Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore กรอบหลักสูตรท้องถิ่น (เล่ม)

กรอบหลักสูตรท้องถิ่น (เล่ม)

Description: กรอบหลักสูตรท้องถิ่น (เล่ม)

Search

Read the Text Version

สาระ มาตรฐาน ช้ัน ตวั ชี้วัด 3 3. สถติ แิ ละ ค 3.1 ม.3 1 สถติ ิ - ข้อมูลแล ความนา่ จะเปน็ * แผนภ - การแปล ค 3.2 ม.3 - การนำส 1 ความน่าจ - เหตุการ - ความนา่ - การนำค ในชีวิตจร กรอบหลกั สตู รระดบั ทอ้ งถ่นิ : สำนกั งำนเขตพนื้ ท่กี ำรศกึ

สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรทู้ ้องถน่ิ สังคมและวิถีชีวิต ละการวเิ คราะหข์ ้อมูล ภาพกล่อง เศรษฐกิจและอาชีพท่สี ำคญั ลความหมายผลลพั ธ์ - เศรษฐกิจ สถติ ไิ ปใชใ้ นชวี ิตจริง ภมู ิปัญญาท้องถ่นิ จะเปน็ รณ์จากการทดลองสุ่ม 82 าจะเป็น ความร้เู กีย่ วกับความน่าจะเปน็ ไปใช้ รงิ กษำประถมศกึ ษำนครศรี ธรรมรำช เขต 4

กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ (ฉบบั ปรับปรุง พทุ ธศกั ราช 2560) สาระที่ มาตรฐาน ช้นั ตัวชีว้ ดั 1. วิทยาศาสตร์ชวี ภาพ ว 1.1 ป.1 1,2 -บริเวณต ใตต้ น้ ไม้ ส สัตวห์ ลาย - บรเิ วณท แตกต่างก บริเวณจะ ของพืชแล เช่น สระน ปลา สาห อาหารขอ มีต้นมะมว่ สำหรบั กร - ถา้ สภาพ อาศยั อยู่ ดำรงชวี ิต กรอบหลกั สตู รระดบั ทอ้ งถ่นิ : สำนกั งำนเขตพนื้ ท่กี ำรศกึ

สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรูท้ อ้ งถน่ิ 83 ต่าง ๆ ในทอ้ งถิ่น เช่น สนามหญ้า สวนหยอ่ ม แหล่งนำ้ อาจพบพืชและ ส่ิงแวดลอ้ ม ยชนดิ อาศัยอยู่ ที่แตกตา่ งกนั อาจพบพชื และสตั ว์ -ระบบนิเวศในทอ้ งถน่ิ กนั เพราะสภาพแวดลอ้ มของแต่ละ -สง่ิ มชี วี ติ ในทอ้ งถนิ่ ะมี ความเหมาะสมต่อการดำรงชีวิต -สงิ่ แวดลอ้ มในทอ้ งถน่ิ ละสัตว์ ท่ีอาศยั อยใู่ นแต่ละบรเิ วณ -กำรอนุรกั ษส์ งิ่ แวดลอ้ มและ น้ำ มนี ้ำเปน็ ท่ีอยู่อาศยั ของหอย ทรพั ยำกรธรรมชำตใิ นทอ้ งถนิ่ หร่าย เป็นที่หลบภยั และมีแหลง่ -ปัญหำสง่ิ แวดลอ้ มในทอ้ งถนิ่ องหอยและปลา บรเิ วณ ต้นมะมว่ ง วงเปน็ แหลง่ ที่อยู่และมีอาหาร ระรอกและมด พแวดลอ้ มในบรเิ วณทพ่ี ืชและสตั ว์ มกี ารเปลีย่ นแปลง จะมีผลต่อการ ตของ พืชและสตั ว์ กษำประถมศกึ ษำนครศรี ธรรมรำช เขต 4

กลุม่ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์ สาระที่ มาตรฐาน ชน้ั ตัวชวี้ ัด ป.5 1 - สงิ่ มีชีวิต 1. วทิ ยาศาสตรช์ ีวภาพ ว 1.1 ลักษณะ ท เป็นผลมา เพือ่ ให้ดำ ท่อี ยู่ เช่น ชว่ ยให้ลอย มรี ากค้ำจ ช่วยในกา 2,3,4 - ในแหล่ง ความสัมพ สง่ิ ไมม่ ีชวี เชน่ ความ อาหาร เป เลย้ี งดูลกู - ส่งิ มชี ีวิต ต่อกนั เป ทำให้สาม เปน็ ผูผ้ ลติ กรอบหลกั สตู รระดบั ทอ้ งถ่นิ : สำนกั งำนเขตพนื้ ท่กี ำรศกึ

สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถิน่ ตทงั้ พืชและสตั วม์ โี ครงสร้างและ ส่ิงแวดล้อม ท่ีเหมาะสมในแต่ละแหล่งทีอ่ ยู่ซ่ึง -ระบบนิเวศในทอ้ งถน่ิ าจาก การปรบั ตัวของสิ่งมชี วี ติ -สงิ่ มชี วี ติ ในทอ้ งถนิ่ ำรงชวี ติ และ อยู่รอดได้ในแตล่ ะแหล่ง -สง่ิ แวดลอ้ มในทอ้ งถน่ิ น ผักตบชวามี ชอ่ งอากาศในกา้ นใบ -กำรอนุรกั ษ์สงิ่ แวดลอ้ มและ ยน้ำได้ต้นโกงกาง ที่ข้ึนอยู่ในป่าชายเลน ทรพั ยำกรธรรมชำตใิ นทอ้ งถน่ิ จุนทำให้ลำต้น ไม่ลม้ ปลามีครีบ -ปัญหำสง่ิ แวดลอ้ มในทอ้ งถนิ่ ารเคลอ่ื นท่ีในนำ้ 84 งที่อยหู่ น่ึง ๆ สิ่งมีชีวิตจะมี พันธ์ ซึง่ กันและกันและสัมพันธ์กบั วิต เพื่อ ประโยชนต์ ่อการดำรงชวี ิต มสมั พันธ์กนั ด้านการกนิ กันเปน็ ป็นแหลง่ ท่ีอยู่อาศัย หลบภยั และ กอ่อน ใชอ้ ากาศในการหายใจ ตมีการกินกันเป็นอาหาร โดยกนิ ปน็ ทอดๆในรปู แบบของโซอ่ าหาร มารถ ระบุบทบาทหนา้ ทขี่ องสิ่งมีชวี ติ ตและ ผู้บริโภค กษำประถมศกึ ษำนครศรี ธรรมรำช เขต 4

กล่มุ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ (ฉบับปรบั ปรุง พุทธศักราช 2560) สาระท่ี มาตรฐาน ชั้น ตวั ชี้วัด ม.3 1 1. วทิ ยาศาสตร์ชีวภาพ ว 1.1 • ระบบนิเวศ 2 สัตวจ์ ลุ นิ ทรยี อณุ หภูมแิ ร่ธา เชน่ พชื ต้องก ในการสรา้ งอ ทเี่ หมาะสมใน องคป์ ระกอบ เหมาะสม ระ - สิ่งมชี วี ติ กบั เชน่ ภาวะพง่ึ ภาวะปรสิต - ส่ิงมชี วี ติ ชน ใน แหลง่ ที่อย ประชากร - กลุม่ สิ่งมีชวี หลาย ๆ ชนิด กรอบหลกั สตู รระดบั ทอ้ งถ่นิ : สำนกั งำนเขตพนื้ ท่กี ำรศกึ

สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ทอ้ งถ่ิน ศประกอบด้วยองค์ประกอบที่มชี ีวติ เช่น พืช สิ่งแวดลอ้ ม ย์และองคป์ ระกอบท่ี ไมม่ ชี วี ิต เช่น แสง น้ำ -ระบบนิเวศในทอ้ งถน่ิ าตแุ กส๊ องคป์ ระกอบเหลา่ นี้มปี ฏิสมั พนั ธก์ ัน -สงิ่ มชี วี ติ ในทอ้ งถน่ิ การแสง น้ำ และแกส๊ คารบ์ อนไดออกไซด์ -สงิ่ แวดลอ้ มในทอ้ งถน่ิ อาหาร สตั ว์ต้องการอาหาร และสภาพแวดล้อม -กำรอนุรกั ษ์สงิ่ แวดลอ้ มและ ทรพั ยำกรธรรมชำตใิ น นการดำรงชีวิต เชน่ อณุ หภูมิความชื้น บทั้งสองส่วนน้ี จะตอ้ งมีความสัมพันธก์ ันอยา่ ง ทอ้ งถน่ิ -ปัญหำสง่ิ แวดลอ้ มใน ะบบนเิ วศจงึ จะสามารถคงอยู่ต่อไปได้ 85 บสิ่งมชี ีวิตมีความสัมพันธ์กนั ในรปู แบบตา่ งๆ ทอ้ งถนิ่ งพากนั ภาวะองิ อาศัย ภาวะเหย่ือกบั ผ้ลู ่า นิดเดียวกันทีอ่ าศัยอย่รู ว่ มกนั ยเู่ ดียวกนั ในช่วงเวลาเดียวกนั เรียกว่า วิตประกอบดว้ ยประชากรของสิ่งมีชีวติ ด อาศยั อยู่รว่ มกันในแหล่งทอี่ ยูเ่ ดยี วกัน กษำประถมศกึ ษำนครศรี ธรรมรำช เขต 4

สาระที่ มาตรฐาน ช้นั ตัวชีว้ ัด ม.3 3,4,5,6 1. วทิ ยาศาสตรช์ วี ภาพ ว 1.1 - กลุ่มสิง่ มชี ีวติ ได้แกผ่ ู้ผลิต ผ้บู ท้ัง ๓ กล่มุ นี้มคี อาหาร ได้เอง โ เปน็ สิง่ มีชีวิตท่ีไ หรือสง่ิ มีชีวติ อืน่ จะถกู ย่อยโดย เป็นสารอนนิ ทร สารเปน็ วฏั จักร สารอนิ ทรีย์ จะ อย่ไู ด้อยา่ งสมด • พลังงานถูกถา่ รวมทง้ั ผู้ยอ่ ยสล ประกอบดว้ ยโซ พลังงานใน โซ่อ เรือ่ ย ๆ ตามลำ กรอบหลกั สตู รระดบั ทอ้ งถ่นิ : สำนกั งำนเขตพนื้ ท่กี ำรศกึ

สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรียนร้ทู อ้ งถน่ิ ตในระบบนเิ วศแบ่งตามหน้าที่ไดเ้ ป็น ๓ กลุ่ม ส่ิงแวดลอ้ ม บริโภค และผ้ยู ่อยสลาย สารอนิ ทรยี ์ส่ิงมชี ีวติ -ระบบนิเวศในทอ้ งถน่ิ ความ สัมพันธก์ ัน ผ้ผู ลิตเปน็ ส่ิงมชี ีวิตท่สี ร้าง -สงิ่ มชี วี ติ ในทอ้ งถนิ่ โดยกระบวนการสงั เคราะห์ด้วยแสง ผู้บรโิ ภค -สง่ิ แวดลอ้ มในทอ้ งถน่ิ ไม่สามารถสร้างอาหาร ได้เอง และต้องกนิ ผู้ผลติ -กำรอนุรกั ษส์ งิ่ แวดลอ้ มและ น เป็นอาหาร เมื่อผู้ผลิตและผบู้ ริโภคตายลง ทรพั ยำกรธรรมชำตใิ น ยผยู้ อ่ ยสลายสารอนิ ทรยี ซ์ ึ่งจะเปล่ยี นสารอนิ ทรีย์ ทอ้ งถน่ิ รยี ก์ ลบั คืนสสู่ ิ่งแวดลอ้ ม ทำให้เกดิ การหมุนเวียน -ปัญหำสงิ่ แวดลอ้ มใน ทอ้ งถน่ิ 86 ร จำนวนผู้ผลติ ผูบ้ ริโภคและผ้ยู ่อยสลาย ะต้องมีความเหมาะสม จึงทำให้กลุ่มส่งิ มชี วี ติ ดลุ ายทอดจากผูผ้ ลิตไปยงั ผู้บริโภค ลำดับต่าง ๆ ลายสารอนิ ทรีย์ ในรปู แบบสายใยอาหาร ที่ ซอ่ าหาร หลายโซ่ทส่ี มั พนั ธก์ นั ในการถา่ ยทอด อาหาร พลังงานทถี่ ูกถา่ ยทอดไปจะลดลง ำดับของการบริโภค กษำประถมศกึ ษำนครศรี ธรรมรำช เขต 4

สาระที่ มาตรฐาน ชน้ั ตัวชี้วัด ม.3 3,4,5,6 1. วทิ ยาศาสตรช์ ีวภาพ ว 1.1 - การถ่าย 1 สารพษิ สะ ว 1.2 ป.1 อันตรายต ดงั น้ันการ และคงอย - สตั ว์มหี ล และหนา้ ท ดำรงชวี ิต มขี า ๔ ขา - พืชมสี ว่ เพือ่ ให้เหม ลักษณะเร ทำหน้าท่ดี ต้งั ตรงแล ใบมลี ักษณ นอกจากน ทำหนา้ ทส่ี เมลด็ และ กรอบหลกั สตู รระดบั ทอ้ งถ่นิ : สำนกั งำนเขตพนื้ ท่กี ำรศกึ

สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรูท้ อ้ งถนิ่ ยทอดพลงั งานในระบบนเิ วศ อาจทำให้ มี ส่ิงแวดลอ้ ม ะสมอย่ใู นสง่ิ มีชวี ิตได้จนอาจก่อใหเ้ กิด -ระบบนเิ วศในทอ้ งถนิ่ ต่อสง่ิ มีชวี ติ และทำลายสมดลุ ใน ระบบนเิ วศ -สงิ่ มชี วี ติ ในทอ้ งถนิ่ รดแู ลรักษาระบบนิเวศ ให้เกดิ ความสมดุล -สงิ่ แวดลอ้ มในทอ้ งถนิ่ ย่ตู ลอดไปจงึ เป็น สิ่งสำคัญ -กำรอนุรกั ษ์สง่ิ แวดลอ้ มและ ลายชนดิ แต่ละชนดิ มีสว่ นต่างๆ ทีม่ ี ลกั ษณะ ทรพั ยำกรธรรมชำตใิ นทอ้ งถน่ิ -ปัญหำสง่ิ แวดลอ้ มในทอ้ งถน่ิ ทแ่ี ตกตา่ งกัน เพื่อให้เหมาะสม ในการ ต เช่น ปลามีครบี เปน็ แผน่ ส่วนกบ เตา่ แมว า และมเี ท้าสำหรับใชใ้ นการ เคลอ่ื นที่ วนตา่ ง ๆ ท่มี ีลักษณะและหน้าท่แี ตกต่างกัน 87 มาะสมในการดำรงชีวติ โดยท่วั ไป รากมี รยี วยาว และแตกแขนงเปน็ รากเลก็ ๆ ดูดนำ้ ลำตน้ มีลกั ษณะเปน็ ทรงกระบอก ละมีก่ิงกา้ น ทำหนา้ ท่ีชูกง่ิ ก้าน ใบ และดอก ณะเป็นแผน่ แบน ทำหน้าที่ สรา้ งอาหาร น้พี ืชหลายชนิด อาจมีดอก ทีม่ สี ีรปู ร่างตา่ ง ๆ สืบพนั ธ์ุรวมท้ังมีผล ท่ีมีเปลือก มีเนือ้ ห่อหุ้ม ะมเี มล็ด ซง่ึ สามารถงอกเป็นตน้ ใหม่ได้ กษำประถมศกึ ษำนครศรี ธรรมรำช เขต 4

สาระท่ี มาตรฐาน ชั้น ตัวช้ีวัด 1. วิทยาศาสตรช์ ีวภาพ ว 1.2 ป.2 1,2 - พืชตอ้ งก 3 - พืชดอก ป.3 การ สบื พ ผลมีเมลด็ เมลด็ จะเจ ใหมจ่ ะเจร ต่อไปได้อ ของพชื ดอ 1,2 - มนุษยแ์ อากาศ เพ - อาหารช เจรญิ เติบ ปกตอิ ากา 3,4 - สัตวเ์ มอื่ ลกู เจริญเ ต่อไป ได้อ ชวี ิตของส กบ ไก่ มน แตกตา่ งก กรอบหลกั สตู รระดบั ทอ้ งถ่นิ : สำนกั งำนเขตพนื้ ท่กี ำรศกึ

สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง สาระการเรียนรูท้ ้องถ่นิ การนำ้ แสง เพ่ือการเจริญเติบโต สิ่งแวดล้อม กเม่ือเจรญิ เติบโตและมดี อก ดอกจะมี -ระบบนเิ วศในทอ้ งถน่ิ พันธเุ์ ปล่ยี นแปลงไปเปน็ ผล ภายใน -สง่ิ มชี วี ติ ในทอ้ งถน่ิ ด เมอื่ เมล็ดงอก ต้นอ่อนท่ีอยภู่ ายใน -สงิ่ แวดลอ้ มในทอ้ งถนิ่ จริญ เตบิ โตเป็นพืชตน้ ใหม่ พืชต้น -กำรอนุรกั ษ์สงิ่ แวดลอ้ มและ รญิ เติบโต ออกดอกเพอ่ื สบื พนั ธุ์มีผล ทรพั ยำกรธรรมชำตใิ นทอ้ งถน่ิ อกี หมนุ เวียน ต่อเนือ่ งเป็นวฏั จักรชีวติ -ปัญหำสง่ิ แวดลอ้ มในทอ้ งถนิ่ อก และสัตว์ต้องการอาหาร นำ้ และ พ่ือการดำรงชีวติ และการเจรญิ เตบิ โต 88 ชว่ ยให้รา่ งกายแข็งแรงและ บโต น้ำช่วยใหร้ า่ งกายทำงานได้อยา่ ง าศใช้ ในการหายใจ อเป็นตัวเตม็ วยั จะสืบพันธมุ์ ลี กู เมื่อ เติบโตเปน็ ตัวเต็มวยั ก็สืบพนั ธม์ุ ลี ูก อีก หมนุ เวียนต่อเนื่องเป็นวัฏจกั ร สัตว์ ซึง่ สัตวแ์ ตล่ ะชนิด เช่น ผีเส้ือ นุษย์ จะมวี ฏั จักรชีวิตทีเ่ ฉพาะและ กนั กษำประถมศกึ ษำนครศรี ธรรมรำช เขต 4

สาระท่ี มาตรฐาน ช้นั ตัวช้วี ัด - การสงั เค 1. วิทยาศาสตรช์ ีวภาพ ว 1.2 ม.1 7,8 สำคญั ตอ่ เดยี ว ท่ีสา ม.3 16,17,18 พลงั งาน ใ ว 1.3 ป.2 1 สะสมในร 1 พชื จึงเป็น ป.4 ของส่งิ มชี สังเคราะห ในการสรา้ เพือ่ ใหส้ งิ่ ม - การสบื พ - เทคโนโล - สงิ่ ที่อยรู่ สิง่ ไมม่ ีชีว - สิ่งมีชวี ติ โดยใชค้ วา ลกั ษณะต และเคลื่อ สิ่งมชี วี ิตอ กล่มุ ที่ไม่ใ กรอบหลกั สตู รระดบั ทอ้ งถ่นิ : สำนกั งำนเขตพนื้ ท่กี ำรศกึ

สาระการเรยี นร้แู กนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถน่ิ คราะห์ดว้ ยแสง เป็นกระบวนการที่ ส่ิงแวดลอ้ ม อสงิ่ มีชวี ิต เพราะเป็นกระบวนการ -ระบบนเิ วศในทอ้ งถน่ิ ามารถนำพลงั งานแสงมาเปล่ียนเป็น -สง่ิ มชี วี ติ ในทอ้ งถน่ิ ในรปู สารประกอบอินทรียแ์ ละเก็บ -สง่ิ แวดลอ้ มในทอ้ งถน่ิ รูปแบบ ตา่ ง ๆ ในโครงสร้างของพืช -กำรอนุรกั ษ์สงิ่ แวดลอ้ มและ นแหลง่ อาหารและพลงั งานที่สำคญั ทรพั ยำกรธรรมชำตใิ นทอ้ งถนิ่ ชีวติ อ่ืน นอกจากน้ีกระบวนการ -ปัญหำสง่ิ แวดลอ้ มในทอ้ งถนิ่ หด์ ว้ ยแสงยงั เปน็ กระบวนการหลกั างแก๊สออกซเิ จนให้กับ บรรยากาศ มีชวี ิตอื่น ใชใ้ นกระบวนการ หายใจ 89 พันธ์ุ แบบอาศัยเพศและไมอ่ าศัยเพศ ลยีการเพาะเล้ยี งเน้ือเย่อื พชื รอบตัวเรามีท้งั ที่เป็นสิ่งมีชวี ิตและ วติ ตมีหลายชนดิ สามารถจดั กลมุ่ ได้ ามเหมือนและความแตกตา่ งของ ต่างๆ เช่น กลุม่ พชื สรา้ งอาหารเองได้ อนทีด่ ้วย ตนเองไม่ได้กลมุ่ สตั ว์กิน อ่ืนเป็นอาหาร และเคลอ่ื นที่ได้ ใชพ่ ืชและสตั วเ์ ช่น เหด็ รา จลุ นิ ทรีย์ กษำประถมศกึ ษำนครศรี ธรรมรำช เขต 4

สาระที่ มาตรฐาน ชน้ั ตัวชี้วัด - การจำแ 1. วิทยาศาสตรช์ วี ภาพ ว 1.3 ป.4 2 การจำแน 3,4 - การจำแ ม.3 เป็นเกณฑ 9 ,10,11 และสัตว์ไ - สตั ว์มกี ร กลุ่มสตั วส์ กล่มุ นกแล จะมีลักษณ - ความหล ไดแ้ ก่ ควา ความหลา หลากหลา ชีวภาพน้ีม นเิ วศ ระบ จะรกั ษาส ทางชวี ภาพ ชวี ภาพยัง เชน่ ใช้เป อุตสาหกร กรอบหลกั สตู รระดบั ทอ้ งถ่นิ : สำนกั งำนเขตพนื้ ท่กี ำรศกึ

สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรทู้ ้องถ่ิน แนกพืช สามารถใชก้ ารมดี อกเปน็ เกณฑ์ ใน นก ไดเ้ ปน็ พชื ดอกและพืชไมม่ ดี อก ส่ิงแวดลอ้ ม แนกสตั วส์ ามารถใชก้ ารมกี ระดูกสนั หลงั ฑใ์ นการจำแนกไดเ้ ป็นสัตว์ มกี ระดูกสนั หลงั -ระบบนเิ วศในทอ้ งถนิ่ ไมม่ ีกระดกู สนั หลงั -สงิ่ มชี วี ติ ในทอ้ งถนิ่ ระดกู สนั หลงั มหี ลายกลุ่ม ไดแ้ ก่ กลุม่ ปลา -สง่ิ แวดลอ้ มในทอ้ งถนิ่ สะเทนิ นำ้ สะเทินบก กลุม่ สัตว์เล้ือยคลาน -กำรอนุรกั ษส์ ง่ิ แวดลอ้ มและ ละกลุ่มสัตว์เลีย้ งลูกดว้ ยนำ้ นม ซงึ่ แต่ละกลุ่ม ทรพั ยำกรธรรมชำตใิ นทอ้ งถนิ่ ณะเฉพาะทสี่ งั เกตได้ -ปัญหำสงิ่ แวดลอ้ มในทอ้ งถนิ่ ลากหลายทางชวี ภาพ มี ๓ ระดับ ามหลากหลายของระบบนิเวศ 90 ากหลายของชนิดสง่ิ มีชีวติ และความ าย ทางพันธกุ รรม ความหลากหลายทาง มี ความสำคญั ต่อการรักษาสมดุลของระบบ บบนิเวศท่ีมีความหลากหลายทางชวี ภาพสงู สมดลุ ไดด้ ีกวา่ ระบบนิเวศที่มคี วามหลากหลาย พตำ่ กว่านอกจากน้ี ความหลากหลายทาง งมคี วามสำคัญ ต่อมนษุ ยใ์ นดา้ นต่าง ๆ ป็นอาหาร ยารักษาโรค วัตถดุ ิบใน รรมต่าง ๆ กษำประถมศกึ ษำนครศรี ธรรมรำช เขต 4

สาระท่ี มาตรฐาน ชัน้ 4 2 วิทยาศาสตร์ 2.1 ป.1 ตวั ช้ีวัด กายภาพ 1,2 - วัสดุทีใ่ ช้ท แก้ว พลาสต ป.3 ชนดิ มีสมบตั ใส ขุ่น ยดื ห - สมบตั ิที่สงั นำมาใชเ้ ปน็ - วัสดุบางอ ตา่ งๆ เช่น ผ กระทะ 1 -วัตถุอาจทำ เหมอื นกันม แต่ละช้ินขอ ประกอบเป ๆ ก้อนประก กำแพงบ้าน 2 - เมอื่ ใหค้ วา รอ้ นหรอื ทำ สเี ปลีย่ น รปู กรอบหลกั สตู รระดบั ทอ้ งถ่นิ : สำนกั งำนเขตพนื้ ท่กี ำรศกึ

45 สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรียนรูท้ อ้ งถิ่น ทำวัตถทุ เ่ี ปน็ ของเล่น ของใช้มหี ลายชนดิ เชน่ ผา้ ส่ิงแวดล้อม ตกิ ยาง ไม้อิฐ หนิ กระดาษ โลหะ วสั ดแุ ตล่ ะ -ระบบนเิ วศในทอ้ งถน่ิ ตทิ ีส่ ังเกตไดต้ า่ ง ๆ เช่น สนี มุ่ แขง็ ขรุขระ เรยี บ -สงิ่ มชี วี ติ ในทอ้ งถน่ิ หดได้ บดิ งอได้ -สง่ิ แวดลอ้ มในทอ้ งถนิ่ งเกตได้ของวสั ดแุ ต่ละชนดิ อาจเหมือนกนั ซึง่ สามารถ -กำรอนุรกั ษ์สงิ่ แวดลอ้ มและ ทรพั ยำกรธรรมชำตใิ นทอ้ งถนิ่ นเกณฑใ์ นการจดั กลมุ่ วัสดไุ ด้ อย่างสามารถนำมาประกอบกนั เพอ่ื ทำเป็นวตั ถุ -ปัญหำสงิ่ แวดลอ้ มในทอ้ งถนิ่ ผ้าและกระดุม ใช้ทำเส้ือ ไม้และโลหะ ใชท้ ำ 91 ำจากชนิ้ สว่ นยอ่ ย ๆ ซง่ึ แตล่ ะชน้ิ มลี ักษณะ มาประกอบเข้าดว้ ยกนั เม่อื แยกช้นิ สว่ นย่อย ๆ องวัตถุออกจากกนั สามารถนำชนิ้ สว่ นเหลา่ นั้นมา ปน็ วตั ถุ ชนิ้ ใหม่ได้เชน่ กำแพงบ้านมีก้อนอฐิ หลาย กอบเขา้ ดว้ ยกนั และสามารถนำก้อนอิฐ จาก นมาประกอบเป็นพ้ืนทางเดินได้ ามร้อนหรือทำให้วัสดรุ ้อนขน้ึ และเมือ่ ลดความ ำใหว้ ัสดเุ ย็นลงวัสดจุ ะเกิดการเปล่ยี นแปลงได้เชน่ ปร่างเปล่ียน กษำประถมศกึ ษำนครศรี ธรรมรำช เขต 4

สาระท่ี มาตรฐาน ช้ัน ตวั ชวี้ ัด - สารผสม 2 วิทยาศาสตร์ 2.1 ป.6 1 กนั เช่น น ท่ีเหมาะส กายภาพ 1 สมบตั ขิ อง เป็นของแ ม.2 3 ชดั เจน อา ท่ีมีรูถา้ มสี วธิ ีการใชแ้ ที่ไม่ละลา กรอง หรอื นำไปใช้ ป - การแยกส สมบัติของส - ความรดู้ า้ น คณิตศาสต สามารถนำ ใน ชมุ ชนห กรอบหลกั สตู รระดบั ทอ้ งถ่นิ : สำนกั งำนเขตพนื้ ท่กี ำรศกึ

สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรียนร้ทู อ้ งถ่ิน มประกอบดว้ ยสารตั้งแต่ 2 ชนิดขนึ้ ไปผสม ส่ิงแวดล้อม นำ้ มนั ผสมนำ้ ข้าวสารปนกรวดทราย วธิ ีการ -ระบบนเิ วศในทอ้ งถน่ิ สมในการแยกสารผสมขนึ้ อยู่กับลกั ษณะ และ -สง่ิ มชี วี ติ ในทอ้ งถนิ่ งสารทผี่ สมกัน ถ้าองค์ประกอบของ สารผสม -สง่ิ แวดลอ้ มในทอ้ งถนิ่ แข็งกบั ของแข็งท่ีมีขนาด แตกต่างกนั อยา่ ง -กำรอนุรกั ษส์ งิ่ แวดลอ้ มและ าจใชว้ ธิ กี ารหยิบออก หรือการร่อนผา่ นวัสดุ ทรพั ยำกรธรรมชำตใิ นทอ้ งถนิ่ สารใดสารหนึง่ เป็นสารแมเ่ หล็กอาจใช้ -ปัญหำสงิ่ แวดลอ้ มในทอ้ งถนิ่ แม่เหล็กดงึ ดูด ถา้ องค์ประกอบเปน็ ของแขง็ ายใน ของเหลว อาจใช้วธิ ีการรินออกการ 92 อ การตกตะกอน ซงึ่ วธิ กี ารแยกสารสามารถ ประโยชน์ในชวี ติ ประจำวนั ได้ สารผสมใหเ้ ป็นสารบรสิ ทุ ธ์ทิ ำได้หลายวิธี ขึ้นอย่กู ับ สารน้นั ๆ นวทิ ยาศาสตรเ์ กย่ี วกบั การแยกสาร บรู ณาการกับ ตรเ์ ทคโนโลยีโดยใช้ กระบวนการทางวิศวกรรม ำไปใช้ แกป้ ญั หาในชวี ิตประจำวันหรอื ปัญหาที่พบ หรือสรา้ งนวัตกรรม กษำประถมศกึ ษำนครศรี ธรรมรำช เขต 4

สาระที่ มาตรฐาน ชั้น ตัวช้ีวัด ส 2 วิทยาศาสตร์ ว 2.2 ม.1 1 - เม่อื วัตถุอยู่ในอ ทกุ ทิศทาง แรงท กายภาพ 1 พ้ืนทขี่ องวัตถุนน้ั 6 ตอ่ หน่ึงหนว่ ยพน้ื ว 2.3 ป.1 - ความดนั อากาศ ม.2 โดยบรเิ วณที่สูงจ มวลอากาศน้อยล - เสียงเกดิ จากกา เป็นแหล่งกำเนิด ตามธรรมชาติแล เสยี งเคล่ือนที่ออ - พลงั งานรวมขอ จากพลังงานหน่ึง เปลีย่ นเป็นพลงั ง พลงั งานความร้อ เนอื่ งมาจาก แรง เปลี่ยนเป็น พลัง นอกจากน้พี ลังงา หรือไดร้ บั พลังงา รอ้ นระหวา่ งสสา กรอบหลกั สตู รระดบั ทอ้ งถ่นิ : สำนกั งำนเขตพนื้ ท่กี ำรศกึ

สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถน่ิ อากาศจะมีแรงทอี่ ากาศกระทำต่อวตั ถใุ น ส่ิงแวดล้อม ทอี่ ากาศกระทำต่อวัตถุ ข้นึ อยกู่ บั ขนาด -ระบบนิเวศในทอ้ งถน่ิ น แรงท่ีอากาศ กระทำตง้ั ฉากกบั ผิววตั ถุ -สง่ิ มชี วี ติ ในทอ้ งถนิ่ นท่ี เรียกว่า ความดนั อากาศ -สงิ่ แวดลอ้ มในทอ้ งถน่ิ 93 ศมีความสมั พันธ์กบั ความสงู จากพ้นื โลก -กำรอนุรกั ษ์สง่ิ แวดลอ้ มและ จากพ้นื โลกข้ึนไป อากาศเบาบางลง ทรพั ยำกรธรรมชำตใิ นทอ้ งถน่ิ ลง ความดัน อากาศกจ็ ะลดลง -ปัญหำสงิ่ แวดลอ้ มในทอ้ งถน่ิ ารส่นั ของวัตถวุ ัตถุทีท่ ำให้เกิดเสียง (แหล่งกำเนดิ เสียงตามธรรมชาติ เช่น ดเสียง ซึง่ มีทั้งแหล่งกำเนิดเสยี ง ละแหลง่ กำเนิดเสียงที่มนษุ ย์ สร้างขึ้น น้ำตก ทะเล และแหลง่ กำเนดิ เสียงที่ อกจากแหล่งกำเนิดเสียงทกุ ทิศทาง องระบบมคี ่าคงตวั ซง่ึ อาจเปล่ียน มนุษย์สร้างขึน้ เชน่ เสยี งจากโรงไฟฟ้า และโรงแยกก๊าซธรรมชาติแหลง่ พลงั งำนในทอ้ งถนิ่ ) งเป็นอีกพลังงานหนง่ึ เช่น พลังงานกล งานไฟฟา้ พลังงานจลนเ์ ปลยี่ นเป็น อน พลังงานเสียง พลงั งานแสง งเสยี ดทาน พลงั งานเคมีในอาหาร งงานท่ีไปใช้ในการทำงานของสิง่ มีชีวิต านยังสามารถถา่ ยโอนไปยังอีก ระบบหนงึ่ านจากระบบอื่นได้ เชน่ การถา่ ยโอนความ าร การถ่ายโอน กษำประถมศกึ ษำนครศรี ธรรมรำช เขต 4

สาระท่ี มาตรฐาน ชั้น ตวั ชี้วัด สาร 2 วิทยาศาสตร์ ว 2.3 ม.2 6 พลังงานของการ 2 ทง้ั การเปล่ยี นพล กายภาพ 3.1 ม.3 พลังงานรวมท้งั ห 3 พลงั งาน 3 วิทยาศาสตรโ์ ลก - การท่ีโลกโคจร และอวกาศ โลกเอียงกบั แนว สว่ นต่าง ๆ บนโล แตกตา่ งกันในรอ ยาวไมเ่ ท่ากัน แล อาทิตย์ท่ขี อบฟ้า ดวงอาทติ ย์เปลี่ย ดำรงชีวติ - ดวงจนั ทร์โคจร รอบดวงอาทิตย์ด คร่ึงดวงตลอดเวล ได้หันสว่ นสวา่ งม บนโลกสังเกตสว่ ในแตล่ ะวนั เกิดเป กรอบหลกั สตู รระดบั ทอ้ งถ่นิ : สำนกั งำนเขตพนื้ ท่กี ำรศกึ

ระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถนิ่ 94 รสัน่ ของแหล่งกำเนดิ เสียง ไปยงั ผู้ฟัง ลงั งานและการถา่ ยโอน พลงั งาน ส่ิงแวดลอ้ ม หมดมีค่าเทา่ เดมิ ตามกฎการอนรุ ักษ์ -ระบบนเิ วศในทอ้ งถน่ิ -สง่ิ มชี วี ติ ในทอ้ งถน่ิ รรอบดวงอาทิตยใ์ นลกั ษณะที่ แกน -สงิ่ แวดลอ้ มในทอ้ งถน่ิ วต้ังฉากของระนาบทางโคจร ทำให้ -กำรอนุรกั ษ์สงิ่ แวดลอ้ มและ ลกไดร้ ับปริมาณแสงจากดวงอาทิตย์ ทรพั ยำกรธรรมชำตใิ นทอ้ งถน่ิ อบปเี กิดเปน็ ฤดู กลางวนั กลางคืน -ปัญหำสง่ิ แวดลอ้ มในทอ้ งถนิ่ ละตำแหน่ง การข้นึ และตกของดวง (องคป์ ระกอบ และสมบตั ิทางกายภาพ าและ เส้นทางการข้นึ และตกของ ยนไป ในรอบปซี งึ่ สง่ ผลต่อการ ของดิน หิน น้ำ อากาศ ลักษณะภมู ิ รรอบโลก โลกและดวงจันทร์โคจร ประเทศแบบต่าง ๆ ในทอ้ งถิ่น และการ ดวงจันทร์รับแสงจากดวงอาทิตย์ ลา เม่ือดวงจันทรโ์ คจรรอบโลก เกดิ ลม ของท้องถิน่ ทส่ี ถานศึกษาตัง้ อยู่ มายังโลกแตกตา่ งกนั จึงทำใหค้ น วนสวา่ งของดวงจันทร์แตกตา่ งไป หรอื ใกลเ้ คียงลกั ษณะของดาวในเอกภพ ปน็ ข้างขึ้นขา้ งแรม และจำแนกประเภทของกลุม่ ดาว ความสัมพนั ธข์ องดวงอาทติ ย์ โลก) กษำประถมศกึ ษำนครศรี ธรรมรำช เขต 4

สาระท่ี มาตรฐาน ชัน้ ตัวชว้ี ัด ส 3 วิทยาศาสตรโ์ ลก 3.1 ม.3 3 และอวกาศ - ดวงจนั ทร์โคจ 4 หมนุ รอบตัวเอง ไปประมาณวนั - แรงโน้มถว่ งท ทำใหเ้ กดิ ปราก สง่ิ แวดลอ้ มและ ขึน้ สูงสุดและล น้ำมกี ารขึ้นและ น้ำตาย มีความ - เทคโนโลยีอว ของมนษุ ยใ์ นป จากเทคโนโลย ดาวเทียม (GNS ดาวเทียมช่วยภ - โครงการสำรว ความร้คู วามเข มากขนึ้ เปน็ ลำด เชน่ การสำรวจ เคราะห์นอกระ บรวิ ารอน่ื ของด กรอบหลกั สตู รระดบั ทอ้ งถ่นิ : สำนกั งำนเขตพนื้ ท่กี ำรศกึ

สาระการเรียนร้แู กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถน่ิ 95 จรรอบโลกในทิศทางเดียวกันกับ ทีโ่ ลก สิ่งแวดล้อม ง จงึ ทำให้เหน็ ดวงจนั ทร์ขึ้นชา้ -ระบบนิเวศในทอ้ งถน่ิ นละ 50 นาที -สง่ิ มชี วี ติ ในทอ้ งถน่ิ ทด่ี วงจันทร์ดวงอาทิตย์กระทำตอ่ โลก -สงิ่ แวดลอ้ มในทอ้ งถน่ิ กฏการณ์นำ้ ขน้ึ น้ำลง ซงึ่ ส่งผล ตอ่ -กำรอนุรกั ษ์สงิ่ แวดลอ้ มและ ะสง่ิ มชี ีวิตบนโลก วันท่นี ้ำมี ระดบั การ ทรพั ยำกรธรรมชำตใิ นทอ้ งถนิ่ ลงต่ำสุดเรียกวันนำ้ เกดิ ส่วนวนั ทร่ี ะดับ -ปัญหำสงิ่ แวดลอ้ มในทอ้ งถน่ิ ะลงน้อยเรยี ก วันน้ำตายโดยวนั นำ้ เกดิ (องค์ประกอบ และสมบัติทางกายภาพ มสัมพนั ธก์ บั ข้างขนึ้ ขา้ งแรม ของดิน หนิ นำ้ อากาศ ลักษณะภมู ิ ประเทศแบบตา่ ง ๆ ในท้องถ่ิน และการ วกาศได้มีบทบาทตอ่ การดำรงชวี ติ เกิดลม ของท้องถนิ่ ท่สี ถานศึกษาตัง้ อยู่ ปัจจบุ ันมากมาย มนษุ ย์ได้ใช้ ประโยชน์ หรือใกล้เคียงลักษณะของดาวในเอกภพ ยอี วกาศเชน่ ระบบนำทาง ดว้ ย และจำแนกประเภทของกลุ่มดาว SS) การตดิ ตามพายุ สถานการณ์ไฟป่า ความสมั พนั ธข์ องดวงอาทิตย์ โลก) ภัยแลง้ การตรวจคราบนำ้ มนั ในทะเล ภมู อิ ากาศ วจอวกาศต่าง ๆ ไดพ้ ัฒนาเพ่มิ พูน ภยั ธรรมชาติการเกดิ ลมของท้องถิ่น ข้าใจต่อโลก ระบบสุรยิ ะและเอกภพ - ลมประจำถ่ิน ดับ ตวั อยา่ งโครงการสำรวจอวกาศ - ลมบก จสง่ิ มชี วี ติ นอกโลก การสำรวจ ดาว - ลมทะเล ะบบสุริยะ การสำรวจดาวอังคาร และ ดวงอาทติ ย์ กษำประถมศกึ ษำนครศรี ธรรมรำช เขต 4

สาระที่ มาตรฐาน ชั้น ตวั ชวี้ ดั - หินทอี่ ย่ใู น 3 วิทยาศาสตรโ์ ลก ว 3.2 ป.1 1 ที่สงั เกตไดเ้ และอวกาศ เนอื้ หนิ ป.2 1,2 - ดินประกอ ป.5 1 อยู่ ในเนอ้ื ด ช่องว่าง ใน เหนยี ว และ จบั ตวั ของด - ดินแต่ละช ตามลกั ษณ - โลกมที ง้ั น้ำ ตา่ ง ๆ ทม่ี ที แม่น้ำ และแ น้ำบาดาล น ประมาณร้อ แหลง่ นำ้ อื่น 2.5 เปน็ นำ้ มากไปน้อย นำ้ ใตด้ ิน ชน้ั ทะเลสาบ ค บึง แมน่ ้ำ แ กรอบหลกั สตู รระดบั ทอ้ งถ่นิ : สำนกั งำนเขตพนื้ ท่กี ำรศกึ

สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถ่นิ นธรรมชาติมลี กั ษณะภายนอกเฉพาะตวั ส่ิงแวดลอ้ ม เช่น สีลวดลาย น้ำหนัก ความแข็ง และ -ระบบนิเวศในทอ้ งถน่ิ อบดว้ ยเศษหนิ ซากพืช ซากสตั ว์ผสม -สง่ิ มชี วี ติ ในทอ้ งถนิ่ 96 ดิน มอี ากาศและน้ำแทรกอยู่ตาม -สง่ิ แวดลอ้ มในทอ้ งถนิ่ นเนือ้ ดิน ดนิ จำแนกเปน็ ดนิ รว่ น ดิน -กำรอนุรกั ษส์ ง่ิ แวดลอ้ มและ ะดนิ ทราย ตามลักษณะเนื้อดนิ และการ ทรพั ยำกรธรรมชำตใิ นทอ้ งถนิ่ ดนิ ซงึ่ มีผลต่อการอุ้มนำ้ ทแ่ี ตกต่างกัน -ปัญหำสง่ิ แวดลอ้ มในทอ้ งถน่ิ ชนดิ นำไปใชป้ ระโยชนไ์ ดแ้ ตกตา่ งกัน ( หนิ ทอ่ี ยตู่ ำมธรรมชำตทิ พ่ี บใน ณะและสมบัติของดิน ทอ้ งถนิ่ มลี กั ษณะภำยนอกเฉพำะตวั ท่ี ำจดื และนำ้ เคม็ ซ่ึงอยู่ในแหล่งน้ำ สงั เกตได้ เชน่ หนิ ทพ่ี บบรเิ วณหำดขน ทัง้ แหลง่ นำ้ ผิวดนิ เช่น ทะเล มหาสมทุ ร บึง อมมสี ขี ำวขนุ่ ผวิ เรยี บ หนิ งอก หนิ แหลง่ น้ำใตด้ ิน เช่น น้ำในดนิ และ ยอ้ ยทพ่ี บบรเิ วณถำ้ เป็นต้น) น้ำท้ังหมดของโลกแบ่งเป็นน้ำเค็ม - ลกั ษณะของดนิ ในทอ้ งถน่ิ อยละ 97.5 ซง่ึ อยู่ในมหาสมทุ ร และ - แหลง่ น้ำตำมธรรมชำตใิ นทอ้ งถนิ่ น ๆ และทเี่ หลืออกี ประมาณ ร้อยละ ำจดื ถา้ เรียงลำดับปริมาณ น้ำจืดจาก ยจะอยู่ที่ ธารน้ำแข็ง และ พดื น้ำแข็ง นดินเยอื กแขง็ คงตัวและนำ้ แขง็ ใตด้ ิน ความชน้ื ในดนิ ความช้นื ใน บรรยากาศ และนำ้ ในส่งิ มีชีวิต กษำประถมศกึ ษำนครศรี ธรรมรำช เขต 4

สาระที่ มาตรฐาน ช้ัน ตัวชีว้ ัด สา 3 วิทยาศาสตรโ์ ลก ว 3.2 ป.6 1 และอวกาศ - หินเป็นวัสดแุ 2 ประกอบด้วย แ จำแนกหินตาม ไดแ้ ก่ หินอคั นีห - หนิ และแรแ่ ต แตกต่างกัน มน ประจำวันในลกั เครอื่ งสำอาง ย ทางการแพทย์แ ต่าง ๆ เปน็ ตน้ 4 - ลมบก ลมทะ พ้ืนน้ำ รอ้ นและ อากาศเหนอื พ้นื การเคลอื่ นทีข่ อ ไปยงั บริเวณท่ีม - ลมบกและลม ชายฝัง่ โดยลม พัดจากชายฝั่งไ เวลากลางวัน ท กรอบหลกั สตู รระดบั ทอ้ งถ่นิ : สำนกั งำนเขตพนื้ ท่กี ำรศกึ

าระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรียนร้ทู อ้ งถนิ่ แขง็ เกิดข้ึนเองตามธรรมชาติ ส่ิงแวดลอ้ ม แรต่ ง้ั แต่หนง่ึ ชนิดข้นึ ไป สามารถ -ระบบนเิ วศในทอ้ งถนิ่ มกระบวนการเกดิ ได้เปน็ 3 ประเภท -สง่ิ มชี วี ติ ในทอ้ งถน่ิ หินตะกอน และหนิ แปร -สง่ิ แวดลอ้ มในทอ้ งถนิ่ ตล่ ะชนิดมีลักษณะและสมบตั ิ -กำรอนุรกั ษส์ งิ่ แวดลอ้ มและ นุษย์ใช้ประโยชนจ์ ากแรใ่ นชีวิต ทรพั ยำกรธรรมชำตใิ นทอ้ งถน่ิ กษณะต่าง ๆ เชน่ นำแร่มาทำ -ปัญหำสงิ่ แวดลอ้ มในทอ้ งถนิ่ ยาสีฟนั เครือ่ งประดบั อปุ กรณ์ ( หนิ ทอ่ี ย่ตู ำมธรรมชำตทิ พ่ี บในทอ้ งถนิ่ และนำหนิ มาใชใ้ นงานก่อสร้าง มลี กั ษณะภำยนอกเฉพำะตวั ทส่ี งั เกตได้ เชน่ หนิ ทพ่ี บบรเิ วณหำดขนอมมสี ขี ำวขนุ่ 97 ผวิ เรยี บ หนิ งอก หนิ ยอ้ ยทพ่ี บบรเิ วณถำ้ เป็นตน้ ) ะเล และมรสมุ เกิดจากพ้นื ดิน และ ภมู อิ ากาศ ะเย็นไมเ่ ทา่ กันทำให้อุณหภูมิ ภัยธรรมชาติการเกดิ ลมของท้องถิน่ นดนิ และพื้นน้ำแตกตา่ งกัน จงึ เกิด - ลมประจำถิน่ องอากาศจากบรเิ วณทีม่ ีอุณหภมู ติ ำ่ - ลมบก มีอุณหภูมสิ ูง - ลมทะเล มทะเลเปน็ ลมประจำถนิ่ ที่พบบริเวณ - กำรเกดิ มรสุมในทอ้ งถนิ่ มบกเกดิ ในเวลากลางคนื ทำใหม้ ี ลม ไปสทู่ ะเล สว่ นลมทะเลเกิดใน ทำให้มลี มพัดจากทะเลเขา้ สู่ชายฝั่ง กษำประถมศกึ ษำนครศรี ธรรมรำช เขต 4

สาระท่ี มาตรฐาน ช้ัน ตวั ชว้ี ดั 3 วิทยาศาสตรโ์ ลก ว 3.2 ม.1 และอวกาศ 2 - ลมฟา้ หน่ึง ขอ ตลอดเว อากาศ อากาศ โดยหยา ไดแ้ กฝ่ น เปลี่ยนแ ตา่ ง ๆ เ ลักษณะ อุณหภมู ความช้นื ความชน้ื 3 - พายฝุ น อุณหภูม ความสงู ในอากา และ เกดิ ฟา้ คะนอ แรง ฟา้ ตอ่ ชีวติ กรอบหลกั สตู รระดบั ทอ้ งถ่นิ : สำนกั งำนเขตพนื้ ท่กี ำรศกึ

สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรียนร้ทู ้องถิ่น 98 ภมู ิอากาศ าอากาศเป็นสภาวะของอากาศในเวลา ภยั ธรรมชาติการเกิดลมของท้องถนิ่ องพ้ืนท่หี น่ึงที่มกี ารเปลีย่ นแปลง - ลมประจำถ่ิน วลา ขึน้ อยู่กบั องค์ประกอบลมฟ้า - ลมบก ได้แก่ อุณหภมู อิ ากาศ ความกด - ลมทะเล ลม ความชื้น เมฆ และหยาดนำ้ ฟ้า - กำรเกดิ มรสมุ ในทอ้ งถนิ่ าดนำ้ ฟา้ ที่พบบ่อย ในประเทศไทย น องค์ประกอบ ลมฟา้ อากาศ ภมู ิอากาศ แปลงตลอดเวลาข้ึนอยู่กับปจั จัย ภัยธรรมชาติการเกิดลมของท้องถน่ิ เช่น ปริมาณรังสีจากดวงอาทติ ยแ์ ละ - ลมประจำถนิ่ ะพืน้ ผวิ โลกสง่ ผลต่ออุณหภมู อิ ากาศ - ลมบก มิอากาศและปริมาณไอนำ้ ส่งผลตอ่ - ลมทะเล น ความกดอากาศส่งผลตอ่ ลม - กำรเกดิ มรสุมในทอ้ งถน่ิ น และลมสง่ ผลต่อเมฆ นฟา้ คะนอง เกดิ จากการท่ีอากาศที่มี มิและความชื้นสูงเคล่ือนทขี่ ้นึ ส่รู ะดบั ง ทม่ี ีอณุ หภมู ติ ำ่ ลง จนกระท่ังไอน้ำ าศเกดิ การควบแน่นเป็นละอองน้ำ ดต่อเน่ืองเปน็ เมฆขนาดใหญ่ พายฝุ น อง ทำให้เกิดฝนตกหนัก ลมกรรโชก าแลบ ฟ้าผ่า ซึ่งอาจก่อให้เกิดอนั ตราย และทรัพย์สิน กษำประถมศกึ ษำนครศรี ธรรมรำช เขต 4

สาระที่ มาตรฐาน ชนั้ ตวั ชีว้ ดั ส 3 วิทยาศาสตรโ์ ลก ว 3.2 ม.1 3 และอวกาศ - พายุหมุนเขต 6 น้ำมอี ุณหภมู สิ งู ทำใหอ้ ากาศท่ีม เคลอ่ื นทส่ี ูงขึน้ อ จากบริเวณอ่ืนเ หาศูนยก์ ลางขอ เคลอื่ นที่พดั เวีย ทสี่ ดุ พายหุ มนุ ตกหนัก ซ่งึ อาจ ทรัพยส์ นิ จงึ คว ขา่ วสาร การพย ทเี่ สีย่ งภยั - ภมู ิอากาศโลก โดยปจั จัยทางธ ภมู ิอากาศเกดิ ข มนุษย์ในการป แกส๊ เรือนกระจ คารบ์ อนไดออก คาร์บอน กรอบหลกั สตู รระดบั ทอ้ งถ่นิ : สำนกั งำนเขตพนื้ ท่กี ำรศกึ

สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรทู้ ้องถิน่ ตร้อนเกดิ เหนอื มหาสมุทรหรือทะเล ท่ี ภมู อิ ากาศ 99 งตัง้ แต่ ๒๖-๒๗ องศาเซลเซยี ส ข้ึนไป ภยั ธรรมชาติการเกิดลมของท้องถน่ิ มีอุณหภมู แิ ละความช้ืนสงู บรเิ วณนนั้ - ลมประจำถนิ่ อย่างรวดเรว็ เปน็ บริเวณกวา้ ง อากาศ - ลมบก เคลื่อนเข้ามา แทนทแ่ี ละพัดเวยี นเข้า - ลมทะเล องพายุ ยง่ิ ใกล้ศนู ยก์ ลาง อากาศจะ - กำรเกดิ มรสมุ ในทอ้ งถน่ิ ยน เกือบเป็นวงกลมและมีอัตราเรว็ สงู น เขตรอ้ นทำให้เกดิ คลืน่ พายุซัดฝ่งั ฝน จก่อให้เกดิ อันตรายตอ่ ชีวติ และ วรปฏบิ ัติตนให้ปลอดภยั โดยตดิ ตาม พยากรณ์อากาศ และไม่เขา้ ไปอยู่ในพืน้ ท่ี กเกิดการเปล่ยี นแปลงอยา่ งต่อเน่ือง ธรรมชาติแต่ปัจจุบนั การเปล่ียนแปลง ขน้ึ อย่างรวดเร็วเน่อื งจากกจิ กรรม ของ ปลดปล่อยแก๊สเรือนกระจกสู่ บรรยากาศ จกท่ถี ูกปลดปล่อย มากทส่ี ดุ ไดแ้ ก่แก๊ส กไซด์ ซึ่งหมุนเวยี นอยใู่ นวฏั จักร กษำประถมศกึ ษำนครศรี ธรรมรำช เขต 4

สาระท่ี มาตรฐาน ชั้น ตวั ชีว้ ดั - การผุพังอยู่กบั 3 วิทยาศาสตรโ์ ลก ว 3.2 ม.2 5 เปน็ กระบวนกา และอวกาศ เกิดการเปล่ียน 7 สำคญั คือ น้ำ สภาพอากาศ แ - การผพุ งั อยู่กับ กระบวนการต่า การกระทำของ กลศาสตร์ ซ่ึงม - การกร่อน คือ ทำให้สารเปลอื ตัวนำพาธรรมช อนื่ ๆ - สมบตั บิ างประ เปน็ กรด-เบส ธา ถงึ แนวทางการใ การเกษตรหรืออ เช่น ดนิ จดื ดินเป ตามธรรมชาติ ห เหมาะสม เพอื่ น กรอบหลกั สตู รระดบั ทอ้ งถ่นิ : สำนกั งำนเขตพนื้ ท่กี ำรศกึ

สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรทู้ ้องถิ่น บที่การกร่อน และการสะสมตวั ของตะกอน สิ่งแวดล้อม ารเปล่ยี นแปลงทาง ธรณวี ิทยา ทท่ี ำให้ผวิ โลก -ระบบนเิ วศในทอ้ งถน่ิ นแปลง เป็นภูมลิ กั ษณ์แบบต่าง ๆ โดยมปี ัจจัย -สงิ่ มชี วี ติ ในทอ้ งถน่ิ ลม ธารน้ำแข็ง แรงโน้มถว่ งของโลก สิ่งมชี ีวติ -สง่ิ แวดลอ้ มในทอ้ งถน่ิ และปฏกิ ริ ยิ าเคมี -กำรอนุรกั ษ์สง่ิ แวดลอ้ มและ บที่คือ การทห่ี ินผุพงั ทำลายลง ด้วย ทรพั ยำกรธรรมชำตใิ นทอ้ งถน่ิ าง ๆ ได้แกล่ มฟา้ อากาศกับ น้ำฝน และรวมทั้ง -ปัญหำสงิ่ แวดลอ้ มในทอ้ งถน่ิ งต้นไม้กบั แบคทีเรยี ตลอดจนการแตกตัวทาง ภูมิอากาศ มีการเพ่ิมและลดอุณหภมู สิ ลบั กัน เป็นต้น อ กระบวนการหน่ึงหรือหลาย กระบวนการที่ 100 อกโลกหลุดไป ละลายไปหรือกรอ่ นไปโดยมี ชาติ คอื ลม น้ำ และธารนำ้ แขง็ ร่วมกับปัจจัย ะการของดนิ เชน่ เนือ้ ดิน ความชนื้ ดิน ค่าความ าตุอาหารในดนิ สามารถ นำไปใชใ้ นการตดั สินใจ ใช้ ประโยชน์ท่ดี ิน โดยอาจนำไปใชป้ ระโยชน์ ทาง อ่ืน ๆ ซง่ึ ดินทไ่ี มเ่ หมาะสม ต่อการทำการเกษตร ปรี้ยวดินเค็ม และดินดาน อาจเกดิ จากสภาพดนิ หรือการใช้ประโยชนจ์ ะตอ้ งปรบั ปรงุ ให้มี สภาพ นำไปใชป้ ระโยชน์ กษำประถมศกึ ษำนครศรี ธรรมรำช เขต 4

สาระท่ี มาตรฐาน ชั้น ตวั ช้ีวัด - น้ำทว่ ม 3 วิทยาศาสตรโ์ ลก ว 3.2 ม.2 10 มีกระบวน และอวกาศ 1 สร้างความ ว 4.1 ม.1 4 เทคโนโลยี 2,3,4,5 - เทคโนโล อดีต จนถงึ เช่น ปญั ห ของศาสตร - ปัญหาห หลายบริบ การอาหา - การแกป้ จากศาสต แนวทางก - การวิเคร จำเปน็ โด แนวทางก - การออก เช่น การร - การกำห ดำเนินกา เปา้ หมาย กรอบหลกั สตู รระดบั ทอ้ งถ่นิ : สำนกั งำนเขตพนื้ ท่กี ำรศกึ

สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรทู้ อ้ งถน่ิ การกัดเซาะชายฝ่ัง ดินถลม่ หลมุ ยุบ แผน่ ดินทรุด สิ่งแวดลอ้ ม นการเกดิ และผลกระทบ ทแี่ ตกตา่ งกัน ซ่ึงอาจ -ระบบนิเวศในทอ้ งถนิ่ มเสยี หายร้ายแรง แกช่ ีวิต และทรัพยส์ ิน -สงิ่ มชี วี ติ ในทอ้ งถนิ่ ลยมี กี ารเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาตัง้ แต่ -สง่ิ แวดลอ้ มในทอ้ งถนิ่ งปัจจบุ นั ซึ่งมสี าเหตหุ รือปัจจยั มาจากหลายดา้ น -กำรอนุรกั ษ์สงิ่ แวดลอ้ มและ หาความตอ้ งการความก้าวหน้า ทรพั ยำกรธรรมชำตใิ น รต์ า่ ง ๆ เศรษฐกจิ สงั คม ทอ้ งถน่ิ -ปัญหำสง่ิ แวดลอ้ มใน หรอื ความต้องการในชวี ิตประจำวัน พบไดจ้ าก บทขึ้นกับสถานการณท์ ่ปี ระสบ เชน่ การเกษตร 101 าร ทอ้ งถน่ิ ปัญหาจำเป็นต้องสบื ค้น รวบรวมข้อมูล ความรู้ ตร์ต่าง ๆ ทเ่ี กี่ยวข้อง เพอ่ื นำไปสู่ การออกแบบ การแก้ปญั หา ราะห์เปรียบเทยี บ และตัดสินใจเลือกข้อมูล ที่ ดยคำนึงถึงเง่ือนไข และทรัพยากร ท่ีมีอยูช่ ว่ ยให้ได้ การแก้ปญั หาที่เหมาะสม กแบบแนวทางการแกป้ ัญหาทำได้ หลากหลายวิธี รา่ งภาพ การเขยี นแผนภาพ การเขยี นผงั งาน หนดขั้นตอนและระยะเวลาในการทำงาน ก่อน ารแก้ปญั หาจะช่วยให้ทำงานสำเรจ็ ได้ตาม ยและลด กษำประถมศกึ ษำนครศรี ธรรมรำช เขต 4

สาระที่ มาตรฐาน ชัน้ ตัวชวี้ ัด ข้อผดิ พ 4 เทคโนโลยี ว 4.1 ม.1 2,3,4,5 ทดสอบ หรือวิธีก ภายใตก้ ดำเนนิ ก สามารถ - การนำ ผอู้ น่ื เขา้ หรอื วิธีก เขยี นรา นิทรรศก - วสั ดแุ ต โลหะ พ เพ่ือเลือ - การสร อเิ ลก็ ทร - อุปกรณ พัฒนาว ถูกต้อง รกั ษา กรอบหลกั สตู รระดบั ทอ้ งถ่นิ : สำนกั งำนเขตพนื้ ท่กี ำรศกึ

สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถนิ่ พลาด ของการทำงานที่อาจเกดิ ขน้ึ การ ส่ิงแวดล้อม บ และประเมนิ ผลเป็นการตรวจสอบ ช้นิ งาน -ระบบนเิ วศในทอ้ งถน่ิ การวา่ สามารถแกป้ ัญหาไดต้ าม วตั ถุประสงค์ -สง่ิ มชี วี ติ ในทอ้ งถนิ่ กรอบของปญั หา เพื่อหา ขอ้ บกพร่อง และ -สง่ิ แวดลอ้ มในทอ้ งถน่ิ การปรับปรงุ โดยอาจ ทดสอบซำ้ เพื่อให้ -กำรอนุรกั ษ์สงิ่ แวดลอ้ มและ ทรพั ยำกรธรรมชำตใิ น ถแก้ปัญหาได้ ำเสนอผลงานเปน็ การถ่ายทอดแนวคดิ เพื่อให้ ทอ้ งถน่ิ าใจเกย่ี วกบั กระบวนการทำงาน และชน้ิ งาน -ปัญหำสง่ิ แวดลอ้ มใน การท่ีได้ซึ่งสามารถทำได้ หลายวิธีเช่น การ ทอ้ งถนิ่ ายงาน การทำแผ่นนำเสนอ ผลงาน การจัด 102 การ การนำเสนอผา่ น สอ่ื ออนไลน์ ตล่ ะประเภทมีสมบัติแตกตา่ งกัน เชน่ ไม้ พลาสตกิ จงึ ตอ้ งมีการวิเคราะห์สมบตั ิ อกใชใ้ ห้เหมาะสมกบั ลักษณะของงาน ร้างชิน้ งานอาจใชค้ วามรูเ้ รอ่ื งกลไก ไฟฟา้ รอนกิ ส์เชน่ LED บัซเซอรม์ อเตอร์วงจรไฟฟ้า ณ์และเครื่องมือในการสรา้ งชน้ิ งานหรือ วธิ กี ารมหี ลายประเภท ต้องเลือกใช้ ให้ เหมาะสม และปลอดภยั รวมทง้ั รู้จักเก็บ กษำประถมศกึ ษำนครศรี ธรรมรำช เขต 4

สาระที่ มาตรฐาน ชั้น ตัวช้วี ดั - ปญั หาหรอื คว 4 เทคโนโลยี ว 4.1 ม.2 2,3,4,5 อย่าง ข้นึ กับบร พลังงาน สิง่ แว - การระบปุ ัญห ของปญั หาเพ่ือ สืบคน้ รวบรวม เก่ยี วข้อง เพือ่ น แกป้ ญั หา - การวเิ คราะห จำเป็น โดยคำน งบประมาณ เว เคร่อื งมือและอ เหมาะสม - การออกแบบ วธิ ีเชน่ การรา่ ง งาน - การกำหนดข ดำเนินการแก้ป เป้าหมาย และ ของการทำงาน กรอบหลกั สตู รระดบั ทอ้ งถ่นิ : สำนกั งำนเขตพนื้ ท่กี ำรศกึ

สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถนิ่ วามต้องการในชมุ ชนหรอื ทอ้ งถ่ิน มหี ลาย ส่ิงแวดลอ้ ม รบิ ทหรือสถานการณ์ ทีป่ ระสบ เชน่ ดา้ น -ระบบนเิ วศในทอ้ งถนิ่ วดล้อม การเกษตร การอาหาร -สง่ิ มชี วี ติ ในทอ้ งถน่ิ หาจำเปน็ ต้องมีการวเิ คราะห์ สถานการณ์ -สงิ่ แวดลอ้ มในทอ้ งถน่ิ อสรุปกรอบของปัญหา แลว้ ดำเนินการ -กำรอนุรกั ษส์ งิ่ แวดลอ้ ม มขอ้ มลู ความรู้ จากศาสตรต์ า่ ง ๆ ที่ และ นำไปสู่การ ออกแบบแนวทางการ ทรพั ยำกรธรรมชำตใิ น ทอ้ งถน่ิ หเ์ ปรยี บเทียบ และตัดสนิ ใจ เลอื กขอ้ มลู ที่ -ปัญหำสงิ่ แวดลอ้ มใน นงึ ถงึ เง่ือนไข และทรัพยากร เชน่ ทอ้ งถน่ิ 103 วลา ขอ้ มูล และสารสนเทศ วสั ดุ เศรษฐกจิ และอาชีพท่ี อุปกรณ์ ชว่ ยให้ไดแ้ นวทางการแกป้ ญั หาท่ี สำคัญ - เศรษฐกิจ บแนวทางการแก้ปญั หาทำได้ หลากหลาย - อาชพี งภาพ การเขยี น แผนภาพ การเขยี นผงั แหล่งท่องเท่ียว ข้นั ตอนระยะเวลาในการทำงาน ก่อน ปญั หาจะช่วยให้การทำงาน สำเรจ็ ได้ตาม ะลดข้อผิดพลาด นท่ีอาจเกดิ ขน้ึ กษำประถมศกึ ษำนครศรี ธรรมรำช เขต 4

สาระที่ มาตรฐาน ชัน้ ตวั ชว้ี ัด -การทดสอบ 4 เทคโนโลยี ว 4.1 ม.2 2,3,4,5 ชิ้นงาน หรือ ตามวัตถุปร ข้อบกพร่อง แก้ไขปญั หา - การนำเสน เพ่อื ใหผ้ อู้ ื่น และช้ินงาน เชน่ การเขีย การจดั นิทร - วสั ดแุ ตล่ ะ ไม้ โลหะ พ เพือ่ เลือกใช - การสร้างช อิเลก็ ทรอน รอก ล้อ เพ - อปุ กรณแ์ พัฒนาวธิ กี า ถูกต้อง เหม เก็บรักษา กรอบหลกั สตู รระดบั ทอ้ งถ่นิ : สำนกั งำนเขตพนื้ ท่กี ำรศกึ

สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรทู้ ้องถน่ิ บและประเมินผลเปน็ การตรวจสอบ ส่ิงแวดล้อม อวธิ กี ารวา่ สามารถแก้ปญั หาได้ -ระบบนิเวศในทอ้ งถน่ิ ระสงค์ภายใต้กรอบของปญั หา เพ่ือหา -สง่ิ มชี วี ติ ในทอ้ งถนิ่ ง และดำเนนิ การปรับปรงุ ใหส้ ามารถ -สงิ่ แวดลอ้ มในทอ้ งถน่ิ าได้ -กำรอนุรกั ษ์สง่ิ แวดลอ้ มและ ทรพั ยำกรธรรมชำตใิ น นอผลงานเปน็ การถา่ ยทอดแนวคดิ ทอ้ งถน่ิ นเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการทำงาน นหรือวิธีการท่ีได้ซ่งึ สามารถทำได้ หลายวธิ ี -ปัญหำสงิ่ แวดลอ้ มใน ทอ้ งถน่ิ ยนรายงาน การทำแผน่ นำเสนอผลงาน เศรษฐกิจและอาชีพทีส่ ำคญั 104 รรศการ - เศรษฐกจิ ะประเภทมีสมบัติแตกต่างกนั เช่น - อาชีพ พลาสตกิ จึงต้องมกี ารวเิ คราะหส์ มบัติ แหลง่ ท่องเที่ยว ช้ใหเ้ หมาะสมกับลักษณะของงาน ชนิ้ งานอาจใชค้ วามรู้เร่อื งกลไก ไฟฟา้ นกิ สเ์ ชน่ LED มอเตอร์บัซเซอรเ์ ฟือง พลา และเครื่องมือในการสรา้ งชนิ้ งาน หรือ ารมหี ลายประเภท ต้องเลือกใช้ ให้ มาะสม และปลอดภัย รวมทั้งร้จู กั กษำประถมศกึ ษำนครศรี ธรรมรำช เขต 4

สาระท่ี มาตรฐาน ชัน้ ตัวช้ีวัด ส 4 เทคโนโลยี ว 4.1 ม.3 1,2,3,4,5 - เทคโนโลย ต้ังแต่อดีต จ ปจั จยั มาจา ความตอ้ งก ศาสตร์ต่างๆ เศรษฐกจิ ส - เทคโนโลย โดยเฉพาะ พนื้ ฐานควา และเทคโนโ ในการศึกษ ความรูใ้ หม่ - ปัญหาหร อาชพี ของช ด้าน เช่น ด การขนสง่ - การวิเคร เข้าใจ เงื่อน จากน้ัน ดำเ ความรู้ จาก นำไปสู่ การ กรอบหลกั สตู รระดบั ทอ้ งถ่นิ : สำนกั งำนเขตพนื้ ท่กี ำรศกึ

สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรูท้ ้องถิน่ ยมี กี ารเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา สิ่งแวดลอ้ ม จนถงึ ปัจจุบัน ซงึ่ มีสาเหตุหรอื -ระบบนเิ วศในทอ้ งถนิ่ าก หลายด้าน เช่น ปัญหาหรือ -สง่ิ มชี วี ติ ในทอ้ งถน่ิ การของมนษุ ย์ ความกา้ วหน้าของ ๆการเปลีย่ นแปลง ทางด้าน -สงิ่ แวดลอ้ มในทอ้ งถนิ่ สงั คม วัฒนธรรม สง่ิ แวดล้อม -กำรอนุรกั ษ์สงิ่ แวดลอ้ มและ ยมี คี วามสัมพันธก์ ับศาสตร์อ่ืน ทรพั ยำกรธรรมชำตใิ นทอ้ งถน่ิ วิทยาศาสตร์โดยวิทยาศาสตรเ์ ป็น -ปัญหำสงิ่ แวดลอ้ มในทอ้ งถนิ่ ามรู้ ที่นำไปส่กู ารพัฒนาเทคโนโลยี เศรษฐกจิ และอาชีพทส่ี ำคญั โลยีท่ี ได้สามารถเป็นเคร่อื งมอื ที่ใช้ - เศรษฐกิจ ษา คน้ ควา้ เพ่ือใหไ้ ดม้ าซง่ึ องค์ - อาชีพ 105 รอื ความต้องการอาจพบได้ในงาน แหล่งท่องเที่ยว ชมุ ชนหรอื ท้องถ่นิ ซงึ่ อาจมหี ลาย ด้านการเกษตร อาหาร พลังงาน ราะหส์ ถานการณ์ปัญหาชว่ ยให้ นไขและกรอบของปญั หาได้ชัดเจน เนินการสบื ค้น รวบรวมข้อมลู กศาสตร์ต่าง ๆ ที่เก่ียวข้อง เพอ่ื รออกแบบแนวทางการแกป้ ัญหา กษำประถมศกึ ษำนครศรี ธรรมรำช เขต 4

สาระที่ มาตรฐาน ช้ัน ตัวช้วี ัด - การวิเ 4 เทคโนโลยี ว 4.1 ม.3 1,2,3,4,5 เลือก ข้อ ทางปญั งบประม เคร่อื งม แก้ปัญห - การออ หลากหล แผนภาพ - เทคนคิ การแกป้ แผนภูม - การกำ ทำงาน การทำง ข้อผิดพ - การทด ตรวจสอ แก้ปัญห ของปญั ดำเนนิ ก เพอ่ื ให้ส กรอบหลกั สตู รระดบั ทอ้ งถ่นิ : สำนกั งำนเขตพนื้ ท่กี ำรศกึ

สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรียนร้ทู อ้ งถิ่น เคราะห์เปรียบเทียบ และตัดสินใจ ส่ิงแวดล้อม อมลู ท่ีจำเปน็ โดยคำนึงถึงทรัพย์สิน -ระบบนิเวศในทอ้ งถน่ิ ญญา เงื่อนไขและทรัพยากร เชน่ -สงิ่ มชี วี ติ ในทอ้ งถน่ิ มาณ เวลา ข้อมลู และสารสนเทศ วสั ดุ -สงิ่ แวดลอ้ มในทอ้ งถน่ิ มือและอุปกรณ์ ช่วยให้ได้แนวทางการ หาท่ีเหมาะสม -กำรอนุรกั ษ์สงิ่ แวดลอ้ มและ 106 อกแบบแนวทางการแกป้ ัญหาทำได้ ทรพั ยำกรธรรมชำตใิ นทอ้ งถนิ่ ลายวิธเี ชน่ การรา่ งภาพ การเขียน -ปัญหำสง่ิ แวดลอ้ มในทอ้ งถน่ิ พ การเขียนผงั งาน เศรษฐกิจและอาชีพท่สี ำคัญ คหรอื วธิ กี ารในการนำเสนอแนวทาง - เศรษฐกิจ ปัญหามีหลากหลาย เชน่ การใช้ - อาชพี มิ ตาราง ภาพเคล่ือนไหว แหล่งท่องเที่ยว ำหนดขน้ั ตอนและระยะเวลาในการ ก่อนดำเนินการแกป้ ัญหาจะชว่ ยให้ งาน สำเร็จได้ตามเป้าหมาย และลด พลาด ของการทำงานที่อาจเกิดขึ้น ดสอบและประเมนิ ผลเปน็ การ อบ ชนิ้ งานหรอื วธิ ีการว่า สามารถ หาไดต้ าม วตั ถปุ ระสงคภ์ ายใตก้ รอบ ญหา เพ่ือหา ข้อบกพร่อง และ การปรับปรุง โดยอาจ ทดสอบซ้ำ สามารถแก้ไขปญั หาได้ กษำประถมศกึ ษำนครศรี ธรรมรำช เขต 4