Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 64-08-08-คู่มื่อครู ภาษาไทย ป.5-2

64-08-08-คู่มื่อครู ภาษาไทย ป.5-2

Published by elibraryraja33, 2021-08-08 08:53:18

Description: 64-08-08-คู่มื่อครู ภาษาไทย ป.5-2

Search

Read the Text Version

668 ค่มู ือครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) 8. สื่อการเรยี นร/ู้ แหล่งเรยี นรู้ 1. แถบกลมุ่ คาและประโยค 2. ใบความรู้ท่ี 12 เร่อื ง คาอทุ าน 3. ใบงานท่ี 12 เร่อื ง คาอทุ าน 4. ส่อื PPT เรื่อง คาอทุ าน 5. รูปภาพคนแสดงกิริยาทา่ ทาง จานวน 3 รูป 9. การประเมนิ ผลรวบยอด ช้ินงานหรอื ภาระงาน - ใบงานท่ี 12 เรอื่ ง คาอุทาน สิ่งที่ต้องการวัด / ประเมนิ วิธกี าร เครอ่ื งมือทีใ่ ช้ เกณฑ์ ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) - พจิ ารณาจากการ - คาถาม/ใบงาน ร้อยละ ๖๐ - บอกความหมาย ลกั ษณะ และ ตอบคาถามของ ขึน้ ไป หนา้ ทข่ี องคาอทุ าน นักเรยี น - ตรวจใบงานท่ี 12 - แบบประเมิน/ใบงาน ร้อยละ ๖๐ ด้านทกั ษะและกระบวนการ (P) เรอื่ ง คาอุทาน ขน้ึ ไป - แต่งประโยคโดยใช้คาอทุ าน ด้านคุณลกั ษณะ เจตคติ ค่านยิ ม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ร้อยละ ๖๐ (A) ขน้ึ ไป - ใฝ่เรยี นรู้และมงุ่ มน่ั ในการทางาน - สงั เกตพฤติกรรม คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ ระดับคณุ ภาพ 1. ใฝ่เรยี นรู้ นกั เรยี น อันพึงประสงค์ ผ่าน 2. มุ่งมนั่ ในการทางาน - สังเกตพฤติกรรม สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน นกั เรียน - แบบประเมินสมรรถนะ ระดับคุณภาพ 1. ความสามารถในการส่ือสาร สาคญั ของผเู้ รียน ผ่าน 2. ความสามารถในการคิด

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๔ เร่อื ง ภาษาพฒั นาชีวติ 669 เกณฑป์ ระเมิน : การทาใบงานท่ี 12 เรือ่ ง คาอุทาน ประเด็น ๔ (ดมี าก) ระดบั คุณภาพ ๑ (ปรับปรงุ ) การประเมนิ บอกความหมาย บอกความ 1. บอกความหมาย ของคาอุทานได้ ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) หมายคาอุทาน ลักษณะ และหนา้ ท่ี ถกู ต้อง ท้ังหมด บอกความหมาย บอกความหมายของ ได้ถูกต้อง ๑ คา ของคาอทุ าน ของคาอทุ านได้ คาอทุ านไดถ้ กู ต้อง การจาแนกชนิด ถูกตอ้ ง ๓ คา ๒ คา จาแนกชนิดและ 2. การจาแนกชนดิ และหนา้ ทขี่ องคา หนา้ ทขี่ องคา และหนา้ ทข่ี องคา อทุ านในประโยคได้ การจาแนกชนิด จาแนกชนดิ และ อทุ านใน อุทานในประโยค ถูกต้อง ท้ังหมด และหนา้ ท่ีของคา หนา้ ท่ขี องคาอทุ าน ประโยคได้ อุทานในประโยคได้ ในประโยคได้ถูกต้อง ถกู ตอ้ ง 1-4 ถูกตอ้ ง ๗-๘ 5-๖ ประโยค ประโยค ประโยค หมายเหตุ : คา่ น้าหนักขอ้ ละ ๕ คะแนน (คะแนนรวม 40 คะแนน หาร 2 จะได้ 20 คะแนน) เกณฑก์ ารประเมินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ๑8-๒๐ ดมี าก 15-๑7 ดี ๑2-๑4 พอใช้ ตา่ กว่า 12 ปรับปรงุ เกณฑก์ ารตัดสิน : ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ รอ้ ยละ ๖๐ ข้นึ ไป (ต้องไดร้ ะดบั พอใช้ขึ้นไป)

670 คู่มอื ครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แบบประเมินการทาใบงานที่ 12 เรื่อง คาอทุ าน คาช้ีแจง ให้ครูผสู้ อนประเมนิ ผลการทางาน/ใบงาน โดยเขยี นคะแนน ลงในช่องท่ีกาหนดให้ ลาดับ ชอ่ื - สกลุ คะแนน คิดเป็น สรปุ ผล ที่ ทไี่ ด้ ร้อยละ การประเมนิ ๒๐ คะแนน ๑๐๐ ผ่าน ไม่ผา่ น ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ รวม (คน) คิดเปน็ ร้อยละ ผลการประเมนิ  ดีมาก ..........คน คิดเปน็ รอ้ ยละ............... ดี ..........คน คิดเป็นร้อยละ................  พอใช้ ..........คน คิดเปน็ ร้อยละ............... ปรบั ปรงุ .........คน คิดเปน็ ร้อยละ................. สรปุ ผลการประเมินรายชัน้ เรียน  นักเรียนผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน จานวน......................... คน คดิ เปน็ ร้อยละ.........................  นกั เรียนไม่ผ่านเกณฑ์การประเมนิ จานวน......................... คน คดิ เป็นร้อยละ......................... ลงช่ือ.................................................ผปู้ ระเมนิ (..............................................) ........../..................../..........

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๔ เร่ือง ภาษาพฒั นาชีวิต 671 10. บนั ทึกผลหลังสอน ผลการจัดการเรียนการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสาเรจ็ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปัญหาและอปุ สรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ้ จากดั การใช้แผนการจัดการเรียนรู้ และขอ้ เสนอแนะ/แนวทางการปรบั ปรงุ แก้ไข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ......................................................ผสู้ อน (.......................................................) วนั ท่ี .......... เดอื น ..................... พ.ศ. ............. 11. ความคิดเห็น/ขอ้ เสนอแนะของผู้บริหารหรอื ผูท้ ี่ได้รับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ........................................................................................................ ...................................................................... ลงช่ือ ...................................................... ผตู้ รวจ (.......................................................) วันท่ี .......... เดือน ..................... พ.ศ. .............

672 คมู่ ือครแู ละแผนการจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ใบความรู้ท่ี 12 เรอ่ื ง คาอทุ าน หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรือ่ ง ภาษาพัฒนาชวี ิต แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 12 เรอ่ื ง คาอทุ าน รายวิชา ภาษาไทย รหัสวชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๕ ความหมายของคาอุทาน คาอุทาน หมายถึง คาที่เปล่งออกมาเพ่ือแสดงอารมณ์และความรู้สึกต่าง ๆ ของผู้พูด อุทานบอกอาการ คือ คาที่บอกอารมณ์หรือความรู้สึกต่าง ๆ ของผู้พูด คาอุทานชนิดน้ีมักอยู่ หนา้ ประโยค และมีเครื่องหมายอัศเจรีย์ ( ! ) กากับอยู่ท้ายคาอทุ าน แบ่งเป็น ๑. อาการร้องเรยี กหรือบอกใหร้ ู้ตัว เชน่ น่แี น่ะ ! เฮย้ ! โว้ย ! ๒. อาการโกรธเคอื ง เชน่ ดดู ู๋ ! ชะๆ ! ชๆิ ! ๓. อาการประหลาดใจหรือตกใจ เชน่ เอะ๊ ! ว๊าย ! แม่เจ้าโวย้ ! ๔ . อาการสงสารหรอื ปลอบโยน เช่น อนิจจา ! พธุ โธ่ ! ๕ . อาการเข้าใจหรอื รับรู้ เชน่ เออ ! เออนะ่ ! ออ้ ! ๖. อาการเจ็บปวด เช่น โอย ! โอย๊ ! ๗. อาการจากสิง่ ธรรมชาติ เชน่ ตูม ! โครม ! เปร้ยี ง ! อ่านและสังเกตประโยคต่อไปน้ี คาอทุ าน ชนิดของคาอุทาน ประโยค เอะ๊ ! แสดงความสงสยั ไชโย ! แสดงความดีใจ ๑. เอะ๊ ! หนังสอื ฉันหายไปไหน โอย๊ ! แสดงความเจบ็ ปวด ๒. ไชโย ! ทาการบา้ นเสร็จแล้ว โธ่ ! แสดงความสงสาร ๓. โอ๊ย ! เจ็บจงั เลย โอโ้ ฮ ! แสดงความแปลกใจ ๔. โธ่ ! น่าสงสารจรงิ ๕. โอโ้ ฮ ! วนั นเ้ี ธอมาโรงเรยี นแต่เช้าเลยนะ กระทรวงศึกษาธกิ าร.๒๕๓๘. หนงั สอื เรยี นภาษาไทยชดุ พน้ื ฐานภาษาชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๕ กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พ์องคก์ ารค้าครุ สุ ภา.

หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี ๔ เร่ือง ภาษาพฒั นาชวี ิต 673 ใบงานท่ี 12 เร่ือง คาอทุ าน หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 4 เร่ือง ภาษาพฒั นาชวี ิต แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 12 เรอ่ื ง คาอทุ าน รายวชิ า ภาษาไทย รหัสวชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๕ คาชี้แจง ให้นกั เรียนเติมคาอทุ านทีเ่ หมาะสมกับประโยคทกี่ าหนดให้ และบอกความรู้สกึ ของคาอุทานนน้ั ให้ถกู ต้อง ประโยค อารมณค์ วามรสู้ ึก ตัวอย่าง ............................................... ..............กระเปา๋ ใบน้ีเปน็ ของนอ้ งเองหรอื จะ๊ ............................................... ..............มีดบาดมือ เลือดไหลหยดต๋ิง ๆ เลย ............................................... ..............โลง่ อกไปที ทางานเสรจ็ แล้ว ............................................... ..............อย่าทารา้ ยกนั แบบนี้อีกนะ เรากลัวมาก ............................................... ..............ตายแลว้ ไมน่ า่ เกิดเรอ่ื งแบบน้เี ลย ............................................... ..............คาตอบเปน็ แบบน้ีน่เี อง คิดต้ังนานกวา่ จะออก ............................................... ..............ต้องแก้ไขงานอกี แล้วเหรอน่ี เหนือ่ ยใจจัง ............................................... ..............ไม่นา่ เกิดเหตกุ ารณ์แบบน้เี ลย เสียใจด้วยนะ ............................................... ..............ทาไมตกึ รามบ้านชอ่ งใหญโ่ ตมโหฬารอยา่ งน้ีนะ ............................................... ..............ในทส่ี ดุ ฉันก็ทาการบา้ นเสรจ็ แลว้ จ้า ใหน้ ักเรยี นแตง่ ประโยคทีม่ คี าอทุ านแสดงอารมณค์ วามรูส้ ึก จานวน ๕ ประโยค ๑. ๒. ๓. ๔. ๕. ชื่อ.....................................................นามสกลุ ...............................................ชนั้ .................เลขท.่ี .............

674 คมู่ อื ครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ใบงานที่ 13 เรอ่ื ง คาอุทาน หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 4 เร่อื ง ภาษาพฒั นาชวี ิต แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 12 เร่อื ง คาอทุ าน รายวิชา ภาษาไทย รหัสวชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๕ คาชแี้ จง ให้นักเรียนเติมคาอทุ านทเ่ี หมาะสมกบั ประโยคทกี่ าหนดให้ และบอกความรสู้ กึ ของคาอุทานน้ันให้ถกู ต้อง ประโยค อารมณค์ วามรูส้ ึก ตัวอยา่ ง เขา้ ใจ ...ออ้ !.....กระเป๋าใบนี้เป็นของน้องเองหรอื จะ๊ เจ็บปวด ...โอย๊ !....มีดบาดมอื เลือดไหลหยดติ๋ง ๆ เลย โลง่ ใจ, สบายใจ ...เฮอ่ !....โลง่ อกไปที ทางานเสรจ็ แลว้ โกรธ, ดุ ...นเ่ี ธอ!...อย่าทาร้ายกนั แบบนีอ้ กี นะ เรากลัวมาก ตกใจ ...ว้าย!...ตายแล้ว ไม่นา่ เกิดเรื่องแบบนี้เลย เขา้ ใจ, คลายสงสยั ....ออ๋ !....คาตอบเป็นแบบนน้ี ีเ่ อง คดิ ตงั้ นานกว่าจะออก เศรา้ , เหนือ่ ยใจ ....โธ่!.....ตอ้ งแกไ้ ขงานอกี แลว้ เหรอน่ี เหน่ือยใจจงั เสยี ใจ ...พทุ โธ่!...ไมน่ า่ เกิดเหตกุ ารณ์แบบนี้เลย เสยี ใจดว้ ยนะ ประหลาดใจ, ตน่ื เต้น ...โอโ้ ฮ...ทาไมตกึ รามบา้ นชอ่ งใหญ่โตมโหฬารอยา่ งน้ีนะ ดใี จ .....เย่!....ในท่ีสุด ฉันก็ทาการบ้านเสร็จแล้วจ้า ให้นกั เรยี นแตง่ ประโยคท่ีมีคาอทุ านแสดงอารมณ์ความรสู้ กึ จานวน ๕ ประโยค ๑. วา้ ย! ตายแล้ว ใครมาเปิดนา้ ทงิ้ ไว้เนี่ย เดอื นน้เี ปลืองค่าน้าแน่ ๆ เลย ๒. เฮ่อ! ทีหลงั อยา่ ทาแบบน้ีอกี นะ มันทาให้คนคอยเป็นห่วง ๓. คณุ พระ! เดินเทา้ มาไดอ้ ยา่ งไรตั้ง 10 กิโลเมตร ๔. โอ๊ย! มะม่วงหลน่ ใสห่ ัว เจบ็ มากเลย ๕. เอ๊ะ! ใครมาเปดิ ประตทู ้ิงไว้นะ เดย๋ี วขโมย

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๔ เรอ่ื ง ภาษาพัฒนาชีวิต 675 แบบประเมินตนเอง ชอ่ื : ___________________ สกลุ : _________________วัน____ เดือน____________พ.ศ. ____ หน่วยการเรียนร้ทู ่ี___๔___เร่ือง ภาษาพฒั นาชวี ิต ๑. ประเมนิ การเรยี นรขู้ องตนเอง กาเครอ่ื งหมาย  ในชอ่ งระดับความสามารถของแต่ละกจิ กรรมทีน่ กั เรียนคิดว่าทาไดต้ ามระดบั การ ประเมินเหล่านี้ ระดบั ความสามารถ : ดมี าก คอ่ นขา้ งดี ดี พอใช้ ปรับปรงุ ที่ รายการ ระดับความสามารถ ๑ จาแนกภาษาพูดและภาษาเขียนได้ ดมี าก คอ่ น ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ ๒ ใชร้ ะดับภาษาไดถ้ กู ต้อง ขา้ งดี ๓ เขียนอธบิ ายคณุ ค่าของเพลงกล่อมเด็กได้ ๔ เขียนจดหมายถงึ พ่อแม่ ญาติ หรือผปู้ กครองได้ ๕ วิเคราะหเ์ ร่อื งทฟ่ี งั และดอู ย่างมเี หตผุ ลได้ 2. สิ่งท่ีฉนั ยังไมเ่ ขา้ ใจ / ยังทาไดไ้ ม่ดี คือ…… (สามารถเขียนได้มากกวา่ 1 อยา่ ง) ……………………………………………................................................................................................ .................................................................................................................................................. ...............……………………………………………................................................................................. .................................................................................................................................................. 3. สิง่ ท่ฉี ันตั้งใจจะทาให้ดขี น้ึ ในการเรียนหน่วยต่อไป (สามารถเขียนไดม้ ากกว่า 1 อย่าง) .................................................................................................................................................. ...............……………………………………………................................................................................. .................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................................

676 ค่มู ือครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) บันทกึ การเรียนรู้ (Learning Log) ชื่อ : ___________________ สกลุ : __________________วัน____ เดือน_____________พ .ศ._____ สิง่ หนึ่งทฉ่ี ันไดเ้ รียนร้จู ากการเรียนวิชานี้ในครงึ่ ภาคเรียน คอื ............................................. ....................................................................................................................................... ....................................................................................................................................... ....................................................................................................................................... ........ ฉันนา่ จะเรยี นรไู้ ดด้ ีกว่านหี้ าก............................................................................................ ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ...... ส..ิง่ ..ท..ี่ฉ..ัน...อ..ย..า..ก..จ..ะ..บ..อ...ก..ค..ณุ...ค...ร.ู..ค..อื .............................................................................................. .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... ..... ส..ิง่..ท..ฉี่...นั ..ค..ว..ร..ป...ร.บ.ั ..ป..ร..งุ..ต..วั..เ..อ..ง..ใ.ห..ด้...ขี ..้นึ....ค..ือ.................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... ..... ป...ัญ...ห...า.ใ..น..ก...า.ร..เ.ร..ยี..น...ข..อ..ง..ฉ..นั....ค..อื................................................................................................ ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... .... ........................................................................................................................................... ....

หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ ๕ เรื่อง วชิ าเหมอื นสินค้า ๖๗๗ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๕ วิชาเหมือนสนิ ค้า

๖๗๘ คมู่ อื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๕ ช่อื หน่วยการเรยี นรู้ วิชาเหมือนสนิ คา้ รหัสวชิ า ท๑๕๑๐๑ รายวชิ าภาษาไทย กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรยี นที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖ เวลา ๑๐ ชว่ั โมง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตวั ชีวัด สาระท่ี ๑ การอา่ น มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรู้และความคิดเพือ่ นาไปใชต้ ดั สินใจ แก้ปัญหาในการดาเนิน ชีวิต และมีนิสัยรักการอา่ น ตัวชีว้ ดั ป.๕/๑ อ่านออกเสยี งบทรอ้ ยแก้วและบทรอ้ ยกรองได้ถกู ต้อง ป.๕/๒ อธบิ ายความหมายของคา ประโยคและข้อความทเ่ี ป็นการบรรยายและการพรรณนา ป.๕/๔ แยกข้อเท็จจริงและขอ้ คดิ เหน็ จากเรอื่ งท่ีอ่าน ป.๕/๕ วเิ คราะหแ์ ละแสดงความคิดเห็นเกย่ี วกับเรอ่ื งที่อ่านเพ่ือนาไปใชใ้ นการดาเนินชวี ิต ป.๕/๖ อา่ นงานเขยี นเชงิ อธิบาย คาสงั่ ขอ้ แนะนา และปฏิบตั ติ าม ป.๕/๘ มีมารยาทในการอา่ น สาระท่ี ๓ การฟงั การดู และการพูด มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟงั และดูอยา่ งมีวิจารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคดิ และความรูส้ กึ ใน โอกาสตา่ ง ๆ อย่างมีวจิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์ ตัวชีว้ ัด ป.๕/๑ พูดแสดงความรู้ ความคิดเหน็ และความรสู้ ึกจากเรื่องทฟ่ี ังและดู ป.๕/๕ มมี ารยาทในการฟัง การดู และการพดู สาระท่ี ๔ หลกั การใชภ้ าษาไทย มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลย่ี นแปลงของภาษาและพลงั ของ ภาษา ภมู ปิ ญั ญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไว้เป็นสมบตั ขิ องชาติ ตวั ชว้ี ัด ป.๕/๖ แตง่ บทร้อยกรอง ป.๕/๗ ใช้สานวนได้ถูกตอ้ ง สาระท่ี ๕ วรรณคดีและวรรณกรรม มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอยา่ งเห็นคณุ ค่าและ นามาประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ จริง ตัวช้วี ดั ป.๕/๒ ระบุความรแู้ ละขอ้ คดิ จากการอ่านวรรณคดแี ละวรรณกรรมทส่ี ามารถนาไปใช้ในชวี ิตจรงิ ป.๕/๓ อธิบายคุณคา่ ของวรรณคดีและวรรณกรรม

หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ ๕ เร่อื ง วิชาเหมือนสินค้า ๖๗๙ ๒. สาระสาคญั / ความคดิ รวบยอด ๑. การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง ต้องอ่านให้ชัดเจน ถูกต้องตามอักขรวธิ ี และฉนั ทลักษณ์ของบท ร้อยกรอง การอา่ นแบบทานองเสนาะตอ้ งรจู้ กั ทอดจงั หวะ เอื้อนเสียงหรือหลบเสยี ง เสยี งไมเ่ บาหรือดังเกินไป และเน้นเสยี งแสดงอารมณ์ไปตามเนื้อเร่อื ง ๒. การเข้าใจความหมายของคา เป็นการเตรียมความพรอ้ มในการอ่าน ช่วยให้อ่านได้อย่างถูกต้อง คล่องแคลว่ ถอดคาประพนั ธ์และเขา้ ใจความหมายของเรือ่ งทีอ่ า่ นได้ ๓. การอ่านเรอื่ งราวต่าง ๆ แล้วสามารถจับใจความโดยแยกข้อเท็จจริง ข้อคิดเหน็ จากเร่ืองทอ่ี ่านได้ ทาให้เรามเี หตุผล รู้จักพจิ ารณานาความรทู้ ไ่ี ดจ้ ากการอา่ นไปใชป้ ระโยชน์ในการดาเนนิ ชีวติ ๔. การวิเคราะหแ์ ละแสดงความคดิ เห็นจากเรื่องที่อ่าน ตอ้ งตั้งใจอา่ นให้เขา้ ใจ จบั ใจความสาคญั ของ เร่อื งให้ได้ จึงจะแสดงความคดิ เหน็ ไดถ้ ูกต้องตรงประเดน็ และนาความรู้หรือขอ้ คิดไปใชป้ ระโยชนใ์ นการดาเนนิ ชีวติ ๕. การอา่ นงานเขียนประเภท คาแนะนา คาอธบิ ายแสดงขั้นตอน ตอ้ งทาความเขา้ ใจใหช้ ัดเจน จงึ จะ สามารถปฏบิ ัติตามได้อย่างถูกต้อง ปลอดภยั และมีประสทิ ธิภาพ ๖. การพูดแสดงความคิดเห็นจากเร่ืองท่ีฟังและดู ต้องฟังและดูอย่างต้ังใจ จับใจความ สังเกตและ พจิ ารณาข้อเท็จจรงิ ข้อคิดเห็น เพื่อให้เกิดความรู้ ความเขา้ ใจ จึงจะสามารถพูดแสดงความคิดเหน็ ได้อยา่ งมี เหตุผล ๗. การแต่งกาพย์ยานี ๑๑ นิยมใช้ในการพรรณนาเรื่องราวต่างๆ ควรทราบฉันทลักษณ์ของคา ประพนั ธ์ เพือ่ ใหก้ ารแต่งมคี วามถูกต้อง สานวนภาษาไพเราะงดงามสละสลวย จดจาไดง้ า่ ยและเกิดจินตนาการ ตามเนอื้ เรอ่ื ง ๘. สานวนมีความหมายกว้างครอบคลุมถึงคาพังเพยและสุภาษิต การเข้าใจความหมายของสานวน ไทย ทาให้นาไปใชไ้ ดถ้ ูกตอ้ งและเหมาะสม ๙. บทร้อยกรองวิชาเหมอื นสินค้ามีคุณค่าดา้ นวรรณศลิ ป์ ใช้คาเปรยี บเทียบทาใหเ้ ขา้ ใจงา่ ย เห็นภาพ ได้ชัดเจนและใหข้ ้อคิดในการขยันศกึ ษาเล่าเรยี น ผ้นู าไปปฏิบัติย่อมประสบความสขุ ความเจรญิ ในการดาเนิน ชีวติ ๓. สาระการเรยี นรู้ ความรู้ ๑. บอกหลกั การอา่ นออกเสียงบทร้อยกรองประเภทกาพยย์ านี ๑๑ ๒. อธิบายความหมาย ของคา ประโยค และข้อความ ๓. บอกหลักการวเิ คราะห์คณุ ค่า และขอ้ คดิ จากเรอ่ื งท่ีอ่าน ๔. อธิบายความหมายของสานวนเปรียบเทยี บ ๕. บอกหลกั การแยกขอ้ เทจ็ จรงิ และขอ้ คิดเห็น ๖. บอกหลักการพูดแสดงความคิดเห็นจากเร่อื งทีฟ่ งั และดอู ย่างมีเหตผุ ล ๗. บอกหลกั การวเิ คราะห์และแสดงความคดิ เหน็ จากเรือ่ งทอี่ า่ น ๘. บอกหลักการอ่านงานเขียนประเภทคาแนะนาและคาอธบิ ายแสดงขนั้ ตอน ๙. บอกความหมาย ลักษณะของกาพยย์ านี 11 ๑๐. บอกฉันทลกั ษณก์ าพย์ยานี 11 ทกั ษะ/กระบวนการ ๑. อา่ นออกเสียงบทรอ้ ยกรองประเภทกาพย์ยานี ๑๑

๖๘๐ คมู่ อื ครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ๒. เขียนอธบิ ายความหมาย ของคา ประโยค และขอ้ ความ ๓. เขยี นอธบิ ายคุณค่า และข้อคดิ จากเรือ่ งท่ีอ่านเพอ่ื นาไปใช้ในชวี ิต ๔. ใช้สานวนเปรยี บเทียบได้ถกู ตอ้ ง ๕. แยกข้อเทจ็ จรงิ และข้อคดิ เหน็ จากเรื่องทอ่ี ่าน ๖. พูดแสดงความคดิ เหน็ จากเรื่องทฟ่ี งั และดอู ยา่ งมเี หตผุ ล ๗. วิเคราะหแ์ ละแสดงความคดิ เหน็ จากเรอื่ งทอี่ ่าน ๘. อ่านงานเขียนประเภทคาแนะนาและคาอธิบายแสดงข้ันตอน ๙. เขียนฉนั ทลักษณ์กาพยย์ านี 11 ๑๐. แตง่ กาพย์ยานี 11 ได้ เจตคติ ๑. มมี ารยาทในการอ่าน ๒. มมี ารยาทในการเขยี น ๓. มมี ารยาทในการฟงั การดู และการพดู ๔. สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น ๑. ความสามารถในการส่ือสาร ๒. ความสามารถในการคิด ๓. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต ๕. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ๑. ใฝ่เรียนรู้ ๒. มุ่งมั่นในการทางาน ๒. รักความเปน็ ไทย ๖. การประเมนิ ผลรวบยอด ช้ินงานหรอื ภาระงาน ๑. การอา่ นออกเสยี งบทร้อยกรอง ประเภทกาพย์ยานี ๑๑ ๒. การอธบิ ายความหมายของคา ประโยค และข้อความ ๓. ใบงานท่ี ๑ การวเิ คราะห์คณุ คา่ และข้อคิดจากเรื่องที่อ่าน ๔. ใบงานท่ี ๒ การใช้สานวนเปรียบเทียบ ๕. ใบงานที่ ๓ การแยกขอ้ เทจ็ จริง และข้อคดิ เหน็ ๖. พูดแสดงความคดิ เหน็ จากเรอื่ งทีฟ่ งั และดอู ย่างมเี หตผุ ล ๗. ใบงานท่ี ๔ การวิเคราะห์และแสดงความคดิ เห็นจากเรอื่ งที่อ่าน ๘. การอา่ นงานเขยี นประเภทคาแนะนาและคาอธิบายแสดงขน้ั ตอน ๙. ใบงานที่ ๕ การแต่งกาพย์ยานี 11

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี ๕ เรอ่ื ง วชิ าเหมือนสินค้า ๖๘๑ ๗. เกณฑ์การประเมนิ ผลชนิ้ งานหรอื ภาระงาน เกณฑ์การประเมิน การอ่านออกเสยี งบทร้อยกรอง ประเดน็ ระดับคุณภาพ การประเมิน ๑. อักขรวิธี ๔ (ดีมาก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรุง) อา่ นถกู ตอ้ งทกุ คา ออกเสียง ร ล ชดั เจน อ่านผิดไม่เกิน ๓ อ่านผดิ ไม่เกิน ๕ คา อ่านผิดมากกวา่ ๕ คา ออกเสียง ร ล ออกเสยี ง ร ล คา ชัดเจน ชัดเจน ๒. อ่านถกู ต้อง อ่านถกู ต้องตาม อ่านถกู ตอ้ งตาม อ่านถูกตอ้ งตาม อ่านไม่ถูกตอ้ งตาม ตามฉนั ทลกั ษณ์ ลักษณะของคา ลกั ษณะของคา ลกั ษณะของคา ลกั ษณะของคา ประพนั ธ์ แบ่งวรรค ประพนั ธ์ แบ่งวรรค ประพนั ธ์ และแบง่ ประพนั ธ์ แบ่งวรรค ตอนผดิ ๑-๒ แห่ง ตอนผิด ๓-๔ แห่ง วรรคตอนผดิ มาก ตอนถูกตอ้ งทกุ วรรค กวา่ ๔ แหง่ ๓. บุคลกิ ภาพ นง่ั ในทา่ ทเ่ี หมาะสม นั่งในท่าทเี่ หมาะสม นงั่ ในทา่ ท่ไี ม่ นั่งในท่าทไ่ี ม่ ท่าทางใน ใช้สายตามองกวาด ใช้สายตามองกวาด เหมาะสมใชส้ ายตา เหมาะสม ใชน้ ิ้วชี้ การอ่าน ตัวหนงั สอื ไม่ช้หี รอื ตัวหนังสือ ถกู ต้อง มองกวาดสา่ ยหน้า ตามตัวอกั ษร และ ส่ายหน้าตามตัวอักษร เป็นส่วนใหญ่ ตามตัวหนังสอื ส่ายหนา้ ตาม ๔. นา้ เสยี ง ถูกต้องเป็นส่วนนอ้ ย ตวั อักษร ในการอา่ น นา้ เสียงชัดเจนน่มุ นวล น้าเสียงชดั เจน นา้ เสยี งชัดเจนขาด นา้ เสยี งไมช่ ดั เจน น่าฟงั สอดคลอ้ งกบั นุ่มนวล น่าฟังเปน็ ความนุ่มนวลหรอื ขาดความมั่นใจใน ๕. มารยาท เรือ่ งที่อ่าน ส่วนใหญ่ สอดคล้องกบั เรื่องที่ การอ่าน ในการอ่าน อา่ น ไม่สง่ เสยี งดังรบกวน ไมส่ ง่ เสียงดัง สง่ เสียงดงั และ ผูอ้ ืน่ ไมเ่ ล่นในขณะ รบกวนผ้อู ืน่ ไมเ่ ล่น ส่งเสยี งดงั และเล่น เลน่ ในขณะ อา่ น และเกบ็ หนงั สือ ในขณะอา่ น แต่ไม่ ในขณะอ่าน แตเ่ กบ็ อา่ น ไม่เกบ็ เขา้ ทเี่ มอื่ อา่ นเสรจ็ เก็บหนังสอื เขา้ ที่ หนังสอื เขา้ ที่ หนงั สือเขา้ ท่ี เมอื่ อ่านเสร็จ เมื่ออ่านเสรจ็ เมื่ออ่านเสรจ็ เกณฑ์การประเมนิ คุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ ๑๗-๒๐ ดีมาก ๑๓-๑๖ ดี ๑๐-๑๒ พอใช้ ต่ากว่า ๑๐ ปรบั ปรงุ เกณฑ์การตดั สิน : ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินรอ้ ยละ ๖๐ ข้ึนไป

๖๘๒ คู่มือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) เกณฑก์ ารประเมนิ การอธบิ ายความหมายของคา ประโยค และข้อความ ประเดน็ ระดับคุณภาพ การประเมนิ ๑. การรวบรวบ ๔ (ดมี าก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรงุ ) คาศัพท์ รวบรวมคาศพั ท์ได้ รวบรวมคาศัพท์ ๓๒-๔๐ คา รวบรวมคาศพั ทไ์ ด้ รวบรวมคาศพั ท์ได้ ได้ต่ากวา่ ๒๔ คา ๒๘-๓๑ คา ๒๔-๒๗ คา ๒. การเขยี น เขียนสะกดคา เขียนสะกดคา เขยี นสะกดคา เขยี นสะกดคา สะกดคา ถูกต้องท้ังหมด ไม่ถกู ตอ้ ง ๒-๔ คา ไม่ถกู ตอ้ ง ๕-๗ คา ไมถ่ กู ตอ้ มากกวา่ ๓. การเขียน ๗ คา อธบิ าย การเขียนอธบิ าย การเขยี นอธิบาย การเขยี นอธบิ าย การเขยี นอธิบาย ความหมาย ความหมายของคา ความหมายของ ความหมายของ ความหมายของ ๔. ความสะอาด ถกู ตอ้ งทั้งหมด ไม่ถูกตอ้ ง ๒-๔ คา ไมถ่ กู ตอ้ ง ๕-๗ คา ไม่ถกู ต้อมากกวา่ เปน็ ระเบียบ ๗ คา เขยี นได้สะอาด เปน็ ส่วนใหญส่ ะอาด เป็น มีข้อบกพรอ่ ง มขี อ้ บกพร่องมาก ๕. การสง่ งาน ระเบยี บ แสดงออก ระเบียบ แตย่ งั มี คอ่ นขา้ งมาก ตรงตาม ถงึ ความประณตี ขอ้ บกพรอ่ งเล็กนอ้ ย สง่ งานช้ากว่า กาหนดเวลา ตัง้ ใจ เวลาท่กี าหนด เกนิ กวา่ ๕ วัน ส่งงานตรงตามเวลา สง่ งานชา้ กว่าเวลา สง่ งานชา้ กวา่ เวลา ที่กาหนด ทก่ี าหนด ๑-๒ วนั ท่ีกาหนด ๓-๕ วัน เกณฑ์การประเมินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ ๑๗-๒๐ ดมี าก ๑๓-๑๖ ดี ๑๐-๑๒ พอใช้ ต่ากวา่ ๑๐ ปรับปรงุ เกณฑก์ ารตัดสิน : ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ รอ้ ยละ ๖๐ ขน้ึ ไป

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๕ เรื่อง วชิ าเหมอื นสนิ คา้ ๖๘๓ เกณฑก์ ารประเมินใบงานท่ี ๐๑ การวิเคราะห์คณุ คา่ และขอ้ คิดจากเร่อื งที่อ่าน ประเด็น ๔ (ดมี าก) ระดับคุณภาพ ๑ (ปรับปรุง) การประเมนิ - อธิบายคุณคา่ ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ขาดองค์ การวเิ คราะห์ ด้านวรรณศิลป์ได้ ขาดองคป์ ระกอบไป ขาดองคป์ ระกอบไป ประกอบไป ๓ คณุ คา่ และสรปุ - อธิบายคณุ คา่ ด้าน ๑ องคป์ ระกอบ ๒ องค์ประกอบ องค์ประกอบ ข้อคดิ จากเรอ่ื ง เน้ือหาสาระได้ ที่อ่านไปใชใ้ น - อธิบายคุณคา่ ชีวิต คุณค่าดา้ นสงั คม และวฒั นธรรมได้ - อธบิ ายการนา ความรู้ ขอ้ คดิ และ คณุ คา่ ทไี่ ดร้ บั จาก เรอื่ งทอ่ี า่ นไปใช้ใน การดาเนนิ ชีวิตได้ เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 4 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบางครงั้ ให้ 1 คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมน้อยครง้ั เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ ระดับคุณภาพ ดีมาก (4) ช่วงคะแนน ดี (3) 15-16 พอใช้ (2) 13-14 ปรับปรงุ (1) 10-12 ตา่ กว่า 10

๖๘๔ คมู่ ือครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) เกณฑ์การประเมนิ เรอ่ื ง การพูดแสดงความรู้และความคดิ เห็นจากเร่ืองที่ฟงั และดู ประเดน็ ๔ (ดีมาก) ระดับคุณภาพ ๑ (ปรับปรุง) การประเมนิ ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) พูดแสดงความรู้ และ พดู แสดงความรู้ ๑. การพูดแสดง ความคิดเห็นได้สัมพนั ธ์ พูดแสดงความรู้ และ พดู แสดงความรู้ และ และความคดิ เหน็ ความรแู้ ละความ กับเหตกุ ารณ์ แสดง ความคดิ เหน็ ได้สัมพนั ธ์ ความคิดเหน็ ไดส้ ัมพันธ์ ได้สมั พันธก์ ับเหตกุ ารณ์ คดิ เห็น เหตุผลและยกตวั อย่าง กับเหตุการณ์ แสดง กับเหตกุ ารณ์ แสดง แสดงเหตผุ ลและยก ประกอบชดั เจน ใช้ เหตุผลและยกตวั อย่าง เหตผุ ลและยกตัวอย่าง ตวั อยา่ งประกอบบา้ ง ๒. การนาเสนอ ภาษาถูกต้อง พูดฉะฉาน ประกอบชดั เจน ใช้ ประกอบชดั เจน เลก็ น้อย ข้อมูล น้าเสยี งน่าฟงั บุคลกิ ดี ภาษาถูกตอ้ ง พดู ฉะฉาน ไม่เตรียมการพูด ขาด พูดใหข้ อ้ มลู ถูกตอ้ ง ความพร้อมในการพูด สมบูรณ์ เตรยี มตวั พดู พูดให้ข้อมลู ค่อนข้าง พูดใหข้ อ้ มลู ชัดเจน และ เป็นอยา่ งดี สมบรู ณ์ เตรียมตวั พูด เตรยี มตัวพดู ดีพอสมควร คอ่ นขา้ งดี ๓. บุคลิกภาพ มีการแสดงออกอย่าง มกี ารแสดงออกอย่าง มีการแสดงออกอย่าง การแสดงออก ไม่ ลลี าในการพูด เหมาะสม ใช้น้าเสียง เหมาะสมสม ใช้ เหมาะสม ใชน้ ้าเสยี ง เหมาะสม ไม่น่าสนใจ ตรงึ ความสนใจของ นา้ เสียงตรึงความสนใจ ตรึงความสนใจได้ ผฟู้ ัง มีสมาธิและมั่นใจ ในการพดู ของผู้ฟงั มีสมาธแิ ละ พอสมควร ค่อนข้างม่ันใจในการพูด ๔. การใชภ้ าษา ใช้ภาษาเหมาะสมกบั ใช้ภาษาเหมาะสมกับ ใช้ภาษาเหมาะสมกบั ใช้ภาษาไม่เหมาะสมกบั กาลเทศะและ กาลเทศะและ กาลเทศะและเหตกุ ารณ์ กาลเทศะและเหตุการณ์ เหตุการณ์ เหตุการณ์ สื่อความ ส่อื ความหมายชดั เจน สอ่ื ความหมายชดั เจน คอ่ นขา้ งชัดเจน พอสมควร ๕. มารยาทใน ๑. มองหนา้ ผฟู้ ังอยา่ ง ปฏิบัตไิ ด้ ๓ ข้อ ปฏบิ ัติได้ ๒ ขอ้ ปฏบิ ตั ิได้ ตา่ กว่า ๒ ขอ้ การพดู สนใจ ๒. พูดให้ไดย้ นิ อยา่ งท่ัวถงึ ๓. พูดด้วยถอ้ ยคา สภุ าพชดั เจน ๔. ใชน้ ้าเสยี งนา่ ฟัง เหมาะสม เกณฑก์ ารประเมนิ คุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ ๑๗-๒๐ ดมี าก ๑๓-๑๖ ดี ๑๐-๑๒ พอใช้ ตา่ กว่า ๑๐ ปรบั ปรงุ เกณฑก์ ารตดั สนิ : ผ่านเกณฑ์การประเมินร้อยละ ๖๐ ขน้ึ ไป

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๕ เรอ่ื ง วิชาเหมือนสินคา้ ๖๘๕ เกณฑก์ ารประเมินการทางานกลมุ่ ประเดน็ ระดับคุณภาพ การประเมนิ ๔ (ดีมาก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรงุ ) ขาดข้นั ตอน ๓ 1. กระบวนการ 1. มปี ระธาน ขาดขั้นตอน 1 ขาดข้ันตอน 2 ขนั้ ตอนขึ้นไป ทางานกลมุ่ เลขานกุ าร ผรู้ ่วมงาน ขนั้ ตอน หรือไม่ ขน้ั ตอน ขนึ้ ไป หรือไมช่ ัดเจน ผนู้ าเสนอ ชัดเจน หรือไม่ชดั เจน 2. มกี ารวางแผนงาน มีผู้มหี นา้ ที่ 3. เตรียมวสั ดุ แตไ่ มร่ บั ผดิ ชอบ อปุ กรณ์ ๓ คนขนึ้ ไป 4. ปฏิบตั ิตามแผน สมาชกิ ไม่ให้ และพัฒนางาน ความรว่ มมอื ใน การแสดงความ 2. ความ ทุกคนทาหนา้ ที่ของ มผี ู้มหี น้าท่แี ตไ่ ม่ มีผู้มหี น้าทแ่ี ตไ่ ม่ คดิ เหน็ รับผิดชอบตอ่ ตนเอง รบั ผดิ ชอบ รับผิดชอบ 1 คน รบั ผิดชอบ 2 คน หนา้ ที่ อยา่ งเต็ม ขน้ึ ไป ความสามารถ 3. การแสดง สมาชกิ ทกุ คน สมาชิกส่วนใหญ่ สมาชิกมากกวา่ ความคดิ เห็น รว่ มแสดงความ ร่วมแสดงความ คร่ึงรว่ มแสดง คิดเห็น คิดเห็น ความคิดเหน็ 4. การร่วมงาน ทุกคนร่วมกจิ กรรม รอ้ ยละ 80 ของ รอ้ ยละ 60 ของ ร้อยละ ๕๐ ของ กลมุ่ อยา่ ง กลุ่มอย่างมคี วามสขุ กลมุ่ รว่ มกจิ กรรม กลุม่ รว่ มกจิ กรรม กลุ่มรว่ มกจิ กรรม มคี วามสุข ผลงานมคี ุณภาพ กลุม่ อยา่ งมีความสุข กลุ่มอย่างมคี วามสขุ กล่มุ อย่างมี 5. ความสาเรจ็ และเสรจ็ ตาม ความสุข ของผลงาน กาหนดเวลา ผลงานมคี ณุ ภาพ ผลงานมีคณุ ภาพ ผลงานไม่มี เสรจ็ ช้ากว่าเวลาที่ เสร็จไมท่ นั ตาม คุณภาพ เสร็จไม่ กาหนดเล็กน้อย กาหนดเวลา ทันตามกาหนด เวลา รวม ๒๐ เกณฑก์ ารประเมนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ ๑๗-๒๐ ดมี าก ๑๓-๑๖ ดี ๑๐-๑๒ พอใช้ ตา่ กว่า ๑๐ ปรับปรงุ เกณฑก์ ารตัดสนิ : ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ร้อยละ ๖๐ ขึ้นไป

๖๘๖ คมู่ อื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) เกณฑ์การประเมินผลการสังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ประเดน็ ๔ (ดีมาก) ระดับคุณภาพ ๑ (ปรับปรุง) การประเมนิ ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) 1. ความต้งั ใจ สนใจในการเรียนไม่ สนใจในการเรยี น สนใจในการเรียน ไมส่ นใจในการ ในการเรยี น คุยหรือเลน่ กัน คยุ กนั เลก็ นอ้ ย คุยกนั และเลน่ กนั เรียน คุยและเลน่ ในขณะเรียน ในขณะเรยี น ในขณะเรยี นเป็น กนั ในขณะเรียน บางครงั้ 2. ความสนใจ มกี ารถามในหัวขอ้ ท่ี มกี ารถามในหัวขอ้ ที่ มีการถามในหัวข้อที่ ไม่ถามในหวั ขอ้ ท่ี และการซกั ถาม ตนไมเ่ ขา้ ใจทกุ เร่อื ง ตนไม่เขา้ ใจเปน็ ตนไม่เขา้ ใจเปน็ ตนไมเ่ ข้าใจและไม่ และกลา้ แสดงออก ส่วนมากและกลา้ บางครง้ั และไม่ค่อย กล้าแสดงออก แสดงออก กลา้ แสดงออก 3. การตอบ รว่ มตอบคาถามใน รว่ มตอบคาถามใน ร่วมตอบคาถามใน ไม่ตอบคาถาม คาถาม เรอื่ งทค่ี รูถามและ เร่ืองที่ครถู ามและ เรอ่ื งท่คี รถู ามเปน็ 4. มสี ่วนรว่ มใน ตอบคาถามถูกทุกขอ้ ตอบคาถาม บางครง้ั และตอบ ไม่มคี วามร่วมมอื กจิ กรรม รว่ มมือและ ส่วนมากถูกตอ้ ง คาถามถกู เป็น ในขณะทา ช่วยเหลอื เพื่อนใน รว่ มมอื และ บางครง้ั กิจกรรม การทากจิ กรรม ช่วยเหลอื เพ่อื นเปน็ รว่ มมอื และ ส่วนใหญ่ในการทา ช่วยเหลือเพอ่ื นใน กจิ กรรม การทากจิ กรรมเปน็ บางครง้ั ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ 14-16 ดมี าก (4) 11-13 ดี (3) 8-10 พอใช้ (2) 0-7 ปรับปรงุ (1)

หน่วยการเรียนรูท้ ี่ ๕ เรื่อง วชิ าเหมอื นสนิ คา้ ๖๘๗ เกณฑก์ ารประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ใฝ่เรียนรู้ ตัวชี้วัดท่ี ๔.๑ ตง้ั ใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเข้ารว่ มกิจกรรมการเรียนรู้ พฤติกรรมบง่ ชี้ ดเี ย่ียม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไม่ผา่ น (๐) ๔.๑.๑ ตัง้ ใจเรียน ต้งั ใจเรียน ตั้งใจเรยี น ตงั้ ใจเรียน ไมต่ ั้งใจเรยี น ๔.๑.๒ เอาใจใส่และมี เอาใจใส่ และมี เอาใจใส่ และมี เอาใจใส่ และมี ความเพียรพยายาม ความเพียร ในการเรียนรู้ ความเพยี ร ความเพยี ร พยายามในการ พยายามในการ พยายามในการ ๔.๑.๓ สนใจเข้ารว่ มกจิ กรรม เรยี นรู้ เขา้ รว่ ม เรยี นรู้ เข้ารว่ ม เรยี นรู้ เข้าร่วม การเรยี นรตู้ ่าง ๆ กิจกรรมการเรยี น กจิ กรรมการเรียน กจิ กรรมการเรยี น รู้ต่าง ๆ เปน็ ประจา รู้ตา่ ง ๆ บอ่ ยครงั้ ร้ตู ่าง ๆ บางคร้งั มุ่งมัน่ ในการทางาน ตัวชี้วัดที่ ๖.๑ ตง้ั ใจและรบั ผิดชอบในการปฏบิ ตั ิหนา้ ทกี่ ารงาน พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ดเี ย่ยี ม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไมผ่ ่าน (๐) ไม่ตัง้ ใจปฏิบัติ ๖.๑.๑ เอาใจใส่ตอ่ การ ตัง้ ใจและ ต้งั ใจและ ตั้งใจและ หนา้ ทีก่ ารงาน ปฏบิ ตั หิ น้าท่ที ี่ไดร้ บั รับผิดชอบใน รับผดิ ชอบใน รับผดิ ชอบ มอบหมาย การปฏบิ ตั หิ น้าท่ี การปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ี ในการปฏิบตั ิ ๖.๑.๒ ตัง้ ใจและรับผิดชอบ ท่ไี ด้รับมอบหมาย ท่ีได้รับมอบหมาย หน้าท่ีทไ่ี ดร้ บั ในการทางานใหส้ าเรจ็ ให้สาเรจ็ มี ให้สาเรจ็ มี มอบหมายให้ ๖.๑.๓ ปรับปรงุ และพัฒนา การปรบั ปรงุ และ การปรับปรงุ การ สาเร็จ การทางานด้วย พัฒนาการทางาน ทางานใหด้ ีข้นึ ตนเอง ใหด้ ีข้ึนด้วยตนเอง ตวั ชวี้ ดั ที่ ๖.๒ ทางานดว้ ยความเพยี รพยายามและอดทนเพือ่ ให้งานสาเร็จตามเปา้ หมาย พฤติกรรมบง่ ชี้ ดีเย่ียม (๓) ดี (๒) ผา่ น (๑) ไมผ่ า่ น (๐) ๖.๒.๑ ทุ่มเททางาน อดทน ไมข่ ยนั อดทน ทางานดว้ ย ทางานด้วย ทางานดว้ ย ในการทางาน ไม่ย่อท้อตอ่ ปญั หา ความขยนั อดทน ความขยนั อดทน ความขยัน และอุปสรรค ไมย่ อ่ ท้อต่อปญั หา พยายามให้งาน พยายามให้งาน ในการทางาน ในการทางาน สาเรจ็ ตาม สาเรจ็ ตาม ๖.๒.๒ พยายามแก้ปญั หา พยายามให้งาน เปา้ หมาย เป้าหมาย และอปุ สรรคใน สาเรจ็ ตาม ชน่ื ชม ผลงานดว้ ย การทางานใหส้ าเรจ็ เป้าหมาย ชื่นชม ความภาคภูมิใจ ๖.๒.๓ ช่ืนชมผลงานดว้ ย ผลงานดว้ ย ความภาคภมู ิใจ ความภาคภูมิใจ

๖๘๘ คู่มือครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) รกั ความเป็นไทย ตวั ชว้ี ัดที่ ๗.๒ เห็นคณุ คา่ และใชภ้ าษาไทยในการส่อื สารไดอ้ ย่างถกู ต้องเหมาะสม พฤติกรรมบง่ ชี้ ดเี ย่ยี ม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไมผ่ ่าน (๐) ๗.๒.๑ ใชภ้ าษาไทยและ ใชภ้ าษาไทย เลข ใช้ภาษาไทย เลข ใช้ภาษาไทย เลข ไม่สนใจใช้ เลขไทยในการสอ่ื สาร ไทยในการสือ่ สาร ไทยในการสื่อสาร ไทยในการส่ือสาร ภาษาไทยอยา่ ง ได้อยา่ งถกู ต้อง ไดถ้ กู ต้อง ไดถ้ ูกต้อง แนะนาให้ผูอ้ ่นื ถูกตอ้ ง เหมาะสม เหมาะสม แนะนา เหมาะสม แนะนา ใชภ้ าษาไทย ๗.๒.๒ ชักชวน แนะนาให้ ใหผ้ ้อู ่ืนใชภ้ าษา ให้ผู้อนื่ ใชภ้ าษา ทถี่ ูกตอ้ ง ผอู้ น่ื เห็นคณุ คา่ ของ ไทยท่ีถกู ตอ้ งเปน็ ไทยทีถ่ กู ตอ้ ง การใชภ้ าษาไทยท่ี ประจา เปน็ แบบ ถูกต้อง อย่างที่ดีดา้ น การใช้ภาษาไทย

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๕ เรื่อง วิชาเหมือนสนิ ค้า ๖๘๙ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 1 เร่ือง การอ่านบทร้อยกรองประเภทกาพย์ยานี 11 หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 5 เร่อื ง วชิ าเหมือนสนิ คา้ เวลา 1 ชว่ั โมง กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย รายวิชาภาษาไทย ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 5 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ัด สาระที่ 1 การอา่ น มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพ่ือนาไปใช้ตัดสนิ ใจ แกป้ ัญหาในการดาเนิน ชีวิต และมนี ิสัยรกั การอ่าน ตัวช้วี ัด ป.๕/๑ อา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยแกว้ และบทรอ้ ยกรองไดถ้ ูกตอ้ ง ป.๕/8 มมี ารยาทในการอา่ น ๒. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง ประเภทกาพย์ยานี 11 ควรอา่ นให้มีสาเนียงเสยี งทีส่ ูง ต่า หนกั เบา ยาว ส้ัน มีการเอื้อนเสียง ทอดเสียง และเน้นสัมผัสให้ชัดเจน ไพเราะ น้าเสียงแสดงอารมณ์ตามเนื้อหาของ บทรอ้ ยกรอง ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ ความเข้าใจ (K) บอกหลักการอ่านออกเสียงบทรอ้ ยกรองประเภทกาพยย์ านี 11 ได้ 3.2 ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) อา่ นออกเสยี งบทร้อยกรองประเภทกาพยย์ านี 11 ได้ 3.3 ดา้ นคุณลกั ษณะ เจตคติ ค่านยิ ม (A) มีมารยาทในการอา่ น ๔. สาระการเรยี นรู้ การอา่ นออกเสยี งบทร้อยกรองประเภทกาพยย์ านี 11 ๕. สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียน 5.1 ความสามารถในการส่อื สาร 5.2 ความสามารถในการคิด ๖. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 6.1 ใฝ่เรยี นรู้ 6.2 รักความเปน็ ไทย 7. กิจกรรมการเรียนรู้

๖๙๐ คมู่ ลําดบั การจดั กจิ กรรมการเรียนร ท่ี รายวิชา ภาษาไทย หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 5 เร 1. แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1 เรือ่ ง การอา่ นออกเสยี งบท ขอบเขตเนอ้ื หา/ ขั้นตอนการจดั เวลา แ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรียนรู้ ท่ีใช้ กจิ กรรมคร ขอบเขตเนื้อหา ข้ันนาํ 1. การอา่ นออกเสียง 5 1. ครนู าํ บทรอ้ ยกรอง บทร้อยกรองประเภท นาที ดอกไม้ในสวน มาใหน้ กาพยย์ านี 11 อา่ น แลว้ ต้ังคาํ ถาม 2. มารยาทในการอา่ น ดอกไม้ในส หลายหลากสีมกี ฝูงผึ้งบนิ ดมดอม ย้อมฤทัยให้ช่ืนบ ครู : บทรอ้ ยกรองข้าง บทรอ้ ยกรองประเภท ครมู ีตวั เลือกให้เลือกด ก. กลอนแปด ข. กาพ ค. กลอนส่ี ง. กลอ (ครคู วรเฉลย โดยนาํ ผ บงั คบั กาพย์ยานี ๑๑ นักเรยี นเปรยี บเทยี บ) 2. ครูสนทนาเพอื่ ทบท หลักการอา่ นออกเสีย  

ือครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) รู้ ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 5 รือ่ ง วิชาเหมอื นสนิ คา้ จาํ นวน 10 ชัว่ โมง ทรอ้ ยกรองประเภทกาพยย์ านี 11 จาํ นวน 1 ช่ัวโมง แนวการจดั การเรยี นรู้ ส่อื การเรยี นรู้ การประเมนิ รู กจิ กรรมนกั เรยี น การเรยี นรู้ งเรื่อง 1. นักเรยี นอ่านบทรอ้ ยกรอง - บทร้อยกรอง - สงั เกตการตอบ นกั เรียน เรอื่ ง ดอกไม้ในสวน แลว้ ตอบ เรือ่ ง ดอกไมใ้ น คาํ ถามของ สวนน้ี คาํ ถาม สวน นักเรียน กลนิ่ หอม นกั เรยี นตอบคาํ ถาม - คําถาม ม นักเรยี น : ก. กลอนแปด บาน นกั เรียน : ข. กาพย์ยานี 11 งตน้ เป็น นกั เรยี น : ค. กลอนส่ี ทใด โดย นกั เรยี น : ง. กลอนหก ดังน้ี (ซึ่งแตล่ ะคนอาจตอบได้ พยย์ านี 11 แตกต่างกนั ) อนหก ผงั บัง นกั เรียนเปรยี บเทียบกับผัง บงั คับ มาให้ 2. นักเรียนสนทนากับครู ) เกีย่ วกบั หลกั การอ่านออก ทวน ยงบท

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๕ เรอ่ื ง วชิ าเหมือนสนิ คา้ ลาดับ ขอบเขตเน้ือหา/ ขั้นตอนการจัด เวลา แ ท่ี จุดประสงค์การเรียนรู้ การเรยี นรู้ ทใ่ี ช้ กจิ กรรมครู รอ้ ยกรองว่า ต้องมที กั อ่านอยา่ งไรจงึ จะทาให 3. ครแู สดงความคิดเห ทา้ ย แลว้ เชื่อมโยงเข้า ในบทเรยี น 2. ขน้ั สอน 25 1. ครูเปดิ คลิปวีดิทศั น นาที อ่านบทรอ้ ยกรองกาพ ๑๑ แบบทานองเสนาะ วิชาเหมอื นสินค้า ให้น ฟัง จากน้ันครตู งั้ คาถา ครู : 1. บทรอ้ ยกรองน อะไร 2. การอ่านบทร้อ น้ี มีวธิ ีการอา่ นอยา่ งไร (เปน็ การถามเพื่อย้าหล อา่ นบทรอ้ ยกรองอกี ค

๖๙๑ แนวการจดั การเรยี นรู้ สื่อการเรียนรู้ การประเมิน กิจกรรมนกั เรยี น การเรยี นรู้ กษะการ บทรอ้ ยกรองอยา่ งไรจงึ จะทาให้ หไ้ พเราะ ไพเราะ เชน่ - การเออื้ นเสียง ทอดเสยี ง - อา่ นออกเสียงดัง ชัดเจน - แบ่งจังหวะการอา่ น ให้ถูกตอ้ ง หน็ สรปุ 3. นักเรียนเขา้ ส่บู ทเรยี น าสเู่ น้ือหา นก์ าร 1. นกั เรียนดแู ละฟงั คลปิ - คลปิ วดี ิทศั น์ พยย์ านี วดี ทิ ัศนก์ ารอ่านบทร้อยกรอง บทรอ้ ยกรองเรอื่ ง ะเรอ่ื ง เรอ่ื ง วิชาเหมอื นสินคา้ และ วชิ าเหมอื นสนิ คา้ นกั เรยี น ตอบคาถาม ดงั นี้ ามวา่ นักเรียน : 1. วชิ าเหมือนสนิ ค้า - คาถาม - สังเกตการตอบ นช้ี อื่ วา่ คาถามของ อยกรอง 2. มกี ารเอ้อื นเสียง นกั เรียน รบ้าง ทอดเสียง แบ่งจงั หวะการอ่าน ลกั การ นา้ เสียงไพเราะ ชดั เจน ฯลฯ ครง้ั )

๖๙๒ ขอบเขตเนอ้ื หา/ ขน้ั ตอนการจดั เวลา คมู่ ลําดบั จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรียนรู้ ท่ใี ช้ แ ท่ี จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ กจิ กรรมคร 1. บอกหลกั การอา่ น 2. จากนน้ั ครตู ั้งคาํ ถา ออกเสียงบทรอ้ ยกรอง ครู : นอกจากการอา่ น ประเภทกาพย์ยานี ทาํ นองแล้ว การอ่านบ 11 ได้ กรองสามารถอา่ นแบบ บ้าง 3. ครูอธิบายรปู แบบก ออกเสยี ง บทรอ้ ยกร แบบ ได้แก่ - อ่านออกเสยี งปกติ - อ่านออกเสียงเปน็ ท 4. ครอู ธบิ ายหลักการ เสียงบทรอ้ ยแก้ว และ จังหวะการอา่ น จากน บทร้อยกรองมา 2 บท นกั เรียนชว่ ยกันแบ่งจ การอ่านดว้ ยการทาํ เครือ่ งหมาย / (ทับ)  

อื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรียนรู้ สอ่ื การเรยี นรู้ การประเมิน - คําถาม การเรียนรู้ รู กิจกรรมนกั เรยี น - สงั เกตการตอบ - สอ่ื PPT คาํ ถามของ ามตอ่ ไปว่า 2. นกั เรยี นตอบคําถาม ใบความร้ทู ี่ 1 นกั เรียน นแบบใส่ นกั เรียน : การอ่านบทร้อย - บทรอ้ ยกรอง บทรอ้ ย กรองสามารถอ่านแบบออก เร่อื ง วชิ าเหมอื น 1. สังเกต บใดได้อกี เสียงปกติเหมือนการอ่านบท สินคา้ การตอบคําถาม รอ้ ยแกว้ (ตอบคาํ ถามจาก ของนกั เรียน ประสบการณ์เดมิ ) การอา่ น 3. นักเรยี นฟงั ครูอธบิ าย รอง 2 รปู แบบการอา่ นออกเสียง ทาํ นอง บทรอ้ ยกรองและแสดง ความคดิ เห็นร่วมกัน ประกอบ กบั การศกึ ษาจากใบความรูท้ ี่ 1 ควบคกู่ นั รอ่านออก 4. นกั เรยี นวิเคราะหห์ ลกั การ ะการแบ่ง อา่ นบทรอ้ ยกรอง และจงั หวะ นัน้ ครูยก การอา่ น จากน้ันนกั เรียน ท แลว้ ให้ ชว่ ยกนั แบ่งจังหวะในการอา่ น จงั หวะใน บทรอ้ ยกรอง ดว้ ยการทํา เครอ่ื งหมาย / (ทบั ) ค่ัน จงั หวะ

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๕ เร่ือง วชิ าเหมือนสินค้า ลําดบั ขอบเขตเน้อื หา/ ข้นั ตอนการจดั เวลา แ ท่ี จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรียนรู้ ทใ่ี ช้ กจิ กรรมคร 5. ครสู อบถามความค 3. 2. อ่านออกเสยี งบท ขัน้ ปฏบิ ตั ิ 15 ของนกั เรยี นวา่ จะอ่า ร้อยกรองประเภท นาที เดย่ี วหรอื อา่ นแบบกล กาพยย์ านี 11 ได้ 3. มีมารยาทใน 6. เม่ือตกลงกันไดแ้ ล การอ่าน ใหน้ ักเรียนฝกึ อา่ นบท กรองเรอ่ื ง วิชาเหมือน และทาํ เครอื่ งหมาย / แบ่งจังหวะในการอ่าน กรองในใบงานที่ 1 7. ครูเดนิ ดูการฝกึ อา่ กรองของนักเรียน 8. ครใู หน้ กั เรยี นแตล่ ออกมาอา่ นบทรอ้ ยกร ชั้นเรยี นทีละกลมุ่ ดว้ ย สุ่มแบบจบั ฉลาก 9. เม่ือแต่ละกลุม่ อา่ น ใหเ้ พื่อน ๆ ช่วยกันปร การอ่าน

๖๙๓ แนวการจดั การเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ การประเมนิ - บทรอ้ ยกรอง การเรยี นรู้ รู กจิ กรรมนกั เรยี น เรือ่ ง วชิ าเหมอื น สินค้า ใบงานที่ 1 2. ประเมนิ คิดเห็น 5. นกั เรยี นแสดงความคดิ เห็น การอ่านออกเสียง านแบบ รว่ มกนั มที ั้งอา่ นเด่ยี วและ - บทรอ้ ยกรอง บทรอ้ ยกรอง ล่มุ อา่ นแบบกลุ่ม เร่ือง วชิ าเหมอื น 3. สงั เกต สินค้า พฤติกรรม ล้ว ครูจึง 7. จากน้ันนักเรียนฝึกอ่าน - ใบงานที่ 1 ของนักเรยี น ทร้อย ออกเสียงบทรอ้ ยกรองเรอื่ ง นสินคา้ วิชาเหมือนสินค้าและทาํ / (ทับ) เครอื่ งหมาย / (ทบั ) เพอื่ แบง่ นบทรอ้ ย จงั หวะในการอา่ นบทรอ้ ยกรอง ลงใน ใบงานที่ 1 านบทร้อย 7. นักเรยี นขอคําปรึกษาจาก ละกลมุ่ ครู และปรบั ปรงุ วิธกี ารอ่านของ รองหนา้ ตนเอง ยวิธกี าร 8. นักเรียนแตล่ ะกลุม่ ออกมา อ่านบทรอ้ ยกรองหนา้ ช้นั เรยี น นเสรจ็ ครู 9. เพอื่ น ๆ แต่ละกลุ่มช่วยกนั ระเมิน ประเมนิ การอ่านออกเสยี งบท รอ้ ยกรองของกล่มุ ทอ่ี อกมา

๖๙๔ ขอบเขตเนื้อหา/ ข้นั ตอนการจดั เวลา คมู่ ลําดบั จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ทใ่ี ช้ แ ท่ี กิจกรรมคร ออกเสียงบทรอ้ ยกรอ 10. ครคู ัดเลอื กกลมุ่ ท ไพเราะมาอา่ นให้เพ่ือน ต้นทาง/ปลายทางฟังพ 4. ข้นั สรปุ 5 1. ครตู ัง้ คําถามชวนส นาที ครกู ล่าววา่ จากการท เคยเรยี นเกี่ยวกับการอ เสียงบทร้อยกรองมาแ คําถามคือ การเรยี ช่ัวโมงนี้ นกั เรยี นไดร้ ับ อะไรเพมิ่ ขนึ้ บา้ ง  

อื ครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรยี นรู้ สอ่ื การเรียนรู้ การประเมิน รู กิจกรรมนกั เรยี น การเรียนรู้ อง อ่านบทรอ้ ยกรอง ท่ีอา่ นได้ 10. นักเรยี นตน้ ทาง/ น ๆ ท้ัง ปลายทาง ฟังการอา่ นของ พร้อมกัน กล่มุ ที่ครคู ดั เลอื ก พรอ้ มทัง้ ดู สรุป ดงั นี้ เปน็ แนวทางการอ่าน ท่ีนักเรียน บทร้อยกรองคร้งั ตอ่ ไป อ่านออก 1. นักเรียนร่วมกันตอบคําถาม แลว้ ดังน้ี ยนใน นักเรียนช่วยกันวิเคราะหส์ รุป บความรู้ ตามที่ครพู ดู จากน้นั ตอบ คําถามว่า การเรยี นในช่วั โมงนี้ ทําใหไ้ ดร้ ับความรอู้ ะไรเพ่ิมขึน้ บ้าง ตัวอย่างการตอบ เช่น - ไดร้ ู้กลวธิ ีในการอา่ นออก เสยี งบทรอ้ ยกรอง เช่น การเอ้ือนเสียง การทอดเสียง การใชน้ ํ้าเสยี ง - ไดร้ ู้วิธีการเนน้ เสยี งแสดง อารมณ์ ให้เปน็ ไปตามเนื้อ เร่ือง เชน่ รกั ร่าเริง โกรธ

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๕ เรอื่ ง วชิ าเหมือนสนิ ค้า ลําดบั ขอบเขตเนื้อหา/ ข้นั ตอนการจดั เวลา แ ที่ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรยี นรู้ ทใ่ี ช้ กิจกรรมคร 2. จากนัน้ ครมู อบหม นกั เรียนไปฝกึ อา่ นทีบ่ สามารถเลือกบทอา่ น ได้ในระดับช้นั ประถม ที่ 5

แนวการจดั การเรยี นรู้ ส่อื การเรยี นรู้ ๖๙๕ รู กิจกรรมนกั เรยี น การประเมิน เศรา้ โดยใชน้ ํ้าเสยี งใหเ้ ขา้ กบั การเรยี นรู้ สถานการณ์นนั้ ๆ มายให้ 2. นกั เรยี นรบั ทราบและนํา บา้ น โดย ความรูท้ ี่ไดไ้ ปใช้ในชวี ติ นท่ีสนใจ ประจําวัน และฝึกอา่ นบท มศึกษาปี ร้อยกรองใหเ้ กดิ ความชาํ นาญ คล่องแคลว่ จนสามารถนาํ ไป อ่านบทกาพย์ยานี ๑๑ บท อน่ื ๆ ได้อยา่ งไพเราะ

696 คมู่ อื ครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) 8. สอ่ื การเรยี นรู้/แหลง่ เรียนรู้ 1. บทรอ้ ยกรองประเภทกาพยย์ านี 11 เรอื่ ง วิชาเหมอื นสนิ ค้า 2. ใบความรูท้ ี่ 1 เรื่อง การอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยกรองประเภทกาพย์ยานี 11 3. ใบงานท่ี 1 เร่ือง การอ่านออกเสยี งบทร้อยกรองประเภทกาพยย์ านี 11 4. สอ่ื PPT เรอื่ ง การอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยกรองประเภทกาพย์ยานี 11 5. คลปิ วิดโี อหรือบทอ่านกาพยย์ านี ๑๑ เรื่อง วิชาเหมือนสนิ คา้ 9. การประเมินผลรวบยอด ช้ินงานหรือภาระงาน - ใบงานที่ 1 เรื่อง การอ่านออกเสียงบทรอ้ ยกรองประเภทกาพยย์ านี 11 สิ่งท่ตี ้องการวัด / ประเมนิ วิธีการ เครือ่ งมอื ท่ีใช้ เกณฑ์ - คาถาม/ใบงาน ร้อยละ ๖๐ ดา้ นความรู้ ความเข้าใจ (K) ข้นึ ไป - บอกหลกั การอ่านออกเสียง - พิจารณาการตอบคาถาม บทรอ้ ยกรองประเภท ของนักเรยี น กาพยย์ านี 11 ด้านทักษะและกระบวนการ (P) - แบบประเมินการอา่ น ร้อยละ ๖๐ - อ่านออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง - ประเมนิ การอ่านอ่านออก อ่านออกเสยี งบทรอ้ ย ขึ้นไป ประเภทกาพยย์ านี 11 เสียงบทร้อยกรองประเภท กรองประเภทกาพย์ยานี กาพย์ยานี 11 11 ดา้ นคุณลักษณะ เจตคติ - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม รอ้ ยละ ๖๐ ค่านิยม (A) ข้นึ ไป - มีมารยาทในการอ่าน คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ - สังเกตพฤติกรรมของ - แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ 1. ใฝเ่ รยี นรู้ นักเรียน อนั พึงประสงค์ ผา่ น 2. มุ่งมัน่ ในการทางาน สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน - แบบประเมนิ ระดบั คุณภาพ 1. ความสามารถในการสื่อสาร - สังเกตพฤติกรรมของ สมรรถนะสาคัญของ ผา่ น 2. ความสามารถในการคดิ นกั เรียน ผูเ้ รียน

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๕ เรอื่ ง วชิ าเหมอื นสินค้า 697 เกณฑป์ ระเมิน : การอา่ นออกเสียงบทรอ้ ยกรอง ประเด็น ๔ (ดีมาก) ระดับคุณภาพ ๑ (ปรับปรุง) การประเมิน อ่านถูกตอ้ งทกุ คา อ่านผิดมากกว่า ๕ ๑. อกั ขรวิธี ออกเสียง ร ล ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) คาขึน้ ไป ชัดเจน อ่านผิด 1-2 คา อ่านผิด 3-5 คา ออกเสียง ร ล ออกเสียง ร ล ชดั เจน ชัดเจน ๒. อา่ นถูกตอ้ ง อ่านไดถ้ ูกต้องตาม อา่ นไดถ้ ูกต้องตาม อ่านไดถ้ ูกตอ้ งตาม อ่านไม่ถกู ต้องตาม ตามฉันทลักษณ์ ฉนั ทลกั ษณ์ ฉันทลกั ษณ์ ฉนั ทลักษณ์ ฉันทลักษณ์ กาพยย์ านี ๑๑ แบ่ง กาพยย์ านี ๑๑ แบ่ง กาพย์ยานี ๑๑ แบ่ง กาพยย์ านี ๑๑ วรรคตอนไดถ้ ูกตอ้ ง วรรคตอนผดิ เพยี ง วรรคตอนผดิ เพยี ง และแบ่งวรรคตอน ทกุ วรรค ๑-๒ แห่ง 3-5 แห่ง ผิดมากกว่า 5 แห่ง ๓. บุคลกิ ภาพ นัง่ ในท่าท่เี หมาะสม น่ังในทา่ ทเี่ หมาะสม น่งั ในท่าทไี่ ม่ นงั่ ท่าทีไ่ ม่ ท่าทาง ใช้สายตามองกวาด ใช้สายตามองกวาด เหมาะสม ใช้สายตา เหมาะสมใช้น้วิ ชี้ ตัวหนงั สือ ถูกต้อง มองกวาดสา่ ยหนา้ ตามตวั อักษรและ ตวั หนังสอื ไมช่ ีห้ รอื เป็นส่วนใหญ่ ตามตัวหนังสอื สา่ ยหน้าตาม สา่ ยหนา้ ตามตัว ถูกตอ้ งเปน็ สว่ นนอ้ ย ตัวอกั ษร อกั ษร ๔. นา้ เสียง น้าเสียงชัดเจน น้าเสยี งชัดเจน นา้ เสยี งชดั เจนขาด นา้ เสียงไมช่ ดั เจน นุ่มนวลนา่ ฟัง นุ่มนวล นา่ ฟังเปน็ ความนุม่ นวลหรอื ขาดความม่นั ใจใน สอดคลอ้ งกบั สว่ นใหญ่ สอดคล้องกบั เรื่องท่ี การอ่าน เรอ่ื งท่อี า่ น อา่ น ๕. มารยาท ตง้ั ใจอ่าน ไม่สง่ เสียง ไมส่ ่งเสียงดงั รบกวน สง่ เสยี งดงั และเล่น สง่ เสยี งดงั และเลน่ ในการอ่าน ดังรบกวนผ้อู น่ื และ และไมเ่ ลน่ ขณะอา่ น ในขณะอ่านบ้าง ในขณะอ่าน ไม่เลน่ ขณะอ่าน เป็นบางช่วง เกณฑ์การประเมินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ ๑8-๒๐ ดมี าก 15-๑7 ดี ๑2-๑4 พอใช้ ต่ากวา่ 12 ปรบั ปรงุ เกณฑก์ ารตัดสนิ : ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ รอ้ ยละ ๖๐ ขนึ้ ไป (ตอ้ งไดร้ ะดับพอใชข้ ้นึ ไป)

698 คมู่ ือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แบบประเมินการอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง คาํ ชแี้ จง ให้ครผู ู้สอนประเมนิ ผลการทาํ งาน/ใบงาน โดยเขียนคะแนน ลงในชอ่ งที่กําหนดให้ ลําดบั ัอกขร ิว ีธ (4) รวม คดิ สรุป ที่ ชอ่ื -สกลุ ตาม ัฉนทลักษ ์ณ (4) คะแนน เปน็ ผ่าน ไมผ่ ่าน ุบคลิกภาพท่าทาง (4) (๒๐) ร้อยละ ํ้นาเสียง (4) (100) มารยาทในการ ่อาน (4) 1 ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 รวม (คน) คิดเป็นรอ้ ยละ ผลการประเมนิ  ดีมาก ..........คน คิดเป็นร้อยละ...............  ดี ..........คน คิดเปน็ ร้อยละ................  พอใช้ ..........คน คดิ เป็นรอ้ ยละ...............  ปรับปรงุ .........คน คิดเป็นร้อยละ............... สรปุ ผลการประเมินรายชน้ั เรยี น  นกั เรยี นผ่านเกณฑ์การประเมิน จาํ นวน......................... คน คิดเป็นรอ้ ยละ.......................  นกั เรียนไม่ผา่ นเกณฑ์การประเมิน จาํ นวน......................... คน คดิ เป็นร้อยละ....................... ลงช่อื .................................................ผปู้ ระเมิน (..............................................) ........../..................../..........  

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๕ เร่อื ง วชิ าเหมอื นสินค้า 699 10. บันทึกผลหลังสอน ผลการจัดการเรียนการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสาเร็จ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปัญหาและอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ข้อจากดั การใชแ้ ผนการจดั การเรียนรู้ และขอ้ เสนอแนะ/แนวทางการปรบั ปรงุ แก้ไข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื ......................................................ผสู้ อน (.......................................................) วันท่ี .......... เดอื น ..................... พ.ศ. ............. 11. ความคิดเหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผู้บรหิ ารหรอื ผทู้ ีไ่ ดร้ ับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชือ่ ...................................................... ผตู้ รวจ (.......................................................) วนั ท่ี .......... เดือน ..................... พ.ศ. .............

700 คูม่ ือครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) ใบความรทู้ ี่ 1 เรอ่ื ง การอา่ นออกเสียงบทรอ้ ยกรองประเภทกาพย์ยานี 11 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 5 เรอ่ื ง วิชาเหมอื นสินคา้ แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 1 เร่ือง การอา่ นออกเสียงบทรอ้ ยกรองประเภทกาพยย์ านี 11 รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๕ การอ่านออกเสยี งบทร้อยกรองประเภทกาพยย์ านี 11 บทร้อยกรอง เป็นบทประพันธ์ท่ีผู้แต่งคิดประดิษฐ์เรียบเรียงถ้อยคา แต่ละวรรค แต่ละบท อย่าง ประณีตบรรจงตามลักษณะกฎเกณฑ์ของฉันทลักษณ์ ทาให้เกิดเสยี ง จังหวะ ลีลาที่งดงาม เกิดความไพเราะ เพลดิ เพลนิ ไปกบั น้าเสียงและเนอ้ื หาของเร่ืองน้นั ๆ การอ่านบทรอ้ ยกรอง โดยทั่วไปแบ่งไดเ้ ป็น 3 แบบ คอื อ่านแบบธรรมดา อ่านแบบเจรจา และอา่ น แบบทานองเสนาะ ทั้งนเ้ี พอื่ ใหเ้ ขา้ ใจการอ่านบทร้อยกรองอยา่ งลึกซ้ึง วิธกี ารอ่านมี 2 วิธี ดงั น้ี สาหรับชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 5 ได้เลอื กใหน้ ักเรยี นอา่ น 2 แบบ ดังน้ี 1. อ่านออกเสียงปกติ คือ การอ่านออกเสียงปกติเหมือนกับการอ่านบทร้อยแก้วท่ัวไป แต่จะมี การเว้นวรรคและเน้นจังหวะกีส่ มั ผัสตามบทร้อยกรองแตล่ ะประเภท ซงึ่ แตกต่างกนั 2. อา่ นออกเสยี งเปน็ ทานอง คอื การอา่ นให้มีสาเนยี งเสียงท่ีสงู ต่า หนัก เบา ยาว ส้ัน เออื้ นเสยี งและ เน้นสัมผัสให้ชดั เจน ไพเราะ เสียงเปน็ กังวาน แสดงอารมณ์ตามเนอื้ หาของบทรอ้ ยกรอง แผนผังกาพยย์ านี 11 บทที่ 1   บาทเอก   บาทโท บทที่ 2   บาทเอก   บาทโท

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ ๕ เรอื่ ง วิชาเหมือนสนิ ค้า 701 การอ่านกาพย์ยานี ๑๑ กาพย์ยานี ๑๑ เป็นคาประพันธ์ไทย ประเภทกาพย์ท่ีกวนี ิยมแต่งมากที่สุด มีรูปแบบดังน้ี บทหนึ่งมี สองบาท เรียกว่า บาทเอกและบาทโท บาทละ ๑๑ คา วรรคหน้ามี ๕ คา แบ่งการอ่านได้ ๒/๓ วรรคหลัง ๖ คา แบง่ จงั หวะการอา่ นได้ ๓/๓ ตัวอยา่ งการแบ่งจังหวะการอา่ นกาพยย์ านี 11 ปลาสร้อย / ลอยล่องชล // ว่ายเวียนวน / ปนกนั ไป // เหมือนสร้อย / ทรงทรามวยั // ไม่เห็นเจ้า / เศรา้ บ่วาย // (กาพยเ์ หเ่ รอื : เจา้ ฟา้ ธรรมธเิ บศร) กาพยย์ า / นลี านา // สิบเอด็ คา / จาอยา่ คลาย // วรรคหน้า / หา้ คาหมาย // วรรคหลังหก / ยกแสดง // ครุ / ลหุน้ัน // ไม่สาคัญ / อยา่ ระแวง // สมั ผัส / ตอ้ งจดั แจง // ให้ถูกต้อง /ตามวธิ ี // (หลกั ภาษาไทย : กาชัย ทองหล่อ) ด้วยธรรม / นั้นเทียมเท่า // แตใ่ ครเล่า / ที่ครอบงา // เอาเปรยี บ / และเหยยี บย่า // มวลชวี ติ / จนผดิ ไป // ในนา้ / ทุกหยดน้า // หรือใช่น้า / เฉพาะใคร // ลมแดด / หรือดนิ ใด // ลว้ นสมบัติ / อนั เปน็ กลาง // (เพลงไทยของคนทกุ ข์ : ไพวรินทร์ ขาวงาม) การอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยกรองประเภทกาพย์ยานี 11 ในแตล่ ะครง้ั ควรศกึ ษาบทรอ้ ยกรองน้ันกอ่ น เพ่ือให้สามารถอา่ นไดถ้ ูกตอ้ ง ดังน้ี 1. หาคาศัพทย์ ากในบทรอ้ ยกรอง ต้องศกึ ษาคาอ่านและความหมายใหเ้ ขา้ ใจก่อน 2. สงั เกตรูปแบบของบทรอ้ ยกรอง ต้องศึกษาประเภทของบทรอ้ ยกรอง จานวนคาในวรรค 3. แบง่ จงั หวะการอ่าน ตอ้ งศึกษาจงั หวะการอ่านของบทรอ้ ยกรองประเภทนัน้ ๆ เพราะบทรอ้ ยกรอง ถา้ มี 5 คา ให้แบ่งเป็น 2/3 ถา้ มี 6 คา ใหอ้ ่านเปน็ 3/3 จึงจะลงตวั

702 คมู่ ือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) การอา่ นบทรอ้ ยกรองควรปฏิบตั ิ ดังนี้ 1. รู้ลักษณะและจงั หวะการอ่านของบทรอ้ ยกรองแตล่ ะชนดิ เช่น กลอนส่ี กลอนแปด โคลง ฉันท์ และ กาพยย์ านี 11 ซึง่ เป็นคาประพนั ธ์ทีช่ น้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 ไดศ้ กึ ษาเรียนรู้ ตวั อย่างคาประพนั ธ์ประเภทกาพยย์ านที ่ีควรร้จู กั ไดแ้ ก่ - กาพย์ยานี เรือ่ ง วิชาเหมือนสนิ คา้ - กาพย์เห่ชมเคร่อื งคาวหวาน 2. ออกเสยี งคาให้ถูกต้องชัดเจนตามอักขรวิธี โดยเฉพาะตัว ร ล และคาควบกลา้ เพอ่ื ไม่ใหค้ วามหมาย คลาดเคลอื่ น เช่น รวยระรนิ เล่ือนลอย เรอ่ื ยเรอื่ ย โลดแล่น เควง้ คว้าง กรดี กราย โปรยปราย พลบั พลึง ฯลฯ 3. รู้วิธอี า่ น ดงั นี้ 3.1) เน้นเสียงคาที่เป็นสัมผัสบังคับให้ชัดเจนและต้องทอดเสียงคาสัมผัสระหว่างบทให้ยาวกว่า ปรกติ เน้นเสียงคา เช่น ไหล – ไพร กวา้ ง – ทาง ทาง – ราง และทอดเสียงคา ชลาลยั – อาศยั 3.2) ออกเสียงใหส้ ูงและดงั กอ้ งในคาที่มีเสียงวรรณยกุ ตจ์ ตั วา เชน่ ไหว – สมัย 3.3) ไมเ่ อือ้ นเสียงคาที่มสี ระเสียงส้ันและเสยี งเบา เช่น เลาะ แหล่ง สกั อบั 3.4) อ่านเสียงเบาและรวบเสียงคาที่มี 2 พยางค์ ในคาที่ฉันทลักษณ์บังคับให้ออกเสียงเพียง 1 พยางค์ โดยให้เสียงตกที่พยางคห์ ลัง เช่น สาราญ ชโลม สนทิ 3.5) ตอ้ งเอ้อื นเสียงและทอดจงั หวะใหช้ า้ ลงเมือ่ จบบท 4. เขา้ ใจความหมายของคาศพั ท์ เพ่อื ถอดความและจบั ใจความสาคัญได้ หลกั สาคญั ในการอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง 1. อ่านออกเสยี งให้ชัดเจนและถูกตอ้ งตามอักขรวิธี 2. อ่านเวน้ จังหวะวรรคตอนให้ถูกต้องตามลักษณะของบทร้อยกรองแต่ละประเภท ร้จู ักทอดจงั หวะ เอื้อนเสียง หรือหลบเสยี ง 3. น้าเสียงชัดเจน นมุ่ นวลน่าฟงั เสียงไม่เบาหรอื ดังมากจนเกนิ ไป 4. เน้นเสียงแสดงอารมณ์ให้เป็นไปตามเนื้อเรื่อง เช่น รัก ร่าเริง โกรธ เศร้า โดยใช้น้าเสียงให้เข้ากับ สถานการณ์น้ัน ๆ

หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ ๕ เรือ่ ง วิชาเหมอื นสินคา้ 703 ใบงานท่ี 1 เร่ือง การอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยกรองประเภทกาพยย์ านี 11 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 5 เรอื่ ง วชิ าเหมือนสินคา้ แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 1 เรือ่ ง การอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยกรองประเภทกาพยย์ านี 11 รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วชิ า ท๑๕๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๕ คาชี้แจง ให้นักเรียนขีดเคร่ืองหมาย / (วรรคเล็ก) และ // (วรรคใหญ่) แบ่งจังหวะการอา่ น แล้วร่วมกัน ฝกึ อ่านออกเสยี งบทรอ้ ยกรองกาพย์ยานี 11 วิชาเหมือนสนิ คา้ วิชาเหมือนสนิ คา้ อันมคี ่าอยู่เมอื งไกล ต้องยากลาบากไป จงึ จะได้สนิ คา้ มา จงตงั้ เอากายเจ้า เปน็ สาเภาอนั โสภา ความเพยี รเปน็ โยธา แขนซ้ายขวาเป็นเสาใบ นว้ิ เปน็ สายระยาง สองเท้าต่างสมอใหญ่ ปากเปน็ นายงานไป อัชฌาสัยเปน็ เสบียง สตเิ ปน็ หางเสอื ถอื ทา้ ยเรือไวใ้ ห้เทย่ี ง ถอื ไวอ้ ย่าใหเ้ อยี ง ตัดแล่นเลย่ี งขา้ มคงคา ปัญญาเป็นกล้องแก้ว สอ่ งดแู ถวแนวหินผา เจา้ จงเอาหูตา เป็นลา้ ต้าฟงั ดูลม ขเ้ี กียจคอื ปลารา้ ย จะทาลายให้เรือจม เอาใจเปน็ ปืนคม ยงิ ระดมให้จมไป จึงจะไดส้ ินค้ามา คอื วิชาอนั พิสมยั จงหมัน่ มัน่ หมายใจ อย่าไดค้ ร้านการวิชา จากหนงั สอื วรรณคดลี านา ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 5 หน้า 43

704 ค่มู อื ครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวคาตอบใบงานที่ 1 เร่อื ง การอ่านออกเสียงบทร้อยกรองประเภทกาพยย์ านี 11 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง วชิ าเหมือนสินค้า แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 1 เรื่อง การอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยกรองประเภทกาพย์ยานี 11 รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วิชา ท๑๕๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๕ คาช้ีแจง ให้นักเรียนขีดเครื่องหมาย / (วรรคเล็ก) และ // (วรรคใหญ่) แบ่งจังหวะการอา่ น แล้วร่วมกัน ฝึกอา่ นออกเสียงบทรอ้ ยกรองกาพย์ยานี 11 วชิ าเหมือนสนิ ค้า วชิ า / เหมือนสนิ ค้า // อันมีคา่ / อยู่เมืองไกล // ต้องยาก / ลาบากไป // จึงจะได้ / สนิ คา้ มา // จงตง้ั / เอากายเจ้า // เป็นสาเภา / อนั โสภา // ความเพยี ร / เป็นโยธา // แขนซา้ ยขวา / เป็นเสาใบ // นิ้วเป็น / สายระยาง // สองเท้าต่าง / สมอใหญ่ // ปากเปน็ / นายงานไป // อัชฌาสยั / เป็นเสบยี ง // สติ / เป็นหางเสือ // ถือทา้ ยเรอื / ไวใ้ หเ้ ท่ยี ง // ถอื ไว้ / อยา่ ให้เอยี ง // ตัดแลน่ เลีย่ ง / ข้ามคงคา // ปญั ญา / เป็นกลอ้ งแกว้ // ส่องดแู ถว / แนวหินผา // เจา้ จง / เอาหตู า // เป็นลา้ ต้า / ฟังดลู ม // ขเ้ี กียจ / คือปลารา้ ย // จะทาลาย / ให้เรอื จม // เอาใจ / เปน็ ปืนคม // ยิงระดม / ให้จมไป // จึงจะได้ / สนิ ค้ามา // คือวชิ า / อันพิสมัย // จงหม่ัน / มนั่ หมายใจ // อยา่ ได้คร้าน / การวิชา // จากหนงั สอื วรรณคดีลานา ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 5 หนา้ 43

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๕ เร่ือง วิชาเหมอื นสินคา้ ๗๐๕ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 2 เรอื่ ง การอธบิ ายความหมายของคา ประโยค และข้อความ หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 5 เรือ่ ง วชิ าเหมือนสินคา้ เวลา 1 ช่วั โมง กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย รายวชิ าภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชวี้ ดั สาระท่ี 1 การอา่ น มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความรู้และความคดิ เพ่ือนาไปใช้ตดั สนิ ใจ แกป้ ญั หาในการดาเนิน ชีวิต และมีนิสยั รกั การอา่ น ตัวชีว้ ดั ป.๕/๒ อธบิ ายความหมายของคา ประโยค และขอ้ ความทเี่ ป็นการบรรยายและการพรรณนา ๒. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด การเข้าใจความหมายของคา ประโยค และข้อความ เป็นการเตรียมความพร้อมในการอ่าน ช่วยให้ อ่านได้อยา่ งถูกตอ้ งคลอ่ งแคล่ว สามารถถอดคาประพนั ธ์ และเข้าใจความหมายของเรอ่ื งทอ่ี า่ นได้ ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ ความเข้าใจ (K) บอกหลักการอธิบายความหมาย ของคา ประโยค และข้อความได้ 3.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) เขยี นอธิบายความหมาย ของคา ประโยค และข้อความจากเรอ่ื งทอ่ี า่ นได้ 3.3 ดา้ นคุณลกั ษณะ เจตคติ คา่ นยิ ม (A) ใฝเ่ รยี นร้แู ละมงุ่ มนั่ ในการทางาน ๔. สาระการเรยี นรู้ การอธิบายความหมาย ของคา ประโยค และขอ้ ความ ๕. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น 5.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร 5.2 ความสามารถในการคดิ ๖. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 6.1 ใฝเ่ รยี นรู้ 6.2 มงุ่ ม่นั ในการทางาน 7. กจิ กรรมการเรยี นรู้

๗๐๖ คมู่ อื การจดั กจิ กรรมการเรยี นร รายวชิ า ภาษาไทย หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 5 เร แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 2 เรือ่ ง การอธิบายความหม ลาดับ ขอบเขตเนื้อหา/ ขั้นตอนการจัด เวลา แ ที่ จุดประสงค์การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ที่ใช้ กิจกรรมค 1. ขอบเขตเน้ือหา ขนั้ นา 5 1. ครยู กตัวอย่างคา - การอธิบาย นาที ในสือ่ PPT เร่ือง ปล ปลาใหญ่ และให้นัก ความหมายของคา สงั เกตคาทข่ี ีดเสน้ ใต ประโยค และขอ้ ความ ปลาเล็กและป ว่ายขวกั ไขวใ่ นธา หากินเลย้ี งชีวา ตามประสาของปล 2. ครตู ัง้ คาถามชวน ขอ้ 1. คาประพันธน์ ประพันธ์ชนิดใด ข้อ 2. คาประพันธน์ อะไร ข้อ 3. นกั เรยี นเหน็ ค ใต้หรือไม่ คานัน้ มคี ว วา่ อย่างไร

อครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) รู้ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 5 ร่ือง วิชาเหมือนสนิ คา้ จานวน 10 ชว่ั โมง มายของคา ประโยค และข้อความ จานวน 1 ช่วั โมง แนวการจัดการเรียนรู้ สื่อการเรยี นรู้ การประเมนิ - คาประพนั ธ์ การเรยี นรู้ ครู กิจกรรมนักเรยี น เรอ่ื ง ปลาเลก็ และปลาใหญ่ าประพนั ธ์ 1. นักเรยี นอ่านคา ลาเล็กและ ประพันธใ์ นสื่อ PPT เรอ่ื ง กเรยี น ธรรมชาตขิ องปลา และ ต้ สงั เกตคาทขี่ ีดเส้นใต้ ปลาใหญ่ ปลาเลก็ และปลาใหญ่ ารา วา่ ยขวกั ไขว่ในธารา ลาเอย หากินเลีย้ งชวี า ตามประสาของปลาเอย นคดิ ดังน้ี 2. นกั เรยี นตอบคาถาม ดงั นี้ - คาถาม - สงั เกตการตอบ น้ีคือคา ขอ้ 1. ตอบ กาพยย์ านี 11 คาถามของ นักเรียน (เพราะเคยเรยี นมาแลว้ ) น้ีกล่าวถึง ข้อ 2. ตอบ กล่าวถงึ ปลา ขอ้ 3. ตอบ ธารา มี คาท่ีขดี เส้น ความหมายวา่ นา้ และชวี า วามหมาย มคี วามหมายว่า ชีวิต

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๕ เรื่อง วิชาเหมอื นสนิ คา้ ลาดับ ขอบเขตเน้อื หา/ ขนั้ ตอนการจัด เวลา แ ที่ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรยี นรู้ ท่ใี ช้ กิจกรรมค ข้อ 4. นักเรียนทรา ความหมายไดอ้ ย่างไ เหตผุ ล 3. ครูพูดแสดงความ สรปุ ทา้ ย และเชอ่ื มโ บทเรียน 2. ข้ันสอน 25 1. ครอู ธิบายความห นาที คาโดยยกคาประพนั วชิ าเหมือนสินคา้ ใน ดังน้ี ความเพยี รเปน็ แขนซ้ายขวาเป็นเส น้วิ เป็นสายระยาง สองเทา้ ต่างสมอให

แนวการจัดการเรยี นรู้ ส่ือการเรยี นรู้ ๗๐๗ ครู กิจกรรมนกั เรียน การประเมิน การเรยี นรู้ าบ ข้อ 4. ตอบ ทราบ ไร จงบอก ความหมายได้ ดงั น้ี - อาจเปดิ พจนานกุ รม - ความรู้เดิมทม่ี อี ยู่ มคดิ เห็น ประสบการณ์เดมิ โยงเข้าสู่ - คาดเดาจากบรบิ ทของคา ประพนั ธ์ 3. นกั เรียนเข้าสูบ่ ทเรียน หมายของ 1. นักเรยี นฟงั การอธบิ าย - คาประพนั ธ์ นธจ์ ากเรอ่ื ง ความหมายของคา ถา้ เป็น จากเรอ่ื ง วชิ า นส่ือ PPT คาสามารถเปดิ ดูความหมาย เหมอื นสนิ คา้ จากพจนานกุ รมหรือจาก นโยธา หนังสือได้ สาใบ ง หญ่

๗๐๘ ค่มู อื ลาดบั ขอบเขตเนือ้ หา/ ข้นั ตอนการจดั เวลา แ ท่ี จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรยี นรู้ ที่ใช้ กิจกรรมค จากนัน้ ครอู ธิบายคว ของคาวา่ “โยธา” แ ระยาง” จากการเปดิ หนังสอื วรรณคดลี าน ในส่วนท่เี ป็นการอธบิ คาศพั ท์ ไดว้ า่ โยธา หมายถงึ น. พล สายระยาง หมายถึง เชือกหรือลวดทร่ี ้ังเสา 2. ครอู ธิบายความห ประโยคโดยการยกต ประพนั ธจ์ ากเรื่องวชิ สนิ คา้ มา 2 วรรค โด เปรียบเทยี บใหน้ กั เรยี ว่า บทรอ้ ยกรอง 1 เท่ากบั 1 ประโยค 2 เทา่ กบั 2 ประโยค ครอู ย่างคาประพนั ธ วรรค ได้แก่ - ขี้เกยี จคอื ปลาร้าย ประโยค

อครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.๕) แนวการจดั การเรียนรู้ สอ่ื การเรยี นรู้ การประเมนิ ครู กิจกรรมนกั เรียน การเรียนรู้ วามหมาย และ “สาย ดดใู น นา ชน้ั ป.5 บาย ลรบ, ทหาร ง น. สาย ากระโดงเรอื หมายของ 2. นักเรยี นฟงั การอธบิ าย ตวั อยา่ งคา ความหมายของประโยค ชาเหมอื น จากครูว่า ถ้าจะอธบิ าย ดยอธิบาย ความหมายหรอื ถอดความ ยนเขา้ ใจ จากประโยคหน่ึง ๆ ให้ วรรค นกั เรียนดจู ากบรบิ ทของ 2 วรรค จึง ประโยคเปน็ หลกั ธท์ ้ัง 2 เท่ากบั 1


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook