29 7.1.5 มกี ระบวนการรบั แจง้ เบาะแสจากพนกั งานเกย่ี วกบั รายงานทางการเงนิ ทไ่ี ม่ เหมาะสมหรอื ประเดน็ อ่นื ๆ ดว้ ย 7.2 การควบคุมภายใน 7.2.1 สอบทานว่าฝา่ ยบรหิ ารไดก้ าหนดใหม้ กี ารควบคมุ ภายในรวมถงึ การควบคุม ภายในของระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศทเ่ี พยี งพอเหมาะสม และแนวทางการส่อื สารความสาคญั ของ การควบคมุ ภายในและการบรหิ ารความเสย่ี งทวั่ ทงั้ ธนาคาร 7.2.2 สอบทานเพอ่ื ใหม้ นั่ ใจไดว้ ่าขอ้ เสนอแนะเกย่ี วกบั การควบคุมภายในทผ่ี ตู้ รวจ สอบภายในและผสู้ อบบญั ชเี สนอนนั้ ฝา่ ยบรหิ ารไดน้ าไปปรบั ปรงุ แกไ้ ขแลว้ 7.3 การตรวจสอบภายใน 7.3.1 สอบทานและอนุมตั กิ ฎบตั รการตรวจสอบภายใน แผนงานประจาปี ตลอดจน บุคลากรและทรพั ยากรทจ่ี าเป็นในการปฏบิ ตั งิ าน 7.3.2 สอบทานกจิ กรรมและการปฏบิ ตั งิ านของกลุ่มบรหิ ารงานตรวจสอบเพ่อื ใหม้ นั่ ใจ ไดว้ ่ากลุม่ บรหิ ารงานตรวจสอบสามารถปฏบิ ตั งิ านไดอ้ ยา่ งเป็นอสิ ระ 7.3.3 สอบทานประสทิ ธผิ ลการปฏบิ ตั งิ านตรวจสอบภายในวา่ ไดม้ กี ารปฏบิ ตั ติ าม มาตรฐานการตรวจสอบภายใน 7.4 การกากบั การปฏบิ ตั ติ ามกฎเกณฑ์ 7.4.1 สอบทานและอนุมตั กิ ฎบตั รของสานงานกากบั และควบคมุ แผนงานประจาปี ตลอดจนบคุ ลากรและทรพั ยากรทจ่ี าเป็นในการปฏบิ ตั งิ าน 7.4.2 พจิ ารณากฎหมาย ระเบยี บต่าง ๆ ทม่ี กี ารเปลย่ี นแปลงและมผี ลกระทบต่อ การดาเนนิ งานของธนาคารทน่ี าเสนอโดยกลมุ่ ตรวจสอบและกากบั อยา่ งสม่าเสมอ 7.4.3 สอบทานขอ้ ตรวจพบขององคก์ รทม่ี หี น้าทใ่ี นการกากบั ดแู ลธนาคาร และผล การตดิ ตามการแกไ้ ข รวมถงึ รายงานใหแ้ ก่คณะกรรมการธนาคาร 7.4.4 สอบทานประสทิ ธผิ ลของระบบในการตดิ ตามการปฏบิ ตั ติ ามกฎหมาย ระเบยี บ และผลการตดิ ตามการแกไ้ ขในกรณที ไ่ี มม่ กี ารปฏบิ ตั ติ าม 7.4.5 สอบทานการปฏบิ ตั ติ ามกฎ ระเบยี บ นโยบายต่อตา้ นคอรร์ ปั ชนั่ และรายงาน ใหค้ ณะกรรมการ ธนาคารทราบ 7.5 การบรหิ ารความเสย่ี ง 7.5.1 สอบทานความเพยี งพอของการกากบั ดแู ลนโยบายและหน้าทท่ี เ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การบรหิ ารความเสย่ี งของธนาคารและกลมุ่ ธรุ กจิ ทางการเงนิ ของธนาคารไทยพาณชิ ย์ 7.5.2 สอบทานประสทิ ธภิ าพของระบบการบรหิ ารความเสย่ี งของธนาคารและกลมุ่ ธุรกจิ ทางการเงนิ ของธนาคารไทยพาณชิ ย์ การกากบั ดแู ลกิจการ บทที่ 1
30 7.6 การปฏบิ ตั ติ ามหลกั จรยิ ธรรม จรรยาบรรณผบู้ รหิ าร และพนกั งาน 7.6.1 สอบทานใหม้ นั่ ใจว่าหลกั จรยิ ธรรมธรุ กจิ และจรรยาบรรณผบู้ รหิ ารและพนกั งาน และนโยบายในการป้องกนั ความขดั แยง้ ทางผลประโยชน์ไดจ้ ดั ทาเป็นลายลกั ษณ์อกั ษรและผบู้ รหิ ารและ พนกั งานทกุ คนรบั ทราบ 7.6.2 สง่ เสรมิ ใหเ้ กดิ การปฏบิ ตั ติ ามหลกั จรยิ ธรรม จรรยาบรรณ และนโยบายในการ ป้องกนั ความขดั แยง้ ทางผลประโยชน์ 7.7 ความรบั ผดิ ชอบอ่นื ๆ 7.7.1 ปฏบิ ตั งิ านอ่นื ตามทค่ี ณะกรรมการธนาคารไดม้ อบหมาย 7.7.2 สอบทานและประเมนิ กฎบตั รของคณะกรรมการตรวจสอบอยา่ งสม่าเสมอ และ นาเสนอขออนุมตั จิ ากคณะกรรมการธนาคารเมอ่ื มกี ารแกไ้ ข 7.7.3 จดั ใหม้ กี ารประเมนิ ตนเองอยา่ งน้อยปีละ 1 ครงั้ และนาเสนอผลการประเมนิ ต่อคณะกรรมการธนาคาร 7.7.4 คณะกรรมการตรวจสอบ ควรมกี ารหารอื และตรวจสอบขอ้ เทจ็ จรงิ เบอ้ื งตน้ เมอ่ื ไดร้ บั แจง้ พฤตกิ ารณ์อนั ควรสงสยั จากผสู้ อบบญั ชเี กย่ี วกบั การทุจรติ หรอื ฝ่าฝืนกฎหมายทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง กบั การปฏบิ ตั หิ น้าทข่ี องกรรมการและผุ้บรหิ ารตามมาตรา 89/25 ของ พ.ร.บ. หลกั ทรพั ย์ และตลาด หลกั ทรพั ย์ พ.ศ. 2551 และแจง้ ผลใหผ้ สู้ อบบญั ชแี ละสานักงาน ก.ล.ต. ทราบภายในเวลาท่ี (ก.ล.ต.) กาหนด ทม่ี า : (http://www.scb.co.th/th/about-scb/corporate of/charter-audit-committee / 8 มถิ ุนายน 2558) บทที่ 1 การกากบั ดแู ลกิจการ
31 บทบาทและความรบั ผิดชอบในการกากบั ดแู ลกิจการ อุษณา ภทั รมนตรี (2558 : 4–7) กล่าวถงึ บทบาทและความรบั ผดิ ชอบในการกากบั ดูแล กจิ การของบุคคลต่างๆ ไวด้ งั น้ี 1. ผถู้ ือห้นุ และผมู้ ีส่วนเก่ียวข้อง (Shareholders and Stakeholders) 1.1 ผถู้ อื หุน้ (Shareholders) หมายถงึ ผซู้ อ้ื หุน้ ของบรษิ ทั โดยหวงั ผลตอบแทนหรอื ผล กาไร ผถู้ อื หุน้ เป็นเจา้ ของบรษิ ทั ซง่ึ ไม่ไดร้ บั ผดิ ชอบในการดาเนินการประจาวนั ของบรษิ ทั แต่ใช้สทิ ธิ ความเป็นเจ้าของในการลงคะแนนโหวตในท่ีประชุมผู้ถือหุ้นในเร่อื งสาคญั เช่น การแต่งตงั้ คณะ กรรมการบรษิ ทั เพ่อื ดาเนินการและส่อื สารแทนตน การกาหนดค่าตอบแทนคณะกรรมการ การรบั รอง ผลประกอบการ การอนุมัติธุรกรรมสาคัญทางกฎหมายและข้อบังคับของบริษัท ผู้ถือหุ้นอาจ ประกอบดว้ ยผถู้ อื หุน้ รายใหญ่ ผถู้ อื หนุ้ รายยอ่ ยและผถู้ อื หุน้ ในต่างประเทศ ซง่ึ ควรไดร้ บั การปฏบิ ตั แิ ละ สามารถใชส้ ทิ ธขิ องตนไดอ้ ยา่ งเทา่ เทยี มและเป็นธรรม 1.2 ผมู้ สี ่วนเก่ยี วขอ้ งหรอื ผมู้ สี ่วนไดเ้ สยี (Stakeholders) หมายถงึ ผมู้ สี ่วนเกย่ี วขอ้ งทงั้ โดยตรงและโดยอ้อมในการดาเนินงานและผลประโยชน์ในการดาเนินงาน ซง่ึ กลุ่มผู้มสี ่วนเก่ยี วขอ้ ง สาคญั แบ่งออกเป็น 1.2.1 ผมู้ สี ว่ นเกย่ี วขอ้ งในการดาเนนิ งานโดยตรง เช่น พนกั งาน ลกู คา้ และผสู้ ง่ สนิ คา้ 1.2.2 ผสู้ นใจและมสี ่วนเก่ยี วขอ้ งโดยทางออ้ ม ซง่ึ ไม่ไดเ้ ก่ยี วขอ้ งกบั การดาเนินงาน โดยตรง แต่สนใจหรอื มสี ่วนไดเ้ สยี กบั ความสาเรจ็ และผลลพั ธห์ รอื ผลประโยชน์อ่นื ๆ ขององคก์ าร เช่น ผถู้ อื หุน้ และนกั ลงทนุ 1.2.3 ผมู้ สี ว่ นเกย่ี วขอ้ งทม่ี อี ทิ ธพิ ล ซง่ึ ไมไ่ ดเ้ กย่ี วขอ้ งกบั การดาเนินงานโดยตรงหรอื ความสาเรจ็ แต่มอี ทิ ธพิ ลต่อความสาเรจ็ ขององคก์ าร เช่น สถาบนั กากบั ดแู ล สถาบนั การเงนิ และ สถาบนั วเิ คราะหแ์ ละจดั อนั ดบั เครดทิ เป็นตน้ 2. คณะกรรมการบริษทั และคณะกรรมการย่อย (The Board of Directors) คณะกรรมการบรษิ ัทเป็นตวั แทนทไ่ี ดร้ บั การแต่งตงั้ จากท่ปี ระชุมผู้ถอื หุน้ มหี น้าทร่ี บั ผดิ ชอบ เก่ยี วกบั การอนุมตั ใิ นธุรกรรมสาคัญแทนผู้ถอื หุ้น การให้ความเหน็ ชอบ การเสนอแนะด้านนโยบาย การกากบั ตรวจตรา รวมทงั้ การแต่งตงั้ ถอดถอนประเมนิ ผลงานของฝ่ายบรหิ ารจดั การและการส่อื สาร แทนผถู้ อื หนุ้ การทางานของคณะกรรมการบรษิ ทั ต้องใหเ้ ป็นไปตามกฎหมาย วตั ถุประสงค์ ขอ้ บงั คบั ของบรษิ ทั ตลอดจนมตทิ ป่ี ระชุมผูถ้ อื หุ้น ด้วยความซ่อื สตั ย์ สุจรติ และระมดั ระวงั รกั ษาผลประโยชน์ ของบรษิ ทั การกากบั ดแู ลกิจการ บทที่ 1
32 2.1 คณะกรรมการบรษิ ทั ประกอบดว้ ย กรรมการทเ่ี ป็นผบู้ รหิ าร กรรมการทไ่ี ม่ไดเ้ ป็น ผบู้ รหิ ารแต่อาจไมเ่ ป็นอสิ ระ เช่น มาจากเจา้ หน้หี รอื ผถู้ อื หนุ้ ส่วนใหญ่ และกรรมการอสิ ระท่ีแต่งตงั้ จาก บคุ คลทม่ี คี ณุ สมบตั ติ ามกฎหมายหรอื ขอ้ กาหนดของตลาดหลกั ทรพั ย์ 2.2 คณะกรรมการยอ่ ย ไดแ้ ก่ คณะกรรมการตรวจสอบ คณะกรรมการพจิ ารณาเกย่ี วกบั ค่าตอบแทน และคณะกรรมการสรรหา ซ่งึ คณะกรรมการย่อยทุกคณะควรกาหนด วตั ถุประสงค์ อานาจ หน้าทแ่ี ละความรบั ผิดชอบ การปฏบิ ตั งิ าน ในกฎบตั รของแต่ละคณะใหเ้ ป็นลายลกั ษณ์อกั ษร เพ่อื ใช้เป็นกรอบอ้างองิ การปฏบิ ตั งิ านเป็นหลกั ประกนั ใหป้ ฏบิ ตั หิ น้าทอ่ี ย่างมปี ระสทิ ธผิ ลและเป็นอสิ ระ จากฝา่ ยบรหิ าร 3. ฝ่ายจดั การหรอื ฝ่ายบริหาร (The Management or Administrative) คอื บุคคลมอื อาชพี ทค่ี ณะกรรมการบรษิ ทั จา้ งหรอื แต่งตงั้ ใหม้ าบรหิ ารงาน มหี น้าทร่ี บั ผดิ ชอบ ในการบรหิ ารจดั การบรษิ ทั ดว้ ยความสามารถเยย่ี งผู้บรหิ ารมอื อาชพี เพ่อื ใหเ้ กดิ ประโยชน์สูงสุดต่อผถู้ อื หุน้ และองคก์ ารในระยะยาว รวมทงั้ มหี น้าทร่ี บั ผดิ ชอบอ่นื ทงั้ ในเชงิ จรยิ ธรรมและตามสญั ญาการว่าจ้าง หรอื ตามทก่ี ฎหมายกาหนด เช่น การจดั การระบบการบรหิ ารความเสย่ี ง การควบคุมภายใน และการ จดั ทางบการเงนิ และบญั ชี เป็นตน้ กรณีศึกษาการกากบั ดแู ลกิจการ สบื เน่อื งมาจากกรณคี วามลม้ เหลวทางดา้ นการบญั ชี และการลม้ ละลายของบรษิ ทั ขนาดใหญ่ใน สหรฐั อเมรกิ าทเ่ี กดิ ขน้ึ ในช่วง พ.ศ. 2544 – 2545 เช่น เอรอน เวลิ ดค์ อม และสานักงานสอบบญั ชแี อน เดอร์สัน เป็นต้น ได้ล้มละลายซ่ึงบริษัทเหล่าน้ีก่อให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงต่อตลาดทุนและ เศรษฐกจิ ของประเทศทวั่ โลกจนเป็นเหตุใหส้ ภาสงู ของประเทศสหรฐั อเมรกิ าไดอ้ อกกฏหมายขน้ึ มาเพ่อื เรยี กความเช่อื มนั่ จากนกั ลงทนุ รวมทงั้ ปรบั ปรงุ ความน่าเช่อื ถอื ในการเปิดเผยขอ้ มลู ของบรษิ ทั เมอ่ื เดอื น กรกฎาคม พ.ศ. 2545 เรยี กว่า Sarbanes-Oxley Act (SOX) ซง่ึ เป็นกฎหมายหรอื พระราชบญั ญตั ิทม่ี ี ความสาคญั มากเพราะมผี ลกระทบต่อผปู้ ระกอบวชิ าชพี และผสู้ อบบญั ชที วั่ โลกรวมทงั้ ประเทศไทยดว้ ย เน่อื งจากเครอื ขา่ ยของบรษิ ทั จดทะเบยี นในสหรฐั อเมรกิ าจะถูกบงั คบั ใหใ้ ชก้ ฎหมายฉบบั บน้ี Sarbanes-Oxley Act เป็นกฎหมายแมบ่ ทใหค้ วามสาคญั อยา่ งมากกบั ความถูกตอ้ งของรายงาน ทางการเงนิ กล่าวคอื ผูบ้ รหิ าร คณะกรรมการตรวจสอบ และผสู้ อบบญั ชกี จ็ ะต้องมคี วามรบั ผดิ ชอบ มากขน้ึ กฎหมายฉบบั น้ีกาหนดใหม้ กี ารจดั ตงั้ คณะกรรมการกากบั ดูแลการบญั ชแี ละการสอบบญั ชขี อง บรษิ ทั มหาชนจากดั (Public Company Accounting Oversight Borard : PCAOB) โดยเน้นกากบั ดแู ล ผสู้ อบบญั ชที ต่ี รวจสอบงบการเงนิ ของบรษิ ทั มหาชนจากดั เป็นหลกั ซง่ึ มภี ารกจิ หน้าทด่ี งั น้ี บทท่ี 1 การกากบั ดแู ลกิจการ
33 1. รบั จดทะเบยี นสานกั งานสอบบญั ชที เ่ี กย่ี วขอ้ งโดยตรงหรอื มสี ว่ นรว่ มในการแสดงความเหน็ ในรายงานการสอบบัญชีของบริษัทมหาชนจากัดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยหลกั ทรพั ย์และตลาด หลกั ทรพั ยข์ องสหรฐั อเมรกิ า 2. กาหนดหลกั เกณฑด์ า้ นการสอบบญั ชี การควบคุมคณุ ภาพงานสอบบญั ชจี รรยาบรรณและ ความเป็นอสิ ระของผสู้ อบบญั ชี มาตรฐานวชิ าชพี รวมถงึ การตรวจสอบและการดาเนินการทางวนิ ยั ของ ผสู้ อบบญั ชี ทางด้านบริษัทมหาชนจากัด ข้อกาหนดของกฎหมายน้ีมีผลทาให้ผู้บริหารต้องมีความ รบั ผดิ ชอบในงบการเงนิ และการเปิดเผยขอ้ มลู มากยงิ่ ขน้ึ โดยเฉพาะผบู้ รหิ ารสงู สุดและผบู้ รหิ ารทางดา้ น การเงนิ ตอ้ งรบั รองความถูกตอ้ งของงบการเงนิ ทต่ี นมีหน้าทจ่ี ดั ทา และยนื ยนั ว่างบการเงนิ แสดงผลการ ดาเนินงานและฐานะการเงนิ ของบรษิ ทั ตามสภาพทแ่ี ทจ้ รงิ โดยถูกตอ้ งตามทค่ี วร รวมทงั้ ใหค้ วามรว่ มมอื กบั ผู้สอบบญั ชีอย่างเต็มท่ใี นการตรวจสอบงบการเงนิ ด้วยความโปร่งใส ไม่ปิดบงั หรอื ตกแต่งงบ การเงนิ แต่อย่างใด ดงั นัน้ จากทก่ี ล่าวมาด้วยเหตุผลนานปั การหากผบู้ รหิ ารละเลยไม่เอาใจใส่หรอื ไม่ เหน็ ถงึ ความสาคญั ของการกากบั ดูแลกจิ การขององคก์ รแล้วนัน้ ย่อมส่งผลกระทบต่อบุคคลหลายกลุ่ม ดงั ต่อไปน้ี 1. ผลกระทบต่อผบู้ ริหารของบริษทั (The Impact on Company’s Management) Sarbanes-Oxley Act กาหนดใหก้ ล่มุ ทจ่ี ดทะเบยี นทเ่ี ป็นบรษิ ทั มหาชนจากดั ตอ้ งเปิดเผยวา่ บรษิ ทั ไดน้ าเอาหลกั ปฏบิ ตั ดิ า้ นคุณธรรมหรอื ประมวลจรรยาบรรณ (Code of Ethics) สาหรบั ผบู้ รหิ ารมา ใช้แล้วหรอื ไม่ และต้องรายงานให้คณะกรรมการกากบั ดูแลการบัญชแี ละการสอบบญั ชขี องบรษิ ัท มหาชนจากดั (PCAOB) ทราบหากยงั ไม่ไดม้ กี ารนามาใช้ในบรษิ ทั หรอื มกี ารเปลย่ี นแปลงหลกั ปฏบิ ตั ิ ดา้ นคุณธรรม ผบู้ รหิ ารต้องชแ้ี จงเหตุผลและรายงานของการไม่ปฏบิ ตั ติ ามประมวลจรรยาบรรณนนั้ ทุก ครงั้ จะเหน็ ไดว้ ่ากฎหมายฉบบั บน้ีมผี ลโดยตรงต่อหน้าทแ่ี ละความรบั ผดิ ชอบของผบู้ รหิ ารบรษิ ทั ซ่งึ เน้น เกย่ี วกบั การนาประมวลจรรยาบรรณมาใชใ้ นการปฏบิ ตั เิ พราะจะสามารถสรา้ งความมนั่ ใจใหก้ บั ผบู้ รหิ าร ดงั น้ี 1.1 ประพฤตติ นดว้ ยความซ่อื สตั ยส์ ุจรติ โปรง่ ใสและคงไวซ้ ง่ึ จรรยาบรรณโดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ในการจดั การกบั ความขดั แย้งทงั้ ในกรณีเกิดขน้ึ จรงิ และกรณีท่ดี ูเหมอื นว่าจะมคี วามขดั แย้งดงั กล่าว ปรากฎอยู่ 1.2 เปิดเผยขอ้ มลู อยา่ งถกู ตอ้ งครบถว้ นในรายงานทต่ี อ้ งนาสง่ ใหค้ ณะกรรมการกากบั หลกั ทรพั ยแ์ ละตลาดหลกั ทรพั ย์ (ก.ล.ต.) 1.3 ปฏบิ ตั ติ ามกฎหมาย กฎเกณฑแ์ ละขอ้ บงั คบั ต่างๆ 1.4 จดั ใหม้ รี ะบบการควบคมุ ภายในทม่ี ปี ระสทิ ธผิ ล และตอ้ งจดั ทารายงานเกย่ี วกบั การ ควบคมุ ภายในยน่ื ต่อ (ก.ล.ต.) เป็นประจาทุกปีโดยตอ้ งระบขุ นั้ ตอนและวธิ ปี ฏบิ ตั แิ ละขอ้ สรปุ ของผบู้ รหิ าร เกย่ี วกบั ประสทิ ธผิ ลของระบบการควบคุมภายในรวมทงั้ รายงานใหท้ ราบถงึ จดุ อ่อนของระบบการควบคุม ภายในและการไมป่ ฏบิ ตั ติ ามระบบนนั้ รายงานดงั กล่าวต้องใหผ้ สู้ อบบญั ชยี นื ยนั ความถูกต้องดว้ ย ทงั้ น้ี การกากบั ดแู ลกิจการ บทที่ 1
34 กฎหมายยงั ได้เปิดโอกาสให้พนักงานของบรษิ ทั สามารถรายงานขอ้ สงสยั แบบลบั เฉพาะต่อเจา้ หน้าท่ี รบั ผดิ ชอบเกย่ี วกบั การปฏบิ ตั ติ ามจรรยาบรรณไดใ้ นพฤตกิ รรมความไมช่ อบมาพากล หรอื การปฏบิ ตั อิ นั มชิ อบทเ่ี ป็นการฝา่ ฝืนประมวลจรรยาบรรณของผบู้ รหิ ารระดบั สงู 1.5 บรษิ ทั ตอ้ งไมใ่ หเ้ งนิ กสู้ ว่ นตวั แก่ผบู้ รหิ ารตงั้ แต่ระดบั ผอู้ านวยการขน้ึ ไป ยกเวน้ เงนิ กู้ บางประเภททไ่ี ดร้ บั อนุญาต เชน่ เงนิ กเู้ พ่อื ต่อเตมิ บา้ น เป็นตน้ 1.6 หากงบการเงนิ ตอ้ งมกี ารแกไ้ ขขอ้ ผดิ พลาดทส่ี าคญั เน่อื งจากการประพฤตมิ ชิ อบของ ผบู้ รหิ ารหรอื จากการฝ่าฝืนกฎหมายขอ้ บงั คบั ผบู้ รหิ ารจะต้องคนื เงนิ โบนสั และผลตอบแทนอ่นื ๆ และ กาไรจากการขายหนุ้ ของบรษิ ทั ทผ่ี บู้ รหิ ารไดร้ บั มาภายในระยะเวลา 12 เดอื นหลงั จากส่งงบการเงนิ 1.7 หา้ มผบู้ รหิ ารซอ้ื ขายหรอื โอนหนุ้ ของบรษิ ทั ในชว่ งเวลางดซอ้ื ขาย 2. ผลกระทบต่อคณะกรรมการตรวจสอบ (The Impact on Audit Committee) ภารกจิ หลกั ในการกากบั ดแู ลกจิ การของคณะกรรมการตรวจสอบ คอื การเปิดเผยขอ้ มลู ใน รายงานทางการเงนิ ของกจิ การใหม้ คี วามถูกต้องครบถ้วนเป็นทน่ี ่าเช่อื ถอื ได้ กฎหมายฉบบั น้ีกาหนดให้ ผสู้ อบบญั ชตี อ้ งรายงานโดยตรงต่อคณะกรรมการตรวจสอบซง่ึ เป็นการยนื ยนั บทบาทความรบั ผดิ ชอบ และขอบเขตงานของตน เน่อื งจากคณะกรรมการตรวจสอบจะเป็นผกู้ าหนดค่าตอบแทน และอนุมตั งิ าน บรกิ ารทุกอยา่ งทส่ี านกั งาน สอบบญั ชเี สนอใหบ้ รษิ ทั ตามกฎหมายฉบบั น้ีคณะกรรมการตรวจสอบจงึ มี บทบาททส่ี าคญั ในการตดิ ต่อประสานงานกบั ผู้สอบบญั ชแี ละผูบ้ รหิ ารทม่ี หี น้าทร่ี บั ผดิ ชอบในการจดั ทา รายงานทางการเงนิ สาหรบั เร่อื งทผ่ี สู้ อบบญั ชคี วรรายงานต่อคณะกรรมการตรวจสอบควรแจง้ ใหท้ ราบ เกย่ี วกบั ประเดน็ ต่างๆ ดงั น้ี 2.1 ประเดน็ สาคญั ทผ่ี สู้ อบบญั ชไี ดม้ กี ารปรกึ ษาหารอื กบั ผบู้ รหิ ารรวมถงึ ขอ้ หารอื เกย่ี วกบั การใชห้ ลกั การบญั ชแี ละการสอบบญั ชี 2.2 วธิ กี ารทวั่ ไปและขอบเขตของการตรวจสอบโดยรวม รวมถงึ ขอ้ จากดั อ่นื ๆ 2.3 ผลจากการตดั สนิ ใจของผบู้ รหิ ารทส่ี าคญั ซง่ึ มผี ลกระทบอยา่ งมสี าระสาคญั ต่องบ การเงนิ 2.4 ความขดั แยง้ กบั ผบู้ รหิ ารเกย่ี วกบั การใชห้ ลกั การบญั ชี หรอื นโยบายการบญั ชสี าหรบั รายการและเหตุการณ์เร่อื งใดเร่อื งหน่ึงโดยเฉพาะ ตลอดจนการพจิ ารณาของผู้สอบบัญชใี นการ ดาเนินการเกย่ี วกบั รายการทม่ี คี วามขดั แยง้ นนั้ 2.5 เกณฑก์ ารใชด้ ุลยพนิ ิจของผบู้ รหิ ารเกย่ี วกบั ประมาณการทางบญั ชี ซง่ึ มสี าระสาคญั ต่อ งบการเงนิ หรอื ต่อรายงานของผสู้ อบบญั ชี 2.6 รายการปรบั ปรงุ ทส่ี าคญั จากการตรวจสอบรวมทงั้ รายการปรบั ปรงุ ทผ่ี สู้ อบบญั ชพี บแต่ ไม่มสี าระสาคญั ต่องบการเงนิ และกจิ การไม่ได้ปรบั ปรุง แต่อาจส่งผลกระทบอย่างเป็นสาระสาคญั ใน อนาคตได้ บทท่ี 1 การกากบั ดแู ลกิจการ
35 2.7 ผลกระทบทม่ี สี าระสาคญั ต่องบการเงนิ ซง่ึ อาจเกดิ ขน้ึ จากเรอ่ื งทส่ี ่งผลเสยี หายต่อกจิ การ 2.8 ปญั หาและอุปสรรคทส่ี าคญั ซง่ึ พบในระหวา่ งการปฏบิ ตั งิ านตรวจสอบซง่ึ รวมถงึ ความ ลา่ ชา้ ในการตรวจสอบเน่อื งจากไมไ่ ดร้ บั ความร่วมมอื จากผบู้ รหิ าร ความไมเ่ พยี งพอหรอื ความบกพร่อง ของบุคลากรของบรษิ ทั ในการทางานใหท้ นั เวลาทก่ี าหนดไว้ 2.9 ประเภทของความเหน็ ในรายงานของผสู้ อบบญั ชที ค่ี าดวา่ จะนาเสนอ 2.10 เรอ่ื งอ่นื ๆ ทค่ี ณะกรรมการตรวจสอบมคี วามสนใจ เช่น ขอ้ สงสยั เกย่ี วกบั ความ ซ่อื สตั ยส์ จุ รติ ของผบู้ รหิ ารและการทจุ รติ ทผ่ี บู้ รหิ ารมสี ว่ นรว่ ม จดุ อ่อนทม่ี สี าระสาคญั ในระบบการควบคมุ ภายใน เป็นตน้ 3. ผลกระทบต่อผสู้ อบบญั ชี (The Impact on Auditor) PCAOB เป็นหน่วยงานทเ่ี กดิ ขน้ึ ตามพระราชบญั ญตั ฉิ บบั น้โี ดยกาหนดให้คณะกรรมการกากบั ดแู ลการบญั ชแี ละการสอบบญั ชขี องบรษิ ทั มหาชนจากดั ไดม้ อี านาจเตม็ ทใ่ี นการตรวจสอบ ดาเนินการ ทางวนิ ัยรวมทงั้ ลงโทษผู้สอบบญั ชหี รอื สานักงานบญั ชที ฝ่ี า่ ฝืนกฎหมาย หรอื กฎเกณฑท์ ่เี ก่ยี วขอ้ งกบั การสอบบญั ชขี องบรษิ ทั มหาชนจากดั ยงั รวมถงึ ภารกจิ ต่อไปน้ี 3.1 การขน้ึ ทะเบยี นสานกั งานสอบบญั ชที เ่ี กย่ี วขอ้ งโดยตรง หรอื มสี ่วนรว่ มในการแสดง ความเหน็ ในรายงานการสอบบญั ชขี องบรษิ ทั มหาชนจากดั ตามพระราชบญั ญตั วิ ่าดว้ ยหลักทรพั ยแ์ ละ ตลาดหลกั ทรพั ยข์ องสหรฐั อเมรกิ า 3.2 การกาหนดหลกั เกณฑด์ า้ นการสอบบญั ชี การควบคมุ คณุ ภาพงานสอบบญั ชมี รรยาท และความเป็นอสิ ระของผู้สอบบญั ชี มาตรฐานวชิ าชพี การตรวจสอบและการดาเนินการทางวนิ ัยของ ผสู้ อบบญั ชี และมาตรฐานอ่นื ใดทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การจดั ทาและนาเสอนรายงานการสอบบญั ชี กฎหมายฉบบั น้ีกาหนดใหส้ านักงานสอบบญั ชตี ้องขน้ึ ทะเบยี นกบั PCAOB ได้แก่ สานักงาน สอบบญั ชที อ่ี อกรายงานการสอบบญั ชี หรอื มสี ่วนรว่ มในการเสนอรายงานการสอบบญั ชสี าหรบั บรษิ ทั มหาชนจากดั ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยหลกั ทรพั ยแ์ ละตลาดหลกั ทรพั ยข์ องสหรฐั อเมรกิ า โดยสานักงานสอบ บญั ชจี ะตอ้ งเปิดเผยขอ้ มลู ในการขน้ึ ทะเบยี น ซง่ึ ครอบคลุมถงึ รายช่อื ของลูกคา้ รายช่อื ผสู้ อบบญั ชใี น สานักงาน ค่าธรรมเนียมการสอบบญั ชแี ละค่าบรกิ ารอ่ืน แยกเป็นรายลูกค้า นโยบายการควบคุม คุณภาพของสานักงานสอบบญั ชี ขอ้ ขดั แยง้ ท่เี กดิ ขน้ึ ในปีก่อนระหว่างบรษิ ทั กบั บรษิ ทั สานักงานสอบ บญั ชี และขอ้ มลู อ่นื ตามท่ี PCAOB เหน็ สมควรกฎหมายฉบบั น้ียงั มุ่งประเดน็ สาคญั ในเรอ่ื งความเป็น อิสระของผู้สอบบญั ชี โดยห้ามไม่ให้สานักงานสอบบญั ชีรบั งานท่ถี ือว่ามปี ระโยชน์ทบั ซ้อน ทงั้ น้ี เน่อื งจากการใหบ้ รกิ ารอ่นื เพมิ่ เตมิ การจดั เกบ็ กระดาษทาการของผสู้ อบบญั ชจี ะทวคี วามสาคญั มากยง่ิ ขน้ึ และถอื เป็นหลกั ฐานทาง กฎหมายท่เี ก่ียวขอ้ งกบั การปฏิบตั ิงานของผู้สอบบญั ชี กฎหมายได้กาหนดให้ผู้สอบบญั ชตี ้องเก็บ กระดาษทาการและข้อมูลอ่ืนท่เี ก่ียวข้องกับการปฏบิ ตั ิงานไว้เป็นระยะเวลา 7 ปี การจงใจไม่เก็บ กระดาษถอื เป็นความผดิ ทางอาญาและจะมโี ทษเพมิ่ มากขน้ึ หากทาลายกระดาษทาการในส่วนทเ่ี ก่ยี วกบั การควบคุมคุณภาพของงานสอบบญั ชี กฎหมายฉบบั น้ีไดก้ าหนดว่าทุกๆ 5 ปี สานักงานสอบบญั ชจี ะ การกากบั ดแู ลกิจการ บทท่ี 1
36 ตอ้ งเปล่ยี นตวั ผู้สอบบญั ชที ร่ี บั ผดิ ชอบการตรวจสอบลูกคา้ รายนัน้ และผู้สอบบญั ชที ช่ี ่วยกลนั่ กรองงาน และช่วยสอบทานรายงานของผูส้ อบบญั ชใี ห้โยกยา้ ยการตรวจสอบลูกคา้ บรษิ ทั หน่ึงไปตรวจสอบลูกค้า อกี บรษิ ทั หน่งึ ซง่ึ จะทาใหผ้ ปู้ ฏบิ ตั งิ านไม่เกดิ ความคุน้ เคยกบั ลูกคา้ มากเกนิ ไปจนมองไม่เหน็ ขอ้ ผดิ พลาด ทเ่ี กดิ ขน้ึ ทม่ี า : (จนั ทนา สาขาการ, นิพนั ธ์ เหน็ โชคชยั ชนะ, ศลิ ปพร ศรจี นั่ เพชร, 2557 หน้า 1–17) สรปุ การกากบั ดูแลกิจการท่ดี เี ป็นเคร่อื งมอื เพ่อื เพิม่ มูลค่าและส่งเสริมการเตบิ โตอย่างยงั่ ยนื ของ องค์กร และยงั แสดงใหเ้ หน็ ถงึ การมรี ะบบบรหิ ารจดั การท่มี ปี ระสทิ ธภิ าพ การทางานมคี วามโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ สง่ิ เหล่าน้ีช่วยสรา้ งความเช่อื มนั่ และความมนั่ ใจต่อผถู้ อื หุ้น ผูล้ งทุน ผมู้ สี ่วนได้ เสยี และผู้ทเ่ี ก่ยี วขอ้ งทุกฝ่าย การบรหิ ารจดั การในองคก์ รผูถ้ อื หุน้ ไม่จาเป็นต้องมาปฏบิ ตั หิ น้าท่ดี ้วย ตวั เอง อาจตอ้ งสรรหาบคุ คลกลุ่มหน่งึ เขา้ มาทาหน้าทแ่ี ทนตนโดยพจิ ารณาจากความรคู้ วามสามารถและ ประสบการณ์เป็นหลกั ซง่ึ ผถู้ อื หุน้ ต้องกาหนดกลไกทจ่ี าเป็นใหก้ บั ตวั แทนเพ่อื นาพากลยุทธข์ ององคก์ ร ให้บรรลุวตั ถุประสงค์ได้ตามท่ผี ูบ้ รหิ ารไดก้ าหนดไว้ คอื มคี วามรบั ผดิ ชอบต่อการปฏบิ ตั งิ าน และมี ความรบั ผดิ ชอบต่อผลการปฏบิ ตั ิงานตามหน้าท่ี ทงั้ น้ีต้องอาศยั หลกั การพ้นื ฐานของการกากบั ดูแล ได้แก่ ความโปร่งใส ความซ่ือสัตย์ ความรับผิดชอบต่อผลการปฏิบัติงานตามหน้าท่ี และ ความสามารถในการแขง่ ขนั การลม้ ละลายของบรษิ ทั ยกั ษ์ใหญ่หลายองค์กรท่ปี ระเทศสหรฐั อเมรกิ าทเ่ี กดิ การลม้ ละลายและ ปิดกจิ การลง กเ็ ป็นอกี สาเหตุหน่ึงทท่ี าใหผ้ บู้ รหิ ารเกดิ ความต่นื ตวั และตระหนกั ในการกากบั ดูแลกิจการ มากยงิ่ ขน้ึ โดยเฉพาะขอ้ มูลทางการบญั ชีท่ผี ู้บรหิ ารได้นามาใช้ ถ้าหากข้อมูลเหล่านัน้ มกี ารปกปิด บดิ เบอื นจากความเป็นจรงิ แสดงผลการดาเนินงานไม่สะท้อนถงึ การปฏบิ ตั ิงานปจั จุบนั ก็จะส่งผล กระทบต่อความเสยี หายใหก้ บั บรษิ ทั อยา่ งมาก ส่วนการนาประมวลจรรยาบรรณมาใช้ในการบรหิ ารงาน เป็นสง่ิ สาคญั ยงิ่ เพราะจะทาใหผ้ มู้ สี ่วนไดเ้ สยี มองว่าการปฏบิ ตั งิ านของผบู้ รหิ ารมคี วามซ่อื สตั ยส์ ุจรติ และโปรง่ ใส เพมิ่ ความน่าเชอ่ื ถอื เป็นทย่ี อมรบั ในสงั คมมากขน้ึ บทท่ี 1 การกากบั ดแู ลกิจการ
37 แบบฝึ กหดั ท้ายบท ตอนที่ 1 คาถามอตั นัย : ถาม – ตอบจากทฤษฎใี นเน้อื หาเพ่อื ทดสอบความเขา้ ใจของผเู้ รยี น ขอ้ 1. จงอธบิ ายเหตุผลวา่ ปจั จบุ นั ผบู้ รหิ ารแต่ละองคก์ รตอ้ งตระหนกั ถงึ หลกั ของการกากบั ดแู ลกจิ การ ขอ้ 2. ใหอ้ ธบิ ายหลกั พน้ื ฐานของการกากบั ดแู ลกจิ การทผ่ี บู้ รหิ ารตอ้ งยดึ ถอื ภาวะผนู้ าวา่ ประกอบดว้ ย เรอ่ื งอะไรบา้ ง ขอ้ 3. จงอธบิ ายถงึ มลู เหตุท่สี าคญั ของแนวคดิ ตวั แทนเพ่อื ทาหน้าท่กี ารกากบั ดูแลกจิ การเกดิ ขน้ึ ได้ อยา่ งไร ขอ้ 4. จงอธบิ ายถงึ วตั ถุประสงคห์ ลกั ของการกากบั ดแู ลกจิ การ ขอ้ 5. จงอธบิ ายขอบเขตของการปฏบิ ตั หิ น้าทข่ี องคณะกรรมการตรวจสอบ ขอ้ 6. คณะกรรมการกากบั ตลาดหลกั ทรพั ยแ์ ห่งประเทศไทย ไดก้ าหนดคุณสมบตั ขิ องผทู้ จ่ี ะเขา้ มา เป็นกรรมการตรวจสอบกลา่ วถงึ ตอ้ งเป็นบคุ คลเช่นใด ขอ้ 7. จงอธบิ ายเก่ยี วกบั กลไกทจ่ี าเป็นซง่ึ เจา้ ของกจิ การไดม้ อบหมายใหผ้ บู้ รหิ ารตอ้ งนาไปใชใ้ นการ ปฏบิ ตั งิ าน เพ่อื ก่อใหเ้ กดิ มลู ค่าสงู สดุ ต่อกจิ การทก่ี ล่าวไวม้ อี ะไรบา้ ง ขอ้ 8. จงอธบิ ายองคป์ ระกอบของหลกั การกากบั ดแู ลกจิ การขององคก์ ารเพอ่ื ความรว่ มมอื และการ พฒั นาทางเศรษฐกจิ (OECD) ในแต่ละประเดน็ มาพอเขา้ ใจ ขอ้ 9. จงอธบิ ายถงึ ภาระหน้าทท่ี ส่ี าคญั ทส่ี ดุ ของคณะกรรมการตรวจสอบตอ้ งปฏบิ ตั อิ ยา่ งไร ขอ้ 10. นายหวงั พ่งึ โชคชะตา ไดล้ าออกจากตาแหน่งประธานกรรมการบรหิ ารของบรษิ ทั ต้นแบบ จากดั (มหาชน) ซ่งึ เป็นบรษิ ทั จดทะเบยี นในตลาดหลกั ทรพั ยแ์ ห่งประเทศไทยตงั้ แต่วนั ท่ี 31 ธนั วาคม 25X7 เพอ่ื แสดงถงึ ความรบั ผดิ ชอบต่อการดาเนินงานทย่ี ่าแยแ่ ละทางบรษิ ทั ไดแ้ ต่งตงั้ ประธานคนใหม่คอื นายฟลุ๊ค จอบเสยี บ เขา้ มาทาหน้าทบ่ี รหิ ารงานแทนคนเดมิ การกากบั ดแู ลกิจการ บทที่ 1
38 บรษิ ทั ก๊อบป้ี จากดั ซง่ึ เป็นผูส้ อบบญั ชไี ดต้ รวจสอบบญั ชขี องบรษิ ทั ต้นแบบจากดั (มหาชน) พบว่า บริษัทฯ ได้ทารายงานสองชุด ชุดท่หี น่ึงสาหรบั ผู้บรหิ าร และอีกชุดหน่ึงสาหรบั ผู้ถือหุ้น รายงานฉบบั ผู้บรหิ ารจะเป็นรายงานผลการดาเนินงานตามความจรงิ ส่วนรายงานฉบบั ผู้ถือหุ้นจะ รายงานสถานะการเงนิ ของบรษิ ทั เป็นรายไตรมาสและมกี ารบนั ทกึ รายการขายทผ่ี ดิ ปกตใิ หก้ บั ลกู คา้ สอง ราย (ซง่ึ ไมม่ ปี รากฎในรายงานฉบบั ผบู้ รหิ าร) ผู้สอบบัญชีได้รบั การยืนยนั จากลูกค้าว่า จานวนเงินท่ีลูกค้าค้างกับบริษัทต้นแบบจากัด (มหาชน) เท่ากบั จานวนเงนิ ท่รี ะบุในรายงานฉบบั ผู้บรหิ าร ดงั นัน้ รายงานฉบบั ผู้ถอื หุน้ จงึ รายงาน สนิ ทรพั ยส์ ุทธขิ องบรษิ ทั สงู กวา่ รายงานฉบบั ผบู้ รหิ ารประมาณ 600 ลา้ นบาท และกาไรสทุ ธสิ งู กว่าความ เป็นจรงิ 500 ลา้ นบาท ในไตรมาสทห่ี น่ึงของปีน้ีและ 800 บาทในปี 25X5 ซง่ึ ผลประกอบการทแ่ี ทจ้ รงิ บรษิ ทั ตน้ แบบจากดั (มหาชน) ขาดทุนสงู ถงึ 431 ลา้ นบาท สาหรบั ไตรมาสทห่ี น่ึงของปีน้ี และขาดทุน 1,350 ล้านบาทในปี 25X5 นอกจากน้ีบรษิ ัทฯ ยงั ได้นารายการซ้อื ขายดงั กล่าวไปขอกู้เงนิ จานวน 3,570 ลา้ นบาทจากสถาบนั การเงนิ แห่งหน่งึ ระหว่างเดอื นธนั วาคม 25X1 ถงึ กรกฎาคม 25X2 บรษิ ทั ฯ ได้จ่ายเงนิ จานวน 950 ลา้ นบาท ให้กับผู้บรหิ ารท่านหน่ึงโดยไม่ได้รบั การอนุมตั จิ ากกรรมการท่านอ่ืนรวมทงั้ ผู้ถือหุ้นด้วยบรษิ ทั ฯ ได้ บนั ทกึ รายการดงั กลา่ วเป็นการจา่ ยเงนิ ใหก้ บั บรษิ ทั ในเครอื ทผ่ี บู้ รหิ ารท่านนนั้ ดูแลอยู่ ผสู้ อบบญั ชไี ด้ขอ คายนื ยนั จากผบู้ รหิ ารทา่ นนนั้ เกย่ี วกบั บญั ชดี งั กล่าวฯ แต่ยงั ไมไ่ ดร้ บั คาตอบ ทางผสู้ อบบญั ชจี งึ ไดข้ อให้ บรษิ ทั ฯ เรยี กเงนิ จานวนดงั กล่าวคนื จากเหตุการณ์ทก่ี ล่าวมา ทา่ นคดิ วา่ มปี ระเดน็ ในเรอ่ื งการกากบั ดแู ลกจิ การอะไรบา้ ง จงตอบมา 5 ประเด็น และแต่ละประเด็นมคี วามสาคญั อย่างไร จงวจิ ารณ์พร้อมแสดงความคิดเห็นประกอบ ขอ้ เสนอแนะของท่าน ตอนที่ 2 แบบฝึ กหดั ปรนัย : คาสงั่ ใหเ้ ขยี นเครอ่ื งหมายวงกลม ลอ้ มรอบตวั อกั ษรทถ่ี ูกต้องทส่ี ุด เพยี งตวั เลอื กเดยี วสาหรบั คาถามแต่ละขอ้ 1. ขอ้ ใดเป็นคานิยามตามกระบวนการกากบั ดแู ลของสมาคมผตู้ รวจสอบภายในแห่งสหรฐั อเมรกิ า (IIA) ใหไ้ วถ้ ูกตอ้ ง ก. ขนั้ ตอนวธิ ปี ฏบิ ตั โิ ดยตวั แทนของผมู้ สี ว่ นไดเ้ สยี ขององคก์ รในการดแู ลความเสย่ี งและ กระบวนการควบคมุ ข. ระบบการตรวจตราดแู ลและวธิ กี ารควบคมุ เพ่อื ใหเ้ กดิ การถ่วงดลุ อานาจกนั ค. ขนั้ ตอนวธิ ปี ฏบิ ตั ติ ามระบบซง่ึ กจิ การใชว้ ธิ สี งั่ การและควบคมุ กจิ กรรมต่างๆ ง. ผทู้ ม่ี คี วามรบั ผดิ ชอบในการทางานตามหน้าทต่ี ่อใครและอยา่ งไร บทที่ 1 การกากบั ดแู ลกิจการ
39 2. Corporate Governance มคี าแปลเป็นภาษาไทยหลายคา ยกเวน้ ขอ้ ใด ก. การกากบั ดแู ลกจิ การ ข. การควบคมุ ภายใน ค. บรรษทั ภบิ าล ง. ธรรมรฐั 3. การกากบั ดแู ลกจิ การของผบู้ รหิ ารหรอื เรยี กว่า “ตวั แทน” ไดร้ บั การแต่งตงั้ จากบคุ คลกลุม่ ใด ก. สมาคมผตู้ รวจสอบภายในแห่งประเทศไทย ข. คณะกรรมการตลาดหลกั ทรพั ยแ์ ห่งประเทศไทย ค. ผถู้ อื หุน้ ง. บุคคลภายนอกองคก์ ร 4. หลกั สาคญั ของการกากบั ดแู ลกจิ การตามเกณฑท์ ก่ี าหนดโดยองคก์ รเพ่อื ความร่วมมอื และพฒั นาทาง เศรษฐกจิ (OECD) ยกเวน้ ขอ้ ใดทไ่ี มไ่ ดก้ ล่าวถงึ ก. ความขดั แยง้ ของผลประโยชน์ ข. คณุ สมบตั ขิ องตวั แทน ค. นโยบายเกย่ี วกบั การกากบั ดแู ลกจิ การ ง. สทิ ธขิ องผมู้ สี ่วนไดเ้ สยี กลุ่มต่าง ๆ 5. “การกากบั ดแู ลกจิ การยงั ช่วยใหเ้ กดิ โครงสรา้ งทส่ี าคญั ซง่ึ เป็น กลไก ในการกาหนดวตั ถุประสงคข์ อง กจิ การและวธิ ที จ่ี ะบรรลวุ ตั ถุประสงค”์ จากคาทข่ี ดี เสน้ ใตห้ มายความถงึ ขอ้ ใด ก. เป็นการละเล่นของบุคคลกลมุ่ ๆ หน่งึ ในการแสดงมายากลเพอ่ื สรา้ งความเพลดิ เพลนิ ให้ คนดชู ม ข. เป็นศพั ทท์ ผ่ี บู้ รหิ ารสว่ นมากนยิ มใชส้ นทนาในการบรหิ ารองคก์ ร ค. เครอ่ื งทนุ แรงชนดิ หน่งึ ในกระบวนการผลติ ง. คาสงั่ ระเบยี บ นโยบาย ขอ้ กาหนดขององคก์ ร 6. ตามกฎหมาย Sarbanes-Oxley Act ของสหรฐั อเมรกิ ากาหนดใหห้ น่วยงานใดกากบั ดูแลผสู้ อบ บญั ชที ต่ี รวจสอบงบการเงนิ ของบรษิ ทั มหาชนจากดั ก. AICPA ข. PCAOB ค. FASB ง. SEC การกากบั ดแู ลกิจการ บทท่ี 1
40 7. การกากบั ดแู ลกจิ การมมี ลู เหตุทส่ี าคญั มาจากอะไร ก. ความเสย่ี ง ข. แนวคดิ ตวั แทน ค. ผบู้ รหิ าร ง. การควบคมุ ภายใน 8. ความรบั ผดิ ชอบต่อผลการปฏบิ ตั งิ านตามหน้าทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ ไดเ้ มอ่ื กจิ การกาหนดเร่อื งใด ก. จรรยาบรรณ ข. การถ่วงดลุ อานาจ ค. หน้าทแ่ี ละความรบั ผดิ ชอบ ง. การรายงานใหเ้ กดิ ความโปรง่ ใส 9. คณุ สมบตั ทิ ส่ี าคญั ของกรรมการตรวจสอบคอื อะไร ก. มคี วามรดู้ า้ นบญั ชแี ละการเงนิ ข. มคี วามรดู้ า้ นการตรวจสอบ ค. เป็นทป่ี รกึ ษาของบรษิ ทั ง. มคี วามเป็นอสิ ระ 10. หน้าทค่ี วามรบั ผดิ ชอบทส่ี าคญั ของคณะกรรมการตรวจสอบมหี ลายอยา่ ง ยกเวน้ ขอ้ ใด ก. การรายงานทางการเงนิ ข. การกากบั ดแู ลกจิ การ ค. การผลติ ง. การควบคุมภายในขององคก์ ร บทท่ี 1 การกากบั ดแู ลกิจการ
41 เอกสารอ้างอิง จนั ทนา สาขากร, นิพนั ธ์ เหน็ โชคชยั ชนะ, และศลิ ปพร ศรจี นั่ เพชร. (2557). การควบคมุ ภายในและการตรวจสอบภายใน. พมิ พค์ รงั้ ท่ี 1. กรงุ เทพฯ : ทพี เี อน็ เพรส. เซอร์ เอเดเรยี น แคดเบอรี่ (Sir Adrian Cadbury : 2002). ความหมายการกากบั ดแู ลกิจการ ที่ดี. สบื คน้ เมอ่ื 25 มถิ ุนายน 2558, จาก http://www.independent.co.uk/.../sir adrian cadbury-pioneer of good practice in corporate ตวั อย่างกฎบตั รของคณะกรรมการกากบั หลกั ทรพั ยแ์ ละตลาดหลกั ทรพั ยแ์ ห่งประเทศไทย. สบื คน้ เมอ่ื 8 มถิ ุนายน 2558, จาก http://www.sec.or.th/TH/AboutUs/Documents/charterthai.pdf. ตวั อย่างกฎบตั รของธนาคารไทยพาณิชย.์ สบื คน้ เมอ่ื 8 มถิ ุนายน 2558, จาก http://www.scb.co.th/th/about-scb/corporate...of.../charter-audit-committee. พระปฐมบรมราชโองการ เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก “เราจะครองแผน่ ดินโดย ธรรมเพื่อประโยชน์สขุ แห่งมหาชนชาวสยาม”. สบื คน้ เมอ่ื 12 พฤษภาคม 2558, จาก http:// ns2.ph.mahidol.ac.th/phklb/knowledgefiles/4_Chapter_2 สมชาย ศุภธาดา. (2553). วารสารบริหารธรุ กิจ ปี ท่ี 33 ฉบบั ที่ 125 มกราคม – มนี าคม 2553 “หลกั การพืน้ ฐานของธรรมาภิบาล”. คณะพาณชิ ยศาสตรแ์ ละการบญั ชี มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร.์ กรงุ เทพฯ : แปลน กราฟิค. สมาคมผตู้ รวจสอบภายในสากล (The Institute of Internal Auditiors : IIA ค.ศ. 2012) ความหมายการกากบั ดแู ล : ข้อมลู วิชาการ สบื คน้ เมอ่ื 25 มถิ ุนายน 2558, จาก http://www.theiiat.or.th สมาคมผตู้ รวจสอบภายในแห่งประเทศไทย. (2555). แนวทางการตรวจสอบภายใน ฉบบั นักศึกษา. จานวนพมิ พ์ 500 เลม่ . พมิ พค์ รงั้ ท่ี 2. กรงุ เทพฯ : จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . การกากบั ดแู ลกิจการ บทท่ี 1
42 สานักงานคณะกรรมการกากบั หลกั ทรพั ยแ์ ละตลาดหลกั ทรพั ย์ พ.ศ. 2557 ความหมาย การกากบั ดแู ลกิจการที่ดี. สบื คน้ เมอ่ื 25 มถิ ุนายน 2558, จาก http://www.sec.or.th > CorporateGovernanceCG องคก์ รเพ่ือความรว่ มมือและพฒั นาเศรษฐกิจ (0rganization for Economic Co-operation and Development Centre : OECD) สบื คน้ เมอ่ื 25 มถิ ุนายน 2558, จาก http://www.oecd.org/daf/ca/corporategovernanceprinciples/42107649.pdf อุษณา ภทั รมนตร.ี (2558). การตรวจสอบภายในสมยั ใหม่. พมิ พค์ รงั้ ท่ี 5. กรงุ เทพฯ : จามจรุ โี ปรดกั ท.์ Kim, Kenneth A. and Nofsinger, John R. (2007). Corporate Governance 2nd Edition New. Jersey : Person Education, Inc. บทท่ี 1 การกากบั ดแู ลกิจการ
43 แผนบริหารการสอนประจาบทที่ 2 การควบคมุ ภายในและการประเมินประสิทธิภาพการควบคมุ ภายใน หวั ข้อเนื้อหาประจาบท 1. แนวคดิ เกย่ี วกบั การควบคมุ ภายใน 2. องคป์ ระกอบการควบคมุ ภายใน 3. ประเภทและวธิ กี ารควบคมุ ภายใน 4. ลกั ษณะของระบบการควบคมุ ภายในทด่ี ี 5. การประเมนิ ตนเองในการควบคมุ 6. บทบาทหน้าทแ่ี ละความรบั ผดิ ชอบต่อการควบคมุ ภายใน 7. ประโยชน์ของการควบคุมภายใน วตั ถปุ ระสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 1. ผเู้ รยี นสามารถอธบิ ายแนวคดิ เกย่ี วกบั การควบคมุ ภายในได้ 2. ผเู้ รยี นสามารถอธบิ ายองคป์ ระกอบการควบคมุ ภายในได้ 3. ผเู้ รยี นสามารถอธบิ ายประเภทและวธิ กี ารควบคุมภายในได้ 4. ผเู้ รยี นสามารถอธบิ ายลกั ษณะของระบบการควบคมุ ภายในทด่ี ไี ด้ 5. ผเู้ รยี นสามารถอธบิ ายการประเมนิ ตนเองในการควบคมุ ได้ 6. ผเู้ รยี นสามารถอธบิ ายบทบาทหน้าทแ่ี ละความรบั ผดิ ชอบต่อการควบคมุ ภายในได้ 7. ผเู้ รยี นสามารถอธบิ ายประโยชน์ของการควบคุมภายในได้ วิธีการสอนและกิจกรรมการเรียนการสอนประจาบท 1. ชแ้ี จงรายละเอยี ดรายวชิ า วธิ กี ารจดั การเรยี นการสอน การวดั และการประเมนิ ผล 2. การบรรยายเน้อื หา 3. ถาม–ตอบในชนั้ เรยี น 4. ทาแบบฝึกหดั ทา้ ยบท การควบคมุ ภายในและการประเมินประสิทธิภาพการควบคมุ ภายใน บทที่ 2
44 ส่ือการเรียนการสอน 1. เอกสารประกอบการสอน เรอ่ื ง การควบคุมภายในและการประเมนิ ประสทิ ธภิ าพการ ควบคุมภายใน 2. ชดุ การสอน Power Point 3. แหล่งขอ้ มลู อเิ ลค็ ทรอนิกสท์ เ่ี กย่ี วขอ้ ง 4. แหล่งความรจู้ ากวารสารและหนงั สอื พมิ พต์ ่าง ๆ การวดั ผลและการประเมินผล 1. สงั เกตความสนใจขณะฟงั บรรยายและการตอบคาถาม 2. สงั เกตจากการทาแบบฝึกหดั ในชนั้ เรยี น 3. สงั เกตจากพฤตกิ รรมความสนใจ และการรว่ มกจิ กรรมในชนั้ เรยี น 4. ประเมนิ ผลจากการทาแบบฝึกหดั ทา้ ยบท บทท่ี 2 การควบคมุ ภายในและการประเมินประสิทธิภาพการควบคมุ ภายใน
45 บทที่ 2 การควบคมุ ภายในและการประเมินประสิทธิภาพการควบคมุ ภายใน การจะนาพาองค์กรใหป้ ระสบความสาเรจ็ ตามวตั ถุประสงค์หรือเป้าหมายทก่ี าหนดไว้ ถอื เป็น หน้าทค่ี วามรบั ผดิ ชอบหลกั ของผู้บรหิ ารในองค์กร เน่ืองจากต้องใหค้ วามสาคญั เก่ยี วกบั การควบคุม ภายในด้านการบรหิ ารจดั การ โดยเรมิ่ ตงั้ แต่การวางโครงสร้างหน่วยงาน กาหนดมาตรการหรอื กระบวนการดาเนินงาน ระเบยี บวธิ ปี ฏบิ ตั งิ านอย่างเหมาะสมเพยี งพอ ตลอดจนมกี ารตดิ ตามและ ประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ านของทุกหน่วยงาน ในปจั จุบนั ระบบการทางานแต่ละองคก์ รมคี วามซบั ซ้อน เกดิ การแข่งขนั กนั สูง การเปล่ยี นแปลงเทคโนโลยรี วดเรว็ ความไม่แน่นอนทางสงั คมและเศรษฐกจิ มี ผลกระทบต่อการทางานของบุคลากรทุกระดบั สิ่งเหล่าน้ีย่อมนามาซ่งึ สาเหตุของความเส่ยี งท่จี ะ ก่อใหเ้ กดิ ความสญู เสยี การลดลงซง่ึ ผลประโยชน์ของกจิ การ ในการเรมิ่ ตน้ ศกึ ษาเร่อื งการควบคุมภายใน และการประเมนิ ประสทิ ธภิ าพการคมุ ภายในจงึ จาเป็นอยา่ งยง่ิ ทท่ี กุ คนตอ้ งทาความเขา้ ใจพน้ื ฐานเกย่ี วกบั แนวคดิ หลายอยา่ งเพอ่ื ใหเ้ ขา้ ใจตรงกนั และสามารถทจ่ี ะนาไปประยุกต์ใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์ทงั้ ต่อองคก์ ร และต่อตนเองตามบทบาทหน้าทแ่ี ละความรบั ผดิ ชอบ แนวคิดเก่ียวกบั การควบคมุ ภายใน แ น ว คิด ข อ ง ก า ร ค ว บ คุ ม ภ า ย ใ น ไ ด้มีก า ร ก า ห น ด ไ ว้ห ล า ย ส ถ า บัน ไ ม่ว่ า จ ะ เ ป็ น ห น่ ว ย ง า น ภายในประเทศหรอื ต่างประเทศก็ตามแต่เม่อื ได้ศึกษาแล้วปรากฎว่าคาจากัดความของการควบคุม ภายในแต่ละหน่วยงานกม็ ลี กั ษณะคลา้ ยกนั จนกระทงั่ ในปี 2535 เกดิ การรวมตวั กนั ของคณะกรรมการ 5 สถาบนั หรอื เป็นทร่ี จู้ กั คนุ้ เคยกนั ทเ่ี รยี กยอ่ ๆ ว่า “โคโซ่” (Committee of Sponsoring Organizations of the Treadway Commission : COSO) ไดท้ าการศกึ ษาและหาทางปรบั ปรงุ คุณภาพของรายงานทางการ เงนิ ขน้ึ เพ่อื ใหม้ ขี อ้ มูลท่ถี ูกตรงตรงกบั ความเป็นจรงิ และก่อให้เกดิ ความน่าเช่อื ถอื ไดใ้ นองค์กร ดงั นัน้ เพ่อื ใหก้ ารทางานของผูต้ รวจสอบภายในประสบผลสาเรจ็ จงึ ควรศกึ ษาและตอ้ งทาความเขา้ ใจเกย่ี วกบั แนวคดิ ของระบบการควบคุมภายในเรอ่ื งต่างๆ ดงั น้ี 1. ความหมายของการควบคมุ ภายใน (Internal Control) นิยามของการควบคมุ ภายในทใ่ี หไ้ วม้ หี ลากหลายแต่ทย่ี อมรบั และแพร่หลายกนั อย่างกวา้ งขวาง คอื คานิยามของโคโซ่ สาหรบั นิยามท่นี ามาศึกษาในบทน้ีขอกล่าวถึงหน่วยงานหลกั ท่เี ป็นผู้กาหนด แนวทางของการควบคุมภายในดงั น้ี การควบคมุ ภายในและการประเมินประสิทธิภาพการควบคมุ ภายใน บทท่ี 2
46 สมาคมผสู้ อบบญั ชรี บั อนุญาตแห่งประเทศสหรฐั อเมรกิ า (AICPA) โดยคณะกรรมการพจิ ารณา วธิ กี ารปฏบิ ตั งิ านสอบบญั ชใี หค้ วามหมายของการควบคุมภายใน คอื แผนการจดั แบ่งหน่วย งานวธิ ี ปฏบิ ตั งิ านทป่ี ระสานสมั พนั ธก์ นั และมาตรการต่างๆ ทก่ี จิ การกาหนดขน้ึ และถอื ปฏบิ ตั ภิ ายในองคก์ รเพ่อื ปกปกั รกั ษาทรพั ยส์ นิ ของกจิ การ รวมทงั้ สอบทานความถูกตอ้ งและเช่อื ถอื ได้ของขอ้ มูลทางการบญั ชี เพมิ่ พูนประสิทธภิ าพในการดาเนินงานและส่งเสรมิ ให้มกี ารดาเนินงานตามนโยบายท่ฝี ่ายบรหิ ารได้ กาหนดไว้ (คน้ จาก, http://www.aicpa.org) สหพนั ธ์นักบญั ชรี ะว่างประเทศ (IFAC) โดยคณะกรรมการมาตรฐานการสอบบญั ชไี ดใ้ ห้คา นิยามของระบบการควบคุมภายในไวใ้ นมาตรฐานการสอบบญั ชีรหสั 315 “การระบุและประเมนิ ความ เส่ยี งจากการแสดงข้อมูลท่ขี ดั ต่อข้อเท็จจรงิ อนั เป็นสาระสาคญั โดยการทาความเข้าใจกิจการและ สภาพแวดลอ้ มของกจิ การ” หมายถงึ กระบวนการท่ผี มู้ หี น้าทใ่ี นการกากบั ดแู ล ผบู้ รหิ ารและบุคคลอ่นื ไดอ้ อกแบบนาไปปฏบิ ตั แิ ละดูแลใหเ้ หมาะสมอย่เู สมอ เพ่อื ใหไ้ ดค้ วามเช่อื มนั่ อยา่ งสมเหตุสมผลในการ บรรลุวตั ถุประสงคข์ องกจิ การเก่ยี วกบั ความน่าเช่อื ถอื ได้ของรายงานทางการเงนิ ความมปี ระสทิ ธผิ ล และประสทิ ธภิ าพของการดาเนินงานและการปฏบิ ตั ติ ามกฎหมายขอ้ กาหนดท่เี ก่ยี วข้อง (ค้นจาก, http://www.ifac.org) ตลาดหลกั ทรพั ยแ์ ห่งประเทศไทยและสมาคมผตู้ รวจสอบภายในแห่งประเทศไทย (2554 : 28) ให้ความหมายของการควบคุมภายใน คอื กระบวนการหรอื ขนั้ ตอนการทางานท่เี ป็นผลมาจากการ ออกแบบโดยคณะกรรมการ ผบู้ รหิ าร หรอื บุคลากรอ่นื ๆ ขององคก์ รเพ่อื ก่อใหเ้ กดิ ความมนั่ ใจไดอ้ ยา่ ง สมเหตุสมผลวา่ องคก์ รสามารถดาเนินงานบรรลุวตั ถุประสงค์ จนั ทนา สาขากร, นิพนั ธ์ เหน็ โชคชยั ชนะ, และศลิ ปพร ศรจี นั่ เพชร (2557 : 2–5) ไดก้ ล่าวถงึ ความหมายของการควบคุมภายในตามแนวคดิ ของโคโซ่ว่า เป็นกระบวนการปฏบิ ตั งิ านทถ่ี ูกกาหนด ร่วมกนั โดยคณะกรรมการผูบ้ รหิ าร ตลอดจนพนักงานขององค์กรทุกระดบั ชนั้ เพ่อื ใหเ้ กดิ ความมนั่ ใจ อย่างสมเหตุสมผลว่า วธิ กี ารหรอื การปฏบิ ตั งิ านตามทก่ี าหนดไว้จะทาให้บรรลุวตั ถุ ประสงคข์ องการ ควบคุม ดงั นนั้ จงึ สรุปว่า การควบคมุ ภายใน คอื แผนการปฏบิ ตั งิ านขององคก์ รทถ่ี ูกกาหนดร่วมกนั ทุกระดับชนั้ โดยผู้บรหิ าร คณะกรรมการ และฝ่ายปฏิบตั ิงานซ่ึงกระทาด้วยความเช่ือมนั่ อย่าง สมเหตุสมผล สอบทานถงึ ความถูกตอ้ งและความน่าเช่อื ถอื ได้ของขอ้ มลู อกี ทงั้ ยงั นามาซ่งึ การรกั ษา ทรพั ยส์ นิ ขององคก์ รเพอ่ื ใหบ้ รรลุวตั ถุประสงค์ 2. วตั ถปุ ระสงคก์ ารควบคมุ ภายใน (Objective Internal Control) Root S. Beyoand กล่าวว่าตามแนวคดิ ของโคโซ่ทค่ี ณะกรรมการร่วมจากสถาบนั วชิ าชพี 5 สถาบนั ไดแ้ ก่ 1) สถาบนั ผู้สอบบญั ชรี บั อนุญาตแห่งประเทศสหรฐั อเมรกิ า(American Institute of Certified Public Accountants), 2) สมาคมนักบญั ชแี ห่งสหรฐั อเมรกิ า (American Accounting Association), 3) สถาบนั ผตู้ รวจสอบภายในสากล (Institute of Internal Auditors), 4) สถาบนั นักบญั ชี บทที่ 2 การควบคมุ ภายในและการประเมินประสิทธิภาพการควบคมุ ภายใน
47 เพ่อื การบรหิ าร (Institute of Management Accountants), และ 5) สถาบนั ผบู้ รหิ ารการเงนิ (Financial Executives Institute) ไดก้ าหนดวตั ถุประสงคข์ องการควบคุมภายในแบ่งออกเป็น 3 ประการเพ่อื ให้ บรรลตุ ามผลสาเรจ็ ของงานดงั น้ี 2.1 ความมปี ระสทิ ธภิ าพ ประสทิ ธผิ ลของการปฏบิ ตั งิ าน (Effectiveness and Efficiency of Operation : O) เป็นวตั ถุประสงคท์ ม่ี งุ่ เน้นดา้ นการบรหิ ารจดั การเกย่ี วกบั การใชท้ รพั ยากรขององคก์ ร เพ่อื ให้กระบวนการปฏบิ ตั งิ านก่อให้เกดิ ประสทิ ธภิ าพและประสทิ ธผิ ลดว้ ย ความประหยดั อย่างคุ้มค่า การดูแลรกั ษาทรพั ยส์ นิ ขอ้ มลู ต่างๆ ให้มคี วามปลอดภยั การป้องกนั หรอื ลดความผดิ พลาดความเสยี หายจากการทุจรติ รวมทงั้ สามารถดาเนนิ งานใหบ้ รรลุวตั ถุประสงคต์ ามเป้าหมายขององคก์ รทก่ี าหนดไว้ 2.2 ความเชอ่ื ถอื ไดข้ องรายงานทางการเงนิ (Reliability of Financial Reporting : F) เป็น วตั ถุประสงค์เพ่อื ให้รายงานทางการเงนิ มีคุณภาพเป็นไปตามมาตรฐาน มีความถูกต้องเช่ือถือได้ ทนั เวลา มปี ระโยชน์และเพยี งพอต่อการนาขอ้ มลู หรอื สารสนเทศไปใชเ้ พ่อื การตดั สนิ ใจวางแผนของฝ่าย บรหิ ารและผมู้ สี ว่ นเกย่ี วขอ้ งต่างๆ ทงั้ บุคคลภายในหรอื บคุ คลภายนอกองคก์ ร 2.3 การปฏบิ ตั ติ ามกฎหมายและขอ้ บงั คบั (Compliance with Laws and Regulations : C) เป็นวตั ถุประสงคเ์ พ่อื ใหก้ ระบวนการปฏบิ ตั งิ านมกี ารปฏบิ ตั โิ ดยสอดคลอ้ งและเป็นไปตามกฎระเบยี บของ องคก์ รรวมถงึ ขอ้ กาหนดทางกฎหมายทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง ป้องกนั มใิ ห้เกดิ การเสยี หายใดๆ จากการละเวน้ ไม่ ปฏบิ ตั ิ 3. ลกั ษณะของการควบคมุ ภายใน (Nature of Internal Control) สมาคมผู้สอบบญั ชรี บั อนุญาตแห่งประเทศสหรฐั อเมรกิ า (American Institute of Certified Public Accountants : AICPA) ไดก้ ล่าวถงึ ประเภทของการควบคุมภายในทก่ี าหนดไวใ้ นมาตรฐานการ สอบบญั ชเี กย่ี วกบั การประเมนิ ระบบการควบคุมภายในของผสู้ อบบญั ชี (Statement on Audit Standard No.1) เมอ่ื เดอื นพฤศจกิ ายน พ.ศ. 2515 โดยแบ่งลกั ษณะการควบคมุ ภายในออกเป็น 2 กล่มุ หลกั ๆ คอื 3.1 การควบคมุ ดา้ นการบรหิ าร หมายถงึ การควบคมุ ทม่ี ไิ ดจ้ ากดั อยเู่ พยี งทแ่ี ผนการจดั แบ่งองคก์ ร วธิ กี ารมาตรการต่างๆ ทจ่ี ะทาใหก้ ารดาเนินงานมปี ระสทิ ธภิ าพและส่งเสรมิ ให้มกี ารปฏบิ ตั ิ ตามนโยบายท่ีผู้บริหารวางไว้ด้วยการวางแผนและการกาหนดนโยบายหลัก การกาหนดอานาจ ดาเนินการ การคดั เลอื กพนักงาน การฝึกอบรมและพฒั นาพนกั งาน การวเิ คราะหท์ างสถติ ิ และการ รายงานผลการปฏบิ ตั งิ านเหลา่ น้ถี อื เป็นสว่ นหน่งึ ของการควบคมุ ดา้ นการบรหิ าร 3.2 การควบคุมดา้ นการบญั ชี หมายถงึ แผนการจดั แบ่งองคก์ ร วธิ กี ารทเ่ี กย่ี วขอ้ งโดย ตรงกบั การดแู ลรกั ษาทรพั ยส์ นิ การตรวจสอบความถูกตอ้ ง และเชอ่ื ถอื ไดข้ องขอ้ มลู ทางการบญั ชี การ ควบคุมดา้ นน้ีจะเป็นเครอ่ื งมอื สนับสนุนให้ผบู้ รหิ ารดาเนินงานไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธภิ าพโดย การใหข้ อ้ มลู ทางการเงนิ ท่เี ช่อื ถอื ได้สาหรบั การตดั สนิ ใจ การวเิ คราะหห์ าเหตุผลของรายการทผ่ี ดิ ปกตหิ รอื ผดิ ไป จากความคาดหมายโดยทวั่ ไปแลว้ การควบคมุ ดา้ นการบญั ชมี กั กาหนดขน้ึ เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความมนั่ ใจไดว้ ่า 3.2.1 รายการต่างๆ ทเ่ี กดิ ขน้ึ เป็นไปตามหลกั เกณฑก์ ารอนุมตั ทิ ฝ่ี า่ ยบรหิ ารกาหนดไว้ 3.2.2 มกี ารบนั ทกึ รายการทเ่ี กดิ ขน้ึ อยา่ งเพยี งพอทจ่ี ะจดั ทางบการเงนิ ตามมาตรฐาน การควบคมุ ภายในและการประเมินประสิทธิภาพการควบคมุ ภายใน บทท่ี 2
48 การรายงานทางการเงนิ หรอื ตามวตั ถุประสงคอ์ ่นื และสามารถทราบถงึ รายละเอยี ดของสนิ ทรพั ยท์ อ่ี ย่ใู น ความครอบครอง 3.2.3 การเขา้ ถงึ ตวั สนิ ทรพั ยเ์ ป็นไปตามหลกั เกณฑท์ ฝ่ี า่ ยบรหิ ารกาหนด 3.2.4 มกี ารเปรยี บเทยี บสนิ ทรพั ยท์ ม่ี อี ยจู่ รงิ กบั สนิ ทรพั ยท์ บ่ี นั ทกึ บญั ชไี วเ้ ป็นครงั้ คราว และมกี ารดาเนนิ งานอยา่ งเหมาะสมในกรณที เ่ี กดิ ความแตกต่างขน้ึ ดงั นนั้ ความครบถว้ นถูกตอ้ ง ความน่าเช่อื ถอื ได้รวมถงึ ความปลอดภยั ของขอ้ มลู ต่างๆ จะเกดิ ขน้ึ ไดก้ ต็ ่อเม่อื องคก์ รต้องมรี ะบบบญั ชแี ละการแบ่งแยกหน้าทค่ี วามรบั ผดิ ชอบอยา่ งเพยี งพอเหมาะสม โดยผู้บรหิ ารต้องมอบหมายภาระหน้าท่ีนัน้ ตามความรู้ความสามารถแต่ละบุคคล ความเช่ยี วชาญ ประสบการณ์ของการทางาน โดยทวั่ ไปแลว้ การควบคุมภายในดา้ นการบญั ชจี งึ ถูกแบ่งยอ่ ยออกไดเ้ ป็น 2 กล่มุ ดงั น้ี 1. การควบคุมขนั้ พน้ื ฐาน (Basic Control) กล่าวคอื เป็นมาตรการควบคุมเพอ่ื ใหแ้ น่ใจว่า รายการบญั ชไี ดบ้ นั ทกึ ไวอ้ ย่างถูกตอ้ ง ครบถ้วน เช่อื ถอื ไดว้ ่ามรี ายการทเ่ี กดิ ขน้ึ จรงิ และไดร้ บั อนุมตั ิ แลว้ มกี ารกาหนดเลขทข่ี องเอกสารไวล้ ่วงหน้าก่อนนามาใชใ้ นการปฏบิ ตั งิ านจรงิ มแี บบฟอรม์ ต่าง ๆ ทผ่ี ่านความเหน็ ชอบจากผบู้ รหิ ารและบุคคลทเ่ี กย่ี วขอ้ งว่าสามารถนามาใช้ไดม้ คี วามสอดคลอ้ งสมั พนั ธ์ กบั การปฏบิ ตั งิ านจรงิ มคี มู่ อื ปฏบิ ตั งิ าน เป็นตน้ 2. การควบคุมสนบั สนุน (Diciplines over Basic Control) กล่าวคอื เป็นมาตรการควบคุม เพ่ือให้แน่ใจว่าฝ่ายปฏิบัติได้มีการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ ระเบียบและข้อบงั คบั ต่างๆ ท่ีเก่ียวข้อง ผู้บรหิ ารต้องจดั หาเคร่อื งใช้ในการปฏิบตั ิงานมาให้เพยี งพอต่อความต้องการของผู้ใช้ เช่น เคร่อื ง คอมพวิ เตอร์ เคร่อื งถ่ายเอกสาร เคร่อื งโทรสาร โทรศพั ท์ ตู้เก็บเอกสาร เป็นต้น ซ่งึ สงิ่ เหล่าน้ีจะ อานวยความสะดวก รวดเรว็ ในการตดิ ต่อส่อื สาร ส่งผลใหก้ ารทางานมปี ระสทิ ธผิ ลมากยง่ิ ขน้ึ และตอ้ งมี การตดิ ตามประเมนิ ผลของระบบการควบคุมภายในขนั้ พน้ื ฐานอยา่ งสม่าเสมอ 4. พืน้ ฐานของการควบคมุ ภายใน (Based Internal Control) ตลาดหลกั ทรพั ยแ์ ห่งประเทศไทย (2554 : 42) กล่าวว่าผบู้ รหิ ารควรตระหนักถงึ โครงสรา้ งของ การควบคุมภายในท่ดี ถี อื ว่าเป็นพ้นื ฐานทส่ี าคญั เพ่อื ให้การดาเนินงานบรรลุผลสาเรจ็ ตามวตั ถุประสงค์ และถา้ มกี ารปรบั ปรุงเปลย่ี นแปลงกส็ ามารถนามาแก้ไขได้ทนั ถ่วงทตี ่อเหตุการณ์ทเ่ี กดิ ขน้ึ นอกจากน้ี ผู้บรหิ ารต้องเป็นผู้ท่มี คี วามซ่อื สตั ย์สุจรติ ทงั้ ต่อตนเองและต่อองค์กรควรมคี วามรู้ความเข้าใจอย่าง เพยี งพอในหลกั การพน้ื ฐานของการควบคุมภายใน ใหก้ ารสนบั สนุนดา้ นงบประมาณอยา่ งเตม็ ทแ่ี ละให้ ความสาคญั ต่อการจดั ใหม้ กี ารควบคุมภายในขน้ึ เพอ่ื นาไปปฏบิ ตั ไิ ดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ ดงั นนั้ จะเหน็ วา่ พน้ื ฐานของการควบคมุ ภายในจะเกย่ี วขอ้ งกบั สง่ิ เหล่าน้ี 4.1 ความรบั ผดิ ชอบของผบู้ รหิ าร เป็นสง่ิ ทผ่ี บู้ รหิ ารทุกคนควรใหค้ วามสาคญั เน่อื งจาก การจดั ใหม้ รี ะบบการควบคุมภายในเป็นความรบั ผดิ ชอบหลกั ของผบู้ รหิ ารเพ่อื ช่วยใหอ้ งคก์ รสามารถ บรรลวุ ตั ถุประสงคท์ จ่ี ะทาใหเ้ กดิ ความมนั่ ใจเท่าทจ่ี ะสามารถทาไดว้ า่ การดาเนินธุรกจิ เป็นไปอยา่ งมี ระเบยี บและมปี ระสทิ ธภิ าพ การออกแบบการควบคมุ ภายในทเ่ี หมาะสมรวมถงึ การตดิ ตามจะทาให้ บทที่ 2 การควบคมุ ภายในและการประเมินประสิทธิภาพการควบคมุ ภายใน
49 ผบู้ รหิ ารไดร้ บั ทราบจดุ อ่อนต่างๆ ทเ่ี กดิ ขน้ึ เพอ่ื นามาปรบั ปรงุ แกไ้ ขใหไ้ ดท้ นั ถ่วงที 4.2 ความมนั่ ใจอยา่ งสมเหตุสมผล ในการจดั ใหม้ รี ะบบการควบคมุ ภายในยอ่ มมตี น้ ทนุ เกดิ ขน้ึ ผบู้ รหิ ารควรมคี วามมนั่ ใจอยา่ งสมเหตุสมผลว่าตน้ ทุนของการควบคุมภายในตอ้ งไปสงู กว่า ประโยชน์ทค่ี าดว่าจะไดร้ บั จากการจดั ใหม้ รี ะบบการควบคมุ ภายในนนั้ เชน่ องคก์ รจา้ งพนกั งานเพมิ่ ขน้ึ เพ่อื ใหม้ กี ารแบ่งแยกหน้าทก่ี นั ทาอย่างเหมาะสม หรอื ออกแบบระบบเอกสารและคู่มอื การปฏบิ ตั งิ าน เป็นตน้ 4.3 ขอ้ จากดั สบื เน่อื งตามลกั ษณะของการควบคุมภายใน การควบคุมภายในถงึ แมจ้ ะมี การออกแบบไว้อย่างดีแต่ก็ไม่สามารถให้ข้อสรุปแก่ผู้บรหิ ารว่าระบบการควบคุมภายในได้บรรลุ วตั ถุประสงคเ์ น่อื งจากการควบคุมภายในมขี อ้ จากดั สบื เน่ืองในตวั เอง เช่น โอกาสทจ่ี ะเกดิ ขอ้ ผดิ พลาด จากบุคลากรซง่ึ เกดิ จากความไมร่ ะมดั ระวงั การใชด้ ุลยพนิ ิจผดิ พลาด หรอื ไมเ่ ขา้ ใจคาสงั่ ผู้บรหิ ารใช้ อานาจไปในทางทผ่ี ดิ เป็นตน้ 5. ปัจจยั ในการพิจารณาตดั สินใจให้มีระบบการควบคมุ ภายใน (Factors to Consider System of Internal Control) การดาเนินธุรกิจทุกประเภทย่อมต้องมโี อกาสท่จี ะเกิดความเส่ยี งซง่ึ สร้างความเสยี หายให้แก่ กจิ กรรมหรอื ขนั้ ตอนต่างๆ ภายใต้การดาเนินงานเพ่อื ใหบ้ รรลุวตั ถุประสงคท์ ก่ี าหนดไว้ การพจิ ารณา ตดั สินใจให้มรี ะบบการควบคุมภายในจงึ ข้นึ อยู่กบั ว่าผู้บรหิ ารจะพจิ ารณาเห็นควรจดั ให้มรี ะบบการ ควบคุมภายในลกั ษณะใดและมากน้อยเพยี งใดเพ่อื ให้มนั่ ใจไดว้ ่าระบบการควบคุมนัน้ จะช่วยป้องกนั บรรเทาหรอื ลดความเสย่ี งใหอ้ ยใู่ นระดบั ทอ่ี งค์กรยอมรบั ได้ โดยทวั่ ไปองคก์ รควรพจิ ารณากาหนดให้มี การควบคมุ ภายในทด่ี โี ดยมลี กั ษณะดงั ต่อไปน้ี 5.1 ควรฝงั หรอื แทรกอยใู่ นกระบวนการปฏบิ ตั งิ านทป่ี ฏบิ ตั อิ ยเู่ ป็นปกตโิ ดยเฉพาะในจดุ ทม่ี ี ความเสย่ี งสงู 5.2 ควรมคี วามเหมาะสม ไมเ่ ขม้ งวด หรอื หละหลวมจนเกนิ ไป 5.3 ควรใหผ้ ปู้ ฏบิ ตั งิ านเขา้ ใจไดง้ า่ ยสามารถสะทอ้ นผลจากการประเมนิ ไดอ้ ยา่ งชดั เจนและ เป็นธรรม ควรให้ผลการประเมินท่ีถูกต้องและทันกาล เพ่ือให้ทราบถึงผลเสียหา ยและสามารถ ดาเนินการแกไ้ ขไดภ้ ายในระยะเวลาอนั สมควร 5.5 ควรมคี วามเชอ่ื มโยงสมั พนั ธก์ บั แผนงาน วตั ถุประสงค์ เป้าหมายตวั ชว้ี ดั ทงั้ ระดบั องคก์ รและระดบั กจิ กรรม ดังนัน้ กระบวนการตัดสินใจให้มีระบบการควบคุมภายในเป็นลักษณะแบบใดผู้บริหาร จาเป็นตอ้ งอาศยั ขอ้ มลู ทเ่ี หมาะสมและตอ้ งใชด้ ลุ ยพนิ ิจอย่างระมดั ระวงั รอบคอบซง่ึ ปจั จยั ในการพจิ ารณา ตดั สนิ ใจใหม้ รี ะบบการควบคุมภายในจะแบง่ ออกไดเ้ ป็น 3 ประการคอื 1. โอกาสทจ่ี ะเกดิ ความเสย่ี งต่อความเสยี หาย ผบู้ รหิ ารควรทาการวเิ คราะหว์ า่ มขี นั้ ตอนการ ปฏบิ ตั งิ านใดบ้างท่อี าจเกิดความเสยี หาย การสูญเสยี การรวั่ ไหล หรอื การทุจรติ ได้โดยง่าย และ โอกาสหรอื ความถข่ี องการเกดิ ความเสย่ี งนนั้ มมี ากน้อยเพยี งใด การควบคมุ ภายในและการประเมินประสิทธิภาพการควบคมุ ภายใน บทที่ 2
50 2. ขนาดความรนุ แรงของความเสยี หาย ผบู้ รหิ ารควรพจิ ารณาวา่ ความเสย่ี งทม่ี โี อกาสเกดิ ขน้ึ นนั้ จะสง่ ผลกระทบทเ่ี สยี หายรนุ แรงมากน้อยเพยี งใด ขนาดของความเสยี หายถา้ เป็นจานวนเงนิ สูงหรอื เก่ยี วขอ้ งกบั ชวี ติ มนุษยห์ รอื การเส่อื มเสยี ช่อื เสยี งขององค์กรมากเพยี งใดกย็ งิ่ จาเป็นต้องจดั ให้มรี ะบบ การควบคมุ ภายในทด่ี มี ากขน้ึ เพยี งนนั้ 3. ค่าใชจ้ า่ ยในการป้องกนั หรอื ลดความเสย่ี ง ผบู้ รหิ ารควรจะพจิ ารณาประโยชน์และความ คุม้ ค่าจากค่าใชจ้ า่ ยทเ่ี กดิ ขน้ึ เมอ่ื มกี ารตดั สนิ ใจมรี ะบบการควบคุมภายในลกั ษณะแบบใดกต็ าม ถงึ แมว้ ่า ผลประโยชน์ทไ่ี ดร้ บั อาจยงั มองไม่เหน็ ชดั เจนผบู้ รหิ ารกจ็ าเป็นต้องพจิ ารณาใหร้ อบคอบโดยใชด้ ุลยพนิ ิจ เป็นกรณๆี ไปรวมถงึ การพจิ ารณาความเป็นไปไดแ้ ละความสามารถทางการเงนิ ว่ามเี พยี งพอหรอื ไมท่ จ่ี ะ รบั ภาระคา่ ใชจ้ า่ ยดงั กลา่ ว ซง่ึ ควรจะต่ากวา่ ภาระความเสยี หายอนั อาจเกดิ ขน้ึ หากไมม่ กี ารควบคุมภายใน 6. สภาพแวดล้อมที่จะมีผลกระทบต่อประสิทธิผลของการควบคมุ ภายใน (Environment Internal Control) สานกั งานตรวจเงนิ แผ่นดนิ (2554 : 28) กล่าวถงึ สภาพแวดลอ้ มของการควบคุมภายในทม่ี อี ยู่ ในองค์กรจะมผี ลกระทบต่อประสทิ ธผิ ลของระบบการควบคุมท่นี ามาใช้ ผู้บรหิ ารต้องตดั สนิ ใจว่าข้อ ผดิ พลาดหรอื ผลกระทบต่างๆ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ควรจะต้องแก้ปญั หาสถานการณ์อย่างไร จะใชว้ ธิ ลี ดความเสย่ี ง หรอื ใชว้ ธิ กี ารทดแทนกนั หรอื ไม่ ถา้ ตอ้ งมกี ารเปรยี บเทยี บตน้ ทุนทต่ี อ้ งใชจ้ า่ ยไปจะก่อใหเ้ กดิ ความคุม้ คา่ กลบั มาเพยี งใดซง่ึ มปี ระเดน็ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งดงั น้ี 6.1 ความเป็นระบบ (Systemization) เป็นพน้ื ฐานของการควบคุมกจิ กรรมทกุ ประเภท ขององคก์ ร ถา้ ผบู้ รหิ ารกาหนดมาตรการระเบยี บ ขอ้ บงั คบั กฎเกณฑร์ วมถงึ นโยบายต่างๆ เป็นระบบ ทแ่ี น่นอน ชดั เจน กจ็ ะชว่ ยใหก้ ารปฏบิ ตั งิ านของบุคลากรทุกระดบั ชนั้ มคี วามถูกต้องบรรลุวตั ถุประสงค์ ไดง้ า่ ยเพมิ่ ประสทิ ธผิ ลและประสทิ ธภิ าพมากยง่ิ ขน้ึ ความเสย่ี งซง่ึ เกดิ จากการปฏบิ ตั งิ านยอ่ มลดลงทาให้ การควบคุมเป็นไปไดง้ า่ ย โดยหลกั การทวั่ ไปแลว้ หากผบู้ รหิ ารไดช้ แ้ี จงและทาความเขา้ ใจกบั ทุกฝา่ ยท่ี เก่ยี วข้องเม่อื มจี ุดอ่อนเกดิ ขน้ึ หรอื ความเสย่ี งนัน้ ได้เข้ามาส่งผลกระทบต่อการปฏบิ ตั งิ านทาให้องค์กร สูญเสยี ซ่งึ ผลประโยชน์ลดลง ผูบ้ รหิ ารควรแนะนาให้ฝ่ายนัน้ ๆ ต้องแก้ไขปญั หาจากสถานการณ์ดว้ ย วธิ กี ารทเ่ี หมาะสม ในทางปฏบิ ตั ริ ะดบั ความเป็นระบบขององคก์ รต่างๆ อาจแตกต่างกนั เช่น ในระบบ ขอ้ มูลท่ใี ช้คอมพวิ เตอร์จะมคี วามเป็นระบบมากกว่าระบบขอ้ มูลท่ใี ชค้ นทาเพราะการใช้คอมพวิ เตอร์ ทางานจาเป็นตอ้ งมกี ารวางแผน และเขยี นคาสงั่ งานโดยละเอยี ดและแน่ชดั มากกว่าการสงั่ งานใหค้ นทา เป็นตน้ 6.2 การมเี อกสารหลกั ฐาน (Documentation) การบนั ทกึ ขอ้ มลู แลว้ มกี ารแสดงดว้ ยหลกั ฐาน เป็นการบง่ บอกถงึ ประโยชน์ทน่ี ามาใชใ้ นการสอ่ื สารหรอื ถ่ายทอดความเขา้ ใจระหว่างบุคคลนอกจากน้ียงั นามาใชใ้ นการวเิ คราะหร์ ายการทเ่ี กดิ ขน้ึ เพ่อื ใหเ้ กดิ ความเพยี งพอว่าขอ้ มลู หรอื รายการทไ่ี ดน้ ามาบนั ทกึ ไวน้ นั้ ถูกตอ้ งตามหลกั การทวั่ ไป ซง่ึ เอกสารหลกั ฐานบางอยา่ งอาจจดั ทาขน้ึ เพ่อื ประโยชน์ในการควบคุม ทางการบญั ชเี ป็นหลกั บางครงั้ อาจมกี ารควบคมุ ทางดา้ นการบรหิ ารไปในตวั ดว้ ย เช่น การใหห้ มายเลข บทท่ี 2 การควบคมุ ภายในและการประเมินประสิทธิภาพการควบคมุ ภายใน
51 เอกสารเรยี งลาดบั กนั มเี ป้าหมายสาคญั เพอ่ื ใหท้ ราบว่า รายการทเ่ี กดิ ขน้ึ ทงั้ หมดไดน้ าไปประมวลไวโ้ ดย ครบถว้ นหรอื ไมแ่ ต่เลขทเ่ี อกสารน้ีกอ็ าจนาไปใชเ้ พ่อื ประโยชน์อ่นื ได้อกี มากมาย การมเี อกสารหลกั ฐาน ถอื เป็นส่วนหน่ึงของความเป็นระบบ ซง่ึ เน้นใหเ้ หน็ ว่าเป็นสง่ิ จาเป็นในการควบคุมภายในเพราะถ้าไม่มี เอกสารหลกั ฐานประกอบแสดงให้เหน็ ว่ามรี ายการใดเกดิ ขน้ึ บา้ ง ใครเป็นผูอ้ นุมตั แิ ละผู้ปฏบิ ตั ิ มกี าร ปฏบิ ตั อิ ย่างไร ย่อมทาให้ไม่สามารถควบคุมได้ ดงั นัน้ ระบบการควบคุมภายในท่ดี ีผู้บรหิ ารต้อง กาหนดใหก้ ารปฏบิ ตั งิ านทกุ ขนั้ ตอนตอ้ งมเี อกสารหลกั ฐานประกอบในการบนั ทกึ รายการทเ่ี กดิ ขน้ึ เสมอ 6.3 ความสามารถและความซ่อื สตั ยข์ องบคุ ลากร (Competence and Integrity) การควบคมุ ทเ่ี กดิ ขน้ึ จากจติ สานึก การกระทา ทกั ษะ ความสามารถของบุคลากรทุกระดบั ทแ่ี สดงออกให้เหน็ ว่า เป็นสงิ่ ท่ดี นี ่ายกย่องและเป็นประโยชน์ สง่ิ เหล่าน้ีไม่สามารถจบั ต้องได้เน่ืองจากเป็นการควบคุมเชงิ นามธรรม ผู้บรหิ ารควรปลูกฝงั ใหเ้ กดิ ขน้ึ ในตวั บุคลากรขององคก์ รให้ไดม้ ากทส่ี ุด เช่น ความซ่อื สตั ย์ ความโปร่งใส ความมคี ุณธรรมและจรยิ ธรรม ความขยนั ขนั แขง็ ความรบั ผดิ ชอบต่อหน้าท่ี เป็นต้น พฤตกิ รรมเหล่าน้ีจะนามาซง่ึ ความจงรกั ภกั ดี การสรา้ งช่อื เสยี งและภาพลกั ษณ์ใหก้ บั องคก์ รดว้ ย การ ควบคุมดูแลของหวั หน้าส่วนงานก็เป็นอีกประการหน่ึงท่ีผู้บรหิ ารควรนามาพิจารณาเพ่อื ใช้ในการ ตดั สนิ ใจว่าขอบเขตลกั ษณะงานทต่ี อ้ งมอบหมายใหบ้ คุ คลใดบคุ คลหน่งึ ไดป้ ฏบิ ตั นิ นั้ ความรคู้ วามสามารถ มเี พยี งพอหรอื ไม่ ควรเลอื กบุคคลประเภทใดโดยใช้หลกั การ วเิ คราะห์ต้นทุน และผลประโยชน์ท่ี องคก์ รจะไดร้ บั ผลตอบแทนกลบั คนื มา 7. ข้อจากดั ของการควบคมุ ภายใน (Limits of Internal Control) การควบคุมภายในกาหนดขน้ึ มาเพ่อื ทุกคนในองคก์ รไดม้ คี วามเช่อื มนั่ อย่างสมเหตุสมผลแต่ไม่ ไดเ้ ป็นหลกั ประกนั ว่าการบรหิ ารจะไมม่ จี ดุ บกพรอ่ งหรอื ความเสย่ี งเกดิ ขน้ึ ตลอดจนถงึ การทุจรติ ในองคก์ ร เน่อื งจากการควบคมุ ภายในมขี อ้ จากดั หลายอยา่ งทเ่ี ป็นอุปสรรคต่อการบรหิ ารจดั การในองคก์ รดงั น้ี 7.1 การใชด้ ลุ ยพนิ จิ (Judgement) ผบู้ รหิ ารอาจใชด้ ลุ ยพนิ จิ ในการตดั สนิ ใจทม่ี คี วามเหน็ ทไ่ี ม่เหมาะสมในการดาเนินงาน เช่น การเลอื กลงทุนท่มี ผี ลตอบแทนสูงซ่งึ มอี ตั ราเสย่ี งสูงเกนิ กว่าท่ี องคก์ รจะยอมรบั ได้ หรอื การพจิ ารณาให้ส่วนลดทางการคา้ แก่ลูกคา้ รายใดรายหน่ึงมากกว่าลูกคา้ ราย อ่นื โดยทวั่ ไป หรอื การพจิ ารณาเลอื กซอ้ื สนิ คา้ หรอื บรกิ ารเป็นประจาจากผขู้ ายรายเดยี วทม่ี คี วามสมั พนั ธ์ ทด่ี กี บั ผบู้ รหิ าร เป็นตน้ 7.2 การไมป่ ฏบิ ตั ติ ามระบบ (Breakdowns) บคุ ลากรอาจมกี ารละเวน้ ไมป่ ฏบิ ตั ติ ามระบบ การควบคุมภายในท่ีกาหนดไว้ด้วยความไม่เข้าใจหรือความประมาทเลินเล่อหรือเน่ืองมาจาก สภาพการณ์ทเ่ี ปลย่ี นแปลงไปทาใหข้ นั้ ตอนการทางานหรอื ระเบยี บปฏบิ ตั ทิ ก่ี าหนดไวไ้ ม่เหมาะสม การ ละเวน้ หรอื การไมป่ ฏบิ ตั ติ ามระบบการควบคุมภายในท่ีมอี ย่อู ย่างมปี ระสทิ ธผิ ล เช่น การจดั ทาและการ อนุมตั ิใบสงั่ ซ้อื ภายหลงั จากการสงั่ ซ้อื สนิ ค้าในกรณีเร่งด่วน การใช้วธิ กี ารกระจายยอดซ้อื ออกเป็น จานวนย่อยๆ เพ่อื ท่จี ะได้ไม่ต้องขออนุมตั เิ ป็นกรณีพเิ ศษในกรณีวงเงนิ ท่จี ะจดั ซอ้ื มจี านวนสูงเกนิ กว่า จานวนท่กี าหนดไวซ้ ่งึ จาเป็นตอ้ งไดร้ บั การอนุมตั กิ ่อนทาการสงั่ ซอ้ื หรอื ในบางครงั้ มกี ารออกแบบการ ควบคุมภายในไวด้ ี แต่ผู้ปฏบิ ตั อิ าจเน้นความสาคญั ของรปู แบบมากกว่าเน้ือหาหรอื ประโยชน์ท่จี ะไดร้ บั การควบคมุ ภายในและการประเมินประสิทธิภาพการควบคมุ ภายใน บทท่ี 2
52 อย่างแทจ้ รงิ เช่น การกาหนดใหผ้ ูม้ อี านาจลงนามในเชค็ สงั่ จ่ายตงั้ แต่สองคนขน้ึ ไป แต่กลบั ไม่ได้ทา การสอบทานเอกสารประกอบรายการจา่ ยเชค็ นนั้ เป็นตน้ 7.3 การแทรกแซงการปฏบิ ตั งิ าน (Management Override) ผบู้ รหิ ารอาจไมด่ าเนินการ ตามวธิ ปี ฏบิ ตั ิท่กี าหนดไว้เพ่อื วตั ถุประสงค์อันไม่เหมาะสม โดยการแทรกแซงการปฏิบตั ิงานหรือ ยนิ ยอมใหม้ กี ารยกเวน้ หรอื ฝา่ ฝืนกฎเกณฑ์ 7.4 การสมรรู้ ว่ มคดิ (Collusion) การสมคบและรว่ มมอื กนั ของคนตงั้ แต่สองคนขน้ึ ไปเพอ่ื ฝ่าฝืนหรอื หลกี เล่ยี งระบบการควบคุมภายในท่มี อี ยู่เพ่อื ทาการทุจรติ หรอื หาผลประโยชน์ร่วมกนั โดย กระทาการมชิ อบ การสมคบกนั เพ่อื ทาการทุจรติ รวมถงึ ผลกระทบอนั อาจเกดิ จากการทบ่ี ุคลากรมผี ล ประโยชน์ขดั แยง้ กบั ผลประโยชน์ขององคก์ ร 7.5 ตน้ ทนุ และประโยชน์ทไ่ี ดร้ บั (Cost and Benefits) ผบู้ รหิ ารอาจยอมรบั ความเสย่ี งเมอ่ื เหน็ วา่ ตน้ ทนุ การควบคุมสงู กว่าผลกระทบนนั้ หรอื ความเสยี หายทอ่ี าจจะเกดิ ขน้ึ หรอื ไมค่ ุม้ กบั ประโยชน์ ทค่ี าดว่าจะได้รบั จากการควบคุม หรอื ในกรณีทม่ี ที รพั ยากรจากดั ทาให้ไม่ได้พจิ ารณาออก แบบการ ควบคมุ ภายในไวอ้ ยา่ งเพยี งพอ องคป์ ระกอบการควบคมุ ภายใน จนั ทนา สาขากร, นิพนั ธ์ เหน็ โชคชยั ชนะ, และศลิ ปพร ศรจี นั่ เพชร (2557 : 2–8) กล่าวไวว้ ่า ตงั้ แต่ปี พ.ศ. 2535 คณะกรรมการรว่ มของสถาบนั วชิ าชพี 5 สถาบนั โคโซ่ (COSO) ได้มกี ารกาหนด องค์ประกอบของการควบคุมภายในท่รี จู้ กั กนั ในช่อื “กรอบการควบคุมภายใน” (Internal Control Integrated Framework) องค์ประกอบเหล่าน้ีได้มาจากแนวทางท่ผี ู้บรหิ ารดาเนินธุรกิจและมกี าร เช่ือมโยงเข้ากับกระบวนการทางการบรหิ าร โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือให้องค์กรปฏิบัติงานอย่างมี ประสิทธิผลและประสิทธิภาพ รายงานทางการเงินเช่อื ถือได้และปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบยี บท่ี เกย่ี วขอ้ งซง่ึ เป็นแนวคดิ ทถ่ี อื ว่าไดร้ บั การยอมรบั อยา่ งกวา้ งขวาง จนกระทงั่ พ.ศ 2556 โคโซ่ไดป้ รบั ปรงุ แนวคดิ ของการควบคุมภายในครงั้ สาคญั ภายใต้ช่อื กรอบการควบคุมภายในของโคโซ่ 2013 (COSO 2013 Internal Control Integrated Framework) ไดเ้ พมิ่ หลกั การ (Principles) ในแต่ละองคป์ ระกอบของ การควบคมุ ภายในออกมาเป็นขอ้ ๆ จานวน 17 หลกั การทเ่ี ชอ่ื มโยงกบั 5 องคป์ ระกอบเดมิ แมจ้ ะเป็นท่ยี อมรบั ว่าองคป์ ระกอบทงั้ 5 ประการจะใช้ไดก้ บั ทุกองคก์ ร แต่ในองคก์ รขนาดเลก็ และขนาดกลางกอ็ าจจดั ใหม้ ขี น้ึ ในรปู แบบท่ีต่างออกไปจากองคก์ รขนาดใหญ่ได้ วธิ กี ารควบคุมต่าง ๆ ในองค์กรขนาดเล็กและขนาดกลาง อาจจะมรี ูปแบบท่ไี ม่เป็นทางการและโครงสรา้ งการควบคุมก็ไม่ จาเป็นต้องซับซ้อนมากนักแต่ก็ยังคงไว้ซ่ึงระบบการควบคุมภายในท่ีมีประสิทธิผลได้ ดังนั้น องคป์ ระกอบของการควบคมุ ภายในตามแนวคดิ เดมิ ของโคโซ่มดี งั น้ี บทท่ี 2 การควบคมุ ภายในและการประเมินประสิทธิภาพการควบคมุ ภายใน
53 1. สภาพแวดล้อมของการควบคมุ (Control Environment) เป็นพน้ื ฐานหลกั ของการบรหิ ารองคก์ รซง่ึ ตอ้ งอาศยั บุคลากรเป็นรากฐานสาคญั ในการขบั เคลอ่ื น การดาเนินธุรกจิ ถ้าองค์กรมบี ุคลากรท่ดี ยี ่อมเป็นกาลงั ผลกั ดนั ให้เกดิ สงิ่ ดีๆ ข้นึ องค์ประกอบของ สภาพแวดล้อมน้ีจะเน้นท่จี ติ สานึกและคุณภาพของบุคลากรเพราะถือว่าเป็นหวั ใจของแต่ละกิจกรรม สภาพแวดลอ้ มทด่ี จี งึ เป็นเร่อื งเก่ยี วกบั การสรา้ งความตระหนักใหบ้ ุคลากรในองคก์ รเกดิ จติ สานึกในการ ปฏบิ ตั งิ านตามความรบั ผดิ ชอบและการสรา้ งบรรยากาศของการควบคุมโดยผู้บรหิ ารระดบั สูง ดงั นัน้ สภาพแวดลอ้ มของการควบคมุ จะมปี จั จยั ต่างๆ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งดงั น้ี 1.1 ความซอ่ื สตั ยแ์ ละจรยิ ธรรม เป็นสง่ิ สาคญั อยา่ งยง่ิ ทจ่ี ะทาใหเ้ กดิ คุณธรรมในการดาเนิน กจิ กรรมต่างๆ หากองค์กรมบี ุคลากรท่มี คี วามซ่อื สตั ยแ์ ละมจี รยิ ธรรมสูงเป็นจานวนมากจะนามาให้ องคก์ รมคี วามเจรญิ ก้าวหน้าเป็นทย่ี อมรบั ของสาธารณชนโดยทวั่ ไป ดงั นัน้ ผบู้ รหิ ารจะตอ้ งเป็นแบบ อยา่ งทด่ี โี ดยการแสดงออกอยา่ งสม่าเสมอ ทงั้ คาพดู และการกระทารวมถงึ การส่อื สารภายในใหบ้ ุคลากร รบั ทราบถงึ การปฏบิ ตั ขิ องผบู้ รหิ ารและควรทาขอ้ กาหนดดา้ นจรยิ ธรรมรวมถงึ ขอ้ หา้ มบุคลากรในลกั ษณะ ทม่ี ผี ลประโยชน์ทบั ซอ้ นอยา่ งชดั เจน 1.2 การพฒั นาความรู้ ความสามารถ และทกั ษะในการปฏบิ ตั งิ าน เป็นปจั จยั ทส่ี าคญั ใน การดาเนินงานผบู้ รหิ ารตอ้ งเป็นผกู้ าหนดระดบั ความรู้ ความสามารถ ทกั ษะ รวมทงั้ ความชานาญและ ประสบการณ์สาหรบั บุคลากรในตาแหน่งต่างๆ ว่าควรอย่ใู นระดบั ใดเพ่อื ใช้เป็นเกณฑใ์ นการพจิ ารณา บรรจุ แต่งตงั้ บคุ ลากรใหเ้ หมาะสมกบั หน้าท่แี ละความรบั ผดิ ชอบ เพ่อื ใหก้ ารดาเนินงานบรรลุผลสาเรจ็ ตามวตั ถุประสงคท์ ต่ี งั้ ไวเ้ ครอ่ื งมอื ทส่ี าคญั กค็ อื การจดั ทาเอกสารบรรยายลกั ษณะงาน (Job Description) 1.3 การมสี ว่ นรว่ มของคณะกรรมการบรษิ ทั และคณะกรรมการตรวจสอบ สาหรบั คณะ กรรมการบรหิ ารมสี ่วนสาคญั ต่อการกากบั ดูแลกจิ การซ่งึ หากองค์กรมกี ารกากบั ดูแลท่ดี จี ะทาให้การ ควบคมุ ภายในมปี ระสทิ ธผิ ลดว้ ย สว่ นคณะกรรมการตรวจสอบเป็นกลไกทช่ี ว่ ยในการตรวจสอบและสอบ ทานการดาเนินงานใหเ้ ป็นไปตามทศิ ทางทค่ี ณะกรรมการบรหิ ารกาหนด รวมถงึ ผลสาเรจ็ ตามแผนงาน ต่างๆ ท่ฝี ่ายบรหิ ารดาเนินการ คณะกรรมการตรวจสอบจงึ ต้องมคี วามเป็นอิสระจากฝ่ายบรหิ าร มี ความรคู้ วามสามารถซง่ึ จะช่วยส่งเสรมิ และสนับสนุนสภาพแวดลอ้ มการควบคุมภายในใหม้ ปี ระสทิ ธผิ ล ยงิ่ ขน้ึ 1.4 ปรชั ญาและรปู แบบการบรหิ ารของผบู้ รหิ าร หมายถงึ แนวคดิ ทศั นคตแิ ละวธิ ปี ฏบิ ตั ิ งานท่ีผู้บรหิ ารนามาใช้ในการบรหิ ารองค์กร ผู้บรหิ ารแต่ละคนมีแนวคิดและวิธีการปฏิบตั ิงานทงั้ ประสบการณ์ทแ่ี ตกต่างกนั ออกไป ปรชั ญาและรปู แบบการบรหิ ารทแ่ี ตกต่างกนั จะทาให้เกดิ จดุ อ่อน การควบคุมภายในทแ่ี ตกต่างกนั ซง่ึ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อโครงสรา้ งและประสทิ ธผิ ลการควบคมุ ภายใน 1.5 โครงสรา้ งขององคก์ ร ถอื วา่ เป็นการกาหนดลาดบั การบรหิ าร การควบคุม ความรบั ผดิ ชอบกจิ กรรม รวมถงึ เสน้ ทางการรายงานผลการปฏบิ ตั งิ านและความรบั ผดิ ชอบของบุคลากรในระดบั ต่างๆ โดยคานงึ ถงึ ความรคู้ วามสามารถของบคุ คลเหลา่ นนั้ ดว้ ย โครงสรา้ งองคก์ รทไ่ี ดร้ บั การจดั ไวอ้ ย่าง ดยี อ่ มเป็นพน้ื ฐานสาคญั ทจ่ี ะทาใหผ้ บู้ รหิ ารสามารถวางแผน สงั่ การ และควบคุมการปฏบิ ตั งิ านไดอ้ ย่าง ถูกต้อง รวดเรว็ และมปี ระสทิ ธภิ าพ รวมทงั้ จะเป็นสงิ่ ทบ่ี ่งบอกให้เหน็ ถึงกรอบการทางานของแต่ละ การควบคมุ ภายในและการประเมินประสิทธิภาพการควบคมุ ภายใน บทท่ี 2
54 กจิ กรรมทจ่ี ะทาใหก้ ารดาเนินงานบรรลตุ ามวตั ถุประสงคท์ ต่ี งั้ ไว้ ลกั ษณะโครงสรา้ งองคก์ รทเ่ี หมาะสมแต่ ละแหง่ อาจแตกต่างกนั ตามขนาดและลกั ษณะกจิ กรรมของแต่ละองคก์ ร 1.6 การมอบอานาจและหน้าทค่ี วามรบั ผดิ ชอบ เป็นการกระจายการควบคุมในสว่ นท่ี ผบู้ รหิ ารตอ้ งดแู ลไปยงั ผปู้ ฏบิ ตั งิ านตามความเหมาะสม และตามความจาเป็นในการดาเนนิ กจิ การเพ่อื ให้ บรรลผุ ลสาเรจ็ ตามวตั ถุประสงคท์ ก่ี าหนดไว้ การกระจายอานาจควรพจิ ารณาถงึ ลกั ษณะกจิ กรรม ความ ซบั ซอ้ น ขนาดพน้ื ทแ่ี ละระดบั ความเสย่ี งทย่ี อมรบั ได้ หรอื ใหเ้ กดิ ความเสย่ี งในระดบั ทค่ี วามเสย่ี งต่าสุด ท่อี าจเกดิ จากการตดั สนิ ใจของบุคลากรผู้ได้รบั มอบอานาจ ดงั นัน้ เพ่อื ให้มสี ภาพแวดล้อมของการ ควบคุมท่ดี ี ผบู้ รหิ ารจงึ ควรมอบอานาจใหเ้ หมาะสมกบั หน้าทค่ี วามรบั ผดิ ชอบในแต่ละตาแหน่ง จดั ทา เอกสารคาบรรยายลกั ษณะงานของบุคลากรทุกระดบั เอกสารคู่มอื ระบบงานโดยเฉพาะงานท่มี คี วาม ซบั ซ้อนลงทุนสงู ระบบการควบคุมและระบบการรายงานตามหน้าทค่ี วามรบั ผดิ ชอบทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพ และทนั กาลไวอ้ ย่างชดั เจนใหเ้ ป็นแนวทางอา้ งองิ ในการปฏบิ ตั งิ าน เพ่อื ป้องกนั ไม่ใหเ้ กดิ ความซ้าซอ้ น หรอื ละเวน้ การปฏบิ ตั งิ านรวมทงั้ การดาเนนิ งานเกดิ หยดุ ชะงกั เมอ่ื มกี ารโยกยา้ ยสบั เปลย่ี นผปู้ ฏบิ ตั งิ าน 1.7 นโยบายและวธิ บี รหิ ารงานดา้ นทรพั ยากรมนุษย์ บคุ ลากรเป็นปจั จยั สาคญั และมี อทิ ธพิ ลทส่ี ุดต่อการปฏบิ ตั งิ านทุกดา้ นรวมทงั้ ต่อประสทิ ธผิ ลของการควบคุมภายในฝ่ายบรหิ าร จงึ ควร กาหนดนโยบายและวธิ ปี ฏบิ ตั ใิ นส่วนทเ่ี กย่ี วกบั การคดั เลอื ก การฝึกอบรม การเล่อื นขนั้ เล่อื นตาแหน่ง การประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ าน และเผยแพร่แนวทางหรอื หลกั เกณฑด์ า้ นทรพั ยากรมนุษย์ ใหบ้ ุคลากร รบั ทราบโดยละเอยี ดรวมถงึ ควรพฒั นาใหค้ วามรคู้ วามสามารถแก่บุคลากรอยา่ งต่อเน่อื ง สาหรบั หลกั การทส่ี าคญั ซง่ึ เกย่ี วขอ้ งกบั สภาพแวดลอ้ มของการควบคมุ มดี งั น้ี 1. องคก์ รแสดงถงึ ความยดึ มนั่ ในคุณคา่ ของความซ่อื ตรงและจรยิ ธรรม ลกั ษณะทส่ี าคญั ประกอบดว้ ยดงั ต่อไปน้ี 1.1 คณะกรรมการและผบู้ รหิ ารเป็นผกู้ าหนดแนวทางและขอ้ กาหนดดา้ นจรยิ ธรรมไวอ้ ยา่ ง ชดั เจนและมกี ารปฏบิ ตั ทิ อ่ี ยบู่ นหลกั ความซอ่ื ตรงและการรกั ษาจรรยาบรรณในการดาเนนิ งาน 1.2 มขี อ้ กาหนดเกย่ี วกบั จรยิ ธรรมและขอ้ หา้ มทจ่ี ะก่อใหเ้ กดิ ความขดั แยง้ ทางผลประโยชน์ กบั องคก์ ร หรอื การคอรร์ ปั ชนั่ ทเ่ี ป็นลายลกั ษณ์อกั ษรใหแ้ ก่ผบู้ รหิ ารและพนักงานปฏบิ ตั หิ น้าทด่ี ว้ ยความ ซ่อื ตรงและรกั ษาจรรยาบรรณ 1.3 มกี ารส่อื สารขอ้ กาหนดเรอ่ื งจรยิ ธรรมและบทลงโทษใหผ้ บู้ รหิ ารและพนกั งานทุกคน รบั ทราบ เช่น การลงนามรบั ทราบข้อกาหนดและบทลงโทษเป็นประจาทุกปี การจดั สมั มนาเร่อื ง จรยิ ธรรมใหพ้ นกั งานประจาปี เป็นตน้ 1.4 มกี ระบวนการตดิ ตามและประเมนิ ผลการปฏบิ ตั ติ ามจรยิ ธรรม โดยหน่วยงาน ตรวจสอบภายในหรอื หน่วยงานกากบั ดแู ลการปฏบิ ตั ิ บทท่ี 2 การควบคมุ ภายในและการประเมินประสิทธิภาพการควบคมุ ภายใน
55 2. คณะกรรมการมคี วามเป็นอสิ ระจากฝา่ ยบรหิ ารและทาหน้าทก่ี ากบั ดแู ลและพฒั นาการ ดาเนินการด้านการควบคุมภายใน คณะกรรมการท่มี ปี ระสทิ ธภิ าพจะต้องมคี วามรู้ ความสามารถ น่าเช่อื ถอื และมคี วามเป็นอสิ ระในการปฏบิ ตั หิ น้าทอ่ี ยา่ งแทจ้ รงิ จากผบู้ รหิ าร เช่น ไม่มคี วามสมั พนั ธ์ ทางธุรกจิ กบั บรษิ ทั ไมม่ คี วามสมั พนั ธ์อ่นื ใดอนั อาจมอี ทิ ธพิ ลต่อการใชด้ ุลยพนิ ิจและปฏบิ ตั หิ น้าทอ่ี ย่าง เป็นอสิ ระ ดงั นนั้ คณะกรรมการบรษิ ทั จงึ เป็นสงิ่ สาคญั ต่อบรรยากาศของการควบคุมโดยคณะกรรมการ บรษิ ทั มกี ารกากบั ดแู ลการพฒั นาและปฏบิ ตั เิ รอ่ื งการควบคุมภายในขององคก์ รซง่ึ ครอบคลุมทงั้ การสรา้ ง สภาพแวดลอ้ ม การควบคุม การประเมนิ ความเส่ียง กจิ กรรมการควบคุม สารสนเทศและการส่อื สาร และการตดิ ตามผล 3. ฝา่ ยบรหิ ารไดจ้ ดั ใหม้ โี ครงสรา้ งสายการรายงาน การกาหนดอานาจในการสงั่ การและความ รบั ผดิ ชอบทเ่ี หมาะสมเพอ่ื ใหอ้ งคก์ รบรรลวุ ตั ถุประสงคภ์ ายใตก้ ารกากบั ดแู ลของคณะกรรมการ ผบู้ รหิ าร ระดบั สูงจะตอ้ งมกี ารกาหนดลาดบั ชนั้ ในการรายงานขอ้ มลู ภายในบรษิ ทั โดยพจิ ารณาถงึ ความเหมาะสม เกย่ี วกบั อานาจหน้าท่ี ความรบั ผดิ ชอบและการส่อื สารขอ้ มลู 4. องคก์ รแสดงถงึ ความมงุ่ มนั่ ในการจงู ใจ พฒั นา และรกั ษาบคุ ลากรทม่ี คี วามรคู้ วามสามารถ บรษิ ัทควรกาหนดนโยบายและวธิ ีการปฏบิ ตั ิเพ่อื จดั หา พฒั นา และรกั ษาบุคลากรท่มี คี วามรู้และ ความสามารถทเ่ี หมาะสมและมกี ระบวนการสอบทานนโยบายและวธิ กี ารปฏบิ ตั อิ ยา่ งสม่าเสมอ สาหรบั พนกั งานทไ่ี ดร้ บั การคดั เลอื กแลว้ อยใู่ นระหวา่ งการปฏบิ ตั งิ านกค็ วรมกี ารประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ านและมี การสรา้ งแรงจงู ใจใหแ้ ก่พนกั งานโดยการใหร้ างวลั แก่ผปู้ ฏบิ ตั งิ านดี 5. องคก์ รกาหนดใหบ้ ุคลากรมหี น้าทแ่ี ละความรบั ผดิ ชอบในการควบคุมภายในเพอ่ื ใหบ้ รรลุ ตามวตั ถุประสงค์ขององคก์ ร การกาหนดใหบ้ ุคลากรภายในองคก์ รมสี ่วนร่วมกบั กระบวนการควบคุม ภายใน บุคลากรแต่ละคนจะตอ้ งปฏบิ ตั อิ ยา่ งไรเก่ยี วกบั ระบบการควบคุมภายใน รวมทงั้ ผบู้ รหิ ารควรมี การกาหนดดชั นีชว้ี ดั ผลการปฏบิ ตั งิ าน การควบคมุ ภายในและการประเมินประสิทธิภาพการควบคมุ ภายใน บทท่ี 2
56 จากทก่ี ล่าวมาขา้ งตน้ แสดงภาพประกอบไดด้ งั น้ี องคป์ ระกอบของการควบคมุ ภายใน หลกั การของการควบคุมภายใน (สภาพแวดล้อมของการควบคมุ ) ความซอ่ื สตั ยแ์ ละจรยิ ธรรม องคก์ รแสดงความยดึ มนั่ ในคณุ ค่า ความรู้ ความสามารถและทกั ษะ ความซอ่ื สตั ยแ์ ละจรยิ ธรรม การมสี ว่ นรว่ มของคณะกรรมการ การจงู ใจ พฒั นาและรกั ษา ปรชั ญาและรปู แบบการบรหิ าร บุคลากร ของผบู้ รหิ าร คณะกรรมการมคี วามเป็นอสิ ระ โครงสรา้ งขององคก์ ร โครงสรา้ งสายการรายงาน การมอบอานาจและหน้าทค่ี วาม หน้าทแ่ี ละความรบั ผดิ ชอบ รบั ผดิ ชอบ ในการควบคุมภายใน นโยบายและวธิ บี รหิ ารงาน ดา้ นทรพั ยากรมนุษย์ ภาพท่ี 2.1 องคป์ ระกอบและหลกั การของสภาพแวดลอ้ มของการควบคมุ ทม่ี า : (จนั ทนา สาขากร, นพิ นั ธ์ เหน็ โชคชยั ชนะ, และศลิ ปพร ศรจี นั่ เพชร, 2557 หน้า 2–16) 2. การประเมินความเส่ียง (Risk Assessment) การดาเนินงานทุกองคก์ รยอ่ มตอ้ งเผชญิ กบั ความเสย่ี ง แต่ละองคก์ รอาจไดร้ บั ผลกระทบทแ่ี ตก ต่างกนั ไปตามลกั ษณะของการประกอบธุรกจิ เช่น สภาพแวดลอ้ มความเสย่ี งทางเศรษฐกิจ สงั คม กฎหมาย ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของทางราชการทเ่ี กย่ี วขอ้ ง การประเมนิ ความเสย่ี งถอื เป็นกระบวนการท่ี สาคญั อกี ประการหน่งึ ทใ่ี ชใ้ นการระบแุ ละวเิ คราะหค์ วามเสย่ี งทม่ี ผี ลกระทบต่อการบรรลุวตั ถุประสงคข์ อง องคก์ รรวมทงั้ การคน้ หาและนาเอาวธิ กี ารควบคมุ เพ่อื ป้องกนั หรอื ลดความเสย่ี งมาใชใ้ หเ้ กดิ ประสทิ ธภิ าพ และประสทิ ธผิ ล ดงั นัน้ องค์กรจงึ จาเป็นต้องทาการประเมนิ ความเส่ยี งและกระทาอย่างต่อเน่ือง สม่าเสมอรวมทงั้ ตอ้ งทาความเขา้ ใจเกย่ี วกบั ประเดน็ ต่างๆ ดงั น้ี บทท่ี 2 การควบคมุ ภายในและการประเมินประสิทธิภาพการควบคมุ ภายใน
57 2.1 วตั ถุประสงคข์ องการประเมนิ ความเสย่ี ง เพ่อื ใหท้ ราบว่าองคก์ รมีความเสย่ี งอยา่ งไร และความเส่ยี งนัน้ ๆ อยู่ในกจิ กรรมหรอื ขนั้ ตอนใดของงานมผี ลกระทบต่อการบรรลุวตั ถุประสงค์ของ องคก์ รมากน้อยเพยี งใด เพอ่ื นามาพจิ ารณากาหนดแนวทางทจ่ี าเป็นต้องใชเ้ พ่อื ใหเ้ กดิ ความมนั่ ใจอยา่ ง สมเหตุสมผลวา่ ความผดิ พลาดหรอื ความเสยี หายจะไม่เกดิ ขน้ึ หรอื หากเกดิ ขน้ึ กจ็ ะอยใู่ นระดบั ทไ่ี มเ่ ป็น อนั ตราย หรอื ไมเ่ ป็นอุปสรรคต่อความสาเรจ็ ตามวตั ถุประสงคข์ ององคก์ ร 2.2 ปจั จยั สาคญั ในการประเมนิ ความเสย่ี ง กลา่ วคอื ผปู้ ระเมนิ จะตอ้ งเขา้ ใจในวตั ถุประสงค์ ขององคก์ รโดยทอ่ งแท้ องคก์ รตอ้ งมกี ารกาหนดวตั ถุประสงคไ์ วอ้ ย่างชดั เจน โดยทวั่ ไปวตั ถุประสงคจ์ ะ แบ่งเป็นระดบั กิจการโดยรวมเป็นการดาเนินงานในภาพรวมขององค์กร และระดบั กจิ กรรมเป็นการ ดาเนนิ งานสนบั สนุนตามวตั ถุประสงคร์ ะดบั องคก์ รโดยรวม 2.3 ขนั้ ตอนในการประเมนิ ความเสย่ี ง คอื การทาความเขา้ ใจเกย่ี วกบั ขอ้ บกพรอ่ งทเ่ี ป็น สาเหตุความสญู เสยี ของผลประโยชน์สว่ นรวม ผปู้ ระเมนิ ตอ้ งเรม่ิ วางแผนการประเมนิ จากการระบุปจั จยั ความเสย่ี ง การวเิ คราะหค์ วามเสย่ี ง และการบรหิ ารความเสย่ี ง ตามลาดบั 2.3.1 การระบุปจั จยั ความเสย่ี ง ขนั้ ตอนน้ีผปู้ ระเมนิ ตอ้ งทาความเขา้ ใจวา่ สาเหตุ ความเสย่ี งมาจากไหน มผี ลกระทบต่อกจิ กรรมใดบ้าง ปจั จยั ความเสย่ี งเกดิ ขน้ึ จากภายในองคก์ รหรอื ภายนอก เช่น การซ้อื สินค้าผูกขาดโดยผู้ผลติ ไม่ก่ีราย (ปจั จยั ภายใน) ความซบั ซ้อนของระบบ คอมพวิ เตอรท์ ่ใี ช้ในการประมวลผลขอ้ มูล (ปจั จยั ภายใน) องค์กรประกอบธุรกจิ ประเภทซอ้ื มาขายไป โดยสงั่ ซอ้ื สนิ คา้ มาจากต่างประเทศทม่ี อี ตั ราแลกเปลย่ี นเงนิ ตราผนั ผวนมากและนาเขา้ มาขายในประเทศ (ปจั จยั ภายนอก) เป็นตน้ 2.3.2 การวเิ คราะหค์ วามเสย่ี ง เมอ่ื สามารถระบปุ จั จยั ความเสย่ี งไดแ้ ลว้ ขนั้ ตอนต่อไป คอื การนาปจั จยั ความเสย่ี งนนั้ มาวเิ คราะหว์ ่ามผี ลกระทบต่อองคก์ รในขอบเขตเพยี งใด โดยกาหนดระดบั ความสาคญั ของความเสยี หายทจ่ี ะเกดิ จากความเสย่ี งและโอกาส สาหรบั เทคนคิ การวเิ คราะหค์ วามเสย่ี ง มหี ลายวธิ จี ะต้องเลอื กใชใ้ ห้เหมาะสม การวเิ คราะห์ใหป้ ระเมนิ โดยการจดั เป็นระดบั เช่น สงู มาก สูง ปานกลาง น้อย หรอื น้อยมาก เป็นตน้ 2.3.3 การบรหิ ารความเสย่ี ง เป็นการกาหนดแนวทางทจ่ี ะรบั มอื จดั การกบั ความ เส่ยี งท่มี สี าระสาคญั มโี อกาสท่จี ะเกิดสูงอย่างเหมาะสม โดยทวั่ ไปแล้วกรณีเป็นความเส่ยี งท่เี กดิ จาก ปจั จยั ภายใน จะใชว้ ธิ จี ดั ระบบการควบคุมภายใน แต่ถา้ เป็นกรณีความเส่ยี งจากภายนอกจะใชว้ ธิ กี าร บรหิ ารความเสย่ี ง สาหรบั หลกั การทส่ี าคญั ซง่ึ เกย่ี วขอ้ งกบั การประเมนิ ความเสย่ี งมดี งั น้ี 1. การกาหนดวตั ถุประสงคไ์ วอ้ ยา่ งชดั เจนเพยี งพอ เพอ่ื ใหส้ ามารถระบแุ ละประเมนิ ความ เสย่ี งต่างๆ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การบรรลุวตั ถุประสงคข์ ององคก์ รมี 5 ประการหลกั ดงั น้ี 1.1 วตั ถุประสงคด์ า้ นการดาเนินงาน 1.2 วตั ถุประสงคก์ ารรายงานทางการเงนิ สาหรบั บุคคลภายนอก 1.3 วตั ถุประสงคก์ ารรายงานทไ่ี มใ่ ชท่ างการเงนิ สาหรบั บุคคลภายนอก 1.4 วตั ถุประสงคก์ ารรายงานทางการเงนิ ภายใน การควบคมุ ภายในและการประเมินประสิทธิภาพการควบคมุ ภายใน บทท่ี 2
58 1.5 วตั ถุประสงคด์ า้ นการปฏบิ ตั ติ ามกฎระเบยี บ 2. องคก์ รระบุปจั จยั และวเิ คราะหค์ วามเสย่ี งทุกประเภททอ่ี าจกระทบต่อการบรรลุวตั ถุประสงค์ ไว้อย่างครอบคลุมทวั่ ทงั้ องคก์ ร ผู้บรหิ ารต้องทาความเขา้ ใจและสามารถระบุได้ว่าความเส่ยี งนัน้ ๆ มี สาเหตุมาจากปจั จยั อะไร เป็นปจั จยั ท่เี กดิ ขน้ึ มาจากภายในหรอื ภายนอกองคก์ รเมอ่ื สามารถระบุปจั จยั ความเสย่ี งไดแ้ ลว้ องคก์ รตอ้ งนาปจั จยั ความเสย่ี งนัน้ มาวเิ คราะหว์ ่ามผี ลกระทบต่อองคก์ รในขอบเขตใด โดยการกาหนดระดบั ความสาคญั ของความเสยี หายทจ่ี ะเกดิ จากความเสย่ี งและโอกาสทจ่ี ะเกดิ ความเสย่ี ง ดงั กล่าว ดงั นัน้ ผู้บรหิ ารควรกาหนดเป็นมาตรการและแผนปฏบิ ตั งิ านเพ่อื จดั การความเสย่ี งหรอื การ ตอบสนองความเสย่ี งโดยอาจเป็นวธิ กี ารใดวธิ กี ารหน่งึ หรอื หลายวธิ กี ารดงั น้ี 2.1 การยอมรบั ความเสย่ี งนนั้ 2.2 การลดความเสย่ี ง 2.3 การหลกี เลย่ี งความเสย่ี ง 2.4 การรว่ มกบั ความเสย่ี ง 3. องคก์ รไดพ้ จิ ารณาถงึ ความเสย่ี งทจ่ี ะเกดิ การทุจรติ ทอ่ี าจมผี ลกระทบต่อการบรรลวุ ตั ถุ ประสงคข์ ององคก์ ร ซง่ึ องคก์ รควรประเมนิ ความเสย่ี งทจ่ี ะเกดิ การทุจรติ โดยครอบคลุมการทุจรติ แบบ ต่างๆ เชน่ การยกั ยอกเงนิ สด การจดั ทารายงานทางการเงนิ เป็นเทจ็ การขโมยขอ้ มลู ลูกคา้ ขององคก์ ร เป็นตน้ 4. องคก์ รสามารถระบแุ ละประเมนิ ความเปลย่ี นแปลงทอ่ี าจมผี ลกระทบต่อระบบการควบคุม ภายใน องค์กรประเมนิ ปจั จยั ภายนอกองคก์ ร รูปแบบการทาธุรกิจซ่งึ อาจมผี ลกระทบต่อการดาเนิน ธุรกจิ ขององคก์ ร การควบคมุ ภายในและรายงานทางการเงนิ ตลอดจนการกาหนดมาตรการหรอื แนวทาง ปฏบิ ตั เิ พอ่ื ตอบสนองต่อการเปลย่ี นแปลงนนั้ อยา่ งเพยี งพอแลว้ บทท่ี 2 การควบคมุ ภายในและการประเมินประสิทธิภาพการควบคมุ ภายใน
59 จากทก่ี ล่าวมาขา้ งตน้ แสดงภาพประกอบไดด้ งั น้ี หลกั การของการควบคมุ ภายใน องคป์ ระกอบของการควบคุมภายใน (การประเมินความเส่ียง) การกาหนดวตั ถุประสงค์ วตั ถุประสงคข์ องการประเมนิ ไวอ้ ยา่ งชดั เจน ความเสย่ี ง ขนั้ ตอนในการประเมนิ ความเสย่ี ง การระบุและประเมนิ การระบุปจั จยั ความเสย่ี ง ความเปลย่ี นแปลงมผี ลกระทบต่อ การวเิ คราะหค์ วามเสย่ี ง การบรหิ ารความเสย่ี ง ระบบการควบคมุ ภายใน การระบุปจั จยั และ วเิ คราะหค์ วามเสย่ี ง พจิ ารณาถงึ ความเสย่ี ง ทจ่ี ะเกดิ การทุจรติ ภาพท่ี 2.2 องคป์ ระกอบและหลกั การของการประเมนิ ความเสย่ี ง ทม่ี า : (จนั ทนา สาขากร, นพิ นั ธ์ เหน็ โชคชยั ชนะ, และศลิ ปพร ศรจี นั่ เพชร, 2557 หน้า 2–20) 3. กิจกรรมการควบคมุ (Control Activities) อาจกาหนดเป็นนโยบาย มาตรการและวธิ กี ารดาเนินงานต่าง ๆ ท่ีฝ่ายบรหิ ารนามาใชเ้ พ่อื ให้ เกดิ ความมนั่ ใจว่ามาตรการท่ไี ดก้ าหนดขน้ึ สามารถลดหรอื ควบคุมความเสย่ี งและไดร้ บั การตอบสนอง และปฏบิ ตั ติ ามไดจ้ รงิ ซง่ึ โดยทวั่ ไปกจิ กรรมการควบคุมจะนาไปใชไ้ ดผ้ ลดหี รอื ไมข่ น้ึ อย่กู บั สภาพแวดลอ้ ม ภายในและการใหค้ วามรว่ มมอื ของบุคลากรทุกคนในองคก์ รดว้ ย เชน่ 3.1 การกาหนดนโยบายและแผนงาน 3.2 การสอบทานโดยผบู้ รหิ าร 3.3 การประมวลผลขอ้ มลู 3.4 การควบคมุ ทางกายภาพ 3.5 การแบ่งแยกหน้าท่ี 3.6 ดชั นีวดั ผลการปฏบิ ตั งิ าน การควบคมุ ภายในและการประเมินประสิทธิภาพการควบคมุ ภายใน บทที่ 2
60 3.7 การจดั ทาเอกสารหลกั ฐาน 3.8 การตรวจสอบการปฏบิ ตั งิ านอยา่ งเป็นอสิ ระ สาหรบั หลกั การทส่ี าคญั ซง่ึ เกย่ี วขอ้ งกบั กจิ กรรมการควบคุมมดี งั น้ี 1. องคก์ รมมี าตรการควบคุมทช่ี ่วยลดความเสย่ี งทจ่ี ะไมบ่ รรลุวตั ถุประสงคข์ ององคก์ รใหอ้ ยใู่ น ระดบั ทย่ี อมรบั ได้ โดยกาหนดเป็นลายลกั ษณ์อกั ษร และครอบคลุมกระบวนการต่างๆ อย่างเหมาะสม รวมทงั้ องค์กรต้องกาหนดให้มกี ารควบคุมภายในทุกระดบั ตวั อย่างกิจกรรมการควบคุม เช่น การ ควบคมุ ทางกายภาพ การแบ่งแยกหน้าท่ี การจดั ทาเอกสารหลกั ฐาน เป็นตน้ 2. องคก์ รกาหนดและพฒั นากจิ กรรมการควบคุมทวั่ ไปดว้ ยระบบเทคโนโลยเี พอ่ื ชว่ ยสนบั สนุน การบรรลุวตั ถุประสงค์ เช่น การกาหนดนโยบายและวธิ กี ารปฏบิ ตั งิ านเก่ยี วกบั หน้าทก่ี ารควบคุมและ หน้าทค่ี วามรบั ผดิ ชอบดา้ นเทคโนโลยี การแบ่งแยกหน้าทอ่ี ยา่ งเหมาะสม เป็นต้น นอกจากน้ีองคก์ ร ควรกาหนดมาตรการดา้ นความปลอดภยั ของระบบเทคโนโลยที ่ใี ช้ภายในองค์กรใหม้ คี วามเหมาะสม โดยการกาหนดสทิ ธใิ ์ นการเขา้ ถงึ ขอ้ มลู ในระบบคอมพวิ เตอร์ 3. องคก์ รจดั ใหม้ กี จิ กรรมการควบคมุ ผ่านทางนโยบาย ซง่ึ ไดก้ าหนดสง่ิ ทค่ี าดหวงั และขนั้ ตอน การปฏบิ ตั เิ พ่อื ใหน้ โยบายทก่ี าหนดไวน้ นั้ สามารถนาไปส่กู ารปฏบิ ตั ไิ ด้ ฝา่ ยบรหิ ารกาหนดกจิ กรรมการ ควบคุมทถ่ี ูกสรา้ งขน้ึ จากกระบวนการทางธุรกจิ ขององคก์ รและขนั้ ตอนการทางานของพนกั งาน ซง่ึ มกี าร กาหนดกจิ กรรมการควบคุมผ่านนโยบายขององค์กร และมกี ารกาหนดหน้าท่คี วามรบั ผิดชอบของ พนกั งานและผบู้ รหิ ารต่อกจิ กรรมการควบคมุ โดยบคุ ลากรทม่ี หี น้าทร่ี บั ผดิ ชอบตามกจิ กรรมการควบคุม สามารถดาเนินงานไดใ้ นเวลาทเ่ี หมาะสมตามนโยบายและขนั้ ตอนการปฏบิ ตั ทิ ก่ี าหนดไวไ้ ด้ บทที่ 2 การควบคมุ ภายในและการประเมินประสิทธิภาพการควบคมุ ภายใน
61 จากทก่ี ล่าวมาขา้ งตน้ แสดงภาพประกอบไดด้ งั น้ี องคป์ ระกอบของการควบคมุ ภายใน หลกั การของการควบคมุ ภายใน (กิจกรรมการควบคมุ ) การกาหนดนโยบายและแผนงาน มาตรการควบคุมท่ี การสอบทานโดยผบู้ รหิ าร ชว่ ยลดความเสย่ี ง การประมวลผลขอ้ มลู การกาหนดและพฒั นา การควบคมุ ทางกายภาพ กจิ กรรมการควบคุมทวั่ ไป การแบง่ แยกหน้าท่ี ดว้ ยระบบเทคโนโลยี ดชั นีวดั ผลการปฏบิ ตั งิ าน กจิ กรรมการควบคมุ ผ่านทาง การจดั ทาเอกสารหลกั ฐาน นโยบายส่กู ารปฏบิ ตั ิ การตรวจสอบการปฏบิ ตั งิ าน อยา่ งเป็นอสิ ระ ภาพท่ี 2.3 องคป์ ระกอบและหลกั การของกจิ กรรมการควบคุม ทม่ี า : (จนั ทนา สาขากร, นพิ นั ธ์ เหน็ โชคชยั ชนะ, และศลิ ปพร ศรจี นั่ เพชร, 2557 หน้า 2–23) การควบคมุ ภายในและการประเมินประสิทธิภาพการควบคมุ ภายใน บทท่ี 2
62 4. สารสนเทศและการสื่อสาร (Information and Communication) สารสนเทศเป็นสง่ิ จาเป็นสาหรบั การบรหิ ารงานโดยเฉพาะอย่างยง่ิ ในยุคปจั จุบนั การได้รบั ขอ้ มลู ขา่ วสารทร่ี วดเรว็ และถูกตอ้ งยอ่ มไดเ้ ปรยี บในดา้ นการแขง่ ขนั กนั ทางธรุ กจิ ขอ้ มลู ขา่ วสารทด่ี คี วรมี ลกั ษณะดงั น้ี 4.1 เหมาะสมกบั การใช้ คอื มเี น้อื หาสาระทจ่ี าเป็นต่อการตดั สนิ ใจ 4.2 มคี วามถูกตอ้ ง สมบรู ณ์ สะทอ้ นผลตามความเป็นจรงิ และมรี ายละเอยี ดท่ี จาเป็นครบถว้ น 4.3 เป็นปจั จบุ นั คอื ใหข้ อ้ มลู ล่าสุด หรอื ใกลเ้ คยี งกบั วนั ทต่ี ดั สนิ ใจมากทส่ี ุด 4.4 ทนั เวลา คอื ไดข้ อ้ มลู ทต่ี อ้ งการทนั เวลาทจ่ี ะใช้ 4.5 เหมาะสมในการเขา้ ถงึ คอื ควรงา่ ยสาหรบั บคุ คลทม่ี อี านาจเกย่ี วขอ้ งและ สมควรเขา้ ถงึ สว่ นการสอ่ื สาร จะเป็นลกั ษณะของการแลกเปลย่ี นขอ้ มลู ขา่ วสารระหว่างบคุ คลหรอื หน่วยงาน ทงั้ ภายในและภายนอกองคก์ รอาจใชส้ อ่ื ในรปู แบบต่างๆ เพ่อื ทาการส่งขอ้ มลู ขา่ วสารใหบ้ ุคคลทวั่ ไปไดร้ บั ทราบและสามารถนาไปใชป้ ระโยชน์ได้ การส่อื สารท่ดี ตี ้องเป็นการส่อื สารแบบสองทาง คอื มกี ารรบั และสง่ ขอ้ มลู แบบโตต้ อบกนั ไดค้ วรมกี ารประเมนิ ระบบการตดิ ต่อเป็นระยะๆ เพ่อื ทราบประสทิ ธภิ าพและ ประสทิ ธผิ ลของระบบการส่อื สารทอ่ี งคก์ รใชอ้ ยู่ สาหรบั หลกั การทส่ี าคญั ซง่ึ เกย่ี วขอ้ งกบั สารสนเทศและการส่อื สารมดี งั น้ี 1. องคก์ รมสี ารสนเทศทเ่ี กย่ี วขอ้ งและมคี ณุ ภาพ เพ่อื สนบั สนุนใหก้ ารควบคุมภายในสามารถ ดาเนินไปไดต้ ามทก่ี าหนดไว้ องคก์ รควรกาหนดสารสนเทศทต่ี อ้ งการใชใ้ นการดาเนินงานทงั้ สารสนเทศ จากภายในและภายนอกองคก์ รทม่ี คี ุณภาพและเกย่ี วขอ้ งต่องาน 2. องคก์ รไดม้ กี ารส่อื สารภายในองคก์ ร ซง่ึ รวมถงึ วตั ถุประสงคแ์ ละความรบั ผดิ ชอบต่อการ ควบคุมภายในทจ่ี าเป็นต่อการสนัสนุนใหก้ ารควบคุมภายในสามารถดาเนินไปไดต้ ามทว่ี างไว้ องคก์ รมี กระบวนการส่อื สารขอ้ มลู ภายในอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพและมชี ่องทางการสอ่ื สารทเ่ี หมาะสม เพ่อื สนบั สนุน การควบคุมภายใน นอกจากน้ีองค์กรควรจดั ให้มชี ่องทางการส่อื สารพเิ ศษหรอื ช่องทางลบั เพ่อื ให้ บคุ คลต่างๆ ภายในองคก์ รสามารถแจง้ ขอ้ มลู หรอื เบาะแสเก่ยี วกบั การฉ้อฉลหรอื ทุจรติ ภายในองคก์ รได้ อยา่ งปลอดภยั 3. องคก์ รไดส้ อ่ื สารกบั หน่วยงานภายนอกเกย่ี วกบั ประเดน็ ทอ่ี าจมผี ลกระทบต่อการควบคุม ภายในองค์กรมกี ระบวนการส่อื สารข้อมูลกบั ผู้มสี ่วนได้ส่วนเสยี ภายนอกองค์กร เช่น ผู้ถอื หุ้น คู่ค้า เจา้ ของ หน่วยงานกากบั ดแู ล ลกู คา้ นักวเิ คราะหท์ างการเงนิ และผทู้ ่เี ก่ยี วขอ้ งกบั องคก์ รอ่นื อยา่ งมี ประสทิ ธภิ าพและมชี ่องทางการสอ่ื สารทเ่ี หมาะสมเพอ่ื สนบั สนุนการควบคมุ ภายใน เช่น จดั ใหม้ เี จา้ หน้าท่ี หรอื หน่วยงานนกั ลงทนุ สมั พนั ธ์ ศนู ยร์ บั เรอ่ื งรอ้ งเรยี น เป็นตน้ จากทก่ี ล่าวมาขา้ งตน้ แสดงภาพประกอบไดด้ งั น้ี บทท่ี 2 การควบคมุ ภายในและการประเมินประสิทธิภาพการควบคมุ ภายใน
63 องคป์ ระกอบของการควบคุมภายใน หลกั การของการควบคมุ ภายใน (สารสนเทศและการส่ือสาร) สารสนเทศ สารสนเทศทเ่ี กย่ี วขอ้ ง และมคี ุณภาพ การส่อื สารภายในองคก์ ร การส่อื สาร การสอ่ื สารกบั หน่วยงานภายนอก ภาพท่ี 2.4 องคป์ ระกอบและหลกั การของสารสนเทศและการสอ่ื สาร ทม่ี า : (จนั ทนา สาขากร, นพิ นั ธ์ เหน็ โชคชยั ชนะ, และศลิ ปพร ศรจี นั่ เพชร, 2557 หน้า 2–25) 5. การติดตามและประเมินผล (Monitoring and Evaluation) เป็นการประเมนิ คณุ ภาพการปฏบิ ตั งิ านและประเมนิ ประสทิ ธผิ ลของการควบคุมภายในทก่ี าหนด ไวอ้ ย่างต่อเน่ืองและสม่าเสมอ เพ่ือใหเ้ กดิ ความมนั่ ใจว่าระบบการควบคุมภายในท่กี าหนดไว้มคี วาม เพยี งพอและเหมาะสม มกี ารปฏบิ ตั ติ ามระบบการควบคุมภายในจรงิ ขอ้ บกพร่องทพ่ี บไดร้ บั การแก้ไข อยา่ งเหมาะสมและทนั เวลา การประเมนิ ผลโดยทวั่ ไปนิยมปฏบิ ตั กิ นั 2 ครงั้ ต่อปี สาหรับการติดตาม และประเมนิ ผลการควบคุมภายในอาจแบง่ ไดเ้ ป็น 2 ประเภทหลกั ดงั น้ี 5.1 การตดิ ตามผลระหวา่ งการปฏบิ ตั งิ าน เป็นการตดิ ตามผลอยา่ งต่อเน่อื งซง่ึ รวมอยใู่ น การบรหิ ารจดั การและการควบคุมดแู ลการปฏบิ ตั งิ านตามปกตขิ องหน่วยงาน กระทาโดยผบู้ รหิ ารแต่ละ ระดบั และผปู้ ฏบิ ตั งิ านตามหน้าทค่ี วามรบั ผดิ ชอบโดยใชว้ ธิ กี ารสงั เกต การสอดสอ่ งดแู ล การสอบทาน ผลการปฏบิ ตั งิ านตามระบบการควบคุมทก่ี าหนดขน้ึ ในทนั ทขี ณะท่เี กดิ เหตุการณ์ขน้ึ จรงิ และตามลาดบั ชนั้ อยา่ งต่อเน่อื งสม่าเสมอ เพอ่ื ใหท้ ราบความคบื หน้าของงาน ผลการปฏบิ ตั งิ าน ความผดิ ปกตหิ รอื ขอ้ ควรพจิ ารณาอ่นื ใด อนั ควรไดร้ บั การปรบั ปรงุ แกไ้ ขอยา่ งทนั กาลระหวา่ งการปฏบิ ตั งิ าน 5.2 การประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ านเฉพาะ เป็นกจิ กรรมทจ่ี ดั ใหม้ ขี น้ึ เป็นครงั้ คราวตามงวด เวลาทก่ี าหนดหรอื ตามความเหมาะสมหรอื อาจจดั ขน้ึ เป็นกรณีพเิ ศษ เพ่อื ตอบสนองต่อวตั ถุประสงค์ เฉพาะเร่ืองใดเร่ืองหน่ึง การประเมินผลการปฏิบัติงานเฉพาะจะให้ประโยชน์โดยการเน้นไปท่ี ประสทิ ธผิ ลของการควบคมุ ภายใน ณ งวดเวลาใดเวลาหน่งึ การควบคมุ ภายในและการประเมินประสิทธิภาพการควบคมุ ภายใน บทที่ 2
64 สาหรบั หลกั การทส่ี าคญั ซง่ึ เกย่ี วขอ้ งกบั การตดิ ตามและประเมนิ ผลมดี งั น้ี 1. องคก์ รตดิ ตามและประเมนิ ผลการควบคมุ ภายใน เพ่อื ใหม้ นั่ ใจวา่ การควบคุมภายในยงั ดาเนินไปอย่างครบถ้วนเหมาะสม องคก์ รควรจดั ให้มกี ารตรวจสอบการปฏบิ ตั ติ ามระบบการควบคุม ภายในทว่ี างไว้ โดยการประเมนิ ตนเองและหรอื การประเมนิ อสิ ระโดยผูต้ รวจสอบภายใน สาหรบั การ ประเมนิ โดยผตู้ รวจสอบภายในการรายงานผลการตรวจสอบภายในใหข้ น้ึ ตรงต่อคณะกรรมการตรวจสอบ ซง่ึ ผตู้ รวจสอบภยในปฏบิ ตั หิ น้าทต่ี ามมาตรฐานสากลการปฏบิ ตั งิ านวชิ าชพี การตรวจสอบภายใน 2. องคก์ รประเมนิ และสอ่ื สารขอ้ บกพรอ่ งของการควบคมุ ภายในอยา่ งทนั เวลาต่อบคุ คลทร่ี บั ผดิ ชอบ ซง่ึ รวมถงึ ผบู้ รหิ ารระดบั สงู และคณะกรรมการตามความเหมาะสม องคก์ รจะตอ้ งจดั ทารายงานการ ตดิ ตามและประเมนิ ผล เพ่อื ให้ทราบว่ามคี วามแตกต่าระหว่างการปฏบิ ตั ิจรงิ กับประมาณการหรอื แผนงานอย่างไร มสี าเหตุจากอะไร และใครเป็นผู้รบั ผิดชอบ นาเสนอต่อผู้บรหิ ารระดบั สูงและ คณะกรรมการต่อไป จากทก่ี ลา่ วมาขา้ งตน้ แสดงภาพประกอบไดด้ งั น้ี หลกั การของการควบคุมภายใน องคป์ ระกอบของการควบคมุ ภายใน (การติดตามและประเมินผล) การตดิ ตาม การตดิ ตามและประเมนิ ผลการ การประเมนิ ผล ควบคุมภายใน การประเมนิ และส่อื สาร ขอ้ บกพรอ่ งของ การควบคุมภายใน ภาพท่ี 2.5 องคป์ ระกอบและหลกั การของการตดิ ตามและประเมนิ ผล ทม่ี า : (จนั ทนา สาขากร, นพิ นั ธ์ เหน็ โชคชยั ชนะ, และศลิ ปพร ศรจี นั่ เพชร, 2557 หน้า 2–26) บทที่ 2 การควบคมุ ภายในและการประเมินประสิทธิภาพการควบคมุ ภายใน
65 ดงั นนั้ จงึ สรปุ ไดว้ า่ การควบคมุ ภายในตามแนวคดิ ของโคโซจ่ ากความสมั พนั ธข์ ององคป์ ระกอบ ทงั้ 5 ประการ จะเหน็ ว่าสภาพแวดลอ้ มของการควบคุมเป็นองคป์ ระกอบทส่ี าคญั ยง่ิ เป็นเสมอื นรากฐาน ใหอ้ งคป์ ระกอบอ่นื เกดิ ขน้ึ หรอื ดารงอย่ไู ด้อยา่ งมนั่ คง ถ้าสภาพแวดลอ้ มของการควบคุมไม่ดหี รอื ไม่มี ประสทิ ธภิ าพก็จะส่งผลให้องค์ประกอบอ่ืนไม่มปี ระสิทธภิ าพตามไปด้วย เน่ืองจากองค์ประกอบทงั้ 5 ประการน้ีไม่สามารถท่จี ะแยกออกจากกนั โดยเดด็ ขาดไดต้ ้องเก่ยี วเน่ืองและมคี วามสมั พนั ธซ์ ง่ึ กนั และ กนั โดยเรมิ่ จากแนวทางการดาเนินธุรกจิ ของผูบ้ รหิ ารเช่อื มโยงไปสู่กระบวนการทางการบรหิ ารจดั การ เพอ่ื มงุ่ สจู่ ดุ หมายเดยี วกนั คอื การบรรลุวตั ถุประสงคท์ งั้ 3 ประการของการควบคุมภายใน เพ่อื ใหม้ คี วามเขา้ ใจยง่ิ ขน้ึ ตามกรอบการควบคุมภายในตามแนวคดิ ของโคโซ่ 2013 (Internal Control Intergrated Framework) เกย่ี วกบั องคป์ ระกอบของการควบคุมภายในสมยั ใหม่จงึ เขยี นสรปุ เป็นภาพประกอบไดด้ งั น้ี สภาพแวดลอ้ มของการควบคุม การประเมนิ กจิ กรรมการ สารสนเทศและ การตดิ ตาม ความเสย่ี ง ควบคุม การสอ่ื สาร และประเมนิ ผล ภาพท่ี 2.6 องคป์ ระกอบของการควบคมุ ภายในตามแนวคดิ ของโคโซ่ การควบคมุ ภายในและการประเมินประสิทธิภาพการควบคมุ ภายใน บทท่ี 2
66 สาหรบั องคป์ ระกอบของการควบคมุ ภายในและหลกั การทเ่ี ชอ่ื มโยงกนั 17 ขอ้ ตามแนวคดิ ของโคโซ่ 2013 ทก่ี ล่าวมาแลว้ สรปุ เป็นตารางไดด้ งั น้ี ตารางท่ี 2.1 องคป์ ระกอบของการควบคุมภายในและหลกั การทเ่ี ช่อื มโยงกนั องคป์ ระกอบของการควบคมุ ภายใน หลกั การที่สาคญั 1. สภาพแวดลอ้ มของการควบคมุ 1. องคก์ รแสดงถงึ ความยดึ มนั่ ในคุณค่าของความ ซ่อื ตรงและจรยิ ธรรม 2. คณะกรรมการมคี วามเป็นอสิ ระจากฝา่ ยบรหิ าร และทาหน้าทก่ี ากบั ดแู ลพฒั นาการดาเนนิ การดา้ น การควบคมุ ภายใน 3. ฝ่ายบรหิ ารไดจ้ ดั ใหม้ โี ครงสรา้ งสายการรายงาน การกาหนดอานาจในการสงั่ การและความรบั ผดิ ชอบ ท่เี หมาะสมเพ่อื ให้องคก์ รบรรลุวตั ถุประสงค์ภายใต้ การกากบั ดแู ลของคณะกรรมการ 4. องคก์ รแสดงถึงความมงั่ มนั่ ในการจูงใจ พฒั นา และรกั ษาบุคลากรทม่ี คี วามรคู้ วามสามารถ 5. องค์กรกาหนดให้บุคลากรมหี น้าทแ่ี ละความ รบั ผิดชอบในการควบคุมภายในเพ่อื ให้บรรลุตาม วตั ถุประสงคข์ ององคก์ ร 2. การประเมนิ ความเสย่ี ง 1. องค์กรกาหนดวัตถุประสงค์ไว้อย่างชัดเจน เพยี งพอเพ่อื ใหส้ ามารถระบุและประเมนิ ความเส่ยี ง ต่าง ๆ ท่เี ก่ียวข้องกับการบรรลุวตั ถุประสงค์ของ องคก์ ร 2. องคก์ รระบแุ ละวเิ คราะหค์ วามเสย่ี งทุกประเภทท่ี อ า จ ก ร ะ ท บ ต่ อ ก า ร บ ร ร ลุ ว ั ต ถุ ป ร ะ ส ง ค์ ไ ว้ อ ย่ า ง ครอบคลุมทวั่ ทงั้ องคก์ ร 3. องค์กรได้พิจารณาถึงความเส่ียงท่ีจะเกิดการ ทุ จ ริต ใ น ก า ร ป ร ะ เ มิน ค ว า ม เ ส่ีย ง ท่ีจ ะ บ ร ร ลุ วตั ถุประสงคข์ ององคก์ ร 4. องค์กรสามารถระบุและประเมินความเปล่ียน แปลงทอ่ี าจมผี ลกระทบต่อระบบการควบคมุ ภายใน บทท่ี 2 การควบคมุ ภายในและการประเมินประสิทธิภาพการควบคมุ ภายใน
67 องคป์ ระกอบของการควบคมุ ภายใน หลกั การที่สาคญั 3. กจิ กรรมการควบคุม 1. องคก์ รมมี าตรการควบคุมทช่ี ่วยลดความเสย่ี งท่ี 4. สารสนเทศและการส่อื สาร จะไมบ่ รรลุวตั ถุประสงคข์ ององคก์ รใหอ้ ยใู่ นระดบั ท่ี ยอมรบั ได้ 5. การตดิ ตามและประเมนิ ผล 2. องคก์ รเลอื กและพฒั นากจิ กรรมการควบคุม ทวั่ ไปดว้ ยระบบเทคโนโลยเี พอ่ื ช่วยสนบั สนุนการ บรรลุวตั ถุประสงค์ 3. องคก์ รจดั ใหม้ กี จิ กรรมการควบคุมผา่ นทาง นโยบายซง่ึ ไดก้ าหนดสง่ิ ทค่ี าดหวงั และขนั้ ตอนการ ปฏบิ ตั เิ พ่อื ใหน้ โยบายทก่ี าหนดไวส้ ามารถนาไปสู่ การปฏบิ ตั ไิ ด้ 1. องค์กรมสี ารสนเทศท่เี ก่ียวข้องและมคี ุณภาพ เพ่อื สนับสนุนใหก้ ารควบคุมภายในสามารถดาเนิน ไปไดต้ ามทก่ี าหนดไว้ 2. องค์กรส่อื สารข้อมูลภายในองค์กร ซ่งึ รวมถึง วตั ถุประสงค์และความรบั ผิดชอบต่อการควบคุม ภ า ย ใ น ท่ีจ า เ ป็ น ต่ อ ก า ร ส นั บ ส นุ น ใ ห้ก า ร ค ว บ คุ ม ภายในสามารถดาเนนิ ไปไดต้ ามทว่ี างไว้ 3. องคก์ รไดส้ ่อื สารกบั หน่วยงานภายนอกเก่ยี วกบั ประเดน็ ทอ่ี าจมผี ลกระทบต่อการควบคมุ ภายใน 1. องคก์ รตดิ ตามและประเมนิ ผลการควบคุมภายใน เพ่อื ใหม้ นั่ ใจว่าการควบคุมภายในยงั ดาเนินไปอย่าง ครบถว้ นเหมาะสม 2. องค์กรประเมนิ และส่อื สารข้อบกพร่องของการ ควบคุมภายในอย่างทนั เวลาต่อบุคคลท่รี บั ผดิ ชอบ ซ่งึ รวมถึงผู้บรหิ ารระดบั สูงและคณะกรรมการตาม ความเหมาะสม ทม่ี า : (จนั ทนา สาขากร, นพิ นั ธ์ เหน็ โชคชยั ชนะ, และศลิ ปพร ศรจี นั่ เพชร, 2557 หน้า 2–11) การควบคมุ ภายในและการประเมินประสิทธิภาพการควบคมุ ภายใน บทที่ 2
68 ประเภทและวิธีการควบคมุ ภายใน สมาคมผตู้ รวจสอบภายในแหง่ ประเทศไทย (2555 : 82) กลา่ วถงึ ลกั ษณะของการประกอบธุรกจิ แต่ละองคก์ รยอ่ มมคี วามแตกต่างกนั ตามขนาด ประเภทการปฏบิ ตั งิ านขององคก์ ร สภาพแวดลอ้ มการ ดาเนินงาน ขอ้ กาหนด นโยบายต่างๆ รวมถงึ ระเบยี บ กฎหมายทเ่ี กย่ี วขอ้ งก็เป็นส่วนหน่ึงทท่ี าให้มี อทิ ธพิ ลต่อระบบการควบคุมภายในองคก์ ร ตามแนวคดิ ของโคโซ่ไดจ้ าแนกประเภทของการควบคุมและ วธิ กี ารควบคมุ ภายในไวด้ งั น้ี 1. ประเภทของการควบคมุ ภายใน (Types of Interenal Controls) สมาคมผสู้ อบบญั ชรี บั อนุญาตแหง่ ประเทศสหรฐั อเมรกิ า (AICPA) ไดก้ าหนดลกั ษณะประเภท ของการควบคุมภายในไวใ้ นมาตรฐานการสอบบญั ชเี ก่ยี วกบั การประเมนิ ระบบการควบคุมภายในของ ผสู้ อบบญั ชซี ง่ึ แบ่งออกเป็น 1) การควบคุมดา้ นการบรหิ าร และ 2) การควบคุมดา้ นการบญั ชี แต่ใน ทางปฏบิ ตั กิ ารควบคุมภายในมไิ ดจ้ ากดั อยู่เฉพาะแต่ในส่วนทเ่ี กย่ี วขอ้ งโดยตรงกบั กจิ กรรมทางดา้ นการ บญั ชแี ละการเงนิ เท่านนั้ ระบบการควบคุมภายในยงั เขา้ ไปแทรกอย่ใู นกจิ กรรมต่างๆ เพ่อื ป้องกนั ไม่ให้ เกดิ ความผดิ พลาดขน้ึ ไดโ้ ดยงา่ ย หรอื ถา้ หากกรณีทอ่ี าจมขี อ้ ผดิ พลาดเกดิ ขน้ึ กท็ าใหห้ น่วยงานทราบได้ โดยเร็ว ดังนัน้ ตามแนวคิดของโคโซ่เพ่ือให้เห็นอีกมุมมองหน่ึงของการควบคุมภายในท่ีมีอยู่ หลากหลายจงึ จาแนกการควบคมุ ภายในออกเป็น 2 ประเภทคอื 1.1 การควบคมุ แบบเป็นทางการ (Hard Controls) เป็นการควบคุมทม่ี กี ารกาหนดไวเ้ ป็น ลายลกั ษณ์อกั ษรหรอื เป็นการกระทา เพ่อื การควบคุมกระบวนการปฏบิ ตั งิ านต่าง ๆ ทม่ี องเหน็ ไดอ้ ยา่ ง ชดั เจน โดยส่วนมากมกั พบจากการประเมนิ ผลองคป์ ระกอบของการควบคุมดา้ นกจิ กรรม เช่น การ กาหนดโยบายและคู่มอื การปฏบิ ตั งิ าน การแบ่งแยกหน้าท่ี การอนุมตั ิ รายการ และการใชร้ หสั ลบั เป็นตน้ 1.2 การควบคมุ แบบไมเ่ ป็นทางการ (Soft Controls) เป็นการควบคุมทช่ี ว่ ยเสรมิ สรา้ ง สภาพแวดลอ้ มการควบคุมใหเ้ กดิ ข้นึ ดว้ ยค่านิยมทด่ี ี มจี รยิ ธรรม ภาวะความเป็นผูน้ า มจี ติ สานึกใน การปฏบิ ตั งิ านตามความรบั ผดิ ชอบอย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้ของบุคลากรทุกคนในองค์กร ซ่งึ ลกั ษณะเป็นนามธรรม มองเหน็ ไดไ้ มช่ ดั เจน มกั พบไดจ้ ากการประเมนิ ผลองคป์ ระกอบของการควบคุม ระดบั องคก์ ร เช่น การประชุมชแ้ี จงผลการปฏบิ ตั งิ าน การส่อื สารแบบสองทาง และการแสดงตวั อยา่ ง ทด่ี ขี องผนู้ า เป็นตน้ 2. วิธีการควบคมุ ภายใน (Method Interenal Controls) จากประเภทของการควบคุมภายในทไ่ี ด้กล่าวไว้ขา้ งต้นนัน้ จะนามาซ่งึ วิธกี ารควบคุมกิจกรรม ตามลกั ษณะต่างๆ เพ่อื นามาปรบั ปรงุ แกไ้ ขการปฏบิ ตั งิ านใหด้ ขี น้ึ ดงั นนั้ ผบู้ รหิ ารขององคก์ รควรเลอื ก วธิ กี ารทเ่ี หมาะสมและเหน็ ว่าสามารถป้องกนั จดุ อ่อนของเหตุการณ์นัน้ ได้ โดยทวั่ ไปแลว้ การทผ่ี บู้ รหิ าร บทที่ 2 การควบคมุ ภายในและการประเมินประสิทธิภาพการควบคมุ ภายใน
69 จะเลอื กวธิ กี ารควบคุมแบบใดนัน้ ควรคานึงถงึ ค่าใช้จ่ายท่ีต้องนาไปใช้ในการแก้ปญั หาด้วย ซ่งึ ถ้า พจิ ารณาจากประเภทของการควบคุมสามารถแบ่งวธิ กี ารควบคมุ ออกไดเ้ ป็น 5 วธิ ดี ว้ ยกนั ดงั น้ี 2.1 การควบคุมแบบป้องกนั (Preventive Controls) เป็นการควบคุมในเชงิ ป้องกนั ไมใ่ ห้ เกดิ เหตุการณ์ท่ไี ม่พงึ ประสงค์ขน้ึ เช่น การแบ่งแยกหน้าท่ี เพ่อื ป้องกนั ไม่ให้ผู้ใดผู้หน่ึงทารายการ ผิดพลาดแล้วไม่มผี ู้ใดตรวจพบ การกาหนดอานาจการอนุมตั ิรายการเพ่ือป้องกันรายการค้าท่ีไม่ เหมาะสม การใช้รหสั ลบั ป้องกนั การเข้าถึงข้อมูลท่สี าคญั การจดั โครงสรา้ งองค์กรท่ดี ี การสรรหา บคุ ลากรทม่ี คี วามรแู้ ละจรยิ ธรรม เป็นตน้ 2.2 การควบคุมแบบคน้ พบหรอื คน้ หา (Detective Controls) เป็นการควบคุมเพ่อื คน้ พบ เหตุการณ์ท่ไี ม่พงึ ประสงค์ซ่งึ เกิดข้นึ แล้ว เช่น การตรวจนับสนิ ค้าทาให้ทราบว่ามสี นิ ค้า สูญหาย เส่อื มสภาพ ชารดุ หรอื ลา้ สมยั การสอบทานรายงานเพ่อื ใหท้ ราบถงึ ความผดิ ปกตจิ ากการดาเนินงาน เป็นตน้ 2.3 การควบคุมแบบแกไ้ ข (Corrective Controls) เป็นการแกไ้ ขปญั หาทเ่ี กดิ ขน้ึ ซง่ึ พบจาก การใชว้ ธิ กี ารควบคุมแบบค้นพบ หรอื เม่อื มขี อ้ ผดิ พลาดเกดิ ขน้ึ จากการปฏบิ ตั งิ าน เช่น การจดั วาง มาตรการควบคมุ เพม่ิ เตมิ ภายหลงั จากการวเิ คราะหห์ าสาเหตุของสนิ คา้ ทส่ี ญู หายจากการตรวจนบั 2.4 การควบคุมแบบส่งเสรมิ (Directive Controls) เป็นการควบคุมทส่ี ่งเสรมิ ใหเ้ กดิ เหตุ การณ์ทพ่ี งึ ประสงค์ เพ่อื สนับสนุนการบรรลุวตั ถุประสงค์และเป้าหมายตามท่ฝี า่ ยบรหิ ารตอ้ งการ เช่น การกาหนดระเบยี บคาสงั่ หรอื นโยบายต่างๆ เพ่อื ให้การดาเนินงานเป็นไปอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ การจดั ให้มกี ารฝึกอบรมความรู้เพ่อื ให้พนักงานได้รบั การพฒั นาศักยภาพในการปฏบิ ตั ิงานให้ดขี ้นึ กา รมี แผนการจา่ ยผลตอบแทนพนกั งานประจาปีตามการประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ าน การจดั กจิ กรรมทส่ี ่งเสรมิ ความมสี ่วนรว่ ม และความสมั พนั ธอ์ นั ดรี ะหวา่ งพนกั งานกบั ฝา่ ยบรหิ าร เป็นตน้ 2.5 การควบคุมแบบทดแทน (Compensting or Mitigating Controls) เป็นการควบคุมท่ี สรา้ งขน้ึ เพ่อื ช่วยลดหรอื บรรเทาระดบั ความเส่ยี งจากการทไ่ี มม่ กี ารควบคุมบางอย่างทค่ี าดว่าจะมอี ยใู่ น กจิ กรรมนัน้ เป็นการควบคุมทส่ี รา้ งขน้ึ เพ่อื ใชท้ ดแทนวธิ กี ารควบคุมทส่ี น้ิ เปลอื งโดย ใช่เหตุได้ หรอื อยา่ งน้อยกส็ ามารถทดแทนหรอื ชดเชยไดบ้ างสว่ น เช่น การแบ่งแยกหน้าท่ี ซง่ึ ไม่อาจจดั ใหม้ ไี ดอ้ ย่าง คุม้ คา่ ในสภาพธุรกจิ ขนาดเลก็ หรอื แมก้ ระทงั่ หน่วยงานเลก็ ๆ บางหน่วยงานทอ่ี ยใู่ นองคก์ รขนาดใหญ่ จงึ จาเป็นอยา่ งยง่ิ ทเ่ี จา้ ของธุรกจิ หรอื ผบู้ รหิ ารของหน่วยงานนนั้ จะต้องรบั ผดิ ชอบในการกากบั ดแู ลการ ปฏบิ ตั งิ านอย่างใกลช้ ดิ เพ่อื ชดเชยผลกระทบทค่ี าดว่าจะเกดิ ขน้ึ จากการท่ไี ม่สามารถแบ่งแยกหน้าท่ี การกาหนดใหม้ รี ะบบงบประมาณในการบรหิ ารจดั การตามความรบั ผดิ ชอบ เป็นการควบคุมทส่ี ามารถ นามาใชท้ ดแทนวธิ กี ารอนุมตั ริ ายการในกรณีทเ่ี จา้ ของธุรกจิ ไมส่ ามารถทาการอนุมตั ริ ายการคา้ ทเ่ี กดิ ขน้ึ จากการดาเนนิ กจิ การทม่ี อี ยมู่ ากหรอื มอี ยใู่ นหลายสถานทไ่ี ดอ้ ยา่ งเหมาะสม เป็นตน้ การควบคมุ ภายในและการประเมินประสิทธิภาพการควบคมุ ภายใน บทท่ี 2
70 ลกั ษณะของระบบการควบคมุ ภายในที่ดี จนั ทนา สาขากร, นิพนั ธ์ เหน็ โชคชยั ชนะ, และศลิ ปพร ศรจี นั่ เพชร (2557 : 2 – 31) กล่าวว่า การควบคุมภายในขององค์กรมกั จะแตกต่างกนั ไปตามลกั ษณะและประเภทของการดาเนินธุรกจิ ซ่งึ โดยทวั่ ไปแลว้ การควบคุมภายในทด่ี ีผูบ้ รหิ ารจะกาหนดแนวทางการบรหิ ารงานมลี กั ษณะท่เี หมอื นกนั ดงั น้ี 1. มีแผนจดั แบง่ ส่วนงาน (Plan has Segmentation Jobs) โดยกาหนดความรบั ผดิ ชอบของงานดา้ นต่างๆ ไวอ้ ยา่ งชดั เจน ซง่ึ มหี ลกั สาคญั คอื การไมใ่ ห้ พนกั งานคนใดคนหน่ึงมอี านาจในการควบคุมดูแลการปฏบิ ตั งิ านเร่อื งใดเรอ่ื งหน่ึงเพยี งคนเดยี ว เพราะ จะเป็นการเปิดโอกาสให้มกี ารทุจรติ เกิดข้นึ ได้ง่ายหรอื มขี ้อพลาดโดยท่ไี ม่มใี ครทราบหรอื แก้ไขได้ ทนั เวลา ดงั นนั้ ในการจดั แบ่งสว่ นงานโดยเฉพาะดา้ นการปฏบิ ตั กิ ารดูแลทรพั ยส์ นิ การอนุมตั ริ ายการ การบนั ทกึ บญั ชี และการตรวจสอบภายในตอ้ งมกี ารแยกเป็นอสิ ระจากกนั เพ่อื ใหก้ ารควบคุมสอบทาน กน้ ได้ 2. มรี ะบบการควบคมุ ทางบญั ชีท่ีดี (Good Accounting System) คอื มกี ารอนุมตั ริ ายการบญั ชี ค่มู อื การบญั ชี มกี ารควบคุมโดยงบประมาณและระบบตน้ ทนุ ท่ี เหมาะสม เพ่อื ใหก้ ารรวบรวมขอ้ มลู ทางบญั ชเี ป็นไปอยา่ งถูกต้องเรยี บรอ้ ยสามารถนาสารสนเทศไปใช้ ประโยชน์ได้ มกี ารใชง้ บประมาณเพอ่ื ควบคุมการปฏบิ ตั งิ าน สาหรบั เอกสารประกอบรายการบญั ชแี ละ แบบพมิ พต์ ่าง ๆ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งควรมหี มายเลขเรยี งลาดบั กากบั ไวล้ ่วงหน้าเพ่อื ใหส้ ามารถควบคุมได้และใช้ เป็นหลกั ในการประมวลขอ้ มลู ทางบญั ชี 3. มแี นวทางปฏิบตั ิงานท่ีดี (Practice Good Job) โดยกาหนดหน้าทค่ี วามรบั ผดิ ชอบของพนกั งานแต่ละตาแหน่งไวอ้ ยา่ งครบถว้ นเป็นลายลกั ษณ์ อกั ษร ตลอดจนวธิ ปี ฏบิ ตั งิ าน การมอบหมายหน้าท่ี และการกาหนดนโยบายต่างๆ เพ่อื ป้องกนั ความ เขา้ ใจทค่ี ลาดเคล่อื น การโตแ้ ยง้ หรอื ปดั ความรบั ผดิ ชอบของพนกั งาน 4. ใช้เจ้าหน้าที่ซ่ึงมคี ณุ สมบตั ิเหมาะสมกบั ความรบั ผิดชอบ (The Qualified Staff With Responsibility) โดยเรมิ่ ตงั้ แต่การรบั สมคั รบคุ คลเขา้ ทางาน การเลอ่ื นตาแหน่ง และการฝึกอบรม ผปู้ ฏบิ ตั งิ าน ท่มี คี ุณสมบตั ิและประสบการณ์ท่เี หมาะสมเป็นปจั จยั ท่มี คี วามสาคญั อย่างหน่ึงของผลสาเรจ็ ของงาน เพราะองคก์ ารอาจไดร้ บั ความเสยี หาย หากใชเ้ จา้ หน้าทซ่ี ง่ึ มคี ุณสมบตั ไิ ม่ตรงกบั งานทม่ี อบหมาย หรอื หากใชเ้ จา้ หน้าทซ่ี ง่ึ มคี ณุ สมบตั สิ งู กว่างานทท่ี ากจ็ ะเป็นการสญู เปล่าและไมป่ ระหยดั ค่าใชจ้ า่ ยหรอื ตน้ ทุน บทท่ี 2 การควบคมุ ภายในและการประเมินประสิทธิภาพการควบคมุ ภายใน
71 การประเมินตนเองในการควบคมุ จนั ทนา สาขากร (2554 : 35) กล่าวว่าการประเมนิ ตนเองในการควบคุม (Control Setf– Assessemt) หมายถงึ วธิ กี ารตรวจสอบ การปรบั ปรุงระบบการควบคุมอย่างต่อเน่ืองเพ่อื นามาสู่การ พฒั นาองคก์ รอนั มาจากสภาพแวดลอ้ มทม่ี กี ารเปล่ียนแปลงอยเู่ สมอ อกี ทงั้ ช่วยทาใหผ้ บู้ รหิ ารสามารถ ปฏบิ ตั หิ น้าทไ่ี ดอ้ ยา่ งบรรลจุ ดุ มงุ่ หมาย ซง่ึ รายละเอยี ดการประเมนิ ตนเองในการควบคมุ มดี งั น้ี 1. องคป์ ระกอบของการประเมินตนเองในการควบคมุ (Elements of Self Control) การใช้แนวทางการประเมนิ ตนเองในการควบคุมก่อให้เกดิ วฒั นธรรมเกิดขน้ึ ในองค์กร ซ่งึ ผู้บรหิ ารได้ตระหนักถึงความรบั ผิดชอบต่อการสร้างระบบการควบคุมภายในท่เี ข้มแข็ง ต้องสร้าง กระบวนการประเมนิ ตนเองเพ่อื ให้มคี วามสอดคล้องกบั กระแสการจดั การในปจั จุบนั ทเ่ี น้นการกระจาย อานาจและการให้ความสาคญั ต่อลูกค้าเป็นหลกั ดงั นัน้ ผู้บรหิ ารจงึ ได้กาหนดองค์ประกอบของการ ประเมนิ ตนเองในการควบคมุ ไวด้ ว้ ยกนั 4 ประการ คอื 1.1 กาหนดขอบเขตของการประเมนิ ตนเอง ซง่ึ โดยทวั่ ไปจะเกย่ี วขอ้ งกบั วตั ถุประสงคด์ า้ น การดาเนินงาน (O) ดา้ นการเงนิ (F) และดา้ นการปฏบิ ตั ติ ามกฎหมาย (C) ดงั น้ี 1.1.1 วตั ถุประสงคด์ า้ นการดาเนินงานจะเน้นการใชท้ รพั ยากรในองคก์ รใหม้ ปี ระสทิ ธิ ภาพและประสทิ ธผิ ลสงู สุด 1.1.2 วตั ถุประสงคด์ า้ นการเงนิ จะเกย่ี วขอ้ งกบั การใชห้ ลกั การบญั ชที ถ่ี ูกตอ้ งเหมาะสม มกี ารควบคุมทด่ี เี พ่อื ใหไ้ ดข้ อ้ มลู ทางการเงนิ ทน่ี ่าเชอ่ื ถอื 1.1.3 วตั ถุประสงคด์ า้ นการปฏบิ ตั ติ ามกฎหมายกเ็ พ่อื ใหอ้ งคก์ ร พนกั งานและสงั คม นนั้ มคี วามปลอดภยั มสี ขุ อนามยั และเป็นองคก์ รทด่ี ี ปฏบิ ตั ติ ามกฎหมาย และมจี รรยาบรรณในการทา ธรุ กจิ 1.2 ตอ้ งมกี ารจดั ทาคมู่ อื และเอกสารเกย่ี วกบั กระบวนการควบคุม ซง่ึ องคก์ รไดด้ าเนนิ การ อยู่เพ่อื ให้บรรลุวตั ถุประสงค์ในด้านการดาเนินงาน ด้านการเงนิ และด้านการปฏบิ ตั ติ ามกฎหมาย ดงั กล่าว 1.3 มกี ารวเิ คราะหค์ วามเสย่ี งทอ่ี าจเกดิ ขน้ึ ซง่ึ อาจทาใหอ้ งคก์ รไมส่ ามารถบรรลุวตั ถุประสงค์ ในดา้ นการดาเนนิ งาน ดา้ นการเงนิ และดา้ นการปฏบิ ตั ติ ามกฎหมายดงั กลา่ ว 1.4 มกี ารตรวจสอบ ประเมนิ ปรบั ปรงุ กระบวนการควบคุมทด่ี าเนินการอยแู่ ละเปรยี บเทยี บ กบั การปฏบิ ตั ทิ ด่ี ที ส่ี ดุ (Best Practices) ซง่ึ เป็นการลดหรอื ตดั การควบคุมภายในทท่ี าใหล้ ่าชา้ และไม่มี ประสทิ ธภิ าพโดยไมก่ ่อใหเ้ กดิ ความเสย่ี ง องคก์ รนนั้ ควรจะมคี ณุ สมบตั ดิ งั น้ี 1.4.1 เป็นองคก์ รทใ่ี หอ้ านาจหน้าทค่ี วามรบั ผดิ ชอบ ตลอดจนใหข้ อ้ มลู ทเ่ี หมาะสม กบั อานาจหน้าท่ีและความรบั ผิดชอบของพนักงานในการปฏิบตั ิงาน ซ่ึงฝ่ายบรหิ ารและพนักงาน สามารถพจิ ารณาและจดั ลาดบั ความสาคญั ของวตั ถุประสงคใ์ นการควบคุม การควบคมุ ภายในและการประเมินประสิทธิภาพการควบคมุ ภายใน บทที่ 2
72 ต่อเน่อื ง 1.4.2 เป็นองคก์ รทม่ี กี ระบวนการในการปรบั ปรงุ กระบวนการทางานใหด้ ขี น้ึ อยา่ ง 1.4.3 ฝา่ ยบรหิ ารสนบั สนุนแนวทางการประเมนิ ตนเอง 2. เทคนิคการประเมินประสิทธิภาพขนั้ ต้นของการควบคมุ ภายใน (Technical Evaluation of the Effectiveness of Internal of Internal Control Initially) ผตู้ รวจสอบภายในจะสอบทานขอ้ มลู และการประเมนิ ประสทิ ธภิ าพขนั้ ตน้ โดยส่วนมากนิยมใช้ เป็นแบบสอบถามการควบคุมภายใน (Internal Control Questionnaires) เพ่อื ประเมนิ ประสทิ ธภิ าพว่า องค์กรมรี ะบบการควบคุมภายในหรอื ไม่ ซง่ึ ผตู้ รวจสอบภายในจะออกแบบ สอบถามตามลกั ษณะของ หน่วยงานนนั้ ๆ คาถามตอ้ งครอบคลมุ และครบถว้ น สาหรบั คาตอบกาหนดใหม้ คี าว่า “ใช่” กบั “ไมใ่ ช่” เท่านนั้ โดยคาตอบทห่ี น่วยงานตอบรบั คาวา่ “ใช่” นนั้ เป็นการแสดงถงึ มจี ุดแขง็ (Strength) ระบบการ ควบคุมภายในองค์กรมแี นวปฏบิ ตั อิ ย่างดี หรอื ถ้าคาตอบรบั ว่า “ไม่ใช่” เป็นการแสดงถึงมจี ุดอ่อน (Weakness) ระบบการปฏบิ ตั งิ านขององคก์ รไม่มกี ารควบคุมภายในท่ชี ดั เจนหรอื หละหลวม จุดอ่อนน้ี จะนามาซง่ึ สาเหตุของความเสย่ี งทอ่ี าจจะเกดิ ความเสยี หายไดใ้ นอนาคต ดงั นนั้ ผตู้ รวจสอบภายในต้อง มกี ารสอบทานขอ้ มูลของคาถามอย่างรอบคอบถ่ถี ว้ นเพ่อื ใหส้ อดคลอ้ งกบั วตั ถุประสงค์ของการควบคุม ภายใน จนั ทนา สาขากร, นพิ นั ธ์ เหน็ โชคชยั ชนะ, และศลิ ปพร ศรจี นั่ เพชร (2557 : 14–18) กล่าวว่า สาหรบั เทคนิคทใ่ี ชใ้ นการทดสอบประสทิ ธภิ าพของการควบคุมภายในและสอบทานการปฏบิ ตั งิ านตาม ระบบทจ่ี าเป็นตอ้ งใชใ้ นการทดสอบทวั่ ไปๆ มดี งั น้ี 2.1 การตรวจสอบหลกั ฐาน (Examination) เป็นเทคนิคทใ่ี ชใ้ นการทดสอบความครบถว้ น ถูกต้อง ความน่าเช่อื ถอื ของรายการ ถอื ว่าเป็นการควบคุมตามวตั ถุประสงคห์ ลกั นอกจากน้ียงั สามารถทดสอบการควบคุมในเร่อื งการจดั เกบ็ รกั ษาทรพั ยส์ นิ การแบ่งแยกหน้าทร่ี ะหว่างผปู้ ฏบิ ตั งิ าน กบั ผคู้ วบคุมงานไดอ้ กี ดว้ ย เทคนิคน้ีส่วนใหญ่จะใชก้ บั การทดสอบและสอบทานการควบคุมดา้ นบรหิ าร เพราะตอ้ งใชเ้ วลาและค่าใชจ้ า่ ยในการทดสอบมาก 2.2 การปฏบิ ตั ซิ ้า (Re – Performance) กลา่ วคอื เป็นเทคนิคทผ่ี ตู้ รวจสอบภายในตอ้ งเขา้ ไปทดลองการปฏบิ ตั งิ านทเ่ี จา้ หน้าทห่ี น่วยรบั ตรวจไดม้ กี ารทาไวแ้ ลว้ ส่วนมากนิยมนามาใชใ้ นการสอบ ทานการควบคุมภายในทางดา้ นบญั ชเี พราะไดผ้ ลดกี บั การทดสอบ 2.3 การสงั เกตการณ์ (Observation) เป็นเทคนคิ ทผ่ี ตู้ รวจสอบภายในตอ้ งเขา้ ไปเฝ้าดใู ห้ เห็นด้วยสายตาตนเองในขณะท่ีเจ้าหน้าท่ีของหน่วยรบั ตรวจปฏิบัติงานจริง โดยไม่ต้องแจ้งให้ ผู้ปฏบิ ตั งิ านได้ทราบ เทคนิคน้ีจะนามาใช้กับกรณีท่ไี ม่มรี ่องรอยหลกั ฐานการปฏบิ ตั ิงานแสดงไว้ให้ ตรวจสอบได้ บทที่ 2 การควบคมุ ภายในและการประเมินประสิทธิภาพการควบคมุ ภายใน
73 2.4 การสอบถาม (Inquiry) เป็นเทคนคิ ทผ่ี ตู้ รวจสอบภายในตอ้ งใชว้ าจา สอบถามแลก เปลย่ี นแสดงความคดิ เหน็ ในประเด็นทส่ี งสยั หรอื มคี วามต้องการรายละเอียดของประเดน็ ปญั หานัน้ ๆ เพมิ่ เตมิ เพ่อื ก่อใหเ้ กดิ ความกระจา่ งขน้ึ บางครงั้ อาจจดั ทาเป็นลายลกั ษณ์อกั ษรใหต้ อบเพ่อื ความสะดวก ของผใู้ หข้ อ้ มลู กไ็ ด้ ซง่ึ เทคนิคน้ีผตู้ รวจสอบภายในอาจจะใชเ้ ป็นการเปิดประเดน็ เพ่อื นาเทคนิคอ่นื มาใช้ ต่อไป ตวั อย่างท่ี 1 แบบประเมินองคป์ ระกอบของการควบคมุ ภายใน คณะกรรมการตรวจเงนิ แผ่นดนิ สานกั งานการตรวจเงนิ แผ่นดนิ (2554 : 42) กล่าวถงึ แบบ ประเมนิ องคป์ ระกอบของการควบคุมภายในว่า เป็นเครอ่ื งมอื สาหรบั การบรหิ ารการควบคุมภายในและ การประเมนิ ผลการควบคมุ ภายใน เพ่อื ช่วยใหผ้ บู้ รหิ ารและผปู้ ระเมนิ พจิ ารณาตดั สนิ ใจไดว้ ่า ระบบการ ควบคุมภายในขององคก์ รไดร้ บั การออกแบบอยา่ งเหมาะสมและเพยี งพอหรอื ไม่ ควรปรบั ปรุงแกไ้ ขใน จดุ ใด แบบประเมินน้ีแยกเป็น 5 องค์ประกอบของการควบคุมภายใน ในแต่ละองค์ประกอบจะ ประกอบดว้ ยขอ้ ความภายใตห้ วั ขอ้ หลกั และหวั ขอ้ ยอ่ ยทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ผใู้ ชห้ รอื ผปู้ ระเมนิ อาจปรบั ปรุงแก้ไข เพม่ิ เตมิ ขอ้ ความตามความเหมาะสม ช่องว่างใต้หวั ขอ้ “ความเห็น /คาอธบิ าย” ใช้สาหรบั จดบนั ทกึ ขอ้ คดิ เหน็ หรอื คาอธบิ ายในหวั ขอ้ นนั้ ๆ ขอ้ คดิ เหน็ หรอื คาอธบิ ายจะไม่เป็นลกั ษณะ “ใช่” หรอื “ไม่ใช่” แต่จะสรุปรวมว่าหน่วยงาน ให้ ความสาคญั หรอื ปฏบิ ตั อิ ย่างไรในเร่อื งนัน้ เพราะจะช่วยใหไ้ ด้ข้อสรุปเก่ยี วกบั การควบคุมภายในแต่ละ องคป์ ระกอบของการควบคุมภายใน ส่วนทว่ี ่างตอนทา้ ยแต่ละองคป์ ระกอบของการควบคุม ภายในใช้ สาหรบั บนั ทกึ ผลการประเมนิ โดยทวั่ ไป และระบุวธิ กี ารท่คี วรปฏบิ ตั หิ รอื ควรพจิ ารณาองค์ประกอบนัน้ และชอ่ งวา่ งตอนทา้ ยของแบบประเมนิ ใชส้ รปุ ผลการประเมนิ การควบคุมภายในโดยรวม ในการพจิ ารณา ใหข้ อ้ สรปุ ผลการประเมนิ แต่ละองคป์ ระกอบผปู้ ระเมนิ ควรใชว้ จิ ารณญาณว่า 1. ขอ้ ความใตข้ อ้ ต่าง ๆ ในแบบประเมนิ เหมาะสมทจ่ี ะนาไปประยกุ ตใ์ ชก้ บั เหตุการณ์ใน องคก์ รหรอื ไม่ ถา้ ไมเ่ หมาะสมควรปรบั ปรงุ แกไ้ ขเน้อื หาแบบประเมนิ ในหวั ขอ้ ยอ่ ย นนั้ ๆ ก่อน 2. หน่วยงานทไ่ี ดร้ บั การประเมนิ มกี ารปฏบิ ตั ติ ามท่รี ะบุ หรอื ไม่ อยา่ งไร 3. การปฏบิ ตั จิ รงิ มจี ดุ อ่อนของการควบคุมภายใน หรอื ไม่ อยา่ งไร 4. การปฏบิ ตั จิ รงิ มผี ลกระทบต่อการบรรลุวตั ถุประสงค์ หรอื ไม่ อยา่ งไร การควบคมุ ภายในและการประเมินประสิทธิภาพการควบคมุ ภายใน บทที่ 2
74 จดุ ท่ีควรประเมิน ความเหน็ / คาอธิบาย 1. สภาพแวดล้อมของการควบคมุ ผปู้ ระเมนิ ควรพจิ ารณาแต่ละปจั จยั ทม่ี ผี ลกระทบต่อสภาพ แวดลอ้ มการควบคมุ เพ่อื พจิ ารณาวา่ หน่วยรบั ตรวจมสี ภาพ แวดลอ้ มการควบคุมทด่ี ี หรอื ไม่ 1.1 ปรชั ญาและรปู แบบการทางานของผบู้ ริหาร - มที ศั นคตทิ ด่ี แี ละสนบั สนุนการปฏบิ ตั หิ น้าทภ่ี ายใน องคก์ ร รวมทงั้ การตดิ ตามผล การตรวจสอบ และการ ประเมนิ ผล ทงั้ จากการตรวจสอบภายในและการตรวจสอบ ภายนอก - มที ศั นคตทิ เ่ี หมาะสมต่อการรายงานทางการเงนิ งบประมาณ และการดาเนินงาน - มที ศั นคตแิ ละการปฏบิ ตั ทิ เ่ี หมาะสมต่อการกระจาย อานาจ - มที ศั นคตทิ เ่ี หมาะสมในการจดั การความเสย่ี งจากการ วเิ คราะหค์ วามเสย่ี งทเ่ี กย่ี วขอ้ งอยา่ งรอบคอบ และการพจิ ารณา วธิ กี ารลดหรอื ป้องกนั ความเสย่ี ง - มคี วามมงุ่ มนั่ ทจ่ี ะใชก้ ารบรหิ ารแบบมงุ่ ผลสมั ฤทธขิ ์ อง งาน 1.2 ความซื่อสตั ยแ์ ละจริยธรรม - มขี อ้ กาหนดดา้ นจรยิ ธรรมและบทลงโทษเป็นลายลกั ษณ์ อกั ษร และเวยี นใหพ้ นกั งานทกุ คนลงนามรบั ทราบเป็นครงั้ คราว - พนกั งานทราบและเขา้ ใจลกั ษณะของพฤตกิ รรมท่ี ยอมรบั หรอื ไมย่ อมรบั และบทลงโทษตามขอ้ กาหนดดา้ นจรยิ ธรรม และแนวทางการปฏบิ ตั ทิ ถ่ี กู ตอ้ ง - ฝา่ ยบรหิ ารสง่ เสรมิ และสนบั สนุนวฒั นธรรมองคก์ รท่ี มงุ่ เน้นความสาคญั ของความซ่อื สตั ยแ์ ละจรยิ ธรรม - ฝา่ ยบรหิ ารมกี ารดาเนินการตามควรแก่กรณี เมอ่ื ไมม่ ี การปฏบิ ตั ติ ามนโยบาย วธิ ปี ฏบิ ตั ิ หรอื ระเบยี บปฏบิ ตั ิ บทที่ 2 การควบคมุ ภายในและการประเมินประสิทธิภาพการควบคมุ ภายใน
จดุ ที่ควรประเมิน 75 - ฝา่ ยบรหิ ารกาหนดเป้าหมายการดาเนินงานทเ่ี ป็นไปได้ ความเหน็ / คาอธิบาย และไมส่ รา้ งความกดดนั ใหแ้ ก่พนกั งานในการปฏบิ ตั งิ านใหบ้ รรลุ เป้าหมายทเ่ี ป็นไปไมไ่ ด้ - ฝา่ ยบรหิ ารกาหนดสง่ิ จงู ใจทย่ี ตุ ธิ รรมและจาเป็นเพ่อื ให้ มนั่ ใจว่าพนกั งานจะมคี วามซอ่ื สตั ยแ์ ละถอื ปฏบิ ตั ติ ามจรยิ ธรรม - ฝา่ ยบรหิ ารดาเนินการโดยเรง่ ด่วนเมอ่ื มสี ญั ญาณแจง้ วา่ อาจมปี ญั หาเรอ่ื งความซ่อื สตั ยแ์ ละจรยิ ธรรมของพนกั งานเกดิ ขน้ึ 1.3 ความรู้ ทกั ษะและความสามารถของบคุ ลากร - มกี ารกาหนดระดบั ความรู้ ทกั ษะและความสามารถ - มกี ารจดั ทาเอกสารคาบรรยายคุณลกั ษณะงานของแต่ ละตาแหน่ง และเป็นปจั จบุ นั - มกี ารระบุและแจง้ ใหพ้ นกั งานทราบเกย่ี วกบั ความรู้ ทกั ษะและความสามารถทต่ี อ้ งการสาหรบั การปฏบิ ตั งิ าน - มแี ผนการฝึกอบรมตามความตอ้ งการของพนกั งาน ทงั้ หมดอยา่ งเหมาะสม - การประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ านพจิ ารณาจากการประเมนิ ปจั จยั ทม่ี ผี ลต่อความสาเรจ็ ของงาน และมกี ารระบุอยา่ งชดั เจนใน สว่ นพนกั งานมผี ลการปฏบิ ตั งิ านดี และส่วนทต่ี อ้ งมกี ารปรบั ปรงุ 1.4 โครงสรา้ งองคก์ ร - มกี ารจดั โครงสรา้ งและสายงาน การบงั คบั บญั ชาท่ี ชดั เจนและเหมาะสมกบั ขนาดและลกั ษณะการดาเนนิ งานของ หน่วยรบั ตรวจ - มกี ารประเมนิ ผลโครงสรา้ งเป็นครงั้ คราวและ ปรบั เปลย่ี นทจ่ี าเป็นใหส้ อดคลอ้ งกบั สถานการณ์ทม่ี กี าร เปลย่ี นแปลง การควบคมุ ภายในและการประเมินประสิทธิภาพการควบคมุ ภายใน บทท่ี 2
76 จดุ ท่ีควรประเมิน ความเหน็ / คาอธิบาย - มกี ารแสดงแผนภมู กิ ารจดั องคก์ รทถ่ี ูกตอ้ งและทนั สมยั ใหพ้ นกั งานทุกคนทราบ 1.5 การมอบอานาจและหน้าที่ความรบั ผิดชอบ - มกี ารมอบหมายอานาจและหน้าทค่ี วามรบั ผดิ ชอบ ใหก้ บั บุคคลทเ่ี หมาะสมและเป็นไปอยา่ งถกู ตอ้ ง และมกี ารแจง้ ให้ พนกั งานทกุ คนทราบ - ผบู้ รหิ ารวธิ กี ารทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพในการตดิ ตามผลการ ดาเนินงานทม่ี อบหมาย 1.6 นโยบายวิธีบริหารด้านบคุ ลากร - มกี ารกาหนดมาตรฐานหรอื ขอ้ กาหนดในการวา่ จา้ ง บคุ ลากรทเ่ี หมาะสม โดยเน้นถงึ การศกึ ษา ประสบการณ์ ความ ซ่อื สตั ยแ์ ละมจี รยิ ธรรม - มกี ารจดั ปฐมนเิ ทศใหก้ บั พนกั งานใหม่ และจดั ฝึก อบรมพนกั งานทกุ คนอยา่ งสม่าเสมอและต่อเน่อื ง - การเล่อื นตาแหน่งและอตั ราเงนิ เดอื น การโยกยา้ ย ขน้ึ อยกู่ บั การประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ าน - การประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ านของพนกั งานไดพ้ จิ ารณา รวมถงึ ความซอ่ื สตั ยแ์ ละจรยิ ธรรม - มกี ารลงโทษทางวนิ ยั และแกไ้ ขปญั หา เมอ่ื มกี ารไม่ ปฏบิ ตั ติ ามนโยบายหรอื ขอ้ กาหนดดา้ นจรยิ ธรรม 1.7 กลไกการติดตามการตรวจสอบการปฏิบตั ิงาน - มคี ณะกรรมการตรวจสอบหรอื คณะกรรมการตรวจสอบ และประเมนิ ผลภาคราชการ และมกี ารกากบั ดแู ล การปฏบิ ตั งิ าน ภายในองคก์ รใหเ้ ป็นไปตามระบบการควบคุมภายในทก่ี าหนด อยา่ งต่อเน่ืองและสม่าเสมอ บทท่ี 2 การควบคมุ ภายในและการประเมินประสิทธิภาพการควบคมุ ภายใน
จดุ ที่ควรประเมิน 77 - มผี ตู้ รวจสอบภายใน และมกี ารรายงานผลการ ความเหน็ / คาอธิบาย ตรวจสอบภายในต่อหวั หน้าส่วนราชการ 1.8 อ่ืน ๆ (โปรดระบ)ุ ........................................................................................... .......................................................................................... .......................................................................................... สรปุ / วิธีการท่ีควรปฏิบตั ิ ........................................................................................... .......................................................................................... .......................................................................................... ชอ่ื ผปู้ ระเมนิ .................................... ตาแหน่ง ........................................ วนั ท.่ี ........./............/...................... การควบคมุ ภายในและการประเมินประสิทธิภาพการควบคมุ ภายใน บทที่ 2
78 จดุ ท่ีควรประเมิน ความเหน็ / คาอธิบาย 2. การประเมินความเสี่ยง ก่อนการประเมนิ ความเสย่ี งจะตอ้ งสรา้ งความชดั เจนเกย่ี วกบั วตั ถุประสงคก์ ารดาเนินงานทงั้ ในระดบั หน่วยรบั ตรวจและระดบั กจิ กรรม (เชน่ แผนงาน หรอื งานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย) วตั ถุประสงคข์ องการประเมนิ องคป์ ระกอบการควบคมุ ภายใน น้เี พอ่ื ทราบกระบวนการระบุความเสย่ี ง การวเิ คราะห์ และการ บรหิ ารความเสย่ี งวา่ เหมาะสม เพยี งพอ หรอื ไม่ 2.1 วตั ถปุ ระสงคร์ ะดบั หน่วยรบั ตรวจ - มกี ารกาหนดวตั ถุประสงคแ์ ละเป้าหมายการดาเนนิ งาน ของหน่วยงานอยา่ งชดั เจนและวดั ผลได้ - มกี ารเผยแพรแ่ ละชแ้ี จงใหบ้ คุ ลากรทุกระดบั ทราบและ เขา้ ใจตรงกนั 2.2 วตั ถปุ ระสงคร์ ะดบั กิจกรรม - มกี ารกาหนดวตั ถุประสงคข์ องการดาเนินงานในระดบั กจิ กรรม และวตั ถุประสงคน์ ้สี อดคลอ้ งและสนบั สนุนวตั ถุประสงค์ ระดบั หน่วยรบั ตรวจ - วตั ถุประสงคร์ ะดบั กจิ กรรมชดั เจน ปฏบิ ตั ไิ ด้ และ วดั ผลได้ - บคุ ลากรทกุ คนทเ่ี กย่ี วขอ้ งมสี ว่ นรว่ มในการกาหนดและ ใหก้ ารยอมรบั 2.3 การระบปุ ัจจยั เส่ียง - ผบู้ รหิ ารทุกระดบั มสี ่วนรว่ มในการระบแุ ละประเมนิ ความเสย่ี ง - มกี ารระบแุ ละประเมนิ ความเสย่ี งทอ่ี าจเกดิ ขน้ึ จากปจั จยั ภายในและภายนอก เช่น การปรบั ลดบุคลากร การใช้ เทคโนโลยสี มยั ใหม่ การเกดิ ภยั ธรรมชาติ การเปลย่ี นแปลงทาง การเมอื งเศรษฐกจิ และสงั คม เป็นตน้ บทที่ 2 การควบคมุ ภายในและการประเมินประสิทธิภาพการควบคมุ ภายใน
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 594
Pages: