Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 64-08-08-คู่มื่อครู ภาษาไทย ป.5-2

64-08-08-คู่มื่อครู ภาษาไทย ป.5-2

Published by elibraryraja33, 2021-08-08 08:53:18

Description: 64-08-08-คู่มื่อครู ภาษาไทย ป.5-2

Search

Read the Text Version

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๓ เรอื่ ง กระเช้าสดี า แ ลาดับ ขอบเขตเนื้อหา/ ขน้ั ตอนการจัด เวลา กจิ กรรมครู ท่ี จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรียนรู้ ทใ่ี ช้ 4. ครใู ห้นักเรียนสงั เก สว่ นประกอบประโยค ใดเปน็ ประธาน สว่ นใด กริยาและกรรม 2. ขน้ั สอน 25 1. ครูนาประโยค “แม นาที ยา่ ง” มาสนทนากบั นกั เพอื่ เข้าสสู่ าระสาคัญ ครู : ประโยค แมวกิน นกั เรยี นคิดวา่ แต่ละค หนา้ ทอี่ ะไรในประโยค 2. ครู : ประโยคน้ีสอ่ื ความหมายวา่ อย่างไร 3. ครใู หน้ ักเรียนอภปิ กลมุ่ เกี่ยวกบั ความหม ประโยคโดยศึกษาจาก ความรู้ท่ี 9

๔๓๕ แนวการจดั การเรยี นรู้ สือ่ การเรยี นรู้ การประเมนิ กิจกรรมนักเรยี น การเรยี นรู้ นกั เรียน - แมวกนิ นก - นกกินปลา (ซ่งึ นักเรียนอาจตอบไดม้ ากกวา่ น)้ี กต 4. นักเรียนรว่ มกนั แสดงความ ควา่ ส่วน คดิ เหน็ ร่วมกัน ดเป็น มวกินปลา 1. นกั เรยี นร่วมกันสนทนา - คาถาม - สงั เกต กเรยี น เกยี่ วกบั ประโยค “แมวกินปลา การตอบคาถาม ย่าง” แล้วตอบคาถามจากครู นปลาย่าง ตวั อยา่ งการตอบ คา ทา - แมว เป็นประธาน ค - กิน เปน็ กริยา - ปลายา่ ง เป็นกรรม 2. นกั เรยี นร่วมกันตอบคาถาม ร ปรายใน 3. นกั เรยี นอภปิ รายความรู้ - ใบความร้ทู ี่ 9 มายของ จากการศกึ ษาใบความร้ทู ่ี 9 กใบ

๔๓๖ คมู่ ลาํ ดบั ขอบเขตเนอื้ หา/ ข้ันตอนการจดั เวลา แ ที่ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ทใ่ี ช้ กจิ กรรมครู จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 4. ครูให้ตัวแทนนักเรีย 1. บอกความหมาย กลมุ่ สรปุ ความหมายข ของประโยคได้ ประโยคใหเ้ พื่อน ฟงั แ ความเข้าใจรว่ มกนั 5. จากนน้ั ครพู ูดสรุปอ เพ่มิ เติมโดยใช้ PPT ประกอบการอธบิ าย 6. ครูพานักเรยี นแตล่ เล่นเกมแต่งประโยค โ กําหนดคําและกลุม่ คํา จากน้ันใหน้ กั เรยี นแตล่ ส่งตวั แทนออกมาเขยี น ให้ถูกตอ้ ง เช่น กําหนดคาํ ว่า  ปลาดุก – ไปมา ว่ายน้าํ ตวั อยา่ งคําตอบ  ปลาดกุ ตวั ใหญ ไปมา

อื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรียนรู้ สอ่ื การเรยี นรู้ การประเมิน การเรยี นรู้ กิจกรรมนกั เรยี น 1. พิจารณา การตอบคาํ ถาม ยนแตล่ ะ 4. ตัวแทนกลมุ่ พูดสรุป (ประเมินดา้ น K) ของ ความหมายของประโยคให้ และทาํ เพ่อื น ๆ ในหอ้ งเรียนทงั้ ต้น ทาง/ปลายทางฟงั อธบิ าย 5. นักเรยี นฟงั ครพู ดู สรปุ - สือ่ PPT อธิบาย ละกล่มุ 6. นักเรียนเลม่ เกมแตง่ โดย ประโยค ามาให้ ละกลุ่ม นประโยค า – ตวั ใหญ่ ญว่ ่ายนํ้า

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๓ เรอ่ื ง กระเช้าสดี า ลาดบั ขอบเขตเนือ้ หา/ ข้นั ตอนการจดั เวลา แ ที่ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรียนรู้ ทีใ่ ช้ กิจกรรมครู 3. 2. แต่งประโยคได้ ขน้ั ปฏิบัติ 15 7. ครชู ้ีแจงการทางาน ถูกตอ้ ง นาที ใหน้ ักเรยี นทาใบงานท 3. นาความรู้ไปใช้ ประโยชน์ในการแตง่ (ครูขึ้นกจิ กรรม : นกั เร เรื่องตา่ ง ๆ ได้ ใบงานที่ 9 การแต่งปร ในPPT 7. ครูเฉลยใบงานท่ี 9 ผลงานของนกั เรยี นกล เรียบรอ้ ยมาใหเ้ พอื่ น ๆ ทางและปลายทางดูพร จากนน้ั ตรวจสอบร่วม สรปุ กิจกรรม 4. ข้นั สรปุ 5 1. ครถู ามคาถามเพื่อส นาที ครู : ประโยคประกอบ อะไรบ้าง 2. ครูให้นักเรียนสรปุ ค เรื่อง ประโยค เปน็ แผ ความคิด

๔๓๗ แนวการจัดการเรยี นรู้ สื่อการเรียนรู้ การประเมิน กิจกรรมนักเรียน - ใบงานท่ี 9 การเรยี นรู้ 2. ตรวจใบงาน น จากนั้น 7. นักเรียนทาใบงานท่ี 9 3. สังเกต ที่ 9 พรอ้ มกัน พฤติกรรม รียนทา (นกั เรียนต้นทาง/ปลายทาง ระโยค) ทาใบงานท่ี 9 พรอ้ มกนั ) 9 และนา 7. นกั เรยี นดเู ฉลยและตรวจใบ ลุม่ ทเี่ สรจ็ งานพร้อมกัน และสรปุ ๆ ทั้งต้น กิจกรรม ร้อมกัน มกัน และ สรปุ 1. นักเรยี นตอบคาถามเพอ่ื สรปุ - คาถามอยใู่ นส่ือ - สังเกตการตอบ บดว้ ย เชน่ ภาคประธาน + ภาคแสดง PPT คาถามของ นกั เรยี น หรืออาจมสี ว่ นขยายในบาง ประโยค ความรู้ 2. นกั เรียนร่วมกันสรปุ ความรู้ - ส่อื PPT ผนผัง เป็นแผนผงั ความคิด สรปุ ความรู้

๔๓๘ คู่มือ ลาดับ ขอบเขตเนือ้ หา/ ขน้ั ตอนการจดั เวลา แ ท่ี จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรียนรู้ ท่ใี ช้ กิจกรรมครู 3. ครตู ง้ั คาถามสรปุ ท นักเรียนจะนาความรเู้ ประโยคไปใช้ในการเร ใดบ้าง จงยกตัวอย่าง

อครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ การประเมนิ กิจกรรมนักเรยี น การเรียนรู้ ท้ายว่า 3. นักเรียนตอบคาถาม เช่น เร่ือง - นาประโยคไปแตง่ เปน็ รียนเรื่อง ขอ้ ความหรอื ความเรียง ประเภทต่าง ๆ อยา่ ง สละสลวย

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๓ เรอ่ื ง กระเชา้ สีดา 439 8. ส่ือการเรยี นร/ู้ แหล่งเรียนรู้ 1. บตั รคา/แถบประโยค 2. ใบความรู้ท่ี 9 เร่อื ง ประโยคน้ันสาคญั ไฉน 3. ใบงานที่ 9 เรือ่ ง การแต่งประโยค 4. ส่ือ PPT เร่ือง ประโยคนัน้ สาคัญไฉน 5. เกม แตง่ ประโยค 6. สมดุ บันทึก 9. การประเมินผลรวบยอด ชิ้นงานหรอื ภาระงาน - ใบงานที่ 9 เรือ่ ง การแตง่ ประโยค สิง่ ทตี่ ้องการวดั / ประเมิน วิธีการ เคร่ืองมอื ทใ่ี ช้ เกณฑ์ - คาถาม/ใบงาน ร้อยละ ๖๐ ด้านความรู้ ความเขา้ ใจ (K) ขึน้ ไป - บอกความหมายของประโยค - พิจารณาการตอบ - แบบประเมินการแตง่ ร้อยละ ๖๐ คาถามของนักเรยี น ประโยค ขน้ึ ไป - ใบงานที่ 9 ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ (P) - ตรวจใบงาน - แต่งประโยคไดถ้ กู ต้อง ดา้ นคุณลักษณะ เจตคติ - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม รอ้ ยละ ๖๐ ค่านยิ ม (A) นักเรียน ข้นึ ไป - นาความรู้ไปใชป้ ระโยชนใ์ น - สังเกตพฤติกรรม การแต่งเรือ่ งต่าง ๆ ได้ นกั เรยี น - แบบประเมินคุณลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ - สงั เกตพฤตกิ รรม อนั พึงประสงค์ ผา่ น 1. ใฝเ่ รียนรู้ นกั เรยี น 2. มุ่งม่ันในการทางาน - แบบประเมินสมรรถนะ ระดับคุณภาพ สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รยี น สาคัญของผ้เู รียน ผา่ น 1. ความสามารถในการส่อื สาร 2. ความสามารถในการคิด

440 คมู่ อื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) เกณฑป์ ระเมนิ : การทาใบงานเรือ่ ง การแต่งประโยค ประเดน็ ๔ (ดมี าก) ระดบั คุณภาพ ๑ (ปรับปรงุ ) การประเมนิ บอกความหมาย ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) บอกความหมาย 1. การบอก ของประโยคได้ บอกความหมาย บอกความหมายของ ของกลมุ่ คาไม่ ความหมาย ถกู ต้องครบทกุ คา ของกลมุ่ คาได้ กลมุ่ คาได้ถกู ต้อง ถกู ตอ้ ง ของประโยค ถกู ตอ้ งเป็นส่วน เพียงบางประเด็น ใหญ่ เทา่ น้ัน แต่งประโยคได้ 2. การแต่ง ถูกต้องเพยี ง 1 ประโยค 2 ส่วน แต่งประโยคได้ แต่งประโยคได้ แตง่ ประโยคได้ ขอ้ ถกู ต้องทงั้ 5 ข้อ ถกู ต้อง 4 ข้อ ถกู ต้องเพียง 2-3 แต่งประโยคได้ 3. การแตง่ ขอ้ ถูกตอ้ งเพยี ง 1 ประโยค 3 สว่ น แตง่ ประโยคได้ แตง่ ประโยคได้ แต่งประโยคได้ ข้อ ถูกตอ้ งท้งั 5 ข้อ ถูกตอ้ ง 4 ข้อ ถกู ต้องเพยี ง 2-3 สง่ ชา้ เกิน 15 4. ตรงต่อเวลา ข้อ นาที สง่ งานตรงเวลา สง่ ชา้ เกิน 5 นาที ส่งชา้ เกนิ 10 นาที ผลงานสว่ นใหญ่ไม่ 5. ความเรยี บรอ้ ย เปน็ ระเบยี บ และ ผลงานมคี วามเปน็ ผลงานสว่ นใหญ่มี ผลงานมีความเป็น มขี ้อบกพรอ่ งมาก ระเบยี บแสดงออก ความเปน็ ระเบียบ ระเบียบแต่มี ถงึ ความประณีต แตย่ ังมีขอ้ บกพรอ่ ง ข้อบกพรอ่ งบางสว่ น เลก็ นอ้ ย เกณฑ์การประเมินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ 18-20 ดีมาก 15-17 ดี 12-14 พอใช้ ตา่ กว่า ๑2 ปรบั ปรงุ เกณฑก์ ารตดั สิน : ผ่านเกณฑ์การประเมินร้อยละ ๖๐ ขึ้นไป (ต้องได้ระดบั พอใชข้ ึน้ ไป)

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๓ เร่อื ง กระเช้าสีดา 441 แบบประเมนิ การทาใบงานเร่ือง การแต่งประโยค คาช้ีแจง ให้ครูผสู้ อนประเมนิ การผลการทางาน/ใบงาน โดยเขยี นคะแนน ลงในชอ่ งทก่ี าหนดให้ ลาดับ ชอ่ื - สกุล คะแนน คิดเปน็ สรปุ ผล ท่ี ทไ่ี ด้ รอ้ ยละ การประเมนิ ๒๐ คะแนน ๑๐๐ ผ่าน ไม่ผา่ น ๑ ดมี าก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ รวม (คน) คดิ เป็นรอ้ ยละ ผลการประเมิน  ดีมาก ..........คน คิดเป็นรอ้ ยละ...............  ดี ..........คน คิดเปน็ รอ้ ยละ................  พอใช้ ..........คน คิดเปน็ ร้อยละ...............  ปรับปรงุ .........คน คดิ เป็นร้อยละ............... สรุปผลการประเมินรายชัน้ เรียน  นกั เรียนผา่ นเกณฑ์การประเมนิ จานวน......................... คน คิดเป็นร้อยละ.........................  นักเรยี นไม่ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ จานวน......................... คน คิดเป็นรอ้ ยละ......................... ลงช่ือ.................................................ผปู้ ระเมิน (..............................................) ........../..................../..........

442 คมู่ อื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) 10. บันทึกผลหลงั สอน ผลการจัดการเรียนการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสาเร็จ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปัญหาและอปุ สรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ้ จากดั การใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรู้ และข้อเสนอแนะ/แนวทางการปรบั ปรงุ แกไ้ ข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ......................................................ผสู้ อน (.......................................................) วันที่ .......... เดือน ..................... พ.ศ. ............. 11. ความคดิ เห็น/ขอ้ เสนอแนะของผู้บริหารหรือผทู้ ีไ่ ดร้ ับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ ...................................................... ผู้ตรวจ (.......................................................) วนั ท่ี .......... เดือน ..................... พ.ศ. .............

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๓ เรอื่ ง กระเชา้ สีดา 443 ใบความรูท้ ี่ 9 เรอื่ ง ประโยคนน้ั สาคญั ไฉน หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 เรอื่ ง กระเช้าสีดา แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 9 เรอ่ื ง ประโยคน้ันสาคัญไฉน รายวิชา ภาษาไทย รหสั วิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ความหมายของประโยค ประโยค คอื คาหรือกลุ่มคาท่ีเรียงต่อกันและมีความหมายสมบูรณ์ สามารถส่ือความได้วา่ “ใคร ทา อะไร ที่ไหน อย่างไร หรือมีสภาพอย่างไร” มีความกระจ่างชัดเจนในการส่ือสารประโยคหนึ่ง ๆ ประโยค ประกอบดว้ ย ๒ ส่วน ดงั นี้ 1. ภาคประธาน คอื ส่วนท่ีเป็นผู้กระทาหรือผู้ที่แสดงอาการ เป็นคานาม คาสรรพนาม แบ่งเป็น ๒ ส่วน คือ บทประธาน และบทขยายประธาน เช่น แมว – แมวดา บ้าน – บา้ นหลงั ใหญ่ 2. ภาคแสดง คือ ส่วนที่แสดงอาการของภาคประธานให้ได้ความครบถ้วนว่าแสดงอาการอย่างไร แบ่งเป็น ๔ ส่วน คือ บทกริยา บทขยายกริยา บทกรรม และบทขยายกรรม เช่น วิ่ง – วิ่งเร็ว กิน – กินจุ เหลือเกิน ตน้ ไม้ – ต้นไม้ตน้ น้ัน ปลา – ปลาตัวเลก็ ตัวอยา่ งประโยคท่ัว ๆ ไป ประโยค ภาคประธาน ภาคแสดง ประธาน บทขยาย กรยิ า บทขยาย กรรม บทขยาย ๑. เด็กอ้วนกนิ เก่ง เดก็ อ้วน กนิ เกง่ - - ๒. ชาวสวนกาลังเกบ็ ผลไม้ ชาวสวน - เก็บ กาลัง ผลไม้ - ๓. คนขยนั จะสอบไดค้ ะแนนดี คน ขยัน สอบได้ จะ คะแนน ดี ประโยคพ้ืนฐานในภาษาไทย 1. ประโยค 2 ส่วน คือ ประโยคท่ีมสี ว่ นประกอบ ดังนี้ ประโยค 2 ส่วน = ประธาน + กริยา หรือ = ประธาน + ขยายประธาน + กริยา + ขยายกรยิ า (หรือมสี ว่ นขยายอย่างใดอยา่ งหนงึ่ กไ็ ด)้ ตัวอยา่ งเช่น 1. นอ้ งร้องไห้ 2. พชี่ ายตงั้ ใจเรียน 3. นกตวั นนั้ บนิ อยา่ งเร็วไว 4. รถยนต์คันสีแดงจอดบนถนนฝง่ั โน้น

444 ค่มู ือครูและแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ประโยคสามัญหรือประโยคพนื้ ฐาน ประกอบดว้ ยส่วนสาคัญ 2 ส่วน คือ ประธานและภาคแสดง บางประโยค ประธานอาจเป็นคานามหรือคาสรรพนาม และภาคแสดงเป็นคากริยาท่ีเรียกว่า กริยา อกรรม (กริยาท่ไี มต่ ้องการกรรม) เช่น คานาม ประธาน ภาคแสดง นกั เรยี น คาสรรพนาม คากริยาอกรรม - - ดีใจ ฉัน ว่ิงเลน่ 1. ประโยค 3 สว่ น คือ ประโยคที่มสี ว่ นประกอบ ดังน้ี ประโยค 3 ส่วน = ประธาน + กริยา + กรรม หรือ = ประธาน + ขยายประธาน + กรยิ า + กรรม + ขยายกรรม + ขยายกรยิ า (หรือมีสว่ นขยายอยา่ งใดอยา่ งหน่ึงก็ได)้ ตวั อยา่ งเช่น 1. นกั ดนตรีเลน่ ดนตรีไดไ้ พเราะ 2. คณุ ตาของผมนยิ มรถเกา่ ๆ 3. สนุ ขั ใหญ่กดั แมวตวั น้ันจนตาย ประโยค ภาคประธาน กริยา ภาคแสดง ขยาย ๑. นกั ดนตรีเล่นดนตรีได้ไพเราะ ประธาน ขยาย เล่น กรรม ขยาย กรยิ า ไดไ้ พเราะ ประธาน กรรม นกั ดนตรี - - ดนตรี 2. คุณตาของผมนยิ มรถเก่า ๆ คณุ ตา ของผม นยิ ม รถ เก่า ๆ - 3. สุนขั ใหญ่กดั แมวตวั น้นั จนตาย สุนัข ใหญ่ กัด แมว ตัวน้ัน จนตาย หมายเหตุ การวางสว่ นขยายกริยาไวด้ ้านหลังของตาราง เพราะตอ้ งการอธบิ ายใหต้ รงกบั ตาแหนง่ ของสว่ นประกอบของประโยค บางประโยค ภาคแสดงอาจมคี านามหรอื คาสรรพนามอยู่หลงั คากริยาท่เี รียกวา่ กรยิ าสกรรม (กริยาที่ต้องการกรรม) เชน่ ประธาน ภาคแสดง คานาม คานาม คาสรรพนาม คากริยาสกรรม ผรู้ ้าย คาสรรพนาม จบั - ตารวจ - - เตือน ฉนั - เขา

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๓ เรอื่ ง กระเชา้ สดี า 445 สรปุ ไดว้ ่า ชนดิ และหนา้ ท่ขี องคา จะช่วยใหแ้ ต่งประโยคใหม้ ีใจความครบสมบูรณ์ และมีความกระจ่าง ชดั เจนในการสือ่ สาร ประโยคหนง่ึ ๆ ประกอบดว้ ย ๒ สว่ น คอื ภาคประธานและภาคแสดง แผนผังสรปุ เรือ่ ง สว่ นประกอบของประโยค ประโยค ภาคประธาน ภาคแสดง ประธาน ขยายประธาน กรยิ า กรรม ขยายกรรม ขยายกริยา ประโยคอาจกล่าวได้ว่า เป็นถ้อยคาที่มีความเก่ียวข้องกันถูกต้องตามระเบียบของภาษาและมี เน้ือความท่ีสมบูรณ์ ประกอบด้วยประธานและกริยา อาจมีกรรมหรือไม่มีกรรมก็ได้ ซ่ึงส่วนประกอบของ ประโยคนั้นจะขาดอย่างใดอย่างหนง่ึ ไมไ่ ด้ เพราะจะทาให้ใจความสมบรู ณไ์ มเ่ พียงพอ เรยี บเรยี งจาก หนังสือบรรทัดฐานภาษาไทย เล่ม 3 เร่อื ง ประโยค หนา้ 91 หนงั สอื อุเทศภาษาไทย เร่ือง ประโยค หน้า 102 หนงั สอื เรยี นภาษาไทย ชุดพ้นื ฐานภาษา ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๕ เรอื่ ง ประโยค หนา้ 51

446 คูม่ ือครูและแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ใบงานท่ี 9 เรอ่ื ง การแต่งประโยค หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 เร่ือง กระเช้าสดี า แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 9 เรอ่ื ง ประโยคนั้นสาคัญไฉน รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๕ คาชี้แจง ใหน้ ักเรียนแตง่ ประโยค 2 สว่ นและประโยค 3 สว่ น ให้ถกู ตอ้ งตามหลกั ภาษาไทย แตง่ ประโยค 2 ส่วน ไดด้ ังนี้ 1) ……………………………………………………………………………………………………….………… 2) .………………………………………………………………………………………………………………… 3) ………………………………………………………………………………………………….……………… 4) ………………………………………………………………………………………………….……………… 5) ………………………………………………………………………………………………….……………… แตง่ ประโยค 2 สว่ น ไดด้ ังนี้ 1) ……………………………………………………………………………………………………….………… 2) .………………………………………………………………………………………………………………… 3) ………………………………………………………………………………………………….……………… 4) ………………………………………………………………………………………………….……………… 5) ………………………………………………………………………………………………….……………… ชื่อ....................................................นามสกลุ .................................................ชน้ั .............เลขที่............

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๓ เร่อื ง กระเช้าสีดา 447 แนวคาตอบใบงานที่ 9 เร่ือง การแตง่ ประโยค หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรือ่ ง กระเชา้ สีดา แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 9 เรือ่ ง ประโยคนั้นสาคัญไฉน รายวิชา ภาษาไทย รหสั วชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๕ คาชีแ้ จง ให้นกั เรียนแตง่ ประโยค 2 สว่ นและประโยค 3 สว่ น ใหถ้ ูกต้องตามหลักภาษาไทย ตัวอย่างแต่งประโยค 2 สว่ น ไดด้ ังนี้ 1) พอ่ ออกกงั กายอยสู่ นามโรงเรยี น 2) นกบนิ เฉยี งไปมา 3) สมชายรอ้ งเพลงไพเราะ 4) นักกีฬากระโดดสดุ แรงเกิด 5) น้าปา่ ไหลหลากไมข่ าดสาย ตวั อยา่ งแตง่ ประโยค 2 ส่วน ได้ดงั น้ี 1) คุณพอ่ ขบั รถยนต์ 2) คนสวนตัดต้นไม้ท่อี ยขู่ า้ งหลังบ้าน 3) คณุ ยายของฉนั ซื้อเสือ้ คอกระเชา้ ตวั ใหม่ 4) เจา้ หน้าท่ีกดปมุ่ ฉุกเฉินเนอ่ื งจากไฟไหม้ 5) ลงิ ตวั น้ันกนิ กล้วยอยา่ งรวดเร็ว

448 ค่มู อื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) สือ่ สาหรบั ครู ตัวอย่างแถบประโยค (ในข้นั นา) หนว่ ยเรยี นรู้ที่ 3 เรื่อง กระเช้าสีดา แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 9 เร่ือง ประโยคน้ันสาคัญไฉน รายวิชา ภาษาไทย รหสั วชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๕ แมววงิ่ ไลต่ ะครุบหนู หนูวง่ิ ออกมาจากรู แมว หนู ว่งิ ตะครบุ ออก หนู ไล่ มา รู วง่ิ หนู จาก นกั เรียนเคารพธงชาติ พ่อคา้ ขายมะพร้าว นกั เรยี น มะพร้าว เคารพ ธงชาติ พอ่ ค้า ขาย

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๓ เรื่อง กระเช้าสดี า ๔๔๙ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 10 เรื่อง ประโยคและสว่ นประกอบของประโยค เวลา 1 ชัว่ โมง หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 เร่อื ง กระเชา้ สดี า กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย รายวิชาภาษาไทย ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 5 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด สาระท่ี 4 หลกั การใชภ้ าษาไทย มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษาและพลังของ ภาษา ภมู ิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบัติของชาติ ตัวช้วี ัด ป.๕/๒ จาแนกสว่ นประกอบของประโยค ๒. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด ประโยคและส่วนประกอบของประโยค เป็นการนาคามาเรียบเรียงกันเพื่อให้ได้ใจความสมบูรณ์ ประกอบด้วยภาคประธานและภาคแสดง ผู้เรียนต้องรู้จักการวิเคราะห์ จาแนกโครงสร้างของประโยคให้ ถกู ต้อง จะทาให้การส่ือสารประโยคเกิดความเข้าใจอย่างถกู ต้องสมบรู ณ์ ๓. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ ความเข้าใจ (K) บอกหลักการจาแนกส่วนประกอบของประโยคได้ 3.2 ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) จาแนกส่วนประกอบของประโยคได้ 3.3 ดา้ นคุณลักษณะ เจตคติ ค่านิยม (A) เห็นความสาคญั ของการจาแนกสว่ นประกอบของประโยค ๔. สาระการเรียนรู้ ประโยคและส่วนประกอบของประโยค ๕. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน 5.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร 5.2 ความสามารถในการคิด 5.3 ความสามารถในการแกป้ ัญหา ๖. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 6.1 ใฝเ่ รยี นรู้ 6.2 ม่งุ มนั่ ในการทางาน 7. กิจกรรมการเรยี นรู้

๔๕๐ คู่มือ การจัดกิจกรรมการเรียนร รายวชิ า ภาษาไทย หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 3 แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 10 เรอ่ื ง ประโยคและ ลาดบั ขอบเขตเน้ือหา/ ขน้ั ตอนการจดั เวลา แ ท่ี จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรียนรู้ ทใ่ี ช้ กจิ กรรมคร 1. ขอบเขตเนอื้ หา ขน้ั นา 5 1. ครูใหน้ กั เรียนทบท นาที ประโยคว่ามสี ว่ นประก 1. ประโยคและ อะไรบ้าง ส่วนประกอบของ ประโยค 2. ครูใหน้ กั เรยี นอ่าน ดังนี้ แมห่ ั่นผกั กาด 3. ครใู หน้ ักเรยี นช่วย ส่วนประกอบของประ ตง้ั คาถาม ดังนี้ ครู : จากการอ่านประ ขา้ งตน้ นักเรยี นคิดวา่ ประโยค สว่ นประกอบอะไรบ้า ครู : ประโยคดงั กลา่ ว ได้หรอื ไม่ และสอ่ื ว่าอ

อครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) รู้ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 5 3 เรื่อง กระเชา้ สดี า จานวน 12 ชว่ั โมง ะส่วนประกอบของประโยค จานวน 1 ช่ัวโมง แนวการจดั การเรยี นรู้ สอ่ื การเรียนรู้ การประเมนิ การเรียนรู้ รู กจิ กรรมนกั เรียน ทวน 1. นกั เรยี นร่วมกันทบทวน กอบ ประโยคพนื้ ฐานว่ามีส่วน ประกอบอะไรบ้าง นประโยค 2. นักเรยี นอ่านแถบประโยค - แถบประโยค ยกันบอก 3. จากนั้นนักเรยี นช่วยกนั ะโยค โดย บอกสว่ นประกอบของประโยค ะโยค นักเรียน : ตอบจาก - คาถาม - สังเกตการตอบ คาถามของ คมี ประสบการณเ์ ดมิ คอื ประธาน นักเรียน าง วสอ่ื สาร + กริยา + กรรม อยา่ งไร

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๓ เรอื่ ง กระเช้าสดี า ลาดบั ขอบเขตเน้ือหา/ ขัน้ ตอนการจดั เวลา แ ท่ี จดุ ประสงค์การเรียนรู้ การเรียนรู้ ทีใ่ ช้ กิจกรรมคร 4. ครูนาประโยคที่สอ นกั เรยี นอา่ น ดงั น้ี แมผ่ ดั ผักกาดอยา่ งคล จากนั้นครูถามนกั ต่อไปว่า ครู : ประโยคน้มี สี ่วนป อะไรบ้าง - ประโยคดงั กลา่ วสื่อส หรือไม่ และส่อื วา่ อย - ถา้ ขาดคาสว่ นใดส่วน จะเป็นประโยคได้หรือ เพราะเหตใุ ด 5. ครูพดู เชอ่ื มโยงเข้า ในบทเรยี น 2. ข้ันสอน 25 1. ครอู ธิบายเกีย่ วกบั นาที ความสาคัญของสว่ นป ของประโยค โดยใช้ P ประกอบ

แนวการจดั การเรยี นรู้ ๔๕๑ รู กิจกรรมนกั เรียน องมาให้ 4. นักเรยี นอา่ นแถบประโยค สอื่ การเรียนรู้ การประเมิน การเรยี นรู้ ล่องแคล่ว - แถบประโยค กเรียน ประกอบ นกั เรยี นอาจตอบคาถามวา่ - คาถาม - สงั เกตการตอบ นักเรยี น : ประธาน + กรยิ า + คาถามของ อสารได้ ย่างไร กรรม + ขยายกรยิ า นกั เรยี น นหนึง่ ไป อไม่ าสเู่ นอ้ื หา 5. นกั เรยี นเข้าสูเ่ นอื้ หาใน - สือ่ PPT บ บทเรียน ประกอบ PPT 1. นักเรยี นร่วมกนั สนทนา เกีย่ วกับความสาคญั ของสว่ น ประกอบของประโยค

๔๕๒ คมู่ ลําดบั ขอบเขตเน้ือหา/ ข้ันตอนการจดั เวลา แ ที่ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรียนรู้ ท่ใี ช้ กิจกรรมคร จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2. ครูตงั้ คําถามว่า 1. บอกหลกั การ ครู : นกั เรยี นรหู้ ลกั กา จําแนกสว่ นประกอบ ส่วนประกอบของประ ของประโยคได้ หรือไมอ่ ย่างไร 3. ครูใหน้ กั เรยี นอภปิ กลุ่มเรื่อง การจําแนก ประกอบของประโยค ศึกษาใบความร้ทู ่ี 10 4. ครูใหต้ วั แทนนกั เร กลมุ่ สรุปความหมายข ประโยคให้เพ่อื นฟงั แล ความเขา้ ใจร่วมกนั 5. จากน้ันครพู ูดสรุปอ เพิม่ เติม โดยใช้ PPT ปร การอธบิ าย จากน้นั คร สรปุ กอ่ นทํากจิ กรรม ครู : นักเรียนคดิ ว่ากา สว่ นประกอบของประ ใช้ทักษะใดบ้าง เพราะ

อื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรียนรู้ สอ่ื การเรยี นรู้ การประเมนิ รู กิจกรรมนกั เรยี น - คําถาม การเรยี นรู้ - สังเกตการตอบ 2. นกั เรียนตอบคาํ ถาม คาํ ถามของ ารจาํ แนก นักเรยี น ะโยค ปรายใน 3. นักเรยี นอภิปรายความรู้ - ใบความรทู้ ่ี 10 กส่วน จากการศกึ ษาใบความรทู้ ี่ 10 ค โดย - ส่ือ PPT 0 - คาํ ถาม ใบงานที่ 10 รียนแตล่ ะ 4. ตวั แทนกลมุ่ พูดสรปุ ความ 1. สังเกต ของ หมายของประโยคให้เพื่อน ๆ การตอบคําถาม ละทํา ในห้องเรียน ทง้ั ต้นทาง/ (ประเมินด้าน K) ปลายทางฟงั อธิบาย 5. นักเรยี นฟงั ครูพดู สรปุ ประกอบ อธิบาย รูตัง้ คาํ ถาม นกั เรียนตอบคําถาม : ใช้ ทักษะการวเิ คราะหเ์ พราะจะ ดงั น้ี ทําให้เราจาํ แนกสว่ นประกอบ ารจําแนก ของประโยคได้ ะโยคต้อง ะอะไร

หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ ๓ เร่ือง กระเชา้ สดี า ลาดบั ขอบเขตเน้อื หา/ ข้ันตอนการจัด เวลา แ ที่ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรยี นรู้ ท่ใี ช้ กจิ กรรมคร 3. 2. จาแนก ขน้ั ปฏิบตั ิ ๑๕ 6. ครชู แี้ จงการทางาน ส่วนประกอบของ นาที ให้นักเรียนทาใบงานท ประโยคได้ถูกตอ้ ง (ครขู ้นึ กจิ กรรม : นักเ 3. เหน็ ความสาคัญ ใบงานท่ี 10 การจาแ ของการจาแนก ประกอบของประโยค ส่วนประกอบของ ประโยค 7. ครูเฉลยใบงานที่ 1 นาผลงานของนักเรยี น เสร็จเรยี บรอ้ ยมาใหเ้ พ ทั้งต้นทางและปลายท พร้อมกนั จากนั้นตรว รว่ มกนั และสรปุ กจิ ก 4. ขนั้ สรปุ 5 1. ครถู ามคาถามเพอ่ื นาที ครู : การจาแนกส่วนป ของประโยคสามารถท ใดบา้ ง 2. ครูใหน้ ักเรยี นสรปุ ค ประโยค เปน็ แผนผังค

๔๕๓ แนวการจัดการเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ การประเมนิ รู กจิ กรรมนักเรยี น การเรียนรู้ น จากน้นั 6. นักเรยี นทาใบงานท่ี 10 2. ตรวจใบงาน ท่ี 10 (นกั เรียนตน้ ทาง/ปลายทาง (ประเมินด้าน P) เรียนทา ทาใบงานท่ี 10 พรอ้ มกัน) 4. สังเกต แนกสว่ น พฤติกรรม ค) (ประเมินดา้ น A) 10 และ 7. นกั เรียนดเู ฉลยและตรวจ นกล่มุ ที่ ใบงานพรอ้ มกัน และสรุป พ่อื น ๆ กิจกรรม ทางดู วจสอบ กรรม อสรปุ 1. นักเรียนตอบค าถามเพ่อื สรปุ - สื่อ PPT ประกอบ เช่น สร้างตารางสว่ นประกอบ - คาถาม ทาโดยวิธี ของประโยค แล้วจาแนกสว่ น ประกอบของประโยคออกเปน็ สว่ น ๆ เช่น ประธาน ขยายประธาน กรยิ า กรรม ขยายกรรม ขยายกรยิ า ความรเู้ รือ่ ง 2. นกั เรียนร่วมกันสรปุ ความรู้ ความคดิ เป็นแผนผงั ความคดิ

454 คู่มือครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) 8. สือ่ การเรยี นรู้/แหล่งเรยี นรู้ 1. บัตรคา/แถบประโยค 2. ใบความรู้ที่ 10 เรอ่ื ง ประโยคและส่วนประกอบของประโยค 3. ใบงานท่ี 10 เร่อื ง การจาแนกส่วนประกอบของประโยค 4. สื่อ PPT เร่ือง ประโยคและสว่ นประกอบของประโยค 5. คาถาม 9. การประเมนิ ผลรวบยอด ช้ินงานหรอื ภาระงาน - ใบงานท่ี 10 เรื่อง การจาแนกสว่ นประกอบของประโยค ส่งิ ท่ตี ้องการวัด / ประเมนิ วธิ กี าร เคร่ืองมือท่ใี ช้ เกณฑ์ ด้านความรู้ ความเขา้ ใจ (K) - พจิ ารณาการตอบ ร้อยละ ๖๐ - บอกหลกั การจาแนก - คาถาม/ใบงาน ขึ้นไป สว่ นประกอบของประโยค คาถาม ดา้ นทักษะและกระบวนการ (P) - จาแนกส่วนประกอบของ - ตรวจใบงาน - แบบประเมินจาแนก รอ้ ยละ ๖๐ ประโยค สว่ นประกอบของประโยค ข้ึนไป - ใบงาน ดา้ นคุณลักษณะ เจตคติ - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ร้อยละ ๖๐ ค่านยิ ม (A) นักเรียน ขึ้นไป - เห็นความสาคัญของการ - สังเกตพฤตกิ รรม จาแนกสว่ นประกอบของ นกั เรยี น - แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ ระดับคุณภาพ ประโยค อนั พึงประสงค์ ผา่ น คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝ่เรยี นรู้ 2. มุ่งม่ันในการทางาน สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน - สงั เกตพฤติกรรม - แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดับคณุ ภาพ 1. ความสามารถในการส่ือสาร นักเรยี น สาคญั ของผู้เรียน ผา่ น 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการ แก้ปัญหา

หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี ๓ เรอื่ ง กระเชา้ สีดา 455 เกณฑ์ประเมิน : การจาแนกสว่ นประกอบของประโยค ประเดน็ ระดบั คุณภาพ การประเมิน 1. การจาแนก ๔ (ดีมาก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรุง) สว่ นประกอบ ของประโยค จาแนกสว่ นประกอบ จาแนกสว่ นประกอบ จาแนกส่วนประกอบ จาแนกส่วน ของประโยคได้ ของประโยคได้ ของประโยคไดถ้ ูกต้อง ประกอบของ 2. ความถกู ต้อง ถกู ต้องทกุ ประโยค ถกู ตอ้ งทุกประโยค บางส่วน ตอ้ ง ประโยคได้บาง ส่วน อย่างแม่นยา โดยไม่ ส่วนใหญ่ใช้เวลา ตรวจสอบ ตอ้ งมผี ู้แนะนา ตอ้ งตรวจสอบ ตรวจสอบเลก็ นอ้ ย จาแนกสว่ นประกอบ จาแนกสว่ นประกอบ จาแนกสว่ นประกอบ จาแนกสว่ น ของประโยคได้ ของประโยคได้ ของประโยคไดถ้ กู ต้อง ประกอบของ ถกู ตอ้ งทั้ง 10 ข้อ ถกู ตอ้ งท้ัง 8-9 ขอ้ ทงั้ 6-7 ข้อ ประโยคได้ถกู ต้อง นอ้ ยกวา่ 6 ข้อ หมายเหตุ คา่ นา้ หนัก ๕ คะแนน (คะแนนรวม 40 หาร 2 จะไดค้ ะแนนเต็ม 20) เกณฑก์ ารประเมนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ ๑8-๒๐ ดีมาก 15-๑7 ดี ๑2-๑4 พอใช้ ต่ากว่า 12 ปรบั ปรงุ เกณฑก์ ารตัดสนิ : ผา่ นเกณฑ์การประเมินร้อยละ ๖๐ ขนึ้ ไป (ตอ้ งไดร้ ะดบั พอใช้ขน้ึ ไป)

456 คมู่ ือครูและแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แบบประเมินการจาแนกสว่ นประกอบของประโยค คาชีแ้ จง ให้ครูผสู้ อนประเมนิ การผลการทางาน/ใบงาน โดยเขียนคะแนน ลงในชอ่ งทก่ี าหนดให้ ลาดบั ช่ือ - สกุล คะแนนเตม็ คิดเป็น สรปุ ผล ท่ี รอ้ ยละ การประเมนิ ๒๐ คะแนน ๑๐๐ ผา่ น ไม่ผ่าน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ดมี าก ดี พอใช้ ปรับปรงุ รวม (คน) คดิ เป็นรอ้ ยละ ผลการประเมิน  ดีมาก ..........คน คิดเปน็ ร้อยละ...............  ดี ..........คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ................  พอใช้ ..........คน คดิ เป็นร้อยละ...............  ปรับปรงุ .........คน คดิ เปน็ ร้อยละ............... สรุปผลการประเมินรายชัน้ เรียน  นักเรียนผ่านเกณฑก์ ารประเมิน จานวน......................... คน คดิ เป็นรอ้ ยละ.........................  นกั เรียนไมผ่ ่านเกณฑ์การประเมนิ จานวน......................... คน คิดเปน็ ร้อยละ......................... ลงชือ่ .................................................ผปู้ ระเมิน (..............................................) ........../..................../..........

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี ๓ เร่อื ง กระเช้าสดี า 457 10. บันทึกผลหลังสอน ผลการจดั การเรยี นการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสาเร็จ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปัญหาและอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ข้อจากดั การใช้แผนการจัดการเรยี นรู้ และขอ้ เสนอแนะ/แนวทางการปรับปรงุ แกไ้ ข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ......................................................ผสู้ อน (.......................................................) วันที่ .......... เดือน ..................... พ.ศ. ............. 11. ความคดิ เห็น/ข้อเสนอแนะของผู้บริหารหรือผทู้ ี่ได้รับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ ...................................................... ผ้ตู รวจ (.......................................................) วันที่ .......... เดือน ..................... พ.ศ. .............

458 คู่มือครแู ละแผนการจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ใบความรทู้ ี่ 10 เรอ่ื ง ประโยคและส่วนประกอบของประโยค หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 3 เรอื่ ง กระเช้าสดี า แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 10 เรอื่ ง ประโยคและส่วนประกอบของประโยค รายวชิ า ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๕ ความหมายของประโยค ประโยค คือ คาหรือกลุ่มคาที่เรียงต่อกันและมีความหมายสมบูรณ์ สามารถสื่อความได้ว่า “ใคร ทาอะไร ท่ไี หน อย่างไร หรือมสี ภาพอย่างไร” มีความกระจา่ งชัดเจนในการสื่อสารประโยคหนึ่ง ๆ แผนผังสรปุ เรือ่ ง สว่ นประกอบของประโยค ประโยค ภาคประธาน ภาคแสดง ประธาน ขยายประธาน กรยิ า กรรม ขยายกรรม ขยายกริยา หลกั การจาแนกส่วนประกอบของประโยค มี 4 ขัน้ ดงั นี้ ข้นั ที่ 1 ขั้นอ่านทาความเขา้ ใจประโยค 1. อ่านประโยคให้เข้าใจวา่ ใคร ทาอะไร ทไี่ หน อยา่ งไร 2. สังเกตบริบทของประโยควา่ ประโยคนน้ั มสี ภาพอย่างไร ขน้ั ท่ี 2 ขั้นสร้างตาราง 1. สรา้ งตารางวเิ คราะหส์ ว่ นประกอบของประโยค ดังนี้ ประโยค ภาคประธาน กรยิ า ภาคแสดง ขยาย กริยา ประธาน ขยาย กรรม ขยาย ประธาน กรรม

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๓ เร่ือง กระเช้าสดี า 459 ขัน้ ที่ 3 ข้นั วิเคราะห์ส่วนประกอบของประโยค 1. เขียนประโยคลงในชอ่ งประโยค 2. วิเคราะห์สว่ นประกอบของประโยค โดยการจาแนกและเขียนส่วนประกอบต่าง ๆ ลงใน ช่องวา่ งใหถ้ ูกต้องและสมั พนั ธก์ ัน เช่น ประโยค ภาคประธาน ภาคแสดง ประธาน ขยาย กรยิ า กรรม ขยาย ขยาย ประธาน กรรม กรยิ า 1. สมปองชอบกินผลไมร้ สหวาน สมปอง - กนิ ผลไม้ รสหวาน ชอบ 2. มานีเป็นเด็กดี มานี - เป็น - - เด็กดี 3. แมค่ รวั คนนั้นทากบั ขา้ วเกง่ มาก แมค่ รวั คนนน้ั ทา กบั ขา้ ว - เกง่ มาก ข้นั ที่ 4 ขน้ั ตรวจทาน 1. ตรวจทานสว่ นประกอบของประโยค 2. ตรวจทานการเขยี นสะกดคาใหถ้ ูกตอ้ ง ข้นั ที่ 5 ชน้ั นาเสนอและประเมินผล 1. นาเสนอผลงาน โดยใหเ้ พอ่ื น ๆ ชว่ ยดกู อ่ น จากนน้ั สง่ ใหค้ รูผสู้ อนตรวจ 2. ตรวจสอบความถกู ต้องและประเมินผลให้คะแนน ตวั อยา่ งการวเิ คราะห์สว่ นประกอบของประโยค ประโยค ภาคประธาน ภาคแสดง ประธาน ขยาย กรยิ า กรรม ขยาย ขยายกรยิ า ประธาน กรรม ได้ไพเราะ ๑. นักดนตรเี ล่นดนตรไี ด้ไพเราะ นกั ดนตรี - เลน่ - ดนตรี - 2. คณุ ตาของผมนิยมรถเกา่ ๆ คุณตา ของผม นิยม รถ เก่า ๆ จนตาย ในตอนเชา้ 3. สนุ ัขใหญก่ ัดแมวตัวนั้นจนตาย สนุ ัข ใหญ่ กดั แมว ตวั น้ัน ให้หมด กัดจนตาย 4. พ่อของฉันว่งิ ในตอนเช้า พ่อ ของฉัน วงิ่ - - อย่างดุเดอื ด ไดย้ ากมาก 5. แมค่ ้าตลาดนัดรบี ขายผลไม้ใหห้ มด แมค่ า้ ตลาดนดั รีบขาย ผลไม้ - รสหวานมาก จนสะอาด 6. สนุ ัขตวั นนั้ ไลก่ ัดแมวจนตาย สนุ ัข ตวั น้ัน ไล่ แมว - 7. ปลาใหญก่ ินปลาเลก็ อยา่ งดเุ ดือด ปลา ใหญ่ กนิ ปลา เลก็ 8. ตารวจคนนัน้ จบั ผู้รา้ ยได้ยากมาก ตารวจ คนน้ัน จบั ผู้ร้าย - 9. ชมพู่สวนนีม้ รี สหวานมาก ชมพู่ สวนน้ี มี - - 10. พ่อลา้ งรถยนตจ์ นสะอาด พอ่ - ลา้ ง รถยนต์ -

460 คมู่ ือครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ใบงานท่ี 10 เรอื่ ง การจาแนกสว่ นประกอบของประโยค หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรือ่ ง กระเชา้ สีดา แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 10 เรอื่ ง ประโยคและสว่ นประกอบของประโยค รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๕ คาชแี้ จง ใหน้ ักเรยี นเขียนส่วนประกอบของประโยคในชอ่ งภาคประธานและภาคแสดงใหถ้ ูกต้อง ประโยค ภาคประธาน ภาคแสดง ตวั อยา่ ง คนสวนตัดต้นไมท้ ีอ่ ยู่หลงั บ้าน ประธาน ขยาย กรยิ า กรรม ขยาย ขยาย ประธาน กรรม กรยิ า คนสวน - ตัด - ตน้ ไม้ ท่อี ยู่หลังบา้ น ๑. ตารวจคนน้ันจบั ผรู้ ้าย ๒. นกั เรยี นทาการบ้านสง่ ครู ๓. คณุ ยายกินสม้ ตาอรอ่ ยมาก ๔. แมวใหญว่ งิ่ ไลจ่ บั หนูเล็ก ๕. ครูมาโรงเรียนแต่เชา้ ๖. สนุ ัขเหา่ คนแปลกหนา้ ๗. ผู้ปกครองดบู ุตรหลานแสดงละคร ๘. นักเรยี นรบั ประทานอาหาร กลางวัน ๙. ดอกมะลสิ ขี าวมกี ลิน่ หอม ๑๐. แมค่ รวั ทากบั ขา้ วอรอ่ ยมาก ชื่อ.....................................................นามสกลุ ..............................................ชัน้ .................เลขท.่ี ..............

หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๓ เรอื่ ง กระเช้าสดี า 461 แนวคาตอบใบงานท่ี 10 เรอื่ ง การจาแนกส่วนประกอบของประโยค หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 เร่อื ง กระเช้าสีดา แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 10 เรื่อง ประโยคและสว่ นประกอบของประโยค รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๕ คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเขยี นส่วนประกอบของประโยคในชอ่ งภาคประธานและภาคแสดงใหถ้ กู ต้อง ประโยค ภาคประธาน กริยา ภาคแสดง ขยาย กรยิ า ตวั อย่าง ประธาน ขยาย กรรม ขยาย คนสวนตัดตน้ ไม้ที่อยหู่ ลังบ้าน ประธาน กรรม คนสวน - ตดั ต้นไม้ ทอี่ ยู่ - หลงั บ้าน ๑. ตารวจคนน้ันจับผ้รู า้ ย ตารวจ คนนนั้ จับ ผู้รา้ ย - - ๒. นกั เรยี นทาการบ้านสง่ ครู นกั เรียน - ทา การบา้ น - สง่ ครู ๓. คณุ ยายกินส้มตาอรอ่ ยมาก คณุ ยาย - กนิ ส้มตา - อรอ่ ย มาก ๔. แมวใหญไ่ ลจ่ บั หนตู ัวเล็ก แมว ใหญ่ ไล่จบั หนู ตัวเล็ก - ๕. ครทู าขนมเปียกปนู ครู - ทา ขนม เปียก - ๖. สุนขั เห่าคนแปลกหน้า สนุ ขั - ปูน ๗. ผู้ปกครองดบู ตุ รหลานแสดง ผ้ปู กครอง - ละคร เห่า คน แปลก - ๘. นักเรยี นรบั ประทานอาหาร หน้า กลางวนั ๙. ดอกมะลสิ ีขาวมกี ลน่ิ หอม ดู บตุ ร แสดง - หลาน ละคร ๑๐. แม่ครวั ทากบั ข้าวอรอ่ ยมาก นกั เรยี น - รับประทาน อาหาร กลางวัน - ดอกมะลิ สขี าว มี - - กลิ่น แม่ครัว - หอม ทา กับข้าว อรอ่ ย - มาก

๔๖๒ คูม่ อื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 11 เรื่อง หลกั การเขยี นเรยี งความ เวลา 1 ชว่ั โมง หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 3 เรื่อง กระเช้าสีดา กล่มุ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย รายวิชาภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 5 1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวช้วี ดั สาระที่ 2 การเขยี น มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียนเขียนส่ือสาร เขยี นเรยี งความ ยอ่ ความ และเขยี นเรือ่ งราวในรูปแบบ ต่าง ๆ เขยี นรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นควา้ อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ ตวั ชว้ี ัด ป.๕/๒ เขียนสือ่ สารโดยใช้คาไดถ้ กู ตอ้ งชดั เจนและเหมาะสม ป.๕/๙ มมี ารยาทในการเขียน ๒. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด เรียงความ เป็นงานเขียนร้อยแกว้ ที่ถ่ายทอดความคดิ ความรสู้ กึ ของผเู้ ขียนออกมาเป็นเร่อื งราว โดยมี รูปแบบการเขียนที่ชัดเจน ผูเ้ ขียนตอ้ งร้วู ิธกี ารเรียบเรยี งคา และประโยคดว้ ยภาษาท่ีสละสลวย ๓. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 3.1 ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) บอกหลักการเขยี นเรียงความได้ 3.2 ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) เขยี นแบบรา่ งเรยี งความได้ 3.3 ด้านคุณลกั ษณะ เจตคติ คา่ นยิ ม (A) มมี ารยาทในการเขยี น ๔. สาระการเรยี นรู้ การเขียนเรยี งความ ๕. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น 5.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 5.2 ความสามารถในการคิด ๖. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 6.1 ใฝเ่ รยี นรู้ 6.2 มุ่งมนั่ ในการทางาน 7. กิจกรรมการเรยี นรู้

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๓ เร่อื ง กระเชา้ สดี า การจดั กิจกรรมการเรียนร รายวิชา ภาษาไทย หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 3 แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 11 เรอื่ ง หลักก ลาดบั ขอบเขตเน้อื หา/ ขั้นตอนการจัด เวลา แ ท่ี จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ท่ใี ช้ กจิ กรรมครู 1. ขอบเขตเนอื้ หา ข้ันนา 5 1. ครูนาแถบประโยค 4 1. องค์ประกอบของ นาที แบบคละกนั ให้นกั เรยี นอ ใหน้ ักเรยี นช่วยกันเรยี งปร เรยี งความ ตอ่ กันใหส้ มั พันธก์ ัน 2. หลกั การเขยี น เรยี งความ 3. การเขยี นแบบร่าง แถบประโยค เรียงความ 1. คอยดแู ลมดไมใ่ ห้ไต่ไร ตอม 2. ท่านเลยี้ งดูฉนั มาตงั้ แต 3. แมค่ ือผหู้ ญงิ ที่ใหก้ าเน 4. และมบี ญุ คณุ ต่อฉันนา 2. ครูตง้ั คาถามให้นกั เรีย ความคิดเหน็ ดังนี้ ครู : นักเรยี นเรียงลาดับป ได้อย่างไรบา้ ง 3. ครเู ฉลยคาตอบคือ 3 จากนนั้ นาประโยคมาเรีย เปน็ ข้อความ แลว้ ใหน้ ักเร

๔๖๓ รู้ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 5 ส่อื การเรยี นรู้ การประเมิน 3 เรือ่ ง กระเชา้ สีดา จานวน 12 ช่วั โมง การเรียนรู้ การเขยี นเรยี งความ จานวน 1 ชั่วโมง แนวการจดั การเรยี นรู้ กิจกรรมนกั เรยี น แถบ 1. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ อา่ นแถบ อ่าน และ ประโยค จากน้นั ช่วยกันเรยี ง ประโยค ประโยคใหส้ มั พนั ธก์ ัน - แถบประโยค รไม่ให้ ตเ่ ล็ก - คาถาม - สงั เกต นดิ ฉนั การตอบคาถาม านปั การ ของนกั เรียน ยนแสดง 2. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ นาเสนอ การเรยี งลาดบั ประโยคของกลุ่ม ประโยค ตนเอง 2 1 4 3. นกั เรียนรบั ทราบคาตอบและ ยงต่อกนั เข้าสูเ่ นอ้ื หาในบทเรียน รียนทาย

๔๖๔ คมู่ ลําดบั ขอบเขตเนือ้ หา/ ขัน้ ตอนการจดั เวลา แ ท่ี จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ที่ใช้ กจิ กรรมครู 2. ขน้ั สอน 15 ว่าขอ้ ความน้มี ลี กั ษณะอย นาที จากน้นั ครพู ูดนําเขา้ สเู่ น้อื บทเรียน 1. ครูต้ังคําถามเพื่อเข้าส สาระสําคัญของเน้อื หาว่า ครู : นักเรียนรู้จกั เรยี งคว หรือไม่ อย่างไร 2. ครูอธบิ ายเกี่ยวกับควา ของการเขียนเรยี งความ จุดประสงค์ 3. ครเู ปรียบเทยี บโครงส การเรยี นรู้ บ้านท่มี ีองค์ประกอบสาํ ค 1. บอกหลกั การเขียน จึงทําให้บ้านเปน็ รปู ร่างส เรียงความได้ ได้ เหมือนกับเรียงความท องคป์ ระกอบหลักเพื่อให้ เรยี งความสมบูรณ์ขึน้ 4. ครูตั้งคาํ ถาม ดงั นี้ ครู : นกั เรยี นคิดวา่ องค์ป

อื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรียนรู้ สื่อการเรยี นรู้ การประเมิน การเรยี นรู้ กจิ กรรมนกั เรยี น ยา่ งไร อหาใน สู่ 1. นกั เรียนตอบคาํ ถาม - ส่อื PPT า นักเรยี น : ร้จู ัก/ไมร่ จู้ ัก ซง่ึ ตอบ วาม ตามความเข้าใจของนกั เรียน ามหมาย 2. นักเรียนฟังครูอธบิ ายและ - คาํ ถาม สนทนาร่วมกัน สรา้ งของ 3. นกั เรยี นรว่ มกนั สนทนา คัญ ๆ เปรียบเทียบองคป์ ระกอบของ สมบูรณ์ บา้ นกับองคป์ ระกอบของ ที่ต้องมี เรียงความ 4. นักเรยี นรว่ มกันอภปิ รายจาก - ใบความรทู้ ่ี 1. สังเกต ประกอบ การศกึ ษาใบความรทู้ ่ี 11 11 การตอบคําถาม

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๓ เร่ือง กระเชา้ สดี า ลาดับ ขอบเขตเนอ้ื หา/ ขัน้ ตอนการจัด เวลา แ ที่ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรยี นรู้ ทใี่ ช้ กิจกรรมครู ของเรียงความมีอะไรบ้าง นกั เรยี นศกึ ษาจากใบความ 5. ครูอธบิ ายหลกั การเขยี เรยี งความ โดยใช้ PPT ป 3. 2. เขยี นแบบรา่ ง ขนั้ ปฏิบตั ิ 20 6. ครชู ี้แจงการทางาน จ เรียงความได้ นาที ให้นักเรยี นทาใบงานที่ 1 3. ใฝ่เรยี นรู้และ ม่งุ มน่ั ในการทางาน (ครขู ึน้ กจิ กรรม : นักเรียน ใบงานท่ี 11 การเขียนแบ เรียงความ) 7. ครูนาแบบการเขียนแบ เรยี งความท่สี าเรจ็ มาให้น ทั้งตน้ ทาง/ปลายทางดู จ มอบหมายใหไ้ ปปรบั ปรงุ ง เขียนของตนเองใหส้ มบรู

๔๖๕ แนวการจัดการเรยี นรู้ สื่อการเรยี นรู้ การประเมิน การเรียนรู้ กิจกรรมนกั เรยี น ง โดยให้ มรทู้ ่ี 11 ยน 5. ตวั แทนนกั เรยี นพูดสรปุ ส่ือ PPT 2. ตรวจใบงาน ประกอบ หลกั การเขียนเรยี งความให้ - ใบงานที่ 11 3. สังเกต พฤตกิ รรม เพอ่ื น ๆ ในหอ้ งเรียนทงั้ ตน้ ทาง/ ปลายทางฟัง จากนน้ั 6. นักเรยี นทาใบงานที่ 11 11 นทา (นกั เรียนต้นทาง/ปลายทาง บบร่าง ทาใบงานที่ 11 พรอ้ มกัน) บบรา่ ง 7. นักเรยี นดูแบบการเขียนแบบ นกั เรียน รา่ งเรียงความทส่ี าเร็จ จากนนั้ ไป จากนัน้ ปรบั ปรงุ งานเขียนของตนเองให้ งาน รณ์ สมบรู ณ์

๔๖๖ คมู่ ือ ลาดับ ขอบเขตเนอ้ื หา/ ขั้นตอนการจดั เวลา แ ท่ี จุดประสงค์การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ที่ใช้ กจิ กรรมครู 4. ข้นั สรุป 5 1. ครูถามคาถามเพอื่ สรปุ นาที ครู : การเขยี นแบบรา่ งเร มีประโยชน์ต่อการเขยี น เรียงความอยา่ งไรบา้ ง 2. จากนั้นครมู อบหมายใ นักเรียนไปเขยี นเรยี งควา เสร็จแลว้ นาเสนอช่ัวโมงถ

อครแู ละแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรยี นรู้ สื่อการเรียนรู้ การประเมนิ การเรียนรู้ กจิ กรรมนกั เรยี น ป 1. นกั เรยี นตอบคาถามเพ่ือสรุป - ส่ือ PPT รยี งความ เช่น การเขยี นแบบร่างเรยี งความ มปี ระโยชน์ คือ ชว่ ยใหม้ แี นวทาง ในการเขยี นเรยี งความ และชว่ ย ให้ ลาดบั ความสาคัญของงเนอ้ื หาไดด้ ี ามต่อให้ และสามารถปรับแกไ้ ขได้ ถัดไป

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี ๓ เรือ่ ง กระเช้าสีดา 467 8. สือ่ การเรียนร้/ู แหลง่ เรียนรู้ 1. แถบประโยค 2. ใบความรู้ท่ี 11 เรื่อง หลักการเขยี นเรยี งความ 3. ใบงานที่ 11 เรอื่ ง การเขียนแบบรา่ งเรียงความ 4. สอ่ื PPT เร่ือง หลกั การเขยี นเรียงความ 5. คาถาม 9. การประเมินผลรวบยอด ชิ้นงานหรือภาระงาน - ใบงานที่ 11 เรอ่ื ง การเขียนแบบร่างเรียงความ สิง่ ท่ีตอ้ งการวดั / ประเมิน วิธกี าร เครื่องมือท่ีใช้ เกณฑ์ ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) ร้อยละ ๖๐ - บอกหลกั การเขียน - พจิ ารณาการตอบ - คาถาม/ใบงาน ขึ้นไป เรียงความ คาถาม ดา้ นทักษะและกระบวนการ (P) - แบบประเมินการเขยี น ร้อยละ ๖๐ - เขยี นแบบรา่ งเรยี งความ - ตรวจใบงาน แบบรา่ งเรียงความ ข้ึนไป - ใบงาน ด้านคุณลักษณะ เจตคติ - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม ร้อยละ ๖๐ ค่านยิ ม (A) ข้นึ ไป - มีมารยาทในการเขียน คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ - สังเกตพฤติกรรม - แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ ระดบั คณุ ภาพ 1. ใฝเ่ รียนรู้ นกั เรยี น อันพงึ ประสงค์ ผ่าน 2. มุ่งม่ันในการทางาน สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน - แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดับคุณภาพ 1. ความสามารถในการส่ือสาร - สงั เกตพฤติกรรม สาคัญของผู้เรียน ผ่าน 2. ความสามารถในการคิด นกั เรียน

468 คมู่ อื ครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) เกณฑ์ประเมนิ : การเขียนแบบร่างเรียงความ รายการประเมนิ ระดับคุณภาพ/ระดบั คะแนน 1. การวางโครง เรื่อง ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) วางโครงเรอ่ื งได้ เขา้ ใจครอบคลุม วางโครงเรือ่ งได้ดี วางโครงเร่ืองใชไ้ ด้ โครงเร่ืองสบั สน เนอ้ื หาทงั้ หมด ตามลาดับ นาเสนอ แตไ่ มเ่ รยี งตามลาดับ วกวน ไมน่ า่ สนใจ เรียบเรยี งตามลาดบั ก่อนหลงั ไดถ้ ูกต้อง ก่อนหลงั และมี ไม่เรยี งตามลาดบั นาเสนอกอ่ นหลังได้ สอดคล้องกบั เร่อื ง หลายประเด็นที่ยัง การนาเสนอกอ่ น ถูกตอ้ ง ท่ีไดเ้ ป็นส่วนใหญ่ ไม่สอดคล้องกบั หลงั ขาดเอกภาพ เรื่อง 2. การเขียนคานา ใช้ภาษาในการเขยี น ใช้ภาษาคอ่ นข้างดี นาเข้าสู่เร่อื งตาม เขยี นคานาไม่ตรง คานาได้โดดเด่น เขยี นคานาไดด้ ี หวั ข้อเรยี งความได้ ประเดน็ วกวนไป จงู ใจผอู้ า่ นใหส้ นใจ นาเขา้ สู่เร่อื งได้ พอใช้ การใชภ้ าษา มา ไมเ่ ขา้ สู่ ติดตามอ่านเนอื้ เรอ่ื ง ถูกตอ้ งตรง ไมโ่ ดดเด่นเท่าท่คี วร เปา้ หมาย หรือ ประเดน็ ประเด็นเรอื่ ง 3. สาระในเน้ือ เนื้อเรอ่ื งมีสาระ เน้อื เรื่องมีสาระ เนอ้ื เรอื่ งมสี าระน้อย เน้ือเรอ่ื งขาดสาระ เร่ือง ครบถว้ นทง้ั ความรู้ ความรู้ แต่ขาด ทั้งความรแู้ ละความ ทงั้ ความรู้และ งามในภาษา ไม่คอ่ ย ความงามในภาษา และความงามใน ความงามในภาษา สอดแทรกคุณค่า ไม่มีการสอดแทรก ภาษา มีคุณค่า มคี ุณค่า ขอ้ คดิ และข้อคิดในงาน คณุ ค่า ข้อคดิ ใน ข้อคดิ แทรกในงาน แทรกในงานเขียน เขียน งานเขียน เขียนไดด้ ีและ เป็นสว่ นใหญ่ ถูกตอ้ งชดั เจน 4. การยก ยกบทประพันธ์ ยกบทประพนั ธ์ ยกบทประพนั ธ์ ขาดการยก ตัวอยา่ งอ้างองิ คาคม ได้ถกู ต้อง คาคม ไดเ้ หมาะสม คาคม ไดเ้ หมาะสม ตวั อยา่ งบท บทประพันธ์ เหมาะสมสอดคล้อง สอดคล้องกบั งาน สอดคลอ้ งกบั งานได้ ประพันธ์ในงาน และคาคม กับงานไดเ้ ป็นอย่างดี ได้เปน็ สว่ นใหญ่ เป็นบางส่วน เขียน 5. การสรปุ เขยี นสรปุ ไดต้ รง เขียนสรปุ ได้ตรง เขียนสรปุ ได้ เขยี นสรปุ ไม่ตรง ประเด็น ให้ขอ้ คิด ประเด็นทง้ิ ทา้ ยให้ คอ่ นข้างตรง ประเด็น ไม่มี แก่ผอู้ า่ น และ คดิ ได้เปน็ สว่ นใหญ่ ประเดน็ และให้ การท้งิ ทา้ ยให้คดิ น่าติดตาม ขอ้ คดิ เลก็ นอ้ ย เกณฑ์การประเมินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ ๑8-๒๐ ดีมาก 15-๑7 ดี ๑2-๑4 ตา่ กวา่ 12 พอใช้ ปรบั ปรงุ เกณฑก์ ารตัดสนิ : ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ร้อยละ ๖๐ ขึน้ ไป (ต้องไดร้ ะดบั พอใชข้ น้ึ ไป)

หน่วยการเรียนร้ทู ่ี ๓ เร่อื ง กระเชา้ สดี า 469 แบบประเมินการเขยี นแบบร่างเรียงความ คาชี้แจง ให้ครูผู้สอนประเมินการผลการทางาน/ใบงาน โดยเขียนคะแนน ลงในช่องท่ีกาหนดให้ ที่ ชื่อ-สกุล การวางโครงเร่ือง (4) รวม คดิ สรปุ การเ ีขยนคานา (4) คะแนน เปน็ ผ่าน ไมผ่ า่ น สาระในเนื้อเร่ือง (4) (๒๐) การยก ัตวอ ่ยาง (4) รอ้ ยละ การสรุปเร่ือง (4) (100) 1 ดมี าก ดี พอใช้ ปรับปรงุ 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 รวม (คน) คิดเป็นรอ้ ยละ ผลการประเมนิ  ดีมาก ..........คน คิดเปน็ รอ้ ยละ...............  ดี ..........คน คิดเปน็ รอ้ ยละ................  พอใช้ ..........คน คิดเป็นรอ้ ยละ...............  ปรบั ปรงุ .........คน คดิ เปน็ ร้อยละ............... สรุปผลการประเมินรายชัน้ เรยี น  นักเรียนผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ จานวน......................... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ.........................  นกั เรยี นไมผ่ ่านเกณฑก์ ารประเมิน จานวน......................... คน คดิ เป็นรอ้ ยละ......................... ลงชอ่ื .................................................ผปู้ ระเมิน (..............................................) ........../..................../..........

470 คมู่ อื ครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) 10. บันทกึ ผลหลงั สอน ผลการจดั การเรยี นการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสาเรจ็ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปัญหาและอปุ สรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ้ จากดั การใชแ้ ผนการจัดการเรยี นรู้ และขอ้ เสนอแนะ/แนวทางการปรบั ปรงุ แก้ไข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื ......................................................ผสู้ อน (.......................................................) วนั ที่ .......... เดอื น ..................... พ.ศ. ............. 11. ความคดิ เหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผู้บรหิ ารหรอื ผ้ทู ไ่ี ดร้ ับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ ...................................................... ผตู้ รวจ (.......................................................) วนั ที่ .......... เดอื น ..................... พ.ศ. .............

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ ๓ เรื่อง กระเช้าสีดา 471 ใบความรูท้ ่ี 11 เรอื่ ง หลกั การเขียนเรียงความ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 3 เรื่อง กระเช้าสีดา แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 11 เรอ่ื ง หลกั การเขียนเรยี งความ รายวิชา ภาษาไทย รหัสวชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๕ ความหมายของเรยี งความ หนังสือบรรทดั ฐานภาษาไทย เล่ม 5 หนา้ 27 ได้ให้ความหมายของเรียงความไวว้ า่ “เรียงความ หมายถึง งานเขียนท่ีมีการกาหนดชื่อเร่ืองขึ้น เป็นงานเขียนท่ีเป็นเร่ืองจริง เป็น ข้อเท็จจรงิ หรอื ความรูท้ ผ่ี ้เู ขียนศกึ ษาค้นควา้ จากแหลง่ ความร้ตู า่ ง ๆ หรือจากประสบการณ์ มักแทรกความรสู้ กึ หรือความคิดเห็นท่ีแปลกใหม่ หรืออาจเขียนให้คิด โดยใช้ถ้อยคาภาษาที่ประณีต การใช้สานวนที่เหมาะสม และลาดบั ความคิดอย่างสมเหตุสมผล ท้ังนีเ้ นือ้ หาของเรียงความต้องสมบรู ณ์ในตวั เอง” หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพื่อชีวิต ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 5 หน้า 107 ไดใ้ ห้ ความหมายของเรยี งความไว้ว่า “เรยี งความ เป็นความเรียงประเภทหนึ่งทม่ี ีรูปแบบเฉพาะ คือ มีส่วนนาของเรื่อง ส่วนเนื้อเร่ือง และ สว่ นสรุป มักใช้ในกรณีที่ต้องการเขียนเร่ืองใดเรอื่ งหน่ึง สว่ นใหญ่จะให้นกั เรยี นฝึกเขียน หรือจัดประกวดตาม วัตถุประสงค์” ดังนั้น สรุปความหมายได้วา่ เรียงความ คือ การนาถ้อยคามาแต่งเปน็ เร่ืองราว เพอื่ ใช้เป็นข้อเขียนท่ี แสดงความคิด ความรู้ ความรู้สึก ความคิดเห็น และข้อเสนอแนะต่าง ๆ ที่ผู้เขียนถ่ายทอดสู่ผู้อ่าน โดยมี องคป์ ระกอบ 3 ส่วน คือ คานา เนอื้ เรือ่ ง และสรุป จงึ จะเรยี กว่าเรยี งความอย่างสมบรู ณ์ จดุ ประสงคใ์ นการเขยี นเรียงความ กอ่ นเขยี นเรียงความต้องวางจดุ ประสงค์ให้ชัดเจนวา่ ๑. เขยี นเรื่องน้นั อย่างไร ๒. เขียนใหใ้ ครอา่ น ๓. เขียนไปในแนวใด เช่น เขยี นชักจูง เขยี นให้ความรู้ เขียนแสดงความคดิ เห็น รปู แบบการเขยี นเรียงความ ๑. คานา (ความนา) เป็นส่วนเริ่มต้น นาเร่ืองเพื่อเชื่อมโยงเข้าสู่เร่ือง ควรเขียนให้ผู้อ่านเกิดความ สนใจ เรา้ ใจ น่าติดตาม คานาเปน็ ยอ่ หนา้ แรกและควรมยี อ่ หน้าเดียว สิ่งที่ควรลกี เล่ยี งในการเขยี นคานา ไดแ้ ก่ 1.1 ไม่เขยี นออกนอกเรอ่ื ง 1.2 ไม่ควรนาเรอื่ งราวประวัติศาสตรท์ ีค่ นรจู้ ักดีแล้วมาเขยี น 1.3 ไม่ควรนาขอ้ คดิ เหน็ ท่ีกวา้ งเกินไปมาเขียน เชน่ ภาษาไทยในรอบ 20 ปี 1.4 ไมน่ าคากลา่ วที่เป็นความจรงิ ในตัวเองอยูแ่ ลว้ มาเขียน เชน่ “เป็นทก่ี ล่าวกันวา่ สง่ิ ทแ่ี นน่ อนใน ชีวติ มนษุ ยม์ อี ย่างเดยี วเทา่ นัน้ คอื ความไม่แนน่ อน”

472 คู่มอื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ๒. เนื้อเรื่อง เป็นส่วนท่ีแสดงสาระสาคัญของเร่ืองราว ความรู้ ความคิดท่ีตรงกับช่ือเร่ือง มี รายละเอยี ดเน้ือหาท่ีครอบคลมุ ชื่อเรื่อง เพ่ือตอบคาถามว่าเป็นเรอ่ื งราวเกี่ยวกับ “ใคร อะไร ทาอะไร เม่ือใด ที่ไหน อย่างไร เพราะเหตุใด สาคัญอย่างไร เก่ียวข้องกับใคร” ฯลฯ อาจมีหลายย่อหน้า แต่ละย่อหน้ามี ความสัมพนั ธต์ ่อเนื่องกัน หรืออาจกล่าวไดว้ า่ เน้ือเรอื่ งเป็นข้อความที่ต่อจากคานา ทาหน้าที่ขยายใจความของคานาให้ละเอยี ด แจ่มแจ้ง แต่ละย่อหนา้ จะขยายความของเรอื่ งตามแนวคดิ ทต่ี งั้ ไว้ ๓. สรปุ เป็นขอ้ ความย่อหนา้ สุดท้าย เป็นการปดิ เรอื่ ง หรือ สรุปเน้อื หาสาคัญของเรอื่ ง ควรมเี พียง ๑ ยอ่ หนา้ ซึ่งอาจเป็นคติสอนใจ ความประทบั ใจ ข้อคดิ แกผ่ อู้ ่านเพ่ือให้นาไปคิดหรอื ปฏิบัตเิ ม่ือมโี อกาส หรือทิ้ง คาถามให้ผอู้ า่ นใคร่ครวญต่อไปโดยไม่จาเปน็ ต้องเสนอข้อยตุ ิ แผนผังการจดั ลาดบั องค์ประกอบของเรยี งความ ส่วน คานา ต้น ตื่นเต้น (คานา ความนา เปิดเรื่อง) ส่วน เนอื้ เรอ่ื ง กลาง กลมกลืน ย่อหนา้ ท่ี 1 ย่อหน้าที่ 2 ย่อหนา้ ท่ี 3 ฯลฯ ส่วน สรปุ จบ จบั ใจ (สรปุ , ความสรุป, ปดิ เรอื่ ง)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook