Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 64-08-08--คู่มื่อครู ภาษาไทย ป.5-1

64-08-08--คู่มื่อครู ภาษาไทย ป.5-1

Published by elibraryraja33, 2021-08-08 08:52:07

Description: 64-08-08--คู่มื่อครู ภาษาไทย ป.5-1

Search

Read the Text Version

๘ คมู่ อื ครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) เกณฑป์ ระเมิน : การคัดลายมอื ตวั บรรจงครึ่งบรรทดั ประเดน็ ๔ (ดมี าก) ระดับคุณภาพ ๑ (ปรับปรุง) การประเมิน ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ๑. ความ คดั ลายมือตวั บรรจง คดั ลายมือตวั บรรจง คดั ลายมือตัวบรรจง คดั ลายมือตวั ถูกตอ้ งของ คร่ึงบรรทดั ตาม คร่ึงบรรทดั ตาม ครง่ึ บรรทัด ตาม บรรจงคร่งึ บรรทดั รปู แบบ รปู แบบทก่ี าหนด รูปแบบท่ีกาหนด รปู แบบที่กาหนด ไมถ่ ูกตอ้ งตาม ตัวอักษร ท้ังหมด บางส่วนบกพร่อง บกพรอ่ งเปน็ สว่ น แบบทก่ี าหนด ใหญ่ ๒. การเขียน เขียนคา และเว้นวรรค เขยี นคา และเว้น เขียนคา และเว้น เขยี นคา และเว้น คาและ ตอนถกู ตอ้ งทกุ คา วรรคตอนถกู ต้อง วรรคตอนถูกต้อง วรรคตอนไม่ วรรคตอน เปน็ ส่วนน้อย ถูกต้องเปน็ จานวน ๓. ความ เปน็ สว่ นใหญ่ มาก สะอาด เปน็ ระเบียบ ตัวอกั ษรสมา่ เสมอ ตัวอักษรสมา่ เสมอ ตวั อักษรไม่ค่อย ตวั อกั ษรไม่ เรียบรอ้ ย สวยงาม เรียบรอ้ ยสวยงาม สมา่ เสมอ ผลงาน สมา่ เสมอ 4. ความตรง ผลงานสะอาด ไมม่ ี ผลงานสะอาด มี ของ รอยลบขดี ฆ่า รอยลบขีดฆ่า ๑-๒ ไมส่ ะอาด มรี อยลบ มรี อยลบขีดฆา่ ตวั หนงั สอื แห่ง ขีดฆ่า ๓-๕ แหง่ มากกว่า ๖ แห่ง 5. มารยาท ในการเขียน ตวั หนงั สอื ตรงเปน็ แนว ตัวหนังสอื ตรงเปน็ ตวั หนังสือตรงเป็น ตวั หนงั สือไมค่ ่อย เดยี วกันทกุ บรรทัด แนวเดียวกนั เปน็ แนวเดยี วกันเปน็ ตรงเปน็ แนว บางสว่ น เดียวกัน ส่วนใหญเ่ กือบทกุ บรรทัด มีสมาธิ และตงั้ ใจ ตงั้ ใจในการเขียน ตง้ั ใจในการเขยี น ไมม่ คี วามตงั้ ใจ ในการเขียนอย่าง อยา่ งสมา่ เสมอ พอสมควร พดู คยุ ในการเขยี น พดู สมา่ เสมอ ไม่พูด ไม่พูด ไมค่ ยุ และ และเลน่ ระหวา่ ง คุย และเล่น ไมค่ ุย และไมเ่ ลน่ ไมเ่ ล่นระหวา่ ง ทางานเปน็ บางคร้ัง ระหวา่ งทางาน ระหว่างทางาน ทางาน ตลอดเวลา ต้องคอยตกั เตอื น เกณฑก์ ารประเมินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 16-20 ดมี าก 11-15 ดี 6-10 พอใช้ 1-5 ปรบั ปรงุ เกณฑก์ ารตดั สิน : ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ร้อยละ ๖๐ ขึน้ ไป (ตอ้ งได้ระดบั พอใช้ข้นึ ไป)

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี ๑ เรอ่ื ง ส่ือสารคล่องตอ้ งรูว้ ธิ ี ๙ เกณฑ์ประเมนิ : การอา่ นจบั ใจความและวเิ คราะหแ์ สดงความคดิ เหน็ จากเร่ืองทอี่ า่ น ประเดน็ ๔ (ดีมาก) ระดับคุณภาพ ๑ (ปรับปรุง) การประเมิน ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ตอบคาถามผิด เกินกว่า ๓ ขอ้ ๑. การตอบคาถาม ตอบคาถามจาก ตอบคาถามผิด ตอบคาถามผดิ จากเรอ่ื งท่ีอ่านได้ เรื่องไดถ้ ูกต้องทกุ ๒ ขอ้ ไมเ่ กิน ๓ ข้อ ขอ้ ๒. บอกใจความ บอกเนอื้ หาสาระ บอกเนอ้ื หาสาระได้ บอกเนอื้ หาสาระ บอกเนอื้ หา สาคัญจากเร่อื งที่ ถกู ตอ้ งได้ใจความ ถกู ตอ้ งแต่วกวนบา้ ง ได้ถูกต้อง แต่วกวน สาระได้บ้างและ อ่าน ตอ่ เนื่อง วกวน ๓. บอกข้อคิดทไ่ี ด้ บอกข้อคดิ ของเรอื่ ง บอกข้อคดิ ของเรื่อง บอกขอ้ คิดของเรอ่ื ง บอกข้อคิดของ จากเรอ่ื งท่ีอา่ น ได้ตรงประเด็น ได้ตรงประเด็น แต่ ไดต้ รงประเดน็ เรื่องได้บ้าง แต่ ๔. แสดงความ และสมบรู ณ์ ไมต่ ่อเนื่องบา้ ง วกวน คดิ เหน็ จากเรื่องท่ี เลก็ นอ้ ย แต่วกวน อา่ น เสนอความคดิ เหน็ เสนอความคดิ เห็น เสนอความคดิ เหน็ เสนอความ ดว้ ยเหตผุ ลและเปน็ ด้วยเหตผุ ล และแสดงเหตุผล คิดเห็น ประโยชน์ บ้าง แต่ไมแ่ สดง เหตผุ ล หมายเหตุ คา่ น้าหนัก 5 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ เกณฑ์การประเมินคุณภาพ 18-20 ดีมาก 15-17 ดี 12-14 พอใช้ ต่ากว่า ๑2 ปรับปรงุ เกณฑก์ ารตดั สิน : ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ร้อยละ ๖๐ ขนึ้ ไป (ต้องได้ระดบั พอใชข้ ึน้ ไป)

๑๐ คูม่ ือครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) เกณฑ์ประเมิน : การจบั ใจความสาคญั จากการฟังและดู ประเด็น ๔ (ดมี าก) ระดบั คุณภาพ ๑ (ปรับปรงุ ) การประเมิน ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ๑. ความเข้าใจ สามารถตอบคาถาม สามารถตอบคาถาม สามารถตอบคาถาม ตอบคาถาม ๒. การจบั หลงั จากทฟี่ ังได้ หลงั จากทีฟ่ ังได้ หลงั จากที่ฟงั หลงั จากท่ีฟัง ใจความสาคญั ทั้งหมด 3. การปฏิบตั ิ เป็นสว่ นใหญ่ ได้เล็กนอ้ ย ไดน้ ้อยมาก ตามคาสัง่ 4. มารยาทใน จบั ใจความสาคญั จับใจความสาคญั จบั ใจความสาคญั ของ จบั ใจความสาคัญ การฟัง การดู ของเนือ้ หาได้ ของเนื้อหาได้เกอื บ เน้อื หาได้เล็กนอ้ ย ของเนอ้ื หาได้ และการพูด ท้งั หมด ทงั้ หมด น้อยมาก ปฏิบัตติ ามคาสงั่ ปฏิบตั ติ ามคาสง่ั ปฏิบตั ิตามคาสงั่ ปฏิบัตติ ามคาสงั่ ได้ถูกตอ้ งและ ได้ถูกตอ้ ง ไดไ้ ม่ค่อยถูกตอ้ ง ได้ถกู ตอ้ ง คลอ่ งแคล่ว แตค่ อ่ นขา้ งชา้ และคอ่ นข้างช้า นอ้ ยมาก มมี ารยาทในการฟงั มีมารยาทในการฟงั มีมารยาทในการฟงั มมี ารยาทใน การดู และการพดู การดู และการพูด การดู และการพูด การฟัง การดู และ อยู่เสมอ จนเป็นนิสยั อยเู่ สมอ จนเปน็ นสิ ัย เกือบตลอดเวลา แตไ่ ม่ การพดู เปน็ บาง สามารถประเมนิ สามารถประเมนิ สามารถประเมิน เวลาและรสู้ ึกตัว และปรบั ปรงุ ตนเอง และปรับปรงุ ตนเอง ตนเองเพื่อปรับปรงุ เม่อื มผี ู้แนะนา ได้ รวมทง้ั แนะนาให้ ได้ ข้อบกพรอ่ งได้ ต้องให้ ผอู้ ื่นปฏบิ ัติด้วย ผอู้ ืน่ แนะนา หมายเหตุ ค่าน้าหนกั 5 คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ เกณฑ์การประเมินคุณภาพ 16-20 ดีมาก 11-15 ดี 6-10 พอใช้ 1-5 ปรับปรงุ เกณฑก์ ารตัดสิน : ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินรอ้ ยละ ๖๐ ขึน้ ไป (ต้องได้ระดบั พอใชข้ นึ้ ไป)

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ เรอ่ื ง สื่อสารคลอ่ งต้องรวู้ ธิ ี ๑๑ เกณฑป์ ระเมิน : การสรปุ หลกั การพูดแสดงความรแู้ ละความคิดเหน็ จากเรอื่ งที่ฟงั และดู ประเด็น ระดับคุณภาพ การประเมิน ๑. ความถูกตอ้ ง ๔ (ดมี าก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรุง) ของหลักการ สามารถตอบคาถาม สามารถตอบ ๒. ความหมาย ได้ถูกตอ้ งครบทงั้ สามารถตอบคาถาม สามารถตอบ คาถามน้อยกว่า ถูกตอ้ ง 5 ประเดน็ ได้ถกู ตอ้ งเพยี ง คาถามได้ถูกตอ้ ง 3 ประเด็น 4 ประเดน็ เพยี ง 3 ประเดน็ เขยี นสรปุ ๓. ความเรียบร้อย เขยี นสรปุ ความหมาย ของใบงาน ความหมายได้ เขียนสรปุ เขียนสรปุ ไดเ้ พยี ง ไมถ่ ูกต้อง ๔. ความสวยงาม ถูกตอ้ งครอบคลมุ ความหมายได้เข้าใจ เลก็ นอ้ ย ใบงานมรี อยลบ เข้าใจ ชดั เจน แต่ไม่ครอบคลมุ ตงั้ แต่ 8 จุดข้นึ ไป ๕. ความตรงต่อ ใบงานเรยี บร้อย ทั้งหมด ไม่มกี ารตกแตง่ เวลา สะอาด มีรอยลบ เพียง 2-3 จดุ ใบงานมรี อยลบ ใบงานมรี อยลบ ส่งงานชา้ กว่าเวลา ตกแตง่ ได้สวยงาม ระหวา่ ง 4-5 จุด ระหว่าง 6-7 จุด 15 นาที ดูสบายตา มี ความคิดสรา้ งสรรค์ ตกแตง่ ไดส้ วยงาม ตกแตง่ เสรจ็ ส่งงานตรงเวลา ดูสบายตา แต่ยังไมส่ วยงาม ส่งงานช้ากว่าเวลา เท่าทีค่ วร 5 นาที ส่งงานช้ากวา่ เวลา 10 นาที เกณฑก์ ารประเมนิ คุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ 18-20 ดีมาก 15-17 ดี 12-14 พอใช้ ต่ากวา่ ๑2 ปรับปรงุ เกณฑ์การตัดสนิ : ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ร้อยละ ๖๐ ขนึ้ ไป (ต้องไดร้ ะดบั พอใช้ขึ้นไป)

๑๒ คู่มือครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) เกณฑป์ ระเมิน : การทาใบงานท่ี 9 เรื่อง คาราชาศพั ท์ ประเด็น ระดับคุณภาพ การประเมิน ๔ (ดีมาก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรงุ ) 1. การจดั หมวดหมขู่ องคา จัดหมวดหมูค่ า จัดหมวดหมู่คา จดั หมวดหม่คู าราชา จดั หมวดหม่คู า ราชาศัพท์ ราชาศัพทไ์ ดถ้ กู ต้อง ราชาศพั ท์ไดถ้ ูกตอ้ ง ศพั ท์ได้ถูกต้อง 3 ขอ้ ราชาศัพทไ์ ด้ถูกตอ้ ง 2. การแต่ง ท้งั หมด 5 ขอ้ 4 ขอ้ ตา่ กว่า 3 ข้อ ประโยคโดยใช้ แต่งประโยคโดย แต่งประโยคโดย แตง่ ประโยคโดย แต่งประโยคโดย คาราชาศัพท์ ใช้คาราชาศัพท์ได้ ใชค้ าราชาศัพทไ์ ด้ ใชค้ าราชาศัพท์ได้ ใช้คาราชาศัพท์ได้ ถูกตอ้ งท้ังหมด ถกู ตอ้ ง 4 ขอ้ ถกู ตอ้ ง 3 ขอ้ ถูกต้องตา่ กวา่ 5 ขอ้ 3 ข้อ หมายเหตุ : คา่ นา้ หนกั 5 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ เกณฑก์ ารประเมินคุณภาพ 16-20 ดมี าก 11-15 ดี 6-10 พอใช้ 1-5 ปรับปรงุ เกณฑ์การตดั สิน : ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ รอ้ ยละ ๖๐ ข้นึ ไป (ต้องได้ระดบั พอใช้ขน้ึ ไป)

หน่วยการเรียนรูท้ ่ี ๑ เรอื่ ง สอ่ื สารคล่องต้องรู้วิธี ๑๓ เกณฑ์ประเมนิ : การสรุปความรแู้ ละข้อคดิ จากวรรณกรรมทีอ่ า่ น ประเด็น ระดบั คุณภาพ การประเมิน 1. การสรุป ๔ (ดมี าก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรุง) ความรู้ สรปุ ความรไู้ ด้ตรง สรปุ ความรไู้ ด้ สรปุ ความรูไ้ ด้ สรปุ ความรูไ้ ด้ 2. การอธิบาย ประเด็นและถูกตอ้ ง ตรงประเดน็ และ ตรงประเดน็ และ ตรงประเดน็ และ ขอ้ คิด ตามเนื้อหาของเรื่อง ถกู ตอ้ งเป็นส่วน ถูกต้องเป็นเพยี ง ไมต่ รงประเดน็ ที่อ่าน ใหญ่ บางสว่ น เทา่ ท่ีควร 3. ความคดิ อธิบายขอ้ คดิ ได้ อธบิ ายขอ้ คิดได้ อธบิ ายข้อคดิ ได้ อธิบายขอ้ คดิ ได้ สร้างสรรค์ ตรงประเด็นและ ตรงประเด็นและ ตรงประเด็นและ น้อยมากและ ถูกตอ้ งท้ังหมดตาม ถูกตอ้ งเป็นสว่ น ถกู ต้องเป็นเพยี ง ไม่ตรงประเด็น 4. การนาข้อคิด เนอ้ื หาของเร่ือง ใหญ่ บางสว่ น เทา่ ทีค่ วร ไปใช้ใน สามารถอธบิ าย สามารถอธบิ าย สามารถอธบิ าย สามารถอธบิ าย ชีวิตประจาวนั ขอ้ คิดได้อยา่ ง ขอ้ คดิ ได้อยา่ ง ขอ้ คดิ ได้อย่าง ข้อคดิ ไดอ้ ยา่ ง สรา้ งสรรคใ์ น สรา้ งสรรค์ได้ สรา้ งสรรค์ได้ สร้างสรรคน์ ้อย ดา้ นบวกได้ทั้งหมด เปน็ สว่ นใหญ่ เพยี งบางส่วน มาก สามารถนาขอ้ คิด สามารถนาข้อคิด สามารถนาขอ้ คิด สามารถนาขอ้ คิด ทีไ่ ด้ไปประยกุ ต์ใช้ ที่ได้ไปประยกุ ต์ใช้ ท่ีไดไ้ ปประยกุ ต์ใช้ ทไ่ี ด้ไปประยกุ ตใ์ ช้ ในชีวิตประจาวนั ได้ ในชีวิตประจาวนั ได้ ในชีวติ ประจาวนั ได้ ในชวี ติ ประจาวนั อย่างถูกตอ้ งและ อย่างเหมาะสม เปน็ เพียงบางสว่ น ไดน้ ้อยมาก เหมาะสม หมายเหตุ ค่านา้ หนัก 5 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ เกณฑก์ ารประเมินคุณภาพ 16-20 ดีมาก 11-15 ดี 6-10 พอใช้ 1-5 ปรับปรงุ เกณฑก์ ารตัดสนิ : ผา่ นเกณฑ์การประเมินร้อยละ ๖๐ ขึ้นไป (ตอ้ งไดร้ ะดบั พอใชข้ ึ้นไป)

๑๔ คูม่ อื ครูและแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 1 เรื่อง การอา่ นออกเสยี งบทร้อยแกว้ หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 เรือ่ ง สือ่ สารคลอ่ งตอ้ งรู้วธิ ี เวลา 1 ช่ัวโมง กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย รายวิชาภาษาไทย ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 5 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชวี้ ัด สาระที่ 1 การอ่าน มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความรูแ้ ละความคิดเพอื่ นาไปใช้ตัดสินใจ แก้ปญั หาในการดาเนิน ชวี ิตและมีนิสัยรกั การอ่าน ตัวชี้วดั ป.๕/๑ อ่านออกเสียงบทร้อยแกว้ และบทรอ้ ยกรองได้ถกู ต้อง ป.๕/๘ มมี ารยาทในการอ่าน ๒. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด การอ่านออกเสยี งบทร้อยแกว้ ต้องออกเสยี งใหช้ ัดเจน อ่านคาถูกต้อง เว้นวรรคตอนเหมาะสม นาเสยี ง นา่ ฟัง สอดแทรกอารมณ์การอ่านให้สัมพนั ธ์กบั เนือเร่ือง และต้องมมี ารยาทในการอ่าน ๓. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 3.1 ด้านความรู้ ความเขา้ ใจ (K) บอกหลักการอ่านออกเสียงบทรอ้ ยแกว้ ได้ 3.2 ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) อา่ นออกเสียงบทร้อยแก้วได้ 3.3 ดา้ นคุณลกั ษณะ เจตคติ ค่านิยม (A) มีมารยาทในการอ่าน ๔. สาระการเรยี นรู้ การอา่ นออกเสียงบทรอ้ ยแก้ว ๕. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน 5.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 5.2 ความสามารถในการคดิ 5.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ ๖. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 6.1 ใฝ่เรียนรู้ 6.2 มุ่งม่ันในการทางาน 7. กจิ กรรมการเรยี นรู้

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๑ เร่ืองสอื่ สารคลอ่ งตอ้ งรูว้ ิธี การจัดกจิ กรรมการเรยี น รายวิชา ภาษาไทย หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 เรอ่ื แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 1 เรื่อง การอ่านอ ลาดับ ขอบเขตเนื้อหา/ ข้นั ตอนการจดั เวลา แ ที่ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรียนรู้ ทใี่ ช้ กิจกรรมคร 1. ขอบเขตเน้อื หา ข้ันนา 5 1. ครใู ห้นกั เรียนดวู ีด นาที สถานการณ์การอ่านอ 1. ความหมายและ บทรอ้ ยแก้วของนกั เร หลกั การอา่ นออกเสยี ง บทรอ้ ยแก้ว คน ดังนี - คนที่ 1 อา่ นออกเส 2. การอ่านออกเสียง บทรอ้ ยแก้วไมถ่ ูกตอ้ ง บทรอ้ ยแก้ว - คนท่ี 2 อา่ นออกเส 3. มารยาทในการอา่ น บทรอ้ ยแก้วถกู ตอ้ ง และให้นกั เรียนสงั เก การอ่านของนกั เรยี นท 2. ครูให้นกั เรียนแสด คดิ เหน็ และตอบคาถา ครู : นกั เรียนคิดวา่ กา ของใครเหมาะสมตาม หลกั การอ่านออกเสยี รอ้ ยแกว้

๑๕ นรู้ ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 5 อง ส่อื สารคลอ่ งต้องรูว้ ธิ ี จานวน 10 ชวั่ โมง ออกเสยี งบทรอ้ ยแก้ว จานวน 1 ช่วั โมง แนวการจัดการเรียนรู้ สอ่ื การเรยี นรู้ การประเมนิ รู กิจกรรมนักเรยี น วีดิทัศน์ การเรยี นรู้ ดิทัศน์ 1. นกั เรียนดวู ดี ทิ ัศน์และ สถานการณ์ สงั เกตและฟัง ออกเสยี ง สังเกตสถานการณก์ ารอา่ น การอ่าน การตอบคาถาม รียน ๒ ออกเสยี งบทร้อยแกว้ ออกเสยี ง ของนักเรยี น บทรอ้ ยแกว้ ของ สยี ง นักเรยี น ๒ คน ง เวลา 1 นาที สยี ง กต ทงั สองคน ดงความ 2. นกั เรยี นแสดงความคดิ เห็น าม และตอบคาถาม ารอ่าน นกั เรียน : การอา่ นของคนที่ ม 2 เหมาะสมและถกู ตอ้ งตาม ยงบท หลกั การอา่ นออกเสียง บทรอ้ ยแกว้

๑๖ คูม่ ลาดบั ขอบเขตเนอ้ื หา/ ข้นั ตอนการจัด เวลา แ ที่ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ที่ใช้ กิจกรรมคร ครู : แจง้ จดุ ประสงค การเรยี นรู้ และเชอ่ื ม บทเรียนการอา่ นออก บทรอ้ ยแกว้ 2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ขั้นสอน 25 2. ครูให้นกั เรียนอภปิ 1. บอกหลกั การอ่าน นาที เก่ียวกับความหมายแ ออกเสยี งบทร้อยแก้ว หลักการอา่ นออกเสยี ได้ รอ้ ยแก้วจากใบความ หลงั จากที่นกั เรียนอภ ภายในกลุ่มเสรจ็ ครูถ นักเรยี นว่า ครู : จากการอภปิ รา นักเรียนสรปุ ความหม หลักการอ่านออกเสีย บทรอ้ ยแก้วได้หรอื ไม อยา่ งไร 3. ครใู ห้นกั เรยี นทาใ 1 โดยมอบหมายใหน้ ไปทาเปน็ การบา้ น

มือครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจัดการเรยี นรู้ สอ่ื การเรียนรู้ การประเมิน รู กจิ กรรมนักเรียน การเรียนรู้ ค์ นักเรยี น : สนทนากับครูแล้ว มโยงเข้าสู่ ครนู าเขา้ สบู่ ทเรยี น กเสียง ปราย 2. นักเรียนอภปิ รายความ 1. ใบความรู้ท่ี ๑ สงั เกตการตอบ และ หมาย และหลกั การอา่ นออก เร่ือง การอ่าน คาถามของ ยงบท เสยี งบทรอ้ ยแก้วตามความ ออกเสียง นักเรยี น มรู้ที่ ๑ เข้าใจและเพ่ิมเตมิ จากใบ บทรอ้ ยแก้ว ภิปราย ความรู้ ถาม ายกลุม่ นกั เรียนตอบคาถามครู โดย มายและ สามารถตอบไดจ้ ากการอ่าน ยง ใบความรู้ที่ ๑ หรือตาม ม่ ความเขา้ ใจของนกั เรยี น ใบงานที่ 3. นักเรยี นเก็บใบงานที่ 1 ไป 2. ใบงานท่ี 1 1. ประเมินใบ นกั เรียน ทาเปน็ การบ้าน จากนันนามา การอ่าน งาน ส่งใหค้ รูตรวจ ออกเสียง (ประเมินดา้ น K) บทรอ้ ยแก้ว

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๑ เรอื่ งสอ่ื สารคลอ่ งตอ้ งรู้วธิ ี ลาดับ ขอบเขตเนื้อหา/ ข้ันตอนการจดั เวลา แ ที่ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรียนรู้ ทใ่ี ช้ กจิ กรรมคร ครู : นกั เรียนอ่านคาช ใบงาน แลว้ มีข้อสงสยั สอบถามหรอื ไม่ 4. ครูให้นกั เรยี นอา่ น แกว้ ท่เี ป็นขอ้ ความ ค ประมาณ 5-8 บรรท ส่อื PPT พร้อมกนั 3. 2. อ่านออกเสยี ง ข้นั ปฏิบัติ 5. เมื่อนักเรยี นอา่ นจ บทรอ้ ยแก้วได้ (P) ถามนกั เรียนในประเด 3. มมี ารยาทใน การอา่ นออกเสยี งบท การอา่ น (A) ดงั นี - การอ่านถกู ต้องตาม - การเวน้ วรรคตอน เ 15 6. ครแู จกบทร้อยแก นาที นักเรียนฝกึ อา่ นออกเ บทรอ้ ยแก้วภายในกล ฝกึ อา่ นภายในเวลาทีค่ กาหนด (ครูชีแจงกจิ กรรมการ ออกเสียงบทร้อยแกว้ PPT)

๑๗ แนวการจัดการเรยี นรู้ ส่ือการเรยี นรู้ การประเมิน รู กิจกรรมนกั เรยี น การเรียนรู้ ชแี จงใน นกั เรียน : ม/ี ไมม่ ี ยจะ นบทรอ้ ย 4. นกั เรียนทกุ คนซักซอ้ ม 3. สื่อ PPT ความยาว การอ่านออกเสียงบทรอ้ ยแก้ว เร่ือง การอา่ น ทัด จาก ออกเสียงบท ร้อยแก้ว จบ ครู 5. นักเรยี นตอบคาถามและ ดน็ ของ รว่ มกนั วเิ คราะห์การอา่ น ทรอ้ ยแก้ว ข้างตน้ มอกั ขรวธิ ี เปน็ ตน้ กว้ เพือ่ ให้ 6. นักเรยี นฝกึ อ่านบทรอ้ ยแก้ว 1. สื่อ PPT 2. ประเมนิ เสียง เรอ่ื ง กลว้ ยไม้ เร่ือง การอ่าน การอ่าน ลุม่ โดย ออกเสียง 3. สังเกต ครู บทรอ้ ยแก้ว มารยาทใน - บทร้อยแก้ว การอา่ นของ รอา่ น เร่ือง กล้วยไม้ นักเรียน วในส่ือ 2. บทร้อยแกว้

๑๘ คมู่ ลาดับ ขอบเขตเนอ้ื หา/ ข้ันตอนการจัด เวลา แ ที่ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ การเรยี นรู้ ท่ใี ช้ กจิ กรรมคร 7. ครใู หน้ กั เรียนส่งต กล่มุ ออกมาอา่ นออก บทรอ้ ยแกว้ เรอ่ื ง กลว้ โดยครูแจกเกณฑก์ าร การอา่ นออกเสยี ง 8. ครสู รปุ การทากจิ ก - ประเมนิ การอ่าน - ประเมนิ มารยาทใน 4. ขนั้ สรปุ 5 1. ครตู งั คาถามเพอื่ ส นาที มปี ระเด็น ดงั นี - นกั เรยี นได้ความร้อู - รสู้ กึ อย่างไร - ไดค้ ุณธรรมเรื่องใด - และจะนาไปใช้ใน ชีวติ ประจาวนั ไดอ้ ย่า 2. ครสู รปุ ความรจู้ าก เปน็ แผนผงั ความคิดใน

มือครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจัดการเรียนรู้ ส่ือการเรยี นรู้ การประเมิน รู กิจกรรมนกั เรยี น เร่ือง คนบน การเรยี นรู้ ตวั แทน 7. ตัวแทนนักเรียนออกมา ต้นไม้ กเสยี ง อ่านออกเสียงบทร้อยแกว้ วยไม้ รประเมนิ กรรม 8. นักเรียนสรปุ การทา นการอ่าน กจิ กรรม - ประเมินการอ่าน - ประเมินมารยาทในการอา่ น สรปุ โดย 1. นักเรยี น : ไดค้ วามรู้เร่อื ง ส่อื PPT สังเกตและฟงั หลักการอ่านออกเสียง เร่ือง การอ่าน จากการตอบ อะไร บทรอ้ ยแก้ว ออกเสียง คาถาม มีมารยาทในการอ่าน มีความ บทรอ้ ยแกว้ สามัคคีในการทางานกล่มุ และนาทักษะการอ่านไป างไร แสวงหาความรใู้ นการเรียนวชิ า กบทเรียน อ่ืน ๆ หรือการอา่ นเรื่องทัว่ ไป นสอ่ื PPT ในชีวิตประจาวนั 2. นกั เรียนสรปุ ความรู้ในบทเรียน ร่วมกบั ครอู กี ครงั ในสื่อ PPT

หน่วยการเรียนร้ทู ่ี ๑ เรื่องสอ่ื สารคลอ่ งต้องรวู้ ิธี 19 8. ส่ือการเรียนร้/ู แหลง่ เรยี นรู้ 1. วดี ทิ ัศน์การอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยแก้ว 2. ใบความรู้ท่ี 1 เร่ือง การอ่านออกเสียงบทร้อยแก้ว 3. ใบงานที่ 1 เรอ่ื ง การอา่ นออกเสยี งบทร้อยแกว้ 4. สื่อ PPT เร่อื ง การอา่ นออกเสยี งบทร้อยแกว้ 5. แถบกระดาษสสี าหรับเขียนขอ้ ความ 9. การประเมนิ ผลรวบยอด ชิ้นงานหรือภาระงาน 1. ใบงานที่ 1 เร่อื ง การอ่านออกเสียงบทร้อยแก้ว 2. อ่านออกเสียงบทรอ้ ยแก้วตามบททีก่ าหนดเรือ่ ง ไกลกงั วล และเร่ือง คนบนตน้ ไม้ สิ่งที่ต้องการวัด / ประเมนิ วธิ ีการ เครอ่ื งมอื ท่ีใช้ เกณฑ์ - คาถาม รอ้ ยละ ๖๐ ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) - ใบงานที่ ๑ ขนึ ไป - บอกหลกั การอา่ นออกเสยี ง - พิจารณาจากการตอบ บทรอ้ ยแกว้ คาถามของนักเรียน - ตรวจใบงานที่ ๑ (ทใ่ี ห้นักเรียนทาเป็น การบ้าน) ดา้ นทักษะและกระบวนการ (P) - แบบประเมนิ การอา่ น รอ้ ยละ ๖๐ - อ่านออกเสยี งบทร้อยแก้ว - ประเมนิ การอ่านออก ออกเสียงบทรอ้ ยแกว้ ขึนไป เสยี งบทรอ้ ยแก้ว เรอื่ ง ไกลกังวล และคนบน ต้นไม้ ด้านคุณลักษณะ เจตคติ ค่านิยม (A) - มมี ารยาทในการอา่ น - สงั เกตมารยาทในการ - แบบประเมินตาม ร้อยละ ๖๐ อ่าน เกณฑ์รบู ริค ขึนไป คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ - สงั เกตพฤติกรรม - แบบประเมิน ระดบั คุณภาพ 2. มุ่งม่นั ในการทางาน นกั เรยี น คณุ ลกั ษณะอนั พึง ผา่ น ประสงค์ สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รยี น - สงั เกตพฤติกรรม - แบบประเมินสมรรถนะ ระดบั คุณภาพ 1. ความสามารถในการสอื่ สาร นกั เรยี น สาคัญของผเู้ รยี น ผา่ น 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใช้ทักษะ ชีวิต

20 คูม่ อื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) เกณฑ์ประเมิน : การอา่ นออกเสยี งบทร้อยแก้ว ประเดน็ ระดับคุณภาพ การประเมนิ ๑. อักขรวิธี ๔ (ดีมาก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรงุ ) อ่านถกู ต้องทุกคา อา่ นผิดมากกวา่ ๒. การแบง่ วรรค ออกเสียง ร ล อ่านผิดไมเ่ กนิ ๓ อา่ นผิดไม่เกนิ ๕ ๕ คา ตอน ชัดเจน คา ออกเสียง ร ล คา ออกเสยี ง ร ล แบง่ วรรคตอน ชัดเจน ชัดเจน แบง่ วรรคตอนผิด ถูกต้องทกุ วรรค มากกวา่ ๔ แหง่ แบง่ วรรคตอนผิด แบ่งวรรคตอนผิด ๑-๒ แหง่ ๓-๔ แหง่ ๓. บคุ ลกิ ภาพ นั่งในท่าที่ นั่งในทา่ ที่ น่งั ในทา่ ท่ไี ม่ นง่ั ในท่าทไี่ ม่ ท่าทางในการอ่าน เหมาะสม เหมาะสม เหมาะสมใช้ เหมาะสม ใช้นิวชี ใช้สายตามองกวาด ใช้สายตามองกวาด สายตามองกวาด ตามตวั อักษร ๔. นาเสยี งใน ตวั หนงั สือ ไมช่ ี ตัวหนงั สอื ถกู ตอ้ ง สา่ ยหนา้ ตาม และสา่ ยหน้าตาม การอา่ น หรือ เปน็ ส่วนใหญ่ ตวั หนังสือถกู ตอ้ ง ตัวอักษร ๕. มารยาท ส่ายหนา้ ตาม เป็นสว่ นน้อย ในการอ่าน ตัวอักษร นาเสยี งไมช่ ดั เจน ขาดความมัน่ ใจ นาเสยี งชัดเจน นาเสยี งชัดเจน นาเสียงชดั เจน ในการอ่าน นุ่มนวล นา่ ฟงั นุม่ นวลนา่ ฟงั เป็น นมุ่ นวลนา่ ฟงั เปน็ อา่ นเสียงดังและ สอดแทรกอารมณ์ สว่ นใหญ่ ส่วนน้อย รบกวนผู้อนื่ เปน็ สัมพันธ์กบั เนือหา บางครงั และขาด สมาธิในการอา่ น ไมอ่ า่ นเสยี งดัง ไมอ่ ่านเสยี งดัง ไมอ่ า่ นเสยี งดงั รบกวนผ้อู นื่ ไมเ่ ล่น รบกวนผ้อู ่ืน ไม่เล่น รบกวนผอู้ ่ืน ไม่ ขณะอ่าน และมี ขณะอา่ นและมี เลน่ ขณะอ่านและ สมาธใิ นการอ่าน สมาธใิ นการอ่าน มสี มาธใิ นการอ่าน เป็นสว่ นใหญ่ บา้ งเป็นบางครงั เกณฑก์ ารประเมินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ 16-20 ดมี าก 11-15 ดี 6-10 1-5 พอใช้ ปรบั ปรงุ เกณฑก์ ารตดั สิน : ผ่านเกณฑ์การประเมินร้อยละ ๖๐ ขึนไป (ตอ้ งได้ระดบั พอใช้ขึนไป)

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๑ เรื่องสอ่ื สารคล่องต้องรู้วิธี 21 แบบประเมนิ การอ่านออกเสียงบทรอ้ ยแก้ว คาชแ้ี จง : ให้ครูเขยี นคะแนนการอ่านออกเสียงบทร้อยแกว้ ลงในช่องทกี่ าหนด ใหต้ รงกบั ความเป็นจรงิ ัอกขร ิว ีธ (๔) สรปุ การแบ่งวรรคตอน (๔) คิด ลาดับ บุคลิกภาพ ่ทาทางใน รวม เปน็ ที่ ชือ่ - สกุล การ ่อาน (๔) (๒๐) ร้อย ไม่ นาเสียงในการ ่อาน (๔) ละ ผ่าน ผ่าน มารยาทในการ ่อาน (๔) ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ รวม คดิ เปน็ ร้อยละ ผลการประเมนิ  ดมี าก ..........คน คดิ เป็นร้อยละ...............  ดี .........คน คิดเป็นร้อยละ................  พอใช้ ..........คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ...............  ปรบั ปรงุ .........คน คิดเปน็ ร้อยละ................. สรุปผลการประเมินรายชนั้ เรียน  นกั เรยี นผา่ นเกณฑ์การประเมนิ จานวน......................... คน คิดเป็นร้อยละ.........................  นกั เรยี นไม่ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ จานวน......................... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ........................ ลงช่อื .................................................ผปู้ ระเมนิ (..............................................) ........../..................../..........

22 คู่มอื ครูและแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) 10. บนั ทึกผลหลังสอน ผลการจดั การเรียนการสอน ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................................................................................... .......................... .............................................................................................................................................................................. ความสาเรจ็ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปญั หาและอปุ สรรค ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ้ จากดั การใช้แผนการจัดการเรยี นรู้ และขอ้ เสนอแนะ/แนวทางการปรบั ปรงุ แก้ไข ............................................................................................................................. ................................................. .......................................................................................................................................... .................................... .............................................................................................................................................................................. ลงชอื่ ......................................................ผสู้ อน (..........................................................) วันที่ .......... เดือน ..................... พ.ศ. ............. 11. ความคดิ เห็น/ขอ้ เสนอแนะของผู้บริหารหรอื ผทู้ ่ไี ดร้ ับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .......................................................................................................................................... .................................... .............................................................................................................................................................................. ลงชือ่ ...................................................... ผูต้ รวจ (..........................................................) วนั ท่ี .......... เดอื น ..................... พ.ศ. .............

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๑ เรือ่ งสอื่ สารคลอ่ งต้องรวู้ ิธี 23 บทอ่าน การอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยแก้ว หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๑ เรื่อง สื่อสารคล่องต้องรวู้ ิธี แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี ๑ เรอื่ ง การอา่ นออกเสยี งบทร้อยแก้ว รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๕ บรรยายโวหาร เร่อื ง กลว้ ยไม้ มไี ม้ดอกชนดิ หน่งึ ซึ่งเปน็ ทีร่ จู้ กั กนั ทว่ั ไป คอื กลว้ ยไม้ มดี อกท่ีสวยงามหลากสี เช่น สแี ดง สีชมพู สีขาว และสีม่วง เป็นต้น บางชนิดเกาะอยู่บนต้นไม้และหิน บางชนิดอยู่ตามพืนดิน คนส่วนใหญ่นิยมปลูกไว้ใน กระถางเพราะง่ายต่อการดูแล กลิ่นของกล้วยไม้บางชนิดหอมชื่นใจ บางชนิดมีกลิ่นจางลักษณะทีแ่ ตกตา่ ง เชน่ นีขนึ อยูก่ บั แตล่ ะสายพนั ธ์ุ การผสมพันธุ์กล้วยไม้ มีการนามาผสมพันธ์ุใหม่ เพอื่ ใหไ้ ด้หลากหลายสายพนั ธ์ุ และสสี นั แปลกใหม่ ยามท่ีแสงแดดตกกระทบกบั กลว้ ยไม้ในตอนเช้าจนถึงตอนสาย ๆ กลีบของดอกกล้วยไม้ จะแยม้ บานสวยงาม ดอกกล้วยไม้บางชนิดสามารถนามารับประทานได้ โดยนามาประกอบอาหาร เช่น ชุบแปง้ ทอดยาดอก กล้วยไม้ วุ้นดอกกล้วยไม้ นอกจากนีกล่ินของกล้วยไม้ท่ีหอมสดชื่นนัน ยังสามารถนาไปสกัดเป็นหัวเชือ นาหอมได้ และยังมีสรรพคุณทางยา เช่น รักษาแผลในกระเพาะอาหาร แก้ปัญหาประจาเดือน รักษาโรค ตดิ เชอื ทางเดินปัสสาวะ บรรเทาอาการทอ้ งผกู ทังยังมกี ารเพาะปลกู ไวข้ าย นาไปไหวพ้ ระประดบั ตกแต่งตาม งานต่าง ๆ เพื่อความสวยงาม กล้วยไมจ้ ึงถือเป็นพชื ท่มี ีประโยชน์ และเหมาะแก่การปลกู ไวท้ ี่บา้ นหรอื ท่ีสวน กไ็ ด้ เรยี บเรียงโดย ครูชลภกั ดิ์ คงกาเนดิ โรงเรยี นวงั ไกลกังวล ในพระบรมราชูปถัมภ์ พรรณนาโวหาร คนบนต้นไม้ เขาใช้แขนยันพืนดิน อาการเหนื่อยอ่อน กลิ่นนาฝนบนใบหญ้าและกลิ่นไอดินโซยเข้าจมูกวาบหววิ อยากใหม้ ใี ครซักคนผ่านมาพบ เพื่อพาเขากลับไปหาหมอในหมบู่ า้ น มดหลายตวั เดนิ สวนขบวนผา่ นไปมา มนั ไม่มี ทที ่าจะสนใจเขาเลยแม้แต่นอ้ ย เขามองดมู ันอยา่ งเลอื่ นลอยทาไมมัน จึงเฉยเมยกับฉนั มนั คงรู้ แนฉ่ นั อยากให้มันเป็นคนจริง ๆ ฉนั จะต้องกลับบ้านใหไ้ ด้ เขาคดิ พลางเหมอ่ มองดูยอดสนของหมบู่ า้ นหาด เสยี ว เหน็ อยู่ไม่ไกลดวงอาทติ ยส์ ีแดงเขม้ กาลังคลอ้ ยลงเหนือยอดไมท้ างทศิ ตะวนั ตก (นคิ ม รายวา : คนบนต้นไม้)

24 คมู่ อื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ใบความรู้ที่ ๑ เรอ่ื ง การอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยแกว้ หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑ เรื่อง สอื่ สารคลอ่ งต้องรวู้ ธิ ี แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ ๑ เรือ่ ง การอ่านออกเสยี งบทร้อยแกว้ รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ การอ่านออกเสียงบทร้อยแกว้ บทร้อยแก้ว เป็นข้อเขียนที่นาคาและสานวนมาเรียบเรียงเปน็ ข้อความหรือเรอื่ งราวทส่ี ละสลวยดว้ ย กระบวนการเขียนแบบต่าง ๆ เช่น บรรยาย พรรณนา อธบิ าย คาสัง่ ข้อแนะนา ฯลฯ ทาใหผ้ ู้อา่ นเกดิ ความรสู้ กึ คล้อยตามหรือเกดิ จนิ ตนาการตามจุดประสงค์ของผูเ้ ขียน การอา่ นร้อยแก้ว อา่ นได้ทังออกเสียงและอา่ นในใจ มีขอ้ ควรปฏิบัตดิ งั นี ๑. ศึกษาคาอา่ นและความหมายของคาศพั ทย์ ากในบทอา่ นใหเ้ ข้าใจกอ่ นอา่ น ๒ ฝึกอ่านออกเสียงคาให้คล่อง ชัดเจนถูกต้องตามอักขรวิธี เช่น คาประสม คาท่ีมี ร ล และคา ควบกลา อกั ษรนา คาพอ้ ง คาทมี่ ี รร (ร หนั ) ฯลฯ ๓. อ่านคล่อง ไมอ่ ่านติดขัดและตะกกุ ตะกัก หรอื หยุดชะงัก โดยพยายามกวาดสายตาล่วงหนา้ ไปก่อน และออกเสียงตามหลงั ๔. เว้นจังหวะวรรคตอนใหถ้ ูกตอ้ ง รจู้ กั การเน้นคา ขอ้ ความ เพ่ือไม่ใหเ้ ข้าใจความหมายผดิ ไป ๕. เน้นท่าทางในการอ่านให้ถูกต้องเหมาะสม เช่น การจับหนังสือ ระยะการวางหนังสือห่างจาก สายตา ทา่ ยืน การมองผฟู้ ัง ฯลฯ ๖. เข้าใจความหมายของข้อความที่อ่านโดยจับใจความสาคัญ สรุปความ อธิบายรายละเอียด หรือ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั ขอ้ ความที่อา่ น ๗. อา่ นเสยี งดังพอประมาณ ชัดเจน ไมต่ ะโกน นาเสยี งตอ้ งไดอ้ ารมณแ์ ละความรู้สึกตามใจความของ เร่ือง เช่น - อ่านข้อความเชิงบรรยาย ควรใช้เสยี งธรรมดาหรอื เสยี งพูด เว้นวรรคตอนไดถ้ ูกต้อง เน้นคาบางคา และบางตอนใหห้ นักแน่น - อ่านข้อความเชงิ พรรณนา ควรใช้เสียงธรรมดาเหมอื นเสยี งพูด แต่เพิม่ นาเสยี งให้นุม่ นวล ออ่ นโยน หรืออน่ื ๆ เพอื่ ใหส้ อดคล้องกบั ลักษณะของข้อความทีเ่ ป็นการพรรณนา - อ่านข้อความเชิงอธิบาย ควรใช้เสียงธรรมดา เว้นจังหวะเป็นข้อ ๆ เน้นจังหวะการทาความเขา้ ใจ ขันตอนต่าง ๆ ในชีวิตประจาวันมกี ารอ่านลกั ษณะนีมาก เช่น การอ่านฉลากยา คู่มือวิธีใช้เคร่ืองใช้ต่าง ๆ วิธี อา่ นและใชห้ นงั สือ ฯลฯ

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๑ เรอื่ งสอื่ สารคล่องตอ้ งรวู้ ิธี 25 มารยาทในการอ่าน มารยาทในการอา่ นหนงั สือในทส่ี าธารณะ มขี ้อควรปฏิบตั ิ ดังนี ๑. ไมเ่ สียงดังรบกวนผอู้ น่ื ๒. ไมเ่ ลน่ กันในขณะอา่ น ๓. นัง่ สารวม เหมาะสมขณะอ่าน ๔. ไม่ทาลายหนังสือ หรอื ทาหนงั สือชารดุ ๕. ไม่ชะโงกหนา้ ไปยังหนงั สือขณะที่ผู้อ่นื อ่านอยู่ ๖. ไม่ย้ายหนังสือหรือแอบซ่อนหนังสือเพ่ือให้ประโยชน์เฉพาะตน ทาให้ผู้อ่ืนไม่สามารถหาจากชัน หนังสอื ได้ ๗. ปฏบิ ตั ติ ามระเบียบการยืมหนังสือกรณที ี่อนญุ าตใหย้ มื ได้ (เรยี บเรียงจากหนงั สอื เรียน รายวชิ าพนื ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพอื่ ชีวติ ภาษาพาที ชนั ป.๕)

26 ค่มู อื ครูและแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ใบงานที่ ๑ เรอื่ ง การอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยแก้ว หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๑ เร่ือง สอ่ื สารคลอ่ งต้องร้วู ธิ ี แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ ๑ เร่อื ง การอ่านออกเสยี งบทร้อยแกว้ รายวิชา ภาษาไทย รหสั วชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๕ คาช้แี จง : ใหน้ กั เรียนตอบคาถามต่อไปนี ๑. รอ้ ยแก้ว คอื อะไร ..................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................. .................................... ๒. การอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยแกว้ มหี ลกั การอ่านและมารยาทในการอา่ นอยา่ งไรบ้าง (เขยี นสรปุ ความรเู้ ปน็ แผนผงั ความคิด) ๓. ให้นกั เรียนอ่านออกเสยี งบทร้อยแกว้ จากบทอ่านทก่ี าหนดข้างต้นตามหลกั การอา่ น จากนันสนทนา เก่ยี วกบั ใจความของเร่ือง ชื่อ....................................................นามสกลุ ................................................ชนั้ .................เลขท่ี...............

หน่วยการเรียนร้ทู ี่ ๑ เรื่องสอ่ื สารคล่องตอ้ งรู้วิธี 27 แนวคาตอบใบงานที่ ๑ เรอื่ ง การอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยแกว้ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๑ เร่ือง สือ่ สารคลอ่ งตอ้ งรวู้ ธิ ี แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี ๑ เร่ือง การอา่ นออกเสยี งบทร้อยแก้ว รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๕ คาชี้แจง : ใหน้ กั เรยี นตอบคาถามตอ่ ไปนี ๑. รอ้ ยแก้ว คืออะไร...ร้อยแกว้ เปน็ ข้อเขียนท่นี าคามาเรียบเรยี งเป็นขอ้ ความหรือเรือ่ งราวซง่ึ มแี บบต่าง ๆ เช่น บรรยาย พรรณนา อธิบาย คาส่ัง ข้อแนะนา ฯลฯ หรืออาจเรียกร้อยแก้วสัน ๆ ตามความเข้าใจ “ความเรยี ง” ๒. การอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วมีหลักการอ่านและมาร ยาทใ นการอ่ านอ ย่าง ไร บ้ า ง (เขียนสรุปความรู้เป็นแผนภาพความคิด) อ่านคาใหถ้ กู ต้องตามอกั ขรวิธี เช่น อ่านออกเสียงพยญั ชนะให้ถูกต้อง คาประสม คาควบกลา คาทม่ี ี เสยี งดงั ฟังชดั เจน โดยเฉพาะ คาที่มี ร ล และคาควบกลา อกั ษรนา คาพอ้ ง คาทีม่ ี รร (ร หัน) หลกั การอ่าน และมารยาทในการ อา่ น เว้นจงั หวะ วรรคตอนใหถ้ ูกต้อง อ่านใหค้ ล่องแคล่ว ไม่ตะกุกตะกกั มี เหมาะสม ร้จู กั การเนน้ คาเพื่อไมใ่ ห้ บุคลกิ ภาพ ท่าทางในการอ่านท่ี สภุ าพ เรยี บรอ้ ย เหมาะสม เขา้ ใจความหมายผดิ ไป ๓. ให้นักเรียนอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยแก้วจากบทอ่านท่กี าหนดข้างต้นตามหลักการอา่ น จากนันสนทนา เกีย่ วกบั ใจความของเรื่อง วังไกลกังวล เป็นวังของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ซ่ึงอยู่ใกล้ธรรมชาติท่ีสวยงาม พระตาหนักในวังไกลกังวลมีนามคล้องจองกันคือ พระตาหนกั เปยี่ มสขุ ปลุกเกษม เอบิ เปรม และเอมปรดี ี มกี ารกอ่ สรา้ งอาคารเพิ่มเตมิ รวมทังจดั ตงั โรงเรยี นไกลกังวลขึนเปน็ โรงเรียนในพระบรมราชูปถมั ภ์

๒๘ คู่มอื ครูและแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 2 เรอื่ ง การอา่ นออกเสยี งบทร้อยกรอง เวลา 1 ชัว่ โมง หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 1 เรือ่ ง สอ่ื สารคล่องต้องรู้วธิ ี กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย รายวิชาภาษาไทย ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้ีวัด สาระท่ี 1 การอ่าน มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคดิ เพ่อื นาไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาในการดาเนิน ชวี ิตและมีนิสัยรกั การอา่ น ตัวชว้ี ดั ป.๕/๑ อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทรอ้ ยกรองได้ถูกตอ้ ง ป.๕/๘ มีมารยาทในการอา่ น ๒. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด การอ่านออกเสียงบทร้อยกรองต้องอ่านออกเสียงให้ชัดเจน ถูกต้องตามอักขรวิธีและฉันทลักษณ์ การอ่านบทร้อยกรองเป็นทานองเสนาะต้องรู้จักทอดจังหวะ เอื้อนเสียงหรือหลบเสียง เสียงไม่เบาหรือดัง เกินไป รจู้ ักเนน้ เสียงแสดงอารมณ์ใหเ้ ปน็ ไปตามเนอื้ เร่อื ง ๓. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 3.1 ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) บอกหลักการอา่ นออกเสียงบทร้อยกรองได้ 3.2 ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) อ่านออกเสียงบทร้อยกรองได้ 3.3 ด้านคุณลักษณะ เจตคติ คา่ นิยม (A) มมี ารยาทในการอ่าน ๔. สาระการเรยี นรู้ - การอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง ๕. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน 5.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร 5.2 ความสามารถในการคิด ๖. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 6.1 มงุ่ มัน่ ในการทางาน 6.2 รักความเปน็ ไทย 7. กิจกรรมการเรียนรู้

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๑ เรอื่ งสอ่ื สารคล่องต้องรูว้ ธิ ี การจดั กจิ กรรมการเรียน รายวิชา ภาษาไทย หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เรือ่ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 2 เร่ือง การอา่ นอ ลําดบั ขอบเขตเนือ้ หา/ ขั้นตอนการจดั เวลา ที่ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรียนรู้ 1. ทใ่ี ช้ กจิ กรรมคร ขอบเขตเนื้อหา 1. ความหมายและ ขนั้ นาํ 5 1. ครูใหน้ กั เรยี นดวู ีด หลกั การอ่านออกเสียง นาที การอา่ นออกเสียงบท บทรอ้ ยกรอง และใหน้ กั เรยี นสงั เกต 2. การอ่านออกเสียง   ของนกั เรยี นทง้ั สองค บทรอ้ ยกรอง 3. มารยาทในการอา่ น     2. ครถู ามคําถาม ดัง ครู : การอา่ นในวีดทิ การอ่านลักษณะใด 2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ขน้ั สอน 30 3. ครแู จง้ จดุ ประสงค นาที รู้และเช่อื มโยงเขา้ สู่บ 1. ครูถามนกั เรยี น ด ครู : นักเรียนเคยฟังบท เร่อื งใดมาบา้ ง ในตอน

นรู้ ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 5 ๒๙ อง ส่อื สารคล่องตอ้ งรวู้ ธิ ี จาํ นวน 10 ชวั่ โมง การประเมิน ออกเสียงบทรอ้ ยกรอง จํานวน 1 ชว่ั โมง การเรียนรู้ สังเกตการตอบ แนวการจดั การเรียนรู้ ส่ือการเรียนรู้ คําถามของ รู กิจกรรมนกั เรยี น นักเรยี น ดิทศั น์ 1. นักเรยี นดวู ดี ิทศั น์และ 1. วดี ทิ ศั น์ สงั เกตการตอบ ทรอ้ ยกรอง สงั เกตสถานการณก์ ารอา่ น การอ่าน คําถามของ ตการอ่าน ออกเสียงบทร้อยกรอง ออกเสียง นักเรยี น คน บทรอ้ ยกรอง งนี้ 2. นกั เรยี นตอบคาํ ถาม โดย 2. สื่อ PPT ทัศน์เป็น ตอบในสิ่งที่ได้จากการสงั เกต เรื่อง การอ่าน ในวดี ิทัศน์ ออกเสยี งบท ค์การเรียน นักเรยี น : เปน็ การอ่านร้อย รอ้ ยกรอง บทเรียน กรอง ดงั นี้ นกั เรียน : เปน็ การอ่านทํานอง 1. ส่ือ PPT ทร้อยกรอง เสนาะ เรื่อง การอา่ น นกั เรยี น : เปน็ การอ่านออก ออกเสยี ง นท่ีศึกษา เสยี ง 3. นักเรียนเขา้ สู่บทเรียน 1. นกั เรยี นตอบคาํ ถาม เชน่ - พระอภัยมณี ตอน กาํ เนิด สดุ สาคร

๓๐ คู่ม ลาดบั ขอบเขตเน้อื หา/ ขน้ั ตอนการจดั เวลา กิจกรรมคร ที่ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ทใี่ ช้ อยชู่ ัน้ ประถมศกึ ษาป 2. ครสู นทนาแลกเป ความคดิ เห็นเกยี่ วกบั ความหมายของบทรอ้ 1. บอกหลกั การอา่ น 3. ครนู าอภปิ รายคว ออกเสียงบทรอ้ ยกรอง การให้นักเรยี นศกึ ษา ได้ หลกั การอา่ นออกเสยี บทรอ้ ยกรองจากใบค วา่ มหี ลกั การอา่ นอยา่ 4. ครถู ามคาถาม ดงั - จากการอภิปราย น ขอ้ สรปุ เกยี่ วกบั หลักก ออกเสียงบทรอ้ ยกรอ บ้าง

มอื ครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจัดการเรียนรู้ สื่อการเรยี นรู้ การประเมิน บทรอ้ ยกรอง การเรียนรู้ รู กจิ กรรมนักเรยี น ปที ี่ 4 - ปากเป็นเอก เลขเป็นโท ปลี่ยน หนังสอื เป็นตรี ชัว่ ดีเป็นตรา บ 2. นกั เรยี นร่วมกันสนทนา อยกรอง แลกเปลี่ยนความคดิ เห็น เก่ยี วกบั ความหมายของบท ร้อยกรอง วามรูด้ ้วย 3. นกั เรยี นรว่ มกนั อภิปราย 2. ใบความรทู้ ่ี ๒ สงั เกตการตอบ าเกีย่ วกบั ความรดู้ ว้ ยการศกึ ษาเกีย่ วกบั เร่ือง การอ่าน คาถามของ ยง หลักการอ่านออกเสยี ง ออกเสยี งบท นกั เรียน ความรทู้ ่ี ๒ บทรอ้ ยกรองว่ามีหลกั การอ่าน รอ้ ยกรอง างไรบ้าง อย่างไรบ้าง จากใบความรทู้ ่ี ๒ งนี้ 4. นกั เรียนตอบคาถาม โดย นักเรียนได้ สรปุ ประเด็นหลกั การอา่ นออก การอา่ น เสยี งบทรอ้ ยกรองเปน็ ขอ้ ๆ องอยา่ งไร เช่น - อ่านออกเสียงให้ชดั เจนและ ถกู ตอ้ งตามอักขรวิธี - อา่ นเวน้ จังหวะวรรคตอนให้ ถกู ตอ้ งตามลกั ษณะของบท

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๑ เร่อื งสอ่ื สารคล่องตอ้ งรูว้ ธิ ี กิจกรรมคร ลาดบั ขอบเขตเน้ือหา/ ข้นั ตอนการจดั เวลา ท่ี จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรยี นรู้ ท่ีใช้ 3. 2. อา่ นออกเสียง ข้ันปฏบิ ัติ 5. ครูใหน้ ักเรียนทาใ บทรอ้ ยกรองได้ ข้อที่ 1-3 3. มมี ารยาทใน ครู : นักเรยี นอ่านคา การอา่ น ใบงานแล้วมขี ้อสงสยั 6. ครูเฉลยใบงานที่ 2 1-3 บนสไลด์ PPT 10 7. ครูให้แตล่ ะกลมุ่ ท นาที “อ่านออกเสียง สาเน ขาน” โดยการฝกึ อา่ นออกเ ตอบคาถามจากบทร ในใบงานที่ 2 ข้อท่ี 4 (ครูขน้ึ ข้อความในสอ่ื การอ่านออกเสียงบทร

๓๑ แนวการจัดการเรยี นรู้ ส่อื การเรยี นรู้ การประเมนิ รู กจิ กรรมนักเรียน การเรยี นรู้ 3. ใบงานที่ 2 1. ประเมนิ ใบ รอ้ ยกรองแตล่ ะประเภท รจู้ กั เรอื่ ง การอา่ น งาน ทอดจังหวะ เอื้อนเสยี ง หรอื ออกเสียง หลบเสียง บทร้อยกรอง 2. ประเมิน ใบงานท่ี 2 5. นกั เรียนทาใบงานที่ 2 4. สื่อ PPT การอ่านออกเสียง ขอ้ ท่ี 1-3 เร่อื ง การอ่าน บทรอ้ ยกรอง าชแี้ จงใน นักเรยี น : มี/ไม่มี ออกเสยี ง 3. สังเกต ยอะไรบา้ ง บทรอ้ ยกรอง มารยาทใน 1. บทร้อยกรอง การอ่าน 2 ขอ้ ที่ 6. นักเรยี นทุกกลุ่มเปลย่ี นกนั ในใบงานท่ี 2 ตรวจใบงาน ขอ้ ที่ 4 ทากจิ กรรม 7. นักเรยี นทกุ กลุ่มทา นยี งขบั กจิ กรรม “อ่านออกเสียง สาเนียงขบั ขาน” เสยี งและ โดยการฝกึ อ่านออกเสียงและ ร้อยกรอง ตอบคาถามจากบทร้อยกรอง 4 ในใบงานที่ 2 ขอ้ ท่ี 4 อ PPT: (นักเรียนตน้ ทาง/ปลายทาง 2. ส่อื PPT ร้อยกรอง) ทากิจกรรมไปอย่างพรอ้ ม ๆ กนั )

๓๒ ค่มู ลาดับ ขอบเขตเนอ้ื หา/ ขน้ั ตอนการจดั เวลา กจิ กรรมคร ที่ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรียนรู้ ที่ใช้ 8. ครูให้ตวั แทนนกั เร ตวั แทนกล่มุ ออกมาอ เสยี งบทร้อยกรองให ท้งั ต้นทางและปลายท จากน้ันสรุปกิจกรรม 4. ข้ันสรปุ 5 1. ครูถามคาถามเพอื่ นาที ดงั น้ี ครู : นกั เรยี นได้ความ ร้สู ึกอย่างไร ได้คณุ ธร ใด และจะนาไปใช้ใน ชวี ติ ประจาวันไดอ้ ย่า 2. ครูสรปุ ความรเู้ ป็น ความคดิ ในสอ่ื PPT

มือครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจัดการเรียนรู้ ส่อื การเรียนรู้ การประเมิน การเรยี นรู้ รู กิจกรรมนักเรยี น รียน/ 8. นักเรยี นทเี่ ปน็ ตวั แทน อา่ นออก ออกมาอ่านออกเสียงบทรอ้ ย ห้เพ่อื น ๆ กรองใหเ้ พ่ือน ๆ ทัง้ ต้นทาง ทางฟงั และปลายทางฟงั จากน้นั สรปุ กจิ กรรมร่วมกัน อนาสรปุ 1. นกั เรยี นตอบคาถามตามสิง่ ส่ือ PPT สงั เกตการตอบ มรู้อะไร ทตี่ นเองไดร้ บั จากการเรยี น เร่ือง การอ่าน คาถามของ รรมเร่ือง เชน่ ออกเสียง นักเรยี น - ไดร้ บั ความรเู้ รื่อง การอ่าน บทรอ้ ยกรอง างไรบา้ ง ออกเสียงบทรอ้ ยกรอง นแผนผงั - การมีมารยาทในการอ่าน 2. นักเรียนสรปุ ความรใู้ น บทเรยี นรว่ มกบั ครอู กี ครง้ั ใน สื่อ PPT

หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ ๑ เร่อื งสอ่ื สารคล่องต้องรวู้ ธิ ี 33 8. สือ่ การเรยี นร/ู้ แหลง่ เรยี นรู้ 1. วดี ทิ ศั น์การอา่ นออกเสียงบทรอ้ ยกรอง 2. ใบความรู้ที่ 2 เรอ่ื ง การอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง 3. ใบงานที่ 2 เรื่อง การอ่านออกเสียงบทรอ้ ยกรอง 4. ส่ือ PPT เรื่อง การอ่านออกเสียงบทรอ้ ยกรอง 9. การประเมนิ ผลรวบยอด ช้ินงานหรือภาระงาน - ใบงานท่ี 2 เร่อื ง การอ่านออกเสียงบทรอ้ ยกรอง - อา่ นออกเสียงบทรอ้ ยกรอง ส่ิงท่ีตอ้ งการวดั / ประเมิน วิธกี าร เครอื่ งมือทใ่ี ช้ เกณฑ์ 1. คาถาม รอ้ ยละ ๖๐ ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) 2. ใบงานท่ี 2 ขึ้นไป - บอกหลกั การอ่านออกเสียง 1. สังเกตการตอบคาถาม บทรอ้ ยกรอง ของนักเรยี น - แบบประเมนิ การอ่าน รอ้ ยละ ๖๐ 2. ตรวจใบงานที่ 2 ออกเสียงบทรอ้ ยกรอง ข้ึนไป ด้านทกั ษะและกระบวนการ (P) - แบบสงั เกตมารยาท รอ้ ยละ ๖๐ - อ่านออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง - ประเมนิ การอ่านออก ในการอา่ น ข้ึนไป เสียงบทร้อยกรอง - แบบประเมิน ระดับคณุ ภาพ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ผ่าน ด้านคุณลักษณะ เจตคติ ประสงค์ คา่ นิยม (A) 1. แบบประเมนิ คาถาม ระดับคุณภาพ - มมี ารยาทในการอ่าน - สังเกตมารยาทในการ 2. แบบประเมนิ ผ่าน อ่าน การทางานกลมุ่ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝเ่ รียนรู้ - สังเกตพฤติกรรมของ 2. มงุ่ ม่ันในการทางาน นักเรียน สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 1. การสงั เกตพฤติกรรม 2. ความสามารถในการคดิ 2. การตอบคาถาม

34 คูม่ ือครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) เกณฑ์ประเมนิ : การอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง ประเดน็ ระดบั คุณภาพ การประเมิน ๔ (ดมี าก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรุง) ๑. อักขรวิธี อ่านถูกตอ้ งทกุ คา อา่ นผดิ ไม่เกนิ ๓ อา่ นผดิ ไม่เกนิ ๕ คา อา่ นผิดมากกว่า ออกเสยี ง ร ล คา ออกเสียง ร ล ออกเสยี ง ร ล ชัดเจน ๕ คา ชดั เจน ชัดเจน ๒. อ่านถกู ตอ้ ง อ่านถกู ตอ้ งตาม อา่ นถกู ต้องตาม อา่ นถกู ต้องตาม อา่ นไม่ถกู ต้อง ตามฉนั ทลักษณ์ ลกั ษณะของคา ลกั ษณะคา ลกั ษณะคาประพันธ์ ตามลักษณะคา ประพนั ธ์ แบง่ วรรค ประพนั ธ์ แบง่ วรรคตอน ประพันธ์ และ ตอนถกู ตอ้ งทกุ วรรค แบง่ วรรคตอน ผิด ๓-๔ แหง่ แบง่ วรรคตอน ผดิ ๑-๒ แหง่ ผิดมากกว่า ๔ แห่ง ๓. บุคลกิ ภาพ น่ังในทา่ ท่ีเหมาะสม นัง่ ในทา่ ที่เหมาะสม นัง่ ในทา่ ทไ่ี มเ่ หมาะสม นัง่ ในทา่ ทีไ่ ม่ ทา่ ทางใน ใช้สายตามองกวาด เหมาะสมใช้นิ้วช้ี การอ่าน ใชส้ ายตามองกวาด ใชส้ ายตามองกวาด สา่ ยหนา้ ตาม ตามตัวอักษร ตวั หนังสือ ไม่ชห้ี รือ ตวั หนงั สอื ถกู ตอ้ ง ตัวหนังสอื ถูกตอ้ งเปน็ และสา่ ยหนา้ ส่ายหน้าตาม เป็นส่วนใหญ่ ส่วนนอ้ ย ตามตวั อกั ษร ตวั อกั ษร ๔. น้าเสียง น้าเสยี งชดั เจน นา้ เสยี งชดั เจน นา้ เสยี งชดั เจนขาด นา้ เสียงไม่ ในการอา่ น นมุ่ นวลน่าฟัง น่มุ นวล น่าฟงั เป็น ความนุ่มนวลหรอื ชัดเจน สอดคลอ้ งกบั เรื่องที่ สว่ นใหญ่ สอดคล้องกบั เร่อื งท่ี ขาดความมนั่ ใจ อ่าน อา่ น ในการอ่าน ๕. มารยาท ไมส่ ่งเสยี งดงั รบกวน ไมส่ ่งเสียงดัง สง่ เสยี งดงั บ้างและ สง่ เสียงดงั และ ในการอา่ น ผอู้ ืน่ ไม่เลน่ ในขณะ รบกวนผูอ้ นื่ ไม่เล่น เลน่ ในขณะอ่านเป็น เลน่ ในขณะอา่ น อ่าน และมสี มาธใิ น ขณะอา่ น บางครงั้ การอ่าน เกณฑ์การประเมนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 16-20 ดีมาก 11-15 ดี 6-10 พอใช้ 1-5 ปรับปรงุ เกณฑก์ ารตดั สนิ : ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ รอ้ ยละ ๖๐ ขนึ้ ไป (ต้องไดร้ ะดบั พอใชข้ ึน้ ไป)

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๑ เร่อื งสอื่ สารคลอ่ งต้องรู้วิธี 35 แบบประเมินการอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง คาชี้แจง ให้ครเู ขยี นคะแนนการอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยกรองลงในช่องทกี่ าหนดใหต้ รงกับความเปน็ จรงิ ัอกขร ิว ีธ (๔) สรปุ การแบ่งวรรคตอน ลาดบั ชื่อ - สกลุ และ ัฉนทลักษ ์ณ (๔) รวม คิดเปน็ ที่ บุคลิกภาพ (๒๐) รอ้ ยละ ผ่าน ไม่ผา่ น ่ทาทางในการ ่อาน (๔) น้าเสียงในการ ่อาน (๔) มารยาทในการ ่อาน (๔) ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ 12 13 14 15 รวม คดิ เป็นร้อยละ ผลการประเมิน  ดีมาก ..........คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ...............  ดี ..........คน คิดเป็นร้อยละ................  พอใช้ ..........คน คดิ เป็นร้อยละ...............  ปรับปรุง .........คน คดิ เป็นร้อยละ................. สรุปผลการประเมนิ รายชั้นเรียน  นักเรียนผ่านเกณฑ์การประเมนิ จานวน......................... คน คดิ เป็นร้อยละ.........................  นกั เรียนไม่ผา่ นเกณฑ์การประเมิน จานวน......................... คน คิดเป็นร้อยละ........................ ลงชือ่ .................................................ผปู้ ระเมนิ (..............................................) ........../..................../..........

36 คมู่ ือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) 10. บนั ทกึ ผลหลังสอน ผลการจัดการเรียนการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสาเรจ็ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปัญหาและอปุ สรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ข้อจากัดการใชแ้ ผนการจดั การเรียนรู้ และขอ้ เสนอแนะ/แนวทางการปรับปรงุ แก้ไข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ......................................................ผสู้ อน (.......................................................) วันที่ .......... เดอื น ..................... พ.ศ. ............. 11. ความคดิ เหน็ /ข้อเสนอแนะของผู้บริหารหรือผู้ท่ไี ด้รับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ ...................................................... ผู้ตรวจ (.......................................................) วนั ท่ี .......... เดอื น ..................... พ.ศ. .............

หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑ เร่ืองสอ่ื สารคล่องตอ้ งรู้วธิ ี 37 ใบความรูท้ ่ี 2 เรอื่ ง การอ่านออกเสียงบทรอ้ ยกรอง หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๑ เร่ือง ส่ือสารคล่องต้องรูว้ ธิ ี แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 2 เรือ่ ง การอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๕ การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง บทรอ้ ยกรอง คอื ถ้อยคาท่เี รยี บเรียงให้เป็นระเบียบถกู ต้องตามข้อกาหนดฉันทลกั ษณ์ กลอนสุภาพ คอื กลอนที่วรรคหนึ่งมีจานวนคาระหว่าง 7-9 คา สาหรบั การอ่านออกกเสียงบทร้อยกรองนัน้ กอ่ นอ่านควรศกึ ษาประเดน็ ตอ่ ไปนี้ เพือ่ ให้สามารถอ่านไดถ้ ูกต้อง 1. คาศัพทย์ ากในบทร้อยกรอง ต้องศกึ ษาคาอ่านและความหมายใหเ้ ข้าใจก่อน 2. รปู แบบของบทรอ้ ยกรอง ตอ้ งศกึ ษาประเภทของบทรอ้ ยกรอง จานวนคาในวรรค 3. จงั หวะการอ่าน ตอ้ งศกึ ษาจังหวะการอ่านของบทรอ้ ยกรองประเภทน้ัน ๆ เพราะบทรอ้ ยกรอง ถา้ มี 7 คา ให้อา่ นเป็น 2/2/3 ถา้ มี 8 คา ใหอ้ ่านเปน็ 3/2/3 ถ้ามี 9 คาใหอ้ ่านเปน็ 3/3/3 วธิ ีการอ่านออกเสียงบทร้อยกรองมี 2 วิธี ดังนี้ 1. อ่านออกเสียงปกติ คือ อ่านออกเสียงปกติเหมือนกับการอ่านบทร้อยแก้วท่ัวไป แต่จะมีการเว้น วรรค และเน้นจังหวะที่สัมผัสตามบทรอ้ ยกรองแต่ละประเภท ซ่งึ แตกต่างกนั 2. อ่านออกเสียงเป็นทานอง คือ อ่านให้มีสาเนียงสูง ต่า หนัก เบา ยาว สั้น เอื้อนเสียง และเน้น สัมผสั ให้ชดั เจน ไพเราะ เสยี งเปน็ กงั วาน แสดงอารมณ์ตามเนอ้ื หาของบทรอ้ ยกรอง หลักสาคญั ในการอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง 1. อ่านออกเสยี งใหช้ ดั เจนและถูกตอ้ งตามอักขรวิธี 2. อ่านเว้นจังหวะวรรคตอนให้ถูกตอ้ งตามลักษณะของบทร้อยกรองแต่ละประเภท รู้จักทอดจังหวะ เออื้ นเสยี ง หรอื หลบเสียง 3. นา้ เสยี งไพเราะชัดเจน น่มุ นวลน่าฟงั เสยี งไม่เบาหรอื ดังมากจนเกนิ ไป 4. เน้นเสยี งแสดงอารมณ์ให้เป็นไปตามเนอื้ เรือ่ ง เช่น รัก ร่าเริง โกรธ เศร้า โดยใช้น้าเสยี งให้เข้ากับ สถานการณ์น้นั ๆ มารยาทในการอา่ น 1. อ่านด้วยนา้ เสยี งสุภาพ เสยี งดงั พอประมาณ ไม่ตะโกนเสียงดงั 2. มที า่ ทางทสี่ ภุ าพในการอ่าน บุคลิกภาพเรยี บรอ้ ย สง่างาม 3. ถ้าเปน็ การนง่ั อา่ น ควรนงั่ หลังตรง ถ้าเป็นการยืน ควรยืนตรงด้วยท่าทางที่สภุ าพ 4. ถ้าเปน็ การอ่านบทรอ้ ยกรอง ควรอ่านใหถ้ ูกต้องตามฉันทลักษณ์

38 คู่มอื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ใบงานที่ ๒ เรือ่ ง การอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี ๑ เร่ือง สือ่ สารคลอ่ งต้องรวู้ ิธี แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ ๒ เร่ือง การอ่านออกเสยี งบทร้อยกรอง รายวชิ า ภาษาไทย รหัสวชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ คาช้แี จง ให้นกั เรยี นตอบคาถามต่อไปนี้ ๑. บทร้อยกรอง คืออะไร .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ๒. การอ่านบทร้อยกรองอา่ นไดก้ แี่ บบ อะไรบา้ ง .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ๓. การอ่านออกเสยี งบทร้อยกรองมหี ลกั การอา่ นอย่างไร .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ๔. ให้นักเรียนฝึกอ่านบทร้อยกรองท่กี าหนด โดยทาเครอื่ งหมาย / (เครื่องหมายทบั ) แบ่งจังหวะการอ่านให้ ถูกตอ้ งและอ่านเป็นทานองเสนาะ อนั มนุษยเ์ ปรยี บไดเ้ หมอื นไม้ดอก ยามทีอ่ อกดอกสวยด้วยสสี นั แตอ่ ยคู่ ละระเกะระกะครัน ด้วยตา่ งพนั ธต์ า่ งตน้ ต่างทีม่ า แมว้ า่ เก็บดอกไมม้ าเรียงร้อย มาลยั นอ้ ยกง็ ามเดน่ เหน็ คุณคา่ เหมอื นคนทม่ี ีวินยั ไมเ่ ฉยชา ยอ่ มนาพาใหส้ ังคมสุขร่มเยน็ (จากหนังสือเรยี นภาษาไทย ชดุ พื้นฐานภาษา ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ เล่ม ๒) บทรอ้ ยกรองเปน็ คาประพนั ธ์ประเภท................................................................................................................... แบ่งจงั หวะการอา่ นเป็น................................จังหวะ คือ....................................................................................... .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ชื่อ....................................................นามสกลุ ..............................................ช้ัน....................เลขท่ี.............

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๑ เร่อื งสอ่ื สารคล่องตอ้ งรูว้ ิธี 39 แนวคาตอบใบงานท่ี ๒ เร่ือง การอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๑ เรื่อง สื่อสารคล่องตอ้ งร้วู ธิ ี แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๒ เรอ่ื ง การอ่านออกเสยี งบทร้อยกรอง รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๕ คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรยี นตอบคาถามต่อไปนี้ ๑. บทร้อยกรอง คือ บทรอ้ ยกรองเปน็ บทประพันธท์ ีผ่ แู้ ต่งคดิ ค้นประดิษฐเ์ รียบเรียงถอ้ ยคา แตล่ ะวรรค แต่ละ บทอย่างประณีตบรรจงตามลักษณะกฎเกณฑ์ของฉันทลักษณ์ ทาให้เกดิ เสยี ง จังหวะ ลีลาท่ีงดงาม เกดิ ความ ไพเราะและเพลิดเพลินไปกับนา้ เสยี งและเน้ือหาของเรอ่ื งนน้ั ๆ ๒. การอ่านบทรอ้ ยกรองอา่ นไดก้ ่ีแบบ อะไรบา้ ง การอา่ นบทรอ้ ยกรอง สามารถอ่านได้ 2 แบบ คือ 2.1 อา่ นออกเสียงปกติ คือ อ่านออกเสียงปกติเหมือนกับการอ่านบทร้อยแก้วทวั่ ไป แต่จะมีการเว้น วรรค และเน้นจงั หวะกี่สัมผสั ตามบทร้อยกรองแตล่ ะประเภท ซึง่ แตกต่างกนั 2.2 อ่านออกเสียงเป็นทานอง คือ อ่านให้มีสาเนียงสูง ต่า หนัก เบา ยาว สั้น เอื้อนเสียง และเน้น สัมผัสใหช้ ดั เจน ไพเราะ เสยี งเป็นกังวาน แสดงอารมณ์ตามเนือ้ หาของบทรอ้ ยกรอง ๓. การอา่ นออกเสยี งบทร้อยกรองมีหลักการอา่ นอยา่ งไร หลกั สาคัญในการอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง 1. อา่ นออกเสยี งให้ชดั เจนและถกู ตอ้ งตามอกั ขรวิธี 2. อ่านเว้นจังหวะวรรคตอนให้ถูกต้องตามลกั ษณะของบทร้อยกรองแตล่ ะประเภท รู้จักทอดจงั หวะ เอื้อนเสยี ง หรือหลบเสยี ง 3. น้าเสยี งชดั เจน นุ่มนวลน่าฟงั เสยี งไม่เบาหรอื ดงั มากจนเกินไป 4. เนน้ เสียงแสดงอารมณ์ไปตามเนอื้ เรือ่ ง เช่น รัก ร่าเริง โกรธ เศร้า โดยใช้น้าเสียงเขา้ กบั เหตุการณ์ นั้น ๆ ๔. ใหน้ กั เรียนฝึกอ่านบทรอ้ ยกรองที่กาหนด โดยทาเครอ่ื งหมาย / แบง่ จงั หวะการอ่านใหถ้ ูกต้องและอา่ นเป็น ทานองเสนาะ อนั มนษุ ยเ์ ปรยี บไดเ้ หมอื นไมด้ อก ยามทีอ่ อกดอกสวยดว้ ยสีสนั แต่อยคู่ ละระเกะระกะครนั ด้วยต่างพนั ธ์ตา่ งตน้ ตา่ งทีม่ า แมว้ า่ เกบ็ ดอกไม้มาเรยี งรอ้ ย มาลัยนอ้ ยกง็ ามเดน่ เห็นคุณค่า เหมือนคนท่ีมวี นิ ัยไมเ่ ฉยชา ย่อมนาพาให้สังคมสขุ รม่ เย็น (จากหนงั สอื เรยี นภาษาไทย ชุดพน้ื ฐานภาษา ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ เลม่ ๒) บทรอ้ ยกรองเป็นคาประพนั ธ์ประเภท กลอนสุภาพ แบ่งจังหวะการอา่ นเป็น ๓ จังหวะ ๒ รปู แบบ คอื 3 – 3 – 3 และ 3 – 2 – 3

๔๐ คมู่ ือครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 3 เร่อื ง การคัดลายมอื ตัวบรรจงเตม็ บรรทดั เวลา 1 ชวั่ โมง หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 1 เรือ่ ง สื่อสารคลอ่ งต้องรู้วิธี กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย รายวชิ าภาษาไทย ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 5 1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวชี้วดั สาระท่ี 2 การเขยี น มาตรฐาน ท 2.๑ ใช้กระบวนการเขยี นเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเร่ืองราวในรูปแบบ ต่าง ๆ เขยี นรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศกึ ษาค้นคว้าอยา่ งมีประสิทธิภาพ ตวั ชวี้ ดั ป.๕/๑ คัดลายมือตัวบรรจงเตม็ บรรทัดและคร่งึ บรรทดั ป.๕/๙ มมี ารยาทในการเขยี น ๒. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด การคัดลายมือเป็นพืน้ ฐานในการเขียนหนงั สอื ตอ้ งเขียนด้วยตวั บรรจงใหถ้ ูกตอ้ ง สวยงามเป็นระเบียบ ตามรูปแบบตัวอักษรไทย บ่งบอกลักษณะนิสัยของผู้เขียน ซึ่งมีทั้งการคัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัดและ ครง่ึ บรรทดั ตอ้ งมมี ารยาทในการเขียนจึงจะทาให้การเขียนมีประสทิ ธิภาพ ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้ ความเขา้ ใจ (K) บอกหลกั การคดั ลายมอื ได้ 3.2 ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) คัดลายมอื ตวั บรรจงเต็มบรรทัดได้ 3.3 ด้านคณุ ลกั ษณะ เจตคติ ค่านิยม (A) มมี ารยาทในการเขยี น ๔. สาระการเรียนรู้ การคัดลายมอื ตวั บรรจงเตม็ บรรทดั ๕. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน 5.1 ความสามารถในการสอื่ สาร 5.2 ความสามารถในการคิด 5.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ ๖. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 6.1 มงุ่ มัน่ ในการทางาน 6. รักความเปน็ ไทย 7. กิจกรรมการเรยี นรู้

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๑ เรอ่ื งสอ่ื สารคลอ่ งต้องรู้วิธี การจดั กจิ กรรมการเรยี นร รายวชิ า ภาษาไทย หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 1 เร่ือ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 3 เรือ่ ง การคัดลายม ลาดบั ขอบเขตเนื้อหา/ ขัน้ ตอนการจดั เวลา กิจกรรมค ที่ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ท่ีใช้ 1. ขอบเขตเน้อื หา ขั้นนา 5 1. ครูนานักเรียนสน 1. หลักการคัดลายมือ นาที เกย่ี วกับการคดั ลาย 2. การคัดลายมือตัว ให้นกั เรียนอ่านคาป บรรจงเตม็ บรรทดั เร่อื ง การคดั ลายมอื 3. มารยาทใน 2. ครูใหน้ ักเรียนดูต การเขยี น ลายมอื ไมด่ ี ดี ดีม ๔ ลายมือจากเพาเว หรอื แผน่ ชาร์ทที่เหน็ 3. ครถู ามนกั เรียน ลายมอื แบบใด 4. ครูแจ้งจุดประสง การเรยี นรู้ และเช่อื มโยงเข้าสู่บ 2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ขนั้ สอน 25 ๑. ครูใหน้ ักเรียนอ่า นาที “หลกั การคดั ลายมือ

๔๑ รู้ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 5 อง ส่ือสารคลอ่ งต้องรู้วธิ ี จานวน 10 ชัว่ โมง มือตวั บรรจงเต็มบรรทัด จานวน 1 ชว่ั โมง แนวการจดั การเรยี นรู้ สอื่ การเรียนรู้ การประเมนิ ครู กจิ กรรมนักเรยี น การเรยี นรู้ นทนา 1. นักเรยี นสนทนาร่วมกัน 1. คาประพันธ์ ยมอื แลว้ เกย่ี วกบั การคดั ลายมือ และ เรอ่ื ง การคัด ประพนั ธ์ อา่ นคาประพันธ์ เรื่อง การ ลายมอื ในสอ่ื อ คดั ลายมือ PPT ตัวอยา่ ง 2. นักเรยี น รว่ มเลอื ก มาก ดที สี่ ุด ลายมอื ทช่ี อบทสี่ ดุ พรอ้ ม วอร์พอยท์ บอกเหตุผลการเลือก นไดช้ ัดเจน วา่ อยากมี งค์ 3. นักเรียนตอบคาถาม 2. คาถาม - สงั เกตการตอบ บทเรียน อยากมีลายมอื แบบสวยงาม 1. สอื่ PPT เรื่อง คาถามของ ดีทีส่ ุด การคัดลายมอื นกั เรยี น านกลอน อ” 4. นักเรยี นทาความเข้าใจ จดุ ประสงคแ์ ละเขา้ สู่ บทเรยี นด้วยกนั 1. นกั เรยี นสงั เกตการคัด ลายมอื ทง้ั 2 แบบ แลว้ แสดงความคดิ เหน็ จาก

๔๒ คูม่ ือ ลาดับ ขอบเขตเนือ้ หา/ ขั้นตอนการจดั เวลา กจิ กรรมค ท่ี จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรยี นรู้ ท่ใี ช้ 1. บอกหลกั การคดั 3. ครนู าอภปิ รายค ลายมอื ได้ ดว้ ยการศึกษาเกีย่ ว ประเดน็ ดังนี้ - การคัดลาย - ลกั ษณะขอ - หลักการคัด - รูปแบบตวั - สมาธิระหว 4. ครถู ามคาถาม ด - จากการอภปิ ราย ไดข้ ้อสรปุ เกยี่ วกบั ก ลายมืออยา่ งไรบา้ ง - ครูสรุปขึ้นใน PPT

อครแู ละแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรียนรู้ สื่อการเรยี นรู้ การประเมิน ครู กิจกรรมนกั เรยี น การเรียนรู้ ความรู้ ความเข้าใจ และ ประสบการณเ์ ดมิ 2. นักเรยี นตอบคาถาม เช่น - สงั เกตการตอบ แบบท่ี 1 มีความเหมาะสม คาถามของ เป็นแบบอยา่ งได้ สว่ นแบบที่ นกั เรียน 2 ไม่เหมาะสม เพราะไม่ เปน็ ระเบียบ ความรู้ 3. นกั เรียนร่วมกันอภิปราย 2. ใบความรทู้ ี่ 3 - สังเกต วกับ ความรูด้ ว้ ยการศกึ ษา และสอื่ PPT การตอบคาถาม ยมอื เก่ยี วกับประเดน็ ทค่ี รู 3. กลอน ของนกั เรยี น องลายมือ กาหนดให้ โดยไล่ไปทีละ “หลกั การคัด - สังเกต ดลายมอื ประเดน็ ลายมือ” การตอบคาถาม วอกั ษร ตาม ประเด็นที่ 1 – ๕ ของแต่ละกลุ่ม วา่ งการคัด ดังนี้ 4. นักเรียนตอบคาถาม โดย 4. ส่อื PPT เรอื่ ง นกั เรียน อาจสรุปประเดน็ ออกเปน็ การคดั ลายมอื การคดั ข้อ ๆ หรืออาจเปน็ คาพูด T อีกครง้ั สั้น ๆ ก็ได้ - นกั เรียนอ่านท่คี รสู รปุ ใน PPT

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๑ เร่อื งสอื่ สารคลอ่ งตอ้ งรวู้ ธิ ี ลาดบั ขอบเขตเน้ือหา/ ขน้ั ตอนการจัด เวลา กจิ กรรมค ที่ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ทีใ่ ช้ 3. 2. คัดลายมือตวั บรรจง ขัน้ ปฏิบตั ิ 15 5. ครใู ห้นกั เรียนทา เตม็ บรรทดั ได้ นาที 3 โดยคดั ลายมือตวั 3. มมี ารยาทใน บรรทดั การเขยี น (ครขู ้นึ กิจกรรม : คดั ส่อื ภาษาไทย ในสอื่ 6. ครูนาผลงานของ มาฉายให้ต้นทาง/ป ชมพร้อมกนั จากนน้ั สรุปกิจกรรม 4. ข้ันสรุป 5 1. ครถู ามคาถามเพ นาที ดังนี้ ครู : นกั เรียนได้ควา รู้สึกอย่างไร ไดค้ ณุ ธ ใดบ้าง และจะนาไป ชวี ติ ประจาวนั ได้อย 2. ครูข้นึ สรปุ ความ แผนผงั ความคิดในส

๔๓ แนวการจดั การเรียนรู้ สอ่ื การเรยี นรู้ การประเมิน ครู กจิ กรรมนกั เรยี น การเรยี นรู้ าใบงานท่ี 5. นักเรียนทาใบงานท่ี 3 1. ใบงานท่ี 3 - ประเมนิ วเต็ม โดยคดั ลายมอื ตวั เต็มบรรทัด เรื่อง การคดั การคดั ลายมอื ตัว ลายมอื บรรจงเตม็ บรรทดั (นักเรยี นตน้ ทาง/ปลายทาง 2. สอ่ื PPT เรือ่ ง - สงั เกตมารยาท ดลายมือ... ทากจิ กรรมไปอยา่ งพร้อม ๆ การคัดลายมอื ในการเขียน อ PPT) กนั ) 3. ใบงานที่ 3 งนกั เรียน 6. นักเรยี นตน้ ทาง/ ของนกั เรยี นที่คดั ปลายทาง ปลายทางชมผลงานการคดั ลายมือสวย ลายมอื ของเพอื่ นและสรปุ ม กิจกรรมพรอ้ มกัน พอื่ นาสรปุ 1. นักเรียนตอบคาถามตาม 1. ส่ือ PPT - สังเกตการตอบ ามรู้อะไร สิง่ ท่ตี นเองไดร้ บั จากการเรยี น - ตัวอย่าง คาถามของ ธรรมเรอ่ื ง เช่น การออกแบบ นักเรียน ปใช้ใน - ไดร้ บั ความรู้เรือ่ ง การคัด แผ่นป้ายสุภาษิต ยา่ งไร ลายมือที่ดีและถูกต้องตาม คาคมสอนใจ มรู้เป็น หลักการคัดลายมอื สอื่ PPT - การมีมารยาทในการเขียน 2. นักเรียนสรปุ ความรใู้ น บทเรียนรว่ มกับครอู กี ครงั้ ใน

๔๔ คมู่ อื ลาดับ ขอบเขตเนือ้ หา/ ขัน้ ตอนการจดั เวลา กจิ กรรมค ที่ จุดประสงค์การเรียนรู้ การเรียนรู้ ท่ใี ช้ 3. ครมู อบหมายให ไปออกแบบแผน่ ป้า คาคมสอนใจ แลว้ เข ลายมือทส่ี วยงามตวั เต็มบรรทดั เป็นการ (นาตวั อยา่ งใหด้ ู ๑ มานาเสนอหนา้ ชัน้ เ จากน้ันสามารถนาไ ตน้ ไม้ได้ กลายเป็นต ไดห้ รอื เรียกวา่ ตน้ ไม

อครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรยี นรู้ สือ่ การเรยี นรู้ การประเมิน ครู กจิ กรรมนกั เรียน การเรยี นรู้ สอ่ื PPT ห้นกั เรียน 3. นักเรียนนาความร้แู ละ ายสุภาษิต ทักษะที่ได้ไปใชต้ ามท่ีครู ขียนดว้ ย มอบหมายไปออกแบบแผ่น วบรรจง ปา้ ยสภุ าษติ คาคมสอนใจ รบ้าน แล้วเขียนดว้ ยลายมอื ที่ แผน่ ) แลว้ สวยงามตัวบรรจงเตม็ เรยี น บรรทดั เปน็ การบา้ น แล้ว ไปตดิ ตาม มานาเสนอหนา้ ชน้ั เรียน ใน ต้นไม้พดู ชั่วโมงต่อไปจากนั้นสามารถ ม้ใหข้ ้อคิด นาไปตดิ ตามต้นไมไ้ ด้ กลายเป็นต้นไม้พดู ไดห้ รอื เรยี กวา่ ต้นไม้ใหข้ อ้ คิด

หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ ๑ เร่ืองสอื่ สารคลอ่ งตอ้ งร้วู ิธี 45 8. สื่อการเรียนร้/ู แหล่งเรยี นรู้ 1. แบบการคัดลายมือทง้ั 2 แบบ 2. ใบความร้ทู ่ี 3 เร่อื ง การคัดลายมอื 3. ใบงานที่ 3 เรอ่ื ง การคดั ลายมอื ตัวบรรจงเตม็ บรรทัด 4. สอื่ PPT เร่ือง การคัดลายมอื ตวั บรรจงเตม็ บรรทดั 9. การประเมินผลรวบยอด ชื้นงานหรือภาระงาน - ใบงานท่ี 3 เร่ือง การคดั ลายมอื ตัวบรรจงเตม็ บรรทัด สงิ่ ทตี่ อ้ งการวดั / ประเมนิ วธิ กี าร เครือ่ งมือทใี่ ช้ เกณฑ์ ด้านความรู้ ความเขา้ ใจ (K) - บอกหลักการคดั ลายมือ - พิจารณาการตอบ - คําถาม ร้อยละ ๖๐ คาํ ถามของนักเรยี น ขึ้นไป ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ (P) - คดั ลายมือตัวบรรจงเตม็ บรรทดั - ตรวจการคดั ลายมือ - แบบประเมนิ การคดั รอ้ ยละ ๖๐ ของนกั เรียนในใบงานที่ ลายมอื ขึ้นไป 3 ดา้ นคณุ ลกั ษณะ เจตคติ คา่ นยิ ม (A) 1. มีมารยาทในการเขียน 1. สังเกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรมของ รอ้ ยละ ๖๐ 2. รกั ความเปน็ ไทย ของนักเรียน นักเรียน ข้นึ ไป 2. ตรวจใบงาน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มุ่งมน่ั ในการทาํ งาน - สงั เกตพฤตกิ รรมของ - แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ ระดับคณุ ภาพ 2. รกั ความเปน็ ไทย นกั เรยี น อนั พึงประสงค์ ผา่ น สมรรถนะสาํ คัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสอื่ สาร - สงั เกตพฤตกิ รรมของ - แบบประเมินสมรรถนะ ระดบั คณุ ภาพ 2. ความสามารถในการคดิ นักเรียน สาํ คญั ของผ้เู รยี น ผา่ น 3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะ ชีวิต


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook