หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๑ เรื่องสอื่ สารคล่องตอ้ งรู้วธิ ี 125 ใบงานที่ 8 เรอ่ื ง การพดู แสดงความรูแ้ ละความคดิ เหน็ จากเรอื่ งทฟ่ี ังและดู หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๑ เร่ือง สอ่ื สารคลอ่ งตอ้ งรู้วธิ ี แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๘ เรื่อง การพูดแสดงความรูแ้ ละความคดิ เห็นจากเร่ืองทฟ่ี งั และดู รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๕ คาชแี้ จง ใหน้ ักเรียนเขียนแบบรา่ งการพูดแสดงความรแู้ ละความคดิ เห็นจากเรือ่ งทีฟ่ งั และดู อย่างนอ้ ย 3-4 บรรทดั แบบร่างการพูดเร่ือง.......................................................................................... ชื่อ..........................................................นามสกลุ ..................................................ชนั้ ...............เลขท.่ี ........
๑๒๖ คมู่ ือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 9 เร่ือง คาราชาศัพท์นา่ รู้ เวลา 1 ชั่วโมง หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 เรอื่ ง สอื่ สารคลอ่ งต้องรู้วธิ ี กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาไทย รายวิชาภาษาไทย ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 5 1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวช้วี ดั สาระท่ี 4 หลักการใชภ้ าษาไทย มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลังของ ภาษา ภูมปิ ัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบัตขิ องชาติ ตวั ชี้วดั ป.๕/4 ใช้คาราชาศัพท์ ๒. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด คาราชาศัพท์ เป็นถ้อยคาที่ใช้ส่ือสารสาหรับบุคคล 5 ช้ัน ได้แก่ กษัตริย์ เชื้อพระวงศ์ พระสงฆ์ ข้าราชการช้ันผู้ใหญ่ และสุภาพชน ซึ่งแบ่งออกเป็นหมวดต่าง ๆ เช่น หมวดคานาม หมวดคากริยา หมวด เคร่ืองใช้ หมวดกีฬา และอน่ื ๆ การเรียนเร่ือง คาราชาศพั ท์ จะทาให้เข้าใจและนาไปใช้ไดเ้ หมาะสมกบั บุคคล ๓. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 3.1 ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) บอกความหมายและลกั ษณะของคาราชาศพั ท์ได้ 3.2 ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) จัดหมวดหม่แู ละเขียนความหมายคาราชาศัพท์ไดถ้ ูกตอ้ ง 3.3 ดา้ นคุณลกั ษณะ เจตคติ ค่านิยม (A) เหน็ ความสาคญั ในการใช้คาราชาศัพทอ์ ยา่ งถกู ตอ้ ง ๔. สาระการเรยี นรู้ คาราชาศพั ท์ ๕. สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียน 5.1 ความสามารถในการส่อื สาร 5.2 ความสามารถในการคิด 5.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต ๖. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 6.1 ใฝเ่ รยี นรู้ 6.2 รักความเปน็ ไทย 7. กจิ กรรมการเรยี นรู้
หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ ๑ เร่ือง สื่อสารคลอ่ งตอ้ งรู้วิธี การจัดกจิ กรรมการเรยี นร รายวชิ า ภาษาไทย หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1 เรอื่ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 9 เร่ือง คาร ลาดบั ขอบเขตเน้อื หา/ ขัน้ ตอนการจดั เวลา แ ที่ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรยี นรู้ ท่ีใช้ กิจกรรมคร 1 ขอบเขตเนอ้ื หา ขน้ั นา 10 1. ครนู ารูปภาพของผ 1. คาราชาศพั ท์ นาที แต่งกายตา่ งกนั มาให้น 2 รูป ดังนี้ 2. หมวดหมูค่ าราชา ศัพท์ - รูปภาพที่ 1 ตวั ละคร - รูปภาพท่ี 2 ตวั ละคร
๑๒๗ รู้ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 อง สือ่ สารคล่องต้องร้วู ิธี จานวน 10 ชว่ั โมง ราชาศพั ท์นา่ รู้ จานวน 1 ชั่วโมง แนวการจัดการเรียนรู้ สอ่ื การเรยี นรู้ การประเมนิ การเรียนรู้ รู กิจกรรมนกั เรยี น ผหู้ ญิงท่ี 1. นักเรยี นร่วมกนั ดรู ปู ภาพ 1. รปู ภาพผหู้ ญงิ นกั เรียนดู ของผหู้ ญิงจานวน 2 รปู ดังนี้ จานวน 2 รปู - รูปภาพท่ี 1 ตัวละครพระมเหสี รพระมเหสี รนางกานลั - รปู ภาพที่ 2 ตัวละครนางกานลั
๑๒๘ คมู่ ือ ลาดบั ขอบเขตเนอ้ื หา/ ขนั้ ตอนการจัด เวลา แ ท่ี จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรียนรู้ ทีใ่ ช้ กจิ กรรมคร 2. ครตู ั้งคาถามกระต้นุ ดงั นี้ - ครู : การแตง่ กายขอ ทง้ั สองคนแตกต่างกนั - ครู : นกั เรยี นคิดวา่ ภาษาของทงั้ สองคนเห หรอื ตา่ งกัน อยา่ งไร 3. ครูสนทนารว่ มกับ และตัง้ คาถามเพื่อเช เข้าส่เู นอื้ หา ดงั น้ี ถ้าผู้หญงิ คนท่ี 2 เ ชาวบา้ นและผหู้ ญงิ คน เป็นเจ้าหญิง นักเรียน หญิงชาวบา้ นจะพดู จ ดว้ ยคาชนิดใดกบั เจ้าห 4. ครูให้นกั เรยี นลอง แตง่ ประโยคโดยใชค้ าร
อครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจัดการเรียนรู้ ส่ือการเรยี นรู้ การประเมิน การเรยี นรู้ รู กิจกรรมนกั เรยี น - สงั เกตการตอบ คาถามของ นความคดิ 2. นักเรียนรว่ มกันตอบคาถาม 2. คาถามอยูใ่ น นกั เรยี น เชน่ ส่ือ PPT องผหู้ ญงิ - นกั เรยี น : ต่างกัน เพราะคน นอยา่ งไร ท่ี 1 แตง่ กายไดส้ วยงาม การใช้ มากกวา่ คนที่ 2 ซึง่ คนท่ี 1 หมือน นา่ จะเปน็ เจา้ หญิง สว่ นคนท่ี 2 น่าจะเปน็ นางกานลั - นักเรียน : อาจตอบคาถาม ไดห้ ลากหลายตามความเข้าใจ นกั เรียน บนกั เรยี น 3. นักเรยี นร่วมกันสนทนากบั 3. รูปภาพผหู้ ญงิ - สังเกตการ ชอ่ื มโยง ครูและตอบคาถาม ดังนี้ จานวน 2 รูป สนทนา,การตอบ เปน็ นักเรยี น : หญิงชาวบา้ นจะใช้ นท่ี 1 คาราชาศัพท์สอ่ื สารกบั คาถามของ นคดิ วา่ เจา้ หญิง นักเรยี น จาส่อื สาร หญงิ งช่วยกัน 4. นักเรยี นช่วยกนั แตง่ 4. บัตรคา ราชาศัพท์ ประโยคโดยใช้คาวา่ เครอ่ื งทรง คาราชาศพั ท์
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๑ เรื่อง ส่ือสารคลอ่ งต้องรู้วธิ ี ลาดับ ขอบเขตเน้อื หา/ ขั้นตอนการจดั เวลา แ ท่ี จุดประสงค์การเรียนรู้ การเรียนรู้ ท่ใี ช้ กจิ กรรมคร โดยครกู าหนดคาวา่ “เครือ่ งทรง” โดยให้น ส่วนรว่ มในการคดิ ว่าเ ทรงมคี วามหมายวา่ อ 5. ครแู จง้ จุดประสงค เรยี นรู้และเชื่อมโยงเข เนอ้ื หาในบทเรียน 2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ขน้ั สอน 25 1. ครตู ง้ั คาถามเพื่อม 1. บอกความหมาย นาที เนือ้ หา และลกั ษณะของคา ครู : คาราชาศัพท์คอื ราชาศพั ทไ์ ด้ และมลี ักษณะอย่างไร 2. จากนนั้ ครสู มุ่ ถามคว ของคาราชาศัพทแ์ ละ ของคาราชาศพั ทก์ บั น เปน็ กลุ่ม ด้วยวธิ ีจบั ฉ 3. ครูใหน้ ักเรยี นอา่ น ความรเู้ พอื่ สรา้ งความ ตรงกันเก่ียวกบั ความห
๑๒๙ แนวการจัดการเรียนรู้ สื่อการเรยี นรู้ การประเมนิ รู กิจกรรมนกั เรยี น “เครอ่ื งทรง” การเรียนรู้ ทค่ี รกู าหนดให้ นกั เรยี นมี เครื่อง อย่างไร ค์การ 5. นกั เรียนเข้าสู่บทเรียน ขา้ สู่ พรอ้ มกนั ม่งุ เข้าสู่ 1. นักเรยี นชว่ ยกนั ระดม 1. คาถามอยใู่ น สังเกตการตอบ ออะไร ความคิดวเิ คราะห์ความหมาย สอื่ PPT คาถามของ ร และลกั ษณะของคาราชาศัพท์ นกั เรียน วามหมาย 2. นักเรยี นกลุ่มท่ีครสู ุม่ ถาม ะลักษณะ ให้พดู ตอบคาถามใหเ้ พอ่ื น ๆ นกั เรียน ฟัง ฉลาก นใบ 3. นกั เรียนศึกษาใบความรู้ที่ 2. ใบความรู้ที่ 9 สังเกตพฤตกิ รรม มเข้าใจที่ ๙ เร่ือง คาราชาศพั ท์ จากน้นั เรอ่ื ง คาราชาศัพท์ ของนักเรียน มหมาย รว่ มกนั อภปิ รายภายในกลุ่ม
๑๓๐ คู่มือ ลาดับ ขอบเขตเน้ือหา/ ขั้นตอนการจัด เวลา แ ท่ี จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรยี นรู้ ท่ใี ช้ กิจกรรมคร ของคาราชาศัพทแ์ ละ ของคาราชาศพั ท์ 4. ครใู หน้ ักเรยี นพูดส เกีย่ วกบั - ความหมายของคาร - ลักษณะของคาราชา 5. ครูอธิบายเรอื่ ง คาร ในประเด็น ดังน้ี - ความหมายของคาร - ลกั ษณะของคาราชา - ระดับบุคคลกบั การใ ราชาศพั ท์ 6. ครยู กตวั อย่างคาร หมวดต่าง ๆ ท่ีใช้กบั พระมหากษตั ริย์ ดังน - หมวดเครือญาติ - หมวดเคร่อื งใชต้ า่ ง - หมวดรา่ งกาย - หมวดกริยา - หมวดทั่วไป
อครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจัดการเรียนรู้ สอ่ื การเรยี นรู้ การประเมิน รู กิจกรรมนกั เรยี น การเรยี นรู้ ะลักษณะ เพ่อื สรา้ งความเข้าใจทต่ี รงกนั สรปุ 4. นกั เรยี นพดู สรปุ เก่ยี วกับ 1. ประเมนิ - ความหมายของคาราชาศัพท์ การพดู สรปุ ตอบ คาถาม ราชาศพั ท์ - ลกั ษณะของคาราชาศพั ท์ าศพั ท์ ราชาศพั ท์ 5. นักเรียนรว่ มกันฟงั ครู 3. สื่อ PPT เร่ือง อธบิ ายเร่ือง คาราชาศพั ท์ คาราชาศพั ท์ ราชาศพั ท์ และสนทนารว่ มกนั กบั ครู าศัพท์ ใช้คา ราชาศพั ท์ 6. นกั เรยี นดูตวั อย่างคาราชา 4. สื่อ PPT เรื่อง นี้ ศพั ท์หมวดตา่ ง ๆ ท่ใี ช้กับ คาราชาศพั ท์ ๆ พระมหากษตั ริยแ์ ละสนทนา ตอบคาถามไปพรอ้ มกนั
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๑ เร่อื ง ส่อื สารคลอ่ งตอ้ งรู้วิธี ลําดบั ขอบเขตเน้อื หา/ ขน้ั ตอนการจดั เวลา แ ท่ี จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรียนรู้ ทีใ่ ช้ กิจกรรมคร 3. 2. จัดหมวดหมู่และ ข้ันปฏบิ ตั ิ 7. จากนัน้ ครอู ธบิ าย เขยี นความหมายคาํ 10 ความสาํ คัญของการใช ราชาศัพท์ไดถ้ ูกต้อง นาที ศพั ท์ 6. ครูชี้แจงการทํากิจ และแจกใบงานที่ 9 เรือ่ ราชาศัพท์ (ครขู ึ้นกิจกรรมในสไล นักเรียนทาํ ใบงานท่ี 9 คําราชาศพั ท์) 7. ครนู ําผลงานของก นักเรยี นท่ีทาํ เสร็จมาให ต้นทาง/ปลายทางดพู และประเมินความถูก 8. ครสู รุปการทาํ กิจก 4. เห็นความสําคัญใน ขน้ั สรปุ 5 1. ครตู งั้ คาํ ถามเพ่อื ส การใชค้ ําราชาศัพท์ นาที ครู : การจัดหมวดหม อยา่ งถกู ตอ้ ง ราชาศพั ทม์ ีประโยชน
แนวการจดั การเรียนรู้ สือ่ การเรยี นรู้ ๑๓๑ การประเมิน รู กิจกรรมนกั เรยี น การเรียนรู้ 7. นักเรยี นสรปุ ความสําคญั 2. ประเมินใบงาน ช้คาํ ราชา ของการใชค้ าํ ราชาศัพท์ รว่ มกนั จกรรม 6. นกั เรยี นทกุ กลมุ่ ทําใบงานที่ อง คาํ 9 เรอ่ื ง คาํ ราชาศัพท์ ลด์ว่า : (นักเรยี นท้ังต้นทาง/ปลายทาง 9 เรอื่ ง ทํากจิ กรรมพรอ้ มกนั ) กลุ่ม 7. นกั เรยี นต้นทาง/ปลายทาง สอื่ PPT 3. สังเกต ห้นกั เรยี น ดูผลงานพรอ้ มกัน และ สรุปความรู้ การตอบคาํ ถาม/ พร้อมกนั ประเมนิ ความถูกต้อง พฤตกิ รรม กต้อง 8. นกั เรียนรว่ มกนั สรปุ กรรม กจิ กรรม 1. นักเรียนตอบคาํ ถามเพ่ือ สรุป ดงั นี้ สรุป มู่คาํ นอ์ ย่างไร
๑๓๒ คมู่ ลําดบั ขอบเขตเน้ือหา/ ขั้นตอนการจดั เวลา แ ท่ี จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรียนรู้ ที่ใช้ กจิ กรรมคร ครู : นกั เรยี นคิดวา่ ก ราชาศัพทใ์ หถ้ กู ตอ้ งน ความสําคัญหรอื ไม่ อ 2. จากนน้ั ครขู ึ้นสรปุ ดงั น้ี - คาํ ราชาศัพท์ เปน็ ถอ้ ใชส้ ือ่ สารสําหรับบคุ ค ในฐานะทีเ่ ราเป็นคนไ ความจําเป็นต้องใชค้ ํา ศัพท์ได้ทงั้ ในการพูดแ การเขียนตลอดจนเขา้ ราชาศัพท์ทง้ั ในการอ การฟงั เพ่อื ให้การสือ่ ส สมั ฤทธผิ ล
ือครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรยี นรู้ สื่อการเรียนรู้ การประเมิน รู กิจกรรมนกั เรยี น การเรียนรู้ การใชค้ าํ ของนักเรยี น น้นั มี อยา่ งไร ปความรู้ 2. นกั เรยี นรว่ มกันสรปุ ความรู้ และตอบคาํ ถามเพอื่ สรปุ อยคําท่ี เกย่ี วกบั คําราชาศพั ทแ์ ละ คล 5 ช้นั นําไปใชใ้ หถ้ ูกตอ้ ง ไทยจึงมี าราชา และ าใจคํา อา่ นและ สาร
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๑ เร่ือง สอ่ื สารคลอ่ งตอ้ งรูว้ ิธี 133 8. ส่ือการเรยี นรู/้ แหลง่ เรยี นรู้ 1. รปู ภาพผหู้ ญงิ จานวน 2 รูป ทแ่ี ตง่ กายต่างกัน 2. ใบความรู้ที่ 9 เร่อื ง คาราชาศัพท์ 3. ใบงานที่ 9 เรอื่ ง คาราชาศพั ท์ 4. สื่อ PPT เรอื่ ง คาราชาศพั ท์น่ารู้ 5. คาถาม 6. บัตรคาราชาศพั ท์ 9. การประเมนิ ผลรวบยอด ชิ้นงานหรือภาระงาน - ใบงานท่ี 9 เรือ่ ง คาราชาศัพท์ ส่ิงที่ตอ้ งการวัด / ประเมนิ วิธกี าร เคร่ืองมือท่ใี ช้ เกณฑ์ - คาถาม รอ้ ยละ ๖๐ ดา้ นความรู้ ความเข้าใจ (K) ข้นึ ไป - บอกความหมายและลักษณะของ - พจิ ารณาจาก คาราชาศพั ท์ การตอบคาถามและ การพูดสรปุ ของ นักเรยี น ด้านทกั ษะและกระบวนการ (P) - จัดหมวดหม่แู ละเขยี นความหมาย - ตรวจใบงานที่ 9 - แบบประเมนิ ใบงานที่ 9 รอ้ ยละ ๖๐ คาราชาศพั ท์ เรือ่ ง คาราชาศัพท์ ข้นึ ไป ดา้ นคุณลักษณะ เจตคติ คา่ นยิ ม (A) - เหน็ ความสาคญั ในการใชค้ าราชา - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรมของ ร้อยละ ๖๐ ศัพท์ ของนักเรยี น นกั เรยี น ขนึ้ ไป - ประเมนิ จาก - คาถาม การตอบคาถาม คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ - สงั เกตพฤติกรรม - แบบประเมินคุณลกั ษณะ ระดับคุณภาพ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. รกั ความเป็นไทย ของนักเรยี น อันพึงประสงค์ ผ่าน สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน - แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดับคุณภาพ 1. ความสามารถในการส่ือสาร - สงั เกตพฤติกรรม 2. ความสามารถในการคดิ ของนักเรียน สาคัญของผเู้ รยี น ผ่าน 3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะ ชวี ติ
134 คมู่ ือครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) เกณฑ์ประเมิน : การทาใบงานท่ี 9 เร่อื ง คาราชาศัพท์ ประเด็น ระดับคุณภาพ การประเมิน 1. การจดั ๔ (ดมี าก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรุง) หมวดหมู่ของคา ราชาศัพท์ จดั หมวดหม่คู า จดั หมวดหมู่คา จดั หมวดหมคู่ าราชา จดั หมวดหมู่คา ราชาศัพท์ไดถ้ กู ตอ้ ง ราชาศัพท์ไดถ้ กู ตอ้ ง ศัพทไ์ ด้ถูกตอ้ ง 3 ขอ้ ราชาศพั ทไ์ ด้ 2. การแต่ง ทง้ั หมด 5 ข้อ 4 ข้อ ถกู ตอ้ งตา่ กวา่ 3 ประโยคโดยใช้ ขอ้ คาราชาศพั ท์ แตง่ ประโยคโดย แต่งประโยคโดย แตง่ ประโยคโดย แต่งประโยคโดย ใช้คาราชาศัพท์ได้ ใช้คาราชาศพั ท์ได้ ใชค้ าราชาศัพทไ์ ด้ ใชค้ าราชาศพั ทไ์ ด้ ถูกตอ้ งทัง้ หมด 5 ข้อ ถูกตอ้ ง 4 ข้อ ถูกต้อง 3 ข้อ ถกู ต้องต่ากวา่ 3 ข้อ เกณฑก์ ารประเมินคณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ 7-8 ดมี าก 5-6 ดี 3-4 พอใช้ 1-2 ปรับปรงุ เกณฑก์ ารตดั สนิ : ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินรอ้ ยละ ๖๐ ขนึ้ ไป (ตอ้ งไดร้ ะดบั พอใชข้ น้ึ ไป)
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ เร่ือง ส่ือสารคลอ่ งต้องรูว้ ธิ ี 135 แบบประเมินการทาใบงานที่ 9 เรอ่ื ง คาราชาศพั ท์ คาชแี้ จง ให้ครูผู้สอนประเมินผลการทากิจกรรม/ใบงาน โดยเขียนคะแนน ลงในช่องท่ีกาหนดใหถ้ กู ตอ้ ง ลาดบั ช่อื - สกลุ คะแนน คิดเปน็ สรปุ ผล ที่ ท่ีได้ ร้อยละ การประเมิน ๒๐ ๑๐๐ ผ่าน ไม่ผา่ น คะแนน ๑ ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรงุ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ รวม (คน) คิดเป็นรอ้ ยละ ผลการประเมิน ดีมาก ..........คน คดิ เปน็ ร้อยละ.............. ดี ..........คน คิดเป็นรอ้ ยละ................ พอใช้ ..........คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ.............. ปรับปรงุ .........คน คิดเป็นร้อยละ................. สรุปผลการประเมนิ รายช้นั เรียน นักเรียนผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน จานวน......................... คน คดิ เปน็ ร้อยละ......................... นกั เรียนไม่ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ จานวน......................... คน คดิ เป็นร้อยละ........................ . ลงชอื่ .................................................ผปู้ ระเมนิ (..............................................) ........../..................../..........
136 คู่มือครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) 10. บนั ทึกผลหลงั สอน ผลการจัดการเรยี นการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสาเรจ็ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปญั หาและอปุ สรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ข้อจากัดการใช้แผนการจดั การเรยี นรู้ และข้อเสนอแนะ/แนวทางการปรับปรงุ แกไ้ ข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื ......................................................ผสู้ อน (.......................................................) วันท่ี .......... เดือน ..................... พ.ศ. ............. 11. ความคดิ เหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผู้บริหารหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ ...................................................... ผตู้ รวจ (.......................................................) วันท่ี .......... เดอื น ..................... พ.ศ. .............
หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑ เรือ่ ง สือ่ สารคล่องตอ้ งรู้วิธี 137 ใบความรู้ท่ี ๙ เรอื่ ง คาราชาศพั ท์ หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี ๑ เร่ือง สื่อสารคลอ่ งตอ้ งรวู้ ธิ ี แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๙ เรอ่ื ง คาราชาศัพท์นา่ รู้ รายวชิ า ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๕ คาราชาศพั ท์ คาราชาศัพท์ คือ ภาษาหรือถ้อยคาท่ีกาหนดขึ้นใช้ให้เหมาะสมกับระดับชั้นของบุคคล ไม่เฉพาะแต่ พระมหากษัตริย์เพียงเท่าน้ัน แต่ยังรวมถึงพระบรมวงศานุวงศ์ ตั้งแต่ชั้นหม่อมเจ้าลงมาถึงพระภิกษุสงฆ์ ขุนนางหรือขา้ ราชการช้ันผูใ้ หญ่ และสุภาพชน ลักษณะของคาราชาศัพท์ เป็นคาเฉพาะท่ีใช้สื่อสารเฉพาะบุคคล ซึ่งแสดงถึงวัฒนธรรมการใช้ ภาษาไทย เพราะสังคมไทยมีระดับบุคคลทตี่ า่ งกัน การแบง่ ลาดบั ชนั้ ของบุคคลในการใช้คาราชาศัพทอ์ อกเปน็ 5 ระดบั ดงั น้ี ๑. พระมหากษตั ริย์ ๒. พระบรมวงศานวุ งศ์ ๓. พระสงั ฆราชเจา้ และพระสงฆ์ ๔. ขุนนาง ข้าราชการชัน้ สงู ๕. สุภาพชน คาราชาศพั ท์ เป็นลกั ษณะการใช้ถอ้ ยคาทีแ่ สดงออกถงึ วฒั นธรรมการใชภ้ าษาของไทยทชี่ ดั เจนอันเป็น ผลสบื เน่อื งมาจากระบบและรูปแบบการปกครอง ภาษาไทยเปน็ ภาษาท่ีมลี กั ษณะพเิ ศษ เพราะแจกแจงการใช้ ถอ้ ยคาตามระดบั ชนชนั้ ของบุคคล เพ่ือให้ถกู ต้องและเหมาะสมตามกาลเทศะ คาราชาศัพท์จงึ เป็นเอกลกั ษณ์ที่ สาคัญ ย่ิงของชนชาวไทย เราคนไทยจึงมีความจาเป็นต้องใช้คาราชาศัพ ท์ได้ท้ังในการพู ดและ การเขียน ตลอดจนเข้าใจความหมายของคาราชาศัพท์ทั้งในการอ่านและการฟังเพ่ือให้การสื่อสารมี ประสทิ ธิภาพ ลกั ษณะการใชค้ าราชาศัพท์ คาราชาศัพท์ใช้สาหรับสามญั ชนพูดกับพระเจ้าแผ่นดิน พระราชินี และพระบรมวงศานวุ งศ์ พระเจ้า แผ่นดิน พระราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์จะใช้คาสามัญ ไม่ใช้คาราชาศัพท์ยกย่องพระองค์เอง พระเจ้า แผ่นดินจะใชร้ าชาศัพท์กับพระบรมวงศานุวงศ์ทท่ี รงศักดส์ิ งู กว่าทางสืบสายโลหติ หรอื ทางการนบั พระญาติ เช่น ปู่ ย่า ตา ยาย พ่อ แม่ ลุง ปา้ นา้ อา พ่ี และบรมวงศานวุ งศ์ ส่วนเจา้ นายจะใช้ราชาศัพทร์ ะหว่างกนั เมอ่ื ผพู้ ูดมี อิสรยิ ยศต่ากว่า เชน่ เจา้ นายมีศกั ด์เิ ปน็ ลงุ กบั หลานซงึ่ เป็นพระเจา้ แผน่ ดิน การแบง่ คาราชาศัพท์หมวดตา่ ง ๆ การแบง่ หมวดหมคู่ าราชาศัพท์ ออกเปน็ หมวด ๆ น้นั เพือ่ ให้ง่ายตอ่ การจดจาและการใชถ้ อ้ ยคา เราจงึ จดั เรียงคาราชาศัพท์ใหเ้ ป็นหมวดหมู่ โดยมที งั้ คาราชาศัพท์หมวดต่าง ๆ เช่น หมวดเครือญาติ หมวดเคร่ืองใช้ ต่าง ๆ หมวดร่างกาย หมวดกริยา หมวดทว่ั ไป เปน็ ต้น
138 คู่มือครแู ละแผนการจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) เครอื ญาติ หมวดคาราชาศพั ท์ คาสรรพนาม รา่ งกาย เครือ่ งใช้ คากรยิ า คาราชาศพั ทห์ มวดเครอื ญาติ คาราชาศพั ท์ ความหมาย คาราชาศพั ท์ ความหมาย พระปัยกา ปูท่ วด ตาทวด พระปยั ยกิ า ย่าทวด ยายทวด พระอัยกา พระอยั กี ปู่ ตา พระอัยยกิ า ยา่ ยาย พระชนก พระบิดา พอ่ พระชนนี พระมารดา แม่ พระปิตลุ า ลงุ หรอื อา (ฝา่ ยพอ่ ) พระปติ จุ ฉา ปา้ หรอื อา (ฝ่ายพอ่ ) พระมาตลุ า ลงุ หรือน้า (ฝ่ายแม)่ พระมาตจุ ฉา ป้าหรอื นา้ (ฝา่ ยแม)่ พระเชษฐา พีช่ าย พระเชษฐภคนิ ี พสี่ าว พระอนชุ า นอ้ งชาย พระกนษิ ฐา พระขนิษฐา น้องสาว พระมเหสี พระชายา ภรรยา พระสวามี พระภสั ดา สามี พระโอรส ลูกชาย พระธิดา ลกู สาว พระชามาดา ลกู เขย พระสณุ ิสา ลกู สะใภ้ พระนดั ดา หลาน พระปนดั ดา เหลน
หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี ๑ เรอ่ื ง สอื่ สารคล่องตอ้ งรูว้ ธิ ี 139 คาราชาศพั ท์หมวดรา่ งกาย คาราชาศัพท์ ความหมาย คาราชาศพั ท์ ความหมาย พระเกศา ผม พระกรรณ หู พระนลาฎ หนา้ ผาก พระเนตร ตา พระโอษฐ์ ปาก ขอบพระเนตร ขอบตา ตอ่ มพระเนตร ตอ่ มน้าตา มา่ นพระเนตร มา่ นตา พระขนง ค้วิ พระอสั สุชล น้าตา พระทนต์ ฟนั พระนาสกิ จมูก พระชิวหา ล้นิ พระศอ คอ พระเขฬะ นา้ ลาย พระพักตร์ หน้า พระอุทร ทอ้ ง พระเสโท เหงอื่ พระหนุ คาง พระองคุลี นิว้ มอื พระเศยี ร ศีรษะ พระหัตถ์ มือ พระปราง แก้ม ข้อพระหัตถ์ ขอ้ มอื พระพาหา ชว่ งแขน พระมงั สา เนือ้ พระพาหุ ต้นแขน พระโลมา ขน พระกร แขน พระอรุ ะ อก พระบาท เทา้ พระนาภี สะดอื ขอ้ พระบาท ขอ้ เทา้ พระโสณี สะโพก พระชานุ เข่า พระชงฆ์ แขง้ พระรากขวญั ไหปลารา้ พระดรรชนี นวิ้ ชี้ พระกจั ฉะ รักแร้ พระหทยั ใจ พระเพลา ขาหรือตกั พระนขา เลบ็ พระชพี จร ชพี จร พระอัฐิ กระดูก พระธมนี เสน้ ประสาท พระกาโบล กระพงุ้ แก้ม พระทาฐะ เขี้ยว พระวกั กะ ไต พระกฤษฎี สะเอว พระองั สะ พระองั สา ไหล่ พระปรศั ว์ สีข้าง พระผาสุกะ ซโ่ี ครง พระฉวี ผิวหนัง
140 คมู่ อื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) คาราชาศพั ท์หมวดเครื่องใช้ เคร่ืองใช้ คาราชาศัพท์ เคร่อื งใช้ คาราชาศพั ท์ เส้อื รองเท้า ฉลองพระองค์ ผา้ เชด็ หนา้ ซับพระพักตร์ ท่นี อน พระฉาย ม่าน มงุ้ ฉลองพระบาท กระจกสอ่ ง พระกระยาเสวย ผ้าอาบน้า พระยี่ภู่ ขา้ ว (พระมหากษตั รยิ ์) เขม็ ขัด พระสุธารส ประตู พระวิสตู ร พระสูตร พระกณุ ฑล เตยี งนอน ผา้ เชด็ ตวั พระภูษาชบุ สรง นา้ กิน ฉลองพระพกั ตร์ ฉลองพระหตั ถ์สอ้ ม ผ้าชบุ สรง ผา้ สรง ตมุ้ หู นา้ จณั ฑ์ รดั พระองค์ พระปน้ั เหน่ง ชอ้ น พระสนับเพลา พระที่ (ราชวงศ์) พระทวาร ชอ้ นส้อม พระแทน่ บรรทม เหล้า ซับพระองค์ กางเกง คาราชาศพั ท์หมวดคากรยิ า คาศพั ท์ คาราชาศพั ท์ คาศพั ท์ คาราชาศพั ท์ ทกั ทายปราศรัย พระราชปฏิสันถาร ดู ทอดพระเนตร ไปเทยี่ ว เสดจ็ ประพาส ให้ พระราชทาน ไหว้ ถวายบังคม อยากได้ ตอ้ งพระราชประสงค์ อาบนา้ สรงน้า เขยี นจดหมาย พระราชหตั ถเลขา นอน บรรทม มีครรภ์ ทรงพระครรภ์ นัง่ ประทับ หวั เราะ ทรงพระสรวล ไป เสดจ็ รบั ประทาน เสวย ชอบ โปรด ป่วย ประชวร
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๑ เรอ่ื ง สอื่ สารคลอ่ งตอ้ งรูว้ ิธี 141 คาราชาศพั ท์หมวดคาสรรพนาม คาทีใ่ ชแ้ ทน คาราชาศัพท์ ใชก้ ับ แทนชอื่ ผพู้ ูด (บรุ ษุ ท่ี ๑) ข้าพระพุทธเจา้ พระมหากษัตริย์ กระผม ดิฉัน ผู้ใหญ่ พระสงฆ์ แทนชอ่ื ที่พูดด้วย (บุรษุ ท่ี ๒) ใต้ฝา่ ละอองธุลีพระบาท พระมหากษตั ริย์ ใตฝ้ า่ ละอองพระบาท พระบรมราชนิ ี พระบรมราชนนี แทนชอ่ื ที่พดู ด้วย ฝ่าพระบาท พระบรมโอรสาธริ าช แทนชอ่ื ทพ่ี ูดด้วย พระคุณเจา้ พระบรมราชกุมารี แทนชื่อที่พดู ด้วย พระคุณท่าน แทนช่อื ทพ่ี ูดดว้ ย พระเดชพระคุณ เจา้ นายชน้ั สงู แทนผทู้ พ่ี ดู ถงึ (บรุ ุษท่ี ๓) พระองค์ พระสงฆผ์ ทู้ รงสมณศักดิ์ แทนผ้ทู ี่พูดถงึ ท่าน พระภิกษสุ งฆท์ ่วั ไป เจ้านาย, หรอื พระภกิ ษทุ ี่นับถอื พระราชา พระพุทธเจ้า เทพผเู้ ป็นใหญ่ เจา้ นาย ขุนนางชัน้ ผู้ใหญ่ พระภิกษุ ผ้ใู หญท่ ี่นบั ถือ
142 คมู่ อื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ใบงานท่ี ๙ เรื่อง การจดั หมวดหมู่คาราชาศพั ท์ หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๑ เรื่อง สอื่ สารคล่องต้องรูว้ ิธี แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๙ เรอ่ื ง คาราชาศัพทน์ า่ รู้ รายวิชา ภาษาไทย รหัสวชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๕ คาชแ้ี จง ใหน้ ักเรียนนาคาราชาศัพท์ทอี่ ยู่ในกรอบสี่เหล่ียมไปจัดหมวดหมู่ใหถ้ ูกตอ้ ง และแต่งประโยคโดย ใชค้ าราชาศพั ท์ จานวน 5 ประโยค พระโอษฐ์ พระนาสกิ พระกรรณ พระราชทาน เสวย ถวายบงั คม เสดจ็ พระโอรส บรรทม พระบาท ฉลองพระองค์ พระบิดา พระมารดา พระกร พระฉาย ซบั พระพักตร์ ขอ้ ท่ี คาราชาศัพท์ หมวดหมู่ แตง่ ประโยค 1 2 3 4 5 ชื่อ..........................................................สกลุ ......................................................ช้ัน...............เลขที.่ ...........
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๑ เรื่อง สื่อสารคล่องต้องรวู้ ธิ ี ๑๔๓ หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 10 เรอ่ื ง วรรณกรรมดีมสี าระ เรอื่ ง สือ่ สารคล่องต้องรู้วธิ ี เวลา 1 ชว่ั โมง กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย รายวิชาภาษาไทย ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 1. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวช้วี ดั สาระที่ 5 วรรณคดแี ละวรรณกรรม มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่าและ นามาประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ติ จริง ตัวชี้วัด ท ๕.๑ ป.๕/๒ ระบคุ วามรู้และข้อคิดจากการอ่านวรรณคดีและวรรณกรรมทส่ี ามารถนาไปใช้ ในชีวิตจรงิ ๒. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด วรรณกรรมเป็นงานเขียนทั่วไปท่ีมีเน้อื หาสาระและแนวความคิดเก่ียวกับเร่อื งใดเรื่องหนึ่ง มีลักษณะ กระตุน้ หรอื ชักจงู ใหผ้ ู้อ่านเกดิ ความคดิ ในแง่ต่าง ๆ การอ่านวรรณกรรมต้องจับประเด็นสาคญั และพจิ ารณาหา ความรู้ ข้อคิด หรอื คติสอนใจให้ได้ เพื่อนาไปใชป้ ระโยชนใ์ นชีวติ จรงิ ๓. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 3.1 ด้านความรู้ ความเขา้ ใจ (K) บอกหลกั การระบคุ วามรู้และข้อคดิ จากวรรณกรรมทอ่ี ่านได้ 3.2 ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) ระบุความรแู้ ละข้อคิดจากวรรณกรรมท่ีอา่ นได้ 3.3 ด้านคณุ ลักษณะ เจตคติ ค่านิยม (A) มนี ิสยั รกั การอา่ น ๔. สาระการเรยี นรู้ การอา่ นวรรณกรรมต่าง ๆ เชน่ นทิ านพื้นบ้าน นทิ านคตธิ รรม เพลงพนื้ บา้ น วรรณคดีและวรรณกรรม ในบทเรียน บทอาขยาน และบทรอ้ ยกรอง ๕. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน 5.1 ความสามารถในการคดิ 5.2 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ ๖. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 6.1 ใฝเ่ รยี นรู้ 6.2 มุ่งม่ันในการทางาน 7. กิจกรรมการเรียนรู้
๑๔๔ คมู่ ลําดบั การจดั กจิ กรรมการเรียนร ที่ รายวิชา ภาษาไทย หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เรอ่ื 1. แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 10 เรอ่ื ง วรร ขอบเขตเน้อื หา/ ข้ันตอนการจดั เวลา แ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรยี นรู้ กจิ กรรมคร ขอบเขตเน้อื หา ทใ่ี ช้ 1. ความหมายของ วรรณกรรม ข้ันนาํ 5 1. ครูนาํ นกั เรยี นสนทน 2. การอา่ น นาที วรรณกรรมในชวี ิตปร วรรณกรรม 2. ครูถามคาํ ถาม ดังน - นักเรยี นคิดวา่ ข้อคว - ขนาดสน้ั กบั ข้อความข ขอ้ ความแบบไหนเขา้ ใ กว่ากนั เพราะอะไร - ถ้าเราอา่ นวรรณกรร เร่ือง นกั เรยี นคดิ วา่ เร ประโยชน์อะไรบ้างจาก - นกั เรยี นคดิ วา่ เราคว อยา่ งไรจงึ จะเขา้ ใจเร่ือ ท้งั หมดในวรรณกรรม 3. ครพู ดู แสดงความค สรุปทา้ ยและเช่อื มโยง เน้ือหาในบทเรียน
ือครูและแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) รู้ ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 5 อง สอื่ สารคล่องต้องรวู้ ธิ ี จํานวน 10 ชว่ั โมง รณกรรมดมี สี าระ จาํ นวน 1 ชัว่ โมง แนวการจดั การเรยี นรู้ สอื่ การเรยี นรู้ การประเมนิ รู กจิ กรรมนกั เรยี น การเรียนรู้ นาเกีย่ วกบั 1. นกั เรียนสนทนาเกี่ยวกบั 1. รปู ภาพ สงั เกตการตอบ ระจําวนั วรรณกรรมในชีวิตประจําวัน วรรณกรรม คาํ ถามของ นกั เรยี น นี้ 2. นักเรยี นทุกคนร่วมกัน 2. คาํ ถามอยู่ใน วาม แสดงความคิดเหน็ และตอบ สือ่ PPT ขนาดยาว คาํ ถาม ใจงา่ ย - ข้อความขนาดสั้นเข้าใจงา่ ย กวา่ เพราะเนือ้ หาไมม่ าก รม 1 - ได้รับความรู้ ราจะได้ ความเพลิดเพลิน ได้รแู้ นวคดิ กการอ่าน ต่าง ๆ ของคนในสงั คม ฯลฯ วรทํา - มีหลักการอา่ นท่ีถกู ต้อง องราว มที่อ่าน คิดเหน็ 3. นักเรยี นเขา้ สูบ่ ทเรียน งเขา้ สู่
หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑ เรื่อง ส่อื สารคล่องต้องรู้วธิ ี ลาดบั ขอบเขตเนอ้ื หา/ ข้นั ตอนการจัด เวลา แ ท่ี จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ท่ีใช้ กิจกรรมคร 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ ข้นั สอน 15 1. ครตู ง้ั คาถามเพ่อื ม 1. บอกหลกั การระบุ นาที เนือ้ หา ความรู้และข้อคดิ จาก ครู : การอา่ นวรรณกร เรื่องทอี่ ่านได้ นกั เรียนมวี ธิ กี ารอา่ นอ 2. ครูให้นกั เรียนรว่ มก ใบความรู้ที่ ๑๐ เรอื่ ง วรรณกรรม โดยใหน้ กั อภปิ รายภายในกลมุ่ เก ความหมายและลักษณ 3. ครูอธิบายเพม่ิ เติม (วรรณกรรม คือ งานเข ไปทงั้ ร้อยแกว้ และร้อย เชน่ - เรื่องสัน้ - นทิ านพน้ื บ้าน - นิทานคตธิ รร - เพลงพื้นบา้ น - วรรณคดใี นบ - บทอาขยาน บ 10 4. ครใู หน้ กั เรยี นทกุ ก นาที อภปิ รายเกี่ยวกบั หลกั ความรู้และขอ้ คดิ จาก
๑๔๕ แนวการจัดการเรยี นรู้ สื่อการเรยี นรู้ การประเมนิ การเรยี นรู้ รู กิจกรรมนักเรียน สังเกตการตอบ คาถามของ มุ่งเขา้ สู่ 1. นักเรียนตอบคาถาม 1. คาถามอย่ใู น นักเรยี น นกั เรยี น : ตัง้ ใจอ่านเรอื่ งราว สอื่ PPT รรมที่ดี ทง้ั หมด และจบั ใจความสาคัญ อยา่ งไร จากการอ่าน กันศกึ ษา 2. นกั เรยี นศกึ ษาใบความรู้ที่ 2. ใบความรู้ที่ 10 เรอื่ ง วรรณกรรม จากนน้ั 10 เร่ือง กเรียน ร่วมกนั อภปิ รายภายในกลมุ่ วรรณกรรมดี มี ก่ียวกบั สาระ ณะ ม 3. นักเรยี นสนทนาพร้อมกัน ขียนท่ัว ๆ ครู ยกรอง) น 1. ประเมนิ รม ใบงาน น (ประเมินด้าน K) บทเรียน บทร้อยกรอง กลมุ่ 4. นักเรยี นทุกกลมุ่ สรปุ 3. ใบงานท่ี 10 กการระบุ หลกั การระบคุ วามรูแ้ ละขอ้ คดิ ตอนที่ 1 กเรอื่ งที่ จากเรอื่ งทอี่ า่ น แลว้ สรุปเปน็
๑๔๖ ค่มู ือ ลาดับ ขอบเขตเนื้อหา/ ขั้นตอนการจดั เวลา แ ที่ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ท่ีใช้ กิจกรรมคร อา่ น แลว้ สรปุ เป็นแผน ความคิดลงในใบงานท 3. 2. ระบคุ วามรู้และ ขั้นปฏิบัติ 15 5. ครใู ห้นกั เรยี นออก ข้อคิด นาที นาเสนอผลงาน โดยน จากเร่ืองทอ่ี า่ นได้ 3. มนี ิสยั รกั การอ่าน กระดานข้างหอ้ งเรยี น สรปุ ผลงานร่วมกนั 6. ครูให้นกั เรียนทาใบ 10 ตอนท่ี 2 โดยอา่ น วรรณกรรมทีค่ รกู าหน แล้วสรปุ ความรแู้ ละข วรรณกรรม (ครูขน้ึ กิจกรรม : นักเ ใบงานที่ 10 ตอนท่ี 2 7. ครนู าผลงานของก นกั เรยี นทีท่ าเสรจ็ มาให ต้นทาง/ปลายทางดูพ และประเมินความถูก 8. ครสู รปุ การทากจิ ก
อครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรียนรู้ สือ่ การเรยี นรู้ การประเมนิ รู กจิ กรรมนักเรยี น การเรยี นรู้ นภาพ แผนภาพความคิดลงในใบงาน ท่ี 10 ท่ี 10 ตอนท่ี 1 กมา 5. นกั เรยี นนาเสนอผลงาน 1. ใบงานที่ 10 2. ประเมนิ นาไปติดท่ี และตรวจสอบความถกู ต้อง ตอนที่ 2 การระบคุ วามรู้ น จากน้ัน ร่วมกนั และข้อคิดจาก เรอ่ื งท่อี า่ นได้ บงานที่ 6. นักเรยี นทาใบงานท่ี 10 2. สอ่ื PPT 3. สังเกต น ตอนที่ 2 โดยอา่ นวรรณกรรม พฤติกรรม นดให้ ทีค่ รกู าหนดให้ แล้วสรปุ ข้อคดิ จาก ความรู้และขอ้ คดิ จาก วรรณกรรม เรียนทา นกั เรยี นตน้ ทาง/ปลายทางทา 2 ) ใบงานที่ 10 ตอนท่ี 2 พร้อมกนั กลุ่ม 7. นักเรยี นตน้ ทาง/ปลายทาง หน้ กั เรยี น ดผู ลงานพร้อมกนั และ พร้อมกัน ประเมินความถกู ต้อง กตอ้ ง กรรม 8. นักเรยี นร่วมกันสรปุ กจิ กรรม
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๑ เร่อื ง สอ่ื สารคลอ่ งตอ้ งร้วู ธิ ี ลาดบั ขอบเขตเน้อื หา/ ขนั้ ตอนการจดั เวลา แ ที่ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรียนรู้ ทใี่ ช้ กจิ กรรมคร 4. ขั้นสรปุ 5 1. ครูขึ้นสรปุ ความรู้ นาที - การอา่ นวรรณกรรม จบั ประเด็นสาคญั แล พจิ ารณาหาความรู้ ข้อ หรอื คตสิ อนใจให้ได้ เ นาไปใชป้ ระโยชน์ในช
๑๔๗ แนวการจดั การเรยี นรู้ สือ่ การเรียนรู้ การประเมนิ การเรยี นรู้ รู กจิ กรรมนักเรยี น ดังนี้ 1. นักเรียนสรปุ ความรรู้ ว่ มกนั ส่ือ PPT มตอ้ ง กับครู เร่อื ง วรรณกรรม ละ - การอ่านวรรณกรรมตอ้ ง ดี มสี าระ ขอคิด จับประเด็นสาคญั และ เพอื่ พจิ ารณาหาความรู้ ข้อคิด ชวี ติ หรอื คตสิ อนใจใหไ้ ด้ เพอ่ื นาไปใช้ประโยชน์ในชีวติ
148 คูม่ อื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) 8. ส่อื การเรยี นร/ู้ แหลง่ เรียนรู้ 1. รปู ภาพวรรณกรรมตา่ ง ๆ 2. ใบความรู้ที่ ๑๐ เรอ่ื ง วรรณกรรมและหลกั การระบุความรู้ ข้อคิดจากเร่อื ง 3. ใบงานท่ี ๑๐ เร่อื ง วรรณกรรมดีมสี าระ 4. ส่อื PPT เร่อื ง วรรณกรรมดมี สี าระ 5. ตวั อย่างหนงั สือวรรณกรรมต่าง ๆ เช่น เร่อื งสัน้ นวนยิ าย นิยาย สารคดี เปน็ ตน้ 9. การประเมินผลรวบยอด ช้ินงานหรือภาระงาน - ใบงานท่ี 10 เรอ่ื ง วรรณกรรมดีมสี าระ สง่ิ ท่ตี ้องการวดั / ประเมนิ วิธกี าร เครอ่ื งมือที่ใช้ เกณฑ์ รอ้ ยละ ๖๐ ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) ขน้ึ ไป - บอกหลกั การระบคุ วามรู้ - พจิ ารณาการตอบ - คาถาม/ใบงาน รอ้ ยละ ๖๐ และข้อคิดจากเรื่องทอี่ า่ น คาถามของนักเรียน ข้ึนไป ด้านทกั ษะและกระบวนการ (P) ร้อยละ ๖๐ - ระบุความรู้และขอ้ คิด - ตรวจใบงานที่ 10 - แบบประเมินการระบุ ขึ้นไป จากเร่อื งทอ่ี ่าน เรื่อง วรรณกรรมดมี ีสาระ ความรแู้ ละข้อคดิ จาก ระดับคณุ ภาพ การอ่านวรรณกรรม ผา่ น ด้านคุณลกั ษณะ เจคติ คา่ นิยม ระดับคุณภาพ (A) ผ่าน - มีนสิ ัยรกั การอ่าน - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม นักเรียน คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบประเมนิ 1. ใฝ่เรยี นรู้ 2. มุง่ มั่นในการทางาน นักเรยี น คณุ ลกั ษณะ อันพงึ ประสงค์ สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รยี น 1. ความสามารถในการคดิ - สังเกตพฤติกรรม - แบบประเมนิ สมรรถนะ 2. ความสามารถในการใช้ทกั ษะ นกั เรยี น สาคญั ของผู้เรียน ชวี ติ
หน่วยการเรียนร้ทู ี่ ๑ เรือ่ ง สอ่ื สารคล่องตอ้ งรวู้ ิธี 149 เกณฑ์ประเมิน : การระบุความรู้และข้อคิดจากการอา่ นวรรณกรรม ประเดน็ ระดบั คุณภาพ การประเมนิ 1. การสรปุ ๔ (ดีมาก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรงุ ) ความรู้ สรปุ ความรู้ไมต่ รง สรปุ ความรูต้ รง สรปุ ความร้ตู รง สรปุ ความร้ตู รง ประเดน็ ถกู ต้อง 2. การอธิบาย ประเดน็ ถูกต้อง ประเด็นถกู ต้อง ประเด็นถกู ต้อง รอ้ ยละ ๔๐ ของ ข้อคิด ครบถ้วนตาม ร้อยละ ๘๐ ของ ร้อยละ ๖๐ ของ เนอื้ หาของเรอ่ื ง เน้อื หาของเรอื่ ง เนื้อหาของเร่อื ง เน้ือหาของเรื่อง เขียนขอ้ คดิ ได้ 3. การนาข้อคิด นอ้ ยมากและไม่ ไปใชใ้ น เขียนข้อคดิ ตรง เขยี นข้อคิดตรง เขยี นข้อคดิ ได้ ตรงประเด็น ชีวติ ประจาวนั ประเดน็ แสดง ประเดน็ บางส่วนสอดคล้อง เหตผุ ลสอดคลอ้ ง สอดคล้องกบั เร่ือง กบั เร่อื งบางส่วน เขียนขอ้ คดิ ไปใชใ้ น กับเร่อื ง ชีวติ ประจาวันได้ นอ้ ย เขียนข้อคดิ ไปใชใ้ น เขยี นข้อคดิ ไปใชใ้ น เขียนข้อคิดไปใชใ้ น ชีวิตประจาวันได้ ชีวิตประจาวันได้ ชวี ติ ประจาวันได้ อยา่ งถูกตอ้ งและ และใช้ไดจ้ ริง บางส่วน ใช้ไดจ้ รงิ เกณฑ์การประเมินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ 10-12 ดมี าก 7-9 ดี 4-6 พอใช้ 1-3 ปรบั ปรงุ เกณฑ์การตัดสนิ : ผ่านเกณฑก์ ารประเมินร้อยละ ๖๐ ขนึ้ ไป (ตอ้ งไดร้ ะดบั พอใชข้ ึน้ ไป)
150 ค่มู ือครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แบบประเมินการระบุความรแู้ ละขอ้ คิดจากการอา่ นวรรณกรรม คาชแี้ จง ให้ครูประเมนิ การจาแนกชนดิ และหนา้ ทข่ี องคาวเิ ศษณโ์ ดยเขียนคะแนน ลงในชอ่ งที่กาหนดไว้ ลาดบั ช่อื - สกุล คะแนน คิดเป็น สรปุ ผล ที่ ทีไ่ ด้ ร้อยละ การประเมิน ๒๐ ผา่ น ไมผ่ า่ น คะแนน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ดมี าก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ รวม (คน) คิดเปน็ ร้อยละ ผลการประเมนิ ดีมาก ..........คน คดิ เป็นร้อยละ............... ดี ..........คน คิดเป็นรอ้ ยละ.............. พอใช้ ..........คน คิดเปน็ ร้อยละ............... ปรับปรงุ .........คน คิดเปน็ ร้อยละ............... สรปุ ผลการประเมินรายช้ันเรยี น นักเรยี นผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ จานวน......................... คน คดิ เปน็ ร้อยละ......................... นกั เรยี นไมผ่ า่ นเกณฑ์การประเมนิ จานวน......................... คน คิดเปน็ ร้อยละ......................... ลงช่อื .................................................ผปู้ ระเมิน (..............................................) ........../..................../.........
หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ เรอ่ื ง สอื่ สารคลอ่ งต้องรวู้ ธิ ี 151 10. บนั ทกึ ผลหลงั สอน ผลการจดั การเรยี นการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสาเรจ็ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปญั หาและอปุ สรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ้ จากดั การใช้แผนการจัดการเรียนรู้ และข้อเสนอแนะ/แนวทางการปรบั ปรงุ แก้ไข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ......................................................ผสู้ อน (.......................................................) วันท่ี .......... เดอื น ..................... พ.ศ. ............. 11. ความคิดเหน็ /ข้อเสนอแนะของผู้บรหิ ารหรือผทู้ ไี่ ดร้ ับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอื่ ...................................................... ผตู้ รวจ (.......................................................) วันท่ี .......... เดือน ..................... พ.ศ. .............
152 คมู่ อื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ใบความรทู้ ่ี ๑๐ เรอ่ื ง การอ่านวรรณกรรม หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๑ เร่ือง สอื่ สารคล่องต้องรู้วิธี แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 10 เรื่อง วรรณกรรมดีมีสาระ รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ความหมายของวรรณกรรม วรรณกรรม ตามความหมายของพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตสถาน พ.ศ. 2554 ใหค้ วามหมายไวว้ ่า น. งานหนงั สือ, งานประพันธ์, บทประพนั ธท์ กุ ชนิดท้งั ทีเ่ ป็นร้อยแกว้ และร้อยกรอง, เชน่ วรรณกรรม สมยั รัตนโกสินทร์ วรรณกรรมของเสฐียรโกเศศ วรรณกรรมฝรั่งเศส วรรณกรรมประเภทสอ่ื สารมวลชน พระยาอนมุ าราชธน ให้ความหมายไว้ว่า การกระทาหนังสือหรือหนังสือท่ีแตง่ ข้ึนท่ัวไปโดยมิไดจ้ ากัด ว่าเป็นหนงั สือพวกใดพวกหนงึ่ โดยเฉพาะส่วนจะมคี ณุ ค่ามากน้อยเพียงใดนนั้ เปน็ เร่อื งหนึ่งตา่ งหาก สรุปความหมายของ “วรรณกรรม” แบบเข้าใจอย่างง่ายได้ว่า วรรณกรรม หมายถึง งานเขียน ท่ัวไป ที่แต่งข้ึนตามความรู้ ความคิด ความคิดเห็น หรือตามจินตนาการ เช่น หนังสือ นิตยสาร หนังสอื พิมพ์ นวนยิ าย เรอื่ งสนั้ เทศนา คาสอน รวมถงึ วรรณคดดี ้วย ประเภทของวรรณกรรม วรรณกรรมแบง่ เป็น 2 ประเภท คือ 1. วรรณกรรมสารคดี หมายถงึ หนังสือทแ่ี ต่งขึ้นเพื่อมงุ่ ความรู้ ความคิด ประสบการณ์แก่ผู้อ่านซึ่ง อาจใชร้ ปู แบบรอ้ ยแก้ว หรอื รอ้ ยกรองกไ็ ด้ เชน่ หนังสอื วชิ าการ ตาราเรียน ตาราอาหาร บทความ ฯลฯ 2. วรรณกรรมบนั เทงิ คดี หมายถงึ วรรณกรรมทแี่ ตง่ ขึ้นเพ่ือมงุ่ ให้ความเพลดิ เพลนิ สนุกสนานบันเทิง แก่ผู้อ่าน จึงมักเป็นเรื่องท่ีมเี หตุการณ์และตวั ละคร เชน่ เร่ืองส้นั นวนยิ าย นทิ าน บทเพลงต่าง ๆ ฯลฯ ชนดิ ของวรรณกรรมไทย ชนดิ ของวรรณกรรมไทย แบ่งเป็น 2 ชนดิ คือ 1. วรรณกรรมร้อยกรอง คือ ลักษณะงานเขียนท่ีใช้ภาษาเขียนที่สละสวย คล้องจองกัน มีสัมผัส บังคับตามฉันทลักษณ์ เช่น พระอภัยมณี ขุนช้างขุนแผน สังข์ทอง นิราศ รามเกียรต์ิ ฯลฯ โดยจะใช้คา ประพนั ธ์ประเภท โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน ร่าย ประเภทต่าง ๆ ในการแตง่ 2. วรรณกรรมร้อยแก้ว คอื งานเขียนแบบความเรียง หรือ เรียงความ ที่ไม่ใช้ภาษาคล้องจอง ในรูป ของบทความ นทิ าน เพลง ฯลฯ
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี ๑ เร่ือง สื่อสารคล่องต้องรู้วิธี 153 หลักการหาความรแู้ ละข้อคิดจากการอ่านวรรณกรรม 1. อา่ นเรอื่ งทง้ั หมดใหเ้ ข้าใจและค้นหาสาระสาคัญของเรื่อง 2. อ่านอกี ครั้งดรู ายละเอียดของเน้อื หา เพอื่ คน้ หาความร้สู าคญั และขอ้ คิด 3. สามารถอา่ นเพ่ิมไดจ้ นกว่าจะเข้าใจเน้อื หามากยง่ิ ขึน้ 4. ใหส้ รปุ ใจความสาคัญเพยี งใจความเดียวของแต่ละย่อหนา้ ไว้ 5. นาใจความสาคญั ทร่ี วบรวมไวม้ าเขยี นเรยี บเรยี งใหม่อยา่ งละเอยี ดด้วยภาษาตนเอง 6. ทบทวนการสรปุ อกี คร้งั เพอื่ พจิ ารณาหาสว่ นทตี่ ้องแกไ้ ข
154 คู่มอื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ใบงานท่ี ๑๐ เรอ่ื ง วรรณกรรมดีมีสาระ หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๑ เร่ือง สือ่ สารคลอ่ งตอ้ งรูว้ ธิ ี แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10 เร่ือง วรรณกรรมดมี สี าระ รายวิชา ภาษาไทย รหัสวชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๕ ตอนท่ี ๑ ตอบคาถามต่อไปน้ใี ห้ถูกตอ้ ง ๑. วรรณกรรมคอื อะไร .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ๒. การหาความรู้และขอ้ คดิ จากเร่อื งท่อี า่ น มีหลกั การหรอื ขน้ั ตอนอย่างไร (เขียนเปน็ แผนภาพความคิด) ตอนที่ 2 อา่ นวรรณกรรมแล้วสรปุ ความรู้ ๓. ใหน้ ักเรียนเขยี นสรุปความรู้ ขอ้ คดิ ทีไ่ ด้จากวรรณกรรมทอี่ ่าน และการนาไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ความรูท้ ี่ได้ คอื ...................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ้ คิดทไ่ี ด้ คือ....................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. การนาไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ................................................................................................................................ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ชอ่ื .......................................................นามสกลุ ................................................ชน้ั .................เลขที.่ ...........
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ เรื่อง ส่อื สารคล่องตอ้ งรูว้ ิธี 155 แนวคาตอบใบงานท่ี ๑๐ เรอ่ื ง วรรณกรรมดีมีสาระ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ เร่ือง สื่อสารคล่องตอ้ งรู้วิธี แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 10 เร่อื ง วรรณกรรมดีมสี าระ รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๕ ตอนท่ี ๑ ตอบคาถามต่อไปนใี้ ห้ถกู ต้อง ๑. วรรณกรรมคืออะไร วรรณกรรม หมายถึง งานเขียนทั่วไป ท่ีแต่งขึ้นตามความรู้ ความคิด ความคิดเห็น หรือตามจินตนาการ เช่น หนงั สือ นติ ยสาร หนังสือพิมพ์ นวนิยาย เรือ่ งส้ัน เทศนา คาสอน รวมถึงวรรณคดี ด้วย ๒. การหาความรู้และขอ้ คิดจากเร่อื งท่ีอา่ น มหี ลกั การหรือขนั้ ตอนอยา่ งไร (เขยี นเปน็ แผนภาพความคิด) 1. อ่านเรือ่ งท้ังหมดให้เขา้ ใจและ 2. อา่ นอีกครง้ั ดรู ายละเอียดของเน้ือหา ค้นหาสาระสาคญั ของเร่ือง เพอื่ คน้ หาความรสู้ าคญั และข้อคดิ 6. ทบทวนการสรปุ อกี การหาความรู้และข้อคิดจากเร่ืองท่ีอ่าน 3. สามารถอา่ นเพ่มิ ครง้ั เพอื่ พจิ ารณาหา ไดจ้ นกวา่ จะเขา้ ใจ เน้อื หามากยิ่งข้นึ สว่ นทตี่ ้องแก้ไข 5. นาใจความสาคัญทรี่ วบรวมไว้มาเขียน 4. ให้สรปุ ใจความสาคญั เพียง เรยี บเรียงใหม่อยา่ งละเอียดด้วยภาษาตนเอง ใจความเดียวของแต่ละย่อหน้าไว้ ตอนที่ 2 อา่ นวรรณกรรมแล้วสรุปความรู้ ๓. ให้นกั เรียนเขยี นสรปุ ความรู้ ข้อคิดท่ไี ด้จากวรรณกรรมทอี่ ่าน และการนาไปใช้ในชวี ิตประจาวัน ความร้ทู ่ไี ด้ คอื ...อยใู่ นดุลพนิ จิ ของครูผสู้ อน โดนพจิ ารณาจากหลกั การสรปุ ความรูแ้ ละขอ้ คิดจากเร่อื งทอ่ี า่ น ข้อคิดท่ไี ด้ คือ...อยู่ในดุลพนิ ิจของครผู ้สู อน โดนพิจารณาจากหลกั การสรปุ ความรแู้ ละขอ้ คดิ จากเรอื่ งทอี่ า่ น การนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั อยู่ในดลุ พินจิ ของครูผสู้ อน โดนพจิ ารณาจากหลักการสรปุ ความรูแ้ ละข้อคดิ จาก เรอื่ งท่อี ่าน
156 คมู่ ือครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แบบประเมนิ ตนเอง ชอ่ื : __________________สกุล : __________________วัน____ เดอื น____________พ.ศ. ____ หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี___1___เรอ่ื ง สอื่ สารคลอ่ งต้องรวู้ ธิ ี ๑. ประเมนิ การเรยี นรขู้ องตนเอง กาเคร่ืองหมาย ในช่องระดับความสามารถของแต่ละกิจกรรมท่ีนักเรียนคิดว่าทาได้ตามระดับ การประเมินเหล่าน้ี ระดับความสามารถ : ดมี าก ค่อนขา้ งดี ดี พอใช้ ปรบั ปรุง ท่ี รายการ ระดบั ความสามารถ ดมี าก ค่อน ดี พอใช้ ปรับปรงุ ๑ อา่ นออกเสยี งบทร้อยแก้วและบทรอ้ ยกรองได้ ๒ คดั ลายมอื ตัวบรรจงเตม็ บรรทัดและคร่ึงบรรทดั ได้ ขา้ งดี ๓ จบั ประเด็นสาคัญของเรือ่ งทอ่ี า่ นได้ ๔ ตอบคาถามจากการฟงั และการดไู ด้ ๕ สรปุ ข้อคดิ จากการอ่านวรรณกรรมดมี สี าระได้ 2. ส่ิงทฉี่ นั ยงั ไมเ่ ข้าใจ / ยังทาได้ไม่ดี คอื …… (สามารถเขยี นได้มากกวา่ 1 อย่าง) ……………………………….............................................................................................................. .................................................................................................................................................. ...............……………………………………………................................................................................. .................................................................................................................................................. 3. ส่ิงท่ฉี นั ตัง้ ใจจะทาใหด้ ีขึน้ ในการเรยี นหน่วยต่อไป (สามารถเขียนไดม้ ากกวา่ 1 อยา่ ง) ……………………………….............................................................................................................. .................................................................................................................................................. ...............……………………………………………................................................................................. ..................................................................................................................................................
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๒ เรื่อง สงั ขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสังข์ ๑๕๗ หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๒ สังขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสังข์
๑๕๘ คู่มือครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 2 ชือ่ หนว่ ยการเรียนรู้ สงั ขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสงั ข์ รหัสวชิ า ท๑๕๑๐๑ รายวิชาภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ ภาคเรียนที่ ๑ เวลา ๑๐ ชวั่ โมง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ ตวั ชวี ัด สาระที่ ๑ การอา่ น มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความรแู้ ละความคิดเพ่อื นาไปใชต้ ัดสินใจ แกป้ ัญหาในการดาเนิน ชีวิต และมนี ิสยั รกั การอ่าน ตัวชี้วัด ป.๕/๑ อา่ นออกเสียงบทรอ้ ยแกว้ และบทร้อยกรองไดถ้ กู ต้อง ป.๕/๒ อธิบายความหมายของคา ประโยคและข้อความทเ่ี ปน็ การบรรยายและการพรรณนา ป.๕/๕ วิเคราะห์และแสดงความคดิ เหน็ เกี่ยวกบั เรอ่ื งท่ีอา่ นเพอ่ื นาไปใช้ในการดาเนนิ ชีวิต ป.๕/๘ มีมารยาทในการอ่าน สาระที่ ๒ การเขียน มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขยี นเขียนสอ่ื สาร เขียนเรยี งความ ยอ่ ความ และเขยี นเร่อื งราวในรปู แบบ ตา่ ง ๆ เขยี นรายงานข้อมลู สารสนเทศและรายงานการศกึ ษาค้นคว้าอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ ตวั ชี้วัด ป.๕/๓ เขยี นแผนภาพโครงเรอ่ื งและแผนภาพความคิดเพ่อื ใชพ้ ัฒนางานเขียน ป.๕/๙ มมี ารยาทในการเขียน สาระที่ ๔ หลักการใช้ภาษาไทย มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลีย่ นแปลงของภาษาและพลงั ของ ภาษา ภูมปิ ญั ญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบตั ขิ องชาติ ตวั ชว้ี ดั ป.๕/๑ ระบุชนิดและหนา้ ทข่ี องคาในประโยค ป.๕/๔ ใชค้ าราชาศพั ท์ สาระที่ ๕ วรรณคดีและวรรณกรรม มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเหน็ วจิ ารณว์ รรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเหน็ คณุ คา่ และนามาประยุกตใ์ ชใ้ นชีวิตจรงิ ตัวช้วี ัด ป.๕/๒ ระบคุ วามรู้และขอ้ คิดจากการอ่านวรรณคดแี ละวรรณกรรมทสี่ ามารถนาไปใช้ในชวี ิตจรงิ ป.๕/๓ อธบิ ายคุณคา่ ของวรรณคดแี ละวรรณกรรม ป.๕/๔ ท่องจาบทอาขยานตามท่กี าหนดและบทร้อยกรองทม่ี คี ุณคา่ ตามความสนใจ
หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๒ เรือ่ ง สังขท์ อง ตอน กาเนิดพระสังข์ ๑๕๙ ๒. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด 2.1 การอธิบายความหมายของคาศัพท์ในบทเรยี น ต้องใช้บริบทในการเข้าใจความหมาย จงึ จะช่วย ให้อ่านเร่อื งได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว ทาให้เข้าใจความหมายของบทร้อยกรองที่อา่ นได้ และเกดิ ความซาบซ้ึง ประทบั ใจยิ่งขึ้น 2.2 การอา่ นออกเสียงบทร้อยกรองเรอ่ื ง สงั ขท์ อง ตอน กาเนิดพระสังข์ ต้องอา่ นให้ชดั เจน เนน้ สมั ผสั ถกู ต้องตามอักขรวธิ ี และฉันทลักษณข์ องบทรอ้ ยกรอง การอ่านแบบทานองเสนาะต้องรจู้ ักทอดจังหวะ เออื้ น เสียงหรือหลบเสยี ง มสี าเนียงสงู ต่า หนักเบา ยาวสนั้ เป็นทานองเหมอื นเสยี งดนตรี เสยี งไมเ่ บาหรอื ดงั เกนิ ไป มี น้าเสียงแสดงอารมณ์ไปตามเนื้อเร่ือง และมมี ารยาทในการอ่าน 2.3 การอ่านจับใจความเพือ่ วเิ คราะหเ์ ร่ืองทอี่ ่านเป็นการแยกแยะขอ้ เทจ็ จริงของสาระจากเรอ่ื งที่อ่าน และแสดงความคดิ เหน็ ได้อย่างมีเหตุ มีผล สามารถทาใหเ้ กิดทักษะที่ดี นาไปใช้ในการดาเนนิ ชีวติ ประจาวันได้ อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ 2.4 การอธบิ ายความหมายของคา ประโยคและขอ้ ความท่ีเป็นการบรรยายและการพรรณนา ผู้อา่ น สามารถใช้บริบทในการเข้าใจความหมายของคา และการถอดคาประพันธ์ได้ ทาให้เข้าใจความหมายของบท รอ้ ยกรอง และเกิดความซาบซงึ้ ประทบั ใจยง่ิ ขึน้ 2.5 การเขียนแผนภาพโครงเร่ือง เป็นการเตรียมงานเขียน โดยนาความรหู้ รอื ข้อเท็จจริงมาจดั ระบบ ใช้ในการวางโครงเร่ืองท่ีมีตัวละคร ฉาก และมีการดาเนินเร่ืองไปตามเหตุการณ์ ซึ่งต้องอาศัยการตั้งคาถาม ตอบคาถามจากเรื่องที่อ่าน ช่วยให้งานเขียนมีคุณภาพ ส่ือสารได้ตรงตามจุดประสงค์ และได้ความสมบูรณ์ ครบถ้วน 2.6 การวิเคราะห์คุณค่าและสรุปข้อคิดจากเร่ืองที่อ่าน ทาให้ผอู้ ่านเข้าใจคุณค่าและข้อคิดของเร่ือง ทีอ่ า่ น และสามารถนาความรู้ทไ่ี ด้จากเร่ือง ไปปรับใช้ประโยชน์ในการดาเนินชวี ิต สามารถแสดงความคดิ เห็น จากเรอื่ งท่อี า่ นได้ ทาให้ผูอ้ ่านมีความคิดกวา้ งไกลและเขา้ ใจเร่อื งราวท่ีอ่านไดเ้ พมิ่ มากขึ้น 2.7 การท่องจาบทอาขยาน จะทาให้เห็นความงดงามและความไพเราะของภาษา เกิดความซาบซึ้ง ภูมใิ จ และรกั ความเปน็ ไทย สามารถนาไปใชอ้ ้างอิง และนาข้อคดิ ไปเป็นแนวทางในการดาเนินชวี ิต 2.8 คาราชาศัพท์ เปน็ คาที่ใชก้ ับบุคคลซ่ึงมีฐานะตา่ ง ๆ ซึ่งประกอบด้วย พระมหากษตั ริย์ พระบรม วงศานุวงศต์ ั้งแต่ยศช้ันหม่อมเจา้ ข้นึ ไป พระสงฆ์ ข้าราชการผ้ใู หญ่หรือชั้นสงู และสภุ าพชน การเข้าใจคาราชา ศัพท์ทาใหน้ าไปใชไ้ ด้เหมาะสมกับบุคคล กาลเทศะ 2.9 คาบุพบท เป็นคาทแี่ สดงถงึ ความสมั พันธ์ระหว่างคาในประโยคต่าง ๆ โดยจะวางอยู่หน้าคานาม หรือคาสรรพนาม ซ่ึงคาบพุ บทมีหลายชนดิ จงึ จาเป็นต้องเลือกใช้ใหถ้ ูกต้อง เหมาะสมกับสถานการณต์ า่ ง ๆ จึง จะทาให้การสอื่ สารมปี ระสิทธภิ าพและทาใหเ้ ข้าใจไดถ้ ูกต้อง ๓. สาระการเรยี นรู้ ความรู้ ๑. บอกความหมายของคาศพั ท์ในบทเรียนได้ ๒. อธบิ ายหลักการอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยกรองได้ ๓. บอกหลักการจับใจความสาคัญจากเรอ่ื งท่ีอา่ นได้ ๔. บอกหลกั การถอดคาประพันธไ์ ด้ ๕. บอกหลักการเขียนแผนภาพโครงเรอ่ื งได้
๑๖๐ คู่มือครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ๖. บอกหลกั การวเิ คราะหค์ ุณค่าและสรุปขอ้ คิดจากเรื่องทอี่ ่านได้ ๗. บอกหลักการทอ่ งจาบทอาขยานได้ ๘. บอกความหมายของคาราชาศพั ท์ได้ ๙. บอกชนิดและหน้าทขี่ องคาบพุ บทได้ ทกั ษะ/กระบวนการ ๑. รวบรวมคาศพั ทแ์ ละเขยี นอธิบายความหมายคาศพั ทใ์ นบทเรียนได้ถกู ตอ้ ง ๒. อ่านออกเสยี งบทร้อยกรองได้ถกู ต้อง ๓. อา่ นจับใจความสาคัญจากเร่อื ง สงั ขท์ อง ตอน กาเนิดพระสงั ข์ได้ ๔. ถอดคาประพนั ธจ์ ากเร่อื ง สงั ข์ทอง ตอน กาเนิดพระสังข์ได้ ๕. เขียนแผนภาพโครงเรือ่ ง สังข์ทอง ตอน กาเนิดพระสังข์ ได้ ๖. เขยี นอธบิ ายคุณคา่ และขอ้ คิดจากเรอื่ งทอ่ี า่ นได้ ๗. ท่องจาบทอาขยานสงั ขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสงั ข์ ได้ ๘. แตง่ ประโยคโดยใช้คาราชาศัพทไ์ ด้ ๙. แต่งประโยคโดยใชค้ าบุพบทได้ เจตคติ ๑. มีมารยาทในการอ่าน ๒. มีมารยาทในการเขียน 3. บอกประโยชนข์ องการทอ่ งจาบทอาขยานได้ 4. บอกความสาคญั ของการใชค้ าราชาศัพท์ได้ 5. บอกประโยชนข์ องคาบพุ บทในการสอื่ สารได้ ๔. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น ๑. ความสามารถในการส่ือสาร ๒. ความสามารถในการคดิ ๓. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ ๕. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ๑. ม่งุ มัน่ ในการทางาน ๒. รักความเป็นไทย ๖. การประเมินผลรวบยอด ชิ้นงานหรือภาระงาน ๑. ใบงานที่ ๑ เรื่อง การอธิบายความหมายของคาศัพทใ์ นบทเรยี น ๒. ใบงานท่ี ๒ เรอื่ ง การอา่ นออกเสยี งบทร้อยกรองเรือ่ ง สังขท์ อง ตอนกาเนดิ พระสังข์ ๓. ใบงานท่ี ๓ เรื่อง การจับใจความสาคญั จากเร่อื ง สังขท์ อง ตอนกาเนดิ พระสังข์ ๔. ใบงานที่ 4 เรอ่ื ง การถอดคาประพันธจ์ ากเรอ่ื ง สังขท์ อง ตอน กาเนิดพระสงั ข์ ๕. ใบงานที่ ๕ เร่อื ง การเขยี นแผนภาพโครงเรือ่ ง เรอ่ื ง สงั ขท์ อง ตอน กาเนิดพระสงั ข์ ๖. ใบงานท่ี ๖ เร่อื ง การวิเคราะห์คุณคา่ และสรปุ ข้อคดิ จากเร่ืองทอี่ ่าน ๗. ใบงานที่ ๗ เรอื่ ง การวิเคราะหค์ ุณค่าและสรปุ ขอ้ คิดจากเร่อื งที่อ่าน
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๒ เร่ือง สังขท์ อง ตอน กาเนดิ พระสงั ข์ ๑๖๑ ๘. การท่องจาบทอาขยานเรอ่ื ง สังขท์ อง ตอน กาเนิดพระสงั ข์ ๙. ใบงานที่ ๘ เร่ือง คาราชาศพั ท์จากเร่อื ง สงั ขท์ อง ตอนกาเนิดพระสังข์ ๑๐. ใบงานท่ี ๙ เร่ือง คาบพุ บท บอกความสมั พันธ์ ๗. เกณฑ์การประเมนิ ผลช้ินงานหรือภาระงาน เกณฑ์ประเมนิ : การอธบิ ายความหมายของคาศัพทใ์ นบทเรยี น ประเดน็ ระดับคุณภาพ การประเมนิ ๑. การรวบรวบ ๔ (ดีมาก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรงุ ) คาศัพท์ รวบรวมคาศัพท์ได้ รวบรวมคาศัพท์ได้ ๓๒-๔๐ คาขนึ้ ไป รวบรวมคาศพั ทไ์ ด้ รวบรวมคาศพั ท์ ตา่ กวา่ ๒๔ คา ๒. การเขียน ๒๘-๓๑ คา ได๒้ ๔-๒๗ คา สะกดคา เขียนสะกดคา เขยี นสะกดคา เขยี นสะกดคา เขยี นสะกดคาไม่ถูก ๓. การเขียน ถกู ต้องทั้งหมด ผดิ ๒-๔ คา ผิด ๕-๗ คา ผดิ มากกวา่ ๗ คา อธบิ าย ความหมาย เขียนอธบิ าย เขยี นอธิบาย เขียนอธบิ ายความ เขยี นอธิบายความ ความหมายของคา ความหมายของคา หมายของคาไม่ หมายของคาได้ ถูกตอ้ งทง้ั หมด ไมถ่ กู ตอ้ ง 8-9 คา ถูกตอ้ ง 6-๗ คา ถูกต้องต่ากวา่ 6 คา เกณฑก์ ารประเมนิ คุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 10-12 ดมี าก 7-9 ดี 4-6 พอใช้ 1-3 ปรับปรงุ เกณฑ์การตดั สนิ : ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินรอ้ ยละ ๖๐ ขน้ึ ไป (ตอ้ งได้ระดบั พอใช้ขนึ้ ไป)
๑๖๒ คู่มือครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) เกณฑ์ประเมนิ : การอา่ นออกเสยี งบทร้อยกรองเรือ่ ง สงั ข์ทอง ตอน กาเนดิ พระสังข์ ประเด็น ๔ (ดีมาก) ระดับคุณภาพ ๑ (ปรับปรุง) การประเมิน ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ๑. อกั ขรวธิ ี อ่านถูกต้องทุกคา อ่านผดิ ไมเ่ กนิ ๓ คา อา่ นผิดไมเ่ กนิ ๕ คา อา่ นผิดมากกวา่ ออกเสียง ร ล ชัดเจน ออกเสียง ร ล ชดั เจน ออกเสยี ง ร ล ชดั เจน ๕ คา ๒. อ่าน อ่านถูกต้องตาม อา่ นถูกต้องตาม อ่านถกู ตอ้ งตาม อา่ นไมถ่ กู ตอ้ งตาม ถูกตอ้ งตาม ลักษณะคาประพันธ์ ลักษณะคาประพันธ์ ลักษณะคาประพนั ธ์ ลกั ษณะคา ฉันทลักษณ์ แบง่ วรรคตอนถกู ต้อง แบ่งวรรคตอน แบ่งวรรคตอน ประพนั ธ์ และแบง่ ทุกวรรค ผดิ ๑-๒ แห่ง ผดิ ๓-๔ แหง่ วรรคตอนผดิ มากกว่า ๔ แห่ง ๓. บุคลิกภาพ น่งั ในทา่ ที่เหมาะสม น่ังในท่าท่ีเหมาะสม น่งั ในท่าท่ีไม่เหมาะสม น่งั ในท่าทไ่ี ม่ ทา่ ทางในการ ใชส้ ายตามองกวาด ใชส้ ายตามองกวาด ใช้สายตามองกวาด เหมาะสมใช้นิว้ ช้ี อ่าน ตัวหนังสือ ไมช่ ี้หรือ ตัวหนงั สอื ถูกตอ้ ง ส่ายหน้าตามตวั หนงั สือ ตามตวั อักษรและ ส่ายหนา้ ตาม เปน็ สว่ นใหญ่ ถกู ต้องเปน็ สว่ นน้อย สา่ ยหน้าตาม ตัวอกั ษร ตัวอกั ษร ๔. น้าเสียง น้าเสยี งชดั เจนนุ่มนวล นา้ เสยี งชดั เจน มี นา้ เสียงชัดเจนขาด น้าเสียงไมช่ ัดเจน ในการอา่ น น่าฟงั รจู้ กั ทอดจงั หวะ สาเนียงสงู ตา่ หนกั ความนุ่มนวลหรอื ขาดความม่นั ใจใน เอือ้ นเสียงหรอื หลบ เบา ยาวสั้น ท่ี สอดคลอ้ งกบั เร่ืองที่ การอา่ น ไม่มี เสยี ง มสี าเนียงสงู ต่า ไพเราะดีพอสมควร อา่ น เสยี งสาเนียงสงู สาเนียงสงู ต่า หนกั หนกั เบา ยาวสนั้ ที่ เป็นสว่ นใหญ่ ต่า หนกั เบา ยาวส้นั มี เบา ยาวสั้น ไพเราะสอดคล้องกบั บ้างแต่ไมไ่ พเราะ เร่ืองทอี่ ่าน ๕. มารยาท ไมส่ ่งเสยี งดังรบกวน ไม่สง่ เสยี งดังรบกวน ส่งเสยี งดงั และเล่นใน สง่ เสียงดงั และเล่น ในการอ่าน ผู้อน่ื ไม่เล่นในขณะ ผูอ้ ่นื ไมเ่ ลน่ ขณะอา่ น ขณะอา่ น ในขณะอา่ น อ่าน เกณฑ์การประเมินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ ๑6-๒๐ ดีมาก 11-15 ดี 6-10 พอใช้ 1-5 ปรบั ปรงุ เกณฑก์ ารตัดสิน : ผ่านเกณฑ์การประเมินร้อยละ ๖๐ ข้ึนไป (ตอ้ งไดร้ ะดบั พอใชข้ น้ึ ไป)
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๒ เรื่อง สงั ขท์ อง ตอน กาเนิดพระสงั ข์ ๑๖๓ เกณฑป์ ระเมิน : การจับใจความสาคัญจากเร่อื งท่อี ่าน ประเดน็ ระดับคุณภาพ การประเมิน ๔ (ดมี าก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรงุ ) ๑. การตอบ คาถามจากเร่ือง ตอบคาถามจาก ตอบคาถามผดิ ตอบคาถามผดิ ตอบคาถามผิด ทีอ่ ่านได้ เรอ่ื งได้ถกู ต้องทกุ เพยี ง 1 ข้อ เพียง 2 ข้อ เกนิ กวา่ ๓ ขอ้ ๒. บอกใจความ ขอ้ สาคัญจากเร่อื ง ทีอ่ ่าน บอกเนอื้ หาสาระ บอกเนอ้ื หาสาระได้ บอกเนอ้ื หาสาระ บอกเนอ้ื หาสาระ ๓. บอกขอ้ คดิ ถูกตอ้ งได้ใจความ ถกู ต้องแต่วกวนบา้ ง ไดถ้ กู ตอ้ ง แตว่ กวน ไดบ้ า้ งและวกวน ท่ไี ดจ้ ากเร่อื งที่ ต่อเนอ่ื ง อา่ น บอกขอ้ คดิ ของเรอ่ื ง บอกข้อคิดของเรื่อง บอกขอ้ คดิ ของเรอ่ื ง บอกขอ้ คดิ ของ ๔. แสดงความ ได้ตรงประเดน็ ได้ตรงประเด็น แตไ่ ม่ ไดต้ รงประเดน็ เรือ่ งไดบ้ ้างแต่ คิดเหน็ จากเร่อื ง และสมบรู ณ์ ต่อเนอื่ งบา้ งเล็กนอ้ ย แตว่ กวน วกวน ทอ่ี ่าน ๕. มารยาทใน เสนอความคิดเหน็ เสนอความคิดเหน็ เสนอความคิดเห็น เสนอความคิดเห็น การอ่าน ดว้ ยเหตผุ ลและเปน็ ดว้ ยเหตุผล และแสดงเหตุผล แต่ไมแ่ สดงเหตผุ ล ประโยชน์ บา้ ง ไม่ส่งเสียงดงั ไม่ส่งเสียงดงั รบกวน ส่งเสยี งดงั และเลน่ ส่งเสยี งดงั และ รบกวนผู้อื่น ไม่ ผ้อู ืน่ ไม่เล่นในขณะ ในขณะอา่ น แตเ่ ก็บ เลน่ ในขณะอา่ น ไม่ เล่นในขณะอา่ น อ่าน แต่ไมเ่ กบ็ หนงั สอื เข้าที่ เมื่อ เก็บหนงั สอื เข้าท่ี และเกบ็ หนงั สอื หนงั สือเข้าทเ่ี ม่อื อา่ น อ่านเสรจ็ เมือ่ อา่ นเสร็จ เข้าทเ่ี มอื่ อ่านเสรจ็ เสร็จ เกณฑก์ ารประเมินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ๑6-๒๐ ดีมาก 11-15 ดี 6-10 พอใช้ 1-5 ปรบั ปรงุ เกณฑก์ ารตดั สนิ : ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ รอ้ ยละ ๖๐ ขึ้นไป (ตอ้ งได้ระดบั พอใชข้ ้นึ ไป)
๑๖๔ คู่มือครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) เกณฑป์ ระเมิน : การถอดคาประพันธจ์ ากเรื่อง สังขท์ อง ตอน กาเนิดพระสังข์ ประเดน็ ๔ (ดีมาก) ระดบั คุณภาพ ๑ (ปรับปรงุ ) การประเมนิ ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ๑. บอกหลกั การ บอกหลักการถอด บอกหลักการถอด บอกหลักการถอด บอกหลกั การ ถอดคาประพนั ธ์ คาประพนั ธไ์ ด้ คาประพนั ธไ์ ด้ คาประพันธ์ไดถ้ ูกต้อง ถอดคาประพันธ์ ถกู ต้องท้งั หมด ถูกตอ้ ง ๔ ข้อ ๓ ขอ้ ได้ต่ากว่า 2 ขอ้ ๒. การรู้ความหมาย รคู้ วามหมาย ร้คู วามหมาย รูค้ วามหมายคาศัพท์ แทบไมร่ ู้ คาศพั ท์ คาศพั ท์ทัง้ หมด คาศัพทโ์ ดยส่วน เล็กนอ้ ยและไม่ ความหมาย ใหญแ่ ละชัดเจน ชดั เจน คาศัพท์เลย ๓. เน้ือหาถูกต้อง เนอื้ หาถูกตอ้ ง เน้ือหาถกู ต้องตรง เนื้อหาถกู ต้อง แต่ไม่ เนื้อหาไมค่ ่อย ตรงประเด็น ประเด็นเป็นส่วนใหญ่ คอ่ ยตรงประเดน็ ถูกตอ้ ง ตรงประเดน็ ๔. การลาดบั เรือ่ ง ลาดบั เรื่องได้ ลาดบั เรอ่ื งได้ ลาดบั เรอื่ งได้ตอ่ เนอ่ื ง ลาดับเรอื่ งได้ ต่อเน่ืองสัมพันธ์กนั ตอ่ เนื่องสัมพันธ์กนั สมั พันธ์กนั แต่ไมต่ อ่ เน่ือง และมีเอกภาพดี และมีเอกภาพเป็น สมั พันธ์กัน สว่ นใหญ่ ๕. การใชภ้ าษา - เขียนสะกดคา เขียนสะกดคาถกู ตอ้ ง เขยี นสะกดคาผิดบา้ ง เขียนสะกดคา ถกู ตอ้ ง และใช้สานวนภาษา เล็กนอ้ ยและใชส้ านวน ผิดมาก ใช้ภาษา - ใช้สานวนภาษา ของตนเองในการ ภาษาของตนเอง ร้อยแกว้ ปนกบั ของตนเองใน เรียบเรียงข้อความได้ ในการเรยี บเรยี ง บทรอ้ ยกรอง การเรียบเรียง เปน็ สว่ นใหญ่ ข้อความได้ ขอ้ ความไดด้ ี เกณฑ์การประเมินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ ๑6-๒๐ ดีมาก 11-15 ดี 6-10 พอใช้ 1-5 ปรับปรงุ เกณฑก์ ารตัดสิน : ผ่านเกณฑ์การประเมนิ รอ้ ยละ ๖๐ ขน้ึ ไป (ต้องได้ระดบั พอใชข้ ึ้นไป)
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 503
Pages: