1
แผนการจัดการเรียนรู๎รายภาค ภาคเรยี นที่ 2 ปีก แผนการลงทะเบยี น วิชาบังคบั 1. รหัสรายวิชา พค21001 วิชาคณติ ศาสตร๑ 2. รหสั รายวชิ า อช21001 วชิ าชํองทางการพฒั นาอาชพี 3. รหัสรายวิชา สค11001 วิชาสังคมศกึ ษา วชิ าเลือกบังคับ 1. รหัสรายวชิ า สค22016 วชิ าการเงินเพื่อชีวติ 2 2. รหสั รายวิชา สค22019 วชิ าการเรียนรู๎สภู๎ ัยธรรมชาติ 2 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนต๎น ครัง้ ท่ี วนั เดือน ปี รายการ/รหสั วิชา/วชิ า ตัวช้วี 1 8 พ.ย. 64 ปฐมนิเทศ 1. ชแ้ี จงโครงสรา๎ งหล 2 10 พ.ย.64 1. อธบิ ายความสาํ คัญ พบกลมํุ คร้งั ท่ี 1 อช21001 จาํ เป็นในการพัฒนาอ ชํองทางการพัฒนาอาชพี 2. อธบิ ายลกั ษณะขอ กระบวนการผลิตงาน
2 ค ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนต๎น การศึกษา 2564 จาํ นวน 4 หนํวยกิต จาํ นวน 2 หนํวยกิต จํานวน 3 หนวํ ยกิต จํานวน 3 หนวํ ยกิต จาํ นวน 3 หนวํ ยกติ วดั เน้อื หา ลกั สตู ร 1. โครงสร๎างหลกั สูตร ญ และความ 1.ความสาํ คญั และความจําเปน็ ในการพฒั นาอาชพี อาชีพ อบขาํ ย 2.การพฒั นาอาชีพในชุมชน นอาชีพในชุมชน สงั คม ประเทศ และภมู ภิ าค 5
คร้งั ที่ วนั เดือน ปี รายการ/รหัสวชิ า/วชิ า ตวั ชี้ว สังคม ประเทศ และภ ไดแ๎ กํ ทวปี เอเซยี ทว ทวีปอเมรกิ า ทวีปยุโร ทวปี อฟั ริกา เพือ่ นาํ ม พฒั นาอาชีพ 3. อธบิ ายการจดั การ ชมุ ชน สังคม ประเทศ ทวีป ได๎แกํ ทวปี เอเช ออสเตรเลยี ทวีปอเม และทวปี อัฟรกิ า เพือ่ การพฒั นาอาชพี
3 วัด เน้ือหา ภูมิภาค 5 ทวีป ทวปี ได๎แกํ ทวปี เอเซยี ทวปี วีปออสเตรเลีย ออสเตรเลยี ทวปี อเมรกิ า รป และ ทวีปยโุ รป และทวีปอัฟรกิ า มาวิเคราะห๑ในการ - งานอาชีพด๎าน เกษตรกรรม - งานอาชีพดา๎ น อตุ สาหกรรม - งานอาชีพดา๎ น พาณชิ ยกรรม - งานอาชพี ดา๎ นความคิด สร๎างสรรค๑ - งานอาชีพ ดา๎ นอํานวยการ และอาชีพเฉพาะ รในงานอาชพี ใน 3.การพัฒนากระบวนการ ศและภมู ิภาค 5 จัดการงานอาชพี ในชมุ ชน ชยี ทวปี สังคม ประเทศ และภูมภิ าค 5 มรกิ า ทวปี ยโุ รป ทวปี ไดแ๎ กํ ทวีปเอเซีย ทวีป อนาํ มาวิเคราะหใ๑ น ออสเตรเลยี ทวีปอเมริกา ทวีปยุโรป และทวปี อฟั ริกา
คร้งั ท่ี วนั เดอื น ปี รายการ/รหสั วชิ า/วิชา ตัวชว้ี 4. อธิบายคณุ ธรรม จ พัฒนาอาชีพ
4 วดั เน้อื หา จริยธรรมในการ 3.1การจดั การการผลติ - การวางแผน - การจัดทาํ โครงการ - การใชว๎ สั ดอุ ุปกรณ๑ - การใช๎แรงงาน - การใชส๎ ถานท่ี - การใช๎ทุน ฯลฯ 3.2 การจัดการการตลาด - การกําหนดทิศทางการตลาด - การหาความตอ๎ งการของตลาด - การขนสํง - การขาย - การกําหนดราคาขาย - การทาํ บญั ชปี ระเภทตาํ งๆ ฯลฯ 4.คุณธรรม จริยธรรม - ความรบั ผิดชอบ - การประหยดั
ครงั้ ท่ี วนั เดอื น ปี รายการ/รหัสวชิ า/วชิ า ตัวชีว้ 5. อธิบายการอนรุ กั ษ ส่ิงแวดล๎อมในการพัฒ ชุมชน สังคม ประเทศ ทวีป ได๎แกํ ทวปี เอเซ ออสเตรเลีย ทวีปอเม และทวปี อัฟริกา 3 17 พ.ย.64 พบกลุมํ ครง้ั ท่ี 2 สค22016 1. อธิบายความหมาย การเงินเพอ่ื ชวี ติ 2 ของเงิน 2. บอกความหมายแล ของการให๎เงนิ และกา 3. บอกประเภทและล ไทย
5 วัด เนื้อหา - การอดออม ษพ๑ ลังงานและ - ความสะอาด ฒนาอาชีพใน - ความประณีต ศและภมู ิภาค 5 - ความขยนั ซยี ทวปี - ความซ่ือสัตย๑ มริกา ทวีปยโุ รป ฯลฯ 5.การอนุรักษ๑พลังงาน และ สิง่ แวดลอ๎ มในการพัฒนาอาชีพในชมุ ชน สงั คม ประเทศ และภมู ภิ าค 5 ทวีป ได๎แกํ ทวีปเอเซีย ทวีปออสเตรเลีย ทวีปอเมรกิ า ทวีปยุโรป และทวีปอัฟริกา ย และประโยชน๑ 1. ความหมายและประโยชนข๑ องเงิน 2. ความหมาย ความแตกตาํ งของการให๎เงินและการให๎ยมื ละความแตกตาํ ง เงนิ ารใหย๎ ืมเงิน 3. เงินไทย ลักษณะของเงนิ - ธนบตั ร - เหรยี ญกษาปณ๑
คร้ังท่ี วัน เดอื น ปี รายการ/รหสั วิชา/วิชา ตวั ชี้ว 4 24 พ.ย.64 พบกลุมํ ครง้ั ที่ 3 พค21001 1. บอกสมบตั ขิ องจําน ความรูเ๎ กี่ยวกบั สมบตั คณติ ศาสตร๑ ไปใช๎ 2. บวก ลบ คณู หาร ทศนิยมได๎ และอธบิ า 3. หาคําของร๎อยละ 5 1 ธ.ค.64 พบกลํมุ คร้งั ท่ี 4 สค21001 1. มีความรู๎ ความเข๎า สงั คมศกึ ษา ภูมิศาสตร๑กายภาพขอ ในทวปี เอเชีย 6 8 ธ.ค.64 พบกลํมุ ครั้งที่ 5สค22019 1. บอกผลกระทบท่ีเก การเรียนรูส๎ ู๎ภยั ธรรมชาติ2 2. บอกสาเหตุ และป วาตภัย
6 วดั เน้ือหา นวนเต็มและ นํา 1. สมบัตขิ องจาํ นวนเต็มและการนาํ ไปใช๎ ติของจํานวนเตม็ ร เศษสวํ นและ 2. การบวกเศษสวํ นและทศนิยม ายผลทเ่ี กดิ ขน้ึ การลบเศษสวํ นและทศนิยม การคณู เศษสวํ นและทศนยิ ม าใจ ลกั ษณะ การหารเศษสวํ นและทศนยิ ม องประเทศตํางๆ การหารเศษสวํ นและทศนิยม 3. ร๎อยละ 1. ลกั ษณะทางภูมศิ าสตร๑กายภาพของประเทศตาํ งๆ ใน ทวีปเอเชยี - ทีต่ งั้ อาณาเขตของประเทศตาํ งๆ ในทวีปเอเชีย กดิ จากภยั แล๎ง 1. ลักษณะการเกิดภยั แลง๎ ปัจจยั การเกดิ 1.1 สาเหตแุ ละปัจจยั การเกดิ ภยั แล๎ง 1.2 ผลกระทบท่เี กิดจากภยั แล๎ง 1.3 ห๎วงเวลาการเกดิ ภัยแล๎ง 2. ลักษณะการเกดิ วาตภัย 2.1 สาเหตแุ ละปัจจยั การเกิดวาตภัย 2.2 แนวทางการปอู งกันและการแกไ๎ ข ปัญหา
คร้ังท่ี วนั เดือน ปี รายการ/รหัสวิชา/วชิ า ตัวชวี้ 7 15 ธ.ค.64 พบกลมุํ ครง้ั ท่ี 6 อช21001 1. ตดั สนิ ใจเลอื กพฒั น ชอํ งทางการพัฒนาอาชีพ เหมาะสมกบั ตนเอง 8 22 ธ.ค.64 พบกลุํม ครั้งที่ 7 สค22016 1. บอกลกั ษณะของก การเงินเพื่อชีวิต2 รายจําย 2. บอกประโยชนข๑ อง รายรับ-รายจาํ ย 3. จดบันทกึ รายรับ-ร 4. อธบิ ายความหมาย ของการออม 5. บอกหลักการออม
7 วดั เนอื้ หา นาอาชพี ได๎ ผลกระทบท่ีเกดิ จากวาตภัย 2.3 การเตรยี มความพร๎อมรบั สถานการณ๑ การเกดิ วาตภยั การบนั ทกึ รายรับ- 1. การตดั สินใจเลือกพัฒนาอาชตีพาม 5 ศกั ยภาพ ไดแ๎ กํ งการบันทึก 1.1 ศกั ยภาพของทรัพยากรธรรมชาตใิ นแตํละพื้นท่ี รายจําย 1.2 ศกั ยภาพของพ้ืนท่ีตามลกั ษณะภมู ิอากาศ ย และประโยชน๑ 1.3 ศกั ยภาพของภูมปิ ระเทศและทําเลที่ต้ังของแตลํ ะ พ้ืนท่ี 1.4 ศกั ยภาพของศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณแี ละวิถีชีวติ ของแตํละพ้ืนท่ี 1.5 ศกั ยภาพของทรพั ยากรมนษุ ย๑ในแตํละพื้นที่ 1. ลกั ษณะและประโยชน๑ของบนั ทกึ รายรับ-รายจาํ ย 2. วธิ บี นั ทึกรายรับ-รายจาํ ย 3. ความหมาย และประโยชน๑ของการออม 4. หลักการออมให๎สาํ เร็จ มให๎สําเร็จ
ครัง้ ที่ วนั เดอื น ปี รายการ/รหสั วชิ า/วชิ า ตวั ช้วี 9 29 ธ.ค.64 พบกลุมํ ครั้งท่ี 8 พค21001 1. หาพ้ืนท่ขี องรูปเรข สงั คมศึกษา 2. อธิบายลักษณะแล ปริซึม พีระมิด ทรงก ทรงกลม หาปรมิ าตร ปรซิ ึม 3. หาปริมาตรของพรี ทรงกลม 10 5 ม.ค.65 พบกลํมุ คร้ังท่ี 9 สค21001 1. นําเหตุการณ๑ในปร สังคมศึกษา วเิ คราะหใ๑ หเ๎ หน็ ความ เกดิ ข้นึ กบั ประเทศไท ทวปี เอเชีย 11 12 ม.ค.65 พบกลมํุ คร้งั ท่ี 10 สค22019 1. อทุ กภยั ดนิ โคลน การเรียนรส๎ู ๎ูภัยธรรมชาติ2
8 วัด เนื้อหา ขาคณติ 1. การหาพ้ืนท่ขี องรปู เรขาคณิต ละสมบัตขิ อง 1.1 ลกั ษณะสมบัตแิ ละการหาพืน้ ที่ผิวและปรมิ าตรของ กระบอก กรวย ปรซิ ึม รและพื้นท่ีผิวของ 1.2 พนื้ ท่ผี วิ และปริมาตรของทรงกรวย ระมิด กรวย และ ระวัตศิ าสตรม๑ า 1. เหตุการณ๑สําคัญทางประวัติศาสตรท๑ เ่ี กิดข้ึนในประเทศ มเปลี่ยนแปลงที่ ไทยและประเทศในทวปี เอเชีย ทย และประเทศใน นถลํม 1. บอกสาเหตุ และปจั จยั การเกิด อทุ กภัย และดินโคลน ถลํม 2. บอกผลกระทบท่เี กิดจากอุทกภัย และดินโคลนถลมํ 3. ตระหนักถึงภยั และผลกระทบที่เกดิ จากอทุ กภัยและดิน โคลนถลมํ 4. บอกสญั ญาณบอกเหตุกํอนเกดิ อุทกภัย และดนิ โคลน
คร้ังท่ี วัน เดือน ปี รายการ/รหัสวิชา/วิชา ตัวช้ีว 12 19 ม.ค.65 พบกลมํุ ครงั้ ท่ี 11 สค22016 1. บอกความหมายขอ การเงนิ เพอื่ ชีวติ 2 “หนีด้ ี” และ “หนี้พงึ 2. บอกลกั ษณะของส 3. บอกสิทธขิ องผใ๎ู ชบ๎ 13 26 ม.ค.65 พบกลํุม คร้งั ท่ี 12 พค21001 1. เปรียบเทยี บหนํวย คณติ ศาสตร๑ หนํวยปรมิ าตรในระบ ตาํ งระบบ และเลือก เกยี่ วกับความจุหรอื ป เหมาะสม 2. เขยี นกราฟแสดงค ของปรมิ าณสองชดุ ท 14 2 ก.พ.65 พบกลมุํ ครงั้ ท่ี 13 สค21001 1. เลอื กวธิ ีการทีม่ ีปร สงั คมศึกษา ในการผลติ สินคา๎ แล 2. รู๎และเข๎าใจการใช ผูบ๎ รโิ ภค
9 วัด เนื้อหา ถลมํ อง 1. การประเมนิ ความเหมาะสมกํอนตัดสินใจกอํ หน้ี งระวงั ” 2. ลักษณะของสินเชอ่ื รายยอํ ยและการคํานวณดอกเบย้ี สินเชอ่ื รายยอํ ย 3. สทิ ธขิ องผ๎ใู ชบ๎ รกิ ารทางการเงิน บรกิ ารทางการเงนิ ย ความจุ หรือ 1. การเปรยี บเทยี บหนํวยปรมิ าตร บบเดยี วกนั หรือ 2. การนําคอํู นั ดับและกราฟไปใช๎ กใชห๎ นวํ ยการวดั ปรมิ าตรไดอ๎ ยาํ ง ความเกย่ี วข๎อง 1. คุณธรรมในการผลิตและการบรโิ ภค ท่ีกําหนดให๎ 2. กฎหมาย และข๎อมูลการคมุ๎ ครองผ๎ูบริโภค ระสทิ ธิภาพมาใช๎ ละบรกิ ารได๎ ช๎กฎหมายค๎มุ ครอง
คร้ังท่ี วนั เดอื น ปี รายการ/รหัสวชิ า/วชิ า ตวั ชว้ี 15 9 ก.พ.65 พบกลํมุ ครัง้ ท่ี 14 สค22019 1. บอกสาเหตุ และป การเรียนรู๎สู๎ภัยธรรมชาติ2 หมอกควัน 2. บอกผลกระทบทเี่ ก 3. ตระหนกั ถงึ ภยั และ จากหมอกควัน 4. บอกพ้นื ทพ่ี ้ืนที่ทีไ่ ด จากหมอกควนั ในประ ประเทศตาง ๆ ในทว 5. บอกวิธกี ารเตรยี ม สถานการณการเกดิ ห 6. บอกวธิ กี ารปฏิบัต หมอก ควัน 7. บอกวธิ ีการปฏบิ ัต หมอกควนั 16 16 ก.พ.65 พบกลํมุ คร้งั ท่ี 15 พค21001 1. นาํ เสนอขอ๎ มูลในร คณิตศาสตร๑ เหมาะสม 2. การหาคาํ กลางขอ ไมแํ จกแจงความถี่
10 วัด เน้อื หา ปจจยั การเกดิ 1. ลักษณะการเกิดหมอกควนั 2. สาเหตุและปจจัยการเกดิ หมอกควัน กิดจากหมอกควัน 3. ผลกระทบท่เี กดิ จากหมอกควนั ะผลกระทบท่ีเกดิ 4. พ้นื ทท่ี ี่ไดรับผลกระทบจากหมอก ควันในประเทศไทย และประเทศตาง ๆ ในทวีปเอเชยี ดรบั ผลกระทบ 5. แนวทางการปองกนั และการแกไข ปญหาผลกระทบท่ี ะเทศไทยและ เกดิ จากหมอกควัน วปี เอเชีย 6. การเตรียมความพรอมรับสถานการณการเกดิ มความพรอมรบั หมอกควนั หมอกควัน 7. การปฏบิ ัติขณะเกิดหมอกควนั ติขณะเกิด 8. การปฏบิ ัติตนหลงั เกดิ หมอกควัน ติตนหลงั เกิด รูปแบบท่ี 1. การนาํ เสนอขอ๎ มูล องข๎อมลู ท่ี 1.1 การนาํ เสนอข๎อมลู ในรูปตาราง 2. การหาคํากลางของข๎อมูล 2.1 คาํ เฉลยี่ เรขาคณิต
ครั้งท่ี วนั เดอื น ปี รายการ/รหสั วิชา/วชิ า ตัวชว้ี 17 23 ก.พ.65 พบกลํุม คร้งั ท่ี 16 สค21001 1. รแู๎ ละเขา๎ ใจระบอบ สงั คมศกึ ษา การปกครองตาํ งๆ ท่ใี 18 2 ม.ี ค.65 พบกลมุํ คร้งั ท่ี 17 สค22019 1. บอกสาเหตปุ ัจจัยก การเรยี นรส๎ู ภ๎ู ัยธรรมชาติ2 แผํนดนิ ไหว 19 9 ม.ี ค.64 พบกลมํุ ครั้งที่ 18 พค21001 1. อธบิ ายเกย่ี วกับกา คณิตศาสตร๑ เหตกุ ารณ๑ได๎ 2. หาคาํ ความนาํ จะเป ได๎ 3. ใชค๎ วามร๎เู ก่ยี วกับค การคาดการณไ๑ ด๎อยํา 20 16 ม.ี ค.64 ปัจฉมิ นิเทศ
11 วัด เนื้อหา 2.2 มธั ยฐาน บการเมอื ง 2.3 ฐานนยิ ม ใช๎อยใํู นปจั จบุ ัน 1. การปกครอง ระบอบประชาธิปไตย และอืน่ ๆ การเกดิ 1. ลักษณะการเกดิ แผนํ ดินไหว ารทดลองสํุมและ 2. สาเหตุและปจั จัยการเกดิ แผํนดินไหว ปน็ ของเหตุการณ๑ 1. การทดลองสุมํ และเหตุการณ๑ 2. การหาความนาํ จะเปน็ ของเหตกุ ารณ๑ 3. การนําความนําจะเป็นของเหตุการณ๑ตํางๆ ไปใช๎ ความนําจะเป็นใน างสมเหตุสมผล
11 แผนการจดั การเรยี นร๎ทู ี่ 1 เร่ือง การงานอาชีพ เวลาเรียน 6 ช่ัวโมง แนวคิด ความหมาย ความสาํ คัญและความจาํ เปน็ ของการพฒั นาอาชีพ วิเคราะห๑ลกั ษณะขอบขําย การงานอาชพี กระบวนการทํางาน การบริหารจดั การของอาชีพตาํ ง ๆ ในชุมชน สังคม ประเทศ และ โลก เพื่อการพฒั นาอาชีพ จากการงานอาชพี ตาํ ง ๆ เชํน งานบา๎ น เป็นการวเิ คราะห๑เก่ยี วกับงานบ๎านและชวี ิตความเป็นอยูใํ นบ๎าน ผา๎ และเครอ่ื งแตํง กาย อาหารและโภชนาการ โดยเนน๎ การแกป๎ ญั หาในการทาํ งาน มีความรบั ผิดชอบ สะอาด มีระเบยี บ ประหยดั อดออม อนุรกั ษพ๑ ลงั งานและสิง่ แวดล๎อม เพอื่ นําไปสูกํ ารสรา๎ งงานอาชพี ท่ีเหมาะสมกับ ศกั ยภาพของตนและสอดคลอ๎ งกบั ชมุ ชน สงั คม งานเกษตร เปน็ การวิเคราะหเ๑ ก่ยี วกับการปลูกพืช เลี้ยงสัตว๑ และการประมง ตาม กระบวนการผลติ และการจัดการผลผลติ มีการใชเ๎ ทคโนโลยีเพือ่ การเพ่มิ ผลผลิต ปลูกฝงั ความ รบั ผดิ ชอบ การอนรุ กั ษ๑พลงั งานและส่ิงแวดลอ๎ มเพื่อนําไปสกูํ ารสร๎างงานอาชพี ท่เี หมาะสมกบั ศกั ยภาพ ของตนและสอดคล๎องกับชมุ ชน สงั คม งานชําง เปน็ การวเิ คราะหเ๑ กี่ยวกบั การทาํ งานตามกระบวนการของงานชาํ ง ซ่ึงประกอบด๎วย การบาํ รุงรกั ษา การติดต้งั ประกอบ การซอํ มและการผลิตเพอ่ื จะนาํ ไปสํูการสรา๎ งงานอาชพี ท่ี เหมาะสมกบั ศักยภาพของตนและสอดคล๎องกบั ชมุ ชน สังคม งานประดิษฐ๑ เปน็ การวเิ คราะหเ๑ กย่ี วกับการทาํ งานดา๎ นการประดิษฐ๑สงิ่ ของ เครอื่ งใชท๎ ่เี นน๎ ความคดิ สรา๎ งสรรค๑ โดยเน๎นความประณตี สวยงามตามกระบวนการงานประดษิ ฐ๑และเทคโนโลยี และ เน๎นการอนุรักษ๑และสืบสานศิลปวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีไทย ตามภูมิปัญญาท๎องถ่ินและ สากล เพื่อนาํ ไปสกํู ารสรา๎ งงานอาชีพทีเ่ หมาะสมกับศักยภาพของตนและสอดคลอ๎ งกับชมุ ชน สังคม งานธรุ กจิ เปน็ การวิเคราะหง๑ านหรอื กิจกรรมท่เี ปน็ การนาํ เอาทรัพยากรตํางๆ มาใชร๎ ํวมกนั หรือเปลยี่ นสภาพเพ่ือท่ีจะกํอใหเ๎ กดิ คณุ คาํ ท่ีสูงกวาํ เดมิ โดยทผ่ี ูซ๎ ึง่ เป็นเจ๎าของหรอื ผ๎จู ัดการหวงั วาํ สิ่งที่ ตนทําน้ันจะยั่งยนื และเจริญกา๎ วหน๎าตอํ ไปในอนาคต โดยในงานหรอื กจิ กรรมทางธุรกิจจะกลําวถึง งานการตลาด งานการผลิตหรือบริการ งานการเงินและบญั ชี และงานทรัพยากรมนษุ ย๑ ความหมาย ความจําเป็นในการพฒั นาอาชีพในชุมชน สังคม ประเทศ และโลก ท่เี หมาะสม กบั ตนเอง วเิ คราะหค๑ วามเป็นไปไดต๎ าํ ง ๆ ได๎แกํ การลงทุน การตลาด กระบวนการผลิต การขนสํง การบรรจหุ บี หํอ การแปรรูป และผลกระทบตอํ ชมุ ชนและสง่ิ แวดลอ๎ ม ความร๎ูความสามารถของ
12 ตนเองตอํ สง่ิ ที่ต๎องการพัฒนา การลาํ ดบั ความสาํ คัญของการพฒั นาทม่ี ีความเปน็ ไปได๎ เพือ่ นาํ ข๎อมูลที่ วเิ คราะหไ๑ ว๎นาํ ไปปรกึ ษาผ๎ูร๎ู การตัดสินใจเลอื กพฒั นาอาชีพทีเ่ หมาะสมกับตนเอง โดยวเิ คราะหค๑ วามพรอ๎ มของตนเอง ความ ตอ๎ งการของตลาด เทคนคิ ความร๎ู ทักษะในอาชพี และความรับผดิ ชอบตํอสังคม ทรพั ยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดลอ๎ ม ตวั ช้วี ดั 1. อธิบายความสําคัญ และความจําเป็นในการพัฒนาอาชีพ 2. อธบิ ายลักษณะขอบขํายกระบวนการผลิตงานอาชพี ในชมุ ชน สงั คม ประเทศ และภูมภิ าค 5 ทวีป ได๎แกํ ทวีปเอเซยี ทวีปออสเตรเลีย ทวปี อเมริกา ทวีปยุโรป และทวีปอัฟริกา เพ่ือนํามา วิเคราะหใ๑ นการพฒั นาอาชีพ 3. อธิบายการจัดการในงานอาชพี ในชมุ ชน สงั คม ประเทศและภมู ภิ าค 5 ทวีป ไดแ๎ กํ ทวีป เอเซยี ทวีปออสเตรเลีย ทวปี อเมริกา ทวีปยุโรป และทวีปอฟั ริกา เพือ่ นํามาวเิ คราะหใ๑ นการพฒั นา อาชพี 4. อธบิ ายคณุ ธรรม จรยิ ธรรมในการพฒั นาอาชพี 5. อธบิ ายการอนรุ กั ษ๑พลงั งานและสิง่ แวดล๎อมในการพัฒนาอาชพี ในชุมชน สงั คม ประเทศ และภมู ิภาค 5 ทวีป ไดแ๎ กํ ทวปี เอเซยี ทวีปออสเตรเลีย ทวปี อเมริกา ทวีปยุโรป และทวปี อัฟริกา เนอ้ื หา 1. ความสําคัญ และความจาํ เป็นในการพฒั นาอาชพี 2. ลักษณะขอบขํายกระบวนการผลิตงานอาชพี ในชุมชน สังคม ประเทศ และภูมิภาค 5 ทวีป ได๎แกํ ทวปี เอเซีย ทวีปออสเตรเลยี ทวปี อเมริกา ทวปี ยโุ รป และทวีปอัฟริกา เพ่อื นํามาวเิ คราะห๑ใน การพัฒนาอาชพี 3. การจดั การในงานอาชพี ในชมุ ชน สงั คม ประเทศและภูมิภาค 5 ทวีป ไดแ๎ กํ ทวีปเอเซีย ทวีปออสเตรเลีย ทวีปอเมรกิ า ทวีปยโุ รป และทวปี อฟั รกิ า เพ่ือนํามาวิเคราะหใ๑ นการพัฒนาอาชีพ 4. คุณธรรม จรยิ ธรรมในการพฒั นาอาชพี 5. การอนรุ กั ษ๑พลังงานและส่งิ แวดลอ๎ มในการพฒั นาอาชพี ในชุมชน สังคม ประเทศและ ภูมภิ าค 5 ทวีป ไดแ๎ กํ ทวปี เอเซีย ทวีปออสเตรเลยี ทวีปอเมริกา ทวีปยโุ รป และทวปี อฟั รกิ า
13 ขน้ั ตอนการจัดกระบวนการเรยี นรู๎ ขน้ั ตอนท่ี 1 การสร๎างแรงบนั ดาลใจ ( Passion : P ) 1. ครทู กั ทายผ๎เู รียน พร๎อมท้งั แนะนําตนเองและแผนการจัดกา รเรียนรู๎ซงึ่ การจดั การเรียนร๎ทู ่ี ผ๎เู รยี นจะตอ๎ งเรียนรู๎รวํ มกันในครงั้ น้ี คือ เรือ่ ง “ ความสําคญั และความจําเปน็ ในการพัฒนาอาชีพ ” และ ชวนคิดชวนคุยเกี่ยวกับเรือ่ งที่จะเรยี นรู๎ เพ่อื กระตุน๎ ใหผ๎ ๎เู รียนเกดิ ความสนใจและมคี วาม กระตอื รือร๎นในการเชอ่ื มโยงและสร๎างความพรอ๎ มที่จะเรียนรหู๎ รือทาํ กจิ กรรมการเรยี นรตู๎ ามแผนการ จัดการเรียนรคู๎ ร้งั นี้ 2. ครชู ีแ้ จงวตั ถุประสงค๑ เนอื้ หา กิจกรรม การวดั และประเมินผลของการเรียนร๎ูในครั้งนี้ ที่ สอดคล๎องกับตวั ช้ีวัดตามแผนการจดั การเรยี นร๎คู รั้งน้ี เพื่อให๎ผเ๎ู รยี นเขา๎ ใจอยาํ งชดั เจนวาํ ผูเ๎ รยี นจะตอ๎ ง เรยี นร๎ใู ห๎บรรลุตวั ชีว้ ดั ทก่ี ําหนดตามแผนการจดั การเรยี นรทู๎ ่ี 1 เรอื่ ง “ความสาํ คัญ และความจําเปน็ ใน การพัฒนาอาชพี ”ในคร้งั นี้ โดยใหน๎ กั ศึกษาทําใบงานที่ 1 จาํ นวน 2 ขอ๎ อธบิ ายความสาํ คัญ และความ จาํ เป็นในการพฒั นาอาชพี 3. ใหผ๎ ูเ๎ รยี นทาํ แบบทดสอบกํอนเรยี นเรอ่ื ง “อธิบายความสําคัญ และความจําเป็นในการพฒั นา อาชีพ” โดยใชเ๎ วลา 10 นาที 4. ครูให๎ผู๎เรียนศึกษาหนังสอื เรียนรายวชิ าชํองทางการพฒั นาอาชพี อช210021 ระดับ มธั ยมศกึ ษาตอนต๎น (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) เร่อื ง อธบิ ายความสําคัญ และความจาํ เปน็ ในการ พฒั นาอาชีพ หนา๎ 2 พร๎อมทัง้ แนะนาํ แหลํงศกึ ษาค๎นควา๎ เพิ่มเตมิ จากอินเทอร๑เนต็ ซึง่ ผ๎ูเรียนสามารถ ไปเรียนร๎ูได๎ด๎วยตนเองและทํากจิ กรรมตามท่ีไดร๎ ับมอบหมายด๎วย ท้ังนี้ครูควรจะชีแ้ จงให๎ผู๎เรียนทราบ วําในการพบกลมุํ ตามแผนการจัดการเรียนรคู๎ รั้งนี้ ผเ๎ู รยี นจะตอ๎ งเรยี นรแ๎ู ละทาํ กิจกรรมทีส่ อดคลอ๎ งกับ เนื้อหาท่เี รยี น โดยปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตาํ ง ๆ ไดแ๎ กํ การศึกษาคลิปวดิ โี อ และการแลกเปล่ียนเรยี นรโ๎ู ดย การอภิปรายรํวมกบั เพื่อนในกลมํุ รวมทั้งมีการทดสอบหลงั เรยี นดว๎ ย นอกจากน้ี ในการพบกลมํุ แตํละครัง้ นนั้ ครูจะมอบหมายงานให๎ผูเ๎ รียนไปเรยี นรู๎ด๎วยวธิ ีการ เรียนรดู๎ ๎วยตนเอง ซง่ึ วธิ กี ารเรียนรด๎ู ว๎ ยตนเองจะต๎องเกดิ ข้ึนในทกุ ๆ ตัวชว้ี ัดและเนอ้ื หาท่ีกําหนดโดย ผู๎เรยี นจะต๎องปฏบิ ตั ิกจิ กรรมทก่ี ําหนดให๎ดว๎ ยวธิ ีเรยี นรู๎ออนไลน๑ และศกึ ษาจากเอกสารประกอบการ เรยี นดังน้ัน ครูจะตอ๎ งเชือ่ มโยงรายละเอยี ดดงั กลําวขา๎ งตน๎ ใหผ๎ ๎ูเรียนได๎เกิดความเขา๎ ใจและเกดิ แรง บันดาลใจในการเรยี นรท๎ู จี่ ะเกดิ ข้ึน เพราะการมอบหมายงานให๎ผ๎ูเรยี นไปเรียนรดู๎ ๎วยวธิ เี รยี นรู๎ด๎วย ตนเองนั้น ผู๎เรียนจะตอ๎ งเรยี นรอ๎ู อนไลนผ๑ าํ นอนิ เทอร๑เน็ต และศึกษาเอกสารประกอบการเรยี น 5. ครูชวนคิดชวนคยุ เกยี่ วกับประสบการณเ๑ ดิมของครูในเร่ืองที่จะเรียนรตู๎ ามแผนการจดั การ เรียนร๎นู ี้ โดยครสู ํมุ ผเู๎ รียนตามความสมัครใจ จาํ นวน 4 –5 คนให๎ตอบคําถาม จาํ นวน 1 ประเดน็ ดงั น้ี ประเดน็ ที่ 1 “ทํานทราบหรือไมํวาํ ความสาํ คญั การพฒั นาอาชพี คอื อะไร ” แนวคาํ ตอบ คอื ความสาํ คัญและความจาํ เป็นของการพฒั นาอาชพี วิเคราะห๑ลกั ษณะ ขอบขาํ ยการงานอาชีพ กระบวนการทาํ งาน การบริหารจดั การของอาชพี ตาํ ง ๆ ในชมุ ชน สังคม ประเทศ และโลก เพอ่ื การพฒั นาอาชพี จากการงานอาชพี ตาํ งๆ
14 หลงั จากน้ัน ครเู ปิดคลิปวิดโี อใหผ๎ ู๎เรยี นชม เรอื่ ง “ความสาํ คัญและความจําเป็นในการ ประกอบอาชีพ ชอํ งทางการพฒั นาอาชีพ” จาก https://www.youtube.com/watch?v=EmHttWPvcVQ ชวํ งเวลา 5.12 นาที โดยครสู มํุ ผเู๎ รยี นตามความสมัครใจ จาํ นวน 4 – 5 คน ใหต๎ อบคาํ ถามจํานวน 2 ประเด็น ดังน้ี ประเด็นที่ 1 “ทํานได๎เรยี นรอ๎ู ะไรบา๎ ง จากคลปิ วิดีโอน้ี” แนวคําตอบ ไดเ๎ รียนร๎ูความสําคญั ในการพฒั นาอาชพี อาชพี ทําให๎เรามปี ัจจัยสี่ในการ ดํารงชวี ติ คือ การมอี าหารพอเพยี งตํอความต๎องการ มีบา๎ นสําหรับทอี่ ยูอํ าศัย มเี ครื่องนงุํ หํมปูองกัน รอ๎ นหนาวและมียารักษาโรคในยามเจบ็ ไข๎ เป็นปัจจัยพน้ื ฐานในการดํารงชวี ติ ประเดน็ ท่ี 2 “ทาํ นคิดวํา การพฒั นาอาชีพมคี วามจําเปน็ อยาํ งไร” แนวคําตอบ ความจําเป็นในการพฒั นาอาชีพ ความจําเป็นในการพฒั นาอาชพี ชุมชน สังคม ประเทศและโลกท่เี หมาะสมกับตนเอง ซ่งึ จะตอ๎ งสามารถวเิ คราะหค๑ วามเปน็ ไปไดด๎ า๎ นตาํ งๆ เชํน การลงทนุ การแปรรปู การบรรจหุ บี หํอ และ ผลกระทบที่อาจเกดิ ข้นึ กบั ชมุ ชนและสง่ิ แวดลอ๎ ม ความรค๎ู วามสามารถของตนเองที่มี ตอํ สิ่งทตี่ ๎องการ พัฒนา การลาํ ดับความสาํ คญั ของการพัฒนาทม่ี ีความเป็นไปได๎ เพือ่ จะไดน๎ ําข๎อมลู มาวเิ คราะห๑ในการ ตัดสินใจเลือกพฒั นาอาชพี ที่เหมาะสมกับตนเอง โดยจะต๎องวิเคราะห๑ความพรอ๎ มของตนเอง ความ ต๎องการของตลาด เทคนิคความรู๎ ทักษะในอาชีพและความรับผิดชอบตอํ สังคม ทรัพยากรธรรมชาติ และสงิ่ แวดล๎อม ซึง่ ผ๎ทู ี่จะพฒั นาอาชีพน้นั ตอ๎ งมคี วามสามารถในการผลติ การจดั การและการตลาด เชํน การทําอาชพี เพาะเหด็ จะต๎อง จะต๎องความสามารถคือ 1. ความสามรถดา๎ นการผลิต มคี วามร๎มู ี ทกั ษะในการเพาะเห็ดชนิดตํางๆ ได๎เป็นอยํางดี 2. ความสามารถด๎านการจดั การ คือรจ๎ู กั การวาง แผนการผลติ วางแผนการจัดจาํ หนํายให๎สอดคล๎องกบั ความตอ๎ งการของผ๎ูบริโภค ตลอดจนมีความร๎ู การจดั ทาํ บัญชรี ายรับ-รายจําย สรุปผลกําไร ขาดทุน 3. ความสามารถด๎านการตลาด คือ มที กั ษะ มี ประสบการณใ๑ นการขาย รู๎วําจะต๎องทาํ อยํางไรจึงจะนําผลติ ไปสู๎ผ๎ูบรโิ ภคไดเ๎ ร็วท่สี ดุ และผู๎บริโภคพอ ในมากทสี่ ดุ ซงึ่ จะต๎องอาศยั กระบวนการจดั การสินค๎า การคัดเกรด บรรจหุ บี หอํ ตลอดจนการขนสงํ เป็นตน๎ ข้ันตอนท่ี 2 การนําไปใชป๎ ระโยชน๑ (Utilization : U) 1. ครใู หผ๎ ๎ูเรียนแลกเปล่ยี นเรียนร๎ู โดยแบํงผเู๎ รยี นออกเปน็ กลํุม ๆ กลมุํ ละ 4 – 5 คน ดาํ เนิน กจิ กรรมเป็นรายกลํมุ ศึกษาเนื้อหา ในหนังสือเรยี นรายวิชาชํองทางการพัฒนาอาชพี อช21001 ระดบั มัธยมศึกษาตอนต๎น (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) เรือ่ ง การพัฒนาอาชพี ในชมุ ชน สงั คม ประเทศ หนา๎ 2 ดงั นี้ 1) เร่อื งความสําคัญในการพัฒนาอาชีพ (หนา๎ 2 ) 2) เรอื่ งความจาํ เป็นในการพัฒนาอาชีพ (หนา๎ 2 )
15 ให๎แตลํ ะกลํุม แลกเปลย่ี นเรียนร๎ู และสํงผ๎แู ทนนาํ เสนอตอํ กลํมุ ใหญํ ครแู ละผูเ๎ รยี นสรุปผลการ เรยี นรู๎รวํ มกนั และให๎ผู๎เรยี นสรปุ สง่ิ ท่ีได๎เรียนร๎ูลงในสมดุ บนั ทึกผลการเรยี นร๎ูของตน 2. ครแู นะนาํ แหลงํ เรยี นรใ๎ู ห๎กับผู๎เรียนเพ่อื ใช๎เป็นเครื่องมอื ในการแสวงหาความรูด๎ ว๎ ยตนเอง อาทิ ห๎องสมดุ แหลงํ เรยี นรูใ๎ นชุมชน หนวํ ยงาน สถานศกึ ษาตําง ๆ รวมทั้งการใชอ๎ ินเตอร๑เน็ตเพื่อการ เรยี นร๎ูดว๎ ยตนเอง เป็นต๎น 3. ครดู าํ เนนิ การทาํ หนา๎ ท่ีนาํ การอภปิ ราย โดยใหผ๎ ู๎เรยี นกลุมํ ใหญรํ ํวมกนั แสดงความคิดเหน็ คิดวิเคราะห๑ อภปิ ราย และวิเคราะห๑ใหข๎ อ๎ มูลเพมิ่ เตมิ ในเนอื้ หาหรือประเดน็ ทีย่ งั ไมํชดั เจน ตาม รายละเอียดท่ผี เ๎ู รยี นไดแ๎ ลกเปลย่ี นเรียนรูร๎ ํวมกัน หากผเู๎ รยี นกลุํมใหญหํ รอื ครูเหน็ วํายังไมสํ มบรู ณ๑ มี ความตอ๎ งการในการเรียนร๎เู พม่ิ เตมิ ครจู ะชวํ ยเตมิ เตม็ ความรู๎ให๎กับผู๎เรยี น หลงั จากนั้นครูและผเู๎ รียน สรุปส่งิ ท่ไี ด๎เรียนร๎ูในภาพรวมท้งั หมดแล๎วใหผ๎ เ๎ู รยี นสรุปส่งิ ที่ได๎เรียนร๎ลู งในสมุดบนั ทึกการเรยี นรข๎ู อง ตน หมายเหตุ : ในการดําเนินกจิ กรรมกลํมุ ครูชแี้ จงบทบาทหน๎าท่ีในการทาํ งานใหผ๎ ๎ูเรียนไดม๎ คี วาม รับผิดชอบรวํ มกันในการทาํ งาน ซ่ึงมอบหมายให๎ผู๎เรียนดาํ เนนิ การแตงํ ตัง้ ประธานหรือผ๎ูนําใ นการ อภิปราย แลกเปลย่ี นเรยี นร๎ู และการมอบหมายใหม๎ ีผ๎ูรบั ผดิ ชอบในภารกจิ ตาํ งๆ รวมถึงการแตํงตัง้ เลขานกุ ารของกลมํุ เปน็ ผ๎ูจดบันทึกและผูร๎ กั ษาเวลา เพอ่ื ปฏิบตั ิงานของกลุํมใหญใํ ห๎บรรลตุ าม วตั ถุประสงค๑ท่ีตงั้ ไว๎ และพิจารณาวาํ สมาชิกลุํมทกุ คนควรมีความเขา๎ ใจตรงกันวาํ ตนมีบทบาทหนา๎ ท่ที ่ี จะต๎องชวํ ยใหก๎ ลมุํ ทาํ งานไดส๎ ําเรจ็ ครคู วรใหค๎ ําแนะนาํ ถึงความสาํ คญั ของการใหส๎ มาชกิ ทุกคนในกลํุม มสี ํวนรํวมในการอภปิ รายอยํางทัว่ ถึง ไมํให๎มีการผูกขาดการอภิปรายโดยผูใ๎ ดผห๎ู น่ึง และควรมีการ จํากัดเวลาของการอภปิ รายแตลํ ะประเดน็ ในระหวาํ งการทํากจิ กรรมของผู๎ เรียน ครมู ีบทบาทในการสังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรขู๎ อง ผู๎เรียน คอยกระตนุ๎ ผ๎ูเรยี นใหเ๎ กดิ ความกระตือรอื รน๎ ในการเรยี นรูโ๎ ดยบันทกึ ลงในแบบบนั ทึกพฤติกรรม การเรียนรู๎ของผู๎เรยี น และเครื่องมือประเมนิ การสังเกตแบบประมาณคํา 4. ครเู ปิดโอกาสใหผ๎ เ๎ู รยี นทงั้ กลํุมรวํ มกันสนทนา เพอ่ื ใหผ๎ ๎เู รียนมที กั ษะในการฟงั พดู คดิ วิเคราะห๑ การทาํ งานรวํ มกับผอู๎ น่ื การคิดสรา๎ งสรรค๑ ความรับผิดชอบ และการนําความรใ๎ู นเนือ้ หามา ใช๎ โดยครบู ูรณาการเนอื้ หาการเรียนรู๎ มีการใชส๎ ือ่ เทคโนโลยีทเี่ ป็นคลิปวดิ โี อจาก youtubeและ TikTok ท่ีสัมพนั ธก๑ บั เนอ้ื หา ทั้งน้ีครเู ชอ่ื มโยงส่ิงทไี่ ด๎เรียนร๎ตู ามข้นั ตอนที่ 1 ในการนําความร๎ไู ปสํกู าร ปฏิบัติและประยกุ ต๑ใช๎ผาํ นคลปิ วดิ โี อ โดยครูเปดิ คลิปวดิ ีโอ เร่อื ง “คณุ เหมาะกับอาชพี อะไร ” จาก https://www.youtube.com/watch?v=Cgb766wgzTk ชวํ งเวลา 10.16 นาที หลังจากนนั้ ครู ดาํ เนนิ การ ดงั นี้ (1) ครูบรรยายเนอื้ หาตามใบความรสู๎ าํ หรับครู เรื่อง“ความสาํ คญั และความจาํ เปน็ ในการพัฒนาอาชีพ” เพ่ือใช๎สําหรับประกอบกิจกรรมการเรียนรู๎ เรอ่ื ง “ความสาํ คัญ และความจาํ เป็น
16 ในการพฒั นาอาชีพ” ในสวํ นของผู๎เรยี นใหศ๎ ึกษาใบความรู๎สาํ หรบั ผ๎เู รยี น ประกอบการบรรยายของครู ตามใบความร๎ูสาํ หรบั ผูเ๎ รียน เรื่อง “ความสาํ คัญ และความจาํ เป็นในการพัฒนาอาชพี ” (2) ครูอธิบาย เรอื่ ง “กลํมุ อาชพี ใหมํ”พรอ๎ มท้งั ใหผ๎ ๎เู รียนได๎แลกเปล่ยี นเรยี นร๎ู โดยให๎ ผ๎เู รยี นตัง้ ประเดน็ ขอ๎ สงสัย หรือส่งิ ทต่ี ๎องการเรยี นร๎ู และเช่ือมโยงสกํู ารนําไปใช๎ในชวี ิตจริงของผเู๎ รยี น ตํอไป 5.ครแู ละผูเ๎ รียนอภปิ รายและสรปุ ผลการเรยี นรรู๎ ํวมกนั ขน้ั ตอนท่ี 3 การสะท๎อนความคดิ จากการเรียนร๎ู ( Reflection : R ) 1. แบงํ ผู๎เรยี นออกเป็นกลํุม ๆ ละ 4 – 5 คนให๎ผูเ๎ รยี นแตลํ ะกลํุมศึกษาเน้ือหา โดยผ๎เู รยี นแตํ ละกลํุมวางแผนและดําเนินการเกี่ยวกับการทํารายงาน เรื่อง “ลักษณะขอบขํายกระบวนการผลิตงาน อาชพี ในชุมชน สังคม ประเทศ และภมู ิภาค 5 ทวีป ได๎แกํ ทวปี เอเซยี ทวีปออสเตรเลีย ทวปี อเมริกา ทวปี ยโุ รป และทวีป อฟั รกิ า เพอื่ นํามาวิเคราะห๑ในการพัฒนาอาชีพ ตามใบกจิ กรรมของผ๎เู รยี น เรอื่ ง “ลักษณะขอบขาํ ยกระบวนการผลิตงานอาชีพในชุมชน สังคม ประเทศ และภูมิภาค 5 ทวีป ได๎แกํ ทวีปเอเซยี ทวีปออสเตรเลยี ทวปี อเมรกิ า ทวีปยุโรป และทวีปอฟั รกิ า เพ่ือนาํ มาวเิ คราะหใ๑ น การพัฒนาอาชีพ” ทงั้ นี้ครูให๎ผู๎เรียนนําเสนอ เรื่อง “ลกั ษณะขอบขํายกระบวนการผลิตงานอาชีพใน ชมุ ชน สงั คม ประเทศ และภมู ภิ าค 5 ทวีป ได๎แกํ ทวปี เอเซีย ทวีปออสเตรเลีย ทวีปอเมริกา ทวปี ยโุ รป และทวปี อฟั ริกา เพื่อนาํ มาวิเคราะห๑ในการพัฒนาอาชีพ” ตามใบกิจกรรมสาํ หรับครู เร่ือง “ลักษณะขอบขาํ ยกระบวนการผลติ งานอาชีพในชุมชน สังคม ประเทศ และภูมภิ าค 5 ทวีป ได๎แกํ ทวีปเอเซีย ทวีปออสเตรเลยี ทวปี อเมรกิ า ทวปี ยุโรป และทวีปอฟั รกิ า เพอื่ นาํ มาวเิ คราะห๑ในการ พฒั นาอาชีพ” 2. ให๎ผูเ๎ รยี นแตํละกลํมุ ตามข๎อ 1 ปฏิบัติกจิ กรรมตามใบกิจกรรม เร่ือง “ลกั ษณะขอบขําย กระบวนการผลติ งานอาชพี ในชมุ ชน สังคม ประเทศ และภูมภิ าค 5 ทวีป ได๎แกํ ทวปี เอเซีย ทวปี ออสเตรเลยี ทวปี อเมริกา ทวีปยุโรป และทวปี อัฟรกิ า เพอื่ นาํ มาวเิ คราะหใ๑ นการพฒั นาอาชพี ” ทัง้ นี้ ครจู ะต๎องกาํ กบั การปฏิบัตกิ ิจกรรมของผ๎ูเรยี นจนกจิ กรรมแล๎วเสรจ็ ตามใบกจิ กรรม สําหรบั ครู เร่ือง “ลักษณะขอบขํายกระบวนการผลติ งานอาชพี ในชุมชน สังคม ประเทศ และภมู ิภาค 5 ทวีป ได๎แกํ ทวีปเอเซยี ทวีปออสเตรเลีย ทวีปอเมริกา ทวีปยโุ รป และทวปี อัฟรกิ า เพอ่ื นํามา วเิ คราะหใ๑ นการพัฒนาอาชีพ” 3. ให๎ผู๎เรียนแตํละกลมํุ นาํ เสนอ เร่ือง “ลักษณะขอบขาํ ยกระบวนการผลติ งานอาชีพในชุมชน สงั คม ประเทศ และภมู ิภาค 5 ทวปี ได๎แกํ ทวีปเอเซีย ทวปี ออสเตรเลยี ทวีปอเมริกา ทวปี ยุโรป และ ทวปี อัฟรกิ า เพือ่ นํามาวเิ คราะห๑ในการพัฒนาอาชีพ” ตามใบกิจกรรมของผเ๎ู รียน เรอ่ื ง “การนําเสนอ ผลนควา๎ ลกั ษณะขอบขํายกระบวนการผลติ งานอาชีพในชุมชน สังคม ประเทศ และภูมภิ าค 5 ทวีป ได๎แกํ ทวปี เอเซีย ทวปี ออสเตรเลยี ทวปี อเมริกา ทวีปยุโรป และทวปี อัฟรกิ า เพือ่ นํามาวเิ คราะห๑ใน การพฒั นาอาชีพ”
17 4. ครใู หผ๎ ู๎เรียนสะท๎อนความคิดในการเรียนรทู๎ ีไ่ ด๎จากการเรียนร๎ู จากข้ันตอนท่ี 1 ถึง ขั้นตอน ท่ี 3 น้ี 5. ครูและผ๎เู รียนอภิปรายและสรุปผลการเรยี นรรู๎ วํ มกัน ข้ันตอนที่ 4 การติดตามประเมนิ และแกไ๎ ข (Action : A) 1. ครูสนทนากับผ๎ูเรยี นเกีย่ วกับเรือ่ งที่ ได๎เรียนรู๎ตามแผนการจัดการเรียนรู๎นีโ้ ดยครสู ุํมผู๎เรยี น ตามความสมัครใจ จํานวน 2 – 3 คน ใหต๎ อบคาํ ถามในประเดน็ ตอํ ไปน้ี ประเดน็ “ ทํานจะนําความร๎เู ร่อื ง ลกั ษณะขอบขาํ ยกระบวนการผลติ งานอาชพี ในชุมชน สงั คม ประเทศ และภมู ภิ าค 5 ทวปี ไดแ๎ กํ ทวปี เอเซยี ทวีปออสเตรเลยี ทวีปอเมริกา ทวีปยโุ รป และ ทวีปอฟั ริกา เพอื่ นาํ มาวิเคราะหใ๑ นการพัฒนาอาชีพ ไปประยกุ ต๑ใช๎ในการในชีวิตจรงิ ไดอ๎ ยํางไร” แนวคําตอบ ผ๎เู รยี น สามารถนาํ ความร๎ูท่ีได๎รับจากการเรยี นรูเ๎ ร่อื ง ลกั ษณะขอบขาํ ย กระบวนการผลติ งานอาชีพในชุมชน สงั คม ประเทศ และภมู ิภาค 5 ทวปี ไดแ๎ กํ ทวีปเอเซีย ทวีป ออสเตรเลยี ทวีปอเมริกา ทวีปยโุ รป และทวีปอฟั ริกา ไปประยกุ ตใ๑ ช๎ในชวี ิตจริงได๎ ดงั น้ี ภูมิภาคของโลกประกอบดวย 5 ทวีป ไดแก เอเชีย อเมรกิ า ยุโรป ออสเตรเลยี แอฟริกา ซงึ่ ในแตละภูมิภาคจะมีลักษะการประกอบอาชีพทแี่ ตกตางกนั เพราะมีความแตกตางกนั ทางสภาพบรบิ ท ของพื้นที่ ไดแก ทรพั ยากรธรรมชาติและพ้ืนท่ี ลักษณะภูมิอากาศ ภมู ิประเทศศลิ ปะ วฒั นธรรม ประเพณี วิถีชวี ติ และการดํารงชีวิตของประชาชน ดังน้ันในการประกอบอาชพี 2. ครูและผู๎เรยี นอภปิ รายและสรุปผลการเรยี นร๎ูรวํ มกนั ตาม PowerPoint สาํ หรับครู เร่อื ง การสรปุ ผลการเรียนรู๎ “ลักษณะขอบขํายกระบวนการผลติ งานอาชพี ในชุมชน สังคม ประเทศ และ ภูมิภาค 5 ทวีป ได๎แกํ ทวปี เอเซยี ทวีปออสเตรเลีย ทวปี อเมรกิ า ทวปี ยโุ รป และทวปี อฟั รกิ า”เพื่อ เปน็ การสรุปภาพรวมของกิจกรรมการเรียนรู๎ ซงึ่ จะทาํ ใหผ๎ ๎เู รียนเกดิ ความเข๎าใจในกจิ กรรมการเรียนร๎ู มากย่ิงขนึ้ 3. ใหผ๎ ๎ูเรยี นทําแบบทดสอบหลงั เรียน เร่ือง “ลักษณะขอบขํายกระบวนการผลติ งานอาชีพใน ชมุ ชน สังคม ประเทศ และภูมภิ าค 5 ทวปี ไดแ๎ กํ ทวีปเอเซีย ทวีปออสเตรเลยี ทวปี อเมริกา ทวีป ยุโรป และทวีป อฟั รกิ า” จํานวน 10 ขอ๎ โดยใช๎เวลา 10 นาที 4. ครูและผู๎เรยี นสรุปภาพรวมสิ่งทไ่ี ด๎เรยี นรูร๎ ํวมกนั นอกจากนี้ ในตอนท๎ายของการพบกลุมํ หลังจากเสรจ็ สิน้ ขน้ั ตอนท่ี 3 ครกู ารมอบหมายงาน ให๎เรียนรดู๎ ว๎ ยตนเอง รายละเอียดดงั นี้ การมอบหมายงานใหเ๎ รียนร๎ูด๎วยตนเอง 1. ครชู ้ีแจงใหผ๎ ๎ูเรยี นทราบวํา ในการพบกลุํมแตํละคร้ังผ๎เู รียนจะไดร๎ ับมอบหมายงานใหไ๎ ป เรียนรดู๎ ว๎ ยวิธีเรียนรด๎ู ว๎ ยตนเองในลกั ษณะที่ครจู ะมอบหมายงานใหผ๎ ูเ๎ รยี นไปศกึ ษา “หนังสอื เรยี น รายวิชาชอํ งทางการพัฒนาอาชีพ อช21001 ระดับมัธยมศึกษาตอนต๎น (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560)
18 เรื่องคุณธรรม จริยธรรม ในการพฒั นาอาชีพ หน๎า 77 ทั้งภาคทฤษฎแี ละปฏิบัติ โดยให๎ศกึ ษาเนือ้ หา และปฏบิ ตั ิกจิ กรรมทา๎ ยเร่ือง รายละเอียดของเนื้อหา แบํงออกเป็น 2 สํวน ดงั น้ี สํวนท่ี 1 เน้อื หาการเรียนร๎ตู ามแผนการจดั การเรียนรคู๎ รัง้ น้ี สวํ นที่ 2 เนื้อหาการเรยี นร๎เู พ่ิมเตมิ ในหนงั สือเรียนเรียนดงั กลําว 2. ครูมอบหมายงานใหผ๎ ูเ๎ รียนเรียนรูด๎ ๎วยตนเอง โดยให๎ไปศึกษา “หนงั สอื เรยี นรายวชิ า ชอํ งทางการพัฒนาอาชพี อช21001 ระดับมธั ยมศึกษาตอนต๎น (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ.2560) รายละเอียดของกิจกรรมทผ่ี เ๎ู รยี นจะต๎องปฏบิ ตั ิ แบงํ ออกเป็น 2 สวํ น ดงั น้ี สํวนที่ 1 เนอ้ื หาการเรียนร๎ูตามแผนการจัดการเรยี นรค๎ู รง้ั น้ี ไดแ๎ กํ หนังสอื เรยี นรายวชิ าชํองทางการพฒั นาอาชพี อช21001 ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน๎ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) หนงั สือเรยี น หนา๎ 94 สวํ นท่ี 2 มอบหมายงานให๎ผ๎ูเรยี นเรียนร๎ูดว๎ ยตนเอง ซง่ึ เนื้อหาการเรยี นรู๎เพ่มิ เติมใน“หนังสือ เรียนรายวชิ าชอํ งทางการพฒั นาอาชีพ อช21001 ระดับมธั ยมศึกษาตอนต๎น (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2560)” ได๎แกํ 1) เร่อื งคุณธรรมจรยิ ธรรมในการพฒั นาอาชีพ วชิ าชอํ งทางการพฒั นาอาชพี อช21001 ระดับมธั ยมศึกษาตอนต๎น หน๎า 77-80 (กจิ กรรมทา๎ ยเรอ่ื งในหนังสือเรียน กิจกรรมใหผูเรยี นกาํ หนดคณุ ธรรม และจริยธรรมใน การประกอบอาชพี ดานเกษตรกรรม อธบิ ายพอเขาใจ ) 2) เร่ืองการอนรุ กั ษพลังงานและสิง่ แวดลอมในชมุ ชน สงั คม ประเทศ และ ภมู ิภาค 5 ทวปี ไดแก ทวปี เอเชยี ทวีปออสเตรเลยี ทวปี อเมริกา ทวีปยุโรปและทวีปแอฟรกิ า (หนงั สือเรียนวิชาชอํ งทางการพฒั นาอาชพี อช21001 หนา๎ 80 - 82 ) (กิจกรรมท๎ายเร่ืองในหนังสือเรยี น.วิชาชํองทางการพฒั นาอาชีพ อช21001 หนา๎ 82 ) หลังจากนน้ั ครูและผเู๎ รยี นมกี ารนดั หมายทบทวน ตรวจสอบ และแลกเปลี่ยนเรียนร๎ู รวํ มกัน ผาํ นทางส่อื อิเลก็ ทรอนิกส๑ ตํอไป หมายเหตุ : ใหผ๎ เ๎ู รียนลงมอื ปฏิบัติกจิ กรรมดว๎ ยตนเอง ซ่ึงการใหผ๎ เู๎ รยี นลงมอื ปฏบิ ตั ิกิจกรรม ดว๎ ยตนเองน้ันอาจมคี วามแตกตาํ งกันบา๎ งในขัน้ ตอน โดยพจิ ารณาจากพ้ืนฐานของผ๎ูเรยี น ในกรณีที่ ผเู๎ รียนมีพื้นฐานน๎อยหรอื ไมํมพี นื้ ฐานมากํอนก็ควรจดั การเรยี นรพ๎ู นื้ ฐานท่ีจําเป็นและพอเพยี งกบั ผเ๎ู รียน หลังจากนัน้ ใหผ๎ ูเ๎ รยี นได๎ปฏิบัตดิ ๎วยตนเองในชํวงระยะหนง่ึ แลว๎ จงึ คํอยให๎ผูเ๎ รียนคิดหัวขอ๎ ที่ อยากจะทํา หรอื ถ๎าผู๎เรยี นมพี นื้ ความรูม๎ ากํอนแลว๎ ใหค๎ ดิ หัวข๎อที่สนใจจะทําและให๎ลงมือปฏบิ ัติได๎
19 สื่อวัสดุอปุ กรณ๑ และแหลํงการเรยี นรู๎ 1. แบบทดสอบกอํ นเรยี น เร่อื ง “การงานอาชพี ” 2. คลิปวดิ ีโอ เรื่อง “ความสําคญั และความจาํ เป็นในการประกอบอาชพี ชํองทางการพัฒนา อาชีพ” จาก https://www.youtube.com/watch?v=EmHttWPvcVQ ชวํ งเวลา 5.12 นาที 3. ใบความรสู๎ าํ หรบั ผ๎เู รียน เร่อื ง ความสาํ คญั และความจําเป็นในการประกอบอาชีพ 4. ใบความร๎สู าํ หรับผเู๎ รียน เร่อื ง “การประกอบอาชพี ในภูมภิ าค 5 ทวีป” และ“การพัฒนา กระบวนการจดั การงานอาชีพในชมุ ชน สังคม ประเทศ และ 42 ภูมภิ าค 5 ทวปี ไดแก ทวปี เอเชีย ทวีปออสเตรเลยี ทวปี อเมริกา ทวีปยโุ รปและทวปี แอฟรกิ า” 5. คลิปวิดีโอเรื่อง “คณุ เหมาะกบั อาชีพอะไร ” จาก https://www.youtube.com/watch?v=Cgb766wgzTk ชวํ งเวลา 10.16 นาที 6. ใบความรส๎ู ําหรบั ผูเ๎ รียน เร่อื ง กลุมํ อาชีพใหมํ 7. PowerPoint สาํ หรับครู เร่ือง การสรุปผลการเรียนรู๎ “การงานอาชีพ ” 8. บทสรุปประกอบ PowerPoint สําหรบั ครู เร่ือง การงานอาชพี ” 9. แบบทดสอบหลังเรยี น เรื่อง “การงานอาชพี ” 10. แบบประเมนิ ความพงึ พอใจของนกั เรียนตอํ การจัดกิจกรรมการเรยี นการสอน การวดั และประเมินผล 1. สังเกตพฤติกรรมการมสี ํวนรวํ ม ความตัง้ ใจ และความสนใจของผ๎เู รียน 2. ผลการทดสอบกํอนและหลงั เรยี น 3. ผลการออกแบบและสร๎างสรรค๑นวตั กรรมและสงิ่ ท่ีต๎องการพฒั นา/ช้นิ งาน/ผลงาน 4. ผลการประเมินความพงึ พอใจของผเ๎ู รียน
20 บันทกึ ผลหลังการจัดกระบวนการเรยี นร๎ู ผลการใชแ๎ ผนการจัดกระบวนการเรยี นร๎ู 1. จํานวนเนื้อหากบั จํานวนเวลา เหมาะสม ไมเํ หมาะสม ระบเุ หตผุ ล……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. การเรยี งลําดบั เน้อื หากบั ความเขา๎ ใจของผูเ๎ รียน เหมาะสม ไมเํ หมาะสม ระบุเหตผุ ล……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. การนําเข๎าสบูํ ทเรียนกับเนือ้ หาแตลํ ะหวั ขอ๎ เหมาะสม ไมํเหมาะสม ระบุเหตุผล………………………………………………………………………………………………………………………......... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………….……………………………………………………………………………………………………………………………… 4. วิธีการจดั กจิ กรรมการเรยี นรกู๎ บั เนือ้ หาในแตลํ ะข๎อ เหมาะสม ไมํเหมาะสม ระบเุ หตุผล……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
21 5. การประเมนิ ผลกับตวั ชวี้ ดั ในแตลํ ะเนือ้ หา เหมาะสม ไมเํ หมาะสม ระบุเหตุผล……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ผลการเรยี นรข๎ู องผเู๎ รยี น ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ผลการจดั กระบวนการเรียนร๎ูของครู ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ขอ๎ เสนอแนะ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
22 รายละเอียดสอ่ื วสั ดุ อุปกรณ๑ และแหลงํ การเรยี นรู๎ 1. แบบทดสอบกอํ นเรยี น เรอื่ ง “การงานอาชีพ” 2. คลปิ วิดโี อ เรอื่ ง “ความสาํ คญั และความจําเป็นในการประกอบอาชพี ชอํ งทางการพฒั นา อาชีพ” จาก https://www.youtube.com/watch?v=EmHttWPvcVQ ชวํ งเวลา 5.12 นาที 3. ใบความร๎สู าํ หรบั ผู๎เรียน เรื่อง ความสาํ คญั และความจําเป็นในการประกอบอาชพี 4. ใบความรูส๎ ําหรับผเ๎ู รียน เร่อื ง “การประกอบอาชพี ในภมู ภิ าค 5 ทวปี ” และ“การพฒั นา กระบวนการจดั การงานอาชพี ในชุมชน สังคม ประเทศ และ 42 ภูมิภาค 5 ทวปี ไดแก ทวีปเอเชยี ทวีปออสเตรเลยี ทวีปอเมรกิ า ทวปี ยุโรปและทวปี แอฟริกา” 5. คลิปวิดโี อเร่ือง “คณุ เหมาะกบั อาชพี อะไร ” จาก https://www.youtube.com/watch?v=Cgb766wgzTk ชํวงเวลา 10.16 นาที 6. ใบความรสู๎ าํ หรับผูเ๎ รียน เร่ือง กลุํมอาชีพใหมํ 7. PowerPoint สําหรบั ครู เร่ือง การสรุปผลการเรยี นร๎ู “การงานอาชีพ ” 8. บทสรปุ ประกอบ PowerPint สําหรบั ครู เรือ่ ง การงานอาชพี ” 9. แบบทดสอบหลงั เรียน เรื่อง “การงานอาชพี ” 10. แบบประเมินความพงึ พอใจของนกั เรียนตํอการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
23 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรข๎ู องผเู๎ รยี น ชอ่ื โครงการ/กจิ กรรม........................................................................................................................ ช่ือโรงเรยี น/สถานศกึ ษา …………………………………………………………………………………………………….. ชือ่ หวั หนา๎ โครงการ/กจิ กรรม............................................................................................................. คาํ ช้ีแจง ให๎ผปู๎ ระเมนิ ทําเครอ่ื งหมาย ถกู () ลงในชอํ งระดับ พฤตกิ รรม ของผเ๎ู รยี น โดยมเี กณฑร๑ ะดบั คุณภาพการประเมนิ ดังนี้ 5 มพี ฤติกรรมการเรยี นรู๎ มากทสี่ ุด 4 มพี ฤตกิ รรมการเรียนร๎ู มาก 3 มีพฤตกิ รรมการเรียนร๎ู ปานกลาง 2 มีพฤตกิ รรมการเรยี นร๎ู นอ๎ ย 1 มพี ฤตกิ รรมการเรยี นรู๎ นอ๎ ยทส่ี ดุ เกณฑก๑ ารพจิ ารณาระดบั คุณภาพ คะแนนเฉลีย่ ร๎อยละ 0 - 50 ระดบั คุณภาพ ปรบั ปรงุ คะแนนเฉล่ยี ร๎อยละ 50 - 69 ระดับคุณภาพ พอใช๎ คะแนนเฉลีย่ ร๎อยละ 70 – 79 ระดบั คณุ ภาพ ดี คะแนนเฉลี่ยร๎อยละ 80 – 89 ระดับคณุ ภาพ ดีมาก คะแนนเฉลย่ี ร๎อยละ 90 - 100 ระดบั คณุ ภาพ ดีเยีย่ ม พฤติกรรมการเรยี นร๎ู ระดบั พฤตกิ รรม 54321 1. ความต้งั ใจในการทํางาน 2. ความรบั ผดิ ชอบ 3. ความกระตือรอื รน๎ 4. การตรงตอํ เวลา 5. ผลสาํ เรจ็ ของงาน 6. การทาํ งานรํวมกบั ผู๎อนื่ 7. มีความคดิ รเิ ร่ิมสร๎างสรรค๑ 8. มกี ารวางแผนในการทาํ งาน 9. การมีสํวนรวํ มในการแสดงความคดิ เห็นในกลํมุ 10. การมีสวํ นรวํ มในการแกไ๎ ขปัญหาในกลมํุ ลงชอ่ื ......................................................................ผูป๎ ระเมิน ............../.............................../.....................
24 แบบทดสอบกํอนเรียน คาํ ชแี้ จง ให๎ผเ๎ู รยี นเลอื กคําตอบที่ถกู ที่สุดเพียงข๎อเดียวแลว๎ ทําเครอ่ื งหมาย x ลงใน กระดาษคําตอบ 1.ครอบครวั หมายถึง ก. พํอ แมํ ลูก ข. ปูุ ยาํ พํอ แมํ ลูก หลาน ค. หนวํ ยหน่งึ ของสังคมทมี่ ีสมาชิกตัง้ แตํ 2 ข้นึ ไป ง. คือสมาชกิ ทม่ี ีรายชื่ออยํใู นทะเบียนบ๎านเดยี วกนั 2. แนวทางการอนรุ กั ษส๑ ิ่งแวดลอ๎ มภายในครอบครวั ทาํ ไดอ๎ ยาํ งไร ก. เลกิ หุงขา๎ วเตาไฟฟาู มาใช๎เตาถาํ น ข. ควรอาบนาํ้ อยํางประหยดั ค. ควรตรวจตรากอ๏ กน้ํากํอนออกจากบา๎ นตอ๎ งปดิ ให๎เรียบรอ๎ ย ง. ควรเปดิ แอร๑หลังเที่ยงคืน 3. การเก็บถนอมอาหารมีหลายวิธีข้ึนอยํกู บั ประเภทอาหาร ในกรณอี าหารปรุงสําเร็จเหลอื จาก รบั ประทาน เราควรเก็บอยาํ งไร ก. ใสํไวใ๎ นตูเ๎ ก็บอาหารปกติ ข. เกบ็ ไว๎ในต๎เู ยน็ ไมเํ กิน 2 วัน ควรอํนุ กอํ นรับประทาน ค. ไมคํ วรเก็บไวเ๎ ม่อื มีอาหารเหลอื ควรเทท้งิ ง. อนํุ อาหารท่เี หลอื จากรบั ประทานแล๎วเกบ็ ไว๎ 4. ความหมายของพชื ผกั สวนครวั ก. ผักตาํ งๆ ทใ่ี ชบ๎ รโิ ภคในครัวเรอื น ข. ผักทุกชนดิ ทใี่ ชป๎ รุงอาหารได๎ ค. พชื ผักที่ปลกู ในบริเวณที่วํางภายในบ๎านเพอื่ ใช๎บรโิ ภคในครัวเรือน ง. อุนํ อาหารที่เหลอื จากรับประทานแลว๎ เก็บไว๎ 5. การปลูกผักปลอดสารเคมชี วํ ยใหเ๎ กดิ ประโยชน๑อยาํ งใดบา๎ ง ก. ประหยัดปุ๋ยลดคาํ ใชจ๎ ําย ข. พชื เจรญิ เตบิ โตเร็วกวําปกติ ค. ปูองกันและกําจดั ศัตรูพืชแบบผสมผสาน ง. พืชผักเกบ็ ไว๎ได๎นานกวําปกติ
25 6. สภาพปญั หาในการเลยี้ งสัตว๑ในประเทศไทยมีมาก ข๎อใดไมํใชํปัญหา ก. เรอื่ งของคน ข. เร่ืองเงนิ ทุน ค. การตลาด ง. วิธกี ารเลอื กสตั วเ๑ ลยี้ ง 7. การดแู ลรักษาเคร่อื งมือชํางเพื่อใหม๎ ีอายุใช๎งานได๎นานจะต๎องปฏิบัตอิ ยาํ งใด ก. เก็บไว๎ให๎หาํ งจากเดก็ เลก็ ข. ทาํ ความสะอาดประจําสปั ดาห๑/เดือน/ปี ของเคร่อื งมือทกุ ช้นิ ค. เม่อื นํามาใช๎แลว๎ ความทําความสะอาด ง. เกบ็ เขา๎ กลอํ งเครื่องมอื ทุกครั้งที่ใชเ๎ สร็จ 8. ความหมายของงานประดิษฐ๑ ก. การนาํ วัสดุตาํ งๆ มาเป็นผลิตภณั ฑใ๑ หมํ เพื่อเป็นของใชง๎ าน ของเลนํ หรอื ประดับตกแตํง ข. เก็บส่ิงของเหลอื ใช๎ไปแปรรูปแล๎วนาํ กลับมาใชใ๎ หมํ ค. การใช๎เวลาวํางใหเ๎ ป็นประโยชน๑ ง. การทําส่งิ ของเครื่องใชเ๎ พ่ือจาํ หนาํ ย 9. คนเรามจี ดุ มํุงหมายในการทาํ ธรุ กิจที่แตกตํางกันไปแตํโดยหลักการทั่วไปจะมคี วามหมายเหมือนๆ กันคอื ขอ๎ ใด ก. เพือ่ ให๎มงี านทาํ ตามท่ตี นเองถนัด ข. เพ่อื นําผลกําไรสกํู ารลงทนุ ค. เพือ่ ยึดครองตลาดในธุรกิจของตน ง. เพ่ือแขํงขันกบั นกั ธรุ กจิ รายอืน่ 10. ทุกวนั น้ีประชากรในบ๎านเรามีการบริโภคอยาํ งพรํา่ เพรอ่ื ไมรํ ะมดั ระวงั จึงทําให๎สญู เสียทรพั ย๑สนิ สขุ ภาพ และอันตรายอ่นื ๆ การค๎มุ ครองผู๎บรโิ ภคจึงจาํ เปน็ ต๎องมขี ้ึนเพอ่ื ประโยชนด๑ ๎านใด ก. ให๎ผูบ๎ ริโภคไดร๎ ะวังมากข้ึน ข. ควบคุมสินค๎าทุกชนดิ ในตลาดบรโิ ภค ค. ปกปอู ง ระวัง ดแู ล พิทกั ษร๑ ักษาไวไ๎ มใํ ห๎ผซ๎ู ้อื เกดิ อนั ตราย ง. เรยี กรอ๎ งคาํ เสียหายแทนผ๎บู ริโภค
26 เฉลยแบบทดสอบกอํ นเรยี น 1. ค 2. ค 3. ข 4. ค 5. ค 6. ง 7. ค 8. ก 9. ข 10. ค
27 ใบความรู๎ เรอื่ ง ความสาํ คัญและความจําเป็นในการพฒั นาอาชีพ ความสาํ คญั และความจาํ เป็นของการพัฒนาอาชพี วเิ คราะห๑ลักษณะขอบขาํ ยการงานอาชพี กระบวนการทํางาน การบริหารจัดการของอาชีพตําง ๆ ในชมุ ชน สงั คม ประเทศ และโลก เพอ่ื การ พัฒนาอาชพี จากการงานอาชพี ตํางๆ การพัฒนาอาชพี หมายถึง การพัฒนาอาชีพทดี่ ําเนินอยูํใหเ๎ หมาะสมกบั ความต๎องการของตลาด การพัฒนา อาชีพทีม่ ีประสทิ ธิภาพจะตอ๎ งพัฒนาความร๎ู ความสามารถในการวางแผนกําหนดยุทธศาสตร๑ตาํ งๆ ทั้ง ดว๎ ยตนเองและกระบวนการกลุํม โดยเฉพาะผูป๎ ระกอบอาชีพเดียวกัน เพือ่ แลกเปลีย่ นเรียนรู๎ซ่งึ กัน และกัน แล๎วนําไปตดั สินใจเพื่อนําไปสํกู ารปฏิบตั ิ นอกจากนคี้ วรมีการบรหิ ารจดั การแบบองค๑รวม บูรณาการปัจจยั ตํางๆ ให๎เปน็ หนงึ่ เดียว สามารถเกือ้ หนุนซ่ึงกนั และกนั ได๎ เชํน ทุนทางสังคม ทรพั ยากรตาํ งๆ ไดแ๎ กํ ความรู๎ ความสามารถในกระบวนการผลิต และกระบวนการการตลาด การ พัฒนาอาชพี มคี วามสาํ คัญและจําเปน็ ดงั นี้ 1. ด๎านเศรษฐกิจ จากการแขงํ ขันทางธรุ กจิ ทมี่ กี ารแขงํ ขนั ทางการตลาดสงู จงึ เกิดการ รวมกลุํมการคา๎ ตํางๆ เชํน เขตการค๎าเสรีอาเซยี น เขตเศรษฐกจิ ยุโรป ดังนน้ั การพฒั นาอาชีพจงึ จําเปน็ ตอ๎ งมีการพฒั นาสนิ คา๎ ใหส๎ ามารถเข๎าสูํตลาดการแขํงขนั และเปน็ ท่ียอมรับของตํางประเทศ 2. ด๎านสังคม ประเทศทมี่ ีเศรษฐกิจดีจะสํงผลใหส๎ ภาพของสังคมดขี นึ้ เชนํ ปราศจากโจร ผร๎ู ๎าย 3. ด๎านการศกึ ษา ครอบครัวทีม่ ีเศรษฐกจิ ดีจะสามารถสงํ บตุ รหลานเข๎ารบั การศกึ ษาได๎ตาม ความต๎องการ และในอนาคตเยาวชนเหลาํ น้กี จ็ ะเป็นประชากรท่มี ีคุณภาพ มคี วามสามารถในการ ประกอบอาชพี สงํ ผลตํอเศรษฐกจิ สงั คมให๎มีความเจริญกา๎ วหน๎าตํอไป ความสําคัญในการพัฒนาอาชพี การพฒั นาอาชีพเปน็ ส่ิงทีส่ ําคญั ในวถิ ีชวี ิตและการดาํ รงชีพในปจั จบุ นั เพราะอาชพี เป็นการ สรา๎ งรายได๎เพอ่ื เล้ยี งชีพตนเองและครอบครัว อาชพี กอํ ให๎เกดิ ผลผลติ และการบริการ ซึ่งสนองตอบตํอ ความต๎องการของผ๎บู ริโภค และท่ีสาํ คัญคอื การพฒั นาอาชีพมคี วามสําคัญตํอเศรษฐกจิ ของ ประเทศชาติ ความสําคัญจึงเป็นฟันเฟอื งในการพัฒนาคุณภาพชีวติ เศรษฐกิจ ชมุ ชน สํงผลถึงความ เจรญิ ก๎าวหน๎าของประเทศชาติ
28 อาชพี กับการพฒั นาอาชพี เรือ่ งราวของอาชพี อาชพี กค็ อื การหาเลี้ยงชีวติ ให๎มกี ินมอี ยูํ การเขา๎ รับศกึ ษาของทุกคน ๆ กเ็ พ่ือนาํ ไปประกอบอาชพี แตใํ นยคุ ปจั จุบันอาชีพมมี ากมาย และอาชพี ใหมกํ ็นาํ สนใจมากข้นึ ในการ พัฒนาอาชพี ของแตํละอาชพี นัน้ มแี นวทางท่ตี ํางกนั ไปตามสายงาน แตทํ กุ อาชพี สามารถพัฒนาได๎ ท้ังหมด นักเรยี นนักศกึ ษาจบใหมๆํ บางคนอาจมแี นวคดิ แปลกๆ ที่ไมํเหมอื นคนอน่ื เชนํ อยากทาํ อาชีพอิสระ ซ่งึ คนปจั จุบนั คิดแบบนีม้ ากขนึ้ เพราะเหตทุ ีว่ ําอาชีพในยุคปจั จบุ นั ไมํถกู ตกี รอบแคบ ๆ อีกตอํ ไป อาชีพน้นั ไมวํ ําจะเปน็ อาชพี อะไรกต็ าม ทัง้ อาชพี ท่ใี ชแ๎ รงกาย อาชพี ท่ีใช๎แรงสมอง สามารถ พัฒนาไดท๎ ั้งน้นั ทิศทางการพัฒนาอาชีพ 1. ตอ๎ งร๎ูจกั อาชีพของตนเองใหด๎ ีพอ 2. ร๎ูทิศทางของอาชีพของตน 3. รโู๎ ลกทีเ่ ปลีย่ นแปลงตลอดเวลา 4. วางแผนชวี ิตและการทาํ งาน 5. กําหนดนโยบายการพัฒนาอาชีพของตนเอง (มีวิสัยทัศน)๑ 6. ต้งั เปาู หมาย แบํงระยะให๎เหน็ เป็นรปู ธรรม 7. วางกลยทุ ธ๑พัฒนาอาชีพ 8. ลงมือปฏบิ ัติ 9. ประเมินผลให๎เปน็ 10. ปรับปรุง 11. พฒั นา แนวทางการพฒั นาอาชีพทีก่ ลําวมาทจี่ ริงแล๎วกค็ อื หลักพน้ื ฐานทวั่ ไป ซ่งึ คนประกอบอาชพี นนั้ ๆ ควรร๎ู เชนํ อาชพี แมบํ ๎าน สามารถพฒั นาไดจ๎ นถงึ ขั้นสงู และเปน็ อาชพี ที่ทรงคณุ คาํ ได๎ เรยี กวํา แมํบ๎านมืออาชีพ อาชพี แมบํ า๎ นสมยั กอํ น คอื อาชพี คนรับใช๎ แตใํ นยคุ ปัจจบุ นั อาชีพคนรับใชห๎ รือคนทาํ ความ สะอาดภายในบ๎านไมใํ ชํอาชีพที่ต๎อยตา่ํ อีกตอํ ไป เพราะปจั จุบนั มีบรษิ ทั เปิดใหบ๎ ริการสําหรบั ลูกคา๎ ท่ี ตอ๎ งการแมบํ ๎านแบบมอื อาชพี ไป ชวํ ยเหลือในการจัดการภายในบา๎ นหรอื อาคารตาํ ง ๆ ตลอดจนถงึ โรงแรม ซึง่ การเพ่มิ มลู คําและคุณคําคอื การพัฒนาอาชพี ของตนเองการยกระดบั แมบํ า๎ นสูํการเปน็ แมํบา๎ นมอื อาชีพ อยํางเชํน การจัดโตะ๏ การวางช๎อน การวางผ๎าสําหรบั โตะ๏ รบั ประทานอาหาร มแี นว ปฏบิ ัตทิ เี่ ปน็ แบบแผนสากล การมคี วามรใ๎ู นดา๎ นนีจ้ งึ มคี วามจาํ เป็น และในเรือ่ งอน่ื ๆ อีกอยํางเชนํ การ ปูผา๎ ปูเตยี งใหต๎ งึ กม็ ีเทคนคิ การทาํ ความสะอาดเครอื่ งใช๎ตาํ งๆ อยาํ งเชํน เสอ้ื ผา๎ ไหม สูท หรือเส้ือผ๎าท่ี ทําจากขนสตั ว๑กม็ เี ทคนคิ การดูแลพเิ ศษกวาํ ผา๎ ชนดิ อื่นๆ นี้คอื แนวทางการพฒั นาอาชพี ใหเ๎ ป็นแบบมอื อาชพี แมํบา๎ นมืออาชีพสมยั นต้ี ๎องชาํ นาญในเรื่องทก่ี ลําวมา และมลู คาํ ของคาํ จา๎ งจึงสงู กวําแมบํ า๎ น
29 แบบธรรมดา เพราะมคี วามรคู๎ วามชาํ นาญพิเศษ คาํ แรงจงึ สูงตามไปดว๎ ย เหน็ ด๎วยหรือไมวํ ําอาชพี ท่ี ธรรมดาแตํไมธํ รรมดามูลคํากเ็ พม่ิ ข้นึ ได๎ เขาเรยี กวํา การพัฒนาสายงานของตนเอง ฉะนนั้ ทกุ สายอาชีพสามารถพฒั นาได๎หมด มีความกา๎ วหนา๎ ได๎ทุกหนทุกแหํง อยําได๎น๎อยใจวาํ อาชพี ของเราไมํมีคาํ ไมมํ รี าคา ถ๎าเราใสํความร๎ู ใสคํ วามรักกบั งาน งานทเี่ ราทาํ ก็จะชํวยพัฒนา คุณภาพชวี ิต และเจริญก๎าวหน๎าไดต๎ ลอดอาชีพทกุ อาชีพมีหนทางพัฒนาในแบบของตน ความจําเปน็ ในการพัฒนาอาชพี ความจําเปน็ ในการพฒั นาอาชพี ในชุมชน สงั คม ประเทศ และโลก ทเ่ี หมาะสมกบั ตนเอง วเิ คราะหค๑ วามเป็นไปได๎ตําง ๆ ได๎แกํ การลงทนุ การตลาด กระบวนการผลิต การขนสํง การบรรจหุ บี หอํ การแปรรูป และผลกระทบตอํ ชุมชน และสิ่งแวดลอ๎ ม ความร๎คู วามสามารถของตนเองตํอส่งิ ท่ี ต๎องการพัฒนา การลาํ ดับความสําคญั ของการพัฒนาท่มี ีความเปน็ ไปได๎ เพอื่ นําข๎อมูลท่ีวเิ คราะห๑ไว๎ นาํ ไปปรึกษาผู๎รู๎ การตัดสินใจเลือกพัฒนาอาชพี ที่เหมาะสมกบั ตนเอง โดยวิเคราะหค๑ วามพร๎อมของ ตนเอง ความตอ๎ งการของตลาด เทคนคิ ความรู๎ ทกั ษะในอาชีพ และความรับผิดชอบตํอสังคม ทรัพยากรธรรมชาติ และสง่ิ แวดล๎อม ประโยชนใ๑ นการพฒั นาอาชีพ 1. มกี ารใช๎ทุนทางสงั คมอยาํ งคุม๎ คํา เนอื่ งจากสามารถใช๎วสั ดุทดแทน ใชว๎ สั ดุทอ๎ งถ่นิ ลดการ ขนสงํ และทนุ บางชนดิ สามารถใช๎รํวมกนั ได๎ เชํน เครอื่ งมอื ทางการเกษตรสามารถใช๎ในกจิ กรรม การเกษตรดว๎ ยกนั เปน็ ต๎น 2. มีการเพิ่มผลผลติ เน่อื งจากมีการพฒั นาสินค๎าทีต่ รงความตอ๎ งการของลูกค๎าทาํ ใหย๎ อด จาํ หนาํ ยมากข้นึ 3. มีการขยายตลาด สามารถขยายเครือขาํ ยด๎านการตลาดใหก๎ วา๎ งขน้ึ โดยผู๎ผลติ จะตอ๎ งมกี าร ประชาสัมพันธ๑อยาํ งตํอเนือ่ ง 4. พัฒนารปู แบบผลิตภัณฑเ๑ พอ่ื บรรจุหบี หํอ ต๎องพัฒนารปู แบบอยูตํ ลอดเวลาทําให๎สนิ คา๎ มี การพัฒนารูปแบบผลติ ภณั ฑ๑หรอื บรรจภุ ัณฑ๑อยเูํ สมอ 5. เกดิ เศรษฐกจิ ชมุ ชน จากการท่มี กี ารพฒั นาผลติ ภัณฑ๑สินคา๎ ท้งั ด๎านคณุ ภาพและปรมิ าณ ทําให๎ตลาดกวา๎ งขวางข้ึนเศรษฐกิจชมุ ชนเจริญเตบิ โต 6. ชมุ ชนเขม๎ แข็ง เมือ่ ชมุ ชนมเี ศรษฐกจิ ดีขน้ึ สํงผลตํอการพฒั นาคุณภาพชีวติ ดขี น้ึ ครอบครวั อบอํนุ ลูกหลานได๎เรยี นหนงั สอื ปราศจากโจรผรู๎ า๎ ยและยาเสพติด 7. มีอาชีพม่ันคง เนอ่ื งจากผป๎ู ระกอบอาชพี มกี ารพัฒนาอาชีพอยตูํ ลอดเวลาในดา๎ นการใช๎ทุน พัฒนารปู แบบ จดั หาตลาดให๎กวา๎ งขวาง ทําให๎มอี าชีพมนั่ คง
30 ใบงาน เร่ือง ความสําคญั และความจาํ เป็นในการพัฒนาอาชีพพรอ๎ ม คาํ ชี้แจง ให๎ผเู๎ รยี นเขียนคําตอบลงในชอํ งวาํ ง ขอ๎ ท่ี 1 จงอธบิ ายความสาํ คญั ในการพฒั นาอาชีพ มาพอสงั เขป ................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................ ............................................ .................................................................................................. ............ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................ .................................................................................................................................................. ...................................................................................................................................... ........................ ........................................................................................................................................... ..................... ขอ๎ ท่ี 2 จงอธิบายความจําเปน็ ในการพัฒนาอาชีพ มาพอสงั เขป ................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................ ............................................ .................................................................................... ........................... .................................................................................................................................................. ............ ................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................ .............................................................................................................................................................. .................................................................................................................................... ..........................
31 ใบงาน เรอื่ ง การประกอบอาชีพในภมู ิภาค 5 ทวีป ภมู ิภาคของโลกประกอบดวย 5 ทวปี ไดแก เอเชีย อเมรกิ า ยโุ รป ออสเตรเลยี แอฟฟรกิ า ซึ่ง ในแตละภูมิภาคจะมลี ักษะการประกอบอาชพี ท่แี ตกตางกนั เพราะมีความแตกตางกันทางสภาพบริบท ของพ้นื ที่ดงั นนั้ ในการประกอบอาชพี ผูประกอบการจําเปนตองเขาใจในความแตกตางของสภาพบรบิ ท ของพื้นท่ดี ังกลาว เพราะในอนาคต การตดิ ตอทางการคาจะสามารถเชื่อมโยงตดิ ตอซอื้ ขายไดอยางไม มขี อบเขตจาํ กัดความแตกตางของลักษณะงานอาชพี ในแตละภูมภิ าค มีรายละเอยี ดดังนี้ 1. ภูมภิ าคเอเชยี สวนใหญของประเทศในภูมิภาคเอเชีย ประกอบอาชพี เกษตรกรรมเป็นหลัก ไดแก การปลูกพชื การเลย้ี งสตั ว การประมง ปาไม รวมถึงงานอาชพี ทางดานเหมอื งแร และ อตุ สาหกรรมดวย โดยในแตละอาชพี ทปี่ ระกอบการในภมู ภิ าคเอเชีย มีลกั ษณะการประกอบอาชพี ดงั นี้ การปลกู พืช เปนอาชีพเกษตรกรรมทป่ี ระชาชนสวนใหญในแตละประเทศของภูมิภาคเอเชีย ดําเนินการประกอบเปนอาชพี แตมีความแตกตางกนั ไปตามลกั ษณะภูมอิ ากาศภูมปิ ระเทศ และการ ดํารงชีวติ ของประชากร การเลีย้ งสัตว อาชีพเกษตรกรรมการเล้ยี งสตั วเปนอกี อาชพี หนง่ึ ทป่ี ระชาชนในประเทศตาง ๆ ของภมู ภิ าคเอเชียนิยมประกอบอาชพี แตมคี วามแตกตางกนั ไปตามสภาพภมู ปิ ระเทศและภูมิอากาศ การประมง การประกอบอาชีพประมงของภมู ภิ าคเอเชยี มีการดําเนนิ การประกอบอาชีพ ประมงใน 2 ลกั ษณะ ไดแก ประมงนํ้าจดื และประมงทางทะเล การประกอบอาชีพประมงนํา้ จดื สวน ใหญจะนิยมทาํ อาชีพประมงควบคูกับการปลูกพืช โดยเฉพาะพืชผกั ปาไม อาชีพปาไม มกี ารดาํ เนนิ งานอาชีพใน 2 ลกั ษณะตามเขตภมู ิอากาศ คือ ปาไมในเขต รอ๎ นจะเปนไมประเภทไมเน้อื แขง็ ในเขตประเทศและในประเทศกลุมหมเู กาะ สวนปาไมในเขตหนาว จะเปนปาตนสน โดยมกี ารนาํ ไมสนมาใชทําเปนกระดาษและลังไม เหมอื งแร ภูมิภาคเอเชีย เปนภูมภิ าคที่อดุ มไปดวยแรธาตนุ านาชนดิ เนื่องจากมีสภาพภูมิ ประเทศเปนเทือกเขาที่มีอายุแตกตางกัน แรธาตุท่ีสําคัญท่มี ีการขุดขน้ึ มาใชประโยชน อุตสาหกรรม ในภมู ภิ าคเอเชีย การประกอบอาชพี ดานอตุ สาหกรรม สวนใหญจะเปนอตุ สา หกรรมแบบหัตถกรรมหรืออตุ สาหกรรมในครัวเรือน ในลักษณะงานฝมอื ของท่ีระลึก 2.ภูมภิ าคอเมรกิ า เน่อื งจากภมู ภิ าคอเมรกิ า มคี วามแตกตางกันในดานภมู ิประเทศ ภมู ิอากาศ และวิถีการดํารงชวี ิตคอนขางสงู ในเขตอเมริกาใต และอเมริกาเหนือ การประกอบอาชพี ของทัง้ 2 เขต จึงมีความแตก ตางกันไปดวย การปลกู พืช นยิ มปลกู พชื กาแฟปลกู มากในประเทศบราซลิ มมี ากถึงรอยละ 50 ของโลก และ ยงั มีการปลกู ในประเทศโคลัมเบีย และเอกวาดอร๑
32 การเล้ยี งสัตว ในเขตอเมรกิ าใต และอเมรกิ าเหนอื มกี ารเลีย้ งสตั ว๑โคเนอ้ื ในเขตอเมรกิ าใต นยิ มเล้ียงในประเทศบราซิล อารเจนตนิ า และอุรกุ วัยสวนในเขตอเมรกิ าเหนอื อตุ สาหกรรม ในเขตอเมริกาใต จะเปนอุตสาหกรรมเบา เชน การผลติ น้ําตาลอาหารกระปอง ประเทศทีม่ ีอตุ สาหกรรมเจรญิ กาวหนา เปนอุตสาหกรรมขนาดใหญํ 3. ภมู ิภาคยโุ รป การดําเนินงานอาชีพของประเทศในภูมภิ าคยุโรป มีลักษณะการประกอบ อาชพี ดงั นี้ การปลกู พชื พืน้ ที่การปลกู พชื ของภูมภิ าคยโุ รป สวนใหญปลกู ในยโุ รปตะวนั ออกและภาคใต ของประเทศอังกฤษ ภาคเหนือและภาคตะวันตกของประเทศฝร่ังเศส รวมถึงตอนเหนือของประเทศ เยอรมนั การเลีย้ งสัตว สตั ว๑เศรษฐกิจทนี่ ิยมเลี้ยง ไดแก กวางเรนเดยี ร โคเนอื้ โคนม แพะแกะ มา และสกุ ร การประมง แหลงทาํ การประมงทส่ี าํ คญั ในภูมิภาคยโุ รปทะเลเหนือ โดยเฉพาะบริเวณ กระแสนํา้ อุนแอตแลนติกเหนอื บรรจบกับกระแสน้าํ เย็นกรนี แลนดตะวันออก ทาํ ใหมอี าหารสมบูรณ ปลาชุกชมุ ปาไม อาชพี ปาไม มกี ารประกอบอาชีพอยางจรงิ จังในประเทศฟนแลนด สวเี ดนรสั เซยี นอร เวย สวนใหญเปนปาไมในเขตหนาว มีปาตนสนจํานวนมาก เหมืองแร ภูมิภาคยโุ รป เปนแหลงแรที่สําคัญจาํ นวนมากน้ํามนั และกาซธรรมชาติ อยูใน บรเิ วณทะเลเหนอื และรอบทะเลสาบแคสเปยนบอกไซด นาํ มาถลงุ เปนอลูมเิ นยี ม มมี ากในประเทศ ฝรงั่ เศส ยูโกสลาเวยี ฮงั การี และเทอื กเขาคูราล ในประเทศรัสเซีย อุตสาหกรรม ในภูมิภาคยุโรป ถอื ไดวาเปนภมู ิภาคอุตสาหกรรม ประชากรสวนใหญจะ ประกอบอาชีพอยูในภาคอุตสาหกรรม แหลงอุตสาหกรรมในภูมิภาคยุโรป จะอยูแถบยโุ รปตะวันตก 4.ภมู ภิ าคออสเตรเลยี การประกอบอาชพี ของภูมภิ าคออสเตรเลยี มีลกั ษณะการประกอบ อาชพี ดงั น้ี การปลกู พชื เกษตรกรรมการปลูกพืช ถือวาเปนอาชีพหลกั ของภมู ิภาคออสเตรเลียโดยในการ ดาํ เนนิ การอาชพี เกษตรกรรมปลูกพชื เกษตรกรมกี ารนาํ เครือ่ งจักรกลเขามาชวยในการทําการเกษตร การเลย้ี งสัตว ในภมู ภิ าคออสเตรเลีย นิยมเล้ียงสตั ว ไดแก แกะ เปนการเลยี้ งไวเพอ่ื การใชขน การประมง ภูมิภาคออสเตรเลยี โดยเฉพาะฝงตะวันออก เปนบริเวณที่มีปลาจํานวนมากไดแก ปลาทนู า ปลาฉลาม ปลาแซลมอน ปลากระบอก รวมทัง้ มีการเลยี้ งหอยมุกทเี่ กาะเทอรสเตย ปาไม อาชพี ปาไม มีการประกอบอาชพี ปาไม ประเภทปายคู าลปิ ตัส เพราะมีจํานวนมากใน แถบตะวันออกของภมู ิภาคออสเตรเลยี เหมืองแร ภูมภิ าคออสเตรเลยี เปนแหลงแรท่ีสาํ คัญจํานวนมาก ไดแกเหล็ก มมี ากท่ีรฐั เวส เทริ น ออสเตรเลียถานหิน มมี ากทีซ่ ิดนยี นิวคาสเซิลทองคาํ มมี ากที่รฐั เวสเทริ น ออสเตรเลียดีบุก มี มากท่รี ฐั ควินสแลนด
33 อตุ สาหกรรม ในภูมิภาคออสเตรเลยี มีการดําเนนิ งานอาชีพอุตสาหกรรมการเกษตรเปนสวน ใหญ 5.ภูมภิ าคแอฟริกา การประกอบอาชพี ของภมู ภิ าคแอฟริกา มลี ักษณะการประกอบอาชพี ดงั นี้ การปลกู พชื ภมู ิภาคแอฟริกาสวนใหญ เปนทะเลทราย ดนิ ขาดความอดุ มสมบูรณประชากร จะปลกู พืชไดเฉพาะบริเวณท่ีราบดนิ ตะกอนของปากแมนา้ํ สายตาง ๆ ทําใหผลผลติ ท่ไี ดไมเพยี งพอต อการบริโภคของประชาชนในภูมิภาค แหลงปลูกพชื เมืองรอนในเขตรอนชืน้ บริเวณลุมํนา๎ คองโก ชายฝงแอฟรกิ าตะวนั ออก และ ตะวนั ตก มีการปลกู โกโกมากท่สี ุด การเลยี้ งสตั ว ในภูมิภาคแอฟริกา มกี ารเล้ียงสตั วและการลาสตั วปา เหมืองแร ภูมภิ าคแอฟริกา เปนภูมิภาคทม่ี แี หลงแรเปนจาํ นวนมาก โดยเฉพาะเพชร มี ปรมิ าณมากกวาทกุ ภูมิภาค โดยแรธาตุทีส่ ําคัญอืน่ อุตสาหกรรม ในภูมภิ าคแอฟรกิ า มีการดาํ เนนิ งานอาชีพดานอุตสาหกรรมโดยเฉพาะที่ สาธารณรัฐแอฟรกิ าใต
34 ใบงาน เรอ่ื งท่ี 5 การพัฒนากระบวนการจัดการงานอาชพี ในชุมชนสงั คม ประเทศ และ ภูมิภาค 5 ทวปี ไดแก ทวปี เอเชยี ทวปี ออสเตรเลยี ทวปี อเมริกา ทวีปยโุ รป และทวปี แอฟริกา 1. การจดั การการผลติ กระบวนการของการจดั การการผลิต มคี วามสําคญั จําเปน ตองมีข้นั ตอนท่กี าํ หนดไวกอนหลงั อยางชดั เจน เพ่อื ใหผู ดาํ เนนิ การสามารถปฏบิ ตั ติ ามไดอยางถกู ตอง กระบวนการผลติ จาํ เปนตองมีความเขาใจและสามารถ จัดระบบการบรหิ ารจัดการ ไดอยางมปี ระสิทธภิ าพ เพราะเปนการกาํ หนดแนวทางการส่ือสารการ ประกันคณุ ภาพ การประเมนิ การควบคุม การติดตามตรวจสอบ การดําเนนิ งาน การแกปญหาเป นเครอ่ื งมือในการสรางนวัตกรรม รวมถงึ การพยากรณส่งิ ท่ีจะเกิดขนึ้ แนวคดิ สาํ คัญการวางแผนงานเปนกจิ กรรมเบ้ืองตนของการปฏบิ ตั ิงานใหผู ปฏิบัตงิ านทราบถงึ แนวทางวาตองทําอะไร ทไี่ หน เมอ่ื ใด อยางไร โดยมกี ระบวนการของการวางแผน เพ่อื ใหไดแผนงานทีด่ สี ามารถปฏิบัติใหสาํ เรจ็ ไดตามวตั ถุประสงคทก่ี ําหนดการวางแผนงานท่ีดีจะเป นเครือ่ งมือของฝายปฏบิ ตั กิ ารทีจ่ ะชวยใหการดาํ เนนิ การมีความชดั เจน ราบรืน่ และประหยดั ทรัพยากร 1. การวางแผน “การวางแผนเปนจดุ เริ่มตนของการทาํ งานตามนโยบาย เพ่ือ บรรลวุ ัตถปุ ระสงคขององคกรโดยกําหนดกิจกรรมไวชดั เจนวา จะใหใครทําอะไร ทไี่ หน เมื่อใด เพราะ อะไร ดวยวธิ ใี ด เมือ่ พบปญหาและอปุ สรรคท่คี าดวาจะมจี ะเกิดอยางนน้ั อยางนแ้ี ลว จะแกไขอยางไร ในชวงเวลาขางหนาของการดําเนนิ การภายใตงบประมาณทตี่ ง้ั ไว” ความสาํ คัญของการวางแผน การวางแผน เปนการกาํ หนดแนวทางวาจะทาํ อะไร เมอื่ ใด อยางไร โดยใช ทรพั ยากรตาง ๆขององคกร ทําใหเหน็ ถงึ ความชัดเจนทจ่ี ะดําเนนิ ไปสูความสําเร็จตามวตั ถปุ ระสงคท่ีต องการ หากการดําเนนิ การใดปราศจากการวางแผนจะกอใหเกิดปญหาตาง ๆ ข้ึน ประเภทของแผนงานการแบงประเภทของแผน มีการแบงในหลายลกั ษณะ ดงั นี้ 1. แบงการวางแผนตามระยะเวลา แบงได 3 ประเภท 1.1 แผนระยะสั้น 1.2 แผนระยะปานกลาง 1.3 แผนระยะยาว 2. แบงการวางแผนตามขอบเขตของการวางแผน เปนการจดั แบงโดยพิจารณาเนอ้ื หา ของแผนวามีขอบเขตครอบคลุมเพยี งใด มี 5 ประเภท 3. แบงการวางแผนตามลกั ษณะของการใช
35 3.1 แผนงานท่ใี ชประจาํ 3.2 แผนงานท่ีใชคร้ังเดยี ว 4. แบงการวางแผนตามขอบขายของการใชแผน 4.1 แผนกลยุทธ เปนแผนทมี่ ีขอบขายกวาง ครอบคลุมทกุ สวนขององคกรเปนแผ นระยะยาวทกี่ ําหนดแนวทางของการใชทรัพยากร 4.2 แผนกลวธิ ี เปนแผนท่ีมขี อบขายทแี่ คบ กาํ หนดเฉพาะรายละเอยี ดของการปฏบิ ตั งิ านว าควรทาํ อยางไรเพื่อใหงานบรรลุผลสาํ เร็จอยางมีประสทิ ธภิ าพสูงสดุ เปนแผนที่มีระยะเวลาส้นั 1-5 ป ลักษณะของแผนที่ดีลกั ษณะของแผนทีด่ ีควรประกอบดวยลกั ษณะดังตอไปนี้ 1. มีวัตถุประสงคหรือเปาหมายทช่ี ดั เจน เขาใจงาย วัตถุประสงคหรอื เปาหมายตองไมมากจน ไมสามารถกําหนดแผนงานท่ีรดั กมุ ได 2. ตองครอบคลมุ รายละเอียดอยางเพยี งพอท่จี ะสามารถปฏบิ ัตใิ หสําเรจ็ ตามวตั ถปุ ระสงค หรือ เปาหมาย 3. มีความยดื หยุนพอสมควร สามารถปรบั ใชกบั สถานการณที่เปลี่ยนแปลงไปได 4. มีระยะเวลาการดําเนนิ การทแี่ นนอน 5. มกี ารกาํ หนดบทบาทหนาที่ของผูปฏิบัตติ ามแผนชดั เจน 6. ผทู เ่ี ก่ียวของกับแผนมสี วนรวมในการวางแผนชัดเจน 7. ใชขอมูลเปนพื้นฐานในการ ตัดสนิ ใจทุกข้นั ตอน เทคนคิ การวางแผนท่ดี ี 1. กําหนดวตั ถุประสงคหรือเปาหมายใหชัดเจน 2. กําหนดกจิ กรรมเปนแนวทางหรอื รองรบั การปฏบิ ัติงานใหเกิดความสําเร็จตาม วตั ถปุ ระสงค๑ 3. วเิ คราะหหรอื ตรวจสอบความเปนไปไดของแผน แผนงานตาง ๆ ท่ีถกู เขียนขึน้ จากความรู ความสามารถของผูบรหิ ารทแ่ี ตกตางกันอาจไมมีความสมบรู ณหรอื อาจเปนไปไมไดในทางปฏบิ ตั ิเปน ตองมกี ารวิเคราะหหรอื ตรวจสอบวาแผนทเี่ ขียนขึ้น มีความเปนไปไดมากนอยเพยี งใด อาจมีการ ปรบั ปรงุ แผนใหมีความสมบูรณยิง่ ข้ึน เปนการทบทวนแผนกอนที่จะนําไปปฏบิ ัติจรงิ 4. การกาํ หนดรายละเอยี ดของแผน มักจะเกีย่ วของกับการตดั สนิ ใจเลือกวธิ กี ารวาควร ทาํ อยางไร หลกั ในการพจิ ารณาตดั สนิ ใจเลือก กระบวนการวางแผน การวิเคราะหกิจกรรม เปนการกาํ หนดกิจกรรมที่จะตองทาํ ในแผน ผูทที่ ําหนาที่วิเคราะหจะ ตองมคี วามรูเกย่ี วกับเรื่องที่จะทาํ อยางดี จึงจะสามารถระบกุ ิจกรรมที่ตองทําไดถกู ตองครบทกุ ประเดน็ ปญหาทางเลือก 1 ทางเลอื ก 2 ทางเลือก 3 พจิ ารณาขอดีขอเสยี แตละทางเลือกภายใต สภาวะแวดลอมภายในและภายนอกองคกรทางเลอื กท่ดี ที ี่สดุ กิจกรรมและเขียนความสัมพนั ธของ กิจกรรมตาง ๆ ได ตลอดจนการกําหนดระยะเวลาของกิจกรรมและการกําหนดงบประมาณทีต่ องใช
36 ไดถกู ตองการวิเคราะหกิจกรรมโดยการวิเคราะหกระบวนการของภาระงานทีท่ าํ ถอื วาภาระงานหนึ่ง ๆสามารถแยกเปนงานยอยหลาย ๆ งาน ซง่ึ มคี วามเชอ่ื มโยงกนั มกี ารลาํ ดับทาํ กอนและหลัง
37 ใบงาน เรื่องที่ กลํุมอาชพี ใหมํ จากการเปล่ยี นแปลงในบรบิ ทโลกท้งั ในสวํ นการรวมกลุมํ ทางการเงิน การเปลี่ยนแปลง เทคโนโลยอี ยาํ งรวดเรว็ การเปลย่ี นแปลงของธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ๎ ม การเปลยี่ นแปลงพฤติกรรม ของผบ๎ู ริโภค การรวมกลํมุ ทางเศรษฐกจิ และประการสาํ คัญคือ การเปลยี่ นแปลงโครงสรา๎ งประชากร ทางสังคม ดังนน้ั อาชพี ในปัจจุบันจะต๎องมกี ารพฒั นาวธิ ีการและศกั ยภาพในการแขงํ ขนั ได๎ ในระดับ โลก ซึ่งจะต๎องคํานึงถงึ บรบิ ทภมู ิภาคหลกั ของโลก หรอื \"รู๎ศักยภาพเขา\" หมายถึง ทวีปเอเชีย ทวีป อเมรกิ า ทวีปยโุ รป ทวปี ออสเตรเลีย และทวปี แอฟรกิ า และจะตอ๎ ง \"รศู๎ กั ยภาพเรา\" หมายถงึ รู๎ ศกั ยภาพหลกั ของพน้ื ทีป่ ระเทศไทย คอื สกั ยภาพของทรพั ยากรธรรมชาตใิ นแตลํ ะพน้ื ที่ ศักยภาพ ของ ศลิ ปะ วัฒนธรรม ประเพณี และวถิ ีชวี ิตของแตลํ ะพนื้ ที่ และศักยภาพของทรัพยากรมนุษย๑ใน แตลํ ะ พนื้ ที่ ดังนน้ั เพื่อให๎การประกอบอาชีพสอดคลอ๎ งกับศกั ยภาพหลกั ของพนื้ ที่และสามารถ แขํงขนั ใน เวที โลก จงึ ไดก๎ ําหนดกลํุมอาชีพใหมํ 5 กลมุํ อาชีพ คือ กลุมํ อาชีพใหมดํ า๎ นการเกษตร กลํุมอาชีพใหมํ ดา๎ นพาณชิ ยกรรม กลมํุ อาชพี ใหมดํ า๎ นอดุ สาหกรรม กลุมํ อาชพี ใหมํด๎านความคิด สร๎างสรรค๑ และกลุํมอาชีพใหมํด๎านบริหารจัดการและบรกิ าร 1. กลมํุ อาชีพใหมํดา๎ นการเกษตร คือการพัฒนาอาชีพในดา๎ นการเกษตรเกีย่ วกบั การปลูกพืช เล้ยี งสัตว๑ การประมง โดขนําองคค๑ วามร๎ใู หมํ เทคโนโลยี/นวตั กรรม มาพฒั นาให๎สอดคลอ๎ งกับ ศักยภาพหลักของพนื้ ท่ี คอื ศกั ยภาพของทรัพยากรธรรมชาตใิ นแตลํ ะพื้นท่ี ตามลกั ษณะภูมิอากาศ ศักยภาพของภูมิประเทศ และทําเลทต่ี ้ังของแตลํ ะพ้นื ที่ ศกั ยภาพของศิลปะวฒั นธรรม ประเพณี และ วถิ ขี องแตํละพน้ื ที่และศักยภาพของทรพั ยากรมนษุ ยใ๑ นแตลํ ะพน้ื ที่ อาชพี ใหมํดา๎ นการเกษตร เชํน เกษตรอินทรีย๑ เกษตรผสมผสาน เกษตรทฤษฎีใหมํ วนเกษตร ธุรกิจ การเกษตร เปน็ ต๎น 2. กลุํมอาชพี ใหมํด๎านพาณชิ ยกรรม คือการพัฒนาหรือขยายขอบขํายอาชีพด๎านพาณิชย กรรม เชํน ผใ๎ู ห๎บรกิ ารจาํ หนาํ ยสินคา๎ ท้งั แบบคา๎ ปลีกและคา๎ สงํ ใหแ๎ กํผบ๎ู ริโภคทง้ั มหี นา๎ ร๎านเป็นสถานท่ี จัดจาํ หนาํ ย เชนํ หา๎ งรา๎ น หา๎ งสรรพสินค๎า ซุปเปอรส๑ โตร๑ ร๎านสะดวกซ้อื และการขายทีไ่ มํมหี นา๎ ร๎าน เชํน การขายผํานสอื่ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส๑ 3. กลํมุ อาชีพใหมดํ ๎านอตุ สาหกรรม คือการพัฒนาอาชพี ท่อี าศยั องค๑ความรเ๎ู ทคโนโลยี นวัตกรรม อาชพี เกย่ี วกบั งานชําง ซงึ่ ไดแ๎ กํ ชํางไฟฟูา ชาํ งไม๎ ชาํ งยนต๑ ชํางประปา ชํางปนู และชําง เชื่อม ใหส๎ อดคล๎องกับความตอ๎ งการของตลาดในประเทศ และตาํ งประเทศ และศักยภาพหลกั ของ พน้ื ท่ี เชนํ ผูผ๎ ลิตช้ินสํวนอเิ ล็คทรอนิกสเ๑ คร่ืองใช๎ไฟฟูา หรืออปุ กรณ๑อเิ ลก็ ทรอนิกส๑โดยทั่วไป เชํน IC PCB ผปู๎ ระกอบรถยนต๑และ ยานยนต๑ประเภทตําง ๆ ผูผ๎ ลติ ตัวแทนจําหนํายหรอื ผป๎ู ระกอบ ชนิ้ สํวนหรืออะไหลรํ ถยนต๑ ผ๎ูให๎บริการซํอมบาํ รุงรถยนต๑ ผ๎ูจดั จําหนาํ ยและศนู ยจ๑ าํ หนาํ ยรถยนตท๑ ัง้ มือ หน่ึงมอื สอง ผผู๎ ลิตและจาํ หนํายเครอ่ื งจกั รและเคร่ืองมอื ทุกชนดิ เชนํ เครื่องจกั รกลหนักเคร่ืองจกั รกล
38 เบา ผลิตอปุ กรณ๑หรอื สํวนประกอบพน้ื ฐานของเคร่อื งใช๎ไฟฟาู ตาํ ง ๆ เชํน สายไฟหลอดไฟ ฉนวนไฟฟาู มอเตอร๑ตําง ๆ การผลติ อลมู เิ นยี ม ผลิตและ ตัวแทนจาํ หนํายผลติ ภณั ฑเ๑ หล็กสแตนเลส ผ๎ผู ลิตจําหนาํ ยวัสดุกอํ สร๎าง วัสดตุ กแตํง สุขภณั ฑ๑ การ กํอสรา๎ ง อาคาร หรือทีอ่ ยูํอาศยั 4. กลํุมอาชีพใหมํดา๎ นความคดิ สร๎างสรรค๑ ทํามกลางกระแสการแขํงขันของโลกธุรกิจที่ไร๎ พรมแดน และการพฒั นาอยาํ งก๎าวกระ โดดของเทคโนโลยกี ารสอื่ สารและการคมนาคมการ แลกเปล่ียนสนิ ค๎าจากที่หนง่ึ ไปขังอีกสถานที่ที่อยํูหํางไกลนัน้ เป็นเรือ่ งงาํ ยในปัจจบุ นั เมอื่ ข๎อจํากดั ของ การข๎ามพรมแดนมใิ ชํอปุ สรรคทางการค๎าตํอไปจึงทาํ ใหผ๎ ูบ๎ รโิ ภคหรอื ผซ๎ู อื้ มสี ิทธเิ ลือกสินคา๎ ใหมไํ ด๎ อยํางเสรที ัง้ ในดา๎ นคณุ ภาพและราคา ซงึ่ การเรยี นร๎แู ละพัฒนาสินคา๎ และบริการตาํ ง ๆ ท่ีมีอยํูในตลาด อยํแู ล๎วในยุค โลกไร๎พรมแดนกระทาํ ไดง๎ ําย ประเทศที่มตี น๎ ทนุ การผลิตตํา่ เชนํ ประเทศจนี อนิ เดยี เวียดนาม และประเทศในกลุํมยุโรปตะวันออก จะมคี วามไดเ๎ ปรียบในการแขงํ ขนั ดา๎ นราคา ดว๎ ยเหตุน้ี ประเทศผูน๎ าํ ทางเศรษฐกจิ หลายประเทศจึงหันมาสงํ เสริมการคาํ เนนิ นโยบาย เศรษฐกจิ สรา๎ งสรรคเ๑ พ่ือพัฒนาสนิ คา๎ และบรกิ ารใหมํ ๆ และหลกี เล่ียงการผลติ สนิ คา๎ ท่ตี ๎องตอํ สูด๎ ๎าน ราคา โดยหลักการของเศรษฐกจิ สร๎างสรรค๑คือแนวคิดหรอื แนวปฏิบัตทิ ่ีสร๎างเพิม่ มูลคําของสนิ ค๎าและ บรกิ ารไดโ๎ ดยไมํต๎องใช๎ทรพั ยากรมากนัก แตํใชค๎ วามคิด สติปัญญา และความสรา๎ งสรรค๑ใหม๎ ากขนึ้ ทิศทางของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสงั คมแหํงชาติฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2555 -2559) ได๎ กาํ หนดยทุ ธศาสตรก๑ ารปรับโกรงสร๎างเศรษฐกจิ สกํู ารเจรญิ เตบิ โตอยํางคุณภาพและยั่งยืน ให๎ ความสําคญั กบั การปรบั โครงสรา๎ งเศรษฐกิจบนฐานความรู๎ ความคดิ สรา๎ งสรรคแ๑ ละภูมปิ ัญญาภายใต๎ ปัจจัยสนับสนุนท่เี อ้อื อาํ นวยและระบบการแขํงขนั ทเ่ี ป็นธรรมเพ่ือสร๎างภมู คิ ุม๎ กนั ให๎กับประเทศ มุงํ ปรบั โครงสร๎างและการลงทนุ ใหส๎ อดคล๎องกบั ความตอ๎ งการของตลาดทั้งภายในและตํางประเทศ สรา๎ ง มลู คาํ เพ่มิ ให๎กบั สาขาบริการที่มศี กั ยภาพบนพน้ื ฐานของนวัตกรรมและความคิดสร๎างสรรค๑ พัฒนา ธรุ กิจสร๎างสรรค๑และเมอื งสร๎างสรรค๑ เพมิ่ ผลิตภาพของภาคเกษตรและสร๎างมูลคําเพม่ิ ด๎วยเทคโนโลยี และกระบวนการผลิตที่เป็นมติ รกับส่ิงแวดลอ๎ ม พัฒนาภาคอตุ สาหกรรมสูํอุตสาหกรรมฐานความรู๎เชิง สร๎างสรรค๑และเปน็ มติ รตํอส่งิ แวดล๎อม พัฒนาโครงสร๎างพื้นฐานและระบบโลจสิ ติกส๑ สรา๎ งความม่ันคง ด๎านพลงั านควบคไูํ ปกับการปฏิรูปกฎหมายและกฎระเบียบตําง ๆ ทางเศรษฐกิจ และการบรหิ าร จัดการเศรษฐกิจสวํ นรวมอยาํ งมีประสิทธภิ าพเพ่ือใหเ๎ ปน็ ฐานเศรษฐกิจ ของประเทศทีเ่ ข๎มแข็งและ ขยายตวั อยํางมคี ุณภาพกลมํุ อาชพี ใหมํคา๎ นความคดิ สรา๎ งสรรค๑ จึงเปน็ อาชพี ทอี่ ยํบู นพื้นฐานของการ ใช๎ องคค๑ วามร๎ู (Knowledge) การศกึ ษา (Education) การ สรา๎ งสรรคง๑ าน (Creativity) และการ ใช๎ ทรัพย๑สินทางปญั ญา (Intellectual Property) ทเี่ ชือ่ มโยงกับพน้ื ฐานทางวฒั นธรรม (Culture) การ สง่ั สมความร๎ขู องสงั คม (Wisdom) และเทคโนโลยี/นวตั กรรมสมัยใหมํ (Technology and Innovation) (อาคม เดิมพิทยาไพสิฐ, 2553) ดงั นนั้ กลุมํ อาชีพใหมดํ า๎ นความคิดสรา๎ งสรรค๑ จึงเป็นการตอํ ยอดหรอื การพฒั นาอาชพี ในกลุํม อาชพี เดมิ คือกลุํมอาชพี เกษตรกรรม กลํมุ อาชีพอตุ สาหกรรม กลํุมอาชีพ พาณิชยกรรม กลมํุ อาชพี
39 คหกรรม กลุํมอาชีพหัตถกรรม และกลุํมอาชีพศิลปกรรม กลุํมอาชีพใหมํดา๎ นความคิดสร๎างสรรค๑ เชํน แฟชน่ั เสอ้ื ผ๎า เครือ่ งประดับ เครอื่ งสําอาง ทรงผม สปาสมนุ ไพร การออกแบบสือ่ /ภาพยนตร๑/ โทรทัศน๑ เคร่อื งใช๎ไฟฟูา เฟอร๑นเิ จอร๑ วัสดกุ ํอสร๎างแบบประหยัดพลงั งาน เซรามกิ ผ๎าทอ จักสาน แกะสลัก รถยนต๑พลังงานทางเลอื กขากลอตั โนมตั ิเพ่อื ผพ๎ู ิการ การทอํ งเทยี่ วเชงิ วัฒนธรรม ตลาดนํา้ อโยธยา เป็นต๎น 5. กลมุํ อาชีพใหมดํ ๎านบรหิ ารจัดการและบริการเชนํ ธุรกิจบรกิ ารทอํ งเทีย่ ว ธุรกิจ บริการสุขภาพ ธุรกิจบริการ โลจสิ ติกส๑ ธุรกิจภาพยนตร๑ ธุรกจิ การจัดประชมุ และแสดงนทิ รรศการ บรกิ ารที่ปรึกษาดา๎ นอสงั หารมิ ทรพั ย๑ ท่ีปรกึ ษาทางธรุ กิจงานอาชพี ใหมทํ ้ัง 5 กลํมุ ในอนาคตจะมกี าร เติบโตทางธรุ กิจมากขึ้น จงึ มีความตอ๎ งการเจ๎าหน๎าที่ บุคคล พนกั งาน เพือ่ ควบคมุ และปฏบิ ัตติ งิ านท่ีมี ความรู๎ ความสามารถ และทักษะฝมี ือเป็นจํานวนมาก
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 574
Pages: