครราชสีมา ผเู้ ชย่ี วชาญเนอ้ื หา 5. นางสาวมนทา เกรียงทวที รพั ย์ ข้าราชการบำนาญ/นักวัดผล 6. นางวรรษวรรณ บันลอื ฤทธิ์ ครชู ำนาญการพิเศษ/นกั วัดผล 7. นางสาวจีราภา เจยี มศักดิ์ นักวชิ าการศกึ ษาชำนาญการพเิ ศษ/พัฒนาหลักสตู ร 8. นางสาวหทยั มาดา ดฐิ ประวรรตน์ นักวชิ าการศกึ ษา/พัฒนาหลกั สูตร คณะบรรณาธกิ าร ที่ปรึกษาด้านพัฒนาหลักสูตรการศึกษานอกระบบและ 1. นางศุทธินี งามเขตต์ การศึกษาตามอัธยาศยั ผอู้ ำนวยการกลมุ่ พัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษา 2. นางเออ้ื มพร สเุ มธาวัฒนะ นกั วชิ าการศกึ ษาชำนาญการพเิ ศษ 3. นางนุสรา สกลนกุ รกิจ นักวชิ าการศึกษาชำนาญการพเิ ศษ 4. นางสาวจีราภา เจียมศกั ด์ิ นักวชิ าการศึกษา 5. นางสาวหทยั มาดา ดฐิ ประวรรตน์ 81
82 ศิลปกรรม ออกแบบกราฟกิ ปก/รปู เล่ม นางเออ้ื มพร สเุ มธาวฒั นะ ผ้อู ำนวยการกลมุ่ พฒั นาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษา พิสจู นอ์ ักษร นางสาวหทัยมาดา ดิฐประวรรตน์ นกั วิชาการศึกษา เอกสารวชิ าการลำดบั ท่ี 6/2564 เผยแพร่ สงิ หาคม 2564 82
แผนการจดั กระบวนการเรียนรู้ ตามหลกั สูตรการปลูกพชื สมุนไพรพื้นบา้ น ขมิ้นชนั ที่ เร่ือง จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ เนอ้ื หา การจัดกระบวน จำนวนช่วั โมง การเรยี นรู้ ทฤษฎี ปฏิบตั ิ 1 ความรู้ 1. มีความรู้ความเขา้ ใจ 1. ลกั ษณะทวั่ ไปของพืช 1. การบรรยาย (เอกสาร 2 2 เบอ้ื งตน้ เก่ียวกบั พชื สมนุ ไพร สมุนไพรขม้นิ ชัน ประกอบและคลิป) เกี่ยวกับพืช ขมนิ้ ชนั 1.1 ชื่อสามัญ 1.1 ใบความรเู้ รอ่ื ง สมุนไพร 2. บอกลักษณะทว่ั ไป 1.2 ชอื่ วทิ ยาศาสตร์ ความรเู้ บื้องตน้ เกี่ยวกับ ขมิ้นชัน และทางพฤกษศาสตร์ 1.3 ชื่ออ่นื พืชสมนุ ไพรขมิน้ ชนั ของพืชสมุนไพรขมิน้ ชัน 1.4 ถิ่นกำเนิด 1.2 คลปิ วดิ ีโอเรอื่ ง 3. บอกความสำคัญของ 2. ลกั ษณะทาง หลักสตู รการปลกู พืชสมุนไพรขมน้ิ ชนั พฤกษศาสตร์ของพืช ขมิ้นชันพนั ธุ์แดงสยาม สมุนไพรขมน้ิ ชัน 2. การฝกึ ปฏิบตั ิ 2.1 เหงา้ ขมิ้น ใบงานเรอ่ื ง ความรู้ 2.2 แง่งขมน้ิ เบอื้ งต้นเกย่ี วกบั พืช 2.3 ใบขม้นิ สมนุ ไพรขม้ินชนั 2.4 ดอกขม้ิน 3. การแลกเปล่ยี น 3. ความสำคญั ของพืช เรียนร้รู ่วมกนั ต่อความรู้ สมนุ ไพรขมนิ้ ชัน เบือ้ งตน้ เกีย่ วกบั พชื 3.1 ดา้ นการแพทย์ สมุนไพรขมิน้ ชนั และสาธารณสุข 3.2 ด้านอาหารและ การบรโิ ภค 3.3 ด้านเศรษฐกิจ 3.4 ด้านอุตสาหกรรม 3.5 ดา้ นเกษตรกรรม 2 ประโยชนแ์ ละ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ 1. ประโยชนข์ องพืช 1. การบรรยาย (เอกสาร 2 2 สรรพคณุ ของ เกี่ยวกบั ประโยชน์และ สมุนไพรขม้นิ ชัน ประกอบและคลปิ ) พชื สมนุ ไพร สรรพคณุ ของพืช 2. สรรพคณุ ของพชื 1.1 ใบความรเู้ รื่อง ขมน้ิ ชนั สมนุ ไพรขมิ้นชัน สมนุ ไพรขมนิ้ ชนั สรรพคณุ ของพชื สมนุ ไพรขมนิ้ ชนั 84
หลักสูตร การปลูกพืชสมุนไพรกพลืุ้่นมอบาช้าีพนเกขษมตริ้นกชรรันม 85 ท่ี เรอื่ ง จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ เนอ้ื หา การจดั กระบวน จำนวนช่วั โมง การเรียนรู้ ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ 3 การปลูกพชื 1. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ 1. สภาพแวดลอ้ มที่ สมุนไพร เก่ยี วกบั การปลูกพืช เหมาะสมในการปลกู พชื 1.2 คลิปวิดีโอเรื่อง 4 12 ขมนิ้ ชนั สมุนไพรขม้นิ ชนั สมุนไพรขมิ้นชนั หลักสูตรการปลกู 2. สามารถปลูกพืช ขม้ินชันพนั ธแ์ุ ดงสยาม 46 4 การเก็บเก่ียว สมนุ ไพรขมน้ิ ชันได้ 1.1 สภาพภูมิอากาศ 2. การฝกึ ปฏบิ ัติ และการแปร 1.2 สภาพพนื้ ท่ีปลูก ใบงานเรอื่ ง สรรพคณุ รูปพืช 1. มีความรู้ ความเข้าใจ 1.3 สภาพดิน ของพชื สมนุ ไพรขมนิ้ ชัน เกย่ี วกับการเก็บเกย่ี ว 1.4 ธาตอุ าหาร 3. การแลกเปล่ียน และการแปรรปู พชื 1.5 สภาพน้ำ เรยี นรรู้ ่วมกันตอ่ สมนุ ไพรขมน้ิ ชนั 2. ฤดกู าลปลูกพืช สรรพคุณของพืช สมนุ ไพรขมิน้ ชัน สมุนไพรขมิ้นชัน 3. ขั้นตอนการปลูกพชื 1. การบรรยาย (เอกสาร สมุนไพรขมิ้นชนั ประกอบและคลิป) 3.1 การเตรยี มดิน 3.2 เตรียมแปลงปลกู 1.1 ใบความรูเ้ รอ่ื ง 3.3 การเตรยี มพนั ธ์ุ การปลกู พชื สมนุ ไพร 3.4 การปลูก ขมิน้ ชนั 3.5 การดูแลรกั ษา 1. การเก็บเกีย่ วพชื 1.2 คลปิ วิดีโอเรอื่ ง สมุนไพรขมน้ิ ชัน หลกั สตู รการปลูก 1.1 ระยะเก็บเกี่ยวท่ี ขมิ้นชันพันธุแ์ ดงสยาม เหมาะสม 2. การฝึกปฏิบัติ ใบงานเร่ือง การปลูกพชื สมุนไพรขมิ้นชัน 3. การแลกเปลยี่ น เรียนรรู้ ว่ มกันตอ่ การ ปลูกพืชสมนุ ไพรขม้ินชนั 1. การบรรยาย (เอกสาร ประกอบและคลิป) 85
86 ที่ เรอ่ื ง จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ เนื้อหา การจัดกระบวน จำนวนช่ัวโมง การเรยี นรู้ ทฤษฎี ปฏบิ ัติ สมนุ ไพร 2. สามารถการเก็บเกีย่ ว 1.2 วิธกี ารเก็บเก่ียว 1.1 ใบความรู้เรอ่ื ง ขมน้ิ ชัน พืชสมุนไพรขมน้ิ ชนั 1.3 วธิ ีการขุด การเก็บเกย่ี วพชื 3. สามารถแปรรปู พืช 1.4 ผลผลติ สมุนไพรขมน้ิ ชนั สมุนไพรขมนิ้ ชนั 1.5 ข้อควรระวังในการ 1.2 ใบความร้เู รือ่ ง เก็บเกี่ยว การแปรรปู พืชสมุนไพร 1.6 การปฏบิ ตั หิ ลัง ขมนิ้ ชัน การเก็บเกย่ี วพืชสมุนไพร 1.3 คลปิ วิดโี อเร่ือง ขมน้ิ ชัน หลกั สตู รการปลูก 2. การแปรรปู พืช ขมิ้นชันพนั ธุ์แดงสยาม สมุนไพรขมิ้นชนั 2. การฝกึ ปฏบิ ัติ 2.1 การทำแห้ง ใบงานเรื่อง การเก็บ ขมิน้ ชันทง้ั หัว เกี่ยวและการแปรรูปพชื 2.2 การทำขมิ้นชัน สมุนไพรขมิน้ ชัน แหง้ แบบชิ้น 3. การแลกเปล่ยี น 2.3 การทำขม้ินชันผง เรยี นรู้ร่วมกันตอ่ การ 2.4 การกลน่ั น้ำมัน เก็บเก่ียวและการแปร หอมระเหยขม้นิ ชัน รปู พืชสมนุ ไพรขมน้ิ ชนั 2.5 การบรรจแุ ละการ เกบ็ รกั ษาขม้นิ ชัน 2.6 ผลิตภณั ฑ์จาก ขมิ้นชนั 5 การเพ่ิมมลู คา่ 1. มคี วามรคู้ วามเข้าใจ 1. การเพ่มิ มูลค่าผลผลติ 1. การบรรยาย (เอกสาร 3 3 ผลผลติ เกีย่ วกบั การเพ่ิมมูลค่า พืชสมุนไพรขมิน้ ชัน ประกอบและคลปิ ) การตลาด ผลผลติ การตลาด และ 1.1 วธิ เี พมิ่ ผลผลติ 1.1 ใบความรเู้ ร่อื ง และการคิด การคดิ คำนวณต้นทนุ และคุณภาพของขมน้ิ ชนั การเพิ่มมลู ค่าผลผลิตพชื คำนวณต้นทุน ผลผลิตพชื สมุนไพร 1.2 วิธีการเพม่ิ มลู ค่า สมุนไพรขม้ินชนั ผลผลติ พชื ขมนิ้ ชนั ให้กับผลิตภณั ฑด์ ว้ ยการ 1.2 ใบความร้เู ร่อื ง สมนุ ไพร 2. สามารถคดิ คำนวณ ผลิตบรรจภุ ณั ฑท์ ี่ การตลาดพืชสมนุ ไพร ขมิน้ ชนั ตน้ ทนุ ผลผลติ พชื สรา้ งสรรค์ ขม้นิ ชัน สมนุ ไพรขมนิ้ ชันได้ 2. การตลาดพืชสมนุ ไพร ขมิ้นชัน 86
หลักสตู ร การปลูกพืชสมุนไพรกพล้ืุ่นมอบาช้าีพนเกขษมตริ้นกชรรันม 87 ท่ี เรอ่ื ง จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ เน้ือหา การจดั กระบวน จำนวนช่วั โมง การเรยี นรู้ ทฤษฎี ปฏิบตั ิ 3. การคดิ คำนวณต้นทนุ 1.3 ใบความรู้เรอื่ ง ผลผลิต การคดิ คำนวณต้นทนุ ผลผลิต 1.4 คลิปวิดีโอเรอ่ื ง หลักสูตรการปลูก ขมนิ้ ชนั พันธ์ุแดงสยาม 2. การฝึกปฏิบตั ิ ใบงานเร่อื ง การเพิ่ม มูลค่าผลผลติ การตลาด และการคดิ คำนวณ ต้นทนุ ผลผลติ พชื สมนุ ไพรขมิ้นชัน 3. การแลกเปลีย่ นเรยี นรู้ ร่วมกันตอ่ การเพิ่มมลู คา่ ผลผลิต การตลาด และ การคิดคำนวณต้นทนุ ผลผลิตพืชสมนุ ไพร ขมนิ้ ชนั รวม 15 25 รวมท้ังสิน้ 40 87
ตารางสรปุ สอ่ื การเรียนรู้ประกอบการจดั กระบวนการเรยี นรู้ 88 ตามหลกั สตู รการปลูกพชื สมุนไพรพนื้ บ้าน ขมิ้นชนั หนา้ เร่ืองที่ เน้อื หา สอ่ื ประกอบการจัด 91 กระบวนการเรียนรู้ 99 1 1.1 ลกั ษณะท่วั ไปของพชื สมุนไพร 1. ใบความรู้ท่ี 1 เรื่อง ความรู้ 100 ขมิ้นชัน เบอ้ื งตน้ เก่ยี วกับพืชสมนุ ไพร 101 1) ชอ่ื สามญั ขมิน้ ชัน 2) ชื่อวทิ ยาศาสตร์ 2. คลปิ วดิ โี อเร่อื ง หลกั สตู รการปลูก 102 3) ชื่ออ่นื ขมิน้ ชนั พนั ธ์ุแดงสยาม 112 4) ถน่ิ กำเนิด 3. ใบงานที่ 1 เรอ่ื ง ความรเู้ บ้ืองต้น 113 1.2 ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของพชื เก่ยี วกบั พืชสมุนไพรขมน้ิ ชัน 114 สมุนไพรขมน้ิ ชนั 4. แนวคำตอบ 116 1) เหง้าขมิน้ 2) แง่งขมน้ิ 1. ใบความรทู้ ี่ 2 เรอ่ื ง สรรพคุณ 3) ใบขม้ิน ของพืชสมนุ ไพรขมน้ิ ชนั 4) ดอกขมน้ิ 2. คลปิ วิดโี อเรื่อง หลักสตู รการปลูก 1.3 ความสำคญั ของพชื สมนุ ไพร ขมิ้นชนั พันธุแ์ ดงสยาม ขมน้ิ ชัน 3. ใบงานที่ 2 เร่อื ง สรรพคณุ ของ 1) ดา้ นการแพทยแ์ ละสาธารณสุข พชื สมุนไพรขม้ินชัน 2) ดา้ นอาหารและการบริโภค 4. แนวคำตอบ 3) ด้านเศรษฐกิจ 1. ใบความรู้ท่ี 3 เรือ่ ง การปลูกพืช 4) ดา้ นอตุ สาหกรรม สมุนไพรขมิน้ ชนั 5) ดา้ นเกษตรกรรม 2 2.1 ประโยชน์ของพืชสมนุ ไพรขม้นิ ชนั 2.2 สรรพคณุ ของพืชสมนุ ไพรขมน้ิ ชัน 3 3.1 สภาพแวดลอ้ มทีเ่ หมาะสมในการ ปลูกพืชสมุนไพรขมิน้ ชัน 88
หลักสตู ร การปลูกพืชสมุนไพรกพลืุ้่นมอบาช้าีพนเกขษมตริ้นกชรรันม 89 เร่ืองท่ี เนอ้ื หา สอ่ื ประกอบการจัด หน้า กระบวนการเรยี นรู้ 131 132 1) สภาพภูมิอากาศ 2. คลปิ วิดีโอเรือ่ ง หลกั สูตรการปลูก 133 2) สภาพพ้นื ท่ปี ลูก ขมนิ้ ชนั พันธแ์ุ ดงสยาม 137 139 3) สภาพดนิ 3. ใบงานท่ี 3 เร่อื ง การปลกู พืช 140 141 4) ธาตอุ าหาร สมุนไพรขมนิ้ ชัน 142 5) สภาพน้ำ 3.2 ฤดกู าลปลูกพชื สมนุ ไพรขมิน้ ชัน 3.3 ขั้นตอนการปลกู พชื สมนุ ไพร ขมิ้นชนั 1) การเตรียมดิน 2) เตรยี มแปลงปลูก 3) การเตรียมพันธุ์ 4) การปลูก 5) การดูแลรักษา 4 4.1 การเกบ็ เก่ยี วพืชสมนุ ไพรขมนิ้ ชนั 1. ใบความรู้ที่ 4.1 เร่ือง การเกบ็ 1) ระยะเก็บเกย่ี วทเ่ี หมาะสม เกีย่ วพืชสมนุ ไพรขม้ินชัน 2) วธิ กี ารเกบ็ เกีย่ ว 2. ใบความรู้ที่ 4.2 เร่ือง การแปร 3) วิธีการขุด รูปพชื สมุนไพรขมนิ้ ชัน 4) ผลผลติ 3. คลิปวิดีโอเร่ือง หลักสูตรการปลกู 5) ข้อควรระวังในการเกบ็ เก่ียว ขม้นิ ชนั พนั ธแุ์ ดงสยาม 6) การปฏิบัติหลงั การเก็บเก่ยี วพืช 4. ใบงานที่ 4 เร่ือง การเกบ็ เกย่ี ว สมุนไพรขมน้ิ ชนั และการแปรรปู พืชสมุนไพรขมนิ้ ชัน 2.2 การแปรรูปพืชสมุนไพรขม้นิ ชนั 5. แนวคำตอบ 1) การทำแหง้ ขม้ินชันทง้ั หวั 2) การทำขมิน้ ชันแหง้ แบบชิน้ 3) การทำขมนิ้ ชนั ผง 4) การกล่ันนำ้ มนั หอมระเหยขม้ินชนั 5) การบรรจแุ ละการเก็บรกั ษา ขมิน้ ชัน 6) ผลติ ภัณฑ์จากขม้ินชัน 5 5.1 การเพม่ิ มลู คา่ ผลผลิตพืชสมุนไพร 1. ใบความรู้ท่ี 5.1 เรอื่ ง การเพิ่ม ขม้ินชัน มูลคา่ ผลผลติ พืชสมุนไพรขม้นิ ชนั 89
เรอื่ งที่ เนื้อหา สอ่ื ประกอบการจดั 90 กระบวนการเรียนรู้ 1) วธิ ีเพิม่ ผลผลติ และคุณภาพของ 2. ใบความรู้ที่ 5.2 เรื่อง การตลาด หนา้ ขม้นิ ชัน พืชสมุนไพรขมนิ้ ชนั 147 2) วิธีการเพมิ่ มลู ค่าให้กบั ผลติ ภัณฑ์ 3. ใบความรู้ท่ี 5.3 เร่ือง การคดิ 152 ด้วยการผลติ บรรจภุ ัณฑท์ ่ีสร้างสรรค์ คำนวณตน้ ทนุ ผลผลติ 156 5.2 การตลาดพืชสมนุ ไพรขมิ้นชนั 4. คลิปวดิ ีโอเร่ือง หลกั สตู รการปลูก 157 5.3 การคดิ คำนวณต้นทุนผลผลติ ขมน้ิ ชันพนั ธุแ์ ดงสยาม 5. ใบงานท่ี 5 เร่อื ง การเพิ่มมูลคา่ 159 ผลผลติ การตลาด และการคิด คำนวณตน้ ทุนผลผลิตพชื สมนุ ไพร ขมนิ้ ชนั 6. แนวคำตอบ 90
หลกั สตู ร การปลูกพืชสมุนไพรกพล้ืุ่นมอบาช้าีพนเกขษมตร้ินกชรรันม ใบความรทู้ ่ี 1 เรื่อง ความรู้เบื้องตน้ เกี่ยวกับพืชสมนุ ไพรขมิน้ ชัน (ทมี่ าของภาพประกอบ : กลุม่ พฒั นาคณุ ภาพและมาตรฐานการศึกษา) \"ขม้ินชัน\" (Turmeric) เป็นสมุนไพรคูค่ รัวทีค่ นไทยรู้จักกันดี ซง่ึ อุดมไปด้วยวติ ามนิ และแรธ่ าตหุ ลายชนิด นิยมนำมาทำอาหาร เนื่องจากมีสีสันสวยงามและให้กลิ่นหอมเครื่องเทศ แต่งสี แต่งกลิ่นอาหาร เช่น แกงไตปลา แกงกะหรี่ เป็นต้น ขมิ้นชันถูกจัดอยู่ในตำรับยาสมุนไพรไทยที่มีสรรพคุณป้องกันและรักษาโรคต่าง ๆ โดยองค์การ เภสัชกรรมยังได้ยกให้ขมิ้นชันเป็น \"มหัศจรรย์สมุนไพร\" ที่ได้รับการบรรจุเข้าในบัญชียาหลักแห่งชาติ ลักษณะของ ต้นขมิ้นชัน จะมีลำต้นสูงราว ๆ 50 - 60 เซนติเมตร มีเหง้าอยู่ใต้ดินแล้วแตกใบโผล่เหนือดินขึ้นมา ลักษณะใบจะเป็น ใบกวา้ งรูปรา่ งคล้ายหอกปลายแหลมสีเขยี วเขม้ บริเวณกา้ นเป็นสนี ้ำตาลอมเขียว ดอกมีลักษณะเป็นช่อใหญป่ ลาย สชี มพอู ่อน สามารถเพาะปลูกไดท้ ั่วไปในเขตร้อน และเก็บเกี่ยวเพ่ือนำมาใช้ประโยชน์ได้ตลอดทั้งปี ลกั ษณะท่ัวไปของพืชสมุนไพรขม้นิ ชัน [1] ขมิ้นชัน หรือ ขมิ้น มีชื่อสามัญ คือ Turmeric ชื่อวิทยาศาสตร์ Curcuma longa L. จัดอยู่ในวงศ์ขิง (ZINGIBERACEAE) ขมิ้นชัน เป็นพืชล้มลุกที่จัดอยู่ในตระกูลขิง มีเหง้าอยู่ใต้ดิน เนื้อในของเหง้าจะเป็นสีเหลือง มีกลิ่นหอม เฉพาะตวั มตี ัง้ แตส่ ีเหลืองเข้มจนถึงสีแสดจัด และมีชื่ออ่นื ๆ อกี เช่น ขม้นิ แกง ขมิ้นหยอก ขมน้ิ หวั ข้มี ้ิน หม้ิน เปน็ ตน้ ชื่อสามัญ : Turmeric ชื่อวทิ ยาศาสตร์ : Curcuma longa L. ชอื่ พอ้ ง : Curcuma domestica Valeton ชื่อวงศ์ : ZINGIBERACEAE .......................................................... 1 ขอ้ มลู พืชสมนุ ไพร. [ออนไลน]์ . เข้าถึงไดจ้ าก http://pharmacy.su.ac.th/herbmed/herb/text/herb_detail.php?herbID=51 (วนั ที่สบื ค้นขอ้ มูล 23 กรกฎาคม 2564) 91
92 ชือ่ อืน่ ๆ เชน่ - ทว่ั ไป : ขมน้ิ - เชียงใหม่ : ขม้ินแกง ขมน้ิ หยอก ขม้นิ หวั - กะเหร่ียง กำแพงเพชร : ตายอ - กะเหรีย่ ง แม่ฮ่องสอน : สะยอ - ภาคกลาง พิษณุโลก : ขม้นิ ชนั - ภาคใต้ : ข้ีม้นิ , หมิ้น [2] ถิ่นกำเนิดของขมิ้นชัน โดยมีถิ่นกำเนิดในประเทศแถบเอเชียใต้ และเอเชียตะวันออกใต้ ซึ่งไม่ปรากฏ หลักฐานที่ชัดเจนเกี่ยวกับแหล่งธรรมชาติในสภาพพืชป่า มีข้อสันนิษฐานว่าเป็นพืชปลูกที่เกิดจากกระบวนการ ผสมพันธุ์ตามธรรมชาติและมีโครโมโซม 3 ชุด ซึ่งเป็นหมันและมีการสืบทอดพันธุ์กันต่อมา โดยวิธีการคัดเลือก พันธแ์ุ ละขยายพันธแ์ุ บบไมอ่ าศัยเพศ ระหวา่ งขม้นิ ชนั สายพันธทุ์ ีม่ โี ครโมโซม 2 คู่ และ 4 คู่ การปลูกขมิ้นชนั สันนิษฐานว่าเริ่มขึ้นในประเทศอินเดีย และแพร่กระจายไปสูป่ ระเทศจีนในศตวรรษที่ 7 แอฟริกาตะวันออกในศตวรรษที่ 8 แอฟริกาตะวันตกในศตวรรษที่ 13 และจาไมก้าในศตวรรษที่ 18 ปัจจุบันมี เขตการกระจายพันธุ์ปลูกทั่วไปในภูมิภาคที่มีอากาศร้อนหรือร้อนชื้นทั่วโลก แหล่งปลูกขมิ้นชันเป็นการค้า ขนาดใหญ่ของโลก คือ อนิ เดีย และมแี หล่งอ่นื บา้ งทางแถบเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ ซง่ึ เปน็ ท้ังผู้ผลิตและผบู้ รโิ ภค ลักษณะทางพฤกษศาสตร์พืชสมนุ ไพรขมน้ิ ชัน [1] ขมิน้ ชนั เป็นไมล้ ้มลุก อายหุ ลายปี สงู 30 - 95 เซนติเมตร ซึ่งจะมลี ักษณะทางพฤกษศาสตร์ ดงั น้ี 1. เหง้าขมน้ิ คือ ลำต้นใต้ดินเรียกว่าเหง้า ซึ่งประกอบด้วยแง่งทีม่ ลี ักษณะต่าง ๆ กัน (ที่มาของภาพประกอบ : http://pharmacy.su.ac.th/herbmed/herb/text/herb_detail.php?herbID=51) .......................................................... 1 ขอ้ มูลพืชสมุนไพร. [ออนไลน]์ . เขา้ ถงึ ได้จาก http://pharmacy.su.ac.th/herbmed/herb/text/herb_detail.php?herbID=51 (วนั ท่สี บื คน้ ขอ้ มูล 23 กรกฎาคม 2564) 2 ถนิ่ กำเนิดขมิน้ ชัน. [ออนไลน]์ . เขา้ ถงึ ได้จาก https://www.disthai.com/16488284/ขม้ินชนั (วนั ทสี่ ืบค้นข้อมูล 23 กรกฎาคม 2564) 92
หลักสตู ร การปลูกพืชสมุนไพรกพล้ืุ่นมอบาช้าีพนเกขษมตริ้นกชรรันม 93 2. แงง่ ขมนิ้ คือ มีลักษณะกลม ซึ่งจะเป็นท่ีแตกของแขนงที่สองและสามต่อไป แขนงท่ีแตกออกมานี้ ถา้ มีลักษณะกลมจะเรยี กว่า หัว และถา้ มีลกั ษณะยาวคลา้ ยนิว้ มือจะเรียกว่า น้ิว ซึ่งเป็นท่ีเกิดของรากฝอย เน้ือใน หวั มสี ีเหลอื ง อมสม้ หรือสเี หลืองจำปาปนสแี สด และมีกลิน่ หอม (ท่มี าของภาพประกอบ : http://www.agriman.doae.go.th/agriman.html) 3. ใบขมนิ้ คอื ลำต้นเหนือดนิ มกี าบกา้ นใบทีเ่ รยี งซ้อนกนั เปน็ ลำต้นเทียม ลกั ษณะใบ เปน็ ใบเด่ียว กลาง ใบสีแดงคล้ำ แทงออกจากเหง้าใต้ดิน ลักษณะใบรูปใบหอกยาวเรียว ปลายใบแหลม กว้าง 12 - 15 เซนติเมตร ยาว 30 - 40 เซนตเิ มตร มีเส้นกลางใบเหน็ ไดช้ ดั เจนทางด้านล่างของใบ ใบเรียงแบบสลบั และอย่กู ันเปน็ กล่มุ (ทมี่ าของภาพประกอบ :กลมุ่ พัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศกึ ษา) 4. ดอกขมนิ้ คอื ในส่วนของดอก ออกเปน็ ชอ่ ช่อดอกจะเกิดบนลำตน้ ทมี่ ีใบหรอื โผลข่ ้นึ มาจากใจกลางของ กลุ่มใบ ชอ่ ดอกมรี ปู ร่างแบบทรงกระบอกหรอื รปู กรวย ใบประดับมสี ีเขียวอ่อน ๆ หรือสขี าว กลีบดอกสีเหลืองอ่อน ตรง ปลายช่อดอกจะมสี ีชมพูอ่อน จดั เรยี งซอ้ นกนั อยา่ งเป็นระเบียบ กลบี รองและกลีบดอกจะเชอ่ื มติดกนั เป็นรปู ท่อ มี ขน กลบี ดอกมขี าว ตรงโคนเชื่อมตดิ กนั เปน็ ทอ่ ยาว บานคร้งั ละ 3 - 4 ดอก และผลรูปกลมมี 3 พู ภาพประกอบท่ี 1 ภาพประกอบที่ 2 (ทม่ี าของภาพประกอบที่ 1 :https://www.smileconsumer.com/2011/10/turmelic/) (ที่มาของภาพประกอบท่ี 2 :ศนู ยฝ์ กึ และพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบรเิ วณชายแดนสระแก้ว 93
94 ความสำคญั ของพืชสมุนไพรขม้นิ ชัน ขมิ้นชัน เป็นสมุนไพรจากธรรมชาติที่ทั้งคนไทยและนานาประเทศคุ้นเคยเป็นอย่างดี เพราะนิยม นำมาใช้อย่างแพร่หลายทั้งแบบสดและแบบบดเป็นผงเพื่อผสมในเมนูอาหาร ผสมในเครื่องสำอาง รวมถึงนำมา สกัดใช้แทนยารักษาโรคบางชนิด เนื่องจากขมิ้นชันมีสาระสำคัญที่มีสรรพคุณอันเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย หลากหลายด้าน เพราะขมิ้นชันอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด เช่น วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินซี วิตามินอี ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก และเกลือแร่ต่าง ๆ รวมไปถึงเส้นใย คาร์โบไฮเดรตและโปรตีน เป็นต้น ขมิ้นชันมีสรรพคุณทางยาที่รักษาอาการและโรคต่าง ๆ ได้หลายชนิดและมีประวัติใน การนำมาใช้ในการรักษามากกว่า 5,000 ปี นอกจากน้ีขม้ินชันยังมคี วามสำคัญดา้ นต่าง ๆ ดงั นี้ ภาพประกอบท่ี 1 ภาพประกอบที่ 2 ภาพประกอบที่ 3 (ทีม่ าของภาพประกอบที่ 1 : https://www.thaiherbinfo.com/th/product/ขม้นิ ชันแคปซูล-250-มก.) (ท่มี าของภาพประกอบที่ 2 : https://staubth.com/ความร้อู าหารเสรมิ /เคอร์คมู ินอยด์-คืออะไร/) (ที่มาของภาพประกอบท่ี 3 : http://www.baanyim.com/p/296) ดา้ นการแพทยแ์ ละสาธารณสุข ในทางการแพทย์และสาธารณสุข ได้มีการนำขมิ้นชัน นำมาใช้เป็นยาเสริมร่วมกับยาแผนปัจจุบัน ซึ่งองค์การเภสัชกรรมสามารถพัฒนาสารสกัดขมิ้นชัน มาผลิตเป็นยาในรูปแบบของแคปซูลในชื่อ “แอนติออกซ์ (Antiox)” และได้รับการขน้ึ ทะเบยี นจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แล้ว สามารถใชท้ ดแทนยา แผนปัจจุบันได้อย่างสิ้นเชิง ซึ่งถือว่าเป็นสมุนไพรตัวแรกที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นยาแผนปัจจุบัน โดยสามารถใช้ ทดแทนยาแผนปัจจุบันตัวอ่ืนที่มีสรรพคณุ เชน่ เดยี วกัน การที่สารสกัดขมิ้นชันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นยาแผนปัจจุบัน สามารถใช้เป็นยาแทนยาแผนปัจจุบัน ที่มีสรรพคุณเหมือนกันไดเ้ ลย คือ ถ้าใช้สารสกัดขมิ้นชันแล้วก็ไม่ตอ้ งใช้ยาแผนปจั จบุ ันตัวอื่นควบคูก่ ันไปอีก เช่น การวิจัยขององค์การเภสัชกรรม พบว่า ผลการศึกษาและวิจัยสารสกัดขมิ้นชัน สามารถช่วยบรรเทาอาการปวด โรคข้อเข่าเสื่อมได้ไม่แตกต่างจากยาไอบโู ปรเฟนท่ีเป็นยาแผนปัจจบุ ัน และมีผลข้างเคียงต่อระบบทางเดินอาหาร น้อยกว่า เพราะโดยสรรพคุณของขมิ้นชันปกติใช้เป็นยาแก้ท้องอืดอยู่แล้ว และองค์การเภสัชกรรมมีเป้าหมายที่จะ ศึกษาวิจัยต่อไปเพือ่ ใชท้ ดแทนยาแก้อกั เสบ เพราะแตล่ ะปีประเทศไทยมมี ลู ค่าการใชย้ ากล่มุ นหี้ ลายพันล้านบาท เปน็ ต้น ส่วนกระทรวงสาธารณสุข ได้ถือว่า ขมิ้นชัน เป็นหนึ่งในสมุนไพร 4 ชนิด ที่กรมการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข ได้คดั เลือก ใหเ้ ป็น “Champion Products” ซง่ึ เปน็ สมุนไพรไทยท่ีมี 94
หลักสูตร การปลูกพืชสมุนไพรกพลืุ้่นมอบาช้าีพนเกขษมตริ้นกชรรันม 95 ศักยภาพทางเศรษฐกิจสูง ขมิ้นชันยังเป็นยาในบัญชียาหลักแห่งชาติ ที่มีใช้ในสถานพยาบาลของรัฐและเอกชน ด้วยความเป็นเลิศของขมิ้นชันที่มีสรรพคุณ เป็นที่รับรู้กันทั่วโลกมาแต่โบราณ ก็คือ เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณ รักษาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และกระเพาะอาหาร เพราะมีสาระสำคัญ เคอร์คูมินอยด์ โดยมีผลวิจัยของ ศูนย์วิทยาการเทคโนโลยีชีวภาพทางการเกษตรแห่งชาติ คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ยืนยันว่า ขมนิ้ ชันของไทยพันธ์ดุ ี ๆ มสี ารเคอรค์ มู นิ อยดส์ งู ถึง 12% ดา้ นอาหารและการบริโภค ขมิ้นชัน ถือเป็นสุดยอดสมุนไพรไทย ที่สามารถกินได้ทั้งสดและผสมกับเครื่องปรุง ซึ่งถือเป็นความ มหัศจรรย์ของอาหารทุกชนชาติ ที่สอดแทรกการใส่วัตถุดิบที่เป็นสมุนไพรดูแลสุขภาพจากพืชหรือเนื้อสัตว์ พ้ืนเมืองประจำชนชาตนิ ั้น ขมน้ิ ชันเปน็ สมนุ ไพรใกลต้ วั ทส่ี ามารถนำมาประกอบอาหาร และมีประโยชน์ต่อสุขภาพ เพื่อให้ผู้รับประทานมีสุขภาพแข็งแรง อีกทั้งหาง่ายตามท้องถิ่น อย่างในประเทศไทยเรา ครัวแทบทุกบ้านจะต้องมี ขมนิ้ ชัน ตดิ บ้านไว้เพือ่ ใชป้ รงุ อาหารโดยทำเปน็ เคร่ืองแกงหรือหมักกบั เน้ือสัตว์ให้รสชาติดี (ทมี่ าของภาพประกอบ :กลมุ่ พฒั นาคุณภาพและมาตรฐานการศกึ ษา) ขมิ้นชันแบบไหนใช้ทำอาหารได้บ้าง ดังนั้น การเลือกขมิ้นชันมาใช้ในการปรุงอาหารให้มีสรรพคุณ ทางยาเพ่ือป้องกนั และรักษาโรคนน้ั ควรเลอื กขมนิ้ ชนั ทไ่ี ด้คุณภาพ คือ ขม้นิ ชันตอ้ งมอี ายุอย่างน้อย 9 - 12 เดือน จึงสามารถขุดเหง้ามาทำอาหารและยาได้ และต้องไม่เก็บไว้นานเกินไปจนน้ำมันหอมระเหยหายหมด และต้องเก็บ ให้พ้นแสงเพราะแสงจะมีปฏิกิริยากับสารเคอร์คูมินอยด์ อันเป็นสาระสำคัญในขมิ้นชัน ซึ่งขมิ้นชันมีหลายประเภท ไดแ้ ก่ ขม้ินชัน ขมิ้นชันออ้ น และขมนิ้ ชันปา่ ส่วนประเภทท่ีเรานำมาใชป้ ระกอบอาหารมากทส่ี ุดคือ “ขมน้ิ ชนั ” ขมิ้นชัน ใช้ทั้งปรุงอาหารและบำรุงผิว เจริญเติบโตดีในฤดูฝน หัวที่แก่แล้ว สามารถนำไปตากแดด และไปฝนเพื่อเอาผงขมิ้นชันมาผสมน้ำ โยเกิร์ต หรือไข่ขาว แล้วแต่สูตรเพื่อขัดผิว รักษาสิว ให้ผิวใสขึ้น แต่หาก นำมาประกอบอาหาร สามารถใช้ไดท้ ั้งขมน้ิ ชันออ่ นและผงขมิ้นชนั แตกต่างกัน เพราะเสนห่ ์ของขม้นิ ชัน คือ มี กลิน่ หอมช่วยดับคาวของเคร่ืองในไดด้ ว้ ย และเป็นท่ีนิยมของชาวใต้ แกงของชาวใตม้ ักใส่ขมิ้นชนั อาทิ แกงเหลือง ข้าว หมกไก่ แกงกะหร่ี แกงไตปลา แกงฮงั เล โดยใช้ผงขมน้ิ ชันปรงุ แตง่ ไปกับเคร่อื งแกง และขม้นิ ชนั สด ใช้รบั ประทานสด เพื่อ เป็นเครอื่ งเคยี งกับเมนูน้ำพริกได้อยา่ งอร่อย การรับประทานขมิน้ ชันเป็นประจำ จะชว่ ยใหเ้ จรญิ อาหารและรักษา ภูมิต้านทานใหก้ บั ระบบภูมิค้มุ กนั แตก่ ารรบั ประทานขมิน้ ชันหรอื ขมิ้นชันสด กม็ ีขอ้ จำกัดควรรบั ประทานในปริมาณท่ี 95
96 พอเหมาะและไม่ควรรับประทานร่วมกับยาบางชนิด ซึ่งหลีกเลี่ยงได้ด้วยการเว้นระยะรับประทานยาก่อนหรือหลัง อาหารเพอื่ ป้องกันผลต้านฤทธ์ยิ า เมนูอาหารที่มสี ่วนประกอบของขม้ินชันน้ัน ได้รับการสืบทอดกันมาตัง้ แตบ่ รรพบุรุษ และยังคงเป็น เมนูคู่โต๊ะอาหารไทยจนถึงปัจจุบัน นับเป็นความโชคดีของคนไทยที่มีทั้งทรัพยากรทางธรรมชาติ และมรดกทาง ภูมิปัญญา นับเป็นการดูแลรักษาสุขภาพด้วยการใช้สมุนไพรใกล้ตัวในชีวิตประจำวันได้อย่างชาญฉลาด ซึ่งทาง มูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรได้นำมาศึกษาความรู้ด้านสมุนไพรจากผู้เฒ่าผู้แก่ พร้อมทั้งพัฒนาและ เผยแพร่อย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้สูญหายไปตามกาลเวลา ตัวอย่างเมนูที่ใช้ขมิ้นชันเป็นส่วนประกอบ เช่น ไก่ทอดขมิ้นชนั แกงคั่วปูใบชะพลู ปลาทรายขาวทอดขมิ้นชัน ไก่บา้ นต้มขมนิ้ ชนั และหอ่ หมกยา่ ง เป็นต้น (ทีม่ าของภาพประกอบ : https://waterlibrary.com/turmeric-in-thai-food-is-amazing/) ดา้ นเศรษฐกจิ ขมนิ้ ชนั ถือเป็นพชื เศรษฐกจิ ท่ีสามารถยกฐานะเกษตรกร สง่ ขม้นิ ชนั ที่ปลูกให้แก่องค์การเภสัชกรรม ซื้อทำยาสามารถสร้างรายให้แก่เกษตรกรได้กว่า 10 ล้านบาท จากประโยชน์อันมากมายของขมิ้นชัน ทำให้ องค์การเภสัชกรรม ได้มีการลงนามสัญญารับซื้อขมิ้นชันคุณภาพกับเกษตรกร 3 จังหวัด 3 ภาค ประกอบด้วย จังหวัดลพบุรี จังหวัดยะลา และจังหวัดตาก พร้อมทั้งยังได้ส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกขมิ้นชัน ที่จะเป็นวัตถุดิบใน การนำไปสกัดสารเคอร์คูมินอยด์ไปเป็นยาที่จะช่วยในการรักษาโรคตา่ ง ๆ ได้ เนอ่ื งจากทางองคก์ ารเภสัชกรรมได้ มีการวิจัยว่าขมิ้นชันที่สกัดสารเคอร์คูมินอยด์แล้วสามารถนำไปรักษาโรคได้มากมายข้างต้น ซึ่งขมิ้นชัน ตากแห้งนั้นยังคงมีความต้องการในการนำไปเปน็ วัตถดุ บิ ผลิตยาประมาณปีละ 90 ตัน โดยได้มีการลงนามสัญญา จะรับซื้อจากเกษตรกรในราคากิโลละ 120 บาท จะทำให้เกษตรกรมีรายได้กว่า 10 ล้านบาท ขณะเดียวกันยังได้ ส่งเสริมให้เกษตรกรได้ปลูกขมิ้นชันด้วยการมอบพันธุ์ขมิ้นชันให้กับเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ รวมทั้งจะได้มี การติดตามหลังจากที่เกษตรกรที่เข้าโครงการได้ปลูกไปแล้วด้วย เนื่องจากในอนาคตจะได้มีการนำยาที่สกัดจาก ขมิ้นชันส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของทางรัฐบาลที่ต้องการส ร้างรายได้ให้กับ เกษตรกรและปรับเปลี่ยนในเรื่องของการเพาะปลูก ซึ่งจะกระจายรายได้ไปยังเกษตรกรในพื้นที่อื่น ๆ กว่า 5 ล้านบาท ขมิ้นชันนอกจากเป็นพืชสมุนไพรที่มีสรรพคุณทางยาทีห่ ลากหลายแล้ว ยังสามารถสร้างรายได้ให้เกษตรกรผู้ปลกู ไดอ้ ย่างยง่ั ยืนอกี ด้วย 96
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 576
Pages: