456 นอกจากนี้ ผู้ใช้สามารถทาสาเนาเลเยอร์ให้ได้ตาแหน่งแบบซ้อนทับกัน โดยการคลิกเลือก เครื่องมือ Move tool จากน้ันให้กดปุ่ม Alt + บนแป้นคีย์บอร์ด จะได้เลเยอร์ท่ีมีการซ้อนทับกัน ทาให้ วตั ถุทซ่ี อ้ นทบั กนั มมี ติ ิมากยงิ่ ขน้ึ ดงั ภาพท่ี 5.132 เปล่ียนสเี ลเยอร์บนสุด กดปมุ่ Alt + ภาพท่ี 5.132 การทาสาเนาเลเยอร์แบบซ้อนทบั กัน 2.3 การรวมเลเยอร์ (Merge Layers) คือการรวมเลเยอร์มากกว่า 1 เลเยอร์ ซ่งึ อาจเปน็ เล เยอร์ที่มีการปรับแต่งเรียบร้อยแล้ว นามารวมให้เป็นเลเยอร์เดียวกัน เพ่ือลดจานวนเลเยอร์ในการทางาน และลดขนาดของไฟล์ โดยการรวมเลเยอรด์ ้วยวธิ ีการตา่ ง ๆ มดี ังนี้ 2.3.1 รวมเลเยอร์ที่เลือกกับเลเยอร์ท่ีอยู่ด้านล่าง (Mereg down Layers) โดยคลิกเลือก เลเยอร์ท่ีต้องการ จากนั้นคลิกเลือกเมนู Layer > Mereg Down หรือกดปุ่ม Ctrl + E บนแป้นคีย์บอร์ด เลเยอร์ทีเ่ ลือกจะถกู รวมเข้ากับเลเยอรด์ ้านลา่ ง ดังภาพท่ี 5.133 กดปุ่ม Ctrl + E รวมเลเยอรท์ ่ีเลือกกับเลเยอร์ล่าง ภาพที่ 5.133 การรวมเลเยอร์ดา้ นลา่ ง 2.3.2 รวมเลเยอรท์ ัง้ หมดที่ไม่ได้ซ่อนให้เปน็ เลเยอรเ์ ดยี วกัน (Merge Visible) โดยคลิกเลือก เมนู Layer > Merge Visigle หรือกดปุ่ม Ctrl + Shift + E บนแป้นคีย์บอร์ด เลเยอร์ท่ีไม่ได้ซ่อนจะรวม เปน็ เลเยอรเ์ ดยี วกันทง้ั หมด ดงั ภาพท่ี 5.134
457 เลเยอรท์ ซ่ี อ่ น เลเยอร์ท่ีไมไ่ ดซ้ ่อน รวมเปน็ เลเยอร์เดยี ว ภาพท่ี 5.134 การรวมเลเยอร์ทง้ั หมดที่ไม่ได้ซ่อน 2.3.3 รวมเฉพาะเลเยอร์ท่ีเลือก โดยการกดปุ่ม Ctrl บนแป้นคีย์บอร์ดค้างไว้ แล้วคลิก เลือกเลเยอรท์ ่ตี อ้ งการ เมอื่ ได้จานวนเลเยอรท์ ี่ตอ้ งการ ให้กดปมุ่ Ctrl + E ดงั ภาพท่ี 5.135 คลิกเลือก 3 เลเยอร์ ภาพที่ 5.135 การรวมเฉพาะเลเยอร์ทเ่ี ลือก 2.3.4 รวมเลเยอรท์ ้ังหมดให้เป็นเลเยอร์ใหม่ โดยเลเยอรเ์ ดิมยังคงอยู่ ใช้วธิ ีคลิกเลอื กเลเยอร์ ใดเลเยอร์หน่ึง แล้วกดปุ่ม Ctrl + Alt + Shift + E บนแป้นคีย์บอร์ด เลเยอร์ท้ังหมดจะถูกรวมเป็นเลเยอร์ ใหม่ ดังภาพท่ี 5.136
458 เลเยอรใ์ หม่ คลกิ เลอื กแลว้ กดปุ่ม ภาพที่ 5.136 การรวมเลเยอร์ท้งั หมดใหเ้ ป็นเลเยอรใ์ หม่ 2.4 การรวมกลุ่มเลเยอร์ (Group from Layers) คือ การรวมเลเยอร์ที่มีรูปแบบหรอื ลักษณะ คล้ายกัน เลเยอร์ท่ีเป็นองค์ประกอบสาหรับวัตถุชิ้นเดียวกัน หรือเลเยอร์ที่ต้องการรวมกลุ่ม นามารวมไว้ใน กลุ่มเลเยอร์เดียวกัน โดยการคลิกเลือกเลเยอร์ท่ีต้องการรวมกลุ่ม จากน้ันคลิกเลือกคาสั่ง Group from Layer แล้วกาหนดช่ือกลมุ่ หรือใชว้ ธิ กี ารลากเลเยอรไ์ ปยงั ปุ่มสร้างกลมุ่ เลเยอร์ ดังภาพที่ 5.137 คลิกเลอื กคาส่ัง ลากเลเยอร์มายังป่มุ กลมุ่ เลเยอร์ คลกิ เลือกเลเยอร์ ภาพท่ี 5.137 การรวมกลุม่ เลเยอร์
459 2.5 การเช่ือมโยงเลเยอร์ (Link Layers) คือการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างเลเยอร์ที่เลือก เมื่อมีการปรับขนาดหรือย้ายตาแหน่ง จะมีผลกับเลเยอร์ท่ีเช่ือมโยงกันอยู่ โดยการคลิกเลือกเลเยอร์ที่ ต้องการเช่ือมโยง จากนั้นให้คลิกท่ีปุ่ม Link Layers หรือลากเลเยอร์ไปยังปุ่มสร้างการเชื่อมโยงเลเยอร์ ดัง ภาพท่ี 5.138 และหากต้องการยกเลิกการเช่ือมโยง ให้คลิกเลือกเลเยอร์ที่เชื่อมโยงอยู่ แล้วคลิกท่ีปุ่ม Link Layers คลกิ เลือกเลเยอร์ สัญลกั ษณก์ ารเชอื่ มโยง การปรบั ขนาดจะมีผลกับเลเยอรท์ ่เี ช่ือมโยงกัน ภาพท่ี 5.138 การเชอ่ื มโยงเลเยอร์ 2.6 การจัดเรียงวัตถุ (Align) และการกระจายวัตถุ (Distribute) ท่ีอยู่ในเลเยอร์ ด้วย เคร่ืองมือเคลื่อนย้าย (Move Tool) เพ่ือจัดเรียงวัตถุในแต่ละเลเยอร์ให้มีแนวท่ีเท่ากัน ประกอบด้วย จัด วัตถุให้ชิดขอบด้านบน (Align Top Edges) จัดวัตถุให้ชิดขอบด้านล่าง (Align Bottom Edges) จัดวัตถุให้ อยู่กึ่งกลางในแนวต้ัง (Align Vertical Centers) จัดวัตถุให้อยู่ก่ึงกลางในแนวนอน (Align Horizontal Centers) จัดวัตถุให้ชิดขอบด้านซ้าย (Align Left Edges) จัดวัตถุให้ชิดขอบด้านขวา (Align Right Edges) และกระจายวตั ถุให้มรี ะยะห่างระหว่างวตั ถุทเี่ ท่ากัน ประกอบดว้ ย กระจายระยะห่างให้เท่ากัน โดยยึดขอบ ด้านบนของวัตถุ (Distribute Top Edges) กระจายระยะห่างให้เท่ากัน โดยยึดขอบด้านล่างของวัตถุ (Distribute Bottom Edges) กระจายระยะห่างในแนวตั้งให้เท่ากัน โดยยึดก่ึงกลางของวัตถุ (Distribute Vertical Centers) กระจายระยะห่างในแนวนอนให้เท่ากัน โดยยึดกึ่งกลางของวัตถุ ( Distribute Horizontal Centers) กระจายระยะหา่ งให้เท่ากนั โดยยดึ ขอบด้านซ้ายของวัตถุ (Distribute Left Edges) กระจายระยะห่างให้เท่ากัน โดยยึดขอบด้านขวาของวัตถุ (Distribute Right Edges) โดยคลิกเลือกเลเยอร์ วัตถุท่ีต้องการจัดเรียง แล้วคลิกเลือกเครื่องมือ Move Tool จากนั้นให้เลือกคาส่ังการจัดเรียงหรือการ กระจายวตั ถจุ ากแถบตวั เลอื กเพม่ิ เตมิ (Option Bar) ดงั ภาพท่ี 5.139
460 คาสั่งจดั เรียงและกระจายวัตถุ กดปมุ่ Ctrl + เลอื กเลเยอรท์ ี่ตอ้ งการจดั เรยี ง จัดวตั ถชุ ดิ ขอบดา้ นบน ภาพที่ 5.139 การจัดเรยี งวัตถุในเลเยอร์ 3. รปู แบบเลเยอร์ รูปแบบเลเยอร์ (Layer Style) คือ การตกแต่งภาพกราฟิกหรือวัตถุในเลเยอร์ให้มีรูปแบบ แตกต่างไปจากรปู แบบเดิม เป็นการเพิ่มเอฟเฟกตใ์ ห้กับภาพหรือวตั ถุในเลเยอร์ เช่น เพิ่มเส้นขอบวัตถุ เพิ่ม เงาวัตถุ เพิ่มลวดลาย เพ่ิมความนูนให้กับภาพ เพ่ิมรัศมีเรืองแสง เป็นต้น ซึ่งภายใน 1 เลเยอร์ สามารถ ปรับแต่งรูปแบบได้มากกว่า 1 รูปแบบ โดยคลิกเลือกเลเยอร์ท่ีต้องการปรับแต่ง จากนั้นคลิกเลือกที่เมนู Layer > Style หรือคลิกเลือกเลเยอร์ท่ีต้องการปรับแต่ง จากน้ันคลิกที่ปุ่ม Add a Layer Style ในพาเนล เลเยอร์ โปรแกรมจะแสดงหนา้ ต่าง Layer Style เพอ่ื ให้กาหนดคา่ ต่าง ๆ ดงั ภาพท่ี 5.140
เลอื กรูปแบบเลเยอร์ 461 เลอื กรูปแบบเลเยอร์ ภาพที่ 5.140 การใช้งาน Layer Style การปรับแต่งรูปแบบเลเยอร์ จะต้องมีการกาหนดค่าต่าง ๆ ให้กับรูปแบบอย่างเหมาะสม ภาพกราฟิกท่ีได้ จึงจะมีความสวยงาม และไมค่ วรปรับแต่งรูปแบบมากจนเกินไป อาจทาให้ภาพกราฟิกขาด ความสวยงามหรือเกิดความเสียหายกับภาพกราฟิกได้ โดยรายละเอยี ดการปรับแตง่ รูปแบบท่ีสาคญั มดี งั น้ี 3.1 Blending Options คือ ตัวเลือกเพิ่มเติมของ Blending Mode หรือการผสมผสานสีภาพ ในเลเยอร์ โดยคลิกเลือกเลเยอร์ท่ีต้องการ จากน้ันคลิกเลือกเมนู Layer > Layer Style > Blending Options หรอื ดับเบิลคลกิ ในเลเยอร์ท่ีต้องการปรบั การผสานสี มีรายละเอยี ดดังภาพท่ี 5.141
462 A B C กดปุ่ม Alt + คลกิ ลงบนแถบ ภาพท่ี 5.141 การใชง้ านรูปแบบ Blending Options General Blending (A) กาหนดค่าท่ัวไปสาหรับการผสานสี ประกอบด้วย เลือกโหมดการผสาน สี มีโหมดเช่นเดียวกับพาเนลเลเยอร์ (Blend Mode) และเพ่ิม-ลด ค่าความโปร่งใสให้กับเลเยอร์ที่เลือก (Opacity) Advance Blending (B) กาหนดค่าข้ันสูงสาหรับการผสานสี ประกอบด้วย เพิ่ม-ลด ค่าความ โปร่งใสหรือความเข้มของสีให้กับเลเยอร์ที่เลือก (Fill Opacity) เลือกการผสานสีเฉพาะโหมดสี R (Red) G (Green) หรือ B (Blue) หรือเลือกการผสานสีกับโหมดสีทั้งหมด (Channels) กาหนดระดับการผสานสี ของเลเยอร์ท่ีเลือกกับเลเยอร์ที่อยู่ด้านล่าง (Knockout) ได้แก่ 1) ระดับปกติ (None) 2) ระดับต้ืน (Shallow) และ 3) ระดับลึก (Deep) และการกาหนดการผสานสีให้มีผลกับเลเยอร์ตามรูปแบบท่ีกาหนด ได้แก่ 1) กาหนดให้โหมดการผสานสีมีผลกับรูปแบบเลเยอร์ (Blend Interior Effects as Group) 2) กาหนดให้รูปแบบเลเยอร์มีผลกับเลเยอร์ที่เป็น Clipped Mask (Blend Clipped Layers as Group) 3) กาหนดใหร้ ปู รา่ งมคี วามโปรง่ ใส (Transparency Shapes Layer) 4) กาหนดใหเ้ ลเยอร์ Mask สามารถซอ่ น รูปแบบเลเยอร์ได้ (Layer Mask Hides Effects) และ 5) กาหนดให้เลเยอร์ Mask ภาพเวกเตอร์ สามารถ ซ่อนรูปแบบเลเยอร์ได้ (Vector Mask Hides Effects) Blend If (C) กาหนดเง่ือนไขการผสานสี โดยยึดจากโทนสีในภาพเปน็ หลัก สามารถปรับสีได้จาก แถบ This Layer คือการปรับเลเยอร์ปัจจุบัน และแถบ Underlying Layer คือการปรับเลเยอร์ท่ีอยู่ ด้านลา่ ง สามารถเพ่ิมจุดปรบั สไี ด้ โดยการกดปุ่ม Alt บนแปน้ คียบ์ อรด์ คา้ งไวพ้ ร้อมกบั คลกิ ลงในแถบสี
463 3.2 Bevel & Emboss คือ การกาหนดพื้นผิวให้เอียงและยกนูนขึ้นให้กับภาพหรือวัตถุใน เลเยอรท์ ี่เลือก อาศัยแสงและเงาในการปรับขอบภาพ สามารถกาหนดรปู แบบพ้ืนผิว หรอื เงาสะทอ้ นได้ โดย การปรับแตง่ Bevel & Emboss มรี ายละเอยี ดดงั ภาพท่ี 5.142 A C B ภาพที่ 5.142 การใช้งานรปู แบบ Bevel & Emboss Structure (A) กาหนดโครงสร้างของรูปแบบ ประกอบด้วย เลือกรูปแบบความเอียงหรือยกนูน (Style) ได้แก่ 1) ปรับเอียงด้านนอก (Outer Bevel) 2) ปรับเอียงด้านใน (Inner Bevel) 3) ยกนูนข้ึน (Emboss) 4) ยกนูนตรงกลางคล้ายหมอน (Pillow Emboss) และ 5) ยกนูนตรงเส้นขอบ (Stroke Emboss) เทคนิคการแสดงเส้น (Technique) ได้แก่ 1) เส้นเรียบเนียน (Smooth) 2) การสลักเส้นแบบ แข็ง (Chisel Hard) และ 3) การสลักเส้นแบบอ่อนนุ่ม (Chisel Soft) การเพ่ิม-ลด ระดับความลึกของเส้น (Depth) การกาหนดทิศทาง (Direction) ได้แก่ 1) กาหนดให้ยกนูนข้ึน (Up) และ 2) กาหนดให้ลึกลง (Down) การเพิ่ม-ลด ขนาดเส้นขอบ (Size) และการเพ่ิม-ลด ค่าความอ่อนนุ่มของเส้น (Soften) Shading (B) กาหนดเฉดสี ประกอบด้วย กาหนดองศาตกกระทบของเงา (Angle) กาหนดองศา ความสูงของเงา (Altitude) กาหนดให้ทุกรูปแบบใช้ทิศทางและมุมตกกระทบแบบเดียวกันท้ังหมด (Use Global Light) กาหนดรูปร่างของเงาสะท้อน (Gloss Contour) กาหนดโหมดการผสานสีในส่วนของแสง สามารถเลือกสขี องแสงได้ (Highlight Mode) การเพ่มิ -ลด คา่ ความโปรง่ ใสของแสง (Opacity) การกาหนด โหมดการผสานสีในส่วนของเงา สามารถเลือกสีของเงาได้ (Shadow Mode) และการเพิ่ม-ลด ค่าความ โปร่งใสของเงา (Opacity) Options (C) เมนูเพ่มิ เตมิ ของรปู แบบ Bevel & Emboss ประกอบด้วย การปรบั แตง่ เงาสะท้อน (Contour) และการปรับแต่งพืน้ ผิวเมือ่ มีการปรบั ความเอยี งหรอื ยกนนู (Texture)
464 3.3 Stroke คือ การสร้างเส้นขอบภาพหรือเส้นขอบวัตถุในเลเยอร์ที่เลือก สามารถกาหนด ลกั ษณะของเส้นขอบ ขนาดเส้นขอบ รูปแบบเสน้ ขอบ หรอื การผสานสีเสน้ ขอบได้ โดยการปรบั แตง่ Stroke มีรายละเอียดดงั ภาพท่ี 5.143 A C B ภาพที่ 5.143 การใชง้ านรปู แบบ Stroke Structure (A) กาหนดโครงสร้างของรูปแบบเส้นขอบ ประกอบด้วย การเพ่ิม-ลด ขนาดความ หนาของเส้นขอบ (Size) กาหนดตาแหน่งของเส้นขอบ (Position) ได้แก่ 1) เส้นขอบด้านนอกของวัตถุ (Outside) 2) เส้นขอบด้านในของวัตถุ (Inside) และ 3) เส้นขอบกลางวัตถุ (Center) การเลือกโหมดการ ผสานสีให้กับเส้นขอบ (Blend Mode) การเพิ่ม-ลด ค่าความโปร่งใสให้กับเส้นขอบ (Opacity) และ กาหนดให้มกี ารพมิ พ์ทับเส้นขอบ (Overprint) Fill Type (B) กาหนดรูปแบบเส้นขอบ ประกอบด้วย เส้นขอบไล่เฉดสี (Color Gradient) และ เสน้ ขอบลวดลาย (Pattern) Color เส้นขอบสีทบึ Gradient เส้นขอบไลเ่ ฉดสี Pattern เส้นขอบลวดลาย ภาพที่ 5.144 รูปแบบเส้นขอบ Add Stroke (C) ป่มุ เพิม่ เส้นขอบ จะไดเ้ สน้ ขอบทีซ่ อ้ นกนั ตามจานวนทเ่ี พ่ิม
465 3.4 Inner Shadow คือ การสร้างเงาด้านในให้กับภาพหรือวัตถุในเลเยอร์ที่เลือก สามารถ กาหนดทิศทางของเงา การสะท้อนของเงา หรือระยะตกกระทบของเงาได้ โดยการปรับแต่ง Inner Shadow มีรายละเอียดดงั ภาพที่ 5.145 A C B ภาพที่ 5.145 การใชง้ านรูปแบบ Inner Shadow Structure (A) กาหนดโครงสร้างของรูปแบบเงา ประกอบด้วย เลือกโหมดการผสานสีในส่วน ของเงา (Blend Mode) การเพิ่ม-ลด ค่าความโปร่งใสให้กับเงา (Opacity) กาหนดองศาตกกระทบของเงา (Angle) กาหนดให้ทุกรูปแบบใช้ทิศทางและมุมตกกระทบแบบเดียวกันท้ังหมด (Use Global Light) การ เพ่ิม-ลด ระยะห่างระหว่างเงากับขอบภาพ (Distance) การเพิ่ม-ลด ความทึบของเงา (Choke) และการ เพ่มิ -ลด ขนาดของเงา (Size) Quality (B) กาหนดคุณภาพของเงา ประกอบด้วย การปรับแต่งเงาสะท้อน (Contour) การลด รอยหยักบรเิ วณขอบภาพทีเ่ ป็นเส้นโค้งหรือภาพแนวเฉียง (Anti-aliased) และการเพม่ิ -ลด จุดรบกวนในเงา (Noise) Add Inner Shadow (C) ปมุ่ เพม่ิ เงาดา้ นใน จะได้เงาท่ซี อ้ นกันตามจานวนทเี่ พิ่ม 3.5 Inner Glow คือ การสร้างขอบเรืองแสงภายในภาพหรือวัตถุในเลเยอร์ท่ีเลือก สามารถ กาหนดจุดเรืองแสง กาหนดสีเรืองแสง กาหนดความฟุ้งของแสง หรือความโปร่งใสของแสงได้ โดยการ ปรบั แตง่ Inner Glow มีรายละเอียดดังภาพท่ี 5.146
466 A B C ภาพที่ 5.146 การใช้งานรปู แบบ Inner Glow Structure (A) กาหนดโครงสร้างของรปู แบบการเรืองแสง ประกอบด้วย เลือกโหมดการผสานสี ในสว่ นของแสง (Blend Mode) การเพิ่ม-ลด ค่าความโปร่งใสให้กับแสง (Opacity) การเพ่ิม-ลด จุดรบกวน ในแสง (Noise) เลือกสเี รอื งแสง (Color) และกาหนดการเรอื งแสงรปู แบบไล่เฉดสี (Gradient) Elements (B) กาหนดองค์ประกอบของการเรืองแสง ประกอบด้วย เทคนิคการแสดงแสง (Technique) ได้แก่ 1) เรืองแสงแบบอ่อนนุ่ม (Softer) และ 2) เรืองแสงแบบละเอียด (Precise) กาหนด จุดเร่ิมต้นของแสง (Source) ได้แก่ 1) ก่ึงกลางวัตถุ (Center) และ 2) ขอบวัตถุ (Edge) การเพิ่ม-ลด ความ ทึบของแสง (Choke) และการเพมิ่ -ลด ขนาดของแสง (Size) Quality (C) กาหนดคุณภาพของการเรอื งแสง ประกอบด้วย การปรบั แต่งเงาสะท้อน (Contour) การลดรอยหยักบริเวณขอบภาพท่ีเป็นเส้นโค้งหรือภาพแนวเฉียง (Anti-aliased) การเพิ่ม-ลด ระยะการไล่ น้าหนักของการเรืองแสง (Range) และการเพิม่ -ลด ค่าความสนั่ สะเทอื นของขอบละอองเรืองแสง (Jitter) 3.6 Satin คอื การสร้างพื้นผิวให้กับภาพหรือวัตถุในเลเยอรท์ ่ีเลือก ด้วยวธิ ีการสรา้ งแสงและเงา ให้เกิดขึ้นในภาพหรือวัตถุ สามารถกาหนดรูปแบบพื้นผิว และความโปร่งใสของพ้ืนผิวได้ โดยการปรับแต่ง Satin มรี ายละเอียดดังภาพท่ี 5.147 ภาพที่ 5.147 การใช้งานรปู แบบ Satin
467 Structure คือ การกาหนดโครงสร้างของรูปแบบพื้นผิว ประกอบด้วย เลือกโหมดการผสานสีใน ส่วนของพื้นผิว (Blend Mode) การเพ่ิม-ลด ค่าความโปร่งใสให้กับพ้ืนผิว (Opacity) กาหนดองศาตก กระทบของพ้ืนผิว (Angle) การเพ่ิม-ลด ระยะห่างระหว่างพื้นผิวกับขอบภาพ (Distance) การเพ่ิม-ลด ขนาดของพื้นผิว (Size) การปรับแต่งเงาสะท้อน (Contour) การลดรอยหยักบริเวณขอบภาพที่เป็นเส้นโค้ง หรอื ภาพแนวเฉยี ง (Anti-aliased) และกลับดา้ นพ้นื ผิวในวัตถุ (Invert) 3.7 Color Overlay คือ การเทสีลงในภาพหรือวัตถุในเลเยอร์ที่เลือก สามารถเลือกโหมดการ ผสานสี กาหนดสี หรอื ปรบั ความโปรง่ ใสของสีได้ โดยการปรับแต่ง Color Overlay มรี ายละเอียดดังภาพท่ี 5.148 เลือกโหมด สี และความโปรง่ ใส ภาพท่ี 5.148 การใช้งานรปู แบบ Color Overlay 3.8 Gradient Overlay คือ การสร้างเฉดสีลงบนพ้ืนหลังภาพหรือพ้ืนหลังวัตถุในเลเยอร์ท่ี เลือก สามารถปรับโหมดการผสานสี หรือกาหนดรูปแบบการไล่เฉดสีได้ โดยการปรับแต่ง Gradient Overlay มีรายละเอียดดงั ภาพท่ี 5.149 ภาพท่ี 5.149 การใช้งานรูปแบบ Gradient Overlay Gradient คือ การกาหนดรายละเอยี ดของรูปแบบเฉดสี ประกอบดว้ ย เลอื กโหมดการผสานสีใน ส่วนของเฉดสี (Blend Mode) กาหนดให้มีการรวมจุดสี (Dither) การเพ่ิม-ลด ค่าความโปร่งใสให้กับเฉดสี
468 (Opacity) กาหนดรูปแบบการไล่เฉดสี (Gradient) กลับด้านทิศทางการไล่เฉดสี (Reverse) เลือกรูปแบบ การไล่เฉดสี (Style) ได้แก่ 1) ไล่เฉดสีรูปแบบเส้นตรง (Linear Gradient) 2) ไล่เฉดสีรูปแบบวงกลม (Radial Gradient) 3) ไล่เฉดสีจากมุม (Angle Gradient) 4) ไล่เฉดสีรูปแบบสีสะท้อน (Reflected Gradient) และ 5) ไล่เฉดสีรูปแบบเพชร (Diamond Gradient) การจัดตาแหน่งการไล่เฉดสีกับตาแหน่ง ของเลเยอร์ (Align with Layer) กาหนดองศาตกกระทบของการไล่เฉดสี (Angle) และการเพิ่ม-ลด ขนาด ของการไล่เฉดสี (Scale) 3.9 Pattern Overlay คือ การสร้างลวดลายหรือพื้นผิวลงในภาพหรือวัตถุในเลเยอร์ท่ีเลือก สามารถกาหนดรูปแบบพ้ืนผิวหรือลวดลาย หรือปรับความโปร่งใสของลวดลายได้ โดยการปรับแต่ง Pattern Overlay มีรายละเอียดดังภาพท่ี 5.150 ภาพท่ี 5.150 การใชง้ านรูปแบบ Pattern Overlay Pattern คือ การกาหนดรูปแบบลวดลาย ประกอบด้วย เลือกโหมดการผสานสีในส่วนของ ลวดลาย (Blend Mode) การเพ่ิม-ลด ค่าความโปร่งใสให้กับลวดลาย (Opacity) เลือกลวดลายที่ต้องการ (Pattern) จับภาพไปยังภาพต้นฉบับ (Snap to Origin) การเพ่ิม-ลด ขนาดของลวดลาย (Scale) และ เช่อื มโยงลวดลายกบั เลเยอร์ (Link with Layer) 3.10 Outer Glow คือ การสร้างขอบเรืองแสงภายนอกภาพหรือวัตถุในเลเยอร์ท่ีเลือก สามารถ กาหนดจุดเรืองแสง กาหนดสีเรืองแสง หรือปรับความโปรง่ ใสของแสงได้ โดยการปรับแต่ง Outer Glow มี รายละเอยี ดดังภาพท่ี 5.151
469 A B C ภาพที่ 5.151 การใชง้ านรูปแบบ Outer Glow Structure (A) กาหนดโครงสรา้ งของรูปแบบการเรืองแสง ประกอบด้วย เลือกโหมดการผสานสี ในส่วนของแสง (Blend Mode) การเพิม่ -ลด ค่าความโปร่งใสให้กับแสง (Opacity) การเพ่มิ -ลด จุดรบกวน ในแสง (Noise) การเลือกสเี รืองแสง (Color) และกาหนดการเรอื งแสงรูปแบบไล่เฉดสี (Gradient) Elements (B) กาหนดองค์ประกอบของการเรืองแสง ประกอบด้วย เทคนิคการแสดงแสง (Technique) ได้แก่ 1) เรืองแสงแบบอ่อนนุ่ม (Softer) 2) เรืองแสงแบบละเอียด (Precise) การเพ่ิม-ลด การกระจายของแสง (Spread) และการเพิม่ -ลด ขนาดของแสง (Size) Quality (C) กาหนดคุณภาพของการเรอื งแสง ประกอบดว้ ย การปรบั แตง่ เงาสะทอ้ น (Contour) การลดรอยหยักบริเวณขอบภาพที่เป็นเส้นโค้งหรือภาพแนวเฉียง (Anti-aliased) การเพ่ิม-ลด ระยะการไล่ น้าหนกั ของการเรืองแสง (Range) และการเพมิ่ -ลด ค่าความสั่นสะเทือนของขอบละอองเรืองแสง (Jitter) 3.11 Drop Shadow คือ การสร้างเงาตกกระทบในตาแหน่งพื้นหลังของภาพหรือวัตถุใน เลเยอร์ท่ีเลือก สามารถกาหนดทิศทางของเงา ความคมชัดของเงา หรือระยะตกกระทบของเงาได้ โดยการ ปรับแต่ง Drop Shadow มีรายละเอยี ดดังภาพที่ 5.152 A B ภาพที่ 5.152 การใชง้ านรูปแบบ Drop Shadow
470 Structure (A) กาหนดโครงสร้างของรูปแบบเงาตกกระทบ ประกอบด้วย การเลือกโหมดการ ผสานสีในส่วนของเงาตกกระทบ (Blend Mode) เลือกสีของเงาตกกระทบ (Color) การเพ่ิม-ลด ค่าความ โปร่งใสให้กับเงาตกกระทบ (Opacity) กาหนดองศาตกกระทบของเงาตกกระทบ (Angle) กาหนดให้ทุก รูปแบบใช้ทิศทางและมุมตกกระทบแบบเดียวกันท้ังหมด (Use Global Light) การเพ่ิม-ลด ระยะห่าง ระหว่างเงาตกกระทบกับขอบภาพ (Distance) การเพิ่ม-ลด การกระจายของเงาตกกระทบ (Spread) และ การเพม่ิ -ลด ขนาดของเงาตกกระทบ (Size) Quality (B) กาหนดคุณภาพของการเรืองแสง ประกอบด้วย การปรับแต่งเงาสะทอ้ น (Contour) การลดรอยหยักบริเวณขอบภาพท่ีเป็นเส้นโค้งหรือภาพแนวเฉียง (Anti-aliased) การเพิ่ม-ลด ระยะการไล่ นา้ หนักของเงาตกกระทบ (Range) และการเพิม่ -ลด จดุ รบกวนในเงาตกกระทบ (Noise) การเปลยี่ นรูปทรงภาพและวัตถุ การเปลี่ยนรูปทรงภาพและวัตถุ คือการใช้คาสั่งในการ หมุน ปรับขนาด บิด ดัด หรือย้ายตาแหน่ง ภาพหรอื วตั ถุท่ีสรา้ งขึ้น เพอ่ื ให้ไดช้ นิ้ งานทมี่ ีรูปทรงแปลกใหม่ มีขนาดใหม่ เกิดมติ ิใหม่ และมีความเหมาะสม กับการใช้งานมากย่ิงขึ้น โดยเครื่องมือและคาส่ังท่ีใช้จะอยู่ในกลุ่ม Transform และกลุ่ม Image มี รายละเอียดการใช้งาน ดังน้ี 1. การหมนุ ภาพ การหมุนภาพ (Image Rotation) เป็นการหมุนภาพให้ได้แนวองศา และทิศทางภาพตามท่ี ต้องการ โดยการเปิดภาพที่ต้องการหมุน จากนั้นคลิกเลือกเมนู Image > Image Rotation จะ ประกอบดว้ ยคาสัง่ ในการหมุนภาพในลักษณะต่าง ๆ ดงั ภาพท่ี 5.153 เปิดภาพที่ต้องการหมนุ เลือกคาสงั่
หมุน 180 องศา หมนุ 90 องศาตามเข็มนาฬิกา 471 หมุน 90 องศาทวนเข็มนาฬิกา กลับดา้ นแนวนอน กลับดา้ นแนวต้ัง หมนุ ตามองศาที่กาหนด กาหนดองศาและทศิ ทาง ภาพท่ี 5.153 การหมุนภาพ 2. การปรบั ขนาดภาพ การปรับขนาดภาพ (Image Size) เป็นการกาหนดขนาดภาพให้ได้ขนาดตามท่ตี ้องการ และเพื่อ ความเหมาะสมกบั การใช้งาน สามารถปรบั ขนาดตามอตั ราส่วนมาตรฐาน ปรับตามหนว่ ยวัด หรือปรบั ขนาด ภาพแบบอสิ ระได้ โดยเครอ่ื งมอื และคาสงั่ ทีใ่ ชส้ าหรับการปรับขนาดภาพ มดี งั นี้ 2.1 Image Size การปรับขนาดภาพจากขนาดต้นฉบับ เพื่อให้ได้ภาพที่มีขนาดเพ่ิมข้ึนหรือ ลดลง รวมถงึ การปรบั คา่ ความละเอียดของภาพ โดยการเปดิ ภาพทตี่ ้องการปรบั ขนาด จากนั้นคลกิ เลอื กเมนู Image > Image Size หรือกดปุ่ม Ctrl + Alt + I บนแป้นคีย์บอร์ด มีรายละเอียดเกี่ยวกับการปรับขนาด ภาพ ดงั ภาพท่ี 5.154 A B C FD GE H ภาพที่ 5.154 การปรบั ขนาดภาพ
472 Image Size (A) ขนาดภาพต้นฉบับท่กี าลังเปดิ ใช้งาน Dimensions (B) อัตราส่วนความกว้าง x ความสงู ของภาพ Fit To (C) การปรับขนาดภาพใหพ้ อดีกับขนาดมาตรฐาน เช่น ขนาด 1024x768px เป็นต้น Width (D) กาหนดขนาดความกว้างของภาพ มีหน่วยวัดเป็น Percent Pixels Inches Centimeters Millimeters Points Picas และ Columns Height (E) กาหนดขนาดความสงู ของภาพ มหี น่วยวัดเชน่ เดียวกบั ความกวา้ งของภาพ Constrain aspect ratio (F) กาหนดใหค้ งอตั ราส่วนความกวา้ งและความสูงของภาพ เมอ่ื มี การปรบั ขนาดภาพใหม่ โดยอัตราสว่ นตอ้ งสัมพนั ธ์กบั อตั ราสว่ นตน้ ฉบับ เพอ่ื ปอ้ งกนั ภาพผิดเพ้ยี น Resolution (G) กาหนดค่าความละเอียดภาพ ประกอบด้วย พิกเซลต่อตารางนิ้ว (Pixels/Inch) และพกิ เซลตอ่ ตารางเซนตเิ มตร (Pixels/Centimeter) Resample (H) กาหนดให้ เม่ือมีการเปลี่ยนแปลงค่าความละเอียดภาพ (Resolution) ขนาดของภาพจะไมเ่ พิ่มขนึ้ หรือลดลง 2.2 Canvas Size การเพิ่มหรือลดพื้นที่ในภาพ โดยไม่มีผลกับความละเอียดของภาพ นิยมใช้ เพื่อขยายพื้นท่ีการทางานในภาพ โดยเปิดภาพที่ต้องการเพิ่มหรือลดพ้ืนที่ จากนั้นคลิกเลือกเมนู Image > Canvas Size หรือกดปมุ่ Ctrl + Alt + C บนแปน้ คยี บ์ อร์ด มีรายละเอียดดงั ภาพท่ี 5.155 A B E C D (Height) ภาพท่ี 5.155 การขยายพน้ื ทใ่ี นภาพ Current Size (A) แสดงขนาดภาพต้นฉบับ ได้แก่ ค่าความกว้าง (Width) และค่าความสูง Width (B) กาหนดขนาดความกว้าง และ Height กาหนดขนาดความสงู Relative (C) กาหนดความสัมพนั ธ์ของการขยายพนื้ ท่ี Anchor (D) กาหนดทศิ ทางทต่ี อ้ งการให้เพม่ิ หรือลด พ้นื ที่ในภาพ ดงั ภาพท่ี 5.156
473 ภาพที่ 5.156 การกาหนดทศิ ทางขยายพ้นื ที่ Canvas extension color (E) เลือกสสี าหรบั พื้นท่ีใหมท่ ่ีขยายจากพนื้ ท่เี ดมิ 2.3 Free Transform คาสั่งสาหรับ ย่อ-ขยาย ปรับขนาด และหมุนวัตถุ ภาพถ่าย รวมถึง ตัวอักษรได้อย่างอิสระ วัตถุที่จะใช้งานกับคาสง่ั ต้องเป็นวัตถุทีอ่ ยู่ในเลเยอร์ โดยคลิกเลือกเลเยอรท์ ่ีต้องการ จากนัน้ คลกิ เลือกเมนู Edit > Free Transform หรือ กดปุ่ม Ctrl + T บนแปน้ คีย์บอรด์ โปรแกรมจะแสดง เสน้ Transform รอบวตั ถุทเ่ี ลอื ก ดงั ภาพที่ 5.157 ย่อ-ขยาย หมุน ภาพท่ี 5.157 การใชง้ านคาสั่ง Free Transform 2.4 Transform คาส่ังเพิ่มเติมของคาสั่ง Free Transform เพ่ือเปลี่ยนรูปทรงของวัตถุ ภาพถ่าย รวมถึงตัวอักษร ให้เกิดรูปทรงต่าง ๆ ตามที่ต้องการ วัตถุที่จะใช้งานกับคาสั่งต้องเป็นวัตถุท่ีอยู่ ในเลเยอร์ โดยคลิกเลือกเลเยอร์ท่ีต้องการ จากนั้นกดปุ่ม Ctrl + T บนแป้นคีย์บอร์ด แล้วคลิกเลือกเมนู Edit > Transform หรอื คลิกขวาท่ีวตั ถุ แล้วเลอื กคาสั่งทีต่ ้องการ ประกอบดว้ ยคาสง่ั ดงั น้ี
474 Rotate หมนุ Skew ปรับความเอยี ง Scale ปรับขนาด Distort บิด Warp บดิ Perspective ปรบั มมุ มอง ภาพปกติ Flip Horizontal กลับดา้ นแนวนอน Flip Vertical กลับด้านแนวตัง้ ภาพท่ี 5.158 การใชง้ านคาสั่ง Transform การปรับแตง่ สใี หก้ บั ภาพถา่ ย การปรับแต่งสใี หก้ ับภาพถ่าย (Adjustments) เป็นการใช้คาส่งั เพ่ือแก้ไขหรือปรับปรุงคุณภาพของ ภาพถา่ ย ใหม้ ีความน่าสนใจมากย่ิงขึ้น เช่น ปรับความคมชดั ปรบั ความสว่าง ปรับโทนสี เป็นต้น การใช้งาน คาสั่งในกลุ่มของการปรับแต่งสี ให้เปิดภาพที่ต้องการ จากนั้นคลิกเลือกท่ีเมนู Image > Adjustments หรือทาการเปิดพาเนล Adjustments จากเมนู Window แล้วเลือกคาส่ังที่ต้องการ โดยมีคาสั่งในการ ปรับแตง่ สี ดังน้ี 1. Brightness/Contrast การปรับความสว่าง (Brightness) และการปรับความเปรียบต่างของแสง (Contrast) เพ่ือแก้ไข ภาพถ่ายท่ีมืดหรือแสงน้อย ขาดความ คมชัด โดยคลิกเลือกท่ีเมนู Image > Adjustments > Brightness/Contrast ดงั ภาพท่ี 5.159
ก่อนปรบั 475 หลงั ปรบั ปรบั ความสวา่ ง ปรับความเปรยี บตา่ ง ภาพที่ 5.159 การปรบั Brightness/Contrast 2. Levels การปรบั ระดับความมดื หรือความสว่าง (Levels) เปน็ การปรบั การกระจายตัวของแสงและเงา ให้ ภาพมีคุณภาพดียิ่งข้ึน ได้ภาพท่ีมีความมืดและความสว่างในปริมาณท่ีเหมาะสม เหมาะสาหรับภาพท่ีผ่าน การปรับด้วย Brightness/Contrast แต่ภาพยังมีคุณภาพไม่ดีขึ้น โดยคลิกเลือกที่เมนู Image > Adjustments > Levels หรือกดปมุ่ Ctrl + L บนแป้นคยี ์บอรด์ ดงั ภาพท่ี 5.160
476 กอ่ นปรับ หลังปรับ A B D CE ภาพท่ี 5.160 การปรับ Levels Preset (A) เลือกรปู แบบการปรบั Levels แบบสาเรจ็ รปู Channel (B) กาหนดโหมดสีที่ต้องการปรับแต่ง ได้แก่ RGB (Red Green Blue) เฉพาะ Rad เท่านั้น เฉพาะ Green เทา่ นนั้ และเฉพาะ Blue เทา่ นน้ั Input Levels (C) การปรับระดับความมืดหรือความสว่าง โดยจะแสดงกราฟความหนาแน่นของ จานวนจดุ พกิ เซล ไลจ่ ากโทนมืดสุด (ดา้ นซ้าย) ไปยงั โทนสวา่ งสุด (ด้านขวา) ประกอบด้วยจดุ ที่สามารถปรับ ได้ 3 จุด ได้แก่ จุดดา (Black) จุดเทา (Gray) และจุดขาว (White) และ Output Levels แถบสาหรับปรบั คา่ สีดา (Black) หรอื สีขาว (White) Options (D) ตัวเลอื กเพ่ิมเตมิ สาหรบั การปรบั Levels Eyedropper (E) เครื่องมือสาหรับดูดสี 3 คา่ เพือ่ ทาสาเนาค่าสจี ดุ พกิ เซลในภาพ และกาหนดค่า สีดา (Black) สีเทา (Gray) หรือสีขาว (White) 3. Curves การปรับระดับความมืดหรือความสว่างด้วยเส้นกราฟ (Curve) สามารถปรับแต่งสี โทนสี การ กระจายของสี ความเปรียบต่าง ลักษณะสีภายในภาพ และสามารถควบคุมค่าต่าง ๆ ภายในเส้นกราฟได้ โดยคลิกเลือกท่ีเมนู Image > Adjustments > Curves หรือกดปุ่ม Ctrl + M บนแป้นคีย์บอร์ด ดังภาพท่ี 5.161
ก่อนปรบั 477 หลงั ปรบั A B C G D E F ภาพที่ 5.161 การปรับ Curves Preset (A) เลือกรปู แบบการปรับ Curves แบบสาเร็จรปู Channel (B) กาหนดโหมดสีที่ต้องการปรับแต่ง ได้แก่ RGB (Red Green Blue) เฉพาะ Rad เทา่ น้นั เฉพาะ Green เทา่ นนั้ และเฉพาะ Blue เท่านั้น Edit Point to Modify (C) กาหนดจดุ บนเส้นเพื่อควบคุมเส้นโค้ง และ Draw to Modify ลากเส้น อสิ ระเพอื่ ควบคมุ เสน้ โคง้ Curves (D) กราฟแสดงเสน้ โคง้ สาหรับปรบั ระดบั ความมืดหรือความสว่าง Eyedropper (E) เครอ่ื งมอื สาหรับดูดสี 3 ค่า เพื่อทาสาเนาค่าสีจุดพิกเซลในภาพ และกาหนดค่าสี ดา (Black) สีเทา (Gray) หรอื สีขาว (White) Show Clipping (F) แสดงตวั อยา่ งเป็นภาพวาด Options (G) ตัวเลือกเพ่ิมเตมิ ประกอบด้วย แสดงจานวนคา่ สี (Show Amount of) กาหนดขนาด ของเส้นกริดในกราฟ (Grid Size) และซ่อน/แสดง เคร่ืองมอื ตา่ ง ๆ ในกราฟ (Show)
478 4. Exposure การปรับแต่งแสง (Exposure) เป็นวิธีการเลียนแบบคุณสมบัติการชดเชยแสงของกล้องถ่ายภาพ ในกรณที ภี่ าพมีความมืด ขุ่นมัว ไม่สดใส หรือถา่ ยภาพในสถานทท่ี ี่มีแสงไมเ่ พียงพอ สามารถชดเชยแสงด้วย การใช้คาสั่ง Exposure เพื่อช่วยแก้ปัญหาได้ โดยคลิกเลือกที่เมนู Image > Adjustments > Exposure ดงั ภาพที่ 5.162 กอ่ นปรับ หลังปรับ A B CE D ภาพที่ 5.162 การปรับ Exposure Preset (A) เลอื กรูปแบบการปรับ Exposure แบบสาเร็จรปู Exposure (B) การปรบั แสงทางบวกหรอื ทางลบ Offset (C) การชดเชยแสงทางบวกหรือทางลบ Gamma Correction (D) การแกไ้ ขแกมมา หรือการแกไ้ ขแสงสีดาหรือแสงสีขาวในภาพ Eyedropper (E) เคร่ืองมอื สาหรับดดู สี 3 ค่า เพือ่ ทาสาเนาค่าสจี ุดพกิ เซลในภาพ และกาหนดค่า สีดา (Black) สีเทา (Gray) หรือสีขาว (White) 5. Vibrance การเพ่ิมความสดของสี (Vibrance) โดยจะปรับค่าความเข้มสี ซึ่งจะให้น้าหนักการปรับไม่เท่ากัน และการเพิ่มความอิ่มตวั ของสี (Saturation) โดยจะปรับค่าความเข้มสี ซึ่งจะให้น้าหนักเท่ากันในทุก ๆ ช่วง สี โดยคลิกเลือกทีเ่ มนู Image > Adjustments > Vibrance ดงั ภาพท่ี 5.163
479 กอ่ นปรับ หลงั ปรับ ปรบั ความสดและความอ่ิมตัว ภาพที่ 5.163 การปรบั Vibrance 6. Hue/Saturation การปรับเฉดสีให้กับภาพ โดยใช้หลักการปรับ HSB (Hue, Saturation, Brightness) สามารถ ย้อมสีภาพ เพ่ิม-ลด ความสดของสี ปรับความอิ่มตัวของสี ปรับโทนสี และเลือกเฉพาะสีท่ีต้องการปรับได้ โดยคลิกเลือกที่เมนู Image > Adjustments > Hue/Saturation หรือกดปุ่ม Ctrl + U บนแป้นคีย์บอร์ด ดงั ภาพท่ี 5.164 กอ่ นปรบั หลังปรบั A B C D E ภาพที่ 5.164 การปรับ Hue/Saturation
480 Preset (A) เลือกรปู แบบการปรับ Hue/Saturation แบบสาเรจ็ รปู (B) เลือกปรับเฉพาะบางสีที่มีในภาพ ประกอบด้วย ปรับสีหลักทุกสี (Master) ปรับเฉพาะสีแดง (Red) ปรับเฉพาะสีเหลือง (Yellow) ปรับเฉพาะสีเขียว (Green) ปรับเฉพาะสีฟ้า (Cyan) ปรับเฉพาะสีน้า เงิน (Blue) และปรบั เฉพาะสีมว่ งแดง (Magenta) Hue (C) ปรับโทนสีในภาพ Saturation ปรับความอ่ิมตัวของสีในภาพ และ Lightness ปรับ ความสว่างของภาพ (D) เครื่องมือสาหรับคลกิ ลากบนภาพเพอ่ื แสดงโทนสใี นจดุ พกิ เซลที่คลิกเลือก (E) แถบด้านบนแสดงคา่ สีเดมิ ในภาพ และแถบด้านลา่ งแสดงค่าสีท่ีมกี ารเปลี่ยนแปลงจากเดมิ 7. Color Balance การปรับความสมดุลสี (Color Balance) เป็นการปรับสมดุลของโทนสีให้กับภาพในโหมด RGB และ CMYK สามารถแก้ไขปัญหาสีผิดเพี้ยน ภาพมืดหรือสว่างเกินไป โดยคลิกเลือกท่ีเมนู Image > Adjustments > Color Balance หรือกดป่มุ Ctrl + B บนแปน้ คยี ์บอรด์ ดงั ภาพท่ี 5.165 กอ่ นปรับ หลังปรบั A B C ภาพที่ 5.165 การปรบั Color Balance Color Levels (A) แสดงค่าโทนสีในทางลบและทางบวก CMY (B) แถบปรับค่าความสมดุลระหว่างโทนสีของภาพ ประกอบด้วย สีฟ้า (Cyan) สีม่วงแดง (Magenta) สีเหลอื ง (Yellow) สแี ดง (Red) สเี ขยี ว (Green) และสีนา้ เงนิ (Blue) Tone Balance (C) ตัวเลือกการปรับสมดุลสีตามโทนแสง ประกอบด้วย โทนมืด (Shadows) โทนปานกลาง (Midtones) และโทนสวา่ ง (Highlights)
481 8. Black & White การปรับภาพให้เป็นโทนสีขาวดา (Black & White) สามารถเปลี่ยนภาพสีให้เป็นโทนสีขาวดา และยังสามารถปรับตามโทนสีของภาพได้ โดยคลกิ เลือกที่เมนู Image > Adjustments > Black & White หรอื กดป่มุ Alt + Shif + Ctrl + B บนแป้นคยี บ์ อรด์ ดงั ภาพที่ 5.166 ก่อนปรบั หลังปรับ A B C D ภาพที่ 5.166 การปรับ Black & White Preset (A) เลือกรปู แบบการปรับ Back & White แบบสาเร็จรปู Tone (B) แถบสาหรับปรับโทนสี โดยจะแสดงค่าโทนสีเดิมท่ีมีอยู่ในภาพ ประกอบด้วย โทนสี แดง (Red) โทนสีเหลือง (Yellow) โทนสีเขียว (Green) โทนสีฟ้า (Cyan) โทนสีน้าเงิน (Blue) และโทนสี ม่วงแดง (Magenta) Tint (C) ตัวเลอื กสาหรบั ปรบั โทนสีออ่ นหรอื สีแบบฟลิ ม์ กรองแสง Tint Tone (D) ปรับโทนสีเมอื่ คลิกเลือกคาสั่ง Tint ประกอบดว้ ย ปรับโทนสีในภาพ (Hue) และ ปรบั ความอม่ิ ตัวของสีในภาพ (Saturation)
482 9. Photo Filter การปรับสีของภาพด้วยตัวกรอง (Photo Filter) เป็นการปรับอุณหภูมิสีของภาพด้วยฟิลเตอร์ หรือตัวกรอง มีรูปแบบเช่นเดียวกับฟิลเตอร์ของเลนส์กล้องถ่ายภาพ หรือปรับสีด้วยการกาหนดสีตัวกรอง โดยคลิกเลอื กท่เี มนู Image > Adjustments > Photo Filter ดงั ภาพท่ี 5.167 ก่อนปรบั หลังปรบั ก่อนปรบั หลังปรับ A B C D ภาพที่ 5.167 การปรับ Photo Filter Filter (A) เลอื กรปู แบบตวั กรองสาเรจ็ รูป Color (B) เลอื กรปู แบบตัวกรองจากสี Density (C) กาหนดความเข้มหรอื ความหนาแน่นของสีตวั กรอง Preserve Luminosity (D) กาหนดให้การปรับสดี ้วยตัวกรอง เปน็ การเพ่มิ ความสวา่ งจากเดิม
483 10. Channel Mixer การปรับโทนสีในโหมด RGB หรือ CMYK เป็นการเพิ่มหรือลดโทนสีในแต่ละแม่สีของภาพ ผล การปรบั โทนสจี ะมีความแตกต่างจากการปรับรูปแบบอื่น เน่ืองจากเปน็ การปรบั โทนสีจากแมส่ ีโดยตรง โดย คลิกเลอื กทเ่ี มนู Image > Adjustments > Channel Mixer ดงั ภาพที่ 5.168 ก่อนปรับ หลงั ปรับ A B C D E ภาพที่ 5.168 การปรบั Channel Mixer Preset (A) เลือกรูปแบบการปรบั Channel Mixer แบบสาเร็จรปู Output Channel (B) เลือกแม่สีหลักท่ีต้องการปรับ ประกอบด้วย Red Green Blue เม่ือภาพ อย่ใู นโหมด RGB หรือ Cyan Magenta Yellow และ Black เมอ่ื ภาพอย่ใู นโหมด CMYK Source Channels (C) แถบสาหรบั เพ่ิมหรือลดความเขม้ ของโทนสี RGB หรอื CMYK Constant (D) แถบสาหรบั เพ่ิมหรอื ลดค่าสตี ามแม่สที ีป่ รับ Monochrome (E) ปรบั โทนสภี าพเป็นสี ขาว-ดา
484 11. Color Lookup การปรับสีของภาพในลักษณะการย้อมสีให้มีรูปแบบตามชุดสีที่เลือก ประกอบด้วยชุดสี ได้แก่ 1) 3DLUT File ชุดสีฟิล์ม 2) Abstract ชุดสีนามธรรม และ 3) Device Link ชุดสีการเชื่อมโยง ซึ่งแต่ละ หมวดหมู่จะมีรูปแบบให้เลือกใช้ โดยคลิกเลือกท่ีเมนู Image > Adjustments > Photo Filter ดังภาพท่ี 5.169 กอ่ นปรับ หลังปรับ เลือกรูปแบบชุดสี ภาพที่ 5.169 การปรับ Color Lookup 12. Invert การสลับโทนสี (Invert) เป็นการเปล่ียนโทนสีภาพให้อยู่ในโทนตรงกันข้ามกับสีปัจจุบัน มักใช้ ร่วมกับการออกแบบภาพให้ได้สีแบบแผ่นฟิล์มถ่ายภาพ โดยคลิกเลือกท่ีเมนู Image > Adjustments > Invert หรอื กดปุม่ Ctrl + I บนแปน้ คียบ์ อรด์ ดงั ภาพที่ 5.170 ก่อนปรับ หลังปรับ ภาพท่ี 5.170 การปรบั Invert
485 13. Posterize การปรบั ลดจานวนเฉดสใี นภาพ เพื่อใหไ้ ด้ภาพท่มี ีเฉดสแี ตกต่างจากตน้ ฉบบั หรอื มีเฉดสีท่ีอ่อน ลง สามารถกาหนดระดับเฉดสีได้ต้ังแต่ 2 ถึง 255 โดยคลิกเลือกที่เมนู Image > Adjustments > Posterize ดงั ภาพที่ 5.171 ก่อนปรับ หลงั ปรับ กาหนดระดับเฉดสี ภาพท่ี 5.171 การปรับ Posterize 14. Threshold การปรบั ภาพสีใหเ้ ปน็ ภาพขาวดาดว้ ยวิธีการลดระดบั โทนสี ซง่ึ มี 2 โทนสี ได้แก่ สีขาวและสีดา เทา่ นนั้ โดยคลิกเลือกท่ีเมนู Image > Adjustments > Threshold ดงั ภาพท่ี 5.172 กอ่ นปรับ หลังปรบั แสดงระดับโทน ขาว-ดา กาหนดระดบั โทน ขาว-ดา ภาพท่ี 5.172 การปรบั Threshold
486 15. Gradient Map การปรับสีภาพแบบไล่เฉดสี (Gradient) สามารถกาหนดสีและรูปแบบการไล่เฉดสีได้ โดยคลิก เลอื กท่ีเมนู Image > Adjustments > Gradient Map ดงั ภาพท่ี 5.173 กอ่ นปรบั หลังปรบั C D E F AG BH ภาพที่ 5.173 การปรบั Gradient Map Gradient Used for Grayscale Mapping (A) เลือกรูปแบบการไล่เฉดสี โดยคลิกท่ีแถบสี โปรแกรมจะแสดงหนา้ ต่าง Gradient Editer Gradient Options (B) ตัวเลือกเพิ่มเติมการไล่เฉดสี ประกอบด้วย รวมจุดสีการไล่เฉดสี (Dither) และกลบั ดา้ นการไล่เฉดสี (Reverse) Preset (C) รปู แบบการไล่เฉดสที ม่ี กี ารกาหนดคา่ ไวแ้ ล้ว สามารถคลกิ เลือกและใชง้ านได้ทนั ที Name (D) ชื่อรปู แบบการไล่เฉดสี Gradient Type (E) รูปแบบการไล่เฉดสี ประกอบด้วย รูปแบบสีทึบ (Solid) และรูปแบบสสี ลบั ไปมา (Noise) Smoothness (F) กาหนดคา่ ความเรยี บเนียนของการไลเ่ ฉดสี Color Stop (G) เลือกสีสาหรับไล่เฉดสี และ Opacity Stop ระดับความทึบแสงในการไล่เฉดสี การเพ่ิมสามารถทาได้โดยคลิกท่ีตาแหน่งด้านบนหรือด้านล่างแถบสี การลบสามารถทาได้โดยคลิกท่ีหมุด แลว้ ลากออกจากแถบสี
487 Stops (H) การกาหนดค่า Opacity ประกอบดว้ ย กาหนดระดับความทบึ แสง (Opacity) กาหนด ตาแหน่งความทึบแสงบนแถบสี (Location) และปุ่มลบตาแหน่งความทึบแสง (Delete) การกาหนดค่า Color ประกอบด้วย เลือกสี (Color) กาหนดตาแหน่งการไล่เฉดสี (Location) และปุ่มลบตาแหน่งการไล่ เฉดสี (Delete) 16. Selective Color การปรับความอ่ิมตัวเฉพาะโทนสีที่ต้องการในภาพ เป็นการเพ่ิมหรือลดความอิ่มตัวของสีด้วย โหมดสี CMYK ลงในภาพ สามารถกาหนดเฉพาะโทนสีที่ต้องการปรับได้ นิยมใช้แก้ไขความผิดเพ้ียนของสี โดยคลกิ เลือกทเ่ี มนู Image > Adjustments > Selective Color ดงั ภาพท่ี 5.174 กอ่ นปรบั หลงั ปรบั A B C D ภาพท่ี 5.174 การปรบั Selective Color Preset (A) เลือกรูปแบบการปรับ Selective Color แบบสาเร็จรปู Color (B) เลือกโทนสีในภาพทีต่ อ้ งการปรบั CMYK Mode (C) กาหนดโทนสีในโหมดสี CMYK ทีต่ อ้ งการปรบั ประกอบด้วย โทนสฟี า้ (Cyan) โทนสมี ว่ งแดง (Magenta) โทนสเี หลอื ง (Yellow) และโทนสีดา (Black) Method (D) กาหนดวิธีการปรับสี ประกอบด้วย ปรับเฉพาะสีท่ีเลือกอยู่ (Relative) และปรับสี ทีเ่ ลือกและสีใกล้เคียง (Absolute)
488 17. Shadows/Highlights การปรับค่าโทนสีในส่วนของเงา (Shadows) และในส่วนของแสง (Highlights) ของภาพ เพ่ือ แก้ไขภาพท่มี เี งามดื หรอื ภาพที่มีความสว่างมากเกินไป ใช้วธิ กี ารตัดส่วนท่ีมดื หรอื สว่างออก แลว้ แทนท่ดี ้วยสี ที่ใกลเ้ คียงกัน โดยคลกิ เลือกทเ่ี มนู Image > Adjustments > Shadows/Highlights ดงั ภาพท่ี 5.175 กอ่ นปรบั หลงั ปรบั A B C D ภาพที่ 5.175 การปรบั Shadow/Highlights Shadow (A) ปรับโทนสีในส่วนของเงา ประกอบด้วย การเพิ่ม-ลด ความสว่าง (Amount) การ เพม่ิ -ลด โทนสีของภาพ (Tone) และการเพิ่ม-ลด ความนุ่มนวลของระดบั เงา (Radius) Highlights (B) ปรับโทนสีในส่วนของแสง ประกอบด้วย การเพ่ิม-ลด ความสว่าง (Amount) การเพมิ่ -ลด โทนสขี องภาพ (Tone) และการเพ่ิม-ลด ความนมุ่ นวลของระดบั แสง (Radius) Adjustments (C) ปรบั ค่าเพ่ิมเตมิ ประกอบดว้ ย การเพม่ิ -ลด ความเขม้ ของสี (Color) การเพิ่ม- ลด ค่าความเปรียบต่าง (Midtone) การเพ่ิมความเข้มของสีดา (Black Clip) และเพิ่มความเข้มของสีขาว (White Clip) Save Defaults (D) บนั ทึกการปรับค่าเป็นคา่ เร่ิมตน้ ในการปรับครั้งต่อไป
489 18. HDR Toning การปรับโทนภาพแบบ HDR (High Dynamic Range) เป็นการปรับภาพให้มีความเปรียบต่าง ของแสง ระหว่างความมืดและความสว่าง เน่ืองจากกล้องถ่ายภาพอาจไม่สามารถเก็บรายละเอียดความ เปรียบต่างของแสงจานวนมากได้ การปรับ HDR จึงเป็นการปรับเพื่อให้ภาพมีความสมจริง มองเห็น รายละเอียดของภาพได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น สามารถเพิ่มหรือลดความเข้มของเงาและแสงได้ โดยคลิกเลือกท่ี เมนู Image > Adjustments > HDR Toning ดงั ภาพท่ี 5.176 ก่อนปรับ หลังปรบั A B C DF E ภาพท่ี 5.176 การปรับ HDR Toning Preset Preset (A) เลอื กรปู แบบการปรบั HDR Toning แบบสาเรจ็ รูป Method (B) เลือกรูปแบบการทางานของ HDR ประกอบด้วย การปรับแสงและแกมมา (Exposure and Gamma) การบีบอัดแสง (Highlight Compression) การปรับค่าฮิสโตแกรม (Equalize Histogram) และการปรบั ในพน้ื ทภี่ าพ (Local Adaptation) Edge Glow (C) กาหนดความหนาและความสวา่ งบริเวณขอบภาพ Tone and Detail (D) เพิม่ -ลด ความสวา่ งในภาพและรายละเอยี ดภาพ Advanced (E) กาหนดคา่ แบบละเอียด ควบคุมแสง เงา และความสดของสี Toning Curve and Histogram (F) ปรับค่าโทนสจี ากเส้นกราฟ Histogram
490 19. Desaturate การตัดคา่ สอี อกจากภาพ ทาให้ภาพเหลือเพียงสีขาว-ดา หรอื คล้ายภาพโหมด Grayscale ด้วย วิธีการลดค่า Saturation ของภาพลง และจะยังคงภาพในโหมด RGB ซึ่งสามารถใช้คาสั่งการปรับอ่ืน ๆ ร่วมกันได้ โดยคลิกเลือกท่ีเมนู Image > Adjustments > Desaturate หรือกดปุ่ม Ctrl + Shift + U บน แป้นคยี ์บอรด์ ดงั ภาพท่ี 5.177 กอ่ นปรบั หลงั ปรับ ภาพที่ 5.177 การปรับ Desaturate 20. Match Color การปรับโทนสีของภาพด้วยวิธีการเทียบสีจากภาพอื่น นิยมใช้แก้ไขภาพถ่ายที่มาจากสถานที่ เดียวกัน แต่ได้ภาพท่ีมีสีแตกต่างกัน โดยการปรับโทนสีด้วยวิธี Match Color จะต้องเตรียมภาพ 2 ภาพ แยกเป็น 2 เลเยอร์ เมื่อเตรียมภาพเรียบร้อยแล้ว ให้คลิกเลือกท่ีเมนู Image > Adjustments > Match Color ดงั ภาพที่ 5.178 ก่อนปรบั ภาพทต่ี อ้ งการเทยี บ หลงั ปรับ เตรยี มภาพ 2 เลเยอร์ A B C ภาพท่ี 5.178 การปรับ Match Color
491 Destination Image (A) รายละเอียดภาพปลายทางท่ีจะเทียบสี ประกอบด้วย ช่ือภาพ เป้าหมาย (Target) และคลิกเลือกเพื่อให้ปรับสีทั้งภาพแม้จะมีการเลือกพ้ืนที่เฉพาะไว้ก็ตาม (Ignore Selection when Applying Adjustment) Image Options (B) ตัวเลือกการปรับ Math Color ประกอบด้วย การกาหนดระดับความ สว่าง (Luminance) การกาหนดระดับความเข้มของสี (Color Intensity) การกาหนดโทนสีท่ีเข้มเกินไปให้ จางลง (Fade) และคงโทนสกี ลางของภาพเดิมไว้ (Neutralize) Image Statistics (C) รายละเอียดการปรับ Math Color ประกอบดว้ ย นาพนื้ ที่ทเ่ี ลือกเฉพาะ ตาแหนง่ จากภาพต้นฉบับมาใช้เปน็ สีตน้ แบบ (Use Selection in Source to Calculate Colors) นาพ้ืนที่ ท่ีเลือกเฉพาะตาแหน่งจากภาพเป้าหมายมาใช้เป็นสีต้นแบบ (Use Selection in Target to Calculate Adjustment) เลือกภาพเป้าหมายที่ต้องการเทียบสี (Source) เลือกเลเยอร์ท่ีจะใช้เป็นสีต้นแบบ (Layer) เปิดรูปแบบการปรับ Math Color ท่ีมีอยู่เดิมเพ่ือนามาใช้งาน (Load Statistics) และบันทึกการปรับค่า Math Color (Save Statistics) 21. Replace Color การเปล่ียนสีภาพเฉพาะจุดท่ีเลือก สามารถกาหนดสีใหม่ที่ต้องการแทนท่ีสีเดิม และสามารถ ควบคุมความเข้มหรือความสว่างให้กับสีใหม่ได้ โดยคลิกเลือกท่ีเมนู Image > Adjustments > Replace Color มขี น้ั ตอนดงั ภาพที่ 5.179 1. ใช้เครอื่ งมอื Add to sample คลกิ พืน้ ทที่ ่ตี อ้ งการเปล่ยี นสี 2. ปรับคา่ Fuzziness เพื่อกาหนดขอบเขตพนื้ ท่ี 3. ปรบั คา่ ความอ่มิ ตวั คา่ ความสว่าง และแสง ตวั อยา่ งพืน้ ท่ีทเี่ ลือก กอ่ นปรับ หลังปรบั ภาพที่ 5.179 การปรับ Replace Color
492 22. Equalize การปรบั คา่ สีของภาพให้สมดลุ ด้วยวธิ ีการเกลี่ยสีให้เท่ากัน โดยจะคานวณค่าความสว่างของแต่ ละพิกเซลในภาพ แล้วนาพิกเซลแต่ละจุดไปจับคู่สีใหม่ ทาการปรับจุดที่สว่างที่สุดเป็นสีขาว และปรับจุดที่ มืดท่ีสุดเปน็ สดี า นยิ มใช้แก้ไขภาพจากการสแกน เนอ่ื งจากมกั จะมีเม็ดสที ่ีเกิดจากฝุ่นในตัวเคร่ืองสแกน โดย คลกิ เลือกทเ่ี มนู Image > Adjustments > Equalize ดงั ภาพที่ 5.180 กอ่ นปรับ หลังปรับ ภาพที่ 5.180 การปรับ Equalize การปรับแต่งภาพดว้ ยฟิลเตอร์ ฟิลเตอร์หรือตัวกรองภาพ (Filter) คือ คาส่ังสาหรับปรับแต่งภาพถ่ายให้มีความแปลกใหม่ สร้าง ความน่าสนใจให้กับภาพ โดยฟิลเตอร์จะอยู่ในรูปแบบของเอฟเฟกต์ (Effect) สาเร็จรูป สามารถนาไป ปรับแต่งภาพหรือปรับปรุงภาพให้มีลักษณะตามท่ีต้องการได้ เช่น การทาภาพเบลอ การแปลงภาพถ่ายให้ เปน็ ภาพวาด การทาภาพให้เป็นภาพเกา่ เปน็ ตน้ การใชง้ านฟิลเตอร์สามารถเรยี กใช้คาส่ังตา่ ง ๆ ไดจ้ ากเมนู Filter บนแถบเมนูหลกั มรี ายละเอียดการใชง้ าน ดงั น้ี 1. ฟิลเตอรแ์ กลเลอรี่ ฟิลเตอร์แกลเลอร่ี (Filter Gallery) คือ ชุดคาส่ังท่ีรวบรวมฟิลเตอร์รูปแบบต่าง ๆ ไว้ให้เลือกใช้ กบั ภาพถา่ ย โดยสามารถเรียกใช้ฟิลเตอรแ์ ละปรับแต่งฟลิ เตอร์พร้อมกบั แสดงผลลัพธ์ของการปรบั แต่งทันที สามารถเลือกใช้ฟิลเตอร์ได้หลายรูปแบบในภาพเดียว การใช้งานฟิลเตอร์แกลเลอรี่ ให้คลิกเลือกท่ีเมนู Filter > Filter Gallery โปรแกรมจะแสดงหน้าต่าง Filter Gallery จากน้ันทาการปรับแต่งภาพด้วย ฟิลเตอร์ท่ตี อ้ งการ โดยส่วนประกอบของฟิลเตอร์แกลเลอรี่ มรี ายละเอียดดงั ภาพที่ 5.181
493 A C B D F E ภาพท่ี 5.181 ฟลิ เตอรแ์ กลเลอรี่ (A) แสดงภาพตัวอย่างทีม่ ีการปรบั แต่งดว้ ยฟิลเตอร์ (B) ฟิลเตอร์แกลเลอรี่ หรือชุดรปู แบบฟลิ เตอรท์ ี่ใหเ้ ลอื กใช้งาน (C) ตวั เลือกเพ่ิมเติมของฟลิ เตอร์ โดยตวั เลือกจะเปลี่ยนไปตามรูปแบบฟิลเตอร์ที่เลอื กใชง้ าน (D) แสดงเลเยอรฟ์ ลิ เตอรท์ ม่ี กี ารใช้งานกับภาพ โดยสามารถย้ายตาแหน่ง ซอ่ น/แสดง เลเยอร์ได้ (E) เพ่ิมเลเยอร์ฟลิ เตอรใ์ หม่ (New Effect Layer) ลบฟิลเตอร์ทเ่ี ลือก (Delete Effect Layer) (F) ปมุ่ สาหรบั ย่อ-ขยาย ภาพตัวอยา่ ง การเลือกใช้ฟิลเตอร์ที่มีอยู่ในฟิลเตอร์แกลเลอร่ี เมื่อนาไปใช้กับภาพ ฟิลเตอร์แต่ละรูปแบบจะมี ความแตกต่างกัน ตัวอย่างการใช้งานฟิลเตอร์แตล่ ะรูปแบบ มดี งั นี้ 1.1 Artistic ฟิลเตอร์ท่ีใช้สาหรับปรับแต่งภาพถ่ายให้มีรูปแบบภาพวาดศิลปะ เช่น ภาพวาด ดว้ ยสนี ้า ภาพวาดดว้ ยดินสอ ภาพเรอื งแสง ภาพขรุขระ เป็นต้น ตัวอยา่ งการใช้งานฟลิ เตอร์ดงั ภาพที่ 5.182 Colored Pencil Cutout Dry Brush Paint Daubs Palette Knife Plastic Wrap ภาพท่ี 5.182 การใชง้ านฟลิ เตอร์ Artistic
494 1.2 Brush Strokes ฟิลเตอร์ที่ใช้สาหรับปรับแต่งภาพถ่ายให้มีรูปแบบเป็นภาพวาดด้วยแปรง ระบายสี โดยจะเนน้ เส้นขอบของภาพให้มีความคมชดั มากข้ึน ตัวอยา่ งการใช้งานฟิลเตอร์ดงั ภาพที่ 5.183 Accented Edges Angled Strokes Crosshatch Dark Strokes Ink Outlines Spatter ภาพท่ี 5.183 การใชง้ านฟลิ เตอร์ Brush Strokes 1.3 Distort ฟลิ เตอร์ท่ใี ชส้ าหรับปรบั แต่งภาพถ่ายใหม้ ีรปู แบบพื้นผิวทแ่ี ตกตา่ งไปจากเดมิ เช่น ทาให้พ้นื ผิวนมุ่ นวล หรอื พนื้ ผิวแตกกระจาย เป็นตน้ ตัวอย่างการใชง้ านฟิลเตอรด์ ังภาพท่ี 5.184 Diffuse Glow Glass Ocean Ripple ภาพที่ 5.184 การใช้งานฟลิ เตอร์ Distort 1.4 Sketch ฟิลเตอร์ที่ใช้สาหรับปรับแต่งภาพถ่ายให้มีรูปแบบพ้ืนผวิ เป็นลวดลาย โดยนาสีของ Foreground และ Background ท่ีกาหนดไว้ในกล่องเคร่ืองมือ มาสร้างเป็นลวดลาย ตัวอย่างการใช้งาน ฟิลเตอรด์ งั ภาพที่ 5.185
495 Bes Relief Chalk&Charcoal Charcoal Chrome Conte Crayon Graphic Pen Halftone Patten Note Paper Photocopy Plaster Reticulation Stamp ภาพท่ี 5.185 การใช้งานฟลิ เตอร์ Sketch 1.5 Stylize ฟิลเตอร์ท่ีใช้สาหรับปรับแต่งภาพถ่ายให้มีรูปแบบเส้นขอบที่ชัดเจนมากยิ่งข้ึน ตวั อย่างการใชง้ านฟิลเตอร์ดงั ภาพที่ 5.186 ภาพที่ 5.186 การใช้งานฟิลเตอร์ Stylize
496 1.6 Texture ฟิลเตอร์ท่ีใช้สาหรับปรับแต่งภาพถ่ายให้มีรูปแบบพ้ืนผิวแบบต่าง ๆ เช่น พ้ืนผิว กระเบือ้ ง พนื้ ผวิ กระจก เปน็ ตน้ ตวั อย่างการใชง้ านฟิลเตอร์ดงั ภาพที่ 5.187 Craquelure Grain Mosaic Tiles Patchwork Stained Glass Texturizer ภาพที่ 5.187 การใช้งานฟลิ เตอร์ Texture 2. การเบลอ การเบลอ (Blur) คือ ฟิลเตอร์สาหรับปรับภาพถ่ายให้เบลอหรือมัว เพ่ือให้ภาพมีมิติมากย่ิงข้ึน สามารถกาหนดพ้ืนท่ีท่ีต้องการเบลอได้ โดยคลิกเลือกท่ีเมนู Filter > Blur จากน้ันเลือกรูปแบบการเบลอ ตามต้องการ มลี กั ษณะการเบลอของแต่ละรูปแบบ ดงั น้ี 2.1 Box Blur เบลอภาพในรูปแบบพ้ืนท่ีส่ีเหล่ียม โดยจะเบลอจากจุดศูนย์กลางของภาพ แล้ว กระจายออกไปใน 4 ทิศทาง คือ บน ล่าง ซ้าย และขวา สามารถปรับระดับความเบลอได้จากแถบ Radius ดงั ภาพท่ี 5.188 ปรับระดับความเบลอ ภาพที่ 5.188 การใชง้ านฟิลเตอร์ Box Blur
497 2.2 Gaussian Blur เบลอภาพในทกุ จดุ พกิ เซลอยา่ งสมา่ เสมอ ภาพจะถูกเบลอทุกสว่ น สามารถ ปรับระดบั ความเบลอได้จากแถบ Radius ดงั ภาพที่ 5.189 ปรับระดบั ความเบลอ ภาพที่ 5.189 การใช้งานฟิลเตอร์ Gaussian Blur 2.3 Lens Blur เบลอภาพโดยใช้การจาลองการทางานของเลนส์กล้องถ่ายภาพ สามารถปรับ รปู แบบการเบลอไดจ้ ากแถบตวั เลอื กเพิ่มเติม ดงั ภาพที่ 5.190 ปรบั รูปแบบการเบลอ ภาพที่ 5.190 การใช้งานฟลิ เตอร์ Lens Blur
498 2.4 Motion Blur เบลอภาพไปในทศิ ทางของมุมองศาที่กาหนด ภาพจะคล้ายกับมีการเคล่ือนที่ ดว้ ยความเร็ว สามารถปรบั มุมได้จากเมนู Angle และปรับระยะความเบลอได้จากแถบ Distance ดงั ภาพที่ 5.191 ปรบั มุม ปรับระยะการเบลอ ภาพที่ 5.191 การใชง้ านฟิลเตอร์ Motion Blur 2.5 Radial Blur เบลอภาพแบบพ้ืนที่วงกลม สามารถปรับรูปแบบการเบลอให้มีรูปแบบหมุน (Spin) หรอื แบบขยาย (zoom) และปรบั คุณภาพการเบลอได้ 3 ระดบั ได้แก่ Draft Good และ Best คลิก เลือกจุดศูนย์กลางของการเบลอในภาพได้จาก Blur Center และปรับระดับความเบลอได้จากแถบ Amount ดงั ภาพที่ 5.192 ปรับระดับความเบลอ รูปแบบการเบลอ คณุ ภาพการเบลอ คลิกเลอื กจุดศนู ย์กลาง ภาพที่ 5.192 การใช้งานฟลิ เตอร์ Radial Blur
499 2.6 Shape Blur เบลอภาพตามลักษณะของรูปร่าง สามารถเลือกรูปร่างท่ีต้องการเพื่อให้เกิด การเบลอตามรูปรา่ งทเ่ี ลอื กได้ และสามารถปรับระดบั ความเบลอได้จากแถบ Radius ดงั ภาพที่ 5.193 ปรบั ระดับความเบลอ เลือกรูปรา่ ง ภาพที่ 5.193 การใชง้ านฟลิ เตอร์ Shape Blur 2.7 Smart Blur เบลอภาพเฉพาะสีที่ใกล้เคียงกันเข้าหากัน ส่วนที่มีค่าสีตัดกันเกินกว่าระดับท่ี กาหนดจะไม่ถูกเบลอ สามารถปรับระดับความเบลอได้จากแถบ Radius ปรับระดับโทนสีการเบลอได้จาก แถบ Threshold เลือกคุณภาพการเบลอได้จากเมนู Quality และเลือกโหมดการเบลอได้จากเมนู Mode ดงั ภาพท่ี 5.194 ปรบั ระดับความเบลอ คุณภาพและโหมดการเบลอ ภาพท่ี 5.194 การใชง้ านฟลิ เตอร์ Smart Blur
500 2.8 Surface Blur เบลอภาพเฉพาะพ้ืนผิวท่ีมีสีใกล้เคียงกันเท่าน้ัน สามารถปรับระดับความ เบลอไดจ้ ากแถบ Radius และปรบั ระดับโทนสีการเบลอไดจ้ ากแถบ Threshold ดงั ภาพท่ี 5.195 ปรบั ระดบั ความเบลอ ภาพที่ 5.195 การใชง้ านฟลิ เตอร์ Surface Blur 3. เบลอแกลเลอร่ี เบลอแกลเลอรี่ (Blur Gallery) คือ แกลเลอรี่ฟิลเตอร์สาหรับปรับภาพถ่ายให้เบลอหรือมัว สามารถกาหนดรูปแบบเพิ่มเติมของการเบลอได้ละเอียดมากยิ่งข้ึน โดยคลิกเลือกท่ีเมนู Filter > Blur Gallery จากนั้นเลือกรูปแบบการเบลอ ประกอบด้วย 4 รูปแบบ โดยใน 1 ภาพ สามารถเลือกปรับความ เบลอได้มากกว่า 1 รปู แบบ มรี ายละเอยี ดดงั นี้ 3.1 Field Blur เบลอภาพเฉพาะพ้ืนที่ที่เลือก โดยการกาหนดจุดบนภาพด้วยวิธีคลิกลงบน ตาแหน่งที่ต้องการเบลอ จากน้ันทาการ เพิ่ม-ลด ระดับความเบลอท่ีแถบ Blur หรือใช้เมาส์คลิกลากที่รัศมี ของจุดที่ต้องการเบลอ และสามารถกาหนดเอฟเฟกต์เพ่มิ เตมิ ได้ ดงั ภาพท่ี 5.196 ปรับระดบั ความเบลอ ปรบั ระดับความเบลอ กาหนดเอฟเฟกต์เพม่ิ เติม ภาพท่ี 5.196 การใชง้ านฟิลเตอร์ Field Blur
501 3.2 Iris Blur เบลอภาพโดยการสรา้ งพน้ื ที่ในตาแหนง่ ที่ต้องการบนภาพ จากนนั้ ทาการ เพ่มิ -ลด ระดับเบลอที่แถบ Blur ควบคุมรูปแบบและขนาดพื้นที่การเบลอโดยใช้เมาส์คลิกลากจุดหมุนที่เส้น และ สามารถกาหนดเอฟเฟกตเ์ พม่ิ เตมิ ได้ ดงั ภาพท่ี 5.197 ปรบั ระดบั ความเบลอ ปรบั ขนาดพ้ืนที่ กาหนดเอฟเฟกต์เพิ่มเตมิ ภาพท่ี 5.197 การใชง้ านฟลิ เตอร์ Iris Blur 3.3 Tilt-Shift เบลอภาพโดยกาหนดพื้นท่ีให้เอียงหรือเลื่อนตาแหน่ง ข้ึน-ลง ตามเส้น จาลอง การทางานของเลนส์กล้องประเภท Tilt-Shift สามารถหมุนเพื่อปรับความเอียง เพ่ิม-ลด ระดับความเบลอ จากแถบ Blur เพ่มิ -ลด ระดบั ความบดิ ของภาพจากแถบ Distortion และสามารถกาหนดเอฟเฟกตเ์ พ่ิมเติม ได้ ดงั ภาพที่ 5.198 ปรบั ระดับความเบลอ หมุนปรบั ความเอยี ง กาหนดเอฟเฟกต์เพ่มิ เตมิ ภาพท่ี 5.198 การใช้งานฟลิ เตอร์ Tilt-Shift
502 3.4 Path Blur เบลอภาพให้ฟุ้งตามทิศทางท่ีกาหนด โดยการสร้างเส้นพาธบนภาพ จากนั้นทา การกาหนดทิศทาง สามารถ เพิ่ม-ลด ระดับความฟุ้งของการเบลอได้ที่แถบ Speed เพ่ิม-ลด ระดับความ เรียวของเส้นฟุ้งได้ที่แถบ Taper และกาหนดจุดส้ินสุดของความฟุ้งได้ที่แถบ End Point Speed ดังภาพที่ 5.199 ปรบั ระดับความเบลอ กาหนดทศิ ทาง ภาพท่ี 5.199 การใชง้ านฟิลเตอร์ Path Blur 3.5 Spin Blur เบลอภาพแบบหมุน โดยการกาหนดจุดหมุนบนภาพด้วยวิธีคลิกลงบนตาแหน่ง ท่ีต้องการเบลอภาพแบบหมุน จากน้ันทาการ เพิ่ม-ลด ระดับความเบลอและองศาการหมุนท่ีแถบ Blur Angle ดงั ภาพที่ 5.200 ภาพเบลอแบบหมุน ปรบั ระดับความเบลอ ภาพที่ 5.200 การใชง้ านฟลิ เตอร์ Spin Blur
503 4. Distort การบดิ ภาพ (Distort) คือ ฟลิ เตอรส์ าหรบั บดิ รปู ทรงของภาพถา่ ยให้เกดิ ความบิดเบ้ยี วในรูปแบบ ต่าง ๆ เชน่ บดิ เปน็ ทรงกลม บิดใหเ้ อยี ง เปน็ ต้น โดยคลกิ เลอื กทเี่ มนู Filter > Distort จากนั้นเลอื กรูปแบบ การบดิ ตามต้องการ มลี ักษณะการบิดแตล่ ะรปู แบบ ดงั น้ี 4.1 Displace การบิดภาพโดยใชภ้ าพท่ีเตรยี มไวม้ าซ้อนทบั ภาพที่จะนามาวางทับจะต้องอยใู่ น รูปแบบไฟล์ PSD สามารถปรับแต่งไฟล์ก่อนนามาใช้งานได้ ให้คลิกเลือกที่เมนู Filter > Distort > Displace จากนนั้ ให้เลอื กไฟล์ PSD ท่เี ตรยี มไว้ ดงั ภาพที่ 5.201 กาหนดค่าแลว้ กดปมุ่ OK เลอื กไฟล์ PSD ภาพจากไฟล์ PSD ภาพหลังปรบั ภาพที่ 5.201 การใช้งานฟิลเตอร์ Displace 4.2 Pinch การดึงภาพให้นูนข้ึนหรือยุบลง โดยคลิกเลือกที่เมนู Filter > Distort > Pinch จากนั้นทาการ เพม่ิ -ลด ค่าเปอรเ์ ซน็ ต์ในแถบ Amount หากคา่ เป็นบวกจะทาใหภ้ าพยบุ และหากค่าเป็นลบ จะทาให้ภาพนูนขึ้น ดงั ภาพท่ี 5.202
504 ปรับคา่ ภาพที่ 5.202 การใช้งานฟิลเตอร์ Pinch 4.3 Polar Coordinates การม้วนภาพให้ไหลย้อย (Polar to Rectangular) และม้วนภาพให้ เปน็ วงกลม (Rectangular to Polar) โดยคลิกเลือกทีเ่ มนู Filter > Distort > Polar Coordinates จากนั้น ทาการเลอื กรปู แบบการม้วน ดังภาพท่ี 5.203 เลือกรปู แบบ ภาพที่ 5.203 การใช้งานฟิลเตอร์ Polar Coordinates 4.4 Ripple การปรับภาพให้เป็นระลอกคล่ืนหรือภาพกระเพื่อมเหมือนน้า สามารถปรับระดับ ความหยาบของคล่ืนได้ โดยคลิกเลือกท่ีเมนู Filter > Distort > Ripple จากน้ันทาการปรับขนาดของคลืน่ ดงั ภาพที่ 5.204 ปรบั ขนาด ภาพท่ี 5.204 การใช้งานฟิลเตอร์ Ripple
505 4.5 Shear ดัดภาพให้โค้งงอตามแกนแนวตั้ง สามารถกาหนดสัดส่วนการโค้งงอได้จากเส้น Curve และเลือกรูปแบบการเติมพื้นที่ส่วนท่ีจะหายไปจากการโค้งงอ ได้แก่ ตัดพ้ืนที่รอบส่วนโค้งมาเติม (Wrap Around) และเติมพ้ืนท่ีด้วยพิกเซลใกล้เคียง (Repeat Edge Pixels) โดยคลิกเลือกท่ีเมนู Filter > Distort > Shear ดงั ภาพท่ี 5.205 ดัดสว่ นโคง้ รูปแบบการเติมพ้นื ที่ ภาพที่ 5.205 การใช้งานฟิลเตอร์ Shear 4.6 Spherize การปรบั ภาพใหโ้ ป่งพองในรูปแบบวงกลมคลา้ ยลูกบอล สามารถ เพมิ่ -ลด ขนาด ความโป่งพองได้ท่ีแถบ Amount และกาหนดโหมดการปรับภาพ ได้แก่ ปรับแบบปกติ (Normal) ปรับ เฉพาะแนวนอน (Horizontal Only) และปรบั เฉพาะแนวตัง้ (Vertical Only) โดยคลิกเลือกทีเ่ มนู Filter > Distort > Spherize ดงั ภาพท่ี 5.206 ปรับความโปง่ พอง ภาพที่ 5.206 การใช้งานฟิลเตอร์ Spherize 4.7 Twirl การหมุนและบิดภาพให้เป็นเกลียว สามารถปรับองศาการหมุนได้ที่แถบ Angle หาก กาหนดค่าองศาเป็นค่าบวก จะได้การหมุนตามเข็มนาฬิกา และหากกาหนดค่าองศาเป็นค่าลบ จะได้การ หมุนทวนเข็มนาฬิกา โดยคลกิ เลอื กท่ีเมนู Filter > Distort > Twirl ดงั ภาพที่ 5.207
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 599
- 600
- 601
- 602
- 603
- 604
- 605
- 606
- 607
- 608
- 609
- 610
- 611
- 612
- 613
- 614
- 615
- 616
- 617
- 618
- 619
- 620
- 621
- 622
- 623
- 624
- 625
- 626
- 627
- 628
- 629
- 630
- 631
- 632
- 633
- 634
- 635
- 636
- 637
- 638
- 639
- 640
- 641
- 642
- 643
- 644
- 645
- 646
- 647
- 648
- 649
- 650
- 651
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 600
- 601 - 650
- 651 - 651
Pages: