Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore พุทธวจน (อริยวินัย)

พุทธวจน (อริยวินัย)

Published by Sarapee District Public Library, 2020-06-09 00:16:23

Description: พุทธวจน (อริยวินัย)

Keywords: พุทธวจน,ธรรมะ

Search

Read the Text Version

พระอริยวินัยที่มีมาในพระไตรปิฎกเล่มอื่นๆ ๔๐๕ อยเู่ ถดิ ” ดงั นก้ี ด็ ,ี ... ภกิ ษทุ ง้ั หลาย ! ถา้ ภกิ ษหุ ากจำนงวา่ “เราพงึ เปน็ โสดาบนั เพราะความ สิ้นไปแห่งสังโยชน์สาม เป็นผู้มีอันไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยงต่อ พระนพิ พาน มกี ารตรสั รอู้ ยขู่ า้ งหนา้ ” ดงั นก้ี ด็ ,ี ... ภกิ ษทุ ง้ั หลาย ! ถา้ ภกิ ษหุ ากจำนงวา่ “เราพงึ เปน็ สกทาคามี เพราะความ สน้ิ ไปแหง่ สงั โยชนส์ าม และเพราะความเบาบางแหง่ ราคะ โทสะ และโมหะ พงึ มาสโู่ ลกนอ้ี กี ครง้ั เดยี วเทา่ นน้ั แลว้ ทำทส่ี ดุ แหง่ ทกุ ขไ์ ด”้ ดงั นก้ี ด็ ,ี ... ภกิ ษทุ ง้ั หลาย ! ถา้ ภกิ ษหุ ากจำนงวา่ “เราพงึ เปน็ โอปปาตกิ ะ เพราะ ความสน้ิ ไปแหง่ สงั โยชนเ์ บอ้ื งตำ่ หา้ พงึ ปรนิ พิ พานในภพนน้ั ไมก่ ลบั จากโลกนน้ั เปน็ ธรรมดา” ดงั นก้ี ด็ ,ี ... ภกิ ษทุ ง้ั หลาย ! ถา้ ภกิ ษหุ ากจำนงวา่ “เราพงึ แสดงอทิ ธวิ ธิ มี อี ยา่ งตา่ งๆ ได้ ดงั นก้ี ด็ ,ี ... ภกิ ษทุ ง้ั หลาย ! ถา้ ภกิ ษหุ ากจำนงวา่ “เราพงึ มที พิ ยโสต...” ดงั นก้ี ด็ ,ี ... ภกิ ษทุ ง้ั หลาย ! ถา้ ภกิ ษหุ ากจำนงวา่ “เราใครค่ รวญแลว้ พงึ รจู้ ติ ของ สตั วเ์ หลา่ อน่ื ของบคุ คลเหลา่ อน่ื ดว้ ยจติ ของตน...” ดงั นก้ี ด็ ี ... ภกิ ษทุ ง้ั หลาย ! ถา้ ภกิ ษหุ ากจำนงวา่ “เราพงึ ตามระลกึ ถงึ ภพทเ่ี คยอยู่ ในกาลกอ่ นไดห้ ลาย ๆ อยา่ ง...” ดงั นก้ี ด็ ,ี ... ภิกษุทั้งหลาย ! ถ้าภิกษุหากจำนงว่า “เราพึงเห็นสัตว์ทั้งหลายด้วย จกั ษทุ พิ ยอ์ นั หมดจดเกนิ จกั ษสุ ามญั มนษุ ย.์ ..” ดงั นก้ี ด็ ,ี ... ภกิ ษทุ ง้ั หลาย ! ถา้ ภกิ ษหุ ากจำนงวา่ “เราพงึ ทำใหแ้ จง้ เจโตวมิ ตุ ติ ปญั ญาวมิ ตุ ติ อนั หาอาสวะมไิ ด้ เพราะความสน้ิ ไปแหง่ อาสวะทง้ั หลาย ดว้ ย ปญั ญาอนั ยง่ิ เอง ในทฏิ ฐธรรมเทยี ว เขา้ ถงึ แลว้ แลอย”ู่ ดงั นก้ี ด็ ,ี เธอพงึ ทำให้ บรบิ รู ณใ์ นศลี ทง้ั หลาย พงึ ตามประกอบในธรรมเปน็ เครอ่ื งสงบแหง่ จติ ในภายใน เปน็ ผไู้ มเ่ หนิ หา่ งในฌาน ประกอบพรอ้ มแลว้ ดว้ ยวปิ สั สนา และใหว้ ตั รแหง่ ผอู้ ยู่ สญุ ญาคารทง้ั หลายเจรญิ งอกงามเถดิ . คำใดทเ่ี ราตถาคตกลา่ วแลว้ วา่ “ภกิ ษทุ ง้ั หลาย ! เธอทง้ั หลาย จงมศี ลี สมบูรณ์ มีปาติโมกข์สมบูรณ์อยู่เถิด. พวกเธอทั้งหลาย จงสำรวมด้วย

๔๐๖ ประมวลพระพทุ ธบญั ญตั ิ อรยิ วนิ ยั จากพระไตรปฎิ ก ปาติโมกขสังวร สมบูรณ์ด้วยมารยาทและโคจรอยู่เถิด; จงเป็นผู้เห็นภัยใน โทษทง้ั หลายทม่ี ปี ระมาณนอ้ ย สมาทานศกึ ษาในสกิ ขาบททง้ั หลายเถดิ ” ดงั น;้ี คำกลา่ วนน้ั อนั เราตถาคตอาศยั เหตผุ ลดงั กลา่ วนแ้ี ล จงึ ไดก้ ลา่ วแลว้ . ตายนะคาถา (เป็นบทสวดท้ายปาติโมกข์) (พระไตรปฎิ กคอมพวิ เตอร์ ม.มหดิ ล ๑๕ / ๒๔๐ / ๖๙) ทา่ นจงพยายามตดั กระแสตณั หา จงบรรเทากามเสยี เถดิ พราหมณ์ มนุ ไี มล่ ะกาม ยอ่ มไมเ่ ขา้ ถงึ ความทจ่ี ติ แนว่ แนไ่ ด้ ฯ ถา้ บคุ คลจะพงึ ทำความเพยี ร พงึ ทำความเพยี รนน้ั จรงิ ๆ พงึ บากบน่ั ทำความเพยี รนน้ั ใหม้ น่ั เพราะวา่ การบรรพชาทป่ี ฏบิ ตั ิ ยอ่ หยอ่ น ยง่ิ เรย่ี รายโทษดจุ ธลุ ี ความชว่ั ไมท่ ำเสยี เลยประเสรฐิ กวา่ ความชว่ั ยอ่ มเผาผลาญ ในภายหลงั ก็กรรมใดทำแล้วไม่เดือดร้อนในภายหลัง กรรมนั้นเป็น ความดี ทำแลว้ ประเสรฐิ กวา่ หญา้ คาอันบคุ คลจบั ไม่ดี ยอ่ มบาดมอื นน่ั เอง ฉนั ใด ความเปน็ สมณะ อนั บคุ คลปฏบิ ตั ไิ มด่ ี ยอ่ มฉดุ เขา้ ไปเพอ่ื เกดิ ในนรก ฉนั นน้ั กรรมอนั ยอ่ หยอ่ นอยา่ งใดอยา่ งหนง่ึ วตั รอนั ใดทเ่ี ศรา้ หมอง และพรหมจรรยท์ น่ี า่ รงั เกยี จ ทง้ั สามอยา่ งนน้ั ไมม่ ผี ลมาก.

ภาคผนวก วธิ พี นิ ทุ และอธษิ ฐานบรขิ าร, วธิ ถี อื นสิ ยั , อธษิ ฐานพรรษา, ขอขมาโทษ, วธิ เี สยี สละของ, ปลงอาบตั ,ิ กรรมวาจาสมมตเิ จา้ หนา้ ทท่ี ำการสงฆ,์ บพุ พกรณบ์ พุ พกจิ อโุ บสถ, วธิ มี อบฉนั ทะบรสิ ทุ ธ,์ิ ปาตโิ มกข,์ ปวารณา, กฐนิ ฯลฯ หมายเหตุ - วธิ กี ารตา่ งๆ ในภาคน้ี ถา้ เปน็ พทุ ธพจน์ จะแสดงดว้ ยอกั ษรปกติ - สว่ นทเ่ี ปน็ คำชน้ั อรรถกถา หรอื คำอธบิ าย จะแสดงดว้ ยอกั ษรเอน

๔๐๘ ประมวลพระพุทธบัญญัติ อรยิ วนิ ยั จากพระไตรปฎิ ก วิธีพินทุและอธิษฐานบริขาร วธิ พี นิ ทุ (ว.ิ อ.๒/๓๖๘-๙/๔๑๐) ในอรรถกถาวา่ การทำใหจ้ วี รทไ่ี ดม้ าใหมเ่ สยี สหี รอื มตี ำหนดิ ว้ ยสเี ขยี ว สตี ม หรอื สดี ำคลำ้ มกั ทำจดุ เปน็ วงกลมอยา่ งใหญเ่ ทา่ แววตานกยงู อยา่ งเลก็ เทา่ หลงั ตวั เรอื ด ทม่ี มุ จวี รพรอ้ มกบั กลา่ วคำวา่ “อมิ งั พนิ ทกุ ปั ปงั กะโรม”ิ . (ดหู นา้ ๑๔๓) คำอธษิ ฐานบรขิ าร* คำอธษิ ฐานบรขิ ารสง่ิ เดยี ว ในหตั ถบาส วา่ ๓ หน ชนดิ บรขิ าร คำอธษิ ฐาน บาตร อมิ งั ปตั ตงั อะธิฏฐามิ. สังฆาฏิ อมิ งั สังฆาฏิง อะธิฏฐามิ. อตุ ตราสงค์ (จวี ร) อมิ งั อตุ ตะราสงั คงั อะธิฏฐามิ. อนั ตรวาสก (สบง) อมิ งั อนั ตะระวาสะกงั อะธิฏฐามิ. นสิ ที นะ (ผา้ ปนู ง่ั ) อมิ งั นิสีทะนัง อะธิฏฐามิ. ผ้าอาบน้ำฝน อมิ งั วัสสิกะสาฏิกัง อะธิฏฐามิ. ผ้าปิดฝี อมิ งั กัณฑุปะฏิจฉาทิง อะธิฏฐามิ. ผ้าปูนอน อมิ งั ปัจจัตถะระณัง อะธิฏฐามิ. ผา้ เชด็ หนา้ เชด็ ปาก อมิ งั มุขะปุญฉะนะโจลัง อะธิฏฐามิ. ผ้าบริขาร อมิ งั ปะริกขาระโจลัง อะธิฏฐามิ. คำอธษิ ฐานบรขิ ารหลายสง่ิ ในหตั ถบาส วา่ ๓ หน ชนดิ บรขิ าร คำอธษิ ฐาน ผ้าปูนอน อมิ านิ ปจั จตั ถะระณานิ อะธิฏฐามิ. ผา้ เชด็ หนา้ เชด็ ปาก อมิ านิ มขุ ะปญุ ฉะนะโจลานิ อะธิฏฐามิ. ผ้าบริขาร อมิ านิ ปะรกิ ขาระโจลานิ อะธิฏฐามิ. * โดยพทุ ธพจน์ ทรงใหม้ กี ารอธษิ ฐานบรขิ ารชนดิ ตา่ งๆ แตม่ ไิ ดบ้ อกวธิ ี ในคมั ภรี ป์ รวิ ารวา่ อธษิ ฐานมี ๒ คอื ๑.อธษิ ฐาน ดว้ ยกาย ๒.อธษิ ฐานดว้ ยวาจา. คำอธษิ ฐานและถอนอธษิ ฐานดงั กลา่ วน้ี อรรถกถาผกู ขน้ึ มาเพอ่ื เปน็ การอธษิ ฐานดว้ ยวาจา

ภาคผนวก ๔๐๙ คำถอนอธษิ ฐานบรขิ าร คำถอนอธษิ ฐานนน้ั พงึ วา่ ทกุ อยา่ งเหมอื นกบั การอธษิ ฐาน แตจ่ ะเปลย่ี น เฉพาะคำวา่ อะธฏิ ฐามิ เปน็ ปจั จทุ ธะรามิ (ในพระไตรปิฎกมิได้มีที่กล่าวถึงเรื่องการขาดอธิษฐาน แต่ในหนังสือ บพุ พสกิ ขาวรรณา หนา้ ๔๖๔ กลา่ วไวว้ า่ ผา้ ไตรจวี ร ถา้ ขาดเปน็ ชอ่ งทะลเุ ทา่ หลงั เลบ็ กอ้ ย เปน็ เหตใุ หข้ าดอธษิ ฐาน ดงั น้ี สงั ฆาฏิ และจวี ร ด้านยาวตั้งแต่ริมผ้าเข้าไป ๑ คืบ ดา้ นกวา้ งตง้ั แตร่ มิ ผา้ เขา้ ไป ๘ นิ้ว สบง ด้านยาวตั้งแต่ริมผ้าเข้าไป ๑ คืบ ด้านกว้างตั้งแต่ริมผ้าเข้าไป ๔ นิ้ว) คำวกิ ปั บรขิ าร (วธิ กี ารวกิ ปั และถอนวกิ ปั น้ี มอี ธบิ ายไวใ้ นสกิ ขาบทวภิ งั ค์ สรุ าปานวรรค สกิ ขาบทท่ี ๙ หนา้ ๑๔๔) คำวกิ ปั ตอ่ หนา้ ผรู้ บั ในหตั ถบาส วา่ ดงั น้ี (๓ หน) จีวรผืนเดียว อมิ งั จวี ะรงั ตยุ หงั วกิ ปั เปม.ิ จีวรหลายผืน อมิ านิ จวี ะรานิ ตยุ หงั วกิ ปั เปม.ิ บาตรใบเดียว อมิ งั ปตั ตงั ตยุ หงั วกิ ปั เปม.ิ บาตรหลายใบ อมิ านิ ปตั ตานิ ตยุ หงั วกิ ปั เปม.ิ คำถอนวกิ ปั ผถู้ อนแกพ่ รรษากวา่ ในหตั ถบาส วา่ ดงั น้ี (๓ หน) จีวรผืนเดียว อมิ งั จวี ะรงั มยั หงั สนั ตะกงั ปรภิ ญุ ชะ วา จีวรหลายผืน วสิ ชั เชหิ วา ยะถาปจั จะยงั วา กะโรห.ิ อมิ านิ จวี ะรานิ มยั หงั สนั ตะกานิ ปรภิ ญุ ชะ วา วสิ ชั เชหิ วา ยะถาปจั จะยงั วา กะโรห.ิ

๔๑๐ ประมวลพระพุทธบัญญตั ิ อรยิ วนิ ยั จากพระไตรปฎิ ก บาตรใบเดียว อมิ งั ปตั ตงั มยั หงั สนั ตะกงั ปรภิ ญุ ชะ วา วสิ ชั เชหิ วา ยะถาปจั จะยงั วา กะโรห.ิ บาตรหลายใบ อมิ านิ ปตั ตานิ มยั หงั สนั ตะกานิ ปรภิ ญุ ชะ วา วสิ ชั เชหิ วา ยะถาปจั จะยงั วา กะโรห.ิ (ผถู้ อนออ่ นพรรษากวา่ ในหตั ถบาส ใหเ้ ปลย่ี น กะโรหิ เปน็ กะโรถะ ) วธิ ีถือนสิ ัย วธิ ถี อื นสิ ยั พระอปุ ชั ฌาย์ สัทธิวิหาริกนั้น พึงห่มผ้าอุตตราสงค์เฉวียงบ่า ไหว้เท้านั่งกระโหย่ง ประคองอญั ชลี แลว้ กลา่ วคำอยา่ งน้ี ๓ หนวา่ \"อปุ ชั ฌาโย เม ภนั เต โหห.ิ \" \"ทา่ นเจา้ ขา้ ขอทา่ นจงเปน็ อปุ ชั ฌายะของขา้ พเจา้ \" อปุ ชั ฌายร์ บั วา่ “สาหุ ดลี ะ, ละหุ เบาใจละ, โอปายกิ งั ชอบแกอ่ บุ ายละ, ปะฏริ ปู งั สมควรละ, ปาสาทเิ กนะ สมั ปาเทหิ จงยงั ความปฏบิ ตั ใิ หถ้ งึ พรอ้ ม ดว้ ยอาการอนั นา่ เลอ่ื มใสเถดิ ” ดงั นก้ี ไ็ ด้ รบั ดว้ ยกาย รบั ดว้ ยวาจา รบั ดว้ ยทง้ั กาย และวาจากไ็ ด้ เปน็ อนั วา่ อนั เตวาสกิ ถอื อาจารยแ์ ลว้ , ไมร่ บั ดว้ ยกาย ไมร่ บั ดว้ ย วาจา ไมร่ บั ดว้ ยทง้ั กายและวาจา ไมเ่ ปน็ อนั วา่ อนั เตวาสกิ ถอื อาจารยแ์ ลว้ . (ถ้าทา่ นรบั สทั ธวิ หิ ารกิ พงึ กลา่ วรบั วา่ \"สาธุ ภนั เต.\" กล่าวอีก ๓ หนว่า “อัชชะตัคเคทานิ เถโร มัยหัง ภาโร, อะหัมปิ เถรสั สะ ภาโร.”) หมายเหตุ ในวงเลบ็ เปน็ นยั แหง่ อรรถกถา วธิ ถี อื นสิ ยั พระอาจารย์ อนั เตวาสกิ นน้ั พงึ หม่ ผา้ อตุ ตราสงคเ์ ฉวยี งบา่ ไหวเ้ ทา้ นง่ั กระโหยง่ ประคองอญั ชลี แลว้ กลา่ วอยา่ งน้ี ๓ หนวา่ \"อาจะรโิ ย เม ภนั เต โหห,ิ อายสั ม๎ ะโต นสิ สายะ วจั ฉาม.ิ \" \"ทา่ นเจา้ ขา้ ขอทา่ นจงเปน็ อาจารยข์ องขา้ พเจา้ ขา้ พเจา้ จกั อาศยั ทา่ นอย\"ู่ (ลำดบั ตอ่ จากน้ี เหมอื นกบั วธิ ถี อื นสิ ยั พระอปุ ชั ฌายท์ กุ อยา่ ง )

ภาคผนวก ๔๑๑ คำอธิษฐานเข้าพรรษา อมิ สั ม๎ งิ อาวาเส อมิ งั เตมาสงั วสั สงั อเุ ปม.ิ คำขอขมาโทษ พธิ ขี มาหลายคน ผขู้ อ เถเร ปะมาเทนะ ทะวารตั ตะเยนะ กะตงั , สพั พงั อะปะราธงั ขะมะตุ โน ภนั เต. (๓ หน) ผู้รับ อะหงั ขะมามิ ตมุ เหหปิ ิ เม ขะมติ พั พงั . ผขู้ อ ขะมามะ ภนั เต. พธิ ขี มาคนเดยี ว ผขู้ อ เถเร ปะมาเทนะ ทะวารตั ตะเยนะ กะตงั , สพั พงั อะปราธงั ขะมะถะ เม ภนั เต. (๓ หน) ผู้รับ อะหงั ขะมามิ ตะยาปิ เม ขะมติ พั พงั . ผขู้ อ ขะมามิ ภนั เต. คำตอบรบั ผมู้ าขอขมา (พทุ ธพจน์ พระไตรปฎิ กบาลี สยามรฐั ๗ / ๓๖๙ / ๑๘๐) “ยะโต จะ โข ตะวงั อาวโุ ส อจั จะยงั อจั จะยะโต ทสิ ๎วา ยะถาธมั มงั ปะฏกิ ะโรสิ ตนั เต มะยงั ปะฏคิ คณั หามะ วทุ ธิ เหสา อาวโุ ส อะรยิ สั สะ วนิ ะเย โย อจั จะยงั อจั จะยะโต ทสิ ว๎ า ยะถาธมั มงั ปะฏกิ ะโรติ อายะตงิ สงั วะรงั อาปชั ชะต.ิ ” เมอ่ื ใดทา่ นเหน็ โทษ โดยความเปน็ โทษ แลว้ ทำคนื ตามธรรม เมอ่ื นน้ั เรารบั โทษนน้ั ของทา่ น เพราะผใู้ ดเหน็ โทษโดยความเปน็ โทษ แลว้ ทำคนื ตาม ธรรม ถงึ ความสำรวมตอ่ ไป ขอ้ นน้ั เปน็ ความเจรญิ ในอรยิ วนิ ยั . คำสัตตาหะกะระณียะ “สัตตาหะกะระณียัง กิจจัง เม อัตถิ ตัสมา มะยา คันตัพพัง อมิ สั ม๎ งิ สตั ตาหพั ภนั ตะเร นวิ ตั ตสิ สาม.ิ ”

๔๑๒ ประมวลพระพุทธบัญญัติ อรยิ วนิ ยั จากพระไตรปฎิ ก คำเสยี สละของเปน็ นสิ สคั คยี ์ จวี รวรรค สกิ ขาบทท่ี ๑ (เกย่ี วกบั การเกบ็ จวี รเกนิ จำเปน็ ไวเ้ กนิ ๑๐ วนั ) พงึ เขา้ ไปหาภกิ ษรุ ปู หนง่ึ หม่ ผา้ อตุ ตราสงคเ์ ฉวยี งบา่ นง่ั กระโหยง่ ประนมมือกล่าวอย่างนี้ว่า \"อทิ งั เม ภนั เต (อาวโุ ส) จวี ะรงั ทะสาหาตกิ กนั ตงั นสิ สคั คยิ งั อมิ าหงั อายสั ม๎ ะโต นสิ สชั ชาม.ิ \" \"ทา่ นเจา้ ขา้ จวี รผนื นข้ี องขา้ พเจา้ ลว่ ง ๑๐ วนั เปน็ ของจำจะเสยี สละ ข้าพเจ้าสละจีวรผืนนี้แก่ท่าน.\" ถา้ สละตง้ั แต่ ๒ ผนื ขน้ึ ไป พงึ วา่ รวมกนั ดงั น้ี \"อิมานิ เม ภันเต (อาวุโส) จีวะรานิ ทะสาหาติกกันตานิ นสิ สคั คยิ านิ อมิ านาหงั อายสั ม๎ ะโต นสิ สชั ชาม.ิ \" \"ทา่ นเจา้ ขา้ จวี รเหลา่ นข้ี องขา้ พเจา้ ลว่ ง ๑๐ วนั เปน็ ของจำจะเสยี สละ ข้าพเจ้าสละจีวรเหล่านี้แก่ท่าน.\" ครน้ั สละแลว้ พงึ แสดงอาบตั ิ ภกิ ษผุ รู้ บั เสยี สละนน้ั พงึ รบั อาบตั ิ พงึ คนื จีวรที่เสียสละให้ด้วยคำว่า คำคนื จวี ร จวี รผนื เดยี ว พงึ วา่ \"อมิ งั จวี ะรงั อายสั ม๎ ะโต ทมั ม.ิ \" จวี รหลายผนื พงึ วา่ \"อมิ านิ จวี ะรานิ อายสั ม๎ ะโต ทมั ม.ิ \" จวี รวรรค สกิ ขาบทท่ี ๒ (เกย่ี วกบั อยปู่ ราศจากไตรจวี ร แมร้ าตรหี นง่ึ ) พงึ เขา้ ไปหาภกิ ษรุ ปู หนง่ึ หม่ ผา้ อตุ ตราสงคเ์ ฉวยี งบา่ นง่ั กระโหยง่ ประนมมือกล่าวอย่างนี้ว่า \"อทิ งั เม ภนั เต (อาวโุ ส) จวี ะรงั รตั ตวิ ปิ ปะวตุ ถงั อญั ญตั ร๎ ะ ภกิ ขสุ มั มะตยิ า นสิ สคั คยิ งั อมิ าหงั อายสั ม๎ ะโต นสิ สชั ชาม.ิ \" \"ทา่ นเจา้ ขา้ จวี รผนื นข้ี องขา้ พเจา้ อยปู่ ราศจากแลว้ ลว่ งราตรี

ภาคผนวก ๔๑๓ เปน็ ของจำจะเสยี สละ เวน้ แตภ่ กิ ษไุ ดร้ บั สมมติ ขา้ พเจา้ สละจวี รผนื นแ้ี กท่ า่ น.\" ถา้ สละ ๒ ผนื พงึ วา่ \"ทะวจิ วี ะรงั \" ถา้ สละ ๓ ผนื พงึ วา่ \"ตจิ วี ะรงั \" ครั้นสละแล้ว พึงแสดงอาบัติ ภิกษุผู้รับเสียสละนั้นพึงรับอาบัติ พงึ คนื จวี รทเ่ี สยี สละใหอ้ ยา่ งสกิ ขาบทท่ี ๑ จวี รวรรค สกิ ขาบทท่ี ๓ (เกย่ี วกบั เกบ็ อกาลจวี ร ไวเ้ กนิ กำหนด) \"อทิ งั เม ภนั เต (อาวโุ ส) จวี ะรงั อะกาละจวี ะรงั มาสาตกิ กนั ตงั นสิ สคั คยิ งั อมิ าหงั อายสั ม๎ ะโต นสิ สชั ชาม.ิ \" \"อกาลจีวรผืนนี้ของข้าพเจ้าล่วงเดือนหนึ่ง จำจะสละ ข้าพเจ้า สละจวี รผนื นแ้ี กท่ า่ น. \" จวี รวรรค สกิ ขาบทท่ี ๖ (เกย่ี วกบั ขอจวี รตอ่ คฤหสั ถ์ ทไ่ี มใ่ ชญ่ าต)ิ \"อทิ งั เม ภนั เต (อาวโุ ส) จวี ะรงั อญั ญาตะกงั คะหะปะตกิ งั อญั ญตั ร๎ ะ สะมะยา วญิ ญาปติ งั นสิ สคั คยิ งั อมิ าหงั อายสั ม๎ ะโต นสิ สชั ชาม.ิ \" \"จวี รผนื นข้ี องขา้ พเจา้ ขอตอ่ เจา้ เรอื นผมู้ ใิ ชญ่ าติ นอกจากสมยั เปน็ ของจำจะสละ ขา้ พเจา้ สละจวี รผนื นแ้ี กท่ า่ น.\" จวี รวรรค สกิ ขาบทท่ี ๗ (เกย่ี วกบั จวี รฉบิ หายไป แลว้ รบั จวี รเกนิ กำหนด) \"อทิ งั เม ภนั เต (อาวโุ ส) จวี ะรงั อญั ญาตะกงั คะหะปะตกิ งั ตะทตุ ตะรงิ วญิ ญาปติ งั นสิ สคั คยิ งั อมิ าหงั อายสั ม๎ ะโต นสิ สชั ชาม.ิ \" \"ทา่ นเจ้าข้า จวี รผนื นข้ี องขา้ พเจา้ ขอแลว้ เกนิ กำหนดตอ่ เจา้ เรอื น ผมู้ ใิ ชญ่ าติ เปน็ ของจำจะสละ ขา้ พเจา้ สละจวี รผนื นแ้ี กท่ า่ น. \" จวี รวรรค สกิ ขาบทท่ี ๘ (เกย่ี วกบั พดู ใหเ้ ขาซอ้ื จวี รทด่ี กี วา่ เขากำหนด) \"อิทัง เม ภันเต (อาวุโส) จีวะรัง ปุพเพ อัปปะวาริโต อญั ญาตะกงั คะหะปะตกิ งั อปุ ะสงั กะมติ ว๎ า จวี ะเร วกิ ปั ปงั อาปนั นงั นสิ สคั คยิ งั อมิ าหงั อายสั ม๎ ะโต นสิ สชั ชาม.ิ \"

๔๑๔ ประมวลพระพทุ ธบัญญตั ิ อรยิ วนิ ยั จากพระไตรปฎิ ก \"ทา่ นเจา้ ขา้ จวี รผนื นข้ี องขา้ พเจา้ เขาไมไ่ ดป้ วารณาไวก้ อ่ น ขา้ พเจา้ เขา้ ไปหาเจา้ เรอื นผไู้ มใ่ ชญ่ าติ ถงึ การกำหนดในจวี ร เปน็ ของจำจะสละ ขา้ พเจา้ สละจีวรผืนนี้แก่ท่าน.\" จวี รวรรค สกิ ขาบทท่ี ๑๐ (เกย่ี วกบั ทวงจวี รจากผรู้ บั ฝากผอู้ น่ื เกนิ ๓ กำหนด) \"อทิ งั เม ภนั เต (อาวโุ ส) จวี ะรงั อะตเิ รกะตกิ ขตั ตงุ โจทะนายะ อะติเรกะฉักขัตตุง ฐาเนนะ อะภินิปผาทิตัง นิสสัคคิยัง อิมาหัง อายสั ม๎ ะโต นสิ สชั ชาม.ิ \" \"ทา่ นเจา้ ขา้ จวี รผนื นข้ี องขา้ พเจา้ ใหส้ ำเรจ็ ดว้ ยทวงเกนิ ๓ ครง้ั ดว้ ยยนื เกนิ ๖ ครง้ั เปน็ ของจำจะสละ ขา้ พเจา้ สละจวี รผนื นแ้ี กท่ า่ น.\" โกสยิ วรรค สกิ ขาบทท่ี ๘ (เกย่ี วกบั รบั เงนิ หรอื ทอง) \"อะหัง ภันเต (อาวุโส) รูปิยัง ปะฏิคคะเหสิง, อิทัง เม นสิ สคั คยิ งั อมิ าหงั สงั ฆสั สะ นสิ สชั ชาม.ิ \" \"ทา่ นเจา้ ขา้ ขา้ พเจา้ รบั รปู ยิ ะไวแ้ ลว้ ของนข้ี องขา้ พเจา้ เปน็ ของ จำจะสละ ขา้ พเจา้ สละรปู ยิ ะน้ีแกส่ งฆ.์ \" โกสยิ วรรค สกิ ขาบทท่ี ๙ (เกย่ี วกบั ทำการซอ้ื ขายดว้ ยรปู ยิ ะ) \"อะหงั ภนั เต (อาวโุ ส) นานปั ปะการะกงั รปู ยิ ะสงั โวหารงั สะมาปชั ชงิ , อทิ งั เม นสิ สคั คยิ งั , อมิ าหงั สงั ฆสั สะ นสิ สชั ชาม.ิ \" \"ทา่ นเจา้ ขา้ ขา้ พเจา้ ถงึ การซอ้ื ขาย ดว้ ยรปู ยิ ะมปี ระการตา่ งๆ ของ สง่ิ นข้ี องขา้ พเจา้ เปน็ ของจำจะสละ ขา้ พเจา้ สละของสง่ิ น้แี กส่ งฆ.์ \" โกสยิ วรรค สกิ ขาบทท่ี ๑๐ (เกย่ี วกบั ทำการซอ้ื ขาย โดยใชข้ องแลก) \"อะหงั ภนั เต (อาวโุ ส) นานปั ปะการะกงั กะยะวกิ กะยงั สะมาปชั ชงิ , อทิ งั เม นสิ สคั คยิ งั , อมิ าหงั อายสั ม๎ ะโต นสิ สชั ชาม.ิ \" \"ทา่ นเจา้ ขา้ ขา้ พเจา้ ไดถ้ งึ การแลกเปลย่ี นมปี ระการตา่ งๆ ของสง่ิ น้ี ของขา้ พเจา้ เปน็ ของจำจะสละ ขา้ พเจา้ สละของสง่ิ นแ้ี กท่ า่ น.\"

ภาคผนวก ๔๑๕ ปตั ตวรรค สกิ ขาบทท่ี ๑ (เกย่ี วกบั บาตรทเ่ี กนิ ๑ ลกู ไวเ้ กนิ ๑๐ วนั ) \"อะยงั เม ภนั เต (อาวโุ ส) ปตั โต ทะสาหาตกิ กนั โต นสิ สคั คโิ ย, อมิ าหงั อายสั ม๎ ะโต นสิ สชั ชาม.ิ \" \"ทา่ นเจา้ ขา้ บาตรใบนข้ี องขา้ พเจา้ ลว่ ง ๑๐ วนั เปน็ ของจำจะเสยี สละ ข้าพเจ้าสละบาตรใบนี้แก่ท่าน\" คำคนื บาตร \"อมิ งั ปตั ตงั อายสั ม๎ ะโต ทมั ม\"ิ \"ข้าพเจ้าให้บาตรใบนี้แก่ท่าน\" ปตั ตวรรค สกิ ขาบทท่ี ๒ (เกย่ี วกบั บาตรรา้ วไมเ่ กนิ ๕ แหง่ ขอบาตรใหม)่ \"อะยงั เม ภนั เต (อาวโุ ส) ปตั โต อนู ะปญั จะพนั ธะเนนะ ปตั เตนะ เจตาปโิ ต นสิ สคั คโิ ย, อมิ าหงั สงั ฆสั สะ นสิ สชั ชาม.ิ \" \"ทา่ นเจา้ ขา้ บาตรใบนข้ี องขา้ พเจา้ ใหจ้ า่ ยมาแลว้ เปน็ ของจำจะสละ เพราะเปน็ บาตรมแี ผลหยอ่ นหา้ ขา้ พเจา้ สละบาตรใบนแ้ี กส่ งฆ.์ \" ปตั ตวรรค สกิ ขาบทท่ี ๓ (เกย่ี วกบั เกบ็ เภสชั ๕ ไวเ้ กนิ ๗ วนั ) \"อิทัง เม ภันเต (อาวุโส) เภสัชชัง สัตตาหาติกกันตัง นสิ สคั คยิ งั , อมิ าหงั อายสั ม๎ ะโต นสิ สชั ชาม.ิ \" \" ทา่ นเจา้ ขา้ เภสชั นข้ี องขา้ พเจา้ ลว่ ง ๗ วนั เปน็ ของจำจะสละ ข้าพเจ้าสละเภสัชนี้แก่ท่าน.\" คำคนื เภสชั \"อมิ งั เภสชั ชงั อายสั ม๎ ะโต ทมั ม\"ิ \"ข้าพเจ้าให้เภสัชนี้แก่ท่าน\"

๔๑๖ ประมวลพระพทุ ธบญั ญัติ อรยิ วนิ ยั จากพระไตรปฎิ ก ปตั ตวรรค สกิ ขาบทท่ี ๔ (เกย่ี วกบั แสวงหาและทำผา้ อาบนำ้ ฝนกอ่ นเวลา) \"อทิ งั เม ภนั เต (อาวโุ ส) วสั สกิ ะสาฏกิ ะจวี ะรงั อะตเิ รกะมาเส เสเส คิมหาเน ปะริยิฏฐัง อะติเรกัฑฒะมาเส เสเส คิมหาเน กัต๎วา นวิ ตั ถงั นสิ สคั คยิ งั อมิ าหงั อายสั ม๎ ะโต นสิ สชั ชาม.ิ \" \"ทา่ นเจา้ ขา้ จวี รคอื ผา้ อาบนำ้ ฝนผนื นข้ี องขา้ พเจา้ แสวงหาไดม้ า ในฤดรู อ้ น ซง่ึ ยงั เหลอื เกนิ กวา่ ๑ เดอื น ทำนงุ่ ในฤดรู อ้ น ซง่ึ ยงั เหลอื อยเู่ กนิ กวา่ กง่ึ เดอื น เปน็ ของจำจะสละ ขา้ พเจา้ สละจวี รคอื ผา้ อาบนำ้ ฝนนแ้ี กท่ า่ น.\" ปตั ตวรรค สกิ ขาบทท่ี ๕ (เกย่ี วกบั ใหจ้ วี รแกภ่ กิ ษอุ น่ื แลว้ ชงิ คนื ) \"อิทัง เม ภันเต (อาวุโส) จีวะรัง ภิกขุสสะ สามัง ทัต๎วา อจั ฉนิ นงั นสิ สคั คยิ งั อมิ าหงั อายสั ม๎ ะโต นสิ สชั ชาม.ิ \" \"ทา่ นเจา้ ขา้ จวี รผนื นข้ี องขา้ พเจา้ ใหแ้ กภ่ กิ ษเุ อง แลว้ ชงิ เอามา เปน็ ของจำจะสละ ขา้ พเจา้ สละจวี รผนื นแ้ี กท่ า่ น.\" ปตั ตวรรค สกิ ขาบทท่ี ๖ (เกย่ี วกบั ขอดา้ ยมาเองแลว้ ใหช้ า่ งทอเปน็ จวี ร) \"อทิ งั เม ภนั เต (อาวโุ ส) จวี ะรงั สามงั สตุ ตงั วญิ ญาเปตว๎ า ตนั ตะวาเยหิ วายาปติ งั นสิ สคั คยิ งั อมิ าหงั อายสั ม๎ ะโต นสิ สชั ชาม.ิ \" \"ทา่ นเจา้ ขา้ จวี รผนื นข้ี องขา้ พเจา้ ขอดา้ ยมาเองแลว้ ยงั ชา่ งหกู ใหท้ อ เปน็ ของจำจะสละ ขา้ พเจา้ สละจวี รผนื นแ้ี กท่ า่ น. \" ปตั ตวรรค สกิ ขาบทท่ี ๗ (เกย่ี วกบั ใหช้ า่ งทอดกี วา่ ผทู้ จ่ี ะถวายกำหนด) \"อิทัง เม ภันเต (อาวุโส) จีวะรัง ปุพเพ อัปปะวาริโต อญั ญาตะกสั สะ คะหะปะตกิ สั สะ ตนั ตะวาเย อปุ ะสงั กะมติ ว๎ า จวี ะเร วกิ ปั ปงั อาปนั นงั นสิ สคั คยิ งั อมิ าหงั อายสั ม๎ ะโต นสิ สชั ชาม.ิ \" \"ทา่ นเจา้ ขา้ จวี รผนื นข้ี องขา้ พเจา้ เขาไมไ่ ดป้ วารณาไวก้ อ่ น ขา้ พเจา้ เขา้ ไปหาชา่ งหกู ของเจา้ เรอื น ผไู้ มใ่ ชญ่ าติ ถงึ ความกำหนดในจวี ร เปน็ ของ จำจะสละ ขา้ พเจา้ สละจวี รผนื นแ้ี กท่ า่ น. \"

ภาคผนวก ๔๑๗ ปตั ตวรรค สกิ ขาบทท่ี ๘ (เกย่ี วกบั เกบ็ ผา้ จำนำพรรษาไวเ้ กนิ จวี รกาล) \"อทิ งั เม ภนั เต (อาวโุ ส) อจั เจกะจวี ะรงั จวี ะระกาละสะมะยงั อะตกิ กามติ งั นสิ สคั คยิ งั อมิ าหงั อายสั ม๎ ะโต นสิ สชั ชาม.ิ \" \"ทา่ นเจา้ ขา้ ผา้ อจั เจกจวี รผนื นข้ี องขา้ พเจา้ เกบ็ ไวล้ ว่ งเลยสมยั จวี รกาลเปน็ ของจำจะสละ ขา้ พเจา้ สละผา้ อจั เจกจวี รผนื นแ้ี กท่ า่ น. \" ปตั ตวรรค สกิ ขาบทท่ี ๙ (เกย่ี วกบั อยปู่ า่ มภี ยั เกบ็ จวี รในบา้ นเกนิ ๖ คนื ) \"อทิ งั เม ภนั เต (อาวโุ ส) จวี ะรงั อะตเิ รกะฉารตั ตงั วปิ ปะวตุ ถงั อญั ญตั ร๎ ะ ภกิ ขสุ มั มะตยิ า นสิ สคั คยิ งั อมิ าหงั อายสั ม๎ ะโต นสิ สชั ชาม.ิ \" \"ทา่ นเจา้ ขา้ จวี รผนื นข้ี องขา้ พเจา้ อยปู่ ราศแลว้ เกนิ ๖ ราตรี เปน็ ของ จำจะสละ เวน้ ไวแ้ ตภ่ กิ ษไุ ดส้ มมติ ขา้ พเจา้ สละจวี รผนื นแ้ี กท่ า่ น. \" ปตั ตวรรค สกิ ขาบทท่ี ๑๐ (เกย่ี วกบั นอ้ มลาภทเ่ี ขาจะถวายสงฆม์ าเพอ่ื ตน) \"อทิ งั เม ภนั เต (อาวโุ ส) ชานงั สงั ฆกิ งั ลาภงั ปะรณิ ะตงั อตั ตะโน ปะรณิ ามติ งั นสิ สคั คยิ งั อมิ าหงั อายสั ม๎ ะโต นสิ สชั ชาม.ิ \" \"ทา่ นเจา้ ขา้ ลาภนเ้ี ขานอ้ มไปเปน็ ของถวายสงฆ์ ขา้ พเจา้ รอู้ ยู่ นอ้ มมา เพอ่ื ตน เปน็ ของจำจะสละ ขา้ พเจา้ สละลาภนแ้ี กท่ า่ น. \" สมณกปั ปะ “ดกู อ่ นภกิ ษทุ ง้ั หลาย เราอนญุ าตใหฉ้ นั ผลไมโ้ ดยสมณกปั ปะ ๕ อยา่ ง คอื ๑.ผลไม้ที่ลนด้วยไฟ ๒.ผลไม้ที่กรีดด้วยศัสตรา ๓.ผลไม้ที่จิกด้วยเล็บ ๔.ผลไม้ที่ไม่มีเมล็ด ๕.ผลไม้ที่ปล้อนเมล็ดออกแล้ว” กระทำโดย ภิกษุกล่าวคำว่า “กัปปิยัง กะโรหิ” อนุปะสัมบัน ใช้ศัสตรา หรอื เลบ็ ทำตำหนทิ ผ่ี ลไมซ้ ง่ึ อยตู่ ดิ ตอ่ กนั พรอ้ มกบั กลา่ ววา่ “กปั ปยิ งั ภนั เต”

๔๑๘ ประมวลพระพทุ ธบัญญตั ิ อรยิ วนิ ยั จากพระไตรปฎิ ก วธิ แี สดงอาบตั ิ แสดงอาบตั กิ อ่ นทำอโุ บสถ ภกิ ษรุ ปู หนง่ึ ตอ้ งอาบตั ใิ นวนั อโุ บสถ. เธอไดม้ คี วามปรวิ ติ กในขณะนน้ั วา่ พระผมู้ พี ระภาคทรงบญั ญตั ไิ วว้ า่ ภกิ ษมุ อี าบตั ติ ดิ ตวั ไมพ่ งึ ทำอโุ บสถ ดงั น้ี กเ็ รา เปน็ ผตู้ อ้ งอาบตั แิ ลว้ จะพงึ ปฏบิ ตั อิ ยา่ งไรหนอ จงึ บอกเรอ่ื งนน้ั แกภ่ กิ ษทุ ง้ั หลาย ภกิ ษทุ ง้ั หลาย กราบทลู เรอ่ื งนน้ั แดพ่ ระผมู้ พี ระภาค. พระผมู้ พี ระภาครบั สง่ั กะภกิ ษทุ ง้ั หลายวา่ ดกู อ่ นภกิ ษทุ ง้ั หลาย กภ็ กิ ษใุ น ศาสนานี้ต้องอาบัติในวันอุโบสถ. ภิกษุนั้นพึงเข้าไปหาภิกษุรูปหนึ่ง ห่มผ้า อตุ ราสงคเ์ ฉวยี งบา่ นง่ั กระโหยง่ ประคองอญั ชลี แลว้ กลา่ วอยา่ งนว้ี า่ “อะหงั อาวโุ ส อติ ถนั นามงั อาปตั ตงิ (แทนดว้ ยชอ่ื ประเภทของอาบตั )ิ อาปนั โน ตงั ปะฏเิ ทเสมิ แนะ่ เธอ ผมตอ้ งอาบตั มิ ชี อ่ื น้ี ผมแสดงคนื อาบตั นิ น้ั .” ภิกษุผู้รับพึงถามว่า “ปสั สะสิ ทา่ นเหน็ หรอื ?” ภิกษุผู้แสดงพึงตอบว่า “อามะ ปสั สามิ ครบั ผมเหน็ .” ภิกษุผู้รับพึงบอกว่า “อายะตงิ สงั วะเรยยาสิ ทา่ นพงึ สำรวมตอ่ ไป” สงสยั ในอาบตั ิ ดกู อ่ นภกิ ษทุ ง้ั หลาย กภ็ กิ ษใุ นศาสนานม้ี คี วามสงสยั ในอาบตั ิ ในวนั อโุ บสถ. ภกิ ษนุ น้ั พงึ เขา้ ไปหาภกิ ษรุ ปู หนง่ึ หม่ ผา้ อตุ ราสงคเ์ ฉวยี งบา่ นง่ั กระโหยง่ ประคองอญั ชลแี ลว้ กลา่ วอยา่ งน้ี วา่ “อะหงั อาวโุ ส อติ ถนั นามายะ อาปตั ตยิ า (แทนดว้ ยชอ่ื ประเภทของ อาบตั )ิ เวมะตโิ ก ยะทา นพิ เพมะตโิ ก ภะวสิ สามิ ตะทา ตงั อาปตั ตงิ ปะฏกิ ะรสิ สามิ แนะ่ เธอ ผมมคี วามสงสยั ในอาบตั มิ ชี อ่ื น้ี จกั หมดสงสยั เมอ่ื ใด จกั ทำคนื อาบัตนิ ้นั เมอื่ นัน้ ” ครั้นแล้วพึงทำอุโบสถ ฟังปาติโมกข์ แต่ไม่พึงทำอันตรายแก่อุโบสถ เพราะข้อที่สงสัยนั้นเป็นปัจจัย. (จากพทุ ธพจนน์ ้ี ทำใหท้ ราบวา่ สมยั พทุ ธกาลมกี ารแสดงอาบตั เิ ฉพาะ ทต่ี อ้ งหรอื สงสยั จรงิ ๆ ปจั จบุ นั ไดม้ คี ณาจารยเ์ รยี บเรยี งวธิ กี ารแสดงอาบตั ไิ ว้ ดงั น)้ี

ภาคผนวก ๔๑๙ ภกิ ษผุ อู้ อ่ นพรรษากวา่ * พงึ แสดงดงั น้ี นะโม ตสั สะ ภะคะวะโต อะระหะโต สมั มาสมั พทุ ธสั สะ. (๓ จบ) กระผมขอรวบรวมอาบตั ทิ ง้ั หลายทง้ั ปวง ทส่ี มควรเทศนามาแสดงตอ่ ทา่ น (พระอาจารย)์ ถา้ หากกระผมลว่ งเกนิ ในสกิ ขาบทเหลา่ ใด กข็ อแสดงในสกิ ขาบท เหลา่ นน้ั ถา้ ไมไ่ ดล้ ว่ งเกนิ กเ็ ปน็ อนั วา่ ไมไ่ ดแ้ สดง. อะหัง ภันเต สัมพะหุลา นานาวัตถุกาโย ถุลลัจจะยาโย อาปัตติโย อาปนั โน ตา ปะฏเิ ทเสม.ิ ภิกษุผู้รับพึงถามว่า ปสั สะสิ อาวโุ ส. ภิกษุผู้แสดงพึงตอบว่า อามะ ภนั เต ปสั สาม.ิ ภิกษุผู้รับพึงถามว่า อายะตงิ อาวโุ ส สงั วะเรยยาส.ิ ภิกษุผู้แสดงพึงตอบว่า สาธุ สฏุ ฐุ ภนั เต สงั วะรสิ สาม.ิ (๓ หน) อะหงั ภนั เต สมั พะหลุ า นานาวตั ถกุ าโย ปาจติ ตยิ าโย อาปตั ตโิ ย อาปนั โน ตา ปะฏเิ ทเสม.ิ ภิกษุผู้รับพึงถามว่า ปสั สะสิ อาวโุ ส. ภิกษุผู้แสดงพึงตอบว่า อามะ ภนั เต ปสั สาม.ิ ภิกษุผู้รับพึงถามว่า อายะตงิ อาวโุ ส สงั วะเรยยาส.ิ ภิกษุผู้แสดงพึงตอบว่า สาธุ สฏุ ฐุ ภนั เต สงั วะรสิ สาม.ิ (๓ หน) อะหงั ภนั เต สมั พะหลุ า นานาวตั ถกุ าโย ทกุ กะฏาโย อาปตั ตโิ ย อาปนั โน ตา ปะฏเิ ทเสม.ิ ภิกษุผู้รับพึงถามว่า ปสั สะสิ อาวโุ ส. ภิกษุผู้แสดงพึงตอบว่า อามะ ภนั เต ปสั สาม.ิ ภิกษุผู้รับพึงถามว่า อายะตงิ อาวโุ ส สงั วะเรยยาส.ิ ภิกษุผู้แสดงพึงตอบว่า สาธุ สฏุ ฐุ ภนั เต สงั วะรสิ สาม.ิ (๓ หน) อะหงั ภนั เต สมั พะหลุ า ทพุ ภาสติ าโย อาปตั ตโิ ย อาปนั โน ตา ปะฏเิ ทเสม.ิ ภิกษุผู้รับพึงถามว่า ปสั สะสิ อาวโุ ส. ภิกษุผู้แสดงพึงตอบว่า อามะ ภนั เต ปสั สาม.ิ ภิกษุผู้รับพึงถามว่า อายะตงิ อาวโุ ส สงั วะเรยยาส.ิ ภิกษุผู้แสดงพึงตอบว่า สาธุ สฏุ ฐุ ภนั เต สงั วะรสิ สาม.ิ ( ๓ หน) * ถา้ ผพู้ รรษามากเปน็ ผแู้ สดงใหเ้ ปลย่ี นทข่ี ดี เสน้ ใตไ้ ว้ จากคำวา่ ภนั เต เปน็ อาวโุ ส, อาวโุ ส เปน็ ภนั เต, ปสั สะสิ เปน็ ปสั สะถะ และ สงั วะเรยยาสิ เปน็ สงั วะเรยยาถะ

๔๒๐ ประมวลพระพทุ ธบัญญัติ อรยิ วนิ ยั จากพระไตรปฎิ ก กรรมวาจาสมมตเิ จา้ หน้าท่ีทำการสงฆ์ ทรงบญั ญตั วิ า่ ในเบอ้ื งตน้ ตอ้ งขอรอ้ งภกิ ษุ จากนน้ั ภกิ ษุ ผฉู้ ลาดสามารถ จงึ สวดประกาศใหส้ งฆท์ ราบดว้ ยญตั ตทิ ตุ ยิ กรรมวาจา ตามแตล่ ะหนา้ ทด่ี งั นี้ กรรมวาจาสมมติเจ้าหน้าที่แจกจีวร สณุ าตุ เม ภนั เต สงั โฆ, ยะทิ สงั ฆสั สะ ปตั ตะกลั ลงั , สงั โฆ อติ ถนั นามงั ภกิ ขงุ จวี ะระภาชะกงั สมั มนั เนยยะ, เอสา ญตั ต.ิ สณุ าตุ เม ภนั เต สงั โฆ, สงั โฆ อติ ถนั นามงั ภกิ ขงุ จวี ะระภาชะกงั สมั มนั นะต,ิ ยสั สายสั ม๎ ะโต ขะมะติ อติ ถนั นามสั สะ ภกิ ขโุ น จวี ะระภาชะกสั สะ สมั มะต,ิ โส ตณุ ห๎ สั สะ ยสั สะ นกั ขะมะติ โส ภาเสยยะ. สมั มะโต สงั เฆนะ อติ ถนั นาโม ภกิ ขุ จวี ะระภาชะโก ขะมะติ สงั ฆสั สะ, ตสั ม๎ า ตณุ ห๎ ,ี เอวะเมตงั ธาระยาม.ิ ทา่ นเจา้ ขา้ ขอสงฆจ์ งฟงั ขา้ พเจา้ ถา้ ความพรอ้ มพรง่ั ของสงฆถ์ งึ ทแ่ี ลว้ ขอสงฆจ์ งสมมตภิ กิ ษมุ ชี อ่ื อยา่ งนไ้ี วเ้ ปน็ ผแู้ จกจวี ร นเ้ี ปน็ ญตั ต.ิ ทา่ นเจา้ ขา้ ขอสงฆจ์ งฟงั ขา้ พเจา้ สงฆส์ มมตภิ กิ ษมุ ชี อ่ื นเ้ี ปน็ ผแู้ จกจวี ร การสมมตภิ กิ ษมุ ชี อ่ื อยา่ งนเ้ี ปน็ ผแู้ จกจวี ร ชอบแกท่ า่ นผใู้ ด ทา่ นผนู้ น้ั พงึ เปน็ ผนู้ ง่ิ ไม่ชอบแกท่ า่ นผใู้ ด ทา่ นผนู้ น้ั พงึ พดู . ภกิ ษมุ ชี อ่ื น้ี สงฆส์ มมตไิ วเ้ ปน็ ผแู้ จกจวี รแลว้ การสมมตชิ อบแกส่ งฆ์ เหตนุ น้ั จงึ นง่ิ ขา้ พเจา้ ทรงความนไ้ี วด้ ว้ ยอยา่ งน.้ี หมายเหตุ - ถา้ ภกิ ษผุ รู้ บั สมมตชิ อ่ื วา่ “อาสะโภ” พงึ เปลย่ี นคำวา่ อติ ถนั นามงั เปน็ อาสะภงั , อติ ถนั นามสั สะ เปน็ อาสะภสั สะ, คำวา่ อติ ถนั นาโม เปน็ อาสะโภ. - ถา้ ผสู้ วดออ่ นกวา่ ผรู้ บั สมมติ พงึ เปลย่ี นคำวา่ ภกิ ขงุ เปน็ อายสั ม๎ นั ตงั อาสะภงั , ภกิ ขโุ น เปน็ อายสั ม๎ ะโต อาสะภสั สะ, ภกิ ขุ เปน็ อายสั ม๎ า อาสะโภ. - การสมมติเจ้าหน้าที่แบบอื่นๆ พึงเปลี่ยนแต่คำว่า จีวะระภาชะกัง, จวี ะระภาชะกสั สะ, จวี ะระภาชะโก. เปน็ คำตา่ งๆ ตามลำดบั ดงั น้ี :- ผรู้ บั จวี ร เปน็ จวี ะระปะฏคิ คาหะกงั ,จวี ะระปะฏคิ คาหะกสั สะ,จวี ะระปะฏคิ คาหะโก ผเู้ กบ็ จวี ร เปลย่ี นเปน็ จวี ะระนทิ าหะกงั , จวี ะระนทิ าหะกสั สะ, จวี ะระนทิ าหะโก

ภาคผนวก ๔๒๑ กรรมวาจาสมมตเิ จา้ หนา้ ทร่ี บั จวี ร แจกจวี ร เกบ็ จวี ร สุณาตุ เม ภันเต สังโฆ, ยะทิ สังฆัสสะ ปัตตะกัลลัง, สังโฆ อิตถันนามัง ภิกขุง จีวะระปะฏิคคาหะกัญจะ จีวะระนิทาหะกัญจะ จวี ะระภาชะกญั จะ สมั มนั เนยยะ, เอสา ญตั ต.ิ สณุ าตุ เม ภนั เต สงั โฆ, อติ ถนั นามงั ภกิ ขงุ จวี ะระปะฏคิ คาหะกญั จะ จวี ะระนทิ าหะกญั จะ จวี ะระภาชะกญั จะ สมั มนั นะต,ิ ยสั สายัสม๎ ะโต ขะมะติ อติ ถนั นามสั สะ ภกิ ขโุ น จวี ะระปะฏคิ คาหะกสั สะ จะ จวี ะระนทิ าหะกสั สะ จะ จวี ะระภาชะกสั สะ จะ สมั มะต,ิ โส ตณุ ห๎ สั สะ ยสั สะ นกั ขะมะติ โส ภาเสยยะ. สัมมะโต สังเฆนะ อติ ถันนาโม ภกิ ขุ จวี ะระปะฏคิ คาหะโก จะ จวี ะระนทิ าหะโก จะ จวี ะระภาชะโก. ขะมะติ สงั ฆสั สะ, ตัสม๎ า ตณุ ห๎ ี, เอวะเมตงั ธาระยาม.ิ ขอสงฆจ์ งฟงั ขา้ พเจา้ ถา้ ความพรอ้ มพรง่ั ของสงฆถ์ งึ ทแ่ี ลว้ ขอสงฆ์ จงสมมตภิ กิ ษมุ ชี อ่ื อยา่ งนไ้ี วเ้ ปน็ ผรู้ บั จวี ร ผเู้ กบ็ จวี ร ผแู้ จกจวี ร นเ้ี ปน็ ญตั ต.ิ ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า สงฆ์สมมติภิกษุมีชื่ออย่างนี้ไว้เป็นผู้รับจีวร ผเู้ กบ็ จวี ร ผแู้ จกจวี ร การสมมตภิ กิ ษมุ ชี อ่ื อยา่ งนเ้ี ปน็ ผรู้ บั จวี ร ผเู้ กบ็ จวี ร ผู้แจกจีวร ชอบแก่ท่านผู้ใด ท่านผู้นั้นพึงเป็นผู้นิ่ง ไม่ชอบแก่ท่านผู้ใด ท่านผู้นั้นพึงพูด. ภกิ ษมุ ชี อ่ื อยา่ งน้ี สงฆส์ มมตไิ วเ้ ปน็ ผรู้ บั จวี ร ผเู้ กบ็ จวี ร ผแู้ จกจวี รแลว้ การสมมตชิ อบแกส่ งฆ์ เหตนุ น้ั จงึ นง่ิ ขา้ พเจา้ ทรงความนไ้ี วด้ ว้ ยอยา่ งน.้ี กรรมวาจาสมมตภิ ตั ตุเทศก์ สณุ าตุ เม ภนั เต สงั โฆ, ยะทิ สงั ฆสั สะ ปตั ตะกลั ลงั , สงั โฆ อติ ถนั นามงั ภกิ ขงุ ภตั ตทุ เทสะกงั สมั มนั เนยยะ, เอสา ญตั ต.ิ สณุ าตุ เม ภนั เต สงั โฆ, สงั โฆ อติ ถนั นามงั ภกิ ขงุ ภตั ตทุ เทสะกงั สมั มนั นะต,ิ ยสั สายัสม๎ ะโต ขะมะติ อติ ถนั นามสั สะ ภกิ ขโุ น ภตั ตทุ เทสะกสั สะ สมั มะต,ิ โส ตณุ ห๎ สั สะ ยสั สะ นกั ขะมะติ โส ภาเสยยะ.

๔๒๒ ประมวลพระพุทธบญั ญัติ อรยิ วนิ ยั จากพระไตรปฎิ ก สมั มะโต สงั เฆนะ อติ ถนั นาโม ภกิ ขุ ภตั ตทุ เทสะโก ขะมะติ สงั ฆสั สะ, ตัสม๎ า ตณุ ห๎ ,ี เอวะเมตงั ธาระยาม.ิ ทา่ นเจา้ ขา้ ขอสงฆจ์ งฟงั ขา้ พเจา้ ถา้ ความพรอ้ มพรง่ั ของสงฆถ์ งึ ทแ่ี ลว้ ขอสงฆจ์ งสมมตภิ กิ ษมุ ชี อ่ื อยา่ งน้ี เปน็ ภตั ตเุ ทสก์ นเ้ี ปน็ ญตั ต.ิ ทา่ นเจา้ ขา้ ขอสงฆจ์ งฟงั ขา้ พเจา้ สงฆส์ มมตภิ กิ ษมุ ชี อ่ื อยา่ งนเ้ี ปน็ ภัตตุเทสก์ การสมมติภิกษุมีชื่ออย่างนี้เป็นภัตตุเทสก์ ชอบแก่ท่านผู้ใด ทา่ นผนู้ น้ั พงึ เปน็ ผนู้ ง่ิ ไมช่ อบแกท่ า่ นผใู้ ด ทา่ นผนู้ น้ั พงึ พดู . ภิกษุมีชื่ออย่างนี้ สงฆ์สมมติเป็นภัตตุเทสก์แล้ว การสมมติชอบ แกส่ งฆ์ เหตนุ น้ั จงึ นง่ิ ขา้ พเจา้ ทรงความนไ้ี วด้ ว้ ยอยา่ งน.้ี กรรมวาจาสมมติภัณฑาคาริก สณุ าตุ เม ภนั เต สงั โฆ, ยะทิ สงั ฆสั สะ ปตั ตะกลั ลงั , สงั โฆ อติ ถนั นามงั ภกิ ขงุ ภณั ฑาคารกิ งั สมั มนั เนยยะ, เอสา ญตั ต.ิ สณุ าตุ เม ภนั เต สงั โฆ, สงั โฆ อติ ถนั นามงั ภกิ ขงุ ภณั ฑาคารกิ งั สัมมันนะติ, ยัสสายัส๎มะโต ขะมะติ อิตถันนามัสสะ ภิกขุโน ภัณฑาคารกิ สั สะ สมั มะต,ิ โส ตณุ ห๎ สั สะ ยสั สะ นกั ขะมะติ โส ภาเสยยะ. สัมมะโต สังเฆนะ อิตถันนาโม ภิกขุ ภัณฑาคาริโก ขะมะติ สงั ฆสั สะ, ตัสม๎ า ตณุ ห๎ ,ี เอวะเมตงั ธาระยาม.ิ ทา่ นเจา้ ขา้ ขอสงฆจ์ งฟงั ขา้ พเจา้ ถา้ ความพรอ้ มพรง่ั ของสงฆถ์ งึ ทแ่ี ลว้ สงฆพ์ งึ สมมตภิ กิ ษมุ ชี อ่ื อยา่ งน้ี ใหเ้ ปน็ เจา้ หนา้ ทร่ี กั ษาเรอื นคลงั นเ้ี ปน็ ญตั ต.ิ ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า สงฆ์สมมติภิกษุมีชื่ออย่างนี้ ให้เป็นเจ้าหน้าที่รักษาเรือนคลัง การสมมติภิกษุมีชื่ออย่างนี้ ให้เป็นเจ้า หนา้ ทร่ี กั ษาเรอื นคลงั ชอบแกท่ า่ นผใู้ ด ทา่ นผนู้ น้ั พงึ เปน็ ผนู้ ง่ิ ไมช่ อบแกท่ า่ นผู้ ใดทา่ นผนู้ น้ั พงึ พดู . สงฆ์สมมติภิกษุมีชื่ออย่างนี้ ให้เป็นเจ้าหน้าที่รักษาเรือนคลังแล้ว ชอบแกส่ งฆ์ เหตนุ น้ั จงึ นง่ิ ขา้ พเจา้ ทรงความนไ้ี วด้ ว้ ยอยา่ งน.้ี

ภาคผนวก ๔๒๓ กรรมวาจาสมมติเรือนคลัง สณุ าตุ เม ภนั เต สงั โฆ, ยะทิ สงั ฆสั สะ ปตั ตะกลั ลงั , สงั โฆ อติ ถนั นามงั วหิ ารงั ภณั ฑาคารงั สมั มนั เนยยะ เอสา ญตั ต.ิ สณุ าตุ เม ภนั เต สงั โฆ, สงั โฆ อติ ถนั นามงั วหิ ารงั ภณั ฑาคารงั สมั มนั นะต,ิ ยสั สายสั ม๎ ะโต ขะมะติ อติ ถนั นามสั สะ วหิ ารสั สะ ภณั ฑาคารสั สะ สมั มะต,ิ โส ตณุ ห๎ สั สะ ยสั สะ นกั ขะมะติ โส ภาเสยยะ. สมั มะโต สงั เฆนะ อติ ถนั นาโม วหิ าโร ภณั ฑาคาโร ขะมะติ สงั ฆสั สะ, ตัสม๎ า ตณุ ห๎ ,ี เอวะเมตงั ธาระยาม.ิ ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า ถ้าความพร้อมพรั่งของสงฆ์ ถงึ ทแ่ี ลว้ ขอสงฆจ์ งสมมตวิ หิ ารมชี อ่ื อยา่ งน้ี ใหเ้ ปน็ เรอื นคลงั นเ้ี ปน็ ญตั ต.ิ ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า สงฆ์สมมติวิหารมีชื่ออย่างนี้ ใหเ้ ปน็ เรอื นคลงั การสมมตวิ หิ ารมชี อ่ื อยา่ งน้ี ใหเ้ ปน็ เรอื นคลงั ชอบแกท่ า่ นผใู้ ด ทา่ นผนู้ น้ั พงึ เปน็ ผนู้ ง่ิ ไมช่ อบแกท่ า่ นผใู้ ด ทา่ นผนู้ น้ั พงึ พดู . สงฆ์สมมติวิหารมีชื่ออย่างนี้ ให้เป็นเรือนคลังแล้ว ชอบแก่สงฆ์ เหตนุ น้ั จงึ นง่ิ ขา้ พเจา้ ทรงความนไ้ี วด้ ว้ ยอยา่ งน.้ี กรรมวาจาสมมติเจ้าหน้าที่ผู้แจกให้ภิกษุถือเสนาสนะ สณุ าตุ เม ภนั เต สงั โฆ, ยะทิ สงั ฆสั สะ ปตั ตะกลั ลงั , สงั โฆ อติ ถนั นามงั ภกิ ขงุ เสนาสะนะคาหาปะกงั สมั มนั เนยยะ, เอสา ญตั ต.ิ สณุ าตุ เม ภนั เต สงั โฆ, สงั โฆ อติ ถนั นามงั ภกิ ขงุ เสนาสะนะคาหาปะกงั สมั มนั นะต,ิ ยสั สายสั ม๎ ะโต ขะมะติ อติ ถนั นามสั สะ ภกิ ขโุ น เสนาสะนะคาหาปะกสั สะ สมั มะต,ิ โส ตณุ ห๎ สั สะ ยสั สะ นกั ขะมะติ โส ภาเสยยะ. สมั มะโต สงั เฆนะ อติ ถนั นาโม ภกิ ขุ เสนาสะนะคาหาปะโก ขะมะติ สงั ฆสั สะ, ตสั ม๎ า ตณุ ห๎ ,ี เอวะเมตงั ธาระยาม.ิ

๔๒๔ ประมวลพระพทุ ธบัญญัติ อรยิ วนิ ยั จากพระไตรปฎิ ก ทา่ นเจา้ ขา้ ขอสงฆจ์ งฟงั ขา้ พเจา้ ถา้ ความพรอ้ มพรง่ั ของสงฆถ์ งึ ทแ่ี ลว้ ขอสงฆจ์ งสมมตภิ กิ ษมุ ชี อ่ื น้ี เปน็ ผแู้ จกใหภ้ กิ ษถุ อื เสนาสนะ นเ้ี ปน็ ญตั ต.ิ ทา่ นเจา้ ขา้ ขอสงฆจ์ งฟงั ขา้ พเจา้ สงฆส์ มมตภิ กิ ษมุ ชี อ่ื น้ี ใหเ้ ปน็ ผแู้ จกใหภ้ กิ ษถุ อื เสนาสนะ การสมมตภิ กิ ษมุ ชี อ่ื น้ี เปน็ ผแู้ จกใหภ้ กิ ษถุ อื เสนาสนะ ชอบแกท่ า่ นผใู้ ด ทา่ นผนู้ น้ั พงึ เปน็ ผนู้ ง่ิ ไมช่ อบแกท่ า่ นผใู้ ด ทา่ นผนู้ น้ั พงึ พดู . ภิกษุมีชื่อนี้ สงฆ์สมมติเป็นผู้ให้ถือเสนาสนะแล้ว ชอบแก่สงฆ์ เหตนุ น้ั จงึ นง่ิ ขา้ พเจา้ ทรงความนไ้ี วด้ ว้ ยอยา่ งน.้ี กรรมวาจาให้นวกรรม สุณาตุ เม ภันเต สังโฆ, ยะทิ สังฆัสสะ ปัตตะกัลลัง, สังโฆ อติ ถนั นามสั สะ คะหะปะตโิ น วหิ ารงั อติ ถนั นามสั สะ ภกิ ขโุ น นะวะกมั มงั ทะเทยยะ, เอสา ญตั ต.ิ สณุ าตุ เม ภนั เต สงั โฆ, สงั โฆ อติ ถนั นามสั สะ คะหะปะตโิ น วิหารัง อิตถันนามัสสะ ภิกขุโน นะวะกัมมัง เทติ, ยัสสายัสม๎ ะโต ขะมะติ อติ ถนั นามสั สะ คะหะปะตโิ น วหิ ารสั สะ อติ ถนั นามสั สะ ภกิ ขโุ น นะวะกมั มสั สะ ทานงั , โส ตณุ ห๎ สั สะ ยสั สะ นกั ขะมะติ โส ภาเสยยะ. ทนิ โน สงั เฆนะ อติ ถนั นามสั สะ คะหะปะตโิ น วหิ าโร อติ ถนั นามสั สะ ภกิ ขโุ น นะวะกมั มงั ขะมะติ สงั ฆสั สะ, ตสั ม๎ า ตณุ ห๎ ,ี เอวะเมตงั ธาระยาม.ิ ทา่ นเจา้ ขา้ ขอสงฆจ์ งฟงั ขา้ พเจา้ ถา้ ความพรอ้ มพรง่ั ของสงฆถ์ งึ ทแ่ี ลว้ ขอสงฆจ์ งใหว้ หิ ารของคหบดผี มู้ ชี อ่ื น้ี เปน็ นวกรรมของภกิ ษมุ ชี อ่ื น้ี นเ้ี ปน็ ญตั ต.ิ ทา่ นเจา้ ขา้ ขอสงฆจ์ งฟงั ขา้ พเจา้ สงฆใ์ หว้ หิ ารของคหบดผี มู้ ชี อ่ื น้ี เปน็ นวกรรมของภกิ ษมุ ชี อ่ื น้ี การใหว้ หิ ารของคหบดผี มู้ ชี อ่ื น้ี เปน็ นวกรรม ของภกิ ษมุ ชี อ่ื น้ี ชอบแกท่ า่ นผใู้ ด ทา่ นผนู้ น้ั พงึ เปน็ ผนู้ ง่ิ ไมช่ อบแกท่ า่ นผใู้ ด ท่านผู้นั้นพึงพูด. วิหารของคฤหบดีผู้มีชื่อนี้ สงฆ์ให้เป็นนวกรรมของภิกษุมีชื่อนี้แล้ว ชอบแกส่ งฆ์ เหตนุ น้ั จงึ นง่ิ ขา้ พเจา้ ทรงความนไ้ี วด้ ว้ ยอยา่ งน.้ี (คำวา่ อติ ถนั นามสั สะ คะหะปะตโิ น พงึ เปลย่ี นตามชอ่ื ผสู้ รา้ ง ดงั น้ี เชน่ สทุ ตั ตสั สะ คะหะปะตโิ น, วสิ าขายะ อปุ าสกิ ายะ, สหี สั สะ กมุ ารัสสะ)

ภาคผนวก ๔๒๕ กรรมวาจาสมมติกัปปิยภูมิ ดูก่อนอานนท์ ถ้าเช่นนั้น สงฆ์จงสมมติวิหารที่ตั้งอยู่สุดเขตวัด ใหเ้ ปน็ สถานทเ่ี กบ็ ของกปั ปยิ ะ แลว้ ใหเ้ กบ็ ไวใ้ นสถานทท่ี ส่ี งฆจ์ ำนงหมาย คอื วหิ าร เรอื นมงุ แถบเดยี ว เรอื นชน้ั เรอื นโลน้ หรอื ถำ้ กไ็ ด.้ วิธีสมมติกัปปิยภูมิ ดกู อ่ นภกิ ษทุ ง้ั หลาย กแ็ ลสงฆพ์ งึ สมมตอิ ยา่ งน้ี ภกิ ษผุ ฉู้ ลาด ผสู้ ามารถ จงึ ประกาศใหส้ งฆท์ ราบดว้ ยญตั ตทิ ตุ ยิ กรรมวาจา ว่าดังนี้ กรรมวาจาสมมติกัปปิยภูมิ สุณาตุ เม ภันเต สังโฆ, ยะทิ สังฆัสสะ ปัตตะกัลลัง, สังโฆ อติ ถนั นามงั วหิ ารงั กปั ปยิ ะภมู งิ สมั มนั เนยยะ เอสา ญตั ต.ิ สณุ าตุ เม ภนั เต สงั โฆ, สงั โฆ อติ ถนั นามงั วหิ ารงั กปั ปยิ ะภมู งิ สมั มนั นะต,ิ ยัสสายัสม๎ ะโต ขะมะติ อติ ถนั นามสั สะ วหิ ารสั สะ กัปปยิ ะภมู ยิ า สมั มะต,ิ โส ตณุ ๎หสั สะ ยสั สะ นกั ขะมะติ โส ภาเสยยะ. สมั มะโต สงั เฆนะ อติ ถนั นาโม วหิ าโร กปั ปยิ ะภมู ิ ขะมะติ สงั ฆสั สะ, ตสั ม๎ า ตณุ ห๎ ,ี เอวะเมตงั ธาระยาม.ิ ทา่ นเจา้ ขา้ ขอสงฆจ์ งฟงั ขา้ พเจา้ ถา้ ความพรอ้ มพรง่ั ของสงฆถ์ งึ ทแ่ี ลว้ สงฆพ์ งึ สมมตวิ หิ ารมชี อ่ื น้ี ใหเ้ ปน็ กปั ปยิ ภมู ิ นเ้ี ปน็ ญตั ต.ิ ทา่ นเจา้ ขา้ ขอสงฆจ์ งฟงั ขา้ พเจา้ สงฆส์ มมตวิ หิ ารมชี อ่ื น้ี ใหเ้ ปน็ กปั ปยิ ภมู ิ การสมมตวิ หิ ารมชี อ่ื นใ้ี หเ้ ปน็ กปั ปยิ ภมู ิ ชอบแกท่ า่ นผใู้ ด ทา่ นผนู้ น้ั พงึ เปน็ ผนู้ ง่ิ ไมช่ อบแกท่ า่ นผใู้ ด ทา่ นผนู้ น้ั พงึ พดู . วหิ ารมชี อ่ื น้ี สงฆส์ มมตใิ หเ้ ปน็ กปั ปยิ ภมู แิ ลว้ ชอบแกส่ งฆ์ เหตนุ น้ั จงึ นง่ิ ข้าพเจ้าทรงความนี้ไว้ด้วยอย่างนี้.

๔๒๖ ประมวลพระพุทธบัญญตั ิ อรยิ วนิ ยั จากพระไตรปฎิ ก ประเภทของอุโบสถ ถา้ มภี กิ ษุ ๔ รปู ขน้ึ ไป ใหย้ กปาตโิ มกขข์ น้ึ แสดง ปารสิ ทุ ธอิ โุ บสถ ภกิ ษุ ๓ รปู ภกิ ษผุ ฉู้ ลาด พงึ ประกาศใหภ้ กิ ษเุ หลา่ นน้ั ทราบ ดว้ ยญตั ตกิ รรมวาจา ว่าดังนี้ “สณุ นั ตุ เม ภนั เต อายัสม๎ นั ตา อชั ชโุ ปสะโถ ปณั ณะระโส, ยะทายัสม๎ นั ตานงั ปตั ตะกลั ลงั , มะยงั อญั ญะมญั ญงั ปะรสิ ทุ ธอิ โุ ปสะถงั กะเรยยามะ. ทา่ นทง้ั หลายเจา้ ขา้ ขอจงฟงั ขา้ พเจา้ อโุ บสถวนั นท้ี ่ี ๑๕ ถา้ ความ พรอ้ มพรง่ั ของทา่ นทง้ั หลายถงึ ทแ่ี ลว้ เราทง้ั หลายพงึ ทำปารสิ ทุ ธอิ โุ บสถกนั เถดิ .” (ถา้ ผสู้ วดแกก่ วา่ พงึ วา่ อาวโุ ส แทน ภนั เต ) (ถา้ ๑๔ คำ่ พงึ เปลย่ี น ปณั ณะระโส เปน็ จาตทุ ทะโส) ภกิ ษผุ เู้ ถระ พงึ หม่ ผา้ อตุ ตราสงคเ์ ฉวยี งบา่ นง่ั กระโหยง่ ประคองอญั ชลี แลว้ บอกความบรสิ ทุ ธข์ิ องตน ตอ่ ภกิ ษเุ หลา่ นน้ั อยา่ งนว้ี า่ “ปะรสิ ทุ โธ อะหงั อาวโุ ส, ปะรสิ ทุ โธติ มงั ธาเรถะ. ฉนั บรสิ ทุ ธแ์ิ ลว้ เธอ ขอเธอจำฉนั วา่ ผบู้ รสิ ทุ ธแ์ิ ล้ว” (๓ หน) ภกิ ษนุ วกะ พงึ หม่ ผา้ อตุ ตราสงคเ์ ฉวยี งบา่ นง่ั กระโหยง่ ประคองอญั ชลี แลว้ บอกความบรสิ ทุ ธข์ิ องตน ตอ่ ภกิ ษเุ หลา่ นน้ั ดงั น้ี “ปะรสิ ทุ โธ อะหงั ภนั เต, ปะรสิ ทุ โธติ มงั ธาเรถะ. ผมบรสิ ทุ ธแ์ิ ลว้ ขอรบั ขอทา่ นทง้ั หลายจำผมวา่ ผบู้ รสิ ทุ ธแ์ิ ลว้ ” (๓ หน) ปารสิ ทุ ธอิ โุ ปสถภกิ ษุ ๒ รปู ภิกษุผู้เถระ พึงห่มผ้าอุตราสงค์เฉวียงบ่า นั่งกระโหย่ง ประคอง อญั ชลี แลว้ บอกความบรสิ ทุ ธข์ิ องตน ตอ่ ภกิ ษผุ นู้ วกะอยา่ งนว้ี า่

ภาคผนวก ๔๒๗ “ปะรสิ ทุ โธ อะหงั อาวโุ ส, ปะรสิ ทุ โธติ มงั ธาเรห.ิ ฉนั บรสิ ทุ ธแ์ิ ลว้ เธอ ขอเธอจำฉนั วา่ ผบู้ รสิ ทุ ธแ์ิ ลว้ ” (๓ หน) ภกิ ษผุ นู้ วกะ พงึ หม่ ผา้ อตุ ตราสงคเ์ ฉวยี งบา่ นง่ั กระโหยง่ ประคอง อญั ชลี แลว้ บอกความบรสิ ทุ ธข์ิ องตน ตอ่ ภกิ ษผุ เู้ ถระอยา่ งนว้ี า่ “ปะรสิ ทุ โธ อะหงั ภนั เต, ปะรสิ ทุ โธติ มงั ธาเรถะ. ผมบรสิ ทุ ธแ์ิ ลว้ ขอรบั ขอทา่ นจำผมวา่ ผบู้ รสิ ทุ ธแ์ิ ลว้ ” (๓ หน) อธิษฐานอุโปสถ ภกิ ษนุ น้ั พงึ กวาดสถานทเ่ี ปน็ ทไ่ี ปมา แหง่ ภกิ ษทุ ง้ั หลาย คอื จะเปน็ โรงฉนั มณฑป หรอื โคนไมก้ ต็ าม แลว้ ตง้ั นำ้ ฉนั นำ้ ใช้ ปอู าสนะ ตามประทปี ไว้ แลว้ นง่ั รออยู่ ถา้ ภกิ ษเุ หลา่ อน่ื มา พงึ ทำอโุ บสถ รว่ มกบั พวกเธอ ถา้ ไมม่ มี า พึงอธิษฐานว่า “อชั ชะ เม อโุ ปสะโถ วนั นเ้ี ปน็ วนั อโุ บสถของเรา” (๓ หน) ถา้ ไมอ่ ธษิ ฐาน ตอ้ งอาบตั ทิ กุ กฏ.

๔๒๘ ประมวลพระพทุ ธบญั ญตั ิ อรยิ วนิ ยั จากพระไตรปฎิ ก ปาตโิ มกขทุ เทส ๕ (พระไตรปฎิ กแปลไทย มจร.๔ / ๒๓๐ / ๑๕๐) การสวดปาตโิ มกขม์ ี ๕ วธิ ี ดงั น้ี ๑. ภกิ ษสุ วดนทิ านจบแลว้ พงึ สวดอทุ เทสทเ่ี หลอื ดว้ ยสตุ บท ๒.ภกิ ษสุ วดนทิ าน สวดปาราชกิ ๔ จบแลว้ พงึ สวดอทุ เทสทเ่ี หลอื ดว้ ยสตุ บท ๓.ภกิ ษสุ วดนทิ าน สวดปาราชกิ ๔ สวดสงั ฆาทเิ สส ๑๓ จบแลว้ พงึ สวดอทุ เทสทเ่ี หลือด้วยสตุ บท ๔.ภกิ ษสุ วดนทิ าน สวดปาราชกิ ๔ สวดสงั ฆาทเิ สส ๑๓ สวดอนยิ ต ๒ จบแลว้ พงึ สวดอทุ เทสทเ่ี หลอื ดว้ ยสตุ บท ๕. ภิกษุสวดโดยพิสดารหมด “ ดกู อ่ นภกิ ษทุ ง้ั หลาย เมอ่ื ไมม่ อี นั ตราย ภกิ ษไุ มพ่ งึ สวดปาตโิ มกขย์ อ่ รูปใดสวดต้องอาบัติทุกกฏ ภิกษุทั้งหลายเมื่อมีอันตรายเราอนุญาตให้ยก ปาตโิ มกข์ ขน้ึ แสดงโดยยอ่ ” อนั ตรายในเรอื่ งเหล่าน้คี อื ๑.พระราชาเสด็จมา ๒.โจรมาปลน้ ๓.ไฟไหม้ ๔.นำ้ หลากมา ๕.คนมามาก ๖.ผเี ขา้ ภกิ ษุ ๗.สัตว์ร้ายเข้ามา ๘.งรู า้ ยเลอ้ื ยเขา้ มา ๙.ภิกษุจะถึงแก่ชีวิต๑ ๑๐.มีอันตรายแก่พรหมจรรย์๒ ตวั อยา่ งการสวดปาตโิ มกขย์ อ่ เชน่ วธิ ที ่ี ๑ ทต่ี รสั วา่ “ภกิ ษสุ วดนทิ านจบแลว้ พงึ สวดอทุ เทสทเ่ี หลอื ดว้ ยสตุ บท” โดย ๑ภกิ ษเุ ปน็ ไข้ หรอื จะมรณภาพ หรอื มคี นมเี วรกนั ประสงคจ์ ะฆา่ จงึ จบั ภกิ ษนุ น้ั (ว.ิ อ. ๓/๑๕๐/๑๓๑). ๒มนษุ ยท์ ง้ั หลาย ประสงคจ์ ะใหภ้ กิ ษรุ ปู เดยี ว หรอื หลายรปู เคลอ่ื นจากพรหมจรรย์ (จะใหส้ กึ ) จงึ จบั ภกิ ษเุ หลา่ นไ้ี ว้ (ว.ิ อ. ๓ / ๑๕๐ / ๑๓๑).

ภาคผนวก ๔๒๙ - เรม่ิ ดว้ ยการสวดบพุ พกจิ บพุ พกรณ์ คอื เรม่ิ ตง้ั แต่ อโุ ปสะถะกะระณะโต ปพุ เพ นะวะวธิ งั ปพุ พะกจิ จงั กาตพั พงั โหติ ..............สวดไปเรอ่ื ย ๆ จนถงึ ................อะนมุ าเนตพั โพ. - ตอ่ ไปจงึ สวดนทิ านสุ เทส ดงั น้ี สณุ าตุ เม ภนั เต สงั โฆ , อชั ชโุ ปสะโถ ปณั ณะระโส ยะทิ สงั ฆสั สะ ..............สวดไปเรอ่ื ย ๆ จนถงึ ..............ผาสุ โหต.ิ - จากนจ้ี งึ สวดอทุ เทสทเ่ี หลอื ดว้ ยสตุ บท ดงั น้ี อทุ ทฏิ ฐงั โข อายสั ม๎ นั โต นทิ านงั . ตตั ถายสั ม๎ นั เต ปจุ ฉาม.ิ กจั จติ ถะ ปะรสิ ทุ ธา ? ทตุ ยิ มั ปิ ปจุ ฉาม.ิ กจั จติ ถะ ปะรสิ ทุ ธา ? ตะตยิ มั ปิ ปจุ ฉาม.ิ กจั จติ ถะ ปะรสิ ทุ ธา ? ปะรสิ ทุ เธตถายสั ม๎ นั โต, ตสั ม๎ า ตณุ ห๎ ,ี เอวะเมตงั ธาระยาม.ิ สตุ า โข ปะนายสั ม๎ นั เตหิ จตั ตาโร ปาราชกิ า ธมั มา. สตุ า โข ปะนายสั ม๎ นั เตหิ เตระสะ สงั ฆาทเิ สสา ธมั มา. สตุ า โข ปะนายสั ม๎ นั เตหิ เทว๎ อะนยิ ะตา ธมั มา. สตุ า โข ปะนายสั ม๎ นั เตหิ ตงิ สะ นสิ สคั คยิ า ปาจติ ตยิ า ธมั มา. สตุ า โข ปะนายสั ม๎ นั เตหิ เทว๎ นะวตุ ิ ปาจติ ตยิ า ธมั มา. สตุ า โข ปะนายสั ม๎ นั เตหิ จตั ตาโร ปาฏเิ ทสะนยี า ธมั มา. สตุ า โข ปะนายสั ม๎ นั เตหิ ปญั จะสตั ตะติ เสขยิ า ธมั มา. สตุ า โข ปะนายสั ม๎ นั เตหิ สตั ตาธกิ ะระณะสะมะถา ธมั มา. เอตตะกันตัสสะ ภะคะวะโต สุตตาคะตัง สุตตะปะริยาปันนัง อนั ว๎ ฑั ฒะมาสงั อทุ เทสงั อาคจั ฉะต.ิ ตตั ถะ สพั เพเหวะ สะมคั เคหิ สมั โมทะมาเนหิ อะววิ ะทะมาเนหิ สิกขิตัพพันติ. ภกิ ขปุ าตโิ มกขงั นฏิ ฐติ งั . (คำวา่ ปะนายสั ม๎ นั เตหิ ในบพุ พสกิ ขาใช้ อายสั ม๎ นั เตห)ิ

๔๓๐ ประมวลพระพทุ ธบญั ญตั ิ อรยิ วนิ ยั จากพระไตรปฎิ ก วธิ มี อบปารสิ ทุ ธิ และมอบฉนั ทะ ดกู อ่ นภกิ ษทุ ง้ั หลาย เราอนญุ าตใหภ้ กิ ษอุ าพาธมอบปารสิ ทุ ธ.ิ วธิ มี อบปารสิ ทุ ธิ ดกู อ่ นภกิ ษทุ ง้ั หลาย กแ็ ล พงึ มอบปารสิ ทุ ธิ อยา่ งน:้ี - ภกิ ษผุ อู้ าพาธ พงึ เขา้ ไปหาภกิ ษรุ ปู หนง่ึ หม่ ผา้ อตุ ตราสงคเ์ ฉวยี งบา่ นง่ั กระโหยง่ ประคองอญั ชลแี ลว้ กลา่ วคำมอบปารสิ ทุ ธอิ ยา่ งนว้ี า่ \" ปารสิ ทุ ธงิ ทมั ม,ิ ปารสิ ทุ ธงิ เม หะระ, ปารสิ ทุ ธงิ เม อาโรเจห.ิ \" \" ขา้ พเจา้ ขอมอบปารสิ ทุ ธิ ขอทา่ นจงนำปารสิ ทุ ธขิ องขา้ พเจา้ ไป ขอทา่ นจงบอกปารสิ ทุ ธขิ องขา้ พเจา้ \" ภกิ ษรุ บั ดว้ ยกาย รบั ดว้ ยวาจา รบั ดว้ ยทง้ั กายและวาจากไ็ ด้ เปน็ อนั ภกิ ษุ อาพาธมอบปารสิ ทุ ธแิ ลว้ . ไมร่ บั ดว้ ยกาย ไมร่ บั ดว้ ยวาจา ไมร่ บั ดว้ ยทง้ั กายและ วาจา ไมเ่ ปน็ อนั ภกิ ษอุ าพาธมอบปารสิ ทุ ธ.ิ ถ้าไดภ้ กิ ษุเชน่ น้ันอยา่ งนี้ น่นั เปน็ การดี ถา้ ไมไ่ ด้ ภกิ ษุทั้งหลายพึงใช้ เตยี งหรอื ตง่ั หามภกิ ษอุ าพาธนน้ั มาในทา่ มกลางสงฆ์ แลว้ ทำอโุ บสถ. ดกู อ่ นภกิ ษทุ ง้ั หลาย ถา้ พวกภกิ ษผุ พู้ ยาบาลไขค้ ดิ อยา่ งนว้ี า่ ถา้ พวกเรา จกั ยา้ ยภกิ ษุอาพาธอาพาธจักกำเริบหนัก หรอื มิฉะน้ันก็จักถงึ มรณภาพ ดังนี้ ไมพ่ งึ ยา้ ยภกิ ษอุ าพาธ สงฆพ์ งึ ไปทำอโุ บสถในสำนกั ภกิ ษอุ าพาธนน้ั แตส่ งฆเ์ ปน็ วรรค ไมพ่ งึ ทำอโุ บสถเลย ถา้ ขนื ทำ ตอ้ งอาบตั ทิ กุ กฏ. วธิ มี อบฉนั ทะ ดกู อ่ นภกิ ษทุ ง้ั หลาย กแ็ ล พงึ มอบฉนั ทะ อยา่ งน:้ี - ภกิ ษอุ าพาธ พงึ เขา้ ไปหาภกิ ษรุ ปู หนง่ึ หม่ ผา้ อตุ ตราสงคเ์ ฉวยี งบา่ นง่ั กระโหยง่ ประคองอญั ชลี แลว้ กลา่ วคำมอบฉนั ทะอยา่ งนว้ี า่

ภาคผนวก ๔๓๑ \"ฉนั ทงั ทมั ม,ิ ฉนั ทงั เม หะระ, ฉนั ทงั เม อาโรเจห.ิ \" \"ข้าพเจ้ามอบฉันทะ ขอท่านจงนำฉันทะของข้าพเจ้าไป ขอทา่ นจงบอก ฉนั ทะของขา้ พเจา้ \". ดกู อ่ นภกิ ษทุ ง้ั หลาย ในวนั อโุ บสถ เราอนญุ าตใหภ้ กิ ษผุ มู้ อบ ปารสิ ทุ ธิ มอบฉนั ทะดว้ ย เผอ่ื สงฆจ์ ะมกี รณกี จิ . ตัวอย่างคำที่ภิกษุผู้นำฉันทะและปาริสุทธิของภิกษุอาพาธบอกแก่สงฆ์ \"อาสะโภ ภันเต ภิกขุ คิลาโน มัยหัง ฉันทัญจะ ปาริสุทธิญจะ อะทาส,ิ ตสั สะ ฉนั โท จะ ปารสิ ทุ ธิ จะ มะยา อาหะฏา, สาธุ ภนั เต สงั โฆ ธาเรตุ.\" \"ท่านเจ้าข้า อาสโภภิกษุอาพาธ ได้มอบฉันทะและปาริสุทธิแก่ผม ผมนำฉนั ทะและปารสิ ทุ ธิ ของเธอมาแลว้ ขอสงฆจ์ งทราบ.\" วิธีงดปาติโมกข์แก่ภิกษุ ดกู อ่ นภกิ ษทุ ง้ั หลาย วนั อโุ บสถ ๑๔ คำ่ หรอื ๑๕ คำ่ เมอ่ื บคุ คลนน้ั อยพู่ รอ้ มหนา้ สงฆ์ พงึ ประกาศในทา่ มกลางสงฆว์ า่ สุณาตุ เม ภันเต สังโฆ อิตถันนาโม ปุคคะโล สาปัตติโก ตสั สะ ปาฏโิ มกขงั ฐะเปมิ นะ ตสั ม๎ งิ สมั มขุ ภี เู ต ปาฏโิ มกขงั อทุ ทสิ ติ พั พนั ติ ฐะปติ งั โหติ ปาฏโิ มกขงั . ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า บุคคลมีชื่อนี้ มีอาบัติติดตัว ขา้ พเจา้ งดปาตโิ มกขแ์ กเ่ ธอ เมอ่ื เธออยพู่ รอ้ มหนา้ สงฆ์ ไมพ่ งึ สวดปาตโิ มกข์ ดงั น้ี ปาตโิ มกขเ์ ปน็ อนั งดแลว้ .

๔๓๒ ประมวลพระพุทธบญั ญตั ิ อรยิ วนิ ยั จากพระไตรปฎิ ก การงดปาติโมกข์เพราะศีลวิบัติ สณุ าตุ เม ภนั เต สงั โฆ อติ ถนั นาโม ปคุ คะโล สลี ะวปิ ตั ตยิ า- ทิฏฐะสุตะปะริสังกิโต โหติ ตัสสะ ปาฏิโมกขัง ฐะเปมิ นะ ตัส๎มิง สมั มขุ ภี เู ต ปาฏโิ มกขงั อทุ ทสิ ติ พั พนั ติ ธมั มกิ งั ปาฏโิ มกขฏั ฐะปะนงั . ทา่ นเจา้ ขา้ ขอสงฆจ์ งฟงั ขา้ พเจา้ บคุ คลมชี อ่ื น้ี มผี ไู้ ดเ้ หน็ ไดย้ นิ และรงั เกยี จ ดว้ ยศลี วบิ ตั ิ ขา้ พเจา้ งดปาตโิ มกขแ์ กเ่ ธอ เมอ่ื เธออยพู่ รอ้ ม หนา้ สงฆ์ ไมพ่ งึ สวดปาตโิ มกข์ ดงั น้ี การงดปาตโิ มกขเ์ ปน็ ธรรม. การงดปาติโมกข์เพราะอาจารวิบัติ สณุ าตุ เม ภนั เต สงั โฆ อติ ถนั นาโม ปคุ คะโล อาจาระวปิ ตั ตยิ า- ทฏิ ฐะสตุ ะปะรสิ งั กโิ ต โหติ ตสั สะ ปาฏโิ มกขงั ฐะเปมิ นะ ตัสม๎ งิ สมั มขุ ภี เู ต ปาฏโิ มกขงั อทุ ทสิ ติ พั พนั ติ ธมั มกิ งั ปาฏโิ มกขฏั ฐะปะนงั . ทา่ นเจา้ ขา้ ขอสงฆจ์ งฟงั ขา้ พเจา้ บคุ คลมชี อ่ื น้ี มผี ไู้ ดเ้ หน็ ไดย้ นิ และรังเกียจ ด้วยอาจารวิบัติ ข้าพเจ้างดปาติโมกข์แก่เธอ เมื่อเธออยู่ พรอ้ มหนา้ สงฆ์ ไมพ่ งึ สวดปาตโิ มกข์ ดงั น้ี การงดปาตโิ มกขเ์ ปน็ ธรรม. การงดปาติโมกข์เพราะทิฏฐิวิบัติ สณุ าตุ เม ภนั เต สงั โฆ อติ ถนั นาโม ปคุ คะโล ทฏิ ฐวิ ปิ ตั ตยิ า- ทฏิ ฐะสตุ ะปะรสิ ังกโิ ต โหติ ตสั สะ ปาฏโิ มกขงั ฐะเปมิ นะ ตสั มงิ สมั มขุ ภี เู ต ปาฏโิ มกขงั อทุ ทสิ ติ พั พนั ติ ธมั มกิ งั ปาฏโิ มกขฏั ฐะปะนงั . ทา่ นเจา้ ขา้ ขอสงฆจ์ งฟงั ขา้ พเจา้ บคุ คลมชี อ่ื น้ี มผี ไู้ ดเ้ หน็ ไดย้ นิ และรงั เกยี จ ดว้ ยทฏิ ฐวิ บิ ตั ิ ขา้ พเจา้ งดปาตโิ มกขแ์ กเ่ ธอ เมอ่ื เธออยพู่ รอ้ มหนา้ สงฆ์ ไมพ่ งึ สวดปาตโิ มกข์ ดงั น้ี การงดปาตโิ มกขเ์ ปน็ ธรรม. ข้อสังเกตุ มีพุทธพจน์ตรัสว่า “เมื่องดปาติโมกข์แล้ว บริษัทเลิกประชุมเพราะอันตราย ๑๐ อย่างใดอย่างหนึ่ง คือ ๑.อนั ตรายแตพ่ ระราชา ๒. ...” แสดงวา่ มกี ารเลกิ ประชมุ สงฆเ์ พราะอนั ตราย ๑๐ ได้ (ดหู นา้ ๓๕๒, ๔๒๘ ประกอบ)

ภาคผนวก ๔๓๓ วิธีกระทำเมื่อสงฆ์ต้องสภาคาบัติ ดกู อ่ นภกิ ษทุ ง้ั หลาย กใ็ นอาวาสแหง่ หนง่ึ เมอ่ื ถงึ วนั อโุ บสถ สงฆท์ ง้ั หมด ในศาสนานต้ี อ้ งสภาคาบตั ิ ภกิ ษเุ หลา่ นน้ั พงึ สง่ ภกิ ษรุ ปู หนง่ึ ไปสอู่ าวาส ใกลเ้ คยี ง พอจะกลบั มาทนั ในวนั นน้ั ดว้ ยสง่ั วา่ \"อาวโุ ส เธอจงไปทำคนื อาบตั นิ น้ั แลว้ มา พวกเราจกั ทำคนื อาบตั ใิ นสำนกั เธอ ถา้ ไดภ้ กิ ษเุ ชน่ นน้ั อยา่ งน้ี นน่ั เปน็ การดี ถา้ ไมไ่ ดภ้ กิ ษผุ ฉู้ ลาดพงึ ประกาศใหส้ งฆท์ ราบดว้ ยญตั ตกิ รรมวาจา วา่ ดงั น้ี ญัตติกรรมวาจาสงฆ์ต้องสภาคาบัติ “สณุ าตุ เม ภนั เต สงั โฆ อะยงั สพั โพ สงั โฆ สะภาคงั อาปตั ตงิ อาปนั โน ยะทา อญั ญงั ภกิ ขงุ สทุ ธงั อะนาปตั ตกิ งั ปสั สสิ สะติ ตะทา ตสั สะ สนั ตเิ ก ตงั อาปตั ตงิ ปะฏกิ ะรสิ สะติ ทา่ นเจา้ ขา้ ขอสงฆจ์ งฟงั ขา้ พเจา้ สงฆท์ ง้ั หมดนต้ี อ้ งสภาคาบตั ิ เหน็ ภกิ ษรุ ปู อน่ื ผบู้ รสิ ทุ ธ์ิ ไมม่ อี าบตั เิ มอ่ื ใด จกั ทำคนื อาบตั นิ น้ั ในสำนกั เธอเมอ่ื นน้ั ” ครน้ั แลว้ พงึ ทำอโุ บสถ สวดปาตโิ มกข์ แตไ่ มพ่ งึ ทำอนั ตรายแกอ่ โุ บสถ เพราะขอ้ ทต่ี อ้ งสภาคาบตั นิ น้ั เปน็ ปจั จยั . สงฆ์ทั้งหมดมีความสงสัยในสภาคาบัติ ภกิ ษผุ ฉู้ ลาด พงึ ประกาศใหส้ งฆท์ ราบดว้ ยญตั ตกิ รรมวาจา วา่ ดงั น้ี “สณุ าตุ เม ภนั เต สงั โฆ อะยงั สพั โพ สงั โฆ สะภาคายะ อาปตั ตยิ า เวมะตโิ ก ยะทา นพิ เพมะตโิ ก ภะวสิ สะติ ตะทา ตงั อาปตั ตงิ ปะฏกิ ะรสิ สะติ ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า สงฆ์ทั้งหมดนี้มีความสงสัยใน สภาคาบตั ิ หมดความสงสยั เมอ่ื ใด จกั ทำคนื อาบตั นิ น้ั เมอ่ื นน้ั ” ครน้ั แลว้ พงึ ทำอโุ บสถ สวดปาตโิ มกข์ แตไ่ มพ่ งึ ทำอนั ตรายแกอ่ โุ บสถ เพราะขอ้ ทม่ี ี ความสงสยั นน้ั เปน็ ปจั จยั .

๔๓๔ ธรรมทายาท \"ภกิ ษทุ ง้ั หลาย พวกเธอทง้ั หลาย จงพากันเป็นธรรมทายาท (คือรับมรดก ธรรม) ของเราเถิด, อย่าได้เป็น อามสิ ทายาท (คอื รบั มรดก สง่ิ ของ) เลย. ความเป็นห่วงของเรา ในเธอ ทง้ั หลายมอี ยวู่ า่ ทำอยา่ งไรเสยี สาวก ทง้ั หลายของเรา พงึ เปน็ ธรรมทายาทเถดิ อยา่ ไดเ้ ปน็ อามสิ ทายาทเลย\". ( พระไตรปฎิ กบาลี สยามรฐั ๑๒ / ๒๑ / ๒๑)

ภาคผนวก ๔๓๕ บพุ พกรณ์ - บพุ พกจิ อโุ ปสะถะกะระณะโต๑ ปพุ เพ นะวะวธิ งั ปพุ พะกจิ จงั กาตพั พงั โหต.ิ ตัณฐานะสัมมัชชะนัญจะ ตัตถะ ปะทีปุชชะละนัญจะ อาสะนะปัญญะปะนัญจะ ปานยี ะปะรโิ ภชะนยี ปู ฏั ฐะปะนญั จะ ฉนั ทาระหานงั ภกิ ขนู งั ฉนั ทาหะระณญั จะ เตสญั เญวะ อะกะตโุ ปสะถานงั ปารสิ ทุ ธยิ าป๒ิ อาหะระณญั จะ อตุ กุ ขานญั จะ ภกิ ขคุ ะณะนา จะ ภกิ ขนุ นี ะโมวาโท จาต.ิ ตตั ถะ ปรุ มิ านิ จตั ตาร๓ิ ภกิ ขนู งั วตั ตงั ชานนั เตหิ อารามิเกหิปิ ภกิ ขหู ปิ ๔ิ กะตานิ ปะรนิ ฏิ ฐติ านิ โหนต.ิ ฉนั ทาหะระณะ ปารสิ ทุ ธิ อาหะระณาน๕ิ ปะนะ อมิ สิ สงั สมี ายงั หตั ถะปาสงั วชิ ะหติ ว๎ า นสิ นิ นานงั ภกิ ขนู งั อะภาวะโต นตั ถ.ิ อตุ กุ ขานงั นามะ เอตตะกงั อะตกิ กนั ตงั , เอตตะกงั อะวะสฏิ ฐนั ติ เอวงั อตุ อุ าจกิ ขะนงั ; อตุ นู ธี ะ ปะนะ สาสะเน เหมนั ตะคมิ หะวสั สานานงั วะเสนะ ตณี ิ โหนต.ิ อะยงั เหมนั โตตุ๖ , อสั ม๎ ญิ จะ อตุ มุ หิ อฏั ฐะ อโุ ปสะถา, อมิ นิ า ปกั เขนะ เอโก อโุ ปสะโถ สมั ปตั โต เทว๎ อโุ ปสะถา อะตกิ กนั ตา ปญั จะ อโุ ปสะถา อะวะสฏิ ฐา๗ อติ ิ เอวงั สพั เพหิ อายสั ม๎ นั เตหิ อตุ กุ ขานงั ธาเรตพั พงั . (รบั พรอ้ มกนั วา่ เอวงั ภนั เต ผแู้ กก่ วา่ พงึ วา่ เอวงั อาวโุ ส ) ภิกขุคะณะนา นามะ อิมัส๎มิง อุโปสะถัคเค อุโปสะถัตถายะ๘ สันนิปะติตา ภิกขู เอตตะกาติ ภิกขูนัง คะณะนา. อิมัส๎มิมปะนะ อุโปสะถัคเค๙ จตั ตาโร๑๐ ภิกขู สันนิปะติตา โหนติ. อิติ เอวัง สัพเพหิ อายสั ม๎ นั เตหิ ภกิ ขุ คะณะนาปิ ธาเรตพั พา. ( รบั พรอ้ มกนั วา่ เอวงั ภนั เต ผแู้ กก่ วา่ พงึ วา่ เอวงั อาวโุ ส ) ภิกขุนีนะโมวาโท ปะนะ อิทานิ ตาสัง นัตถิตายะ นัตถิ. อิติ สะกะระโณกาสานัง ปุพพะกิจจานัง กะตัตตา นิกกะระโณกาสานัง ปพุ พะกจิ จานงั ปะกะตยิ า ปะรนิ ฏิ ฐติ ตั ตา, เอวนั ตงั นะวะวธิ งั ปพุ พะกจิ จงั ปะรนิ ฏิ ฐติ งั โหต.ิ นฏิ ฐเิ ต จะ ปพุ พะกจิ เจ สะเจ โส ทวิ ะโส จาตทุ ทะสี ปณั ณะระสี

๔๓๖ ประมวลพระพทุ ธบัญญัติ อรยิ วนิ ยั จากพระไตรปฎิ ก สามคั คนี ะมญั ญะตะโร ยะถาชชโุ ปสะโถ๑๑ ปณั ณะระโส๑๒ ยาวะตกิ า จะ ภกิ ขู กัมมัปปัตตา สังฆุโปสะถาระหา จัตตาโร๑๓ วา ตะโต วา อะติเรกา ปะกะตตั ตา ปาราชกิ งั อะนาปนั นา สงั เฆนะ วา อะนกุ ขติ ตา, เต จะ โข หตั ถะปาสงั อะวชิ ะหติ ว๎ า เอกะสมี ายงั ฐติ า, เตสญั จะ วกิ าละโภชะนาทวิ ะเสนะ วัตถุสะภาคาปัตติโย เจ นะ วิชชันติ; เตสัญจะ หัตถะปาเส หัตถะปาสะโต พะหกิ ะระณะวะเสนะ วชั เชตพั โพ โกจิ วชั ชะนยี ะปคุ คะโล เจ นตั ถ.ิ เอวันตัง อุโปสะถะกัมมัง๑๔ อิเมหิ จะตูหิ ลักขะเณหิ สังคะหิตัง ปตั ตะกลั ลงั นามะ โหติ กาตงุ ยตุ ตะรปู งั . อโุ ปสะถะกมั มสั สะ๑๕ ปตั ตะกลั ลตั ตงั วทิ ติ ว๎ า อทิ านิ กะรยิ ะมาโน อโุ ปสะโถ สงั เฆนะ อะนมุ าเนตพั โพ.๑๖ ( รบั พรอ้ มกนั วา่ เอวงั ภนั เต ผแู้ กก่ วา่ พงึ วา่ เอวงั อาวโุ ส ) (ตอ่ จากนท้ี า่ นผแู้ กก่ วา่ ในสงฆ์ ถา้ ไมไ่ ดส้ วดเอง พงึ กลา่ วคำ อชั เฌสนา ดงั น)้ี ปุพพะกะระณะปุพพะกิจจานิ สะมาเปต๎วา อิมัสสะ นิสินนัสสะ ภกิ ขสุ งั ฆสั สะ อะนมุ ะตยิ า ปาฏโิ มกขงั อทุ ทสิ ติ งุ ๑๗ อชั เฌสะนงั กะโรม.ิ วธิ เี ปลย่ี นบพุ พกจิ ตามลำดบั เลขเชงิ อรรถ ๑. ถา้ เปน็ วนั ปวารณา พงึ วา่ ปะวาระณากะระณะโต. ๒. ถา้ เปน็ วนั ปวารณา พงึ วา่ อะกะตะปะวาระณานงั ปะวาระณายะป.ิ ๓. ถา้ กลางวนั พงึ วา่ ตตั ถะ ปรุ เิ มสุ จะตสู ุ กจิ เจสุ ปะทปี ะกจิ จงั อทิ านิ สรุ ยิ าโลกสั สะ อตั ถติ ายะ นตั ถ,ิ อะปะรานิ ตณี .ิ ๔. ถ้ารูปเดียว พึงว่า ภิกขูนัง วัตตัง ชานะตา ภิกขุนา ถ้าหลายรูป ไมม่ อี ารามกิ ะ พงึ วา่ แต่ ภกิ ขหู ิ เทา่ นน้ั . ๕. ถา้ เปน็ วนั ปวารณา พงึ วา่ ปะวาระณาอาหะระณาน.ิ ๖. ถา้ เปน็ ฤดรู อ้ น พงึ วา่ คมิ โหตุ ถา้ เปน็ ฤดฝู น พงึ วา่ วสั สาโนต.ุ ๗. นี้เป็นฤดูที่ไม่มีอธิกมาส ไม่มีปวารณา และเป็นอุโบสถที่ ๓ ถ้าเป็นอุโบสถที่ ๑ พึงว่า เอโก อุโปสะโถ สัมปัตโต สัตตะ อุโปสะถา อะวะสฏิ ฐา ถา้ เปน็ อโุ บสถท่ี ๒ คอื ลว่ งแลว้ ๑ ปจั จบุ นั ยงั เหลอื อยอู่ กี ๖ พงึ วา่ เอโก อโุ ปสะโถ อะตกิ กนั โต, ฉะ อโุ ปสะถา อะวะสฏิ ฐา,

ภาคผนวก ๔๓๗ ถา้ ลว่ งแลว้ ๒-๓-๔-๕-๖ อโุ บสถ ยงั เหลอื อยู่ ๕-๔-๓-๒-๑ อโุ บสถ พงึ วา่ เทว๎ - ตะโย - จตั ตาโร - ปญั จะ - ฉะ อโุ ปสะถา อะตกิ กนั ตา, ปญั จะ - จตั ตาโร - ตะโย - เทว๎ อโุ ปสะถา อะวะสฏิ ฐา, หรอื เอโก อโุ ปสะโถ อะวะสฏิ โฐ, ถ้าล่วง ๗ อุโบสถ ปัจจุบัน ๑ รวมเป็น ๘ อุโบสถบริบูรณ์ พึงว่า สัตตะ อโุ ปสะถา อะตกิ กนั ตา, อฏั ฐะ อโุ ปสะถา ปะรปิ ณุ ณา. ถา้ ฤดทู ม่ี อี ธกิ มาส พงึ วา่ อะธกิ ะมาสะวะเสนะ ทะสะ อโุ ปสะถา, อมิ นิ า ปกั เขนะ เอโก อโุ ปสะโถ สมั ปตั โต, นะวะ อโุ ปสะถา อะวะสฏิ ฐา. อโุ บสถท่ี ๒-๓ ถึงที่ ๑๐ ก็ให้เปลี่ยนทำนองเดียวกันกับฤดูที่ไม่มีอธิกมาส ตา่ งกนั ทต่ี อ้ งเตมิ คำวา่ อะธกิ ะมาสะวะเสนะ เขา้ ขา้ งหนา้ เสมอ เทา่ นน้ั . ฤดูที่ไม่มีอธิกมาส แต่มีปวารณา อุโบสถที่ ๑ ให้เปลี่ยนว่า สัตตะ จะ อโุ ปสะถา เอกา จะ ปะวาระณา, อมิ นิ า ปกั เขนะ เอโก อโุ ปสะโถ สมั ปตั โต ฉะ จะ อโุ ปสะถา เอกา จะ ปะวาระณา อะวะสฏิ ฐา. ถา้ ลว่ งแลว้ ๕ อโุ บสถ ปจั จบุ นั เปน็ วนั ปวารณา ยงั เหลอื อกี ๒ อโุ บสถ พงึ เปลย่ี นวา่ สตั ตะ จะ อโุ ปสะถา เอกา จะ ปะวาระณา, อมิ นิ า ปกั เขนะ เอกา ปะวาระณา สมั ปตั ตา, ปญั จะ อโุ ปสะถา อะตกิ กนั ตา, เทว๎ อโุ ปสะถา อะวะสฏิ ฐา. ถา้ เปน็ อโุ บสถทส่ี ดุ คอื ลว่ งแลว้ ๖ อโุ บสถ กบั ปวารณา ๑ ปจั จบุ นั ๑ พงึ เปลย่ี นวา่ สตั ตะ จะ อโุ ปสะถา เอกา จะ ปะวาระณา, อมิ นิ า ปกั เขนะ เอโก อโุ ปสะโถ สมั ปตั โต, ฉะ จะ อโุ ปสะถา เอกา จะ ปะวาระณา อะตกิ กนั ตา, สตั ตะ จะ อโุ ปสะถา เอกา จะ ปะวาระณา ปะรปิ ณุ ณา. ถ้าฤดูที่มีอธิมาสและปวารณาด้วย อุโบสถที่ ๑ พึงเปลี่ยนว่า อะธิกะมาสะวะเสนะ นะวะ จะ อุโปสะถา เอกา จะ ปะวาระณา, อิมินา ปกั เขนะ เอโก อโุ ปสะโถ สมั ปตั โต, อฏั ฐะ จะ อโุ ปสะถา เอกา จะ ปะวาระณา อะวะสฏิ ฐา. อโุ บสถตอ่ ไป กพ็ งึ เปลย่ี นทำนองเดยี วกนั กบั ฤดทู ไ่ี มม่ อี ธกิ มาส แตม่ ปี วารณา ตา่ งกนั แตเ่ ตมิ วา่ อะธกิ ะมาสะวะเสนะ เขา้ ขา้ งหนา้ เสมอเทา่ นน้ั . ๘. ถา้ เปน็ วนั ปวารณา พงึ วา่ ปะวาระณคั เค ปะวาระณตั ถายะ. ๙. ถา้ เปน็ วนั ปวารณา พงึ วา่ ปะวาระณคั เค.

๔๓๘ ประมวลพระพุทธบญั ญตั ิ อรยิ วนิ ยั จากพระไตรปฎิ ก ๑๐. นภ้ี กิ ษุ ๔ รปู ถา้ ๕ รปู วา่ ปญั จะ ภกิ ข,ู ๖ : ฉะ ภกิ ข,ู ๗ : สตั ตะ ภกิ ข,ู ๘ : อฏั ฐะ ภกิ ข,ู ๙ : นะวะ ภกิ ข,ู ๑๐ : ทะสะ ภกิ ขู (ตอ่ จากนพ้ี งึ ดใู นเชงิ อรรถ) ๑๑. ถา้ เปน็ วนั ปวารณา พงึ วา่ ยะถาชชะ ปะวาระณา. ๑๒. ถา้ เปน็ อโุ บสถท่ี ๑๔ คำ่ วา่ จาตทุ ทะโส ถา้ เปน็ วนั ปวารณาท๑่ี ๔ คำ่ วา่ จาตทุ ทะสี วนั ปวารณาท่ี ๑๕ คำ่ วา่ ปณั ณะระส.ี ๑๓. ถา้ เปน็ วนั ปวารณา พงึ วา่ สงั ฆะปะวาระณาระหา ปญั จะ วา ๑๔. ถา้ เปน็ วนั ปวารณา พงึ วา่ เอวนั ตงั ปะวาระณากมั มงั . ๑๕. ถา้ เปน็ วนั ปวารณา พงึ วา่ ปะวาระณากมั มสั สะ. ๑๖. ถ้าเป็นวันปวารณา พึงว่า อิทานิ กะริยะมานา ปะวาระณา สงั เฆนะ อะนมุ าเนตพั พา. ๑๗. ถา้ เปน็ วนั ปวารณา พงึ วา่ ปะวาระณา ญตั ตงิ ฐะเปตงุ . แบบการนบั จำนวนภกิ ษุ ๓๓ เตตตงิ สะ ๕๕ ปญั จะปญั ญาสะ ๗๗ สัตตะสัตตะติ ๓๔ จะตตุ ตงิ สะ ๕๖ ฉะปญั ญาสะ ๗๘ อัฏฐะสัตตะติ ๑๑ เอกาทะสะ ๓๕ ปญั จตั ตงิ สะ ๕๗ สตั ตะปญั ญาสะ ๗๙ เอกนู าสตี ิ ๑๒ พาระสะ ๓๖ ฉตั ตงิ สะ ๕๘ อฏั ฐะปญั ญาสะ ๘๐ อะสตี ิ ๑๓ เตระสะ ๓๗ สตั ตตั ตงิ สะ ๕๙ เอกนู ะสฏั ฐี ๘๑ เอกาสตี ิ ๑๔ จะตทุ ทะสะ ๓๘ อฏั ฐตั ตงิ สะ ๖๐ สฏั ฐี ๘๒ ทว๎ าสตี ิ ๑๕ ปณั ณะระสะ ๓๙ เอกนู ะจตั ตาฬสี ะ ๖๑ เอกะสฏั ฐี ๘๓ ตะยาสตี ิ ๑๖ โสฬะสะ ๔๐ จตั ตาฬสี ะ ๖๒ ทว๎ สิ ฏั ฐี ๘๔ จะตรุ าสตี ิ ๑๗ สตั ตะระสะ ๔๑ เอกะจตั ตาฬสี ะ ๖๓ เตสัฏฐี ๘๕ ปญั จาสตี ิ ๑๘ อฏั ฐะระสะ ๔๒ ทว๎ จิ ตั ตาฬสี ะ ๖๔ จะตุสัฏฐี ๘๖ ฉะฬาสตี ิ ๑๙ เอกนู ะวสี ะติ ๔๓ เตจตั ตาฬสี ะ ๖๕ ปญั จะสฏั ฐี ๘๗ สตั ตาสตี ิ ๒๐ วสี ะติ ๔๔ จะตจุ ตั ตาฬสี ะ ๖๖ ฉะสฏั ฐี ๘๘ อฏั ฐาสตี ิ ๒๑ เอกะวสี ะติ ๔๕ ปญั จะจตั ตาฬสี ะ ๖๗ สตั ตะสฏั ฐี ๘๙ เอกนู ะนะวตุ ิ ๒๒ พาวสี ะติ ๔๖ ฉะจตั ตาฬสี ะ ๖๘ อฏั ฐะสฏั ฐี ๙๐ นะวุติ ๒๓ เตวสี ะติ ๔๗ สตั ตะจตั ตาฬสี ะ ๖๙ เอกนู ะสตั ตะติ ๙๑ เอกะนะวตุ ิ ๒๔ จะตวุ สี ะติ ๔๘ อฏั ฐะจตั ตาฬสี ะ ๗๐ สัตตะติ ๙๒ เท๎วนะวุติ ๒๕ ปญั จะวสี ะติ ๔๙ เอกูนะปัญญาสะ ๗๑ เอกะสตั ตะติ ๙๓ เตนะวุติ ๒๖ ฉพั พสี ะติ ๕๐ ปัญญาสะ ๗๒ ท๎วิสัตตะติ ๙๔ จะตุนะวุติ ๒๗ สตั ตะวสี ะติ ๕๑ เอกะปัญญาสะ ๗๓ เตสัตตะติ ๙๕ ปญั จะนะวตุ ิ ๒๘ อฏั ฐะวสี ะติ ๕๒ ทว๎ ปิ ญั ญาสะ ๗๔ จะตุสัตตะติ ๙๖ ฉะนะวตุ ิ ๒๙ เอกนู ะตงิ สะ ๕๓ เตปัญญาสะ ๗๕ ปญั จะสตั ตะติ ๙๗ สตั ตะนะวตุ ิ ๓๐ สะมะตงิ สะ ๕๔ จะตุปัญญาสะ ๗๖ ฉะสัตตะติ ๙๘ อฏั ฐะนะวตุ ิ ๓๑ เอกตั ตงิ สะ ๓๒ ทว๎ ตั ตงิ สะ

ภาคผนวก ๔๓๙ บพุ พกรณ์ - บพุ พกจิ (แปล) กอ่ นแตท่ ำอโุ บสถ พงึ ทำบรุ พกจิ ๙ ประการ คอื ๑.กวาดสถานทท่ี ำ อโุ บสถนน้ั ๒.จดุ ประทปี ในทน่ี น้ั ๓.แตง่ ตง้ั อาสนะ ๔.ตง้ั นำ้ ฉนั นำ้ ใช้ ๕.นำฉนั ทะ ของภกิ ษผุ คู้ วรแกฉ่ นั ทะ ๖.บอกฤดู ๗.นำปารสิ ทุ ธขิ องเธอ ผลู้ งทำอโุ บสถไมไ่ ด้ ๘.นบั ภกิ ษุ ๙.สอนพวกภกิ ษณุ ี ในบพุ พกจิ ๙ นน้ั ๔ เบอ้ื งตน้ อนั คนเฝา้ อาราม และภกิ ษทุ ง้ั หลายผรู้ วู้ ตั ร ของพวกภกิ ษุ ทำสำเรจ็ แลว้ . ส่วนการนำฉันทะ นำปาริสุทธิไม่มี เพราะภิกษุทั้งหลาย ผู้นั่งเว้น หตั ถบาส ในสมี านไ้ี มม่ ี การบอกฤดโู ดยนยั ดงั นว้ี า่ ลว่ งเทา่ น้ี เหลอื เทา่ น้ี ชอ่ื วา่ บอกฤดู กใ็ น ศาสนานม้ี ี ๓ ฤดู ดว้ ยอำนาจแหง่ ฤดหู นาว ฤดรู อ้ น ฤดฝู น. กฤ็ ดนู เ้ี ปน็ ฤดหู นาว ในฤดหู นาวนม้ี ี ๘ อโุ บสถ อโุ บสถหนง่ึ ถงึ ดว้ ยปกั ษอ์ นั น้ี ยงั เหลอื ๗ อโุ บสถ ทา่ น ทง้ั ปวงพงึ จำการบอกฤดอู ยา่ งน้ี ดว้ ยประการฉะน.้ี การนับภิกษุโดยนัยนี้ว่า ภิกษุทั้งหลายผู้ประชุมกัน เพื่อประสงค์ ทำอโุ บสถในโรงอโุ บสถน้ี เทา่ นร้ี ปู ดงั น้ี ชอ่ื วา่ การนบั ภกิ ษ.ุ กใ็ นโรงอโุ บสถน้ี มภี กิ ษปุ ระชมุ กนั ๔ รปู ทา่ นทง้ั ปวง พงึ จำแมก้ ารนบั ภกิ ษุ ดว้ ยประการฉะน.้ี กก็ ารสอนภกิ ษณุ ไี มม่ ี เพราะพวกภกิ ษณุ นี น้ั ในเวลานไ้ี มม่ .ี เพราะ บพุ พกจิ ซง่ึ มโี อกาสพอจะทำ ไดท้ ำแลว้ เพราะใหบ้ พุ พกจิ ซง่ึ หมดโอกาสจะทำ สำเรจ็ ไปเรยี บรอ้ ยแลว้ ตามปกติ ดว้ ยประการฉะน้ี บรุ พกจิ ๙ ประการนน้ั จงึ เปน็ อันสำเร็จเรียบร้อยแล้วด้วยประการอย่างนี้. ก็เมื่อบุพพกิจสำเร็จแล้ว ถ้าวันนั้นเป็นวันจาตุททสี หรือวันปัณณรสี หรอื เปน็ วนั สามคั คี วนั ใดวนั หนง่ึ เชน่ อโุ บสถวนั นท้ี ่ี ๑๕ กแ็ ลภกิ ษผุ คู้ วร แกส่ งั ฆอโุ บสถ พอทำสำเรจ็ ไดม้ กี ำหนด ๔ รปู กด็ ี เกนิ กวา่ นน้ั กด็ ี เปน็ ปกตตั ตะภกิ ษ(ุ ภกิ ษปุ กต)ิ ไมต่ อ้ งปาราชกิ หรอื ไมถ่ กู สงฆย์ กวตั ร ทง้ั เธอ ไมล่ ะหตั ถบาสแล ตง้ั อยใู่ นสมี าเดยี วกนั และถา้ เธอไมม่ สี ภาคาบตั โิ ดยวตั ถุ เพราะฉนั อาหารในเวลาวกิ าลเปน็ ตน้ และถา้ ไมม่ บี คุ คลควรเวน้ ไร ๆ ในหตั ถบาส

๔๔๐ ประมวลพระพุทธบญั ญัติ อรยิ วนิ ยั จากพระไตรปฎิ ก ซึ่งควรเว้น ด้วยกันไว้เสียนอกหัตถบาส อุโบสถกรรมนั้นกำหนดแล้วด้วย ลกั ษณะทง้ั ๔ น้ี ชอ่ื วา่ มคี วามพรอ้ มพรง่ั ถงึ ทแ่ี ลว้ สมควรทำได้ ดว้ ยประการฉะน.้ี สงฆ์ทราบความพร้อมพรั่งถึงที่แห่งอุโบสถกรรมแล้ว พึงให้อนุมัติ อโุ บสถทจ่ี ะกระทำ ณ กาลบดั น.้ี จบบุพพกิจ.

ภาคผนวก ๔๔๑ ภกิ ขปุ าตโิ มกข์ นะโม ตสั สะ ภะคะวะโต อะระหะโต สมั มาสมั พทุ ธสั สะ (๓ จบ) สณุ าตุ เม ภนั เต สงั โฆ. อชั ชโุ ปสะโถ ปณั ณะระโส๑. ยะทิ สงั ฆสั สะ ปตั ตะกลั ลงั , สงั โฆ อโุ ปสะถงั กะเรยยะ, ปาตโิ มกขงั อทุ เิ สยยะ. กงิ สงั ฆสั สะ ปพุ พะกจิ จงั , ปารสิ ทุ ธงิ อายสั ม๎ นั โต อาโรเจถะ, ปาตโิ มกขงั อทุ ทสิ สิ สาม.ิ ตงั สพั เพวะ สนั ตา สาธกุ งั สโุ ณมะ มะนะสกิ ะโรมะ. ยสั สะ สยิ า อาปตั ต,ิ โส อาวกิ ะเรยยะ, อะสนั ตยิ า อาปตั ตยิ า ตณุ ห๎ ี ภะวติ พั พงั . ตณุ ห๎ ภี าเวนะ โข ปะนายัส๎มันเต ปะริสุทธาติ เวทิสสามิ. ยะถา โข ปะนะ ปัจเจกะปุฏฐัสสะ เวยยากะระณงั โหต,ิ เอวะเมวงั เอวะรปู ายะ ปะรสิ ายะ ยาวะตะตยิ งั อะนสุ สาวติ งั โหต.ิ โย ปะนะ ภกิ ขุ ยาวะตะตยิ งั อะนสุ สาวยิ ะมาเน สะระมาโน สนั ตงิ อาปตั ตงิ นาวิกะเรยยะ, สัมปะชานะมุสาวาทัสสะ โหติ, สัมปะชานะมุสาวาโท โข ปะนายสั ม๎ นั โต อนั ตะรายโิ ก ธมั โม วตุ โต ภะคะวะตา; ตสั ม๎ า สะระมาเนนะ ภกิ ขนุ า อาปนั เนนะ วสิ ทุ ธาเปกเขนะ สนั ตี อาปตั ติ อาวกิ าตพั พา. อาวกิ ะตา หสิ สะ ผาสุ โหต.ิ นทิ านงั นฏิ ฐติ งั . ตตั ร๎ เิ ม จตั ตาโร ปาราชกิ า ธมั มา อทุ เทสงั อาคจั ฉนั ต.ิ ๑. โย ปะนะ ภิกขุ ภิกขูนัง สิกขาสาชีวะสะมาปันโน สิกขัง อปั ปจั จกั ขายะ ทพุ พลั ย๎ งั อะนาวกิ ตั ว๎ า เมถนุ งั ธมั มงั ปะฏเิ สเวยยะ อนั ตะมะโส ตริ จั ฉานะคะตายะป,ิ ปาราชโิ ก โหติ อะสงั วาโส. ๒. โย ปะนะ ภกิ ขุ คามา วา อะรญั ญา วา อะทนิ นงั เถยยะสงั ขาตงั อาทิเยยยะ, ยะถารูเป อะทินนาทาเน ราชาโน โจรัง คะเหต๎วา หะเนยยุง วา พนั เธยยงุ วา ปพั พาเชยยงุ วา “โจโรสิ พาโลสิ มฬุ โ๎ หสิ เถโนสตี ;ิ ตะถารปู งั ภกิ ขุ อะทนิ นงั อาทยิ ะมาโน, อะยมั ปิ ปาราชโิ ก โหติ อะสงั วาโส. ๓. โย ปะนะ ภิกขุ สัญจิจจะ มะนุสสะวิคคะหัง ชีวิตา โวโรเปยยะ, สัตถะหาระกัง วาสสะ ปะริเยเสยยะ, มะระณะวัณณัง วา สังวัณเณยยะ, ๑ถา้ ๑๔ คำ่ พงึ วา่ จาตทุ ทะโส

๔๔๒ ประมวลพระพทุ ธบญั ญตั ิ อรยิ วนิ ยั จากพระไตรปฎิ ก มะระณายะ วา สะมาทะเปยยะ “อัมโภ ปุริสะ กิง ตุยหิมินา ปาปะเกนะ ทุชชีวิเตนะ, มะตันเต ชีวิตา เสยโยติ; อิติ จิตตะมะโน จิตตะสังกัปโป อะเนกะปะริยาเยนะ มะระณะวัณณัง วา สังวัณเณยยะ, มะระณายะ วา สะมาทะเปยยะ; อะยมั ปิ ปาราชโิ ก โหติ อะสงั วาโส. ๔. โย ปะนะ ภกิ ขุ อะนะภชิ านงั อตุ ตะรมิ ะนสุ สะธมั มงั อตั ตปู ะนายกิ งั อะละมะรยิ ะญาณะทสั สะนงั สะมทุ าจะเรยยะ “อติ ิ ชานามิ อติ ิ ปสั สามตี ;ิ ตะโต อะปะเรนะ สะมะเยนะ สะมะนุคคาหิยะมาโน วา อะสะมะนุคคาหิยะมาโน วา อาปนั โน วสิ ทุ ธาเปกโข เอวงั วะเทยยะ “อะชานะเมวงั อาวโุ ส อะวะจงั ‘ชานาม’ิ อะปสั สงั ‘ปสั สาม’ิ ตจุ ฉงั มสุ า วลิ ะปนิ ต,ิ อญั ญตั ร๎ ะ อะธมิ านา; อะยมั ปิ ปาราชโิ ก โหติ อะสงั วาโส. อุททิฏฐา โข อายัส๎มันโต จัตตาโร ปาราชิกา ธัมมา, เยสัง ภิกขุ อญั ญะตะรงั วา อญั ญะตะรงั วา อาปชั ชติ ว๎ า นะ ละภะติ ภกิ ขหู ิ สทั ธงิ สงั วาสงั , ยะถา ปเุ ร; ตะถา ปจั ฉา; ปาราชโิ ก โหติ อะสงั วาโส. ตตั ถายสั ม๎ นั เต ปุจฉามิ: กัจจิตถะ ปะริสุทธา? ทตุ ยิ มั ปิ ปุจฉามิ: กัจจิตถะ ปะริสุทธา? ตะติยัมปิ ปุจฉามิ: กัจจิตถะ ปะริสุทธา? ปะรสิ ทุ เธตถายสั ม๎ นั โต; ตสั ม๎ า ตณุ ห๎ ,ี เอวะเมตงั ธาระยาม.ิ ปาราชกิ ทุ เทโส นฏิ ฐโิ ต. อเิ ม โข ปะนายสั ม๎ นั โต เตระสะ สงั ฆาทเิ สสา ธมั มา อทุ เทสงั อาคจั ฉนั ต.ิ ๑. สญั เจตะนกิ า สกุ กะวสิ ฏั ฐ,ิ อญั ญตั ร๎ ะ สปุ นิ นั ตา สงั ฆาทเิ สโส. ๒. โย ปะนะ ภกิ ขุ โอตณิ โณ วปิ ะรณิ ะเตนะ จติ เตนะ มาตคุ าเมนะ สทั ธงิ กายะสงั สคั คงั สะมาปชั เชยยะ, หตั ถะคาหงั วา เวณคิ าหงั วา อญั ญะตะรสั สะ วา อญั ญะตะรสั สะ วา องั คสั สะ ปะรามะสะนงั , สงั ฆาทเิ สโส. ๓. โย ปะนะ ภิกขุ โอติณโณ วิปะริณะเตนะ จิตเตนะ มาตุคามัง ทฏุ ฐลุ ลาหิ วาจาหิ โอภาเสยยะ, ยะถาตงั ยวุ า ยวุ ะตงิ เมถนุ ปู ะสญั หติ าห;ิ สังฆาทิเสโส.

ภาคผนวก ๔๔๓ ๔. โย ปะนะ ภกิ ขุ โอตณิ โณ วปิ ะรณิ ะเตนะ จติ เตนะ มาตคุ ามสั สะ สันติเก อัตตะกามะปาริจะริยายะ วัณณัง ภาเสยยะ “เอตะทัคคัง ภะคินิ ปารจิ ะรยิ านงั , ยา มาทสิ งั สลี ะวนั ตงั กลั ย๎ าณะธมั มงั พร๎ หั มะจารงิ เอเตนะ ธมั เมนะ ปะรจิ ะเรยยาติ เมถนุ ปู ะสญั หเิ ตนะ, สงั ฆาทเิ สโส. ๕. โย ปะนะ ภกิ ขุ สญั จะรติ ตงั สะมาปชั เชยยะ อติ ถยิ า วา ปรุ สิ ะมะตงิ ปรุ สิ สั สะ วา อติ ถมี ะตงิ ชายตั ตะเน วา ชารตั ตะเน วา อนั ตะมะโส ตงั ขะณกิ ายะป,ิ สังฆาทิเสโส. ๖. สัญญาจิกายะ ปะนะ ภิกขุนา กุฏิง การะยะมาเนนะ อัสสามิกัง อัตตุทเทสัง ปะมาณิกา กาเรตัพพา; ตัต๎ริทัง ปะมาณัง: ทีฆะโส ทะวาทะสะ วทิ ตั ถโิ ย สคุ ะตะวทิ ตั ถยิ า, ตริ ยิ งั สตั ตนั ตะรา. ภกิ ขู อะภเิ นตพั พา วตั ถเุ ทสะนายะ; เตหิ ภกิ ขหู ิ วตั ถงุ เทเสตพั พงั อะนารมั ภงั สะปะรกิ กะมะนงั . สารมั เภ เจ ภกิ ขุ วตั ถสุ ม๎ งิ อะปะรกิ กะมะเน สญั ญาจกิ ายะ กฏุ งิ กาเรยยะ, ภกิ ขู วา อะนะภเิ นยยะ วตั ถเุ ทสะนายะ, ปะมาณงั วา อะตกิ กาเมยยะ, สงั ฆาทเิ สโส. ๗. มะหัลละกัมปะนะ ภิกขุนา วิหารัง การะยะมาเนนะ สัสสามิกัง อตั ตทุ เทสงั ภกิ ขู อะภเิ นตพั พา วตั ถเุ ทสะนายะ; เตหิ ภกิ ขหู ิ วตั ถงุ เทเสตพั พงั อะนารัมภัง สะปะริกกะมะนัง. สารัมเภ เจ ภิกขุ วัตถุส๎มิง อะปะริกกะมะเน มะหัลละกัง วิหารัง กาเรยยะ, ภิกขู วา อะนะภิเนยยะ วัตถุเทสะนายะ, สังฆาทิเสโส. ๘. โย ปะนะ ภิกขุ ภิกขุง ทุฏโฐ โทโส อัปปะตีโต อะมูละเกนะ ปาราชเิ กนะ ธมั เมนะ อะนทุ ธงั เสยยะ “อปั เปวะ นามะ นงั อมิ มั หา พร๎ หั มะจะรยิ า จาเวยยันติ. ตะโต อะปะเรนะ สะมะเยนะ สะมะนุคคาหิยะมาโน วา อะสะมะนคุ าหยิ ะมาโน วา, อะมลู ะกญั เจวะ ตงั อะธกิ ะระณงั โหต,ิ ภกิ ขุ จะ โทสงั ปะตฏิ ฐาต,ิ สงั ฆาทเิ สโส. ๙. โย ปะนะ ภกิ ขุ ภกิ ขงุ ทฏุ โฐ โทโส อปั ปะตโี ต อญั ญะภาคยิ สั สะ อะธิกะระณัสสะ กิญจิ เทสัง เลสะมัตตัง อุปาทายะ ปาราชิเกนะ ธัมเมนะ อะนทุ ธงั เสยยะ “อปั เปวะ นามะ นงั อมิ มั หา พร๎ หั มะจะรยิ า จาเวยยนั ต.ิ ตะโต อะปะเรนะ สะมะเยนะ สะมะนคุ คาหยิ ะมาโน วา อะสะมะนคุ คาหยิ ะมาโน วา,

๔๔๔ ประมวลพระพุทธบัญญัติ อรยิ วนิ ยั จากพระไตรปฎิ ก อญั ญะภาคยิ ญั เจวะ ตงั อะธกิ ะระณงั โหต,ิ โกจิ เทโส เลสะมตั โต อปุ าทนิ โน ภกิ ขุ จะ โทสงั ปะตฏิ ฐาต,ิ สงั ฆาทเิ สโส. ๑๐. โย ปะนะ ภิกขุ สะมัคคัสสะ สังฆัสสะ เภทายะ ปะรักกะเมยยะ เภทะนะสงั วตั ตะนกิ งั วา อะธกิ ะระณงั สะมาทายะ ปคั คยั หะ ตฏิ เฐยยะ. โส ภกิ ขุ ภิกขูหิ เอวะมัสสะ วะจะนีโย “มา อายัส๎มา สะมัคคัสสะ สังฆัสสะ เภทายะ ปะรกั กะม,ิ เภทะนะสงั วตั ตะนกิ งั วา อะธกิ ะระณงั สะมาทายะ ปคั คยั หะ อฏั ฐาส;ิ สะเมตายัส๎มา สังเฆนะ, สะมัคโค หิ สังโฆ สัมโมทะมาโน อะวิวะทะมาโน เอกุทเทโส ผาสุ วิหะระตีติ. เอวัญจะ โส ภิกขุ ภิกขูหิ วุจจะมาโน ตะเถวะ ปัคคัณเหยยะ, โส ภิกขุ ภิกขูหิ ยาวะตะติยัง สะมะนุภาสิตัพโพ ตัสสะ ปะฏินิสสัคคายะ; ยาวะตะติยัญเจ สะมะนุภาสิยะมาโน ตัง ปะฏินิสสัชเชยยะ, อจิ เจตงั กสุ ะลงั ; โน เจ ปะฏนิ สิ สชั เชยยะ, สงั ฆาทเิ สโส. ๑๑. ตัสเสวะ โข ปะนะ ภิกขุสสะ ภิกขู โหนติ อะนุวัตตะกา วคั คะวาทะกา, เอโก วา เทว๎ วา ตะโย วา, เต เอวงั วะเทยยงุ , “มา อายสั ม๎ นั โต เอตงั ภกิ ขงุ กญิ จิ อะวะจตุ ถะ ธมั มะวาที เจโส ภกิ ข,ุ วนิ ะยะวาที เจโส ภกิ ข,ุ อมั หากญั เจโส ภกิ ข,ุ ฉนั ทญั จะ รจุ ญิ จะ อาทายะ โวหะระต,ิ ชานาติ โน ภาสะต,ิ อมั หากมั เปตงั ขะมะตตี .ิ เต ภกิ ขู ภกิ ขหู ิ เอวะมสั สุ วะจะนยี า “มา อายสั ม๎ นั โต เอวงั อะวะจตุ ถะ, นะ เจโส ภกิ ขุ ธมั มะวาท,ี นะ เจโส ภกิ ขุ วนิ ะยะวาท,ี มา อายสั ม๎ นั ตานมั ปิ สงั ฆะเภโท รจุ ติ ถะ, สะเมตายสั ม๎ นั ตานงั สงั เฆนะ, สะมคั โค หิ สงั โฆ สมั โมทะมาโน อะววิ ะทะมาโน เอกทุ เทโส ผาสุ วหิ ะระตตี .ิ เอวญั จะ เต ภกิ ขู ภกิ ขหู ิ วจุ จะมานา ตะเถวะ ปคั คณั เหยยงุ . เต ภกิ ขู ภกิ ขหู ิ ยาวะตะตยิ งั สะมะนภุ าสติ พั พา ตสั สะ ปะฏนิ สิ สคั คายะ; ยาวะตะตยิ ญั เจ สะมะนภุ าสยิ ะมานา ตงั ปะฏนิ สิ สชั เชยยงุ อจิ เจตงั กสุ ะลงั , โน เจ ปะฏนิ สิ สชั เชยยงุ ; สงั ฆาทเิ สโส. ๑๒.ภิกขุ ปะเนวะ ทุพพะจะชาติโก โหติ, อุทเทสะปะริยาปันเนสุ สกิ ขาปะเทสุ ภกิ ขหู ิ สะหะธมั มกิ งั วจุ จะมาโน อตั ตานงั อะวะจะนยี งั กะโรติ “มา มงั อายสั ม๎ นั โต กญิ จิ อะวะจตุ ถะ กลั ย๎ าณงั วา ปาปะกงั วา, อะหมั ปายสั ม๎ นั เต นะ กญิ จิ วกั ขามิ กลั ย๎ าณงั วา ปาปะกงั วา, วริ ะมะถายสั ม๎ นั โต มะมะ วะจะนายาต,ิ โส ภกิ ขุ ภกิ ขหู ิ เอวะมสั สะ วะจะนโี ย “มา อายสั ม๎ า อตั ตานงั อะวะจะนยี งั อะกาส,ิ

ภาคผนวก ๔๔๕ วะจะนยี ะเมวะ อายสั ม๎ า อตั ตานงั กะโรต,ุ อายสั ม๎ าปิ ภกิ ขู วะเทตุ สะหะธมั เมนะ, ภกิ ขปู ิ อายสั ม๎ นั ตงั วกั ขนั ติ สะหะธมั เมนะ, เอวงั สงั วฑั ฒา หิ ตสั สะ ภะคะวะโต ปะรสิ า, ยะททิ งั อญั ญะมญั ญะวะจะเนนะ อญั ญะมญั ญะวฏุ ฐาปะเนนาต.ิ เอวญั จะ โส ภกิ ขุ ภกิ ขหู ิ วจุ จะมาโน ตะเถวะ ปคั คณั เหยยะ, โส ภกิ ขุ ภกิ ขหู ิ ยาวะตะตยิ งั สะมะนภุ าสติ พั โพ ตสั สะ ปะฏนิ สิ สคั คายะ, ยาวะตะตยิ ญั เจ สะมะนภุ าสยิ ะมาโน ตงั ปะฏนิ สิ สชั เชยยะ. อจิ เจตงั กสุ ะลงั , โน เจ ปะฏนิ สิ สชั เชยยะ, สงั ฆาทเิ สโส. ๑๓.ภิกขุ ปะเนวะ อัญญะตะรัง คามัง วา นิคะมัง วา อุปะนิสสายะ วหิ ะระติ กลุ ะทสู ะโก ปาปะสะมาจาโร, ตสั สะ โข ปาปะกา สะมาจารา ทสิ สนั ติ เจวะ สยุ ยนั ติ จะ,กลุ านิ จะ เตนะ ทฏุ ฐานิ ทสิ สนั ติ เจวะ สยุ ยนั ติ จะ. โส ภกิ ขุ ภิกขูหิ เอวะมัสสะ วะจะนีโย “อายัส๎มา โข กุละทูสะโก ปาปะสะมาจาโร, อายสั ม๎ ะโต โข ปาปะกา สะมาจารา ทสิ สนั ติ เจวะ สยุ ยนั ติ จะ. กลุ านิ จายสั ม๎ ะตา ทฏุ ฐานิ ทสิ สนั ติ เจวะ สยุ ยนั ติ จะ; ปกั กะมะตายสั ม๎ า อมิ มั หา อาวาสา, อะลนั เต อธิ ะ วาเสนาต.ิ เอวญั จะ โส ภกิ ขุ ภกิ ขหู ิ วจุ จะมาโน เต ภกิ ขู เอวงั วะเทยยะ “ฉันทะคามิโน จะ ภิกขู; โทสะคามิโน จะ ภิกขู, โมหะคามิโน จะ ภิกขู, ภะยะคามโิ น จะ ภกิ ข,ู ตาทสิ กิ ายะ อาปตั ตยิ า เอกจั จงั ปพั พาเชนต,ิ เอกจั จงั นะ ปพั พาเชนตตี .ิ โส ภกิ ขุ ภกิ ขหู ิ เอวะมสั สะ วะจะนโี ย “มา อายสั ม๎ า เอวงั อะวะจะ, นะ จะ ภกิ ขู ฉนั ทะคามโิ น, นะ จะ ภกิ ขู โทสะคามโิ น, นะ จะ ภกิ ขู โมหะคามโิ น, นะ จะ ภกิ ขู ภะยะคามโิ น, อายสั ม๎ า โข กลุ ะทสู ะโก ปาปะสะมาจาโร, อายสั ม๎ ะโต โข ปาปะกา สะมาจารา ทสิ สนั ติ เจวะ สยุ ยนั ติ จะ, กลุ านิ จายสั ม๎ ะตา ทฏุ ฐานิ ทสิ สนั ติ เจวะ สยุ ยนั ติ จะ, ปกั กะมะตายสั ม๎ า อมิ มั หา อาวาสา, อะลนั เต อธิ ะ วาเสนาต.ิ เอวญั จะ โส ภกิ ขุ ภกิ ขหู ิ วจุ จะมาโน ตะเถวะ ปคั คณั เหยยะ, โส ภิกขุ ภิกขูหิ ยาวะตะติยัง สะมะนุภาสิตัพโพ ตัสสะ ปะฏินิสสัคคายะ; ยาวะตะตยิ ญั เจ สะมะนภุ าสยิ ะมาโน ตงั ปะฏนิ สิ สชั เชยยะ, อจิ เจตงั กสุ ะลงั ; โน เจ ปะฏนิ สิ สชั เชยยะ, สงั ฆาทเิ สโส. อุททิฏฐา โข อายัส๎มันโต เตระสะ สังฆาทิเสสา ธัมมา: นะวะ ปะฐะมาปตั ตกิ า, จตั ตาโร ยาวะตะตยิ ะกา; เยสงั ภกิ ขุ อญั ญะตะรงั วา อญั ญะตะรงั วา อาปชั ชติ ว๎ า ยาวะตหิ งั ชานงั ปะฏจิ ฉาเทต;ิ ตาวะตหิ งั เตนะ ภกิ ขนุ า อะกามา

๔๔๖ ประมวลพระพทุ ธบัญญตั ิ อรยิ วนิ ยั จากพระไตรปฎิ ก ปะรวิ ตั ถพั พงั , ปะรวิ ตุ ถะปะรวิ าเสนะ ภกิ ขนุ า อตุ ตะรงิ ฉารตั ตงั ภกิ ขมุ านตั ตายะ ปะฏปิ ชั ชติ พั พงั , จณิ ณะมานตั โต ภกิ ข,ุ ยตั ถะ สยิ า วสี ะตคิ ะโน ภกิ ขสุ งั โฆ, ตตั ถะ โส ภิกขุ อัพเภตัพโพ; เอเกนะปิ เจ อูโน วีสะติคะโณ ภิกขุสังโฆ, ตัง ภิกขุง อพั เภยยะ, โส จะ ภกิ ขุ อะนพั ภโิ ต, เต จะ ภกิ ขู คารยั ห๎ า: อะยงั ตตั ถะ สามจี .ิ ตตั ถายสั ม๎ นั เต ปุจฉามิ: กัจจิตถะ ปะริสุทธา? ทตุ ยิ มั ปิ ปุจฉามิ: กัจจิตถะ ปะริสุทธา? ตะติยัมปิ ปุจฉามิ: กัจจิตถะ ปะริสุทธา? ปะรสิ ทุ เธตถายสั ม๎ นั โต, ตสั ม๎ า ตณุ ห๎ ,ี เอวะเมตงั ธาระยาม.ิ สงั ฆาทเิ สสทุ เทโส นฏิ ฐโิ ต. อเิ ม โข ปะนายสั ม๎ นั โต เทว๎ อะนยิ ะตา ธมั มา อทุ เทสงั อาคจั ฉนั ต.ิ ๑. โย ปะนะ ภกิ ขุ มาตคุ าเมนะ สทั ธงิ เอโก เอกายะ ระโห ปะฏจิ ฉนั เน อาสะเน อะลงั กมั มะนเิ ย นสิ ชั ชงั กปั เปยยะ; ตะเมนงั สทั เธยยะวะจะสา อปุ าสกิ า ทสิ ว๎ า ตณิ ณงั ธมั มานงั อญั ญะตะเรนะ วะเทยยะ ปาราชเิ กนะ วา สงั ฆาทเิ สเสนะ วา ปาจิตติเยนะ วา, นิสัชชัง ภิกขุ ปะฏิชานะมาโน ติณณัง ธัมมานัง อญั ญะตะเรนะ กาเรตพั โพ ปาราชเิ กนะ วา สงั ฆาทเิ สเสนะ วา ปาจติ ตเิ ยนะ วา; เยนะ วา สา สทั เธยยะวะจะสา อปุ าสกิ า วะเทยยะ, เตนะ โส ภกิ ขุ กาเรตพั โพ; อะยงั ธมั โม อะนยิ ะโต. ๒. นะ เหวะ โข ปะนะ ปะฏจิ ฉนั นงั อาสะนงั โหติ นาลงั กมั มะนยิ งั , อะลัญจะ โข โหติ มาตุคามัง ทุฏฐุลลาหิ วาจาหิ โอภาสิตุง; โย ปะนะ ภิกขุ ตะถารเู ป อาสะเน มาตคุ าเมนะ สทั ธงิ เอโก เอกายะ ระโห นสิ ชั ชงั กปั เปยยะ; ตะเมนัง สัทเธยยะวะจะสา อุปาสิกา ทิส๎วา ท๎วินนัง ธัมมานัง อัญญะตะเรนะ วะเทยยะ สงั ฆาทเิ สเสนะ วา ปาจติ ตเิ ยนะ วา, นสิ ชั ชงั ภกิ ขุ ปะฏชิ านะมาโน ทว๎ นิ นงั ธมั มานงั อญั ญะตะเรนะ กาเรตพั โพ สงั ฆาทเิ สเสนะ วา ปาจติ ตเิ ยนะ วา, เยนะ วา สา สทั เธยยะวะจะสา อปุ าสกิ า วะเทยยะ, เตนะ โส ภกิ ขุ กาเรตพั โพ; อะยมั ปิ ธมั โม อะนยิ ะโต. อทุ ทฏิ ฐา โข อายสั ม๎ นั โต เทว๎ อะนยิ ะตา ธมั มา.

ภาคผนวก ๔๔๗ ตตั ถายสั ม๎ นั เต ปุจฉามิ: กัจจิตถะ ปะริสุทธา? ทตุ ยิ มั ปิ ปุจฉามิ: กัจจิตถะ ปะริสุทธา? ตะติยัมปิ ปุจฉามิ: กัจจิตถะ ปะริสุทธา? ปะรสิ ทุ เธตถายสั ม๎ นั โต, ตสั ม๎ า ตณุ ห๎ ,ี เอวะเมตงั ธาระยาม.ิ อะนยิ ะตทุ เทโส นฏิ ฐโิ ต. อเิ ม โข ปะนายสั ม๎ นั โต ตงิ สะ นสิ สคั คยิ า ปาจติ ตยิ า ธมั มา อทุ เทสงั อาคัจฉันติ. ๑. นฏิ ฐติ ะจวี ะรสั ม๎ งิ ภกิ ขนุ า อพุ ภะตสั ม๎ งิ กะฐเิ น, ทะสาหะปะระมงั อะตเิ รกะจวี ะรงั ธาเรตพั พงั , ตงั อะตกิ กามะยะโต, นสิ สคั คยิ งั ปาจติ ตยิ งั . ๒. นฏิ ฐติ ะจวี ะรสั ม๎ งิ ภกิ ขนุ า อพุ ภะตสั ม๎ งิ กะฐเิ น, เอกะรตั ตมั ปิ เจ ภกิ ขุ ตจิ วี ะเรนะ วปิ ปะวะเสยยะ, อญั ญตั ร๎ ะ ภกิ ขสุ มั มะตยิ า, นสิ สคั คยิ งั ปาจติ ตยิ งั . ๓. นฏิ ฐติ ะจวี ะรสั ม๎ งิ ภกิ ขนุ า อพุ ภะตสั ม๎ งิ กะฐเิ น, ภกิ ขโุ น ปะเนวะ อะกาละจีวะรัง อุปปัชเชยยะ, อากังขะมาเนนะ ภิกขุนา ปะฏิคคะเหตัพพัง, ปะฏคิ คะเหตว๎ า ขปิ ปะเมวะ กาเรตพั พงั ; โน จสั สะ ปารปิ รู ,ิ มาสะปะระมนั เตนะ ภกิ ขนุ า ตงั จวี ะรงั นกิ ขปิ ติ พั พงั อนู สั สะ ปารปิ รู ยิ า สะตยิ า ปจั จาสายะ, ตะโต เจ อตุ ตะรงิ นกิ ขเิ ปยยะ สะตยิ าปิ ปจั จาสายะ, นสิ สคั คยิ งั ปาจติ ตยิ งั . ๔. โย ปะนะ ภิกขุ อัญญาติกายะ ภิกขุนิยา ปุราณะจีวะรัง โธวาเปยยะวา ระชาเปยยะ วา อาโกฏาเปยยะ วา, นสิ สคั คยิ งั ปาจติ ตยิ งั . ๕. โย ปะนะ ภิกขุ อัญญาติกายะ ภิกขุนิยา หัตถะโต จีวะรัง ปะฏคิ คณั เหยยะ อญั ญตั ร๎ ะ ปารวิ ฏั ฏะกา, นสิ สคั คยิ งั ปาจติ ตยิ งั . ๖. โย ปะนะ ภกิ ขุ อญั ญาตะกงั คะหะปะตงิ วา คะหะปะตานงิ วา จวี ะรงั วิญญาเปยยะ อัญญัต๎ระ สะมะยา, นิสสัคคิยัง ปาจิตติยัง. ตัตถายัง สะมะโย: อจั ฉนิ นะจวี ะโร วา โหติ ภกิ ขุ นฏั ฐะจวี ะโร วา, อะยงั ตตั ถะ สะมะโย. ๗. ตญั เจ อญั ญาตะโก คะหะปะติ วา คะหะปะตานี วา พะหหู ิ จวี ะเรหิ อะภิหัฏฐุมปะวาเรยยะ, สันตะรุตตะระปะระมันเตนะ ภิกขุนา ตะโต จีวะรัง สาทติ พั พงั , ตะโต เจ อตุ ตะรงิ สาทเิ ยยยะ, นสิ สคั คยิ งั ปาจติ ตยิ งั .

๔๔๘ ประมวลพระพทุ ธบญั ญตั ิ อรยิ วนิ ยั จากพระไตรปฎิ ก ๘. ภิกขุง ปะเนวะ อุททิสสะ อัญญาตะกัสสะ คะหะปะติสสะ วา คะหะปะตานยิ า วา จวี ะระเจตาปะนงั อปุ กั ขะฏงั โหต.ิ “อมิ นิ า จวี ะระเจตาปะเนนะ จวี ะรงั เจตาเปตว๎ า อติ ถนั นามงั ภกิ ขงุ จวี ะเรนะ อจั ฉาเทสสามตี ,ิ ตตั ร๎ ะ เจโส ภิกขุ ปุพเพ อัปปะวาริโต อุปะสังกะมิต๎วา จีวะเร วิกัปปัง อาปัชเชยยะ “สาธุ วะตะ มงั อายสั ม๎ า อมิ นิ า จวี ะระเจตาปะเนนะ เอวะรปู งั วา เอวะรปู งั วา จวี ะรงั เจตาเปตว๎ า อจั ฉาเทหตี ิ กลั ย๎ าณะกมั ย๎ ะตงั อปุ าทายะ, นสิ สคั คยิ งั ปาจติ ตยิ งั . ๙. ภกิ ขงุ ปะเนวะ อทุ สิ สะ อภุ นิ นงั อญั ญาตะกานงั คะหะปะตนี งั วา คะหะปะตานนี งั วา ปจั เจกะจวี ะระเจตาปะนา อปุ กั ขะฏา โหนติ “อเิ มหิ มะยงั ปจั เจกะจวี ะระเจตาปะเนหิ ปจั เจกะจวี ะรานิ เจตาเปตว๎ า อติ ถนั นามงั ภกิ ขงุ จีวะเรหิ อัจฉาเทสสามาติ, ตัต๎ระ เจ โส ภิกขุ ปุพเพ อัปปะวาริโต อปุ ะสงั กะมติ ว๎ า จวี ะเร วกิ ปั ปงั อาปชั เชยยะ “สาธุ วะตะ มงั อายสั ม๎ นั โต อเิ มหิ ปจั เจกะจวี ะระเจตาปะเนหิ เอวะรปู งั วา เอวะรปู งั วา จวี ะรงั เจตาเปตว๎ า อจั ฉาเทถะ อโุ ภวะ สนั ตา เอเกนาติ กลั ย๎ าณะกมั ย๎ ะตงั อปุ าทายะ, นสิ สคั คยิ งั ปาจิตติยัง. ๑๐. ภกิ ขงุ ปะเนวะ อทุ ทสิ สะ ราชา วา ราชะโภคโค วา พราหมะโณ วา คะหะปะตโิ ก วา ทเู ตนะ จวี ะระเจตาปะนงั ปะหเิ ณยยะ “อมิ นิ า จวี ะระเจตาปะเนนะ จวี ะรงั เจตาเปตว๎ า อติ ถนั นามงั ภกิ ขงุ จวี ะเรนะ อจั ฉาเทหตี ;ิ โส เจ ทโู ต ตงั ภกิ ขงุ อปุ ะสงั กะมติ ว๎ า เอวงั วะเทยยะ “อทิ งั โข ภนั เต อายสั ม๎ นั ตงั อทุ ทสิ สะ จวี ะระเจตาปะนงั อาภะตงั , ปะฏคิ คณั หาตุ อายสั ม๎ า จวี ะระเจตาปะนนั ต,ิ เตนะ ภกิ ขนุ า โส ทโู ต เอวะมสั สะ วะจะนโี ย “นะ โข มะยงั อาวโุ ส จวี ะระเจตาปะนงั ปะฏคิ คณั หามะ, จวี ะรญั จะ โข มะยงั ปะฏคิ คณั หามะ กาเลนะ กปั ปยิ นั ต;ิ โส เจ ทโู ต ตงั ภกิ ขงุ เอวงั วะเทยยะ “อตั ถิ ปะนายสั ม๎ ะโต โกจิ เวยยาวจั จะกะโรต,ิ จวี ะรตั ถเิ กนะ ภกิ ขะเว ภกิ ขนุ า เวยยาวัจจะกะโร นทิ ทสิ ติ พั โพ อารามโิ ก วา อุปาสะโก วา “เอโส โข อาวุโส ภิกขูนัง เวยยาวัจจะกะโรติ; โส เจ ทูโต ตัง เวยยาวจั จะกะรงั สญั ญาเปตว๎ า ตงั ภกิ ขงุ อปุ ะสงั กะมติ ว๎ า เอวงั วะเทยยะ “ยงั โข ภนั เต อายสั ม๎ า เวยยาวจั จะกะรงั นทิ ทสิ ,ิ สญั ญตั โต โส มะยา; อปุ ะสงั กะมะตุ อายสั ม๎ า กาเลนะ จวี ะเรนะ ตงั อจั ฉาเทสสะตตี ,ิ จวี ะรตั ถเิ กนะ ภกิ ขะเว ภกิ ขนุ า

ภาคผนวก ๔๔๙ เวยยาวจั จะกะโร อปุ ะสงั กะมติ ว๎ า ทว๎ ติ ตกิ ขตั ตงุ โจเทตพั โพ สาเรตพั โพ “อตั โถ เม อาวุโส จีวะเรนาติ; ท๎วิตติกขัตตุง โจทะยะมาโน สาระยะมาโน ตัง จีวะรัง อะภนิ ปิ ผาเทยยะ, อจิ เจตงั กสุ ะลงั ; โน เจ อะภนิ ปิ ผาเทยยะ, จะตกุ ขตั ตงุ ปัญจักขัตตุง ฉักขัตตุปะระมัง ตุณ๎หีภูเตนะ อุททิสสะ ฐาตัพพัง; จะตุกขัตตุง ปัญจักขัตตุง ฉักขัตตุปะระมัง ตุณ๎หีภูโต อุททิสสะ ติฏฐะมาโน ตัง จีวะรัง อะภนิ ปิ ผาเทยยะ, อจิ เจตงั กสุ ะลงั ; โน เจ อะภนิ ปิ ผาเทยยะ, ตะโต เจ อตุ ตะรงิ วายะมะมาโน ตัง จีวะรัง อะภินิปผาเทยยะ, นิสสัคคิยัง ปาจิตติยัง; โน เจ อะภนิ ปิ ผาเทยยะ, ยะตสั สะ จวี ะระเจตาปะนงั อาภะตงั , ตตั ถะ สามงั วา คนั ตพั พงั , ทโู ต วา ปาเหตพั โพ “ยงั โข ตมุ เห อายสั ม๎ นั โต ภกิ ขงุ อทุ ทสิ สะ จวี ะระเจตาปะนงั ปะหณิ ติ ถะ, นะ ตนั ตสั สะ ภกิ ขโุ น กญิ จิ อตั ถงั อะนโุ ภต,ิ ยญุ ชนั ตายสั ม๎ นั โต สะกงั , มาโว สะกงั วนิ สั สตี :ิ อะยงั ตตั ถะ สามจี .ิ จวี ะระวคั โค ปะฐะโม. ๑๑. โย ปะนะ ภกิ ขุ โกสยิ ะมสิ สะกงั สนั ถะตงั การาเปยยะ, นสิ สคั คยิ งั ปาจิตติยัง. ๑๒.โย ปะนะ ภิกขุ สุทธะกาฬะกานัง เอฬะกะโลมานัง สันถะตัง การาเปยยะ, นสิ สคั คยิ งั ปาจติ ตยิ งั . ๑๓.นะวัมปะนะ ภิกขุนา สันถะตัง การะยะมาเนนะ เท๎ว ภาคา สทุ ธะกาฬะกานงั เอฬะกะโลมานงั อาทาตพั พา, ตะตยิ งั โอทาตานงั , จะตตุ ถงั โคจะรยิ านงั ; อะนาทา เจ ภกิ ขุ เทว๎ ภาเค สทุ ธะกาฬะกานงั เอฬะกะโลมานงั ตะตยิ งั โอทาตานงั จะตตุ ถงั โคจะรยิ านงั นะวงั สนั ถะตงั การาเปยยะ, นสิ สคั คยิ งั ปาจิตติยัง. ๑๔.นะวมั ปะนะ ภกิ ขนุ า สนั ถะตงั การาเปตว๎ า ฉพั พสั สานิ ธาเรตพั พงั . โอเรนะ เจ ฉนั นงั วสั สานงั ตงั สนั ถะตงั วสิ สชั เชตว๎ า วา อะวสิ สชั เชตว๎ า วา อัญญัง นะวัง สันถะตัง การาเปยยะ อัญญต๎ระ ภิกขุสัมมะติยา, นิสสัคคิยัง ปาจิตติยัง. ๑๕. นิสีทะนะสันถะตัมปะนะ ภิกขุนา การะยะมาเนนะ ปรุ าณะสนั ถะตสั สะ สามนั ตา สคุ ะตะวทิ ตั ถิ อาทาตพั พา ทพุ พณั ณะกะระณายะ,

๔๕๐ ประมวลพระพทุ ธบัญญตั ิ อรยิ วนิ ยั จากพระไตรปฎิ ก อะนาทา เจ ภิกขุ ปุราณะสันถะตัสสะ สามันตา สุคะตะวิทัตถิง นะวัง นสิ ที ะนะสนั ถะตงั การาเปยยะ, นสิ สคั คยิ งั ปาจติ ตยิ งั . ๑๖. ภิกขุโน ปะเนวะ อัทธานะมัคคะปะฏิปันนัสสะ เอฬะกะโลมานิ อุปปัชเชยยุง, อากังขะมาเนนะ ภิกขุนา ปะฏิคคะเหตัพพานิ, ปะฏิคคะเหต๎วา ตโิ ยชะนะปะระมงั สะหตั ถา หาเรตพั พาน,ิ อะสนั เต หาระเก, ตะโต เจ อตุ ตะรงิ หะเรยยะ อะสนั เตปิ หาระเก, นสิ สคั คยิ งั ปาจติ ตยิ งั . ๑๗.โย ปะนะ ภกิ ขุ อญั ญาตกิ ายะ ภกิ ขนุ ยิ า เอฬะกะโลมานิ โธวาเปยยะ วา ระชาเปยยะ วา วชิ ะฏาเปยยะ วา, นสิ สคั คยิ งั ปาจติ ตยิ งั . ๑๘. โย ปะนะ ภิกขุ ชาตะรูปะระชะตัง อุคคัณเหยยะ วา อคุ คณั หาเปยยะ วา อปุ ะนกิ ขติ ตงั วา สาทเิ ยยยะ, นสิ สคั คยิ งั ปาจติ ตยิ งั . ๑๙. โย ปะนะ ภกิ ขุ นานปั ปะการะกงั รปู ยิ ะสงั โวหารงั สะมาปชั เชยยะ, นสิ สคั คยิ งั ปาจติ ตยิ งั . ๒๐.โย ปะนะ ภกิ ขุ นานปั ปะการะกงั กะยะวกิ กะยงั สะมาปชั เชยยะ, นสิ สคั คยิ งั ปาจติ ตยิ งั . โกสยิ ะวคั โค ทตุ โิ ย. ๒๑.ทะสาหะปะระมงั อะตเิ รกะปตั โต ธาเรตพั โพ, ตงั อะตกิ กามะยะโต, นสิ สคั คยิ งั ปาจติ ตยิ งั . ๒๒.โย ปะนะ ภกิ ขุ อนู ะปญั จะพนั ธะเนนะ ปตั เตนะ อญั ญงั นะวงั ปตั ตงั เจตาเปยยะ, นิสสัคคิยัง ปาจิตติยัง. เตนะ ภิกขุนา โส ปัตโต ภิกขุปะริสายะ นสิ สชั ชติ พั โพ; โย จะ ตสั สา ภกิ ขปุ ะรสิ ายะ ปตั ตะปะรยิ นั โต, โส จะ ตสั สะ ภกิ ขโุ น ปะทาตพั โพ “อะยนั เต ภกิ ขุ ปตั โต, ยาวะ เภทะนายะ ธาเรตพั โพต:ิ อะยงั ตตั ถะ สามีจิ. ๒๓.ยานิ โข ปะนะ ตานิ คลิ านานงั ภกิ ขนู งั ปะฏสิ ายะนยี านิ เภสชั ชาน,ิ เสยยะถีทัง; สัปปิ นะวะนีตัง เตลัง มะธุ ผาณิตัง, ตานิ ปะฏิคคะเหต๎วา สัตตาหะปะระมัง สันนิธิการะกัง ปะริภุญชิตัพพานิ, ตัง อะติกกามะยะโต นสิ สคั คยิ งั ปาจติ ตยิ งั . ๒๔.“มาโส เสโส คิมหานันติ ภิกขุนา วัสสิกะสาฏิกะจีวะรัง

ภาคผนวก ๔๕๑ ปะรเิ ยสติ พั พงั , “อฑั ฒะมาโส เสโส คมิ หานนั ติ กตั ว๎ า นวิ าเสตพั พงั ; “โอเรนะ เจ มาโส เสโส คมิ หานนั ติ วสั สกิ ะสาฏกิ ะจวี ะรงั ปะรเิ ยเสยยะ. “โอเรนฑั ฒะมาโส เสโส คมิ หานนั ติ กตั ว๎ า นวิ าเสยยะ; นสิ สคั คยิ งั ปาจติ ตยิ งั . ๒๕.โย ปะนะ ภกิ ขุ ภกิ ขสุ สะ สามงั จวี ะรงั ทตั ว๎ า กปุ โิ ต อะนตั ตะมะโน อจั ฉนิ เทยยะ วา อจั ฉนิ ทาเปยยะ วา, นสิ สคั คยิ งั ปาจติ ตยิ งั . ๒๖.โย ปะนะ ภกิ ขุ สามงั สตุ ตงั วญิ ญาเปตว๎ า ตนั ตะวาเยหิ จวี ะรงั วายาเปยยะ, นสิ สคั คยิ งั ปาจติ ตยิ งั . ๒๗. ภกิ ขงุ ปะเนวะ อทุ ทสิ สะ อญั ญาตะโก คะหะปะติ วา คะหะปะตานี วา ตนั ตะวาเยหิ จวี ะรงั วายาเปยยะ, ตตั ร๎ ะ เจ โส ภกิ ขุ ปพุ เพ อปั ปะวารโิ ต ตนั ตะวาเย อปุ ะสงั กะมติ ว๎ า จวี ะเร วกิ ปั ปงั อาปชั เชยยะ “อทิ งั โข อาวโุ ส จวี ะรงั มงั อทุ ทสิ สะ วยี ะต,ิ อายะตญั จะ กะโรถะ, วติ ถะตญั จะ อปั ปติ ญั จะ สวุ ติ ญั จะ สปุ ะวายติ ญั จะ สวุ เิ ลกขติ ญั จะ สวุ ติ จั ฉติ ญั จะ กะโรถะ; อปั เปวะนามะ มะยมั ปิ อายัส๎มันตานัง กิญจิมัตตัง อะนุปะทัชเชยยามาติ, เอวัญจะ โส ภิกขุ วัต๎วา กิญจิมัตตัง อะนุปะทัชเชยยะ อันตะมะโส ปิณฑะปาตะมัตตัมปิ, นิสสัคคิยัง ปาจิตติยัง. ๒๘.ทะสาหานาคะตัง กัตติกะเตมาสิปุณณะมัง, ภิกขุโน ปะเนวะ อจั เจกะจวี ะรงั อปุ ปชั เชยยะ, อจั เจกงั มญั ญะมาเนนะ ภกิ ขนุ า ปะฏคิ คะเหตพั พงั ปะฏิคคะเหต๎วา ยาวะจีวะระกาละสะมะยัง นิกขิปิตัพพัง, ตะโต เจ อุตตะริง นขิ เิ ปยยะ, นสิ สคั คยิ งั ปาจติ ตยิ งั . ๒๙.อุปะวัสสัง โข ปะนะ กัตติกะปุณณะมัง, ยานิ โข ปะนะ ตานิ อารญั ญะกานิ เสนาสะนานิ สาสงั กะสมั มะตานิ สปั ปะฏภิ ะยาน,ิ ตะถารเู ปสุ ภกิ ขุ เสนาสะเนสุ วิหะรันโต อากังขะมาโน ติณณัง จีวะรานัง อัญญะตะรัง จีวะรัง อันตะระฆะเร นิกขิเปยยะ, สิยา จะ ตัสสะ ภิกขุโน โกจิเทวะ ปัจจะโย เตนะ จีวะเรนะ วิปปะวาสายะ, ฉารัตตะปะระมันเตนะ ภิกขุนา เตนะ จีวะเรนะ วปิ ปะวะสติ พั พงั , ตะโต เจ อตุ ตะรงิ วปิ ปะวะเสยยะ อญั ญตั ร๎ ะ ภกิ ขสุ มั มะตยิ า, นสิ สคั คยิ งั ปาจติ ตยิ งั . ๓๐. โย ปะนะ ภิกขุ ชานัง สังฆิกัง ลาภัง ปะริณะตัง อัตตะโน

๔๕๒ ประมวลพระพทุ ธบญั ญตั ิ อรยิ วนิ ยั จากพระไตรปฎิ ก ปะรณิ าเมยยะ, นสิ สคั คยิ งั ปาจติ ตยิ งั . ปตั ตะวคั โค ตะตโิ ย. อทุ ทฏิ ฐา โข อายสั ม๎ นั โต ตงิ สะ นสิ สคั คยิ า ปาจติ ตยิ า ธมั มา. ตตั ถายสั ม๎ นั เต ปุจฉามิ: กัจจิตถะ ปะริสุทธา? ทตุ ยิ มั ปิ ปุจฉามิ: กัจจิตถะ ปะริสุทธา? ตะติยัมปิ ปุจฉามิ: กัจจิตถะ ปะริสุทธา? ปะรสิ ทุ เธตถายสั ม๎ นั โต, ตสั ม๎ า ตณุ ห๎ ,ี เอวะเมตงั ธาระยาม.ิ นสิ สคั คยิ า ปาจติ ตยิ า ธมั มา นฏิ ฐติ า. อเิ ม โข ปะนายสั ม๎ นั โต เทว๎ นะวตุ ิ ปาจติ ตยิ า ธมั มา อทุ เทสงั อาคจั ฉนั ต.ิ ๑. สมั ปะชานะมสุ าวาเท ปาจติ ตยิ งั . ๒. โอมะสะวาเท ปาจติ ตยิ งั . ๓. ภกิ ขเุ ปสญุ เญ ปาจติ ตยิ งั . ๔. โย ปะนะ ภิกขุ อะนุปะสัมปันนัง ปะทะโส ธัมมัง วาเจยยะ, ปาจิตติยัง. ๕. โย ปะนะ ภิกขุ อะนุปะสัมปันเนนะ อุตตะริท๎วิรัตตะติรัตตัง สะหะเสยยงั กปั เปยยะ, ปาจติ ตยิ งั . ๖. โย ปะนะ ภกิ ขุ มาตคุ าเมนะ สะหะเสยยงั กปั เปยยะ, ปาจติ ตยิ งั . ๗. โย ปะนะ ภิกขุ มาตุคามัสสะ อุตตะริฉัปปัญจะวาจาหิ ธัมมัง เทเสยยะ อญั ญตั ร๎ ะ วญิ ญนุ า ปรุ สิ ะวคิ คะเหนะ, ปาจติ ตยิ งั . ๘. โย ปะนะ ภิกขุ อะนุปะสัมปันนัสสะ อุตตะริมะนุสสะธัมมัง อาโรเจยยะ, ภตู สั ม๎ งิ ปาจติ ตยิ งั . ๙. โย ปะนะ ภกิ ขุ ภกิ ขสุ สะ ทฏุ ฐลุ ลงั อาปตั ตงิ อะนปุ ะสมั ปนั นสั สะ อาโรเจยยะ, อญั ญตั ร๎ ะ ภกิ ขสุ มั มะตยิ า, ปาจติ ตยิ งั . ๑๐. โย ปะนะ ภกิ ขุ ปะฐะวงิ ขะเณยยะ วา ขะณาเปยยะ วา, ปาจติ ตยิ งั . มสุ าวาทะวคั โค ปะฐะโม. ๑๑. ภตู ะคามะปาตพั ย๎ ะตายะ ปาจติ ตยิ งั .

ภาคผนวก ๔๕๓ ๑๒.อญั ญะวาทะเก วเิ หสะเก ปาจติ ตยิ งั . ๑๓.อชุ ฌาปะนะเก ขยิ ยะนะเก ปาจติ ตยิ งั . ๑๔.โย ปะนะ ภกิ ขุ สงั ฆกิ งั มญั จงั วา ปฐี งั วา ภสิ งิ วา โกจฉงั วา อชั โฌกาเส สนั ถะรติ ว๎ า วา สนั ถะราเปตว๎ า วา, ตงั ปกั กะมนั โต เนวะ อทุ ธะเรยยะ นะ อทุ ธะราเปยยะ อะนาปจุ ฉงั วา คจั เฉยยะ, ปาจติ ตยิ งั . ๑๕. โย ปะนะ ภกิ ขุ สงั ฆเิ ก วหิ าเร เสยยงั สนั ถะรติ ว๎ า วา สนั ถะราเปตว๎ า วา, ตัง ปักกะมันโต เนวะ อุทธะเรยยะ นะ อุทธะราเปยยะ อะนาปุจฉัง วา คจั เฉยยะ, ปาจติ ตยิ งั . ๑๖. โย ปะนะ ภิกขุ สังฆิเก วิหาเร ชานัง ปุพพูปะคะตัง ภิกขุง อะนปู ะขชั ชะ เสยยงั กปั เปยยะ “ยสั สะ สมั พาโธ ภะวสิ สะต,ิ โส ปกั กะมสิ สะตตี ;ิ เอตะเทวะ ปจั จะยงั กะรติ ว๎ า อะนญั ญงั , ปาจติ ตยิ งั . ๑๗.โย ปะนะ ภิกขุ ภิกขุง กุปิโต อะนัตตะมะโน สังฆิกา วิหารา นกิ กฑั เฒยยะ วา นกิ กฑั ฒาเปยยะ วา, ปาจติ ตยิ งั . ๑๘. โย ปะนะ ภกิ ขุ สงั ฆเิ ก วหิ าเร อปุ ะริ เวหาสะกฏุ ยิ า อาหจั จะปาทะกงั มญั จงั วา ปฐี งั วา อะภนิ สิ เี ทยยะ วา อะภนิ ปิ ชั เชยยะ วา, ปาจติ ตยิ งั . ๑๙. มะหัลละกัมปะนะ ภิกขุนา วิหารัง การะยะมาเนนะ ยาวะ ทว๎ าระโกสา อคั คะลฏั ฐะปะนายะ อาโลกะสนั ธปิ ะรกิ มั มายะ ทว๎ ติ ตจิ ฉะทะนสั สะ ปะรยิ ายงั อปั ปะหะรเิ ต ฐเิ ตนะ อะธฏิ ฐาตพั พงั , ตะโต เจ อตุ ตะรงิ อปั ปะหะรเิ ตปิ ฐโิ ต อะธฏิ ฐะเหยยะ, ปาจติ ตยิ งั . ๒๐.โย ปะนะ ภกิ ขุ ชานงั สปั ปาณะกงั อทุ ะกงั ตณิ งั วา มตั ตกิ งั วา สญิ เจยยะ วา สญิ จาเปยยะ วา, ปาจติ ตยิ งั . ภตู ะคามะวคั โค ทตุ โิ ย. ๒๑. โย ปะนะ ภกิ ขุ อะสมั มะโต ภกิ ขนุ โิ ย โอวะเทยยะ, ปาจติ ตยิ งั . ๒๒. สัมมะโตปิ เจ ภิกขุ อัตถังคะเต สุริเย ภิกขุนิโย โอวะเทยยะ, ปาจิตติยัง. ๒๓. โย ปะนะ ภิกขุ ภิกขุนูปัสสะยัง อุปะสังกะมิต๎วา ภิกขุนิโย โอวะเทยยะ, อญั ญตั ร๎ ะ สะมะยา, ปาจติ ตยิ งั . ตตั ถายงั สะมะโย; คลิ านา โหติ

๔๕๔ ประมวลพระพทุ ธบัญญตั ิ อรยิ วนิ ยั จากพระไตรปฎิ ก ภกิ ขนุ ,ี อะยงั ตตั ถะ สะมะโย. ๒๔.โย ปะนะ ภิกขุ เอวัง วะเทยยะ “อามิสะเหตุ ภิกขู ภิกขุนิโย โอวะทนั ตตี ,ิ ปาจติ ตยิ งั . ๒๕.โย ปะนะ ภกิ ขุ อญั ญาตกิ ายะ ภกิ ขนุ ยิ า จวี ะรงั ทะเทยยะ อญั ญตั ร๎ ะ ปารวิ ฏั ฏะกา, ปาจติ ตยิ งั . ๒๖.โย ปะนะ ภิกขุ อัญญาติกายะ ภิกขุนิยา จีวะรัง สิพเพยยะ วา สพิ พาเปยยะ วา, ปาจติ ตยิ งั . ๒๗.โย ปะนะ ภิกขุ ภิกขุนิยา สัทธิง สังวิธายะ เอกัทธานะมัคคัง ปะฏปิ ชั เชยยะ อนั ตะมะโส คามนั ตะรมั ปิ อญั ญตั ร๎ ะ สะมะยา, ปาจติ ตยิ งั . ตตั ถายงั สะมะโย: สตั ถะคะมะนโี ย โหติ มคั โค สาสงั กะสมั มะโต สปั ปะฏภิ ะโย, อะยงั ตตั ถะ สะมะโย. ๒๘.โย ปะนะ ภกิ ขุ ภกิ ขนุ ยิ า สทั ธงิ สงั วธิ ายะ เอกงั นาวงั อะภริ เู หยยะ อทุ ธะคามนิ งิ วา อะโธคามนิ งิ วา อญั ญตั ร๎ ะ ตริ ยิ นั ตะระณายะ, ปาจติ ตยิ งั . ๒๙.โย ปะนะ ภกิ ขุ ชานงั ภกิ ขนุ ปี ะรปิ าจติ งั ปณิ ฑะปาตงั ภญุ เชยยะ อญั ญตั ร๎ ะ ปพุ เพ คหิ สิ ะมารมั ภา, ปาจติ ตยิ งั . ๓๐. โย ปะนะ ภิกขุ ภิกขุนิยา สัทธิง เอโก เอกายะ ระโห นิสัชชัง กปั เปยยะ, ปาจติ ตยิ งั . โอวาทะวคั โค ตะตโิ ย. ๓๑.อะคลิ าเนนะ ภกิ ขนุ า เอโก อาวะสะถะปณิ โฑ ภญุ ชติ พั โพ; ตะโต เจ อตุ ตะรงิ ภญุ เชยยะ, ปาจติ ตยิ งั . ๓๒.คะณะโภชะเน อญั ญตั ร๎ ะ สะมะยา ปาจติ ตยิ งั . ตตั ถายงั สะมะโย : คลิ านะสะมะโย จวี ะระทานะสะมะโย จวี ะระการะสะมะโย อทั ธานะคะมะนะสะมะโย นาวาภริ หู ะนะสะมะโย มะหาสะมะโย สะมะณะภตั ตะสะมะโย, อะยงั ตตั ถะ สะมะโย. ๓๓.ปะรมั ปะระโภชะเน อญั ญตั ร๎ ะ สะมะยา ปาจติ ตยิ งั . ตตั ถายงั สะมะโย คลิ านะสะมะโย จวี ะระทานะสะมะโย จวี ะระการะสะมะโย; อะยงั ตตั ถะ สะมะโย. ๓๔.ภกิ ขงุ ปะเนวะ กลุ งั อปุ ะคะตงั ปเู วหิ วา มนั เถหิ วา


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook