64-08-08-คู่มื่อครู ภาษาไทย ป.5-2

อื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรียนรู้ สือ่ การเรยี นรู้ การประเมิน กจิ กรรมนกั เรยี น การเรียนรู้ นวนใด ดายพริก ลาย ะลาย โดยได้ างานให้ 8. นักเรยี นฟังครูอธิบายวธิ ีการ - ใบงานที่ 4 2. ประเมนิ จาก กเรียนทํา ทาํ งานจากนั้นทําใบงานท่ี 4 การตรวจใบงาน 3. สังเกต PPT (นักเรยี นทงั้ ตน้ ทางและปลายทาง - สอ่ื PPT พฤตกิ รรม นท่ี 4 ทาํ ใบงานที่ 4 พร้อมกนั ) ของนกั เรียน ทยี บ) 9. นักเรยี นดเู ฉลยและตรวจใบ - สือ่ PPT มกนั งานไปพรอ้ มกัน จากนั้นสรุป อนคดิ กจิ กรรม อง 1. นกั เรียนร่วมกันสะท้อนคดิ เกีย่ วกบั การเรียนรเู้ รื่อง สาํ นวน ไทยในวันน้ี

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๕ เรอ่ื ง วิชาเหมือนสินคา้ ลาดับ ขอบเขตเน้ือหา/ ขน้ั ตอนการจัด เวลา แ ท่ี จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ท่ใี ช้ กจิ กรรมครู - จุดเดน่ /จดุ ตอ้ งแก - บทเรยี นท่ีไดร้ บั /แ การพฒั นาเพื่อการเรยี และมปี ระสทิ ธิภาพ 2. ครูตง้ั คาถามเพื่อสร ครู : เราจะใชส้ านวนอ ใหถ้ ูกตอ้ งตรงตามควา และสถานการณ์ จากน เสนอแนะใหน้ กั เรยี นท ปา้ ยสานวนไทยไปตดิ ก เพอื่ ใหค้ วามรแู้ กผ่ อู้ ื่น และสรปุ ด้วยเพลง สาน

๗๔๕ แนวการจดั การเรียนรู้ สอื่ การเรยี นรู้ การประเมิน กจิ กรรมนักเรยี น การเรยี นรู้ กไ้ ข - จดุ เด่น/จดุ ตอ้ งแกไ้ ข แนวทาง - บทเรยี นท่ไี ดร้ บั /แนวทาง ยนรทู้ ่ีดี การพัฒนาเพือ่ การเรียนรทู้ ีด่ ี และมีประสทิ ธิภาพ รปุ ดงั นี้ 2. นักเรยี นร่วมกันตอบคาถาม - คาถาม - สงั เกตการตอบ อยา่ งไร ดังน้ี อยู่ในส่ือ PPT คาถามของ ามหมาย นกั เรยี น : สามารถนาความรู้ที่ นกั เรียน น้ัน ไดไ้ ปใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชนใ์ นทาง ทาแผ่น ภาษาไทย เช่น ใช้สานวนให้ กบั ต้นไม้ ถูกตอ้ ง ตรงความหมาย ถกู ตอ้ งและเหมาะสมกบั นวนไทย สถานการณ์

746 คมู่ ือครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) 8. สอ่ื การเรียนร้/ู แหล่งเรยี นรู้ 1. ใบความรู้ท่ี 4 เรือ่ ง สานวนไทย 2. ใบงานท่ี 4 เรอ่ื ง การใช้สานวนเปรยี บเทยี บ 3. สื่อ PPT เรอ่ื ง การใช้สานวนเปรยี บเทียบ 4. ตัวอย่างสานวนไทย 5. รปู ภาพสานวนไทย 6. แผ่นป้ายสานวนไทย 9. การประเมินผลรวบยอด ช้ินงานหรือภาระงาน - ใบงานท่ี 4 เรอื่ ง การใชส้ านวนเปรียบเทียบ ส่ิงที่ตอ้ งการวดั / ประเมนิ วธิ ีการ เครือ่ งมือที่ใช้ เกณฑ์ ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) - อธิบายความหมายของ - พจิ ารณาการอธบิ าย - การอธิบายความหมาย ร้อยละ ๖๐ สานวนเปรยี บเทียบ ความหมายของสานวน ของสานวนเปรยี บเทยี บ ขน้ึ ไป เปรยี บเทียบของนักเรียน ของนกั เรยี น ดา้ นทักษะและกระบวนการ (P) - ตรวจใบงานท่ี 4 การใช้ - แบบประเมนิ ใบงานที่ 4 รอ้ ยละ ๖๐ - ใช้สานวนเปรยี บเทยี บ สานวนเปรยี บเทียบ ขึน้ ไป ดา้ นคุณลกั ษณะ เจตคติ คา่ นิยม (A) - เหน็ คณุ คา่ ของการใชส้ านวน - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม รอ้ ยละ ๖๐ เปรียบเทยี บ ข้ึนไป คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝ่เรยี นรู้ - สังเกตพฤติกรรม - แบบประเมินคุณลกั ษณะ ระดับคณุ ภาพ 2. รักความเปน็ ไทย นกั เรยี น อนั พึงประสงค์ ผา่ น สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการสอื่ สาร - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบประเมินสมรรถนะ ระดับคุณภาพ 2. ความสามารถในการคดิ นักเรยี น สาคญั ของผู้เรียน ผา่ น 3. ความสามารถในการใช้ทักษะ ชีวิต

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๕ เร่ือง วชิ าเหมอื นสนิ คา้ 747 เกณฑ์ประเมนิ : การใช้สานวนเปรยี บเทยี บ ประเด็น ระดับคุณภาพ การประเมนิ 1. การใชส้ านวน ๔ (ดมี าก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรุง) เปรียบเทยี บ ตอบถกู ครบ 10 ตอบถกู 9 ขอ้ ตอบถูก 7-8 ขอ้ ตอบถกู ตา่ กว่า ข้อ 7 ขอ้ 2. การสง่ งานตรง ส่งงานตรงเวลามี รบั ผดิ ชอบในงานที่ ทางานทีไ่ ด้รบั ทางานท่ไี ดร้ บั ต่อเวลาและเหมาะสม ความรบั ผดิ ชอบใน ได้รบั มอบหมาย มอบหมายได้เพียง มอบหมายไม่ ส่งงานตรงเวลา เล็กนอ้ ย บางสว่ น ครบทกุ ส่วน งานทไี่ ดร้ ับมอบ บางครงั้ แต่งานมี ไม่ตรงตอ่ เวลาเปน็ และสง่ งานไม่ หมายสรา้ งสรรค์ ความเหมาะสมกบั บางครง้ั ตรงเวลาเปน็ งานศิลปะได้อยา่ ง เวลาทส่ี ง่ ใบงานมีความ ประจา ถูกต้อง ใบงานมีความ สะอาดเรยี บรอ้ ย สะอาดเรยี บร้อย สวยงามถกู ตอ้ งเปน็ ใบงานมีความ 3. การทางาน ใบงานมคี วาม สวยงามถูกตอ้ ง บางส่วนในระดบั สะอาด มคี วามสะอาด สะอาดเรยี บร้อย ตามทีก่ าหนดใน พอใช้ เรียบรอ้ ยน้อย เรียบร้อย สวยงามถูกต้อง ระดบั ดี มาก มรี อยลบ ตามทกี่ าหนดใน และความ ระดบั ดีมาก สกปรกของ งาน หมายเหตุ : ค่านา้ หนักขอ้ ละ ๕ คะแนน (คะแนนรวม 60 คะแนน หาร 3 จะได้ 20 คะแนน) เกณฑ์การประเมินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ ๑8-๒๐ ดีมาก 15-๑7 ดี ๑2-๑4 พอใช้ ต่ากวา่ 12 ปรบั ปรงุ เกณฑก์ ารตดั สิน : ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ร้อยละ ๖๐ ข้ึนไป (ต้องไดร้ ะดบั พอใชข้ ้นึ ไป)

748 คมู่ ือครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แบบประเมินการใช้สานวนเปรยี บเทียบ คาชี้แจง ให้ครูผสู้ อนประเมินผลการทางาน/ใบงาน โดยเขยี นคะแนน ลงในชอ่ งท่ีกาหนดให้ ลาดบั ชือ่ - สกุล คะแนน คดิ เปน็ สรปุ ผล ที่ ทไี่ ด้ ร้อยละ การประเมิน ๒๐ คะแนน ๑๐๐ ผา่ น ไมผ่ ่าน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรงุ รวม (คน) คดิ เปน็ ร้อยละ ผลการประเมิน  ดีมาก ..........คน คดิ เปน็ ร้อยละ...............  ดี ..........คน คิดเป็นรอ้ ยละ................  พอใช้ ..........คน คิดเปน็ รอ้ ยละ...............  ปรบั ปรงุ .........คน คิดเป็นรอ้ ยละ............... สรุปผลการประเมินรายช้นั เรยี น  นักเรยี นผา่ นเกณฑ์การประเมิน จานวน......................... คน คิดเป็นร้อยละ.........................  นกั เรยี นไม่ผา่ นเกณฑ์การประเมิน จานวน......................... คน คิดเป็นรอ้ ยละ......................... ลงชือ่ .................................................ผปู้ ระเมนิ (..............................................) ........../..................../..........

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๕ เร่ือง วชิ าเหมือนสินคา้ 749 10. บนั ทกึ ผลหลงั สอน ผลการจดั การเรียนการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสาเรจ็ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปญั หาและอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ข้อจากัดการใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรู้ และข้อเสนอแนะ/แนวทางการปรับปรงุ แกไ้ ข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอื่ ......................................................ผสู้ อน (.......................................................) วนั ท่ี .......... เดอื น ..................... พ.ศ. ............. 11. ความคดิ เห็น/ขอ้ เสนอแนะของผู้บริหารหรอื ผ้ทู ี่ไดร้ ับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่อื ...................................................... ผตู้ รวจ (.......................................................) วันที่ .......... เดือน ..................... พ.ศ. .............

750 คู่มือครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ใบความรทู้ ี่ 4 เรอื่ ง สานวนไทย หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 5 เรอื่ ง วชิ าเหมอื นสนิ ค้า แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 4 เรอื่ ง การใชส้ านวนเปรียบเทียบ รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๕ ความหมายของสานวน สานวน หมายถึง ถ้อยคาท่ีเรียบเรียงเป็นข้อความ หรือคาพูดท่ีเป็นชั้นเชิง ไม่ตรงตามรปู แบบภาษา เปน็ ถอ้ ยคาหรือ คาพดู ท่มี ลี ักษณะเฉพาะตวั มคี วามหมายเปน็ นยั แฝงอยู่ กินความกว้างหรือลกึ ซ้ึง นามาใชใ้ ห้ มีความหมายแตกต่างไปจากความหมายเดิมของคา ๆ นน้ั หรอื อาจจะมคี วามหมายคล้ายกับความหมายเดิม ของคาท่ีนามาประสมกัน แต่ก็ไม่เหมือนกับความหมายเดิมทีเดียว เป็นความหมายใน เชิงอุปมา เปรียบเทียบ มักใช้ถ้อยคาที่ไม่ยาวมากแต่กินความมาก ใช้คาที่ไพเราะ คมคาย สละสลวย ต้องอาศัย การตคี วามจงึ จะเขา้ ใจ การใช้สานวนเปรยี บเทียบ เนื่องจากคนไทยเป็นคนเจ้าบทเจ้ากลอน การพูดจาหรือส่ังสอนใคร มักจะอ้างสานวนที่เป็นคา คลอ้ งจองมาเปรียบเทียบเปรียบเปรยเสมอ ทาใหจ้ ดจาได้งา่ ยและเหน็ ภาพได้ชัดเจน สานวนไทยมีความผกู พัน กบั ชวี ติ ของเราอยา่ งใกลช้ ดิ และยงั ให้ข้อคิดสอนใจ การใช้สานวนเปรียบเทียบ นยิ มเปรยี บเทยี บกบั สิ่งตา่ ง ๆ หรอื ใช้เปรยี บเทยี บกับพฤติกรรมของมนษุ ย์ เก่ียวกบั วถิ ชี วี ติ หรือการดาเนินกิจกรรมต่าง ๆ หรอื อาจใชใ้ นเชงิ ประชดประชนั กไ็ ด้ เชน่ อว้ นเหมือนหมู เปรียบเทียบวา่ อว้ นเหมอื นหมู เพราะว่าร่างกายมขี นาดอว้ นเหมือนหมู สวยราวกับนางฟา้ เปรยี บเทียบวา่ ความสวยของผูท้ ถ่ี ูกเปรยี บเหมือนกบั นางฟ้าจาแลงมา กบในกะลาครอบ เปรยี บเทียบว่า มคี วามรู้เหมือนกบท่อี ยใู่ นกะลา เพราะกะลาแคบนดิ เดยี ว นอกจากนี้ การใช้สานวนเปรียบเทียบยังมิได้หมายถึงการเปรียบเทียบระหว่างสิ่งของส่ิงเพียงอย่าง เดียว อาจหมายถึงการเปรยี บเทียบกบั ของหลายสิง่ เช่น แกะดา เปรียบเทียบวา่ ของสิง่ หนง่ึ ที่มคี วามแตกตา่ งจากของหมูม่ าก ตัวอย่างการใช้สานวนเปรยี บเทียบ “เด็กชายแดงไม่ยอมทาตามระเบียบของโรงเรียน ซึ่งต่างจากเด็กคนอื่น ๆ ที่ปฏิบัติ ตามระเบียบของโรงเรยี นไดอ้ ยา่ งครบถ้วน พฤติกรรมเชน่ นเี้ รยี กได้วา่ แกะดา”

หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ ๕ เรือ่ ง วิชาเหมอื นสินค้า 751 ตวั อยา่ งสานวนเปรยี บเทยี บ สานวน การเปรยี บเทยี บ กาคาบพริก เปรยี บเทยี บกับท่คี นผิวดาแต่งตัวด้วยเส้ือผา้ สีแดง คางคกขึ้นวอ เปรยี บเทียบกบั คนทมี่ ีฐานะต่าต้อย พอได้ดบิ ไดด้ ีกม็ กั แสดงกริ ิยาอวดดลี มื ตัว ชงิ สกุ ก่อนหา่ ม เปรยี บเทียบกับการทาส่ิงทยี่ งั ไมส่ มควรแกว่ นั หรือยงั ไมถ่ งึ เวลา นกสองหวั เปรียบเทยี บกบั คนที่ทาตัวฝักใฝเ่ ขา้ ดว้ ยทงั้ 2 ฝา่ ย กระตา่ ยต่นื ตมู เปรยี บเทยี บกบั คนทแี่ สดงอาการต่ืนตกใจงา่ ยโดยไมท่ นั สารวจใหถ้ ่องแท้กอ่ น กระตา่ ยหมายจันทร์ เปรยี บเทยี บกบั ผู้ชายหมายปองผหู้ ญงิ ทมี่ ฐี านะดีกวา่ ชกั แมน่ ้าทง้ั หา้ เปรียบเทียบกับคนท่ีพูดจาหว่านล้อมเพ่ือให้คลอ้ ยตามโดยอา้ งสิง่ ตา่ ง ๆ ไกลปนื เท่ยี ง เปรยี บเทยี บกับคนที่ไมร่ อู้ ะไรเลย เพราะอยู่ห่างไกลความเจรญิ ขวานผา่ ซาก เปรียบเทยี บกบั คนทพ่ี ดู จาโผงผาง ไม่เกรงใจใคร ขงิ กร็ า ขา่ กแ็ รง เปรียบเทยี บกับคนทจ่ี ดั จ้านพอกัน มอี ารมณร์ ้อนพอ ๆ กัน ไม่ยอมลดละกนั แขวนนวม เปรยี บเทยี บกบั คนทเี่ ลกิ ชกมวย คดในขอ้ งอในกระดกู เปรียบเทียบกับคนท่ีมสี ันดานคดโกง คนรักเท่าผืนหนัง คนชงั เทา่ เปรยี บเทยี บวา่ คนรักมีนอ้ ย คนเกลียดชังมมี าก ผืนเสอ่ื เปรยี บเทียบกับคนที่มัว่ สมุ หรอื คลกุ คลีพวั พันกนั อยา่ งใกลช้ ดิ ตลอดเวลา คลุกคลีตีโมง ฆ้องปากแตก เปรียบเทียบกับคนทป่ี ากโปง้ เกบ็ ความลบั ไม่อยู่ ฆา่ ช้างเอางา เปรยี บเทียบกบั การทาลายของใหญ่ เพอ่ื ให้ไดข้ องเลก็ นอ้ ยซง่ึ ไม่คุ้มค่า งงเปน็ ไก่ตาแตก เปรียบเทียบกบั คนทง่ี งมาก จนทาอะไรไมถ่ ูก งอมืองอตีน เปรยี บเทยี บกับคนเกยี จครา้ น ไมส่ นใจขวนขวายทาการงาน ไม่คิดสู้งาน งูกนิ หาง เปรียบเทยี บกบั คนทเี่ ก่ยี วโยงกันจากหวั ถึงหางโดยซัดกันเปน็ ทอด ๆ เงียบเป็นเป่าสาก เปรยี บเทยี บว่าลกั ษณะท่เี งียบสนิท โง่แล้วอยากนอนเตยี ง เปรียบเทียบกบั คนโง่แล้วไม่เจียมตัววา่ โง่ ไปทาสงิ่ ท่ตี นไมร่ ไู้ ม่เข้าใจ

752 ค่มู อื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ใบงานที่ 4 เร่ือง การใชส้ านวนเปรียบเทียบ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 5 เรื่อง วิชาเหมอื นสินค้า แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 4 เร่ือง การใชส้ านวนเปรียบเทยี บ รายวิชา ภาษาไทย รหสั วิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๕ คาช้แี จง ให้นักเรียนเตมิ สานวนเปรยี บเทยี บในชอ่ งว่าง หน้าขอ้ ความใหถ้ ูกต้องสัมพนั ธ์กนั จับปูใสก่ ระดง้ จบั เสือมอื เปล่า ดินพอกหางหมู ขช่ี ้างจบั ต๊กั แตน จับปลาสองมอื ชกั แม่นา้ ทั้งห้า ไกลปืนเทย่ี ง กระตา่ ยหมายจันทร์ คางคกขน้ึ วอ ขงิ ก็รา ขา่ ก็แรง ขวานผ่าซาก ชงิ สุกกอ่ นห่าม ขอ้ ท่ี 1 ........................................................ เด็ก ๆ ไมอ่ ย่ใู นกฎระเบียบ แตกแถวอยบู่ ่อยคร้งั ขอ้ ที่ 2 ........................................................ แกว้ ตามงี านคง่ั คา้ งจานวนมาก ไมย่ อมทางานเลย ขอ้ ท่ี 3 ........................................................ สมชายฐานะยากจน แตร่ กั ใครก่ บั ลกู สาวนายอาเภอ ขอ้ ท่ี 4 ........................................................ แดงพูดจาโผงผาง ไม่มีความไพเราะ ขอ้ ที่ 5 ........................................................ พูดจาหว่านลอ้ มเพื่อใหค้ ลอ้ ยตามโดยอา้ งสง่ิ ตา่ ง ๆ ข้อที่ 6 ........................................................ ต่างฝา่ ยต่างไม่ยอมลดละซง่ึ กนั และกัน ข้อที่ 7 ........................................................ หยงิ่ ยโส หลงในความสุขสบาย ลมื ฐานะเดมิ ข้อที่ 8 ........................................................ อย่หู า่ งไกลความเจรญิ ไมร่ อู้ ะไร ข้อท่ี 9 ........................................................ ทาสองอยา่ งพรอ้ มกัน สดุ ท้ายไมส่ าเรจ็ สักอย่าง ขอ้ ท่ี 10 ........................................................ ลงทุนมากแตไ่ ด้กาไรน้อย ไมค่ มุ้ ค่า ชอ่ื .........................................................นามสกลุ ....................................................ชั้น............เลขท่ี...........

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๕ เรอ่ื ง วิชาเหมอื นสินคา้ 753 แนวคาตอบใบงานท่ี 4 เรอ่ื ง การใชส้ านวนเปรียบเทยี บกับเหตกุ ารณ์หรอื สถานการณต์ ่าง ๆ หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เรือ่ ง วชิ าเหมอื นสินค้า แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 4 เรือ่ ง การใชส้ านวนเปรียบเทียบ รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๕ คาช้แี จง ให้นักเรยี นเตมิ สานวนเปรียบเทยี บในชอ่ งว่าง หน้าข้อความใหถ้ กู ตอ้ งสัมพันธ์กัน จบั ปใู ส่กระดง้ จบั เสือมอื เปล่า ดินพอกหางหมู ข่ชี า้ งจับตั๊กแตน จับปลาสองมอื ชักแมน่ ้าท้งั ห้า ไกลปืนเที่ยง กระต่ายหมายจนั ทร์ คางคกขน้ึ วอ ขงิ กร็ า ขา่ ก็แรง ขวานผา่ ซาก ชงิ สกุ ก่อนหา่ ม ข้อที่ 1 ......จ..บั...ป...ใู .ส...ก่ ..ร..ะ..ด...้ง............................. เด็ก ๆ ไม่อยู่ในกฎระเบยี บ แตกแถวอยบู่ ่อยครง้ั ขอ้ ที่ 2 ......ด..นิ...พ...อ..ก...ห..า..ง..ห...ม..ู.......................... แก้วตามีงานคงั่ ค้างจานวนมาก ไม่ยอมทางานเลย ขอ้ ท่ี 3 ......ก..ร..ะ...ต..า่..ย..ห...ม..า..ย...จ..นั...ท..ร..์.................. สมชายฐานะยากจน แตร่ กั ใครก่ บั ลกู สาวนายอาเภอ ข้อท่ี 4 ......ข..ว..า..น...ผ..่า..ซ...า..ก................................ แดงพดู จาโผงผาง ไม่มคี วามไพเราะ ขอ้ ท่ี 5 ......ช..ัก...แ..ม..น่...้า..ท...ัง้ ..ห..า้............................. พูดจาหวา่ นลอ้ มเพอ่ื ใหค้ ล้อยตามโดยอ้างสงิ่ ตา่ ง ๆ ข้อที่ 6 ......ข..ิง..ก...็ร..า...ข..า่..ง..ก..แ็...ร..ง......................... ตา่ งฝ่ายตา่ งไมย่ อมลดละซงึ่ กนั และกนั ข้อท่ี 7 ......ค...า.ง..ค...ก..ข..ึ้น...ว..อ................................ หย่ิงยโส หลงในความสขุ สบาย ลมื ฐานะเดมิ ข้อที่ 8 .......ไ.ก..ล...ป...ืน..เ.ท...่ีย..ง................................ อยหู่ า่ งไกลความเจริญ ไมร่ เู้ ร่อื งราวอะไร ขอ้ ท่ี 9 ......จ...บั ..ป...ล..า..ส..อ...ง..ม..อื............................. ทาสองอย่างพรอ้ มกัน ยอ่ มได้ผลไม่ดีนัก ข้อที่ 10 ......ข...ช่ี ..้า..ง..จ..บั...ต..ก๊ั..แ...ต..น........................... ลงทุนมากแต่ได้กาไรนอ้ ย ไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่ทาไป

๗๕๔ คมู่ อื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 5 เรอื่ ง การแยกขอ้ เทจ็ จริงและขอ้ คิดเห็น เวลา 1 ชว่ั โมง หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 5 เรื่อง วิชาเหมือนสนิ คา้ กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย รายวชิ าภาษาไทย ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 5 1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชวี้ ดั สาระที่ 1 การอา่ น มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสรา้ งความรแู้ ละความคดิ เพือ่ นาไปใช้ตดั สินใจ แก้ปญั หาในการดาเนนิ ชีวติ และมีนสิ ยั รักการอ่าน ตวั ช้วี ดั ป.๕/๔ แยกข้อเทจ็ จรงิ และขอ้ คดิ เห็นจากเรอ่ื งทอ่ี า่ น ๒. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด การอ่านเรอ่ื งราวต่าง ๆ แล้วสามารถจบั ใจความโดยแยกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นจากเรื่องที่อ่านได้ จะทาให้ผู้อา่ นมเี หตผุ ล รู้จกั พจิ ารณาและนาความรทู้ ไี่ ด้จากการอา่ นไปใชป้ ระโยชน์ในชวี ติ จรงิ ๓. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้ ความเขา้ ใจ (K) บอกหลักการแยกขอ้ เท็จจรงิ และขอ้ คิดเห็นจากเรื่องท่อี า่ นได้ 3.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) แยกข้อเท็จจรงิ และขอ้ คิดเหน็ จากเร่อื งท่ีอา่ นไดถ้ ูกตอ้ ง 3.3 ด้านคณุ ลักษณะ เจตคติ ค่านยิ ม (A) มีวินยั และใฝเ่ รียนรู้ ๔. สาระการเรยี นรู้ การแยกขอ้ เทจ็ จรงิ และขอ้ คิดเหน็ จากเรือ่ งท่ีอ่าน ๕. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน 5.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5.2 ความสามารถในการคดิ ๖. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 6.1 มีวินยั 6.2 ใฝเ่ รียนรู้ 7. กิจกรรมการเรยี นรู้

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๕ เรอื่ ง วชิ าเหมือนสินคา้ การจดั กิจกรรมการเรียนร รายวชิ า ภาษาไทย หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 5 เ แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 5 เรอ่ื ง การแยกข้อ ลาดับ ขอบเขตเนอื้ หา/ ขน้ั ตอนการจดั เวลา แ ที่ จุดประสงค์การเรียนรู้ การเรียนรู้ ท่ีใช้ กจิ กรรมคร 5 1. ครูนาประโยคมา 1. ขอบเขตเนอื้ หา ขั้นนา นาที นักเรียนอา่ นจานวน 1. การแยกข้อเทจ็ จรงิ และขอ้ คดิ เหน็ จาก ประโยค ดงั น้ี เรอ่ื งทีอ่ ่าน - จังหวดั น่านอยทู่ าง ภาคเหนอื ของไทย - จังหวัดน่านมที ิวทัศ สวยงาม - เราน่าจะไปน่านสัก ในชีวิต 2. ครูนานกั เรียนสน เก่ียวกบั ขอ้ เทจ็ จริงแ ความคิดเห็นดว้ ยคา ครู : นกั เรยี นคดิ ว่าเ ในชวี ติ ประจาวนั เป ความจรงิ ท้ังหมดหร อยา่ งไร

รู้ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 5 ๗๕๕ เร่อื ง วชิ าเหมือนสินคา้ จานวน 10 ชัว่ โมง อเท็จจรงิ และขอ้ คดิ เห็น จานวน 1 ช่ัวโมง การประเมิน การเรยี นรู้ แนวการจัดการเรียนรู้ สอื่ การเรียนรู้ รู กจิ กรรมนักเรียน าให้ 1. นักเรียนอา่ นประโยคทค่ี รู น 3 กาหนด ดังนี้ ง - จังหวัดนา่ นอยทู่ าง - แถบประโยค ภาคเหนอื ของไทย 3 ประโยค ศน์ที่ - จังหวดั นา่ นมีทวิ ทศั นท์ ่ี สวยงาม กครงั้ หนง่ึ - เราน่าจะไปนา่ นสกั ครงั้ หนงึ่ ในชีวิต นทนา 2. นกั เรียนสนทนาเกยี่ วกบั - สงั เกตการตอบ และ ขอ้ เทจ็ จรงิ และความคิดเห็น คาถามของ าถาม ดังนี้ และตอบคาถาม ดงั นี้ นักเรียน เรอ่ื งราว นกั เรียน : ไม่ เพราะอาจจะ - คาถาม ปน็ เปน็ เรื่องท่ีเป็นการแสดง อยใู่ นสือ่ PPT รอื ไม่ ความคดิ เห็นก็ได้ ซงึ่ นักเรียน สามารถตอบได้หลายคาตอบ

๗๕๖ คู่มือ ลาดับ ขอบเขตเน้ือหา/ ขัน้ ตอนการจัด เวลา แ ที่ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรียนรู้ ทใี่ ช้ กจิ กรรมคร 2. ขัน้ สอน 3. ครูพดู สรปุ ท้ายแล สนทนาเช่ือมโยงเขา้ ในบทเรยี น 25 1. ครใู หน้ กั เรยี นแบ นาที 2. ครูนาประโยคข้าง ประโยคมาสนทนาเพ หลักการรว่ มกนั 3. ครูตง้ั คาถาม ดังน ครู : จากประโยคท้ัง ประโยค นักเรยี นวเิ ค ว่าอยา่ งไร

อครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรียนรู้ สอ่ื การเรียนรู้ การประเมนิ รู กิจกรรมนักเรียน การเรียนรู้ ละ 3. นกั เรยี นเขา้ ส่บู ทเรียน าสู่เนอ้ื หา รว่ มกนั บง่ กลุ่ม 1. นกั เรียนแบง่ กล่มุ 4 คน โดยคละความสามารถคอื A B1 B2 C (เก่ง กลาง1 กลาง2 อ่อน) จากนั้นแบง่ หน้าทร่ี บั ผดิ ชอบให้ชดั เจน ดังน้ี (หวั หนา้ กลมุ่ รองหวั หนา้ และสมาชกิ ) งต้น 3 2. นักเรยี นสนทนาเก่ียวกบั - ส่ือ PPT - สงั เกตการตอบ พื่อคน้ หา ประโยคขา้ งตน้ 3 ประโยค คาถามของ นักเรยี น และสนทนาร่วมกนั น้ี 3. นักเรียนช่วยกนั ตอบ - คาถาม ง 3 คาถาม คราะห์ได้ นักเรยี น : มที ง้ั ประโยคทเ่ี ปน็ เรื่องจริงและประโยคทเี่ ป็น การแสดงความคิดเห็น

หน่วยการเรียนรูท้ ี่ ๕ เร่ือง วชิ าเหมอื นสนิ คา้ ลาดับ ขอบเขตเนอื้ หา/ ขั้นตอนการจดั เวลา แ ที่ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรยี นรู้ ท่ใี ช้ กจิ กรรมคร 4. จากนนั้ ครูพานักเ วเิ คราะหเ์ พือ่ สรปุ คว ของขอ้ เทจ็ จรงิ และข และครตู ้ังคาถามตอ่ ครู : นกั เรียนคิดว่าเ ตา่ ง ๆ ในชีวิตประจ พบเจอนน้ั เป็นความ ท้ังหมดหรอื ไม่ อย่าง จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 5. ครูต้งั คาถามเพื่อ 1. บอกหลักการแยก นกั เรยี นชว่ ยกันบอก ข้อเท็จจรงิ และ แยกขอ้ เทจ็ จรงิ และข ขอ้ คดิ เห็นจากเรอื่ งที่ จากเร่อื งทอ่ี ่าน ดงั น อ่านได้ ครู : นกั เรียนคิดว่าเ หลกั การใด ในการแยกข้อเทจ็ จร ขอ้ คิดเห็น

๗๕๗ แนวการจดั การเรียนรู้ ส่ือการเรยี นรู้ การประเมนิ รู กิจกรรมนกั เรยี น การเรยี นรู้ เรยี น 4. นักเรียนรว่ มกนั วเิ คราะห์ วามหมาย เพ่อื สรุปความหมายของ ข้อคิดเหน็ ขอ้ เทจ็ จรงิ และข้อคิดเหน็ อไปวา่ และตอบคาถาม ดงั นี้ เรอื่ งราว นกั เรียน : ไม่ เพราะอาจมี จาวนั ที่เรา เรอื่ งอ่นื ทไี่ ม่ใชค่ วามจรงิ มจรงิ ปะปนอยบู่ ้าง หรืออาจตอบ งไร วา่ เป็นความจริงทัง้ หมด เพราะในชีวติ ประจาวนั ประสบพบเจอแตค่ วามจริง อให้ 5. นักเรยี นรว่ มกันคดิ หา - ใบความรู้ท่ี 5 1. ประเมนิ กหลกั การ คาตอบ โดยการศกึ ษา การสรปุ หลกั การ ขอ้ คิดเห็น อภิปรายจากใบความรู้และ และสังเกต น้ี ตอบคาถาม ดงั นี้ การตอบคาถาม เราควรใช้ นกั เรยี น : ใช้หลกั การ - คาถามอยู่ในสื่อ ของนกั เรยี น วเิ คราะห์ 4 ข้อ ดงั น้ี PPT รงิ และ วิเคราะห์ขอ้ เทจ็ จรงิ คือ มคี วามเปน็ ไปได้ สมจรงิ มหี ลกั ฐานเช่อื ถอื ได้ และ