Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชา ส 22101 ภูมิศาสตร์ นิลุบล - ฉบับสมบูรณ์

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชา ส 22101 ภูมิศาสตร์ นิลุบล - ฉบับสมบูรณ์

Published by นิลุบล ศิลปธนู, 2021-04-07 09:35:46

Description: แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชา ส 22101 ภูมิศาสตร์ นิลุบล - ฉบับสมบูรณ์

Keywords: แผนการจัดการเรียนรู้

Search

Read the Text Version

บนั ทกึ ขอ้ ความ สว่ นราชการ โรงเรยี นสตรปี ากพนัง ที่ วันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 เร่อื ง ขออนุญาตสง่ แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชา ส22101 สงั คมศึกษา 3 ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 เรยี น ผอู้ ำนวยการโรงเรียนสตรีปากพนงั ขา้ พเจ้า นางสาวนลิ บุ ล ศิลปธนู ตำแหน่ง ครูผ้ชู ่วย มไี ด้รบั มอบหมายใหป้ ฏิบัตกิ ารสอน รายวิชา ส22101 สงั คมศกึ ษา 3 ระดบั ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 โรงเรียนสตรปี ากพนัง สงั กัดสำนักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราช ขอส่งแผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชา ส22101 สังคมศกึ ษา 3 ระดับชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 จงึ เรียนมาเพ่ือโปรดทราบ ลงชอ่ื ………………………………………………. (นางสาวนลิ ุบล ศลิ ปธนู) ความเห็นหวั หน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ลงช่ือ………………………………………………. (นายจริ พล ลิวา) หัวหนา้ กลุม่ สาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษาฯ ความเห็นหวั หนา้ กล่มุ งานบรหิ ารวชิ าการ ลงชอื่ ………………………………………………. ( นางกญั ญารัตน์ สาระพันธ์ ) หัวหนา้ กลมุ่ งานบรหิ ารวชิ าการ ความเหน็ ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นเทพราชพิทยาสรรค์ ลงชื่อ………………………………………………. ( นางจิราพร รัตนกลุ ) ผ้อู ำนวยการโรงเรียนสตรปี ากพนัง

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชา ส 22101 สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม 3 สาระการเรียนรู้ท่ี 5 ภมู ิศาสตร์ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 จัดทำโดย นางสาวนลิ ุบล ศิลปธนู ตำแหนง่ ครูผ้ชู ่วย ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2563 กลุม่ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนสตรีปากพนัง อำเภอปากพนัง จังหวดั นครศรธี รรมราช สำนกั งานเขตพน้ื ท่กี ารศึกษามัธยมศึกษา เขต 12



ก คำนำ แผนการจัดการเรียนรู้ฉบับนี้เป็นแผนการจัดการเรียนรู้รายวิชา ส22101 สังคมศึกษา ศาสนา และ วัฒนธรรม 3 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ตามโครงสร้างรายวิชามีเนื้อหาประกอบด้วย 4 หน่วยการเรียนรู้ ได้แก่ 1. มาตราส่วน ทิศ และสญั ลกั ษณ์ในแผนที่ 2. ทวีปยโุ รป 3. ทวีปแอฟริกา 4. ภยั พิบัตแิ ละการจัดการทรัพยากร ธรรมชาติ และส่ิงแวดล้อมในทวีปยุโรปและทวีปแอฟริกา เป็นต้น ซึ่งได้อ้างอิงตามหลักสูตรแกนกลาง พทุ ธศกั ราช 2551 ฉบับปรับปรงุ 2560 เปน็ แนวทางในการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ีอยู่ในมือท่านขณะน้ี ข้าพเจ้าได้ใช้รูปแบบการสอนที่หลายหลาย เพ่ือให้ สอดคล้องต่อกระบวนการเรียนรู้ของผู้เรียนเป็นรายบุคคล โดยเน้นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็น สำคัญ อาทิ กระบวนการเรียนรู้รูปแบบกลุ่ม, 5 STEP, 5E, กระบวนการกลุ่มสัมพันธ์, กระบวนการจัดการ เรยี นรรู้ ปู แบบกลุ่มด้วยเกม (TGT), โมเดลซปิ ปา (CIPPA Model), การจัดการเรียนร้แู บบรว่ มมือ : เทคนคิ คคู่ ดิ สี่ สหาย เป็นต้น โดยข้าพเจ้าไดส้ ังเกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู้ของผู้เรียน แล้วทำการบันทกึ ผลหลังการจัดเรยี นรู้ เพ่ือ เปน็ แนวทางในการปรับปรงุ และพัฒนาการจดั การเรียนรู้ให้สอดคล้องกับผเู้ รยี นต่อไป ทั้ งนี้ ข้ าพ เจ้ าขอ ข อ บ พ ระคุ ณ ค ณ ะค รูก ลุ่ ม ส าระ สั งค ม ศึ ก ษ า ศ าส น า แ ล ะวั ฒ น ธ รรม โรงเรียนสตรีปากพนัง อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช และอาจารย์มหาวิทยาลัยทักษิณท่ีได้ประสิทธิ์ ประสาทวิชาความรู้ให้แก่ข้าพเจ้าจนได้จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ฉบับน้ีแล้วเสร็จ หากมีข้อผิดพลาดประการ ใด ขา้ พเจา้ ขอน้อมรบั ไวแ้ ต่เพยี งผเู้ ดยี ว ณ โอกาสน้ี ช้าพเจ้าพร้อมทจ่ี ะรบั ฟังข้อคิดเห็นและขอ้ เสนอแนะ เพือ่ จะ ได้นำไปปรับปรุงและพัฒนาใหม้ ีประสิทธิภาพท่ดี ียิ่งๆ ขน้ึ ไป นิลุบล ศลิ ปธนู 29 ตลุ าคม 2563

ข สารบญั หน้า คำนำ ........................................................................................................................................................ก สารบญั .....................................................................................................................................................ข หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 .........................................................................ค วิสัยทัศน์..................................................................................................................................................... ค หลกั การ...................................................................................................................................................... ค จดุ หมาย ..................................................................................................................................................... ค สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน..........................................................................................................................ง คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์.......................................................................................................................... จ มาตรฐานการเรยี นรู้.................................................................................................................................... จ ตัวชี้วัด........................................................................................................................................................ ฉ สาระการเรยี นรู้........................................................................................................................................... ช ทำไมต้องเรยี นสงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ................................................................................... ฌ เรยี นรู้อะไรในสังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม .................................................................................... ฌ สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้.................................................................................................................... ญ สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้.....................................................................................................................ฑ คำอธิบายรายวชิ า ...........................................................................................................................................พ สาระการเรียนร้แู กนกลางการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน ...............................................................................................ฟ ตารางวิเคราะห์ความสอดคล้องระหวา่ งเนื้อหา ...............................................................................................ภ ผงั มโนทัศน์ (Concept Mapping) ................................................................................................................ ม โครงสร้างรายวิชา ........................................................................................................................................... ย ผลการเรียนรทู้ ี่คาดหวงั และแผนการประเมินผล ............................................................................................. ล บนั ทึกการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ .............................................................................................................ว หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 1 ................................................................................................................................... 1 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 ................................................................................................................................. 41 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 ...............................................................................................................................161 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 ...............................................................................................................................265 ภาคผนวก ...................................................................................................................................................458



ค หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 วิสัยทศั น์ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน มุ่งพัฒนาผู้เรียนทุกคน ซึ่งเป็นกำลังของชาติให้เป็นมนุษย์ท่ีมี ความสมดุลท้ังด้านร่างกาย ความรู้ คุณธรรม มีจิตสำนึกในความเป็นพลเมืองไทยและเป็นพลโลก ยึดมั่นในการ ปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีความรู้และทักษะพื้นฐาน รวมท้ัง เจตคติ ท่ีจำเป็นต่อการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพและการศึกษาตลอดชีวิต โดยมุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญบน พ้นื ฐานความเช่ือว่า ทุกคนสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้เต็มตามศักยภาพ หลักการ หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน มหี ลักการท่สี ำคัญ ดงั นี้ 1. เป็นหลักสูตรการศึกษาเพื่อความเป็นเอกภาพของชาติ มีจุดหมายและมาตรฐานการเรียนรู้ เป็นเป้าหมายสำหรับพัฒนาเด็กและเยาวชนให้มีความรู้ ทักษะ เจตคติ และคุณธรรมบนพ้ืนฐาน ของความเปน็ ไทยควบคกู่ ับความเปน็ สากล 2. เป็นหลักสูตรการศึกษาเพ่ือปวงชน ที่ประชาชนทุกคนมีโอกาสได้รับการศึกษาอย่างเสมอภาค และมี คณุ ภาพ 3. เป็นหลักสูตรการศึกษาท่ีสนองการกระจายอำนาจ ให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา ใหส้ อดคล้องกับสภาพและความต้องการของท้องถน่ิ 4. เปน็ หลักสูตรการศกึ ษาท่ีมีโครงสรา้ งยดื หยุ่นทง้ั ด้านสาระการเรียนรู้ เวลาและการจดั การเรยี นรู้ 5. เปน็ หลกั สตู รการศึกษาท่เี นน้ ผ้เู รยี นเป็นสำคญั 6. เป็นหลักสูตรการศึกษาสำหรับการศึกษาในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัย ครอบคลุมทุก กลมุ่ เปา้ หมาย สามารถเทยี บโอนผลการเรียนรู้ และประสบการณ์ จุดหมาย หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนดี มีปัญญา มีความสุข มีศักยภาพในการศึกษาต่อ และประกอบอาชีพ จึงกำหนดเป็นจุดหมายเพื่อให้เกิดกับผู้เรียน เม่ือจบ การศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน ดังนี้ 1. มีคุณธรรม จริยธรรม และคา่ นิยมทพี่ งึ ประสงค์ เห็นคุณค่าของตนเอง มีวินัยและปฏิบัติตนตาม หลกั ธรรมของพระพทุ ธศาสนา หรอื ศาสนาที่ตนนับถอื ยึดหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 2. มีความรู้ ความสามารถในการส่ือสาร การคดิ การแกป้ ญั หา การใช้เทคโนโลยี และมที กั ษะชวี ติ 3. มีสขุ ภาพกายและสขุ ภาพจติ ทดี่ ี มสี ุขนิสัย และรักการออกกำลงั กาย

ง 4. มีความรักชาติ มีจิตสำนึกในความเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ยึดม่ันในวิถีชีวติ และการปกครอง ตามระบอบประชาธปิ ไตยอันมพี ระมหากษตั ริยท์ รงเปน็ ประมุข 5. มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปญั ญาไทย การอนุรักษ์และพัฒนาส่ิงแวดล้อม มีจิต สาธารณะทีม่ ุ่งทำประโยชนแ์ ละสรา้ งสงิ่ ทีด่ ีงามในสงั คม และอยูร่ ว่ มกนั ในสงั คมอยา่ งมคี วามสุข ในการพัฒนาผู้เรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน มุ่งเน้นพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพ ตามมาตรฐานท่ีกำหนด ซงึ่ จะชว่ ยให้ผู้เรียนเกิดสมรรถนะสำคญั และคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ดงั นี้ สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน หลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน มงุ่ ให้ผ้เู รยี นเกิดสมรรถนะสำคญั 5 ประการ ดังนี้ 1. ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวัฒนธรรมในการใช้ภาษา ถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเองเพื่อแลกเปล่ียนข้อมูลข่าวสารและ ประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม รวมท้ังการเจรจาต่อรองเพื่อขจัดและลด ปัญหาความขัดแยง้ ต่าง ๆ การเลอื กรับหรือไม่รับข้อมูลขา่ วสารดว้ ยหลักเหตุผลและความถกู ต้อง ตลอดจนการ เลือกใชว้ ิธีการสอื่ สาร ทีม่ ีประสทิ ธิภาพโดยคำนึงถงึ ผลกระทบท่ีมีตอ่ ตนเองและสงั คม 2. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิด อย่าง สร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคดิ เป็นระบบ เพ่ือนำไปสู่การสรา้ งองคค์ วามรู้หรือสารสนเทศ เพื่อการตดั สินใจเก่ยี วกบั ตนเองและสงั คมได้อย่างเหมาะสม 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ท่ีเผชิญได้อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพื้นฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจ ความสัมพันธ์และการเปลีย่ นแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยกุ ต์ความรู้มาใช้ในการ ป้องกันและแก้ไขปัญหา และมีการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพโดยคำนึงถึงผลกระทบที่เกิดข้ึน ต่อตนเอง สังคมและสงิ่ แวดลอ้ ม 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการนำกระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ใน การดำเนินชีวิตประจำวัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเน่ือง การทำงาน และการอยู่ร่วมกันใน สังคมด้วยการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหาและความขัดแย้งต่าง ๆ อย่าง เหมาะสม การปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการรู้จักหลีกเลี่ยง พฤติกรรมไม่พึงประสงคท์ ่ีส่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อ่ืน 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือก และใช้ เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ และ มีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพ่ือการพัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการเรียนรู้ การส่ือสาร การทำงาน การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ถกู ต้อง เหมาะสม และมคี ุณธรรม

จ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพ่ือให้ สามารถอยู่ร่วมกับผอู้ น่ื ในสงั คมไดอ้ ย่างมีความสุข ในฐานะเปน็ พลเมืองไทยและพลโลก ดังน้ี 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ 2. ซ่ือสัตยส์ ุจรติ 3. มีวินัย 4. ใฝ่เรียนรู้ 5. อยูอ่ ยา่ งพอเพียง 6. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน 7. รกั ความเปน็ ไทย 8. มีจิตสาธารณะ นอกจากนี้ สถานศึกษาสามารถกำหนดคุณลกั ษณะอันพึงประสงคเ์ พิ่มเติมให้สอดคล้องตามบรบิ ทและ จดุ เนน้ ของตนเอง มาตรฐานการเรียนรู้ การพัฒนาผู้เรียนให้เกิดความสมดุล ต้องคำนึงถึงหลักพัฒนาการทางสมองและพหุปัญญา หลักสูตร แกนกลางการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน จึงกำหนดใหผ้ เู้ รียนเรยี นรู้ 8 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ดงั นี้ 1. ภาษาไทย 2. คณติ ศาสตร์ 3. วิทยาศาสตร์ 4. สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม 5. สุขศกึ ษาและพลศึกษา 6. ศิลปะ 7. การงานอาชีพและเทคโนโลยี 8. ภาษาต่างประเทศ ใน แต่ล ะกลุ่มส าระการเรียน รู้ ได้กำห นด มาตรฐาน กา รเรียน รู้เป็ น เป้ าห มายสำคัญ ของการพั ฒ น า คุณภาพผู้เรียน มาตรฐานการเรียนรู้ระบุส่ิงที่ผู้เรียนพึงรู้ พึงปฏิบัติได้ มีคุณธรรมจริยธรรม และค่านิยมท่ีพึง ประสงค์เม่ือจบการศึกษาข้ันพื้นฐาน นอกจากนั้นมาตรฐานการเรียนรู้ยังเป็นกลไกสำคัญ ในการขับเคลื่อน พัฒนาการศึกษาทั้งระบบ เพราะมาตรฐานการเรยี นรู้จะสะท้อนให้ทราบวา่ ต้องการอะไร จะสอนอย่างไร และ ประเมินอย่างไร รวมทั้งเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบเพ่ือการประกันคุณภาพการศึกษาโดยใช้ระบบการ ประเมินคุณภาพภายในและการประเมินคุณภาพภายนอก ซง่ึ รวมถงึ การทดสอบระดับเขตพนื้ ที่การศึกษา และ

ฉ การทดสอบระดับชาติ ระบบการตรวจสอบเพ่ือประกันคุณภาพดังกลา่ วเป็นสิง่ สำคญั ท่ีชว่ ยสะท้อนภาพการจัด การศึกษาว่าสามารถพฒั นาผูเ้ รยี นให้มีคณุ ภาพตามที่มาตรฐานการเรยี นร้กู ำหนดเพียงใด ตวั ชี้วดั ตัวชี้วัดระบุส่งิ ที่นักเรียนพึงรู้และปฏิบัติได้ รวมทั้งคุณลักษณะของผู้เรียนในแต่ละระดบั ชัน้ ซ่ึงสะท้อนถึง มาตรฐานการเรียนรู้ มีความเฉพาะเจาะจงและมีความเป็นรูปธรรม นำไปใช้ในการกำหนดเน้ือหาจัดทำหน่วยการ เรียนรู้ จัดการเรยี นการสอน และเป็นเกณฑ์สำคัญสำหรับการวัดประเมนิ ผลเพื่อตรวจสอบคุณภาพผู้เรียน 1. ตัวช้ีวัดช้ันปี เป็นเป้าหมายในการพัฒนาผู้เรียนแต่ละชั้นปีในระดับการศึกษาภาคบังคับ (ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 – มัธยมศึกษาปีท่ี 3) 2. ตัวช้ีวัดช่วงช้ัน เป็นเป้าหมายในการพัฒนาผู้เรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย(มัธยมศึกษาปีที่ 4- 6) หลักสูตรได้มีการกำหนดรหัสกำกับมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด เพ่ือความเข้าใจและให้สื่อสาร ตรงกนั ดังน้ี ว 1.1 ป. 1/2 ตวั ชี้วัดช้ันประถมศึกษาปที ่ี 1 ข้อท่ี 2 ป.1/2 สาระที่ 1 มาตรฐานขอ้ ที่ 1 1.1 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ว ต 2.2 ม.4-6/ 3 ตัวชวี้ ดั ชนั้ มัธยมศกึ ษาตอนปลาย ข้อที่ 3 ม.4-6/3 สาระที่ 2 มาตรฐานข้อท่ี 2 2.3 ต กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ

ช สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ ประกอบด้วย องค์ความรู้ ทักษะหรือกระบวนการเรียนรู้ และคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ ซึ่งกำหนดใหผ้ ู้เรียนทุกคนในระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐานจำเป็นต้องเรียนรู้ โดยแบ่งเป็น 8 กลุ่ม สาระการเรียนรู้ ดงั น้ี ภาษาไทย : ความรู้ ทกั ษะ คณิตศาสตร์ : การนาความรู้ วิทยาศาสตร์ : การนาความรู้ และวฒั นธรรมการใชภ้ าษา ทกั ษะและกระบวนการทาง และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เพ่อื การส่ือสาร ความช่นื ชม คณิตศาสตรไ์ ปใชใ้ น ไปใชใ้ นการศกึ ษา คน้ ควา้ หาความรู้ การเหน็ คณุ คา่ ภมู ิปัญญาไทย และ การแกป้ ัญหา การดาเนินชีวติ และแกป้ ัญหาอยา่ งเป็นระบบ การคดิ ภมู ิใจในภาษาประจาชาติ และศกึ ษาต่อ การมีเหตมุ ผี ล อย่างเป็นเหตเุ ป็นผล คดิ วเิ คราะห์ มีเจตคติทด่ี ตี ่อคณิตศาสตร์ คดิ สรา้ งสรรค์ และจิตวิทยาศาสตร์ ภาษาตา่ งประเทศ : ความรู้ พฒั นาการคิดอยา่ งเป็นระบบ ทกั ษะ เจตคติ และวฒั นธรรม และสรา้ งสรรค์ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม : การใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการ การอย่รู ว่ มกนั ในสงั คมไทยและสงั คมโลก สื่อสาร การแสวงหาความรู้ องคค์ วามรู้ ทักษะสาคญั อยา่ งสนั ติสขุ การเป็นพลเมอื งดี และการประกอบอาชพี และคุณลกั ษณะ ศรทั ธาในหลกั ธรรมของศาสนา การเห็นคณุ ค่าของทรพั ยากรและ ในหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษา ส่ิงแวดลอ้ ม ความรกั ชาติ และภมู ใิ จใน ข้นั พนื้ ฐาน ความเป็นไทย การงานอาชีพและเทคโนโลยี : ศลิ ปะ : ความรูแ้ ละทกั ษะใน สุขศกึ ษาและพลศึกษา : ความรู้ ความรู้ ทกั ษะ และเจตคติ การคิดรเิ ร่มิ จนิ ตนาการ ทกั ษะและเจตคติในการสรา้ งเสรมิ ในการทางาน การจดั การ สรา้ งสรรคง์ านศลิ ปะ สขุ ภาพพลานามยั ของตนเองและ การดารงชวี ิต การประกอบอาชพี สนุ ทรยี ภาพและการเหน็ ผอู้ ื่น การปอ้ งกนั และปฏิบตั ิต่อ และการใชเ้ ทคโนโลยี คณุ คา่ ทางศิลปะ สิง่ ตา่ ง ๆ ท่มี ผี ลต่อสขุ ภาพอยา่ ง ถกู วิธีและทกั ษะในการดาเนนิ ชวี ติ

ซ คุณภำพของผ้เู รียนระดบั กำรศึกษำข้นั พืน้ ฐำน วิสัยทัศน์ หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน มุ่งพฒั นาผเู้ รียนทุกคน ซ่ึงเป็นกาลงั ของชาติให้เป็นมนุษยท์ ่ีมคี วาม สมดุลท้งั ดา้ นร่างกาย ความรู้ คณุ ธรรม มีจิตสานึกในความเป็นพลเมืองไทยและเป็นพลโลก ยึดมน่ั ในการปกครองตาม ระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริยท์ รงเป็นประมขุ มีความรู้และทกั ษะพ้ืนฐาน รวมท้งั เจตคติ ที่จาเป็นต่อ การศึกษาตอ่ การประกอบอาชีพและการศึกษาตลอดชีวิต โดยมุ่งเนน้ ผเู้ รียนเป็นสาคญั บนพ้นื ฐานความเชื่อวา่ ทุกคน สามารถเรียนรู้และพฒั นาตนเองไดเ้ ต็มตามศกั ยภาพ จดุ หมำย 1. มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์ เห็นคุณคา่ ของตนเอง มีวนิ ยั และปฏิบตั ติ นตาม หลกั ธรรมของพระพุทธศาสนา หรือศาสนาท่ีตนนบั ถือ ยดึ หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 2. มีความรู้อนั เป็นสากลและมีความสามารถในการสื่อสาร การคิด การแกป้ ัญหา การใชเ้ ทคโนโลยีและมี ทกั ษะชีวิต 3. มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี มีสุขนิสยั และรักการออกกาลงั กาย 4. มีความรักชาติ มีจิตสานึกในความเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ยึดมน่ั ในวถิ ีชีวติ และการปกครองใน ระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริยท์ รงเป็นประมขุ 5. มีจิตสานึกในการอนุรักษว์ ฒั นธรรมและภมู ิปัญญาไทย การอนุรักษแ์ ละพฒั นาสิ่งแวดลอ้ ม มี จิตสาธารณะท่ีมงุ่ ทาประโยชน์และสร้างสิ่งที่ดีงามในสงั คม และอยรู่ ่วมกนั ในสังคมอยา่ งมีความสุข สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ๑. ความสามารถในการสื่อสาร 1. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ๒. ความสามารถในการคดิ 2. ซ่ือสัตยส์ ุจริต ๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 3. มวี ินยั ๔. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต 4. ใฝ่ เรียนรู้ ๕. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5. อยอู่ ยา่ งพอเพียง 6. มุ่งมน่ั ในการทางาน 7. รักความเป็นไทย 8. มจี ิตสาธารณะ มำตรฐำนกำรเรียนรู้และตัวชีว้ ัด 8 กล่มุ สำระกำรเรียนรู้ กิจกรรมพฒั นำผู้เรียน 1. ภาษาไทย 2. คณิตศาสตร์ 3. วทิ ยาศาสตร์ 1.กิจกรรมแนะแนว 2.กิจกรรมนกั เรียน 4. สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม 5. สุขศึกษาและพลศึกษา 6. ศิลปะ 3. กิจกรรมเพือ่ สงั คมและ 7. การงานอาชีพและเทคโนโลยี 8. ภาษาตา่ งประเทศ สาธารณประโยชน์

ฌ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ทำไมต้องเรยี นสังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ช่วยให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ การดำรงชีวิตของมนุษย์ท้ังในฐานะปัจเจกบุคคลและการอยู่ร่วมกันในสังคม การปรับตัวตามสภาพแวดล้อม การ จัดการทรัพ ยากรท่ีมีอยู่อย่างจ ำกัด เข้าใจถึงการพั ฒ นา เปล่ียน แปลงตามยุคสมัย กาลเวลา ตามเหตุปัจจัยตา่ งๆ เกิดความเข้าใจในตนเอง และผ้อู ื่น มีความอดทน อดกลั้น ยอมรับในความแตกตา่ ง และ มคี ุณธรรม สามารถนำความรไู้ ปปรับใช้ในการดำเนนิ ชวี ติ เปน็ พลเมอื งดีของประเทศชาติ และสังคมโลก เรยี นรู้อะไรในสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรมวา่ ด้วยการอยู่รว่ มกันในสังคม ท่ีมีความเช่ือม สัมพันธ์กัน และมีความแตกต่างกันอย่างหลากหลาย เพื่อช่วยให้สามารถปรับตนเองกับบริบทสภาพแวดล้อม เป็นพลเมืองดี มีความรับผิดชอบ มีความรู้ ทักษะ คุณธรรม และค่านิยมที่เหมาะสม โดยได้กำหนดสาระ ตา่ งๆ ไว้ ดงั น้ี • ศาสนา ศีลธรรมและจริยธรรม แนวคิดพ้ืนฐานเกี่ยวกับศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม หลักธรรมของ พระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือ การนำหลักธรรมคำสอนไปปฏิบัติในการพัฒนาตนเอง และการอยู่ รว่ มกันอย่างสันติสุข เป็นผู้กระทำความดี มีค่านิยมที่ดีงาม พัฒนาตนเองอยู่เสมอ รวมท้ังบำเพ็ญประโยชน์ต่อ สังคมและส่วนรวม • หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิต ระบบการเมืองการปกครองในสังคมปัจจุบันการ ปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ลักษณะและความสำคัญ การ เป็นพลเมืองดี ความแตกต่างและความหลากหลายทางวัฒนธรรม ค่านิยม ความเชื่อ ปลูกฝังค่านิยมด้าน ประชาธิปไตยอนั มพี ระมหากษตั ริย์ทรงเปน็ ประมขุ สิทธิ หนา้ ท่ี เสรีภาพการดำเนินชีวิตอย่าง สันติ สขุ ในสงั คมไทยและสังคมโลก • เศรษฐศาสตร์ การผลติ การแจกจ่าย และการบริโภคสนิ ค้าและบริการ การบรหิ ารจัดการทรพั ยากร ท่มี ีอยู่อย่างจำกัดอย่างมีประสิทธิภาพ การดำรงชีวิตอยา่ งมีดุลยภาพ และการนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ ในชวี ติ ประจำวัน • ประวัติศาสตร์ เวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ วิธีการทางประวัติศาสตร์ พัฒนาการของ มนุษยชาติจากอดีตถึงปัจจุบัน ความสัมพันธ์และเปล่ียนแปลงของเหตุการณ์ต่างๆ ผลกระทบท่ีเกิดจาก เหตุการณ์สำคัญในอดีต บุคคลสำคัญท่ีมีอิทธิพลต่อการเปล่ียนแปลงต่างๆ ในอดีต ความเป็นมาของ ชาติไทย วัฒนธรรมและภมู ิปญั ญาไทย แหล่งอารยธรรมทสี่ ำคญั ของโลก

ญ • ภูมิศาสตร์ ลักษณะของโลกทางกายภาพ ลักษณะทางกายภาพ แหล่งทรัพยากร และภูมิอากาศ ของประเทศไทย และภูมิภาคต่างๆ ของโลก การใช้แผนท่ีและเครอ่ื งมือทางภูมิศาสตร์ ความสัมพันธ์กนั ของสิ่ง ตา่ งๆ ในระบบธรรมชาติ ความสัมพันธ์ของมนุษย์กับสภาพแวดลอ้ มทางธรรมชาติ และส่ิงทมี่ นษุ ยส์ ร้างข้ึน การ นำเสนอข้อมูลภูมสิ ารสนเทศ การอนุรกั ษส์ งิ่ แวดลอ้ มเพอื่ การพฒั นาที่ยง่ั ยืน สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ 1 ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม มาตรฐาน ส 1.1 รู้ และเขา้ ใจประวัติ ความสำคัญ ศาสดา หลกั ธรรมของพระพุทธศาสนาหรือศาสนา ที่ตนนับถือและศาสนาอ่ืน มีศรัทธาท่ีถูกต้อง ยึดมั่น และปฏิบัติตามหลักธรรม เพ่ือ อยู่ร่วมกนั อย่างสนั ติสุข มาตรฐาน ส 1.2 เข้าใจ ตระหนักและปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนท่ีดี และธำรงรักษาพระพุทธศาสนา หรือศาสนาที่ตนนบั ถือ สาระที่ 2 หนา้ ทีพ่ ลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนนิ ชวี ิตในสงั คม มาตรฐาน ส 2.1 เขา้ ใจและปฏบิ ัติตนตามหนา้ ท่ีของการเปน็ พลเมืองดี มคี า่ นิยมทดี่ งี าม และ ธำรงรักษาประเพณีและวัฒนธรรมไทย ดำรงชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมไทย และ สงั คมโลกอยา่ งสนั ตสิ ุข มาตรฐาน ส 2.2 เข้าใจระบบการเมืองการปกครองในสังคมปัจจุบัน ยึดม่ัน ศรัทธา และธำรงรักษา ไวซ้ ่งึ การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมพี ระมหากษตั ริย์ทรงเปน็ ประมขุ สาระที่ 3 เศรษฐศาสตร์ มาตรฐาน ส 3.1 เข้าใจและสามารถบริหารจดั การทรัพยากรในการผลติ และการบริโภค การใช้ ทรพั ยากรทม่ี ีอยจู่ ำกัดไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพและคุ้มคา่ รวมท้งั เข้าใจหลกั การ ของเศรษฐกิจพอเพยี ง เพอื่ การดำรงชวี ิตอยา่ งมดี ลุ ยภาพ มาตรฐาน ส 3.2 เข้าใจระบบ และสถาบันทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ และความ จำเปน็ ของการรว่ มมอื กนั ทางเศรษฐกิจในสงั คมโลก

ฎ สาระที่ 4 ประวัติศาสตร์ มาตรฐาน ส 4.1 เข้าใจความหมาย ความสำคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ สามารถใช้ วิธกี ารทางประวตั ศิ าสตรม์ าวเิ คราะห์เหตุการณต์ ่างๆ อยา่ งเป็นระบบ มาตรฐาน ส 4.2 เข้าใจพัฒนาการของมนุษยชาติจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ในด้านความสัมพันธ์และการ เปล่ียนแปลงของเหตุการณ์อย่างต่อเน่ือง ตระหนักถึงความสำคัญและสามารถ วเิ คราะห์ผลกระทบที่เกดิ ข้ึน มาตรฐาน ส 4.3 เข้าใจความเป็นมาของชาติไทย วัฒ นธรรม ภูมิปัญ ญ าไทย มีความรัก ความภูมิใจและธำรงความเป็นไทย สาระที่ 5 ภูมศิ าสตร์ มาตรฐาน ส 5.1 เขา้ ใจลักษณะของโลกทางกายภาพ และความสมั พนั ธ์ของสรรพสิ่งซ่ึงมผี ล ต่อกันและ กันในระบบของธรรมชาติ ใช้แผนที่และเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ ในการค้นหา วเิ คราะห์ สรปุ และใชข้ ้อมูลภมู ิสารสนเทศอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ มาตรฐาน ส 5.2 เข้าใจปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสภาพแวดล้อมทางกายภาพท่ีก่อให้เกิด การสร้างสรรค์วัฒนธรรม มีจิตสำนึก และมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรและ สง่ิ แวดลอ้ ม เพ่ือการพัฒนาท่ีย่ังยืน คุณภาพผู้เรียน จบช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 3 • มีความรู้เรื่องเก่ียวกับตนเองและผู้ท่ีอยู่รอบข้าง ตลอดจนสภาพแวดล้อมในท้องถ่ิน ที่อยู่อาศัย และ เช่ืองโยงประสบการณ์ไปสโู่ ลกกว้าง • มีทักษะกระบวนการ และมีข้อมูลที่จำเป็นต่อการพัฒนาให้เป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรม ประพฤติ ป ฏิ บั ติ ต าม ห ลั ก ค ำส อ น ข อ งศ าส น าท่ี ต น นั บ ถื อ มี ค ว าม เป็ น พ ล เมื อ งดี มี ค ว าม รับ ผิ ด ช อ บ การอยู่ร่วม กันและการท ำงานกับผู้อ่ื น มีส่วน ร่วมในกิจกรรมของห้ องเรียน และได้ฝึ กหัดใน การตดั สินใจ • มีความรู้เรื่องราวเก่ียวกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน และชุมชนในลักษณะการบูรณาการ ผู้เรียนได้ เข้ าใจ แ น ว คิ ด เกี่ ย ว กั บ ปั จ จุ บั น แ ล ะอ ดี ต มี ค ว าม รู้พ้ื น ฐ าน ท างเศ รษ ฐ กิ จ ได้ ข้ อ คิ ด เกี่ ย ว กั บ รายรับ-รายจ่ายของครอบครัว เข้าใจถึงการเป็นผู้ผลิต ผู้บริโภค รู้จักการออมข้ันต้นและวิธีการเศรษฐกิจ พอเพียง • รู้และเข้าใจในแนวคิดพ้ืนฐานเก่ียวกับศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม หน้าที่พลเมือง เศรษฐศาสตร์ ประวตั ศิ าสตร์ และภูมศิ าสตร์ เพ่อื เปน็ พ้นื ฐานในการทำความเข้าใจในขนั้ ทส่ี งู ต่อไป

ฏ จบชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 6 • มีความรู้เรื่องของจังหวัด ภาค และประทศของตนเอง ทั้งเชิงประวัติศาสตร์ ลักษณะทางกายภาพ สังคมประเพณี และวัฒนธรรม รวมทั้งการเมือง การปกครอง และสภาพเศรษฐกิจโดยเน้นความเป็น ประเทศไทย • มีความรู้และความเข้าใจในเร่ืองศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม ปฏิบัติตนตามหลักธรรมคำสอนของ ศาสนาท่ตี นนับถือ รวมทั้งมีสว่ นรว่ มศาสนพิธี และพิธีกรรมทางศาสนามากยิง่ ขน้ึ • ปฏิบัติตนตามสถานภาพ บทบาท สิทธหิ น้าที่ในฐานะพลเมอื งดีของท้องถ่ิน จงั หวัด ภาค และประเทศ รวมทงั้ ไดม้ สี ว่ นร่วมในกิจกรรมตามขนบธรรมเนยี มประเพณี และวัฒนธรรมของท้องถ่นิ ตนเอง มากยงิ่ ขึน้ • สามารถเปรียบเทียบเร่ืองราวของจังหวัดและภาคต่างๆ ของประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ได้รับ การพัฒนาแนวคิดทางสังคมศาสตร์ เกี่ยวกับศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม หน้าที่พลเมือง เศรษฐศาสตร์ ประวัติศาสตร์ และภูมิศาสตร์ เพ่ือขยายประสบการณ์ไปสู่การทำความเข้าใจในภูมิภาคซีกโลกตะวันออกและ ตะวันตกเกี่ยวกับศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม ความเช่ือ ขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม การ ดำเนินชวี ติ การจัดระเบยี บทางสังคม และการเปล่ียนแปลงทางสังคมจากอดีตสปู่ จั จุบนั จบช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 • มีความรู้เก่ียวกับความเป็นไปของโลก โดยการศึกษาประเทศไทยเปรียบเทียบกับประเทศ ในภมู ิภาคตา่ งๆ ในโลก เพอ่ื พัฒนาแนวคิด เรอื่ งการอยรู่ ว่ มกนั อย่างสนั ติสขุ • มีทักษะทจี่ ำเปน็ ต่อการเป็นนักคิดอย่างมีวิจารณญาณได้รับการพฒั นาแนวคดิ และขยายประสบการณ์ เป รี ย บ เที ย บ ร ะ ห ว่ า ง ป ร ะ เท ศ ไท ย กั บ ป ร ะ เท ศ ใน ภู มิ ภ า ค ต่ า ง ๆ ใน โล ก ได้ แ ก่ เอ เชี ย ออสเตรเลีย โอเชียเนีย แอฟริกา ยุโรป อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ ในด้านศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม ความเชื่อ ขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม การเมืองการปกครอง ประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ ด้วย วธิ ีการทางประวัตศิ าสตร์ และสังคมศาสตร์ • รู้และเข้าใจแนวคิดและวิเคราะห์เหตุการณ์ในอนาคต สามารถนำมาใช้เป็นประโยชน์ในการดำเนิน ชีวติ และวางแผนการดำเนนิ งานไดอ้ ยา่ งเหมาะสม จบชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 6 • มีความรเู้ ก่ยี วกบั ความเป็นไปของโลกอย่างกว้างขวางและลึกซึ้งยิ่งข้นึ • เป็นพลเมืองที่ดี มีคุณธรรม จริยธรรม ปฏิบัติตามหลักธรรมของศาสนาที่ตนนับถือ รวมท้ัง มีค่านิยมอันพึงประสงค์ สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นและอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข รวมท้ังมีศักยภาพเพื่อ การศึกษาต่อในชนั้ สงู ตามความประสงคไ์ ด้

ฐ • มีความรู้เร่ืองภูมิปัญญาไทย ความภูมิใจในความเป็นไทย ประวัติศาสตร์ของชาติไทยยึดม่ันในวิถีชีวิต และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมขุ • มนี ิสัยท่ีดีในการบริโภค เลือกและตัดสินใจบรโิ ภคไดอ้ ยา่ งเหมาะสม มีจติ สำนึก และมีส่วนร่วมในการ อนรุ ักษป์ ระเพณีวัฒนธรรมไทย และส่งิ แวดล้อม มคี วามรักท้องถิ่นและประเทศชาติ มุ่งทำประโยชน์ และสรา้ ง สิง่ ทดี่ ีงามให้กับสังคม • มคี วามรู้ความสามารถในการจัดการเรียนรู้ของตนเอง ชี้นำตนเองได้ และสามารถแสวงหาความรูจ้ าก แหล่งการเรยี นรตู้ ่างๆ ในสังคมได้ตลอดชวี ิต

ฑ สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ 5 ภูมศิ าสตร์ มาตรฐาน ส 5.1 เข้าใจลักษณะของโลกทางกายภาพ และความสัมพันธ์ของสรรพส่ิงซึ่งมีผลต่อกนั และ กัน ในระบบของธรรมชาติ ใช้แผนท่แี ละเคร่ืองมือทางภมู ิศาสตรใ์ นการคน้ หา วเิ คราะห์ สรุป และใชข้ ้อมลู ภมู ิสารสนเทศอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ ชั้น ตวั ชี้วดั สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ป.1 1. แยกแยะส่ิงต่างๆ รอบตวั ที่เกดิ ขึ้นเอง  ส่งิ ตา่ ง ๆ รอบตวั ทีเ่ กดิ ข้ึนเองตาม ตามธรรมชาติและท่ีมนุษย์สร้างข้ึน ธรรมชาตแิ ละที่มนุษย์สร้างขึ้น 2. ระบคุ วามสัมพันธ์ของตำแหน่ง  ความสัมพนั ธข์ องตำแหน่ง ระยะ ระยะ ทิศของส่ิงตา่ งๆ รอบตัว ทิศของสิ่งต่างๆ รอบตัว เชน่ ทอี่ ยู่อาศยั บา้ น เพื่อนบ้าน ตน้ ไม้ ถนน ทุ่งนา ไร่ สวน ที่ราบ ภูเขา แหล่งน้ำ 3. ระบทุ ศิ หลกั และท่ีตั้งของส่ิงต่างๆ  ทิศหลกั (เหนือ ตะวนั ออก ใต้ ตะวันตก) และ ทตี่ ้ังของส่ิงต่าง ๆ รอบตัว 4. ใชแ้ ผนผังง่าย ๆ ในการแสดง  แผนผังแสดงตำแหนง่ สิง่ ตา่ งๆใน ตำแหน่งของสิง่ ต่างๆในห้องเรียน หอ้ งเรยี น 5. สงั เกตและบอกการเปล่ยี นแปลงของ  การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศในรอบ สภาพอากาศในรอบวนั วัน เชน่ กลางวนั กลางคืน ความร้อนของ อากาศ ฝน - เมฆ - ลม ป.2 1. ระบสุ ่งิ ต่างๆ ทีเ่ ป็นธรรมชาติกับท่ี  สง่ิ ตา่ งๆ ที่เป็นธรรมชาตกิ ับท่มี นุษย์สร้าง มนษุ ย์สร้างขนึ้ ซึ่งปรากฏระหวา่ ง ขึ้น ซ่งึ ปรากฏระหวา่ งโรงเรียนกับบา้ น โรงเรียนกับบ้าน 2. ระบตุ ำแหนง่ อย่างงา่ ยและลักษณะทาง  ตำแหนง่ อย่างง่ายและลักษณะทางกายภาพของ กายภาพของสงิ่ ต่างๆทป่ี รากฏในลกู โลก แผน สิ่งต่างๆทปี่ รากฏในลูกโลก แผนท่ี แผนผงั ที่ แผนผัง และภาพถ่าย และภาพถ่ายเช่น ภเู ขา ที่ราบ แม่น้ำ ต้นไม้ อากาศ ทะเล

ฒ ชน้ั ตัวชวี้ ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง 3. อธิบายความสมั พันธ์ของ  ความสมั พันธข์ องปรากฏการณร์ ะหวา่ ง ปรากฏการณร์ ะหวา่ งโลก ดวงอาทติ ย์ โลก ดวงอาทติ ย์และดวงจนั ทร์เช่น และดวงจันทร์ ข้างขึ้น ข้างแรม ฤดูกาลต่างๆ ป.3 1. ใชแ้ ผนท่ี แผนผัง และภาพถา่ ยใน  แผนท่ี แผนผงั และภาพถา่ ย การหาข้อมลู ทางภูมิศาสตร์ในชุมชนได้  ความสมั พนั ธ์ของตำแหน่ง ระยะ ทิศทาง อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ 2. เขียนแผนผังง่ายๆ เพื่อแสดง  ตำแหนง่ ทต่ี ัง้ สมั พนั ธข์ องสถานทสี่ ำคัญใน ตำแหน่งท่ีต้งั ของสถานที่สำคัญใน บรเิ วณโรงเรยี นและชมุ ชน เช่นสถานที่ บรเิ วณโรงเรยี นและชุมชน ราชการ อำเภอ ตลาด โรงพยาบาล ไปรษณีย์ ฯลฯ 3 .บอกความสัมพันธ์ของลกั ษณะ  ภมู ปิ ระเทศ และภมู ิอากาศทีม่ ผี ลต่อ กายภาพกับลกั ษณะทางสังคมของ สภาพสงั คมในชุมชน ชุมชน ป.4 1. ใช้แผนท่ี ภาพถา่ ย ระบลุ ักษณะ  แผนที่/ภาพถ่าย ลักษณะทางกายภาพ สำคัญทางกายภาพของจังหวดั ตนเอง ของจังหวดั ตนเอง 2. ระบุแหล่งทรพั ยากรและส่ิงต่าง ๆ  ตำแหน่ง ระยะทางและทศิ ของ ในจังหวัดของตนเองด้วยแผนท่ี ทรพั ยากรและส่งิ ตา่ งๆ ในจังหวัดของ ตนเอง 3. ใช้แผนท่อี ธบิ ายความสมั พันธข์ องสิ่ง  แผนท่แี สดงความสัมพนั ธ์ของสิ่งต่างๆ ท่ี ต่างๆ ที่มีอยใู่ นจังหวดั มีอยู่ในจงั หวดั  ลกั ษณะทางกายภาพ (ภูมิลักษณห์ รือ ภูมปิ ระเทศและภูมิอากาศ) ที่มีผลต่อ สภาพสงั คมของจงั หวัด ป.5 1. รตู้ ำแหนง่ (พิกัดภูมิศาสตร์ ละติจดู  ตำแหนง่ (พิกดั ภูมิศาสตร์ ละตจิ ูด ลองจิจูด) ระยะ ทศิ ทางของภมู ิภาค ลองจิจดู ) ระยะ ทิศทาง ของภูมิภาค ของตนเอง ของตนเอง 2. ระบุลกั ษณะภูมลิ ักษณ์ทสี่ ำคัญใน  ภูมลิ กั ษณท์ ่สี ำคญั ในภูมิภาคของตนเอง ภูมภิ าคของตนเองในแผนท่ี เชน่ แมน่ ้ำ ภูเขา ป่าไม้

ณ ช้ัน ตวั ชีว้ ดั สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง 3. อธิบายความสมั พนั ธ์ของลักษณะทาง  ความสัมพนั ธข์ องลกั ษณะทางกายภาพ กายภาพกับลักษณะทางสงั คมในภูมิภาค (ภูมลิ กั ษณ์และภูมิอากาศ) และลกั ษณะ ของตนเอง ทางสงั คม (ภูมิสงั คม)ในภมู ภิ าคของ ตนเอง ป.6 1. ใช้เครือ่ งมือทางภูมิศาสตร์ (แผนที่  เครื่องมือทางภูมิศาสตร์ (แผนที่ ภาพถ่าย ภาพถ่ายชนิดต่าง ๆ) ระบุลกั ษณะสำคญั ชนิดต่าง ๆ ) ทแี่ สดงลักษณะทางกายภาพ ทางกายภาพและสงั คมของประเทศ ของประเทศ 2. อธิบายความสมั พนั ธร์ ะหว่าง  ความสัมพนั ธ์ระหว่างลักษณะทาง ลกั ษณะทางกายภาพกับปรากฏการณ์ กายภาพกับปรากฏการณท์ างธรรมชาติ ทางธรรมชาตขิ องประเทศ ของประเทศ เช่น อุทกภัย แผน่ ดินไหว วาตภยั  ภูมลิ ักษณท์ ่มี ีตอ่ ภมู สิ ังคมของประเทศไทย ม.1 1. เลอื กใชเ้ ครื่องมือทางภูมิศาสตร์  เครอ่ื งมือทางภูมิศาสตร์ (ลกู โลก แผนท่ี (ลกู โลก แผนท่ี กราฟ แผนภมู ิ) ในการ กราฟ แผนภูมิ ฯลฯ) ท่ีแสดงลักษณะ สืบค้นข้อมลู เพ่ือวิเคราะห์ลักษณะทาง ทางกายภาพ และสังคมของประเทศไทย กายภาพและสงั คมของประเทศไทยและ และทวีปเอเชยี ออสเตรเลยี และ ทวปี เอเชีย ออสเตรเลียและ โอเชยี เนยี โอเชยี เนยี 2. อธิบายเส้นแบ่งเวลา และ  เส้นแบ่งเวลาของประเทศไทยกับทวปี ต่าง เปรียบเทียบวนั เวลาของประเทศไทย ๆ กบั ทวปี ตา่ ง ๆ  ความแตกตา่ งของเวลา มาตรฐานกับ เวลาท้องถิน่ 3. วิเคราะห์เชือ่ มโยงสาเหตุและ  ภยั ธรรมชาติและการระวงั ภยั ทเ่ี กดิ ข้ึนใน แนวทางป้องกนั ภยั ธรรมชาติและการ ประเทศไทยและทวีปเอเชยี ออสเตรเลีย ระวังภัยที่เกดิ ขน้ึ ในประเทศไทยและ โอเชียเนีย ทวปี เอเชีย ออสเตรเลีย และโอเชียเนีย ม.2 1. ใชเ้ ครอื่ งมือทางภมู ิศาสตรใ์ นการ  เครอื่ งมอื ทางภูมิศาสตร์ท่แี สดงลกั ษณะ รวบรวม วเิ คราะห์ และนำเสนอข้อมลู ทางกายภาพและสังคมของทวีปยุโรป เกย่ี วกบั ลกั ษณะทางกายภาพและสังคม และแอฟริกา ของทวปี ยุโรป และแอฟริกา

ด 2. วเิ คราะห์ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ ง  ลกั ษณะทางกายภาพและสงั คมของทวปี ลักษณะทางกายภาพและสงั คมของทวปี ยโุ รปและแอฟริกา ยโุ รปและแอฟริกา ม.3 1. ใชเ้ ครือ่ งมือทางภูมิศาสตร์ในการ  เครอ่ื งมอื ทางภูมิศาสตร์ทแี่ สดง รวบรวม วเิ คราะห์ และนำเสนอข้อมลู ลักษณะทางกายภาพและสงั คมของทวีป เกี่ยวกบั ลกั ษณะทางกายภาพและสงั คม อเมรกิ าเหนือ และอเมริกาใต้ ของทวีปอเมริกาเหนอื และอเมริกาใต้ 2.วเิ คราะหค์ วามสัมพันธ์ระหว่าง  ลกั ษณะทางกายภาพและสังคมของทวปี ลักษณะทางกายภาพและสังคมของทวปี อเมรกิ าเหนอื และอเมริกาใต้ อเมริกาเหนือ และอเมรกิ าใต้ ม.4 – ม.6 1. ใชเ้ ครื่องมือทางภูมิศาสตร์ในการ  เคร่อื งมือทางภูมิศาสตร์ ให้ขอ้ มูลและ รวบรวม วเิ คราะห์ และนำเสนอข้อมูล ข่าวสารภมู ิลกั ษณ์ ภมู ิอากาศและภูมิ ภมู ิสารสนเทศอย่างมปี ระสิทธิภาพ สังคมของไทยและภูมิภาคตา่ งๆท่วั โลก 2. วิเคราะหอ์ ทิ ธิพลของสภาพ  ปัญหาทางกายภาพหรือภัยพบิ ัติทาง ภูมศิ าสตร์ ซึ่งทำใหเ้ กิดปัญหาทาง ธรรมชาติในประเทศไทยและภมู ิภาคตา่ ง กายภาพหรือภัยพิบัตทิ างธรรมชาติใน ๆ ของโลก ประเทศไทยและภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก  การเปลยี่ นแปลงลักษณะทางกายภาพ ในส่วนต่าง ๆ ของ โลก  การเกดิ ภูมสิ ังคมใหม่ของโลก 3. วิเคราะหก์ ารเปลย่ี นแปลงของพ้ืนท่ี  การเปลี่ยนแปลงของพน้ื ทซี่ ่งึ ไดร้ ับ ซึง่ ได้รับอิทธิพลจากปัจจัยทางภมู ศิ าสตร์ อิทธิพลจากปจั จัยทางภูมิศาสตร์ ในประเทศไทยและทวปี ต่างๆ ในประเทศไทยและทวปี ต่างๆ เช่น การ เคลอ่ื นตวั ของแผ่นเปลือกโลก 4. ประเมนิ การเปลย่ี นแปลงธรรมชาติใน  การเปลี่ยนแปลงธรรมชาติในโลก เชน่ โลกวา่ เปน็ ผลมาจากการกระทำของ ภาวะโลกรอ้ น ความแหง้ แลง้ สภาพ มนษุ ย์และหรือธรรมชาติ อากาศแปรปรวน

ต มาตรฐาน ส 5.1 เข้าใจลักษณะของโลกทางกายภาพ และความสัมพันธ์ของสรรพส่งิ ซ่ึงมีผลต่อกันและ กัน ในระบบของธรรมชาติ ใช้แผนทแี่ ละเครื่องมือทางภูมิศาสตรใ์ นการค้นหา วิเคราะห์ สรุป และใชข้ ้อมูลภมู สิ ารสนเทศอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ช้ัน ตวั ชวี้ ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ป.1 1. แยกแยะส่ิงต่างๆ รอบตัวท่ีเกดิ ข้ึนเอง  สง่ิ ต่าง ๆ รอบตัว ท่ีเกิดขึน้ เองตาม ตามธรรมชาตแิ ละที่มนุษยส์ ร้างขึน้ ธรรมชาติและท่มี นุษย์สร้างข้ึน 2. ระบคุ วามสมั พนั ธ์ของตำแหนง่  ความสมั พนั ธ์ของตำแหน่ง ระยะ ระยะ ทิศของสิ่งตา่ งๆ รอบตัว ทศิ ของสิ่งตา่ งๆ รอบตัว เชน่ ทีอ่ ย่อู าศยั บา้ น เพ่อื นบา้ น ตน้ ไม้ ถนน ทงุ่ นา ไร่ สวน ทร่ี าบ ภูเขา แหล่งน้ำ 3. ระบทุ ิศหลักและท่ตี ั้งของสิ่งต่างๆ  ทศิ หลัก (เหนอื ตะวนั ออก ใต้ ตะวนั ตก) และ ทีต่ ัง้ ของส่ิงต่าง ๆ รอบตวั 4. ใช้แผนผงั งา่ ย ๆ ในการแสดง  แผนผังแสดงตำแหน่งสิง่ ต่างๆใน ตำแหน่งของสงิ่ ตา่ งๆในห้องเรียน ห้องเรยี น 5. สังเกตและบอกการเปลยี่ นแปลงของ  การเปลย่ี นแปลงของสภาพอากาศในรอบ สภาพอากาศในรอบวัน วัน เช่น กลางวนั กลางคนื ความรอ้ นของ อากาศ ฝน - เมฆ - ลม ป.2 1. ระบสุ งิ่ ต่างๆ ท่ีเป็นธรรมชาติกบั ท่ี  สิ่งตา่ งๆ ทเ่ี ปน็ ธรรมชาตกิ บั ท่มี นุษยส์ ร้าง มนษุ ย์สรา้ งขนึ้ ซง่ึ ปรากฏระหวา่ ง ขนึ้ ซ่งึ ปรากฏระหว่างโรงเรียนกับบา้ น โรงเรียนกบั บ้าน 2. ระบุตำแหนง่ อยา่ งงา่ ยและลกั ษณะทาง  ตำแหนง่ อยา่ งง่ายและลกั ษณะทางกายภาพของ กายภาพของส่งิ ต่างๆทปี่ รากฏในลกู โลก แผน สิ่งต่างๆที่ปรากฏในลูกโลก แผนที่ แผนผงั ท่ี แผนผงั และภาพถ่าย และภาพถ่ายเช่น ภเู ขา ท่รี าบ แม่นำ้ ต้นไม้ อากาศ ทะเล 3. อธบิ ายความสมั พนั ธ์ของ  ความสัมพันธข์ องปรากฏการณร์ ะหว่าง ปรากฏการณร์ ะหวา่ งโลก ดวงอาทิตย์ โลก ดวงอาทติ ย์และดวงจนั ทร์เชน่ และดวงจันทร์ ข้างข้ึน ข้างแรม ฤดูกาลต่างๆ

ถ ชั้น ตัวชีว้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ป.3 1. ใช้แผนที่ แผนผัง และภาพถ่ายใน  แผนที่ แผนผัง และภาพถ่าย การหาข้อมูลทางภมู ิศาสตร์ในชมุ ชนได้  ความสัมพนั ธ์ของตำแหน่ง ระยะ ทิศทาง อย่างมีประสทิ ธภิ าพ 2. เขยี นแผนผังงา่ ยๆ เพ่ือแสดง  ตำแหนง่ ทีต่ ง้ั สมั พันธข์ องสถานทสี่ ำคัญใน ตำแหน่งท่ีต้งั ของสถานทสี่ ำคัญใน บริเวณโรงเรยี นและชุมชน เช่นสถานที่ บรเิ วณโรงเรยี นและชมุ ชน ราชการ อำเภอ ตลาด โรงพยาบาล ไปรษณยี ์ ฯลฯ 3 .บอกความสัมพนั ธข์ องลกั ษณะ  ภมู ปิ ระเทศ และภูมิอากาศที่มีผลต่อ กายภาพกับลกั ษณะทางสังคมของ สภาพสังคมในชมุ ชน ชมุ ชน ป.4 1. ใชแ้ ผนที่ ภาพถา่ ย ระบุลักษณะ  แผนที่/ภาพถา่ ย ลักษณะทางกายภาพ สำคญั ทางกายภาพของจังหวดั ตนเอง ของจังหวดั ตนเอง 2. ระบุแหล่งทรพั ยากรและสิง่ ต่าง ๆ  ตำแหน่ง ระยะทางและทิศของ ในจังหวดั ของตนเองด้วยแผนท่ี ทรัพยากรและส่งิ ตา่ งๆ ในจังหวดั ของ ตนเอง 3. ใชแ้ ผนท่ีอธิบายความสมั พันธข์ องสง่ิ  แผนทีแ่ สดงความสมั พันธข์ องสง่ิ ต่างๆ ที่ ตา่ งๆ ที่มีอยู่ในจงั หวดั มีอย่ใู นจงั หวัด  ลกั ษณะทางกายภาพ (ภูมิลกั ษณ์หรือ ภูมปิ ระเทศและภูมิอากาศ) ท่ีมผี ลต่อ สภาพสงั คมของจังหวดั ป.5 1. ร้ตู ำแหนง่ (พิกัดภมู ิศาสตร์ ละตจิ ดู  ตำแหน่ง (พกิ ดั ภูมิศาสตร์ ละติจูด ลองจจิ ูด) ระยะ ทิศทางของภมู ิภาค ลองจจิ ดู ) ระยะ ทศิ ทาง ของภูมภิ าค ของตนเอง ของตนเอง 2. ระบลุ ักษณะภูมิลักษณท์ ส่ี ำคัญใน  ภูมลิ ักษณ์ท่ีสำคัญในภมู ิภาคของตนเอง ภูมภิ าคของตนเองในแผนที่ เชน่ แมน่ ำ้ ภเู ขา ป่าไม้ 3. อธิบายความสมั พนั ธ์ของลักษณะทาง  ความสมั พนั ธ์ของลักษณะทางกายภาพ กายภาพกับลกั ษณะทางสงั คมในภมู ภิ าค (ภูมลิ กั ษณ์และภมู ิอากาศ) และลักษณะ ของตนเอง ทางสงั คม (ภมู ิสงั คม)ในภมู ภิ าคของ ตนเอง

ท ช้ัน ตวั ชีว้ ดั สาระการเรียนร้แู กนกลาง ป.6 1. ใช้เครอ่ื งมือทางภมู ิศาสตร์ (แผนที่  เครื่องมือทางภมู ิศาสตร์ (แผนท่ี ภาพถา่ ย ภาพถา่ ยชนิดต่าง ๆ) ระบุลักษณะสำคญั ชนิดต่าง ๆ ) ที่แสดงลักษณะทางกายภาพ ทางกายภาพและสังคมของประเทศ ของประเทศ 2. อธบิ ายความสัมพนั ธ์ระหว่าง  ความสมั พันธ์ระหว่างลักษณะทาง ลักษณะทางกายภาพกบั ปรากฏการณ์ กายภาพกับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ทางธรรมชาตขิ องประเทศ ของประเทศ เช่น อุทกภัย แผ่นดินไหว วาตภยั  ภมู ิลักษณท์ ม่ี ตี ่อภูมิสังคมของประเทศไทย ม.1 1. เลอื กใชเ้ คร่ืองมือทางภูมิศาสตร์  เคร่ืองมือทางภมู ิศาสตร์ (ลกู โลก แผนท่ี (ลูกโลก แผนท่ี กราฟ แผนภูมิ) ในการ กราฟ แผนภมู ิ ฯลฯ) ทแี่ สดงลกั ษณะ สืบค้นข้อมูล เพื่อวิเคราะหล์ ักษณะทาง ทางกายภาพ และสงั คมของประเทศไทย กายภาพและสังคมของประเทศไทยและ และทวีปเอเชยี ออสเตรเลีย และ ทวปี เอเชีย ออสเตรเลยี และ โอเชยี เนยี โอเชยี เนยี 2. อธิบายเสน้ แบ่งเวลา และ  เสน้ แบ่งเวลาของประเทศไทยกับทวีปต่าง เปรยี บเทยี บวัน เวลาของประเทศไทย ๆ กบั ทวปี ต่าง ๆ  ความแตกต่างของเวลา มาตรฐานกับ เวลาทอ้ งถน่ิ 3. วเิ คราะหเ์ ช่ือมโยงสาเหตุและ  ภยั ธรรมชาติและการระวังภัยทีเ่ กิดขึน้ ใน แนวทางปอ้ งกันภัยธรรมชาติและการ ประเทศไทยและทวีปเอเชยี ออสเตรเลีย ระวงั ภัยทีเ่ กดิ ขนึ้ ในประเทศไทยและ โอเชยี เนยี ทวีปเอเชยี ออสเตรเลีย และโอเชยี เนยี ม.2 1. ใชเ้ ครอ่ื งมือทางภูมิศาสตร์ในการ  เคร่อื งมอื ทางภูมศิ าสตร์ท่ีแสดงลักษณะ รวบรวม วเิ คราะห์ และนำเสนอข้อมูล ทางกายภาพและสงั คมของทวปี ยุโรป เก่ียวกบั ลักษณะทางกายภาพและสงั คม และแอฟริกา ของทวปี ยโุ รป และแอฟรกิ า 2. วเิ คราะหค์ วามสมั พันธร์ ะหว่าง  ลกั ษณะทางกายภาพและสังคมของทวปี ลกั ษณะทางกายภาพและสงั คมของทวีป ยุโรปและแอฟริกา ยุโรปและแอฟริกา

ธ ชนั้ ตัวชีว้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.3 1. ใชเ้ ครือ่ งมือทางภมู ิศาสตรใ์ นการ  เครือ่ งมือทางภูมิศาสตร์ท่แี สดง รวบรวม วเิ คราะห์ และนำเสนอข้อมูล ลักษณะทางกายภาพและสงั คมของทวปี เก่ียวกับลักษณะทางกายภาพและสังคม อเมริกาเหนือ และอเมรกิ าใต้ ของทวีปอเมริกาเหนือ และอเมรกิ าใต้ 2.วิเคราะห์ความสมั พันธร์ ะหว่าง  ลักษณะทางกายภาพและสังคมของทวปี ลกั ษณะทางกายภาพและสงั คมของทวปี อเมรกิ าเหนือ และอเมริกาใต้ อเมรกิ าเหนือ และอเมรกิ าใต้ ม.4 – ม.6 1. ใชเ้ ครือ่ งมือทางภูมิศาสตร์ในการ  เครื่องมือทางภมู ิศาสตร์ ให้ขอ้ มูลและ รวบรวม วเิ คราะห์ และนำเสนอข้อมลู ข่าวสารภมู ิลกั ษณ์ ภมู ิอากาศและภูมิ ภมู สิ ารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ สงั คมของไทยและภูมภิ าคตา่ งๆทั่วโลก 2. วเิ คราะหอ์ ิทธิพลของสภาพ  ปัญหาทางกายภาพหรือภยั พิบัตทิ าง ภูมศิ าสตร์ ซง่ึ ทำใหเ้ กิดปญั หาทาง ธรรมชาติในประเทศไทยและภมู ภิ าคตา่ ง กายภาพหรือภัยพบิ ัตทิ างธรรมชาติใน ๆ ของโลก ประเทศไทยและภมู ภิ าคตา่ ง ๆ ของโลก  การเปล่ียนแปลงลักษณะทางกายภาพ ในสว่ นต่าง ๆ ของ โลก  การเกิดภมู ิสังคมใหม่ของโลก 3. วเิ คราะห์การเปลี่ยนแปลงของพื้นที่  การเปลย่ี นแปลงของพื้นทซี่ ่งึ ได้รบั ซ่งึ ไดร้ บั อิทธิพลจากปจั จัยทางภูมศิ าสตร์ อทิ ธิพลจากปัจจยั ทางภมู ิศาสตร์ ในประเทศไทยและทวีปตา่ งๆ ในประเทศไทยและทวปี ตา่ งๆ เชน่ การ เคลือ่ นตวั ของแผน่ เปลือกโลก 4. ประเมนิ การเปล่ยี นแปลงธรรมชาตใิ น  การเปล่ยี นแปลงธรรมชาติในโลก เช่น โลกวา่ เปน็ ผลมาจากการกระทำของ ภาวะโลกร้อน ความแห้งแล้ง สภาพ มนษุ ยแ์ ละหรือธรรมชาติ อากาศแปรปรวน

น สาระที่ 5 ภมู ศิ าสตร์ มาตรฐาน ส 5.2 เข้าใจปฏสิ มั พันธร์ ะหวา่ งมนุษย์กับสภาพแวดลอ้ มทางกายภาพท่ีกอ่ ใหเ้ กดิ การสร้างสรรคว์ ัฒนธรรม มีจิตสำนกึ และมสี ่วนร่วมในการอนรุ ักษ์ทรพั ยากร และสิ่งแวดลอ้ ม เพ่ือการพัฒนาที่ยัง่ ยืน ชนั้ ตวั ชวี้ ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง ป.1 1. บอกส่งิ ตา่ ง ๆ ท่เี กดิ ตามธรรมชาตทิ ่ี  ลกั ษณะภูมิประเทศ ภูมอิ ากาศมีผลต่อ ส่งผลตอ่ ความเป็นอยขู่ องมนุษย์ ความเป็นอยู่ของมนุษย์ เชน่ ที่อยู่อาศัย เครือ่ งแต่งกายและอาหาร 2. สังเกตและ เปรยี บเทียบการเปลย่ี น  การเปลยี่ นแปลงของสภาพแวดล้อมที่อยรู่ อบตัว แปลงของสภาพแวดล้อมท่ีอยรู่ อบตวั 3. มสี ่วนร่วมในการจดั ระเบยี บ  การรเู้ ท่าทนั สงิ่ แวดลอ้ มและปรบั ตวั เข้ากับ ส่ิงแวดลอ้ มทบ่ี ้านและชนั้ เรยี น สิง่ แวดลอ้ ม ป.2 1. อธิบายความสำคญั และคุณคา่  คณุ คา่ ของสง่ิ แวดล้อมทางธรรมชาติ เชน่ ของสงิ่ แวดล้อมทางธรรมชาติและ ในการประกอบอาชีพ ทางสงั คม  คุณคา่ ของสงิ่ แวดลอ้ มทางสงั คม เชน่ ส่งิ ปลกู สรา้ งเพ่ือการดำรงชีพ 2. แยกแยะและใช้ทรัพยากรธรรมชาตทิ ี่  ความหมายของทรพั ยากรธรรมชาติ ใช้แล้วไม่หมดไปและทีใ่ ช้แล้วหมดไปได้  ประเภททรพั ยากรธรรมชาติ อยา่ งคุ้มคา่ -ใชแ้ ล้วหมดไป เชน่ แร่ - ใช้แลว้ ไม่หมด เช่น บรรยากาศ นำ้ - ใช้แล้วมกี ารเกิดข้ึนมา ทดแทนหรือรักษา ไว้ได้ เช่น ดนิ ป่าไม้ สัตว์ป่า - วิธใี ช้ทรัพยากรอย่างคมุ้ ค่า 3. อธิบายความสมั พนั ธ์ของฤดูกาลกับ  ความสมั พนั ธข์ องฤดูกาลกบั การดำเนนิ การดำเนนิ ชีวติ ของมนษุ ย์ ชวี ติ ของมนษุ ย์ 4. มีสว่ นรว่ มในการฟืน้ ฟูปรับปรุง  การเปลย่ี นแปลงของสิ่งแวดลอ้ ม ส่งิ แวดลอ้ มในโรงเรียนและชมุ ชน  การรกั ษาและฟนื้ ฟูส่ิงแวดล้อม

บ ชัน้ ตวั ช้วี ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ป.3 1. เปรียบเทียบการเปล่ียนแปลง  สภาพแวดล้อมในชมุ ชนในอดตี และ สภาพแวดลอ้ มในชุมชนจากอดีตถงึ ปจั จุบนั ปจั จบุ นั 2. อธิบายการพ่ึงพาส่ิงแวดล้อม  การพงึ่ พาสิง่ แวดล้อม ในการดำรงชวี ติ ของ และทรัพยากรธรรมชาตใิ นการสนอง มนษุ ย์ เชน่ การคมนาคม บา้ นเรือน ความตอ้ งการพ้ืนฐานของมนุษย์ และการประกอบอาชีพในชมุ ชน และการประกอบอาชีพ  การประกอบอาชีพทเี่ ปน็ ผลมาจาก สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติในชุมชน 3. อธิบายเกยี่ วกับมลพษิ และการ  มลพษิ ทเ่ี กิดจากการกระทำของมนษุ ย์ กอ่ ใหเ้ กดิ มลพษิ โดยมนุษย์ 4. อธบิ ายความแตกตา่ งของเมอื งและ  ลกั ษณะของเมืองและชนบท ชนบท 5. ตระหนกั ถึงการเปลย่ี นแปลงของ  การเพม่ิ และสูญเสยี สิ่งแวดล้อมทำให้ ส่งิ แวดล้อมในชุมชน ชุมชนเปลยี่ นแปลง ป.4 1. อธิบายสภาพ แวดล้อมทางกายภาพ  สภาพ แวดลอ้ มทางกายภาพของชมุ ชนท่ี ของชุมชนท่สี ่งผลต่อการดำเนินชีวิตของ สง่ ผลต่อการดำเนนิ ชีวติ ของคนในจังหวดั คนในจงั หวัด เช่น ลกั ษณะบ้าน อาหาร 2. อธิบายการเปลย่ี นแปลงสภาพ  การเปลยี่ นแปลงสภาพแวดล้อมในจังหวัด แวดลอ้ มในจงั หวดั และผลท่เี กิดจากการ และผลทเ่ี กดิ จากการเปล่ียนแปลง เชน่ เปลี่ยนแปลงนั้น การต้ังถนิ่ ฐาน การยา้ ยถิ่น 3. มสี ่วนรว่ มในการอนรุ กั ษส์ ิ่งแวดลอ้ ม  การอนุรักษส์ ง่ิ แวดลอ้ มและ ในจังหวัด ทรพั ยากรธรรมชาติในจงั หวดั ป.5 1. วเิ คราะหส์ ภาพแวดลอ้ มทางกายภาพ  สภาพแวดลอ้ มทางกายภาพทม่ี ีอทิ ธิพลตอ่ ทม่ี ีอิทธพิ ลต่อลักษณะการตั้งถิน่ ฐาน ลักษณะการตั้งถ่ินฐานและการย้ายถน่ิ ของ และการย้ายถ่ินของประชากร ประชากรในภูมิภาค ในภูมิภาค 2. อธบิ ายอทิ ธพิ ลของสิง่ แวดล้อมทาง  อทิ ธิพลของสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาตทิ ่ี ธรรมชาตทิ ี่กอ่ ใหเ้ กดิ วถิ ชี ีวติ และการ ก่อใหเ้ กดิ วิถีชีวติ และการสร้างสรรค์ สรา้ งสรรคว์ ัฒนธรรมในภมู ิภาค วฒั นธรรมในภมู ภิ าค

ป ชั้น ตวั ชว้ี ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง 3. นำเสนอตวั อยา่ งท่ีสะท้อนให้เหน็ ผล  ผลจากการรักษาและการทำลาย จากการรักษาและการทำลาย สภาพแวดลอ้ ม สภาพแวดลอ้ ม และเสนอแนวคดิ  แนวทางการอนรุ ักษ์และรักษา ในการรักษาสภาพแวดล้อมในภูมิภาค สภาพแวดล้อมในภูมิภาค ป.6 1. วิเคราะหค์ วามสัมพันธร์ ะหว่าง  สง่ิ แวดล้อมทางธรรมชาติ กบั สงิ่ แวดล้อม ส่ิงแวดลอ้ มทางธรรมชาติกบั สิ่งแวดลอ้ ม ทางสังคมในประเทศ ทางสังคมในประเทศ  ความสมั พนั ธ์และผลกระทบ 2. อธิบายการแปลงสภาพธรรมชาติใน  ผลท่เี กิดจากการปรบั เปลยี่ น หรือดัดแปลง ประเทศไทยจากอดีตถึงปัจจุบนั และผล สภาพธรรมชาตใิ นประเทศจากอดีต ถึง ท่เี กดิ ขึ้นจากการเปลีย่ นแปลงนัน้ ปจั จุบนั และผลที่เกดิ ขนึ้ (ประชากร เศรษฐกิจ สงั คม อาชพี และวัฒนธรรม) 3. จัดทำแผนการใช้ทรัพยากรในชมุ ชน  แนวทางการใชท้ รพั ยากรของคนในชมุ ชน ให้ใช้ไดน้ านข้ึน โดยมจี ติ สำนึกรคู้ ณุ คา่ ของ ทรพั ยากร แผนอนรุ กั ษ์ทรัยากรในชมุ ชน หรือแผน อนุรกั ษ์ ม.1 1. วิเคราะห์ผลกระทบจากการ  การเปลยี่ นแปลงประชากร เศรษฐกิจ เปลี่ยนแปลงทางธรรมชาตขิ องทวีป สงั คม และวฒั นธรรมในทวปี เอเชีย เอเชยี ออสเตรเลยี และโอเชียเนยี ออสเตรเลีย และโอเชียเนีย  การกอ่ เกดิ ส่งิ แวดล้อมใหม่ทางสงั คม  แนวทางการใช้ทรัพยากรของคนในชมุ ชน ให้ใช้ไดน้ านขึ้น โดยมจี ติ สำนึกร้คู ณุ คา่ ของ ทรัพยากร  แผนอนรุ กั ษท์ รัยากรในทวีปเอเชีย 2. วเิ คราะหค์ วามรว่ มมือของประเทศ  ความร่วมมอื ระหว่างประเทศในทวปี เอเชีย ต่าง ๆทมี่ ีผลต่อส่ิงแวดล้อมทาง ออสเตรเลยี โอเชยี เนีย ทม่ี ผี ลตอ่ ธรรมชาตขิ องทวปี เอเชีย ออสเตรเลยี สิ่งแวดลอ้ มทางธรรมชาติ และโอเชียเนีย

ผ ชน้ั ตัวชวี้ ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง 3. สำรวจ และอธิบายทำเลท่ีตัง้ กิจกรรม  ทำเลท่ีต้ังกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคม ทางเศรษฐกิจและสงั คมในทวีปเอเชยี ในทวปี เอเชยี ออสเตรเลีย และโอเชยี เนยี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนีย โดยใช้ เช่น ศูนย์กลางการคมนาคม แหลง่ ข้อมลู ท่หี ลากหลาย 4. วิเคราะหป์ ัจจยั ทางกายภาพและ  ปจั จัยทางกายภาพและสังคมท่ีมีผลต่อ สังคมที่มีผลต่อการเลื่อนไหลของ การเล่ือนไหลของความคิด เทคโนโลยี ความคิด เทคโนโลยี สนิ ค้า และ สินค้า และประชากรในทวปี เอเชีย ประชากรในทวปี เอเชยี ออสเตรเลยี ออสเตรเลีย และโอเชยี เนีย และโอเชยี เนีย ม.2 1. วเิ คราะห์การก่อเกิดสงิ่ แวดลอ้ มใหม่  การเปล่ียนแปลงประชากร เศรษฐกจิ ทางสงั คม อนั เป็นผลจากการ สงั คม และวัฒนธรรมของทวีปยโุ รป เปล่ียนแปลงทางธรรมชาติและทางสงั คม และแอฟริกา ของทวีปยุโรป และแอฟรกิ า 2. ระบแุ นวทางการอนรุ ักษ์  การอนรุ ักษ์ทรพั ยากรธรรมชาติและ ทรพั ยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้อม สิ่งแวดล้อมในทวีปยุโรป และแอฟริกา ในทวีปยุโรป และแอฟรกิ า 3. สำรวจ อภปิ รายประเด็นปัญหา  ปญั หาเก่ยี วกับสิ่งแวดล้อมท่เี กิดขึ้นในทวีป เก่ียวกับส่ิงแวดลอ้ มท่ีเกิดขึ้นในทวีปยุโรป ยโุ รป และแอฟริกา และแอฟริกา 4. วิเคราะห์เหตแุ ละผลกระทบท่ปี ระเทศ  ผลกระทบจากการเปล่ยี นแปลงของ ไทยไดร้ บั จากการเปลีย่ นแปลงของ ส่งิ แวดล้อมในทวีปยโุ รป และแอฟริกา สง่ิ แวดลอ้ มในทวปี ยุโรป และ ตอ่ ประเทศไทย แอฟริกา ม.3 1. วเิ คราะหก์ ารก่อเกดิ ส่ิงแวดล้อมใหม่  การเปลี่ยนแปลงประชากร เศรษฐกิจ ทางสังคม อนั เป็นผลจากการ สังคม และวฒั นธรรมของทวีปอเมรกิ า เปลย่ี นแปลงทางธรรมชาติและ เหนือและอเมริกาใต้ ทางสงั คมของทวีปอเมริกาเหนอื และ อเมริกาใต้ 2. ระบุแนวทางการอนรุ กั ษ์ทรพั ยากร  ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ มใน ธรรมชาติและสงิ่ แวดล้อมในทวีป ทวีป อเมริกาเหนือและอเมริกาใต้ อเมริกาเหนอื และอเมรกิ าใต้

ฝ ชน้ั ตัวช้ีวัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ม.4 –ม.6 3. สำรวจ อภิปรายประเดน็ ปัญหา  ปญั หาเก่ยี วกบั ส่ิงแวดล้อมทเี่ กิดข้นึ ในทวปี เก่ยี วกับสง่ิ แวดล้อมทีเ่ กิดข้นึ ในทวีป อเมริกาเหนอื และอเมริกาใต้ อเมรกิ าเหนอื และอเมรกิ าใต้ 4. วิเคราะหเ์ หตแุ ละผลกระทบต่อเน่อื ง  ผลกระทบตอ่ เนื่องของส่ิงแวดล้อมในทวีป จากการเปลีย่ นแปลงของสิ่งแวดล้อมใน อเมรกิ าเหนือและอเมริกาใต้ ที่สง่ ผลตอ่ ทวีปอเมรกิ าเหนอื และอเมริกาใต้ ท่ี ประเทศไทย สง่ ผลต่อประเทศไทย 1.วิเคราะห์สถานการณแ์ ละวิกฤตการณ์  การเปลี่ยนแปลงลักษณะทางกายภาพ ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม ในสว่ นต่าง ๆ ของ โลก ของประเทศไทยและโลก  การเกดิ ภมู สิ ังคมใหม่ ๆ ในโลก  วกิ ฤตการณด์ ้านทรัพยากรธรรมชาตแิ ละ สิ่งแวดล้อมของประเทศไทยและโลก 2. ระบมุ าตรการป้องกันและแก้ไข  มาตรการป้องกนั และแก้ไขปญั หา ปญั หา บทบาทขององค์การและการ บทบาทขององค์การและการประสานความ ประสานความรว่ มมือท้ังในประเทศและ รว่ มมอื ท้งั ในประเทศและนอกประเทศ นอกประเทศเกย่ี วกบั กฎหมาย กฎหมายสิง่ แวดลอ้ ม การจดั การ ส่งิ แวดลอ้ ม การจัดการทรัพยากร ทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ธรรมชาติและสิง่ แวดลอ้ ม 3. ระบุแนวทางการอนุรกั ษ์ทรพั ยากร  การอนุรกั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาติและ ธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดลอ้ มในภูมภิ าคต่าง สงิ่ แวดล้อมในภูมภิ าคต่าง ๆ ของโลก ๆ ของโลก 4. อธบิ ายการใชป้ ระโยชน์จาก  การใช้ประโยชน์จากสง่ิ แวดล้อมในการ ส่ิงแวดล้อมในการสร้างสรรค์วฒั นธรรม สรา้ งสรรคว์ ฒั นธรรม อนั เป็นเอกลกั ษณ์ อันเปน็ เอกลักษณข์ องทอ้ งถน่ิ ท้ังใน ของทอ้ งถิน่ ทั้งในประเทศไทยและโลก ประเทศไทยและโลก 5. มสี ่วนร่วมในการแกป้ ญั หาและ การ  การแกป้ ญั หาและการดำเนินชีวติ ตาม ดำเนินชีวิตตามแนวทางการอนรุ กั ษ์ แนวทางการอนุรักษท์ รัพยากรและ ทรพั ยากรและส่งิ แวดล้อม เพ่ือการ สิง่ แวดลอ้ ม เพ่ือการพัฒนาที่ย่ังยนื พัฒนาท่ีย่งั ยืน

พ คำอธิบายรายวิชา รายวชิ า ส 22101 สังคมศกึ ษา 3 สาระการเรียนรู้ท่ี 5 ภูมิศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 2 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 20 ชัว่ โมง ศึกษาการใชเ้ คร่ืองมือทางภูมศิ าสตร์ในการรวบรวม วเิ คราะห์ และนำเสนอข้อมูลเก่ียวกับลักษณะทาง กายภาพ และสังคมของทวีปยุโรปและแอฟริกา วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะทางกายภาพ และ สังคมของทวีปยุโรปและแอฟริกา การก่อเกิดส่ิงแวดล้อมใหม่ทางสังคมอันเป็นผลจากการเปล่ียนแปลงทาง ธรรมชาติ และทางสังคมของทวีปแอฟริกา แนวทางการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในทวีป ยุโรปและแอฟริกา ปัญหาเก่ียวกับส่ิงแวดล้อมท่ีเกิดขึ้นในทวีปยุโรปและแอฟริกา สาเหตุและผลกระทบที่ ประเทศไทยได้รบั จากการเปลีย่ นแปลงของส่งิ แวดลอ้ มในทวปี ยโุ รปและแอฟริกา โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการทางสังคม กระบวนการเผชิญ สถานการณ์และแกป้ ญั หา กระบวนการปฏบิ ัติ กระบวนการกลุม่ เพ่ือให้เกิดความรู้ความเข้าใจ สามารถส่ือสารสิ่งท่ีเรียนรู้ มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีในการ สืบค้นข้อมูล มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในด้านใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในการทำงาน มีวินัย มีจิตสาธารณะ เห็น คณุ ค่าและมจี ติ สำนึกในการอนรุ กั ษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม รหสั ตัวชี้วัด ส 5.1 ม.2/1, ม.2/2 ส 5.2 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4 รวมทั้งหมด 6 ตวั ช้ีวดั

ฟ สาระการเรียนรู้แกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวชิ า ส22101 สงั คมศกึ ษา 3 ระดับชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 สาระที่ 5 ภูมศิ าสตร์ มาตรฐานท่ี ส 5.1 เข้าใจลักษณะทางกายภาพของโลกและความสัมพันธ์ของสรรพสิ่งซ่ึงมีผลต่อกัน ใชแ้ ผนที่ และเครือ่ งมือทางภมู ิศาสตร์ในการค้นหา วิเคราะห์ และสรุปขอ้ มูลตาม กระบวนการทางภูมิศาสตร์ ตลอดจนใชภ้ ูมิสารสนเทศอยา่ งมีประสิทธิภาพ ม. 2/1 วิเคราะห์ลักษณะทางกายภาพของทวีปยุโรปและทวีปแอฟริกา โดยใช้เครื่องมือ ทางภูมศิ าสตร์สืบค้นข้อมลู ม. 2/2 อธิบายมาตราส่วน ทศิ และสญั ลกั ษณ์ ม. 2/3 วเิ คราะห์สาเหตกุ ารเกดิ ภัยพิบัติ และผลกระทบในทวปี ยุโรป และทวปี แอฟริกา มาตรฐานที่ ส 5.2 เข้าใจปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับส่ิงแวดล้อมทางกายภาพที่ก่อให้เกิดการ สร้างสรรค์วิถีการดำเนินชีวิต มีจิตสำนึกและมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากร และส่ิงแวดล้อม เพ่ือการพฒั นาที่ย่ังยนื ม. 2/1 สำรวจและระบุทำเลท่ีตั้งของกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมในทวีปยุโรป และ ทวีปแอฟริกา ม. 2/2 วิเคราะห์ปัจจัยทางกายภาพและปัจจัยทางสังคมที่ส่งผลต่อทำเลท่ีต้ังของ กจิ กรรมทางเศรษฐกจิ และสังคมในทวปี ยุโรป และทวีปแอฟริกา ม. 2/3 สืบค้น อภิปรายประเด็นปัญหาจากปฏิสัมพันธ์ระหว่างส่ิงแวดล้อมทางกายภาพ กับมนุษยท์ เ่ี กิดขึน้ ในทวีปยุโรป และทวีปแอฟรกิ า ม. 2/4 วเิ คราะห์แนวทางการจดั การภัยพิบตั ิและการจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมใน ทวปี ยโุ รป และทวีปแอฟริกาทย่ี ั่งยนื

ภ ตารางวิเคราะหค์ วามสอดคล้องระหว่างเนื้อหา ในหนว่ ยการเรยี นรู้กับสาระและมาตรฐานการเรยี นรแู้ กนกลางการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน กลุ่มสาระการเรยี นร้สู ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชา ส22101 สังคมศกึ ษา 3 ระดบั ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 สาระที่ 5 ภูมศิ าสตร์ มาตรฐานท่ี ส 5.1 มาตรฐานที่ ส 5.2 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ เรอื่ งท่ี ส 5.1 ม 2/1 ส 5.1 ม 2/2 ส 5.1 ม 2/3 ส 5.2 ม 2/1 ส 5.2 ม 2/2 ส 5.2 ม 2/3 ส 5.2 ม 2/4 1. เครื่องมือทาง 1. ที่ตั้ง ขนาดและอาณาเขตของทวีปยโุ รปและ ✓ ภมู ศิ าสตร์ แอฟรกิ า 2. ทวีปยุโรปและ แอฟริกา 2. การใชเ้ ครอ่ื งมอื ทางภูมิศาสตร์ ✓ 3. มาตราส่วน ทศิ และสญั ลักษณ์ในแผนที่ ✓ 4. ภัยพิบัติและผลกระทบในทวีปยุโรปและ ✓ แอฟริกา 1. ทำเลทตี่ ั้งของกิจกรรมทางเศรษฐกจิ และ ✓ สงั คมในทวีปยโุ รปและแอฟริกา 2. ปจั จัยทางกายภาพและทางสงั คมทส่ี ง่ ผลตอ่ ✓ การเปลย่ี นแปลงโครงประชากร สงิ่ แวดลอ้ ม เศรษฐกิจ สงั คมและวฒั นธรรม 3. ปฏสิ ัมพันธ์ระหวา่ งส่งิ แวดล้อมทางกายภาพ ✓ กับมนุษยท์ เ่ี กิดข้นึ ในทวปี ยโุ รป และแอฟริกา 4. แนวทางการจดั การภยั พบิ ัติและการจัดการ ✓ ทรัพยากรสิ่งแวดลอ้ ม

ม ผังมโนทัศน์ (Concept Mapping) ภมู ิศาสตร์ ม.2

ย โครงสรา้ งรายวชิ า กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 รายวิชา สังคมศึกษา 3 ส22101 จำนวน 20 คาบ ลำดบั ที่ ชอ่ื หน่วย มาตรฐานการ สาระสำคัญ เวลา นำ้ หนัก เรียนรู้/ตวั ช้วี ดั (ชม.) คะแนน 1 มาตราส่วน ทิศ มาตราสว่ น ทิศ และสญั ลักษณ์เป็นองคป์ ระกอบของ และสัญลกั ษณใ์ น ส 5.1 ม.2/2 แผนทท่ี ี่ทำใหเ้ ราทราบตำแหน่ง ระยะทางและทิศทาง 3 10 แผนที่ ของสิ่งต่าง ๆ ท่ีปรากฏบนผวิ โลก 2 ทวปี ยุโรป ส 5.1 ม.2/1 1. เคร่อื งมือทางภูมศิ าสตร์สามารถนำไปใชใ้ นการ 6 40 ส 5.2 ม.2/1 สบื คน้ ข้อมูลเพื่อวิเคราะห์ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศ 40 ภมู อิ ากาศ และทรพั ยากรธรรมชาติของทวีปยุโรป และ ม.2/2 ทวปี แอฟริกา 2. ทำเลท่ีตั้งของกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมใน ทวีปยุโรป และทวปี แอฟรกิ า มคี วามสัมพนั ธก์ บั ลกั ษณะภูมิประเทศ ภมู ิอากาศ และ ทรพั ยากรธรรมชาติ 3. ปัจจยั ทางกายภาพและปจั จยั ทางสังคมมผี ลต่อการ เปลีย่ นแปลงทางประชากร เศรษฐกจิ สงั คมและ วัฒนธรรมในทวปี ยโุ รป และทวีปแอฟรกิ า 3 ทวีปแอฟรกิ า ส 5.1 ม.2/1 1. เคร่ืองมือทางภมู ศิ าสตร์สามารถนำไปใชใ้ นการ 6 ส 5.2 ม.2/1 สบื คน้ ข้อมูลเพ่ือวเิ คราะห์ลักษณะภมู ปิ ระเทศ ภูมิอากาศ และทรัพยากรธรรมชาติของทวีปยโุ รป และ ม.2/2 ทวปี แอฟรกิ า 2. ทำเลทีต่ ้งั ของกจิ กรรมทางเศรษฐกจิ และสังคมใน ทวปี ยุโรป และทวปี แอฟริกา มคี วามสมั พันธก์ ับ ลักษณะภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และ ทรัพยากรธรรมชาติ 3. ปัจจยั ทางกายภาพและปจั จยั ทางสังคมมีผลตอ่ การ เปลยี่ นแปลงทางประชากร เศรษฐกจิ สงั คมและ วฒั นธรรมในทวีปยโุ รป และทวีปแอฟรกิ า

ร ลำดบั ที่ ชื่อหนว่ ย มาตรฐานการ สาระสำคัญ เวลา นำ้ หนัก เรียนรู/้ ตวั ช้วี ดั (ชม.) คะแนน 4 ภัยพบิ ัตแิ ละ 1. ลักษณะทางกายภาพของทวปี ยโุ รป และทวีป การจัดการ ส 5.1 ม.2/3 แอฟริกาสง่ ผลต่อการเกดิ ภยั พิบัติและผลกระทบที่ 5 10 ทรัพยากร ส 5.2 ม.2/3 แตกตา่ งกัน ธรรมชาติ และ 2. สิ่งแวดลอ้ มทางกายภาพมีอิทธิพลต่อกจิ กรรมของ ส่ิงแวดลอ้ มในทวปี ม.2/4 มนษุ ย์ ขณะเดียวกันกจิ กรรมของมนุษยก์ ็สง่ ผลต่อ ยโุ รปและทวีป สิ่งแวดลอ้ มทางกายภาพ และกอ่ ให้เกดิ ปัญหาการ แอฟรกิ า ทำลายสงิ่ แวดลอ้ มในทวีปยโุ รป และทวปี แอฟรกิ า 3. การจดั การภยั พบิ ตั แิ ละการจัดการทรัพยากรและ ส่งิ แวดลอ้ มในทวีปยโุ รป และทวีปแอฟรกิ า จะช่วยให้ มนุษยอ์ าศยั อย่รู ว่ มกับธรรมชาติได้อย่างย่ังยืน

ล ผลการเรียนรู้ทค่ี าดหวังและแผนการประเมินผล วชิ าสงั คมศกึ ษา 3 ส 22101 ภาคเรยี นท่ี 1 อตั ราสว่ นคะแนนระหว่างภาค : คะแนนปลายภาค 70 : 30 เวลาเรียน 1 คาบ / สปั ดาห์ / 0.5 หนว่ ยการเรยี น คะแนนการประเมนิ ผล หนว่ ย ผลการเรยี นรตู้ ามตวั ชี้วัด จำนวนคาบ ระห ่วางภาค กลางภาค ปลายภาค รวม 1. เครื่องมือ 1.1 วิเคราะห์ลักษณะทางกายภาพของทวปี ยโุ รปและทวีป 2 5 5 - 10 ทางภูมิศาสตร์ แอฟริกา โดยใชเ้ ครอื่ งมอื ทางภูมิศาสตรส์ บื ค้นข้อมูล 1.2 อธิบายมาตราส่วน ทิศ และสญั ลักษณ์ 3 5 5 - 10 1.3 วเิ คราะห์สาเหตกุ ารเกิดภัยพิบตั ิ และผลกระทบในทวีป 3 5 10 - 15 ยุโรป และทวีปแอฟรกิ า 2. ทวปี ยุโรป 2.1 สำรวจและระบุทำเลท่ีตงั้ ของกจิ กรรมทางเศรษฐกิจและ 3 5 - 5 10 และแอฟริกา สังคมในทวีปยุโรป และทวีปแอฟริกา 2.2 วเิ คราะห์ปัจจัยทางกายภาพและปจั จยั ทางสงั คมท่สี ง่ ผลตอ่ 3 10 - 5 15 ทำเลทต่ี งั้ ของกจิ กรรมทางเศรษฐกิจและสังคมในทวีปยุโรป และ ทวปี แอฟรกิ า 2.3 สืบค้น อภิปรายประเด็นปัญหาจากปฏิสัมพนั ธ์ระหว่าง 3 10 - 10 20 สง่ิ แวดลอ้ มทางกายภาพกับมนุษยท์ ี่เกดิ ขึ้นในทวีปยโุ รป และ ทวีปแอฟริกา 2.4 วเิ คราะหแ์ นวทางการจดั การภัยพิบัตแิ ละการจดั การ 3 10 - 10 20 ทรพั ยากรและสิง่ แวดลอ้ มในทวีปยโุ รป และทวีปแอฟรกิ าท่ี ยั่งยืน รวม 20 50 20 30 100 ที่ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ คะแนนการประเมิน 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ 3 2. ซื่อสตั ย์ สุจริต 3 3. มวี ินยั 3 4. ใฝ่เรียนรู้ 3 5. อยู่อยา่ งพอเพยี ง 3 6. ม่งุ มนั่ ใจในการทำงาน 3 7. รกั ความเป็นไทย 3 8. มีจติ สาธารณะ 3 9. กตญั ญกู ตเวที 3

ว บันทกึ การตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ ที่ ประเดน็ สอดคลอ้ ง / ปฏบิ ตั ิ 1 การจดั กจิ กรรมการเรยี นรสู้ อดคลอ้ งกับมาตรฐานและตวั ชีว้ ดั  2 กิจกรรมการเรยี นรเู้ น้นผู้เรียนเปน็ สำคัญ  3 มกี ารวัดผลและประเมนิ ผล  ด้านความรู้  ดา้ นทกั ษะกระบวนการ  ด้านคณุ ลักษณะ  4 กิจกรรมการเรียนรสู้ ง่ เสรมิ สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น  ความสามารถในการส่อื สาร  ความสามารถในการคดิ  ความสามารถในการแก้ปญั หา  ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต  ความสามารถในการเทคโนโลยี  5 กจิ กรรมการเรยี นรมู้ กี ารบรู ณาการ  หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง  ครูเพอ่ื ศษิ ยใ์ นศตวรรษที่ ๒๑  โรงเรียนคมุ้ ครองเดก็  สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน - 6 ให้นักเรียนได้ฝึกทักษะการทำขอ้ สอบ Pre-O-Net หรอื O-Net ที่สอดคล้องกับตัวช้ีวดั   เหน็ ควรใช้ให้แผนการจัดการเรยี นรู้  ควรปรับปรงุ แกไ้ ข..................................................................................................................... ลงชื่อ............................................................ (นายจิรพล ลิวา) หัวหนา้ กลุม่ สาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ลงช่ือ............................................................ (นางกัญญารตั น์ สาระพนั ธ์) หัวหนา้ กลุ่มงานบริหารวชิ าการ  เห็นควรใหใ้ ช้แผนการจดั การเรยี นรู้  ควรปรับปรงุ แก้ไข.......................................................................................................................... ลงช่ือ............................................................... (นางจิราพร รัตนกุล) ผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีปากพนงั

หน่วยการเรยี นรู้ท1ี่ 1 มาตราสว่ น ทศิ และสัญลกั ษณใ์ นแผนที่

2 แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 1 เร่ือง ประเภทของเครอื่ งมือทางภูมศิ าสตร์ รหัสวิชา ส 22102 ชือ่ รายวชิ า สังคมศกึ ษา กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สาระการเรยี นร้ทู ี่ 5 ภมู ิศาสตร์ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 เครอ่ื งมือทางภมู ิศาสตร์ เวลา 2 ชวั่ โมง ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2564 ผสู้ อน นางสาวนลิ ุบล ศลิ ปธนู ………………………………………………………………………………………………………………………………………………..... 1. มาตรฐานการเรียนรชู้ ่วงชนั้ ส 5.1 เข้าใจลักษณะของโลกทางกายภาพ และความสัมพันธ์ของสรรพส่ิงซึ่งมีผลต่อกันและกันใน ระบบของธรรมชาติ ใช้แผนที่และเคร่ืองมือทางภูมิศาสตร์ในการค้นหา วิเคราะห์ สรุป และใช้ข้อมูลภูมิ สารสนเทศอย่างมปี ระสิทธภิ าพ 2. ตวั ช้ีวดั ส 5.1 ม.2/1 ใช้เครื่องมือทางภูมิศาสตร์ในการรวบรวม วิเคราะห์ และนำเสนอข้อมูล เกี่ยวกับ ลกั ษณะทางกายภาพและสงั คมของทวีปยุโรปและแอฟรกิ า 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธิบายลกั ษณะสำคญั ของเคร่ืองมือทางภมู ิศาสตร์แต่ละประเภทได้ (K) 4. สาระสำคญั เครื่องมือทางภูมิศาสตร์ในแต่ละประเภทมีลักษณะสำคัญที่ใช้ในการสืบค้นข้อมูล และนำเสนอข้อมูล เก่ยี วกบั ลักษณะทางกายภาพและสงั คม 5. สาระการเรียนรู้ เครอ่ื งมอื ทางภมู ิศาสตร์ท่แี สดงลกั ษณะทางกายภาพและสังคมของทวปี ยโุ รปและแอฟริกา 6. ด้านสมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน : อธบิ ายหลักการใช้เครื่องมือทางภูมิศาสตร์แต่ละชนดิ ได้  ความสามารถในการสื่อสาร  ความสามารถในการคิด : การใช้ข้อมูลทางภมู ศิ าสตร์มาเป็นประสบการณ์ 1. ทักษะการคดิ กวา้ ง : จำแนก การใหเ้ หตผุ ล การสรปุ ความรู้ 2. ทักษะการให้เหตุผล : จัดกระบวนการคดิ แยกเปน็ ระบบขน้ั ตอน  ความสารถในการแก้ปญั หา : การทำงานในกระบวนการกลุ่ม  ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต : ใชเ้ ทคโนโลยีในการสบื ค้นข้อมลู ได้อยา่ งเหมาะสม  ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

3 7. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงคต์ ามหลักสตู รแกนกลางขั้นพืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551  รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์  อยู่อยา่ งพอเพียง  ซอ่ื สัตยส์ ุจรติ  มงุ่ มนั่ ในการทำงาน  มวี ินัย  รักความเปน็ ไทย  ใฝ่เรยี นรู้  มจี ติ สาธารณะ 8. คำขวญั โรงเรียน  ประพฤติดี  ฝีมอื เดน่  เปน็ งาน  เรียนดี 9. ด้านการอ่าน คิดวเิ คราะห์ และเขยี น  การอา่ น  การคดิ วิเคราะห์  การเขียน 10. บรู ณาการกบั หลกั การเรียนในศตวรรษที่ 21 (นกั เรยี นได้เรียนรสู้ อดคล้องกับหลักการเรยี นรใู้ นศตวรรษท่ี 21) Reading Writing Globalization อา่ นและแปลความหมายประเภท เขยี นแผนทแ่ี สดงตำแหน่ง เขา้ ใจความหมายการใช้เคร่อื งมือ ของเครือ่ งมือทางภมู ิศาสตร์ได้ ลักษณะเฉพาะทางกายภาพทาง ทางภูมิศาสตรร์ ะดบั สากลโลกได้ ภมู ิศาสตร์ได้ Critical Thinking & Problem Solving (ทกั ษะการคิดอย่างมวี จิ ารณญาณ และ ทกั ษะการในการแกไ้ ขปญั หา) Creativity & Innovation (การคดิ เชงิ สรา้ งสรรค์) Collaboration , Teamwork & Leadership (การทำงานร่วมและยอมรับฟังความคดิ เหน็ จากผู้อ่ืน) Cross – Cultural Understanding (ยอมรับความหลากหลายและความแตกต่างทางวัฒนธรรม) Communication , Information & Media Literacy (กลา้ ซกั ถามและแสดงความคดิ เห็นในการเรยี น) Computing & Media Literacy (สามารถใช้ทกั ษะด้านสารสนเทศประกอบการเรยี นร้ไู ด้) Career & Learning Self-Reliance (มคี วามรู้เข้าใจและคน้ คว้าเพิม่ เตมิ เกย่ี วกับเรื่องทเี่ รียน) Change (สร้างทัศนคตใิ หมใ่ นการเรยี นรายวิชาสังคมศกึ ษาให้น่าสนใจมากขน้ึ ) Learning Leadership Geo - Literacy Presentation & Lecture

4 11. บรู ณาการกับหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง (นกั เรียนได้เรยี นรู้อยอู่ ยา่ งพอเพยี งจากการเรยี นรู้ท่ีบรู ณาการหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง) พอประมาณ มเี หตผุ ล สรา้ งภูมิคุ้มกัน นักเรยี นแบง่ เวลาว่างเพ่ิมเตมิ มาใช้ นักเรยี นใช้เหตผุ ลในการเรียน และ นักเรยี นมีความรู้และความเข้าใจ ในการเรียนรู้ดว้ ยตนเองนอก นำหลักการของเหตุผลไปใชใ้ นการ และสามารถนำความรู้ทาง หอ้ งเรียน สืบคน้ ขอ้ มลู ทางภูมิศาสตรต์ าม ภูมิศาสตรม์ าปรบั ใช้ในการดำเนิน หลกั วธิ กี ารทางภมู ศิ าสตร์ ชีวติ ความรู้ (นักเรียนมีความรใู้ นเรื่องภมู ศิ าสตรเ์ ปน็ อย่างดี) คุณธรรม (นักเรียนใฝเ่ รียนรู้ มงุ่ มั่นในการทำงาน มีวนิ ัยในการจดั ระบบการเรยี นด้วยตนเอง) 12. การบูรณาการฯ สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน - โรงเรียนคมุ้ ครองเด็กระบบดูแลช่วยเหลอื นักเรียน ใชก้ ระบวนศึกษาวเิ คราะหผ์ ูเ้ รียนเป็นรายบคุ คลเพอื่ ทำความเข้าใจนักเรยี นและแกไ้ ขข้อบกพร่องทางการ เรยี นรูข้ องนักเรยี นได้ ตลอดจนจดั ทำฐานขอ้ มลู สว่ นตัวของนกั เรยี นเพ่ือความสะดวกในการศกึ ษา ข้อมูลและพฒั นาผู้เรียนให้ไดเ้ ต็มศักยภาพ 13. กิจกรรมการเรียนรู้ วิธีสอนตามรปู แบบโมเดลซปิ ปา (CIPPA Model) แบบทดสอบก่อนเรยี นหน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1 เรื่อง เครอื่ งมือทางภมู ิศาสตร์ ขนั้ ท่ี 1 ทบทวนความรเู้ ดิม 1. ครูขออาสาสมัครนักเรียนออกมาเล่าประสบการณ์ในการใช้เคร่ืองมือทางภูมิศาสตร์ ในการหา ความรู้ทางดา้ นภูมิศาสตร์ ซงึ่ นกั เรียนอาจตอบได้หลากหลาย เชน่ - ลกู โลก - แผนท่ีโลก แผนทที่ วปี ต่างๆ แผนทีป่ ระเทศไทย แผนที่ จังหวดั ต่างๆ ในประเทศไทย แผนที่ แสดงอำเภอ ตำบลทนี่ ักเรยี นมีภูมลิ ำเนา - ภาพถา่ ยจากดาวเทยี ม - แหล่งขอ้ มูลสารสนเทศ - หนงั สือพมิ พ์ - วารสาร

5 - นิตยสาร 2. นักเรยี นตอบคำถามกระตุน้ ความคิด - นกั เรียนชอบใช้เคร่อื งมอื ทางภูมิศาสตรป์ ระเภทใดมากทส่ี ดุ อธบิ ายเหตุผล ขนั้ ที่ 2 แสวงหาความรใู้ หม่ 3. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 8 คน ตามความสมัครใจ และให้แต่ละกลุ่มจับคู่กันศึกษาความรู้ เรอื่ ง ประเภทของเคร่ืองมือทางภูมิศาสตร์ จากหนังสือเรียน หนงั สือค้นคว้าเพิ่มเติม ห้องสมุด และแหล่งข้อมูล สารสนเทศ ตามประเด็นทีก่ ำหนด ดงั นี้ - คทู่ ี่ 1 ศึกษาความรู้เรื่อง ลูกโลก - คทู่ ่ี 2 ศึกษาความรู้เร่อื ง แผนที่เลม่ - คู่ท่ี 3 ศกึ ษาความรู้เร่ือง ภาพจากดาวเทยี ม - คู่ท่ี 4 ศกึ ษาความร้เู รอ่ื ง เว็บไซต์และเคร่ืองมือทางภมู ิศาสตร์อื่นๆ ขน้ั ท่ี 3 ศึกษาทำความเข้าใจขอ้ มลู /ความรใู้ หม่ และเช่ือมโยงความรใู้ หม่กบั ความรู้เดมิ 1. สมาชิกแต่ละคู่ศึกษาค้นคว้าความรู้เก่ียวกับประเภทของเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ โดยเชื่อมโยงกับ ความรู้เดิมในประเด็นต่อไปน้ี 1. ความหมาย 2. ลกั ษณะสำคัญ 3. การใชป้ ระโยชน์ 2. นกั เรยี นตอบคำถามกระต้นุ ความคดิ - การศกึ ษาขอ้ มลู จากเวบ็ ไซต์ในเครอื ข่ายอนิ เทอร์เน็ตมคี วามสำคญั อยา่ งไร ขน้ั ที่ 4 แลกเปลย่ี นความรู้ความเข้าใจกับกล่มุ 1. สมาชิกแต่ละคู่ผลัดกันอธิบายความรู้ที่ตนได้ศึกษาค้นคว้ามา ให้สมาชิกคนอ่ืนๆ ภายในกลุ่มฟัง พร้อมท้งั ผลดั กนั ซักถามจนมคี วามเขา้ ใจตรงกัน 2. สมาชิกแต่ละกลุ่มร่วมกันทำใบงานท่ี 1.1 เร่ือง เครื่องมือทางภูมิศาสตร์ เสร็จแล้วตรวจสอบความ ถกู ต้องและนำส่งครูตรวจ ชว่ั โมงที่ 2 ขนั้ ท่ี 5 สรปุ และจดั ระเบียบความรู้ 1. สมาชิกแต่ละกลุ่มร่วมกันสรุปความรู้เกี่ยวกับเครื่องมือทางภูมิศาสตร์แต่ละประเภทและการ นำไปใช้ประโยชน์ โดยเขียนเปน็ แผนผงั ความคดิ 2. นักเรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคดิ - เพราะเหตุใด จึงตอ้ งใชเ้ ครอ่ื งมอื ทางภมู ศิ าสตรห์ ลายชนดิ ผสมกนั (เพราะเครอื่ งมอื ทางภูมิศาสตรแ์ ต่ละชนิดมีขอ้ ดี และขอ้ จำกดั ในการผลติ และการใชแ้ ตกต่างกนั )

6 ขน้ั ที่ 6 ปฏบิ ัตแิ ละ/หรือแสดงผลงาน ตวั แทนกล่มุ นำเสนอแผนผงั ความคิดหนา้ ชั้นเรียน โดยมีครเู ปน็ ผตู้ รวจสอบความถูกตอ้ ง ขนั้ ที่ 7 ประยกุ ต์ใชค้ วามรู้ 1. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มนำความรู้เกี่ยวกับการใช้เครื่องมือทางภูมิศาสตร์ไปประยุกต์ใช้ในการ คน้ หาข้อมูล 14. สอ่ื การเรียนรู้/แหล่งการเรยี นรู้ 1. หนงั สือเรยี นภูมศิ าสตร์ ม. 2 2. เครื่องมอื ทางภูมิศาสตร์ ได้แก่ ลกู โลก แผนที่ แผนที่เลม่ (Atlas) ภาพถา่ ยจากดาวเทยี ม 3. ใบงานท่ี 2.1 เรื่อง ท่ตี ้ังและอาณาเขตของทวีปยโุ รป 4. เฉลยใบงานท่ี 2.1 เร่อื ง ทต่ี ั้งและอาณาเขตของทวีปยโุ รป 15. ภาระงาน/ช้นิ งาน 1. ใบงานที่ 2.1 เร่ือง ทีต่ ้ังและอาณาเขตของทวปี ยโุ รป 16. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ เครื่องมอื เกณฑ์ วธิ ีการ ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน แบบทดสอบก่อนเรยี น (ประเมินตามสภาพจริง) หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 2 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจใบงานที่ 2.1 ใบงานท่ี 2.1 ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ เร่ือง ทีต่ ้ังและอาณาเขตของทวีปยุโรป เรือ่ ง ท่ตี ง้ั และอาณาเขตของทวีปยโุ รป ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ประเมนิ การนำเสนอผลงาน แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน สังเกตความมีวนิ ยั และใฝ่เรียนรู้ แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ลงช่ือ............................................................. (นางสาวนิลบุ ล ศิลปธนู) ผู้จัดทำแผนการจัดการเรียนรูฯ้

7 ประเด็น บนั ทกึ ผลหลงั การจัดการเรียนรู้ ดา้ นความรู้ ผลการจดั การเรยี นรู้ ดา้ นทกั ษะกระบวนการ ดา้ นคุณลกั ษณะ การประเมนิ ผลตามผลการเรียนรู้ รอ้ ยละของนักเรียนทผ่ี า่ นการประเมิน ผลการแก้ปญั หา ปัญหาที่พบ รอ้ ยละของนักเรียนท่ีไมผ่ า่ นการประเมิน แนวทางการแกป้ ญั หา ลงช่ือ................................................. (นางสาวนิลุบล ศลิ ปธน)ู ผู้สอน  เหน็ ควรให้ใช้แผนการจัดการเรียนรู้  เหน็ ควรปรบั ปรุงแก้ไข................................................................................................................. ลงช่ือ................................................. (นายจริ พล ลิวา) หวั หน้ากลุ่มสาระสงั คมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม

8  เหน็ ควรใหใ้ ช้แผนการจดั การเรยี นรู้  เห็นควรปรบั ปรุงแกไ้ ข................................................................................................................. ลงชอ่ื ................................................. (นางกญั ญารัตน์ สาระพันธ์) หวั หน้ากลุ่มงานบริหารวิชาการ  เห็นควรให้ใช้แผนการจัดการเรียนรู้  เห็นควรปรับปรุงแกไ้ ข................................................................................................................. ลงชื่อ................................................. (นางจิราพร รตั นกุล) ผู้อำนวยการโรงเรยี นสตรปี ากพนงั

9 ใบงานที่ 1.1 เคร่อื งมอื ทางภูมศิ าสตร์ ตอนที่ 1 คำช้แี จง ใหน้ ักเรียนตอบคำถามต่อไปน้ี 1. ลกู โลกให้ข้อมูลสำคัญอย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 2. แผนทีเ่ ลม่ จะรวมแผนท่ีประเภทใดมาไว้ด้วยกนั ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ข้อมลู ทีบ่ รรจอุ ยใู่ นแผนทเ่ี ล่มส่วนใหญจ่ ะแสดงเก่ียวกับเรื่องใด ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. แผนท่ีเลม่ มจี ุดอ่อนในเรอ่ื งใด ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. ในการศึกษาข้อมลู จากแผนท่ีเลม่ นนั้ จะต้องเรยี นรสู้ ่งิ ใดเป็นลำดบั แรก จงอธิบายเหตุผล ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 6. ภาพจากดาวเทียมจะให้ขอ้ มูลทเี่ หมอื นจริงเกี่ยวกับเร่ืองใดบา้ ง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

10 7. ภาพจากดาวเทียมมีขีดจำกดั อยา่ งไรบา้ ง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 8. การใชข้ อ้ มลู จากอินเทอร์เน็ตประกอบการศึกษาเรอื่ งราวทางภมู ศิ าสตรม์ ีประโยชน์อย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 9. ขีดจำกดั ในเรอ่ื งของขอ้ มูลจากเว็บไซต์ ไดแ้ ก่อะไรบ้าง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 10. โปรแกรม google earth มจี ุดเด่นอย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 11. ข้อจำกัดในการใชง้ านโปรแกรม google earth คอื อะไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 12. ส่ิงที่ใหข้ ้อมูลเกย่ี วข้องกับเร่ืองภูมิศาสตรโ์ ดยตรง ได้แก่อะไรบ้าง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 13. เรามวี ิธีการเลือกใช้เครอ่ื งมือทางภมู ิศาสตร์ท่ีมีคณุ ภาพอย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

11 14. เรามีวธิ ีการตรวจสอบข้อมูลทางภูมิศาสตร์ที่ไดม้ าอย่างไรบ้าง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 15. เพราะเหตุใด จงึ ต้องใช้เครือ่ งมือทางภูมิศาสตร์หลากหลายผสมกนั ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………