Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 64-07-30-คู่มือครู ภาษาไทย ป.3-1

64-07-30-คู่มือครู ภาษาไทย ป.3-1

Published by elibraryraja33, 2021-07-30 02:20:15

Description: 64-07-30-คู่มือครู ภาษาไทย ป.3-1

Search

Read the Text Version

หนว ยการเรยี นรทู ่ี ๓ เร่อื ง สื่อสารประทบั ใจ ชนั้ ประถมศกึ ษาปท ่ี ๓ ๓๓๑ อะไรเอย มีหูสองขางตรงกลางเปน แอง คาํ ตอบ มาตราตัวสะกดใด อะไรเอย กน ชฟ้ี า หนา ไถดนิ คําตอบ มาตราตัวสะกดใด

๓๓๒ คมู อื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู ระดับประถมศึกษา (ภาษาไทย ป.๓) ปอ ะไรเอย มีหลายสี คําตอบ มาตราตัวสะกดใด อะไรเอย ตน เทาขา ใบวาเดยี ว คําตอบ มาตราตัวสะกดใด

หนว ยการเรียนรทู ี่ ๓ เรือ่ ง สอื่ สารประทบั ใจ ชน้ั ประถมศึกษาปท ี่ ๓ ๓๓๓ อะไรเอย เชา ๆ เขาถา้ํ คาํ่ ออกมาเรียงราย คําตอบ มาตราตัวสะกดใด อะไรเอย เห็นไดบนหัว เสน คลมุ ไปท่วั ไมกลัวรอ นเลย คําตอบ มาตราตวั สะกดใด ชื่อ ................................................ สกลุ ............................. ชั้น ............... เลขท่ี ............

๓๓๔ คมู ือครูและแผนการจัดการเรียนรู ระดบั ประถมศึกษา (ภาษาไทย ป.๓) เฉลยใบงานที่ ๖ เรอื่ ง ปริศนาคําทายมาตราตัวสะกด หนว ยการเรียนรทู ี่ ๓ เรื่อง สอ่ื สารประทับใจ แผนการจดั การเรยี นรูท่ี ๙ เรื่อง ปริศนาคําทายมาตราตวั สะกด รายวิชา ภาษาไทย รหัสวชิ า ท๑๓๑๐๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปท ่ี ๓ คําชีแ้ จง ใหนักเรียนไขปริศนาคาํ ทายตอไปน้ี แลววิเคราะหวาคําตอบอยู ในมาตราตัวสะกดใด ฉันคืออะไร เดินทางไกลใกลทกุ คนตอ งใชเปนพาหนะ คาํ ตอบ มาตราตวั สะกดใด คาํ ตอบ รถ มาตราแม กด ฉันคืออะไร รไู หมเปน สตั ว บรรทกุ ของหนกั ในทะเลทราย คําตอบ มาตราตวั สะกดใด คําตอบ อฐู มาตราแม กด

หนว ยการเรียนรูท ี่ ๓ เรอ่ื ง สอื่ สารประทับใจ ชั้นประถมศกึ ษาปท ี่ ๓ ๓๓๕ ฉนั คลา ยอยใู หญ ใครใครนับถือ ชื่อเสยี งเลื่องลือ ตามลุมนํา้ โขง คาํ ตอบ มาตราตวั สะกดใด คาํ ตอบ พญานาค มาตราแม พญา (ก กา) นาค (กก) ฉันคืออะไร รีบรีบทายกัน ความหมายของฉนั น้ันแปลวา นก คาํ ตอบ มาตราตวั สะกดใด คําตอบ วหิ ค มาตราแม วิ (ก กา) หค (กก)

๓๓๖ คูม อื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู ระดบั ประถมศึกษา (ภาษาไทย ป.๓) คํานอี้ ะไร รูไหมหนูจา ตรงขาม “บาป” นา หนจู า ลองทาย คําตอบ มาตราตวั สะกดใด คําตอบ บุญ มาตราแม กน ฉันคืออะไร ใชป รงุ อาหาร ฉนั มีรสหวาน รบี ทายเร็วไว คาํ ตอบ มาตราตวั สะกดใด คําตอบ นา้ํ ตาล มาตราแม นํ้า (ก กา) ตาล (กน)

หนว ยการเรยี นรทู ่ี ๓ เรื่อง สอ่ื สารประทับใจ ช้นั ประถมศกึ ษาปท่ี ๓ ๓๓๗ ฉันชอ่ื อะไร เมืองหลวงของไทย ทกุ คนฝน ใฝไปเยอื นสักครา คาํ ตอบ มาตราตัวสะกดใด คําตอบ กรุงเทพฯ มาตราแม กรุง (กง) เทพ (กบ) ฉนั เปน ของใช ไวต ักกับขา ว มีดา มยาวยาว รบี เขามาทาย คาํ ตอบ มาตราตวั สะกดใด คําตอบ ทัพพี มาตราแม ทัพ (กบ) พี (ก กา) อะไรเอย มีหสู องขา งตรงกลางเปน แอง คําตอบ มาตราตัวสะกดใด คําตอบ กระทะ มาตราแม กระ (ก กา) ทะ (ก กา)

๓๓๘ คมู อื ครูและแผนการจัดการเรียนรู ระดบั ประถมศึกษา (ภาษาไทย ป.๓) อะไรเอย กนช้ฟี า หนาไถดนิ คาํ ตอบ มาตราตัวสะกดใด คําตอบ หอย มาตราแม เกย ปอะไรเอย มีหลายสี คําตอบ มาตราตัวสะกดใด คาํ ตอบ ปโ ป มาตราแม ป (ก กา) โป (ก กา) อะไรเอย ตน เทาขา ใบวาเดียว คาํ ตอบ มาตราตัวสะกดใด คาํ ตอบ กลวย มาตราแม เกย

หนว ยการเรยี นรทู ่ี ๓ เรอื่ ง สือ่ สารประทบั ใจ ชนั้ ประถมศกึ ษาปท่ี ๓ ๓๓๙ อะไรเอย เชา ๆ เขา ถํ้า คา่ํ ออกมาเรียงราย คาํ ตอบ มาตราตัวสะกดใด คําตอบ ดาว มาตราแม เกอว อะไรเอย เหน็ ไดบนหวั เสน คลมุ ไปทวั่ ไมกลวั รอ นเลย คําตอบ มาตราตัวสะกดใด คําตอบ ผม มาตราแม กม

๓๔๐ คมู อื ครูและแผนการจดั การเรียนรู ระดับประถมศึกษา (ภาษาไทย ป.๓) ๙.๒ แบบประเมนิ ใบงานท่ี ๖ เร่ืองปริศนาคําทายมาตราตวั สะกด ประเดน็ ๔ (ดีมาก) ระดับคณุ ภาพ ๑ (ปรับปรุง) การประเมนิ ๓ (ดี) ๒ (พอใช) ๑. ไขปริศนา ไขปริศนาคําทายได ไขปรศิ นาคาํ ทายได ไขปริศนาคําทายได ไขปริศนาคาํ ทายได คาํ ทายไดถูกตอ ง ถูกตอง ๒๒-๒๘ คาํ ถกู ตอง ๑๕-๒๑ คํา ถูกตอง ๑๔-๒๐ คํา ถกู ตองนอ ยกวา ๒๐ คาํ ๒. วเิ คราะห วิเคราะหม าตรา วเิ คราะหมาตรา วิเคราะหมาตรา วเิ คราะหม าตรา มาตราตวั สะกด ตวั สะกดไดถกู ตอง ตวั สะกดไดถูกตอง ตัวสะกดไดถูกตอง ตวั สะกดไดถูกตอง ไดถ ูกตอ ง ๒๒-๒๘ คํา ๑๕-๒๑ คํา ๑๔-๒๐ คํา นอยกวา ๒๐ คาํ ๓. ความสวยงาม สวยงามและไมม รี อย ไมค อยสวยงามและมี และสะอาด ลบคาํ ผิด รอยลบคําผิด เกณฑการตดั สิน หมายถึง ดมี าก คะแนน ๙-๑๐ คะแนน หมายถึง ดี คะแนน ๗-๘ คะแนน หมายถึง พอใช คะแนน ๕-๖ คะแนน หมายถึง ปรับปรงุ คะแนน ๑-๔ คะแนน เกณฑก ารผาน ตัง้ แตร ะดับ พอใช ข้นึ ไป

หนวยการเรยี นรทู ี่ ๓ เรอ่ื ง สื่อสารประทบั ใจ ชนั้ ประถมศึกษาปท ี่ ๓ ๓๔๑ แผนการจัดการเรียนรทู ่ี ๑๐ เรื่อง สรา งสรรคช ิน้ งาน (ปริศนาคาํ ทายมาตราตวั สะกด) หนว ยการเรยี นรูที่ ๓ เร่อื ง สอื่ สารประทบั ใจ เวลา ๑ ชวั่ โมง กลมุ สาระการเรียนรภู าษาไทย รายวชิ า ภาษาไทย ชั้นประถมศกึ ษาปท ี่ ๓ ๑. มาตรฐานการเรยี นรู/ ตัวชวี้ ัด สาระที่ ๕ วรรณคดีและวรรณกรรม มาตรฐาน ท ๕.๑ เขาใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณวรรณคดี และวรรณกรรมไทยอยางเห็น คุณคา และประยุกตใ ชใ นชีวติ จริง ตวั ชีว้ ดั ป ๓/๑ ระบุขอคดิ ท่ีไดจากการอานวรรณกรรมเพ่ือนําไปใชในชีวติ ประจําวัน ป ๓/๓ แสดงความคิดเห็นเกีย่ วกบั วรรณคดีที่อาน ๒. สาระสําคญั /ความคดิ รวบยอด มาตราตัวสะกดในภาษาไทย เปนพยัญชนะหรือสระท่ีอยูทายคําหรือพยางค ทําหนาท่ีเปนตัวสะกดมี ๙ มาตรา มที ั้งตัวสะกดทตี่ รงมาตราและไมตรงมาตรา ซ่ึงการสรา งสรรคชิ้นงานทาํ ใหน กั เรยี นไดทบทวนความรู และไดแ สดงองคค วามรทู ่ีไดเ รยี นรผู านกระบวนการคดิ และนํามาสรา งสรรคงานตาง ๆ ไดอยา งมปี ระสทิ ธิภาพ ๓. จดุ ประสงคการเรยี นรู ๓.๑ ดานความรู ความเขา ใจ (K) - บอกความหมายของตวั สะกดตรงมาตราและไมตรงมาตราได ๓.๒ ทกั ษะ/กระบวนการ (P) - สรางสไลดป รศิ นาคําทายมาตราตัวสะกดได ๓.๓ ดานคณุ ลักษณะ เจตคติ คานิยม (A) - มีมารยาทในการฟง ดู และพูด ๔. สาระการเรียนรู ๔.๑ ปรศิ นาคาํ ทาย ๔.๒ มาตราตัวสะกด ๕. สมรรถนะสําคญั ของผูเรียน ๕.๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๕.๒ ความสามารถในการคิด ๖. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค ๖.๑ ใฝเรียนรู ๖.๒ มุงมน่ั ในการทาํ งาน ๗. กจิ กรรมการเรยี นรู

๓๔๒ การจดั กิจกรรมการเรียนร แผนการจดั การเรียนรูท่ี ๑๐ เรื่อง สรางสร รายวิชา ภาษาไทย หนวยการเรียนรูท่ี ๓ ขอบเขตเน้ือหา/ ขั้นตอน ลาํ ดบั จุดประสงค การจดั เวลา แน ที่ การเรียนรู การเรยี นรู ทใี่ ช กจิ กรรมครู ๑ ขอบเขตเนอ้ื หา ข้ันนาํ ๕ นาที ๑. ครูใชค ําถามกระตุนความคดิ สร ๑. การฟง และพูด และจนิ ตนาการของนกั เรยี น ดังน ปรศิ นาคําทาย ๒. มาตราตัวสะกด ครู : นกั เรยี นคดิ วาเราสามารถสร ผลงานเร่อื งมาตราตัวสะกดในรูปแ ไดบาง ครู : นกั เรยี นลองนําไปปรบั ใชก บั อื่น ๆ ได ๒. ครเู ชญิ ชวนใหนักเรียนมาทาํ สไ ปริศนาคําทายมาตราตวั สะกด ๒ จดุ ประสงค ขนั้ สอน ๒๐ นาที ๑. ครใู ชคาํ ถามกระตนุ ความคิดน การเรียนรู ดงั น้ี ๑. บอกความหมาย - นักเรยี นยกตวั อยา งคําในมาตรา ของตัวสะกดตรง - นักเรยี นยกตัวอยา งคาํ ในมาตรา มาตราและไมต รง - นกั เรยี นยกตัวอยา งคาํ ในมาตรา มาตราได - นกั เรยี นยกตัวอยา งคําในมาตรา - นักเรยี นยกตวั อยา งคําในมาตรา

คูมอื ครูและแผนการจัดการเรียนรู ระดบั ประถมศึกษา (ภาษาไทย ป.๓) รู ชน้ั ประถมศกึ ษาปท่ี ๓ รรคช้ินงาน (ปรศิ นาคาํ ทายมาตราตวั สะกด) เร่ือง สือ่ สารประทับใจ จาํ นวน ๑ ชว่ั โมง นวการจดั การเรยี นรู สือ่ การเรยี นรู การประเมนิ กจิ กรรมนกั เรยี น การเรยี นรู รา งสรรค ๑. นักเรยี นแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั ๑. PowerPoint ๑. การสังเกต นี้ การสรางสรรคผลงานตามจนิ ตนาการ เรอื่ งการสรา ง พฤติกรรม ของนักเรียน สไลดป รศิ นา ๒. การถาม รางสรรค นักเรียน : (แนวคําตอบ : นกั เรียนตอบ คําทายมาตรา ตอบ แบบใด คําถามครตู ามจินตนาการและความคดิ ตวั สะกด สรางสรรคข องตนเอง) บรายวิชา ไลด ักเรยี น ๑. นักเรยี นตอบคาํ ถามครู โดยแนว ๒. PowerPoint ๓. การสงั เกต า ก กา คาํ ตอบใหค รผู ูสอนพิจารณา เรื่องการสรา ง พฤติกรรม า กง - คาํ ในมาตรา ก กา สไลดปริศนา ๔. การถาม า กม - คาํ ในมาตรา กง คําทายมาตรา ตอบ า เกย - คําในมาตรา กม ตัวสะกด า เกอว - คําในมาตรา เกย - คาํ ในมาตรา เกอว

หนว ยการเรียนรทู ่ี ๓ เร่อื ง ส่ือสารประทับใจ ช้ันประถมศึกษาปท ่ี ๓ ลําดับ ขอบเขตเนอ้ื หา/ ข้นั ตอน เวลา แน ที่ จดุ ประสงค การจดั ท่ีใช กจิ กรรมครู การเรยี นรู การเรียนรู - นกั เรียนยกตัวอยางคาํ ในมาตรา - นกั เรยี นยกตวั อยางคาํ ในมาตรา - นักเรยี นยกตวั อยางคาํ ในมาตรา - นกั เรยี นยกตัวอยา งคาํ ในมาตรา ๒. ครูอธิบายเร่อื ง การทาํ สไลดปร ๒. สรางสไลด คาํ ทายโดยใชว ิธกี ารสอนแบบสาธ ปรศิ นาคําทาย (Demonstration Method) มาตราตวั สะกดได ๓. ขั้นปฏิบัติ ๒๐ นาที ๑. ครใู หน ักเรียนสรางสไลดปรศิ น โดยครเู ปนผใู หคาํ แนะนํา และชวย ในบางกรณีที่นักเรยี นไมส ามารถท ได ๔. ๓. มมี ารยาทใน ขน้ั สรุป ๕ นาที ๑. ครูใหนกั เรียนออกมานําเสนอส การฟง ดู และพดู ปรศิ นาคาํ ทายของตนเองหนาช้ันเ ๒. ครูและนักเรยี นอภปิ รายรวมกัน เก่ยี วกบั ปริศนาคําทายและมาตรา

๓๔๓ นวการจดั การเรยี นรู ส่ือการเรยี นรู การประเมิน การเรียนรู กิจกรรมนกั เรยี น า กก - คําในมาตรา กก ๓. ใบความรู ๕. การสงั เกต า กบ - คําในมาตรา กบ เรอื่ งการสราง พฤติกรรม า กน - คาํ ในมาตรา กน สไลดป รศิ นา ๖. การถาม า กด - คําในมาตรา กด คําทายมาตรา ตอบ ริศนา ๒. นักเรียนศกึ ษาใบความรูเ ร่ือง ตวั สะกด ธติ การทาํ สไลดปริศนาคาํ ทาย และดู การสาธิตการทําสไลดป รศิ นาคําทาย นาคาํ ทาย ๑. นกั เรียนสรางสไลดป ริศนาคาํ ทาย ๗. การสังเกต ยเหลือ พฤติกรรม ทาํ ตอไป ๘. การถาม ตอบ สไลด ๑. นกั เรยี นออกมานาํ เสนอสไลด ๔. PowerPoint ๙. การสงั เกต เรียน ปรศิ นาคําทายของตนเองหนาช้นั เรียน เรื่องปริศนา พฤติกรรม น ๒. นกั เรยี นอภิปรายรว มกันเกี่ยวกบั คําทายมาตรา ๑๐. การถาม าตวั สะกด ปรศิ นาคาํ ทายและมาตราตัวสะกด ตัวสะกด ตอบ

๓๔๔ คมู ือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู ระดบั ประถมศึกษา (ภาษาไทย ป.๓) ๘. สื่อการเรยี นรู/แหลงเรียนรู ๘.๑ สอื่ PowerPoint เรอื่ งปรศิ นาคําทายมาตราตัวสะกด ๘.๒ ใบความรู เรอื่ งการสรา งสไลดป รศิ นาคําทายมาตราตวั สะกด ๙. การประเมินผลรวบยอด ชนิ้ งานหรอื ภาระงาน - การสรา งสไลดป ริศนาคําทายมาตราตวั สะกด ประเดน็ การวดั และ วิธกี าร เครือ่ งมอื เกณฑก ารประเมนิ ประเมนิ ผล ความรู ผานเกณฑ - บอกความหมายของตัวสะกด ๑. การถามตอบ ๑. แบบประเมนิ การถาม การประเมนิ ตรงมาตราและไมต รงมาตรา ๒. การสังเกตพฤตกิ รรม ตอบ รอยละ ๖๐ ๒. แบบสังเกตพฤติกรรม ทักษะและกระบวณการ - การทาํ ชน้ิ งานสรา ง - แบบประเมินการทํา ผานเกณฑ - สรา งสไลดปรศิ นาคําทาย สไลดปริศนาคาํ ทาย ชนิ้ งานสรา งสไลดปริศนา การประเมิน มาตราตวั สะกด มาตราตัวสะกด คาํ ทายมาตราตวั สะกด รอยละ ๖๐ ดา นคณุ ลกั ษณะ เจตคติ ผานเกณฑ คานยิ ม การประเมนิ - มารยาทในการฟง ดู และพูด - การสงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม รอยละ ๖๐ คุณลักษณะอันพึงประสงค - การสงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม เกณฑการประเมนิ ๑. ใฝเ รยี นรู ระดับคุณภาพ ผา น ๒. มุงมั่นในการทํางาน สมรรถนะสาํ คัญของผเู รียน ๑. แบบประเมิน - เกณฑก ารประเมิน ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๑. การประเมนิ ๒. ความสามารถในการคิด ความสามารถใน ความสามารถในการส่ือสาร ระดบั คุณภาพ ผาน การสอื่ สาร ๒. แบบประเมนิ ๒. การประเมนิ ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการคิด

หนว ยการเรียนรูที่ ๓ เร่อื ง สื่อสารประทับใจ ชนั้ ประถมศกึ ษาปท ่ี ๓ ๓๔๕ ๙.๑ เกณฑการประเมนิ ผลช้ินงานหรือภาระงาน ประเด็น ๔ (ดีมาก) ระดับคณุ ภาพ ๑ (ปรับปรุง) การประเมิน ๓ (ดี) ๒ (พอใช) ๑. บอก บอกความหมายของ บอกความหมายของ บอกความหมายของ บอกความหมายของ ความหมายของ ปริศนาคําทายได ปริศนาคาํ ทาย ปริศนาคําทายได ปรศิ นาคาํ ทายไมได ตวั สะกดตรง ถกู ตอง ถกู ตองเปน สวนมาก ถกู ตองเปนสวนนอย มาตราและไมต รง มาตรา ๒. สรา งสไลด บอกความหมายของ บอกความหมายของ บอกความหมายของ บอกความหมายของ ปรศิ นาคําทาย มาตราตวั สะกดได มาตราตัวสะกด มาตราตวั สะกดได มาตราตัวสะกดไมได มาตราตวั สะกด ถกู ตอง ถกู ตองเปน สวนมาก ถูกตองเปนสว นนอ ย ๓. มารยาทใน พดู ไดถกู ตอง พูดไดบ าง และติดขดั การฟง ดู และพดู และคลอ งแคลว ควบกลา้ํ ไมคอย ควบกลํ้าชัดเจน ชัดเจน เกณฑก ารตัดสนิ หมายถงึ ดมี าก คะแนน ๘-๑๐ คะแนน หมายถึง ดี คะแนน ๖-๗ คะแนน หมายถงึ พอใช คะแนน ๔-๕ คะแนน หมายถงึ ปรับปรุง คะแนน ๑-๓ คะแนน เกณฑก ารผาน ตัง้ แตร ะดับ พอใช ขน้ึ ไป

๓๔๖ คมู อื ครูและแผนการจัดการเรียนรู ระดับประถมศึกษา (ภาษาไทย ป.๓) ๑๐. บนั ทึกผลหลังสอน ผลการจัดการเรียนการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสาํ เร็จ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปญ หาและอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอจํากัดการใชแ ผนการจัดการเรยี นรู และขอเสนอแนะ/แนวทางการปรับปรุงแกไข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอื่ ......................................................ผสู อน (..........................................................) วันท่ี .......... เดอื น ..................... พ.ศ. ............. ๑๑. ความคิดเห็น/ขอเสนอแนะของผูบ รหิ ารหรือผูทไี่ ดร บั มอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ ...................................................... ผูตรวจ (..........................................................) วนั ท่ี .......... เดือน ..................... พ.ศ. .............

หนวยการเรยี นรทู ่ี ๓ เรื่อง สื่อสารประทบั ใจ ช้ันประถมศกึ ษาปท ่ี ๓ ๓๔๗ ใบความรูท่ี ๘ เร่ือง สไลดปรศิ นาคําทายมาตราตัวสะกด หนวยการเรียนรทู ี่ ๓ เรอ่ื ง สอื่ สารประทับใจ แผนการจดั การเรยี นรทู ี่ ๑๐ เรอ่ื ง ปริศนาคําทายมาตราตวั สะกด รายวิชา ภาษาไทย รหัสวชิ า ท๑๓๑๐๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปท่ี ๓ อุปกรณทีต่ องเตรยี ม ๑. กระดาษแขง็ สี ๕. กาวสองกนา ๒. ไมบ รรทัด ๖. กรรไกร ๓. คัตเตอร ๔. แผนรองตดั กระดาษ วิธกี ารทาํ ๑. ตัดกระดาษแข็งสขี นาด ๓๕ คณู ๓๒ เซนตเิ มตร ๒. ใชไมบ รรทัดขีดเสน ขอบขนาด ๒ เซนติเมตร ๓. พบั คร่ึงกงึ่ กลางกระดาษเปน ๒ สวน แลว ตดั ขอบกระดาษสวนที่ ๑ ๔. ตัดขอบกระดาษสวนท่ีสองในลักษณะเฉียง แลวพบั ขอบทว่ี าดกรอบไว ๕. วดั กระดาษสวนท่ี ๒ จากขอบทัง้ สองดา น ดา นละ ๒ น้วิ ๖. ตดั กระดาษสวนกลางของสวนท่ี ๒ ท่ีตกี รอบไว ๗. ตัดกระดาษสําหรับทาํ แผนปา นสไลดขนาดเทากบั ชองวาง ๘. ติดกาวสองหนาบรเิ วณของสวนที่ ๒ แลวแปะเขาหากัน ๙. ไดส ไลดปริศนาคําทายมาตราตวั สะกด

๓๔๘ คมู อื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู ระดับประถมศึกษา (ภาษาไทย ป.๓) ๙.๒ แบบประเมนิ การสรางสไลดปรศิ นาคาํ ทายมาตราตัวสะกด ประเด็น ระดบั คณุ ภาพ การประเมิน ๔ (ดมี าก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช) ๑ (ปรับปรุง) ๑. ปริศนาคาํ ทาย ปรศิ นาคําทายกบั ปรศิ นาคําทายกบั ปริศนาคาํ ทายกับ ปรศิ นาคาํ ทายกบั กบั คําตอบ คําตอบสอดคลอง คําตอบสอดคลองกัน คาํ ตอบสอดคลองกนั คาํ ตอบไมสอดคลอง สอดคลอ ง ถกู ตอง เปน สวนใหญ บา งสวน กัน ๒. ความคงทน สไลดมคี วามคงทน สไลดไ มมีความคงทน และแข็งแรง และแข็งแรง และแข็งแรง ๓. ความสวยงาม สวยงามและไมมีรอย ไมค อยสวยงามและมี และสะอาด ลบคาํ ผิด รอยลบคาํ ผดิ เกณฑการตัดสนิ หมายถึง ดมี าก คะแนน ๙-๑๐ คะแนน หมายถงึ ดี คะแนน ๗-๘ คะแนน หมายถงึ พอใช คะแนน ๕-๖ คะแนน หมายถงึ ปรบั ปรุง คะแนน ๑-๔ คะแนน เกณฑการผาน ตงั้ แตระดับ พอใช ข้นึ ไป

หนว ยการเรียนรทู ่ี ๓ เรอ่ื ง สื่อสารประทับใจ ช้ันประถมศกึ ษาปท่ี ๓ ๓๔๙ แบบประเมินตนเอง ช่อื : _______________________________________วัน/เดอื น/ป _____________ หนวยการเรียนรทู ี่ ๓ เรอ่ื ง สื่อสารประทบั ใจ คาํ ชี้แจง ๑. ระบายสีลงใน ของแตละกิจกรรมท่นี ักเรยี นคิดวา ทําไดตามระดบั การประเมนิ เหลา น้ี เพอ่ื ประเมนิ การเรยี นรูของนักเรียน ปรบั ปรงุ พอใช คอนขา งดี ดี ดีมาก ๑. เขียนคําในมาตรา กก กจิ กรรม ระดบั ความสามารถ ๒. เขียนคาํ ในมาตรา กบ ๓. สรา งชิน้ งานคําในมาตรา กก และ กบ ๔. เขยี นคาํ ในมาตรา กน ๕. เขียนคําในมาตรา กด ๖. สรางชน้ิ งานคําในมาตรา กน และ กด ๗. จําแนกคําในมาตราตวั สะกดตาง ๆ ๘. สรา งปรศิ นาคาํ ทาย ๙. ไขปรศิ นาคําทาย ๑๐. วิเคราะหค าํ ในมาตราตัวสะกด ๑๑. สรา งสไลดป รศิ นาคําทายมาตราตัวสะกด ๒. นบั จํานวนดาวจากตารางขางบนเพื่อบันทึกผลการเรียนรูของนักเรยี น ดังน้ี จํานวน.............................. จาํ นวน.............................. จาํ นวน.............................. จาํ นวน.............................. จํานวน.............................. สรุป : วงกลมรอบผลการเรียนรขู องนักเรียน โดยนับจากขอท่ีไดดาวมากท่ีสดุ ปรบั ปรงุ พอใช ดี คอนขางดี ดีมาก ๓. กาเคร่ืองหมาย ลงใน  ที่นักเรียนวางแผนจะทําเพื่อพัฒนาการเรียนในครั้งตอไป (เลือกได มากกวา ๑ ขอ)  อานและเขียนสะกดคํา  มสี มาธิในการเรียน  ตง้ั ใจทาํ งานจนเสร็จ  มีมารยาทในการฟงและการพูด

๓๕๐ คมู อื ครูและแผนการจดั การเรียนรู ระดับประถมศึกษา (ภาษาไทย ป.๓) หนว ยการเรยี นรทู ี่ ๔ ความกรณุ าพาสุขใจ

หนวยการเรียนรูท่ี ๔ เรื่อง ความกรณุ าพาสขุ ใจ ช้นั ประถมศกึ ษาปท่ี ๓ ๓๕๑ ชื่อหนว ยการเรยี นรู หนวยการเรยี นรูท ี่ ๔ กลมุ สาระการเรยี นรูภาษาไทย รหสั วิชา ท๑๓๑๐๑ ความกรุณาพาสุขใจ เวลา ๑๐ ช่วั โมง ชั้นประถมศึกษาปท ี่ ๓ รายวชิ า ภาษาไทย ภาคเรยี นท่ี ๑ ๑. มาตรฐานการเรยี นร/ู ตัวชีว้ ัด สาระที่ ๑ การอา น มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชกระบวนการอานสรางความรูและความคิดเพื่อนําไปใชตัดสินใจ แกปญหา ในการดําเนินชวี ติ และมีนสิ ัยรักการอา น ตัวชวี้ ัด ป ๓/๓ ต้งั คําถามและตอบคาํ ถามเชงิ เหตผุ ลเก่ียวกับเร่ืองที่อาน ป ๓/๔ ลําดบั เหตุการณแ ละคาดคะเนเหตกุ ารณจ ากเร่ืองที่อานโดยระบุเหตุผลประกอบ ป ๓/๕ สรปุ ความรแู ละขอคิดจากเร่ืองทีอ่ า นเพ่อื นําไปใชในชีวติ ประจาํ วัน ป ๓/๙ มมี ารยาทในการอา น สาระท่ี ๒ การเขยี น มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชกระบวนการเขียน เขียนส่ือสาร เขียนเรียงความ ยอความ และเขียนเร่ืองราว ในรูปแบบตาง ๆ เขียนรายงานขอมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาคนควา อยา งมีประสิทธิภาพ ตวั ช้ีวดั ป ๓/๒ เขียนบรรยายเกี่ยวกบั สง่ิ ใดสิ่งหนงึ่ ไดอ ยา งชดั เจน ป ๓/๖ มีมารยาทในการเขยี น สาระท่ี ๓ การฟง การดู และการพูด มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟงและดูอยางมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู ความคิด ความรสู ึกในโอกาสตาง ๆ อยางมีวิจารณญาณ และสรางสรรค ตัวช้ีวัด ป ๓/๑ เลา รายละเอยี ดเกีย่ วกับเรือ่ งทีฟ่ งและดทู ง้ั ที่เปน ความรแู ละความบนั เทงิ ป ๓/๒ บอกสาระสําคญั จากการฟงและดู ป ๓/๖ มมี ารยาทในการฟง การดู และการพูด สาระท่ี ๕ วรรณคดแี ละวรรณกรรม มาตรฐาน ท ๕.๑ เขาใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณวรรณคดี และวรรณกรรมไทยอยางเห็น คุณคา และนาํ มาประยุกตใ ชในชวี ติ จรงิ ตัวช้วี ดั ป ๓/๑ ระบุขอคดิ ทไ่ี ดจากการอานวรรณกรรมเพื่อนาํ ไปใชในชีวติ ประจาํ วนั ป ๓/๓ แสดงความคดิ เหน็ เก่ยี วกบั วรรณคดที ี่อาน

๓๕๒ คูม ือครแู ละแผนการจดั การเรียนรู ระดับประถมศึกษา (ภาษาไทย ป.๓) ๒. สาระสําคญั และความคิดรวบยอด การเรียงลําดับเหตุการณ คือ การอานที่มุงคนหาสาระของเร่ืองหรือของหนังสือแตละเลมท่ีเปนสวน ใจความสําคัญ และสวนขยายใจความสาํ คัญของเร่อื งแลวนํามาเรียงเหตุการณต้ังแตตนจนจบเร่ืองได การอาน บทรอยแกวเร่ือง นกเขาเถื่อน แมรักลูกจะ ดาวลูกไก หลานยายกะตา การตั้งคําถาม เปนการแสวงหาความรู ที่มีประสิทธิภาพ กอใหเกิดการเรียนรูที่พัฒนาทักษะการคิด การตีความ การไตรตรอง การถายทอดความคิด สามารถนําไปสูการเปล่ียนแปลงการเรียนรู ซ่ึงเม่ือมีการต้ังคําถามก็จะตองมีการตอบคําถามโดยผาน กระบวนการอาน หรอื ฟง เร่ืองราวอยางต้ังใจและรายละเอียดตาง ๆ จะทาํ ใหต อบคําถามไดอยางมีประสิทธิภาพ และมีเหตุผล การเขียนบรรยาย เปนการเขียนเลาเหตุการณใดเหตุการณหนึ่งท่ีเกิดข้ึน เพื่อใหผูอานเห็นภาพ เหตุการณ ลาํ ดับเวลา สถานท่ี บคุ คล และการเลา รายละเอยี ดจากการฟงและดู ตอ งอาศัยทักษะการฟง และดู ผา นกระบวนการวเิ คราะหสาระสาํ คัญเพ่อื ใหทราบจดุ มุงหมายของเรื่องที่ฟง และดู ๓. สาระการเรยี นรู ๓.๑ ความรู ๑) ความหมายของการเรยี งลาํ ดับเหตุการณ ๒) ความหมายคาํ ๓) หลักการเขยี นแผนภาพโครงเรือ่ ง ๔) หลักการต้งั คําถาม และตอบคําถาม ๕) ความหมายของนิทานลูกโซ ๖) ความหมายของการแสดงความคิดเห็น ๗) หลกั การมารยาทของการฟงและดู ๘) ความหมายของการเขียนบรรยาย ๓.๒ ทกั ษะ/กระบวนการ ๑) การเรียงลําดบั เหตุการณ ๒) การเขยี นแผนภาพโครงเรือ่ ง ๓) การตอบคําถามจากเร่ืองที่อา น ๔) การอา นนทิ านเรอ่ื งหลานยายกะตา ๕) การพูดแสดงความคิดเห็น ๖) การเลา รายละเอยี ดของเรอ่ื งท่ีฟงและดู ๗) การเขยี นบรรยาย ๓.๓ ดา นคณุ ลักษณะ/เจตคต/ิ คานยิ ม - ความกตัญูตอผมู พี ระคณุ ๔. สมรรถนะสาํ คญั ของผูเ รยี น ๔.๑ ความสามารถในการสอื่ สาร ๔.๒ ความสามารถในการคิด

หนวยการเรยี นรทู ี่ ๔ เรื่อง ความกรณุ าพาสขุ ใจ ช้ันประถมศึกษาปที่ ๓ ๓๕๓ ๕. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค ๕.๑ ใฝเ รยี นรู ๕.๒ มุงมน่ั ในการทํางาน ๖. การประเมนิ ผลรวบยอด ๖.๑ ช้นิ งานหรือภาระงาน ๑) ใบงานท่ี ๑ เรอ่ื ง การเรียงลาํ ดับเหตกุ ารณ (แมรักลูกจะ) ๒) ใบงานที่ ๒ เร่อื ง การเรียงลาํ ดับเหตกุ ารณ (นกเขาเถ่อื น) ๓) ใบงานท่ี ๓ เรอ่ื ง การเขียนแผนภาพโครงเร่ือง (ดาวลูกไก) ๔) ใบงานท่ี ๔ เร่อื ง ตอบคาํ ถามเชงิ เหตุผล ๕) ใบงานท่ี ๕ เรอื่ ง ตอบคาํ ถามเชิงเหตผุ ล ๖) ใบงานที่ ๖ เรอ่ื ง เรยี งลาํ ดบั เหตกุ ารณนทิ าน หลานยายกะตา ๗) ใบงานท่ี ๗ เรอ่ื ง การเขยี นแผนภาพโครงเรอ่ื ง (หลานยายกะตา) ๘) ใบงานที่ ๘ เรือ่ ง เขียนบรรยาย “ผมู ีพระคุณของฉนั ”

๓๕๔ คูม อื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู ระดบั ประถมศึกษา (ภาษาไทย ป.๓) ๖.๒ เกณฑการประเมนิ ผลช้ินงานหรือภาระงาน ประเด็นประเมิน ระดบั คุณภาพ ๑. การเรยี งลําดบั ๔ (ดีมาก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช) ๑ (ปรบั ปรุง) เหตกุ ารณ เรียงลําดับเหตกุ ารณ เรียงลําดับเหตกุ ารณ ๒. การเขียน ไดถูกตอ งทกุ ขอ เรยี งลาํ ดับเหตุการณ เรยี งลาํ ดบั เหตุการณ ไดถ ูกตอ ง ๔๐% แผนภาพ เขียนแผนภาพ ไดถูกตอง ๘๐% ไดถูกตอง ๖๐% เขียนแผนภาพ โครงเรอื่ ง โครงเรื่องไดถ ูกตอ ง โครงเร่ืองไดถกู ตอ ง ๓. การตอบ ทกุ ขอ เขยี นแผนภาพ เขยี นแผนภาพ ๔๐% คําถามจากเร่ือง ตอบคาํ ถามจากเรอื่ ง โครงเรื่องไดถ กู ตอง โครงเรอ่ื งไดถกู ตอง ตอบคาํ ถามจากเร่อื ง ทอี่ า น ทอี่ า นไดถูกตอง ๘๐% ๖๐% ท่อี านไดถ ูกตอ ง ๔. การพูดแสดง ตามหลักทุกประการ ๔๐% ความคิดเหน็ พดู แสดงความคิดเห็น ตอบคําถามจากเรื่อง ตอบคําถามจากเรื่อง พดู แสดงความคดิ เห็น ไดถูกตอ งตามหลกั ทุก ทอี่ านไดถูกตอ ง ทอี่ า นไดถ ูกตอ ง ไดถ ูกตอ ง ๔๐% ๕. การเลา ประการ ๘๐% ๖๐% รายละเอยี ดของ เลา รายละเอยี ดของ เลา รายละเอยี ดของ เรือ่ งท่ีฟง และดู เรอื่ งที่ฟง และดไู ด พดู แสดงความคดิ เหน็ พดู แสดงความคิดเห็น เร่ืองที่ฟงและดูได ถกู ตองตามหลัก ไดถ ูกตอ ง ๘๐% ไดถ ูกตอง ๖๐% ถกู ตอง ๔๐% ๖. การเขียน ทกุ ประการ บรรยาย เขียนบรรยายได เลารายละเอยี ดของ เลารายละเอยี ดของ เขยี นบรรยายได ถูกตองตามหลัก เรื่องท่ีฟงและดไู ด เรอื่ งท่ีฟง และดไู ด ถกู ตอง ๔๐% ทกุ ประการ ถูกตอง ๘๐% ถกู ตอง ๖๐% เขียนบรรยายได เขียนบรรยายได ถกู ตอง ๘๐% ถกู ตอง ๖๐% เกณฑการตัดสินการประเมนิ ดีมาก ระดับคุณภาพ ๔ หมายถึง ดี ระดบั คุณภาพ ๓ หมายถงึ พอใช ระดบั คุณภาพ ๒ หมายถงึ ปรับปรุง ระดับคุณภาพ ๑ หมายถงึ เกณฑก ารผาน ตง้ั แตระดับ พอใช ขึ้นไป

หนว ยการเรยี นรูท ่ี ๔ เรอ่ื ง ความกรณุ าพาสขุ ใจ ช้นั ประถมศึกษาปท่ี ๓ ๓๕๕ แผนการจดั การเรียนรูท ี่ ๑ เรือ่ ง เรียงลําดับเหตกุ ารณ (แมก าเหวารกั ลูก) หนวยการเรยี นรทู ี่ ๔ เร่ือง ความกรุณาพาสุขใจ เวลา ๑ ช่ัวโมง กลมุ สาระการเรยี นรูภาษาไทย รายวิชา ภาษาไทย ช้นั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๓ ๑. มาตรฐานการเรยี นร/ู ตัวชี้วัด สาระท่ี ๑ การอาน มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชกระบวนการอานสรางความรูและความคิดเพื่อนําไปใชตัดสินใจแกปญหาใน การดาํ เนินชีวิต และมีนิสยั รักการอา น ตวั ชีว้ ดั ป ๓/๔ ลําดับเหตุการณแ ละคาดคะเนเหตกุ ารณจากเรื่องท่ีอานโดยระบเุ หตุผลประกอบ ๒. สาระสาํ คญั /ความคดิ รวบยอด บทอา นเร่ือง แมร ักลูกจะ เปนการเรียงลําดบั เหตุการณต ั้งแตตนจนจบซ่ึงเร่ืองราวของพอแมนกตัวหน่ึง ที่พาลูกมาแอบใหแมกาเหวาเลย้ี ง โดยทแ่ี มน กกาเหวาไมร ูเ ลยวาน่ีคือลูกของตน แตแ มน กกาเหวา กร็ ูส ึกแปลกใจ เพราะเมอื่ เกิดมาขนของนกตวั นอยมีสีแปลกกวา นกกาเหวาตัวอื่นท่มี ีสีดําสนิท แตแ มน กกาเหวา กร็ กั และเล้ียงดู เหมือนลกู ของตน โดยสามารถทําใหเร่ืองราวสอ่ื สารกบั ผูอา นไดอยางมปี ระสทิ ธภิ าพมากยงิ่ ขน้ึ ๓. จุดประสงคการเรียนรู ๓.๑ ดานความรู ความเขาใจ (K) - อธบิ ายความหมายของการเรียงลาํ ดบั เหตุการณได ๓.๒ ทักษะ/กระบวนการ (P) - เขียนเรยี งลําดบั เหตกุ ารณไ ด ๓.๓ ดานคุณลกั ษณะ เจตคติ คานิยม (A) - มีความกตัญูตอผมู พี ระคณุ ๔. สาระการเรียนรู - การเรยี งลาํ ดับเหตกุ ารณ ๕. สมรรถนะสาํ คญั ของผเู รียน ๕.๑ ความสามารถในการสือ่ สาร ๕.๒ ความสามารถในการคดิ ๖. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค ๖.๑ ใฝเ รยี นรู ๖.๒ มงุ มั่นในการทาํ งาน ๗. กจิ กรรมการเรียนรู

๓๕๖ การจัดกจิ กรรมการเรยี นร แผนการจดั การเรยี นรทู ี่ ๑ เรอื่ ง เรีย รายวิชา ภาษาไทย หนวยการเรยี นรทู ี่ ๔ เรื่อ ขอบเขตเนอ้ื หา/ ขน้ั ตอน ลาํ ดบั จุดประสงค การจัด เวลา กิจกรรมครู ที่ การเรยี นรู การเรียนรู ท่ใี ช ๑ ขอบเขตเน้ือหา ขนั้ นาํ ๕ นาที ๑. ครูใชคําถามกระตุน ความคดิ ๑. การอานเร่อื ง ความรูส ึกของนักเรยี น ดังนี้ แมรกั ลกู จะ - ต่ืนเชา มาโรงเรียนใครเปนคนท ๒. การเรียงลาํ ดบั ใหท าน เหตกุ ารณ - เมือ่ เราเจบ็ ปวยใครพาเราไปพ - เม่ือยามเราเดือดรอน หรือไม ใครคือคนที่คอยอยูขาง ๆ เรา ๒. ครถู ามเพ่มิ เติมเกย่ี วกบั ควา พอ แมน อกจากมนุษยแลว ยงั เก อะไรไดอกี บาง คาํ ช้แี จงเพ่ิมเตมิ - ครคู วรใสใจรายละเอยี ดการถ เปน เร่ืองบอบบางของความรูสกึ

คมู ือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู ระดับประถมศึกษา (ภาษาไทย ป.๓) รู ชนั้ ประถมศกึ ษาปท่ี ๓ ยงลําดับเหตกุ ารณ (แมก าเหวา รักลูก) อง ความกรณุ าพาสขุ ใจ จํานวน ๑ ช่วั โมง แนวการจดั การเรยี นรู สอื่ การเรยี นรู การประเมิน การเรียนรู กจิ กรรมนกั เรยี น ดและ ๑. นกั เรยี นตอบคาํ ถามครู โดยมีแนว ๑. PowerPoint ๑. การสังเกต คําตอบ ดังน้ี เรื่องการเรียง พฤติกรรม ทําอาหารเชา - คุณพอคุณแม หรอื บุคคลอื่นท่เี ปน ลําดบั เหตุการณ นักเรยี น ผูป กครอง ๒. การถามตอบ พบแพทย - คณุ พอคุณแม หรอื บุคคลอื่นท่ีเปน ผปู กครอง มส บายใจ - คุณพอคุณแม หรือบุคคลอื่นทเ่ี ปน ผปู กครอง ามรักของ ๒. แนวคาํ ตอบ สตั ว กิดขึ้นกับ ถามเพราะ คาํ ชี้แจงเพ่ิมเตมิ ก - นกั เรียนบางคนอาจจะไมไดอยูกับ คุณพอคุณแม ดังนัน้ ครจู งึ ตองคอย สนับสนุนความรูสกึ โดยใชคาํ พูดท่ี เหมาะสมและรักษาความรูสึกของ นักเรียนใหมากทส่ี ดุ

หนวยการเรยี นรูท ี่ ๔ เรอื่ ง ความกรณุ าพาสขุ ใจ ชั้นประถมศกึ ษาปท่ี ๓ ลาํ ดบั ขอบเขตเนือ้ หา/ ข้นั ตอน เวลา ท่ี จุดประสงค การจดั ทใี่ ช กิจกรรมครู การเรยี นรู การเรียนรู ๒๐ นาที ๑. ครูใหนักเรยี นอานเรื่อง แมร ๒ จุดประสงค ขั้นสอน ๒. ครูใชค ําถามกระตนุ ความคดิ การเรยี นรู ดังนี้ ๑. อธิบาย ครู : นักเรียนคิดวา เร่ืองราวนี้ก ความหมายของ เร่อื งใดเปน สําคัญ การเรยี งลําดับ ครู : นักเรียนคิดวา การเรยี งลํา เหตกุ ารณได เหตุการณเ ปน สง่ิ ที่สาํ คญั หรือไม ๒. เขียนเรียงลาํ ดับ เพราะเหตุใด เหตุการณได ๓. ครูอธบิ ายเร่อื ง การเรียงลําด เหตุการณ ๓ ขั้นปฏิบตั ิ ๑๕ นาที ๑. ครูใหนักเรียนทาํ ใบงานท่ี ๑ เรยี งลําดับเหตกุ ารณ (แมรักลูก ๒. ครแู ละนกั เรยี นรว มกนั ตรวจ ความถูกตอง

๓๕๗ แนวการจดั การเรยี นรู สอื่ การเรยี นรู การประเมนิ การเรียนรู กจิ กรรมนกั เรยี น รกั ลกู จะ ๑. นกั เรยี นอา นเร่ือง แมรกั ลูกจะ ๒. PowerPoint ๓. การสังเกต ดนักเรยี น ๒. นกั เรียนตอบคําถามครู โดยมีแนว เร่ืองการ พฤติกรรม กลา วถงึ คําตอบ ดังนี้ เรียงลาํ ดบั นักเรียน าดบั นกั เรยี น : กลา วถึงเรอื่ งความรกั ของแม เหตุการณ ๔. การถามตอบ ม ทม่ี ีตอ ลูก ๓. บทอา นเรื่อง ดบั (นักเรยี นอาจจะตอบไดหลายคาํ ตอบ) แมรกั ลกู จะ นักเรียน : สาํ คญั เพราะทาํ ใหเรารูวา ๔. ใบงานที่ ๑ เหตุการณเ กิดขน้ึ กอ น-หลัง เรอ่ื งการ ๓. นกั เรียนศกึ ษาใบความรู เร่ือง เรยี งลําดับ การเรียงลาํ ดบั เหตุการณ เหตุการณ (แมร กั ลูกจะ ) ๑ เร่อื ง ๑. นกั เรียนทําใบงานท่ี ๑ เร่อื ง กจะ) เรยี งลําดับเหตุการณ (แมร ักลกู จะ ) จสอบ ๒. นักเรยี นตรวจสอบความถูกตอ ง

๓๕๘ ลําดบั ขอบเขตเน้ือหา/ ขั้นตอน เวลา ท่ี จุดประสงค การจัด ทใี่ ช กิจกรรมครู การเรยี นรู การเรียนรู ๑๐ นาที ๑. ครใู หน กั เรียนสรุปความรแู ล ข้ันสรปุ ๔ ๓. มคี วามกตัญู จากเรอื่ งแมร ักลูกจะ โดยมวี ธิ ีก ตอผมู ีพระคุณ ครู : นกั เรยี นวาดภาพ ๑ ภาพท ความรสู กึ เม่ือไดอา นเร่ืองนี้ ครู : เขียนบรรยายภาพสน้ั ๆ ๒. ครสู รุปความรูแ ละกลา วช่นื ช

คมู ือครแู ละแผนการจดั การเรียนรู ระดับประถมศึกษา (ภาษาไทย ป.๓) แนวการจดั การเรยี นรู สือ่ การเรยี นรู การประเมนิ กิจกรรมนกั เรยี น การเรยี นรู ละความคดิ ๑. นักเรยี นสรปุ ความรแู ละความคิดจาก ๕. PowerPoint ๕. การสังเกต การดงั นี้ เรอ่ื งแมร ักลกู จะ โดยมวี ธิ ีการดังน้ี เร่อื งการเรียง พฤติกรรม ทแ่ี สดงถงึ นักเรยี น : นักเรยี นวาดภาพ ๑ ภาพ ลําดบั เหตกุ ารณ นกั เรียน ทแ่ี สดงถงึ ความรูสกึ เม่ือไดอ านเร่อื งนี้ ๖. การนําเสนอ นักเรียน : เขยี นบรรยายภาพสน้ั ๆ ชมนักเรียน ๒. นักเรยี นนําเสนอหนาชั้นเรยี น

หนวยการเรยี นรูท ี่ ๔ เรื่อง ความกรุณาพาสขุ ใจ ช้นั ประถมศึกษาปที่ ๓ ๓๕๙ ๘. สอ่ื การเรยี นร/ู แหลงเรียนรู ๘.๑ ใบความรู เรอื่ ง การเรยี งลําดบั เหตุการณ ๘.๒ ส่ือ PowerPoint เรื่อง การเรยี งลําดับเหตุการณ ๘.๓ บทอา น เรือ่ ง แมร ักลูกจะ ๙. การประเมินผลรวบยอด ชืน้ งานหรือภาระงาน - ใบงานที่ ๑ เรอื่ ง การเรยี งลําดบั เหตุการณ (แมร ักลกู จะ) ประเดน็ การวดั และประเมนิ ผล วธิ กี าร เครื่องมือ เกณฑก ารประเมิน ความรู ๑. การถามตอบ ๑. แบบประเมนิ การถามตอบ ผา นเกณฑการประเมนิ - อธบิ ายความหมายของการ ๒. การสงั เกตพฤตกิ รรม ๒. แบบสงั เกตพฤติกรรม รอยละ ๖๐ เรียงลําดับเหตุการณ ทกั ษะและกระบวณการ - การทาํ ใบงานท่ี ๑ - แบบประเมนิ การทําใบงาน ผานเกณฑการประเมนิ - เขียนเรียงลาํ ดับเหตกุ ารณ เร่อื ง การเรียงลาํ ดับ ท่ี ๑ เร่อื ง การเรยี งลําดับ รอ ยละ ๖๐ เหตุการณ เหตกุ ารณ ดานคณุ ลักษณะ เจตคติ - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ผา นเกณฑการประเมนิ คานิยม รอ ยละ ๖๐ - มคี วามกตัญูตอ ผมู ีพระคุณ -การสงั เกตพฤติกรรม คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค - การสงั เกตพฤตกิ รรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม เกณฑการประเมนิ ๑. ใฝเ รียนรู ๑. การประเมนิ ระดบั คุณภาพ ผา น ๒. มงุ มน่ั ในการทํางาน ความสามารถใน สมรรถนะสาํ คญั ของผูเรียน การสอ่ื สาร ๑. แบบประเมิน - เกณฑก ารประเมนิ ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. การประเมนิ ความสามารถในการสื่อสาร ระดับคุณภาพ ผาน ๒. ความสามารถในการคิด ความสามารถในการคิด ๒. แบบประเมิน ความสามารถในการคิด

๓๖๐ คมู อื ครูและแผนการจัดการเรียนรู ระดบั ประถมศึกษา (ภาษาไทย ป.๓) ๙.๑ เกณฑการประเมนิ ผลช้ินงานหรอื ภาระงาน ประเด็น ระดับคณุ ภาพ การประเมิน ๔ (ดมี าก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช) ๑ (ปรบั ปรุง) ๑. อธิบาย อธิบายความหมาย อธบิ ายความหมาย อธบิ ายความหมาย อธิบายความหมายของ ความหมายของ ของการเรียงลาํ ดบั ของการเรียงลาํ ดับ ของการเรียงลําดบั การเรยี งลาํ ดบั การเรยี งลําดับ เหตุการณไดถูกตอง เหตุการณไดถ ูกตอง เหตกุ ารณไดถูกตอ ง เหตกุ ารณไมไ ด เหตุการณ เปน สวนมาก เปน สว นนอย ๒. เขยี นเรียงลาํ ดับ เขียนเรียงลาํ ดับ เขยี นเรยี งลําดับ เขยี นเรยี งลําดบั เขียนเรยี งลาํ ดบั เหตุการณ เหตกุ ารณไดถูกตอ ง เหตกุ ารณไดถ ูกตอ ง เหตุการณไดถ ูกตอ ง เหตกุ ารณไดถ ูกตอ ง ๑๙-๒๐ ตาํ แหนง ๑๗-๑๘ ตาํ แหนง ๑๕-๑๖ ตาํ แหนง นอยกวา ๑๕ ตาํ แหนง ๓. มคี วามกตญั ู มีความรูสกึ กตัญูตอ ไมมีความรสู ึกกตญั ู ตอ ผูมีพระคุณ ผูมีพระคณุ ตอผมู ีพระคุณ เกณฑก ารตดั สนิ หมายถงึ ดมี าก คะแนน ๘-๑๐ คะแนน หมายถงึ ดี คะแนน ๖-๗ คะแนน หมายถึง พอใช คะแนน ๔-๕ คะแนน หมายถงึ ปรบั ปรุง คะแนน ๑-๓ คะแนน เกณฑการผาน ตัง้ แตระดับ พอใช ขน้ึ ไป

หนว ยการเรียนรูท่ี ๔ เร่ือง ความกรณุ าพาสขุ ใจ ชน้ั ประถมศึกษาปที่ ๓ ๓๖๑ ๑๐. บนั ทึกผลหลังสอน ผลการจดั การเรียนการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสาํ เรจ็ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปญหาและอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอจาํ กัดการใชแ ผนการจัดการเรียนรู และขอ เสนอแนะ/แนวทางการปรับปรงุ แกไ ข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ......................................................ผูสอน (..........................................................) วันที่ .......... เดือน ..................... พ.ศ. ............. ๑๑. ความคดิ เหน็ /ขอเสนอแนะของผบู ริหารหรือผทู ่ีไดรบั มอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอื่ ...................................................... ผูตรวจ (..........................................................) วนั ที่ .......... เดือน ..................... พ.ศ. .............

๓๖๒ คูมอื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู ระดบั ประถมศึกษา (ภาษาไทย ป.๓) ใบความรทู ี่ ๑ เรื่อง เรยี งลําดบั เหตกุ ารณ หนว ยการเรียนรทู ่ี ๔ เรอื่ ง ความกรณุ าพาสุขใจ แผนการจดั การเรียนรทู ่ี ๑ เร่ือง เรียงลาํ ดับเหตุการณ (แมก าเหวารักลกู ) รายวิชา ภาษาไทย รหสั วิชา ท๑๓๑๐๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปท ่ี ๓ การเรยี งลําดบั เหตุการณ การอานจับใจความ คือ การอานท่ีมุงคนหาสาระของเร่ืองหรือของ หนังสือแตละเลมที่เปนสวนใจความสําคัญ และสวนขยายใจความสําคัญ ของเรือ่ ง ใจความสําคัญของเรื่อง คือ ขอความที่มีสาระคลุมขอความอ่ืน ๆ ในยอหนาน้ันหรือเรื่องน้ันท้ังหมด ขอความอื่น ๆ เปนเพียงสวนขยาย ใจความสําคัญเทานั้น ขอความหนึ่งหรือตอนหนึ่งจะมีใจความสําคัญท่ีสุด เพียงหน่ึงเดียว นอกนั้นเปนใจความรอง คําวาใจความสําคัญนี้ ผูรูได เรียกไวเปนหลายอยาง เชน ขอคิดสําคัญของเรื่อง แกนของเร่ือง หรือ ความคิดหลักของเร่ือง แตจะเปนอยางไรก็ตาม ใจความสําคัญก็คือสิ่งท่ี เปนสาระที่สําคัญท่สี ดุ ของเรอื่ งน่ันเอง ขนั้ ตอนการอานจบั ใจความ ๑. อานผาน ๆ โดยตลอด เพ่ือใหรูวาเรื่องท่ีอานวาดวยเร่ืองอะไร จุดใดเปนจดุ สาํ คัญของเรื่อง ๒. อานใหละเอียด เพ่ือทําความเขาใจอยางชัดเจน ไมควรหยุดอาน ระหวางเร่อื งเพราะจะทาํ ใหค วามเขา ใจไมติดตอกัน ๓. อานซํ้าตอนท่ีไมเขาใจ และตรวจสอบความเขาใจบางตอนให แนน อนถกู ตอ ง ๔. เรยี บเรยี งใจความสําคญั ของเรื่องดวยตนเอง

หนวยการเรยี นรทู ี่ ๔ เรอื่ ง ความกรณุ าพาสขุ ใจ ช้ันประถมศกึ ษาปที่ ๓ ๓๖๓ บทอา น เร่ือง แมร กั ลูกจะ หนว ยการเรยี นรทู ี่ ๔ เรอ่ื ง ความกรณุ าพาสขุ ใจ แผนการจดั การเรยี นรทู ี่ ๑ เรื่อง เรยี งลําดับเหตุการณ (แมก าเหวารักลูก) รายวชิ า ภาษาไทย รหัสวชิ า ท๑๓๑๐๑ ชั้นประถมศึกษาปท่ี ๓ เรอื่ ง แมรกั ลกู จะ “พ่ี พ่ี หาเจอแลวยัง” แมน กถาม “เจอแลว เจอแลว ” พอนกตอบ “งน้ั กไ็ ปกันซิ จวนไดเวลาแลว ” แมน กพดู “ยัง ยังไปไมได เจาของยังอยู คอยอีกสักประเดี๋ยว ยังพอทนได ใชไหม” พอ นกกางปกปลอบ “จะ ยังพอทนได พี่ชวยไปดูอีกทีซิวา เขาไปแลวหรือยัง แลวรีบมา บอกนะ ใกลเวลาแลว จะ ” แมนกบอก “เอา ! งั้นพี่จะไปดูอีกที แลวจะสงสัญญาณบอกนะ เธอรีบเขาไป จดั การเรว็ ๆ ก็แลวกัน” พอนกส่ัง “จะ จะ พ่ไี ปเถดิ ฉนั เริ่มจะทนไมไหวแลว” แมนกพูด และครางดวย ความเจบ็ ปวด พอนกรีบบินตรงไปยังตนไมท่ีหมายตา และแอบซุมอยูไมไกลนัก จนเหน็ วาเจาของบานออกไปแลว จึงสงเสียงรองเปนสญั ญาณ “คูเวา คูเวา กอ ก ๆ” “คเู วา คูเวา กอ ก ๆ” แมนกไดยินสัญญาณจากพอนก ก็รีบบินเขาไปทําภารกิจจนเสร็จ เรยี บรอ ย จึงรบี บินกลบั ไปหาพอนก “เสรจ็ แลว หรอื ” พอ นกถาม

๓๖๔ คมู อื ครูและแผนการจดั การเรียนรู ระดบั ประถมศึกษา (ภาษาไทย ป.๓) “เรียบรอยแลวจะ เรารีบไปกันเถอะ” แมนกตอบแลวนกท้ังสองก็ บนิ หายลับไป “กา กา” แมน กอกี ตัวหนง่ึ รอ ง พรอมกบั บินเขา มาในรัง “เม่ือเชาเรานับไดสาม ตอนน้ีกลับเปนส่ี มันยังไงกัน” แมนกรีบถลา เขา ไปในรงั และกางปก กกไข “สงสัยเม่ือเชามันยังไมสวางเลยนับผิดนับถูก เราก็นับเลขเปนน่ีนา ทําไมมันหลงไปได เอาเถอะ ยังไงก็ลูก ก็รักเทากันแหละ ลูกจา ออกมา เร็ว ๆ นะ แมอยากเห็นหนาเต็มทนแลว” แมนกพูดพลางขยับตัว กางปก ใหครอบคลมุ ไขท้ังสีฟ่ องไว แลว หลบั ตาลงอยางมีความสขุ อีกหลายวนั ตอมา ลูกนกกอ็ อกจากไขส ามฟอง “ออ ออ จะแม” ลกู นกตัวแรกรอง “แอ แอ จะ แม” ลกู นกตัวที่สองรอง “อู อู จะแม” ลูกนกตัวทสี่ ามรอ งตอบตามดว ย “ลูกทั้งสามชวยกันดูแลนองดวยนะ อีกไมกี่วันก็จะออกจากไขแลว จะไดเ ปน เพ่ือนเลน เด๋ยี วพอ กับแมจะไปหาหนอนตัวอว น ๆ มาให” แมนก พูดพลางบินออกไปจากรงั พรอ มกบั พอนก “เอา เอา แมจา” ลูกนกตัวท่ีส่ีสลัดเปลือกไขอ อกจากตวั พลางรอง เรยี กแม “สวัสดีจะลูก เอา! พ่ี ๆ มาทักทายนองเสียซิ คราวนี้เรามีกันสี่ตัว พ่นี อ งนะ ตองรกั กนั ไมรงั แกกนั นะ เดยี๋ วแมจ ะไปหาอาหารมาให” แมน ก พดู พรอมกบั บนิ ออกไปจากรงั “เจาตัวเล็กนี่ หนา ตาตลกดีนะ” นกตัวพี่พูด “นั่นซิ ขนก็ไมด าํ สนิทอยา งเรา แปลกจัง” นกตัวทสี่ ามพูดเสริม “แตไงก็เปนนอง แมบอกวาใหเรารักกัน พ่ีจะดูแลนอง ๆ เอง” นก ตวั พี่พดู ตอ

หนว ยการเรียนรูที่ ๔ เรื่อง ความกรุณาพาสุขใจ ช้นั ประถมศึกษาปที่ ๓ ๓๖๕ “พก่ี ็จะชว ยดวย” นกตัวท่ีสองพดู พรอ มกบั รอ งออกมาเปนเพลง “พวกเราทั้งสี่ เปนพ่เี ปนนอง รกั ใครปรองดอง ท้ังนองทงั้ พ่ี รอ งเพลงดวยกัน ผกู พนั ไมตรี พวกเราทั้งสี่ เปนพน่ี องกนั ” นกอกี สองตัวก็รองตามอยา งสนุกสนาน รองเพลงเพราะจริงลูกแม แมชื่นใจจัง เอา! กินเสีย แมคาบหนอน มาใหนี่ไง” แมนกคายหนอนในปาก พรอมกับรองทักลูกนกที่เพ่ิงออกจาก ไขอ กี ๑ ตัว “สวัสดีจะ เจาตัวนอย หิวละซิ พี่สามคนแบงหนอนใหนองคนละ หนอยนะ เดี๋ยวแมจะไปคาบมาใหอีก” แมนกฉีกหนอนออกและปอนลูก ทีละตวั “เอา! เจาตัวเล็กกินกอน อั้ม อ้ัม ทีน้ีก็เจาตัวพี่ อั้ม อ้ัม อั้ม ยังไมอิ่ม ใชไหม เด๋ียวแมไปเอามาอีกนะ นอนเสียจะไดโตเร็ว ๆ” วาแลวแมนกก็ บินออกไป ลูกนกท้งั สน่ี อนซกุ กันอยา งอบอุน หลับตารอแม แมนกดูแลลูกท้ังส่ีเปนอยางดี โดยไมเฉลียวใจเลยวาอีกตัวหนึ่งน้ัน เปนของฝากจากใครก็ไมรู แตถึงรูแมนกก็ไมวาอะไร เพราะแมนกใจกวาง อยแู ลว นกกาตวั ดํา แตน าํ้ ใจดี รักลูกท้งั ส่ี ไมมแี ปรผัน คาบขา วมาเผ่อื ปอ นเหย่ือทั่วกัน ลูกแมทั้งน้นั ชื่นใจแมจรงิ

๓๖๖ คูมือครูและแผนการจัดการเรียนรู ระดับประถมศึกษา (ภาษาไทย ป.๓) แมนกกางปกใหลูกนกท้ังสี่อยูในออมอก และหลับตาลงอยางภูมิใจ ที่มีลกู ถึงสี่ตัว ลกู นกทั้งสซ่ี กุ ตัวเบียดกันอยา งสุขใจใตปกอนั อบอนุ ของแม จากหนงั สือเสรมิ การเรยี นรู ชดุ สายนํา้ ใจ อา นเขยี นเรยี นไทย

หนวยการเรยี นรูที่ ๔ เรอื่ ง ความกรุณาพาสขุ ใจ ชน้ั ประถมศึกษาปท่ี ๓ ๓๖๗ ใบงานท่ี ๑ เรื่อง เรยี งลาํ ดบั เหตกุ ารณ (แมร กั ลูกจะ ) หนวยการเรียนรูที่ ๔ เรอ่ื ง ความกรุณาพาสุขใจ แผนการจัดการเรยี นรทู ่ี ๑ เรื่อง เรยี งลาํ ดบั เหตุการณ (แมกาเหวารักลกู ) รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๓๑๐๑ ชน้ั ประถมศึกษาปท ่ี ๓ คาํ ช้แี จง จงเรียงลําดับเหตุการณ โดยใสหมายเลข ๑-๕ ในกรอบ และเขียนเร่ือง ตามลาํ ดบั เหตกุ ารณ พรอ มทงั้ ตอบคําถาม แมกาฟกไข แมก าพาลูก จนเปนลกู นก ไปสอนบนิ และรักดวยคดิ วา และหากิน เปน ลูกของตน นกกาเหวา นกกาเหวา นายพราน ออกไขไวใ นรังกา จะยงิ แมกาดํา ไปทําอาหาร แมก าคาบ เอาเหยื่อมาปอน ลูกนก

๓๖๘ คูมือครแู ละแผนการจดั การเรียนรู ระดบั ประถมศึกษา (ภาษาไทย ป.๓) ตอนที่ ๒ เขยี นเรียงลาํ ดบั เหตุการณจ ากแผนผังเรยี งลําดบั เหตุการณ

หนวยการเรยี นรทู ่ี ๔ เรื่อง ความกรุณาพาสุขใจ ชน้ั ประถมศกึ ษาปท่ี ๓ ๓๖๙ จากเหตุการณลําดับท่ี ๑-๕ นักเรียนชอบและไมชอบเหตุการณใด มากทีส่ ุด เพราะเหตุใด ชอบเหตุการณ เพราะ ไมช อบเหตกุ ารณ เพราะ ช่อื .......................................... สกุล ............................... ช้ัน ................... เลขท่ี ............

๓๗๐ คมู ือครูและแผนการจดั การเรียนรู ระดบั ประถมศึกษา (ภาษาไทย ป.๓) ๙.๒ แบบประเมนิ ใบงานที่ ๑ เร่ือง เรยี งลําดับเหตุการณ (แมรักลกู จะ) ประเด็น ๔ (ดมี าก) ๓ (ดี) ระดบั คุณภาพ ๒ (พอใช) ๑ (ปรับปรุง) การประเมนิ เขียนเรยี งลําดับ ๑. ความถกู ตอ ง เหตกุ ารณไดถูกตอ ง เขียนเรยี งลาํ ดบั เขยี นเรยี งลาํ ดับ เขยี นเรยี งลาํ ดับ ของเนื้อหา ๑๙-๒๐ ตําแหนง เหตุการณไดถูกตอง เหตุการณไดถูกตอ ง เหตกุ ารณไดถูกตอ ง ๒. ลายมอื ตัว เขยี นลายมือสวยงาม ๑๗-๑๘ ตําแหนง ๑๕-๑๖ ตําแหนง นอยกวา ๑๕ ตาํ แหนง บรรจง มหี ัว เวนระยะหา ง เขียนลายมอื มหี ัว เขียนลายมือ มหี ัว เขียนลายมือ ไมมหี ัว ๓. ความสะอาด ไมม ีรอยลบคาํ ผิด สมํา่ เสมอเปน สวนใหญ ไมคอยสมา่ํ เสมอ ไมสม่าํ เสมอ ๔. ความสวยงาม ตกแตง ระบายสี เวน ระยะหางไมเทากนั เวน ระยะหางไมเ ทากัน ไมเวนระยะหาง สวยงาม แปลกใหม มรี อยลบคําผดิ ๑ จดุ มรี อยลบคําผดิ มีรอยลบคําผดิ ๒-๓ จดุ มากกวา ๔ จุด ตกแตง ระบายสี ตกแตง ระบายสี ไมต กแตง ไมระบายสี สวยงาม แตไ มส มบูรณ เกณฑการตัดสนิ หมายถงึ ดมี าก คะแนน ๑๓-๑๖ คะแนน หมายถงึ ดี คะแนน ๙-๑๒ คะแนน หมายถงึ พอใช คะแนน ๕-๘ คะแนน หมายถงึ ปรบั ปรุง คะแนน ๑-๔ คะแนน เกณฑก ารผา น ตัง้ แตร ะดบั พอใช ข้นึ ไป

หนวยการเรยี นรูท่ี ๔ เร่อื ง ความกรุณาพาสุขใจ ชน้ั ประถมศึกษาปที่ ๓ ๓๗๑ แผนการจดั การเรียนรทู ี่ ๒ เรื่อง เรยี งลําดับเหตุการณ (นกเขาเถ่อื น) หนว ยการเรยี นรทู ี่ ๔ เร่ือง ความกรุณาพาสขุ ใจ เวลา ๑ ชั่วโมง กลุม สาระการเรยี นรูภาษาไทย รายวชิ า ภาษาไทย ชนั้ ประถมศึกษาปท ี่ ๓ ๑. มาตรฐานการเรียนรู/ตวั ชวี้ ดั สาระท่ี ๑ การอา น มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชกระบวนการอานสรางความรูและความคิดเพ่ือนําไปใชตัดสินใจแกปญหาใน การดําเนินชวี ติ และมนี สิ ยั รักการอาน ตัวช้ีวัด ป ๓/๔ ลําดบั เหตกุ ารณแ ละคาดคะเนเหตุการณจ ากเร่ืองที่อา นโดยระบเุ หตผุ ลประกอบ ๒. สาระสําคัญ/ความคิดรวบยอด นกเขาเถ่ือน เปนเพลงกลอมเด็กท่ีมีเนื้อหามุงสอนเรื่องความรักของครอบครัว ซ่ึงเปนบทประพันธ ประเภทรอ ยกรองโดยผเู รียนตอ งถอดคําประพนั ธเ พื่อนํามาจดั เรียงลาํ ดบั เหตกุ ารณ ๓. จุดประสงคก ารเรียนรู ๓.๑ ดานความรู ความเขาใจ (K) - บอกความหมายคําได ๓.๒ ทกั ษะ/กระบวนการ (P) - เขยี นเรียงลําดบั เหตุการณได ๓.๓ ดานคณุ ลกั ษณะ เจตคติ คานยิ ม (A) - มีความกตัญตู อ ผมู พี ระคุณ ๔. สาระการเรยี นรู - การเรียงลาํ ดับเหตุการณ ๕. สมรรถนะสําคญั ของผูเ รยี น ๕.๑ ความสามารถในการสอื่ สาร ๕.๒ ความสามารถในการคดิ ๖. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค ๖.๑ ใฝเรียนรู ๖.๒ มุง มน่ั ในการทาํ งาน ๗. กิจกรรมการเรยี นรู

๓๗๒ การจัดกจิ กรรมการเรยี นร แผนการจัดการเรยี นรทู ี่ ๒ เรือ่ ง เ รายวชิ า ภาษาไทย หนวยการเรียนรทู ี่ ๔ เร ขอบเขตเนอื้ หา/ ขั้นตอน ลาํ ดบั จดุ ประสงค การจัด เวลา กจิ กรรมครู ที่ การเรยี นรู การเรยี นรู ท่ีใช ๑ ขอบเขตเน้อื หา ขนั้ นาํ ๕ นาที ๑. ครูใชคาํ ถามกระตุนความคดิ ๑. การอานเรื่อง โดยใชร ูปแบบการคิดแบบเพื่อน นกเขาเถือ่ น (Think Pair Share) โดยใชค าํ ถ ๒. การเรียงลาํ ดบั ครู : นกั เรียนหาความหมายขอ เหตุการณ “เรือน” ๒ จุดประสงค ขน้ั สอน ครู : นักเรียนหาความหมายขอ การเรียนรู “สุรยิ า” ๑. บอกความหมาย ครู : นักเรยี นหาความหมายขอ คําได “เบ่ียง” ๒๐ นาที ๑. ครใู หนกั เรยี นอา นเรื่อง นกเ ๒. ครใู หน กั เรียนชวยกันถอดคว บทประพนั ธเ ร่อื ง นกเขาเถื่อน ๒. เขยี นเรียงลาํ ดับ เหตกุ ารณได

คูม อื ครูและแผนการจดั การเรียนรู ระดบั ประถมศึกษา (ภาษาไทย ป.๓) รู ชั้นประถมศกึ ษาปท่ี ๓ สอ่ื การเรียนรู การประเมนิ เรยี งลาํ ดับเหตุการณ (นกเขาเถ่อื น) การเรียนรู ร่ือง ความกรุณาพาสขุ ใจ จํานวน ๑ ชั่วโมง แนวการจดั การเรยี นรู กจิ กรรมนกั เรยี น ดนักเรยี น ๑. นกั เรยี นตอบคาํ ถามโดยการเปด ๑. PowerPoint ๑. การสังเกต นคูคิด พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน เรือ่ ง นกเขา พฤติกรรม ถาม ดงั น้ี โดยมีแนวคําตอบดังนี้ เถือ่ น นกั เรียน องคาํ คําวา นักเรยี น : (น.) สิง่ ปลกู สรางท่ียกพน้ื ๒. พจนานุกรม ๒. การถามตอบ องคาํ คาํ วา และกัน้ ฝามหี ลงั คาคลมุ สําหรับเปน ฉบบั ราช ที่อยู, บาน, ทีพ่ กั อาศัย บณั ฑิตย นกั เรียน : ดวงอาทติ ย สถาน องคํา คําวา นกั เรยี น : (ก.) เลยี่ ง, เบน, เห. เขาเถ่ือน ๑. นักเรียนอานเรอ่ื ง นกเขาเถ่ือน ๓. บทอา นเร่อื ง ๓. การสงั เกต วามจาก ๒. นักเรียนชวยกันถอดความจาก นกเขาเถอ่ื น พฤติกรรม บทประพันธเ รอื่ ง นกเขาเถื่อน นกั เรยี น ๔. การถามตอบ

หนว ยการเรียนรูที่ ๔ เรื่อง ความกรุณาพาสุขใจ ชน้ั ประถมศึกษาปท่ี ๓ ลําดบั ขอบเขตเนอื้ หา/ ขน้ั ตอน เวลา กจิ กรรมครู ท่ี จุดประสงค การจัด ที่ใช การเรยี นรู การเรียนรู ๓ ขน้ั ปฏิบัติ ๑๐ นาที ๓. ครใู หนักเรียนทาํ ใบงานที่ ๒ เรียงลําดบั เหตกุ ารณ (นกเขาเถ ๔ ๓. มคี วามกตญั ู ข้ันสรปุ ๑๕ นาที ๑. ครใู หน กั เรยี นสรปุ ความรแู ล ตอ ผูมีพระคุณ จากเรื่องนกเขาเถือ่ น โดยมีวิธีก ครู : นักเรยี นวาดภาพ ๑ ภาพท ความรสู กึ เม่ือไดอา นเร่ืองนี้ ครู : เขยี นบรรยายภาพสั้น ๆ ๒. ครสู รปุ ความรูแ ละกลาวชื่นช

๓๗๓ แนวการจัดการเรียนรู สอื่ การเรียนรู การประเมนิ กิจกรรมนกั เรยี น การเรียนรู ๒ เรื่อง ๓. นกั เรียนทําใบงานท่ี ๒ เรอื่ ง ๔. ใบงานท่ี ๒ ถอ่ื น) เรยี งลาํ ดบั เหตกุ ารณ (นกเขาเถ่ือน) เรื่องเรียงลาํ ดับ เหตุการณ (นกเขาเถือ่ น) ละความคดิ ๑. นักเรียนสรปุ ความรูและความคิดจาก ๕. PowerPoint ๕. การสงั เกต การดังนี้ เรือ่ งนกเขาเถื่อน โดยมวี ธิ ีการดงั นี้ เร่ืองการ พฤติกรรม ทแี่ สดงถงึ นกั เรยี น : นักเรยี นวาดภาพ ๑ ภาพท่ี เรยี งลําดับ นักเรียน แสดงถึงความรสู กึ เม่ือไดอา นเรือ่ งน้ี เหตกุ ารณ ๖. การนําเสนอ นักเรียน : เขียนบรรยายภาพส้ัน ๆ (นกเขาเถอ่ื น) ชมนักเรยี น ๒. นักเรียนนําเสนอหนา ชน้ั เรยี น


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook