Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 64-08-08--คู่มื่อครู ภาษาไทย ป.5-1

64-08-08--คู่มื่อครู ภาษาไทย ป.5-1

Published by elibraryraja33, 2021-08-08 08:52:07

Description: 64-08-08--คู่มื่อครู ภาษาไทย ป.5-1

Search

Read the Text Version

๒๔๐ คูม่ ือ ลาดับ ขอบเขตเนอื้ หา/ ขนั้ ตอนการจัด เวลา แ ที่ จุดประสงค์การเรียนรู้ การเรียนรู้ ทใี่ ช้ กจิ กรรมคร นมี้ คี ณุ ค่า ให้ความรู้ แ อะไรบา้ ง ๒. จุดประสงค์การเรยี นรู้ ข้นั สอน 2. ครูถามนกั เรยี นว่า ๑. บอกหลักการ ครู : ถา้ ใหน้ ักเรยี นนา วิเคราะหค์ ณุ คา่ และ จากบทรอ้ ยกรองไปใช สรปุ ข้อคดิ จากเรอื่ งท่ี แนวทางในการดาเนนิ อา่ น ได้ นักเรียนจะนาไปปรบั อย่างไร จากน้ันครูแจง้ จุดป การเรียนรูแ้ ละเช่อื มโย บทเรยี น 1๕ 1. ครใู ห้นกั เรียนแบง่ นาที คน คละเพศ และความ ๒. ครูให้นักเรียนแต่ล ศึกษาใบความรูท้ ี่ ๖ เ

อครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจัดการเรียนรู้ สือ่ การเรยี นรู้ การประเมิน รู กิจกรรมนักเรียน การเรียนรู้ และข้อคิด แหง้ ไดข้ อ้ คดิ ว่าคนเราแม้จะ ลาบากก็ตอ้ งอดทนทาตาม หนา้ ทีเ่ พอ่ื ใหม้ ีชวี ติ รอดเช่น นางจนั ทเ์ ทวี าข้อคดิ 2. นกั เรียนรว่ มกันสนทนา ชเ้ ป็น แสดงความเห็น เช่น นชีวติ นกั เรยี น : ขยันช่วยงานพ่อ แม่ บใช้ ตงั้ ใจเรยี นหนงั สอื ให้ดี อดทน ประสงค์ ไม่เกยี จคร้าน หม่นั ทบทวน ยงเข้าสู่ ความรู้ ฯลฯ จากนั้นทาความเขา้ ใจ จดุ ประสงค์ทค่ี รแู จง้ และ เชื่อมโยงเข้าสเู่ นื้อหา งกลุ่ม ๔ 1. นกั เรยี นแบ่งกลุม่ คละชาย - สังเกต มสามารถ หญงิ เก่ง ออ่ น เออ้ื อาทรกัน พฤตกิ รรมของ นกั เรียน และแบง่ หนา้ ทรี่ ับผิดชอบ ภายในกลมุ่ ละกลมุ่ ๒. นกั เรยี นแตล่ ะกล่มุ 1. สมดุ บนั ทกึ เร่ือง อภปิ รายสรา้ งความเขา้ ใจ ใบความรทู้ ี่ ๖

หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๒ เรือ่ ง สงั ขท์ อง ตอน กาเนิดพระสังข์ ลาดบั ขอบเขตเน้ือหา/ ขั้นตอนการจดั เวลา แ ที่ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรียนรู้ ที่ใช้ กจิ กรรมคร การวเิ คราะห์คณุ ค่าแล ขอ้ คิดจากเรือ่ งทอี่ า่ นแ อภปิ รายแลกเปลีย่ นค เรอื่ ง ภายในกลมุ่ ๓. ครูให้นักเรยี นตวั แ กลุม่ นาเสนอความคดิ กลุ่ม 3. ๒. เขยี นอธิบายคุณค่า ขน้ั ปฏิบัติ ๔. จากนนั้ ครบู รรยาย และข้อคิดจากเรื่องที่ และยกตัวอย่างประก อ่านได้ ใชส้ ื่อ PPT 3. มีมารยาทใน การอา่ น 20 ๕. ครูแจกใบงานที่ ๖ นาที การวเิ คราะหค์ ณุ คา่ แล ขอ้ คิดจากเรอ่ื งทอี่ า่ น ให้นักเรียนเลอื กบทรอ้ ในบทเรียนมาวิเคราะ บท และกาหนดให้แต รับผดิ ชอบ ดงั นี้

๒๔๑ แนวการจัดการเรียนรู้ สือ่ การเรียนรู้ การประเมิน การเรียนรู้ รู กิจกรรมนักเรียน ละสรปุ รว่ มกันเก่ียวกับหลกั การ เรือ่ ง การวิเคราะห์ และ วิเคราะหค์ ณุ คา่ และสรปุ ข้อคิด คณุ คา่ และสรปุ ความรู้ จากเร่ืองท่อี ่านจดบนั ทึกไว้ ขอ้ คดิ จากเรือ่ งท่ี อา่ น แทนแต่ละ ๓. นักเรยี นสง่ ตวั แทนกลุ่มลุก - ประเมนิ จาก ดของ ขึน้ ยนื สรปุ หลักการวเิ คราะห์ การนาเสนองาน กลุม่ และสมุด คุณคา่ และสรปุ ขอ้ คดิ จากเรื่อง ที่อา่ นให้เพ่อื นฟัง ยเพ่ิมเติม ๔. นักเรยี นฟงั ครูแนะนา 2. สอ่ื PPT กอบ โดย ฝึกวเิ คราะห์คณุ ค่า และหา ตัวอย่าง การวเิ คราะห์ ขอ้ คิดจากสอื่ PPT ๖ ๕. นกั เรยี นทาใบงานที่ ๖ โดย 1. ใบงานที่ ๖ สงั เกตมารยาท ละสรปุ อ่านเร่ือง สังขท์ อง ตอน การวเิ คราะห์ ในการอ่านของ อยกรอง กาเนดิ พระสงั ข์ แล้วระดม คุณคา่ และสรปุ นกั เรียน ะห์ ๑-๒ ความคิดวเิ คราะหค์ ุณคา่ และ ขอ้ คิดจากเร่ืองท่ี ตล่ ะกลุ่ม สรปุ ข้อคดิ จากเรอื่ งท่ีอ่าน อา่ น ภายในกลมุ่ ตามที่ไดร้ บั 2. หนงั สอื เรียน มอบหมาย

๒๔๒ คมู่ ลําดบั ขอบเขตเนื้อหา/ ข้นั ตอนการจดั เวลา แ ท่ี จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรยี นรู้ ทใ่ี ช้ กิจกรรมคร - กลุ่ม ๑ และ กลมุ่ วิเคราะหค์ ุณค่าด้านว - กลมุ่ ๓ และ กล่มุ วิเคราะหค์ ณุ ค่าด้านเน - กลุม่ ๕ และ กลมุ่ วิเคราะห์คุณคา่ ดา้ นส - กลุม่ ๗ วเิ คราะห ด้านการนาํ ไปประยุกต ชีวิตจริง ๒. เขียนอธิบายคุณคา่ ๖. ครใู หน้ กั เรยี นแต่ล และข้อคิดจากเรื่องที่ ตัวแทนนําผลงานมาต อา่ นได้ กระดานหนา้ ห้องเรียน พูดนําเสนอทลี่ ะกล่มุ ๗. ครูตรวจสอบความ รว่ มกับนักเรยี น และใ ขอ้ เสนอแนะเพ่มิ เติม ๘. ครูถามนกั เรียนว่า ครู : นกั เรยี นคดิ วา่ เรื่อ

อื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ การประเมิน รู กจิ กรรมนกั เรยี น การเรียนรู้ วรรณคดีลาํ นาํ ม๒ ชัน้ ป.๕ วรรณศลิ ป์ ม๔ 3. สือ่ PPT คาํ ส่งั นือ้ หาสาระ ม๖ สงั คม ห์คุณคา่ ตใ์ ชใ้ น ละกลุม่ สง่ ๖. นักเรยี นใหต้ วั แทนกลมุ่ 4. ใบงานท่ี ๖ - ประเมินจาก ติด ออกมาตดิ ผลงานและพดู (ผลงานนกั เรียน) การตรวจใบงาน น แลว้ สมุ่ นําเสนอหนา้ ช้ันเรยี น ที่ ๖ (P) มถูกต้อง ๗. นกั เรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบ ให้ ความถกู ต้อง และแสดง อง ความคดิ เห็นเพม่ิ เติม ๘. นักเรยี นตอบคาํ ถาม เชน่ นักเรยี น : บางอย่างกเ็ หมอื น

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๒ เร่อื ง สังขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสงั ข์ ลาดบั ขอบเขตเนอ้ื หา/ ขั้นตอนการจดั เวลา แ ที่ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ท่ใี ช้ กิจกรรมคร สังขท์ อง ตอน กาเนดิ มเี รอ่ื งราวหรือเหตกุ า เหมอื นกับชีวิตจริงขอ หรือไม่ อย่างไร ๙. ครูใหน้ ักเรียนส่งใบ จากนั้นกล่าวชมเชย ใ กาลังใจนักเรยี นทกุ คน รว่ มกนั สรปุ กจิ กรรม 4. ข้นั สรุป 5 ๑. ครูถามนักเรียนเพ นาที ดังนี้ ครู : การอ่านวรรณคด ประโยชน์อย่างแทจ้ ริง สามารถนาไปประยุกต ชีวิตประจาวนั ไดน้ ้ัน ผ ทาอยา่ งไร

๒๔๓ แนวการจดั การเรยี นรู้ ส่อื การเรียนรู้ การประเมิน การเรยี นรู้ รู กิจกรรมนกั เรยี น ดพระสงั ข์ เชน่ ตวั ละครมีรกั โลภ โกรธ ารณ์ หลง อจิ ฉารษิ ยา ผู้ชายมี องคนเรา ภรรยาหลายคน แม่ยอ่ มรกั ลกู บาง อย่างก็ไมเ่ หมือน เชน่ ใน ชีวติ จริงไมเ่ คยมีใครทีค่ ลอดลูก เปน็ หอยสงั ข์ หรอื เคยเหน็ เทวดาจะมาชว่ ยเวลาคนเรา เดือดรอ้ น ฯลฯ บงาน ๙. นกั เรียนรวบรวมใบงานใน ให้ กลมุ่ สง่ ครูและปรบมือเป็น นและ กาลงั ใจให้กัน (ถา้ ไม่ทันใหเ้ ป็น การบ้าน) พ่อื นาสรปุ 1. นักเรียนสนทนาแสดงความ - สื่อ PPTคาถาม - พจิ ารณาจาก คิดเหน็ และตอบคาถาม เช่น การตอบคาถาม ดใี หไ้ ด้ นักเรยี น : ของนกั เรียน ง และ - อ่านเรือ่ งให้เขา้ ใจ ตใ์ ช้ใน - แปลความหมายให้ได้ ผอู้ า่ นตอ้ ง - ต้องรู้หลกั การวเิ คราะห์ เร่อื งที่อา่ น

๒๔๔ คมู่ อื ลาดบั ขอบเขตเนือ้ หา/ ข้นั ตอนการจัด เวลา แ ที่ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรยี นรู้ ทใ่ี ช้ กิจกรรมคร ๒. ครูสรปุ บทเรยี นให อกี คร้งั ด้วยสอ่ื PPT ส บทเรียน

อครูและแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจัดการเรียนรู้ สือ่ การเรยี นรู้ การประเมนิ รู กิจกรรมนักเรยี น การเรยี นรู้ - ต้องวิเคราะห์คณุ คา่ - ส่ือ PPT หลาย ๆ ดา้ น สรปุ บทเรยี น - สรปุ ขอ้ คิดให้ได้ ฯลฯ ห้นกั เรยี น สรุป ๒. นกั เรียนรว่ มกันสรปุ บทเรียนทไ่ี ด้ในวนั นี้

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี ๒ เรอื่ ง สงั ขท์ อง ตอน กาเนิดพระสังข์ 245 8. ส่ือการเรียนรู/้ แหล่งเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรียนวรรณคดลี านาชั้น ป.๕ 2. ใบความรู้ที่ ๖ เรื่อง การวเิ คราะห์คุณค่าและสรปุ ขอ้ คิดจากเร่อื งทีอ่ า่ น 3. ใบงานที่ ๖ เรื่อง การวเิ คราะห์คณุ คา่ และสรปุ ขอ้ คดิ จากเรื่องทอ่ี า่ น 4. ส่ือ PPT เร่อื ง การวิเคราะห์คุณคา่ และสรปุ ข้อคดิ จากเรอื่ งท่ีอ่าน 9. การประเมนิ ผลรวบยอด ชิ้นงานหรอื ภาระงาน - ใบงานที่ ๖ เรอื่ ง การวเิ คราะห์คุณค่าและสรุปขอ้ คดิ จากเรอ่ื งที่อา่ น ส่งิ ทต่ี ้องการวดั / ประเมนิ วธิ ีการ เคร่อื งมือทใ่ี ช้ เกณฑ์ ดา้ นความรู้ ความเข้าใจ (K) - บอกหลกั การวเิ คราะหค์ ณุ คา่ 1. ตรวจสมุดบนั ทกึ - สมุดบันทึก ร้อยละ ๖๐ และสรุปขอ้ คดิ จากเรอ่ื งทอี่ ่าน 2. พจิ ารณาการตอบ - คาถาม ขึ้นไป คาถาม ดา้ นทักษะและกระบวนการ (P) - เขยี นอธิบายคุณคา่ และขอ้ คิด - ตรวจใบงานท่ี ๖ เรือ่ ง 1. ใบงานท่ี ๖ รอ้ ยละ ๖๐ จากเรือ่ งทอี่ า่ น การวเิ คราะหค์ ุณคา่ และ 2. แบบประเมนิ ใบงานที่ ๖ ขน้ึ ไป สรปุ ข้อคดิ จากเร่ืองที่อา่ น ด้านคุณลกั ษณะ เจคติ ค่านยิ ม (A) - มมี ารยาทในการอ่าน - สงั เกตมารยาทในการ - แบบประเมนิ ตามเกณฑ์ รอ้ ยละ ๖๐ อา่ น รูบริค ขึ้นไป คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ 1. ใฝเ่ รียนรู้ นักเรยี น อันพึงประสงค์ ผ่าน 2. มุ่งม่นั ในการทางาน - สังเกตพฤติกรรม สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น นกั เรยี น - แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดับคุณภาพ 1. ความสามารถในการสือ่ สาร สาคัญของผู้เรยี น ผ่าน 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ทักษะ ชวี ิต

246 คู่มือครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) เกณฑ์ประเมิน : การทาใบงานท่ี ๖ การวิเคราะห์คุณค่าและสรุปข้อคิดจากเรื่องทีอ่ า่ น ประเดน็ ระดบั คุณภาพ การประเมนิ การวเิ คราะห์ ๔ (ดีมาก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรุง) คณุ ค่าและสรปุ - อธบิ ายคุณคา่ ด้าน ขาด ๓ ขอ้ คดิ จากเรือ่ งท่ี วรรณศลิ ปไ์ ด้ ขาดเพียง ๑ ขาดเพียง 2 องคป์ ระกอบ อ่านไปใช้ในชีวิต - อธบิ ายคณุ คา่ ดา้ น องคป์ ระกอบ องคป์ ระกอบ จรงิ เนอ้ื หาสาระได้ - อธิบายคุณค่า คุณคา่ ดา้ นสังคม และวฒั นธรรมได้ - สรุปขอ้ คดิ ได้และ อธิบายคณุ ค่าด้าน การนาไประยุกต์ใช้ ในชวี ติ ประจาวนั ได้ หมายเหตุ : คา่ นา้ หนกั ขอ้ ละ ๕ คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ เกณฑ์การประเมินคุณภาพ 16-20 ดมี าก 11-15 ดี 6-10 พอใช้ 1-5 ปรบั ปรงุ เกณฑก์ ารตดั สิน : ผ่านเกณฑ์การประเมินรอ้ ยละ 5๐ ขึ้นไป (ต้องได้ระดบั พอใช้ขึน้ ไป) แบบประเมินการวเิ คราะห์คุณค่าและสรุปข้อคดิ จากเรื่องท่ีอา่ น

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๒ เรอ่ื ง สังข์ทอง ตอน กําเนดิ พระสังข์ 247 คําชแ้ี จง ให้ครเู ขียนคะแนนลงในช่องประเดน็ การประเมินทกี่ าํ หนดไว้ ใหถ้ ูกต้อง อ ิธบายคุณค่า ้ดาน สรปุ วรรณศิลป์ (๕ คะแนน) ลําดบั ช่ือ-สกลุ อ ิธบายคุณค่าคุณค่า ้ดาน รวม คิดเปน็ ผ่าน ไมผ่ า่ น ที่ เน้ือหาสาระ (๕ คะแนน) คะแนน ร้อยละ อ ิธบายคุณค่าคุณค่า ้ดาน (๒๐) สังคม (๕ คะแนน) ส ุรป ้ขอคิดและอธิบาย คุณค่าคุณค่า ้ดาน การนําไปใช้ (๕ คะแนน) ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ รวม (คน) คดิ เป็นรอ้ ยละ ผลการประเมนิ  ดมี าก ..........คน คิดเป็นร้อยละ...............  ดี ..........คน คิดเป็นร้อยละ................  พอใช้ ..........คน คดิ เป็นรอ้ ยละ...............  ปรบั ปรงุ .........คน คิดเป็นร้อยละ............... สรปุ ผลการประเมนิ รายชนั้ เรยี น  นักเรียนผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ จาํ นวน......................... คน คดิ เป็นรอ้ ยละ.........................  นักเรยี นไมผ่ า่ นเกณฑก์ ารประเมิน จาํ นวน......................... คน คดิ เป็นร้อยละ........................ ลงชื่อ.................................................ผู้ประเมิน (..............................................) ........../..................../..........

248 คู่มือครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) 10. บันทึกผลหลงั สอน ผลการจัดการเรยี นการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสาเร็จ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปัญหาและอปุ สรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ้ จากดั การใช้แผนการจัดการเรยี นรู้ และขอ้ เสนอแนะ/แนวทางการปรับปรงุ แกไ้ ข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอื่ ......................................................ผสู้ อน (.......................................................) วนั ท่ี .......... เดือน ..................... พ.ศ. ............. 11. ความคดิ เห็น/ข้อเสนอแนะของผู้บรหิ ารหรอื ผู้ทไ่ี ด้รับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื ...................................................... ผ้ตู รวจ (.......................................................) วนั ที่ .......... เดอื น ..................... พ.ศ. .............

หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๒ เรอ่ื ง สงั ขท์ อง ตอน กาเนิดพระสงั ข์ 249 ใบความรูท้ ี่ ๖ เรอ่ื ง การวิเคราะห์คณุ ค่าและสรปุ ขอ้ คดิ จากเรอื่ งท่ีอ่าน หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 เรื่อง สงั ข์ทอง ตอน กาเนดิ พระสังข์ แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี ๖ เรอ่ื ง การวเิ คราะหค์ ุณคา่ และสรุปขอ้ คิดจากเรือ่ งท่ีอา่ น รายวชิ า ภาษาไทย รหัสวชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๕ การวเิ คราะห์เรือ่ งท่อี ่าน การวิเคราะห์เร่ืองที่อ่าน หมายถึง การพิจารณารายละเอียดเพื่อแยกองค์ประกอบ ต่าง ๆ ของเรื่องที่อ่าน เช่น รูปแบบเป็นแบบใด ผู้แต่งคือใคร มีจุดมุ่งหมายในการแต่ง อย่างไร เป็นเรื่องเก่ียวกับอะไร ใช้ภาษาอยา่ งไร มีประโยชน์อย่างไร ตอ่ ใครบ้าง ผู้วิเคราะห์ มีความเหน็ อย่างไร เรื่องท่ีอ่านมีคุณคา่ ด้านใด และแต่ละด้านสามารถนาไปประยกุ ต์ให้เกิด ประโยชน์ต่อชีวิตประจาวันอยา่ งไรบา้ ง การวิเคราะหค์ ณุ ค่าจากเร่ืองทอ่ี ่าน การวิเคราะห์คุณค่าจากเร่ืองท่ีอ่าน เป็นการวิเคราะห์คุณค่าลักษณะดีเด่นในด้าน ต่าง ๆ ของเร่ือง เช่น คุณค่าด้านเนื้อหา คุณค่าด้านสังคมและวัฒนธรรม โดยใช้ความคิด พจิ ารณาไตร่ตรอง กล่ันกรอง แยกแยะและแสวงหาเหตุผลเพื่อประเมนิ คณุ คา่ ของวรรณคดี อยา่ งมีเหตุผล การอ่านหนังสือหรือเร่ืองราวต่าง ๆ อยา่ งพินิจพิเคราะห์จะทาให้ประจักษ์ในคุณค่า ประเทืองปัญญาได้รับประโยชน์หลายประการ รวมทั้งสนุกสนานเพลิดเพลินจากการอ่าน ยง่ิ ข้นึ คุณคา่ ของเรอ่ื งท่อี ่านแบง่ กว้าง ๆ ได้ ๔ ด้าน ดังนี้ 1. คุณคา่ ดา้ นเน้ือหาสาระ คือ การที่ผู้อ่านจะได้รับความรู้ ความคิดเพ่ิมข้ึน ทาให้มีปัญญาแตกฉานทั้งด้าน วทิ ยาการ ความรู้รอบตวั ความรเู้ ท่าทนั คนและอนื่ ๆ 2. คุณค่าดา้ นวรรณศิลป์ คือ ความพิถีพิถันในการใช้คาอย่างประณีตทาให้เกิดความงาม ความไพเราะใน การใช้ภาษา ผู้อ่านสามารถได้รับรสไพเราะของเสียง ซาบซ้ึงในความหมาย เห็น ภาพเคล่ือนไหว เกิดจินตนาการตามสัมผัสอารมณ์และความนึกคิดต่าง ๆ ที่ผู้แต่งถ่ายทอด ออกมาเปน็ บทประพนั ธ์ เช่น ความรู้สกึ โศกเศรา้ สะเทือนใจ โกรธ ตลกขบขัน เปน็ ตน้

250 คู่มือครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ๓. คุณค่าด้านสังคมและวัฒนธรรม คือ เร่ืองราวที่อ่านจะสะท้อนให้เห็นสภาพสังคม วัฒนธรรมประเพณี ค่านิยม คติ ชวี ิต คาสงั่ สอน คุณธรรมและจริยธรรม ความเปน็ อยู่ ประวัติศาสตร์ การเมือง อาหารการกิน สอดแทรกไปกับการดาเนินเรื่อง ทาให้ผู้อ่านได้รับความรู้เก่ียวกับสังคมในอดีต ช่วยให้ เข้าใจวถิ ชี วี ติ ความเปน็ ไทยมากย่ิงข้นึ และงานเขียนทด่ี จี ะช่วยจรรโลงสังคมไดด้ ว้ ย ๔. คณุ ค่าด้านคณุ ค่าดา้ นการนาไปประยกุ ตใ์ ช้ในชีวิตประจาวนั คือ ผู้การที่ผู้อ่านสามารถนาแนวคดิ จากวรรณคดแี ละประสบการณ์จาก เรอ่ื งทีอ่ า่ น ไปประยุกต์ใช้หรอื แกป้ ญั หาในชีวติ ประจาวันได้ หลักการวเิ คราะห์เรื่องทอี่ า่ น การวิเคราะห์วรรณกรรมมีหลักเกณฑ์การปฏิบัติอย่างกว้าง ทั้งนี้เพื่อให้ครอบคลุม งานเขียนทุกประเภท แต่ละประเภท ผู้วิเคราะห์ต้องนาแนวการวิเคราะห์ไปปรับใช้ ให้ เหมาะสมกับงานเขียนแต่ละชิ้นงานซ่ึงมีลักษณะแตกต่างกันไป ซ่ึงประพันธ์ เรืองณรงค์ และคณะ (๒๕๔๕ : ๑๒๘) ได้ใหห้ ลกั เกณฑก์ ว้าง ๆ ในการวิเคราะหว์ รรณกรรม ดงั นี้ ๑. ความเปน็ มาหรอื ประวัติของหนังสอื และผู้แต่ง เพ่ือช่วยใหว้ เิ คราะห์ในสว่ นอ่ืน ๆ ๒. ลักษณะคาประพันธ์ ๓. เร่ืองย่อ ๔. เนอ้ื เรื่อง ให้วิเคราะห์เรือ่ งในหวั ขอ้ ตอ่ ไปน้ตี ามลาดบั โดยบางหวั ขอ้ อาจจะมี หรือไมม่ กี ็ได้ตามความจาเป็น เช่น โครงเรอื่ ง ตวั ละคร ฉาก วิธีการแตง่ ลักษณะการ เดินเรอื่ ง การใช้ถ้อยคา สานวนในเรือ่ งท่วงทานองการแต่ง วธิ ีคดิ สร้างสรรค์ ทัศนะหรอื มุมมองของผูเ้ ขียน เป็นต้น ๕. แนวคิด จดุ มุ่งหมาย เจตนาของผู้เขียนทฝี่ ากไว้ในเรอ่ื ง ซ่ึงต้องวิเคราะหอ์ อกมา 6. คุณค่าของวรรณกรรม โดยปกติแบ่งออกเป็น ๕ ด้านใหญ่ ๆ และกว้าง ๆ เพ่ือ ความครอบคลมุ ในทุกประเด็น ซึง่ ผ้วู เิ คราะห์ต้องไปแยกหวั ขอ้ ยอ่ ยใหส้ อดคล้องกับลักษณะ ของหนังสือท่ีจะวิเคราะหน์ ้นั ๆ ตามความเหมาะสม การหาขอ้ คิดจากเรอื่ งทีอ่ า่ น ข้อคิด หมายถงึ ประเดน็ ชวนคดิ คติท่ีเปน็ ประโยชน์ การหาข้อคิดจากเร่ืองท่ีอ่าน เป็นการหาข้อคดิ หรือคติสอนใจจากเรื่องที่อ่านนั้น ๆ ว่าให้ ขอ้ คดิ ท่ีเปน็ ประโยชนอ์ ะไรบ้าง แล้วจึงนาข้อคิดนนั้ มาประยุกตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาวัน การหาข้อคิดจากการอ่านหนังสือต่าง ๆ เช่น การอ่านนิทาน บทความ สารคดี ควร อ่านต้ังแตต่ ้นจนจบเรือ่ ง แลว้ ทาความเขา้ ใจเน้อื เรือ่ ง จบั ใจความสาคญั หรือประเด็นสาคัญ ที่ผู้เขียนตอ้ งการให้ข้อคดิ กบั ผูอ้ ่าน

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๒ เรือ่ ง สงั ขท์ อง ตอน กาเนิดพระสงั ข์ 251 ใบงานที่ ๖ เร่ือง การวเิ คราะหค์ ณุ คา่ และสรปุ ข้อคดิ จากเรอ่ื งทอ่ี า่ น หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 เรื่อง สังขท์ อง ตอนกาเนดิ พระสังข์ แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ ๖ เรือ่ ง การวิเคราะห์คุณค่าและสรปุ ขอ้ คดิ จากเรื่องท่อี ่าน รายวิชา ภาษาไทย รหัสวชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๕ คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรียนอา่ นเร่ือง สงั ขท์ อง ตอนกาเนดิ พระสงั ข์ แล้วเขียนอธิบายคุณคา่ ตามหัวขอ้ ทีก่ าหนด พร้อมท้ังยกตวั อย่างคาประพนั ธ์ประกอบให้ชัดเจน ๑. คุณคา่ ด้านวรรณศลิ ป์ ตวั อยา่ งคาประพันธ์ ๒. คุณค่าดา้ นเนื้อหาสาระ ตวั อย่างคาประพนั ธ์ ๓. คุณค่าด้านสังคม ตัวอย่างคาประพนั ธ์ ๔. คณุ ค่าดา้ นการนาไปประยุกตใ์ ช้ในชวี ติ ประจาวัน ดังคาประพันธ์วา่ ขอ้ คดิ ทไี่ ด้ คอื จะนาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง โดย ช่ือ............................................................นามสกลุ .................................................ช้ัน...........เลขที่..........

252 คู่มอื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) เฉลยใบงานท่ี ๖ เรือ่ ง การวเิ คราะหค์ ณุ ค่าและสรปุ ขอ้ คดิ จากเรื่องทอี่ า่ น หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 เร่ือง สงั ขท์ อง ตอนกาเนดิ พระสังข์ แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี ๖ เร่ือง การวิเคราะห์คุณคา่ และสรุปขอ้ คิดจากเรือ่ งท่ีอา่ น รายวชิ า ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๕ คาชแ้ี จง ให้นกั เรียนอา่ นเร่อื ง สงั ขท์ อง ตอนกาเนิดพระสงั ข์ แล้วเขยี นอธบิ ายคณุ ค่าตามหวั ขอ้ ทก่ี าหนด พรอ้ มทงั้ ยกตัวอยา่ งคาประพนั ธ์ประกอบใหช้ ัดเจน ตัวอย่างคาตอบ (ให้อย่ใู นดุลยพินิจของครูผ้สู อน) ๑. คณุ ค่าด้านวรรณศลิ ป์ คือ ใช้คาทาให้เห็นภาพความเคลอื่ นไหวอยา่ งชัดเจน และใช้คาทาใหเ้ กดิ ความรู้สกึ สะเทอื นใจ เชน่ เหตกุ ารณต์ อนพระมารดาทุบหอยสงั ข์จนแตก พระสงั ขเ์ สียใจตัดพ้ออยา่ ง น่าสงสาร ดงั คาประพันธ์ว่า สวมสอดกอดบาทพระมารดา ซบเกศาพลางทางรอ้ งไห้ แม่ตอ่ ยสังขแ์ ตกแหลกไป รา่ ไรเสยี ดายไม่วายคดิ เหมอื นแม่ฆ่าลกู ใหม้ ว้ ยมรณ์ มารดรไม่รักแตส่ ักนิด พระแมต่ ่อยสงั ขด์ ่ังชวี ติ จะชมชดิ ลกู นส้ี กั กว่ี ัน ๒. คุณค่าด้านเนือ้ หาสาระ คอื ไดร้ บั ความรู้ เพมิ่ พูนสตปิ ญั ญา เช่น การนาขา้ วท่ีมีความชืน้ มาผึ่งแดด ดังคาประพนั ธว์ ่า เอาข้าวออกตากแล้วฝากยาย จบั หาบผนั ผายเข้าไพรสณิ ฑ์ เทย่ี วเกบ็ ผกั หญา้ เป็นอาจณิ โฉมฉินซอนซนด้นมา ๓. คุณค่าด้านสงั คม คอื สะท้อนใหเ้ หน็ วิถชี วี ติ ของของผคู้ นในสงั คมยคุ สมัยนั้น เชน่ สมัยกอ่ น การคมนาคมไมส่ ะดวกสบายเหมอื นปจั จุบัน ตอ้ งใชเ้ รอื เป็นพาหนะในการเดนิ ทาง ดังคาประพนั ธ์ว่า วา่ พลางเชญิ นางลงนาวา มชิ า้ บา่ ยบากจากสถาน ทางสิบหา้ วันกันดาร พ้นบา้ นไกลท่ีไมม่ คี น ๔. คุณคา่ ดา้ นการนาไปประยุกต์ใช้ในชีวติ ประจาวนั ดังคาประพนั ธ์ว่า หุงข้าวหาปลาไวท้ ่าแม่ ดูแลจดั แจงทกุ แห่งหน ชว่ ยขบั ไกป่ ่าประสาจน สาละวนเล่นพลางไมห่ ่างดู จากบทร้อยกรองนี้ จะเหน็ ว่า พระสังข์เตรยี มสารบั กบั ข้าว ไว้ให้พระมารดา คอยไลไ่ ก่ที่มาจิกกนิ ขา้ วทต่ี ากไว้ และชอบมาน่ังเลน่ ตามประสาเหมือนกบั เด็กทว่ั ๆ ไป ข้อคิดทีไ่ ด้ คอื ลูกสามารถแสดงความกตญั ญูตอ่ พอ่ แมห่ รือผู้ปกครองไดต้ ่งั แต่ยงั เปน็ เด็ก จะนาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิตจรงิ โดย ชว่ ยทางานบ้านทตี่ นเองทาได้ เช่น ทาความสะอาดบา้ น ล้างจาน เล้ียงนอ้ ง เปน็ ตน้

หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ ๒ เรอ่ื ง สังขท์ อง ตอน กาเนิดพระสงั ข์ ๒๕๓ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๗ เร่อื ง การวิเคราะห์คณุ ค่าและสรปุ ขอ้ คดิ จากเร่อื งทอี่ า่ น (2) หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๒ เรือ่ ง สังขท์ อง ตอน กาเนิดพระสงั ข์ เวลา 1 ช่วั โมง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย รายวชิ าภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 5 1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชี้วดั สาระท่ี 5 วรรณคดแี ละวรรณกรรม มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่าและ นามาประยุกตใ์ ช้ในชีวติ จริง ตวั ช้ีวดั ป.๕/๒ ระบคุ วามรู้และข้อคิดจากการอ่านวรรณคดีและวรรณกรรมท่สี ามารถนาไปใช้ในชีวติ จริง ป.๕/๓ อธบิ ายคณุ คา่ ของวรรณคดีและวรรณกรรม ๒. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด การวิเคราะห์คุณค่า สรุปข้อคิดจากเร่ืองท่ีอ่านทาให้สามารถนาความรู้ไปใช้ประโยชน์ในการดาเนิน ชีวิตประจาวนั สามารถแสดงความคดิ เหน็ ได้ ทาให้มคี วามคิดกว้างไกลและเข้าใจเรื่องมากขนึ้ ๓. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ ความเข้าใจ (K) บอกหลักการวเิ คราะหค์ ุณค่าและสรปุ ขอ้ คดิ จากเรอ่ื งทอี่ า่ นได้ 3.2 ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) เขยี นอธิบายคุณคา่ และข้อคิดจากเรื่องท่ีอ่านได้ 3.3 ดา้ นคุณลกั ษณะ เจตคติ คา่ นยิ ม (A) มีมารยาทในการอ่าน ๔. สาระการเรยี นรู้ การวิเคราะห์คุณคา่ และการสรปุ ข้อคดิ จากเร่ือง สงั ข์ทอง ตอน กาเนิดพระสงั ข์ ๕. สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียน 5.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5.2 ความสามารถในการคดิ 5.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต ๖. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 6.1 ใฝ่เรยี นรู้ 6.2 มุ่งม่ันในการทางาน 7. กจิ กรรมการเรียนรู้

๒๕๔ คู่มือ การจัดกิจกรรมการเรียนร รายวิชา ภาษาไทย หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๒ เรือ่ ง สงั แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๗ เร่อื ง การวิเคราะหค์ ุณคา่ แ ลาดบั ขอบเขตเนอ้ื หา/ ข้นั ตอนการจดั เวลา แ ท่ี จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ทใ่ี ช้ กจิ กรรมคร 1. ขอบเขตเนื้อหา ขั้นนา 10 1. ครูเปิดวีดทิ ัศน์ เพล นาที ทองลกู แม่” และนาส 1. หลักการวเิ คราะห์ ซกั ถาม ดงั นี้ คณุ คา่ และสรปุ ขอ้ คิด ครู : เพลงนกี้ ลา่ วถึงใค จากเรอื่ งทอี่ า่ น 2. การเขยี นอธิบาย และเก่ยี วขอ้ งกบั พระส คุณค่าและข้อคิดจาก อยา่ งไร เร่ืองทอ่ี ่าน ครู : นักเรียนคิดวา่ เพ 3. มารยาทในการอา่ น คุณคา่ และใหข้ ้อคดิ อย 2. ครูถามนักเรยี นตอ่ ครู : แล้วแมข่ องพระส เรอื่ ง สังข์ทอง ตอนกา พระสังข์ ต่างจากนาง

อครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) รู้ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 5 งข์ทอง ตอน กาเนดิ พระสังข์ จานวน 10 ชัว่ โมง และสรุปข้อคิดจากเรอื่ งทอ่ี ่าน (2) จานวน 1 ชวั่ โมง แนวการจัดการเรียนรู้ ส่อื การเรียนรู้ การประเมนิ การเรยี นรู้ รู กิจกรรมนักเรียน วีดทิ ศั นเ์ พลง “สงั ข์ทองลูกแม่” - พจิ ารณาจาก ลง “สงั ข์ 1. นักเรยี นฟงั เพลงและ การตอบคาถาม สนทนา รว่ มกันสนทนาตอบคาถามครู ของนักเรียน เชน่ คร นักเรียน : กลา่ วถงึ นางยกั ษ์ ะสังข์ พันธุรตั ท่เี ลย้ี งดูพระสงั ข์ เหมอื นลกู แท้ ๆ พลงนีม้ ี นักเรยี น : มีคุณคา่ ดา้ นเนื้อหา อยา่ งไรบา้ ง สาระ ท่ีแสดงใหเ้ หน็ วา่ แม้ นางพันธุรตั จะเป็นยกั ษ์แต่ก็มี ความรักลูกและห่วงใยลกู ไม่ ต่างไปจากมนษุ ย์ และให้ ขอ้ คิด เชน่ แม่รักลูก หว่ งใย และทาเพ่อื ลกู ได้ทุกอย่าง อวา่ 2. นักเรียนร่วมกนั สนทนา สังข์ จาก แสดงความเห็น เช่น าเนิด นักเรียน : ตา่ งแคเ่ ป็นยกั ษก์ บั งพนั ธรุ ัต มนษุ ย์แต่รกั หว่ งใย เสยี สละ

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๒ เร่ือง สงั ขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสังข์ ลาดับ ขอบเขตเนื้อหา/ ข้นั ตอนการจัด เวลา แ ท่ี จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรยี นรู้ ทีใ่ ช้ กจิ กรรมคร หรือไม่ อยา่ งไร จากนั้นครูแจ้งจุดป การเรยี นรูแ้ ละเชื่อมโย บทเรยี น ๒. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ขน้ั สอน 2๕ 1. ครใู หน้ ักเรียนช่วย ๑. บอกหลกั การ นาที ทบทวนบทเรยี นในชัว่ วิเคราะห์คณุ คา่ และ แล้ว โดยต้งั ประเดน็ ค สรปุ ข้อคดิ จากเรอื่ งท่ี ดงั น้ี อา่ นได้ ครู : การวเิ คราะหค์ ุณ หาข้อคิดจากเรอ่ื งท่ีอ่า วเิ คราะห์ดา้ นใดและม อย่างไรบา้ ง 3. มมี ารยาทใน ๒. ครูให้นกั เรยี นแบง่ การอ่าน คน คละเพศ และควา แล้วอา่ นทบทวนเนอ้ื ห สังข์ทอง ตอนกาเนดิ พ

๒๕๕ แนวการจัดการเรียนรู้ ส่ือการเรยี นรู้ การประเมิน การเรียนรู้ รู กจิ กรรมนักเรียน เพือ่ ลกู ไดเ้ หมือนกนั ประสงค์ ยงเขา้ สู่ ยกนั 1. นกั เรียนศกึ ษาใบความรูท้ ่ี 1. ใบความรทู้ ่ี ๗ - พจิ ารณาจาก วโมงที่ ๗ และร่วมกนั สนทนาแสดง เรื่อง การวเิ คราะห์ การตอบคาถาม คาถาม ความคดิ เหน็ จากประเด็น คณุ คา่ และสรปุ (K) คาถาม เช่น ข้อคิดจากเรอ่ื งที่ ณคา่ และ นกั เรียน : คณุ คา่ จากเรื่องที่ อ่าน านควร อ่าน ไดแ้ ก่ ดา้ นเน้อื หาสาระ มหี ลักการ ด้านวรรณศลิ ป์ ด้านสงั คมและ วฒั นธรรม ด้านการนาไปใช้ ในชีวติ ประจาวัน และใน การอ่านต้องจับใจความ แลว้ พิจารณาแยกองค์ประกอบ สาคญั ต่าง ๆ ให้ได้ ฯลฯ งกลมุ่ ๔ ๒. นกั เรียนแบง่ กล่มุ และกาหนด 2. หนงั สือเรียน - สงั เกตมารยาท ามสามารถ หนา้ ทภ่ี ายในกลุม่ อา่ นเรอ่ื งและ วรรณคดีลานา ในการอ่าน หาเร่ือง อภิปรายทบทวนเรือ่ ง สังขท์ อง ชนั้ ป.๕ พระสังข์ ตอน กาเนิดพระสงั ข์ เช่น “ใคร ทาอะไร ทไี่ หน อย่างไร”

๒๕๖ คู่มอื ลาดับ ขอบเขตเนอ้ื หา/ ขัน้ ตอนการจดั เวลา แ ท่ี จุดประสงค์การเรยี นรู้ การเรียนรู้ ทใ่ี ช้ กิจกรรมคร ๓. ครูแจกใบงานท่ี ๗ การวิเคราะหค์ ณุ ค่าแล ขอ้ คิดจากการอ่านเรอ่ื ง ตอน กาเนิดพระสังข์ คาถาม เช่น ครู : คาประพนั ธ์ท่อี า่ คณุ ค่าด้านใด อย่างไร ข้อคิดใด และจะนาไป ชวี ติ จรงิ ได้อย่างไร 3. ๒. เขยี นอธบิ ายคณุ ค่า ขั้นปฏิบตั ิ 10 ๔. ครูใหน้ ักเรยี นแตล่ และขอ้ คิดจากเร่ืองท่ี นาที ตัวแทนนาผลงานหน้าห อา่ นได้ ๕. ครูให้เพอื่ น ๆ รว่ ม ตรวจสอบการเขียน เ และชมเชยใหก้ าลงั ใจ ๖. ครสู รปุ การทากจิ ก โดยถามนกั เรยี นทุกค ครู : นกั เรียนไดร้ บั คว อะไรบา้ งจากการทากิจ ครู : นักเรียนคิดวา่ ยัง ตอ้ งพัฒนาอกี บา้ ง

อครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ การประเมนิ รู กจิ กรรมนกั เรียน 3. ใบงานท่ี ๗ การเรยี นรู้ ๗ เรอ่ื ง ๓. นักเรยี นทากิจกรรมกลุ่ม การวเิ คราะห์ ละสรปุ ในใบงานที่ ๗ โดยแสดง คุณคา่ และสรปุ ง สงั ขท์ อง ความคดิ เห็นแลว้ สรปุ เขยี น ขอ้ คิดจากการอ่าน เรื่องสงั ข์ทอง ตอน โดยใช้ อธบิ ายคณุ ค่า ขอ้ คดิ ท่ีได้ และ กาเนิดพระสงั ข์ การนาไปใช้ในใบงานให้ สอื่ PPT านมี ชดั เจน ร ให้ ปใชใ้ น ละกลมุ่ สง่ ๔. นักเรยี นตัวแทนกลุม่ - ใบงานที่ ๗ - ประเมินจาก หอ้ งเรยี น นาเสนอผลงานหนา้ ห้องเรยี น (ผลงานนักเรียน) การตรวจใบงาน มกัน ๕. นักเรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบ ท่ี ๗ เสนอแนะ การเขียนของเพ่ือนและให้ จ ข้อเสนอแนะเพ่มิ เติม กรรมกลมุ่ ๖. นกั เรยี นทุกคนเขยี นตอบ คนวา่ คาถามครลู งในสมดุ และสง่ วามรู้เรื่อง ตัวแทนกล่มุ ลกุ ขนึ้ ยนื ตอบครู จกรรมกลมุ่ งมสี ว่ นใด

หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๒ เรื่อง สังขท์ อง ตอน กาเนิดพระสงั ข์ ลาดับ ขอบเขตเนือ้ หา/ ข้นั ตอนการจัด เวลา แ ที่ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ทใ่ี ช้ กิจกรรมคร 4. ขัน้ สรปุ 5 ๑. ครูให้นกั เรยี นร่วมก นาที จากคาถาม ดงั น้ี ครู : การเรียนรเู้ ร่ือง การวิเคราะหค์ ุณคา่ แล ข้อคิดมปี ระโยชน์อยา่ ใหแ้ ต่ละกลมุ่ ปรึกษ แล้วบอกมากลมุ่ ละ 1 ๒. ครูให้นักเรียนชว่ ย บทเรยี นและขนึ้ สือ่ P สรปุ บทเรยี นอกี ครงั้

๒๕๗ แนวการจัดการเรียนรู้ ส่ือการเรียนรู้ การประเมนิ รู กจิ กรรมนกั เรยี น การเรียนรู้ กันสรุป 1. นักเรียนสนทนาแสดง - ส่ือ PPTคาถาม - พิจารณาจาก การตอบคาถาม ความคดิ เหน็ และบอกประโยชน์ ของการเรยี นรู้เร่ือง ละสรปุ การวิเคราะห์คณุ คา่ และสรปุ างไร ขอ้ คดิ แล้วส่งตัวแทนกลมุ่ ษากัน ออกมาบอกกลมุ่ ละ 1 ขอ้ 1 ข้อ ยกนั สรุป ๒. นักเรยี นร่วมกนั สรปุ - สื่อ PPT PPT บทเรยี นทไ่ี ด้ในวันน้ี สรปุ บทเรียน

258 คูม่ อื ครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) 8. สื่อการเรียนรู้/แหลง่ เรียนรู้ 1. หนังสอื เรยี นวรรณคดลี านาช้ัน ป.๕ 2. ใบความรู้ที่ ๗ เร่อื ง การวเิ คราะห์คณุ ค่าและสรปุ ขอ้ คดิ จากเร่ืองทอ่ี ่าน 3. ใบงานท่ี ๗ เรือ่ ง การวเิ คราะหค์ ณุ คา่ และสรุปข้อคิดจากการอา่ นเรื่อง สังข์ทอง ตอน กาเนดิ พระสงั ข์ 4. สอ่ื PPT เร่ือง การวิเคราะห์คุณค่าและสรปุ ขอ้ คดิ จากเรอ่ื งท่อี ่าน 5. วีดทิ ัศน์ เพลง “สงั ขท์ องลกู แม่” 9. การประเมนิ ผลรวบยอด ช้ินงานหรือภาระงาน - ใบงานที่ ๗ เรอื่ ง การวเิ คราะห์คุณคา่ และสรปุ ขอ้ คดิ จากเรอื่ งทอี่ ่าน สงิ่ ทต่ี ้องการวัด / ประเมนิ วธิ ีการ เครือ่ งมือทใ่ี ช้ เกณฑ์ รอ้ ยละ ๖๐ ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) ขึน้ ไป - บอกหลกั การวเิ คราะหค์ ณุ ค่า 1. ตรวจสมุดบันทกึ - สมดุ บันทึก รอ้ ยละ ๖๐ และสรุปขอ้ คิดจากเรือ่ งที่อ่าน 2. พจิ ารณาการตอบ - คาถาม ขึ้นไป คาถาม ร้อยละ ๖๐ ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ (P) ขึ้นไป - เขยี นอธบิ ายคณุ คา่ และข้อคดิ - ตรวจใบงานที่ ๖ เรือ่ ง - ใบงานที่ ๖ จากเร่อื งท่ีอา่ น การวิเคราะห์คณุ คา่ และ - แบบประเมนิ ใบงานที่ ๖ สรปุ ขอ้ คิดจากเรื่องทอี่ ่าน ดา้ นคุณลักษณะ เจตคติ คา่ นิยม (A) - มีมารยาทในการอา่ น - สังเกตมารยาทใน - แบบประเมนิ ตามเกณฑ์ การอา่ น รูบริค คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ 1. ใฝเ่ รียนรู้ นกั เรยี น อนั พงึ ประสงค์ ผา่ น 2. มุง่ มั่นในการทางาน - สงั เกตพฤตกิ รรม สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น นักเรยี น - แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดบั คณุ ภาพ 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร สาคัญของผู้เรยี น ผ่าน 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใชท้ ักษะ ชีวิต

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๒ เรื่อง สงั ขท์ อง ตอน กาเนิดพระสังข์ 259 เกณฑป์ ระเมิน : การวิเคราะห์คณุ ค่าและสรุปข้อคิดจากเรอื่ ง สังขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสงั ข์ ประเด็น ระดบั คุณภาพ การประเมิน การวิเคราะห์ ๔ (ดีมาก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรุง) คุณคา่ และสรปุ ขาด องค์ประกอบ ขอ้ คิดจากเรอื่ ง - อธบิ ายคณุ คา่ ขาดองคป์ ระกอบใด ขาด องคป์ ระกอบใด ใดองคป์ ระกอบ ท่ีอา่ นไปใชใ้ น ดา้ นวรรณศลิ ปไ์ ด้ องค์ประกอบหนงึ่ องค์ประกอบหนงึ่ หนงึ่ จานวน ชวี ติ จรงิ - อธิบายคณุ คา่ จานวน ๑ องค์ จานวน ๒ องค์ ๓ องคป์ ระกอบ ดา้ นเนอื้ หาสาระ ประกอบ ประกอบ ได้ - อธิบายคณุ ค่า คณุ ค่าดา้ นสงั คม และวัฒนธรรมได้ - สรปุ ข้อคิดได้ - อธิบายคณุ คา่ ด้านการนาไป ประยุกต์ใชใ้ น ชีวติ ประจาวนั ได้ หมายเหตุ : ค่าน้าหนัก ๕ คะแนน คะแนน ระดับคุณภาพ เกณฑ์การประเมนิ คุณภาพ 16-20 ดีมาก 11-15 ดี 6-10 พอใช้ 1-5 ปรบั ปรงุ เกณฑ์การตัดสิน : ผ่านเกณฑ์การประเมินร้อยละ 5๐ ขนึ้ ไป (ตอ้ งไดค้ ะแนนระดบั พอใช้ขน้ึ ไป)

260 คู่มอื ครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แบบประเมนิ การวเิ คราะห์คณุ คา่ และสรุปข้อคดิ จากเรือ่ ง สงั ขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสังข์ คาช้ีแจง ให้ครูเขยี นคะแนน ลงในชอ่ งประเด็นการประเมนิ ที่กาหนดไว้ อ ิธบายคุณค่าด้าน สรุป วรรณศิลป์ (๕ คะแนน) ลาดบั ชอ่ื -สกลุ อ ิธบายคุณค่าคุณค่าด้าน รวม คิดเป็น ผ่าน ไมผ่ ่าน ท่ี เ ้ืนอหาสาระ (๕ คะแนน) คะแนน รอ้ ยละ อ ิธบายคุณค่าคุณค่าด้าน (๒๐) สังคม (๕ คะแนน) สรุป ้ขอคิดและอ ิธบาย คุณค่าคุณค่าด้าน การ นาไปใ ้ช (๕ คะแนน) ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรุง รวม (คน) คิดเปน็ ร้อยละ ผลการประเมิน  ดีมาก ..........คน คิดเปน็ รอ้ ยละ...............  ดี ..........คน คิดเป็นรอ้ ยละ................  พอใช้ ..........คน คิดเป็นรอ้ ยละ...............  ปรับปรงุ .........คน คดิ เปน็ ร้อยละ................ สรปุ ผลการประเมินรายช้ันเรยี น  นักเรยี นผ่านเกณฑก์ ารประเมิน จานวน......................... คน คิดเปน็ ร้อยละ.........................  นกั เรียนไม่ผ่านเกณฑก์ ารประเมิน จานวน......................... คน คิดเปน็ รอ้ ยละ........................ ลงชอ่ื .................................................ผปู้ ระเมนิ (..............................................) ........../..................../..........

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๒ เรือ่ ง สังขท์ อง ตอน กาเนิดพระสงั ข์ 261 10. บันทึกผลหลงั สอน ผลการจดั การเรียนการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสาเร็จ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปัญหาและอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ้ จากดั การใช้แผนการจัดการเรยี นรู้ และข้อเสนอแนะ/แนวทางการปรับปรงุ แกไ้ ข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื ......................................................ผสู้ อน (.......................................................) วนั ที่ .......... เดอื น ..................... พ.ศ. ............. 11. ความคดิ เหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผู้บริหารหรอื ผูท้ ไ่ี ดร้ ับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ ...................................................... ผตู้ รวจ (.......................................................) วนั ท่ี .......... เดือน ..................... พ.ศ. .............

262 คมู่ อื ครูและแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ใบความรู้ที่ ๗ เรอ่ื ง การวิเคราะห์คณุ คา่ และสรปุ ขอ้ คดิ จากเรอ่ื งที่อ่าน หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 เร่ือง สังขท์ อง ตอน กาเนิดพระสังข์ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 7 เรื่อง การวเิ คราะหค์ ุณค่าและสรุปข้อคดิ จากเรื่องท่ีอา่ น รายวิชา ภาษาไทย รหสั วชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๕ การวิเคราะหเ์ รื่องทอี่ ่าน การวิเคราะห์เรื่องที่อา่ น หมายถึง การพิจารณารายละเอยี ดเพื่อแยกองค์ประกอบ ต่าง ๆ ของเรื่องที่อ่าน เช่น รูปแบบเป็นแบบใด ผู้แต่งคือใคร มีจุดมุ่งหมายในการแต่ง อยา่ งไร เป็นเร่ืองเกี่ยวกับอะไร ใช้ภาษาอย่างไร มีประโยชน์อย่างไร ต่อใครบ้าง ผู้วเิ คราะห์ มีความเห็นอยา่ งไร เรื่องทีอ่ ่านมคี ุณค่าดา้ นใด และแต่ละดา้ นสามารถนาไปประยุกต์ใหเ้ กิด ประโยชน์ต่อชวี ิตประจาวนั อยา่ งไรบ้าง การวเิ คราะห์คณุ ค่าจากเรือ่ งทอ่ี า่ น การวิเคราะห์คุณค่าจากเรื่องท่ีอ่าน เป็นการวิเคราะห์คุณค่าลักษณะดีเด่นในด้าน ต่าง ๆ ของเร่ือง เช่น คุณค่าด้านเนื้อหา คุณค่าด้านสังคมและวัฒนธรรม โดยใช้ความคิด พิจารณาไตรต่ รอง กล่นั กรอง แยกแยะและแสวงหาเหตผุ ลเพ่ือประเมนิ คุณค่าของวรรณคดี อย่างมเี หตผุ ล การอ่านหนงั สือหรอื เรื่องราวต่าง ๆ อย่างพินิจพิเคราะห์จะทาใหป้ ระจกั ษใ์ นคณุ ค่า ประเทืองปัญญาได้รับประโยชน์หลายประการ รวมทั้งสนุกสนานเพลิดเพลินจากการอ่าน ยิง่ ขน้ึ คณุ คา่ ของเรื่องทีอ่ ่านแบง่ กวา้ ง ๆ ได้ ๔ ด้าน ดงั นี้ 1. คณุ คา่ ดา้ นเนื้อหาสาระ คือ การท่ีผู้อ่านจะได้รับความรู้ ความคิดเพ่ิมขึ้น ทาให้มีปัญญาแตกฉานท้ังด้าน วิทยาการ ความรูร้ อบตัว ความรู้เท่าทันคนและอ่นื ๆ 2. คุณคา่ ดา้ นวรรณศลิ ป์ คือ ความพิถีพิถันในการใช้คาอย่างประณีตทาให้เกิดความงาม ความไพเราะใน การใช้ภาษา ผู้อ่านสามารถได้รับรสไพเราะของเสียง ซาบซ้ึงในความหมาย เห็น ภาพเคลอื่ นไหว เกิดจินตนาการตามสัมผัสอารมณ์และความนึกคิดต่าง ๆ ท่ีผแู้ ต่งถ่ายทอด ออกมาเป็นบทประพนั ธ์ เชน่ ความรสู้ กึ โศกเศร้าสะเทอื นใจ โกรธ ตลกขบขนั เปน็ ตน้

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๒ เรือ่ ง สังขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสังข์ 263 ๓. คณุ คา่ ดา้ นสงั คมและวัฒนธรรม คือ เร่ืองราวที่อ่านจะสะท้อนให้เห็นสภาพสังคม วัฒนธรรมประเพณี ค่านิยม คติ ชีวิต คาสั่งสอน คุณธรรมและจริยธรรม ความเป็นอยู่ ประวตั ิศาสตร์ การเมอื ง อาหารการกิน สอดแทรกไปกับการดาเนินเรื่อง ทาให้ผู้อ่านได้รับความรู้เกี่ยวกับสังคมในอดีต ช่วยให้ เข้าใจวิถชี วี ติ ความเป็นไทยมากยงิ่ ขึน้ และงานเขยี นท่ีดจี ะช่วยจรรโลงสงั คมได้ด้วย ๔. คณุ ค่าด้านการนาไปประยกุ ต์ใช้ในชีวติ ประจาวนั คือ ผู้การท่ีผู้อ่านสามารถนาแนวคิดจากวรรณคดีและประสบการณ์จาก เรื่องที่อ่าน ไปประยกุ ต์ใชห้ รอื แก้ปัญหาในชวี ิตประจาวนั ได้ หลกั การวเิ คราะห์เร่ืองทอ่ี ่าน การวิเคราะห์วรรณกรรมมีหลักเกณฑ์การปฏิบัติอย่างกว้าง ทั้งน้ีเพื่อให้ครอบคลุม งานเขียนทุกประเภท แต่ละประเภท ผู้วิเคราะห์ต้องนาแนวการวิเคราะห์ไปปรับใช้ ให้ เหมาะสมกับงานเขียนแต่ละช้ินงานซ่ึงมีลักษณะแตกต่างกันไป ซ่ึงประพันธ์ เรืองณรงค์ และคณะ (๒๕๔๕ : ๑๒๘) ได้ใหห้ ลักเกณฑก์ ว้าง ๆ ในการวิเคราะหว์ รรณกรรม ดังน้ี ๑. ความเปน็ มาหรือประวตั ิของหนังสือและผแู้ ตง่ เพื่อช่วยให้วเิ คราะห์ในสว่ นอ่นื ๒. ลกั ษณะคาประพนั ธ์ ๓. เร่อื งย่อ ๔. เน้ือเร่ือง ให้วิเคราะห์เร่ืองในหัวข้อต่อไปนี้ตามลาดับ โดยบางหัวข้ออาจจะมี หรือไม่มีก็ได้ตามความจาเป็น เช่น โครงเรื่อง ตัวละคร ฉาก วิธีการแต่ง ลักษณะการ เดินเร่ือง การใช้ถ้อยคา สานวนในเร่ืองท่วงทานองการแต่ง วิธีคิดสร้างสรรค์ ทัศนะหรือ มมุ มองของผเู้ ขยี น เปน็ ต้น ๕. แนวคดิ จุดมุ่งหมาย เจตนาของผู้เขยี นที่ฝากไว้ในเร่อื ง ซ่งึ ต้องวิเคราะหอ์ อกมาก ๖. คุณค่าของวรรณกรรม โดยปกติแบ่งออกเป็น ๕ ด้านใหญ่ ๆ และกว้าง ๆ เพื่อ ความครอบคลุมในทุกประเด็น ซึ่งผู้วเิ คราะหต์ ้องไปแยกหัวข้อยอ่ ยใหส้ อดคลอ้ งกบั ลักษณะ ของหนังสือทจ่ี ะวิเคราะหน์ ัน้ ๆ ตามความเหมาะสม การหาข้อคดิ จากเรือ่ งทีอ่ ่าน ขอ้ คิด หมายถึง ประเด็นชวนคดิ คติทเ่ี ปน็ ประโยชน์ การหาข้อคิดจากเร่ืองที่อ่าน เป็นการหาข้อคิดหรือคติสอนใจจากเรื่องที่อ่านน้ัน ๆ ว่าให้ ข้อคดิ ทเ่ี ป็นประโยชน์อะไรบ้าง แลว้ จงึ นาข้อคดิ นัน้ มาประยุกต์ใช้ในชวี ติ ประจาวัน การหาข้อคิดจากการอ่านหนังสือต่าง ๆ เช่น การอ่านนิทาน บทความ สารคดี ควร อา่ นต้งั แตต่ น้ จนจบเร่อื ง แลว้ ทาความเขา้ ใจเนอื้ เร่ือง จบั ใจความสาคัญ หรือประเด็นสาคัญ ทผ่ี ู้เขียนตอ้ งการใหข้ อ้ คิดกับผ้อู ่าน

264 คมู่ ือครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ใบงานท่ี ๗ เรอื่ ง การวเิ คราะหค์ ณุ ค่าและสรปุ ขอ้ คดิ จากเรอ่ื ง สงั ขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสงั ข์ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 เรื่อง สงั ข์ทอง ตอนกาเนิดพระสังข์ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 7 เรือ่ ง การวิเคราะห์คุณคา่ และสรปุ ขอ้ คดิ จากเร่อื งท่อี า่ น รายวิชา ภาษาไทย รหสั วิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๕ คาชีแ้ จง ให้นักเรียนจับกล่มุ ร่วมกนั วิเคราะห์คณุ ค่าและสรุปขอ้ คิดจากคาประพันธ์ท่ีกาหนดให้ ๑. ไมค่ ดิ ถงึ ตัวกลวั กรรม เวรามาทาเองงา่ ยง่าย ถงึ ช่วั ดเี ลา่ เจา้ เปน็ นาย จะทาผิดคิดร้ายก็ไม่ดี ของพระแมเ่ จ้าอย่ฉู าวฉาน คาประพนั ธ์นี้มคี ณุ ค่าดา้ น พระมารดามาเหน็ จะร่าไร… เพราะ ครนั้ ร่งุ เชา้ เจา้ เขา้ ป่า ขอ้ คิดทีไ่ ด้ กลั ยาคา้ ขายไดเ้ ลี้ยงตัว นาไปใชใ้ นชีวติ จรงิ โดย ๒. ไกป่ า่ พาฝงู มากนิ ขา้ ว อมุ้ ชชู มชดิ พิสมยั คยุ้ เขย่ี เร่ยี รายทง้ั ดินดาน คาประพนั ธ์นม้ี คี ณุ ค่าดา้ น เพราะ ข้อคดิ ท่ีได้ นาไปใช้ในชีวิตจริงโดย ๓. คร้นั ค่าตักนา้ ตาข้าว เก็บผกั เที่ยวหกั ฟนื มา คาประพันธ์นี้มคี ณุ คา่ ด้าน เพราะ ข้อคิดทไ่ี ด้ นาไปใช้ในชีวติ จริงโดย ๔. ไม่ว่าลูกนอ้ ยเป็นหอยปู คาประพันธ์นี้มีคุณค่าด้าน เพราะ ขอ้ คิดทไี่ ด้ นาไปใชใ้ นชวี ติ จริงโดย ชื่อ.....................................................นามสกลุ .................................................ชนั้ ..............เลขท.่ี ..............

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๒ เรอ่ื ง สังขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสงั ข์ 265 แนวคาตอบใบงานที่ ๗ เรอ่ื ง การวเิ คราะห์คณุ คา่ และสรุปขอ้ คิดจากเร่ือง สงั ขท์ อง ตอน กาเนิดพระสังข์ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 เร่ือง สังขท์ อง ตอนกาเนดิ พระสงั ข์ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๗ เรื่อง การวเิ คราะหค์ ุณคา่ และสรปุ ขอ้ คดิ จากเรื่องท่อี ่าน รายวชิ า ภาษาไทย รหัสวชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๕ คาชีแ้ จง ให้นักเรียนจับกล่มุ ร่วมกนั วิเคราะห์คุณค่าและสรปุ ข้อคิดจากคาประพันธ์ทก่ี าหนดให้ ๑. ไม่คิดถงึ ตวั กลวั กรรม เวรามาทาเองงา่ ยง่าย ถงึ ชวั่ ดเี ลา่ เจา้ เปน็ นาย จะทาผดิ คิดร้ายกไ็ ม่ดี คาประพันธ์นี้มีคุณค่าด้าน สังคมและวัฒนธรรม เพราะ สะท้อนความเชือ่ ตามแบบแนวคดิ ของคนไทย คือ เรื่องของเวรกรรม และการปฏบิ ัติตน ในฐานะลกู นอ้ งท่ดี ซี ง่ึ เปน็ แบบอยา่ งท่ีดีของสงั คม ขอ้ คดิ ทไี่ ด้ คนเราต้องรู้จกั ละอาย และเกรงกลวั ต่อบาป ไม่ทาผดิ คดิ ร้ายต่อผู้ใด นาไปใช้ในชีวิตจริงโดย รักษาศีล ๕ และคดิ ดี ทาดี พูดดีในทกุ ๆ วนั ๒. ไก่ปา่ พาฝงู มากนิ ข้าว ของพระแมเ่ จ้าอยฉู่ าวฉาน คุ้ยเขีย่ เรย่ี รายทั้งดนิ ดาน พระมารดามาเห็นจะรา่ ไร… คาประพนั ธ์นมี้ ีคณุ คา่ ด้าน วรรณศิลป์ เพราะ ใช้คาทาให้เหน็ ภาพเคล่อื นไหวอย่างชัดเจน ข้อคดิ ทไ่ี ด้ ลกู ควรกตญั ญตู อ่ พอ่ แม่ นาไปใชใ้ นชีวติ จริงโดย ทาหนา้ ท่ขี องตนเองใหด้ ี เช่น ตง้ั ใจเรยี น เชอื่ ฟังผใู้ หญ่ และช่วยแบ่งเบาภาระ ทา่ นเทา่ ทเ่ี ราจะทาได้ ๓. ครน้ั ค่าตักน้าตาข้าว ครัน้ รุ่งเช้าเจา้ เขา้ ปา่ เก็บผักเทยี่ วหักฟนื มา กลั ยาค้าขายได้เล้ียงตัว คาประพนั ธ์นี้มคี ณุ คา่ ด้าน เนอ้ื หาสาระ, ดา้ นสงั คมและวัฒนธรรม เพราะ เน้ือหาสะท้อนใหเ้ หน็ วิถชี วี ิต ความเป็นอยู่ และอาหารการกนิ ของชาวบา้ นปา่ ในยุคสมยั นั้นวา่ ต้องตกั นา้ มาไวใ้ ชเ้ พราะไมม่ ีน้าประปา ตาขา้ วหงุ เองเพราะไม่มีโรงสีขา้ วอยา่ งปจั จบุ นั และประกอบ อาชีพเก็บผกั หกั ฟนื ในป่ามาขายเลย้ี งชพี ขอ้ คิดทีไ่ ด้ การประกอบอาชพี โดยสจุ ริต แมจ้ ะยากลาบากบา้ ง ก็ตอ้ งอดทนเพอื่ ตนเองและครอบครวั นาไปใชใ้ นชีวติ จรงิ โดย โตขนึ้ จะประกอบอาชีพสจุ รติ ดว้ ยความขยนั และอดทน ๔. ไมว่ ่าลูกนอ้ ยเปน็ หอยปู อมุ้ ชชู มชิดพสิ มัย คาประพนั ธ์นมี้ คี ณุ คา่ ดา้ น การนาไปประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั เพราะ สะทอ้ นใหเ้ หน็ ความรักของแมท่ ม่ี ีตอ่ ลกู ไม่ว่าลกู จะเป็นอยา่ งไรแม่ก็รกั ข้อคิดท่ีได้ ความรกั ของแมท่ ่มี ตี อ่ ลกู นาไปใช้ในชีวิตจริงโดย เมือ่ รวู้ า่ แม่รกั ลกู ลกู ก็ควรรักแม่ใหม้ าก ๆ ไม่ทาให้แมเ่ สยี ใจ

๒๖๖ คู่มือครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๘ เรื่อง การท่องจาบทอาขยาน หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี ๒ เร่ือง สงั ข์ทอง ตอน กาเนิดพระสงั ข์ เวลา 1 ช่วั โมง กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย รายวชิ าภาษาไทย ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 5 1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้วี ัด สาระท่ี 5 วรรณคดีและวรรณกรรม มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่าและ นามาประยกุ ต์ใชใ้ นชีวติ จริง ตวั ช้วี ัด ป.๕/๔ ทอ่ งจาบทอาขยานตามทกี่ าหนดและบทร้อยกรองทมี่ คี ณุ ค่าตามความสนใจ ๒. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด การท่องจาบทอาขยาน จะทาใหเ้ หน็ ความงดงามและความไพเราะของภาษา เกิดความซาบซ้งึ ภมู ใิ จ และรักความเป็นไทย สามารถนาไปใชอ้ า้ งอิง และนาขอ้ คิดไปเปน็ แนวทางในการดาเนนิ ชีวติ ๓. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้ ความเขา้ ใจ (K) บอกหลักการการทอ่ งจาบทอาขยานได้ 3.2 ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) ทอ่ งบทอาขยานสงั ขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสงั ข์ได้ 3.3 ด้านคณุ ลกั ษณะ เจตคติ คา่ นยิ ม (A) บอกประโยชนข์ องการทอ่ งจาบทอาขยานได้ ๔. สาระการเรยี นรู้ การท่องจาบทอาขยาน ๕. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน 5.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5.2 ความสามารถในการคดิ ๖. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 6.1 มุง่ มั่นในการทางาน 6.2 รักความเป็นไทย 7. กิจกรรมการเรยี นรู้

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๒ เรอ่ื ง สังขท์ อง ตอน กาเนิดพระสังข์ การจัดกิจกรรมการเรยี นร รายวิชา ภาษาไทย หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี ๒ เร่ือง สงั แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๘ เรื่อง การทอ่ ลาดบั ขอบเขตเนอ้ื หา/ ขั้นตอนการจัด เวลา แ ท่ี จุดประสงค์การเรียนรู้ การเรยี นรู้ ทีใ่ ช้ กจิ กรรมคร 1 ขอบเขตเนื้อหา ข้นั นา 10 ๑. ครเู ปดิ เสยี งการท่อ 1. หลกั การทอ่ งจา อาขยานบทหลัก ชว่ ง บทอาขยาน นาที สงั ข์ทอง ตอน กาเนดิ 2. การทอ่ งบท ของนกั เรียน ด.ช.ชนาธ มีประโคน ที่ชนะเลิศก อาขยาน อาขยานระดบั ประเท สงั ขท์ อง ตอน กาเนิด พระสังข์ ใหน้ กั เรียนฟัง “เมอื่ น้ัน 3. ประโยชนข์ อง พระสังขซ์ ่อนอย่กู ร็ สู้ ิน้ การทอ่ งจาบท อาขยาน พระแมไ่ ปป่าเป็นอาจ ในจติ คิดถวลิ ทุกเวลา จะใคร่ออกชว่ ยพระแ สงสารผา่ นเกลา้ เปน็ ห เหนื่อยยากลาบากกา กลับมาจนคา่ แล้วร่าไร ฯลฯ

๒๖๗ รู้ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 5 งขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสังข์ จานวน 10 ชว่ั โมง ทองจาบทอาขยาน จานวน 1 ชว่ั โมง แนวการจัดการเรียนรู้ ส่ือการเรียนรู้ การประเมิน การเรียนรู้ รู กิจกรรมนักเรยี น - พจิ ารณาจาก การตอบคาถาม องบท ๑. นักเรียนฟงั และตอบคาถาม - วดี ทิ ัศน์ ของนักเรยี น งชน้ั ท่ี ๒ ครู เช่น บทอาขยาน ดพระสงั ข์ นักเรียน : บทร้อยกรอง, สงั ขท์ อง ตอน ธปิ บทอาขยาน กาเนดิ พระสงั ข์ การทอ่ ง นกั เรียน : ไพเราะ มคี ุณค่า บทหลกั ของช่วง ทศ ใหข้ ้อคดิ ช้นั ที่ ๒ น จณิ แมเ่ จ้า หนกั หนา ายา ร

๒๖๘ ค่มู อื ลาดับ ขอบเขตเน้ือหา/ ขั้นตอนการจัด เวลา แ ท่ี จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรยี นรู้ ท่ใี ช้ กิจกรรมคร สาละวนเลน่ พลางไมห่ แลว้ สนทนาซกั ถาม เช ครู : สิ่งท่ีนักเรียนฟงั เร อะไร ครู : บทอาขยานมคี ว แตกตา่ งหรอื โดดเดน่ จ กลอนอืน่ ๆ อย่างไร ครู : นกั เรียนฟงั การอ อาขยานแลว้ จาไดท้ งั้ หรือไม่ เพราะอะไร 2. ครูแจ้งจุดประสงค การเรียนรู้ และเช่ือมโ บทเรียน

อครูและแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรยี นรู้ สือ่ การเรียนรู้ การประเมิน รู กิจกรรมนกั เรยี น การเรียนรู้ ห่างดู” ชน่ รียกว่า นกั เรยี น : บทอาขยาน วาม นักเรยี น : แตกต่างกนั เพราะ จากบท ทานองตา่ งกัน อ่านบท นักเรยี น : จาไม่ได้ เพราะยัง งหมด ไม่อา่ นท่องจา ค์ 2. นกั เรียนร่วมกันสนทนา โยงเข้าสู่ แสดงความเหน็ จาก ประสบการณ์เดมิ และ เช่อื มโยงเขา้ สบู่ ทเรยี น

หน่วยการเรียนรูท้ ี่ ๒ เรื่อง สังขท์ อง ตอน กําเนดิ พระสงั ข์ ลาํ ดบั ขอบเขตเน้อื หา/ ข้ันตอนการจดั เวลา แ ที่ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ทีใ่ ช้ กจิ กรรมคร ๒. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ขัน้ สอน 20 1. ครใู หน้ กั เรยี นแบง่ ก ๑. บอกหลักการ นาที คน คละเพศ และความ ท่องจําบทอาขยานได้ ๒. ครแู จกกระดาษกร A๔ และใบความรู้ท่ี ๘ นักเรยี นรว่ มกนั อภปิ ร เขียนแผนผังสรปุ ความ คาํ ถาม ดงั น้ี ครู : ถ้าใหน้ กั เรียนท่อ บทอาขยานสังขท์ องใ นักเรยี นจะมีวธิ กี ารอย ๓. ครูให้นกั เรยี นแตล่ นาํ เสนอผลงานหลกั ก ทอ่ งจําบทอาขยาน ๔. ครูบรรยายเพ่มิ เติม ให้

๒๖๙ แนวการจดั การเรยี นรู้ สือ่ การเรยี นรู้ การประเมิน ๑. กระดาษ A๔ การเรียนรู้ รู กิจกรรมนกั เรยี น ๒. ใบความรทู้ ี่ ๘ - สังเกต เร่ือง การท่องจาํ พฤตกิ รรม กล่มุ ๔ 1. นกั เรียนแบง่ กล่มุ คละชาย บทอาขยาน ของนักเรยี น มสามารถ หญงิ เก่ง ออ่ น เอื้ออาทรกนั 3. ผลงาน และแบ่งหน้าทร่ี บั ผิดชอบ นักเรยี น - ประเมินจาก ภายในกลุ่ม การนาํ เสนองาน ระดาษ ๒. นักเรียนแตล่ ะกล่มุ ๘ ให้ อภปิ รายสร้างความเขา้ ใจ รายและ รว่ มกนั เกยี่ วกับหลกั การ มรู้ จาก ท่องจําบทอาขยาน สรปุ องจํา หลกั การไวใ้ นกระดาษ A๔ ให้ได้ ย่างไร ละกล่มุ ๓. นักเรยี นตวั แทนกลมุ่ นาํ การ ผลงานสรปุ หลกั การท่องจาํ บท อาขยาน ตดิ บนบอรด์ และ นําเสนอใหเ้ พอ่ื นฟัง มความรู้ ๔. นกั เรยี นเพม่ิ เติมส่วนท่ีไม่ สมบูรณ์

๒๗๐ คมู่ ลําดบั ขอบเขตเน้อื หา/ ขน้ั ตอนการจดั เวลา แ ที่ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรียนรู้ ท่ีใช้ กจิ กรรมคร 3. ๒. ทอ่ งบทอาขยาน ข้นั ปฏบิ ตั ิ ๕. ครเู ปิดบทอาขยาน สงั ขท์ อง ตอน กําเนิด ๒๐ นกั เรยี นที่ชนะเลิศการ พระสังข์ได้ นาที อาขยานสังข์ทอง ให้น ฟังอกี คร้งั และถามนัก ครู : วดี ทิ ศั นก์ ารท่องบ อาขยาน ทน่ี ักเรียนฟงั การเวน้ จงั หวะเสียง การทอดเสียงถกู ตอ้ งห อยา่ งไร ๖. ครูแจกใบงานที่ ๘ นกั เรยี นแบง่ จงั หวะกา จากการฟังและดูวีดิท การอ่านบทอาขยานส ๗. ครทู ่องแบบธรรมดา นกั เรียนฟังฟังเพ่อื ตรวจ แบ่งจงั หวะให้ถกู ต้อง แ ศกึ ษาคาํ ศัพทท์ ่ีมใี นบท เพอื่ ทาํ ความเข้าใจเนื้อค บทอาขยานนนั้ เพอื่ ทําใ บทรอ้ ยกรองได้ง่ายข้ึน

ือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรียนรู้ สือ่ การเรยี นรู้ การประเมิน 3. สอื่ PPT การเรียนรู้ รู กิจกรรมนกั เรยี น การท่องจาํ บทอาขยาน นของ ๕. นกั เรยี นฟังและสังเกต วดี ทิ ศั น์การอ่าน รอ่านบท การท่องบทอาขยาน การเว้น บทอาขยาน นกั เรยี น จังหวะเสยี ง การทอดเสียง สงั ขท์ อง กเรียนว่า และสนทนา ตอบข้อคาํ ถาม ตอน กําเนิด บท ของครู พระสงั ข์ งและดมู ี หรอื ไม่ ๘ ให้ ๖. นักเรยี นแบง่ จงั หวะ - ใบงานท่ี ๘ ารอ่าน การอ่านตามวีดทิ ศั นก์ ารอ่าน การทอ่ งจําบท บทอาขยานสังข์ทอง อาขยาน ทศั น์ ๗. นักเรียนรว่ มกนั ตรวจสอบ สังข์ทอง ความถกู ตอ้ ง ศึกษาคาํ ศัพท์ าให้ และทาํ ความเขา้ ใจความหมาย วจสอบการ ของบทอาขยาน และให้ ทอาขยาน อความของ ใหจ้ ดจาํ น

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๒ เรือ่ ง สังขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสงั ข์ ลาดับ ขอบเขตเน้อื หา/ ขัน้ ตอนการจัด เวลา แ ที่ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ท่ใี ช้ กจิ กรรมคร ๘. ครูใหน้ กั เรียนฝึกอ อาขยานตามครูทีละว ทอ่ งพรอ้ ม ๆ กันทง้ั ชน้ั คอยตรวจสอบและแน นกั เรียนอ่านไดค้ ล่องแ ๙. ครูให้นกั เรยี นจบั ค บทอาขยานเรอ่ื ง สังข ตอน กาเนิดพระสังข์ ใหน้ กั เรยี นแตล่ ะค่ตู ้อ ทอ่ งอาขยานแข่งกัน เ คนทีท่ ่องเก่งจาแม่นเป โดยครูและเพื่อน ๆ ค กรรมการตัดสินโดยค ๑๐. ครูสรปุ กจิ กรรมแ นักเรยี นท่องบทอาขย พรอ้ ม ๆ กันทงั้ ชนั้ อีก มอบหมายให้คู่ท่ียงั ไม จบั คู่ไปสอบท่องอาขย นอกเวลาเรยี น

๒๗๑ แนวการจดั การเรียนรู้ สือ่ การเรยี นรู้ การประเมิน รู กิจกรรมนักเรียน การเรียนรู้ อ่าน ๘. นกั เรยี นฝกึ อา่ นอาขยาน - ประเมินใบงาน วรรค และ ตามครูทีละวรรค และอ่าน ท่ี ๘ เร่อื งการท่อง ชน โดยครู พร้อม ๆ กนั ท้งั ชน้ั จน บทอาขยาน นะนาจน นกั เรียนอา่ นได้คล่องแคล่ว สงั ขท์ อง ตอน แคลว่ กาเนดิ พระสงั ข์ คูฝ่ กึ ท่อง ๙. นกั เรยี นแตล่ ะคผู่ ลดั กนั ขท์ อง ออกมาท่องอาขยาน เพ่ือหา จากนั้น คนทีท่ อ่ งเก่งจาแมน่ เปน็ ผชู้ นะ องออกมา โดยเพ่อื น ๆ เป็นกรรมการ เพอื่ หา ตดั สนิ ร่วมกบั ครู ป็นผู้ชนะ คนอื่นเปน็ ครู และให้ ๑๐. นกั เรยี นทอ่ งบทอาขยาน ยาน พรอ้ ม ๆ กันทงั้ ช้ัน กครง้ั แล้ว มไ่ ด้ทอ่ ง ยาน

๒๗๒ คู่มอื ลาดบั ขอบเขตเนือ้ หา/ ขน้ั ตอนการจัด เวลา แ ที่ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ท่ีใช้ กิจกรรมคร 4. 3. บอกประโยชนข์ อง ขั้นสรปุ ๕ 1. ครใู หน้ กั เรียนรว่ มก การทอ่ งจาบท นาที บทเรียน โดยให้นักเรีย อาขยานได้ ชว่ ยกันตอบคาถาม ด ครู : นักเรยี นคิดวา่ กา บทอาขยานมปี ระโยช บ้าง ๒. ครรู ่วมกบั นักเรยี น ความร้วู า่ การทอ่ งจา อาขยานทาให้เหน็ ควา และความไพเราะของ เกิดความซาบซึ้ง ภมู ิใ ความเปน็ ไทย สามาร อา้ งอิง และนาขอ้ คดิ ไ แนวทางในการดาเนิน จากนน้ั ครขู ้นึ สื่อ P บทเรียนอกี ครง้ั

อครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรียนรู้ ส่อื การเรียนรู้ การประเมิน การเรยี นรู้ รู กจิ กรรมนกั เรียน - พิจารณาจาก การตอบคาถาม กันสรุป 1. นกั เรยี นร่วมกันแสดงความ - สมุดบันทกึ และตรวจสมดุ ยน คิดเหน็ และตอบคาถาม เชน่ บันทกึ ของ ดังน้ี นักเรียน ารท่องจา นกั เรียน : ภมู ิใจในภาษาไทย, ชน์อย่างไร ซาบซงึ้ ประทบั ใจ, ได้ขอ้ คดิ ไป ใช้ในชีวิต, ไดแ้ นวทางใน การแตง่ คาประพนั ธ์ ฯลฯ นสรปุ 2. นกั เรียนร่วมกันสรปุ าบท บทเรียน ามงดงาม งภาษา ใจใน รถนาไปใช้ ไปเป็น นชีวติ PPT สรุป

หน่วยการเรียนรูท้ ่ี ๒ เร่ือง สงั ขท์ อง ตอน กาเนิดพระสงั ข์ 273 8. ส่ือการเรยี นรู/้ แหลง่ เรยี นรู้ 1. บทเสยี งอาขยานสังข์ทอง ตอน กาเนดิ พระสงั ข์ ท่ีชนะเลศิ การประกวด 2. ใบความรู้ท่ี ๘ เรอื่ ง การทอ่ งจาบทอาขยาน 3. ใบงานที่ ๘ เรอื่ ง การทอ่ งบทอาขยานสงั ขท์ อง ตอน กาเนิดพระสงั ข์ 4. สือ่ PPT เร่อื ง การท่องจาบทอาขยาน 9. การประเมินผลรวบยอด ชิ้นงานหรอื ภาระงาน - ใบงานที่ ๘ เร่ือง การท่องบทอาขยานจากเร่ือง สังขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสงั ข์ สง่ิ ทต่ี อ้ งการวดั / ประเมนิ วิธกี าร เครื่องมือท่ใี ช้ เกณฑ์ - สมดุ บันทกึ รอ้ ยละ ๖๐ ด้านความรู้ ความเขา้ ใจ (K) - คาถาม ขนึ้ ไป - บอกหลกั การท่องจาบท 1. ตรวจสมุดบนั ทกึ - แบบประเมินใบงานท่ี ๘ ร้อยละ ๖๐ อาขยาน 2. พจิ ารณาการตอบ ขน้ึ ไป คาถาม - แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ อันพงึ ประสงค์ รอ้ ยละ ๖๐ ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ (P) - แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะ ขึน้ ไป - ทอ่ งบทอาขยานสงั ข์ทอง - ตรวจใบงานท่ี ๘ เรอ่ื ง อนั พึงประสงค์ ระดบั คุณภาพ ตอน กาเนิดพระสังข์ การท่องบทอาขยาน ผ่าน สังข์ทอง ตอน กาเนดิ ระดบั คุณภาพ พระสงั ข์ ผ่าน ด้านคุณลักษณะ เจคติ คา่ นยิ ม (A) - บอกประโยชน์ของการทอ่ งจา - สังเกตพฤตกิ รรม บทอาขยาน นกั เรียน คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝเ่ รียนรู้ - สงั เกตพฤตกิ รรม 2. มุ่งม่ันในการทางาน นักเรียน สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียน - สังเกตพฤติกรรม - แบบประเมนิ สมรรถนะ 1. ความสามารถในการส่ือสาร นักเรยี น สาคัญของผเู้ รียน 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใชท้ กั ษะ ชวี ติ

274 คู่มอื ครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) เกณฑป์ ระเมิน : การทอ่ งบทอาขยานสังขท์ อง ตอน กาเนิดพระสังข์ ประเด็น ระดับคุณภาพ การประเมนิ การทอ่ งจา ๔ (ดมี าก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรงุ ) บทอาขยาน - ทอ่ งได้ครบถว้ น ทอ่ งไดค้ รบถว้ น ทอ่ งได้ครบถว้ นตามท่ี ทอ่ งไม่ได้ตามที่ ตามบทอาขยาน ตามทก่ี าหนด แต่ กาหนด แต่ขาด กาหนด และขา - เสียงดงั ฟงั ชัด ขาดองค์ประกอบ องค์ประกอบ องค์ประกอบ - มบี ุคลิกท่าทางท่ี 1 ประเดน็ 2 ประเดน็ 3 ประเดน็ เหมาะสม - ท่องถูกทานอง คล่องแคลว่ ไมต่ ดิ ขัด - น้าเสียงสอดคล้อง กบั เนื้อหา ควบกลา้ ชดั เจน (มี ๒๐ คา) หมายเหตุ คา่ นา้ หนกั 5 คะแนน คะแนน ระดบั คุณภาพ เกณฑก์ ารประเมนิ คุณภาพ 16-20 ดมี าก 11-15 ดี 6-10 พอใช้ 1-5 ปรบั ปรงุ เกณฑ์การตดั สนิ : ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ร้อยละ 5๐ ขนึ้ ไป (ตอ้ งไดร้ ะดบั พอใช้ขึ้นไป)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook