Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 64-08-08--คู่มื่อครู ภาษาไทย ป.5-1

64-08-08--คู่มื่อครู ภาษาไทย ป.5-1

Published by elibraryraja33, 2021-08-08 08:52:07

Description: 64-08-08--คู่มื่อครู ภาษาไทย ป.5-1

Search

Read the Text Version

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๒ เรื่อง สังขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสังข์ 275 แบบประเมินการทอ่ งบทอาขยานจากเรอื่ ง สังขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสังข์ คาชี้แจง ให้ครเู ขียนคะแนนการท่องจาบทอาขยาน ลงในชอ่ งประเด็นการประเมนิ ทก่ี าหนดไว้ ่ทองได้ครบ ้ถวนตาม ่ีท สรปุ กาหนด (๔ คะแนน) ลาดับ ชอ่ื -สกลุ เสียงดังฟัง ัชด รวม คิดเปน็ ผ่าน ไมผ่ า่ น ที่ (๔ คะแนน) คะแนน รอ้ ยละ ีมบุคลิก ่ทาทาง ่ีท (๒๐) เหมาะสม (๔ คะแนน) ่ทอง ูถกทานองคล่องแคล่ว ไ ่มติด ัขด (๔ คะแนน) ้นาเสียงสอดคล้อง ักบ เ ้ืนอหา (๔ คะแนน) ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ รวม (คน) คิดเป็นรอ้ ยละ ผลการประเมิน  ดมี าก ..........คน คดิ เป็นรอ้ ยละ...............  ดี ..........คน คิดเป็นรอ้ ยละ................  พอใช้ ..........คน คิดเปน็ รอ้ ยละ...............  ปรบั ปรงุ .........คน คดิ เปน็ ร้อยละ............... สรุปผลการประเมินรายช้ันเรียน  นักเรียนผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน จานวน......................... คน คิดเป็นร้อยละ.........................  นกั เรียนไมผ่ ่านเกณฑก์ ารประเมนิ จานวน......................... คน คดิ เป็นรอ้ ยละ........................ ลงชอ่ื .................................................ผปู้ ระเมนิ (..............................................) ........../..................../..........

276 คู่มอื ครูและแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) 10. บันทกึ ผลหลังสอน ผลการจัดการเรยี นการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสาเร็จ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปัญหาและอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ข้อจากดั การใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรู้ และขอ้ เสนอแนะ/แนวทางการปรับปรงุ แกไ้ ข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่อื ......................................................ผสู้ อน (.......................................................) วันที่ .......... เดือน ..................... พ.ศ. ............. 11. ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของผู้บรหิ ารหรือผู้ทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ........................................................................................................ ...................................................................... ลงช่ือ ...................................................... ผูต้ รวจ (.......................................................) วนั ที่ .......... เดือน ..................... พ.ศ. .............

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๒ เรื่อง สังขท์ อง ตอน กาํ เนิดพระสงั ข์ 277 ใบความรทู้ ี่ ๘ เร่ือง การทอ่ งบทอาขยาน หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 เร่อื ง สังขท์ อง ตอน กาํ เนดิ พระสงั ข์ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๘ เร่อื ง การท่องจาํ บทอาขยาน รายวิชา ภาษาไทย รหสั วชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ การท่องบทอาขยาน สาระสําคญั การท่องจําหรือท่องบทอาขยาน เป็นการอ่านออกเสียงท่ีอาศัยความจําโดยไม่ดู บทอ่านต้องใช้ความสามารถในการจําบทท่องจํา อ่านให้ถูกต้องตามฉันทลักษณ์และ ทํานองเสนาะของบทร้อยกรองนั้น ๆ สอดคล้องกับอารมณ์ในบทอ่าน โดยอ่านให้ ไพเราะถูกต้องคลอ่ งแคลว่ เกิดภาพพจน์ได้รสได้อารมณ์ ๑. ความหมาย บทอาขยานคือ บทท่องจํา การเล่า การสวด เรื่อง นิทาน ซึ่งเป็นการท่องจํา ข้อความหรือคําประพันธ์ท่ีชอบ บทร้องกรองที่ไพเราะ โดยอาจตัดตอนมาจากหนังสือ วรรณคดีเพ่ือให้ผู้ท่องจําได้ เห็นความงามของบทร้อยกรอง ทั้งในด้านวรรณศิลป์ การใช้ ภาษา เน้ือหา และวิธีการประพันธ์ สามารถนําไปใช้เป็นแบบอย่างในการแต่งบท รอ้ ยกรอง หรือนาํ ไปใชเ้ ปน็ ข้อมลู ในการอา้ งอิงในการพูดและการเขยี นไดเ้ ป็นอยา่ งดี ๒. หลกั การทอ่ งบทอาขยาน การท่องบทอาขยานส่วนใหญ่เป็นการท่องออกเสียง คือ ผู้ท่องเปล่งเสียงออกมา ดัง ๆ ในขณะที่ใช้สายตากวาดไปตามตัวอักษร ยึดหลักการออกเสียงเหมือนหลักการ อ่านทว่ั ไป เพือ่ ให้การออกเสียงมปี ระสิทธภิ าพควรฝึกฝน ดงั น้ี ๑. ฝึกเปล่งเสียงให้ดังพอประมาณ ไม่ตะโกน ควรบังคับเสียง เน้นเสียง ปรับ ระดับเสยี งสูง - ตา่ํ ใหส้ อดคลอ้ งกบั จงั หวะลีลา ท่วงทาํ นอง และความหมายของเน้ือหา ท่อี ่าน ๒. ท่อง ด้วยเสียงท่ีชัดเจน แจ่มใส ไพเราะ มีกระแสเสียงเดียว ไม่แตกพร่า เปล่งเสียงจากลําคอโดยตรงดว้ ยความมัน่ ใจ ๓. ท่อง ออกเสียงให้ถูกอักขรวิธีหรือความนิยม และต้องเข้าใจเนื้อหาของ บทอาขยานนี้ก่อน ๔. ออกเสียง ร ล คาํ ควบกลาํ้ ใหถ้ ูกตอ้ งชดั เจน ๕. ท่อง ใหถ้ ูกจงั หวะและวรรคตอน ๖. ทอ่ งให้ได้อารมณ์และความรสู้ กึ ตามเน้ือหา

278 คมู่ ือครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ใบงานท่ี 8 เรือ่ ง การทอ่ งบทอาขยานสงั ข์ทอง ตอน กาเนดิ พระสงั ข์ หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง สงั ขท์ อง ตอนกาเนดิ พระสังข์ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 8 เรอื่ ง การท่องจาบทอาขยาน รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๕ คาชแี้ จง ให้นักเรียนแบง่ จังหวะการอ่านโดยใชเ้ ครอื่ งหมาย / และร่วมกันทอ่ งจาบทอาขยาน จากเร่อื ง สงั ข์ทอง ตอน กาเนดิ พระสงั ข์ บทอาขยานจากเรอื่ ง สังข์ทอง ตอน กาเนดิ พระสงั ข์ เม่อื น้ัน พระสังขซ์ อ่ นอยูก่ ร็ ู้สน้ิ พระแมไ่ ปปา่ เป็นอาจณิ ในจติ คิดถวิลทกุ เวลา จะใคร่ออกช่วยพระแม่เจ้า สงสารผ่านเกล้าเป็นหนกั หนา เหน่ือยยากลาบากกายา กลบั มาจนคา่ แลว้ รา่ ไร ไม่วา่ ลกู นอ้ ยเปน็ หอยปู อุ้มชูชมชดิ พิสมยั พระคุณล้าลบภพไตร จะออกใหเ้ หน็ ตัวก็กลัวการ ไก่ป่าพาฝูงมากินข้าว ของพระแมเ่ จา้ อยู่ฉาวฉาน ค้ยุ เขี่ยเรี่ยรายทงั้ ดินดาน พระมารดามาเห็นจะรา่ ไร เยีย่ มลอดสอดดทู ้งั ซ้ายขวา จะเห็นใครไปมากห็ าไม่ ออกจากสังข์พลนั ทันใด ฉวยจับไม้ไดไ้ ลต่ ี กอบเก็บขา้ วหกท่ีตกดิน เหลียวดูผ้คู นชนนี ผันผินลอยลบั ขยบั หนี หุงขา้ วหาปลาไว้ท่าแม่ จะหนีเข้าสังข์กาบังตน ช่วยขับไก่ป่าประสาจน ดูแลจดั แจงทุกแห่งหน สาละวนเลน่ พลางไมห่ ่างดู (พระบาทสมเด็จพระพทุ ธเลิศหล้านภาลัย) ชอื่ .....................................................นามสกลุ ..............................................ชัน้ .................เลขท.ี่ ..............

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๒ เรือ่ ง สังขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสงั ข์ 279 แนวคาตอบใบงานท่ี 8 เร่ือง การทอ่ งบทอาขยานสงั ขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสงั ข์ หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 เรื่อง สังขท์ อง ตอนกาเนิดพระสงั ข์ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 8 เรื่อง การทอ่ งจาบทอาขยาน รายวชิ า ภาษาไทย รหัสวชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๕ คาช้แี จง ใหน้ กั เรยี นแบง่ จงั หวะการอา่ นโดยใช้เครอ่ื งหมาย / และรว่ มกันท่องจาบทอาขยาน จากเร่อื ง สงั ข์ทอง ตอน กาเนดิ พระสงั ข์ บทอาขยานจากเรอ่ื ง สังขท์ อง ตอนกาเนดิ พระสงั ข์ เมือ่ นัน้ พระสังข์/ซอ่ นอย/ู่ ก็รสู้ ้ิน พระแม/่ ไปป่า/เปน็ อาจิณ ในจิต/คิดถวลิ /ทุกเวลา จะใคร่/ออกช่วย/พระแมเ่ จ้า สงสาร/ผ่านเกลา้ /เปน็ หนักหนา เหน่ือยยาก/ลาบาก/กายา กลบั มา/จนคา่ /แลว้ รา่ ไร ไม่วา่ /ลูกน้อย/เป็นหอยปู อุ้มชู/ชมชดิ /พสิ มยั พระคุณ/ลา้ ลบ/ภพไตร จะออกให้/เห็นตัว/ก็กลวั การ ไก่ป่า/พาฝูง/มากินข้าว ของพระ/แมเ่ จ้า/อยฉู่ าวฉาน คุ้ยเขย่ี /เร่ยี ราย/ทั้งดนิ ดาน พระมารดา/มาเหน็ /จะรา่ ไร เย่ียมลอด/สอดดทู ้งั /ซ้ายขวา จะเห็นใคร/ไปมา/ก็หาไม่ ออกจาก/สงั ข์พลนั /ทนั ใด ฉวยจับ/ไมไ้ ด/้ ไล่ตี กอบเกบ็ /ข้าวหก/ที่ตกดนิ ผันผนิ /ลอยลับ/ขยบั หนี เหลียวดู/ผู้คน/ชนนี จะหนี/เข้าสังข์/กาบังตน หุงข้าว/หาปลา/ไว้ท่าแม่ ดูแล/จดั แจง/ทุกแห่งหน ชว่ ยขับ/ไกป่ า่ /ประสาจน สาละวน/เลน่ พลาง/ไม่หา่ งดู (พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธเลิศหลา้ นภาลยั )

๒๘๐ คู่มอื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ ๙ เรอื่ ง คาราชาศัพท์จากเรอื่ ง สังข์ทอง ตอน กาเนิดพระสังข์ หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี ๒ เร่อื ง สังขท์ อง ตอน กาเนิดพระสังข์ เวลา 1 ช่วั โมง กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาไทย รายวชิ าภาษาไทย ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 5 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชว้ี ัด สาระท่ี 4 หลกั การใช้ภาษาไทย มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษา และพลังของ ภาษา ภมู ิปญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบัติของชาติ ตัวชว้ี ัด ป.๕/๔ ใช้คาราชาศัพท์ ๒. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด คาราชาศัพท์เป็นคาท่ีใช้กับบุคคลซึ่งมีฐานะต่าง ๆ ประกอบด้วย พระมหากษัตริย์ พระบรมวงศานุ วงศ์ตงั้ แต่ชั้นหม่อมเจา้ ขน้ึ ไป พระสงฆ์ ข้าราชการผู้ใหญ่ และสุภาพชน การเข้าใจคาราชาศพั ท์ทาให้นาไปใช้ ได้เหมาะสมกบั บคุ คล กาลเทศะ ๓. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 3.1 ด้านความรู้ ความเขา้ ใจ (K) บอกความหมายของคาราชาศพั ท์ได้ 3.2 ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) แต่งประโยคโดยใช้คาราชาศัพท์ได้ 3.3 ด้านคุณลักษณะ เจตคติ ค่านยิ ม (A) บอกความสาคัญของการใช้คาราชาศัพท์ได้ ๔. สาระการเรยี นรู้ คาราชาศัพทจ์ ากเรอ่ื ง สงั ขท์ อง ตอนกาเนดิ พระสงั ข์ ๕. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น 5.1 ความสามารถในการส่ือสาร 5.2 ความสามารถในการคิด 5.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ ๖. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ - รกั ความเป็นไทย 7. กิจกรรมการเรยี นรู้

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๒ เรื่อง สงั ขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสังข์ การจัดกจิ กรรมการเรยี นร รายวชิ า ภาษาไทย หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๒ เร่ือง สัง แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ ๙ เรือ่ ง คาราชาศพั ทจ์ ากเรื่อ ลาดบั ขอบเขตเนือ้ หา/ ขัน้ ตอนการจดั เวลา แ ท่ี จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ การเรียนรู้ ทีใ่ ช้ กจิ กรรมครู 1. ขอบเขตเนอื้ หา ข้ันนา ๕ ๑. ครูนาคาราชาศพั ท นาที ประเภท มานาเสนอส 1. บอกความหมาย ๑๕-๒๐ คา สนทนา ซ ของคาราชาศพั ท์ วา่ คาทัง้ หมดน้เี ป็นคา ๒. ครูเฉลยคาตอบทีถ่ 2. แต่งประโยคโดยใช้ ชมเชยนกั เรียน สนทน คาราชาศัพท์ ซักถาม ว่าเคยไดย้ ินค 3. ความสาคญั ของ จากท่ีใดบา้ ง และร่วม การใชค้ าราชาศัพท์ นักเรียน ลองถูก ผิด ค คาราชาศพั ทจ์ ากเรอ่ื ง ทอง 2. ครูแจง้ จุดประสงค การเรยี นรูแ้ ละเช่อื มโย บทเรยี น

๒๘๑ รู้ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 5 งขท์ อง ตอน กาเนิดพระสังข์ จานวน 10 ชวั่ โมง อง สงั ขท์ อง ตอน กาเนิดพระสงั ข์ จานวน 1 ช่ัวโมง แนวการจดั การเรยี นรู้ สื่อการเรียนรู้ การประเมนิ กิจกรรมนักเรยี น การเรยี นรู้ - สื่อ PPT ท์ ท้ัง ๕ 1. นักเรยี นอา่ นสนทนาตอบ คาราชาศพั ท์ - พิจารณาจาก สอ่ื PPT คาถามครู เชน่ -คาวเิ ศษณ์/คา การตอบคาถาม ซกั ถาม อักษรนา/คาไทย -คาราชา าอะไร ศพั ท์ ถูก ใหน้ ักเรียนตอบ เกือบทกุ คน นา ๒. นักเรยี นอา่ นสนทนาตอบ คาเหล่านี้ คาถามครู เช่น -ในทวี ี -จาก มกบั การดลู เิ ก –จากการดลู ะคร ค้นหา จักร ๆ วงศ์ ๆ วนั เสาร์ตอนเช้า งสงั ข์ และลองถกู ผิด คน้ หาคาราชา ศพั ทจ์ ากเรอ่ื งสงั ข์ทอง ค์ 2. นักเรียนรว่ มกนั สนทนา ยงเขา้ สู่ แสดงความเห็น จาก ประสบการณเ์ ดมิ และเช่ือมโยง เข้าสู่บทเรียน

๒๘๒ คู่มอื ลาดบั ขอบเขตเนอื้ หา/ ขน้ั ตอนการจัด เวลา แ ที่ จุดประสงค์การเรียนรู้ การเรยี นรู้ ท่ใี ช้ กจิ กรรมครู ๒. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ขัน้ สอน ๕ 1. ครูให้นกั เรยี นแบง่ ก ๑. บอกความหมาย นาที คน คละเพศ และความ ของคาราชาศัพทไ์ ด้ ๒. ครใู หน้ กั เรียนศึกษ ความรทู้ ี่ ๙ เรื่อง คารา หมวดตา่ ง ๆ จากเรอื่ ง สังขท์ อง และรว่ มกันอ เก่ียวกับคาราชาศพั ท ละครในวรรณคดีสอ่ื ส ๓. ครแู จกใบงานท่ี ๙ คาราชาศพั ท์ ให้นักเ ช่วยกนั คน้ หาคาราชา บทเรียนและรว่ มกนั ห ความหมายของคาราช ท่คี น้ หามาไดเ้ ขียนลงใ ตอนท่ี ๑ ภายในเวลาท ๔. ครใู หน้ กั เรยี นนาเส ผลงานและชว่ ยกันตร ความถกู ต้อง โดยครคู

อครแู ละแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรียนรู้ สื่อการเรยี นรู้ การประเมนิ กจิ กรรมนกั เรียน การเรียนรู้ กลมุ่ ๔ 1. นักเรียนแบง่ กลุ่มคละชาย มสามารถ หญงิ เกง่ อ่อน และแบ่งหนา้ ท่ี รับผิดชอบภายในกลมุ่ ษาใบ ๒. นกั เรียนศึกษาใบความรู้ที่ ๙ 1. ใบความรู้ท่ี ๙ - สังเกต าชาศพั ท์ เร่ือง คาราชาศัพทห์ มวด เร่ือง คาราชาศพั ท์ พฤตกิ รรม ง ต่าง ๆ จากเร่ืองสังขท์ องและ อภิปราย ร่วมกันอภปิ รายการใชค้ า ทท์ ่ีตวั ราชาศพั ทข์ องตวั ละครในเรอ่ื ง สารกนั ๙ เรือ่ ง ๓. นกั เรียนแตล่ ะกล่มุ ให้ 2. ใบงานที่ ๙ เรียน สมาชิกชว่ ยกนั รวบรวมคาราชา เร่อื ง คาราชาศัพท์ าศัพท์ใน ศพั ท์ในบทเรยี น และค้นหา หา ความหมายทา้ ยเล่มหรอื ใช้ ชาศพั ท์ พจนานุกรมชว่ ย ในใบงาน ที่กาหนด สนอ ๔. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มออกไป 3. พจนานุกรม - ประเมินจาก รวจสอบ ตดิ ผลงาน นาเสนอความหมาย หนงั สือเรียน การนาเสนองาน คอยชว่ ย ของคาราชาศพั ท์หน้าช้นั เรียน วรรณคดี ลานา

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๒ เรอื่ ง สังขท์ อง ตอน กําเนิดพระสงั ข์ ลําดบั ขอบเขตเน้อื หา/ ขนั้ ตอนการจดั เวลา แ ที่ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรียนรู้ ทีใ่ ช้ กิจกรรมครู แนะนาํ เพิ่มเตมิ 3. ๒. แต่งประโยคโดยใช้ ขัน้ ปฏบิ ตั ิ ๒๐ ๕. ครูให้นกั เรยี นทาํ ใบ คําราชาศัพท์ได้ นาที ตอนท่ี ๒ โดยครูถามน วา่ ครู : จากคาํ ราชาศัพท กําหนดให้นักเรียนจะ แต่งประโยคอย่างไรให ๖. ครูให้นกั เรยี นจบั ส ลําดับการนําเสนอประ แต่งได้ โดยคัดเลือกม นาํ เสนอกลมุ่ ละ ๒ ปร ๗. ครตู รวจสอบความ ร่วมกับนกั เรยี นกลุ่มอ ๘. ครสู รุปกจิ กรรม ให ขอ้ เสนอแนะ และคําชมเชย

แนวการจดั การเรียนรู้ สอ่ื การเรียนรู้ ๒๘๓ กิจกรรมนกั เรยี น ชั้น ป.๕ การประเมนิ 1. ใบงานที่ ๙ การเรียนรู้ และชว่ ยกนั ตรวจสอบ ตอนที่ ๒ ความถกู ตอ้ ง แตง่ ประโยคโดย - ตรวจใบงานท่ี ใชค้ าํ ราชาศัพท์ ๙ ตอนที่ ๒ บงาน ๕. นกั เรยี นทําใบงานท่ี ๙ ตอน 2. สลากตวั เลข แต่งประโยคโดย นกั เรยี น ท่ี ๒ แตง่ ประโยคโดยใชค้ าํ ใชค้ ําราชาศัพท์ ทท์ ่ี ราชาศัพท์ 3. ผลงาน ะนาํ ไป นักเรยี น หถ้ ูกตอ้ ง สลาก ๖. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ส่ง ะโยคท่ี ตัวแทนมาพดู ประโยคที่แต่ง ตามลําดบั ที่จับสลากได้ มา ระโยค มถูกต้อง ๗. นักเรยี นกลมุ่ ทเ่ี หลือฟงั และ อื่น ๆ รว่ มกนั ตรวจสอบแสดง ห้ ความเห็น ๘. นักเรยี นหัวหน้ากลุม่ รวบรวมใบงานสง่ ครูผ้สู อน

๒๘๔ คมู่ ลาํ ดบั ขอบเขตเนอ้ื หา/ ขั้นตอนการจดั เวลา กิจกรรม ที่ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ที่ใช้ 4. 3. บอกความสําคญั ของ ข้ันสรปุ 1. ครใู ห้นกั เรยี นร การใช้คาํ ราชาศพั ทไ์ ด้ ๕ บทเรียน โดยให้นัก นาที ตอบคาํ ถาม ดงั นี้ ครู : คําราชาศัพทม์ อย่างไร ครู : นกั เรยี นมีวิธีใช ในการสอ่ื สารได้อย ๒. ครแู ละนกั เรียน ความรู้ โดยครูขึ้นสอ่ื PP บทเรยี นอกี คร้งั

อื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรียนรู้ สื่อการ การประเมิน เรยี นรู้ การเรยี นรู้ มครู กจิ กรรมนกั เรยี น - สมุด บนั ทกึ - พจิ ารณาจาก รว่ มกันสรุป 1. นักเรียนรว่ มกนั แสดง การตอบคาํ ถาม กเรยี นช่วยกัน ความคิดเหน็ และตอบคําถาม เชน่ มีความสาํ คญั นกั เรียน : แสดงเอกลกั ษณ์ ความเปน็ ไทย ทาํ ให้ทราบว่า คนไทยมคี วามผูกพันกบั พระมหากษัตรยิ ์ ฯลฯ ช้คาํ ราชาศพั ท์ นกั เรียน : ใช้ใหถ้ กู ตอ้ ง เหมาะกับ ยา่ งไรบ้าง กาลเทศะและบคุ คล นร่วมกันสรปุ 2. นักเรียนรว่ มกนั สรปุ บทเรยี น PT สรปุ วา่ คาํ ราชาศัพท์เปน็ คําทีใ่ ช้กบั บุคคลซงึ่ มฐี านะต่าง ๆ ประกอบด้วย พระมหากษตั ริย์ พระบรมวงศานวุ งศ์ตง้ั แตช่ ้ัน หม่อมเจา้ ขน้ึ ไป พระสงฆ์ ขา้ ราชการผูใ้ หญ่ และสุภาพชน การเข้าใจคาํ ราชาศัพทท์ ําให้ นําไปใชไ้ ด้เหมาะสมกบั บคุ คล

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๒ เรอื่ ง สงั ขท์ อง ตอน กาเนิดพระสงั ข์ 285 8. สื่อการเรียนร/ู้ แหล่งเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรียนวรรณคดลี านาชนั้ ป.๕ 2. ใบความรทู้ ี่ ๙ เร่อื ง คาราชาศพั ท์ 3. ใบงานที่ ๙ เรอ่ื ง คาราชาศพั ท์ 4. สอ่ื PPT เรื่อง คาราชาศัพท์ ๕. พจนานุกรมภาษาไทย ฉบบั ราชบณั ฑติ ยสถาน ๖. สลากหมายเลขตามจานวนกลมุ่ ของนกั เรียน 9. การประเมนิ ผลรวบยอด ชิ้นงานหรอื ภาระงาน - ใบงานท่ี ๙ เรอ่ื ง คาราชาศัพท์ ส่งิ ท่ีต้องการวัด / ประเมนิ วธิ กี าร เครอื่ งมือท่ใี ช้ เกณฑ์ ดา้ นความรู้ ความเขา้ ใจ (K) ร้อยละ ๖๐ - บอกความหมายของคาราชา 1. พจิ ารณาการตอบ 1. คาถาม ศพั ท์ คาถาม 2. ใบงานท่ี ๙ เรื่อง ขน้ึ ไป 2. ตรวจใบงานที่ ๙ เรื่อง คาราชาศพั ท์ ตอนที่ ๑ คาราชาศัพท์ ตอนท่ี ๑ ด้านทักษะและกระบวนการ (P) รอ้ ยละ ๖๐ - แตง่ ประโยคโดยใช้คาราชา - ตรวจใบงานที่ ๙ เรอ่ื ง 1. ใบงานท่ี ๙ เรื่อง ศัพท์ คาราชาศัพท์ ตอนที่ ๒ คาราชาศพั ท์ 9 ตอนท่ี ๒ ขน้ึ ไป 2. แบบประเมินใบงานที่ ๙ ด้านคุณลกั ษณะ เจตคติ คา่ นิยม (A) - บอกความสาคัญของการใช้ - สงั เกตการตอบคาถาม - คาถาม รอ้ ยละ ๖๐ คาราชาศัพท์ ของนักเรียน ขึ้นไป คุณลักษณะอันพึงประสงค์ - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ ระดับคณุ ภาพ 1. ใฝเ่ รียนรู้ นักเรยี น อนั พงึ ประสงค์ ผ่าน 2. มุ่งมั่นในการทางาน - สงั เกตพฤตกิ รรม สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รยี น นักเรียน - แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดับคณุ ภาพ 1. ความสามารถในการสอื่ สาร สาคัญของผ้เู รยี น ผา่ น 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใชท้ ักษะ ชีวติ

286 คูม่ อื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) เกณฑ์ประเมนิ : การทาใบงานท่ี ๙ คาราชาศัพท์ ประเดน็ ระดับคุณภาพ การประเมนิ 1. การบอก ๔ (ดีมาก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรงุ ) ความหมายของ บอกความหมาย คาราชาศัพท์ บอกความหมาย บอกความหมาย บอกความหมายของ ของคาราชาศัพท์ ของคาราชาศพั ท์ได้ ของคาราชาศัพท์ได้ คาราชาศัพท์ได้ ไดถ้ กู ต้อง ๑ คา ถกู ตอ้ ง ๔ คา ถกู ต้อง ๓ คา ถูกต้อง ๒ คา 2. การแต่ง แตง่ ประโยค แต่งประโยค แต่งประโยค แต่งประโยคโดย ประโยค โดยใชค้ าราชาศัพท์ โดยใช้คาราชาศพั ท์ โดยใชค้ าราชาศัพท์ ใช้คาราชาศัพทไ์ ม่ โดยใช้คาราชา ถูกต้องทุกประโยค ไม่ถูกต้อง ไม่ถกู ตอ้ ง ถกู ต้อง ๕ ประโยค ศพั ท์ (๑๐ประโยค) ๑-๓ ประโยค ๔-๖ ประโยค มากกว่า ๖ ประโยค เกณฑก์ ารประเมินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ 7-8 ดมี าก 5-6 ดี 3-4 พอใช้ 1-2 ปรับปรงุ เกณฑ์การตดั สนิ : ผ่านเกณฑ์การประเมินร้อยละ ๖๐ ข้นึ ไป (ต้องไดร้ ะดบั พอใช้ขึ้นไป)

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๒ เรอื่ ง สังขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสงั ข์ 287 แบบประเมินการทาใบงานเรื่อง คาราชาศัพท์ คาช้ีแจง ให้ครเู ขยี นคะแนนลงในช่องประเด็นการประเมนิ ตามท่ีกาหนดไว้ให้ถกู ตอ้ ง ประเดน็ การประเมิน ตอนที่ ๑ ตอนท่ี ๒ การบอก การแต่ง รวม คะแนน ลาดับ ชอ่ื - สกุล ความหมาย ประโยค คะแนน ที่หาร คดิ เป็น สรปุ ผล ท่ี ร้อยละ การประเมนิ ของคา โดยใชค้ า ท้ังหมด แลว้ ราชาศพั ท์ ราชา ศัพท์ ๒๐ คะแนน ๒๐ คะแนน (๔๐) (20) (๑๐๐) ผ่าน ไมผ่ า่ น ๑ ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรุง ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ รวม (คน) คดิ เปน็ ร้อยละ ผลการประเมิน  ดมี าก ..........คน คดิ เปน็ ร้อยละ...............  ดี ..........คน คิดเป็นรอ้ ยละ................  พอใช้ ..........คน คิดเป็นร้อยละ...............  ปรับปรงุ .........คน คิดเปน็ ร้อยละ............... สรุปผลการประเมนิ รายช้นั เรียน  นักเรยี นผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ จานวน......................... คน คดิ เป็นร้อยละ.........................  นกั เรยี นไม่ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ จานวน......................... คน คิดเป็นร้อยละ........................ ลงชือ่ .................................................ผปู้ ระเมิน (..............................................) ........../..................../..........

288 คู่มอื ครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) 10. บนั ทกึ ผลหลังสอน ผลการจดั การเรยี นการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสาเร็จ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปญั หาและอปุ สรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ข้อจากดั การใช้แผนการจดั การเรยี นรู้ และข้อเสนอแนะ/แนวทางการปรับปรงุ แกไ้ ข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื ......................................................ผสู้ อน (.......................................................) วันท่ี .......... เดือน ..................... พ.ศ. ............. 11. ความคดิ เห็น/ขอ้ เสนอแนะของผู้บรหิ ารหรอื ผทู้ ไ่ี ดร้ ับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ........................................................................................................ ...................................................................... ลงชือ่ ...................................................... ผตู้ รวจ (.......................................................) วนั ที่ .......... เดือน ..................... พ.ศ. .............

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๒ เรื่อง สงั ขท์ อง ตอน กาเนิดพระสังข์ 289 ใบความรทู้ ี่ 9 เรอื่ ง คาราชาศพั ท์ หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 2 เรื่อง สงั ข์ทอง ตอน กาเนิดพระสงั ข์ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 9 เร่ือง คาราชาศพั ท์จากเรื่อง สงั ข์ทอง ตอน กาเนดิ พระสงั ข์ รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ คาราชาศพั ท์ คาราชาศัพท์ คือ ภาษาหรือถ้อยคาที่กาหนดขึ้นใชใ้ ห้เหมาะสมกับระดับชั้นของบุคคล ไม่เฉพาะแต่ พระมหากษัตริย์เพียงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงพระบรมวงศานุวงศ์ ตั้งแต่ชั้นหม่อมเจ้าลงมาถึงพระภิกษุสงฆ์ ขนุ นางหรอื ขา้ ราชการชัน้ ผใู้ หญ่ และสุภาพชน ลักษณะของคาราชาศัพท์ เป็นคาเฉพาะท่ีใช้ส่ือสารเฉพาะบุคคล ซ่ึงแสดงถึงวัฒนธรรมการใช้ ภาษาไทย เพราะสังคมไทยมรี ะดับบุคคลทต่ี ่างกนั การแบง่ ลาดับชน้ั ของบคุ คลในการใช้คาราชาศัพทอ์ อกเป็น 5 ระดบั ดงั น้ี ๑. พระมหากษัตริย์ ๒. พระบรมวงศานุวงศ์ ๓. พระสังฆราชเจ้าและพระสงฆ์ ๔. ขุนนาง ขา้ ราชการชั้นสงู ๕. สภุ าพชน คาราชาศัพท์ เป็นลกั ษณะการใช้ถ้อยคาที่แสดงออกถงึ วฒั นธรรมการใชภ้ าษาของไทยท่ชี ัดเจนอนั เป็น ผลสบื เน่อื งมาจากระบบและรปู แบบการปกครอง ภาษาไทยเป็นภาษาทม่ี ีลกั ษณะพเิ ศษ เพราะแจกแจงการใช้ ถ้อยคาตามระดบั ชนชน้ั ของบุคคล เพอื่ ให้ถูกตอ้ งและเหมาะสมตามกาลเทศะ คาราชาศัพทจ์ ึงเปน็ เอกลักษณ์ที่ สาคัญยิ่งของชนชาวไทย เราคนไทยจงึ มีความจาเป็นต้องใช้คาราชาศัพทไ์ ดท้ ง้ั ในการพูดและการเขยี น ตลอดจน เขา้ ใจความหมายของคาราชาศัพท์ท้ังในการอา่ นและการฟังเพอื่ ใหก้ ารสอ่ื สารมีประสทิ ธภิ าพ ลักษณะการใช้คาราชาศพั ท์ คาราชาศัพท์ใชส้ าหรับสามัญชนพูดกบั พระเจ้าแผ่นดิน พระราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ พระเจ้า แผ่นดิน พระราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์จะใช้คาสามัญ ไม่ใช้คาราชาศัพท์ยกย่องพระองค์เอง พระเจ้า แผน่ ดินจะใชร้ าชาศพั ทก์ ับพระบรมวงศานุวงศท์ ่ที รงศกั ดิ์สูงกวา่ ทางสบื สายโลหติ หรอื ทางการนับพระญาติ เชน่ ปู่ ยา่ ตา ยาย พ่อ แม่ ลงุ ป้า นา้ อา พ่ี และบรมวงศานุวงศ์ ส่วนเจา้ นายจะใชร้ าชาศัพท์ระหวา่ งกนั เมื่อผพู้ ูดมี อิสริยยศต่ากวา่ เชน่ เจา้ นายมศี กั ดิ์เปน็ ลุง กับหลานซึ่งเปน็ พระเจา้ แผน่ ดิน

290 คมู่ อื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) การแบง่ คาราชาศัพทห์ มวดต่าง ๆ การแบ่งหมวดหมู่คาราชาศพั ท์ ออกเป็นหมวด ๆ น้นั เพ่อื ใหง้ า่ ยต่อการจดจาและการใชถ้ ้อยคา เราจงึ จดั เรียงคาราชาศัพท์ใหเ้ ป็นหมวดหมู่ โดยมีทั้งคาราชาศพั ท์หมวดต่าง ๆ เช่น หมวดเครือญาติ หมวดเคร่ืองใช้ ต่าง ๆหมวดร่างกาย หมวดกรยิ า หมวดท่ัวไป เป็นตน้ หมวดคาราชาศัพท์ เครือญาติ คาสรรพนาม รา่ งกาย คากริยา เครือ่ งใช้ คาราชาศพั ท์หมวดเครอื ญาติ คาราชาศัพท์ ความหมาย คาราชาศัพท์ ความหมาย พระปัยกา ปูท่ วด ตาทวด พระปัยยกิ า ยา่ ทวด ยายทวด พระอัยกา พระอยั กี ปู่ ตา พระอยั ยกิ า ย่า ยาย พระชนก พระบดิ า พอ่ พระชนนี พระมารดา แม่ พระปติ ลุ า ลงุ หรอื อา (ฝา่ ยพ่อ) พระปิตจุ ฉา ปา้ หรอื อา (ฝา่ ยพ่อ) พระมาตลุ า ลุงหรือนา้ (ฝา่ ยแม)่ พระมาตจุ ฉา ปา้ หรอื นา้ (ฝ่ายแม)่ พระเชษฐา พี่ชาย พระเชษฐภคนิ ี พีส่ าว พระอนชุ า น้องชาย พระกนษิ ฐา พระขนิษฐา น้องสาว พระมเหสี พระชายา ภรรยา พระสวามี พระภัสดา สามี พระโอรส ลูกชาย พระธิดา ลกู สาว พระชามาดา ลกู เขย พระสุณิสา ลกู สะใภ้ พระนัดดา หลาน พระปนดั ดา เหลน

หน่วยการเรียนร้ทู ี่ ๒ เรอื่ ง สังขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสังข์ 291 คาราชาศพั ท์หมวดรา่ งกาย คาราชาศพั ท์ ความหมาย คาราชาศัพท์ ความหมาย พระเกศา ผม พระกรรณ หู พระนลาฎ หน้าผาก พระเนตร ตา พระโอษฐ์ ปาก ขอบพระเนตร ขอบตา ต่อมพระเนตร ต่อมน้าตา ม่านพระเนตร มา่ นตา พระขนง ค้ิว พระอสั สุชล น้าตา พระทนต์ ฟัน พระนาสกิ จมูก พระชิวหา ลนิ้ พระศอ คอ พระเขฬะ นา้ ลาย พระพักตร์ หนา้ พระอทุ ร ท้อง พระเสโท เหงอื่ พระหนุ คาง พระองคลุ ี นิ้วมือ พระเศยี ร ศรี ษะ พระหตั ถ์ มือ พระปราง แกม้ ข้อพระหัตถ์ ข้อมอื พระพาหา ชว่ งแขน พระมงั สา เนือ้ พระพาหุ ต้นแขน พระโลมา ขน พระกร แขน พระอรุ ะ อก พระบาท เท้า พระนาภี สะดือ ขอ้ พระบาท ขอ้ เท้า พระโสณี สะโพก พระชานุ เขา่ พระชงฆ์ แข้ง พระรากขวัญ ไหปลารา้ พระดรรชนี นวิ้ ช้ี พระกจั ฉะ รักแร้ พระหทยั ใจ พระเพลา ขาหรอื ตัก พระนขา เลบ็ พระชพี จร ชพี จร พระอฐั ิ กระดกู พระธมนี เสน้ ประสาท พระกาโบล กระพงุ้ แกม้ พระทาฐะ เขยี้ ว พระวกั กะ ไต พระกฤษฎี สะเอว พระองั สะ พระองั สา ไหล่ พระปรัศว์ สีขา้ ง พระผาสุกะ ซ่ีโครง พระฉวี ผวิ หนงั

292 คมู่ อื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) คาราชาศพั ท์หมวดเครื่องใช้ เคร่ืองใช้ คาราชาศัพท์ เคร่อื งใช้ คาราชาศพั ท์ เส้อื รองเท้า ฉลองพระองค์ ผา้ เชด็ หนา้ ซับพระพักตร์ ท่นี อน พระฉาย ม่าน มงุ้ ฉลองพระบาท กระจกสอ่ ง พระกระยาเสวย ผ้าอาบน้า พระยี่ภู่ ขา้ ว (พระมหากษตั รยิ ์) เขม็ ขัด พระสุธารส ประตู พระวิสตู ร พระสูตร พระกณุ ฑล เตยี งนอน ผา้ เชด็ ตวั พระภูษาชบุ สรง นา้ กิน ฉลองพระพกั ตร์ ฉลองพระหตั ถ์สอ้ ม ผ้าชบุ สรง ผา้ สรง ตมุ้ หู นา้ จณั ฑ์ รดั พระองค์ พระปน้ั เหน่ง ชอ้ น พระสนับเพลา พระที่ (ราชวงศ์) พระทวาร ชอ้ นส้อม พระแทน่ บรรทม เหลา้ ซับพระองค์ กางเกง คาราชาศพั ท์หมวดคากรยิ า คาศพั ท์ คาราชาศพั ท์ คาศพั ท์ คาราชาศพั ท์ ทกั ทายปราศรัย พระราชปฏิสันถาร ดู ทอดพระเนตร ไปเทยี่ ว เสดจ็ ประพาส ให้ พระราชทาน ไหว้ ถวายบังคม อยากได้ ตอ้ งพระราชประสงค์ อาบนา้ สรงน้า เขยี นจดหมาย พระราชหตั ถเลขา นอน บรรทม มีครรภ์ ทรงพระครรภ์ นัง่ ประทับ หวั เราะ ทรงพระสรวล ไป เสดจ็ รบั ประทาน เสวย ชอบ โปรด ป่วย ประชวร

หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี ๒ เรื่อง สังขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสังข์ 293 คาราชาศพั ท์หมวดคาสรรพนาม คาท่ใี ช้แทน คาราชาศพั ท์ ใชก้ ับ แทนชอ่ื ผู้พดู (บรุ ุษท่ี ๑) ขา้ พระพทุ ธเจ้า พระมหากษัตริย์ กระผม ดิฉัน ผ้ใู หญ่ พระสงฆ์ แทนชอ่ื ที่พูดดว้ ย (บรุ ษุ ท่ี ๒) ใต้ฝ่าละอองธลุ พี ระบาท พระมหากษตั ริย์ ใต้ฝา่ ละอองพระบาท พระบรมราชนิ ี พระบรมราชนนี แทนชอ่ื ที่พดู ดว้ ย ฝ่าพระบาท พระบรมโอรสาธริ าช แทนช่ือที่พดู ดว้ ย พระคณุ เจา้ พระบรมราชกุมารี แทนช่ือทพ่ี ดู ด้วย พระคุณท่าน แทนชื่อที่พดู ด้วย พระเดชพระคณุ เจ้านายชน้ั สงู แทนผทู้ พ่ี ดู ถงึ (บุรุษที่ ๓) พระองค์ พระสงฆผ์ ทู้ รงสมณศักดิ์ แทนผู้ที่พูดถงึ ท่าน พระภิกษสุ งฆท์ ่วั ไป เจ้านาย, หรอื พระภกิ ษทุ ี่นับถอื พระราชา พระพุทธเจ้า เทพผเู้ ป็นใหญ่ เจ้านาย ขุนนางชัน้ ผู้ใหญ่ พระภิกษุ ผ้ใู หญท่ ี่นบั ถือ

294 คู่มือครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ใบงานที่ 9 เรื่อง คาราชาศพั ทจ์ ากเรอ่ื ง สังขท์ อง ตอนกาเนดิ พระสงั ข์ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 เรื่อง สงั ข์ทอง ตอน กาเนดิ พระสังข์ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9 เรือ่ ง คาราชาศพั ท์จากเรอ่ื ง สงั ข์ทอง ตอน กาเนดิ พระสงั ข์ รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๕ ตอนท่ี ๑ ให้นกั เรียนเขียนคาราชาศพั ท์ ความหมาย จากเร่ือง สงั ขท์ อง ตอนกาเนดิ พระสังข์ โดยแยกเป็น หมวด คานามและคากริยา และบอกความหมายใหถ้ กู ต้อง ท่ี คานาม ความหมาย คากรยิ า ความหมาย 1 2 3 4 5 ตอนท่ี ๒ ให้นักเรียนแตง่ ประโยคโดยใชค้ าราชาศพั ท์ (ทงั้ ๕ ปะเภท) ๑๐ ประโยค ข้อ ประเภท คาราชาศัพท์ ประโยค ๑ พระมหากษตั ริย์ ๒ พระมหากษัตรยิ ์ ๓ พระสงฆ์ ๔ สุภาพชนท่วั ไป 5 พระสงฆ์ 6 พระมหากษัตรยิ ์ 7 สุภาพชนทัว่ ไป 8 พระมหากษัตรยิ ์ 9 พระบรมวงศานุวงศ์ ๑๐ พระบรมวงศานวุ งศ์ ชอ่ื ........................................................นามสกลุ ..................................................ชัน้ ...............เลขท.ี่ ..........

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๒ เรือ่ ง สังขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสังข์ 295 ตอนที่ ๑ ให้นกั เรยี นเขียนคาราชาศพั ท์ ความหมาย จากเรอ่ื ง สงั ขท์ อง ตอนกาเนิดพระสงั ข์ โดยแยกเปน็ หมวด คานามและคากรยิ า และบอกความหมายให้ถกู ต้อง ที่ คานาม ความหมาย คากริยา ความหมาย 1 พระเนตร ตา กร้วิ โกรธ 2 พระโอษฐ์ ปาก ตรัส พดู 3 พระเขนย หมอน เสดจ็ ไป 4 พระกรรณ หู โปรด ชอบ 5 พระหตั ถ์ มอื ประทบั อยู่ ตอนที่ ๒ ใหน้ ักเรยี นแต่งประโยคโดยใชค้ าราชาศัพท์ (ทงั้ ๕ ปะเภท) ๑๐ ประโยค ข้อ ประเภท คาราชาศพั ท์ ประโยค ๑ พระมหากษัตรยิ ์ ตอนที่ 2 การตรวจอยู่ในดลุ พนิ จิ ของครผู สู้ อน ๒ พระมหากษัตริย์ ๓ พระสงฆ์ ๔ สภุ าพชนทั่วไป 5 พระสงฆ์ 6 พระมหากษัตริย์ 7 สุภาพชนท่วั ไป 8 พระมหากษตั ริย์ 9 พระบรมวงศานวุ งศ์ ๑๐ พระบรมวงศานวุ งศ์

๒๙๖ คูม่ ือครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๑๐ เรอ่ื ง คาบุพบท บอกความสัมพันธ์ หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๒ เร่ือง สังข์ทอง ตอน กาเนดิ พระสงั ข์ เวลา 1 ชั่วโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย รายวชิ าภาษาไทย ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 5 1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวช้วี ดั สาระที่ 4 หลกั การใชภ้ าษาไทย มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษา และพลังของ ภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบัติของชาติ ตวั ช้ีวดั ป.๕/๑ ระบชุ นดิ และหนา้ ทีข่ องคาในประโยค ๒. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด คาบพุ บทเปน็ คาที่แสดงความสัมพนั ธร์ ะหว่างคาในประโยค โดยจะอยูห่ น้าคานาม หรือคาสรรพนาม ซ่ึงมีหลายชนดิ ตอ้ งเลือกใช้ให้ถกู ต้อง เหมาะสมจึงจะทาใหก้ ารส่อื สารมีประสิทธิภาพ ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) บอกชนดิ และหน้าทีข่ องคาบพุ บทได้ 3.2 ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) แต่งประโยคโดยใช้คาบพุ บทได้ 3.3 ดา้ นคณุ ลักษณะ เจตคติ ค่านิยม (A) บอกประโยชน์ของคาบพุ บทในการส่อื สารได้ ๔. สาระการเรยี นรู้ คาบุพบท ๕. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น 5.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 5.2 ความสามารถในการคิด 5.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ ๖. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 6.1 ใฝ่เรียนรู้ 6.2 ม่งุ ม่ันในการทางาน 7. กิจกรรมการเรียนรู้

หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี ๒ เรือ่ ง สงั ขท์ อง ตอน กาํ เนิดพระสังข์ การจดั กิจกรรมการเรยี นร รายวิชา ภาษาไทย หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๒ เร่ือง สงั แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๑๐ เรื่อง คาํ บพุ บ ลําดบั ขอบเขตเน้อื หา/ ขนั้ ตอนการจดั เวลา แ ท่ี จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรียนรู้ ท่ใี ช้ 1. ขนั้ นาํ กจิ กรรมคร ขอบเขตเนื้อหา ๕ 1. ชนิดและหนา้ ท่ี นาที 1. ครูให้นกั เรยี นอา่ น ของคําบพุ บท ที่กาํ หนดให้ เชน่ 2. การแตง่ ประโยค   โดยใช้คําบุพบท   - ฟุตบอลวางอยบู่ น 3. ประโยชน์ของ - เขามาโรงเรยี นแต การใช้คาํ บุพบทใน   - ของขวญั กลอ่ งนเี้ ป การสอ่ื สาร - ครูมอบรางวลั แก่นกั และนาํ สนทนาซกั ถา ครู : คาํ ที่ขดี เสน้ ใต้ม สมั พันธ์กบั ประโยคอ 2. ครูให้นกั เรยี นรว่ ม ความคดิ เหน็ แล้วคร จดุ ประสงค์การเรยี น เชือ่ มโยงเข้าสู่บทเรยี ๒. ข้ันสอน 2๕ 1. ครใู หน้ กั เรยี นแบ่ง นาที คน คละเพศและ ความสามารถ

รู้ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 5 ๒๙๗ งขท์ อง ตอน กาํ เนดิ พระสงั ข์ จํานวน 10 ช่ัวโมง บท บอกความสมั พนั ธ์ จํานวน 1 ช่ัวโมง การประเมนิ การเรียนรู้ แนวการจดั การเรยี นรู้ ส่ือการเรยี นรู้ - พิจารณาจาก การตอบคาํ ถาม รู กจิ กรรมนกั เรยี น - สอื่ PPT เรอ่ื ง ของนักเรียน คําบพุ บท นประโยค 1. นกั เรยี นอ่านประโยค แลว้ - สังเกต สงั เกตประโยคว่า คาํ ทีข่ ีดเสน้ พฤตกิ รรม ใตม้ ีความสมั พนั ธ์กับประโยค ของนกั เรียน นโต๊ะ ในลักษณะต่าง ๆ เช่น ต่เชา้ นักเรยี น : นําหนา้ คํานาม คาํ ป็นของเธอ สรรพนาม เพอื่ บอกตําแหน่ง กเรยี น ตาํ แหน่ง ทีอ่ ยู่ บอกเวลา บอก าม ดังน้ี ความเปน็ เจ้าของ ฯลฯ มคี วาม อย่างไร มกนั แสดง 2. นกั เรยี นร่วมกนั สนทนา รแู จง้ แสดงความเห็นแล้วเชือ่ มโยง นรู้และ จากประสบการณเ์ ขา้ สู่ ยน บทเรยี น งกลุ่ม ๔ 1. นักเรียนแบ่งกลมุ่ คละชาย หญิง เก่ง อ่อน และแบง่ หนา้ ที่ รบั ผดิ ชอบภายในกลมุ่

๒๙๘ คมู่ ลําดบั ขอบเขตเนอื้ หา/ ขั้นตอนการจดั เวลา แ ท่ี จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรียนรู้ ที่ใช้ กจิ กรรมคร ๒. ครูใหเ้ ปดิ วดี ิทศั น์ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 10 บพุ บท นกั เรยี นดูแล ๑. บอกชนิดและหน้าที่ นาที ประเดน็ สาํ คญั ไว้ ของคาํ บพุ บทได้ ๓. ครูแจกใบความรทู้ เร่ือง คําบุพบท ใหน้ ัก คนในกลมุ่ ศกึ ษาเพ่มิ เ ร่วมกันอภปิ ราย ในป คําถาม ดังน้ี ๑) คาํ บพุ บทคืออะ ๒) คําบพุ บทมีกี่ชน อะไรบา้ ง ๓) คําบุพบทมหี น้า อย่างไร ๔) คําบุพบทสามา นาํ หน้าคําชนิดใดไดบ้ ยกตัวอย่าง) ๔. ครูให้นกั เรยี นแต่ล ตัวแทนนาํ เสนอผลงา หอ้ งเรียน โดยให้

อื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรยี นรู้ สือ่ การเรยี นรู้ การประเมิน 1. วดี ิทศั น์ เรือ่ ง การเรยี นรู้ รู กิจกรรมนกั เรยี น คําบพุ บท เรื่อง คาํ ๒. นักเรยี นดวู ดี ทิ ศั น์ และจบั ละจับ ประเดน็ สําคัญเรอ่ื งคาํ บุพบท ท่ี ๑๐ ๓. นกั เรยี นศกึ ษาใบความร้ทู ี่ 2. ใบความรทู้ ี่ กเรยี นทุก ๑๐ โดยแสดงความคดิ เหน็ ๑๐ เร่ือง เติมและ แล้วสรปุ เขียนความรลู้ งใน คาํ บุพบท ประเด็น สมุด ดงั นี้ 3. สมุดบันทกึ ะไร 4. สือ่ PTT นิด ๑) ความหมายของคําบพุ บท คําถาม าที่ ๒) ชนดิ ของคําบพุ บท ารถ ๓) หนา้ ทีข่ องคําบุพบท - ประเมินจาก บ้าง (ให้ ๔) ให้นกั เรยี นยกตัวอยา่ ง การนาํ เสนองาน คาํ บุพบทท่ี (K) ละกลุ่มสง่ านหน้า - นําหนา้ คาํ นาม - นําหน้าคําสรรพนาม - นาํ หนา้ คาํ กริยา - นําหน้าคําวิเศษณ์ ๔. นักเรยี นตัวแทนกลมุ่ นําเสนอผลงานหน้าห้องเรยี น เรียงลําดบั ตามประเด็นทคี่ รู

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๒ เรือ่ ง สงั ข์ทอง ตอน กาํ เนิดพระสังข์ ลําดบั ขอบเขตเน้ือหา/ ขัน้ ตอนการจดั เวลา แ ที่ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ทใ่ี ช้ กจิ กรรมคร กล่มุ ที่ ๑ นาํ เสนอประ กลุ่มที่ ๒, ๓ นําเสนอป กลุ่มท่ี ๔, ๕ นําเสนอป กลุ่มท่ี ๖ ยกตวั อยา่ ง ท่ีมคี ําบพุ บทนาํ หนา้ ค และคาํ สรรพนาม กล่มุ ท่ี ๗ ยกตวั อย่าง ทมี่ ีคําบุพบทนาํ หนา้ ค และคําวเิ ศษณ์ 3. ๑. บอกชนดิ และหนา้ ที่ ข้ันปฏบิ ตั ิ ๑๕ ๕. ครใู ห้เพ่ือน ๆ ร่วม ของคําบพุ บทได้ นาที แสดงความเห็นสรปุ ผ 3. แต่งประโยคโดยใช้ ปฏิบัติกิจกรรมและบ คําบุพบทได้ ให้ความรู้เพิ่มเตมิ ๖. ครแู จกใบงานที่ ๑ เรอื่ งคําบพุ บท ให้นัก ตอนท่ี ๑ บอกชนดิ แ ของคาํ และตอนท่ี ๒ ประโยคโดยใช้คําบุพ สัมพนั ธก์ บั ภาพ

แนวการจดั การเรียนรู้ สอื่ การเรยี นรู้ ๒๙๙ รู กจิ กรรมนกั เรยี น ะเดน็ ท่ี ๑ มอบหมาย การประเมนิ ประเด็นที่ ๒ การเรยี นรู้ ประเด็นท่ี ๓ งประโยค คาํ นาม งประโยค คํากรยิ า มกัน ๕. นักเรียนรว่ มกันแสดง 5. สื่อ PPT - ตรวจใบงานที่ ผลการ ความคิดเห็นและให้ ใบงานท่ี ๑๐ เรอ่ื ง ๑๐ เรื่อง บรรยาย ข้อเสนอแนะการทํากจิ กรรม คาํ บพุ บท คําบพุ บท ตอนที่ ๑ ๑๐ ๖. นกั เรยี นวิเคราะหป์ ระโยค - ใบงานที่ ๑๐ ตรวจใบงานท่ี ๑๐ กเรียนทาํ ทกี่ าํ หนดแลว้ บอกชนิดและ เรื่องคําบุพบท เรื่องคําบพุ บท และหน้าที่ หนา้ ที่ของคําบพุ บทในใบงาน ตอนที่ ๑ ตอนที่ ๒ ๒ แตง่ ที่ ๑๐ ตอนที่ ๑ และแตง่ ใบงานท่ี ๑๐ พบทให้ ประโยคจากภาพในใบงานท่ี เร่อื งคําบุพบท ๑๐ ตอนที่ ๒ อกี ๑๐ ประโยค ตอนที่ ๒

๓๐๐ ค่มู อื ลาดับ ขอบเขตเนื้อหา/ ข้ันตอนการจดั เวลา แ ท่ี จุดประสงค์การเรียนรู้ การเรยี นรู้ ที่ใช้ กิจกรรมคร ๗. นกั เรียนทุกกลมุ่ น ของสมาชกิ ทง้ั หมดไป บอรด์ แล้วชว่ ยกันเฉ ตรวจสอบความถกู ตอ้ กนั ๘. ครชู มเชยให้กาลัง ให้พยายามพฒั นาตน ต่อไป 4. ข้นั สรปุ 5 ๑. ครูให้นักเรยี นรว่ ม นาที จากประเด็นคาถาม ด ครู : นกั เรียนไดค้ วาม บา้ งจากบทเรยี นเรอ่ื ง ครู : นักเรยี นจะนาค ไปใช้ให้เปน็ ประโยชน การสอื่ สารในชีวติ ปร อย่างไร ๒. ครรู ่วมกบั นักเรียน บทเรียนโดยครขู ึ้น ส สรปุ บทเรียนหนา้ จอ

อครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจัดการเรยี นรู้ สอ่ื การเรียนรู้ การประเมนิ รู กิจกรรมนักเรียน การเรียนรู้ นาใบงาน ๗. นักเรยี นนาผลงานใบงาน ปตดิ ไปติดบอร์ดหนา้ หอ้ ง และ ฉลยและ ชว่ ยกนั ตรวจสอบ องพรอ้ ม ทาความเขา้ ใจ แก้ไขปรบั ปรงุ ให้สมบูรณ์ งใจทุกคน ๘. นกั เรยี นรวบรวบใบงานสง่ - สอ่ื PPTคาถาม - พิจารณาจาก นเอง ครูตรวจอกี คร้ัง (คนทที่ าไม่ การตอบคาถาม เสร็จให้ไปทาตอ่ เปน็ การบา้ น) ของนกั เรียน มกนั สรปุ ดงั นี้ 1. นักเรียนสนทนาแสดง มรอู้ ะไร ความคิดเห็นและบอกประโยชน์ งคาบพุ บท ของการเรยี นรเู้ รือ่ ง คาบุพบท การวิเคราะห์คุณคา่ และสรปุ น์ใน ข้อคดิ แล้วส่งตัวแทนกลมุ่ ระจาวัน ออกมาบอกกลุ่มละ 1 ข้อ นสรปุ ๒. นกั เรียนร่วมกันสรปุ - สอ่ื PPT สอื่ PPT บทเรียนที่ไดใ้ นวนั นี้ สรปุ บทเรยี น ออีกครง้ั

หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ ๒ เร่ือง สังขท์ อง ตอน กาเนิดพระสงั ข์ 301 8. ส่ือการเรยี นรู้/แหลง่ เรยี นรู้ ๑. ใบความรทู้ ี่ ๑๐ เรอ่ื ง คาบพุ บท ๒. ใบงานที่ ๑๐ เรื่อง คาบพุ บท ๓. สอื่ PPT เรอ่ื ง คาบพุ บท บอกความสมั พนั ธ์ ๔. วีดิทศั น์ เรือ่ งคาบุพบท 9. การประเมนิ ผลรวบยอด ช้ินงานหรือภาระงาน - ใบงานที่ ๑๐ เรือ่ ง เรอ่ื ง คาบุพบท บอกความสัมพนั ธ์ ส่ิงที่ตอ้ งการวดั / ประเมนิ วิธกี าร เครื่องมอื ท่ีใช้ เกณฑ์ ดา้ นความรู้ ความเขา้ ใจ (K) 1. พิจารณาการตอบ 1. คาถาม รอ้ ยละ ๖๐ - บอกชนดิ และหนา้ ท่ขี องคา คาถาม 2. ใบงานที่ ๑๐ ขนึ้ ไป บุพบท 2. ตรวจใบงานท่ี ๑๐ เร่อื ง คาบพุ บท ตอนที่ ๑ เรื่อง คาบพุ บท ตอนท่ี ๑ ด้านทกั ษะและกระบวนการ (P) - แตง่ ประโยคโดยใชค้ าบุพบท - ตรวจใบงานที่ ๑๐ - แบบประเมินใบงานที่ ๑๐ รอ้ ยละ ๖๐ เรื่องคาบุพบท ตอนที่ ๒ เร่อื ง คาบุพบท ตอนท่ี ๒ ขน้ึ ไป ดา้ นคุณลกั ษณะ เจตคติ คา่ นยิ ม (A) - บอกประโยชนข์ องคาบพุ บท - สงั เกตการตอบคาถาม - คาถาม รอ้ ยละ ๖๐ ในการสอื่ สาร ขึน้ ไป คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ - สังเกตพฤติกรรมของ 1. ใฝเ่ รยี นรู้ - แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ ระดบั คณุ ภาพ 2. มงุ่ ม่ันในการทางาน นักเรยี น อนั พงึ ประสงค์ ผา่ น สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดับคณุ ภาพ 2. ความสามารถในการคิด นักเรียน สาคัญของผเู้ รยี น ผา่ น 3. ความสามารถในการใชท้ ักษะ ชีวติ

302 ค่มู อื ครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) เกณฑ์ประเมิน : การทาใบงานท่ี ๑๐ คาบุพบท บอกความสมั พันธ์ ประเด็น ระดบั คุณภาพ การประเมิน 1. บอกชนดิ ๔ (ดีมาก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรุง) และหนา้ ทข่ี อง บอความหมาย คาบพุ บท บอกชนดิ และหนา้ ที่ บอกชนิด และหนา้ ท่ี บอกชนดิ และหนา้ ท่ี ของคาบพุ บท ของคาบพุ บทได้ ของคาบุพบทได้ ของคาบุพบทได้ ได้ถูกตอ้ ง ๕ ข้อ ถกู ตอ้ ง ๘ ขอ้ ถูกต้อง ๗ ข้อ ถูกตอ้ ง ๖ ข้อ แต่งประโยค 2. การแตง่ แต่งประโยค แตง่ ประโยค แต่งประโยค โดยใชค้ าบพุ ประโยคโดยใช้คา โดยใช้คาบุพบทได้ โดยใช้คาบพุ บทได้ โดยใชค้ าบุพบทได้ บทได้ถกู ตอ้ ง บพุ บท ถูกตอ้ ง ๘ ขอ้ ถกู ตอ้ ง ๗ ขอ้ ถูกตอ้ ง ๖ ขอ้ ๕ ข้อ เกณฑก์ ารประเมนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 7-8 ดมี าก 5-6 ดี 3-4 พอใช้ 1-2 ปรับปรงุ เกณฑ์การตดั สิน : ผา่ นเกณฑ์การประเมินรอ้ ยละ ๖๐ ข้นึ ไป (ต้องได้ระดบั พอใชข้ ึ้นไป)

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๒ เรือ่ ง สงั ข์ทอง ตอน กาํ เนดิ พระสังข์ 303 แบบประเมนิ การทาํ ใบงานท่ี ๑๐ คาํ บพุ บท บอกความสมั พนั ธ์ คาํ ชแ้ี จง ให้ครูประเมนิ โดยการเขียนคะแนน ลงในชอ่ งท่ีกําหนดไว้ ใหถ้ ูกตอ้ ง ประเด็นการประเมนิ ลําดับ ชอ่ื - สกลุ การบอก แตง่ คดิ เป็น สรปุ ผล ที่ ชนดิ และ ประโยค รวม ร้อยละ การประเมิน หน้าท่ีของ โดยใช้ คะแนน คาํ บพุ บท คําบพุ บท ๒๐ คะแนน ๒๐ คะแนน (๔๐) (๑๐๐) ผา่ น ไม่ผ่าน ๑ ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรงุ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ รวม (คน) คดิ เปน็ ร้อยละ ผลการประเมนิ  ดมี าก ..........คน คดิ เป็นร้อยละ...............  ดี ..........คน คิดเป็นรอ้ ยละ................  พอใช้ ..........คน คดิ เป็นร้อยละ...............  ปรบั ปรงุ .........คน คดิ เป็นร้อยละ............... สรปุ ผลการประเมนิ รายชน้ั เรยี น  นกั เรยี นผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ จาํ นวน......................... คน คดิ เป็นรอ้ ยละ.........................  นักเรยี นไมผ่ ่านเกณฑก์ ารประเมนิ จาํ นวน......................... คน คดิ เป็นรอ้ ยละ........................ ลงชอื่ .................................................ผปู้ ระเมิน (..............................................) ........../..................../..........

304 คู่มอื ครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) 10. บันทกึ ผลหลังสอน ผลการจดั การเรยี นการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสาเร็จ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปัญหาและอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ้ จากดั การใชแ้ ผนการจัดการเรียนรู้ และข้อเสนอแนะ/แนวทางการปรบั ปรงุ แก้ไข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชือ่ ......................................................ผสู้ อน (.......................................................) วันที่ .......... เดอื น ..................... พ.ศ. ............. 11. ความคดิ เห็น/ข้อเสนอแนะของผู้บริหารหรอื ผู้ที่ได้รับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ ...................................................... ผตู้ รวจ (.......................................................) วันที่ .......... เดอื น ..................... พ.ศ. .............

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๒ เร่อื ง สังขท์ อง ตอน กาเนิดพระสังข์ 305 ใบความรู้ท่ี 10 เรอ่ื ง คาบพุ บท บอกความสัมพนั ธ์ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 เร่ือง สงั ขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสังข์ แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 10 เรอ่ื ง คาบพุ บท บอกความสัมพนั ธ์ รายวิชา ภาษาไทย รหสั วชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๕ ความหมายของคาบพุ บท คาบุพบท หมายถึง คาทใ่ี ช้นาหนา้ คานาม คาสรรพนาม คากรยิ า หรือคาวเิ ศษณ์ ซ่ึงทาหนา้ ที่เชอ่ื มคาหรือกลุ่มคาน้ันใหต้ ่อเนอ่ื งสัมพนั ธก์ ัน ชนดิ ของคาบพุ บท หลักภาษาไทยได้แบ่งคาบพุ บทออกเป็น ๖ ชนิด ดังนี้ ๑. คาบพุ บทบอกสถานที่ ไดแ้ กค่ าวา่ ใต้ บน ริม ชดิ ใกล้ ไกล ที่ นอก ใน เชน่ เส้ือสีขาวอยู่ในตู้เสือ้ ผ้า เขาขายสม้ ตาอยู่ใกล้สถานีตารวจ ๒. คาบพุ บทบอกเวลา ไดแ้ ก่คาวา่ แต่ ตง้ั แต่ ณ เมอ่ื จน จนกระทั่ง เชน่ เขาอา่ นหนงั สือจนดกึ คุณพ่อไปทางานแต่เชา้ ๓. คาบพุ บทบอกความเปน็ เจา้ ของ ไดแ้ กค่ าวา่ แหง่ ของ เช่น เขาทางานอยูว่ ิทยกุ ระจายเสยี งแหง่ ประเทศไทย เงินของฉันหาย ๔. คาบพุ บทบอกที่มาหรอื สาเหตุ ไดแ้ ก่คาว่า แต่ จาก กว่า เหตุ ตง้ั แต่ เช่น คุณแมซ่ ื้อผักมาจากตลาด ชาวนาเดินมาตงั้ แต่ทีน่ าถึงบา้ น ๕. คาบพุ บทบอกฐานะเปน็ ผรู้ บั ได้แกค่ า ว่า เพอื่ ตอ่ แก่ แด่ เฉพาะ สาหรบั เชน่ ฉันทาทกุ อย่างเพ่ือแม่ เขาถวายปจั จยั แดพ่ ระสงฆ์

306 คมู่ ือครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ๖. คาบุพบทบอกฐานะเครอ่ื งใช้ หรือติดตอ่ กนั ได้แก่คาว่า โดย ด้วย อนั ตาม กับ เช่น เขาเดินทางโดยสวัสดภิ าพ เขาทาตามคาสัง่ หน้าทีข่ องคาบพุ บท ๑. นาหน้าคานาม เชน่ นักเรยี นอยใู่ นโรงเรียน = ใน เป็นคาบุพบท นาหน้าคานาม โรงเรียน ๒. นาหน้าคาสรรพนาม เช่น ฉันจะไปกับเธอ = กับ เปน็ คาบพุ บท นาหน้าสรรพนาม เธอ ๓. นาหน้าคากรยิ า เช่น เขาหยุดพกั ทางานเพือ่ นอน = เพื่อ เป็นคาบุพบท นาหนา้ กริยา นอน ๔. นาหน้าคาวิเศษณ์ เชน่ เธอตอ้ งพดู ไปตามจรงิ = ตาม เปน็ คาบุพบท นาหน้าวิเศษณ์ จรงิ ๕. นาหนา้ ประโยค เชน่ ครูลบกระดานเพื่อลอกโจทยข์ ้อใหม่ = เพ่ือเป็นคาบุพบท นาหน้าประโยค ครู ลอกโจทยข์ ้อใหม่ แหลง่ ท่ีมา https://www.phasathiykhrucin.com

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๒ เรอื่ ง สงั ขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสังข์ 307 ใบงานที่ 10 เรอ่ื ง คาบพุ บท บอกความสมั พนั ธ์ หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 2 เร่ือง สังขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสังข์ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 10 เรื่อง คาบุพบท บอกความสัมพนั ธ์ รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๕ ตอนที่ ๑ ให้นักเรียนอ่านประโยคทก่ี าหนดให้ เขียนคาบพุ บท แล้วบอกชนิดและหน้าท่ขี องคาบพุ บท ประโยค คาบพุ บท ชนดิ ของคาบพุ บท หนา้ ที่ของคาบพุ บท ตัวอยา่ ง ดว้ ย บพุ บทบอกฐานะ นาหน้าคานาม คณุ แมซ่ ักผ้าด้วยมือ เครอื่ งใช้ หรือติดต่อกนั ๑. นกั เรยี นมาโรงเรียน แต่เชา้ ๆ หน่อยนะคะ ๒. เขาเปน็ ศิลปนิ แหง่ ชาติ สาขาเพลงพนื้ บา้ น ๓. โตะ๊ ในหอ้ งนจี้ ดั ไว้ สาหรับอภปิ ราย ๔. พวกเราเดนิ มาเรื่อย ๆ ตามทางรถไฟ ๕. ผักในตู้เย็นเน่าเสยี หายไปหลายถุง ๖. พ่อแมท่ างานหนกั เพอ่ื เธอคนเดยี วรบู้ า้ งไหม ๗. โรงเรยี นปิดเม่อื ไหร่ฉัน จะไปเท่ยี วเชียงใหม่กบั พอ่ แม่ ๘. นักเรียนท่ีนงั่ รมิ หนา้ ตา่ ง โปรดยนื ข้นึ ๙. ดอกไมช้ อ่ น้มี อบใหแ้ ด่ เธอผู้ที่ฉนั รกั ทสี่ ุด ๑๐. ทกุ คนตอ้ งรบี กลับบ้าน โดยเรว็ ชื่อ.....................................................นามสกลุ ..................................................ชั้น..............เลขท.่ี ..............

308 คู่มือครูและแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ตอนที่ ๒ ให้นกั เรียนแต่งประโยคโดยใชค้ าบุพบทใหส้ ัมพันธก์ ับรปู ภาพท่ีกาหนดให้ 1. 2. 1. 2. 1. 2.

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี ๒ เรือ่ ง สังขท์ อง ตอน กาเนิดพระสงั ข์ 309 แนวคาตอบใบงานที่ 10 เรอื่ ง คาบพุ บท บอกความสัมพันธ์ หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 2 เรื่อง สังขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสงั ข์ แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 10 เรอื่ ง คาบุพบท บอกความสมั พนั ธ์ รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๕ ตอนท่ี ๑ ใหน้ กั เรียนอา่ นประโยคท่กี าหนดให้ เขยี นคาบพุ บท แลว้ บอกชนดิ และหน้าทข่ี องคาบพุ บท ประโยค คาบพุ บท ชนิดของคาบพุ บท หนา้ ทข่ี องคาบพุ บท ตวั อยา่ ง ด้วย บพุ บทบอกฐานะ นาหน้าคานาม คณุ แมซ่ กั ผ้าด้วยมอื เคร่อื งใช้ หรอื ติดตอ่ กนั แต่ นาหน้าคานาม ๑. นกั เรียนมาโรงเรียน แห่ง บพุ บทบอกเวลา นาหน้าคานาม แตเ่ ช้า ๆ หนอ่ ยนะคะ สาหรบั นาหน้าคากริยา ๒. เขาเป็นศิลปินแหง่ ชาติ ตาม บพุ บทบอกความเป็น นาหน้าคานาม สาขาเพลงพื้นบ้าน ใน เจ้าของ นาหน้าคานาม ๓. โตะ๊ ในหอ้ งนจี้ ัดไว้ เพ่ือ นาหน้าคาสรรพนาม สาหรับอภปิ ราย กับ บุพบทบอกฐานะ นาหน้าคานาม ๔. พวกเราเดนิ มาเรอื่ ย ๆ ริม เป็นผรู้ บั นาหนา้ คานาม ตามทางรถไฟ แด่ นาหน้าคาสรรพนาม ๕. ผกั ในตเู้ ย็นเน่าเสีย โดย บพุ บทบอกทีม่ า นาหนา้ คาวเิ ศษณ์ หายไปหลายถุง หรือสาเหตุ ๖. พอ่ แม่ทางานหนกั เพื่อ เธอคนเดียวรบู้ ้างไหม บพุ บทบอกสถานที่ ๗. โรงเรยี นปดิ เมือ่ ไหร่ฉัน จะไปเทยี่ วเชยี งใหม่กบั พ่อแม่ บุพบทบอกฐานะ ๘. นักเรยี นท่นี ่งั รมิ หน้าต่าง เปน็ ผู้รบั โปรดยืนขนึ้ ๙. ดอกไมช้ อ่ น้มี อบใหแ้ ด่ บอกฐานะเครอื่ งใช้ เธอผ้ทู ฉ่ี นั รักทสี่ ดุ หรอื ติดต่อกัน ๑๐. ทกุ คนตอ้ งรบี กลบั บ้าน โดยเรว็ บพุ บทบอกสถานท่ี บพุ บทบอกฐานะ เป็นผูร้ บั บุพบทบอกฐานะ เครื่องใช้ หรือติดต่อกนั

310 คมู่ ือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ตอนที่ ๒ ใหน้ กั เรียนแตง่ ประโยคโดยใชค้ าบพุ บทให้สัมพนั ธ์กบั รูปภาพที่กาหนดให้ ตัวอยา่ ง 1. นกั เรียนทิ้งกระป๋องลงในถงั ขยะ 2. ถังขยะวางอยู่บนพ้ืนถนน ตัวอยา่ ง 1. พ่อแมแ่ ละลกู อยู่ในหอ้ งรบั ประทานอาหาร 2. เมื่อถงึ ตอนคา่ ทุกคนจะมารบั ประทานอาหารพร้อมกัน ตวั อย่าง 1. น้าใจค้นคว้าหาความรู้จากเวบ็ ไซตอ์ ินเทอร์เนต็ 2. คอมพวิ เตอร์ทางานตามคาสง่ั ของระบบ

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๒ เรอ่ื ง สงั ขท์ อง ตอน กาเนิดพระสงั ข์ 311 แบบประเมินตนเอง ชอ่ื : ___________________ สกุล : _________________วนั ____ เดอื น___________พ.ศ. ____ หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี___๒___เรอื่ ง สงั ข์ทอง ตอน กาเนิดพระสังข์ ๑. ประเมนิ การเรยี นรู้ของตนเอง กาเครื่องหมาย  ในช่องระดับความสามารถของแต่ละกิจกรรมที่นักเรียนคิดว่าทาได้ตามระดับ การประเมนิ เหลา่ น้ี ระดับความสามารถ : ดีมาก ค่อนข้างดี ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ ท่ี รายการ ระดบั ความสามารถ ดีมาก ค่อน ดี พอใช้ ปรับปรงุ ๑ อ่านออกเสียงบทร้อยกรองเป็นทานองเสนาะได้ ๒ จับใจความของเร่อื ง สงั ข์ทอง ตอน กาเนิดพระสงั ข์ ได้ ข้างดี ๓ เขยี นแผนภาพโครงเร่ืองทอ่ี า่ นได้ ๔ วเิ คราะหค์ ุณคา่ และข้อคดิ จากเร่อื ง สังขท์ อง ได้ ๕ ท่องจาบทอาขยานได้ถกู ต้อง 2. สิ่งท่ฉี ันยงั ไมเ่ ขา้ ใจ / ยงั ทาไดไ้ ม่ดี คือ…… (สามารถเขียนได้มากกว่า 1 อย่าง) ……………………………………………............................................................................................... ................................................................................................................................................. ……………………………………………............................................................................................... ................................................................................................................................................. 3. สิ่งท่ฉี ันตั้งใจจะทาให้ดีข้ึนในการเรียนหน่วยต่อไป (สามารถเขยี นได้มากกวา่ 1 อยา่ ง) ……………………………………………............................................................................................... ................................................................................................................................................. ……………………………………………............................................................................................... .................................................................................................................................................

๓๑๒ ค่มู ือครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๓ กระเชา้ สดี า

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๓ เรื่อง กระเชา้ สดี า ๓๑๓ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๓ ช่ือหนว่ ยการเรยี นรู้ กระเชา้ สดี า รหสั วชิ า ท๑๕๑๐๑ รายวชิ าภาษาไทย กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๕ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๑๒ ชั่วโมง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชีวดั สาระท่ี ๑ การอา่ น มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสรา้ งความรู้และความคิดเพ่ือนาไปใช้ตัดสนิ ใจ แกป้ ัญหาในการดาเนิน ชวี ิตและมนี สิ ยั รกั การอ่าน ตัวชีว้ ัด ป.๕/๕ วเิ คราะหแ์ ละแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั เร่อื งที่อ่านเพื่อนาไปใชใ้ นการดาเนนิ ชวี ติ ป.๕/๘ มีมารยาทในการอ่าน สาระที่ ๒ การเขียน มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขยี นเขียนสือ่ สาร เขียนเรยี งความ ย่อความ และเขียนเรอ่ื งราวในรปู แบบ ต่าง ๆ เขยี นรายงานขอ้ มูลสารสนเทศและรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ อย่างมีประสิทธภิ าพ ตัวชว้ี ดั ป.๕/๒ เขยี นสอ่ื สารโดยใช้คาไดถ้ ูกตอ้ งชัดเจน และเหมาะสม ป.๕/๖ เขยี นแสดงความรู้สึกและความคิดเห็นได้ตรงตามเจตนา ป.๕/๙ มมี ารยาทในการเขยี น สาระท่ี ๓ การฟงั การดู และการพดู มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลอื กฟงั และดูอยา่ งมีวจิ ารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคิด และความรู้สึกใน โอกาสตา่ ง ๆ อยา่ งมวี ิจารณญาณและสร้างสรรค์ ตัวชว้ี ัด ป.๕/๑ พดู แสดงความรู้ ความคดิ เห็น และความรู้สึกจากเรื่องท่ีฟงั และดู ป.๕/๒ ตงั้ คาถามและตอบคาถามเชิงเหตุผลจากเร่ืองท่ฟี งั และดู ป.๕/๕ มีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด สาระที่ ๔ หลักการใชภ้ าษาไทย มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษาและพลังของ ภาษา ภมู ปิ ัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบตั ิของชาติ ตัวชีว้ ดั ป.๕/๑ ระบชุ นดิ และหนา้ ท่ีของคาในประโยค ป.๕/๒ จาแนกส่วนประกอบของประโยค สาระท่ี ๕ วรรณคดแี ละวรรณกรรม มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วจิ ารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่าและ นามาประยกุ ต์ใชใ้ นชีวติ จริง

๓๑๔ คมู่ อื ครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ตัวชว้ี ดั ป.๕/๒ ระบคุ วามรแู้ ละขอ้ คิดจากการอ่านวรรณคดีและวรรณกรรมทส่ี ามารถนาไปใช้ในชวี ติ จริง ป.๕/๓ อธบิ ายคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรม ๒. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด 2.1 การอ่านเรอ่ื งกระเชา้ สดี า เป็นการอ่านจบั ใจความสาคัญจากเรอ่ื ง เป็นการอ่านเพอื่ วิเคราะห์ และ แสดงความคิดเห็นจากเรื่องท่ีอ่านได้อย่างมีเหตุมีผล รู้จักพิจารณา และสามารถนาความรู้ ข้อคิดท่ีได้จาก การอ่านไปใช้ประโยชนใ์ นการดาเนนิ ชีวติ ได้ 2.2 การสรุปความรู้ ข้อคิด และคุณค่าของเร่ืองที่อ่าน จากการอ่านวรรณคดีและวรรณกรรม เป็น การอ่านเพ่ือสรุปความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสาระสาคัญของเรื่อง ผู้อ่านต้องรู้จักวเิ คราะห์แนวคิด พรอ้ มทั้ง บอกคณุ ค่า และขอ้ คิด ทไ่ี ดจ้ ากการอ่าน และสามารถนาไปใช้ประยุกตใ์ ชใ้ นชีวติ จริงได้ 2.3 การเขียนแสดงความรู้สึกและความคิดเห็น เป็นการเขียนแสดงอารมณ์ความรู้สึก ความคิดต่อ เรื่องใด เรื่องหน่ึง ผู้เขียนจะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงและเขียนแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผลและ สรา้ งสรรค์ใหช้ ัดเจนและ มมี ารยาทในการเขียน 2.4 การต้ังคาถามและตอบคาถามเชิงเหตุผล เป็นวธิ ีการต้ังประเด็นเพ่ือทราบรายละเอยี ดของเรื่อง ต่าง ๆ การพูดหรือเขียนส่ิงท่ีต้องการรู้จากการอ่าน การฟัง การดู ควรตั้งคาถามท่ีชัดเจน ตรงประเด็น เหมาะสม มีเหตมุ ีผล ทาให้เกิดเจตคติที่ดี สามารถวเิ คราะห์ความน่าเชื่อถือจากขอ้ เท็จจริงและข้อคิดเหน็ ทา ให้ไดค้ วามรหู้ รอื ข้อคิดทน่ี าไปเปน็ ประโยชนไ์ ด้ 2.5 การพูดแสดงความรู้สึกและความคดิ เห็น เปน็ การพูดแสดงความร้สู ึก หรือความคิดเห็นเก่ียวกับ เรื่องใดเรื่องหนึ่งอย่างมีเหตุผล โดยผู้พูดต้องเรียงลาดับเรื่องราว เหตุการณ์ ให้สอดคล้องกับเรื่องท่พี ูด ด้วย การใชภ้ าษาทเี่ ข้าใจงา่ ย กะทดั รดั และมีความหมายชดั เจนสร้างความเข้าใจใหก้ ับผู้ฟงั ได้ 2.6 คาเชื่อม เป็นคาที่ใช้เชื่อมคา วลี ประโยคหรือข้อความให้ต่อเนื่องกัน ต้องเลือกใช้คาให้ถูกต้อง ตามชนดิ และหน้าท่ขี องคา เพ่อื ใหม้ ีความสัมพนั ธก์ ันและสามารถสื่อความหมายไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง 2.7 กลุ่มคาหรือวลี เป็นการนาคาต้ังแต่ ๒ คาข้ึนไปมาเรียงกนั เพอ่ื ใหเ้ กิดความหมายใหม่เพ่ิมขน้ึ จึง ตอ้ งรู้จกั จาแนกและเลือกใช้ได้ถูกต้องเหมาะสม 2.8 ประโยค เป็นการนาคาหรือกลุ่มคามาเรียงต่อกันเพื่อให้ได้ใจความสมบูรณ์ ประกอบด้วยภาค ประธานและภาคแสดง ต้องรู้จกั การวิเคราะห์ จาแนกโครงสรา้ งของประโยคให้ถกู ต้อง จะทาให้การส่ือสารมี ความเขา้ ใจและไดใ้ จความสมบูรณ์ 2.9 ประโยคและส่วนประกอบของประโยค เป็นการนาคามาเรยี บเรียงกันเพื่อให้ได้ใจความสมบรู ณ์ ประกอบด้วยภาคประธานและภาคแสดง ผู้เรียนต้องรู้จักการวิเคราะห์ จาแนกโครงสร้างของประโยคให้ ถกู ต้อง จะทาให้การส่อื สารประโยคเกิดความเขา้ ใจอย่างถกู ตอ้ งสมบรู ณ์ 2.10 เรียงความ เปน็ งานเขียนร้อยแก้วท่ีถ่ายทอดความคดิ ความรสู้ ึกของผเู้ ขยี นออกมาเป็นเรือ่ งราว โดยมรี ปู แบบการเขียนที่ชัดเจน ผเู้ ขยี นต้องรหู้ ลกั การเขียน เลอื กวธิ ีการเรยี บเรยี งคา และประโยคดว้ ยภาษาท่ี สละสลวย และสามารถถ่ายทอดข้อคิดให้กับผอู้ ่นื ได้ ๓. สาระการเรยี นรู้ ความรู้ ๑. บอกหลกั การอา่ นจบั ใจความสาคญั ได้ ๒. บอกหลกั การสรปุ ความรแู้ ละขอ้ คดิ จากเร่ืองที่อา่ นได้

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๓ เรือ่ ง กระเชา้ สดี า ๓๑๕ ๓. บอกหลกั การเขียนแสดงความรสู้ ึกและความคิดเห็นได้ ๔. อธิบายหลกั การตงั้ คาถามและตอบคาถามเชงิ เหตผุ ลได้ ๕. บอกหลกั การพดู แสดงความรู้ ความคิดเห็น และความรสู้ กึ ได้ ๖. บอกความหมาย ลักษณะ และหนา้ ที่ของคาเชอื่ มได้ ๗. บอกความหมายและลักษณะของกลุม่ คาหรอื วลไี ด้ ๘. บอกชนดิ และหน้าของคาได้ ๙. บอกความหมายของประโยคได้ ๑๐. บอกหลกั การเขียนเรยี งความได้ ทกั ษะ/กระบวนการ ๑. จับใจความสาคัญและวเิ คราะห์และแสดงความคดิ เห็นจากเร่อื งทอ่ี ่านได้ ๒. จบั คขู่ อ้ ความกับความคิดสาคัญจากเรอ่ื ง กระเชา้ นางสดี า ได้ ๓. เขยี นสรปุ ความรแู้ ละขอ้ คิดจากการอ่านเรือ่ งกระเช้าสีดาได้ 4. เขียนแสดงความรสู้ กึ และความคิดเห็นได้ 5. ตง้ั คาถามและตอบคาถามเชงิ เหตุผลจากเรื่องทฟี่ งั และดูได้ ๖. พดู แสดงความรู้ ความคิดเหน็ และความรสู้ ึกได้ ๗. จาแนกชนิดของคาเชือ่ มได้ ๘. จาแนกกลมุ่ คาหรอื วลีได้ ๙. แต่งประโยคพื้นฐานโดยใช้คาชนดิ ต่าง ๆ ได้ ๑๐. จาแนกสว่ นประกอบของประโยคได้ ๑๑. แยกองคป์ ระกอบของเรียงความได้ ๑๒. เขียนเรียงความตามหัวข้อทส่ี นใจได้ เจตคติ ๑. นาความรูแ้ ละขอ้ คดิ ทไี่ ดไ้ ปปรบั ใชใ้ นชีวติ ประจาวนั 2. ใฝเ่ รยี นรู้และมีนสิ ยั รกั การอา่ น 3. นาคณุ ค่าและขอ้ คดิ ทีไ่ ดไ้ ปปรับใช้ในชวี ติ ประจาวัน 4. มีมารยาทในการเขียน 5. มมี ารยาทในการฟงั และการดู ๔. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน ๑. ความสามารถในการส่ือสาร ๒. ความสามารถในการคดิ ๓. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ ๕. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ๑. ใฝเ่ รยี นรู้ ๒. มุ่งม่นั ในการทางาน ๖. การประเมินผลรวบยอด ช้ินงานหรอื ภาระงาน ๑. ใบงานท่ี ๑ การอา่ นจับใจความสาคญั

๓๑๖ คู่มอื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ๒. ใบงานท่ี ๒ การอ่านจบั ใจความสาคัญ เรื่อง กระเชา้ สดี า ๓. ใบงานท่ี ๓ การสรปุ ความรู้และข้อคดิ จากเร่อื ง กระเช้าสดี า ๔. ใบงานท่ี 4 การเขยี นแสดงความรสู้ กึ และความคิดเหน็ ๕. ใบงานท่ี ๕ การต้ังคาถามและตอบคาถามเชงิ เหตุผลจากเรอื่ งที่อา่ น ๖. ใบงานท่ี ๖ การพูดแสดงความรู้ ความคิดเหน็ และความรสู้ กึ ๗. ใบงานท่ี ๗ คาเชอื่ ม ๘. ใบงานที่ ๘ กล่มุ คาหรอื วลี ๙. ใบงานท่ี ๙ ประโยคพนื้ ฐาน ๑๐. ใบงานที่ ๑๐ ส่วนประกอบของประโยค ๑๑. ใบงานท่ี ๑๑ เรยี งความ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook