Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ວິຊາການຄວບຄຸມຄຸນນະພາບ

ວິຊາການຄວບຄຸມຄຸນນະພາບ

Published by thongla4567, 2021-08-25 01:27:43

Description: ວິຊາການຄວບຄຸມຄຸນນະພາບ

Search

Read the Text Version

บทที่ 6 แผนการชกั สิง่ ตวั อยา่ ง 361 ตวั อย่างท่ี 6.18 ถ้ากาหนดให้มีการใช้นโยบายการกรองคุณภาพกับการตรวจสอบคุณภาพด้วยแผนการชักสิ่งตัวอย่าง เชิงเด่ียวตามมาตรฐาน MIL-STD-105E เม่ือกาหนดขนาดของลอตเท่ากับ 2,000 หน่วย และ AQL เท่ากับ 1% แล้ว ให้หาคา่ ของขีดจากัดคณุ ภาพจา่ ยออกโดยเฉลีย่ ของแผนการ วิธีทา จากตาราง MIL-STD-105E จะได้อักษรรหัส K และได้แผนการชักส่ิงตัวอย่างเชิงเดี่ยวแบบปกติ n = 125, Ac = 3 และ Re = 4 และได้แผนการชักสิ่งตัวอย่างเชิงเด่ียวแบบเคร่งครัด n = 125, Ac = 2 และ Re = 3 จากตารางที่ 6.36 ที่รหัสอักษร K และ AQL=1% ได้ค่า AOQL = 5.27% หรือปรับให้ได้ค่าแน่นอน คอื 5.27(1- 125/2,000) = 4.94% ซ่ึงมคี วามหมายว่า ถ้าหากกาหนดให้มีโอกาสค่อนข้าวสูงในการยอมรับท่ี มีคณุ ภาพดว้ ยผลิตภณั ฑ์บกพรอ่ งไมเ่ กิน 1% ดว้ ยการชกั สิ่งตวั อย่างขนาดลอตละ 125 หน่วย ถ้าพบผลิตภัณฑ์ บกพร่อง 0, 1, 2 หรือ 3 แล้ว ให้ทาการยอมรับลอต นอกจากนั้นให้ทาการปฏิเสธตลอด จะได้คุณภาพจ่าย ออกเฉล่ียไม่เกิน 4.94% (ไม่วา่ คณุ ภาพนาเขา้ จะเป็นประการใดกต็ าม) ในทานองเดียวกัน จากตารางท่ี 6.37 ท่ีรหัสอักษร K และ AQL = 1% ได้ค่า AOQL = 4.2% หรือ ปรับให้ได้ค่าแนน่ อน คือ 4.2(1-125/2,000) = 3.93% ความหมายว่า ถ้าหากกาหนดให้มีโอกาสค่อนข้างสูงใน การยอมรับลอตท่ีมีคุณภาพด้วยผลิตภัณฑ์บกพร่องไม่เกิน 1% ด้วยการชักสิ่งตัวอย่างขนาดลอตละ 125 หน่วย ถ้าพบผลิตภณั ฑบ์ กพร่อง 0, 1 หรอื 2 แล้ว ให้ทาการยอมรบั ลอตนอกจากน้นั ให้ทาการปฏิเสธลอตแล้ว จะไดค้ ุณภาพจา่ ยออกเฉลยี่ ไม่เกนิ 3.93% (ไมว่ า่ คุณภาพนาเข้าจะเปน็ ประการใดก็ตาม) โดยจะพบว่าคุณภาพ จ่ายออกทมี่ ีคณุ ภาพสงู กวา่ แผนชกั สงิ่ ตวั อยา่ งแบบปกติที่มีคุณภาพจ่ายออกเฉล่ยี ไมเ่ กนิ 1.5% 6.2.4.17 ขนาดสิง่ ตัวอย่างโดยเฉลีย่ (Average Sample Size: ASS) ศรีไร จารุภิญโญ (2540) หมายถึง จานวนสิ่งตัวอย่างโดยเฉลี่ยที่ทาการตรวจสอบต่อลอต โดยทั่วไปแลว้ ASS จะขึน้ กบั นโยบายในการตรวจสอบท่มี ี 2 ประการด้วยกนั คอื 1. การตรวจสอบอย่างสมบูรณ์ (Complete Inspection) หมายถึง การตรวจสอบด้วย จานวนสงิ่ ตัวอย่างเท่ากับขนาดส่งิ ตัวอยา่ งที่ได้รับการออกแบบไวต้ ามแผนการ 2. การตรวจอยา่ งยอ่ (Curtail Inspection) หมายถงึ การตรวจสอบด้วยจานวนสิ่งตัวอย่าง ทเี่ พียงพอตอ่ การตัดสนิ ใจ ซึง่ อาจจะไมค่ รบตามจานวนส่งิ ตวั อยา่ งทีไ่ ดร้ ับการออกแบบไวก้ ็ได้ ตัวอย่างเช่น n = 80, Ac = 1, Re = 2 จะมีความหมายว่า ถ้าหากเป็นตรวจอย่างสมบูรณ์ แล้ว ค่า ASS จะเท่ากับ 80 เสมอ แต่ถ้าหากเป็นการตรวจสอบอย่างย่อ ค่า ASS จะผันแปรต้ังแต่ 2 ถึง 80 ทง้ั นแ้ี ลว้ แต่วา่ เม่อื ใดตรวจพบผลติ ภัณฑ์บกพร่องรวม 2 หน่วย แลว้ กย็ ตุ ิ เพราะปฏเิ สธลอตแลว้ อย่างไรก็ตามโดยทั่วไปในการประกันคุณภาพด้วยการยอมรับนี้มักจะแนะนาให้ทาการ ตรวจสอบอย่างสมบูรณ์สาหรับแผนการชักสิ่งตัวอย่างเชิงเด่ียวเสมอ แต่สาหรับแผนการชักสิ่งตัวอย่างเชิงคู่ และแบบหลายเชิง ก็จะไม่แนะนาให้ใช้การตรวจสอบอย่างย่อในการชักสิ่งตัวอย่างเพื่อการตรวจสอบคร้ังแรก ทงั้ นเี้ พ่อื ตอ้ งการหาสารสนเทศเกีย่ วกบั คณุ ภาพลอตในการนาไปปรับปรงุ คุณภาพต่อไป ในมาตรฐาน MIL-STD-105E ได้แสดงเฉพาะ ASS สาหรับการตรวจสอบอย่างสมบูรณ์ เท่าน้ัน ดังนั้น ASS ของแผนการชักส่ิงตัวอย่างเชิงเดี่ยว จะมีค่าเท่ากับขนาดสิ่งตัวอย่างตามแผนการเสมอ

362 การควบคมุ คุณภาพ สาหรบั ASS ของแผนการชักส่ิงตัวอย่างเชิงคู่และหลายเชิงสาหรับแบบปกติและแบบเคร่งครัดน้ัน ได้แสดงไว้ ในลักษณะสัมพันธ์กับ ASS ของแผนการชักส่ิงตัวอย่างเชิงเด่ียว ดังรูปที่ 6.18 และขอให้สังเกตว่าท่ีแต่ละรูป จะมีลูกศรชี้ขึ้น สาหรับแสดงถึงจุดอ้างอิง (Reference Point) ท่ีแสดงถึงสมรรถนะท่ีจุด AQL ของการ ตรวจสอบแบบปกติ เส้นโค้ง ASS ท่ีแสดงในรูปท่ี 6.19 ได้มาจากการวิเคราะห์การแจกแจงแบบปัวส์ซอง(Poisson) โดยขนาดสงิ่ ตวั อยา่ งทแ่ี ต่ละขัน้ ตอนของแผนการชักส่ิงตัวอย่างเชิงคู่และหลายเชิง ประมาณค่าเท่ากับ 0.631n และ 0.250n โดยลาดับ โดย n คือ ขนาดส่ิงตัวอย่างของแผนการชักส่ิงตัวอย่างเชิงเด่ียวที่เทียบเท่ากัน แต่อย่างไรก็ตาม ในมาตรฐาน MIL-STD-105E ก็มิได้แสดงถึง ASS ของกรณีการใช้กฎการสับเปล่ียน ซ่ึงต่างไปจากมาตรฐาน ANSI/ASQC Z1.4 ทไ่ี ด้มีการแสดงค่า ASS สาหรับการใชก้ ฎสับเปลย่ี นไว้ด้วย n = ขนาดส่ิงตัวอย่างของแผนการชักส่ิงตัวอย่างเชิงเด่ียวท่ีเทียบเทา่ Ac = ตวั เลขแหง่ การยอมรับของแผนการชกั ส่ิงตัวอย่างเชิงเดีย่ ว = AQL สาหรบั การตรวจสอบแบบปกติ รปู ที่ 6.19 เส้นโค้ง ASS สาหรบั แผนการชกั สง่ิ ตวั อยา่ งเชิงคู่และหลายเชงิ (แบบปกติและแบบเคร่งครดั ) (ท่ีมา: กระทรวงอุตสาหกรรม, 2555)

บทท่ี 6 แผนการชักสง่ิ ตวั อยา่ ง 363 ตวั อยา่ งท่ี 6.19 การอ่านค่าจากเส้นโค้ง ASS ให้พิจารณาค่า ASS เม่ือทาการตรวจสอบลอตด้วยมาตรฐาน MIL-STD-105E โดยมขี นาดลอต 2,000 หนว่ ย และ AQL เท่ากับ 1% วธิ ที า แผนการชักสงิ่ ตวั อย่างเชงิ เด่ยี วแบบปกต:ิ n = 125, Ac = 3 และ Re = 4 แผนการชักสิง่ ตวั อยา่ งเชิงเดยี่ วแบบเคร่งครัด: n = 125, Ac = 2 และ Re = 3 สาหรบั แผนการตรวจสอบแบบปกติ พิจารณาท่ี Ac = 3 ของตารางที่ 6.12 เม่ือ np ตามสเกลเท่ากับ 0, 1, 2, 3, 4, 5, 6 และ 7 หรือ เทียบเป็นสัดส่วนของผลิตภัณฑ์บกพร่องตามสเกล เท่ากับ 0, 0.008, 0.016, 0.024, 0.032, 0.040, 0.048 และ 0.056 โดยลาดบั โดยมีสเกลแสดงคา่ ASS ทีค่ ่า 0, 31.25, 62.50, 93.75 และ 125 โดยลาดบั ดังน้ันหากคุณภาพลอตนาเข้ามีคุณภาพที่สัดส่วนผลิตภัณฑ์บกพร่อง 0.016 (หรือ np = 2) แล้วเมื่อ ทาการตรวจสอบด้วยการตรวจสอบแบบปกติแลว้ จะไดว้ า่ ท่แี ผนการชกั ส่ิงตวั อยา่ งเชิงเดีย่ ว มีค่า ASS = 125 ที่แผนการชักสงิ่ ตัวอย่างเชิงคู่ มีค่า ASS = 0.80 n = 100 ที่แผนการชักสิ่งตวั อย่างหลายเชิง มีคา่ ASS = 0.75 n = 93.75 แสดงว่า หากไม่มีปัญหาทางด้านการประยุกต์ใช้แผนการชักส่ิงตัวอย่างแบบหลายเชิงแล้วท่ีคุณภาพ นาเข้าน้ี ควรตรวจสอบดว้ ยแผนการชักสงิ่ ตัวอย่างหลายเชงิ เนอื่ งจากให้ความประหยัดกวา่ สาหรับแผนการตรวจสอบแบบเคร่งครัด ให้พิจารณาท่ี Ac = 2 โดยตีความในทานองเดียวกับ แผนการตรวจสอบแบบปกติ พบวา่ หากคณุ ภาพลอตนาเข้ามีคุณภาพที่สดั ส่วนผลติ ภัณฑ์บกพร่อง 0.016 (หรือ np = 2) แลว้ เมอ่ื ทาการตรวจสอบด้วยแผนการทาการตรวจสอบแบบเครง่ ครัดแลว้ จะได้ผลวา่ ท่แี ผนการชกั ส่งิ ตวั อยา่ งเชงิ เดยี่ ว มคี า่ ASS = 125 ที่แผนการชักสิ่งตวั อยา่ งเชงิ คู่ มีคา่ ASS = 125 ท่แี ผนการชักส่ิงตัวอย่างหลายเชงิ มคี า่ ASS = 0.78 n = 97.5 6.2.5 แผนการชกั ตวั อยา่ งดอดจแ์ ละโรมกิ ศุภชัย นาทะพันธ์ (2551) แฮร่ี จ.ี โรมิก ไดพ้ ัฒนาเซตของตารางแผนการตรวจสอบการชักตัวอย่าง ดอดจ์และโรมิก สาหรบั การตรวจสอบผลิตภัณฑ์แต่ละลอตแบบนับในปี พ.ศ.2473 และได้ตีพิมพ์เผยแพร่ในปี พ.ศ.2483 ภายในใต้ผู้ริเร่ิม คือ ฮาโรลด์ เอฟ.ดอดจ์ โดยอาศัยพ้ืนฐานที่ต้องการให้ผลิตภัณฑ์ท่ีจะส่งมอบให้ ลูกค้าตรงตามระดับคุณภาพที่ลูกค้าต้องการ ในช่วงที่ดอดจ์เป็นหัวหน้าแผนการประกันคุณภาพท่ีบริษัท เบลเทเลโฟน จากัด ในปี พ.ศ.2460-2501 ตารางแผนการชักตัวอย่างดอดจ์และโรมิก จะประกอบไปด้วย แผนการชักตัวอย่าง 2 ประเภทด้วยกัน คือ แผน LTPD และแผน AOQL โดยแต่ละแผนจะให้ตารางสาหรับ แผนการชกั ตวั อย่างเชงิ เดย่ี ว และตารางสาหรับแผนการชักตัวอย่างเชิงคู่ แผนการชักตัวอย่างทั้ง 2 เป็นแผนท่ี ออกแบบเพ่ือให้ค่า ATI มีค่าต่าท่ีสุด ดังนั้นแผนการชักตัวอย่างของดอดจ์และโรมิกจึงเป็นแผนที่มีประโยชน์ อย่างมาก สาหรบั การตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์ซึ่งอยู่ระหว่างการผลิตภายในโรงงานการประยุกต์แผนการ ชักตัวอย่างของดอดจ์และโรมิก จะประยุกต์กับโปรแกรมการตรวจสอบเม่ือลอตถูกปฏิเสธ แล้วต้องถูก

364 การควบคมุ คุณภาพ ตรวจสอบทกุ ช้นิ 100% Inspection เทา่ น้นั โดยเมอื่ พบของเสียใหแ้ ทนทดี่ ว้ ยของดแี ทน นอกเหนือไปจากน้ัน การใช้แผนนี้ ผู้ตรวจสอบทราบว่าค่าสัดส่วนของเสียเฉลี่ยของผลิตภัณฑ์ที่จะเข้ารับตรวจสอบ แต่การเป็น ผู้ผลติ รายใหมซ่ ึง่ เราไมท่ ราบคา่ สัดสว่ นของเสียเฉล่ียให้ประมาณจากตัวอย่างที่สุ่มจากผู้ผลิตมาตรวจสอบ โดย ประยุกต์แผนภมู ิควบคมุ สดั สว่ นของเสีย แลว้ จงึ ประยกุ ตแ์ ผนการชกั ตัวอย่าง แต่ถา้ ไมม่ ีขอ้ มลู กระบวนการผลิต รายใหมเ่ ลยการใช้ตารางให้ใช้ค่าสัดส่วนของเสียที่มากท่ีสุดของตารางเป็นตัวประมาณ จากน้ันเม่ือได้ตัวอย่าง สุ่มและทราบข้อมลู จากการตรวจสอบ จงึ ประมาณคา่ สดั สว่ นของเสียไดจ้ ากขอ้ มูลในตวั อย่างทีไ่ ด้รบั แผนการชักตัวอย่างที่เน้นการป้องกัน LTPD จะตรงกับ ANSI/ASQC Z 1.4 ซ่ึงเป็นการชักตัวอย่าง ขึ้นอยู่กับค่า AQL ผู้ผลิตส่วนมากจะเช่ือม่ันในแผนการชักตัวอย่างที่ขึ้นอยู่กับค่า AQL เน่ืองจากแผน AQL เปน็ แผนทปี่ กปอ้ งผู้ท่ีซ้ือจากการรับสินค้าท่ีไม่ดี และเป็นแผนท่ีสนับสนุนผู้ผลิตท่ีผลิตสินค้าท่ีดีอย่างสม่าเสมอ นอกจากน้ันผู้ผลิตส่วนมากยังไม่ให้ความสาคัญกับการวัดสมรรถนะจากจานวนชิ้นของเสียท่ีเกิดข้ึนใน 1,000,000 ช้ิน หรือถ้า AQL = 0.01% จะมีจานวนชิ้นของเสียประมาณ 100 ชิ้นเกินข้ึนใน 1,000,000 ชิ้น เป็นต้น กล่าวคือ AQL มีค่าน้อย ก็ยังคงทาให้จานวนช้ินของเสียประมาณ ตัวอย่างเช่น แผนวงจรสาหรับ เครื่องจักรประกอบด้วย 100 ชิป แต่ล่ะชิปผ่านกระบวนการผลิตที่มีเปอร์เซ็นต์ของเสียเท่ากับ 0.5% นั้นคือ AQL = 0.005 เคร่ืองจักรดังกล่าวจะใช้งานได้เม่ือชิปท้ัง 100 ตัวอยู่ในสถานที่พร้อมใช้งาน ดังนั้นความน่าจะ เป็นท่แี ผงวงจรดังกล่าวจะทางานได้จงึ มีค่าเทา่ กบั (0.995)100 หรือเทา่ กับ 0.6058 จากตัวอย่างดังกล่าว จึงเห็นถึงความสาคัญของแผนการชักตัวอย่างที่ให้ความสาคัญในการป้องกัน LTPD สถานการณ์เช่นนี้จึงสมควรต่อการเลือกใช้แผนการชักตัวอย่างดอดจ์และโรมิก แผน AOQL ของดอดจ์ และโรมิกเปน็ แผนทอี่ อกแบบเพื่อให้ค่า ATI สาหรบั AOQL และ P ซ่ึงได้ระบไุ วแ้ ลว้ มีค่าตา่ ทสี่ ุด 6.2.5.1 แผน LTPD ตารางดอดจ์และโรมิก (พ.ศ.2502) ของแผนการชักตัวอย่าง LTPD ประกอบด้วยค่าของ LTPD (ดังแสดงในภาคผนวก ข.) ซึ่งมีค่าเท่ากับ 0.5%, 1%, 2%, 3%, 4%, 5%, 6% และ 8% เป็นต้น ดัง ตัวอย่างที่แสดงตัวอย่างท่ีแสดงในตารางที่ 6.38 ให้กับแผนการชักตัวอย่างเชิงเด่ียวและแผนการชักตัวอย่าง เชิงคู่ ในตารางท่ี 6.39 ค่าของสัดส่วนของเสียนาเสนอถึงครึ่งหนึ่งของค่า LTPD ท่ีกาหนด ส่วนในกรณีท่ีค่า สัดส่วนของเสียเกินคร่ึงหน่ึง ให้ใช้แผนการตรวจสอบทุกชิ้นแทน เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าในแง่เศรษฐศาสตร์ จุดเร่ิมต้นในการใช้ตารางหลังจากทราบค่า LTPD คือ การพิจารณาขนาดของลอต (Lot Size) ในตารางได้ กาหนดไว้อยู่ในรูปของพิสัย ซ่ึงสังเกตได้ว่าเมื่อขนาดของ (N) เพ่ิมขึ้น จะทาให้ขนาดของตัวอย่าง (n) เพ่ิมขึ้น ตามแต่ไม่ได้เพิ่มในลักษณะของฟังก์ชันตรงกล่าว คือ n เพิ่มแต่ช้ากว่าจากน้ันพิจารณาค่าเฉลี่ยของ กระบวนการ ในแต่ละตารางค่าของ LTPD จะประกอบด้วยค่าเฉล่ียของกระบวนการ (Process Average) หรือสัดส่วนของเสียท้ังหมด 6 ช่อง โดยท่ีค่าสัดส่วนของเสียเพ่ิมให้ขนาดตัวอย่างเพ่ิมตามเช่นกัน แผนเหล่าน้ี ถูกออกแบบเพ่ือใหค้ ่า ATI มีคา่ ประมาณนอ้ ยที่สดุ ภายใตค้ วามน่าจะเป็นการยอมรับลอต เท่ากับ 0.10 ณ จุด ความเส่ียงของผู้ซื้อ ส่วนการเลือกชนิดของแผนระหว่างเชิงเดี่ยวกับเชิงคู่จะพิจารณาจากต้นทุนต่อหน่วยของ การตรวจสอบ (การลดสัดส่วนของเสียเฉล่ียลงจะช่วยลดต้นทุนต่อหน่วยของการตรวจสอบ) และต้นทุนการ บริหารในดาเนนิ การตามแผน

บทที่ 6 แผนการชักสง่ิ ตวั อยา่ ง 365 ตวั อย่างท่ี 6.20 สมมติว่าต้องตรวจสอบชิปของหน่วยความจาสาหรับคอมพิวเตอร์ ซึ่งนาเข้าด้วยขนาดลอตเท่ากับ 5,000 ผู้ผลิตมีค่าเฉลี่ยของกระบวนการเท่ากับ 0.25% จงหาแผนการชักตัวอย่างเชิงเดี่ยวเม่ือกาหนดให้ LTPD = 1% วิธที า จากตารางที่ 6.38 เมื่อลอตมีขนาด 5,000 ซึ่งอยู่ในช่วง 4,001–5,000 LTPD เท่ากับ 1% และ คา่ เฉลย่ี กระบวนการอยู่ในช่วง 0.21–0.30% (ช่องท่ี 4 ของค่าเฉล่ียกระบวนการ) จะได้ n = 770 และ c = 4 สมมติวา่ ถ้าลอตถูกปฏิเสธจะต้องถูกตรวจสอบทุกชิ้น และแทนที่ของเสียด้วยของดี AOQL สาหรับแผนน้ีจะมี ค่าประมาณเท่ากับ 0.28% หมายความว่า AOQ ที่แย่ท่ีสุดโดยไม่คานึงถึงคุณภาพวัตถุดิบขาเข้าจะมีค่าไม่เกิน 0.28% (ในกรณีที่ไม่ทราบค่าเฉล่ียของกระบวนการ ให้เลือกใช้ค่าเฉลี่ย ของกระบวนการสูงสุด ในตัวอย่างนี้ คือ พสิ ยั ท่อี ยู่ในชว่ ง 0.41–0.50% ทาใหแ้ ผนการชกั ตัวอยา่ งเชิงเดย่ี วทไ่ี ด้ คือ n = 1,120 และ c = 7 6.2.5.2 แผน AOQL ใชเ้ มอื่ ตอ้ งการเลือกแผนให้ AOQ ทแี่ ยท่ สี่ ุดโดยไม่ตระหนักถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ขาเข้าที่ รับมอบจากหลายๆ ลอตอยู่ในระดับที่ไม่เกิน AOQL ท่ีได้กาหนดไว้ และมีค่า ATI ที่น้อยที่สุด ตารางดอดจ์ และโรมิกของแผนการชักตัวอย่าง AOQL ประกอบด้วยค่าของ AOQL (ดังแสดงในภาคผนวก ข.) ในแผน เท่ากับ 0.1%, 0.25%, 0.5%, 1%, 2.5%, 3%, และ 10% เป็นต้น ดังตัวอย่างที่แสดงในตารางที่ 6.39 (คา่ เฉล่ียของกระบวนการท่ีแสดงให้เหน็ มีคา่ สงู สุดเท่ากับ 3.00% แต่ถ้าค่าเฉล่ียมากกว่านี้ให้ประยุกต์แผนการ ตรวจสอบทุกช้ิน) ให้กับทั้งแผนการชักตัวอย่างเชิงเด่ียวและแผนการชักตัวอย่างเชิงคู่ เซตของแผนเหล่าน้ีจะ ใช้ได้เม่ือทราบขนาดของลอต (N) และค่าเฉลี่ยของกระบวนการ (p) ในแต่ละตารางของค่า AOQL จะ ประกอบด้วยค่าเฉล่ียของกระบวนการ (Process Average) หรือสัดส่วนของเสียท้ังหมด 6 ช่อง นอกจากนั้น แผน AOQL ยงั ทาให้ทราบค่า LTPD ท่ที าใหค้ ่าความเส่ียงของผ้ซู ื้อมีคา่ เทา่ กับ 0.10 ตัวอยา่ งที่ 6.21 สมมติว่าต้องตรวจสอบชิปของหน่วยความจาสาหรับคอมพิวเตอร์ซ้ึงนาเข้าด้วยขนาดลอตเท่ากับ 5,000 ผู้ผลิตมีค่าเฉล่ียของขบวนการเท่ากับ 1% จงหาแผนการชักตัวอย่างเชิงเดี่ยวเมื่อกาหนดให้ AOQL = 3% วิธที า จากตารางที่ 6.39 เม่ือลอตมีขนาด 5000 และ AOQL เท่ากับ 3% และค่าเฉลี่ยของกระบวนการอยู่ในช่วง 0.61–1.20% (ช่องท่ี 3 ของค่าเฉลี่ยกระบวนการ) จะได้ n = 65 และ c = 3 นอกจากน้ันเมื่อชักตัวอย่างตามแผนนี้ จะได้ค่า LTPD = 10.3% เส้นโค้ง OC ของแผนการชักตัวอย่างเชิงเดี่ยวเม่ือ (n, c) = (65, 3) พิจารณา ณ จุดที่ p = p2 (LTPD = 0.103) ของการแจกแจงที่เป็นแบบปัวส์ซองจะได้ Pa = 0.0991 (เพราะ c = 3 และ np = 6.695)

366 การควบคมุ คุณภาพ สรุปได้ว่าแผนการชักสิ่งตัวอย่าง n = 65 และ c = 3 เม่ือกาหนดให้ AOQL = 3% จะประกันได้ว่า 90% ของลอตท่ีต้องการตรวจสอบถูกปฏิเสธเม่ือสัดส่วนของเสียเท่ากับค่าเฉลี่ยของกระบวนการจะได้ Pa = 0.9956 (เพราะ c = 3 และ np 0.65) หรอื ประกันไดว้ ่า 99.56% ของลอตท่ีต้องการตรวจสอบจะได้รับ การยอมรบั โดยหาคา่ ATI เมื่อ p = 0.01 ได้เทา่ กับ ATI = n + (1 – Pa)(N – n) = 65 + (1 – 0.9960)(5,000 - 65) = 86.22 ≈ 86 ช้นิ แบบฝกึ หดั ระหว่างบทเรยี นบทที่ 6 1. จงหาแผนการชกั สงิ่ ตัวอย่างชดุ เดียว สาหรับลอตท่ีมีขนาด N = 500 และ LTPD = 3.0% มีความเส่ียงของ ผู้บรโิ ภค (Customer’s Risk) = 0.10 ถ้ารอ้ ยละของผลติ ภณั ฑ์เสียในกระบวนการผลติ เป็น 0.9% 2. จงหาแผนการชักส่งิ ตวั อยา่ งสองชุด สาหรับลอตท่ีมขี นาด N = 1000 และ LTPD = 5.0% มีความเสี่ยงของ ผ้บู ริโภค (Customer’s Risk) = 0.10 ถ้าร้อยละของผลิตภัณฑ์เสยี ในกระบวนการผลิตเป็น 0.7% 3. จงหาแผนการชักส่ิงตัวอย่างชุดเดียว สาหรับลอตท่ีมีขนาด N = 300 และ AOQL = 1.0% ถ้าร้อยละของ ผลติ ภัณฑเ์ สียในกระบวนการผลติ เปน็ 0.75% 4. จงหาแผนการชักสงิ่ ตวั อยา่ งสองชุดสาหรับเงอ่ื นไขตา่ งๆ จากขอ้ 3 5. ในการตรวจสอบคุณภาพช้ินส่วนมอเตอร์ไฟฟ้า ถ้าสัดส่วนของเสียเท่ากับ 0.0322% จงหาแผนการชักส่ิง ตัวอย่างท่ีจะใช้สาหรับลอตขนาด 25,000 ชิ้น โดย LTPD = 1.0% มีความเสี่ยงของผู้บริโภค (Customer’s Risk) = 0.10 5.1 แผนการชกั สิง่ ตวั อยา่ งชดุ เดียว 5.2 แผนการชักสิ่งตัวอย่างสองชุด 6. จากการตรวจสอบคุณภาพของน้าด่ืมยี่ห้อหนึ่ง ถ้าสัดส่วนของเสียเท่ากับ 0.5% จงหาแผนการชักส่ิง ตัวอยา่ งทจ่ี ะใช้สาหรบั ลอตขนาด 5,000 ชน้ิ โดย AOQL = 1.0% 6.1 แผนการชกั ส่งิ ตัวอย่างชดุ เดียว 6.2 แผนการชกั ส่งิ ตัวอยา่ งสองชดุ 7. จากการตรวจสินค้าท่ีมีจานวนมากท่ีลูกค้าส่ังซ้ือจานวน 2,000 ช้ิน ลูกค้าเลือกตัวอย่างสินค้าจานวน 200 ชิ้น มาตรวจสอบ และจะปฏิเสธลอตเมื่อสินค้ามากกว่า 2 ช้ิน จงคานวณ AOQL จากลอตที่นามาตรวจสอบ เมื่อรอ้ ยละของผลติ ภณั ฑ์เสยี ในกระบวนการผลติ เปน็ 0.8%

ตารางท่ี 6.38 ดอดจ์-โรมคิ สาหรบั แผนการเลือกตัวอย่างชดุ เดี่ยวจาก LTPD โด Process n 0-0.10 AOQL n 0.11-.10 AOQL n .11-.20 Average% % % All c 0 All c 0 All c Lot Size 120 120 120 140 0 0.06 140 0 0.06 140 0 1-110 165 0 0.8 165 0 0.8 165 0 171-150 175 0 0.1 175 0 0.1 175 0 151-200 180 0 0.12 180 0 0.12 180 0 201-300 190 0 0.13 190 0 0.13 190 0 301-400 200 0 0.13 200 0 0.13 200 0 401-500 205 0 0.14 205 0 0.14 205 0 501-600 220 0 0.14 220 0 0.14 360 0 601-800 220 0 0.15 375 0 0.15 505 0 801-1,000 225 0 0.15 380 0 0.2 510 1 1,001-2,000 0 0.15 1 0.2 2 2,001-3,000 0 1 2 3,001-4,000 4,001-5,000 225 0 0.16 380 1 0.2 520 2 5,001-7,000 230 3 7,001-10,000 230 0 0.15 385 1 0.21 655 3 10,001-20,000 390 4 20,001-50,000 390 0 0.16 520 2 0.25 660 5 50,001-100,000 390 1 0.21 525 2 0.26 785 1 0.21 530 2 0.26 920 1 0.21 670 3 0.29 1040 6

ดยท่ี LTPD = 1.0% β= 0.10 AOQL n .21-.30 AOQL n .31-.40 AOQL n .41-.50 AOQL บทท่ี6แผนการชกั ส่งิ ตวั อยา่ ง % % % % 0 All c 0 All c 0 All c 0 120 120 120 0.06 140 0 0.06 140 0 0.06 140 0 0.06 0.8 165 0 0.8 165 0 0.8 165 0 0.8 0.1 175 0 0.1 175 0 0.1 175 0 0.1 0.12 180 0 0.12 180 0 0.12 180 0 0.12 0.13 190 0 0.13 190 0 0.13 305 0 0.13 0.13 330 0 0.13 330 0 0.13 330 0 0.14 0.14 335 0 0.15 335 0 0.15 335 1 0.15 0.14 490 1 0.17 490 1 0.17 610 1 0.17 0.19 630 1 0.21 745 1 0.21 870 1 0.22 0.23 645 2 0.24 880 2 0.26 1000 3 0.26 0.24 3 0.25 4 0.28 5 0.29 770 3 895 5 1120 6 0.24 780 0.28 1020 0.29 1260 0.31 0.27 910 4 0.29 1150 5 0.32 1500 7 0.34 0.28 1040 4 0.32 1400 6 0.34 1960 8 0.37 0.31 1300 5 0.35 1890 7 0.39 2570 10 0.43 0.34 6 0.39 9 0.44 14 0.48 1420 8 2120 13 3150 19 0.36 0.41 0.47 0.5 9 15 23 367

ตารางที่ 6.39 ดอดจ์-โรมิคสาหรับแผนการเลอื กตวั อยา่ งชดุ เดี่ยวจาก AOQL โด Process n 0-0.10 AOQL n 0.11-.10 AOQL n .11-.20 Average% % % All c 0 All c 0 All c Lot Size 120 120 120 140 0 0.06 140 0 0.06 140 0 1-110 165 0 0.8 165 0 0.8 165 0 171-150 175 0 0.1 175 0 0.1 175 0 151-200 180 0 180 0 180 0 201-300 190 0 0.12 190 0 0.12 190 0 301-400 200 0 0.13 200 0 0.13 200 0 401-500 205 0 0.13 205 0 0.13 205 0 501-600 0 0.14 0 0.14 0 601-800 220 0 0.14 220 0 0.14 360 0 801-1,000 0 0.15 0 0.15 1 1,001-2,000 2,001-3,000 220 0 0.15 375 1 0.2 505 2 3,001-4,000 225 0 0.15 380 1 0.2 510 2 4,001-5,000 225 2 0 0.16 380 1 0.2 520 5,001-7,000 230 3 0 0.15 385 1 0.21 655 7,001-10,000 230 0 0.16 520 2 0.25 660 3 10,001-20,000 390 1 0.21 525 2 0.26 785 4 20,001-50,000 390 1 0.21 530 2 0.26 920 5 50,001-100,000 390 1 0.21 670 3 0.29 1040 6

ดยที่ AOQL = 3.0% 368 การควบคมุ คุณภาพ AOQL n .21-.30 AOQL n .31-.40 AOQL n .41-.50 AOQL % % % % 0 All c 0 All c 0 All c 0 120 120 120 0.06 140 0 0.06 140 0 0.06 140 0 0.06 0.8 165 0 0.8 165 0 0.8 165 0 0.8 0.1 175 0 0.1 175 0 0.1 175 0 0.1 180 0 180 0 180 0 0.12 190 0 0.12 190 0 0.12 305 0 0.12 0.13 330 0 0.13 330 0 0.13 330 0 0.13 0.13 335 0 0.13 335 0 0.13 335 1 0.14 0.14 490 1 0.15 490 1 0.15 610 1 0.15 0.14 1 0.17 1 0.17 1 0.17 630 2 745 2 870 3 0.19 0.21 0.21 0.22 645 3 880 4 1000 5 0.23 770 3 0.24 895 5 0.26 1120 6 0.26 780 4 1020 5 1260 7 0.24 4 0.25 6 0.28 8 0.29 0.24 910 0.28 1150 0.29 1500 0.31 5 7 10 0.27 1040 0.29 1400 0.32 1960 0.34 6 9 14 0.28 1300 0.32 1890 0.34 2570 0.37 8 13 19 0.31 1420 0.35 2120 0.39 3150 0.43 9 15 23 0.34 0.39 0.44 0.48 0.36 0.41 0.47 0.5

บทท่ี 6 แผนการชักส่ิงตัวอย่าง 369 6.2.6 แผนการชักสิง่ ตวั อย่างทลี ะช้นิ ตามลาดบั ศรไี ร จารุภญิ โญ (2540) วิธกี ารของแผนการชกั สงิ่ ตวั อย่างแบบน้ีคอื ให้ทาการชักสิ่งตัวอย่างข้ึนมา คร้ังละ 1 ชิ้น แล้วให้คะแนนไว้ว่าเป็นของดีหรือของเสีย เช่น ให้เคร่ืองหมายบวก เมื่อพบของดีและให้ค่าลบ เมื่อพบของเสีย ถ้าท่ีขณะหนึ่งท่ีคะแนนใดถึงขีดกาหนดหนึ่งเราจะหยุดการชักสิ่งตัวอย่าง และยอมรับ ลอต น้ันๆ ทันที แต่ถ้าผลรวมคะแนนต่ากว่าขีดกาหนดหนึ่งเราก็จะปฏิเสธลอตน้ัน วิธีการชักสิ่งตัวอย่างต่อเนื่อง (Sequential Sampling) นี้คิดโดย เอ.วาลด์ (A.Wald) ซ่ึงเป็นเป็นสมาชิกในกลุ่มวิจัยสถิติที่มหาวิทยาลัย โคลัมเบียระหวา่ งสงครามโลกคร้งั ที่ 2 6.2.6.1 แผนการชกั ส่งิ ตวั อยา่ งของวาลด์ (Wald’s Sequential Probability Ratio Plan) วาดล์ได้กาหนดค่า P1, P2, α และ β ทาการหาคะแนนออกมา เพ่ือหาขอบเขตการ ยอมรับ (Acceptance) และขอบเขตการปฏิเสธ (Rejection) ซ่ึงจะให้แผนการชักสิ่งตัวอย่างมีประสิทธิภาพ ท่ีสุด ในการเก็บคะแนนจะเก็บแบบสะสมเพิ่มข้ึนเร่ือยๆ มาจากคุณภาพของผลิตภัณฑ์ (P1, P2) นั่นเอง ถ้าคะแนนรวมได้มากกว่าอกี ตัวเลขหน่งึ ลอตก็จะถูกยอมรบั สรุปคือ ผลรวมตัวเลขมากก็จะปฏิเสธ ส่วนผลรวมคะแนนต่าก็จะได้รับการยอมรับ วิธีตัวอย่างของวาลด์น้ีจะเรียกย่อๆ ว่า แผนการ SPR ซ่ึงแผนการนี้จะง่ายกว่าระบบอ่ืนๆ เพราะเพียงแค่รวม จานวนชน้ิ เสยี ไปเรอื่ ยๆ X จานวนของเสยี 6 ปฏิเสธ Xu = h2 + sn 5 4 10 20 30 40 50 60 70 80 90 XL = h1 + sn 3 ยอมรับ 2 1 N h2 h1 จานวนตวั อย่าง (n) รปู ที่ 6.20 แผนภูมกิ ารชักสง่ิ ตัวอยา่ งโดยลาดบั (Sequential Sampling Chart) ถ้าจุดรวมคะแนนยังอยู่ระหว่างเส้นคู่ขนาน XL กับ XU ก็ให้ทาการชักส่ิงตัวอย่างเรื่อยไป โดยไม่มีการตัดสินใจ จนกระทั่งจุดผลรวมคะแนนตกเส้นบน XU หรือเหนือเส้น XU ก็ให้ปฏิเสธลอตนั้นทันที แต่ถ้าจดุ ผลรวมคะแนนตกเสน้ บน XL หรือตา่ กวา่ เส้น XL กใ็ หย้ อมรบั ลอตน้ัน

370 การควบคุมคุณภาพ 6.2.6.2 การหาแผนการชกั สงิ่ ตวั อยา่ ง SPR โดยกาหนดค่า P1, P2, α และ β เราจะหาสมการของเสน้ XLและ XU ของแผนภูมติ วั อยา่ ง จากสมการที่ 6.12 และ 6.13 ดังนี้ XL = -h1+sn ...(6.12) XU = -h2+sn ...(6.13) โดยท่ี h2 = -b/(g1+g2) เมื่อ b = log (1⎼a)/β g1 = log (P2)/(P1) g2 = log (1-P1)/(1⎼P2) และ h1 = a/(g1+g2) โดยที่ a = log (1⎼a)/β S = (g2)/(g1+g2) ตัวอยา่ งท่ี 6.22 จงหาแผนการชักส่งิ ตัวอย่าง SPR เม่ือกาหนด P1 = 0.01, P2 = 0.30, α = 0.05 และ β = 0.10 วธิ ที า จากสมการที่ 6.12 XL = -h1+sn …(a) จากสมการท่ี 6.13 XU = -h2+sn ...(b) หา h1 จาก h1= b/(g1+g2) ...(c) เม่อื b = log(1- α)/β = log (1-0.05)/0.10 = 0.978 g1 = log (p2)/ (p1) = log 0.30/0.01 = 1.477 g2 = log (1-p1)/ (1- p2) = log (1-0.01)/ (1-0.30) = 0.151 จากสมการ (c) จะได้ h1 = 0.601 หา h2 จากสูตร h2 = a/( g1+g2) …(d) โดย a = log (1- β)/α = log (1-0.10)/0.05 = 1.255 จากสมการ (d) จะได้ h2 = 0.771 หา S จากสูตร S = (g2)/(g1+g2)

บทที่ 6 แผนการชกั สง่ิ ตวั อยา่ ง 371 จากสมการ (a) จะได้ XL = -0.601 +0.093(n) จากสมการ (b) จะได้ XU = 0.771+0.093(n) จะได้แผนตัวอยา่ ง SPR โดยเส้นของการปฏิเสธ XU = 0.771 + 0.093(n) และ เสน้ ของการยอมรับ XL = -0.601 + 0.093(n) ทาการพลอตกราฟ XU และ XL จะได้กราฟดงั รปู ที่ 6.21 จานวนของเสีย XU 3 XL 2 1 0 จานวนตัวอย่าง (n) -1 5 10 15 20 25 30 35 40 45 รูปท่ี 6.21 กราฟแสดงเส้นการยอมรับ XL และเสน้ ปฏเิ สธ XU (ทมี่ า: ศรีไร จารุภญิ โญ, 2540) สมมติวา่ ในการชกั ส่งิ ตวั อยา่ งจากผลติ ภัณฑล์ อตหนึง่ ขน้ึ มาทีละ 1 ช้ิน เป็นจานวน 30 ช้ิน ได้ผลการ ชกั ส่งิ ตัวอย่างเปน็ ดงั น้ี ครั้งท่ี พบของเสีย ของเสียสะสม 51 1 10 1 2 15 1 3 20 1 4 25 1 5 ในการพลอตกราฟ ถ้าไม่พบของเสียจะลากเส้นขนานแกนจานวนชิ้นท่ีตรวจสอบ แต่เมื่อพบของเสีย จะลากเสน้ ตั้งฉากขน้ึ ไป ณ จดุ ทจ่ี านวนตัวอยา่ งน้นั พบของเสีย จานวนของเสยี ท่ใี ช้ในกราฟเป็นจานวนของเสีย สะสม

372 การควบคุมคุณภาพ ทาการพลอตกราฟจานวนของเสยี สะสมลงบนกราฟรูปที่ 6.21 จะได้ผลดงั กราฟรูปที่ 6.22 จานวนของเสีย XU 3 XL 2 1 0 5 10 15 20 25 30 35 40 45 จานวนตัวอย่าง (n) -1 รปู ที่ 6.22 กราฟจานวนของเสียสะสม (ทม่ี า: ศรไี ร จารภุ ิญโญ, 2540) จากกราฟรูปที่ 6.22 จะเห็นว่าเม่ือชักสิ่งตัวอย่างคร้ังที่ 20 จานวนของเสียสะสมได้ 3 ช้ิน จุดท่ี เป็นจานวนของเสียสะสมจะอยู่ออกนอกเส้น XU ดังนั้นจะทาการปฏิเสธผลิตภัณฑ์ลอตนั้น และหยุดชัก สิ่งตัวอย่างท่ีชักมาตรวจสอบมเี พยี ง 20 ชน้ิ เท่านัน้ 6.2.6.3 เสน้ โคง้ OC ของแผนตัวอยา่ ง SPR ศรีไร จารุภิญโญ (2540) เส้นโค้ง OC ของแผนการสุ่มตัวอย่าง SPR สามารถหาได้จากการ คานวณจดุ (P, Pa) จานวน 5 จุด ดังนี้ P = 0 ได้ Pa = 1.00 P = 1 ได้ Pa = 0 P = P1 ได้ Pa = 1 - α P = P2 ได้ Pa = β และที่ P = S ได้ Pa = h2 h1+ h2 6.2.6.4 จานวนตรวจสอบโดยเฉลี่ย (ASN) ศรไี ร จารุภญิ โญ (2540) จานวนตวั อยา่ งที่ใช้ในการตรวจสอบโดยเฉลีย่ ของแผนตัวอย่าง SPR จะ มจี านวนไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับสัดส่วนของของเสียในลอต (P) โดยจะแสดงความสัมพันธ์ของ ASN กับจุดต่างๆ ทง้ั 5 จุด ขา้ งต้นบนส่วนโค้ง OC ได้ ดงั ตารางที่ 6.40

บทที่ 6 แผนการชักส่ิงตวั อยา่ ง 373 ตารางท่ี 6.40 แสดงความสัมพันธข์ อง ASN กบั จดุ ตา่ งๆ บนเส้นโคง้ OC ค่า P Pa ASN 0 1.0 h1 s P1 1 - α 1-αh1-αh2 s - P1 S h2 h1h2 h1+ h2 s(1-s) P2 β 1-βh2-βh1 P2 -s 1.0 0 h2 1-s สาหรบั จุดอน่ื ๆ เราอาจคานวณ ASN ไดจ้ ากสมการ ASN = Pa (log β ) + (1-Pa)  log 1-β  1-α α P  P2  + 1-P   log 1-P2   log P1   1-P1      วาลด์ และ โวฟอวิทซ์ (Wald and Walfowitz) ไดแ้ สดงว่าในแผนชักสงิ่ ตวั อย่างแบบเชิงคุณภาพ (Attributes Sampling Plan) ด้วยกันแล้ว แผนตัวอย่าง SPR จะให้ค่า ASN ต่าสุด ณ จุด P เดียวกัน หรือ อาจกล่าวได้ว่า แผนตวั อยา่ ง SPR จะลดจานวน ASN ได้ 50% ของแผนตวั อยา่ งเดยี ว ตวั อยา่ งท่ี 6.23 จากตัวอยา่ งที่ 6.22 จะหาคา่ จดุ ตา่ งๆ บนเสน้ โคง้ OC ท้งั 5 จุด ดังกล่าว พร้อมกับ คา่ ASN ไดด้ งั นี้ P Pa ASN 1.00 6.46 0 0.95 6.41 0.56 5.49 0.01(P1) 0.30 3.06 0.151(S) 0 0.85 0.30(P2) 1.00

374 การควบคุมคุณภาพ วิธที า จากจุด (P, Pa) ทง้ั 5 จดุ ดังกล่าว นามาสร้างเส้นโคง้ OC ได้ดงั นี้ Pa 1.0 0.8 0.6 0.4 0.2 P 0.1 0.2 0.3 0.4 0.5 0.6 0.7 6.3 แผนการชกั ตัวอย่างแบบเชิงคณุ ภาพชนดิ พิเศษ 6.3.1 แผนการชักส่ิงตวั อยา่ งของการผลิตต่อเนื่อง 6.3.1.1 แผน CSP-1 ศรีไร จารุภิญโญ (2540) สาหรับผลิตภัณฑ์ที่ผลิตอย่างต่อเน่ือง Dodge ได้ค้นคิดวิธีการ ตรวจสอบทเ่ี รียกวา่ แผน CSP-1 ซงึ่ มีขนั้ ตอนดงั น้ี (1) ในขณะเร่ิมต้นทาการตรวจสอบ 100% ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงหน่วยท่ี i โดยไม่พบ ของเสยี (2) เมื่อตรวจสอบถึงหน่วยท่ี i โดยไม่พบของเสียเลย เลิกตรวจสอบ 100% ทาการ ตรวจสอบเพียงสัดส่วน f (fraction) โดยหยิบตัวอย่างข้ึนมา 1 ช้ิน ในช่วง ที่กาหนด (f) การเก็บตัวอย่างต้อง เป็นแบบไม่ลาเอียง (3) ถ้าช้ินตัวอย่างท่ีตรวจสอบพบว่าเป็นของเสียกลับไปตรวจสอบ 100% ใหม่ทันที และ ทาต่อไปจนกระทงั่ พบวา่ หนว่ ยไม่มีของเสียอยเู่ ลย จึงกลับไปทาใน ข้ัน (2) ต่อไป (4) เลือกหรอื แทนทีข่ องเสยี ด้วยของดี

บทท่ี 6 แผนการชกั สิ่งตวั อยา่ ง 375 รูปที่ 6.23 กราฟสาหรบั การหาแผนภาพตวั อยา่ ง CSP-1 ที่คา่ AOQL ใดๆ (ทมี่ า: Dodge H.F., 1943) ตัวอยา่ งท่ี 6.24 ถา้ ตวั อย่าง AOQL เป็น 2% และการตรวจสอบ 1 ชน้ิ ทุก 20 ชิ้น จากพาเลต (f = 1/20 หรือ 5%) วธิ ที า ในรูปที่ 6.23 หาค่า i ได้จากค่า f = 5% และ AOQL = 2% ได้ i = 76 แผนการยอมรับตัวอย่างเป็น ดงั นี้ 1. ตรวจสอบทุกชน้ิ ตดิ ต่อกนั 76 ช้ิน โดยไมพ่ บของเสยี เลย (ถา้ พบของเสยี ใหเ้ รม่ิ ตรวจสอบใหม)่ 2. เม่ือ 76 ช้ิน ติดต่อกันไม่พบของเสียเลย ให้ตรวจสอบเหลือเพียง 1 ชิ้น จากทุก 20 ชิ้นให้ยอมรับ ผลิตภณั ฑท์ ัง้ หมดตราบเท่าท่ยี งั ไม่พบของเสีย 3. เมอื่ ไหรก่ ็ตามท่ีพบของเสยี เพยี ง 1 ช้นิ ให้กลบั ไปตรวจสอบ 100% จน กว่า 76 ชิ้นติดต่อกันไม่พบ ของเสยี เลย กก็ ลบั มาทา Sampling Inspection เหมือนกับในข้อ 2

376 การควบคุมคุณภาพ แผนตัวอยา่ งเขียนเปน็ รูปไดด้ ังน้ี จุด Sampling (จะเป็นจุดไหนกไ็ ดใ้ นช่วง แต่ ให้เปน็ ที่เดียวกันตลอด) 100% inspection = i จุด Sampling เร่มิ ต้น 100% insp i = 76 i = 76 1 ชิน้ ทุก 20 ชนิ้ f = 1/20 Defect ขน้ั แรกตรวจสอบ 76 ชิน้ ถ้าไมพ่ บของเสยี เลย กท็ าการชักส่งิ ตัวอย่าง 1 ชิ้น จากทุก 20 ชิ้น 6.3.1.2 แผน CSP-2 H.F. Dodge และ M.N. Torrey ได้ช่วยกันปรับปรุงแผน CSP-1 จนได้แผน CSP-2 และ CSP-3 ซึ่งแผน CSP-2 ต่างจาก CSP-1 คือ เม่ือตรวจสอบพบของเสียช้ินแรกในช่วง f ยังอนุโลมให้ทาการ Sampling ต่อไปไดอ้ ีก k sample (ครงั้ ) ถา้ ไม่พบของเสียอีกเลยก็ให้ผ่านไปแล้วเริ่มของเสียกันใหม่ แต่ถ้าพบ ของเสียครั้งท่ี 2 ในช่วง k ก็ให้ทาการตรวจ 100% ใหม่จน k หน่วยไม่พบของเสียเลยจึงทาการ Sampling ใหม่ ค่า k ของ CSP-2 ก็หาได้เช่นเดียวกับค่า i ของ CSP-1 ตารางที่ 6.41 ได้หาค่า i ของ CSP-1 และ k ของ CSP-2 โดยใช้ 5% และ 10% Sampling Inspection ทค่ี ่า AOQL ต่างๆ กัน ตารางท่ี 6.41 เปรียบเทียบค่าของ i สาหรับแผน CSP-1 และ CSP-2 ที่ค่า AOQL ใดๆ สาหรับ f ที่ 5% และ 10% (สมมติคา่ i = k ใน CSP-2) AOQL % i in CSP-1 f = 5% f = 10% 510 (i=k) in CSP-2 i in CSP-1 (i=k) in CSP-2 0.3 305 650 0.5 150 390 370 490 1 76 195 220 290 2 49 96 108 147 3 37 64 55 72 4 29 48 36 48 5 24 38 27 36 6 18 31 21 29 8 14 23 17 23 10 18 13 17 10 14

บทที่ 6 แผนการชกั สง่ิ ตวั อย่าง 377 ตัวอยา่ งที่ 6.25 จงหาแผน CSP-2 เมอื่ f = 5% และ AOQL = 2% จากตารางท่ี 6.41 ให้ค่า i = 96 แผนการยอมรับ ตวั อยา่ งเป็นอยา่ งไร (ศรไี ร จารุภิญโญ, 2540) วธิ ีทา 1. ตรวจสอบทุกชนิ้ ตดิ ต่อกันจน 96 หน่วย ที่ติดต่อกันไม่พบของเสียอยู่เลย (ถ้าพบของเสียให้เร่ิมนับ ใหม)่ 2. เม่ือ 96 ช้ิน ติดต่อกันไม่พบของเสียเลย ก็ทาการสุ่มตัวอย่าง 1 ชิ้น ทุก 20 ชิ้น ยอมรับผลิตภัณฑ์ ทกุ ช้ิน ตราบเทา่ ท่ียังไม่พบของเสยี เลย 3. ถ้าพบของเสยี 1 ชิน้ ในการชักสิ่งตัวอยา่ ง ทาการชักสิ่งตวั อย่างต่อไป ถ้าพบของเสียช้ินท่ี 2 ภายใน 96 คร้งั นบั จากพบของเสียคร้ังแรก ให้กลับมาทาการตรวจสอบ 100% จนกระทั่ง 96 ช้ินติดต่อกันไม่พบของ เสีย จึงกลับมาทาการ Sampling ใหม่ แต่ถ้าภายใน 96 ครัง้ ไม่พบของเสยี อกี ใหเ้ รมิ่ นับการชกั สง่ิ ตัวอยา่ งใหม่ k = i = 76 Defect Defect 2 เริม่ ต้น 1 2 3 i = 96 f = 1/20 1 6.3.1.3 แผน CSP-3 ศรีไร จารุภิญโญ (2540) แผน CSP-3 เป็นการกลั่นกรองของแผน CSP-2 เพ่ือป้องกันคุณภาพท่ี ผิดพลาดแบบกะทันหันมีข้ันตอนดังนี้ จากตัวอย่าง 6.25 เม่ือพบของเสียครั้งแรก ให้ตรวจสอบช้ินต่อไปนี้อีก 4 ช้ินจาก Production line ถ้าไม่พบของเสีย ให้ดาเนินการแผนต่อไปตาม CSP-2 ถ้าใน 4 ชิ้นน้ีพบของเสีย แม้เพยี งช้ินเดียวกลับไปตรวจสอบ 100% และต่อดว้ ยกฎของ CSP-2 ใหม่ i = 96 f = 1/20 Defect f f เรม่ิ ต้น 1 2 3 f 2 4 units 1

378 การควบคมุ คุณภาพ 6.3.1.4 การคานวณชิน้ ส่วนตรวจสอบโดยเฉลี่ยและโอกาสในการยอมรบั ให้ u เท่ากบั จานวนชนิ้ โดยเฉลี่ยในช่วงการตรวจสอบ 100% จะได้ u= 1- qi …(6.14) p • qi p = สดั ส่วนของเสยี =1-q จะได้ ให้ v จานวนช้ินโดยเฉลีย่ ทผ่ี ่านการตรวจสอบโดยวธิ ี CSP นี้ ก่อนท่จี ะพบของเสยี 1 ชิ้น v= 1 …(6.15) f•p f = สดั สว่ นของการตรวจสอบ จะได้ ให้ AFI เทา่ กบั สดั ส่วนของผลิตภัณฑ์โดยเฉลยี่ ท่ีผ่านเข้ามาตรวจสอบโดยแผนการชักสิ่งตัวอย่าง AFI = u + fv …(6.16) u+v ให้ Pa เทา่ กับ โอกาสในการยอมรับ …(6.17) จะได้ Pa = v u+v ตัวอยา่ งท่ี 6.26 กาหนดให้ f = 5.0%, AOQL = 2.0% และ P = 0.1% จงหาแผนชักสิ่งตัวอย่างแบบ CSP-1 และ CSP-2 พรอ้ มทัง้ หา u, v, AFI และ Pa ของแผนท้ังสอง (ศรไี ร จารุภิญโญ, 2540) วิธีทา แผน CSP-1 จากตารางที่ 6.41 เม่ือ f = 5%, AOQL = 2% ไดค้ า่ i = 76 ดังน้ัน แผนการชักสิ่งตัวอย่าง คือ ตรวจสอบแบบ 100% จนกระทั่ง 76 ชิ้น ต่อเนื่องกันไม่พบของ เสียเลยจากนั้นเปลยี่ นมาตรวจสอบโดยการชักส่งิ ตวั อย่าง 1 ชน้ิ จากทกุ 20 ช้นิ f = 5% = 5 = 1 ถ้าพบของเสียเมื่อใดให้เปล่ียนกลบั ไปตรวจสอบแบบ 100% ใหม่ 100 20

บทท่ี 6 แผนการชกั สง่ิ ตัวอย่าง 379 จาก u= 1- qi p • qi 1- 1 0.0176 = 115 u= 0.01 • 1 0.0176 จาก v= 1 f•p v = 1 = 2,000 0.05 • 0.01 จานวนช้ินโดยเฉล่ียผา่ นการตรวจสอบโดยวิธี CSP-1 กอ่ นพบของเสีย 1 ชนิ้ เท่ากบั 2,000 ช้นิ จาก AFI = u + fv u+v AFI = 115 + (0.05)(2,000) = 0.1017 115 + 2,000 สดั สว่ นของผลิตภณั ฑ์ทผ่ี ่านการตรวจสอบ = 0.1017 หรือ 10.17% จาก Pa = v u+v Pa = 2,000 = 0.9456 115 + 2,000 ผลติ ภัณฑ์มีโอกาสไดร้ บั การยอมรบั เท่ากับ 0.9456 หรือ 94.56% แผน CSP-2 จากตารางที่ 6.41 เม่อื f = 5%, AOQL = 2% ไดค้ ่า i = k = 76 ดังนั้นแผนการชักส่ิงตัวอย่าง คือ ตรวจสอบแบบ 100% จนกระทั่ง 96 ชิ้น ต่อเน่ืองกันไม่พบของ เสียเลยจากนั้นเปลี่ยนมาตรวจสอบโดยการชักส่ิงตัวอย่าง 1 ชิ้น จากทุก 20 ชิ้น ถ้าพบของเสีย 1 ช้ิน ก็ยังให้ ชักส่งิ ตวั อย่างต่อไปอกี ถา้ พบของเสียชน้ิ ที่ 2 ภายใน 96 ครงั้ นบั จากการพบตวั อย่างครัง้ แรกให้กลับมาทาการ ตรวจสอบแบบ 100% ใหม่ จาก u= 1- qi p • qi 1- 1 0.9996 = 163 u= 0.01 • 1 0.9996

380 การควบคมุ คุณภาพ จาก v= 1 f•p v = 1 = 2,000 0.05 • 0.01 จานวนช้นิ โดยเฉลย่ี ผา่ นการตรวจสอบโดยวธิ ี CSP-2 ก่อนพบของเสยี 1 ช้นิ เท่ากบั 2,000 ช้นิ จาก AFI = u + fv u+v AFI = 163 + (0.05)(2,000) = 0.1216 163 + 2,000 สัดสว่ นของผลิตภัณฑท์ ่ผี า่ นการตรวจสอบเทา่ กับ 0.1216 หรอื 12.16% จาก Pa = v u+v Pa = 2,000 = 0.9246 163 + 2,000 ผลิตภัณฑ์มโี อกาสได้รบั การยอมรบั เท่ากับ 0.9246 หรอื 92.46% 6.4 แผนการชักส่ิงตัวอย่างแบบเชิงแปรผัน 6.4.1 แผนการชกั ส่งิ ตัวอย่างแบบตัวแปร ศรีไร จารุภิญโญ (2540) เป็นแผนการชักสิ่งตัวอย่าง เมื่อลักษณะคุณภาพของผลิตภัณฑ์ต้องใช้การวัด ออกมาในรูปตัวเลข และรู้ลักษณะการกระจายของค่าต่างๆ ท่ีวัดได้ เช่น มีการกระจายแบบนอร์มอล (Normally Distribution) โดยสามารถหาค่าเฉลี่ยและค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานจากค่าที่วัดได้จากสิ่งตัวอย่างที่ชักมาตรวจสอบ เปน็ ต้น การนาแผนการชกั ส่งิ ตวั อยา่ งแบบตวั แปรมาใช้ มีดงั ตอ่ ไปน้ี 1. ลักษณะการตรวจสอบเก่ียวข้องกับ การวัด การตวง การชั่ง เช่น น้าหนักความยาว เส้นผ่าน ศนู ย์กลาง สว่ นผสมของสารเคมี เป็นตน้ 2. ลักษณะการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ เป็นการทาลายสิ่งตัวอย่างในกรณีน้ี นิยมใช้สิ่งตัวอย่างเป็น จานวนนอ้ ย โดยเหตุผลทางด้านคา่ ใชจ้ า่ ย และเวลา 3. ผลิตภัณฑบ์ างอยา่ ง ยากแก่การตรวจสอบในลักษณะของดี หรือของเสยี 4. ทราบลกั ษณะการกระจายของคา่ ตา่ งๆ ทว่ี ัดได้ ผลดีผลเสยี ของแผนตัวอย่างแบบตัวแปร

บทท่ี 6 แผนการชกั ส่ิงตวั อยา่ ง 381 (1) ข้อดีของแผนตัวอย่างแบบตัวแปร คือ สามารถหาเส้นโค้งได้เพียงตัวอย่างขนาดเล็กกว่าแบบ แผนตัวอย่างตามคุณภาพ (Attributes Plan) แม้ว่าค่าใช้จ่ายในการวัดค่าจากตัวอย่างแบบตัวแปรน้ันจะสูง กว่าจากตัวอย่างแบบตามคุณภาพ แต่เม่ือเทียบขนาดตัวอย่างซึ่งแบบตัวแปรน้อยกว่า แบบตามคุณภาพแล้ว แบบตัวแปรยังประหยัดค่าใช้จ่ายกว่ามาก เช่น ขนาดตัวอย่างแบบตามคุณภาพเป็น 50 แต่เทียบกับขนาด ตัวอย่างแบบตวั แปรเพียง 30 เทา่ นัน้ (2) ข้อเสียของแผนตัวอย่างแบบตัวแปร คือ สาหรับคุณภาพลักษณะหนึ่งๆ ต้องใช้แผนตัวอย่าง ต่างกันในการตรวจสอบ เช่นถ้าของช้ินหน่ึงต้องการตรวจสอบคุณภาพ 5 อย่าง ก็ต้องใช้แผนตัวอย่างถึง 5 แบบด้วยกัน โดยที่การยอมรับและปฏิเสธลอต ทั้งหมดน้ันต้องใช้แผนชักสิ่งตัวอย่างแบบเดี่ยวตามคุณภาพ (Attributed Single Plan) ข้อเสียอกี อยา่ ง คอื ลอตอาจถูกปฏิเสธไดแ้ มว้ า่ จะไม่มีของเสียเลยในตัวอย่างและผู้ ส่งที่ ไม่คนุ้ เคยกับแผนตวั อยา่ งแบบตัวแปร อาจไมพ่ อใจและไม่ยินยอมหากลอตถูกปฏิเสธ และข้อเสียอีกอย่าง ก็คือ การกระจายของค่าทว่ี ดั ได้ต้องเปน็ แบบใดแบบหนึ่งทเี่ จาะจงไว้ ความสัมพันธ์ระหว่างตัวกลาง ความเบี่ยงเบนของการกระจายแบบนอร์มอล และสัดส่วนของเสีย ถ้าค่าที่วัดได้ของแต่ละช้ินในลอตหน่ึงๆ เป็นการกระจายแบบนอร์มอลเราสามารถหาความสัมพันธ์ระหว่าง สดั ส่วนของเสยี ตวั กลางและความเบีย่ งเบนได้จาก พื้นที่ใต้เส้นโคง้ แบบนอร์มอลโดยหาค่าพื้นท่ีน้ีได้จากตาราง การกระจายแบบนอร์มอล เช่นถ้า x = 100, σ = 10 และค่าต่าสุด L= 82 ดังน้ันค่าสัดส่วนของเสีย คือ Z ซึ่ง หาไดด้ งั นี้ ZL = L - x σ = 82 100 10 = -1.8 และจากตารางท่ี ก-3 ภาคผนวก ก. จะได้พื้นท่ีเป็น 0.0359 นั่นคือ ตัวกลาง 100 ส่วนเบ่ียงเบน มาตรฐาน 10 จะใหส้ ดั สว่ นของเสีย (Fraction Defective) เป็น 3.59% ถ้าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) คงท่ี สัดส่วนของเสีย จะแปรผันโดยตรงกับ ตัวกลาง (Mean) ดังแสดงในรปู ที่ 6.24

382 การควบคุมคุณภาพ สดั สว่ นของเสยี P1 X สัดสว่ นของเสีย L x1 P2 สดั ส่วนของเสีย P3 X X L x2 L x3 รปู ที่ 6.24 แสดงความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งตวั กลางของร่นุ กับสัดสว่ นของเสยี โดยใหค้ วามเบย่ี งเบนคงท่ี (ทีม่ า: ศรีไร จารภุ ิญโญ, 2540) จากรปู ท่ี 6.24 จะเห็นว่าย่ิงค่า x กับค่า L เข้าใกล้กันเท่าไร ค่าสัดส่วนของเสียก็จะเพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่ถ้าความเบ่ียงเบน (σ) ไม่คงที่ สัดส่วนของเสียจะมาจากท้ังตัวกลาง ( x ) และส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (σ) เช่น ถ้าตัวกลางของ A และของ B เท่ากัน แต่ความเบี่ยงเบน (σ) ของ A น้อยกว่าของ B ค่าสัดส่วนของเสีย ของ A ก็จะน้อยกวา่ ของ B เชน่ กนั ดังรปู ท่ี 6.25 A B X x รปู ท่ี 6.25 แสดงความสมั พันธข์ องสัดสว่ นของเสียกับความเบีย่ งเบน (σ) เม่อื ตวั กลางเท่ากนั (ทม่ี า: ศรีไร จารภุ ญิ โญ, 2540)

บทที่ 6 แผนการชกั สิง่ ตวั อยา่ ง 383 6.4.1.1 แผนตัวอย่างแบบตัวแปรเมื่อการผลิตหรือลอตมีการกระจายแบบปกติ และรู้ค่าส่วน เบ่ียงเบนมาตรฐาน ศรไี ร จารุภิญโญ (2540) กรณรี ้คู ่าเบ่ียงเบนมาตรฐาน (σ) การหาแผนตัวอย่างแบบตัวแปร โดยกาหนดคา่ AQL (P1), LTPD (P2), α และ β จะกระทาดังน้ี 1. การกาหนดพิกดั เดย่ี ว (Single Specification Limit) สมมตวิ ่า (1) การวัดค่าคณุ ภาพเปน็ ตัวเลข และมีการกระจายค่าแบบนอร์มอล (2) รคู้ า่ สว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐาน (3) มขี ีดกาหนดพิกัดเพียงค่าเดยี วด้านตา่ ซึ่งให้สญั ลักษณ์ คอื L การกาหนดหาแผนตัวอยา่ งแบบตัวแปรน้ี คือ ให้หาค่า n และค่า k เมื่อ n = จานวนสงิ่ ตัวอย่างที่สมุ่ ขนึ้ มาตรวจสอบ k = ค่า Z ที่ได้จากการชักสง่ิ ตวั อยา่ งขนาด n แล้วไดค้ า่ ต่าสุดทย่ี อมรบั ได้ แผนตวั อยา่ งแบบตัวแปร (n, k) หมายความว่า ชักสง่ิ ขนาดตัวอย่าง n ชน้ิ ทาการวัดค่า แล้วหาค่า x คานวณคา่ ZL = x -L σ ถา้ คา่ ZL ≥ k ใหท้ าการยอมรบั ลอต (หรืออาจพจิ ารณา x  L + kσ ) ถา้ คา่ ZL < k ใหป้ ฏเิ สธลอต ตัวอย่างท่ี 6.27 ให้ขีดกาหนดต่าสุดของการวัดค่าแรงดึงเป็น 17,000 ปอนด์ต่อตารางน้ิว (psi) และมีค่าสัดส่วนของ เสยี P1 = 0.01, P2 = 0.08, α = 0.05 และ β = 0.10 ใหค้ ่าท่ีวัดแรงดึงนี้มีการกระจายแบบนอร์มอล และค่า เบ่ียงเบนมาตรฐาน คอื 800 ปอนดต์ ่อตารางนว้ิ (psi) (ศรีไร จารภุ ิญโญ, 2540) วธิ ที า ค่าสัดสว่ นของเสยี เป็น 0.01 โดยท่คี ่าตวั กลาง x หาไดจ้ าก x 17,000 = 2.3263 800 ดงั น้ัน x = 18,861 psi ถา้ ค่าสัดส่วนของเสียเป็น 0.08 จะหาคา่ ตัวกลางได้เทา่ กบั x 17,000 = 1.4053 800 ดงั นน้ั x = 18,124 psi น่ันคือ ZAQL = 2.3263 และ ZLTPD = 1.4053 จากตวั อยา่ งที่ 6.27 จะยอมรับลอตเม่ือ x -L k σ x -μ μ-L k σσ x-μk- μ-L σσ

384 การควบคุมคุณภาพ x - μ  k - μ - L n σ/ n σ จะเหน็ ว่า x จะมีคา่ รอบๆ ตวั กลาง µ และมีความเบย่ี งเบน σ/ n  x  n 1 - α  โอกาสท่ี - μAQL  k - ZAQL  …(6.18) …(6.19)  σ/ n โอกาสที่  x - μLTPD  k - ZLTPD   σ/ n n β   ปฏเิ สธ ยอมรับ สดั สว่ นของเสีย การกระจายตวั กลางของตัวอยา่ ง ขนาด n การกระจายของแต่ละชั้น x L ZAQL XLTPD XAQL Zα/ ������ k Z������/ ������ ZLTPD รปู ที่ 6.26 แสดงความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งค่า Z ประกอบการกาหนดแผนตวั อยา่ งแบบตัวแปรโดยทราบค่า σ (ทมี่ า: ศรีไร จารุภิญโญ, 2540) เราสามารถย้ายคา่ ไดด้ ังน้ี Zα n k = ZAQL - …(6.20) k = ZLTPD- Zβ …(6.21) n

บทท่ี 6 แผนการชักสิง่ ตวั อย่าง 385 ใหส้ มการท่ี 6.20 มคี า่ เทา่ กบั สมการท่ี 6.21 จะได้ n =  Zα + Zβ 2 …(6.22)  ZAQL - ZLTPD  จากตัวอย่างท่ี 6.27 จะได้ค่า Zα = 1.6449, Zβ = 1.2816, ZAQL = 2.3263 และ ZLTPD = 1.4053 แทนในสมการที่ 6.22 n   1.6449 1.2816 2 10.1 ≈ 10  2.32631.4053   จากสมการท่ี 6.22 k = ZAQL - Zα n k = 2.3263 - 1.6449  1.806 10 k  ZLTPD - Zβ n k  1.4053 - 1.2816  1.811 10 หาค่า k เพียงคา่ เดยี ว k  1.806 + 1.811 2 สรปุ แลว้ ใหช้ ักสง่ิ ตวั อยา่ งตวั อยา่ ง 10 ช้นิ และวัดคา่ แตล่ ะชิ้น จากน้ันหาค่าเฉลี่ยตัวกลางของตัวอย่าง ได้ x หาค่า ZL  x - 17,000 ใหย้ อมรับทงั้ รนุ่ (หากนอ้ ยกว่าใหป้ ฏเิ สธ) 800 สาหรับกรณีกาหนดพิกัดเดี่ยว แต่เป็นขีดจากัดด้านสูงสุด (U) การหาแผนการชักส่ิงตัวอย่างแบบตัว แปรจะใช้วิธีการเช่นเดียวกับกาหนดขีดจากัดด้านต่าสุด (L) เพียงแต่คานวณค่า U- x แทนค่า ZL ZU = σ เทา่ นั้น ถ้า Zu ≥ k ใหท้ าการยอมรบั ลอต และ Zu ≤ k ใหป้ ฏิเสธลอต จากตัวอย่างท่ี 6.27 ถ้าแทนที่โดยกาหนดค่าต่าสุด อาจกาหนดเป็นค่าสูงสุด (U) ได้ดังนี้ สมมุติให้ U = 2,000 psi ดังน้ัน x จะใหส้ ัดสว่ นของเสียเปน็ 0.01 จะหาค่ากลางได้จาก 20,000  x = 2.3263 และ 800 ถา้ สดั สว่ นของเสียเป็น 0.05 จะได้ 20,000  x = 1.4053 800

386 การควบคุมคุณภาพ จะได้ xAQL = 18,139 xLTPD = 18,876 เน่ืองจากได้ค่า n = 10 และ k = 1.809 ดังน้นั 20,000 - x ≥1.809 ยอมรบั มฉิ ะนัน้ ปฏเิ สธลอตนนั้ ทันที σ 2. การกาหนดพิกดั คู่ (Double Specification Limit) ในการจัดค่าคุณภาพแบบน้ีผู้ตรวจสอบต้องการให้มีขีดพิกัดคุณภาพอยู่ระหว่างกลางๆ และขีดพิกัดต่าสุด ในกรณีนี้สมมุติว่ารู้ค่าความเบี่ยงเบน (σ) และค่าที่วัดได้มีการกระจายแบบปกติ (Normal Distribution) จุดต่า จดุ สงู LU รูปท่ี 6.27 แสดงพกิ ดั คู่ทอ่ี ยใู่ กลก้ นั (ที่มา: ศรไี ร จารุภญิ โญ, 2540) จากรูปที่ 6.27 จะเห็นว่าเพ่ือให้สัดส่วนของเสียน้อยท่ีสุดน้ัน ค่า x ต้องตกอยู่ก่ึงกลาง พอดีระหว่างขดี จากัดสูงสดุ และขีดจากดั ต่าสุด นนั้ คอื  U - x  - L - x  U - L ลาดับแรก σ σ 2σ หลักในการหาแผนการชักสิ่งตัวอย่างน้ันต้องคานึงถึงช่วงห่างระหว่าง U และ L เป็น ถ้า U - L >3σ จะใช้วิธีการหาแบบพิกัดเด่ียว (Single Specification) และ 2 U - L <3σ จะใช้วิธกี ารหาแบบพิกัดคู่ (Double Specification) 2

บทที่ 6 แผนการชักสิง่ ตัวอยา่ ง 387 ตัวอยา่ งท่ี 6.28 กระบวนการผลิตหนึ่งกาหนดขีดพิกัดสูง (U) เป็น 0.8800, พิกัดต่า (L) เป็น 0.8750 โดยที่ค่าส่วน เบ่ียงเบนเป็น 0.0005 ให้หาแผนการชักสิ่งตัวอย่างโดยที่ α = 0.05, β = 0.10, AQL = 0.01 และ LTPD = 0.08 วิธที า 0.05 0.10 0.10 0.05 ปฏิเสธ 0.8800 ปฏเิ สธ 0.8750 ยอมรบั รูปท่ี 6.28 แสดงพิกดั คหู่ า่ ง (Widely spread – Specification limits) (ทม่ี า: ศรีไร จารภุ ญิ โญ, 2540) หาคา่ n จากสมการท่ี 6.22 n   Zα + Zβ 2  ZAQL - ZLTPD   1.6449 + 1.2816 2  2.3263 - 1.4053   10 และหาค่า k ได้จากสมการท่ี 6.20 และ 6.21 นามาเฉล่ียกันได้ k = 1.809 แผนตัวอย่างน้ี คือ (n, k) = (10, 1.809) น่ันเอง ใหช้ กั สงิ่ ตวั อย่าง 10 ชนิ้ ข้นึ มาวดั คา่ x และยอมให้รบั ลอตเมอ่ื x - 0.8750 1.809 0.0005 และ 0.8800  x 1.809 0.0005 มฉิ ะนั้นแล้วใหป้ ฏเิ สธลอตน้นั

388 การควบคมุ คุณภาพ 6.4.1.2 การหาแผนการชักสิ่งตวั อยา่ งโดยตาราง MIL-STD-414 ศรีไร จารุภิญโญ (2540) ตารางมาตรฐาน MIL-STD-414 เป็นตารางมาตรฐานใช้สาหรับ การชักสิ่งตวั อยา่ งแบบตวั แปร โดยมีข้อสมมุตฐิ านวา่ ทราบลักษณะการกระจายเป็นแบบนอร์มอล ตารางท่ี 6.42 ถึง 6.44 เป็นส่วนหน่ึงของตารางมาตรฐาน MIL-STD-414 โดยตารางท่ี 6.42 เป็น ตารางสาหรับเทียบค่า AQL กรณีที่ค่า AQL ไม่ตรงกับตารางท่ี 6.44 สาหรับตารางที่ 6.43 เปิดหา รหัสอักษร เม่ือทราบขนาดลอต และระดับการตรวจสอบ ซ่ึงในตารางนี้แบ่งเป็น 5 ระดับ ส่วนตารางท่ี 6.44 ใชส้ าหรบั อา่ นค่า M เม่ือ M คือ เปอร์เซ็นต์ของเสียสูงสุดท่ีสามารถยอมรับได้ ส่วนตารางที่ ก-5 ในภาคผนวก ก. จะใชอ้ า่ นคา่ PL (เปอร์เซ็นตข์ องเสีย เมอ่ื วัดคา่ แล้วไดค้ ่าต่ากว่าขีดจากดั ดา้ นล่าง L) และอ่านคา่ PU (เปอร์เซน็ ต์ของเสยี เมื่อวัดค่าแลว้ ไดค้ ่ามากกว่าขีดจากัดดา้ นบน) จะตดั สนิ ใจยอมรบั ลอต เมื่อ PL ≤ M สาหรบั กรณกี าหนดข้อจากัดดา้ นตา่ สุด (L) PU ≤ M สาหรบั กรณกี าหนดข้อจากัดดา้ นสูงสดุ (U) PL + PU ≤ M สาหรับกรณกี าหนดข้อจากดั แบบคู่ ตารางที่ 6.42 AQL Conversion Table For specified AQL values falling within these ranges Use this AQL value - to 0.049 0.04 0.050 to 0.069 0.065 0.070 to 0.109 0.10 0.110 to 0.164 0.15 0.165 to 0.279 0.25 0.280 to 0.439 0.40 0.440 to 0.699 0.65 0.700 to 1.09 1.0 1.10 to 1.64 1.5 1.65 to 2.79 2.5 2.80 to 4.39 4.0 4.40 to 6.99 6.5 7.00 to 10.9 10.0 11.00 to 16.4 15.0

บทที่ 6 แผนการชกั ส่งิ ตัวอยา่ ง 389 ตารางที่ 6.43 Sample Size Code Letters V C Lot Size I Inspection levels IV D B II III B E 3-8 B BB B F 9-15 B BB C G 16-25 B BB D H 26-40 B BB E I 41-65 B BC F J 66-110 B BD G K 111-180 B CE H L 181-300 C DF I L 301-500 D EG J M 501-800 E FH K N 801-1,300 F GI L O 1,301-3,200 G HJ M P 3,201-8,000 H IL N Q 8,001-22,000 I JM O Q 22,001-110,000 I KN P 110,001-550,000 I KO Q 550,001-or Over KP

ตารางท่ี 6.44 Master Table for Normal and Tightened Inspection f SAMPLE SIZE ACCEPTABLE CODE LETTER SAMPLE SIZE 0.04 0.065 0.1 0.15 0.25 0.4 M M M M MM 0.099 0.186 0.312 0.349 B3 0.135 0.228 0.365 0.503 0.422 1.06 C4 0.155 0.25 0.38 0.544 D5 0.179 0.28 0.413 0.551 0.716 1.3 E7 0.17 0.264 0.388 0.581 F 10 0.179 0.275 0.401 0.535 0.818 1.31 G 15 0.163 0.25 0.363 0.566 H 20 0.147 0.228 0.33 0.503 0.846 1.29 I 25 0.145 0.22 0.317 0.467 J 30 0.134 0.203 0.293 0.447 0.877 1.29 K 35 0.135 0.204 0.294 0.413 L 40 0.065 0.15 0.414 0.879 1.29 M 50 0.1 0.25 N 75 0.847 1.23 O 100 P 150 0.873 1.26 Q 200 0.789 1.17 0.72 1.07 0.689 1.02 0.638 0.949 0.637 0.945 0.4 0.65 ACCEPTABLE ALL AQL and table values are in percent defective Use first sampling plan below arrow, that is, both sample size as well as M value. When sample size equals o

for Plans Based on Variability Unknown: Range Method 390 การควบคมุ คุณภาพ E QUALITY LEVELS (NORMAL INSPECTION) 0.65 1 1.5 2.5 4 6.5 10 15 M M M M MMMM 18.86 26.94 33.69 40.47 16.45 22.86 29.45 36.9 7.59 14.39 20.19 26.56 33.99 12.2 17.35 23.29 30.5 1.53 5.5 10.92 10.54 15.17 20.74 27.57 9.46 13.71 18.94 25.61 1.33 3.32 5.83 9.8 8.92 12.99 18.03 24.53 8.63 12.57 17.51 23.97 2.14 3.55 5.35 8.4 8.47 12.36 17.24 23.58 8.1 11.87 16.65 22.91 2.17 3.26 4.77 7.29 8.09 11.85 16.61 22.86 7.61 11.23 15.87 22 2.11 3.05 4.31 6.56 7.15 10.63 15.13 21.11 6.91 10.32 14.75 20.66 2.05 2.95 4.09 6.17 6.57 9.88 14.2 20.02 6.53 9.81 14.12 19.92 2 2.86 3.97 5.97 6.5 10 15 1.98 2.83 3.91 5.86 1.87 2.68 3.7 5.57 1.88 2.71 3.72 5.58 1.71 2.49 3.45 5.2 1.6 2.29 3.2 4.87 1.53 2.2 3.07 4.69 9 1.43 2.05 2.89 4.43 5 1.42 2.04 2.87 4.4 1 1.5 2.5 4 QUALITY LEVELS (TIGHTENED INSPECTION) or exceeds lot size, every item in the lot must be inspected.

บทท่ี 6 แผนการชักสิ่งตัวอย่าง 391 ตวั อยา่ งท่ี 6.29 สาหรับข้อจากัดเครื่องมืออย่างหนึ่งใช้ทางานได้ที่อุณหภูมิต่าสุด 180 องศาเซลเซียส เครื่องมือชนิดน้ีส่ง มาเปน็ ลอตขนาด 40 ชิน้ ใช้การตรวจสอบระดับ 4 แบบปกติ และ AQL = 1.0% จงหาแผนการชักส่ิงตวั อย่าง (ศรไี ร จารภุ ิญโญ, 2540) วธิ ีทา 1. เปิดตารางที่ 6.42 AQL 1.0% อยู่ในช่วง 0.700 ถึง 1.09 ได้ AQL = 1.0% 2. เปดิ ตารางท่ี 6.43 ที่ระดับ 4 ขนาดลอต 26-40 ได้รหสั อกั ษร D 3. เปิดตารางที่ 6.44 ท่ีอักษร D ได้ขนาดตัวอย่าง n = 5 และ AQL = 1.0% (ทดสอบแบบปกติ) ได้ M = 3.32% (ถ้าการตรวจสอบเป็นแบบเขม้ งวดให้ดู AQL จากบรรทัดสุดท้ายของตาราง) แผนการชกั สิ่งตัวอย่าง คือ ชกั ส่ิงตวั อย่างขน้ึ มา 5 ช้นิ แล้ววัดค่า ถา้ ได้ PL ≤ M ใหร้ ับลอต M คอื เปอร์เซน็ ตข์ องเสยี สงู สุดทย่ี อมรบั ไดใ้ นลอตหนึง่ ๆ PL คอื เปอรเ์ ซน็ ตข์ องสินค้าทมี่ คี ุณภาพต่ากวา่ L (โดยการประมาณการ) QL คือ ดรรชนคี ณุ ภาพตา่ สดุ PL หาได้จากตารางท่ี ก-5 ในภาคผนวก ก. ถ้าทราบค่า QL และ n QL หาได้จากสตู ร QL = x -L S สมมติว่าสินค้าลอตน้ีชักส่ิงตัวอย่างข้ึนมา 5 ช้ิน วัดค่าได้ดังน้ี 197, 188, 184, 205 และ 201 องศา เซลเซียส สินคา้ ลอตนจ้ี ะได้รบั การยอมรบั ลอตหรือไม่ x = x = 197+188+184+205+201 n5 = 195 °C  x2 -  x 2 คา่ สว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐาน: S= n n-1 190, 435 190,125 = 5-1 = 8.80 ดรรชนีคณุ ภาพต่าสดุ : QL = x -L  195 180 S 8.80 = 1.70

392 การควบคุมคุณภาพ เปิดตารางที่ ก-5 ในภาคผนวก ก. ค่า QL = 1.70 และ n = 5 ได้ PL = 0.66% ยอมรับลอต เม่อื PL ≤ M เท่ากับ 0.66% ≤ 3.32% ถ้าเปล่ียนระดบั การตรวจสอบเป็นเข้มงวด สินค้าลอตนี้ยังจะได้รับการยอมรับหรือไม่ ตรวจสอบแบบ เขม้ งวดต้องดู AQL ทขี่ า้ งล่างของตารางท่ี 6.44 ทอี่ ักษร D และ AQL = 1.0% ได้ M = 1.33% ดงั น้นั 0.66% ≤ 1.33% นั่นคอื PL ≤ M ยงั ยอมรบั ลอต ตวั อย่างท่ี 6.30 สาหรบั ขอ้ จากัดคู่ วธิ ีการทาเหมือนข้อจากดั เดี่ยว จะยอมรับลอตตอ่ เมือ่ P ≤ M เม่อื P = PU + PL P คือ เปอร์เซ็นต์ของสินค้ารวมท่ีไมไ่ ดค้ ุณภาพ PU คือ เปอรเ์ ซ็นตข์ องสนิ ค้าทไี่ มไ่ ดค้ ณุ ภาพซึ่งมคี ่าสูงกวา่ U PL คอื เปอร์เซน็ ต์ของสนิ คา้ ที่ไมไ่ ด้คณุ ภาพซ่งึ มีค่าต่ากวา่ L จากตัวอย่างท่ี 6.29 ถ้ากาหนดข้อจากัดเป็นอุณหภูมิการใช้งานต่าสุด เท่ากับ 180 องศาเซลเซียส และสงู สดุ เท่ากบั 209 องศาเซลเซียส สว่ นข้อกาหนดอ่ืนๆ เหมือนเดิม แผนตวั อยา่ งเปน็ ไรและสินค้าลอตนี้จะ ได้รับการยอมรบั หรือไม่ (ศรีไร จารภุ ิญโญ, 2540) วธิ ที า จากตวั อย่างท่ี 6.29 ได้แผนการชักสิ่งตวั อย่าง คอื n = 5, M = 3.32% ยอมรบั เมอื่ P ≤ M ดรรชนคี ณุ ภาพสูงสดุ : U - x 209 - 195 Qu = S = 8.80 = 1.59 ดรรชนคี ุณภาพต่าสุด: x - L 195 - 180 QL = S = 8.80 = 1.70 เปดิ ตารางท่ี ก-5 ในภาคผนวก ก. ท่ี QU = 1.59, n = 5 และ QL = 1.70, n = 5 ได้ PU = 2.21% (โดยการเฉลย่ี ) PL = 0.66% ดังน้นั P = PU+ PL = 2.21 + 0.66 = 2.87% 2.87% ≤ 3.32% น่นั คือ P ≤ M ยอมรบั ลอต

บทท่ี 6 แผนการชักสง่ิ ตัวอยา่ ง 393 6.5 สรปุ 1. การตัดสินใจยอมรับวัตถุดิบจากผู้ขาย เช่น การรับโดยไม่ต้องตรวจสอบ (กรณีนี้ต้องมีความม่ันใจใน ผขู้ ายสูง หรอื คา่ Cp เทา่ กบั 3 หรือ 4) ตรวจสอบ 100% และแผนการชกั สิง่ ตวั อย่าง 2. แผนการชักสิ่งตัวอย่าง คือ แผนท่ีใช้ในการยอมรับหรือปฏิเสธลอตท่ีส่งเข้ามา โดยอาศัยเทคนิ ค หลกั การประยกุ ตท์ างสถติ แิ ละทีต่ ้องตัดสนิ ใจ ซง่ึ มวี ธิ กี ารดาเนนิ การดงั น้ี วัตถุดบิ กระบวนการผลติ สินคา้ แผนการชกั สิ่งตวั อยา่ งก่อน แผนภมู ิควบคุมกระบวนการผลิต แผนการชกั สิ่งตัวอยา่ งก่อน เขา้ สกู่ ระบวนการผลติ ส่งสนิ ค้าใหล้ ูกค้า 3. แผนการชกั สิง่ ตวั อยา่ งหลักๆ มี 2 ประเภท แบ่งออกเป็น แผนการชักสิ่งตัวอย่างแบบเชิงคุณภาพ และ แผนการชักสงิ่ ตัวอยา่ งแบบเชงิ แปรผัน 3.1 แผนการชักสิ่งตวั อยา่ งแบบเชงิ คุณภาพ ได้แก่ 1) แผนการชักตัวอย่างเชิงเดี่ยว เป็นแผนชักตัวอย่างท่ีกาหนดขนาดตัวอย่างและจานวนการ ยอมรับเพยี ง 1 ชุด โดยการตรวจสอบนน้ั ถา้ พบว่าสินค้าไมต่ รงตามข้อกาหนดใหป้ ฏเิ สธท่ีจะยอมรับสินค้าลอต นัน้ 2) แผนการชักตัวอย่างเชิงคู่ เป็นแผนการชักตัวอย่างท่ีต้องการสุ่มตัวอย่างในครั้งท่ี 2 โดยการ ตรวจสอบนั้น ถ้าพบว่าสินค้าไม่ตรงตามข้อกาหนด ให้ตรวจสอบเป็นคร้ังท่ีสอง แต่มีเง่ือนไขว่าในคร้ังแรกที่ ตรวจสอบน้ัน สินค้าที่เสียต้องไม่เกินข้อกาหนดของการตรวจสอบของครั้งที่สอง ถ้าพบว่าสินค้ายังไม่ตรงตาม ข้อกาหนดในครง้ั ที่ 2 ใหป้ ฏิเสธทจ่ี ะยอมรับสนิ ค้าลอตนั้น 3) แผนการชกั ตัวอยา่ งหลายเชิง เป็นแผนชกั ตวั อยา่ งที่คล้ายกับแผนชักตัวอย่างเชิงคู่ โดยโอกาสท่ี จะยอมรบั หรอื ปฏเิ สธลอตจะมากกวา่ 2 ครั้งข้นึ ไป จนถงึ n ครงั้ 4) แผนการชักตัวอย่างมาตรฐาน 105 อี เป็นแผนการชักตัวอย่างที่เกิดจากกองทัพสหรัฐอเมริกา โดยกาหนดให้เป็นกลยุทธ์สาหรับการตรวจสอบและยอมรับลอต ซึ่งกาหนดให้มีการกาหนดให้ชักส่ิงตัวได้ 3 แบบ คือ แผนการชักส่งิ ตวั อย่างเชิงเดี่ยว เชงิ คู่ และหลายเชงิ โดยมีการตรวจสอบแบ่งออกเป็น 2 แบบ คอื (1) การตรวจสอบแบบท่ัวไปมี 3 ระดบั คอื I, II และ III (2) การตรวจสอบแบบพเิ ศษ มี 4 ระดบั คอื S-1, S-2, S-3 และ S-4 โดยระดับของตรวจสอบ แบบพเิ ศษจะใช้เมือ่ สงิ่ ตวั อยา่ งมขี นาดเลก็ กวา่ โดยทั่วไปหรือมีลกั ษณะท่ีพิเศษกว่าปกติ 5) แผนการชกั ตวั อยา่ งดอดจแ์ ละโรมกิ แบง่ ออกเปน็ 2 แผน คอื (1) แผน LTPD ใช้ตารางดอจ์และโรมิก ประกอบด้วยค่า LTPD เช่น 1%, 2%, 3% ใช้ใน การชักสงิ่ ตัวอย่างเชงิ เดี่ยวและเชงิ คู่ (2) แผน AOQL ใช้เม่ือคุณภาพโดยเฉลี่ยของผู้ผลิตแย่โดยไม่ตระหนักถึงคุณภาพใช้ใน การชกั สิง่ ตัวอย่างเชงิ เดี่ยวและเชิงคู่ ประกอบดว้ ยคา่ AOQL เช่น 1%, 2%, 3%, 10% เปน็ ต้น

394 การควบคมุ คุณภาพ 6) แผนการชักตัวอย่างเชิงลาดับ เป็นแผนการนับส่ิงตัวอย่างมาทีละ 1 ชิ้น และให้คะแนนโดย กาหนดให้ของดีเป็นเคร่ืองหมาย + ของเสียเป็นเคร่ืองหมาย – ถ้าผลรวมคะแนนต่ากว่าที่กาหนดก็จะปฏิเสธ ลอตนั้น แต่ถ้าขนาดตัวอย่างท่ีนับมาแต่ละคร้ังมากกว่า 1 ชิ้นจะเรียกว่า แผนการชักตัวอย่างเชิงลาดับแบบ กล่มุ 7) แผนการชักส่ิงตัวอย่างของการผลิตต่อเนื่อง เป็นแผนการชักส่ิงตัวอย่างแบบเชิงคุณภาพชนิด พิเศษ โดยหลักการ คือ ใช้การตรวจสอบสิ่งตัวอย่างติดต่อแบบ 100% ไปเร่ือยๆ ถ้าไม่พบของเสียให้เลิก ตรวจสอบ 100% แต่ทาการตรวจสอบแบบสัดส่วน (Fraction) ถ้าพบของเสียให้เร่ิมต้นใหม่ทันทีจนกระท่ังไม่ มีของเสีย 3.2 แผนการชกั ส่ิงตัวอยา่ งแบบเชงิ แปรผนั เปน็ แผนการชักส่งิ ตัวอยา่ งทเี่ ป็นค่าแบบต่อเนื่อง โดยมีการ กระจายแบบปกติ ซ่ึงสามารถหาค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานได้ เช่น การช่ัง การตวง การวัด ซึ่ง ลกั ษณะการตรวจสอบเหล่านย้ี ากแก่การกาหนดใหเ้ ปน็ ของดี หรอื ของเสยี 4. การสับเปลี่ยนวิธีการตรวจสอบมีดังนี้ การตรวจสอบแบบเข้มงวดจะไม่ควรใช้เร่ิมเมื่อมีการตรวจสอบ จะใช้เม่ือตรวจจับได้ว่าคุณภาพด้อยกว่ามาตรฐาน การตรวจสอบแบบผ่อนคลายไม่ควรใช้เร่ิมเมื่อมีการ ตรวจสอบ ควรใช้เม่ือเร่ิมมคี ณุ ภาพไม่ด้อยกว่า AQL การตรวจสอบแบบปกตจิ ะใหใ้ ช้เมอ่ื เร่ิมมีการตรวจสอบ 5. ข้อดีในการใช้แผนการชักสงิ่ ตวั อยา่ ง ไดแ้ ก่ 1) เม่ือมีการตรวจสอบ 100% มีต้นทุนที่สูง (การทดสอบแบบทาลาย) แผนชักส่ิงตัวอย่างสามารถลด จานวนปรมิ าณผลิตภณั ฑท์ ต่ี อ้ งตรวจสอบได้ 2) เมื่อไม่ทราบระดบั คณุ ภาพของผขู้ าย สามารถปรบั เป็นการตรวจสอบแบบเข้มงวด 3) เมื่อไม่ได้ใช้วิธีตรวจสอบแบบอัตโนมัติ แผนชักสิ่งตัวอย่างสามารถดาเนินการให้การตรวจสอบเป็น ระบบข้นั ตอน 4) เม่ือมีการใช้เวลามาก แผนชักส่ิงตัวอย่างเป็นวิธีที่ใช้เวลาในการตรวจสอบน้อยกว่าการตรวจสอบ แบบอื่นๆ ขอ้ เสยี ในการใช้แผนการชกั สิ่งตัวอย่าง ได้แก่ 1) มคี วามเสี่ยงในการรับรนุ่ สนิ ค้าท่ีมคี ณุ ภาพต่า 2) ไดข้ อ้ มลู ดา้ นระดับคณุ ภาพของผ้ขู ายน้อยกว่าการตรวจ 100% 3) วิธีการพัฒนาแผนยงุ่ ยากและต้องใชเ้ วลา

บทท่ี 6 แผนการชักส่งิ ตัวอย่าง 395 แบบฝึกหดั ทา้ ยบทท่ี 6 1. จงอธบิ ายความหมายของแผนชกั สิ่งตัวอย่าง 2. จงเปรียบเทียบประเภทของการควบคุมคณุ ภาพเพอ่ื การยอมรบั และบอกข้อดีข้อเสยี 3. จงจาแนกแผนชักสิ่งตัวอย่างดว้ ยลักษณะของประชากรและประเภทของข้อมลู 4. จงอธิบายความแตกตา่ งของแผนภาพชกั ส่ิงตัวอย่างเชิงเด่ียวกับแผนการชักตัวอย่างเชิงคู่ 5. จงบอกวิธกี ารมาตรฐานทีใ่ ช้ในการวิเคราะห์กระบวนการผลติ ของ Schilling 6. จงบอกเงื่อนไขในการดาเนินการใช้แผนการชกั สิ่งตวั อย่างใหไ้ ด้ผลดี ว่ามีอะไรบา้ ง (ศรไี ร จารุภญิ โญ, 2540) 7. กาหนดแผนการชกั ส่ิงตวั อยา่ งหลายเชงิ เป็นดงั น้ี ครัง้ ท่ีสมุ่ ชักสง่ิ ตวั อยา่ ง ขนาดตวั อยา่ ง ตวั อย่างสะสม จานวนของเสียทย่ี อมรบั จานวนของเสยี ทีป่ ฏิเสธ 1 55 * 2 2 5 10 0 2 3 5 15 0 3 4 5 20 1 3 5 5 25 2 3 * จะไม่มกี ารยอมรบั ลอตไมว่ า่ กรณีใดๆ สมมติว่า ขนาดลอตใหญ่พอทจ่ี ะใชต้ ารางปัวสซ์ องได้ 7.1 จงหาโอกาสในการยอมรับลอตของสินค้าทม่ี ขี องเสยี 10% 7.2 จงหาจานวนตรวจสอบโดยเฉล่ีย (ศรีไร จารุภญิ โญ, 2540) 8. จงหาแผนการชกั ตวั อยา่ งเชงิ เดย่ี วทีท่ าให้ความเสี่ยงของผผู้ ลิตมีค่าเทา่ กับ 5% ของลอตสินค้าทม่ี ีจานวน ของเสีย 0.90% และความเส่ียงของผู้บรโิ ภคมีคา่ 10% ของลอตสินค้าท่ีมจี านวนของเสีย 7.80% (ศภุ ชยั นาทะพันธ์, 2551) 9. จงหาแผนการชกั ตวั อยา่ งเชงิ เดย่ี วทท่ี าใหค้ วามเสยี่ งของผูผ้ ลติ มีค่า 1% ของลอตสินค้าที่มีของเสีย 2% และ ความเสย่ี งของผบู้ รโิ ภคมคี ่า 10% ของลอตสนิ คา้ ทม่ี จี านวนของเสยี 6% (ศุภชยั นาทะพนั ธ์, 2551) 10. จากแผนชักตัวอย่างเชิงคู่ต่อไปนี้ n1 = 50, n2 = 100, c1 = 1 และ c2 = 3 กาหนดให้สัดส่วนของเสีย เท่ากับ 0.05 จงหาความนา่ จะเป็นในการยอมรบั ลอต (ศภุ ชัย นาทะพันธ์, 2551) 11. จากแผนชักตัวอย่างเชิงคู่ต่อไปน้ี n1= 80, c1= 2, n2= 80, c2 = 6 กาหนดให้สัดส่วนเสียเท่ากับ 0.03 จงหาคา่ ความน่าจะเป็นในการยอมรบั ลอต (สภาวศิ วกร, 2555) 12. เสนโคง OC หมายถงึ (สภาวศิ วกร, 2555) 13. จดุ เด่นของ Military Standard 105E คอื อะไร (สภาวิศวกร, 2555) 14. สถานการณ์ใดต่อไปน้ีถือเป็น Type II error (β) ในการใช้ Sampling Plan ควบคุมคุณภาพของ ผลติ ภณั ฑ์ (สภาวศิ วกร, 2555) 15. แผนการสุ่มตัวอย่างเชิงเด่ียว (n = 560 และ c = 21) จงคานวณหาค่าความน่าจะเป็นท่ีจะยอมรับ ผลติ ภัณฑ์รุ่นนนั้ (Pa = Probability acceptance) ถ้าระดบั คณุ ภาพของผลติ ภณั ฑ์มคี ่า p = 0.05 (สภาวศิ วกร, 2555)

396 การควบคุมคุณภาพ 16. จากตาราง MIL-STD-105E (General Inspection Level II) จงเลือกรหัสแผนการสุ่มตัวอย่างท่ี เหมาะสมเพ่ือ ใช้สาหรับตรวจสอบชิ้นส่วนก่อนเข้าโรงงาน โดย N = 5,000 และ AQL = 0.65% โดยใช้แผนการสุ่มตัวอย่าง เชงิ เดย่ี ว (Single Sampling Plan) (สภาวศิ วกร, 2555) 17. แผนการสุ่มตัวอย่างเชิงคู่ (n1 =40, n2 = 80, c1 =1 และ c2 =4) ถ้ากาหนดให้ระดับคุณภาพของ ผลติ ภัณฑ์ p = 0.05 จงคานวณหาค่า PaI และ PaII (สภาวิศวกร, 2555) 18. จงสร้างแผนการชกั ตวั อยา่ งเชิงลาดบั สาหรบั p1= 0.01, p2 = 0.10, α = 0.05 และ β = 0.10 (ศภุ ชัย นาทะพันธ์, 2551) 19. ลอตจะถูกยอมรับ เมื่อจานวนตัวอย่างมีค่าน้อยที่สุดท่ีเท่าไหร่ ที่ต้องตรวจสอบจากการสร้างแผนการชัก ตัวอย่างเชิงลาดับสาหรับ p1= 0.08, p2 = 0.18, α = 0.05 และ β = 0.10 (ศุภชยั นาทะพนั ธ์, 2551) 20. แผนชักตัวอย่างเชิงเด่ียว ถ้าต้องการแผนชักตัวอย่างท่ีมีข้อกาหนดดังต่อไปนี้คือ α = 0.10, β = 0.20, AQL = 0.03 และ LTPD = 0.10 โดยใช้มอโนกราฟในการออกแบบแผนชักตัวอย่าง 21. วตั ถปุ ระสงคส์ าคัญสาหรับมาตรฐาน MIL-STD-105E คืออะไร และมีขอบเขตในการประยกุ ตใ์ ช้อย่างไร บา้ ง (ศรไี ร จารภุ ิญโญ, 2540) 22. “การระงับการตรวจสอบ” ตามความต้องการของมาตรฐาน MIL-STD-105E นั้น อยู่บนพื้นฐานของ แนวคิดอะไร และมีกฎเกณฑ์ประการใด สาหรับการระงบั การตรวจสอบ (ศรีไร จารภุ ิญโญ, 2540) 23. ในการออกแบบแผนการชักตัวอย่างเพ่ือการยอมรับเชิงเด่ียว ด้วยมาตรฐาน MIL-STD-105E สาหรับ ผลิตภัณฑ์บกพร่องของผลิตภัณฑ์ท่ีมีขนาดลอต 800 หน่วย ด้วยขนาด AQL 0.40% จงหาแผนการชักส่ิง ตัวอย่างท้ังกรณแี บบปกติ แบบเคร่งครัด และแบบผอ่ นคลาย พร้อมท้ังตคี วามหมายแต่ละแผนการท่ไี ดด้ ้วย (ศรีไร จารภุ ญิ โญ, 2540) 24. จากตารางมาตรฐาน MIL-STD-105E ของแผนการชักสิ่งตัวอย่างเชิงเดี่ยว จงเติมตัวเลขลงในช่องว่าง ตอ่ ไปนี้ 24.1 N = 570 AQL = 4% ระดับการตรวจสอบ II Letter Code =______ แผนการชกั ตวั อย่าง แบบปกติ n = _______ Ac = _______ Re = _______ แบบเคร่งครดั n = _______ Ac = _______ Re = _______ แบบผอ่ นคลาย n = _______ Ac = _______ Re = _______ 24.2 N = 800 AQL = 2.5% ระดบั การตรวจสอบ III Letter Code =______ แผนการชักตัวอย่าง แบบปกติ n = _______ Ac = _______ Re = _______ แบบเครง่ ครัด n = _______ Ac = _______ Re = _______ แบบผ่อนคลาย n = _______ Ac = _______ Re = _______

บทที่ 6 แผนการชักส่งิ ตวั อย่าง 397 24.3 N = 1,200 AQL = 1% ระดับการตรวจสอบ I Letter Code =______ แผนการชักตวั อยา่ ง แบบปกติ n = _______ Ac = _______ Re = _______ แบบเคร่งครัด n = _______ Ac = _______ Re = _______ แบบผ่อนคลาย n = _______ Ac = _______ Re = _______ 24.4 N = 5,000 AQL = 1.5% ระดบั การตรวจสอบ I Letter Code =______ แผนการชักตัวอยา่ ง แบบปกติ n = _______ Ac = _______ Re = _______ แบบเคร่งครัด n = _______ Ac = _______ Re = _______ แบบผ่อนคลาย n = _______ Ac = _______ Re = _______ 24.5 N = 35,600 AQL = 10% ระดับการตรวจสอบ II Letter Code =______ แผนการชักตวั อย่าง แบบปกติ n = _______ Ac = _______ Re = _______ แบบเครง่ ครดั n = _______ Ac = _______ Re = _______ แบบผอ่ นคลาย n = _______ Ac = _______ Re = _______ 25. ในการชกั ส่ิงตวั อยา่ งเพ่อื การยอมรับเชิงเดี่ยวด้วยมาตรฐาน MIL-STD-105E ขนาดลอต 3,000 และ AQL 0.040% ถา้ หากผลการตรวจสอบจานวนผลติ ภัณฑบ์ กพรอ่ ง จานวน 10 ลอต ติดต่อกนั ไดผ้ ลดงั น้ี 1000000000 ใหท้ าการกาหนดวา่ แต่ละลอตจะต้องทาการตรวจสอบแบบใด และในลอตที่ 11 ควรจะทาการตรวจสอบ ดว้ ยแผนการตรวจสอบแบบใดนอกจากนี้ ถ้าหากมีการสับเปล่ียนให้ทาการตรวจสอบแบบผ่อนคลายแล้วถาม ว่าจะต้องทาการตรวจสอบ แลว้ มกี ารยอมรับอย่างน้อยจานวนก่ลี อต (ศรีไร จารุภิญโญ, 2540) 26. ในการออกแบบแผนการชักส่ิงตัวอย่างเชิงเด่ียวด้วยมาตรฐาน MIL-STD-105E สาหรับลอตที่ไม่คุ้นเคย สาหรับผลิตภัณฑ์บกพร่องที่มีขนาดลอต 500 หน่วย โดยมีการกาหนดระดับคุณภาพจากัดไว้ที่ 2.0% สาหรับ AQL 0.25% ด้วยความเสี่ยงของผบู้ ริโภค 10% ต่อการตัดสินใจยอมรับลอตที่มีคุณภาพแย่น้ัน ให้ทาการเลือก แผนการชกั สง่ิ ตัวอย่างดงั กลา่ ว (ศรไี ร จารภุ ญิ โญ, 2540) 27. ใหอ้ อกแบบแผนการชักสิ่งตัวอยา่ งเชงิ ค่ดู ว้ ยมาตรฐาน MIL-STD-105E สาหรบั ผลติ ภัณฑ์บกพร่อง ทีม่ ี ขนาด 900 หนว่ ย ด้วยขนาด AQL 0.15% และระดับการตรวจสอบแบบทัว่ ไป ระดบั ท่ี 3 (ศรีไร จารภุ ญิ โญ, 2540)

398 การควบคุมคุณภาพ 28. ภายใต้แผนการชักสิ่งตัวอย่างเพ่ือการยอมรับแบบปกติ ทีมีรหัสอักษร J ของมาตรฐาน MIL-STD-105E ด้วยระดับ AQL 2.5% จะมีขนาดส่ิงตัวอย่างโดยเฉลี่ย (ASS) เท่าใด ทั้งแผนการชักส่ิงตัวอย่างเชิงเด่ียว เชิงคู่ และหลายเชิง พรอ้ มการเปรยี บเทียบ (ศรีไร จารภุ ิญโญ, 2540) 29. จงบอกความแตกตา่ งระหวา่ งตารางมาตรฐาน MIL-STD-105E กบั ANSI/ASQC Z1.4 30. ในการยอมรับลอตสินค้าโดยนโยบายของบริษัทกาหนดให้มีโอกาสในการยอมรับลอตที่ AQL 1% เท่ากับ 0.9 ให้พจิ ารณาแผนการชักตวั อย่างเพอ่ื การยอมรับเชิงเด่ียวพร้อมสมรรถนะของแผนการชักตัวอย่างท่ีได้ เมื่อ กาหนดขนาดของลอตเท่ากับ 1,000 จงหาโอกาสลอตที่บรรจุผลิตภัณฑ์บกพร่องด้วยแผนการชักสิ่งตัวอย่าง แบบปกติ 31. กาหนดการตรวจสอบคณุ ภาพของผลิตภณั ฑใ์ ห้ AQL = 0.02, LTPD = 0.12, α = 0.05 และ β = 0.10 31.1 จงสรา้ งแผนตวั อยา่ งแบบ SPR 31.2 จงกาหนดตารางในการยอมรับและปฏิเสธจานวน 30 ลอต (ศรีไร จารุภิญโญ, 2540) 32. จงหา CSP-1 ท่ี เหมาะสมสาหรบั AOQL = 0.79% และ f = 10% โดยท่ชี ิ้นงานในช่วงผลิตมีคา่ เท่ากับ 1,200 ชิ้น (สภาวิศวกร, 2555) 33. บริษัทแห่งหน่ึงใช้แผนการสุ่มตัวอย่าง CSP-2 ที่มี f = 1/5 และ i = 60 ถ้าเร่ิมต้นด้วยการตรวจสอบ 100% แลว้ พบชิ้นส่วนช้ินที่ 92 เป็นของเสยี จงหาวา่ ควรตัดสินใจอย่างไร (Banks J. อา้ งองิ ใน สายชล สินสมบรู ณท์ อง, 2554: 606) 34. ภายใต้แผนการสุ่มตัวอย่าง CSP-1 สาหรับ AOQL = 0.79% ถา้ f = 1/5 จงหาค่า i (Banks J. อา้ งอิงใน สายชล สนิ สมบรู ณ์ทอง, 2554: 606) 35. มีช้ินส่วน 1,000 ช้นิ ในช่วงการผลติ จงเขียนแผน CSP-1 ซงึ่ สามารถใชก้ บั AOQL = 0.33% (Banks J. อ้างองิ ใน สายชล สนิ สมบูรณท์ อง, 2554: 606) 36. ภายใตก้ ารส่มุ ตวั อย่าง CSP-2 สาหรบั AOQL = 1.90% ถา้ สดั ส่วนการสุม่ เป็น f = 1/4 จงหาคา่ i (Banks J. อา้ งองิ ใน สายชล สินสมบูรณ์ทอง, 2554: 606) 37. จงเปรยี บเทยี บแผน CSP-1 และ CSP-2 สาหรับ f = 1/4 และ AOQL = 1.90% ทาไมจึงมีความแตกตา่ ง กัน (Banks J. อา้ งอิงใน สายชล สินสมบูรณ์ทอง, 2554: 606) 38. จงหาค่า Pa ในการสุ่มตัวอย่าง สาหรับรุ่นท่ีมีขนาด 1,000 ชิ้น ท่ีมีค่า AQL = 1.5% และ p = 0.025 จงใช้แผนการสมุ่ ตัวอย่างเชิงเด่ยี วภายใต้การสุม่ ตวั อย่างแบบผอ่ นคลายทม่ี กี ารตรวจสอบท่ัวไประดับ II 39. จงใช้ตารางดอดจ์-โรมิก หาแผนชักตัวอย่างเชิงเด่ียวแบบตรวจสอบปรับแก้ท่ีมี AOQL = 0.03 สาหรับ N = 2,500 เพื่อทาให้ ATI มคี ่านอ้ ยที่สุดเมื่อ p = 0.0075 (Banks J. อา้ งองิ ใน สายชล สินสมบูรณท์ อง, 2554: 520)

บทท่ี 6 แผนการชักส่ิงตัวอย่าง 399 40. รุ่นสินค้ามีขนาด N = 750 ท่ีมีค่า AOQL = 3% สาหรับ β = 10% ถ้า p = 0.03 จงหาแผนการสุ่ม ตวั อยา่ งเชงิ เด่ียวที่ทาให้ ATI มคี ่าน้อยท่สี ดุ โดยใชต้ ารางดอดจ์และโรมิก และหาคา่ LTPD (Banks J. อ้างองิ ใน สายชล สนิ สมบูรณท์ อง, 2554: 520) 41. จงบอกความแตกต่างระหว่างมาตรฐาน MIL-STD-414 และ ANSI/ANQC Z1.4 42. จงออกแบบแผนการสุ่มตัวอย่างสาหรับตัวแปรเม่ือทราบค่า σ ที่มีค่า p1 = 0.02, p2 = 0.15, α = 0.01 และ β = 0.05 จงหาค่าของ n และ k (Banks J. อา้ งองิ ใน สายชล สนิ สมบรู ณ์ทอง, 2554: 582) 43. จงหาค่าของ n และ k สาหรับแผนการสุ่มตัวอย่างตัวแปรที่มี p1 = 0.02, p2 = 0.08, α = 0.01 และ β = 0.05 คุณลักษณะทที่ าการวดั มกี ารแจกแจงแบบปกติ และทราบคา่ σ (Banks J. อ้างอิงใน สายชล สินสมบูรณท์ อง, 2554: 582) 44. น้าหนักของธัญพืชข้าวโพดแปรผันในแต่ละกล่องด้วยการแจกแจงแบบปกติ โดยมีส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน เป็น 0.2 ออนซ์ ความแปรผันในการดาเนินงานบรรจุมีอิทธิพลต่อน้าหนักเฉล่ียของข้าวโพดในกล่อง แต่ไม่มี อทิ ธิพลต่อสว่ นเบ่ยี งเบนมาตรฐาน กาหนดให้ขีดจากัดข้อกาหนดล่างของน้าหนักข้าวโพดเป็น 16 ออนซ์ และ ให้ทุกกล่องมีน้าหนักน้อยกว่าที่ไม่เป็นไปตามข้อกาหนดน้ี จงออกแบบแผนการสุ่มตัวอย่างสาหรับตัวแปรใน รูปแบบที่ 2 ซงึ่ มี p1 = 0.01, p2 = 0.04, α = 0.05 และ β = 0.10 (Banks J. อ้างอิงใน สายชล สนิ สมบรู ณ์ทอง, 2554: 582) 45. แผนการสุ่มตัวอย่างสาหรับตัวแปรโดยท่ีไม่ทราบค่า σ และกาหนดให้ p1 = 0.01, p2 = 0.04, α = 0.05 และ β = 0.10 สมมติวา่ ตัวแปรภายใตก้ ารพจิ ารณามีการแจกแจงแบบปกติ จงหาค่า n (Banks J. อา้ งอิงใน สายชล สินสมบรู ณ์ทอง, 2554: 582) 46. แผนภูมิสมุ่ ตรวจสอบสาหรับขอ้ มลู แบบหนว่ ยวัดที่มีค่า n = 35 และ k = 1.7 เม่ือตัวอย่างสุ่มจาก Lot ได้ ค่าเฉล่ีย และค่าเบ่ียงเบนมาตรฐานของลักษณะสมบัติที่ต้องการตรวจวัดเท่ากับ 0.73 และ 1.05x10-2 ตามลาดับ ถาสมบัติตามขอ้ กาหนดต้องมีคา่ อยา่ งต่า 0.7 หน่วย ควรสรปุ ผลการตรวจอย่างไรเพราะเหตุใด (สภาวิศวกร, 2555) 47. Sequential Sampling Plan หมายถึงอะไร (สภาวิศวกร, 2555) 48. ความเส่ยี งของผูบ้ รโิ ภคการใช้แผนการชกั ตวั อยา่ งเพ่อื การยอมรับชนดิ ตวั แปร เกดิ ขนึ้ เมื่อใด (สภาวิศวกร, 2555) 49. กาหนดให้แผนการสุ่มตัวอย่างสาหรับตัวแปรโดยท่ีทราบค่า σ ที่มีขีดจากัดข้อกาหนดล่างเป็น 10 และ ขีดจากัดข้อกาหนดบนเป็น 12 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.25 ขนาดรุ่นสินค้าเป็น 1,000 หน่วย ภายใต้การ ตรวจสอบแบบปกติท่ีมีค่า AQL เป็น 2.64% จากผลการสุ่มตัวอย่างพบว่า x = 11.5 จงหาว่าจะยอมรับหรือ ปฏเิ สธรนุ่ สนิ ค้า (Banks J. อา้ งอิงใน สายชล สินสมบรู ณท์ อง, 2554: 584) 50. บริษัทน้าอดั ลมยี่หอ้ หนง่ึ สงั่ ขวดจากผู้ผลิต โดยกาหนดขีดจากัดกาหนดล่างของความทนแรงดึงของขวดไว้ ที่ 200 ปอนดต์ ่อตารางนว้ิ ถ้ามีขวดทที่ นแรงอดั ต่ากว่าท่ีกาหนดอยู่น้อยกว่าหรือเท่ากับ 1% บริษัทต้องการให้ มีความน่าจะเป็นในการยอมรับรุ่น 0.99 ในขณะท่ีถ้าขวดแรงอัดต่ากว่าที่กาหนดมากกว่าหรือเท่ากับ 10% บริษทั ต้องการให้มคี วามน่าจะเป็นในการปฏเิ สธรุ่น 0.90 50.1 จงหาแผนการสุ่มตวั อยา่ งถา้ ทราบคา่ σ 50.2 จงหาแผนการสุม่ ตัวอยา่ งถา้ ไมท่ ราบค่า σ

400 การควบคุมคุณภาพ 50.3 จงหาค่า β ถา้ p = 0.05 50.4 สมมติวา่ จากการสุ่มตัวอย่างขนาด n คานวณ x = 210 ปอนด์ต่อตารางน้ิว และ S = 15 ปอนด์ต่อ ตารางน้วิ ถ้าไม่ทราบคา่ σ บรษิ ัทควรจะยอมรับร่นุ หรอื ปฏเิ สธร่นุ (Banks J. อ้างองิ ใน สายชล สนิ สมบูรณท์ อง, 2554: 583)

บทที่ 6 แผนการชักสง่ิ ตัวอย่าง 401 เอกสารอา้ งองิ กระทรวงอตุ สาหกรรม. (2555). กาหนดมาตรฐานผลิตภัณฑอ์ ตุ สาหกรรมวธิ ีการชักตัวอย่างเพื่อการ ตรวจสอบเชิงคุณภาพ. กรุงเทพมหานคร: ผูแ้ ตง่ . กติ ิศักด์ิ พลอยพานิชเจริญ. (2542) มาตรฐานระบบการตรวจสอบด้วยการชกั สิ่งตัวอยา่ งเพ่ือท่ียอมรับ MIL-STD-105E. กรงุ เทพมหานคร: สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญปี่ ุน่ ). ศรีไร จารุภิญโญ. (2540). การควบคุมคณุ ภาพ. กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธัญบุรี. ศภุ ชัย นาทะพนั ธ.์ (2551). การควบคุมคณุ ภาพ. กรงุ เทพมหานคร: ซีเอ็ดยูเคชัน่ . สภาวิศวกร. (2555). ขอ้ สอบสภาวิศวกร สาขาวศิ วกรรมอตุ สาหการ วิชาการควบคมุ คณุ ภาพ. กรุงเทพมหานคร: ผูแ้ ตง่ . สายชล สินสมบูรณ์ทอง. (2554). การควบคมุ คณุ ภาพเชงิ สถิติและวศิ วกรรม. กรงุ เทพมหานคร: จามจุรีโปรดกั ท์. Banks J. (1989). Principles of Quality Control. New York: John Wiley & Sons. Dodge H.F. (1943). A Sampling Inspection Plan for Continuous Production. The Annals of Mathematical Statistics, Vol.14 pp 264-279. Hill I. D. (1961). An Introduction to Sampling Inspection. London: The Institute of Engineering Inspection Monograph. Juran, J. M., & Gryna, F. M. (Eds.). (1988). The Quality Control Handbook (4th ed.). New York: McGraw-Hill. Montgomery D.C. (2009). Introduction to Statistical Quality Control (6th ed). New York: John Wiley & Sons. Schilling E.G., Neubauer V.D. (2009). Acceptance Sampling in Quality Control (2nd ed). FL: Taylor & Francis Group Schilling E.G., Sheesley J.H. (1978). The Performance of MIL-STD-105D under the Switching Rules. Journal of Quality Techonology 10(1978). pp 76-83 and 104-124.

402 การควบคมุ คุณภาพ

แผนบรหิ ารการสอนประจาบทที่ 7 เทคนิคการพัฒนาคณุ ภาพ หวั ข้อเนือ้ หา 7.1 การจัดการคุณภาพโดยรวม 7.1.1 ความหมายของการจัดการคุณภาพโดยรวม 7.1.2 องคป์ ระกอบของการจัดการคุณภาพโดยรวม 7.1.3 โมเดลของการจัดการคุณภาพโดยรวม 7.1.4 กลยทุ ธ์ท่ใี ชใ้ นการจัดการคณุ ภาพโดยรวม 7.1.5 เครอื่ งมือและเทคนิคของการจดั การคุณภาพโดยรวม 7.1.6 การนา PDSA ไปใชใ้ นการจัดการคณุ ภาพโดยรวม 7.1.7 การเลอื กกระบวนการเพื่อการปรบั ปรุง 7.1.8 การเลอื กกระบวนการเพ่อื การปรับปรงุ 7.1.9 อุปสรรคในการประยกุ ตใ์ ช้ TQM 7.2 กจิ กรรมกลุ่มควบคุมคณุ ภาพ 7.2.1 โครงสรา้ งพ้นื ฐานของ QC.Circle 7.2.2 การกาหนดหัวข้อปญั หา 7.2.3 ขัน้ ตอนโดยท่วั ๆ ไปของการจัดทา QC.Circle 7.2.4 วธิ กี ารประชุมอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ 7.3 การปรบั ปรุงอยา่ งตอ่ เนือ่ ง (ไคเซน: Kaizen) 7.3.1 หลักการของการปรับปรงุ อย่างต่อเนอ่ื ง 7.3.2 กิจกรรมไคเซน 7.3.3 หลักการพ้ืนฐาน 3 ประการของไคเซน 7.3.4 เปา้ หมายของไคเซน 7.3.5 การนาไคเซนไปใช้ 7.4 ซกิ ซ์ซิกมา 7.4.1 ความหมายของซกิ ซซ์ กิ มา 7.4.2 ต้นกาเนิดของซิกซ์ซิกมา 7.4.3 กรอบแนวคิดของซกิ ซซ์ ิกมา 7.4.4 แก่นแท้ของซกิ ซ์ซกิ มา 7.4.5 การประยกุ ต์ใช้ซิกซ์ซิกมาของบริษทั GE 7.4.6 โมเดลของซกิ ซซ์ กิ มา 7.4.7 การออกแบบซกิ ซ์ซกิ มา 7.4.8 การนาซิกซซ์ กิ มาไปปฏิบตั ิ

404 การควบคุมคุณภาพ 7.5 การเปรียบเทียบกับองคก์ รทเ่ี ป็นเลศิ 7.5.1 เหตุผลในการทาการเปรียบเทียบ 7.5.2 เคล็ดลบั การเปรยี บเทยี บกับองค์กรทเ่ี ปน็ เลิศ 7.5.3 ชนิดของการเปรยี บเทยี บกบั องค์กรท่เี ป็นเลศิ 7.5.4 วตั ถุประสงค์และแนวปฏิบัตทิ ่เี ป็นเลศิ ในการเปรียบเทียบกบั องค์กรทเ่ี ปน็ เลิศ 7.5.5 การกาหนดกระบวนการในการเปรียบเทียบกบั องค์กรท่เี ป็นเลศิ 7.5.6 ข้นั ตอนท่เี ก่ียวข้องในการเปรียบเทียบกบั องคก์ รท่ีเป็นเลิศ 7.5.7 สาเหตทุ ีก่ ารเปรียบเทยี บล้มเหลว 7.6 มาตรฐานระบบคุณภาพ 7.6.1 ความเปน็ มาของ ISO 9000 7.6.2 มาตรฐาน ISO 9001: 2000 7.6.3 มาตรฐาน ISO 9001: 2008 7.6.4 ผู้ให้การรับรองระบบ ISO 7.7 สรปุ แบบฝกึ หัดท้ายบทท่ี 7 เอกสารอา้ งอิง วัตถปุ ระสงค์เชงิ พฤตกิ รรม เม่อื ผู้เรียน เรียนจบบทน้แี ล้วผู้เรียนควรมีความรู้และทกั ษะดงั น้ี 1. อธิบายเก่ียวกับหลักการ องค์ประกอบ เคร่ืองมือและเทคนิคท่ีใช้ในการจัดการคุณภาพโดยรวม ตลอดจนอปุ สรรคทีเ่ กดิ ขึ้นในการจดั การคุณภาพโดยรวม 2. อธิบายแนวความคิดของคิวซีเซอร์เคิล โครงสร้างพื้นฐาน ลักษณะปัญหาที่สามารถแก้ปัญหาโดย เทคนิคคิวซเี ซอรเ์ คลิ 3. อธิบายความหมาย หลกั การพื้นฐาน เป้าหมาย และกจิ กรรมการประยุกตใ์ ช้ไคเซน 4. อธิบายแนวคิด หลักการ ขีดจากัดเฉพาะของซิกซ์ซิกม่า และการใช้กระบวนการ DMAIC ในการ แก้ปัญหาการจัดการคณุ ภาพ 5. สามารถเข้าใจวัตถุประสงค์ ข้ันตอนการเปรียบเทียบปฏิบัติ และเป้าหมายในการเปรียบเทียบ องค์กรเพือ่ ความเปน็ เลิศ 6. สามารถเข้าใจหลักการ ขอบเขตของมาตรฐาน ISO 9000 อนุกรมมาตรฐาน ISO 9000 และผู้ให้ การรับรองระบบ ISO

บทที่ 7 เทคนิคการพัฒนาคุณภาพ 405 วธิ สี อนและกจิ กรรม 1. ทบทวนเน้ือหาในบทที่ 6 และเฉลยการบา้ นในบทที่ 6 2. นาเขา้ สบู่ ทเรียนโดยการบรรยายเนือ้ หาทีละหัวข้อแลว้ เปิดโอกาสให้ผู้เรียนถามในแต่ละหัวข้อก่อน ข้ามหัวข้อนัน้ 3. แบ่งกลุ่มทารายงาน และยกตัวอย่างกรณีศึกษาเทคนิคการพัฒนาคุณภาพของอุตสาหกรรมใน ปจั จุบนั 4. มอบหมายใหผ้ ้เู รยี นทาแบบฝกึ หดั ทา้ ยบทเป็นการบา้ น 5. เสริมสร้างคุณธรรม และจริยธรรมให้กับนักศึกษาก่อนเลิกเรียน โดยยกตัวอย่างกรณีศึกษาการ ดาเนินกิจการตามหลกั ธรรมาภบิ าลของบรษิ ทั ในปจั จุบัน สอ่ื การเรียนการสอน 1. เอกสารประกอบการสอนวชิ าการควบคุมคุณภาพ 2. กระดานไวทบ์ อร์ด 3. วัสดโุ สตทศั น์ Power point 4. แบบฝกึ หดั ทา้ ยบท 5. เฉลยแบบฝกึ หดั ท้ายบท การวัดผลและการประเมนิ ผล การวัดผล 1. สังเกตจากพฤติกรรมและบรรยากาศระหว่างเรยี น 2. ถามตอบระหวา่ งเรียน 3. แบบฝึกหดั ทีม่ อบหมายให้ในแต่ละครงั้ การประเมินผล 1. จากการทากจิ กรรมกลมุ่ เสรจ็ ตามเวลา 2. ทาแบบฝกึ หัดมีความถูกต้องไมน่ อ้ ยกว่า 80%

406 การควบคมุ คุณภาพ บทท่ี 7 เทคนคิ การพฒั นาคณุ ภาพ ในปัจจุบันปัจจัยท่ีสาคัญในการตัดสินใจเลือกซ้ือสินค้า หรือการเลือกใช้บริการของผู้บริโภคคือ คาว่า คุณภาพ โดยองค์กรต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น โรงพยาบาล โรงงานอุตสาหกรรม ร้านค้าปลีก ธนาคารหรือสถาบัน ทางการเงิน ได้มีการใส่ใจตัวลูกค้ามากข้ึน ดังน้ันการเข้าใจความต้องการของลูกค้า การปรับปรุงคุณภาพใน ด้านผลิตภัณฑ์และคุณภาพในด้านการบริการ จึงเป็นปัจจัยสาคัญที่จะทาให้ธุรกิจน้ันประสบความสาเร็จและ สามารถแข่งขันในตลาดได้ ซ่ึงจะเห็นได้จากการนาเรื่องคุณภาพของสินค้าและบริการมารวมไว้ในกลยุทธ์ของ องคก์ ร 7.1 การจดั การคณุ ภาพโดยรวม (Total Quality Management: TQM) ปรยี าวดี ผลอเนก (2556) การจัดการคุณภาพโดยรวมน้ันอยู่ภายใต้แนวคิดของการจัดการบนพื้นฐานของ ความพึงพอใจของลูกค้า องค์กรต่างๆ ควรนาแนวคิดของการจัดการคุณภาพโดยรวมเข้าไปประยุกต์ใช้ใน กระบวนการจัดการเพ่ือเปลี่ยนแปลงการบริหารขององค์กร ซ่ึงการจัดการคุณภาพโดยรวมน้ันเป็นเป็น กระบวนการปรับปรุงอยา่ งต่อเนื่องไม่มีทส่ี น้ิ สดุ และตอ้ งใช้เวลานานกว่าจะประสบความสาเร็จได้ 7.1.1 ความหมายของการจดั การคณุ ภาพโดยรวม การจัดการคุณภาพโดยรวม คือ การปรับปรุงคุณภาพอย่างต่อเน่ืองโดยเน้นคุณภาพทั่วทั้งองค์กร และค่าใชจ้ า่ ยในการจดั การคุณภาพทมี่ ีประสิทธิภาพ การจัดการคุณภาพโดยรวม (Total Quality Management: TQM) ประกอบด้วยพ้ืนฐานหลัก 3 ประการ คือ การมุ่งเน้นไปท่ีตัวลูกค้าหรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในองค์กร การมุ่งเน้นไปท่ีกระบวนการเพื่อ สนบั สนุนการปรบั ปรงุ คณุ ภาพโดยรวม และการเรียนรู้ภายในองค์กร (Evans and Linsay อ้างอิงใน ปรียาวดี ผลอเนก, 2556: 17) ดังนั้นการจัดการคุณภาพโดยรวม หมายถึง การปรับปรุงคุณภาพอย่างต่อเนื่อง เน้นคุณภาพท่ัวท้ัง องคก์ ร รวมถึงลกู ค้าและผูม้ สี ่วนไดส้ ่วนเสียในองคก์ ร 7.1.2 องค์ประกอบของการจดั การคุณภาพโดยรวม การจัดการคุณภาพโดยรวม (TQM) เป็นโปรแกรมของจานวนกิจกรรมท่ีมีการทางานร่วมกันอย่าง สมบูรณ์ โดยองคป์ ระกอบของการจัดการคุณภาพโดยรวม ดงั แสดงในรูปท่ี 7.1

บทท่ี 7 เทคนิคการพัฒนาคุณภาพ 407 การฝกึ อบรม ความแนว่ แน่ของวัตถปุ ระสงค/์ ความม่งุ มนั่ ในระยะยาว มงุ่ เน้นไปทกี่ ระบวนการ การมสี ่วนรว่ มของพนักงาน การจดั การ วิธีการทางสถติ ิ ทงั้ หมด/การทางานเป็นทีม คณุ ภาพ โดยรวม (TQM) การปรบั ปรงุ กระบวนการ ความเป็นผู้นา อย่างตอ่ เนื่อง มุง่ เนน้ ไปที่ลูกคา้ ซพั พลายเออร/์ พันธมติ รทางธรุ กิจ รปู ที่ 7.1 องค์ประกอบของการจัดการคณุ ภาพโดยรวม (ทีม่ า: Ramasamy อ้างองิ ใน ปรยี าวดี ผลอเนก, 2556: 18) 7.1.3 โมเดลของการจดั การคุณภาพโดยรวม ปรยี าวดี ผลอเนก (2556) กระบวนการ (Process) เป็นการเชื่อมโยงหลักระหว่างความสามารถใน การวางแผน (นโยบายการขับเคล่ือนความเป็นผู้นากลยุทธ์พันธมิตร และแหล่งทรัพยากร) ตลอดจนบุคลากร ในองค์กรอย่างประสทิ ธิภาพสามารถวดั ไดโ้ ดยพนักงาน ชมุ ชน ลูกค้า และผลผลิต โมเดล 4Ps เป็นองค์ประกอบหลักของโมเดลการจัดการคุณภาพโดยรวม (TQM) ซึ่งเป็นส่ิงจาเป็นในการ บริหารงานในการนาองค์กรไปสู่ความสาเร็จในศตวรรษท่ี 21 โมเดลเหล่าน้ีเป็นโครงสร้างสาคัญในการศึกษาการ จัดการคุณภาพโดยรวม จากกรอบแนวคิดของการจัดการคุณภาพโดยรวม ดังแสดงในรูปที่ 7.2 เราจะไม่ควรท่ีจะ ประเมินคุณค่าความสาคัญของ 3Cs ได้แก่ วัฒนธรรม (Culture) การติดต่อส่ือสาร (Communication) และความ มุ่งมั่น (Commitment) ต่าจนเกินไป โมเดลใหม่ของการจัดการคุณภาพโดยรวมนั้น จะมีความสมบูรณ์ก็ต่อเม่ือ ผลผลิตออกมาตามเป้าหมาย ซึ่งได้รับการบูรนาการมาจากกรอบแนวคิดของ 4Ps ส่งผลให้สามารถนาองค์กรไปสู่ ความสาเร็จได้ โมเดลใหมข่ องการจดั การคุณภาพโดยรวมนั้น มาจากการจัดเตรียมกรอบแนวคิดของประสิทธิภาพ ท่ีได้ควบคลุมไปถึงมุมมองขององค์กรและการดาเนินการขององค์กร ประสิทธิภาพจะประสบความสาเร็จได้ ด้วยการใช้แนวทางการดาเนินงานที่เป็นเลิศ และการวางแผนท่ีเกี่ยวเนื่องกับพนักงานเพ่ือท่ีจะปรับปรุง กระบวนการซง่ึ โมเดลของการจัดการคณุ ภาพโดยรวม (Oakland S.J อ้างอิงใน ปรียาวดี ผลอเนก, 2556: 19) ประกอบด้วย 1. การวางแผน (Planning) คือ การพัฒนาและการนานโยบาย ตลอดจนกลยุทธ์ที่ได้กาหนดไว้มา ปรับใช้กบั พันธมิตร และแหลง่ ทรพั ยากรรวมถงึ การออกแบบคณุ ภาพ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook