พระวินยั ปฎก ภิกขนุ ีวภิ ังค เลม ๓ - หนา ที่ 208 ลสุณวรรค สิกขาบทที่ ๙ เร่ืองภิกษุณหี ลายรูป [๑๗๘] โดยสมยั นน้ั พระผมู พี ระภาคพุทธเจา ประทับอยู ณ พระ-เชตวัน อารามของอนาถบณิ ฑกิ คหบดี เขตพระนครสาวตั ถี ครง้ั นน้ั พราหมณคนหนึง่ มนี าขาวเหนียวอยใู กลท่พี ํานักของภกิ ษุณี ภกิ ษุณีทัง้ หลายเทอจุ จาระบา ง ปส สาวะบาง หยากเย่อื บา ง ของเปน เดนบาง ทงิ้ ลงในนา พราหมณนน้ั จึงเพง โทษ ติเตียน โพนทะนาวา ไฉนภิกษุณีท้งั หลายจงึ ไดท าํ นาขา วเหนียวของขา พเจาใหเสยี หายเลา . ภิกษณุ ีท้ังหลายไดย นิ พราหมณนนั้ เพงโทษ ตเิ ตยี น โพนทะนาอยูบรรดาทเ่ี ปนผูมกั นอ ย. . . ตางก็เพงโทษ ติเตียน โพนทะนาวา ไฉนภิกษุณีท้งั หลายจงึ ไดเทอุจจาระบาง ปส สาวะบา ง หยากเย่อื บาง ของเปน เดนบา งลงในของเขียวสดเลา. ทรงสอบถาม พระผมู พี ระภาคเจาทรงสอบถามภกิ ษุทงั้ หลายวา ดูกอนภกิ ษุทงั้ หลายขาววา พวกภกิ ษณุ เี ทอุจจาระบาง ปส สาวะบาง หยากเยื่อบาง ของเปน เดนบา งลงในของเขียวสด จรงิ หรือ. ภกิ ษุทั้งหลายกราบทลู วา จริง พระพทุ ธเจาขา. ทรงติเตียนแลว บัญญัติสกิ ขาบท พระผมู ีพระภาคพทุ ธเจาทรงตเิ ตยี นวา ดกู อนภิกษทุ ง้ั หลาย ไฉนภิกษณุ ีท้ังหลายจึงไดเ ทอจุ จาระบา ง ปสสาวะบาง หยากเย่ือบาง ของเปน
พระวินัยปฎก ภิกขุนวี ิภังค เลม ๓ - หนา ท่ี 209เดนบา ง ลงในของเขยี วสดเลา การกระทําของพวกนางนนั่ ไมเปนไปเพื่อความเลอ่ื มใสของชุมชนท่ยี งั ไมเลือ่ มใส. . . ดกู อ นภกิ ษุท้งั หลาย กแ็ ลภกิ ษุณีท้ังหลายจงยกสกิ ขาบทนขี้ ึน้ แสดงอยางนี้วา ดงั นี:้ - พระบญั ญตั ิ ๖๔. ๙. อนง่ึ ภกิ ษณุ ใี ด เท หรอื ใหเ ท ซึง่ อุจจาระก็ดีปส สาวะกด็ ี หยากเยอื่ ก็ดี ของเปนเดนก็ดี ลงในของเขียวสด เปนปาจิตตยี . เรือ่ งภกิ ษณุ ีหลายรปู จบ สิกขาบทวิภังค [๑๗๙] บทวา อนงึ่ . . .ใด ความวา ผูใ ด คือ ผเู ชน ใด. . . บทวา ภกิ ษุณี ความวา ท่ชี อ่ื วา ภกิ ษุณี เพราะอรรถวา เปนผขู อ. . .น้ชี ่อื วา ภกิ ษุณี ทท่ี รงประสงคใ นอรรถน.ี้ ทช่ี ื่อวา อุจจาระ ไดแก ส่ิงท่ีเขาเรียกกันวาคถู . ท่ชี ือ่ วา ปส สาวะ ไดแก สิง่ ทเี่ ขาเรียกกนั วามตู ร. ท่ีช่อื วา หยากเยื่อ ไดแ ก ส่งิ ทีเ่ ขาเรยี กกันวา ขยะมลู ฝอย. ท่ีช่อื วา ของเปน เดน ไดแ ก อามิสเปนเดน หรือกระดกู หรอื นาํ้ทเี่ ปน เดน. ท่ีชือ่ วา ของเขยี วสด ไดแ ก บุพพณั ชาติ อปรณั ชาติ ที่ประชาชนปลกู ไวส าํ หรบั เปน เครอ่ื งอปุ โภคและบริโภค.
พระวนิ ยั ปฎก ภิกขุนีวภิ งั ค เลม ๓ - หนา ท่ี 210 บทวา เท ความวา เทเอง ตองอาบัตปิ าจติ ตยี . บทวา ใหเ ท ความวา ใชคนอนื่ ตองอาบตั ิทุกกฏ ใชเ ขาครั้งเดียว เขาเทแมหลายคร้ัง ก็ตอ งอาบัติปาจิตตยี . บทภาชนยี ติกะปาจิตตยี [๑๘๐] ของเขียวสด ภกิ ษณุ สี ําคัญวาของเขยี วสด เท หรอื ใหเทตองอาบตั ิปาจิตตยี . ของเขียวสด ภิกษุณสี งสัย เท หรือใหเ ท ตอ งอาบตั ปิ าจติ ตีย. ของเขยี วสด ภิกษณุ ีสาํ คญั วา มใิ ชของเขียวสด เท หรอื ใหเท ตอ งอาบัตปิ าจติ ตยี . ทุกะทุกกฏ มใิ ชของเขียวสด ภิกษณุ สี ําคัญวา ของเขยี วสด ตองอาบตั ิทกุ กฏ. มใิ ชข องเขยี วสด ภิกษุณีสงสยั ตอ งอาบัติทกุ กฏ. มใิ ชของเขียวสด ภิกษุณสี าํ คัญวา มิใชของเขียวสด ไมต อ งอาบัติ. อนาปตตวิ าร [๑๘๑] มองดกู อนแลวจงึ เท ๑ เทบนคนั นา ๑ บอกขออนุญาตตอเจา ของแลวเท ๑ วิกลจริต ๑ อาทิกัมมกิ า ๑ ไมต องอาบัตแิ ล. ลสณุ วรรค สกิ ขาบทท่ี ๙ จบ
พระวินัยปฎก ภกิ ขุนวี ิภงั ค เลม ๓ - หนาท่ี 211 อรรถกถาลสุณวรรค สกิ ขาบทที่ ๙ วนิ จิ ฉัยในสิกขาบทท่ี ๙ พงึ ทราบดังนี:้ - หลายบทวา ย มนุสฺสาน อปุ โภคปริโภค โรปต มีความวาไรน าหรอื สวนผลไมม ีมะพราวเปน ตน ก็ตามที เม่อื เทวตั ถุเหลานนั้ ทง้ิ ในทีซ่ ง่ึเขาปลกู ของเขียวสดไวแหงใดแหงหนึง่ พงึ ทราบความตา งแหง อาบัติโดยนัยกอนนัน่ แล. ภกิ ษณุ นี ่ังฉันอยูทไ่ี รนาหรอื สวน เค้ยี วออยเปน ตน เมื่อจะไปเทนาํ้เปนเดนและกระดกู เปน ตน ลงในของเขยี วสด ช้ันท่สี ดุ ท้งิ แมมะพรา วทีเ่ ฉาะหัวดม่ื นาํ้ แลว ก็เปนปาจติ ตียเหมือนกนั , เปนทกุ กฏแกภิกษ.ุ แตใ นพชื ที่เขาหวานไวใ นนาท่ไี ถแลว เปนทกุ กฏแกภ กิ ษแุ ละภิกษณุ ีท้ังหมด ตลอดเวลาท่ีหนอ ยงั ไมงอก. จะเทลงในมมุ นาเปนตน ที่เขายังไมไดหวา นพืชก็ดี ในคันนาเปน ตนท่ปี ลูกพืชไมขึน้ ก็ดี ควรอย.ู จะเทลงแมใ นทท่ี ้ิงขยะมูลฝอยของพวกชาวบาน ก็ควร. บทวา ฉฑฑฺ ิตกฺเขตฺเต มคี วามวา เมื่อพวกชาวบานถอนขาวกลาไปแลว ชื่อวา เปน นารา ง. จะเทลงในนารางน้ันน่ันแล ควรอยู. แตใ นไรนาทีพ่ วกชาวบานยังเฝารกั ษาอยู ดว ยเขาใจวา บุพพัณชาติเปน ตน ทเี่ ก่ยี วแลวจักงอกขึน้ อกี เปน อาบัตติ ามวัตถเุ หมอื นกัน. บทท่ีเหลือ ตื้นทงั้ นน้ั . สิกขาบทน้ี มสี มุฏฐาน ๖ เปน ทง้ั กริ ยิ าและอกิรยิ า ฯ ลฯ มเี วทนา๓ ฉะนีแ้ ล. อรรถกถาลสณุ วรรค สกิ ขาบทที่ ๙ จบ
พระวินัยปฎ ก ภกิ ขนุ วี ภิ ังค เลม ๓ - หนา ท่ี 212 ลสณุ วรรค สกิ ขาบทที่ ๑๐ เรอื่ งภกิ ษุณีฉพั พัคคีย [๑๘๒] โดยสมัยนน้ั พระผูม พี ระภาคพทุ ธเจา ประทบั อยู ณ พระเวฬุวันวหิ าร อันเปน สถานทพี่ ระราชทานเหยื่อแกกระแต เขตพระนครราชคฤหครั้งน้ันในพระนครราชคฤหมีมหรสพบนยอดภูเขา เหลาภิกษณุ ีฉัพพัคคียไดพากนั ไปดมู หรสพบนยอดภูเขา พวกชาวบานพากนั เพงโทษ ติเตยี น โพน-ทะนาวา ไฉนภกิ ษณุ ีทง้ั หลายจึงไดพากันไปดูการฟอนรําบา ง การขับรองบา งการประโคมดนตรบี า ง เหมือนสตรีคฤหสั ถผ ูบรโิ ภคกามเลา. ภกิ ษุณที ั้งหลายไดยนิ ชาวบา นพวกน้ัน พากนั เพง โทษ ติเตยี นโพนทะนาอยู บรรดาทเี่ ปน ผมู ักนอ ย. . . ตา งก็เพง โทษ ตเิ ตยี น โพนทะนาวา ไฉนภกิ ษุณฉี พั พคั คียจงึ ไดพ ากันไปดกู ารฟอ นรําบาง การขบั รองบาง การประโคมดนตรบี างเลา. ทรงสอบถาม พระผูม ีพระภาคเจา ทรงสอบถามภกิ ษทุ ้ังหลายวา ดกู อนภกิ ษุทัง้ หลายขา ววาภกิ ษุณฉี พั พัคคยี พ ากันไปดูการฟอนรําบาง การขบั รอ งบา ง การประโคมดนตรบี าง จริงหรือ. ภกิ ษุทั้งหลายกราบทลู วา จริง พระพทุ ธเจาขา ทรงตเิ ตียนแลว บญั ญัตสิ ิกขาบท พระผมู พี ระภาคเจา ทรงตเิ ตยี นวา ดกู อนภกิ ษุทัง้ หลาย ไฉนภิกษุณีฉพั พคั คยี จงึ ไดพากันไปดูการฟอ นราํ บา ง การขับรองบาง การประโคมดนตรี
พระวินยั ปฎ ก ภิกขุนวี ิภงั ค เลม ๓ - หนา ที่ 213บางเลา การกระทาํ ของพวกนางนัน่ ไมเ ปนไปเพือ่ ความเลอื่ มใสของชุมชนที่ยงั ไมเลอื่ มใส. . . ดกู อนภกิ ษุทงั้ หลาย ก็แลภิกษุณีทั้งหลายจงยกสิกขาบทนีข้ นึ้ แสดงอยางนีว้ า ดังน้ี :- พระบัญญตั ิ ๖๕. ๑๐. อน่งึ ภิกษุณีใด ไปดกู ารฟอ นราํ กด็ ี การขับรอ งก็ดี การประโคมดนตรกี ด็ ี เปน ปาจติ ตยี . เรือ่ งภิกษณุ ีฉพั พัคคีย จบ สกิ ขาบทวภิ งั ค [๑๘๓] บทวา อนึง่ . . .ใด ความวา ผูใ ด คือ ผูเชนใด. . . บทวา ภกิ ษุณี ความวา ทีช่ ่อื วา ภิกษณุ ี เพราะอรรถวา เปนผขู อ . . . น้ชี ื่อวา ภกิ ษุณี ทที่ รงประสงคใ นอรรถน.้ี ที่ชอื่ วา การฟอนราํ ไดแก การฟอนราํ อยา งใดอยางหนงึ่ . ท่ีช่อื วา การขบั รอง ไดแก เพลงขับรองอยา งใดอยางหนึ่ง. ที่ชือ่ วา การประโคมดนตรี ไดแก เครื่องดดี สตี ีเปาอยางใดอยา งหนงึ่ . ภิกษุณีเดินไปเพอ่ื จะดู ตองอาบัติทกุ กฏ ยนื อยู ณ ทใ่ี ด ยังแลเห็นหรอื ไดย นิ ตองอาบตั ปิ าจิตตยี พนสายตาไปแลว กลบั แลดหู รอื ฟงอีก กต็ องอาบตั ปิ าจติ ตยี . ภกิ ษุณเี ดินไปเพื่อจะดูเครอ่ื งมหรสพเฉพาะอยาง ๆ ตอ งอาบตั ิทกุ กฏยนื อยู ณ ท่ีใด ยงั แลเห็นหรือไดยนิ ก็ตอ งอาบัตปิ าจติ ตยี พนสายตาไปแลวกลับแลดหู รอื ฟงอกี ก็ตองอาบัตปิ าจิตตีย.
พระวินยั ปฎ ก ภกิ ขนุ ีวิภังค เลม ๓ - หนา ที่ 214 อนาปตติวาร [๑๘๔] ยืนอยใู นอารามแลเหน็ หรือไดย นิ ๑ เขาฟอนราํ ขับรองหรอื ประโคมผานมายังสถานท่ีภกิ ษุณยี นื อยู นง่ั อยู หรือนอนอยู ๑ เดินสวนทางไปแลเหน็ หรือไดยนิ ๑ เมื่อมีกจิ จําเปน เดินผานไปแลเห็นหรอื ไดย นิ ๑มอี ันตราย ๑ วกิ ลจริต ๑ อาทิกัมมิกา ๑ ไมต อ งอาบัตแิ ล. ลสุณวรรค สกิ ขาบทท่ี ๑๐ จบ ลสุณวรรที่ ๑ จบ อรรถกถาลสณุ วรรค สิกขาบทท่ี ๑๐ วินจิ ฉยั ในสกิ ขาบทที่ ๑๐ พงึ ทราบดังนี้:- สองบทวา ยงฺกิฺจิ นจจฺ มคี วามวา พวกนกั ฟอ นเปนตน หรือพวกนกั เลง จงฟอนราํ ก็ตามที โดยทีส่ ดุ แมนกยูง นกแขกเตา และลิงเปนตน ฟอ นรํา ท้งั หมดนน่ั จักเปน การฟอ นราํ ท้งั นัน้ . สองบทวา ยงฺกิ จฺ ิ คตี มคี วามวา การขบั รองของพวกนักฟอนเปนตน หรือการขับรองกีฬาใหส าํ เรจ็ ประโยชน ซงึ่ ประกอบดว ยการสรรเสริญคุณพระรัตนตรยั ในเวลาทีพ่ ระอริยเจา ท้งั หลายปรินพิ พาน หรือการขับรองทํานองสวดธรรมสรภัญญะของพวกภิกษุ ผูไมสาํ รวมก็ตามที ท้ังหมดนี้จัดเปนการขับรอ งทง้ั นน้ั . สองบทวา ยงกฺ ิฺจิ วาทิต มีความวา เครอ่ื งบรรเลงมที ขี่ ึน้ สายเปนตน หรือการประโคมกลองเทียมกต็ ามที ช้นั ทส่ี ุดแมก ารตีอุทกเภรี(กลองนํา้ ) ท้งั หมดนจี้ ัดเปน การประโคมดนตรีทัง้ นัน้ .
พระวินัยปฎก ภิกขุนวี ิภงั ค เลม ๓ - หนาที่ 215 ขอ วา ทสสฺ นาย คจฉฺ ติ อาปตตฺ ิ ทกุ ฺกฏสสฺ ไดแ ก ตองอาบตั ทิ กุ กฏ โดยนับวาระยางเทา . คาํ วา ยตฺถ ฐิตา ปสสฺ ติ วา สุณาติ วา มีความวา ภกิ ษุณีเมื่อแลดูโดยประโยคเดยี วเหน็ ไดฟ งการขบั รอ ง การประโคมดนตรีของชนเหลา นั้นน่ันแหละ เปน ปาจิตตยี เ พียงตัวเดียว แตถ า เหลยี วดทู ศิ หน่ึงแลว เหน็นักฟอ น เหลียวไปดูทางอน่ื อีก เห็นพวกคนขับรอง มองไปทางอ่นื เหน็ พวกคนบรรเลง เปน อาบตั ิและอยาง ๆ หลายตัว. ภิกษณุ ียอมไมไ ดเพ่อื จะฟอนราํหรอื ขับรอ ง หรอื ประโคมดนตรแี มเ อง. แมจ ะบอกคนเหลาอ่นื วา จงฟอนราํจงขบั รอ ง จงบรรเลง ก็ไมไ ด. จะกลาววา อบุ าสก ! พวกทานจงใหการบชู าพระเจดยี ก็ดี จะรับคาํ วา ดีละ ในเม่ือเขากลาววา พวกขา พเจา จะทําการบํารุงพระเจดยี ของพวกทา นกด็ ี ยอ มไมได. ทา นกลาวไวในทกุ ๆอรรถกถาวา เปน ปาจติ ตยี ในฐานะทง้ั ปวง. เปน ทกุ กฏแกภกิ ษุ. แตเมือ่ เขากลา ววา พวกขา พเจาจะทําการบาํ รุงพระเจดยี ของพวกทา น ภกิ ษณุ ีจะกลา ววาอุบาสก ! ช่ือวา การทํานบุ าํ รุง เปน การดี ควรอยู. สองบทวา อาราเม ติ า มีความวา ภิกษณุ ียืนอยูในอารามแลเหน็หรือไดยนิ การฟอนราํ เปน ตน ภายในอารามก็ดี ภายนอกอารามก็ดี ไมเ ปนอาบัติ. สองบทวา สติ กรณเี ย มคี วามวา ภิกษณุ ไี ปเพ่ือประโยชนแ กสลากภตั เปนตน หรือดวยกรณยี ะอน่ื บางอยาง เหน็ อยู หรอื ไดย ินอยูใ นสถานที่ตนไป ไมเ ปนอาบัติ.
พระวินยั ปฎ ก ภิกขนุ วี ิภังค เลม ๓ - หนาที่ 216 บทวา อาปาทาสุ มคี วามวา ภิกษุณถี กู อปุ ท วะเชนน้นั เบียดเบียนเขา ไปสสู ถานที่ดูมหรสพ เขา ไปแลวอยางนี้ เห็นอยูกด็ ี ไดยนิ อยูก ็ดี ไมเปนอาบัต.ิ คําท่เี หลอื ตน้ื ทั้งน้นั . สกิ ขาบทน้ี มีสมุฏฐานดุจเอฬกโลมสกิ ขาบท เปน กิรยิ า โนสัญญา-วโิ มกข อจิตตกะ โลกวัชชะ กายกรรม อกศุ ลจติ มเี วทนา ๓ ฉะนแี้ ล. อรรถกถาลสณุ วรรค สิกขาบทท่ี ๑๐ จบ ลสุณวรรค ท่ี ๑ จบ
พระวนิ ัยปฎก ภิกขุนวี ภิ งั ค เลม ๓ - หนาที่ 217 อนั ธการวรรคที่ ๒ สกิ ขาบทท่ี ๑ เรื่องภิกษุณีอันเตวาสินขี องพระภัททากาปล านีเถรี [๑๘๕] โดยสมัยนัน้ พระผูมีพระภาคพุทธเจา ประทบั อยู ณ พระ-เชตวัน อารามของอนาถบณิ ฑกิ คหบดี เขตพระนครสาวัตถี คร้ังนนั้ ญาติผูช ายของภกิ ษณุ ีอันเตวาสินแี หงภทั ทากาปล านเี ถรี ไดจากบานไปสูพระนครสาวตั ถีดว ยกรณียกจิ บางอยา ง ฝา ยภกิ ษุณีน้ันกบั ญาติผูชายน้นั หน่งึ ตอหนึ่ง ยนื รว มบา ง เจรจารว มบาง ในเวลาค่ํามดื ไมมแี สงสวา ง. บรรดาภิกษุณีที่เปน ผมู ักนอ ย . . . ตางกเ็ พงโทษ ติเตยี น โพนทะนาวา ไฉนภกิ ษณุ ีจึงไดย นื รวมบาง เจรจารวมบา ง กับบรุ ุษในเวลาคํา่ มืดท่ีไมม ีแสงสวางหนึ่งตอหนึง่ เลา . . . ทรงสอบถาม พระผูม พี ระภาคเจา ทรงสอบถามภกิ ษทุ ั้งหลายวา ดูกอ นภิกษุทัง้ หลายขา ววาภกิ ษุณีกับบรุ ษุ หนึ่งตอ หนงึ่ ยนื รว มบาง เจรจารวมบา ง ในเวลาคาํ่ มดืทไี่ มม แี สงสวาง จริงหรอื . ภกิ ษทุ ้ังหลายกราบทลู วา จริง พระพทุ ธเจาขา . ทรงตเิ ตยี นแลวบัญญตั ิสิกขาบท พระผมู ีพระภาคพทุ ธเจา ทรงตเิ ตียนวา ดูกอ นภกิ ษุทงั้ หลาย ไฉนภกิ ษุณกี ับบุรษุ หนงึ่ ตอ หนง่ึ จงึ ไดย ืนรวมบาง เจรจารวมบาง ในเวลาคาํ่ มืดทไี่ มม ีแสงสวา งเลา การกระทาํ ของนางนั่น ไมเปน ไปเพอ่ื ความเล่ือมใสของชมุ ชนทีย่ ังไมเล่ือมใส . . .
พระวนิ ัยปฎ ก ภกิ ขนุ ีวภิ ังค เลม ๓ - หนา ท่ี 218 ดูกอนภกิ ษทุ ั้งหลาย กแ็ ลภิกษุณที ง้ั หลายจงยกสิกขาบทนขี้ นึ้ แสดงอยางนีว้ า ดังน้:ี - พระบญั ญัติ ๖๖. ๑. อนึ่ง ภกิ ษุณีใด กับบรุ ุษหน่ึงตอ หน่งึ ยืนรว มกด็ ีเจรจารวมก็ดี ในเวลาค่ําคนื ไมม ปี ระทีป เปน ปาจติ ตยี . เรอื่ งภกิ ษณุ อี ันเตวาสินขี องพระภัททากาปลานีเถรี จบ สกิ ขาบทวภิ งค [๑๘๖] บทวา อนง่ึ . . .ใด ความวา ผูใ ด คือ ผูเชนใด. . . บทวา ภิกษณุ ี ความวา ทีช่ ่ือวา ภกิ ษณุ ี เพราะอรรถวาเปนผูขอ. . . น้ชี อ่ื วา ภกิ ษุณี ทท่ี รงประสงคใ นอรรถน.้ี บทวา ในเวลาคา่ํ มืด ไดแก เวลาพระอาทิตยตกดนิ แลว. บทวา ไมมีประทีป คอื ไมมแี สงสวาง. ท่ีชอื่ วา บุรษุ ไดแก มนษุ ยผ ูช าย มใิ ชยกั ษผ ชู าย มิใชเปรตผูชาย มิใชสตั วด ริ จั ฉานตวั ผู เปนบคุ คลผรู ูความ เปน ผูสามารถจะยืนรว ม เจรจารวมได. บทวา กับ คือ ดว ยกัน. บทวา หนง่ึ ตอหนงึ่ คอื บรุ ษุ หน่งึ และภกิ ษณุ รี ปู หนึ่ง. บทวา ยนื รว มก็ดี คอื ยืนอยูในระยะชวงแขนของบุรุษ ตองอาบัติปาจิตตยี . บทวา เจรจารวมก็ดี คือ เจรจาอยูในระยะชวงแขนของบุรษุตอ งอาบตั ิปาจติ ตีย. ยนื รว ม หรอื เจรจารว ม พนระยะชว งแขน ตอ งอาบัตทิ กุ กฏ. ยืนรวมหรอื เจรจารวม กบั ยักษผชู าย เปรตผูชาย บัณเฑาะกหรือสตั วด ริ ัจฉานตวั ผมู รี างกายคลายมนุษย ตอ งอาบตั ทิ กุ กฏ.
พระวนิ ยั ปฎ ก ภกิ ขนุ ีวภิ ังค เลม ๓ - หนา ท่ี 219 อนาปต ติวาร [๑๘๗] มีสตรีผูร คู วามคนใดคนหนึง่ อยูเปน เพ่อื น ๑ ไมเพงทลี่ ับยืนรวมหรือเจรจารว ม ๑ สงใจไปอ่ืน ยนื รว มหรือเจรจารว ม ๑ วกิ ลจรติ ๑อาทิกัมมิกา ๑ ไมตอ งอาบัติแล. อนั ธการวรรค สิกขาบทที่ ๑ จบ อรรถกถาอันธการวรรค สกิ ขาบทที่ ๑ วนิ จิ ฉัยในสกิ ขาบทท่ี ๑ แหง อนั ธการวรรค พงึ ทราบดงั นี้:- บทวา อปปฺ ทีเป คอื ในทีไ่ มม แี สงสวาง ดว ยบรรดาแสงสวา งมีประทปี ดวงจันทร ดวงอาทิตย และไฟเปนตน แมอยา งหนงึ่ . ดวยเหตุน้นัน่ันแล ในบทภาชนะแหงบทวา อปปฺ ทีเป นน้ั พระผมู ีพระภาคเจาจงึ ตรสัวา อนาโลเก. บทวา สลลฺ ปยฺย วา ไดแก กลา วถอยคาํ เกย่ี วดว ยการครองเรอื น สองบทวา อรโหเปกขฺ า อฺาวหิ ิตา มคี วามวา ไมเ พง ความยินดีในทลี่ บั เปน ผูสง ใจไปอืน่ จากความยินดใี นท่ีลบั ไตถ ามถึงญาติ หรือเชอื้ เชิญเขาในการถวายทานก็ดี ในการบูชากด็ .ี บทท่ีเหลือ ตน้ื ทง้ั นน้ั . สกิ ขาบทน้ี มีสมุฎฐานดุจไถยสัตถสกิ ขาบท เกดิ ข้นึ ทางกายกบั จติ ๑ทางกายวาจากับจิต ๑ เปน กิรยิ า สญั ญาวโิ มกข สจิตตกะ โลกวัชชะกายกรรม วจกี รรม อกศุ ลจิต มีเวทนา ๒ แล. อรรถกถาอันธการวรรค สิกขาบทท่ี ๑ จบ
พระวินยั ปฎก ภิกขุนวี ิภงั ค เลม ๓ - หนาท่ี 220 อันธการวรรค สกิ ขาบทที่ ๒ เร่ืองภกิ ษุณอี นั เตวาสินีของพระภทั ทากาปลานีเถรี [๑๘๘] โดยสมยั นน้ั พระผูม ีพระภาคพทุ ธเจา ประทบั อยู ณ พระ-เชตวันอารามของอนาถบณิ ฑิกคหบดี เขตพระนครสาวัตถี คร้งั นน้ั ญาตผิ ชู ายของภิกษุณีอนั เตวาสนิ ีแหง ภทั ทากาปลานเถรี ไดจ ากบา นไปสูพ ระนครสาวตั ถีดว ยกรณียกจิ บางอยา ง ฝายภิกษณุ นี น้ั ทราบแลววา พระผมู พี ระภาคเจาทรงหา มการยนื รว มเจรจามารวม กับบุรษุ หนึ่งตอ หนง่ึ ในเวลาคาํ่ มดื ไมม ีประทีปจึงยนื รว มบา ง เจรจารวมบาง กับบุรษุ ผนู น้ั และหนง่ึ ตอหนง่ึ ในสถานทก่ี าํ บัง. บรรดาภกิ ษุณีทเี่ ปนผูม กั นอ ย. . . ตา งพากนั เพงโทษ ติเตียนโพนทะนาวา ไฉนภกิ ษุณจี งึ ไดยืนรว มบา ง เจรจารว มบาง กบั บรุ ุษหน่งึ ตอหนึ่ง ในสถานทก่ี ําบงั เลา. . . ทรงสอบถาม พระผูม พี ระภาคเจา ทรงสอบถามภิกษทุ ง้ั หลายวา ดกู อนภกิ ษุทั้งหลายขาววา ภกิ ษุณยี ืนรวมบา ง เจรจารว มบาง กับบรุ ษุ หนึง่ ตอหน่งึ ในสถานที่กาํ บัง จริงหรอื . ภิกษุทง้ั หลายกราบทูลวา จรงิ พระพุทธเจาขา . ทรงติเตียนแลว บญั ญตั ิสิกขาบท พระผมู พี ระภาคพทุ ธเจาทรงตเิ ตยี นวา ดกู อ นภกิ ษทุ งั้ หลาย ไฉนภกิ ษ-ุณจี งึ ไดย ืนรว มบาง เจรจารว มบาง กับบรุ ุษหนง่ึ ตอหนงึ่ ในสถานทก่ี ําบงั เลาการทาํ ของนางน่นั ไมเปน ไปเพอื่ ความเล่อื มใสของชุมชนท่ียงั ไมเ ล่อื มใส. . .
พระวินยั ปฎก ภิกขุนวี ิภงั ค เลม ๓ - หนา ท่ี 221 ดกู อนภกิ ษทุ ง้ั หลาย ก็แลภิกษุณที งั้ หลายจงยกสิกขาบทนขี้ ้ึนแสดงอยา งน้ี วาดังน้:ี - พระบัญญตั ิ ๖๗. ๒. อน่งึ ภกิ ษุณใี ด กับบรุ ุษหน่ึงตอ หน่งึ ยนื รวมกด็ ีเจรจารว มก็ดี ในสถานที่กําบัง เปน ปาจิตตีย เรื่องภิกษุณีอันเตวาสนิ ขี องพระภทั ทากาปล านีเถรี จบ สกิ ขาบทวิภังค [๑๘๙] บทวา อนึ่ง. . .ใด ความวา ผใู ด คอื ผเู ชนใด. . . บทวา ภิกษณุ ี ความวา ทีช่ ่อื วา ภิกษุณี เพราะอรรถวา เปน ผูขอ. . . นชี้ ่อื วา ภกิ ษณุ ี ทที่ รงประสงคในอรรถน้ี. ทชี่ ่ือวา สถานทก่ี าํ บงั ไดแก สถานท่ที เี่ ขาบงั ดวยฝา บานประตูลําแพน มาน ตนไม เสา หรือฉางขา ว อยา งใดอยา งหนึ่ง. ท่ีชือ่ วา บรุ ุษ ไดแก มนษุ ยผ ชู าย มใิ ชยกั ษผชู าย มิใชเ ปรตผชู ายมใิ ชสตั วด ิรจั ฉานตวั ผู เปนบคุ คลผรู ูความ เปนผูส ามารถ จะยืนรวม เจรจารว มได. บทวา กบั คอื ดวยกนั . คําวา หนง่ึ ตอหนงึ่ คือ บุรษุ ผหู น่ึง และภกิ ษณุ ีรปู หนึง่ . บทวา ยินรวมกด็ ี คอื ยืนอยูในระยะชวงแขนของบุรษุ ตอ งอาบตั ิ-ปาจติ ตีย. บทวา เจรจารว มกด็ ี คอื เจรจาอยใู นระยะชว งแขนของบุรุษตอ งอาบตั ปิ าจิตตีย.
พระวินัยปฎ ก ภิกขุนวี ิภังค เลม ๓ - หนาที่ 222 ยนื รว มหรือเจรจารวม พนชว งระยะแขน ตอ งอาบัตทิ กุ กฏ. ยนื รว มหรือเจรจารวมกับยักษผูชาย เปรตผูช าย บณั เฑาะก หรือสัตวดริ ัจฉานตัวผมู ีรา งกายคลายมนุษย ตองอาบัติทกุ กฏ. อนาปต ตวิ าร [๑๙๐] มีสตรผี รู ูความคนใดคนหนึ่งอยูเปน เพอ่ื น ๑ ไมเ พง ทีล่ บั ยืนรว มหรือเจรจารว ม ๑ สงใจไปอน่ื ยืนรวมหรอื เจรจารวม ๑ วิกลจรติ ๑อาทิกัมมิกา ๑ ไมตอ งอาบัตแิ ล. อันธการวรรค สิกขาบทที่ ๒ จบ อรรถกถาอันธการวรรค สกิ ขาบทที่ ๒ วนิ ิจฉยั ในสิกขาบทที่ ๒ พึงทราบดังนี้ :- เฉพาะคาํ วา ปฏิจฉฺ นฺเน โอกาเส (สถานทกี่ ําบัง) น้ีเทา น้ันตางกัน. บทท่ีเหลือท้งั หมด เปน อันเดยี วกบั สิกขาบทกอ นน่ันแล. อรรถกถาอันธการวรรค สกิ ขาบทท่ี ๒ จบ
พระวินยั ปฎ ก ภกิ ขนุ วี ิภงั ค เลม ๓ - หนา ที่ 223 อันธการวรรค สกิ ขาบทท่ี ๓ เรือ่ งภกิ ษุณอี ันเตวาสนิ ขี องพระภทั ทากาปล านเี ถรี [๑๙๑] โดยสมัยนั้น พระผูมีพระภาคพทุ ธเจาประทับอยู ณ พระ-เชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกคหบดี เขตพระนครสาวตั ถี ครงั้ นนั้ ญาติผูชายของภกิ ษณุ อี นั เตวาสินแี หงพระภทั ทากาปลานเี ถรี ไดจากบา นไปสูพระนครสาวตั ถีดว ยกรณยี กิจบางอยา ง ฝายภกิ ษุณนี ัน้ ทราบแลว วา พระผมู พี ระภาคเจาทรงหา มการยนื รว ม เจรจารว ม กับบรุ ษุ หน่ึงตอหนึ่ง ในสถานทก่ี าํ บัง จึงยืนรว มบา ง เจรจารวมบาง กบั บรุ ษุ คนนน้ั แหละหนึง่ ตอหนึ่ง ในสถานทแ่ี จง บรรดาภกิ ษุณที เี่ ปน ผูมกั นอ ย. . . ตางพากนั เพงโทษ ตเิ ตยี น โพน-ทะนาวา ไฉนภิกษณุ ีจึงไดยืนรว มบาง เจรจารว มบา ง กับบุรุษหนึง่ ตอหน่ึงในสถานท่แี จง เลา . . . ทรงสอบถาม พระผูมพี ระภาคเจา ทรงสอบถามภิกษุทง้ั หลายวา ดกู อนภกิ ษุทัง้ หลายขา ววา ภกิ ษุณียืนรว มบาง เจรจารวมบาง กับบรุ ษุ หนึ่งตอหน่ึง ในสถานที่แจง จรงิ หรอื . ภิกษุทงั้ หลายกราบทลู วา จรงิ พระพทุ ธเจาขา . ทรงตเิ ตียนแลวบญั ญัตสิ ิกขาบท พระผมู พี ระภาคพทุ ธเจา ทรงติเตียนวา ดูกอ นภกิ ษทุ ้งั หลาย ไฉนภกิ ษุณจี งึ ไดยืนรว มบา ง เจรจาบา ง กับบรุ ุษหนง่ึ ตอ หนึง่ ในสถานท่ีแจง เลาการกระทาํ ของนางนนั่ ไมเปน ไปเพ่อื ความเลือ่ มใสของชุมชนที่ยงั ไมเล่อื มใส. . .
พระวนิ ัยปฎก ภิกขนุ ีวภิ งั ค เลม ๓ - หนาที่ 224 ดกู อนภกิ ษุทัง้ หลาย กแ็ ลภิกษณุ ที งั้ หลาย จงยกสิกขาบทน้ีข้ึนแสดงอยา งน้ี วาดงั น้:ี - พระบัญญัติ ๖๘. ๓. อนึง่ ภิกษุณีใด กับบรุ ุษหน่ึงตอ หน่ึง ยินรว มก็ดีเจรจารวมก็ดี ในสถานทแ่ี จง เปน ปาจติ ตยี . เร่อื งภิกษุณอี ันเตวาสินขี องพระภทั ทากาปลานีเถรี จบ สิกขาบทวิภงั ค [๑๙๒า บทวา อนงึ่ . . .ใด ความวา ผใู ด คือ ผเู ชน ใด. . . บทวา ภิกษณุ ี ความวา ท่ีช่อื วา ภกิ ษุณี เพราะอรรถวาเปนผูขอ. . .นช้ี ื่อวา ภิกษณุ ี ทีท่ รงประสงคในอรรถน้ี . ที่ช่ือวา สถานที่แจง ไดแ ก สถานท่อี นั มไิ ดกําบงั ดวยส่งิ ใดสง่ิ หนึง่คอื ฝา บานประตู ลําแพน มา น ตน ไม เสา หรอื ฉางขาว. ทช่ี ่ือวา บรุ ษุ ไดแก มนษุ ยผชู าย มใิ ชย กั ษผ ชู าย มิใชเ ปรตผูชายมใิ ชส ัตวดริ ัจฉานตวั ผู เปน บคุ คลผูร คู วาม เปนผสู ามารถจะยนื รว ม เจรจารว มได. บทวา กับ คือ ดวยกนั . บทวา หนงึ่ ตอ หนึง่ คือ บรุ ษุ ผหู น่ึง และภกิ ษุณีรปู หน่ึง. บทวา ยนิ รวมก็ดี คอื ยืนอยใู นระยะชวงแขนของบุรษุ ตองอาบัติปาจิตตยี . บทวา เจรจารว มกด็ ี คือ เจรจาอยูในระยะชวงแขนของบรุ ุษ ตองอาบตั ปิ าจติ ตยี .
พระวินัยปฎก ภิกขุนีวิภงั ค เลม ๓ - หนาท่ี 225 ยืนรวมหรือเจรจารว ม พนระยะชวงแขน ตองอาบตั ทิ กุ กฏ. ยนื รว มหรือเจรจารว ม กับยักษผ ูช าย เปรตผูช าย บัณเฑาะก หรอืสตั วด ริ ัจฉานตัวผูม ีรา งกายคลายมนุษย ตองอาบัตทิ กุ กฏ. อนาปตติวาร [๑๙๓] มสี ตรีผูรคู วามคนใดคนหนงึ่ อยเู ปน เพอ่ื น ๑ ไมเพง ทีล่ บั ยนืรวมหรือเจรจารว ม ๑ สงใจไปอ่นื ยนื รวมหรอื เจรจารวม ๑ วกิ ลจริต ๑อาทิกัมมิกา ๑ ไมตอ งอาบัติแล. อนั ธการวรรค สิกขาบทที่ ๓ จบ อรรถกถาอนั ธการวรรค สกิ ขาบทท่ี ๓ วินจิ ฉยั ในสิกขาบทที่ ๓ พงึ ทราบดังน้ี :- คาํ วา อชฺโฌกาเส (ในสถานท่แี จง) ตางกัน. คําท่ีเหลอื ทัง้ หมดเปนเชน น้นั นัน่ แล. อรรถกถาอันธการวรรค สกิ ขาบทที่ ๓ จบ
พระวินยั ปฎก ภิกขุนวี ิภังค เลม ๓ - หนาท่ี 226 อนั ธการวรรค สกิ ขาบทที่ ๔ เรอ่ื งภกิ ษณุ ีถลุ ลนนั ทา [๑๙๔] โดยสมัยนั้น พระผูมีพระภาคพุทธเจาประทบั อยู ณ พระเชต-วนั อารามของอนาถบิณฑิกคหบดี เขตพระนครสาวตั ถี คร้งั น้นั ภิกษณุ ีถุลลนันทา ยืนรว มบา ง เจรจารวมบาง กระซบิ ใกลห ูบา ง กบั บรุ ษุ หนงึ่ ตอหนงึ่ ในถนนบาง ในตรอกตนั บา ง ในทางสามแพรงบาง สงภิกษุณีเปน เพอ่ื นกลบั ไปบาง. บรรดาภิกษุณีท่ีเปนผูม กั นอ ย. . . ตางพากนั เพงโทษ ตเิ ตียน โพน-ทะนาวา ไฉนแมเจาถุลลนันทาไดยืนรว มบา ง เจรจารวมบาง กระซบิ ใกลห ูบาง กบั บรุ ุษหนึง่ ตอ หน่ึง ในถนนบา ง ในตรอกตันบาง ในทางสามแพรงบา ง สงภิกษุณผี เู ปนเพือ่ นกลบั ไปบางเลา. ทรงสอบถาม พระผมู ีพระภาคเจา ทรงสอบถามภิกษุทง้ั หลายวา ดูกอนภกิ ษทุ ้ังหลายขา ววา ภกิ ษุณีถุลลนนั ทายืนรวมบา ง เจรจารว มบาง กระซิบใกลหูบาง กบั บุรษุหนึง่ ตอหน่งึ ในถนนบาง ในตรอกตันบา ง ในทางสามแพรง บา ง สงภิกษุณีผเู ปนเพอ่ื นกลบั ไปบา ง จริงหรือ. ภกิ ษณุ ีทั้งหลายกราบทลู วา จริง พระพุทธเจา ขา . ทรงตเิ ตียนแลวบญั ญตั สิ ิกขาบท พระผูมีพระภาคพทุ ธเจาทรงติเตยี นวา ดูกอนภิกษทุ งั้ หลาย ไฉนภิกษณุ ีถุลลนันทาจึงไดยืนรวมบาง เจรจารวมบา ง กระซบิ ใกลห บู าง กบั บรุ ุษ
พระวนิ ัยปฎ ก ภิกขุนีวภิ งั ค เลม ๓ - หนา ที่ 227หนง่ึ ตอ หน่ึง ในถนนบาง ในตรอกตันบาง ในทางสามแพรง บา ง สงภิกษุณีผูเปน เพ่ือนกลับไปบา งเลา การกระทําของนางน่ัน ไมเ ปน ไปเพอื่ ความเลื่อมใสของชุมชนท่ยี ังไมเล่ือมใส. . . ดกู อนภกิ ษทุ งั้ หลาย ก็แลภิกษณุ ีทั้งหลายจงยกสิกขาบทนข้ี ้ึนแสดงอยา งนี้วา ดงั น:ี้ - พระบัญญตั ิ ๖๙. ๔. อนึ่ง ภกิ ษณุ ใี ด ยินรวมก็ดี เจรจารวมกด็ ี กระซิบใกลหกู ็ดี กบั บุรษุ หน่งึ ตอหนงึ่ ในถนนก็ดี ในตรอกตันกด็ ี ในทางสามแพรงก็ดี สง ภกิ ษณุ ีผูเปน เพอื่ นกลับไปกด็ ี เปนปาจิตตีย. เรอ่ื งภิกษุณีถลุ ลนันทา จบ สิกขาบทวิภงั ค [๑๙๕] บทวา อนง่ึ . . .ใด ความวา ผใู ด คือ ผูเชนใด. . . บทวา ภิกษณุ ี ความวา ทช่ี ื่อวา ภกิ ษุณี เพราะอรรถวาเปนผูขอ. . . น้ชี อื่ วา ภกิ ษุณี ทที่ รงประสงคในอรรถนี้. ทชี่ ือ่ วา ถนน ไดแ ก ทางเดนิ . ทชี่ อื่ วา ตรอกตนั ไดแก ทางที่เขา ทางใดออกทางนั้น. ทช่ี ือ่ วา ทางสามแพรง ไดแ กชมุ ทางทเ่ี ทย่ี วเตร. ที่ช่อื วา บรุ ษุ ไดแ ก มนษุ ยผ ูชาย มิใชยักษผชู าย มิใชเ ปรตผูช ายมใิ ชส ัตวด ริ ัจฉานตวั ผู เปนบุคคลผรู คู วาม เปนผูสามารถจะยืนรว ม เจรจารวมได. บทวา กบั คือดวยกนั .
พระวนิ ยั ปฎก ภิกขนุ วี ภิ ังค เลม ๓ - หนาที่ 228 บทวา หนง่ึ ตอ หน่งึ คอื บรุ ุษผูหนง่ึ และภกิ ษณุ ีอีกรูปหนึ่ง. บทวา ยนิ รว มก็ดี คอื ยนื รว มในระยะชว งแขนของบุรษุ ตอ งอาบตั ิปาจติ ตีย. บทวา เจรจารวมกด็ ี คือ เจรจาอยใู นระยะชวงแขนของบรุ ษุ ตองอาบตั ปิ าจิตตยี . บทวา กระซิบใกลห ูกด็ ี คือ บอกเนอื้ ความใกลหูของบรุ ุษ ตองอาบัตปิ าจิตตยี . พากยวา ภกิ ษุณีผเู ปนเพือ่ นกลบั ไปก็ดี คอื ประสงคจะประพฤติอนาจาร จึงสง ภิกษุณีผเู ปนเพอ่ื นกลบั ไป ตอ งอาบตั ิทกุ กฏ, เมือ่ ภกิ ษณุ ีผเู ปนเพ่อื นละไปใกลจ ะพน สายตา หรือสดุ เสียงสง่ั ตองอาบัตทิ กุ กฏ เมอื่ ภิกษุณีผเู ปน เพอ่ื นพนไปแลว ตอ งอาบตั ิปาจิตตยี . ยนื รว ม หรอื เจรจารวม พน ระยะชวงแขน ตองอาบตั ทิ ุกกฏ. ยืนรวม หรือเจรจารว ม กับยักษผ ูชาย เปรตผูช าย บัณเฑาะกหรือสัตวด ิรจั ฉานตวั ผมู รี า งกายคลา ยมนุษย ตอ งอาบัติทกุ กฎ. อนาปต ติวาร [๑๙๖] มีสตรีผรู ูความคนใดคนหนึ่งอยเู ปน เพอ่ื น ๑ ไมเ พงทีล่ ับ ยืนรว มหรือเจรจารว ม ๑ สงใจไปอ่ืน ยืนรวมหรือเจรจารวม ๑ ไมป ระสงคจะประพฤตอิ นาจาร มีกิจจาํ เปนจงึ สง ภกิ ษณุ ผี เู ปน เพ่ือนกลบั ๑ วกิ ลจรติ ๑อาทกิ ัมมิกา ๑ ไมต อ งอาบตั ิแล. อนั ธการวรรค สิกขาบทที่ ๔ จบ
พระวินัยปฎ ก ภกิ ขุนีวิภงั ค เลม ๓ - หนาท่ี 229 อรรถกถาอันธการวรรค สกิ ขาบทที่ ๔ วนิ จิ ฉัยในสกิ ขาบทท่ี ๔ พึงทราบดงั นี้:- ท่ีใกลหู ทานเรยี กวา นกิ กัณณกิ ะ. มีคําอธิบายวา กระซบิ ทใี่ กลห ู สองบทวา สติ กรณีเย มคี วามวา มกี จิ จาํ เปนเพ่อื ตองการจะนาํสลากภตั เปนตน มา หรอื เพ่อื ตอ งการจะเก็บงําของท่วี างไวไ มดีในวัด. คาํ ที่เหลอืต้ืนทง้ั นนั้ . สมฏุ ฐานเปนตน เปนเชนเดียวกันกบั สกิ ขาบทกอนทง้ั นัน้ แล. อรรถกถาอนั ธการวรรค สิกขาบทท่ี ๔ จบ
พระวนิ ัยปฎ ก ภิกขุนีวภิ ังค เลม ๓ - หนาท่ี 230 อันธการวรรค สกิ ขาบทท่ี ๕ เร่ืองภิกษุณรี ูปหนงึ่ [๑๙๗] โดยสมัยนนั้ พระผูมพี ระภาคพทุ ธเจา ประทับอยู ณ พระ-เชตวัน อารามของอนาถบณิ ฑกิ คหบดี เขตพระนครสาวตั ถี ครงั้ นั้น ภกิ ษุณีรปู หนึ่งเปนกลุ ปุ ก าของสกุลแหง หนึ่ง รบั ภตั ตาหารเปนประจาํ ภกิ ษุณีนั้นครน้ั เวลาเชา จึงครองอนั ตรวาสกแลว ถือบาตรจวี ร เดินผา นเขา ไปทางสกุลนั้นครัน้ ถึงจงึ นั่งบนอาสนะแลวไมบอกลาเจาของบา นกลับไป ทาสีแหงสกลุ น้นั มวัสาละวนเกบ็ กวาดเรอื น ไดเ กบ็ อาสนะนน้ั ลงในกระโถน คนในบา นไมเห็นอาสนะ จึงถามภิกษณุ ีนน้ั วา ขา แตแมเจา อาสนะนน้ั อยทู ่ีไหน. ภกิ ษณุ ีนนั้ ปฏิเสธวา อาวโุ ส ดฉิ ันไมเ ห็นอาสนะนัน้ . คนเหลานนั้ กลาวคาดคัน้ วา ขาแตแมเ จา ขอทานจงใหอาสนะนั้นดังน้แี ลว ไดบอกเลิกถวายภัตตาหารประจาํ ภายหลังเขาชาํ ระเรอื นพบอาสนะน้ันอยูในกระโถน จงึ ขอขมาโทษภิกษณุ ีนน้ั แลว ไดเริ่มตน ถวายภัตตาหารประจาํ ตอไป. สวนภิกษณุ นี ั้นไดเลาเรื่องนนั้ แกภ ิกษณุ ที ั้งหลาย บรรดาภกิ ษุณที ีเ่ ปนผมู ักนอย . . . ตางก็เพงโทษ ติเตียน โพนทะนาวา ไฉนภกิ ษณุ เี ขาสูสกุลในเวลากอ นอาหารนง่ั บนอาสนะแลว จึงไมบอกลาเจาของบานกอ นกลับเลา . . . ทรงสอบถาม พระผูมพี ระภาคเจา ทรงสอบถามภกิ ษุทง้ั หลายวา ดูกอ นภิกษุทงั้ หลายขา ววา ภกิ ษุณเี ขา สูสกุลในเวลากอนอาหาร นั่งบนอาสนะแลว ไมบอกลาเจาของบานกอนกลับ จริงหรือ ?
พระวนิ ยั ปฎก ภกิ ขุนวี ิภงั ค เลม ๓ - หนา ที่ 231 ภกิ ษทุ ้ังหลายกราบทูลวา จรงิ พระพทุ ธเจาขา. ทรงติเตียนแลวบัญญัตสิ กิ ขาบท พระผูมีพระภาคพทุ ธเจาทรงติเตียนวา ดูกอ นภิกษุทง้ั หลาย ไฉนภิกษณุ เี ขา สูสกุลในเวลากอ นอาหาร นง่ั บนอาสนะแลว จงึ ไดไ มบอกลาเจาของบา นกอนกลับเลา การกระทําของนางนน่ั ไมเ ปน ไปเพ่อื ความเลื่อมใสของชุมชนทย่ี งั ไมเลือ่ มใส. . . ดกู อ นภิกษทุ ั้งหลาย ก็แลภิกษุณที ั้งหลายจงยกสิกขาบทนี้ขน้ึ แสดงอยา งน้วี าดังนี:้ - พระบัญญัติ ๗๐. ๕. อน่งึ ภกิ ษณุ ีใด เขา ไปสสู กุลทั้งหลาย ในเวลากอ นอาหาร นงั่ บนอาสนะแลว ไมบอกลาเจาของบาน หลีกไปเปนปาจิตตีย. เรอื่ งภกิ ษุณีรูปหน่ึง จบ สิกขาบทวภิ ังค [๑๙๘] บทวา อนึ่ง. . .ใด ความวา ผูใ ด คอื ผเู ชน ใด. . . บทวา ภกิ ษณุ ี ความวา ทชี่ ่อื วา ภิกษณุ ี เพราะอรรถวา เปนผูขอ. . .นช้ี ่อื วา ภกิ ษณุ ี ที่ทรงประสงคในอรรถน้ี . ที่ช่ือวา เวลากอ นอาหาร คือเวลาอรุณขึน้ ทราบเทา เท่ียงวัน. ทีช่ อ่ื วา สกลุ ไดแกสกลุ ๔ คอื สกุลกษัตรยิ สกุลพราหมณ สกุลแพศย สกุลศทู ร.
พระวินัยปฎก ภกิ ขุนวี ภิ ังค เลม ๓ - หนา ท่ี 232 บทวา เขาไป คอื ไปในสกลุ นนั้ . ทีช่ อื่ วา อาสนะ ไดแก เอกเทสท่เี ขาเรียกกันวา ท่ีสาํ หรบั นั่งพับแพนงเชิง. บทวา นง่ั คือ น่ังบนอาสนะนัน้ . คําวา ไมบ อกลาเจา ของบา น หลกี ไป ความวา ไมอําลาคนในสกลุ นัน้ ซง่ึ เปนเจาของถวาย. เดนิ พน ชายคา ตองอาบตั ปิ าจติ ตีย ในท่แี จง เดนิ ลว งอุปจาร ตอ งอาบตั ปิ าจติ ตยี . บทภาชนยี ตกิ ะปาจติ ตยี [๑๙๙] ยังมิไดบ อกลา ภกิ ษณุ ีสําคญั วา ยงั มไิ ดบ อกลา หลีกไปตอ งอาบัตปิ าจติ ตยี . ยงั มไิ ดบ อกลา ภิกษุณสี งสยั หลีกไป ตอ งอาบตั ิปาจิตตยี . ยังมไิ ดบ อกลา ภกิ ษุณีสาํ คญั วา บอกลาแลว หลีกไป ตอ งอาบตั ิปาจติ ตีย. ติกะทุกกฏ ไมใชส ถานทสี่ าํ หรับนง่ั พับแพนงเชงิ ตองอาบตั ิทกุ กฏ. บอกลาแลว ภกิ ษณุ ีสําคัญวา ยังมไิ ดบ อกลา ตอ งอาบตั ิทกุ กฏ. บอกลาแลว ภกิ ษณุ สี งสยั ตอ งอาบัติทกุ กฏ. ไมต องอาบัติ บอกลาแลว ภกิ ษณุ สี ําคัญวาบอกลาแลว ไมต อ งอาบัติ.
พระวินัยปฎก ภกิ ขุนีวิภงั ค เลม ๓ - หนาที่ 233 อนาปต ตวิ าร [๒๐๐] บอกลาแลว ไป ๑ อาสนะเคลอื่ นทไี่ มไ ด ๑ อาพาธ ๑ มีอันตราย ๑ วกิ ลจรติ ๑ อาทกิ มั มิกา ๑ ไมต อ งอาบัตแิ ล. อันธการวรรค สกิ ขาบทท่ี ๕ จบ อรรถกถาอันธการวรรค สกิ ขาบทท่ี ๕ วินจิ ฉยั ในสกิ ขาบทที่ ๕ พึงทราบดังน้:ี - สองบทวา ฆร โสเธนตฺ า มคี วามวา ไดยนิ วา ชนเหลาน้ันไดม ีความปริวิตกนี้วา การลวงละเมิดทางกายทางวาจาบางอยา งของพระเถรีไมปรากฏ. พวกเราจงชว ยกันชาํ ระเรอื นดูบา งกอนเถิด เพราะฉะนน้ั พวกเจาของบา น เมื่อชําระเรือนจึงไดพ บอาสนะ. สองบทวา อโนวสฺสิก อติกกฺ มนตฺ ิยา มคี วามวา ภิกษณุ ีเม่ือใหเทาแรกกาวเลยไป เปน ทกุ กฏ. เมื่อใหเทาท่ี ๒ กา วเลยไปเปน ปาจิตตยี . แมในการกาวลวงอปุ จาร กม็ ีนัยอยา งน้ีเหมอื นกนั . บทวา คลิ านาย คอื ไมอ าจจะบอกลา เพราะอาพาธเชน นนั้ . บทวา อาปาทาสุ มีความวา ทเี่ รือนเกดิ ไฟไหมข ึ้น หรอื ถูกพวกโจรปลน ในอันตรายเหน็ ปานน้ี ไมบอกลาหลกี ไปเสีย ไมเ ปน อาบัต.ิ คาํ ที่เหลอื ในสกิ ขาบทนี้ ต้นื ทง้ั น้นั . สกิ ขาบทน้ี มีสมฏุ ฐานดจุ กฐินสิกขาบท เกดิ ขน้ึ ทางกายกับวาจา ๑ทางกายวาจากับจติ ๑ เปน ทัง้ กริ ิยาทงั้ อกริ ิยา เปนโนสญั ญาวโิ มกข อจิตตกะปณณัตตวิ ัชชะ กายกรรม วจกี รรม มจี ติ ๓ มเี วทนา ๓ ฉะนแ้ี ล. อรรถกถาอนั ธการวรรค สิกขาบทท่ี ๕ จบ
พระวนิ ัยปฎ ก ภิกขุนวี ภิ ังค เลม ๓ - หนาท่ี 234 อนั ธการวรรค สิกขาบทที่ ๖ เรอ่ื งภิกษุณีถลุ ลนันทา [๒๐๑] โดยสมยั นั้น พระผมู ีพระภาคพุทธเจาประทับอยู ณ พระ-เชตวนั อารามของอนาถบณิ ฑกิ คหบดี เขตพระนครสาวัตถี ครง้ั น้ัน ภกิ ษณุ ีถุลลนันทาเขา ไปสสู กลุ ในเวลาหลงั อาหาร แลวน่ังบา ง นอนบาง บนอาสนะไมบอกกลา วเจา ของบา น คนในบานกระดากภกิ ษณุ ีถุลลนนั ทา ไมกลา นง่ั ไมกลานอน บนอาสนะ เขาจึงเพง โทษ ตเิ ตยี น โพนทะนาวา ไฉน แมเ จาถุลลนันทา จึงไดเขา ไปสสู กุลในเวลาหลังอาหาร แลว นั่งบาง นอนบา ง บนอาสนะ ไมบอกกลาวเจา ของบานเลา . ภกิ ษุณี ท้ังหลายไดยนิ คนพวกนัน้ พากนั เพง โทษ ตเิ ตยี น โพน-ทะนาอยู บรรดาทเี่ ปน ผมู ักนอย. . . ตางก็เพง โทษ ตเิ ตียน โพนทะนาวาไฉนแมเ จาถลุ ลนันทาจงึ ไดเ ขา ไปสสู กุลในเวลาหลังอาหาร แลว น่งั บา ง นอนบา ง บนอาสนะ ไมบ อกกลา วเจา ของบานเลา. . . ทรงสอบถาม พระผมู พี ระภาคเจาทรงสอบถามภกิ ษุท้งั หลายวา ดกู อ นภกิ ษทุ ง้ั หลายขาววาภิกษุณถี ลุ ลนันทาเขา ไปสสู กุลในเวลาหลงั อาหาร แลวน่ังบา ง นอนบา งบนอาสนะไมบอกกลา วเจาของบาน จรงิ หรอื . ภกิ ษุทัง้ หลายกราบทลู วา จริง พระพทุ ธเจา ขา.
พระวนิ ัยปฎ ก ภิกขนุ วี ภิ ังค เลม ๓ - หนาท่ี 235 ทรงติเตยี นแลว บญั ญตั สิ กิ ขาบท พระผมู พี ระภาคพุทธเจาทรงติเตยี นวา ดูกอ นภกิ ษทุ ้งั หลาย ไฉนภกิ ษุณีถุลลนันทาจึงไดเ ขา ไปสูส กลุ ในเวลาหลังอาหาร แลวน่งั บาง นอนบา งบนอาสนะ ไมบ อกกลาวเจาของบานเลา การกระทําของนางน่ัน ไมเปน ไปเพื่อความเลอ่ื มใสของชุมชนทยี่ งั ไมเลือ่ มใส . . . ดกู อ นภกิ ษทุ ้งั หลาย ก็แลภกิ ษณุ ีทง้ั หลายจงยกสกิ ขาบทนีข้ ้นึ แสดงอยางน้ีวา ดังน้:ี - พระบญั ญัติ ๓๑. ๖ อน่งึ ภิกษณุ ีใด เขา ไปสสู กลุ ในเวลาหลังอาหารไมบ อกกลาวพวกเจา ของบา น น่งั กด็ ี นอนก็ดี บนอาสนะ เปนปาจิตตีย. เรื่องภกิ ษุณีถุลลนนั ทา จบ สกิ ขาบทวภิ งั ค [๒๐๒] บทวา อนง่ึ . . .ใด ความวา ผูใ ด คอื ผเู ชน ใด. . . บทวา ภกิ ษณุ ี ความวา ทชี่ ื่อวา ภกิ ษุณี เพราะอรรถวา เปน ผูขอ. . . นีช้ อ่ื วา ภกิ ษณุ ี ท่ที รงประสงคในอรรถน้.ี ทชี่ อ่ื วา เวลาหลงั อาหาร ไดแ ก เวลาเที่ยงลวงไปแลว ตราบเทาพระอาทติ ยอสั ดงคต. ทช่ี ื่อวา สกุล ไดแก สกุล ๔ คอื สกุลกษตั ริย สกุลพราหมณสกลุ แพศย สกลุ ศทู ร.
พระวินยั ปฎก ภิกขนุ ีวภิ งั ค เลม ๓ - หนา ที่ 236 บทวา เขา ไป คือ ไปในสกลุ น้ัน. คําวา ไมบ อกกลา วพวกเจาของบาน คือ ไมบอกคนในสกลุ นั้นซง่ึ เปนเจาของถวาย. ท่ีชือ่ วา อาสนะ ไดแก สถานทีเ่ ขาเรียกกันวาแทน หรอื เตยี งอนั วา ง บทวา น่งั คอื น่งั ลงบนอาสนะนั้น ตอ งอาบตั ปิ าจิตตยี ะ. บทวา นอน คอื นอนลงบนอาสนะนน้ั ตอ งอาบตั ิปาจิตตยี . บทภาชนยี ตกิ ะปาจิตตีย [๒๐๓] มิไดบอกกลา ว ภกิ ษุณีสาํ คญั วา มิไดบ อกกลาว น่ังกด็ ี นอนก็ดี บนอาสนะ ตองอาบัตปิ าจติ ตีย. มิไดบอกกลา ว ภกิ ษุณสี งสัย น่งั กด็ ี นอนก็ดี บนอาสนะ ตองอาบตั ิปาจิตตีย. มิไดบ อกกลา ว ภกิ ษณุ สี าํ คัญวาบอกกลาวแลว นง่ั ก็ดี นอนกด็ ีบนอาสนะ ตอ งอาบตั ปิ าจติ ตยี . ตกิ ะทกุ กฏ นั่ง ณ สถานอันมใิ ชแ ทน หรอื เตยี ง ตองอาบตั ิทุกกฏ. บอกกลา วแลว ภกิ ษุณสี ําคัญวายังมิไดบ อกกลา ว ตอ งอาบัตทิ กุ กฏ. บอกกลา วแลว ภิกษุณสี งสยั ตองอาบัตทิ ุกกฏ. ไมต องอาบตั ิ บอกกลาวแลว ภกิ ษุณสี าํ คัญวาบอกกลาวแลว ไมตองอาบตั ิ.
พระวินยั ปฎ ก ภกิ ขนุ ีวิภงั ค เลม ๓ - หนา ท่ี 237 อานาปต ติวาร [๒๐๔ ] บอกแลว นง่ั กด็ ี นอนกด็ ี บนอาสนะ ๑ บนอาสนะที่เขาปไู วเ ปนประจํา ๑ อาพาธ ๑ มอี นั ตราย ๑ วิกลจรติ ๑ อาทิกมั มิกา ๑ ไมตอ งอาบตั แิ ล. อนั ธการวรรค สกิ ขาบทท่ี ๖ จบ อรรถกถาอนั ธการวรรค สกิ ขาบทท่ี ๖ วินิจฉยั ในสิกขาบทที่ ๖ พงึ ทราบดังนี:้ - บทวา อภินีสเี ทยยฺ แปลวา พึงน่งิ . เมื่อนง่ั แลว ลุกไป เปนอาบัติตวั เดียว. เมอ่ื ไมน่ัง นอนแลวไป เปนอาบัติตวั เดยี ว. เม่ือน่งั แลว นอนเปนอาบัติ ๒ ตัว. บทวา ธุวปฺ ตฺเต ไดแก อาสนะที่เขาปูไวเปนประจํา เพอื่ประโยชนแ กภิกษณุ ที ้ังหลาย. คําทเี่ หลือ ตน้ื ท้ังนั้น. สิกขาบทนี้ มสี มฏุ ฐานเหมอื นกับกฐนิ สกิ ขาบท ฯลฯ มีเวทนา ๓ฉะนี้แล. อรรถกถาอนั ธการวรรค สิกขาบทที่ ๖ จบ
พระวนิ ัยปฎก ภกิ ขุนวี ภิ ังค เลม ๓ - หนา ท่ี 238 อันธการวรรค สิกขาบทที่ ๗ เรือ่ งภิกษุณหี ลายรูป [๒๐๕] โดยสมัยน้นั พระผูมพี ระภาคพทุ ธเจาประทับอยู ณ พระ-เชตวัน อารามของอนาถบณิ ฑิกคหบดี เขตพระนครสาวัตถี คร้ังน้ัน ภกิ ษุณีหลายรปู พากนั ไปสพู ระนครสาวตั ถใี นโกศลชนบท พอเขา ถงึ บา นหมหู นง่ึ ในเวลาเย็นไดเขา สูส กลุ พราหมณสกุลหนึ่ง ขอที่พกั แรม พราหมณีจงึ ไดก ลา วคาํ นี้กะภกิ ษณุ ีเหลา นน้ั วา แมเจาท้ังหลาย ขอไดโ ปรดรอจนกวาทานพราหมณจะมา. ภิกษณุ ีท้ังหลายกลาววา จนกวาทา นพราหมณจะมา ดงั น้ี แลวไดจ ดัปูลาดเครอ่ื งสําหรบั นอนแลว บางพวกน่ัง บางพวกนอน. ตกคํา่ พราหมณมาเห็นแลว ไดถ ามพราหมณนี น้ั วา สตรีเหลาน้นั คอื ใครกัน พราหมณตี อบวา ภิกษุณเี จา คะ. พราหมณก ลา ววา จงขบั ไลไ ป สตรศี รี ษะโลนเหลา น้เี ปน หญงิ เสเพลดังน้ี แลวใหข ับไลอ อกจากเรือนไป. คร้ันภกิ ษณุ เี หลา นน้ั ไปถงึ พระนครสาวัตถแี ลว ไดเลาเรอื่ งนั้นแกภกิ ษุณที งั้ หลาย บรรดาภิกษุณีทเ่ี ปน ผูม กั นอย. . . ตา งก็เพง โทษ ติเตยี นโพนทะนาวา ไฉนภิกษณุ ที ้ังหลายจึงไดเขา สูสกุลในเวลาวกิ าล แลวไมบอกเจาของบาน ปูลาดเองบางใหผ ูอ่นื ปูลาดบา ง ซง่ึ เคร่อื งนอน แลว น่ังบา งนอนบางเลา. . .
พระวินัยปฎ ก ภกิ ขนุ ีวิภงั ค เลม ๓ - หนา ที่ 239 ทรงสอบถาม พระผูม พี ระภาคเจา ทรงสอบถามภกิ ษทุ ง้ั หลายวา ดูกอนภิกษุท้งั หลายขาววาภิกษุณที ัง้ หลายเขาสูสกุลในเวลาวกิ าล แลว ไมบอกพวกเจาของบา นปูลาดเองบาง ใหผอู ่ืนปูลาดบา ง ซงึ่ เคร่อื งนอน แลว นงั่ บา ง นอนบา ง จรงิหรอื . ภิกษทุ ัง้ หลายกราบทูลวา จรงิ พระพุทธเจาขา. ทรงตเิ ตียนแลว บญั ญตั ิสกิ ขาบท พระผมู พี ระภาคพุทธเจาทรงติเตียนวา ดกู อนภกิ ษุทงั้ หลาย ไฉนภิกษณุ ีทง้ั หลายจงึ ไดเขาสสู กลุ ในเวลาวิกาล แลว ไมบ อกพวกเจาของบา น ลาดเองบา ง ใหผูอน่ื ลาดบาง ซงึ่ เครือ่ งนอน แลวน่งั บา ง นอนบา งเลา การกระทําของพวกนางน่นั ไมเ ปนไปเพ่อื ความเล่ือมใสของชุมชนทีย่ งั ไมเ ลือ่ มใส... ดูกอ นภิกษทุ ้งั หลาย กแ็ ลภิกษุณีทัง้ หลายจงยกสกิ ขาบทนีข้ น้ึ แสดงอยางนี้ วา ดงั นี้:- พระบัญญตั ิ ๗๒. ๗. อน่ึง ภกิ ษณุ ใี ด เขา ไปสสู กุลทั้งหลาย ในเวลาวกิ าลไมบอกพวกเจา ของบา น ลาดกด็ ี ใหล าดกด็ ี ซึ่งเครอื่ งนอนแลว น่งั ก็ดี นอนก็ดี เปน ปาจิตตยี . เร่อื งภิกษุณหี ลายรูป จบ สิกขาบทวิภังค [๒๐๖] บทวา อนงึ่ . . .ใด ความวา ผใู ด คอื ผูเชน ใด. . . บทวา ภกิ ษุณี ความวา ท่ีชือ่ วา ภกิ ษุณี เพราะอรรถวา เปน ผูขอ. . .น้ีช่ือวา ภกิ ษณุ ี ทท่ี รงประสงคในอรรถนี้.
พระวินยั ปฎก ภกิ ขุนวี ิภงั ค เลม ๓ - หนาที่ 240 ทชี่ ่อื วา เวลาวิกาล ไดแ ก เวลาตงั้ แตอ าทติ ยอ ัศดงคตตราบเทาถงึอรณุ ขน้ึ . ทช่ี ือ่ วา สกลุ ไดแ ก สกุล ๔ คอื สกลุ กษัตรยิ สกุลพราหมณ สกุลแพศย สกุลศูทร. บทวา เขาไป คอื ไปในสกลุ นน้ั . คาํ วา ไมบอกพวกเจาของบาน คอื ไมบ อกคนในสกลุ นัน้ ซงึ่ เปนเจา ของถวาย. ที่ชือ่ วา เคร่ืองนอน ไดแก เครื่องปูลาด โดยทีส่ ุดแมเครื่องลาดทีท่ ําดวยใบไม. บทวา ลาด คอื ลาดเอง. บทวา ใหลาด คอื ใชค นอนื่ ลาด. บทวา นัง่ คอื นั่งบนเคร่ืองนอนที่ลาดนั้น ตองอาบตั ิปาจิตตีย. บทวา นอน คอื นอนบนเครอื่ งนอนท่ลี าดน้นั ตองอาบัติปาจติ ตีย บทภาชนยี ตกิ ะปาจิตตยี [๒๐๗] มไิ ดบ อกเจา ของ ภกิ ษุณีสาํ คญั วา มไิ ดบ อก ลาดกด็ ี ใหล าดกด็ ี ซึ่งเครือ่ งนอน แลวน่งั หรือนอน ตอ งอาบัตปิ าจติ ตีย. มไิ ดบ อกเจาของ ภิกษุณสี งสยั ลาดก็ดี ใหล าดก็ดี ซง่ึ เคร่ืองนอนแลว นั่งหรือนอน ตองอาบัติปาจิตตยี . มไิ ดบ อกเจา ของ ภกิ ษุณสี าํ คัญวาบอกแลว ลาดกด็ ี ใหลาดกด็ ี ซง่ึเคร่ืองนอน แลวนั่งหรอื นอน ตอ งอาบัตปิ าจติ ตยี .
พระวนิ ัยปฎก ภกิ ขุนีวภิ งั ค เลม ๓ - หนา ท่ี 241 ทุกะทุกกฏ บอกเจาของแลว ภกิ ษณุ ีสาํ คัญวา มไิ ดบ อก ตอ งอาบตั ทิ ุกกฏ. บอกเจาของแลว ภิกษณุ ีสงสัย ตอ งอาบัติทุกกฏ. ไมตอ งอาบัติ บอกเจา ของแลว ภกิ ษณุ ีสาํ คญั วาบอกแลว ไมตอ งอาบตั ิ. อนาปต ตวิ าร [๒๐๘] ภกิ ษุณีบอกเจาของแลว ลาดกด็ ี ใหลาดก็ดี ซง่ึ เครื่องนอนแลวนัง่ หรือนอน ๑ อาพาธ ๑ มีอันตราย ๑ วิกลจริต ๑ อาทิกมั มิกา ๑ ไมต อ งอาบตั แิ ล. อนั ธการวรรค สกิ ขาบทที่ ๗ จบ อรรถกถาอันธการวรรค สิกขาบทที่ ๗ แมใ นสิกขาบทท่ี ๗ บัณฑติ พงึ ทราบคําทง้ั หมด โดยนยั ดงั ไดกลาวแลว ในสกิ ขาบทที่ ๖ นั่นแล. อรรถกถาอันธการวรรค สิกขาบทที่ ๗ จบ
พระวนิ ัยปฎ ก ภกิ ขุนีวิภังค เลม ๓ - หนา ท่ี 242 อันธการวรรค สกิ ขาบทที่ ๘ เรอ่ื งภิกษณุ ีอันเตวาสินขี องพระภทั ทากาปล านเี ถรี [๒๐๙] โดยสมยั น้นั แล พระผูมีพระภาคพทุ ธเจาประทบั อยู ณ พระ-เชตวนั อารามของอนาถบิณฑกิ คหบดี เขตพระนครสาวตั ถี ครงั้ นั้น ภกิ ษุณีอันเตวาสนิ ขี องพระภัททากาปลานีเถรี ยอมตงั้ ใจปฏบิ ตั ิพระภทั ทากาปล านีเถรี ๆจงึ ไดก ลาวคํานกี้ ะภิกษุณที ั้งหลายวา แมเ จา ทง้ั หลาย ภิกษุณีรปู นป้ี ฏบิ ัตขิ าพเจาโดยเคารพ ขาพเจาจักใหจ ีวรแกภกิ ษุณรี ูปนี้ แตภิกษณุ รี ูปนัน้ ใหภิกษุณอี ืน่โพนทะนาโดยใหเช่ือถือผดิ เขาใจผดิ วา แมเ จา ขา ววา ดิฉันมิไดป ฏิบตั ิแมเจาโดยเคารพ ขาววา แมเ จาจักไมใหจ วี รแกด ิฉัน ดังนี้ . บรรดาภกิ ษุณีที่เปนผมู ักนอย. . . ตางพากนั เพงโทษ ตเิ ตียน โพน-ทะนาวา ไฉนภิกษุณีจึงไดใ หภิกษณุ ีอนื่ โพนทะนาโดยใหเ ช่ือถอื ผิด เขา ใจผดิเลา . . . ทรงสอบถาม พระผูม พี ระภาคเจาทรงสอบถามภกิ ษทุ ัง้ หลายวา ดูกอ นภิกษุทัง้ หลายขาววาภกิ ษณุ ใี หภ กิ ษณุ ีอน่ื โพนทะนา โดยใหเ ชือ่ ถือผดิ เขา ใจผดิ จรงิ หรือ. ภิกษุทง้ั หลายกราบทลู วา จรงิ พระพทุ ธเจาขา. ทรงตเิ ตียนแลวบญั ญัตสิ กิ ขาบท พระผูมีพระภาคพุทธเจา ทรงติเตยี นวา ดกู อ นภกิ ษทุ ง้ั หลาย ไฉนภิกษณุ ีจึงไดใหภิกษณุ อี ื่นโพนทะนาโดยใหเช่ือถอื ผดิ เขาใจผดิ เลา การกระทําของนางนนั่ ไมเปนไปเพ่ือความเลื่อมใสของชมุ ชนทยี่ ังไมเล่ือมใส. . .
พระวินัยปฎ ก ภกิ ขนุ วี ภิ งั ค เลม ๓ - หนา ที่ 243 ดูกอ นภิกษุท้ังหลาย ก็แลภิกษณุ ีท้งั หลายจงยกสกิ ขาบทนขี้ ึ้นแสดงอยางนว้ี า ดังน้ี :- พระบญั ญตั ิ ๗๓. ๘. อนึ่ง ภิกษุณีใด ใหค นอ่ืนโพนทะนา โดยใหเช่ือผดิ เขา ใจผิด เปน ปาจิตตีย. เรอื่ งภกิ ษุณีอันเตวาสินีของพระภัททากาปล านีเถรี จบ สิกขาบทวภิ งั ค [๒๑๐] บทวา อนง่ึ . . .ใด ความวา ผูใด คอื ผูเ ชน ใด. . . บทวา ภิกษณุ ี ความวา ทช่ี ่ือวา ภิกษณุ ี เพราะอรรถวาเปนผูข อ . . .นี้ชือ่ วา ภกิ ษณุ ี ท่ที รงประสงคใ นอรรถน.้ี บทวา โดยใหเชื่อผิด คอื โดยใหเ ชือ่ เปน อยา งอื่น. บทวา เขาใจผดิ คือ ใหเ ขาใจเปนอยางอื่น. บทวา คนอืน่ ไดแ ก อุปสัมบนั ใหอ ปุ สมั บันโพนทะนา ตอ งอาบัติปาจิตตยี . บทภาชนยี ตกิ ะปาจิตตยี [๒๑๑] อุปสัมบัน ภกิ ษุณสี าํ คญั วา อุปสัมบัน ใหโพนทะนา ตอ งอาบตั ปิ าจิตตยี . อุปสัมบนั ภกิ ษุณีสงสัย ใหโพนทะนา ตอ งอาบัตปิ าจิตตยี . อปุ สัมบนั ภิกษณุ ีสําคัญวา อนุปสมั บนั ใหโพนทะนา ตองอาบัติปาจิตตยี .
พระวินัยปฎ ก ภิกขุนีวภิ ังค เลม ๓ - หนาที่ 244 จตกุ กะทกุ กฏ ภิกษุณีใหอนปุ สมั บนั โพนทะนา ตอ งอาบัติทกุ ปาจติ ตีย. อนปุ สมั บัน ภกิ ษณุ ีสาํ คัญวาอุปสัมบนั ตองอาบตั ทิ ุกกฏ. อนปุ สมั บนั ภกิ ษุณีสงสยั ตอ งอาบัตทิ ุกกฏ. อนปุ สมั บัน ภิกษุณสี าํ คัญวาอนปุ สมั บัน ตอ งอาบัตทิ ุกกฏ. อนาปตตวิ าร [๒๑๒] วิกลจรติ ๑ อาทกิ มั มิกา ๑ ไมตอยอาบัติแล. อันธการวรรค สกิ ขาบทที่ ๘ จบ อรรถกถาอนั ธการวรรค สิกขาบทที่ ๘ คําทง้ั หมดในสิกขาบทท่ี ๘ ตน้ื ท้ังน้ัน. สกิ ขาบทนี้ มีสมุฏฐาน ๓ เปนกริ ยิ า สัญญาวิโมกข สจติ ตกะ โลกวัชชะ กายกรรม วจีกรรม อกุศลจติเปนทกุ ขเวทนาแล. อรรถกถาอนั ธการวรรค สิกขาบทที่ ๘ จบ
พระวินัยปฎ ก ภิกขนุ วี ภิ งั ค เลม ๓ - หนา ท่ี 245 อันธการวรรค สกิ ขาบทท่ี ๙ เร่อื งภิกษุณจี ัณฑกาลี [๒๑๓] โดยสมัยนัน้ พระผมู พี ระภาคพุทธเจาประทบั อยู ณ พระ-เชตวัน อารามของอนาถบณิ ฑิกคหบดี เขตพระนครสาวัตถี คร้ังนั้น ภกิ ษณุ ีทั้งหลายหาบวิขารของตนไมพ บ ตางก็ถามภกิ ษณุ จี ณั ฑกาลีดงั นวี้ า แมเจาทา นเหน็ บรขิ ารของพวกดฉิ นั บางไหม. ภกิ ษุณีจัณฑกาลเี พง โทษ ติเตยี น โพนทะนาวา ขาพเจา คนเดียวเปนโจรแนล ะ ขาพเจา คนเดยี วเปน คนไมล ะอายแนละ เพราะแมเจา พวกท่ีหาบรขิ ารของตนไมพ บ ตา งก็มากลา วอยา งนี้กะขาพเจาวา แมเจา ทานเหน็บริขารของพวกดฉิ นั บา งไหม แมเจาทง้ั หลาย ถาขาพเจาถือเอาบรขิ ารของพวกทา นไป ขา พเจาก็มิใชสมณะ ยอมเคล่ือนจากพรหมจรรย ตอ งตกนรกแมแมเ จาท่กี ลา วอยางนัน้ กะขา พเจาดว ยคาํ ไมจ รงิ ก็ขอใหเ ปนไมใชส มณะตอ งเคลอ่ื นจากพรหมจรรย ตองตกนรก. บรรดาภกิ ษุณที เี่ ปน ผมู กั นอย. . . ตางพากันเพง โทษ ตเิ ตยี น โพน-ทะนาวา ไฉนแมเ จา จัณฑกาลจี งึ ไดแ ชง ตนและคนอ่นื ดวยนรกบา ง ดวยพรหมจรรยบา งเลา . . . ทรงสอบถาม พระผมู ีพระภาคเจาทรงสอบถามภกิ ษุทัง้ หลายวา ดูกอนภกิ ษทุ ัง้ หลายขา ววา ภิกษุณีจณั ฑกาลีแชงตนและคนอื่น ดวยนรกบาง ดว ยพรหมจรรยบา งจริงหรือ.
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 547
Pages: