๕๒๒ คูม่ ือครูและแผนจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (สังคมศึกษา ป.๓) เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผลการสงั เกตพฤติกรรมนกั เรยี นรายกลุ่ม (Rubric) ประเดน็ การ เกณฑก์ ารให้คะแนน ประเมนิ ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ต้องปรบั ปรุง (1) 1. การปฏสิ ัมพนั ธ์ ร่วมมือและช่วยเหลือ รว่ มมือและ รว่ มมือและ ไม่ให้ความ กนั เพื่อนในการทา ช่วยเหลือเพอื่ น ชว่ ยเหลอื เพอื่ นใน ร่วมมือในขณะทา กจิ กรรม เปน็ ส่วนใหญใ่ น การทากิจกรรม กจิ กรรม การทากิจกรรม เป็นบางครัง้ 2. การสนทนา สนทนาตรงประเดน็ สนทนาตรง สนทนาตรง สนทนาไมต่ รง เรื่องทกี่ าหนด ครอบคลุมเน้ือหา ประเด็น ประเด็น ประเด็น ครอบคลมุ เน้ือหา บางส่วน 3. การตดิ ตอ่ สื่อสาร มีการปรกึ ษาครูและ มกี ารปรกึ ษาครูและ มีการปรึกษาครูและ ไม่มกี ารปรึกษาครู เพอื่ นกลมุ่ อน่ื ๆ เพอ่ื นกลมุ่ อ่นื ๆ เพอ่ื นกลุ่มอ่นื ๆ และเพื่อนกลุ่มอ่นื ๆ เป็นส่วนใหญ่ เป็นบางครัง้ 4. พฤตกิ รรม มีการวางแผนอย่าง มกี ารวางแผนอยา่ ง มกี ารวางแผนอย่าง ไม่มีการวางแผน การทางาน เปน็ ระบบ และแบง่ เป็นระบบ และแบง่ เป็นระบบ และแบง่ อย่างเปน็ ระบบ หนา้ ทขี่ องสมาชกิ หนา้ ท่ขี องสมาชิก หน้าทข่ี องสมาชกิ และไมม่ ีการแบ่ง ในกล่มุ ในกลุ่มเปน็ สว่ นใหญ่ ในกล่มุ เป็นบางคร้ัง หน้าทข่ี องสมาชกิ ในกลุ่ม
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 5 เร่อื ง วนั สาคัญของไทย ๕๒๓ แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ คาชแ้ี จง ใหผ้ สู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียนแล้วขีด ✓ ลงในช่องท่ี ตรงกับระดับคะแนน รายการ พฤตกิ รรมการแสดงออก ระดับการปฏบิ ตั ิ ประเมนิ ๓๒๑ ๑. มวี ินยั ๑.1 ปฏิบัตติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บงั คบั ของครอบครัว รบั ผดิ ชอบ และโรงเรยี น มีความตรงต่อเวลาในการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมต่างๆ ใน ชีวิตประจาวนั มคี วามรบั ผิดชอบ ๒. ใฝ่เรยี นรู้ 2.1 ต้งั ใจเรยี น 2.2 เอาใจใสใ่ นการเรยี น และมคี วามเพียรพยายามในการเรยี น 2.3 เข้าร่วมกิจกรรมการเรยี นรู้ต่าง ๆ 2.4 ศกึ ษาคน้ คว้า หาความร้จู ากหนงั สือ เอกสาร สิง่ พิมพ์ สอ่ื เทคโนโลยตี ่างๆแหลง่ การเรยี นรู้ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรยี น และ เลอื กใช้สอ่ื ได้อย่างเหมาะสม 2.5 บันทกึ ความรู้ วเิ คราะห์ ตรวจสอบบางสง่ิ ท่เี รยี นรู้ สรุปเปน็ องค์ ความรู้ 2.6 แลกเปล่ยี นความรู้ ดว้ ยวิธีการต่างๆ และนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวัน 3. มุ่งมนั่ ใน 3.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานที่ได้รบั มอบหมาย การทางาน 3.2 มคี วามอดทนและไมท่ อ้ แทต้ อ่ อปุ สรรคเพ่อื ให้งานสาเรจ็ ลงช่ือ................................................................ผปู้ ระเมิน ...................../..................../................... เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ๓ คะแนน หมายถงึ ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ ๒ คะแนน หมายถงึ ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครง้ั ๑ คะแนน หมายถงึ ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางคร้งั เกณฑก์ ารให้คะแนนดังตารางแนบทา้ ย เกณฑก์ ารประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ดังน้ี ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ เกณฑ์การสรปุ ผลการประเมนิ 22-27 ดีเย่ียม นกั เรยี นทไ่ี ดร้ ะดบั คณุ ภาพผ่านข้นึ ไป ถือว่า ผ่าน 15-21 ดี 8-14 ผา่ น 1-7 ไมผ่ า่ น
๕๒๔ คมู่ อื ครแู ละแผนจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (สงั คมศึกษา ป.๓) แบบประเมินสมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน คาชแ้ี จง ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี นแลว้ ขีด ✓ ลงในชอ่ งที่ ตรงกับระดบั คะแนน รายการประเมิน พฤตกิ รรมการแสดงออก ระดบั การปฏบิ ตั ิ ๓๒๑ ๑. ความสามารถ ๑.1 มคี วามสามรถในการรับ – สง่ สาร ในการสื่อสาร 1.2 มีความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจ ของตนเอง โดยใชภ้ าษาอย่าง เหมาะสม 2. ความสามารถ 2.1 มีทกั ษะในการคิดนอกกรอบอยา่ งสรา้ งสรรค์ ในการคิด 2.2 มีความสามารถในการคดิ อย่างมีระบบ 3. ความสามารถ 3.1 สามารถทางานกลุ่มร่วมกับผอู้ ่นื ได้ ในการใชท้ กั ษะ 3.2 นาความรทู้ ไี่ ดไ้ ปใชป้ ระโยชนใ์ นชีวิตประจาวัน ชีวติ ลงชอ่ื ................................................................ผู้ประเมิน ...................../..................../................... เกณฑก์ ารให้คะแนน ๓ คะแนน หมายถึง ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมอยา่ งสมา่ เสมอ ๒ คะแนน หมายถงึ ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครง้ั ๑ คะแนน หมายถึง ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบางครัง้ เกณฑก์ ารให้คะแนนดังตารางแนบทา้ ย เกณฑก์ ารประเมนิ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี นดงั นี้ ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ เกณฑ์การสรุปผลการประเมิน 13-18 ดีเย่ยี ม นกั เรยี นทไ่ี ดร้ ะดบั คณุ ภาพผ่านขึ้นไป ถือว่า ผา่ น 9-12 ดี 5-8 ผา่ น 1-4 ไม่ผา่ น
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 เรอ่ื ง วันสาคญั ของไทย ๕๒๕ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 3 เร่ือง วันสาคญั ทเี่ กยี่ วกับประเพณแี ละวฒั นธรรม หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 เร่ือง วันสาคัญของไทย เวลา 1 ชวั่ โมง กลุ่มสาระการเรยี นรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม รายวชิ า สงั คมศึกษา ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชี้วัด มาตรฐาน ส 2.1 เขา้ ใจและปฏิบตั ิตนตามหน้าท่ขี องการเป็นพลเมืองดี มคี า่ นยิ มท่ีดงี ามและธารงรกั ษา ประเพณีและวฒั นธรรมไทย ดารงชีวิตอยูร่ ่วมกันในสงั คมไทยและสังคมโลกอย่างสนั ติสุข ตัวชีว้ ดั ป.๓/3 อธบิ ายความสาคัญขอวนั หยุดราชการที่สาคัญ ๒. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด วันสาคญั ทเ่ี กยี่ วกับประเพณีและวฒั นธรรมถอื เปน็ วันสาคญั ของไทย ซึ่งเป็นวันสาคญั ทเี่ ปน็ วนั หยดุ ราชการท่ีประชาชนชาวไทยทุกคนควรศกึ ษา เพื่อจะไดม้ ีความรูแ้ ละสามารถปฏบิ ตั ติ นได้อย่างถูกตอ้ งเหมาะสม ๓. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) - บอกวันสาคญั และอธบิ ายความสาคญั ของวันหยดุ ราชการท่ีเก่ียวกบั ประเพณีและวฒั นธรรมได้ - อธิบายความสาคัญของวันหยุดราชการท่ีเกี่ยวกับประเพณแี ละวฒั นธรรมได้ 3.2 ด้านทักษะ กระบวนการ (P) - มีทกั ษะกระบวนการทางานกลมุ่ - ศกึ ษาวนั สาคญั ท่เี กี่ยวกับประเพณีและวฒั นธรรมในท้องถิน่ ของตนเอง 3.3 ดา้ นคณุ ลกั ษณะ เจตคติ ค่านิยม (A) - เหน็ ความสาคัญของวนั หยดุ ราชการท่เี กีย่ วกับวนั หยุดราชการทเ่ี ก่ียวกับประเพณีและวัฒนธรรม ๔. สาระการเรียนรู้ - วนั หยุดเกีย่ วกบั ประเพณีและวัฒนธรรม เชน่ วันสงกรานต์ และวนั พชื มงคล - วันหยดุ เกี่ยวกบั ประเพณีและวฒั นธรรมในทอ้ งถนิ่ ของตนเอง เชน่ วันสงกรานต์ของแตภ่ มู ิภาค ๕. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการสือ่ สาร ๒. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต ๖. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี นิ ัย รับผดิ ชอบ 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุ่งมัน่ ในการทางาน 7. กจิ กรรมการเรยี น
๕๒๖ คู่มือครูและแผนจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (สงั คมศกึ ษา ป.๓) ลาดับท่ี การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 3 1. แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 3 เรื่อง วันสาคญั ทเ่ี กยี่ วกบั ประเพณแี ละวฒั นธรรม รายวิชาสังคมศึกษา จานวน 1 ชว่ั โมง จดุ ประสงค์ ขั้นตอนการจดั เวลา แนวการจดั การเรียนรู้ ส่อื การเรยี นรู้ การประเมิน การเรียนรู้ การเรยี นรู้ ทใ่ี ช้ การเรยี นรู้ - คลิปวิดโี อพธิ ี ขัน้ นา 10 นาที กิจกรรมครู กจิ กรรมนักเรียน หวา่ นข้าวใน แปลงนาสาธิต 1. ครใู หน้ กั เรยี นดคู ลิปวิดโี อ 1. นกั เรยี นสนทนา สวนจิตรลดา ในพระราชพิธี พิธหี ว่านขา้ วในแปลงนาสาธติ แลกเปลย่ี นเกย่ี วกับคลิป พืชมงคล จรด พระนงั คลั แรก สวนจติ รลดา ในพระราชพิธี วิดีโอท่ไี ดด้ ู นาขวัญ ประจาป พชื มงคล จรดพระนังคลั แรก 2563 นาขวญั ประจาป 2563 ซงึ่ เปน็ วันหยดุ ราชการวนั หน่งึ ที่ เกี่ยวกบั ประเพณแี ละ วัฒนธรรม ๒. ครูตงั้ คาถามกระตุ้นคดิ 2. นักเรยี นพูดคยุ “จากคลิปวดิ ีโอทไี่ ดด้ ู แลกเปลยี่ นเกย่ี วกับส่ิงที่ นกั เรยี นอยากรอู้ ะไรเกย่ี วกบั อยากเรียนรู้ การตัง้ คาถาม วนั หยุดราชการที่เกี่ยวกบั เพอื่ นาไปสกู่ ารเรยี นรู้ ประเพณีและวฒั นธรรม และ เพราะอะไรถงึ อยากรู้”
หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 5 เรอ่ื ง วนั สาคญั ของไทย ๕๒๗ ลาดบั ที่ จดุ ประสงค์ ข้ันตอนการจดั เวลา แนวการจดั การเรียนรู้ สือ่ การเรียนรู้ การประเมนิ การเรียนรู้ การเรียนรู้ การเรียนรู้ ที่ใช้ กิจกรรมครู กจิ กรรมนักเรียน 2. 1. มที กั ษะกระบวนการ ขั้นสอน 15 นาที 1. ครูแบง่ นักเรียนเปน็ กลมุ่ 1. นกั เรยี นแบง่ กลุ่มเพอื่ - แบบประเมนิ ทางานกลุ่ม กระบวนการ ออกเป็น กลุ่มละ 4 คน ชว่ ยกันแบง่ ปันความคิด ทางานกลุ่ม โดยใช้เทคนคิ Gang of ระดมความคิดเกย่ี วกับส่งิ ท่ี Four อยากเรียนรู้ 2. อธิบายความสาคัญ 2. ครแู จกใบความรู้ท่ี 3 2. นกั เรยี นศึกษาใบความรู้ - ใบความรทู้ ี่ 3 - การประเมิน ของวนั หยดุ ราชการท่ี เรอ่ื งวนั หยุดราชการ เกยี่ วกับประเพณแี ละ ทีเ่ กย่ี วกับประเพณแี ละ ที่ 3 เรอื่ ง วนั หยุดราชการ เรอ่ื ง - การสังเกต วฒั นธรรมได้ วัฒนธรรม ท่เี กย่ี วกับประเพณีและ วันหยุดราชการ พฤตกิ รรม วัฒนธรรม ทเ่ี ก่ยี วกบั ประเพณีและ วัฒนธรรม 3. ครตู ั้งคาถามให้นกั เรยี น 3. นกั เรยี นภายในกลมุ่ - การประเมนิ รว่ มกันอภปิ รายเกี่ยวกบั สิง่ ท่ี รว่ มกนั อภปิ รายเพอ่ื หา - คาถาม การตอบคาถาม อยากเรยี นรูเ้ พื่อหาคาตอบ คาตอบโดยนกั เรยี นผลดั กัน ซ่ึงคาถามทีค่ รตู ัง้ ครูอาจ อธิบายความรู้และซกั ถาม กาหนดขอบเขตไวเ้ พอื่ ให้ ขอ้ สงสัยภายในกลุ่มของ นกั เรยี นไดศ้ กึ ษาดงั ตอ่ ไปน้ี ตนเอง
๕๒๘ คู่มือครแู ละแผนจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (สงั คมศกึ ษา ป.๓) ลาดับท่ี จดุ ประสงค์ ขัน้ ตอนการจดั เวลา แนวการจดั การเรยี นรู้ สื่อการเรยี นรู้ การประเมิน การเรียนรู้ การเรียนรู้ การเรียนรู้ ที่ใช้ กิจกรรมครู กจิ กรรมนักเรยี น - วนั สงกรานต์ วนั พืชมงคล - ประเพณแี ละวัฒนธรรม ทาใหเ้ รานกึ ถึงสง่ิ ใด ของไทยท่สี ืบทอดกันมา อยา่ งยาวนาน - วนั ที่ 13-15 เมษายน - วนั สงกรานต์ ของทุกปเป็นวันสาคัญใดของ ไทย - วันสงกรานต์มีความสาคญั - เป็นประเพณีขนึ้ ปใี หม่ อย่างไร ของไทย เรม่ิ ตน้ จากวันท่ี 13 เมษายน เรียกวา่ วัน มหาสงกรานต์ - ในวนั สงกรานตก์ จิ กรรมท่ี - ทาบญุ ตกั บาตรทวี่ ดั สรง นกั เรยี นชน่ื ชอบ และคดิ ว่า น้าพระ ก่อเจดยี ์ทราย รด เป็นประเพณที ด่ี คี วามสืบ นา้ ดาหวั ขอพรจากผู้ใหญ่ ทอดต่อชวั่ ลกู หลาน
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 5 เรือ่ ง วันสาคญั ของไทย ๕๒๙ ลาดับที่ จดุ ประสงค์ ขน้ั ตอนการจดั เวลา แนวการจดั การเรยี นรู้ สือ่ การเรยี นรู้ การประเมนิ การเรยี นรู้ การเรียนรู้ ที่ใช้ การเรียนรู้ กิจกรรมครู กจิ กรรมนักเรียน - เมอ่ื ไดเ้ ข้ารว่ มประเพณี - รูส้ ึกภาคภมู ิใจ ที่ชาตไิ ทย สงกรานต์นกั เรยี นมี มีวฒั นธรรมท่เี ปน็ ความรู้สกึ อยา่ งไร เอกลักษณข์ องตนเอง - วันพชื มงคลตรงกบั วันใด - ตรงกับเดือนพฤษภาคม ของป เพราะเหตใุ ด เพราะเป็นชว่ งเขา้ ฤดูฝน เก่ยี วขอ้ งกับอาชีพใดของคน เป็นช่วงท่ีเกษตรกรเรม่ิ ทา ไทย นา - ประเพณวี นั พชื มงคลมี ความสาคญั ต่อสังคมไทย - สงั คมไทยเป็นสังคม อยา่ งไร เกษตรกรรม โดยส่วนใหญ่ การส่งเสริมทางดา้ นการทา อาชพี ทางการเกษตรจึงมี - เพราะเหตใุ ดจึงตอ้ งมีวัน ความสาคญั ต่อประเทศไทย พชื มงคล - เพ่ือทา ขวัญเมลด็ พนั ธ์ุ ตา่ ง ๆ ก่อนการเพาะปลูก และสนับสนุนส่งเสรมิ ขวญั กาลังใจของชาวนาและ เกษตรกรไทย
๕๓๐ คมู่ อื ครูและแผนจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (สงั คมศึกษา ป.๓) ลาดบั ที่ จดุ ประสงค์ ขนั้ ตอนการจดั เวลา แนวการจดั การเรยี นรู้ ส่อื การเรยี นรู้ การประเมนิ 3. การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ทใ่ี ช้ การเรยี นรู้ 3. ศึกษาวันสาคัญท่ี กิจกรรมครู กิจกรรมนกั เรยี น - การประเมิน เกย่ี วกับประเพณแี ละ สงั เกตพฤตกิ รรม วฒั นธรรมในท้องถน่ิ ของ 4. ครชู ว่ ยเตมิ เต็มความรู้ 4. นกั เรยี นและครรู ว่ มกนั - การตรวจ ตนเอง ใหก้ ับนักเรียน สรปุ ความรเู้ ร่ือง ใบงาน วนั หยุดราชการทเ่ี ก่ยี วกับ - การประเมนิ สังเกตพฤตกิ รรม ประเพณแี ละวัฒนธรรม ขั้นปฏบิ ัติ 15 นาที 1.ครูแจกใบความรู้ท่ี 3 เรือ่ ง 1. นกั เรยี นรว่ มกนั ศกึ ษาใบ -ใบความรทู้ ี่ 3 วันสาคญั ท่ีเกี่ยวกบั ประเพณี ความรทู้ ี่ 3 เรอ่ื ง และใบงานที่ 3 และวัฒนธรรมในทอ้ งถิน่ ของ วันสาคัญทีเ่ กี่ยวกบั เร่ือง ตนเอง (วันสงกรานต)์ ประเพณแี ละวฒั นธรรมใน วนั สาคญั ที่ ท้องถ่นิ ของตนเอง (วนั เก่ียวกับ สงกรานต)์ ประเพณีและ วัฒนธรรมใน ทอ้ งถนิ่ ของ ตนเอง(วนั สงกรานต์)
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 5 เรื่อง วนั สาคัญของไทย ๕๓๑ ลาดับที่ จดุ ประสงค์ ขนั้ ตอนการจดั เวลา แนวการจดั การเรียนรู้ ส่ือการเรียนรู้ การประเมิน การเรียนรู้ การเรียนรู้ ทใี่ ช้ การเรยี นรู้ กจิ กรรมครู กจิ กรรมนกั เรียน 2. ครูตงั้ คาถามกระตุ้นคิด 2.นักเรยี นตอบคาถาม นักเรยี น -มชี ื่อเรยี กทต่ี า่ งกัน เช่น -นักเรยี นเหน็ อะไรจาก ประเพณวี นั สงกรานต์ การศกึ ษาขอ้ มลู ข้างต้น ภาคเหนอื จะเรยี กว่า เก่ยี วกบั วนั หยดุ ราชการที่ ประเพณปี ใหมเ่ มือง เกี่ยวกับประเพณแี ละ -วันท่ี 13 เมษายน เรยี กวา่ วัฒนธรรมในทอ้ งถน่ิ ของตนเอง “วนั สังขารล่อง” (วนั สงกรานต)์ -วันท่ี 14 เมษายน เรียกว่า “วนั เนา หรอื วันเน่า” -วันท่ี 15 เมษายน เรยี กวา่ “วันพญาวนั ” - นกั เรยี นคดิ ว่ามแี นวทางใน -นักเรยี นชว่ ยกนั ระดม การปฏิบตั ทิ เ่ี หมือนกันหรือไม่ ความคดิ แล้วลงมือทาใบงาน โดยให้นกั เรยี นสรปุ ความร้ทู ่ี ได้จากการศกึ ษาวนั สาคญั ที่ เกีย่ วกบั ประเพณแี ละ วฒั นธรรมในทอ้ งถน่ิ ของ ตนเอง(วนั สงกรานต)์ ใน รปู แบบของแผนผังความคดิ
๕๓๒ คู่มอื ครแู ละแผนจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (สงั คมศกึ ษา ป.๓) ลาดับที่ จดุ ประสงค์ ข้นั ตอนการจดั เวลา แนวการจดั การเรยี นรู้ สอ่ื การเรยี นรู้ การประเมนิ การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ที่ใช้ การเรียนรู้ กิจกรรมครู กจิ กรรมนกั เรยี น 4. 4. เห็นความสาคัญของ ข้ันสรุป 5 นาที 1. ครูใหต้ ัวแทนแตล่ ะกลมุ่ 1. นกั เรียนนาเสนอผลงาน - การประเมนิ วนั หยดุ ราชการท่เี ก่ียวกบั ออกมานาเสนอใบงาน เรอ่ื ง หน้าช้นั เรียน สังเกต ประเพณีและวัฒนธรรม วันหยุดราชการทเ่ี ก่ยี วกบั พฤติกรรม ประเพณแี ละวฒั นธรรม 1-2 กลมุ่ พร้อมกบั ชว่ ยเตมิ เตม็ ความรใู้ หก้ บั นกั เรยี น
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 5 เรอ่ื ง วนั สาคัญของไทย ๕๓๓ 8. สื่อการเรียนรู/้ แหล่งเรียนรู้ 1. ใบความรทู้ ี่ 3 เรื่อง วันหยดุ ราชการท่ีเกีย่ วกบั ประเพณีและวัฒนธรรม 2. ใบงานท่ี 2 เรอื่ ง วนั สาคัญทเี่ ก่ยี วกับประเพณแี ละวัฒนธรรมในท้องถน่ิ ของตนเอง (วันสงกรานต)์ 9. การประเมินผลรวบยอด ชนิ้ งานหรอื ภาระงาน 1. ใบงานที่ 3 เรอ่ื ง วันสาคญั ท่เี ก่ยี วกับประเพณีและวฒั นธรรมในทอ้ งถ่นิ ของตนเอง(วนั สงกรานต)์ การวดั และประเมนิ ผล ประเดน็ การวดั วธิ กี าร เครื่องมอื เกณฑก์ ารประเมิน และประเมินผล - การตอบคาถาม - ข้อซักถาม - ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินร้อยละ - แบบประเมินการสงั เกต 60 ดา้ นความรู้ ความ พฤติกรรมนกั เรยี น เข้าใจ (K) รายบคุ คล -แบบประเมนิ กระบวนการ ทางานกล่มุ - ใบความรู้ที่ 3 เร่ือง - ใบงานที่ 2 เรอื่ ง - ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ร้อยละ วนั สาคญั ท่เี กย่ี วกบั วนั สาคญั ทเี่ กย่ี วกับ 60 ด้านทกั ษะ ประเพณแี ละวฒั นธรรมใน ประเพณแี ละวฒั นธรรมใน กระบวนการ (P) ทอ้ งถ่นิ ของตนเอง ท้องถน่ิ ของตนเอง (วันสงกรานต)์ (วนั สงกรานต)์ -การแบบประเมิน -แบบประเมินกระบวนการ - ผา่ นเกณฑ์ประเมินระดับ กระบวนการทางานกลมุ่ ทางานกลมุ่ คุณภาพพอใชข้ น้ึ ไป ด้านคุณลักษณะ - การประเมินการสังเกต แบบประเมนิ การสงั เกต - ผ่านเกณฑ์ประเมนิ ระดับ เจตคติ คา่ นิยม พฤติกรรมนกั เรยี น พฤตกิ รรมนกั เรยี น คณุ ภาพพอใชข้ นึ้ ไป (A) รายบุคคล รายบคุ คล - การตอบคาถาม - ข้อซักถาม คุณลกั ษณะ - ประเมิน มีวินยั - แบบประเมินคณุ ลักษณะ - ผ่านเกณฑป์ ระเมินระดับ อนั พึงประสงค์ รับผิดชอบใฝเ่ รยี นรู้ และ อนั พึงประสงค์ คุณภาพผา่ นข้นึ ไป มงุ่ มน่ั ในการทางาน - ประเมนิ ความสามารถ - แบบประเมนิ สมรรถนะ - ผ่านเกณฑป์ ระเมินระดับ สมรรถนะสาคญั ในการสือ่ สาร สาคญั ของผ้เู รยี น คุณภาพผ่านขึ้นไป ของผู้เรียน ความสามารถในการคดิ และความสามารถใน การใช้ทกั ษะชวี ิต
๕๓๔ คมู่ ือครแู ละแผนจัดการเรยี นรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (สังคมศกึ ษา ป.๓) 10. บนั ทกึ ผลหลังสอน ผลการจัดการเรียนการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสาเรจ็ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปญั หาและอปุ สรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ข้อจากัดการใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรู้ และข้อเสนอแนะ/แนวทางการปรบั ปรงุ แกไ้ ข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอื่ ......................................................ผ้สู อน (..........................................................) วันที่ .......... เดือน ..................... พ.ศ. ............. 11. ความคิดเห็น/ขอ้ เสนอแนะของผบู้ รหิ ารหรือผทู้ ไ่ี ดร้ บั มอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่อื ...................................................... ผูต้ รวจ (..........................................................) วนั ที่ .......... เดือน ..................... พ.ศ. .............
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 5 เรอ่ื ง วันสาคัญของไทย ๕๓๕ ใบความรทู้ ี่ 3 เรื่อง วนั หยดุ ราชการที่เกีย่ วกบั ประเพณแี ละวฒั นธรรม หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 5 เร่ือง วันสาคญั ของไทย แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 3 เรอื่ ง วันหยดุ ราชการท่ีเกีย่ วกบั ประเพณแี ละวฒั นธรรม รายวชิ าสังคมศกึ ษา รหสั ส13101 ภาคเรยี นที่ 1 ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 วันสงกรานต์ ประเพณีวันสงกรานต์ตรงกับ วันที่ 13-15 เมษายน ของทุกป เป็นประเพณีข้ึนปใหม่ของไทย เร่ิมต้นจากวันท่ี 13 เมษายน เรียกว่า วันมหาสงกรานต์ วันท่ี 14 เมษายน เรียกว่า วันเนา เป็น วันที่ครอบครัวอยู่พร้อมหน้าทากิจกรรมร่วมกัน และวันที่ 15 เมษายน เป็นวันเถลิงศกหรือขึ้นป ใหม่ของไทย กิจกรรมท่ีสาคัญในวนั สงกรานต์ เช่น ทาบญุ ตักบาตรที่วัด สรงน้าพระ ก่อเจดีย์ทราย รดนา้ ดาหัวขอพรจากผใู้ หญ่ วนั พืชมงคล วันพืชมงคลตรงกับวันใดของป ตรงกับเดือนพฤษภาคม เพราะเป็นช่วงเข้าฤดูฝน เป็นช่วงที่ เกษตรกรเร่ิมทานา ประเพณีวันพืชมงคลมีความสาคัญต่อสังคมไทยคือ สังคมไทยเป็นสังคม เกษตรกรรม โดยส่วนใหญ่การส่งเสริมทางด้านการทาอาชีพทางการเกษตรจึงมีความสาคัญต่อ ประเทศไทย คาขวัญท่ีว่า “ในน้ามีปลา ในนามีข้าว” แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ทางด้าน เกษตรกรรมของไทย จดุ มุ่งหมายของการจัดพระราชพธิ ีในวันพชื มงคลเพื่อวตั ถุประสงค์ใด เพอ่ื ทา ขวัญเมล็ดพันธุ์ต่าง ๆ ก่อนการเพาะปลูก และสนับสนุนส่งเสริมขวัญกาลังใจของชาวนาและ เกษตรกรไทย http://event.sanook.com/day/songkran/ https://www.sanook.com/campus/921418/ วนั สงกรานต์ วันพืชมงคล
๕๓๖ คู่มอื ครูและแผนจัดการเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (สังคมศกึ ษา ป.๓) ใบงานท่ี 3 เรอ่ื ง วันหยดุ ราชการทเ่ี กยี่ วกับประเพณแี ละวัฒนธรรม หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 5 เร่อื ง วนั สาคัญของไทย แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 3 เร่อื ง วนั หยดุ ราชการที่เกย่ี วกบั ประเพณีและวฒั นธรรม รายวชิ าสงั คมศึกษา รหสั ส13101 ภาคเรยี นท่ี 1 ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 คาช้ีแจง นักเรียนหาภาพหรือข่าวเกี่ยวกับวันหยุดราชการท่ีเก่ียวกับประเพณีและวัฒนธรรม มา 1 วัน ติดลงใน แล้วตอบคาถาม ตรงกับ ช่อื ภาพ มีความสาคญั อย่างไร เข้ารว่ มกิจกรรมใดบ้าง ประโยชนท์ ่ไี ดร้ บั ชอ่ื -นามสกลุ ..........................................................................................ช้ัน.........................เลขที.่ .......................
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 5 เรอ่ื ง วนั สาคญั ของไทย ๕๓๗ เฉลยใบงานท่ี 3 เรอ่ื ง วันหยดุ ราชการทเี่ ก่ยี วกับประเพณแี ละวฒั นธรรม หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 5 เรอื่ ง วนั สาคัญของไทย แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 3 เร่ือง วนั หยดุ ราชการที่เกี่ยวกบั ประเพณีและวฒั นธรรม รายวิชาสังคมศึกษา รหสั ส13101 ภาคเรียนท่ี 1 ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 คาชแ้ี จง นักเรียนหาภาพหรือข่าวเกี่ยวกับวันหยุดราชการท่ีเก่ียวกับประเพณีและวัฒนธรรม มา 1 วัน ติดลงใน แล้วตอบคาถาม ตรงกับ ชอ่ื ภาพ มคี วามสาคญั อย่างไร เขา้ รว่ มกจิ กรรมใดบา้ ง ประโยชนท์ ไ่ี ดร้ ับ คำตอบอยใู่ นดุลพนิ ิจของครูผู้สอน
๕๓๘ คูม่ อื ครูและแผนจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (สังคมศึกษา ป.๓) แบบประเมนิ การสงั เกตพฤติกรรมนกั เรยี นรายบุคคล ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 สงั เกตพฤติกรรมการเรียนรวู้ ันท่ี.......................เดอื น.............................................พ.ศ............................. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ลาดับ ชื่อ – สกลุ ความ ความ การตอบ มีส่วน รวม ระดบั ท่ี ตัง้ ใจใน สนใจ คาถาม รว่ มใน (16) คณุ ภาพ การเรยี น และ (4) กิจกรรม ซกั ถาม (4) (4) (4) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ลงชื่อ................................................................ผู้ประเมิน ...................../..................../................... เกณฑก์ ารให้คะแนนดังตารางแนบทา้ ย เกณฑก์ ารประเมินในการสงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ดงั น้ี ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ เกณฑ์การสรปุ ผลการประเมนิ 14-16 ดมี าก นกั เรยี นทไ่ี ดร้ ะดบั คณุ ภาพพอใชข้ ึน้ ไป ถือวา่ ผ่าน 11-13 ดี 8-10 พอใช้ 1-7 ปรับปรุง
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 5 เร่ือง วนั สาคัญของไทย ๕๓๙ เกณฑก์ ารวดั และประเมินผลการสงั เกตพฤติกรรมนกั เรยี นรายกลุ่ม (Rubric) ประเดน็ การ ดมี าก (4) เกณฑก์ ารให้คะแนน ตอ้ งปรบั ปรงุ (1) ประเมิน ดี (3) พอใช้ (2) 1. การปฏิสัมพันธ์ ร่วมมือและช่วยเหลือ รว่ มมือและ ร่วมมอื และ ไม่ให้ความร่วมมือ กนั เพือ่ นในการทา ช่วยเหลือเพื่อนเป็น ชว่ ยเหลือเพอ่ื นใน ในขณะทา กิจกรรม ส่วนใหญ่ในการทา การทากิจกรรมเปน็ กิจกรรมงานไม่ ปฏิบัติงานร่วมกันอย่าง กจิ กรรม บางครั้ง สาเร็จ รว่ มมือรว่ มใจ จนงานท่ี ปฏิบัติงานรว่ มกัน ปฏบิ ัติงานรว่ มกัน ไดร้ ับมอบหมายออกมา จนงานท่ไี ด้รับ จนงานออกมา สาเรจ็ ถูกตอ้ งสมบูรณ์ มอบหมายออกมา สาเรจ็ แตย่ งั ไม่ สาเรจ็ ถูกต้อง สมบูรณ์ 2. การสนทนาเรอ่ื ง สนทนาตรงประเดน็ สนทนาตรงประเดน็ สนทนาตรงประเด็น สนทนาไม่ตรง ทีก่ าหนด ครอบคลุมเนื้อหา ครอบคลุมเนื้อหา ประเด็น บางส่วน 3. การตดิ ต่อสื่อสาร มกี ารปรกึ ษาครู มีการปรึกษาครู มีการปรึกษาครู ไม่มีการปรกึ ษาครู ปรกึ ษาเพื่อนในกลุ่ม ปรกึ ษาเพ่อื นในกลุ่ม ปรกึ ษาเพ่อื นในกลุม่ ปรึกษาเพือ่ นใน และเพ่ือนกลมุ่ อืน่ ๆ เพื่อนกลุ่มอนื่ ๆ บ้าง เพือ่ นกลมุ่ อ่นื ๆ เปน็ กลุ่มและเพื่อน บางคร้ัง กลุ่มอนื่ ๆ 4. พฤตกิ รรม มีการวางแผนอยา่ ง มีการวางแผนอยา่ ง มีการวางแผนอย่าง ไมม่ กี ารวางแผน การทางาน เปน็ ระบบ กาหนด เปน็ ระบบ กาหนด เป็นระบบ กาหนด ไม่กาหนดบทบาท บทบาทของสมาชกิ บทบาทของสมาชกิ บทบาทของสมาชกิ ของสมาชกิ อยา่ งชัดเจน และมี และมีการชี้แจง แต่ไม่มีการช้ีแจง ไมช่ ้แี จงเปา้ หมาย การช้แี จงเป้าหมายใน เปา้ หมายในการ เป้าหมายในการ สมาชิกตา่ งคนต่าง การทางาน ทางาน ทางาน ทางาน
๕๔๐ คูม่ ือครแู ละแผนจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (สงั คมศึกษา ป.๓) แบบประเมนิ การสังเกตพฤติกรรมการทางานกลุม่ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 สังเกตพฤติกรรมการเรยี นรวู้ ันที่.......................เดือน.........................................พ.ศ.............................. เกณฑก์ ารให้คะแนน ลาดับ ชือ่ กลุ่ม การ การ พฤตกิ รรม ท่ี ปฏสิ ัมพันธ์ สนทนา การ การ รวม ระดับ เร่อื ง ตดิ ตอ่ สื่อสาร ทางาน (16) คณุ ภาพ กนั ทกี่ าหนด (4) กลุม่ (4) (4) (4) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ลงชื่อ................................................................ผูป้ ระเมนิ ...................../..................../................... เกณฑก์ ารให้คะแนนดงั ตารางแนบทา้ ย เกณฑก์ ารประเมินในการสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ดงั น้ี ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ เกณฑ์การสรปุ ผลการประเมนิ 14-16 ดมี าก นกั เรยี นทไ่ี ดร้ ะดบั คณุ ภาพพอใชข้ ึน้ ไป ถือวา่ ผ่าน 11-13 ดี 8-10 พอใช้ 1-7 ปรับปรงุ
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 5 เรอ่ื ง วนั สาคญั ของไทย ๕๔๑ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ คาชแ้ี จง ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี นแล้วขดี ✓ลงในชอ่ งที่ตรง กับระดับคะแนน รายการ พฤตกิ รรมการแสดงออก ระดบั การปฏบิ ตั ิ ประเมนิ ๓๒๑ ๑. มีวนิ ยั ๑.1 ปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของครอบครวั รบั ผดิ ชอบ และโรงเรยี น มีความตรงต่อเวลาในการปฏิบตั กิ ิจกรรมตา่ งๆ ใน ชวี ิตประจาวนั มีความรบั ผิดชอบ ๒. ใฝเ่ รียนรู้ 2.1 ต้งั ใจเรยี น 2.2 เอาใจใสใ่ นการเรยี น และมีความเพยี รพยายามในการเรียน 2.3 เข้ารว่ มกิจกรรมการเรียนรู้ตา่ งๆ 2.4 ศึกษาค้นควา้ หาความร้จู ากหนังสอื เอกสาร ส่ิงพมิ พ์ สื่อ เทคโนโลยตี า่ งๆแหลง่ การเรียนรู้ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรียน และ เลอื กใช้ส่อื ได้อย่างเหมาะสม 2.5 บันทึกความรู้ วิเคราะห์ ตรวจสอบบางสง่ิ ท่เี รียนรู้ สรุปเปน็ องค์ ความรู้ 2.6 แลกเปลย่ี นความรู้ ดว้ ยวิธีการต่างๆ และนาไปใช้ในชีวติ ประจาวัน 3. มงุ่ ม่นั ใน 3.1 มีความตั้งใจและพยายามในการทางานท่ไี ดร้ ับมอบหมาย การทางาน 3.2 มีความอดทนและไมท่ อ้ แทต้ อ่ อปุ สรรคเพอื่ ใหง้ านสาเรจ็ ลงชอ่ื ................................................................ผูป้ ระเมนิ . ..................../..................../................... เกณฑก์ ารให้คะแนน ๓ คะแนน หมายถงึ ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่าเสมอ ๒ คะแนน หมายถงึ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครั้ง ๑ คะแนน หมายถึง ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครง้ั เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดงั ตารางแนบทา้ ย เกณฑก์ ารประเมินคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ดงั นี้ ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ เกณฑ์การสรปุ ผลการประเมิน 22-27 ดีเย่ยี ม นกั เรยี นทไ่ี ดร้ ะดบั คณุ ภาพผ่านขน้ึ ไป ถอื ว่า ผา่ น 15-21 ดี 8-14 ผา่ น 1-7 ไม่ผ่าน
๕๔๒ คมู่ ือครแู ละแผนจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (สงั คมศึกษา ป.๓) แบบประเมนิ สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น คาชแ้ี จง ใหผ้ สู้ อนสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี นแลว้ ขีด✓ลงในช่องทีต่ รง กบั ระดบั คะแนน รายการประเมนิ พฤตกิ รรมการแสดงออก ระดับการปฏบิ ตั ิ ๓๒๑ ๑. ความสามารถ ๑.1 มีความสามารถในการรบั –สง่ สาร ในการส่อื สาร 1.2 มคี วามสามารถในการถ่ายทอดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ ของตนเอง โดยใช้ภาษาอย่าง เหมาะสม 2. ความสามารถ 2.1 มีทักษะในการคดิ นอกกรอบอย่างสร้างสรรค์ ในการคิด 2.2 มีความสามารถในการคดิ อย่างมรี ะบบ 3. ความสามารถ 3.1 สามารถทางานกลุ่มรว่ มกับผอู้ ่นื ได้ ในการใชท้ กั ษะ 3.2 นาความรทู้ ่ไี ด้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาวนั ชีวติ ลงชื่อ................................................................ผ้ปู ระเมนิ ...................../..................../................... เกณฑก์ ารให้คะแนน ๓ คะแนน หมายถึง ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมอยา่ งสมา่ เสมอ ๒ คะแนน หมายถงึ ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบอ่ ยคร้งั ๑ คะแนน หมายถงึ ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั เกณฑก์ ารให้คะแนนดงั ตารางแนบทา้ ย เกณฑก์ ารประเมินสมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี นดังนี้ ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ เกณฑก์ ารสรุปผลการประเมิน 13-18 ดีเยย่ี ม นกั เรยี นทไ่ี ดร้ ะดบั คณุ ภาพผ่านขึ้นไป ถือว่า ผา่ น 9-12 ดี 5-8 ผา่ น 1-4 ไมผ่ า่ น
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 5 เรื่อง วนั สาคัญของไทย ๕๔๓ แบบประเมนิ ตนเอง ชือ่ : _________________ สกลุ : _________________วัน____ เดอื น____________พ.ศ._____ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๕ เรอ่ื ง วนั สาคัญของไทย คำชี้แจง ๑. ระบายสลี งใน ของแตล่ ะกจิ กรรมที่นักเรียนคดิ วา่ ทาไดต้ ามระดบั การประเมินเหล่านี้ เพ่อื ประเมินการเรยี นรขู้ องนักเรียน ปรับปรุง พอใช้ คอ่ นข้างดี ดี ดมี าก กจิ กรรม ระดบั ควำมสำมำรถ 1. รู้ เขา้ ใจและอธบิ ายความสาคัญของวันหยุดราชการที่เก่ียวกบั ชาติและ พระมหากษตั รยิ ์ได้ 2. อธบิ ายความสาคัญของวนั หยุดราชการทีเ่ กยี่ วกับศาสนาได้ 3. บอกวันสาคญั และอธบิ ายความสาคัญของวนั หยุดราชการทีเ่ ก่ียวกับ ประเพณแี ละวฒั นธรรมได้ 4. วิเคราะหค์ วามสาคัญและเสนอแนวทางในการปฏิบตั ิตนทถ่ี ูกต้องในวัน สาคัญทีเ่ กีย่ วกบั ศาสนาได้ 5. ศกึ ษาวันสาคัญท่ีเก่ยี วกับประเพณีและวัฒนธรรมในทอ้ งถิ่นของตนเอง ๒. นบั จานวนดาวจากตารางข้างบนเพอ่ื บนั ทกึ ผลการเรยี นรขู้ องนกั เรียน ดังน้ี จานวน จานวน .............................. .............................. จานวน จานวน .............................. .............................. จานวน .............................. สรุป : วงกลมรอบผลการเรยี นรู้ของนักเรยี น โดยนับจากขอ้ ทไี่ ด้ดาวมากท่ีสดุ ปรับปรุง พอใช้ ดี คอ่ นข้างดี ดีมาก
๕๔๔ คู่มือครูและแผนจัดการเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (สงั คมศกึ ษา ป.๓) 3. กาเคร่ืองหมาย √ ลงใน ทนี่ ักเรียนวางแผนจะทาเพ่อื พฒั นาการเรยี นในคร้งั ต่อไป (เลอื กไดม้ ากกว่า 1 ขอ้ ) มีความรบั ผิดชอบในการเรียน ต้งั คาถามจะเกิดการเรียนรู้ และการแสวงหาความรอู้ ยเู่ สมอๆ ลงมือปฏบิ ตั ใิ ห้เกิดความชานาญ ทบทวน ทอ่ ง และทาแบบฝึกหดั ซา้ ๆ
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 6 เรื่อง บคุ คลสาคญั ของท้องถิน่ ๕๔๕ หน่วยการเรยี นรู้ที่ 6 บุคคลสาคญั ของทอ้ งถ่นิ
๕๔๖ คูม่ อื ครูและแผนจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (สงั คมศกึ ษา ป.๓) หน่วยการเรยี นรู้ 6 ชอื่ หน่วยการเรยี นรู้ เรอื่ ง บคุ คลสาคญั ของท้องถน่ิ รหสั วชิ า ส๑๓๑๐1 รายวชิ าสงั คมศกึ ษา กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษาศาสนา และวฒั นธรรม ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ ภาคเรียนที่ ๑ เวลา 1 ชว่ั โมง ………………………………………………………….....…………………………………………………………………………………………… ๑. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวช้ีวดั สาระท่ี 2 หนา้ ท่ีพลเมือง มาตรฐาน ส 2.๑ เข้าใจและปฏิบัติตนตามหน้าท่ีของการเป็นพลเมืองดี มีค่านิยมท่ีดีงามและธารงรักษา ประเพณีและวัฒนธรรมไทย ดารงชวี ิตอย่รู ่วมกนั ในสังคมไทยและสงั คมโลกอย่างสนั ติสุข ตวั ช้วี ัด ป.๓/4 ยกตวั อยา่ งบุคคลซึ่งมผี ลงานทเ่ี ปน็ ประโยชนแ์ ก่ชมุ ชนและท้องถน่ิ ของตน ๒. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด บุคคลสาคญั ของทอ้ งถน่ิ เป็นบุคคลที่ทาประโยชน์ให้แกท่ ้องถ่ินหรอื ส่วนรวม และเป็นแบบอยา่ งที่ดที ่ี ควรนามาปฎบิ ัตติ าม ๓. สาระการเรียนรู้ ความรู้ - อธิบายข้อมลู ของบคุ คลที่ทาประโยชนใ์ นชุมชนและท้องถน่ิ ทกั ษะ/กระบวนการ - ยกตวั อย่างบุคคลซึง่ มผี ลงานที่เป็นประโยชนแ์ ก่ชมุ ชนและทอ้ งถิน่ ของตน และเสนอแนวทาง การนาแบบอยา่ งทด่ี ีไปปฏบิ ตั ิในชีวติ ประจาวนั เจตคติ - เห็นประโยชน์ของการยกตัวอยา่ งบคุ คลซึ่งมีผลงานทเ่ี ป็นประโยชนแ์ ก่ชุมชนและทอ้ งถิ่นของตน ๔. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร ๒. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ๕. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี ินยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มงุ่ ม่ันในการทางาน ๖. ประเมินผลรวบยอด ช้นิ งานหรือภาระงาน ๑. ใบงานท่ี 1 เรอ่ื ง บุคคลสาคญั ในทอ้ งถนิ่
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 6 เร่ือง บุคคลสาคญั ของท้องถิ่น ๕๔๗ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 1 เร่ือง บคุ คลที่มผี ลงานเปนประโยชนแ์ กช่ ุมชนและทอ้ งถน่ิ หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 6 เรื่อง บคุ คลสาคญั ของท้องถนิ่ เวลา 1 ชั่วโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม รายวิชา สังคมศกึ ษา ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 3 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชว้ี ดั มาตรฐาน ส 2.1 เข้าใจและปฏบิ ตั ติ นตามหนา้ ทีข่ องการเปน็ พลเมืองดี มคี ่านิยมท่ดี งี ามและธารงรักษา ประเพณแี ละวัฒนธรรมไทย ดารงชีวติ อยู่ร่วมกนั ในสังคมไทยและสังคมโลกอย่างสันติสขุ ตัวชว้ี ัด ป.๓/4 ยกตัวอย่างบคุ คลซ่งึ มีผลงานทเ่ี ปน็ ประโยชนแ์ ก่ชมุ ชนและทอ้ งถิน่ ของตน ๒. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด บุคคลสาคัญของท้องถ่ินเป็นบุคคลที่ทาประโยชน์ให้แก่ท้องถ่ินหรือส่วนรวม และเป็นแบบอย่างท่ีดีที่ ควรนามาปฎิบัตติ าม ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) - อธิบายขอ้ มลู ของบคุ คลท่ที าประโยชน์ในชมุ ชนและทอ้ งถน่ิ 3.2 ดา้ นทักษะ กระบวนการ (P) - มีทกั ษะกระบวนการทางานกลมุ่ - ยกตวั อย่างบคุ คลซงึ่ มผี ลงานทเ่ี ป็นประโยชน์แกช่ ุมชนและทอ้ งถ่นิ ของตน และเสนอแนวทาง การนาแบบอย่างท่ีดไี ปปฏิบตั ิในชวี ติ ประจาวัน 3.2 ดา้ นคุณลกั ษณะ เจตคติ คา่ นิยม (A) - เหน็ ประโยชนข์ องการยกตัวอย่างบุคคลซึง่ มีผลงานท่ีเปน็ ประโยชน์แกช่ ุมชนและทอ้ งถิน่ ของตน ๔. สาระการเรียนรู้ - บุคคลท่มี ผี ลงานเปน็ ประโยชน์แก่ชุมชนและท้องถน่ิ ไดแ้ ก่ นายประยงค์ รณรงค์ แพทยห์ ญงิ เพ็ญ นภา ทรพั ยเ์ จริญ ๕. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น 1. ความสามารถในการส่ือสาร ๒. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ ๖. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี ินัย 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มงุ่ มน่ั ในการทางาน 7. กจิ กรรมการเรียน
๕๔๘ คูม่ อื ครแู ละแผนจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (สังคมศึกษา ป.๓) ลาดับท่ี การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 1. แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 1 เรื่อง บคุ คลท่มี ผี ลงานเปนประโยชนแ์ กช่ มุ ชนและทอ้ งถน่ิ รายวชิ าสงั คมศกึ ษา จานวน 1 ชั่วโมง จดุ ประสงค์ ข้ันตอนการจดั เวลา แนวการจดั การเรียนรู้ ส่ือการเรยี นรู้ การประเมิน การเรียนรู้ การเรยี นรู้ ทีใ่ ช้ การเรยี นรู้ กิจกรรมครู กจิ กรรมนกั เรียน ข้นั นา 5 นาที 1. ครนู าภาพนายประยงค์ 1. นักเรยี นดภู าพนาย - ภาพ นาย รณรงค์ และแพทยห์ ญิงเพญ็ ประยงค์ รณรงค์ และ ประยงค์ รณรงค์ นภา ทรพั ย์เจริญ มาให้ แพทย์หญงิ เพญ็ นภา และแพทยห์ ญิง นกั เรยี นดู จากน้นั ใช้คาถาม ทรพั ยเ์ จริญ เพญ็ นภา ทรพั ย์ กระตุน้ คดิ เพอ่ื นาเขา้ สู่ แลว้ พดู คุยแลกเปล่ียนกัน เจริญ บทเรยี น กับเพ่อื นๆและครเู กีย่ วกบั -นกั เรยี นราบหรอื ไมว่ า่ บคุ คล ภาพบคุ คลท่ีครนู ามาใหด้ ู ทง้ั สองทา่ นน้คี อื ใคร และ แนวคาตอบ เพราะเหตใุ ดเราจงึ ต้องศกึ ษา - เพราะทา่ นทง้ั สองเป็น ขอ้ มูลของทา่ นทั้งสอง บุคคลท่ที าประโยชน์แก่ ชุมชนและทอ้ งถิ่น และสงิ่ ทท่ี ่านทาเราควรนามา เป็นแบบอยา่ ง และนาไป ปรบั ใช้ในการดาเนินชวี ิต
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 6 เรอื่ ง บุคคลสาคญั ของทอ้ งถิ่น ๕๔๙ ลาดบั ที่ จุดประสงค์ ข้นั ตอนการจดั เวลา แนวการจดั การเรียนรู้ สอื่ การเรียนรู้ การประเมิน การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ที่ใช้ การเรยี นรู้ กิจกรรมครู กิจกรรมนักเรยี น 2. 1. มที กั ษะกระบวนการ ขนั้ สอน 20 นาที 1. ครแู บ่งนกั เรยี นออกเปน็ 1. นกั เรยี นแบง่ กล่มุ เพื่อ - ใบความรทู้ ่ี 1 - แบบประเมนิ ทางานกลุ่ม กล่มุ กลมุ่ ละ 4 คน ช่วยกนั ระดมความคิด เร่อื ง บคุ คล กระบวนการ โดยใชเ้ ทคนคิ Gang of Four สาคญั ในทอ้ งถิ่น ทางานกลมุ่ 2. ยกตัวอยา่ งบคุ คลซึง่ มี 2. ครแู จกใบความรเู้ รอื่ งบคุ คล 2. นกั เรยี นศกึ ษาใบความรู้ ผลงานทเ่ี ปน็ ประโยชน์แก่ สาคญั ในท้องถน่ิ พรอ้ มกบั ท่ี 1 เรือ่ ง บคุ คลสาคญั ใน ชมุ ชนและทอ้ งถ่ินของตน อธิบายเน้ือหาให้นกั เรยี นฟงั ทอ้ งถิ่นไปพรอ้ มกนั กับครู - การประเมิน ได้ เนน้ ยา้ ประเด็นที่สาคญั เพอ่ื และช่วยกนั จดบันทึก - การสังเกต นาไปสกู่ จิ กรรมของการตอบ ประเดน็ ทสี่ าคญั ไว้ พฤตกิ รรม คาถาม 3. ครแู จกกระดาษแผ่นเลก็ สี 3. นกั เรยี นนาแผน่ กระดาษ - คาถาม - การซักถาม เหลอื งและสฟี ้าให้นักเรียนแตล่ ะ สีไปติดบนกระดานตามท่ี กลมุ่ โดยครกู าหนดใหก้ ระดาษ กลมุ่ ของตนเองลงความเหน็ แผ่นเล็กสเี หลอื งเป็นชอ่ื ของนาย รว่ มกนั โดยผลดั กันทา ประยงค์ รณรงค์ และกระดาษ กิจกรรมจนครบทกุ คน แผ่นเล็กสฟี า้ เปน็ ชอื่ ของแพทย์ หญิงเพญ็ นภา ทรัพยเ์ จรญิ จากนั้นครอู ธิบายกตกิ า การชัก เยอ่ ความคิด ใหน้ ักเรยี นฟัง ดงั น้ี
๕๕๐ คู่มอื ครูและแผนจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (สงั คมศึกษา ป.๓) ลาดบั ท่ี จดุ ประสงค์ ขั้นตอนการจดั เวลา แนวการจดั การเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ การประเมิน การเรยี นรู้ การเรียนรู้ ที่ใช้ การเรียนรู้ กิจกรรมครู กิจกรรมนักเรียน - ครมู ีประเดน็ คาถามให้นักเรยี น แต่ละกลุ่มชว่ ยกนั ตอบ โดยครจู ะ กาหนดเวลาใหน้ กั เรยี นไดป้ รกึ ษา กันขอ้ ละ 1 วินาที เมอื่ นักเรยี น ลงความเหน็ ร่วมกันแล้วว่า ประเด็นทค่ี รถู ามเป็นข้อมูลของ บุคคลสาคญั คนใด - ให้นกั เรยี นนาแผนกระดาษสีท่ี กาหนดใหไ้ ปตดิ บนกระดาน โดย ครจู ะแบ่งกระดาษออกเปน็ 2 ฝงั ซ้ายและขวา แล้วให้นกั เรียน ชกั เยอ่ น้าหนักตามที่นกั เรียนให้ ความสาคญั โดยใหน้ กั เรยี น ผลดั กนั ทากจิ กรรมจนครบทกุ คน 4. ครแู ละนักเรยี นร่วมกันสรุป 4. นกั เรยี นและครสู รปุ สิง่ ท่ไี ดเ้ รยี นรู้รว่ มกัน ซึ่งครคู อย ความร้คู วามเข้าใจร่วมกนั เป็นผู้เตมิ เต็มความรใู้ หก้ ับ นกั เรียน
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 6 เร่ือง บคุ คลสาคญั ของทอ้ งถ่นิ ๕๕๑ ลาดับท่ี จดุ ประสงค์ ข้ันตอนการจดั เวลา แนวการจดั การเรียนรู้ ส่อื การเรยี นรู้ การประเมิน 3. การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ การเรียนรู้ ท่ีใช้ ใบงานที่ 1 3. ยกตัวอยา่ งบุคคลซ่ึงมี เรอื่ ง บุคคล - การประเมิน ผลงานท่เี ปน็ ประโยชน์แก่ กิจกรรมครู กิจกรรมนักเรียน สาคญั ใน สงั เกตพฤติกรรม ชุมชนและทอ้ งถนิ่ ของตน ท้องถิน่ รายบคุ คล และเสนอแนวทาง ขน้ั ปฏบิ ัติ 15 นาที 1. ครใู ชค้ าถามกระต้นุ คิด 1. นกั เรยี นกลับไปศึกษา -การประเมิน การนาแบบอยา่ งทด่ี ไี ป สังเกตพฤตกิ รรม ปฏิบัตใิ นชีวิตประจาวัน นกั เรยี น คน้ คว้าหาขอ้ มูลบุคคลทมี่ ี กลมุ่ - การตรวจ -จากกิจกรรมท่ีได้ทาคดิ ว่า ผลงานเปน็ ประโยชน์แก่ ใบงาน ชุมชนของนักเรียนมบี ุคคลท่ี ชมุ ชนและท้องถ่นิ ทาประโยชนแ์ ก่ชุมชนและ ของตนเอง แลว้ ลงมือทา ท้องถนิ่ หรอื ไม่ ใบงานเร่อื งบคุ คลสาคัญ -หากมบี คุ คลนน้ั เปน็ ใคร ในทอ้ งถ่นิ -ทาประโยชนแ์ ก่ชุมชนอยา่ งไร 2. ครแู จกใบงานที่ 1 เรื่อง บคุ คลสาคญั ในทอ้ งถน่ิ ใหก้ บั นกั เรยี น โดยใหแ้ ต่ละกลมุ่ กลบั ไปศึกษา เป็นการบา้ น แล้วนามาสง่ ครใู นชั่วโมงต่อไป
๕๕๒ ค่มู อื ครแู ละแผนจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (สังคมศึกษา ป.๓) ลาดับท่ี จดุ ประสงค์ ขนั้ ตอนการจดั เวลา แนวการจดั การเรียนรู้ ส่อื การเรียนรู้ การประเมนิ การเรยี นรู้ การเรียนรู้ ท่ีใช้ การเรียนรู้ กจิ กรรมครู กิจกรรมนกั เรยี น 4. 4. เหน็ ประโยชนข์ องการ ข้นั สรุป 5 นาที 1. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั สรุป 1. นกั เรยี นรว่ มกนั สรุป - การประเมิน สังเกตพฤติกรรม ยกตัวอย่างบุคคลซึง่ มี ความรู้และกลา่ วชน่ื ชมบุคคล ความรูแ้ ละกลา่ วช่นื ชม ผลงานที่เปน็ ประโยชนแ์ ก่ ซง่ึ มผี ลงานทเ่ี ป็นประโยชน์แก่ บุคคลซงึ่ มผี ลงานทเี่ ป็น ชมุ ชนและท้องถนิ่ (A) ชมุ ชนแลทอ้ งถน่ิ ประโยชน์แกช่ มุ ชนแล ทอ้ งถ่นิ
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 6 เรอื่ ง บุคคลสาคญั ของท้องถ่นิ ๕๕๓ 8. สื่อการเรียนร้/ู แหล่งเรยี นรู้ 1. ใบความรทู้ ่ี 1 เร่อื ง บคุ คลสาคัญในทอ้ งถนิ่ 9. การประเมนิ ผลรวบยอด ชน้ิ งานหรือภาระงาน 1. ใบงานที่ 1 เรอ่ื ง บคุ คลสาคญั ในท้องถนิ่ การวดั และประเมินผล ประเดน็ การวดั วธิ กี าร เคร่ืองมือ เกณฑก์ ารประเมิน และประเมนิ ผล - ตรวจ ใบงานที่ 1 เร่ือง ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินร้อยละ บุคคลสาคญั ในทอ้ งถ่นิ - ใบงานท่ี 1 เรื่อง 60 ด้านความรู้ ความ - การตอบคาถาม บุคคลสาคญั ในทอ้ งถน่ิ เขา้ ใจ (K) - การแบบประเมินการ ผา่ นเกณฑ์ประเมนิ ระดับ การแบบประเมิน สงั เกตพฤตกิ รรม คุณภาพพอใช้ขึ้นไป ด้านทักษะ กระบวนการทางานกลมุ่ นกั เรยี นรายบคุ คล กระบวนการ (P) แบบประเมนิ กระบวนการทางานกลุ่ม - การประเมินการสังเกต แบบประเมนิ การสงั เกต ผา่ นเกณฑป์ ระเมนิ ระดับ คณุ ภาพพอใช้ขึน้ ไป ดา้ นคณุ ลกั ษณะ พฤติกรรมนักเรียน พฤติกรรมนักเรียน เจตคติ ค่านยิ ม ผา่ นเกณฑ์ประเมินระดับ (A) รายบคุ คล รายบุคคล คุณภาพผา่ นข้ึนไป คุณลักษณะ - การตอบคาถาม - แบบประเมินการตอบ อนั พึงประสงค์ คาถาม ประเมิน มวี นิ ยั แบบประเมนิ รับผิดชอบใฝ่เรียนรู้ และ คณุ ลกั ษณะ มุ่งมน่ั ในการทางาน อันพงึ ประสงค์ สมรรถนะสาคญั ประเมนิ ความสามารถ แบบประเมินสมรรถนะ ผา่ นเกณฑป์ ระเมนิ ระดบั ของผูเ้ รยี น ในการสอ่ื สาร สาคญั ของผู้เรยี น คณุ ภาพผ่านขึ้นไป ความสามารถในการคดิ และความสามารถใน การใชท้ ักษะชวี ิต
๕๕๔ คมู่ ือครูและแผนจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (สังคมศึกษา ป.๓) 10. บนั ทึกผลหลงั สอน ผลการจดั การเรียนการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสาเรจ็ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปญั หาและอปุ สรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ข้อจากัดการใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรู้ และขอ้ เสนอแนะ/แนวทางการปรบั ปรุงแกไ้ ข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื ......................................................ผูส้ อน (..........................................................) วันท่ี .......... เดือน ..................... พ.ศ. ............. 11. ความคดิ เห็น/ขอ้ เสนอแนะของผบู้ รหิ ารหรอื ผทู้ ไ่ี ดร้ บั มอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ ...................................................... ผู้ตรวจ (..........................................................) วนั ที่ .......... เดือน ..................... พ.ศ. .............
หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 6 เร่อื ง บุคคลสาคญั ของท้องถิน่ ๕๕๕ ใบความรทู้ ี่ 1 เร่อื ง บุคคลสาคญั ในท้องถน่ิ หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี เรอื่ ง บคุ คลสาคญั ของทอ้ งถนิ่ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 1 เรอ่ื ง บคุ คลท่มี ผี ลงานเปนประโยชนแ์ กช่ มุ ชนและทอ้ งถน่ิ รายวชิ าสงั คมศกึ ษา รหสั ส13101 ภาคเรยี นท่ี 1 ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 3 นายประยงค์ รณรงค์ ประวัติและผลงานของนายประยงค์ รณรงค์ นายประยงค์ รณรงค์ เกิดเม่ือวันท่ี 24 สิงหาคม 2480 ณ ตาบลไม้เรียง อาเภอถลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช เกิดในครอบครัวท่ีทาเกษตร มีฐานะยากจน แต่เป็นคนที่มีความคิด ริเริ่ม สรา้ งสรรค์ เปน็ คนใฝร่ ู้ พัฒนาตนเองตลอดเวลา ผลงานสาคัญ เป็นผู้นาในการพัฒนาเศรษฐกิจที่สาคัญของชุมชนตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยทาให้ชาวตาบลไม้เรียงสามารถพึ่งพาตนเอง ในการแก้ปัญหาการทากินและร่วมมือกันแก้ปัญหาของชุมชน จนเป็นชุมชนต้นแบบในการพึ่งพา ตนเองจนทาให้นายประยงค์ รณรงค์ เป็นผู้นาชุมชนท่ีได้รับการยกย่องจากท่ัวประเทศว่าเป็น ปราชญ์ชาวบ้านที่สร้างแรงบันดาลใจให้คนในชุมชนต่ืนตัวในการเรียนรู้และต่อสู้เพ่ือการพึ่งพา ตนเอง นายประยงค์ รณรงค์
๕๕๖ คู่มือครแู ละแผนจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (สงั คมศึกษา ป.๓) แพทย์หญิงเพญ็ นภา ทรพั ยเ์ จรญิ ประวตั ิและผลงานของแพทย์หญิงเพญ็ นภา ทรัพย์เจริญ แพทย์หญิงเพ็ญนภา ทรัพย์เจริญ เกิดวันท่ี 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2495 จังหวัดปราจีนบุรี ท่านเป็นแพทย์แผนปัจจุบันคนแรกของไทยที่บุกเบกิ นาสมุนไพรไทยมาใช้ร่วมกับการรักษาโรคแผน ปัจจุบันในโรงพยาบาลวังน้าเย็น จังหวัดสระแก้ว และเป็นต้นแบบของโรงพยาบาลท่ีนาการรักษา แบบแพทย์แผนไทยควบคู่กับการรักษาแบบแพทย์แผนปัจจุบัน แพทย์หญิงเพ็ญนภา มีความมุ่งมั่น ตั้งใจเรยี นรู้ตารับยาแผนโบราณ รวมทง้ั ได้เผยแพร่ความรใู้ หแ้ ก่ประชาชนเปน็ การอนุรักษ์ภูมิปญั ญา ไทย แพทยห์ ญิงเพญ็ นภาไดร้ ับการเชิดชูเกยี รติใหเ้ ป็นแพทยด์ เี ดน่ ชนบทประจา พ.ศ. 2529 ผลงานสาคัญ 1. รวบรวมตาราแผนโบราณและนามาแปล เพอื่ เผยแพรค่ วามรู้และนาไปใช้ในการรกั ษาโรค 2. รวบรวมตาราประมวลทฤษฎี การแพทยแ์ ผนไทย 3. จัดทาโปรแกรมสุขภาพสาเรจ็ รูป การใช้คอมพวิ เตอรใ์ นการวเิ คราะหส์ ขุ ภาพดว้ ยทฤษฎี การแพทยแ์ ผนไทย ใน พ.ศ. 2537 4. รวบรวมท่าบรหิ ารกายแบบไทยในทา่ ฤาษดี ัดตน 5. สง่ เสรมิ การใชส้ มนุ ไพรในสถานบริการสาธารณสุขของรฐั แพทยห์ ญิงเพ็ญนภา ทรพั ยเ์ จริญ
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 6 เรือ่ ง บุคคลสาคญั ของทอ้ งถ่นิ ๕๕๗ ใบงานที่ 1 เรอ่ื ง บคุ คลสาคญั ในท้องถิน่ หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี เร่อื ง บคุ คลสาคัญของทอ้ งถนิ่ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 1 เรอื่ ง บคุ คลท่มี ผี ลงานเปนประโยชนแ์ กช่ มุ ชนและทอ้ งถนิ่ รายวิชาสงั คมศกึ ษา รหสั ส13101 ภาคเรียนท่ี 1 ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 คาชแี้ จง นกั เรยี นแบ่งกลุม่ ร่วมกนั ค้นคว้าหาขอ้ มูลบคุ คลทมี่ ผี ลงานเปน็ ประโยชน์แก่ชุมชนและทอ้ งถิน่ ของตนเอง จากแหลง่ ขอ้ มลู ต่าง ๆ มา 1 ท่าน แล้วตอบคาถามลงในแบบบันทกึ (ตวั อย่างคาตอบ) 1. บคุ คลชือ่ (นายชูชาติ ดลุ ยประภัสสาร (ผ้ใู หญก่ บ) าติ ดลุ ยประภสั สาร (ผูใ้ หญก่ บ) 22.. ปปรระะววัตัติขิขอองงบบุคุคคคลล ((นนาายยชชชููชาาตติิ ดดลุุลยยปปรระะภภสััสสสรร สสาามมปปรระะเเภภททสสอองง ใในนออดดีตีตเเปปน็น็ นนกักั เเทท่ียยี่ ววตตาามมสสถถาานนบบันนั เเททงิงิ ตา่ งปๆจั จุบนั หันม าชว่ ยเหลือสังคม สะสมความดจี นสามารถเอาชนะใจชา วบา้ นทา้ ยใหม่ จังหวัสมทุ ร และได้รับเลอื กใหเ้ ปน็ สมุทปผรู้ัจปจรุบาันกหารนั มาช่วยเหลือสงั คม สะสมความดีจนสามารถเอาชนะใจชาวบ้านทา้ ยใหม่ จงั หวัด ใหญ่ 3. ผลงานท่ีเปน็ ประโยชนแ์ ก่ชุมชนและทอ้ งถ่นิ แ(ชล่วะยไเดหร้ ลบั อื เสลงัือคกมใหท้เุกปรน็ ูปผแู้ใบหบญบ่เช้า่นน)ช่วยเหลือผูท้ ่เี ดือดรอ้ น ชว่ ยจับงู ช่วยเหลอื คนที่ถูกทารา้ ย ชว่ ยเหลอื ปจั จุบนั หนั ม าชว่ ยเหลอื สงั คม สะสมความดีจนสามารถเอาชนะใจชา วบ้านทา้ ยใหม่ จงั หวัสมุทร และได้รบั เลอื กใหเ้ ปน็ 3. ผ(ผชลู้ ว่ งยาเนหทล่เีอื ปส็นังปครมะทโกุยรชปูนแแ์ บกบช่ ุมเชชน่นแชล่วะยทเห้องลถอื ิ่นผทู้ เี่ ดอื ดร้อน ชว่ ยจับงู ชว่ ยเหลอื คนทีถ่ ูกทารา้ ย ช่วยเหใหลญอื ่ ผ4.ู้ท่ีมนี กั เรยี นไดข้ อ้ คิดจากการศกึ ษาอยา่ งไร (คุณคา่ ของคน อย่ทู ผี่ ลของ ปจั จบุ ันหันม าช่วยเหลอื สงั คม สะสมความดีจนสามารถเอาชนะใจชา วบา้ นทา้ ยใหม่ จงั หวสั มุทร เป็นฐแคาลนนะดะไีดยร้าับกจเลนือกคในหชเ้ รา ตดั ผมฟรใี ห้กับชาวบ้านและเด็ก ๆ อบรมส่งั สอน เด็ก ๆ ทที่ าตัวไม่ดีใหก้ ลับตปัวน็ ผู้ ใหญ่ 5. แนลกั ะเรยยี งั นชจว่ ยะทตาารปวรจะตโยรวชจนพใ์ ห้ืน้แทกเ่ี พช่ มุอื่ ชปนอ้ ขงกอนังตแนลเะอปงรไาดบอ้ ปยา่รงาไมรยาเสพติด) และได้รับเลือกใหเ้ ปน็ ผู้ ใหญ่ 4. นกั เรยี นไดข้ อ้ คิดจากการศกึ ษาอยา่ งไร (คณุ ค่าของคนอยู่ทีผ่ ลของงาน) ชอ่ื -นามสกลุ .........................................................................................ช้นั ......................เลขท.่ี .....................
๕๕๘ คมู่ อื ครูและแผนจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (สงั คมศกึ ษา ป.๓) เฉลยใบงานท่ี 1 เร่อื ง บุคคลสาคญั ในท้องถนิ่ หน่วยการเรียนร้ทู ี่ เร่ือง บคุ คลสาคัญของท้องถน่ิ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1 เร่อื ง บคุ คลท่ีมผี ลงานเปนประโยชนแ์ กช่ ุมชนและทอ้ งถนิ่ รายวชิ าสังคมศึกษา รหสั ส13101 ภาคเรียนท่ี 1 ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 คำชี้แจง นกั เรยี นแบ่งกลุ่มรว่ มกันคน้ คว้าหาข้อมลู บคุ คลทีม่ ีผลงานเป็นประโยชน์แก่ชมุ ชนและทอ้ งถิน่ ของตนเอง จากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ มา 1 ทา่ น แล้วตอบคาถามลงในแบบบนั ทึก (ตวั อยา่ งคาตอบ) 1. บุคคลชื่อ (นายชูช าติ ดุลยประภสั สาร (ผใู้ หญก่ บ) 2. ประวตั ิของบคุ คล (นายชูชาติ ดุลยประภัสสร สามประเภทสอง ในอดตี เปน็ นกั เทย่ี วตามสถานบันเทงิ ปัจจบุ ันหนั ม าชว่ ยเหลอื สังคม สะสมความดจี นสามารถเอาชนะใจชา วบา้ นท้ายใหม่ จงั หวสั มุทร และไดร้ บั เลอื กให้เ ปน็ ผู้ ใหญ่ 3. ผลงานท่เี ปน็ ประโยชน์แก่ชุมชนและท้องถน่ิ (ชว่ ยเหลอื สังคมทกุ รปู แบบ เช่น ช่วยเหลือผู้ที่เดอื ดรอ้ น ช่วยจับงู ชว่ ยเหลือคนท่ีถูกทารา้ ย ช่วยเหลอื ปจั จุบนั หันม าชว่ ยเหลือสังคม สะสมความดจี นสามารถเอาชนะใจชา วบ้านทา้ ยใหม่ จังหวัสมุทร และไดร้ ับเลอื กให้เ ปน็ ผู้ ใหญ่ 4. นกั เรยี นไดข้ อ้ คิดจากการศกึ ษาอยา่ งไร (คณุ ค่าของคน อย่ทู ผ่ี ลของ ปจั จุบันหันม าชว่ ยเหลือสงั คม สะสมความดจี นสามารถเอาชนะใจชา วบา้ นทา้ ยใหม่ จังหวัสมทุ ร และไดร้ ับเลอื กให้เ ปน็ ผู้ ใหญ่ 5. นกั เรยี นจะทาประโยชนใ์ ห้แกช่ มุ ชนของตนเองไดอ้ ยา่ งไร และไดร้ ับเลือกให้เ ปน็ ผู้ คำตอบตำมดลุ พินิจครผู สู้ อน ใหญ่
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 6 เร่ือง บุคคลสาคญั ของทอ้ งถิน่ ๕๕๙ เกณฑก์ ารประเมนิ ผลชิ้นงานหรือภาระงาน ใบงานท่ี 1 เรอื่ ง บคุ คลสาคญั ในท้องถ่นิ ประเดน็ ระดบั คณุ ภาพ การประเมนิ 1. เน้อื หา 4 (ดมี าก) 3 (ด)ี 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง) มเี นื้อหาตรงตามหวั ขอ้ มเี นอื้ หาตรง 2. รูปแบบ ถูกตอ้ ง ชดั เจน มีเน้ือหาตรงตาม มีเนือ้ หาตรงตาม ตามหวั ข้อ ครบถ้วนสมบรู ณ์ ถกู ต้อง 3. ความสะอาด หวั ขอ้ ถูกตอ้ ง หัวขอ้ ถูกต้อง บางสว่ น สวยงาม ออกแบบแผนผัง ออกแบบ ความคิดไดน้ า่ สนใจ ชดั เจน แต่ไม่ แผนผัง 4. ความ สวยงาม เปน็ ระเบียบ ความคดิ ได้ รับผิดชอบ มาก ครบถว้ น ผลงานสาเร็จ เปน็ ผลงานขาด ระเบยี บ สะอาด ออกแบบแผนผัง ออกแบบแผนผงั ความเปน็ สวยงาม ระเบียบ ความคิดได้ ความคดิ ได้นา่ สนใจ สะอาด ผลงานสาเร็จ สมบูรณ์ สวยงาม ก่อนเวลาท่ีกาหนด นา่ สนใจ สวยงาม ผลงานไม่ เปน็ ระเบียบ สาเรจ็ ตาม ผลงานสาเร็จ เปน็ ผลงานสาเร็จ เป็น เวลาท่กี าหนด ระเบยี บ สะอาด ระเบียบ ผลงานสาเร็จ ผลงานสาเร็จ สมบูรณ์ ตามเวลา สมบูรณ์ เกนิ เวลาท่ี ทก่ี าหนด กาหนด เกณฑก์ ารตดั สนิ ระดบั คณุ ภาพ เกณฑ์การสรปุ ผลการประเมนิ ดีมาก นกั เรยี นทไ่ี ดร้ ะดบั คณุ ภาพพอใช้ขนึ้ ไป ถอื ว่า ผ่าน ช่วงคะแนน ดี 14-16 พอใช้ 11-13 ปรบั ปรุง 8-10 1-7
๕๖๐ คมู่ อื ครูและแผนจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (สงั คมศกึ ษา ป.๓) แบบประเมนิ การสังเกตพฤติกรรมนกั เรยี นรายบคุ คล ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 3 สังเกตพฤติกรรมการเรยี นรวู้ นั ท่ี.......................เดือน............................................พ.ศ............................. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ลาดับ ชอ่ื – สกลุ ความ ความ การตอบ มีสว่ น รวม ระดบั ที่ ตั้งใจใน สนใจ คาถาม รว่ มใน (16) คุณภาพ การเรียน และ (4) กิจกรรม ซักถาม (4) (4) (4) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ลงชื่อ................................................................ผูป้ ระเมนิ ...................../..................../................... เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดงั ตารางแนบทา้ ย เกณฑก์ ารประเมินในการสังเกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ ดงั นี้ ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ เกณฑก์ ารสรุปผลการประเมนิ 14-16 ดีมาก นกั เรยี นทไ่ี ดร้ ะดบั คณุ ภาพพอใชข้ ึน้ ไป ถือวา่ ผา่ น 11-13 ดี 8-10 พอใช้ 1-7 ปรบั ปรุง
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 6 เรื่อง บุคคลสาคญั ของท้องถน่ิ ๕๖๑ เกณฑ์การวัดและประเมินผลการสังเกตพฤติกรรมนักเรยี นรายกลุ่ม (Rubric) ประเดน็ การ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ประเมนิ ดมี าก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ต้องปรบั ปรุง (1) 1. การปฏิสัมพันธ์ รว่ มมอื และชว่ ยเหลอื รว่ มมอื และ รว่ มมอื และ ไมใ่ หค้ วาม กนั เพอื่ นในการทา ช่วยเหลอื เพ่อื น ชว่ ยเหลือเพ่ือนใน รว่ มมอื ในขณะทา กจิ กรรม เปน็ สว่ นใหญใ่ น การทากิจกรรม กิจกรรม การทากิจกรรม เปน็ บางครงั้ 2. การสนทนา สนทนาตรงประเดน็ สนทนาตรง สนทนาตรง สนทนาไมต่ รง เรอ่ื งทก่ี าหนด ครอบคลุมเนอื้ หา ประเดน็ ครอบคลมุ ประเด็น ประเด็น เนอ้ื หาบางสว่ น 3. การตดิ ตอ่ ส่ือสาร มีการปรึกษาครูและ มีการปรกึ ษาครูและ มีการปรึกษาครูและ ไม่มกี ารปรกึ ษาครู เพอ่ื นกล่มุ อน่ื ๆ เพือ่ นกลุ่มอืน่ ๆ เพอ่ื นกลุ่มอ่ืน ๆ และเพ่ือนกลุ่ม เปน็ ส่วนใหญ่ เป็นบางครง้ั อ่นื ๆ 4. พฤตกิ รรม มีการวางแผนอย่าง มีการวางแผนอยา่ ง มีการวางแผนอยา่ ง ไม่มกี ารวางแผน การทางาน เปน็ ระบบ และแบง่ เปน็ ระบบ และ เป็นระบบ และ อย่างเป็นระบบ หน้าท่ขี องสมาชกิ แบ่งหนา้ ทข่ี อง แบ่งหนา้ ท่ขี อง และไมม่ ีการแบง่ ในกลุ่ม สมาชกิ ในกลมุ่ เป็น สมาชิกในกลมุ่ เปน็ หน้าทข่ี องสมาชิก ส่วนใหญ่ บางครงั้ ในกล่มุ
๕๖๒ คู่มือครูและแผนจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (สังคมศึกษา ป.๓) แบบประเมินการสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 3 สังเกตพฤติกรรมการเรยี นรวู้ ันที่.......................เดือน.............................................พ.ศ................................ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ลาดับ ชอ่ื กลมุ่ การ การ พฤตกิ รรม ที่ ปฏิสมั พนั ธ์ สนทนา การ การ รวม ระดบั เร่อื ง ตดิ ตอ่ ส่อื สาร ทางาน (16) คุณภาพ กัน ทก่ี าหนด (4) กลุ่ม (4) (4) (4) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ลงชอ่ื ................................................................ผปู้ ระเมนิ ...................../..................../................... เกณฑก์ ารให้คะแนนดังตารางแนบทา้ ย เกณฑก์ ารประเมินในการสังเกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ ดงั นี้ ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ เกณฑ์การสรปุ ผลการประเมิน 14-16 ดมี าก นกั เรยี นทไ่ี ดร้ ะดบั คณุ ภาพพอใชข้ ึน้ ไป ถือวา่ ผา่ น 11-13 ดี 8-10 พอใช้ 1-7 ปรับปรุง
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 6 เร่อื ง บุคคลสาคญั ของท้องถน่ิ ๕๖๓ เกณฑ์การวัดและประเมินผลการสังเกตพฤติกรรมนักเรยี นรายกลุ่ม (Rubric) ประเดน็ การ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ประเมนิ ดมี าก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ต้องปรับปรุง 1. การปฏสิ มั พันธ์ (1) กนั รว่ มมอื และชว่ ยเหลอื รว่ มมอื และ รว่ มมอื และ ไมใ่ ห้ความ 2. การสนทนา เพอื่ นในการทา ช่วยเหลอื เพ่อื น ชว่ ยเหลือเพื่อนใน รว่ มมอื ในขณะทา เรื่องท่ีกาหนด กิจกรรม กจิ กรรม เปน็ สว่ นใหญใ่ น การทากิจกรรม 3. การ สนทนาไมต่ รง ติดต่อสอ่ื สาร การทากิจกรรม เปน็ บางครง้ั ประเดน็ 4. พฤตกิ รรม สนทนาตรงประเดน็ สนทนาตรง สนทนาตรง ไมม่ กี ารปรกึ ษาครู การทางาน และเพ่ือนกลุ่มอนื่ ๆ ครอบคลุมเนอื้ หา ประเดน็ ครอบคลมุ ประเด็น ไม่มีการวางแผน เนอ้ื หาบางสว่ น อย่างเป็นระบบ และไม่มีการแบ่ง มีการปรึกษาครูและ มีการปรกึ ษาครูและ มีการปรึกษาครูและ หน้าที่ของสมาชกิ ในกลมุ่ เพอ่ื นกล่มุ อน่ื ๆ เพือ่ นกลุ่มอืน่ ๆ เพอ่ื นกลุ่มอืน่ ๆ เปน็ ส่วนใหญ่ เป็นบางครง้ั มกี ารวางแผนอย่าง มีการวางแผนอยา่ ง มีการวางแผนอยา่ ง เปน็ ระบบ และแบง่ เปน็ ระบบ และ เป็นระบบ และ หน้าท่ขี องสมาชกิ แบ่งหนา้ ทข่ี อง แบ่งหนา้ ทขี่ อง ในกลุ่ม สมาชกิ ในกลมุ่ เป็น สมาชิกในกลมุ่ เปน็ ส่วนใหญ่ บางครงั้
๕๖๔ คมู่ ือครูและแผนจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (สังคมศึกษา ป.๓) แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คาชแี้ จง ให้ผสู้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียนแลว้ ขดี ✓ลงในช่องที่ ตรงกบั ระดบั คะแนน รายการ พฤตกิ รรมการแสดงออก ระดบั การปฏบิ ตั ิ ประเมนิ ๓๒๑ ๑. มีวินัย ๑.1 ปฏบิ ัตติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บังคบั ของครอบครัว รบั ผิดชอบ และโรงเรียน มีความตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั ิกิจกรรมตา่ งๆ ใน ชีวติ ประจาวันมคี วามรบั ผิดชอบ ๒. ใฝเ่ รยี นรู้ 2.1 ต้ังใจเรยี น 2.2 เอาใจใสใ่ นการเรียน และมคี วามเพยี รพยายามในการเรียน 2.3 เข้าร่วมกิจกรรมการเรยี นรตู้ า่ งๆ 2.4 ศกึ ษาคน้ คว้า หาความรู้จากหนังสือ เอกสาร สิง่ พมิ พ์ สอ่ื เทคโนโลยีต่างๆแหลง่ การเรียนรู้ทง้ั ภายในและภายนอกโรงเรยี น และ เลือกใช้สื่อไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 2.5 บันทกึ ความรู้ วเิ คราะห์ ตรวจสอบบางสงิ่ ที่เรียนรู้ สรปุ เปน็ องค์ ความรู้ 2.6 แลกเปลยี่ นความรู้ ด้วยวธิ ีการต่างๆ และนาไปใช้ในชวี ิตประจาวัน 3. มุ่งมน่ั ใน 3.1 มคี วามตง้ั ใจและพยายามในการทางานทีไ่ ดร้ บั มอบหมาย การทางาน 3.2 มีความอดทนและไมท่ ้อแท้ตอ่ อปุ สรรคเพือ่ ใหง้ านสาเรจ็ ลงช่ือ................................................................ผู้ประเมนิ ...................../..................../................... เกณฑก์ ารให้คะแนน ๓ คะแนน หมายถงึ ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมอยา่ งสมา่ เสมอ ๒ คะแนน หมายถึง ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ๑ คะแนน หมายถึง ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมบางครงั้ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดงั ตารางแนบทา้ ย เกณฑก์ ารประเมินคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ดงั น้ี ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ เกณฑก์ ารสรปุ ผลการประเมิน 22-27 ดีเยีย่ ม นกั เรยี นทไ่ี ดร้ ะดบั คณุ ภาพผ่านข้นึ ไป ถอื ว่า ผ่าน 15-21 ดี 8-14 ผา่ น 1-7 ไม่ผา่ น
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 6 เร่อื ง บุคคลสาคญั ของทอ้ งถิน่ ๕๖๕ แบบประเมนิ สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น คาชแ้ี จง ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี นแลว้ ขีด ✓ ลงในชอ่ งที่ ตรงกับระดบั คะแนน รายการประเมนิ พฤตกิ รรมการแสดงออก ระดับการปฏบิ ตั ิ ๓๒๑ ๑. ความสามารถ ๑.1 มีความสามรถในการรบั – ส่งสาร ในการส่อื สาร 1.2 มคี วามสามารถในการถ่ายทอดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ ของตนเอง โดยใช้ภาษาอยา่ ง เหมาะสม 2. ความสามารถ 2.1 มีทักษะในการคดิ นอกกรอบอย่างสรา้ งสรรค์ ในการคดิ 2.2 มคี วามสามารถในการคดิ อย่างมรี ะบบ 3. ความสามารถ 3.1 สามารถทางานกล่มุ ร่วมกับผ้อู ่นื ได้ ในการใชท้ กั ษะ 3.2 นาความรทู้ ่ไี ดไ้ ปใช้ประโยชน์ในชวี ติ ประจาวัน ชวี ติ ลงชื่อ................................................................ผู้ประเมิน ...................../..................../................... เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ๓ คะแนน หมายถงึ ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ ๒ คะแนน หมายถงึ ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยคร้ัง ๑ คะแนน หมายถึง ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง เกณฑก์ ารให้คะแนนดังตารางแนบทา้ ย เกณฑก์ ารประเมินสมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี นดังน้ี ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ เกณฑ์การสรุปผลการประเมิน 13-18 ดีเยยี่ ม นกั เรยี นทไ่ี ดร้ ะดบั คณุ ภาพผ่านข้นึ ไป ถือว่า ผ่าน 9-12 ดี 5-8 ผา่ น 1-4 ไม่ผ่าน
๕๖๖ คมู่ อื ครูและแผนจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (สงั คมศกึ ษา ป.๓) แบบประเมนิ ตนเอง ชื่อ : _________________ สกลุ : _________________วัน____ เดือน____________พ.ศ._____ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๖ เรอ่ื ง บคุ คลสาคัญของท้องถน่ิ คำชี้แจง ๑. ระบายสลี งใน ของแตล่ ะกิจกรรมทน่ี กั เรียนคิดว่าทาไดต้ ามระดบั การประเมินเหลา่ นี้ เพอ่ื ประเมินการเรียนรขู้ องนักเรียน ปรับปรงุ พอใช้ คอ่ นข้างดี ดี ดีมาก กิจกรรม ระดบั ควำมสำมำรถ 1. อธิบายขอ้ มลู ของบุคคลทท่ี าประโยชน์ในชมุ ชนและทอ้ งถ่ิน 2. ยกตวั อยา่ งบุคคลซงึ่ มผี ลงานทีเ่ ป็นประโยชนแ์ ก่ชุมชนและท้องถ่นิ ของ ตน และเสนอแนวทางการนาแบบอยา่ งที่ดไี ปปฏบิ ัตใิ นชีวติ ประจาวนั 3. เห็นประโยชน์ของการยกตัวอยา่ งบคุ คลซงึ่ มีผลงานทเี่ ป็นประโยชน์แก่ ชมุ ชนและทอ้ งถน่ิ ของตน ๒. นับจานวนดาวจากตารางขา้ งบนเพอ่ื บนั ทกึ ผลการเรียนรขู้ องนกั เรียน ดงั น้ี จานวน จานวน .............................. .............................. จานวน จานวน .............................. .............................. จานวน .............................. สรปุ : วงกลมรอบผลการเรยี นรขู้ องนักเรยี น โดยนับจากขอ้ ทีไ่ ดด้ าวมากทสี่ ุด ปรบั ปรงุ พอใช้ ดี ค่อนขา้ งดี ดมี าก
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 6 เร่อื ง บุคคลสาคญั ของท้องถนิ่ ๕๖๗ 3. กาเคร่ืองหมาย √ ลงใน ท่นี ักเรยี นวางแผนจะทาเพอื่ พัฒนาการเรียนในครง้ั ต่อไป (เลอื กไดม้ ากกวา่ 1 ขอ้ ) มีความรบั ผดิ ชอบในการเรยี น ตงั้ คาถามจะเกิดการเรียนรู้ และการแสวงหาความรู้อยเู่ สมอๆ ลงมือปฏิบตั ใิ หเ้ กิดความชานาญ ทบทวน ทอ่ ง และทาแบบฝึกหดั ซ้า ๆ
๕๖๘ ค่มู ือครแู ละแผนจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (สงั คมศึกษา ป.๓) หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 7 ประชาธิป ตย
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี ๗ เรือ่ ง ประชาธิปไตย ๕๖๙ หน่วยการเรยี นรู้ ชือ่ หน่วยการเรยี นรู้ เรื่อง ประชาธปิ ตย รหสั วิชา ส๑๓๑๐1 รายวชิ าสังคมศกึ ษา กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษาศาสนา และวฒั นธรรม ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา 5 ชว่ั โมง …………………………………………………………..……………………………………………………………………………………………… ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชวี้ ดั สาระท่ี 2 หน้าที่พลเมอื ง มาตรฐาน ส 2.2 เข้าใจระบบการเมอื งการปกครองในสังคมปจั จบุ นั ยดึ มน่ั ศรทั ธาและธารงรกั ษา ไว้ซึ่งการ ปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษตั รยิ ท์ รงเปน็ ประมขุ ตัวชว้ี ดั ระบุบทบาทหน้าท่ขี องสมาชกิ ของชุมชนในการมีส่วนรว่ มในกิจกรรมตา่ ง ๆ ตามกระบวนการ ป.๓/1 ประชาธปิ ไตย ป. /2 วิเคราะห์ความแตกตา่ งของกระบวนการการตดั สินใจในชัน้ เรยี น/โรงเรียนและชุมชนโดยวิธีการออก เสยี งโดยตรงและการเลอื กตัวแทนออกเสียง ป. / ยกตัวอย่างการเปลย่ี นแปลงในชั้นเรียน โรงเรียน และชุมชนที่เปน็ ผลจากการตดั สินใจของบุคคลและ กลุ่ม ๒. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด ประชาธิปไตยเป็นระบบการปกครองที่ยดึ เสียงส่วนใหญ่เป็นหลัก โดยการแสดงบทบาทและการมสี ว่ น ร่วมตามแนวทางประชาธิปไตย เพ่ือความสงบสุขและประโยชน์ที่จะเกิดแก่สมาชิก การออกเสียงโดยตรงและ เลือกตัวแทนออกเสียงในชั้นเรียนเป็นกระบวนการเรียนรู้ระบอบประชาธิปไตยเบ้ืองต้นในชั้นเรียน การออก เสียงโดยตรงเป็นพ้ืนฐานการตัดสินใจของตนเอง การเลือกตัวแทนออกเสียงเป็นการมอบอานาจหน้าท่ี การตัดสินใจให้ตัวแทน ซึ่งการเลือกตัวแทนที่มีความเหมาะสมจะสามารถทางานหรือทากิจกรรมต่าง ๆ ตาม กระบวนการประชาธิปไตยร่วมกับผู้อื่นได้เป็นอย่างดี ทุกคนในโรงเรียนมีผลต่อการเปล่ียนแปลงในชั้นเรียน และโรงเรียนทั้งด้านการบริหารจัดการและส่ิงแวดล้อม ในชั้นเรียน และโรงเรียน การเปล่ียนแปลงท่ีดีในชั้น เรียนและโรงเรียนจะทาให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย การตัดสินใจร่วมกันของบุคคลและกลุ่มทาให้เกิด การเปล่ียนแปลงด้านต่าง ๆ ท่ีเกิดประโยชน์ต่อชุมชน ถ้าสมาชิกทุกคนในชุมชนมีความสามัคคี เห็นแก่ ประโยชน์ส่วนรวมเปน็ หลกั ก็จะทาใหช้ มุ ชนมกี ารเปล่ยี นแปลงไปในทางทด่ี ขี ึ้น ๓. สาระการเรยี นรู้ ความรู้ ๑. ระบบุ ทบาทหน้าท่ที ่สี มาชิกในโรงเรียนและชุมชนพึงปฏิบตั ิ 2. อธิบายการออกเสยี งโดยตรงและการเลอื กตัวแทนออกเสยี งได้ 3. วิเคราะหค์ วามแตกต่างของการออกเสียงโดยตรงกบั การเลอื กตวั แทนออกเสียงได้ 4. ยกตวั อยา่ งการเปลีย่ นแปลงในชัน้ เรยี น โรงเรยี นได้ 5. อธิบายองคป์ ระกอบที่มีผลตอ่ การเปลยี่ นแปลงในชมุ ชนได้
๕๗๐ คมู่ อื ครูและแผนจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (สังคมศึกษา ป.๓) ทกั ษะ/กระบวนการ ๑. มที ักษะกระบวนการทางานกลุ่ม 2. วิเคราะหข์ อ้ ดี ขอ้ เสีย ของการออกเสยี งโดยตรงและการเลอื กตัวแทนออกเสียง และเสนอวิธีการเลอื ก ตัวแทนอย่างถูกต้องเหมาะสม เจตคติ ๑. เหน็ ความสาคญั ของกระบวนการประชาธิปไตยที่เปน็ หลกั ในการอยู่รว่ มกัน 2. เห็นความสาคัญของการออกเสียงโดยตรงและการเลือกตวั แทนออกเสยี ง 3. เห็นความสาคญั ของความแตกต่างของการออกเสยี งโดยตรงกบั การเลอื กตวั แทนออกเสยี ง 4. เหน็ ความสาคญั ของยกตวั อยา่ งการเปลยี่ นแปลงในชั้นเรยี น โรงเรียน 5. สนใจศกึ ษาและสังเกตการเปลี่ยนแปลงในชมุ ชน ๔. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการสอื่ สาร ๒. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ ๕. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มงุ่ มน่ั ในการทางาน ๖. ประเมินผลรวบยอด ชิน้ งานหรือภาระงาน ๑. ใบงานที่ 1 เรอื่ ง กระบวนการประชาธปิ ไตย 2. ใบงานท่ี 2 เรอ่ื ง ประชาธปิ ไตยในชัน้ เรียน 3. ใบงานที่ 3 เร่ือง ความแตกต่างของการออกเสยี งโดยตรงกบั การเลอื กตวั แทนออกเสยี ง 4. ใบงานท่ี 4 เรอ่ื ง เรื่อง การเปลีย่ นแปลงในช้นั เรียน และโรงเรยี น 5. ใบงานท่ี 5 เร่ือง การเปลีย่ นแปลงในชมุ ชน
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๗ เรื่อง ประชาธิปไตย ๕๗๑ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 1 เรือ่ ง กระบวนการประชาธปิ ไตย หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 7 เรอื่ ง ประชาธปิ ไตย เวลา 1 ชั่วโมง กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม รายวิชา สังคมศึกษา ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 3 1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ชี้วัด มาตรฐาน ส 2.2 เข้าใจระบบการเมอื งการปกครองในสงั คมปจั จบุ นั ยดึ มนั่ ศรทั ธาและธารงรกั ษา ไว้ซ่งึ การ ปกครองระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมขุ ตัวชว้ี ดั ป.๓/1 ระบบุ ทบาทหน้าทข่ี องสมาชิกของชมุ ชนในการมีส่วนร่วมในกจิ กรรมต่าง ๆ ตามกระบวนการ ประชาธปิ ไตย ๒. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด ประชาธปิ ไตยเปน็ ระบบการปกครองท่ยี ดึ เสียงส่วนใหญ่เปน็ หลัก โดยการแสดงบทบาทและการมีส่วน รว่ มตามแนวทางประชาธิปไตย เพอื่ ความสงบสุขและประโยชน์ที่จะเกิดแกส่ มาชิก ๓. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ ความเขา้ ใจ (K) - ระบุบทบาทหน้าที่ทส่ี มาชกิ ในโรงเรยี นและชมุ ชนพึงปฏบิ ัติ 3.2 ด้านทักษะ กระบวนการ (P) - มีทกั ษะกระบวนการทางานกลุ่ม 3.2 ดา้ นคณุ ลกั ษณะ เจตคติ คา่ นิยม (A) - เหน็ ความสาคญั ของกระบวนการประชาธปิ ไตยทเี่ ปน็ หลักในการอยู่รว่ มกัน ๔. สาระการเรยี นรู้ - หลกั การประชาธิปไตย ๕. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต ๖. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มวี ินัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุง่ ม่ันในการทางาน 7. กิจกรรมการเรียน
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 532
Pages: