Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 64-08-08--คู่มื่อครู ภาษาไทย ป.5-1

64-08-08--คู่มื่อครู ภาษาไทย ป.5-1

Published by elibraryraja33, 2021-08-08 08:52:07

Description: 64-08-08--คู่มื่อครู ภาษาไทย ป.5-1

Search

Read the Text Version

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๓ เรื่อง กระเชา้ สดี า ๓๑๗ ๗. เกณฑก์ ารประเมนิ ผลช้ินงานหรือภาระงาน เกณฑก์ ารประเมนิ การอ่านจบั ใจความสาคญั ประเด็น ระดบั คุณภาพ การประเมนิ ๔ (ดมี าก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรุง) ตอบคาถามผดิ ๑. การตอบคาถาม ตอบคาถามจากเรอ่ื ง ตอบคาถามผิด ๒ ตอบคาถามผดิ เกนิ กว่า ๔ ข้อ จากเรอ่ื งท่ีอ่านได้ ได้ถูกตอ้ งทุกขอ้ ขอ้ เกนิ ๓ ข้อ ๒. บอกใจความ เนื้อหาสาระ เน้ือหาสาระได้ เนื้อหาสาระ เน้ือหาสาระ สาคญั จากเร่ืองท่ี ถกู ต้องไดใ้ จความ ถกู ตอ้ งแต่วกวนบา้ ง ได้ถูกตอ้ ง แต่วกวน ได้บ้างและวกวน อ่าน ต่อเนอ่ื ง ๓. บอกข้อคดิ ทีไ่ ด้ จากเรื่องท่อี ่าน บอกข้อคดิ ของเรื่อง บอกขอ้ คดิ ของเรื่อง บอกข้อคดิ ของ บอกขอ้ คิดของ ได้ตรงประเดน็ ได้ตรงประเด็น แต่ เรอื่ งไดต้ รง เรอ่ื งไดบ้ า้ งแต่ ๔. แสดงความ และสมบรู ณ์ ไมต่ อ่ เนอื่ งบา้ ง ประเดน็ วกวน คดิ เหน็ จากเรื่องที่ เลก็ นอ้ ย แต่วกวน เสนอความคิดเหน็ อา่ น เสนอความคดิ เหน็ แต่ไมแ่ สดเหตผุ ล เสนอความคิดเห็น เสนอความคดิ เห็น และแสดงเหตุผล ด้วยเหตผุ ลสอด ดว้ ยเหตผุ ลสอด ไม่สอดคลอ้ งกบั คลอ้ งกบั เรอื่ งและ คลอ้ งกบั เรื่องบาง เรอ่ื ง เป็นประโยชน์ ส่วน ๕. มารยาทใน ไมส่ ่งเสียงดัง ไม่สง่ เสียงดังรบกวน สง่ เสียงดงั และเลน่ สง่ เสยี งดงั และ การอา่ น รบกวนผู้อนื่ ไม่เล่น ผ้อู ่ืน ไมเ่ ล่นในขณะ ในขณะอา่ น แตเ่ ก็บ เลน่ ในขณะ ในขณะอ่าน และ อ่าน ไม่เกบ็ หนงั สอื หนงั สือเข้าทเี่ ม่อื อา่ น ไมเ่ กบ็ เก็บหนังสือเขา้ ที่ เข้าท่เี มอ่ื อ่านเสรจ็ อ่านเสรจ็ หนังสือเขา้ ท่ี เมอื่ อา่ นเสรจ็ เม่อื อ่านเสรจ็ เกณฑก์ ารประเมินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ ๑6-๒๐ ดีมาก 11-15 ดี 6-10 พอใช้ 1-5 ปรับปรงุ เกณฑ์การตดั สนิ : ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินร้อยละ ๖๐ ขน้ึ ไป

๓๑๘ คมู่ ือครแู ละแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) เกณฑก์ ารประเมนิ การสรุปความรแู้ ละข้อคิดจากเร่อื งที่อ่าน ประเด็น ๔ (ดีมาก) ระดบั คุณภาพ ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรุง) การประเมิน - อธิบายคุณคา่ ด้านวรรณศิลปไ์ ด้ ๓ (ด)ี ขาด ๒ ขาด ๓ การวเิ คราะห์ - อธบิ ายคุณค่าด้านเนื้อหาสาระได้ องคป์ ระกอบ องค์ประกอบ คุณคา่ และสรปุ - อธบิ ายคุณคา่ คุณคา่ ด้านสงั คม ขาด ๑ ข้อคิดจากเรือ่ งที่ และวฒั นธรรมได้ องค์ประกอบ อ่านไปใช้ในชวี ติ - อธบิ ายการนาความรู้ ข้อคิด และคณุ คา่ ท่ไี ด้รบั จากเรอ่ื ง สงั ข์ ทอง ตอน กาเนดิ พระสงั ขไ์ ปใชใ้ น การดาเนินชวี ติ ได้ หมายเหตุ คา่ นา้ หนกั ๕ คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ เกณฑก์ ารประเมนิ คุณภาพ ๑6-๒๐ ดมี าก 11-15 ดี 6-10 พอใช้ 1-5 ปรับปรงุ เกณฑ์การตดั สิน : ผ่านเกณฑก์ ารประเมินรอ้ ยละ ๖๐ ข้ึนไป

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๓ เรอ่ื ง กระเชา้ สีดา ๓๑๙ เกณฑก์ ารประเมนิ การเขยี นแสดงความรูส้ กึ และความคดิ เหน็ ประเดน็ ระดับคุณภาพ การประเมนิ ๔ (ดมี าก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรุง) ๑. การเขยี น เขยี นไดส้ ัมพนั ธก์ บั เขียนไดส้ ัมพันธ์กบั เขยี นได้สัมพันธ์กบั เขยี นไมส่ มั พันธ์ แสดง ความรสู้ ึก ภาพหรอื หวั ข้อเนื้อหา ภาพหรอื หัวขอ้ เน้ือหา ภาพหรอื หวั ข้อ เนือ้ หา กับภาพหรือหวั ข้อ มีความละเอยี ดชดั เจน มคี วามชดั เจน ยงั ไม่ชัดเจน ใชภ้ าษา แต่เขยี นได้ส้ัน ๆ ใช้ภาษาได้ดเี รยี บเรยี ง มีความละเอยี ดดใี ช้ และเรยี บเรยี งประโยค และตอ้ งมผี แู้ นะนา ประโยคตอ่ เนอื่ ง ภาษาได้ดี เรยี บเรียง ได้ แต่ต้องปรบั ปรงุ ใช้ภาษาผิดพลาด ประโยคดี เล็กนอ้ ย หลายแหง่ ๒. การเขียน เขยี นเนื้อหาได้ เขียนเนือ้ หาได้ เขียนเน้ือหาได้ เขยี นเนื้อหา แสดง สัมพันธ์กบั หวั ข้อ สัมพนั ธ์กบั หัวขอ้ สมั พันธก์ บั หัวข้อ สมั พนั ธ์กบั หัวขอ้ ความคดิ เหน็ แสดงความคิด แสดงความคิดสอด แสดงความคดิ บางสว่ น แสดง สอดคล้องกบั เรื่องใน คลอ้ งกบั เรอื่ งในเชิง สอดคล้องกบั เรอ่ื ง ความคิดไม่ เชงิ บวก และบอกวธิ ี บวก และบอกวิธี บางส่วน ไม่มีวิธีการ สอดคล้องกบั เรอ่ื ง นาไปใชไ้ ดจ้ ริงต่อ นาไปใชไ้ ดจ้ ริงตอ่ นาไปใช้ในชวี ิต และเขยี นสน้ั มาก ตนเองและผอู้ นื่ ตนเอง หมายเหตุ คา่ น้าหนกั ๒ คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ เกณฑ์การประเมนิ คุณภาพ ๑๓-๑๖ ดีมาก เกณฑก์ ารตดั สนิ : ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ๙-๑๒ ดี ๕- ๘ พอใช้ รอ้ ยละ ๖๐ ข้นึ ไป 1-4 ปรบั ปรงุ

๓๒๐ คมู่ อื ครูและแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) เกณฑ์การประเมนิ การต้งั คาถามและตอบคาถามเชงิ เหตุผลจากเรือ่ งทีอ่ า่ น ประเดน็ ระดับคุณภาพ การประเมิน ๔ (ดีมาก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรุง) ตัง้ คาถามและ การต้งั คาถามและ ตง้ั คาถามและตอบ ต้ังคาถามและตอบ ตัง้ คาถามและตอบ ตอบคาถามจาก ขอ้ มูลในเรื่อง ตอบคาถามเชิง คาถามในประเดน็ คาถามในประเด็น คาถามอยา่ งมเี หตุผล เท่านนั้ เหตผุ ลจากเร่ือง ที่น่าสนใจ มเี หตผุ ล ท่ีอ่าน เชื่อมโยงกบั ชวี ิตจริง ท่ีน่าสนใจ แตเ่ ป็นการถามตาม เนอ้ื เรือ่ ง หมายเหตุ ค่านา้ หนัก ๕ คะแนน ๑๑-๑๕ คะแนน หมายถงึ ดี เกณฑ์การประเมิน ๑๖-๒๐ คะแนน หมายถึง ดีมาก ๑-๕ คะแนน หมายถงึ ปรับปรุง ๖-๑๐ คะแนน หมายถงึ พอใช้ ตอ้ งผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ร้อยละ ๖๐ ขนึ้ ไป เกณฑ์การประเมินการการพดู แสดงความรู้ ความคดิ เห็น และความรสู้ ึก ประเด็น ระดับคุณภาพ การประเมิน ๔ (ดีมาก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรงุ ) พดู สมั พนั ธ์ การพดู แสดง พดู ไดส้ ัมพันธ์กับ พดู ได้สมั พันธก์ ับ พดู ไดส้ ัมพนั ธ์ กบั เหตุการณ์ ความรู้ เหตุการณแ์ สดงเหตผุ ล เหตุการณ์แสดง กับเหตกุ ารณ์ แสดงเหตุผล ความคดิ เห็น และ และยกตัวอย่างประกอบ เหตุผลและยกตวั อยา่ ง แสดงเหตผุ ล และยกตวั อยา่ ง ความรูส้ กึ ชัดเจน ใช้ภาษาถูกต้อง ประกอบชัดเจน และยกตัวอย่าง ประกอบบ้าง พดู ฉะฉาน น้าเสยี ง ใชภ้ าษาถูกตอ้ ง ประกอบชัดเจน เล็กนอ้ ย น่าฟงั บคุ ลิกดี พูดฉะฉาน หมายเหตุ คา่ น้าหนัก ๕ คะแนน เกณฑ์การประเมิน ๑๖-๒๐ คะแนน หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ คะแนน หมายถงึ ดี ๖-๑๐ คะแนน หมายถงึ พอใช้ ๑-๕ คะแนน หมายถึง ปรบั ปรุง ตอ้ งผา่ นเกณฑ์การประเมินร้อยละ ๖๐ ข้นึ ไป

หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๓ เรื่อง กระเช้าสดี า ๓๒๑ เกณฑก์ ารประเมนิ คาเช่ือม ประเดน็ ระดบั คุณภาพ การประเมิน ๔ (ดีมาก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรงุ ) 1. บอกความหมาย บอกความหมายของ บอกความหมายของ บอกความหมายของ บอกความหมาย ลักษณะ และ คาเชือ่ มไดถ้ กู ตอ้ ง คาเชือ่ มได้ถกู ต้อง ๓ คาเชอ่ื มได้ถูกต้อง ของคาเชื่อมได้ หน้าท่ีของคาเชอ่ื ม ท้งั หมด คา ๒ คา ถูกตอ้ ง ๑ คา 2. การจาแนก การจาแนกชนิดและ การจาแนกชนิดและ จาแนกชนิดและ จาแนกชนิดและ ชนดิ และหนา้ ที่ หน้าท่ขี องคาเชือ่ มใน หน้าทข่ี องคาเช่อื มใน หน้าท่ีของคาเช่อื มใน หน้าทีข่ องคาเชือ่ ม ของคาเชอื่ มใน ประโยคได้ถกู ต้อง ประโยคได้ถูกต้อง ประโยคได้ถูกต้อง ในประโยคได้ ประโยค ทงั้ หมด ๗-๘ ประโยค 5-๖ ประโยค ถกู ต้อง 1-4 ประโยค เกณฑก์ ารประเมิน ๑๓-๑๖ คะแนน หมายถงึ ดีมาก ๙-๑๒ คะแนน หมายถึง ดี ๕-๘ คะแนน หมายถงึ พอใช้ ๑-๔ คะแนน หมายถงึ ปรับปรุง ตอ้ งผ่านเกณฑ์การประเมนิ รอ้ ยละ ๖๐ ข้นึ ไป

๓๒๒ คู่มอื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) เกณฑก์ ารจาแนกส่วนประกอบของประโยค ประเดน็ ระดับคุณภาพ การประเมิน การจาแนก ๔ (ดีมาก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรุง) ส่วนประกอบ ของประโยค จาแนกสว่ นประกอบ จาแนกสว่ นประกอบ จาแนกส่วนประกอบ จาแนกส่วน ของประโยคได้ ของประโยคได้ ของประโยคไดถ้ ูกต้อง ประกอบของ ถูกต้องทุกประโยค ถูกต้องทุกประโยค บางสว่ น ต้อตรวจสอบ ประโยคได้ อยา่ งแมน่ ยา โดยไม่ สว่ นใหญใ่ ช้เวลา จากเน้ือหาจงึ สามารถ บางส่วน ต้องมี ต้องตรวจสอบ ตรวจสอบเลก็ นอ้ ย จาแนกได้ ผแู้ นะนา หมายเหตุ ค่านา้ หนกั ๕ คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ เกณฑก์ ารประเมนิ คุณภาพ ๑6-๒๐ ดมี าก 11-15 ดี 6-10 พอใช้ 1-5 ปรับปรงุ เกณฑ์การตัดสนิ : ผ่านเกณฑ์การประเมินร้อยละ ๖๐ ขน้ึ ไป

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๓ เรื่อง กระเช้าสดี า ๓๒๓ เกณฑก์ ารประเมนิ การทางานกลุ่ม ประเด็น ๔ (ดีมาก) ระดบั คุณภาพ ๑ (ปรับปรงุ ) การประเมนิ ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ขาด ๓ ขน้ั ตอน ขน้ึ ไป 1. กระบวน 1. มปี ระธาน เลขานุการ ผรู้ ่วม ขาด 1 ขัน้ ตอน ขาด 2 ขั้นตอน การทางาน งาน ผ้นู าเสนอ กล่มุ 2. มกี ารวางแผนงาน มีไม่รับผดิ ชอบ มผี ไู้ มร่ ับผิดชอบ มีผูไ้ มร่ บั ผดิ 1 คน 2 คนขน้ึ ไป ชอบ ๓ คนขึ้น 3. เตรยี มวัสดอุ ุปกรณ์ ไป 4. ปฏิบตั ิตามแผนและพฒั นา งาน 2. ความรบั ผดิ ทุกคนทาหน้าทขี่ องตนเอง อย่าง ชอบต่อหนา้ ท่ี รบั ผดิ ชอบเตม็ ความสามารถ 3. การแสดง สมาชิกทุกคนร่วมแสดงความ สมาชิกส่วนใหญ่ สมาชิกมากกว่า สมาชกิ ไม่ ความคดิ เหน็ คดิ เห็น ร่วมแสดงความ ครึ่งรว่ มแสดง แสดงความ คดิ เหน็ ความคิดเห็น คดิ เหน็ 4. การร่วม ทกุ คนร่วมกจิ กรรมกลมุ่ อยา่ งมี ร้อยละ 80 ของ ร้อยละ 60 ของ รอ้ ยละ ๕๐ งานกลมุ่ อย่าง ความสุข กลุ่มร่วมกจิ กรรม กลุ่มรว่ มกจิ กรรม ของกลมุ่ ร่วม มคี วามสุข กลุม่ อย่างมี กลุ่มอยา่ งมี กิจกรรมกลมุ่ ความสุข ความสุข อย่างมีความสุข 5. ความ ผลงานมคี ุณภาพ ผลงานมคี ุณภาพ ผลงานมคี ุณภาพ ผลงานไม่มี สาเรจ็ ของ และเสรจ็ ตามกาหนดเวลา เสร็จช้ากว่าเวลา เสร็จไมท่ นั ตาม คณุ ภาพ เสร็จ ผลงาน ทกี่ าหนเล็กนอ้ ย กาหนด เวลา ไม่ทนั ตาม กาหนดเวลา รวม ๒๐ เกณฑ์การประเมนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ๑6-๒๐ ดมี าก 11-15 ดี 6-10 พอใช้ 1-5 ปรบั ปรงุ เกณฑก์ ารตดั สิน : ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ รอ้ ยละ ๖๐ ขึน้ ไป

๓๒๔ คู่มือครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) เกณฑ์การประเมนิ ผลการสังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ประเดน็ ระดับคุณภาพ การประเมิน ๔ (ดีมาก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรงุ ) ๑. รว่ มมือใน รว่ มมอื ในการทา ร่วมมือในการทา รว่ มมือในการทา ไม่ร่วมมือใน การทากจิ กรรม กจิ กรรมตลอดเวลา กจิ กรรมบางช่วง กจิ กรรมนอ้ ยมาก การทากจิ กรรม ไม่กลา้ ออกมา ๒. กล้าออกมา กล้าออกมาแสดง กล้าออกมาแสดง กลา้ ออกมาแสดง แสดงความ แสดงความ ความสามารถ ความสามารถเปน็ ความสามารถเปน็ สามารถ สามารถ อยา่ งสมา่ เสมอ สว่ นใหญ่ เป็นบางครง้ั ไมส่ นใจและไม่มี ๓. เขา้ รว่ ม รว่ มกิจกรรมกลุ่ม ร่วมกิจกรรมกล่มุ รว่ มกิจกรรมกลมุ่ ความสขุ ในการ กจิ กรรมด้วย อยา่ งมคี วามสขุ ทกุ อย่างมคี วามสุขเปน็ อยา่ งมีความสขุ เข้าร่วมกจิ กรรม ความสนกุ สนาน ครง้ั สว่ นใหญ่ ค่อนขา้ งน้อย เพลิดเพลนิ เกณฑก์ ารประเมนิ ๗-๙ คะแนน หมายถงึ ดี 10-๑๒ คะแนน หมายถึง ดมี าก ๑-๓ คะแนน หมายถงึ ปรับปรงุ ๔-๖ คะแนน หมายถึง พอใช้ ผา่ น ๑ รายการ ถอื ว่า ไมผ่ า่ น การประเมนิ พฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรม ผ่านตงั้ แต่ ๒ รายการ ถือวา่ ผ่าน

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๓ เรือ่ ง กระเช้าสีดา ๓๒๕ เกณฑก์ ารประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ใฝ่เรยี นรู้ ตัวชี้วัดท่ี ๔.๑ ตั้งใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเข้ารว่ มกจิ กรรมการเรียนรู้ พฤติกรรมบง่ ช้ี ดเี ยย่ี ม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไม่ผ่าน (๐) ๔.๑.๑ ต้ังใจเรียน ต้งั ใจเรียน เอาใจ ตั้งใจเรียน เอาใจ ตง้ั ใจเรยี น เอาใจ ไมต่ ั้งใจเรยี น ๔.๑.๒ เอาใจใส่และมีความ ใส่และมีความ ใส่และมคี วาม ใส่และมคี วาม เพยี รพยายาม เพียรพยายามใน เพยี รพยายามใน เพียรพยายามใน ในการเรียนรู้ การเรยี นรู้ เขา้ ร่วม การเรยี นรู้ เขา้ ร่วม การเรยี นรู้ เข้ารว่ ม ๔.๑.๓ สนใจเขา้ ร่วม กิจกรรม การเรยี น กจิ กรรมการเรียน กจิ กรรมการเรยี น กจิ กรรมการเรียนรู้ รตู้ ่าง ๆ เปน็ ประจา ร้ตู ่าง ๆ บอ่ ยครง้ั รู้ต่าง ๆ บางครั้ง ต่าง ๆ มุ่งมน่ั ในการทางาน ตวั ชี้วัดที่ ๖.๑ ตัง้ ใจและรับผดิ ชอบในการปฏบิ ตั หิ น้าทกี่ ารงาน พฤติกรรมบ่งชี้ ดีเยี่ยม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไมผ่ ่าน (๐) ๖.๑.๑ เอาใจใสต่ อ่ การ ต้ังใจและรบั ผิดชอบ ต้งั ใจและรบั ผิดชอบ ตง้ั ใจและรบั ผดิ ชอบ ไมต่ ัง้ ใจปฏบิ ัติ ปฏบิ ตั ิหนา้ ทที่ ีไ่ ดร้ ับ ในการปฏิบตั ิ ในการปฏิบัติ ในการปฏิบตั ิ หนา้ ทีก่ ารงาน มอบหมาย หน้าท่ีท่ีได้รบั หนา้ ทท่ี ่ไี ดร้ บั หน้าที่ที่ได้รบั ๖.๑.๒ ตง้ั ใจและรบั ผดิ ชอบ มอบหมายให้ มอบหมายให้ มอบหมายให้ ในการทางานให้ สาเรจ็ มี สาเรจ็ มี สาเร็จ สาเรจ็ การปรบั ปรุงและ การปรับปรงุ การ ๖.๑.๓ ปรบั ปรงุ และพฒั นา พฒั นาการทางาน ทางานให้ดีข้ึน การทางานด้วยตนเอง ให้ดีขนึ้ ด้วยตนเอง ตัวช้ีวดั ท่ี ๖.๒ ทางานดว้ ยความเพียรพยายามและอดทนเพือ่ ให้งานสาเร็จตามเปา้ หมาย พฤติกรรมบ่งช้ี ดเี ยี่ยม (๓) ดี (๒) ผา่ น (๑) ไม่ผา่ น (๐) ไม่ขยนั อดทน ๖.๒.๑ ท่มุ เททางาน อดทน ทางานดว้ ยความ ทางานด้วยความ ทางานดว้ ยความ ในการทางาน ไม่ย่อทอ้ ตอ่ ปญั หา ขยนั อดทน ไมย่ อ่ ขยนั อดทน ขยัน พยายามให้ และอปุ สรรคในการ ทอ้ ตอ่ ปญั หา ใน พยายามใหง้ าน งานสาเร็จตาม ทางาน การทางาน พยายาม สาเร็จตามเปา้ หมาย เปา้ หมาย ๖.๒.๒ พยายามแกป้ ญั หา ใหง้ านสาเรจ็ ตาม ชื่นชม ผลงานด้วย และอปุ สรรคใน เปา้ หมาย ชื่นชม ความภาคภมู ใิ จ การทางานใหส้ าเรจ็ ผลงานดว้ ยความ ๖.๒.๓ ชืน่ ชมผลงานด้วย ภาคภูมใิ จ ความภาคภูมใิ จ

๓๒๖ คู่มือครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1 เรอื่ ง การอ่านจับใจความสาคญั จากเรอื่ ง กระเชา้ สีดา (1) หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 เรื่อง กระเช้าสีดา เวลา 1 ชั่วโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย รายวชิ าภาษาไทย ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 5 1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้วี ัด สาระที่ 1 การอา่ น มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนาไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาในการ ดาเนนิ ชวี ิต และมนี ิสัยรกั การอ่าน ตวั ช้วี ัด ป.๕/๕ วิเคราะห์และแสดงความคิดเห็นเก่ยี วกับเรอื่ งทอ่ี า่ นเพอ่ื นาไปใช้ในการดาเนินชวี ิต ๒. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด การอ่านเรื่องกระเช้าสีดา เป็นการอา่ นจับใจความสาคัญจากเรือ่ ง เป็นการอ่านเพ่อื วเิ คราะห์ และแสดง ความคิดเห็นจากเรอ่ื งท่ีอา่ นได้อย่างมเี หตมุ ีผล รู้จักพิจารณา และสามารถนาความรู้ ขอ้ คิดทไ่ี ด้จากการอ่านไป ใช้ประโยชน์ในการดาเนินชวี ติ ได้ ๓. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ ความเข้าใจ (K) บอกหลกั การอา่ นจบั ใจความสาคญั ได้ 3.2 ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) จับใจความสาคัญและวเิ คราะห์และแสดงความคิดเหน็ จากเรอ่ื งทอี่ ่านได้ 3.3 ดา้ นคณุ ลกั ษณะ เจตคติ ค่านิยม (A) นาความรูเ้ กย่ี วกับหลักการอา่ นจบั ใจความสาคญั ไปปรบั ใช้กบั วชิ าอ่ืน ๆ ๔. สาระการเรยี นรู้ การอา่ นจบั ใจความสาคญั เรื่อง กระเชา้ สดี า ๕. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน 5.1 ความสามารถในการส่อื สาร 5.2 ความสามารถในการคิด 5.3 ความสามารถในการใชช้ วี ติ ๖. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 6.1 ใฝ่เรียนรู้ 6.2 มงุ่ ม่นั ในการทางาน 7. กจิ กรรมการเรียนรู้

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๓ เรอ่ื ง กระเชา้ สีดา การจดั กจิ กรรมการเรียนร รายวชิ า ภาษาไทย หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 3 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เร่ือง การอา่ นจับใจความส ลาดบั ขอบเขตเน้ือหา/ ข้ันตอนการจดั เวลา แ ที่ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ที่ใช้ กจิ กรรมคร 1. ขอบเขตเนือ้ หา ขนั้ นา 5 1. ครูนานักเรยี นสน 1. การอา่ นจบั ใจความ นาที เกีย่ วกบั การอา่ นจับใ สาคญั เรอื่ ง กระเชา้ สดี า 2. หลักการอ่าน สาคญั จากนั้นครใู ห จบั ใจความสาคญั อา่ นขา่ วสั้น ๆ ท่ีตัดต จากขา่ วออนไลน์ 2. ครูถามคาถามเพ ความคิด ดงั นี้ ครู : ขอ้ ความที่นกั เร มีชื่อว่าอะไร ครู : ขอ้ ความข้างตน้ ที่กลา่ วถงึ ส่งิ ใดบา้ ง ครู : แนวคิดหลกั ขอ อะไร ครู : นักเรยี นสามาร ขอ้ คดิ ไปใชใ้ นชีวติ ปร อยา่ งไรบา้ ง

๓๒๗ รู้ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 5 3 เรอื่ ง กระเชา้ สีดา จานวน 12 ชวั่ โมง สาคญั จากเรื่อง กระเช้าสีดา (1) จานวน 1 ช่ัวโมง แนวการจัดการเรยี นรู้ สอ่ื การเรียนรู้ การประเมิน รู กิจกรรมนักเรยี น การเรยี นรู้ นทนา 1. นักเรยี นอา่ นข่าวสน้ั ๆ ที่ 1. ขา่ วสน้ั ๆ - สังเกต ใจความ ครตู ดั ตอนมาจากข่าว ทตี่ ัดตอนมาจาก พฤติกรรม ห้นักเรียน ออนไลน์ ขา่ วออนไลน์ การสนทนา ตอนมา การตอบคาถาม ของนกั เรียน พือ่ กระต้นุ 2. นกั เรียนทกุ คนรว่ มกนั 2. คาถามอยู่ใน - สังเกตการตอบ ตอบคาถาม ส่ือ PPT คาถามของ นักเรียน รยี นอ่าน นมเี นื้อหา องเร่ืองคอื รถนา ระจาวัน

๓๒๘ ขอบเขตเนื้อหา/ ขนั้ ตอนการจดั เวลา คมู่ ลําดบั จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรียนรู้ ที่ใช้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ข้นั สอน แ ที่ 1. บอกหลักการอา่ น 20 กิจกรรมคร จับใจความสาํ คญั ได้ นาที 3. ครสู รุปและเชื่อมโ 2. เนือ้ หาในบทเรียน ๑. ครูนํานกั เรยี นสน อธบิ ายเรื่อง การอา่ น จับใจความสําคัญแล จุดมงุ่ หมายในการอา่ จบั ใจความสาํ คัญ ๒. ครูตั้งคําถาม ดงั น ครู : จากการศกึ ษาใบ นกั เรียนคดิ ว่าการอ่าน จับใจความสาํ คญั มี ความสาํ คญั อยา่ งไรบ ครู : นกั เรยี นไดข้ ้อสร เกี่ยวกบั การวิเคราะห แสดงความคดิ เห็นจา อ่านอย่างไร ๓. ครูใหน้ กั เรยี นสรปุ อ่านจับใจความสาํ คญั แผนผังความคดิ ลงใน 1 ตอนท่ี 1

อื ครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรียนรู้ ส่อื การเรียนรู้ การประเมนิ รู กิจกรรมนกั เรยี น การเรยี นรู้ โยงเขา้ สู่ 3. นกั เรยี นเขา้ สู่บทเรยี น นทนาและ ๑. นักเรยี นรว่ มกันสรปุ 1. ใบความรู้ท่ี 1 - สงั เกตการตอบ น หลักการอา่ นจบั ใจความสําคญั การอา่ น คาํ ถามของ ละ และจดุ มุ่งหมายใน จับใจความสาํ คัญ นักเรียน าน การอ่านจบั ใจความสาํ คญั จาก และตอบคําถาม ใบความรทู้ ่ี 1 จากเรื่อง กระเชา้ นี้ ๒. นักเรียนตอบคาํ ถาม เชน่ สีดา บความรู้ นักเรียน : การอ่านจบั าน ใจความสําคญั จะตอ้ งตั้งใจ บา้ ง อา่ นเรือ่ งใหเ้ ขา้ ใจแล้วสรุป รปุ ใจความสําคญั จากเรอ่ื งทอ่ี า่ น หแ์ ละ ากเรือ่ งท่ี ปหลักการ ๓. นกั เรยี นทกุ กลุ่มสรปุ 2. ใบงานท่ี 1 - สงั เกตการตอบ ญเปน็ หลกั การอ่านจบั ใจความ ตอนที่ 1 คาํ ถามและตรวจ นใบงานที่ สําคญั เปน็ แผนภาพความคิด ใบงาน ลงในใบงานท่ี 1 ตอนท่ี 1

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๓ เรอ่ื ง กระเชา้ สดี า ลาดบั ขอบเขตเนอื้ หา/ ข้นั ตอนการจดั เวลา แ ท่ี จดุ ประสงค์การเรียนรู้ การเรยี นรู้ ทีใ่ ช้ กิจกรรมคร ๔. ครใู หน้ ักเรยี นออก นาเสนอผลงาน จาก สรปุ ผลงานรว่ มกัน 3. 2. จับใจความสาคญั ขน้ั ปฏบิ ตั ิ 20 ๕. ครใู หน้ กั เรียนอ่าน และวิเคราะห์และ นาที กระเช้าสดี า จากหน แสดงความคิดเห็นจาก เรื่องท่ีอ่านได้ วรรณคดลี านา ชั้นปร ปที ี่ 5 และตอบคาถ เร่ืองที่อ่านตามใบงา ตอนที่ 2 4. 3. นาความรูเ้ กย่ี วกบั ข้นั สรปุ (ครขู นึ้ กจิ กรรมในสไ หลกั การอ่านจับ นกั เรียนทากิจกรรมใ ใจความสาคัญไปปรบั ท่ี 1 ตอนท่ี 2) ใชก้ บั วชิ าอนื่ ๆ 6. ครเู ฉลยใบงานแล การทากจิ กรรม 5 1. ครูขึน้ สรปุ ความร นาที คาถาม ดงั น้ี ครู : การอา่ นเร่ือง กระเชา้ สีดา ทาใหน้

แนวการจดั การเรียนรู้ ส่อื การเรยี นรู้ ๓๒๙ การประเมนิ รู กจิ กรรมนกั เรยี น การเรียนรู้ กมา ๔. นกั เรียนนาเสนอผลงาน - ประเมิน กนั้น และตรวจสอบความถกู ตอ้ ง การจบั ใจความ สาคัญจากเร่อื ง ร่วมกัน ทอ่ี ่าน - สังเกตการตอบ นเรอ่ื ง ๕. นักเรียนทาใบงานท่ี 1 คาถามของ นงั สอื ตอนที่ 2 โดยอ่านเรื่อง นกั เรยี น ระถมศกึ ษา กระเช้าสีดา แล้วตอบคาถาม ถามจาก จากเร่ืองทอ่ี ่าน โดยอา่ นเรอ่ื ง านที่ 1 กระเช้าสดี าในหนังสือ วรรณคดลี านา ชั้นประถมศึกษา ปที ี่ 5 ไลด์ : (นักเรียนตน้ ทาง/ปลายทาง ใบงานที่ 1 ในใบงาน ทาใบงานที่ 1 ตอนที่ 2 ตอนที่ 2 พร้อมกัน) ละสรุป 6. นกั เรยี นต้นทาง/ปลายทาง รู้ดว้ ย ดเู ฉลยใบงานพรอ้ มกัน และ นกั เรยี น ประเมนิ ความถกู ต้อง 1. นกั เรียนร่วมกันตอบ - สื่อ PPT คาถาม เช่น นกั เรียน : ได้ข้อคดิ เกี่ยวกบั การเป็นเด็กดี มคี วามซอื่ สตั ย์

๓๓๐ คู่มือ ลาดับ ขอบเขตเนือ้ หา/ ขั้นตอนการจดั เวลา แ ที่ จุดประสงค์การเรยี นรู้ การเรียนรู้ ทใี่ ช้ กิจกรรมคร ได้รบั ความรเู้ กยี่ วกับ อะไรบา้ ง ครู : นอกจากขอ้ คิด เร่อื งแล้ว นกั เรยี นสา ความดใี นรูปแบบใด 2. ครูสรปุ ความรเู้ กีย่ หลักการอา่ นจบั ใจค สาคญั 3. ครูแนะนาให้นกั เ อ่านเรื่องกระเช้าสดี

อครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจัดการเรียนรู้ สอ่ื การเรียนรู้ การประเมิน รู กจิ กรรมนักเรยี น การเรยี นรู้ บ ดทีไ่ ด้จาก ามารถทา ดได้บ้าง ยวกับ 2. นกั เรียนรว่ มกนั สรปุ ความ เร่ือง การอ่านจับใจความ สาคญั เรยี นไป 3. นกั เรยี นไปอา่ นเร่ือง ดาเพมิ่ เติม กระเชา้ สดี าเพมิ่ เตมิ

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๓ เรอื่ ง กระเช้าสีดา 331 8. สือ่ การเรยี นร/ู้ แหลง่ เรียนรู้ 1. ข้อความข่าวขนาดสน้ั 2. ใบความรู้ท่ี 1 เรื่อง การอา่ นจบั ใจความสาคัญจากเรอื่ งทอี่ ่าน 3. ใบงานที่ 1 เรอื่ ง การอา่ นจบั ใจความสาคัญและตอบคาถามเรอื่ ง กระเช้าสีดา 4. สือ่ PPT เรื่อง การอ่านจับใจความสาคัญเรื่อง กระเช้าสดี า 9. การประเมินผลรวบยอด ช้ินงานหรือภาระงาน - ใบงานท่ี 1 ตอนที่ 2 เรอ่ื ง การอา่ นจบั ใจความสาคญั และตอบคาถามเรอื่ ง กระเชา้ สดี า ประเด็นการประเมนิ วธิ ีการ เคร่ืองมอื ที่ใช้ เกณฑ์ประเมิน 1. คาถาม ร้อยละ ๖๐ ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) 2. ใบงาน ขนึ้ ไป - บอกหลกั การอ่านจับใจความ 1. พิจารณาการตอบ สาคญั คาถามของนกั เรยี น 2. ประเมินใบงาน ด้านทกั ษะและกระบวนการ (P) - ตรวจใบงานท่ี 1 - แบบประเมนิ การอ่าน ร้อยละ ๖๐ - จบั ใจความสาคญั และ จับใจความสาคญั เร่อื ง ขึ้นไป วิเคราะหแ์ ละแสดงความคดิ เห็น ตอนท่ี 2 กระเชา้ สดี า จากเรอื่ งท่ีอ่าน ดา้ นคุณลักษณะ เจตคติ คา่ นิยม (A) - นาความรเู้ ก่ียวกับหลักการ - สังเกตพฤตกิ รรมของ - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ร้อยละ ๖๐ อ่านจับใจความสาคัญไปปรบั ใช้ นักเรียน ของนักเรยี น ข้ึนไป กบั วชิ าอื่น ๆ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ - สงั เกตพฤติกรรมของ ระดับคณุ ภาพ 1. ใฝ่เรยี นรู้ - แบบประเมิน ผ่าน 2. มงุ่ มน่ั ในการทางาน นักเรยี น คณุ ลกั ษณะ อันพึงประสงค์ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน - แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดับคุณภาพ 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร - สงั เกตพฤตกิ รรมของ สาคญั ของผ้เู รียน ผ่าน 2. ความสามารถในการคิด นกั เรียน

332 ค่มู ือครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) เกณฑ์ประเมนิ : การอ่านจบั ใจความสาคัญเรือ่ ง กระเช้าสดี า ประเด็น ระดบั คุณภาพ การประเมิน ๑. การตอบคาถาม ๔ (ดีมาก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรุง) จากเรอ่ื งทอ่ี ่านได้ ตอบคาถามจาก ตอบคาถามผดิ ๒ ตอบคาถามผดิ ตอบคาถามผดิ ๒. บอกใจความ สาคญั จากเร่ืองที่ เรือ่ งไดถ้ กู ต้องทกุ ข้อ เกิน ๓ ขอ้ เกนิ กว่า ๔ ขอ้ อ่าน ๓. บอกขอ้ คดิ ทไ่ี ด้ ขอ้ จากเร่ืองทอ่ี า่ น เนือ้ หาสาระ เนอื้ หาสาระได้ เน้อื หาสาระได้ เนอ้ื หาสาระไดบ้ ้าง ๔. แสดงความ คิดเหน็ จากเร่อื งที่ ถกู ต้องไดใ้ จความ ถูกต้องแต่วกวนบ้าง ถูกตอ้ ง แต่วกวน และวกวน อ่าน ตอ่ เน่อื ง 5. วเิ คราะห์และ แสดงความคดิ เห็น บอกข้อคิดของ บอกข้อคิดของเร่อื ง บอกขอ้ คดิ ของ บอกขอ้ คิดของ จากเร่ืองที่อ่าน เรอ่ื งได้ตรงประเด็น ไดต้ รงประเดน็ แต่ เรื่องได้ตรงประเด็น เรื่องได้บา้ งแต่ และสมบรู ณ์ ไม่ตอ่ เน่ืองบา้ ง แต่วกวน วกวน เลก็ นอ้ ย เสนอความคิดเห็น เสนอความคดิ เห็น เสนอความคิดเห็น เสนอความคดิ เหน็ ด้วยเหตุผลสอด ดว้ ยเหตุผลสอด และแสดงเหตผุ ล แต่ไมแ่ สดงเหตผุ ล คล้องกบั เรอ่ื งและ คลอ้ งกบั เรอื่ ง ไม่สอดคลอ้ งกบั เปน็ ประโยชน์ บางส่วน เร่ือง วิเคราะห์และ วิเคราะห์และแสดง วิเคราะหแ์ ละแสดง วเิ คราะหแ์ ละแสดง แสดงความคดิ เห็น ความคดิ เหน็ จาก ความคิดเหน็ จาก ความคิดเหน็ จาก จากเรอื่ งทอี่ า่ นได้ เร่อื งทอ่ี า่ นไดเ้ ปน็ เรื่องทอี่ ่านไดบ้ า้ ง เรื่องทีอ่ า่ นไม่ได้ ครบทกุ ประเด็น ส่วนใหญ่ เล็กนอ้ ย เกณฑ์การประเมินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ 16-20 ดีมาก 11-15 ดี 6-10 พอใช้ 1-5 ปรับปรงุ เกณฑ์การตัดสิน : ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ร้อยละ ๖๐ ขนึ้ ไป (ตอ้ งไดร้ ะดบั พอใชข้ ึ้นไป)

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๓ เรอื่ ง กระเชา้ สดี า 333 แบบประเมนิ การจบั ใจความสําคญั จากเรอ่ื ง กระเชา้ สดี า คําชแ้ี จง ให้ครูเขยี นคะแนนการจับใจความจากเรอ่ื งทีอ่ ่าน ลงในช่องประเด็นการประเมนิ ตามทก่ี ําหนดไว้ การตอบคําถามจากเร่ือง สรปุ (๔ คะแนน) ลาํ ดบั ชอ่ื -สกลุ การจับใจความ รวม คดิ เป็น ผ่าน ไมผ่ า่ น ที่ (๔ คะแนน) คะแนน ร้อยละ การบอก ้ขอคิด (๒๐) (๔ คะแนน) การแสดงความคิดเห็น (๔ คะแนน) มารยาทในการ ่อาน (๔ คะแนน) 1 ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรงุ 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 รวม (คน) คดิ เปน็ รอ้ ยละ ผลการประเมนิ  ดมี าก ..........คน คิดเป็นร้อยละ...............  ดี ..........คน คิดเปน็ ร้อยละ................  พอใช้ ..........คน คดิ เป็นรอ้ ยละ................  ปรับปรุง .........คน คิดเปน็ ร้อยละ............... สรปุ ผลการประเมนิ รายชน้ั เรยี น  นกั เรยี นผา่ นเกณฑ์การประเมนิ จาํ นวน......................... คน คดิ เป็นร้อยละ.........................  นักเรยี นไม่ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ จํานวน......................... คน คดิ เป็นรอ้ ยละ........................ ลงช่อื .................................................ผปู้ ระเมนิ (..............................................) ........../..................../..........

334 คูม่ อื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) 10. บนั ทกึ ผลหลังสอน ผลการจัดการเรยี นการสอน ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................................................................................. ............................ ............................................................................................................................. ................................................. ความสาเรจ็ .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ปญั หาและอปุ สรรค ............................................................................................................................................................ .................. ................................................................................................................ .............................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ข้อจากดั การใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรู้ และข้อเสนอแนะ/แนวทางการปรบั ปรงุ แกไ้ ข ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................................................................. ............................................ .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ......................................................ผสู้ อน (.......................................................) วันท่ี .......... เดอื น ..................... พ.ศ. ............. 11. ความคดิ เห็น/ข้อเสนอแนะของผู้บรหิ ารหรือผู้ทไ่ี ด้รับมอบหมาย ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชือ่ ...................................................... ผูต้ รวจ (.......................................................) วนั ท่ี .......... เดอื น ..................... พ.ศ. .............

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี ๓ เรือ่ ง กระเชา้ สดี า 335 ใบความรู้ที่ 1 เรอื่ ง การอา่ นจบั ใจความสาคญั จากเรือ่ งทอี่ า่ น หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3 เรอ่ื ง กระเชา้ สดี า แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 1 เร่อื ง การอ่านจบั ใจความสาคญั จากเร่อื งท่ีอา่ น รายวิชา ภาษาไทย รหสั วิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๕ ความหมายของการอ่านจบั ใจความสาคัญ การอ่านจับใจความสาคัญ คือ การอ่านเพอ่ื จับใจความหรอื ข้อคดิ ความคิดสาคัญหลักของ ข้อความหรอื เร่อื งทีอ่ ่าน เป็นข้อความที่คลมุ ขอ้ ความอืน่ ๆ ในยอ่ หนา้ หนึ่ง ๆ ไว้ท้ังหมด ใจความสาคัญ หมายถึง ใจความท่ีสาคัญและเด่นที่สุดในย่อหน้า เป็นแก่นของย่อหน้า ครอบคลุมเน้ือความในย่อหน้านั้น หรือเป็นประโยคที่เป็นหัวเรื่องของย่อหน้านั้น เป็นใจความหรือ ประโยคเดีย่ ว ๆ โดยไม่ต้องมีประโยคอื่นประกอบ ในแต่ละย่อหน้าจะมีประโยคใจความสาคัญเพียง ประโยคเดียว หรอื อย่างมากไมเ่ กิน 2 ประโยค ใจความรอง หรือพลความ (พน-ละ-ความ) หมายถึง ใจความหรือประโยคที่ขยายความ ประโยคใจความสาคัญ เป็นความสนับสนุนใจความสาคัญให้ชัดเจนขึ้น อาจเป็นการอธิบายให้ รายละเอยี ด ใหค้ าจากดั ความ ยกตวั อย่าง เปรียบเทียบ หรือแสดงเหตุผล เพ่อื สนบั สนุนความคดิ สว่ นทีม่ ใิ ชใ่ จความสาคญั และมิใชใ่ จความรอง แตช่ ว่ ยขยายความใหม้ ากขน้ึ คือ รายละเอยี ด หลักพื้นฐานการจับใจความสาคญั ๑. ตั้งจุดม่งุ หมายในการอา่ นให้ชัดเจน ๒. อา่ นเร่อื งราวอยา่ งคร่าว ๆ พอเขา้ ใจ และเก็บใจความสาคญั ของแตล่ ะยอ่ หนา้ ๓. เมือ่ อ่านจบให้ตง้ั คาถามตนเองว่า เรอื่ งท่อี ่าน มีใคร ทาอะไร ทไี่ หน เมอื่ ไหร่ อย่างไร ๔. นาส่ิงท่ีสรุปได้มาเรียบเรียงใจความสาคัญใหม่ด้วยสานวนของตนเอง เพ่ือให้เกิด ความสละสลวย วธิ จี บั ใจความสาคญั วธิ กี ารจับใจความสาคญั มีหลายอยา่ ง เช่น การขีดเส้นใต้ การใชส้ ีตา่ ง ๆ กนั แสดงความสาคัญ มากน้อยของขอ้ ความ การบนั ทึกยอ่ เปน็ สว่ นหน่ึงของการอา่ นจบั ใจความสาคัญทด่ี ี มีหลกั จบั ใจความ สาคญั ดังน้ี ๑. พจิ ารณาทลี ะย่อหนา้ หาประโยคใจความสาคญั ของแต่ละยอ่ หน้า ๒. ตัดส่วนทเี่ ปน็ รายละเอยี ดออกได้ เชน่ ตัวอยา่ ง สานวนโวหาร อปุ มาอปุ ไมย (การเปรยี บเทยี บ) ตวั เลข สถติ ิ ตลอดจนคาถามหรอื คาพูดของผ้เู ขยี นซง่ึ เปน็ สว่ นขยายใจความสาคัญ ๓. สรุปใจความสาคัญดว้ ยสานวนภาษาของตนเอง ท่มี าของข้อมลู : เรียบเรยี งมาจาก https://sites.google.com/site/technicalreadingyvc2016

336 คู่มือครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ใบงานที่ 1 เร่ือง การอา่ นจับใจความสาคญั เรอื่ ง กระเช้าสดี า หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 3 เรื่อง กระเช้าสีดา แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 1 เรอ่ื ง การอ่านจับใจความสาคญั จากเรอ่ื งทีอ่ า่ น รายวชิ า ภาษาไทย รหัสวชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๕ ตอนที่ ๑ ใหน้ ักเรียนสรุปหลกั พื้นฐานในการจบั ใจความสาคัญ เป็นแผนผงั ความคดิ ตอนที่ 2 ใหน้ กั เรยี นอา่ นเรอื่ ง กระเช้าสีดา ในหนงั สอื วรรณคดลี านา ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 5 แลว้ ตอบคาถาม ดงั น้ี 1. เร่ือง กระเชา้ สีดา แต่งด้วยคาประพนั ธ์ประเภทใด.......................................................................................... 2. กระเช้าสีดามีลกั ษณะเนือ้ หาอย่างไร............................................................................................................... 3. ขอ้ คดิ ทไี่ ด้จากเรอื่ ง กระเช้าสดี าคืออะไร......................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…… 4. นกั เรียนสามารถนาขอ้ คดิ ท่ีไดไ้ ปปรบั ใชใ้ นชวี ิตประจาวันได้หรอื ไม่ เพราะอะไร จงยกตัวอย่างมา 2 ขอ้ .........................เพราะ.......................................................................................................................................... เชน่ ....................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ....................................... .................................................................................................................................................................................. ช่ือ........................................................นามสกลุ .............................................ช้ัน.................เลขท.ี่ ...........

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๓ เร่ือง กระเชา้ สดี า 337 แนวคําตอบใบงานท่ี 1 เรอื่ ง การอ่านจบั ใจความสําคัญเรือ่ ง กระเช้าสดี า หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 เรอ่ื ง กระเชา้ สดี า แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1 เร่อื ง การอา่ นจับใจความสําคญั จากเร่ืองทอ่ี า่ น รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ ตอนท่ี ๑ ใหน้ กั เรยี นสรุปหลักพ้ืนฐานในการจบั ใจความสาํ คัญ เป็นแผนผังความคิด 1. ตง้ั จดุ มุ่งหมาย 2. อ่านเร่อื งราวอยา่ งครา่ ว ๆ ในการอา่ นใหช้ ัดเจน พอเขา้ ใจ และเก็บใจความ สําคญั ของแตล่ ะยอ่ หนา้ หลกั พนื้ ฐาน การจบั ใจความสําคญั 4. นาํ ส่งิ ท่สี รปุ ได้มาเรียบเรียง 3. เมอ่ื อ่านจบใหต้ ั้งคาํ ถามตนเอง ใจความสําคญั ใหม่ดว้ ยสาํ นวน วา่ เร่อื งทอ่ี า่ น มใี คร ของตนเองเพ่ือให้เกดิ ความ ทาํ อะไร ท่ไี หน เม่ือไหร่ อยา่ งไร ตอนที่ 2 ใหน้ ักเรียนอ่านเรื่อง กระเชา้ สีดา ในหนังสอื วรรณคดลี าํ นํา ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 5 แล้วตอบคาํ ถาม ดังน้ี 1. เรอื่ ง กระเชา้ สดี า แต่งดว้ ยคาํ ประพันธ์ประเภทใด..........................ร้อยแกว้ ...................................................... 2. กระเช้าสีดามีลกั ษณะเนื้อหาอยา่ งไร......เป็นนิทานท่ีแฝงแนวคิดทมี่ คี ณุ ค่า และใหต้ วั อย่างอันเปน็ ประโยชนใ์ น การปฏิบัตติ นเปน็ คนดี มีนาํ้ ใจ ซอ่ื สตั ยส์ ุจรติ ……………………………………………….……………………………………………. 3. ข้อคิดท่ีได้จากเร่ือง กระเช้าสีดาคืออะไร........การประพฤติตนเป็นคนดี มีน้ําใจเอื้อเฟ้ือเผื่อแผ่ ซ่ือสัตย์สุจริต เกรงใจผู้อืน่ มรี ะเบียบวินัย เป็นเดก็ ดขี องสังคมก็จะสมหวังในสิง่ ทีป่ รารถนา 4. นกั เรียนสามารถนาํ ข้อคดิ ทีไ่ ด้ไปปรบั ใช้ในชวี ติ ประจาํ วันได้หรอื ไม่ เพราะอะไร จงยกตวั อย่างมา 2-3 ขอ้ ..........ได้...............เพราะ.....ข้อคิดจากเรอ่ื งกระเช้าสีดา เป็นคุณธรรมใกลต้ ัวนกั เรียน สามารถนาํ ไปปรับใช้ไดจ้ รงิ เช่น 1. มีน้ําใจตอ่ เพ่ือน ๆ ในหอ้ งเรยี น เช่น แบ่งปนั ขนม และใหเ้ พือ่ นยืมเครือ่ งเขยี น 2. ซ่อื สตั ย์สจุ รติ โดยการไมโ่ กหก ไมค่ ดโกงต่าง ๆ เชน่ เลน่ ตามกติกา 3. เกรงใจผู้อ่นื เชน่ ไมส่ ง่ เสียงดงั รบกวนผอู้ ่ืนขณะเรยี นหรอื ทํากิจกรรม 4. มรี ะเบียบวนิ ยั ในตนเอง และทาํ ตามกฎระเบยี บของโรงเรยี น

๓๓๘ คู่มอื ครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 2 เรอ่ื ง การอ่านจับใจความสาคญั จากเรื่อง กระเชา้ สีดา (2) หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 เรือ่ ง กระเชา้ สดี า เวลา 1 ชั่วโมง กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย รายวชิ าภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวช้ีวดั สาระที่ 1 การอา่ น มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสร้างความรู้และความคิดเพอื่ นาไปใช้ตัดสนิ ใจ แก้ปญั หาในการดาเนิน ชวี ิต และมีนสิ ยั รักการอ่าน ตัวชวี้ ดั ป.๕/๕ วเิ คราะห์และแสดงความคดิ เหน็ เกีย่ วกบั เรือ่ งท่ีอา่ นเพอ่ื นาไปใชใ้ นการดาเนินชวี ติ ๒. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด การอ่านเร่ืองกระเช้าสีดา เป็นการอ่านจับใจความสาคัญจากเร่ือง โดยวิเคราะห์ และแสดงความ คดิ เหน็ จากเรื่องทอ่ี ่านได้ ทาใหเ้ รามีเหตผุ ล รจู้ กั พิจารณานาความรแู้ ละขอ้ คิดท่ีไดจ้ ากการอ่านไปใชป้ ระโยชน์ ในการดาเนินชีวติ ได้ ๓. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 3.1 ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) บอกหลักการอ่านจบั ใจความสาคัญได้ 3.2 ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) จับคู่ข้อความกับความคดิ สาคญั ได้ 3.3 ด้านคุณลกั ษณะ เจตคติ ค่านิยม (A) มนี สิ ัยรักการอ่าน ๔. สาระการเรียนรู้ การอ่านจับใจความสาคญั เรือ่ ง กระเช้าสีดา ๕. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น 5.1 ความสามารถในการส่ือสาร 5.2 ความสามารถในการคิด 5.3 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ ๖. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 6.1 ใฝเ่ รยี นรู้ 6.2 มงุ่ ม่ันในการทางาน 7. กิจกรรมการเรยี นรู้

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๓ เรอ่ื ง กระเช้าสีดา การจัดกจิ กรรมการเรียนร รายวชิ า ภาษาไทย หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 2 เรื่อง การอา่ นจับใจความส ลาดบั ขอบเขตเนื้อหา/ ขนั้ ตอนการจัด เวลา แ ท่ี จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ท่ีใช้ กจิ กรรมคร 1. ขอบเขตเนอ้ื หา ขนั้ นา 5 1. ครูทบทวนการอ่า 1. การอา่ นจบั ใจความ นาที ใจความสาคญั ด้วยบท สาคัญเร่ือง กระเชา้ สดี า ของเปรีย้ วกบั หวาน 2. การจบั คปู่ ระโยค เปร้ียว : หวาน เมื่อวา หรอื ข้อความทส่ี มั พนั ธ์ เรอื่ งอะไรเหรอ พอด กบั ความคิดสาคัญของ หวาน : ขอนกึ กอ่ นส เรอ่ื งท่อี า่ น ออ๋ ! นกึ ออกแลว้ เม สอนเร่ือง การอา่ นจ ใจความสาคัญ เปร้ียว : แลว้ การอา่ ใจความสาคัญคืออะ หวาน : เราขอโทษ 2. ครูถามคาถาม ดัง ครู : มีนกั เรียนคนใด หวานอธบิ ายเปรยี้ วไ

๓๓๙ รู้ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 5 3 เรื่อง กระเชา้ สีดา จานวน 12 ช่ัวโมง สาคญั จากเร่อื ง กระเช้าสดี า (2) จานวน 1 ชวั่ โมง แนวการจัดการเรียนรู้ สื่อการเรยี นรู้ การประเมิน การเรียนรู้ รู กจิ กรรมนักเรยี น านจบั 1. นักเรียนตัวแทน 2 คน - บทสนทนา 1 ทสนทนา อ่านบทสนทนาดว้ ยนา้ เสียงท่ี ตอน ดงั นี้ สัมพันธก์ บั เน้ือหา านครสู อน ดเี ราปว่ ย สกั คร่นู ะ มอื่ วานครู จบั านจบั ะไรหรอ เราลืม !! งนี้ 2. นกั เรียนที่ยกมือเปน็ - คาถามอยใู่ นสื่อ - ประเมิน ด จะชว่ ย ตัวแทนยนื อธบิ ายการอา่ น PPT การตอบคาถาม ไดห้ รอื ไม่ จบั ใจความสาคญั ใหเ้ ปร้ยี ว และใบงาน และเพอื่ น ๆ (ประเมินดา้ น K)

๓๔๐ คมู่ ือ ลาดบั ขอบเขตเนื้อหา/ ขัน้ ตอนการจัด เวลา แ ท่ี จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรยี นรู้ ทใ่ี ช้ กจิ กรรมคร เกย่ี วกับการอา่ นจับใ สาคญั 3. ครูพูดแสดงความ สรปุ ทา้ ยและเชอ่ื มโย เนอ้ื หาในบทเรียน 2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ข้นั สอน 25 1. ครูถามคาถามเข้า 1. บอกหลกั การอ่าน ประเดน็ สาคญั ของก จับใจความสาคัญได้ นาที วนั น้ี ครู : ชัว่ โมงท่ีแล้ว เร เร่ืองใด ครู : เร่ือง กระเชา้ ส ลกั ษณะเน้อื หาอยา่ ง 2. จากนั้น ครูลอง ยกตัวอย่างขอ้ ความใ นักเรียนอ่าน แลว้ จบั ข้อความให้สมั พนั ธก์ ตวั เลอื ก ดงั นี้

อครูและแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจัดการเรียนรู้ สื่อการเรยี นรู้ การประเมิน รู กจิ กรรมนักเรยี น การเรียนรู้ ใจความ มคดิ เห็น 3. นกั เรียนเขา้ สบู่ ทเรียน ยงเข้าสู่ าสู่ 1. นักเรียนตอบคาถาม - คาถามอยใู่ นส่อื - สังเกตการตอบ การเรยี น PPT คาถาม ราอ่าน นกั เรยี น : เรียนเรอ่ื ง สดี า มี กระเช้าสีดา งไรบา้ ง นกั เรยี น : แฝงขอ้ คิด คุณคา่ แกผ่ ู้อ่าน เนอ้ื หาสนกุ สนาน ให้ เพลดิ เพลนิ บคู่ กบั 2. นกั เรยี นอ่านขอ้ ความท่ี กาหนดให้ แล้วจบั คู่ให้ ถกู ต้อง

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๓ เรื่อง กระเชา้ สดี า ลาดับ ขอบเขตเน้ือหา/ ขน้ั ตอนการจดั เวลา แ ที่ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรียนรู้ ทีใ่ ช้ กจิ กรรมคร “ขนั ทองอยากไดก้ เล่นบา้ ง แตไ่ ม่กล้าห ก. ความเกรงใจ ข. ความรบั ผิดชอบ 3. ครูอธบิ ายเพม่ิ เตมิ - การอา่ นจับใจความ - หลักการจบั คปู่ ระโ ข้อความทส่ี ัมพันธ์กบั ความคิดสาคญั ของเ อ่าน 3. 2. จับคูข่ ้อความกับ ข้นั ปฏบิ ัติ 15 4. ครูใหน้ ักเรยี นทาใ ความคดิ สาคญั ได้ นาที 3. มีนิสยั รกั การอ่าน (ครขู ้ึนกิจกรรม : จับ หรอื ข้อความใหส้ มั พ ตัว เลือกทกี่ าหนดให งานท่ี 2) ในจอสไลด 5. ครูเฉลยใบงานแล การทากจิ กรรม

แนวการจัดการเรียนรู้ ๓๔๑ รู กิจกรรมนกั เรยี น กระเชา้ ไป สอ่ื การเรียนรู้ การประเมนิ หยิบฉวย” การเรียนรู้ ม ดงั น้ี 3. นักเรียนร่วมกันอภปิ ราย - สอื่ PPT - ประเมนิ มสาคัญ รว่ มกนั กบั ครผู ู้สอน ดังน้ี - ใบงานที่ 2 การจับคู่ข้อความ โยคหรอื - การอ่านจบั ใจความสาคญั กับความคดิ บ - หลกั การจับคปู่ ระโยคหรอื สาคญั เร่ืองท่ี ข้อความทส่ี มั พนั ธก์ บั - สังเกต พฤตกิ รรม ความคิดสาคัญของเร่อื งที่ อ่าน ใบงานท่ี 2 4. นกั เรียนทาใบงานท่ี 2 บคปู่ ระโยค (นักเรยี นต้นทาง/ปลายทาง พันธ์กบั ทาใบงานที่ 2 พรอ้ มกัน) ห้ ในใบ ด์ ละสรปุ 5. นกั เรียนตน้ ทาง/ปลายทาง ดูเฉลยใบงานพรอ้ มกัน และ ประเมนิ ความถกู ตอ้ ง

๓๔๒ ค่มู ือ ลาดบั ขอบเขตเนื้อหา/ ขัน้ ตอนการจัด เวลา แ ที่ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ การเรยี นรู้ ท่ีใช้ กจิ กรรมคร 4. ขน้ั สรุป 5 1. ครูข้ึนสรปุ ความร นาที คาถาม ดังนี้ - ครู : การจบั คูป่ ระโ ข้อความให้สมั พันธ์ก ประโยชน์อย่างไร 2. ครูสรปุ ความรเู้ กย่ี การอ่านจบั ใจความส และการจับค่คู วามส

อครแู ละแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจัดการเรียนรู้ สอื่ การเรยี นรู้ การประเมิน รู กิจกรรมนกั เรยี น - สื่อ PPT การเรยี นรู้ รู้ด้วย 1. นกั เรียนร่วมกันตอบ สรปุ ความรู้ คาถาม โยคหรอื - นกั เรยี น : มปี ระโยชนค์ อื กัน มี ทาใหเ้ ราเข้าใจความคิด สาคัญของเร่อื งทอ่ี ่าน สามารถเชอ่ื มโยง ความสัมพันธ์กบั ประโยค หรือขอ้ ความได้ ยวกับ 2. นกั เรยี นสรปุ ความรู้ สาคญั เกีย่ วกับการอา่ นจับใจความ สัมพนั ธ์ สาคญั และการจบั คู่ ความสัมพนั ธ์

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๓ เรอ่ื ง กระเช้าสดี า 343 8. สอ่ื การเรยี นร/ู้ แหลง่ เรียนรู้ 1. บทสนทนา 2. ใบความรู้ท่ี 2 เรอ่ื ง การอ่านจบั ใจความสาคญั จากเรอ่ื งทอ่ี า่ น 3. ใบงานที่ 2 เรื่อง การจับคู่ขอ้ ความใหส้ ัมพนั ธ์กบั ความคดิ สาคญั ของเร่ืองท่อี า่ น 4. สอ่ื PPT เรือ่ ง การอา่ นจบั ใจความสาคัญเร่อื ง กระเชา้ สดี า (2) 9. การประเมนิ ผลรวบยอด ชิ้นงานหรอื ภาระงาน - ใบงานที่ 2 เรื่อง การจบั ค่ขู อ้ ความใหส้ ัมพันธ์กับความคิดสาคัญของเรื่องท่ีอา่ น สง่ิ ทีต่ อ้ งการวดั / ประเมิน วิธกี าร เครื่องมอื ทใ่ี ช้ เกณฑ์ ด้านความรู้ ความเขา้ ใจ (K) - ประเมนิ การตอบคาถาม - คาถาม รอ้ ยละ ๖๐ - บอกหลกั การอา่ นจบั ใจความ - ประเมินใบงาน - ใบงาน ข้ึนไป สาคญั ร้อยละ ๖๐ ด้านทกั ษะและกระบวนการ (P) - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบประเมนิ ขน้ึ ไป - จบั คู่ขอ้ ความกับความคดิ สาคัญ ร้อยละ ๖๐ ขึน้ ไป ด้านคุณลักษณะ เจตคติ คา่ นิยม (A) - มนี ิสยั รักการอ่าน คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบประเมินคณุ ระดับคณุ ภาพ 1. ใฝ่เรยี นรู้ นักเรยี น ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ผ่าน 2. มุ่งม่ันในการทางาน สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบประเมิน ระดับคุณภาพ 1. ความสามารถในการส่อื สาร นักเรยี น สมรรถนะสาคัญของ ผา่ น 2. ความสามารถในการคดิ ผ้เู รียน 3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะ ชวี ติ

344 คมู่ ือครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) เกณฑป์ ระเมนิ : การอ่านจบั ใจความสาคัญเรอ่ื ง กระเชา้ สดี า ประเด็น ระดบั คุณภาพ การประเมิน ๑. การตอบคาถาม ๔ (ดมี าก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรุง) จากเร่อื งท่อี ่านได้ ตอบคาถามจาก ตอบคาถามผิด ๒ ตอบคาถามผิด ตอบคาถามผิด ๒. บอกใจความ เรื่องไดถ้ กู ตอ้ งทกุ ข้อ เกนิ ๓ ข้อ เกินกว่า ๔ ข้อ สาคญั จากเรือ่ งท่ี ขอ้ อ่าน ๓. บอกขอ้ คดิ ทไ่ี ด้ เน้อื หาสาระ เนอ้ื หาสาระได้ เนอ้ื หาสาระได้ เนอื้ หาสาระ จากเรื่องทอี่ ่าน ถกู ต้องไดใ้ จความ ถูกตอ้ งแตว่ กวนบา้ ง ถกู ต้อง แต่วกวน ได้บา้ งและวกวน ตอ่ เนือ่ ง ๔. แสดงความ คดิ เห็นจากเรื่องที่ บอกขอ้ คดิ ของ บอกขอ้ คิดของเรือ่ ง บอกขอ้ คิดของ บอกข้อคิดของ อ่าน เรอ่ื งไดต้ รงประเดน็ ไดต้ รงประเด็น แต่ เรื่องไดต้ รงประเด็น เรอ่ื งได้บา้ งแต่ ๕. มารยาทใน ไมต่ อ่ เนื่องบ้าง วกวน การอา่ น และสมบรู ณ์ เล็กนอ้ ย แต่วกวน เสนอความคดิ เหน็ เสนอความคดิ เห็น เสนอความคิดเหน็ เสนอความคดิ เหน็ ดว้ ยเหตผุ ลสอด ดว้ ยเหตุผลสอด และแสดงเหตุผล แต่ไม่แสดงเหตผุ ล คลอ้ งกบั เรือ่ งและ คลอ้ งกบั เร่ือง ไมส่ อดคลอ้ งกบั เป็นประโยชน์ บางสว่ น เรอื่ ง ไม่ส่งเสียงดัง ไม่ส่งเสยี งดงั รบกวน ส่งเสียงดงั และเลน่ ส่งเสียงดงั และเล่น รบกวนผู้อนื่ ไม่เล่น ผู้อืน่ ไมเ่ ลน่ ในขณะ ในขณะอ่าน แต่ ในขณะอา่ น ไม่ ในขณะอ่าน และ อ่าน ไม่เกบ็ หนังสอื เก็บหนงั สือเขา้ ท่ี เกบ็ หนงั สือเขา้ เกบ็ หนงั สือเข้าท่ี เขา้ ทเี่ มอ่ื อ่านเสรจ็ เมอ่ื อ่านเสรจ็ ที่เม่ืออา่ นเสรจ็ เมอ่ื อ่านเสร็จ เกณฑ์การประเมนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 16-20 ดีมาก 11-15 ดี 6-10 พอใช้ 1-5 ปรบั ปรงุ เกณฑก์ ารตัดสิน : ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินรอ้ ยละ ๖๐ ขึ้นไป (ตอ้ งได้ระดบั พอใชข้ น้ึ ไป)

หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี ๓ เรือ่ ง กระเช้าสดี า 345 แบบประเมินการจบั ใจความสาํ คญั จากเรอ่ื ง กระเชา้ สดี า คาํ ชแ้ี จง ใหค้ รเู ขยี นคะแนนการจบั ใจความจากเรื่องท่ีอ่าน ลงในชอ่ งประเด็นการประเมนิ ตามที่กาํ หนดไว้ การตอบคําถามจากเร่ือง สรปุ (๔ คะแนน) ลําดบั ชอ่ื -สกุล การจับใจความ รวม คิดเปน็ ผา่ น ไมผ่ า่ น ที่ (๔ คะแนน) คะแนน ร้อยละ การบอก ้ขอคิด (๒๐) (๔ คะแนน) การแสดงความคิดเห็น (๔ คะแนน) มารยาทในการ ่อาน (๔ คะแนน) 1 ดมี าก ดี พอใช้ ปรับปรุง 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 รวม (คน) คดิ เป็นรอ้ ยละ ผลการประเมนิ  ดีมาก ..........คน คดิ เป็นร้อยละ...............  ดี ..........คน คิดเปน็ ร้อยละ................  พอใช้ ..........คน คิดเป็นร้อยละ...............  ปรบั ปรงุ .........คน คดิ เป็นรอ้ ยละ............... สรปุ ผลการประเมนิ รายชนั้ เรยี น  นกั เรียนผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ จาํ นวน......................... คน คิดเปน็ ร้อยละ.........................  นกั เรียนไม่ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ จํานวน......................... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ........................ ลงช่ือ.................................................ผปู้ ระเมิน (..............................................) ........../..................../..........

346 คมู่ อื ครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) 10. บันทกึ ผลหลงั สอน ผลการจดั การเรยี นการสอน ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ความสาเรจ็ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปัญหาและอปุ สรรค ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ขอ้ จากดั การใชแ้ ผนการจัดการเรยี นรู้ และขอ้ เสนอแนะ/แนวทางการปรับปรงุ แก้ไข ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่อื ......................................................ผสู้ อน (.......................................................) วนั ท่ี .......... เดอื น ..................... พ.ศ. ............. 11. ความคดิ เหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผู้บรหิ ารหรอื ผ้ทู ไ่ี ดร้ ับมอบหมาย ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชือ่ ...................................................... ผตู้ รวจ (.......................................................) วนั ที่ .......... เดอื น ..................... พ.ศ. .............

หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ ๓ เร่อื ง กระเชา้ สดี า 347 ใบความรู้ท่ี 2 เรอ่ื ง การอา่ นจับใจความสาคัญจากเรือ่ งทอ่ี ่าน หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 3 เร่อื ง กระเชา้ สดี า แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 2 เร่ือง การอา่ นจบั ใจความสาคญั จากเรือ่ ง กระเช้าสดี า (2) รายวิชา ภาษาไทย รหัสวชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๕ ความหมายของการอ่านจับใจความสาคัญ การอ่านจับใจความสาคัญ คือ การอ่านเพ่ือจับใจความหรือข้อคิด ความคิดสาคัญหลกั ของ ข้อความหรอื เรื่องท่ีอา่ น เป็นข้อความที่คลุมขอ้ ความอ่นื ๆ ในย่อหน้าหนงึ่ ๆ ไว้ท้ังหมด ใจความสาคัญ หมายถึง ใจความที่สาคัญและเด่นท่ีสุดในย่อหน้า เป็นแก่นของย่อหน้า ครอบคลุมเนื้อความในย่อหนา้ นั้น หรือเป็นประโยคที่เป็นหัวเรื่องของย่อหน้าน้ัน เป็นใจความหรอื ประโยคเด่ียว ๆ โดยไม่ต้องมีประโยคอ่ืนประกอบ ในแต่ละย่อหน้าจะมีประโยคใจความสาคญั เพยี ง ประโยคเดยี ว หรืออย่างมากไม่เกิน 2 ประโยค ใจความรอง หรือพลความ (พน-ละ-ความ) หมายถึง ใจความหรือประโยคท่ีขยายความ ประโยคใจความสาคัญ เป็นความสนับสนุนใจความสาคัญให้ชัดเจนขึ้น อาจเป็นการอธิบายให้ รายละเอียด ให้คาจากัดความ ยกตัวอยา่ ง เปรียบเทยี บ หรือแสดงเหตผุ ล เพ่ือสนบั สนนุ ความคิด สว่ นทมี่ ใิ ชใ่ จความสาคัญ และมิใชใ่ จความรอง แต่ชว่ ยขยายความให้มากขนึ้ คอื รายละเอียด หลกั พ้นื ฐานการจับใจความสาคญั ๑. ตั้งจุดมุ่งหมายในการอ่านใหช้ ดั เจน ๒. อา่ นเรอ่ื งราวอย่างคร่าว ๆ พอเข้าใจ และเก็บใจความสาคัญของแตล่ ะยอ่ หนา้ ๓. เมื่ออา่ นจบให้ตั้งคาถามตนเองวา่ เร่ืองทอ่ี า่ น มีใคร ทาอะไร ทไี่ หน เมือ่ ไหร่ อย่างไร ๔. นาส่ิงที่สรุปได้มาเรียบเรียงใจความสาคัญใหม่ด้วยสานวนของตนเองเพ่ือให้เกิดความ สละสลวย วิธีจบั ใจความสาคัญ วิธีการจับใจความสาคญั มีหลายอยา่ ง เช่น การขดี เส้นใต้ การใชส้ ีตา่ ง ๆ กนั แสดงความสาคญั มากน้อยของข้อความ การบันทึกย่อเป็นส่วนหน่ึงของการอ่านจับใจความสาคัญที่ดี มีหลักจับ ใจความสาคัญดังน้ี ๑. พิจารณาทลี ะยอ่ หน้า หาประโยคใจความสาคัญของแต่ละย่อหน้า ๒. ตัดสว่ นที่เป็นรายละเอยี ดออกได้ เช่น ตวั อยา่ ง สานวนโวหาร อปุ มาอปุ ไมย (การเปรยี บเทยี บ) ตัวเลข สถิติ ตลอดจนคาถามหรือคาพดู ของผูเ้ ขียนซ่งึ เป็นสว่ นขยายใจความสาคัญ ๓. สรปุ ใจความสาคญั ดว้ ยสานวนภาษาของตนเอง ทมี่ าของขอ้ มลู : เรยี บเรยี งมาจาก https://sites.google.com/site/technicalreadingyvc2016

348 คมู่ ือครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ใบงานที่ 2 เรอื่ ง การจบั คู่ขอ้ ความให้สัมพนั ธก์ ับความคิดสาคญั ของเรอื่ งท่อี า่ น หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 3 เรือ่ ง กระเช้าสีดา แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 2 เรอ่ื ง การอา่ นจบั ใจความสาคัญจากเร่อื ง กระเชา้ สีดา (2) รายวชิ า ภาษาไทย รหัสวชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๕ คาชแี้ จง ให้นกั เรยี นอ่านเรือ่ ง กระเช้าสีดา แลว้ จับคูข่ อ้ ความทางซา้ ยมือให้สัมพันธ์กบั ความคดิ สาคัญ ที่อยทู่ างขวามือ ใหถ้ กู ต้อง ..........กระเช้าสดี าเป็นนิทานเกีย่ วกบั เดก็ ท่มี จี ติ ใจดงี ามและประพฤติดี ก. ความเสียสละ ..........พอ่ แม่ยอ่ มดีใจและภมู ใิ จหากลูกเปน็ คนดี ข. ความซ่ือสตั ย์ ..........นทิ านให้ความรูต้ ่าง ๆ ค. ความเกรงใจ ..........ขันทองช่วยพรายนา้ เกบ็ กระเช้าไปรวมกัน ง. ความเชือ่ มั่นในตนเอง ..........เรือ่ ง กระเช้าสีดา ใหข้ ้อคิดในการเป็นคนดี จ. ความมรี ะเบียบวินัย ฉ. ความมนี า้ ใจเอ้อื เฟ้อื ซึ่งเด็ก ๆ ควรประพฤตปิ ฏบิ ตั ิตาม ช. การเชอ่ื ฟงั ผใู้ หญ่ ..........ขันทองอยากได้กระเช้าไปเลน่ บ้าง แต่ไมก่ ล้าหยิบฉวย ซ. ข้อคดิ เรื่องกระเช้าสดี า ..........ขันทองตงั้ ใจประพฤติตามทแี่ มส่ อนทกุ ประการอย่างสมา่ เสมอ ฌ. สาระสาคญั ของเรือ่ ง ญ. คุณคา่ ด้านปัญญา จนเปน็ นสิ ยั ฎ. คุณคา่ ดา้ นอารมณ์ ...........พรายน้าอนญุ าตใหข้ ันทองหยิบกระเชา้ สดี าไปตามความพอใจ ฏ. คณุ ค่าดา้ นสังคม แต่ขนั ทองหยบิ มาเพียงใบเดยี ว ..........พรายนา้ ชว่ ยกันเก็บกระเชา้ ทก่ี ลง้ิ เกลือ่ นกลาดกระจัดกระจาย มารวมกันเพ่อื มใิ หร้ กท่ี ..........เร่อื ง กระเชา้ สดี า ใหค้ วามสนุกสนานเพลิดเพลนิ ส่งเสริมจินตนาการแกผ่ ู้อา่ น สรปุ ใจความสาคญั ของเร่อื งได้ ดงั นี้ .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. ช่ือ........................................................นามสกลุ ...............................................ชน้ั .................เลขที.่ ...........

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๓ เรื่อง กระเช้าสดี า 349 แนวคาตอบใบงานท่ี 2 เรอ่ื ง การจับคขู่ อ้ ความให้สมั พนั ธ์กบั ความคดิ สาคญั ของเรอื่ งทอ่ี ่าน หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 3 เรอ่ื ง กระเชา้ สีดา แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 2 เรื่อง การอ่านจบั ใจความสาคญั จากเรื่อง กระเชา้ สีดา (2) รายวิชา ภาษาไทย รหสั วิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ คาชแี้ จง ใหน้ กั เรียนอา่ นเรอ่ื ง กระเชา้ สดี า แลว้ จบั คูข่ ้อความทางซา้ ยมือใหส้ มั พันธก์ ับความคดิ สาคญั ที่อยทู่ างขวามือ ใหถ้ ูกต้อง ....ฌ...กระเชา้ สีดาเป็นนทิ านเกย่ี วกบั เด็กทม่ี จี ติ ใจดงี ามและประพฤตดิ ี ก. ความเสียสละ ....ฏ....พอ่ แมย่ อ่ มดีใจและภูมใิ จหากลกู เปน็ คนดี ข. ความซอ่ื สตั ย์ ....ญ...นทิ านใหค้ วามรู้ตา่ ง ๆ ค. ความเกรงใจ ....ฉ....ขนั ทองช่วยพรายนา้ เก็บกระเชา้ ไปรวมกนั ง. ความเช่อื มัน่ ในตนเอง ....ซ...เรื่อง กระเช้าสดี า ให้ขอ้ คดิ ในการเป็นคนดี จ. ความมรี ะเบยี บวนิ ยั ซง่ึ เดก็ ๆ ควรประพฤตปิ ฏิบตั ติ าม ฉ. ความมีนา้ ใจเออ้ื เฟ้ือ ....ข....ขนั ทองอยากได้กระเช้าไปเลน่ บ้าง แต่ไมก่ ลา้ หยบิ ฉวย ช. การเชือ่ ฟงั ผูใ้ หญ่ .....ช...ขันทองตงั้ ใจประพฤติตามท่แี ม่สอน ซ. ขอ้ คิดเรอื่ งกระเชา้ สดี า ทกุ ประการอยา่ งสม่าเสมอจนเปน็ นิสยั ฌ. สาระสาคัญของเร่ือง ....ค....พรายน้าอนุญาตให้ขันทองหยบิ กระเชา้ สดี า ญ. คณุ คา่ ดา้ นปญั ญา ไปตามความพอใจ แตข่ นั ทองหยบิ มาเพยี งใบเดียว ฎ. คุณค่าด้านอารมณ์ ....จ....พรายนา้ ชว่ ยกันเกบ็ กระเช้าท่ีกล้ิงเกล่ือนกลาด ฏ. คณุ ค่าด้านสังคม กระจัดกระจายมารวมกันเพอ่ื มิใหร้ กท่ี ....ฎ...เรอ่ื ง กระเช้าสดี า ให้ความสนกุ สนานเพลิดเพลินสง่ เสริมจนิ ตนาการแกผ่ ู้อา่ น แนวทางการสรปุ ใจความสาคญั ของเรอ่ื งได้ ดังนี้ กระเช้าสีดา เป็นนทิ านเรอื่ งหน่ึง กลา่ วถึง พรายน้า และพรายไม้ มีอปุ นสิ ยั ชอบเล่นสนุกสนาน ชอบร้อง ราทาเพลง และชอบคนดี มีจิตใจเมตตา อีกความหมายหน่ึงคือ กระเช้าสีดา เป็นผลของไม้เถาชนิดหน่ึง มี ประวัติเกี่ยวข้องกับเรื่องรามเกียรต์ิ คือ แต่เดิมเป็นกระเช้าของนางสีดาที่ทาตกไว้ในป่า ระหว่างที่ถูกยักษ์ ทศกัณฐ์อุ้มลักพาตัวไปจากพระราม เหล่าเทวดาจึงบันดาลให้รากงอกออกมากลายเป็นไม้เถาสืบมาจนถึง ปจั จุบัน เพ่ือเปน็ ทร่ี ะลึกถึงนางสดี า

๓๕๐ คู่มอื ครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 3 เรือ่ ง การสรุปความรู้ ขอ้ คิด และคณุ ค่าของเรอื่ งท่ีอา่ น หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 เร่ือง กระเชา้ สดี า เวลา 1 ชว่ั โมง กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย รายวชิ าภาษาไทย ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 5 1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชวี้ ัด สาระท่ี 5 วรรณคดแี ละวรรณกรรม มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคดิ เห็น วจิ ารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณคา่ และ นามาประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ิตจริง ตัวชี้วดั ป.๕/๒ ระบุความรู้และข้อคิดจากการอ่านวรรณคดแี ละวรรณกรรมท่ีสามารถนาไปใช้ในชีวิตจริง ป.๕/๓ อธบิ ายคณุ คา่ ของวรรณคดแี ละวรรณกรรม ๒. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การสรปุ ความรู้ ขอ้ คดิ และคุณค่าของเรือ่ งที่อา่ น จากการอา่ นวรรณคดีและวรรณกรรม เปน็ การอ่าน เพอ่ื สรุปความรคู้ วามเข้าใจเกี่ยวกับสาระสาคญั ของเร่ือง ผู้อ่านตอ้ งรู้จกั วิเคราะห์แนวคิด พร้อมทั้งบอกคณุ ค่า และข้อคิดท่ีไดจ้ ากการอา่ น และสามารถนาไปใช้ประยุกตใ์ ช้ในชีวิตจริงได้ ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้ ความเขา้ ใจ (K) บอกหลกั การสรุปความรู้และขอ้ คดิ จากเรือ่ งท่อี า่ นได้ 3.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) เขียนสรปุ ความรแู้ ละขอ้ คิดจากการอ่านเรอื่ งกระเชา้ สีดาได้ 3.3 ด้านคุณลักษณะ เจตคติ คา่ นยิ ม (A) นาคุณคา่ และข้อคดิ ทไ่ี ด้ไปปรบั ใชใ้ นชวี ิตประจาวัน ๔. สาระการเรยี นรู้ การสรุปความรู้ ข้อคดิ และคณุ คา่ ของเร่ืองท่ีอา่ น ๕. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน 5.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 5.2 ความสามารถในการคิด 5.3 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต ๖. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 6.1 ใฝเ่ รยี นรู้ 6.2 มุ่งมั่นในการทางาน 7. กิจกรรมการเรยี นรู้

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๓ เรือ่ ง กระเช้าสดี า การจดั กจิ กรรมการเรียนร รายวชิ า ภาษาไทย หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 3 แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 3 เรอื่ ง การสรปุ ความรู้ ข้อ ลาดับ ขอบเขตเนอ้ื หา/ ขั้นตอนการจดั เวลา แ ท่ี จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรียนรู้ ท่ีใช้ กจิ กรรมครู 1. ขอบเขตเนอื้ หา ขั้นนา 5 1. ครูนาบทอา่ นเรอ่ื ง 1. การสรปุ ความรู้ นาที ทีม่ ีความยาวประมาณ บรรทัด มาใหน้ ักเรยี น ขอ้ คดิ และคุณค่าจาก เรอื่ งท่อี ่าน ตัวอยา่ งข้อความ 2. หลักการสรปุ “ดอกมะลิ ถอื เป็น ความรู้ ขอ้ คดิ และ คุณคา่ จากเร่ืองทอ่ี า่ น ชนดิ หน่งึ โดยมีความว ดอกไม้ทไ่ี ดร้ บั ความปร เป็นทรี่ ักคิดถึงของคนท และเปน็ สอื่ แทนความ ตอ่ แม่” 2. ครถู ามคาถาม ดังน - บทอา่ นกลา่ วถงึ อะไร - สาระสาคญั ของบทอ่า อะไร - จากบทอา่ นขา้ งต้น น ได้รบั ความรอู้ ะไรบ้าง

รู้ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 5 ๓๕๑ 3 เรอื่ ง กระเชา้ สีดา จานวน 12 ช่ัวโมง อคดิ และคณุ คา่ จากเร่ืองทอี่ ่าน จานวน 1 ชวั่ โมง การประเมิน การเรยี นรู้ แนวการจดั การเรียนรู้ ส่ือการเรยี นรู้ กจิ กรรมนกั เรียน ดอกมะลิ 1. นักเรยี นร่วมกนั อา่ นบทอา่ น - บทอา่ น ณ 5-6 เร่ือง ดอกมะลิ แลว้ แสดง เรือ่ ง ดอกมะลิ นอา่ น ความคดิ เหน็ เก่ยี วกบั เรอ่ื งดอก มะลิ นไม้มงคล ว่าเปน็ รารถนาดี ทวั่ ไป มกตญั ญู น้ี 2. นักเรียนร่วมกันตอบคาถาม - คาถามอยใู่ นสื่อ - สังเกตการตอบ ร านคอื เช่น PPT คาถามของ นกั เรยี น นักเรยี น : ได้รู้ว่าดอกมะลเิ ป็น นกั เรยี น ไม้มงคล มีความหมายวา่ เป็น ดอกไมท้ ่ไี ดร้ บั ความปรารถนา ดี

๓๕๒ คู่มือ ลาดับ ขอบเขตเนื้อหา/ ข้นั ตอนการจัด เวลา แ ที่ จุดประสงค์การเรยี นรู้ การเรียนรู้ ทใี่ ช้ กจิ กรรมครู - นกั เรยี นได้รับข้อคิดอ - สามารถนาขอ้ คิดท่ไี ด ประโยชนใ์ นชีวิตประจ อย่างไร 3. ครูพดู แสดงความค สรปุ ท้ายและเชื่อมโยง เน้อื หาในบทเรยี น 2. ข้ันสอน 25 1. ครูถามคาถามเขา้ ส นาที สาคัญของเนอ้ื หา ดังน - นกั เรียนชอบอา่ นหนัง - หนงั สือทอี่ า่ นเป็นหน ประเภทใด - นกั เรียนอ่านแลว้ ไดร้ อะไรบ้าง - นกั เรียนมีวธิ ีอ่านอยา่ 2. ครูแบ่งกล่มุ ให้นักเร ศึกษาใบความรูท้ ่ี 3 แล วิเคราะห์ในประเด็นต่อ

อครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรยี นรู้ สื่อการเรียนรู้ การประเมนิ กิจกรรมนักเรียน การเรียนรู้ อะไรบา้ ง นักเรียน : ข้อคิดทไี่ ด้ คอื ดอก - คาถามอยู่ในส่อื - สงั เกตการตอบ ดไ้ ปใช้ มะลเิ ป็นสัญลักษณท์ ี่แสดง PPT คาถามของ จาวันได้ ความกตัญญตู ่อแม่ นักเรยี น คิดเหน็ 3. นกั เรียนเข้าสู่บทเรียน งเข้าสู่ สปู่ ระเด็น 1. นักเรยี นร่วมกันตอบคาถาม - คาถามอยู่ในส่ือ - สังเกตการตอบ น้ี PPT คาถามของ งสอื หรือไม่ นักเรยี น นงั สอื รบั ความรู้ างไร รยี น 2. นกั เรียนร่วมกันอภิปราย - ใบความรู้ที่ 3 ล้วร่วมกนั วเิ คราะหจ์ ากการศกึ ษาใบ อไปน้ี ความรู้ท่ี 3 ในประเด็นตอ่ ไปน้ี

หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี ๓ เรอ่ื ง กระเช้าสีดา ลําดบั ขอบเขตเนอ้ื หา/ ข้นั ตอนการจดั เวลา แ ที่ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรียนรู้ ที่ใช้ กจิ กรรมครู - การสรปุ ความรู้ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ - ข้อคิด 1. บอกหลกั การสรปุ - คุณคา่ จากเรอื่ งท่อี า่ น ความรูแ้ ละขอ้ คดิ จาก เร่ืองทอี่ า่ นได้ 3. ครใู หต้ ัวแทนกลุม่ น หลักการสรุปความรู้ ข และคณุ คา่ จากเร่ืองที่อ ใหพ้ ดู นําเสนอทีละกล 3. 2. เขียนสรปุ ความรู้ ขัน้ ปฏบิ ตั ิ 15 4. ครูอธบิ ายสรุปเพ่ิมเ และขอ้ คดิ จากการ นาที ขยายความเข้าใจให้กบั อา่ นเรอ่ื งกระเชา้ สดี า ได้ 5. ครใู หน้ กั เรยี นทําใบ 3. ม่งุ มนั่ ในการทาํ งาน และมนี สิ ัยรักการอ่าน (ครขู ้นึ กิจกรรม : นักเร ใบงานท่ี 2 โดยการเข ความร้แู ละขอ้ คิดจากก เรอื่ งกระเช้าสีดา) ในจ 6. ครูนําผลงานของนัก ของกลุ่มท่เี สรจ็ เรยี บร นกั เรียนต้นทาง/ปลาย

แนวการจดั การเรยี นรู้ สอื่ การเรียนรู้ ๓๕๓ กิจกรรมนกั เรยี น การประเมิน การเรียนรู้ - การสรปุ ความรู้ - ข้อคดิ 1. ประเมิน น - คุณค่าจากเรอื่ งท่อี ่าน การตอบคําถาม และใบงาน นําเสนอ 3. ตวั แทนนักเรียนพูด ขอ้ คดิ นําเสนอหลกั การสรปุ ความรู้ 2. ประเมนิ อา่ น โดย ขอ้ คดิ และคุณคา่ จากเรือ่ งที่ การจบั ค่ขู อ้ ความ ลุ่ม อ่าน กบั ความคิด สําคัญ เติม เพอ่ื 4. นกั เรยี นกบั ครสู รุปเพิม่ เติม - ใบงานท่ี 3 3. สังเกต บนกั เรยี น เพือ่ ขยายความเข้าใจรว่ มกนั พฤตกิ รรม บงานที่ 3 5. นกั เรียนทาํ ใบงานท่ี 3 รยี นทํา (นักเรยี นต้นทาง/ปลายทาง ขยี นสรปุ ทาํ ใบงานที่ 3 พร้อมกัน) การอา่ น 6. นักเรยี นต้นทาง/ปลายทาง จอสไลด์ ดูผลงานของนกั เรียนท่ีทําเสรจ็ กเรยี น เรยี บร้อย ตรวจสอบร่วมกนั รอ้ ย มาให้ ยทางดู

๓๕๔ คมู่ ือ ลาดบั ขอบเขตเนอ้ื หา/ ขน้ั ตอนการจดั เวลา แ ที่ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ การเรียนรู้ ท่ใี ช้ กจิ กรรมครู ตรวจสอบรว่ มกนั และสรปุ การทากจิ กรร 4. ข้นั สรุป 5 1. ครูต้งั คาถามเพื่อสร นาที - นกั เรยี นได้ความรอู้ ะ - มคี ณุ ธรรมเรอื่ งใดปร เรอื่ ง - สามารถนาไปใชใ้ นช ประจาวนั ไดอ้ ยา่ งไร 2. ครูสรปุ ความรจู้ ากบ เป็นแผนผงั ความคดิ ใน

อครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจัดการเรยี นรู้ สือ่ การเรยี นรู้ การประเมนิ กิจกรรมนกั เรียน การเรยี นรู้ และสรปุ การทากจิ กรรม รม รปุ ดังนี้ 1. นกั เรียน : ได้ความรเู้ รอ่ื ง - คาถามอยู่ในสอื่ - สังเกตการตอบ ะไร รากฏใน การสรปุ ความรู้ ขอ้ คดิ และ PPT คาถามของ ชวี ิต คุณค่าจากเรอื่ งท่ีอา่ น และนา นกั เรียน ทักษะการสรปุ ความรไู้ ปปรับใช้ ในการเรียนวชิ าอนื่ ๆ หรอื การอา่ นเรอื่ งทัว่ ไปในชวี ติ ประจาวัน บทเรียน 2. นักเรยี นสรปุ ความรูใ้ น - ส่ือ PPT นสอ่ื PPT บทเรยี นรว่ มกบั ครอู กี ครงั้ ใน สรปุ ความรู้ สอื่ PPT


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook