Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore tripitaka_86

tripitaka_86

Published by sadudees, 2017-01-10 01:15:47

Description: tripitaka_86

Search

Read the Text Version

พระอภิธรรมปฎก ปฏฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ท่ี 1 พระอภิธรรมปฎก เลมท่ี ๗ ปฏ ฐาน ภาคที่ ๒๑ ขอนอบนอมแดพ ระผูม ีพระภาคอรหนั ตสัมมาสัมพทุ ธเจา พระองคน้นั ๒. เวทนาตกิ ะ ปฏิจจวาระ อนุโลมนัย เหตุปจ จัย [๑๐๗๗] ๑. ธรรมทีส่ ัมปยตุ ดวยสุขเวทนา อาศัยธรรมที่สัมปยตุ ดว ยสขุ เวทนาเกิดข้นึ เพราะเหตปุ จจยั คอื ขันธ ๒ อาศัยขนั ธ ๑ ทีส่ ัมปยุตดวยสขุ เวทนา เกิดขึน้ , ขนั ธ ๑อาศัยขันธ ๒ เกิดขน้ึ . ในปฏิสนธิขณะ ขันธ ๒ อาศยั ขนั ธ ๑ ทส่ี ัมปยตุ ดวยสขุ เวทนาเกดิขึ้น, ขนั ธ ๑ อาศยั ขันธ ๒ เกดิ ข้ึน. [๑๐๗๘] ๒. ธรรมท่ีสมั ปยตุ ดว ยสุขเวทนา อาศยั ธรรมที่สัมปยตุ ดวยทุกขเวทนา เกดิ ขน้ึ เพราะเหตปุ จ จัย คอื ขนั ธ ๒ อาศยั ขันธ ๑ ทส่ี ัมปยุตดว ยทกุ ขเวทนา เกดิ ขึ้น, ขันธ ๑อาศยั ขนั ธ ๒ เกิดขน้ึ .๑ บาลเี ลม ๔๐

พระอภธิ รรมปฎก ปฏ ฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนาท่ี 2 [๑๐๗๙] ๓. ธรรมทสี่ ัมปยุตดวยอทกุ ขมสขุ เวทนา อาศัยธรรมทสี่ มั ปยุตดวยอทกุ ขมสขุ เวทนา เกดิ ขน้ึ เพราะเหตุปจ จยั คอื ขนั ธ ๒ อาศยั ขนั ธ ๑ ทีส่ ัมปยุตดว ยอทกุ ขมสขุ เวทนา เกิดข้ึน,ขันธ ๑ อาศยั ขันธ ๒ เกดิ ขนึ้ . ในปฏสิ นธขิ ณะ ขนั ธ ๒ อาศัยขนั ธ ๑ ทีส่ มั ปยตุ ดวยอทุกขมสขุ -เวทนา เกดิ ขึ้น, ขนั ธ ๑ อาศัยขันธ ๒ เกดิ ขนึ้ . อารมั มณปจ จัยเปนตน [๑๐๘๐] ธรรมท่ีสมั ปยุตดว ยสขุ เวทนา อาศัยธรรมทีส่ ัมปยตุดวยสขุ เวทนา เกิดขึน้ เพราะอารัมมณปจจยั ... เพราะอธปิ ติปจ จยั(ในอธิปตปิ จจยั ปฏิสนธไิ มม )ี ... เพราะอนนั ตรปจจัย ... เพราะสมนนั ตรปจ จัย ... เพราะสหชาตปจ จยั ... เพราะอญั ญมญั ญปจ จยั ...เพราะนิสสยปจ จยั ... เพราะอุปนิสสยปจ จยั ... เพราะปุเรชาตปจ จัย คือ ขันธ ๒ อาศยั ขันธ ๑ ทสี่ ปั ยตุ ดว ยสุขเวทนา เกิดขน้ึ , ขันธ ๑อาศยั ขนั ธ ๒ เกดิ ข้นึ . ขนั ธท ัง้ หลายอาศัยหทยวัตถุเกดิ ขน้ึ . [๑๐๘๑] ธรรมทส่ี มั ปยุตดว ยสุขเวทนา อาศยั ธรรมที่สมั ปยุตดวยสุขเวทนา เกดิ ข้นึ เพราะอาเสวนปจ จยั ... เพราะกมั มปจจัย ...เพราะวิปากปจ จยั คอื ขันธ ๒ อาศัยขันธ ๑ ที่สัมปยุตดว ยสขุ เวทนา. เกิดขนึ้ , ขนั ธ๑ อาศัยขนั ธ ๒ เกดิ ข้นึ . ในปฏิสนธิขณะ ขนั ธ ๒ อาศยั ขันธ ๑ ที่สมั ปยุตดว ยสขุ เวทนา เกดิขึ้น, ขันธ ๑ อาศัยขันธ ๒ เกิดขนึ้ .

พระอภิธรรมปฎ ก ปฏ ฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ที่ 3 [๑๐๘๒] ธรรมทีส่ มั ปยุตดวยทกุ ขเวทนา อาศัยธรรมที่สมั ปยุตดว ยทกุ ขเวทนา เกิดข้ึน เพราะวิปากปจ จยั คือ ขนั ธ ๒ อาศยั ขนั ธ ๑ ที่สหรคตดวยทกุ ขสหคตกายวญิ ญาณเกิดขน้ึ , ขนั ธ ๑ อาศัยขันธ ๒ เกิดขึน้ . [๑๐๘๓] ธรรมทส่ี ัมปยุตดวยอทุกขมสุขเวทนา อาศยั ธรรมทส่ี มั ปยุตดวยอทุกขมสุขเวทนา เกิดขน้ึ เพราะวปิ ากปจจัย คือ ขันธ ๒ อาศยั ขนั ธ ๑ ทีส่ ัมปยตุ ดวยอทุกขมสุขเวทนา เกดิ ขึน้ .ขนั ธ ๑ อาศยั ขันธ ๒ เกดิ ข้ึน. ในปฏสิ นธขิ ณะ ขันธ ๒ อาศยั ขนั ธ ๑ ท่สี มั ปยตุ ดว ยอทุกขมสขุ เวทนาเกดิ ข้นึ , ขันธ ๑ อาศยั ขันธ ๒ เกิดขึน้ . [๑๐๘๔] ธรรมที่สัมปยุตดวยสขุ เวทนา อาศยั ธรรมที่สัมปยตุดวยสขุ เวทนา เกิดข้นึ เพราะอาหารปจ จัย... เพราะอนิ ทรยิ ปจ จัย ...เพราะฌานปจ จัย... เพราะมคั คปจจัย ... เพราะสมั ปยตุ ตปจ จัย ...เพราะวปิ ปยุตตปจจยั คือ ขันธ ๒ อาศยั ขันธ ๑ ที่สมั ปยุตดว ยสขุ เวทนา เกดิ ขน้ึ , ขนั ธ ๑อาศยั ขนั ธ ๒ เกิดขน้ึ , ขนั ธท ้ังหลาย อาศัยหทยวัตถเุ กิดขนึ้ เพราะวปิ ปยุตต-ปจจัย. ในปฏสิ นธขิ ณะ ขนั ธ ๒ อาศยั ขันธ ๑ ท่สี ัมปยุตดว ยสขุ เวทนา เกดิขนึ้ , ขนั ธ ๑ อาศัยขนั ธ ๒ เกดิ ขึ้น, ขนั ธท งั้ หลายอาศัยหทยวตั ถเุ กดิ ขน้ึเพราะวิปปยุตตปจจยั . [๑๐๘๕] ธรรมทีส่ มั ปยุตดวยทุกขเวทนา อาศัยธรรมที่สัมปยตุ ดว ยทกุ ขเวทนา เกิดขึ้น เพราะวปิ ปยตุ ตปจ จัย

พระอภิธรรมปฎก ปฏ ฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนาท่ี 4 คอื ขนั ธ ๒ อาศยั ขันธ ๑ ที่สมั ปยตุ ดวยทกุ ขเวทนา เกิดขึ้น, ขันธ๑ อาศัยขนั ธ ๒ เกดิ ข้นึ , ขนั ธท งั้ หลาย อาศยั หทยวตั ถุเกดิ ขนึ้ เพราะวปิ ปยุตต-ปจ จัย. [๑๐๘๖] ธรรมท่ีสมั ปยุตตดว ยอทกุ ขมสุขเวทนา อาศัยธรรมท่สี ัมปยุตดว ยอทกุ ขมสุขเวทนา เกดิ ข้นึ เพราะวิปปยุตตปจจัย คือ ขันธ ๒ อาศยั ขนั ธ ๑ ท่สี ัมปยตุ ดว ยอทุกขมสขุ เวทนา เกดิ ข้นึ .ขันธ ๑ อาศัยขนั ธ ๒ เกดิ ขน้ึ , ขันธท ั้งหลายอาศยั หทยวตั ถุ เกดิ ขึ้น. ในปฏิสนธิขณะขนั ธ ๒ อาศยั ขันธ ๑ ทีส่ มั ปยุตดว ยอทกุ ขมสุขเวทนาเกิดข้ึน, ขนั ธ ๑ อาศัยขันธ ๒ เกดิ ขึน้ . ขนั ธท้งั หลายอาศยั หทยวัตถเุ กดิ ขนึ้เพราะวปิ ปยตุ ตปจ จัย. เพราะอตั ถิปจจยั ... เพราะนตั ถิปจจยั ... เพราะวิคตปจจัย ...เพราะอวคิ ตปจ จัย. การนบั จาํ นวนวาระในอนุโลม สทุ ธมูลกนยั [๑๐๘๗] ในเหตปุ จ จยั มี ๓ วาระ ในอารมั มณปจจัย มี ๓ วาระ... ในอวิคตปจจัย มี ๓ วาระ. เหตุมลู กนัย เพราะเหตุปจ จยั ในอารมั มณปจจยั มี ๓ วาระ ... ในวปิ ากปจ จัยมี ๒ วาระ ในอวคิ ตปจจัย มี ๓ วาระ.

พระอภธิ รรมปฎ ก ปฏฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ท่ี 5 อารัมมณ อธปิ ติมูลกนัย เพราะอารมั มณปจจยั ... เพราะอธิปติปจ จัย ในเหตปุ จจัย มี ๓วาระ ... ในวิปากปจ จัย มี ๒ วาระ ในอวิคตปจ จัย มี ๓ วาระ. อาเสวนมูลกนยั เพราะอาเสวนปจ จยั ในเหตุปจจัย มี ๓ วาระ ... ในกมั มปจ จยัมี ๓ วาระ ในอาหารปจจัย มี ๓ วาระ ในอวิคตปจจยั มี ๓ วาระ. วปิ ากมลู กนยั เพราะวิปากปจจยั ในเหตุปจ จัย มี ๒ วาระ ... ในอารมั มณปจจัยมี ๓ วาระ ในอธปิ ติปจ จัย มี ๒ วาระ ฯลฯ ในปุเรชาตปจจยั มี ๓ วาระในกมั มปจ จยั มี ๓ วาระ ในฌานปจ จยั มี ๒ วาระ ในมคั คปจจัย มี ๒วาระ ในอวิคตปจจยั มี ๓ วาระ. ฌานมูลกนัย เพราะฌานปจจยั ในเหตปุ จ จัย มี ๓ วาระ ... ในวปิ ากปจจัยมี ๒ วาระ ในอวคิ ตปจ จยั มี ๓ วาระ. มคั คมลู กนยั เพราะมคั คปจ จัย ในเหตปุ จจัย มี ๓ วาระ ... ในวปิ ากปจจยั มี๒ วาระ ในอวคิ ตปจ จยั มี ๓ วาระ.

พระอภิธรรมปฎ ก ปฏฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนาที่ 6 อวคิ ตมลู กนยั เพราะอวคิ ตปจจยั ในเหตุปจจัย มี ๓ วาระ ... ในนตั ถิปจจยัมี ๓ วาระ ในวคิ ตปจ จัย มี ๓ วาระ. การนบั ปจจัยในปฏิจจวาระแหงเวทนาตกิ ะ พึงใหพสิ ดารเหมอื นการนับปจจยั แหงกสุ ลตกิ ะ. ปจ จนียนัย [๑๐๘๘] ๑. ธรรมทสี่ มั ปยุตดว ยสุขเวทนา อาศยั ธรรมทสมั ปยตุ ดว ยสขุ เวทนา เกดิ ขน้ึ เพราะนเหตปุ จ จัย คือ ขันธ ๒ อาศยั ขันธ ๑ ซง่ึ เปนอเหตกุ ะ ท่สี ัมปยุตดว ยสุขเวทนาเกิดขน้ึ , ขนั ธ ๑ อาศยั ขนั ธ ๒ เกิดข้ึน. [๑๐๘๙] ๒. ธรรมทสี่ มั ปยตุ ดวยทุกขเวทนา อาศยั ธรรมท่ีสัมปยุตดว ยทกุ ขเวทนา เกิดขนึ้ เพราะนเหตุปจจัย คอื ขนั ธ ๒ อาศัยขันธ ๑ ทส่ี หรคตดว ยทกุ ขสหคตกายวิญญาณ เกิดข้นึ , ขนั ธ ๑ อาศยั ขันธ ๒ เกดิ ข้ึน [๑๐๙๐] ๓. ธรรมท่ีสมั ปยตุ ดว ยอทุกขมสขุ เวทนา อาศยั ธรรมท่ีสมั ปยตุ ดวยอทกุ ขมสุขเวทนา เกิดขน้ึ เพราะนเหตุปจจัย คอื ขันธ ๒ อาศัยขนั ธ ๑ ซ่งึ เปนอเหตกุ ะ ทส่ี ัมปยตุ ดวยอทุกขม-สุขเวทนา เกดิ ข้นึ , ขนั ธ ๑ อาศยั ขนั ธ ๒ เกดิ ข้ึน. ในอเหตกุ ปฏสิ นธขิ ณะ ขันธ ๒ อาศยั ขันธ ๑ ทสี่ ัมปยตุ ดว ยอทกุ ขม-สุขเวทนา เกดิ ข้นึ ขันธ ๑ อาศยั ขนั ธ ๒ เกิดขนึ้ . โมหะทส่ี หรคตดว ยวิจิกิจฉา ท่ีสหรคตดว ยอทุ ธจั จะ อาศัยขันธท ั้งหลายท่สี หรคตดว ยวิจิกจิ ฉา ทสี่ หรคตดวยอุทธจั จะ เกิดข้นึ .

พระอภธิ รรมปฎก ปฏฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ที่ 7 [๑๐๙๑] ธรรมท่ีสมั ปยุตดวยสขุ เวทนา อาศยั ธรรมที่สมั ปยุตดว ยสขุ เวทนา เกิดขึ้น เพราะนอธิปติปจจยั มปี ฏสิ นธิบริบูรณในนอธปิ ติปจ จยั . [๑๐๙๒] ๑. ธรรมทส่ี ัมปยตุ ดวยสขุ เวทนา อาศัยธรรมที่สัมปยุต ดว ยสขุ เวทนา เกดิ ขึ้น เพราะนปุเรชาตปจจยั คอื ในอรูปภมู ิ ขันธ ๒ อาศยั ขันธ ๑ ท่ีสัมปยุตดว ยสขุ เวทนาเกดิ ขึ้น, ขนั ธ ๑ อาศยั ขนั ธ ๒ เกิดขน้ึ . ในปฏิสนธขิ ณะ ขนั ธ ๒ อาศยั ขนั ธ ๑ ที่สัมปยตุ ดว ยสุขเวทนา เกดิข้ึน, ขันธ ๑ อาศัยขนั ธ ๒ เกดิ ขึน้ . [๑๐๙๓] ๒. ธรรมที่สมั ปยุตดวยอทุกขมสขุ เวทนา อาศัยธรรมทีส่ มั ปยตุ ดว ยอทุกขมสุขเวทนา เกดิ ขนึ้ เพราะนปเุ รชาตปจจัย คือ ในอรปู ภูมิ ขันธ ๒ อาศัยขนั ธ ๑ ที่สัมปยุตดว ยอทกุ ขมสุข-เวทนา เกดิ ขน้ึ , ขนั ธ ๑ อาศยั ขันธ ๒ เกิดขน้ึ . ในปฏิสนธิขณะ ขันธ ๒ อาศัยขนั ธ ๑ ทีส่ ัมปยตุ ดวยอทกุ ขมสุข-เวทนา เกิดขึ้น, ขนั ธ ๑ อาศยั ขันธ ๒ เกดิ ขึ้น. [๑๐๙๔] ธรรมทส่ี ัมปยุตดว ยสุขเวทนา อาศัยธรรมทส่ี มั ปยตุดวยสขุ เวทนา เกดิ ข้ึน เพราะนปจ ฉาชาตปจจยั ... เพราะนอาเสวน-ปจ จัย... แมนปจ ฉาชาตปจจยั แมนอาเสวนปจจัย มปี ฏสิ นธิจิต บริบูรณ.

พระอภิธรรมปฎ ก ปฏฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนาท่ี 8 [๑๐๙๕] ๑. ธรรมทส่ี มั ปยุตดวยสขุ เวทนา อาศยั ธรรมท่ีสัมปยตุ ดวยสุขเวทนา เกิดข้นึ เพราะนกัมมปจ จัย คือ เจตนาทส่ี มั ปยตุ ดว ยสุขเวทนา อาศยั ขนั ธทงั้ หลายทส่ี มั ปยตุ ดว ยสุขเวทนา เกิดขึ้น. [๑๐๙๖] ๒. ธรรมที่สัมปยตุ ดวยทุกขเวทนา อาศยั ธรรมที่สมั ปยุตดวยทุกขเวทนา เกิดขน้ึ เพราะนกัมมปจจยั คือ เจตนาทส่ี มั ปยตุ ดวยทกุ ขเวทนา อาศัยขันธท ง้ั หลายท่ีสัมปยตุดว ยทุกขเวทนา เกดิ ขน้ึ . [๑๐๙๗] ๓. ธรรมทสี่ มั ปยุตดว ยอทุขมสขุ เวทนา อาศยั ธรรมที่สัมปยตุ ดวยอทุกขมสุขเวทนา เกดิ ขึ้น เพราะนกมั มปจ จัย คือ เจตนาท่สี ัมปยุตดวยอทกุ ขมสขุ เวทนา อาศยั ขันธทงั้ หลายที่สมั ปยตุ ดว ยอทุกขมสุขเวทนา เกดิ ข้นึ . [๑๐๙๘] ธรรมท่ีสัมปยตุ ดวยสขุ เวทนา อาศัยธรรมที่สมั ปยุตดวยสขุ เวทนา เกดิ ขึน้ เพราะนวิปากปจ จยั . . . เพราะนฌานปจจัย คอื ขนั ธ ๒ อาศัยขันธ ๑ ทีส่ หรคตดวยสุขสหคตกายวิญญาณ เกิดขึ้น, ขันธ ๑ อาศัยขนั ธ ๒ เกิดขึ้น. [๑๐๙๙] ๑. ธรรมทีส่ มั ปยุตดว ยทกุ ขเวทนา อาศยั ธรรมที่สมั ปยตุ ดว ยทุกขเวทนา เกดิ ขน้ึ เพราะนฌานปจ จัย คอื ขันธ ๒ อาศัยขันธ ๑ ทส่ี หรคตดวยทกุ ขสหคตกายวิญญาณ เกดิขนึ้ , ขนั ธ ๑ อาศัยขันธ ๒ เกิดขนึ้ . [๑๑๐๐] ๒. ธรรมท่ีสมั ปยตุ ดว ยอทุกขมสุขเวทนา อาศัยธรรมท่ีสัมปยุตดว ยอทกุ ขมสขุ เวทนา เกดิ ข้นึ เพราะนฌานปจจัย

พระอภธิ รรมปฎก ปฏ ฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนาท่ี 9 คอื ขนั ธ ๒ อาศัยขนั ธ ๑ ท่สี หรคตดว ยจกั ขวุ ญิ ญาณ เกดิ ขึน้ ,ขนั ธ ๑ อาศยั ขันธ ๒ เกิดขนึ้ . [๑๑๐๑] ธรรมที่สมั ปยตุ ดวยสุขเวทนา อาศัยธรรมทีส่ มั ปยตุดวยสุขเวทนา เกิดขนึ้ เพราะนมคั คปจ จยั คือ ขนั ธ ๒ อาศยั ขันธ ๑ ซึง่ เปน อเหตุกะ ทสี่ ัมปยตุ ดวยสขุ เวทนาเกดิ ขึน้ , ขันธ ๑ อาศยั ขนั ธ ๒ เกิดขึน้ . [๑๑๐๒] ธรรมทีส่ ัมปยุตดวยทกุ ขเวทนา อาศยั ธรรมทส่ี มั ปยตุดวยทกุ ขเวทนา เกิดขน้ึ เพราะนมคั คปจจัย คอื ขนั ธ ๒ อาศยั ขันธ ๑ ที่สหรคตดวยทกุ ขสหคตกายวิญญาณ เกิดขึ้น, ขันธ ๑ อาศัยขันธ ๒ เกดิ ขึ้น. [๑๑๐๓] ธรรมท่สี ัมปยุตดวยอทุกขมสุขเวทนา อาศัยธรรมท่ีสมั ปยตุ ดวยอทุกขมสขุ เวทนา เกิดขึน้ เพราะนมคั คปจจัย คอื ขันธ ๒ อาศยั ขันธ ๑ ซงึ่ เปนอเหตกุ ะ ที่สัมปยตุ ดวยอทุกขม-สุขเวทนา เกดิ ขน้ึ , ขันธ ๑ อาศัยขนั ธ ๒ เกิดขึ้น. ในอเหตุกปฏสิ นธิขณะ ขนั ธ ๒ อาศยั ขันธ ๑ ท่สี ัมปยตุ ดวยอทกุ ขม-สุขเวทนา เกดิ ขน้ึ , ขันธ ๑ อาศยั ขันธ ๒ เกดิ ขนึ้ . [๑๑๐๔] ธรรมทีส่ มั ปยุตดวยสุขเวทนา อาศัยธรรมท่สี มั ปยตุดวยสุขเวทนา เกดิ ขึน้ เพราะนวปิ ปยตุ ตปจ จยั คอื ในอรูปภูมิ ขนั ธ ๒ อาศยั ขนั ธ ๑ ทส่ี มั ปยุตดวยสขุ เวทนา เกดิขึน้ , ขนั ธ ๑ อาศัยขนั ธ ๒ เกดิ ขน้ึ .

พระอภธิ รรมปฎ ก ปฏฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนาที่ 10 [๑๑๐๕] ธรรมท่สี มั ปยุตดวยอทุกขมสขุ เวทนา อาศัยธรรมทีส่ ัมปยุตดวยอทุกขมสขุ เวทนา เกดิ ข้ึน เพราะนวปิ ปยุตตปจ จัย คือ ในอรูปภมู ิ ขันธ ๒ อาศยั ขันธ ๑ ทส่ี มั ปยุตดว ยอทกุ ขมสุขเวทนาเกิดขึน้ ขนั ธ ๑ อาศยั ขันธ ๒ เกดิ ขน้ึ . การนับจาํ นวนวาระในปจ จนยี ะแหงปฏจิ จวาระ [๑๑๐๖] ในนเหตปุ จ จัย มี ๓ วาระ ... ในนอธิปติปจ จัย มี ๓วาระ ในนปุเรชาตปจ จัย มี ๒ วาระ ในนปจฉาชาตปจจัย มี ๓ วาระ ในนอาเสวนปจจัย มี ๓ วาระ ในนกมั มปจจัย มี ๓ วาระ ในนวิปากปจ จัยมี ๓ วาระ ในนฌานปจจยั มี ๓ วาระ ในนมัคคปจ จัย มี ๓ วาระ ในนวปิ ปยุตตปจจัย มี ๒ วาระ. [๑๑๐๗] เพราะนเหตุปจ จัย ในนอธิปตปิ จ จัย มี ๓ วาระ. . . ในนปเุ รชาตปจ จัย มี ๑ วาระ ในนปจ ฉาชาตปจ จยั มี ๓ วาระ ในนอาเสวน-ปจจยั มี ๓ วาระ ในนกัมมปจจัย มี ๒ วาระ ในนวปิ ากปจจยั มี ๒ วาระในนฌานปจจยั มี ๓ วาระ ในนมัคคปจ จยั มี ๓ วาระ ในนวิปปยุตตปจจัยมี ๑ วาระ. [๑๑๐๘] เพราะนเหตปุ จจัย นอธิปติปจจยั นปเุ รชาตปจจัย ในนปจฉาชาตปจจัย มี ๑ วาระ . . . ในนอาเสวนปจ จัย มี ๑ วาระ ในนกัมม-ปจจยั มี ๑ วาระ ในนวิปากปจจัย มี ๑ วาระ ในนมัคคปจจยั มี ๑ วาระในนวิปปยุตตปจจยั มี ๑ วาระ.

พระอภิธรรมปฎ ก ปฏฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนาท่ี 11 [๑๑๐๙] เพราะนเหตปุ จ จยั นอธิปตปิ จจัย นปเุ รชาตปจ จยันปจฉาชาตปจ จยั นอาเสวนปจจัย นกัมมปจ จยั นวปิ ากปจ จัย นมคั ค-ปจจยั ในนวปิ ปยุตตปจ จัย มี ๑ วาระ. [๑๑๑๐] เพราะนอธปิ ตปิ จจยั ในนเหตุปจ จัย มี ๓ วาระ.. ในนปุเรชาตปจ จัย มี ๒ วาระ ในนปจฉาชาตปจจยั มี ๓ วาระ ในนอาเสวน-ปจ จยั มี ๓ วาระ ในนกัมมปจ จัย มี ๓ วาระ ในนวิปากปจ จัย มี ๓ วาระในนฌานปจ จยั มี ๓ วาระ ในนมคั คปจจัย มี ๓ วาระ ในนวิปปยุตตปจ จัยมี ๒ วาระ. [๑๑๑๑] เพราะนปเุ รชาตปจ จัย ในนเหตปุ จจัย มี ๑ วาระ . . . ในนอธปิ ติปจ จยั มี ๒ วาระ ในนปจฉาชาตปจจยั มี ๒ วาระ ในนอาเสวน-ปจ จัย มี ๒ วาระ ในนกมั มปจจยั มี ๒ วาระ ในนวปิ ากปจ จยั มี ๒ วาระในนมคั คปจจัย มี ๑ วาระ ในนวปิ ปยตุ ตปจ จัย มี ๒ วาระ. [๑๑๑๒] เพราะนปเุ รชาตปจจยั นเหตุปจ จยั ในนอธิปตปิ จจยัมี ๑ วาระ. . . ในนปจ ฉาชาตปจจยั มี ๑ วาระ ในนอาเสวนปจจยั มี ๑วาระ ในนกัมมปจ จยั มี ๑ วาระ ในนวิปากปจจัย มี ๑ วาระ ในนมคั ค-ปจ จัย มี ๑ วาระ ในนวปิ ปยุตตปจจยั มี ๑ วาระ ฯลฯ. [๑๑๑๓] เพราะนปจ ฉาชาตปจจัย... เพราะนอาเสวนปจจยั ...เพราะนกัมมปจจยั ในนเหตุปจ จัย มี ๒ วาระ ...ในนอธิปตปิ จ จยั มี ๓วาระ ในนปเุ รชาตปจ จยั มี ๒ วาระ ในนปจ ฉาชาตปจ จยั มี ๓ วาระในนอาเสวนปจ จัย มี ๓ วาระ ในนวปิ ากปจจยั มี ๓ วาระ ในนมัคคปจ จยัมี ๒ วาระ ในนวิปปยุตตปจ จยั มี ๒ วาระ.

พระอภิธรรมปฎก ปฏ ฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ที่ 12 [๑๑๑๔] เพราะนกมั มปจจยั นเหตปุ จจัย ในนอธิปตปิ จจยั มี ๒วาระ . . . ในนปเุ รชาตปจ จยั มี ๑ วาระ ในนปจ ฉาชาตปจ จยั มี ๒ วาระในนอาเสวนปจจยั มี ๒ วาระ ในนวิปากปจจยั มี ๒ วาระ ในนมัคคปจ จยัมี ๒ วาระ ในนวิปปยุตตปจจยั มี ๑ วาระ. [๑๑๑๕] เพราะนกัมมปจจยั นเหตปุ จจยั นอธิปติปจจยั นปุเร-ชาตปจ จัย ในนปจ ฉาชาตปจ จัย มี ๑ วาระ ... ในนอาเสวนปจ จยั มี ๑วาระ ในนวปิ ากปจ จยั มี ๑ วาระ ในนมัคคปจจยั มี ๑ วาระ ในนวิปปยตุ ต-ปจจัย มี ๑ วาระ ฯลฯ. [๑๑๑๖] เพราะนวปิ ากปจ จัย ในนเหตปุ จจยั มี ๒ วาระ. . . ในนอธิปติปจ จัย มี ๓ วาระ ในนปเุ รชาตปจ จัย มี ๒ วาระ ในนปจ ฉาชาต-ปจ จัย มี ๓ วาระ ในนอาเสวนปจจัย มี ๓ วาระ ในนกมั มปจ จัย มี ๓ วาระในนมัคคปจจยั มี ๒ วาระ ในนวปิ ปยุตตปจ จยั มี ๒ วาระ. นวิปากปจ จันเหมือนกับนกัมมปจ จัย. [๑๑๑๗] เพราะนฌานปจ จัย ในนเหตปุ จจัย มี ๓ วาระ ... ในนอธิปตปิ จจัย มี ๓ วาระ ในนปจฉาชาตปจ จยั มี ๓ วาระ ในนอาเสวน-ปจจัย มี ๓ วาระ ในนมคั คปจจยั มี ๓ วาระ. [๑๑๑๘] เพราะนฌานปจจัย นเหตุปจจัย นอธปิ ตปิ จจยั นปจ -ฉาชาตปจ จยั นอาเสวนปจจัย ในนมคั คปจจยั มี ๓ วาระ. [๑๑๑๙] เพราะนมัคคปจ จยั ในนเหตุปจ จยั มี ๓ วาระ . . . ในนอธิปติปจจัย มี ๓ วาระ ในนปุเรชาตปจ จยั มี ๑ วาระ ในนปจฉาชาต-

พระอภิธรรมปฎก ปฏฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนาที่ 13ปจจัย มี ๓ วาระ ในนอาเสวนปจจยั มี ๓ วาระ ในนกมั มปจจยั มี ๒ วาระในนวิปากปจจัย มี ๒ วาระ ในนฌานปจจยั มี ๓ วาระ ในนวปิ ปยุตตปจจัยมี ๑ วาระ. [๑๑๒๐] เพราะนมัคคปจจัย นเหตุปจ จยั ในนอธิปตปิ จ จยั มี ๓วาระ. . . ในนปเุ รชาตปจ จัย มี ๑ วาระ โนนปจ ฉาชาตปจ จัย มี ๓ วาระในนอาเสวนปจจยั มี ๓ วาระ ในนกมั มปจจยั มี ๒ วาระ ในนวปิ ากปจ จยัมี ๒ วาระ ในนฌานปจจยั มี ๓ วาระ ในนวิปปยุตตปจ จยั มี ๑ วาระ. [๑๑๒๑] เพราะนมคั คปจ จัย นเหตปุ จจัย นอธิปติปจ จยั นปุเร-ชาตปจจยั ในนปจ ฉาชาตปจจัย มี ๑ วาระ . . . ในนอาเสวนปจ จยั มี ๑วาระ ในนกัมมปจ จยั มี ๑ วาระ ในนวิปากปจ จัย มี ๑ วาระ ในนวปิ ป-ยตุ ตปจ จัย มี ๑ วาระ. [๑๑๒๒] เพราะนวิปปยุตตปจจัย ในนเหตปุ จ จยั มี ๑ วาระ ...ในนอธิปติปจจยั มี ๒ วาระ ในนปุเรชาตปจ จัย มี ๒ วาระ ในนปจ ฉาชาต-ปจจยั มี ๒ วาระ ในนอาเสวนปจ จัย มี ๒ วาระ ในนกมั มปจจัย มี ๒วาระ ในนวิปากปจ จยั มี ๒ วาระ ในนมคั คปจ จัย มี ๑ วาระ. [๑๑๒๓] เพราะนวปิ ปยตุ ตปจ จยั นเหตุปจจยั ในนอธปิ ตปิ จจยัมี ๑ วาระ . . . ในนปเุ รชาตปจจัย มี ๑ วาระ ในนปจ ฉาชาตปจจัย มี ๑วาระ ในนอาเสวนปจ จยั มี ๑ วาระ ในนกมั มปจ จยั มี ๑ วาระ ในนวปิ าก-ปจจยั มี ๑ วาระ ในนมัคคปจจัย มี ๑ วาระ.

พระอภธิ รรมปฎ ก ปฏฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ท่ี 14 [๑๑๒๔] เพราะนวิปปยตุ ตปจ จยั นเหตปุ จจยั นอธิปติปจจยันปุเรชาตปจ จยั นปจฉาชาตปจ จัย นอาเสวนปจ จัย นกมั มปจจัยนวิปากปจ จยั ในนมคั คปจจัยมี ๑ วาระ. การนับวาระในปจจนยี ะ จบ อนโุ ลมปจจนยี นยั การนบั วาระในอนุโลมปจ จนียะแหงปฏจิ จวาระ [๑๑๒๕] เพราะเหตุปจ จยั ในนอธิปติปจจัย มี ๓ วาระ ใน-นปุเรชาตปจจยั มี ๒ วาระ ในนปจ ฉาชาตปจ จยั มี ๓ วาระ ในนอาเสวน-ปจจัย มี ๓ วาระ ในนกัมมปจจยั มี ๓ วาระ ในนวปิ ากปจจยั มี ๓ วาระในนวิปปยุตปจ จยั มี ๒ วาระ. [๑๑๒๖] เพราะเหตปุ จจยั อารมั มณปจจยั ในนอธิปตปิ จ จัย มี๓ วาระ . . . ในนปุเรชาตปจจัย มี ๒ วาระ ในนปจ ฉาชาตปจจยั มี ๓ วาระในนอาเสวนปจ จัย มี ๓ วาระ ในนกมั มปจ จย มี ๓ วาระ ในนวปิ ากปจจยัมี ๓ วาระ ในนวิปปยุตตปจ จัย มี ๒ วาระ. พงึ นับวาระเหมือนกุสลตกิ ะ. อนโุ ลมปจ จนียะ จบ ปจ จนียานโุ ลมนยั การนับวาระในปจ จนียานุโลมแหง ปฏจิ จวาระ [๑๑๒๗] เพราะนเหตปุ จ จยั ในอารมั มณปจ จยั มี ๓ วาระ. . . ในอนันตรปจจยั มี ๓ วาระ ในสมนันตรปจจัย มี ๓ วาระ ในสหชาต-ปจ จยั มี ๓ วาระ ในอัญญมญั ญปจ จยั มี ๓ วาระ ในนสิ สยปจ จยั มี ๓

พระอภธิ รรมปฎ ก ปฏฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ที่ 15วาระ ในอปุ นิสสยปจ จยั มี ๓ วาระ ในปเุ รชาตปจ จยั มี ๓ วาระ ในอาเสวนปจจัย มี ๒ วาระ ในกัมมปจ จัย มี ๓ วาระ ในวปิ ากปจ จยั มี ๓วาระ ในอาหารปจ จัย มี ๓ วาระ ในอนิ ทริยปจจัย มี ๓ วาระ ในฌานปจ จัย มี ๒ วาระ ในมัคคปจ จยั มี ๑ วาระ ในสัมปยุตตปจ จยั มี ๓ วาระในวปิ ปยุตตปจ จยั มี ๓ วาระ ในอตั ถปิ จจัย มี ๓ วาระ ในนตั ถิปจจัย มี๓ วาระ ในวคิ ตปจจัย มี ๓ วาระ ในอวิคตปจ จยั มี ๓ วาระ. [๑๑๒๘] เพราะนเหตุปจจัย นอธปิ ติปจจยั ในอารมั มณปจจยั มี๓ วาระ . . . ในอนันตรปจ จยั มี ๓ วาระ ในสมนนั ตรปจจยั มี ๓ วาระในสหชาตปจ จยั มี ๓ วาระ ในอัญญมญั ญปจ จยั มี ๓ วาระ ในนสิ สยปจ จยัมี ๓ วาระ ในอุปนิสสยปจ จยั มี ๓ วาระ ในปุเรชาตปจจยั มี ๓ วาระในอาเสวนปจจยั มี ๒ วาระ ในกัมมปจจัย มี ๓ วาระ ในวิปากปจ จยั มี๓ วาระ ในอาหารปจ จัย มี ๓ วาระ ในอินทรยิ ปจ จยั มี ๓ วาระ ในฌานปจจัย มี ๒ วาระ ในมคั คปจ จยั มี ๑ วาระ ในสมั ปยตุ ตปจจยั มี ๓ วาระในวิปปยุตตปจจัย มี ๓ วาระ ในอตั ถปิ จจยั มี ๓ วาระ ในนตั ถปิ จ จยั มี๓ วาระ ในวคิ ตปจ จัย มี ๓ วาระ ในอวิคตปจ จยั มี ๓ วาระ. [๑๑๒๙] เพราะนเหตุปจจยั นอธิปตปิ จ จัย นปเุ รชาตปจ จยัในอารมั มณปจ จัย มี ๑ วาระ. . . ในอนันตรปจจัย มี ๑ วาระ ในสมนันตร-ปจจยั มี ๑ วาระ ในสหชาตปจจัย มี ๑ วาระ ในอัญญมญั ญปจ จยั มี ๑วาระ ในนิสสยปจ จัย มี ๑ วาระ ในอปุ นสิ สยปจ จยั มี ๑ วาระ ในอาเสวน-ปจจยั มี ๑ วาระ ในกัมมปจจัย มี ๑ วาระ ในวปิ ากปจจัย มี ๑ วาระในอาหารปจจยั มี ๑ วาระ ในอินทริยปจจยั มี ๑ วาระ ในฌานปจ จยั มี

พระอภธิ รรมปฎ ก ปฏฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ที่ 16๑ วาระ ในมัคคปจจยั มี ๑ วาระ ในสัมปยตุ ตปจ จยั มี ๑ วาระ ในวิปปยุตต-ปจจัย มี ๑ วาระ ในอตั ถิปจ จยั มี ๑ วาระ ในนตั ถปิ จ จัย มี ๑ วาระ ในวคิ ตปจ จยั มี ๑ วาระ ในอวิคตปจ จัย มี ๑ วาระ. [๑๑๓๐] เพราะนเหตุปจจยั นอธปิ ติปจจัย นปุเรชาตปจจยันปจฉาชาตปจ จัย นอาเสวนปจจัย นกมั มปจจัย ในอารมั มณปจจยั มี ๑วาระ . . . ในอนันตรปจจยั มี ๑ วาระ ในสมนนั ตรปจจัย มี ๑ วาระ ในสหชาตปจ จยั มี ๑ วาระ ในอัญญมญั ญปจ จยั มี ๑ วาระ ในนิสสยปจจัยมี ๑ วาระ ในอปุ นิสสยปจ จัย มี ๑ วาระ ในอาหารปจจัย มี ๑ วาระ ในอินทริยปจจยั มี ๑ วาระ ในฌานปจ จัย มี ๑ วาระ ในสัมปยุตตปจ จยัมี ๑ วาระ ในอัตถิปจ จยั มี ๑ วาระ ในนตั ถปิ จจยั มี ๑ วาระ ในวิคตปจจัยมี ๑ วาร ในอวคิ ตปจ จยั มี ๑ วาระ. [๑๑๓๑] เพราะนเหตุปจจัย นอธปิ ตปิ จจยั ฯลฯ นกัมมปจจัยนวิปากปจ จยั นมคั คปจ จัย นวปิ ปยุตตปจจยั ในอารมั มณปจ จัย มี ๑ วาระ. . .ในอนนั ตรปจจยั มี ๑ วาระ ในสมนนั ตรปจจยั มี ๑ วาระ ในสหชาตปจ จยัมี ๑ วาระ ในอัญญมัญญปจจัย มี ๑ วาระ ในนิสสยปจจยั มี ๑ วาระ ในอปุ นสิ สยปจจยั มี ๑ วาระ ในอาหารปจ จยั มี ๑ วาระ ในอนิ ทรยิ ปจจยั มี ๑วาระ ในฌานปจ จัย มี ๑ วาระ ในสมั ปยุตปจ จยั มี ๑ วาระ ในอตั ถิปจ จัยมี ๑ วาระ ในนัตถิปจ จยั มี ๑ วาระ ในวคิ ตปจจัย มี ๑ วาระ ในอวคิ ต-ปจจัย มี ๑ วาระ. นเหตมุ ลู กนยั จบ

พระอภิธรรมปฎก ปฏฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ที่ 17 [๑๑๓๒] เพราะนอธิปตปิ จ จยั ในเหตุปจจยั มี ๓ วาระ ฯลฯเพราะนปุเรชาตปจ จัย ในเหตุปจ จยั มี ๒ วาระ ฯลฯ เพราะนปจ ฉาชาตปจจยันอาเสวนปจ จัย นกัมมปจ จัย ในเหตุปจ จยั มี ๓ วาระ ฯลฯ. [๑๑๓๓] เพราะนฌานปจ จัย ในอารมั มณปจจยั มี ๓ วาระ... ในอนนั ตรปจ จยั มี ๓ วาระ ในสมนันตรปจจยั มี ๓ วาระ ในสหชาติปจ จัยมี ๓ วาระ ในอญั ญมญั ญปจ จัย มี ๓ วาระ ในนิสสยปจจัย มี ๓ วาระในอุปนสิ สยปจจยั มี ๓ วาระ ในปเุ รชาตปจจยั มี ๓ วาระ ในกัมมปจจยัมี ๓ วาระ ในวปิ ากปจจยั มี ๓ วาระ ในอาหารปจ จยั มี ๓ วาระ ในอินทรยิ ปจจยั มี ๓ วาระ ในสัมปยุตตปจจยั มี ๓ วาระ ในวิปปยตุ ปจจัยมี ๓ วาระ ในอัตถปิ จจยั มี ๓ วาระ ในนตั ถิปจจยั มี ๓ วาระ ในวิคต-ปจจัย มี ๓วาระ ในอวคิ ตปจจยั มี ๓ วาระ. เพราะนมคั คปจจยั ในอารัมมณปจจยั มี ๓ วาระ...ในอนันตรปจ จัยมี ๓ วาระ ในสมนนั ตรปจจัย มี ๓ วาระ. [๑๑๓๔] เพราะนวปิ ปยตุ ตปจจัย ในเหตุปจ จยั มี ๒ วาระ . . . ในอารัมมณปจจยั มี ๒ วาระ ในอธิปติปจ จัย มี ๒ วาระ ในอนนั ตรปจจยัมี ๒ วาระ ในสมนนั ตรปจ จัย มี ๒ วาระ ในสหชาตปจจัย มี ๒ วาระ ในอญั ญมัญญปจ จัย มี ๒ วาระ ในนสิ สยปจจัย มี ๒ วาระ ในอุปนิสสยปจ จัยมี ๒ วาระ ในอาเสวนปจจัย มี ๒ วาระ ในกมั มปจจัย มี ๒ วาระ ในวิปากปจ จยั มี ๒ วาระ ในอาหารปจ จัย มี ๒ วาระ ในอินทรยิ ปจจยั มี ๒วาระ ในฌานปจ จยั มี ๒ วาระ ในมัคคปจจยั มี ๒ วาระ ในสัมปยุตต-ปจจัย มี ๒ วาระ ในอัตถปิ จ จยั มี ๒ วาระ ในนัตถิปจ จัย มี ๒ วาระในวิคตปจจัย มี ๒ วาระ ในอวคิ ตปจจยั มี ๒ วาระ. [๑๑๓๕] เพราะนวปิ ปยตุ ตปจจยั นเหตปุ จ จัย ในอารัมมณปจ จัยมี ๑ วาระ . . . ในอนันตรปจจัย มี ๑ วาระ ในสมนนั ตรปจ จัย มี ๑ วาระ

พระอภิธรรมปฎก ปฏฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนาท่ี 18ในสหชาติปจจยั มี ๑ วาระ ในอญั ญมญั ญปจจัย มี ๑ วาระ ในนิสสยปจจยัมี ๑ วาระ ในอปุ นสิ สยปจ จยั มี ๑ วาระ ในอาเสวนปจจยั มี ๑ วาระ ในกมั มปจ จยั มี ๑ วาระ ในวปิ ากปจจัย มี ๑ วาระ ในอาหารปจจัย มี ๑วาระ ในอนิ ทรยิ ปจ จัย มี ๑ วาระ ในฌานปจ จัย มี ๑ วาระ ในมัคคปจ จัยมี ๑ วาระ ในสัมปยตุ ตปจ จัย มี ๑ วาระ ในอัตถปิ จจยั มี ๑ วาระ ในนัตถิปจ จัย มี ๑ วาระ ในวิคตปจ จยั มี ๑ วาระ ในอวิคตปจ จัย มี ๑ วาระ. [๑๑๓๖] เพราะนวปิ ปยุตตปจจัย นเหตปุ จจยั นอธิปติปจจยันปเุ รชาตปจ จัย นปจฉาชาตปจ จัย นอาเสวนปจ จยั นกมั มปจ จยันวปิ ากปจ จยั นมคั คปจ จัย ในอารัมมณปจจยั มี ๑ วาระ . . . ในอนันตร-ปจ จัย มี ๑ วาระ ในสมนันตรปจจัย มี ๑ วาระ ในสหชาตปจจยั มี ๑ วาระในอญั ญมญั ญปจ จยั มี ๑ วาระ ในนสิ สยปจ จยั มี ๑ วาระ ในอปุ นสิ สยปจ จยัมี ๑ วาระ ในอาหารปจ จยั มี ๑ วาระ ในอนิ ทริยปจจยั มี ๑ วาระ ในฌาน-ปจจัย มี ๑ วาระ ในสมั ปยุตตปจ จัย มี ๑ วาระ ในอัตถิปจจัย มี ๑ วาระ ในนัตถิปจจยั มี ๑ วาระ ในวิคตปจ จยั มี ๑ วาระ ในอวคิ ตปจจัย มี ๑ วาระ. [๑๑๓๗] เพราะนวปิ ปยุตตปจ จัย นเหตุปจ จยั นอธปิ ติปจจยันปเุ ราชาตปจจัย นปจฉาชาตปจจยั นอาเสวนปจ จยั นกัมมปจจัย นวิ-ปากปจจัย นมัคคปจจยั ในอารัมมณปจจัย มี ๑ วาระ... ในอนันตรปจจัยมี ๑ วาระ ในสมนันตรปจจัย มี ๑ วาระ ในสหชาตปจ จัย มี ๑ วาระ ในอญั ญมัญญปจ จยั มี ๑ วาระ ในนิสสยปจจยั มี ๑ วาระ ในอปุ นิสสยปจจัยมี ๑ วาระ ในอาหารปจ จัย มี ๑ วาระ ในอินทริยปจจัย มี ๑ วาระ ในฌาน-ปจจัย มี ๑ วาระ ในสมั ปยตุ ตปจจัย มี ๑ วาระ ในอัตถิปจจยั มี ๑ วาระในนัตถิปจ จยั มี ๑ วาระ ในวคิ ตปจจยั มี ๑ วาระ ในอวิคตปจจัย มี ๑ วาระ. ปจ จนยี านุโลม จบ ปฏจิ จวาระ จบ

พระอภธิ รรมปฎก ปฏฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนาท่ี 19 สหชาตวาระ เปนตน [๑๑๓๘] เกดิ รว มกับธรรมทสี่ มั ปยตุ ดว ยสุขเวทนา ฯลฯ อิงอาศยั ธรรมท่สี มั ปยุตดวยสขุ เวทนา ฯลฯ อาศยั ธรรมท่ีสมั ปยุตดว ยสุขเวทนา ฯลฯ เจอื กับธรรมท่ีสมั ปยตุ ดวยสขุ เวทนา. [๑๑๓๙] ธรรมทสี่ มั ปยุตดวยสขุ เวทนา สมั ปยตุ กบั ธรรมที่สมั ปยตุ ดวยสุขเวทนา เกิดข้ึน เพราะเหตปุ จจัย คือ ขนั ธ ๒ สมั ปยตุ กับขนั ธ ๑ ทส่ี ัมปยตุ ดว ยสุขเวทนา เกิดข้ึนขันธ ๑ สัมปยตุ กับขนั ธ ๒ เกิดขึ้น. สมั ปยตุ ตวาระ จบ

พระอภธิ รรมปฎ ก ปฏ ฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ท่ี 20 ปญหาวาระ อนโุ ลมนยั ๑. เหตปุ จจัย [๑๑๔๐] ๑. ธรรมทส่ี ัมปยตุ ดวยสขุ เวทนา เปนปจจยั แกธ รรมทส่ี มั ปยตุ ดวยสขุ เวทนา ดว ยอํานาจของเหตุปจ จยั คือ เหตทุ ่ีสมั ปยตุ ดวยสุขเวทนา เปน ปจ จยั แกส มั ปยตุ ตขนั ธทง้ั หลายดว ยอาํ นาจของเหตุปจจยั . ในปฏสิ นธขิ ณะ เหตทุ ีส่ ัมปยตุ ดวยสุขเวทนา เปน ปจจยั แกส มั ปยุตต-ขันธท งั้ หลาย ดว ยอํานาจของเหตุปจ จยั . [๑๑๔๑] ๒. ธรรมทีส่ ัมปยตุ ดวยทุกขเวทนา เปน ปจ จัยแกธรรมทสี่ มั ปยุตดว ยทกุ ขเวทนา ดวยอํานาจของเหตุปจ จัย คอื เหตทุ ่ีสมั ปยตุ ดวยทุกขเวทนา เปนปจ จัยแกสมั ปยุตตขันธท ้ังหลายดวยอํานาจของเหตปุ จจัย. [๑๑๔๒] ๓. ธรรมที่สมั ปยุตดวยอทุกขมสขุ เวทนา เปนปจ จัยแกธ รรมท่สี มั ปยุตดว ยอทุกขมสขุ เวทนา ดวยอํานาจของเหตปุ จจัย คอื เหตุท่สี ัมปยตุ ดวยอทุกขมสขุ เวทนา เปน ปจ จยั แกส มั ปยตุ ตขนั ธท้ังหลาย ดว ยอาํ นาจของเหตุปจ จัย. ในปฏสิ นธขิ ณะ เหตทุ ่สี มั ปยุตดว ยอทกุ ขมสขุ เวทนา เปน ปจจยั แกสัมปยุตตขันธทั้งหลาย ดวยอํานาจของเหตุปจ จัย

พระอภธิ รรมปฎก ปฏฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ที่ 21 ๒. อารมั มณปจ จยั [๑๑๔๓] ๑. ธรรมทสี่ มั ปยุตดว ยสขุ เวทนา เปน ปจ จยั แกธรรมทสี่ มั ปยตุ ดว ยสขุ เวทนา ดว ยอํานาจของอารัมมณปจจยั คอื ๑. บคุ คลใหทาน สมาทานศลี กระทําอโุ บสถกรรม ดวยจิตท่ีสมั ปยุตดวยสขุ เวทนา แลวพิจารณาดว ยจิตทส่ี ัมปยุตดวยสขุ เวทนา. ออกจากฌานท่ีสมั ปยตุ ดว ยสขุ เวทนา, ออกจากมรรค, ออกจากผลแลว, พิจารณาดว ยจิตทส่ี ัมปยตุ ดว ยสขุ เวทนา. ๒. พระอรยิ บคุ คลท้งั หลาย พิจารณากิเลสทัง้ หลายท่ลี ะแลว ท่ีสมั ปยตุ ดว ยสุขเวทนา ดว ยจิตท่ีสัมปยุตดว ยสขุ เวทนา พจิ ารณากเิ ลสทั้งหลายท่ีทานขมแลว. รกู ิเลสท้งั หลายที่เคยเกิดแลว ในกาลกอ น, พิจารณาเห็นขนั ธที่สัมปยตุ ดวยสขุ เวทนา โดยความเปนของไมเที่ยง เปนทุกข เปนอนตั ตา ดว ยจิตทส่ี มั ปยตุ ดว ยสขุ เวทนา, ยอมยินดี ยอมเพลดิ เพลนิ ย่งิ เพราะปรารภขนั ธนน้ั ราคะ ทิฏฐิ ทสี่ มั ปยตุ ดว ยสขุ เวทนา ยอ มเกิดข้นึ ฯลฯ ๓. เพราะปรารภขนั ธทงั้ หลายทส่ี มั ปยุตดวยสุขเวทนา ขันธท ้งั -หลายทสี่ ัมปยุตดวยสขุ เวทนา ยอมเกดิ ข้นึ . [๑๑๔๔] ๒. ธรรมที่สัมปยตุ ดวยสขุ เวทนา เปนปจจัยแกธรรมที่สมั ปยุตดว ยทุกขเวทนา ดวยอาํ นาจของอารัมมณปจจยั คือ ๑. เม่ือบคุ คลใหทาน สมาทานศลี กระทําอุโบสถกรรม ดว ยจิตทสี่ มั ปยตุ ดว ยสขุ เวทนาแลว โทมนสั ยอมเกิดข้นึ แกบุคคลผูมวี ิปปฏิสาร. ๒. เมอ่ื ฌานทสี่ มั ปยตุ ดวยสขุ เวทนาเสื่อมไป โทมนสั ยอ มเกิดขนึ้ แกบ คุ คลผูมวี ิปปฏิสาร. ๓. เพราะปรารภขนั ธท ้ังหลายทีส่ ัมปยตุ ดวยสขุ เวทนา ขันธท ้ัง-หลายทส่ี มั ปยตุ ดว ยทุกขเวทนา ยอมเกิดขึน้ .

พระอภิธรรมปฎ ก ปฏฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ที่ 22 [๑๑๔๕] ๓. ธรรมทสี่ ัมปยตุ ดว ยสุขเวทนา เปนปจ จยั แกธรรมที่สมั ปยตุ ดวยอทุกขมสขุ เวทนา ดว ยอาํ นาจของอารัมมณปจจัย คอื ๑. บคุ คลใหท าน สมาทานศลี กระทําอโุ บสถกรรม ดวยจิตท่ีสมั ปยุตดว ยสุขเวทนา แลว พิจารณาดวยจิตทสี่ มั ปยุตดวยอทุกขมสขุ เวทนา. ๒. บคุ คลออกจากฌานที่สัมปยตุ ดวยสุขเวทนา, ออกจากมรรค,ออกจากผลแลว , พิจารณาดวยจติ ทส่ี มั ปยุตดว ยอทุกขมสุขเวทนา. ๓. พระอรยิ บุคคลทงั้ หลายพิจารณากิเลสทงั้ หลาย ที่ละแลว ท่ีสมั ปยุตดวยสุขเวทนา ดวยจติ ทีส่ ัมปยตุ ดว ยอทกุ ขมสุขเวทนา พจิ ารณากเิ ลสท้งั หลาย ทีข่ มแลว, รูก เิ ลสท้ังหลายที่เคยเกิดแลว ในกาลกอ น. พจิ ารณาเห็นขนั ธท ้ังหลายทสี่ มั ปยุตดว ยสขุ เวทนา ดวยอํานาจของความเปนของไมเทยี่ งเปนทุกข เปน อนตั ตา ยอมยินดี ดวยจติ ทส่ี มั ปยตุ ดว ยอทุกขมสขุ เวทนา. ๔. บุคคลยอมยนิ ดี ยอ มเพลดิ เพลนิ ยง่ิ เพราะปรารภขนั ธน ั้นราคะ ทิฏฐิ วจิ กิ จิ ฉา อุทธจั จะ ทสี่ มั ปยตุ ดว ยอทุกขมสขุ เวทนา ยอมเกดิ ขึ้น. ๕. พระอริยบุคคลท้งั หลาย รูจิตของบุคคลผูม ีความพรอ มเพรียงดว ยจิตทส่ี มั ปยตุ ดวยสขุ เวทนา ดวยเจโตปรยิ ญาณ. ๖. ขนั ธทง้ั หลายทีส่ มั ปยตุ ดวยสขุ เวทนา เปนปจจยั แกเ จโตปริย-ญาณ แกปพุ เพนวิ าสานสุ สติญาณ แกยถากมั มูปคญาณ แกอนาคตังสญาณแกอ าวชั ชนะ ดวยอาํ นาจของอารัมมณปจ จยั . ๗. เพราะปรารภขันธท้ังหลายท่ีสมั ปยุตดว ยสุขเวทนา ขันธท้ังหลายทสี่ มั ปยุตดวยอทกุ ขมสุขเวทนา ยอมเกดิ ข้นึ . [๑๑๔๖] ๔. ธรรมท่สี ัมปยตุ ดว ยทกุ ขเวทนา เปนปจ จยั แกธรรมท่สี ัมปยตุ ดวยทกุ ขเวทนา ดวยอํานาจของอารัมมณปจ จยั คอื ๑. เพราะปรารภซงึ่ โทสะ โทสะ โมหะ ยอ มเกิดขึ้น. เพราะปรารภโมหะทสี่ ัมปยตุ ดวยทุกขเวทนา โมหะ โทสะ ยอมเกิดข้นึ . เพราะปรารภทกุ ขสหคตกายวิญญาณ โทสะ โมหะ ยอ มเกดิ ขึน้ . .

พระอภิธรรมปฎก ปฏ ฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ที่ 23 ๒. เพราะปรารภขันธทัง้ หลายทส่ี ัมปยุตดว ยทกุ ขเวทนา ขนั ธท้งั หลายทสี่ มั ปยตุ ดว ยทุกขเวทนา ยอมเกิดข้นึ . [๑๑๔๗] ๕. ธรรมที่สมั ปยุตดว ยทกุ ขเวทนา เปน ปจจยั แกธรรมทีส่ ัมปยุตดว ยสขุ เวทนา ดว ยอาํ นาจของอารมั มณปจจัย คอื ๑. พระอรยิ บุคคลท้งั หลายพิจารณากิเลสท่ีละแลว ท่ีสัมปยุตดวยทุกขเวทนา ดว ยจิตท่ีสัมปยุตดว ยสุขเวทนา พจิ ารณากิเลสทง้ั หลายที่ขม แลว ,รกู ิเลสท้งั หลายท่ีเคยเกดิ แลวในกาลกอ น, พิจารณาเหน็ ขนั ธทัง้ หลายท่ีสัมปยตุดวยทุกขเวทนา ดวยอาํ นาจของความเปน ของไมเท่ยี ง เปน ทุกข เปนอนตั ตาดวยจิตท่ีสมั ปยตุ ดวยสขุ เวทนา. ๒. เพราะปรารภขนั ธท ง้ั หลายที่สัมปยตุ ดวยทกุ ขเวทนา ขันธทัง้ หลายที่สมั ปยุตดวยสขุ เวทนา ยอ มเกิดขนึ้ . [๑๑๔๘] ๖. ธรรมทสี่ มั ปยุตดว ยทกุ ขเวทนา เปนปจจยั แกธรรมท่ีสัมปยุตดว ยอทกุ ขมสุขเวทนา ดว ยอํานาจของอารมั มณปจ จัย คือ ๑. พระอริยบุคคลทั้งหลาย พิจารณากเิ ลสท่ีละแลว ท่ีสมั ปยุตดว ยทกุ ขเวทนา ดวยจติ ที่สัมปยุตดว ยอทกุ ขมสุขเวทนา พจิ ารณากิเลสทั้งหลายท่ีขม แลว , รูก ิเลสทั้งหลายท่ีเคยเกิดแลวในกาลกอ น, พจิ ารณาเห็นขันธท ้งั หลายทีส่ ัมปยุตดว ยทุกขเวทนา ดวยอํานาจของความเปน ของไมเ ท่ยี ง เปนทุกขเปน อนัตตา ดว ยจติ ทสี่ ัมปยตุ ดว ยอทกุ ขมสุขเวทนา. ๒. รจู ิตของบุคคลผูมคี วามพรอ มเพรยี งดว ยจิตทีส่ มั ปยตุ ดว ยทกุ ขเวทนา ดวยเจโตปริยญาณ. ๓. ขันธท งั้ หลายท่สี ัมปยตุ ดวยทุกขเวทนา เปนปจ จัยแกเจโต-ปริยญาณ แกปพุ เพนิวาสานสุ สตญิ าณ แกยถากมั มูปคญาณ แกอนาคตงั สญาณแกอ าวัชชนะ ดว ยอาํ นาจของอารมั มณปจ จัย.

พระอภิธรรมปฎก ปฏฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนาท่ี 24 ๔. เพราะปรารภขนั ธท ้งั หลายทสี่ ัมปยตุ ดวยทุกขเวทนา ขนั ธทัง้ หลายทสี่ ัมปยตุ ดวยอทุกขมสุขเวทนา ยอมเกิดขึ้น. [๑๑๔๙] ๗. ธรรมทส่ี ัมปยตุ ดวยอทกุ ขมสุขเวทนา เปน ปจ จยัแกธ รรมทส่ี ัมปยุตดวยอทุกขมสขุ เวทนา ดว ยอาํ นาจของอารมั มณ-ปจ จัย คือ ๑. บคุ คลใหท าน สมาทานศลี กระทาํ อโุ บสถกรรม ดวยจติทีส่ ัมปยุตดวยอทกุ ขมสขุ เวทนา แลวพจิ ารณาดว ยจติ ทีส่ ัมปยุตดว ยอทกุ ขมสขุ -เวทนา ออกจากฌานท่ีสัมปยุตดว ยอทกุ ขมสุขเวทนา, ออกจากมรรค, ออกจากผล แลว พจิ ารณาดว ยจติ ทสี่ ัมปยุตดว ยอทกุ ขมสขุ เวทนา. ๒. พระอรยิ บุคคลท้งั หลาย พิจารณากิเลสท้ังหลายทท่ี า นละไดแลว ทสี่ มั ปยุตดวยอทกุ ขมสขุ เวทนา ดวยจติ ท่ีสมั ปยตุ ดว ยอทกุ ขมสขุ เวทนา,พิจารณากเิ ลสท้งั หลายทขี่ ม แลว . รกู เิ ลสท้งั หลายท่เี คยเกดิ แลว ในกาลกอ น,พิจารณาเหน็ ขันธทั้งหลายทส่ี มั ปยุตดวยอทกุ ขมสขุ เวทนา โดยความเปนของไมเท่ยี ง เปน ทกุ ข เปนอนัตตา ยอมยนิ ดดี วยจติ ท่สี ัมปยตุ ดวยอทกุ ขมสุขเวทนา. ๓. บคุ คลยอมเพลิดเพลนิ ย่งิ เพราะปรารภขนั ธนั้น ราคะ ทฏิ ฐิวิจิกจิ ฉา อทุ ธจั จะ ท่สี ัมปยุตดวยอทกุ ขมสุขเวทนายอมเกดิ ขึ้น. ๔. พระอรยิ บคุ คลท้งั หลาย รจู ิตของบุคคลผูม คี วามพรอมเพรียงดวยจิตทส่ี ัมปยตุ ดวยอทุกขมสุขเวทนา ดวยเจโตปรยิ ญาณ. ๕. อากาสานญั จายตนะ เปนปจ จัยแกว ิญญาณญั จายตนะ ดวยอํา-นาจของอารมั มณปจ จยั ฯลฯ อากิญจัญญายตนะ เปน ปจ จยั แกเ นวสัญญา-นาสัญญายตนะ ดว ยอํานาจของอารมั มณปจจยั .

พระอภิธรรมปฎ ก ปฏฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ที่ 25 ๖. ขนั ธทส่ี มั ปยตุ ดวยอทกุ ขมสขุ เวทนา เปนปจ จยั แกอ ิทธวิ ิธญาณแกเจโตปรยิ ญาณ แกปุพเพนวิ าสานุสสตญิ าณ แกยถากัมมปู คญาณ แกอ นา-คตังสญาณ แกอ าวชั ชนะ ดวยอํานาจของอารมั มณปจ จยั . ๗. เพราะปรารภขนั ธท ัง้ หลายท่ีสมั ปยตุ ดว ยอทกุ ขมสุขเวทนาขันธท ง้ั หลายที่สมั ปยตุ ดว ยอทกุ ขมสขุ เวทนา ยอ มเกดิ ขึน้ . [๑๑๕๐] ๘. ธรรมที่สัมปยุตดว ยอทกุ ขมสุขเวทนา เปน ปจจยัแกธรรมที่สมั ปยตุ ดวยสุขเวทนา ดว ยอาํ นาจของอารัมมณปจจยั คือ ๑. บคุ คลใหทาน สมาทานศลี กระทาํ อโุ บสถกรรม ดว ยจติ ท่ีสมั ปยุตดวยอทุกขมสขุ เวทนา แลวพจิ ารณาดวยจิตท่สี มั ปยุตดวยสุขเวทนาออกจากฌานทสี่ มั ปยุตดวยอทุกขมสุขเวทนา ออกจากมรรค ออกจากผลแลวยอ มพจิ ารณาดวยจิตท่ีสมั ปยตุ ดวยสขุ เวทนา. ๒. พระอริยบุคคลท้ังหลาย. พิจารณากเิ ลสท้งั หลายทีล่ ะไดแ ลวทีส่ ัมปยตุ ดว ยอทุกขมสุขเวทนา ดว ยจติ ท่ีสมั ปยุตดวยสขุ เวทนา พจิ ารณากเิ ลสท้ังหลายทขี่ มแลว, รกู ิเลสทั้งหลายท่ีเคยเกิดแลว ในกาลกอ น, เพราะปรารภขนั ธท ้งั หลายทสี่ ัมปยตุ ดวยอทุกขมสุขเวทนา ยอ มพจิ ารณาเห็นโดยความเปนของไมเ ที่ยง เปน ทกุ ข เปน อนตั ตา ดว ยจติ ที่สัมปยุตดว ยสขุ เวทนา, ยอมยินดียอ มเพลิดเพลินยง่ิ เพราะปรารภขันธนนั้ ราคะ ทิฏฐิ ที่สัมปยุตดว ยสุขเวทนายอ มเกดิ ขนึ้ ฯลฯ ๓. เพราะปรารภขนั ธทัง้ หลาย ทส่ี ัมปยุตดว ยอทุกขมสขุ เวทนาขันธที่สมั ปยตุ ดวยสุขเวทนา ยอ มเกิดข้ึน. [๑๑๕๑] ๙. ธรรมท่สี ัมปยตุ ดว ยอทกุ ขมสุขเวทนา เปนปจ จยัแกธรรมท่ีสัมปยตุ ดวยทุกขเวทนา ดว ยอาํ นาจของอารัมมณปจ จัย

พระอภธิ รรมปฎ ก ปฏ ฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ที่ 26 คือ ๑. บคุ คลใหทาน สมาทานศีล กระทาํ อุโบสถกรรม ดว ยจติ ทสี่ มั ปยุตดวยอทกุ ขมสุขเวทนา โทมนสั ยอ มเกิดข้นึ แกบุคคลผมู ีวปิ ปฏสิ าร. ๒. เม่ือฌานทส่ี ัมปยตุ ดวยอทุกขมสขุ เวทนา เสอื่ มไปแลว โทมนสัยอ มเกดิ ขน้ึ แกบคุ คลผมู ีวิปปฏสิ าร. ๓. เพราะปรารภขนั ธทั้งหลายท่ีสมั ปยุตดวยอทุกขมสุขเวทนาขนั ธท้งั หลายท่ีสัมปยุตดว ยทกุ ขเวทนา ยอ มเกดิ ขนึ้ . ๓. อธปิ ตปิ จจัย [๑๑๕๒] ๑. ธรรมทสี่ มั ปยุตดวยสขุ เวทนา เปนปจจัยแกธรรมทีส่ มั ปยตุ ดวยสุขเวทนา ดวยอาํ นาจของอธิปติปจ จัย มี ๒ อยา ง คือ ท่เี ปน อารมั มณาธปิ ติ และ สหชาตาธปิ ติทเี่ ปน อารัมมณาธปิ ติ ไดแก ๑. บุคคลใหท าน สมาทานศลี กระทําอุโบสถกรรม ดว ยจติ ท่ีสัมปยตุ ดว ยสุขเวทนาแลว กระทํากศุ ลน้นั ใหเปน อารมณอ ยางหนกั แนน ยอมพจิ ารณา ดว ยจิตทีส่ มั ปยุตดว ยสุขเวทนา. ๒. ออกจากฌานทีส่ มั ปยตุ ดว ยสขุ เวทนา ออกจากมรรค ออกจากผลแลว กระทาํ ฌานเปนตน นั้นใหเ ปนอารมณอ ยา งหนกั แนน ยอ มพิจารณาดว ยจติ ท่สี มั ปยุตดว ยสุขเวทนา. ๓. ยอมยินดยี อมเพลิดเพลนิ ยิง่ เพราะกระทาํ ขนั ธท้งั หลายที่สัม-ปยตุ ดว ยสุขเวทนาใหเ ปน อารมณอ ยา งหนกั แนน ดว ยจิตทส่ี มั ปยุตดวยสขุ เวทนาคร้ันกระทาํ ขันธนัน้ ใหเ ปน อารมณอ ยางหนักแนน แลว ราคะ ทิฏฐิ ทส่ี มั ปยุตดวยสขุ เวทนา ยอมเกิดข้ึน ฯลฯ

พระอภธิ รรมปฎ ก ปฏ ฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ท่ี 27 ทเี่ ปน สหชาตาธปิ ติ ไดแ ก อธิบดที ่สี ัมปยุตดวยสุขเวทนา เปนปจ จยั แกส มั ปยุตขนั ธ ดว ยอํานาจของอธปิ ตปิ จจัย. [๑๑๕๓] ๒. ธรรมที่สมั ปยตุ ดว ยสุขเวทนา เปนปจจยั แกธรรมทีส่ ัมปยุตดว ยอทกุ ขมสขุ เวทนา ดวยอํานาจของอธิปตปิ จจยั มอี ยางเดยี ว คือ อารัมมณาธิปติ ไดแ ก ๑. บุคคลใหทาน สมาทานศีล กระทําอโุ บสถกรรม ดว ยจติ ท่ีสมั ปยุตดวยสุขเวทนาแลว กระทาํ กุศลนนั้ ใหเ ปน อารมณอยา งหนักแนน ยอ มพจิ ารณาดว ยจิตทีส่ มั ปยตุ ดว ยอทกุ ขมสุขเวทนา. ๒. ออกจากฌานทส่ี มั ปยุตดวยสุขเวทนา, ออกจากมรรค, ออกจากผลแลว กระทาํ ฌานเปน ตนน้ันใหเปนอารมณอยา งหนักแนน ยอ มพจิ ารณาดว ยจิตท่สี มั ปยุตดว ยอทุกขมสขุ เวทนา. ๓. ยอ มยินดี ยอ มเพลดิ เพลนิ ยิง่ เพราะกระทาํ ขนั ธท ้ังหลายท่ีสัมปยุตดวยสุขเวทนา ใหเปน อารมณอ ยางหนักแนน ดว ยจิตทีส่ มั ปยตุ ดว ยอทุกขมสุขเวทนา ครน้ั กระทาํ ขันธนั้นใหเปน อารมณอยา งหนกั แนนแลว ราคะทฏิ ฐิ ท่สี มั ปยุตดว ยอทุกขมสขุ เวทนายอ มเกิดข้นึ ฯลฯ [๑๑๕๔] ๓. ธรรมทส่ี มั ปยตุ ดวยทกุ ขเวทนา เปนปจ จยั แกธรรมทส่ี ัมปยตุ ดว ยทกุ ขเวทนา ดว ยอํานาจของอธิปติปจจัย มอี ยา งเดียว คือ สหชาตาธปิ ติ ไดแ ก อธิบดีที่สมั ปยุตดว ยทุกข-เวทนา เปนปจจัยแกส มั ปยตุ ขนั ธดว ยอํานาจของอธปิ ติปจ จยั . [๑๑๕๕] ๔. ธรรมท่สี ัมปยุตดวยอทุกขมสุขเวทนา เปนปจจัยแกธรรมทสี่ ัมปยตุ ดวยอทกุ ขมสขุ เวทนา ดวยอํานาจของอธิปตปิ จจยั

พระอภิธรรมปฎ ก ปฏฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ท่ี 28 มี ๒ อยาง คอื ท่เี ปน อารัมมณาธปิ ติ และ สหชาตาธปิ ติ ท่ีเปน อารมั มณาธปิ ติ ไดแ ก ๑. บุคคลใหท าน สมาทานศลี การทาํ อุโบสถกรรม ดว ยจติ ท่ีสัมปยุตดวยอทกุ ขมสุขเวทนาแลว การทํากศุ ลนนั้ ใหเปน อารมณอ ยา งหนักแนนยอ มพิจารณาดวยจิตทส่ี ัมปยุตดว ยอทุกขมสขุ เวทนา. ๒. ออกจากฌานท่สี ัมปยตุ ดวยอทกุ ขมสขุ เวทนา ออกจากมรรคออกจากผล แลว การทํากุศลน้นั ใหเ ปนอารมณอ ยา งหนกั แนนแลว ยอมพจิ ารณาดว ยจิตท่สี ัมปยุตดว ยอทุกขมสุขเวทนา. ๓. ยอ มยินดี ยอมเพลดิ เพลินยิ่ง เพราะกระทําขนั ธท้ังหลายที่สมั ปยตุ ดว ยอทุกขมสขุ เวทนา ใหเ ปนอารมณอ ยา งหนกั แนนดว ยจติ ทส่ี มั ปยุตดวยอทกุ ขมสุขเวทนา คร้ันกระทําขันธนน้ั ใหเ ปน อารมณอ ยา งหนกั แนนแลวราคะ ทิฏฐิ ท่ีสมั ปยุตดว ยอทุกขมสขุ เวทนา ยอมเกดิ ขึน้ ฯลฯ. ทเี่ ปน สหชาตาธิปติ ไดแ กอ ธิบดที ส่ี ัมปยตุ ดวยอทุกขมสุขเวทนาเปนปจ จัยแกสมั ปยุตขันธท ง้ั หลาย ดวยอาํ นาจของอธิปติปจ จยั . [๑๑๕๖] ๕. ธรรมทส่ี มั ปยุตดวยอทุกขมสุขเวทนา เปน ปจจยัแกธรรมทีส่ มั ปยุตดว ยสุขเวทนา ดว ยอาํ นาจของอธปิ ตปิ จ จัยมีอยา งเดียว คือ อารมั มณาธปิ ติ ไดแ ก ๑. บุคคลใหท าน สมาทานศลี กระทาํ อโุ บสถกรรม ดวยจิตที่สัมปยตุ ดว ยอทุกขมสขุ เวทนา กระทาํ กศุ ลน้นั ใหเ ปนอารมณอ ยางหนักแนนยอมพิจารณาดวยจิตทีส่ ัมปยุตดวยสุขเวทนา. ๒. ออกจากฌานทีส่ มั ปยตุ ดว ยอทุกขมสขุ เวทนา, ออกจากมรรค,ออกจากผลแลว กระทําฌานเปน ตน น้ันใหเปน อารมณอ ยา งหนักแนน ยอ มพจิ ารณาดว ยจติ ที่สมั ปยุตดวยสขุ เวทนา.

พระอภธิ รรมปฎ ก ปฏ ฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนาท่ี 29 ๓. ยอ มยนิ ดี ยอ มเพลดิ เพลินยง่ิ เพราะกระทําขนั ธท งั้ หลายที่สัมปยตุ ดวยอทุกขมสุขเวทนาใหเปน อารมณอยา งหนักแนน ดว ยจติ ท่สี มั ปยุตดวยสขุ เวทนา คร้นั กระทําขันธน้นั ใหเปน อารมณอยา งหนกั แนน แลว ราคะทฏิ ฐิทสี่ มั ปยตุ ดวยสุขเวทนายอมเกิดขึน้ ฯลฯ. ๔. อนนั ตรปจจัย [๑๑๕๗] ๑. ธรรมทีส่ ัมปยตุ ดวยสุขเวทนา เปนปจจัยแกธ รรมทสี่ ัมปยุตดวยสขุ เวทนา ดวยอาํ นาจของอนันตรปจ จยั คือ ๑. ขนั ธท งั้ หลายที่เกิดกอน ๆ ทีส่ มั ปยตุ ดวยสุขเวทนา เปนปจ จัยแกขนั ธทั้งหลายท่ีเกดิ หลัง ๆ ทส่ี มั ปยุตดวยสขุ เวทนา ดว ยอํานาจของอนนั ตรปจ จัย. ๒. อนโุ ลมท่ีสมั ปยุตดว ยสขุ เวทนา เปน ปจ จัยแกโคตรภูท่ีสัมปยุตดวยสุขเวทนา ดว ยอํานาจของอนนั ตรปจจัย. ๓. อนุโลม เปน ปจจัยแกโ วทาน. ๔. โคตรภู เปนปจ จัยแกมรรค. ๕. โวทาน เปนปจ จยั แกม รรค. ๖. มรรค เปนปจจยั แกผล. ๗. ผล เปน ปจจยั แกผ ล. ๘. อนโุ ลม เปนปจจัยแกผ ลสมาบัติ ท่สี ัมปยุตดวยสุขเวทนาดวยอํานาจของอนันตรปจจัย. ๙. ขันธท ัง้ หลายท่ีสมั ปยุตดว ยสุขเวทนา เปนปจ จัยแกวุฏฐานะท่ีสัมปยุตดว ยสุขเวทนา ดว ยอาํ นาจของอนนั ตรปจ จยั .

พระอภิธรรมปฎ ก ปฏฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนา ที่ 30 [๑๑๕๘] ๒. ธรรมที่สัมปยตุ ดวยสขุ เวทนา เปนปจจยั แกธ รรมที่สมั ปยตุ ดว ยอทกุ ขมสขุ เวทนา ดวยอํานาจของอนันตรปจ จยั คอื ๑. จตุ ิจิตทีส่ มั ปยุตดวยสขุ เวทนา เปนปจจยั แกอ ุปบตั ิจิตที่สมั ปยตุ ดว ยอทุกขมสุขเวทนา ดว ยอํานาจของอนนั ตรปจ จัย. ๒. ภวงั คจิตทสี่ มั ปยุตดว ยสขุ เวทนา เปนปจ จัยแกอ าวชั ชนจิตดว ยอํานาจของอนนั ตรปจ จยั . ๓. สุขสหคตกายวญิ ญาณ เปนปจ จยั แกวิบากมโนธาตุ ดว ยอํานาจของอนนั ตรปจ จัย. ๔. วิบากมโนวญิ ญาณธาตุ ท่สี ัมปยตุ ดวยสุขเวทนา เปนปจจัยแกก ิรยิ ามโนวิญญาณธาตุ ดว ยอาํ นาจของอนันตรปจจยั . ๕. ภวังคจิตทีส่ มั ปยตุ ดว ยสุขเวทนา เปน ปจจยั แกภวงั คจิตที่สมั ปยุตดวยอทุกขมสุขเวทนา ดว ยอาํ นาจของอนันตรปจ จัย. ๖. กศุ ลและอกศุ ลจิตท่สี ัมปยุตดว ยสขุ เวทนา เปนปจ จัยแกวุฏฐานะทีส่ มั ปยตุ ดวยอทกุ ขมสุขเวทนา. ๗. กริ ยิ า เปน ปจ จยั แกว ฏุ ฐานะ, ผลเปนปจจยั แกวฏุ ฐานะ ดวยอาํ นาจของอนันตรปจจัย. [๑๑๕๙] ๓. ธรรมท่สี มั ปยุตดวยทกุ ขเวทนา เปน ปจจยั แกธรรมทีส่ ัมปยตุ ดว ยทกุ ขเวทนา ดวยอํานาจของอนนั ตรปจ จัย คือ ขนั ธท ั้งหลายท่เี กดิ กอ น ๆ ทีส่ มั ปยตุ ดวยทกุ ขเวทนา เปนปจ จัยแกขันธทั้งหลายท่ีเกิดหลัง ๆ ทีส่ ัมปยตุ ดวยทกุ ขเวทนา ดว ยอํานาจของอนนั ตรปจ จยั .

พระอภธิ รรมปฎก ปฏ ฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนาที่ 31 [๑๑๖๐] ๔. ธรรมท่ีสัมปยตุ ดว ยทุกขเวทนา เปน ปจจัยแกธรรมทสี่ มั ปยุตดว ยอทุกขมสุขเวทนา ดว ยอํานาจของอนันตรปจจัย คือ ๑. ทุกขสหคตกายวญิ ญาณ เปน ปจ จยั แกว บิ ากมโนธาตุดว ยอํานาจของอนนั ตรปจ จัย. ๒. ขนั ธท ้งั หลายท่สี ัมปยุตดว ยทุกขเวทนา เปนปจจัยแกว ฏุ ฐานะท่ีสมั ปยุตดวยอทุกขมสขุ เวทนา ดวยอาํ นาจของอนันตรปจจัย. [๑๑๖๑] ๕. ธรรมที่สมั ปยุตดว ยอทกุ ขมสุขเวทนา เปนปจ จยัแกธรรมที่สมั ปยุตดวยอทกุ ขมสุขเวทนา ดว ยอํานาจของอนันตร-ปจจัย คือ ๑. ขนั ธท ัง้ หลายทเ่ี กดิ กอน ๆ ท่ีสัมปยุตดว ยอทุกขมสุขเวทนาเปนปจจยั แกขันธท้งั หลายที่เกิดหลงั ๆ ท่ีสัมปยุตดว ยอทกุ ขมสขุ เวทนา ดวยอาํ นาจของอนนั ตรปจจัย. ๒. อนโุ ลมทสี่ ัมปยตุ ดว ยอทกุ ขมสุขเวทนา เปน ปจ จัยแกโ คตรภูท่ีสมั ปยตุ ดวยอทุกขมสุขเวทนา ดวยอํานาจของอนันตรปจ จยั . ๓. อนุโลมเปนปจ จยั แกโ วทาน. ๔. โคตรภู เปนปจจยั แกม รรค. ๕. โวทาน เปน ปจ จยั แกมรรค. ๖. มรรคเปน ปจ จยั แกผล. ๗. ผลเปน ปจ จยั แกผ ล. ๘. อนุโลมเปน ปจจยั แกผลสมาบัติ.

พระอภธิ รรมปฎ ก ปฏฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนาท่ี 32 ๙. เนวสัญญานาสญั ญายตนะ ของพระอรยิ บคุ คลผอู อกจากนิโรธเปนปจ จัยแกผลสมาบตั ิทีส่ ัมปยุตดว ยอทุกขมสุขเวทนา ดวยอาํ นาจของอนันตร-ปจจยั . ๑๐. ขันธท้งั หลายท่ีสมั ปยตุ ดว ยอทุกขมสขุ เวทนา เปน ปจ จยั แกวุฏฐานะทสี่ ัมปยตุ ดวยอทกุ ขมสขุ เวทนา ดว ยอํานาจของอนันตรปจจยั . [๑๑๖๒] ๖. ธรรมทีส่ ัมปยุตดวยอทุขมสขุ เวทนา เปนปจ จัยแกธ รรมทส่ี มั ปยุตดว ยสุขเวทนา ดว ยอาํ นาจของอนันตรปจ จัย คอื ๑. จตุ ิจติ ที่สัมปยตุ ดวยอทกุ ขมสขุ เวทนา เปน ปจ จยั แกอ ุปบตั ิ-จติ ทส่ี มั ปยุตดว ยสขุ เวทนา ดวยอาํ นาจของอนันตรปจ จยั . ๒. อาวัชชนจิต เปน ปจ จัยแกข นั ธท ้งั หลายท่สี มั ปยุตดว ยสขุ -เวทนา ดว ยอาํ นาจของอนนั ตรปจจยั . ๓. วบิ ากมโนธาตุ เปน ปจ จัยแกว ิบากมโนวิญญาณธาตุ ที่สัมปยตุ ดวยสุขเวทนา ดว ยอาํ นาจของอนันตรปจจัย. ๔. ภวังคจิตทีส่ ัมปยุตดวยอทุกขมสขุ เวทนา เปนปจ จัยแกภวงั ค-จติ ที่สัมปยุตดว ยสุขเวทนา ดว ยอํานาจของอนนั ตรปจจัย. ๕. กุศลและอกุศลจิตทสี่ ัมปยตุ ดว ยอทุกขมสขุ เวทนา เปน ปจจัยแกวฏุ ฐานะท่ีสัมปยุตดว ยสขุ เวทนา. ๖. กิริยา เปนปจ จยั แกวุฏฐานะ. ๗. ผล เปนปจจยั แกวุฏฐานะ. ๘. เนวสญั ญานาสญั ญายตนะของพระอริยบคุ คลผูอ อกจากนิโรธเปน ปจจยั แกผ ลสมาบัตทิ ่สี ัมปยตุ ดวยสุขเวทนา ดวยอํานาจของอนันตรปจ จยั .

พระอภธิ รรมปฎก ปฏฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนาที่ 33 [๑๑๖๓] ๗. ธรรมที่สมั ปยุตดวยอทกุ ขมสขุ เวทนา เปนปจ จัยแกธรรมทส่ี ัมปยุตดวยทกุ ขเวทนา ดวยอาํ นาจของอนนั ตรปจ จยั คอื อาวชั ชนจิต เปน ปจ จัยแกข ันธท ั้งหลาย ท่สี มั ปยตุ ดว ยทกุ ขเวทนา ดว ยอาํ นาจของอนันตรปจ จัย. ๕. สมนันตรปจ จัย [๑๑๖๔] ๑. ธรรมที่สัมปยตุ ดว ยสุขเวทนา เปนปจ จัยแกธรรมทีส่ มั ปยตุ ดว ยสุขเวทนา ดวยอาํ นาจของสมนันตรปจจัย เหมอื นกับอนนั ตรปจจยั . ๖. สหชาตปจจยั [๑๑๖๕] ๑. ธรรมทีส่ มั ปยุตดวยสุขเวทนา เปนปจจัยแกธ รรมทสี่ ัมปยุตดว ยสขุ เวทนา ดวยอํานาจของสหชาตปจจัย คอื ขนั ธ ๑ ท่ีสัมปยตุ ดว ยสุขเวทนา เปน ปจจยั แกข นั ธ ๒ ดว ยอาํ นาจของสหชาตปจจัย, ขันธ ๒ เปน ปจ จยั แกขนั ธ ๑ ดว ยอํานาจของสหชาตปจ จยั . ในปฏิสนธขิ ณะ ขนั ธ ๑ ท่สี ัมปยุตดวยสุขเวทนา เปนปจจัยแกขนั ธ ๒ ดวยอาํ นาจของสหชาตปจ จยั , ขันธ ๒ เปนปจ จัยแกขนั ธ ๑ ดว ยอํานาจของสหชาตปจ จัย. [๑๑๖๖] ๒. ธรรมที่สมั ปยตุ ดวยทุกเวทนา เปน ปจจยั แกธรรมทีส่ มั ปยุตดวยทกุ ขเวทนา ดวยอํานาจของสหชาตปจ จยั คอื ขันธ ๑ ทีส่ มั ปยตุ ดวยทกุ ขเวทนา เปนปจ จยั แกข ันธ ๒ ดวยอํานาจของสหชาตปจจยั ขันธ ๒ เปนปจจยั แกขันธ ๑ ดว ยอาํ นาจของสหชาต-ปจ จัย.

พระอภิธรรมปฎ ก ปฏฐาน เลม ๗ ภาค ๒ - หนาท่ี 34 ปฏิสนธิทส่ี มั ปยตุ ดวยทกุ ขเวทนา ยอ มไมไ ดใ นวาระน้ี. [๑๑๖๗] ๓. ธรรมที่สัมปยุตดว ยอทุกขมสุขเวทนา เปนปจจยัแกธรรมที่สมั ปยุตดวยอทกุ ขมสุขเวทนา ดว ยอํานาจของสหชาตปจจยั คือ ขนั ธ ๑ ทสี่ มั ปยตุ ดวยอทกุ ขมสขุ เวทนา เปน ปจ จยั แกขันธ ๒ดว ยอาํ นาจของสหชาตปจ จัย, ขันธ ๒ เปนปจจยั แกขันธ ๑ ดว ยอํานาจของสหชาตปจจยั . ในปฏิสนธิขณะ ขันธ ๑ ท่ีสมั ปยตุ ดว ยอทกุ ขมสุขเวทนา เปนปจ จัยแกขันธ ๒ ดวยอาํ นาจของสหชาตปจ จยั , ขันธ ๒ เปนปจ จยั แกขันธ ๑ดวยอาํ นาจของสหชาตปจ จยั . ๗. อญั ญมัญญปจ จัย [๑๑๖๘] ๑. ธรรมทสี่ มั ปยตุ ดวยสุขเวทนา เปน ปจจยั แกธ รรมทีส่ ัมปยุตดวยสขุ เวทนา ดวยอาํ นาจของอัญญมัญญปจ จัย ฯลฯ. ๘. นสิ สยปจ จัย ธรรมทส่ี ัมปยุตดวยสขุ เวทนา เปน ปจ จยั แกธรรมทส่ี มั ปยตุดวยสขุ เวทนา ดวยอาํ นาจของนสิ สยปจจัย ฯลฯ. อญั ญมญั ญปจจยั ก็ดี นิสสยปจจยั กด็ ี เหมือนกับสหชาตปจจยั . ๙. อปุ นิสสยปจจยั [๑๑๖๙] ๑. ธรรมท่ีสัมปยุตดว ยสขุ เวทนา เปนปจจัยแกธ รรมทีส่ ัมปยตุ ดว ยสุขเวทนา ดวยอํานาจของอุปนิสสยปจจยั
































Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook