สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรู้ทอ้ งถนิ่ วน เศรษฐกจิ และอาชีพท่ีสำคญั วนของจำนวนหลาย ๆ จำนวน - เศรษฐกจิ - อาชพี ความรเู้ กี่ยวกับอัตราสว่ น สัดส่วน แหล่งท่องเท่ียว ละ บคุ คลสำคัญ การแก้ปญั หา สงั คมวิถีชวี ติ รรกยะ ทรพั ยากรสำคัญ กำลงั ที่มีเลขช้ีกำลงั เป็นจำนวนเตม็ ความรู้เกยี่ วกับเลขยกกำลังไปใชใ้ น ญหา 63 ริง ตรรกยะ จริง องและรากทีส่ ามของจำนวนตรรกยะ ความรู้เก่ียวกับจำนวนจรงิ ไปใช้ กษำประถมศกึ ษำนครศรี ธรรมรำช เขต 4
สาระท่ี มาตรฐาน ชน้ั ตวั ชว้ี ัด 1. จำนวนแลพีชคณติ ค 1.2 ป.1 1 แบบรปู - แบบรปู ทลี ะ 1 แล - แบบรปู รปู อื่น ๆ ป.3 1 แบบรูป - แบบรูปข ทีละเท่า ๆ ป.6 1 แบบรปู - การแกป้ ม.2 1 พหุนาม 2. - พหุนาม - การบวก - การหาร การแยกต - การแยก * สมบัต * กำลงั ส * ผลต่าง กรอบหลกั สตู รระดบั ทอ้ งถ่นิ : สำนกั งำนเขตพนื้ ท่กี ำรศกึ
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรทู้ ้องถ่นิ เศรษฐกจิ และอาชีพทส่ี ำคัญ ปของจำนวนทีเ่ พ่ิมขึ้นหรือลดลง - เศรษฐกจิ ละทีละ 10 - อาชีพ ปซ้ำของจำนวน รปู เรขาคณติ และ แหล่งท่องเที่ยว บคุ คลสำคัญ ของจำนวนที่เพ่ิมขน้ึ หรอื ลดลง สงั คมวิถีชีวิต ๆ กนั ทรัพยากรสำคญั ปัญหาเกี่ยวกบั แบบรูป 64 ม ก การลบ และการคูณของพหนุ าม รพหุนามด้วยเอกนามทม่ี ีผลหารเปน็ พหุนาม ตัวประกอบของพหุนาม กตัวประกอบของพหุนามดีกรีสองโดยใช้ ตกิ ารแจกแจง สองสมบูรณ์ งของกำลงั สอง กษำประถมศกึ ษำนครศรี ธรรมรำช เขต 4
สาระที่ มาตรฐาน ชนั้ ตัวชว้ี ัด 1. จำนวนแลพีชคณติ ค 1.2 ม.3 1 การแยกต - การแยก ค1.3 ม.1 สงู กวา่ สอ 2 ฟงั กช์ ันก - กราฟขอ - การนำค ไปใชใ้ นกา 1 สมการเช - สมการเ - การแก้ส - การนำค เดยี วไปใช 2,3 สมการเช - กราฟขอ - สมการเ - การนำค แปร และกราฟ กรอบหลกั สตู รระดบั ทอ้ งถ่นิ : สำนกั งำนเขตพนื้ ท่กี ำรศกึ
สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถน่ิ ตวั ประกอบของพหุนาม กตวั ประกอบของพหุนามดกี รี เศรษฐกจิ และอาชีพทีส่ ำคัญ อง - เศรษฐกจิ กำลังสอง - อาชพี องฟังกช์ ันกำลังสอง แหลง่ ท่องเท่ียว ความรู้เก่ียวกับฟงั ก์ชนั กำลงั สอง บคุ คลสำคญั ารแก้ปญั หา สังคมวิถีชวี ิต ชิงเสน้ ตวั แปรเดยี ว ทรัพยากรสำคญั เชิงเสน้ ตัวแปรเดียว สมการเชงิ เส้นตวั แปรเดยี ว 65 ความร้เู กีย่ วกับการแกส้ มการเชิงเสน้ ตัวแปร ช้ในชีวติ จรงิ ชงิ เส้นสองตวั แปร องความสัมพันธ์เชิงเส้น เชิงเสน้ สองตัวแปร ความรู้เก่ียวกับการแก้สมการเชงิ เสน้ สองตัว ฟของความสมั พันธ์เชิงเส้นไปใชใ้ นชีวติ จริง กษำประถมศกึ ษำนครศรี ธรรมรำช เขต 4
สาระท่ี มาตรฐาน ช้นั ตวั ช้ีวัด 1. จำนวนแลพีชคณิต ค 1.3 ม.3 1 อสมการเ - อสมการ - การแก้อ - การนำค เชงิ เสน้ ตวั 2 สมการกำ - สมการก - การแกส้ - การนำค สองตัวแป 3 ระบบสมก - ระบบสม - การแกร้ - การนำค เชงิ เส้นสอ กรอบหลกั สตู รระดบั ทอ้ งถ่นิ : สำนกั งำนเขตพนื้ ท่กี ำรศกึ
สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ท้องถน่ิ เชิงเสน้ ตวั แปรเดียว เศรษฐกิจและอาชีพท่สี ำคญั - เศรษฐกิจ รเชิงเส้นตวั แปรเดยี ว - อาชพี แหล่งท่องเที่ยว อสมการเชิงเสน้ ตวั แปรเดียว บคุ คลสำคญั สงั คมวิถีชวี ิต ความรูเ้ ก่ยี วกบั การแก้อสมการ ทรพั ยากรสำคัญ วแปรเดียวไปใชใ้ นการแกป้ ญั หา ำลังสองตวั แปรเดียว 66 กำลังสองตัวแปรเดยี ว สมการกำลังสองตัวแปรเดยี ว ความร้เู ก่ยี วกับการแก้สมการกำลัง ปรเดยี วไปใชใ้ นการแก้ปัญหา การ มการเชงิ เสน้ สองตวั แปร ระบบสมการเชิงเส้นสองตวั แปร ความรเู้ กยี่ วกับการแก้ระบบสมการ องตัวแปรไปใชใ้ นการแกป้ ญั หา กษำประถมศกึ ษำนครศรี ธรรมรำช เขต 4
สาระท่ี มาตรฐาน ชนั้ ตัวชีว้ ัด 2. การ 2. การวดั และ ค 2.1 ป.1 1 ความยาว เรขาคณิต - การวดั ค มาตรฐาน - การวดั ค - การเปร เปน็ เมตร - การแกโ้ ความยาว 2 น้ำหนกั - การวัดน มาตรฐาน - การวดั น - การเปร ขดี - การแก้โ น้ำหนักท่มี กรอบหลกั สตู รระดบั ทอ้ งถ่นิ : สำนกั งำนเขตพนื้ ท่กี ำรศกึ
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรทู้ ้องถ่นิ ว สงั คมและวถิ ีชีวิต ความยาวโดยใช้หนว่ ยทีไ่ ม่ใชห่ นว่ ย การวดั ความยาวโดยใชห้ น่วยทไี่ มใ่ ช่หนว่ ย น มาตรฐาน ความยาวเปน็ เซนติเมตร เป็นเมตร รยี บเทยี บความยาวเป็นเซนตเิ มตร โจทย์ปัญหาการบวก การลบเก่ยี วกบั วทมี่ ีหน่วยเปน็ เซนติเมตร เปน็ เมตร สงั คมและวถิ ชี ีวติ 67 นำ้ หนกั โดยใช้หนว่ ยทไ่ี ม่ใชห่ นว่ ย การวัดนำ้ หนักโดยใชห้ น่วยท่ไี ม่ใช่หน่วย น มาตรฐาน น้ำหนกั เป็นกโิ ลกรมั เป็นขดี รียบเทียบนำ้ หนักเปน็ กโิ ลกรัม เป็น โจทยป์ ญั หาการบวก การลบเก่ยี วกบั มหี น่วยเปน็ กโิ ลกรัม เปน็ ขดี กษำประถมศกึ ษำนครศรี ธรรมรำช เขต 4
สาระท่ี มาตรฐาน ชนั้ ตวั ชีว้ ดั 2. การวดั และเรขาคณิต ค 2.1 ป.2 1 เวลา - การบอก - การบอก - การเปรีย - การอ่าน เก่ียวกบั เว 2,3 ความยาว - การวดั คว - การคาด - การเปรีย ระหว่างเม - การแก้โ ทม่ี หี นว่ ยเ 4,5 นำ้ หนัก -การวัดน้ำห -การคาดค -การเปรยี กบั กรมั ก -การแกโ้ จ กรัม กโิ ล กรอบหลกั สตู รระดบั ทอ้ งถ่นิ : สำนกั งำนเขตพนื้ ท่กี ำรศกึ
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรูท้ ้องถน่ิ กเวลาเป็นนาฬกิ าและนาที (ชว่ ง 5 นาท)ี สงั คมและวถิ ชี วี ิต กระยะเวลาเปน็ ชั่วโมง เปน็ นาที เศรษฐกิจและอาชีพท่ีสำคัญ ยบเทยี บระยะเวลาเปน็ ชวั่ โมงเปน็ นาที - เศรษฐกจิ นปฏิทิน การแก้โจทยป์ ญั หา วลา 68 ว ความยาวเปน็ เมตรและเซนตเิ มตร ดคะเนความยาวเป็นเมตร ยบเทียบความยาวโดยใชค้ วามสมั พนั ธ์ มตรกับเซนตเิ มตร โจทยป์ ญั หาเกี่ยวกบั ความยาว เป็นเมตรและเซนติเมตร ำหนักเป็นกิโลกรมั และกรัม กโิ ลกรัมและขีด คะเนนำ้ หนกั เป็นกโิ ลกรัม ยบเทยี บนำ้ หนักโดยใชค้ วามสมั พันธ์ระหวา่ งกโิ ลกรมั กิโลกรมั กับขีด จทยป์ ัญหาเกี่ยวกับน้ำหนักท่มี หี นว่ ยเปน็ กิโลกรมั และ ลกรมั และขีด กษำประถมศกึ ษำนครศรี ธรรมรำช เขต 4
สาระที่ มาตรฐาน ชั้น ตวั ช้ีวัด 2. การวัดและเรขาคณติ ค 2.1 ป.2 6 ปรมิ าตรแ - การวดั ป ป.3 หนว่ ยมาต - การวดั ป ช้อนโตะ๊ ถ - การเปร ชอ้ นชา ช - การแกโ้ จ ความจุท่ีม ถว้ ยตวง ล 1 เงิน -การบอก แบบใช้จุด -การเปรีย -การอ่านแ การแก้โจท 2 เวลา - การบอก - การเขีย หรอื ทวิภา กรอบหลกั สตู รระดบั ทอ้ งถ่นิ : สำนกั งำนเขตพนื้ ท่กี ำรศกึ
สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถ่ิน และความจุ สังคมและวิถชี ีวิตเศรษฐกจิ และอาชพี ปรมิ าตรและความจุโดยใช้หนว่ ยท่ีไมใ่ ช่ ทส่ี ำคัญ ตรฐาน - เศรษฐกจิ ปริมาตรและความจเุ ป็นช้อนชา ภูมปิ ัญญาท้องถ่ิน ถว้ ยตวง ลติ ร รียบเทยี บปริมาตรและความจเุ ป็น ชอ้ นโต๊ะ ถ้วยตวง ลติ ร จทย์ปัญหาเกี่ยวกับปรมิ าตรและ มีหนว่ ยเปน็ ชอ้ นชา ช้อนโตะ๊ ลิตร 69 กจำนวนเงินและเขียนแสดงจำนวนเงิน ด ยบเทยี บจำนวนเงนิ และการแลกเงิน และเขียนบันทึกรายรบั รายจ่าย ทยป์ ญั หาเก่ียวกบั เงิน กเวลาเป็นนาฬิกาและนาที ยนบอกเวลาโดยใช้มหพั ภาค (.) าค (:) และการอ่าน กษำประถมศกึ ษำนครศรี ธรรมรำช เขต 4
สาระ มาตรฐาน ชัน้ ตัวช้ีวัด 2. การวัดและเรขาคณิต ค 2.1 ป.3 2 เวลา - การบอกระยะเวล - การเปรยี บเทยี บร - การอ่านและการเขยี - การแก้โจทยป์ ญั หา 3,4,5,6 ความยาว - การวดั ความยาวเ กโิ ลเมตรและเมตร - การเลือกเครื่องว - การคาดคะเนควา - การเปรยี บเทยี บค - การแก้โจทยป์ ญั ห นำ้ หนัก 7,8,9,10 - การเลอื กเครอ่ื งช - การคาดคะเนน้ำห - การเปรยี บเทยี บน ระหว่างกิโลกรัมกบั - การแกโ้ จทยป์ ัญห กรอบหลกั สตู รระดบั ทอ้ งถ่นิ : สำนกั งำนเขตพนื้ ท่กี ำรศกึ
สาระการเรยี นร้แู กนกลาง สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถน่ิ สังคมและวถิ ีชีวิต ลาเป็นช่ัวโมงและนาที ระยะเวลาโดยใช้ความสมั พันธ์ระหว่างชั่วโมงกบั นาที เศรษฐกิจและอาชีพท่ี ยนบันทึกกิจกรรมท่รี ะบุเวลา สำคัญ าเก่ยี วกับเวลาและระยะเวลา - เศรษฐกิจ ภูมิปญั ญาท้องถน่ิ เป็นเซนติเมตรและมิลลเิ มตร เมตรและเซนติเมตร 70 ร วัดความยาวทเ่ี หมาะสม ามยาวเป็นเมตรและเป็นเซนติเมตร ความยาวโดยใช้ความสมั พันธ์ระหวา่ งหนว่ ยความยาว หาเกย่ี วกับความยาว ชัง่ ที่เหมาะสม หนักเปน็ กโิ ลกรมั และเป็นขีด นำ้ หนักโดยใชค้ วามสัมพันธ์ บกรมั เมตริกตันกับกิโลกรัม หาเกีย่ วกบั นำ้ หนัก กษำประถมศกึ ษำนครศรี ธรรมรำช เขต 4
สาระ มาตรฐาน ชน้ั ตัวช้วี ัด 2. การวัดและเรขาคณติ ค 2.1 ป.3 11,12,13 ปริมาตรแ - การวดั ป มิลลิลิตร - การเลือก - การคาดค - การเปรีย ความสัมพ ช้อนโตะ๊ ถ - การแกโ้ จ ทม่ี ีหน่วยเ ป.4 1 เวลา -การบอก วนั สัปดา -การเปรีย ความสัมพ -การอา่ นต เกีย่ วกับเว 2 การวัดแล - การวดั ข - การสรา้ กรอบหลกั สตู รระดบั ทอ้ งถ่นิ : สำนกั งำนเขตพนื้ ท่กี ำรศกึ
สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรทู้ ้องถน่ิ และความจุ สงั คมและวิถีชีวติ ปริมาตรและความจเุ ปน็ ลิตรและ เศรษฐกจิ และอาชีพทสี่ ำคญั กเครอื่ งตวงทีเ่ หมาะสม - เศรษฐกจิ คะเนปริมาตรและความจเุ ป็นลติ ร ภมู ิปัญญาท้องถ่นิ ยบเทียบปรมิ าตรและความจโุ ดยใช้ พนั ธ์ระหวา่ งลิตรกับมิลลลิ ติ ร ชอ้ นชา 71 ถ้วยตวงกบั มิลลิลติ ร จทยป์ ัญหาเกีย่ วกบั ปรมิ าตรและความจุ เปน็ ลติ รและมิลลิลติ ร กระยะเวลาเป็นวินาที นาที ช่วั โมง าห์ เดือน ปี ยบเทียบระยะเวลาโดยใช้ พันธ์ระหว่างหนว่ ยเวลา ตารางเวลา การแก้โจทย์ปญั หา วลา ละสรา้ งมุม ขนาดของมุมโดยใช้โพรแทรกเตอร์ างมมุ เม่ือกำหนดขนาดของมุม กษำประถมศกึ ษำนครศรี ธรรมรำช เขต 4
สาระ มาตรฐาน ช้ัน ตัวชวี้ ดั 2. การวัดและเรขาคณติ ค 2.1 ป.4 3 รปู สเี่ หลี่ย -ความยาว ป.5 -พ้นื ทขี่ อง -การแกโ้ จ และพื้นท 1 ความยาว - ความสัม เซนติเมตร กิโลเมตรก - การแก้โ ความรู้ เร 2 นำ้ หนัก - ความสมั กิโลกรัมก - การแกโ้ ความรู้ เร กรอบหลกั สตู รระดบั ทอ้ งถ่นิ : สำนกั งำนเขตพนื้ ท่กี ำรศกึ
สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง สาระการเรียนร้ทู อ้ งถนิ่ ยมมุมฉาก สังคมและวถิ ีชีวติ วรอบรูปของรูปสเ่ี หลี่ยมมุมฉาก เศรษฐกิจและอาชีพท่สี ำคัญ งรูปสเ่ี หลีย่ มมุมฉาก - เศรษฐกิจ จทย์ปญั หาเก่ยี วกับความยาวรอบรูป ภมู ิปัญญาท้องถน่ิ ท่ีของรูปส่ีเหลี่ยมมุมฉาก ว มพนั ธร์ ะหวา่ งหนว่ ยความยาว รกบั มลิ ลเิ มตร เมตรกบั เซนตเิ มตร กับเมตร โดยใชค้ วามร้เู ร่อื งทศนยิ ม 72 โจทยป์ ัญหาเกี่ยวกบั ความยาวโดยใช้ ร่อื งการเปล่ียนหน่วยและทศนิยม มพนั ธ์ระหวา่ งหนว่ ยนำ้ หนัก กบั กรัม โดยใช้ความรูเ้ ร่อื งทศนิยม โจทย์ปญั หาเก่ยี วกบั น้ำหนัก โดยใช้ รื่องการเปล่ียนหนว่ ยและทศนิยม กษำประถมศกึ ษำนครศรี ธรรมรำช เขต 4
สาระ มาตรฐาน ชน้ั ตวั ช้ีวดั 2. การวัดและเรขาคณิต ค 2.1 ป.5 3 ปรมิ าตรและคว - ปริมาตรของท ป.6 ของภาชนะทรง - ความสัมพันธร์ ลูกบาศกเ์ มตร - การแก้โจทยป์ ทรงสเ่ี หลย่ี มมุม ทรงสี่เหลยี่ มมุม 4 รูปเรขาคณติ สอ - ความยาวรอบร - พน้ื ทขี่ องรปู ส - การแก้โจทย์ป และพื้นทข่ี องรปู ปูน 1 ปริมาตรและคว - ปรมิ าตรของร มุมฉาก - การแก้โจทย์ป ของรปู เรขาคณ กรอบหลกั สตู รระดบั ทอ้ งถ่นิ : สำนกั งำนเขตพนื้ ท่กี ำรศกึ
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถิน่ วามจุ ทรงส่ีเหล่ียมมุมฉากและความจุ สังคมและวถิ ชี ีวิต งส่ีเหล่ยี มมุมฉาก ระหวา่ ง มิลลลิ ติ ร ลติ ร ลกู บาศก์เซนตเิ มตร และ เศรษฐกิจและอาชีพทสี่ ำคัญ - เศรษฐกจิ ภมู ปิ ัญญาท้องถน่ิ ปญั หาเกยี่ วกับปรมิ าตรของ 73 มฉากและความจขุ องภาชนะ มฉาก องมิติ รปู ของรูปสีเ่ หลย่ี ม สเ่ี หลีย่ มดา้ นขนานและรปู สเ่ี หลยี่ มขนมเปียกปูน ปัญหาเกีย่ วกบั ความยาวรอบรูปของรปู ส่เี หล่ียม ปส่เี หลี่ยมดา้ นขนานและรปู ส่ีเหล่ียมขนมเปียก วามจุ รปู เรขาคณิตสามมิติท่ีประกอบดว้ ยทรงสี่เหลี่ยม ปญั หาเกย่ี วกับปรมิ าตร ณติ สามมิติ ทปี่ ระกอบด้วยทรงสเี่ หล่ียมมุมฉาก กษำประถมศกึ ษำนครศรี ธรรมรำช เขต 4
สาระ มาตรฐาน ชัน้ ตัวช้ีวัด 2. การวดั และเรขาคณิต ค 2.1 ป.6 2,3 รูปเรขาคณ ม.2 - ความยาว - มมุ ภายใ - ความยาว - การแกโ้ รอบรูปแล - ความยาว - การแก้โ รอบรูปแล 1 พืน้ ที่ผิว - การหาพ - การนำค และทรงก 2 ปริมาตร - การหาป - การนำค ปรซิ มึ และ กรอบหลกั สตู รระดบั ทอ้ งถ่นิ : สำนกั งำนเขตพนื้ ท่กี ำรศกึ
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ทอ้ งถน่ิ ณติ สองมติ ิ สงั คมและวถิ ชี ีวิต วรอบรปู และพื้นทข่ี องรูปสามเหลีย่ ม เศรษฐกิจและอาชีพทสี่ ำคญั ในของรูปหลายเหล่ียม - เศรษฐกิจ วรอบรปู และพืน้ ที่ของรูปหลายเหลีย่ ม ภูมิปัญญาท้องถนิ่ โจทย์ปญั หาเกย่ี วกับความยาว ละพนื้ ท่ีของรปู หลายเหลย่ี ม วรอบรปู และพืน้ ท่ีของวงกลม 74 โจทยป์ ัญหาเกย่ี วกับความยาว ละพนื้ ท่ีของวงกลม พ้นื ที่ผวิ ของปรซิ ึมและทรงกระบอก ความรเู้ กยี่ วกับพ้ืนที่ผวิ ของปริซึม กระบอกไปใช้ในการแกป้ ัญหา ปรมิ าตรของปรซิ ึมและทรงกระบอก ความรเู้ ร่อื งเกยี่ วกบั ปรมิ าตรของ ะทรงกระบอกไปใชใ้ นการแกป้ ัญหา กษำประถมศกึ ษำนครศรี ธรรมรำช เขต 4
สาระ มาตรฐาน ชน้ั ตัวชี้วดั 2. การวัดและเรขาคณิต ค 2.1 ม.3 1. พ้นื ท่ีผิว - การหาพ ค 2.2 ป.1 ทรงกลม ป.2 - การนำ ทรงกลมไ 2. ปรมิ าตร - การหาป - การนำค และทรงก 1 รูปเรขาค สามมิติ - ลักษณะ ทรงกระบ - ลักษณะข 1 รปู เรขาค - ลกั ษณ และวงรี แ ของรปู กรอบหลกั สตู รระดบั ทอ้ งถ่นิ : สำนกั งำนเขตพนื้ ท่กี ำรศกึ
สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนร้ทู ้องถ่ิน พื้นทีผ่ ิวของพีระมดิ กรวยและ สังคมและวถิ ชี ีวิต ำความรเู้ ก่ียวกับพนื้ ที่ผิวของพีระมดิ กรวยและ เศรษฐกิจและอาชีพที่สำคัญ ไปใช้ในการแก้ปญั หา - เศรษฐกจิ ภูมปิ ัญญาท้องถิน่ ปริมาตรของพีระมิด กรวยและทรงกลม 75 ความรเู้ รื่องเกย่ี วกับปรมิ าตรของพีระมิด กรวย กลมไปใช้ในการแก้ปัญหา คณติ สองมิตแิ ละรูปเรขาคณิต ะของทรงสเ่ี หล่ียมมุมฉาก ทรงกลม บอก กรวย ของรปู สามเหลีย่ ม รูปส่เี หลี่ยม วงกลม และวงรี คณติ สองมิติ ณะของรปู หลายเหลย่ี ม วงกลม และการเขยี นรูปเรขาคณิตสองมติ ิโดยใช้แบบ กษำประถมศกึ ษำนครศรี ธรรมรำช เขต 4
สาระ มาตรฐาน ชนั้ ตวั ชว้ี ดั รปู เรขาคณ 2. การวัดและเรขาคณติ ค 2.2 ป.3 1 - รูปทีม่ ีแก ป.4 1,2 รูปเรขาค - ระนาบ ป.5 สัญลกั ษณ - มมุ •สว่ นป •การเร •สัญลัก •ชนดิ ข - ชนิดและ - การสร้าง 1 รูปเรขาค - เสน้ ตง้ั ฉ - เส้นขนา - การสร้า และมุมภา (Transve กรอบหลกั สตู รระดบั ทอ้ งถ่นิ : สำนกั งำนเขตพนื้ ท่กี ำรศกึ
สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ ้องถิ่น ณิตสองมิติ กนสมมาตร สังคมและวิถีชีวติ คณติ เศรษฐกิจและอาชีพทส่ี ำคญั จุด เสน้ ตรง รงั สี สว่ นของเส้นตรงและ - เศรษฐกิจ ณ์แสดงเสน้ ตรง รังสี สว่ นของเส้นตรง ภมู ปิ ญั ญาท้องถิน่ ประกอบของมุม 76 รียกชื่อมุม กษณแ์ สดงมมุ ของมุม ะสมบตั ขิ องรูปส่ีเหล่ยี มมมุ ฉาก งรปู ส่ีเหล่ยี มมมุ ฉาก คณติ ฉากและสญั ลักษณ์แสดงการต้ังฉาก านและสญั ลกั ษณแ์ สดงการขนาน างเส้นขนาน มุมแยง้ มมุ ภายใน ายนอกทีอ่ ยูบ่ นขา้ งเดยี วกนั ของเสน้ ตัดขวาง ersal) กษำประถมศกึ ษำนครศรี ธรรมรำช เขต 4
สาระ มาตรฐาน ชน้ั ตัวช้วี ัด 2. การวดั และเรขาคณติ ค 2.2 ป.5 2,3 รูปเรขาคณ - ชนดิ แล ป.6 - การสร 4. รปู เรขาคณ ม.1 - ลกั ษณ 1,2 รปู เรขาคณ - ชนิดแล - การสร - สว่ นต่า - การสรา้ 3,4 รูปเรขาค - ทรงกลม รูปคล่ีของ 1 การสรา้ ง - การสรา้ - การสร้า สรา้ งพน้ื ฐ - การนำค ทางเรขาค กรอบหลกั สตู รระดบั ทอ้ งถ่นิ : สำนกั งำนเขตพนื้ ท่กี ำรศกึ
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรูท้ อ้ งถน่ิ ณติ สองมติ ิ ละสมบตั ิของรปู สี่เหลย่ี ม สงั คมและวิถชี ีวติ ร้างรปู ส่ีเหล่ยี ม ณิตสามมิติ เศรษฐกิจและอาชีพทีส่ ำคัญ ณะและสว่ นตา่ ง ๆ ของปรซิ มึ - เศรษฐกิจ ภมู ิปญั ญาท้องถนิ่ ณติ สามมิติ ละสมบตั ขิ องรปู สามเหล่ียม 77 ร้างรปู สามเหลย่ี ม าง ๆ ของวงกลม างวงกลม คณิตสามมิติ ม ทรงกระบอก กรวย พีระมิด งทรงกระบอก กรวย ปรซิ ึม พีระมดิ งทางเรขาคณติ างพื้นฐานทางเรขาคณิต างรปู เรขาคณิตสองมิติโดยใช้การ ฐานทางเรขาคณติ ความรูเ้ กยี่ วกับการสร้างพน้ื ฐาน คณติ ไปใชใ้ นชีวติ จริง กษำประถมศกึ ษำนครศรี ธรรมรำช เขต 4
สาระ มาตรฐาน ช้ัน ตัวชว้ี ัด มติ ิสัมพนั 2. การวัดและเรขาคณติ ค 2.2 ม.1 2 - หน้าตดั ข - ภาพท่ไี ด ม.2 1 ดา้ นบนขอ 2 ข้นึ จากลูก 3 การสร้างท - การนำคว 4 ไปใชใ้ นชวี เส้นขนาน - สมบัตเิ ก การแปลง - การเลื่อ - การสะท - การหมนุ - การนำค เรขาคณติ ความเท่าก - ความเทา่ - การนำคว ทุกประการ กรอบหลกั สตู รระดบั ทอ้ งถ่นิ : สำนกั งำนเขตพนื้ ท่กี ำรศกึ
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นร้ทู ้องถน่ิ นธ์ของรูปเรขาคณติ สงั คมและวิถชี ีวิต ของรปู เรขาคณิตสามมติ ิ เศรษฐกจิ และอาชีพทส่ี ำคัญ ดจ้ ากการมองด้านหนา้ ด้านขา้ ง - เศรษฐกิจ องรูปเรขาคณิตสามมิติท่ีประกอบ ภมู ิปัญญาท้องถิน่ กบาศก์ ทางเรขาคณติ วามรู้เก่ียวกับการสร้างทางเรขาคณิต วิตจรงิ น กยี่ วกบั เส้นขนานและรูปสามเหลย่ี ม 78 งทางเรขาคณิต อนขนาน ท้อน น ความร้เู กีย่ วกับการแปลงทาง ตไปใชใ้ นการแกป้ ญั หา กันทกุ ประการ ากันทุกประการของรูปสามเหลย่ี ม วามรเู้ กยี่ วกบั ความเท่ากนั รไปใช้ในการแกป้ ัญหา กษำประถมศกึ ษำนครศรี ธรรมรำช เขต 4
สาระ มาตรฐาน ชน้ั ตัวช้วี ดั 2. การวัดและเรขาคณติ ค 2.2 ม.2 5 ทฤษฎบี ท ม.3 - ทฤษฎบี - การนำค บทกลับไป 1 ความคลา้ - รปู สาม - การนำค แกป้ ัญหา 2 อตั ราส่วน - อัตราส่ว - การนำค องศา 45 แก้ปญั หา 3 วงกลม - วงกลม - ทฤษฎบี กรอบหลกั สตู รระดบั ทอ้ งถ่นิ : สำนกั งำนเขตพนื้ ท่กี ำรศกึ
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรียนร้ทู ้องถ่นิ ทพที าโกรสั สงั คมและวิถชี ีวิต บทพที าโกรสั และบทกลับ เศรษฐกจิ และอาชีพท่สี ำคญั ความรู้เก่ียวกบั ทฤษฎบี ทพที าโกรัสและ - เศรษฐกิจ ปใช้ในชวี ิตจรงิ ภมู ิปัญญาท้องถิน่ าย มเหลี่ยมที่คลา้ ยกัน ความรูเ้ ก่ยี วกับความคล้ายไปใชใ้ นการ 79 นตรโี กณมติ ิ วนตรีโกณมติ ิ ค่าอัตราส่วนตรีโกณมิติของมมุ 30 องศาและ 60 องศา ไปใชใ้ นการ คอร์ด และเสน้ สัมผสั บทเกีย่ วกับวงกลม กษำประถมศกึ ษำนครศรี ธรรมรำช เขต 4
สาระ มาตรฐาน ช้ัน ตัวชวี้ ัด 2. กา 3. สถติ ิและ ค. 3.1 ป.1 1 การนำเส - การอ่าน ความนา่ จะเป็น 1 การนำเส ป.2 - การอา่ น ป.3 1 , 2 การเกบ็ ร - การเกบ็ ป.4 ป.5 - การอ่าน ป.6 - การอ่าน (One-Wa 1 การนำเส - การอ่านแ (ไมร่ วมกา - การอ่าน 1 , 2 การนำเส - การอ่าน - การอา่ น 1 การนำเสน - การอา่ น กรอบหลกั สตู รระดบั ทอ้ งถ่นิ : สำนกั งำนเขตพนื้ ท่กี ำรศกึ
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถิน่ สนอข้อมูล สงั คมและวถิ ชี ีวิต นแผนภูมริ ปู ภาพ สนอข้อมูล เศรษฐกิจและอาชีพทีส่ ำคญั นแผนภมู ิรูปภาพ - เศรษฐกจิ รวบรวมข้อมูลและการนำเสนอข้อมูล ภมู ิปัญญาท้องถิ่น บรวบรวมขอ้ มูลและจำแนกข้อมลู นและการเขยี นแผนภูมริ ูปภาพ 80 นและการเขยี นตารางทางเดียว ay Table) สนอขอ้ มลู และการเขียนแผนภูมแิ ทง่ ารยน่ ระยะ) นตารางสองทาง (Two-Way Table) สนอขอ้ มลู นและการเขียนแผนภูมแิ ท่ง นกราฟเส้น นอขอ้ มลู นแผนภมู ิรปู วงกลม กษำประถมศกึ ษำนครศรี ธรรมรำช เขต 4
สาระ มาตรฐาน ชน้ั ตัวช้ีวัด 2. การ 3. สถิตแิ ละ ค. 3.1 ม.1 1 สถติ ิ - การต้ังค ความนา่ จะเปน็ - การเกบ็ - การนำเส ม.2 * แผนภ * แผนภ * กราฟ * แผนภ - การแปล - การนำส 1 สถติ ิ - การนำเส * แผนภ * แผนภ * ฮสิ โท * คา่ กล - การแปล - การนำส กรอบหลกั สตู รระดบั ทอ้ งถ่นิ : สำนกั งำนเขตพนื้ ท่กี ำรศกึ
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถิ่น สังคมและวถิ ชี ีวติ คำถามสถิติ บรวบรวมขอ้ มลู เศรษฐกจิ และอาชีพท่สี ำคัญ สนอข้อมูล - เศรษฐกจิ ภูมริ ปู ภาพ ภมู ปิ ญั ญาท้องถิน่ ภูมิแท่ง ฟเสน้ 81 ภูมิรปู วงกลม ลความหมายขอ้ มูล สถิติไปใช้ในชีวติ จรงิ สนอและการวเิ คราะห์ขอ้ มูล ภาพจุด ภาพต้น-ใบ ทแกรม ลางของข้อมลู ลความหมายผลลพั ธ์ สถติ ิไปใชใ้ นชวี ติ จริง กษำประถมศกึ ษำนครศรี ธรรมรำช เขต 4
สาระ มาตรฐาน ช้ัน ตวั ชี้วัด 3 3. สถติ แิ ละ ค 3.1 ม.3 1 สถติ ิ - ข้อมูลแล ความนา่ จะเปน็ * แผนภ - การแปล ค 3.2 ม.3 - การนำส 1 ความน่าจ - เหตุการ - ความนา่ - การนำค ในชีวิตจร กรอบหลกั สตู รระดบั ทอ้ งถ่นิ : สำนกั งำนเขตพนื้ ท่กี ำรศกึ
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรทู้ ้องถน่ิ สังคมและวิถีชีวิต ละการวเิ คราะหข์ ้อมูล ภาพกล่อง เศรษฐกิจและอาชีพท่สี ำคญั ลความหมายผลลพั ธ์ - เศรษฐกิจ สถติ ไิ ปใชใ้ นชวี ิตจริง ภมู ิปัญญาท้องถ่นิ จะเปน็ รณ์จากการทดลองสุ่ม 82 าจะเป็น ความร้เู กีย่ วกับความน่าจะเปน็ ไปใช้ รงิ กษำประถมศกึ ษำนครศรี ธรรมรำช เขต 4
กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ (ฉบบั ปรับปรุง พทุ ธศกั ราช 2560) สาระที่ มาตรฐาน ช้นั ตัวชีว้ ดั 1. วิทยาศาสตร์ชวี ภาพ ว 1.1 ป.1 1,2 -บริเวณต ใตต้ น้ ไม้ ส สัตวห์ ลาย - บรเิ วณท แตกต่างก บริเวณจะ ของพืชแล เช่น สระน ปลา สาห อาหารขอ มีต้นมะมว่ สำหรบั กร - ถา้ สภาพ อาศยั อยู่ ดำรงชวี ิต กรอบหลกั สตู รระดบั ทอ้ งถ่นิ : สำนกั งำนเขตพนื้ ท่กี ำรศกึ
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรูท้ อ้ งถน่ิ 83 ต่าง ๆ ในทอ้ งถิ่น เช่น สนามหญ้า สวนหยอ่ ม แหล่งนำ้ อาจพบพืชและ ส่ิงแวดลอ้ ม ยชนดิ อาศัยอยู่ ที่แตกตา่ งกนั อาจพบพชื และสตั ว์ -ระบบนิเวศในทอ้ งถน่ิ กนั เพราะสภาพแวดลอ้ มของแต่ละ -สง่ิ มชี วี ติ ในทอ้ งถนิ่ ะมี ความเหมาะสมต่อการดำรงชีวิต -สงิ่ แวดลอ้ มในทอ้ งถน่ิ ละสัตว์ ท่ีอาศยั อยใู่ นแต่ละบรเิ วณ -กำรอนุรกั ษส์ งิ่ แวดลอ้ มและ น้ำ มนี ้ำเปน็ ท่ีอยู่อาศยั ของหอย ทรพั ยำกรธรรมชำตใิ นทอ้ งถนิ่ หร่าย เป็นที่หลบภยั และมีแหลง่ -ปัญหำสง่ิ แวดลอ้ มในทอ้ งถนิ่ องหอยและปลา บรเิ วณ ต้นมะมว่ ง วงเปน็ แหลง่ ที่อยู่และมีอาหาร ระรอกและมด พแวดลอ้ มในบรเิ วณทพ่ี ืชและสตั ว์ มกี ารเปลีย่ นแปลง จะมีผลต่อการ ตของ พืชและสตั ว์ กษำประถมศกึ ษำนครศรี ธรรมรำช เขต 4
กลุม่ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์ สาระที่ มาตรฐาน ชน้ั ตัวชวี้ ัด ป.5 1 - สงิ่ มีชีวิต 1. วทิ ยาศาสตรช์ ีวภาพ ว 1.1 ลักษณะ ท เป็นผลมา เพือ่ ให้ดำ ท่อี ยู่ เช่น ชว่ ยให้ลอย มรี ากค้ำจ ช่วยในกา 2,3,4 - ในแหล่ง ความสัมพ สง่ิ ไมม่ ีชวี เชน่ ความ อาหาร เป เลย้ี งดูลกู - ส่งิ มชี ีวิต ต่อกนั เป ทำให้สาม เปน็ ผูผ้ ลติ กรอบหลกั สตู รระดบั ทอ้ งถ่นิ : สำนกั งำนเขตพนื้ ท่กี ำรศกึ
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถิน่ ตทงั้ พืชและสตั วม์ โี ครงสร้างและ ส่ิงแวดล้อม ท่ีเหมาะสมในแต่ละแหล่งทีอ่ ยู่ซ่ึง -ระบบนิเวศในทอ้ งถน่ิ าจาก การปรบั ตัวของสิ่งมชี วี ติ -สงิ่ มชี วี ติ ในทอ้ งถนิ่ ำรงชวี ติ และ อยู่รอดได้ในแตล่ ะแหล่ง -สง่ิ แวดลอ้ มในทอ้ งถน่ิ น ผักตบชวามี ชอ่ งอากาศในกา้ นใบ -กำรอนุรกั ษ์สงิ่ แวดลอ้ มและ ยน้ำได้ต้นโกงกาง ที่ข้ึนอยู่ในป่าชายเลน ทรพั ยำกรธรรมชำตใิ นทอ้ งถน่ิ จุนทำให้ลำต้น ไม่ลม้ ปลามีครีบ -ปัญหำสง่ิ แวดลอ้ มในทอ้ งถนิ่ ารเคลอ่ื นท่ีในนำ้ 84 งที่อยหู่ น่ึง ๆ สิ่งมีชีวิตจะมี พันธ์ ซึง่ กันและกันและสัมพันธ์กบั วิต เพื่อ ประโยชนต์ ่อการดำรงชวี ิต มสมั พันธ์กนั ด้านการกนิ กันเปน็ ป็นแหลง่ ท่ีอยู่อาศัย หลบภยั และ กอ่อน ใชอ้ ากาศในการหายใจ ตมีการกินกันเป็นอาหาร โดยกนิ ปน็ ทอดๆในรปู แบบของโซอ่ าหาร มารถ ระบุบทบาทหนา้ ทขี่ องสิ่งมีชวี ติ ตและ ผู้บริโภค กษำประถมศกึ ษำนครศรี ธรรมรำช เขต 4
กล่มุ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ (ฉบับปรบั ปรุง พุทธศักราช 2560) สาระท่ี มาตรฐาน ชั้น ตวั ชี้วัด ม.3 1 1. วทิ ยาศาสตร์ชีวภาพ ว 1.1 • ระบบนิเวศ 2 สัตวจ์ ลุ นิ ทรยี อณุ หภูมแิ ร่ธา เชน่ พชื ต้องก ในการสรา้ งอ ทเี่ หมาะสมใน องคป์ ระกอบ เหมาะสม ระ - สิ่งมชี วี ติ กบั เชน่ ภาวะพง่ึ ภาวะปรสิต - ส่ิงมชี วี ติ ชน ใน แหลง่ ที่อย ประชากร - กลุม่ สิ่งมีชวี หลาย ๆ ชนิด กรอบหลกั สตู รระดบั ทอ้ งถ่นิ : สำนกั งำนเขตพนื้ ท่กี ำรศกึ
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ทอ้ งถ่ิน ศประกอบด้วยองค์ประกอบที่มชี ีวติ เช่น พืช สิ่งแวดลอ้ ม ย์และองคป์ ระกอบท่ี ไมม่ ชี วี ิต เช่น แสง น้ำ -ระบบนิเวศในทอ้ งถน่ิ าตแุ กส๊ องคป์ ระกอบเหลา่ นี้มปี ฏิสมั พนั ธก์ ัน -สงิ่ มชี วี ติ ในทอ้ งถน่ิ การแสง น้ำ และแกส๊ คารบ์ อนไดออกไซด์ -สงิ่ แวดลอ้ มในทอ้ งถน่ิ อาหาร สตั ว์ต้องการอาหาร และสภาพแวดล้อม -กำรอนุรกั ษ์สงิ่ แวดลอ้ มและ ทรพั ยำกรธรรมชำตใิ น นการดำรงชีวิต เชน่ อณุ หภูมิความชื้น บทั้งสองส่วนน้ี จะตอ้ งมีความสัมพันธก์ ันอยา่ ง ทอ้ งถน่ิ -ปัญหำสง่ิ แวดลอ้ มใน ะบบนเิ วศจงึ จะสามารถคงอยู่ต่อไปได้ 85 บสิ่งมชี ีวิตมีความสัมพันธ์กนั ในรปู แบบตา่ งๆ ทอ้ งถนิ่ งพากนั ภาวะองิ อาศัย ภาวะเหย่ือกบั ผ้ลู ่า นิดเดียวกันทีอ่ าศัยอย่รู ว่ มกนั ยเู่ ดียวกนั ในช่วงเวลาเดียวกนั เรียกว่า วิตประกอบดว้ ยประชากรของสิ่งมีชีวติ ด อาศยั อยู่รว่ มกันในแหล่งทอี่ ยูเ่ ดยี วกัน กษำประถมศกึ ษำนครศรี ธรรมรำช เขต 4
สาระที่ มาตรฐาน ช้นั ตัวชีว้ ัด ม.3 3,4,5,6 1. วทิ ยาศาสตรช์ วี ภาพ ว 1.1 - กลุ่มสิง่ มชี ีวติ ได้แกผ่ ู้ผลิต ผ้บู ท้ัง ๓ กล่มุ นี้มคี อาหาร ได้เอง โ เปน็ สิง่ มีชีวิตท่ีไ หรือสง่ิ มีชีวติ อืน่ จะถกู ย่อยโดย เป็นสารอนนิ ทร สารเปน็ วฏั จักร สารอนิ ทรีย์ จะ อย่ไู ด้อยา่ งสมด • พลังงานถูกถา่ รวมทง้ั ผู้ยอ่ ยสล ประกอบดว้ ยโซ พลังงานใน โซ่อ เรือ่ ย ๆ ตามลำ กรอบหลกั สตู รระดบั ทอ้ งถ่นิ : สำนกั งำนเขตพนื้ ท่กี ำรศกึ
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรียนร้ทู อ้ งถน่ิ ตในระบบนเิ วศแบ่งตามหน้าที่ไดเ้ ป็น ๓ กลุ่ม ส่ิงแวดลอ้ ม บริโภค และผ้ยู ่อยสลาย สารอนิ ทรยี ์ส่ิงมชี ีวติ -ระบบนิเวศในทอ้ งถน่ิ ความ สัมพันธก์ ัน ผ้ผู ลิตเปน็ ส่ิงมชี ีวิตท่สี ร้าง -สงิ่ มชี วี ติ ในทอ้ งถนิ่ โดยกระบวนการสงั เคราะห์ด้วยแสง ผู้บรโิ ภค -สง่ิ แวดลอ้ มในทอ้ งถน่ิ ไม่สามารถสร้างอาหาร ได้เอง และต้องกนิ ผู้ผลติ -กำรอนุรกั ษส์ งิ่ แวดลอ้ มและ น เป็นอาหาร เมื่อผู้ผลิตและผบู้ ริโภคตายลง ทรพั ยำกรธรรมชำตใิ น ยผยู้ อ่ ยสลายสารอนิ ทรยี ซ์ ึ่งจะเปล่ยี นสารอนิ ทรีย์ ทอ้ งถน่ิ รยี ก์ ลบั คืนสสู่ ิ่งแวดลอ้ ม ทำให้เกดิ การหมุนเวียน -ปัญหำสงิ่ แวดลอ้ มใน ทอ้ งถน่ิ 86 ร จำนวนผู้ผลติ ผูบ้ ริโภคและผ้ยู ่อยสลาย ะต้องมีความเหมาะสม จึงทำให้กลุ่มส่งิ มชี วี ติ ดลุ ายทอดจากผูผ้ ลิตไปยงั ผู้บริโภค ลำดับต่าง ๆ ลายสารอนิ ทรีย์ ในรปู แบบสายใยอาหาร ที่ ซอ่ าหาร หลายโซ่ทส่ี มั พนั ธก์ นั ในการถา่ ยทอด อาหาร พลังงานทถี่ ูกถา่ ยทอดไปจะลดลง ำดับของการบริโภค กษำประถมศกึ ษำนครศรี ธรรมรำช เขต 4
สาระที่ มาตรฐาน ชน้ั ตัวชี้วัด ม.3 3,4,5,6 1. วทิ ยาศาสตรช์ ีวภาพ ว 1.1 - การถ่าย 1 สารพษิ สะ ว 1.2 ป.1 อันตรายต ดงั น้ันการ และคงอย - สตั ว์มหี ล และหนา้ ท ดำรงชวี ิต มขี า ๔ ขา - พืชมสี ว่ เพือ่ ให้เหม ลักษณะเร ทำหน้าท่ดี ต้งั ตรงแล ใบมลี ักษณ นอกจากน ทำหนา้ ทส่ี เมลด็ และ กรอบหลกั สตู รระดบั ทอ้ งถ่นิ : สำนกั งำนเขตพนื้ ท่กี ำรศกึ
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรูท้ อ้ งถนิ่ ยทอดพลงั งานในระบบนเิ วศ อาจทำให้ มี ส่ิงแวดลอ้ ม ะสมอย่ใู นสง่ิ มีชวี ิตได้จนอาจก่อใหเ้ กิด -ระบบนเิ วศในทอ้ งถนิ่ ต่อสง่ิ มีชวี ติ และทำลายสมดลุ ใน ระบบนเิ วศ -สงิ่ มชี วี ติ ในทอ้ งถนิ่ รดแู ลรักษาระบบนิเวศ ให้เกดิ ความสมดุล -สงิ่ แวดลอ้ มในทอ้ งถนิ่ ย่ตู ลอดไปจงึ เป็น สิ่งสำคัญ -กำรอนุรกั ษ์สง่ิ แวดลอ้ มและ ลายชนดิ แต่ละชนดิ มีสว่ นต่างๆ ทีม่ ี ลกั ษณะ ทรพั ยำกรธรรมชำตใิ นทอ้ งถน่ิ -ปัญหำสง่ิ แวดลอ้ มในทอ้ งถน่ิ ทแ่ี ตกตา่ งกัน เพื่อให้เหมาะสม ในการ ต เช่น ปลามีครบี เปน็ แผน่ ส่วนกบ เตา่ แมว า และมเี ท้าสำหรับใชใ้ นการ เคลอ่ื นที่ วนตา่ ง ๆ ท่มี ีลักษณะและหน้าท่แี ตกต่างกัน 87 มาะสมในการดำรงชีวติ โดยท่วั ไป รากมี รยี วยาว และแตกแขนงเปน็ รากเลก็ ๆ ดูดนำ้ ลำตน้ มีลกั ษณะเปน็ ทรงกระบอก ละมีก่ิงกา้ น ทำหนา้ ท่ีชูกง่ิ ก้าน ใบ และดอก ณะเป็นแผน่ แบน ทำหน้าที่ สรา้ งอาหาร น้พี ืชหลายชนิด อาจมีดอก ทีม่ สี ีรปู ร่างตา่ ง ๆ สืบพนั ธ์ุรวมท้ังมีผล ท่ีมีเปลือก มีเนือ้ ห่อหุ้ม ะมเี มล็ด ซง่ึ สามารถงอกเป็นตน้ ใหม่ได้ กษำประถมศกึ ษำนครศรี ธรรมรำช เขต 4
สาระท่ี มาตรฐาน ชั้น ตัวช้ีวัด 1. วิทยาศาสตรช์ ีวภาพ ว 1.2 ป.2 1,2 - พืชตอ้ งก 3 - พืชดอก ป.3 การ สบื พ ผลมีเมลด็ เมลด็ จะเจ ใหมจ่ ะเจร ต่อไปได้อ ของพชื ดอ 1,2 - มนุษยแ์ อากาศ เพ - อาหารช เจรญิ เติบ ปกตอิ ากา 3,4 - สัตวเ์ มอื่ ลกู เจริญเ ต่อไป ได้อ ชวี ิตของส กบ ไก่ มน แตกตา่ งก กรอบหลกั สตู รระดบั ทอ้ งถ่นิ : สำนกั งำนเขตพนื้ ท่กี ำรศกึ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 534
Pages: