แนวการจัดการเรยี นรู้ ๒๐๑ รู กจิ กรรมนกั เรยี น สื่อการเรยี นรู้ การประเมิน การเรยี นรู้ อะไร ท่ี พระสงั ข์ในสมดุ บนั ทกึ และได้ ของนักเรยี น ๓ การอา่ น ๗. นกั เรยี นทกุ คนทาใบที่ ๓ 3. ใบงานที่ ๓ - ประเมิน นนา การอา่ นจบั ใจความ ใบงานท่ี ๓ รียบเรียง นักเรยี น ๘. นักเรียนอาสานาเสนอ 4. ใบงาน ผลงาน นกั เรยี น กนั ๙. นกั เรยี นรว่ มกนั พจิ ารณา 5. ส่ือ PPT - ประเมิน อง และ คาตอบของนักเรยี นอาสาและ เฉลยใบงาน ใบงานท่ี ๓ สอ่ื PPT ชว่ ยกนั เสนอความคิดเห็น ที่ ๓ าและ กิจกรรมนี้
๒๐๒ คู่มอื ครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเ ลาดบั ขอบเขตเนอื้ หา/ ขั้นตอนการจดั เวลา แ ท่ี จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรียนรู้ ที่ใช้ กจิ กรรมคร 4. ๑. บอกหลกั การจับ ขน้ั สรุป 5 1. ครูถามนักเรยี นเพ ใจความสาคญั จาก นาที ดงั น้ี เรอ่ื งท่อี ่านได้ ครู : นกั เรยี นคดิ ว่ากา ใจความสาคัญของเรอื่ มคี วามสาคญั หรือไม่ ครู : จะต้องทาอยา่ งไ เพือ่ จะจบั ใจความใหไ้ รวดเร็ว และมปี ระสทิ
เรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรียนรู้ สื่อการเรยี นรู้ การประเมิน การเรยี นรู้ รู กิจกรรมนกั เรยี น - พจิ ารณาจาก การตอบคาถาม พอ่ื นาสรปุ 1. นกั เรียนรว่ มกนั อภิปราย 1. สอ่ื PPT - พิจารณาจาก และตอบคาถามเพื่อสรปุ คาถาม การตอบคาถาม ารค้นหา ร่วมกนั เช่น องท่อี า่ น นักเรยี น : สาคญั เพราะถ้า อยา่ งไร จับใจความได้ อ่านอะไรก็รู้เรื่อง ก็ตอบคาถามได้ ทาข้อสอบได้ และสามารถนาไปใช้เป็น เครื่องมอื ในการเรยี นรวู้ ิชาอนื่ ๆ ได้ ฯลฯ ไรบา้ ง นักเรยี น : ตอ้ งปฏิบตั ิตาม 2. สอื่ PPT สรปุ ไดอ้ ยา่ ง หลกั การอ่าน ดังน้ี บทเรียน ทธภิ าพ - ตัง้ จุดมุ่งหมายในการอา่ น ใหช้ ัดเจน - อ่านเร่อื งราวอยา่ งคร่าว ๆ พอเข้าใจ และเกบ็ ใจความ สาคญั ของแตล่ ะย่อหนา้ - เมื่ออา่ นจบใหต้ ้งั คาถาม ตนเองวา่ เรอ่ื งท่ีอ่าน มใี คร ทาอะไร ทีไ่ หน เมอ่ื ไร อย่างไร ทาไม
หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ ๒ เรื่อง สังขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสังข์ แ กิจกรรมคร ลาดบั ขอบเขตเน้ือหา/ ขนั้ ตอนการจัด เวลา ท่ี จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรียนรู้ ทใ่ี ช้ ๒. ครูสรปุ ดว้ ยเพลงก จับใจความ
๒๐๓ แนวการจดั การเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ การประเมนิ การเรียนรู้ รู กิจกรรมนกั เรยี น - นาสิง่ ท่ีสรปุ ไดม้ าเรยี บ เรยี งใจความสาคญั ใหม่ด้วย สานวนของตนเอง เพ่ือใหเ้ กดิ ความสละสลวย การอ่าน 2. นกั เรียนอา่ นสรปุ การอา่ น จับใจความดว้ ยเพลงพร้อมกัน
204 ค่มู ือครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) 8. ส่ือการเรยี นร/ู้ แหล่งเรียนรู้ 1. หนังสือเรียนวรรณคดีลาํ นาํ ชน้ั ป. ๕ 2. เพลงคนอา่ นหนงั สือ 3. ใบงานท่ี ๓ เรือ่ ง การจบั ใจความสําคญั จากเรื่อง สงั ขท์ อง ตอน กําเนิดพระสังข์ 4. สือ่ PPT เรือ่ ง การจบั ใจความสําคัญจากเรือ่ งทอ่ี ่าน ๕. ใบความรู้ท่ี ๓ เรื่อง การจบั ใจความสาํ คญั จากเรื่องท่อี า่ น 9. การประเมนิ ผลรวบยอด ช้นิ งานหรอื ภาระงาน - ใบงานที่ ๓ เรือ่ ง การจบั ใจความสําคัญจากเร่ืองที่อา่ น สงิ่ ทต่ี อ้ งการวดั / ประเมนิ วิธีการ เครื่องมือทใี่ ช้ เกณฑ์ ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) 1. พิจารณาการตอบ - คาํ ถาม ร้อยละ ๖๐ - บอกหลกั การจับใจความ คําตอบ - สมุดบนั ทึก ขนึ้ ไป สําคญั จากเรอ่ื งทอ่ี ่าน 2. ตรวจสมดุ บนั ทึก - ตรวจใบงานที่ ๓ 1. ใบงานท่ี ๓ การจับ รอ้ ยละ ๖๐ ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ (P) ใจความสาํ คญั จากเรือ่ งที่ ขน้ึ ไป - อ่านจับใจความสาํ คญั จาก อ่าน เรอื่ ง สงั ข์ทอง ตอน กาํ เนิด 2. แบบประเมนิ ใบงานท่ี ๓ พระสงั ข์ ด้านคณุ ลกั ษณะ เจคติ - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ร้อยละ ๖๐ ค่านยิ ม (A) นกั เรียน นกั เรียน ข้นึ ไป - มมี ารยาทในการอ่าน - สังเกตพฤติกรรม นกั เรียน - แบบประเมินคุณลกั ษณะ ระดับคุณภาพ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ - สังเกตพฤติกรรม อันพงึ ประสงค์ ผ่าน 1. ใฝ่เรยี นรู้ นกั เรยี น 2. มุง่ ม่นั ในการทํางาน - แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดบั คณุ ภาพ สมรรถนะสาํ คญั ของผเู้ รียน สําคญั ของผเู้ รยี น ผ่าน 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 2. ความสามารถในการคิด
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๒ เรอ่ื ง สังขท์ อง ตอน กาเนิดพระสังข์ 205 เกณฑป์ ระเมิน : การจบั ใจความสาคญั จากเรื่องท่ีอา่ น ประเดน็ ๔ (ดีมาก) ระดับคุณภาพ ๑ (ปรับปรงุ ) การประเมิน ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ตอบคาถามผิด เกินกวา่ ๓ ขอ้ ๑. การตอบ ตอบคาถามจาก ตอบคาถามผิด ตอบคาถามผดิ บอกเนอื้ หาสาระ คาถามจาก เรอื่ งได้ถูกตอ้ งทกุ ขอ้ ๒ ขอ้ ๓ ขอ้ ไดบ้ า้ งและวกวน เรอ่ื งทอ่ี ่านได้ บอกข้อคดิ ของ ๒. บอก บอกเนอื้ หาสาระ บอกเนอื้ หาสาระได้ บอกเนอื้ หาสาระ เร่อื งได้บ้างแต่ ใจความสาคญั ถกู ตอ้ งได้ใจความ ถูกต้องแต่วกวนบา้ ง ไดถ้ กู ต้อง แต่วกวน วกวน จากเร่ืองท่ี ต่อเนือ่ ง อ่าน ๓. บอกขอ้ คดิ บอกขอ้ คิดของเรอ่ื ง บอกขอ้ คิดของเร่อื งได้ บอกข้อคิดของเรอื่ ง ท่ีได้จากเร่ือง ได้ตรงประเดน็ ตรงประเด็น แตไ่ ม่ ได้ตรงประเดน็ ท่อี ่าน และสมบรู ณ์ ต่อเน่อื งบ้างเลก็ นอ้ ย แตว่ กวน ๔. แสดง เสนอความคดิ เหน็ เสนอความคิดเหน็ เสนอความคดิ เห็น เสนอความคิดเห็น ความคิดเห็น ดว้ ยเหตผุ ลและเป็น ด้วยเหตผุ ล และแสดงเหตุผล แตไ่ ม่แสดงเหตผุ ล จากเรอื่ งท่ี ประโยชน์ บา้ ง ส่งเสยี งดงั และ อ่าน เลน่ ในขณะอา่ น ไม่ ๕. มารยาท ไมส่ ่งเสยี งดงั รบกวน ไม่ส่งเสยี งดังรบกวน ส่งเสียงดงั และเลน่ เกบ็ หนงั สอื เข้าท่ี ในการอ่าน ผอู้ ่ืน ไมเ่ ลน่ ในขณะ ผู้อืน่ ไมเ่ ลน่ ในขณะ ในขณะอ่าน แต่เกบ็ เมอื่ อา่ นเสรจ็ อา่ น และเกบ็ หนงั สอื อา่ น แตไ่ มเ่ ก็บหนงั สอื หนงั สือเข้าทเ่ี มอื่ เขา้ ทีเ่ มอ่ื อา่ นเสรจ็ เข้าที่เมอ่ื อา่ นเสรจ็ อา่ นเสรจ็ เกณฑก์ ารประเมินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ ๑6-๒๐ ดีมาก 11-15 ดี 6-10 พอใช้ 1-5 ปรับปรงุ เกณฑ์การตัดสนิ : ผ่านเกณฑ์การประเมนิ รอ้ ยละ ๖๐ ขนึ้ ไป (ตอ้ งไดร้ ะดบั พอใชข้ ้นึ ไป)
206 ค่มู ือครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) 10. บนั ทกึ ผลหลงั สอน ผลการจัดการเรียนการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสาเรจ็ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปัญหาและอปุ สรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ้ จากัดการใชแ้ ผนการจดั การเรียนรู้ และขอ้ เสนอแนะ/แนวทางการปรบั ปรงุ แก้ไข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชือ่ ......................................................ผสู้ อน (.......................................................) วันท่ี .......... เดือน ..................... พ.ศ. ............. 11. ความคดิ เหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผู้บรหิ ารหรือผ้ทู ่ไี ด้รับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ........................................................................................................ ...................................................................... ลงชื่อ ...................................................... ผ้ตู รวจ (.......................................................) วนั ท่ี .......... เดอื น ..................... พ.ศ. .............
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๒ เร่ือง สงั ขท์ อง ตอน กาเนิดพระสังข์ 207 ใบความรู้ท่ี 3 เรอื่ ง การจับใจความสาคัญจากเรอื่ งท่ีอา่ น หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2 เร่ือง สงั ขท์ อง ตอนกาเนดิ พระสงั ข์ แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 3 เรือ่ ง การจบั ใจความสาคัญจากเร่ืองทีอ่ ่าน รายวิชา ภาษาไทย รหัสวชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๕ การอา่ นจับใจความสาคญั การอ่านจบั ใจความเป็นการอา่ นเพอ่ื จับใจความหรือข้อคิด ความคดิ หลักของข้อความ หรือเรอื่ งทีอ่ า่ น เปน็ ขอ้ ความทคี่ รอบคลุมขอ้ ความอื่น ๆ ในยอ่ หนา้ หน่ึง ๆ ไว้ทง้ั หมด ใจความสาคัญ หมายถึง ใจความท่ีสาคัญ และเด่นท่ีสุดในย่อหน้า เป็นแก่นของย่อหน้าท่ีสามารถ ครอบคลมุ เน้อื ความในประโยคอ่ืน ๆ ในย่อหน้าน้ันหรอื ประโยคที่สามารถเป็นหวั เร่ืองของย่อหน้านน้ั ได้ ถา้ ตัดเนอื้ ความของประโยคอ่ืนออกหมด หรือสามารถเป็นใจความหรอื ประโยคเดย่ี ว ๆ ได้ โดยไมต่ ้อง มีประโยคอื่นประกอบ ซึง่ ในแตล่ ะยอ่ หน้าจะมีประโยคใจความสาคัญเพยี งประโยคเดียว หรืออยา่ งมากไม่เกิน ๒ ประโยค ใจความรองหรือพลความ (พน-ละ-ความ) หมายถึง ใจความหรือประโยคที่ขยายความประโยค ใจความสาคัญ เป็นใจความสนับสนุนใจความสาคัญให้ชัดเจนขึ้น อาจเป็นการอธิบายให้รายละเอียด ให้คา จากัดความ ยกตวั อย่าง เปรียบเทียบ หรือแสดงเหตุผลอย่างถ่ีถว้ น เพอ่ื สนบั สนุนความคิด ส่วนท่ีมิใช่ใจความ สาคญั และมใิ ช่ใจความรอง แตช่ ว่ ยขยายความให้มากข้ึน คอื รายละเอยี ด หลักพน้ื ฐานการอา่ นจบั ใจความสาคญั ๑. ตง้ั จดุ มุ่งหมายในการอา่ นให้ชัดเจน ๒. อ่านเรือ่ งราวอยา่ งครา่ ว ๆ พอเข้าใจ และเกบ็ ใจความสาคญั ของแตล่ ะย่อหน้า ๓. เมอื่ อ่านจบใหต้ งั้ คาถามตนเองวา่ เร่อื งที่อา่ น มใี คร ทาอะไร ทไ่ี หน เมอ่ื ไร อย่างไร ๔. นาส่งิ ทสี่ รปุ ได้มาเรียบเรียงใจความสาคัญใหมด่ ว้ ยสานวนของตนเองเพือ่ ใหเ้ กิดความสละสลวย วธิ ีจับใจความสาคัญ วิธีการจับใจความมหี ลายอย่าง ขน้ึ อยูก่ ับความชอบว่าอย่างไร เช่น - การขดี เส้นใต้ - การใช้สีตา่ ง ๆ กนั เพือ่ แสดงความสาคญั มากน้อยของขอ้ ความ - การบนั ทกึ ย่อเป็นสว่ นหน่งึ ของการอา่ นจบั ใจความสาคัญท่ดี ี แต่ผู้ที่ย่อควรยอ่ ด้วยสานวนภาษาและ สานวนของตนเองไม่ควรย่อด้วยการตัดเอาข้อความสาคัญมาเรียงต่อกัน เพราะอาจทาให้ผู้อ่านพลาด สาระสาคญั บางตอนไปอันเป็นเหตใุ หก้ ารตีความผิดพลาดคลาดเคล่ือนได้
208 คู่มอื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) วธิ จี บั ใจความสาคญั ๑. อา่ นพิจารณาเนือ้ หาทีละย่อหน้า และค้นหาประโยคใจความสาคญั ของแตล่ ะยอ่ หนา้ ๒. ตัดส่วนท่ีเป็นรายละเอียดออก เช่น ตัวอย่าง สานวนเปรียบเทียบ) ตวั เลข สถิติ ตลอดจนคาถาม หรอื คาพดู ของผู้เขียนซง่ึ เปน็ สว่ นขยาย ๓. สรุปใจความสาคัญด้วยสานวนภาษาของตนเอง โดยเขียนให้เข้าใจให้มากที่สุด เพ่ือให้เนื้อหา กระชับ การพจิ ารณาตาแหนง่ ของใจความสาคัญ ใจความสาคญั ของขอ้ ความ แต่ละย่อหน้าจะปรากฏ ดงั นี้ ๑. ประโยคใจความสาคญั อยู่ตอนต้นของยอ่ หน้า ๒. ประโยคใจความสาคญั อยู่ตอนกลางของย่อหนา้ ๓. ประโยคใจความสาคญั อยู่ตอนทา้ ยของย่อหน้า ๔. ประโยคใจความสาคญั อยู่ตอนต้นและตอนท้ายของยอ่ หน้า ข้อสังเกต ในกรณีท่ีใจความสาคัญหรือความคิดสาคัญน้ัน อาจอยู่รวมในความคิดย่อย ๆ โดยไม่มี ความคดิ ที่เป็นประโยคหลัก หรือไมม่ ีประโยคหลักอยู่ตอนต้น ตอนกลาง และตอนท้าย ผ้อู ่านอาจจะสรุปขึ้น เอง โดยการอา่ นท้งั ยอ่ หนา้ แล้วสรปุ แหลง่ ที่มาข้อมลู : ปรบั ปรุงและเรยี บเรยี งมาจากเทคนิคการอ่านหนังสอื ใหเ้ รว็ และจบั ใจความได้ https://www.sites.google.com/site/technicalreading
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๒ เรอื่ ง สงั ขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสงั ข์ 209 ใบงานที่ 3 เรอ่ื ง การจบั ใจความสาคญั เรอื่ ง สังขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสงั ข์ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 เรื่อง สังข์ทอง ตอนกาเนดิ พระสังข์ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 3 เรื่อง การจบั ใจความสาคัญจากเร่ืองที่อา่ น รายวชิ า ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๕ คาชแ้ี จง ให้นักเรยี นอา่ นเรื่อง สงั ขท์ อง ตอน กาเนิดพระสงั ข์ แล้วตอบคาถามตามหัวขอ้ ทกี่ าหนด ๑. ให้นกั เรยี นเขียนใจความสาคัญของเร่อื ง สงั ขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสงั ข์ ความยาว ๓-๖ บรรทดั ........................................................................................................................................................................ ...... .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ๒. ถ้านักเรียนเป็นทา้ วยศวมิ ลจะขับไลน่ างจันทเ์ ทวีและพระสังข์ออกจากเมอื งหรือไม่ เพราะเหตใุ ด และทา้ วยศวมิ ลควรทาอยา่ งไรตอ่ ไป ......................................................................................................................................................................... ..... .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ๓. ครน้ั คา่ ตกั น้าตาข้าว ครน้ั รงุ่ เช้าเจา้ เขา้ ปา่ เก็บผกั เที่ยวหกั ฟืนมา กลั ยาคา้ ขายไดเ้ ล้ียงตวั จากคาประพันธ์แสดงใหเ้ ห็นว่านางจนั ท์เทวีมลี กั ษณะนสิ ยั อยา่ งไร ......................................................................................................................................................................... ..... ............................................................................................................................................................................. . ๔. เหตุใดนางจันทเ์ ทวีจึงทุบหอยสงั ข์ทง้ิ และเมอื่ นางเล่าเรือ่ งพระสังข์ใหต้ ายายฟงั ท้งั สองคนว่าอย่างไร ......................................................................................................................................................................... ..... ............................................................................................................................................................................. . ..............................................................................................................................................................................
210 คมู่ อื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ๕. นักเรยี นคิดวา่ ควรนาคุณธรรมใดของตัวละครในเรือ่ งน้ี ไปเปน็ แบบอย่างในการดาเนนิ ชวี ิต เพราะเหตุใด .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. . .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ชื่อ.......................................................นามสกลุ .....................................................ช้นั ............เลขท่.ี ...........
หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ ๒ เรอื่ ง สงั ขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสังข์ 211 แนวคาตอบใบงานที่ 3 เร่ือง การจับใจความสาคัญเรอื่ ง สงั ข์ทอง ตอน กาเนดิ พระสังข์ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 เรื่อง สังข์ทอง ตอนกาเนดิ พระสังข์ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 3 เรื่อง การจับใจความสาคญั จากเรอ่ื งท่อี า่ น รายวิชา ภาษาไทย รหัสวชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๕ คาชี้แจง : ให้นักเรียนอา่ นเร่อื ง สงั ข์ทอง ตอน กาเนดิ พระสงั ข์ แล้วตอบคาถามตามหัวข้อทีก่ าหนด ตวั อยา่ งคาตอบ ๑. ให้นักเรยี นเขยี นใจความสาคัญของเรื่อง สังขท์ อง ตอน กาเนิดพระสงั ข์ ความยาว ๓-๖ บรรทดั .................................................................................................................................................... .......................... .....พ...ร..ะ..น..า..ง..จ...นั ..ท...เ์ .ท...ว..ีแ..ล..ะ...พ..ร..ะ...ส..ัง..ข..ถ์..กู...ข..ับ...ไ.ล...่อ..อ..ก...จ..า..ก..เ..ม..อื...ง...จ..ึง..ไ.ป...ข..อ...อ..า..ศ..ัย...อ..ย..กู่...ับ...ต..า..ย..า..ย..ใ..น..ป...่า...พ...ร..ะ..น...า..ง..ต..อ้..ง..ห...า..ข..อ..ง..ป..า่ .ม..า..ข...า..ย..เ.ล...ี้ย..ง..ช..พี.....จ...น..เ..ว..ล..า..ผ..่า..น...ไ.ป....๕....ป...ี...เ.ท...ว..ด..า..จ..ึง..บ...นั...ด..า..ล..ใ..ห..ไ้..ก..่ป...า่..ม..า..ก...นิ ..ข...้า..ว..ท..ีพ่...ร..ะ..น...า..ง..ต..า..ก..ไ..ว..้...เ.พ...อ่ื ..ใ..ห..พ้...ร..ะ..ส..งั..ข..ย์...อ..ม .อ..อ...ก..ม...า..จ..า..ก..ห...อ..ย..ส...งั ..ข..์...เ.ม..อ่ื...เ.ว..ล..า..ผ...่า..น..ไ..ป..พ...ร..ะ..น...า..ง..จ..ัน...ท..เ์.ท...ว..รี..ู้ว..่า..พ...ร..ะ..ส...ัง.ข...์เ.ป...็น..ค...น..ก...็ท..บุ...เ.ป...ล..อื...ก..ห...อ..ย..ส...งั ..ข..แ์..ต...ก...ฝ...่า.ย...ต..า..ย..า..ย .ไ.ด...เ้ .ห...็น....พ..ร...ะ..ส..งั..ข..์ต...่า..ง.ก...ป็ ..ล...ม้ื ..ป...ีต..ิ............................................................................................................................... ๒. ถ้านักเรียนเปน็ ท้าวยศวมิ ลจะขับไล่นางจนั ท์เทวแี ละพระสังขอ์ อกจากเมืองหรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด และทา้ วยศวมิ ลควรทาอย่างไรต่อไป ......ไ..ม..่...เ.พ...ร..า..ะ..ถ...ึง..อ..ย..า่..ง..ไ..ร..พ..ร..ะ...น..า..ง..จ..ัน...ท...เ์ .ท...ว..ีแ..ล..ะ...พ..ร..ะ...ส..ัง..ข..ก์...เ็ .ป...็น..พ...ร..ะ..ม...เ.ห...ส..ีแ...ล..ะ..พ...ร..ะ..โ..อ..ร..ส...ท..ี่ต...อ้ ..ง..ด..แู..ล....โ.ด...ย..เ.ฉ...พ...า..ะ....... .พ...ร..ะ..ส...งั .ข...ท์ ..่ีเ..ก..ิด...ม..า..ไ.ม...่เ.ห...ม..อื...น..ค...น..อ...น่ื ....ด..ัง..น...ัน้ ..ท...้า..ว..ย..ศ...ว..ิม..ล...จ..งึ ..ค..ว..ร..ใ..ห..้ท...ง้ั..ส..อ...ง..อ..ย..ู่ใ..น..ว..งั..ต...่อ..ไ.ป....เ..พ..ร..า..ะ...ผ..ทู้...่ีเ.ป...็น..ส...า..ม..ีห...ร..อื......... .พ...่อ..แ...ม..ต่...้อ..ง..ค..อ...ย..ด..แู...ล..ป...ก..ป...้อ..ง...ใ..ห...ค้ ..ว..า..ม..ร..ัก....ค...ว..า..ม..อ..บ...อ...นุ่ ..แ..ก...ล่..ูก...แ..ล..ะ...ค..ร..อ...บ..ค...ร..ัว............................................................ .............................................................................................................................................................................. ๓. ครัน้ คา่ ตกั นา้ ตาขา้ ว คร้ันรุง่ เช้าเจา้ เขา้ ป่า เกบ็ ผกั เท่ยี วหักฟืนมา กัลยาคา้ ขายไดเ้ ลย้ี งตัว จากคาประพันธแ์ สดงให้เห็นว่านางจันท์เทวีมลี กั ษณะนสิ ยั อยา่ งไร .............................................................................................................................................................................. .......................ข..ย..นั....อ...ด..ท...น....ม..งุ่..ม..ัน่...ใ.น...ก..า..ร..ท...า..ง..า..น....ไ.ม...เ่ .ก..ย่ี...ง..ง.า..น....ม...คี ..ว..า..ม...ร..ับ..ผ...ดิ ..ช..อ...บ...ต..่อ..ห...น..า้..ท...ี่ ..................................... ๔. เหตใุ ดนางจันทเ์ ทวีจึงทุบหอยสงั ขท์ งิ้ และเมอ่ื นางเล่าเรอื่ งพระสังขใ์ ห้ตายายฟงั ทง้ั สองคนว่าอยา่ งไร ..........เ.พ...ร..า..ะ..โ..ก..ร..ธ..ท...หี่ ..อ...ย..ส..ัง..ข...เ์ .ป..็น...ท...ซี่ ..อ่..น...ก...า.ย...ข..อ...ง.พ...ร..ะ..ส...ัง.ข...์ .จ..งึ..ไ..ม..ต่...้อ..ง..ก..า..ร..ใ.ห...ล้..กู...เ.ข..า้..ไ..ป..ห...ล..บ...อ...ย..ูใ่.น...น...น้ั ..อ..ีก....เ.ม...่อื..น...า..ง..ไ.ป.... ...เ..ล..่า..เ.ร..ือ่...ง.น...ีใ้.ห...้ต..า..ย...า..ย..ฟ...ัง...ท...งั้ .ส...อ..ง..ส..ง..ส..ัย...ไ.ม...เ่ .ช..่อื...ว..่า..จ..ะ..เ..ป..น็...ไ.ป...ไ.ด...้ .ต...้งั .แ...ต..่เ.ก...ิด..ม...า..ไ.ม...เ่ .ค..ย...เ.ห...น็ ..ว..า่..ใ..ค..ร..จ..ะ...เ.ข..า้..ไ..ป..อ...ย..ู่ใ..น..ห...อ..ย...ไ.ด..้ ...แ...ต..่ท...ัง้ ..ส..อ..ง..ก..็ด...ใี.จ...ท..ีม่...หี ..ล...า..น..ห...น...้า..ต..า..น..า่..ร..ัก..................................................................................................................
212 คู่มอื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ๕. นักเรียนคิดวา่ ควรนาคณุ ธรรมใดของตวั ละครในเรือ่ งนี้ ไปเปน็ แบบอย่างในการดาเนินชวี ิต เพราะเหตุใด .......พ...ร.ะ...น..า..ง..จ..ัน...ท..์เ.ท...ว..ี.:..ท...่มี...คี ..ว..า..ม..เ.ข...้ม..แ..ข...็ง.อ...ด..ท...น...ร..กั...ล..ูก...เ.ล..้ยี..ง..ด..แ.ู ..ล..ไ.ม...่ท..อ...ด..ท...้ิง...ม..ีค...ว..า..ม..ร..ับ...ผ..ดิ..ช...อ..บ..แ...ล..ะ..เ.ส..ีย..ส...ล..ะ..เ.พ...่ือ..ผ...อู้ ..่นื... ...ต..า..ย...า.ย....:..ม...จี ..ติ..ใ..จ..ด..ีง..า..ม....ม..ีน...า้ .ใ..จ...ร..จู้...กั ..ช..่ว..ย..เ..ห..ล...อื ..ผ..้อู...น่ื ..เ.ม...่อื..ย..า..ม...เ.ด..อื...ด..ร..อ้..น....ถ..้า..ส...งั .ค...ม..ม...ีแ..ต..่ค...น..เ.ช...น่ ..น...ี้ .ก..็จ...ะ..ม..ีแ..ต...ส่ ..นั...ต..สิ..ขุ...ส..ง..บ.. ...พ...ร..ะ..ส..งั..ข..์..:..ม..คี...ว.า..ม...ก..ต..ญั....ญ...ูต..อ่...แ..ม..ผ่...ู้ใ.ห...ก้ ..า..เ.น...ิด...แ...ม..้จ..ะ..อ...ย..ใู่.น...ว..ยั..เ.ด...็ก..ท...ี่ช..อ..บ...เ.ล...่น..ซ...ุก..ซ..น...บ..้า..ง..ต..า..ม..ป...ร..ะ..ส..า...แ..ต...ก่..ไ็..ม..ล่...ืม..ท...า........ ...ห...น..า้..ท...ี่ข..อ..ง..ต..น...เ.ท...า่ ..ท..เี่..ด..ก็..พ...อ..จ...ะ..ท..า..ไ..ด..้.เ.ช...น่ ...ก...ว..า..ด..บ...า้ ..น...ถ...บู ..า้..น....ห...งุ ..ห..า..อ..า..ห...า..ร...ไ.ล...่ไ.ก..่...เ.ป...น็ ..ก...า.ร..แ...บ..ง่..เ.บ...า..ภ..า..ร..ะ..พ...อ่..แ...ม..่........
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๒ เรอื่ ง สงั ขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสังข์ ๒๑๓ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๔ เรื่อง การถอดคาประพันธ์จากเรอื่ ง สงั ขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสงั ข์ หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี ๒ เรอื่ ง สงั ขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสงั ข์ เวลา 1 ชั่วโมง กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย รายวิชาภาษาไทย ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 5 1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้วี ัด สาระที่ 1 การอ่าน มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพอ่ื นาไปใช้ตดั สินใจ แก้ปัญหาในการดาเนิน ชวี ิต และมนี ิสยั รกั การอา่ น ตวั ชวี้ ัด ป.๕/๒ อธบิ ายความหมายของคา ประโยคและขอ้ ความที่เปน็ การบรรยายและการพรรณนา ป.๕/๘ มมี ารยาทในการอ่าน ๒. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การถอดคาประพันธ์ เป็นการถอดภาษาของบทรอ้ ยกรองตา่ ง ๆ เชน่ โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน ของกวี ออกมาเป็นภาษาร้อยแก้ว ซ่ึงต้องอาศัยความสามารถในการเข้าใจคา รู้ความหมายของคา การเรียบเรียง ถอ้ ยคา จึงจะทาให้เข้าใจความหมายของบทรอ้ ยกรอง และเกิดความซาบซ้ึงประทบั ใจ ๓. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ ความเข้าใจ (K) บอกหลักการถอดคาประพันธ์ได้ 3.2 ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) ถอดคาประพันธจ์ ากเรอื่ ง สังขท์ อง ตอน กาเนิดพระสังข์ได้ 3.3 ด้านคณุ ลกั ษณะ เจตคติ ค่านิยม (A) มีมารยาทในการอา่ น ๔. สาระการเรยี นรู้ การถอดคาประพนั ธจ์ ากเรอื่ ง สงั ข์ทอง ตอน กาเนิดพระสังข์ ๕. สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น 5.1 ความสามารถในการสอื่ สาร 5.2 ความสามารถในการคิด 5.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ ๖. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 6.1 ใฝ่เรียนรู้ 6.2 รกั ความเป็นไทย 7. กจิ กรรมการเรียนรู้
๒๑๔ คมู่ ลาํ ดบั การจดั กิจกรรมการเรยี นร ที่ รายวิชา ภาษาไทย หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๒ เร่ือง สงั 1. แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๔ เรอื่ ง การถอดคําประพนั ธจ์ าก ขอบเขตเน้ือหา/ ขัน้ ตอนการจดั เวลา แ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรยี นรู้ ท่ีใช้ กจิ กรรมคร ขนั้ นาํ 1. ครูอ่านบทรอ้ ยกรอ ขอบเขตเน้ือหา 5 PPT 1. หลกั การถอดคํา นาที เมื่อนั้น ประพันธ์ พระสงั ข์ซ่อนอย่กู ร็ ู้ส 2. การถอดคํา พระแมไ่ ปปา่ เปน็ อา ประพันธ์จากเรอ่ื ง ในจิตคิดถวิลทุกเวล สังขท์ อง ตอน กาํ เนดิ พระสังข์ 2. ครูถามคาํ ถาม ดงั น 3. มารยาทในการอ่าน ครู : นักเรยี นทราบไห นักเรียนอ่านเรียกว่าอ ครู : นกั เรยี นเข้าใจคว บา้ งหรือไม่ แลว้ จะต้อ อยา่ งไรใหเ้ ข้าใจความ ของคาํ ประพันธ์ 3. ครูให้นกั เรยี นสนท เก่ียวกบั ความหมายข คําประพนั ธ์ จากนัน้ แ
อื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) รู้ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 5 งขท์ อง ตอน กําเนดิ พระสังข์ จํานวน 10 ชวั่ โมง กเรื่อง สงั ขท์ อง ตอน กาํ เนดิ พระสังข์ จาํ นวน 1 ชวั่ โมง แนวการจดั การเรียนรู้ สอื่ การเรียนรู้ การประเมิน รู กิจกรรมนกั เรยี น - ส่ือ PPT การเรยี นรู้ องจากสื่อ 1. นกั เรียนอ่านบทร้อยกรอง กลอนจากเรอื่ ง - พิจารณา สังขท์ อง ตอน การตอบคาํ ถาม แบบธรรมดา กําเนดิ พระสังข์ ของนักเรียน ส้นิ าจณิ ลา นี้ 2. นกั เรียนตอบคาํ ถาม เชน่ หมว่าสงิ่ ที่ นักเรียน : บทรอ้ ยกรอง กลอน อะไร กาพย์ โคลง คําประพนั ธ์ ฯลฯ วามหมาย นกั เรียน : เข้าใจ/ ไมเ่ ข้าใจ องทาํ มหมาย - ตอ้ งแปลคําศพั ท์ - ต้องร้หู ลักการแปล ความหมาย - ตอ้ งถอดความได้ ฯลฯ ทนา ๓. นกั เรียนร่วมกนั สนทนา ของ เกย่ี วกับความหมายของ แจง้ คาํ ประพนั ธ์ และคาดเดา
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๒ เรือ่ ง สังขท์ อง ตอน กาเนิดพระสงั ข์ ลาดับ ขอบเขตเนือ้ หา/ ขั้นตอนการจัด เวลา แ ที่ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรียนรู้ ทีใ่ ช้ กจิ กรรมคร จดุ ประสงค์การเรียนร และเช่อื มโยงเขา้ สูบ่ ท ๒. จุดประสงค์การเรียนรู้ ขน้ั สอน 20 1. ครูใหน้ ักเรียนแบง่ ก ๑. บอกหลักการถอด นาที คละเพศ และความสา คาประพนั ธไ์ ด้ ๒. ครูให้นกั เรยี นอภปิ กล่มุ เพอื่ สร้างเป็นองค ร่วมกันดว้ ยประเดน็ ค PPT ดงั น้ี ครู : คาว่า “คาประพัน “การถอดคาประพันธ์” ความคดิ ของนักเรยี นเป อยา่ งไร ครู : ถา้ จะถอดคาประ หรอื ถอดความนักเรีย น่าจะมลี าดับข้นั ตอนอ ๓. ครูแจกใบความรู้แ ตวั อย่างการถอดคาปร ให้นกั เรียนทกุ กลุ่มอ่าน
๒๑๕ แนวการจดั การเรียนรู้ ส่ือการเรียนรู้ การประเมิน รู กจิ กรรมนักเรียน การเรยี นรู้ รู้ วิธกี ารถอดคาประพันธ์ 1. สมุดบันทึก ทเรียน เชื่อมโยงเข้าสเู่ น้ือหา 2. ส่ือ PPT กลมุ่ ๔ คน 1. นกั เรียนแบง่ กลมุ่ คละชาย ประเดน็ อภปิ ราย ามารถ หญงิ เก่ง ออ่ น เอ้อื อาทรกัน และแบง่ หนา้ ทร่ี บั ผิดชอบ ภายในกลมุ่ ปรายสรา้ ง ๒. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ คค์ วามรู้ อภิปราย แสดงความคิดเหน็ คาถามสอ่ื และเขยี นขอ้ สรปุ ของกลุม่ ไว้ ในสมุดตามประเด็นคาถาม นธ”์ และ ของครู ” ตาม ปน็ ะพนั ธ์ ยนคดิ ว่า อยา่ งไรบา้ ง และ ๓. นกั เรียนอา่ นใบความรู้ 3. ใบความร้ทู ี่ ๔ ประพันธ์ และเพมิ่ เตมิ ส่วนที่ยงั ไม่ การถอดคา นเพมิ่ เตมิ สมบรู ณ์ ประพนั ธ์
๒๑๖ คมู่ ือ ลาดบั ขอบเขตเน้ือหา/ ขัน้ ตอนการจดั เวลา แ ท่ี จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรียนรู้ ทีใ่ ช้ กจิ กรรมคร ๔. ครูให้นักเรยี นพดู น ความคดิ ของกล่มุ กล นาที และให้คาแนะน ๕. ครูบรรยายและยก การถอดคาประพันธ์โ PPT ประกอบ 3. ๒. ถอดคาประพนั ธ์ ขัน้ ปฏิบัติ ๒๐ ๖. ครแู จกใบงานที่ ๔ จากเรอื่ ง สงั ข์ทอง นาที นกั เรียนทุกคนอา่ นแล ตอน กาเนิดพระสงั ข์ ประพันธจ์ ากเร่อื ง สงั 3. มีมารยาทใน ตอน กาเนดิ พระสงั ข์ การอ่าน ๗. ครูนาผลงานของน มาฉายใหต้ น้ ทาง/ปลา พร้อมกัน จากนั้นสรปุ และชมเชยใหก้ าลังใจ 4. ขน้ั สรุป 5 ๑. ครแู จกแถบสีสาหร นาที ขอ้ ความใหน้ กั เรียนท และอธิบายการใชแ้ ถบข ๒. ครูถามนักเรียนเพ ดงั น้ี
อครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรียนรู้ สอ่ื การเรยี นรู้ การประเมิน รู กิจกรรมนกั เรยี น การเรียนรู้ นาเสนอ ๔. นักเรยี นสง่ ตัวแทนกลุม่ ไป 4. ผลงานกลมุ่ - ประเมนิ จาก ลมุ่ ละ ๑ พดู นาเสนอผลการอภปิ ราย การนาเสนองาน นาเพมิ่ เตมิ ของกลมุ่ ทหี่ นา้ ชั้นเรยี น กลุ่ม และสมดุ กตวั อย่าง ๕. นักเรยี นทาความเขา้ ใจและ 5. ส่ือ PPT โดยใช้ สื่อ ฝึกถอดคาประพันธ์ตาม การถอด ข้นั ตอนในสือ่ PPT คาประพนั ธ์ ๔ ให้ ๖. นักเรยี นอา่ นทาความเขา้ ใจ 1. สอ่ื PPT - ประเมนิ จาก ละถอดคา วธิ ปี ฏบิ ตั กิ ิจกรรม และทาใบ 2. ใบงานที่ ๔ การตรวจใบงาน งข์ทอง งาน การถอด ที่ ๔ คาประพนั ธ์ จากเรอื่ ง สงั ขท์ อง นักเรียน ๗. นักเรียนพจิ ารณาผลงาน ตอน กาเนดิ ายทางชม แสดงความคิดเหน็ และร่วมกนั พระสังข์ ปกจิ กรรม สรปุ กจิ กรรม 3. เฉลยใบงานท่ี จทุกคน ๔ รบั เขียน 1. นกั เรยี นรับกระดาษแจกให้ - แถบสสี าหรบั - พจิ ารณาจาก ทุกคน เพอ่ื นในกลุ่ม คนละ ๒ แผน่ เขียนขอ้ ความ การตอบคาถาม ขอ้ ความ (๒ ส)ี พอ่ื นาสรุป ๒. นกั เรียนทุกคนเขียน คาตอบท้งั ๒ ข้อลงในแถบ
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๒ เร่ือง สังขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสังข์ ลาดับ ขอบเขตเน้อื หา/ ข้นั ตอนการจดั เวลา แ ท่ี จุดประสงค์การเรียนรู้ การเรียนรู้ ทใี่ ช้ กจิ กรรมคร ครู : การปฏบิ ตั กิ จิ กร ชว่ั โมงนนี้ ักเรยี นได้รับ เรือ่ งใดบ้าง ครู : นกั เรยี นจะนาวิธ คาประพนั ธ์ไปใช้ประ อย่างไร ๓. ครใู หน้ กั เรยี นดภู า จากแถบข้อความท้ังห สรปุ บทเรยี น โดยครูใ PPT ขึน้ หนา้ จอสรปุ อ แลว้ มอบหมายใหน้ กั เ อา่ นทาความเข้าใจเน เพอ่ื เตรยี มเขียนแผนภ โครงเรือ่ งในช่ัวโมงต่อ
แนวการจดั การเรียนรู้ สอ่ื การเรียนรู้ ๒๑๗ รู กิจกรรมนกั เรียน การประเมนิ การเรยี นรู้ รรมใน ข้อความตามทค่ี รกู าหนด แลว้ บความรู้ นาไปตดิ บนแผน่ ฟิวเจอร์บอรด์ ทค่ี รเู ตรียมไว้ ธีการถอด ะโยชน์ าพรวม ๓. นกั เรยี นร่วมกนั สรปุ - สอื่ PPT หมดเพ่อื บทเรยี นจากแถบขอ้ ความ สรปุ บทเรียน ใช้สื่อ อีกครงั้ เรยี นไป นือ้ เรอ่ื ง ภาพ อไป
218 ค่มู ือครแู ละแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) 8. สื่อการเรียนร/ู้ แหล่งเรียนรู้ 1. บทร้อยกรองจากโคลงโลกนิติ 2. ใบความรู้ที่ ๔ เรือ่ ง การถอดคาประพันธ์ 3. ใบงานที่ ๔ เรือ่ ง การถอดคาประพันธจ์ ากเร่ือง สงั ข์ทอง ตอน กาเนดิ พระสงั ข์ 4. สอื่ PPT เรื่อง การถอดคาประพันธ์ ๕. แถบกระดาษสี 9. การประเมินผลรวบยอด ชิ้นงานหรอื ภาระงาน - ใบงานท่ี ๔ การถอดคาประพันธจ์ ากเรือ่ ง สงั ข์ทอง ตอน กาเนิดพระสงั ข์ สิง่ ทีต่ ้องการวัด / ประเมิน วธิ กี าร เครือ่ งมอื ทใี่ ช้ เกณฑ์ - คาถาม ร้อยละ ๖๐ ด้านความรู้ ความเขา้ ใจ (K) - แบบประเมินใบการถอด ขึ้นไป - บอกหลกั การการถอดคา - พจิ ารณาจากการตอบ คาประพนั ธ์จากเร่อื ง สงั ข์ ร้อยละ ๖๐ ประพันธ์ คาถามของนักเรยี น ทอง ตอน กาเนดิ พระสงั ข์ ขึน้ ไป ด้านทกั ษะและกระบวนการ (P) - แบบสงั เกตพฤติกรรม รอ้ ยละ ๖๐ - ถอดคาประพนั ธ์จากเรอ่ื ง - ตรวจใบงานท่ี ๔ นักเรยี น ข้ึนไป สงั ข์ทอง ตอน กาเนิดพระสงั ข์ เรอ่ื ง การถอดคาประพันธ์ จากเร่ือง สังข์ทอง ตอน กาเนิดพระสงั ข์ ดา้ นคุณลกั ษณะ เจคติ ค่านิยม (A) มมี ารยาทในการอา่ น - สงั เกตพฤติกรรม นกั เรยี น คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะ ระดับคณุ ภาพ 1. ใฝ่เรยี นรู้ นกั เรียน อันพงึ ประสงค์ ผา่ น 2. รกั ความเป็นไทย - สังเกตพฤติกรรม สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น นกั เรียน - แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดบั คณุ ภาพ 1. ความสามารถในการสอื่ สาร สาคัญของผ้เู รียน ผา่ น 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใช้ทักษะ ชวี ติ
หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๒ เรอื่ ง สงั ขท์ อง ตอน กาเนิดพระสังข์ 219 เกณฑป์ ระเมนิ : การถอดคาประพันธจ์ ากเรอ่ื ง สงั ขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสังข์ ประเด็น ระดับคุณภาพ การประเมิน ๑. บอกหลกั ๔ (ดีมาก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรุง) การถอดคา ประพันธ์ บอกหลกั การถอด บอกหลกั การถอด บอกหลกั การถอด บอกหลกั การ คาประพันธ์ได้ คาประพนั ธ์ได้ คาประพนั ธ์ไดถ้ ูกตอ้ ง ถอดคาประพนั ธ์ ๒. การร้คู วาม ถกู ตอ้ งทงั้ หมด ถูกตอ้ ง ๔ ข้อ ๓ ขอ้ ได้ ๒ ขอ้ หรือ หมายคาศัพท์ นอ้ ยกวา่ ๒ ขอ้ ร้คู วามหมายคาศพั ท์ รู้ความหมายคาศพั ท์ รคู้ วามหมายคาศพั ท์ แทบไมร่ ู้ ท้ังหมด โดยสว่ นใหญแ่ ละ เล็กนอ้ ยและไมช่ ดั เจน ความหมาย ชัดเจน คาศพั ทเ์ ลย ๓. เนอ้ื หาถกู ต้อง เน้ือหาถกู ต้อง เน้ือหาถกู ตอ้ งตรง เน้ือหาถกู ต้อง เนื้อหาไม่ค่อย ตรงประเดน็ ตรงประเด็น ประเด็นเป็นสว่ นใหญ่ แตไ่ ม่ค่อยตรงประเดน็ ถกู ตอ้ ง ๔. การลาดบั ลาดบั เรอื่ งได้ ลาดับเรอ่ื งได้ ลาดับเรือ่ งได้ตอ่ เนอ่ื ง ลาดับเรือ่ งได้ เร่อื ง ตอ่ เนือ่ งสัมพนั ธก์ ัน ต่อเนื่องสัมพันธก์ ัน สมั พนั ธ์กัน แตไ่ มต่ ่อเนือ่ ง ๕. การใช้ภาษา และมเี อกภาพดี และมีเอกภาพเปน็ สัมพนั ธก์ ัน - เขยี นสะกดคา สว่ นใหญ่ ถูกต้อง - ใช้สานวนภาษา เขียนสะกดคาถูกตอ้ ง เขียนสะกดคาผดิ บา้ ง เขยี นสะกดคา ของตนเองใน และใช้สานวนภาษา เลก็ นอ้ ยและใชส้ านวน ผดิ มาก ใช้ภาษา การเรียบเรียง ของตนเองในการ ภาษาของตนเองในการ รอ้ ยแก้วปนกบั ขอ้ ความได้ดี เรียบเรียงขอ้ ความได้ เรียบเรียงข้อความได้ ร้อยกรอง เปน็ ส่วนใหญ่ เกณฑ์การประเมนิ คุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ ๑6-๒๐ ดมี าก 11-15 ดี 6-10 พอใช้ 1-5 ปรบั ปรงุ เกณฑก์ ารตัดสนิ : ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินรอ้ ยละ ๖๐ ข้ึนไป (ต้องไดร้ ะดบั พอใชข้ ึ้นไป)
220 คมู่ ือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แบบประเมินการถอดคาประพันธจ์ ากเร่อื ง สังขท์ อง ตอน กาเนิดพระสังข์ คาช้แี จง ให้ครูเขยี นคะแนนการถอดคาประพันธ์ ลงในชอ่ งประเดน็ การประเมนิ ตามท่ีกาหนดไว้ สรปุ บอกหลักการถอดคาประพัน ์ธ ลาดับ ชอ่ื -สกุล (๔ คะแนน) รวม คดิ เปน็ ผ่าน ไมผ่ ่าน ท่ี การรู้ความหมายคาศัพ ์ท คะแนน รอ้ ยละ (๔ คะแนน) (๒๐) เ ื้นอหา ูถกต้องตรงประเด็น (๔ คะแนน) การลาดับเรื่อง (๔ คะแนน) การใ ้ชภาษา (๔ คะแนน) ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ดมี าก ดี พอใช้ ปรับปรงุ รวม (คน) คิดเปน็ รอ้ ยละ ผลการประเมิน ดีมาก ..........คน คดิ เปน็ ร้อยละ............... ดี ..........คน คิดเป็นรอ้ ยละ................ พอใช้ ..........คน คิดเป็นร้อยละ............... ปรับปรงุ .........คน คิดเป็นรอ้ ยละ............... สรุปผลการประเมนิ รายชัน้ เรยี น นกั เรียนผา่ นเกณฑ์การประเมนิ จานวน......................... คน คิดเปน็ ร้อยละ......................... นกั เรียนไมผ่ ่านเกณฑก์ ารประเมิน จานวน......................... คน คดิ เป็นร้อยละ........................ ลงชื่อ.................................................ผปู้ ระเมิน (..............................................) ........../..................../..........
หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๒ เร่ือง สังขท์ อง ตอน กาเนิดพระสังข์ 221 10. บันทึกผลหลงั สอน ผลการจดั การเรยี นการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสาเร็จ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปญั หาและอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ้ จากัดการใช้แผนการจดั การเรียนรู้ และขอ้ เสนอแนะ/แนวทางการปรับปรงุ แกไ้ ข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่อื ......................................................ผสู้ อน (.......................................................) วนั ท่ี .......... เดือน ..................... พ.ศ. ............. 11. ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของผู้บริหารหรือผทู้ ไ่ี ดร้ ับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ........................................................................................................ ...................................................................... ลงช่อื ...................................................... ผตู้ รวจ (.......................................................) วนั ที่ .......... เดอื น ..................... พ.ศ. .............
222 คู่มือครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ใบความรทู้ ี่ 4 เรอื่ ง การถอดคาประพันธ์ หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 2 เรื่อง สงั ขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสงั ข์ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 4 เรื่อง การถอดคาประพนั ธ์จากเรอื่ ง สงั ข์ทอง ตอน กาเนิดพระสังข์ รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ตามความหมายของพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน 2554 ให้ความหมายไว้ว่า ถอดความ หมายถึง แปลใหเ้ ขา้ ใจความได้งา่ ยข้นึ การถอดความจากบทรอ้ ยกรอง คือ การอธิบายความหมายของคาและเคา้ โครงเดิมของบทร้อยกรอง โดยอาจอธิบายจากบทร้อยกรองท่ีเป็นบทบรรยายหรือพรรณนาโวหาร ทั้งน้ี การถอดความมปี ระโยชน์คือ ทา ให้เขา้ ใจบทรอ้ ยกรองบทนน้ั ได้ง่ายยง่ิ ข้นึ ในการเรียนภาษาไทย ทักษะด้านการอ่านเป็นสิ่งสาคัญ แต่ในบางครั้งบทเรียนนอกจาก จะเป็น ร้อยแก้วธรรมดาแล้วยังมีร้อยกรองอีกด้วย ซึ่งร้อยกรองบางบทยังใช้คาศัพท์ท่ียากและไม่คุ้นเคยใน ชีวติ ประจาวนั จึงทาใหย้ ากต่อการทาความเขา้ ใจ ผจู้ ัดทาโครงงาน จึงได้นารอ้ ยกรองบทหน่ึงนามาแยกคาศัพท์ ยาก หาความหมายของคาศพั ทน์ ั้น พรอ้ มถอดความเปน็ รอ้ ยแกว้ เพ่ือความสะดวกในการศกึ ษาตอ่ ไป การถอดคาประพันธต์ อ้ งอาศัยหลักการดงั น้ี ๑. รคู้ วามหมายของคาศพั ท์ในเรอื่ งน้ัน ๆ ถูกต้องถอ่ งแท้ ๒. ศกึ ษาเนื้อหาโดยรวมของเร่อื งน้นั ๆ ๓. ถอดความทีละบรรทัด/หรือวรรค โดยคานึงถงึ เรื่องราวก่อนหน้านนั้ ๔. ทาความเขา้ ใจ กบั ข้อความที่ถอดตั้งไว้ ๕. เรยี บเรียงขอ้ ความใหม่เหมอื นกาลงั จะพดู เล่าเรอ่ื งราวน้ันให้ผู้อื่นฟัง ตวั อยา่ งการถอดความ เม่อื นน้ั โฉมจันทก์ ลั ยามารศรี อย่ดู ้วยยายตาได้หา้ ปี ยากแค้นแสนทวที กุ เวลา ถอดความได้ว่า ช่วงทีน่ างจนั ท์เทวีอาศัยอย่กู ับตายายในระยะเวลา 5 ปี นน้ั มแี ตค่ วามทุกขอ์ ยตู่ ลอดเวลา ครน้ั คา่ ตกั นา้ ตาข้าว คร้นั ร่งุ เชา้ เจ้าเข้าป่า เก็บผักเทย่ี วหกั ฟนื มา กัลยาคา้ ขายไดเ้ ลีย้ งตวั ถอดความได้ว่า กิจวัตรของนางจนั ท์เทวีคือ ช่วงค่าจะตักน้า ตาข้าว ช่วงเช้าเข้าป่าเพ่ือไปเก็บผักหาฟืน และคา้ ขายเพ่อื เลี้ยงชีพตนเอง
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๒ เร่ือง สงั ขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสงั ข์ 223 ใบงานท่ี 4 เร่ือง การถอดคาประพนั ธจ์ ากเรื่อง สังขท์ อง ตอนกาเนิดพระสังข์ หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 2 เร่ือง สงั ข์ทอง ตอนกาเนดิ พระสังข์ แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 4 เร่อื ง การถอดคาประพนั ธ์จากเรอ่ื ง สงั ข์ทอง ตอนกาเนิดพระสังข์ รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ คาช้แี จง ให้นักเรียนถอดคาประพันธจ์ ากเรอื่ ง สงั ข์ทอง ตอนกาเนิดพระสงั ข์ เม่ือนัน้ พระสงั ข์ซอ่ นอย่กู ร็ สู้ น้ิ พระแม่ไปปา่ เป็นอาจิณ ในจติ คดิ ถวลิ ทุกเวลา คาศพั ท์ ถอดความได้วา่ จะใคร่ออกชว่ ยพระแม่เจ้า สงสารผา่ นเกล้าเป็นหนกั หนา เหน่ือยยากลาบากกายา กลบั มาจนคา่ แล้วรา่ ไร คาศัพท์ ถอดความไดว้ า่ ไมว่ ่าลกู นอ้ ยเป็นหอยปู อมุ้ ชชู มชิดพิสมัย พระคณุ ล้าลบภพไตร จะออกใหเ้ หน็ ตวั กก็ ลัวการ คาศัพท์ ถอดความไดว้ ่า ไก่ปา่ พาฝงู มากนิ ขา้ ว ของพระแม่เจ้าอยู่ฉาวฉาน คยุ้ เขย่ี เรีย่ รายทง้ั ดนิ ดาน พระมารดามาเห็นจะร่าไร คาศัพท์ ถอดความไดว้ า่ ชือ่ .....................................................นามสกลุ ................................................. ชัน้ ...............เลขท.่ี ..........
224 ค่มู อื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวคาตอบใบงานที่ 4 เรอื่ ง การถอดคาประพันธจ์ ากเรอ่ื ง สงั ขท์ อง ตอนกาเนดิ พระสังข์ หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 2 เร่ือง สงั ขท์ อง ตอนกาเนิดพระสงั ข์ แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 4 เรื่อง การถอดคาประพันธ์จากเรื่อง สงั ขท์ อง ตอนกาเนดิ พระสงั ข์ รายวชิ า ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๕ คาช้แี จง ให้นักเรียนถอดคาประพันธ์จากเรื่อง สงั ขท์ อง ตอนกาเนดิ พระสังข์ เมือ่ น้ัน พระสงั ข์ซอ่ นอยู่กร็ ู้สน้ิ พระแมไ่ ปป่าเป็นอาจณิ ในจิตคิดถวลิ ทกุ เวลา คาศพั ท์ อาจณิ คือ เป็นปรกติ, เสมอ ๆ ถวิล คอื คิด, คิดถึง ถอดความไดว้ ่า พระสงั ขน์ น้ั ร้อู ยแู่ ก่ใจอยูแ่ ลว้ วา่ แม่จะเข้าป่าเป็นประจาจึงได้คิดถึง และห่วงหาแมอ่ ยู่ตลอดเวลา จะใคร่ออกช่วยพระแมเ่ จา้ สงสารผา่ นเกล้าเป็นหนักหนา เหนื่อยยากลาบากกายา กลบั มาจนค่าแล้วร่าไร คาศัพท์ ผ่านเกลา้ คอื พระเจ้าแผน่ ดิน ในทนี่ ีห้ มายถึง นางจันทเ์ ทวี กายา คือ ร่างกาย ถอดความได้ว่า พระสงั ขอ์ ยากชว่ ยเหลือแม่ของตนเอง เพราะสงสารแมท่ ่ที างานหนกั เหนอ่ื ย กลบั บา้ นก็จวนค่าทุกวนั ไม่ว่าลูกนอ้ ยเปน็ หอยปู อุ้มชชู มชิดพิสมัย พระคุณล้าลบภพไตร จะออกใหเ้ ห็นตัวกก็ ลวั การ คาศัพท์ พสิ มัย คอื ความรัก, ความปลื้มใจ, ความชื่นชม ภพไตร คือ สามโลก (มนุษย์ สวรรค์ บาดาล) ถอดความได้วา่ ไม่วา่ ลูกจะเปน็ อยา่ งไร แม่กห็ ว่ งใยและดแู ลดว้ ยความรัก พระคุณของ แม่นีย้ งิ่ ใหญ่กวา่ ใด ๆ ในสามโลก อยากออกจากหอยสงั ข์ให้แมเ่ หน็ กก็ ลวั แม่จะรู้ ไกป่ า่ พาฝงู มากินข้าว ของพระแม่เจา้ อยูฉ่ าวฉาน คุย้ เขย่ี เรี่ยรายท้ังดนิ ดาน พระมารดามาเหน็ จะร่าไร คาศัพท์ เรีย่ ราย คอื กระจายเกลอ่ื นไป ร่าไร คอื ออ้ ยอิง่ ถอดความไดว้ า่ ฝงู ไกป่ ่ามาขโมยกนิ ขา้ วท่ีแมข่ องพระสงั ข์น้นั ตากไว้ ทาใหข้ ้าวท่ีตากไว้ กระจัดกระจายเกล่อื นกลาด กว่าแมจ่ ะมาเหน็ กช็ ้าเสียที การตรวจข้นึ อยกู่ ับดลุ พินจิ ของครูผูส้ อน
หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๒ เรือ่ ง สังขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสังข์ ๒๒๕ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๕ เรือ่ ง การเขยี นแผนภาพโครงเรอ่ื ง เวลา 1 ชัว่ โมง หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี ๒ เร่ือง สังข์ทอง ตอน กาเนดิ พระสังข์ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย รายวชิ าภาษาไทย ช้ันประถมศึกษาปีที่ 5 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชวี้ ัด สาระที่ 2 การเขียน มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียนเขียนส่อื สาร เขยี นเรยี งความ ย่อความ และเขียนเรื่องราวในรปู แบบ ต่าง ๆ เขยี นรายงานขอ้ มูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ ตัวชี้วดั ป.๕/๓ เขียนแผนภาพโครงเรอื่ งและแผนภาพความคดิ เพอ่ื ใชพ้ ัฒนางานเขียน ป.๕/๙ มมี ารยาทในการเขียน ๒. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด การเขียนแผนภาพโครงเร่ือง เป็นการเตรียมงานเขียนโดยนาความรู้หรือข้อเท็จจริงมาจัดระบบ ใช้ในการวางโครงเร่ืองท่ีมีตัวละคร ฉาก และมีการดาเนินเรอ่ื งไปตามเหตุการณ์ ซ่ึงต้องอาศัยการตั้งคาถาม ตอบคาถามจากเรื่องท่ีอ่าน ช่วยให้งานเขียนมีคุณภาพ ส่ือสารได้ตรงตามจุดประสงค์ และได้ความสมบูรณ์ ครบถว้ น ๓. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ ความเขา้ ใจ (K) บอกหลกั การหลักการเขยี นแผนภาพโครงเรอื่ งได้ 3.2 ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) เขยี นแผนภาพโครงเร่อื งจากเร่ือง สงั ข์ทอง ตอน กาเนดิ พระสงั ข์ได้ 3.3 ด้านคุณลกั ษณะ เจตคติ ค่านิยม (A) มีมารยาทในการเขียน ๔. สาระการเรยี นรู้ การเขยี นแผนภาพโครงเรื่อง ๕. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น 5.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร 5.2 ความสามารถในการคิด ๖. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 6.1 ใฝเ่ รยี นรู้ 6.2 มุ่งม่ันในการทางาน 7. กจิ กรรมการเรียนรู้
๒๒๖ คมู่ ลาํ ดบั การจดั กจิ กรรมการเรียนร ที่ รายวชิ า ภาษาไทย หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๒ เร่อื ง สงั 1 แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๕ เรือ่ ง การเขยี น ขอบเขตเน้อื หา/ ขัน้ ตอนการจดั เวลา แ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรียนรู้ ทใี่ ช้ กจิ กรรมคร ขั้นนาํ ขอบเขตเนอื้ หา 10 1. ครใู หน้ กั เรยี นดูแผ 1. หลักการการเขียน นาที โครงเรอ่ื ง สุนขั กับเงา แผนภาพโครงเรื่อง ร่วมกนั แสดงความคิด 2. การเขียนแผนภาพ ครถู ามคําถาม ดงั นี้ โครงเร่อื ง สังขท์ อง ครู : สิ่งทีด่ ูเรียกว่าอะ ตอน กาํ เนิดพระสงั ข์ นักเรียนเคยเห็นสง่ิ ใด 3. มารยาทใน การนาํ เสนอดว้ ยการเ การเขยี น รปู แบบน้ี 2. ครูใหน้ กั เรยี นดูตวั แผนภาพโครงเรื่อง แล ลักษณะของแผนภาพโค จากนั้นแจ้งจดุ ประสง การเรยี นรู้ และเช่ือมโ บทเรยี น
อื ครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) รู้ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 5 งขท์ อง ตอน กําเนดิ พระสังข์ จํานวน 10 ชัว่ โมง นแผนภาพโครงเรอ่ื ง จาํ นวน 1 ชว่ั โมง แนวการจดั การเรียนรู้ สื่อการเรยี นรู้ การประเมิน ส่อื PPT การเรียนรู้ รู กจิ กรรมนกั เรยี น การเขยี นแผนภาพ โครงเรอ่ื ง - พจิ ารณา ผนภาพ 1. นักเรียนร่วมกันแสดง การตอบคําถาม าและ ความเหน็ และตอบคําถามครู ของนักเรยี น ดเหน็ โดย เช่น นักเรียน : แผนภาพนิทาน/ ะไร แผนภาพ เรอื่ งส้ัน/ แผนภาพ ดบา้ งทม่ี ี วรรณคดี ฯลฯ เขียน วอย่าง 2. นักเรียนรว่ มกนั บอก ล้วบอก ลกั ษณะของแผนภาพ โครงเรื่อง โครงเรอ่ื ง และสนทนาแสดง งค์ ความเหน็ ตามประสบการณ์ โยงเขา้ สู่ เช่ือมโยงสู่เนอื้ หา
หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๒ เรื่อง สังข์ทอง ตอน กําเนดิ พระสังข์ ลําดบั ขอบเขตเน้อื หา/ ขนั้ ตอนการจดั เวลา แ ท่ี จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรยี นรู้ ท่ีใช้ กจิ กรรมคร ๒. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ข้นั สอน ๑5 1. ครใู ห้นกั เรียนแบ่งก ๑. บอกหลกั การเขยี น นาที คน คละเพศ และความ แผนภาพโครงเรอื่ งได้ ๒. ครูใหน้ กั เรยี นแตล่ อภปิ รายแลกเปลีย่ นคว การเขยี นแผนภาพโคร โดยใชใ้ บความรทู้ ่ี ๕ ป ๓. ครนู ักเรียนตัวแทน กลมุ่ นําเสนอความคิด จากนั้นครบู รรยายอธ เติมเตม็ ให้ โดยใช้ ส่อื ๔. ครูใหน้ กั เรยี นอ่าน เรอ่ื ง สงั ข์ทอง ตอน ก พระสังข์ จากหนังสือเ วรรณคดีลํานาํ ๕. ครูถามนักเรยี นว่า ครู : ถา้ จะเขยี นแผนโ
แนวการจดั การเรยี นรู้ ส่อื การเรยี นรู้ ๒๒๗ รู กจิ กรรมนกั เรยี น การประเมนิ การเรยี นรู้ กลุม่ ๔ 1. นกั เรยี นแบง่ กลุม่ คละชาย มสามารถ หญงิ เก่ง ออ่ น เออ้ื อาทรกันและ แบง่ หนา้ ท่รี ับผดิ ชอบภายในกลมุ่ ละกล่มุ ๒. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ อภิปราย 1. ใบความรู้ท่ี ๕ วามรู้เร่อื ง สร้างความเข้าใจร่วมกนั และ เร่อื งการเขียน รงเร่อื ง สรุปหลักการเขยี นแผนภาพ แผนภาพโครงเรื่อง ประกอบ โครงเรื่องลงสมุดบนั ทกึ ไว้ นแตล่ ะ ๓. นักเรยี นตัวแทนกลมุ่ ลกุ ขนึ้ 2. หนังสือเรยี น 1. ประเมินจาก ดของกลมุ่ ยืนนาํ เสนอหน้าชน้ั สรุปหลัก วรรณคดลี ํานํา การนาํ เสนอ ธิบายเพ่ิม การเขียนแผนภาพ โครงเรอื่ ง ชั้น ป.๕ อ PPT ในกลุ่มในเพ่อื นฟัง นทบทวน ๔. นักเรียนอา่ นทบทวนเรอื่ ง 3. สอื่ PPT กําเนดิ สังขท์ อง ตอน กาํ เนิดพระสงั ข์ เรยี น พรอ้ มกนั ๕. นกั เรียนตอบคาํ ถาม เชน่ โครงเร่อื ง นักเรยี น : ตัง้ คําถาม และตอบ
๒๒๘ คมู่ ลําดบั ขอบเขตเนอ้ื หา/ ขัน้ ตอนการจดั เวลา แ ที่ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ที่ใช้ กจิ กรรมคร เร่ืองสงั ขท์ อง ตอน กํา พระสังข์ นักเรียนคว อยา่ งไร 3. ๒. เขยี นแผนโครงเรอื่ ง ขัน้ ปฏบิ ตั ิ 20 ๖. ครูแจกใบงานท่ี ๕ เร่ืองสงั ข์ทอง ตอน นาที นักเรยี นทกุ คนเขียนแ กําเนิดพระสงั ข์ ได้ โครงเรือ่ ง เรอื่ ง สังขท์ 3. มมี ารยาทใน กาํ เนิดพระสงั ข์ การเขียน ๗. ครูให้นกั เรยี นจับค ตรวจใบงาน ๘. ครูใหน้ กั เรยี นร่วมก โดยครใู ช้ สอื่ PPT เฉ งานที่ ๕ ๙. ครนู ําใบงานนักเรีย กระดานและขน้ึ จอสม บอร์ดใหน้ ักเรยี นดูพร และร่วมกนั สรปุ กจิ กร ครูใหข้ อ้ เสนอแนะเพ่ิม
อื ครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรยี นรู้ สื่อการเรยี นรู้ การประเมนิ การเรียนรู้ รู กิจกรรมนกั เรยี น าเนดิ คาํ ถามจากเรือ่ งทีอ่ า่ นวา่ มี วรทํา ตวั ละครใด สถานที่ เหตกุ ารณ์ อะไร และผลของเหตกุ ารณ์ แล้วจงึ เขียนเป็นแผนภาพโครง เรื่องโดยลําดบั เหตุการณ์ ฯลฯ ๕ ให้ ๖. นักเรียนทาํ ใบงานโดย แผนภาพ ปฏิบตั ติ ามหลักการเขียนและ ทอง ตอน มารยาทในการเขยี น คกู่ ับเพอ่ื น ๗. นักเรยี นจับคู่กนั ตรวจใบ 1. สือ่ PPT - ประเมินจาก กนั เฉลย งาน แผนภาพ การตรวจใบงาน โครงเรอื่ ง เร่ือง ที่ ๕ (P) ฉลยใบ ๘. นกั เรยี นรว่ มกันเฉลยใบ สังข์ทอง ตอน ยนไปติด งาน และสรปุ กิจกรรม กาํ เนดิ พระสงั ข์ มารท์ ๙. นกั เรยี นทกุ คนรว่ มกัน 2. เฉลยใบงานท่ี ร้อมกัน ช่ืนชมผลงานของตนองและ ๕ รรม โดย เพ่อื น มเติม
หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๒ เรื่อง สงั ข์ทอง ตอน กําเนิดพระสังข์ ลาํ ดบั ขอบเขตเนอ้ื หา/ ขน้ั ตอนการจดั เวลา แ ที่ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ที่ใช้ กจิ กรรมคร ๓ ข้นั สรปุ ๑. ครถู ามนักเรยี นเพอ่ื 5 ดงั น้ี นาที ครู : นกั เรยี นคดิ ว่ากา แผนภาพโครงเร่อื งจา อ่านของเรามขี ้อดี แล ต้องปรับปรงุ พัฒนาอย ๒. ครูถามนักเรยี นว่า ครู : ความรู้เรือ่ งการเ แผนภาพโครงเรอ่ื ง สา นาํ ไปใชป้ ระโยชนใ์ นช ประจาํ วนั ไดอ้ ยา่ งไรบ จากน้นั สรุปบทเรียนแ เพ่ิมเตมิ ดว้ ยส่ือ PPT บทเรยี น
แนวการจดั การเรยี นรู้ ส่ือการเรียนรู้ ๒๒๙ - ส่ือ PPT รู กิจกรรมนกั เรยี น คาํ ถาม อนําสรุป 1. นกั เรียนสนทนาแสดง - สือ่ PPT การประเมนิ ความคิดเหน็ และตอบคําถาม สรุปบทเรียน การเรียนรู้ ารเขยี น เช่น - พจิ ารณาจาก ากเร่ืองท่ี นกั เรยี น : การตอบคําถาม ละข้อที่ - ขอ้ ดี คอื ทาํ ใหจ้ บั ใจความ ของนกั เรียน ย่างไร และชว่ ยให้เข้าใจเรื่องทอ่ี ่าน มากยิง่ ข้นึ ฯลฯ - พิจารณาจาก - ข้อควรปรับปรุงพัฒนา การตอบคําถาม คอื เขยี นช้า เสร็จไม่ทนั เวลา ของนกั เรียน จบั ใจความ ยงั ไม่ดี ฯลฯ เขยี น ๒. นักเรยี นตอบคาํ ถามเพ่ือ ามารถ สรุปบทเรียนดังน้ี ชวี ิต นกั เรียน : บา้ ง แล้ว - นาํ ไปสรปุ เร่อื งที่อ่าน ฟัง สรปุ และดูในชวี ิตประจาํ วนั - นาํ ไปวางแผนการเขียน และการทํางานในครง้ั ตอ่ ไป - สอนนอ้ ง ๆ และเพ่ือนท่ยี งั ไม่เข้าใจ ฯลฯ
230 คูม่ อื ครูและแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) 8. สือ่ การเรยี นร/ู้ แหล่งเรยี นรู้ 1. ตัวอยา่ งแผนภาพโครงเรอื่ ง เรอ่ื งสนุ ัขกบั เงา 2. ใบความรูท้ ี่ ๕ เรอ่ื ง การเขียนแผนภาพโครงเรอ่ื ง 3. ใบงานท่ี ๕ เรือ่ ง การเขียนแผนภาพโครงเรือ่ ง สงั ข์ทอง ตอน กาเนิดพระสงั ข์ 4. สอ่ื PPT เร่อื ง การเขยี นแผนภาพโครงเร่ือง ๕. หนงั สอื เรยี นวรรณคดลี านาช้นั ป.๕ 9. การประเมนิ ผลรวบยอด ชิ้นงานหรอื ภาระงาน - ใบงานท่ี ๕ การเขียนแผนภาพโครงเรอื่ งเรอื่ ง สงั ข์ทอง ตอน กาเนดิ พระสังข์ ส่ิงทีต่ ้องการวดั / ประเมิน วิธีการ เครื่องมือทใ่ี ช้ เกณฑ์ ร้อยละ ๖๐ ดา้ นความรู้ ความเขา้ ใจ (K) ขนึ้ ไป - บอกหลกั การเขียนแผนภาพ - ตรวจสมดุ บนั ทกึ - สมุดบันทกึ ร้อยละ ๖๐ โครงเรือ่ ง - พจิ ารณาการตอบคาถาม - คาถาม ขึ้นไป ด้านทักษะและกระบวนการ (P) - ใบงานที่ ๕ ร้อยละ ๖๐ - เขียนแผนภาพโครงเรือ่ ง เรื่อง - ตรวจใบงานที่ ๕ ขึ้นไป สังขท์ อง ตอน กาเนิดพระสงั ข์ การเขียนแผนภาพโครง - แบบประเมนิ ใบงานท่ี ๕ ระดับคุณภาพ เรอื่ ง การเขยี นแผนภาพโครงเร่ือง ผา่ น ด้านคุณลกั ษณะ เจตคติ คา่ นิยม (A) - มีมารยาทในการเขียน - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะ นักเรยี น อันพงึ ประสงค์ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะ 1. ใฝเ่ รียนรู้ 2. มงุ่ มั่นในการทางาน นกั เรยี น อันพึงประสงค์ สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน - แบบประเมินสมรรถนะ ระดบั คุณภาพ 1. ความสามารถในการสอื่ สาร - สังเกตพฤตกิ รรม สาคญั ของผู้เรียน ผา่ น 2. ความสามารถในการคิด นักเรียน
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๒ เรอ่ื ง สังขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสังข์ 231 เกณฑ์ประเมนิ : การเขียนแผนภาพโครงเรื่อง เรอื่ ง สงั ขท์ อง ตอน กาเนิดพระสังข์ ประเดน็ ระดับคุณภาพ การประเมนิ แผนภาพโครงเร่ือง ๔ (ดมี าก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรุง) - ระบุเนื้อหาสาคัญ ระบเุ นื้อหาสาคญั ระบเุ นื้อหาสาคัญ ระบเุ นอื้ หา ของเรอื่ งไดค้ รบทง้ั สาคัญของเรอ่ื ง เรอื่ ง ของเรอื่ งไดค้ รบ ของเรอ่ื งไดส้ ว่ นใหญ่ ได้บางสว่ นและ/ - เรียงลาดบั ทง้ั เรอื่ ง แต่ขาด แต่ขาดองคป์ ระกอบ หรอื ขาดองค์ เหตกุ ารณไ์ ด้อย่าง องค์ประกอบอนื่ ๆ อื่น ๆ ๒ ขอ้ ประกอบอ่ืน ๆ ถกู ต้อง ๑ ข้อ 3 ขอ้ - ใช้ภาษาเขียน ถกู ตอ้ ง ชัดเจน - สรปุ ข้อคดิ ได้ ถกู ต้อง - นาเสนอแผนภาพ ได้ชัดเจน เข้าใจงา่ ย หมายเหตุ คา่ นา้ หนัก ๕ คะแนน คะแนน ระดับคุณภาพ เกณฑก์ ารประเมินคุณภาพ 16-20 ดมี าก 11-15 ดี 6-10 พอใช้ 1-5 ปรบั ปรงุ เกณฑ์การตดั สนิ : ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ร้อยละ 5๐ ข้นึ ไป (ต้องไดร้ ะดบั พอใช้ข้นึ ไป)
232 คมู่ อื ครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แบบประเมินการเขยี นแผนภาพโครงเรอ่ื ง สังข์ทอง ตอน กาเนดิ พระสังข์ คาช้ีแจง ให้ครเู ขยี นคะแนนการเขียนแผนภาพโครงเรอื่ ง ลงในช่องประเด็นการประเมนิ ทก่ี าหนดไว้ การระบุเ ื้นอหาสาคัญ สรปุ (๔ คะแนน) ลาดับ ชอ่ื -สกุล การเรียงลาดับเหตุการณ์ รวม คิดเป็น ผา่ น ไมผ่ ่าน ที่ (๔ คะแนน) คะแนน รอ้ ยละ การใ ้ชภาษา (๒๐) (๔ คะแนน) การสรุป ้ขอคิด (๔ คะแนน) การนาเสนอ (๔ คะแนน) ๑ ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรงุ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ รวม (คน) คิดเปน็ รอ้ ยละ ผลการประเมนิ ดมี าก ..........คน คิดเปน็ รอ้ ยละ............... ดี ..........คน คิดเป็นรอ้ ยละ................ พอใช้ ..........คน คิดเป็นร้อยละ............... ปรบั ปรงุ .........คน คิดเป็นร้อยละ............... สรุปผลการประเมินรายชนั้ เรียน นกั เรียนผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ จานวน......................... คน คิดเป็นร้อยละ......................... นกั เรียนไมผ่ า่ นเกณฑก์ ารประเมิน จานวน......................... คน คิดเป็นร้อยละ........................ ลงชอ่ื .................................................ผปู้ ระเมนิ (..............................................) ........../..................../..........
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๒ เรอ่ื ง สังขท์ อง ตอน กาเนิดพระสงั ข์ 233 10. บนั ทึกผลหลงั สอน ผลการจดั การเรยี นการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสาเรจ็ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปัญหาและอปุ สรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ข้อจากัดการใชแ้ ผนการจัดการเรยี นรู้ และขอ้ เสนอแนะ/แนวทางการปรับปรงุ แกไ้ ข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ......................................................ผสู้ อน (.......................................................) วันที่ .......... เดอื น ..................... พ.ศ. ............. 11. ความคิดเห็น/ขอ้ เสนอแนะของผู้บริหารหรือผู้ท่ีได้รับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื ...................................................... ผูต้ รวจ (.......................................................) วันที่ .......... เดือน ..................... พ.ศ. .............
234 คูม่ อื ครูและแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ใบความรู้ท่ี 5 เรอ่ื ง การเขียนแผนภาพโครงเร่อื ง หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 เรื่อง สังข์ทอง ตอน กาเนดิ พระสงั ข์ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 5 เรอื่ ง การเขยี นแผนภาพโครงเรอ่ื ง รายวชิ า ภาษาไทย รหัสวชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๕ การเขยี นแผนภาพโครงเรอื่ ง การเขียนแผนภาพโครงเร่ือง เป็นการเขยี นเพ่ือแสดงใหเ้ หน็ โครงเรือ่ งโดยรวมท้งั เร่อื ง ทาให้จบั ใจความของเร่ืองทอ่ี ่านได้ดียิ่งข้ึน การเขียนแผนภาพโครงเรื่อง ต้องอาศัยการตั้งคาถาม และตอบคาถามจากเรื่องท่ี อา่ นวา่ ตัวละครในเรื่องมใี ครบ้าง สถานทีเ่ กิดอยูท่ ่ไี หน มีเหตุการณอ์ ะไรเกิดข้นึ และผลของ เหตุการณ์นน้ั คอื อะไร แล้วจึงเขียนเปน็ แผนภาพโครงเร่อื ง โดยลาดับเหตุการณ์ ดังน้ี - ใคร - ทาอะไร - ท่ไี หน - เหตกุ ารณเ์ ป็นอยา่ งไร - ผลของเหตุการณ์ - ขอ้ คดิ ที่ไดจ้ ากเร่อื ง ประโยชน์ของของการเขยี นแผนโครงเร่อื ง - ทาใหร้ ู้จกั รวบรวมความรทู้ ี่ได้จากการอ่าน - จดจาได้ง่าย และแม่นยาย่งิ ขึน้ - ใช้จดั ขอบเขตความรู้ ความคิด - เพื่อกาหนดทศิ ทางของเร่ืองท่จี ะเขยี น - ทาให้งานเขยี นมีประเด็นท่ีชัดเจน ได้ความสมบรู ณค์ รบถว้ น ขน้ั ตอนการเขียนแผนภาพโครงเรอ่ื ง ๑. กาหนดชอื่ เรือ่ ง หรือ ความคดิ รวบยอด ๒. หาส่ิงท่เี ก่ียวขอ้ งกับชอื่ เรื่อง สาระสาคัญและจดบนั ทกึ เปน็ กล่มุ คาสนั้ ๆ ๓. นาคาทีจ่ ดบันทึกไวม้ าตัง้ ชอื่ เป็นหัวขอ้ ย่อยและเรียงลาดบั ตามความสาคัญ ๔. เลอื กรูปแบบแผนภาพความคดิ ใหเ้ หมาะสมกับการนาไปใช้
หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ ๒ เร่อื ง สังขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสงั ข์ 235 แผนภาพโครงเรอ่ื ง (สาหรับขั้นนาเข้าสูบ่ ทเรียน) แผนภาพโครงเรอ่ื ง นิทานเรอ่ื ง...สนุ ัขกับเงา ตัวละครในเรื่อง .......ส..ุน..ขั............................. สถานที่ ............บ...น..ส..ะ.พ...า.น...ข..า้ .ม..แ..ม...่น..้า...................... เหตกุ ารณท์ ีเ่ กิดขึ้น ........ส...ุน..ขั..ต..ัว...ห..น..ึ่ง..ข..โ..ม..ย..เ.น...ือ้ ..จ..า..ก..ต..ล...า.ด...แ..ล..้ว..ว..ง่ิ..ข..า้..ม..ส...ะ..พ..า..น..ม...า.......... ..ม...นั ..ม..อ...ง.ล...ง.ไ..ป..ใ..น..น..้า..เ.ห...็น..เ.น...อ้ื ..ก..้อ..น...ใ.ห...ญ...ก่ ..ว..า่..ช..้นิ...ท..ม่ี..นั...ค..า..บ..อ..ย...ู่ ........... ..จ..งึ ..ท..้งิ..ช..ิ้น...เ.น..ือ้...ท..คี่ ..า..บ..ไ..ว..ใ้ .น...ป..า..ก..ล...ง.ไ..ป..ใ..น..น..้า......................................... ผลของเหตุการณ์ .........เ.น...อ้ื ..ช..้ิน..ท...ีส่ ..นุ..ัข...ค..า..บ..ม..า..จ...ม..ห..า..ย..ไ..ป..ใ..น..แ..ม..่น...้า.............................. ....แ..ล..ะ..เ.ง..า..ข..อ..ง..เ.น...้อื ..ก..็ห..า..ย..ไ..ป............................................................. ข้อคดิ ......โ.ล..ภ...น..ัก..ม..กั..ล..า..ภ..ห...า..ย..........โลภมากลาภหาย
236 คมู่ ือครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ใบงานที่ 5 เรอ่ื ง การเขียนแผนภาพโครงเร่อื ง สงั ขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสงั ข์ หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 เรื่อง สงั ขท์ อง ตอน กาเนิดพระสังข์ แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 5 เร่อื ง การเขยี นแผนภาพโครงเรอื่ ง รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๕ คาชีแ้ จง ให้นกั เรียนเขียนแผนภาพโครงเรือ่ ง สงั ข์ทอง ตอน กาเนดิ พระสังข์ ช่ือเร่อื ง “” ตวั ละคร สถานท่ี เหตุการณ์ ท่ีเกดิ ข้นึ ผลของเหตุการณ์ ข้อคิด ชอื่ .....................................................นามสกลุ .................................................ชั้น..............เลขท.ี่ ..............
หน่วยการเรียนร้ทู ่ี ๒ เร่ือง สังขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสังข์ 237 แนวคาตอบใบงานท่ี 5 เรอ่ื ง การเขียนแผนภาพโครงเรอื่ งเรอ่ื ง สังข์ทอง ตอน กาเนดิ พระสงั ข์ หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 เรื่อง สงั ขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสังข์ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 5 เรอื่ ง การเขยี นแผนภาพโครงเรื่อง รายวชิ า ภาษาไทย รหัสวชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๕ คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรยี นจบั กลุ่มร่วมกันเขยี นแผนภาพโครงเรอ่ื ง สงั ขท์ อง ตอนกาเนดิ พระสงั ข์ ตัวอย่างคาตอบ ช่อื เรอ่ื ง สังข์ทอง ตอน กาเนิดพระสังข์ ตวั ละคร สงั ข์ทอง , พระมารดา (ของสงั ข์ทอง) และตายาย สถานที่ กระทอ่ มของตายาย , ป่า เหตุการณ์ 1. พระมารดาของสังข์ทองถกู ขบั ไลอ่ อกจากวงั เพราะคลอดบตุ รเปน็ หอยสงั ข์ ท่เี กิดข้นึ 2. พระมารดาของสังข์ทองได้ไปอาศยั อยกู่ บั สองตายายทก่ี ระทอ่ มในปา่ ใชช้ วี ติ ด้วย ความลาบากขดั สน 3. พระมารดาของสังข์ทองเขา้ ป่าเพอื่ หาผกั ผลไมม้ าประทั่งชวี ติ เปน็ ประจาทุกวัน 4. สว่ นสงั ขท์ องเมอื่ เหน็ ว่าแม่เข้าป่าไปพน้ แลว้ ก็ออกมาว่ิงเล่นและทางานบ้าน 5. เม่ือพระมารดากลับมาถึงบ้าน เหน็ ข้าวของเป็นระเบียบเรยี บร้อยจึงนกึ สงสยั วา่ เด็ก ท่ีไหนมาอยใู่ นกระท่อมของตน 6. วันตอ่ มาพระมารดาทาทีวา่ เข้าไปในปา่ แลว้ แอบดสู งั ขท์ องจนเห็นว่าเดก็ ที่ ออกมา น่ังในกระท่อมคือลกู ของตนเอง นางจงึ รบี หยบิ ไมว้ ง่ิ ไปตีหอยสงั ขจ์ นแตก ผลของเหตกุ ารณ์ เม่ือพระมารดาของสังขท์ องร้คู วามจรงิ วา่ หอยสงั ข์เป็นท่อี าศยั ของลกู ตนเอง ทง้ั สองนง่ั กอดกนั ดว้ ยความดใี จและเสยี ใจ จากน้ันพระมารดาได้เล่าความจรงิ ถงึ เร่อื งราวในอดีตใหส้ ังข์ทองฟัง ความรกั ของแมท่ ม่ี ตี ่อลกู เป็นความรกั ทบ่ี รสิ ทุ ธ์ิ ยากแทห้ าสิ่งใดมาเปรยี บ พระคณุ ขอ้ คิด ของแมน่ ้ันมคี ่ามากกว่าสงิ่ ใด ดังจะเห็นไดจ้ ากความรกั ของพระมารดาทม่ี ีต่อสังข์ทอง
๒๓๘ คู่มือครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๖ เรอื่ ง การวเิ คราะหค์ ุณค่าและสรุปขอ้ คิดจากเรอ่ื งทอ่ี ่าน (1) หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๒ เร่ือง สังขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสังข์ เวลา 1 ชวั่ โมง กลุม่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย รายวิชาภาษาไทย ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 5 1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้วี ดั สาระที่ 1 วรรณคดแี ละวรรณกรรม มาตรฐาน ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคณุ ค่า และนามาประยุกตใ์ ช้ในชวี ิตจริง ตวั ชีว้ ดั ป.๕/๒ ระบุความร้แู ละขอ้ คิดจากการอ่านวรรณคดแี ละวรรณกรรมทีส่ ามารถนาไปใช้ในชีวติ จริง ป.๕/๓ อธิบายคณุ ค่าของวรรณคดีและวรรณกรรม ๒. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด การวเิ คราะหค์ ุณคา่ และสรปุ ข้อคดิ จากเรื่องทอ่ี ่าน ทาใหผ้ ูอ้ า่ นเข้าใจคณุ ค่าและข้อคิดของเร่อื งและ สามารถนาความรู้ไปใช้ประโยชน์ในการดาเนินชวี ิต สามารถแสดงความคิดเหน็ ได้ ทาใหม้ ีความคดิ กว้างไกล และเข้าใจเรอื่ งมากข้นึ ๓. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 3.1 ด้านความรู้ ความเขา้ ใจ (K) บอกหลักการวเิ คราะห์คณุ คา่ และสรปุ ข้อคดิ จากเร่อื งทอี่ า่ นได้ 3.2 ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) เขียนอธบิ ายคุณค่าและขอ้ คดิ จากเร่ืองทอ่ี า่ นได้ 3.3 ดา้ นคุณลักษณะ เจตคติ คา่ นิยม (A) มีมารยาทในการอ่าน ๔. สาระการเรยี นรู้ การวิเคราะหค์ ณุ คา่ และการสรุปขอ้ คดิ จากเร่อื งสงั ขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสงั ข์ ๕. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น 5.1 ความสามารถในการส่อื สาร 5.2 ความสามารถในการคิด 5.3 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต ๖. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 6.1 ใฝ่เรยี นรู้ 6.2 มงุ่ มนั่ ในการทางาน 7. กิจกรรมการเรียนรู้
หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี ๒ เรอ่ื ง สงั ข์ทอง ตอน กําเนดิ พระสงั ข์ การจดั กิจกรรมการเรยี นร รายวิชา ภาษาไทย หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๒ เรื่อง สงั ข แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๖ เรอ่ื ง การวเิ คราะห์คณุ คา่ แ ลาํ ดบั ขอบเขตเน้อื หา/ ขน้ั ตอนการจดั เวลา แ ท่ี จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรยี นรู้ ท่ีใช้ กิจกรรมคร 1. ขนั้ นาํ 1. ครูขนึ้ ส่ือ PPT บท ขอบเขตเน้อื หา ๑๐ รอ้ ยกรองจากเรอ่ื ง สงั 1. หลักการวเิ คราะห์ นาที ตอน กําเนิดพระสงั ข์ คณุ ค่าและสรปุ ข้อคิด ใหน้ กั เรียนอ่านออกเส จากเร่อื งท่ีอา่ น กนั “นางมไิ ด้เอนองค์ล สุริยารุง่ รางสวา่ งแสง วางลูกลงไวไ้ ปจัดแจง ลากแผงออกวางทก่ี ลา เอาข้าวออกตากแลว้ จบั หาบผนั ผายเขา้ ไพร เท่ยี วเก็บผกั หญ้าเปน็ โฉมฉนิ ซอนซนด้นมา” และสนทนาซกั ถาม ด ครู : บทร้อยกรองกล่า อะไรอยา่ งไร และมีกา ถ้อยคําในลักษณะใด ครู : นักเรยี นคิดว่าบท
รู้ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 5 ๒๓๙ ขท์ อง ตอน กําเนดิ พระสงั ข์ จํานวน 10 ชวั่ โมง และสรปุ ขอ้ คดิ จากเร่ืองท่ีอา่ น (1) จํานวน 1 ชว่ั โมง การประเมิน การเรยี นรู้ แนวการจดั การเรียนรู้ สือ่ การเรียนรู้ - พจิ ารณาจาก - สือ่ PPT การตอบคําถาม รู กจิ กรรมนกั เรยี น การวเิ คราะห์ คุณค่าและสรปุ ท 1. นักเรยี นอา่ นบทรอ้ ยกรอง ขอ้ คดิ จากเรื่องท่ี งขท์ อง ร่วมกนั แสดงความเหน็ และ อ่าน ตอบคําถามครู เชน่ สยี งพร้อม นักเรียน : - บทรอ้ ยกรองกล่าวถงึ ลงนทิ รา พระนางจนั ทเ์ ทวีไม่ได้หลบั นอนจนรงุ่ สาง ก็ต้องลากเอา แผงมาตากขา้ ว และฝากตา างดนิ ยายดูให้ กอ่ นจะจบั หาบเขา้ วฝากยาย ปา่ ไปหาเกบ็ ผักเหมือนทุกวนั รสณิ ฑ์ - บทรอ้ ยกรองใชถ้ ้อยคํา นอาจณิ คลอ้ งจอง สัมผสั ทาํ ใหเ้ กิด ” ความไพเราะทง้ั สมั ผัสสระและ ดังน้ี สมั ผสั อักษร ฯลฯ าวถึง นกั เรยี น : มคี ณุ ค่า เชน่ ารใช้ สะท้อนให้เหน็ วถิ ีชวี ติ ของ ชาวบ้านป่า ให้ความรู้เร่ือง ทรอ้ ยกรอง การนาํ ข้าวท่ีช้ืนไปตากเพอ่ื ให้
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 503
Pages: