หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๕ เรอื่ ง วชิ าเหมือนสินคา้ ลาดับ ขอบเขตเนื้อหา/ ข้นั ตอนการจัด เวลา แ ที่ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ทใี่ ช้ กจิ กรรมค - จะทาลายใหเ้ รือจม ประโยค ครอู ธิบายต่อไปวา่ ค นี้สามารถอธิบายความ “ความขี้เกยี จกเ็ หมอื รา้ ยทีค่ อยบั่นทอนแล ความสาเรจ็ ของเรา” 3. การอธิบายความ ขอ้ ความ (ข้อความ คอื ท่ีเป็นตอน ๆ มคี วาม มากนกั ) ครยู กตัวอย่างขอ้ ควา ดิน ดงั น้ี ดิน ถือเป็นทรัพยาก ไม่มีใครเป็นเจ้าของที่แ เปน็ มากกว่าแหล่งแร่ธ ของพชื บางชนเผา่ บูช คนใช้ประโยชนจ์ ากดนิ บางทกี่ ฝ็ งั ศพไว้ในดิน
แนวการจดั การเรียนรู้ สือ่ การเรยี นรู้ ๗๐๙ ครู กจิ กรรมนกั เรยี น การประเมิน ม เทา่ กับ 1 การเรยี นรู้ คาประพันธ์ มหมายไดว้ า่ อนกบั ปลา และทาลาย ” มหมายของ 3. นักเรยี นฟงั การอธบิ าย อ เน้ือความ ความหมายของข้อความ มยาวไม่ และช่วยกนั วิเคราะห์ ความหมายของขอ้ ความวา่ วามเร่ือง ขอ้ ความน้สี อื่ ความหมายวา่ - ขอ้ ความ อย่างไร เรื่อง ดิน กรธรรมชาติ แท้จรงิ ดิน ธาตอุ าหาร ชาดนิ บาง นมหาศาล
๗๑๐ คมู่ ลาํ ดบั ขอบเขตเนอ้ื หา/ ขนั้ ตอนการจดั เวลา แ ท่ี ทใ่ี ช้ กิจกรรมคร จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรียนรู้ จากนั้น ครูอธิบายควา ของข้อความนี้ใหน้ ักเร จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ข้อความนสี้ ื่อความหม 1. บอกหลกั การ อยา่ งไร อธบิ ายความหมาย ของคํา ประโยค และ 4. ครยู กตวั อยา่ งคาํ ท ข้อความได้ ความหมายโดยตรงแล มาอธบิ ายให้นักเรยี นฟ หิน ท่ีหมายถึง ก้อ หนิ ท่ีหมายถงึ ยาก ใตด้ นิ ทห่ี มาถึง อย ในดิน ใต้ดิน ที่หมายถงึ ไม 5. ครตู ง้ั คําถาม ดังน้ี ครู : นักเรยี นสามารถ หลกั การอธบิ ายความ คําศพั ท์ได้อยา่ งไรบ้าง โดยสามารถศกึ ษาจากใ 2
อื ครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรยี นรู้ ส่อื การเรยี นรู้ การประเมนิ รู กจิ กรรมนกั เรยี น การเรียนรู้ ามหมาย รยี นฟงั ว่า มายว่า ทม่ี ี 4. นักเรยี นสนทนารว่ มกนั ละโดยนัย ฟัง เชน่ 5. นักเรียนตอบคําถาม ดงั นี้ - ใบความรทู้ ่ี 2 1. ประเมนิ อนหนิ นกั เรยี น : การสรุปหลกั การ ก - สรุปโดยการใช้พจนานกุ รม ยู่ใตด้ นิ - สรุปโดยการอธบิ าย ม่เปดิ เผย ความหมายจากการดูบริบท ในประโยค ถสรปุ มหมายของ ง กใบความร้ทู ่ี
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๕ เรอ่ื ง วิชาเหมอื นสนิ ค้า ลาดบั ขอบเขตเนือ้ หา/ ขนั้ ตอนการจัด เวลา แ ที่ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ทใ่ี ช้ กิจกรรมค 6. ให้นกั เรยี นชว่ ยก หลกั การอธบิ ายควา ของคา ประโยค และขอ้ ควา โดย 7. ครพู านกั เรยี นทา อธบิ ายความหมายข ข้อท่ี 1. ฝูงภมรบินด มวลผกา ขอ้ ท่ี 2 เรือใช้เขม็ ท การเดนิ ทาง ขอ้ ท่ี 3 ความคดิ ลขิ 3. 2. เขียนอธบิ าย ข้ันปฏิบัติ 15 8. ครูชีแ้ จงการทางา ความหมาย ของคา นาที นกั เรยี นฟงั และให้น ประโยค และขอ้ ความ จากเรือ่ งทอ่ี ่านได้ ใบงานท่ี 2 3. ใฝ่เรยี นรแู้ ละม่งุ มั่น (ครูขนึ้ กจิ กรรม : นกั เ ในการทางาน ท่ี 2 การอธิบายควา คา ประโยค และข้อ
๗๑๑ แนวการจัดการเรยี นรู้ ส่ือการเรยี นรู้ การประเมนิ การเรียนรู้ ครู กิจกรรมนกั เรยี น 2. ประเมิน กนั พดู สรปุ 6. จากนนั้ นักเรียนช่วยกัน การเขยี นอธบิ าย ามหมาย พูดสรปุ หลักการอธบิ าย 3. สงั เกต ามอีกครงั้ ความหมายของคา พฤติกรรม ประโยค และข้อความ ของนกั เรียน ร่วมกนั ากจิ กรรม 7. นกั เรยี นกจิ กรรมอธบิ าย ของคา ดังน้ี ความหมายของคา ดังนี้ ดมดอม ข้อที่ 1. ฝงู ภมรบินดมดอม มวลผกา ทิศใน ข้อที่ 2 เรือใช้เข็มทศิ ใน การเดนิ ทาง ขติ สื่อความ ขอ้ ที่ 3 ความคิดลขิ ิตสอื่ ความ านให้ 8. นกั เรยี นทาใบงานที่ 2 - ใบงานที่ 2 นกั เรียนทา เรียนทาใบงาน (นกั เรยี นต้นทาง/ปลายทาง ามหมายของ ทาใบงานที่ 2 พรอ้ มกัน) อความ)
๗๑๒ ค่มู อื ลาดบั ขอบเขตเน้อื หา/ ขนั้ ตอนการจัด เวลา แ ที่ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ การเรยี นรู้ ทใี่ ช้ กิจกรรมค 9. ครูเฉลยใบงานท่ี นักเรียนตรวจสอบรว่ จากนั้นสรปุ กจิ กรรม 4. ข้นั สรุป 5 1. ครตู ง้ั คาถามเพอ่ื ส นาที ครู : การอธิบายควา ของคา ประโยค แล มีหลกั การอย่างไรบ้า 2. ครู : เร่อื งนสี้ ามา ปรบั ใช้ประโยชน์กบั บ้าง
อครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจัดการเรยี นรู้ สอื่ การเรยี นรู้ การประเมิน ครู กิจกรรมนกั เรียน การเรียนรู้ 2 9. นักเรียนดเู ฉลยและ วมกนั ตรวจใบงานไปพรอ้ มกัน ม จากนัน้ สรุปกจิ กรรม อสรปุ ดงั นี้ 1. นกั เรียนรว่ มกันตอบ ามหมาย คาถาม ดงั น้ี ละข้อความ นกั เรยี น : มหี ลกั การที่ าง สาคญั ดว้ ยกัน 2 ข้อ คือ การเปิดดูความหมายจาก พจนานุกรมหรือท้าย บทเรียน และการดู ความหมายจากบรบิ ทของ ประโยค ารถนาไป 2. นักเรยี น : สามารถ บเรือ่ งใดได้ นาไปใช้ประโยชน์ในเรื่อง การถอดคาประพนั ธ์
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๕ เรอื่ ง วิชาเหมือนสินคา้ 713 8. สือ่ การเรียนรู้/แหลง่ เรยี นรู้ 1. คาํ ประพันธ์เรื่อง ปลาเล็กและปลาใหญ่ 2. ตัวอยา่ งคําประพันธจ์ ํานวน 1 บท ท่ีตัดตอนมาจากเรื่อง วชิ าเหมือนสินค้า 3. ขอ้ ความเรอื่ ง ดนิ ความยาวประมาณ 2-3 บรรทัด 4. ใบความรทู้ ี่ 2 เร่ือง การอธบิ ายความหมายของคํา ประโยค และขอ้ ความ 5. ใบงานที่ 2 เรอ่ื ง การอธบิ ายความหมายของคํา ประโยค และข้อความ 6. ส่ือ PPT เรื่อง การอธบิ ายความหมายของคํา ประโยค และขอ้ ความ 9. การประเมนิ ผลรวบยอด ชนิ้ งานหรือภาระงาน - ใบงานท่ี 2 เรอื่ ง การอธิบายความหมายของคาํ ประโยค และขอ้ ความ ส่งิ ทตี่ ้องการวดั / ประเมนิ วิธีการ เคร่ืองมือทใ่ี ช้ เกณฑ์ ดา้ นความรู้ ความเขา้ ใจ (K) - พจิ ารณาการตอบ - คาํ ถาม/ใบงาน รอ้ ยละ ๖๐ - บอกหลักการอธบิ าย คาํ ถามของนกั เรียน ขน้ึ ไป ความหมายของคาํ ประโยค - ประเมนิ การอธบิ าย - แบบประเมินการอธิบาย และขอ้ ความ ความหมายของคาํ ความหมายของคํา ร้อยละ ๖๐ ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ (P) ประโยค และขอ้ ความ ประโยค และขอ้ ความ ขึ้นไป - อธิบายความหมายของคาํ - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ประโยค และขอ้ ความ - สังเกตพฤติกรรม - แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะ ร้อยละ ๖๐ นกั เรียน อนั พึงประสงค์ ขึ้นไป ดา้ นคณุ ลกั ษณะ เจตคติ ระดบั คุณภาพ คา่ นยิ ม (A) ผ่าน - ใฝเ่ รยี นรแู้ ละมุง่ มน่ั ใน ระดบั คุณภาพ การทาํ งาน ผา่ น คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ใฝเ่ รยี นรู้ 2. มงุ่ ม่ันในการทาํ งาน สมรรถนะสาํ คญั ของผูเ้ รยี น 1. ความสามารถในการสือ่ สาร - สังเกตพฤตกิ รรมของ - แบบประเมนิ สมรรถนะ 2. ความสามารถในการคดิ นักเรยี น สาํ คญั ของผู้เรยี น
714 คมู่ ือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) เกณฑ์ประเมนิ : การอธบิ ายความหมายของคา ประโยค และข้อความ ประเด็น ๔ (ดมี าก) ระดับคุณภาพ ๑ (ปรับปรงุ ) การประเมิน รวบรวมคาศัพทไ์ ด้ รวบรวมคาศัพท์ ๑. การรวบรวบ ๓๒-๔๐ คา ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ได้ตา่ กวา่ ๒๔ คา คาศพั ท์ รวบรวมคาศัพท์ รวบรวมคาศัพท์ได้ ได้ ๒๘-๓๑ คา ๒๔-๒๗ คา ๒. การเขียนสะกดคา เขยี นสะกดคา เขียนสะกดคาผดิ เขยี นสะกดคา เขียนสะกดผิด ถกู ต้องทกุ คา ๒-๔ คา ถกู ผดิ ๕-๗ คา มากกว่า ๗ คา เขยี นอธบิ าย เขียนอธิบาย เขียนอธบิ าย ๓. การอธิบาย เขียนอธิบาย ความหมายของ ความหมายของคา ความหมายของ ความหมาย ความหมายของคา คา ผดิ ๒-๔ คา ผดิ ๕-๗ คา คาผิดมากกวา่ ๗ ถกู ต้องท้งั หมด คา หมายเหตุ ค่าน้าหนกั ข้อละ 5 คะแนน (คะแนนรวม 60 หาร 3 จะได้ 20 คะแนน) เกณฑก์ ารประเมินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ ๑8-๒๐ ดมี าก 15-๑7 ดี ๑2-๑4 พอใช้ ตา่ กวา่ 12 ปรบั ปรงุ เกณฑก์ ารตดั สิน : ผ่านเกณฑ์การประเมนิ รอ้ ยละ ๖๐ ขน้ึ ไป (ต้องไดร้ ะดับพอใช้ข้นึ ไป)
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๕ เร่ือง วชิ าเหมอื นสินค้า 715 แบบประเมินการอธบิ ายความหมายของคาํ ประโยค และขอ้ ความ คาํ ชแี้ จง ใหค้ รผู ู้สอนประเมนิ ผลการทํางาน/ใบงาน โดยเขยี นคะแนน ลงในช่องทก่ี าํ หนดให้ ลาํ ดบั การรวบรวบ ํคาศัพท์ (4) รวม คดิ เปน็ สรปุ ที่ ชอื่ -สกุล การเขียนสะกดคํา (4) คะแนน รอ้ ยละ ผ่าน ไม่ผ่าน อ ิธบายความหมาย (4) (๒๐) (100) ความสะอาด (4) ความตรง ่ตอเวลา (4) 1 ดมี าก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 รวม (คน) คิดเปน็ ร้อยละ ผลการประเมนิ ดมี าก ..........คน คดิ เป็นร้อยละ............... ดี ..........คน คิดเปน็ รอ้ ยละ................ พอใช้ ..........คน คิดเป็นร้อยละ............... ปรบั ปรุง .........คน คิดเป็นร้อยละ................ สรปุ ผลการประเมินรายชน้ั เรยี น นกั เรยี นผา่ นเกณฑ์การประเมนิ จาํ นวน......................... คน คิดเป็นร้อยละ....................... นกั เรยี นไม่ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน จํานวน......................... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ....................... ลงชือ่ .................................................ผ้ปู ระเมนิ (..............................................) ........../..................../..........
716 คมู่ อื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) 10. บันทึกผลหลังสอน ผลการจัดการเรียนการสอน ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ความสาเรจ็ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ปญั หาและอุปสรรค ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................................................ .. ขอ้ จากัดการใชแ้ ผนการจัดการเรยี นรู้ และขอ้ เสนอแนะ/แนวทางการปรบั ปรงุ แกไ้ ข ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชอ่ื ......................................................ผสู้ อน (.......................................................) วนั ท่ี .......... เดอื น ..................... พ.ศ. ............. 11. ความคิดเหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผู้บรหิ ารหรือผู้ท่ีไดร้ ับมอบหมาย ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่อื ...................................................... ผ้ตู รวจ (.......................................................) วนั ท่ี .......... เดือน ..................... พ.ศ. .............
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี ๕ เรื่อง วชิ าเหมือนสนิ ค้า 717 ใบความรทู้ ่ี 2 เรอ่ื ง การอธิบายความหมายของคา ประโยค และขอ้ ความ หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง วชิ าเหมือนสินคา้ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 2 เรอ่ื ง การอธบิ ายความหมายของคา ประโยค และข้อความ รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๕ ความหมายของคา ประโยค และข้อความ คา คือ เสยี งท่ีเปลง่ ออกมาครง้ั หน่งึ ๆ ดว้ ยการพูดหรือตัวหนังสือท่เี ขียนขึน้ มีความหมายในตัวเอง ซึง่ จะมีกี่พยางค์ก็ได้ เชน่ มะละกอ ทะเล กบ แมลง สินคา้ โยธา ตะกร้า ฯลฯ ความหมายของคามีอยู่ 2 แบบ ได้แก่ ความหมายโดยตรงของคา และความหมายโดยนัย (ซึ่งอาจ เรยี กวา่ ความหมายเปรยี บเทียบหรอื ความหมายแฝงก็ได)้ ประโยค คือ ถอ้ ยคาทีม่ ีความเกีย่ วข้องกันถกู ตอ้ งตามระเบียบของภาษาและมเี นอ้ื ความบรบิ ูรณ์ ข้อความ คอื เนือ้ ความตอนหนึ่ง ๆ หรอื ใจความส้ัน ๆ ของเรอื่ งใดเรอื่ งหนง่ึ การอธิบายความหมายของคา การอธิบายความหมายของคา เปน็ การอธิบายความหมายของคาศพั ทใ์ นบทเรยี น หรือจากเรอ่ื งทอี่ า่ น โดยผู้อ่านจะต้องอ่านเร่ืองนนั้ ต้ังแตต่ ้นจนจบ แล้วค้นหาคาท่ไี ม่เข้าใจ จากนั้นขีดเสน้ ใต้คาเหลา่ นั้นไว้ แล้วหา ความหมายจากพจนานกุ รม หรอื สังเกตจากบริบทแวดล้อมในประโยค ตวั อยา่ ง ฝกึ อา่ นจับใจความ พรอ้ มคิดตามและจดจา ความคิดลิขติ คา ผ่านการพดู และการเขียน คาศัพท์ คอื ลิขิต พจนานกุ รมฉบบั ราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 ไดใ้ หค้ วามหมายของคาวา่ ลขิ ติ ไวว้ ่า (๑) น. หนังสือ, จดหมาย, (นิยมใช้เฉพาะจดหมายของพระสงฆ์), หากเป็นจดหมายของสมเด็จ พระสังฆราช ใช้ว่า พระลิขติ . (ป., ส.) (๒) ก. เขียน, กาหนด, เช่น พระพรหมไดล้ ขิ ติ ชีวิตไวแ้ ลว้ . (ป., ส.) สรุป จากบริบททีส่ ังเกตได้ คือ คาวา่ “ลิขติ ” หมายถงึ เขียน เพราะเป็นขน้ั ตอนท่ีตอ่ จากการคดิ แล้ว จงึ เปน็ การพดู หรือการเขียนกไ็ ด้ ซ่งึ สามารถเช่ือมโยงคาวา่ ลขิ ติ กบั คาวา่ การเขยี น ให้สัมพนั ธก์ นั ได้
718 คู่มอื ครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) หลกั พ้นื ฐานการอธิบายความหมายของคา การอธิบายความหมายของคา ประโยค และขอ้ ความ มีหลกั การพ้นื ฐาน ดังน้ี 1. การเปดิ ดูความหมายจากพจนานุกรม พจนานกุ รม คือ หนงั สอื วา่ ด้วยถ้อยคาในภาษาใดภาษาหน่ึง เรียงตามลาดับตวั อักษร โดยทว่ั ๆ ไป จะ บอกความหมายและทม่ี าของคา ซ่ึงเราสามารถเปิดดูความหมายและทมี่ าของคาในพจนานุกรมได้ 2. การสงั เกตและดบู รบิ ทในประโยค บริบท คือ สถานการณ์แวดล้อมเพ่ือช่วยให้เข้าใจความหมายของภาษาหรือถ้อยคา ซ่ึงเราสามารถ อธิบายความหมายของคาได้จากการสังเกตและดบู รบิ ทในประโยคได้ ตัวอย่าง แผ่นดนิ ไทยไทยรักสลักจิต พลีชีวติ ชูชาตศิ าสนา เอกราชมรดกตกทอดมา ให้ลกู หลานรกั ษาไวย้ ืนยง (ศึกษาภาษติ และร้อยกรอง : ฐะปะนีย์ นาครทรรพ) ให้อธิบายความหมายของคาท่ีขดี เส้นใต้ คอื คาว่า มรดก จากคาประพันธ์ข้างต้น หากสังเกตบรบิ ทจะทราบได้ว่า มรดก อยู่ใกล้กับคาว่า “ตกทอด” ซึ่งทาให้ เข้าใจในระดบั พ้ืนฐานว่า มรดก คือ สิ่งที่ตกทอดจากบรรพบุรุษ เพราะเอกราชของชาตไิ ทยที่ได้มาน้ัน บรรพบรุ ษุ ไดเ้ สียสละ การอธบิ ายคาท่ีมคี วามหมายโดยตรงและโดยนัย ความหมายโดยตรง เป็นความหมายที่ตรงไปตรงมาตามตัวหนังสือ ตรงตามเนื้อความหรือ ความหมายท่ีปรากฏในพจนานุกรม เม่ือฟังหรืออ่านแลว้ เข้าใจได้ทนั ทีไม่ต้องแปลความหรือตีความ เช่น กา แปลว่า อกี า (สัตว์ปีกชนิดหน่ึง มสี ีดา ร้อง กา กา) หรอื อาจหมายถึงภาชนะใส่น้า ความหมายโดยนยั เป็นความหมายแฝงหรือมคี วามหมายโดยออ้ ม ไมต่ รงตามตวั หนงั สือ เมอื่ ฟงั หรอื อ่านแลว้ จะต้องตีความ เป็นเชิงเปรยี บเทยี บหรือมี ความเกีย่ วโยงกบั สงิ่ อน่ื หรือมคี วามหมายซ่อนเรน้ อยู่ใน ตัวอยา่ ง ประโยคที่มคี วามหมายตรงและความหมายโดยนัย คา ความหมายโดยตรง ความหมายโดยนยั (เปรยี บเทียบ แฝง) หนิ เขาขว้างก้อนหิน แบบฝกึ หดั ที่โรงเรียนวนั น้ีหินจรงิ ๆ ใต้ดนิ ผู้ใหญบ่ า้ นขดุ พบโถโบราณทอี่ ยู่ใตด้ ิน เงนิ ทเ่ี ขาไดม้ าเป็นเงินใต้ดนิ คาอธิบาย หิน ความหมายตรงหมายถึง ก้อนหิน แต่ความหมายแฝง หมายถึงเร่ืองที่ยาก ไม่ง่าย อาการหนัก เหมือนยกหิน ใต้ดิน ความหมายตรงหมายถึง ส่ิงท่ีวางหรืออาศัยอยู่ต่าลงไปในดิน แต่ความหมายแฝง หมายถึง ไม่ เปิดเผย ไมถ่ กู กฎหมาย
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๕ เร่อื ง วชิ าเหมือนสนิ คา้ 719 ใบงานที่ 2 เรื่อง การอธิบายความหมายของคา ประโยค และขอ้ ความ หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 5 เรอ่ื ง วชิ าเหมือนสินค้า แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 2 เรือ่ ง การอธบิ ายความหมายของคา ประโยค และข้อความ รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๕ ตอนท่ี 1 ใหน้ กั เรยี นเขียนอธบิ ายความหมายของคาทขี่ ีดเสน้ ใตต้ ามทก่ี าหนดให้ถกู ตอ้ ง จงต้งั เอากายเจ้า เปน็ สาเภาอนั โสภา 1. คาศัพท์ คอื ..................................... ความหมาย.................................................................................. 2. คาศพั ท์ คอื ..................................... ความหมาย.................................................................................. ความเพียรเป็นโยธา แขนซ้ายขวาเป็นเสาใบ 1. คาศัพท์ คอื ..................................... ความหมาย.................................................................................. 2. คาศัพท์ คือ ..................................... ความหมาย.................................................................................. นวิ้ เป็นสายระยาง สองเทา้ ต่างสมอใหญ่ 1. คาศพั ท์ คอื ..................................... ความหมาย.................................................................................. 2. คาศพั ท์ คือ ..................................... ความหมาย.................................................................................. ปากเปน็ นายงานไป อัชฌาสยั เป็นเสบยี ง 1. คาศพั ท์ คอื ..................................... ความหมาย.................................................................................. 2. คาศัพท์ คอื ..................................... ความหมาย.................................................................................. ปัญญาเปน็ กลอ้ งแก้ว ส่องดูแถวแนวหินผา เจา้ จงเอาหตู า เป็นล้าตา้ ฟงั ดูลม 1. คาศพั ท์ คือ ..................................... ความหมาย.................................................................................. 2. คาศัพท์ คือ ..................................... ความหมาย.................................................................................. ชอื่ .............................................................นามสกลุ ...............................................ช้ัน.............เลขท.ี่ ..........
720 คูม่ อื ครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ตอนที่ 2 ใหน้ กั เรียนเขียนอธิบายความหมายประโยค และขอ้ ความทกี่ าหนดให้ตอ่ ไปนี้ วิชาก็เปรยี บเหมอื นกบั สินค้า อธบิ ายความหมายของประโยคขา้ งตน้ ได้ว่า ............................................................................................ ............................................................................................ สติเปรยี บได้กบั หางเสอื ของเรอื อธิบายความหมายของประโยคขา้ งต้นได้วา่ ............................................................................................ ............................................................................................ คนเราถ้ามคี วามพยายามในการขวนขวายหาความรู้ ก็จะสามารถประสบความสาเรจ็ ในสงิ่ ท่ตี ้งั ไวไ้ ด้ แตถ่ ้าเราไมม่ คี วามฝนั หรือไม่ตง้ั ใจทาอะไรเลย ชีวติ ก็จะไม่พบกับคาว่า ความสาเร็จ อธิบายความหมายของประโยคข้างตน้ ไดว้ ่า ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... . ชื่อ.............................................................นามสกุล..............................................ชั้น.............เลขท.่ี ..........
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๕ เร่อื ง วชิ าเหมอื นสินค้า 721 แนวคาตอบใบงานที่ 2 เรอื่ ง การอธบิ ายความหมายของคา ประโยค และข้อความ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 5 เร่อื ง วิชาเหมอื นสินค้า แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 2 เรือ่ ง การอธิบายความหมายของคา ประโยค และขอ้ ความ รายวิชา ภาษาไทย รหสั วิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๕ ตอนท่ี 1 ให้นกั เรียนเขยี นอธิบายความหมายของคาท่ีขีดเสน้ ใตต้ ามทกี่ าหนดใหถ้ กู ต้อง จงตั้งเอากายเจ้า เปน็ สาเภาอนั โสภา 1. คาศัพท์ คือ ..............ส...า..เ.ภ...า.............. ความหมาย......ช...อ่ื ..เ.ร...ือ..เ.ด...ิน..ท...ะ..เ.ล...แ..บ...บ..จ...ีน....แ..ล..น่...ด..้ว..ย...ใ.บ..................... 2. คาศัพท์ คือ ...............โ..ส..ภ...า............... ความหมาย.......ง.า..ม........................................................................ ความเพียรเป็นโยธา แขนซ้ายขวาเปน็ เสาใบ 1. คาศัพท์ คือ ...............เ..พ..ยี...ร............... ความหมาย.......บ..า..ก...บ..น่ั....พ...ย..า..ย...า..ม..จ..น...ก..ว..่า..จ...ะ..ส..า..เ.ร..็จ......................... 2. คาศัพท์ คอื ................โ.ย..ธ...า............... ความหมาย.......พ..ล...ร..บ...,..ท..ห...า..ร........................................................ นิว้ เปน็ สายระยาง สองเทา้ ต่างสมอใหญ่ 1. คาศัพท์ คือ ...........ส...า.ย...ร..ะ..ย..า..ง........... ความหมาย......ส...า..ย..เ.ช...ือ..ก..ห...ร..อื..ล...ว..ด..ท...ร่ี..้งั ..เ.ส..า..ก...ร..ะ..โ.ด...ง..เ.ร..อื ..เ.ป...น็...ต..น้........ 2. คาศัพท์ คอื ............ส...ม..อ.................... ความหมาย.......ข..อ..ง..ห...น..กั...ผ..ูก...ด..ว้..ย..โ..ซ..ห่...ร..อื..เ.ช...อื ..ก....เ.พ...อื่..ใ..ช..้ห...ย..ุด...เ.ร..อื........ ปากเปน็ นายงานไป อัชฌาสัยเปน็ เสบยี ง 1. คาศพั ท์ คอื ..............น..า..ย..ง..า..น............. ความหมาย......ห...ัว..ห...น..า้..ง..า..น............................................................ 2. คาศัพท์ คือ ...............เ.ส..บ...ีย..ง.............. ความหมาย......อ...า..ห..า..ร..ท...ี่น...า..ไ.ป...ก..นิ...ร..ะ..ห...ว..า่ ..ง.เ..ด..ิน...ท..า..ง..ไ..ก..ล..ห...ร..ือ..ไ..ป..ร..บ.... ปัญญาเป็นกลอ้ งแก้ว สอ่ งดูแถวแนวหนิ ผา เจา้ จงเอาหูตา เป็นล้าต้าฟังดูลม 1. คาศพั ท์ คือ ............ป...ญั...ญ...า................ ความหมาย.......ค..ว..า..ม...ร..อ..บ...ร..ู้.ค...ว..า..ม..ฉ..ล...า..ด..อ...นั ..เ..ก..ิด..จ...า..ก..เ.ร..ยี..น...แ..ล...ะ..ค..ดิ... 2. คาศัพท์ คอื ............ล...า้ ..ต..้า.................. ความหมาย.......ค..น...ถ..อื..บ...ญั...ช...เี .ร..อื..ส...า.เ..ภ..า............................................
722 คมู่ ือครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ตอนที่ 2 ใหน้ กั เรยี นเขยี นอธบิ ายความหมายประโยค และข้อความที่กาหนดใหต้ อ่ ไปนี้ วิชากเ็ ปรยี บเหมอื นกบั สินคา้ อธิบายความหมายของประโยคข้างต้นไดว้ ่า วชิ าความรู้เปน็ สงิ่ ทมี่ ีค่า เพราะความรสู้ ามารถใช้ ประกอบอาชีพ ทาใหเ้ รามเี งนิ ทองของใชม้ าเล้ยี งชีพได้ สตเิ ปรียบได้กบั หางเสอื ของเรอื อธบิ ายความหมายของประโยคขา้ งตน้ ไดว้ า่ สติเป็นสง่ิ ทสี่ าคัญยง่ิ ในการใช้ชีวิต ถา้ เรามสี ตเิ ราก็ สามารถใชช้ ีวิตไดอ้ ยา่ งถกู ต้องตามแนวทาง เปรียบได้กับ หางเสือของเรอื ที่ใชบ้ งั คับทศิ ทางของเรือ ดวงอาทติ ยข์ นึ้ ทางทศิ ตะวันออก และไม่เคยยอ้ นกลบั ไปตกทางเดิม สายน้าทไ่ี หลเชี่ยวย่อม ไม่ไหลย้อนกลบั ข้นึ ไปดังเดมิ วันเวลาผันผา่ นไปตามธรรมชาติ หากเรามัวแตร่ ีรออาจสายเกินไปก็ได้ อธบิ ายความหมายของประโยคข้างตน้ ได้ว่า คนเราเกดิ มาควรรบี ทาในสงิ่ ทต่ี ้งั ไว้ ไมค่ วรรรี อประวิงเวลา เพราะวนั เวลาไดผ้ นั ผา่ นไปตาม ธรรมชาติ ไมม่ ีสง่ิ ใดทีจ่ ะมารอเราหรอื คอยช่วยเราไปทกุ เรื่อง
หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๕ เรื่อง วิชาเหมอื นสนิ ค้า ๗๒๓ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 3 เรอื่ ง การวเิ คราะหค์ ณุ ค่าและขอ้ คิดจากเรือ่ งทีอ่ า่ น หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 5 เร่อื ง วิชาเหมือนสนิ คา้ เวลา 1 ช่วั โมง กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาไทย รายวิชาภาษาไทย ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 5 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชว้ี ัด สาระที่ 5 วรรณคดีและวรรณกรรม มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่าและ นามาประยุกต์ใช้ในชีวติ จรงิ ตัวชีว้ ดั ป.๕/๒ ระบคุ วามรแู้ ละขอ้ คิดจากการอ่านวรรณคดแี ละวรรณกรรมท่ีสามารถนาไปใช้ในชวี ติ จริง ป.๕/๓ อธบิ ายคุณค่าของวรรณคดแี ละวรรณกรรม ๒. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด การวิเคราะห์คุณค่าและข้อคิดจากเร่ืองที่อ่าน เป็นการวิเคราะห์คุณค่าและข้อคิดของบทร้อยกรอง เรื่อง วชิ าเหมอื นสนิ คา้ ซง่ึ มคี ณุ ค่าดา้ นเนื้อหา ดา้ นวรรณศลิ ป์ คุณค่าดา้ นสังคมและวัฒนธรรม และใหข้ อ้ คดิ ใน การขยันศึกษาเล่าเรยี น ผู้ที่นาไปปฏบิ ตั ิจะประสบความสุขความเจริญในชีวติ ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ ความเขา้ ใจ (K) บอกหลกั การวเิ คราะหค์ ณุ คา่ และขอ้ คดิ จากเรื่องที่อา่ นได้ 3.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) เขียนวเิ คราะห์คณุ ค่าและขอ้ คดิ จากการอา่ นบทร้อยกรองเรือ่ ง วิชาเหมอื นสนิ คา้ ได้ 3.3 ดา้ นคุณลักษณะ เจตคติ ค่านยิ ม (A) นาขอ้ คดิ ไปใชใ้ นชีวิตจริงได้ ๔. สาระการเรยี นรู้ การวเิ คราะหค์ ุณคา่ และขอ้ คิดจากเร่ืองทอ่ี ่าน ๕. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน 5.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5.2 ความสามารถในการคิด 5.3 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต ๖. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ - รักความเป็นไทย 7. กจิ กรรมการเรียนรู้
๗๒๔ ค่มู ือ การจัดกจิ กรรมการเรยี นร รายวชิ า ภาษาไทย หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 5 เร แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 3 เรื่อง การวิเคราะหค์ ณุ ลาดบั ขอบเขตเนอ้ื หา/ ขัน้ ตอนการจัด เวลา แ ที่ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรยี นรู้ ท่ีใช้ กจิ กรรมครู 1. ขอบเขตเนือ้ หา ข้นั นา 5 1. ครนู าบทร้อยกรองมา 1. คณุ คา่ ของ นาที นกั เรยี นอา่ นเรอื่ ง หนา้ ทเี่ ร วรรณคดีไทย ดังน้ี 2. การวเิ คราะห์ ชวี ติ จะมคี ่า คณุ ค่าและข้อคดิ จาก เม่อื เกดิ มาทาหน้า บทรอ้ ยกรอง เรือ่ ง วิชาเหมือนสนิ คา้ สรา้ งสุขประโยชน เป็นศกั ดิศ์ รีทุกเวล หน้าทต่ี อ่ ตนเอง ต้องรบี เร่งการศกึ ษ รักเรียนเพียรคน้ ค สรา้ งปัญญาวชิ าชา 2. ครูตัง้ คาถามนาเขา้ สบู่ ท ดังน้ี - ครู : นกั เรยี นอ่านบทร้อ เรือ่ งหนา้ ทเ่ี รม่ิ จากตนแล ขอ้ คิดอะไรบ้าง - บทร้อยกรองนต้ี ้องการส
อครูและแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) รู้ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 5 ร่ือง วิชาเหมือนสนิ คา้ จานวน 10 ชั่วโมง ณค่าและข้อคิดจากเรอ่ื งทีอ่ า่ น จานวน 1 ช่ัวโมง แนวการจัดการเรียนรู้ ส่อื การเรยี นรู้ การประเมนิ กจิ กรรมนกั เรยี น การเรยี นรู้ าให้ 1. นักเรียนร่วมกนั อา่ นบทรอ้ ย - บทร้อยกรอง ริ่มจากตน กรองเรื่อง หน้าทเ่ี รม่ิ จากตน ดังน้ี เร่อื ง หนา้ ทเ่ี ร่มิ จากตน ชีวิตจะมีคา่ าที่ เมอ่ื เกิดมาทาหน้าที่ นม์ ี สร้างสขุ ประโยชน์มี ลา เปน็ ศักดิ์ศรีทุกเวลา หนา้ ท่ีตอ่ ตนเอง ษา ตอ้ งรบี เร่งการศกึ ษา ควา้ รักเรยี นเพยี รคน้ คว้า ชาญ สร้างปญั ญาวิชาชาญ ทเรยี น 2. นักเรยี นตอบคาถาม ดังนี้ - คาถาม - สงั เกต อยกรอง - นกั เรยี น : ให้ต้ังใจทาหน้าท่ี การตอบคาถาม ล้ว ได้ ของตนเองและทาประโยชนแ์ ก่ ของนกั เรยี น ส่วนรวม สอ่ื อะไร
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ ๕ เร่อื ง วชิ าเหมอื นสนิ คา้ ลาดบั ขอบเขตเน้ือหา/ ขัน้ ตอนการจดั เวลา แ ท่ี จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรยี นรู้ ทีใ่ ช้ กิจกรรมครู แก่ผู้อา่ น - นักเรยี นคน้ หาคุณคา่ ขอ บทรอ้ ยกรองน้ีได้หรือไม่ 3. ครูสนทนาและเชื่อมโย บทเรยี น 2. ขน้ั สอน 25 1. ครอู ธบิ ายนกั เรียนเรอ่ื นาที คืออะไร โดยเปน็ การอธบิ เกย่ี วกบั ประเด็น ดังน้ี - ความหมายของคาว่า “ - ความหมายของคาว่า “ 2. ครตู ้งั คาถามเพื่อเชอื่ ม เกี่ยวกับการวิเคราะหค์ ุณ ข้อคิดจากเรือ่ งทอ่ี า่ นดังน ครู : เราจะสามารถอธบิ า ของเรอ่ื งทอ่ี ่านไดอ้ ยา่ งไร 3. จากนัน้ ครใู ห้นกั เรียนร สรา้ งองค์ความรู้ เร่ือง การว และขอ้ คดิ จากเร่อื งที่อ่าน การศกึ ษาอภิปรายจากใบ ท่ี 3
๗๒๕ แนวการจัดการเรยี นรู้ ส่ือการเรยี นรู้ การประเมิน กจิ กรรมนกั เรยี น การเรียนรู้ อง อยา่ งไร ยงเข้าสู่ 3. นักเรียนเขา้ สู่บทเรยี น อง คณุ คา่ 2. นกั เรยี นร่วมกนั สนทนาและ - สอื่ PPT บาย แสดงความคิดเห็นเกีย่ วกบั “คุณคา่ ” ความหมายของคาว่า “คุณคา่ ” “ขอ้ คิด” และความหมายของคาว่า “ข้อคิด” มโยง 2. นกั เรียนตอบคาถาม ดงั น้ี - คาถาม - สงั เกต ณค่าและ นกั เรียน : อาจตอบตาม การตอบคาถาม น้ี ความเขา้ ใจและคาดเดาคาตอบเอง ของนกั เรียน ายคณุ คา่ รบ้าง ร่วมกัน 3. นกั เรยี นร่วมกันศึกษาใบความรู้ วิเคราะห์ ที่ 3 และอภปิ รายภายและ น โดย เปล่ยี นความรู้เรอื่ ง การวิเคราะห์ บความรู้ และขอ้ คิดจากเรอ่ื งทอี่ า่ น
๗๒๖ ขอบเขตเนือ้ หา/ ขน้ั ตอนการจดั เวลา คมู่ ลําดบั จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรียนรู้ ที่ใช้ แ ท่ี จดุ ประสงค์ กจิ กรรมครู การเรียนรู้ 4. ครูสรปุ หลกั การวเิ ครา 1. บอกหลักการ และขอ้ คิดจากเรอื่ งที่อา่ น วิเคราะห์คุณค่าและ ตวั อย่างใหแ้ กน่ กั เรยี น ขอ้ คดิ จากเรอ่ื งทีอ่ ่าน เชน่ คุณคา่ ของวรรณคดีไ ได้ คณุ คา่ จากเรอ่ื งทอ่ี า่ น หล ดว้ ยกัน ๔ ดา้ น ไดแ้ ก่ คุณ เนอ้ื หา คณุ คา่ ดา้ นวรรณศ คุณค่าดา้ นสังคมและวัฒน การนําขอ้ คิดไปใช้ในการดํา 5. ครอู ธิบายประเดน็ สําค เพิ่มเติม ดงั นี้ 1. คณุ ค่าดา้ นสงั คม 2. คุณค่าด้านวรรณศ 3. คุณค่าดา้ นสังคมแล วัฒนธรรม 4. การนําข้อคิดไปใช การดําเนินชีวิต 6. ครูยกตวั อยา่ ง คําประ 1 บท แล้ววิเคราะห์คุณค ข้อคดิ ให้นักเรยี นดูเป็นแน
ือครูและแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรยี นรู้ สือ่ การเรยี นรู้ การประเมิน การเรยี นรู้ กจิ กรรมนกั เรยี น 1. พิจารณา การสรุป าะหค์ ุณค่า 4. นักเรยี นสรปุ หลกั การ หลักการ น เป็น วเิ คราะห์คุณคา่ และขอ้ คิดจาก เรือ่ งทอี่ ่าน ไทยหรือ ลัก ๆ มี ณคา่ ด้าน ศลิ ป์ นธรรม าเนนิ ชีวิต คญั 5. นกั เรยี นฟังครูอธบิ ายหลักการ - สือ่ PPT ศิลป์ วิเคราะหค์ ณุ ค่าและข้อคดิ ละ จากเร่ืองทอ่ี ่าน และแสดง ความคิดเหน็ ร่วมกัน ชใ้ น ะพันธ์มา 6. นกั เรียนอ่านคําประพนั ธ์ 1 - คาํ ประพนั ธ์ ค่าและ บท เร่ือง “บ้านกับวัด” จากน้นั เร่ือง บา้ นกบั นวทาง รว่ มแสดงความคดิ เหน็ ฟังครู วดั
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๕ เรอ่ื ง วิชาเหมอื นสนิ คา้ ลาดับ ขอบเขตเน้ือหา/ ขนั้ ตอนการจดั เวลา แ ท่ี จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ทีใ่ ช้ กจิ กรรมครู ก่อนทากจิ กรรม คาประพ “บ้านกับวดั ” วัดจะดีมหี ลักฐานเพราะ บา้ นจะสวยเพราะมีวดั ดัดน บ้านและวัดผลดั กันช่วยกอ็ ถ้าขดั กนั ก็บรรลัยท้ังสองทา ครนู าวเิ คราะห์คณุ ค่าไดด้ 1. คณุ คา่ ดา้ นเนอื้ หา เน้ือหาทาใหร้ ู้วา่ บา้ ความสมั พันธ์อนั ดีงาม อย นาน และใหข้ ้อคดิ เกี่ยวก ร่วมกนั พ่งึ พาอาศัยกัน แ แตกแยกกันก็พินาศ 2. คุณคา่ ด้านวรรณศลิ ใชค้ าที่เขา้ ใจงา่ ยแล ความหมายท่ีถูกตอ้ งชัดเจ มองเหน็ ภาพของความสัม บา้ นกบั วัดได้ชดั เจน 3. คุณคา่ ด้านสงั คมและ สะทอ้ นวถิ ชี วี ติ ของ
๗๒๗ แนวการจัดการเรียนรู้ สือ่ การเรียนรู้ การประเมนิ กจิ กรรมนกั เรียน การเรียนรู้ พันธเ์ ร่อื ง อธบิ ายเกย่ี วกับการวเิ คราะห์ คณุ ค่าและขอ้ คิดจากเรื่อง ะบ้านชว่ ย นิสัย วยชัย าง ดังน้ี านกบั วดั มี ยคู่ ู่กันมา กบั การอยู่ แต่ถ้า ลป์ ละมี จน ทาให้ มพนั ธข์ อง ะวัฒนธรรม งผคู้ นใน
๗๒๘ ขอบเขตเนือ้ หา/ ข้ันตอนการจดั เวลา คมู่ ลําดบั จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรียนรู้ ทใี่ ช้ 15 แ ท่ี 2. เขียนวเิ คราะห์ นาที กิจกรรมครู คุณคา่ และข้อคิดจาก อดตี ทม่ี ีวฒั นธรรมและมีค 3. การอา่ นบทร้อยกรอง ใกล้ชดิ กบั วดั เรื่อง วชิ าเหมือน 4. การนําไปใช้ในชวี ิตจ สนิ ค้า ได้ เข้าร่วมศาสนพธิ ตี ่าง 3. นาํ ขอ้ คดิ ไปใช้ใน ชีวติ จริงได้ 7. ครูสรปุ ข้อคดิ จากคําป และฝากให้นกั เรยี นไปปฏ ขน้ั ปฏบิ ตั ิ ชีวติ จรงิ โดยอาจถา่ ยรปู ม นําเสนอเพ่ือน ๆ เกี่ยวกบั ทางพระพทุ ธศาสนา เชน่ - การทําบุญตกั บาตร - การปลอ่ ยนกปลอ่ ยปลา - การไหว้พระฟังเทศน์และ 8. ครูอธบิ ายวิธกี ารทาํ งา นกั เรยี นฟงั และกําหนดใ นักเรียนทาํ ใบงานที่ 3 (ครขู ้ึนกจิ กรรม : นกั เรียน งานท่ี 3 การวิเคราะห์คุณ ข้อคดิ จากบทรอ้ ยกรองเร เหมือนสนิ ค้า) ในจอ PPT
อื ครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรยี นรู้ ส่อื การเรยี นรู้ การประเมิน กิจกรรมนกั เรยี น การเรียนรู้ ความ จริง ๆ ของวัด ประพันธ์ 7. นกั เรียนรว่ มกันสรปุ ข้อคดิ - กระดาษ A4 ฏิบัติใน จากคําประพันธ์เรอ่ื ง บา้ นกบั วัด มา ร่วมกับครู โดยสร้างเป็นแผนผงั บกิจกรรม ความคดิ ในกระดาษ A4 ท่ีครู น แจกให้ า 8. นกั เรียนทาํ ใบงานที่ 3 - ใบงานท่ี 3 2. ประเมิน ะฟงั ธรรม - ส่อื PPT การเขยี น านให้ วิเคราะห์ ให้ 3. สงั เกต พฤตกิ รรม นทําใบ (นักเรียนตน้ ทาง/ปลายทาง ของนักเรยี น ณคา่ และ ทาํ ใบงานที่ 3 พรอ้ มกนั ) ร่อื ง วิชา T
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๕ เรือ่ ง วิชาเหมือนสินคา้ ลาดับ ขอบเขตเน้อื หา/ ขัน้ ตอนการจัด เวลา แ ที่ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ที่ใช้ กิจกรรมครู 9. ครูเฉลยใบงานท่ี 3 นกั ตรวจสอบรว่ มกนั จากนนั้ กิจกรรม 4. ข้นั สรุป 5 1. ครตู ั้งคาถามเพอ่ื สรปุ นาที ครู : นักเรยี นจะนาคุณค่า ขอ้ คดิ จากบทรอ้ ยกรองเร เหมอื นสินคา้ ไปปรบั ใช้ใน ชีวติ ประจาวนั อย่างไรบา้
๗๒๙ แนวการจดั การเรยี นรู้ สอ่ื การเรียนรู้ การประเมนิ กจิ กรรมนักเรียน - สอ่ื PPT การเรยี นรู้ สรปุ ความรู้ กเรยี น 9. นักเรยี นดเู ฉลยและตรวจ นสรปุ ใบงานไปพร้อมกัน จากน้ันสรปุ ดังนี้ กิจกรรม าและ 1. นักเรียนรว่ มกันตอบคาถาม รอื่ ง วิชา ดังนี้ น นกั เรยี น : สามารถนาคณุ ค่าใน าง ดา้ นสังคมและวฒั นธรรม ไป ปรับใช้ในชีวิตประจาวนั ได้อย่าง ถกู ต้อง และตัง้ ใจขยนั ศึกษาเล่า เรียน เพอ่ื ประสบความสาเรจ็ ใน ชีวติ และการทางาน
730 ค่มู อื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) 8. สอื่ การเรยี นร/ู้ แหล่งเรียนรู้ 1. ใบความร้ทู ี่ 3 เร่ือง การวิเคราะหค์ ณุ ค่าและข้อคิดจากเรอ่ื งทอ่ี ่าน 2. ใบงานที่ 3 เรอื่ ง การวิเคราะหค์ ณุ ค่าและขอ้ คิดจากเรือ่ ง วิชาเหมือนสนิ ค้า 3. สือ่ PPT เร่อื ง การวิเคราะหค์ ณุ ค่าและขอ้ คดิ จากเร่อื งทอ่ี า่ น 4. บทรอ้ ยกรองเรือ่ ง หน้าทเ่ี ริ่มจากตน 5. คาประพนั ธเ์ รอ่ื ง บ้านกับวัด จานวน 1 บท 9. การประเมนิ ผลรวบยอด ชิ้นงานหรือภาระงาน - ใบงานที่ 3 เรือ่ ง การวเิ คราะห์คุณค่าและขอ้ คิดจากเรอื่ ง วิชาเหมือนสินค้า ส่งิ ทต่ี อ้ งการวัด / ประเมิน วิธกี าร เครอ่ื งมือที่ใช้ เกณฑ์ ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) ร้อยละ ๖๐ บอกหลักการวเิ คราะห์คุณคา่ - พิจารณาการตอบคาถาม - คาถาม ขน้ึ ไป และขอ้ คิดจากเรอ่ื งทอ่ี ่าน ของนักเรยี น รอ้ ยละ ๖๐ ดา้ นทักษะและกระบวนการ (P) ข้นึ ไป เขยี นวเิ คราะหค์ ณุ คา่ และขอ้ คิด - ตรวจใบงานที่ 3 - แบบประเมินการเขยี น จากการอ่านบทรอ้ ยกรอง การวเิ คราะห์คุณค่าและ วิเคราะหค์ ุณค่าและ รอ้ ยละ ๖๐ เร่อื ง วชิ าเหมอื นสนิ ค้า ข้อคดิ จากเร่ือง วชิ า ขอ้ คิดจากการอา่ น ขน้ึ ไป เหมอื นสินค้า บทรอ้ ยกรอง เรอ่ื ง วิชา ระดับคุณภาพ ดา้ นคุณลักษณะ เจตคติ เหมอื นสนิ คา้ ผ่าน ค่านิยม (A) นาขอ้ คดิ ไปใชใ้ นชีวิตจริงได้ - สงั เกตพฤตกิ รรมนักเรียน - แบบสังเกตพฤตกิ รรม คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ - สงั เกตพฤตกิ รรมนักเรยี น - แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะ 1. ใฝ่เรียนรู้ อนั พงึ ประสงค์ 2. ม่งุ ม่นั ในการทางาน สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น - สังเกตพฤติกรรมนักเรยี น - แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดับคณุ ภาพ 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร สาคัญของผ้เู รยี น ผ่าน 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใชท้ กั ษะ ชีวติ
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๕ เร่อื ง วชิ าเหมือนสนิ ค้า 731 เกณฑ์ประเมิน : การวเิ คราะหค์ ุณค่าและขอ้ คิดจากเรื่องที่อ่าน ประเดน็ ๔ (ดีมาก) ระดับคุณภาพ ๑ (ปรับปรงุ ) การประเมิน ตอนท่ี 1 ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) การวเิ คราะหค์ ุณคา่ ตอบถูกครบทง้ั 5 ข้อ ตอบถกู 2 ข้อ และสรปุ ข้อคดิ จาก ตอบถกู 4 ขอ้ ตอบถกู 3 ข้อ ขาด ๓ องค์ เร่อื งทอ่ี ่านไปใชใ้ น ตอนท่ี 2 ขาด ๑ องค์ ขาด ๒ องค์ ประกอบ ชีวิต - อธบิ ายคณุ คา่ ด้าน ประกอบ ประกอบ วรรณศิลปไ์ ด้ - อธิบายคุณคา่ ด้าน เนอ้ื หาสาระได้ - อธบิ ายคุณค่าด้าน สังคมและวฒั นธรรมได้ - อธิบายการนาความรู้ ขอ้ คิดและคณุ คา่ ที่ ไดร้ บั จากเรอ่ื งทอ่ี ่านไป ใช้ในการดาเนนิ ชวี ติ ได้ หมายเหตุ : คา่ นา้ หนักข้อละ ๕ คะแนน ตอนท่ี ๑ น้าหนกั ๕ คะแนน จะได้ ๒๐ คะแนน ตอนที่ ๒ น้าหนกั ๕ คะแนน จะได้ 20 คะแนน รวมท้ังหมด ๔๐ คะแนน เกณฑก์ ารประเมินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ ดีมาก ๑8-๒๐ ดี พอใช้ 15-๑7 ปรับปรงุ ๑2-๑4 ตา่ กวา่ 12 เกณฑก์ ารตัดสนิ : ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินรอ้ ยละ ๖๐ ขึน้ ไป (ต้องไดร้ ะดับพอใช้ข้นึ ไป)
732 คูม่ อื ครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แบบประเมินการวเิ คราะหค์ ณุ ค่าและขอ้ คิดจากเร่ืองทอี่ ่าน คาชี้แจง ให้ครูผสู้ อนประเมนิ ผลการทางาน/ใบงาน โดยเขยี นคะแนน ลงในช่องทีก่ าหนดให้ ลาดบั ชอ่ื - สกลุ คะแนน คิดเป็น สรปุ ผล ที่ ที่ได้ ร้อยละ การประเมนิ ๒๐ คะแนน ๑๐๐ ผ่าน ไมผ่ า่ น ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ รวม (คน) คิดเป็นรอ้ ยละ ผลการประเมนิ ดมี าก ..........คน คดิ เป็นรอ้ ยละ............... ดี ..........คน คิดเป็นรอ้ ยละ................ พอใช้ ..........คน คิดเป็นร้อยละ............... ปรับปรงุ .........คน คิดเป็นรอ้ ยละ............... สรปุ ผลการประเมินรายชนั้ เรียน นักเรียนผ่านเกณฑ์การประเมิน จานวน......................... คน คิดเป็นร้อยละ....................... นกั เรยี นไมผ่ ่านเกณฑก์ ารประเมิน จานวน......................... คน คิดเป็นรอ้ ยละ....................... ลงชอ่ื .................................................ผปู้ ระเมิน (..............................................) ........../..................../..........
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๕ เรือ่ ง วชิ าเหมอื นสินค้า 733 10. บันทกึ ผลหลงั สอน ผลการจัดการเรยี นการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสาเรจ็ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปญั หาและอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ้ จากัดการใช้แผนการจดั การเรียนรู้ และข้อเสนอแนะ/แนวทางการปรบั ปรงุ แก้ไข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื ......................................................ผสู้ อน (.......................................................) วันที่ .......... เดอื น ..................... พ.ศ. ............. 11. ความคดิ เหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผู้บรหิ ารหรอื ผทู้ ี่ได้รับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ........................................................................................................ ...................................................................... ลงช่ือ ...................................................... ผูต้ รวจ (.......................................................) วันที่ .......... เดอื น ..................... พ.ศ. .............
734 คมู่ ือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ใบความรูท้ ่ี 3 เรอื่ ง การวเิ คราะหค์ ณุ ค่าและขอ้ คิดจากเรื่องท่ีอา่ น หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 เรอื่ ง วิชาเหมือนสินคา้ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 3 เรือ่ ง การวิเคราะหค์ ุณคา่ และข้อคดิ จากเร่อื งที่อ่าน รายวิชา ภาษาไทย รหสั วิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๕ การวิเคราะหค์ ณุ คา่ การวิเคราะห์ หมายถึง การพิจารณาตรวจตรา แยกแยะและประเมินค่า ซึ่งจะเกิดประโยชน์ต่อ ผู้วิเคราะห์ในการนาไปแสดงความคิดเห็น อภิปรายข้อเท็จจริงให้ผู้อื่นทราบ ด้วยว่าใครเป็นผู้แต่ง เป็นเร่ือง เกี่ยวกับอะไร มปี ระโยชน์อย่างไร ต่อใครบา้ ง ผู้วิเคราะห์ มีความเหน็ อย่างไร เร่ืองท่ีอา่ นมีคุณค่าด้านใดบ้าง และแตล่ ะด้านสามารถนาไปประยุกต์ใหเ้ กิดประโยชนต์ ่อชวี ติ ประจาวันอยา่ งไรบา้ ง การวเิ คราะห์คุณค่าเร่ืองท่ีอ่าน ต้องใชค้ วามคิดพิจารณาไตร่ตรอง กลั่นกรอง แยกแยะและแสวงหา เหตผุ ลเพื่อประเมนิ คุณค่าของวรรณคดีอยา่ งมีเหตุผล ประเด็นทีใ่ ช้ในการวิเคราะห์และวิจารณค์ ณุ คา่ ของงานวรรณคดีและวรรณกรรม การวเิ คราะห์คณุ ค่า ของงานประพนั ธ์เท่าทพี่ บเห็นท่วั ๆ ไป นยิ มพิจารณากวา้ ง ๆ ๔ ประเด็น ดงั นี้ 1) คุณค่าด้านเน้ือหาสาระ แนวความคิดและกลวิธีนาเสนอทั้ง ๒ ประเด็นนี้จะอธิบายและ ยกตวั อย่างประกอบเข้าใจ โดยจะกลา่ วควบกนั ไปทัง้ การวิเคราะห์และการวิจารณ์ 2) คณุ คา่ ด้านวรรณศลิ ป์ คือ ความไพเราะของบทประพันธ์ ซง่ึ อาจทาใหผ้ ูอ้ า่ นเกดิ อารมณ์ความรู้สึก และจินตนาการตามรส ความหมายของถอ้ ยคาและภาษาท่ใี ช้ ๓) คุณค่าด้านสังคมและวฒั นธรรม วรรณคดีและวรรณกรรมจะสะท้อนให้เห็นสภาพของสังคมและ วรรณคดที ี่ดีสามารถจรรโลงสังคมไดอ้ ีกด้วย ๔) การนาไปประยุกต์ใช้ในชีวติ ประจาวัน ผู้อ่านสามารถนาแนวคิดจากวรรณคดแี ละประสบการณ์ จาก เรอ่ื งที่อา่ นไปประยุกตใ์ ช้หรือแก้ปญั หาในชีวติ ประจาวันได้ ข้อคิด หมายถึง ประเดน็ ชวนคดิ คตทิ ี่เป็นประโยชน์ การวเิ คราะห์ข้อคดิ จากเรื่องท่ีอ่าน ๑. เป็นการหาข้อคิดหรือคติสอนใจจากเร่ืองที่อ่านว่าเรื่องน้ัน ๆ ให้ข้อคิดท่ีเป็นประโยชน์อะไรบ้าง แล้วจงึ นาข้อคิดน้ันมาประยกุ ตใ์ ช้ในชวี ิตประจาวนั ๒. การหาข้อคิดจากการอ่านหนังสือต่าง ๆ เช่น การอ่านนทิ าน บทความ สารคดี ควรอ่านตั้งแต่ต้น จนจบเร่ือง แล้วทาความเข้าใจเนอื้ เรื่อง และจบั ใจความสาคญั หรอื ประเด็นสาคัญที่ผเู้ ขยี นต้องการใหข้ ้อคดิ กบั ผ้อู า่ นการหาขอ้ คิดจากการอ่านนทิ าน
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๕ เรื่อง วชิ าเหมือนสินคา้ 735 ใบงานที่ 3 เรือ่ ง การวิเคราะหค์ ุณค่าและขอ้ คดิ จากเรอื่ ง วชิ าเหมือนสนิ ค้า หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 5 เร่อื ง วิชาเหมอื นสินค้า แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 3 เร่อื ง การวิเคราะหค์ ณุ ค่าและขอ้ คิดจากเรื่องท่ีอา่ น รายวชิ า ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๕ ตอนที่ 1 ใหน้ กั เรียนอ่านคาประพันธจ์ ากบทรอ้ ยกรองเร่อื ง วิชาเหมือนสินค้า และคาประพนั ธ์จากเรื่องอ่นื ๆ จากนั้นวิเคราะห์คาประพนั ธ์วา่ เป็นคณุ คา่ ด้านใด แล้วเขยี นเติมในชอ่ งว่างใหส้ มบรู ณ์ 1. ขเี้ กยี จคือปลาร้าย จะทาลายใหเ้ รอื จม คุณคา่ ดา้ นใด เอาใจเป็นปนื คม ยงิ ระดมให้จมไป …………………………………………………… … 2. สติเป็นหางเสอื ถือท้ายเรอื ไว้ใหเ้ ทย่ี ง คุณคา่ ดา้ นใด ถือไว้อย่าใหเ้ อียง ตัดแลน่ เลย่ี งขา้ มคงคา …………………………………………………… … 3. วชิ าเหมอื นสินคา้ อันมคี า่ อยู่เมืองไกล คุณค่าด้านใด ต้องยากลาบากไป จึงจะไดส้ นิ คา้ มา …………………………………………………… … 4. ปัญญาเป็นกลอ้ งแกว้ สอ่ งดแู ถวแนวหนิ ผา คณุ ค่าด้านใด เจา้ จงเอาหตู า เป็นลา้ ตา้ ฟงั ดลู ม …………………………………………………… 5. … จงึ จะไดส้ ินค้ามา คอื วิชาอนั พิสมยั คุณคา่ ดา้ นใด จงหม่ันม่นั หมายใจ อย่าไดค้ ร้านการวิชา …………………………………………………… … ชอ่ื ........................................................นามสกลุ .................................................ช้นั .............เลขท.่ี ............
736 คู่มือครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ตอนที่ 2 ใหน้ กั เรียนอา่ นคาประพันธ์จากบทรอ้ ยกรองเร่ือง วิชาเหมอื นสนิ ค้า แล้วเขยี นวิเคราะหค์ ุณค่าและ ขอ้ คดิ จากเรือ่ งให้ถูกตอ้ ง วชิ าเหมอื นสินคา้ วชิ าเหมอื นสนิ ค้า อนั มีค่าอยเู่ มอื งไกล ตอ้ งยากลาบากไป จงึ จะได้สินคา้ มา จงต้งั เอากายเจ้า เปน็ สาเภาอันโสภา ความเพียรเปน็ โยธา แขนซา้ ยขวาเปน็ เสาใบ น้วิ เปน็ สายระยาง สองเท้าตา่ งสมอใหญ่ ปากเป็นนายงานไป อชั ฌาสัยเป็นเสบยี ง สติเป็นหางเสอื ถอื ท้ายเรือไวใ้ หเ้ ท่ยี ง ถอื ไว้อยา่ ให้เอยี ง ตัดแลน่ เลย่ี งข้ามคงคา ปัญญาเปน็ กลอ้ งแก้ว ส่องดูแถวแนวหนิ ผา เจ้าจงเอาหตู า เป็นลา้ ต้าฟังดลู ม ขเ้ี กยี จคอื ปลาร้าย จะทาลายให้เรือจม เอาใจเป็นปืนคม ยงิ ระดมให้จมไป จึงจะได้สินค้ามา คอื วิชาอนั พิสมยั จงหม่ันมั่นหมายใจ อย่าได้คร้านการวิชา (วรรณคดีลานา ป.5 : หน้า 43) 1. คุณคา่ ดา้ นเน้ือหา 2. คณุ ค่าด้านวรรณศลิ ป์ 3. คุณค่าดา้ นสังคมและวัฒนธรรม …………………………………………… ……………………………………………… ……..……………………………………… …………………………………………… ……………………………………………… ………..…………………………………… …………………………………………… ……………………………………………… ………..…………………………………… …………………………………………… ……………………………………………… …………..………………………………… …………………………………………… ……………………………………………… …………..………………………………… …………………………………………… ……………………………………………… …………..………………………………… 4. ขอ้ คิดจากเร่อื ง วิชาเหมอื นสินคา้ นาไปใชใ้ นชีวิตประจาวัน ........................................................................................................ ................................................................... ........................................................................................................ ................................................................... ช่ือ.............................................................สกุล.....................................................ช้ัน.............เลขท่ี...........
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๕ เร่อื ง วิชาเหมือนสินคา้ 737 แนวคาตอบใบงานที่ 3 เร่ือง การวิเคราะห์คณุ คา่ และข้อคิดจากเรอื่ ง วชิ าเหมือนสนิ ค้า หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 5 เร่ือง วิชาเหมอื นสินคา้ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 3 เรื่อง การวิเคราะหค์ ุณคา่ และขอ้ คดิ จากเร่อื งท่ีอา่ น รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๕ ตอนที่ 1 ใหน้ ักเรียนอ่านคาประพันธ์จากบทรอ้ ยกรองเรอื่ ง วชิ าเหมอื นสนิ ค้า และคาประพนั ธ์จากเรือ่ งอน่ื ๆ จากนนั้ วเิ คราะหค์ าประพันธว์ ่าเปน็ คุณค่าด้านใด แลว้ เขยี นเติมในชอ่ งว่างใหส้ มบูรณ์ 1. ขเ้ี กยี จคอื ปลาร้าย จะทาลายใหเ้ รอื จม คณุ คา่ ด้านใด เอาใจเปน็ ปนื คม ยิงระดมใหจ้ มไป คุณค่าด้านวรรณศลิ ป์ (มีการเปรียบ) 2. สตเิ ป็นหางเสอื ถือท้ายเรือไว้ให้เท่ยี ง คุณคา่ ดา้ นใด ถือไวอ้ ย่าใหเ้ อยี ง ตัดแลน่ เลยี่ งขา้ มคงคา คณุ ค่าดา้ นวรรณศลิ ป์ (มกี ารเปรียบ) 3. วิชาเหมือนสนิ คา้ อันมีค่าอยู่เมืองไกล คณุ ค่าดา้ นใด ตอ้ งยากลาบากไป จงึ จะไดส้ นิ ค้ามา คุณค่าดา้ นเนอ้ื หา (ขอ้ คดิ เตือนใจ) 4. ปญั ญาเป็นกลอ้ งแก้ว สอ่ งดูแถวแนวหินผา คณุ คา่ ด้านใด คุณค่าด้านวรรณศิลป์ (เกิดจินตภาพ) เจ้าจงเอาหตู า เป็นลา้ ต้าฟังดลู ม 5. จึงจะไดส้ ินค้ามา คอื วิชาอนั พิสมัย คณุ ค่าดา้ นใด จงหมนั่ มน่ั หมายใจ อยา่ ไดค้ รา้ นการวชิ า คณุ คา่ ด้านเน้ือหา (ขอ้ คิดเตอื นใจ) …
738 คมู่ ือครูและแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ตอนที่ 2 ให้นักเรียนอ่านคําประพันธ์จากบทร้อยกรองเร่ือง วิชาเหมือนสินค้า แล้วเขียนวิเคราะห์คุณค่า และข้อคดิ จากเร่ืองใหถ้ กู ต้อง วิชาเหมือนสินคา้ วิชาเหมือนสินค้า อันมคี ่าอยูเ่ มอื งไกล ตอ้ งยากลาํ บากไป จึงจะไดส้ นิ ค้ามา จงต้งั เอากายเจ้า เป็นสําเภาอนั โสภา ความเพยี รเป็นโยธา แขนซา้ ยขวาเปน็ เสาใบ น้วิ เป็นสายระยาง สองเทา้ ต่างสมอใหญ่ ปากเปน็ นายงานไป อชั ฌาสยั เปน็ เสบียง สติเป็นหางเสือ ถอื ทา้ ยเรอื ไว้ใหเ้ ที่ยง ถอื ไวอ้ ย่าใหเ้ อียง ตดั แลน่ เลย่ี งข้ามคงคา ปญั ญาเปน็ กลอ้ งแกว้ สอ่ งดูแถวแนวหนิ ผา เจ้าจงเอาหูตา เปน็ ลา้ ตา้ ฟงั ดูลม ขเ้ี กียจคือปลาร้าย จะทําลายให้เรอื จม เอาใจเป็นปืนคม ยิงระดมใหจ้ มไป จงึ จะได้สนิ คา้ มา คอื วชิ าอันพิสมยั จงหมั่นม่นั หมายใจ อยา่ ได้คร้านการวิชา (วรรณคดลี าํ นาํ ป.5 : หน้า 43) 1. คณุ คา่ ดา้ นเนอ้ื หา 2. คณุ คา่ ดา้ นวรรณศลิ ป์ 3. คณุ คา่ ดา้ นสังคมและวฒั นธรรม ช้ใี ห้เห็นความสําคญั ของ มีความงดงามทางภาษาและใชค้ ํา มีความสัมพนั ธก์ บั วถิ ชี ีวิตไทยและ การศกึ ษาเลา่ เรยี น หรอื เปรยี บเทียบสิ่งหนึ่งให้เปน็ เหมอื น มหี ลักคาํ สอน ที่คนโบราณมกั “การเรียนวชิ า” ว่าเปน็ เหมอื น กับอีกสงิ่ หน่งึ เพ่อื ใหผ้ ู้อ่านมอง สอนให้เราเป็นคนมีความพยายาม การแสวงหาสินคา้ ที่อยู่แดนไกล เหน็ ภาพและเขา้ ใจชัดเจนขน้ึ เช่น และต่อสกู้ ับอปุ สรรคต่าง ๆ จน ตอ้ งยาก ลําบากและใช้ เปรียบร่างกายเปน็ เรือสําเภา สําเรจ็ และมวี ฒั นธรรมที่ดตี อ่ กัน ความพยายามในการเดนิ ทางไป เปรียบสติเปน็ หางเสือ เปน็ ต้น ในเรอื่ งของการพึ่งพาอาศัยกัน เพือ่ ใหไ้ ด้สนิ ค้า เปรียบเทียบ และมสี ตใิ นการดําเนินชีวติ ตาม สว่ นต่าง ๆ ในร่างกายของเรา พระพทุ ธศาสนา เหมือนกบั ส่วนต่าง ๆ ของเรอื 4. ขอ้ คดิ จากเรอ่ื ง วชิ าเหมอื นสนิ คา้ นําไปใชใ้ นชวี ติ ประจาํ วนั ใหข้ อ้ คิดในการขยนั ศกึ ษาเล่าเรียน การดําเนนิ ตนใหม้ คี วามพยายามจนสาํ เรจ็
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๕ เรอ่ื ง วชิ าเหมอื นสินค้า ๗๓๙ หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 5 แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 4 เร่ือง การใชส้ านวนเปรียบเทียบ เรื่อง วชิ าเหมอื นสนิ คา้ เวลา 1 ชว่ั โมง กลุม่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย รายวชิ าภาษาไทย ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 5 1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชี้วดั สาระที่ 4 หลักการใช้ภาษาไทย มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษาและพลังของ ภาษา ภูมปิ ญั ญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบัตขิ องชาติ ตัวช้ีวัด ป.๕/๗ ใช้สานวนไดถ้ ูกตอ้ ง ๒. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การใช้สานวนเปรยี บเทยี บ มักมีความหมายกวา้ งครอบคลมุ ถึงคาพงั เพยและสุภาษิต การเรียนรู้เขา้ ใจ ความหมายของสานวนไทยจะทาให้นาความรู้ไปใช้ได้ถูกต้อง เข้าใจความหมายของเนื้อหาสาระมากขึ้นและ เหมาะสมในชวี ติ จรงิ ๓. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ ความเข้าใจ (K) อธิบายความหมายของสานวนเปรยี บเทยี บได้ 3.2 ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) ใช้สานวนเปรยี บเทยี บไดถ้ กู ต้อง 3.3 ดา้ นคุณลกั ษณะ เจตคติ ค่านิยม (A) เหน็ คณุ คา่ ของการใชส้ านวนเปรียบเทยี บ ๔. สาระการเรียนรู้ การใชส้ านวนเปรียบเทยี บ ๕. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น 5.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร 5.2 ความสามารถในการคดิ 5.3 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ ๖. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 6.1 ใฝ่เรยี นรู้ 6.2 รักความเป็นไทย 7. กิจกรรมการเรียนรู้
๗๔๐ คู่มือ การจดั กจิ กรรมการเรยี นร รายวชิ า ภาษาไทย หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เร แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 4 เรือ่ ง การใชส้ ลาดบั ขอบเขตเนอ้ื หา/ ข้ันตอนการจัด เวลา แ ท่ี จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรียนรู้ ท่ีใช้ กิจกรรมครู 1. ขอบเขตเนื้อหา 1. สานวน คาพังเพย ขน้ั นา 5 1. ครูนาปริศนาคาทาย สุภาษติ นาที นกั เรยี นอา่ นและช่วยก 2. การใช้สานวน ความหมาย ดังนี้ เปรียบเทยี บ - แหวกวา่ ยธารา ไปมา (............) - รักษาคนไข้ ให้หายเจ (..........) - จดุ จบชวี ิต แคค่ ดิ ก็กล (...........) - ใช้เช่ือมขอ้ ความ เปน็ เป็นผล (...........) - รูปเหมือนกระจบั ขย เสยี ง (...........) 2. ครเู ฉลยความหมาย ขา้ งตน้ ดังนี้ - แหวกวา่ ยธารา ไปมาส ปลา - รักษาคนไข้ ใหห้ ายเจบ็
อครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) รู้ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 5 รอ่ื ง วชิ าเหมือนสนิ ค้า จานวน 10 ช่วั โมง สานวนเปรียบเทียบ จานวน 1 ช่ัวโมง แนวการจดั การเรียนรู้ สอื่ การเรยี นรู้ การประเมิน - ปริศนาคาทาย การเรยี นรู้ กจิ กรรมนักเรยี น สานวนไทย “ปลาหมอตาย - สงั เกต ยมาให้ 1. นักเรียนร่วมกันอ่านปริศนา เพราะปาก” การแสดง กันทาย คาทายและช่วยกันทาย ความคิดเหน็ ของ าสขุ ใจ ความหมาย ดังน้ี นักเรียน จบ็ ปว่ ย - แหวกว่ายธารา ไปมาสขุ ใจ ลัว (.............) นเหตุ - รักษาคนไข้ ให้หายเจบ็ ปว่ ย ยับออก (...........) - จุดจบชีวิต แคค่ ิดกก็ ลัว (...........) - ใช้เชื่อมขอ้ ความ เป็นเหตุเปน็ ผล (...........) - รูปเหมอื นกระจบั ขยับออก เสียง (..........) ยปริศนา 2. นักเรยี นดเู ฉลยร่วมกนั - รปู ภาพ จากนั้นนาคามาเรยี งกนั ได้วา่ สานวนไทย สขุ ใจ = “ปลาหมอตายเพราะปาก” “ปลาหมอตาย จากน้นั แสดงความคิดเห็น เพราะปาก” บปว่ ย = เกีย่ วกับสานวนเปรยี บเทยี บจาก
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๕ เรอื่ ง วิชาเหมอื นสินค้า ลําดบั ขอบเขตเนื้อหา/ ข้นั ตอนการจดั เวลา แ ท่ี จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรียนรู้ ทใ่ี ช้ กจิ กรรมครู หมอ 2. ข้ันสอน 25 - จุดจบชีวิต แคค่ ดิ ก็กล นาที - ใช้เชื่อมขอ้ ความ เป็น เป็นผล = เพราะ - รูปเหมือนกระจับ ขย เสียง = ปาก คาํ ตอบปรศิ นา“ปลาห เพราะปาก” 3. ครแู สดงความคิดเห ท้ายว่า คาํ ท่ีนาํ มาเรียง คือ สาํ นวนไทย จากน้นั เชือ่ มโยงเขา้ สู่บทเรียน 1. ครูให้นกั เรยี นแบ่งก 2. ครใู หน้ กั เรยี นปฏบิ ัต กจิ กรรม โดยการศกึ ษา
แนวการจดั การเรียนรู้ สื่อการเรยี นรู้ ๗๔๑ กิจกรรมนกั เรยี น การประเมนิ การเรยี นรู้ ลัว = ตาย เกมปรศิ นาคาํ ทาย นเหตุ ยบั ออก หมอตาย หน็ สรปุ 3. นักเรยี นช่วยกันอธิบาย - ใบความรทู้ ี่ 4 งกันนัน้ ความหมายของสาํ นวนท่ีครูยก น มา จากน้นั เขา้ สบู่ ทเรียนพรอ้ ม น กัน กลมุ่ 1. นักเรียนแบง่ กลุม่ 4 คน โดย คละความสามารถคือ A B1 B2 ติ C (เกง่ กลาง1 กลาง2 ออ่ น) าใบ จากนน้ั แบ่งหน้าท่รี ับผิดชอบให้ ชดั เจน ดงั นี้ (หวั หนา้ กลุ่ม รอง หวั หนา้ และสมาชิก) 2. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั ศกึ ษาใบความรทู้ ี่ 4 เรอ่ื ง
๗๔๒ คมู่ ลําดบั ขอบเขตเนอื้ หา/ ข้ันตอนการจดั เวลา แ ท่ี จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ที่ใช้ กจิ กรรมครู ความรู้ที่ 4 เรอ่ื ง สํานว แล้วอภปิ รายความรู้ภา กลุ่ม หลังจากนนั้ ให้นกั ชว่ ยกนั วเิ คราะห์ข้อมูล 3. ครตู งั้ คําถาม ดงั น้ี ครู : นักเรียนอา่ นใบคว แลว้ เขา้ ใจความหมาย สาํ นวนหรอื ไม่ อยา่ งไร จุดประสงค์ 4. จากนนั้ ครใู หน้ ักเรยี การเรียนรู้ อธิบายสรปุ ความหมาย 1. อธบิ ายความหมาย สาํ นวนไทยและหลักกา ของสํานวน สํานวนไทยว่า มหี ลกั ก เปรยี บเทยี บได้ อย่างไรบ้าง เพ่ือให้ใช้ส ไดถ้ กู ตอ้ งตามความหม
อื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรียนรู้ สอ่ื การเรยี นรู้ การประเมนิ - คําถามอยู่ ใน การเรียนรู้ กจิ กรรมนกั เรยี น ส่ือ PPT - สงั เกตการตอบ วนไทย สํานวนไทย แล้วอภิปรายความรู้ คําถามของ ายใน ภายในกลมุ่ จากนนั้ ชว่ ยกนั นักเรยี น กเรยี น วิเคราะหข์ อ้ มลู ทไ่ี ด้ ลที่ได้ 1. ประเมิน การอธิบาย วามรู้ 3. นักเรียนชว่ ยกันตอบคาํ ถาม ยของ นักเรยี น : สํานวน คอื ถอ้ ยคําท่ี ร เรยี บเรยี งเป็นประโยค หรอื คาํ พดู ท่ีเป็นชั้นเชิง ไมต่ รงตาม รูปภาษา มลี กั ษณเฉพาะตัว และ มคี วามหมายแฝงอยู่ ยนพูด 4. นกั เรียนพูดอธบิ าย ยของ ความหมายของสํานวนไทยและ ารใช้ หลักการใช้สาํ นวนไทย การใช้ สาํ นวน มาย
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๕ เรื่อง วิชาเหมอื นสนิ ค้า ลาํ ดบั ขอบเขตเนอ้ื หา/ ขัน้ ตอนการจดั เวลา แ ที่ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ท่ีใช้ กจิ กรรมครู 5. ครตู งั้ คาํ ถามชวนสง ชวนคดิ ดังน้ี ขอ้ 1) เพราะเหตใุ ดจึง สํานวนเกดิ ขึ้นในประเท ขอ้ 2) การใชส้ ํานวนไท ใช้อยา่ งไร 6. ครูสรปุ ความหมายข สํานวนไทยให้นกั เรยี นฟ จากน้นั อธิบายหลกั การใ ไทย โดยใช้สอ่ื PPT ประ 7. ครยู กตัวอยา่ งการใช สาํ นวนไทย ดังนี้ ตาโชคลงทนุ ซื้อท่นี าจํา มาก แตป่ รากฏวา่ ตาโช ข้าวได้ผลผลติ น้อย ไมค่ ท่ลี งทนุ ไป
๗๔๓ แนวการจดั การเรียนรู้ ส่ือการเรยี นรู้ การประเมนิ - คาํ ถาม การเรยี นรู้ กิจกรรมนกั เรยี น อยู่ในสอ่ื PPT - สงั เกตการตอบ งสัยและ 5. นกั เรยี นรว่ มกนั คิดหาคาํ ตอบ คาํ ถามของ งมี ดงั นี้ นักเรียน ทศไทย ข้อ 1) นกั เรยี นยังตอบไมไ่ ด้ ทยควร เพราะยงั ไม่ไดเ้ รยี น ข้อ 2) นกั เรียนอาจตอบใน ทาํ นองที่ว่าควรใช้ใหถ้ กู ต้องตาม ความ หมายและเหมาะสมกบั สถานการณ์ ของ 6. นกั เรียนฟังครูอธบิ าย ฟังอกี ครง้ั หลักการใช้สํานวนไทยให้ถกู ตอ้ ง ใชส้ าํ นวน ตามสถานการณแ์ ละรว่ มสนทนา ะกอบ แสดงความคิดเห็นไปพรอ้ มกัน ช้ 7. นักเรยี นรว่ มกนั ดูตวั อยา่ งท่ี ครูยกมาจากน้นั ชว่ ยกนั ตอบ านวน คําถาม ชคขาย คุ้มกับ
๗๔๔ คมู่ ลาํ ดบั ขอบเขตเนื้อหา/ ข้นั ตอนการจดั เวลา แ ที่ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรียนรู้ ท่ีใช้ กจิ กรรมครู 3. ข้ันปฏบิ ตั ิ เหตุการณ์นี้ตรงกับสาํ น 4. 2. ใช้สาํ นวน ข้นั สรปุ 10 ก. ฆ่าควายเสียด เปรียบเทยี บไดถ้ ูกตอ้ ง นาที ข. ตาํ น้ําพริกละล 3. เห็นคณุ คา่ ของการ แม่นํา้ ใชส้ ํานวนเปรยี บเทยี บ 5 ตอบ ข. ตาํ นา้ํ พรกิ ละ นาที แมน่ ํ้า เพราะลงทนุ ไป ผลประโยชน์ไมค่ มุ้ ทนุ 8. ครูอธิบายวิธกี ารทาํ นักเรยี นฟงั และใหน้ ักเ ใบงานที่ 4 (ครูขึ้นกิจกรรมบนจอ ว่า : นกั เรียนทําใบงาน การใช้สํานวนเปรียบเท 9. ครูเฉลยใบงานที่ 4 นักเรยี นตรวจสอบร่วม จากนนั้ สรุปกจิ กรรม 1. ครูให้นกั เรยี นสะท้อ เก่ยี วกับการเรยี นรู้เรอื่ สํานวนไทย ในวันนี้
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 518
Pages: