๘๘ คมู่ อื ลาํ ดบั การจดั กจิ กรรมการเรยี นร ที่ รายวิชา ภาษาไทย หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เร่อื 1. แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 6 เรอ่ื ง การจบั ใจความ ขอบเขตเนือ้ หา/ ข้นั ตอนการจดั เวลา แ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ทีใ่ ช้ กจิ กรรมครู ขอบเขตเนื้อหา ขน้ั นาํ 5 1. ครูใหน้ กั เรยี นฟงั แ 1. การฟงั นาที คลิปวดิ ีโอเรอื่ ง “แม่” 2. หลกั การจบั ตอบคําถามร่วมกนั ใจความสําคญั จาก การฟัง 2. ครูตง้ั คําถามเพื่อก 3. มารยาทในการฟัง ความคดิ ของนกั เรยี น ครู : คลิปวดิ ีโอข้างต้นเ ใคร ครู : แม่มพี ระคณุ อย่า ครู : นกั เรียนรกั แมห่ ร เพราะอะไร 3. ครพู ดู แสดงความค และสนทนาตอ่ ไปว่า ก นกั เรียนตอบคําถามได แสดงความนักเรยี นเข และมีสมาธเิ รือ่ งท่ฟี งั แ
อครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) รู้ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 5 อง สื่อสารคลอ่ งต้องรวู้ ธิ ี จํานวน 10 ชัว่ โมง มสาํ คญั จากการฟงั และการดู จาํ นวน 1 ช่วั โมง แนวการจดั การเรียนรู้ สอื่ การเรียนรู้ การประเมิน กจิ กรรมนกั เรยี น การเรียนรู้ และดู 1. นกั เรียนนักเรยี นฟังและดู 1. คลิปวดิ ีโอ 1. สังเกต ” และ คลปิ วิดโี อเร่ือง “แม่” และตอบ เรอ่ื ง “แม่” มารยาทในการฟงั คาํ ถามร่วมกนั และการดูของ นักเรียน กระตนุ้ 2. นักเรียนตอบคําถาม เช่น 2. คาํ ถามอยูใ่ น 2. สังเกต ดงั น้ี สื่อ PPT การตอบคําถาม เกย่ี วกับ - เร่อื ง แม่ ของนกั เรียน - ให้กาํ เนิดเรา เลีย้ งดเู รา ฯลฯ างไร - รัก เพราะมพี ระคณุ ตอ่ เรา รอื ไม่ คดิ เหน็ 3. นกั เรียนสนทนาและทํา การที่ ความเข้าใจร่วมกัน ดน้ ้ัน ขา้ ใจ และดูจน
หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ เรอื่ งสื่อสารคลอ่ งตอ้ งรูว้ ธิ ี ลําดบั ขอบเขตเนือ้ หา/ ขน้ั ตอนการจดั เวลา แ ท่ี จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ที่ใช้ กิจกรรมครู สามารถตอบคําถามได 2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ข้นั สอน 25 ชัดเจน 1. บอกหลกั การจบั นาที 4. ครูแจง้ จดุ ประสงค ใจความสําคญั จาก การเรียนรูแ้ ละเชื่อมโย การฟังและดไู ด้ บทเรยี น 1. ครูแบ่งกลมุ่ นกั เรยี 4 คน โดยใหร้ ว่ มกันอ แลกเปลยี่ นความรู้ ดงั - การฟงั และดู - หลักการจบั ใจความ จากการฟังและดู 2. จากนั้นครถู ามวา่ ครู : นักเรียนไดข้ อ้ สร อยา่ งไรบา้ ง จากน้นั ครูแจกกระดา ให้แกน่ กั เรียนทุกกลุ่ม หลกั การ 3. ครใู ห้นกั เรยี นออก นําเสนอหลกั การจับใจ
แนวการจดั การเรียนรู้ สอ่ื การเรยี นรู้ ๘๙ กจิ กรรมนกั เรยี น การประเมิน การเรียนรู้ ดถ้ กู ตอ้ ง ค์ 4. นกั เรียนเขา้ สบู่ ทเรยี น ยงเขา้ สู่ ดว้ ยกัน ยน เปน็ 1. นักเรยี นแตล่ ะกล่มุ ร่วมกัน 1. ใบความรทู้ ี่ 6 อภปิ ราย อภิปรายแลกเปลี่ยนความรู้ งน้ี ความคิดเหน็ ในประเด็นต่อไปน้ี 2. คําถามอยู่ มสาํ คัญ - การฟังและดู ในสอ่ื PPT - หลักการจับใจความสาํ คญั จากการฟังและดู รุป 2. นกั เรยี นตอบคําถาม เชน่ 3. กระดาษ A4 - สงั เกตการตอบ าษ A4 - ฟังเพอ่ื จบั ประเด็นสําคญั ของ คาํ ถามของ มสรุป เรื่องท่ีฟังและดู นักเรยี น - เป็นการฟังและดูเพ่อื ค้นหา กมา ข้อคิด - ประเมิน จความ จากนั้นนกั เรยี นทุกกล่มุ สรปุ การบอกหลกั การ หลักการลงในกระดาษ A4 3. นักเรยี นออกมานําเสนอ หลักการจับใจความสาํ คญั จาก
๙๐ ขอบเขตเนือ้ หา/ ข้นั ตอนการจดั เวลา คมู่ อื ลําดบั จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรียนรู้ ทใ่ี ช้ ขน้ั ปฏบิ ตั ิ 15 แ ที่ 2. ตั้งคําถามและตอบ นาที กิจกรรมครู คาํ ถาม และสรปุ สําคญั จากการฟังและ 3. ใจความสาํ คญั จาก กลุ่ม โดยนาํ เสนอประ เรื่องท่ฟี ังและดูได้ ต่างจากเพื่อนกลมุ่ อ่ืน 3. มมี ารยาทใน นําเสนอไปแลว้ การฟังและดู 4. ครพู ดู สรุปเพม่ิ เติม การฟงั จะควบคู่ไปกบั ดังนัน้ ควรตัง้ ใจฟังและ มมี ารยาท 5. ครูใหน้ กั เรยี นทาํ ใบ 6 จากการฟังและดคู ล นทิ าน เร่อื ง “ก่องข้าว แม่” (ครขู ้นึ กจิ กรรม : ตอบ จากการฟัง ในส่อื PP 6. ครนู ําผลงานของน ทีท่ ําเสรจ็ แล้ว มาให้ต ปลายทางชมพร้อมกนั อา่ นคําถามและตอบค ของกลมุ่ ทีเ่ ปน็ ตวั อย่า
อครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรียนรู้ ส่อื การเรียนรู้ การประเมนิ การเรียนรู้ กจิ กรรมนกั เรยี น จบั ใจความสาํ คญั (ประเมินด้าน K) ะดทู ีละ การฟงั และดทู ีกลุม่ (มาเฉพาะ ะเด็นที่ ตวั แทนกล่มุ เทา่ น้ัน) นที่ มวา่ 4. นักเรียนร่วมกบั ครสู รุป บการดู เพ่มิ เตมิ ะดอู ยา่ ง บงานที่ 5. นักเรียนฟงั และดูคลปิ วดิ โี อ 1. ใบงานที่ 6 - ประเมิน ลปิ วิดีโอ นทิ าน เรื่อง “กอ่ งข้าวนอ้ ยฆ่า 2. วิดีโอนทิ าน ต้งั คาํ ถามและ วน้อยฆ่า แม่” แล้วตั้งคาํ ถามและตอบ เร่อื ง ก่องขา้ ว ตอบคาํ ถาม และ คําถามลงในใบงานที่ 6 น้อยฆ่าแม่ สรปุ ใจความ 3. สื่อ PPT สาํ คญั จากเรอ่ื งท่ี บคาํ ถาม (นกั เรียนตน้ ทาง/ปลายทาง ข้นึ จอสไลด์ ฟัง (ประเมนิ ดา้ น PT) ทาํ กจิ กรรม) P) - สังเกต นักเรยี น 6. นกั เรียนตน้ ทาง/ปลายทาง พฤตกิ รรมของ ตน้ ทาง/ ชมผลงานของเพื่อนและสรุป นักเรียน น โดย กจิ กรรมพรอ้ มกนั แล้วแสดง (ประเมนิ ดา้ น A) คาํ ถาม ความคดิ เห็นร่วมกนั าง ประเมินผลงานร่วมกัน
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ ๑ เร่ืองสอ่ื สารคลอ่ งต้องรวู้ ธิ ี ลาดับ ขอบเขตเนอ้ื หา/ ข้นั ตอนการจัด เวลา แ ที่ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรียนรู้ ทใ่ี ช้ กจิ กรรมครู 4. ขัน้ สรุป 5 1. ครถู ามคาถามเพอ่ื นาที พูดเสนอข้อมูล ดงั นี้ ครู : นกั เรยี นไดค้ วาม รู้สกึ อย่างไร ไดค้ ณุ ธร ใดบ้าง และจะนาไปใช ชีวติ ประจาวนั ไดอ้ ย่าง ชีวิตประจาวัน โดยการ พูดเสนอข้อมูล ตามจา เหมาะสมกบั เวลา 2. ครูขึ้นสรปุ ความรู้เ แผนผังความคิดในสอื่
๙๑ แนวการจดั การเรยี นรู้ ส่อื การเรียนรู้ การประเมิน การเรียนรู้ กจิ กรรมนักเรยี น - สังเกตการพดู สรปุ และตอบ อนามา 1. นกั เรยี นร่วมกันตอบคาถาม สอ่ื PPT คาถามของ ตามสิ่งที่ตนเองไดร้ ับจาก นักเรียน มร้อู ะไร การเรยี นในครัง้ นแี้ ละบอกแนว รรมเรอื่ ง ทางการนาไปใช้ในชวี ติ ประจาวนั ช้ใน โดยการออกมาพูดเสนอขอ้ มลู งไร ตามจานวนท่ีเหมาะสมกบั เวลา ารออกมา านวนท่ี เปน็ 2. นกั เรียนสรปุ ความรใู้ น อ PPT บทเรยี นรว่ มกับครอู กี ครง้ั ในสอ่ื PPT
92 คูม่ ือครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) 8. ส่อื การเรียนร/ู้ แหล่งเรียนรู้ 1. คลิปวิดโี อเร่อื ง “แม่” 2. ใบความรู้ท่ี 6 เรือ่ ง การจับใจความสาคัญจากการฟังและดู 3. ใบงานที่ 6 เรื่อง การต้ังคาถามและตอบคาถาม และสรปุ ใจความสาคัญจากเรอื่ งที่ฟงั และดู 4. สื่อ PPT เรื่อง การจบั ใจความสาคญั จากการฟังและดู 9. การประเมินผลรวบยอด ช้ินงานหรือภาระงาน - ใบงานท่ี 6 เรื่อง การตงั้ คาถามและตอบคาถาม และสรุปใจความสาคัญจากเรื่องทฟ่ี งั และดู ส่งิ ท่ตี อ้ งการวัด / ประเมิน วธิ กี าร เครือ่ งมือที่ใช้ เกณฑ์ ดา้ นความรู้ ความเข้าใจ (K) - พจิ ารณาการตอบ - คาถาม ร้อยละ ๖๐ - บอกหลกั การจับใจความสาคัญ คาถามของนักเรยี น ข้นึ ไป จากการฟงั และดู ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ (P) - แบบประเมินการจบั รอ้ ยละ ๖๐ - ระบุใจความสาคัญ ตัง้ คาถาม - ตรวจใบงานที่ 6 ใจความสาคัญจากการฟงั ขึ้นไป และตอบคาถามจากเรอ่ื งทฟ่ี งั และดู ด้านคุณลักษณะ เจตคติ - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ร้อยละ ๖๐ ค่านยิ ม (A) นักเรยี น ขึ้นไป - มีมารยาทในการฟงั และดู - สังเกตพฤติกรรม คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ นกั เรียน - แบบประเมิน ระดับคณุ ภาพ 1. ใฝ่เรยี นรู้ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ผา่ น 2. มุ่งมัน่ ในการทางาน ประสงค์ สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดบั คุณภาพ 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร นักเรียน สาคญั ของผ้เู รียน ผา่ น 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะ ชวี ติ
หน่วยการเรียนรูท้ ่ี ๑ เรื่องสอ่ื สารคลอ่ งตอ้ งรวู้ ธิ ี 93 เกณฑ์ประเมิน : การจับใจความสาคัญจากเรอ่ื งที่ฟังและดู ประเด็น ระดับคุณภาพ การประเมิน ๑. ความเขา้ ใจ ๔ (ดมี าก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรุง) ตอบคาถาม ๒. การจบั สามารถตอบคาถาม สามารถตอบคาถาม สามารถตอบคาถาม หลงั จากที่ฟงั ใจความสาคญั หลงั จากที่ฟังได้ หลงั จากที่ฟงั ได้ หลงั จากทีฟ่ ัง ได้น้อยมาก 3. การปฏบิ ัติ ท้ังหมด เป็นส่วนใหญ่ ได้เล็กน้อย ตามคาส่งั 4. มารยาทใน จับใจความสาคัญ จับใจความสาคญั จบั ใจความสาคญั ของ จบั ใจความสาคัญ การฟัง การดู ของเนอื้ หาได้ ของเนอ้ื หาได้เกือบ เน้ือหาไดเ้ ล็กน้อย ของเน้อื หาได้ และการพูด ทง้ั หมด ทั้งหมด ปฏิบตั ิตามคาสงั่ ปฏบิ ตั ติ ามคาสงั่ นอ้ ยมาก ไดถ้ กู ตอ้ งและ ได้ถูกต้อง ปฏิบัตติ ามคาสง่ั ปฏบิ ตั ติ ามคาสง่ั คล่องแคล่ว แตค่ อ่ นข้างช้า ไดไ้ มค่ ่อยถูกต้อง ไดถ้ ูกต้อง และค่อนขา้ งช้า น้อยมาก มีมารยาทในการฟงั มมี ารยาทในการฟงั มมี ารยาทในการฟงั มีมารยาทใน การดู และการพูด การดู และการพูด การดู และการพดู การฟัง การดู อยูเ่ สมอ จนเปน็ นิสยั อยู่เสมอ จนเป็นนิสัย เกือบตลอดเวลา แตไ่ ม่ และการพดู เปน็ สามารถประเมนิ สามารถประเมิน สามารถประเมิน บางเวลาและ และปรบั ปรงุ ตนเอง และปรับปรงุ ตนเอง ตนเองเพ่อื ปรับปรงุ ข้อ รสู้ ึกตัวเมอ่ื มี ได้ รวมทั้งแนะนาให้ ได้ บกพรอ่ งได้ ผแู้ นะนา ผอู้ ื่นปฏิบัติด้วย ต้องใหผ้ ้อู ื่นแนะนา หมายเหตุ ค่าน้าหนัก 5 คะแนน (คะแนนรวม 80 หาร 4 จะได้ 20) เกณฑก์ ารประเมนิ คุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ ดีมาก 16-20 ดี พอใช้ 11-15 ปรบั ปรงุ 6-10 1-5 เกณฑก์ ารตัดสิน : ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ร้อยละ ๖๐ ขึ้นไป (ตอ้ งไดร้ ะดบั พอใชข้ ึน้ ไป)
94 คู่มือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แบบประเมนิ การจับใจความสาคญั จากการฟงั และดู คาช้ีแจง ให้ครูเขียนคะแนนการจับใจความจากเรอื่ งทฟี่ ัง ลงในชอ่ งประเด็นการประเมนิ ตามที่กาหนดไว้ ลาดบั ชอื่ -สกลุ ความเ ้ขาใจ รวม คดิ เปน็ สรุป ที่ (๔ คะแนน) คะแนน รอ้ ยละ ผ่าน ไมผ่ ่าน การ ัจบใจความ (๒๐) (๔ คะแนน) การรู้ความหมาย (๔ คะแนน) การปฏิบัติตามคาสั่ง (๔ คะแนน) มารยาทในการฟัง การดู (๔ คะแนน) ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรุง รวม (คน) คิดเปน็ รอ้ ยละ ผลการประเมนิ ดมี าก ..........คน คดิ เปน็ ร้อยละ............... ดี ........คน คิดเป็นร้อยละ................ พอใช้ ..........คน คิดเป็นรอ้ ยละ............... ปรับปรงุ ........คน คิดเปน็ รอ้ ยละ................. สรปุ ผลการประเมนิ รายชน้ั เรียน นักเรยี นผ่านเกณฑ์การประเมนิ จานวน......................... คน คดิ เป็นรอ้ ยละ......................... นกั เรยี นไม่ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ จานวน......................... คน คิดเป็นรอ้ ยละ........................ ลงชื่อ.................................................ผปู้ ระเมิน (..............................................) ........../..................../..........
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๑ เรื่องสอื่ สารคล่องตอ้ งร้วู ิธี 95 10. บันทกึ ผลหลังสอน ผลการจดั การเรยี นการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสาเร็จ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปัญหาและอปุ สรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ้ จากดั การใช้แผนการจดั การเรียนรู้ และข้อเสนอแนะ/แนวทางการปรับปรงุ แกไ้ ข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื ......................................................ผสู้ อน (.......................................................) วนั ท่ี .......... เดือน ..................... พ.ศ. ............. 11. ความคิดเหน็ /ข้อเสนอแนะของผู้บริหารหรือผู้ทไี่ ดร้ ับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ ...................................................... ผ้ตู รวจ (.......................................................) วนั ที่ .......... เดอื น ..................... พ.ศ. .............
96 คู่มือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ใบความรูท้ ่ี 6 เรอ่ื ง การจับใจความสาคัญจากการฟังและดู หน่วยการเรียนร้ทู ่ี ๑ เรื่อง สื่อสารคลอ่ งตอ้ งร้วู ธิ ี แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 เร่ือง การจับใจความสาคัญจากการฟงั และดู รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๕ การจบั ใจความสาคัญจากการฟังและดู การจับใจความสาคัญจากการฟังและดู เปน็ การจับใจความสาคัญหรือข้อคิด หรอื ความคิดหลักของ เรื่องที่ฟังและดู โดยใจความสาคัญนน้ั จะเป็นสิ่งที่ครอบคลมุ เรอื่ งราวทั้งหมดทฟ่ี ังและดู ใจความสาคญั หมายถงึ ใจความทีส่ าคัญที่สดุ หรอื เรยี กวา่ เป็นหัวใจหลกั ของเรือ่ งน้นั ทั้งหมด เช่น - การฟงั และดคู รูเล่านทิ าน : ในนิทาน 1 เรอ่ื งจะมีใจความสาคัญหรอื ความคิดหลักของเรือ่ ง อาจ เป็นขอ้ ความหรอื ประโยคทคี่ รอบคลมุ เน้อื หาทั้งหมดของเรอ่ื ง หรอื อาจเปน็ ขอ้ คดิ ของเร่ือง - การฟงั และดขู า่ ว/เหตกุ ารณ์ในชวี ิตประจาวัน : ในแตล่ ะวันเราจะไดฟ้ ังและดูขา่ วหรอื เหตกุ ารณ์ ตา่ ง ๆ ในชวี ิตประจาวันซึ่งทาให้เราได้รู้และเป็นประสบการณ์นนั้ ในเรื่องทไ่ี ด้ฟังและดู มกั จะมคี วามคิดหลัก หรือท่ีเรยี กว่า “ประเด็นหลัก” ของข่าว/เหตุการณน์ น้ั ๆ ซ่งึ จะทาใหเ้ ราเข้าใจภาพรวมไดโ้ ดยงา่ ย หลกั การจับใจความสาคญั จากการฟังและดู ๑. ต้งั จดุ มงุ่ หมายในการฟงั และดูให้ชัดเจน ๒. ฟังและดเู ร่ืองราวอย่างคร่าว ๆ พอเขา้ ใจ และเก็บประเด็นที่สาคญั ๆ ของเรอื่ ง ๓. เมอื่ ฟังและดูจบให้ตงั้ คาถามตนเองว่าเรอ่ื งทอ่ี ่านมี “ใคร ทาอะไร ท่ไี หน เม่อื ไร อยา่ งไร” ๔. นาสิ่งทีส่ รปุ ไดม้ าเรยี บเรยี งใจความสาคัญใหม่ดว้ ยสานวนของตนเอง เพอ่ื ใหเ้ กิดความสละสลวย จดุ มุ่งหมายของการสรปุ ความจากการฟงั และดู การจับใจความสาคัญจากเรื่องที่ฟังและดู แล้วนามาเรียบเรียงใหม่อย่างส้ัน ๆ เพ่ือให้รู้ว่าเป็นเรอ่ื ง อะไร โดยมี “ใคร ทาอะไร มใี ครทาอะไร ท่ีไหน เมอื่ ไร อยา่ งไร” จุดมุ่งหมายของการสรปุ ความจากการฟังและ ดูมดี งั นี้ ๑. เพ่ือการนาไปใช้ เช่น เพื่อข้อมูลท่ีได้มาเขียนเรียงความ เพ่ือช่วยทบทวนความรู้ ความคิด และ ความจา เพือ่ นาใจความสาคญั ไปใช้ในการติดต่อส่ือสาร ช่วยให้การฟังและการดไู ด้ผลดียง่ิ ข้ึน ๒. เพ่ือความเพลิดเพลิน ได้แก่ การรับสารเพื่อความสนุกสนาน ผ่อนคลายความตึงเครียด ไม่เน้น ความสาคัญของเนือ้ หาสาระ ไมจ่ าเปน็ ต้องมีสมาธมิ ากนกั ในการรบั สาร ๓. เพ่ือความจรรโลงใจ ได้แก่ การรับสารทีก่ ่อใหเ้ กดิ สติปัญญาหรือช่วยยกระดับจิตใจให้สูงขึ้น ผู้รับ สารตอ้ งมีวจิ ารณญาณทจ่ี ะเชือ่ หรือปฏบิ ตั ใิ นสิง่ ทีถ่ ูกต้อง ๔. เพอื่ ประเมินผลและวจิ ารณ์ ได้แก่ การรบั สารท่ีต้องอาศยั ความรู้อยา่ งละเอยี ด ถูกต้องในเรอ่ื งท่จี ะ ประเมินหรอื วิจารณ์ นอกจากน้ัน ตอ้ งมคี วามเป็นธรรม ไมม่ ีอคตติ ่อผู้ส่งสารหรือตวั สาร
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๑ เรอ่ื งสอื่ สารคลอ่ งตอ้ งรวู้ ธิ ี 97 กระบวนการฟังและการดูมี ๖ ขัน้ ตอน ดงั น้ี ๑. ขน้ั ได้ยนิ หรอื เหน็ เปน็ ข้ันตน้ ของการรบั สาร เมอื่ มีคลน่ื เสียงมากกระทบกบั โสตประสาทหรือได้เห็น ภาพทปี่ รากฏอยูใ่ นสายตา ๒. ขน้ั พิจารณาแยกแยะเสียงท่ไี ด้ยนิ หรือภาพท่ีเหน็ ว่าเป็นเสยี งอะไรหรอื ภาพอะไร คน สัตว์ สิ่งของ หรือปรากฏการณท์ างธรรมชาติ ๓. ขนั้ ยอมรบั เปน็ ข้นั ตอนทต่ี อ่ จากการพิจารณาแล้ว ผู้ฟงั หรือผ้ดู ูอาจยอมรบั หรอื ปฏิเสธวา่ ขอ้ ความท่ี ได้ยนิ หรอื ภาพทเี่ ห็น สื่อความหมายได้หรือไม่ ๔. ขั้นตคี วาม เป็นขั้นทผี่ ูฟ้ ังหรอื ผู้ดูแปลความหมายหรอื ตีความหมายของสิง่ ที่ได้ยนิ หรือไดเ้ หน็ ใหต้ รง กบั จุดประสงค์ของผ้สู ง่ สารท่ีต้องการสื่อถึงผ้รู บั สาร เนือ่ งจากสารท่สี ง่ มาอยู่ในรปู ของความหมายโดยนยั ๕. ขน้ั เข้าใจ เป็นขั้นที่ผ้ฟู งั หรอื ผูด้ ทู าความเข้าใจกบั ข้อความที่ได้ยินหรือภาพท่ีได้เห็น ๖. ข้นั นาไปใช้ เป็นขั้นท่ีพจิ ารณาจนเขา้ ใจ อย่างถอ่ งแทแ้ ล้ว ผฟู้ งั และผูด้ กู จ็ ะมีปฏิกิรยิ าตอบสนอง หลกั การฟังทด่ี ี ๑. ฟงั ให้ตรงจดุ ประสงค์ คอื กาหนดจดุ ประสงค์ในการฟงั เชน่ ฟงั เพอื่ เอาความรู้ ฟังเพือ่ สรปุ ความรู้ ๒. ฟงั ด้วยความพร้อม คอื ตอ้ งมคี วามพรอ้ มทงั้ ทางรา่ งกาย จติ ใจ และสตปิ ัญญา ๓. ฟงั อย่างมสี มาธิ คอื มคี วามตง้ั ใจ จดจอ่ อยู่กับเรือ่ งท่ฟี งั หรือดู ไมฟ่ ุ้งซ่านคิดถึงเร่ืองอ่ืน ๔. ฟงั ด้วยความกระตอื รือร้น คอื มีความสนใจ เหน็ ประโยชนห์ รอื คณุ คา่ ของเร่ืองที่ฟัง ๕. ฟังโดยไม่มีอคติ คอื ไมม่ ีความลาเอียง ซง่ึ ความลาเอียงเกิดจากความรัก ความโกรธ ๖. ฟังโดยใช้วิจารณญาณ คอื นาสิ่งท่ฟี งั มาประเมินว่ามีประโยชนห์ รอื น่าเชอ่ื ถอื มากน้อยเพียงใด มารยาทในการฟงั และดู ๑. ฟงั และดูด้วยความสงบ เพราะจะชว่ ยให้มสี มาธิมากขึน้ ๒. ฟงั และดูดว้ ยความตงั้ ใจ และจดบนั ทกึ ประเด็นสาคัญ ๓. ปรบมือแสดงอาการ เมอ่ื ประทบั ใจ ๔. มองหนา้ และสบตาของผูพ้ ดู ๕. เม่ือมขี ้อสงสัย ควรยกมือถามหลังผ้พู ดู เปดิ โอกาสให้ถาม ไมค่ วรถามแทรกขณะทผ่ี ้พู ูดกาลังพดู อยู่ ๖. ไม่ส่งเสยี งดงั รบกวนผอู้ ่ืนขณะฟงั ๗. ไมค่ วรแสดงท่าทาง สหี นา้ เมื่อไมพ่ อใจผู้พดู ๘. ตั้งใจฟงั และดูเรอื่ งราว ตงั้ แต่ตน้ จนจบ ไม่ควรลกุ เดินหนอี อกจากท่ปี ระชมุ ๙. ไม่ควรแสดงกริ ยิ าที่ไมเ่ หมาะสม เช่น โหร่ ้อง หวั เราะเสยี งดงั พูดตะโกนถาม หรือนั่งกระดกิ เท้า ๑๐. ไมค่ วรเดินเขา้ เดนิ ออกขณะทผี่ ู้พูดกาลงั พูด หากมคี วามจาเป็นควรทาความเคารพกอ่ น
98 คมู่ อื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ใบงานท่ี 6 เรื่อง การตงั้ คาถาม ตอบคาถาม และสรปุ ใจความสาคญั จากเร่ืองทฟี่ งั และดู หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ ๑ เร่ือง สอ่ื สารคลอ่ งตอ้ งร้วู ิธี แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 6 เรอื่ ง การจบั ใจความสาคญั จากการฟงั และดู รายวชิ า ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๕ คาชี้แจง ให้นักเรียนฟังและดนู ิทานท่ีครูกาหนด จากน้นั ตั้งถามและตอบคาถาม พรอ้ มเขียนสรปุ ใจความสาคญั นทิ านเรอื่ ง..................................................................... คาถาม คาตอบ ..................................................................... ...................................................................... ................................................................... ...................................................................... ..................................................................... ...................................................................... ..................................................................... ...................................................................... ..................................................................... ...................................................................... ..................................................................... ...................................................................... ..................................................................... ...................................................................... ..................................................................... ...................................................................... ..................................................................... ...................................................................... ..................................................................... ...................................................................... สรปุ ใจความสาคญั .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ชือ่ ....................................................นามสกลุ ................................................ชนั้ .................เลขท.่ี ..............
หน่วยการเรียนรูท้ ี่ ๑ เร่ืองสอื่ สารคล่องต้องรู้วธิ ี 99 แนวคาตอบใบงานที่ 6 เรื่อง การตั้งคาถาม ตอบคาถาม และสรุปใจความสาคญั จากเรอ่ื งที่ฟังและดู หน่วยการเรียนร้ทู ่ี ๑ เรื่อง ส่อื สารคล่องตอ้ งรวู้ ิธี แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 6 เร่ือง การจับใจความสาคญั จากการฟังและดู รายวชิ า ภาษาไทย รหัสวชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๕ นทิ านเรอื่ ง กอ่ งข้าวน้อยฆ่าแม่ คาถาม คาตอบ 1. นิทานเรื่อง ก่องข้าวน้อยฆ่าแม่ เป็นนิทาน เปน็ นิทานพนื้ บ้านภาคอสี าน ทราบได้จากภาษาของชื่อ พนื้ บา้ นภาคใด ทราบไดอ้ ย่างไร เร่อื ง ฟงั จากเสยี งดนตรี วฒั นธรรม และเนอ้ื หาท่ีระบุว่า เกิดขน้ึ ในจงั หวัดยโสธร ซ่ึงอยใู่ นภาคอีสาน 2. ครอบครวั นม้ี ีอาชพี อะไร เพราะอะไร มอี าชพี ทานา เพราะพ้ืนทภี่ าคอีสานส่วนใหญ่ ชาวบ้าน ประกอบอาชีพเกษตรกรรม และในเนื้อเร่ืองได้ระบุว่า ทองใช้คันไถและควายไถนา 3. เพราะเหตุใด แม่ถงึ นากอ่ งขา้ วมาส่งทองล่าช้า เพราะแมข่ องทองไปทาบญุ ตักบาตรท่ีวดั จงึ ทาให้มาช้า 4. เพราะเหตุใดทองจึงโกรธและโมโหแม่ เพราะความหิว และโมโหท่ีแมม่ าส่งข้าวล่าชา้ 5. หลังจากทองกินข้าวจนอิ่มแล้ว แต่ทาไมข้าว เพราะแม่อัดขา้ วจนแน่นก่องข้าว ทาให้เหลือขา้ วอยู่ใน ในกอ่ งถึงยงั ไม่หมด กอ่ งข้าวอกี มาก 6. ภายหลงั ทองปลงศพแม่แล้ว ทองไดส้ รา้ งอะไร ทองได้สรา้ งธาตุเจดีย์บรรจุอฐั แิ มไ่ ว้ ต่อมาชาวบ้านแถว ไวเ้ ปน็ อนสุ รณ์เตือนใจ น้ันไดเ้ รยี กขานชื่อว่า “ธาตุก่องข้าวน้อยฆ่าแม่” 7. การกระทาของทองเป็นบทเรียนอย่างไรแก่ การใช้อารมณ์และความโกรธเป็นที่ต้ังในการบันดาล สงั คมไทย โทสะ ทาร้ายร่างกายแม่ซ่ึงเป็นผู้ให้กาเนิด ทาให้แม่ถึง แก่ความตาย เป็นบาปมหันต์อย่างย่ิง สงั คมไทยไมค่ วร เอาเป็นเย่ียงอย่าง และเข้าใจซงึ่ กนั และกนั สรปุ ใจความสาคัญ ลูกฆา่ แม่ ด้วยความโมโหและความหิวจดั ตอ่ มาลูกสานกึ ได้ จึงสรา้ งธาตเุ จดยี ์บรรจอุ ัฐิแมไ่ ว้ ชาวบ้านเรียก ชื่อธาตเุ จดียน์ น้ั ว่า “ธาตกุ ่องขา้ วนอ้ ยฆ่าแม่”
๑๐๐ คมู่ ือครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 7 เรื่อง การพดู แสดงความรูแ้ ละความคิดเห็นจากเรอ่ื งท่ีฟังและดู (1) หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 เร่อื ง สอื่ สารคล่องต้องรู้วิธี เวลา 1 ช่วั โมง กลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย รายวิชาภาษาไทย ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 5 1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ช้วี ดั สาระท่ี 3 การฟงั การดู และการพูด มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดอู ย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด และความรู้สึกใน โอกาสต่าง ๆ อย่างมวี จิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์ ตวั ช้ีวัด ป.๕/๑ พดู แสดงความรู้ ความคิดเหน็ และความรสู้ ึกจากเรอื่ งท่ีฟงั และดู ป.๕/๕ มมี ารยาทในการฟงั การดู และการพดู ๒. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด การพูดแสดงความรู้ ความคิดเห็น และความรูส้ ึกจากเรอื่ งท่ีฟังและดู เป็นการถ่ายทอดความเข้าใจ จากสารที่ได้รับ โดยการพูดส่งสารอย่างมีลาดับเหตุการณ์ เข้าใจง่าย ด้วยการใช้ภาษาท่ีสละสลวย ถูกต้อง ชดั เจนอยา่ งมีวจิ ารณญาณและสร้างสรรค์ สรา้ งความเข้าใจที่ดีกับผรู้ ับสาร ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้ ความเขา้ ใจ (K) บอกหลักการพูดแสดงความรู้และความคิดเหน็ จากเร่อื งท่ฟี งั และดไู ด้ 3.2 ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) พดู แสดงความรู้และความคดิ เห็นจากเรอื่ งทฟี่ งั และดไู ด้ 3.3 ด้านคณุ ลกั ษณะ เจตคติ คา่ นิยม (A) มเี จคติทด่ี ตี อ่ การพดู ๔. สาระการเรยี นรู้ การพูดแสดงความรู้และความคิดเห็นจากเร่อื งทฟ่ี ังและดู ๕. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน 5.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร 5.2 ความสามารถในการคิด 5.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ ๖. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 6.1 มีวินัย 6.2 ม่งุ มนั่ ในการทางาน 7. กจิ กรรมการเรยี นรู้
หน่วยการเรียนรูท้ ่ี ๑ เรื่องสอื่ สารคล่องตอ้ งรู้วธิ ี การจดั กจิ กรรมการเรียนร รายวิชา ภาษาไทย หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 เร่ือ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 7 เรือ่ ง การพูดแสดงความรู้และค ลาดบั ขอบเขตเน้อื หา/ ข้นั ตอนการจัด เวลา แ ท่ี จุดประสงค์การเรยี นรู้ การเรียนรู้ ทใี่ ช้ กจิ กรรมครู 1 ขอบเขตเนือ้ หา ขน้ั นา 5 1. ครูเปิดคลิปวิดโี อก 1. การพูดแสดง นาที คาประพนั ธ์เรอื่ ง “การ ความรูแ้ ละ ภาพประกอบ ใหน้ กั เรยี ความคดิ เหน็ “ถงึ บางพดู พดู ดีเป 2. หลักการพดู แสดง ความรแู้ ละ มีคนรักรสถอ้ ยอรอ่ ยจ ความคิดเห็น แม้นพดู ชั่วตัวตายทาล 3. มารยาทในการพูด จะชอบผดิ ในมนุษยเ์ พรา การดู และการฟงั นริ าศภูเขาทอง : 2. ครถู ามคาถาม ดังน - จากคาประพนั ธข์ า้ ง นกั เรียนคดิ วา่ สอนเกย่ี เรือ่ งใด - นักเรียนคดิ วา่ การพ ต้องคานึงถงึ สิ่งใดบ้าง
๑๐๑ รู้ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 5 อง สือ่ สารคลอ่ งตอ้ งร้วู ธิ ี จานวน 10 ชว่ั โมง ความคิดเห็นจากเรอ่ื งที่ฟังและดู (1) จานวน 1 ชัว่ โมง แนวการจัดการเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ การประเมิน กจิ กรรมนกั เรยี น การเรยี นรู้ การอ่าน 1. นกั เรยี นฟงั และดูคลิปวดิ ีโอ 1. คลปิ วิดโี อ รพดู ” ทีม่ ี การอา่ นคาประพนั ธ์เรื่อง การอา่ นคา ยนฟงั ดงั น้ี “การพูด” ของท่านสุนทรภู่ ประพนั ธเ์ รือ่ ง “การพูด” ในสื่อ แลว้ แสดงความคิดเหน็ และตอบ PPT ปน็ ศรศี ักด์ิ คาถาม จติ ลายมติ ร ราะพูดจา” สนุ ทรภู่ น้ี 2. นกั เรียนตอบคาถาม เช่น 2. คาถามอยู่ใน สงั เกตการตอบ งต้น - สอนเรื่อง การพูดจา ส่ือ PPT คาถามของ ยวกบั นกั เรียน พดู ท่ดี ี - คานงึ ถงึ คาพดู สหี นา้ ทา่ ทาง ง และมารยาทในการพูด
๑๐๒ คมู่ อื ลาดบั ขอบเขตเนือ้ หา/ ขั้นตอนการจดั เวลา แ ที่ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ การเรียนรู้ ทีใ่ ช้ กจิ กรรมครู 3. ครูพดู เชอ่ื มโยงเขา้ ส 2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ขัน้ สอน ๔. ครูแจง้ จุดประสงค 1. บอกหลักการพดู การเรียนรูแ้ ละเชื่อมโย แสดงความร้แู ละความ บทเรียน คิดเหน็ จากเรอ่ื งทฟ่ี งั 25 1. ครูตั้งคาถามเพ่อื ม และดูได้ นาที เนื้อหา ครู : นักเรียนเคยพูดแ ความรแู้ ละความคิดเห หรอื ไม่ / ถ้าเคยพูด พ อะไรบ้าง / แล้วการพ ความรู้ ความคดิ เห็นค 2. ครูอธิบายเน้อื หาเพ ความเขา้ ใจ ดังนี้ - ความหมายของการ แสดงความรู้และความ จากการฟังและดู - หลกั การพูดแสดงควา ความคดิ เห็นจากการฟ
อครูและแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจัดการเรียนรู้ สอื่ การเรยี นรู้ การประเมนิ กจิ กรรมนักเรียน การเรยี นรู้ ส่บู ทเรยี น 3. นกั เรยี นเข้าสบู่ ทเรยี น ค์ ๔. นกั เรียนทาความเขา้ ใจ 1. คาถามอย่ใู น สังเกตการตอบ ยงเขา้ สู่ จดุ ประสงคแ์ ละเข้าส่บู ทเรียน สื่อ PPT คาถามของ นักเรยี น ด้วยกัน มุง่ เข้าสู่ 1. นกั เรียนตอบคาถาม - นกั เรยี น : เคย/ไมเ่ คย แสดง - นกั เรยี นอาจตอบได้อยา่ ง ห็น หลากหลาย พูดเรอ่ื ง พดู แสดง คอื อะไร พอ่ื ขยาย 2. นกั เรียนสนทนา อภปิ ราย 2. เนอ้ื หาอยใู่ น สนทนาเนอ้ื หาไปพร้อมกับครู สื่อ PPT รพดู มคิดเหน็ ามรู้และ ฟงั และดู
หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑ เร่ืองสอ่ื สารคล่องตอ้ งรู้วิธี ลาดบั ขอบเขตเนอ้ื หา/ ข้นั ตอนการจัด เวลา แ ท่ี จดุ ประสงค์การเรียนรู้ การเรยี นรู้ ทใ่ี ช้ กิจกรรมครู - มารยาทในการพูด 3. 2. พดู แสดงความรู้ ขั้นปฏบิ ัติ 3. ครูถามย้า เพือ่ สรุป และความคดิ เห็นจาก หลกั การพดู เรือ่ งทฟ่ี งั และดู ครู : ถา้ ต้องการพูดแส 3. มเี จคติทด่ี ตี ่อ ความรแู้ ละความคดิ เห การพดู การฟังและดูใหอ้ อกม นกั เรียนจะตอ้ งทาอย 4. ครูอธบิ ายเพม่ิ เติม ขอ้ ควรคานึงในการพูด ความรแู้ ละความคิดเห การฟังและดู 15 ๕. ครทู ดลองสมุ่ นักเร นาที ออกมาพดู จากการฟัง ๑ เรือ่ ง ๖. ครชู ้ีแจงการทาใบง ให้นกั เรียนทาใบงานท (ครขู ึน้ กจิ กรรมในจอส
แนวการจดั การเรยี นรู้ สอื่ การเรยี นรู้ ๑๐๓ กิจกรรมนักเรยี น การประเมนิ การเรยี นรู้ ป 3. นักเรียนแตล่ ะกล่มุ ตอบ 3. คาถามอยใู่ น 1. ประเมิน คาถามทีละกลมุ่ เช่น สื่อ PPT การตอบคาถาม 4. เนือ้ หาอยใู่ น ของนักเรยี น สดง นักเรียน : พดู ในเชิงสรา้ งสรรค์ สอ่ื PPT ห็นจาก มีมารยาทในการพดู พูดในเชิง มาดี เสนอแนะ เพื่อการพัฒนา ยา่ งไร มเกยี่ วกบั 4. นักเรยี นร่วมกันสนทนา ดแสดง อภิปรายไปพร้อม ๆ กบั ครู ห็นจาก รียน นักเรยี นรว่ มสงั เกตเพอ่ื นท่ถี กู 1. วีดิทัศน์การ 2. ประเมิน งและดู ส่มุ ออกมาพูดจากการฟงั และดู ฟังและดู การสรปุ หลกั การพดู แสดง สือ่ ที่ครจู ัดเตรยี มไว้ ความร้แู ละ ความคดิ เหน็ จาก งานและ ๖. นักเรียนทาใบงานท่ี 7 2. ใบงานท่ี 7 เรอื่ งท่ีฟงั และดู ท่ี 7 3. สังเกต พฤตกิ รรมของ สไลด์ : (นักเรยี นตน้ ทาง/ปลายทาง 3. สื่อ PPT
๑๐๔ คู่มอื ลาดับ ขอบเขตเนอ้ื หา/ ขั้นตอนการจดั เวลา แ ท่ี จดุ ประสงค์การเรียนรู้ การเรียนรู้ ท่ใี ช้ กจิ กรรมครู นกั เรยี นตอบคาถามจ การฟงั และดู) ๗. ครูนาผลงานของน ท่ที าเสรจ็ แล้ว มาให้ต ปลายทางดูพรอ้ มกัน 4. ข้ันสรปุ 5 1. ครูข้ึนสรปุ ความรู้เ นาที แผนผงั ความคดิ ในสอื่ และมอบหมายใหน้ ักเ ศึกษาค้นคว้าเพ่ิมเตมิ มารยาทในการพดู แส ความร้แู ละความคิดเห เร่ืองทฟ่ี งั และดู
อครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรยี นรู้ สอื่ การเรียนรู้ การประเมนิ กจิ กรรมนักเรียน การเรียนรู้ จาก ทากิจกรรมพร้อมกัน) นักเรียน นกั เรยี น ๗. นักเรยี นตน้ ทาง/ปลายทาง ตน้ ทาง/ ดูผลงานของเพ่ือน แล้ว ประเมนิ ความถกู ตอ้ ง เป็น 1. นกั เรยี นสรปุ ความรู้ใน สื่อ PPT อ PPT บทเรยี นรว่ มกบั ครอู กี ครง้ั ในสื่อ เรยี นไป PPT และไปศึกษาคน้ ควา้ มเกย่ี วกบั เพมิ่ เตมิ เกยี่ วกบั มารยาทใน สดง การพดู แสดงความรู้และ หน็ จาก ความคิดเหน็ จากเร่ืองทฟ่ี งั และ ดู
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๑ เรื่องสอื่ สารคล่องตอ้ งรวู้ ธิ ี 105 8. สอ่ื การเรยี นรู้/แหลง่ เรยี นรู้ 1. คลปิ วิดีโอการอา่ นคาประพันธ์ เรื่อง การพูด คดั มาจากนริ าศภเู ขาทอง : สุนทรภู่ 2. ใบความรู้ที่ 7 เรอ่ื ง การพูดแสดงความร้แู ละความคิดเหน็ จากเรื่องที่ฟังและดู 3. ใบงานท่ี 7 เรื่อง การสรปุ หลักการพูดแสดงความรแู้ ละความคิดเหน็ จากเรอ่ื งทฟี่ งั และดู 4. ส่ือ PPT เรือ่ ง การพูดแสดงความรู้และความคิดเห็นจากเร่อื งทฟี่ ังและดู 9. การประเมินผลรวบยอด ชิ้นงานหรอื ภาระงาน - ใบงานท่ี 7 เรื่อง การสรปุ หลกั การพูดแสดงความรู้และความคดิ เหน็ จากเร่อื งท่ีฟังและดู สิง่ ทต่ี ้องการวัด / ประเมนิ วิธกี าร เคร่อื งมอื ที่ใช้ เกณฑ์ - คาถาม รอ้ ยละ ๖๐ ดา้ นความรู้ ความเขา้ ใจ (K) ขึ้นไป - บอกหลกั การพดู แสดงความรู้ - การพจิ ารณาการตอบ และความคดิ เห็นจากเรอื่ งท่ฟี งั คาถามของนกั เรยี น และดไู ด้ ดา้ นทักษะและกระบวนการ (P) - ใบงานที่ 7 - สรปุ หลักการพูดแสดงความรู้ - ตรวจใบงานท่ี 7 ร้อยละ ๖๐ และความคดิ เห็นจากเรอื่ งทีฟ่ งั ขน้ึ ไป และดู ด้านคุณลกั ษณะ เจตคติ คา่ นิยม (A) - มีเจคตทิ ีด่ ีต่อการพดู - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม รอ้ ยละ ๖๐ ขึ้นไป คุณลักษณะอันพึงประสงค์ - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบประเมิคุณลกั ษณะ ระดับคุณภาพ 1. มวี ินัย นักเรียน อนั พงึ ประสงค์ ผ่าน 2. มงุ่ มัน่ ในการทางาน - สงั เกตพฤติกรรม สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน นกั เรยี น - แบบประเมินสมรรถนะ ระดบั คุณภาพ 1. ความสามารถในการส่อื สาร สาคัญของผเู้ รียน ผ่าน 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะ ชีวติ
106 ค่มู อื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) เกณฑ์ประเมนิ : การสรปุ หลกั การพูดแสดงความรู้และความคิดเห็นจากเร่ืองท่ฟี งั และดู ประเด็น ระดับคุณภาพ การประเมนิ ๑. ความถูกต้อง ๔ (ดมี าก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรงุ ) ของหลกั การ สามารถตอบ สามารถตอบคาถาม สามารถตอบคาถาม สามารถตอบ คาถามนอ้ ยกว่า 3 ไดถ้ ูกต้องครบทงั้ ได้ถูกตอ้ งเพยี ง คาถามได้ถูกต้อง ประเดน็ 5 ประเด็น 4 ประเดน็ เพยี ง 3 ประเดน็ ๒. ความหมาย เขยี นสรปุ เขยี นสรปุ เขยี นสรปุ ได้เพียง เขียนสรปุ ถกู ตอ้ ง ความหมายได้ ความหมายไดเ้ ขา้ ใจ เลก็ นอ้ ย ความหมาย ๓. ความเรียบร้อย ถกู ตอ้ งครอบคลุม แตไ่ ม่ครอบคลมุ ไมถ่ ูกต้อง ของใบงาน เข้าใจ ชัดเจน ทง้ั หมด ใบงานเรยี บรอ้ ย สะอาด มรี อยลบ ใบงานมรี อยลบ ใบงานมรี อยลบ ใบงานมรี อยลบ เพียง 2 - 3 จดุ ระหว่าง 4 - 5 จุด ระหวา่ ง 6 - 7 จุด ตงั้ แต่ 8 จุดข้นึ ไป ๔. ความสวยงาม ตกแตง่ ไดส้ วยงาม ตกแต่งไดส้ วยงาม ตกแต่งเสรจ็ ไมม่ กี ารตกแตง่ ดูสบายตา มี ดสู บายตา แต่ยังไม่สวยงาม ส่งงานช้ากวา่ เวลา ความคิดสรา้ งสรรค์ สง่ งานช้ากว่าเวลา เทา่ ทค่ี วร 15 นาที 5 นาที ส่งงานช้ากวา่ เวลา ๕. ความตรงตอ่ เวลา ส่งงานตรงเวลา 10 นาที เกณฑ์การประเมินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ 16-20 ดมี าก 11-15 ดี 6-10 พอใช้ 1-5 ปรับปรงุ เกณฑ์การตดั สิน : ผ่านเกณฑก์ ารประเมินรอ้ ยละ ๖๐ ข้ึนไป (ตอ้ งไดร้ ะดบั พอใชข้ น้ึ ไป)
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ เรอ่ื งส่อื สารคล่องต้องรวู้ ิธี 107 แบบประเมินการสรปุ หลกั การพดู แสดงความรแู้ ละความคดิ เหน็ จากเรอ่ื งทฟี่ งั และดู คาํ ชแี้ จง ใหค้ รเู ขียนคะแนนท่ไี ดจ้ ากการประเมินลงในช่องประเด็นการประเมินตามที่กาํ หนดไว้ ความ ูถก ้ตองของหลักการ สรปุ (4 คะแนน) ลําดับ ชือ่ -สกลุ ความหมาย ูถก ้ตอง รวม คดิ เป็น ผา่ น ไม่ผา่ น ที่ (4 คะแนน) คะแนน ร้อยละ ความเรียบ ้รอยของใบงาน (๒๐) (4 คะแนน) ความสวยงาม (4 คะแนน) ความตรง ่ตอเวลา (4 คะแนน) ดมี าก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ รวม (คน) คิดเปน็ รอ้ ยละ ผลการประเมนิ ดีมาก ..........คน คิดเป็นรอ้ ยละ.............. ดี ..........คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ................ พอใช้ ..........คน คิดเป็นร้อยละ.............. ปรับปรุง .........คน คดิ เปน็ ร้อยละ................. สรปุ ผลการประเมนิ รายชน้ั เรยี น นกั เรียนผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ จาํ นวน......................... คน คิดเป็นร้อยละ....................... นกั เรียนไมผ่ า่ นเกณฑก์ ารประเมนิ จํานวน......................... คน คดิ เป็นรอ้ ยละ........................ ลงชอ่ื .................................................ผปู้ ระเมนิ (..............................................) ........../..................../..........
108 ค่มู อื ครูและแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) 10. บันทึกผลหลังสอน ผลการจดั การเรียนการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสาเรจ็ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปัญหาและอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ้ จากัดการใช้แผนการจดั การเรยี นรู้ และขอ้ เสนอแนะ/แนวทางการปรบั ปรงุ แก้ไข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่อื ......................................................ผสู้ อน (.......................................................) วันที่ .......... เดอื น ..................... พ.ศ. ............. 11. ความคิดเหน็ /ข้อเสนอแนะของผู้บริหารหรอื ผู้ทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื ...................................................... ผูต้ รวจ (.......................................................) วนั ที่ .......... เดือน ..................... พ.ศ. .............
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๑ เร่อื งสอื่ สารคลอ่ งตอ้ งรวู้ ิธี 109 ใบความร้ทู ่ี 7 เรอ่ื ง การพูดแสดงความร้แู ละความคิดเหน็ จากเรอื่ งทฟี่ งั และดู หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ ๑ เร่ือง สอื่ สารคลอ่ งตอ้ งรู้วิธี แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 7 เร่อื ง การพูดแสดงความรูแ้ ละความคิดเห็นจากเรื่องทฟ่ี งั และดู รายวชิ า ภาษาไทย รหัสวชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๕ การพูดแสดงความรู้ การพูดแสดงความรู้ เป็นการถ่ายทอดความรทู้ ่ีมอี ย่ใู หผ้ อู้ ่ืนไดร้ ับรู้โดยการพูด ซึง่ สะท้อนจากความรู้ท่ี ได้พบเหน็ จากภาพ เหตุการณ์ สถานการณ์ตา่ ง ๆ สถานท่ี หรือสิ่งของต่าง ๆ ด้วยการพูดใหผ้ ู้อื่นฟัง การพูดแสดงความคดิ เหน็ การพูดแสดงความคิดเห็น เป็นการพูดขยายความจากเร่ืองใดเร่ืองหน่ึง โดยการพูดอธิบายหรือพูด แสดงความคดิ เหน็ เกีย่ วกับเร่ืองนน้ั ๆ อย่างมีหลักฐานหรอื เหตผุ ลประกอบ ดงั น้ัน การพูดแสดงความรู้และความคิดเห็น เป็นการพูดแสดงความร้แู ละความคิดเหน็ ต่อเร่ืองใด เร่ืองหนึ่ง ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ ผู้พูดจะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนท่ีจะพูดว่าถูกต้องหรือไม่ จากนั้นพดู ใหก้ ระจา่ ง ชัดเจน โดยใชเ้ หตผุ ลประกอบหรอื มีหลักฐานอ้างอิง หลกั การพูดแสดงความรู้สกึ และความคิดเหน็ 1. ศึกษาเรื่องทส่ี นใจจะพดู ใหเ้ ข้าใจ ชดั เจน แจ่มแจง้ 2. มีความรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกับเรือ่ งทีจ่ ะพูดเป็นอย่างดี 3. กล่าวถึงข้อมูลหรือข้อเท็จจริงก่อน (ภาคความรู้) หลังจากนั้นจึงกล่าวความคิดเห็น (ภาคความ คิดเหน็ ) โดยใชเ้ หตผุ ลหรอื หลักฐานประกอบ เพ่ือขยายความเข้าใจให้ชดั เจนยง่ิ ขนึ้ 4. พูดในเชงิ สรา้ งสรรค์ และมขี อ้ เสนอแนะ โดยไม่มีอคติหรือความลาเอยี ง 4. มมี ารยาทในการพดู พูดดว้ ยนา้ เสียงสุภาพ ไม่ใชถ้ ้อยคาภาษาที่รุนแรง 5. ควรเขยี นแบบร่างก่อนพูด แล้วตรวจสอบปรับปรุงสานวนภาษา และการเขียนสะกดคาให้ถกู ต้อง 6. พดู ด้วยความเป็นกัลยาณมิตร บุคลกิ ภาพต้องเหมาะสม น่าเช่ือถือ เพื่อให้ผ้ฟู ังเกิดความไว้ใจและ ยอมรบั ในตัวผูพ้ ดู 7. ไมพ่ ูดให้ร้าย และไม่พูดเสียดสผี ู้อืน่ ให้ได้รับความเสียหาย เพราะจะมีผลกระทบตามมาในภายหลัง 8. หลีกเลี่ยงการพดู แสดงความคิดเหน็ เรอื่ งสว่ นตัวของผ้อู ื่น ไมพ่ ูดจาสอ่ เสียด ทบั ถม เยาะเย้ยผู้อ่นื 9. พดู มีหางเสียง หรอื มคี าลงทา้ ยทสี่ ภุ าพ เป็นทางการ เช่น ครับ/คะ่ 10. พูดดว้ ยความปรารถนาดี จรงิ ใจ และบรสิ ทุ ธใิ์ จตอ่ ผ้อู ืน่
110 ค่มู อื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) มารยาทในการพูด ๑. พดู จาไพเราะ ๒. ไมแ่ ยง่ กันพดู ๓. พูดด้วยคาสุภาพไม่หยาบคาย ๔. พูดด้วยน้าเสียงที่ไพเราะนมุ่ นวล ๕. ไมพ่ ดู แทรกจงั หวะผอู้ ่นื ๖. พูดด้วยหนา้ ตายม้ิ แยม้ แจ่มใส ๗. ใช้ความดงั ของเสยี งให้พอเหมาะ ไมเ่ สยี งเบาหรอื ดงั เกินไป ๘. ไม่พูดนนิ ทาว่ารา้ ยผูอ้ ่นื ข้อควรคานึงในการพดู การพูดแสดงความรู้และความคิดเห็นจากเรอ่ื งที่ฟังและดู เราควรพิจารณาให้รอบคอบก่อนพูด เพื่อ ไม่ใหเ้ กดิ ความขดั แยง้ กับผู้อ่นื เพราะในเรื่องเดียวกนั แต่ละคนอาจมมี ุมมองและความคดิ เห็นท่ีแตกตา่ งกนั ได้
หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๑ เรื่องสอื่ สารคลอ่ งตอ้ งรู้วิธี 111 ใบงานที่ 7 เร่ือง การสรปุ หลักการพูดแสดงความรู้และความคิดเหน็ จากเรอ่ื งทฟี่ ังและดู หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ ๑ เรื่อง ส่อื สารคลอ่ งตอ้ งรู้วธิ ี แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 7 เรื่อง การพดู แสดงความร้แู ละความคดิ เห็นจากเรอื่ งที่ฟังและดู รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๕ คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรียนเขียนแผนผังความคิดหลักการพดู แสดงความรแู้ ละความคิดเห็นจากเร่อื งทฟ่ี ังและดู อยา่ งน้อย 5 ขอ้ ชือ่ ..........................................................นามสกลุ ...............................................ชน้ั ...............เลขที.่ .........
112 คมู่ ือครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) เฉลยใบงานที่ 7 เรอื่ ง การสรปุ หลกั การพดู แสดงความร้แู ละความคดิ เหน็ จากเรอื่ งทฟี่ งั และดู หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๑ เร่ือง สือ่ สารคล่องต้องรู้วธิ ี แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 7 เร่ือง การพูดแสดงความรแู้ ละความคิดเห็นจากเรื่องท่ีฟงั และดู รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๕ คาช้แี จง ให้นกั เรยี นเขยี นแผนผังความคิดหลักการพูดแสดงความรู้และความคิดเหน็ จากเร่ืองท่ฟี ังและดู อย่างน้อย 5 ข้อ ควรเขียน ศึกษาเรือ่ งท่ีสนใจจะพูดใหเ้ ข้าใจ กล่าวถงึ ขอ้ มลู หรอื แบบรา่ งก่อนพูด ชดั เจน แจม่ แจง้ มีความรู้ ความเขา้ ใจ ข้อเทจ็ จรงิ กอ่ น แลว้ ตรวจสอบ แล้วจึงกลา่ ว ปรับปรงุ สานวน เกยี่ วกบั เร่อื งทจี่ ะพดู เปน็ อยา่ งดี ความรสู้ ึกหรือความ ภาษาใหถ้ ูกต้อง หลักการพดู แสดงความรู้ คิดเห็น โดยใช้ และความคดิ เหน็ จากเรื่องท่ฟี งั และดู เหตผุ ลหรือ หลกั ฐานประกอบ มมี ารยาทในการ ควรพดู ในเชงิ พดู พูดดว้ ยภาษาท่ี สรา้ งสรรค์ และ สุภาพ ไม่ใช้ถอ้ ยคา มขี ้อเสนอแนะ รนุ แรง พดู ด้วยความเปน็ หลีกเลีย่ งการพดู แสดงความ กัลยาณมิตร บุคลกิ ภาพ คิดเหน็ เรื่องส่วนตวั ของผ้อู ื่น ตอ้ งเหมาะสม นา่ เชือ่ ถือ เพ่ือใหผ้ ้ฟู งั เกดิ ความไวใ้ จ ไมพ่ ดู จาสอ่ เสียด ทบั ถม และยอมรับในตัวผพู้ ดู เยาะเย้ยผูอ้ น่ื
หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ ๑ เร่ืองสอื่ สารคลอ่ งต้องรู้วิธี ๑๑๓ แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 8 เร่อื ง การพูดแสดงความรแู้ ละความคดิ เห็นจากเรอ่ื งที่ฟังและดู (2) หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 1 เรื่อง ส่อื สารคล่องตอ้ งรู้วธิ ี เวลา 1 ชวั่ โมง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย รายวิชาภาษาไทย ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 5 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชว้ี ดั สาระที่ 3 การฟงั การดู และการพดู มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟงั และดูอย่างมีวจิ ารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคิด และความรูส้ ึกใน โอกาสตา่ ง ๆ อยา่ งมีวิจารณญาณและสรา้ งสรรค์ ตวั ชวี้ ัด ป.๕/๑ พดู แสดงความรู้ ความคิดเหน็ และความรสู้ กึ จากเรอ่ื งทฟ่ี งั และดู ป.๕/๕ มมี ารยาทในการฟงั การดู และการพดู ๒. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด การพูดแสดงความรู้ ความคิดเห็น และความรู้สึกจากเรือ่ งท่ีฟังและดู เป็นการถ่ายทอดความเข้าใจ จากสารที่ได้รับ โดยการพูดส่งสารอย่างมีลาดับเหตุการณ์ เข้าใจง่าย ด้วยการใช้ภาษาที่สละสลวย ถูกต้อง ชดั เจนอยา่ งมีวจิ ารณญาณและสร้างสรรค์ สร้างความเข้าใจท่ีดกี บั ผู้รับสาร ๓. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 3.1 ด้านความรู้ ความเขา้ ใจ (K) บอกหลกั การพูดแสดงความรแู้ ละความคิดเห็นจากเรื่องทฟี่ งั และดไู ด้ 3.2 ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) พูดแสดงความรู้และความคดิ เหน็ จากเรื่องทีฟ่ ังและดูได้ 3.3 ด้านคณุ ลกั ษณะ เจตคติ คา่ นยิ ม (A) มีมารยาทในการฟงั การดู และการพูด ๔. สาระการเรยี นรู้ การพูดแสดงความรู้และความคิดเหน็ จากเรือ่ งทีฟ่ งั และดู ๕. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น 5.1 ความสามารถในการส่ือสาร 5.2 ความสามารถในการคดิ 5.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต ๖. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 6.1 มีวนิ ัย 6.2 ม่งุ มนั่ ในการทางาน 7. กิจกรรมการเรียนรู้
๑๑๔ คู่มอื การจัดกจิ กรรมการเรยี นร รายวิชา ภาษาไทย หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 เรอื่ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 8 เรื่อง การพดู แสดงความรแู้ ละค ลาดับ ขอบเขตเนื้อหา/ ข้นั ตอนการจัด เวลา แ ท่ี จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรียนรู้ ที่ใช้ กจิ กรรมคร 1 ขอบเขตเน้ือหา ข้นั นา 10 1. ครทู บทวนหลักการพ นาที ความรแู้ ละความคิดเห 1. การพูดแสดง การฟงั และดู ดว้ ยบทรอ้ ความรแู้ ละ ดงั นี้ ความคดิ เหน็ “หากจะพูดสิง่ ใดใคร 2. หลักการพูดแสดง เหน็ ถูกผดิ แกไ้ ขให้เหม ความรู้และ ใชส้ ติชน้ี าเป็นคาคม ความคดิ เหน็ คุมอารมณใ์ หด้ มี หี ลกั 3. มารยาทในการพดู การดูและการฟงั พูดแสดงความรู้ให้ถ ความคิดเห็นมุมมองตอ้ ง ตั้งใจฟงั และดูใหช้ านา มเี หตผุ ลและหลกั ฐานป ผแู้ ต่ง ครชู ลภักด 2. ครถู ามคาถาม ดังน - ถ้าตอ้ งการพูดแสดงค ความคดิ เห็นจากเรื่องท ควรเลอื กเรอื่ งทม่ี ีลกั ษณ
อครูและแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) รู้ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 5 อง สอ่ื สารคลอ่ งต้องรวู้ ิธี จานวน 10 ช่ัวโมง ความคิดเห็นจากเรื่องทีฟ่ ังและดู (2) จานวน 1 ชว่ั โมง แนวการจดั การเรียนรู้ ส่อื การเรยี นรู้ การประเมิน การเรยี นรู้ รู กจิ กรรมนักเรียน พูดแสดง 1. นักเรียนรว่ มกันทบทวน 1. บทร้อยกรอง ห็นจาก หลักการพดู แสดงความรูแ้ ละ สือ่ PPT อยกรอง ความคดิ เหน็ จากการฟงั และดู รค่ รวญคิด มาะสม กการ ถูกตอ้ ง องประสาน าญ ประกอบกนั ด์ิ คงกาเนิด นี้ 2. นกั เรียนตอบคาถาม เช่น 2. คาถามอยใู่ น 1. ประเมิน ความร้แู ละ - เลือกเรอื่ งทนี่ ่าสนใจ น่าติดตาม ส่ือ PPT การตอบคาถาม ทฟ่ี งั และดู - เลือกเรื่องทีส่ รา้ งสรรค์ ของนักเรียน ณะแบบใด เหมาะสมกับวัยของผพู้ ดู (ประเมนิ ด้าน K)
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๑ เร่อื งสอื่ สารคล่องต้องรวู้ ิธี ลาดบั ขอบเขตเนอ้ื หา/ ขนั้ ตอนการจดั เวลา แ ที่ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ท่ีใช้ กจิ กรรมคร 3. ครูพูดเชื่อมโยงเข้า บทเรียน 2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ขนั้ สอน 25 1. ครตู ั้งคาถามเพื่อม 1. บอกหลกั การพูด นาที เนื้อหา แสดงความรูแ้ ละความ คิดเห็นจากเรอื่ งทฟี่ งั ครู : นักเรียนคิดว่าก่อ และดูได้ การพูดแสดงความรู้แ ความคดิ เหน็ น้นั เราค อะไรก่อนพดู ทุกครัง้ จน 2. ครูให้นกั เรยี นดตู วั แบบร่างแล้วทาความ รว่ มกัน อภิปรายวธิ กี า แบบร่างร่วมกัน 3. ครถู ามย้า เพ่ือสรุป การเขยี นแบบรา่ ง (ผัง ทจี่ ะพูด) ก่อนพูดจาก และดู ครู : แบบรา่ งทด่ี ีควรเป - มีประเดน็ จากการฟ ครบทุกประเดน็
๑๑๕ แนวการจดั การเรียนรู้ สอื่ การเรยี นรู้ การประเมนิ รู กจิ กรรมนักเรียน การเรียนรู้ าสู่ 3. นักเรียนเข้าส่บู ทเรียน มุง่ เข้าสู่ 1. นักเรียนตอบคาถาม 1. ใบความรู้ที่ 8 นักเรียน : แบบร่างการพูด การพดู แสดง อน แสดงความร้แู ละความคิดเห็น ความรู้และ และ (ผงั ความคิดทจี่ ะพดู ) ความคดิ เหน็ จาก ควรเขยี น เรอ่ื งที่ฟงั และดู นเป็นนิสัย วอยา่ ง 2. นกั เรียนดตู วั อย่างแบบร่าง มเขา้ ใจ แลว้ ทาความเข้าใจร่วมกัน ารเขยี น จากนนั้ ร่วมกันอภิปรายวิธี การเขยี นแบบรา่ ง ปหลกั 3. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ตอบ 2. ตวั อยา่ ง งความคิด คาถาม แบบร่างในสือ่ กการฟงั PPT ป็นอยา่ งไร ฟงั และดู
๑๑๖ คู่มอื ลาดับ ขอบเขตเนือ้ หา/ ขั้นตอนการจัด เวลา แ ที่ จุดประสงค์การเรียนรู้ การเรียนรู้ ท่ใี ช้ กิจกรรมคร - มกี ารโยงผังถึงลาดบั ที่จะพดู กอ่ นหลงั ชดั เจน - มีผงั นากอ่ นพดู และ ข้อคดิ ชว่ งจบการแสด หรอื แสดงความคิดเห 4. ครูเปดิ คลปิ วดิ ีโอน เรื่อง ตดั เท่าไหรถ่ งึ จะ (คนเกบ็ ฟืนโลภอยากเป (ผังความคิดทจ่ี ะพูด) จากนน้ั ครูใหน้ กั เร แบบร่างการพดู แสดง และความคิดเหน็
อครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ การประเมนิ รู กิจกรรมนักเรียน การเรยี นรู้ บประเด็น นต่อเนือ่ ง ะสรปุ ดงความรู้ ห็น นทิ าน 4. นักเรยี นฟงั และดูคลปิ วิดโี อ 3. คลปิ วิดโี อ ะพอ นทิ านเร่อื ง ตดั เทา่ ไหรถ่ งึ จะพอ นทิ าน เรื่อง ตดั ป็นเศรษฐี) (คนเกบ็ ฟืนโลภอยากเป็นเศรษฐี) เท่าไหร่ถงึ จะพอ แล้วเขียนแบบรา่ งการพดู (คนเก็บฟืนโลภ รยี นเขียน อยากเป็นเศรษฐี) งความรู้ นักเรียนเขียนแบบร่าง การพดู แสดงความรแู้ ละ 4. ใบงานที่ 8 ความคดิ เห็น แบบร่างการพดู แสดงความรู้และ ความคิดเห็น
หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑ เรือ่ งสอื่ สารคล่องตอ้ งรู้วธิ ี ลาดับ ขอบเขตเนื้อหา/ ขัน้ ตอนการจัด เวลา แ ที่ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ทใี่ ช้ กิจกรรมคร 3. 2. พดู แสดงความรู้ ข้นั ปฏิบตั ิ 15 5. ครูพดู ชแ้ี จงการทา และความคิดเห็นจาก นาที ดงั นี้ เรื่องที่ฟงั และดู - พดู แสดงความรแู้ ละ 3. มีมารยาทในการฟงั ความคิดเหน็ จากการฟ การดแู ละการพดู การดูนิทานเรื่อง ตดั เท จะพอ (คนเกบ็ ฟนื โลภ เศรษฐ)ี ให้ถกู ต้อง แล ประเด็น - มีมารยาทในการพดู การฟังท่ีดี (ครูช้แี จงการทากจิ กร นกั เรียนพูดแสดงควา ความคดิ เหน็ จากการฟ การดูนิทานเรือ่ ง ตัดเท จะพอ (คนเก็บฟืนโลภ เป็นเศรษฐ)ี 6. ครูพานักเรียนสรุป กิจกรรมร่วมกนั
๑๑๗ แนวการจัดการเรียนรู้ ส่ือการเรียนรู้ การประเมนิ รู กิจกรรมนักเรยี น 3. สือ่ PPT เรื่อง การเรยี นรู้ ากจิ กรรม 5. นักเรยี นฟงั ครูพดู ช้ีแจง การพดู แสดง ความรแู้ ละ การทากจิ กรรม ความคิดเหน็ จาก ะ เร่ืองท่ฟี งั และดู ฟงั และ ทา่ ไหรถ่ ึง ภอยากเปน็ ละตรง ดและ รรม : (นกั เรยี นทากจิ กรรม) 4. สอ่ื PPT 2. ประเมิน ามรแู้ ละ การพูดแสดง ฟงั และ ความรแู้ ละ ท่าไหรถ่ ึง ความคดิ เห็นจาก ภอยาก เรอื่ งท่ีฟงั และดู (ประเมนิ ดา้ น P) ปการทา 6. นกั เรียนร่วมกนั สรปุ การทา 3. สงั เกต กจิ กรรม พฤตกิ รรมของ นกั เรยี น (ประเมินด้าน A)
๑๑๘ คู่มือ ลาดับ ขอบเขตเนื้อหา/ ขั้นตอนการจัด เวลา แ ที่ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ที่ใช้ กจิ กรรมคร 4. ขนั้ สรปุ 5 1. ครูข้ึนสรปุ ความรู้ นาที “หากจะพูดส่ิงใดใคร เหน็ ถูกผิดแก้ไขให้เหม ใช้สตชิ น้ี าเปน็ คาคม คมุ อารมณใ์ ห้ดมี หี ลัก พูดแสดงความรใู้ ความคดิ เหน็ มมุ มองตอ้ ต้ังใจฟังและดใู ห้ชานา มีเหตผุ ลและหลกั ฐานป ผแู้ ตง่ ครชู ลภกั ด 2. ครูให้นกั เรียนคัดล บรรจงครง่ึ บรรทดั จาก ร้อยกรอง เป็นการบ้า
อครูและแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรียนรู้ สอื่ การเรยี นรู้ การประเมิน การเรียนรู้ รู กจิ กรรมนกั เรียน ดังนี้ 1. นกั เรยี นสรปุ ความรจู้ ากบท บทรอ้ ยกรอง ร่ครวญคดิ รอ้ ยกรองท่ีครูกาหนดให้ สื่อ PPT มาะสม กการ ใหถ้ ูกตอ้ ง องประสาน าญ ประกอบกนั ด์ิ คงกาเนิด ลายมือตวั 2. นักเรยี นคัดลายมอื ตัว กบท บรรจงครง่ึ บรรทดั จากบท าน ร้อยกรอง เป็นการบ้าน
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๑ เร่อื งสอื่ สารคล่องตอ้ งรวู้ ิธี 119 8. ส่ือการเรียนร/ู้ แหล่งเรียนรู้ 1. บทรอ้ ยกรอง เรอ่ื ง การพูดแสดงความรแู้ ละความคิดเห็นจากเรอ่ื งที่ฟังและดู 2. ใบความรู้ที่ 8 เรื่อง การพดู แสดงความรู้และความคิดเหน็ จากเรือ่ งที่ฟงั และดู 3. ใบงานที่ 8 เร่อื ง แบบรา่ งการพดู แสดงความรูแ้ ละความคดิ เหน็ จากเรอื่ งทฟ่ี ังและดู 4. สอ่ื PPT เรื่อง การพดู แสดงความรู้และความคดิ เห็นจากเร่อื งทฟี่ ังและดู 5. คลปิ วิดโี อนทิ าน เรอ่ื ง ตดั เท่าไหรถ่ ึงจะพอ (คนเกบ็ ฟนื โลภอยากเป็นเศรษฐี) 6. ตัวอยา่ งแบบรา่ ง (ผงั ความคิดที่จะพูด) การพูดแสดงความรู้และความคิดเหน็ 9. การประเมนิ ผลรวบยอด ช้ินงานหรอื ภาระงาน 1. ใบงานที่ 8 เร่ือง แบบรา่ งการพูดแสดงความรแู้ ละความคิดเหน็ จากเร่อื งทฟี่ งั และดู 2. การพูดแสดงความรู้และความคดิ เห็นจากเร่ืองทีฟ่ ังและดู ส่งิ ทต่ี อ้ งการวัด / ประเมนิ วิธกี าร เครื่องมอื ที่ใช้ เกณฑ์ ด้านความรู้ ความเขา้ ใจ (K) - การพิจารณาการตอบ - คาถาม รอ้ ยละ ๖๐ - บอกหลกั การพดู แสดงความรูแ้ ละ คาถามของนักเรยี น - แบบประเมินการพูด ข้ึนไป ความคดิ เหน็ จากเรอ่ื งท่ีฟงั และดู - การประเมนิ การพูด แสดงความรู้และความ ร้อยละ ๖๐ ด้านทกั ษะและกระบวนการ (P) แสดงความรูแ้ ละ คดิ เห็นจากเรื่องทฟ่ี งั และดู ขน้ึ ไป - พูดแสดงความร้แู ละความคดิ เหน็ ความคดิ เห็นจากเร่ือง จากเร่ืองที่ฟังและดู ทีฟ่ ังและดู - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ร้อยละ ๖๐ - แบบประเมินคุณลกั ษณะ ขึ้นไป ด้านคุณลกั ษณะ เจตคติ ค่านยิ ม - สังเกตพฤติกรรม อันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ (A) นกั เรยี น - แบบประเมนิ สมรรถนะ ผา่ น - มีมารยาทในการฟงั การดู และ - สังเกตพฤติกรรม สาคัญของผ้เู รียน ระดบั คณุ ภาพ การพูด นกั เรียน ผา่ น คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ - สงั เกตพฤติกรรม 1. มีวินยั นักเรียน 2. มุ่งมั่นในการทางาน สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใชท้ กั ษะ ชีวิต
120 คมู่ ือครูและแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) เกณฑป์ ระเมิน : การพดู แสดงความรแู้ ละความคิดเห็นจากเร่ืองทฟี่ ังและดู ประเดน็ ระดบั คุณภาพ การประเมิน ๑. ความเข้าใจ ๔ (ดมี าก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรุง) สามารถตอบ ตอบคาถาม ๒. การจบั สามารถตอบ สามารถตอบคาถาม คาถามหลงั จากที่ หลงั จากท่ฟี งั ได้ ใจความสาคัญ คาถามหลังจากท่ี หลงั จากท่ฟี งั ได้ ฟังไดเ้ ลก็ นอ้ ย นอ้ ยมาก ๓. การรู้ ฟังไดถ้ กู ตอ้ งทงั้ หมด เปน็ ส่วนใหญ่ ความหมาย คาศพั ท์ จบั ใจความสาคัญ จับใจความสาคัญ จับใจความสาคัญ จับใจความสาคัญ ๔. การปฏบิ ตั ิ ของเน้อื หาได้ ของเน้อื หาไดส้ ่วน ของเนอื้ หาได้ ของเนอ้ื หาได้น้อย ตามคาสัง่ ท้ังหมด ใหญ่ เล็กนอ้ ย มาก ๕. มารยาทใน ร้คู วามหมาย รคู้ วามหมายคาศพั ท์ รู้ความหมาย แทบไมร่ ู้ การฟงั การดู คาศัพท์ท้งั หมด โดยส่วนใหญ่และ คาศัพท์เลก็ นอ้ ย ความหมาย และการพูด ชดั เจน และไม่ค่อยชดั เจน คาศัพท์เลย ปฏบิ ัติตามคาสงั่ ปฏบิ ตั ติ ามคาสงั่ ได้ ปฏิบัติตามคาสง่ั ได้ ปฏิบตั ิตามคาสง่ั ไดถ้ กู ต้องและ ถกู ต้อง แต่คอ่ นขา้ ง ไม่คอ่ ยถกู ตอ้ งและ ไดถ้ กู ต้องนอ้ ย คลอ่ งแคล่ว ช้า คอ่ นขา้ งชา้ มาก มมี ารยาทในการฟงั มีมารยาทในการฟงั มมี ารยาทในการฟงั มมี ารยาทใน การดู และการพดู การดู และการพูด การดู และการพดู การฟัง การดู และ อยู่เสมอ จนเป็นนิสยั อยเู่ สมอ จนเป็นนิสัย เกอื บตลอดเวลา แต่ การพดู เป็นบาง สามารถประเมนิ สามารถประเมิน ไม่สามารถประเมิน เวลาและรสู้ กึ ตวั และปรับปรงุ ตนเอง และปรบั ปรงุ ตนเองได้ ตนเองเพอื่ ปรับปรงุ เมอื่ มผี ู้แนะนา ได้ รวมท้ังแนะนาให้ ขอ้ บกพรอ่ งได้ ตอ้ ง ผอู้ ่นื ปฏิบัตดิ ้วย ให้ผอู้ นื่ แนะนา เกณฑก์ ารประเมินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 16-20 ดมี าก 11-15 ดี 6-10 พอใช้ 1-5 ปรับปรงุ เกณฑ์การตดั สิน : ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินร้อยละ ๖๐ ข้นึ ไป (ตอ้ งไดร้ ะดบั พอใช้ข้ึนไป)
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ เร่ืองสื่อสารคลอ่ งต้องรู้วธิ ี 121 แบบประเมินการพดู แสดงความรแู้ ละความคดิ เหน็ จากเรอ่ื งทฟ่ี งั และดู คาํ ชแ้ี จง ให้ครเู ขียนคะแนนการพูดแสดงความรู้และความคิดเหน็ จากเรื่องที่ฟงั และดู ลงในช่องทกี่ ําหนดไว้ การ ูพดแสดงความรู้และ สรปุ ความคิดเห็น (๔ คะแนน) ลาํ ดับ ชือ่ -สกุล การนําเสนอข้อมูล รวม คดิ เปน็ ผา่ น ไมผ่ า่ น ท่ี (๔ คะแนน) คะแนน ร้อยละ บุคลิกภาพและลีลา (๒๐) (๔ คะแนน) การใช้ภาษา (๔ คะแนน) มารยาทในการ ูพด (๔ คะแนน) ดี ดี พอใ ปรับปรุง มาก ช้ รวม (คน) คดิ เปน็ ร้อยละ ผลการประเมนิ ดีมาก ..........คน คดิ เป็นร้อยละ............... ดี ..........คน คิดเป็นรอ้ ยละ................ พอใช้ ..........คน คิดเป็นร้อยละ............... ปรบั ปรุง .........คน คิดเปน็ รอ้ ยละ................ สรปุ ผลการประเมินรายชน้ั เรยี น นักเรยี นผา่ นเกณฑ์การประเมิน จาํ นวน......................... คน คดิ เป็นรอ้ ยละ......................... นกั เรยี นไมผ่ ่านเกณฑก์ ารประเมนิ จํานวน......................... คน คดิ เป็นร้อยละ........................ ลงชอื่ .................................................ผูป้ ระเมิน (..............................................) ........../..................../..........
122 คู่มือครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) 10. บันทกึ ผลหลงั สอน ผลการจดั การเรียนการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสาเร็จ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปญั หาและอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ้ จากดั การใชแ้ ผนการจัดการเรียนรู้ และข้อเสนอแนะ/แนวทางการปรับปรงุ แก้ไข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ......................................................ผสู้ อน (.......................................................) วันที่ .......... เดือน ..................... พ.ศ. ............. 11. ความคดิ เหน็ /ข้อเสนอแนะของผู้บรหิ ารหรือผู้ทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่อื ...................................................... ผู้ตรวจ (.......................................................) วันท่ี .......... เดอื น ..................... พ.ศ. .............
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๑ เร่อื งสอื่ สารคล่องตอ้ งรูว้ ธิ ี 123 ใบความรู้ที่ 8 เรอื่ ง การพดู แสดงความรแู้ ละความคดิ เห็นจากเรอ่ื งทฟี่ ังและดู หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ ๑ เร่ือง ส่ือสารคล่องตอ้ งรูว้ ธิ ี แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 7 เรื่อง การพดู แสดงความรแู้ ละความคิดเห็นจากเร่อื งทฟี่ งั และดู รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๕ การพูดแสดงความรู้ การพดู แสดงความรู้ เปน็ การถา่ ยทอดความรทู้ ่มี อี ย่ใู หผ้ อู้ ่ืนได้รับรโู้ ดยการพูด ซงึ่ สะทอ้ นจากความรู้ท่ี ได้พบเหน็ จากภาพ เหตุการณ์ สถานการณ์ตา่ ง ๆ สถานที่ หรอื สงิ่ ของตา่ ง ๆ ด้วยการพดู ให้ผู้อื่นฟัง การพูดแสดงความคิดเหน็ การพูดแสดงความคิดเหน็ เปน็ การพูดขยายความจากเรื่องใดเรอ่ื งหนึ่ง โดยการพูดอธิบายหรือพดู แสดง ความคดิ เหน็ เกย่ี วกับเรื่องน้นั ๆ อยา่ งมีหลักฐานหรอื เหตุผลประกอบ ดงั น้ัน การพูดแสดงความรู้และความคิดเห็น เปน็ การพูดแสดงความรู้และความคิดเห็นตอ่ เร่อื งใด เรื่องหน่ึง ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ ผู้พูดจะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนท่ีจะพูดว่าถูกต้องหรือไม่ จากนนั้ พดู ใหก้ ระจา่ ง ชดั เจน โดยใช้เหตุผลประกอบหรอื มหี ลักฐานอา้ งอิง หลกั การพูดแสดงความรสู้ ึกและความคิดเห็น 1. ศึกษาเร่อื งที่สนใจจะพดู ให้เขา้ ใจ ชดั เจน แจ่มแจ้ง 2. มีความรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกับเร่ืองที่จะพูดเป็นอย่างดี 3. กล่าวถึงข้อมูลหรือข้อเท็จจริงก่อน (ภาคความรู้) หลังจากน้ันจึงกล่าวความคิดเห็น (ภาคความ คดิ เห็น) โดยใชเ้ หตผุ ลหรือหลักฐานประกอบ เพื่อขยายความเข้าใจให้ชดั เจนยิง่ ขน้ึ 4. พดู ในเชงิ สรา้ งสรรค์ และมขี ้อเสนอแนะ โดยไม่มอี คตหิ รอื ความลาเอียง 4. มีมารยาทในการพูด พูดด้วยน้าเสียงสุภาพ ไมใ่ ช้ถอ้ ยคาภาษาที่รุนแรง 5. ควรเขียนแบบร่างก่อนพดู แล้วตรวจสอบปรับปรุงสานวนภาษา และการเขียนสะกดคาให้ถกู ต้อง 6. พดู ดว้ ยความเป็นกัลยาณมิตร บคุ ลิกภาพต้องเหมาะสม นา่ เชื่อถือ เพอื่ ให้ผู้ฟังเกิดความไว้ใจและ ยอมรับในตัวผูพ้ ดู 7. ไม่พดู ให้รา้ ย และไม่พูดเสียดสผี ู้อืน่ ให้ได้รับความเสยี หาย เพราะจะมีผลกระทบตามมาในภายหลัง 8. หลีกเลีย่ งการพดู แสดงความคดิ เห็นเรื่องส่วนตวั ของผู้อื่น ไม่พูดจาสอ่ เสียด ทับถม เยาะเย้ยผอู้ ืน่ 9. พดู มหี างเสยี ง หรอื มีคาลงท้ายทส่ี ุภาพ เปน็ ทางการ เช่น ครบั /คะ่ 10. พูดด้วยความปรารถนาดี จรงิ ใจ และบริสทุ ธ์ิใจตอ่ ผู้อ่ืน
124 คมู่ ือครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) มารยาทในการพูด ๑. พูดจาไพเราะ ๒. ไม่แยง่ กนั พูด ๓. พดู ดว้ ยคาสุภาพไม่หยาบคาย ๔. พดู ด้วยนา้ เสียงที่ไพเราะนมุ่ นวล ๕. ไม่พดู แทรกจงั หวะผู้อ่ืน ๖. พูดดว้ ยหน้าตายิม้ แย้มแจม่ ใส ๗. ใชค้ วามดงั ของเสียงให้พอเหมาะ ไม่เสยี งเบาหรอื ดงั เกนิ ไป ๘. ไม่พดู นินทาวา่ รา้ ยผอู้ น่ื ขอ้ ควรคานึงในการพดู การพูดแสดงความรู้และความคิดเห็นจากเรื่องที่ฟังและดู เราควรพิจารณาให้รอบคอบก่อนพูด เพื่อ ไม่ให้เกิดความขัดแยง้ กบั ผู้อื่น เพราะในเร่ืองเดยี วกนั แตล่ ะคนอาจมีมุมมองและความคิดเห็นที่แตกตา่ งกนั ได้ ตัวอยา่ งการพูดแสดงความรสู้ ึกและความคิดเห็น “ฉนั รสู้ กึ ภูมใิ จที่ได้เกดิ มาบนผนื แผ่นดินไทย ภายใต้รม่ พระบารมีในพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระองค์ทรงรักและทรงห่วงใยประชาราษฎร์เสมอ ทรงตรากตราพระวรกายและทรงงานหนกั เพ่อื ใหพ้ สกนกิ รของพระองค์ได้อยดู่ ีกินดีมสี ขุ ” “ประเทศไทยสมยั อดีตมีปา่ ไมจ้ านวนมาก แต่ปจั จุบนั ถกู ตัดทาลายไปจานวนมาก เช่นกัน น่ันเพราะป่าไม้เป็นทรัพยากรท่ีจาเป็นต่อการดารงชีวิตของมนุษย์ เมื่อความเจริญ อยู่ท่ีไหน การทาลายป่าไม้ยอ่ มอยู่ท่ีนนั่ ดงั นัน้ พวกเราทุกคนควรช่วยกนั กนั อนุรกั ษ์ปา่ ไม้ท่ี ลดนอ้ ยลงไปเรอื่ ย ๆ ใหก้ ลับมาสมบูรณอ์ กี ครัง้ ”
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 503
Pages: