พระวินยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ท่ี 1 พระวินยั ปฎก เลมท่ี ๕ มหาวรรค ภาคท่ี ๒ ขอนอมนอ มแดพระผูม พี ระภาคอรหันตสมั มาสมั พทุ ธเจา พระองคนนั้ จมั มขนั ธกะ เศรษฐีบตุ รโสณโกฬิวิสะเขา เฝาพระเจา พิมพิสาร [๑] โดยสมัยนนั้ พระผูมพี ระภาคเจา ประทับอยู ณ ภูเขาคชิ ฌกฏูเขตพระนครราชคฤห ครงั้ นน้ั พระเจา พมิ พิสารจอมเสนามาคธราซ เสวยราชสมบัตเิ ปน อิสราธบิ ดี ในหมูบ า นแปดหมนื่ ตาํ บล ก็สมยั นน้ั ในเมืองจัมปมเี ศรษฐีบตุ รช่ือโสณโกฬิวิสโคตร เปน สุขุมาลชาติ ทฝ่ี าเทาทง้ั สองของเขามีขนงอกขึ้น คราวหน่ึง พระเจาพิมพิสารจอมเสนามาคธราช มพี ระบรมราชโอง-การโปรดเกลา ใหราษฏรในตําบลแปดหม่ืนน้นั ประชมุ กนั แลว ทรงสงทตู ไปในสํานกั เศรษฐีบตุ รโสณโกฬิวสิ ะ ดุจมีพระราชกรณียกิจสกั อยา งหนง่ึ ดว ยพระบรมราชโองการวา เจาโสณะจงมา เราปรารถนาใหเจา โสณะมา มารดาบิดาของเศรษฐบี ตุ รโสณโกฬวิ ิสะจงึ ไดพ ูดตกั เตอื นเศรษฐีบตุ รน้นั วา พอ โสณะพระเจาอยูห วั มีพระราชประสงคจะทอดพระเนตรเทา ทงั้ สองของเจา ระวังหนอยพอโสณะ เจา อยาเหยียดเทา ทัง้ สองไปทางท่พี ระเจา อยูหัวประทับอยู จงนง่ั ขดัสมาธิตรงพระพกั ตรข องพระองค เมอ่ื เจา นง่ั แลว พระเจาอยหู ัว จกั ทอดพระเนตรเทาทง้ั สองได.
พระวนิ ยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ที่ 2 ครงั้ น้ัน ชนบริวารทง้ั หลายไดนําเศรษฐีบุตรโสณโกฬวิ สิ ะไปดว ยคานหาม ลาํ ดับนั้น เศรษฐีบตุ รโสณโกฬิวสิ ะไดเขา เฝาพระเจา พมิ พสิ าร จอมเสนามาคธราช ถวายบงั คมแลวนงั่ ขดั สมาธติ รงพระพักตรข องทาวเธอ ๆ ไดทอดพระเนตรเห็นโลมชาติทีฝ่ า เทา ทั้งสองของเขา แลวทรงอนศุ าสนประชาราษฎรในตาํ บลแปดหมน่ื นนั้ ในประโยชนป จจุบนั ทรงสงไปดวยพระบรมราโชวาทวาดกู อนพนาย เจา ทง้ั หลายอนั เราสั่งสอนแลว ในประโยชนปจ จุบนั เจา ทง้ั หลายจงไปเฝา พระผูมพี ระภาคเจา ๆ ของเราพระองคน ้นั จักทรงสั่งสอนเจา ท้ังหลายในประโยชนภายหนา ครั้งนัน้ พวกเขาพากันไปทางภูเขาคชิ ฌกูฏ. พระสาคตเถระแสดงอิทธปิ าฏิหารยิ กส็ มัยน้นั ทา นพระสาคตะเปน อปุ ฏฐากของพระผูมพี ระภาคเจา พวกเขาจงึ พากันเขา ไปหาทา นพระสาคตะ แลว ไดก ราบเรยี นวา ทา นขอรบัประชาชนชาวตําบลแปดหมน่ื น้ี เขามาในทีน่ ้ี เพอ่ื เฝา พระผูมีพระภาคเจาขอประทานโอกาสขอรับ ขอพวกขา พเจา พึงไดเฝาพระผูม ีพระภาคเจา ทา นพระสาคตะบอกวา ถา เชนนนั้ พวกทา นจงอยู ณ ที่นสี้ กั ครูหนง่ึ กอ น จนกวาอาตมาจะกราบทูลพระผูมพี ระภาคเจา ใหท รงทราบ ดังนี้ และเมอื่ พวกเขากาํ ลังเพงมองอยูข า งหนา ทานพระสาคตะดาํ ลงไปในแผนหินอัฒจันทรผดุ ข้ึนตรงพระพกั ตรข องพระผมู พี ระภาคเจา แลว ไดกราบทูลคํานกี้ ะพระผมู พี ระภาคเจาวา พระพุทธเจา ขา ประชาชนชาวตําบลแปหมนื่ นพี้ ากันเขามา ณ ท่ีน้ีเพือ่เฝาพระผูมีพระภาคเจา ๆ ยอมทรงทราบกาลอันควรในบัดน้ี พระพทุ ธเจาขาพระผมู ีพระภาคเจารบั สง่ั วา ดูกอ นสาคตะะ ถา กระนน้ั เธอจงปลู าดอาสนะ ณรม เงาหลงั วิหาร ทา นพระสาคตะทูลสนองพระพุทธดํารสั วา ทราบเกลา ฯ แลวพระพทุ ธเจาขา แลวถือตั่งดําลงไปตรงพระพกั ตรของพระผมู พี ระภาคเจา เมอ่ื
พระวินยั ปฎก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนาท่ี 3ประชาชนชาวตาํ บลแปดหมน่ื นนั้ กาํ ลงั เพงมองอยูตรงหนา จึงผดุ จากแผนหนิอฒั จันทรแลว ปลู าดอาสนะในรมเงาหลงั พระวหิ าร. เสดจ็ ออกใหประชาชนเขาเฝา ลาํ ดบั นน้ั พระผูม พี ระภาคเจา เสดจ็ ออกจากพระวหิ าร แลว ประทับนัง่เหนอื พระพุทธอาสนทจ่ี ดั ไว ณ รมเงาหลงั พระวิหาร ประชาชนชาวตาํ บลแปดหมื่นนน้ั จึงเขา เฝาพระผมู พี ระภาคเจา ถวายบังคมแลวน่งั ณ ท่คี วรสวนขา งหน่งึ และพวกเขาพากันสนใจแตท า นพระสาคตะเทานนั้ หาไดสนใจตอพระผูมพี ระภาคเจาไม ทนั ทนี ้ัน พระผมู ีพระภาคเจาทรงทราบความปรวิ ิตกแหง ใจของพวกเขาดว ยพระทัยแลว จงึ ตรัสเรียกทานพระสาคตะมารบั ส่งั วา ดูกอนสาคตะ ถา กระน้นั เธอจงแสดงอทิ ธิปาฏหิ ารย ซง่ึ เปน ธรรมอันยวดยิ่งของมนษุ ยใหยง่ิ ข้นึ ไปอกี . ทา นพระสาคตะทูลรบั สนองพระพทุ ธาณัติวา อยา งน้นั พระพทุ ธเจาขาแลว เหาะขึ้นสเู วหาส เดินบา ง ยืนบาง น่งั บา ง สาํ เร็จการนอนบาง บังหวนควนั บาง โพลงไฟบาง หายตวั บาง ในอากาศกลางหาว ครน้ั แสดงอิทธิปฏหิ ารย อนั เปน ธรรมยวดย่งิ ของมนุษยหลายอยาง ในอากาศกลางหาวแลวลงมาซบศีรษะลงทพ่ี ระยุคลบาทของพระผมู พี ระภาคเจา แลว ไดก ราบทูลพระผมู พี ระภาคเจาวา พระพทุ ธเจาขา พระผมู พี ระภาคเจา เปนพระศาสดาของขาพระพทุ ธเจา ๆ เปนสาวก พระพทุ ธเจาขา พระผูมีพระภาคเจาเปน พระ-ศาสดาของขา พระพุทธเจา ๆ เปนสาวกดังนี.้ ประชาชนตําบลแปดหมน่ื น้ันจงึ พูดสรรเสรญิ วา ชาวเราผูเจริญอศั จรรยนัก ประหลาดแท เพยี งแตพ ระสาวกยงั มฤี ทธมิ์ ากถงึ เพียงนี้ ยงั มี
พระวนิ ยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนาที่ 4อานุภาพมากถึงเพียงนี้ พระศาสดาตอ งอศั จรรยแ น ดงั นี้ แลวพากัน สนใจตอพระผูม ีพระภาคเจา เทา นนั้ หาสนใจตอทานพระสาคตะไม. ทรงแสดงอนุปพุ พกิ ถาและจตรุ ารยิ สัจ ลําดับนั่น พระผูมพี ระภาคเจาทรงทราบความปรวิ ิตกแหง ใจของพวกเขาดวยพระทยั แลว ทรงแสดงอนุปพุ พกิ ถา คือ ทรงประกาศ ทานกถาศลี กถา สคั คกถา ซง่ึ โทษแหง กามอันต่ําทรามอันเศรา หมอง และอานสิ งสในการออกบรรพชา เมื่อพระองคทรงทราบวา พวกเขามจี ิตสงบมจี ิตออน มีจิตปลอดจากนิวรณ มีจิตเบิกบาน มีจติ ผอ งใสแลว จึงทรงประกาศพระธรรมเทศนาที่พระพทุ ธเจา ทั้งหลายทรงยกขึ้นแสดงดวยพระองคเ องคอื ทุกข สมุทยั นโิ รธ มรรค ดวงคาเห็นธรรม ปราศจากธลุ ี ปราศจากมลทิน ไดเ กดิ แกพ วกเขา ณ ท่ีน่งั น้นั เองวา สงิ่ ใดสิ่งหนึ่งมคี วามเกิดขึ้นเปนธรรมดา สิ่งนนั้ ทงั้ หมดมีความคับเปน ธรรมดา ดจุ ผา ท่สี ะอาด ปราศจากมลทนิควรไดรับนาํ้ ยอ มเปน อยางดี ฉะนัน้ พวกเขาไดเหน็ ธรรมแลว ไดบรรลุธรรมแลว ไดร ูธรรมแจมแจง แลว มีธรรมอนั หยั่งลงแลว ขา มความสงสยั ไดแลวปราศจากถอ ยคําแสดงความสงสยั ถงึ ความเปน ผแู กลว กลา ไมตอ งเช่อื ผูอน่ื ในคําสอนของพระศาสดา ไดกราบทลู คาํ นี้ ตอพระผูม พี ระภาคเจาวา ภาษติ ของพระองคแจมแจงนกั พระพุทธเจาขา ภาษิตของพระองคไพเราะนกั พระพุทธเจาขา พระองคท รงประกาศธรรมโดยอเนกปรยิ าย เปรยี บเหมอื นบคุ คลหงายของทีค่ ว่าํ เปดของทีป่ ด บอกทางแกคนหลงทาง หรือสองประทีปในท่ีมดืดว ยตง้ั ใจวา คนมจี กั ษจุ กั เหน็ รปู ดงั น้ี ขา พระพุทธเจา เหลานข้ี อถึงพระผูม-ีตระภาคเจา พระธรรม และพระภกิ ษุสงฆว า เปนสรณะ ขอพระองคจ งทรง
พระวินัยปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนาที่ 5จําพวกขา พระพุทธเจาวา เปนอบุ าสกผูมอบชวี ติ ถงึ สรณะ จําเตมิ แตว ันน้ีเปนตน ไป เศรษฐบี ตุ รโสณ - โกฬวิ สิ ะออกบวช [๒] ครัง้ นัน้ เศรษฐีบตุ รโสณโกฬวิ ิสะไดมีความปริวิตก ดงั น้ี วาดว ยวธิ อี ยา งไร ๆ เราจึงจะรูท วั่ ถึงธรรมทพี่ ระผมู ีพระภาคเจา ทรงแสดงแลวอันบคุ คลท่ียงั ครองเรอื นอยู จะประพฤตพิ รหมจรรยน ้ใี หส มบรู ณโ ดยสว นเดยี วใหบ ริสุทธิ์โดยสวนเดียว ดจุ สงั ขท่ีขดั แลว ทาํ ไมไดง าย ไฉนหนอ เราพงึปลงผมและหนวด ครองผากาสายะ ออกจากเรือนบวชเปน บรรพชติ ครัน้ประชาชนเหลาน้นั ชืน่ ชมยนิ ดี ภาษติ ของพระผูม พี ระภาคเจา แลว ลกุ จากท่ีนั่งถวายบงั คมพระผูม พี ระภาคเจา ทําประทักษิณหลีกไปแลว หลังจากประชาชนพวกนั้นหลีกไปแลวไมน านนกั เขาไดเ ขาเฝา พระผูมีพระภาคเจา ถวายบงั คมพระผมู ีพระภาคเจาแลว นัง่ ณ ท่คี วรสว นขางหน่ึง . เศรษฐบี ุตรโสณโกฬวิ ิสะนงั่ เฝา อยู ณ ทนี่ น้ั แล ไดก ราบทลู คาํ นแ้ี ตพระผมู พี ระภาคเจาวา พระพุทธเจา ขา ดว ยวธิ ีอยางไร ๆ ขาพระพทุ ธเจา จึงจะรูทว่ั ถึงธรรมท่ีพระองคท รงแสดงแลว อันบคุ คลทีย่ ังครองเรอื นอยจู ะประ-พฤติพรหมจรรยน ี้ ใหบริบูรณโ ดยสวนเดยี ว ใหบ ริสุทธิ์ โดยสวนเดียว ดุจสังขที่ขดั แลว ทําไมไ ดง าย ขา พระพทุ ธเจา ปรารถนาจะปลงผมและหนวดครองผากาสายะออกจากเรอื นบวชเปนบรรพชิต ขอพระองคทรงพระกรณุ าโปรดใหขา พระพุทธเจา บวชเถดิ พระพุทธเจา ขา เศรษฐีบตุ รโสณโกฬวิ สิ ะไดร บับรรพชา อุปสมบทในพุทธสํานกั แลว ก็แลทานพระโสณะอุปสมบทแลว ไมนาน ไดพาํ นักอยู ณ ปา สตี วัน ทา นปรารภความเพยี รเกนิ ขนาด เดนิ จงกรมจนเทาทั้ง ๒ แตก สถานทเี่ ดินจงกรมเปอนโลหิต ดจุ สถานทฆ่ี า โค ฉะน้ัน
พระวินยั ปฎก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ที่ 6 ครง้ั น้ัน ทานพระโสณะไปในทสี่ งดั หลกี เรนอยู ไดม คี วามปริวิตกแหง จติ เกดิ ขึ้นอยา งนีว้ า บรรดาพระสาวกของพระผูมีพระภาคเจา ที่ปรารภความเพยี รอยู เรากเ็ ปน รปู หนง่ึ แตไ ฉน จิตของเราจงึ ยังไมหลุดพนจากอาสวะทั้งหลาย เพราะไมถือมนั่ เลา สมบตั ใิ นตระกลู ของเรากย็ งั มอี ยู เราอาจบรโิ ภคสมบตั ิและบําเพญ็ กุศล ถากระไร เราพึงสกึ เปน คฤหัสถแลว บริโภคสมบัติและบําเพ็ญกศุ ล ครัง้ น้นั พระผมู ีพระภาคเจาทรงทราบความปริวติ กแหงจติ ของทา นดวยพระทยั แลว จงึ ทรงอนั ตรธานท่ีคชิ ฌกฏู บรรพต มาปรากฏพระองคณ ปา สตี วัน เปรยี บเหมอื นบรุ ษุ มีกาํ ลัง เหยียดแขนท่คี ู หรอื คแู ขนทเี่ หยอี ดฉะนน้ั คราวนน้ั พระองคพรอ มดว ยภกิ ษเุ ปน อนั มาก เสด็จเท่ียวจารกิ ตามเสนาสนะ ไดเสดจ็ เขา ไปทางสถานทเี่ ดินจงกรมของทานพระโสณะ ไดท อดพระเนตรเหน็ สถานทเี่ ดินจงกรมเปอ นโลหติ คร้นั แลว จงึ ตรสั เรียกภกิ ษุท้งั หลายมารบั ส่ังถามวา ดกู อ นภิกษุท้งั หลาย สถานทเี่ ดนิ จงกรมแหง นขี้ องใครหนอเปอนโลหติ เหมอื นสถานทฆ่ี า โค. ภกิ ษุทง้ั หลายกราบทูลวา ทา นพระโสณะปรารภความเพียรเกนิ ขนาดเดินจงกรมจนเทา ทั้ง ๒ แตก ถามที่เดนิ จงกรมแหง นขี้ องทา นจึงเปอ นโลหิตดจุ สถานท่ีฆาโค ฉะน้ัน พระพุทธเจาขา. ลาํ ดับน้นั พระผมู พี ระภาคเจา ไดเ สด็จเขาไปทางท่ีอยูของทา นพระโสณะ ครั้นแลวประทบั นงั่ เหนือพุทธอาสนทจี่ ัดไวถวาย แมทา นพระโสณะก็ถวายบังคมพระผมู ีพระภาคเจา แลวนงั่ เฝา อย.ู ตัง้ ความเพียรสม่าํ เสมอเทยี บเสยี งพณิ พระผูมพี ระภาคเจาไดตรัสถามทานพระโสณะผูน งั่ เฝาอยูวา ดูกอ นโสณะ เธอไปในทีส่ งดั หลีกเรนอยู ไดม คี วามปริวติ กแหงจติ เกิดข้ึนอยา งนวี้ า
พระวนิ ยั ปฎก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ท่ี 7บรรดาพระสาวกของพระผูมีพระภาคเจา ทปี่ รารภความเพยี รอยู เราก็เปน รูปหนงึ่ แตไฉน จิตของเราจึงยังไมหลดุ พนจากอาสวะทั้งหลาย เพราะไมถอื ม่ันเลา สมบตั ใิ นตระกูลของเรากย็ ังมีอยู เราอาจบรโิ ภคสมบตั แิ ละบําเพ็ญกศุ ลถา กระไร เราพึงสกึ เปนคฤหสั ถแ ลวบรโิ ภคสมบัตแิ ละบาํ เพ็ญกุศล ดงั นี้ มิใชหรือ ? ทา นพระโสณะทลู รบั วา อยา งนั้น พระพุทธเจาขา. ภ. ดกู อนโสณะ เธอจะสาํ คญั ความขอ นนั้ เปนไฉน เมือ่ ครง้ั เธอยังเปน คฤหสั ถ เธอฉลาดในเสยี งสายพิณ มใิ ชห รือ ? โส. อยางนนั้ พระพทุ ธเจาขา. ภ. ดกู อ นโสณะ เธอจะสําคญั ความขอนน้ั เปนไฉน คราวใดสายพิณของเธอตงึ เกนิ ไป คราวนนั้ พิณของเธอมเี สียงหรือใชการไดบางไหม ? โส. หาเปน เชนน้นั ไม พระพทุ ธเจาขา . ภ. ดกู อ นโสณะ เธอจะสําคญั ความขอ น้ันเปน ไฉน คราวใดสายพณิ ของเธอหยอนเกนิ ไป คราวนน้ั พิณของเธอมีเสยี งหรอื ใชก ารไดบา งไหม ? โส. หาเปนเชน นั้นไม พระพทุ ธเจาขา. ภ ดูกอนโสณะ เธอจะสาํ คัญความขอ น้นั เปน ไฉน คราวใดสายพณิของเธอไมต งึ นัก ไมหยอ นนกั ต้งั อยูในคุณภาพสมํา่ เสมอ คราวนัน้ พณิ ของเธอมเี สยี งหรือใชการไดบ า งไหม ? โส. เปน อยางนัน้ พระพุทธเจา ขา . ภ. ดูกอนโสณะ เหมอื นกนั น่นั แล ความเพยี รทีป่ รารภเกนิ ไปนักยอ มเปน ไปเพ่อื ความฟุงซาน ความเพียรที่ยอหยอนนัก ก็เปน ไปเพ่อื เกียจ-ครานเพราะเหตุนนั้ แล เธอจงตั้งความเพยี รแตพ อเหมาะจงทราบขอ ท่ีอนิ ทรยี ทั้งหลายเสมอกนั และจงถอื นิมิตในความสม่ําเสมอน้นั .
พระวนิ ัยปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ที่ 8 ทา นพระโสณะทลู รับสนองพระพทุ ธพจนวา จะปฏบิ ตั ิตามพระพทุ ธ-โอวาทอยา งนัน้ พระพุทธเจาขา คร้ัน พระผมู ีพระภาคเจา ทรงส่งั สอนทา นพระ-โสณะดวยพระโอวาทขอ นีแ้ ลว ทรงอนั ตรธานที่ปาสตี วนั ตอ หนาทา นพระโสณะ.แลว มาปรากฏพระองค ณ คิชฌกูฏบรรพต เปรยี บเหมือนบรุ ษุ มกี ําลงั เหยียดแขนที่คหู รือคแู ขนทเ่ี หยียด ฉะนั้น. พระโสณะสาํ เรจ็ พระอรหัตผล ครั้นกาลตอมา ทา นพระโสณะไดตัง้ ความเพียรแตพอเหมาะ ทราบขอที่อินทรยี ท ้ังหลายเสมอกนั และไดถ ือนมิ ิตในความสมํ่าเสมอ ครัน้ แลวไดหลีกออกอยแู ตผูเดยี ว ไมป ระมาท มีเพยี ร มตี นสงไป ไมนานเทา ไรนกัไดท าํ ใหแ จง ซ่งึ คุณพเิ ศษอนั ยอดเยย่ี ม เปนท่สี ดุ พรหมจรรย ทีก่ ุลบุตรท้งั หลายออกจากเรอื นบวชเปนบรรพชติ โดยชอบตอ งประสงค ดว ยปญญาอันยิ่งดว ยตนเอง ในปจจบุ นั นแ้ี หละ เขาถงึ อยแู ลว ไดรูชัดแลววา ชาติสิ้นแลว พรหมจรรยเราไดอ ยจู บแลว กจิ ที่ควรทาํ ไดท าํ เสรจ็ แลว กจิ อน่ื อีกเพอ่ื ความเปนอยางนม้ี ิไดม ี ก็แลบรรดาพระอรหนั ตทัง้ หลาย ทา นพระโสณะไดเ ปน พระอรหันตรูปหนึ่งแลว. พรรณนาคุณของพระขีณาสพ [๓] คร้ังนน้ั ทานพระโสณะบรรลุพระอรหัตแลว ไดคดิ วา ถากระไรเราพึงพยากรณอรหัตผลในสาํ นักพระผูมพี ระภาคเจา แลวจึงเขาไปเฝาพระผูม พี ระภาคเจาถวายบังคมนงั่ เฝาอยู คร้นั แลว ไดก ราบทูลคาํ นแี้ ดพ ระผมู -ีพระภาคเจา วา ดังน:ี้ -
พระวินยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนาท่ี 9 พระพุทธเจา ขา ภิกษุใด เปน พระอรหันตม ีอาสวะส้นิ แลว อยูจบพรหมจรรยแลว มกี ิจทค่ี วรทาํ ไดท าํ เสร็จแลว ปลงภาระลงแลว มปี ระโยชนของคนไดถึงแลวโดยลําดับ มีกเิ ลสเครอ่ื งประกอบสัตวไวใ นภพหมดสนิ้ แลวหลดุ พนแลว เพราะรชู อบ ภิกษนุ ้ันยอ มนอ มใจ ไปสูเ หตุ ๖ สถาน คือ:- ๑. นอ มใจไปสูบรรพชา. ๒. นอ มใจไปสคู วามเงยี บสงดั . ๓. นอมใจไปสคู วามไมเบยี ดเบียน. ๔. นอมใจไปสูความส้นิ อปุ าทาน. ๕. นอมใจไปสคู วามส้นิ ตัณหา และ. ๖. นอมใจไปสูความไมห ลงใหล. พระพทุ ธเจาขา กบ็ างทจี ะมีบางทา นในพระธรรมวนิ ัยนสี้ ําคัญเห็นเชนน้ีวา ทา นผูน้ีอาศยั คุณแตเพยี งศรทั ธาอยา งเดียวเปนแน จึงนอ มใจไปสูบรรพชา ดังนพี้ ระพุทธเจาขา ก็ขอ นี้ไมพึงเหน็ อยางนั้นเลย ภิกษขุ ณี าสพผูอยจู บพรหมจรรยแลว มีกิจท่คี วรทําไดทาํ เสรจ็ แลว ไมเหน็ วา ตนยงั มีกจิ ท่จี าํจะตอ งทาํ หรอื จะตอ งกลับสะสมทํากิจที่ไดท าํ แลว จงึ นอมใจสูบรรพชา โดยทต่ี นปราศจากราคะ เพราะส้ินราคะ, จงึ นอ มใจไปสูบรรพชา โดยท่ตี นปราศจากโทสะ เพราะสน้ิ โทสะ, จึงนอ มใจไปสบู รรพชา โดยท่ีตนปราศจากโมหะเพราะสน้ิ โมหะ. พระพุทธเจาขา กบ็ างทีจะมบี างทานในพระธรรมวนิ ัย สาํ คัญเห็นเชนน้วี า ทานผูนปี้ รารถนาลาภสักการะและความสรรเสรญิ เปนแน จงึ นอ มใจไปในความเงียบสงดั ดังนี้ พระพุทธเจา ขา ขอ นก้ี ็ไมพ งึ เห็นอยางน้ันเลย ภกิ ษ-ุขณี าสพผูอยจู บพรหมจรรยแ ลว มกี ิจทคี่ วรทําไดทําเสรจ็ แลว ไมเ ห็นวาตนยังมีกิจทจี่ ําจะตอ งทาํ หรอื จะตอ งกลบั สะสมทาํ กจิ ที่ไดท ําแลว จึงนอ มใจไปสคู วามเงยี บสงดั โดยที่ตนปราศจากราคะ เพราะส้นิ ราคะ, จึงนอ มใจไปสคู วาม
พระวนิ ัยปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ที่ 10เงียบสงัด โดยท่ตี นปราศจากโทสะ เพราะสิ้นโทสะ, จึงนอมใจไปสูความเงยี บสงดั โดยทต่ี นปราศจากโมหะ เพราะส้ินโมหะ. พระพุทธเจาขา กบ็ างทจี ะมบี างทานในพระธรรมวินยั สาํ คญั เห็นเชนน้ี วา ทา นผนู ีเ้ ชื่อถือสีลัพพตปรามาส โดยความเปน แกนสารเปน แน จึงนอ มใจไปสคู วามไมเบยี ดเบยี น ดังน้ี พระพทุ ธเจา ขา ขอ นี้กไ็ มพ ึงเห็นอยา งนน้ั เลย ภกิ ษุขีณาสพผอู ยจู บพรหมจรรยแลว มีกิจทาํ ควรทาํ ไดทาํ เสรจ็ แลวไมเ ห็นวา ตนยังมกี จิ ทจ่ี ําจะตองทํา หรือจะตอ งกลับสะสมทาํ กจิ ท่ีไดทาํ แลว จงึนอมใจไปสูค วามไมเบยี ดเบียน โดยทต่ี นปราศจากราคะ เพราะสนราคะ, จึงนอ มใจไปสูค วามไมเ บยี ดเบยี น โดยทต่ี นปราศจากโทสะ เพราะสิน้ โทสะ,จงึ นอ มใจไปสูความไมเ บียดเบียน โดยท่ีตนปราศจากโมหะ เพราะสน้ิ โมหะ. ...จึงนอ มใจไปสคู วามสน้ิ อุปาทาน โดยท่ีตนปราศจากราคะ เพราะส้ินราคะ, จงึ นอมใจไปสคู วามส้ินอปุ าทาน โดยที่ตนปราศจากโทสะ เพราะส้ินโทสะ, จงึ นอ มใจไปสคู วามสิ้นอปุ าทาน โดยทต่ี นปราศจากโมหะ เพราะสิ้นโมหะ. ...จงึ นอ มใจไปสคู วานสิน้ ตัณหา โดยท่ตี นปราศจากราคะ เพราะส้นิ ราคะ, จงึ นอ มใจไปสูความสิ้นตณั หา โดยทต่ี นปราศจากโทสะ เพราะสนิ้โทสะ จึงนอ มใจไปสูความสนิ้ ตณั หา โดยทตี่ นปราศจากโมหะ เพราะส้ินโมหะ, ...จงึ นอ มใจไปสคู วามไมหลงใหล โดยท่ตี นปราศจากราคะ เพราะสิน้ ราคะ, จงึ นอมใจไปสูค วามไมห ลงใหล โดยท่ีตนปราศจากโทสะ เพราะสิ้นโทสะ, จงึ นอมใจไปสูความไมห ลงใหล โดยท่ีตนปราศจากโมหะ เพราะสิน้โมหะ. พระพทุ ธเจาขา แมห ากรปู ารมณท่หี ยาบซ่งึ จะพึงทราบชัดดวยจกั ษุผานมาสคู ลองจกั ษุ ของภกิ ษผุ ูมจี ิตหลุดพนแลว โดยชอบอยา งนี้ ก็ไมค รอบงําจิตของภกิ ษุน้นั ไดเลย จิตของภกิ ษนุ นั้ อันอารมณไ มทําใหเ จือตดิ อยไู ด เปน
พระวนิ ยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนาท่ี 11ธรรมชาติตัง้ มัน่ ไมหว่ันไหว และภกิ ษนุ ้ันยอมพจิ ารณาเหน็ ความเกดิ และความดับของจิตน้ัน. แมหากสัททารมณท ี่หยาบ ซึง่ จะพึงทราบชดั ดวยโสต . . . แมห ากคันธารมณท ี่หยาบ ซึ่งจะพงึ ทราบชัดดว ยฆานะ . . . แมห ากรสารมณทหี่ ยาบ ซ่ึงจะพึงทราบชัดดว ยชิวหา. . . แมหากโผฏฐัพพารมณท่ีหยาบ ซึ่งจะพึงทราบชัดดวยกาย . . . แมห ากธรรมารมณท หี่ ยาบ ซ่ึงจะพงึ ทราบชดั ดว ยมโน ผา นมาสูคลองใจของภกิ ษุผูม ีจติ หลุดพน แลว โดยชอบอยา งน้ี ก็ไมครอบงําจติ ของภิกษนุ นั้ ไดเลย จติ ของภิกษุนั้นอันอารมณไ มทําใหเจอื ติดอยูได เปน ธรรมชาติดงั มนั่ ไมหว่นั ไหวและภกิ ษนุ ัน้ ยอมพจิ ารณาเหน็ ความเกดิ และความคบั ของจิตนนั้ . พระพุทธเจาขา ภเู ขาลวนแลว ดวยศลิ า ไมม ีชอง ไมม ีโพรง เปนแตง ทบึ อันเดียวกนั แมห ากฝนเจือลมอยา งแรง พดั มาแตทศิ ตะวนั ออก ก็ยังภเู ขานนั้ ใหห ว่ันไหวสะเทอื นสะทา นไมไ ดเลย. แมหากฝนเจอื ลมอยางแรง พดั มาแตท ศิ ตะวันตก . . . แมหากฝนเจอื ลมอยา งแรง พดั มาแตทิศเหนือ . . . แมห ากฝนเจือลมอยา งแรง พัดมาแตทศิ ใต กย็ งั ภเู ขาน้ันใหห วั่นไหวสะเทือนสะทา นไมไดเลย แมฉ นั ใด. พระพทุ ธเจา ขา แมห ากรูปารมณท ่ีหยาบซ่ึงจะพงึ ทราบชัดดวยจักษุผานมาสูคลองจักษุ ของภกิ ษุผูมีจิตหลดุ พน แลวโดยชอบอยางน้ี ก็ยอมไมครอบงําจติ ของภกิ ษุน้ันไดเลย จิตของภกิ ษุน้ันอันอารมณไมทาํ ใหเ จอื ตดิ อยูไดเปนธรรมชาตติ ัง้ มั่นไมหวัน่ ไหว และภิกษนุ นั้ ยอ มพิจารณาเหน็ ความเกิดและความดบั ของจิตนนั้ . แมห ากสัททารมณท ี่หยาบ ซง่ึ จะพงึ ทราบชดั ดว ยโสต. . . แมหากคนั ธารมณท ่ีหยาบ ซึง่ จะพงึ ทราบชัดดว ยฆานะ . . .
พระวนิ ัยปฎก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนาที่ 12 แมห ากรสารมณท หี่ ยาบ ซ่งึ จะพึงทราบชดั ดวยชวิ หา . . . แมหากโผฏฐพั พารมณที่หยาบ ซึง่ จะพงึ ทราบชัดดวยกาย . . . แมหากธรรมารมณท ่ีหยาบ ซ่ึงจะพึงทราบชดั ดวยมโน ผา นมาสูคลองใจของภกิ ษุผูม จี ติ หลุดพนกั แลวโดยชอบอยางนี้ ก็ไมครอบงาํ จิตของภกิ ษุนัน้ ไดเลย จติ ของภิกษนุ น้ั อนั อารมณไ มทําใหเจอื ติดอยไู ด เปนธรรมชาตติ ้งั มัน่ ไมหวนั่ ไหว และภิกษนุ ัน้ ยอ มพิจารณาเห็นความเกิดและความดับของจิตนัน้ ฉนันน้ั เหมอื นกนั แล. นคิ มคาถา [๔] ภกิ ษุผูนอ มไปสูบรรพชา ๑ ผู นอ มไปสคู วามเงยี บสงัดแหงใจ ๑ ผนู อ มไป สูความไมเ บียดเบียน ๑ ผูนอ มไปสคู วามสิน้ อุปาทาน ผนู อมไปสูความสิ้นตณั หา ๑ ผู นอ มไปสูความไมห ลงใหลแหง ใจ ยอ มมี จิตหลุดพนโดยชอบ เพราะเห็นความเกิด และความดบั แหงอายตนะ ภกิ ษุมีจิตหลดุ พน แลว โดยชอบ มีจติ สงบนนั้ ไมตองกลบั สะสมทาํ กจิ ท่ไี ดทาํ แลว กิจทีจ่ าํ จะตองทาํ ก็ ไมมี เปรียบเหมอื นภเู ขาท่ลี ว นแลว ดวยศลิ า เปน แทง ทึบ อนั เดยี วกัน ยอมไมส ะเทือน ดว ยลม ฉันใด รูป เสยี ง กล่นิ รส ผัสสะ และธรรมารมณ ทง้ั ท่นี าปรารถนา และไม นา ปรารถนาท้งั ส้ิน ยอ มทาํ ทานผคู งท่ีให หว่นั ไหวไมไ ด ฉนั นัน้ จติ ของทา นตงั้ มนั่ หลดุ พนแลว ทา นยอ มพิจารณาเหน็ คาวาม เกดิ และความดับของจติ นน้ั ดว ย.
พระวินยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ท่ี 13 ทรงอนญุ าตรองเทา [๕] ลาํ ดับน้ัน พระผูมีพระภาคเจา รับสงั่ กะภิกษุทัง้ หลายวา ดวยวิธอี ยางน้ีแล ภกิ ษุท้ังหลาย ท่ีพวกกลุ บตุ รพยากรณอ รหตั กลาวแตเน้อื ความและไมน อ มเขาไปหาตน ก็แตวาโมฆบุรษุ บางจําพวกในธรรมวนิ ัยนพี้ ยากรณอรหัต ทําทีเหมอื นเปนของสนกุ ภายหลังตอ งทุกขเ ดือดรอ น ดังน้ี ตอแตนนั้ พระองคร บั สัง่ กะทานพระโสณะวา ดกู อนโสณะ เธอเปนสขุ ุมาลชาติ เราอนุญาตตรองเทา ชนั้ เดียวแกเธอ. ทา นพระโสณะกราบทูลวา ขาพระพุทธเจา ละเงินประมาณ ๘๐ เลมเกวียน และละกองพลกอปรดวยชาง ๗ เชือก ออกจากเรอื นบวชเปน บรรพชติแลว จกั มผี กู ลาวแกพระพุทธเจาวา โสณโกฬวิ สิ ะละเงินประมาณ ๘๐ เลมเกวยี น และละกองพลกอปรดวยชา ง ๗ เชือก ออกจากเรอื นบวชเปน บรรพชิตแลว เดีย๋ วนี้ยังขอ งอยูในเรอ่ื งรองเทา ชนั้ เดยี ว ถาพระผูมพี ระภาคเจาจักไดทรงอนญุ าตแกพ ระภกิ ษุสงฆ แมข า พระพทุ ธเจาจกั ใชส อย ถา จกั ไมท รงอนญุ าตแกพระภกิ ษุสงฆ แมข า พระพุทธเจากจ็ กั ไมใ ชสอย พระพทุ ธเจาขา . ลาํ ดับนัน้ พระผูมพี ระภาคเจาทรงทาํ ธรรมีกถา ในเพราะเหตเุ ปนเคามูลนั้น ในเพราะเหตแุ รกเกิดน้ัน แลว รบั ส่ังกะภิกษุท้งั หลายวา ดูกอนภิกษุทงั้ หลาย เราอนญุ าตรองเทา ชน้ั เดยี ว ภิกษไุ มพึงสวมรองเทา ๒ ชัน้ ไมพ ึงสวมรองเทา ๓ ชัน้ ไมพึงสวมรองเทาหลายชัน้ รูปใดสวม ตอองอาบัตทิ กุ กฏ พระพทุ ธบัญญัติหา มสวมรองเทาสตี าง ๆ [๖] ก็โดยสมัยนน้ั แล พระฉพั พัคคยี ส วมรองเทาสเี ขยี วลว น. . สวมรองเทาสเี หลืองลวน . . . สวมรองเทา สีแดงลว น . . . สวมรองเทา สีบานเยน็ ลวน. . สวมรองเทา สีดาํ ลว น. . . สวมรองเทาสแี สดลวน . . .สวมรองเทา สชี มพูลว น
พระวินยั ปฎก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ท่ี 14ชาวบา นพากันเพงโทษ ติเตียน โพนทะนาวา เหมือนพวกคฤหสั ถผบู รโิ ภคกามภิกษุท้งั หลายจงึ กราบทลู เรื่องน้นั แดพระผูม ีพระภาคเจา ๆ ทรงบัญญัตหิ ามวาดกู อ นภิกษทุ ั้งหลาย ภกิ ษุไมพึงสวมรองเทา สเี ขียวลว น ไมพึงสวมรองเทา สีเหลืองลวน ไมพึงสวมรองเทาสีแดงลวน ไมพึงสวมรองเทาสีบานเย็นลวนไมพ งึ สวนรองเทา สีดําลวน ไมพงึ สวมรองเทา สแี สดลวน ไมพ ึงสวมรองเทาสชี มพูลว น รปู ใดสวน ตอ งอาบตั ทิ กุ กฏ. พระพุทธบัญญัติหามสวมรองเทามหี ูไมส มควร สมยั ตอมา พระฉัพพคั ดียสวมรองเทา มีหสู ีเขยี ว . . . สวมรองเทามหี สู ีเหลือง . . . สวมรองเทามีหูสแี ดง . . . สวมรองเทา มีหูสบี านเย็น . . . สวมรองเทามหี ูสดี าํ . . . สวมรองเทามหี สู ีแสด . . .สวมรองเทามีหูสีชมพู ชาวบานพากนัเพงโทษ ติเตียน โพนทะนาวา เหมือนพวกคฤหสั ถผูบ รโิ ภคกาม ภิกษุทง้ั หลายจงึ กราบทูลเรอื่ งนน้ั แดพ ระผมู พี ระภาคเจา ๆ ทรงบัญญัตหิ ามวา ดูกอ นภกิ ษุท้ังหลาย ภิกษไุ มพงึ สวมรองเทา มหี สู เี ขยี ว ไมพงึ สวมรองเทา มหี ูสีเหลอื ง ไมพึงสวมรองเทา มีหสู ีแดง ไมพงึ สวมรองเทามหี ูสบี านเยน็ ไมพ ึงสวมรองเทา มีหสู ีดํา ไมพงึ สวมรองเทา มหี ูสีแสด ไมพ งึ สวมรองเทามีหูสีชมพู รูปใดสวมตอ งอาบตั ิทกุ กฏ. พระพุทธบัญญตั ทิ รงหามสวมรองเทาบางชนิด สมัยตอมา พระฉพั พัคคยี สวมรองเทาติดแผน หนังหุมสน . . . สวมรองเทา หุมแขง . . .สวมรองเทา ปกหลังเทา . . . สวมรองเทายัดนุน. . . สวมรองเทามีหลู ายคลา ยขนปกนกกระทํา. . .สวมรองเทาท่ีทําหูงอนมสี ณั ฐานดจุ เขาเกาะ. . .สวมรองเทา ทท่ี ําหงู อนมสี ณั ฐานดจุ เขาแพะ . . . สวมรองเทาทที่ ําประกอบหูงอน
พระวนิ ยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนาท่ี 15ดุจหางแมลงปอ ง . . . สวมรองเทา ทีเ่ ยบ็ ดว ยขนปก นกยงู . . . สวมรองเทา อันวิจิตร คนทั้งหลายเพงโทษ ติเตียน โพนทะนาวา เหมือนพวกคฤหสั ถผูบริโภคกาม ภิกษุท้งั หลายจงึ กราบทลู เรอ่ื งน้ันแดพระผมู พี ระภาคเจา ๆ ทรงบัญญัติหามวา ดกู อนภกิ ษทุ ้งั หลาย ภิกษไุ มพ ึงสวมรองเทา ติดแผนหนังหุนสนไมพ ึงสวนรองเทา หุมแขงไมพ งึ สวมรองเทาปกหลงั เทา ไมพงึ สวมรองเทายดั นนุไมพ ึงสวมรองเทา มีหลู ายคลา ยขนปกนกกระทาํ ไมพงึ สวมรองเทาทท่ี ําหงู อนมีสัณฐานดจุ เขาแกะ ไมพงึ สวมรองเทาท่ีทาํ หงู อนมีสัณฐานดจุ เขาแพะ ไมพงึสวมรองเทา ที่ทําประกอบหงู อนดุจหางแมลงปอง ไมพ งึ สวมรองเทา ท่ีเยบ็ ดว ยขนปกนกยงู ไมพงึ สวมรองเทาอนั วิจิตร รปู ใดสวม ตอ งอาบัตทิ ุกกฏ. พระพุทธบญั ญตั ิทรงหามสวนรองเทาขลิบหนงั สมัยตอ มา พระฉัพพคั คียสวมรองเทา ขลิบดวยหนังราชสหี . . .สวมรองเทา ขลบิ ดว ยหนังเสือโครง . . . สวมรองเทา ขลิบดวยหนังเสอื เหลอื ง . . . สวมรองเทา ขลบิ ดวยหนังชะมด . . . สวมรองเทาขลบิ ดว ยหนังนาก. . . สวมรองเทาขลิบดว ยหนงั แมว . . . สวมรองเทา ขลิบดว ยหนงั คา ง . . . สวมรองเทาขลิบดว ยหนงั นกเคา คนทั้งหลายเพง โทษ ติเตียน โพนทะนาวา เหมอื นพวกคฤหัสถผูบรโิ ภคกาม ภกิ ษทุ ง้ั หลายจึงกราบทูลเรือ่ งนั้นแดพระผูมีพระภาคเจา ๆ ทรงบญั ญตั หิ ามวา ดูกอ นภิกษุทัง้ หลายภิกษไุ มพ ึงสวมรองเทา ขลิบดว ยหนังราชสหี ไมพึงสวมรองเทา ขลบิ ดวยหนงั เสือโครง ไมพ งึ สวมรองเทาขลิบดว ยหนังเสือเหลือง ไมพงึ สวมรองเทา ขลิบดว ยหนงั ชะมด ไมพึงสวมรองเทาขลบิ ดว ยหนังนาก ไมพ ึงสวมรองเทา ขลิบดวยหนงั แมว ไมพงึ สวมรองเทา ขลบิ ดวยหนงั คา งไมพึงสวมรองเทาขลบิ ดวยหนงั นกเคา รปู ใดสวม ตอ งอาบตั ิทกุ กฏ.
พระวินยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนาท่ี 16 ทรงอนุญาตรองเทา หลายชน้ั ทีใ่ ชแลว [๗] คร้ังน้นั เวลาเชา พระผมู ีพระภาคเจาทรงอันตรวาสกแลวทรงถือบาตรจวี ร เสด็จพระพทุ ธดําเนินเขา ไปบณิ ฑบาตในพระนครราชคฤห มีภกิ ษุรปู หนึง่ เปนปจฉาสมณะ แตภ ิกษุรูปนั้นเดินเขยกตามพระผมู พี ระภาคเจาไปเบื้องพระปฤษฎางค อบุ ายสกคนหนึ่งสวมรองเทาหลายชน้ั ไดเ ห็นพระผมู ีพระภาคเจา กาํ ลังเสดจ็ พระพทุ ธดาํ เนินมาแตไกลเทียว ครัน้ แลว จึงถอดรองเทาเขา ไปเฝาพระผมู ีพระภาคเจา ถวายบงั คมแลวเขา ไปหาภกิ ษุรูปน้นั อภวิ าทแลวจึงไดถ ามวา เพราะอะไร พระผเู ปนเจา จึงเดินเขยก ขอรับ. ภกิ ษรุ ปู นัน้ ตอบวา เพราะเทา ท้งั สองของอาตมาแตก อ. นิมนตพระผูเปนเจารบั รองเทา ขอรบั . ภิ. อยา เลย ทา น พระผูมพี ระภาคเจา ทรงหามรองเทา หลายชั้น. พระผูมีพระภาคเจา รับสง่ั วา เธอรบั รองเทา นั้นได ภิกษ.ุ ครง้ั นนั้ พระผูมีพระภาคเจา ทรงทาํ ธรรมมกี ถา ในเพราะเหตุเปนเคามลู น้ัน ในเพราะเหตแุ รกเกิดนน้ั แลวรบั ส่งั กะภกิ ษทุ ้ังหลายวา ดกู อ นภกิ ษุทั้งหลาย เราอนญุ าตรองเทา หลายชน้ั ท่ีใชแลว ดูกอนภกิ ษุทั้งหลาย รองเทาหลายชั้นทใ่ี หม ภิกษไุ มพ ึงสวม รปู ใดสวม ตองอาบัติทกุ กฏ. หามสวมรองเทา ในทบี่ างแหง [๘] กโ็ ดยสมัยน้นั แล พระผูมีพระภาคเจามไิ ดทรงฉลองพระบาทเสด็จพระพทุ ธดาํ เนนิ อยใู นทแี่ จง ภกิ ษผุ ูเถระทัง้ หลายทราบวา พระศาสดามไิ ดทรงฉลองพระบาทเสด็จพระพุทธดําเนนิ อยู ดังนี้ จึงเดินไมส วมรองเทา เม่ือพระศาสดาเสดจ็ พระพุทธดาํ เนินมไิ ดท รงฉลองพระบาทแมเมอ่ื ภกิ ษุผูเถระ
พระวินัยปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ท่ี 17ท้ังหลายเดนิ กไ็ มส วมรองเทา แตพ ระฉพั พคั คยี เดนิ สวมรองเทา บรรดาภิกษทุ ี่เปนผูม กั นอย. . . เพงโทษ ตเิ ตยี น โพนทะนาวา เมือ่ พระศาสดาเสดจ็ พระ-พุทธดาํ เนินมิไดทรงฉลองพระบาท แมเมอ่ื ภกิ ษผุ ูเ ถระท้ังหลายเดนิ กไ็ มส วมรองเทา ไฉนพระฉัพพคั คียจึงไดเ ดนิ สวมรองเทา เลา แลวกราบทูลเรอ่ื งนน้ั แดพระผูมีพระภาคเจา. พระผูมพี ระภาคเจาทรงสอบถามภิกษุทงั้ หลายวา ดูกอ นภิกษทุ งั้ หลายขาววาเมือ่ เราผูศาสดาเดนิ มไิ ดสวมรองเทา แมเ มือ่ ภิกษผุ เู ถระทัง้ หลายเดินก็ไมสวมรองเทา แตพระฉพั พคั คียเ ดินสวมรองเทา จรงิ หรือ ? ภิกษุทงั้ หลายกราบทลู วา จรงิ พระพทุ ธเจาขา. พระผูม พี ระภาคพทุ ธเจา ทรงติเตยี น ดูกอ นภิกษุทั้งหลาย เมอ่ื เราผูศ าสดาเดินมิไดส วมรองเทา แมเม่ือภิกษผุ เู ถระท้งั หลายเดนิ กไ็ มส วมรองเทาแตไ ฉนโมฆบุรุษเหลา นนั้ จึงไดเดินสวมรองเทาเลา อันคฤหสั ถชื่อเหลาน้นี ุงหมผา ขาวยงั มคี วามเคารพ มคี วามยาํ เกรง มคี วามประพฤตเิ สมอภาค ในอาจารยท้งั หลาย เพราะเหตแุ หง ศิลปะซง่ึ เปนเครือ่ งเล้ียงชพี อยู ดกู อ นภกิ ษุทัง้ หลายพงึ งามในธรรมวินัยน้ีเปนแน ถา พวกเธอบวชในธรรมวินยั อนั เรากลาวดีแลวอยา งนี้ จะพงึ มีดวามเคารพ มีความยําเกรง มีความประพฤตเิ สมอภาค อยูในอาจารย ในภกิ ษุปนู อาจารย ในอปุ ช ฌายะ ในภกิ ษุปูนอปุ ชฌายะ การกระทาํของเหลา โมฆบรุ ษุ น้ัน ไมเปน ไปเพื่อความเลือ่ มใสของชุมชนท่ียังไมเ ลอ่ื มใส. . .ครั้นแลว ทรงทําธรรมีกถารับสง่ั กะภกิ ษุทัง้ หลายวา ดูกอนภกิ ษทุ ้งั หลาย เมอ่ือาจารย ภกิ ษปุ ูนอาจารย อปุ ช ฌายะ ภกิ ษปุ นู อุปช ฌายะ เดนิ มิไดสวมรองเทา ภกิ ษไุ มพ ึงเดินสวมรองเทา รปู ใดเดนิ สวมรองเทา ตอ งอาบตั ิทุกกฏ.ดูกอนภิกษุทง้ั หลาย ภกิ ษุไมพงึ สวมรองเทาภายในอาราม รปู ใดสวม ตองอาบัตทิ ุกกฏ.
พระวนิ ยั ปฎก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ท่ี 18 ภกิ ษอุ าพาธเปนหนอทเ่ี ทา [๙] กโ็ ดยสมยั นนั้ แล ภิกษรุ ปู หนงึ่ อาพาธเปน หนอที่เทา ภิกษุทง้ั หลายพยงุ ภิกษรุ ูปนน้ั ใหถ ายอจุ จาระบาง ใหถา ยปสสาวะบาง พระผูม ีพระภาคเจาเสด็จเทยี่ วจารกิ ตานเสนาสนะ ไดท อดพระเนตรเหน็ พวกภิกษุกําลังพยงุ ภิกษุรูปนัน้ ใหถา ยอุจจาระบาง ใหถา ยปสสาวะบาง จึงเสด็จเขาไปใกลภ ิกษพุ วกน้ันแลวไดต รัสถามวา ดกู อนภิกษทุ ้งั หลาย ภิกษุรูปนีอ้ าพาธเปนอะไร ภกิ ษุท้งั หลายกราบทลู วา ทานรปู นี้อาพาธเปน หนอทเี่ ทา พวกขา พระพุทธเจา ตอ งพยุงทานรปู นีใ้ หถ า ยอจุ จาระบา ง ใหถายปส สาวะบาง พระพุทธเจา ขา. พระพุทธานุญาตใหส วมรองเทาเปน พเิ ศษ [ ๑๐] ลําดบั นัน้ พระผูมีพระภาคเจาทรงทาํ ธรรมีกถา ในเพราะเหตุเคามูลน้นั ในเพราะเหตุแรกเกดิ นน้ั แลวรบั ส่งั กะภิกษทุ ัง้ หลายวา ดกู อนภกิ ษุทง้ั หลาย เราอนญุ าตใหภิกษผุ ูมเี ทาชอกช้าํ หรอื มเี ทาแตก หรืออาพาธมีหนอ ท่เี ทา สวมรองเทาได. สมัยตอมา ภิกษุทง้ั หลายมีเทา มิไดล าง ขึ้นเตยี งบางขึน้ ตงั่ บา ง ทั้งจวี รทงั้ เสนาสนะ ยอ มเสยี หาย พวกภกิ ษจุ งึ กราบทูลเรื่องนั้น แดพ ระผมู ีพระภาคเจา ๆตรสั อนุญาตแกภ กิ ษทุ ง้ั หลายวา ดกู อ นภกิ ษุท้งั หลาย เราอนญุ าตใหส วมรองเทา ในขณะทค่ี ดิ วา ประเดยี่ วจกั ขน้ึ เตียง หรือขึน้ ตัง่ . สมยั ตอ มา เวลากลางคืน ภิกษุทัง้ หลายเดนิ ไปสูโรงอโุ บสถก็ดี สูที่ประชุมกด็ ี ยอมเหยยี บตอบบา ง หนามบา ง ในทมี่ ดื เทา ทัง้ สองไดร ับบาดเจบ็ภกิ ษุท้งั หลายจึงกราบทูลเรื่องนั้นแดพ ระผูมีพระภาคเจา .
พระวนิ ยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ท่ี 19 พระผูมีพระภาคเจาตรสั อนญุ าตแกภ กิ ษทุ ง้ั หลายวา ดูกอ นภิกษุทงั้หลาย ภายในอาราม เราอนุญาตใหสวมรองเทา และใชคบเพลิง ประทีปไมเ ทาได. พระพทุ ธบัญญตั หิ ามสวมเขียงเทาไม ครัน้ ตอมา ถึงเวลาปจจุสมัยแหง ราตรี พระฉพั พคั คยี ล ุกขนึ้ สวมเขียงเทาที่ทาํ ดว ยไม แลวเดินอยกู ลางแจง มเี สยี งขฏะขฏะ ดังอึกทึก กลา วดิรัจฉานกถามเี รอื่ งตา ง ๆ คือ พูดเร่ืองพระราชา เร่ืองโจร เร่ืองมหาอํามาตยเรอื่ งขนุ พล เร่อื งภัย เร่ืองรบ เรอื่ งขาว เรอื่ งนาํ้ เรอ่ื งผา เรื่องท่ีนอนเร่ืองดอกไม เร่ืองของหอม เร่ืองญาติ เร่ืองยาน เรอ่ื งบา น เรอื่ งนิคมเรือ่ งนคร เร่ืองชนบท เร่ืองสตรี เร่ืองบรุ ุษ เร่ืองคนกลา หาญ เรือ่ งตรอกเรือ่ งทา นาํ้ เรอ่ื งคนท่ลี ว งลับไปแลว เรอ่ื งเปดเตล็ด เร่ืองโลก เรอื่ งทะเลเรื่องความเจรญิ และความเสอ่ื มดว ยประการน้นั ๆ เหยียบแมลงตายเสียบา ง ยังภิกษุทั้งหลายใหเคลื่อนจากสมาธบิ าง บรรดาภกิ ษุท่ีเปน ผมู ักนอย. . ตางก็เพงโทษติเตียน โพนทะนาวา ไฉนพระฉพั พคั คีย เมื่อเวลาปจ จุสมัยแหง ราตรีไดลุกขนึ้ สวมเขยี งเทาที่ทําดวยไมแ ลว เดินอยกู ลางแจง มีเสียงขฏะขฎะ ดังอึกทกึกลา วดริ ัจฉานกถา มีเร่ืองตา ง ๆ คอื พดู เร่อื งพระราชา เร่ืองโจร. . . เรอ่ื งความเจรญิ และความเส่อื มดวยประการนนั้ ๆ เหยียบแมลงตายเสยี บาง ยงั ภกิ ษุทั้งหลายใหเคล่อื นจากสมาธิ แลว จงึ กราบทูลเร่ืองนน้ั แดพระผมู พี ระภาคเจา . พระผมู พี ระภาคเจา ทรงสอบถามภิกษุทัง้ หลายวา ดกู อ นภิกษุท้ังหลายขาววาภกิ ษฉุ ัพพัคคีย เมื่อปจจุสมยั แหงราตรี ไดล ุกขนึ้ สวมเขยี งเทา ท่ีทําดวยไม แลว เดินอยูก ลางแจง มเี สยี งขฏะขฏะ ดังอกึ ทกึ กลาวดิรัจฉานกถามีเรอื่ ง
พระวินยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ที่ 20ตา ง ๆ คือพูดเรอ่ื งพระราชา เร่ืองโจร. . . เรือ่ งความเจรญิ และความเสอ่ื มดว ยประการนนั้ ๆ เหยียบแมลงตายเสยี บา ง ยังภิกษทุ งั้ หลายใหเคลือ่ นจากสมาธิบาง จรงิ หรือ ? ภกิ ษทุ ้ังหลายทลู รับวา จริง พระพุทธเจา ขา. พระผูมพี ระภาคพทุ ธเจาทรงตเิ ตยี นวา . . . ครั้นแลวทรงทําธรรมกี ถารับสั่งกะภกิ ษทุ ัง้ หลายวา ดูกอ นภิกษุทง้ั หลาย เขยี งเทาทท่ี าํ ดว ยไม อันภกิ ษุไมพึงสวม รปู ใดสวม ตอ งอาบตั ิทกุ กฏ. พระพุทธบัญญัติหา มสวมเขียงเทา ใบตาล [๑๑] ครัง้ นั้น พระผมู ีพระภาคเจา ประทับอยู ณ พระนครราชคฤหตามพระพทุ ธาภริ มย แลวเสดจ็ พระพุทธดําเนนิ ไปสจู ารกิ ทางพระนครพาราณสีเสดจ็ พระพทุ ธดาํ เนินสจู าริกโดยลําดบั ถึงพระนครพาราณสี ทราบวา พระ-องคป ระทบั อยูใ นปา อสิ ปิ ตนะมฤคทายวนั เขตพระนครพาราณสนี ั้น. กโ็ ดยสมัยน้ันแล พระฉพั พคั คยี ค ิดวา พระผูมพี ระภาคเจาทรงหา มเขียงเทา ไม จึงใหตดั ตน ตาลเลก็ ๆ แลว เอาใบตาลมาทาํ เขียงเทา สวม ตนตาลเล็ก ๆ นน้ั ถกู ตดั แลว ยอ มเหย่ี วแหง ชาวบา นจงึ เพงโทษ ติเตยี น โพนทะนาวาไฉน พระสมณะเชือ้ สายศากยบุตร จึงไดใ หตัดตน ตาลเลก็ ๆ แลวเอาใบตาลมาทาํ เขยี งเทาสวมเลา ตน ตาลเล็ก ๆ ถูกตัดแลว ยอมเหีย่ วแหง พระสมณะเชื้อสายศากยบตุ รเบียดเบียนอินทรียอยางหน่ึงซ่ึงมชี ีวะ ภิกษทุ ง้ั หลายไดย นิชาวบานเหลานนั้ เพงโทษ ติเตยี น โพนทะนาอยู จงึ กราบทลู เร่อื งน้นั แดพระผมู พี ระภาคเจา .
พระวินยั ปฎก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ท่ี 21 พระผมู พี ระภาคเจา ทรงสอบถามภกิ ษุท้งั หลายวา ดกู อ นภิกษุทั้งหลายขาววาภิกษุฉพั พคั คยี สงั่ ใหต ัดตนตาลเลก็ ๆ แลวเอาใบตาลมาทําเขียงเทา สวมตนตาลเล็ก ๆ นั้นถกู ตัดแลว ยอมเหีย่ วแหง จรงิ หรือ ? ภิกษทุ ้งั หลายทูลรับวา จริง พระพทุ ธเจา ขา. พระผมู ีพระภาคพุทธเจาจึงทรงติเตยี นวา ดกู อ นภกิ ษุทงั้ หลายไฉนโมฆบุรษุ เหลา นน้ั จงึ ไดใ หต ดั ตนตาลเล็ก ๆ แลวเอาใบตาลทาํ เขยี งเทาสวมเลาตนตาลเลก็ ๆ นนั้ ถกู ตัดแลว ยอ มเห่ียวแหง ดกู อนภกิ ษุทง้ั หลาย เพราะชาวบานมคี วามสําคญั ในตน ไมวามชี วี ะ การกระทําของเหลาโมฆบุรุษนน้ั ไมเปน ไปเพือ่ ความเลือ่ มใสของชมุ ชนทีย่ งั ไมเ ลื่อมใส. . .ครัน้ แลวทรงทาํ ธรรมกี ถารับสัง่ กะภิกษุทงั้ หลายวา ดูกอ นภิกษุท้ังหลาย เขยี งเทา สานดวยใบตาล อนัภกิ ษไุ มพ งึ สวม รูปใดสวม ตองอาบตั ทิ ุกกฏ. พระพทุ ธบัญญัตหิ า มสวมเขยี งเทา ไมไ ผ สมัยตอมา พระฉัพพัคคียค ดิ วา พระผูมีพระภาคเจา ทรงหา มเขียงเทา สานดว ยใบตาล จึงไดใหตัดตนไมไ ผเลก็ ๆ แลว เอาใบไผม าทําเขียงเทาสวม ไมไ ผเลก็ ๆ น้นั ถกู ตดั แลว ยอมเห่ยี วแหง ชาวบานจึงเพงโทษตเิ ตยี น โพนทะนาวา ไฉนพระสมณะเชือ้ สายพระศากยบุตรจงึ ไดใ หจ ัดไมไผเล็ก ๆ แลวเอาใบไผม าทาํ เขียงเทาสวมเลา ไมไ ผเลก็ ๆ นั้นถกู ตัดแลวยอ มเหยี่ วแหง พระสมถะเชอ้ื สายศากยบตุ รยอ มเบยี ดเบยี นอนิ ทรียอ ยา งหนึง่ ซงึ่ มีชีวะ ภิกษุทง้ั หลายไดยนิ ชาวบา นเหลา นั้น เพงโทษ ตเิ ตียน โพนทะนาอยู จงึ กราบทลู เรอ่ื งนั้น แดพระผมู พี ระภาคเจา.
พระวนิ ัยปฎก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนาท่ี 22 พระผมู ีพระภาคเจา ทรงสอบถามภกิ ษทุ ง้ั หลายวา. . .คร้นั แลว รับ ส่งั กะภิกษุทง้ั หลายวา ดูกอ นภกิ ษทุ ัง้ หลายเขียงเทาสานดวยใบไผ อันภิกษุไมพึงสวม รูปใดสวน ตองอาบัติทกุ กฏ. พระพุทธบัญญัตหิ า มสวมเขียงเทาตางชนดิ [๑๒] ครง้ั น้นั พระผูมพี ระภาคเจา ประทับอยูใ นพระนครพาราณสีตามพระพุทธาภิรมย แลว เสด็จพระพุทธดาํ เนนิ จาริกทางนครภทั ทิยะ เสดจ็พระพทุ ธดาํ เนนิ จารกิ โดยลาํ ดบั ถงึ พระนครภทั ทิยะ ทราบวา พระองคประทับอยูในปาชาตยิ าวนั เขตพระนครภัททิยะน้ัน. ก็โดยสมัยนน้ั แล พวกภิกษชุ าวพระนครภัททิยะ ต้งั หนาพากเพียรตกแตงเขียงเทาหลากหลายอยู คือ ทาํ เองบาง ส่ังใหท าํ บาง ซ่ึงเขยี งเทา สานดวยหญา ทาํ เองบาง สัง่ ใหท ําบา ง ซ่งึ เขียงเทา สานดว ยหญา มงุ กระตา ย ทําเองบา ง สง่ั ใหทําบาง ซึ่งเขียงเทา สานดวยหญา ปลอง ทําเองบา ง สัง่ ใหท ําบา งซ่ึงเขียงเทา สานดวยใบเปง ทําเองบา ง สง่ั ใหทาํ บาง ซงึ่ เขยี งเทา สานดว ยแฝกทําเองบา ง สงั่ ใหท ําบาง ซ่งึ เขียงเทา ถักดวยขนสตั ว พวกเธอละเลยอเุ ทศปรปิ ุจฉา อธิศลี อธิจติ อธปิ ญ ญาเสยี บรรดาภิกษทุ ่ีเปนผูมักนอ ย. . .ตา งก็เพง โทษ ติเตียน โพนทะนาวา ไฉนเลา พวกภกิ ษุชาวพระนครภทั ทยิ ะ จึงไดท ัง้ หนาพากเพยี รตกแตงเขียงเทา หลากหลายอยู คือ ไดทาํ เองบา ง ไดส ่งั ใหทาํ บาง ซงึ่ เขยี งเทาสานดว ยหญา ไดทําเองบา ง ไดสง่ั ใหท ําบา ง ซึง่ เขียงเทาสานดว ยหญา มงุ กระตาย ไดท ําเองบาง ไดส ัง่ ใหท ําบา ง ซึง่ เขยี งเทาสานดวยหญาปลอง ไดท ําเองบา ง ไดส งใหท ําบาง ซึง่ เขียงเทา สานดวยใบเปงไดเ องบา ง ไดสั่งใหท ําบาง ซงึ่ เขยี งเทาสานดวยแฝก ไดท ําเองบาง ไดสั่ง
พระวินยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ท่ี 23ใหทําบาง ซึง่ เขยี งเทาถกั ดวยขนสัตว ภกิ ษเุ หลานั้นไดล ะเลยอเุ ทศ ปริปจุ ฉาอธิศีล อธิจติ อธิปญ ญาเสีย แลวกราบทูลเร่ืองนั้นแดพระผูมพี ระภาคเจา . พระผูมีพระภาคเจา ทรงสอบถามภิกษุทงั้ หลายวา ดูกอนภกิ ษทุ ัง้ หลายขาววา พวกภิกษชุ าวพระนครภทั ทยิ ะต้งั หนา พากเพียรตกแตง เขยี งเทาหลากหลายอยู คอื ทาํ เองบา ง สงั่ ใหท ําบา ง ซึ่งเขยี งเทาสานดว ยหญา ทาํ เองบา ง สง่ัใหทําบาง ซงึ่ เขยี งเทาสานดวยหญา มงุ กระตา ย ทาํ เองบาง สัง่ ใหทาํ บา ง ซึ่งเขยี งเทา สานดวยหญาปลอ ง ทําเองบา ง ส่ังใหท ําบา ง ซ่ึงเขยี งเทาสานดวยใบเปง ทาํ เองบาง สง่ั ใหท ําบา ง ซง่ึ เขียงเทาสานดว ยแฝก ทาํ เองบา ง ส่งัใหท าํ บา ง ซึ่งเขยี งเทาถกั ดว ยขนสัตว ยอ มละเลยอเุ ทศ ปริปจุ ฉา อธิศีลอธิจิต อธปิ ญ ญา จริงหรอื ? ภกิ ษทุ ัง้ หลายทูลรบั วา จริง พระพุทธเจาขา. พระผมู ีพระภาคพทุ ธเจา ทรงตเิ ตยี นวา ดกู อ นภิกษทุ ง้ั หลาย ไฉนเลา โมฆบรุ ุษเหลา นั้น จงึ ไดต งั้ หนา พากเพยี รตกแตงเขียงเทา หลากหลายอยู คอืไดทําเองบาง ไดส ัง่ ใหทําบาง ซงึ่ เขยี งเทาสานดวยหญา ไดท ําเองบา ง ไดสง่ั ใหทาํ บา ง ซ่ึงเขียงเทาสานดวยหญามงุ กระตาย ไดทาํ เองบา ง ไดสั่งใหทาํบาง ซง่ึ เขียงเทา สานดวยหญาปลอ ง ไดทาํ เองบาง ไดสั่งใหท าํ บา ง ซ่ึงเขยี งเทาสานดวยใบเปง ไดท าํ เองบาง ไดส่ังใหท าํ บาง ซ่ึงเขยี งเทา สานดวยแฝกไดท าํ เองบา ง ไดส่ังใหทาํ บาง ซึง่ เขยี งเทาถักดวยขนสัตว โมฆบุรุษเหลา นน้ัไดละเลยอุเทศ ปริปจุ ฉา อธศิ ลี อธจิ ิต อธิปญญาเสยี ดูกอนภกิ ษทุ ั้งหลายการกระทําของเหลาโมฆบุรษุ น้ันไมเ ปน ไปเพอ่ื ความเลอื่ มใสของชุมชนที่ยังไมเล่อื มใส . . . ครัน้ แลว ทรงทําธรรมกี ถารับส่งั กะภิกษุทง้ั หลายวา ดูกอ นภิกษุท้ังหลาย ภิกษุไมพ งึ สวมเขียงเทา สานดว ยหญา เขยี งเทาสานดวยหญามงุ กระ-
พระวินยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ที่ 24ตา ย เขยี งเทา สานดวยหญา ปลอ ง เขยี งเทา สานดว ยใบเปง เขียงเทา สานดวยแฝก เขยี งเทาถักดวยขนสัตว เขยี งเทาประดับดวยทองคํา เขียงเทาประดับดว ยเงิน เขียงเทา ประดับดวยแกวมณี เขยี งเทาประดับดว ยแกวไพฑูรย เขยี งเทาประดับดวยแกว ผลึก เขียงเทาประกอบดวยทองสมั ฤทธ์ิ เขยี งเทาประดบัดว ยกระจก เขียงเทาทาํ ดว ยดบี ุก เขียงเทาทาํ ดว ยสงั กะสี เขยี งเทาทาํ ดวยทองแดง รปู ใดสวม ตอ งอาบัตทิ กุ กฎ. ดูกอ นภิกษทุ งั้ หลาย อนง่ึ เขยี งเทา บางชนิดท่ีสําหรบั สวมเดนิ อันภิกษไุ มพ งึ สวม รปู ใดสวม ตอ งอาบตั ิทุกกฏ. ดูกอนภิกษทุ ้งั หลาย เราอนุญาตเขียงเทาที่ตรึงอยูก ับท่ี ไมใ ชสาํ หรบัใชสวมเดนิ ๓ ชนิด คือ เขียงเทา ทส่ี าํ หรับเหยยี บถา ยอุจจาระ ๑ เขียงเทา ท่ีสาํ หรบั เหยียบถายปส สาวะ ๑ เขียงเทา ท่ีสาํ หรับเหยยี บในที่ชําระ ๑. พระพุทธบัญญตั ิหา มจับโค [๑๓] คร้งั นนั้ พระผูมพี ระภาคเจาประทบั อยู ในพระนครภัททยิ ะตามพระพุทธาภริ มย แลวเสด็จพระพทุ ธดาํ เนนิ จาริกทางพระนครสาวัตถี เสดจ็พระพุทธดําเนินจาริกโดยลาํ ดบั ถึงพระนครสาวตั ถแี ลว ทราบวาพระองคประ-ทบั อยูใ นพระเชตวนั อารามของอนาถบณิ ฑกิ คหบดี เขตพระนครสาวตั ถีน้ัน. กโ็ ดยสมยั นัน้ แล พระฉพั พคั คยี จ ับโคกําลงั ขามแมน ํ้าอจิรวดี ทเี่ ขาบา ง ทีห่ ูบาง ท่ีคอบา ง ที่หางบาง ขน้ึ ข่หี ลังบาง มีจติ กาํ หนัด ถกู ตององคกําเนดิ บาง กดลูกโคใหจมนาํ้ ตายบาง ประชาชนทั้งหลาย พากันเพง โทษติเตยี น โพนทะนาวา ไฉนพระสมณะเชอื้ สายพระศากยบุตรจึงไดจ บั โคกาํ ลังขามนา้ํ ท่เี ขาบา ง ทห่ี บู า ง ที่คอบา ง ที่หางบา ง ขนึ้ ข่หี ลังบา ง มีจติ กาํ หนัด
พระวนิ ยั ปฎก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ท่ี 25ถูกตอ งองคก าํ เนดิ บาง กดลกู โคใหจ มนํา้ ตายบา ง เหมอื นพวกคฤหัสถผ บู ริโภคกาม ฉะนน้ั ภิกษทุ ัง้ หลายไดย นิ ชาวบา นเหลา น้นั เพง โทษ ติเตียน โพน-ทะนาอยู จงึ กราบทลู เร่ืองนั้นแดพระผมู ีพระภาคเจา. พระผมู ีพระภาคเจา ทรงบัญญัตหิ า มภกิ ษุทั้งหลายวา ดูกอนภิกษุท้ังหลาย ภกิ ษไุ มพ งึ จับเขาโค หโู ค คอโค หางโค ไมพ งึ ข่หี ลังโค รปู ใดจับแลข้นึ ขี่ ตอ งอาบัติทุกกฏ. ดูกอนภิกษทุ งั้ หลาย อน่ึง องคก ําเนิดโค อนั ภิกษุมจี ิตกาํ หนดั ไมพงึ ถกู ตอ ง รูปใดถกู ตอ ง ตองอาบัตถิ ุลลจั จัย ภกิ ษไุ มพงึ ฆาลกู โค รปู ใดฆาพึงปรบั อาบัตติ ามธรรม. เรื่องยาน [๑๔] ก็โดยสมัยน้นั แล พระฉพั พคั คียข์ี ยี่ านซ่ึงเทยี มดวยโคตวั เมียมบี ุรษุ เปน สารถบี า ง เทยี มดว ยโคตัวผู มสี ตรเี ปน สารถบี า ง ประชาชนจึงเพงโทษ ติเตยี น โพนทะนาวา เหมอื นชายหนมุ หญงิ สาวไปเลนน้าํ ในแมน าคงคาและแมน าํ้ มหี ฉะนนั้ ภิกษทุ ง้ั หลาย กราบทูลเร่ืองนน้ั แดพระผมู ีพระภาคเจา ๆ ทรงบญั ญตั ิหามภกิ ษทุ ้ังหลายวา ดูกอ นภิกษทุ ้งั หลาย ภกิ ษุไมพึง-ไปดวยยาน รปู ใดไปตองอาบัตทิ ุกกฏ. สมยั ตอมา ภิกษุรูปหนงึ่ ไปพระนครสาวัตถีในโกศลชนบทเพื่อเฝาพระผูม พี ระภาคเจา แตอาพาธเสียกลางทาง และไดห ลีกจากทางนั่งอยู ณโคนไมแหง หนึง่ ประชาชนพบภกิ ษนุ ัน้ จึงเรียนถามวา พระคุณเจาจะไปไหนขอรับ ? ภิกษนุ ั้นตอบวา อาตมาจะไปพระนครสาวัตถุ เพื่อเฝา พระผมู พี ระภาคเจา.
พระวนิ ัยปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ท่ี 26 ป. นิมนตมา ไปดว ยกนั เถิด ขอรับ. ภ.ิ อาตมาไมอาจ เพราะกาํ ลังอาพาธ. ป. นมิ นตม าขึน้ ยานเถิด ขอรับ. ภิ. ไมได เพราะพระผูม พี ระภาคเจา ทรงหามยาน. ภกิ ษนุ นั้ รงั เกยี จอยู ดงั นั้นจงึ ไมย อมข้นึ ยาน คร้นั ไปถึงพระนครสาวตั ถีแลวจึงแจงเรอื่ งนั้น แกภกิ ษทุ ้งั หลาย ๆ กราบทลู เรอ่ื งนน้ั แดพระผูมพี ระภาคเจา. ลําดบั นน้ั พระผูม พี ระภาคเจา ทรงทําธรรมกี ถา ในเพราะเหตุเปนเคา มูลนน้ั ในเพราะเหตุแรกเกดิ น้ัน แลวรับส่งั กะภกิ ษทุ ้ังหลายวา ดกู อนภกิ ษทุ ง้ั หลายเราอนุญาตยานแกภ ิกษผุ ูอ าพาธ. คร้งั นั้น ภกิ ษุทั้งหลายไดค ดิ กันวา ยานที่ทรงอนุญาตน้นั เทียมดวยโคตวั เมีย หรอื เทียมดว ยโคตวั ผู แลว กราบทูลเร่ืองนัน้ แดพ ระผมู ีพระภาคเจา ๆทรงอนญุ าตแกภกิ ษุทัง้ หลายวา ดูกอนภกิ ษุทัง้ หลาย เราอนญุ าตยานท่เี ทียมดว ยโคตวั ผแู ละยานทีใ่ ชมือลาก. สมัยตอมา ภกิ ษรุ ปู หน่งึ ไมผ าสุกอยางแรง เพราะความกระเทอื นแหงยาน ภิกษุท้งั หลายกราบทลู เรอื่ งนั้นแดพระผมู ีพระภาคเจา ๆ ทรงอนุญาตเกภกิ ษทุ งั้ หลายวา ดกู อ นภิกษุท้งั หลาย เราอนุญาตยานหามมตี ัง่ นง่ั และเปลผาทเ่ี ขาผูกติดกับไมคาน. พระพุทธบัญญัติหา มใชท น่ี ่ังและที่นอนสูงใหญ [๑๕] กโ็ ดยสมัยน้นั แล พระฉพั พคั คยี ใชท่นี งั่ และท่ีนอนอนั สงู ใหญคอื เตยี งมีเทาเกินประมาณ เตียงมีเทาทาํ เปนรูปสตั วราย ผา โกเชาวข นยาวเคร่อื งลาดทที่ ําดวยขนแกะวจิ ติ รดวยลวดลาย เครอื่ งลาดท่มี สี ัณฐานเปน ชอ
พระวนิ ัยปฎก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ที่ 27ดอกไม เครอื่ งลาดทยี่ ดั นุน เครอื่ งลาดขนแกะวิจิตรดวยรูปสัตวรายมีสหี ะและเสอื เปนตน เครอ่ื งลาดขนแกะมีขนต้ัง เครือ่ งลาดขนแกะมีขนขางเดยี วเคร่ืองลาดทองและเงินแกมไหม เครือ่ งลาดไหมขลิบทองและเงิน เคร่ืองลาดขนแกะจนุ างฟอน ๑๖ คน เครื่องลาดหลงั ชา ง เคร่ืองลาดหลงั มา เครอ่ื งลาดในรถ เครื่องลาดทท่ี ําดวยหนังสตั วชือ่ อชินะมขี นออ นนุม เคร่อื งลาดอยา งดีทาํ ดว ยหนังชะมด เครื่องลาดมีเพดาน เครอื่ งลาดมีหมอนขา ง ชาวบานเที่ยวชมวหิ ารไปพบเขา จงึ เพง โทษ ติเตยี น โพนทะนาวา เหมือนเหลา คฤหัสถผูบรโิ ภคกาม ภกิ ษุทง้ั หลายจึงกราบทูลเรอื่ งน้ันแดพ ระผมู พี ระภาคเจา. พระผูมีพระภาคเจาตรสั หามภิกษทุ ง้ั หลายวา ดกู อนภิกษุทง้ั หลายภกิ ษไุ มพ ึงใชทนี่ ั่งและทน่ี อนอันสงู ใหญ คอื เขียงมีเทา สงเกินประมาณ เตียงมีเทาทาํ เปน รูปสัตวราย ผา โกเชาวขนยาว เครื่องลาดทท่ี ําดว ยขนแกะวิจติ รลวดลายเครอ่ื งลาดท่ีทาํ ดว ยขนแกะสขี าว เคร่ืองลาดที่มสี ัณฐานเปนชอ ดอกไมเคร่ืองลาดท่ยี ดั นุน เคร่อื งลาดขนแกะวจิ ติ รดว ยรปู สตั วรายมีสหี ะและเสือเปนตน เคร่ืองลาดขนแกะมขี นตั้ง เครอื่ งลาดขนแกะมีขนขา งเดียว เครือ่ งลาดทองและเงนิ แกมไหม เคร่อื งลาดไหมขลบิ ทองและเงิน เครอ่ื งลาดขนแกะจนุ าง-ฟอน ๑๖ คน เครอ่ื งลาดหลังชา ง เคร่อื งลาดหลงั มา เครอื่ งลาดในรถ เครือ่ ง-ลาดท่ที ําดว ยหนังสตั วชอื่ อชินะมขี นออ นนมุ เครือ่ งลาดอยา งดีทาํ ดวยหนงั ชะมดเคร่ืองลาดมเี พดาน เคร่ืองลาดมหี มอนขา ง รูปใดใช ตองอาบัตทิ ุกกฏ. พระพทุ ธบัญญัติหา มใชห นงั ผืนใหญ [๑๖] กโ็ ดยสมยั นั้นแล พระฉัพพัคคียรวู าพระผูมีพระภาคเจา ทรงหา มทนี่ ่งั และที่นอนอันสงู ใหญ จงึ ใชหนงั ผนื ใหญ คือ หนังสหี ะ หนงั เสือโครงหนังเสอื เหลอื ง หนังเหลานนั้ ตดั ตามขนาดเตยี งบา ง ตัดตามขนาดต่ังบา ง
พระวินยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ท่ี 28ปูลาดไวภายในเตียงบา ง ปลู าดไวภายนอกเตียงบา ง ปลู าดไวภ ายในตง่ั บางปลู าดไวภ ายนอกต่งั บา ง ชาวบานเทยี่ วชมวิหารไปพบเขา จึงเพงโทษ ติเตียนโพนทะนาวา เหมอื นคฤหสั ถผบู รโิ ภคกาม ภกิ ษทุ ง้ั หลายกราบทูลเร่ืองนั้นแดพระผมู พี ระภาคเจา . พระผมู พี ระภาคเจา ตรสั หามภกิ ษุทงั้ หลายวา ดกู อนภกิ ษทุ ั้งหลาย ภิกษุไมพึงใชห นงั ผืนใหญ คือ หนังสหี ะ หนงั เสือโครง หนังเสอื เหลือง รปู ใดใชต องอาบัติทกุ กฏ. เรอ่ื งภกิ ษใุ จรา ย [๑๗] กโ็ ดยสมัยนน้ั แล พระฉพั พคั คียร วู า พระผมู ีพระภาคเจาทรงหามหนังผืนใหญ จึงใชห นังโค หนังเหลา นน้ั ตดั ตามขนาดเตยี งบา ง ตัดตามขนาดต่งั บา ง ปูลาดไวภ ายในเตยี งบา ง ปลู าดไวภ ายนอกเตียงบา ง ปลู าดไวภ ายในตงั่ บาง ปูลาดไวภายนอกตัง่ บาง. มภี ิกษใุ จรา ยรูปหน่งึ เปน กุลปุ กะของอบุ าสกใจรายคนหนงึ่ ครั้นเวลาเชา ภกิ ษุใจรา ยรูปนั้นนุงอันตรวาสก ถอื บาตรจีวรแลวเดินเขาไปในบา นของอุบาสกใจรา ยคนนนั้ แลวนง่ั บนอาสนะท่ีเขาจดั ไว อบุ าสกใจรา ยคนนนั้จงึ เขาไปหาภกิ ษุใจรายรปู นน้ั นมัสการแลว นงั่ ณ ที่ควรสว นขางหนึง่ ก็สมัยนั้นลูกโคของอุบาสกใจรา ยคนน้นั เปนสัตวกาํ ลงั รนุ รปู รา งเขาที นา ดนู า ชมงามคลายลูกเสอื เหลอื ง ภกิ ษุใจรายรปู น้นั จึงจองมองดมู นั ดวยความสนใจ ทีน้นัอบุ าสกใจรา ยไดกลาวคาํ นีก้ ะภิกษใุ จรายวา พระคณุ เจา จอ งมองดมู นั ดว ยความสนใจเพ่ือประสงคอะไรขอรับ ภกิ ษุใจรา ยรูปนน้ั ตอบวา อาวโุ ส อาตมาตองประสงคห นงั ของมัน ทนี นั้ อุบาสกใจรา ยจึงฆามนั แลว ไดถลกหนังถวาย
พระวินัยปฎก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ท่ี 29แกภ กิ ษใุ จรา ยรูปน้ัน ๆ ไดเ อาผา สังฆาฏหิ อ หนงั เดินไป ครัง้ นนั้ แมโ ค มีความรักลกู จึงเดนิ ตามภิกษใุ จรา ยรปู นนั้ ไปขา งหลัง ๆ ภกิ ษุท้ังหลายถามภกิ ษุใจรา ยรูปนนั้ วา อาวโุ ส ทําไมแมโคตัวนจ้ี งึ เดินตามทานมาขางหลงั ๆ ขอรับภกิ ษุใจรา ยรูปน้นั ตอบวา อาวุโสทั้งหลาย แมผ มเองก็ไมท ราบวา มนั เดนิตานผมมาขา งหลงั ๆ ดวยเหตุอะไร ขณะน้นั ผาสงั ฆาฏขิ องภกิ ษใุ จรายรูปน้ันเปอนเลอื ด ภกิ ษุทง้ั หลาย จึงถามภิกษใุ จรายรูปนัน้ วา อาวโุ ส ก็ผาสงั ฆาฏิผืนนี้ ทา นหออะไรไว ขอรับ ภกิ ษุใจรายรปู นนั้ ไดแจงความนั้นแกภิกษุทง้ั หลายภกิ ษุทง้ั หลายถามวา อาวโุ สกท็ า นชกั ชวนใหเ ขาฆาสตั วห รอื ขอรับ ภิกษุใจรา ยตอบวา อยางนนั้ ขอรบั บรรดาภิกษุทีเ่ ปนผูมกั นอยตางกเ็ พง โทษ ตเิ ตียนโพนทะนาวา ไฉนภิกษจุ ึงชกั ชวนใหเขาฆา สตั วเ ลา พระผมู ีพระภาคเจาทรงตเิ ตยี นการฆา สัตว ทรงสรรเสรญิ การงดจากการฆาสัตว โดยอเนกปรยิ ายมิใชหรอื แลวกราบทลู เรอื่ งนนั้ แดพระผมู พี ระภาคเจา . พระพุทธบญั ญัตหิ ามใชห นังโค [๑๘] ลําดบั น้นั พระผูมพี ระภาคเจารับสง่ั ใหประชุมภกิ ษุสงฆ ในเพราะเหตุเปน เคามลู นั้น ในเพราะเหตุแรกเกดิ นั้น แลวทรงสอบถามภิกษใุ จรา ยนั้นวา ดกู อนภกิ ษุ ขาววา เธอชักชวนใหเ ขาฆา สัตว จรงิ หรือ ? ภกิ ษุใจรายนัน้ กราบทูลวา จรงิ พระพุทธเจา ขา . พระผูม ีพระภาคพุทธเจา ทรงติเตยี นวา ดกู อ นโมฆบรุ ษุ ไฉนเธอจึงไดชกั ชวนใหเ ขาฆาสัตวเ ลา ดกู อนโมฆบรุ ุษ เราติเตียนการฆาสตั ว สรรเสรญิการงดเวน จากการฆา สตั วไ ว โดยอเนกปริยายมใิ ชห รือ การกระทําของเธอน่นัไมเปน ไปเพื่อความเลือ่ มใสของชุมชนทย่ี งั ไมเ ลอ่ื มใส. . . ครั้นแลว ทรงทาํ
พระวนิ ยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนาที่ 30ธรรมกี ถา รับสัง่ กะภิกษทุ ัง้ หลายวา ดกู อ นภิกษทุ ัง้ หลาย ภิกษุไมพึงชกั ชวนในการฆา สัตว รปู ใด ชกั ชวน พึงปรับอาบตั ิตามธรรม ดูกอนภกิ ษทุ ง้ั หลาย อนง่ึ หนังโคอนั ภิกษไุ มพ ึงใช รปู ใดใช ตอ งอาบตั ทิ ุกกฏ หนึง่ อะไร ๆ ภกิ ษไุ มพงึ ใช รูปใดใช ตอ งอาบตั ิทกุ กฏ. สมยั ตอมา เตียงกด็ ี ตัง่ กด็ ี ของชาวบาน เขาหมุ ดวยหนัง ถักดว ยหนงั ภิกษทุ ั้งหลายรังเกยี จไมนง่ั ทับ แลวกราบทูลเร่อื งน้ันแดพระผูม พี ระภาค-เจา ๆ ตรัสอนุญาตแกภิกษุทงั้ หลายวา ดูกอนภิกษทุ ้ังหลาย เราอนญุ าตใหนง่ั ทับเตยี งตัง่ ทเ่ี ปนอยางของคฤหัสถ แคไมอนญุ าตให นอนทับ. สมยั ตอมา วหิ ารท้ังหลายเขาผูกรดั ดว ยเชือกหนัง ภิกษุทง้ั หลายรังเกยี จไมนง่ั พิง แลว กราบทูลเรื่องน้ันแดพระผมู พี ระภาคเจา ๆ ตรัสอนญุ าตแกภิกษุท้งั หลายวา ดกู อนภกิ ษุทงั้ หลายเราอนุญาตใหน งั่ พิงเฉพาะเชือก. พระพุทธบญั ญตั ิหามสวมรองเทาเขาบาน [๑๙] กโ็ ดยสมัยน้นั แล พระฉพั พคั คียสวมรองเทา เขาบา น คนท้งั หลายเพง โทษ ตเิ ตียน โพนทะนาวา เหมือนเหลา คฤหัสถผูบ รโิ ภคกามภกิ ษทุ งั้ หลายกราบทูลเร่อื งน้นั แดพระผูม พี ระภาคเจา ๆ ทรงบญั ญตั ิหามภกิ ษุทัง้ หลายวา ดูกอนภิกษุท้ังหลาย ภกิ ษไุ มพ ่งึ สวมรองเทา เขา บา น รูปใดสวมเขา ไป ตองอาบตั ทิ กุ กฏ. พระพุทธานุญาตใหภิกษอุ าพาธสวมรองเทาเขา บาน สมยั ตอ มา ภกิ ษุรูปหน่งึ อาพาธเวน รองเทา เสยี ไมอาจเขา บา นได ภกิ ษุทัง้ หลายกราบทูลเร่อื งนน้ั แดพระผูม พี ระภาคเจา ๆ ตรสั อนุญาตแกภ ิกษุท้ังหลายวา ดูกอนภกิ ษทุ ้ังหลาย เราอนญุ าตใหภ กิ ษอุ าพาธสวมรองเทาเขา บานได.
พระวินัยปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ท่ี 31 เรื่องพระโสณกุฏกิ ัณณะ [ ๒๐] ก็โดยสมัยน้นั แล ทานพระมหากัจจานะอยู ณ ปปาตะบรรพตเขตกรุ รฆระนครในอวันตชี นบท ก็คราวนน้ั อุบาสกชอ่ื โสณกฏุ กิ ณั ณะ เปนอปุ ฏ ฐากของทานพระมหากัจจานะ ไดเ ขาไปหาทานพระมหากัจจานะ นมัสการแลวนัง่ ณ ทีค่ วรสวนขา งหนึง่ อุบาสกโสณกฏุ กิ ัณณะน่งั อยู ณ ทนี่ ่นั แล ไดกราบเรยี นคําน้กี ะทา นพระมหากัจจานะวา ทา นขอรับ ดวยวธิ ีอยา งไร ๆกระผมจงึ จะรูทั่วถงึ ธรรมทีพ่ ระคุณเจา แสดงแลว อันบคุ คลทีย่ ังครองเรอื นอยูจะประพฤตพิ รหมจรรยนี้ใหบรบิ รู ณโดยสว นเดียว ใหบ รสิ ทุ ธิ์ โดยสวนเดียวดจุ สังขท ่ีขัดแลว ทําไมไ ดงาย กระผมปรารถนาจะปลงผมและหนวด ครองผากาสายะออกจากเรอื นบวชเปน บรรพชิต ขอพระคุณเจา กรณุ าโปรดใหกระผมบวชเถิด ขอรับ เม่ืออบุ าสกโสณกุฏิกัณณะกราบเรยี นเชนนีแ้ ลว ทานมหากจั จานะไดกลาวคาํ นีก้ ะอุบาสกโสณกุฏิกัณณะวา โสณะ การประพฤติพรหมจรรยซึง่ ตอ งนอนผูเดียว บรโิ ภคอาหารหนเดยี วจนตลอดชีพ ทําไดย ากนักแล เอาเถอะ โสณะ จงเปนคฤหัสถอ ยใู นจงั หวัดน้ีแหละ แลวประกอบตามพระพุทธศาสนา ประกอบตามพรหมจรรย ซง่ึ ตอ งนอนผเู ดียว บริโภคอาหารหนเดียว ควรแกก าลเถดิ . คราวนน้ั ความต้งั ใจบรรพชาซึ่งไดเ กดิ แกอุบาสกโสณกฏุ ิกณั ณะน้นัสงบลงแลว . แมคร้งั ทสี่ องแล อบุ าสกโสณกฏุ ิกัณณะ . . . แมครง้ั ที่สามแล อุบาสกโสณกฏุ กิ ัณณะไดเ ขาไปหาทา นพระมหา-กัจจานะนมัสการแลวนั่ง ณ ท่คี วรสว นขางหนึ่ง อุบาสกโสณกุฏิกณั ณะนง่ั อยู ณทีน่ ้ันแล ไดก ราบเรียนคาํ นี้กะทานพระมหากจั จานะวา ทา นขอรับ ดว ยวิธี
พระวนิ ัยปฎก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ท่ี 32อยางไร ๆ กระผมจงึ จะรูต วั ถงึ ธรรมทพี่ ระคณุ เจา แสดงแลว อันบุคคลทยี่ ังครองเรือนอยูจะประพฤติพรหมจรรยใหบรบิ ูรณโดยสว นเดียว ใหบริสทุ ธ์ิโดยสวนเดียวดจุ สังขท่ขี ัดแลว ทาํ ไมไดงา ย กระผมปรารถนาจะปลงผมและหนวดครองผากาสายะออกจากเรอื นบวชเปนบรรพชติ ขอพระคุณเจา กรณุ าโปรดใหกระผมบวชเถดิ ขอรบั . ครั้งน้นั ทานพระมหากจั จานะใหอบุ าสกโสณกุฏิกถั ณะบรรพชาแลว . ก็สมยั นั้น อวันตชี นบทอนั ทัง้ อยแู ถบใต มภี กิ ษนุ อ ยรปู ทานพระมหากจั จานะจัดหาพระภกิ ษสุ งฆแ ตท น่ี ้นั ๆ ใหครบองคประชุมทสวรรคไดยากลําบากทอลว งไปถงึ ๓ ป จึงอุปสมบทใหทานพระโสณะได. พระโสณเถระราํ พึงแลวอําลาเขา เฝา ครง้ั นัน้ ทานพระโสณะจาํ พรรษาแลว ไปในที่สงดั หลีกเรนอยู ไดมคี วามปรวิ ิตกแหงจติ เกิดขึน้ อยางนว้ี า พระผูมีพระภาคเจาพระองคน้ัน เราไดยินมาอยางชดั เจนวา เปนผเู ชน น้ีและเชนนี้ แตเ รามิไดเฝา ตอพระพักตร เราควรไปเฝา พระผูมพี ระภาคเจา อรหันตสมั มาสัมพุทธเจาพระองคน ั้น. หากพระอปุ ช ฌายะจะพงึ อนญุ าตแกเรา ครน้ั เวลาสายัณห ทา นออกจากท่ีหลีกเรน แลวจึงเขา ไปหาทานพระมหากจั จานะ ไหวแ ลว นงั่ ณ ที่ควรสว นขา งหนึง่ แลวกราบเรยี นวา ทานขอรบั กระผมไปในทส่ี งัดหลีกเรน อยู ณ ตําบลนไ้ี ดม คี วามปริวติ กแหง จติ เกิดข้ึนอยางน้ีวา พระผูม ีพระภาคเจา พระองคนัน้ เราไดย นิ มาอยางชัดเจนวา เปน ผูเชนน้ีและเชน น้ี แตเรามิไดเ ฝา ตอ พระพกั ตร เราควรไปเฝา พระผูม พี ระภาคเจา อรหนั ตสัมมาสัมพทุ ธเจาพระองคน ั้น หากพระ-อปุ ชฌายะจะพึงอนุญาตแกเ รา ทานขอรบั กระผมจะไปเฝาพระผูม พี ระภาคเจาอรหันตสมั มาสมั พุทธเจาพระองคน ้นั หากทานพระอปุ ช ฌายะจะอนญุ าตแกกระผม.
พระวนิ ยั ปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ท่ี 33 อาณัตกิ พจนข องพระอุปชฌายะ ๕ ประการ ทา นพระมหากจั จานะ กลาววา ดีละ ดลี ะ โสณะ จงไปเฝา พระผมู ีพระภาคอรหนั ตสมั มาสมั พทุ ธเจา พระองคน ้ัน จักเหน็ พระองคผนู าเลอ่ื มใสผูเ ปน ทีต่ ง้ั แหงความเล่อื มใส มพี ระอนิ ทรยี สงบ มีพระทยั สงบ ทรงถึงความฝก กายและความสงบจิตอนั สงู สดุ ทรงทรมานแลว คมุ ครองแลว มอี ินทรยี อ นัสาํ รวมแลว ผูไมทาํ บาป โสณะ ถาเชน นัน้ จงถวายบังคมพระยุคลบาทของพระผูม พี ระภาคเจาดว ยเศียรเกลาตามที่เราสง่ั วา ทานพระมหากจั จานะอุปช ฌายะของขาพระพุทธเจา ถวายบงั คม พระยคุ ลบาทของพระผมู พี ระภาคเจา ดวยเศยี รเกลา พระพุทธเจา ขา ดงั นี้ และจงกราบทลู อยา งน้วี า :- ๑. พระพทุ ธเจาขา อวันตีทักขณิ าบถ มภี กิ ษนุ อยรูป ขา พระพทุ ธ-เจาไดจ ัดหาภกิ ษุสงฆแตท่ีนน้ั ๆ ใหค รบองคป ระชมุ ทสวรรคไดยากลาํ บากนบั แตวนั ขาพระพุทธเจา บรรพชาลว งไป ๓ ป จึงไดอ ุปสมบท ถากระไรเฉพาะในอวันตที ักขิณาบถ ขอพระผูมพี ระภาคเจา พงึ ทรงอนุญาตอุปสมบทดวยคณะสงฆน อยรูปกวานี้ได. ๒. พระพทุ ธเจา ขา พ้นื ดนิ ในอวันตีทักชิณาบถ มีดนิ สคี ํามากขรุขระ ดื่นดาษดว ยระแหงกบี โค ถากระไร เฉพาะในอวนั ตีทกั ขณิ าบถ ขอพระผูมีพระภาคเจาพึงทรงอนญุ าตตรองเทาหลายช้นั . ๓. พระพทุ ธเจา ขา คนท้งั หลายในอวนั ตีทกั ขณิ าบถนยิ มการอาบนาํ้ถอื วา นาทําใหบริสทุ ธิ์ ถา กระไร เฉพาะในอวันตีทักขิณาบถ ขอพระผูม ีพระภาคเจาพึงทรงอนุญาตการอาบน้ําไดเปนนิตย.
พระวินัยปฎ ก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ที่ 34 ๔. พระพทุ ธเจา ขา ในอวันตที กั ขณิ าบถ มีหนงั เครือ่ งลาด คือ หนังแกะ หนังแพะ หนังมฤค ในมัชฌิมชนบท มีหญาตนี กา หญา หางนกยงูหญาหนวดแมว หญา หางชา ง แมฉ ันใด ในอวนั ตีทักขิณาบถก็มีหนงั เครอ่ื งลาด คอื หนงั แกะ หนังแพะ หนงั มฤค ฉันน้นั เหมอื นกันแล ถากระไรเฉพาะในอวันตที กั ขิณาบถ ขอพระผมู พี ระภาคเจาพึงทรงอนุญาตหนงั เครื่องลาดคือ หนังแกะ หนังแพะ หนังมฤค. พระพุทธเจา เดย๋ี วนีค้ นท้งั หลายฝากถวายจีวรเพอ่ื หมูภกิ ษผุ อู ยูนอกสีมา ดว ยคาํ วา ขา พเจาทง้ั หลายขอถวายจวี รผนื นี้ แกทานผูมชี อื่ นี้ ดังนี้ภกิ ษุผรู ับฝากมาบอกวา อาวุโส คนทั้งหลายมีชอื่ น้ี ถวายจีวรแกท า นแลว พวกภิกษุผูร บั คําบอกเลา รงั เกยี จไมย นิ ดรี บั ดวยคิดวา พวกเราตอ งการของเปน นสิ สคั คีย ถากระไร ขอพระผูมีพระภาคเจาพึงตรัสช้ีแจงในเรอื่ งจวี ร. พระโสณเถระเขา เฝา ทานพระโสณะรับคําของทา นพระมหากัจจานะแลวลุกจากอาสนะ อภ-ิวาททานพระมหากจั จานะทําประทกั ษณิ แลวเกบ็ เสนาสนะ ถือบาตรจวี รเดนิ ไปทางทจ่ี ะไปพระนครสาวตั ถี ถึงพระนครสาวัตถี พระวิหารเชตวนั อารามของอนาถบิณฑกิ คหบดี โดยลาํ ดับ เขา เฝา พระผมู ีพระภาคเจา ถวายบงั คมแลวน่ัง ณ ที่ควรสวนขางหน่ึง. ครัง้ น้นั พระผูมพี ระภาคเจารบั สั่งกะทา นพระอานนทว า ดูกอนอานนท เธอจงจดั เสนาสนะตอ นรับภกิ ษอุ าคนั ตุกะรปู นี้ ทา นพระอานนทจ งึคดิ วา พระผูมพี ระภาคเจา ทรงพระบญั ชาใชเ ราเพือ่ ภิกษุรูปใดวา ดูกอ นอานนทเธอจงจดั เสนาสนะตอนรบั ภกิ ษอุ าคนั ตุกะรูปนดี้ ังนี้ พระผูมีพระภาคเจายอ มปรารถนาจะประทับอยูในพระวหิ ารแหงเดียวกบั ภิกษุรปู น้นั พระผมู ีพระภาคเจา
พระวินยั ปฎก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนา ที่ 35ปรารถนาจะประทับอยใู นพระวิหารแหงเดียวกบั ทา นพระโสณะเปน แน ดังนี้ จงึจัดเสนาสนะตอนรบั ทา นพระโสณะ ในพระวิหารอันเปน ทปี่ ระทับของพระผูม ีพระภาคเจา . ถวายเทศนในพระวหิ าร [๒๑] ครัง้ นนั้ พระผูม พี ระภาคเจาประทบั อยูใ นที่แจงจนดกึ จึงเสด็จเขาพระวิหาร แมทานพระโสณะกย็ ับยง้ั อยใู นท่ีแจง จนดึกจงึ เขา พระวหิ าร คร้นัเวลาปจ จสุ มัยแหง ราตรี พระผมู ีพระภาคเจา ทรงตื่นพระบรรทมแลว ทรงอชั เฌสนาทานพระโสณะวา ดูกอ นภกิ ษุ เธอจงกลาวธรรมตามถนดั ทานพระโสณะกราบทูลสนองพระพทุ ธบัญชาวา อยางนน้ั พระพทุ ธเจา ขา แลว ไดสวดพระสตู รทัง้ หลาย อนั มอี ยูในอฏั ฐกวรรค จนหมดสิ้นโดยสรภญั ญะ ครั้นจบสรภญั ญะของทา นพระโสณะ พระผมู พี ระภาคเจา ทรงพระปราโมทยโ ปรดประทานสาธุการวา ดลี ะ ดลี ะ ภิกษุ สูตรทงั้ หลายทมี่ ใี นอัฏฐกวรรคเธอเรยี นมาดีแลว ทําไวในใจดแี ลว ทรงจําไดแมน ยําดี เธอเปนผปู ระกอบดวยวาจาไพเราะเพราะพร้งิ ไมมีโทษ ใหเขาใจรูค วามไดแจม ชดั เธอมพี รรษาต่ําไรภกิ ษุ ? ทานพระโสณะกราบทูลวา ขา พระพทุ ธเจา มพี รรษาเดียว พระพทุ ธเจาขา. ภ. เพราะเหตุไร เธอจงึ มัวประพฤตชิ ักชา เชนนั้นเลา ภิกษุ ? โส. ขา พระพุทธเจา เหน็ โทษในกามท้ังหลายนานแลว แตเ พราะฆาราวาสคบั แคบ มีกิจมาก มีกรณียมาก จึงไดพระพฤติชกั ชาอยู พระพทุ ธเจาขา.
พระวนิ ัยปฎก มหาวรรค เลม ๕ ภาค ๒ - หนาท่ี 36 ทรงเปลง พระอทุ าน ลาํ ดับนั้น พระผูมีพระภาคเจา ทรงทราบความขอ น้แี ลว จึงทรงเปลงพระอุทานนี้ ในเวลานัน้ วา ดงั นี:้ - อารยชนเหน็ โทษในโลก ทราบธรรมท่ี ปราศจากอุปธิแลว ฉะนัน้ จึงไมยินดีในบาป เพราะคนสะอาดยอมไมยนิ ดใี นบาป. กราบทลู อาณัติกพจนข องพระอุปชฌายะ ๕ ประการ [๒๒] ลาํ ดบั นน้ั ทานพระโสณะคดิ วา พระผูม ีพระภาคเจา กําลงัโปรดปรานเรา เวลานี้ควรกราบทลู ถอ ยคําท่พี ระอุปชฌายะของเราสง่ั มา ดงั นี้แลว ลุกจากท่นี ่ัง หม จวี รเฉวยี งบา หมอบลงทพ่ี ระบาทยคุ ลของพระผูมีพระภาคเจาดวยเศยี รเกลา แลว ไดก ราบทลู คาํ น้ตี อพระผูมีพระภาคเจา วา พระ-พุทธเจา ขา ทานพระมหากัจจานะอปุ ช ฌายะของขาพระพุทธเจา ขอถวายบังคมพระยคุ ลบาทของพระองคดว ยเศียรเกลา และสัง่ ใหข าพระพทุ ธเจา กราบทลูอยา งนี้วา:- ๑. พระพทุ ธเจา ขา อวันตีทุกขณิ าบถ มีภกิ ษุนอ ยรปู ขา พระพุทธ-เจา ไดจ ัดหาภิกษสุ งฆแ ตนั้น ๆ ใหค รบองคประชมุ ทสวรรคไดย ากลําบากนับแตวนั ทีข่ าพระพทุ ธเจา บรรพชาลวงไป ๓ ป จึงไดอปุ สมบท ถา กระไร เฉพาะในอวนั ตที ักขณิ าบถ ขอพระผมู พี ระภาคเจาพงึ ทรงอนญุ าตอุปสมบท ดว ยคณะสงฆน อยรปู กวานี้ได. ๒. พระพุทธเจาขา พนื้ ดินในอวันตที กั ขิณาบถ มดี นิ สีดํามากขรขุ ระ ดมื่ ดาษดว ยระแหงกีบโค ถากระไร เฉพาะในอวนั ตที กั ิขิณาบถ ขอพระผมู พี ระภาคเจา พงึ ทรงอนญุ าตครองเทา หลายชั้น.
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 507
Pages: