๒๘๑
๒๘๒ ๔.๓ แนวทางการสงวนรกั ษาเพลงพื้นบ้านภาคกลาง คณะผู้วิจยั ขอเสนอแนวทางการสงวนรักษาเพลงพืน้ บ้านภาคกลาง ดังน้ี ๔.๓.๑ ปรชั ญา ๑.เพลงพน้ื บ้านภาคกลางเป็นมรดกทางวัฒนธรรม ๒.เพลงพน้ื บา้ นภาคกลางเปน็ ตน้ ทนุ ของเศรษฐกิจสรา้ งสรรค์ ๓.เพลงพื้นบ้านภาคกลางเป็นเคร่ืองมือสร้างสรรค์สังคม ( สร้างความสุข ปลุกจิตสานึกดี สร้างสามคั คแี ละมีคุณธรรม ) ๔.๓.๒ แนวคิด ๑. เพลงพื้นบ้านเกิดจากการสร้างสรรค์ของศิลปินเฉพาะด้านท่ีควรได้รับการดูแลจาก สงั คมเปน็ กรณพี ิเศษ เพราะเพลงพ้ืนบา้ นเป็นงานศิลปะ มีการผสมผสานระหว่างวรรณกรรมพ้ืนบ้านและการ
๒๘๓ แสดงพ้ืนบ้าน ผู้แต่งต้องเป็น “กวีพื้นบ้าน” และผู้แสดงต้องเป็น “ศิลปิน” ที่มีคุณสมบัติเฉพาะด้าน เช่น มี พรสวรรค์ในดา้ นการประพันธแ์ ละการแสดง มพี รแสวงรู้จักใฝ่หาความรู้ มุ่งมั่นฝึกฝนอย่างยาวนาน จนกว่าจะ ชานาญและถ่ายทอดได้ ท่ีสาคัญต้องมีความอดทนสูงในการประกอบอาชีพท่ีไม่ได้อยู่ในกระแสนิยมของสังคม ปกติศลิ ปินทม่ี ีความเช่ียวชาญก็ “เป็นยาก” และ “หายาก” อยู่แล้ว แต่ยงิ่ นบั วันศิลปนิ พื้นบา้ นกลุม่ นี้ย่งิ ร่วงโรย และลดน้อยลง ท่เี หลอื อยกู่ ็ต้องเผชิญปัญหาและอุปสรรคหลายด้านตามลาพังจนเกิดความรู้สึกท้อแท้และอ่อน ลา้ เทยี บไมไ่ ดก้ ับศิลปินการแสดงยคุ ใหมท่ ธ่ี ุรกิจใหค้ วามสนใจเพราะเป็น “สินค้าท่ีขายได้” “ผลประโยชน์ตอบ แทนมาก ใครๆ ก็อยากเป็น” ดังนน้ั ผู้มีอานาจหนา้ ทีต่ อ้ งตระหนักในคุณประโยชน์และภาวะจาเป็นของศิลปิน เพลงพืน้ บ้านเหลา่ นี้ สังคมควรใสใ่ จดแู ลและบารุงหลอ่ เลยี้ งเป็นกรณีพิเศษ เช่น จัดสวัสดิการ มอบรางวัล มอบ ทนุ การดาเนินงาน ฯลฯ อย่างท่ัวถึงและตอ่ เน่ือง ๒. การสงวนรกั ษาเพลงพ้นื บา้ นภาคกลางต้องวางแผนและดาเนินงานอย่างครบวงจร ท้ัง การสรา้ งสรรค์ การสบื ทอดและการศึกษา ให้แก่เป้าหมายทุกระดับ ท้ังเพศวัย การศึกษาและระดับของชุมชน เชน่ อบรมส่งั สอนปลูกฝังต้งั แตเ่ ดก็ สร้างภูมิคุม้ กนั สร้างโอกาสใหส้ ั่งสมความรู้และประสบการณ์เม่ือเติบโต และ บารุงรกั ษาเม่ือเปน็ ผู้ใหญ่ หากเปรียบเปน็ ตน้ ไม้ก็ต้องเร่ิมจากการ “เพาะเมล็ดพันธุ์เพลงพื้นบ้าน” เพ่ือสร้างผู้ สบื ทอด เมือ่ ผลิกลา้ ต้นโตแล้วกต็ ้องดูแลเอาใจใส่ป่าไม้เพลงพ้ืนบ้าน ป่าใดเป็นป่าใหญ่อุดมสมบูรณ์ยิ่งต้องดูแล ไม่ใช่ทอดทงิ้ ปล่อยตาย ตอ้ งสนับสนนุ สง่ เสริมตลอดเวลา แมต้ น้ ใหญ่ ก็ตอ้ งบารุงรักษาใส่ปุ๋ยดายหญ้าพรวนดิน ต้องบารงุ ตน้ พนั ธุเ์ พลงพนื้ บ้าน แล้วผลักดันให้เกิดใหม่ เอาใจใส่ให้เติบโต และบารุงต้นโตไม่ให้ตาย เป็นวงจร ไปจนครบ ไดแ้ ก่ จดั การศกึ ษาโดยบรรจุในหลักสูตรการเรียนการสอน ซ่ึงเป็นวิธีการขั้นพ้ืนฐานที่จาเป็น และ ศิลปินพื้นบ้านต่างก็เห็นด้วย “การศึกษาเพลงพื้นบ้านควรอยู่ในหลักสูตรการศึกษาข้ันพื้นฐาน หน่วยงานที่ เกยี่ วข้อง เช่น วัฒนธรรมจังหวัด ควรสนับสนุนงบประมาณ หรือจัดกิจกรรมเกี่ยวกับเพลงพื้นบ้านให้มากข้ึน ส่วนโรงเรยี น ผูบ้ ริหารและครคู วรเป็นหลัก และครูตอ้ งสอบถามจากนักเรยี นวา่ ผู้ปกครองมคี วามสามารถพิเศษ ในด้านใด เช่น เพลงพนื้ บา้ น เพอื่ จะได้ทราบวา่ คนในท้องถิ่น ใครมีความสามารถด้านใด แล้วเอามาสอนเด็ก” ( ประสูตร ชว่ งเวฬุวรรณและวาสนา จิตรบรรจง สัมภาษณ์ ๒๒ มีนาคม ๒๕๕๗ ) จัดการอบรมแบบเข้มข้น เพ่ือพัฒนาศิลปินพ้ืนบ้าน ดังคาแนะนาของครูเพลงหลายท่าน เช่น แม่ลาจวน ศรีจันทร์และพ่อวีรวัฒน์ พึ่ง ลออ ระบุว่า “ต้องปรับเนื้อร้องใหม่ให้เข้ากับยุคสมัย และเปลี่ยนทัศนคติพ่อเพลงแม่เพลงไม่ให้หวงวิชา ออกมาถ่ายทอดให้กับเยาวชนรุ่นหลังได้เรียนรู้อย่างเต็มท่ี และพยายามหาพื้นท่ีในการแสดงให้พ่ อเพลงแม่ เพลงแสดงความสามารถ และสร้างคุณค่าทางภูมิปัญญา รวมถึงด้านเงินสนับสนุนด้วย ” ( สัมภาษณ์ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ) ๓. เพลงพื้นบ้านคือภูมิปัญญาต้องนามาใช้ในโอกาสต่าง ๆ อยู่เสมอ เพ่ือให้สังคมได้มี สว่ นปรับปรุงและสั่งสมสบื ตอ่ ไป ทานองของเพลงพ้ืนบ้านเป็นสมบัติส่วนรวม เพลงพ้ืนบ้านภาคกลางมีหลาย ทานอง สามารถเปล่ียนเน้ือร้องได้ตลอดเวลา จึงสามารถสร้างสรรค์ใหม่และใช้ในโอกาสต่างๆ ได้อย่าง กว้างขวางและสะดวก ดังคากล่าวของศิลปินหลายคน เช่น แม่ขวัญจิต ศรีประจันต์ “เสน่ห์ของวงคือความ พร้อม ความทันโลกทันสมัย ในแต่ละงานสามารถปรับเน้ือร้องให้เข้ากับงานน้ัน ๆ ได้อย่างเหมาะสม” ( เกลยี ว เสร็จกจิ สัมภาษณ์ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ) ผู้มีอานาจหน้าที่ควรส่งเสริมให้เกิดการใช้เพลงพื้นบ้าน
๒๘๔ ภาคกลางในทกุ โอกาส เพ่ือเพิม่ พ้ืนท่ีเพ่ิมกระแสนยิ ม เป็นการ “ต่อลมหายใจ” ให้เสียงเพลงพ้ืนบ้านยังดังแว่ว หวานอยไู่ ดใ้ นผนื แผ่นดินไทย ๔. สื่อมวลชนมีอิทธิพลต่อค่านิยมในด้านวัฒนธรรมการแสดง จึงควรใช้เป็นส่ือในการ สรา้ งสรรค์และสืบทอดเพลงพื้นบ้านภาคกลาง ผลการศึกษาค้นคว้าของ Rush และ Athoff (๑๙๗๑ อ้างถึง ใน พทั ธนนั ท์ เดด็ แกว้ http://www.bec.nu.ac.th/research/readnews.php?id=๒๗๓) พบว่าสอื่ มวลชนมี บทบาทอยา่ งมากในการให้ความรู้ ความเข้าใจ ค่านิยม ความเช่ือ ทัศนคติ ซ่ึงมีผลต่อการสั่งสมประสบการณ์ และพัฒนาบุคลิกภาพ และมีบทบาทในการขัดเกลาสังคมและการเรียนรู้แก่บุคคล และจินตวีย์ เกษมศขุ (๒๕๓๙) พบวา่ ส่อื มวลชนมีอทิ ธิพลอย่างยิ่งต่อการเปล่ียนแปลงของคนไทย เพราะส่ือมวลชนจัดเป็น ส่ิงเร้าทม่ี คี ณุ ภาพสูงสามารถสร้างสภาพความต้องการทจ่ี ะนาไปสกู่ ารกระทาได้ โดยเฉพาะอย่างย่ิงกับเด็กและ เยาวชน ผลการวิจัยหลายเร่ืองยืนยันว่า สื่อสารมวลชนมีอิทธิพลต่อค่านิยมเกาหลีของคนไทย ตัวอย่างเช่น งานวิจัยของ อลสิ า วทิ วสั กลุ (๒๕๔๙) พบว่าเน้ือหาสาระเก่ียวกับประเทศเกาหลีท่ีถูกนาเสนอผ่านสื่อมวลชน ตา่ งๆ นน้ั มีการนาเสนอเรื่องวัฒนธรรมไว้อย่างหลากหลาย รวมทั้งค่านิยม การดาเนินชีวิตของคนเกาหลี ซ่ึง เปน็ ส่วนหนึง่ ในการถ่ายทอดวัฒนธรรม เม่อื ประชาชนไทยเปิดรับอย่างต่อเนื่องจะทาให้เกิดการซึมซับและรับ สารหรือสิ่งที่แฝงไว้อย่างไม่รู้ตัว ซึ่งการซึมซับสารนั้นอาจจะมีผลต่อพฤติกรรมการบริโภคสินค้าเกาหลี และ เนื่องจากประเทศเกาหลีมีการใชค้ วามคดิ สร้างสรรค์สินค้าของประเทศเกาหลีจากแนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ หรือ Creative economy ทาใหส้ นิ คา้ เกาหลไี ดร้ บั ความนิยมอยา่ งเชน่ ในทกุ วันน้ี สอื่ มวลชนไทยโดยเฉพาะวทิ ยุโทรทศั น์ทใ่ี ห้การสนับสนนุ เพลงพื้นบ้านภาคกลางมีจานวนหน่ึง ซึ่งมีพลงั ผลกั ดนั และสรา้ งสรรค์ผลงานเปน็ ที่ยอมรับจากมหาชนมาก เช่น บรษิ ัทเวิร์คพ็อยท์ ที่ผลิตรายการคุณ พระชว่ ย ออกอากาศทางสถานโี ทรทศั น์ช่อง ๙ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ผลิตรายการไทยโชว์ รายการไทย มุง รายการ ณ อาร์ทคลับ ฯลฯ ซ่ึงช่วยสร้างกระแสความนิยมอย่างรวดเร็วและแพร่หลายไปอย่างกว้างขวาง นอกจากนน้ั ยังสร้างกาลังใจและแรงบันดาลใจให้ผสู้ บื ทอดทกุ คนอย่างยิ่ง ๕. แนวทางการสงวนรักษาเพลงพ้ืนบ้านภาคกลางคือการขยัดปัจจัยคุกคามและสร้าง เสรมิ ภมู คิ ุม้ กันให้เขม้ แข็งข้นึ สาหรับวิธีการสงวนรักษาเพลงพื้นบ้านในระดับศิลปินอาชีพนี้ คณะผู้วิจัยเห็น ว่าควรขจัดปัจจัยคุกคาม หรือมีมาตรการป้องกันแก้ไขให้สอดคล้องกับสภาพปัจจุบัน ได้แก่ การสร้างกระแส นิยมเพลงพ้ืนบ้านโดยใช้ส่ือสารมวลชน เช่น วิทยุโทรทัศน์ การสนับสนุนอย่างจริงจังและครบวงจร เช่น ให้ ทุนอุดหนนุ การดาเนนิ งาน ใหส้ วัสดกิ ารแก่ศลิ ปินพน้ื บา้ นอยา่ งท่วั ถงึ และต่อเนื่อง การส่งเสริมให้เกิดการว่าจ้าง ในโอกาสต่างๆ ใหเ้ พลงพน้ื บ้านอยูใ่ นวิถีประเพณที ้องถิ่น รวมท้ังการช่วยเหลืออ่นื ๆ เช่น การพัฒนากลุ่มบุคคล ทเี่ กี่ยวข้อง รวมทั้งพัฒนาเพลงพ้ืนบ้านท้ังในด้านรูปแบบและเน้ือหาให้สอดคล้องกับสังคมปัจจุบัน เป็นต้นว่า การจดั กจิ กรรมต่าง ๆ เพอ่ื เพมิ่ จานวนผสู้ รา้ งสรรค์และผูส้ ่งเสริม การอบรมใหป้ รบั เปลีย่ นรปู แบบการเล่นหรือ การแสดงเพลงพ้ืนบ้าน การเสวนาเพ่ือแนะนาการประยุกต์เนื้อหาของเพลงพ้ืนบ้านให้ทันสมัยทันเหตุการณ์ การผลติ สอ่ื สรา้ งสรรค์เพ่ือเผยแพร่ผลงานและสร้างค่านิยมอันดี และการวางแผนงานเพื่อขยายโอกาสการใช้ เพลงพื้นบา้ นให้กว้างขวางยง่ิ ขน้ึ สิ่งสาคญั คอื ผู้ทาต้อง “ตง้ั ใจจริง รู้จรงิ ทาไดจ้ ริง” หมายถงึ เข้าใจปัญหาอย่าง ถ่องแทแ้ ละมที างแก้ทถี่ กู ทศิ ถกู ทาง ทั้งถกู ตอ้ งและถูกใจ
๒๘๕ เพื่อเป็นแนวทางในการสงวนรักษาตามปรัชญาและแนวคิดข้างต้น คณะผู้วิจัยขอเสนอ ตัวอยา่ งโครงการต่าง ๆ ดงั ตารางตอ่ ไปน้ี ยุทธศาสตร์ แผนงาน/ แผนงาน/ รายละเอียด ผลลพั ธ์/ ผรู้ ับผดิ ชอบ/ ของกรม โครงการ โครงการ ผลผลติ ดาเนินงาน/ ส่งเสริม ของกรม ท่เี สนอ ระยะเวลา วฒั นธรรม สง่ เสริม วัฒนธรรม ยทุ ธศาสตร์ -อดุ หนุน ๑.โครงการ อดุ หนนุ ทนุ ดาเนนิ -ศิลปิน เครอื ขา่ ย ท่ี ๑ การ สืบสานเพลง โครงการ พ้นื บา้ น ชมุ ชน ประชาชนมี ถ่ายทอด พน้ื บ้านใน เพื่อสืบทอดเพลงพนื้ บา้ น และผ้สู ืบทอด ครูเพลง ความ ภูมปิ ัญญา ประเพณี ภาคกลางให้แกเ่ ครอื ข่าย มงี บประมาณ ครูภูมิปญั ญา ภาคภมู ใิ จใน ทาง วิถีไทย วฒั นธรรม เช่น ศนู ย์ภูมิ ในการ สถาบนั การ มรดกศลิ ป วัฒนธรรม ปญั ญาท้องถิ่น ชมรมเพลง ดาเนินงาน ศึกษา ชมรม วัฒนธรรม -โครงการ พ้ืนบา้ นสถาบันการศึกษา - ผู้สบื ทอดมี คณะเพลง ของชาตทิ ี่ ส่งเสริม ฯลฯ จานวนเพ่มิ ขนึ้ ฯลฯ ไดร้ บั การ บทบาท ทจ่ี ะจดั กจิ กรรมใน -ผู้สบื ทอดได้ ( ผู้นาชมุ ชน อนุรกั ษ์ เครือขา่ ย ลกั ษณะการถ่ายทอดและ พฒั นา ควรมี ยทุ ธศาสตร์ และ การแสดงเพ่ือเผยแพรใ่ น ความสามารถ นโยบายเพิ่ม ท่ี ๒ สรา้ งสรรค์ งานเทศกาลประเพณีของ ในการแสดง พืน้ ท่แี ละ ประชาชนมี วฒั นธรรม ท้องถิน่ เช่น การฝึกหดั -เพลงพนื้ บา้ น โอกาสในการ คา่ นิยมท่ีดี ชุมชน และเล่นเพลงเรอื ในงาน ไดม้ ีบทบาท แสดงให้แก่ งามและ -โครงการ แข่งเรอื ยาวประเพณหี รอื และผกู พนั อยู่ เพลงพื้นบา้ น เหมาะสมใน สง่ เสริม งานลอยกระทงหรอื ใน ในวถิ ชี วี ิตของ ในทกุ การดาเนิน การ ตลาดน้า การแสดงเพลงอี ชมุ ชน กิจกรรมของ ชวี ติ ถ่ายทอด แซวเรือ่ งพระคณุ แม่ในงาน ประเพณี ) ยุทธศาสตร์ ศลิ ป- วันแม่แห่งชาติ ฯลฯ โดย ท่ี ๓ วัฒนธรรม ใหย้ ่นื โครงการขอรับทุนฯ ประชาชน ค่านิยม และปฏบิ ัตติ ามแผนงานท่ี กล่มุ เปา้ วิถชี วี ติ วางไว้ หมายมี และความ โอกาสเขา้ ถงึ เปน็ ไทย องคค์ วามรู้
๒๘๖ ยุทธศาสตร์ แผนงาน/ แผนงาน/ รายละเอียด ผลลัพธ์/ ผู้รบั ผิดชอบ/ ของกรม โครงการ โครงการ ผลผลติ ดาเนนิ งาน/ ส่งเสริม ของกรม ทเ่ี สนอ ระยะเวลา วัฒนธรรม สง่ เสริม วฒั นธรรม เหน็ คุณค่า และนาไปใช้ ประโยชน์ ยทุ ธศาสตร์ -โครงการ ๒.โครงการ จดั ประกวดการแสดงเพลง -ชมุ ชน/ตาบล กรมสง่ เสริม ท่ี ๑ - ๓ ส่งเสริม ประกวดเพลง พ้นื บ้านภาคกลางประเภท จะมคี ณะเพลง วัฒนธรรม เผยแพร่ พ้ืนบา้ น เพลงโต้ตอบ พน้ื บ้านระดบั ร่วมกับ วฒั นธรรม ภาคกลาง รอบคดั เลอื ก เยาวชน สถาบนั การ พ้นื บา้ น เยาวชน -ระดับตาบล - เกดิ ความ ศึกษา/สภา -โครงการ ระดับประถม -ระดบั อาเภอ ต่ืนตัวในการ วฒั นธรรม ส่งเสริม ศึกษาและ -ระดบั จงั หวดั ฝกึ หดั และต้งั จังหวดั การ มธั ยมศกึ ษา รอบชิงชนะเลศิ คณะเพลงใน ( ท่ีมี ถ่ายทอด ชงิ -ระดับภาค/ชาติ โรงเรียน/ ประสบการณ์ ศลิ ป- ทุนการศึกษา/ กตกิ าการประกวด ชุมชน และมีผลงาน วฒั นธรรม ถ้วยรางวลั -ร้องเพลงโต้ตอบชนดิ ใดก็ -เยาวชนมเี วที นา่ เช่อื ถือ ) คา่ นิยม พระราชทาน ได้ เพลงทีน่ ามาแสดงจะ ให้แสดงออก วิถีชวี ติ เป็นเพลงเกา่ หรอื ใหมก่ ไ็ ด้ -ผ้สู ืบทอดมี และความ แตต่ ้องระบชุ ื่อ ความหวงั และ เปน็ ไทย ผแู้ ต่งให้ถกู ต้องชัดเจน กาลังใจ - เพลงท่ีนามาแสดงถา้ เปน็ -คนไทยเกดิ เพลงทีแ่ ต่งใหม่ จะมีสทิ ธิ ความนิยม ส่งเขา้ ประกวดรางวัลเนื้อ เห็นคุณค่า ร้องยอดเยี่ยมดว้ ย และนาไปใช้ -แสดงเป็นคณะ ๆ ละ ๒๐ ได้ต่อไป นาที - ผ้แู สดงและนักดนตรี คณะละไมเ่ กิน ๑๕ คน - รางวลั แบง่ เป็น ๑.การแสดงยอดเย่ยี ม
๒๘๗ ยุทธศาสตร์ แผนงาน/ แผนงาน/ รายละเอียด ผลลพั ธ์/ ผรู้ ับผิดชอบ/ ของกรม โครงการ โครงการ ผลผลิต ดาเนินงาน/ ส่งเสริม ของกรม ทเ่ี สนอ จานวน ๕ รางวัล ไดแ้ ก่ ระยะเวลา วัฒนธรรม ส่งเสรมิ รางวัลชนะเลศิ รอง วัฒนธรรม ชนะเลิศ อนั ดับ ๑ , ๒ และรางวลั ชมเชย ๒ รางวัล ๒.ผรู้ ้องยอดเย่ยี ม ฝ่ายชาย ๑ รางวลั ฝ่าย หญิง ๑ รางวลั ๓. เน้อื รอ้ งยอดเยย่ี ม ๑ รางวลั ยุทธศาสตร์ -โครงการ ๓.โครงการ รับสมคั รเยาวชนผู้สนใจ -ผู้สบื ทอด กรมสง่ เสริม ท่ี ๑ - ๓ ส่งเสรมิ เข้าคา่ ย เผยแพร่ เพลงพนื้ บ้าน จาก ทั่วประเทศ เข้า ไดร้ บั การ วฒั นธรรม วัฒนธรรม ภาคกลาง พื้นบ้าน ( เพาะกล้า คา่ ยอบรมเชงิ ปฏบิ ัตกิ าร พัฒนา รว่ มกับ -โครงการ พนั ธุเ์ กง่ เพลง สง่ เสริม พืน้ บา้ น) แบบบรู ณาการ ในสภาพ ศกั ยภาพการ สถาบนั การ บทบาท เครอื ข่าย ส่ิงแวดล้อมท่ีเหมาะสมแก่ แสดงข้ันสงู ศึกษา/สภา และ สรา้ งสรรค์ การเรยี นรู้ ฝกึ กบั ครเู พลง -ครูเพลงมี วัฒนธรรม วฒั นธรรม ชมุ ชน ระดับชาติ ท้ังการรอ้ ง การ กาลงั ใจในการ จังหวัด -โครงการ แหล่ง แสดงและการแต่งเพลง ถา่ ยทอด ( ทม่ี ี เรียนรู้ทาง วฒั นธรรม มีการเผยแพรผ่ ่าน -ครูเพลง ประสบการณ์ ส่อื มวลชน ศิลปิน ผสู้ ืบ และมผี ลงาน และ/ ประกวดชิง ทอดไดม้ ี น่าเช่อื ถือ ) ทนุ การศกึ ษาและถ้วย โอกาส รางวลั พระราชทาน เพื่อ แลกเปลยี่ น หาเพชรเมด็ งามของวงการ เรยี นร้รู ่วมกนั เพลงพื้นบา้ นไทย และเกดิ ความ สามคั คีและ ผกู พันตอ่ กัน
๒๘๘ ยุทธศาสตร์ แผนงาน/ แผนงาน/ รายละเอียด ผลลพั ธ์/ ผรู้ บั ผิดชอบ/ ของกรม โครงการ โครงการ ผลผลิต ดาเนนิ งาน/ สง่ เสริม ของกรม ที่เสนอ ระยะเวลา วัฒนธรรม ส่งเสรมิ วัฒนธรรม -โครงการ ส่งเสรมิ การ ถา่ ยทอด ศลิ ป- วัฒนธรรม ค่านิยม วถิ ีชีวติ และความ เปน็ ไทย ยทุ ธศาสตร์ -โครงการ ๔. โครงการ -จัดประชนั การแสดงเพลง -ศลิ ปนิ อาชีพ -สถานี ท่ี ๑ - ๓ ส่งเสรมิ รายการ พนื้ บ้านภาคกลางของ มคี วามตื่นตัว โทรทศั น์ เผยแพร่ โทรทัศน์ ศลิ ปนิ อาชพี ท่จี ะพฒั นา ชอ่ งหลัก วัฒนธรรม “ประชัน -กาหนดให้รอ้ งเก่ยี วกบั ตนเองย่งิ ขึน้ /ช่องเฉพาะ พ้ืนบา้ น เพลงพืน้ บา้ น” หวั ขอ้ เร่อื งเดยี วกนั -ศิลปนิ อาชพี ของกรม -โครงการ -ประชันแบบเดย่ี วหรือ ได้รบั ความ ส่งเสริม สง่ เสริม แบบกลุม่ กไ็ ด้ แบบกลมุ่ นิยมมากขึ้น วัฒนธรรม การ หมายถงึ ฝา่ ยชายมาจาก -เพลงพืน้ บา้ น ถา่ ยทอด คณะหนึ่ง สว่ นฝา่ ยหญิงมา ไดร้ ับการ ศิลป- จากอกี คณะหน่ึง สง่ เสรมิ และ วฒั นธรรม -ผลัดกันร้องในเวลาที่ เผยแพรส่ ู่ ค่านยิ ม เท่ากนั เช่น คนละหรอื สาธารณชน วิถชี ีวิต ฝา่ ยละ ๑๐ นาที -เพลงพ้ืนบา้ น และความ -เกณฑก์ ารตดั สนิ ใชน้ บั มโี อกาสและมี เป็นไทย จานวน “เสยี งฮา” แบบ พื้นท่ใี น โบราณคอื ผชู้ มส่วนใหญ่ สื่อมวลชน หวั เราะฮาหน่งึ คร้ังนบั เปน็ -คนไทยมี หน่งึ คะแนน หรือใชน้ บั ค่านยิ มเพลง
๒๘๙ ยทุ ธศาสตร์ แผนงาน/ แผนงาน/ รายละเอียด ผลลพั ธ์/ ผูร้ บั ผดิ ชอบ/ ของกรม โครงการ โครงการ ผลผลิต ดาเนนิ งาน/ ส่งเสรมิ ของกรม ทเี่ สนอ ระยะเวลา วฒั นธรรม ส่งเสริม วัฒนธรรม จานวนจากการกด พ้ืนบา้ นและมี สญั ญาณต่าง ๆ รสนิยมในการ -คณะกรรมการตัดสิน ควร ดสู ิ่งบนั เทงิ มผี ้แู ทนกลมุ่ ศิลปินดารา ไทย ยอดนยิ มที่เคยร้องหรอื แสดงเพลงพื้นบ้าน เชน่ เบิรด์ ธงไชย ผู้แทนจาก กระทรวงวฒั นธรรม นักวชิ าการท่ีเชยี่ วชาญ เพลงพืน้ บา้ น เปน็ ตน้ -คะแนนจากผชู้ มต่อ คะแนนจากคณะกรรมการ อัตราสว่ นรอ้ ยละ ๕๐ : ๕๐ - ระหว่างรอผลการตดั สนิ อาจคัน่ รายการดว้ ยการ แสดงเพลงพนื้ บ้านของ ศิลปินทม่ี ีชื่อเสยี ง เพือ่ สร้างกระแสความนิยม เพลงพืน้ บา้ นภาคกลาง ย่ิงขึ้น -รูปแบบรายการ ประสม ประสานระหวา่ งการแสดง เกมและการประกวด -ชงิ เงินรางวัลและโล่ เกยี รตยิ ศ ยทุ ธศาสตร์ -โครงการ ๕.โครงการ -จัดอบรมเชงิ ปฏิบัติการ -ครอู าจารย์ กรมส่งเสริม
๒๙๐ ยทุ ธศาสตร์ แผนงาน/ แผนงาน/ รายละเอียด ผลลพั ธ์/ ผ้รู ับผิดชอบ/ ของกรม โครงการ โครงการ ผลผลิต ดาเนนิ งาน/ ส่งเสริม ของกรม ทเ่ี สนอ ระยะเวลา วัฒนธรรม ส่งเสรมิ วฒั นธรรม ท่ี ๑ - ๓ สง่ เสริม แสงเพชร การรอ้ งการแสดงและการ สอื่ มวลชน วัฒนธรรม เผยแพร่ เสยี งเพลง แตง่ เพลงใหแ้ ก่ครูอาจารย์ และบุคคล รว่ มกับ วฒั นธรรม สือ่ มวลชนและบุคคลท่ัวไป ท่วั ไป องค์กรทม่ี ี พนื้ บา้ น -มีการแสดงผลงาน และ ซ่งึ เปน็ ประสบการณ์ -โครงการ เผยแพร่ผลงานในที่ ฟันเฟอื ง และมผี ลงาน สง่ เสริม ประชุมชนหรอื ผ่าน สาคัญของการ นา่ เชอื่ ถือ บทบาท สอ่ื มวลชน สืบทอดเพลง เครอื ข่าย พ้ืนบ้านไดม้ ี และ โอกาสฝกึ หดั สร้างสรรค์ และพฒั นา วัฒนธรรม ศกั ยภาพและ ชมุ ชน เกดิ ความรกั -โครงการ ความภมู ิใจ ส่งเสริม และความ การ มนั่ ใจในการ ถ่ายทอด ถ่ายทอด ศิลป- สบื ไป วัฒนธรรม -เครอื ขา่ ย คา่ นิยม ผสู้ บื ทอดและ วถิ ีชีวิต ผสู้ ง่ เสริมเพม่ิ และความ มากข้นึ และ เปน็ ไทย เปน็ พลังใน การขับเคลือ่ น งานดา้ นการ สงวนรักษา เพลงพ้ืนบา้ น อย่างยง่ั ยนื สบื ไป
๒๙๑ ยทุ ธศาสตร์ แผนงาน/ แผนงาน/ รายละเอยี ด ผลลัพธ์/ ผู้รบั ผดิ ชอบ/ ของกรม โครงการ โครงการ ผลผลติ ดาเนินงาน/ ส่งเสริม ของกรม ที่เสนอ ระยะเวลา วัฒนธรรม ส่งเสรมิ วฒั นธรรม ยทุ ธศาสตร์ -โครงการ ๖.โครงการ -จัดทัศนศกึ ษาเย่ียมบ้าน -ผู้สบื ทอด เครือข่าย ท่ี ๑ - ๓ ส่งเสรมิ เพลงพนื้ บ้าน ศิลปินเพลงพื้นบา้ นใน เพลงพ้ืนบา้ น ชุมชน เผยแพร่ สัญจร จังหวดั ตา่ ง ๆ เช่น ศลิ ปนิ ไดร้ ับการ ครเู พลง วฒั นธรรม เพลงฉอ่ ยภาคกลาง พัฒนาและ ครภู มู ิปญั ญา พืน้ บ้าน เดินทางไปเยยี่ มศลิ ปนิ เกดิ กาลังใจใน สถาบนั การ -โครงการ ภาคเหนอื ตอนล่าง หรอื ลา การดาเนนิ ศึกษา ชมรม ส่งเสรมิ ตัดกรงุ เทพเดินทางไป งาน คณะเพลง การ เยี่ยมลาตัดภาคตะวันออก -ชุมชนไดเ้ พม่ิ ฯลฯ ถ่ายทอด เพื่อสานสมั พนั ธ์และเพ่ิม โลกทัศน์และ ศลิ ป- โลกทัศน์ ผู้เป็นเจ้าบ้านจดั เกดิ แรง วฒั นธรรม กจิ กรรมการถ่ายทอดหรอื บันดาลใจใน ค่านยิ ม การเผยแพร่การแสดง การสืบทอด วิถีชีวติ เพลงชนิดต่าง ๆ ของ เพลงพื้นบ้าน และความ ชุมชนเพือ่ แลกเปลยี่ น ภาคกลาง เปน็ ไทย เรียนรู้ร่วมกนั อยา่ งมี -กรมฯได้ ความสุข รบั ทราบ ปญั หาอยา่ ง แท้จริงและ สามารถ หาทางแกไ้ ข พัฒนาได้ ถกู ตอ้ ง ยทุ ธศาสตร์ -โครงการ ๗.โครงการ -จัดกจิ กรรมบาเพ็ญ -ศลิ ปนิ เพลง เครอื ข่าย ท่ี ๑ - ๓ สง่ เสรมิ เพลงพนื้ บ้าน เผยแพร่ สานฝนั ประโยชน์เดนิ สายแสดง พน้ื บ้านมี ชมุ ชน วฒั นธรรม พ้ืนบา้ น เพลงพนื้ บา้ นเพ่ือรณรงค์ บทบาทในการ ครูเพลง -โครงการ ในเร่อื งสังคม การเมือง สรา้ งสรรค์ ครูภูมปิ ัญญา และวฒั นธรรม ใหแ้ ก่ สงั คม สถาบนั การ ชุมชนทมี่ ีปัญหา ทอ้ งถิน่ -เพลงพ้นื บา้ น ศกึ ษา ชมรม
๒๙๒ ยุทธศาสตร์ แผนงาน/ แผนงาน/ รายละเอยี ด ผลลพั ธ์/ ผู้รบั ผิดชอบ/ ของกรม โครงการ โครงการ ผลผลิต ดาเนนิ งาน/ สง่ เสรมิ ของกรม ท่ีเสนอ ระยะเวลา วัฒนธรรม สง่ เสรมิ วัฒนธรรม ส่งเสริม กนั ดาร สถานที่พเิ ศษ หรอื เป็นเครือ่ งมือ คณะเพลง การ บุคคลท่ีด้อยโอกาส เช่น ในการสร้าง ฯลฯ ถ่ายทอด สถานเล้ยี งเด็กกาพรา้ ความสุข ปลกุ ศลิ ป- เรือนจา โรงพยาบาล จติ สานกึ ดี วฒั นธรรม บ้านพักคนชราหรอื คน สร้างสามคั คี คา่ นิยม พกิ าร ศูนยผ์ ปู้ ระสบภยั และคุณธรรม วถิ ชี วี ติ ฯลฯ -ผู้สบื ทอด และความ -แต่งเพลงท่ีมีเนือ้ หา ได้รับการ เป็นไทย สอดคลอ้ งกับสถานการณ์ พฒั นา เพม่ิ บุคคลและโอกาส ประสบการณ์ เพมิ่ โลกทศั น์ และได้ ยกระดบั จิตใจ ยุทธศาสตร์ -โครงการ ๘.เพลง จดั กิจกรรมการผลิตส่ือ -มสี ือ่ เครอื ขา่ ย ท่ี ๑ - ๓ สง่ เสรมิ พนื้ บา้ นกบั สอื่ สร้างสรรค์ เช่น สร้างสรรค์ ชุมชน เผยแพร่ สร้างสรรค์ ภาพยนตร์ส้นั สารคดี เพ่ือ เฉพาะเร่อื ง ครเู พลง วัฒนธรรม รณรงคใ์ หเ้ ห็นความสาคญั เพ่ือใช้ในการ ครูภมู ิปญั ญา พน้ื บา้ น ของเพลงพนื้ บ้านและ ประชา- สถาบนั การ -โครงการ ศลิ ปนิ พนื้ บา้ น สัมพันธ์และ ศกึ ษา ชมรม ส่งเสรมิ อาจจดั ประกวดเพ่อื จูงใจ ปลกู ฝัง คณะเพลง การ ให้ผลิตผลงานท่ีมคี ุณภาพ ค่านยิ มทีด่ ี ฯลฯ ถ่ายทอด แลว้ หาช่องทางเผยแพร่ให้ -เพลงพื้นบ้าน ศิลป- กวา้ งขวางทส่ี ุด ได้รับการ วัฒนธรรม สง่ เสริมอย่าง ค่านยิ ม ถูกวธิ ี วถิ ชี วี ติ เหมาะสม และความ สอดคลอ้ งกบั เป็นไทย สงั คมขา่ วสาร
๒๙๓ ยทุ ธศาสตร์ แผนงาน/ แผนงาน/ รายละเอยี ด ผลลัพธ์/ ผรู้ บั ผดิ ชอบ/ ของกรม โครงการ โครงการ ผลผลติ ดาเนินงาน/ ส่งเสริม ของกรม ทเ่ี สนอ จัดต้งั ศนู ย์เพลงพื้นบ้าน ระยะเวลา วฒั นธรรม ส่งเสรมิ ๙.โครงการ ศกึ ษาหรอื ศนู ยภ์ ูมิปัญญา วัฒนธรรม เปดิ บา้ นลาน เพลงพนื้ บ้านของชุมชน เพลง อุดหนนุ งบประมาณและ ยุทธศาสตร์ -โครงการ จัดองค์ประกอบตา่ ง ๆ ในปจั จุบัน ท่ี ๑ - ๓ แหล่ง ๑๐.โครงการ อยา่ งเหมาะสม โดยใช้ -ชุมชนมีแหล่ง สานกั งาน เรียนร้ทู าง สมบตั เิ พลง ทรัพยากรบคุ คลและอ่ืนๆ เรียนรู้เพลง วัฒนธรรม วัฒนธรรม พนื้ บา้ น ของทอ้ งถ่ิน เช่น สถานท่ี พน้ื บ้านภาค ตาบล ที่ทา อุปกรณ์ ฯลฯ ให้เป็น กลางและมี การ อบต. ยทุ ธศาสตร์ -โครงการ แหลง่ เรยี นรู้ และจดั สถานที่ทา โรงเรียน วดั ท่ี ๑ - ๓ สง่ เสรมิ กิจกรรมอย่างสมา่ เสมอ กจิ กรรม บ้านครูเพลง เผยแพร่ เชน่ บรรยายและสาธิต ร่วมกนั ฯลฯ วัฒนธรรม การแสดงเพลงพ้ืนบา้ นใน -คนไทยมี ( กิจกรรม วนั หยุดสุดสปั ดาห์ หรอื แหล่งเรยี นรู้ บางอยา่ ง เมอ่ื มีคณะบคุ คล เช่น ศกึ ษาดูงาน เพื่อปอ้ งกนั นักทอ่ งเทย่ี วต่างชาติ และเขา้ ค่าย ความซ้าซอ้ น มาเยย่ี มชม จัดพิธไี หว้ครู เพลงพน้ื บา้ น อาจใชว้ ธิ ี ครอบครูประจาปี จดั ภาคกลางใน หมุนเวยี นกนั ประชมุ และจัดค่ายเพลง สภาพแวด เปน็ เจ้าภาพ ) พน้ื บ้านอย่างนอ้ ย ปีละ ๑ ล้อมท่ี ครงั้ เปน็ ต้น เหมาะสม ( มี ประโยชน์และ จัดทาสอื่ วดี ิทัศน์การ ประหยดั ) แสดง/การร้องเพลง -เพลงพนื้ บ้าน พน้ื บา้ นอยา่ งมีคณุ ภาพ มีบทบาทใน เพอ่ื เผยแพร่เปน็ สอ่ื การสง่ เสรมิ การทอ่ งเทย่ี ว เชงิ วฒั นธรรม -สงั คมได้องค์ เครือข่าย ความรูแ้ ละสือ่ ชมุ ชน ประกอบการ ครเู พลง เรยี นรู้ท่ี ครูภูมปิ ญั ญา
๒๙๔ ยุทธศาสตร์ แผนงาน/ แผนงาน/ รายละเอียด ผลลพั ธ์/ ผรู้ ับผดิ ชอบ/ ของกรม โครงการ โครงการ ผลผลิต ดาเนินงาน/ สง่ เสรมิ ของกรม ที่เสนอ ระยะเวลา วัฒนธรรม ส่งเสรมิ วฒั นธรรม พ้นื บา้ น การเรียนรู้ โดยเฉพาะ ถกู ตอ้ งและ สถาบันการ เพลงเกา่ ทเี่ ป็นมรดกหรอื ทันสมยั ศกึ ษา ชมรม -โครงการ สมบตั สิ ว่ นตวั ของครเู พลง ใชอ้ ้างองิ และ คณะเพลง ซง่ึ มจี านวนมาก รวมทั้ง เป็นหลกั ฐาน ฯลฯ สง่ เสริม ขอ้ มูลท่ีนักวชิ าการ ทางวชิ าการ ผู้เชย่ี วชาญ รวบรวมไวใ้ นตาราหรอื และ การผลิตสอ่ื การ งานวจิ ัยหรอื แถบเสยี ง ประวัติศาสตร์ แถบภาพที่ล้าสมยั ซง่ึ ยัง -เพลงพ้นื บา้ น ถ่ายทอด ไมไ่ ดน้ ามาใชป้ ระโยชน์ เกา่ ได้รบั การ ใดๆ สงวนรกั ษา ศลิ ป- และพัฒนาต่อ ยอด วัฒนธรรม ค่านยิ ม วิถีชวี ิต และความ เปน็ ไทย แผนงานที่เสนอมาดังกล่าวข้างต้นน้ีสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของกรมส่งเสริมวัฒนธรรมและ หลกั คิดในการส่งเสริมใหว้ ัฒนธรรมมีบทบาทสาคัญในการพัฒนาคนและพัฒนาประเทศ ว่าจาเป็นต้องพัฒนา อย่บู นรากฐานของตนเองและภูมปิ ญั ญาของชุมชนและสงั คม ซึ่งจะนาไปสกู่ ารพฒั นาท่ีสมดุลและย่งั ยนื ในระยะ ยาว โดยจะต้องมีการดาเนินงานในลักษณะท่ีเป็นองค์รวม คือการสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องและสร้าง ความเข้มแข็งให้ครอบครวั และชมุ ชน รวมทง้ั สนบั สนนุ ใหท้ ุกฝ่ายมสี ว่ นรว่ มในการทานบุ ารุงวัฒนธรรมอันดีงาม ทง้ั ในระดับชาติและระดับท้องถิ่น มีโลกทัศนท์ างวฒั นธรรมทกี่ วา้ งขวาง และรจู้ กั เลือกสรรไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการ พฒั นาตนเองและสังคมอยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม โครงการที่เสนอล้วนมุ่งส่งเสริมสนับสนุนกลุ่มผู้สืบทอดเพลงพื้นบ้านภาคกลางและชุมชนให้มี ความเขม้ แขง็ โดยสนับสนุนให้เกิดการสร้างสรรค์และการถ่ายทอดให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตปัจจุบัน มีเวทีของ การแสดงเพลงพื้นบ้านในรูปแบบท่ีหลากหลายและอยู่ในวิถีประเพณีท้องถิ่น ส่งเสริมให้ผลิตและใช้สื่อ สร้างสรรค์ท่ีมีคุณภาพในการถา่ ยทอดองค์ความรู้และเผยแพร่คุณค่าของเพลงพื้นบ้านภาคกลางสู่สาธารณชน และปลูกฝังค่านิยมอนั พงึ ประสงค์ตอ่ วฒั นธรรมไทย สนับสนุนให้มีกิจกรรมและเวทีแลกเปลี่ยนความคิดอย่าง สม่าเสมอ เพอื่ ใหเ้ กดิ โลกทศั น์ที่กว้างขวาง การยอมรับกนั และกัน การมสี ามัคคกี นั และรว่ มกันดาเนินงานอย่าง มีพลังและมีความสุข นอกจากนั้นยังสนับสนุนให้สร้างแหล่งเรียนรู้และกระบวนการเรียนรู้ ตลอดจนการใช้
๒๙๕ เพลงพ้ืนบ้านเป็นทุนทางวัฒนธรรม เพือ่ สง่ เสริมวฒั นธรรมการทอ่ งเทยี่ วและการพัฒนาประเทศด้านเศรษฐกิจ และสงั คม คณะผูว้ ิจัยไดแ้ สดงให้เห็นชัดเจนแล้วว่าสภาพปัจจุบันของเพลงพื้นบ้านภาคกลางมีความซบเซา ลงมาก อันเน่ืองมาจากปัจจัยการเปล่ียนแปลงวิถีชีวิตและวิกฤตค่านิยมไทย นโยบายและการดาเนินงานของ หน่วยงานรัฐและเอกชนไม่ท่ัวถึงและต่อเน่ือง ภาวะวิกฤตในด้านสังคม การเมืองและเศรษฐกิ จและภัย ธรรมชาติ การสงวนรกั ษาเพลงพื้นบา้ นจงึ ควรตระหนกั ถึงความสาคัญของศิลปินผู้สืบทอด การจัดการส่งเสริม สนับสนุนอย่างครบวงจร ดว้ ยวธิ กี ารอนั หลากหลาย สรา้ งสรรคแ์ ละพฒั นาเพลงพนื้ บา้ นให้เหมาะแกส่ งั คม และ ใช้ส่ือมวลชนเผยแพร่ผลงานสสู่ าธารณชนเพือ่ สรา้ งกระแสความนยิ มต่อลมหายใจเพลงพ้นื บ้านภาคกลางต่อไป
๒๙๗ สว่ นที่ ๒ กระบวนการมสี ่วนร่วมของชุมชน
๒๙๘ กระบวนการมีสว่ นร่วมของชุมชน “ชุมชน” ในงานวิจัยนคี้ ือ ประชาคมหรอื ผู้แทนกลุ่มชนท่ีสืบทอดเพลงพ้ืนบ้านภาคกลางในเขต ๓๕ จังหวัด รวมทั้งส้ินไม่ต่ากว่า ๗๐ คน ได้แก่ ครูเพลง ศิลปินแห่งชาติ ปราชญ์ชาวบ้าน ครูภูมิปัญญา ศิลปินพืน้ บา้ น ครูอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญในดา้ นการสรา้ งสรรคแ์ ละสบื ทอดเพลงพ้ืนบ้านภาคกลาง รวมท้ังคณะ เพลงพ้ืนบ้านอาชีพ และคณะเพลงพ้ืนบ้านเยาวชนหรือสถาบันการศึกษาท่ีสืบทอดมาจากครูเพลงพ้ืนบ้าน ตลอดจนผู้ส่งเสริมและสนับสนุนเพลงพ้ืนบ้านภาคกลางกลุ่มต่าง ๆ เช่น นักวิชาการ บุคคลท่ัวไปและ ส่ือมวลชน ส่วนท่ี ๒ ซง่ึ ว่าด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชนนี้ ผู้วิจัย แบ่งประเด็นน่าเสนอออกเป็น ๕ ประเด็น ได้แก่ รายละเอียดและการวิเคราะห์กระบวนการแต่ละล่าดับ การสังเกต/การบันทึกความ เปลี่ยนแปลงท่ีชุมชนเกิดจิตส่านึก การปรับกระบวนการให้ได้ตามเป้าหมาย ปัญหาและอุปสรรค และ ข้อเสนอแนะ รายละเอียดและการวเิ คราะหก์ ระบวนการแต่ละลาดบั ชุมชนมีส่วนร่วมในกระบวนการด่าเนินโครงการรวบรวมและจัดเก็บเพลงพ้ืนบ้านภาคกลาง ๓ ขัน้ ตอน ได้แก่ ข้ันวางแผนแบบมสี ว่ นร่วม ข้ันด่าเนินการ และขั้นตอนการตรวจสอบ ยืนยันและให้ฉันทา มติ ดังนี้ ๑. การวางแผนแบบมสี ่วนรว่ ม ๑.๑ การให้ข้อมูลเบ้ืองต้นเกี่ยวกับสถานภาพของเพลงพ้ืนบ้านภาคกลางในปัจจุบัน คณะผู้วิจัยได้ด่าเนินการส่ารวจข้อมูลเบ้ืองต้นโดยการปรึกษาครูนักวิชาการ สัมภาษณ์ครูศิลปินพ้ืนบ้าน ผู้ สง่ เสริมและผสู้ ืบทอด รวมทงั้ เอกสารต่าง ๆ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม - สิงหาคม ๒๕๕๖ ท่าให้ทราบแหล่งข้อมูล และกล่มุ เปา้ หมาย ท่าให้ก่าหนดกลุ่มเปา้ หมาย หรอื ชมุ ชนได้ ดงั ตารางการก่าหนดกลมุ่ ผู้แทนชุมชนท่ีแนบท้าย น้ี ( เอกสารแนบท้าย ๑ ) ๑.๒ การร่วมประชุม ครูเพลงและศิลปินพ้ืนบ้าน ผู้สืบทอด คณะด่าเนินโครงการและ อาจารยท์ ่ีปรกึ ษา รว่ มประชมุ เพื่อท่าความเขา้ ใจโครงการร่วมกัน ก่าหนดขั้นตอนการด่าเนินงาน การพิจารณา แผนปฏิบัติงานและการมอบหมายหน้าที่ความรับผิดชอบ จ่านวน ๒ คร้ัง ได้แก่ คร้ังที่ ๑ เม่ือวันที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๕๖ ณ ห้องประชุมคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ต่าบลศาลายา อ่าเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม และครั้งท่ี ๒ ประชุมคณะด่าเนินโครงการ เพื่อก่าหนดความเป็นชุมชนหรือประชาคม และ ช่องทางตดิ ตอ่ เม่อื วันที่ ๒๐ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๕๗ ณ รา้ น “ร่มไม้รมิ นา” ถนนพุทธมณฑลสาย ๕ ต่าบลศาลายา อ่าเภอพุทธมณฑล จงั หวดั นครปฐม
๒๙๙ ๒.ขัน้ ดาเนินการ ๒.๑ การสารวจและรวบรวมข้อมูลภาคสนามในพ้ืนที่ ๓๕ จังหวัด คณะผู้วิจัยได้ส่ารวจ และรวบรวมข้อมูลภาคสนามหรอื ลงพ้ืนทจี่ รงิ จา่ นวน ๒๙ ครงั้ ระหวา่ งเดอื นมีนาคม – กนั ยายน ๒๕๕๗ โดย ได้รับความร่วมมือจากชุมชนต่าง ๆ อย่างดี จากการส่ารวจข้อมูลภาคสนาม พบว่าหลายจังหวัดไม่มีคณะ เพลงพ้นื บ้านแล้ว เชน่ ราชบุรี เพชรบุรี สระบรุ ี ลพบรุ ี ฯลฯ เท่าที่รวบรวมได้ มีท้ังหมด ๔๘ คณะ ได้แก่ เพลง ฉ่อย มี ๘ คณะ เพลงทรงเครื่อง มี ๘ คณะ เพลงเรือ มี ๙ คณะ ล่าตัด มี ๑๑ คณะ และเพลงอีแซวมี ๑๒ คณะ ๒.๒ การเตรียมจัดทาค่าย “เพาะกล้าพันธ์ุเก่งเพลงพื้นบ้าน” คณะผู้วิจัยได้รับความ ร่วมมอื จากชุมชนในการจัดเตรียมคา่ ย ได้แก่ การประชมุ วางแผนปฏิบัติงาน การประสานงานกับผู้น่าชุมชน เชน่ ประธานสภาวฒั นธรรมจังหวัด ศูนย์วัฒนธรรมจังหวัด การจัดเตรียมสถานท่ีและอุปกรณ์ และการซ้อม พิธีการต่าง ๆ เป็นต้น ตัวอย่างเช่น ประชุมเตรียมงานค่ายเพาะกล้าพันธุ์เก่งเพลงพ้ืนบ้าน เม่ือวันท่ี ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๙.๐๐ – ๒๑.๐๐ น. ณ ศูนย์เรียนรู้เพลงพ้ืนบ้านแม่ขวัญจิต ศรีประจันต์ ต.สนาม ชยั อ.เมอื ง จ.สพุ รรณบุรี ที่ประชุมไดร้ ่วมกันพจิ ารณาแผนปฏบิ ัติงาน ( ดงั เอกสารแนบท้าย ๒ ) ตลอดจนการ จดั เตรียมวัสดุอุปกรณต์ ่าง ๆ ดังภาพตอ่ ไปน้ี ภาพที่ ๑๕๙ การประชมุ เตรยี มงาน พจิ ารณาแผนปฏบิ ตั งิ านและภาระหน้าทตี่ ่างๆ ภาพท่ี ๑๖๐ ชุมชนมสี ว่ นอนุเคราะหข์ ้อมูลในการจดั ทา่ เอกสารประกอบการเข้าคา่ ย และแผนปฏิบตั งิ าน
๓๐๐ ภาพที่ ๑๖๑ การเตรียมวัสดุอปุ กรณ์ เช่น ปา้ ยช่ืองาน บายศรี และปา้ ยต้อนรับ เป็นต้น ๒.๓ การดาเนินงานค่ายเพาะกล้าพันธุ์เก่งเพลงพ้ืนบ้าน ชุมชนมีส่วนร่วมในการ ด่าเนินงานคา่ ยฯ ทุกขัน้ ตอน ไดแ้ ก่ ๒.๓.๑ การมีส่วนร่วมเป็นเจ้าภาพและผู้สนับสนุนทุนด่าเนินงาน การด่าเนิน โครงการวิจัยครั้งน้ีได้รับทุนสนับสนุนการวิจัยจากกรมส่งเสริมวัฒนธรรมเป็นจ่านวน ๕๐๐,๐๐๐ บาท งบประมาณนี้ไมเ่ พยี งพอต่อการด่าเนินงานที่รวมภาระท้ังการวิจัยในพื้นที่ ๓๕ จังหวัดและการจัดค่ายอบรม เชิงปฏิบัติการ ๗ วัน ดังน้ันคณะผู้วิจัยและคณะกรรมการด่าเนินงานค่ายฯ จึงขอสนับสนุนจากบุคคลและ องค์กรต่าง ๆ เพ่ิมเติม ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากชุมชนต่างๆ อีกจ่านวนหน่ึง อาทิ แม่ขวัญจิต ศรีประจันต์ และครอบครวั นอกจากอนุญาตใหจ้ ัดงานท่บี ้านแล้วยังสนับสนุนด้านอาหาร บริการจัดรถรับส่งครูเพลงและ ศิลปนิ พ้นื บ้านในเขตสพุ รรณบุรี ประสานงานเครือขา่ ยผู้นา่ ชุมชน เช่น ประธานสภาจังหวัด วัฒนธรรมจังหวัด สโมสรโรตาร่ี ฯลฯ รวมท้ังอ่านวยความสะดวกต่างๆ และอนุเคราะห์ทุกอย่างตลอดเวลาของการเข้าค่ายฯ ชมรมรักษ์เพลงพ้ืนบ้านซึ่งได้รับการบริจาคทุนสนับสนุนจาก ปตท.สผ. ได้สนับสนุนทุนด่าเนินงานค่ายฯ จ่านวน ๙๖,๒๕๐ บาท นอกจากนี้ยังมีผู้สนับสนุนทุน อาหาร และสิ่งของต่างๆ อีกจ่านวนมาก เช่น กอง สง่ เสริมศลิ ปะและวฒั นธรรมมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยอนุเคราะห์เครื่องดนตรีและชุดการแสดง คณะศิลป ศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยมหดิ ลอนุเคราะห์หนังสือและวดี ิทศั นเ์ พอ่ื เป็นของท่ีระลึก และพาหนะการเดินทาง ฯลฯ และอ่ืนๆ รวมแล้วทง้ั สิ้น ๕๐ รายชื่อ ( ดังเอกสารแนบท้าย ๓ )
๓๐๑ ภาพท่ี ๑๖๒ แม่ขวัญจติ ศรปี ระจนั ต์อนุเคราะหส์ ถานท่แี ละดูแลเรอื่ งอาหาร ภาพที่ ๑๖๓ ป้ายรายนามผสู้ นบั สนนุ คา่ ยฯ และของท่รี ะลึกวิทยากร ภาพที่ ๑๖๔ ผ้แู ทนบรษิ ัท ปตท.สผ. กลา่ วแสดงความยนิ ดี และขอสนับสนนุ งบประมาณการจดั ค่ายเพาะกล้าฯ
๓๐๒ ภาพท่ี ๑๖๕ คุณพัลลภ ลิ่มสกลุ ในฐานะผ้สู นบั สนุนโครงการ กลา่ วให้ก่าลังใจแก่กล้าพนั ธ์ใุ หม่ทุกคน ภาพ ๑๖๖ เจา้ อาวาส ๔ วัดและชาวบ้านชมุ ชนใกลเ้ คยี งเป็นเจ้าภาพเลีย้ งอาหารกลางวนั ผู้เข้าคา่ ย ปาฐกถาธรรม และกลา่ วชมเชยผสู้ บื ทอดเพลงพนื้ บ้านซึง่ เป็นวฒั นธรรมของชาติ
๓๐๓ ภาพท่ี ๑๖๗ สมหญิง ศรปี ระจนั ต์ รบั การสนับสนนุ จากชาวชุมชนในเขตจังหวัดสพุ รรณบรุ แี ละใกลเ้ คยี ง - ภาพท่ี ๑๖๘ อาหารท่ชี ุมชนน่ามาสนบั สนนุ ค่ายฯ ภาพที่ ๑๖๙ ขนมและผลไม้ ท่ีได้รบั การสนบั สนนุ จากชุมชน
๓๐๔ ภาพที่ ๑๗๐ การสนับสนุนทนุ ในการด่าเนินงานค่ายฯ ๒.๓.๒ การมสี ่วนร่วมเป็นคณะกรรมการด่าเนนิ โครงการค่ายฯ คณะผู้วิจัยได้รับความ ร่วมมอื จากคณะบคุ คลต่าง ๆ จากทัว่ ประเทศมาร่วมเปน็ คณะกรรมการดา่ เนินงานค่ายนี้ ได้แก่ สมาชิกชมรม รกั ษเ์ พลงพน้ื บ้าน มาเปน็ คณะกรรมการดา่ เนินงาน เยาวชนค่ายเพาะกล้าพันธุ์เก่งเพลงพ้ืนบ้าน รุ่น ๑ และ รุน่ ๒ เปน็ คณะกรรมการฝ่ายพ่ีเลี้ยง ฝา่ ยวิชาการ ฝ่ายสวัสดิการ ฝ่ายอาหารและสถานท่ี ร่วมวางแผนและ ด่าเนนิ กิจกรรมตา่ งๆ เช่น จัดพิธีบายศรีสู่ขวัญ พิธีไหว้ครู พิธีลาครูลาค่าย กิจกรรมสันทนาการ เป็นพ่ีเล้ียง ประจา่ กลมุ่ แต่งหนา้ ทา่ ผมและแตง่ ชุดแสดง ชว่ ยสอนการรา่ และแนะน่าขอ้ ปฏิบัตติ ่างๆ เปน็ ตน้ ภาพ ๑๗๑ อาจารยท์ ป่ี รึกษาและคณะผู้วิจัย ภาพที่ ๑๗๒ ครูพี่เลี้ยงและนักศกึ ษาพเี่ ล้ียง
๓๐๕ ภาพที่ ๑๗๓ การทา่ งานดา้ นสวัสดิการของพี่เลยี้ ง และการบรหิ ารจดั การให้ผเู้ ขา้ คา่ ยมสี ว่ นรับผดิ ชอบ - ภาพที่ ๑๗๔ บทบาทของพเี่ ลี้ยงในกิจกรรมสนั ทนาการและการฝึกอบรม
๓๐๖ ภาพท่ี ๑๗๕ การกรอกแบบสัมภาษณแ์ ละแบบประเมนิ ผลของพี่เลย้ี ง ภาพที่ ๑๗๖ คณะกรรมการฝ่ายวชิ าการ รบั ผิดชอบเรอ่ื งเอกสาร การรายงานและการสรปุ ผล ภาพที่ ๑๗๗ คณะกรรมการฝ่ายลงทะเบียน ท่มี า: วนั ทนา ชัยปลาทอง ๒.๓.๓ การคัดกรองผู้เข้าค่าย คณะผวู้ ิจัยได้ชแี้ จงวตั ถปุ ระสงค์และรายละเอียดของ โครงการแก่ชุมชนผ่านเครือข่ายศิลปนิ แห่งชาติ ศิลปนิ พนื้ บา้ น กลุ่มรกั ษเ์ พลงพ้ืนบ้าน คณะเพลงพื้นบ้านภาค กลาง และสอื่ มวลชนต่าง ๆ ครเู พลงและหวั หนา้ คณะเปน็ ผ้คู ัดเลือกผู้สบื สานมาเข้าคา่ ย ผูแ้ ทนกลุ่มชุมชนหรือ ประชาคมในเขตภาคกลาง ๓๕ จังหวัด จังหวัดละ ๒ คน รวม ๗๐ คน อย่างไรก็ตามจากการส่ารวจข้อมูล
๓๐๗ พบว่าบางจังหวัดไม่มีชุมชนผู้สืบทอดเพลงแล้ว ผู้วิจัยจึงได้ด่าเนินการรับสมัครและคัดกรองผู้แทนชุมชนใน เขตพื้นที่ที่มีความสนใจโดยรับสมัครผ่านเครือข่าย และผ่านเว็บไซต์ จนครบจ่านวน ๗๐ คน ( ดัง เอกสารแนบท้าย ๔ ) ๒.๓.๔ การร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของค่ายฯ เช่น การร่วมพิธีเปิดโครงการ พิธีไหว้ครู พธิ ีบายศรสี ู่ขวญั และพิธีลาคา่ ยลาครู เป็นต้น ดังภาพตอ่ ไปน้ี ภาพท่ี ๑๗๘ การมสี ว่ นรว่ มของชุมชนในพธิ เี ปิดค่าย ทม่ี า : วนั ทนา ชัยปลาทอง ภาพที่ ๑๗๙ การร่วมพิธีเปดิ โครงการ ซง่ึ ผ้อู า่ นวยการสถาบันวัฒนธรรมศึกษาให้เกยี รติเปน็ ประธานในพธิ ี
๓๐๘ ภาพท่ี ๑๘๐ ข่าวคา่ ยเพาะกล้าพันธ์ุเก่งเพลงพ้นื บ้าน “รวมพลงั อนุรักษภ์ มู ิปญั ญา” ทีม่ า : หนังงสือพิมพ์เดลนิ วิ ส์ ฉบบั ประจา่ วันท่ี ๓๑ สงิ หาคม ๒๕๕๗
๓๐๙ ภาพท่ี ๑๘๑ ขา่ วภาษาองั กฤษเก่ยี วกับค่ายเพาะกลา้ พันธุ์เก่งเพลงพื้นบา้ น ท่มี า : หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ ฉบบั ประจา่ วันที่ ๕ สงิ หาคม ๒๕๕๗ ภาพที่ ๑๘๒ คุณคมสนั ต์ สทุ น อดตี พธิ ีกรรายการไทยโชว์ สถานีโทรทศั น์ไทยพีบีเอส ( ซ่ึงเคยเปน็ เจ้าภาพรว่ มจัดค่ายเพาะ กลา้ ฯ รุน่ ๑ และ ๒ ) มาเยย่ี มค่าย พูดคยุ กับนอ้ งๆ และมอบพระเครอ่ื งใหแ้ กท่ ุกคนเพ่ือเปน็ ขวัญและก่าลังใจ ( ใหแ้ มข่ วัญจติ มอบในพธิ ีลาครูลาค่าย ) ๓. ขน้ั ตอนการตรวจสอบ ยนื ยันและให้ฉันทามติ ชมุ ชนเขา้ รว่ มเวทีเสวนา หัวขอ้ “ แนวคิดและแนวทางในการปกป้องคุ้มครองเพลงพื้นบ้าน ภาคกลางในฐานะมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของไทย” และร่วมประชุมเพ่ือตรวจสอบ ยืนยันและให้ ฉนั ทามติต่อการเสนอขึ้นทะเบยี นเพลงพ้ืนบา้ นภาคกลางเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติและของ โลก เมือ่ วันท่ี ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๗
๓๑๐ ภาพที่ ๑๘๓ คณะผู้วิจัยแจกเอกสารประกอบการเสวนาและเอกสารการยนื ยันใหแ้ ก่ผเู้ ข้ารว่ มประชุม ภาพที่ ๑๘๔ ผศ.ดร. อภิลกั ษณ์ เกษมผลกลู ดา่ เนินการเสวนา ภาพท่ี ๑๘๕ การร่วมเสวนาของบคุ คลตา่ ง ๆ ภาพท่ี ๑๘๖ การลงนามในเอกสารยนื ยันและการลงฉนั ทามติของผูร้ ว่ มประชมุ
๓๑๑ การสังเกต/การบนั ทกึ ความเปล่ียนแปลงทีช่ มุ ชนเกดิ จติ สานึก จากการสังเกตกระบวนการถ่ายทอดของครูเพลง และสัมภาษณ์ผู้รับการถ่ายทอด ซึ่งได้แก่ ผู้สืบ ทอดเพลงในแตล่ ะคณะ และเยาวชนผ้สู นใจ ท้ังทีม่ คี วามสามารถในการแสดงเพลงพ้ืนบ้านและไม่มีทักษะและ ประสบการณก์ ารแสดงเลย ผลปรากฏว่ากระบวนการถ่ายทอดเริ่มจากการจัดสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ต่างๆ อย่างเหมาะสม ได้แก่ การเชิญครูเพลงแต่ละชนิดซึ่งเป็นผู้แทนในเขตพ้ืนท่ีต่าง ๆ มาสอนพร้อมกัน เช่น ครู เพลงฉอ่ ยมาสอนวันท่ี ๑๕ –๑๖ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ครูเพลงทรงเครื่อง สอนวันที่ ๑๖-๑๗ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ครูเพลงอีแซว สอนวนั ที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ครูเพลงล่าตัด สอนวันที่ ๑๙ - ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๕๗ การจัด สถานท่ี เคร่ืองแตง่ กายและอปุ กรณ์ เช่น การจัดพน้ื ท่ใี หโ้ ล่ง ปูเสือ่ บนพืน้ การน่งุ ผ้าโจงกระเบน การสวมใส่ชุด การแสดงตามบทบาทของตัวละคร การวางแผนและก่าหนดรูปแบบการเรียนการสอน วิธีสอนและกิจกรรม เช่น การฟังบรรยายประกอบการสาธติ เพลงพ้นื บ้านแตล่ ะชนดิ การแบง่ กลุม่ ยอ่ ยฝกึ หัดเพลงกบั ครอู ยา่ งใกล้ชิด การแบ่งกลุ่มย่อยตามเพศของครู อาทิ ฝ่ายชายเรียนกับครูผู้ชาย การแบ่งกลุ่มย่อยสัมภาษณ์ประวัติครูแล้ว ออกมานา่ เสนอในทปี่ ระชุม พรอ้ มแสดงเพลงทค่ี รูสอนดว้ ย เปน็ ต้น ขั้นตอนการสอนของครูเริ่มจากการสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ศิษย์ด้วยการกล่าวแนะน่าตัวหรือเล่า เรอ่ื งราวประวัติความเปน็ มาอย่างกันเอง แลว้ สาธิตการรอ้ งและการแสดง ได้แก่ การไหว้ครู การร้องเพลงออก ตัว แต่งตัว การร้องบทประและบทลา ทั้งแบบร้องเด่ียวและการแสดงเป็นกลุ่ม มีการโต้ตอบกันอย่าง สนกุ สนาน เพ่อื ใหด้ เู ป็นตวั อย่างและสร้างความประทบั ใจดว้ ย แล้วแบ่งกลุ่มผเู้ รียนเป็นกลุ่มย่อย ประมาณ ๑๐ – ๑๕ คน มีท้ังฝ่ายชายและฝ่ายหญิง แยกกันน่ังฝึกหัดกับครูซ่ึงมีทั้งครูชายและครูหญิง ครูจะให้เน้ือร้อง ทั้ง บอกให้จด เช่น ครูจา่ รัส อยู่สุข และน่าเน้ือเพลงที่พิมพ์หรือถ่ายส่าเนามาแจกให้ศิษย์ เช่น ครูศรีนวล ข่าอาจ และครูสา่ เนยี ง ชาวปลายนา เปน็ ต้น จากนั้นจะสอนร้องตามจังหวะทา่ นองเพลงตามล่าดับ ได้แก่ การข้ึนเพลง การรอ้ งเน้ือเพลง การลงและการรับเพลง โดยให้ร้องพร้อมกันในลักษณะการร้องหมู่ เมื่อคล่องแล้วก็จะแบ่ง เนอ้ื เพลงใหผ้ ้เู รียนคนละท่อน แลว้ ให้ฝกึ รอ้ งทอ่ นนั้นให้คล่อง เป็นการฝึกทีละคนหรือฝึกเฉพาะคน เมื่อร้องได้ ทกุ คนแลว้ กใ็ หย้ ืนร้องและฝึกลีลาท่าทาง เช่น การร่ายร่าและการท่าท่าประกอบ สุดท้ายก็ฝึกการเจรจาและ มกุ ตลกตา่ งๆ เสริมใหส้ นกุ สนานยิง่ ขึน้ ภาพท่ี ๑๘๗ ครูเพลงและศลิ ปินพ้ืนบา้ นสพุ รรณบรุ ีสาธติ การรอ้ งเพลงอแี ซวบทไหว้ครู ทมี่ า : บัวผนั สุพรรณยศและคณะ
๓๑๒ ภาพที่ ๑๘๘ ครขู วัญจิต ศรีประจันตเ์ ริ่มสอนโดยการแนะน่าตัวและสาธิตการร้องการรา่ เปน็ ตวั อย่าง ที่มา : บวั ผนั สพุ รรณยศและคณะ ภาพท่ี ๑๘๙ การสาธติ การแสดงเพลงฉอ่ ยของครสู ายเหนือ ครสู ุพรรณและครสู ิงห์บรุ ี ทม่ี า : บวั ผนั สพุ รรณยศและคณะ ตัวอย่างท่ี ๑ การถ่ายทอดเพลงทรงเครื่อง ของครูขวัญจิต ศรีประจันต์ เมื่อวันที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๓.๓๐ – ๑๖.๓๐ น. และวันท่ี ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๕๗ เวลา ๙.๐๐ – ๑๗.๐๐ น. ณ ศูนย์ เรียนรเู้ พลงพ้ืนบ้านแม่ขวญั จิต ศรปี ระจนั ต์ ตา่ บลสนามชยั อา่ เภอเมือง จงั หวดั สพุ รรณบรุ ี บคุ คลท่เี กี่ยวขอ้ ง ผูเ้ ข้าร่วมกจิ กรรม จ่านวน ๙๖ คน ได้แก่ ๑. ครูเพลงผ้ถู า่ ยทอด คือ นางเกลยี ว เสรจ็ กิจ ( แม่ขวัญจติ ศรีประจนั ต์ )
๓๑๓ ๒. ครูเพลงสายสุพรรณ จ่านวน ๔ คน ได้แก่ นายสุจินต์ ชาวบางงาม นายบรรจง ทับวิเศษ นางสา่ เนยี ง ชาวปลายนาและนางสมบตั ิ รามแสง ๓. ผู้สืบทอด จ่านวน ๒๑ คน เช่น นางวรรณา แก้วกว้าง นายอนันต์ สุขศรี นางศรีอัมพร ประทมุ นันท์ นางสดุ ารัตน์ ชิณณะพงศ์ นายพิสจู น์ ใจเที่ยงกุล นางสุวรรณา แจ่มจิตต์และนายสิทธิพงค์ พรหม รส เปน็ ตน้ ๔. ครูพ่เี ล้ียง ได้แก่ นาวาอากาศโทสมบตั ิ สมศรีพลอย ผู้ช่วยศาสตราจารยโ์ อฬาร รัตนภกั ดี ๕. พ่ีเล้ยี ง จา่ นวน ๑๕ คน เช่น นายกติ ตพิ งษ์ อนิ ทรศั มี นางสาวจิราภรณ์ บุญจันทร์ และนายธวัชชัย เกตุเสาะ เป็นตน้ ๖. เยาวชนกล้าพันธเ์ุ ก่งเพลงพ้ืนบ้าน รนุ่ ท่ี ๓ จ่านวน ๓๒ คน ๗. ทีป่ รึกษาโครงการ จ่านวน ๑ คน ได้แก่ นางเกลยี ว เสรจ็ กิจ ๘. คณะผู้วจิ ัย คณะกรรมการดา่ เนนิ โครงการ ชาวชุมชนและผู้สนใจ ประมาณ ๑๕ คน กจิ กรรม ๑. วันที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๕๗ พิธีกรกล่าวเชิญครูขวัญจิตและชาวคณะสอนร้องและแสดงเพลง ทรงเครอ่ื ง ๒. ครูขวัญจิตสอนดว้ ยวธิ ีเลา่ สใู่ ห้ฟงั อยา่ งกนั เอง คา่ สอนของครู เช่น “ ร้องตามลีลาอารมณ์ ..ดูทาง เล่น.. ทางตลก เล่นให้สมบทบาท เช่น สายยูกับสายทอง เราต้องเล่นให้สนุก อย่างเล่นว่า คนอ่ืน ๆ ก็ร้องได้ เดี๋ยวฉันรอ้ งบา้ ง หรอื บางทีก็เล่น “ว่ากนั ” “ทกั กัน” หรือ “ขัดกัน” สายยูร้องซ่้าไปซ่้ามา สายทองก็ต้องขัด.. ทั้งพูด ท้ังตีหรือถีบ..” “ เวลาลงเพลงฉ่อยให้ร้องซ่้าวรรคก่อนสุดท้ายแล้วขึ้นเสียงสูง” “ออกเสียงหวนตาม อารมณ์” “จะลงเพลงตอ้ งทอดทา่ นอง เช่น โอพ้ อ่ ดนิ สอพอง..ของน้องแป้งผง...” ๓. นอกจากนั้นครูยังแสดงสาธิตให้ดูลีลาการร้องการร่าและท่าท่าทางประกอบอย่างจริงจัง ต้ังใจ และสมบทบาทมาก เช่น ครูขวัญจิต แสดงเป็นสายทอง ก็ร้องเล่นอย่างสมบทบาท ทั้งสนุกทั้งยั่วเย้า แม่ ส่าเนียงแสดงเป็นวันทอง ก็ร้องและแสดงอย่างตีบทแตก เช่น ร้องไห้จริง ๆ ครูขวัญจิตยังให้พี่เล้ียงที่มีความ ชา่ นาญมาช่วยแสดงเป็นตัวประกอบดว้ ยท่าให้เยาวชนกล้าพนั ธ์ใุ หม่รสู้ กึ สนุกสนานและประทับใจมากย่ิงขึน้ ๔. หลังจากน้ันพี่เลี้ยงก็แบ่งกลุ่มน้องเป็น ๓ กลุ่ม ให้ผู้แทนออกมาจับสลากเร่ืองที่จะแสดง ได้แก่ กลุ่ม ๑ ได้เรื่องขุนช้างขุนแผน ฉากเมืองเชียงทอง กลุ่ม ๒ ได้เร่ืองขุนช้างขุนแผน ฉากเมืองสุพรรณบุรี และ กลมุ่ ๓ ได้เรื่องพระอภยั มณี ตอนผเี ส้ือสมทุ รลักพระอภัยมณี พ่ีเลี้ยงแจกบทให้ แต่ละกลุ่มจะฝึกร้องพร้อมกัน และรวมกัน เมื่อก่าหนดผู้แสดงแล้ว ก็จะฝึกร้องทีละคน จนหมดเวลา จึงปล่อยให้ไปฝึกหัดเองตามอัธยาศัย โดยมคี รพู ่ีเลยี้ งและพ่ีเล้ยี งประจ่ากลุม่ ดแู ลให้คา่ แนะนา่ เพมิ่ เตมิ เช่น ท่าร่า มกุ ตลก เปน็ ตน้ ๕. เด็กหลายคนจะมาขอใหค้ รขู วญั จิตสอนรอ้ ง กลวธิ กี ารสอนของครู จะพิจารณาว่าศิษย์ที่จะร้องมี ลกั ษณะของเสียงอยา่ งไร ครจู ะตั้งเสียงกอ่ น เช่น “ เอย...แบบน้ีสูงไปไหม หรือต่าไปไหม” แล้วร้องเอื้อน ข้ึน เพลง และร้องเนื้อเพลงให้ฟัง รวมทั้งการรับของลูกคู่ด้วย แล้วให้ลูกศิษย์ร้องให้ฟัง แสดงให้ดู ขณะสอนก็จะ
๓๑๔ อธิบายอยา่ งนมุ่ นวลออ่ นโยน ใจเย็น มเี มตตา เชน่ “ เวลาทะเลาะกนั บางทไี มท่ นั ร้องรับ เราร้องซ้อนขึ้นไปเลย ไม่รอ “หนอยแม่”แล้ว เราโกรธ ก็ไมน่ ิ่มนวล ร้องทับไปเลย” เม่ือลูกศิษย์ท่าได้แล้วก็สอนเคล็ดลับการร้องขั้น สูงตอ่ ไปใหอ้ กี บางคนไมเ่ ข้าใจหรอื ต้ังค่าถามครกู จ็ ะตอบจะอธบิ ายซ้า่ อีกครั้ง ๖. ครูขวัญจิตมีความสามารถพิเศษที่ปรากฏชัดเจน ได้แก่ การปรับแก้เนื้อร้อง หรือแต่งเน้ือร้อง เพิม่ เติมเพอื่ ใหเ้ หมาะแก่บทบาทของตัวละคร เหมาะแกก่ ารรอ้ งการรบั และเหมาะแก่ลักษณะเฉพาะของผู้ร้อง เชน่ บทรอ้ งของสายทอง ท่ีเดมิ จ่ากันวา่ “ จวนจะแจง้ แสงทองตะวันสาย” ครูขอให้แก้ใหม่เป็น “ จวนจะแจ้ง แสงทองอโณทัย” เพราะคา่ ลง “สาย” มีเสยี งวรรณยุกต์จัตวา ไม่เหมาะจะร้องลงเพลง อโณทัย มีเสียงสามัญ ลงแล้วฟังเพราะกว่า และครูเพลงเก่าๆ บางท่านก็ร้อง “อโณทัย” เราเอาอโณทัยดีกว่า” หรือบทร้องของ พราหมณ์วิชิต ซ่ึงเป็นตัวละครตลกที่สร้างขึ้นใหม่เนื่องจากผู้แสดงมีจ่านวนมากกว่าตัวละคร อาจารย์สมบัติ สมศรพี ลอย ครพู ่ีเลีย้ งประจา่ กลมุ่ จงึ ไดแ้ ต่งบทรอ้ งใหว้ า่ ขา้ น้มี ีนามพราหมณ์วชิ ติ มอี ทิ ธฤิ ทธดิ์ า่ น้่านาน สบิ วนั สิบคืนโผล่ขน้ึ มา จบั หอยจับปลาเลยี้ งบรวิ าร เอช่ า.. เมอื่ ผู้แสดง “น้องภูมิ” มาฝึกร้องกับครขู วัญจติ ท่านอ่านเนอื้ เพลงแลว้ ปรับใหท้ ันทีวา่ “ ข้านม้ี นี ามพราหมณ์วิชิต มีอิทธฤิ ทธ์ิด่าน้่านาน สิบวันสิบคืนโผล่ขน้ึ มา จบั หอยจับปลาเล้ยี งบรวิ าร เออ่ ..ดา่ น่า้ สิบวันสิบคนื ก็นา่ จะตายแลว้ นะ เอายงั งไี้ หม.. สิบวนั สิบคนื โผลข่ น้ึ ไม่ได้ ไมร่ ู้วา่ เป็นหรอื ตายเหมือนกัน ( หวั เราะ )” ๗. วันท่ี ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ช่วงเช้าเป็นการแบ่งกลุ่มฝึกซ้อม ทั้งซ้อมร้อง ซ้อมการแสดง และ ซอ้ มแสดงกับเครื่องดนตรีปี่พาทย์ แล้วพักรับประทานอาหารว่างและแต่งตัวแต่งหน้า ช่วงบ่ายเป็นการแสดง ของผู้รับการอบรม แต่ละกลุ่มก่อนแสดงจะมานั่งกราบขอพรจากครู เมื่อแสดงแล้วก็มาน่ังฟังค่าแนะน่าและ กราบขอบพระคณุ อีกครงั้ ๘. ครูขวัญจิต กล่าวชมเชยและให้ก่าลังใจแก่ศิษย์ทุกคนทุกกลุ่ม แล้วกล่าวแนะน่าเพิ่มเติม เช่น “ เอาล่ะเลน่ ไดด้ ีทกุ คนนะ พวกหนูฝึกไม่ก่ีช่วั โมงกเ็ ลน่ ได้แลว้ สมยั แม่ฝกึ ตง้ั นาน... สายทองตอนข้นึ ไปหาแมพ่ มิ ที่ รอ้ งว่า “แก้วกระจายของพิมชายพก...” ตอ้ งเล่นเสยี งให้สนุก ท่าเสยี งท่าท่ากระชดกระช้อย แม่คนน้ีเป็นแม่ส่ือ ใหน้ ่ี จรงิ ๆ แล้ว กซ็ ัดพลายแกว้ ไปดว้ ย คือเปน็ ผวั นอ้ งผัวพ่ี..แม่ผันเล่นตัวนี้ ตลกมาก สมัยก่อนเล่นยาว มีตอน พลายแก้วเข้าหาสายทองด้วย แม่แกเข้าใจเล่น...ตอนโศกต้องร้องเสียงหน่วงๆ เวลาลงเพลงอีแซวโศกก็ต้อง หน่วง ไอท้ อ่ นท้ายนี่ระนาดจะรบั สวมเราแล้ว..เวลาทะเลาะกันไม่หวาน ไม่ต้องโอละหน่ายแล้ว ...ค่าร้องวรรค ใดคา่ ไมพ่ อกต็ ้องเตมิ เชน่ แลว้ ก็ ...แสนค่าแมน ต้องกระตุกเสียงให้กระช้ันๆ สนุกๆ เช่น กะปิกะปูด... คือเล่น ลิ้นแหละ..พลายแกว้ ตอนปูผ้า..ก็ไมห่ วานละ่ นะ โกรธ ...สว่ นพระอภัยมณี ต้องระวังค่าสัมผัสในมาก ...มุกตลก
๓๑๕ เสรมิ ได้ เช่น ปี่ทบั แหวน....ตัวตลกต้องท่าเสยี งใหก้ ระชดกระชอ้ นตามตัวละครเอก ...” ตอนท้ายสุดครูขวัญจิต ย้่าวา่ “ ตอ้ งทา่ ตามปู่ยา่ ตายายนะลกู รวมกนั พ่ี ๆ น้อง ๆ เล่นกนั นะลูก” ข้อสังเกตอื่นๆ ๑. สถานที่ในการอบรม เป็นโรงเรือนช้ันเดียว หลังคากระเบ้ือง พื้นปูน ไม่มีผนัง ขนาดกว้าง ๑๐ เมตร ยาว ๓๒ เมตร ดา้ นทิศใต้และตะวันตกของอาคารมีต้นไม้ใหญ่เล็กร่มร่ืน อาคารวางตามทิศตะวันออกสู่ ตะวนั ตกรับลมได้ดี แตเ่ นือ่ งจากระยะเวลาการจดั ค่ายฯ เป็นฤดูฝน แม่ขวัญจิตจึงเช่าเต็นท์ช่ัวคราว จ่านวน ๔ หลัง ตั้งวางไว้ทางด้านหน้าของอาคาร ( ทิศเหนือ ) เพ่ือป้องกันแสงแดดและน้่าฝนด้วย ช่วงที่อบรมอากาศ ค่อนข้างร้อนอบอ้าว ผู้จัดได้เปิดพัดลมตั้งพ้ืนขนาดใหญ่ กลางและเล็ก ๑๐ เคร่ือง รอบบริเวณเพ่ือบรรเทา ความร้อน นอกจากนั้นยังจัดวางกระถางไม้ประดับไว้ด้วย ท่าให้ลดความร้อนลงได้มาก สถานท่ีจึงดูสวยงาม และเหมาะแก่การอบรมเพลงพนื้ บา้ น ๒. การจดั สถานท่ี เวทอี ยู่ด้านทิศตะวันตก ติดป้ายชื่องาน ขนาดกว้าง ๕ เมตร สูง ๒.๕ เมตร สีสัน สดใส ตั้งโต๊ะปูผ้าขาวด้านซ้ายของเวทีเพื่อต้ังวางเศียรครู เคร่ืองบูชาครู ในพิธีไหว้ครู วางบายศรีและเครื่อง บชู าในพิธบี ายศรีสู่ขวัญ วางเคร่ืองดนตรี เชน่ ตะโพน ในช่วงการอบรม จัดชุดเก้าอ้ีไม้เรียงไว้ด้านหน้าของป้าย งานหันหน้าออกสู่ที่ประชุมส่าหรับประธานในพิธีและครูเพลงท้ังหลาย ปูพรมและเส่ือทั่วห้องประชุมส่าหรับ ศษิ ยน์ ่ังอบรม จดั เก้าอ้นี ัง่ วางเรยี ง ๕ แถวด้านหลงั หอ้ งประชุมส่าหรับครูพี่เล้ียง ชาวชุมชนและผู้สนใจ จัดโต๊ะ ลงทะเบยี นและโต๊ะทา่ งานด้านหลังห้องประชุมส่าหรับคณะผู้วิจัยและคณะกรรมการด่าเนินโครงการ จัดโต๊ะ และเก้าอ้ีรับประทานอาหาร ๕ ชุด วางเรียงในเต็นท์ด้านหน้าอาคาร ส่าหรับครูเพลงและผู้มีเกียรติท้ังหลาย จดั โต๊ะและตง่ั ไม้ส่าหรบั วางอาหารและน่้าด่ืมในเต็นท์ด้านหน้า สถานที่จึงเหมาะสมและสะดวกแก่การด่าเนิน กจิ กรรม ต่าง ๆ ทกุ ขนั้ ตอน ๓. ผ้อู บรมแตง่ หน้าทา่ ผมและแต่งกายชุดแสดงตามบทบาทท่ีได้รับ ซ่ึงมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย สนับสนุน สว่ นพี่เลีย้ งซงึ่ เปน็ นักศึกษามหาวิทยาลัยหอการค้าไทยและเยาวชนเพาะกล้าพันธุ์เก่งเพลงพ้ืนบ้าน รุน่ ที่ ๑ และ ๒ จากทวั่ ประเทศจะสวมเส้ือยืดและผา้ โจงกระเบนสีตา่ ง ๆ เช่นกัน การแต่งกายดงั กลา่ วนอกจาก เพ่ิมบรรยากาศความเป็นไทยในการอบรมได้อย่างดี และยังสร้างความรักความสามัคคีในกลุ่มแล้ว ยังสร้าง ความสมจริงให้แก่การแสดง และสร้างความประทับใจให้แก่ผู้แสดงและผู้ชมด้วย เด็กทุกคนถ่ายภาพ หลากหลายลลี าไวเ้ ปน็ ท่ีระลกึ ๔. เนือ่ งจากเพลงทรงเคร่ืองมลี ักษณะผสมผสานระหวา่ งการแสดงละครพื้นบ้านกับเพลงพื้นบ้าน มี องค์ประกอบของการแต่งองค์ทรงเคร่ือง การใช้ดนตรีปี่พาทย์ ผู้แสดงร้องตามบทและสามารถด้นหรือ สรา้ งสรรค์มกุ ตลก และอน่ื ๆ ได้อย่างอิสระ อกี ท้งั ผู้อบรมท้งั หลายกเ็ ริม่ ร้สู ึกคนุ้ เคยกนั มากข้นึ นกั แสดงกล้าพันธ์ุ ใหม่เกือบทุกคนจึงสามารถแสดงได้ดี สร้างความประทับใจแก่ครูเพลง ครูพี่เลี้ยง พี่เล้ียงและผู้สนใจ จนได้ รบั คา่ ชมอยา่ งมาก แต่ละคนจงึ ดมู คี วามสุข มคี วามภูมใิ จและมนั่ ใจมากข้ึน
๓๑๖ ภาพที่ ๑๙๐ ครูขวญั จิต ศรีประจนั ตแ์ ละคณะสาธติ การแสดงเพลงทรงเครอ่ื ง ที่มา : บัวผัน สพุ รรณยศและคณะ ภาพท่ี ๑๙๑ การฝกึ ซอ้ มและการแสดงผลงานการฝึกอบรมเพลงทรงเครอื่ ง ที่มา : บวั ผนั สพุ รรณยศและคณะ ภาพท่ี ๑๙๒ การกราบขอบพระคณุ ครแู ละฟังค่าแนะน่าหลังจากแสดงเสร็จแล้ว ท่ีมา : บัวผัน สพุ รรณยศและคณะ
๓๑๗ ตวั อย่างท่ี ๒ การถ่ายทอดเพลงเรอื สงิ หบ์ รุ ี ของครูจ่ารัส อยู่สุข เมื่อวันที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๕.๓๐ – ๑๖.๓๐ น. บคุ คลที่เก่ียวข้อง ผู้เขา้ รว่ มกิจกรรม จา่ นวน ๙๖ คน ได้แก่ ๑. ครูเพลงผูถ้ า่ ยทอด คือ นางจ่ารสั อย่สู ขุ อาจารยพ์ เิ ศษวิทยาลัยนาฏศิลป์อ่างทอง ๒. ครเู พลงสายสุพรรณ จ่านวน ๕ คน ไดแ้ ก่ นางล่าจวน เกษมสุข นายสจุ นิ ต์ ชาวบางงาม นาย บรรจง ทบั วิเศษ นางวิภาวรรณ เทียนแจ่มและนางสา่ เนียง ชาวปลายนา ๓. ผูส้ ืบทอด จ่านวน ๒๑ คน เชน่ นางวรรณา แกว้ กว้าง นายอนันต์ สขุ ศรี นางศรีอัมพร ประทุมนันท์ นางสุดารัตน์ ชณิ ณะพงศ์ นายพิสูจน์ ใจเท่ียงกุล นางสวุ รรณา แจ่มจิตต์และนายสิทธพิ งค์ พรหม รส เป็นต้น ๔. ครูพเี่ ลี้ยง ไดแ้ ก่ นาวาอากาศโทสมบัติ สมศรพี ลอย ผูช้ ว่ ยศาสตราจารย์โอฬาร รัตนภักดี ๕. พ่ีเล้ยี ง จ่านวน ๑๕ คน เชน่ นายกติ ติพงษ์ อินทรัศมี นางสาวจิราภรณ์ บุญจนั ทร์ และนายธวชั ชัย เกตุเสาะ เปน็ ตน้ ๖. เยาวชนกล้าพนั ธเ์ุ ก่งเพลงพืน้ บา้ น ร่นุ ท่ี ๓ จ่านวน ๓๒ คน ๗. ทีป่ รกึ ษาโครงการ จ่านวน ๒ คน ได้แก่ นางเกลียว เสรจ็ กจิ ( ขวญั จิต ศรีประจนั ต์ ) และรอง ศาสตราจารยส์ ุกญั ญา สุจฉายา ๘. คณะผ้วู จิ ยั คณะกรรมการดา่ เนนิ โครงการ ชาวชุมชนและผ้สู นใจ ประมาณ ๒๒ คน
๓๑๘ กิจกรรม ๑. ครูพเ่ี ลีย้ งท่าหนา้ ทพ่ี ิธกี รกล่าวแนะน่าครูจ่ารสั อยู่สุข อ.วรรณา แก้วกว้าง ลูกศิษย์ผู้สืบทอดจาก ครูจ่ารัสกลา่ วแนะน่าประวตั ิเพิม่ เตมิ วา่ ครูมีฉายาว่า “แม่แจ่ม อินทร์บุรี” สืบทอดเพลงเรือสายสิงห์บุรีมาจาก ครเู พลงรุ่นเกา่ ท่มี ีชอื่ เสียงหลายคน เช่น ครูแกล เปน็ ตน้ และเชญิ ครจู ่ารสั สอน ๒. ครกู ลา่ วทกั ทาย แสดงความยินดีทไ่ี ดม้ ีโอกาสมาสอน และแสดงความดใี จอยา่ งมากท่ีได้มาพบพ่อ สุจินต์ ครูเพลงสายสุพรรณ ที่เคยร้องเพลงโต้ตอบกันเม่ือยังหนุ่มสาว จนเคยขัดใจกันเพราะเมื่อสมัยก่อนว่า เพลงแบบเอาชนะกันจรงิ จงั ปะทะคารมดุเดือดจริง ๆ (เม่ือกล่าวถึงตรงนี้ พ่อสุจินต์ลุกขึ้นมายืนคู่กับแม่จ่ารัส ไหว้แสดงความเคารพและช่วยกันเล่าเร่ืองความหลังอย่างสนุกสนาน สร้างความประทับใจให้แก่ลูกศิษย์และ ผฟู้ งั ทง้ั หลายอยา่ งยิ่ง ) ๓. ครเู รม่ิ ตน้ สอนโดยการรอ้ งเพลงเรือ บทประ เป็นตัวอย่าง โดยลุกข้ึนยืนร้องและร่าอย่างสวยงาม ซงึ่ มเี นอ้ื เพลงว่า ญ. เอ่อ..เออ..เอย..ฮา้ ..ไฮ้.. น้องจะแลไปทางเหนอื หรือก็เปลา่ ตา นอ้ งจะแลไปทางขวา หรอื ก็ไม่พบ โอพ้ อ่ แป้งเคยกล่ันนา่้ มันเคยอบ ฉันแลหาไม่พบเอ๋ยเลยเอย ( ลกู ครู่ ับ ) ญ. อีกทงั้ เรือข้ึนก็ร้อง อกี ทงั้ เรือลอ่ ง ก็สง่ั พอ่ กา้ นตองสองแจวของน้องมาแลว้ หรือยงั นอ้ งมาพลดั คู่อยวู่ งั เอ๋ยเวงเอย ( ลูกคู่รับ ) ช. อกี ท้งั เรือขน้ึ ก็รอ้ ง อกี ทง้ั เรอื ล่อง กส็ ่งั พี่มาหว่ งหน้าห่วงหลงั เสียแล้วแมว่ ังเอย๋ เวงเอย ( ลูกคู่รับ ) ๔. ครูร้องให้ฟงั ทีละวรรค ให้ศิษย์จดเน้ือร้อง แล้วร้องตามพร้อมกันทุกคน ถ้าติดขัดก็คอยบอก ให้ ร้องทวนใหม่ บางคร้ังก็ทอ่ งเนือ้ เพลงเร็วๆ ทวนให้ แลว้ ให้รอ้ งซ่า้ ๆ อกี ๕. วิธีสอน คือครูจะแบ่งศิษย์เป็น ๓ กลุ่ม ได้แก่ กลุ่ม ๑ ฝ่ายชาย กลุ่ม ๒ ฝ่ายหญิง ( ท่ีร้องพอได้ แล้ว มแี ววว่ารอ้ งได้ ) กลมุ่ ๓ ลูกคู่ ( ร้องยังไม่คล่อง ) แล้วใหฝ้ ่ายชายรอ้ งกอ่ น พร้อมๆ กัน ครูจะเดินไปรอบๆ อยา่ งทวั่ ถงึ ช่วยร้อง ช่วยรับ และตบมอื ใหจ้ ังหวะดงั ๆ ตลอดเวลา ( สร้างพลังให้เด็กๆ อย่างมาก ) บางครั้งก็ชี้ กราดไปท่ีศิษย์ทีละคน กระตุ้นให้ร้องดังๆ ท่าให้เด็กๆ ต่ืนตัวมาก บางคร้ังก็พูดกระตุ้นและสอนวิธีร้องไป พรอ้ มๆ กนั เชน่ “ ตวั หนงั สอื ต้องชดั ชดั ก็เพราะ ถ้าไม่ชัดก็ไม่เพราะ สมัยก่อนพวกแม่เดินไปไหนก็ร้องไป ร่า ไป เหมือนคนบ้า ไปนาก็รา่ ไปไหนกร็ ่า คนกว็ ่าเราว่าเป็นคนบ้า..” ( หัวเราะ ) บางครั้งก็ชี้มือสูงเมื่อจะให้ร้อง เสียงสงู และชมี้ อื ทางลูกคใู่ หร้ อ้ งรับ
๓๑๙ ๖. เมอื่ เด็กร้องไดถ้ กู ต้องตามท่านองเพลงแลว้ ครจู ะสอนวิธีรอ้ งขั้นสูงให้ ไดแ้ ก่ ร้องให้ไพเราะและใส่ ลีลาทา่ ทางใหเ้ หมาะสม เช่น การขึ้นเพลง ครูจะคอ่ ย ๆ เออื้ นเสียงช้าๆ ใหฟ้ ัง อธิบายวา่ ควรหยอดเสียงอย่างไร และควรใสล่ ีลาดว้ ย เช่น“ขนึ้ ให้มนั หวานๆ อยา่ งงี้..เออ่ ..เออ..เองิ ..เอย...แลว้ ก็ต้องยิ้มดว้ ย” ๗. นอกจากน้ันยังสอนวิธีการเลือกเน้ือเพลงมาร้องมาเล่น เช่น “ เพลงพ้ืนบ้านต้องมีลักษณะหยิก เลบ็ เจบ็ เนือ้ อยา่ งเช่น บทลา ก็นยิ มร้องออกดอก มเี ป็นรอ้ ยดอก เราก็เปล่ียนไปเรือ่ ย ๆ เช่น ญ. หอมเอ๊ยเจา้ ดอกอ้อ หอมเจา้ ช่อจา่ ปา น้องมาคอยคอ้ ยคอย ท่าไมไมค่ ่อยจะมา หรอื พไ่ี ปเขา้ ชอ่ งหนิ หนีบ หรอื พ่ไี ปเข้ากลบี จ่าปา นอ้ งมาคอยพ่ีทิดเสยี จนผิดเวลา หรือพไ่ี ปตกน่้าหอยทีห่ นองนอ้ ยปลายนา พี่จึงไมค่ อ่ ยจะมาเอ๋ยเลยเอย ( ฮ้า..ไฮ้..โช๊ะ โชะ๊ ) ช. หอมเอ๊ยเจ้าดอกอ้อ หอมเจ้าช่อมะเฟอื ง มนั ไม่ไดน้ อ้ งไปเป็นเอก เสยี แลว้ พ่อเมฆหัวเหลอื ง หอมเอย๊ เจ้าชอ่ มะเฟือง หอมเม่อื ยามเอย๋ เยน็ เอย ญ. หอมเอ๊ยเจา้ ดอกออ้ หอมเจ้าชอ่ มะเฟอื ง มันไม่ไดน้ อ้ งไปเปน็ คู่ เสียแลว้ พ่อพมู ะเฟอื ง ปากหนายงั กะพรงึ ( กระดมุ ลอ้ เกวียน ) จะทาสีผึง้ กเ็ ปลือง หอมเอย๊ เจ้าชอ่ มะเฟือง หอมแล้วเมือ่ ยามเอย๋ เย็นเอย” ๘. หลังจากน้นั กใ็ ห้เด็กฝึกปฏบิ ตั ิ โดยให้แต่ละกลมุ่ ออกมาแสดง มีการแบ่งฝ่ายครูเพื่อเร้าใจเด็ก คือ ฝ่ายชายเป็นฝ่ายของพอ่ สจุ นิ ต์ ฝา่ ยหญิงเปน็ ฝ่ายของแม่จา่ รสั มีการพูดจากระเซ้าเย้าแหย่เพ่ือสร้างบรรยากาศ ความสนุกสนานและเป็นกันเอง โดยเฉพาะการให้ก่าลงั ใจและปลกุ เร้าศิษย์ใหก้ ลา้ แสดงออก เชน่ แมจ่ า่ รัส “ของฉนั ฝ่ายหญิงน่ะเกง่ นะ” พ่อสุจินต์ “ เอ้า..พวกผู้ชาย สาม..สอง..หนึง่ ..ลูกพ่อ..เอาเลย้ ” ก่อนแสดง เดก็ ๆ จะเข้าไปนั่งกราบครูขอพร แล้วยืนขึ้นร้อง จนจบ เม่ือศิษย์แสดงแล้ว นั่งลงฟัง ค่าแนะนา่ ครูจ่ารสั จะติชม เช่น “ เธอท่าเสียงไมแ่ นน่ หนักเวลารบั จึงไมเ่ พราะ ...ตอ้ งร้องให้เต็มเสียง...บางคน กลัวผิดก็รอ้ งเบาๆ ไมด่ ีต้องรอ้ งดงั ๆ ...” ครยู งั ย่้าอีกวา่ “ ร้องให้เต็มเสยี ง”
๓๒๐ ๙. ศิษยก์ ราบขอบคุณพร้อมกัน บางคนก็ขอถ่ายภาพกับครู บางคนขอจดเน้ือร้อง ( ครูยินดีและดู ทา่ ทางครูมีความสุขมาก ตลอดเวลาทอ่ี บรม มีสีหนา้ ยิม้ แยม้ แจม่ ใส ดวงตาเป็นประกาย ฉายแววเมตตาสูง แม้ อายุมากแลว้ แต่ดูกระฉบั กระเฉงมาก ลลี าการรอ้ งการร่าดูสงา่ งาม ) ๑๐. พธิ ีกรกลา่ วขอบคณุ และเริ่มตน้ ท่ากิจกรรมอ่นื ตอ่ ไป ข้อสังเกตอื่นๆ ๑. ผูอ้ บรมแต่งกายชดุ เฉพาะของเด็กค่ายฯ คอื สวมเส้ือยดื “เดก็ หอ” สดี ่าและสเี ทา สวมโจงกระเบน สชี มพู สีเขยี วหรอื สีมว่ ง ซ่ึงมหาวิทยาลยั หอการค้าไทยสนบั สนนุ ( ยกเวน้ เดก็ ทน่ี ่าผา้ โจงกระเบน มาเองกส็ วมของตน ซง่ึ มสี ีแตกตา่ งออกไป เช่น สีแดง เปน็ ตน้ ) สว่ นพเี่ ล้ยี งซึง่ เปน็ นักศกึ ษา มหาวิทยาลัยหอการคา้ ไทยและเยาวชนเพาะกลา้ พันธุเ์ ก่งเพลงพนื้ บ้านรนุ่ ที่ ๑ และ ๒ จากทวั่ ประเทศจะสวมเสอ้ื ยดื และผ้าโจงกระเบนสีตา่ ง ๆ เช่นกนั การแต่งกายดังกล่าวเพ่มิ บรรยากาศ ความเปน็ ไทยในการอบรมได้อย่างดี และยังสรา้ งความร้สู กึ เปน็ กลุม่ เดียวกนั อันนา่ มาซ่งึ ความรัก ความสามัคคีสบื ไป ๒. เน่ืองจากเป็นวนั แรกของการเข้าค่าย เด็กๆ ยงั ไมค่ ่อยค้นุ เคยกัน บางคนไมค่ ่อยกล้าแสดงออก หลายคนเดนิ ทางมาจากต่างจงั หวดั ไกลๆ เชน่ เชียงราย พษิ ณุโลก และช่วงเวลาอบรมเปน็ ชว่ ง บ่าย ทา่ ใหเ้ ด็กหลายคนดเู หนอ่ื ยลา้ การตอบสนองดูยังช้าๆ เนือยๆ แตค่ รูจา่ รัสกม็ ีวธิ กี ารสอนที่ ปลุกเร้าใจเด็ก ทา่ ให้การฝกึ อบรมประสบความส่าเร็จภายในเวลาเพียงหน่ึงชวั่ โมง ๓. ครูจ่ารสั เตรยี มความพร้อมมาอย่างดี ครแู ต่งกายชดุ กระโปรง ผา้ ไทย รูปแบบและสีสนั สวยงาม ครเู ดินทางมาเองด้วยความเต็มใจ ตามก่าหนดการเดมิ ครจู ะสอนวนั ที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ( วันรุง่ ขนึ้ ) แต่เนือ่ งจากครเู พลงฉอ่ ยสายเหนอื ยังเดินทางมาไม่ถึงศนู ย์ฯ ผจู้ ัดจึงเรยี นเชญิ ทา่ นขน้ึ สอนกอ่ นกา่ หนดซ่งึ ทา่ นยินดแี ละสอนได้ทันทอี ย่างกระตอื รอื ร้นมาก ครจู า่ รัสไม่ไดพ้ บครูเพลงสายสพุ รรณมานาน เมอ่ื ครูมาพบกันต่างก็แสดงความดีใจ กราบไหว้ จับ ไม้จบั มือ โอบกอดกัน ถามสารทุกขส์ ุกดบิ กัน ร้อื ฟ้ืนความหลังคร้งั เคยเลน่ เพลงดว้ ยกนั เชน่ แม่ ขวัญจติ กล่าวว่า “ แม่จา่ รัสแกดมู ีความสุขนะ ย้ิมแยม้ ตลอดเลย ดกู ันเอง ชวนค้างท่ีบ้านจะไดค้ ยุ กันอกี ...ไม่อยากใหก้ ลับเลย” พ่อสุจินต์ “พี่แจม่ นี่พ่อเคารพมาก เก่งมาก เม่ือกอ่ นวา่ เพลงกนั อื้อ ฮอื ..ว่าเจบ็ ..พ่อจ่ามาถงึ ทกุ วนั น้เี ลย...( หวั เราะ )”
๓๒๑ ภาพท่ี ๑๙๓ การฝึกอบรมเพลงพืน้ บา้ น การสัมภาษณป์ ระวัตคิ วามเปน็ มาและสายตระกลู ครูเพลง และการนา่ เสนอผลงานของผรู้ ับการอบรม ท่ีมา : บวั ผัน สพุ รรณยศและคณะ จากตวั อยา่ งทั้งสองกิจกรรมนี้จะเห็นว่าครูเพลงมีกลวิธีการถ่ายทอดท่ีน่าสนใจและได้ผลสัมฤทธิ์สูง เนอื่ งจากกลุ่มผู้เรียนส่วนใหญ่มีพ้ืนฐานความรู้ความสามารถด้านการแสดงอยู่บ้างแล้ว แม้เพศและวัยต่างกัน และมาจากต่างที่ต่างถิ่น การแบ่งกลุ่มและสอนให้ร้องร่วมกันเป็นหมู่ในล่าดับแรกท่าให้เด็กฝึกหัดได้ง่ายและ มัน่ ใจขน้ึ การสอนรอ้ งเด่ยี วบทเฉพาะตัวก็ท่าให้ได้ฝึกหัดอย่างใกล้ชิดกับครูโดยตรง ครูสามารถปรับปรุงแก้ไข ใหเ้ หมาะแก่ผู้เรียนเป็นรายบคุ คลนับเปน็ วธิ ีสอนทีไ่ ดผ้ ลดีอย่างยิ่ง จะเห็นได้จากแบบประเมินผลการอบรมเชิง ปฏิบตั ิการของผสู้ บื ทอดทุกฉบบั กล่าวตรงกนั วา่ ไดร้ บั ความรแู้ ละเกดิ ความภูมใิ จที่ไดม้ าเข้าคา่ ยและฝึกหัดกับครู เพลงระดับชาติหลายคน เชน่ เด็กหญงิ พัชราภาวรรณดี นางสาวประภาพร เรอื นขจร และนายเมธี รัษฎานุกุล ( ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๕๗) ตอบแบบประเมินผลว่า กลุ่มของตนเรียนเพลงฉ่อยกับครูสมปอง พลอยบุตร ท่าให้ ทราบประวัติความเป็นมา ทา่ นองการรอ้ งเพลงฉอ่ ยของพิษณุโลก และทราบขนบธรรมเนียมและข้อห้ามต่าง ๆ เชน่ ไมแ่ ต่งเนื้อรอ้ งท่ีหยาบคาย รอ้ งให้สดุ ค่า ร่าให้สุดแขน กลุ่มของนายศิริศักด์ิ รอดสาลีและคณะ ฝึกกับพ่อ วรี วฒั น์ พง่ึ ลออและแม่ล่าจวน ศรีจนั ทร์ สรุปว่า ๑. ได้รจู้ ักพ่อเพลงแมเ่ พลง มากข้ึนและเข้าใจถึงปัญหาของทา่ น ๒. ได้เรียนร้ทู า่ นองท่แี ตกต่างกนั ออกไป ๓. ไดเ้ หน็ คณุ ค่าของเพลงพ้ืนบ้าน ๔. ได้เปน็ ส่วนหนึง่ ในการอนรุ กั ษ์เพลงพืน้ บา้ นเอาไว้
๓๒๒ เทคนคิ การสอนของครคู อื การสรา้ งความเป็นกันเอง สร้างบรรยากาศสบายๆ อบอุ่น โดย การชวน พูดคุยอยา่ งเปน็ กนั เองไม่ถือตวั ตอบทกุ ค่าถามทถี่ ามไป การสาธติ ให้ดเู ปน็ ตวั อยา่ ง โดย ร้องเพลงไหว้ครู เพลง ลาย เพลงชม ตามล่าดบั แล้วให้รอ้ งตาม เลยี นแบบครู เป็นกลุ่มใหญ่และเป็นรายบุคคล กล่าวแนะน่าวิธีร้องที่ ถูกตอ้ งว่า ออกเสียงภาษาไทยใหช้ ดั เจน เต็มปากเต็มค่า ร้องให้สุดค่า กระตุ้นให้เกิดพลังและให้ก่าลังใจ “แม่ อวยพรให้เจรญิ ๆ เกง่ ๆกันทุกคน ให้ตั้งใจศึกษาและสืบทอดต่อไป...ต่อไปเพลงเราจะเริ่มเลือนหายไป ถ้าไม่มี ใครสบื สาน ขอให้พวกหนู ๆ ไดช้ ว่ ยกนั อนรุ ักษ์ไวไ้ ม่ใหห้ ายไป” ( ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ) ในส่วนของครูเพลง ครูพี่เลี้ยงและพ่ีเลี้ยงได้ตอบแบบประเมินผลการอบรมเชิงปฏิบัติการ เช่นเดียวกนั ครพู เ่ี ลี้ยงและพ่เี ลยี้ งตอบว่าครูเพลงมคี วามสามารถและมีเทคนิคสูงในการถ่ายทอด และผู้เรียนมี ความตงั้ ใจและมพี ัฒนาการที่ชดั เจน เช่น กลุ่มทเี่ รยี นกับครสู มปอง พลอยบุตร “จดุ มงุ่ หมายของครู คือสืบสาน ต่อ แม่อยากจะท่าเป็น CD เพื่อเป็นความรู้ต่อไปในอนาคต เทคนิควิธีการสอนของครู คือเริ่มตั้งแต่ไหว้ครู ตามล่าดับข้ันตอน ร้องให้ฟังก่อนรอบหนึ่ง แล้วรอบต่อไปให้ร้องตาม ใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องชัดเจนและ เหมาะสม จะไม่ใช้ค่าหยาบคาย ใชแ้ ตภ่ าษาทสี่ ุภาพ...มีเทคนิคในการสอนดีมาก ท่าให้น้องๆ จ่าได้ง่าย ชัดเจน กระชับ มีลีลาในการร้องที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวเป็นอย่างมาก ดูน่าฟัง เสียงไพเราะ มีการสอนท่าให้น่า เรียนรู้เพลงพ้ืนบ้านมากยิ่งขึ้น” ( สมบัติ สมศรีพลอยและคณะ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ) ส่วนครูเพลงทุกคน เช่น ครูสมปอง พลอยบุตร ( ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ) ประเมินผลว่าศิษย์ทุกกลุ่มสามารถร้องและแสดงได้ดี “น้องๆ มีความตั้งใจและสนใจในการเรียนเป็นอย่างมาก อยากรู้เทคนิคและวิธีการร้องเพลงให้เพราะ มี ความสามารถในการร้อง มีนา้่ เสียงท่ไี พเราะ ร้องเพลงถูกต้องอักขระชัดเจน มีลูกเล่นในการร้องเพลงพื้นบ้าน และความสามารถในการแสดง มีลลี าทา่ ทางในการแสดงได้ดี มอี ารมณ์กับบทบาทท่ไี ด้รบั ” เป็นตน้ ภาพท่ี ๑๙๔ กิจกรรมการถ่ายทอดเพลงพื้นบา้ นภาคกลางในค่ายเพาะกลา้ พันธ์ุเก่งเพลงพ้นื บา้ น ท่ีมา : บวั ผนั สพุ รรณยศและคณะ
๓๒๓ ภาพที่ ๑๙๕ ผรู้ ่วมเขา้ ค่ายเพาะกล้าพันธ์เุ ก่งเพลงพืน้ บา้ น ท่ีมา : บวั ผนั สุพรรณยศและคณะ นอกจากน้ีกิจกรรมต่าง ๆ ของค่ายฯ ยังสร้างสรรค์ข้ึนอย่างมีเป้าหมายและเหมาะสมกับสภาพ การเรียนรู้ จึงมีส่วนเสริมสร้างความรู้และประสบการณ์การแสดงเพลงพ้ืนบ้านให้กว้างขวางและลึกซ้ึงยิ่งข้ึน ได้แก่ การฝึกหัดเพลงแต่ละชนิดโดยกลุ่มครูเพลงต่างท้องถิ่นกัน ท่าให้ทั้งครูและศิษย์ได้แลกเปล่ียนเรียนรู้ ร่วมกัน เช่น ได้เห็นความแตกต่างของการร้องและท่านองเพลง เป็นต้น การแบ่งกลุ่มย่อยเพ่ือสัมภาษณ์ครู เพลง พิธีอ่าลาระหว่างครูและศิษย์ ฯลฯ ท่าให้ผู้เรียนได้เข้าใจประวัติความเป็นมาของครู เกิดแรงบันดาลใจ และมีความภูมใิ จทเี่ ป็น “ศษิ ย์มีครู” มีความตระหนักถึงความยากล่าบากของการสืบทอดและคุณค่าของเพลง พน้ื บา้ น ขณะเดยี วกนั กท็ ่าให้ครเู พลงมคี วามภาคภมู ใิ จในสถานภาพและบทบาทความเป็นครูผู้สร้างสรรค์และ สบื สานภูมิปัญญา ภาพที่ ๑๙๖ กิจกรรมการอบรมเพลงเรอื ท่มี า : บวั ผนั สุพรรณยศและคณะ
๓๒๔ ภาพท่ี ๑๙๗ กิจกรรมในค่ายสร้างสายสัมพนั ธค์ ร-ู ศษิ ย์ พ่ีน้องและผองเพือ่ น ท่ีมา: คมสนั ต์ สทุ น กจิ กรรมการแสดงผลงานจากการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการของกลุ่มศิษย์ ท่าให้ศิษย์ได้เรียนรู้โดยการ ปฏิบัติจริง มีพัฒนาการท่ีปรากฏชัดเจน ขณะเดียวกันครูก็มีความสุขและมีความหวัง จะเห็นได้จากค รูเพลง หลายทา่ นเม่อื เห็นการแสดงผลงานของศิษย์แล้วรู้สึกปล้ืมใจมากถึงกับหล่ังน่้าตาขณะท่ีออกมาพูดชื่นชมศิษย์ เช่น ก่านันส่าเริง คนฑา แม่ส่าเนียง ชาวปลายนา เป็นต้น ครูบางท่านมีก่าลังใจอยากจะร้ือฟ้ืนเพลงพื้นบ้าน ของตน เช่น ก่านันส่าเริง คนฑาและพ่อวีระวัฒน์ พ่ึงลออ กล่าวในที่ประชุมว่าจะกลับไปท่าโครงการค่ายสืบ สานลา่ ตัดที่ระยอง และเพลงฉอ่ ยทสี่ งิ ห์บรุ เี ช่นเดยี วกับคา่ ยนีบ้ ้าง ภาพที่ ๑๙๘ การรอ้ งเพลงอ่าลาของศษิ ย์และการกลา่ วแสดงความปลื้มใจของครสู า่ เรงิ คนฑา ที่มา : บัวผัน สุพรรณยศและคณะ
๓๒๕ ภาพท่ี ๑๙๙ พิธีลาครู-ลาคา่ ย ทมี่ า : บวั ผนั สุพรรณยศและคณะ การปรับกระบวนการเพ่ือให้บรรลเุ ปา้ หมาย เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย และเพื่อความเหมาะสมสอดคล้องกับจ่านวนผู้เข้าค่าย ระยะเวลาและ งบประมาณ คณะผู้วจิ ยั จงึ วางแผนและดา่ เนินงานค่ายเพาะกลา้ พนั ธเุ์ ก่งเพลงพนื้ บ้านในลักษณะเปน็ คา่ ย บรู ณาการ ระหว่างการอบรมเชงิ ปฏิบตั ิการ การรวบรวมข้อมูลภาคสนาม ( เพ่ือศึกษากระบวนการ ถ่ายทอด รวมท้ังตรวจสอบ ยืนยันและซ่อมแซมข้อมูลเกี่ยวกับประวัติครูเพลงและคณะเพลง ) และการ ประชุมเพื่อตรวจสอบ ยืนยันและลงฉันทามติ ขณะที่ด่าเนินงานมีปัญหาและอุปสรรคบ้าง แต่คณะผู้วิจัยได้ แกไ้ ขและปรับกระบวนการต่าง ๆ ดังน้ี ๑. การจ่ากดั ระยะเวลาอบรมเพลงแต่ละชนดิ และเชิญครูเพลงและหัวหน้าคณะตามชนิดของเพลง เฉพาะวนั ทีม่ ีการอบรม เพอ่ื ประหยดั คา่ ใช้จ่าย เชน่ เพลงฉอ่ ย ซ่ึงส่วนใหญค่ รเู พลง หัวหนา้ คณะและผู้สืบทอด เป็นผู้แทนชุมชนหรอื ประชาคมในแถบพื้นทภี่ าคกลางตอนบนหรอื ภาคเหนือ คณะผู้วิจัยก่าหนดให้มาเข้าค่าย วนั ท่ี ๑๕ – ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ลา่ ตดั ซ่ึงส่วนใหญ่ครูเพลง หัวหน้าคณะและผู้สืบทอด เป็นผู้แทนชุมชน หรอื ประชาคมในแถบพนื้ ท่กี รุงเทพฯ ปรมิ ณฑลและแถบภาคตะวันออก คณะผู้วิจัยก่าหนดให้มาเข้าค่ายวันที่ ๒๐ – ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๗ สว่ นครเู พลงแถบสุพรรณบรุ ีซง่ึ สว่ นใหญ่รอ้ งเพลงได้ทงั้ ๕ ชนิด ก็เชิญมาทุกวัน เปน็ ต้น
๓๒๖ ภาพที่ ๒๐๐ ผ้เู ขา้ อบรมเชิงปฏิบัตกิ ารเพลงฉอ่ ย วนั ที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ภาพที่ ๒๐๑ ผู้เขา้ อบรมเชงิ ปฏิบตั ิการเพลงทรงเคร่ือง วนั ท่ี ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ภาพท่ี ๒๐๒ ผ้เู ข้าอบรมเชิงปฏบิ ตั กิ ารเพลงเรอื วนั ท่ี ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ภาพที่ ๒๐๓ ผู้เขา้ อบรมเชิงปฏบิ ัตกิ าร ลา่ ตัด วันที่ ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๗
๓๒๗ แมว้ า่ คณะผ้วู ิจัยจะจา่ กัดจ่านวนผู้เข้าค่ายไว้แล้ว คือ ผู้แทนชุมชนหรือกลุ่มประชาคม จ่านวน ๗๐ คน แตใ่ นทางปฏิบัติปรากฏว่ามีผู้สนใจเข้าร่วมค่ายฯ เพิ่มขึ้นรวมแล้วกว่า ๑๐๐ คน เช่น ครูและนักเรียนใน พ้นื ทสี่ ุพรรณบุรี เปน็ ต้น การด่าเนินงานจึงมีปัญหาบ้างแต่ก็สามารถแก้ไขได้ทันการณ์ เช่น ที่พักไม่เพียงพอ คณะผวู้ ิจยั จึงเพ่มิ ท่พี กั “ท่าจีนรสี อรท์ ” อีกหน่งึ แหง่ และอนุญาตให้ผเู้ ข้าคา่ ยในเขตสุพรรณบุรีกลับไปค้างคืน ท่ีบ้านได้ เป็นต้น นอกจากนี้ก็มีอุปสรรคเร่ืองการเดินทางบ้าง เช่น วันท่ี ๑๕ กรกฎาคม เน่ืองจากครูเพลง แถบภาคเหนือ หรอื “ครูเพลงสายเหนอื ” ต้องเดินทางไกล และมาถึงค่ายฯ ล่าช้ากว่าก่าหนด คณะผู้วิจัยจึง เลื่อนการอบรมเพลงเรือ สิงห์บุรี จากวันท่ี ๑๖ กรกฎาคมขึ้นมาแทน และเพ่ือประหยัดเวลาเดินทางของครู เพลงสายเหนือ ( ซ่งึ เดิมก่าหนดไวว้ า่ จะลอ่ งมารบั ครเู พลงท่สี งิ ห์บุรดี ว้ ย ) โดยใหร้ ถเช่าจากสพุ รรณบุรีไปรับครู เพลงฉ่อยที่สิงหบ์ รุ แี ทนท่จี ะใหร้ อรถจากสายเหนือ แต่การแก้ปัญหาดังกล่าวมีผลกระทบต่อการเดินทางของ คณะขา้ ราชการกรมส่งเสรมิ วัฒนธรรม เพราะรถเชา่ คนั ท่ไี ปรบั ครูสิงห์บุรีเป็นคันเดียวกับท่ีรับส่งผู้อ่านวยการ สถาบันวัฒนธรรมศึกษาและคณะผู้ติดตาม ท่าให้ก่าหนดการเดินทางกลับต้องล่าช้าไปมาก หากแต่ปัญหา ดงั กลา่ วหมดส้นิ ไปด้วยความเมตตาและความเขา้ ใจสภาวะการท่างานภาคสนาม ภาพที่ ๒๐๔ การแก้ปัญหาโดยเชญิ ครูจา่ รัส อยสู่ ขุ ครูเพลงเรือสงิ ห์บุรสี อนแทนครูเพลงฉอ่ ยท่เี ดนิ ทางมาล่าช้า “วิกฤตสร้างโอกาส” การเล่ือนล่าดับรายการอบรมดังกล่าวมีผลดี ท่าให้ครูเพลงสายเหนือ สาย สิงหบ์ รุ ีและสายสุพรรณมีโอกาสพบกนั และรว่ มกิจกรรมด้วยกัน กอ่ ใหเ้ กิดพลังในการถ่ายทอดและเกดิ กา่ ลังใจ ในการสืบสานเพลงพ้ืนบ้านย่ิงข้ึน จะเห็นได้จากการร่วมกันสาธิตเพลงฉ่อยอย่างมีชีวิตชีวาและสนุกสนาน สร้างความสุขและแรงบันดาลใจให้แก่ลูกศิษย์อย่างยิ่ง หลังจากอบรมเสร็จแล้วก็ร่วมกันรับประทานอาหาร พูดคุยกันอย่างสนิทสนม เมื่อต้องอ่าลาจากกันก็แสดงความอาลัยอาวรณ์ ล่าลากัน มอบของฝากแก่กัน สัญญากนั วา่ จะไปมาหาสูไ่ มท่ ้งิ กัน เชน่ แมข่ วญั จิต ศรีประจันต์ กล่าวว่า “มีโอกาสเราต้องไปเยี่ยมพวกเขา” ครูจ่ารัส อยู่สุข “ เอาไว้มาเล่นเพลงกันอีกนะ สนุกจริงๆ” แม่สวาท ภาสประหาส และคณะ “ มีงานอะไร บอกอีกนะ มาแน่” พ่อวีระวัฒน์ ขาวลออ “ อยากท่าค่ายแบบน้ีจังเลย ไปช่วยท่าท่ีสิงห์บุรีบ้างได้ไหม” ( สังเกต ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ) ฯลฯ
๓๒๘ ภาพที่ ๒๐๕ การร้องการรา่ ของครูเพลงและหัวหนา้ คณะเพลงฉอ่ ยท้ังสายเหนอื สายสงิ หบ์ ุรชี ยั นาท และสายสุพรรณบรุ ี ผลดีของการจัดให้ครูเพลงต่างพ้ืนท่ีท่ีร้องเพลงชนิดเดียวกันมาเป็นวิทยากรอบรมในช่วงเวลา เดียวกันแม้มีความยากล่าบากในด้านการเดินทางและการประสานงานบ้างคือการเปิดโอกาสให้ครูเพลงได้ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกัน ได้สร้างความเข้าใจและเพิ่มโลกทัศน์ให้แก่ครู รวมท้ังได้ปรึกษาและทบทวน ตรวจสอบองค์ความรเู้ ก่ียวกับเพลงพ้ืนบ้าน เชน่ แมศ่ รนี วล ขา่ อาจ ปรึกษากับแมอ่ ่นุ เรือน ยมเยย่ี มและศิลปิน ลา่ ตดั หลายคนในการบันทกึ ทา่ นองลา่ ตดั เปน็ ตน้ ๒. จดั กระบวนการเรียนรอู้ ยา่ งเหมาะสมเพอ่ื บรรลวุ ตั ถปุ ระสงค์ทีว่ างไว้ เนอื่ งจากครูและผู้เรียน มาจากต่างท่ีต่างถิ่นกัน และมีความแตกต่างกันในด้านต่างๆ เช่น เพศ วัย ความรู้พื้นฐานด้านเพลงพ้ืนบ้าน ฯลฯ คณะผู้วจิ ยั จงึ ออกแบบกระบวนการเรียนรู้ให้เหมาะสมแก่บุคคลและระยะเวลา เช่น การแบ่งกลุ่มย่อย ผู้เรียนคละกันทั้งเพศและวยั ใหส้ มั ภาษณ์ครูเพลงเพื่อศึกษาประวัติและผลงาน และฝึกปฏิบัติกับครูเพลงแต่ ละท่าน แล้วน่าเสนอในท่ีประชุมกลุ่มใหญ่ เพื่อให้ทุกคนได้ทราบถึงความแตกต่างของเพลงและความ หลากหลายของลีลาการร้องการแสดงของครูแต่ละท่าน สามารถเลือกแนวทางการรอ้ งไดต้ ามความสนใจ เป็น การเพ่ิมความรคู้ วามสามารถในเวลาอนั จา่ กัด
๓๒๙ นอกจากนน้ั คณะผู้วิจัยยังไดจ้ ดั ทา่ เอกสารประกอบการอบรม ซึง่ มีข้อมูลเก่ียวกับเพลงพ้ืนบ้านภาค กลางแตล่ ะชนิด เนื้อเพลงท่ีครูแต่ละท่านจะสอน ตลอดจนข้อควรปฏิบัติ ฯลฯ เพื่อความสะดวกต่อครูเพลง และผเู้ รียน และยังจดั กจิ กรรมต่าง ๆ เพอ่ื เสรมิ ทักษะและเจตคติท่ีดีต่อการเรียนรู้ เช่น กิจกรรมสันทนาการ เพื่อละลายพฤติกรรมและสร้างความสัมพันธ์อันดีต่อกัน พิธีบายศรีสู่ขวัญ เพ่ือต้อนรับอย่างอบอุ่นและให้ ก่าลังใจ พิธีไหวค้ รูและลาครู เพ่ือส่งเสริมความกตญั ญรู ู้คุณและสร้างความม่ันใจให้แก่ศิษย์ และสร้างก่าลังใจ ใหแ้ ก่ครู ทงั้ หมดนีเ้ พอื่ ส่งเสริมใหเ้ กดิ การเรยี นรทู้ ไี่ ดผ้ ลดีและมีความสุข เปน็ การเรียนรูท้ ่ลี ึกซึง้ และประทับใจ ๓. จัดครูพ่ีเล้ียงและพ่ีเล้ียง ซ่ึงมีความเชี่ยวชาญในด้านเพลงพ้ืนบ้านภาคกลาง การแสดงพ้ืนบ้าน และการเปน็ ผนู้ า่ ในกจิ กรรมสนั ทนาการ ไดแ้ ก่ ครอู าจารยใ์ นสถาบันการศึกษาและเยาวชนค่ายเพาะกล้าฯ รุ่น ที่ ๑ และรุ่นที่ ๒ จากทวั่ ประเทศ จ่านวน ๓๐ คน หมุนเวียนกนั มาปฏบิ ตั หิ น้าท่ตี ามความสะดวกและสมัครใจ ซ่งึ ทุกคนล้วนเป็น “อาสาสมัคร” ทมี่ ีคุณภาพและคณุ ธรรม ชว่ ยเหลอื งานคา่ ยฯ อย่างเต็มท่ีและเต็มใจ โดยไม่ เรยี กร้องค่าตอบแทนใด ๆ จึงมีสว่ นสา่ คญั ใหง้ านคา่ ยฯ ประสบความส่าเรจ็ และบรรลุเป้าหมาย เนอื่ งจากครเู พลงสว่ นใหญ่เป็นชาวบา้ น บางทา่ นไม่ได้เรยี นหนงั สอื และไม่ได้เป็นครูอาชีพ ผู้วิจัยจึง จดั พีเ่ ลี้ยงประจา่ กลุ่ม เพอ่ื อ่านวยความสะดวกและช่วยเหลือในดา้ นต่าง ๆ แก่ครูเพลงด้วย เช่น ช่วยอ่านเนื้อ เพลง ช่วยจดั หาอปุ กรณ์ ชว่ ยสอนการร่า ช่วยให้กา่ ลงั ใจและกระตนุ้ ผู้เรียน เป็นตน้
๓๓๐ ภาพท่ี ๒๐๖ พี่เลย้ี งคอยบอกเนอ้ื เพลงดา้ นหลังผอู้ บรม ชว่ ยสอนด้านการแสดงและการร่า ๔. การก่าหนดวิธีการรวบรวมข้อมูลภาคสนาม คณะผู้วิจัยรวบรวมข้อมูลภาคสนามด้วยวิธีการ สมั ภาษณแ์ ละการสังเกต โดยใชแ้ บบสมั ภาษณ์ แบบบันทึกการสงั เกตและแบบประเมินผล และได้ด่าเนินการ ตลอดระยะเวลาการเข้าค่ายฯ โดยคณะผู้วิจัย และครูพ่ีเลี้ยง พี่เล้ียงและเยาวชนผู้เข้ารับการอบรม ปัญหา และอุปสรรคมีบ้าง เช่น การบันทึกแถบภาพท่านองล่าตัด ในอาคารมีแสงน้อยไม่พอในการบันทึกเทป ต้อง ถา่ ยทา่ ซอ่ มแซมอีกครัง้ ดา้ นนอกอาคาร เป็นตน้ ภาพท่ี ๒๐๗ การบนั ทกึ ภาพและเสยี งท่านองล่าตดั ของแม่ศรีนวล ข่าอาจและคณะ ภาพท่ี ๒๐๘ แม่ส่าเนียง ส่าเนาตา่ ราเพลงให้ผูอ้ บรมเพอื่ แก้ไขปัญหาการจ่าเนอ้ื เพลง
๓๓๑ จะเห็นว่าครูเพลง ศลิ ปนิ พ้ืนบ้านและผสู้ ืบทอดเพลงพน้ื บ้านภาคกลางซ่ึงเป็น “ชุมชน” หรือผู้แทน กลุ่มประชาคม ท่ีมาร่วมโครงการค่ายเพาะกล้าพันธ์ุเก่งเพลงพื้นบ้านครั้งนี้ล้วนมีส่วนร่วมในกระบวนการ เรยี นรู้ การรวบรวมข้อมลู ภาคสนาม รวมท้ังการประชุม ตรวจสอบข้อมูล ยืนยันและลงฉันทามติข้อมูลเพลง พื้นบา้ นภาคกลางทง้ั ๕ ชนดิ ปญั หาและอปุ สรรค ๑. เนื่องจากโครงการเพลงพ้ืนบ้านภาคกลาง เป็นทั้งโครงการจัดเก็บและรวบรวมข้อมูลมรดกภูมิ ปญั ญาทางวัฒนธรรม และโครงการวจิ ัย การด่าเนนิ งานตอ้ งท่าท้ังสองลักษณะ และการเรียบเรียงรายงานต้อง ทา่ ๒ ส่วน สว่ นที่ ๑ คือรายงานการวจิ ัยและส่วนท่ี ๒ คอื กระบวนมสี ่วนร่วมของชุมชน ปรมิ าณงานจงึ เพิม่ ขึ้น ๒. การลดงบประมาณสนับสนุนทุนวิจัยโครงการนี้ลงร้อยละ ๕๐ มีผลกระทบอย่างย่ิงต่อการ ด่าเนินงาน เพราะท่าให้ไม่สามารถรวบรวมข้อมูลได้ครบถ้วน เน่ืองจากงานวิจัยนี้เน้นการรวบรวมข้อมูล ภาคสนามโดยชุมชนมีส่วนร่วม ก่าหนดขอบเขตพ้ืนท่ี ๓๕ จังหวัด ข้อมูลเพลงพ้ืนบ้าน ๕ ชนิด คณะผู้วิจัย สามารถรวบรวมขอ้ มลู ได้ ๓๖ คณะ ยังคงเหลืออีกหลายคณะ เช่น ล่าตัดในกรุงเทพฯและพระนครศรีอยุธยา เปน็ ตน้ โดยเฉพาะอย่างยิง่ การก่าหนดให้ต้องเปิดเวทีชาวบ้านให้ชุมชนมีส่วนร่วม เพ่ือกระตุ้นจิตส่านึกในการ สร้างสรรค์ การสบื ทอดและการพิทกั ษ์รักษาเพลงพ้ืนบ้านภาคกลาง และเพ่ือปกป้องคุ้มครองมรดกภูมิปัญญา ด้านเพลงพ้ืนบ้านภาคกลางน้ันมีความจ่าเป็นต้องใช้งบประมาณมาก แม้ว่าคณะผู้วิจัยจะได้หาวิธีการแก้ไข ปัญหาตามค่าแนะน่าของผู้ทรงคุณวุฒิ โดยใช้วิธีการจัดค่ายเพาะกล้าพันธุ์เก่งเพลงพ้ืนบ้าน จ่านวน ๗ วัน ส่าหรับกลุ่มประชาคมหรือชุมชน ๗๐ คน เพื่อด่าเนินการรวบรวมข้อมูล และจัดการประชุมเพ่ือตรวจสอบ ยนื ยันและให้ฉนั ทามติในคราวเดียวกัน ตลอดจนการหาผู้สนบั สนนุ ทุนด่าเนินงานค่ายฯ เพ่ิมเติมแล้วก็ตาม แต่ ในทางปฏิบตั ิปรากฏวา่ มผี ้สู นใจเขา้ รว่ มโครงการมากถงึ ๒๑๑ คน เน่ืองจากตระหนักในความส่าคัญของมรดก ภูมปิ ญั ญา ไว้วางใจคณะผู้วจิ ยั และเต็มใจให้ความร่วมมือกับกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ครูเพลงหลายคนต้องเดิน ทางไกลมากจากต่างจังหวัด และทพ่ี ักบ้านแม่ขวัญจิต ศรีประจันต์ไม่เพียงพอต่อการรองรับ ต้องเช่าท่ีพักเพ่ิม ดงั นน้ั ค่าใช้จา่ ยจึงเพิ่มข้นึ จะเหน็ ไดว้ า่ งบประมาณที่ได้รับการอุดหนุนค่อนข้างจ่ากัดเมื่อเทียบกับปริมาณและ คุณภาพของงานวจิ ยั นอกจากนี้การแบง่ จา่ ย ๒ งวด โดยเฉพาะงวดท่ี ๒ จ่ายหลังจากด่าเนินงานเสร็จส้ินแล้ว นับว่าไม่สอดคลอ้ งกับความจา่ เปน็ และการปฏบิ ัตงิ านจริงดว้ ย ๓. ปัญหาของศิลปินพื้นบ้านมีผลกระทบตอ่ การรวบรวมข้อมูล ได้แก่ ๓.๑ การขาดกา่ ลังใจ เนือ่ งจากศิลปินเพลงพน้ื บ้านบางคนอาจมปี ระสบการณไ์ ม่คอ่ ยดเี ก่ยี วกับการ สบื ทอดของลูกศิษย์ และการสนับสนุนจากองค์กรรัฐและอื่น ๆ ท่าให้รู้สึกท้อแท้สิ้นหวัง บางคนเมื่อได้รับเชิญ ให้มาเป็นวิทยากรอบรมเพลงฉ่อยในค่ายเพาะกล้าฯ จึงกล่าวว่า “ ไม่มาเด็ดขาด ขอให้เพลงตายไปตัวก็แล้ว กัน” ๓.๒ ความเจ็บป่วยและความชราภาพของศิลปินระดับครูเพลงหลายท่าน เช่น พ่อมังกร บุญเสริม แมข่ วญั ใจ ศรปี ระจันต์ และพ่อสุชนิ ทับมี เปน็ ต้น
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 567
Pages: