46 คูม่ อื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) เกณฑ์ประเมิน : การคดั ลายมอื ตวั บรรจงเตม็ บรรทดั ประเด็น ระดบั คุณภาพ การประเมนิ ๑. รปู แบบ ๔ (ดีมาก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรงุ ) ตวั อักษร คดั ลายมอื ตวั บรรจง คดั ลายมือตัวบรรจง เตม็ บรรทดั ตาม คัดลายมอื ตัว คัดลายมอื ตวั บรรจง เตม็ บรรทัด ไม่ ๒. การเขยี น รูปแบบทีก่ าหนด บรรจงเตม็ บรรทดั เตม็ บรรทดั ตาม ถกู ต้องตามแบบที่ คาและวรรค ทง้ั หมด ตามรูปแบบท่ี รปู แบบท่ีกาหนด กาหนด ตอน กาหนดบางส่วน บกพรอ่ งเปน็ สว่ น เขียนคา และเวน้ วรรค บกพรอ่ ง ใหญ่ เขยี นคา และเวน้ ตอนถกู ต้องทุกคา วรรคตอนไม่ถูกตอ้ ง เขียนคา และเว้น เขยี นคา และเวน้ เปน็ จานวนมาก วรรคตอนถกู ต้อง วรรคตอนถูกตอ้ ง เป็นสว่ นใหญ่ เป็นส่วนน้อย ๓. ความ ตัวอกั ษรสมา่ เสมอ ตวั อักษรสม่าเสมอ ตวั อกั ษรไมค่ ่อย ตวั อักษรไม่ สะอาด เปน็ เรียบร้อย สวยงาม เรียบรอ้ ยสวยงาม สม่าเสมอ ผลงาน สม่าเสมอ ระเบยี บ ผลงานสะอาด ไมม่ ี ผลงานสะอาด มี ไม่สะอาด มีรอยลบ มีรอยลบขดี ฆา่ รอยลบขดี ฆา่ รอยลบขีดฆา่ ๑-๒ ขีดฆา่ ๓-๕ แห่ง มากกว่า ๔. เวลา เสร็จตามเวลาที่ แห่ง กาหนด ๖ แห่ง ๕. มารยาท มีสมาธิ และตง้ั ใจ ในการเขยี น ในการเขียนอยา่ ง เสร็จชา้ กวา่ เวลา เสรจ็ ช้ากว่าเวลา 1 ไมเ่ สร็จตามเวลาที่ สมา่ เสมอ ไมพ่ ดู ไม่ 30 นาที ชวั่ โมง กาหนด และไมส่ ่ง คุย และไม่เลน่ ระหว่างทางาน งาน ตง้ั ใจในการเขียน ตั้งใจในการเขยี น ไม่ตัง้ ใจในการเขียน อย่างสมา่ เสมอ ไม่ พอสมควร พดู คุย พูด คุย และเลน่ พูด ไม่คุย และไม่ และเลน่ ระหวา่ ง ระหวา่ งทางาน เล่นระหวา่ งทางาน ทางานเปน็ บางครง้ั ตลอดเวลา ต้องคอยตกั เตอื น เกณฑก์ ารประเมินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 16-20 ดีมาก 11-15 ดี 6-10 พอใช้ 1-5 ปรับปรงุ เกณฑ์การตดั สิน : ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินรอ้ ยละ ๖๐ ขึ้นไป (ตอ้ งไดร้ ะดบั พอใช้ขนึ้ ไป)
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๑ เรือ่ งสอ่ื สารคล่องตอ้ งร้วู ิธี 47 แบบประเมินการคดั ลายมอื ตวั บรรจงเตม็ บรรทดั คําชแี้ จง ให้ครูเขียนคะแนนการประเมินการคดั ลายมอื ตัวบรรจงเต็มบรรทดั ลงในชอ่ งที่กําหนดให้ ลาํ ดับ ชื่อ-สกลุ รูปแบบ ัตว ัอกษร (๔) รวม คิด สรุป ที่ การเขียนคํา (๔) คะแนน เปน็ ผ่าน ไม่ผา่ น และวรรคตอน (๒๐) ร้อย ความสะอาด ละ เป็นระเบียบ (๔) เส ็รจตามเวลากําหนด (๔) มารยาทในการเ ีขยน (4) ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรงุ รวม (คน) คิดเปน็ รอ้ ยละ ผลการประเมนิ ดีมาก..........คน คดิ เป็นร้อยละ.......................... ดี..........คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ.................. พอใช้..........คน คิดเป็นรอ้ ยละ........................... ปรับปรุง .........คน คดิ เป็นรอ้ ยละ................. สรปุ ผลการประเมนิ รายชน้ั เรยี น นกั เรยี นผ่านเกณฑ์การประเมนิ จาํ นวน......................... คน คิดเปน็ รอ้ ยละ......................... นักเรยี นไม่ผา่ นเกณฑ์การประเมิน จาํ นวน......................... คน คดิ เป็นร้อยละ......................... ลงช่อื ................................................ผปู้ ระเมิน (............................................) ........../..................../..........
48 คมู่ อื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) 10. บันทกึ ผลหลงั สอน ผลการจัดการเรียนการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสาเรจ็ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปญั หาและอปุ สรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ข้อจากัดการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ และข้อเสนอแนะ/แนวทางการปรับปรงุ แกไ้ ข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่อื ......................................................ผสู้ อน (.......................................................) วนั ท่ี .......... เดือน ..................... พ.ศ. ............. 11. ความคดิ เห็น/ข้อเสนอแนะของผู้บรหิ ารหรือผู้ท่ไี ดร้ ับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชือ่ ...................................................... ผูต้ รวจ (.......................................................) วนั ที่ .......... เดอื น ..................... พ.ศ. .............
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๑ เร่ืองสอ่ื สารคล่องตอ้ งรวู้ ธิ ี 49 ใบความรู้ที่ 3 เรอ่ื ง การคดั ลายมือ หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๑ เร่ือง สอื่ สารคล่องตอ้ งรูว้ ธิ ี แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 3 เร่อื ง การคดั ลายมือตวั บรรจงเตม็ บรรทดั รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๕
50 คูม่ อื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) มารยาทในการเขียนควรปฏบิ ตั ิ ดังนี้ ๑. ควรเขียนดว้ ยลายมือตัวบรรจง เพอ่ื ให้อา่ นเข้าใจงา่ ย ๒. ควรเขยี นโดยใช้ภาษาท่ีสภุ าพถูกต้องตามหลกั ภาษาไทย ๓. ไม่ควรเขียนวา่ รา้ ยผอู้ ่นื ให้ได้รับความเสียหาย ๔. เม่ือเขยี นผดิ ควรใชย้ างลบ หรอื น้ายาลบคาผิดลบใหส้ ะอาด ๕. ไมค่ วรขดี เขยี นโต๊ะ เก้าอี้ หรอื ในท่ที หี่ า้ มเขียน ๖. ควรเขียนในกระดาษทม่ี ีสขี าว สะอาด ไมย่ ับ หรือฉกี ขาด ๗. ใชห้ มึกปากกาสดี า หรือสีนา้ เงิน ไม่ควรใช้หมกึ ปากกาสีฉูดฉาดในงานนาเสนอ ๘. หากนางานเขยี นของผอู้ ื่นมาใช้ ควรเขียนอา้ งองิ แหลง่ ทมี่ าใหช้ ัดเจน ๙. มคี วามรบั ผดิ ชอบในงานเขยี นของตนเอง
หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี ๑ เรอื่ งสอื่ สารคลอ่ งตอ้ งรูว้ ธิ ี 51 กลอนหลักการคัดลายมอื เขยี นลายมอื มหี ลกั รู้จกั น่งั ตวั ต้องตงั้ ตรงแนบ ถูกแบบอยา่ ง จบั ดินสอ ปากกา ถกู ทา่ ทาง สมดุ วาง พลางเพ่ง แล้วเลง็ แล ค่อยเขยี นไป ให้งาม ตามส่วนสดั ชอ่ งไฟจดั วัดกะ ระยะแน่ สระหรอื เคร่อื งหมาย อยา่ ย้ายแปร ต้ังใจแน่ มรี ะเบยี บ เรยี บร้อยเอย
52 คูม่ อื ครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ใบงานที่ ๓ เร่อื ง การคดั ลายมอื ตัวบรรจงเตม็ บรรทดั หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๑ เรื่อง สื่อสารคล่องต้องรวู้ ิธี แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๓ เร่ือง การคัดลายมือตวั บรรจงเตม็ บรรทดั รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๕ คาช้แี จง ใหน้ กั เรียนคดั ลายมอื ตัวบรรจงเตม็ บรรทดั บทรอ้ ยกรอง ตามรปู แบบกระทรวงศกึ ษาธกิ าร วนั ภาษาไทยแห่งชาติ จากพระราชดารัสตอนหนึ่งของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรว่า “ภาษาไทยเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งของชาติ ภาษาท้ังหลายเป็นเครื่องมือของมนุษย์ชนิดหน่ึง คือ เป็นทางสาหรับแสดงความคิดความเห็นอย่างหนึ่ง เป็นสิ่งสวยงามอย่างหนึ่ง เช่น ในทางวรรณคดี เป็นต้น ฉะนั้นจงึ จาเป็นต้องรกั ษาใหด้ ี ประเทศไทยน้นั มภี าษาของเราเองซงึ่ ต้องหวงแหน...” ซง่ึ พระราชทานเมื่อครง้ั เสด็จ พระราชดาเนนิ ไปทรงเปน็ ประธานในการประชมุ ทางวชิ าการทจ่ี ฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลัย เมื่อวันที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๐๕ จนเป็นเหตุให้ในเวลาต่อมา คณะรัฐมนตรีได้กาหนดใหว้ นั ท่ี ๒๙ กรกฎาคม ของทุกปี เป็น “วันภาษาไทย แห่งชาติ” ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…...………………………… …………………………………..……………………………………...……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………………………… ………..……………………………………...…………………………………………………………………………………………………..…….……………………………………………… ..……………………………………...…………………………………………………………………………………………………..…….………………………………………………..…… ………………………………...…………………………………………………………………………………………………..…….………………………………………………..…………… ………………………...…………………………………………………………………………………………………..…….………………………………………………..…………………… ………………...…………………………………………………………………………………………………..…….………………………………………………..…………………………… ………...…………………………………………………………………………………………………..…….………………………………………………..…………………………………… ...…………………………………………………………………………………………………..…….………………………………………………..……………………………………...…… ……………………………………………………………………………………………..…….………………………………………………..……………………………………...…………… ……………………………………………………………………………………..…….………………………………………………..……………………………………...…………………… ……………………………………………………………………………..…….………………………………………………..……………………………………...…………………………… ……………………………………………………………………..…….………………………………………………..……………………………………...…………………………………… ……………………………………………………………..…….………………………………………………..……………………………………...…………………………………………… ……………………………………………………..…….………………………………………………..……………………………………...…………………………………………………… ……………………………………………..…….………………………………………………..……………………………………...…………………………………………………………… ……………………………………..…….………………………………………………..……………………………………...…………………………………………………………………… ……………………………..…….………………………………………………..……………………………………...…………………………………………………………………………… ……………………..…….………………………………………………..……………………………………...…………………………………………………………………………………… ……………..…….………………………………………………..……………………………………...…………………………………………………………………………………………… ช่ือ....................................................นามสกลุ ....................................................ช้ัน.................เลขท่.ี ..............
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๑ เรื่องสอ่ื สารคล่องตอ้ งร้วู ิธี 53 แนวคาตอบใบงาน ที่ ๓ เรอ่ื ง การคดั ลายมอื ตวั บรรจงเต็มบรรทดั หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๑ เรื่อง ส่ือสารคลอ่ งตอ้ งร้วู ิธี แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ ๓ เรื่อง การคัดลายมือตวั บรรจงเตม็ บรรทัด รายวิชา ภาษาไทย รหสั วิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๕ วนั ภาษาไทยแห่งชาติ จากพระราชดารัสตอนหนึ่งของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพติ รว่า “ภาษาไทยเป็นเคร่ืองมืออย่างหน่ึงของชาติ ภาษาทั้งหลายเป็นเครื่องมือของมนุษย์ชนิดหน่ึง คือ เป็นทางสาหรับแสดงความคิดความเห็นอย่างหน่ึง เป็นสิ่งสวยงามอย่างหนึ่ง เช่น ในทางวรรณคดี เป็นต้น ฉะน้นั จงึ จาเปน็ ตอ้ งรกั ษาใหด้ ี ประเทศไทยน้ันมภี าษาของเราเองซง่ึ ตอ้ งหวงแหน...” ซึง่ พระราชทานเม่ือครั้งเสด็จ พระราชดาเนนิ ไปทรงเป็นประธานในการประชุมทางวชิ าการทจี่ ุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย เมื่อวันท่ี ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๐๕ จนเป็นเหตุให้ในเวลาตอ่ มา คณะรัฐมนตรไี ด้กาหนดใหว้ ันที่ ๒๙ กรกฎาคม ของทกุ ปี เป็น “วันภาษาไทย แห่งชาติ” ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…...………………………… …………………………………..……………………………………...……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………………………… ………..……………………………………...…………………………………………………………………………………………………..…….……………………………………………… ..……………………………………...…………………………………………………………………………………………………..…….………………………………………………..…… ………………………………...…………………………………………………………………………………………………..…….………………………………………………..…………… ………………………...…………………………………………………………………………………………………..…….………………………………………………..…………………… ………………...…………………………………………………………………………………………………..…….………………………………………………..…………………………… ………...…………………………………………………………………………………………………..…….………………………………………………..…………………………………… ...…………………………………………………………………………………………………..…….………………………………………………..……………………………………...…… ……………………………………………………………………………………………..…….………………………………………………..……………………………………...…………… ……………………………………………………………………………………..…….………………………………………………..……………………………………...…………………… ……………………………………………………………………………..…….………………………………………………..……………………………………...…………………………… ……………………………………………………………………..…….………………………………………………..……………………………………...…………………………………… ……………………………………………………………..…….………………………………………………..……………………………………...…………………………………………… ……………………………………………………..…….………………………………………………..……………………………………...…………………………………………………… ……………………………………………..…….………………………………………………..……………………………………...…………………………………………………………… ……………………………………..…….………………………………………………..……………………………………...…………………………………………………………………… ……………………………..…….………………………………………………..……………………………………...…………………………………………………………………………… ……………………..…….………………………………………………..……………………………………...…………………………………………………………………………………… ……………..…….………………………………………………..……………………………………...…………………………………………………………………………………………… การตรวจคัดลายมืออยู่ในดลุ พินจิ ของครผู สู้ อน ครผู สู้ อนสามารถหารูปแบบตัวอกั ษรตามกระทรวงศึกษาธิการกาหนด หรือคัดลายมอื ใหน้ กั เรียน ดูเปน็ ตวั อย่าง โดยเนน้ ตามรูปแบบตัวอักษรของศึกษาธกิ ารที่กาหนด
54 ค่มู อื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ตวั อยา่ งการคดั ลายมือทสี่ วยงามเปน็ ระเบยี บ แหล่งทมี่ าข้อมลู : https://www.catdumb.tv/20-perfect-thai-writing แหลง่ ที่มาขอ้ มลู : https://www.pinterest.com/pin/615937686518166333
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๑ เร่ืองสอื่ สารคลอ่ งตอ้ งรวู้ ธิ ี ๕๕ แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 4 เร่อื ง การคัดลายมือตวั บรรจงคร่ึงบรรทัด หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1 เร่อื ง สื่อสารคล่องต้องรูว้ ธิ ี เวลา 1 ชว่ั โมง กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย รายวิชาภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 5 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด สาระท่ี 2 การเขยี น มาตรฐาน ท 2.๑ ใชก้ ระบวนการเขียนเขียนส่ือสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราวในรูปแบบ ตา่ ง ๆ เขยี นรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศกึ ษาค้นคว้าอยา่ งมีประสิทธภิ าพ ตัวชวี้ ัด ป.๕/๑ คดั ลายมือตัวบรรจงเตม็ บรรทัดและครึ่งบรรทดั ป.๕/๙ มีมารยาทในการเขียน ๒. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด การคัดลายมือเปน็ พื้นฐานในการเขยี นหนังสอื ตอ้ งเขียนดว้ ยตัวบรรจงให้ถกู ต้อง สวยงามเปน็ ระเบียบ ตามรูปแบบตัวอักษรไทย บ่งบอกลักษณะนิสัยของผู้เขียน ซึ่งมีท้ังการคัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัดและ ครึง่ บรรทดั ตอ้ งมมี ารยาทในการเขียนจงึ จะทาใหก้ ารเขียนมปี ระสทิ ธิภาพ ๓. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ ความเข้าใจ (K) บอกหลักการคดั ลายมอื ได้ 3.2 ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) คัดลายมือตวั บรรจงคร่งึ บรรทัดได้ 3.3 ด้านคณุ ลกั ษณะ เจตคติ คา่ นยิ ม (A) มมี ารยาทในการเขยี น ๔. สาระการเรียนรู้ การคดั ลายมือตวั บรรจงคร่งึ บรรทัด ๕. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน 5.1 ความสามารถในการสอื่ สาร 5.2 ความสามารถในการคิด 5.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ ๖. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 6.1 มงุ่ มน่ั ในการทางาน 6.2 รักความเป็นไทย 7. กิจกรรมการเรยี นรู้
๕๖ คมู่ อื การจดั กจิ กรรมการเรยี นร รายวชิ า ภาษาไทย หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เร่อื แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 4 เร่อื ง การคดั ลายม ลาํ ดบั ขอบเขตเนอื้ หา/ ข้ันตอนการจดั เวลา แ ที่ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรียนรู้ กจิ กรรมคร 1. ท่ีใช้ ขอบเขตเน้อื หา 1. หลักการคดั ลายมือ ขัน้ นาํ 5 1. ครูทบทวนการคดั 2. การคัดลายมอื ตวั นาที ตามรูปแบบการเขียน บรรจงครงึ่ บรรทัด อักษรไทยและนาํ เสน 3. มารยาทในการ การออกแบบแผ่นป้า เขยี น คําคมสอนใจ ด้วยลา บรรจงเตม็ บรรทดั จา มอบหมาย จากงานค 2. ครถู ามคําถาม ดงั ครู : นกั เรยี นคิดวา่ ก ลายมอื ตัวบรรจงเตม็ บ แตกตา่ งจากการคัดล บรรจงคร่งึ บรรทัดอย อยา่ งไหนยากกว่ากัน
อครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) รู้ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 5 อง สอื่ สารคล่องตอ้ งรวู้ ธิ ี จํานวน 10 ชั่วโมง มือตวั บรรจงคร่งึ บรรทดั จํานวน 1 ชวั่ โมง แนวการจดั การเรียนรู้ สื่อการเรยี นรู้ การประเมิน รู กิจกรรมนกั เรยี น การเรียนรู้ ดลายมอื 1. นกั เรยี นรว่ มกนั ทบทวน 1. สงั เกต นตัว การคัดลายมือตามรูปแบบ การตอบคาํ ถาม นอตัวอยา่ ง การเขยี นตวั อักษรไทยและ ของนกั เรยี น ายสุภาษิต ชื่นชมผลงานการออกแบบ 2. ดูจากผลงาน ายมอื ท่ตี ัว แผ่นป้ายสภุ าษติ คําคม การออกแบบ สอนใจด้วยลายมอื ทต่ี ัว แผ่นป้ายสุภาษติ ากงานท่ี บรรจงเต็มบรรทดั คาํ คมสอนใจ คร้งั ทีแ่ ลว้ ดว้ ยลายมอื ทตี่ วั บรรจงเตม็ งนี้ 2. นักเรยี นตอบคาํ ถาม เชน่ คาํ ถามอยใู่ นสอ่ื บรรทัด ตามที่ การคดั - ตัวบรรจงเต็มบรรทัด PPT จะต้องคดั ใหเ้ ต็มบรรทดั ใช้ บรรทัด เนอ้ี ทกี่ ระดาษมากกวา่ คดั ลายมอื ตัว ยากกว่าแบบครงึ่ บรรทดั ย่างไรและ - ตัวคร่ึงบรรทดั คัดเพยี ง น ครึ่งบรรทดั เท่าน้ัน ใช้เนอี้ ท่ี กระดาษนอ้ ยกวา่ คัดง่าย กว่าแบบเต็มบรรทดั
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๑ เร่อื งสื่อสารคลอ่ งต้องรู้วิธี ลําดบั ขอบเขตเน้ือหา/ ขน้ั ตอนการจดั เวลา แ ท่ี จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรียนรู้ ทีใ่ ช้ กิจกรรมคร 2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ข้นั สอน 3. ครูแจ้งจุดประสงค 1. บอกหลักการคดั 25 การเรียนรู้ และเชอื่ ม ลายมือได้ นาที บทเรยี น 1. ครูใหน้ กั เรยี นดูตัว ผลงานการคัดลายมือ ครงึ่ บรรทัดทไ่ี ดร้ บั รา นกั เรียนระดบั ประถม จากนนั้ ใหน้ กั เรียนวเิ การเขียนตัวอักษร 2. จากนั้นครถู ามวา่ ครู : นักเรยี นคิดวเิ คร ลายมอื และตวั อกั ษร บ้าง 3. ครูนําอภปิ รายควา ประเดน็ การคดั ลายม บรรจงครึง่ บรรทัด ดงั น้ี - คดั ด้วยลายมอื - ตัวอักษรหวั ก
๕๗ แนวการจดั การเรยี นรู้ สื่อการเรียนรู้ การประเมนิ การเรยี นรู้ รู กจิ กรรมนกั เรยี น มอบหมาย ค์ 3. นกั เรียนทําความเข้าใจ มโยงเข้าสู่ จุดประสงคแ์ ละเข้าสู่ บทเรียนด้วยกัน วอยา่ ง 1. นกั เรียนวเิ คราะห์ 1. รปู ภาพ อตวั บรรจง การเขียนตวั อักษรจาก คดั ลายมอื างวลั ของ ผลงานการคัดลายมอื ตัว อยูใ่ นสื่อ PPT มศกึ ษา บรรจงคร่งึ บรรทดั ของ เคราะห์ นักเรียนระดับประถมศกึ ษา ที่ได้รับรางวลั ราะห์ 2. นักเรยี นตอบคําถาม เช่น 2. คําถามอยใู่ น - สังเกตการตอบ รได้อย่างไร - ตัวอกั ษรสวยงาม เปน็ สือ่ PPT คาํ ถามของ ามรูใ้ น ระเบียบ นา่ มลี ายมอื สวย นักเรียน มอื ตัว แบบน้ี อยากคดั ได้บา้ ง อที่สวยงาม 3. นกั เรียนรว่ มกนั อภิปราย 3. ใบความรู้ที่ 4 - สงั เกตการตอบ กลม ความรเู้ ก่ยี วกบั การคัด เรือ่ ง การคัด คาํ ถามของ ลายมอื ตวั บรรจงครงึ่ บรรทัด ลายมอื นกั เรยี น และวเิ คราะหห์ ลักการคัด 4. สอื่ PPT เรอ่ื ง ลายมือจากใบความรทู้ ่ี 4 การคัดลายมือ
๕๘ คมู่ ือ ลาดบั ขอบเขตเน้ือหา/ ข้ันตอนการจดั เวลา แ ท่ี จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ท่ีใช้ กิจกรรมคร - ตัวอกั ษรตง้ั ต - เวน้ ช่องไฟสม - เขียนดว้ ยตวั ค - เวน้ วรรคตอนใ กบั ขนาดตวั อกั ษรเป็น 4. ครถู ามคาถาม ดงั - จากการอภิปราย น ขอ้ สรปุ เกย่ี วกบั การค ตวั บรรจงครง่ึ บรรทดั บ้าง - ครูสรปุ ขนึ้ ใน PPT 3. 2. คัดลายมอื ตัว ขัน้ ปฏิบัติ 15 5. ครูให้นกั เรียนทาใ บรรจงคร่งึ บรรทดั ได้ นาที การคดั ลายมอื ตัวครงึ่ 3. มีมารยาทในการเขียน เรื่อง “ในโลกน้ีมอี ะไ แท้” (ครขู ึ้นกิจกรรม : คดั ส่ือภาษาไทย ในส่ือ P 6. ครนู าผลงานของน ฉายให้ตน้ ทาง/ปลาย
อครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรยี นรู้ ส่ือการเรียนรู้ การประเมนิ รู กิจกรรมนักเรยี น การเรียนรู้ ตรง ม่าเสมอ - สงั เกต ครงึ่ บรรทดั การตอบคาถาม ให้เหมาะสม ของแต่ละกลมุ่ นตน้ งนี้ 4. นักเรียนตอบคาถาม โดย นักเรียนได้ อาจสรุปหลกั การคดั ลายมอื คัดลายมือ เป็นขอ้ ๆ หรืออาจเป็น ดอยา่ งไร คาพูดสน้ั ๆ ก็ได้ อีกคร้งั - นกั เรียนรว่ มกนั สรปุ ในสอ่ื PPT ใบงานที่ 4 5. นกั เรียนทาใบงานที่ 4 1. ใบงานที่ 4 - ประเมนิ งบรรทัด การคัดลายมอื ตวั ครึ่งบรรทัด การคัดลายมอื ตวั การคัดลายมอื ตวั ไรเปน็ ไทย เร่ือง “ในโลกน้มี ีอะไรเปน็ บรรจงคร่งึ บรรทดั บรรจงครง่ึ ไทยแท”้ บรรทดั (ประเมนิ ดา้ น P) ดลายมือ... (นักเรียนต้นทาง/ปลายทาง 2. ส่อื PPT - สงั เกตมารยาท PPT) ทากิจกรรมไปอย่างพร้อม ๆ ขน้ึ จอสไลด์ ในการเขียน กนั ) (ประเมินด้าน A) นกั เรียนมา 6. นักเรยี นต้นทาง/ ใบงานที่ 4 ของ ยทางชม ปลายทางชมผลงานการคัด นกั เรียนท่ลี ายมอื
หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ ๑ เร่ืองสอ่ื สารคลอ่ งต้องรูว้ ธิ ี ลาดบั ขอบเขตเนื้อหา/ ขั้นตอนการจัด เวลา แ ท่ี จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ทใ่ี ช้ กจิ กรรมคร พร้อมกนั จากนั้นสรปุ 4. ขัน้ สรปุ 5 1. ครถู ามคาถามเพื่อ นาที ดังนี้ ครู : นักเรยี นได้ความ รู้สกึ อย่างไร ได้คณุ ธร ใดบา้ ง และจะนาไปใ ชวี ิตประจาวันไดอ้ ย่า 2. ครขู น้ึ สรปุ ความร เป็นแผนผังความคิดใ
๕๙ แนวการจดั การเรียนรู้ ส่อื การเรยี นรู้ การประเมิน สวย การเรยี นรู้ รู กิจกรรมนักเรียน สื่อ PPT ปกจิ กรรม ลายมอื ของเพ่อื นและสรปุ - สังเกตการตอบ คาถามของ กจิ กรรมพรอ้ มกนั นักเรยี น อนาสรปุ 1. นกั เรียนตอบคาถามตาม สง่ิ ที่ตนเองไดร้ บั จากการ มรู้อะไร เรยี น เช่น รรมเรอ่ื ง - ไดร้ ู้วธิ กี ารคัดลายมือตาม ใชใ้ น หลักการคดั ลายมือ างไร - การมมี ารยาทในการเขียน รู้ 2. นกั เรยี นสรปุ ความร้ใู น ในสอื่ PPT บทเรยี นรว่ มกับครอู ีกครงั้ ใน สือ่ PPT
60 คู่มอื ครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) 8. สือ่ การเรียนรู้/แหล่งเรยี นรู้ 1. แบบการคัดลายมอื ตวั บรรจงครงึ่ บรรทัดทไี่ ด้รบั รางวัล 2. ใบความรู้ท่ี 4 เรื่อง การคัดลายมอื 3. ใบงานที่ 4 เรอื่ ง การคดั ลายมือตัวบรรจงครง่ึ บรรทดั 4. สอ่ื PPT เร่ือง การคดั ลายมอื ตวั บรรจงครงึ่ บรรทดั 9. การประเมนิ ผลรวบยอด ชิ้นงานหรือภาระงาน - ใบงานท่ี 4 เรื่อง การคัดลายมอื ตวั บรรจงคร่งึ บรรทดั สง่ิ ทต่ี อ้ งการวัด / ประเมนิ วิธกี าร เคร่อื งมอื ทใ่ี ช้ เกณฑ์ ดา้ นความรู้ ความเข้าใจ (K) - พจิ ารณาจากการตอบ - คาถาม รอ้ ยละ ๖๐ - บอกหลักการคดั ลายมือ คาถามของนกั เรยี น ข้นึ ไป ด้านทักษะและกระบวนการ (P) - คัดลายมอื ตัวบรรจงคร่ึง - ตรวจการคัดลายมือ - แบบประเมินการคัด รอ้ ยละ ๖๐ บรรทัด ของนกั เรียนในใบงานท่ี 4 ลายมอื ขน้ึ ไป ดา้ นคุณลักษณะ เจตคติ คา่ นิยม (A) - มมี ารยาทในการเขียน 1. สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรมของ รอ้ ยละ ๖๐ ของนักเรียน นักเรยี น ขน้ึ ไป 2. ตรวจใบงาน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ม่งุ ม่ันในการทางาน - สงั เกตพฤติกรรมของ - แบบประเมินคุณลกั ษณะ ระดับคุณภาพ 2. รักความเป็นไทย นักเรยี น อันพงึ ประสงค์ ผา่ น สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร - การสังเกตพฤตกิ รรม - แบบประเมินสมรรถนะ ระดับคณุ ภาพ 2. ความสามารถในการคิด สาคัญของผ้เู รียน ผา่ น 3. ความสามารถในการใชท้ ักษะ ชีวิต
หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑ เรอื่ งสอื่ สารคล่องต้องรู้วธิ ี 61 เกณฑ์ประเมนิ : การคดั ลายมอื ตัวบรรจงครึ่งบรรทัด ประเดน็ ระดับคุณภาพ การประเมิน ๔ (ดีมาก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรงุ ) ๑. ความ คัดลายมือตัวบรรจง คัดลายมือตวั บรรจง คดั ลายมือตัวบรรจง คดั ลายมอื ตวั บรรจง ถกู ตอ้ งของ คร่งึ บรรทดั ตามรปู แบบ ครึง่ บรรทดั ตาม คร่ึงบรรทัด ตาม ครึง่ บรรทัด ไม่ รูปแบบ ที่กาหนดทงั้ หมด รปู แบบทกี่ าหนด รูปแบบทกี่ าหนด ถูกต้องตามแบบที่ ตัวอกั ษร บางส่วนบกพรอ่ ง บกพรอ่ งเป็นส่วนใหญ่ กาหนด ๒. การเขยี น เขียนคา และเวน้ วรรค เขยี นคา และเว้น เขียนคา และเวน้ เขียนคา และเวน้ คาและวรรค ตอนถกู ต้องทกุ คา วรรคตอนถกู ตอ้ ง วรรคตอนถกู ต้อง วรรคตอนไม่ถกู ตอ้ ง ตอน ตวั อักษรสม่าเสมอ เป็นสว่ นใหญ่ เป็นสว่ นน้อย เป็นจานวนมาก ๓. ความ เรียบรอ้ ย สวยงาม ตวั อักษรสม่าเสมอ ตัวอักษรไมค่ อ่ ย ตวั อกั ษรไมส่ มา่ เสมอ สะอาด เป็น ผลงานสะอาด ไมม่ ี เรียบร้อยสวยงาม สมา่ เสมอ ผลงาน มีรอยลบขดี ฆ่า ระเบียบ รอยลบขดี ฆา่ ผลงานสะอาด มี ไม่สะอาด มีรอยลบ มากกว่า ๖ แห่ง ตวั หนังสอื ตรงเป็นแนว รอยลบขีดฆ่า ๑-๒ ขดี ฆ่า ๓-๕ แห่ง 4. ความตรง เดียวกันทุกบรรทัด แห่ง ตวั หนงั สอื ไมค่ อ่ ย ของตวั ตัวหนงั สือตรงเป็น ตัวหนงั สือตรงเป็น ตรงเป็นแนวเดียวกัน หนงั สอื มสี มาธิ และตงั้ ใจ แนวเดยี วกนั เป็น แนวเดยี วกันเป็น 5. มารยาท ในการเขียนอย่าง สว่ นใหญเ่ กือบทกุ บางสว่ น ไม่มคี วามตั้งใจ ในการเขยี น สมา่ เสมอ ไมพ่ ูด ไม่คยุ บรรทัด ในการเขียน พดู คุย และไมเ่ ลน่ ระหว่าง ตัง้ ใจในการเขียน ตั้งใจในการเขยี น และเล่นระหวา่ ง ทางาน อย่างสม่าเสมอ ไม่ พอสมควร พูด คยุ ทางานตลอดเวลา พูด ไม่คุย และไม่ และเล่นระหวา่ ง ต้องคอยตกั เตือน เลน่ ระหว่างทางาน ทางานเป็นบางคร้งั เกณฑ์การประเมินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 16-20 ดมี าก 11-15 ดี 6-10 พอใช้ 1-5 ปรับปรงุ เกณฑ์การตดั สนิ : ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ รอ้ ยละ ๖๐ ขึ้นไป (ตอ้ งได้ระดบั พอใช้ข้ึนไป)
62 คู่มือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แบบประเมนิ การคัดลายมอื ตวั บรรจงครงึ่ บรรทัด คาชแ้ี จง ให้ครูเขียนคะแนนการประเมินการคดั ลายมือตวั บรรจงครงึ่ บรรทดั ลงในชอ่ งท่ีกาหนดให้ สรุป ความ ูถกต้องรูปแบบตัว ัอกษร ลาดับ ชอ่ื -สกลุ การเ ีขยนคาและวรรคตอน รวม คิดเปน็ ที่ ความสะอาดเป็นระเบียบ คะแนน รอ้ ยละ เสร็จตามเวลา ่ีทกาหนด มารยาทในการเ ีขยน ผ่าน ไม่ผ่าน 4 4 4 4 4 20 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ รวม (คน) คดิ เปน็ รอ้ ยละ ผลการประเมิน ดมี าก ..........คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ.............. ดี ..........คน คิดเป็นรอ้ ยละ................ พอใช้ ..........คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ.............. ปรับปรงุ .........คน คิดเป็นร้อยละ................. สรุปผลการประเมินรายช้ันเรียน นกั เรยี นผ่านเกณฑ์การประเมิน จานวน......................... คน คดิ เป็นร้อยละ......................... นกั เรียนไม่ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ จานวน......................... คน คิดเป็นรอ้ ยละ........................ ลงชื่อ.................................................ผปู้ ระเมิน (..............................................) ........../..................../..........
หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๑ เรอื่ งสอื่ สารคล่องตอ้ งรวู้ ธิ ี 63 10. บันทกึ ผลหลงั สอน ผลการจดั การเรียนการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสาเรจ็ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปัญหาและอปุ สรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ข้อจากดั การใชแ้ ผนการจัดการเรียนรู้ และขอ้ เสนอแนะ/แนวทางการปรับปรุงแกไ้ ข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชือ่ ......................................................ผู้สอน (.......................................................) วันที่ .......... เดือน ..................... พ.ศ. ............. 11. ความคิดเหน็ /ข้อเสนอแนะของผู้บรหิ ารหรือผู้ทไ่ี ด้รับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่อื ...................................................... ผู้ตรวจ (.......................................................) วันท่ี .......... เดอื น ..................... พ.ศ. .............
64 คู่มือครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ใบความรทู้ ี่ 4 เรอ่ื ง การคดั ลายมอื หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๑ เรื่อง สื่อสารคลอ่ งตอ้ งรู้วธิ ี แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 4 เร่อื ง การคัดลายมอื ตวั บรรจงครึ่งบรรทดั รายวิชา ภาษาไทย รหัสวชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๑ เรื่องสอ่ื สารคลอ่ งต้องรูว้ ิธี 65 มารยาทในการเขียนควรปฏบิ ตั ิ ดังนี้ ๑. ควรเขยี นด้วยลายมือตวั บรรจง เพอ่ื ใหอ้ ่านเข้าใจง่าย ๒. ควรเขยี นโดยใชภ้ าษาที่สุภาพถกู ต้องตามหลกั ภาษาไทย ๓. ไม่ควรเขียนว่ารา้ ยผอู้ ื่นใหไ้ ดร้ บั ความเสยี หาย ๔. เม่ือเขียนผิดควรใช้ยางลบ หรอื นา้ ยาลบคาผดิ ลบให้สะอาด ๕. ไมค่ วรขีดเขียนโตะ๊ เกา้ อ้ี หรอื ในทีท่ ี่ห้ามเขยี น ๖. ควรเขยี นในกระดาษที่มีสีขาว สะอาด ไมย่ บั หรือฉกี ขาด ๗. ใชห้ มึกปากกาสดี า หรือสนี ้าเงิน ไม่ควรใชห้ มกึ ปากกาสฉี ูดฉาดในงานนาเสนอ ๘. หากนางานเขยี นของผอู้ นื่ มาใช้ ควรเขียนอ้างองิ แหลง่ ท่ีมาให้ชดั เจน ๙. มีความรับผดิ ชอบในงานเขียนของตนเอง
66 คู่มือครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ตัวอย่างการคดั ลายมอื ตัวบรรจงครึ่งบรรทดั ทไ่ี ด้รบั รางวัล แหลง่ ท่ีมาขอ้ มลู : https://www.winnews.tv/news/17867
หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑ เร่อื งสอ่ื สารคลอ่ งตอ้ งรู้วธิ ี 67 ใบงานที่ 4 เรื่อง การคดั ลายมือตัวบรรจงคร่ึงบรรทดั หน่วยการเรียนร้ทู ่ี ๑ เรื่อง ส่ือสารคลอ่ งตอ้ งรวู้ ิธี แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 4 เรอื่ ง การคดั ลายมอื ตวั บรรจงคร่ึงบรรทดั รายวิชา ภาษาไทย รหสั วชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๕ คาช้ีแจง ใหน้ กั เรยี นคัดลายมือตัวบรรจงครง่ึ บรรทดั จากบทรอ้ ยกรองท่กี าหนด ในโลกนม้ี อี ะไรเป็นไทยแท้ ในโลกนมี้ ีอะไรเปน็ ไทยแท้ ของไทยแน่น้ันหรอื คือภาษา ท้งั คนมีคนจนแตต่ ้นมา ใชภ้ าษาไทยท่ัวทกุ ตัวคน เด็กตะโกนกกึ กอ้ งรอ้ งเรียกแม่ เรม่ิ ใชค้ าไทยแทม้ าแตต่ ้น ไม่มีตา่ งภาษามาปะปน ทกุ ทกุ คนกส็ ขุ สบายใจ แมอ่ ยากใหล้ ูกรกั ไดพ้ ักผ่อน กไ็ กวเปลใหน้ อนจนหลับใหล สาเนยี งกลอ่ มรา่ ยร้องทานองไทย ติดหแู ต่สมัยโบราณมา พอโตขน้ึ ส่งเจ้าเขา้ โรงเรียน ไดเ้ ริม่ อ่านเร่ิมเขยี นเรยี นภาษา ภาษาไทยน้นั ได้พฒั นา เป็นภาษาขดี เขียนใหเ้ รยี นกัน บา้ งชอบอ่านถ้อยคาทานองเสนาะ ภาษาไทยไพเราะไม่แปรผนั มีเสียงวรรณยุกตท์ ุกทกุ ช้ัน ขบั ร้องกันไดง้ า่ ยคลา้ ยดนตรี ฉะนั้นหรือจะไม่ให้รักเจา้ ภาษาไทยของเรามศี กั ดิ์ศรี เกดิ เปน็ ไทยคนหนง่ึ เราจงึ มี ของดดี ีช่อื วา่ \"ภาษาไทย\" ผแู้ ต่ง หมอ่ มหลวงปิน่ มาลากลุ
68 คู่มอื ครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ชอ่ื เรื่อง ชื่อ.........................................................นามสกลุ ...............................................ชนั้ ...............เลขท.่ี ............
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๑ เรือ่ งสอื่ สารคลอ่ งตอ้ งร้วู ิธี ๖๙ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 5 เรอ่ื ง การจบั ใจความสาคญั จากการอา่ น หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 เรือ่ ง สือ่ สารคลอ่ งต้องรู้วธิ ี เวลา 1 ช่วั โมง กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย รายวิชาภาษาไทย ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 5 1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวชว้ี ดั สาระที่ 1 การอ่าน มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพ่ือนาไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาในการดาเนิน ชวี ติ และมนี สิ ยั รกั การอา่ น ตวั ชีว้ ัด ป.๕/๕ วเิ คราะห์และแสดงความคิดเหน็ เกยี่ วกบั เรอ่ื งท่อี ่านเพอื่ นาไปใชใ้ นการดาเนนิ ชีวติ ๒. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การอ่านจับใจความ เพ่ือวิเคราะห์เร่ืองที่อ่านเป็นการแยกแยะข้อเท็จจริงของสาระจากเร่ืองที่อ่าน และแสดงความคดิ เห็นไดอ้ ย่างมเี หตุ มผี ล สามารถทาให้เกิดทักษะทด่ี ี นาไปใชใ้ นการดาเนินชวี ติ ประจาวันได้ อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ ๓. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ ความเขา้ ใจ (K) บอกหลกั การอ่านจบั ใจความ วิเคราะห์ แสดงความคดิ เห็นจากเร่อื งทอ่ี ่านได้ 3.2 ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) จับใจความ วเิ คราะห์ และแสดงความคิดเหน็ จากเรอ่ื งทอ่ี า่ นได้ 3.3 ด้านคุณลักษณะ เจตคติ คา่ นยิ ม (A) นาความรู้ที่ไดไ้ ปปรบั ใชใ้ นการดาเนนิ ชวี ติ ๔. สาระการเรยี นรู้ 4.1 การอา่ นจับใจความ 4.2 การวิเคราะหแ์ ละแสดงความคดิ เห็นจากเร่อื งที่อ่าน ๕. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น 5.1 ความสามารถในการสอื่ สาร 5.2 ความสามารถในการคดิ 5.3 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต ๖. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 6.1 ใฝเ่ รยี นรู้ 6.2 ม่งุ ม่นั ในการทางาน 7. กิจกรรมการเรยี นรู้
๗๐ คู่ม ลาํ ดบั การจดั กิจกรรมการเรยี นร ท่ี รายวชิ า ภาษาไทย หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เร่อื 1 แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 5 เรอ่ื ง การจบั ใจค ขอบเขตเนอ้ื หา/ ขั้นตอนการจดั เวลา แ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรียนรู้ ทใ่ี ช้ กิจกรรมครู 1. ครูนํา ส.ค.ส. ของในห ขอบเขตเนือ้ หา ข้ันนาํ 5 มาให้นักเรยี นอ่าน (เพื่อกา 1. การอ่าน นาที จับใจความสาํ คญั 2. หลกั การการอา่ น จับใจความสําคัญ พรงุ่ ของวาน เรามุ่งดี ไม วานของพรุง่ เราเพยี รดี ไมเ่ กยี จคร้าน พรุง่ ทั้งวาน ก็ย่อมดี มสี ุข ส.ค.ส. ปี ๒๕๓๕ หรอื คดิ กอ่ นพดู พดู แล้วท ทาํ หลังคดิ คิดก่อนท ทาํ แล้วพดู พูดหลงั คิด ส.ค.ส. ปี ๒๕๔๐ 2. ครถู ามคําถาม ดังน้ี - บทอ่านนีม้ ชี อื่ ว่าอะไร - เนือ้ หากลา่ วถึงสิ่งใด - ความคดิ หลกั ของบทอา่ อะไร
มอื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) รู้ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 5 สอ่ื การเรยี นรู้ การประเมิน อง สื่อสารคลอ่ งต้องรู้วธิ ี จาํ นวน 10 ช่ัวโมง ส.ค.ส. ของ การเรียนรู้ ความสาํ คญั จากการอา่ น จํานวน 1 ชั่วโมง ในหลวง ร.๙ แนวการจดั การเรียนรู้ กิจกรรมนกั เรยี น หลวง ร.๙ 1. นกั เรยี นอ่าน ส.ค.ส. ของ ารวิเคราะห์) ในหลวง ร.๙ มห่ มกมุ่น ขสันต์ ทาํ 2. นกั เรยี นตอบคําถาม เช่น คําถามอยใู่ นสอ่ื สงั เกตการตอบ ทาํ - ส.ค.ส. ปี......... PPT คาํ ถามของ - การกระทําในปจั จุบนั /การพูด นักเรยี น ด านน้ีคอื
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี ๑ เรื่องสอ่ื สารคล่องตอ้ งรวู้ ิธี ลาดบั ขอบเขตเน้ือหา/ ข้ันตอนการจดั เวลา แ ที่ จุดประสงค์การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ท่ีใช้ กจิ กรรมครู 3. ครูแจ้งจดุ ประสงค์กา และเชื่อมโยงเข้าสู่บทเรยี 2. จุดประสงค์ ขั้นสอน 25 1. ครูแบ่งกล่มุ นกั เรียน การเรยี นรู้ นาที คน โดยใหร้ ่วมกันอภปิ ร ๑. บอกหลักการอา่ น จบั ใจความ วิเคราะห์ แลกเปล่ยี นความรูเ้ ก่ียวก แสดงความคิดเหน็ การอ่านจบั ใจความสาค จากเร่อื งท่อี า่ นได้ ใบความรูท้ ี่ 5 แลว้ สรุปห ลงในใบงานท่ี 5 ตอนท่ี 2. จากนัน้ ครถู ามว่า ครู : นกั เรียนได้ขอ้ สรุปเ การวิเคราะห์จากการอา่ ใจความสาคญั อยา่ งไร 3. ครอู ธบิ ายเนอ้ื หาเพม่ิ - ความหมายของการอ วเิ คราะห์ใจความสาคัญ - หลกั การวเิ คราะห์ขอ้ เท และแสดงความคดิ เหน็ จ อ่าน
แนวการจดั การเรยี นรู้ สื่อการเรยี นรู้ ๗๑ กจิ กรรมนกั เรียน การประเมนิ ารเรยี นรู้ 3. นกั เรยี นทาความเข้าใจ การเรียนรู้ ยน จุดประสงคแ์ ละเข้าสบู่ ทเรียน ด้วยกัน เปน็ 4 1. นักเรยี นอภปิ รายแลกเปลี่ยน 1. ใบความรทู้ ี่ 5 ราย ความรูเ้ ก่ยี วกบั การอา่ นจบั 2. ใบงานที่ 5 กบั ใจความสาคญั จากใบความรทู้ ี่ 5 คญั จาก และสรปุ หลกั การลงในใบงานที่ หลักการ 5 ตอนท่ี ๑ ๑ 2. นักเรยี นแตล่ ะกลุม่ ตอบ เช่น 3. คาถามอยู่ 1. สังเกต เกีย่ วกับ - เปน็ การอ่านวิเคราะห์ แยกแยะ ในสือ่ PPT การตอบคาถาม านจบั เพื่อสรุปประเดน็ สาคญั ของแต่ละกลุ่ม มเติม ดังนี้ 3. นกั เรยี นร่วมกันคดิ วิเคราะห์ 4. สอื่ PPT อา่ น สนทนา แสดงความคดิ เห็นไป ทลี ะประเดน็ ท่ีครอู ธิบาย ทจ็ จริง จากเร่อื งท่ี
๗๒ ขอบเขตเนอ้ื หา/ ข้นั ตอนการจดั เวลา คู่ม ลาํ ดบั จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรียนรู้ ทใี่ ช้ ขั้นปฏบิ ตั ิ 15 แ ที่ ๒. จับใจความ นาที กจิ กรรมครู 3. วิเคราะห์ และแสดง ขน้ั สรปุ 4. ครูนําเกม “ก หรอื ข ความคิดเหน็ จากเร่อื ง 5 จาํ นวน 5 ข้อ มาให้นกั เ 4. ทอี่ า่ นได้ นาที ก่อนเข้าสกู่ จิ กรรมในใบง 3. นําความรทู้ ไ่ี ดไ้ ป ปรับใช้ในการดําเนิน 5. ครใู ห้นกั เรยี นทําใบงา ชีวติ ตอนที่ ๒ (ครูขึ้นกจิ กรรมในส่ือ PP การอ่านจบั ใจความ วเิ ค และแสดงความคดิ เหน็ จ อา่ น) 6. ครนู ําผลงานของนกั เ เสรจ็ แลว้ มาให้ต้นทาง/ ปลายทางชมพร้อมกัน แ ความคดิ เหน็ ร่วมกนั ปร งานร่วมกนั จากนน้ั สรปุ 1. ครถู ามคําถามเพื่อนํา ดงั น้ี ครู : นักเรยี นไดค้ วามร้อู รสู้ กึ อยา่ งไร ได้คณุ ธรรม ใดบ้าง และจะนาํ ไปใชใ้ น
มอื ครูและแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรียนรู้ ส่อื การเรียนรู้ การประเมิน กิจกรรมนกั เรยี น 5. สอ่ื PPT การเรียนรู้ 2. สงั เกต ข” 4. นักเรยี นเลน่ เกม “ก หรอื ข” การตอบ เรยี นเลน่ กอ่ นลงมือทําใบงาน คาํ ถามของ งานต่อไป นักเรียน 1. ประเมินจาก านที่ 5 5. นักเรียนทําใบงานที่ 5 ตอนท่ี 1. ใบงานที่ 5 การตรวจใบงาน PT : ๒ ตอนท่ี ๒ 2. สงั เกต คราะห์ (นกั เรยี นต้นทาง/ปลายทาง 2. สอ่ื PPT พฤตกิ รรมของ จากเร่อื งที่ ทาํ กิจกรรมไปอย่างพร้อม ๆ กัน) นกั เรียน เรยี นที่ทํา 6. นกั เรยี นต้นทาง/ปลายทาง สื่อ PPT สังเกตการตอบ ชมผลงานของเพอ่ื นและสรปุ เรือ่ ง การอา่ น คาํ ถาม แลว้ แสดง กจิ กรรมพร้อมกัน แล้วแสดง จบั ใจความและ ระเมนิ ผล ความคดิ เหน็ ร่วมกัน ประเมนิ ผล วเิ คราะห์แสดง ปกจิ กรรม งานรว่ มกัน จากน้นั สรุปกจิ กรรม ความคดิ เห็น าสรุป 1. นักเรียนร่วมกนั ตอบคําถาม ตามส่งิ ทต่ี นเองไดร้ ับจากการเรยี น อะไร ในครัง้ นแ้ี ละบอกแนวทาง มเรอื่ ง การนาํ ไปใชใ้ นชีวิตประจําวนั นชีวติ
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๑ เรือ่ งสอ่ื สารคลอ่ งตอ้ งรวู้ ิธี ลาดับ ขอบเขตเน้อื หา/ ขั้นตอนการจัด เวลา แ ที่ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ท่ใี ช้ กจิ กรรมครู ประจาวนั ไดอ้ ยา่ งไร 2. ครขู ้ึนสรปุ ความรู้ เปน็ แผนผังความคดิ ในส
๗๓ แนวการจัดการเรยี นรู้ ส่ือการเรยี นรู้ การประเมนิ กจิ กรรมนักเรยี น จากเร่อื งทีอ่ ่าน การเรียนรู้ 2. นักเรียนสรปุ ความรใู้ น สอื่ PPT บทเรียนร่วมกับครอู กี ครง้ั ในสื่อ PPT
74 คมู่ อื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) 8. ส่อื การเรียนรู้/แหล่งเรียนรู้ 1. ส.ค.ส. ของในหลวง ร.๙ ปี ๒๕๓๕ หรือ ๒๕๔๐ 2. ใบความรู้ที่ 5 เรอ่ื ง การอา่ นจับใจความและวเิ คราะห์แสดงความคดิ เหน็ จากเร่ืองที่อ่าน 3. ใบงานที่ 5 เรอ่ื ง การอ่านจบั ใจความและวิเคราะห์แสดงความคิดเหน็ จากเรือ่ งทอี่ า่ น 4. สอื่ PPT เรอื่ ง การอา่ นจับใจความและวิเคราะหแ์ สดงความคดิ เหน็ จากเร่อื งทีอ่ า่ น 5. เกม “ก หรือ ข” 9. การประเมนิ ผลรวบยอด ช้ินงานหรือภาระงาน - ใบงานท่ี 5 เรอื่ ง การอา่ นจบั ใจความและวเิ คราะหแ์ สดงความคดิ เหน็ จากเรอ่ื งทอี่ า่ น ส่ิงที่ตอ้ งการวัด / ประเมิน วธิ กี าร เครอ่ื งมือท่ีใช้ เกณฑ์ ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) - บอกหลกั การอา่ นจับใจความ - ตรวจใบงานที่ 5 - ใบงานท่ี 5 การอา่ นจบั รอ้ ยละ ๖๐ สาคัญ การอา่ นจบั ใจความ ใจความและวเิ คราะห์แสดง ขนึ้ ไป และวิเคราะห์แสดง ความคดิ เหน็ จากเรอ่ื งที่ ความคดิ เห็นจากเร่ือง อ่าน ท่อี า่ น ด้านทกั ษะและกระบวนการ (P) - เขียนระบุใจความสาคญั จากเรอ่ื ง - ตรวจใบงานที่ 5 - แบบประเมนิ การจบั ร้อยละ ๖๐ ที่อ่าน การอ่านจบั ใจความ ใจความสาคัญจาการอ่าน ข้นึ ไป และวิเคราะหแ์ สดง - การอ่านจบั ใจความและ ความคิดเห็นจากเรือ่ ง วเิ คราะห์แสดงความ ทอ่ี า่ น คิดเห็นจากเรื่องทอี่ ่าน ดา้ นคุณลักษณะ เจตคติ คา่ นิยม (A) - นาความรทู้ ี่ไดไ้ ปปรบั ใชใ้ นการ - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบประเมินพฤติกรรม รอ้ ยละ ๖๐ ดาเนินชีวติ ของนักเรยี น ขนึ้ ไป คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ ระดับคณุ ภาพ 1. ใฝ่เรยี นรู้ 2. มุ่งมน่ั ในการทางาน ของนักเรยี น อนั พึงประสงค์ ผา่ น สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รียน 1. ความสามารถในการสือ่ สาร - สงั เกตพฤติกรรม - แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดบั คุณภาพ 2. ความสามารถในการคิด สาคญั ของผู้เรยี น ผา่ น 3. ความสามารถในการใชท้ กั ษะ ชีวิต
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๑ เร่ืองสอ่ื สารคล่องต้องรูว้ ธิ ี 75 เกณฑ์ประเมิน : การอา่ นจับใจความและวเิ คราะหแ์ สดงความคดิ เหน็ จากเรอื่ งทีอ่ า่ น ประเดน็ ๔ (ดีมาก) ระดบั คุณภาพ ๑ (ปรับปรงุ ) การประเมนิ ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ๑. การตอบคาถาม ตอบคาถามจาก ตอบคาถามผิด ตอบคาถามผิด ตอบคาถามผดิ จากเรอ่ื งทีอ่ า่ นได้ เรอ่ื งไดถ้ กู ต้องทกุ ข้อ ๒ ข้อ ไม่เกิน ๓ ข้อ เกินกวา่ ๓ ข้อ ๒. บอกใจความ บอกเนอื้ หาสาระ บอกเนอ้ื หาสาระได้ บอกเนอ้ื หาสาระ บอกเนอื้ หา สาคญั จากเรือ่ งที่ ถูกต้องไดใ้ จความ ถกู ต้องแต่วกวนบ้าง ไดถ้ กู ต้อง แต่วกวน สาระไดบ้ ้างและ อ่าน ต่อเนอื่ ง วกวน ๓. บอกขอ้ คิดท่ีได้ บอกขอ้ คดิ ของเรอ่ื ง บอกขอ้ คิดของเร่ือง บอกข้อคดิ ของเร่ือง บอกข้อคดิ ของ จากเรื่องที่อ่าน ไดต้ รงประเด็น ได้ตรงประเด็น แต่ ไดต้ รงประเดน็ เรือ่ งได้บ้างแต่ และสมบรู ณ์ ไมต่ อ่ เนอื่ งบ้าง แต่วกวน วกวน เล็กนอ้ ย ๔. แสดงความ เสนอความคิดเหน็ เสนอความคิดเหน็ เสนอความคิดเห็น เสนอความ คดิ เห็นจากเร่อื งที่ ดว้ ยเหตผุ ลและเปน็ ด้วยเหตผุ ล และแสดงเหตผุ ล คิดเห็น แต่ไม่ อา่ น ประโยชน์ บา้ ง แสดงเหตผุ ล หมายเหตุ ค่าน้าหนกั 5 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ เกณฑก์ ารประเมินคุณภาพ 16-20 ดมี าก 11-15 ดี 6-10 พอใช้ 1-5 ปรบั ปรงุ เกณฑก์ ารตัดสิน : ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ร้อยละ ๖๐ ขน้ึ ไป (ตอ้ งได้ระดบั พอใชข้ ึน้ ไป)
76 คูม่ ือครูและแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แบบประเมนิ การอา่ นจบั ใจความและวเิ คราะหแ์ สดงความคดิ เหน็ จากเร่ืองทีอ่ า่ น คาํ ชแ้ี จง ให้ครูเขยี นคะแนนการจับใจความจากเรื่องทอ่ี ่าน ลงในชอ่ งประเด็นการประเมินตามที่กําหนดไว้ ลาํ ดับ ชอ่ื -สกุล การตอบคําถามจากเรื่อง รวม คดิ เป็น สรปุ (๔ คะแนน) คะแนน รอ้ ยละ ผา่ น ไม่ผา่ น ที่ การจับใจความ (๒๐) (๔ คะแนน) การบอก ้ขอคิด (๔ คะแนน) การแสดงความคิดเห็น (๔ คะแนน) มารยาทในการ ่อาน (๔ คะแนน) ดมี าก ดี พอใช้ ปรับปรุง รวม (คน) คดิ เป็นรอ้ ยละ ผลการประเมนิ ดมี าก ..........คน คิดเป็นรอ้ ยละ............... ดี ..........คน คิดเป็นร้อยละ.............. พอใช้ ..........คน คิดเป็นรอ้ ยละ............... ปรบั ปรุง .........คน คิดเป็นรอ้ ยละ............... สรปุ ผลการประเมินรายชน้ั เรยี น นกั เรยี นผา่ นเกณฑ์การประเมนิ จาํ นวน......................... คน คิดเปน็ รอ้ ยละ........................ นกั เรยี นไม่ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ จาํ นวน......................... คน คดิ เปน็ ร้อยละ........................ ลงช่ือ.................................................ผู้ประเมนิ (..............................................) ........../..................../..........
หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี ๑ เร่อื งสอื่ สารคลอ่ งตอ้ งรวู้ ธิ ี 77 10. บันทกึ ผลหลงั สอน ผลการจัดการเรยี นการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสาเรจ็ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปญั หาและอปุ สรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ้ จากดั การใช้แผนการจดั การเรียนรู้ และข้อเสนอแนะ/แนวทางการปรับปรงุ แกไ้ ข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอื่ ......................................................ผสู้ อน (.......................................................) วันที่ .......... เดือน ..................... พ.ศ. ............. 11. ความคดิ เห็น/ขอ้ เสนอแนะของผู้บริหารหรอื ผทู้ ่ีได้รับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ ...................................................... ผู้ตรวจ (.......................................................) วันท่ี .......... เดอื น ..................... พ.ศ. .............
78 ค่มู ือครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ใบความรทู้ ่ี 5 เรอื่ ง การอา่ นจับใจความและวเิ คราะหแ์ สดงความคดิ เห็นจากเรอื่ งทอี่ ่าน หน่วยการเรียนร้ทู ี่ ๑ เรื่อง ส่อื สารคล่องต้องรู้วิธี แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 5 เรอ่ื ง การอ่านจบั ใจความและวิเคราะหแ์ สดงความคดิ เห็นจากเร่ืองที่อา่ น รายวิชา ภาษาไทย รหสั วิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๕ การอ่านจับใจความสาคัญ การอา่ นจบั ใจความเป็นการอ่านเพอ่ื จบั ใจความหรือข้อคิด ความคดิ หลกั ของขอ้ ความ หรือเร่อื งที่อา่ น เป็นขอ้ ความที่ครอบคลุมข้อความอน่ื ๆ ในย่อหน้าหน่ึง ๆ ไวท้ ้งั หมด ใจความสาคัญ หมายถึง ใจความที่สาคัญ และเด่นที่สุดในย่อหน้า เป็นแก่นของย่อหน้าท่ีสามารถ ครอบคลมุ เนอ้ื ความในประโยคอนื่ ๆ ในย่อหนา้ น้นั หรอื ประโยคท่สี ามารถเปน็ หวั เรอ่ื งของย่อหนา้ นั้นได้ ถา้ ตดั เนื้อความของประโยคอื่นออกหมด หรือสามารถเปน็ ใจความหรือประโยคเดยี่ ว ๆ ได้ โดยไม่ตอ้ ง มีประโยคอ่ืนประกอบ ซึ่งในแต่ละย่อหน้าจะมีประโยคใจความสาคญั เพียงประโยคเดยี ว หรืออย่างมากไม่เกิน ๒ ประโยค ใจความรองหรือพลความ (พน-ละ-ความ) หมายถึง ใจความหรือประโยคที่ขยายความประโยค ใจความสาคัญ เป็นใจความสนับสนุนใจความสาคัญให้ชัดเจนขึ้น อาจเป็นการอธิบายให้รายละเอียด ให้คา จากัดความ ยกตัวอยา่ ง เปรยี บเทียบ หรอื แสดงเหตุผลอย่างถี่ถว้ น เพ่ือสนับสนุนความคดิ ส่วนท่ีมใิ ช่ใจความ สาคญั และมิใชใ่ จความรอง แตช่ ่วยขยายความใหม้ ากข้ึน คอื รายละเอียด หลักพนื้ ฐานการอา่ นจบั ใจความสาคญั ๑. ตัง้ จดุ ม่งุ หมายในการอ่านให้ชดั เจน ๒. อา่ นเร่ืองราวอย่างครา่ ว ๆ พอเข้าใจ และเก็บใจความสาคัญของแตล่ ะย่อหน้า ๓. เม่อื อ่านจบใหต้ ง้ั คาถามตนเองวา่ เรื่องทีอ่ า่ น มใี คร ทาอะไร ท่ีไหน เมือ่ ไร อยา่ งไร ๔. นาส่งิ ทส่ี รปุ ไดม้ าเรียบเรยี งใจความสาคญั ใหม่ดว้ ยสานวนของตนเองเพอ่ื ใหเ้ กิดความสละสลวย วิธจี ับใจความสาคญั วิธีการจับใจความมีหลายอย่าง ข้ึนอยู่กับความชอบวา่ อยา่ งไร เช่น - การขีดเส้นใต้ - การใชส้ ตี ่าง ๆ กนั เพอ่ื แสดงความสาคัญมากนอ้ ยของขอ้ ความ - การบนั ทกึ ยอ่ เป็นสว่ นหนึง่ ของการอ่านจับใจความสาคัญท่ีดี แต่ผู้ที่ย่อควรย่อด้วยสานวนภาษาและ สานวนของตนเองไม่ควรย่อด้วยการตัดเอาข้อความสาคัญมาเรียงต่อกัน เพราะอาจทาให้ผู้อ่านพลาด สาระสาคญั บางตอนไปอนั เปน็ เหตุใหก้ ารตคี วามผดิ พลาดคลาดเคลอ่ื นได้
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ ๑ เร่ืองสอื่ สารคลอ่ งต้องรูว้ ิธี 79 วธิ จี บั ใจความสาคัญ ๑. อ่านพจิ ารณาเน้อื หาทลี ะยอ่ หนา้ และค้นหาประโยคใจความสาคญั ของแต่ละย่อหนา้ ๒. ตัดส่วนที่เป็นรายละเอียดออก เช่น ตัวอย่าง สานวนเปรียบเทียบ ตัวเลข สถิติ ตลอดจนคาถาม หรอื คาพดู ของผูเ้ ขยี นซ่งึ เปน็ สว่ นขยาย ๓. สรุปใจความสาคัญด้วยสานวนภาษาของตนเอง โดยเขียนให้เข้าใจให้มากที่สุด เพื่อให้เนื้อหา กระชับ การพิจารณาตาแหนง่ ของใจความสาคัญ ใจความสาคัญของขอ้ ความ แต่ละยอ่ หนา้ จะปรากฏ ดงั นี้ ๑. ประโยคใจความสาคัญอยู่ตอนต้นของย่อหนา้ ๒. ประโยคใจความสาคญั อยู่ตอนกลางของย่อหนา้ ๓. ประโยคใจความสาคญั อยู่ตอนท้ายของยอ่ หนา้ ๔. ประโยคใจความสาคัญอยู่ตอนตน้ และตอนทา้ ยของย่อหน้า ขอ้ สังเกต ในกรณีท่ีใจความสาคญั หรอื ความคดิ สาคญั นนั้ อาจอยู่รวมในความคิดยอ่ ย ๆ โดยไม่มี ความคิดที่เป็นประโยคหลกั หรือไมม่ ีประโยคหลักอยู่ตอนต้น ตอนกลาง และตอนท้าย ผอู้ ่านอาจจะสรุปขึ้น เอง โดยการอา่ นท้งั ยอ่ หน้าแลว้ สรุป แหล่งท่มี าข้อมลู : ปรบั ปรงุ และเรยี บเรียงมาจากเทคนคิ การอา่ นหนงั สือใหเ้ รว็ และจบั ใจความได้ https://www.sites.google.com/site/technicalreading การวเิ คราะห์แสดงความคดิ เห็นจากเร่ืองทอี่ า่ น เป็นการแยกแยะส่วนต่าง ๆ ของเร่ืองที่อ่าน อย่างมีระบบ ผ้อู ่านจะต้องอา่ นจับใจความเนอื้ หาของเรื่องให้เขา้ ใจอย่างถอ่ งแท้ เพอ่ื จะได้วิเคราะหแ์ ละ แสดงความคิดเห็นเก่ียวกับสาระความรู้ ขอ้ คดิ และประโยชนจ์ ากเร่อื ง สามารถนาสิ่งทีไ่ ด้จากการอา่ นไป ประยกุ ตใ์ ชใ้ นการดาเนินชีวติ
80 คูม่ อื ครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ใบงานที่ 5 เรอ่ื ง การอ่านจบั ใจความและวเิ คราะหแ์ สดงความคดิ เหน็ จากเรอ่ื งทอ่ี า่ น หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ เรื่อง สื่อสารคลอ่ งตอ้ งร้วู ิธี แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 5 เรอื่ ง การอ่านจบั ใจความและวิเคราะหแ์ สดงความคดิ เหน็ จากเรื่องท่ีอ่าน รายวชิ า ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๕ ตอนท่ี 1 สรปุ หลกั การอ่านจับใจความสาคัญและแสดงความคดิ เห็นจากเรอ่ื งท่ีอา่ น คาชี้แจง ให้นักเรียนเขียนแผนภาพความคดิ สรปุ หลกั การอา่ นจับใจความสาคัญ
หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ ๑ เรอ่ื งส่ือสารคล่องตอ้ งรวู้ ิธี 81 ตอนที่ 2 เขยี นระบใุ จความสาํ คญั คาํ ชแ้ี จง ใหน้ กั เรียนอ่านขอ้ ความท่กี ําหนดให้แลว้ เขียนประโยคทีเ่ ป็นใจความสําคญั ใหถ้ กู ตอ้ ง เม่ือจัดของข้ึนรถแล้ว พ่อขับรถพาเมฆและฝนมุ่งหน้าไปที่บ้านป้านิด พ่ีสาวของแม่ที่อําเภอปากช่อง ซง่ึ อย่หู า่ งจากถนนใหญ่ ใจความสําคญั คอื .................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................ ลุงสมชายขุดสระน้ําขนาดใหญ่เอาไว้กักเก็บน้ํา เพ่ือรดต้นไม้ รดผัก เลี้ยงปลา และการเกษตรอื่น ๆ นอกจากน้ียังเล้ียงไก่ เพ่อื เก็บไข่มาทาํ อาหาร ใจความสาํ คญั คือ.................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................ . เมฆและฝนมีความสุขที่ได้มาเที่ยวบ้านป้านิด และหวังว่าจะได้มาเที่ยวที่น่ีอีกบ่อย ๆ ได้สูดอากาศ บรสิ ทุ ธ์ิ ได้ชืน่ ชมธรรมชาติ ได้กินอาหารทีป่ ลอดสารพษิ ใจความสําคญั คือ.................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................ มะนาวและแก้วตาตื่นตาต่ืนใจกับสีสันของดอกไม้นานาชนิดที่อยู่รอบบ้านบนเนิน มีต้นไม้ที่ร่มรื่นอยู่ ทัว่ บริเวณบ้าน ใจความสาํ คญั คอื .................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................ ถ้าฝนตก เราไม่ควรไปเที่ยวนํ้าตก เพราะอาจเป็นอันตรายจากน้ําท่ีไหลแรงตามโขดหินและมีตะไคร่ นา้ํ ทําให้ลน่ื ลม้ ได้ ใจความสําคญั คอื .................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................
82 คู่มือครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ในแหล่งนํ้าทุกแห่งไม่ว่านํ้าจืดหรือนํ้าเค็ม สาหร่ายทุกชนิดมีความเท่าเทียมกัน สาหร่ายขนาดเล็ก เป็นอาหารของลูกสัตว์น้ํา สาหร่ายขนาดใหญ่เป็นท่ีหลบภัยและวางไข่ แต่สิ่งสําคัญคือสาหร่ายทุกชนิด ลว้ นเปน็ ผ้ผู ลติ ออกซิเจนให้สิ่งมีชีวิตอื่นไดห้ ายใจ ใจความสําคญั คอื .................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................ การใช้ดินประสิวในอาหารมากเกินกําหนดจะทําให้เกิดพิษต่อทางเดินอาหาร มีอาการคล่ืนไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องร่วง อุจจาระเป็นเลือด ดินประสิวในอาหาร ยังทําให้เกิดสารชื่อไนโตรซามีน ซง่ึ เป็นสาเหตุของการเกดิ มะเร็ง (หนงั สือส่งเสรมิ การอ่าน : กรมวชิ าการ) ใจความสําคญั คอื .................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................ ชื่อ..................................................... นามสกลุ ................................................ ชนั้ .............เลขท่ี.............
หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๑ เร่ืองสอ่ื สารคลอ่ งต้องรู้วธิ ี 83 แนวคาตอบใบงานท่ี 5 เร่ือง อา่ นจบั ใจความและวเิ คราะหแ์ สดงความคดิ เหน็ จากเรอื่ งทอ่ี ่าน หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑ เร่ือง สื่อสารคล่องตอ้ งรวู้ ธิ ี แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 5 เรื่อง การอา่ นจับใจความและวิเคราะหแ์ สดงความคิดเห็นจากเร่ืองที่อ่าน รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๕ ตอนที่ 1 สรปุ หลกั การอา่ นจบั ใจความสาคญั แสดงความคดิ เหน็ จากเร่ืองทอี่ า่ น ๑. ต้ังจุดมุ่งหมายในการอ่าน ใหช้ ัดเจน เพอ่ื เป็นการกาหนด แนวทางในการอา่ น เพราะจะ ทาให้อ่านได้เขา้ ใจย่ิงขนึ้ 7. จัดทาแผนภาพความคดิ 2. ศึกษาความหมายของคา ของเรือ่ งทีอ่ ่านให้ถกู ตอ้ ง กลุม่ คา สานวนทไ่ี ม่เขา้ ใจ หลกั การอ่าน จับใจความสาคัญ 6. นาสิ่งท่ีสรปุ ได้มาเรียบ 3. อา่ นเร่อื งราวใหเ้ ขา้ ใจ เรียงใจความสาคัญใหม่ และเก็บใจความสาคัญของ ด้วยสานวนของตนเอง แต่ละยอ่ หนา้ 5. สังเกตประโยคทแ่ี สดงให้เห็นว่า 4. เม่อื อ่านจบให้ต้ังคาถาม เปน็ ใจความสาคญั ซ่ึงมักมีประโยค ตนเองวา่ เร่ืองที่อา่ น มใี คร อ่ืน ๆ มาอธบิ ายขยายความเขา้ ใจ ทาอะไร ที่ไหน เม่อื ไร อยา่ งไร
84 คมู่ ือครูและแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ตอนที่ 2 เขียนระบใุ จความสาคญั เมอ่ื จัดของขึ้นรถแล้ว พ่อขับรถพาเมฆและฝนมุ่งหนา้ ไปท่บี ้านป้านิด พสี่ าวของแมท่ ี่อาเภอปากช่อง ซึง่ อยู่หา่ งจากถนนใหญ่ ใจความสาคัญคอื ........พ่อขบั รถพาเมฆและฝนไปบ้านป้านิดทอ่ี าเภอปากช่อง.................................... ลุงสมชายขุดสระน้าขนาดใหญ่เอาไว้กักเก็บน้า เพื่อรดต้นไม้ รดผกั เล้ียงปลา และการเกษตรอื่น ๆ นอกจากนีย้ งั เลี้ยงไก่ เพื่อเกบ็ ไขม่ าทาอาหาร ใจความสาคัญคอื .........ลงุ สมชายขุดสระนา้ ขนาดใหญเ่ อาไว้กกั เก็บน้า.............................................. เมฆและฝนมีความสุขท่ีได้มาเท่ียวบ้านป้านิด และหวังว่าจะได้มาเที่ยวท่ีน่ีอีกบ่อย ๆ ได้สูดอากาศ บรสิ ุทธ์ิ ไดช้ ื่นชมธรรมชาติ ไดก้ นิ อาหารทป่ี ลอดสารพษิ ใจความสาคญั คอื ..........เมฆและฝน ได้มาเทย่ี วบ้านป้านิด................................................................... มะนาวและแก้วตาต่นื ตาตื่นใจกบั สีสนั ของดอกไม้นานาชนิดทีอ่ ยู่รอบบ้านบนเนิน มีต้นไม้ทีร่ ่มรนื่ อยู่ ทวั่ บรเิ วณบ้าน ใจความสาคญั คอื .........มะนาวและแก้วตาตืน่ ตาต่ืนใจกบั สสี ันของดอกไม้ทอี่ ยรู่ อบบ้าน………………. ถา้ ฝนตก เราไมค่ วรไปเทยี่ วน้าตก เพราะอาจเป็นอนั ตรายจากนา้ ท่ีไหลแรงตามโขดหนิ และมีตะไคร่ นา้ ทาใหล้ นื่ ลม้ ได้ ใจความสาคญั คือ..........ถ้าฝนตก เราไม่ควรไปเที่ยวน้าตก…………………………………………………………..
หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี ๑ เร่ืองสอื่ สารคล่องต้องร้วู ิธี 85 ในแหล่งน้าทุกแห่งไมว่ ่านา้ จืดหรือน้าเค็ม สาหร่ายทุกชนิดมีความเท่าเทียมกัน สาหร่ายขนาดเล็ก เป็นอาหารของลูกสัตว์นา้ สาหร่ายขนาดใหญ่เป็นที่หลบภัยและวางไข่ แตส่ ่ิงสาคัญคือสาหร่ายทุกชนิด ลว้ นเปน็ ผผู้ ลิตออกซเิ จนใหส้ ง่ิ มีชีวิตอน่ื ไดห้ ายใจ ใจความสาคัญคือ..........สาหร่ายทกุ ชนิดลว้ นเป็นผู้ผลิตออกซเิ จนใหส้ ิ่งมชี วี ิตอน่ื ไดห้ ายใจ............... การใช้ดินประสิวในอาหารมากเกินกาหนดจะทาให้เกิดพิษต่อทางเดินอาหาร มีอาการคล่ืนไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องร่วง อุจจาระเป็นเลือด ดินประสิวในอาหาร ยังทาให้เกิดสารชื่อไนโตรซามีน ซง่ึ เปน็ สาเหตุของการเกิดมะเรง็ (หนงั สือส่งเสรมิ การอ่าน : กรมวิชาการ) ใจความสาคัญคอื ...การใชด้ ินประสวิ ในอาหารมากเกนิ กาหนดจะทาใหเ้ กิดพิษต่อทางเดินอาหาร
86 คมู่ อื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) บทอา่ นเพิ่มเตมิ สาหรับครโู รงเรียนปลายทาง เพอื่ พัฒนาการอา่ นจบั ใจความและวเิ คราะหแ์ สดงความคิดเหน็ จากเร่อื งทอี่ า่ น ของนกั เรยี นชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 5 1. การปดิ ทองหลังพระน้ัน เมอื่ ถึงคราวจาเปน็ ก็ตอ้ งปดิ วา่ ท่ีจริงแล้วคนโดยมาก ไม่คอ่ ยชอบปิดทอง หลังพระกันนัก เพราะนึกว่าไม่มีใครเห็น แต่ถ้าทุกคนพากันปิดทองแต่ข้างหน้า ไม่มีใครปดิ ทอง หลงั พระเลย พระจะเป็นพระที่งามบรบิ ูรณไ์ ม่ได้ พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยูห่ วั ในพธิ ีพระราชทานปรญิ ญาบตั รของจุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั 25 กรกฎาคม 2506 2. ผ้หู นกั แน่นในสัจจะพูดอย่างไรทาอยา่ งนั้นจึงจะไดร้ ับความสาเร็จ พร้อมทงั้ ความศรัทธา เช่อื ถือ และความยกยอ่ งสรรเสรญิ จากคนทุกฝา่ ย การพดู แล้วทา คอื พูดจรงิ ทาจรงิ จึงเป็นปัจจยั สาคญั ใน การส่งเสริมเกยี รตคิ ุณของบคุ คลใหเ้ ดน่ ชดั พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยูห่ วั ในพธิ พี ระราชทานปรญิ ญาบตั รของจุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลยั 10 กรกฎาคม 2540 3. เศรษฐกิจพอเพียงจะทาความเจรญิ ให้แกป่ ระเทศได้ แต่ต้องมีความเพยี ร แล้วตอ้ งอดทน ต้องไม่ ใจรอ้ น ต้องไม่พูดมาก ตอ้ งไม่ทะเลาะกัน ถ้าทาโดยเขา้ ใจกนั เชอ่ื วา่ ทุกคนจะมคี วามพอใจได้ พระราชดารัสของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั พระราชทาน ณ วนั ที่ 4 ธนั วาคม 2541 4. เมื่อมีโอกาสและมีงานทาควรเต็มใจทา โดยไม่จาเป็นต้องตั้งข้อแม้หรือเง่ือนไขอันใดไว้ให้เป็น เคร่ืองกีดขวาง คนท่ีทางานไดจ้ รงิ ๆ น้ัน ไมว่ ่าจะจบั งานสิ่งใด ย่อมทาได้เสมอ ถ้ายิ่งมีความเอาใจ ใส่ มคี วามขยนั และซอื่ สัตย์สจุ ริต ก็ยิง่ จะช่วยให้ประสบผลสาเร็จในงานทท่ี าสงู ขน้ึ พระบรมราโชวาท ในพธิ พี ระราชทานปรญิ ญาบัตร วิทยาลยั เทคโนโลยีและอาชีวศึกษา วันท่ี 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2530
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๑ เรอ่ื งสอื่ สารคลอ่ งตอ้ งรวู้ ธิ ี ๘๗ แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 6 เรอ่ื ง การจับใจความสาคัญจากการฟังและการดู หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรอื่ ง สอ่ื สารคลอ่ งต้องรู้วธิ ี เวลา 1 ชวั่ โมง กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย รายวิชาภาษาไทย ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 5 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชวี้ ดั สาระท่ี 3 การฟัง การดู และการพดู มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลอื กฟงั และดูอยา่ งมวี จิ ารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคิด และความรสู้ กึ ใน โอกาสต่าง ๆ อยา่ งมีวิจารณญาณและสรา้ งสรรค์ ตวั ชีว้ ัด ป.๕/๒ ตั้งคาถามและตอบคาถามเชิงเหตผุ ลจากเรือ่ งที่ฟงั และดู ป.๕/๕ มมี ารยาทในการฟัง การดู และการพูด ๒. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด การฟังและดเู ป็นการรบั สารเข้าสู่สมอง ทาให้มีความรูเ้ พิ่มข้ึน การฝกึ รับสารดว้ ยการฟังและดอู ยา่ งมี วิจารณญาณเป็นทักษะที่สาคัญ จะทาให้ผู้รับสารมีความรู้ท่ีดี ถูกต้อง เหมาะสมและนาความรู้ท่ีได้รับพูด นาเสนออกไปไดอ้ ย่างมคี ุณค่า มปี ระสิทธภิ าพ เกดิ ประโยชนก์ บั ตนเองและผอู้ น่ื ๓. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ ความเขา้ ใจ (K) บอกหลกั การจบั ใจความสาคัญจากการฟังและดไู ด้ 3.2 ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) ต้ังคาถามและตอบคาถาม และสรปุ ใจความสาคญั จากเร่อื งทฟ่ี งั และดูได้ 3.3 ด้านคุณลกั ษณะ เจตคติ คา่ นิยม (A) มารยาทในการฟงั และการดู ๔. สาระการเรยี นรู้ การจบั ใจความสาคญั จากการฟงั ๕. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน 5.1 ความสามารถในการส่อื สาร 5.2 ความสามารถในการคดิ 5.3 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต ๖. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 6.1 ใฝ่เรยี นรู้ 6.2 มุง่ มั่นในการทางาน 7. กิจกรรมการเรียนรู้
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 503
Pages: