Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 64-08-08--คู่มื่อครู ภาษาไทย ป.5-1

64-08-08--คู่มื่อครู ภาษาไทย ป.5-1

Published by elibraryraja33, 2021-08-08 08:52:07

Description: 64-08-08--คู่มื่อครู ภาษาไทย ป.5-1

Search

Read the Text Version

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๒ เรอ่ื ง สงั ขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสังข์ ๑๖๕ เกณฑ์ประเมนิ : การเขยี นแผนภาพโครงเร่ือง เรื่อง สังข์ทอง ตอน กาเนิดพระสงั ข์ ประเด็น ระดบั คุณภาพ การประเมิน แผนภาพโครง ๔ (ดีมาก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรงุ ) เรือ่ ง ระบเุ น้ือหา - ระบเุ นื้อหาสาคญั ระบเุ นอ้ื หาสาคญั ระบเุ นอ้ื หาสาคญั สาคญั ของเรือ่ ง ของเรอ่ื งไดค้ รบทงั้ ของเรอ่ื งได้ครบ ของเรอื่ งไดส้ ่วนใหญ่ ได้บางส่วน เร่อื ง ทงั้ เร่อื ง แตข่ าด แต่ขาดองคป์ ระกอบ และ/หรือขาด - เรียงลาดบั องคป์ ระกอบอนื่ ๆ อ่ืน ๆ ๒ ขอ้ องคป์ ระกอบ เหตกุ ารณไ์ ดอ้ ย่าง ๑ ข้อ อ่นื ๆ 3 ขอ้ ถกู ตอ้ ง - ใช้ภาษาเขียน ถูกตอ้ ง ชดั เจน - สรุปข้อคดิ ได้ ถกู ตอ้ ง - นาเสนอแผนภาพ ไดช้ ัดเจน เขา้ ใจงา่ ย หมายเหตุ : คา่ น้าหนักข้อละ ๕ คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ เกณฑก์ ารประเมินคุณภาพ ๑6-๒๐ ดีมาก 11-15 ดี 6-10 พอใช้ 1-5 ปรับปรงุ เกณฑ์การตดั สิน : ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ร้อยละ ๖๐ ขึ้นไป (ตอ้ งได้ระดบั พอใชข้ น้ึ ไป)

๑๖๖ ค่มู ือครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) เกณฑ์ประเมิน : การวเิ คราะห์คณุ คา่ และสรปุ ขอ้ คดิ จากเรอ่ื งทีอ่ ่าน ประเด็น ระดบั คุณภาพ การประเมนิ การวิเคราะห์ ๔ (ดีมาก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรงุ ) คุณค่าและสรปุ ข้อคิด - อธิบายคณุ คา่ ดา้ น ขาดเพยี ง ๑ ขาดเพียง 2 ขาด ๓ จากเร่ืองทอ่ี า่ น วรรณศลิ ปไ์ ด้ องคป์ ระกอบ องคป์ ระกอบ องค์ประกอบ ไปใช้ในชีวิตจริง - อธบิ ายคณุ ค่าด้าน เนอ้ื หาสาระได้ - อธบิ ายคณุ ค่า คณุ ค่าดา้ นสังคม และวัฒนธรรมได้ - สรุปขอ้ คดิ ได้ และอธบิ ายคณุ ค่า ด้านการนาไป ประยุกตใ์ ช้ใน ชวี ติ ประจาวนั ได้ หมายเหตุ : ค่าน้าหนักขอ้ ละ ๕ คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ เกณฑ์การประเมินคุณภาพ ๑6-๒๐ ดมี าก 11-15 ดี 6-10 พอใช้ 1-5 ปรบั ปรงุ เกณฑก์ ารตดั สิน : ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ รอ้ ยละ ๖๐ ข้ึนไป (ตอ้ งไดร้ ะดบั พอใชข้ ึ้นไป)

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๒ เร่อื ง สังขท์ อง ตอน กาเนิดพระสงั ข์ ๑๖๗ เกณฑป์ ระเมนิ : การวิเคราะห์คณุ คา่ และสรุปข้อคดิ จากเรอื่ ง สงั ขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสังข์ ประเดน็ ระดบั คุณภาพ การประเมนิ การวิเคราะห์ ๔ (ดมี าก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรงุ ) คุณคา่ และสรปุ ข้อคิดจากเรอ่ื ง - อธิบายคุณค่า ขาดองคป์ ระกอบใด ขาด องค์ประกอบใด ขาด องคป์ ระกอบ ท่ีอา่ นไปใชใ้ น ดา้ นวรรณศิลป์ได้ องค์ประกอบหนง่ึ องค์ประกอบหนง่ึ ใดองคป์ ระกอบ ชีวิตจริง - อธิบายคุณค่า จานวน ๑ องคป์ ระกอบ จานวน ๒ องคป์ ระกอบ หน่งึ จานวน ๓ ด้านเนื้อหาสาระ องคป์ ระกอบ ได้ - อธิบายคุณค่า คณุ ค่าด้านสังคม และวัฒนธรรมได้ - สรปุ ขอ้ คิดและ อธิบายคุณคา่ ได้ - นาไปประยกุ ต์ ใช้ในชวี ิต ประจาวนั ได้ หมายเหตุ : คา่ นา้ หนักข้อละ ๕ คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ เกณฑก์ ารประเมินคุณภาพ ๑6-๒๐ ดมี าก 11-15 ดี 6-10 พอใช้ 1-5 ปรับปรงุ เกณฑก์ ารตัดสิน : ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ร้อยละ ๖๐ ข้ึนไป (ต้องไดค้ ะแนนระดบั พอใช้ขึน้ ไป)

๑๖๘ คมู่ อื ครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) เกณฑป์ ระเมิน : การทอ่ งบทอาขยานสังข์ทอง ตอน กาเนิดพระสงั ข์ ประเด็น ระดับคุณภาพ การประเมิน ๔ (ดีมาก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรุง) การท่องจา ทอ่ งไม่ได้ตามที่ บทอาขยาน - ทอ่ งได้ครบถ้วน ทอ่ งไดค้ รบถว้ น ทอ่ งไดค้ รบถ้วน กาหนด และขาด ตามบทอาขยาน ตามทกี่ าหนด แต่ ตามทกี่ าหนด แต่ องคป์ ระกอบ 3 - เสยี งดังฟงั ชดั ขาดองคป์ ระกอบ ขาดองค์ประกอบ ประเด็น - มีบคุ ลิกทา่ ทางท่ี 1 ประเดน็ 2 ประเด็น เหมาะสม - ท่องถูกทานอง คล่องแคลว่ ไมต่ ิดขัด - น้าเสยี งสอดคลอ้ ง กบั เนอ้ื หา หมายเหตุ คา่ นา้ หนัก 5 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ เกณฑ์การประเมนิ คุณภาพ ๑6-๒๐ ดีมาก 11-15 ดี 6-10 พอใช้ 1-5 ปรบั ปรงุ เกณฑก์ ารตัดสิน : ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ร้อยละ ๖๐ ขนึ้ ไป (ตอ้ งไดร้ ะดบั พอใชข้ น้ึ ไป)

หน่วยการเรียนร้ทู ี่ ๒ เร่อื ง สงั ขท์ อง ตอน กาเนิดพระสงั ข์ ๑๖๙ เกณฑ์ประเมิน : การทาใบงานที่ ๙ คาราชาศพั ท์ ประเด็น ระดับคุณภาพ การประเมิน ๔ (ดมี าก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรงุ ) บอกความหมาย 1. การบอก บอกความหมาย บอกความหมาย บอกความหมาย ของคาราชาศัพท์ ความหมายของ ของคาราชาศพั ท์ ของคาราชาศพั ท์ ของคาราชาศพั ท์ ไดถ้ กู ตอ้ ง ๑ คา คาราชาศพั ท์ ได้ถูกต้อง ๔ คา ไดถ้ กู ต้อง ๓ คา ไดถ้ กู ตอ้ ง ๒ คา แตง่ ประโยคโดย 2. การแตง่ แตง่ ประโยค แตง่ ประโยคโดยใช้ แตง่ ประโยคโดยใช้ ใช้คาราชาศัพท์ ประโยคโดยใช้คา โดยใชค้ าราชาศพั ท์ คาราชาศัพทไ์ ด้ คาราชาศพั ทไ์ ด้ ไดถ้ กู ต้องตา่ กว่า ราชาศพั ท์ ถกู ต้องทกุ ประโยค ถกู ตอ้ ง 8-9 ถูกต้อง 6-7 6 ประโยค (๑๐ ประโยค ประโยค ประโยค หมายเหตุ : คา่ นา้ หนกั ขอ้ ละ ๕ คะแนน (คะแนนรวม 40 หาร 2) เกณฑ์การประเมนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ ดีมาก ๑๘-๒๐ ดี พอใช้ ๑๕-๑๗ ปรบั ปรงุ ๑๒-๑๔ ตา่ กว่า ๑๒ เกณฑก์ ารตดั สนิ : ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ร้อยละ ๖๐ ขึน้ ไป (ต้องไดร้ ะดบั พอใช้ข้ึนไป)

๑๗๐ คู่มอื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) เกณฑ์ประเมนิ : การทาใบงานที่ ๑๐ คาบุพบท บอกความสัมพนั ธ์ ประเดน็ ระดับคุณภาพ การประเมิน ๔ (ดีมาก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรงุ ) 1. บอกชนิด บอกชนดิ และ บอกชนดิ และ บอกชนดิ และ บอกความหมาย และหน้าทข่ี อง หนา้ ทีข่ องคาบพุ บท หน้าทข่ี องคาบพุ บท หนา้ ทขี่ องคาบพุ บท ของคาบพุ บทได้ คาบพุ บท ไดถ้ กู ตอ้ ง ๘ ขอ้ ได้ถูกต้อง ๗ ข้อ ไดถ้ ูกต้อง ๖ ข้อ ถกู ต้อง ๕ ขอ้ 2. การแต่ง แต่งประโยค แต่งประโยค แตง่ ประโยค แตง่ ประโยค โดยใชค้ าบพุ บทได้ โดยใชค้ าบุพบทได้ โดยใชค้ าบุพบท ประโยค โดยใช้คาบุพบทได้ ถูกต้อง ๗ ข้อ ถูกตอ้ ง ๖ ข้อ ได้ถกู ต้อง ๕ ข้อ โดยใช้คาบุพบท ถกู ตอ้ ง ๘ ข้อ เกณฑ์การประเมนิ คุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ 7-8 ดมี าก 5-6 ดี 3-4 พอใช้ 1-2 ปรับปรงุ เกณฑก์ ารตดั สนิ : ผ่านเกณฑก์ ารประเมินรอ้ ยละ ๖๐ ขึน้ ไป (ต้องได้ระดบั พอใชข้ ึ้นไป)

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๒ เรื่อง สังขท์ อง ตอน กาเนิดพระสงั ข์ ๑๗๑ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๑ เรื่อง การอธิบายความหมายของคาศพั ท์ในบทเรียน หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี ๒ เรอื่ ง สงั ขท์ อง ตอน กาเนิดพระสังข์ เวลา 1 ชวั่ โมง กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย รายวิชาภาษาไทย ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 5 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วัด สาระที่ 1 การอ่าน มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความรูแ้ ละความคิดเพื่อนาไปใช้ตดั สินใจ แกป้ ัญหาในการดาเนิน ชีวติ และมนี ิสัยรกั การอา่ น ตัวชี้วดั ป.๕/๒ อธิบายความหมายของคา ประโยคและข้อความท่ีเปน็ การบรรยายและการพรรณนา ๒. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การอธิบายความหมายของคาศัพทใ์ นบทเรียน ผู้อ่านต้องใช้บริบทในการเขา้ ใจความหมาย จงึ จะชว่ ย ให้อ่านเร่อื งได้อย่างถูกต้อง รวดเรว็ ทาให้เข้าใจความหมายของบทร้อยกรองที่อ่านได้ และเกิดความซาบซึ้ง ประทบั ใจยงิ่ ขึน้ ๓. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 3.1 ด้านความรู้ ความเขา้ ใจ (K) บอกความหมายของคาศพั ท์ในบทเรยี นได้ 3.2 ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) รวบรวมคาศพั ท์และเขยี นอธิบายความหมายคาศพั ท์ในบทเรยี นไดถ้ กู ต้อง 3.3 ดา้ นคุณลกั ษณะ เจตคติ คา่ นยิ ม (A) มีมารยาทในการอา่ น ๔. สาระการเรียนรู้ การอธิบายความหมายคาศัพท์ในบทเรยี น ๕. สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น 5.1 ความสามารถในการส่ือสาร 5.2 ความสามารถในการคิด ๖. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 6.1 ใฝเ่ รยี นรู้ 6.2 มงุ่ ม่นั ในการทางาน 7. กิจกรรมการเรยี นรู้

๑๗๒ คมู่ ลําดบั การจดั กิจกรรมการเรียนร ที่ รายวิชา ภาษาไทย หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๒ เรอ่ื ง สงั 1. แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี ๑ เร่ือง การอธบิ ายความ ขอบเขตเนื้อหา/ ขนั้ ตอนการจดั เวลา แ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรยี นรู้ กิจกรรมคร ที่ใช้ ขอบเขตเน้อื หา ขั้นนาํ 5 ๑. ครนู าํ ภาพสงั ข์ทอง 1. การอธบิ าย นาที จรงิ ๆ ให้นักเรยี นดู แ ความหมายของ ซักถามนักเรียนวา่ คอื คําศัพทใ์ นบทเรียน   2. การรวบรวม   คําศัพทแ์ ละเขยี น   อธิบายความหมาย ของคําในบทเรียน ๒. เมอ่ื ถามเสรจ็ ครจู ึงเ วา่ วันนใ้ี ครเคยดู เคยอ อยากรู้ เรือ่ ง สังขท์ อง ตอน ก พระสงั ข์ บ้าง ๓. ครจู ึงแจ้งจดุ ประส เรยี นรแู้ ละเชื่อมโยงเขา้

มือครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) รู้ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 5 งขท์ อง ตอน กําเนดิ พระสังข์ จาํ นวน 10 ชั่วโมง มหมายของคาํ ศพั ทใ์ นบทเรียน จาํ นวน 1 ชวั่ โมง แนวการจดั การเรยี นรู้ สอ่ื การเรยี นรู้ การประเมนิ รู กิจกรรมนกั เรยี น การเรียนรู้ งหรือสังข์ ๑. นักเรียนดูภาพสังขท์ อง 1. ภาพสงั ขท์ อง แลว้ หรอื สงั ขจ์ ริง ๆ แลว้ ตอบ หรือสังขจ์ รงิ ๆ ออะไร คําถาม นกั เรยี น : สังข์ทอง/สงั ขค์ รบั เชือ่ มโยง ๒. นกั เรยี น : 2. คําถาม - สังเกตการตอบ อ่าน หรอื - เคยดูทางทวี ีวันเสาร์ คําถามของ กาํ เนดิ - เคยอ่านในหนังสือ นกั เรียน - ไมเ่ คย สงคก์ าร - อยากรู้ าสบู่ ทเรยี น 3. นักเรยี นรว่ มกนั สนทนา ตอบคาํ ถามครูและทํา ความเขา้ ใจจดุ ประสงค์ การเรยี นรู้

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี ๒ เร่ือง สงั ขท์ อง ตอน กาเนิดพระสงั ข์ ลาดบั ขอบเขตเนือ้ หา/ ข้ันตอนการจัด เวลา แ ท่ี จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ การเรียนรู้ ทใ่ี ช้ กจิ กรรมคร 2 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ขนั้ สอน 30 1. ครูติดแถบประโยค 1. บอกความหมาย นาที กระดานใหน้ กั เรียนอ่า ของคาศพั ท์ใน สังเกตคาทขี่ ดี เส้นใตใ้ บทเรียนได้ ประโยค เช่น นางจนั ท์เทวปี ระสูต เป็นหอยสงั ขจ์ ึงถกู ขบั เมือง 2. ครถู ามคาถาม ดังน ครู : นกั เรียนทราบหร คาที่ขีดเส้นใตม้ คี วามห อะไร 3. ครสู นทนาซักถามน ครู : นักเรียนอ่านขอ้ ค แล้วเขา้ ใจว่าอย่างไร นางจนั ทเ์ ทวีกบั หอยส ใคร มาจากไหน 4. ครใู ห้นักเรียนแบง่ คน ช่วยกนั อ่านสารวจ จากบทเรียนภายในเว

๑๗๓ แนวการจัดการเรยี นรู้ ส่ือการเรียนรู้ การประเมิน รู กจิ กรรมนกั เรยี น 1. แถบประโยค การเรียนรู้ คบน 1. นักเรยี นอา่ นประโยคบน านและ กระดานพรอ้ มกันและสังเกต ใน คาท่ขี ดี เสน้ ใต้ไว้ ติพระโอรส บออกจาก นี้ 2. นกั เรยี นตอบคาถามครู เช่น 2. คาถาม - สงั เกตการตอบ รอื ไม่ว่า นกั เรียน : ทราบ/ไมท่ ราบ คาถามของ หมายวา่ นักเรยี น ประสูติ หมายถงึ เกดิ พระโอรส หมายถงึ ลูกชาย นกั เรียนวา่ 3. นักเรยี นรว่ มกนั สนทนา ความน้ี ตอบคาถามครู สังขเ์ ป็น งกลมุ่ ๔ 4. นักเรยี นแบ่งกลมุ่ ชว่ ยกนั 3. หนังสอื เรยี น จคาศัพท์ อ่านสารวจคาศัพทจ์ ากเรื่อง วรรณคดลี านา วลาที่ สังขท์ อง ตอน กาเนิดพระสงั ข์ ชน้ั ป.๕

๑๗๔ ค่มู ือ ลาดบั ขอบเขตเนื้อหา/ ขัน้ ตอนการจดั เวลา แ ท่ี จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ การเรียนรู้ ที่ใช้ กจิ กรรมคร กาหนด โดยขีดเสน้ ใต และร่วมกนั อภิปรายค ความหมายของคาไว้ ๒. ครูให้นกั เรยี นอ่าน ความหมายของคาจา นาเสนอ เชน่ คา ชลาลยั / กาดดั / การ บงั เกดิ / สงกา / กณู ฑ์ /นาวา / อางขน อาจณิ / พฤกษา ความหมาย เรือ / กาลังร่นุ / แมน่ ้า / ความสงสัย / อาย, ขวยเขนิ / สม่าเ ต้นไม้ / บุญทไ่ี ดก้ ระท ยงิ่ ๓. ครูวางแถบความห หนา้ ชน้ั เรียน แลว้ ใหน้

อครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรียนรู้ สื่อการเรยี นรู้ การประเมนิ รู กจิ กรรมนกั เรยี น ตัวอย่างคา การเรียนรู้ ต้คาศัพท์ โดยขดี เส้นใตค้ าศัพทแ์ ละ ในส่ือ PPT ค้นหา อภิปรายค้นหาความหมาย รว่ มกนั นคา และ ๒. นักเรียนอา่ นคา และ ากส่ือ ความหมายของคาจากสอ่ื นาเสนอ / บญุ ญาธิ / กอง นาง / กองไฟ / / เกิด / เสมอ / ทาไวม้ าก หมายไว้ ๓. นักเรียนตวั แทนกลุ่มผลดั 4. แถบ 1. ตรวจสอบ นกั เรียน กันออกไปหยบิ แถบ ความหมาย ความรู้ ความเข้าใจ

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๒ เรื่อง สังขท์ อง ตอน กาเนิดพระสงั ข์ ลาดบั ขอบเขตเนอื้ หา/ ขน้ั ตอนการจัด เวลา แ ท่ี จุดประสงค์การเรียนรู้ การเรยี นรู้ ทใี่ ช้ กจิ กรรมคร ออกมาหยบิ ความหมา ๑ แถบและใหบ้ อกวา่ ความหมายน้ันตรงกบั โดยครตู รวจสอบความ และใหค้ าชมเชย ๔. ครูให้นกั เรยี นอ่าน รอ้ ยกรองเรอ่ื ง สังขท์ อ กาเนดิ พระสงั ข์อกี ครง้ั ใบงานท่ี ๑ (โดยขึ้นกิจ ใน สื่อ PPT) ๕. ครูใหน้ ักเรียนแตล่ ผลงานออกมาตดิ บนก และสลบั กนั ตรวจ โดย ตรวจสอบความถกู ตอ้ ข้อเสนอแนะเพิม่ เติม 3. ขั้นปฏิบตั ิ 10 ๔. ครใู หน้ กั เรียนอ่าน นาที กรองเรอ่ื ง สงั ขท์ อง ต กาเนดิ พระสงั ขอ์ กี ครง้ั ใบงานที่ ๑ (โดยข้ึนกจิ ในสอื่ PPT)

๑๗๕ แนวการจดั การเรยี นรู้ สื่อการเรียนรู้ การประเมิน รู กิจกรรมนักเรยี น การเรียนรู้ ายคนละ ความหมายคนละ ๑ แถบ จากการตอบ าแถบ และบอกวา่ ตรงกบั คาใด คาถาม บ คาใด โดยนกั เรียนทเ่ี หลอื รว่ มกัน มถูกต้อง ตรวจสอบความถูกตอ้ ง นบท ๔. นักเรยี นรวบรวมคาศัพท์ อง ตอน เขียนลงในใบงาน และเขียน ง และทา อธิบายความหมายของ จกรรมไว้ คาศพั ท์นั้น ละกลมุ่ นา ๕. ตัวแทนนาผลงานของกลมุ่ กระดาน ตดิ บนกระดานและสลบั กนั ยครรู ว่ ม ตรวจ องและให้ นบทรอ้ ย ๔. นักเรียนรวบรวมคาศพั ท์ ๑. หนังสอื เรียวร 2. ประเมนิ ตอน เขียนลงในใบงาน และเขียน รณคดีลานาชน้ั การรวบรวม ง และทา อธบิ ายความหมายของ ป. ๕ คาศัพทแ์ ละ จกรรมไว้ คาศพั ท์นั้น ๒. ใบงานท่ี ๑ การเขียนอธิบาย เรื่อง การอธบิ าย ความหมายของคา

๑๗๖ คมู่ ลําดบั ขอบเขตเนื้อหา/ ขัน้ ตอนการจดั เวลา แ ที่ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรยี นรู้ ที่ใช้ กจิ กรรมคร ๕. ครใู ห้นกั เรยี นแตล่ ผลงานออกมาติดบนก และสลับกนั ตรวจ โดย ตรวจสอบความถกู ตอ้ ขอ้ เสนอแนะเพิม่ เตมิ 4. ขั้นสรปุ 5 1. ครูถามนักเรยี นเพอ่ื (5 นาที) นาที ความคดิ ว่า ครู : นักเรียนทําอย่าง สามารถคน้ หาความห คําศพั ท์ในบทเรยี นวนั ท่ใี ดบ้าง ๒. ครูถามคําถามเพ่อื ดงั น้ี ครู : นกั เรยี นคดิ วา่ กา ความหมายของคาํ ศพั บทเรียนมีประโยชน์ต การอา่ นบทเรยี นเร่อื ง

อื ครูและแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรียนรู้ สอื่ การเรียนรู้ การประเมนิ รู กิจกรรมนกั เรยี น การเรยี นรู้ ละกล่มุ นาํ ๕. ตัวแทนนาํ ผลงานของกลมุ่ ความหมายของ ในใบงานที่ ๑ กระดาน ติดบนกระดานและสลบั กนั คําศพั ทใ์ นบทเรยี น (ประเมินดา้ น P) ๓. พจนานกุ รม 3. สงั เกต ยครูรว่ ม ตรวจ ๔. ส่ือ PPT  มารยาทใน องและให้ การอ่าน   (ประเมนิ ดา้ น A) อกระตุ้น 1. นกั เรียนตอบคาํ ถามตามท่ี - สงั เกตการตอบ งไรจงึ ตนเองไดร้ ับจากการปฏบิ ตั ิ 1. คําถามอยู่ใน คําถามของ หมายของ กิจกรรม เช่น สอื่ PPT นกั เรียน นนีไ้ ดจ้ าก - เปิดพจนานกุ รม - คน้ หาจากศพั ทแ์ ละขอ้ ความ ทา้ ยหนังสือเรยี น - คาดเดาความหมายจากคาํ ที่ อยแู่ วดลอ้ มคาํ ศพั ทน์ ้ัน - ถามเพื่อน ครู อนําสรปุ 2. นกั เรยี นร่วมกันตอบคําถาม ารเข้าใจ เช่น มีประโยชน์ เพราะจะช่วย พทใ์ น ให้เราอา่ นออกเสียงคาํ ได้ ตอ่ ถกู ต้อง เขา้ ใจความหมายของ ง สังขท์ อง บทรอ้ ยกรองหรอื เรอื่ งราวที่ อา่ นได้ดี และเกิดความซาบซงึ้

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๒ เร่ือง สงั ขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสังข์ ลาดับ ขอบเขตเน้อื หา/ ขั้นตอนการจัด เวลา แ ท่ี จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ การเรียนรู้ ท่ใี ช้ กจิ กรรมคร ตอน กาเนิดพระสังขห์ อยา่ งไร ๓. ครูสรปุ เพ่มิ เตมิ ในส อีกคร้งั และมอบหมาย นักเรียนไปรวบรวมบนั คาศพั ท์และความหมา จากเรอื่ งสังขท์ อง ตอ พระสงั ข์ โดยออกแบบ สวยงาม

แนวการจัดการเรียนรู้ ส่ือการเรยี นรู้ ๑๗๗ รู กิจกรรมนกั เรยี น หรอื ไม่ ประทับใจยง่ิ ข้ึน การประเมิน การเรียนรู้ สอื่ PPT ๓. นกั เรยี นจดบันทกึ ความรู้ 2. ส่ือ PPT - สมุดบนั ทึก ยให้ และงานท่ีไดร้ ับมอบหมายลง สรปุ บทเรยี น นทึก ในสมดุ ายของคา อน กาเนดิ บให้

178 คู่มอื ครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) 8. ส่อื การเรียนรู/้ แหล่งเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรยี นวรรณคดีลานา ชนั้ ป. ๕ 2. พจนานุกรมไทย 3. ใบงานท่ี ๑ เรอ่ื ง การอธิบายความหมายของคาศัพท์ในบทเรียน 4. ใบความรู้ท่ี 1 เร่อื ง การอธิบายความหมายของคาศัพท์ในบทเรยี น 5. สือ่ PPT เร่ือง การอธิบายความหมายของคาศัพทใ์ นบทเรยี น 6. แถบความหมาย 9. การประเมินผลรวบยอด ชิ้นงานหรอื ภาระงาน 1. ใบงานท่ี ๑ เรือ่ ง การอธิบายความหมายของคาศพั ทใ์ นบทเรยี น 2. สมุดรวบรวมคาศัพท์ สิ่งท่ตี อ้ งการวัด / ประเมนิ วิธกี าร เครอ่ื งมอื ทใี่ ช้ เกณฑ์ ร้อยละ ๖๐ ดา้ นความรู้ ความเขา้ ใจ (K) ขนึ้ ไป - บอกความหมายของคาศพั ท์ - พิจารณาจากการตอบ - คาถาม ร้อยละ ๖๐ ในบทเรียน คาถามของนกั เรยี น ขึ้นไป ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ (P) - ใบงานที่ ๑ รอ้ ยละ ๖๐ - รวบรวมคาศพั ทแ์ ละเขยี น 1. ตรวจใบงานท่ี ๑ ข้ึนไป อธบิ ายความหมายของคาใน เร่ือง การอธิบาย - สมดุ รวมรวมคาศัพท์ ระดับคุณภาพ บทเรยี น ความหมายของคาศพั ทใ์ น - แบบประเมนิ ใบงานท่ี ผา่ น บทเรยี น ๑ ระดบั คุณภาพ 2. สมดุ รวมรวมคาศัพท์ ผ่าน ดา้ นคุณลักษณะ เจคติ ค่านยิ ม (A) - มมี ารยาทในการอ่าน - สงั เกตพฤตกิ รรมนกั เรยี น - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ของนักเรยี น คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝเ่ รยี นรู้ - สังเกตพฤติกรรมนักเรยี น - แบบประเมิน 2. มุ่งมนั่ ในการทางาน คณุ ลักษณะอันพึง ประสงค์ สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการสือ่ สาร - สงั เกตพฤติกรรมนกั เรยี น - แบบประเมิน 2. ความสามารถในการคดิ สมรรถนะสาคัญของ 3. ความสามารถในการใช้ ผู้เรยี น ทักษะชวี ติ

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๒ เรอ่ื ง สงั ขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสังข์ 179 เกณฑ์ประเมนิ : การอธบิ ายความหมายของคาศัพท์ในบทเรียน ประเดน็ ระดบั คุณภาพ การประเมิน ๑. การรวบรวบ ๔ (ดมี าก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรุง) คาศัพท์ รวบรวมคาศพั ทไ์ ด้ รวบรวมคาศัพท์ได้ รวบรวมคาศพั ท์ได้ รวบรวมคาศัพท์ ๒. การเขียนสะกด ๓๒-๔๐ คาหรือ ๒๘-๓๑ คา ๒๔-๒๗ คา ได้ต่ากวา่ ๒๔ คา มากกวา่ คา เขียนสะกดคา ถูกต้องทั้งหมด เขยี นสะกดคา เขียนสะกดคา เขียนสะกดคาไม่ ผิด ๒-๔ คา ผิด ๕-๗ คา ถกู ผดิ มากกวา่ ๗ คา ๓. การเขียน การเขยี นอธบิ าย การเขียนอธบิ าย การเขยี นอธิบาย การเขียนอธิบาย อธิบายความหมาย ความหมายของคา ความหมายของ ความหมายของ ความหมายของ ไม่ถกู ตอ้ ง ๒-๔ คา ไม่ถูกตอ้ ง ๕-๗ คา ไม่ถูกต้องมาก ถกู ตอ้ งทง้ั หมด กวา่ ๗ คา ๔. ความสะอาด เขยี นได้สะอาด ส่วนใหญส่ ะอาด ความสะอาด ความสะอาด เป็นระเบียบ เป็นระเบียบ แสดง เปน็ ระเบยี บ แต่ยงั มี ความมีระเบียบ ความมีระเบยี บ ๕. การสง่ งานตรง ออกถึงความ ข้อบกพรอ่ งเล็กนอ้ ย มขี ้อบกพร่อง มีขอ้ บกพรอ่ ง ตามกาหนดเวลา ประณตี ตง้ั ใจ สง่ งานชา้ กวา่ เวลา ค่อนข้างมาก มาก ส่งงานตรงตามเวลา ท่กี าหนด ๑-๒ วนั สง่ งานชา้ กว่าเวลา ส่งงานชา้ กวา่ ท่ีกาหนด ท่กี าหนด ๓-๕ วนั เวลาท่กี าหนด เกนิ กวา่ ๕ วัน เกณฑ์การประเมนิ คุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ ๑6-๒๐ ดมี าก ๑1-๑5 ดี 6-๑0 พอใช้ 1-5 ปรบั ปรงุ เกณฑ์การตัดสนิ : ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ร้อยละ ๖๐ ขนึ้ ไป (ต้องได้ระดบั พอใช้ขึน้ ไป)

180 คูม่ อื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แบบประเมนิ การอธิบายความหมายของคาศัพท์ในบทเรียน คาช้แี จง ครูเขียนคะแนนการรวบรวมคาศพั ทแ์ ละการเขียนอธบิ ายความหมายของคาในบทเรียน เรอ่ื ง สังข์ทอง ตอน กาเนดิ พระสงั ข์ ลงในช่องที่กาหนด ใหต้ รงกบั ความเป็นจรงิ สรปุ การรวบรวบคา ัศพท์ ลาดบั ชอื่ - สกลุ (๔ คะแนน) รวม คดิ เป็น ที่ การเ ีขยนสะกดคา (๒๐) รอ้ ยละ ผ่าน ไมผ่ า่ น (๔ คะแนน) การเ ีขยนอ ิธบาย ความหมาย (๔ คะแนน) ความสะอาดเป็นระเบียบ (๔ คะแนน) การส่งงานตรงตาม กาหนดเวลา (๔ คะแนน) ๑ ดี ดี พอใช้ ปรบั ปรุง ๒ มาก ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ รวม (คน) คดิ เปน็ ร้อยละ ผลการประเมนิ  ดีมาก ..........คน คิดเป็นร้อยละ...............  ดี .........คน คิดเป็นรอ้ ยละ................  พอใช้ ..........คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ...............  ปรบั ปรงุ .........คน คดิ เป็นร้อยละ............... สรุปผลการประเมนิ รายชั้นเรียน  นกั เรยี นผ่านเกณฑก์ ารประเมิน จานวน......................... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ....................  นกั เรยี นไม่ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ จานวน......................... คน คดิ เปน็ ร้อยละ.................... ลงชื่อ.................................................ผปู้ ระเมนิ (..............................................) ........../..................../..........

หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๒ เร่ือง สงั ขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสงั ข์ 181 10. บนั ทกึ ผลหลงั สอน ผลการจัดการเรยี นการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสาเร็จ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปัญหาและอปุ สรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ้ จากัดการใชแ้ ผนการจดั การเรียนรู้ และขอ้ เสนอแนะ/แนวทางการปรับปรงุ แก้ไข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื ......................................................ผสู้ อน (.......................................................) วันที่ .......... เดือน ..................... พ.ศ. ............. 11. ความคดิ เหน็ /ข้อเสนอแนะของผู้บรหิ ารหรอื ผู้ท่ีไดร้ ับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื ...................................................... ผ้ตู รวจ (.......................................................) วนั ท่ี .......... เดอื น ..................... พ.ศ. .............

182 คมู่ อื ครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ใบความรู้ที่ 1 เรอ่ื ง การอธบิ ายความหมายของคาศพั ท์ในบทเรยี น หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 2 เรื่อง สงั ข์ทอง ตอน กาเนดิ พระสังข์ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 1 เรือ่ ง การอธบิ ายความหมายของคาศพั ท์ในบทเรียน รายวิชา ภาษาไทย รหสั วชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๕ ความหมายของคา เสียงท่เี ปลง่ ออกมาคร้ังหนึ่ง ๆ เสียงพูด หรอื ตวั หนงั สือท่เี ขียนขน้ึ มีความหมายในตัว ไมว่ ่าจะมกี ่ีพยางค์ กต็ าม เชน่ มะละกอ ทะเล กบ ใชป้ ระกอบหนา้ คาอื่นเพอ่ื ระบุประเภท หรอื ชนิดของคา คาศพั ท์ท่ปี รากฏในวรรณคดี เรอ่ื ง สังข์ทอง ตอน กาเนิดพระสงั ข์ คาศพั ท์ ความหมาย ๑. กนั ดาร (กนั -ดาน) ลาบาก แหง้ แลง้ ๒. กาดัด กาลงั รุ่น ๓. กนิ นร (กนิ -นอน) อมนุษยใ์ นนิยายมี ๒ ชนดิ หน่งึ เปน็ ครง่ึ คนครึ่งนก ท่อนบนเปน็ คน ท่อนล่างเป็นนก อีกชนดิ หนง่ึ มรี ูปร่าง ๔. กูณฑ์ (กนู ) เหมอื นคน เมอ่ื ไปไหนมาไหนกจ็ ะใส่ปีกใส่หางบินไป ๕. เกษมศานต์ (กะ-เสม-สาน) ในเรอ่ื งนเี้ ปรียบเพ่อื ให้เห็นว่ามีรปู รา่ งงดงามอรชรอ้อนแอ้น ๖. คลาไคล (คลฺ า-ไคล) ไฟ ๗. จงั ฑาล (จงั -ทาน) โปรง่ อารมณ์ ชนื่ ชม ยินดี ๘. จุติ (จุ-ติ) เดนิ ไปเคลอ่ื นไป ๙. จู่ลู่ มาจากคาวา่ จณั ฑาล หมายถึง ต่าช้า ๑๐. โฉงเฉง เปล่ียนสภาพจากกาเนดิ หนง่ึ ไปเปน็ อีกกาเนดิ หน่ึง ๑๑. ชลาลัย (ชน-ลา-ไล) (มักใชก้ ับเทวดา) ๑๒. ดนิ ดาน ดูถกู ๑๓. ถวิล (ถะ-หวนิ ) เอะอะเอด็ องึ เปน็ ทานองเกะกะเกเร ๑๔. ทบั แม่น้า ๑๕. นงคราญ (นง-คราน) ดินท่ีจับตัวแขง็ เป็นชนั้ โดยมากเปน็ ประเภทดนิ เหนยี ว ๑๖. นอกชาน เนื้อแน่นท่ีน้าไหลผ่านไม่ได้ เกาะตวั แขง็ อยู่ใตผ้ วิ ดิน ๑๗. นาวา คดิ ถึง ๑๘. ประหวัน่ กระทอ่ ม ๑๙. ผนั ผาย นางงาม พ้ืนเรอื นทย่ี ืน่ พ้นชายคาระเบยี งออกมา เรือ ร้สู ึกหว่ันกลัว กลบั ไป เดินไป

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๒ เรอ่ื ง สังขท์ อง ตอน กาเนิดพระสงั ข์ 183 ๒๐. ผ่าน ครอบครอง เช่น ผ่านเมือง ๒๑. เพริศพราย (เพรฺ ิด-พราย) งามระยบั ๒๒. ไพรสัณฑ์ (ไพร-สนั ) แนวป่า ๒๓. ภพไตร (พบ-ไตร) ในทางวรรณคดี หมายถงึ โลกทงั้ สาม ๒๔. ภิรมย์ (พิ-รม) คอื สวรรค์ โลกมนษุ ยแ์ ละเมอื งบาดาล ๒๕. ม้วยมรณ์ (ม้วย-มอน) ดีใจย่ิง ยนิ ดยี งิ่ ๒๖. ม่ี ตาย ๒๗. เยาวมาลย์ (เยา-วะ-มาน) อกึ ทกึ เสยี งแซ่ ๒๘. รนั หญิงสาวสวย ๒๙. รา่ ไร ตี ๓๐. เรยี่ ราย อ้อยอง่ิ ๓๑. สกล (สะ-กน) กระจายเกลอื่ นไป ๓๒. สงกา ทั้งหมด ทง้ั ส้ิน ๓๔. สาแหรก ความสงสยั เคร่อื งใส่ของสาหรับห้วิ หรือหาบ เปน็ ตน้ ๓๕. อางขนาง (อาง-ขะ-หนฺ าง) ปรกตทิ าดว้ ยหวาย มี ๔ สาย ตอนบนทาเปน็ หสู าหรบั ห้วิ ๓๖. อาจณิ (อา-จนิ ) สอดไมค้ าน สาหรบั ตอนล่าง ขดั กนั เปน็ สเี หลี่ยม สาหรบั วางกระจาด อาย ขวยเขิน เป็นปรกติ เสมอ ๆ การอธิบายความหมายของคาศัพทใ์ นบทเรยี น การอธบิ ายความหมายของคาศัพท์ในบทเรยี น ผอู้ ่านต้องใชบ้ ริบทในการเขา้ ใจความหมายของคานน้ั ๆ จึงจะชว่ ยให้อ่านเรอ่ื งไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง รวดเร็ว ทาให้เข้าใจความหมายของบทรอ้ ยกรองท่อี ่านได้ และเกิดความซาบซงึ้ ประทบั ใจยงิ่ ข้นึ เรยี บเรียงมาจาก https://www.xyzpoppk.wixsite.com

184 คมู่ ือครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ใบงานที่ 1 เร่อื ง การอธิบายความหมายของคาศพั ทใ์ นบทเรยี น หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง สังขท์ อง ตอนกาเนิดพระสงั ข์ แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 1 เรือ่ ง การอธิบายความหมายของคาศัพท์ในบทเรยี น รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๕ คาช้แี จง ให้นักเรียนคน้ หาคาศพั ทใ์ นบทเรียนและอธิบายความหมายของคาศพั ทจ์ ากเร่อื ง สงั ข์ทอง ตอน กาเนดิ พระสังข์ คาศัพท์ ความหมาย คาศพั ท์ ความหมาย คาศพั ท์ ความหมาย คาศพั ท์ ความหมาย คาศพั ท์ ความหมาย คาศพั ท์ ความหมาย คาศัพท์ ความหมาย คาศพั ท์ ความหมาย คาศพั ท์ ความหมาย คาศพั ท์ ความหมาย ชือ่ .....................................................นามสกุล..................................................ชน้ั ................เลขท.่ี ...........

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๒ เรอื่ ง สงั ขท์ อง ตอน กาเนิดพระสังข์ 185 แนวคาตอบใบงานท่ี 1 เรือ่ ง การอธิบายความหมายของคาศพั ท์ในบทเรยี น หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 เร่ือง สังข์ทอง ตอนกาเนดิ พระสงั ข์ แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 1 เรือ่ ง การอธบิ ายความหมายของคาศัพท์ในบทเรียน รายวชิ า ภาษาไทย รหัสวชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๕ คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรยี นคน้ หาคาศัพท์ในบทเรยี นและอธบิ ายความหมายของคาศัพท์จากเร่ือง สงั ขท์ อง ตอน กาเนิดพระสงั ข์ ตวั อยา่ งคาตอบ คาศัพท์ น้าเนตร ความหมาย น้าตา คาศัพท์ พระบาท ความหมาย เท้า คาศพั ท์ พระโอษฐ์ ความหมาย ปาก คาศพั ท์ โศกา ความหมาย โศกเศร้า, เสียใจ คาศัพท์ ชลาลัย ความหมาย แม่นา้ คาศัพท์ คลาไคล ความหมาย เดนิ ไป, เคล่อื นไป คาศัพท์ โฉมศรี ความหมาย รปู รา่ งเปน็ สง่า คาศัพท์ พนาลยั ความหมาย ปา่ คาศัพท์ มารดา ความหมาย แม่ คาศพั ท์ สรรพ ความหมาย ทุกสิง่ , ทั้งปวง, ทงั้ หมด

๑๘๖ คู่มอื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๒ เร่ือง การอ่านออกเสียงบทร้อยกรองเรอื่ ง สังขท์ อง ตอน กาเนิดพระสังข์ หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ ๒ เรอื่ ง สังขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสงั ข์ เวลา 1 ชว่ั โมง กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย รายวิชาภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชว้ี ดั สาระท่ี 1 การอ่าน มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรแู้ ละความคิดเพือ่ นาไปใชต้ ดั สินใจ แก้ปัญหาในการดาเนิน ชีวิต และมนี สิ ยั รกั การอา่ น ตัวช้ีวดั ป.๕/๑ อา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยแกว้ และบทรอ้ ยกรองได้ถูกต้อง ป.๕/๘ มมี ารยาทในการอ่าน ๒. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การอ่านออกเสียงบทร้อยกรองเร่ือง สังข์ทอง ตอน กาเนิดพระสังข์ ต้องอ่านให้ชัดเจน เน้นสัมผัส ถกู ต้องตามอกั ขรวิธี และฉันทลักษณ์ของบทร้อยกรอง การอ่านแบบทานองเสนาะตอ้ งรจู้ กั ทอดจังหวะ เอื้อน เสยี งหรือหลบเสียง มีสาเนยี งสงู ต่า หนักเบา ยาวสัน้ เป็นทานองเหมือนเสียงดนตรี เสยี งไมเ่ บาหรือดงั เกินไป มนี า้ เสยี งแสดงอารมณ์ไปตามเนอ้ื เร่อื ง และมีมารยาทในการอา่ น ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ ความเข้าใจ (K) อธบิ ายหลกั การอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยกรองได้ 3.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) อา่ นออกเสียงบทร้อยกรองไดถ้ กู ตอ้ ง 3.3 ดา้ นคุณลักษณะ เจตคติ คา่ นยิ ม (A) มีมารยาทในการอา่ น ๔. สาระการเรยี นรู้ การอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยกรองเรอ่ื ง สงั ข์ทอง ตอน กาเนดิ พระสงั ข์ ๕. สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น 5.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5.2 ความสามารถในการคดิ ๖. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 6.1 ใฝเ่ รยี นรู้ 6.2 รักความเป็นไทย 7. กจิ กรรมการเรียนรู้

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๒ เรอื่ ง สังขท์ อง ตอน กาเนิดพระสังข์ การจดั กิจกรรมการเรียนร รายวชิ า ภาษาไทย หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๒ เรื่อง สงั แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๒ เรือ่ ง การอ่านออกเสียงบทร้อยกร ลาดับ ขอบเขตเนอ้ื หา/ ขัน้ ตอนการจดั เวลา แ ท่ี จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ทใี่ ช้ กิจกรรมครู 1. ขอบเขตเน้ือหา ข้ันนา 5 1. ครูเปิดวีดทิ ศั น์เรอื่ 1. หลกั การอ่าน นาที การอ่านออกเสียงบทร บทรอ้ ยกรอง 2. ครูถามคาถาม ดังน 2. การอ่านออกเสียง ครู : วีดทิ ัศนท์ ี่นักเรีย บทรอ้ ยกรอง เรอื่ ง และดนู ี้ มสี งิ่ ที่เหมือน สังขท์ อง ตอน กาเนดิ แตกตา่ งกันหรอื ไม่ อย พระสงั ข์ 3. มารยาทในการอา่ น 3. ครูใหน้ กั เรยี นสนท แลกเปลีย่ นความเห็น ประเด็นคาถามว่า ครู : ถ้านักเรยี นจะอา่ น บทร้อยกรอง เรอื่ ง สงั ข ตอน กาเนิดพระสังข์ใ ควรทาอย่างไร จากน จุดประสงคก์ ารเรียนร เชื่อมโยงเข้าสบู่ ทเรยี น

๑๘๗ รู้ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 งขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสังข์ จานวน 10 ชั่วโมง รอง เรือ่ ง สงั ขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสังข์ จานวน 1 ช่ัวโมง แนวการจดั การเรยี นรู้ สื่อการเรียนรู้ การประเมิน กจิ กรรมนักเรียน การเรยี นรู้ อง 1. นักเรยี นฟงั และดูวีดิทัศนเ์ ร่อื ง 1. วีดทิ ศั นเ์ รอื่ ง รอ้ ยกรอง การอ่านออกเสียงบทรอ้ ยกรอง การอา่ นออกเสียง บทร้อยกรอง น้ี 2. นกั เรียนตอบคาถาม เช่น 2. คาถาม - พจิ ารณา ยนฟงั นักเรยี น : เปน็ การอา่ นออกเสียง การตอบคาถาม นกันและ เหมอื นกัน ต่างกันตรงเป็น ของนกั เรียน ยา่ งไร การอ่านออกเสียงแบบปกติ และการอ่านออกเสียงแบบ ธรรมทานองเสนาะ ทนา ๓. นักเรียนร่วมกันสนทนาตอบ - พจิ ารณา นจาก คาถามโดยใชป้ ระสบการณเ์ ดิม การตอบคาถาม ของนักเรียน นออกเสยี ง ข์ทอง ให้ถูกตอ้ ง นน้ั ครูแจง้ รู้และ น

๑๘๘ ค่มู ือ ลาดบั ขอบเขตเน้อื หา/ ขั้นตอนการจัด เวลา แ ที่ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ท่ใี ช้ กจิ กรรมครู ๒. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ข้ันสอน ๑5 1. ครใู หน้ กั เรยี นแบง่ ก ๑. อธบิ ายหลกั นาที คน ครูแจกกระดาษ A๔ การอ่านออกเสียงบท นักเรียนอภิปรายทบท รอ้ ยกรองได้ หลกั การอ่านออกเสีย บทรอ้ ยกรองและเขยี น เป็นแผนผงั ความคดิ ๒. ครใู ช้วิธสี ุม่ กลุ่มนา ตามเวลาทกี่ าหนด ๓. ครูให้นักเรยี นร่วมก ตรวจสอบความถกู ตอ้ บรรยายเพิม่ เตมิ ความร สมบรู ณ์ ๔. ครเู ปดิ สอื่ PPT ต บทรอ้ ยกรอง เรือ่ ง สงั ตอน กาเนดิ พระสงั ข์ นกั เรยี นอ่าน และถาม ครู : เป็นบทรอ้ ยกรอง ใด จะตอ้ งอา่ นแบบไห

อครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรยี นรู้ สือ่ การเรียนรู้ การประเมิน กิจกรรมนักเรียน 1. สื่อ PPT การเรยี นรู้ คาส่งั ใบความรทู้ ่ี กลุม่ ๔ 1. นักเรียนแบง่ กลุ่ม อภปิ ราย ๒ กระดาษ A๔ ๔ ให้ หลกั การอา่ นออกเสียงบทร้อย ทวน กรองแลว้ สรุปเขียนเป็นแผนผงั ยง ความคิดในกระดาษ A๔ นสรปุ าเสนอ ๒. นกั เรียนกล่มุ ที่ถูกสมุ่ ออกไป 2. ผลงาน - ประเมนิ แผนผงั พดู นาเสนอผลงาน กลมุ่ ละ นักเรียน ความคดิ หลัก ๑-๒ นาที การอา่ นออกเสยี ง กนั ๓. นักเรียนร่วมกนั ตรวจสอบ 3. สอ่ื PPT องและ ความถกู ต้องและเพิม่ เตมิ สว่ นท่ี หลกั การอ่าน รใู้ ห้ ยังไม่สมบรู ณ์ ออกเสยี ง ตวั อย่าง ๔. นักเรยี นดแู ละฟงั บทรอ้ ยกรอง 4. ส่อื PPT - พิจารณา งข์ทอง พิจารณาลกั ษณะของบทรอ้ ย บทรอ้ ยกรอง การตอบคาถาม ให้ กรองและตอบคาถาม เช่น และตัวอยา่ ง มวา่ - เป็นกลอนบทละคร การแบ่งจังหวะ งประเภท - ตอ้ งอา่ นแบบกลอนสภุ าพ ในการอ่าน หน และ - แบ่งจังหวะการอา่ นวรรคละ

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๒ เรือ่ ง สงั ขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสงั ข์ ลาดับ ขอบเขตเนอ้ื หา/ ข้ันตอนการจดั เวลา แ ท่ี จดุ ประสงค์การเรียนรู้ การเรยี นรู้ ที่ใช้ กิจกรรมครู แบ่งจังหวะในการอา่ น 3. ๒. อ่านออกเสียง ขน้ั ปฏบิ ตั ิ ๕. ครอู ่านบทร้อยกรอ บทรอ้ ยกรองได้ถกู ตอ้ ง ธรรมดาใหน้ กั เรียนแบ 3. มมี ารยาทในการ จังหวะและเฉลย อา่ น 20 ๖. ครอู า่ นบทร้อยกรอ นาที ธรรมดาและแบบทาน ใหน้ กั เรียนฝกึ อา่ นตาม กนั ๆ ๗. ครใู ห้นกั เรียนจบั ค เพอื่ นฝกึ อา่ นบทร้อยก ตามเวลาทก่ี าหนด ๘. ครขู ออาสาสมคั ร ๓ อา่ นบทรอ้ ยกรองหนา้ ช โดยให้เพอื่ นทเี่ หลอื ประ การอ่านตามเกณฑท์ ่ีน กาหนดรว่ มกนั ๙. ครูให้นกั เรยี นสรปุ การประเมนิ รว่ มกัน แ

๑๘๙ แนวการจดั การเรียนรู้ สอ่ื การเรียนรู้ การประเมนิ กิจกรรมนกั เรียน การเรียนรู้ นอย่างไร ๓ จงั หวะ ฯลฯ 5. หนังสอื เรยี น PPT เฉลย องแบบ ๕. นกั เรยี นฝกึ แบง่ จงั หวะ - ใบงานที่ ๒ - ประเมนิ ภาระ บ่ง การอา่ นตามท่คี รูอา่ น และ การอ่านออกเสียง งานการอา่ น บทร้อยกรอง ออกเสียง ตรวจความถูกตอ้ ง องแบบ ๖. นกั เรยี นฝกึ อ่านตามครู บทรอ้ ยกรอง นองเสนาะ พร้อมกันจนคล่อง มพรอ้ ม คู่กบั ๗. นักเรยี นจบั คฝู่ ึกอ่านบท กรอง รอ้ ยกรองแบบทานองเสนาะ ๓ คู่ ไป ๘. ตัวแทนอ่านทานองเสนาะ ช้ันเรียน หน้าชั้นเรยี น โดยคู่อืน่ ๆ คอย ระเมนิ ใหค้ ะแนน นักเรยี น ปผล ๙. นักเรียนรว่ มกันสรปุ ผล และให้ การประเมิน และปรบมือเป็น

๑๙๐ คมู่ อื ลาดบั ขอบเขตเนื้อหา/ ขน้ั ตอนการจดั เวลา แ ที่ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ การเรยี นรู้ ที่ใช้ กิจกรรมครู กาลังใจทกุ คนในการพ การอา่ นตอ่ ไป ๑๐. ครมู อบหมายให้น อ่านบทรอ้ ยกรองจาก โดยไปฝึกซอ้ มท่ีบ้านก ยูทูบหรอื ผทู้ อ่ี ่านได้ แ อ่านนอกเวลาทุกคน ๓ ขั้นสรปุ 5 1. ครถู ามนักเรยี นเพ นาที สรปุ ดงั นี้ (5 นาที) ครู : การอา่ นออกเสีย ร้อยกรองมีคณุ คา่ อยา่ และถ้านกั เรยี นอ่านบ กรองได.้ ..นกั เรียนจะน การอ่านนี้ไปปรบั ใชอ้ บา้ ง

อครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ การประเมนิ กิจกรรมนกั เรียน การเรยี นรู้ พฒั นา กาลังใจแก่ทกุ คน นักเรยี น ๑๐. นักเรียนบนั ทกึ ภาระงานท่ี กใบงาน ครูมอบหมาย และไปฝกึ ซ้อม กบั ส่ือ เตรียมสอบอา่ นโดยหาเวลา และสอบ นอกชัว่ โมงเรยี น พอ่ื นา 1. นกั เรยี นรว่ มกันอภิปราย - สือ่ PPT - สังเกตการตอบ และแสดงความคิดเห็นตาม สรปุ บทเรียน คาถามของ ยงบท ประเด็นคาถามของครู เช่น นกั เรียน างไร - ทาใหไ้ ดร้ บั ความไพเราะ บทรอ้ ย - มีสมาธิ นา - เหน็ อารมณข์ องกวี อยา่ งไร - ได้ข้อคดิ ไปใชใ้ นชีวติ - เปน็ แนวทางในการแตง่ กลอน - อนรุ กั ษค์ วามเปน็ ไทย ฯลฯ และถ้าอา่ นได้ จะ... - อา่ นให้นอ้ ง พ่อแม่ และย่าฟงั - สอนเพื่อนทอ่ ง

หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ ๒ เร่อื ง สงั ขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสงั ข์ แ ลาดบั ขอบเขตเนื้อหา/ ข้นั ตอนการจดั เวลา กจิ กรรมครู ที่ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรียนรู้ ทใ่ี ช้ ๒. ครูสรปุ เพ่ิมเตมิ เพ่ือ ความเข้าใจใหแ้ ก่นกั เร

แนวการจดั การเรียนรู้ ส่ือการเรียนรู้ ๑๙๑ กจิ กรรมนักเรยี น การประเมิน - สมคั รทอ่ งอาขยาน การเรยี นรู้ ฯลฯ 2. นกั เรยี นอ่านทาความเข้าใจ อเน้นย้า บทเรียนจากส่อื PPT สรปุ รยี น บทเรียน

192 คู่มอื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) 8. สอ่ื การเรยี นรู้/แหลง่ เรียนรู้ 1. หนงั สอื เรยี นวรรณคดีลํานํา ชน้ั ป. ๕ 2. วดี ิทศั น์ เรอ่ื ง การอา่ นออกเสยี งบทร้อยกรอง 3. ใบงานท่ี ๒ เร่อื ง การอ่านออกเสยี งบทร้อยกรองเรื่อง สงั ข์ทอง ตอน กาํ เนดิ พระสังข์ 4. ส่อื PPT เรอ่ื ง การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง ๕. ใบความรทู้ ่ี 2 เร่ือง การอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง ๖. กระดาษ A๔ สําหรบั เขยี นแผนผังความคดิ หลกั การอา่ นบทร้อยกรอง 9. การประเมนิ ผลรวบยอด ชนิ้ งานหรือภาระงาน 1. ใบงานท่ี ๒ เรื่อง การอ่านออกเสยี งบทร้อยกรองเรอื่ ง สังขท์ อง ตอน กาํ เนดิ พระสงั ข์ 2. อา่ นออกเสียงบทร้อยกรอง ส่งิ ทต่ี ้องการวดั / ประเมนิ วธิ กี าร เคร่ืองมือทใี่ ช้ เกณฑ์ ดา้ นความรู้ ความเข้าใจ (K) - อธบิ ายหลกั การอ่านออกเสียง 1. ตรวจผลงานแผนผัง 1. แผนผังความคดิ รอ้ ยละ ๖๐ บทร้อยกรอง ความคดิ หลักการอ่านออกเสยี ง ขึ้นไป 2. พิจารณาคาํ ตอบ 2. คําถาม ด้านทกั ษะและกระบวนการ (P) ร้อยละ ๖๐ - อ่านออกเสยี งบทร้อยกรอง 1. ตรวจใบงานที่ ๒ 1. ใบงานท่ี ๒ 2. ประเมินการอ่าน 2. แบบประเมนิ การร้อยกรอง ขึ้นไป ร้อยกรอง ด้านคณุ ลกั ษณะ เจตคติ ค่านยิ ม (A) - มีมารยาทในการอา่ น สงั เกตพฤติกรรม แบบสังเกตพฤตกิ รรม ร้อยละ ๖๐ ขน้ึ ไป คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ - สงั เกตพฤติกรรม - แบบประเมินคณุ ลักษณะ ระดบั คณุ ภาพ 1. ใฝ่เรยี นรู้ นกั เรียน อนั พึงประสงค์ ผา่ น 2. รกั ความเปน็ ไทย - สังเกตพฤติกรรม สมรรถนะสาํ คญั ของผเู้ รียน นักเรียน - แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดับคุณภาพ 1. ความสามารถในการส่ือสาร สาํ คญั ของผู้เรยี น ผ่าน 2. ความสามารถในการคิด

หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๒ เร่อื ง สังขท์ อง ตอน กาเนิดพระสังข์ 193 เกณฑ์ประเมนิ : การอ่านออกเสียงบทร้อยกรองเร่ือง สังขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสงั ข์ ประเดน็ ๔ (ดมี าก) ระดบั คุณภาพ ๑ (ปรับปรุง) การประเมิน ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ๑. อกั ขรวธิ ี อ่านถกู ตอ้ งทุกคา ออก อา่ นผิดไมเ่ กิน ๓ อา่ นผิดไม่เกิน ๕ อ่านผิดมากกวา่ เสยี ง ร ล ชดั เจน คา ออกเสยี ง ร ล คา ออกเสียง ร ล ๕ คา ชดั เจน ชดั เจน ๒. อ่านถูกตอ้ ง อา่ นถกู ต้องตามลักษณะ อา่ นถกู ตอ้ งตาม อ่านถูกตอ้ งตาม อา่ นไมถ่ กู ตอ้ ง ตามฉนั ทลกั ษณ์ คาประพันธ์ แบ่งวรรค ลกั ษณะคาประพันธ์ ลกั ษณะคา ตามลกั ษณะคา ตอนถกู ตอ้ งทุกวรรค แบง่ วรรคตอน ประพันธ์ ประพันธ์ และ ผิด ๑-๒ แห่ง แบง่ วรรคตอน แบง่ วรรคตอนผิด ผดิ ๓-๔ แหง่ มากกว่า ๔ แห่ง ๓. บคุ ลิกภาพ นัง่ ในทา่ ที่เหมาะสม นง่ั ในท่าทีเ่ หมาะสม นง่ั ในทา่ ทไี่ ม่ นง่ั ในท่าทีไ่ ม่ ทา่ ทางในการ ใช้สายตามองกวาด ใชส้ ายตามองกวาด เหมาะสมใชส้ ายตา เหมาะสมใช้นว้ิ ช้ี อ่าน ตัวหนงั สอื ไมช่ หี้ รือ ตัวหนงั สือ ถูกตอ้ ง มองกวาดส่ายหนา้ ตามตวั อกั ษรและ สา่ ยหนา้ ตามตวั อกั ษร เปน็ ส่วนใหญ่ ตามตวั หนังสอื สา่ ยหนา้ ตาม ถูกตอ้ งเปน็ ส่วนน้อย ตวั อกั ษร ๔. นา้ เสียง นา้ เสียงชดั เจนนมุ่ นวล น้าเสยี งชัดเจน มี นา้ เสียงชดั เจนขาด น้าเสียงไม่ชดั เจน ในการอ่าน น่าฟังรจู้ กั ทอดจังหวะ สาเนียงสงู ตา่ หนกั ความนุ่มนวลหรอื ขาดความมั่นใจ เอ้ือนเสียงหรอื หลบ เบา ยาวสน้ั ที่ สอดคล้องกบั เรื่อง ในการอา่ น ไม่มี ๕. มารยาท เสยี ง มสี าเนียงสงู ตา่ ไพเราะดีพอสมควร ทีอ่ า่ น เสียงสาเนยี ง สาเนียงสงู ตา่ ในการอ่าน หนกั เบา ยาวสนั้ ท่ี เป็นสว่ นใหญ่ สูงต่า หนกั เบา ยาว หนักเบา ยาวสนั้ ไพเราะสอดคล้องกบั ส้ัน มีบา้ งแต่ไม่ เร่ืองท่ีอ่าน ไพเราะ ไม่ส่งเสียงดังรบกวน ผอู้ ่ืนไมเ่ ลน่ ในขณะอ่าน ไมส่ ง่ เสียงดังรบกวน ส่งเสียงดงั และเล่น สง่ เสียงดงั และ ผอู้ ืน่ ไมเ่ ลน่ ขณะอ่าน ในขณะอ่าน เลน่ ในขณะอา่ น เกณฑก์ ารประเมินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 16-20 ดีมาก 11-15 ดี 6-10 พอใช้ 1-5 ปรบั ปรงุ เกณฑก์ ารตดั สิน : ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ รอ้ ยละ ๖๐ ข้นึ ไป (ต้องไดร้ ะดบั พอใชข้ ึน้ ไป)

194 คมู่ ือครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แบบประเมนิ การอา่ นออกเสียงบทร้อยกรองเรอื่ ง สังขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสงั ข์ คาชี้แจง ให้ครเู ขยี นคะแนนการอา่ นออกเสียงบทร้อยกรอง ลงในช่องประเดน็ การประเมินที่กาหนดให้ ัอกขร ิว ีธในการ ่อาน (๔ ) สรปุ การแบ่งวรรคตอน (๔) ลาดบั ช่ือ - สกลุ และ ัฉนทลักษ ์ณ รวม คดิ เปน็ ผา่ น ไมผ่ ่าน ท่ี บุคลิกภาพในการ ่อาน (๔) (๒๐) ร้อยละ ้นาเสียงในการ ่อาน (๔) มารยาทในการ ่อาน (๔) (100) ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ดี ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ มาก รวม (คน) คิดเปน็ รอ้ ยละ ผลการประเมนิ  ดมี าก ..........คน คิดเป็นรอ้ ยละ...............  ดี ..........คน คิดเปน็ รอ้ ยละ................  พอใช้ ..........คน คิดเปน็ รอ้ ยละ...............  ปรบั ปรงุ .........คน คดิ เป็นร้อยละ............... สรปุ ผลการประเมนิ รายชนั้ เรยี น  นกั เรยี นผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ จานวน......................... คน คดิ เป็นร้อยละ.........................  นกั เรียนไม่ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน จานวน......................... คน คิดเป็นรอ้ ยละ......................... ลงช่อื .................................................ผปู้ ระเมิน (..............................................) ........../..................../..........

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ ๒ เรือ่ ง สังขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสงั ข์ 195 10. บันทกึ ผลหลงั สอน ผลการจัดการเรียนการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสาเร็จ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปญั หาและอปุ สรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ้ จากัดการใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรู้ และข้อเสนอแนะ/แนวทางการปรับปรงุ แก้ไข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ......................................................ผสู้ อน (.......................................................) วันที่ .......... เดอื น ..................... พ.ศ. ............. 11. ความคิดเหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผู้บริหารหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ ...................................................... ผตู้ รวจ (.......................................................) วนั ที่ .......... เดือน ..................... พ.ศ. .............

196 คูม่ ือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ใบความรู้ที่ 2 เรอื่ ง การอา่ นออกเสียงบทรอ้ ยกรอง หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 เร่ือง สังข์ทอง ตอน กาเนิดพระสงั ข์ แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 2 เร่ือง การอา่ นออกเสียงบทรอ้ ยกรองเรอ่ื ง สงั ขท์ อง ตอน กาเนิดพระสงั ข์ รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๕ การอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง บทรอ้ ยกรอง คือ ถอ้ ยคาทีเ่ รยี บเรยี งใหเ้ ป็นระเบยี บถกู ต้องตามขอ้ กาหนดฉันทลักษณ์ กลอนสภุ าพ คอื กลอนทวี่ รรคหนึง่ มจี านวนคาระหว่าง 7 - 9 คา สาหรับการอา่ นออกกเสยี งบทรอ้ ยกรองน้ัน กอ่ นอา่ นควรศกึ ษาประเด็นตอ่ ไปน้ี เพื่อใหส้ ามารถอา่ นไดถ้ กู ตอ้ ง 1. คาศัพท์ยากในบทร้อยกรอง ต้องศกึ ษาคาอา่ นและความหมายใหเ้ ข้าใจกอ่ น 2. รปู แบบของบทร้อยกรอง ต้องศึกษาประเภทของบทร้อยกรอง จานวนคาในวรรค 3. จังหวะการอา่ น ตอ้ งศกึ ษาจังหวะการอ่านของบทร้อยกรองประเภทนน้ั ๆ เพราะบทร้อยกรอง ถา้ มี 7 คา ใหอ้ ่านเปน็ 2/2/3 ถ้ามี 8 คา ให้อา่ นเปน็ 3/2/3 ถา้ มี 9 คาใหอ้ ่านเป็น 3/3/3 วิธกี ารอา่ นออกเสยี งบทร้อยกรองมี 2 วธิ ี ดังนี้ 1. อ่านออกเสียงปกติ คือ อ่านออกเสียงปกติเหมือนกับการอ่านบทร้อยแก้วท่ัวไป แต่จะมีการ เว้นวรรค และเน้นจังหวะก่ีสัมผัสตามบทร้อยกรองแตล่ ะประเภท ซ่งึ แตกต่างกัน 2. อ่านออกเสียงเป็นทานอง คือ อ่านให้มีสาเนียงสูง ต่า หนัก เบา ยาว สั้น เอ้ือนเสียง และเน้น สมั ผัสใหช้ ัดเจน ไพเราะ เสียงเปน็ กงั วาน แสดงอารมณต์ ามเน้อื หาของบทรอ้ ยกรอง หลักสาคัญในการอ่านออกเสียงบทรอ้ ยกรอง 1. อา่ นออกเสียงให้ชดั เจนและถูกต้องตามอกั ขรวิธี 2. อ่านเว้นจังหวะวรรคตอนให้ถกู ต้องตามลกั ษณะของบทร้อยกรองแต่ละประเภท รู้จักทอดจังหวะ เออ้ื นเสียง หรือหลบเสยี ง 3. น้าเสียงไพเราะชดั เจน น่มุ นวลน่าฟัง เสยี งไมเ่ บาหรือดงั มากจนเกนิ ไป 4. เน้นเสียงแสดงอารมณ์ใหเ้ ปน็ ไปตามเน้อื เรื่อง เช่น รัก ร่าเรงิ โกรธ เศร้า โดยใชน้ ้าเสยี งใหเ้ ขา้ กับ สถานการณ์น้นั ๆ มารยาทในการอา่ น 1. อา่ นด้วยน้าเสียงสุภาพ เสียงดงั พอประมาณ ไม่ตะโกนเสยี งดงั 2. มที า่ ทางทสี่ ภุ าพในการอ่าน บคุ ลิกภาพเรียบร้อย สงา่ งาม 3. ถ้าเปน็ การน่ังอา่ น ควรนงั่ หลังตรง ถา้ เป็นการยืน ควรยืนตรงดว้ ยท่าทางทสี่ ภุ าพ 4. ถา้ เป็นการอา่ นบทร้อยกรอง ควรอา่ นใหถ้ กู ต้องตามฉันทลักษณ์

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๒ เร่ือง สงั ขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสังข์ 197 ใบงานท่ี 2 เรื่อง การอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยกรองเรอื่ ง สงั ข์ทอง ตอนกาเนิดพระสงั ข์ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 เรื่อง สงั ข์ทอง ตอน กาเนิดพระสงั ข์ แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 2 เรื่อง การอา่ นออกเสียงบทรอ้ ยกรองเรอื่ ง สงั ขท์ อง ตอน กาเนิดพระสงั ข์ รายวชิ า ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๕ คาช้ีแจง ให้นักเรยี นอา่ นออกเสียงบทรอ้ ยกรองเรือ่ ง สังขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสงั ข์ ใหถ้ กู ต้อง บทอาขยานเรอ่ื ง สังขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสงั ข์ เมอ่ื น้นั พระสงั ขซ์ ่อนอยกู่ ร็ สู้ น้ิ พระแมไ่ ปป่าเปน็ อาจิณ ในจิตคิดถวิลทกุ เวลา จะใครอ่ อกช่วยพระแมเ่ จ้า สงสารผา่ นเกล้าเป็นหนกั หนา เหนอื่ ยยากลาบากกายา กลบั มาจนค่าแล้วรา่ ไร ไม่วา่ ลูกนอ้ ยเป็นหอยปู อุ้มชูชมชดิ พสิ มยั พระคณุ ล้าลบภพไตร จะออกใหเ้ ห็นตวั ก็กลัวการ ไกป่ ่าพาฝงู มากนิ ข้าว ของพระแม่เจ้าอยูฉ่ าวฉาน คุ้ยเขยี่ เรีย่ รายทั้งดนิ ดาน พระมารดามาเหน็ จะร่าไร เยี่ยมลอดสอดดทู ัง้ ซา้ ยขวา จะเห็นใครไปมาก็หาไม่ ออกจากสงั ขพ์ ลันทันใด ฉวยจบั ไมไ้ ด้ไล่ตี กอบเก็บข้าวหกท่ตี กดิน ผนั ผินลอบลบั ขยับหนี เหลยี วดูผูค้ นชนนี จะหนเี ขา้ สงั ข์กาบังตน หุงข้าวหาปลาไว้ทา่ แม่ ดูแลจัดแจงทกุ แห่งหน ช่วยขบั ไกป่ ่าประสาจน สาละวนเลน่ พลางไมห่ ่างดู จากหนงั สือวรรณคดีลานา ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 5

๑๙๘ คูม่ อื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๓ เร่ือง การจับใจความสาคัญจากเรอื่ งท่ีอา่ น หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๒ เรอื่ ง สงั ข์ทอง ตอน กาเนิดพระสงั ข์ เวลา 1 ชวั่ โมง กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย รายวชิ าภาษาไทย ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 5 1. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ชีว้ ัด สาระท่ี 1 การอา่ น มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความรแู้ ละความคิดเพื่อนาไปใช้ตัดสินใจ แกป้ ัญหาในการดาเนิน ชวี ติ และมีนิสยั รักการอ่าน ตัวชี้วดั ป.๕/๕ วิเคราะห์และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเร่ืองที่อ่านเพื่อนาไปใช้ในการดาเนินชีวิต ป.๕/๘ มีมารยาทในการอา่ น ๒. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด การอ่านจับใจความ เพื่อวิเคราะห์เรื่องท่ีอ่านเป็นการแยกแยะข้อเท็จจริงของสาระจากเร่ืองที่อ่าน และแสดงความคดิ เห็นไดอ้ ยา่ งมเี หตุ มีผล สามารถทาให้เกดิ ทักษะที่ดี นาไปใชใ้ นการดาเนินชวี ิตประจาวนั ได้ อยา่ งมีประสิทธิภาพ ๓. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้ ความเขา้ ใจ (K) บอกหลกั การจบั ใจความสาคัญจากเร่ืองทอี่ า่ นได้ 3.2 ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) อา่ นจบั ใจความสาคญั จากเรอ่ื ง สงั ขท์ อง ตอน กาเนิดพระสังข์ได้ 3.3 ดา้ นคณุ ลักษณะ เจตคติ ค่านิยม (A) มีมารยาทในการอ่าน ๔. สาระการเรียนรู้ การจับใจความสาคญั จากเรือ่ งสงั ขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสังข์ ๕. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน 5.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 5.2 ความสามารถในการคิด ๖. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 6.1 ใฝเ่ รียนรู้ 6.2 มงุ่ ม่ันในการทางาน 7. กจิ กรรมการเรยี นรู้

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๒ เรอ่ื ง สงั ข์ทอง ตอน กาํ เนดิ พระสงั ข์ การจดั กิจกรรมการเรยี นร รายวชิ า ภาษาไทย หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๒ เรื่อง สงั แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๓ เรอ่ื ง การจบั ใจคว ลาํ ดบั ขอบเขตเนื้อหา/ ขน้ั ตอนการจดั เวลา แ ที่ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรยี นรู้ ท่ใี ช้ กจิ กรรมคร 1. ขั้นนาํ 1. ครูเปิดเพลงคนอ่าน ขอบเขตเนือ้ หา 5 ให้นกั เรียนฟงั และตอบ ๒. 1. หลกั การจบั ขั้นสอน นาที ใจความสําคญั จาก 2. ครูสนทนาซกั ถาม เรอื่ งท่อี ่าน ๕ ครู : เนือ้ หาของเพลง 2. การอ่านจับใจความ นาที เรอ่ื งใดอยา่ งไร จากน สําคญั จากเรื่อง จดุ ประสงค์การเรียนร สังขท์ อง ตอน กําเนดิ เช่อื มโยงเขา้ สู่บทเรยี น พระสังข์ 3. มารยาทในการอ่าน 1. ครูใหน้ กั เรยี นแบง่ ก จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ คน คละเพศและความ ๑. บอกหลกั การจบั ใจความสําคญั จาก ๒. ครูให้นกั เรยี นอภิป เรือ่ งทีอ่ ่านได้ ประเด็นคําถามภายใน กําหนด เช่น ครู : มวี ธิ กี ารในการอ หนังสือหรือเรือ่ งราวต

รู้ ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 5 ๑๙๙ งขท์ อง ตอน กําเนดิ พระสงั ข์ จาํ นวน 10 ชัว่ โมง วามสาํ คญั จากเร่อื งทอ่ี า่ น จาํ นวน 1 ชวั่ โมง การประเมนิ การเรียนรู้ แนวการจดั การเรยี นรู้ ส่อื การเรียนรู้ - พจิ ารณาจาก รู กจิ กรรมนกั เรยี น 1. เพลง คน การตอบคําถาม อา่ นหนังสอื ของนกั เรียน นหนงั สือ 1. นักเรียนฟังและปรบมอื บคําถาม เขา้ กับจงั หวะ - พจิ ารณาจาก การตอบคําถาม ดงั น้ี 2. นกั เรียนตอบคาํ ถาม เชน่ 2. คําถาม ของนกั เรียน งกลา่ วถึง นักเรยี น : กล่าวถึงการอา่ น นัน้ ครูแจง้ หนงั สอื หรือเรือ่ งราวต่าง ๆ รูแ้ ละ นน้ั มปี ระโยชนม์ าก เราควรจับ น ใจความสาํ คญั ของเรอื่ งเพ่อื นําไปใช้ประโยชน์ให้ได้ งกลุ่ม ๔ มสามารถ 1. นกั เรยี นแบ่งกลุ่มคละชาย หญงิ เกง่ อ่อน และแบง่ หนา้ ท่ี รับผดิ ชอบภายในกลมุ่ ปรายกลมุ่ ๒. นักเรยี นอภิปรายและตอบ นเวลาที่ คําถาม เช่น อ่าน นกั เรียน : - ตอ้ งร้วู ่าอา่ นไป ต่าง ๆ แต่ เพอ่ื อะไร

๒๐๐ คมู่ อื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเ ลําดบั ขอบเขตเนอื้ หา/ ข้นั ตอนการจดั เวลา แ ที่ ที่ใช้ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรียนรู้ กจิ กรรมคร ละครง้ั เพอ่ื ใหบ้ รรลุ ผ ความมุ่งหมายของตน 3. ๒. อา่ นจับใจความ ข้ันปฏบิ ตั ิ ๒๐ ๓. ครใู ห้นกั เรยี นระดมค สาํ คญั จากเรือ่ ง นาที กลมุ่ สรุปเป็นหลกั การ สังขท์ อง ตอน ใจความและสง่ ตัวแทน กาํ เนิดพระสังข์ได้ พูดนําเสนอหนา้ ชัน้ เร 3. มมี ารยาทใน ๔. ครูบรรยายและยก การอ่าน ตัวอยา่ งวิธีการอ่านจับ โดยใช้ ส่ือ PPT และแ ความรู้ที่ ๓ ใหน้ กั เรยี ความรู้ ๕. ครูใหน้ กั เรยี นอ่าน สังขท์ อง ตอน กาํ เนดิ ทบทวนอกี ครงั้ (ครูสัง่ นักเรยี นอ่านล่วงหน้ามา ๖. ครใู ห้นกั เรยี นฝกึ ต โดยใช้เทคนิค ๕W๑H

เรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรียนรู้ ส่อื การเรียนรู้ การประเมนิ การเรียนรู้ รู กิจกรรมนกั เรยี น ผลตาม - มสี มาธิ ต้ังใจอา่ น น - อ่านในใจ - ไมส่ ง่ เสยี งดงั ฯลฯ ความคดิ ๓. นกั เรียนรว่ มกันตรวจสอบ - ใบความรูท้ ี่ ๓ รอา่ นจับ ความถกู ตอ้ งและเพิม่ เติมส่วน สอ่ื PPT การอา่ น นออกไป ที่ยงั ไม่สมบรู ณ์ จบั ใจความ รยี น กตวั อยา่ ง ๔. นกั เรียนทาํ ความเขา้ ใจ - ประเมนิ บใจความ สนทนาซักถามและจบั ใจความ การนําเสนองาน แจกใบ จากตวั อยา่ งของครู กลมุ่ (ประเมิน ยนเพิ่มเติม ด้าน K) น เรือ่ ง ๕. นักเรยี นอ่านทบทวน 1. หนงั สอื เรียน ดพระสังข์ เนือ้ เรอ่ื ง วรรณคดลี ํานํา งให้ ชั้น ป.๕ าก่อนแลว้ ) ตง้ั คาํ ถาม ๖. นกั เรยี นตอบคําถามจาก 2. สมดุ บันทึก พิจารณาจาก H เรื่อง สงั ขท์ อง ตอน กําเนิด การตอบคาํ ถาม

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๒ เร่อื ง สังขท์ อง ตอน กาเนิดพระสังข์ ลาดับ ขอบเขตเนื้อหา/ ข้ันตอนการจัด เวลา แ ที่ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ท่ใี ช้ กิจกรรมคร ดว้ ยประเดน็ ใคร ทาอ ไหน เมอ่ื ไร อยา่ งไร แ ข้อคดิ อะไรจากเร่ือง ๗. ครแู จกใบงานที่ ๓ จับใจความใหน้ กั เรียน คาตอบในข้อ ๖ มาเร เปน็ ใจความสาคัญ ๘. ครูให้อาสาสมคั รน นาเสนอผลงาน ๙. ครูให้นกั เรยี นร่วมก ตรวจสอบความถกู ตอ้ เฉลยแนวคาตอบในส พร้อมทง้ั ใหค้ าแนะนา ชมเชยในการปฏิบัตกิ อย่างมงุ่ มัน่ ตงั้ ใจ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook