ภาคประชาชนในระดับชุมชน รวมทั้งเด็กและ เยาวชนท่ีเข้าร่วมกิจกรรมของชมรมในระดับพ้ืนที่เกิด “ความตืน่ ตวั ของภาคประชาชน ความต่ืนรู้ และประสงค์ที่จะเข้าร่วมปกป้อง รักษา ดูแล ผลประโยชน์ของชุมชนมากข้ึน ตามแนวทางการจับตามอง จากชมรม STRONG - จติ พอเพยี ง และแจง้ เบาะแส (Watch & Voice) อาทิ การดูแลการใชพ้ ืน้ ท่ี ต้านทุจริตในพนื้ ทต่ี ่าง ๆ สว่ นกลางของชุมชนไมใ่ ห้มกี ารละเมิดประโยชน์ของส่วนรวม เชน่ ทางเท้า ตลาด แม่น้�ำล�ำคลอง ฯลฯ รวมทั้งมกี ารกระตุ้น สง่ ผลใหเ้ กิดเป็นกระแสการไมย่ อม ไมท่ น เตือน/ผลักดันให้หน่วยงานภาครัฐแก้ไขปัญหาให้กับ ไม่เฉย ตอ่ สถานการณก์ ารทุจรติ ” ประชาชนอยา่ งรวดเรว็ ความตน่ื ตัวของภาคประชาชนจากชมรม STRONG - จติ พอเพยี งตา้ นทุจริต ในพื้นทตี่ า่ ง ๆ ส่งผลให้เกดิ เป็นกระแสการไม่ยอม ไม่ทน ไม่เฉยต่อสถานการณ์การทุจริต และน�ำกรณีตัวอย่างจากพ้ืนท่ีอ่ืน ๆ มาจับตา มองการทุจริตในพื้นที่ตัวเอง เช่น กรณีอาหารกลางวันนักเรียนในจังหวัดสุราษฎร์ธานี (ขนมจีนคลุกน�้ำปลา) และจังหวัดชัยนาท (ครูอ้อมมาม่าผัดไข่) ได้สร้างกระแสให้เกิดความร่วมมือในชุมชนผู้ปกครอง และนักเรียน ร่วมกันเฝา้ ระวงั คุณภาพอาหารกลางวัน ในจังหวัดอน่ื ๆ ทัว่ ประเทศ โรงเรยี นทบ่ี ริหารจดั การอาหารกลางวนั ได้ดี ก็ไดร้ ับการตอบรับกระแสความชน่ื ชมตอ่ โรงเรียนที่ดี เป็นผลกระทบจากการจับตามองและแจ้งเบาะแส (Watch & Voice) ของโครงการ STRONG : จิตพอเพียงต้านทจุ ริต ทำ� ให้ผ้บู รหิ ารสถานศกึ ษาและทุกภาคส่วนใหค้ วามส�ำคญั กบั การบรหิ ารจัดการอาหารกลางวนั ของนกั เรียนใหม้ ีคณุ ภาพ เด็กนักเรียนย่อมได้รบั อาหารทดี่ ขี ึ้น รวมท้งั มีแนวโน้ม ที่จะมีการจัดสรรงบประมาณเพื่อปรับปรุงคุณภาพอาหารกลางวันของนักเรียนในประเทศไทย ให้มีคุณภาพดีย่ิงขึ้น จากความตื่นตัวกรณีอาหารกลางวันนักเรียน นับเป็นจุดเร่ิมต้นของผลกระทบจากการผสานพลังของชมรม STRONG - จิตพอเพียงต้านทุจริตทั่วประเทศ ท่ีจะขยายผลไปสู่การสร้างวัฒนธรรมที่ไม่ทนต่อการทุจริต ในกรณอี ่นื ๆ ตอ่ ไป การปลกู ฝังการตอ่ ต้านการทุจริตผ่านกลไกและระบบการศึกษา โครงการประชุมเชิงปฏิบัติการระหว่างหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องเพื่อผลักดันหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา เป็นโครงการท่ีจัดขึ้นเพื่อให้หน่วยงานที่เก่ียวข้องได้มีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับแนวทางการน�ำหลักสูตร ต้านทุจริตศึกษาไปใช้กับกลุ่มเป้าหมาย และเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องในการผลักดัน หลักสูตรต้านทุจริตศึกษาไปสู่การปฏิบัติ ส�ำนักงาน ป.ป.ช. จึงได้มีการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการฯ ขึ้น เม่ือวันที่ 6 มิถนุ ายน 2562 ณ โรงแรมเซน็ ทรา กรุงเทพมหานคร เพอ่ื ผลักดนั หลักสตู รตา้ นทจุ ริตศึกษา ทง้ั 5 หลกั สูตร ดงั นี้ 1) หลักสตู รการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน (รายวิชาเพิ่มเติม การป้องกนั การทุจรติ ) 2) หลักสตู รอุดมศึกษา (วัยใส ใจสะอาด “Youngster with good heart”) 3) หลักสูตรกลุ่มทหารและต�ำรวจ (ตามแนวทางรบั ราชการ กลุ่มทหารและต�ำรวจ) 4) หลักสูตรวิทยากร ป.ป.ช./บุคลากรภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ (สร้างวิทยากรผู้น�ำการเปลี่ยนแปลง สู่สงั คมท่ีไมท่ นตอ่ การทจุ รติ ) 5) หลกั สตู รโคช้ (โคช้ เพอ่ื การรู้คิดตา้ นทุจริต) การประชมุ เชิงปฏิบัติการฯ ครง้ั น้ี มผี ู้เขา้ ร่วมประชุมจากทุกภาคส่วน ประกอบด้วย กรรมการ ป.ป.ช. ผู้บริหารส�ำนักงาน ป.ป.ช. เจ้าหน้าท่ีส�ำนักงาน ป.ป.ช. และผู้แทนหน่วยงานท่ีต้องน�ำหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา แตล่ ะหลกั สูตรไปใช้ และผู้สงั เกตการณ์ รวมทัง้ สิ้น 672 คน นอกจากน้ีส�ำนักงาน ป.ป.ช. ยังผลักดันหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม โดยการเผยแพรห่ ลักสตู รตา้ นทุจรติ ศกึ ษา ท้ัง 5 หลักสตู ร ไปยังหนว่ ยงานทตี่ อ้ งนำ� หลกั สตู รต้านทุจรติ ศึกษาไปใช้ จำ� นวน 38,773 แห่ง 144 รายงานประจ�ำปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามการทจุ ริตแหง่ ชาติ
“สำ� นักงาน ป.ป.ช. ผลักดันหลกั สูตร นอกจากนี้ ยังได้ขับเคล่ือนหลักสูตรต้านทุจริต ตา้ นทจุ รติ ศกึ ษาไปส่กู ารปฏบิ ัติอยา่ งเป็น ศกึ ษาโดยด�ำเนนิ โครงการขับเคลื่อนหลกั สูตรต้านทุจริต รูปธรรม โดยการเผยแพร่หลักสตู รตา้ น ศกึ ษาระดบั อาชวี ศกึ ษา (ในระดบั จงั หวัด) เป็นโครงการ ที่มีเป้าหมายในการส่งเสริมการเรียนการสอนตามหลักสูตร ทจุ ริตศึกษา ท้งั 5 หลักสูตร ไปยงั หนว่ ยงาน ต้านทุจริตศึกษาในสถานศึกษาระดับอาชีวศึกษาในระดับ ท่ีต้องน�ำหลักสูตรตา้ นทุจรติ ศกึ ษาไปใช้ จังหวัด โดยมุ่งเน้นให้เยาวชนในระดับอาชีวศึกษามีความรู้ จ�ำนวน 38,773 แหง่ ” ด้านการต่อต้านการทุจริตและใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียงในชีวิตประจ�ำวัน การด�ำเนินงานที่ส�ำคัญ ในปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 ส�ำนักงาน ป.ป.ช. ไดจ้ ดั ใหม้ กี ารประชมุ เชิงปฏิบตั กิ ารขบั เคลื่อนหลักสตู รตา้ นทุจริต ศกึ ษาระดบั อาชวี ศกึ ษา (ในระดับจงั หวัด) ทัง้ ส้ิน 10 คร้ัง ครอบคลมุ ทุกภมู ิภาค และกรุงเทพมหานคร โดยจาก การติดตามประเมินผลการด�ำเนินโครงการ พบว่าร้อยละ 80 ของสถานศึกษาระดับอาชีวศึกษาในจังหวัด ทีเ่ ข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการมีการน�ำหลักสตู รต้านทุจริตศกึ ษาระดบั อาชีวศกึ ษา ไปใช้ประกอบการเรียนการสอน ของสถานศกึ ษา โครงการปลูกฝังวธิ คี ดิ แยกแยะผลประโยชน์ส่วนตัวและผลประโยชน์สว่ นรวม เปน็ โครงการที่มีเปา้ หมาย ในการสร้างวิทยากร และเครือข่ายความร่วมมือเก่ียวกับการสร้างสังคมท่ีไม่ทนต่อการทุจริต เพ่ือเผยแพร่ องค์ความรู้และประสบการณ์ รวมท้ังการปลูกฝังวิธีคิดแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตัวและผลประโยชน์ส่วนรวม โดยในปี พ.ศ. 2562 ได้ด�ำเนินการจัดอบรมให้แก่ผู้เข้ารับการอบรมวิทยากรตัวคูณ จ�ำนวนท้ังส้ิน 874 คน เพ่ือปลูกฝังวิธีคิดแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตัวและผลประโยชน์ส่วนรวม และมอบหมายให้บุคลากรที่ผ่าน การอบรมเป็นผู้ขับเคล่ือนการขยายองค์ความรู้ให้แก่ประชาชนในทุกช่วงวัยในสังคมหลากหลายมิติ ทั้งนักเรียน นิสติ นักศกึ ษา ตง้ั แตร่ ะดับปฐมวยั จนถงึ ระดับอดุ มศกึ ษา เพอื่ นครู ผปู้ กครอง บคุ ลากรทางการศึกษา ครอบครวั ชุมชน สังคม และกลุ่มข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ สามารถน�ำองค์ความรู้ไปประยุกต์ใช้กับการพัฒนา หน่วยงาน เสริมสร้างระบบธรรมาภิบาล สร้างจิตส�ำนึกในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตอย่างเข้มแข็ง ในหลายส่วนงานมีการวางแผนเพื่อการพัฒนาการขยายองค์ความรู้อย่างต่อเนื่อง เพ่ือให้เกิดจิตส�ำนึกความอาย ต่อการท�ำทุจรติ และสรา้ งพฤตกิ รรมทไี่ มท่ นต่อการทจุ รติ ให้เกิดข้นึ ในสงั คม นอกจากนี้ ในการสร้างสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริตยังมีโครงการท่ีส�ำคัญ ได้แก่ โครงการสร้างสังคม ท่ีไม่ทนต่อการทุจริต โดยใช้กระบวนการลูกเสือ โดยในปี 2562 ได้มีการน�ำหลักสูตรลูกเสือช่อสะอาดไปใช้ ในสถานศึกษา ร้อยละ 5 ของจ�ำนวนสถานศึกษาทุกสังกัด และมีเครือข่ายผู้ก�ำกับลูกเสือช่อสะอาดทั่วประเทศ อย่างน้อย 500 คน และหน่วยงานอื่นท่ีเก่ียวข้องได้มีการน�ำเอาหลักสูตรลูกเสือช่อสะอาดไปขยายผล โดยจัดฝึกอบรมบุคลากรทางการลูกเสือ หลักสูตรลูกเสือช่อสะอาด ให้กับสถานศึกษาในสังกัดของตน ภายใน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 เป็นจำ� นวนมาก เช่น กรมสง่ เสริมการปกครองทอ้ งถ่นิ จัดฝกึ อบรมฯ จ�ำนวน 6 รุน่ มูลนิธิต่อต้านการทุจริต จ�ำนวน 4 รุ่น โครงการจิตวิทยาชุมชนเพ่ือการต่อต้านการทุจริต เป็นโครงการท่ีมุ่งสู่ การสร้างสงั คมทไ่ี มท่ นตอ่ การทุจรติ ผา่ นกลุม่ เด็กและเยาวชน ซ่งึ จะเป็นกำ� ลงั สำ� คัญในการช่วยขับเคลือ่ นประเทศ ในอนาคต และมีส่วนช่วยในการแก้ไขปัญหาการทุจริตให้ลดระดับลงได้ หากแต่ต้องได้รับการพัฒนาทั้งใน ด้านความรู้และด้านคุณธรรมจริยธรรมไปพร้อมกัน โครงการนี้จึงก�ำหนดขึ้นเพ่ือสร้างมาตรวัดคุณธรรมจริยธรรม ตามหลักจิตวิทยามาใช้ในกลุ่มเครือข่ายเยาวชนต่อต้านการทุจริตระดับอุดมศึกษา รวมไปถึงการสร้างข้อมูล คุณธรรมจริยธรรมตามหลักจิตวิทยา เพื่อประโยชน์ในการวิเคราะห์แก้ไขปัญหาการทุจริตในชุมชนและสังคม อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงสร้างระบบการคิดและความรู้ความเข้าใจในธรรมชาติของผู้คนตามหลักจิตวิทยา ชุมชน มาประยุกต์ใช้ในภารกิจงานป้องกันการทุจริตท้ังในระดับเครือข่ายเด็กและเยาวชน โครงการเครือข่าย ป้องกันการทุจริตตามแนวพระพุทธศาสนา โดยความร่วมมือระหว่างส�ำนักงาน ป.ป.ช. กับมหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย (มจร.) เป็นโครงการประสานความร่วมมือในการรณรงค์ป้องกันการทุจริต รายงานประจำ� ปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจรติ แห่งชาติ 145
โดยใช้กลไกศาสนาเป็นเคร่ืองมือการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต มีวัตถุประสงค์น�ำร่องโครงการในโรงเรียนสังกัดขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพ่ือเป็นต้นแบบในการน�ำหลักสูตร ไปใช้ต่อในส่วนภูมิภาค สร้างเครือข่ายที่มีความรู้ความสามารถในการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ซึ่งส�ำนักงาน ป.ป.ช. กับ มจร. ได้ร่วมกันด�ำเนินการจัดท�ำหลักสูตรป้องกันการทุจริตตามแนวทางพระพุทธศาสนา ระดับประถมศึกษา และระดับมัธยมศึกษาเรียบร้อยแล้ว โครงการพัฒนาและจัดท�ำแนวทางการป้องกัน การทุจริตเชิงรุก ตามแนวทางคริสตศ์ าสนาขับเคลื่อนโดยความร่วมมือระหว่างส�ำนกั งาน ป.ป.ช. กับองค์กร คริสตจักร เป็นกิจกรรมเพ่ือสร้างกระบวนการกล่อมเกลาทางสังคม ปรับฐานความคิดทุกช่วงวัยให้มีค่านิยม ร่วมต้านทุจริต มีจิตส�ำนึกสาธารณะ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างทัศนคติค่านิยมในความซ่ือสัตย์สุจริต บนพ้ืนฐานของการด�ำเนนิ ชีวติ ทีน่ �ำไปสู่การสร้างสงั คมโปรง่ ใสตามแนวทางคริสตศาสนา อกี ท้งั คริสตชนตระหนัก ในผลเสียหายรา้ ยแรงที่เกิดจากการทจุ รติ อย่างสอดคล้องเหมาะสม และ โครงการกำ� กบั ตดิ ตามยุทธศาสตรช์ าติ “สร้างสังคมทีไ่ ม่ทนต่อการทุจรติ ” เปน็ โครงการทีจ่ ัดทำ� ข้ึนเพื่อให้ติดตามผลการด�ำเนินการ รับฟังปัญหาอุปสรรคท่ีพบระหว่างการด�ำเนินการ และแนวทาง ในการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพการด�ำเนินการให้ประสบผลส�ำเร็จของโครงการภายใต้ยุทธศาสตร์ที่ 1 “สร้างสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต” รวมทั้งรายงานผลการก�ำกับ ติดตาม เพ่ือเป็นฐานข้อมูลส�ำหรับการพัฒนา กระบวนการกล่อมเกลาทางสังคมสู่การสร้างสังคมท่ีไม่ทนต่อการทุจริต และยกระดับค่าดัชนีการรับรู้การทุจริต ของประเทศ โดยมีหน่วยงานที่ได้รับงบประมาณตามแผนงาน โครงการ/กจิ กรรม ท่ีเกีย่ วขอ้ งดังต่อไปนี้ 1. สำ� นักงาน ป.ป.ช. สว่ นกลาง จำ� นวน 6 หนว่ ยงาน 2. สำ� นักงาน ป.ป.ช. ภาค จำ� นวน 9 ภาค 3. สำ� นกั งาน ป.ป.ช. ประจำ� จังหวัด จำ� นวน 76 จงั หวัด 4. หน่วยงานภายนอกที่เกย่ี วขอ้ ง จ�ำนวน 29 หนว่ ยงาน ยทุ ธศาสตรท์ ี่ 2 ยกระดบั เจตจำ� นงทางการเมืองในการต่อตา้ นการทุจริต ยุทธศาสตร์ท่ี 2 ยกระดับเจตจ�ำนงทางการเมืองในการต่อต้านการทุจริต เป็นยุทธศาสตร์ที่มาจาก การแสดงออกซ่ึงเจตจ�ำนงทางการเมืองของประชาชนทุกกลุ่มทุกฝ่ายที่ไม่ยอมรับและไม่อดทนต่อการทุจริต ประพฤติมิชอบไม่ว่าจะเป็นรฐั บาลใดกต็ าม ย่อมสะท้อนใหเ้ หน็ ถึงเจตจำ� นงทางการเมอื งอันแนว่ แนข่ องประชาชน ไทยทุกกลุ่มทุกฝ่ายท่ีต้องการให้การบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลและการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าท่ีรัฐ เป็นไปด้วยความโปร่งใสปราศจากการทุจรติ ประพฤตมิ ชิ อบ โดยมโี ครงการและการขับเคลอ่ื นยทุ ธศาสตรท์ สี่ �ำคญั ดงั นี้ เจตจำ� นงทางการเมอื งในการตอ่ ตา้ นการทุจรติ ของพรรคการเมอื งและนักการเมอื ง โครงการส่งเสริมการแสดงเจตจ�ำนงทางการเมืองในการต่อต้านการทุจริต เพ่ือสร้างกลไกให้ พรรคการเมือง และนักการเมืองได้แสดงเจตจ�ำนงทางการเมืองในการปฏิบัติหน้าท่ีด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต และรับผิดชอบต่อเจตจ�ำนงที่แสดงไว้ต่อประชาชนให้ไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม และมีการบูรณาการ การท�ำงานร่วมกันกับองค์กรที่มีบทบาทหน้าท่ีเกี่ยวข้องและทุกภาคส่วน เพ่ือส่งเสริมกระตุ้นให้นักการเมือง ผ้ดู �ำรงต�ำแหน่งทางการเมอื ง มีส�ำนึกรับผดิ ชอบตอ่ เจตจำ� นงในการตอ่ ต้านการทุจรติ ทต่ี นได้แสดงไวต้ ่อประชาชน รวมท้ังสร้างความตระหนักในการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ในการแสดงเจตจ�ำนงทางการเมืองในการต่อต้าน การทุจรติ ใหเ้ กิดเป็นรปู ธรรมและต่อเน่ือง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 สำ� นักงาน ป.ป.ช. ไดจ้ ัดโครงการน้ีข้ึน 146 รายงานประจ�ำปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทจุ รติ แห่งชาติ
การด�ำเนินโครงการมผี ู้ท่รี ่วม จำ� นวนทงั้ สิน้ 662 คน ประกอบดว้ ย 1) ภาคประชาชน ร้อยละ 56 จ�ำนวน 370 คน 2) กลุม่ เจา้ หน้าทรี่ ฐั รอ้ ยละ 16 จำ� นวน 111 คน 3) กลุ่มนักการเมอื ง ร้อยละ 28 จำ� นวน 181 คน ผลจากการประมวลผลการแสดงเจตจำ� นงทางการเมืองในการต่อตา้ นการทจุ ริต มีข้อค้นพบ ดงั น้ี 1) ภาคประชาชน มคี วามต้องการใหน้ กั การเมืองและพรรคการเมอื งมนี โยบายต่อตา้ นการทจุ รติ ชดั เจน มากท่ีสดุ จำ� นวน 252 คน คิดเป็นร้อยละ 68 รองลงมา ต้องการใหน้ ักการเมืองและพรรคการเมอื งมคี วามซอ่ื สตั ย์ สุจรติ โปรง่ ใส จำ� นวน 71 คน คิดเป็นร้อยละ 19 สนบั สนนุ การเลอื กตงั้ ทโี่ ปร่งใส ไม่ซอ้ื สิทธิขายเสยี ง จำ� นวน 39 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 11 และอ่นื ๆ จ�ำนวน 8 คน คดิ เป็นร้อยละ 2 ตามล�ำดับ 2) กลุ่มเจ้าหน้าท่ีรัฐ ต้องการให้นักการเมือง มีความซื่อสัตย์ สุจริต โปร่งใส มากท่ีสุด จ�ำนวน 89 คน คิดเป็นร้อยละ 80 รองลงมา ต้องการให้นักการเมืองและ “จากการประมวลผลสะท้อน พรรคการเมืองมีนโยบายต่อต้านการทุจริตที่ชัดเจน จ�ำนวน ของการด�ำเนนิ โครงการเหน็ ได้ชดั วา่ 15 คน คิดเป็นร้อยละ 13 สนับสนุนการเลือกตั้งโปร่งใส ภาคประชาชนและเจ้าหนา้ ที่ของรฐั ไมซ่ อ้ื สิทธขิ ายเสยี ง จำ� นวน 7 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 6 ตอ้ งการให้พรรคการเมืองมนี โยบาย 3) กลุ่มนักการเมือง พร้อมร่วมต่อต้านการทุจริต มากท่ีสุด จ�ำนวน 62 คน คิดเป็นร้อยละ 34 รองลงมา ต่อตา้ นการทุจรติ ทเ่ี ปน็ รูปธรรม จะด�ำเนนิ งานดว้ ยความซื่อสัตย์ สจุ รติ โปร่งใส จำ� นวน 55 คน และต้องการใหน้ ักการเมอื ง คิดเป็นร้อยละ 30 สนับสนนุ การเลือกตงั้ ที่ โปร่งใส ไมซ่ ้ือสิทธิ มีความซื่อสตั ย์ สุจริต” ขายเสียง จ�ำนวน 48 คน คิดเป็นร้อยละ 27 และอ่ืนๆ จำ� นวน 16 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 9 ตามลำ� ดับ โดยจากการประมวลผลสะท้อนของการด�ำเนินโครงการเห็นได้ชัดว่า ภาคประชาชนและเจ้าหน้าท่ีของรัฐ ต้องการให้พรรคการเมืองมีนโยบายต่อต้านการทุจริตท่ีเป็นรูปธรรมและต้องการให้นักการเมืองมีความซ่ือสัตย์ สุจริต เป็นความหวังในการพัฒนาประเทศให้ก้าวสู่ความเจริญรุ่งเรือง และกลุ่มนักการเมืองพร้อมร่วมต่อต้าน การทุจริตและแสดงเจตจำ� นงในการด�ำเนินการดว้ ยความซือ่ สัตย์ สุจริต โปรง่ ใส นอกจากนี้ มีการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์การแสดงเจตจ�ำนงทางการเมืองในการต่อต้านการทุจริต เพ่ือสง่ เสรมิ กระตนุ้ ให้นักการเมอื ง ผดู้ ำ� รงตำ� แหนง่ ทางการเมืองมสี �ำนึกรับผดิ ชอบตอ่ เจตนารมณข์ องตนท่ไี ดใ้ ห้ไว้ สรา้ งความตระหนักในการมีสว่ นร่วมของทุกภาคส่วน ในการแสดงเจตจ�ำนงทางการเมืองในการตอ่ ตา้ นการทจุ รติ ใหเ้ กิดเป็นรปู ธรรม ผา่ นสือ่ ตา่ ง ๆ รวม จำ� นวน 5 สอื่ ไดแ้ ก่ สือ่ ส่งิ พิมพ์ จ�ำนวน 1 สื่อ คอื หนังสือพิมพ์ไทยรฐั เว็บไซต์ จ�ำนวน 4 สอ่ื ได้แก่ โพสต์ทเู ดย์ (www.posttoday.com) M2F Monday to Friday (www.m2fnews.com) สยามรัฐ (www.siamrath.co.th) และคมชัดลึก (www.komchadluek.net) โดยมีพรรคการเมืองขนาดใหญ่ ท่ีมีสมาชิกเป็นจ�ำนวนมากเข้าร่วมลงนามแสดงเจตจ�ำนงทางการเมืองในการต่อต้านการทุจริตต่อสาธารณชน จำ� นวน 35 พรรค (มีจำ� นวน 1 พรรคทไี่ ม่ส่งผู้สมัครลงเลือกต้งั ) คิดเป็นร้อยละ 42 ของพรรคการเมืองท่สี ่งผู้สมคั ร ลงเลอื กตง้ั การสง่ เสริมทอ้ งถิ่นปลอดทุจรติ โครงการสง่ เสริมท้องถ่ินปลอดทจุ ริต ประจ�ำปี พ.ศ. 2562 เปน็ โครงการทมี่ ุ่งเน้นการด�ำเนนิ การส่งเสริม ให้ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแสดงเจตจ�ำนงทางการเมืองในการต่อต้านการทุจริตด้วยการจัดท�ำ แผนปฏิบัติการป้องกันการทุจริต และน�ำแผนไปสู่การปฏิบัติ รวมทั้งพัฒนาการจัดท�ำแผนปฏิบัติการป้องกัน รายงานประจำ� ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการปอ้ งกันและปราบปรามการทุจริตแหง่ ชาติ 147
การทุจริตให้ได้มาตรฐานและสร้างกลไกการติดตามประเมินผลการปฏิบัติตามแผนปฏิบัติการป้องกันการทุจริต เพื่อให้เกิดการน�ำไปสู่การปฏิบัติเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม โดยอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง อันเป็นการพัฒนาระบบป้องกันการทุจริตเชิงรุก เพื่อส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินบริหารงาน ด้วยความโปร่งใส และมีความเข้มแข็งในการบริหารราชการ ตามหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองท่ีดี หรือหลกั ธรรมาภบิ าล ส่งเสรมิ ใหเ้ กดิ การปรับเปล่ียนวัฒนธรรมทางการเมืองของประชาชนไปส่วู ัฒนธรรมการมีส่วนร่วม และต่อต้านการทุจริตเพื่อให้บังเกิดประโยชน์สุขแก่ประชาชน และยกระดับมาตรฐานในการป้องกันการทุจริต ขององค์กรตนเอง ดังน้ี • องคก์ รปกครองส่วนท้องถิ่นท้งั หมด 7,852 แหง่ • จัดท�ำแผนปฏิบตั กิ ารป้องกนั การทจุ ริต 7,852 แห่ง คดิ เปน็ รอ้ ยละ 100 • แผนปฏิบัตกิ ารฯ ผ่านเกณฑม์ าตรฐาน 7,849 แห่ง คดิ เป็นรอ้ ยละ 99.85 • รายงานผลผ่านระบบ E-PlanNACC 5,590 แห่ง คดิ เป็นรอ้ ยละ 71.22 จ�ำนวนโครงการในระบบ E-PlanNacc ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 จ�ำนวน 291,032 โครงการ รายงานผลในระบบแล้ว จ�ำนวน 178,957 โครงการ อยู่ระหว่างด�ำเนินการ จ�ำนวน 3,400 โครงการ คิดเป็น รอ้ ยละ 1.90 ดำ� เนนิ การแลว้ เสรจ็ จ�ำนวน 162,182 โครงการ คดิ เป็นร้อยละ 90.63 และไมส่ ามารถด�ำเนนิ การได้ จ�ำนวน 13,375 โครงการ คิดเปน็ รอ้ ยละ 7.47 จากการประมวลในระบบ E-PlanNacc ส�ำนักงาน ป.ป.ช. ประจ�ำจังหวัดได้ลงพ้ืนท่ีนิเทศติดตาม ผลการด�ำเนินงานตามแผนปฏิบัติการป้องกันการทุจริตขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ทั่วประเทศ จ�ำนวน 641 แหง่ ในส่วนการน�ำแผนปฏิบัติการไปสู่การปฏิบัตินั้น ภาพรวมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีผลการน�ำ แผนปฏบิ ัติการป้องกนั การทุจรติ ไปปฏิบัตใิ นระดับจังหวดั ประจำ� ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 รอบ 12 เดือน ดงั น้ี ระดับการน�ำแผนฯ ไปปฏบิ ัตขิ ององค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิน่ จำ� นวน (แหง่ ) รอ้ ยละ มาก (ร้อยละ 80 ขึ้นไป) 1,899 24.19 ปานกลาง (รอ้ ยละ 50 - 79) 1,897 24.17 นอ้ ย (ต่ำ� กว่ารอ้ ยละ 50) 4,053 51.64 7,849 100 รวม และ โครงการก�ำกับติดตามยทุ ธศาสตรช์ าติ “ยกระดบั เจตจำ� นงทางการเมอื งในการต่อต้านการทจุ ริต” เป็นกลไกที่เกิดข้ึนเพ่ือให้สอดคล้องยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระยะท่ี 3 (พ.ศ. 2560 - 2564) ยุทธศาสตร์ที่ 2 ยกระดับเจตจ�ำนงทางการเมืองในการต่อต้านการทุจริต ในการน้ีมุ่งหวัง ให้ ชุดโครงการตามยุทธศาสตร์ชาติฯ ด�ำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้รับทราบถึงผลการด�ำเนินการ ปัญหาอุปสรรคท่ีพบระหว่างการด�ำเนินการ รวมถึงแนวทางในการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพการด�ำเนินการ ให้ประสบผลส�ำเร็จ โดยเป็นการลงพื้นท่ีภาคสนามเพ่ือจัดเก็บข้อมูลด้วยวิธีการใช้แบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ จ�ำนวน 2 โครงการ ได้แก่ (1) โครงการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างองค์กรอิสระและรัฐสภาในการยกระดับ เจตจำ� นงทางการเมืองในการต่อต้านการทจุ ริต จัดโดยส�ำนกั งานเลขาธกิ ารสภาผูแ้ ทนราษฎร และ (2) โครงการ ส่งเสริมการยกระดับเจตจ�ำนงทางการเมืองในการต่อต้านการทุจริตแก่สาขาพรรคการเมืองและตัวแทน พรรคการเมืองประจ�ำจังหวัด จัดโดยส�ำนักงานคณะกรรมการการเลือกต้ังทุกส�ำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประจำ� จังหวดั และกรงุ เทพมหานคร โครงการนี้ส่งผลให้มีข้อมูลการด�ำเนินโครงการของหน่วยงานที่ด�ำเนินโครงการตามยุทธศาสตร์ชาติฯ ซ่ึงจะมีร้อยละของความสมบูรณ์ ครบถ้วนของเน้ือหา และผลการก�ำกับติดตามจะเป็นฐานข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ต่อการยกระดับเจตจำ� นงทางการเมืองในการตอ่ ตา้ นการทุจริต 148 รายงานประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
ยทุ ธศาสตร์ที่ 3 การสกดั กัน้ การทุจริตเชิงนโยบาย การทุจริตเชิงนโยบาย (Policy Corruption) เป็นปัญหาท่ีพบมากขึ้นในปัจจุบัน ก่อให้เกิดผลเสียต่อ การพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศอยา่ งมหาศาล ซง่ึ จากผลการวิจัยที่ผ่านมาพบว่าการทจุ รติ เชิงนโยบาย มักเกิดจากการใช้ช่องทางทางกฎหมายเข้าแสวงหาประโยชน์ส่วนตน โดยพบต้ังแต่ขั้นตอนการก�ำหนดนโยบาย ของพรรคการเมือง การใช้อ�ำนาจอย่างไม่โปร่งใส ยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระยะที่ 3 จงึ ไดก้ �ำหนดให้มยี ุทธศาสตร์ “สกดั กัน้ การทจุ ริตเชงิ นโยบาย” ซงึ่ เปน็ ยุทธศาสตรท์ ่ีมงุ่ ป้องกันการทจุ ริต ตลอดกระบวนการนโยบาย ผ่านการก�ำหนดมาตรการกลไกเสริมสร้างธรรมาภิบาล ยุทธศาสตร์ที่ 3 สกัดก้ัน การทุจริตเชงิ นโยบาย มีโครงการและการดำ� เนนิ การขบั เคลื่อนท่สี ำ� คัญ ดังน้ี การจัดท�ำเกณฑ์ช้ีวัดความเสี่ยงต่อการทุจริตเชิงนโยบาย คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีการแต่งตั้ง คณะอนุกรรมการศึกษาการก�ำหนดเกณฑ์ชี้วัดความเส่ียงเพื่อสกัดกั้นการทุจริตเชิงนโยบายในโครงการของรัฐ ซึ่งมี ศาสตราจารย์ภักดี โพธิศิริ เป็นประธานอนุกรรมการ พร้อมท้ังผู้ทรงคุณวุฒิและผู้แทนจากหน่วยงานที่เก่ียวข้อง เพื่อร่วมกนั จดั ทำ� และพฒั นาเกณฑช์ วี้ ัดดงั กลา่ ว ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2560 และไดด้ �ำเนนิ การจนสำ� เรจ็ ในปี พ.ศ. 2562 น้ี โดยเกณฑ์ชี้วัดความเสี่ยงต่อการทุจริตเชิงนโยบายดังกล่าว มีลักษณะเป็นเคร่ืองมือในการป้องกันการทุจริตท่ีมี ลักษณะของการตั้งประเด็นค�ำถามต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันการทุจริต ได้แก่ การประเมินความเสี่ยง ต่อการทุจริต การวิเคราะห์ผลกระทบ ความคุ้มค่า ความเป็นไปได้ และความเสี่ยงของนโยบาย การประเมิน และบริหารจัดการความเส่ียงต่อการทุจริตในนโยบาย และการเสริมสร้างความโปร่งใสในการพัฒนานโยบาย และการส่ือสารการบริหารจัดการความเสี่ยงในการน�ำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ ทั้งนี้ หากผู้ที่ต้องพัฒนานโยบาย และผู้ท่ีต้องน�ำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ ไม่ได้มีการจัดให้มีกิจกรรมหรือแนวทางการปฏิบัติตามประเด็นค�ำถาม ที่ปรากฏในเกณฑ์ช้ีวัดความเสี่ยงต่อการทุจริตเชิงนโยบาย จะส่อให้เห็นว่านโยบายท่ีได้พัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้ใน การหาเสียงเลอื กต้ัง และนโยบายทีจ่ ะนำ� ไปสู่การปฏบิ ัติมโี อกาสเสี่ยงที่จะเกิดการทจุ รติ ได้ ทั้งน้ี คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติให้เสนอเกณฑ์ช้ีวัดความเสี่ยงต่อการทุจริตเชิงนโยบายต่อ คณะกรรมการการเลือกต้ัง เมื่อเดือนมกราคม 2562 และเสนอต่อคณะรัฐมนตรี เม่ือเดือนพฤษภาคม 2562 และคณะรัฐมนตรีไดม้ ีมติ เม่ือวันท่ี 25 มถิ นุ ายน 2562 รับทราบเกณฑช์ ีว้ ัดความเสี่ยงต่อการทุจริตเชงิ นโยบาย และคู่มือการใชเ้ กณฑช์ ้วี ดั ความเสี่ยงต่อการทจุ รติ เชงิ นโยบาย ตามท่คี ณะกรรมการ ป.ป.ช. เสนอ และมอบหมาย ให้ส�ำนักงาน ป.ป.ท. เป็นหน่วยงานหลัก ร่วมกับส�ำนักงาน ก.พ.ร. กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวตั กรรม และหนว่ ยงานทีเ่ กย่ี วขอ้ ง ประชมุ หารอื รว่ มกับส�ำนกั งาน ป.ป.ช. เพอื่ พจิ ารณาก�ำหนดเกณฑช์ ้วี ดั ความเสีย่ งต่อการทจุ รติ เชิงนโยบายให้มคี วามเหมาะสม หรือสอดคลอ้ งกับหลักเกณฑ์หรือแนวทาง การประเมนิ อนื่ ๆ ท่ีมีอยู่แล้ว เพ่ือให้สามารถน�ำเกณฑ์ดังกล่าวไปสู่การปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม คุ้มค่า และเป็นไปตาม วตั ถปุ ระสงคท์ ี่กำ� หนดไว้ โดยไม่เปน็ การสรา้ งภาระหรืองบประมาณใหก้ บั ภาครฐั ต่อไป อนงึ่ เพ่อื ใหเ้ กดิ การบรู ณาการการท�ำงานร่วมกนั ระหวา่ งคณะกรรมการ ป.ป.ช. กับองคก์ รตรวจสอบอ่นื เพอ่ื ใหป้ ัญหาการทจุ ริตเชิงนโยบายบรรเทาเบาบางลง คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ด�ำเนินการประสานความรว่ มมือ กับสว่ นราชการที่เกย่ี วข้อง ประกอบดว้ ย สำ� นักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ ส�ำนักงานสภาพฒั นาการ เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในการที่จะบูรณาการเป้าประสงค์ของเกณฑ์ชี้วัดความเสี่ยงต่อการทุจริตเชิงนโยบาย ให้เหมาะสมหรือสอดคล้องกบั หลกั เกณฑห์ รอื แนวทางการประเมินอ่นื ๆ ท่มี อี ยู่แล้ว เพือ่ ให้สามารถน�ำเกณฑ์ชีว้ ัด ดังกล่าวไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม คุ้มค่า และเป็นไปตามวัตถุประสงค์ท่ีก�ำหนดไว้ โดยไม่เป็นการสร้าง ภาระหรืองบประมาณให้กับภาครัฐ รวมถึงได้ประสานความร่วมมือกับส�ำนักงานคณะกรรมการการเลือกต้ัง เพื่อจะประยุกต์เกณฑ์ชี้วัดความเสี่ยงต่อการทุจริตเชิงนโยบาย ส�ำหรับใช้ในการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น เพื่อลด โอกาสเส่ียงตอ่ การทจุ ริตเชิงนโยบายที่อาจเกิดข้ึนในการดำ� เนินการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่อไป รายงานประจำ� ปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการปอ้ งกันและปราบปรามการทจุ รติ แห่งชาติ 149
ยทุ ธศาสตรท์ ี่ 4 พฒั นาระบบปอ้ งกันการทุจรติ เชงิ รกุ ยุทธศาสตร์ท่ี 4 พฒั นาระบบป้องกนั การทจุ ริตเชิงรุก ยทุ ธศาสตร์น้ีมุ่งเน้นการพฒั นากลไกและกระบวน งานด้านการป้องกันการทุจริตของประเทศไทย ให้มีความเข้มแข็งและมีประสิทธิภาพมากย่ิงขึ้น เพ่ือลดโอกาส การทุจริตหรือท�ำให้การทุจริตเกิดยากขึ้นหรือไม่เกิดข้ึน โดยอาศัยท้ังการก�ำหนดกลไกด้านกฎหมาย กลไก ทางการบริหาร และกลไกอ่ืน ๆ ตลอดจนเสริมสร้างการปฏิบัติงาน ของหน่วยงานท้ังภาครัฐ และเอกชนให้มี ธรรมาภิบาลมากยง่ิ ขน้ึ โดยมโี ครงการและการดำ� เนนิ การเพือ่ ขับเคล่อื นทส่ี ำ� คัญ ดังน้ี การสง่ เสริมคุณธรรมและความโปรง่ ใสของหนว่ ยงานภาครัฐ การประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการด�ำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (Integrity and Transparency Assessment: ITA) หรือท่ีเรียกว่า การประเมิน ITA เป็นการประเมินเกี่ยวกับคุณลักษณะ ด้านคุณธรรมและความโปร่งใสท่ีหน่วยงานภาครัฐและเจ้าหน้าท่ีของรัฐพึงจะต้องมีและยึดถือปฏิบัติใน การด�ำเนินงานในด้านต่าง ๆ หน่วยงานภาครัฐท่ีรับการประเมินจะได้รับทราบผลการประเมินเพื่อน�ำไปสู่การปรับปรุง และพัฒนาตนเอง เพ่ือให้การด�ำเนินงานภาครัฐเป็นไปอย่างมีคุณธรรมและความโปร่งใส ลดการทุจริต และประพฤติมิชอบ และก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและต่อประเทศชาติสูงสุด โดยการประเมิน ITA ถือเป็นการประเมินด้านคุณธรรมและความโปร่งใสที่มีหน่วยงานเข้าร่วมการประเมินท่ัวประเทศมากที่สุด และเป็นการประเมินท่ีเป็นมาตรฐานเดียวกันท่ัวประเทศ ทั้งในด้านกรอบแนวทางและรายละเอียดการประเมิน แนวปฏิบตั ิในการประเมนิ กรอบระยะเวลาการประเมิน และการบริหารจดั การการประเมนิ การประเมิน ITA ได้รับการยอมรับและยกระดับความส�ำคัญในทางนโยบายของประเทศ โดยรัฐบาล ได้เล็งเห็นถึงความส�ำคัญของ ITA คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติเห็นชอบให้หน่วยงานภาครัฐทุกหน่วยงานเข้าร่วม การประเมนิ คณุ ธรรมและความโปรง่ ใสในการดำ� เนินงานของหน่วยงานภาครฐั ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 - 2560 และต่อเนื่องในปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 - 2564 ตามทสี่ �ำนกั งาน ป.ป.ช. เสนอ และปัจจุบันการประเมิน ITA ถูกก�ำหนดเป็นตัวชี้วัดท่ีส�ำคัญของแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นการต่อต้านการทุจริต และประพฤตมิ ชิ อบ (พ.ศ. 2561 - 2580) ซ่ึงมีเป้าหมายในระยะแรกคอื ภายในปี พ.ศ. 2565 หนว่ ยงานภาครัฐ ไม่นอ้ ยกว่ารอ้ ยละ 80 จะตอ้ งมีผลการประเมิน ITA 85 คะแนนขึ้นไป การประเมิน ITA ประจำ� ปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 ได้มกี ารประเมนิ หนว่ ยงานภาครฐั โดยใชก้ ารประเมิน รูปแบบใหม่พร้อมกันท่ัวประเทศ ซ่ึงส�ำนักงาน ป.ป.ช. ได้มีการศึกษาทบทวนและพัฒนางานวิจัยและข้อมูล ทางวิชาการ ท�ำให้การประเมิน ITA มีเนื้อหาครอบคลุมหลายด้านซ่ึงเกี่ยวข้องกับคุณธรรม ความโปร่งใส และการทุจริต ทั้งท่ีมีลักษณะการทุจริตทางตรงและทางอ้อม รวมไปถึงบริบทแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานในการน�ำไปสู่การปรับปรุงแก้ไข ลดโอกาสหรือความเสี่ยงท่ีจะเกิดการทุจริต ในหน่วยงานภาครัฐ เม่ือหน่วยงานภาครัฐมีผลการด�ำเนินงานที่มีธรรมาภิบาลและมีการเปิดเผยข้อมูลภาครัฐ อย่างท่ัวถึง (Open Government Data) จะส่งผลสะท้อนต่อการยกระดับคะแนน CPI ของประเทศไทย ไดใ้ นระยะยาว โดยการประเมิน ITA เก็บข้อมลู ผา่ น 3 เครื่องมือการประเมนิ จำ� แนกออกเป็น 10 ตัวช้วี ัด นอกจากน้ี สำ� นกั งาน ป.ป.ช. ไดพ้ ัฒนา “ระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศรองรบั การประเมินคุณธรรมและ ความโปร่งใสในการด�ำเนินงานของหนว่ ยงานภาครฐั (Integrity and Transparency Assessment System : ITAS)” เพื่อเป็นศูนย์กลางในการเก็บรวบรวมข้อมูลที่ทันสมัย สามารถบริหารจัดการข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะท�ำให้การด�ำเนินการประเมินสามารถท�ำได้อย่างรวดเร็วและเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ อีกทั้ง ยังสามารถก�ำกับติดตามการประเมินได้อย่างทันสถานการณ์ รวมไปถึงสามารถวิเคราะห์และประมวลผล การประเมินได้อย่างอัตโนมัติ ตอบสนองต่อการน�ำข้อมูลไปสู่การปรับปรุงหน่วยงานท่ีรับการประเมิน และการวางแผนในการป้องกนั การทจุ ริตต่อไปไดอ้ ย่างมีประสทิ ธิภาพอีกดว้ ย 150 รายงานประจ�ำปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามการทุจรติ แห่งชาติ
สรุปผลการประเมนิ ITA ประจ�ำปี พ.ศ. 2562 การประเมิน ITA ประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 เกบ็ ขอ้ มลู จาก 3 แหลง่ ขอ้ มลู ซ่งึ เป็นการรวบรวม ข้อมูลขนาดใหญ่ของประเทศ โดยมผี ูต้ อบแบบสอบถามมากถงึ 1,006,260 คน และตรวจสอบข้อมลู บนเว็บไซต์ ของหน่วยงานภาครัฐทกุ หน่วยงาน โดยมีจำ� นวนข้อมลู ทัง้ สน้ิ ดงั นี้ ข้าราชการ พนกั งาน ผรู้ บั บรกิ าร/ติดตอ่ เว็บไซต์ของหนว่ ยงานของรฐั 407,097 กบั หนว่ ยงานของรัฐ ทป่ี ระชาชนเข้าถงึ ได้ 8,299 599,163 “ITA มีผู้ตอบแบบสอบถาม การประเมิน ITA ได้ก�ำหนดข้ันตอนการประเมินที่หน่วยงาน มากถงึ 1,006,260 คน และ ภาครัฐจะต้องด�ำเนินการให้ครบถ้วนเพ่ือให้มีผลการประเมินที่มีความ ตรวจสอบขอ้ มูลบนเว็บไซต์ น่าเช่ือถือและสมบูรณ์มากที่สุด โดยมีหน่วยงานที่ด�ำเนินการตามขั้นตอน ท้ังสิ้น 8,058 หน่วยงาน และหน่วยงานท่ีด�ำเนินการไม่ครบถ้วน ของหน่วยงานภาครัฐ 241 หน่วยงาน หรือคิดเป็นเพียงร้อยละ 2.90 และในปี พ.ศ. 2562 ทุกหน่วยงาน” หน่วยงานภาครัฐที่เข้ารับการประเมิน 8,299 หน่วยงานนั้น มีผลการประเมิน ITA ในภาพรวมของประเทศไทยที่ 66.74 คะแนน จัดอย่ใู นระดับ C หนว่ ยงานภาครัฐ คะแนนเฉลย่ี ผ่านเกณฑ์ (85 ขึ้นไป) 8,299 หน่วยงาน 66.74 คะแนน 970 หนว่ ยงาน (รอ้ ยละ 11.69) การประเมิน ITA ปี พ.ศ. 2562 นอกจากจะแสดงผลเป็น “ในปี พ.ศ. 2562 มีหน่วยงาน คะแนนแล้ว ยังก�ำหนดให้มีการจัดกลุ่มผลการประเมินเป็นระดับ ผา่ นเกณฑ์ (85 ขึ้นไป) ผลการประเมิน โดยจ�ำแนกออกเป็น 7 ระดับตามช่วงค่าคะแนน โดยหน่วยงานส่วนใหญอ่ ยใู่ นกลุ่มระดับ D (55 - 64) ระดับ B (75 - 84) จำ� นวน 970 หนว่ ยงาน หรือ และระดบั C (65 - 74) ตามลำ� ดบั สรปุ ผลในภาพรวมของหนว่ ยงาน คิดเป็นเพยี งร้อยละ 11.69” ภาครัฐท้งั หมด สรปุ ได้ ดงั นี้ รอ้ ยละหน่วยงานตามระดบั ผลการประเมิน 25 20.13 22.41 20 15 18.34 12.01 12.51 10 11.28 5 2.90 0 0.41 AA A B C D E F N/A (95-100) (85-94) (75-84) (65-74) (55-64) (50-54) (0-49) (ไมส่ มบรู ณ์) นอกจากนี้ ยังมีการดาเนรินากยงาารนสปรนะจับำ� ปสีงนบปุนรกะมาาณรยพก.ศร.ะ2ด5ับ62กคาณรปะกรระรมเมกาินรปค้อุณงกธนั รแลระปมรแาบลปะรคามวกาารมทโุจปริตรแ่งหใง่ สชาใตนิ กา1ร51 ดาเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ ประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2562 หรือท่ีเรียกกว่า ITA Course อีกด้วย โดยกาหนดให้มกี ารจดั และการดาเนนิ การ จานวนทั้งส้ิน 3 กิจกรรม ไดแ้ ก่
นอกจากนี้ ยังมีการด�ำเนินการสนับสนุนการยกระดับการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส ในการด�ำเนนิ งานของหน่วยงานภาครัฐ ประจ�ำปงี บประมาณ พ.ศ.2562 หรอื ที่เรยี กกว่า ITA Course อีกด้วย โดยกำ� หนดให้มีการจดั และการด�ำเนนิ การ จำ� นวนทง้ั ส้ิน 3 กจิ กรรม ได้แก่ กิจกรรมที่ 1 : การพฒั นาเพอื่ ยกระดบั คณุ ธรรมและความโปรง่ ใสในการด�ำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ ภายใต้หลักสูตร (ITA Course) กลุ่มเป้าหมายแบ่งเป็น 2 รุ่น รวมจ�ำนวน 250 คน ประกอบด้วย ผู้แทนจาก หน่วยงานใหม่ท่ีเข้ารับการประเมิน ผู้แทนจากหน่วยงานที่ได้คะแนนการประเมินในปี พ.ศ.2561 ต�่ำกว่าร้อยละ 75 ผู้แทนจากสถาบันอุดมศึกษา บุคลากรส�ำนักงาน ป.ป.ช. และผู้สังเกตการณ์ โดยด�ำเนินกิจกรรม รุ่นที่ 1 ระหว่างวันที่ 30 - 31 พฤษภาคม 2562 และด�ำเนินกิจกรรม รุ่นท่ี 2 ระหว่างวันท่ี 6 - 7 มิถุนายน 2562 ณ Rama Gardens Hotel Bangkok กิจกรรมที่ 2 : กิจกรรมการวิเคราะห์องค์กรและระบบงานเพ่ือพัฒนาและยกระดับคุณธรรม และความโปร่งใสในการด�ำเนินงานของหน่วยงาน ระหว่างวันที่ 29 - 30 สงิ หาคม 2562 ณ Buddy Oriental Riverside ปากเกรด็ นนทบุรี กล่มุ เปา้ หมายรวมจำ� นวน 50 คน ไดแ้ ก่ นักวิชาการหรอื ผเู้ ชี่ยวชาญในด้านการส่งเสริม คุณธรรมและความโปร่งใส ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บุคลากรส�ำนักงาน ป.ป.ช. เจ้าหน้าที่ส�ำนักประเมิน คณุ ธรรมและความโปรง่ ใส และผู้สงั เกตการณ์ โดยกจิ กรรมดังกลา่ วมีผลผลติ ที่ส�ำคัญคอื องคค์ วามรู้ และแนวทาง ในการยกระดับและการพัฒนาองค์กรตามกรอบการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการด�ำเนินงานของ หนว่ ยงานภาครฐั เพ่อื น�ำไปผลิตสอื่ เพอ่ื พัฒนาองคค์ วามรู้ ส�ำหรบั เผยแพรใ่ หห้ นว่ ยงานทเ่ี ข้ารบั ประเมินต่อไป กิจกรรมที่ 3 : การผลิตส่ือเพื่อพัฒนาองค์ความรู้ในการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส ในการด�ำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ จ�ำนวน 2 รายการ ได้แก่ การผลิต Motiongraphic / Infographic ความยาวไม่เกนิ 10 นาที จำ� นวน 1 ผลงาน และการผลิตแผ่นพับ จำ� นวน 20,000 แผ่น สำ� หรบั เผยแพรอ่ งค์ความรู้ ใหก้ ับหน่วยงานทีเ่ ขา้ รบั ประเมนิ อกี ท้งั ยังเปน็ องคค์ วามร้ทู ส่ี ามารถน�ำไปให้ความร้กู ับสาธารณชนไดอ้ ีกดว้ ย นอกจากน้ี ยังมีการจัดกิจกรรมให้ค�ำปรึกษาทางด้านวิชาการโครงการประเมินคุณธรรมและ ความโปร่งใสในการด�ำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ ประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ.2562 (โครงการคลนิ กิ ITA) โดยด�ำเนินการจัดขึ้นตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 ถึงเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2562 โดยก�ำหนดให้มี การจัดประชุมดังกล่าวทุกวันพุธในสปั ดาหท์ ่ี 1 และสัปดาหท์ ่ี 3 ของทุกเดอื น แบง่ เปน็ รอบเชา้ จำ� นวน 1 รอบ และรอบบ่ายจ�ำนวน 1 รอบ โดยเปิดโอกาสให้หน่วยงานท่ัวไปที่สนใจเข้าร่วมลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐ ท่ีเข้ารับการประเมินสามารถเข้ามาขอรับค�ำปรึกษาหรือหารือข้อราชการที่เกี่ยวข้อง กบั การประเมนิ คณุ ธรรมและความโปรง่ ใสในการดำ� เนินงานของหน่วยงานภาครัฐ ตารางสรปุ การเข้าร่วมกจิ กรรม คลนิ ิก ITA ล�ำดับ ประเภทหน่วยงาน จ�ำนวน (คน) จ�ำนวน (หน่วยงาน) 1 กระทรวง/กรม 205 57 2 รฐั วิสาหกิจ 111 27 3 องคก์ ารมหาชน 104 23 4 มหาวทิ ยาลยั 109 29 5 องคก์ รอิสระ 5 3 6 7 2 7 จังหวัด 29 11 8 อบจ. 145 72 9 อบต. 112 52 10 เทศบาล 45 13 กองทนุ และหน่วยงานใหม่ทเี่ ข้ารับการประเมนิ 872 289 รวม 152 รายงานประจ�ำปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจรติ แห่งชาติ
การขับเคล่อื นการป้องกันการทุจรติ ร่วมกับภาคธรุ กจิ เอกชน ส�ำนักประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสยังได้ด�ำเนินการพัฒนา มาตรวัดคุณธรรมและความโปร่งใส ในการด�ำเนินงานของหน่วยงานในภาคเอกชน เป็นการด�ำเนินงานในลักษณะการทดลองน�ำร่องการประเมิน ประกอบด้วยการจ�ำกัดขอบเขตของการประเมิน และพิจารณาหน่วยของการวิเคราะห์ (Unit of Analysis) ท่ีเหมาะสมของประเทศไทย ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการศึกษาทบทวนกรอบการประเมินจากทั้งต่างประเทศ และในประเทศ ภายใต้โครงการส่งเสริมมาตรฐานคุณธรรมและความโปร่งใสของหน่วยงานภาคธุรกิจเอกชน ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 โดยก�ำหนดจะด�ำเนินการประเมินอย่างเต็มรูปแบบในปี พ.ศ. 2563 ซ่ึงมาตรวัด ดงั กล่าวยังเป็นการส่งเสรมิ ให้หน่วยงานภาคธรุ กิจเอกชนไดร้ บั ทราบถึงกฎหมายทเี่ กีย่ วขอ้ งดว้ ย การประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการด�ำเนินงานของหน่วยงานภาคเอกชน เป็นผลมาจาก การด�ำเนินการท่ีต่อเนื่องของโครงการพัฒนามาตรวัดคุณธรรมและความโปร่งใสของหน่วยงานภาคธุรกิจเอกชน ที่ได้ด�ำเนินการไปในปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 และโครงการส่งเสริมมาตรฐานคุณธรรมและความโปร่งใส ของหน่วยงานภาคธุรกิจเอกชน ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 โดยได้ศึกษาทบทวนกรอบการประเมินจาก ทั้งต่างประเทศและในประเทศและพัฒนามาตรวัดขึ้นมาใหม่ ชื่อว่า “เคร่ืองมือตรวจสอบระดับภูมิคุ้มกันการทุจริต ขององคก์ ร” (Verified Private Company for Anti - Corruption (VPAC) ส�ำหรบั น�ำไปใชก้ บั บรษิ ัทที่เปน็ คคู่ ้า คูส่ ัญญา หรอื ไดร้ บั สัมปทานจากหนว่ ยงานภาครัฐในโครงการขนาดใหญ/่ มมี ลู ค่าสูง/จ�ำนวนมาก หรือจดทะเบียน ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และได้ท�ำการทดลองน�ำร่องเครื่องมือในหน่วยงานภาคธุรกิจเอกชน (กระจายตามประเภทของอุตสาหกรรม) ทั้งนี้ การประเมินดังกล่าวเป็นการด�ำเนินงานในลักษณะการทดลอง น�ำรอ่ งการประเมิน ประกอบดว้ ยการจ�ำกดั ขอบเขตของการประเมิน และพจิ ารณาหน่วยของการวิเคราะห์ (Unit of Analysis) ทเี่ หมาะสมของประเทศไทย แต่ยงั มไิ ดด้ �ำเนนิ การประเมินอย่างเต็มรปู แบบ โดยก�ำหนดการดำ� เนนิ การประเมนิ อยา่ งเต็มรปู แบบในปี พ.ศ. 2563 โดยก�ำหนดทจี่ ะประเมนิ แบบเตม็ รปู แบบ (Full Scale) เนอ่ื งจาก ได้มีการทดลองน�ำร่องการประเมินและขยายผลการประเมินมาแล้ว กระจายตามประเภทอุตสาหกรรม และขนาดของสถานประกอบการ และทั่วประเทศ โดยเน้นการประชาสัมพันธ์เพ่ือเชิญชวนให้หน่วยงาน ภาคธุรกจิ เอกชนเข้าร่วมโดยสมัครใจ (Voluntary Basis) นอกจากน้ี ยังมีการด�ำเนินโครงการแลกเปล่ียนองค์ความรู้เพื่อต่อต้านการทุจริตระหว่างหน่วยงาน องค์กรผู้ประกอบการภาคธุรกิจเอกชน เพ่ือให้เกิดการแลกเปล่ียนเรียนรู้องค์ความรู้ และก�ำหนดแนวทาง ข้อเสนอแนะในการต่อต้านการทุจริตระหว่างหน่วยงาน องค์กร ผู้ประกอบการภาคธุรกิจเอกชน รวมท้ัง สร้างความร่วมมือในการต่อต้านการทุจริตระหว่างส�ำนักงาน ป.ป.ช. กับภาคีเครือข่าย โดยในปี พ.ศ. 2562 ส�ำนักงาน ป.ป.ช. ได้จัดโครงการแลกเปล่ียนองค์ความรู้เพื่อต่อต้านการทุจริตระหว่างหน่วยงาน องค์กร ผ้ปู ระกอบการภาคธรุ กิจเอกชน โดยมีผูแ้ ทนจากหนว่ ยงานองค์กร ผู้ประกอบการภาคธุรกจิ เอกชน ผู้บรหิ ารและ เจา้ หนา้ ท่ี สำ� นักงาน ป.ป.ช. จำ� นวน 120 คน ร่วมเขา้ ประชุมเมื่อวนั ที่ 22 เมษายน 2562 ณ โรงแรมมริ าเคลิ แกรนด์ คอนเวนช่ัน กรุงเทพมหานคร และเกิดผลสรุปแนวทาง ข้อเสนอแนะในการต่อต้านการทุจริตร่วมกับ ภาคธุรกจิ เอกชน โครงการมอบรางวลั องค์กรโปร่งใส (NACC Integrity Awards) ในปี 2562 สำ� นกั งาน ป.ป.ช. จดั ให้มโี ครงการมอบรางวลั องค์กรโปร่งใส (NACC Integrity Awards) ตอ่ เนื่องมาเปน็ คร้งั ที่ 9 โดยมีวตั ถปุ ระสงค์ เพ่ือส่งเสริมให้หน่วยงาน/องค์กร/สถาบัน ภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ ภาคธุรกิจเอกชน และนิติบุคคลอื่น ๆ บริหาร จดั การด้วยหลกั ธรรมาภิบาล (Good Governance) บรรษัทภบิ าล (Corporate Governance) มจี รรยาบรรณ ทางการค้า (Code of Conduct) และรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวม (Corporate Social Responsibility) ดา้ นความโปรง่ ใส การเปดิ เผยข้อมลู การตรวจสอบได้ และความซื่อสัตย์ สจุ ริต ตามระเบยี บข้อบังคับ กฎหมาย และกตกิ าสากลทีเ่ ก่ียวข้อง รายงานประจำ� ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทจุ รติ แหง่ ชาติ 153
นอกจากนี้ ยงั มกี ารด�ำเนนิ โครงการบรู ณาการประสานความร่วมมือระหวา่ งสำ� นกั งาน ป.ป.ช. และ หอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วย การปอ้ งกันและปราบปรามการทุจรติ ยุทธศาสตรท์ ่ี 4 พฒั นาระบบป้องกันการทุจรติ เชงิ รุก โดยม่งุ สรา้ งเครือข่าย และประสานความสัมพันธ์ท่ีดีกับภาคธุรกิจเอกชนต่างประเทศที่ด�ำเนินการอยู่ในประเทศไทย สถานทูต ต่างประเทศประจ�ำประเทศไทย และองค์กรระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง เพ่ือเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ผลการด�ำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติฯ ตลอดจนผลการด�ำเนินงานป้องกันและปราบปรามการทุจริต ของส�ำนกั งาน ป.ป.ช. ใหก้ ลุ่มเป้าหมายดังกล่าวไดร้ บั ทราบ โดยการด�ำเนนิ งาน ประกอบดว้ ย 2 กจิ กรรมหลกั คือ การจัดท�ำเอกสารเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลการด�ำเนินงานของส�ำนักงาน ป.ป.ช. และกิจกรรมสัมมนา การป้องกันและปราบปรามการทุจริตร่วมกับหอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย (Joint Foreign Chambers of Commerce in Thailand - JFCCT) ณ โรงแรมดิเอมเมอรลั ด์ กรุงเทพมหานคร โครงการนี้ส่งผลให้มีการจัดท�ำสื่อประชาสัมพันธ์ผลการด�ำเนินงานของส�ำนักงาน ป.ป.ช. เป็นภาษา อังกฤษ รวมจำ� นวน 3 ฉบับๆ ละ 1,000 เล่ม รวมทั้งส้นิ 3,000 เลม่ มีเครอื ขา่ ยหอการคา้ ตา่ งประเทศ สถานทตู และองค์กรระหว่างประเทศที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย รวมจ�ำนวน 80 คน มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อให้ การด�ำเนินการของภาคธุรกิจเอกชนเป็นไปในแนวทางท่ีถูกต้อง ตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย “มีการแลกเปลย่ี นความคิดเหน็ การป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ตลอดจน เพือ่ ปรบั ปรุงการด�ำเนนิ ธรุ กจิ สร้างเครือข่ายและประสานความสัมพันธ์ท่ีดีกับภาคธุรกิจ ของภาคเอกชนให้สอดคล้องกับ เอกชนต่างประเทศที่ด�ำเนินการอยู่ในประเทศไทย สถานทูต มาตรการป้องกนั การให้สินบน ต่างประเทศประจ�ำประเทศไทย และองค์กรระหว่างประเทศ ของภาคเอกชน ตามมาตรา 176 ท่เี ก่ียวขอ้ ง รวมถึงไดม้ ีการแลกเปลย่ี นความคิดเห็นเพ่ือปรับปรุง แหง่ พระราชบัญญัตปิ ระกอบรฐั ธรรมนูญ การด�ำเนินธุรกิจของภาคเอกชนให้สอดคล้องกับมาตรการ ว่าดว้ ยการป้องกันและปราบปราม ป้องกันการให้สินบนของภาคเอกชน ตามมาตรา 176 การทจุ รติ พ.ศ. 2561” แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจรติ พ.ศ. 2561 โครงการสง่ เสรมิ บทบาทของภาคเอกชนในการต่อต้านการทจุ ริต เป็นกลไกหนึ่งท่ีกำ� หนดขึน้ เพื่อร่วมกนั หาข้อสรปุ ขอ้ เสนอแนะ หรือแนวทางในการปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ ในภาคเอกชน ส�ำหรับนำ� เสนอเป็น มาตรการหรือแนวทางแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งส่งเสริมสนับสนุนให้การด�ำเนินธุรกิจในกลุ่มธุรกิจจ้างเหมา บริการมีความถูกต้อง โปร่งใส ตรวจสอบได้ ตามระเบียบกฎหมายท่ีเก่ียวข้อง และบูรณาการการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตระหว่างส�ำนักงาน ป.ป.ช. และกลุ่มธุรกิจเอกชน โดยมีการด�ำเนินงาน ประกอบด้วย 2 กจิ กรรมหลัก คือ การจัดจา้ งด�ำเนินการเผยแพรข่ ้อมลู และการจัดสนทนากลมุ่ (Focus Group) แลกเปลี่ยน ความคิดเห็น เพื่อการต่อต้านการทุจริตระหว่างองค์กรในภาคเอกชนที่ด�ำเนินการติดต่อด้านการจัดซื้อจัดจ้าง กับภาครัฐ ซึ่งโครงการนี้ส่งผลให้มีข่าว/บทความ และบทความประชาสัมพันธ์กฎหมาย ป.ป.ช. ท่ีเก่ียวกับ การทุจริตในกระบวนการจัดชื้อจัดจ้างภาครัฐ จ�ำนวน 12 ชิ้น มีเครือข่ายในธุรกิจภาคเอกชนเข้าร่วมสนทนา กลุ่มแลกเปล่ียนความคิดเห็นเพ่ือการต่อต้านการทุจริตระหว่างองค์กรในภาคเอกชนที่ด�ำเนินการติดต่อด้าน การจัดซ้ือจดั จา้ งภาครฐั รวมจ�ำนวน 25 คน และเกิดขอ้ เสนอแนะต่อการดำ� เนนิ งานของภาครฐั ในการจดั ซือ้ จัดจา้ ง ท�ำให้ส�ำนักงาน ป.ป.ช. หน่วยงานภาครัฐ องค์กรภาคเอกชน/หน่วยงานด้านการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ ได้ร่วมกันเสนอแนะแนวทางในการด�ำเนินกิจกรรมต่าง ๆ เพ่ือป้องกันและปราบปรามการทุจริต รวมท้ังเสนอ เป็นมาตรการหรือแนวทางแก้ไขปัญหากลุ่มธุรกิจเอกชน ด�ำเนินธุรกิจตามระเบียบกฎหมายที่เก่ียวข้อง มีความถูกต้อง โปร่งใส และมีความเป็นธรรมต่อผู้ประกอบการ และทุกภาคส่วนร่วมกันตระหนักถึงความส�ำคัญ ของปัญหาและความจ�ำเป็นในการติดตามการปฏิบัติงานขององค์กรภาคเอกชน และร่วมมือกันเฝ้าระวัง ทงั้ ดา้ นการป้องกันและปราบปรามการทจุ ริต 154 รายงานประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามการทุจริตแหง่ ชาติ
นอกจากนี้ การส่งเสรมิ การปอ้ งกนั การทจุ รติ ในภาคธรุ กจิ เอกชน ยงั ไดด้ ำ� เนิน โครงการสัมมนาเผยแพร่ แนวทางการก�ำหนดมาตรการส�ำหรับนิติบุคคลในการป้องกันการให้สินบน เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจ ให้กับนิติบุคคล โดยเฉพาะภาคธุรกิจเอกชนเกี่ยวกับกฎหมายและมาตรการป้องกันสินบนท่ีมีประสิทธิภาพ และสร้างความตื่นตัวให้ภาคธุรกิจเอกชนในพื้นท่ีได้มีการจัดท�ำมาตรการป้องกันการให้สินบนสอดคล้องกับ แนวทางของส�ำนกั งาน ป.ป.ช. และมาตรฐานสากล สำ� นักงาน ป.ป.ช. ไดจ้ ัดสัมมนาเผยแพร่ แนวทางการกำ� หนด มาตรการสำ� หรบั นติ บิ คุ คลในการป้องกันการให้สินบน ตามมาตรา 176 ของพระราชบญั ญตั ปิ ระกอบรฐั ธรรมนญู ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 จ�ำนวน 2 ครั้ง คือ 1) เขตพน้ื ท่ภี าคใต้ ด�ำเนินการจัดงาน เมอ่ื วันที่ 7 มถิ นุ ายน 2562 ณ โรงแรมดวี านา่ พลาซ่า ภเู กต็ ป่าตอง จงั หวัดภเู ก็ต ผ้เู ข้าร่วมงานประกอบดว้ ยผู้แทน หนว่ ยงานภาคธุรกิจเอกชน ภาครัฐ และรฐั วิสาหกจิ ผู้บริหารและเจา้ หนา้ ทสี่ �ำนักงาน ป.ป.ช. ในเขตพน้ื ทภี่ าคใต้ รวมจ�ำนวน 126 คน โดยมีวิทยากรจากส�ำนักงาน ป.ป.ช. วิทยากรจากภาคเอกชนท้ังในและต่างประเทศ มาบรรยายให้ความรู้ และ 2) เขตพ้ืนท่ภี าคตะวนั ออกเฉียงเหนือ ด�ำเนนิ การจัดงานเมือ่ วนั ที่ 20 กนั ยายน 2562 ณ โรงแรมอวานี ขอนแก่น โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ จังหวดั ขอนแกน่ ผูเ้ ข้ารว่ มงานประกอบดว้ ยผแู้ ทน หน่วยงานภาคธุรกิจเอกชน ภาครัฐ และรัฐวิสาหกิจ ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ส�ำนักงาน ป.ป.ช. ในเขตพ้ืนที่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนอื รวมจำ� นวน 134 คน โดยมวี ทิ ยากรจากส�ำนักงาน ป.ป.ช. และวิทยากรจากภาคเอกชน มาบรรยายให้ความรู้ ส่งผลให้ผู้เข้าร่วมโครงการฯ ได้รับประโยชน์จากองค์ความรู้และมีความเข้าใจเกี่ยวกับ ความผิดเร่ืองการให้สินบนเจ้าพนักงานของรัฐ ความรับผิดของนิติบุคคลและบทบาทของนิติบุคคลในการมีมาตรการ ควบคุมภายใน การขบั เคลอ่ื นการปอ้ งกันการทจุ รติ รว่ มกับภาคชุมชนและเครอื ข่าย การด�ำเนิน โครงการกิจกรรมการประชุมแลกเปล่ียนเรียนรู้ระดับชาติเกี่ยวกับหมู่บ้านและชุมชน เพ่ือสนับสนุนการจัดท�ำแนวทางการด�ำเนินงาน สู่การป้องกันการทุจริตเชิงรุก ซ่ึงเป็นกลไกที่เกิดข้ึน เพื่อการด�ำเนินงานด้านการป้องกันการทุจริตเชิงรุก มุ่งสร้างกลุ่มเครือข่ายและแนวร่วมจากกลุ่มบุคลากร ท่ีมีความรู้เพ่ือบูรณาการความร่วมมือในการป้องกันการทุจริต สอดคล้องตามยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจรติ ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2560 - 2564) ยุทธศาสตร์ที่ 4 พฒั นาระบบปอ้ งกันการทุจริตเชิงรกุ เพ่ือเสริมสร้างให้กลุ่มเครือข่ายมีศักยภาพ ความสามารถ และทักษะในการเผยแพร่วิธีการแยกแยะผลประโยชน์ สว่ นตนออกจากผลประโยชน์ส่วนรวม ในฐานะกล่มุ ผู้นำ� การเปลยี่ นแปลงของหมู่บ้าน/ชมุ ชน โดยการด�ำเนินงาน ประกอบด้วย 2 กิจกรรมหลัก คือ กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อสร้างผู้น�ำการเปล่ียนแปลงหมู่บ้าน/ ชุมชนสุจริต เพ่ือการบูรณาการยุทธศาสตร์ต้นแบบการสร้างสังคมสุจริต และการสัมมนาก�ำหนดแนวทาง การบูรณาการความร่วมมือเพื่อสร้างสังคมสุจริต ระหว่างส�ำนักงาน ป.ป.ช. เครือข่ายองค์กร และสถาบัน อุดมศึกษา ภาคพี ลเรอื น ต�ำรวจและทหาร โครงการดังกล่าวส่งผลให้มีเครือข่ายท่ีเป็นกลุ่ม บุคลากรจากอาสาสมัครแรงงาน เครือข่าย ศูนย์ปฏิบัติการ “ท�ำใหก้ ลุ่มเครอื ขา่ ยมคี วามรู้ ต่อต้านการทุจริตกระทรวงแรงงาน ผู้บริหารของสถาบัน ทัศนคตทิ ี่ดี และมคี วามตระหนกั ถึง อุดมศึกษา คณาจารย์ นักวิชาการ บุคลากรในสังกัดสถาบัน ความจ�ำเป็นในการน�ำหลกั การแยกแยะ อดุ มศึกษา ผ้แู ทนนกั เรียน เหล่านิสติ /นกั ศกึ ษา จากภาคีเครอื ข่าย พลเรอื น ตำ� รวจ และทหาร ท้ัง 29 สถาบัน รวมท้ังสิน้ 469 คน ผลประโยชน์ส่วนตนออกจาก กลุ่มเครือข่ายสามารถสร้างความตระหนักรู้ถึงความส�ำคัญ ผลประโยชน์สว่ นรวมมาประยกุ ต์ใช้ ในการแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตนออกจากผลประโยชน์ ในพนื้ ที/่ ชุมชน” ส่วนรวม และร่วมเป็นผู้น�ำการเปลี่ยนแปลงหมู่บ้าน/ชุมชน รายงานประจำ� ปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ 155
ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และท�ำให้กลุ่มเครือข่ายมีความรู้ ทัศนคติที่ดี และมีความตระหนักถึงความจ�ำเป็น ในการน�ำหลักการแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตนออกจากผลประโยชน์ส่วนรวม มาประยุกต์ใช้ในพ้ืนท่ี/ชุมชน ไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ การขบั เคล่ือนการปอ้ งกนั การทจุ ริตรว่ มกับภาคศาสนา การด�ำเนิน โครงการพัฒนาแนวทางการด�ำเนินงานด้านการป้องกันการทุจริตเชิงรุก ตามแนวทาง พระพุทธศาสนา โดยความรว่ มมือระหว่างส�ำนกั งาน ป.ป.ช. กับมหาวทิ ยาลยั มหามกฏุ ราชวทิ ยาลัย (มมร.) ซ่ึงเป็นโครงการที่ส�ำนักงาน ป.ป.ช. จัดท�ำขึ้นเพ่ือพัฒนางานป้องกันการทุจริตให้สอดคล้องตามยุทธศาสตร์ชาติ ว่าด้วยการป้องกนั และปราบปรามการทุจริต ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2560 - 2564) ยุทธศาสตร์ที่ 4 พัฒนาระบบป้องกนั การทุจริตเชิงรุก โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือให้มีการด�ำเนินการป้องกันการทุจริตเชิงรุกตามแนวทางพระพุทธศาสนา ปรบั เปล่ียนฐานความคิดของบุคลากรพระสอนศลี ธรรม ในสังกัด มมร. ทกุ ระดบั ให้สามารถแยกเรื่องประโยชน์ ส่วนตนและประโยชน์ส่วนรวมออกจากกันได้ มีความอายและความไม่ทนต่อการทุจริต การด�ำเนินงาน ประกอบด้วย 2 กิจกรรม ได้แก่ การอบรมพัฒนาศักยภาพพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน ประจ�ำปี 2562 ด�ำเนินการถวายความรู้ให้พระสอนศีลธรรมในสังกัดมหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย และการติดตามประเมินผล โครงการพฒั นาแนวทางการดำ� เนินงานด้านการป้องกนั การทุจรติ เชิงรกุ ตามแนวทางพระพทุ ธศาสนา โครงการน้ีส่งผลให้มีการสร้างพระสอนศีลธรรม (จาก 1 ส่วนกลาง 6 วิทยาเขต และ 1 วิทยาลัย) จ�ำนวน 10 คร้ัง จ�ำนวน 2,800 รูป มีการลงพ้ืนท่ีติดตามพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน ในสังกัดวิทยาลัย ศาสนศาสนตรย์ โสธร จงั หวดั ยโสธร จำ� นวน 4 โรงเรียน (นกั เรียนระดับประถมศกึ ษา จำ� นวน 135 คน) และท�ำให้ พระสอนศีลธรรมเกิดความรู้ความเข้าใจและตระหนักรู้ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต มีค่านิยมร่วม ต้านทุจริต โดยน�ำความรู้ท่ีได้ไปสอนนักเรียนในโรงเรียนเพ่ือให้นักเรียนสามารถแยกแยะระหว่างประโยชน์ส่วนตน และประโยชน์ส่วนรวมได้ ท�ำให้นักเรียนสามารถแยกแยะระหว่างประโยชน์ส่วนตนและประโยชน์ส่วนรวมได้ รวมทงั้ ร้วู ่าพฤตกิ ารณใ์ ดดีหรือไม่ดแี ละเกิดความกลัวและความละอายตอ่ การกระท�ำการทจุ รติ มาตรการ ความเหน็ ข้อเสนอแนะเพอ่ื ป้องกันการทุจริต ตามมาตรา 32 แหง่ พระราชบญั ญตั ิประกอบรัฐธรรมนญู ว่าดว้ ยการปอ้ งกันและปราบปรามการทจุ รติ พ.ศ. 2561 ในรอบปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 ทผ่ี ่านมา คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ดำ� เนินการศึกษา รวบรวมปัญหา ขอ้ เทจ็ จริง กฎหมาย ระเบยี บ ขอ้ บงั คับ ทเ่ี ปน็ เหตุหรอื อาจเป็นเหตุหรือเป็นช่องทางให้เกดิ การทุจริต และเสนอ มาตรการป้องกันการทุจริตต่อคณะรัฐมนตรีตามอ�ำนาจหน้าที่ในเร่ืองที่ส�ำคัญ คือ เกณฑ์ช้ีวัดความเสี่ยงต่อ การทุจริตเชิงนโยบาย และคมู่ อื การใชเ้ กณฑ์ช้วี ัดความเสี่ยงตอ่ การทุจรติ เชิงนโยบาย ซ่งึ ประกอบด้วย 1. เกณฑช์ ้ีวดั ความเส่ียงต่อการทุจริตเชงิ นโยบาย ในขั้นตอนการพฒั นานโยบาย ในส่วนน้ี เป็นเกณฑ์ช้ีวดั ส�ำหรับให้พรรคการเมืองที่จะส่งผู้แทนลงสมัครรับเลือกต้ังใช้เป็นแนวทางในการพัฒนานโยบาย โดยมุ่งเน้น การลดความเสี่ยงต่อการทุจริตในนโยบาย และการสร้างความโปร่งใสของการพัฒนานโยบายด้วยการเผยแพร่ข้อมูล การพฒั นานโยบายของพรรคใหป้ ระชาชนใช้ประกอบการตัดสนิ ใจในการเลือกต้ัง 2. เกณฑ์ช้ีวัดความเส่ียงต่อการทุจริตเชิงนโยบาย ในขั้นตอนการน�ำนโยบายสู่การปฏิบัติ ในส่วนน้ี เป็นเกณฑ์ชี้วัดส�ำหรับให้หน่วยงานของรัฐ น�ำไปใช้เป็นแนวทางในการวิเคราะห์ว่าการน�ำนโยบายสู่การปฏิบัติ มีการตระหนักถึงความเสี่ยงต่อการทุจริตที่อาจปรากฏข้ึนในระหว่างการด�ำเนินการหรือไม่ อย่างไร โดยรูปแบบ และแนวทางการประเมินความเสี่ยงต่อการทุจริต สามารถใช้วิธีการตามคู่มือการใช้เกณฑ์ชี้วัดความเสี่ยงต่อ การทุจรติ เชิงนโยบาย และคูม่ อื แนวทางประเมนิ ความเสย่ี งตอ่ การทจุ ริต ทส่ี �ำนักงาน ป.ป.ท. ได้ดำ� เนนิ การศึกษา 156 รายงานประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
เพอ่ื ใหห้ นว่ ยงานใช้ประเมนิ ความเส่ยี งต่อการทุจริตในการด�ำเนนิ โครงการ มาประกอบการประเมนิ ตามเกณฑ์ชี้วัดฯ ในขน้ั ตอนน้ีได้ นอกเหนือจากในเร่ืองของการเสนอมาตรการ “คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ให้ ดังที่ได้กล่าวไปในข้างต้นแล้วน้ัน คณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังได้ ความส�ำคัญต่อการขบั เคลอื่ น ให้ความส�ำคัญต่อการขับเคลื่อนมาตรการฯ ที่ได้เสนอไปยัง มาตรการฯ ท่ไี ดเ้ สนอไปยงั หน่วยงานตา่ ง ๆ ใหเ้ กิดการน�ำไปสูก่ ารปฏบิ ัตอิ ย่างเปน็ รูปธรรม หน่วยงานตา่ ง ๆ ใหเ้ กดิ การน�ำไปสู่ โดยได้ด�ำเนินการติดตามผลการด�ำเนินการตามมาตรการต่าง ๆ ซึ่งในรอบปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 มีมาตรการฯ ท่ีได้รับ การปฏบิ ัตอิ ยา่ งเป็นรูปธรรม” การขบั เคลอ่ื นไปสกู่ ารปฏบิ ัตอิ ยา่ งเป็นรปู ธรรมทีส่ ำ� คัญ การติดตามผลการด�ำเนินการตามมาตรการป้องกันการทุจริตในการเรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์ ตอบแทนเพื่อโอกาสในการเข้าเรียนในสถานศึกษา สังกัดส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน เป็นมาตรการป้องกันการทุจริตในการเรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์ตอบแทนเพ่ือโอกาสในการเข้าเรียน ในสถานศึกษา สงั กดั ส�ำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน เปน็ มาตรการทค่ี ณะกรรมการ ป.ป.ช. ไดเ้ สนอ ไปยังคณะรฐั มนตรี เม่ือวนั ที่ 26 พฤศจกิ ายน 2561 และคณะรัฐมนตรีได้มีมตริ ับทราบ เมอ่ื วันท่ี 5 กมุ ภาพันธ์ 2562 ซ่ึงมาตรการดังกล่าวได้น�ำไปสู่การท่ีส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน (สพฐ.) และกระทรวงศึกษาธิการ ได้มีการด�ำเนินการปรับปรุง แก้ไขนโยบายและแนวปฏิบัติเก่ียวกับการรับนักเรียนสังกัดส�ำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาข้ันพื้นฐาน ให้มีความเหมาะสมมากยิ่งข้ึน รวมทั้งท�ำให้เกิดความตระหนักและให้ความส�ำคัญ ในการบรู ณาการร่วมกันในการแกไ้ ขปัญหาการทุจริตทางด้านการศกึ ษาของประเทศอย่างเป็นวงกวา้ ง นอกจากนี้ ยังส่งผลให้ภาคประชาสังคมทุกส่วน ส่ือมวลชน พ่อแม่ ผู้ปกครองนักเรียน และเจ้าหน้าที่ของรัฐท่ีเกี่ยวข้อง เกิดความตื่นตัวและตระหนักถึงการกระท�ำผิดในเร่ืองการเรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์ตอบแทนเพ่ือโอกาส ในการเข้าเรียน และร่วมกันในการเฝ้าระวัง สอดส่อง มิให้มีการกระท�ำผิดในเรื่องดังกล่าวอันเป็นการสนับสนุน ภารกจิ การป้องกนั การทุจรติ และปราบปรามการทจุ ริตไดอ้ ย่างเป็นรูปธรรม การติดตามผลการด�ำเนินการตามมาตรการป้องกันการละเว้นการปฏิบัติหน้าท่ีในการบังคับใช้ กฎหมายเก่ียวกับป้ายโฆษณาบนทางสาธารณะ เป็นมาตรการป้องกันการละเว้นการปฏิบัติหน้าท่ีในการบังคับ ใช้กฎหมายเกี่ยวกับป้ายโฆษณาบนทางสาธารณะ เป็นมาตรการท่ีคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้เสนอไปยัง คณะรัฐมนตรี เม่อื วนั ที่ 19 พฤศจกิ ายน 2561 และคณะรัฐมนตรีไดม้ มี ตริ ับทราบ เมื่อวนั ท่ี 8 มกราคม 2562 ซึ่งมาตรการดังกล่าวสามารถช่วยกระตุ้นให้ภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับปัญหาดังกล่าว ตระหนักและจริงจัง กับการจัดการหรือป้องกันปัญหาป้ายโฆษณาบนทางสาธารณะ ดังจะเห็นได้จากการน�ำเสนอข่าวของส่ือมวลชน หรือการท่ีภาคประชาสังคมได้ให้ความส�ำคัญและน�ำไปขับเคล่ือนผ่านชมรม STRONG - จิตพอเพียงต้านทุจริต ซึ่งนอกจากจะช่วยให้บ้านเมืองมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ปลอดภัยจากอันตราย และลดการทุจริตของ เจา้ หน้าท่รี ฐั ทเี่ กี่ยวข้องได้แล้ว ยังท�ำให้เกิดการบรู ณาการการมีส่วนรว่ มเพอื่ ป้องกนั การทจุ รติ ของภาคสว่ นตา่ ง ๆ ได้เปน็ อย่างดี การติดตามผลการด�ำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เกี่ยวกับการน�ำรถยนต์ ส่วนกลางไปใช้เสมือนเป็นรถประจ�ำต�ำแหน่ง ข้อสังเกตของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เกี่ยวกับการน�ำรถยนต์ ส่วนกลางไปใช้เสมือนเป็นรถประจ�ำต�ำแหน่ง เป็นข้อสังเกตที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้เสนอไปยังคณะรัฐมนตรี เมอ่ื วนั ที่ 7 พฤศจกิ ายน 2561 และคณะรัฐมนตรไี ด้มีมตริ บั ทราบ เมือ่ วันที่ 8 มกราคม 2562 ซึ่งขอ้ สงั เกตดงั กลา่ ว สามารถกระตุ้นให้สังคมได้ตระหนักและให้ความส�ำคัญกับปัญหาดังกล่าว ดังจะเห็นได้จากน�ำเสนอข่าวของ ส่ือมวลชน และการท่ีสื่อสังคมออนไลน์ได้ร่วมกันเป็นหูเป็นตา และร่วมกันตรวจสอบไม่ให้เจ้าหน้าท่ีของรัฐ น�ำรถยนต์ของทางราชการไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตน นอกจากน้ี ยังได้มีการน�ำเรื่องดังกล่าวขับเคลื่อนผ่าน รายงานประจำ� ปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ แหง่ ชาติ 157
ชมรม STRONG - จิตพอเพียงต้านทุจริต ซึ่งท�ำให้เกิดการบูรณาการการมีส่วนร่วมเพื่อป้องกันการทุจริต ของภาคสว่ นตา่ ง ๆ โดยเฉพาะอย่างยงิ่ ในส่วนของภาคประชาชนและภาคประชาสงั คม อนึง่ ยังมี มาตรการป้องกันการทจุ ริตทอี่ ยรู่ ะหว่างการพิจารณาให้ความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. จำ� นวนหนงึ่ อาทิ • ร่างมาตรการปอ้ งกนั การทุจรติ เกีย่ วกบั การบรรจบุ ุคคลผู้ซงึ่ เคยออกจากราชการเพราะกระท�ำผิดวินยั ฐานทจุ ริตต่อหนา้ ท่ีราชการกลบั เข้ารับราชการ • ร่างมาตรการปอ้ งกันและปราบปรามการทจุ ริตเกย่ี วกบั การลกั ลอบค้าอาวธุ สงคราม • ร่างขอ้ เสนอแนะเพือ่ ป้องกันการทจุ รติ เกี่ยวกับรถบรรทุกนำ�้ หนักเกิน • ร่างข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริตในการบริหารจัดการงบประมาณโครงการกองทุน หลักประกนั สขุ ภาพแห่งชาติระดบั ท้องถิ่นหรือพืน้ ท่ี • ร่างข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริตการเบิกจ่ายเงินอุดหนุนเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบปัญหา ทางสังคมของกระทรวงการพัฒนาสงั คมและความมัน่ คงของมนษุ ย์ • ร่างข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริตเก่ียวกับงบประมาณเงินอุดหนุนวัด ของส�ำนักงาน พระพทุ ธศาสนาแหง่ ชาติ • ร่างข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริต กรณีการจัดระเบียบสายส่ือสารและอุปกรณ์โทรคมนาคม บนเสาไฟฟา้ ของการไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าสว่ นภมู ภิ าค ท้ังนี้ หลงั จากทค่ี ณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พจิ ารณาให้ความเห็นชอบตอ่ ร่างมาตรการดังกลา่ วแลว้ จะได้น�ำเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณา ตามหน้าที่และอ�ำนาจในมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญวา่ ด้วยการปอ้ งกันและปราบปรามการทจุ รติ พ.ศ. 2561 ต่อไป ยุทธศาสตรท์ ่ี 5 ปฏริ ูปกลไกและกระบวนการปราบปรามการทจุ รติ ยุทธศาสตร์ท่ี 5 มุ่งเน้นการปรับปรุงและพัฒนากลไกและกระบวนการต่าง ๆ ของการปราบปราม การทุจริตท้ังระบบให้สามารถด�ำเนินการได้อย่างรวดเร็ว ซ่ึงในการปฏิรูปกลไกและกระบวนการปราบปราม การทจุ ริตดังกลา่ ว จะมงุ่ เน้นการเพ่ิมประสิทธภิ าพในการตราเป็นกฎหมาย (Legislation) การบงั คับใชก้ ฎหมาย (Enforcement) การตัดสินคดีและลงโทษผู้กระท�ำผิด (Judiciary) การบูรณาการร่วมกันของหน่วยงานต่าง ๆ ในกระบวนการปราบปรามการทุจริต และจะมีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารที่ทันสมัยในการพัฒนา กลไกการด�ำเนินงานใหม้ ปี ระสิทธภิ าพมากยงิ่ ข้ึน ซ่ึงมโี ครงการและการด�ำเนินการขับเคลื่อนทส่ี ำ� คัญ ดังนี้ การเสริมสรา้ งเทคนคิ เฉพาะดา้ นสายงานปราบปรามการทุจริต โครงการเสริมสร้างทักษะเทคนิคเฉพาะด้านสายงานปราบปรามการทุจริตของส�ำนักงาน ป.ป.ช. โดยวธิ ีการพ่ีสอนน้อง (Coaching) โดยสถาบันการปอ้ งกันและปราบปรามการทุจรติ แห่งชาติ สญั ญา ธรรมศักด์ิ ส�ำนักงาน ป.ป.ช. โดยโครงการนี้มุ่งพัฒนาสมรรถนะและองค์ความรู้เชิงสหวิทยาการของเจ้าหน้าท่ี ในกระบวนการปราบปรามการทุจริต ซ่ึงมีแนวทางประกอบด้วย 1) การพัฒนาองค์ความรู้ ทักษะ และขีดความสามารถ รวมไปถึงความรู้ในเชิงสหวิทยาการให้แก่เจ้าหน้าท่ีปราบปรามการทุจริต (Non-training) 2) การพัฒนาเจ้าหน้าทีป่ ราบปรามการทุจริตใหม้ คี วามรู้ ทกั ษะและขดี ความสามารถทเ่ี ป็นมาตรฐานและเท่าทัน ตอ่ พลวัตของการทจุ ริต (Training) และ 3) การแบง่ ปนั ความรู้ (Knowledge Sharing) และแลกเปลี่ยนเจา้ หนา้ ท่ี ปราบปรามการทุจริต โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือเพ่ิมพูนความรู้ความเข้าใจและทักษะที่จ�ำเป็นในการปฏิบัติงาน 158 รายงานประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามการทจุ รติ แหง่ ชาติ
ด้านการไต่สวน การเพ่ิมพูนความรู้เก่ียวกับสหวิทยาการใหม่ๆ และสามารถน�ำไปประยุกต์ใช้กับการไต่สวน และการเพม่ิ ขดี ความสามารถในการบรหิ ารจดั การเร่อื งร้องเรียนอย่างมีประสิทธภิ าพแก่เจ้าหนา้ ที่สำ� นกั งาน ป.ป.ช. ประจำ� จงั หวัด ประโยชน์ที่ได้รับจากการด�ำเนินการโครงการ ทางตรงความรู้ความเข้าใจและทักษะท่ีจ�ำเป็นในการปฏิบัติงาน ด้านการไต่สวนโดยสามารถน�ำไปใช้ได้ทันที ส่วนทางอ้อม “ทำ� ใหเ้ สรมิ สรา้ งความรคู้ วามเขา้ ใจ คือ การสร้างเครือข่ายการเรียนรู้ภายในองค์กรระหว่างรุ่นพี่ และทกั ษะท่จี �ำเป็นในการปฏบิ ตั งิ าน และรุ่นน้องอย่างต่อเน่ืองภายหลังการฝึกอบรม โดยรุ่นน้อง ด้านการไต่สวนโดยสามารถน�ำไปใช้ สามารถติดต่อสอบถามรุ่นพ่ีได้ผ่านช่องทางต่าง ๆ ที่รวดเร็ว ไดท้ ันที และสร้างเครือข่ายการเรียนรู้ และประหยัด เช่น ระบบโซเชียลมิเดีย และอีเมล์ เป็นต้น ระหว่างรนุ่ พแี่ ละรุน่ นอ้ งอยา่ งตอ่ เนื่อง” สาระส�ำคัญในการอบรมสรุป ได้แก่ การใช้คู่มือการไต่สวน กรณีการทุจริตเกี่ยวกับเอกสารสิทธิท่ีดิน การใช้เทคโนโลยี ภูมิสารสนเทศในการตรวจสอบความถูกต้องเกี่ยวกับการออกเอกสารสิทธิท่ีดิน (การใช้แอพพลิเคชัน HandyGPS) การฝึกปฏิบัติใช้เทคโนโลยีภูมิสารสนเทศในการตรวจสอบความถูกต้องเก่ียวกับการออกเอกสารสิทธิที่ดินในพ้ืนท่ีจริง และการแกไ้ ขปัญหาและอปุ สรรคทพ่ี บกรณศี ึกษาพนื้ ทจี่ รงิ นอกจากนี้ ยังได้ด�ำเนินโครงการอบรมการสืบสวนสอบสวนคดีเก่ียวกับการทุจริตคอร์รัปชัน โดยส�ำนักงานต�ำรวจแห่งชาติ ถือเป็นโครงการท่ีมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและเสริมสร้างองค์ความรู้การสืบสวน สอบสวนคดีเก่ียวกับการทุจริตให้กับพนักงานสอบสอน การบูรณาการการท�ำงานของหน่วยงานในการต่อต้าน การทุจริตและพัฒนาเครือข่ายในประเทศ พัฒนาระบบบริหารและเครื่องมือในการป้องกันและปราบปราม การทจุ ริต ปรบั เปลย่ี นฐานความคดิ สอบสวนในการรักษาประโยชน์สาธารณะ ประโยชนท์ ี่ได้รับจากการด�ำเนินการโครงการ คือ พนักงานสอบสวนมอี งค์ความร้แู ละมศี กั ยภาพในการ สืบสวนสอบสวนคดีเก่ียวกับการทุจริตเพิ่มมากข้ึน ส่งผลให้เรื่องกล่าวหาร้องเรียนเกี่ยวกับคดีทุจริตและประพฤติ มิชอบด�ำเนินการแล้วเสร็จตามเป้าหมายที่ก�ำหนด รวมท้ังเกิดการการบูรณาการการท�ำงานของหน่วยงานในการ ต่อต้านการทุจรติ และพัฒนาเครือขา่ ยในประเทศทีด่ ขี น้ึ และได้ด�ำเนิน โครงการก�ำกับติดตามโครงการตามยุทธศาสตร์ชาติ “ปฏิรูปกลไกและกระบวนการ การปราบปรามการทุจริต” ประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 เพ่ือก�ำกับและติดตามโครงการต่าง ๆ ท้ังก่อน ระหว่าง และหลังการด�ำเนินงานให้เป็นไปตามเป้าหมายของยุทธศาสตร์ที่ก�ำหนดไว้ และน�ำบทเรียน ปัญหา และข้อเสนอแนะมาใชใ้ นการพัฒนาโครงการตอ่ ไป โดยมกี ิจกรรมส�ำคัญท่ีดำ� เนนิ การภายใตโ้ ครงการ ไดแ้ ก่ 1) การประชมุ ติดตามความกา้ วหนา้ และประเมนิ ผลสัมฤทธิ์ ดำ� เนินการ 4 ครงั้ ดงั นี้ ครงั้ ที่ 1 การประชมุ ตดิ ตามความก้าวหน้าการด�ำเนินงานโครงการตามยุทธศาสตรช์ าติ “ปฏิรปู กลไก และกระบวนการการปราบปรามการทจุ ริต” ของสำ� นกั งาน ป.ป.ท. ครงั้ ที่ 2 การประชมุ ติดตามความกา้ วหน้าการด�ำเนินงานโครงการตามยุทธศาสตรช์ าติ “ปฏริ ปู กลไก และกระบวนการการปราบปรามการทุจริต” ของส�ำนักงานต�ำรวจแห่งชาติ สถานีต�ำรวจภูธรเมืองนนทบุรี และสถานตี ำ� รวจภูธรรตั นาธิเบศร์ ครั้งท่ี 3 การประชุมติดตามความก้าวหน้าการด�ำเนนิ งานโครงการตามยทุ ธศาสตร์ชาติ “ปฏิรูปกลไก และกระบวนการการปราบปรามการทุจริต” ของสำ� นักงาน ปปง. ครง้ั ที่ 4 การประชมุ ติดตามความกา้ วหน้าการด�ำเนินงานโครงการตามยทุ ธศาสตร์ชาติ “ปฏริ ปู กลไก และกระบวนการการปราบปรามการทุจริต” ของหนว่ ยงานในสังกัดสำ� นกั งาน ป.ป.ช. ทไ่ี ดร้ ับ รายงานประจำ� ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทจุ รติ แหง่ ชาติ 159
การจัดสรรงบประมาณเพื่อด�ำเนนิ การภายใต้ยทุ ธศาสตร์ท่ี 5 ได้แก่ สำ� นักกจิ การและคดีทุจริตระหวา่ ง ประเทศ สำ� นักสือ่ สารองคก์ รสถาบันการปอ้ งกันและปราบปรามการทุจริตแหง่ ชาติ สัญญา ธรรมศักดิ์ สำ� นกั วิจยั และบรกิ ารวชิ าการดา้ นการปอ้ งกันและปราบปรามการทุจริต 2) การลงพนื้ ทก่ี ำ� กบั ตดิ ตามและประเมนิ ผลสัมฤทธิก์ ารด�ำเนนิ งาน ดำ� เนนิ การ 7 ครัง้ ดงั น้ี คร้ังที่ 1 การก�ำกับ ติดตาม โครงการฝึกอบรมแบบพ่ีสอนน้องตามสายงานปราบปรามการทุจริต ของสำ� นักงาน ป.ป.ช. ณ โรงแรม ดวี าน่า พลาซา่ ภเู ก็ต ป่าตอง อำ� เภอกระทู้ จงั หวดั ภูเกต็ คร้ังที่ 2 การประเมินผลความส�ำเร็จและผลสัมฤทธ์ิการด�ำเนินโครงการเสริมสร้างประสิทธิภาพ ในการปฏบิ ตั หิ น้าทข่ี องเจา้ หน้าทสี่ �ำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 4 และส�ำนกั งาน ป.ป.ท. เขตพ้ืนท่ี 3 ครั้งท่ี 3 การประเมินผลความส�ำเร็จและผลสัมฤทธิ์การด�ำเนินโครงการเสริมสร้างประสิทธิภาพ ในการปฏิบตั ิหน้าทีข่ องเจ้าหน้าทีส่ �ำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 5 และส�ำนกั งาน ป.ป.ท. เขตพื้นท่ี 5 คร้ังท่ี 4 การประเมินผลความส�ำเร็จและผลสัมฤทธิ์การด�ำเนินโครงการเสริมสร้างประสิทธิภาพ ในการปฏบิ ัติหนา้ ท่ีของเจา้ หน้าท่ีสำ� นักงาน ป.ป.ช. ภาค 1 คร้ังท่ี 5 การประเมินผลความส�ำเร็จและผลสัมฤทธ์ิการด�ำเนินโครงการเสริมสร้างประสิทธิภาพ ในการปฏิบตั ิหนา้ ท่ีของเจ้าหน้าท่ีส�ำนกั งาน ป.ป.ช. ภาค 6 และส�ำนักงาน ป.ป.ท. เขตพ้นื ท่ี 6 คร้ังที่ 6 การประเมินผลความส�ำเร็จและผลสัมฤทธ์ิการด�ำเนินโครงการเสริมสร้างประสิทธิภาพ ในการปฏบิ ตั ิหน้าท่ีของเจา้ หน้าท่สี �ำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 8 และส�ำนกั งาน ป.ป.ท. เขตพนื้ ที่ 8 ครั้งท่ี 7 การประเมินผลความส�ำเร็จและผลสัมฤทธ์ิการด�ำเนินโครงการเสริมสร้างประสิทธิภาพ ในการปฏิบัตหิ น้าที่ของเจา้ หนา้ ท่ีส�ำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 9 และสำ� นกั งาน ป.ป.ท. เขตพนื้ ที่ 9 3) จัดจ้างท�ำเอกสารรายงาน โครงการก�ำกับ ติดตาม โครงการตามยุทธศาสตร์ชาติ “ปฏิรูปกลไก และกระบวนการการปราบปรามการทุจรติ ” การด�ำเนินทั้ง 3 โครงการ ภายใต้ยุทธศาสตร์ท่ี 5 “ปฏิรูปกลไกและกระบวนการการปราบปราม การทุจริต” ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นการเปล่ียนแปลงการท�ำงานในกระบวนการยุติธรรมที่ส�ำคัญในการปฏิรูปกลไก และกระบวนการปราบปรามการทุจริตภายใต้กรอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและ ปราบปรามการทจุ ริต พ.ศ. 2561 ทมี่ ุ่งเนน้ กระบวนการการปราบปรามการทจุ รติ มีความรวดเรว็ มปี ระสิทธิภาพ และเป็นธรรม ซ่ึงความล่าช้าถือเป็นอุปสรรคส�ำคัญส�ำหรับการเอาผิดการทุจริตคอร์รัปชัน แม้หลายคดี จะมีพยานหลักฐานและ ป.ป.ช. มีอ�ำนาจด�ำเนินคดีเต็มท่ีแล้ว แต่ด้วยภาระงานท่ีล้นมือและกฎระเบียบมากมาย ท�ำใหค้ ดจี �ำนวนมากไปคัง่ ค้างอยทู่ ่ี ป.ป.ช. ดังน้นั การพฒั นาและเพิ่มประสทิ ธิภาพให้แกเ่ จ้าหนา้ ที่ บคุ ลากรของ หน่วยงานท่ีท�ำหน้าที่ตรวจสอบและปราบปรามการทุจริต ให้มีองค์ความรู้ในเชิงสหวิทยาการและเสริมสร้าง ทกั ษะในการท�ำงานมากย่ิงข้นึ ยอ่ มสง่ ผลดีต่อการปฏบิ ตั งิ านด้านปราบปรามการทจุ รติ ในปัจจบุ ันและอนาคต การด�ำเนินโครงการข้างต้นเป็นส่วนหน่ึงท่ีจะตอบตัวช้ีวัดระดับยุทธศาสตร์ทั้งเร่ืองระยะเวลาของ การด�ำเนินคดีทุจริตจ�ำแนกตามขนาดและประเภทของคดี และคดีการทุจริตท่ีด�ำเนินการแล้วเสร็จจ�ำแนกตาม ขนาดและประเภทของคดี ท้งั น้ี อยูบ่ นเงอื่ นไขการทำ� ตามกรอบระยะเวลาทีก่ ฎหมายก�ำหนด 160 รายงานประจ�ำปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการปอ้ งกันและปราบปรามการทุจรติ แห่งชาติ
ย ทุ ธ ศา สต รท์ ี่ 6 การยกระดบั คะแนนดชั นีการรบั รูก้ ารทจุ ริต (Corruption Perceptions Index: CPI) ของประเทศไทย ยุทธศาสตรท์ ่ี 6 การยกระดบั คะแนนดัชนกี ารรับรกู้ ารทุจรติ (Corruption Perceptions Index: CPI) ของประเทศไทย เป็นการก�ำหนดยุทธศาสตร์ท่ีมุ่งเน้นการยกระดับมาตรฐานด้านความโปร่งใสและการจัดการ การยกระดับค่าดัชนีการรับรู้การทุจริตของประเทศไทย โดยการวิเคราะห์ประเด็นการประเมินและวิธีการ ตามแต่ละแหล่งข้อมูล และเร่งรัด ก�ำกับ ติดตามให้หน่วยงานท่ีเก่ียวข้องปฏิบัติหรือปรับปรุงการท�ำงาน รวมไปถึงการบูรณาการการท�ำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐ หน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม ภาคเอกชน และต่างประเทศ ดัชนกี ารรับร้กู ารทจุ รติ (Corruption Perceptions Index : CPI) หรอื CPI คือ ดัชนที ส่ี ะทอ้ นภาพ ลักษณ์การทุจริตคอร์รัปชันของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ซึ่งมีความส�ำคัญในการท่ีนักลงทุนประเมินความเสี่ยง การทจุ ริตในการเขา้ มาลงทุนในแตล่ ะประเทศ ส�ำหรับประเทศไทย CPI มีความส�ำคญั เป็นอย่างยิ่ง โดยถูกน�ำมา เปน็ เปา้ หมายของแผน/ยุทธศาสตร์ของประเทศไทย ดงั น้ี 1. แผนการปฏิรูปประเทศด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบโดยประเทศไทย มีระดบั คะแนนดชั นีการรับรกู้ ารทุจรติ อยใู่ น 20 อนั ดบั แรกของโลกในปี 2579 2. แผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาติ ฉบบั ที่ 12 (พ.ศ. 2560 - 2564) ก�ำหนดใหร้ ะดับคะแนน ของดัชนกี ารรับรูก้ ารทจุ ริตสูงกวา่ ร้อยละ 50 เม่อื สิน้ สดุ แผนพัฒนาฯ ฉบบั ที่ 12 3. ยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2560 - 2564) กำ� หนดให้เปา้ ประสงค์ของยุทธศาสตรช์ าตฯิ คือ ประเทศไทยมีค่าดัชนกี ารรบั รกู้ ารทุจริต (CPI) สงู กวา่ รอ้ ยละ 50 ดชั นกี ารรบั รู้การทจุ ริต คือ ดัชนที สี่ ะทอ้ นภาพลกั ษณ์ (perceptions) การทุจริตคอรร์ ัปชนั ของประเทศ ต่าง ๆ ทั่วโลก ซ่ึงจัดท�ำข้ึนโดยองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International : TI) เป็นประจ�ำทุกปี นักลงทุนหรือนักธุรกิจหลายประเทศใช้ดัชนีการรับรู้การทุจริตประเมินความน่าสนใจในการลงทุน ของแต่ละประเทศ โดยมองว่าการทุจริตคอร์รัปชันเป็นหนึ่งในปัจจัยที่เป็นต้นทุนหรือเป็นความเสี่ยง (risks) ในการเข้ามาประกอบธรุ กิจ โดยองคก์ รเพอ่ื ความโปรง่ ใสนานาชาติ กอ่ ตงั้ ข้นึ ในประเทศเยอรมนี เม่อื ปี ค.ศ. 1993 มีสถานะเป็นองค์กรภาคประชาสังคมระหว่างประเทศ มีวัตถุประสงค์ในการต่อสู้กับการทุจริตในทุกรูปแบบ ด้วยการแสวงหาความร่วมมือกบั หนว่ ยงานตา่ ง ๆ สร้างความตระหนกั รถู้ งึ ผลเสียของการทุจริต ในการจัดท�ำดัชนีการรับรู้การทุจริตขององค์กร เพื่อความโปร่งใสนานาชาติได้รวบรวมข้อมูลด้านการทุจริต คอร์รัปชันจากฐานข้อมูลท่ีเป็นการจัดอันดับหรือดัชนีชี้วัดซึ่งจัด “องคก์ รเพอ่ื ความโปร่งใสนานาชาติ ค�ำนวณดัชนี CPI จาก 9 ทำ� ขึ้นโดยหนว่ ยงานทนี่ ่าเชื่อถือต่าง ๆ ท่ัวโลกซึ่งเรยี กวา่ “แหลง่ ข้อมลู ” จำ� นวน 13 แหลง่ ข้อมูล สำ� หรบั ประเทศไทยในปี 2562 แหล่งขอ้ มูลโดยในปี 2562 องค์กรเพ่ือความโปร่งใสนานาชาติค�ำนวณดัชนี CPI จาก 9 แหล่งข้อมูล โดยในปี 2562 ประเทศไทยได้คะแนน 36 จาก ประเทศไทยไดค้ ะแนน 36 100 คะแนน อยู่ในล�ำดับท่ี 101 จากจ�ำนวน 180 ประเทศ อยูใ่ นลำ� ดบั ท่ี 101” โดยประเทศไทยมคี ะแนนดชั นกี ารรับร้กู ารทุจริตย้อนหลงั ดงั นี้ ปี พ.ศ. 2557 พ.ศ. 2558 พ.ศ. 2559 พ.ศ. 2560 พ.ศ. 2561 พ.ศ. 2562 คะแนน 38 38 35 37 36 36 ลำ� ดบั โลก 85 76 101 96 99 101 รายงานประจำ� ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการปอ้ งกันและปราบปรามการทุจริตแหง่ ชาติ 161
แหลง่ ข้อมูลท่ีใช้วดั คะแนนดัชนกี ารรับร้กู ารทจุ รติ ของประเทศไทย ประกอบด้วย 9 แหล่ง ดงั นี้ 1. แหล่งขอ้ มูล Bertelsmann Foundation Transformation Index (BF - BTI) 2. แหลง่ ข้อมูล Economist Intelligence Unit Country Risk Ratings (EIU) 3. แหลง่ ข้อมูล Global Insight Country Risk Ratings (GI) 4. แหลง่ ขอ้ มลู IMD World Competitiveness Yearbook (IMD) 5. แหล่งข้อมลู The Political and Economic Risk Consultancy (PERC) 6. แหลง่ ข้อมลู Political Risk Services International Country Risk Guide (ICRG) 7. แหล่งข้อมลู World Economic Forum (WEF) 8. แหล่งข้อมลู World Justice Project (WJP) 9. แหลง่ ขอ้ มลู Varieties of Democracy Institute (VDEM) การสัมมนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระดับชาติ ภายใต้หัวข้อ “การผลักดันยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วย การปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ สูป่ ระเทศไทยใสสะอาด ไทยทง้ั ชาติตา้ นทจุ ริต” ปี 2562 โดยสำ� นกั งาน ป.ป.ช. และภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ได้ด�ำเนินโครงการและกิจกรรมภายใต้กรอบของยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วย การปอ้ งกันและปราบปรามการทุจริต ระยะที่ 3 (พ.ศ.2560 - 2564) อยา่ งตอ่ เนอื่ งตัง้ แต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 เป็นต้นมา ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ส�ำนักงาน ป.ป.ช. จึงได้จัดสัมมนาทางวิชาการเพ่ือเป็นเวทีแลกเปล่ียน เรียนรู้ประสบการณ์ ความคิดเห็น และข้อเสนอแนะด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริต รวมท้ังปัญหา และอุปสรรคในการด�ำเนินการผลักดันยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2560 - 2564) ผ่านมุมมองทหี่ ลากหลายจากทุกภาคสว่ นท่ีเกยี่ วขอ้ ง เพอ่ื ปรับปรุงและพฒั นาการด�ำเนินงาน ด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริต เม่ือวันท่ี 19 สิงหาคม 2562 เวลา 08.00 - 16.00 น. ณ โรงแรม มิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น เขตหลักส่ี กรุงเทพมหานคร โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรม ซ่ึงเป็นผู้แทนจากกระทรวง ทบวง กรม ภาครัฐวสิ าหกิจ ภาคประชาสงั คม ส่อื มวลชน รวมท้งั คณะกรรมการ ป.ป.ช. ผู้บรหิ ารและเจ้าหนา้ ท่ี สำ� นกั งาน ป.ป.ช. และผ้สู งั เกตการณ์ จ�ำนวน 1,573 คน โดยมพี ลต�ำรวจเอก วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานในพิธีเปดิ ในงานสัมมนาฯ มีการปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “การผลักดันยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและ ปราบปรามการทจุ รติ สปู่ ระเทศไทยใสสะอาด ไทยทงั้ ชาตติ ้านทจุ ริต” โดย พลต�ำรวจเอก วัชรพล ประสารราชกจิ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. และการบรรยายพเิ ศษ เรือ่ ง “ดัชนีการรับรู้การทจุ รติ (CPI) : เป้าหมายด้านความโปร่งใส ของยุทธศาสตร์ชาติ” โดย นายชัยณรงค์ อินทรมีทรัพย์ อนุกรรมการพัฒนาระบบราชการ (อ.ก.พ.ร.) เกี่ยวกับ การทบทวนและปรับปรุงโครงสร้างส่วนราชการด้านเศรษฐกิจ รวมท้ังได้มีการแบ่งกลุ่มอภิปรายแลกเปล่ียนเรียนรู้ ตามประเด็นยุทธศาสตร์ จ�ำนวน 6 กลุ่ม โดยส�ำนักงาน ป.ป.ช. จะน�ำความคิดเห็นและข้อเสนอแนะท่ีได้จาก การจัดสัมมนาฯ ไปปรับปรุงและพัฒนาการด�ำเนินงานเพ่ือผลักดันยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทจุ รติ ฯ ใหม้ ปี ระสิทธภิ าพยงิ่ ข้นึ 162 รายงานประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามการทจุ รติ แหง่ ชาติ
การดำ� เนินการเกย่ี วกบั การยกระดับคะแนนดัชนกี ารรับรกู้ ารทจุ รติ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ด�ำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการยกระดับคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต โดยไดม้ ีข้อเสนอแนะเพอื่ ยกระดบั คะแนนดัชนกี ารรบั รู้การทุจรติ ดังน้ี ข้อเสนอแนะเพื่อยกระดับดัชนีการรับรู้การทุจริต (Corruption Perceptions Index : CPI) ระยะแรก พ.ศ. 2560 ส�ำนักงาน ป.ป.ช. ได้มีค�ำส่ัง ที่ 634/2558 ลงวันท่ี 23 พฤศจิกายน 2558 แต่งตั้ง คณะท�ำงานศึกษาดัชนีชี้วัดภาพลักษณ์คอร์รัปชันข้ึน เพื่อศึกษาและวิเคราะห์แนวทางการยกระดับดัชนีการรับรู้ การทุจริต โดยในระยะแรกคณะท�ำงานฯ ได้ศึกษา “ภาพรวมบทวิเคราะห์” ของแต่ละแหล่งข้อมูลเพื่อเป็น การยกระดับอันดับการรับรู้การทุจริตของประเทศไทย และพัฒนาประเทศในทุกมิติจากเว็บไซต์ของหน่วยงาน ผูจ้ ัดท�ำและบทความท่เี ก่ียวข้อง คณะท�ำงานฯ ได้ด�ำเนินการวิเคราะห์ระเบียบวิธีวิจัย แนวทางการจัดเก็บข้อมูล รวมทั้งปัญหา และอุปสรรคท่ีท�ำให้ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับท่ียังไม่ดีเท่าท่ีควร เพ่ือน�ำไปสู่ข้อเสนอแนะให้กับหน่วยงาน ที่เก่ียวข้องในประเทศไทย เพื่อขับเคล่ือนหรือยกระดับอันดับการรับรู้การทุจริต จ�ำนวน 5 แหล่งข้อมูล จาก 5 หน่วยงาน ซ่ึงคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในการประชุมครั้งที่ 834-5/2560 เม่ือวันที่ 24 มกราคม 2560 มีมตเิ หน็ ชอบให้เสนอข้อเสนอแนะเพอ่ื ยกระดับดัชนกี ารรับรู้การทจุ ริต (Corruption Perceptions Index : CPI) ไปยังคณะรฐั มนตรี โดยขอ้ เสนอแนะ 4 ด้าน สรุปได้ ดงั นี้ (1) ขอ้ เสนอแนะดา้ นนโยบาย เช่น (1.1) การกำ� กับและตดิ ตามหนว่ ยงานของรฐั ในการปฏบิ ัติตามนโยบายตอ่ ตา้ นการทุจริตของรัฐบาล (1.2) การเสริมความรู้ ความเขา้ ใจ และความสำ� คญั ของดัชนีการรับรกู้ ารทจุ ริตแก่ทกุ ภาคส่วน (1.3) การก�ำกับ ติดตามให้ทุกหน่วยงานภาครัฐแก้ปัญหาตามแนวทางการประเมินคุณธรรม และ ความโปรง่ ใสในการด�ำเนนิ งานภาครฐั (Integrity and Transparency Assessment: ITA) (1.4) การประสานความร่วมมือกับคณะกรรมการเพ่ือการพัฒนาท่ียั่งยืนฐานะที่เป็นหน่วยงาน บูรณาการความร่วมมอื ตามเป้าหมายการพฒั นาทีย่ ง่ั ยนื (Sustainable Development Goals : SDGs) (1.5) การจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพ่ือขับเคล่ือนดัชนีการรับรู้ การทจุ ริต (2) ขอ้ เสนอแนะด้านเศรษฐกิจ เสนอแนะให้รัฐบาลประสานความร่วมมือหรือมอบหมายให้คณะกรรมการพัฒนาขีดความสามารถ ในการแข่งขนั ของประเทศ และคณะอนกุ รรมการตอ่ ตา้ นการทุจรติ ชดุ ที่ 6 ดา้ นการจดั การขอ้ มูลและการส่อื สาร ประชาสมั พันธ์ ในฐานะทเ่ี ปน็ หนว่ ยงานบูรณาการดำ� เนนิ การขบั เคลอ่ื นตามข้อเสนอแนะของแต่ละแหลง่ ขอ้ มลู (3) ข้อเสนอแนะด้านกระบวนการยุตธิ รรม เสนอให้รัฐบาลรวมทั้งองค์กรอิสระต่าง ๆ ซึ่งมีอ�ำนาจหน้าท่ีในการตรวจสอบการใช้อ�ำนาจรัฐ ควรปรบั ปรงุ การดำ� เนนิ การของหน่วยงานการบงั คับใช้กฎหมายให้มปี ระสิทธิภาพมากยงิ่ ข้ึน เชน่ (3.1) ก�ำหนดให้ทุกหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องกับการพิจารณาคดี ก�ำหนดกรอบระยะเวลาในการ พิจารณาคดีอย่างเปน็ รปู ธรรม (3.2) จดั ให้มกี ารยกระดบั กระบวนการยตุ ธิ รรมของประเทศ (3.3) การจ�ำแนกประเภทคดีและจัดล�ำดับความส�ำคัญในการด�ำเนินคดีกับเจ้าหน้าท่ีของรัฐ ทีเ่ กย่ี วขอ้ งกบั คดีทุจริต รายงานประจำ� ปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการปอ้ งกันและปราบปรามการทจุ ริตแหง่ ชาติ 163
(4) ข้อเสนอแนะด้านการประชาสัมพนั ธ์และการมสี ว่ นร่วมของประชาชน (4.1) ด้านการประชาสัมพันธ์ เห็นควรก�ำหนดให้ทุกหน่วยงานภาครัฐจัดท�ำฐานข้อมูล เช่น กฎหมาย ระเบยี บ คูม่ อื การติดตอ่ ราชการให้เป็นภาษาองั กฤษ รวมทง้ั ข่าวเผยแพรป่ ระชาสมั พันธ์ด้วย โดยเร่มิ ตน้ จากหน่วยงานภาครัฐซึ่งเก่ยี วกับการออกใบอนญุ าตกอ่ น (4.2) ดา้ นการมีสว่ นร่วมของประชาชน เช่น เห็นควรสง่ เสริมใหม้ เี วทีแสดงความคดิ เห็นทางวชิ าการ หรือการจัดประชุมเสวนาในประเด็นต่าง ๆ ท่ีเก่ียวกับการตรวจสอบการท�ำงานของหน่วยงานภาครัฐมากขึ้น รวมท้ังก�ำหนดให้ทุกหน่วยงานของรัฐเปิดเผยข้อมูลในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างทั้งระบบ เพื่อให้ประชาชน มีสว่ นร่วมในการตรวจสอบความถกู ตอ้ งของกระบวนการจดั ซื้อจัดจ้าง ข้อเสนอแนะเพอ่ื ยกระดบั คะแนนดัชนีการรับร้กู ารทจุ ริต (Corruption Perceptions Index : CPI) ระยะที่ 2 พ.ศ. 2561 โดยการศกึ ษาวิเคราะห์ข้อมลู ท่เี กย่ี วข้อง เพ่อื นำ� มาจดั ท�ำขอ้ เสนอแนะเพือ่ ยกระดับคะแนน ดัชนีการรับรู้การทุจริต (CPI) ในระยะที่ 2 ได้วิเคราะห์ข้อมูลจากการด�ำเนินการและข้อเท็จจริงเพ่ิมเติม จากระยะแรก 4 ส่วน ได้แก่ (1) ข้อมูลจากการติดตามผลการด�ำเนินการตามข้อเสนอแนะเพ่ือยกระดับคะแนนดัชนีการรับรู้ การทุจริต (CPI) ซ่ึงคณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบในการประชุมเม่ือวันที่ 2 พฤษภาคม 2560 และมอบหมาย ให้ส�ำนักงาน ป.ป.ท. เป็นหน่วยงานหลักรับข้อเสนอแนะฯ ดังกล่าว ไปพิจารณาด�ำเนินการร่วมกับหน่วยงาน ทีเ่ กย่ี วขอ้ ง (2) แนวทางจากการสัมมนาวิชาการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระดับชาติ เรื่อง ยกระดับคะแนนดัชนีการรับรู้ การทจุ รติ (Corruption Perceptions Index : CPI) ของประเทศไทย ซึ่งจดั โดยสำ� นกั มาตรการปอ้ งกนั การทจุ ริต ส�ำนักงาน ป.ป.ช. เมือ่ วนั ที่ 21 กมุ ภาพนั ธ์ 2561 (3) ข้อมลู จากการสัมภาษณ์ภาคสว่ นที่เก่ียวขอ้ ง (เพิม่ เติม) จำ� นวน 2 ราย คอื ผูแ้ ทนสมาคมส่งเสริม สถาบนั กรรมการบรษิ ทั ไทย (IOD) และผู้แทนสำ� นกั งานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) (4) ข้อมลู จากการศกึ ษาแผนปฏริ ปู ประเทศ 11 ด้าน ทีเ่ ชื่อมโยงกบั การยกระดับคะแนนดัชนกี ารรับรู้ การทุจริต (CPI) คณะกรรมการ ป.ป.ช. ในการประชมุ คร้ังที่ 1017-88/2561 เมอ่ื วนั ที่ 21 กันยายน 2561 พจิ ารณาแลว้ เห็นว่าเพ่ือให้การยกระดับคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริตของประเทศไทยเป็นไปตามเป้าหมายของยุทธศาสตร์ ชาตวิ ่าด้วยการปอ้ งกันและปราบปรามการทจุ รติ ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2560 - 2564) จงึ เห็นสมควรมีขอ้ เสนอแนะ เพอื่ ยกระดับคะแนนดชั นีรับรกู้ ารทุจริต (Corruption Perceptions Index : CPI) ระยะที่ 2 ต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาตามนัยมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม การทุจรติ พ.ศ. 2561 โดยมีขอ้ เสนอแนะที่สำ� คญั 2 สว่ น คือ ขอ้ เสนอตอ่ สำ� นกั งาน ป.ป.ท. และขอ้ เสนอต่อรัฐบาล มสี าระส�ำคัญ ดังนี้ (1) ข้อเสนอตอ่ สำ� นักงาน ป.ป.ท. ให้ส�ำนักงาน ป.ป.ท. เป็นหน่วยงานหลักในการขับเคล่ือนการยกระดับค่าคะแนนดัชนีการรับรู้ การทุจริต (CPI) โดยให้มีการด�ำเนินการดังต่อไปน้ี น�ำข้อเสนอแนะเพ่ือยกระดับคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต (CPI) ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ระยะแรกไปก�ำหนดแนวทางการปฏิบัติให้ชัดเจน และให้มีการด�ำเนินการ ตามแนวทางทไี่ ดก้ ำ� หนดไว้ โดยให้มกี ารบรู ณาการร่วมกบั หนว่ ยงานท่ีเก่ียวข้อง ทงั้ น้ี รฐั บาลควรสนับสนุนงบประมาณและอตั ราก�ำลงั เจา้ หนา้ ทีแ่ ก่สำ� นักงาน ป.ป.ท. ในการจดั ตง้ั หน่วยงานที่มีฐานะไม่ต�่ำกว่าส�ำนัก ซึ่งมีหน้าท่ีโดยตรงในการก�ำกับ ติดตาม และผลักดัน ให้มีการยกระดับ คา่ คะแนนดชั นีการรับรกู้ ารทจุ รติ ของประเทศไทย 164 รายงานประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามการทุจริตแหง่ ชาติ
ให้ส�ำนักงาน ป.ป.ท. ประสานกบั หน่วยงานภาคเอกชนหรอื มลู นธิ ทิ ีม่ คี วามพรอ้ ม เพอ่ื เปน็ ตัวแทน ของประเทศไทยในการเขา้ รว่ มเปน็ สมาชิกองค์กรเพื่อความโปรง่ ใสนานาชาติ พรอ้ มทัง้ สง่ เสริมใหภ้ าคสว่ นตา่ ง ๆ ตระหนกั ถงึ ความสำ� คัญของการยกระดับคา่ คะแนนดชั นีการรับรู้การทุจรติ (2) ขอ้ เสนอตอ่ รฐั บาล (2.1) รัฐบาลควรมอบหมายหน่วยงานหลักและหน่วยงานรองเพื่อรับผิดชอบการยกระดับคะแนน ดชั นกี ารรับร้กู ารทุจรติ ในทุกแหลง่ ข้อมลู (2.2) รัฐบาลต้องน�ำแผนปฏิรูปประเทศ 11 ด้าน ไปขับเคล่ือนให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม โดยการก�ำหนดให้มีหน่วยงานหลักรับผิดชอบแผนปฏิรูปแต่ละด้าน โดยเฉพาะด้านที่มีผลต่อการยกระดับ คา่ คะแนนดชั นีการรับรกู้ ารทุจริต (2.3) รัฐบาลและหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องต้องจัดให้มีกลไกการคุ้มครองพยานและผู้แจ้งเบาะแส เก่ียวกบั การทุจรติ (Whistleblower) ให้เปน็ รปู ธรรมและมีประสิทธิภาพ (2.4) รัฐบาลตอ้ งมอบหมายใหห้ น่วยงานท่เี กย่ี วข้องกับการอนญุ าต อนุมตั ิ และให้การบริการกับ ประชาชน ด�ำเนินการปรับปรุง พัฒนากฎ ระเบียบต่าง ๆ เพ่ือลดการใช้อ�ำนาจในการตัดสินใจอย่างอิสระ ท่ีจะเลือกกระท�ำการหรือไม่กระท�ำการอย่างใดอย่างหน่ึงของเจ้าหน้าท่ีรัฐในการใช้ดุลพินิจต่าง ๆ เพ่ือให้เกิด ความโปรง่ ใสและตรวจสอบไดใ้ นการดำ� เนนิ การพรอ้ มทัง้ สามารถตรวจสอบไดท้ กุ ขั้นตอน ข้อเสนอแนะเพื่อยกระดับดัชนีการรับรู้การทุจริต (Corruption Perceptions Index : CPI) ระยะท่ี 3 พ.ศ 2563 จากข้อเสนอแนะข้อเสนอแนะเพื่อยกระดับคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต (Corruption Perceptions Index : CPI) ระยะแรก และระยะท่ี 2 ซ่ึงคณะรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ส�ำนักงาน ป.ป.ท. เป็นหน่วยงานหลัก ในการน�ำข้อเสนอแนะของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไปปฏิบัติร่วมกับหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง ซ่ึงพบว่า ส่วนใหญ่เป็นการด�ำเนินการของส�ำนักงาน ป.ป.ท. ที่เกี่ยวข้องกับการยกระดับคะแนน CPI เป็นหลัก ซึ่งอยู่ระหว่างการด�ำเนินการ ซ่ึงยังไม่เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน รวมท้ังข้อเสนอแนะที่มีลักษณะ เปน็ ภาพกว้าง ไมไ่ ดร้ ะบใุ หม้ ีความชัดเจน ว่าหนว่ ยงานใดควรเป็นเจ้าภาพในเรื่องใด ในการจัดท�ำข้อเสนอแนะเพื่อยกระดับคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต (Corruption Perceptions Index : CPI) ระยะที่ 3 นี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มอบหมายใหส้ �ำนักมาตรการเชงิ รกุ และนวตั กรรม สำ� นกั งาน ป.ป.ช. ศึกษาและวิเคราะห์รายละเอียดเชิงลึกในแต่ละประเด็นค�ำถามที่เก่ียวข้องกับการคอร์รัปชันของแต่ละ แหล่งข้อมูลที่องค์กรเพ่ือความโปร่งใสนานาชาติ (TI) น�ำไปใช้จัดท�ำคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต (CPI) ส�ำหรับประเทศไทย รวมทั้งศึกษาและรวบรวมข้อมูลท่ีเก่ียวข้องเพิ่มเติม เช่น การศึกษาแนวทางการด�ำเนินงาน ดา้ นการป้องกนั การทุจรติ ของประเทศในภมู ิภาคเอเชยี -แปซฟิ กิ ได้แก่ สาธารณรฐั สิงคโปร์ สาธารณรฐั อินโดนเี ซีย ประเทศญป่ี นุ่ และสาธารณรฐั เกาหลี โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในการประชุมครง้ั ที่ 52/2563 เมื่อวันพุธที่ 13 พฤษภาคม 2563 มมี ติให้ เสนอข้อเสนอแนะเพ่ือยกระดับคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต (Corruption Perceptions Index : CPI) ระยะที่ 3 ต่อคณะรัฐมนตรี โดยมีขอ้ เสนอแนะ สรปุ ได้ ดงั นี้ 1. ข้อเสนอแนะตอ่ คณะรัฐมนตรี 1.1 ขอ้ เสนอแนะขององค์กรเพอ่ื ความโปร่งใสนานาชาติ (TI) พิจารณาด�ำเนินการตามข้อเสนอแนะขององค์กรเพ่ือความโปร่งใสนานาชาติ (TI) ซ่ึงได้มี เสนอแนะใน 7 ประเด็น โดยเหน็ ควรกำ� หนดเปน็ นโยบายของรัฐบาล เพ่ือยกระดบั คะแนนดชั นีการรบั รู้ การทจุ ริต (CPI) เชน่ การจดั การเก่ยี วกับการขัดกนั แหง่ ผลประโยชน์ การควบคมุ การใชจ้ ่ายเงินทางการเมือง การเสริมสรา้ ง ความโปรง่ ใสในระบบการเลอื กตงั้ รายงานประจำ� ปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามการทุจรติ แหง่ ชาติ 165
1.2 ขอ้ เสนอแนะจากการวเิ คราะห์ 9 แหล่งข้อมูล จากการวิเคราะห์ประเด็นค�ำถามท้ัง 9 แหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการยกระดับคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต (Corruption Perceptions Index : CPI) สามารถจดั เปน็ ประเด็นของข้อเสนอแนะ ได้ 5 ประเด็น ดังนี้ 1) ประเดน็ นโยบายของรฐั บาลในการแกไ้ ขปญั หาการทจุ รติ เช่น 1.1) สนับสนุนงบประมาณ อัตราก�ำลัง ตลอดจนทรัพยากรต่างๆ ให้แก่หน่วยงาน ภาคสว่ นทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง ในการยกระดบั ค่าคะแนนดัชนกี ารรับรู้การทจุ รติ ของประเทศไทย 1.2) มอบหมายให้ส�ำนักงาน ป.ป.ช. เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับส�ำนักงาน ป.ป.ท. ในการยกระดับคะแนนดัชนกี ารรับรู้การทุจรติ (Corruption Perceptions Index : CPI) 1.3) รัฐบาลควรพิจารณามอบหมายให้มีหน่วยงานหลัก เขา้ ร่วมเปน็ เครือขา่ ยเพ่อื ส่งเสริม การรับรู้ และยกระดับคะแนนดัชนกี ารรับรกู้ ารทุจรติ ในอกี 7 แหล่งข้อมลู 2) ประเด็นเก่ียวกับสินบน เชน่ 2.1) ให้ส�ำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและหน่วยงานที่เก่ียวข้องกับการลงทุน การด�ำเนนิ ธรุ กจิ ของภาคเอกชน พิจารณาทบทวนกฎหมายใหม้ คี วามทันสมัย รวดเร็ว และลดข้ันตอนท่ไี มจ่ �ำเป็น 2.2) ให้ส�ำนักงาน ก.พ.ร. ประสานและติดตามการด�ำเนินการของหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง เพื่อด�ำเนินการประชาสัมพันธ์และเร่งรัดให้หน่วยงานของรัฐด�ำเนินการตามพระราชบัญญัติ การอ�ำนวย ความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558 3) ประเด็นการขดั กนั แห่งผลประโยชน์ เช่น ผลักดันให้มีการออกกฎหมาย “ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเก่ียวกับการขัดกัน ระหวา่ งประโยชนส์ ่วนบคุ คลกบั ประโยชนส์ ่วนรวม พ.ศ. ....” 4) ประเดน็ การตรวจสอบและการลงโทษเจ้าหน้าท่รี ัฐ เช่น รัฐบาลต้องก�ำหนดนโยบายปราบปรามเจ้าหน้าที่รัฐท่ีกระท�ำความผิด โดยให้มีการลงโทษ ผู้กระท�ำความผิดอย่างจริงจัง และจัดให้มีมาตรการคุ้มครองเจ้าหน้าที่ของรัฐท่ีปฏิบัติหน้าที่ถูกต้องตามกฎหมาย รวมท้ังจัดท�ำแนวทางการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลการด�ำเนินคดีและลงโทษผู้ท่ีกระท�ำความผิดฐานทุจริต ทั้งทางอาญาและทางวินยั ให้สาธารณชนรบั ทราบอย่างตอ่ เนอื่ ง 5) ประเด็นความโปร่งใสและการตรวจสอบได้ในระบบงบประมาณและการจัดซ้ือจัดจ้าง ภาครัฐ มอบหมายกระทรวงการคลังร่วมกับส�ำนักงบประมาณ จัดทำ� ข้อมลู เอกสารทเี่ กีย่ วข้องกบั งบประมาณ เผยแพร่ข้อมูลที่แสดงถึงประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการใช้จ่ายเงินงบประมาณ โดยเปิดเผย ข้อมูลตามหลักเกณฑ์สากลให้ครอบคลุมและสมบูรณ์ยิ่งข้ึน พร้อมท้ังจัดทําคําแปลเป็นภาษาอังกฤษและภาษา ต่างประเทศอืน่ ๆ และเผยแพรข่ อ้ มูลดังกล่าวบนเว็บไซต์ 2. ข้อเสนอต่อรฐั สภา** 2.1 จัดท�ำมาตรการป้องกันการขัดกันแห่งผลประโยชน์ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิก วุฒิสภา และขา้ ราชการรฐั สภาฝา่ ยการเมืองท่เี กีย่ วขอ้ ง 2.2 ผลกั ดนั ใหม้ กี ารออกกฎหมาย “ร่างพระราชบญั ญตั ิวา่ ดว้ ยความผิดเก่ียวกับการขัดกนั ระหวา่ ง ประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวม พ.ศ. ....” “ร่างพระราชบัญญัติมาตรการติดตามทรัพย์สินของรัฐคืน จากการเอาไปโดยมชิ อบ พ.ศ. ....” และ “รา่ งพระราชบัญญัตขิ อ้ มลู ข่าวสารของราชการ (ฉบบั ท่ี...) พ.ศ. ....” **ท้ังน้ี ข้อเสนอตอ่ รัฐสภา ส�ำนกั งาน ป.ป.ช. จะไดน้ ำ� เสนอต่อรฐั สภาโดยตรงต่อไป 166 รายงานประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทจุ ริตแหง่ ชาติ
3. ดา้ นตรวจสอบทรพั ย์สนิ และหนสี้ ิน พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ได้ประกาศใช้ เม่ือวันที่ 21 กรกฎาคม 2561 พร้อมทั้งคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ประกาศใช้ระเบียบคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตว่าด้วยการตรวจสอบทรัพย์สินและหน้ีสินของเจ้าพนักงานของรัฐและการด�ำเนินคดี ที่เกี่ยวข้องกับการยื่นบัญชี พ.ศ. 2561 และประกาศฯ ต่าง ๆ ที่เก่ียวข้องกับงานด้านการตรวจสอบทรัพย์สิน นับเป็นการเปลี่ยนแปลงด้านกฎหมายครั้งส�ำคัญที่ส่งผลให้ภารกิจ โครงสร้างการบริหารงาน โครงสร้าง การปฏิบัตงิ าน แนวคดิ และวธิ กี ารปฏิบัตงิ านของเจ้าพนกั งานตรวจสอบทรพั ยส์ ินมกี ารปรับเปลยี่ นในหลายด้าน เพือ่ ใหง้ านดา้ นภารกจิ ตรวจสอบทรพั ยส์ นิ เกิดความรวดเร็ว ทันสมัย โปร่งใส สามารถให้ประชาชนทว่ั ไปเขา้ มามี ส่วนในการร่วมช้ีช่องทาง ช้ีเบาะแสและเข้าถึงองค์กรได้ง่ายขึ้น ตามเจตนารมณ์เพื่อให้ส�ำนักงาน ป.ป.ช. เป็นองค์กรที่ท�ำหน้าที่ตรวจสอบการใช้อ�ำนาจรัฐของผู้ด�ำรงต�ำแหน่งทางการเมืองและเจ้าหน้าท่ีของรัฐได้อย่าง มปี ระสิทธภิ าพ ภารกิจด้านตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สิน เป็นภารกิจด้านการป้องปราม ซ่ึงมีการเปลี่ยนแปลงท่ีเห็น ได้ชัดเจน เชน่ การเปิดเผยบญั ชที รัพยส์ นิ และหน้ีสินของเจา้ หน้าท่ีรฐั ระดบั สูงและการเปดิ เผยบญั ชที รพั ยส์ ินและ หนี้สินของผู้ด�ำรงต�ำแหน่งทางการเมืองท้องถิ่น ท้ังนายกและรองนายกขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ท่ัวประเทศ ซึ่งสอดรับกับยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตระยะท่ี 3 (พ.ศ. 2560 - 2564) ยุทธศาสตร์ท่ี 4: พัฒนาระบบป้องกันการทุจริตเชิงรุก ในส่วนของการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ของผู้ด�ำรงต�ำแหน่งทางการเมืองท้องถิ่นนั้น เป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนคนในพื้นท่ีช่วยกันสอดส่อง เป็นหูเป็นตา ในกระบวนการตรวจสอบทรัพย์สินและหน้ีสินของนักการเมืองในท้องถ่ินของตนเองว่ามีความถูกต้อง ครบถ้วน และมีอยู่จริงตามที่ได้แสดงไว้หรือไม่ นอกจากน้ี ยังส่งผลให้เจ้าพนักงานของรัฐท่ีมีหน้าท่ียื่นบัญชี ทรัพย์สินและหนี้สินระมัดระวังในการใช้อ�ำนาจหน้าท่ีที่อาจเอ้ือประโยชน์ต่อตนเองหรือผู้อื่นได้ รวมทั้งการได้มา (ท่ีมา) ของทรัพย์สินต่าง ๆ เน่ืองจากการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนจะมีการเฝ้าระวังและมีการตรวจสอบ จากประชาชนในพ้นื ที่มากขนึ้ ความเปลี่ยนแปลงและข้อแตกต่างที่เป็นสาระส�ำคัญในด�ำเนินการเก่ียวกับทรัพย์สิน ตามพระราช บัญญตั ิประกอบรัฐธรรมนญู ว่าดว้ ยการป้องกันและปราบปรามการทจุ ริต พ.ศ. 2561 1. ผู้มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหน้ีสินต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ต�ำแหน่งผู้มีหน้าที่ย่ืนบัญชี ทรัพย์สินและหนี้สิน กฎหมายเดิมก�ำหนดแยกกลุ่มผู้ยื่นบัญชีออกเป็นผู้ด�ำรงต�ำแหน่งทางการเมืองกับเจ้าหน้าที่ ของรฐั แตก่ ฎหมายใหมก่ �ำหนดใหผ้ ู้ยน่ื ทั้ง 2 กลุ่ม อย่ใู นกลมุ่ เดียวกัน l ก�ำหนดให้เจ้าหน้าที่ของส�ำนักงาน ป.ป.ช. ท่ีมีหน้าท่ีและอ�ำนาจในการไต่สวนและตรวจสอบ ย่ืนบัญชที รพั ยส์ นิ และหนส้ี นิ เพอื่ สร้างบรรทดั ฐานทางจริยธรรม l ให้อ�ำนาจคณะกรรมการ ป.ป.ช. สามารถก�ำหนดให้เจ้าหน้าที่ของรัฐทุกต�ำแหน่งมีหน้าที่ ยน่ื บญั ชี 2. การแสดงทรัพย์สินและหน้ีสินของคู่สมรส ก�ำหนดนิยามของคู่สมรส โดยให้หมายความรวมถึง บุคคลซึง่ อยู่กินกันฉันสามีภรยิ าโดยมิได้จดทะเบียนสมรส อันได้แก่ (1) ได้ท�ำพธิ ีมงคลสมรสหรอื พิธีอนื่ ใดในทำ� นองเดยี วกัน รายงานประจำ� ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ 167
(2) เจ้าพนักงานของรัฐแสดงให้ปรากฏว่ามีสถานะเป็นสามีภริยากันหรือมีพฤติการณ์เป็นท่ีรับรู้ ของสังคมท่วั ไปว่ามีสถานะดงั กลา่ ว (3) บุคคลซ่ึงจดทะเบียนสมรสกับเจ้าพนักงานของรัฐและต่อมาได้จดทะเบียนหย่าขาดจากกัน แต่เป็นทร่ี บั ร้ขู องสงั คมท่วั ไปว่ามีสถานะเปน็ สามหี รือภรยิ ากนั 3. หลักเกณฑ์ ระยะเวลา และเงอื่ นไขการยน่ื บัญชีทรพั ยส์ ินและหนส้ี ิน 1. ต้องเปน็ แบบท่ีคณะกรรมการ ป.ป.ช. กำ� หนด 2. ให้แนบหลักฐานทีพ่ ิสจู นค์ วามมีอย่จู ริงของทรพั ยส์ นิ และหนส้ี ิน 3. ให้แนบหลกั ฐานการเสียภาษเี งินไดบ้ ุคคลธรรมดาในรอบปีภาษที ีผ่ ่านมา 4. ผ้ยู น่ื บัญชีต้องลงลายมอื ชอ่ื ของตนเองรบั รองความถกู ต้องกำ� กับไวใ้ นบญั ชีฯและเอกสารทุกหน้า 5. จดั ทำ� รายละเอยี ดเอกสารประกอบบญั ชีฯทยี่ ื่นด้วย การย่ืนบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ให้ย่ืนเม่ือเข้ารับต�ำแหน่งท่ีคณะกรรมการ ป.ป.ช. ก�ำหนดให้มี หน้าท่ียื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. เม่ือพ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ และทุก 3 ปี ตลอดเวลาท่ียังด�ำรงต�ำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เฉพาะต�ำแหน่งทางการเมือง/ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ/ ในองค์กรอสิ ระใหย้ ่นื บัญชีทรัพยส์ นิ และหนีส้ นิ เฉพาะกรณีเข้ารบั ต�ำแหน่งและกรณพี น้ จากตำ� แหน่งเท่านน้ั ทุกต�ำแหน่งท่ีคณะกรรมการ ป.ป.ช. ก�ำหนด และทุกกรณีท่ีมีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ให้ย่ืนบัญชีทรัพย์สินและหน้ีสิน ภายใน 60 วันนับแต่วันถัดจากวันเข้ารับต�ำแหน่ง วันพ้นจากการเป็นเจ้าหน้าท่ี ของรัฐ และทุก ๆ 3 ปีตลอดเวลาที่ยังด�ำรงต�ำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐแล้วแต่ละกรณี กรณีมีเหตุจ�ำเป็น ขอขยายระยะเวลาการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินได้อีกไม่เกิน 30 วันนับแต่วันท่ีครบก�ำหนด ซึ่งเป็นการเพิ่ม ระยะเวลาการย่ืนบัญชี และช่วยให้ผู้มีหน้าที่ยื่นบัญชีมีเวลาในการเตรียมเอกสารประกอบและข้อมูลทรัพย์สิน และหนสี้ ินใหถ้ กู ตอ้ ง ครบถ้วนมากขึ้น การย่ืนบัญชีทรัพย์สินและหน้ีสิน ย่ืนด้วยตนเองหรือมอบหมายให้ผู้อื่นย่ืนแทน (ไม่ต้องมอบอ�ำนาจก็ได้) หรือโดยสง่ ทางไปรษณยี ล์ งทะเบยี นตอบรับ (นับวันทไี่ ปรษณีย์รบั เปน็ วนั รบั ยนื่ ) ยนื่ ดว้ ยวธิ กี ารทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์ กรณีท่ีก�ำหนดให้ย่ืนทางทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยไปยื่นได้ท่ีส�ำนักงาน ป.ป.ช.กลางสนามบินน้�ำ นนทบุรี หรือ ส�ำนกั งาน ป.ป.ช. ภาค 1- 9 หรือทสี่ �ำนกั งาน ป.ป.ช. ประจำ� จงั หวดั ทุกจังหวัด 4. คณะกรรมการ ป.ป.ช. ก�ำหนด ให้ต�ำแหน่งที่ต้องเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหน้ีสิน ให้ประชาชน ทราบเปน็ การท่วั ไป ได้แก่ ผดู้ ำ� รงต�ำแหน่งทางการเมอื ง (เฉพาะนายกรฐั มนตรี รฐั มนตรี สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร และสมาชกิ วุฒิสภา) ตลุ าการศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ด�ำรงตำ� แหน่งในองคก์ รอสิ ระ ผดู้ ำ� รงตำ� แหน่งระดบั สูง ผบู้ รหิ าร ท้องถ่นิ ไดแ้ ก่ ผู้วา่ /รองผวู้ า่ กทม.นายก/รองนายกเมืองพทั ยา นายกองค์การบรหิ ารสว่ นจังหวดั นายกเทศมนตรี เทศบาลนคร/เทศบาลเมือง/เทศบาลต�ำบล นายกองค์การบริหารส่วนต�ำบล การก�ำหนดต�ำแหน่งท่ีต้องเปิดเผย บัญชีทรัพย์สินและหน้ีสิน เพ่ือเป็นการให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินของเจ้าพนักงาน ของรัฐมากขึ้น และใหข้ ้อมลู แจง้ เบาะแสของทรพั ย์สนิ และหน้ีสนิ ตอ่ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำ� เนินการตามหน้าที่ และอ�ำนาจ ผู้มีหน้าที่ยื่นบัญชีท่ีด�ำรงต�ำแหน่งท่ีต้องเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ให้ประชาชนทราบ เป็นการท่ัวไปให้ท�ำและยื่นบัญชี 2 ชุด (ต้นฉบับ และส�ำเนา) และให้ผู้มีหน้าท่ีย่ืนบัญชีท�ำการปกปิดข้อมูล ส่วนบคุ คล ไดแ้ ก่ เลขประจำ� ตัวประชาชน วนั /เดอื น/ปเี กดิ ทอ่ี ยู่ (ปิดเฉพาะเลขทบี่ ้าน) หมายเลขโทรศพั ท์ท้งั หมด อีเมล์ รายละเอียดทางทะเบียนของทรัพย์สิน ได้แก่ เลขที่บัญชีธนาคารและสถาบันการเงิน รายละเอียดอื่น ๆ ได้แก่ เลขประจำ� ตัวประชาชนของผู้กยู้ มื และผใู้ หก้ ู้ ภาพถา่ ยทรัพยส์ ินอน่ื หมายเลขบตั รเครดติ 168 รายงานประจ�ำปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจรติ แหง่ ชาติ
วิธีการเปิดเผยบัญชีให้ประชาชนทราบเป็นการท่ัวไป ปิดประกาศ ณ ส�ำนักงาน ป.ป.ช./ภาค/ จงั หวัด เป็นระยะเวลา 30 วัน และลงเผยแพร่ทางเวป็ ไซต์ของสำ� นักงาน ป.ป.ช. เป็นระยะเวลา 180 วนั 5. การเปดิ เผยผลการตรวจสอบ ให้ประชาชนทราบเปน็ การท่วั ไป แต่เดิมนน้ั ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. จัดท�ำรายงานผลการตรวจสอบและประกาศรายงานผลการตรวจสอบดังกล่าวในราชกิจจานุเบกษา ปัจจุบัน ให้จัดท�ำรายงานผลการตรวจสอบและประกาศรายงานผลการตรวจสอบดังกล่าว ผ่านทางเว็ปไซต์ของส�ำนักงาน ป.ป.ช.ก�ำหนดให้เปิดเผยผลการตรวจสอบในทุกต�ำแหน่ง ทุกกรณีท่ียื่น เป็นการสร้างความโปร่งใส และให้ ประชาชนสามารถตรวจสอบการทำ� งานของคณะกรรมการ ป.ป.ช. 6. การแจ้งขอ้ กลา่ วหา และเพมิ่ ระยะเวลาการตดั สทิ ธิทางการเมอื ง การแจ้งข้อกล่าวหา เจ้าพนักงานของรัฐผ้ใู ด จงใจไม่ย่ืนบญั ชฯี จงใจยื่นบญั ชฯี ดว้ ยข้อความอนั เปน็ เท็จ ปกปดิ ข้อเทจ็ จริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤตกิ ารณอ์ นั ควรเชอื่ ไดว้ ่ามีเจตนาไม่แสดงทมี่ าแหง่ ทรพั ยส์ นิ หรอื หนส้ี ินนั้น ใหพ้ นักงานเจ้าหนา้ ทท่ี ไ่ี ด้รับมอบหมายแจง้ ขอ้ กลา่ วหาให้ผนู้ นั้ ทราบ และก�ำหนดระยะเวลาตามสมควร ท่ีผู้นั้นจะมาชี้แจงข้อกล่าวหา ท้ังน้ี ตามหลักเกณฑ์และวิธีการท่ีคณะกรรมการ ป.ป.ช. ก�ำหนด แล้วน�ำเสนอ คณะกรรมการ ป.ป.ช. เพ่ือพิจารณาต่อไป หากคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่าผู้ใด จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ จงใจ ยื่นบัญชีฯ ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ปกปิดข้อเท็จจริงท่ีควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่า มีเจตนาไม่แสดงท่ีมาแห่งทรัพย์สินหรือหน้ีสิน ให้เสนอเร่ืองต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ด�ำรงต�ำแหน่ง ทางการเมืองเพอ่ื วินจิ ฉยั /ศาลอาญาคดที จุ ริตและประพฤตมิ ชิ อบ ในกรณีท่ีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ ประทับฟ้อง ให้ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าท่ีจนกว่าจะมี ค�ำพิพากษา เว้นแต่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ จะมีค�ำสั่งเป็นอย่างอ่ืน ในกรณีที่ศาลฎีกาฯ มีค�ำพิพากษาว่า ผู้ถูกกล่าวหากระท�ำความผิดตามท่ีถูกกล่าวหา ให้ผู้ต้องค�ำพิพากษานั้นพ้นจากต�ำแหน่งนับแต่วันหยุดปฏิบัติหน้าท่ี และให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกต้ังของผู้น้ัน และจะเพิกถอนสิทธิเลือกต้ังมีก�ำหนดเวลาไม่เกินสิบปีด้วยหรือไม่ กไ็ ด้ ผู้ใดถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกต้ังไม่ว่าในกรณีใด ผู้นั้นไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือสมัคร รบั เลือกเปน็ สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒสิ ภา สมาชกิ สภาท้องถน่ิ หรือผู้บริหารทอ้ งถ่ินตลอดไป และไม่มี สิทธิด�ำรงต�ำแหน่งทางการเมืองใด ๆ ซ่ึงแต่เดิมก�ำหนดโทษทางการเมืองและทางปกครอง ห้ามด�ำรงต�ำแหน่ง เป็นเวลา 5 ปี นับจากวันที่พ้นจากต�ำแหน่ง ก�ำหนดโทษทางอาญาจ�ำคุก 6 เดือน ปรับ 10,000 บาท หรือ ทัง้ จ�ำท้ังปรับ 7. การส่งเสริมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต เจ้าหน้าที่ของรัฐท่ีไม่ต้องย่ืนบัญชีฯ ตอ่ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ใหย้ ่นื บญั ชที รัพย์สนิ และหนี้สินตอ่ หัวหน้าสว่ นราชการ/รฐั วิสาหกจิ /หรือหน่วยงานของรฐั ที่ตนเองสังกัดหรือปฏิบัติงานอยู่ ไม่ใช้บังคับกับเจ้าหน้าที่ของรัฐท่ีมิได้มีเงินเดือนและต�ำแหน่งประจ�ำ กรณีมีการ ดำ� รงต�ำแหนง่ หลายตำ� แหนง่ ใหย้ น่ื ฯ ส�ำหรบั ต�ำแหน่งท่ีปฏบิ ตั ิหน้าที่เปน็ ประจำ� เพียงตำ� แหนง่ เดียว ใหเ้ กบ็ รักษาไว้ ท่ีหน่วยงานและให้เป็นความลับทางราชการท่ีจะเปิดเผยมิได้ เว้นแต่จะส่งมอบให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. กรณี รอ้ งขอก�ำหนดใหต้ �ำแหน่งนัน้ ตอ้ งยนื่ บัญชีฯ ตอ่ คณะกรรมการ ป.ป.ช. เมอื่ กรณีท่จี ะต้องสอบสวนทางวินัย 8. การตรวจสอบถ่วงดุลอ�ำนาจ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ของส�ำนักงาน ป.ป.ช. ย่ืนบัญชีฯ ตอ่ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ระดบั ผอู้ ำ� นวยการกองขน้ึ ไป ผชู้ ว่ ยพนกั งานไตส่ วน/พนกั งานไตส่ วน/หวั หนา้ พนกั งานไตส่ วน พนักงานเจา้ หนา้ ที่ ซง่ึ มีตำ� แหนง่ และหนา้ ที่ เก่ยี วกบั การตรวจสอบฯ กรณีพนักงานเจ้าหน้าที่ข้างต้น ฝ่าฝืนบทบัญญัติให้ประธานกรรมการ ป.ป.ช. ส่งเร่ืองให้อัยการสูงสุด เพ่ือดำ� เนนิ การฟอ้ งคดตี อ่ ศาลฎกี าแผนกคดีอาญาฯ ตอ่ ไป (ม.77) ให้อยั การฟอ้ งภายใน 180 วนั /ขอ้ ไมส่ มบูรณ์ แจง้ ให้ ป.ป.ช.ทราบ 90 วัน/หาข้อยตุ ไิ มไ่ ด้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ฟอ้ งเอง หา้ มมใิ ห้อัยการรบั แก้ตา่ งคดี ให้ศาลฯ รายงานประจำ� ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ 169
ประทับฟ้องใหห้ ยดุ ปฏิบตั หิ นา้ ท่ี เว้นแตศ่ าลฯ มีคำ� ส่งั เปน็ อยา่ งอืน่ กรณีกระท�ำความผิดตามทถ่ี ูกกล่าวหา ให้พ้นฯ นบั แตว่ นั ทีห่ ยุดปฏิบตั หิ น้าท่ี และใหเ้ พกิ ถอนสทิ ธสิ มคั รรบั เลือกต้ัง/จะเพกิ ถอนสทิ ธเิ ลือกตง้ั มกี �ำหนดเวลา ไม่เกนิ 10 ปี ด้วยหรือไมก่ ็ได้ ความส�ำเรจ็ ของภารกจิ ด้านตรวจสอบทรัพยส์ นิ และหนสี้ ิน ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มีการเปลี่ยนแปลงด้านกฎหมายท่ีส�ำคัญเพ่ือส่งผลให้องค์กรน�ำไปสู่ความโปร่งใส (Transparency) การเข้าถึง การมีส่วนร่วมของภาคประชาชนมากขึ้น มีความแตกต่างกับพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทจุ ริต พ.ศ. 2542 ในเรื่องของหลักเกณฑก์ ารรับยน่ื การตรวจสอบ และการเปดิ เผย แบบบญั ชีฯ การเปิดเผยผลการตรวจสอบ ดังนี้ 1. ด้านกฎหมาย สำ� นกั พัฒนาระบบตรวจสอบทรัพยส์ ิน ไดป้ ระสานความร่วมมอื กับส�ำนกั กฎหมาย จดั ทำ� ระเบียบฯ 3 ฉบับ และประกาศฯ 11 ฉบับ (ซ่งึ ปรากฏรายละเอียดในภารกิจด้านกฎหมาย) 2. ด้านการกำ� หนดต�ำแหน่งท่มี ีหนา้ ที่ย่นื บัญชีต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. อาศัยความในมาตรา 102, มาตรา 103, มาตรา 130, และมาตรา 158 ตามพระราชบญั ญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ทางส�ำนักพัฒนาระบบตรวจสอบทรัพย์สิน ไดจ้ ดั ทำ� ประกาศคณะกรรมการ ป.ป.ช. และได้กำ� หนดต�ำแหนง่ ใหม้ ีหน้าท่ยี น่ื บญั ชีฯ เพิ่มขึน้ ให้ครบทกุ กระทรวง และทกุ หนว่ ยงาน เพ่อื ความครบถ้วนและความเสมอภาค 3. ดา้ นการรบั ย่ืนบัญชี อาศัยความในมาตรา 103 และมาตรา 105 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ทางส�ำนักพัฒนาระบบตรวจสอบทรัพย์สินได้จัดท�ำประกาศ คณะกรรมการ ป.ป.ช. เร่ือง หลักเกณฑ์และวิธีการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหน้ีสินของเจ้าพนักงานของรัฐฯ หลักเกณฑ์การย่ืนบัญชีของคู่สมรส และคู่มือการรับยื่นบัญชีทรัพย์สินและหน้ีสิน เพ่ือเป็นแนวทางปฏิบัติ ในการรบั ยนื่ บญั ชฯี จากประกาศก�ำหนดต�ำแหน่งฯ ซ่ึงในปีงบประมาณ 2562 (ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2561 - วันที่ 30 กันยายน 2562) มกี ารรบั บัญชีใหม่จำ� นวน 10,031 บัญชี จากระเบียบคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่าด้วย การยื่นบัญชีการตรวจสอบทรัพย์สินและหน้ีสินของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 158 และการด�ำเนินคดี ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกับการยืน่ บัญชี พ.ศ. 2561 ท�ำให้ส�ำนกั พัฒนาระบบตรวจสอบทรัพย์สิน ไดเ้ พม่ิ ช่องทางการรบั ย่นื บัญชี ผ่านทางระบบอินเตอรเ์ น็ต ในขณะนีไ้ ดใ้ ช้กบั ผู้มีหน้าทย่ี น่ื บัญชตี ามมาตรา 158 จำ� นวน 1,442 ราย 1,515 บญั ชี ซึ่งการรับยืน่ สามารถใชง้ านไดจ้ ริง และในอนาคตจะขยายใหเ้ จ้าหนา้ ที่รัฐทมี่ ีหนา้ ทยี่ ื่นบญั ชตี ามมาตรา 102 และ มาตรา 103 ต่อไป 4. ดา้ นการเปดิ เผยแบบบญั ชีฯ อาศัยความในมาตรา 106 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและ ปราบปรามการทุจรติ พ.ศ. 2561 ทางสำ� นักพฒั นาระบบตรวจสอบทรัพยส์ นิ ไดจ้ ัดท�ำประกาศคณะกรรมการ ป.ป.ช. เรื่อง หลักเกณฑ์ ขั้นตอน และวิธีการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน พ.ศ. 2561 และคู่มือการเปิดเผยบัญชี ทรพั ยส์ นิ และหนี้สนิ เพ่ือเปน็ แนวทางในการประกาศเปดิ เผยบญั ชีฯ โดยในขณะนม้ี ีการเปิดเผยบัญชฯี ของผดู้ ำ� รง ต�ำแหน่งทางการเมอื งและเจ้าหนา้ ทรี่ ฐั ระดับสูง ท้งั ในสถานที่ของสำ� นักงาน ป.ป.ช. และในเว็ปไซตข์ องสำ� นกั งาน ป.ป.ช. ผลจากการประกาศเปิดเผยแบบบัญชีฯ น้ัน ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนและประชาชนโดยทั่วไป 170 รายงานประจ�ำปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามการทุจรติ แหง่ ชาติ
จนน�ำไปสู่การตั้งประเด็นข้อสงสัยและท�ำการตรวจสอบต่อในหลายกรณี เป็นการช่วยเพ่ิมประสิทธิภาพ ในการตรวจสอบและเสรมิ สร้างภาพรวมของประเทศให้ทุกฝ่ายไดเ้ ข้ามามีส่วนรว่ มในการตรวจสอบมากขึน้ 5. ดา้ นการเปดิ เผยผลการตรวจสอบ อาศัยความในมาตรา 111 ของพระราชบญั ญัตปิ ระกอบรัฐธรรมนญู ว่าด้วยการป้องกนั และปราบปราม การทุจริต พ.ศ. 2561 ทางส�ำนักพัฒนาระบบตรวจสอบทรัพย์สิน ได้ก�ำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการเปิดเผย ผลการตรวจสอบแล้ว และในขณะน้ีได้ด�ำเนินการเปดิ เผยผลการตรวจสอบในกลุ่มของผู้ด�ำรงต�ำแหนง่ ทางการเมอื ง ในเว็ปไซต์ของส�ำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อให้บริการผู้รับย่ืนได้ตรวจสอบว่าบัญชีของตนเองได้รับการตรวจสอบ เป็นทเี่ รียบร้อยแล้ว อกี ทัง้ เปน็ การแจง้ ให้ประชาชนทราบเปน็ การทัว่ ไป 6. ดา้ นการด�ำเนนิ คดี อาศัยความในมาตรา 114, มาตรา 81 และมาตรา 167 ของพระราชบญั ญัตปิ ระกอบรฐั ธรรมนญู ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ได้เพม่ิ บทก�ำหนดโทษสำ� หรบั ผทู้ ี่จงใจไมย่ นื่ บัญชีทรัพย์สนิ และหนี้สินต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. หรือจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินหรือหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิด ข้อเท็จจริงท่ีควรแจ้งให้ทราบและมีพฤติการณ์อันควรเช่ือได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหน้ีสิน โดยกฎหมายใหม่ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง และเพิกถอนสิทธิเลือกต้ังมีก�ำหนดเวลาไม่เกินสิบปี และ หากเป็นเจ้าหน้าที่รัฐให้หยุดปฏิบัติหน้าท่ีและพ้นจากต�ำแหน่ง ซ่ึงบทก�ำหนดโทษที่มีบทลงโทษที่หนักกว่า กฎหมายเดมิ ถอื เป็นหน่งึ ในมาตรการการป้องปรามเจ้าหนา้ ท่ขี องรัฐให้ปฏบิ ัตงิ านอยา่ งซื่อสัตย์สจุ ริต สถติ ิเรอื่ งที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มมี ติชมี้ ูลความผดิ กรณรี ำ�่ รวยผิดปกตทิ ส่ี ่งให้ศาลฎกี าแผนกคดีอาญา ของผูด้ ำ� รงตำ� แหน่งทางการเมอื งวนิ จิ ฉัย ตงั้ แต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 - พ.ศ. 2562 ปีงบประมาณ จำ� นวน ไม่ยื่นบัญชี ยน่ื บญั ชเี ท็จ ทรพั ย์สนิ เพิม่ ขึ้น มลู ค่าทรัพยส์ นิ ทร่ี อ้ งขอให้ พ.ศ. ผิดปกตหิ รือ ตกเป็นของแผ่นดิน 190 181 รำ�่ รวยผิดปกติ 2561 372 3 43 1 896,554,760.28 บาท 2562 47 216,062,819.54 บาท 1 ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดกรณีทรัพย์สินเพ่ิมข้ึน ผิดปกตหิ รือรำ�่ รวยผดิ ปกติ จ�ำนวน 1 เร่อื ง ดงั น้ี กรณนี ายพนม ศรศลิ ป์ ตำ� แหน่งผูอ้ �ำนวยการสำ� นกั งานพระพทุ ธศาสนาแห่งชาติ ผลการไต่สวนข้อเท็จจริงของคณะอนุกรรมการไต่สวน พบเงินฝากธนาคารและทรัพย์สินของ นายพนมฯ และบคุ คลใกลช้ ดิ ประกอบด้วย นางนิสา ศรศลิ ป์ (ภรรยาท่ีจดทะเบียนสมรส) นางจรินรัตน์ แซ่ตั้ง และนางสมพศิ สุทธิบญุ (ภรรยาทไ่ี ม่ได้จดทะเบียนสมรส) รวมทง้ั บตุ รและญาตพิ ี่น้อง ซึง่ บคุ คลดังกลา่ วไม่สามารถ พิสูจนท์ ่มี าของทรัพย์สินดงั กล่าวได้ โดยทรพั ยส์ นิ ท่เี พมิ่ ขน้ึ ผดิ ปกติ ประกอบด้วย : 1. เงินฝากธนาคาร จ�ำนวน 16 แหง่ เปน็ เงิน 163,022,595.05 บาท 2. เงนิ ลงทุน จำ� นวน 8 แห่ง มูลคา่ 22,470,000 บาท 3. ท่ดี ินทตี่ ั้งอยูใ่ นทอ้ งทจ่ี ังหวดั อดุ รธานี จำ� นวน 7 แปลง มลู คา่ 5,119,400 บาท 4. บ้านพร้อมที่ดิน จ�ำนวน 2 หลัง ตั้งอยู่ในจังหวัดอุดรธานี และจังหวัดนครปฐม รวมมูลค่า 805,919 บาท รายงานประจำ� ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ 171
5. ห้องชุดที่ต้ังอย่ใู นจังหวัดอุดรธานี และจงั หวดั ปทมุ ธานี มลู ค่า 3,960,000 บาท 6. รถยนต์ จ�ำนวน 9 คนั รวมมลู คา่ 4,931,200 บาท 7. กรมธรรม์ประกนั ชีวติ จ�ำนวน 4 กรมธรรม์ รวมมูลคา่ 828,489 บาท 8. เงนิ ที่นำ� ไปชำ� ระหนีเ้ งินก้สู ถาบันการเงนิ จำ� นวน 4 แหง่ เป็นเงิน 14,925,216.49 บาท รวมมูลค่าทรพั ย์สินทัง้ สนิ้ จำ� นวน 216,062,819.54 บาท (มติของคณะกรรมการ ป.ป.ช. มคี �ำส่งั ใหอ้ ายัดทรัพยส์ ินไว้เป็นการชั่วคราว จ�ำนวน 44,108,113.29 บาท) โดยได้พิจารณาแลว้ มมี ติใหส้ ง่ เร่อื งใหอ้ ัยการ สูงสุดย่ืนค�ำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบให้มีค�ำพิพากษาหรือค�ำสั่งเพ่ือขอให้ทรัพย์สินดังกล่าว ตกเป็นของแผน่ ดิน ตามมาตรา 122 แห่งพระราชบัญญตั ิประกอบรฐั ธรรมนญู วา่ ดว้ ยการป้องกนั และปราบปราม การทจุ ริต พ.ศ. 2561 ตอ่ ไป ในส่วนของคดีท่ีคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติช้ีมูลความผิด และศาลมีค�ำพิพากษาให้ทรัพย์สิน ตกเป็นของแผน่ ดนิ จ�ำนวน 2 เร่ือง ดังนี้ 1) พันตรี วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ ต�ำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (หมายเลขคดีแดงที่ อม.122/2562 เมอ่ื วนั ที่ 17 พฤษภาคม 2562) ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ด�ำรงต�ำแหน่งทางการเมือง พิเคราะห์พยานหลักฐานตามทาง ไตส่ วนและรายงานของคณะกรรมการ ป.ป.ช. แลว้ พพิ ากษาว่า ทรพั ยส์ นิ ตามคำ� ร้องเป็นทรัพยส์ ินทผ่ี ูถ้ กู กล่าวหา มีเพ่ิมข้ึนมากผิดปกติ อันเป็นการร�่ำรวยผิดปกติให้ทรัพย์สินดังกล่าว รวมมูลค่า 896,554,760.28 บาท พร้อมดอกผลของทรัพย์สินที่เกิดขึ้นให้ตกเป็นของแผ่นดิน หากไม่อาจบังคับคดีเอาแก่ทรัพย์สินได้ท้ังหมด หรอื ได้แตบ่ างสว่ น ใหบ้ ังคับคดเี อาแก่ทรพั ย์สินอืน่ ของผู้ถูกกลา่ วหาได้ภายในอายุความสิบปี แต่ตอ้ งไม่เกนิ มูลคา่ ของทรัพย์สินท่ีศาลสั่งให้ตกเป็นของแผ่นดินตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและ ปราบปรามการทจุ รติ พ.ศ. 2542 มาตรา 38 มาตรา 80 ประกอบมาตรา 83 2) นางระพิพรรณ พงศ์เรืองรอง ต�ำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (หมายเลขคดีแดงที่ อม. 238/2562 เมื่อวันท่ี 16 กนั ยายน 2562) ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ด�ำรงต�ำแหน่งทางการเมืองพิเคราะห์แล้ว เห็นว่าการที่จะตรวจสอบ ความเปลี่ยนแปลงของทรัพย์สินหรือหน้ีสิน เมื่อพ้นต�ำแหน่งว่าเพ่ิมขึ้นผิดปกติไปจากกรณีเข้ารับต�ำแหน่งหรือไม่นั้น ตามธรรมดาย่อมจะต้องพิจารณาถึงเหตุแห่งการได้มา การโอน ยักย้าย แปรสภาพ หรือ ซุกซ่อนทรัพย์สิน ในระหว่างดำ� รงต�ำแหนง่ น้นั มอี ยา่ งไร ซ่ึงศาลพิจารณาขอ้ เท็จจรงิ ตามท่ี นางระพิพรรณ พงศ์เรอื งรอง ผูถ้ ูกกล่าวหา มีภาระการพิสูจน์แล้ว พบว่า ผู้ถูกกล่าวหามีทรัพย์สินเพ่ิมขึ้นผิดปกติอย่างมีนัยส�ำคัญ ศาลจึงพิพากษาให้ ทรพั ย์สนิ มลู ค่า 42,816,226.64 บาท พร้อมดอกผลที่เกิดขน้ึ ตกเป็นของแผน่ ดนิ ตามพระราชบัญญัติประกอบ รฐั ธรรมนญู วา่ ด้วยการปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ พ.ศ.2542 มาตรา 4, 38 ประกอบมาตรา 83 โดยใหค้ นื รถยนต์ BMW รนุ่ 730 Ld เลขทะเบียน ถ-8988 (ป้ายแดง) แกบ่ รษิ ทั บเี อม็ ดบั เบิลยู ลิสซ่ิง (ประเทศไทย) จำ� กดั ผู้คดั คา้ นท่ี 2 สำ� หรบั ทรพั ย์สนิ ที่ ป.ป.ช. ชม้ี ูลความผดิ วา่ เพม่ิ ขนึ้ ผดิ ปกติ ไดแ้ ก่ เงินฝากธนาคาร 6 บญั ชี จำ� นวน เงนิ 27,618,954 บาท/ท่ีดนิ 3 แปลง มูลค่า 9,492,000 บาท / ส่ิงปลูกสรา้ ง 1 หลัง มลู คา่ 2 ล้านบาท / รถยนต์ 1 คนั มลู ค่า 1,805,272 บาทและเงินที่นำ� มาชำ� ระหนี้เงินกูธ้ นาคาร จำ� นวนเงนิ 1.9 ล้านบาท 7. ด้านการตรวจสอบบัญชี อาศัยความในมาตรา 110 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและ ปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ทางส�ำนักพัฒนาระบบตรวจสอบทรัพย์สิน ได้จัดท�ำระเบียบคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่าด้วยการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินของเจ้าพนักงานของรัฐและการด�ำเนินคดีท่ีเกี่ยวข้องกับการย่ืน บญั ชี พ.ศ. 2561 เพ่ือใช้เปน็ แนวทางในการปฏิบัติงานดา้ นการตรวจสอบ ซงึ่ ระเบยี บดังกลา่ วมคี วามเปล่ียนแปลง 172 รายงานประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการปอ้ งกันและปราบปรามการทจุ รติ แหง่ ชาติ
ในหลายด้านท่สี ำ� คญั และสง่ ผลต่อประสทิ ธิภาพและประสทิ ธิผลในการปฏิบตั งิ าน เชน่ ได้มีการก�ำหนดระยะเวลา ในการปฏิบัตงิ าน ตามระเบียบข้อ 16 การตรวจสอบปกติได้ก�ำหนดใหท้ �ำการตรวจสอบใหแ้ ลว้ เสรจ็ ภายใน 90 วนั นับจากวันท่ีส�ำนักงาน ป.ป.ช. รับบัญชีฯ เป็นต้น ซ่ึงจะเป็นการควบคุมระยะเวลาในการตรวจสอบ สามารถ ก�ำหนดเวลาแลว้ เสร็จของบัญชีฯ ทร่ี ับใหมไ่ ด้ เมือ่ งานตรวจสอบปกติเสร็จสน้ิ จะทำ� ให้เจ้าหน้าทมี่ เี วลาด�ำเนินการ ตรวจสอบในเชงิ คณุ ภาพไดม้ ากขึ้น สถิติเปรียบเทียบผลการดำ� เนนิ งานด้านตรวจสอบทรพั ยส์ นิ ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตง้ั แต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 - พ.ศ. 2562 ปีงบประมาณ จำ� นวนบญั ชีทรัพย์สนิ และหน้ีสนิ เรื่องทด่ี ำ� เนินการเสรจ็ รวม คง เรื่องคงคา้ ง พ.ศ. ยอดยกมา รบั ใหม่ รวม ปกติ ยนื ยัน เชิงลกึ เหลอื (ร้อยละ) 2560 38,748 12,302 51,050 32,907 74 43 33,024 18,026 35.31 2561 18,026 12,825 30,851 11,771 283 107 12,161 14,376 46.60 2562 14,376 10,031 24,407 7,837 337 45 8,219 16,188 66.32 ในปีงบประมาณ 2562 ภารกิจด้านการตรวจสอบทรัพย์สินมีการปรับโครงสร้างและการบริหาร จดั การภายในหนว่ ยงานเพือ่ รองรับปรมิ าณงานตรวจสอบทเี่ กี่ยวเนอื่ งมาจากการประกาศตำ� แหนง่ ในมาตรา 102 103 และ 158 เพือ่ แก้ไขปญั หาปริมาณงานตรวจสอบท่ยี งั คงค้าง การปรับโครงสร้างใหม่ในส่วนกลางจึงได้ขยายส�ำนักที่มีภารกิจงานด้านตรวจสอบจากเดิม 3 ส�ำนัก เป็น 5 สำ� นัก และการบรหิ ารจัดการภายในสว่ นทีด่ ำ� เนนิ การจดั ประชุมพิจารณางานกล่ันกรอง ผลการตรวจสอบ บัญชีทรัพยส์ ินและหนส้ี ิน จากเดมิ มี 2 คณะ ได้มกี ารกระจายงานให้มีการตง้ั คณะอนุกรรมการกลน่ั กรองประจำ� ภาค ท้งั 9 ภาค และประจ�ำสำ� นักท้ัง 5 ส�ำนกั รวมเป็น 14 คณะ เพื่อช่วยลดปรมิ าณงานคงค้าง 8. ด้านการเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ และการแจง้ เบาะแส ในปีงบประมาณ 2562 ส�ำนักงาน ป.ป.ช. ได้มีการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับภารกิจ ด้านการตรวจสอบในหลายช่องทาง เช่น ส่งผู้แทนไปเป็นวิทยากรให้ความรู้เกี่ยวกับการยื่นบัญชีทรัพย์สิน และหนส้ี ิน การจดั ท�ำคู่มือและเอกสารเผยแพรข่ อ้ มูลเกยี่ วกับการยน่ื บัญชที รพั ยส์ นิ และหน้สี นิ เปน็ ต้น งานโครงการ : ส�ำนกั งาน ป.ป.ช. ได้จัดโครงการเพื่อสนับสนนุ งานภารกจิ ด้านตรวจสอบทรัพย์สิน และเพอื่ ประสานความรว่ มมือกับหน่วยงานภายนอก ดงั นี้ 1) โครงการสร้างความเข้าใจเพื่อการยื่นทรัพย์สิน มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐในหน่วยงานต่าง ๆ ช้ีแจงต่อผู้ที่มีหน้าท่ียื่นบัญชี สามารถยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบตอ่ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้อย่างถกู ต้อง ครบถ้วน เพ่ือลดภาระหนา้ ที่ของส�ำนกั งาน ป.ป.ช. ในการชแ้ี จง แนะนำ� ผ้มู ีหนา้ ทีย่ ่ืนบัญชี โดยการด�ำเนนิ การดังกล่าวมีกล่มุ เปา้ หมายเป็นเจา้ หนา้ ทร่ี ัฐ จ�ำนวน 700 คน หนว่ ยงานของรัฐทัว่ ทัง้ ประเทศ 2) โครงการประชุมสัมมนาความร่วมมือระหว่างสถาบันการเงินและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับ ส�ำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อประสานความร่วมมือระหว่างส�ำนักงาน ป.ป.ช. กับสถาบันการเงินและหน่วยงานอ่ืน ที่เกยี่ วขอ้ งในการขอและแลกเปล่ียนขอ้ มลู ระหวา่ งกนั งานเผยแพร่ : การส่งผู้แทนไปเป็นวิทยากรให้ความรู้เก่ียวกับการย่ืนบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน รวมทง้ั การแจ้งเบาะแส แกเ่ จา้ หน้าท่ขี องรัฐทม่ี หี น้าทยี่ ่ืนบญั ชฯี เครือข่ายภาคประชาชน เอกชน อาทิเชน่ รายงานประจำ� ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแหง่ ชาติ 173
1) ภาครัฐ ส�ำนักงานศาลยุติธรรม รัฐสภา กระทรวงกลาโหม กระทรวงศึกษาธิการ ส�ำนักงาน ตำ� รวจแหง่ ชาติ สำ� นักงานปอ้ งกันและปราบปรามการฟอกเงนิ ฯลฯ 2) ภาครฐั วิสาหกจิ การไฟฟ้าฝ่ายผลติ การประปานครหลวง บรษิ ทั ทา่ อากาศยานแหง่ ประเทศไทย จ�ำกัด (มหาชน) บริษทั ป.ต.ท. จ�ำกดั (มหาชน) ฯลฯ 3) ภาคเครือข่ายประชาชน เครือข่ายต่อต้านการทุจริต กระทรวงวัฒนธรรม เครือข่ายต่อต้าน การทุจรติ กรมสวสั ดกิ ารและคุม้ ครองแรงงาน เครอื ขา่ ยภาคประชาชน ศนู ย์คณุ ธรรม ฯลฯ 4) ภาคเอกชน งานจดั ทำ� คมู่ อื : การจัดท�ำคมู่ อื และเอกสารเผยแพร่ขอ้ มลู เกี่ยวกบั การย่ืนบัญชที รพั ย์สนิ และหน้สี ิน 1) ค่มู ือ “การยนื่ บัญชที รัพย์สนิ และหน้ีสิน” 2) เผยแพรค่ วามรเู้ ก่ียวกับภารกิจด้านการตรวจสอบ ในรูปแบบของส่อื “โซเชยี ลมเี ดยี ” 3) คมู่ ือ “การประกาศเปดิ เผยแบบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สนิ ” 4) แนวทางการตรวจสอบทรัพย์สินและหน้ีสิน 174 รายงานประจ�ำปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามการทุจริตแหง่ ชาติ
4. ด้านกฎหมาย ตามที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา และมผี ลใช้บงั คบั ตัง้ แตว่ นั ที่ 22 กรกฎาคม 2561 นัน้ พระราชบญั ญตั ิประกอบ รัฐธรรมนูญดังกล่าว ก�ำหนดให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ต้องจัดท�ำอนุบัญญัติต่าง ๆ เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมาย มีประสิทธิภาพ เกดิ ความรวดเร็ว สจุ ริต และเทยี่ งธรรม จำ� นวนทั้งสน้ิ 78 เรือ่ ง แยกเปน็ ประเภท ดงั นี้ 1) ด้านปราบปรามการทุจรติ จ�ำนวน 16 เรือ่ ง 2) ดา้ นการตรวจสอบทรัพย์สนิ จ�ำนวน 15 เร่ือง 3) ดา้ นป้องกันการทจุ รติ จ�ำนวน 9 เรือ่ ง 4) ดา้ นการบรหิ ารงานทวั่ ไป จำ� นวน 17 เร่ือง 5) ด้านบริหารงานบุคคล จ�ำนวน 21 เรือ่ ง ปัจจุบันคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ด�ำเนินการจัดท�ำอนุบัญญัติที่ออกตามพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 เสร็จส้ินแล้ว จ�ำนวน 57 เรื่อง และอยู่ ระหว่างด�ำเนินการส่งไปประกาศในราชกิจจานุเบกษา จ�ำนวน 6 เรื่อง และอยู่ระหว่างการพิจารณาของ คณะกรรมการ ป.ป.ช. (รวมขั้นตอนกล่นั กรองและรอจัดวาระเขา้ ทป่ี ระชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.) จำ� นวน 9 เรื่อง และอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะท�ำงาน/คณะอนุกรรมการ จ�ำนวน 5 เร่ือง และอยู่ระหว่างการพิจารณา ทบทวนถงึ ความจ�ำเป็นและความเหมาะสมในการออกประกาศ จ�ำนวน 1 ฉบับ (ขอ้ มลู ณ วันท่ี 23 มกราคม 2563) ซ่ึงในช่วงปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ที่ผ่านมา คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ด�ำเนินการจัดท�ำอนุบัญญัติ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ในด้านต่าง ๆ แล้วเสร็จ และประกาศในราชกจิ จานุเบกษาแลว้ จ�ำนวน 40 เร่อื ง ดงั นี้ ดา้ นปราบปรามการทุจริต 1. ระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่าด้วยการคุ้มครองช่วยเหลือพยาน พ.ศ. 2562 (ประกาศราชกิจจานุเบกษา เล่ม 136 ตอนที่ 48 ก เมอื่ วนั ท่ี 11 เมษายน 2562) 2. ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เร่ือง หลักเกณฑ์ วิธีการและ เง่อื นไขในการกนั บุคคลไว้เป็นพยานโดยไมด่ ำ� เนนิ คดี พ.ศ. 2561 (ประกาศราชกิจจานุเบกษา เลม่ 135 ตอนท่ี 84 ก เม่ือวนั ที่ 19 ตลุ าคม 2561) 3. ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เร่ือง ก�ำหนดต�ำแหน่งเจ้าหน้าท่ี ของรัฐซ่ึงด�ำรงต�ำแหน่งตั้งแต่อ�ำนวยการระดับสูงหรือเทียบเท่าลงมา พ.ศ. 2562 (ประกาศราชกิจจานุเบกษา เลม่ 136 ตอนที่ 14 ก เม่ือวนั ที่ 31 มกราคม 2562) 4. ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงอื่ นไขการแต่งต้งั หวั หน้าพนักงานไต่สวน พ.ศ. 2562 (ประกาศราชกิจจานุเบกษา เล่ม 136 ตอนท่ี 98 ก เมื่อวันที่ 20 กนั ยายน 2562) รายงานประจำ� ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการปอ้ งกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ 175
ด้านตรวจสอบทรพั ยส์ ิน 1. ระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่าด้วยการตรวจสอบทรัพย์สิน และหน้ีสินของเจ้าพนักงานของรัฐและการด�ำเนินคดีท่ีเกี่ยวข้องกับการยื่นบัญชี พ.ศ. 2561 (ประกาศ ราชกจิ จานเุ บกษา เลม่ 135 ตอนที่ 81 ก เมื่อวันท่ี 12 ตุลาคม 2561) 2. ระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่าด้วยการย่ืนบัญชีการตรวจสอบ ทรัพยส์ นิ และหน้ีสินของพนักงานเจา้ หน้าทีต่ ามมาตรา 158 และการด�ำเนนิ คดที ี่เกย่ี วข้องกบั การย่ืนบัญชี พ.ศ. 2561 (ประกาศราชกจิ จานเุ บกษา เล่ม 135 ตอนท่ี 87 ก เมื่อวันท่ี 1 พฤศจกิ ายน 2561) 3. ระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่าด้วยการย่ืนบัญชีการตรวจสอบ ทรพั ยส์ ินและหนี้สินของพนกั งานเจา้ หน้าทีต่ ามมาตรา 158 และการดำ� เนนิ คดที ี่เก่ียวขอ้ งกบั การยนื่ บัญชี (ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ. 2562 (ประกาศราชกิจจานเุ บกษา เลม่ 135 ตอนที่ 81 ก เม่อื วนั ที่ 12 ตลุ าคม 2561) 4. ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง ก�ำหนดต�ำแหน่งของ ผู้บริหารท้องถ่ิน รองผู้บริหารท้องถ่ิน ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่นขององค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นท่ีต้องย่ืนบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินตามมาตรา 102 (9) พ.ศ. 2561 (ประกาศราชกิจจานุเบกษา เลม่ 135 ตอนท่ี 87 ก เมอ่ื วนั ที่ 1 พฤศจิกายน 2561) 5. ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์ ข้ันตอน และวิธีการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน พ.ศ. 2561 (ประกาศราชกิจจานุเบกษา เล่ม 135 ตอนที่ 81 ก เม่อื วนั ที่ 12 ตลุ าคม 2561) 6. ประกาศคณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ แหง่ ชาติ เรอ่ื ง ก�ำหนดตำ� แหน่งของเจ้าพนกั งาน ของรัฐซ่งึ จะต้องยน่ื บญั ชีทรัพย์สนิ และหนสี้ นิ ตามมาตรา 103 พ.ศ. 2561 (ประกาศราชกิจจานเุ บกษา เล่ม 135 ตอนท่ี 87 ก เมอ่ื วันท่ี 1 พฤศจิกายน 2561) 7. ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เร่ือง หลักเกณฑ์และวิธีการ ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของเจ้าพนักงานของรัฐต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 (ประกาศ ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 135 ตอนที่ 81 ก เม่อื วันที่ 12 ตลุ าคม 2561) 8. ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง ก�ำหนดต�ำแหน่งของ ผู้มีหน้าท่ียื่นบัญชีทรัพย์สินและหน้ีสินตามมาตรา 102 พ.ศ. 2561 (ประกาศราชกิจจานุเบกษา เล่ม 135 ตอนที่ 87 ก เมอ่ื วันท่ี 1 พฤศจิกายน 2561) 9. ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง ก�ำหนดต�ำแหน่งของ ผมู้ ีหน้าท่ีย่ืนบัญชที รัพย์สินและหน้สี ินตามมาตรา 102 (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 2561 (ประกาศราชกิจจานเุ บกษา เลม่ 135 ตอนที่ 87 ก เมือ่ วันที่ 1 พฤศจกิ ายน 2561) 10. ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง ก�ำหนดต�ำแหน่งของ ผู้มีหน้าท่ีย่ืนบัญชีทรัพย์สินและหน้ีสินตามมาตรา 102 (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2561 (ประกาศราชกิจจานุเบกษา เลม่ 135 ตอนที่ 87 ก เม่ือวนั ที่ 1 พฤศจิกายน 2561) 11. ประกาศคณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามการทุจรติ แห่งชาติ เรื่อง หลกั เกณฑข์ องผูซ้ ึ่งอยู่กิน กนั ฉนั สามภี รยิ าโดยมิได้จดทะเบียนสมรสอันถือว่าเป็นค่สู มรส พ.ศ. 2561 (ประกาศราชกิจจานเุ บกษา เล่ม 135 ตอนที่ 87 ก เม่ือวนั ที่ 1 พฤศจิกายน 2561) 12. ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง ก�ำหนดต�ำแหน่งของ เจ้าพนักงานของรัฐซ่ึงจะต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหน้ีสินตามมาตรา 103 (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2561 (ประกาศ ราชกจิ จานเุ บกษา เล่ม 135 ตอนท่ี 87 ก เมือ่ วนั ที่ 1 พฤศจกิ ายน 2561) 176 รายงานประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
13. ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เร่ือง ก�ำหนดต�ำแหน่งของ ผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถ่ินขององค์กรปกครอง ส่วนทอ้ งถิ่นที่ต้องเปิดเผยบัญชีทรัพยส์ ินและหน้ีสิน พ.ศ. 2561(ประกาศราชกจิ จานุเบกษา เล่ม 135 ตอนที่ 87 ก เม่อื วันที่ 1 พฤศจกิ ายน 2561) 14. ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เร่ือง หลักเกณฑ์และวิธีการ ลงลายมือชื่อหรือกระท�ำด้วยวิธีอ่ืนใดแทนการลงลายมือชื่อก�ำกับไว้ในบัญชีทรัพย์สินและหน้ีสิน พ.ศ. 2562 (ประกาศราชกิจจานเุ บกษา เล่ม 136 ตอนท่ี 75 ก เมอื่ วนั ท่ี 12 มถิ นุ ายน 2562) ด้านปอ้ งกันการทุจรติ 1. ระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการ รับฟังความคิดเห็นสาธารณะในการจัดท�ำมาตรการ ความเห็น และข้อเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรี รัฐสภา ศาล องค์กรอิสระ หรือองค์กรอัยการ พ.ศ. 2561 (ประกาศราชกิจจานุเบกษา เล่ม 135 ตอนที่ 84 ก เมื่อวันท่ี 19 ตุลาคม 2561) ด้านการบรหิ ารงานทวั่ ไป 1. ระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทจุ รติ แหง่ ชาติ วา่ ดว้ ยการจัดการพยานหลกั ฐาน และทรัพย์สินท่ีได้มาเน่ืองจากการด�ำเนินการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและ ปราบปรามการทจุ รติ พ.ศ. 2562 (ประกาศราชกิจจานเุ บกษา เลม่ 136 ตอนท่ี 61 ก เมื่อวนั ที่ 7 พฤษภาคม 2562) 2. ระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่าด้วยการแต่งต้ังและเบ้ียประชุม คณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ และคณะบุคคล เพื่อช่วยเหลือคณะกรรมการ ป.ป.ช. หรือส�ำนักงาน ในการปฏิบตั หิ น้าท่ีทไี่ มใ่ ช่การไต่สวน พ.ศ. 2561 (ประกาศราชกจิ จานุเบกษา เล่ม 135 ตอนท่ี 106 ก เมือ่ วันที่ 14 ธนั วาคม 2561) 3. ระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่าด้วยผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการ ไตส่ วนและเบย้ี ประชมุ ของคณะกรรมการไต่สวน พ.ศ. 2561 (ประกาศราชกจิ จานเุ บกษา เล่ม 135 ตอนที่ 106 ก เม่อื วนั ท่ี 14 ธนั วาคม 2561) 4. ระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ว่าด้วยการใช้เงินราชการลับ พ.ศ. 2562 (ประกาศราชกจิ จานุเบกษา เล่ม 136 ตอนที่ 97 ก เมอื่ วนั ท่ี 17 กนั ยายน 2562) 5. ระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่าด้วยการเงินและการเก็บรักษาเงิน พ.ศ. 2561 (ประกาศราชกิจจานุเบกษา เลม่ 135 ตอนท่ี 104 ก เมอ่ื วันที่ 6 ธันวาคม 2561) 6. ระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ว่าด้วยกองทุนป้องกันและ ปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2562 (ประกาศราชกิจจานุเบกษา เล่ม 136 ตอนที่ 16 ก เม่ือวันท่ี 8 กุมภาพันธ์ 2562) ดา้ นการบริหารงานทรัพยากรบุคคล 1. ระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่าด้วยการบริหารทรัพยากรบุคคล ของสำ� นักงาน ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 (ประกาศราชกจิ จานุเบกษา เลม่ 135 ตอนท่ี 86 ก เมอ่ื วนั ที่ 29 ตุลาคม 2561) 2. ประกาศส�ำนักงาน ป.ป.ช. เร่ือง มาตรฐานก�ำหนดต�ำแหน่งข้าราชการส�ำนักงาน ป.ป.ช. ก�ำหนด เมอื่ วนั ที่ 6 ธนั วาคม 2561 รายงานประจำ� ปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทจุ รติ แห่งชาติ 177
3. แผนผังเส้นทางความก้าวหน้าของข้าราชการส�ำนักงาน ป.ป.ช. ตามมติ กปปช. ครั้งที่ 4/2561 เมื่อวนั ท่ี 20 พฤศจกิ ายน 2561 4. ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง การแบ่งส่วนราชการและ หน้าท่ีและอ�ำนาจของส่วนราชการในสังกัดส�ำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2561 (ประกาศราชกจิ จานเุ บกษา เลม่ 135 ตอนที่ 91 ก เมือ่ วนั ที่ 9 พฤศจกิ ายน 2561) 5. ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เร่ือง การแบ่งส่วนราชการและ หน้าท่ีและอ�ำนาจของส่วนราชการในสังกัดส�ำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2562 (ประกาศราชกิจจานุเบกษา เลม่ 136 ตอนที่ 87 ก เม่ือวนั ที่ 26 กรกฎาคม 2562) 6. ระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่าด้วยเครื่องแบบประธานกรรมการ และกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2561 (ประกาศราชกิจจานุเบกษา เล่ม 135 ตอนท่ี 102 ก เมือ่ วันท่ี 3 ธันวาคม 2561) 7. ระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่าด้วยเคร่ืองแบบท่ีปรึกษา เลขานุการ และผู้ช่วยเลขานุการประธานกรรมการและกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2561 มีผลใช้บังคับ เม่ือวันท่ี 4 ธันวาคม 2561 (ประกาศราชกิจจานุเบกษา เล่ม 135 ตอนที่ 102 ก เมือ่ วันที่ 3 ธันวาคม 2561) 8. ประกาศคณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามการทุจรติ แหง่ ชาติ เรอ่ื ง ก�ำหนดตำ� แหนง่ ทางบรหิ ารของสำ� นักงาน ป.ป.ช. (ประกาศราชกิจจานเุ บกษา เล่ม 135 ตอนที่ 105 ก เมอ่ื วนั ที่ 7 ธนั วาคม 2561) 9. ประกาศคณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ ริตแหง่ ชาติ เร่ือง หลักเกณฑ์และวิธีการคดั เลอื ก ข้าราชการสำ� นกั งาน ป.ป.ช. เพอื่ เลื่อนขนึ้ แต่งต้งั ให้ดำ� รงต�ำแหน่งทางบริหารหรือต�ำแหนง่ อน่ื ทเ่ี ทยี บเท่า พ.ศ. 2561 (ประกาศราชกจิ จานเุ บกษา เล่ม 135 ตอนที่ 105 ก เม่อื วนั ท่ี 7 ธนั วาคม 2561) 10. ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทจุ ริตแห่งชาติ เร่ือง เทยี บต�ำแหนง่ รองเลขาธกิ าร คณะกรรมการ ป.ป.ช. (ประกาศราชกิจจานเุ บกษา เลม่ 135 ตอนท่ี 105 ก เมอื่ วนั ที่ 7 ธนั วาคม 2561) 11. ประกาศคณะกรรมการปอ้ งกันและปราบปรามการทุจริตแหง่ ชาติ เร่ือง เทียบตำ� แหนง่ ข้าราชการ ส�ำนกั งาน ป.ป.ช. (ประกาศราชกจิ จานเุ บกษา เล่ม 135 ตอนที่ 105 ก เม่อื วันท่ี 7 ธนั วาคม 2561) 12. ระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่าด้วยเงินเพ่ิมค่าตอบแทนพิเศษ ส�ำหรับต�ำแหน่งที่มีเหตุพิเศษของข้าราชการส�ำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2562 (ประกาศราชกิจจานเุ บกษา เล่ม 136 ตอนที่ 81 ก เม่อื วนั ที่ 5 กรกฎาคม 2562) 13. ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เร่ือง การอุทธรณ์ และการพิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์ พ.ศ. 2562 (ประกาศราชกิจจานุเบกษา เล่ม 136 ตอนที่ 96 ก เมื่อวันท่ี 13 กันยายน 2562) 14. ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เร่ือง หลักเกณฑ์ และวิธีการ ให้ข้าราชการส�ำนักงาน ป.ป.ช. ได้รับเงินเดือนในกรณีที่ได้รับคุณวุฒิเพิ่มข้ึนหรือสูงขึ้น พ.ศ. 2562 (ประกาศ ราชกจิ จานุเบกษา เลม่ 136 ตอนท่ี 83 ก เม่ือวันท่ี 11 กรกฎาคม 2562) 15. ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เร่ือง ก�ำหนดโรคอันมีลักษณะ ตอ้ งห้ามทจี่ ะเป็นขา้ ราชการสานกั งาน ป.ป.ช. พ.ศ. 2562 (ประกาศราชกจิ จานุเบกษา เล่ม 136 ตอนที่ 96 ก เม่ือวันท่ี 13 กนั ยายน 2562) 178 รายงานประจ�ำปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามการทจุ รติ แห่งชาติ
5. ด้านการพฒั นาบุคลากร การพฒั นาบุคลากร (Human Resource Development) สถาบนั การป้องกนั และปราบปรามการทจุ ริตแห่งชาติ สญั ญา ธรรมศกั ด์ิ เป็นหนว่ ยงานทีม่ หี นา้ ที่รบั ผิดชอบ และดำ� เนินการพัฒนาบุคลากรท้งั ภายในและภายนอกสำ� นกั งาน ป.ป.ช. ใหม้ คี วามรู้ ความสามารถ มที กั ษะต่าง ๆ ที่จ�ำเป็นต่อการปฏิบัติงานเพ่ือตอบสนองต่อยุทธศาสตร์ระดับชาติ และยุทธศาสตร์ของหน่วยงาน โดยมี กระบวนการพัฒนาบุคลากรที่เป็นไปตามมาตรฐาน ตามข้ันตอน1 ดังน้ี 1) การส�ำรวจและก�ำหนดความต้องการ ในการพัฒนาบุคลากร 2) การวางแผนการพัฒนาบุคลากร 3) การคัดเลือก ออกแบบ และด�ำเนินกิจกรรม การพัฒนาบุคลากร 4) ประเมินผลการพฒั นาบุคลากร ปรากฏตามภาพที่ 1 ภาพที่ 1 กระบวนการพัฒนาบุคลากร การสำ� รวจและก�ำหนดความตอ้ งการในการพัฒนาบคุ ลากร l วิเคราะห์สภาพปญั หา ความจ�ำเป็น l Competency Gap Analysis การวางแผนการพัฒนาบคุ ลากร l จดั ล�ำดับความส�ำคัญในการพัฒนาบุคลากร l กลมุ่ เป้าหมาย ผรู้ บั ผิดชอบ ระยะเวลาการพัฒนา ทรัพยากรท่จี �ำเปน็ l ก�ำหนดแผนการพฒั นาบคุ ลากร การคดั เลือก ออกแบบ และดำ� เนนิ กิจกรรมการพฒั นาบุคลากร l ก�ำหนดวัตถุประสงค์ เนอ้ื หา/หลักสตู ร l วิธกี าร รูปแบบ กจิ กรรม และรายละเอียดตา่ ง ๆ การประเมินผลการพฒั นาบคุ ลากร l ประเมนิ ผลเมือ่ เสรจ็ สิ้นโครงการ l ตดิ ตามผลการน�ำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ภายหลงั การอบรม l สรปุ ผลการประเมนิ และตดิ ตามผลให้ผบู้ ริหารรับทราบและทบทวนการด�ำเนนิ งาน เพอ่ื ปรบั ปรุงการด�ำเนินงาน ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 สถาบนั การป้องกนั และปราบปรามการทจุ รติ แห่งชาติ สัญญา ธรรมศกั ด ์ิ ได้ด�ำเนินการพัฒนาบุคลากร ท้ังภายในและภายนอกส�ำนักงาน ป.ป.ช. ด้วยการพัฒนาในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การฝึกอบรม การสัมมนา การให้ทุนการศึกษา การศึกษาดูงาน ฯลฯ (ภาพที่ 2) ซึ่งผลการด�ำเนินการพบว่า มีการพัฒนาบุคลากรไปแล้วทั้งส้ิน 59,307 คน แบ่งเป็นบุคลากรภายใน จ�ำนวน 2,1972 คน และบุคลากร ภายนอก จ�ำนวน 57,110 คน ดังปรากฏตามตารางท่ี 1 และเมื่อเปรียบเทียบกับปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 พบวา่ ในภาพรวม ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 มจี ำ� นวนบคุ ลากรได้รับการพฒั นาสูงกวา่ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 ดงั ปรากฏตามตารางท่ี 1 และภาพที่ 3 1 กระบวนการพัฒนาบุคลากรตามแนวคิดของ Heneman, Schwab, Fossum, & Dyer 2 บุคลากร 1 คน สามารถเข้ารบั การพฒั นาไดม้ ากกว่า 1 คร้ัง รายงานประจำ� ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามการทจุ รติ แหง่ ชาติ 179
ภาภพาทพ่ี ท2ี่ ภ2าภพารพวรมวกมากราพรฒั พนฒั านบาคุ บลคุ าลการกขรอขงอสงำ� สนากั นงกั างนานป.ปป..ปช..ช. กกาารรดด�ำาเเนนนิ ินกกาารรพพฒั ัฒนนาบาบุคลุคาลการกขรอขงอสงำ� สนาักนงาักนงาปน.ปป.ช.ป. .ช. การพัฒนาบคุ ลากรภายใน การพฒั นาบคุ ลากรภายนอก โครงการพกฒั านราพบัฒุคนลาากบรุคตลามากสารยภงาายนใน(15 โครงการ) โครงการฝึกกอบารรพม/ัฒสมันมานบาุค ล(2ากโรคภรงากยานร)อก โโคครรงงกกาารรพพัฒฒั นนาาบบุคุคลลาากกรรตเาพมอื่ สเาสยรงิมาสนรา้(1ง5ทโักคษรงะการ) กาโรคพรัฒงกนาารใฝนึกรูปอบแบรมบ/อสนื่ มั ๆม น (า1 ก(2ิจกโครรรงมก)าร) โกคารรงปกฏารบิ พตั ัฒิงานนา บ(9ุคลโคากรงรกเพารอ่ื )เสริมสรา้ งทักษะ การพัฒนาในรปู แบบอื่น ๆ (1 กจิ กรรม) กโาครรปงกฏาิบรตั พงิ ัฒานนาบ(9คุ ลโคารกงรกเาพร)ื่อเตรียมความพรอ้ ม โสคกู่รงากรเาปร็นพผัฒูบ้ นรหิาบารคุ ล (า3กโรคเพรงื่อกเาตรร)ียมความพร้อม สู่การเป็นผูบ้ ริหาร (3 โครงการ) ตาตราารงาทงี่ ท1ี่ 1แสแดสงดผงลผกลากราพรฒั พนัฒานบาุคบลคุ าลการกจรำ� จแานแกนตกาตมาปมรปะรเภะเทภกทลกมุ่ ลเมุ่ปเ้าปห้ามหามยาย ปงี บปปงี รบะปมราะณมาพณ.ศพ. 2.ศ5.621561 ปปีงบีงบปปรระะมมาาณณ22556622 ประเภปทรบะเคุ ภลทาบกุครทล่ไีาดกร้รบัท่ไี ด้รบั รปู แรบปู บแกบารบพกัฒานราพฒั นา รปู รูปแแบบบบกกาารรพพัฒัฒนนาา การพกฒั านราพฒั นา (Tฝrึก(aคอinนบ(iT)รฝnมrึกg(aคอ)inนบi)รnมg) (No3(วnNธิ o–กี3วnาtิธรr–aกีอiาื่นntรrๆiaอniื่นgn)ๆing) รวรมวม (No(3Nวnิธo3–ีกวnิธาt–รกีraอาti่นืรrnaอๆini่ืนngๆin) g) รวมรวม (คน()คน) (ค(นค)น) (Tฝrกึ aอinบiรnมg) (คน(ค)น) (คน()คน) ((คคนน)) บคุ ลาบกุครภลาายกใรนภายใน 1,2821,282 1,017,8078 2,326,3060 11,965 232232 2,129,7197 บคุ ลาบกคุ รลภาากยรนภอากรยวนมอก 13711,43179 22,223321,,1331819 2222,4424,,8484088 22,21117005 55765,,19603,90200 5597,,531710,07110 รวม 1,419 23,389 24,808 2,175 57,132 59,307 ภาพภทาี่ พ3ทกี่ า3รกเปารเียปบรเียทบียเบทียจบำ� นจวานวบนุคบลคุาลการกทรไ่ี ทดี่ไ้รดับร้ กบั ากราพรัฒพัฒนานบาุคบลุคาลการกใรนในชช่ว่วงปงปงี ีงบบปปรระะมมาาณณ พ.ศพ..ศ2.5265161- 2–5265262 จานวนบคุ ลากรท่ีไดร้ บั การพฒั นา 59,307 24,808 0 10,000 20,000 30,000 40,000 50,000 60,000 70,000 ปี 2562 ปี 2561 3 วธิ ีการอนื่ ๆ เชน่ การศึกษาดงู าน การแลกเปล่ยี นเรยี นรู้ การให้ความรู้ เปน็ ต้น หน้า 171 3 วธิ ีการอื่น ๆ เชน่ การศึกษาดูงาน การแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ การใหค้ วามรู้ เป็นตน้ รายงานประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 180 รายงานประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามการทุจริตแหง่ ชาติ
ผลการด�ำเนนิ โครงการพฒั นาบคุ ลากรในปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 สามารถสรปุ ได้ ดงั นี้ n การพัฒนาบคุ ลากรภายใน 1. โครงการพฒั นาบุคลากรตามสายงาน 1.1 สายงานป้องกนั การทุจริต เพื่อให้บุคลากรด้านป้องกันการทุจริตมีความรู้ ความเข้าใจ และมีสมรรถนะสูงข้ึน สามารถ ปฏิบัติงานได้อย่างมืออาชีพ มีความเป็นผู้น�ำและสามารถบูรณาการการท�ำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายเพื่อร่วมกัน ป้องกันการทุจริตมีกระบวนทัศน์ (mindset) ในการปฏิบัติงาน สามารถถ่ายทอดยุทธศาสตร์ไปสู่แผนงาน/ โครงการตามยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตระยะที่ 3 ได้ ตลอดจนบุคลากรจะได้ แลกเปล่ียนประสบการณ์ และให้ข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาระบบงานด้านการป้องกันการทุจริตให้มีประสิทธิภาพ ย่ิงข้ึนต่อไป โครงการ/กจิ กรรม ผลการดำ� เนนิ งาน 1. โครงการฝึกอบรมหลักสูตรเจ้าพนักงานป้องกันการทุจริต มีผเู้ ข้ารบั การฝึกอบรมผา่ นเกณฑ์ตามทีห่ ลักสตู รก�ำหนด ระดบั กลาง รุ่นท่ี 2 จ�ำนวน 57 คน 2. โครงการฝึกอบรมหลักสูตรก�ำหนดและพัฒนามาตรการป้องกัน มีผเู้ ข้ารบั การฝกึ อบรมผา่ นเกณฑต์ ามท่ีหลกั สูตรก�ำหนด การทุจรติ ของส�ำนักงาน ป.ป.ช. ประจ�ำปี 2562 จำ� นวน 23 คน 3. โครงการฝึกอบรมหลักสูตรเจ้าพนักงานป้องกันการทุจริตท่ีได้ มผี เู้ ขา้ รับการฝึกอบรมผา่ นเกณฑต์ ามท่หี ลักสูตรก�ำหนด รบั โอนและปรบั เปล่ียนสายงาน จ�ำนวน 60 คน 1.2 สายงานตรวจสอบทรพั ยส์ นิ การฝึกอบรมในสายงานตรวจสอบทรัพย์สิน เพ่ือให้บุคลากรที่ปฏิบัติงานด้านการตรวจสอบ ทรัพย์สินมีความรู้ ความเข้าใจ และมีทักษะ สามารถน�ำความรู้ท่ีได้รับไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานจริงตาม แนวทางท่เี หมาะสม เพ่อื เป็นพลังขับเคล่ือนยทุ ธศาสตรช์ าตวิ ่าดว้ ยการปอ้ งกนั และปราบปรามการทุจริตใหบ้ รรลุ วัตถุประสงค์ โครงการ/กิจกรรม ผลการด�ำเนินงาน 1. โครงการฝึกอบรมหลักสูตรเจ้าพนักงานตรวจสอบทรัพย์สิน มีผเู้ ข้ารบั การฝกึ อบรมผา่ นเกณฑ์ตามที่หลักสตู รก�ำหนด ระดบั ต้น รนุ่ ท่ี 7 จ�ำนวน 25 คน 2. โครงการฝึกอบรมหลักสูตรเจ้าพนักงานตรวจสอบทรัพย์สิน มีผู้เข้ารับการฝึกอบรมผ่านเกณฑ์ตามทหี่ ลักสูตรก�ำหนด ระดับกลาง ร่นุ ที่ 3-5 (3 รุ่น) จ�ำนวน 179 คน 1.3 สายงานปราบปรามการทุจริต พนักงานไตส่ วนของส�ำนกั งาน ป.ป.ช. จะตอ้ งเปน็ ผู้มีความรู้ และประสบการณท์ เ่ี ป็นประโยชน์ ในการไต่สวนและวินิจฉัยคดี หรอื การให้ความเหน็ ทางกฎหมาย หรือการดำ� เนนิ คดีในช้ันศาล ดังนั้น หลกั สตู รต่าง ๆ ที่จัดท�ำขึ้น ก็เพื่อพัฒนาศักยภาพของพนักงานไต่สวน จึงเป็นหลักสูตรท่ีคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะองค์กร กลางบริหารงานบุคคลของส�ำนักงาน ป.ป.ช. ก�ำหนดข้ึน เพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ต�ำแหน่งพนักงาน ไตส่ วน อีกทงั้ ยงั พัฒนาผไู้ ด้รับการแต่งตัง้ เปน็ พนกั งานไตส่ วน ให้มีทกั ษะในการไตส่ วนขอ้ เท็จจริง พร้อมทั้งปฏิบัติ หน้าทีใ่ นฐานะพนกั งานไต่สวนและหวั หน้าพนักงานไตส่ วนได้ถูกตอ้ งตามขัน้ ตอนทกี่ ฎหมายและระเบยี บกำ� หนด รายงานประจำ� ปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจรติ แห่งชาติ 181
โครงการ/กิจกรรม ผลการด�ำเนินงาน 1. โครงการฝึกอบรมหลักสูตรการไต่สวนคดีทรัพยากรธรรมชาติและ มผี ู้เข้ารับการฝึกอบรมผ่านเกณฑ์ตามท่ีหลกั สตู รก�ำหนด สิง่ แวดล้อม จ�ำนวน 47 คน 2. โครงการฝึกอบรมหลักสูตรการปฏิบัติหน้าที่นิติกรของ มีผเู้ ข้ารบั การฝกึ อบรมผา่ นเกณฑต์ ามทห่ี ลักสูตรก�ำหนด สำ� นกั งาน ป.ป.ช. จำ� นวน 189 คน 3. โครงการฝึกอบรมหลกั สตู รผู้ชว่ ยพนกั งานไตส่ วน ร่นุ ท่ี 5 มผี ู้เข้ารบั การฝกึ อบรมผ่านเกณฑ์ตามที่หลักสตู รก�ำหนด จ�ำนวน 47 คน 4. โครงการฝึกอบรมหลักสูตรการไต่สวนคดีร�่ำรวยผิดปกติ ประจ�ำ มีผูเ้ ข้ารับการฝกึ อบรมผ่านเกณฑ์ตามท่ีหลักสูตรก�ำหนด ปี 2562 รุน่ ที่ 3-4 (2 รนุ่ ) จำ� นวน 111 คน 5. โครงการฝึกอบรมหลักสูตรวิชาชีพพนักงานไต่สวน ระดับกลาง มผี ู้เขา้ รับการฝึกอบรมผา่ นเกณฑ์ตามท่ีหลกั สตู รก�ำหนด รุ่นท่ี 7-9 (3 ร่นุ ) จ�ำนวน 144 คน 6. โครงการฝึกอบรมหลักสูตรแนวทางการปฏิบัติด้านการปราบปราม มผี ู้เขา้ รบั การฝกึ อบรมผ่านเกณฑต์ ามท่ีหลักสูตรก�ำหนด การทจุ ริตระหวา่ งประเทศ (Best practice) จ�ำนวน 17 คน 7. โครงการฝึกอบรมหลักสูตรยุทธวิธีการด�ำเนินการตามกฎหมาย มผี ู้เข้ารับการฝึกอบรมผ่านเกณฑต์ ามที่หลักสตู รก�ำหนด อาญา จำ� นวน 34 คน 8. โครงการทุนพฒั นาบุคลากรส�ำนักงาน ป.ป.ช. (ทุน IACA) มีผู้เข้ารับการฝึกอบรมผา่ นเกณฑ์ตามทีห่ ลกั สูตรก�ำหนด จำ� นวน 1 คน 1.4 สายงานสนบั สนุน สำ� นกั งาน ป.ป.ช. ใหค้ วามสำ� คัญกับการพัฒนาข้าราชการทกุ สายงาน เพ่ือใหส้ ามารถท�ำงานได้ บรรลุตามเป้าหมายท่ีก�ำหนด ซึ่งสายงานสนับสนุน เป็นสายงานท่ีมีหน้าท่ีส่งเสริมสนับสนุนการปฏิบัติงาน ด้านตา่ ง ๆ ของส�ำนักงาน ป.ป.ช. เป็นไปอย่างราบร่ืน ดงั น้ัน เพื่อเสรมิ สร้างและพฒั นาความรคู้ วามสามารถของ บุคลากรท่ีปฏิบัติงาน และการเตรียมความพร้อมให้บุคลากรในสายงานสนับสนุน จึงต้องพัฒนาให้มีความรู้ ความเข้าใจ เพิ่มพูนทักษะให้มีศักยภาพสูงขึ้น และเสริมสร้างทัศนคติเชิงสร้างสรรค์ เสริมสร้างวัฒนธรรม ของการท�ำงานร่วมกัน เพ่ือให้ผู้เข้ารับการอบรมสามารถน�ำความรู้ที่ได้รับไปปฏิบัติงานในความรับผิดชอบได้ อย่างถกู ตอ้ ง มีประสิทธิภาพ โครงการ/กิจกรรม ผลการดำ� เนนิ งาน 1. โครงการฝึกอบรมหลักสูตรพัฒนาศักยภาพด้านการสืบสวนและ มีผเู้ ข้ารบั การฝึกอบรมผ่านเกณฑต์ ามทีห่ ลกั สตู รก�ำหนด การข่าวเชงิ ลกึ รุ่นที่ 2-3 (2 รุ่น) จำ� นวน 70 คน 2. โครงการฝึกอบรมหลักสูตรแนวทางการปฏิบัติตาม พ.ร.บ. มีผเู้ ข้ารับการฝึกอบรมผ่านเกณฑ์ตามทหี่ ลกั สตู รก�ำหนด การจดั ซื้อจดั จ้างและการบรหิ ารพสั ดุภาครฐั พ.ศ. 2560 จำ� นวน 74 คน 182 รายงานประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการปอ้ งกันและปราบปรามการทุจรติ แห่งชาติ
2. โครงการพฒั นาบุคลากรเพอื่ เสรมิ สรา้ งทักษะการปฏบิ ัตงิ าน โครงการ/กิจกรรม ผลการดำ� เนินงาน 1. โครงการฝึกอบรมหลักสูตรการพัฒนาข้าราชการท่ีได้รับการแต่งตั้ง มผี ู้เขา้ รับการฝึกอบรมผา่ นเกณฑต์ ามท่หี ลักสตู รก�ำหนด เปน็ ข้าราชการของสำ� นกั งาน ป.ป.ช. ร่นุ ที่ 26 จำ� นวน 78 คน 2. โครงการจัดส่งบุคลากรเข้ารับการอบรม/ประชุม/สัมมนากับ มผี ู้ไดร้ ับการพัฒนาจ�ำนวน 144 คน แบ่งเปน็ หน่วยงานภายนอกทั้งในประเทศและต่างประเทศ ประจ�ำปี - กรณีมคี า่ ใชจ้ ่าย จ�ำนวน 65 คน พ.ศ. 2562 - กรณีไมม่ คี ่าใช้จ่าย จำ� นวน 79 คน 3. โครงการเสริมสร้างทักษะภาษาเพื่อนบ้านเพ่ือสนับสนุนภารกิจ มผี ู้เขา้ รบั การฝึกอบรมผา่ นเกณฑต์ ามท่หี ลักสูตรก�ำหนด การปอ้ งกันและปราบปรามการทจุ ริตในจงั หวัดชายแดนภาคใต้ จ�ำนวน 8 คน 4. โครงการสัมมนาเพิ่มประสิทธิภาพการพัฒนาบุคลากรด้านการ มีผูเ้ ขา้ รับการฝกึ อบรมผ่านเกณฑ์ตามที่หลักสตู รก�ำหนด ป้องกันและปราบปรามการทุจริตเพื่อขับเคล่ือนแผนยุทธศาสตร์ จ�ำนวน 36 คน การบริหารและพฒั นาทรัพยากรบุคคล สำ� นกั งาน ป.ป.ช. 5. โครงการพฒั นาทกั ษะภาษาอังกฤษ มีผู้เขา้ รบั การฝึกอบรมผา่ นเกณฑต์ ามท่หี ลกั สตู รก�ำหนด จำ� นวน 148 คน 6. โครงการพฒั นาผู้น�ำการเปลยี่ นแปลงในยคุ ไทยแลนด์ 4.0 : ผนู้ �ำ มีผเู้ ขา้ รับการฝึกอบรมผ่านเกณฑต์ ามที่หลกั สตู รก�ำหนด ที่เป็นเลิศ ทมี ทเ่ี ปน็ เลศิ เพอ่ื ผลลัพธท์ ี่เปน็ เลศิ จำ� นวน 29 คน 7. โครงการพัฒนาเส้นทางการพัฒนาบุคลากร Training Road มผี เู้ ขา้ รบั การฝึกอบรมผา่ นเกณฑต์ ามทห่ี ลักสูตรก�ำหนด map ตามสายงานในสำ� นกั งาน ป.ป.ช. จ�ำนวน 209 คน 8. โครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการนานาชาติ เร่ือง การขัดกัน มผี เู้ ข้ารับการฝึกอบรมผ่านเกณฑต์ ามที่หลักสตู รก�ำหนด แหง่ ผลประโยชน์ และผลประโยชนท์ บั ซ้อนในภมู ิภาคอาเซยี น จ�ำนวน 82 คน 9. โครงการฝึกอบรมหลักสูตรเทคนคิ การพัฒนาความคดิ สร้างสรรค์ มีผเู้ ขา้ รับการฝกึ อบรมผ่านเกณฑ์ตามทห่ี ลักสตู รก�ำหนด สู่การพัฒนาสอ่ื ประชาสมั พนั ธ์เพ่ือตอ่ ต้านการทุจริต จ�ำนวน 53 คน 10. โครงการบริหารจัดการความรู้ ส�ำนักงาน ป.ป.ช. โดยวิธีการ มีผู้เขา้ รบั การฝกึ อบรมผา่ นเกณฑต์ ามที่หลักสูตรก�ำหนด พสี่ อนนอ้ ง (Coaching) (4 ครง้ั ) จ�ำนวน 232 คน 3. โครงการพฒั นาบุคลากรเพอ่ื เตรียมความพรอ้ มสู่การเปน็ ผ้บู ริหาร โครงการ/กจิ กรรม ผลการด�ำเนินงาน 1. โครงการอบรมหลักสูตรนักบริหาร ป.ป.ช. ระดับกลาง (นบก.) มีผู้เข้ารับการฝึกอบรมผ่านเกณฑ์ตามท่ีหลักสูตรก�ำหนด รุ่นที่ 3 จ�ำนวน 48 คน 2. โครงการอบรมหลักสูตรนักบริหาร ป.ป.ช. ระดับสูง (นบปส. มีผู้เข้ารับการฝึกอบรมผ่านเกณฑ์ตามท่ีหลักสูตรก�ำหนด อ�ำนวยการ) รุ่นท่ี 7 จ�ำนวน 41 คน 3. โครงการอบรม “นักบริหารยุทธศาสตร์การป้องกันและปราบปราม มีผู้เข้ารับการฝึกอบรมผ่านเกณฑ์ตามท่ีหลักสูตรก�ำหนด การทจุ ริต ระดบั สงู ” (นยปส.) รุ่นที่ 10 จำ� นวน 11 คน (ข้าราชการส�ำนักงาน ป.ป.ช.) รายงานประจำ� ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามการทจุ รติ แหง่ ชาติ 183
n การพฒั นาบคุ ลากรภายนอก 1. การพฒั นาดว้ ยการฝกึ อบรม/สมั มนา โครงการ/กิจกรรม ผลการดำ� เนินงาน 1. โครงการอบรมหลักสูตรนักบริหารยุทธศาสตร์การป้องกันและ มีผู้เข้ารับการฝึกอบรมผ่านเกณฑ์ตามที่หลักสูตรก�ำหนด ปราบปรามการทจุ รติ ระดับสงู (นยปส.) รุ่นที่ 10 จ�ำนวน 67 คน 2. โครงการเสริมสร้างความรู้ เร่อื ง นติ ิเศรษฐศาสตรใ์ นการป้องกนั มีผู้เข้ารับการฝึกอบรมผ่านเกณฑ์ตามที่หลักสูตรก�ำหนด และปราบปรามการทุจรติ จ�ำนวน 143 คน 2. การพฒั นาบุคลากรภายนอกในรูปแบบอนื่ ๆ กจิ กรรม ผลการดำ� เนินงาน สนับสนนุ วทิ ยากรบรรยาย/อภปิ รายใหก้ ับหน่วยงานภายนอก มีกล่มุ เปา้ หมาย จ�ำนวน 56,900 คน n การพัฒนาบคุ ลากรเพ่ือเตรยี มความพรอ้ มในการพัฒนาส�ำนักงาน ป.ป.ช. 4.0 สำ� นักงาน ป.ป.ช. โดยส�ำนักเทคโนโลยสี ารสนเทศ ไดด้ �ำเนินการเตรยี มความพรอ้ มให้แก่เจา้ หน้าท่ี ส�ำนักงาน ป.ป.ช. เพ่ือก้าวเข้าสู่การท�ำงานในยุคส�ำนักงาน ป.ป.ช. 4.0 โดยมีการจัดอบรมเสริมทักษะให้แก่ เจ้าหน้าท่ี ป.ป.ช. ในดา้ นการสรา้ งความตระหนกั ในการปฏิบัติตามนโยบายและแนวปฏบิ ตั ใิ นการรกั ษาความมั่นคง ปลอดภัยของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ส�ำนักงาน ป.ป.ช. เทคนิคต่าง ๆ และข้อมูลอื่น ๆ ท่ีเก่ียวข้องให้แก่เจ้าหน้าท่ีส�ำนักเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยมุ่งเน้นให้เจ้าหน้าที่มีความรู้และความเข้าใจในการใช้ งานระบบเทคโนโลยีสารสนเทศให้ถูกต้องตามนโยบายและแนวปฏิบัติในการรักษาความม่ันคงปลอดภัย ของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ส�ำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อประโยชน์ในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยฯ เนื่องจากส�ำนักงาน ป.ป.ช. จะต้องเก็บรักษาข้อมูลด้านการปราบปรามการทุจริตและข้อมูลทรัพย์สินให้มี ความม่นั คงปลอดภยั นอกจากนี้ ได้มีการให้ความรู้และค�ำแนะน�ำการใช้ระบบสารสนเทศต่าง ๆ เช่น การใช้งานระบบ บรหิ ารจดั การหอ้ งประชมุ ส�ำหรบั เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ระบบงบประมาณ การเงนิ และบัญชี ระบบตรวจรบั คำ� กลา่ วหา และระบบสารสนเทศเพ่ือการรวบรวมและวิเคราะห์ทรัพยส์ ิน (ACAS) เปน็ ต้น รวมทง้ั จัดให้มีการอบรมการแก้ไข ปัญหาคอมพิวเตอร์ และระบบสารสนเทศเบอื้ งตน้ สำ� หรับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. 184 รายงานประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามการทจุ รติ แหง่ ชาติ
6. ดา้ นการพฒั นาส่ิงแวดลอ้ มภายในองคก์ ร ทรพั ยากรบุคคลถือเป็นหัวใจส�ำคัญของการพัฒนาองคก์ ร ดังน้นั การสร้างสภาพแวดลอ้ มในการท�ำงาน ท่ีดีให้แก่บุคลากรจึงมีความส�ำคัญอย่างยิ่ง เพื่อส่งเสริมให้ทรัพยากรบุคคลสามารถด�ำเนินงานตามภารกิจหลัก ขององค์กรไดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพ โดยในปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 มีการด�ำเนินการต่าง ๆ ดงั น้ี 1. กองทนุ สวัสดกิ ารส�ำนักงาน ป.ป.ช. ส�ำนกั งาน ป.ป.ช. ได้จัดใหม้ ี “กองทนุ สวัสดกิ ารสำ� นักงาน ป.ป.ช.” ตามระเบียบคณะกรรมการปอ้ งกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ว่าด้วยการจัดสวัสดิการภายในส�ำนักงานคณะกรรมการป้องกันและ ปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2554 ข้อ 9 ได้ก�ำหนดว่า “ในการจัดสวัสดิการภายในส�ำนักงาน ป.ป.ช. ใหเ้ ลขาธกิ ารแตง่ ตง้ั คณะกรรมการสวัสดกิ ารขึ้นคณะหนง่ึ เรยี กว่า “คณะกรรมการสวสั ดิการภายในสำ� นกั งาน ป.ป.ช.” ประกอบด้วย (1) เลขาธิการ หรอื รองเลขาธกิ ารทเี่ ลขาธิการมอบหมายเป็นประธานกรรมการสวัสดิการ (2) ขา้ ราชการ หรือลกู จา้ ง ตามทีเ่ ลขาธิการแต่งต้งั จากส�ำนกั ต่าง ๆ จำ� นวนไม่เกนิ เจ็ดคนเป็นกรรมการ ในการแตง่ ต้ังกรรมการ ให้แตง่ ตงั้ กรรมการอย่างน้อยสองคน ทมี่ ีคณุ วุฒหิ รือประสบการณท์ างดา้ นการเงนิ บญั ชี การพัสดแุ ละด้านนโยบายและแผนเขา้ ร่วมเปน็ กรรมการสวัสดกิ ารดว้ ย (3) ผู้แทนสมาชิกซ่ึงคัดเลือกกันเองไม่เกินเจ็ดคน เป็นกรรมการ มีวาระการด�ำรงต�ำแหน่งสองปี ผู้ท่ีพ้นจากต�ำแหน่งตามวาระอาจได้รับการคัดเลือกอีกได้ แต่จะด�ำรงต�ำแหน่งติดต่อกันเกินสองวาระไม่ได้ ในกรณีทก่ี รรมการสวสั ดิการ ซ่ึงเป็นผแู้ ทนสมาชกิ พน้ จากตำ� แหนง่ กอ่ นครบวาระใหด้ ำ� เนนิ การคัดเลือกกรรมการ สวัสดิการแทน เว้นแต่วาระของกรรมการสวัสดิการดังกล่าวเหลือไม่ถึงหน่ึงร้อยแปดสิบวัน จะไม่คัดเลือก กรรมการสวสั ดิการแทนกไ็ ด้ ในระหว่างนนั้ ใหถ้ อื วา่ คณะกรรมการสวสั ดกิ ารมจี �ำนวนเทา่ ทเ่ี หลืออยู่ ให้ผู้อ�ำนวยการส�ำนักบริหารทรัพยากรบุคคล และผู้อ�ำนวยการส�ำนักบริหารงานกลางท่ีได้รับแต่งต้ัง ตาม (2) เปน็ เลขานุการร่วมกนั และอาจแตง่ ตง้ั สมาชกิ จ�ำนวนสองคนเป็นผชู้ ่วยเลขานกุ ารได้ กรรมการสวัสดิการที่เลขาธิการแต่งต้ัง มีวาระการด�ำรงต�ำแหน่งสองปีนับแต่วันท่ีเลขาธิการแต่งต้ัง กรรมการท่ีด�ำรงต�ำแหน่งครบวาระแล้วอาจจะได้รับแต่งต้ังอีก กรรมการสวัสดิการคนใดที่พ้นจากต�ำแหน่งก่อน ครบวาระให้เลขาธิการแต่งต้งั สมาชิกเป็นกรรมการสวสั ดิการเพมิ่ เตมิ คณะกรรมการสวสั ดิการ มีอำ� นาจหน้าที่ ดังนี้ 1. ก�ำหนดนโยบาย อ�ำนวยการ การอนุมัติให้มีการจัดและยุบเลิกการจัดสวัสดิการและควบคุมดูแล การจัดสวัสดิการประเภทตา่ ง ๆ ให้เกดิ ประโยชนส์ งู สดุ ต่อข้าราชการและลกู จ้างในส�ำนักงาน ป.ป.ช. 2. ออกข้อบังคับหรือข้อปฏิบัติคณะกรรมการสวัสดิการเกี่ยวกับการรับจ่ายเงิน การจัดท�ำบัญชี การเก็บรักษาเงนิ กองทนุ สวัสดกิ าร ระเบยี บการใหบ้ ริการรา้ นค้าสวัสดิการ เพ่ือใช้ในการด�ำเนนิ การจัดสวัสดกิ าร ภายในส�ำนักงาน ป.ป.ช. ประเภทต่าง ๆ หรือที่ได้มีเพิ่มเติมในภายหลัง โดยให้ออกเป็นข้อบังคับหรือข้อปฏิบัติ คณะกรรมการสวัสดกิ าร 3. ควบคุม ดูแล การรบั เงนิ และจ่ายเงินกองทุนสวัสดิการ และการจดั สวสั ดกิ ารให้เปน็ ไป ตามระเบยี บน้ี และตามขอ้ บังคบั หรอื ข้อปฏิบตั คิ ณะกรรมการสวสั ดกิ ารตามทค่ี ณะกรรมการสวัสดกิ ารก�ำหนด 4. แต่งตั้งบุคคล คณะท�ำงาน หรือคณะอนุกรรมการเพ่ือรับผิดชอบในการจัดท�ำสวัสดิการแต่ละ ประเภททีเ่ ลขาธิการรเิ ริ่มให้จดั มีขนึ้ โดยให้ประธานกรรมการสวสั ดกิ ารลงนามในค�ำส่ัง รายงานประจำ� ปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ แห่งชาติ 185
5. การด�ำเนินการในการจัดซื้อหรือการจัดจ้างและการอนุมัติ เพื่อด�ำเนินการจัดสวัสดิการภายใน ส�ำนักงาน ป.ป.ช. ให้น�ำวิธีการในเร่ืองการจัดซ้ือหรือจัดจ้างตามระเบียบคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่าด้วยการน้ัน มาใช้บงั คบั ด�ำเนินการโดยอนุโลม โดยใหป้ ระธานกรรมการสวสั ดิการเปน็ ผู้มีอำ� นาจอนุมตั ิในการจดั ซอ้ื หรอื จัดจา้ ง 6. ด�ำเนินการจดั ประชุมคณะกรรมการสวสั ดกิ ารประจ�ำปี เพือ่ รายงานผลการด�ำเนนิ การจดั สวสั ดกิ าร และรายงานผลให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ทราบ 7. ก�ำหนดอัตราค่าบริการในการใช้บริการสวัสดิการภายในส�ำนักงาน ป.ป.ช. ที่ได้จัดให้มีข้ึน และควบคมุ การรบั เงินและใช้จ่ายเงนิ ของกองทนุ สวสั ดกิ าร 8. อนุมัติการจ้างลูกจ้างสวัสดิการ การมอบหมายงาน และให้น�ำระเบียบเกี่ยวกับลูกจ้างท่ีใช้ใน ส�ำนกั งาน ป.ป.ช. มาใช้บงั คบั โดยอนุโลม 9. อนุมัติหรือมอบอ�ำนาจให้กรรมการสวัสดิการคนหน่ึงคนใดเป็นผู้ด�ำเนินการก่อหนี้ผูกพันหรือ ลงนามในเอกสารตา่ ง ๆ แทนคณะกรรมการสวัสดกิ ารและจา่ ยเงินกองทนุ สวัสดกิ าร ตามข้อบงั คบั หรือขอ้ ปฏิบัติ คณะกรรมการสวัสดกิ ารตามท่คี ณะกรรมการสวัสดกิ ารก�ำหนด 10. ปฏิบัติการอื่นใดที่จ�ำเป็นเกี่ยวกับการจัดสวัสดิการภายในส�ำนักงาน ป.ป.ช. หรือตามท่ี คณะกรรมการ ป.ป.ช. ก�ำหนด และในกรณีที่ไม่มีระเบียบหรือข้อบังคับของคณะกรรมการสวัสดิการในเรื่องนั้น และเป็นเร่ืองที่ต้องด�ำเนินการโดยเร็ว ให้ประธานกรรมการสวัสดิการด�ำเนินการแล้วรายงานให้คณะกรรมการ สวัสดิการทราบโดยเรว็ เปน็ เฉพาะกรณี กองทุนสวสั ดกิ ารสำ� นักงาน ป.ป.ช. จดั ใหม้ ีสวสั ดกิ ารตา่ ง ๆ สำ� หรบั เจ้าหนา้ ทีส่ ำ� นักงาน ป.ป.ช. ดงั น้ี 1. การจัดให้มีการตรวจสุขภาพประจ�ำปี และตรวจต่อเนื่องรอบ 4 เดือน กับโรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องคก์ ารมหาชน) เปน็ หน่วยพยาบาลเคลอื่ นทีเ่ พอ่ื ใหบ้ ริการแก่เจ้าหนา้ ท่ีสำ� นักงาน ป.ป.ช. โดยไม่ตอ้ งเดนิ ทางไป ตรวจสขุ ภาพท่ีสถานพยาบาล มเี จ้าหน้าท่ีสำ� นักงาน ป.ป.ช. เขา้ ร่วมการตรวจสุขภาพประจ�ำปี จำ� นวน 712 คน และตรวจตอ่ เนือ่ งรอบ 4 เดือน (เฉพาะผูท้ ี่มีภาวะผดิ ปกติและต้องดูแลต่อเนือ่ ง) จำ� นวน 554 คน 2. จัดท�ำประกันอุบัติเหตุกลุ่มให้กับเจ้าหน้าท่ีส�ำนักงาน ป.ป.ช. เนื่องจากเจ้าหน้าท่ีส�ำนักงาน ป.ป.ช. มีการเดินทางอยู่ตลอดเวลาในการปฏิบัติงาน ทั้งการไปแสวงหาข้อเท็จจริงของพนักงานไต่สวนและการเดินทาง ไปราชการของเจ้าหน้าท่ีส�ำนักงาน ป.ป.ช. ต�ำแหน่งอ่ืน ๆ โดยจ่ายทุนประกันให้กับบริษัท AIA จ�ำกัด ปีละประมาณ 350,000 บาท (สามแสนห้าหม่ืนบาทถ้วน) เจ้าหน้าท่ีส�ำนักงาน ป.ป.ช. ทุกคนได้รับการประกัน อบุ ตั เิ หตกุ ลุ่มกับบริษัท AIA จ�ำกดั ดงั นี้ (1) กรณเี สยี ชีวิตโดยประสบอบุ ตั เิ หตุ จะไดร้ บั เบย้ี ประกันชีวติ จำ� นวน 100,000 บาท (2) กรณเี สียชวี ิตทีไ่ มใ่ ช่อบุ ตั เิ หตุจะไดร้ ับ 1,000 บาท 3. จัดท�ำประกันสุขภาพส�ำหรับกรรมการ ป.ป.ช. ท่ีปรึกษาฯ เลขานุการฯ ผู้ช่วยเลขานุการฯ และประกนั ภยั ส�ำหรบั เจ้าหน้าที่ท่ปี ฏบิ ัตงิ านอยู่ 4 จงั หวัดชายแดนภาคใต้ (สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธวิ าส) (1) ประกนั สุขภาพส�ำหรบั กรรมการ ป.ป.ช. เบยี้ ประกนั ภยั /คน จ�ำนวน 30,000 บาท (2) ประกนั สขุ ภาพส�ำหรับผเู้ ชย่ี วชาญ ที่ปรกึ ษาฯ เลขานกุ ารฯ ผชู้ ว่ ยเลขานุการฯ เบยี้ ประกนั ภัย/คน จ�ำนวน 15,000 บาท (3) ประกันภัยภาคใต้ส�ำหรับผู้ท่ีปฏิบัติหน้าที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธวิ าส) เบ้ยี ประกันภัย/คน จ�ำนวน 1,800 บาท 4. จัดกิจกรรมมอบทุนการศึกษาแกบ่ ตุ รขา้ ราชการและลกู จา้ งสำ� นักงาน ป.ป.ช. (1) ทุนส่งเสริมการศึกษาเพื่อช่วยเหลือส�ำหรับเจ้าหน้าที่ที่มีรายได้น้อย ประจ�ำปี 2562 จำ� นวน 100 ทนุ เป็นเงินจำ� นวน 100,000 บาท (2) ทุนเรียนดี เพ่ือเป็นการสร้างขวัญก�ำลังใจให้กับบุตรเจ้าหน้าที่ส�ำนักงาน ป.ป.ช. ท่ีเรียนดี จำ� นวน 60 ทนุ เป็นเงินจำ� นวน 180,000 บาท 186 รายงานประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการปอ้ งกันและปราบปรามการทจุ รติ แหง่ ชาติ
5. จดั หาอุปกรณอ์ อกก�ำลงั กายทัง้ ในร่มและกลางแจ้งสำ� หรับเจา้ หนา้ ท่ีสำ� นกั งาน ป.ป.ช. (1) บรหิ ารแขน-หนา้ อก-หัวไหล่ (แบบดึงยกตมุ้ นำ้� หนัก) จำ� นวน 2 ช้ิน (2) อุปกรณ์บรหิ ารสะโพก-หัวไหล่ (แบบโยก-เดนิ สลับเทา้ ) จ�ำนวน 2 ชิ้น (3) อปุ กรณบ์ รหิ ารขอ้ เข่า-ขา (แบบจกั รยานล้อเหลก็ นงิ่ ตรง) จ�ำนวน 2 ชน้ิ (4) อปุ กรณ์บริหารแขน-เขา่ -ลดหน้าท้อง (แบบถีบ-ดงึ ลอ้ ยาง) จำ� นวน 2 ชน้ิ (5) เครอ่ื งบริหารเอว-สะโพก จำ� นวน 2 ช้นิ (6) อุปกรณบ์ ริหารขาและสะโพก (แบบเดนิ สลับเทา้ ) จำ� นวน 2 ช้นิ 6. จัดให้มีตู้จ�ำหน่ายอาหารอัตโนมัติ จ�ำนวน 2 ตู้ บริเวณอาคารสถาบันฯ และอาคาร 1 และตู้น้�ำ อัตโนมตั เิ พื่อบริการเจ้าหนา้ ที่ จำ� นวน 6 ตู้ ณ บรเิ วณ อาคาร 1 อาคาร 2 อาคาร 3 อาคาร 4 (บรเิ วณห้องอาหาร ร้านคา้ สวสั ดกิ าร) อาคารสถาบันฯ และอาคาร 8 ชนั้ 7. จดั ใหม้ รี า้ นคา้ สวสั ดกิ าร เช่น ร้านอาหาร ร้านเครอื่ งดื่ม รา้ น Café Amezon และร้านคา้ สวัสดิการ เพือ่ จำ� หน่ายสนิ ค้าใหก้ ับเจ้าหนา้ ทส่ี ำ� นกั งาน ป.ป.ช. รวมถงึ ผมู้ าติดตอ่ ราชการ 8. จัดงานเกษียณอายุราชการส�ำหรับข้าราชการท่ีปฏิบัติงานจนถึงอายุครบ 60 ปี เพ่ือเป็นขวัญและ กำ� ลงั ใจให้กบั ผูท้ เี่ กษยี ณอายรุ าชการ แสดงถงึ ความรกั ความสามคั คีท่มี ีในองคก์ ร มเี จ้าหนา้ ทเี่ ขา้ รว่ มงานประมาณ 1,000 คน 9. จัดงานแสดงมุทิตาจิตแด่กรรมการ ป.ป.ช. ท่ีพ้นวาระการด�ำรงต�ำแหน่ง จ�ำนวน 2 ท่าน ได้แก่ นายปรชี า เลศิ กมลมาศ และนายสุรศกั ด์ิ คีรีวเิ ชียร มีเจา้ หนา้ ทเ่ี ข้าร่วมงานประมาณ 300 คน 10. จัดโครงการตู้ยาสามัญประจ�ำบ้านส�ำหรับเจ้าหน้าท่ีส่วนกลาง ภาค 1-9 และส�ำนักงาน ป.ป.ช. ประจำ� จังหวดั ทกุ จงั หวัด 11. จัดกิจกรรมเต้นแอโรบิคและโยคะทุกวันพุธ เพื่อสุขภาพท่ีดีของเจ้าหน้าที่ส�ำนักงาน ป.ป.ช. มเี จา้ หน้าทเี่ ขา้ รว่ มกจิ กรรมทง้ั 2 ประเภท ประมาณ 100 คน 2. กอ่ สร้างอาคารท่ที �ำการสำ� นกั งาน ป.ป.ช. ประจ�ำจงั หวดั คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีนโยบายในส่วนของการพัฒนาองค์กร ให้มีการก่อสร้างอาคารท่ีท�ำการถาวร ส�ำนักงาน ป.ป.ช. ประจ�ำจังหวัดพร้อมที่พักอาศัย ให้ครบทั้ง 76 จังหวัด เพ่ือให้การปฏิบัติภารกิจตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 เป็นไปอย่างมี ประสิทธิภาพและประสิทธิพล สนับสนุนการปฏิบัติงานตามภารกิจของส่วนปฏิบัติการในพื้นท่ี รองรับการปฏิบัติงาน ของเจ้าหน้าที่ สร้างขวัญก�ำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่มีท่ีพักอาศัยอย่างเหมาะสมและม่ันคงปลอดภัย เป็นสวัสดิการ ให้แก่ข้าราชการ มีสถานที่จัดเก็บข้อมูลส�ำคัญต่าง ๆ ตลอดจนเป็นสถานท่ีบริการอ�ำนวย ความสะดวกให้กับ ประชาชนหรือส่วนราชการในการติดต่อราชการประสานงานกับส�ำนักงาน ป.ป.ช. โดยได้ด�ำเนินการก่อสร้าง ซงึ่ มีรายละเอียด ดงั น้ี 2.1 ก่อสร้างอาคารท่ที ำ� การสำ� นกั งาน ป.ป.ช. ประจำ� จงั หวดั แลว้ เสร็จ จำ� นวน 8 แห่ง 1) สำ� นกั งาน ป.ป.ช. ประจำ� จงั หวดั ชลบรุ ี ก่อสรา้ งเม่อื ปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 - 2558 2) สำ� นกั งาน ป.ป.ช. ประจ�ำจงั หวัดเชยี งใหม่ ก่อสรา้ งเมอื่ ปงี บประมาณ พ.ศ. 2558 - 2561 3) ส�ำนกั งาน ป.ป.ช. ประจ�ำจงั หวดั นครปฐม ก่อสรา้ งเมือ่ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 - 2561 4) ส�ำนกั งาน ป.ป.ช. ประจำ� จังหวัดนครราชสมี า ก่อสรา้ งเมอ่ื ปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 - 2561 5) สำ� นักงาน ป.ป.ช. ประจำ� จังหวัดพิษณโุ ลก กอ่ สรา้ งเม่ือปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 - 2561 6) ส�ำนกั งาน ป.ป.ช. ประจำ� จงั หวัดร้อยเอด็ ก่อสร้างเม่ือปงี บประมาณ พ.ศ. 2560 - 2561 7) ส�ำนักงาน ป.ป.ช. ประจ�ำจงั หวดั ล�ำปาง กอ่ สรา้ งเมอื่ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 - 2561 8) สำ� นักงาน ป.ป.ช. ประจ�ำจงั หวัดกาฬสนิ ธ์ุ ก่อสร้างเมอื่ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 - 2561 รายงานประจำ� ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการปอ้ งกันและปราบปรามการทุจริตแหง่ ชาติ 187
2.2 อยู่ระหวา่ งก่อสร้างอาคารสำ� นกั งาน อาคารชุดพักอาศยั บา้ นพัก จ�ำนวน 4 แห่ง (ปีงบประมาณ 2561) 1) ส�ำนกั งาน ป.ป.ช. ประจำ� จังหวดั นครสวรรค์ ผูกพนั ปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 - 2563 2) ส�ำนักงาน ป.ป.ช. ประจำ� จังหวดั สโุ ขทยั ผูกพนั ปงี บประมาณ พ.ศ. 2561 - 2563 3) ส�ำนักงาน ป.ป.ช. ประจำ� จังหวดั หนองบัวลำ� ภู ผกู พนั ปงี บประมาณ พ.ศ. 2561 - 2563 (เฉพาะอาคารส�ำนกั งาน) 4) ส�ำนกั งาน ป.ป.ช. ประจ�ำจงั หวัดนครพนม ผูกพนั ปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 - 2563 (เฉพาะอาคารส�ำนกั งาน) 2.3 อยูร่ ะหว่างก่อสรา้ งอาคารชุดพักอาศยั บา้ นพกั และอาคารอเนกประสงค์ (งบประมาณคงเหลือสะสม) จ�ำนวน 3 แห่ง 1) ส�ำนกั งาน ป.ป.ช. ประจ�ำจงั หวดั พษิ ณุโลก งบประมาณคงเหลือสะสมปี พ.ศ. 2561 2) ส�ำนกั งาน ป.ป.ช. ประจำ� จงั หวัดนครราชสีมา งบประมาณคงเหลือสะสมปี พ.ศ. 2561 3) ส�ำนกั งาน ป.ป.ช. ประจำ� จังหวดั เชียงใหม่ งบประมาณคงเหลือสะสมปี พ.ศ. 2560 และงบบคุ ลากรเหลอื จา่ ย ปี พ.ศ. 2561 2.4 การก่อสร้างอาคารส�ำนักงาน ป.ป.ช. ประจ�ำจังหวัด อาคารชุดพักอาศัย บ้านพัก ผูกพัน งบประมาณ 3 ปี (พ.ศ. 2562 - 2564) โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ใหใ้ ช้จากเงินคงเหลือสะสมส�ำนักงาน ป.ป.ช. จ�ำนวน 5 แห่ง ได้แก่ 1) ส�ำนักงาน ป.ป.ช. ประจ�ำจงั หวัดสรุ าษฎรธ์ านี ผูกพันปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 - 2564 2) ส�ำนกั งาน ป.ป.ช. ประจำ� จงั หวดั ภูเก็ต ผูกพันปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 - 2564 3) ส�ำนกั งาน ป.ป.ช. ประจำ� จังหวดั ปราจีนบรุ ี ผูกพนั ปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 - 2564 4) ส�ำนักงาน ป.ป.ช. ประจ�ำจงั หวดั ชยั ภมู ิ ผูกพันปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 - 2564 5) ส�ำนักงาน ป.ป.ช. ประจำ� จังหวัดขอนแก่น ผูกพันปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 - 2564 2.5 เสนอของบประมาณเพมิ่ เตมิ ในการกอ่ สร้างอาคารท่ีท�ำการสำ� นักงาน ป.ป.ช. ประจำ� จงั หวดั อาคารชดุ พกั อาศัย และส่ิงกอ่ สร้างประกอบ ประจำ� ปงี บประมาณ 2563 จำ� นวน 5 แห่ง 1) ส�ำนกั งาน ป.ป.ช. ประจ�ำจงั หวดั ชยั นาท กอ่ สรา้ งอาคารทท่ี �ำการส�ำนักงาน อาคารชุดพกั อาศยั และสงิ่ กอ่ สร้างประกอบ 2) ส�ำนักงาน ป.ป.ช. ประจ�ำจงั หวดั ลำ� พูน กอ่ สรา้ งอาคารทีท่ �ำการส�ำนกั งาน อาคารชุดพกั อาศยั และสิ่งกอ่ สรา้ งประกอบ 3) สำ� นักงาน ป.ป.ช. ประจำ� จังหวดั สรุ นิ ทร์ ก่อสรา้ งอาคารท่ีท�ำการส�ำนักงาน และส่ิงกอ่ สร้างประกอบ 4) ส�ำนักงาน ป.ป.ช. ประจ�ำจังหวัดเชียงราย ก่อสร้างอาคารที่ท�ำการส�ำนกั งาน และสงิ่ กอ่ สรา้ งประกอบ 5) สำ� นกั งาน ป.ป.ช. ประจำ� จังหวดั ประจวบครี ขี นั ธ์ กอ่ สร้างอาคารทีท่ �ำการส�ำนักงาน และสิ่งก่อสรา้ งประกอบ 2.6 ส�ำนักบริหารทรัพย์สินเสนอขอตั้งค�ำของบประมาณค่าก่อสร้างอาคารส�ำนักงานฯ ประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 จำ� นวน 19 แห่ง 1) ก่อสร้างอาคารส�ำนักงาน อาคารชุดพักอาศัย และสิง่ ก่อสร้างประกอบ ไดแ้ ก่ ชัยนาท ล�ำพูน หนองคาย ปทมุ ธานี ศรสี ะเกษ มุกดาหาร น่าน ตาก อตุ รดติ ถ์ เพชรบรู ณ์ อุทัยธานี สงิ ห์บุรี มหาสารคาม สตูล 2) ก่อสรา้ งอาคารส�ำนกั งานและส่งิ ก่อสร้างประกอบ ได้แก่ ประจวบครี ีขันธ์ สุรนิ ทร์ เชียงราย ระนอง 3) กอ่ สรา้ งอาคารชุดพกั อาศยั และส่ิงกอ่ สรา้ งประกอบ ได้แก่ กาฬสินธุ์ 188 รายงานประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการปอ้ งกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
7. ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การด�ำเนนิ งานดา้ นเทคโนโลยีสารสนเทศ ประจำ� ปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 ส�ำนักงาน ป.ป.ช. ได้พฒั นา ปรับปรุงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อขับเคล่ือนไปสู่การท�ำงานแบบ Digital Platform ตามนโยบายของ รัฐบาลที่จะก้าวไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 และมุ่งเน้นการบูรณาการข้อมูลกับหน่วยงานรัฐ และสถาบันการเงิน เพ่ือใช้ เป็นข้อมูลประกอบการด�ำเนินงานของส�ำนักงาน ป.ป.ช. และพัฒนาระบบเช่ือมโยงข้อมูลกับหน่วยงาน ในกระบวนการยุติธรรม เพ่ือแลกเปล่ียนข้อมูลในเร่ืองร้องเรียน และน�ำมาพัฒนาต่อยอดเป็นระบบฐานข้อมูล คดีทุจรติ โดยประสานความรว่ มมอื กับหน่วยงานในกระบวนการยตุ ธิ รรม เพือ่ แลกเปลย่ี นข้อมลู กนั ดว้ ยเทคโนโลยี Web Service นอกจากนี้ ส�ำนักงาน ป.ป.ช. ได้ด�ำเนินการปรับปรุงระบบเปิดเผยข้อมูลด้านคดีทุจริตและบัญชีแสดง รายการทรัพยส์ นิ และหนส้ี ิน รวมทงั้ ผลการตรวจสอบบัญชี ให้สอดคลอ้ งกับพระราชบญั ญัตปิ ระกอบรัฐธรรมนญู ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 เพ่ือให้ประชาชนสามารถติดตามผลการด�ำเนินงาน ของส�ำนกั งาน ป.ป.ช. ได้ และมีการพัฒนาระบบสารสนเทศต่าง ๆ เพ่อื ใชป้ ระโยชน์ในการบรหิ ารจดั การสำ� นักงาน ป.ป.ช. ใหม้ ีประสทิ ธภิ าพ และสอดคล้องกบั แผนปฏิรปู ประเทศด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจรติ และประพฤติมิชอบ ทัง้ นี้ สามารถสรปุ การดำ� เนินงานต่าง ๆ ไดด้ ังน้ี 1. การบรู ณาการข้อมูลหน่วยงานรัฐ รัฐบาลมีนโยบายส�ำคัญในการปฏิรูปประเทศไทยไปสู่การเป็นดิจิทัลไทยแลนด์ และยกระดับประเทศไทย ไปสู่การเปน็ Thailand 4.0 นำ� พาประเทศไทย ไปสู่ความม่ันคง มั่งค่งั และยัง่ ยืน การขับเคล่ือนไปสู่การเปน็ ดิจทิ ัล ไทยแลนด์ มีแผนพัฒนาดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคมที่มุ่งเน้นการพัฒนาเพ่ือยกระดับขีดความสามารถรองรับ การไปสู่รัฐบาลดิจิทัล ท้ังการบริหารจัดการภาครัฐและการบริการประชาชน ด้วยการบูรณาการฐานข้อมูล ประชาชนที่อยู่ในความครอบครองของหน่วยงานภาครฐั สอดคลอ้ งกบั มตคิ ณะรัฐมนตรีเม่อื วันท่ี 15 มีนาคม 2559 เหน็ ชอบแนวทางการบรู ณาการฐานข้อมูลประชาชนและการบรกิ ารภาครัฐ มีสาระส�ำคญั คอื ให้จัดทำ� ระบบเชอื่ มโยง ฐานข้อมูลประชาชนกลาง (Population Information Linkage Center) โดยเชื่อมโยงฐานข้อมูลประชาชน ของทุกส่วนราชการให้เป็นระบบเดียวกัน เพื่อให้เกิดการบูรณาการ การท�ำงานของหน่วยงานภาครัฐอย่างเป็น ระบบ สำ� หรับภาคประชาชนก็จะได้รบั การบรกิ ารท่ีสะดวก รวดเร็ว มคี ุณภาพ ตรงตามความตอ้ งการรายบุคคล และตามสิทธิท่พี ึงไดร้ ับอยา่ งครบถว้ น สำ� นกั งาน ป.ป.ช. โดยส�ำนักเทคโนโลยีสารสนเทศ จงึ ได้พฒั นา Web service เพื่อใช้ในการตรวจสอบ ขอ้ มลู และแลกเปลีย่ นข้อมูลบนระบบฐานขอ้ มลู ประชาชนกลาง (Linkage Center) เพือ่ ให้สอดคล้องกับมตขิ อง คณะรัฐมนตรี และนโยบายของหน่วยงาน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในกระบวนการ ท�ำงาน การจดั เก็บขอ้ มูล การรวบรวม และการสรา้ งฐานขอ้ มูลประชาชนของหนว่ ยงานภาครฐั ใหม้ ีความครบถว้ น ถูกตอ้ ง เป็นปจั จุบัน โดยใช้เลขประจำ� ตัวประชาชน 13 หลัก เป็นดชั นีในการจดั เกบ็ สามารถแลกเปล่ยี นข้อมูล อย่างมีมาตรฐานผ่านระบบ Linkage Center รวมไปถึงการสร้างมาตรฐานการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ขอรับ บรกิ ารจากหนว่ ยงานภาครัฐ การพัฒนา Web service บนระบบ Linkage Center เพ่ือแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงานน้ัน ได้ก�ำหนดให้พัฒนาด้วย RESTFUL Web service โดยใช้บริการของระบบเครือข่ายส่ือสารข้อมูลเชื่อมโยง หนว่ ยงานภาครฐั ( Government Information Network : GIN) โดยมีรูปแบบการเช่ือมโยงดงั แผนผังทแ่ี สดง ด้านล่าง รายงานประจำ� ปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ แห่งชาติ 189
แผนแผผังนรผปู ังแรบูปบแกบาบรกเชาือ่รเมชโ่อื ยมงขโย้องมขูล้อมWูล eWbebsseerrvviicceeบบนนระรบะบบบLiLniknakgeaCgeentCeer nter แผนผังการเชอ่ื มโยง Linkage Center ปัจปจัจุบจันุบไันดไ้ดดาด้ เ�ำนเนินนิ กกาารรพพัฒฒั นนาา WWeebb sseerrvviiccee เเรรียียบบรร้อ้อยยแแลล้ว้วสสามามาราถรดถำ� ดเนาเนิ นกินากรตารรวตจรสวอจบสแอลบะแเชลื่อะมเโชยื่องมโยง ข้ขอ้อมมูลูลไไดด้ต้ตรรงตามมาาตตรรฐฐาานนขขององLiLniknakgaegeCCeenntetrerSSyystsetemmซซึ่ง่ึสงส�ำนาักนงักางนานป.ป.ชป. ชส.าสมามรถาใรหถ้บใรหิก้บาริขก้อามรขูล้อมูล ผผา่ นา่ นรระะบบบบไดได้ ้22ปปรระะเเภภท คอื 1. 1ข.้อ มขลูอ้ มผูลถ้ ผูกู้ถกกูลกา่ ลว่าหวาหคาดคดี ด้าดี น้ากนากราทรุจทรจุ ิตริตแแบบง่ กง่ กาารรใหให้บบ้ รริกิกาารรเเปป็นน็ 2 ระดบั ดังนนี้ ้ี ระดรับะด1บั ข1้อขม้อูลมใูลนใรนะรดะับดบัทท่ีค่คีณณะะกกรรรรมมการ ป.ป..ชช.. มมมี ีมตติแิแลลว้ ้วใหใหบ้ ้บรกิ ราิกราสรำ� สหารหับรหับนหว่ ยนง่วายนงทาีไ่ นมท่มหี่ไมน่ม้าทีห่ีน้าที่ เกเก่ยี ยี่วกวกบั บั กกาารรสสบื ืบสสววนนหหรรือือสอบสวน ระดรับะด2ับ ข2้อขม้อูลมในูลใรนะรดะับดทับี่ทอ่ีอยยู่รู่ระะหหวว่า่างงไไตต่สวนหรรือือกก่อ่อนนไตไต่ส่สวนวนใหให้บร้บิกราิกราสร�ำสหารหับหรับนห่วยนง่วายนงทา่ีมนีหทนี่ม้าทีหี่น้าที่ เกเกีย่ ย่ีวขวข้ออ้งใงนในกกาารรปปอ้ อ้ งงกกันนั แแลละะปปรราาบบปปรราามมกกาารรททจุ ุจรริติตรร่วว่ มมกกับบั สส�ำานนักักงางนานป.ปป..ปช..ช. ปตทต ารมะาป่ี มสพรพงะรคสระ์จะง2รคระา.าจ์ขช2ขชะอ.บ้อ บขใัญขมชัญอ้อูญลข้ใญชมอ้รัตข้ัตูลมาิปอ้ิปรูลยมรราตกะลูะยอ้ากตกกงรออ้อาขทงบบรอขทรรรออัฐััฐพรนอธธัพยนญุรรยร์สุญรา์สมมินตาินนนตสแูญแูญสาลลวน�ำวะะ่านัก่าหดหักงด้วนนงา้วยาน้ีส้ีสยนกินิกนาปปขารข.ปร.ปอปอป้อง..ชงชผ้อง.ผก.ูง้ดเันกเู้ด�ำปปแันราน็น็ ลงแรกกตะลงรรป�ำตะณณแรปาาไีหไี รแปบปนาหปบ่งรนทปา่งารมทงากกมาาากรงรทกาเรุจมาทรรือิตุจเงมรพือโติ ด.งศยพ.จโ.ศ2ดะ5.เยป62จ1ิด5ะเ6ผเซ1ปย่ึงิดหซ1นเึ่งผ8ห่วย0ยนง่ว1วายันน8ง0านวัทน่ี กากราเชรเ่ือชม่อื โมยโงยขงข้ออ้มมูลูลกกับับศศูนูนยย์แ์แลกเปลย่ียนนขขอ้ ้อมมลู ูลกกรระทะทรวรงวยงตุ ยธิ ุตริธรรมร(มDa(DtaaEtaxcEhxacnhgaenCgenCtern:tDerXC: )DXC) สาสน�ำนักงักางนานป.ป.ชป..รช่ว. มรล่วงมนลางมนใานมบใันนทบึกันขท้อึกตขก้อลตงกคลวงาคมวร่วามมร่วอื มในมกือาใรนดกาาเนรดิน�ำงาเนินของางศนูนขยอ์แงศลูกนเยป์แลล่ียกนเขป้อลม่ียูลนกขร้อะมบูลวนการ ยุกตริธะรบรมวน(DกาXรCย)ุตเิธมรื่อรวมัน(ทD่ี X2C7)สเมิงห่อื าวคันมที่ 2576ส2ิงโหดายคมมีว2ัต5ถ6ุป2ระโดสยงมคีว์หตั ลถักุปเรพะื่อสงใหค้์หไดล้ขกั ้อเมพูล่อื อใหิเล้ไ็กดทข้ ้อรอมนลู อิกเิสล์ขก็ อทงรหอน่วกิ ยสง์ านท่ี เกข่ยี อวงขหอ้ นงว่ซย่งึ งเปาน็ ทสเี่มกาี่ยชวกิ ขอ้DงXซC่งึ เมปาน็ ใสชม้ปารชะกิ อDบXใCนกมาารใปชฏป้ ริบะตั กิงอาบนในการปฏิบัตงิ าน นอนกอจกาจกานกี้ นส้ีาสนำ� กั นงักางนานป.ปป.ป.ช.ช. .ออนนญุ ญุ าาตตใใหหเ้ ช้เช่ืออ่ื มมโโยยงข้อมลู ผ้ถู ูกกล่าววหหาาคคดดีดดี า้ ้านนกกาารรททุจุจรติริตดงัดนังี้น้ี 1. 1ป.รปะรเะภเทภท่ีท1่ี 1เรเรื่อือ่ งงกกลล่าา่ ววหหาที่คณะกรรรมมกกาารรปป.ป.ป.ช.ช. ม. มี ตีมชิตี้มิชูล้ีมคูลวคาวมาผมิดผอิดนอญุ นาตุญใาหตเ้ ชใหื่อม้เชโย่ืองมขโอ้ยมงลูขผ้อ่ามนูลผ่าน ระรบะบบบบบรู รูณณาากกาารรฐฐาานนขขอ้ อ้ มมลูลู ปปรระะชชาาชชนนแแลละะกกาารรบบรริกิกาารรภภาาคครรฐั ฐั (L(iLniknakgaegeCeCnetnetre) r) จยเฐชาาุ เยฐ อตฉ่ือนลาตุนิธพมนขอธิรุญาโข้อรงรยะารท้อมมตขงมมสีู่ล2เขอ้ใ(มลูปร.Dห(้อมD่ือ้าปเ2ปรX้เมมลู งชXพะ.รรCจขื่อูล่ือะชCะัฒป)ำ�ึน้พผชมาเ)ลภรมชเ่าัฒนาโมพอะยทีชคนนานีคเงอ่ืงนวทรแภแทวาขกาแะลี่ลทาแ่ีส้อ2มาลบะมะลทรมรปะกบปเา้ะท่ีทูลรกรางทรบ2ื่อดผดาขระะดูรงร่บาสส้ึนสสเกณสบนรออรเงงลอพร่ือริกคคบาบ่ิกบาะือ่งาก์ใ์ใเรวชาชกบรรทกาะหรข้ภะ้ลขาบร่าภบาบ้อรา่า้ฐนอบทาทบมควบาม้ันูรค่ีคหดรูลนเเณูลรสสฐัณดสาขฐัดรารทอัง้อะ(ั็จงก็กจL(บี่คกมกLแาลiแเณnรiูลลรลทn่าลรkฐ่ป้วาวะkา่ ้aมวาวaกนรgกในหgระห้นัหeใาขeารชหห้ารก้อCมา้Cกหนหมปeกชeหว่นูนลn.านnปยน่วรปt่วแtง.eย่ยวชeราลrปงยงะ.rน)ะ)าา.ชมงขกปนกนกาาีมอับ.าขใบั นชชตอนสรอสน.ในิชบเานอำ� แคญุม้ีนมรนนเลรีมูลิักกคาักือุะญตคตงารงขการิาใาวชือ่าาชนนภตาี้มยขร้ปมใาูลบศ่ปาปชรผคคยูนร.ะ.้ปิดปรปิกวยโศรแัฐ.ยา.า์แชูชนะลมชรล.(.โยะภนผLกตยต์แทิาดข์iเช่อn่อลปค่ีออ้แไนไkกรลปยมลปa์ขัฐเ่ียู่ลูระgป้อะนจทe(ลมหาLข่ีอี่ยCูกลiว้อยnนรe่าจมู่รkะงnาขูละaไบกt้อตกหgeบรeมร่สวrะบะ่วูา)ลบCบูรนงกเณบไeฉวรตอnนพบาะ่สนtกกาูบรeวาาุญะณวนrรรข)นาา้อตกกมใาาหูลรร้ แ19ล0ะปรรายางบอานนปปึ่งรราะสจม�ำาปกนีงาบักรปงทราะุมจนารณิตปพ.ซป.ศ่ึง..ชจ2ะ.5ม6ก2ีกาคหาณรนจะกดัดรเรทปมา้ากฐหารามปนอ้าขงยก้อดันมแ้าลูลนะปกกราาาบรรปปพรา้อัฒมงกนการัานทอแจุ รงลติคะแ์กหป่งรรชใาานตบิกปารราพมัฒกนาราทศุจูนรยิต์ข้อโดมยูลบดูร้าณนกาการารปข้อ้องมกันูล รายงานประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 หนา้ 181
อนึ่ง ส�ำนักงาน ป.ป.ช. ก�ำหนดเป้าหมายด้านการพัฒนาองค์กรในการพัฒนาศูนย์ข้อมูลด้านการป้องกัน และปราบปรามการทุจรติ ซึง่ จะมีการจัดทำ� ฐานขอ้ มูลการป้องกนั และปราบปรามการทจุ ริต โดยบูรณาการขอ้ มลู กับหน่วยงานภาครัฐในการตรวจสอบและติดตามผลการด�ำเนินคดี เพื่อรองรับผลการด�ำเนินงานของแผนการ ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติฯ ระยะท่ี 3 และข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี เม่ือวันที่ 9 ธันวาคม 2559 ในเรื่อง การจัดท�ำระบบฐานข้อมูลการเช่ือมโยงข้อมูลและการขึ้นทะเบียน โดยปัจจุบันส�ำนักเทคโนโลยีสารสนเทศได้ พัฒนาระบบฐานขอ้ มูลคดีทุจรติ (ACMS : Agency Case Monitoring System) ขน้ึ เพอื่ ใช้ในการตรวจสอบ สถานะการเช่ือมโยงระหว่างหน่วยงาน และตรวจสอบข้อมูลสถานะเรื่องกล่าวหาร้องเรียนท่ีรับ - ส่งระหว่าง ส�ำนักงาน ป.ป.ช. กบั หนว่ ยงานภายนอก รวมถึงการนำ� ขอ้ มูลท่ีได้มาวเิ คราะห์ เปรียบเทยี บเพ่อื แสดงผลในเชิงสถิติ นำ� เสนอตอ่ ผบู้ ริหารและเจ้าหนา้ ทีข่ องสำ� นักงาน ป.ป.ช. ทเี่ ก่ียวข้องได้รบั ทราบ ซ่งึ เปน็ การด�ำเนนิ การบรู ณาการ ข้อมูลกับหน่วยงานภาครัฐในการตรวจสอบและติดตามผลการด�ำเนินคดี ได้มีความก้าวหน้าเป็นล�ำดับ โดยมีหน่วยงานท่เี ชื่อมโยงข้อมลู ดังนี้ 1. ส�ำนักงาน ป.ป.ท. ได้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการเช่ือมโยง ระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อใช้ ประโยชน์จากฐานข้อมูลคอมพิวเตอร์เก่ียวกับคดีการทุจริตระหว่างส�ำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม การทุจริตแห่งชาติกับส�ำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ในวันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม 2562 ณ ห้องนนทบุรี 1 อาคาร 4 ชั้น 3 ส�ำนักงาน ป.ป.ช. (สนามบินน�้ำ) เพ่ือเช่ือมโยงข้อมูล ทางอิเลก็ ทรอนกิ สก์ ับส�ำนกั งาน ป.ป.ท. และสนบั สนุนการทำ� งานของเจ้าหนา้ ที่สำ� นกั งาน ป.ป.ช. ดา้ นปราบปราม การทุจริต ท�ำให้เกิดประโยชน์ในงานด้านแสวงหาข้อเท็จจริง รวบรวมพยานหลักฐานการสืบสวนและการไต่สวน ข้อเท็จจริง รวมถึงการติดตามตัวผู้ถูกกล่าวหาที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดและศาลมีค�ำพิพากษา ใหจ้ ำ� คุก ไดอ้ ยา่ งสะดวกรวดเรว็ ยงิ่ ข้นึ 2. กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการเชื่อมโยงระบบคอมพิวเตอร์ เพ่อื ใช้ประโยชน์จากฐานขอ้ มลู คอมพิวเตอรเ์ กย่ี วกับการทุจรติ ระหว่างส�ำนกั งาน ป.ป.ช. กบั กรมสอบสวนคดพี ิเศษ เมอื่ วนั ท่ี 20 มิถนุ ายน 2562 ณ หอ้ งนนทบรุ ี 3 อาคาร 4 ชั้น 3 ส�ำนักงาน ป.ป.ช. ถนนนนทบรุ ี จังหวัดนนทบรุ ี การทำ� การบนั ทกึ ขอ้ ตกลงในครงั้ น้ี เป็นการบรู ณาการเช่อื มโยงระบบคอมพิวเตอร์ เพอื่ ใช้ประโยชนจ์ ากฐานขอ้ มลู คอมพิวเตอร์เกี่ยวกับการทุจริต ซึ่งได้รวบรวมจัดเก็บไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ของแต่ละหน่วยงานไปใช้ในภารกิจ การปฏบิ ตั ริ าชการในการตรวจสอบและติดตามผลการด�ำเนินคดี 3. สำ� นกั งานตรวจเงินแผน่ ดนิ ไดด้ �ำเนินการเชอื่ มโยงข้อมูลคดแี ละสถานะคดี นอกจากการเชื่อมโยงข้อมูลในลักษณะการให้บริการผ่าน Linkage Center การเชื่อมโยงข้อมูล ผ่าน DXC และการเชอื่ มโยงข้อมูลในกระบวนการยตุ ธิ รรมแลว้ ในปี 2562 ส�ำนักเทคโนโลยีสารสนเทศได้พัฒนา ระบบเชื่อมโยงข้อมูลการตรวจสอบกรรมสิทธ์ิตราสารหนี้ทางอิเล็กทรอนิกส์ กับธนาคารแห่งประเทศไทย เพ่ือให้ไดข้ อ้ มูลทรี่ วดเรว็ ทันสมยั โดยมกี ารลงนามในบนั ทกึ ขอ้ ตกลงเมื่อวนั ท่ี 30 เมษายน 2562 2. ความรว่ มมือทางดา้ นเทคโนโลยีดจิ ิทลั ส�ำนักงาน ป.ป.ช. ได้ลงนามความร่วมมือกับส�ำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA เม่ือวันที่ 17 พฤษภาคม 2562 เพื่อสร้างความร่วมมือในการพัฒนาและส่งเสริมการน�ำเทคโนโลยี และธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการปฏิบัติหน้าท่ีในการป้องกันและปราบปราม การทุจริต ณ ส�ำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ การลงนามความร่วมมือในคร้ังนี้ มุ่งเน้นการพัฒนา ใหเ้ กิดประโยชน์ในการปฏิบตั ิงานปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ ริต ได้แก่ 1. พัฒนาระบบการจัดการเร่ืองร้องเรียนผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ และเพ่ิมประสิทธิภาพของระบบ เพื่อรองรับการย่ืนบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหน้ีสิ้น ซึ่งจะมีระบบท่ีรองรับการจัดการเอกสารในรูปแบบ รายงานประจำ� ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามการทจุ รติ แหง่ ชาติ 191
ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจนการจัดการเรื่องร้องเรียนของประชาชนในเรื่องการตอบค�ำถามอัตโนมัติ โดยน�ำ เทคโนโลยี เชน่ ChatBot มาใชใ้ นการใหบ้ ริการประชาชนของสำ� นักงาน ป.ป.ช. ปมกใม เก ในพนาีสราีสกรอ่ืกะ่วร่วาดโนปดานยรรา�ำรรรตชตเเ่วะว่นนรนรม2โมด3วินยินวใ์.ใ.ัใงจ23ดนจชนกพกนพนพ..ังกพนก าาักฒัั้ฒนนสิารรพพิสใ์าา้ันรนจูเนเรูจรนััฒฒขขกวปนกปนา้้าาเิาานกนา้อพ์คร้อ์พมมรรราางะรายงายลาะวกรรากบราททาเิงบละันะนันะคนบนาาหงบแบรบหแงหงจนา์ลาบชลชลคบัลมดาะะ่อจะ่อักุ้มักคมคเหปปังดกฐงฐุคค้วม์ทรทารเ็บาาวากรคนาานาฐมบา็อบบงดรงดมาอปรอปงฐอจิิจน่รวิเริขเาทิรงลทิล่วมขาน้าอขลั็กลัม็มก้อมมข้มอทมกทืมกอ้อูมลราือรูาลคมอรูลสอครขรูทลนท่สนรว้ังอขจุิกั้งจุ่ินกนวงรอนสรนส้ีสบิตงติ์ข้ีถ์ขบาุดสคถดอืออนุว้�คำือว้งควงยันกสคยว่สลาวังก�ำว่าลเาิธานปธิเงแนทีปนีทาัก็นแลักีง่น็นี่งงกลา่งปะ่าากยา้าะยกน.ป้านปวกาสว.สย.ปาปรยะปชะ่าร.รด.่า.ด.ชงปปรักงวขวโ.ั.กข.กดชษกอชโษอ.ย.งาดแแงานกตคตลยกลคาาลละนวะาวรเมออรา�มำทาดคีดดดเมีคมคทาว�จำจวมเโมคาเนนานนั่นนม่ันโมยยินโนินปคปคกลกกโกลงลรงรยลาาอปะปอะียรรดดเดดลลีเเชภับชชภับเออ่นชัยิิงกงยักดดร่รนาาภBุภกุกรรiัเพยัเgBยพพพสัฒiสัฒDgื่อื่อาานaในใรDหรtาหสาaสเa้ป้ปเทนทtนมรรaคเคะาเทะโทชโในชมศนชาศโาาท้โเชลทชใพล่ีมนชยนี่ยื่มอีี้ ีี 3. ก3า.รกเาปรดิ เปเผดิ ยเผขยอ้ ขมอ้ ลู มดูล้าดนา้ คนดคีทดุจีทรจุ ิตรแิตลและบะบัญัญชชีแแี สสดดงงรราายยกกาารรททรรัพัพยยส์์สนินิ แแลละะหหนนี้สี้สินิน สาสน�ำันกงักางนานปป.ป.ป.ช.ช. .ไดไ้มดุ่ง้มเุ่งนเ้นน้นกการาพรพัฒัฒนนาารระะบบบบเเปปิดิดเเผผยยขข้อ้อมมูลูลตต่า่างง ๆๆ ใใหห้ป้ปรระะชชาาชชนนสสาามมาารรถถตตรรววจจสสออบบ คคววาามมโโปปรร่ง่งใใสสใในนกกาารรดดา�ำเเนนินินงงาานนขขอองงสสำ�านนักักงงาานน ปป..ปป..ชช.. รรววมมถถงึึงตตอ้้องงกกาารรใใหห้ป้ปรระะชชาาชชนนมมสี ีส่ว่วนนรรว่ ่วมมใในนกกาารรตตรรววจจสสออบบแแลละะ ขแแจ้อจ้ง้มงขขูล้อ้อเรมรมือ่ ื่อูลูลงงททกก่ีเลี่เปลปา่ ่็าน็นววหปปหารรราะะอ้รโโยงย้อเชชงรเนียนรน์์ใใียหหทน้้แแคี่ ทกกณี่ค่ก่กะณาากรรระปปรก้อ้มอรงกงรกกามันรันกแแปาลลร.ปะะปป.ปชร.ร.ปาาม.บบชมี ปป.ตรรมิชาาีม้มมูลตกกแิชาาลรี้มรว้ทูทลบุจแุจนรลริตเิต้ว็บโโดไดนซยยเตไวได์สด็บ�ำ้ด้ดไน�ำซากัเเตนนง์สินาินนากกนาาปรักร.พปงพาัฒ.ัฒชนน.นาปเาพร.ระือ่ปะบเ.ปบชบ็นบ.เชปเเพป่อิดงื่ิอดเทผเเปาผยง็นย ชใหอ่ ป้งทราะงชใาหช้ปนรสะาชมาาชรนถสสาบื มคาน้ รขถอ้สบืมูลคด้นังขกอ้ ลม่าูลวดไดังกอ้ ลยา่ วงไสดะอ้ ดยวา่กงสะดวก ทั้ทงนั้งี้นปี้ รปะรชะชาชาชนนสสาามมาารรถถสสืบื ค้นข้อมูลไดด้จจาากกเเวว็บ็บไซไซตต์ข์ขอองสง�ำสนาักนงักางนานป.ปป.ปช.ช(.w(www.n.ancac.cg.ogo.t.hth)) โดยสามารถสืบคน้ ข้อมลู ตา่ ง ๆ ไดด้ งั นี้ 1.1เ.ร อ่ืเรงอ่ื ทงีค่ ทณีค่ ะณกะรกรรมรกมากราปร.ป.ปช.ชม.ีมมตีมชิ ตม้ี ิชลู มี้ คูลวคาวมาผมิดผิด 2.2เ.ร ือ่เรงือ่ ทง่คี ทณ่ีคะณกะรกรรมรกมากราปร.ป.ปช.ชม.ีมมตมี วิ ตา่ ิวขา่ อ้ ขกอ้ ลก่าลว่าหวาหใาดใไดมไ่มมมี ่มูลีมูล สาสห�ำรหับรับกากราตรติดดิตตามามสสถถาานนะะเรเร่ือื่องงรร้ออ้ งงเเรรียยี นที่อยู่ระหว่างส�ำานกั งาานน ป.ป.ช.. ตรวจจสสออบบเเบบ้ือ้ืองงตต้น้นผผ้รู ู้รอ้ ้องงเรเรยี ียนน สามารถสืบบคค้น้นขข้อ้อมมูลูลไดได้ ้ซซึ่งึ่งสส�ำานนักักงางนานปป.ป.ป.ช..ช.จจะมะมอบอรบหรัสหผัสู้ใผชู้ใช(u้ (suesrenranmame)e)แและละรหรหัสัผส่าผน่าน(p(apsasswswoordrd)) เพ่อื ใชใ้ นการเขา้ สืบค้นข้อมลู ให้แก่ผรู้ อ้ งเรียนเป็นการเฉพาะ ผบฟบฟ ผลัญังลัญงั กกกกชชช์าช์าีแีแรั่นร่นั สสตตกกดดรนราางวงวรอรนรรจจคคกอาาสสน้น้จยยกออหหกากจบบากาาาารรนกผผททน้ี่าา่ สรรนนี้ ััพพาสททนยย�ำาาั์ส์กนสงงินเเินงักววาแงแบ็็บนาลลไไนซะซะปหตหต.ป์ขนป์ขน.อ้ีสอป้ี.สชงินงิน.ส.ชสำ�.ไาพพนดนไรร้ักมดัก้้อองีก้มงมมาาาีกผผนนราลลเรปกปกปเ.าปาิ.ดปปรริดเ.ตต.ผชชเรผร.ย.ววยข((จwจขw้อสส้อwมwออมูwลบwบูลบ..บnnโโัญaดดัญacชยยcชcีสcแสีแ..าgสาgสoมมoดด.าา.งtงtรรhรhรถถ)าา)คคยยเเช้น้นชกกน่หห่นาาการรากรนัททรันาารรยผยัผพัพชู้สชู้สยยื่อนื่อน์ส์สผใผใินิจู้นมจู้มแสีหสแีหลานาลนมะม้าะ้าาหาทหรทนร่ียถนี่ยถี้ส่ืนเ้ีื่นสขเินขบิ้าบน้าัญดัญรดรขู ชวูขชวอ้มีไ้อีไมดมถดมถ้ทูลึง้ทูลึงี่ ่ี 192 รายงานประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ แห่งชาติ
4. การพัฒ4.นกาารรพะบฒั บนสาราะรบสบนสาเทรสศนเทศ และหนแ ี้สลสินะําหอนนัยกี้สางินางสอนต�ำยนอ่าปักเงนง.ตปา่ือ่อน.ชงเน.ปโื่อไ.ดปงดย.ดชโม.ดําีกยเไนดมาด้ินีกรำ� กากเรนําากนิหร�ำพกนหาัฒนดรพดในหใฒั าหเนร้เจจะาา้ราบหะหบบนนสบ้าาาสททราี่ส่ีสรส�ำสํานนนนักเเทัทงกาศศงนเาเพพนป่ือ่ือส.ปปสน.น.ชบัปับ.ส.ชนสตนุ.นามงตุนามานงามาดตนม้ารนดาากตาา1นรร5าตก8รา1วรพจ5ตรส8ะรอรวพบาจทชรสรบะอพั ัญรบยาญ์สทชนิัตรบิ พั ัญยญสิันติ ประกอปบระัฐกธอรบรมรัฐนธูญรรวมา นดูญววย่ากดา้วรยปกอารงปก้อันงแกลันะแปลระาปบราปบรปารมากมากราทรทจุ ุจรรติ ิตพพ.ศ.ศ..22556611ยยื่นื่นบบัญชีแสสดดงงรราายยกการาทรรทัพรยพั ์สยินสนิ และ ห น้ี สิ น ทแลาะงหอนิ เี้สลิน็ กททารงอิเนลิ ็กทสร ผอ านนิกรสะ์ผ่บานบรยะบื่ นบแยล่ืนะแตละรตวรจวสจอสอบบบบั ญัญชี แสสดดงงรารยากยากราทรัทพยร์สั พินยแ สลิ นะหแนล้ีสะินห น(Oี้ สnิ นlin(eOnline กIททDnําeรรfหoพััพclrนยยamดสสrตใทDทIaaใินnินหหรtรeรtfข้ผiวแoiัพัพcoผoอจู้มrlลยยnูมamnสีหงส์์สะrหีอเนaินaSินจหSบนtt้าขyาแyiiนททooาอsหลsรn้ีี่ยสntทงtะนeพัเื่นeิน่ยีจหSSาmยบm้าื่นนเyyท์สพัญหss้ีสบิน่ีตt:นt่ืชอ:ินeeัญาา้OีทแกAเmmมทพลชุกDาI่ีตมSะ่ือตีทร:Sา:)สาก�ำุวกม)A�ำตแOาเิเตมนIแพหรครSDาําักว)ลนาื่รอSตแิเเ่งเาะทค)ร1ปพหะคารค5ยแื่อรนาหโณ1่ืน8ลปนะะง5ทะแรหโะเผ8คลสยะ่ีมม์ทกาณยเดื่นผิานม่ีมนรสีงา่ะขแนิารรปารนกขสอาปรมะรรรยอสดรงะบกระกงนะรงบมาบราสสเารบกทราริทสาิยทาสยทศธยาปรไาไรธิภรดกดรัพ.ิภปสาปส้แแายพ.นนารลล.ป์สชขทเพะเ.ะินททอช.ทรขแทศง.ศมรัพลรเอรัพมเพีมะะยพัพงีมยบอื่หตสรื่อตย์สกบนิิในะิใกินาสแหี้สหแรบาทลินินเ้เรลรจจะ่ีตบผวทระ้าเา้อ่บาปแว่ีพตหนพงร็นบลนอสนรวนกระักงมะง้ีสาักสวบงขสเรินาัยมปงบ้องเนผตซามขสนตรึ่นงาAลูอัยยีอรกนCทตมซวมาาAร่เีรจูลจค่ึกงะSรวสไทอวย่ี บเดอจาวตาโ่ีเ้มมบบกดสกจราพยทบัี่ยอไียโAสรรกวดดบ้อมC�ัำพากยมทนมรยAคบัมาไักใร์สSิดชวนกโพัพินดม้อากาโัฒตยาบยาดมรรซนรสไมยพวึ่งกดา(ินสจิชรA�ำรรมาบําหตsะออยาsัญนบนรบซไeมบักดดวชt่ึงใ้ีจ(พรนAบาัฒsกยัญsนาไeดชารtี ระบบตรวจสอบทรพั ยส นิ และสํานักเทคโนโลยีสารสนเทศ รายงานประจำ� ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามการทจุ ริตแห่งชาติ 193
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 599
- 600
- 601
- 602
- 603
- 604
- 605
- 606
- 607
- 608
- 609
- 610
- 611
- 612
- 613
- 614
- 615
- 616
- 617
- 618
- 619
- 620
- 621
- 622
- 623
- 624
- 625
- 626
- 627
- 628
- 629
- 630
- 631
- 632
- 633
- 634
- 635
- 636
- 637
- 638
- 639
- 640
- 641
- 642
- 643
- 644
- 645
- 646
- 647
- 648
- 649
- 650
- 651
- 652
- 653
- 654
- 655
- 656
- 657
- 658
- 659
- 660
- 661
- 662
- 663
- 664
- 665
- 666
- 667
- 668
- 669
- 670
- 671
- 672
- 673
- 674
- 675
- 676
- 677
- 678
- 679
- 680
- 681
- 682
- 683
- 684
- 685
- 686
- 687
- 688
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 600
- 601 - 650
- 651 - 688
Pages: