Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore (2) เรื่องที่ประธานจะแจ้งต่อที่ประชุม

(2) เรื่องที่ประธานจะแจ้งต่อที่ประชุม

Published by agenda.ebook, 2020-11-24 16:21:00

Description: (2) เรื่องที่ประธานจะแจ้งต่อที่ประชุม การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 25 ปีที่ 2 ครั้งที่ 7-8 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันที่ 2-3 ธันวาคม 2563

Search

Read the Text Version

5. ด้านข้อมูลภูมสิ ารสนเทศเพอ่ื สนับสนุนภารกจิ ดา้ นปราบปรามการทุจริต ส�ำนักงาน ป.ป.ช. สามารถน�ำงานเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศมาประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการ ทรพั ยากรใหเ้ กดิ ประสทิ ธภิ าพสงู สดุ ตอ่ องคก์ ร และสนับสนุนภารกิจในดา้ นตา่ ง ๆ เช่น ดา้ นปอ้ งกัน ปราบปราม การข่าวและการแสวงหาข้อเท็จจริง และการบริหารจัดการข้อมูลเพื่อการบริหาร ประกอบการวางแผนการตัดสินใจ ในเรื่องต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ เพ่ือให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อภารกิจด้านต่าง ๆ ดงั ต่อไปนี้ ภารกิจด้านปราบปรามการทุจริต ใช้ในการตรวจสอบ ติดตามสภาพปัญหาด้านการบุกรุกเข้าท�ำ ประโยชน์ และครอบครองท่ีดินของรัฐโดยมิชอบ ซ่ึงทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยน�ำข้อมูลภาพถ่ายทางอากาศ ข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมรายละเอียดสูง มาซ้อนทับกับข้อมูลขอบเขตการถือครองที่ดินในพ้ืนท่ีเป้าหมาย เพ่ือใช้ ในการติดตามสภาพปัญหาด้านการบุกรุกครอบครองสาธารณสมบัติของแผ่นดินโดยมิชอบ ได้อย่างมี ประสิทธิภาพ ซ่ึงผลจากการศึกษานั้นสามารถน�ำไปใช้ประกอบการด�ำเนินการตรวจสอบและไต่สวนข้อเท็จจริง อีกท้ังยังเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์สามารถน�ำไปพิสูจน์ตามขั้นตอนของกฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นข้อมูลประกอบการพจิ ารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไดเ้ ปน็ อยา่ งดี ในช่วงปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะท�ำงานอ่าน แปล ตีความ วิเคราะห์ข้อมูลภูมิสารสนเทศ และ ส�ำรวจสภาพพื้นที่ ภายใต้คณะอนุกรรมการพัฒนาระบบข้อมูลภูมิสารสนเทศ ได้ด�ำเนินการอ่าน แปล ตีความ วิเคราะห์ข้อมูลภูมิสารสนเทศ และส�ำรวจสภาพพ้ืนที่ พร้อมทั้งจัดท�ำรายงานการศึกษาสภาพพื้นที่แปลงโฉนด ท่ีดินแล้วเสร็จ จ�ำนวนทั้งส้ิน 4 กรณี ประกอบด้วย พ้ืนท่ีแปลงโฉนดท่ีดินท่ีมีผู้ร้องเรียนจังหวัดชัยนาท จังหวัด เพชรบรุ ี จงั หวดั พงั งา และจงั หวัดเชียงราย ภารกิจด้านป้องกันการทุจริต เป็นการน�ำฐานข้อมูลเร่ืองกล่าวหาร้องเรียนมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเป็นประโยชน์ต่อผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ และประชาชนทั่วไป ในด้านการวางแผนและการปฏิบัติงาน ในด้านการป้องกันการทุจริต โดยเชื่อมโยงกับระบบภูมิสารสนเทศ จากน้ันแสดงผลข้อมูลในเชิงแผนท่ี เพอ่ื วเิ คราะห์พน้ื ที่เชิงสถิติ (Geo-Statistical Analysis) ซ่ึงจะท�ำให้ทราบถงึ พื้นที่ที่เกดิ การร้องเรยี นเร่ืองการทุจริต มากท่ีสุดและล�ำดับรองลงไป สามารถน�ำผลที่ได้ดังกล่าวไปใช้ในการวิเคราะห์หาสาเหตุว่าเหตุใดพ้ืนท่ีดังกล่าว จงึ มีเรือ่ งร้องเรียนมากผิดปกติ และหาแนวทางแกไ้ ข ป้องกนั เพื่อลดปญั หาการทุจรติ ตอ่ ไป ภารกิจด้านการข่าวและการแสวงหาข้อเท็จจริง โดยการประยุกต์ใช้ระบบภูมิสารสนเทศ กับข้อมูล ภาพถ่ายดาวเทียม และระบบ GPS เพ่อื สืบทราบ ท่ีตั้ง ขนาด ลักษณะภูมปิ ระเทศ ยุทธศาสตร์ และเส้นทางเขา้ ออกของเป้าหมาย ทำ� ให้ภารกิจด้านการขา่ วและการแสวงหาข้อเทจ็ จรงิ เปน็ ไปอย่างมีประสิทธภิ าพ 194 รายงานประจ�ำปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ

8. ดา้ นการวจิ ยั ส�ำนกั งาน ป.ป.ช. ไดม้ ีการดำ� เนินการวจิ ัยและพัฒนางานวชิ าการเพอ่ื ภารกจิ ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. และสำ� นักงาน ป.ป.ช. ซึ่งมีทง้ั การสนบั สนนุ ทนุ วิจยั จากบุคคลภายนอกใหท้ �ำการศึกษาวิจัยในโครงการท่มี ีผลกระทบ ในวงกว้าง และเจ้าหน้าที่ของส�ำนักงาน ป.ป.ช. ด�ำเนินการวิจัยเอง เพื่อให้มีองค์ความรู้และข้อเสนอแนะ เชิงนโยบายการปฏิบัติในการแก้ปัญหาการด�ำเนินงานในการป้องปรามการทุจริต และพัฒนางานของส�ำนักงาน ป.ป.ช. ใหม้ ีประสทิ ธิภาพมากขึน้ โดยในปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 ส�ำนกั งาน ป.ป.ช. ไดม้ ีการด�ำเนนิ โครงการวจิ ยั แล้วเสรจ็ จ�ำนวน 7 เร่อื ง และอยู่ระหว่างการด�ำเนินการ จำ� นวน 5 เร่ือง โดยมรี ายละเอียดดงั น้ี โครงการวจิ ัยที่ดำ� เนนิ การแลว้ เสร็จ จำ� นวน 7 เรอ่ื ง ได้ผลการศึกษา ดังนี้ 1. โครงการวิจัยเร่ือง สาเหตุ การด�ำเนินงาน และผลของการเข้าร่วมกิจกรรม “องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นด้านการป้องกันการทุจริต” ของส�ำนักงาน ป.ป.ช. : มีวัตถุประสงค์ของการศึกษาเพ่ือ (1) ศึกษา สาเหตุของการเข้าร่วมและไม่เข้าร่วมกิจกรรม “องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดีเด่น ด้านการป้องกันการทุจริต” (2) ศึกษาและเปรียบเทียบการด�ำเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินที่เข้าร่วมและไม่เข้าร่วมกิจกรรมฯ แล้วสรุปเป็นภาพรวมความส�ำเร็จของการด�ำเนินงาน ด้านการป้องกันการทุจริต และ (3) จัดท�ำข้อเสนอแนะ แก่ส�ำนักงาน ป.ป.ช. ในการจัดกิจกรรมส่งเสริมความโปร่งใสในการบริหารท้องถิ่นและสร้างการมีส่วนร่วม ของประชาชน รวมทั้ง การปลูกฝังจิตส�ำนึกด้านคุณธรรมและจริยธรรมแก่เจ้าหน้าท่ีรัฐและประชาชนในท้องถ่ิน โดยใช้ระเบยี บวิธวี จิ ยั เชงิ คณุ ภาพ (Qualitative Research) ผลการศึกษาสามารถสรปุ ได้ ดังน้ี 1) สาเหตุส�ำคัญที่ส่งผลต่อการตัดสินใจเข้าร่วมและไม่เข้าร่วมกิจกรรม “อปท.ดีเด่นฯ” เกิดจาก 1) ความตอ้ งการ/นโยบายของผู้บรหิ ารทอ้ งถ่นิ เป็นสำ� คัญ ซ่ึงการตดั สนิ ใจของผบู้ รหิ ารท้องถิน่ ขน้ึ อยู่กบั ประโยชน์ ทจ่ี ะไดร้ บั จากการเขา้ ร่วมกิจกรรม เช่น การสร้างภาพลักษณท์ ีด่ ีให้กับองค์กร รวมถึงภูมิหลังและความคุ้นเคยกบั กจิ กรรม เช่น การเข้ารว่ มกิจกรรมมาตงั้ แต่เรม่ิ แรก 2) แรงจูงใจและรางวัล หากองคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่นิ เห็นว่า รางวัลท่ีได้รับจากการเข้าร่วมมีความโดดเด่นและคุ้มค่าก็จะเกิดแรงจูงใจท่ีอยากจะเข้าร่วมกิจกรรม เพื่อน�ำเงิน มาสนับสนุนโครงการ/กิจกรรมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 3) ความกลัวการถูกตรวจสอบ เน่ืองจากองค์กร ปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ สว่ นใหญ่มีภาพจำ� และรับรู้เก่ียวกับภาพสำ� นักงาน ป.ป.ช. ท่ีเนน้ ไปในภารกิจดา้ นการปราบปราม และตรวจสอบการทุจริตมากกว่าการป้องกันการทุจริต โดยเกรงว่าการเข้าร่วมกิจกรรมกับส�ำนักงาน ป.ป.ช. จะเป็น การเปิดชอ่ งให้เขา้ มาจบั ผดิ ขดุ คยุ้ หรือตรวจสอบการทุจริต จงึ เลอื กทจี่ ะไม่เขา้ รว่ มกจิ กรรมกับส�ำนกั งาน ป.ป.ช. 2) การด�ำเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินที่เข้าร่วมและไม่เข้าร่วมกิจกรรม “อปท.ดีเด่นฯ” ส่วนใหญ่มีการด�ำเนินงานที่มีความคล้ายคลึงกัน เนื่องจากเป็นการปฏิบัติตาม กฎ ระเบียบ ข้อบังคับที่ กรมสง่ เสริมการปกครองท้องถนิ่ ก�ำหนด เชน่ พระราชบัญญัติระเบยี บบรหิ ารงานบคุ คลสว่ นทอ้ งถน่ิ พระราชบัญญตั ิ การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงินขององค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่น เปน็ ตน้ แตจ่ ะมีความแตกต่าง ในประเดน็ ท่ีเปน็ จุดเน้นดา้ นการป้องกันการทจุ รติ ตามหลักเกณฑก์ ารประเมินของส�ำนกั งาน ป.ป.ช. ใน 2 มติ ิ คอื มิติที่ 1 การปลูกและปลุกจิตส�ำนึกการต่อต้านการทุจริต และมิติที่ 4 การเสริมสร้างและปรับปรุงกลไก ในการตรวจสอบการปฏิบัติราชการขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ซ่ึงเป็นการด�ำเนินงานท่ีไม่มีกฎ ระเบียบ รายงานประจำ� ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ 195

ข้อบังคบั กำ� หนดไว้ เกิดจากความสมคั รใจของแต่ละองค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ิน โดยองค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถ่ิน ที่เข้ารว่ มกจิ กรรมมรี ูปแบบการดำ� เนินงานท่แี ตกต่าง ดังนั้น ส�ำนักงาน ป.ป.ช. ควรมีการชี้แจงวัตถุประสงค์ตลอดจนวิธีการประเมินแก่กลุ่มเป้าหมาย เป็นการล่วงหน้าให้ชัดเจนเพื่อลดหรือขจัดความเกรงกลัวท่ีจะเข้าร่วมกิจกรรมออกไป อันจะมีผลต่อการสร้าง ความไวเ้ นอ้ื เช่ือใจ และองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถิ่นมีความมนั่ ใจในการร่วมกจิ กรรมท่สี �ำนกั งาน ป.ป.ช. จัดท�ำอยู่ และโครงการ/กิจกรรมในอนาคต ซง่ึ จะทำ� ให้สำ� นักงาน ป.ป.ช. ได้รบั ความรว่ มมอื อยา่ งเข้มแขง็ และสามารถขยาย ผลออกสู่กลุ่มเป้าหมายเป็นวงกว้าง อันเป็นเป้าหมายที่ส�ำคัญของการด�ำเนินกิจกรรมป้องกันการทุจริตตาม ยุทธศาสตร์ชาตวิ ่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทจุ ริต ระยะท่ี 3 2. โครงการวิจัยเร่ือง พฤติกรรมข้าราชการในการปฏิบัติงานตามข้อบังคับว่าด้วยจรรยา ข้าราชการของกระทรวงมหาดไทย : มีวัตถุประสงค์ของการศึกษาเพ่ือ (1) ศึกษาการปฏิบัติหรือไม่ปฏิบัติตาม ขอ้ บงั คบั วา่ ด้วยจรรยาข้าราชการ และศึกษาปจั จยั ท่ีสง่ ผลตอ่ การปฏิบัติหรือไม่ปฏิบตั ิตามขอ้ บังคับวา่ ด้วยจรรยา ข้าราชการของกระทรวงมหาดไทย (2) การส�ำรวจการรับรู้ และความคดิ เหน็ ของประชาชนท่ีมีตอ่ การปฏิบัติงาน ของข้าราชการในสังกัด และ (3)หาแนวทางและข้อเสนอแนะในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของข้าราชการให้ ปฏิบัติตามข้อบังคับ ว่าด้วยจรรยาของกระทรวงมหาดไทย โดยใช้ระเบียบวิธีการวิจัยแบบผสมผสานวิธี (Mixed Methods Research) ผลการศกึ ษาสามารถสรุปตามประเด็น ได้ดังน้ี 1) ข้าราชการมีระดับพฤติกรรมในการปฏิบัติงานตามข้อบังคับว่าด้วยจรรยาข้าราชการโดยรวม เฉลยี่ อยู่ท่ี 3.65 คะแนน จากคะแนนเต็ม 4 คะแนน ซึง่ จัดไดว้ า่ มีการปฏิบตั ิสม�ำ่ เสมอ เม่ือนำ� คะแนนพฤตกิ รรม การปฏิบัติตามข้อบังคับว่าด้วยจรรยาข้าราชการแต่ละบุคคลมาจ�ำแนกออกเป็น 2 กลุ่ม กล่าวคือ (1) หากขา้ ราชการมรี ะดับพฤติกรรมการปฏบิ ัตติ ามขอ้ บังคับวา่ ด้วยจรรยาขา้ ราชการ น้อยกว่า คา่ คะแนนเฉล่ยี รวม ( =3.65) ถือว่าเป็นกลุ่มข้าราชการ ที่ไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติตามในระดับต่�ำ และ (2) หากข้าราชการ มีระดับพฤติกรรมการปฏิบัติตามข้อบังคับว่าด้วยจรรยาข้าราชการ มากกว่าหรือเท่ากับ ค่าคะแนนเฉล่ียรวม ( =3.65) ถือว่าเป็นกลุ่มข้าราชการปฏิบัติตามหรือปฏิบัติตามในระดับสูง พบว่า ประมาณร้อยละ 57.36 เป็นข้าราชการที่ปฏิบัติตามข้อบังคับว่าด้วยจรรยาข้าราชการ หรือปฏิบัติตามในระดับที่สูง และร้อยละ 42.64 เป็นกลุ่มขา้ ราชการที่ไมป่ ฏิบัติตามข้อบงั คบั ว่าด้วยจรรยาขา้ ราชการ หรือปฏบิ ตั ิตาม ในระดับที่ตำ่� เมือ่ พจิ ารณา ตามรายข้อจรรยาข้าราชการ พบว่า ดา้ นการปฏบิ ัตงิ านดว้ ยจิตบริการ มสี ัดส่วนขา้ ราชการ ท่ปี ฏบิ ตั ิตามขอ้ บงั คับ วา่ ดว้ ยจรรยาขา้ ราชการหรอื ปฏบิ ตั ติ ามในระดบั สูง มากที่สดุ คือ ร้อยละ 81.98 รองลงมาเป็น ด้านความซ่ือสัตย์ สุจริต และความรับผิดชอบ (ร้อยละ 73.30) ความโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ (ร้อยละ 68.90) การมุ่ง ผลสมั ฤทธขิ์ องงาน (รอ้ ยละ 66.70) การด�ำรงชวี ิตตามปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง (ร้อยละ 61.10) ปฏบิ ัติหน้าที่ ด้วยความเสมอภาค เป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ (ร้อยละ 51.43) และการยึดม่ันและยืนหยัดในส่ิงที่ถูกต้องดีงาม และชอบธรรม (รอ้ ยละ 40.58) ตามล�ำดับ 196 รายงานประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการปอ้ งกันและปราบปรามการทจุ รติ แห่งชาติ

รอ ยละ 40.58) ตามลาํ ดบั แผนภาพขรอ ะบดังับคับพแผวฤนาตภดิากวพรยรรจะมดรใับรนพยกฤาตาขกิรารปรรมาฏใชนิบกกทัตาาี่ปรริงฏปาิบฏนัติบิตตัตางิามามนขตข้อาบอมังบขคอ้บัังบวคัง่าคับดบั้วววยาา่จดดร้วรวยยายจขรจร้ารยราารชขยก้าาราารขชากราราชแลกะาสรดั ส่ แวลนขะ้าสราัดชสกาวรนขาราชกา รายงานประจาํ ปง บปสร�ำะหมรับาปณัจจัยพท.ี่มศีผ.ลต2่อ5กา6ร2ปฏิบัติตามข้อบังคับว่าด้วยจรรยาข้าราชการอย่างมีนัยส�ำคัญทางสถิติ รวมทั้งสิ้น 10 ปัจจัย โดยเป็นตัวแปรปัจเจกบุคคล 6 ตัวแปร ได้แก่ เพศ ระดับการศึกษาสูงสุด อายุราชการ ระดับต�ำแหนง่ รายได้ ตอ่ เดือน และทัศนคติตอ่ การเป็นขา้ ราชการ และเปน็ ตวั แปรด้านบรบิ ททางสงั คม 4 ตัวแปร ได้แก่ ด้านวัฒนธรรมองค์กร ระบบการบริหารราชการ การบริหารงานของผู้บังคับบัญชา และการบังคับใช้ กฎหมาย/กฎระเบียบ โดยทุกปัจจัยมีความสมั พนั ธ์กับการปฏิบตั ิตามข้อบังคับว่าดว้ ยจรรยาข้าราชการในทศิ ทาง บวก อย่างมีนยั ส�ำคญั ทางสถติ ิที่ระดบั 0.05 และจากการสมั ภาษณ์เชงิ ลึกขา้ ราชการและบคุ คลที่เกยี่ วข้องพบวา่ ยังมีปัจจัยท่ีช่วยให้ข้าราชการมีการปฏิบัติตามข้อบังคับว่าด้วยจรรยาข้าราชการ ได้แก่ (1) การมีจิตส�ำนึก และทัศนคติท่ีดีในการปฏิบัติหน้าที่ของแต่ละบุคคล (2) การเป็นแบบอย่างที่ดีของผู้บังคับบัญชา (3) วัฒนธรรม องค์กรท่ียึดมั่นในคุณธรรมจริยธรรม (4) การสร้างแรงจูงใจของหน่วยงานโดยการยกย่องเชิดชูเป็นต้นแบบและ ใหร้ างวัลแก่ขา้ ราชการปฏิบตั ติ ามข้อบังคบั วา่ ดว้ ยจรรยาขา้ ราชการฯ และ (5) การนำ� เทคโนโลยีมาใชใ้ นการปฏิบตั งิ าน เพื่อใหก้ ารดำ� เนินงานมปี ระสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขน้ึ รวมถงึ การลดการใชอ้ ำ� นาจดุลพนิ จิ ของขา้ ราชการ ส่วนเหตุปัจจัยที่ท�ำให้ข้าราชการไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติตามได้อย่างไม่ครบถ้วน ได้แก่ (1) การที่ ข้าราชการไม่ให้ความส�ำคัญในการศึกษาข้อบังคับว่าด้วยจรรยาข้าราชการ ท�ำให้ข้าราชการไม่รับรู้ ไม่เข้าใจ แนวทางการปฏิบัติตามอย่างถ่องแท้ (2) ผู้บังคับบัญชามีพฤติกรรมไม่เป็นแบบอย่างท่ีดี และขาดภาวะผู้น�ำใน ดา้ นคณุ ธรรม (3) การบรหิ ารงานแบบระบบอุปถัมภ์ เอ้อื ประโยชน์ให้แกพ่ รรคพวกตนเองในลักษณะท่ไี มช่ อบธรรม ในรปู แบบต่าง ๆ (4) การถกู แทรกแซงจากนกั การเมอื งและเครือข่ายการเมอื งในการปฏบิ ตั งิ านเพ่อื ประโยชนส์ ่วนตน (5) การมีรายได้ไมเ่ พียงพอตอ่ คา่ ใชจ้ า่ ย (6) การหาชอ่ งทางในการแสวงหาผลประโยชน์สว่ นตน (7) คา่ นยิ มทาง วัตถุและสังคมทุนนิยม นิยมยกย่องคนรวยโดยไม่สนใจถึงที่มาของทรัพย์สิน (8) ส่ิงเร้า/แรงจูงใจ ท่ีผิดกฎหมาย และจรรยาอันทำ� ให้ข้าราชการไม่ปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ีตามระเบียบ เช่น การเรยี กรบั สนิ บนการทุจรติ ในการจัดซ้อื จดั จา้ ง เปน็ ต้น และ (9) การบังคับใช้กฎหมาย กฎระเบียบ ข้อบงั คับยังไม่มปี ระสทิ ธภิ าพเท่าท่คี วร โดยไมไ่ ด้มีการบังคบั ใชบ้ ทลงโทษอย่างจรงิ จงั หรอื ไม่ได้ก�ำหนดบทลงโทษไว้ รายงานประจำ� ปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ 197

มุมมองของประชาชนท่ีเคยมารับบริการในส่วนราชการท่ีสังกัดกระทรวงมหาดไทยมีความพึงพอใจ ต่อการให้บรกิ ารของข้าราชการอยูใ่ นระดบั “ปานกลาง” มคี า่ เฉลยี่ อยูท่ ่ี 3.20 คะแนน จากคะแนนเต็ม 5 คะแนน โดยประเด็นที่มีความพึงพอใจมากที่สุด คือ เจ้าหน้าที่มีความรู้ ความสามารถ ความช�ำนาญเหมาะสมกับงาน ที่ให้บริการ รองลงมาเป็น เจ้าหน้าท่ีปฏิบัติหน้าที่ด้วยความถูกต้องตามกฎหมายและระเบียบเพื่อประโยชน์ ของประชาชน และเจ้าหน้าท่ีให้บรกิ ารมคี วามรับผดิ ชอบในการปฏบิ ัตหิ นา้ ทเ่ี ป็นอยา่ งดี ส่วนประเดน็ ทป่ี ระชาชน พึงพอใจน้อยที่สุด คือ เจ้าหน้าท่ีปฏิบัติหน้าท่ีในสิ่งท่ีถูกต้องโดยไม่เกรงกลัวต่ออ�ำนาจของผู้มีอิทธิพล ค่าเฉลี่ย อยู่ที่ 2.89 เม่ือเปรียบเทียบคะแนนเฉล่ียระหว่างความคิดเห็นของประชาชนจากสภาพจริง และความคาดหวัง พบว่า ประชาชนใหค้ ะแนน การปฏบิ ัตงิ านในสภาพจรงิ นอ้ ยกว่า คะแนนความคาดหวังตอ่ การปฏิบตั ิหน้าท่ีของ ข้าราชการ อย่างมีนัยส�ำคัญทาง สถิติท่ีระดับ 0.05 นั่นแสดงให้เห็นว่าการปฏิบัติงานของข้าราชการในภาพจริง ยังไม่ถึงระดบั ทป่ี ระชาชนคาดหวังเทา่ ท่ีควร งานวิจัยน้ีได้เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาในเชิงนโยบายใน 3 ระยะ โดย (1) ข้อเสนอเชิงนโยบายหรือ มาตรการในระยะสั้นควรมีการจัดอบรมสร้างความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับการปฏิบัติตามข้อบังคับว่าด้วยจรรยา ข้าราชการ และมีการแลกเปล่ียนประสบการณ์ และวิธีการประพฤติปฏิบัติตนให้อยู่ภายใต้กรอบข้อบังคับ ว่าด้วยจรรยาข้าราชการ นอกจากน้ีควรมีโครงการส่งเสริมทัศนคติความคิดของผู้บริหารให้มีภาวะผู้น�ำภายใต้ หลักธรรมาภิบาล รวมถึงการรณรงค์การสร้างและปลูกฝังจิตส�ำนึกเร่ืองความซื่อสัตย์สุจริตให้ข้าราชการมากข้ึน มคี ุณธรรม ยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นหลกั ในการดำ� เนินงานต่าง ๆ และมกี ารมอบรางวัลเพ่ือสร้างแรงจงู ใจ ให้แก่บุคลากรในการประพฤติปฏิบัติตามข้อบังคับว่าด้วยจรรยาข้าราชการ ควรใช้คุณธรรมเป็นหลักบริหารราชการ มีการสร้างแรงจูงใจและขจัดระบบอุปถัมภ์ให้มีประสิทธิภาพมากกว่านี้ และส่งเสริมให้ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เขา้ มาบริหารจัดการแบบบรู ณาการร่วมกบั หนว่ ยงานอ่ืน ๆ ผบู้ งั คับบญั ชาควรเป็นแบบอยา่ งทีด่ ี แนะนำ� เรือ่ งงาน และปฏิบัติตนให้เป็นแบบอย่างต่อผู้ใต้บังคับบัญชา ให้ความจริงใจ ให้เกียรติ และยอมรับฟังผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อสร้างทัศนคติและบรรยากาศที่ดีในการท�ำงาน (2) แนวทางการแก้ไขในระยะปานกลางควรปรับปรุงแนวทาง และกฎระเบียบในการสรรหา การแต่งต้ังข้าราชการ การเลื่อนระดับ การโอน โยกย้าย โดยน�ำเร่ืองคุณธรรม และจริยธรรมมาก�ำหนดไว้ในกระบวนการแต่งต้ังหรือเลื่อนระดับต�ำแหน่งสู่การเป็นผู้บริหารในทุกระดับ ของส่วนราชการกระทรวงมหาดไทย ประกอบกับการติดตามและประเมินพฤติกรรมของข้าราชการในสังกัด โดยการประเมินแบบ 360 องศา จากคนรอบข้าง อาทิ เพื่อนร่วมงาน ผู้ใต้บังคับบัญชา ผู้บังคับบัญชา และประชาชนท่ีมารับบริการ และ (3) แนวทางการแก้ไขปัญหาระยะยาว ควรน�ำแนวคิดด้วยพลเมืองศึกษา (Thai Civic Education) บรรจุในหลักสูตรการเรียนการสอนทุกระดับ ปรับทัศนคติ ส่งเสริมให้มีการปลูกฝัง เพื่อหล่อหลอมคุณธรรมจริยธรรมต้ังแต่เด็กและตลอดจนทุกช่วงวัย โดยผ่านท้ังกระบวนการเรียนการสอน ที่เน้นการให้วิธีคิดหรือศาสตร์ในการใช้ชีวิตให้กับเด็กให้เป็นคนดี ควบคู่กับการเป็นคนเก่งเพ่ือให้คนทุกกลุ่ม เกิดความตระหนกั รูถ้ ึงหนา้ ท่ขี องการเป็นพลเมอื งทดี่ ี 3. โครงการวจิ ยั เร่ือง การสำ� รวจการรับรแู้ ละความเข้าใจดา้ นการขดั กันแห่งผลประโยชน์ (Conflict of Interest)ของเจ้าหน้าที่รัฐในองค์การบริหารส่วนจังหวัดของประเทศไทย : มีวัตถุประสงค์ของการศึกษา เพื่อ (1) ส�ำรวจการรับรู้และความเข้าใจของเจ้าหน้าท่ีรัฐในองค์การบริหารส่วนจังหวัดเก่ียวกับแนวความคิด หลักการและมาตรการทางกฎหมายท่ีเก่ยี วข้องกับการขัดกันแห่งผลประโยชน์ (Conflict of Interest) (2) ทราบ ระดับการรับรู้และความเข้าใจของเจ้าหน้าท่ีรัฐในองค์การบริหารส่วนจังหวัดเกี่ยวกับการขัดกันแห่งผลประโยชน์ (Conflict of Interest) และ (3) จัดท�ำข้อเสนอแนะเพื่อการแกไ้ ขปัญหาการส่งเสริม หรือสนบั สนุนให้เจา้ หนา้ ที่ ของรัฐในองค์การบริหารส่วนจังหวัดมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในประเด็นของการขัดกันแห่งผลประโยชน์ โดยการศึกษาใช้ระเบยี บวธิ ีวิจยั เชิงปริมาณ (Quantitative Research) 198 รายงานประจ�ำปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามการทจุ ริตแหง่ ชาติ

หลักการและมาตรการทางกฎหมายที่เกี่ยวของกับการขัดกันแหงผลประโยชน (Conflict of Interest) (2) ทราบ ระดับการรับรูและความเขาใจของเจาหนาที่รัฐในองคการบริหารสวนจังหวัดเกี่ยวกับการขัดกันแหงผลประโยชน (Conflict of Interest) และ (3) จัดทําขอเสนอแนะเพื่อการแกไขปญหาการสงเสริม หรือสนับสนุนใหเจา หนาท่ี ผ ขโดลอยปงกรราะัฐรโใยศนชกึ อ นษง์ใาคนจ1ใกาช)รจ1ากะราเ)รผดะจกบเลเบั ้าบจผกรปหลายีิหาาหนกบรานาศ้วนารกรึกิธทสาลศวีษ่ีวอทาึกิจานงง่ีอษยั คจสคงเาชั์งกาคดิ หงิสมาเกปปาาวรามรรัน็ดบรถิมารมรบสราอ้ิีหคถณรรยวาิปุสหลารรไ(าะมQสดปุ ร้ดร่5วไuสูดคงั2นaวนด.วnจ8น้ีงัาtัง9นจiมหtั้ีaงเวขหtัดiาvวขใeัดจอขทRงอe่ีถปsูงกรeปตะaรอเrทะcงhศเใทน)ไทศปไยรทะมเยีกดมา็นีรกขราอับรงรรกัูบ้เากรรี่ยูเขกวัด่ีกยกับวันกกแับาหรกขงาผัดรลกขปันัดรแกะหันโ่งยแชหนง แผลผปนแรภผะานโพยภชารนพะใดนรับะรกดะาดับรบักรปาับรารรนูเบักกร่ยี ลู้เวากกงี่ยับวคกกิดาับเรปกขน าัดรรกอขนั ยดั แลกหะันง แ5ผห2ล.ง่ป8ผร9ละปโยรชะนโยข ชอนงเข์ จอา งหเนจา้า ทหี่นอง้าคทกอ่ี างรคบ์กราิหราบรรสิหว านรจสงั ว่ หนวจัดังหวดั ผม มผลคีลคี ปวปวารารมะมะเโเโขยขย้าชาช ใในจนจ์ใใใในน2 นน)ภรภระ าะา(เด2พ1จดพบั))ร้าับร วปเ(หวปจ1มมามน)าาิตในใ้หนานิดนกทกรมน้ลราะี่อลิตาะนาดงาทิงดดคบัคงี่อับาคว์ปกคงปนาดิ าาคิดมาเคนรปกเนเบวปกขน็ากาลรน้ารรลิมหาใบรอ้ าจงเอายรงขเรยคิลหกาสคลดิะ่ีายใ่ดิวะเรจว4ปนเสกเป54น็จกวับ5.น รั2งี่นย.ผรอ้ห20วจอลย0วกังยลปัดหับละรขวะผะอ4ัดลโง46ขยปป6.อ0ช.รร0ง9นะะป9์สเเโรมท่ยวเะมอื่ศนชเพ่อืไทตนทพจิ ศัวสายจิ ไรวามท(ณรPนีคยณrาตวมiเvาาัวปีคaมเปน็ว(tเPาขeรน ามr้ารiยvoเใาขจมaยrาเtติมกeใPิิตจ่ียพeoิเวบพกrrกsว่ียบoัPบา่ ววenกกา raาับslรoกขnIาnัดaรtกlขeันIัดrnแeกtหseันtr่ง)แeหstง) (2) มิติด้านความเข้าใจเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าท่ีท่ีก�ำหนดอย่างเป็นทางการ (Public or Oราffยicงiาaนl ปDuระtyจ)ํามปคีงวบาป(ม2ร)เขะา้มมใาจิตณใิดนารพนะ.ดศคบั.วปา2ม5านเ6ขก2าลใาจงเกค่ียิดวเปกั็นบรกอ้ ายรลปะฏิ4บ5ัต.ิ4ห0นาที่ที่กําหนดอยางเปนทางการ ห(Pนuา b2li0c4or Official D uty ) มคี(3ว)า มมเิตขาิดใ้าจนในควราะมดเบั ขป้าาใจนเกล่ียาวงกับคกดิ าเปรขน ัดรอแยล้งใะน4ผ5ล.ป40ระโยชน์ส่วนตัวและส่วนรวม มีความเข้าใจ ในระดับปานกลาง คิด(3เ)ป็นมรอ้ิตยิดลาะนค4ว7า.6ม8เขาใจเก่ียวกับการขัดแยงในผลประโยชนสวนตัวและสวนรวม มีความเขาใจ ในระดบั ปานกลาง คิดเปน รอ ยละ 47.68 แแผผนนภภาาพพรระะดดบั บั คคววามามเขเขา ใา้ จใเจกเีย่กวีย่ กวับกกับากราขรดั ขกัดนั กแันหแงหผง่ลผปลรปะรโยะชโยนชข นอ์ขงเอจงาเหจนา้ หา ทน่ีอ้างทค่ีอกงาคร์กบารริหบารรหิ สาวรนสจ่วงั นหจวังัดหวดั สดก แ(ผIบดผ((nCCCลหั้าบ่าวรลtoooนนeปินห่งตปnnnrกผกราจัวefรffาะlลราแังlsliะciรรสโปiหtปccยโtขข)วtรวยรtชดััดoกน ะัดอoชนกfักบจโoิสfนย์ันัIนังตnfแ(รกIชCหแnแัtวะลา(กขeนIoหวหtCแnระerัาอด์n่งพศปงoetขr(ผรผfเesึกenCบรนแlสศลtลirsษอfo)cวลาeึปนlปtกิสtาi่แาnะด)csรรษอครลขoftอมtะะlระวแ)าะนfiีคงโโocะาคยกยนคาIวพแtมfดnชชาดวา์กะลบสับtIรนนoมอาneาแะมัเวกม์fสขงtรrนกพ(า(eาeคCมับาCสIารrันsวnกรรoพัoรมeรศtทวะธtาnิ)หนัnsเพeึกม์รรดขftามfาธlrะษบั)กlนับ้iงาeอรคีciหcริาจกสรธกtsสยวtิวหก่tัวํบราาา่oาวต)า่ารoมรมะหงนfกง�ำรรมศfกกสหคIรจแาสมnึีนับกิัมจIวััวบรงหnวtษยัสากพeกหาศนtนกมสัrมาeารันงึวกจe่งาเรําrรมคัดธขังsหตษeรศคมtนอ์หวา้ํsนปา)ึญกัาใยมาาวtแรจ้าขษร)สา่มทัดีควหทกดัอบงัามรามเวานา้ี่ใมมขวขมงมปทานรนนีม้งีอสคาูลมอน้ัรงปกหทถมยัวใบยุสอางาัจจนาิตสูลงั้ ังัแมรรงมจยดำ�ิาอพมกขคพลุบคังสทางบัดอาคพัะนัญัคัมนน่ีใรกงววนบพพ์คธคทกอานั าปว์รอัวัฒนคาบาแมกา่ะายจงวธรหรายมนรส่จาาอกขมรง่ูะเรถมงุาบยัารดกผอู้เเมิตรกรับัวกานลี่ยกงูเีรินลงา่ียรปกคัวนับมรัยูาแรวี่ยร์กคะรแีในสลสกะวันแู้วบยหัะ�ยัำบโรกาลกะยกคคสางักบมะเาชวัาํญผงาวากครรนาครกลรลาูทท้วเม์ขขัญาากรป(า�ำเาCััดใดขรขี่ยมทงงนรoกัรดากาวเสาะกขัnใบันนกักนงถจโ้าาfแสัทนัรยบิตดlแใรiูจหถแ่ีแอcชทิกกาหดิตt่งหนงลัานํบางผา้คิกoกรงงะคผนล์ผกัาขบf(าควลCกปนราลัดIคาnวขาปoรรทปกวมtารบัดะnรา่ีeัอนรขเมโfรกมะขrะงlยัดแเิeหันiโเ้าคโขcชกหขsยยาใแtกนtานัาจ่รงชช)หาใใo์ นนจจรงf คดาวนรกใหารคขวดั ากมันสแําหคงัญผลแปลระะเโรยงชเผนยขรอแางพยเงจราานปปหรรนะะจา ำ�ชทปางี ่ีรบสัฐปัมใรนะพมอาันณงคธพเก พ.าศื่ร.อ2บก5รา6ิห2ราสครณรสาะวกงรนกรจมาังกรหารรวปับัด้อรขงูกแอันลงแปละะปรคระวาเบาทปมศราเไมขทกายารใทจสจุ ดาํ รนาิตัแกนหงง่กาชานาตริปขัด.ป1ก9.ชั9น. แหงผลประโยชนข องเจา หนา ท่ีรัฐในองคการบริหารสวนจังหวัดเปน อยางย่ิง และควรพัฒนา ปรบั ปรุง เปล่ียนแปลง

ข้อเสนอแนะแนวทางส�ำหรับการปรับปรุงและพัฒนาการสร้างการรับรู้และความเข้าใจด้านการขัดกัน แหง่ ผลประโยชนข์ องเจ้าหน้าทีร่ ัฐในองคก์ ารบริหารส่วนจังหวัดของประเทศไทย สำ� นักงาน ป.ป.ช. ควรให้ความส�ำคญั และเร่งเผยแพร่ประชาสัมพันธ์เพื่อการสร้างการรับรู้และความเข้าใจด้านการขัดกันแห่งผลประโยชน์ของเจ้าหน้าท่ี รัฐในองคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวัดเปน็ อย่างยิ่ง และควรพัฒนา ปรบั ปรงุ เปลีย่ นแปลง ปรบั ทิศทางการด�ำเนินงาน สร้างการรับรู้และความเข้าใจ โดยมุ่งเน้นการสร้างและท�ำความเข้าใจในแนวคิดพื้นฐานของการขัดกันแห่ง ผลประโยชน์ในกลุ่มที่มีระดับการศึกษาน้อย กลุ่มเจ้าหน้าท่ีรัฐในระดับปฏิบัติ และกลุ่มองค์การบริหาร ส่วนจังหวัดขนาดใหญ่ โดยในระยะแรกของการสร้างการรับรู้และความเข้าใจด้านการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ควรมุ่งเน้นและให้ความส�ำคัญกับช่องทางการเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ท่ีควรเข้าถึงง่ายและไม่ซับซ้อน โดยเฉพาะ ตัวสื่อประชาสัมพันธ์ควรมีลักษณะทันสมัยและย่อยองค์ความรู้ให้สามารถเข้าใจง่าย และการสร้าง การรับรู้และ ความเข้าใจอาจด�ำเนินการโดยการจัดอบรม สัมมนา และการเข้าร่วมกิจกรรมท่ีเก่ียวข้องของเจ้าหน้าที่รัฐควบคู่ กนั ซง่ึ สามารถสง่ ผลตอ่ ระดบั การรบั ร้แู ละความเขา้ ใจด้านการขดั กนั แห่งผลประโยชน์ด้วย 4. โครงการวิจัยเรื่อง ต�ำแหน่งเจ้าหน้าที่รัฐกับการเปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหน้ีสิน ตอ่ สาธารณะ : มวี ตั ถุประสงค์ของการศกึ ษาเพอื่ (1) เปรยี บเทียบแนวคิด หลกั การ การเปดิ เผยบัญชีทรพั ย์สนิ และการก�ำหนดต�ำแหน่งท่ีต้องเปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหน้ีสินของประเทศไทยและต่างประเทศ (2) เพ่ือจัดท�ำข้อเสนอแนะการก�ำหนดต�ำแหน่งเจ้าหน้าท่ีของรัฐท่ีควรก�ำหนดให้มีการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สิน และหนสี้ นิ ตอ่ สาธารณะ และ (3) การวิเคราะห์แนวโนม้ การเปดิ เผยบัญชแี สดงรายการทรัพยส์ ินและหน้สี นิ ภายใต้ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. .... โดยการศึกษาได้ใช้ ระเบียบวิธวี ิจัยเชงิ คุณภาพ (Qualitative research) ที่เน้นการวิจัยแบบเอกสาร (Documentary research) ผลการศึกษาสามารถสรุปหลักเกณฑ์ในการเปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ต่อสาธารณะได้ ดงั นี้ 1) เปน็ ผดู้ ำ� รงต�ำแหน่งการเมือง 2) เป็นเจา้ หนา้ ทีร่ ัฐระดับสงู 3) เป็นเจ้าหน้าท่รี ฐั ที่ใช้ดลุ พนิ จิ อันจะเกดิ การใหค้ ุณหรอื ใหโ้ ทษกบั ประชาชนในประเทศ 4) เป็นเจา้ หน้าท่ีรฐั ทม่ี ีหนา้ ทด่ี ำ� รงความยุติธรรมในประเทศ และ 5) เปน็ หน่วยงานทที่ ำ� หนา้ ทใี่ นการป้องกนั และปราบปรามการทุจริตในประเทศ โดยการเปดิ เผยบญั ชที รัพย์สนิ และหนี้สนิ ของตา่ งประเทศ จะมที ัง้ การเปดิ เผยบัญชีฯ แบบออนไลน์ และออฟไลน์ โดยไม่ก�ำหนดระยะเวลาในการเปิดเผยบัญชีฯ จึงท�ำให้ประชาชนสามารถเข้ามาตรวจสอบผู้ใช้ อ�ำนาจรัฐได้ตลอดเวลา ซ่ึงในการเปิดเผยบัญชีฯ จะเป็นการเปิดเผยบัญชีฯ แบบสรุปโดยไม่ระบุรายละเอียด ทจี่ ะทำ� ให้เกดิ ความไม่ปลอดภยั ต่อเจ้าของขอ้ มลู การวิเคราะห์แนวโน้มการเปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินตามพระราชบัญญัติ ประกอบรฐั ธรรมนญู ว่าดว้ ยการป้องกันและปราบปรามการทจุ ริต พ.ศ. .... พบวา่ คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะต้อง ดำ� เนนิ การเปดิ เผยบัญชีแสดงรายการทรัพยส์ นิ และหนี้สินของผู้ย่นื บญั ชฯี จำ� นวน 178,991 บญั ชี ซ่ึงในการเปิด เผยบัญชแี สดงรายการทรพั ยส์ นิ ดงั กล่าว จะเป็นการสรา้ งภาระงานใหก้ ับเจา้ หนา้ ท่ีตรวจสอบทรัพย์สนิ สำ� นักงาน ป.ป.ช. หากระบบการเปิดเผยบญั ชแี สดงรายการทรัพยส์ นิ และหนสี้ นิ ของสำ� นกั งาน ป.ป.ช. ยังเปน็ ระบบเดมิ คอื การรับย่ืนบัญชีจากเอกสารและส�ำเนาเอกสารติดประกาศไว้ในส�ำนักงาน ป.ป.ช. หรือแม้แต่ การเปิดเผยบัญชี ทรัพย์สินและหน้ีสินออนไลน์ ที่ต้องท�ำส�ำเนาเอกสารดิจิตอล เพราะมีเงื่อนไขในการปกปิดข้อมูลที่อาจก่อให้เกิด อันตรายตอ่ ชวี ิต ร่างกาย หรือความปลอดภยั ในทรัพย์สนิ ของเจ้าของขอ้ มูล 200 รายงานประจ�ำปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามการทจุ ริตแห่งชาติ

ข้อเสนอแนะแนวทางส�ำหรับการก�ำหนดตำ� แหนง่ เจ้าหนา้ ทีข่ องรฐั 1) ควรก�ำหนดใหผ้ ู้บรหิ ารส�ำนกั งาน ป.ป.ช. จำ� นวน 120 ตำ� แหนง่ ประกอบดว้ ย รองเลขาธกิ ารฯ 6 ต�ำแหน่ง ผชู้ ่วยเลขาธิการฯ 6 ตำ� แหนง่ ผ้ชู ว่ ยเลขาธกิ ารฯ ภาค 9 ต�ำแหน่ง ผ้อู ำ� นวยการส�ำนัก/สถาบนั /ศนู ย์ 99 ต�ำแหนง่ และทปี่ รกึ ษาประธานฯ/กรรมการ ป.ป.ช. เลขานุการประธานฯ/กรรมการ ป.ป.ช. จ�ำนวน 27 ต�ำแหน่ง เปดิ เผยบญั ชีแสดงรายการทรพั ยส์ นิ และหนสี้ ินต่อสาธารณะ เพราะเม่ือพิจารณาจากหลักเกณฑท์ ค่ี ณะผวู้ จิ ัยสรุป 5 ข้อข้างต้น ในส่วนของหลักเกณฑ์ข้อที่ 5 “หน่วยงานที่ท�ำหน้าที่ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตใน ประเทศ” ยังไม่ได้ก�ำหนดให้ผู้บริหารส�ำนักงาน ป.ป.ช. และท่ีปรึกษาประธานฯ/กรรมการ ป.ป.ช. เลขานุการ ประธานฯ/กรรมการ ป.ป.ช. ต้องเปดิ เผยบัญชแี สดงรายการทรพั ย์สินและหน้สี นิ ตอ่ สาธารณะ ท้งั นี้ การกำ� หนด ดังกล่าว ยังจะเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือขององค์กรให้เป็นที่ประจักษ์ต่อประชาชน และเป็นการส่ือสารไปยัง หน่วยงานรัฐอืน่ วา่ หน่วยงานรฐั ตอ้ งมีความโปร่งใส และให้ประชาชนเข้ามาตรวจสอบได้ 2) ควรปรับกระบวนการตรวจสอบทรัพย์สินให้มีความสอดรับ กับการเปิดเผยบัญชีแสดงรายการ ทรพั ย์สนิ และหน้ีสิน โดยปรับกระบวนการตรวจสอบทรัพยส์ นิ ใหเ้ ปน็ การตรวจสอบทรพั ยส์ นิ เชงิ รุก เจ้าพนกั งาน ตรวจสอบทรัพย์สินเป็นผู้เฝ้าระวังประเด็นการทุจริตและการร�่ำรวยผิดปกติของเจ้าหน้าที่รัฐและนักการเมือง ทเ่ี กดิ ขน้ึ ในสังคม ผ่านการแจง้ เบาะแสจากภาคประชาชนทุกภาคสว่ น 3) ควรพัฒนาแพลตฟอร์มในการย่ืนบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และพัฒนาระบบ สารสนเทศเพื่อรวบรวมและวิเคราะห์ทรัพย์สินให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพ่ือรองรับต่อการยื่นบัญชีทรัพย์สินและ หน้ีสินด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ และการเปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหน้ีสินออนไลน์ ทั้งน้ี หากระบบ สารสนเทศดังกล่าว สามารถพัฒนาไปถึงขั้นการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการช่วยวิเคราะห์ และตรวจสอบ ความผิดปกติในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหน้ีสินที่ยื่นต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ โดยเจ้าพนักงาน ตรวจสอบทรัพย์สินเป็นผู้ก�ำหนดหลักเกณฑ์มาตรฐาน (Criteria) ภารกิจด้านตรวจสอบทรัพย์สินของ คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะช่วยยกระดบั การปอ้ งกันการทุจริตในประเทศไทยได้อยา่ งมาก 4) ควรเตรียมความพร้อมในเรื่องของระบบเครือข่าย (Network System) และอุปกรณ์ทาง อิเล็กทรอนิกส์เพื่อรองรับระบบสารสนเทศท่ีจะเข้ามาช่วยในภารกิจตรวจสอบทรัพย์สิน (ในข้อ 3) เพราะหากมี การเปดิ ใหผ้ มู้ ีหน้าทยี่ นื่ บญั ชีแสดงรายการทรัพยส์ ินและหนส้ี ินเข้ามาใช้งาน ระบบสารสนเทศดังกลา่ ว อาจไมส่ ามารถ ใช้งานได้ และจะเป็นการเริ่มต้นการย่ืนบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหน้ีสินด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่ค่อยดีนัก ในสายตาของผ้มู สี ่วนเกี่ยวข้อง และภาพลักษณข์ องคณะกรรมการ ป.ป.ช. และส�ำนักงาน ป.ป.ช. 5. โครงการวิจัยเร่ือง รูปแบบการทุจริตและปัจจัยเส่ียงท่ีก่อให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชันในองค์กร ปกครองส่วนท้องถนิ่ : มีวัตถุประสงคข์ องการศกึ ษาเพ่ือ (1) ศกึ ษารูปแบบการทจุ รติ คอร์รปั ชนั ในองค์กรปกครอง สว่ นท้องถนิ่ (2) ศึกษาปัจจัยเส่ยี งที่กอ่ ให้เกิดการทจุ ริตคอรร์ ปั ชันในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ (3) เสนอ แนวทางแก้ไขหรือก�ำหนดมาตรการป้องกันการทุจริตในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยการศึกษาได้ใช้ระเบียบ วธิ วี จิ ยั เชิงคุณภาพ (Qualitative research) ผลการศึกษา พบวา่ รูปแบบการทุจริตคอรร์ ปั ชนั ในองคก์ รปกครองส่วนท้องถน่ิ มีรปู แบบการทุจรติ 5 รูปแบบ คอื การทจุ รติ ในการจดั ซอื้ จดั จา้ ง การทุจริตในงานการเงินและบัญชี การทจุ รติ ในการบรหิ ารงานบคุ คล การทจุ รติ ในการบงั คบั ใช้กฎหมาย และการทุจริตในการบรกิ าร โดยรูปแบบการทจุ ริตในองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิ่น ท่ีเกิดข้ึนมากที่สุด คือการทุจริตในการจัดซ้ือจัดจ้าง รองลงมาเป็นการทุจริตในงานการเงินและบัญชี การทุจริต ในการบริหารงานบุคคล การทุจริตในการบังคับใช้กฎหมาย และการทุจริตในการบริการ โดยปัจจัยเสี่ยง ในการกระท�ำทุจริตมที ัง้ ในภาพรวม ได้แก่ ปัจจยั ทีม่ าจากตวั เจา้ หน้าท่ีของรัฐทป่ี ฏบิ ัติงาน ความไม่ซอ่ื สัตยส์ จุ ริต รายงานประจำ� ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามการทุจรติ แหง่ ชาติ 201

เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน ปัจจัยเชิงระบบของการก�ำกับดูแล ได้แก่ ระบบการตรวจสอบภายในขององค์กร ปกครองส่วนท้องถ่ินที่ขาดประสิทธิภาพเท่าท่ีควร การขาดการตรวจสอบหรือการควบคุมดูแลการปฏิบัติ ของผูบ้ งั คบั บัญชา ความลา่ ชา้ ในการตรวจสอบการทจุ ริตของสำ� นักงาน ป.ป.ช. ทำ� ใหผ้ กู้ ระทำ� ผิดไมเ่ กรงกลวั ตอ่ การถูกจับได้และบทลงโทษท่ีจะได้รับ ระบบอุปถัมภ์ในสังคมไทยที่ต้องรักษาความสัมพันธ์ส่วนตัวและในหน้าที่ การงาน การเข้าสู่ต�ำแหน่งของนักการเมืองหรือผู้บริหารท้องถิ่นซ่ึงต้องมีการถอนทุนคืน การถูกครอบง�ำหรือ ความเกรงกลัวต่ออิทธิพลของนักการเมืองท้องถ่ินหรือผู้บริหารท้องถิ่น รวมท้ัง การขาดความรู้ความเข้าใจ กฎหมายและกระบวนการท�ำงานของผู้บริหารท้องถิ่น ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่เกิดขึ้นเฉพาะรูปแบบการทุจริต พบว่ามี ปัจจัยในกฎหมายหรือระเบียบพัสดุที่ใช้ในการจัดซื้อจัดจ้าง การไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบหรือหลักเกณฑ์ข้ันตอน ในการท�ำงานอย่างเคร่งครัด การมีประสบการณ์และความคุ้นเคยในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าท่ีด้านการเงิน และบัญชี ท�ำให้เห็นถึงช่องว่างท่ีเป็นโอกาสในการทุจริตได้ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยในเร่ืองกฎหมายให้อ�ำนาจแก่ ผู้บริหารท้องถ่ินเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลมากเกินไป หรือการใช้ดุลพินิจในการตีความกฎหมาย/สัญญา ไปในทางทม่ี ิชอบ และปจั จยั เสี่ยงในเรื่องต�ำแหน่งหน้าทีท่ ่เี ออื้ ต่อการทจุ รติ ก็เปน็ ช่องทางหรอื มคี วามเส่ียงใหเ้ กิด การทจุ รติ ได้ ส�ำหรับข้อเสนอแนะเชิงนโยบายและการปฏิบัติต่อการพัฒนาและปรับปรุงการด�ำเนินงานของ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ควรให้มีการเสริมสร้างหรือปลูกฝังจิตส�ำนึก คุณธรรมจริยธรรม ให้กับบุคลากร ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปรับปรุงระบบการตรวจสอบภายในให้มีประสิทธิภาพ ก�ำหนดเป็นนโยบายให้ ผบู้ งั คับบัญชาต้องมกี ารก�ำกับดแู ลและตรวจสอบอยา่ งเครง่ ครัด และสม่ำ� เสมอ เพ่อื สกัดกัน้ การทจุ รติ ในเบื้องตน้ ควรมกี ารลงโทษทางวินัยโดยเร็วเมอื่ พบการทจุ ริต เพ่อื ท�ำใหเ้ กดิ ความเกรงกลัว ไมก่ ล้าท�ำตาม 6. โครงการการวิจัยเรื่องการจัดท�ำแนวทางการปรับปรุงกลไกและกระบวนการปราบปราม การทุจริตของประเทศไทย : มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการด�ำเนินงานการปราบปรามการทุจริตในส่วนของ คณะกรรมการ ป.ป.ช. และส�ำนกั งาน ป.ป.ช. เกยี่ วกับกระบวนการ/ข้ันตอนการปราบปรามการทจุ ริต และปัญหา อุปสรรคในทางปฏิบัติของกระบวนการปราบปรามการทุจริตในส่วนงานต้นน�้ำตั้งแต่การรับเรื่องร้องเรียน/กล่าว หาจนถึงการวินิจฉัยคดี และศึกษาเทียบเคียงการด�ำเนินงานของหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม ท่ีเก่ียวข้อง เพ่ือเรียนรู้แนวปฏิบัติ/กระบวนการ/ข้ันตอนการด�ำเนินงานท่ีจะสามารถเป็นแบบอย่างท่ีจะได้น�ำมา ปรับใช้กับส�ำนักงาน ป.ป.ช. น�ำไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพการด�ำเนินงานด้านการปราบปรามการทุจริตต่อไป โดยการศึกษาไดใ้ ช้ระเบียบวธิ ีวจิ ยั เชิงคณุ ภาพ (Qualitative research) ผลการศึกษาสามารถสรุปได้ดังนี้ 1) จากปัญหาจ�ำนวนบุคลากรท่ีไม่เพียงพอโดยเฉพาะบุคลากรท่ีมีประสบการณ์ และปริมาณงาน ที่มีมากเกินกว่าระดับท่ีเหมาะสมในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าท่ี ซึ่งเป็นปัญหาเชิงการบริหารจัดการ และ เชงิ โครงสร้างทีส่ ะสมตอ่ เนอ่ื งเป็นเวลานาน แมจ้ ะมีการใชพ้ ระราชบญั ญัตปิ ระกอบรัฐธรรมนญู ว่าด้วยการปอ้ งกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 รวมถงึ มกี ารก�ำหนดลดกระบวนการทำ� งานในบางข้นั ตอนกต็ าม แตป่ ัญหา ดังกลา่ วยงั ไม่สามารถลดไดโ้ ดยเรว็ โดยต้องอาศัยทงั้ การบริหารจัดการคดแี ละการบริหารงานบุคคลในระดบั ส่วนกลาง และส่วนภูมิภาคที่มีความยืดหยุ่นและตอบรับกับปริมาณคดีที่อยู่ในความรับผิดชอบ ต้ังแต่การจัดสรรพนักงาน ไต่สวนประจ�ำในส�ำนักไต่สวนท้ังส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยมีจ�ำนวนและระดับต�ำแหน่งท่ีสอดคล้องกับ จ�ำนวนเรื่องกล่าวหาท่ีอยู่ในความรับผิดชอบ การมอบหมายงานตามระดับ/ความเช่ียวชาญและในปริมาณ ท่ีเหมาะสม การน�ำระบบพสี่ อนน้องและระบบการท�ำงานเปน็ ทีมมาช่วย การจดั ทำ� คมู่ ือการปฏิบัติงานเปน็ การเฉพาะ ประเภทคดี การจัดอบรมในหลักสูตรเฉพาะด้านท่ีจะช่วยในการปฏิบัติการแต่ละข้ันตอน รวมท้ัง การจัดให้มี เจา้ หนา้ ทช่ี ่วยเหลืองานธุรการเชิงคดี อันเปน็ การลดภาระหน้าทขี่ องพนกั งานไตส่ วน 202 รายงานประจ�ำปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามการทุจรติ แหง่ ชาติ

2) พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ได้ให้ความส�ำคัญกับการลดข้ันตอนของกระบวนการท�ำงาน ส�ำนักงาน ป.ป.ช. ควรพิจารณากระบวนการและขั้นตอน ตลอดจนการก�ำหนดหน่วยงานรบั ผดิ ชอบ เพื่อใหม้ คี วามรวดเรว็ และคลอ่ งตวั มากข้นึ เชน่ ในการตรวจรบั คำ� กล่าว หาจนถึงการออกเลขแดงไม่รบั ไว้พิจารณา ออกเลขดำ� กรณีรับด�ำเนนิ การเอง และเลขดำ� กรณสี ่งเรือ่ งใหห้ น่วยงานอ่ืน ด�ำเนินการ ควรให้หน่วยเดียวเป็นผู้ด�ำเนินการ และพิจารณาอัตราก�ำลังเจ้าหน้าท่ีให้เพียงพอ รวมท้ังการจัดเก็บ ฐานขอ้ มูลในเรอื่ งกระบวนการงานทีม่ กี ารด�ำเนินการในขั้นตอนการตรวจสอบเบื้องต้นและการไต่สวนจ�ำแนกตาม ประเภทลักษณะความผิดและขนาดคดี เพื่อประโยชน์ในการวิเคราะห์กระบวนงาน สถานการณ์การด�ำเนินงาน และปัญหาอุปสรรค เพ่ือประโยชน์ในการบริหารจัดการการพัฒนา/ปรับปรุงกระบวนงานในขั้นตอนต่าง ๆ ให้เหมาะสมตามประเภทคดีและขนาดคดี และควรมีการพิจารณาภาระงานภายหลังการชี้มูลให้มีหน่วยรับผิดชอบ ในขั้นตอนนี้ เพื่อแบ่งเบาภาระงานของพนักงานไต่สวน และควรมีการศึกษาลักษณะงานภายหลังการชี้มูลว่า ประกอบด้วยงานด้านใดบ้าง เช่น งานการเอกสารทวงถาม งานการช้ีแจงให้รายละเอียด ฯลฯ และมีเร่ืองท่ีต้อง ก�ำกับติดตามมากน้อยเพียงใด ต้องการองค์ความรู้ใดบ้าง ในแต่ละส่วนงาน เพ่ือสามารถวางแผนในด้านการ พัฒนาบุคลากรได้อย่างเหมาะสมต่อไป ส�ำหรับการมอบหมายให้หน่วยงานท่ีมีหน้าที่และอ�ำนาจด�ำเนินการแทน คณะกรรมการ ป.ป.ช. เช่น พนักงานสอบสวน หรือคณะกรรมการ ป.ป.ท. ฯลฯ ควรกำ� หนดเงอ่ื นไขมอบหมายท่ี ชัดเจนลดปัญหาการใช้ดุลพินิจ รวมทั้งการวางแผนการด�ำเนินงานในส่วนการก�ำกับติดตาม และการพิจารณาให้ ความเห็นต่อส�ำนวนคดีที่ส่งกลับมา เนื่องจากภาระงานที่เพิ่มขึ้นส่งผลต่อการบริหารจัดการบุคลากรท่ีจะต้อง รองรับภารกิจท่เี พ่ิมข้นึ 3) การบูรณาการการท�ำงานร่วมกับหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมต่าง ๆ โดยการหารือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อบูรณาการการท�ำงานร่วมกันผ่านทางการออกกฎหมาย ก�ำหนดแนวทางปฏิบัติ รวมทั้ง มีการพัฒนาระบบสารสนเทศอิเล็กทรอนิกส์เพ่ือการติดตามและรายงานผลการด�ำเนินงานแบบออนไลน์ การก�ำหนด/จัดต้ังศูนย์กลางในการประสานความร่วมมือภายในองค์กรส�ำหรับติดตามผล เพื่อความรวดเร็ว มปี ระสทิ ธภิ าพและเกดิ ผลสัมฤทธ์ใิ นระบบงานทัง้ หมด รวมทัง้ การพฒั นาระบบการจดั เกบ็ ข้อมลู กลาง เพอ่ื หน่วยงาน สามารถใช้ประโยชนใ์ นการตรวจเรือ่ งซำ้� และเชื่อมโยงข้อมลู ระหวา่ งหนว่ ยงานทเ่ี กีย่ วข้อง 7. โครงการวิจัยเรื่องการส�ำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่เก่ียวกับสิทธิการรับรู้ข่าวสาร การรับรู้การทุจริต ผลกระทบและความเสียหายท่ีเกิดจากการทุจริตต่อประชาชน : มีวัตถุประสงค์การศึกษา เพ่ือ (1) ศึกษาระดับความรู้ของประชาชนเก่ียวกับการมีสิทธิรับรู้ข้อมูลข่าวสาร และเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของ ส�ำนักงาน ป.ป.ช. (2) ศึกษาระดับการรับรู้การทุจริต ผลกระทบและความเสียหายที่เกิดจากการทุจริตของ ประชาชน และการมี สว่ นร่วมในการแกไ้ ขปัญหาการทุจรติ ของประชาชน (3) เปรียบเทยี บภมู หิ ลงั ของประชาชน เก่ียวกับการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของส�ำนักงาน ป.ป.ช. การรับรู้การทุจริต ผลกระทบและความเสียหายท่ีเกิดจาก การทจุ รติ และ (4) เพ่อื ให้ส�ำนกั งาน ป.ป.ช. ไดม้ ขี ้อมลู ประกอบการปรบั ปรงุ แกไ้ ขและยกระดบั การดำ� เนนิ งาน/ การก�ำหนดมาตรการเพื่อให้สนองตอบต่อสิทธิของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ และการจัดท�ำแผนการด�ำเนินงาน ตลอดจนมาตรการตา่ ง ๆ ใหป้ ระชาชนมีความรู้เกยี่ วกับพษิ ภยั ของการทจุ ริตประพฤติมิชอบ และเข้ามามีสว่ นรว่ ม ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในระดับต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพมากข้ึน โดยใช้ระเบียบวิธีการวิจัย เชิงส�ำรวจ (Survey Research) รายงานประจำ� ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ ริตแห่งชาติ 203

สวนรวมในการแกไขปญหาการทุจริตของประชาชน (3) เปรียบเทียบภูมิหลังของประชาชนเก่ียวกับการรับรูขอมูล ขาวสารของสํานักงาน ป.ป.ช. การรับรูการทุจริต ผลกระทบและความเสียหายที่เกิดจากการทุจริต และ (4) เพื่อให สํานักงาน ป.ป.ช. ไดมีขอมูลประกอบการปรับปรุงแกไขและยกระดับการดําเนินงาน/การกําหนดมาตรการเพ่ือให สใกหาน ผปรอทลรงะกุจตชรรอิตา ะบชใทนนตบรมอ ะแีคสดลวิทบั ะาจ1จธตมค)าิาขารวกกง ูเอากกผผงมๆี่ยาลลปเวรอกกสรกรยาะยีาบัับราชรหพรสงสาามู้เํิษาช�ำกยปีรภนรี่ยทวรวยัตวจะ่เี จขกาคสกอคมิดิทวับงวารจธกสมัาฐิภาาิทมธคการรธิทคพดกรใิเิุดมจามหนรราเน็นกหิตกทูญาขปข็นุจรอ้นึรรขระแงติ อับปพลโตงดรรฤะอ่ปะยู้ขตกปชรใิมา่าชะรารวิชรชะชจอสะนชัาดบเาบาชททรชแียนี่เํากลแนบแท่ียะลวผ่ีเสเวิธะขกนกาีกกา่ียกมับามาวาราสารกวรรมิเทิจดับขถีสธัยําสา้สวิกเเถรชนิทนาปุงึงิริรธนสขวเริกงปาํมัอ้บาารใน็มรนรนวูรขลูจรกตาาับขา(ยวลรSรา่ สปปอuู้วขารดrอส่าvระงจวeากเกนสyรดันามขาน็รRแารอรดeลตับงsังะกรeสนรปกaาูำ�ก้ีรrารนาาcรรรบhักตับทป)งาุรจรางู้กรานิๆมตารปท.ปุจ.รชิต. ผล กระทบและ ควา มเสจียาหกากยทาร่ีเกสิด�ำจราวกจกคาวราทมุจคริติดตเหอปน็ รขะอชงาปชรนะชสาาชมนารตถัวสอรยุป่าเปงน จรำ�ายนปวรนะทเดัง้ ็นสดน้ิ งั น1้ี ,041 ราย พบว่า ประมาณ ร้อยละ 52.641)ขกอางรปรรบั ะรชูเกาี่ยชวนกมับีกสาทิ รธริใับนรกู้/ารรับรับทรขูาบาววส่าาตรนแเอลงะมกาีสริทเขธาิในถงึกขาอรมรับูลขรู้ขาว้อสมาูลรข่าอวงสาํ รนขักองางนส�ำปน.ักปง.ชา.น ป.ป.ช. โดยกลุ่มประชาชนจาทก่ีเคกายรตสิดําตรว่อจ/คเขว้าารม่วคมดิ โเคหร็นงขกอางรปกรับะสช�ำานชนักตงาวั นอยาปง.ปจ.าํชน.วมนีสทัดง้ สิน้่วน1ก,0า4ร1รับรารยู้หรพือบรวับา ทปรราะบมวา่าณตนเองมี รอสยิทลธะิใ5น2ก.6า4รรขับอรงู้ขป้อระมชูลาขช่านวมสีกาารรขรอับงรสู/ร�ำับนทักรงาาบนวาปต.นปเ.อชง.มี(สริท้อธยิใลนะการ6ร9ับ.2ร3ูข)อมสูลูงขกาวว่าสปารระขชองาสชํานนทัก่ีไงมา่เนคยปม.ปา.ตชิ.ดต่อกับ 5เโใ(มชรนดีกนอmนขสตอยกากัา่ำ�านยัวิตรFeรวนลอลดยเaรdขสุมักยcัะสบับiาาeปง่าaาแรถร4bาง)รรูขรึง1นมoะตกอข5เ.ชoีชกา0มอปาkคม่นา1อูลมช.รือล)TปนัขูนลเFwำ�เขาด.ทข(มชaดว1i้าับtา่ีเื่ส.cอับ)คtถวแeาe(พกยึงสรรรrbขตาิาข้อจกLoรริ้อดอยาiเnขoตงมคขรลeสอkอณูลอืาะําง/ร(ขนส4Tเา4ว(ข่า)ําั1wกกม1วานเง)าว.กรiสาt0ักร็บวกิจนtา1เงมeไากรขซา)ปโrรขรนคาตเ.เรปอมถLขรข มปงง.ึi่ืออ้างชnก/ส.รขงปพ.โeาส�ำว่คอ.รจิ(ชํานมรกรม(าน.อักก4งับรูลัก(ยก)จิงรณสงขลาาอกาํเาะนารวายนรนกบ็วลร6(ักา2ปสปม9ไะงซร)..า/.า2ปเ5ปตโสรนข3.ค1ช.ข์่ือ)้าชก.ป.ร6อสถโ.็งแพท.8ูงงปงึ กลก)(สรขบ.ราชะวทำ�อ้้อวโร.านั(ศดมาย5มปกัน(ยูล)ลีรส2ปง/ชขะสะัด)าวรชอ่ือา่สนิทสะาวหง5วชื่อยมสทน1นปนุโาาังา.ก(ทท6.รส3ณงปาร8ี่ไือท)รมก.กท)พชร่สีป็พเ่ึับงศั.คิมังโรหบดครยนพะแูหมนวมย/์/ชลววาา่รึ่อชงาะาตือิทขอ่อชปริดรยอนส(งนรัตบ5ุทางไเะอ)ท(รลขปา3มก/รนาสงน)ราาับถทื่อะิตณบส(สึง่ีปหSชยวงัํขากoสรนาาคนอ่งึcะาตชงัมักหมiรชนสaนงอตูนลาlาเือตอาอขนึง่ชmพมันงวขานมปลิมอไeอวเลีาํส.พขสยdปงดนิทป้าiา/์.าaชับวถ์ธรงร).(าิึงะSรขชoส้อาcามชiรaนูล/l แผนภาพ รอ ยละขอแงปผรนะภชาาชพนรท้อเี่ ขยา ลถะึงขขออมงปลู ขราะวชสาาชรนขอทงเ่ี สขําา้ นถกั ึงงขาอ้นมปลู .ขปา่.ชว.สารของส�ำนักงาน ป.ป.ช. ชอ งทางการเขา ถงึ ขอมูลขา วสารของสาํ นักงาน ป.ป.ช. 5 อันดบั แรก ประชาชนมสี ัดสวนการเขาถึงขอมลู 56.42 การเขารวมกิจกรรม/โครงการ 1,041 ขาวสารของสํานักงาน ป.ป.ช. 54.28 ส่ือโทรทศั น/วิทยุ ราย รอยละ 51.68 50.37 สื่อสังคมออนไลน (Social media) เชน Facebook Twitter Line และอื่นๆ 37.36 เว็บไซตข องสาํ นักงาน ป.ป.ช. 26.39 ส่ือหนงั สือพมิ พ/วารสาร/นิตยสาร 2) การรบั รกู ารทุจริต 2) ปกราะรชราบั ชรนกู้ มาีรระทดจุ ับรรติ ับรูการทุจริตหรือเหตุการณหรือพฤติกรรมของเจาพนักงานของรัฐท้ังใน รูป แบบการทุจ ริต เชิงนปโรยะบชายาชแนละมกีราะรดทับุจริตับขรอู้กงาหรนทวุจยรงาิตนห/ตรือัวบเหุคตคลุกาโดรณยใน์หภราือพพรฤวมตมิกีรระรดมับขกอางรเรจับ้ารพูเฉนลักี่ยองายนูทข่ี 3อ.0ง0รัฐทั้งใน คะรแูปนแนบจบากาคระทแุจนรนิตเตเช็มิง4นโคยะบแานยน อแยลูใะนกราะรดทับุจกราิตรทขุจอรงิตหเนกิ่วดยบงอายนค/รต้ังัวโบดุยคเคหลตุกโาดรยณใหนรภือาพพฤรตวิกมรมรีรมะทด่ีปับรกะชาารชรนับรับู้เฉรลู ี่ยอยู่ที่ กา3ร.ก0ร0ะทคําะกแารนทนุจรจิตาขกอคงพะแนนักนงาเนตข็มอง4รัฐคมะากแทนี่สนุด อคยือู่ใกนารระใชดอับํากนาารจทหุจนราิตทเ่ีใกนิดกบาร่อโยคกยรั้งายโตดํายแเหหนตงุกใหากรับณพ์หวรกือพพอฤงติกรรม ขรใหออทกใกงงหลาี่ปรับ้กงัรฐรภมับบใะชาาาพชคเ้งลปาวเบทอชนกปี่กกนกพชรรรา้อะะนรับงจสมราผรู้การยาาณาอสงนรถงูทขโกนลคออรงนรงงะมงทถรทกาิ่นี่ไัฐา�ำเมบปรกทไทด็นาาี่บี่รลรมกิดทัฐาทาเอตุจบร่ีกรารสือรฐงิตรนะวาข้านจาไงอเามถปหงยสนพนรสอือนนปู่ดทเทักรลค้อะง่ีไือลมโงากยอถน่ไเชงดสิ่นขกน้มนอับขทาทงนอตรา่ีบโัฐงงรยิดปตมฐบัดเราาบาะกถนยืเอนททขนนห่ีสอศใุดรงชหไรือามผัฐคเตลา่สือิก/นือปอาทกกรดร่ีดใเะาคสชินชรลอ้นใาขช้อําทชอน้องนางา�ำกพงจนแัตบวใลากัดนนจะพถกโหกยนอาานรงบนรจ้าแาใัดทกหยกสาี่ใ้ผขไนรรข่าใอรกชกนผงางฎลทรรบหัฐปโ่ีดปยมรินรกกะาะขยโยามยอเ้ารพาชงยใณนื่พชอต้อว�ำกแ�ำนพหาน้อจง่ง ราใยนงกาานรปจรัดะสจรํารปผง ลบปปรระะมโยาชณน์ใพห.ศ้ก.ับ2ภ5า6ค2เอกชน ผ่านโครงการท่ีรัฐอ้างว่าเป็นประโยชน์ของประเหทนศา ช2า0ต9ิ/ประชาชน และการแกไ้ ขกฎหมายเพ่ือ เออื้ ประโยชนห์ รอื การแสวงหาผลประโยชน์อนั มชิ อบ ตามลำ� ดบั และยังเหน็ วา่ ปัญหา การทุจริตของประเทศไทย มคี วามรนุ แรงอยูใ่ นระดบั มากทสี่ ุด และมีแนวโน้มเพ่มิ ขึน้ อยา่ งรวดเรว็ 204 รายงานประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามการทุจริตแหง่ ชาติ

เอ้ือประโยชนหรือการแสวงหาผลประโยชนอันมิชอบ ตามลําดับ และยังเห็นวาปญหาการทุจริตของประเทศไทย มคี วามรุนแรงอยูในระดับมากท่ีสดุ และมีแนวโนมเพิ่มขนึ้ อยา งรวดเร็ว แผนภาพแผรนะภดับารพกปู าแรรบะรบับดกรบั าูเกหรทาตรจุุกรราิตบั รณรู้เหหรตือกุ พาฤรตณิจก์หร�ำรรแมอื นขพกอฤตงตาเจกิมารรพรปู นมแักขบงอบางนกเขจาอ้ารพงทรจุนัฐรกัในิตงกาานรขกอรงะรทฐั ําใกนากรทารุจกริตระจทําำ� แกนากรตทาุจมริต ประชาชนมีระดับการรับรูการทุจรติ หรือเหตกุ ารณ การรับรรู ูปแบบการทุจริต 5 อันดบั แรก หรือพฤติกรรมของเจาพนักงานของรฐั ท้ังในรูปแบบ 1,041 ของการทุจริตเชงิ นโยบาย และการทุจริตของ การใชอาํ นาจหนา ท่ใี นการโยกยายตําแหนง ราย หนวยงาน/ตัวบคุ คล โดยในภาพรวมมีระดบั การรับรู เฉลี่ยอยูท่ี 3.00 คะแนน 3.01 ใหก ับพวกพอ ง จากคะแนนเตม็ 4 คะแนน การสรางถนนที่ไมไดมาตรฐาน หรือเลือก 2.99 เสนทางตดั ถนนใหผา นทด่ี ินของพวกพอ ง การใชง บประมาณของรฐั บาลที่กระจายสูทองถิน่ 2.98 ท่บี ดิ เบือน ไมสอดคลองกับนโยบายของรฐั การใชอํานาจในการจดั สรรผลประโยชนใหก ับ 2.97 ภาคเอกชน ผานโครงการท่รี ฐั อางวาเปนประโยชน ของประเทศชาต/ิ ประชาชน 2.95 การแกไขกฎหมาย เพือ่ เอ้ือประโยชนหรือ การแสวงหาผลประโยชนอันมิชอบ 3) ความ3ใคน)ิดภคเวาหพา็นมรคเวกมดิ ่ียปเหวร็นกะเชบั กาผ่ียชวลนกกเบัหรผ็ะนลทวกาบรกแะาทลรบทะคแุจลวริะตาคสมวงเาสผมลยี เกหสรยีาะหยทาทบย่เี ทคกว่ีเิดกาจดิมาจเสกาียกกหกาาารรยททตจุ จุอรรตติิตนตตเอ่อปปงแรรละะชะชาสาชังชนคนม อย ใู นระดับม าก โ ดยปใรนะภชาาชพนรเหวน็ มวปากราะรชกราะชทนาํ กเหาร็นทวุจ่ารติกทาํารใทหรุจัฐรบิตาลสไ่งมผม ลีเงกนิ รเพะียทงพบอคในวกาามรเพสัฒียนหาาปยระตเท่อศตกนาเรอสงรแางละสังคม ถอนยนู่ใ/นโรรงะเรดียับนม/โารกงพยโดาบยาปลรทะชําใาหชไนมไเดหม็นาวต่ารกฐาานรกชรําะรทุดง�ำากยามรทากุจทร่ีสิตุดทร�ำอใหงล้รงัฐมบาทาลําใไหมป่มรีเะงชินาเชพนียตงอพงอซื้อในสกินาคราพอุปัฒโภนคาประเทศ ธบทคจสสกรา่รีสริานาานิโมุดธรภกคํ้าชสาคคกา้าครรต/ืออาณาบ้าติรุปไกงราฟทะถโาิงกภฟรุจนาเๆทชาครรนําน่ใิตบคน/ใหนโรารครริโเา้อกา่งถภคิเนยดปคราคท้ำ�รทยี/ว ะบี่สนี่สาค4จมุูดรง/)า่ําขสโิกไกทร้ึูฟนญาคาางรแรงฟเพือสใมตเา้ยนียปสีไกทาดรคนวบราาสน่าตัพรคาินรรนยทลาถควาทใ�ำปมากนทใที่สใรรอหนำ�ธีู่งมะัตรใข้กเจีครหรกึ้นามำ�ุาณไ้ิดรททชแมปภคาี่สตาไ่ตาอวงดูง่ไพิงขดาเม้ เชกล้ึนม้สปานันดสินต็นสลแเูญรคกตวงลฐนิ้าด้นเะแาทสปกปลนาใีรย่ีมระนระทาีคบทชเอบดุณุรกําำ�ัต็ปนใัรพรภหรุกทรุดยาาปปาี่ปงทาพมราา่รกีส่ะกละยนชรงูาชด้ําขธารามเลชส้ึนทรชางนียรนุจกสตมเรเแทหกว่ิตอชลิด็สี่นนงาะมจผุดปตลทลาริพยก�รำะเคิษรใอชเหะาดทง่นทบ้ปลา็นบงรงรทอเิกมจะกา่ีปาาาชกิดรกรทาาสกกะศชำ�าาชาในทธรหราาทํตาชบร้ปใุจ้อหณนุกรรงเเิะตะรกจหุนชกิด่าเ็นชภาอปยผชนยัยค่าลน่ากตบนรอ้้�รำะงิกเทสซาบีื้อยร เกดิ มลพษิ ทางอากาศ ทนำ� อใหกจเ้ กาิดกนภ้ีใยั นธผรลรกมาชราสตําิตรวา่ จงยๆงั ไดช ้ีใหเห็นถึงการมีสวนรวมในการปองกันและปราบปราม ก ารทุจ ริต โดยห4)าก กปารระมชสีาช่วนพร่วบมเหใน็ กพาฤรตปิก้อรงรกมนัไมแเลหะมปาะราสบมปหรือามสอกไาปรใทนจุ ทราิตงทุจริต ประชาชนจะมีการแจง ห นวยงานรา ชก าร แนลอะวกาจงาเฉกยนใ้ีนในสผัดสลวกนาทรี่ใสก�ำลรเควียจงยกังันไดค้ชือี้ใรหอ้เยหล็นะถ3ึง0ก.2า4รมโดีสย่วเนหตรุผ่วลมใ3นอกันาดรับปแ้อรงกกทันี่ปแระลชะาปชรนาบปราม 2สแวปแ แวหกปาล5าหราลานงรมะ6ับงงเระับา่ว0ฉชปเ(ทรฉย3ปยา(รพถุ3)จงย/รุตงเาร)ไไร//ุงขิวมมนะแไิต/ไาามทแรมแกรถ ดา่จแราไท่กึงโวชาขงชจขด้ไรบยเบอ ขกอ้งายบชกยเัอญมาบหาบอาารูยละชญางดรางข่าแอ่ทจกะเแังัตงาปสงรานแปลิวจขทงติงดสะั้นสรรอวจอาเดวตาิะงาัมผงงหเราจจัง่อชูพลวยข(นงนะัง2หา่าขอ่ืเอตว้ันแ)ฉชจนาเง(ยอลเปยะ2นวส่วกเงงตใสะพ)ํน็ารพยารนนก้ออานื่อกงงเบสรงักกางกาเราปเรเดัรรงันฐลรรรหา้อาเนสียงัสวรผช็คนนงกว่กนผัฐ่งยืกอเพนเลาลหรปสแารคยีัทวกฤร(.รรพ1สปือผนรือตี่ใิม)ง.กแระแลหิชกเใกเทจลลส(กห.อรร1างะบเ้รรตือรป้กเรค)ิมรบะตามแแสรียะใมกทาอจจะไาหงเะทามคบง้บงชรกปแรเเี่ไว่ีแเายตนับบสดรแหาชลบ่อะทาบามจมนคะะชคคะ่ไีัญ้งไาหขอืเแมาแณวเกญะบชนสอปสาดิะรสน/แัาตมมทลก้อกอมะลิไเูไลอไ่ีกวรยยามแะหหดรใริาดลพรส่ปนนรภมงรกะอแืไ.อรลับ/ักยศารงัฐลออส3ารรเ.ธหระตยรรด้วู่อ0ร2ียรราับา่ป่า.ภรไ52นืมอ้องตปรอมัย6ไ4ลกไงูวนนงรใป1ําเาากนเรูญหโดกรตอตันดีสยทับถ็รไแนงาํยแนามูกาือหมมเนเลไไงอกกงีสหลดปัทะกงรลาิท�ำตรมปกางุ่ันจรดับธผุชีาส็ไรถรแบัใิกมลอนิทาิตูนกกาาบ่ไธกลก3รดณปิใปปงตลาน้ร.าจรปอรรั่นรับกจาารวันะ.แักกามชกับจชดรกรากผ.สรรับาไรลูมาอู้ทับชตคแแ้งรีอบยรนรรจวลทําู กวราจะพุหแนจจเกทสละ.รรารศสผิืตอีป่าจะมง.อมู้มีรกบาะีอารช�ำรถหนาแเชรจขานือจ้า้ง ปถรึงะขช้อามสูลัมขพ่าันวธสใหารปขรอะงชสา�ำชนักรับงารนูถึงสปิท.ปธ.ิใชน.กาตรารมับทร่ีไูขดอ้บมัญูลขญาัตวิไสวา้ใรนแรัลฐธะรชรอมงทนาูญงแกหาร่งเรขาาชถอึงขาณอมาูลจขัการวไสทายรขพอ.งศ. 2560 สพาํ รนะักรงานชบปัญ.ปญ.ชัต. ิขให้อคมรูลอขบ่าควลสุมาทรุกรพาช้ืนกทา่ี แรละแเลพะ่ิมรชะอ เงบทียาบงใคนณกาะรกสรื่อรสมากรทาร่ีเหปม้อางะกสันมแกลับะปประรชาาบชปนรทาุกมกกลามุ รเทปุจาหริตมาแยห่งชาติว่า เชดน้วยสกื่อาสรังเคปมิดอเอผนยไลแนล หะอกการระเจผายยแขพาวร่เวอิทกยสุ โาทรรแทลัศะนข แ้อลมะูลการพน.ศําเ.สน2อ5โ6ด1ยสส่ือ�ำมนวักลชงนานเปปน .ตปน.ชโด. ยคเฉวพรเาระ่งอปยรางะยชิ่งาสัมพันธ์ ชกปกอใใขบอาัรหห่อารงะเ้ค้ปวจไนทเดาสดรราไพรอ็านละงับกนรบชนขรทากัาคา์ูขรงี่ปชวหลแอาสนรุมจอนมาะงรทขูกลรเชับอขบรุกทางระาาพ่ีปชรวู้ถะจฐัื้นรสนแึงาทะาทสสกยช่ีมริที่�ขำใบากี แลห่าธชรทลัวงิปใะนลนใะรทกหงวกเะาํโําพ้คิทชทากลิ่วมายรษาังชารรชุขใทมนับหโ่ออทุจสไครงงดรรกนู้ทขวเิตทาขา้ใอารจมัศางมรใใสนวูลจนพนม์ถขกรกใแึง่าจา้อสรลวระมิทะพสสทกธการ่ือําิแับราอกสลรมมาาะแนกีรกรปล�ทำับาทรเะุจรมสี่เะชรจหีกโนติ่ยอัดมาอชงทรราโทนวจะ�ำดมัทดาสกยถง่ีทพมาสกึงรํึงากื่อกาไอกับามดราบรปรเวรบขรับลรอังม้าะชบคถใชชนับรหึงอามขใ้คงชชเใ้อวทปหกนมาาฎ็นคทมงูลหวตุกกรขาม้นากู้เม่าากรลวยรเ่ียโขุ่มสูเตดวกาเาอยก่ีปถยรงเึังบว้ามขฉขกหกคีอพอับวามงามการสาะูลมมาย�ำอขเรีสนขยามิทเมักว่าชีสสงธงง่นิทวาาิยกดธรน่ิงาสิ ปร่ือไปรดสะ.ป้รังเดคับ.ช็นมร.ู้ ข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนได้เข้าใจถึงสิทธิและประโยชน์ที่พึงได้รับ ช่องทางการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารช่องทาง รกาายรงแานจป้งเรบะาจะาํ ปแงสบปบรทะลมงาโณทษพข.ศอ.ง2ก5า6ร2ร่วมกระท�ำการทุจริต รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายต้อหงนมา ีค2ว1า0มเข้มงวดกับ เจา้ พนักงานของรฐั ท่มี ีกระท�ำการทจุ รติ รายงานประจำ� ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทจุ รติ แหง่ ชาติ 205

โครงการท่ีอยรู่ ะหวา่ งด�ำเนินการ จำ� นวน 5 โครงการ 1. การสนับสนนุ ทนุ วิจัย จำ� นวน 4 โครงการ ดงั นี้ 1) โครงการวิจัย เร่ือง “การส�ำรวจและประเมินผล ความรู้ เจตคติ และการปฏิบัติหน้าที่ ของเจ้าหน้าท่ีรัฐต่อกฎหมายว่าด้วยการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวม”: เป็นการศึกษา วิเคราะห์ และประเมินผลการส�ำรวจความรู้ เจตคติ และการปฏิบัติของเจ้าหน้าท่ีของรัฐ ต่อกฎหมายว่าด้วยการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวม ประเด็นปัญหาอุปสรรค ของการมีความรู้ เจตคติ และการปฏบิ ัติของเจ้าหน้าทีข่ องรฐั ตลอดจนการวิเคราะห์ความสัมพนั ธร์ ะหว่างความรู้ เจตคติ และการปฏิบัติกับระบบนิเวศขององค์กร โดยใช้ระเบียบวิธีการวิจัยแบบผสม (Mixed Methods) โดยการวิจัยเชิงปริมาณใช้การวิจัยเชิงส�ำรวจเพ่ือเก็บรวบรวมข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ของรัฐสังกัดส่วนกลาง สว่ นภมู ภิ าค และทอ้ งถน่ิ ส่วนการวจิ ยั เชิงคณุ ภาพ ประกอบดว้ ย การสมั ภาษณ์เชงิ ลกึ และการประชมุ กลุ่มยอ่ ยกับ เจา้ หนา้ ท่ีของรัฐในต�ำแหนง่ ตา่ ง ๆ ซ่ึงผลการศกึ ษาวิจยั ชนิ้ นี้จะเปน็ ฐานขอ้ มูลทเ่ี กีย่ วขอ้ งกับความรู้ เจตคติ และ การปฏิบัติของเจ้าหน้าท่ีของรัฐตามกฎหมายว่าด้วยการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวม และประเด็นปัญหาอุปสรรค ท่ีสามารถติดตามและประเมินเพ่ือส�ำนักงาน ป.ป.ช. ใช้ประโยชน์ในการจัดท�ำ แนวทางเพือ่ การสรา้ งความรู้ เจตคติ และการปฏบิ ัตขิ องเจ้าหนา้ ที่ของรฐั ท่สี อดคล้องกับกฎหมายว่าดว้ ยการขดั กนั ระหวา่ งประโยชนส์ ่วนบคุ คลกบั ประโยชน์ส่วนรวม 2) โครงการวิจัยเรื่อง “การศึกษาวิจัยรูปแบบและช่องทางการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐ ในกระบวนการค้ามนุษย์ และการลักลอบขนคนเข้าเมือง” : เป็นการศึกษาและสังเคราะห์ข้อกฎหมาย และลักษณะความผิดเกี่ยวกับการค้ามนษุ ย์และการลักลอบขนคนเข้าเมือง ทเ่ี ช่อื มโยงกับพฤติกรรมการทจุ รติ ของ เจา้ หน้าทีร่ ฐั ตามกฎหมายส�ำนกั งาน ป.ป.ช. และกฎหมายอืน่ ตลอดจนการวเิ คราะหค์ วามซ้ำ� ซอ้ น หรอื การขัดกัน ของกฎหมาย หรือช่องว่างของกฎหมายที่เป็นรอยต่อท่ีขาดผู้รับผิดชอบก�ำกับดูแล รวมถึงการสังเคราะห์รูปแบบ ประเภท และลักษณะของการทุจริตและบริบทท่ีเอื้อต่อการกระท�ำทุจริตของเจ้าหน้าท่ีรัฐในกระบวนการค้า มนุษย์และการลักลอบขนคนเข้าเมืองที่เกิดขึ้นในประเทศไทย รวมถึงการสังเคราะห์กฎหมายระหว่างประเทศ กฎหมายต่างประเทศ และกรณีศึกษาของต่างประเทศท่ีประสบความส�ำเร็จในการแก้ปัญหาการทุจริตของเจ้าหน้าท่ี ของรัฐในกระบวนการค้ามนุษย์และการลักลอบขนคนเข้าเมือง เพื่อที่จะได้ข้อเสนอแนะทางยุทธศาสตร์ ของสำ� นักงาน ป.ป.ช. ตอ่ ปญั หาการคา้ มนษุ ยแ์ ละการลักลอบขนคนเขา้ เมือง รวมไปถึงขอ้ สังเกตหรือขอ้ เสนอแนะ เก่ยี วกบั การแกไ้ ขกฎหมาย การปรับโครงการของหนว่ ยงานรฐั ที่ปฏบิ ัติหน้าทเี่ กย่ี วกบั การป้องกันและปราบปราม การค้ามนุษย์และการลักลอบขนคนเข้าเมือง ตลอดจนมาตรการลงโทษเจ้าหน้าท่ีของรัฐที่เข้าไปเก่ียวข้องกับ กระบวนการคา้ มนษุ ย์ 3) โครงการวจิ ยั เรือ่ ง “การสังเคราะหก์ ารทจุ ริตเชงิ นโยบายเพือ่ การออกแบบระบบและพฒั นา กลไกการสกัดก้ันการทุจริตเชิงนโยบายของไทย” : เป็นการสังเคราะห์การทุจริตเชิงนโยบายเพื่อการออกแบบ ระบบและพฒั นากลไกการสกดั กนั้ การทุจริตเชิงนโยบายของไทย” ในขนั้ ตอนการก่อตัวของนโยบาย การตดั สินใจ นโยบาย การน�ำนโยบายไปปฏิบัติ การติดตามตรวจสอบการน�ำนโยบายไปปฏิบัติ และการประเมินผลนโยบาย เสนอแนะการสกัดก้ันการทุจริตเชิงนโยบายโดยการจัดท�ำร่างแบบจ�ำลอง (Model) ของกระบวนการทุจริต เชิงนโยบายตงั้ แตต่ ้นน้�ำถึงปลายนำ้� ปัจจยั และผ้ทู เี่ ก่ียวข้อง รวมทง้ั การจดั ท�ำข้อเสนอแนะ หลักเกณฑแ์ ละวธิ กี าร จัดท�ำนโยบายสาธารณะ กลไกการตรวจสอบในข้ันตอนต่าง ๆ และหน่วยงานท่ีรับผิดชอบและการก�ำหนด ความรับผิดทางกฎหมายท่ีเป็นรูปธรรม เพื่อให้ส�ำนักงาน ป.ป.ช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องน�ำไปใช้ประโยชน์ อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพตอ่ ไป 206 รายงานประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทจุ รติ แห่งชาติ

4) โครงการวิจัยเรื่อง “การสังเคราะห์รูปแบบ กลไก และแนวทางการปลูกฝังเจตคติและ วัฒนธรรมสุจริตเพื่อการป้องกันและปราบปรามการทุจริต” : เป็นการศึกษาเก่ียวกับพัฒนาการของรูปแบบ กลไก และแนวทางการปลูกฝังเจตคติ และวัฒนธรรมสุจริตท่ีมีผลต่อการป้องกันและปราบปรามการทุจริตของ ไทย ทั้งทางตรง และทางอ้อม รวมถึงศึกษากรณีต่างประเทศเก่ียวกับรูปแบบ กลไก และแนวทางการปลูกฝัง เจตคติและวัฒนธรรมสุจริตที่เป็นฐานของการมีเจตคติ และวัฒนธรรมสุจริตของประชาชนในภาคส่วน/ช่วงวัย ต่าง ๆ อย่างน้อย 3 ประเทศ ได้แก่ เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐสิงคโปร์ และประเทศฟินแลนด์ โดยทำ� การวิเคราะห์ และสงั เคราะหห์ ารูปแบบ กลไก และแนวทางการปลกู ฝงั เจตคติและ วัฒนธรรมสุจริต เพื่อการน�ำมาใช้ในสังคมไทยในการขับเคลื่อนการปลูกฝังวิธีคิด สร้างจิตส�ำนึกและวัฒนธรรม สุจริตท่ีเหมาะสมกับบริบทของสังคมไทยในทางการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต ซ่ึงการปลูกฝัง และเปล่ียนแปลงเจตคตขิ องคนในสังคมกลมุ่ ตา่ ง ๆ ให้มีทศั นคติ และการแสดงออกต่อการป้องกนั และปราบปราม การทุจริตตามบริบทสังคมของประเทศไทย ท่ีผ่านการหล่อหลอมเป็นทัศนคติ และวัฒนธรรมความซื่อสัตย์ ของประชาชน และสังเคราะห์เป็นแนวทาง กระบวนการ กลไก วิธีการปลูกฝังเจตคติ และวัฒนธรรมสุจริต เพ่ือการป้องกัน และปราบปรามการทจุ ริต 2. การด�ำเนนิ การวจิ ัยสถาบนั จำ� นวน 1 โครงการ ดังน้ี 1) โครงการวิจัยเรื่อง “การเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สิน: ศึกษากรณี การท�ำงานระหว่างส�ำนักงาน ป.ป.ช. กับหน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง” : เป็นการศึกษาเก่ียวกับรูปแบบ วิธีการ การท�ำงานร่วมกันระหว่างส�ำนักงาน ป.ป.ช. กับหน่วยงานที่เก่ียวข้องด้านการตรวจสอบทรัพย์สินและหน้ีสิน รวมถึงปัญหา อุปสรรค ข้อจ�ำกัดของการท�ำงานร่วมกันระหว่างส�ำนักงาน ป.ป.ช. กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ระเบยี บวธิ ีวจิ ยั แบบผสมวธิ ี (Mixed Methods Research) ท่ีศกึ ษาทัง้ ในเชิงปรมิ าณ และเชงิ คุณภาพ โดยการศึกษา จากเอกสาร งานวิจัย และกฎหมาย ระเบียบ ประกาศ และข้อบังคับที่เก่ียวข้องกับการตรวจสอบทรัพย์สิน และหน้ีสิน พร้อมกับการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยการใช้แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์ และการสัมภาษณ์เชิงลึก ผู้บริหาร เจ้าหนา้ ทส่ี ำ� นักงาน และหนว่ ยงานภายนอกทเี่ ก่ียวข้อง 2) โครงการประชุมทางวิชาการระดบั ชาตดิ ้านการป้องกนั และปราบปรามการทุจรติ ประจ�ำปี 2562 เรื่อง “การวิจัยเพื่อประเทศไทยใสสะอาด... ไทยท้ังชาติต้านทุจริต (Research for Zero Tolerance & Clean Thailand)” การด�ำเนินการจัดประชุมทางวิชาการระดับชาติด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริต เป็นการรวบรวมและน�ำเสนอผลงานการวิจัยท่ีเป็นการศึกษาวิเคราะห์วิจัยถึงปัญหา ช่องทาง และความเสี่ยง ของนโยบาย กลไกทางการบรหิ ารจดั การ กฎ ระเบียบ ขอ้ บังคับ วัฒนธรรม ทัศนคติ ฯลฯ ที่มผี ลตอ่ พฤตกิ รรม การปฏิบัติงานและการใช้อ�ำนาจหน้าที่ที่เป็นการกระท�ำทุจริต เพื่อให้เป็นเวทีการเผยแพร่ข้อค้นพบเชิงประจักษ์ และให้ผู้เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในระดับต่าง ๆ ตั้งแต่ผู้ก�ำหนดนโยบาย ผู้ปฏิบัติ ในหน่วยงานรัฐ เอกชน เครือข่ายเฝ้าระวัง และประชาชนโดยทั่วไปให้รับรู้และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และนวัตกรรมข้อค้นพบท่ีเป็นความท้าทายต่อการปฏิบัติงานต่อต้านการทุจริต ตลอดจนสถานการณ์และ สภาพแวดล้อมท่ีแปรเปลี่ยนและต้องมีการเตรียมพร้อมรับมือ ซึ่งเป็นการพิจารณาจากมุมมองและประสบการณ์ ของนักวิชาการ ผู้ทรงคุณวุฒิ ที่มีบทบาทและประสบการณ์ในงานด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริต อันจะเป็น การเสริมสร้างความสามารถและศักยภาพในด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตให้มี ประสทิ ธภิ าพและประสิทธผิ ลในทกุ ภาคสว่ นของสังคม รายงานประจำ� ปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการปอ้ งกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ 207

ส�ำนักงาน ป.ป.ช. ได้มีการจัดประชุมทางวิชาการฯ เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2562 ณ โรงแรม เจ้าพระยาปาร์ค กรุงเทพมหานคร ในวันดังกล่าว มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมรวมท้ังสิ้น 285 คน ประกอบด้วย คณะกรรมการ ป.ป.ช. ผบู้ ริหารและเจ้าหนา้ ท่สี านกั งาน ป.ป.ช. หน่วยงานภาครัฐ สถาบันการศึกษา ส่ือมวลชน เครือข่ายและผู้เก่ียวข้องระดับองค์กรและบุคคลในงานการป้องกันและปราบปรามการทุจริต และภาคประชาชน คณะอนุกรรมการจัดประชุมทางวิชาการเพื่อเผยแพร่งานวิจัยและสร้างเครือข่ายทางวิชาการด้านการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต เจ้าหน้าทีผ่ ู้ได้รับมอบหมายให้ปฏบิ ตั หิ นา้ ทใี่ นการจดั ประชุมและผู้สังเกตการณ์ การสรา้ งเครือขา่ ยองค์ความรู้เพ่อื การป้องกันและปราบปรามการทุจริต ส�ำนักงาน ป.ป.ช. จัดท�ำวารสารวิชาการ ป.ป.ช. มีจุดมุ่งหมายเพ่ือ (1) เป็นแหล่งรวบรวมความรู้ และเผยแพร่ผลงานวิจัยและผลงานทางวิชาการอ่ืน ๆ ด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริต(2) สนับสนุน การใช้ประโยชน์จากผลงานวิจัย ผลงานวิชาการ และการสร้างความตระหนักร่วมกันในการต่อต้านการทุจริต (3) ส่งเสริมเครือข่ายความร่วมมือและการแลกเปล่ียนข้อมูลข่าวสารและเอกสารส่ิงตีพิมพ์ต่าง ๆ กับหน่วยงาน และเครือข่ายท่ีเก่ียวข้อง ประกอบด้วยบทความทางวิชาการด้านการวิจัยของส�ำนักงาน ป.ป.ช. และระหว่าง หนว่ ยงานและสถาบันวจิ ัยตา่ ง ๆ และบทความเกี่ยวกบั การดำ� เนินงานดา้ นการปอ้ งกันและปราบปรามการทุจริต ของส�ำนกั งาน ป.ป.ช. ปจั จบุ ันเผยแพรป่ ลี ะ 2 ฉบบั โดยในปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 สำ� นักงาน ป.ป.ช. ไดจ้ ดั ทำ� และเผยแพร่วารสารวิชาการ ป.ป.ช. ปีที่ 11 ฉบับท่ี 2 และวารสารวิชาการ ป.ป.ช. ปีที่ 12 ฉบับที่ 1 และอยู่ระหว่างดำ� เนนิ การจัดท�ำวารสารวิชาการ ป.ป.ช. ปที ่ี 12 ฉบับที่ 2 การน�ำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ จากการตดิ ตามการน�ำผลการวิจยั ไปใช้ประโยชน์ หนว่ ยงานตา่ ง ๆ มีการน�ำผลงานวจิ ัยไปใชป้ ระโยชน์ ใน 3 มิติ คือ 1) การใช้ประโยชน์ด้านนโยบายคือการน�ำองค์ความรู้ท่ีได้จากผลงานวิจัยไปใช้ในกระบวนการ ก�ำหนดนโยบาย ด้วยการน�ำข้อมูลสารสนเทศเป็นแนวทางในการก�ำหนดแนวทาง มาตรการ กลยทุ ธ์ในการด�ำเนินงาน เพ่ือให้บรรลุวัตถุประสงค์ 2) การใช้ประโยชน์ด้านสาธารณะและชุมชน ด้วยการน�ำข้อเสนอแนะจากผลงานวิจัย ไปใช้ในการสงเสริม เสริมสร้างองค์ความรู้เพ่ือให้ประชาชนเกิดความเข้าใจและเกิดความตระหนัก รู้เท่าทัน การเปลี่ยนแปลงของการทุจริต เพ่ือให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการไม่ทนต่อการทุจริต และ 3) การใช้ ประโยชน์ด้านวชิ าการ โดยสามารถสรปุ ไดด้ ังน้ี 208 รายงานประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการปอ้ งกันและปราบปรามการทจุ ริตแหง่ ชาติ

ชื่องานวจิ ัย การน�ำผลงานวจิ ยั ไปใชป้ ระโยชน์ 1. สาเหตุ การด�ำเนินงาน และผล ดา้ นนโยบาย : ของการเข้าร่วมกิจกรรม “องค์กร ดา้ นสาธารณะและชุมชน : - ปกครองส่วนท้องถิ่นด้านการป้องกัน ด้านวิชาการ : ใช้เป็นแนวทางในการออกแบบกิจกรรมเพื่อส่งเสริมให้องค์กร การทุจรติ ” ของส�ำนักงาน ป.ป.ช. ปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ เข้ามามีสว่ นร่วมในการป้องกันการทจุ ริต 2. โครงการวิจัยเร่ือง พฤติกรรม ด้านนโยบาย : - ข้าราชการในการปฏิบัติงานตาม ดา้ นสาธารณะและชมุ ชน : - ข้อบังคับว่าด้วยจรรยาข้าราชการ ด้านวิชาการ : ใช้เป็นแนวทางในการศึกษาต่อยอดงานวิจัยเร่ือง การส�ำรวจและ ของกระทรวงมหาดไทย ประเมินผลความรู้ เจตคติและการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ของรัฐต่อกฎหมายว่าด้วย การขดั กนั ระหว่างประโยชนส์ ่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวม 3. โครงการวิจัยเร่ือง โครงการส�ำรวจ ด้านนโยบาย : - การรับรู้และความเข้าใจด้านการขัด ดา้ นสาธารณะและชมุ ชน : ใชอ้ ้างองิ การจัดทำ� โครงการที่ส�ำนักงาน ป.ป.ช. ด�ำเนนิ การ กันแห่งผลประโยชน์ (Conflict of เช่น โครงการจัดงานการขัดกันแห่งผลประโยชน์ท่ีเหมาะสมส�ำหรับกลุ่มเป้าหมาย Interest) ของเจ้าหน้าท่ีรัฐใน ในพ้ืนที่จังหวัดสระบุรี โครงการผลติ สอื่ ประชาสมั พันธ์ โครงการซกั ซอ้ มความเข้าใจ องค์การบริหารส่วนจังหวัดของ แนวทางปฏิบัติตามกฎหมายเก่ียวกับการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคล ประเทศไทย กับประโยชน์ส่วนรวม และใช้เป็นข้อมูลประกอบการบรรยายให้ความรู้แก่ผู้บริหาร องค์การปกครองสว่ นทอ้ งถิน่ ดา้ นวชิ าการ : - 4. ต�ำแหน่งเจ้าหน้าท่ีรัฐกับการเปิดเผย ดา้ นนโยบาย : - บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและ ด้านสาธารณะและชุมชน : น�ำไปใช้อ้างอิงในการประชาสัมพันธ์และบรรยาย หนีส้ ินต่อสาธารณะ ให้ความรตู้ ่อผ้เู ข้ารับการอบรมของส�ำนักงาน ป.ป.ช. ประจ�ำจงั หวดั ราชบรุ ี ด้านวชิ าการ : ใชเ้ ปน็ เอกสารเพอื่ เพ่ิมความรใู้ นการปฏิบัตงิ านของเจา้ หน้าที่ 5. รูปแบบการทุจริตและปัจจัยเสี่ยงที่ ดา้ นนโยบาย : - ก่อให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชันใน ด้านสาธารณะและชมุ ชน : ใชเ้ ป็นข้อมูลประกอบการบรรยายใหค้ วามรู้แก่ผบู้ รหิ าร องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ ขา้ ราชการ เจา้ หนา้ ทีอ่ งค์กรปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ ด้านวิชาการ : เผยแพร่ใหบ้ คุ คลภายนอกท่ีมาติดต่อสำ� นักงาน ป.ป.ช. ประจ�ำจังหวัด ไดอ้ า่ นทมี่ ุงหนังสอื ของหน่วยงาน 6. โครงการจัดท�ำแนวทางการปรับปรุง ด้านนโยบาย : ประกอบการทำ� งานโครงการบงั คบั ใช้กฎหมาย กลไกและกระบวนการปราบปราม ดา้ นสาธารณะและชุมชน : การทจุ รติ ของประเทศไทย ด้านวิชาการ : ใชเ้ ป็นแนวทางในการปรบั ปรงุ กระบวนการไตส่ วนการทจุ รติ 7. ก า ร ส� ำ ร ว จ ค ว า ม คิ ด เ ห็ น ข อ ง ด้านนโยบาย : เป็นขอ้ มลู ประกอบการจดั ทำ� คมู่ ือการแจ้งเบาะแสหรือพยานหลักฐาน ประชาชนที่เก่ียวกับสิทธิการรับรู้ สำ� หรับการกระท�ำความผดิ ท่ีอยู่ในหนา้ ทแ่ี ละอ�ำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ข่าวสาร การรับรู้การทุจริต ผลกระ ดา้ นสาธารณะและชมุ ชน : - ทบและความเสียหายที่เกิดจากการ ด้านวิชาการ : อ้างอิงในงานวชิ าการ ทจุ ริตต่อประชาชน รายงานประจำ� ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการปอ้ งกันและปราบปรามการทจุ รติ แห่งชาติ 209

9. ด้านการตา่ งประเทศ การประสานงานและการด�ำเนนิ คดที ุจริตระหว่างประเทศ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะองค์กรหลักของประเทศไทยในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ได้ให้ความส�ำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อการแก้ไขปัญหาคดีทุจริตระหว่างประเทศ โดยเฉพาะคดีสินบนข้ามชาติซึ่งเป็น คดีท่ีมีความส�ำคัญ เน่ืองจากลักษณะการกระท�ำความผิดมีความซับซ้อน มีมูลค่าความเสียหายมาก และด้วย เทคโนโลยีในปัจจุบันท่ีมีความก้าวหน้า ท�ำให้มีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินไปยังต่างประเทศได้อย่างรวดเร็ว คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงมุ่งเน้นการติดตามเอาทรัพย์สินของผู้กระท�ำความผิดกลับคืนสู่ประเทศไทยควบคู่ ไปกบั การน�ำตัวผกู้ ระท�ำความผดิ มาลงโทษเพ่ือไม่ให้เปน็ เยย่ี งอย่างในการทุจริตตอ่ ไป เพื่อให้การด�ำเนินคดีทุจริตระหว่างประเทศมีประสิทธิภาพและส�ำเร็จลุล่วง คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีการประสานความร่วมมือทางคดีท้ังกับหน่วยงานที่เก่ียวข้องในประเทศไทยและต่างประเทศ ผ่านรูปแบบ ท้ังอย่างเป็นทางการและการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางการข่าว โดยมีการบูรณาการการท�ำงานร่วมกันกับ หน่วยงานต่าง ๆ ของประเทศไทยผ่านคณะกรรมการประสานและเร่งรัดการด�ำเนินคดีทุจริตระหว่างประเทศ ซ่งึ ประกอบด้วยผู้แทนจากหลายหน่วยงาน เชน่ สำ� นกั งานอยั การสูงสุด และสำ� นักงาน ปปง. เปน็ ต้น โดยในปีน้ี คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานของต่างประเทศผ่านอัยการสูงสุด ในฐานะ ผู้ประสานงานกลางตามพระราชบัญญัติความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา พ.ศ.2535 และที่แก้ไข เพ่ิมเติม เพ่ือขอความร่วมมือระหว่างประเทศ รวมทั้งติดตามเร่งรัดการด�ำเนินการท่ีเกี่ยวข้อง ท�ำให้ได้ข้อมูล ส�ำคัญจากต่างประเทศท่ีสามารถน�ำไปใช้เป็นพยานหลักฐานประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ในหลายกรณี นอกจากน้ี ยังได้มีการท�ำงานใกล้ชิดกับส�ำนักงาน ปปง. ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวกรอง ทางการเงินและเส้นทางการเงิน ซึ่งถือเป็นเบาะแสและพยานหลักฐานส�ำคัญในการพิสูจน์การกระท�ำความผิด ทำ� ให้การด�ำเนินคดีมีความก้าวหนา้ อยา่ งต่อเนือ่ ง ทั้งน้ี นอกจากการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานในประเทศแล้ว คณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังให้ ความส�ำคญั กับการประสานความรว่ มมือทางคดแี ละการตดิ ตามทรพั ย์สินคืนผา่ นเครือข่ายระหว่างประเทศต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนประสานงานติดตามทรัพย์สินคืนของต�ำรวจสากล ศูนย์ติดตามทรัพย์สินคืนระหว่างประเทศของ Basel Institute on Governance เครือข่ายผู้บังคับใช้กฎหมายภายใต้กรอบเอเปค และเครือข่ายผู้บังคับใช้ กฎหมายภายใตก้ รอบ OECD ซง่ึ ที่ผ่านมา กรอบตา่ ง ๆ เหล่านลี้ ้วนเปน็ เวทสี ำ� คัญในการแลกเปลีย่ น องคค์ วามรู้ ประสบการณ์ เทคนิคในการสืบสวนสอบสวน และเป็นโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างเจ้าหน้าท่ี สบื สวนสอบสวนของประเทศต่าง ๆ ทำ� ใหเ้ จา้ หนา้ ทีข่ อง ป.ป.ช. สามารถติดตอ่ ประสานงานเบือ้ งต้นกบั หน่วยงาน ต่างประเทศได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ซึ่งถือเป็นปัจจัยหลักท่ีส�ำคัญท่ีน�ำไปสู่ความส�ำเร็จในการประสานงานอย่าง เป็นทางการตอ่ ไปในอนาคต ปัจจุบัน ส่วนราชการภายในส�ำนักงาน ป.ป.ช. ท่ีรับผิดชอบการด�ำเนินคดีทุจริตระหว่างประเทศ คือ ส�ำนักกิจการและคดีทุจริตระหว่างประเทศ ซ่ึงท�ำให้คดีมีความก้าวหน้าอย่างต่อเน่ือง อาทิ คดีสินบนข้ามชาติ ที่ประชาชนให้ความสนใจหลายกรณีท่ีคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2563 เช่น คดีทุจริตในการซ้ือขายเคร่ืองยนต์ สำ� หรบั เครอ่ื งบนิ Boeing B777 - 200 ER ของบริษัท การบินไทย จำ� กัด (มหาชน) หรือคดีสนิ บนโรลส์-รอยซ์ และ คดีทจุ ริตในโครงการจดั หาทด่ี ินเพื่อปลกู ปาลม์ และผลติ นำ�้ มนั ปาลม์ ในประเทศอนิ โดนีเซยี ทั้งนี้ ยังมคี ดใี นชัน้ ศาลท่ี คณะกรรมการ ป.ป.ช ยังคงติดตามต่อเนื่องเพ่ือน�ำเอาทรัพย์สินที่อยู่ในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย ได้แก่ คดีอดีตผู้ว่าการการท่องเท่ียวแห่งประเทศไทย เรียกรับสินบนจากนักธุรกิจชาวอเมริกันในการจัดเทศกาล 210 รายงานประจ�ำปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการปอ้ งกันและปราบปรามการทุจรติ แหง่ ชาติ

ภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพ ซึ่งขณะน้ีคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. ร่วมกับอัยการสูงสุดและหน่วยงานของต่างประเทศได้ท�ำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพ่ือด�ำเนินการอายัดทรัพย์ของ ผู้กระท�ำความผิดที่อยู่ในต่างประเทศไว้ชั่วคราว เพื่อขอน�ำทรัพย์สินกลับคืนสู่ประเทศไทยหลังศาลมีค�ำพิพากษา ถงึ ที่สุด การประชุมระหวา่ งประเทศ ระดบั ภมู ภิ าค และระดับทวิภาคี คณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นหน่วยงานกลางในการด�ำเนินการเพื่อให้ความร่วมมือระหว่างประเทศ ตามพนั ธกรณีและขอ้ ตกลงระหว่างประเทศในการต่อต้านการทจุ ริต โดยไดข้ บั เคลื่อนภารกจิ ดา้ นการตา่ งประเทศ ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตอย่างต่อเน่ืองเพื่อพัฒนาปรับปรุงกฎหมายและมาตรการท่ีเกี่ยวข้อง ของประเทศไทยให้ทัดเทียมมาตรฐานสากล โดยเฉพาะอย่างย่ิง การอนุวัติการกฎหมายภายใน ให้เป็นไปตาม มาตรฐานของอนสุ ัญญาสหประชาชาตวิ า่ ดว้ ยการต่อต้านการทุจริต ค.ศ. 2003 (United Nations Convention against Corruption: UNCAC) ท่ีประเทศไทยเป็นภาคี ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะผู้แทนประเทศไทย ได้เข้าร่วมการประชุมภายใต้กรอบขององค์การสหประชาชาติที่เกี่ยวข้องกับการต่อต้านการทุจริตอย่างต่อเน่ือง และได้เข้าร่วมกลไกการประเมินติดตามการปฏิบัติตามอนุสัญญาฯ ทั้งในฐานะท่ีเป็นรัฐผู้ถูกประเมินและรัฐ ผู้ประเมิน ท�ำให้ในช่วงสองปีที่ผ่านมามีการพัฒนาปรับปรุงกฎหมายที่ส�ำคัญคือพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 และอนุบัญญัติ อีกหลายฉบับที่นับเป็น การยกระดับกฎหมายของประเทศไทยให้สอดคล้องกับอนุสัญญาฯ ในหลายประเด็น เช่น การก�ำหนดความผิด ฐานให้สินบนเจ้าพนักงานของรัฐ เจ้าหน้าที่ของรัฐต่างประเทศ หรือเจ้าหน้าท่ีขององค์การระหว่างประเทศ การก�ำหนดความรับผิดส�ำหรับนิติบุคคลที่เก่ียวข้องกับการให้สินบน การริบทรัพย์ตามมูลค่า การแก้ไขเพิ่มเติม เร่ืองการไม่นับอายคุ วามในกรณผี กู้ ระทำ� ความผดิ หลบหนี การก�ำหนดความผิดฐานขัดขวางกระบวนการยุตธิ รรม การจ้างท่ีปรึกษาหรือผู้เช่ียวชาญในการติดตามทรัพย์สินคืน การรับฟังความเห็นสาธารณะ โดยให้ประชาชน มีส่วนร่วมตามมาตรฐานสากลเพ่อื ป้องกนั การทจุ รติ เชิงนโยบาย เปน็ ตน้ โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. จะม่งุ เดนิ หน้า ในการพัฒนากฎหมายและมาตรการที่เก่ียวข้องอ่ืน ๆ เพิ่มเติมเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล และเพ่ือเพิ่ม ประสิทธภิ าพในการปอ้ งกันและปราบปรามการทจุ ริตให้เกิดผลเป็นรูปธรรมยง่ิ ข้นึ นอกจากน้ี คณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังให้ความส�ำคัญกับการเข้าร่วมการประชุมในกรอบอนุสัญญาว่า ด้วยการต่อต้านการให้สินบนเจ้าหน้าที่ของรัฐต่างประเทศในการท�ำธุรกรรมการธุรกิจระหว่างประเทศ ขององคก์ าร OECD ซ่งึ แมป้ ระเทศไทยจะไมไ่ ด้เป็นภาคี แต่กไ็ ดเ้ ขา้ รว่ มการประชุมในฐานะผู้ได้รับเชญิ (Invitee) เป็นประจ�ำทุกปี โดยได้มีการน�ำองค์ความรู้และประสบการณ์จากการประชุมดังกล่าวกลับมาพัฒนาปรับปรุง กฎหมายและมาตรการที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะในเรื่องของการเอาผิดกับผู้ให้สินบนเจ้าพนักงานของรัฐ และ การสนับสนุนให้ภาคธุรกิจเอกชนประกอบธุรกิจอย่างโปร่งใส มีธรรมาภิบาล ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่น ใหก้ บั นักลงทุน สรา้ งความเทา่ เทียมกันในการแขง่ ขนั ทางธรุ กิจ และส่งเสริมเศรษฐกจิ ของประเทศ โดยทผี่ ่านมา ส�ำนักงาน ป.ป.ช. ได้มีการออกคู่มือแนวทางการก�ำหนดมาตรการป้องกันสินบนเพื่อเป็นแนวทางให้กับ ภาคเอกชน ท้ังภาษาไทย อังกฤษ จีน ญ่ีปุ่น มีการเผยแพร่ข้อมูลองค์ความรู้และกิจกรรมผ่านเว็บไซต์ และการให้บริการของศูนย์ให้ค�ำปรึกษาส�ำหรับนิติบุคคล (Anti-Bribery Advisory Service: ABAS) รวมท้ัง มีการผนึกความร่วมมือใกล้ชิดกับภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม อย่างต่อเนื่องเพ่ือบูรณาการ การท�ำงาน และประชาสัมพันธ์เผยแพร่เร่ืองดังกล่าวให้เกิดผลเป็นวงกว้าง โดยประเทศไทยได้รับค�ำชมจาก นานาประเทศว่ามกี ฎหมายเรื่องการต่อตา้ นสนิ บนและมกี ารประสานความรว่ มมือระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ ท่เี ขม้ แขง็ และสามารถเป็นแบบอยา่ งที่ดีให้กบั ประเทศอ่ืน ๆ โดยเฉพาะประเทศในภูมภิ าคอาเซยี น รายงานประจำ� ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการปอ้ งกันและปราบปรามการทจุ ริตแหง่ ชาติ 211

ในส่วนของความร่วมมือระดับภูมิภาค คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้เข้าร่วมการประชุมในหลายกรอบ ท่ีส�ำคัญ เช่น คณะท�ำงานว่าด้วยการต่อต้านการทุจริตและความโปร่งใสภายใต้กรอบเอเปค กลุ่มความร่วมมือ ของหน่วยงานต่อต้านการทุจริตในภูมิภาคอาเซียน (SEA-PAC) โดยการประชุมดังกล่าวเป็นเวทีส�ำคัญ ในการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ นวัตกรรม รวมท้ังส่งเสริมความร่วมมือที่ใกล้ชิดและแน่นแฟ้น ในการต่อตา้ นการทจุ รติ ในระดบั ภมู ภิ าค ในด้านความร่วมมือระดับทวิภาคี ในปีนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับหลายหน่วยงาน เช่น คณะกรรมการตรวจตราแห่งชาติ (NCS) แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อมุ่งแลกเปลี่ยนความร่วมมือในการต่อต้านการทุจริต ทั้งความช่วยเหลือทางด้านคดี และทางด้านวิชาการ การลงนามใน MOU กับคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย (ICRF) รวมท้ังยังได้มีการลงนาม ขยายเวลาใน MOU กับ Basel Institute on Governance แห่งสมาพันธรัฐสวิส และคณะกรรมการต่อต้าน การทุจริตของราชอาณาจักรภูฏาน เพ่ือกระชับความสัมพันธ์และเสริมสร้างความร่วมมือในการต่อต้านการทุจริต ให้เปน็ รูปธรรมยงิ่ ขึ้น 212 รายงานประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามการทจุ ริตแห่งชาติ

10. กองทนุ ปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ ริตแหง่ ชาติ (กองทุน ป.ป.ช.) ทม่ี ากองทุน ป.ป.ช. กองทุน ป.ป.ช. จัดต้งั ขึ้นตาม มาตรา 162 แหง่ พระราชบญั ญัติประกอบรฐั ธรรมนญู วา่ ดว้ ยป้องกันและ ปราบปรามการทจุ ริตแหง่ ชาติ พ.ศ. 2561 กำ� หนดใหจ้ ดั ตัง้ กองทุนปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ แห่งชาติขึ้น ในส�ำนักงาน ป.ป.ช. เรียกโดยยอ่ ว่า “กองทนุ ป.ป.ช.” มีวตั ถุประสงคเ์ พอื่ (1) สนับสนุนการมสี ว่ นร่วมของประชาชนในการตรวจสอบการใช้อ�ำนาจรัฐ และสนับสนุนภาคเอกชน ในการเผยแพร่ประชาสมั พนั ธ์ หรอื รณรงค์ในการปอ้ งกันการทจุ รติ (2) เป็นค่าใช้จ่ายในการจัดให้มีมาตรการคุ้มครองช่วยเหลือและค่าทดแทนตามมาตรา 131 และเงินรางวลั ตามมาตรา 137 (3) ใชจ้ ่ายในการค้มุ ครองการปฏบิ ตั ิงานของคณะกรรมการ ป.ป.ช. กรรมการ หวั หน้าพนกั งานไตส่ วน พนักงานไตส่ วน และพนักงานเจา้ หนา้ ทตี่ ามมาตรา 41 (4) ค่าใช้จ่ายอ่ืนใดท่ีจะเป็นประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าท่ีของหน่วยงานของรัฐท่ีมีหน้าที่และอ�ำนาจ เกย่ี วขอ้ งกบั การป้องกันและปราบปรามการทุจรติ กองทนุ ป.ป.ช. มีระเบยี บหลกั ทเ่ี กย่ี วขอ้ งคือ ระเบียบคณะกรรมการปอ้ งกันและปราบปรามการทจุ รติ แห่งชาติว่าด้วยกองทุนป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ.2562 ซ่ึงได้ประกาศราชกิจจานุเบกษา เมอื่ วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2562 ผดู้ ูแลกองทุน ป.ป.ช. หน่วยงานบรหิ ารกองทุน ป.ป.ช. และรายรบั ของกองทุน ป.ป.ช. ตามระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่าด้วยกองทุนป้องกันและปราบปราม การทจุ รติ แห่งชาติ พ.ศ. 2562 ขอ้ 5 ก�ำหนดให้มคี ณะกรรมการคณะหนึ่งเรียกวา่ “คณะกรรมการกองทนุ ป้องกนั และปราบปรามการทุจรติ แห่งชาต”ิ ประกอบด้วย (1) ประธานกรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธาน (2) กรรมการ ป.ป.ช. ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มอบหมายจำ� นวนหนึ่งคน เปน็ รองประธานกรรมการ (3) เลขาธิการ เปน็ กรรมการ (4) รองเลขาธกิ ารคณะกรรมการ ป.ป.ช.ทเี่ ลขาธกิ าร มอบหมาย เป็นกรรมการ (5) ผแู้ ทนส�ำนักงานคณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามการทุจรติ ในภาครัฐ เปน็ กรรมการ (6) ผู้แทนส�ำนกั งบประมาณ เปน็ กรรมการ (7) ผแู้ ทนกระทรวงการคลงั เปน็ กรรมการ (8) ผู้แทนองค์กรภาคเอกชนท่ีเก่ียวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริต จ�ำนวนสามคน เปน็ กรรมการ โดยมีหัวหน้าหน่วยงานบริหารกองทุน ป.ป.ช. เป็นกรรมการและเลขานุการ และให้เลขาธิการแต่งต้ัง เจ้าหนา้ ท่จี ากหนว่ ยงานบริหารกองทนุ ป.ป.ช. เป็นผูช้ ว่ ยเลขานุการอีกไมเ่ กนิ สองคน หนา้ ท่แี ละอ�ำนาจของคณะกรรมการกองทนุ ป.ป.ช. (1) ก�ำหนดนโยบาย ก�ำกับดูแล ติดตามประเมินผลการด�ำเนินงานและการใช้จ่ายเงินให้เป็นไป ตามวัตถุประสงค์ของกองทนุ ป.ป.ช. รายงานประจำ� ปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการปอ้ งกันและปราบปรามการทุจริตแหง่ ชาติ 213

(2) กำ� กบั ควบคุม และบริหารกองทุน ป.ป.ช. ให้เปน็ ไปตามระเบียบนี้ (3) ก�ำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และวิธีปฏิบัติเก่ียวกับการบริหารและการจัดการกองทุน ป.ป.ช. โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ ป.ป.ช. (4) พิจารณาใหค้ วามเหน็ ชอบค�ำขอตง้ั งบประมาณรายจา่ ยประจ�ำปขี องกองทนุ ป.ป.ช. (5) พิจารณาให้ความเห็นชอบแผนการด�ำเนินงานและแผนการใช้จ่ายเงินประจ�ำปี และแผน การดำ� เนนิ งานและแผนการใชจ้ า่ ยเงินประจำ� ปเี พิ่มเติมระหวา่ งปขี องกองทนุ ป.ป.ช. (6) พิจารณาและอนุมัติโครงการ/กิจกรรม งบประมาณและอนุมัติค่าใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์ ของกองทนุ ป.ป.ช. (7) พจิ ารณารายงานผลการดำ� เนินงานประจ�ำปี การรายงานการเงินของกองทนุ ป.ป.ช. ในปีงบประมาณ ท่ลี ว่ งมาแลว้ (8) เสนอความเห็นต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. เกยี่ วกบั การด�ำเนินงานของกองทุน ป.ป.ช. (9) เสนอรายชือ่ ตอ่ คณะกรรมการ ป.ป.ช. เพอื่ พจิ ารณาแตง่ ตัง้ เปน็ คณะอนกุ รรมการ หรอื คณะบคุ คล เพือ่ ชว่ ยเหลือหรอื พิจารณาและเสนอความเห็นในเรื่องหน่งึ เรอื่ งใด หรือมอบหมายใหป้ ฏิบตั กิ ารอยา่ งหนง่ึ อย่างใด ตามทีเ่ หน็ สมควร (10) ปฏบิ ตั ิงานอน่ื ใดเพอื่ ใหเ้ ป็นไปตามวัตถุประสงคข์ องกองทุน ป.ป.ช. หนว่ ยงานบรหิ ารกองทนุ ป.ป.ช. ระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่าด้วยกองทุนป้องกันและปราบปราม การทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ก�ำหนดให้มีหน่วยงานบริหารกองทุน ป.ป.ช. ท�ำหน้าท่ีเกี่ยวกับงานธุรการให้กับ กองทุน ป.ป.ช. คณะกรรมการกองทุน ป.ป.ช. คณะอนกุ รรมการ หรอื คณะบุคคลทีค่ ณะกรรมการ ป.ป.ช. แต่งตั้ง ตามระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่าด้วยกองทุนป้องกันและปราบปราม การทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ท้ังน้ี ตามประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2561 ก�ำหนดใหห้ น่วยงานในสังกดั ส�ำนกั งานที่มีหน้าทีร่ บั ผดิ ชอบการบรหิ ารกองทุน ป.ป.ช. สำ� นักนโยบาย และยุทธศาสตร์ ส�ำนกั งาน ป.ป.ช. ท�ำหน้าทเ่ี ป็นหนว่ ยงานบรหิ ารกองทุนปอ้ งกนั และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ รายรบั ของกองทนุ ป.ป.ช. มาตรา 163 กองทุน ป.ป.ช. ประกอบด้วยเงนิ และทรัพยส์ ิน ดงั ต่อไปน้ี (1) เงินอุดหนุนที่รฐั บาลจดั สรรเพ่ือสมทบเขา้ กองทุน ป.ป.ช. (2) ดอกผลทเี่ กดิ จากเงนิ หรอื ทรัพยส์ นิ ของกองทุน ป.ป.ช. การพจิ ารณาใหก้ ารสนบั สนุนเงินกองทนุ ป.ป.ช. ในส่วนของการสนับสนุนการด�ำเนินโครงการ ซึ่งเป็นกิจกรรมภายใต้มาตรา 162 แห่งพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2561 กองทุน ป.ป.ช. จะให้ การสนับสนุนในลักษณะของเงินอุดหนุน โดยมีการระบุรายละเอียดเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ วิธีการ และวิธีปฏิบัติ ไว้ในประกาศคณะกรรมการกองทุน ป.ป.ช. เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และวิธีปฏิบัติเก่ียวกับการบริหารงานและ การจัดการกองทุน ป.ป.ช. และการใช้จ่ายเงินกองทุน ป.ป.ช. พ.ศ. 2562 ภายใตร้ ะเบียบคณะกรรมการป้องกัน 214 รายงานประจ�ำปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการปอ้ งกันและปราบปรามการทจุ รติ แห่งชาติ

และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่าด้วยกองทุนป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2562 รวมท้ังก�ำหนดแนวทาง วิธีการและวิธีปฏิบัติ ในการขอรับการสนับสนุนเงินจากกองทุน ป.ป.ช. ข้ันตอน การจัดเตรียมข้อเสนอโครงการหรือกิจกรรม โดยคณะกรรมการกองทุน ป.ป.ช. จะพิจารณาสนับสนุนค่าใช้จ่าย ในการด�ำเนินโครงการหรอื กจิ กรรม การใชจ้ า่ ยเงินกองทุน ป.ป.ช. ตามระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่าด้วยกองทุนป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ก�ำหนดให้การใช้จ่ายเงินกองทุน ป.ป.ช. ต้องเป็นไปตาม แผนการด�ำเนินงานและแผนการใช้จ่ายเงนิ ประจำ� ปีหรอื ระหว่างปี เพอ่ื วัตถปุ ระสงค์ ดังต่อไปน้ี (1) สนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชน ในการตรวจสอบการใช้อ�ำนาจรัฐ และสนับสนุนภาค เอกชนในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ หรือรณรงค์ในการป้องกันการทุจริต ผู้มีสิทธิขอรับการสนับสนุนจาก เงนิ กองทุน ป.ป.ช. ไดแ้ ก่ - ภาคประชาชน ส�ำหรับขอรับการสนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชนในการตรวจสอบการใช้ อ�ำนาจรัฐ - ภาคเอกชน ส�ำหรับขอรับการสนับสนุนเพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ หรือรณรงค์ในการป้องกัน การทุจริต (2) เป็นค่าใช้จ่ายในการจัดให้มีมาตรการคุ้มครองช่วยเหลือและค่าทดแทนตามมาตรา 131 และเงินรางวลั ตามมาตรา 137 ผมู้ สี ทิ ธิขอรบั เงนิ ชว่ ยเหลือหรือคา่ ทดแทนจากเงนิ กองทุน ป.ป.ช. ไดแ้ ก่ - ผู้กล่าวหา ผู้เสียหาย ผู้ท�ำค�ำร้อง ผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ ผู้ให้ถ้อยค�ำหรือผู้ที่แจ้งเบาะแสหรือ ข้อมลู ใด เก่ียวกบั การปฏบิ ตั ิหน้าท่ีของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ซ่ึงเปน็ บุคคล ท่ีคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติใหไ้ ด้รบั การคุ้มครองช่วยเหลือหรือค่าทดแทน (ตามระเบียบคณะกรรมการ ป.ป.ช.ว่าด้วยการคุ้มครองช่วยเหลือพยาน พ.ศ. 2562) เพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่ผู้ที่จะต้องได้รับการคุ้มครองช่วยเหลือ และมีอ�ำนาจสั่งให้เจ้าพนักงาน ตำ� รวจหรอื เจา้ หนา้ ทอ่ี น่ื ชว่ ยดำ� เนินการตามท่ีจ�ำเป็น ในกรณเี กิดความเสยี หายแกช่ วี ติ รา่ งกาย อนามัย ช่ือเสยี ง ทรัพยส์ ิน หรือสทิ ธิอย่างหนึ่งอย่างใด ของบุคคลหรือคสู่ มรสผู้บพุ การี ผูส้ ืบสันดาน หรอื บุคคลอื่นทมี่ ีความสัมพนั ธ์ ใกลช้ ดิ กับบคุ คลดงั กลา่ ว เพราะมกี ารกระทำ� ผิดอาญา โดยเจตนา เน่อื งจากการด�ำเนินการหรอื การให้ถอ้ ยค�ำหรอื แจ้งเบาะแสหรือข้อมูลต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้บุคคลนั้นหรือทายาทมีสิทธิยื่นค�ำร้องต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อขอรับค่าทดแทนเท่าที่จ�ำเป็นและสมควรตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองพยาน ในคดีอาญาด้วย (มาตรา 131) - ผทู้ ช่ี ี้ชอ่ ง แจ้งเบาะแส หรอื ใหข้ อ้ มลู หรือขอ้ เท็จจรงิ เก่ยี วกับทรัพย์สนิ หรอื หนี้สนิ ของ ผถู้ ูกกลา่ ว หา หรือผถู้ กู ตรวจสอบ รวมทั้งตวั การ ผูใ้ ช้หรือผู้สนับสนนุ ตอ่ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ในการไตส่ วนขอ้ เทจ็ จริงกรณี ที่มีการกล่าวหาว่าเจ้าพนักงานของรัฐร่�ำรวยผิดปกติ และการช้ีช่อง แจ้งเบาะแส หรือให้ข้อมูลหรือข้อเท็จจริง ดังกล่าวเป็นผลให้ทรัพย์สินที่ร�่ำรวยผิดปกตินั้นตกเป็นของแผ่นดิน โดยค�ำสั่งถึงท่ีสุดของศาล (ตามมาตรา 137) ซ่ึงเป็นผู้ท่ีคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติเห็นชอบให้มีการจ่ายเงินรางวัลแก่ผู้มีสิทธิได้รับเงินรางวัล (ตามระเบียบ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจรติ แห่งชาตวิ ่าดว้ ยการจา่ ยเงินรางวัล พ.ศ. ...) (3) ใช้จ่ายในการคุ้มครองการปฏิบัติงานของคณะกรรมการ ป.ป.ช. กรรมการ หัวหน้าพนักงาน ไต่สวน พนักงานไต่สวน และพนักงานเจ้าหน้าท่ีตามมาตรา 41 ผู้มีสิทธิขอรับการช่วยเหลือจากเงินกองทุน ป.ป.ช. ได้แก่ บุคคลท่ีคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติเห็นชอบให้มีการช่วยเหลือในทางคดี (ตามระเบียบ รายงานประจำ� ปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการปอ้ งกันและปราบปรามการทจุ รติ แห่งชาติ 215

คณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่าด้วยการด�ำเนินคดี การช่วยเหลือในทางคดี และการด�ำเนินการเก่ียวกับทรัพย์สิน ในทางคดี พ.ศ. ...) (4) ค่าใช้จ่ายอื่นใดที่จะเป็นประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าท่ีของหน่วยงานของรัฐท่ีมีหน้าท่ีและ อำ� นาจเก่ียวขอ้ งกับการป้องกันและปราบปรามการทจุ ริต ผู้มสี ทิ ธิขอรับการสนบั สนุนจากเงนิ กองทนุ ป.ป.ช. ได้แก่ หน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่และอ�ำนาจเก่ียวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ตามหลักเกณฑ์ ท่ีคณะกรรมการกองทุน ป.ป.ช. ก�ำหนด โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในการปฏิบัติภารกิจ และการส่งเสริมการด�ำเนินงานตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตให้เป็นไปอย่างมี ประสิทธิภาพ และเกิดสัมฤทธ์ิผล เช่น ด้านการบังคับใช้กฎหมาย ด้านการสืบสวนสอบสวน ด้านการส่งเสริม ให้มีมาตรการและกลไกปอ้ งกนั การทุจรติ และประพฤติมชิ อบ เป็นตน้ ความก้าวหนา้ การด�ำเนินงาน กองทนุ ป.ป.ช. (1) การจัดท�ำระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่าด้วยกองทุน ป้องกนั และปราบปรามการทุจริตแหง่ ชาติ พ.ศ. 2562 : คณะกรรมการ ป.ป.ช. ในการประชุมครัง้ ที่ 2/2562 เมื่อวันท่ี 3 มกราคม 2562 เห็นชอบระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่าด้วย กองทุนป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2562 และประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา เม่ือวันที่ 8 กมุ ภาพันธ์ 2562 (2) การสรรหา/แตง่ ตง้ั คณะกรรมการกองทุน ป.ป.ช. ไดค้ รบองค์ประกอบตามระเบยี บคณะกรรมการ ปอ้ งกนั และปราบปรามการทุจรติ แห่งชาตวิ า่ ด้วยกองทนุ ป้องกนั และปราบปรามการทุจรติ แหง่ ชาติ พ.ศ. 2562 : คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีค�ำส่ังแต่งตั้งคณะกรรมการกองทุนป้องกันและปราบปราม การทุจริตแห่งชาติ ซง่ึ มีพลต�ำรวจเอก วชั รพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานกรรมการ กรรมการ ป.ป.ช. ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มอบหมายเป็นรองประธานกรรมการ ซ่ึงคณะกรรมการ ป.ป.ช. มอบหมายนางสุวณา สุวรรณจูฑะ กรรมการประกอบด้วย เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ท่ีเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. มอบหมาย ได้แก่ นายอทุ ศิ บัวศรี ผแู้ ทนสำ� นักงานคณะกรรมการปอ้ งกันและ ปราบปรามการทจุ ริตในภาครฐั ผแู้ ทนส�ำนกั งบประมาณ ผ้แู ทนกระทรวงการคลัง และผ้แู ทนองค์กรภาคเอกชน ท่ีเกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริต จ�ำนวน 3 คน ซ่ึงคณะกรรมการ ป.ป.ช ได้คัดเลือก ได้แก่ นายทรงวุฒิ ไกรภัสสร์พงษ์ นายทศพร รัตนมาศทิพย์ และนายบัญชา เกิดมณี มีผู้อ�ำนวยการส�ำนักนโยบาย และยทุ ธศาสตรท์ �ำหน้าทห่ี ัวหน้าหน่วยงานบรหิ ารกองทนุ ป.ป.ช. เปน็ กรรมการและเลขานกุ าร (3) หลกั เกณฑ์ วธิ ีการ และวิธีปฏบิ ัตเิ กีย่ วกับการบริหารและการจดั การกองทนุ ป.ป.ช. และการใช้ จ่ายเงินกองทุน ป.ป.ช. : คณะกรรมการกองทุน ป.ป.ช. และคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ให้ความเห็นชอบ หลกั เกณฑ์ วิธีการ และวธิ ีปฏิบตั ิเกย่ี วกบั การบริหารและการจดั การกองทนุ ป.ป.ช. และการใช้จา่ ยเงนิ กองทนุ ป.ป.ช. พร้อมน้ี ส�ำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์ ส�ำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ในฐานะหน่วยงานบริหารกองทุนป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ได้จัดเตรียมแนวทางปฏิบัติในการ จัดท�ำข้อเสนอโครงการหรือกิจกรรมท่ีจะขอรับการสนับสนุนจากกองทุนป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เพ่ือให้ค�ำแนะน�ำกับผู้มีความประสงค์ขอรับการสนับสนุนเงินในการด�ำเนินโครงการหรือกิจกรรมจากกองทุน ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ทราบถึงแนวทาง วิธีการและวิธีปฏิบัติท่ีจะขอรับการสนับสนุนเงิน จากกองทนุ ป.ป.ช. ข้นั ตอนในการจัดเตรยี มข้อเสนอโครงการหรือกิจกรรม และแบบฟอรม์ ตา่ ง ๆ ท่ีเกย่ี วขอ้ ง 216 รายงานประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามการทจุ ริตแหง่ ชาติ

11. ด้านสอื่ สารองค์กร ส�ำนักงาน ป.ป.ช. ได้ขับเคลื่อนงานสื่อสารปลุกกระแสและการเข้ามามีส่วนร่วมในการต่อต้านการทุจริต สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม การทุจริต ระยะที่ 3 ยุทธศาสตร์ส�ำนักงาน ป.ป.ช. ยุทธศาสตร์การส่ือสารเพ่ือต่อต้านการทุจริต และตาม แผนบูรณาการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ โดยมุ่งไปสู่เป้าหมายคือ ลดปัญหาการทุจริตในสังคมไทย และขยบั คา่ CPI สูงข้ึน ในปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 เป็นท่ีทา้ ทายในการร่วมสร้างสงั คมท่ไี ม่ทนตอ่ การทุจรติ ส�ำนกั งาน ป.ป.ช. ต้องปรับบริบทในการสื่อสารให้มีความหลากหลายและเท่าทันความเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล เพ่ือสร้าง กระแสสังคมให้มีความต่ืนตัวในการไม่ยอม ไม่ทน ไม่เฉยต่อการทุจริตในทุกรูปแบบมุ่งการสื่อสารภายใต้แนวคิด “Zero Tolerance คนไทยไม่ทนตอ่ การทุจริต” เน้นเนื้อหาการส่ือสาร ดังนี้ (1) ปลกู ฝงั วางรากฐานทางความคิดพื้นฐานของประชาชนในการต่อตา้ นการทุจรติ เช่น การแยกแยะ ระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม ให้ความรู้ว่าโกงคืออะไร อะไรคือโกง เช่ือมโยงความรู้ หน้าที่พลเมอื งตามรฐั ธรรมนญู มาตรา 50 (10) (2) ป้องกัน ส่งเสริมค่านิยมท่ีถูกต้องและมาตรการต่อต้านการทุจริต โดยยกสถานการณ์การทุจริต ท่เี กดิ ขึน้ พฤตกิ รรมจากจดุ เลก็ ๆ ที่มองวา่ ธรรมดาจนไปถึงเชงิ นโยบาย (3) ปราบปราม เสริมพลังการมีส่วนร่วมของชุมชนและบูรณาการทุกภาคส่วนเพ่ือร่วมกันต่อต้าน การทจุ รติ (4) สร้างวัฒนธรรมสุจริตในสังคมไทยให้ยั่งยืน โดยปลูกจิตส�ำนึกความซ่ือสัตย์ สุจริต ไม่นิ่งเฉย หากพบเห็นการทจุ รติ รักษาคนดี และสง่ เสริมยกย่องคนดี เปิดพื้นทใี่ หค้ นดมี ีทยี่ นื ในสังคมอยา่ งภาคภูมิใจ โดยมผี ลการด�ำเนินงานทีส่ �ำคัญ ดังน้ี 1. การประชาสัมพันธ์ปลุกจิตส�ำนึกคนในสังคมไม่ยอมรับการทุจริต ผ่านช่องทางต่าง ๆ เพื่อสร้าง การรบั รู้ผลทีเ่ กิดจากการทุจรติ และเฝา้ ระวังการทุจรติ และปลกุ กระแสสงั คมรว่ มต่อต้านการทุจรติ คือ 1.1 งานประจ�ำ ได้แก่ - การจัดรายการวิทยุประจ�ำทุกสัปดาห์ จ�ำนวน 3 รายการ คือ (1) รายการวิทยุ “ ป.ป.ช. พบประชาชน” FM 87.5 MHz ทุกวนั จันทร์ เวลา 19.30 น. (2) รายการวทิ ยุชุมชน “ภารกจิ พชิ ติ โกง”เผยแพร ่ ทุกวันศุกร์ เวลา 19.30 น. และ รายการ “ป.ป.ช.จังหวัดขจัดโกง” ทุกวันเสาร์และอาทิตย์ เวลา 19.30 น. ทาง FM 93.75 MHz และเครือขา่ ยสมาคมสื่อชอ่ สะอาดเผยแพรท่ ่วั ประเทศ - การประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อออนไลน์ คือ (1) Website ส�ำนักงาน ป.ป.ช. ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ (2) Face book ส�ำนกั งาน ป.ป.ช. (3) Twitter @PR_nacc (4) ไลน์ nacc zero tolerance - การจดั กิจกรรมบรจิ าคโลหิต ปีละ 4 ครงั้ - การมอบรางวัลช่อสะอาด ปีละ 1 คร้ัง เพ่ือสร้างขวัญและก�ำลังใจ สนับสนุนยกย่องบุคคล กลุ่มบุคคล หรือหน่วยงานด้านสื่อในการส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมท้ังแก่ผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ ผลงาน โฆษณา ตลอดจนข่าวหรือสารคดีเชิงข่าว ท่ีมุ่งสร้างสรรค์ผลงานท่ีมีเนื้อหาในการปลูกฝังและส่งเสริมคุณธรรม ตลอดจนป้องกันและปราบปรามการทุจริต และเผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์เคเบิ้ลทีวี สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม สอื่ สิง่ พมิ พ์ หรือส่ืออื่น ๆ รายงานประจำ� ปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามการทุจรติ แหง่ ชาติ 217

1.2 งานตามแผนปฏบิ ัติการประชาสมั พนั ธป์ ระจ�ำปงี บประมาณ พ.ศ.2562 1.2.1 งบพน้ื ฐาน จ�ำนวน 3 โครงการ ไดแ้ ก่ โครงการวนั สถาปนาส�ำนกั งาน ป.ป.ช. การผลติ และเผยแพร่ส่ือประชาสัมพันธ์วารสารสุจริต โครงการผลิตสื่อรณรงค์ต่อต้านการทุจริต ซึ่งทั้ง 3 โครงการ เป็นการเผยแพร่ผลการด�ำเนินงาน รวมท้ังเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปราม การทจุ ริต และภารกจิ ของสำ� นักงาน ป.ป.ช. ตามอ�ำนาจหนา้ ท่ีได้อยา่ งถกู ตอ้ ง 1.2.2 งบบรู ณาการตอ่ ต้านการทจุ รติ และประพฤติมชิ อบ จำ� นวน 7 โครงการ ได้แก่ 1) โครงการประกวดส่ือป้องกันการทุจริต เป็นการเปิดโอกาสให้กลุ่มเป้าหมายใน กลุ่มนักเรียนระดับมัธยมศึกษา นิสิต นักศึกษาในระดับอุดมศึกษา และบุคคลท่ัวไปท่ีมีความรู้ความสามารถ ทางด้านการสร้างสรรค์สื่อร่วมส่งผลงานเข้าประกวดในรูปแบบภาพยนตร์โฆษณา หรือภาพยนตร์สั้น เพื่อปลุกจิตส�ำนึกให้มีทัศนคติและค่านิยมในความซ่ือสัตย์สุจริต หรือกระตุ้นเตือนสังคมให้เกิดจิตส�ำนึกว่า การทุจริตเป็นการทำ� ลายชาติ จำ� เปน็ ตอ้ งรว่ มกันปอ้ งกนั และปราบปรามการทุจริตใหห้ มดไปจากสงั คมไทย 2) โครงการจุดกระแสสังคมท่ีไม่ทนต่อการทุจริต ส่งผลให้ทุกภาคส่วนตระหนัก ในผลเสียหายร้ายแรงท่ีเกิดข้ึนจากการทุจริตคอร์รัปชัน และเกิดสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริตในทุกภาคส่วนผ่าน การส่ือสารสาธารณะสร้างสรรค์ (creative) ตามกลุ่มเปา้ หมายอย่างเหมาะสม 3) โครงการจัดงานวันต่อต้านคอรร์ ปั ชนั สากล (ประเทศไทย) เป็นการแสดงเจตนารมณ์ ของผู้น�ำทางการเมืองที่มีความมุ่งม่ันในการแก้ไขปัญหาการทุจริต และให้นานาชาติได้รับรู้ถึงการด�ำเนินการ และความพยายามแกไ้ ขปญั หาการทจุ รติ ของประเทศไทย 4) โครงการผลิตสื่อเชิงบูรณาการการส่ือสาร ภายใต้แนวคิด “คนดีที่ไทยต้องการ” ในรูปแบบของ Music marketing เปน็ การใช้แนวทางการตลาดผ่านเสียงเพลง และสอื่ ประชาสมั พนั ธ์ในรูปแบบ Infographic ส่งผลให้ผู้รับสารเกิดการรับรู้ เกิดความเข้าใจ และมีพฤติกรรมเชิงส่งเสริมในการสร้างวัฒนธรรม ท่ี ไมท่ นต่อการทุจรติ 5) โครงการผลิตและเผยแพร่ส่ือประชาสัมพันธ์ดัชนีการรับรู้การทุจริตสู่สาธารณะ ในรปู แบบของประชาชนมีความรคู้ วามเขา้ ใจเกย่ี วกับดชั นกี ารรบั ร้กู ารทุจริต (CPI) เพม่ิ มากขน้ึ และร่วมเป็นสว่ นหน่ึง ในการตอ่ ตา้ นการทจุ รติ และยกระดับคะแนนดัชนีการรบั รูก้ ารทจุ รติ ของประเทศไทยให้สงู ขน้ึ 6) โครงการจัดท�ำและเผยแพร่ข่าวเชิงสืบสวนและข้อมูลข่าวสารเพ่ือการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต ท�ำใหส้ ังคมทราบข้อมูลขา่ วสารเชิงลึกดา้ นการทจุ รติ คอรร์ ปั ชนั อยา่ งท่ัวถงึ 7) โครงการผลิตสื่อสร้างสรรค์เพ่ือเปิดโปงการทุจริต เป็นการเผยแพร่ข้อมูลผู้กระท�ำ การทุจริตและผลจากการด�ำเนินคดีทุจริตท่ีถึงที่สุดแล้ว ให้ประชาชนและสังคมได้รับทราบถึงบทลงโทษ หรือผลท่ีจะไดร้ บั อันจะท�ำให้เกดิ ความเกรงกลวั ไม่กลา้ กระท�ำการทุจริต 2. การเสริมสร้างบทบาทเครือข่ายร่วมต้านการทุจริต เพ่ือให้เกิดพลังการส่ือสารต่อสาธารณะ อย่างเป็นเอกภาพ ส�ำนักงาน ป.ป.ช. ไม่สามารถด�ำเนินงานได้เองเพียงล�ำพังให้ส�ำเร็จ จ�ำเป็นเป็นต้องอาศัยและ ส่งเสริมบทบาทให้กับภาคีเครือข่ายจากทุกภาคส่วนมาร่วมขับเคล่ือนงานสื่อสารเพ่ือต่อต้านการทุจริต จึงได้ ประสานความร่วมมือและบูรณาการการท�ำงานร่วมกันกับองค์กรส่ือมวลชน และภาคีเครือข่ายที่มีการลงนาม MOU และไม่ได้ลงนาม MOU กับส�ำนักงาน ป.ป.ช. เช่น กรมประชาสัมพันธ์ สมาคมส่ือช่อสะอาด สมาคมสือ่ ดจิ ิตอล กสทช. ฯลฯ 3. การแถลงข่าวผลการด�ำเนินงานและรายงานผลความคืบหน้าของคดีที่ส�ำคัญ เพ่ือเป็น การเสริมสร้างภาพลักษณ์ ศรัทธา ความน่าเชื่อถือต่อกระบวนการท�ำงานด้านป้องกันและปราบปรามการทุจริต คณะกรรมการ ป.ป.ช.และสำ� นกั งาน ป.ป.ช. 218 รายงานประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแหง่ ชาติ

4. การให้บริการข้อมูลส�ำนักงาน ป.ป.ช. โดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออ�ำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ในการติดต่อสอบถาม ให้ค�ำแนะน�ำเบ้ืองต้นในการร้องเรียนได้อย่างสะดวกรวดเร็ว อันเป็นการเสริมสร้าง ภาพลักษณ์ทด่ี ใี ห้แก่ส�ำนกั งาน ป.ป.ช. มีผลงานในปีงบประมาณ พ.ศ.2562 ดังน้ี 4.1 เดนิ ทางมาที่สำ� นกั งาน ป.ป.ช. ด้วยตนเอง จ�ำนวน 9,166 ราย 4.2 ใหบ้ รกิ ารขอ้ มูลทางโทรศพั ทผ์ า่ นระบบ Operator หมายเลข 02 528 4800 และ Call Center หมายเลข 1205 จ�ำนวน 26,251 ราย 5. การขับเคลื่อนงานประชาสัมพันธ์ตามแผนบูรณาการป้องกัน ปราบปรามการทุจริตและ ประพฤตมิ ชิ อบร่วมกบั กรมประชาสมั พนั ธ์ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 รัฐบาลมีมาตรการป้องกันและปราบปรามการทุจริตเพ่ือการพัฒนาท่ีย่ังยืน ได้ก�ำหนดให้มี การประชาสัมพันธ์การต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ ประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 โดยบูรณาการ การด�ำเนินงานร่วมกันระหว่างกรมประชาสัมพันธ์และส�ำนักงาน ป.ป.ช. มุ่งเน้นเน้ือหาไปท่ี 1) การปลูกฝัง รากฐานทางความคิดของประชาชนคนไทยในการต่อต้านการทุจริตท้ังกับตนเอง และกับผู้คนในสังคมโดยจะต้อง ไม่อดทนหรือเพิกเฉยต่อพฤติกรรมดังกล่าว 2) การป้องกัน กล่าวคือ การด�ำเนินงานของฝ่ายการเมืองและ เจ้าหน้าที่รัฐจะต้องมีความโปร่งใสและตรวจสอบเพ่ือสานต่อเจตจ�ำนงของประชาชนที่ต้องการสร้างชาติท่ีสะอาด ปราศจากการทุจริต 3) การปราบปราม โดยรัฐจะต้องมีกลไกการป้องกันและปราบปรามการทุจริตท่ีได้รับ ความไวว้ างใจ และความเช่ือม่นั จากประชาชน และ 4) การสรา้ งวัฒนธรรมสุจรติ ในสงั คมไทยให้ยั่งยืน การประชาสัมพันธ์การต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบท่ีด�ำเนินการโดยกรมประชาสัมพันธ์ ไดแ้ ก่ สปอตโทรทศั น์รณรงค์ต่อต้านการทจุ รติ 12 สปอต รายการโทรทศั น์“กะเทาะเปลือกคอร์รปั ชนั ” 30 ตอน รายการโทรทัศน์ “ฮีโร่ต้านโกง” 24 ตอน ละครโทรทัศน์เกี่ยวกับการต่อต้านการทุจริต 12 ตอน รายการวิทยุ บันทึกสถานการณ์ ช่วง “กะเทาะเปลือกคอร์รัปชัน” 45 ตอน สปอตวิทยุ สารคดี/บทความเชิงข่าวทางวิทยุ คลปิ วิดโี อต่อตา้ นการทุจริต เฟซบุ๊ก ฮโี ร่ตา้ นโกง อินโฟกราฟฟิก และแอนนเิ มชัน เปน็ ตน้ ดงั นน้ั เพ่อื ใหท้ ราบถงึ ผลสมั ฤทธขิ์ องโครงการประชาสัมพนั ธ์ฯ จงึ ได้มกี ารประเมนิ ผลสรุปได้ ดงั น้ี การเปิดรับส่ือเก่ียวกับการประชาสัมพันธ์การต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ เท่ากับ รอ้ ยละ 70.0 การรับรขู้ อ้ มลู ข่าวสารเก่ียวกับการประชาสมั พนั ธ์การต่อตา้ นการทจุ ริตและประพฤตมิ ชิ อบ เท่ากบั ร้อยละ 80.0 ความเข้าใจในข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์การต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ เท่ากับรอ้ ยละ 81.0 ความเชื่อมน่ั ตอ่ ข้อมูลขา่ วสารเกี่ยวกบั การประชาสัมพนั ธ์การต่อตา้ นการทุจริตและประพฤติ มิชอบ เท่ากับร้อยละ 77.0 ความเช่ือม่ันต่อนโยบายรัฐบาลเก่ียวกับการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ เท่ากับรอ้ ยละ 71.0 การนำ� ขอ้ มูลข่าวสารเกย่ี วกบั การประชาสัมพนั ธก์ ารต่อต้านการทุจรติ และประพฤตมิ ชิ อบไป ใชป้ ระโยชนใ์ นชีวิตประจำ� วนั เทา่ กับร้อยละ 91.0 และการมสี ่วนรว่ มในการดำ� เนนิ งานการตอ่ ตา้ นการทจุ ริตและ ประพฤตมิ ชิ อบ เท่ากับรอ้ ยละ 82.0 6. การประชาสมั พันธป์ ลกุ กระแสสงั คมทีไ่ มท่ นต่อการทจุ รติ ครอบคลุมทกุ พน้ื ท่ใี นระดับภูมิภาค ในปี 2562 การประชาสัมพันธ์ของส�ำนักงาน ป.ป.ช. ประจ�ำจังหวัดเน้นการบูรณาการงานส่ือสาร กับทุกภาคส่วนในพื้นท่ีให้เข้ามาร่วมขับเคลื่อนงานสื่อสารให้ตอบสนองและสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ยทุ ธศาสตร์ชาติฯ ยุทธศาสตรส์ ำ� นักงาน ป.ป.ช. และยุทธศาสตรก์ ารสือ่ สารเพ่อื ตอ่ ตา้ นการทุจรติ โดยมเี ป้าหมาย ในการบูรณาการการส่ือสาร เพ่ือยกระดับภาพลักษณ์ความเช่ือมั่นในกระบวนการป้องกันและปราบปราม การทุจริต และปลุกกระแสสังคมท่ีไม่ทนต่อการทุจริต เพ่ือลดการทุจริต ส่งผลให้ไทยมีค่า CPI ดีข้ึน ภายใต้ แคมเปญ “Zero Tolerance คนไทยไม่ทนต่อการทุจริต” เพ่ือให้เกิดพลังการส่ือสารในทิศทางเดียวกัน กับสว่ นกลาง โดยเฉพาะการส่งเสรมิ บทบาทสอ่ื มวลชน ส่อื พ้ืนบ้าน เครือข่ายต่าง ๆ ใหเ้ ขา้ มามสี ่วนรว่ มต่อต้าน รายงานประจำ� ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทจุ ริตแห่งชาติ 219

การทุจริตตามความเหมาะสมกับบริบทของกลุ่มเครือข่าย อันเป็นการสร้างเครือข่ายประชาสัมพันธ์เพ่ือขยาย แนวร่วมสรา้ งคา่ นิยม และสง่ เสรมิ ความซ่อื สัตยส์ ุจรติ ใหเ้ กดิ ขึ้นในสังคม สำ� นกั งาน ป.ป.ช. ประจ�ำจังหวัดทงั้ 76 แหง่ ได้ดำ� เนนิ การประชาสมั พันธเ์ พ่อื สรา้ งกระแสต่อตา้ น การทุจรติ ผา่ นกจิ กรรมต่าง ๆ เช่น 1) การประชาสมั พนั ธเ์ นอ่ื งในโอกาสครบรอบวันสถาปนาสำ� นกั งาน ป.ป.ช. 2) การผลติ และเผยแพร่บนแผ่นป้ายตามท้องถนน, บิลบอรด์ , ชอ่ งทางอน่ื ๆ 3) การจัดนทิ รรศการเผยแพรภ่ ารกิจและผลงาน 4) การประชาสัมพนั ธ์ทางหนงั สอื พิมพ์ 5) การประชาสมั พันธท์ างวทิ ยุ 6) การประชาสัมพันธท์ างโทรทัศน/์ เคเบ้ิล 7) การผลิตส่ือ เชน่ คลปิ , เพลงพ้นื บ้าน , หนงั สน้ั เป็นต้น 8) การจดั แถลงขา่ วผลการดำ� เนนิ งานในระดับพื้นที่ 9) การจัดท�ำเวป็ ไซต์ ส่ืออเิ ล็กทรอนิกส์ และส่ือออนไลน ์ 10) จัดกิจกรรมส่งเสริมเครือข่ายให้มีองค์ความรู้และสร้างเครือข่ายงานส่ือสารในการสร้างกระแส สังคมไม่ทนต่อการทุจริตเพ่ือร่วมกันเผยแพร่ข่าวสารของส�ำนักงาน ป.ป.ช. ประจ�ำจังหวัด เช่น เครือข่าย ส่อื มวลชนท้องถนิ่ สอื่ พ้นื บา้ น 11) จัดกิจกรรมอ่ืน ๆ เช่น การจัดกิจกรรมรณรงค์เดิน-วิ่ง การประกวด การประชาสัมพันธ์ ในชุมชน หน่วยงานรฐั หรือเอกชน สถานศกึ ษา ฯลฯ กล่าวโดยสรุป ตามที่ส�ำนกั งาน ป.ป.ช. ได้ขบั เคลื่อนงานสือ่ สารเพือ่ สรา้ งกระแสสังคมใหม้ คี วามตืน่ ตัว ในการไม่ยอม ไม่ทน ไม่เฉยต่อการทุจริตในทุกรูปแบบ ภายใต้แนวคิด “Zero Tolerance คนไทยไม่ทนต่อ การทุจริต” รวมท้ังมีการบูรณาการการท�ำงานด้านส่ือสารร่วมกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน จากการด�ำเนินงาน ดังกล่าว ส่งผลให้สังคมเร่ิมตระหนักถึงผลกระทบจากการทุจริต รู้จักแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตนและส่วนรวม รกั ษาผลประโยชนส์ าธารณะมากขน้ึ ไม่เพกิ เฉย ชว่ ยกันเปน็ หเู ป็นตาเฝา้ ระวัง จากการที่ทุกภาคส่วนกระตือรือร้นในปัญหาการทุจริต ได้ท�ำให้ประชาชนเช่ือม่ันและเริ่มต่ืนตัวต่ืนรู้ เก่ียวกับภัยร้ายแรงของการทุจริตซ่ึงเป็นอุปสรรคในการพัฒนาประเทศ และประชาชนเริ่มไม่ทนต่อการทุจริต กล้าที่จะเปิดโปงการทุจริตมากข้ึน อันจะเห็นได้จากการเปิดโปงกรณีการเทพ้ืนปูนซีเมนต์ลงในล�ำน้�ำคีรีวง เพ่ือประโยชน์ในการประกอบธุรกิจ การเปิดโปงกรณีการทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้ การเปิดโปงกรณี อาหารกลางวัน อาหารเสริมนมของนักเรียน และการเปิดโปงพฤติกรรมของข้าราชการในการใช้รถหลวง หรือทรัพย์สนิ ของทางราชการเพ่ือประโยชน์สว่ นตวั 220 รายงานประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ

สัมฤทธิผลของการดำ�เนินงานตามระบบการประเมนิ ผลภาคราชการ แบบบูรณาการ สัมฤกทรธอิผบลกขาอรปงกระาเรมดินาํ ผเนลกนิ างราปนฏติบาัตมิรราะชบกบารกขาอรงปสร�ำะนเักมงนิ าผนลปภ.าปค.ชร.าชปกราะรกแอบบดบ้วบยรู ณ4ามกิตาิรได้แก่ มติ ิดา้ นประสิทธกผิ รลอตบากมาแรผปนรยะุทเมธินศผาสลตกรา์รมปิตฏดิ ิบ้าัตนิรคาณุ ชกภารพขขอองงสกําานรัตกองาบนสนปอ.ปงต.ชอ่ .ผปูม้ รีสะ่วกนอไบด้เดสวยี ย ม4ิตมดิ ิตา้ ินไปดรแะกส มทิ ิตธิภดาพน ของกปาระปสฏิทบิ ธัติผิรลาตชากมาแรผแนลยะุทมธติศิดาสา้ นตรก ามริตพิดฒั านคาุณองภคาก์ พรขตอางกมาแรผตนอภบาสพนทอี่ ง1ตอดผงั นูม้ีสวนไดเสีย มิติดานประสิทธิภาพของ การปฏิบัตริ าชการ และมติ ดิ า นการพัฒนาองคกร ตามแผนภาพท่ี 1 ดังน้ี แผนภาพแสดงความเชอ่ื มโยงกรอบการประเมินผลการปฏบิ ัติราชการ ของส�ำนักงาน ป.ป.ช. มิตทิ ่ี 1 ประสิทธิผลตามแผน ยทุ ธศาสตร มติ ทิ ่ี 4 สํานกั งาน มติ ิท่ี 2 การพัฒนาองคก ร ป.ป.ช. คุณภาพของการตอบสนอง ตอผมู สี ว นไดเสีย มิตทิ ่ี 3 ประสทิ ธภิ าพของการปฏิบัติ ราชการ โดยค�ำอธิบายและการให้น�้ำหนักของแต่ละมิติ ตามกรอบการประเมินผลการปฏิบัติราชการของ สำ� นกั งาน ป.ปโด.ชย.คปําอรธะิบจา�ำยปแีงลบะกปารระใหมนาํ้าณหนพัก.ขศอ. ง2แ5ต6ล2ะมเิตปิน็ตดามงั กนร้ี อบการประเมินผลการปฏิบตั ิราชการของสํานักงาน ป.ป.ช. ประจําปง บมปิตริ ะมาณ พ.ศ. 2562 เปนดงั น้ี ค�ำอธิบาย น้�ำหนัก (ร้อยละ) แมผิตนิทยี่ ม1ุทติ ธิทดศ่ี า้1านสปตยดรุทารนะธ์ ปศสาริทมสะธสติติผทิริ ลธิผตลาตมามแผเแแนพผสื่อนดใปหงเแแผพฏเ้ผสกอ่ืลิบนดดิใงปงัตหผปฏาเิรลกริบนางิดะัตาชทปนโิรกยราี่ทบะชาชีบ่ โรกรนยรารตชรส์รลลนาตงู วุุสมวาสัตงูมัตทดุถสทุป่ีถไุดต่ีไคดรตดุป่อําะอ้รรอปสรบัปับธงระงรบิงคบะะสบแาชปชยลงปาราะคชะชรเนมป์แะนาามลณหาะมมณาาเยดปมขํา้าเอานหงดิน�ำมกเาานรยินขกอารง นาํ้ หนัก4(0ร4อ0ยละ) มม2ติติ ิทิทดกผี่่ี มู้า้า32รนีสตค่วดปดตอนุณาอาฏบนนบไบิภดปค สสัตาุณ้เรนรินสพะาอภสอยีชงขาทิตกงพอธตาอขงิภรผอ่อาูมงพสีกขวาอนรงไดกผแาเสรูม้สียีสด่วงแปแกนผสสับฏไดดผดลิบงงูมัตเ้กคผสีสริ วลาวายี ากชนรตมากไสปร่อดาปาเรกฏสมฏาียาิิบบรรตัตัถดตอริใก�ำิารนาเชกานรกาดชนิารํารใกงเชโนาดาท ินนยรรงใขัพาหโนอยดคาขงวยกอสารมงใำ�อสสหนยาําํ านกั้คคงักญังควงาุมาานคนมา ปปใสน..ป�ปำก.าคช.ชร.ัญ. 1010 มิติท่ี กั บ 30 มติ ทิ ่ี ม3ิต ทิ ดี่ ้า4นปดรา นะกสาิทรพธิภัฒานพาอขงอคงกร แสดงแคสวดางมคสวาามมสารมถารใถนในกกาารรใบชร้ทหิ รารัพจยดั ากากรรอองคยก่ารงแคลุ้มะบคุค่าลใานกกราร 2030 การปฏบิ ัติราชการ แปสฏดิบงัตคเพรินวาื่อํ้าาชหสมนนกสับกัาาสรรมวนามุนรทกถุกาใรมนปิตกฏิ าบิ รตั บิรารชิหกาารรจขัดองกทาุกรกอลงุมคภ์การรกแิจละบุคลากร มติ ิที่ 4 ด้านการพฒั นาองค์กร เพ่ือสนบั สนุนการปฏิบตั ิราชการของทกุ กลุม่ ภารกิจ 10020 นำ้� หนักรวมทกุ มติ ิ 100 รายงานประจาํ ปง บประมาณ รพาย.ศง.าน2ป5ร6ะจ2ำ� ปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามการทจุ รติหแนหาง่ ช2าต2ิ5 221

รวมทั้งรกวามรทเชัง้ ก่อืคามวราโเยมชงอ่ืเคพชมวือ่ันโายมมธงโเกชพยรือ่งันณกมธปีบัตโกยรารนงะงณโกจยปๆับีตําบรา่ปนะใางโงนจยยบๆำ�กสบปปาาํใางีรรนคยบะกกัญสมปําา�ำขหารรคณอะกนญั ม�ำงดขหราพหณัฐอน.ลบงศดรักพ.าหัฐเล2.ลกบศแ5ักณ.าล6เล2กฑ2ะแ5ณยตล6ุทฑัวะ2ธยช์ตศทุี้วัวาธดัชสศีว้ผตาัดลสรผกตช ลารากรช์ตปาาิรฏตปิบิ ฏัติบิรตั าริ ชากชากราร แผแนผภนาภพาทพ่ี: แนววททาางงกกาารกรํากหำ� นหดนตดัวตชวั้ี ัชดผ้วี ลดั กผาลรปกฏาริบปตั ฏิราิบชตักิรารารชะกดาับรอรงะคดกบัรองคก์ ร ขรดกสบ(พฐัอาาํวูรสแแ ตค (.ธพรนยงณศผล�ำณารขปกัก..นรนะมศาับะาทงม2กพกัก.ต1การเก5น่ีผาคงารนปร.ั2ว6รรูาญารลอะก5อชร0นตนปป่ืบอรว6งรมี้-วอมาาฏ.น2กก1กอ0ปปักดตาดช5ายัิรน.ร-บ..ตาขาวบร72ชูปปทุอแรนภัวยกป9อ5.ัญปธ.ลบชกชกรา)รไ7ศงะรปญ้ีดกวะาอรา.แ9าปปะัเรดรกแ.าไสบผมตั)ปเีปรทดททกิรจตทนิภปินาแ.อแุ้ปจี่ี่รผตชศบพผรารผคงชกรอร่.าัฐะรปัลฒกนิืตอา่แะงธนกกรกนัรตกพแกพนเผรฐัาิจาอมิวแมาลารฒัาัฒนมรธาบลรามิรนะเปรงกดศคนขนะตตปรนผารฏาวรือปับฐัาาอัรวนูญมรยลษิบอเธกระเบทชกบศนกแคฐยัาตรพาี้สาุวจรูรญูหบการาลิรรรฤัรนณดษมิจรงาปงตป่ือแติตตรชอปทแฐนอราอนหิมาอกกลงาก่ีรฏตูญบงชยิ่งชยมเาะะิจกานิบ้รสออุทวอรุทยกสรแนั าื่อนขา่าัตงบะธตาังธลแชณดงอพอคิรรทศศอ่ละอปง้วทามงาตัี่าฒตะาสสา3ยรยจชุจแสัปสวา้งัณําะนกักุทรชกหนตตร(คนจพติราาา้ีาวธางรกรมํักาไรบจ.ัชดศอรแ์ชศทาพแปงปปักาทขายรล.าายห.ง้อตรรสศที่น2อตตะ่าบง่าไิง.พต5จุนอิงวงฉมชทปกป26ร.สร่งาตบโกาศยนัร.50์แดยติดป�ำตา่ับอะ.6-แลําบรแพน้ว.2ิม2ทเ1ชเทละลฉาย5นนัก.5า่ี.ศะุจนยะบ6ดก16ณิื่นงอพรป.4ปทโ2ัง0ับาากิตงิจย2น)รี่รรกนพทาาแ(บ5าแี้ะปรมํารร.ผตี่บ6ะผศาพหตณา้อ1ปนัยว0ยนป.ตาฤน2งาก.ะชท2งมรรปตกจ(ดทาา้ี5มาวาี่แกนาิมันร.เนี่6ชัมดากปผ�ำ3ปโ2ิชแบย2ตผกห.นท3ฏาอแลบูรลราห2นแก่ีิรพบตผะณาการ-ปูลมดาน้2ิจปยอทาาร2ะปปาเก3รขางรกปุจป3พยปารร7รอดาาร้าระ2ฏกะรฏ)ณงบร�ติปำหเ-ะจาคริยิบทต2ปเาฏรมร�ำูปทุณพนอัศต3จาิปรรปาปธติริ.7นชะาูปายยศฏงีศาารก)กมบปกบุทกช.ิบานะรผยักรญกาธปสา2ัเกตระทุลศาทรารต5รมญาิรเรกรปาธทตะศ6รรกาตสัทตศาชฏศทม1าชาาตริปายุาจราุมิบจมกแรปดสตทุณรรรตนาัตผชปงัิตฏะิติตธรวั2นาิร.โนกรปิบแศชขพต0ายง้ีช์อรลีว้.อาาัตชิว.บชปะาศบนัดสะางกิร.ตาย.ตาายิะช2รร2ขท์ช5ขก0อ6่ีาอาปต32รงงีิ ปรวะา่ พดฤ้วตยมิ กชิ าอรบปอ้ ปงง กบนั ปแระลมะาปณราพบ.ศป.ร2า5ม6ก2ารแทละุจนรโิตยบราะยยอะน่ื ทๆ่ี 3 (พ.ศ. 2560-2564) แผนงานบูรณาการตอ่ ต้านการทุจริต และป2ร. ะกพรอฤบตกิมาิชรอปบระปเมีงบินปผลระแมบางณเปพน.ศ4.ม2ติ 5ิ 6ได2แ แกล ะนโยบายอืน่ ๆ 2ม.ิตกิทร่ีอ1บดกาานรปปรระะสเมิทนิธิผลตแาบมแ่งเผปน็นยุท4ธมศิตาิสไตดรแ้ กว่ัดผลสําเรจ็ การบรรลุเปาหมายผลลัพธที่สําคัญตาม ยทุ ธศาสตรช าตฯิ มริตะิทยี่ะ1ท่ี 3ด้าแนผนปงราะนสบิทูรณธิผากลาตราตมอแตผา นนกยาุทรทธุจศราติ สฯตรแ์ลวะัดนโผยลบสา�ำยเอร่ืน็จกๆารโดบยรพริจลาุเรปณ้าหาจมาากยผลลัพธ์ที่ส�ำคัญ ตามยทุ ธศา(ส1)ตกรา์ชราบตริฯรลรุเะปยาะหทมี่า3ยผแลผลนัพงธาทนี่สบํารู คณัญาตกาามรยตุทอ่ ธตศ้าานสกตารรชทาตจุ ิฯริตรฯะยแะลทะ่ี 3นโ(ย6บยาุทยธอศน่ื าสๆตรโ)ดแยลพะจิ แาผรนณงานจาก บูร ณาการตอ ตาน(1ก)า รกทาุจรรบิตรฯรล(3ุเปแา้ นหวมทาายงผ) ลไดลแพั กธ ท์ระสี่ ด�ำัคบญัคะตแานมนยขุทอธงศดาัชสนตีกรา์ชรารตับฯิ รูกราะรยทะุจทรี่ ิต3 ((C6PยI)ุทใธนศปา สพต.ศร์). 2แ5ล6ะ2แผนงาน สมูงีสสบกวูงรู วนกณารวา4ว่ากม74าใคน7ระตกคแ่อานะรตนแตา้ นรนแวนลกจะาสแใรอนลทบปะุจใก พนราิต.ปรศฯที.พุจ2(ร.35ศิต6.แ4ร2นสะ5วบูง6ทกบ4าวแงาสล)5งู ะไก0ดกวแ้คล่าะกไกแ5่ รกน0ะานคดรปคะบั วรแคาานะมบนแตปนรคระนาวหมขานกอมักางตขรดรอทัชะงุจนหปรีกนรติ ะากัทชรขี่รารวอชบั ดงนรเปแู้กรรล็วาะจะรชสรทิงาังุจจคชรังมนิตตหแอ(นลCกะวPายสรI)งังทาคใุจนนมรภปติตาีอ่แคพลกร.ศะาฐั ร. ท25ุจ6ริต2 ราแยลงะามนีสป่วรนะจรํา่วปมงในบปการระมตารณวจสพอ.ศบ.ก2า5ร6ท2ุจริต ระบบและกลไกการปราบปรามการทุจริตที่รวดเรห็วจนรา ิง2จ2ัง6หน่วยงาน 222 รายงานประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการปอ้ งกันและปราบปรามการทจุ รติ แห่งชาติ

ภาครัฐมกี ารปรับปรุงเพื่อเพ่ิมประสทิ ธิภาพ ความโปร่งใสและลดความเส่ียงของการทจุ ริต และเครือขา่ ยเฝ้าระวัง มีบทบาทและให้ข้อมูลการทุจริต โดยคัดเลือกผลลัพธ์ของโครงการที่ส�ำคัญจากโครงการสหยุทธ์หรือโครงการ ตามแผนงานบรู ณาการฯ (2) การบรรลุเป้าหมายผลลัพธ์ส�ำคัญในการตอบสนองต่อแผนการปฏิรูปประเทศ นโยบาย คณะกรรมการ ป.ป.ช. และข้อเสนอแนะของ ค.ต.ป. โดยวัดผลส�ำเร็จของสำ� นักงาน ป.ป.ช. ในการตอบสนองต่อ ประเด็นส�ำคัญของแผนการปฏิรูปประเทศ นโยบายท่ีส�ำคัญของคณะกรรมการ ป.ป.ช. และข้อเสนอแนะ ของ ค.ต.ป. (3) การบรรลุเป้าหมายผลลัพธ์ส�ำคัญในการตอบสนองต่อดัชนีช้ีวัดการรับรู้การทุจริตระดับสากล โดยวัดผลส�ำเร็จของส�ำนักงาน ป.ป.ช. ในการติดตามและประเมินผลการด�ำเนินงานของหน่วยงานภายใน และภายนอกตามข้อเสนอแนะเพื่อยกระดับ CPI ของส�ำนักงาน ป.ป.ช. และรายงานต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. และคณะรฐั มนตรี มิติท่ี 2 ด้านคุณภาพของการตอบสนองตอ่ ผูม้ ีสว่ นไดเ้ สีย วดั ผลจากการรบั รใู้ นบทบาทและความรับ ผิดชอบของส�ำนักงาน ป.ป.ช. และการเปิดเผยข้อมูลในประเด็นที่ประชาชนสนใจ โดยการวัดระดับความเช่ือมั่น ตอ่ ส�ำนกั งาน ป.ป.ช. ของผู้มีส่วนไดเ้ สยี กลุ่มตา่ ง ๆ (ข้าราชการ นักธุรกจิ ประชาชน สอ่ื มวลชน และเครอื ข่าย ทางสงั คม) ใน 6 ประเดน็ ดงั น้ี (1) บทบาทและความรับผิดชอบ เป็นการวัดความเชื่อมั่นต่อบทบาทและความรับผิดชอบของ สำ� นกั งาน ป.ป.ช. ในการปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ ริต (2) การตอบสนองในประเด็นท่ีสังคมสนใจ เป็นการวัดความเช่ือม่ันต่อความสามารถของส�ำนักงาน ป.ป.ช. ในการเปดิ เผยขอ้ มูลและประเดน็ ทีป่ ระชาชนสนใจอย่างทันท่วงที (3) การป้องกนั การทุจรติ จัดซ้ือจัดจา้ ง เปน็ การวัดความสามารถของส�ำนกั งาน ป.ป.ช. ในการป้องกัน การทุจริตจัดซ้ือจัดจ้างภาครฐั (4) การส่งเสริมค่านิยมต่อต้านการทุจริต เป็นการวัดความเช่ือม่ันต่อความสามารถของส�ำนักงาน ป.ป.ช. ในการส่งเสริมค่านิยมตอ่ ตา้ นการทจุ รติ คอรร์ ัปชนั ให้กบั ประชาชนและสงั คม (5) การสร้างเครือข่ายสนับสนุนการต่อต้านการทุจริต เป็นการวัดความเช่ือม่ันต่อความสามารถ ของสำ� นกั งาน ป.ป.ช. ในการสร้างเครอื ขา่ ยสนบั สนนุ การต่อตา้ นการทุจริตคอร์รปั ชันในภาคสว่ นตา่ ง ๆ (6) ความเช่ือมน่ั ตอ่ ความสามารถอืน่ ๆ ตามนโยบายของคณะกรรมการ ป.ป.ช. มิติท่ี 3 ดา้ นประสิทธภิ าพของการปฏิบตั ิราชการ วัดจากผลการด�ำเนินงานเทียบกับเปา้ หมาย ไดแ้ ก่ ผลิตภาพของการแสวงหาข้อเท็จจริงและการไต่สวนข้อเท็จจริง ผลิตภาพของการตรวจสอบทรัพย์สิน และผลการดำ� เนินการป้องกันการทุจรติ โดยการบรรลเุ ปา้ หมายผลส�ำเร็จของการด�ำเนนิ การด้านเครอื ขา่ ยปอ้ งกัน การทุจรติ (Active Network) มติ ทิ ่ี 4 ดา้ นการพัฒนาองค์กร วัดผลการสร้างความยง่ั ยนื ต่อองคก์ รในการปฏิบตั ิราชการตามภารกิจ โดยการพัฒนาจุดแข็งและปรับปรุงจุดอ่อน โดยการพัฒนาจุดแข็งและปรับปรุงจุดอ่อนเพ่ือให้เกิดผลลัพธ์ที่ส่งผล ตอ่ การสนบั สนุนใหง้ านในภารกิจตา่ ง ๆ เกิดประสิทธิภาพและประสทิ ธิผล ได้แก่ (1) ระบบงาน (Database) พิจารณาจากผลลัพธ์ของการพัฒนาระบบสารสนเทศที่ส�ำคัญ เช่น ระบบ NACC Smart E-Vision ระบบ CCMS ระบบ AGMS ระบบ ACAS ระบบ ITA และระบบอื่น ๆ (2) กระบวนงาน (Innovation) พิจารณาจากการส่งเสริมริเริ่มนวัตกรรมในกระบวนงานท่ีส�ำคัญ (Service/Process Innovation) (3) บุคลากร (Competence) พิจารณาจากการพัฒนาความสามารถของบุคลากร ในการสนับสนุน งานไต่สวนและตรวจสอบ รายงานประจำ� ปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการปอ้ งกันและปราบปรามการทุจรติ แหง่ ชาติ 223

ตารางสรุปคะแนนผลการปฏบิ ัตริ าชการของสำ� นกั งาน ป.ป.ช. ตวั ชวี้ ดั หน่วย น�้ำ ผล คะแนน คะแนน วัด หนัก ด�ำเนนิ งาน ถว่ งนำ้� หนกั มติ ิที่ 1 ดา้ นประสทิ ธิผลตามแผนยทุ ธศาสตร์ 40 4.2918 1. ระดับความส�ำเร็จของความร่วมมือการยกระดับ ระดับ 15 4.00 4.0000 0.6000 ดัชนีชี้วัดการรับรู้การทุจริต (Corruption Perceptions Index - CPI) 2. ระดับความส�ำเร็จของการบรรลุเป้าหมาย ตามยุทธศาสตร์ชาติฯ ระยะที่ 3 และแผนงาน บูรณาการฯ 2.1 ร้อยละความส�ำเร็จของการบรรลุเป้าหมาย ร้อยละ 12 99.51 4.9506 0.5941 ผลลัพธ์ของโครงการส�ำคัญที่ขับเคลื่อน ยทุ ธศาสตร์ชาติและแผนงานบรู ณาการฯ 2.2 ร้อยละความส�ำเร็จของการบรรลุเป้าหมาย รอ้ ยละ 13 90.20 4.0205 0.5227 ผลลพั ธต์ ามตวั ชี้วดั ของยทุ ธศาสตรช์ าตฯิ มิตทิ ี่ 2 ด้านคุณภาพของการตอบสนองผู้มีส่วนได้เสีย 10 1.1687 3. ระดบั ความเช่อื มั่นตอ่ สำ� นักงาน ป.ป.ช. ร้อยละ 10 65.84 1.1687 0.1169 มิติท่ี 3 ประสิทธิภาพของการปฏิบตั ริ าชการ 30 2.5588 4. ผลิตภาพของการตรวจสอบและไต่สวน 4.1 การตรวจสอบ เรื่อง 5 5,347 5.0000 0.2500 4.2 การไต่สวน เร่อื ง 15 1,358 2.6667 0.4000 5. ผลติ ภาพของการตรวจสอบทรัพยส์ ิน 5.1 การตรวจสอบปกติ บญั ชี 2 7,840 1.1813 0.0236 5.2 การตรวจสอบยนื ยนั เรอ่ื ง 2 337 1.0000 0.0200 5.3 การตรวจสอบเชงิ ลกึ เรอ่ื ง 3 88 1.4667 0.0440 5.4 การไตส่ วนกรณรี �่ำรวยผดิ ปกติ เร่ือง 3 2 1.0000 0.0300 มิตทิ ี่ 4 ดา้ นการพัฒนาองคก์ ร 20 4.2071 6. ร้อยละความส�ำเร็จของการตอบสนองต่อข้อเสนอ ร้อยละ 10 89.14 3.9143 0.3914 แนะของ ค.ต.ป. 7. ระดับความส�ำเร็จของการบูรณาการภารกิจด้าน ระดบั 5 5.00 5.0000 0.2500 การปอ้ งกันการทุจรติ 8. ระดับความสำ� เร็จของการบรหิ ารความเสย่ี งองคก์ ร ระดับ 5 4.00 4.0000 0.2000 น้ำ� หนกั รวม 100 ค่าคะแนนท่ีได้ 3.4427 224 รายงานประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามการทจุ ริตแห่งชาติ

ภาคผนวก ◆ ภาพกิจกรรม ◆ แผนงานบูรณาการต่อตา้ นการทจุ รติ และประพฤติมชิ อบ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ◆ ตารางสรุปผลการดำ� เนินการตามมาตรา 94 แหง่ พระราชบัญญัตปิ ระกอบรฐั ธรรมนูญว่าดว้ ย การปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ ริต พ.ศ 2561 ◆ งบแสดงสถานะการเงิน ◆ งบแสดงผลการด�ำเนินงานทางการเงนิ ◆ หมายเหตปุ ระกอบงบการเงิน ◆ รายงานรายได้แผ่นดิน รายงานประจำ� ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ แหง่ ชาติ 225

ภาพกจิ กรรม u วันท่ี 13 ตุลาคม 2561 พลต�ำรวจเอก วชั รพล ประสารราชกจิ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. พร้อมดว้ ยผู้บรหิ ารสำ� นกั งาน ป.ป.ช. รว่ มพิธที �ำบุญตกั บาตรขา้ วสารอาหารแห้ง และวางพวงมาลา ถวายบังคม เพื่อน้อมร�ำลึกเน่ืองในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธเิ บศร มหาภมู พิ ลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ณ มณฑลพิธีทอ้ งสนามหลวง u วันท่ี 15 ตลุ าคม 2561 พลต�ำรวจเอก วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. พร้อมด้วยผู้บรหิ ารส�ำนักงาน ป.ป.ช. เข้าร่วมพิธีมหามงคลบ�ำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวายพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลท่ี 4) พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลท่ี 5) พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร และสมเด็จพระศรนี ครนิ ทราบรมราชชนนี เจริญพระพทุ ธมนต์ถวาย พระพรชยั มงคลสมเดจ็ พระนางเจ้าสริ กิ ติ ์ิ พระบรมราชนิ นี าถ ในรัชกาลที่ 9 และสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัว ณ พระลานพระราชวงั ดุสิต 226 รายงานประจ�ำปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการปอ้ งกันและปราบปรามการทุจรติ แหง่ ชาติ

u วันท่ี 2 พฤศจิกายน 2561 ส�ำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ อัญเชิญผ้าพระกฐิน พระราชทาน ประจ�ำปีพุทธศักราช 2561 ถวาย ณ พระอารามหลวง วัดภคินีนาถวรวิหาร เพื่อเป็นการส่งเสริมท�ำนุบ�ำรุง พระพทุ ธศาสนา ในการนี้ พลต�ำรวจเอก วัชรพล ประสารราชกจิ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. เปน็ ประธานถวายผ้าพระกฐิน พระราชทาน พร้อมกันนี้ กรรมการ ป.ป.ช. คณะผู้บริหารส�ำนกั งาน ป.ป.ช. ได้ถวายเครอ่ื งบริวารกฐิน u วันที่ 12 พฤศจิกายน 2561 พลต�ำรวจเอก วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธาน เปิดการสัมมนาผลการประเมิน “โครงการประเมินผลส�ำเร็จ ของโครงการ/กิจกรรมตามยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทจุ รติ ระยะท่ี 3 (พ.ศ. 2560 - 2564)” และปาฐกถาภาพรวมของการประเมินผลโครงการ/กิจกรรม ณ หอ้ งรชิ มอนด์ แกรนด์ บอลรูม โรงแรมริชมอนด์ จังหวดั นนทบรุ ี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรายงานผลการประเมินผลส�ำเร็จ ของการด�ำเนินโครงการ/กิจกรรม ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตระยะที่ 3 และเพ่ือให้เกิดผลในทางการเรียนรู้ การพัฒนา และปรับปรุงการด�ำเนินการโครงการตามแผนงานบูรณาการป้องกัน ปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ และโครงการตามแผนงานที่ใช้งบประมาณของหน่วยงาน เพื่อขับเคลื่อน ยทุ ธศาสตร์ชาติว่าดว้ ยการปอ้ งกันและปราบปรามการทุจริต ระยะท่ี 3 (พ.ศ. 2560 - 2564) รายงานประจำ� ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามการทุจรติ แหง่ ชาติ 227

u วนั ท่ี 15 พฤศจกิ ายน 2561 สำ� นักงาน ป.ป.ช. จดั กิจกรรมวันสถาปนาส�ำนกั งาน ป.ป.ช. ครบรอบ 19 ปี ระหวา่ งวันที่ 15 - 16 พฤศจิกายน 2561 ประกอบด้วยกิจกรรมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ฯ กิจกรรมการตักบาตร พิธีสงฆ์ และพิธีพราหมณ์ สกั การบชู าพระภมู ิ - เจา้ ท่ี การรับมอบนโยบายการปฏิบัตงิ านจากเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. การให้หน่วยงานภายนอก ร่วมแสดงความยินดแี ละบรจิ าคเงนิ เพือ่ การกุศล การจัดเสวนาเรื่อง “นวัตกรรมตา้ นโกงยุค 4.0” และพิธมี อบรางวัลตา่ ง ๆ โดยช่วงบ่ายเปน็ พิธมี อบรางวัล “NACC Awards 2018” แก่บคุ คล หน่วยงานของรัฐ และภาคเอกชน ณ สำ� นักงาน ป.ป.ช. จังหวัดนนทบรุ ี u วนั ท่ี 15 ธันวาคม 2561 พลตำ� รวจเอก วชั รพล ประสารราชกจิ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. พร้อมด้วยนายวรวทิ ย์ สขุ บุญ เลขาธกิ ารคณะกรรมการ ป.ป.ช. ผบู้ รหิ าร และเจ้าหนา้ ทีส่ �ำนกั งาน ป.ป.ช. เขา้ ร่วมกจิ กรรมจิตอาสา “เราทำ� ความดี ด้วยหวั ใจ” ด้วยการเดินรณรงค์ คนรกั คลอง “ไม่ทิ้ง ไม่เท ทุ่มท�ำความด”ี บรเิ วณทำ� เนียบรฐั บาล - ถนนนครปฐม - เลียบคลองเปรมประชากร 228 รายงานประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามการทุจรติ แหง่ ชาติ

u วันท่ี 18 ธนั วาคม 2561 คุณอลกิ ิ ปาสปิ ลู ารดิ ู (Ms. Aliki Pasipoularidou) ผูพ้ พิ ากษา สมาชกิ สภาแหง่ รฐั แห่งสาธารณรฐั เฮเลนิก (กรีซ) พร้อมคณะผู้แทนจากส�ำนักงานศาลปกครอง ได้เดินทางเข้าเยี่ยมคารวะประธานกรรมการ ป.ป.ช. (พลตำ� รวจเอก วัชรพล ประสารราชกิจ) และหารอื ข้อราชการรว่ มกนั โดยมผี ู้บริหารจากส�ำนักงาน ป.ป.ช. รว่ มใหก้ ารตอ้ นรบั ณ ส�ำนกั งาน ป.ป.ช. (สนามบนิ น�้ำ) การพบกนั ในครงั้ นีเ้ ปน็ สว่ นหน่ึงของ การเยือนส�ำนักงานศาลปกครองไทย ตามโครงการ แลกเปล่ียนตุลาการของสมาคมศาลปกครองสูงสุดระหว่างประเทศ (INTERNATIONAL ASSOCIATION OF SUPREME ADMINISTRATIVE JURISDICTIONS: IASAJ) ประจ�ำปี 2561 เพ่ือศึกษาดูงานและแลกเปล่ียนข้อมูลเกี่ยวกับแนวปฏิบัติ ทางการศาลระหวา่ งประเทศสมาชกิ ในสมาคมฯ u วันท่ี 1 มกราคม 2562 พลต�ำรวจเอก วัชรพล ประสารราชกจิ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. พร้อมด้วยคณะกรรมการ ป.ป.ช. และผ้บู รหิ ารสำ� นักงาน ป.ป.ช. ลงนามถวายพระพร เน่อื งในวนั ขนึ้ ปใี หม่ ณ พระบรมมหาราชวงั รายงานประจำ� ปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามการทจุ รติ แหง่ ชาติ 229

u วันที่ 17 มกราคม 2562 นางสวุ ณา สวุ รรณจูฑะ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานในพธิ ีเปดิ “การฝกึ อบรม เพ่ือเสริมสรา้ ง ประสิทธิภาพในการปฏิบัตหิ น้าท่ีของเจา้ หน้าทใี่ นเขตพื้นที่สำ� นักงาน ป.ป.ช. ภาค 7” มีวตั ถปุ ระสงคเ์ พือ่ สร้างความรคู้ วามเข้าใจ เก่ียวกับการบังคับใช้กฎหมายฉบับใหม่ส�ำหรับการปฏิบัติงานในหน้าท่ีและเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน ตลอดจนการเสริมสร้างความสามัคคีของเจ้าหน้าท่ีในสังกัดส�ำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 7 ซ่ึงผู้เข้ารับการฝึกอบรมเป็นเจ้าหน้าที่ สำ� นกั งาน ป.ป.ช. ประจ�ำจังหวดั ในเขตพ้ืนท่ี ภาค 7 ทกุ ภารกิจ จ�ำนวนทงั้ สิ้น 120 คน จัดขึ้นในระหว่างวนั ที่ 17 - 18 มกราคม 2562 ณ แสนปาล์ม เทรนน่ิงโอม อำ� เภอกำ� แพงแสน จงั หวัดนครปฐม u วนั ท่ี 22 มกราคม 2562 พลต�ำรวจเอก วชั รพล ประสารราชกจิ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. ใหก้ ารตอ้ นรบั Mr.Olzhas Bektenov (นายโอลชาส เบคเทนอฟ) รองประธานหนว่ ยงานต่อตา้ นการทจุ ริตแหง่ สาธารณรฐั คาซัคสถาน (Deputy Chairman, Agency of the Republic of Kazakhstan for Civil Services Affairs and Anti-Corruption) พรอ้ มคณะ ณ ห้องรบั รองพเิ ศษ อาคาร 1 ชน้ั 2 สำ� นกั งาน ป.ป.ช. (ถนนสนามบินนำ้� ) 230 รายงานประจ�ำปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการปอ้ งกันและปราบปรามการทจุ ริตแห่งชาติ

u วันท่ี 25 กมุ ภาพันธ์ 2562 พลต�ำรวจเอก วชั รพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานเปิดการสัมมนา “กิจกรรมการสัมมนาระหว่างคณะกรรมการ ป.ป.ช. และผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ” ซ่ึงประกอบด้วย กิจกรรมการเสวนาและอภิปรายแลกเปล่ียนความคิดเห็น ในหัวข้อเรื่อง “การยกระดับธรรมาภิบาลในการบริหาร รฐั วิสาหกจิ ” ผ้เู สวนาประกอบด้วย พลเอก บณุ ยวจั น์ เครือหงส์ กรรมการ ป.ป.ช. นายนิตพิ นั ธุ์ ประจวบเหมาะ ผู้อ�ำนวยการ ส�ำนักกิจการและคดีทุจริตระหว่างประเทศ ส�ำนักงาน ป.ป.ช. และนางสาววรชยา ลัทธยาพร ผู้อ�ำนวยการส�ำนักก�ำกับ และประเมินผลรัฐวิสาหกิจ ส�ำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ณ ห้องจูปิเตอร์ ช้ัน 3 โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชัน่ กรงุ เทพมหานคร u วันท่ี 4 มีนาคม 2562 นายเยฟกินี โทมิคิน (H.E. Mr. Evgeny Tomikhin) เอกอัครราชทูตสหพันธรัฐรัสเซียประจ�ำ ประเทศไทย พรอ้ มนายวลาดเิ มียร์ มาชคู อฟ อัครราชทตู ทป่ี รึกษา และนายอเลก็ เซย์ ซาลนิคอฟ เลขานุการโท ไดเ้ ดนิ ทางเข้า เยี่ยมคารวะประธานกรรมการ ป.ป.ช. เนื่องในโอกาสการเข้ารับต�ำแหน่งใหม่ ของนายเยฟกินีฯ โดยมีนายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. และผู้บริหารส�ำนักงาน ป.ป.ช. ร่วมให้การต้อนรับ ณ ส�ำนักงาน ป.ป.ช. (สนามบินน�้ำ) ในโอกาสนี้ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. ได้กล่าวแสดงความยินดีกับนายเยฟกินฯี และกล่าวขอบคณุ ทางสถานเอกอคั รราชทตู ฯ ซึ่งได้ประสานงานให้กับคณะผู้แทนส�ำนักงาน ป.ป.ช. ในการเยือนสหพันธรัฐรัสเซียอย่างเป็นทางการเพ่ือลงนามในบันทึก ความเขา้ ใจ (MOU) กบั หนว่ ยงาน Office on Corruption Prevention of the Administration of the President of the Russian Federation (OCPA) เมอ่ื เดือนเมษายน 2561 รายงานประจำ� ปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการปอ้ งกันและปราบปรามการทุจริตแหง่ ชาติ 231

u วันที่ 22 มีนาคม 2562 พลเอก บุณยวจั น์ เครือหงส์ กรรมการ ป.ป.ช. เปน็ ประธานกล่าวเปิดการสมั มนา และบรรยายพเิ ศษ เรื่องนโยบายป้องกันการทุจริตในภาครัฐวิสาหกิจ ในการสัมมนาได้จัดกิจกรรมเสริมสร้างความตระหนักรู้ ด้านการด�ำเนินนโยบาย ต่อตา้ นการทจุ รติ แกค่ ู่คา้ ของหนว่ ยงานรฐั วสิ าหกิจ ณ ห้องริชมอนด์ บอลรมู 1 ช้ัน 4 โรงแรมรชิ มอนด์ สไตล์ลชิ คอนเวนช่นั ถนนรัตนาธิเบศร์ อ�ำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้หน่วยงานรัฐวิสาหกิจเข้ามามีส่วนร่วม ในการแก้ไขปัญหาการทุจริต ผ่านกิจกรรมที่ท�ำร่วมกับคู่ค้าของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ และส่งเสริม สนับสนุนให้นิติบุคคล เป็นคคู่ ้าของหนว่ ยงานรัฐวิสาหกิจดำ� เนนิ นโยบายตอ่ ตา้ นการทจุ ริตอย่างเปน็ รูปธรรม u วนั ท่ี 27 มนี าคม 2562 นายณรงค์ รฐั อมฤต กรรมการ ป.ป.ช. เปน็ ประธานพิธีเปิดกิจกรรมการสมั มนาจัดทำ� แนวทางการพัฒนา โครงการเยาวชนเพ่ือการต่อต้านการทุจริต ภายใต้โครงการประชุมแลกเปล่ียนเรียนรู้ระดับชาติเก่ียวกับหมู่บ้านและชุมชน มีวัตถุประสงค์เพ่ือเป็นเวทีในการถกแถลง และสร้างแนวทางการป้องกันการทุจริตในเชิงรุกที่สอดคล้องกับสถานการณ์ ของประเทศไทย และสงั คมโลก รวมทัง้ เพ่ือสรา้ งจิตสำ� นึกทศั นคติ ใหส้ ามารถแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตน ออกจากผลประโยชน์ ส่วนรวม ซง่ึ จดั ข้นึ ระหวา่ งวนั ที่ 27 - 29 มีนาคม2562 ณ โรงแรมอะเดรยี ตคิ พาเลช เขตราชเทวี กรงุ เทพมหานคร 232 รายงานประจ�ำปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามการทจุ ริตแห่งชาติ

u วันที่ 29 มีนาคม 2562 พลต�ำรวจเอก วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานมอบรางวัล องค์กรโปร่งใส ครง้ั ที่ 8 (NACC Integrity Awards) ณ ห้องนนทบรุ ี 1 อาคาร 4 ชนั้ 3 ส�ำนกั งาน ป.ป.ช. อ�ำเภอเมอื งนนทบรุ ี จังหวัดนนทบุรี การจัดประกวดรางวัลดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพ่ือเป็นการยกระดับความโปร่งใสของประเทศไทย สร้างขวัญ ก�ำลังใจ และยกย่องเชิดชูหน่วยงาน องค์กร สถาบัน ทั้งภาครัฐภาครัฐวิสาหกิจ ภาคธุรกิจเอกชน และนิติบุคคลอ่ืน ๆ ให้เป็นแบบอย่างที่ดี ตลอดจนเพ่ือเป็นการสร้างกระแสให้สังคมเกิดค่านิยมส่งเสริมการบริหารจัดการด้วยหลักธรรมาภิบาล มีจรรยาบรรณในวชิ าชีพ และรบั ผิดชอบต่อสงั คม u วนั ท่ี 25 เมษายน 2562 พลตำ� รวจเอก วชั รพล ประสารราชกจิ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. พรอ้ มด้วย กรรมการ ป.ป.ช. (พล.ต.อ. สถาพร หลาวทอง และนายสุรศักด์ิ ครี วี ิเชียร) และเจ้าหนา้ ท่ที เ่ี ก่ียวข้อง เข้าร่วม การประชุม Belt and Road Forum of International Cooperation คร้ังท่ี 2 ณ China National Convention Center กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐ ประชาชนจีน โดยมผี เู้ ข้าร่วมการประชมุ กว่า 1,000 คน ในการประชุมคร้ังน้ี ประธานกรรมการ ป.ป.ช. ได้ขึ้นกลา่ วถ้อยแถลง การประชุมย่อย Clean Silk Road Thematic Forum หัวข้อ Government Improving Business Environment โดยเนน้ ย้�ำถงึ การดำ� เนินการของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในการขับเคลอ่ื นเพ่อื ส่งเสริมการประกอบธุรกจิ อยา่ งโปรง่ ใสไรส้ ินบน และความส�ำคัญของความร่วมมือระหว่างประเทศในการปฏิเสธท่ีพักพิงของผู้กระท�ำผิดฐานทุจริตและทรัพย์สินท่ีเกี่ยวข้อง กับการกระท�ำความผิด นอกจากนี้ยังมีพิธีการลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างคณะกรรมการ ป.ป.ช. และคณะกรรมการการตรวจตราแหง่ ชาติ (National Commission of Supervision: NCS) แหง่ สาธารณรัฐประชาชนจนี โดยท้ังสองฝ่ายต่างยืนยันที่จะแลกเปล่ียนความร่วมมือด้านการต่อต้านการทุจริต ทั้งทางด้านเทคนิค และประสบการณ์ ซง่ึ จะส่งผลดตี ่อการพัฒนาทง้ั ดา้ นสงั คมและเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ รายงานประจำ� ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามการทจุ รติ แหง่ ชาติ 233

u วันท่ี 17 พฤษภาคม 2562 ส�ำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA กระทรวงดิจิทัล เพอ่ื เศรษฐกิจและสังคม ร่วมกบั ส�ำนักงาน ป.ป.ช. จัดพธิ ลี งนามบันทึกขอ้ ตกลงความรว่ มมือ (MOU) เพื่อสร้างความรว่ มมอื ในการพัฒนาและส่งเสริมการน�ำเทคโนโลยีและธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการปฏิบัติหน้าท่ี ในการป้องกนั และปราบปรามการทุจริต ณ สำ� นกั งานพัฒนาธรุ กรรมทางอเิ ลก็ ทรอนิกส์ กรงุ เทพฯ u วันท่ี 22 พฤษภาคม 2562 พลต�ำรวจเอก วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. พร้อมด้วย นายนวิ ตั ิไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. และนายนิติพนั ธ์ุ ประจวบเหมาะ ผอู้ ำ� นวยการสำ� นักกิจการและ คดีทุจริตระหว่างประเทศ ร่วมงานสัมมนาวิชาการงานครบรอบ 20 ปี โครงการความร่วมมือฝึกอบรมระหว่างประเทศว่าด้วย การด�ำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย (International Law Enforcement Academy: ILEA-BANGKOK) ณ ส�ำนักงาน ILEA กรุงเทพฯ ในการน้ี ประธานกรรมการ ป.ป.ช. ได้ให้เกียรติ กล่าวสนุ ทรพจน์ในพธิ เี ปิดการสมั มนาดงั กล่าวด้วย 234 รายงานประจ�ำปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทจุ ริตแหง่ ชาติ

u วนั ที่ 22 - 24 พฤษภาคม 2562 นายณรงค์ รฐั อมฤต กรรมการ ป.ป.ช. พร้อมด้วยนายกิตติ ล้มิ พงษ์ ผู้ตรวจราชการ ส�ำนักงาน ป.ป.ช. และเจ้าหน้าท่ีส�ำนักกิจการและคดีทุจริต ระหว่างประเทศ เข้าร่วมการประชุมทางวิชาการของ คณะกรรมการต่อต้านการทุจริตของฮ่องกง ครั้งท่ี 7 (7th ICAC Symposium) ณ เขตบริหารพิเศษฮ่องกง แหง่ สาธารณรฐั ประชาชนจนี u วันท่ี 23 พฤษภาคม 2562 พลตำ� รวจเอก วัชรพล ประสารราชกจิ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. พรอ้ มด้วยคณะกรรมการ ป.ป.ช. และผู้บริหารสำ� นักงาน ป.ป.ช. บนั ทึกเทปถวายพระพรเน่ืองในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา สมเดจ็ พระนางเจา้ สุทิดา พชั รสุธาพิมลลกั ษณ์ พระบรมราชนิ ี ณ สถานีโทรทัศน์ ช่อง 9 MCOT HD รายงานประจำ� ปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ ริตแห่งชาติ 235

u วันที่ 30 พฤษภาคม 2562 พลต�ำรวจเอก วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. พร้อมด้วยผู้บริหาร ส�ำนักงาน ป.ป.ช. ร่วมแสดงความคารวะและไว้อาลัย พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ท่ถี ึงแก่อสญั กรรม เม่อื วนั ที่ 26 พฤษภาคม 2562 u วันท่ี 3 มิถุนายน 2562 พลต�ำรวจเอก วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. พร้อมด้วยเลขาธิการ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ส�ำนักงาน ป.ป.ช. เข้าร่วมพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพรเน่ืองในโอกาส วันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ์พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2562 ณ มณฑลพิธี ท้องสนามหลวง 236 รายงานประจ�ำปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ

u วันท่ี 4 มถิ ุนายน 2562 พลตำ� รวจเอก วชั รพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. พร้อมดว้ ยคณะกรรมการ ป.ป.ช. ผู้บริหารและเจ้าหน้าท่ีส�ำนักงาน ป.ป.ช. ให้การต้อนรับนายอเล็กซานเดอร์ อนิคิน (Mr. Alexander Anikin) รองหัวหน้า ส�ำนักงานป้องกันการทุจริตและคณะจากส�ำนักงานป้องกันการทุจริตประจ�ำส�ำนักประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย (The Office on Corruption Prevention of the Administration of the President of the Russian Federation: OCPA) และคณะกรรมการสบื สวนสอบสวนแหง่ สหพันธรฐั รสั เซีย (Investigative Committee of the Russian Federation: ICRF) เนื่องในโอกาสการเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของคณะผู้แทนรัสเซีย เพ่ือเข้าร่วมหารือในประเด็น ความรว่ มมือในการป้องกัน และปราบปรามการทจุ ริต และลงนามในบนั ทกึ ความเขา้ ใจ (Memorandum of Understanding: MoU) ระหว่างคณะกรรมการ ป.ป.ช. และหนว่ ยงาน ICRF ณ ห้องประชุมผู้บรหิ าร ส�ำนักงาน ป.ป.ช. อ�ำเภอเมอื งนนทบุรี จังหวดั นนทบรุ ี u วันท่ี 6 มิถุนายน 2562 นายณรงค์ รัฐอมฤต กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานกล่าวเปิดงาน และปาฐกถาพิเศษเรื่อง “การปลูกฝังวิธีคิด ไม่โกง ไม่ทน อย่างย่ังยืน ด้วยหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา เข้าสู่ระบบการศึกษาและการฝึกอบรม” ในโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการระหว่างหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องเพื่อผลักดันหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา มีวัตถุประสงค์ เพ่อื ผลกั ดันหลักสูตรตา้ นทุจรติ ศกึ ษา เปน็ โครงการทจี่ ดั ขึน้ ตามยุทธศาสตรช์ าติว่าดว้ ย การป้องกนั และปราบปรามการทุจริต ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2560 -2564) ณ โรงแรมเซ็นทารา ศูนย์ราชการและคอนเวนชัน เซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร รายงานประจำ� ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทจุ รติ แห่งชาติ 237

u วันท่ี 7 มิถุนายน 2562 ส�ำนักงาน ป.ป.ช. ร่วมกับส�ำนักงานป้องกันยาเสพติดและอาชญากรรม แห่งสหประชาชาติ (UNODC) และหน่วยงาน American Bar Association (ABA) จัดงานสัมมนาระดับภูมิภาค ในหัวข้อ “มาตรการท่ีมีประสิทธิภาพส�ำหรับภาคธุรกิจเอกชน ในการต่อต้านการให้สินบน” ณ จังหวัดภูเก็ต เพ่ือเป็นเวที แลกเปล่ียนความรู้และประสบการณ์เก่ียวกับกฎหมายและ มาตรการป้องกันการให้สินบน รวมทั้งส่งเสริมให้นิติบุคคล โดยเฉพาะภาคธุรกิจมีมาตรการก�ำกับดูแลองค์กรตามหลัก ธรรมาภบิ าล และประกอบกิจการอยา่ งโปร่งใส u วันที่ 2 กรกฎาคม 2562 เวลา 15.30 น. คณะกรรมการ ป.ป.ช. พรอ้ มด้วยผบู้ รหิ ารส�ำนักงาน ป.ป.ช. ร่วมบันทกึ เทป ถวายพระพรเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ สตูดิโอ 1 อาคาร 1 สถานีโทรทศั นส์ ีกองทัพบกช่อง 7 กรุงเทพมหานคร 238 รายงานประจ�ำปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามการทุจรติ แหง่ ชาติ

u วันที่ 7 มิถุนายน 2562 พลตำ� รวจเอก วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานกลา่ วเปิดงาน โครงการสัมมนาเผยแพร่แนวทางการก�ำหนดมาตรการส�ำหรับนิติบุคคลในการป้องกันการให้สินบน เร่ือง “มาตรการ ท่ีมีประสิทธิภาพส�ำหรับภาคธุรกิจเอกชนในการต่อต้านการให้สินบน” ภายในงานได้รับเกียรติจากนายประกอบ วงศ์มณีรุ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวต้อนรับ โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับนิติบุคคล โดยเฉพาะภาคธุรกิจเอกชน เก่ียวกับกฎหมายและมาตรการป้องกันสินบนท่ีมีประสิทธิภาพ ตลอดจนแลกเปล่ียนความรู้ และประสบการณ์เก่ียวกับกฎหมายและมาตรการป้องกันสินบนระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เพื่อประโยชน์ ในการพัฒนาปรบั ปรงุ กฎหมายและแนวปฏบิ ตั ใิ หท้ ันสมัย สอดคลอ้ งกับมาตรฐานสากล และสรา้ งความต่นื ตัวใหภ้ าคธุรกิจเอกชน ในพ้ืนท่ีในการจัดท�ำมาตรการป้องกันการให้สินบน สอดคล้องกับแนวทางของส�ำนักงาน ป.ป.ช. และมาตรฐานสากล ณ โรงแรมดวี าน่า พลาซ่า ภเู กต็ ป่าตอง จังหวัดภูเกต็ u วนั ท่ี 8 กรกฎาคม 2562 พลต�ำรวจเอก วชั รพล ประสารราชกจิ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. พร้อมดว้ ยคณะกรรมการ ป.ป.ช. ผู้บรหิ ารส�ำนักงาน ป.ป.ช. ใหก้ ารต้อนรับ Mrs. Phyllis Atkinson หัวหนา้ ส่วนอบรมศนู ย์ตดิ ตามทรัพยส์ นิ คืนระหว่างประเทศ (International Centre for Asset Recovery: ICAR) สถาบนั Basel Institute on Governance สมาพนั ธรฐั สวิส ในโอกาส เดินทางมาเยือนประเทศไทย เพื่อร่วมลงนามขยายระยะเวลาในข้อตกลงความร่วมมือ (MoU) ระหว่างสถาบัน Basel กับคณะกรรมการ ป.ป.ช. โดยได้รับเกียรติจาก H.E. Mr. Ivo Sieber เอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสประจ�ำประเทศไทย เข้าร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนาม MOU และในโอกาสเดียวกันน้ี ยังมีการประชุมเสริมสร้างความเข้าใจในการสืบสวน และตดิ ตามเส้นทางการเงิน (Financial Investigation) ณ สำ� นกั งาน ป.ป.ช. อำ� เภอเมอื งนนทบุรี จังหวดั นนทบรุ ี รายงานประจำ� ปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ ริตแห่งชาติ 239

u วนั ท่ี 12 กรกฎาคม 2562 พลเอก บณุ ยวัจน์ เครือหงส์ กรรมการ ป.ป.ช. เปน็ ประธานเปดิ งานยกระดับธรรมาภบิ าล ด้วยการน�ำแผนปฏิบัติการป้องกันการทุจริตไปสู่การปฏิบัติ โดยส�ำนักงาน ป.ป.ช. ได้ด�ำเนินการส่งเสริมให้องค์กร ปกครองส่วนท้องถ่ินจัดท�ำแผนปฏิบัติการป้องกันการทุจริต มาตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ.2560 - 2561 ซ่ึงถือได้ว่าเป็น ก้าวท่ีส�ำคญั ของการบรู ณาการร่วมกนั ระหว่างสำ� นกั งาน ป.ป.ช. กับองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินในการร่วมกันขับเคล่ือน ยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2560 - 2564) ซ่ึงจะส่งผลให้ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ขององค์กร ปกครองส่วนท้องถ่ิน เกิดความตระหนักถึงปัญหาจากการทุจริตคอร์รัปชัน และปฏิบัติหน้าท่ีของตนเองด้วย ความซ่ือสัตย์ สจุ รติ โปรง่ ใส ตามหลักธรรมาภบิ าล เพอ่ื ใหเ้ กิดประโยชน์สขุ แก่ประชาชนอยา่ งแท้จรงิ ณ หอ้ งมิราเคลิ แกรนด์บอลรมู ชั้น 4 โรงแรมมริ าเคิล แกรนด์ คอนเวนช่ัน กรุงเทพมหานคร u วันที่ 18 กรกฎาคม 2562 นางสุวณา สุวรรณจูฑะ กรรมการ ป.ป.ช. เปน็ ประธานเปิดกจิ กรรมเรยี นรู้เพื่อการปรบั ปรุง ผลงานส่ือป้องกันการทุจริต และบรรยายพิเศษเรื่อง “เยาวชน กับบทบาทคนดที ี่ไทยตอ้ งการ” มีวตั ถปุ ระสงค์เพ่ือให้นกั เรียน ระดับมัธยมศึกษา นิสิตระดับอุดมศึกษา และประชาชน ท่ีผ่านการคัดเลือกรอบแรกในการประกวดภาพยนตร์ส้ัน/ ภาพยนตรโ์ ฆษณาเรอ่ื ง “คนไทยตน่ื รู้สูโ้ กง” ได้เรียนรู้เทคนคิ ในการผลติ ภาพยนตร์ เพ่อื น�ำไปปรบั ปรงุ ผลงานท่ีสง่ เข้าประกวด ให้สมบรู ณย์ ่ิงข้นึ ณ โรงแรมรอยลั ริเวอร์ กรงุ เทพฯ 240 รายงานประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจรติ แห่งชาติ

u วนั ท่ี 23 กรกฎาคม 2562 พลต�ำรวจเอก วชั รพล ประสารราชกิจ ประธาน กรรมการ ป.ป.ช. พร้อมด้วยคณะกรรมการ ป.ป.ช. เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ส�ำนักงาน ป.ป.ช. ร่วมพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณ เพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน พร้อมลงนามถวายสัตย์ปฏิญาณฯ เนือ่ งในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อย่หู ัว ณ บรเิ วณห้องโถง ช้นั 2 อาคาร 1 สำ� นักงาน ป.ป.ช. อำ� เภอเมอื งนนทบรุ ี จงั หวัดนนทบรุ ี u วันที่ 28 กรกฎาคม 2562 พลตำ� รวจเอก วชั รพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. พรอ้ มด้วยคณะกรรมการ ป.ป.ช. ผ้บู ริหารและขา้ ราชการ ส�ำนกั งาน ป.ป.ช. ร่วมกจิ กรรมตกั บาตรถวายเป็นพระราชกุศลถวายสัตย์ปฏญิ าณเพื่อเป็นข้าราชการที่ ดแี ละพลังของแผ่นดินและร่วมพิธีจุดเทยี นชัยถวายพระพรและแสดงความจงรกั ภักดีเนื่องในโอกาสวันเฉลมิ พระชนมพรรษา พระบาทสมเดจ็ พระวชริ เกลา้ เจา้ อยู่หัว 67 พรรษา ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง รายงานประจำ� ปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการปอ้ งกันและปราบปรามการทุจรติ แหง่ ชาติ 241

u วนั ท่ี 31 กรกฎาคม 2562 พลต�ำรวจเอก วชั รพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. พร้อมด้วยคณะกรรมการ ป.ป.ช. และผบู้ รหิ ารสำ� นกั งาน ป.ป.ช. รว่ มบันทกึ เทปถวายพระพรชยั มงคลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชนิ ีนาถ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง เนือ่ งในวนั มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2562 ณ สถานวี ิทยุโทรทศั น์แหง่ ประเทศไทย u วันท่ี 2 สิงหาคม 2562 พลต�ำรวจเอก วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน กรรมการ ป.ป.ช. เข้าร่วมแสดงความยินดี เนื่องในวันชาติของสมาพันธรัฐสวิส (Swiss Confederation) ซงึ่ ตรงกับวนั ท่ี 1 สงิ หาคม โดยมี H.E. Mr. Ivo Sieber (นายอีโว ซีเบอร์) เอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสประจ�ำประเทศไทยให้การต้อนรับ ณ โรงแรม Mövenpick กรงุ เทพฯ 242 รายงานประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการปอ้ งกันและปราบปรามการทจุ ริตแหง่ ชาติ

u วันที่ 12 สิงหาคม 2562 พลต�ำรวจเอก วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. พรอ้ มดว้ ยคณะกรรมการ ป.ป.ช. และผู้บริหารส�ำนักงาน ป.ป.ช.ร่วมพิธีท�ำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศลเน่ืองในโอกาส วันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเดจ็ พระนางเจ้าสริ ิกติ ์ิ พระบรมราชนิ นี าถ พระบรมราชชนนีพนั ปีหลวง ประจ�ำปพี ทุ ธศกั ราช 2562 ณ ทอ้ งสนามหลวง u วันที่ 19 สิงหาคม 2562 พลต�ำรวจเอก วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานในพิธีเปิด งานสัมมนาทางวิชาการ “การสัมมนาแลกเปล่ียนเรียนรู้ระดับชาติ ภายใต้หัวข้อ “การผลักดันยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริต สู่ประเทศไทยใสสะอาด ไทยท้ังชาติต้านทุจริต” ปี 2562 เพ่ือเป็นเวทีแลกเปลี่ยน เรียนรู้ประสบการณ์ ความคิดเห็น และข้อเสนอแนะด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตรวมท้ังปัญหาและอุปสรรค ในการด�ำเนินการผลักดันยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระยะท่ี 3 (พ.ศ. 2560 - 2564) ผ่านมมุ มองท่ีหลากหลายจากทุกภาคสว่ นทีเ่ ก่ียวขอ้ ง เพ่ือปรบั ปรงุ และพัฒนาการด�ำเนินงานดา้ นการป้องกนั และปราบปราม การทุจริต ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชัน เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรม ซ่ึงเป็นผู้แทน จากกระทรวง ทบวง กรม ภาครัฐวิสาหกิจ ภาคประชาสังคม สื่อมวลชน รวมท้ังคณะกรรมการ ป.ป.ช. ผู้บริหาร และเจา้ หน้าท่สี ำ� นักงาน ป.ป.ช. และผสู้ งั เกตการณ์ จ�ำนวน 1,573 คน รายงานประจำ� ปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจรติ แหง่ ชาติ 243


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook