พระวินัยปฎ ก ภิกขุนีวิภังค เลม ๓ - หนาที่ 415 คพั ภินวี รรค สิกขาบทที่ ๘ เร่ืองภิกษุณีถุลลนนั ทา [๓๙๒] โดยสมยั นนั้ พระผูมีพระภาคพทุ ธเจาประทับอยู ณ พระ-เชตวนั อารามของอนาถบณิ ฑิกคหบดี เขตพระนครสาวัตถี คร้งั น้ัน ภกิ ษณุ ีถุลลนันทาบวชสหชวี ินีแลว ไมอ นุเคราะหเ อง ไมใหผ อู น่ื อนเุ คราะห ตลอด๒ ป สหชีวินีเหลา นั้นจึงเปนคนเขลา ไมฉลาด ไมรจู กั สง่ิ ทค่ี วรหรือไมค วร. บรรดาภกิ ษุณที ี่เปน ผูมกั นอ ย. . . ตางพากนั เพง โทษ ตเิ ตียน โพน-ทะนาวา ไฉนแมเจา ถลุ ลนนั ทาบวชสหชีวินแี ลว จงึ ไมอนุเคราะหเ อง ไมใ หผูอ่นื อนเุ คราะหตลอด ๒ ปเลา . . . ทรงสอบถาม พระผูมีพระภาคเจาทรงสอบถามภิกษทุ ัง้ หลายวา ดูกอนภกิ ษทุ ั้งหลายขาววา ภกิ ษณุ ถี ุลลนนั ทาบวชสหชวี นิ ีแลว ไมอนเุ คราะหเ อง ไมใหผ ูอ ืน่อนุเคราะหต ลอด ๒ ป จรงิ หรอื . ภกิ ษทุ ้ังหลายกราบทลู วา จริง พระพทุ ธเจา ขา . ทรงตเิ ตยี นแลวบัญญัตสิ ิกขาบท พระผมู ีพระภาคเจาทรงติเตียนวา ดูกอนภกิ ษุทั้งหลาย ไฉนภกิ ษณุ ีถุลลนนั ทาบวชสหชีวินีแลว จึงไดไมอนเุ คราะหเ อง ไมใ หผอู ืน่ อนเุ คราะหตลอด ๒ ปเ ลา การกระทาํ ของนางน่ัน ไมเ ปนไปเพือ่ ความเลอื่ มใสของชมุ ชนท่ยี ังไมเลื่อมใส . . . ดูกอนภกิ ษทุ ัง้ หลาย กแ็ ลภิกษณุ ที ้ังหลายจงยกสกิ ขาบทนี้ขึน้ แสดงอยา งน้ี วา ดงั น้:ี -
พระวนิ ยั ปฎก ภกิ ขุนวี ิภังค เลม ๓ - หนา ที่ 416 พระบญั ญตั ิ ๑๒๓. ๘. อนึง่ ภกิ ษุณใี ด ยงั สหชวี นิ ใี หบวชแลว ไมอ นุ-เคราะห ไมยงั ผูอ ่นื ใหอนุเคราะห สิ้นสองฝน เปนปาจิตตีย. เรือ่ งภกิ ษุณถี ุลลนันทา จบ สิกขาบทวิภังค [๓๙๓] บทวา อนง่ึ . . .ใด ความวา ผใู ด คือ ผูเ ชนใด. . . บทวา ภกิ ษุณี ความวา ทีช่ ือ่ วา ภกิ ษุณี เพราะอรรถวาเปนผูขอ. . .นี้ชอื่ วา ภกิ ษุณี ที่ทรงประสงคในอรรถนี.้ ทีช่ ่อื วา สหชีวนิ ี ไดแ ก ภกิ ษณุ ที ่ีเรยี กกนั วาสัทธวิ ิหารนิ ี. บทวา ใหบ วชแลว คอื ใหอุปสมบทแลว . บทวา สน้ิ สองฝน คอื ตลอด ๒ ป. บทวา ไมอนเุ คราะห คอื ไมอนุเคราะหเ อง ดว ยอเุ ทศ ปริปุจฉาโอวาท อนศุ าสนี. บทวา ไมใ หผ ูอ่นื อนเุ คราะห คอื ไมบ ังคับภิกษณุ ีอื่น. พอทอดธรุ ะวา จักไมอนเุ คราะหเอง จกั ไมใ หผอู ืน่ อนุเคราะห ๒ ปตอ งอาบตั ิปาจิตตยี . อนาปต ตวิ าร [๓๙๔] มอี นั ตราย ๑ แสวงหาแลว ไมได ๑ อาพาธ ๑ มเี หตุขดั ขอ ง๑ วกิ ลจริต ๑ อาทกิ มั มิกา ๑ ไมต องอาบตั ิแล. คัพภินีวรรค สิกขาบทท่ี ๘ จบ
พระวินยั ปฎ ก ภิกขุนีวภิ งั ค เลม ๓ - หนาที่ 417 อรรถกถาคัพภินวี รรค สิกขาบทที่ ๘ วินจิ ฉยั ในสกิ ขาบทท่ี ๘ พึงทราบดงั น:ี้ - บทวา น อนุคฺคณฺหาเปยฺย มีความวา ไมย งั ผอู ่ืนใหอนเุ คราะหดวยอุเทศเปน ตน อยางนี้วา แมเจา ! ทานจงใหอ ุเทศเปนตน แกภกิ ษณุ ีน.้ี บทวา ปรเิ ยสิตฺวา ไดแก แสวงหาภกิ ษณุ ีอื่นแลวไมไ ด. เปนผูอาพาธเสียเอง ไมส ามารถจะใหอุเทสเปนตนได ไมเปน อาบัติแกภ กิ ษุณีนน้ั .คําทเี่ หลือ ต้นื ท้ังน้นั . สิกขาบทนี้ มีการทอดธรุ ะเปนสมุฏฐาน เปน อกริ ยิ า สญั ญาวโิ มกขสจติ ตกะ โลกวัชชะ กายกรรม วจกี รรม อกศุ ลจิต เปน ทกุ ขเวทนาแล. อรรถกถาคัพภนิ ีวรรค สกิ ขาบทที่ ๘ จบ
พระวนิ ัยปฎก ภิกขุนวี ภิ งั ค เลม ๓ - หนาที่ 418 คพั ภนิ วี รรค สิกขาบทที่ ๙ เรือ่ งภกิ ษณุ ีหลายรูป [๓๙๕] โดยสมัยนั้น พระผูมีพระภาคพทุ ธเจาประทบั อยู ณ พระ-เชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกคหบดี เขตพระนครสาวตั ถี คร้ังนัน้ ภกิ ษณุ ีทั้งหลายไมตดิ ตามปวัตตนิ ผี ใู หบวชถึง ๒ ป เธอจึงเปน คนเขลา ไมฉลาดไมร ูจ กั สิง่ ทีค่ วรหรือไมค วร บรรดาภิกษณุ ีทเ่ี ปนผูมกั นอย. . . ตา งกเ็ พงโทษ ตเิ ตียน โพนทะนาวา ไฉนภิกษุณีทั้งหลาย จึงไมต ิดตามปวตั ตนีผูใหบวชตลอด ๒ ปเ ลา . . . ทรงสอบถาม พระผูมพี ระภาคเจาทรงสอบถามภิกษุท้ังหลายวา ดูกอ นภกิ ษทุ ัง้ หลายขา ววา ภิกษุณที ัง้ หลายไมติดตามปวัตตนี ีผูใหบวชถึง ๒ ป จรงิ หรอื . ภิกษทุ งั้ หลายกราบทลู วา จรงิ พระพทุ ธเจาขา. ทรงติเตียนแลวบญั ญัติสิกขาบท พระผมู ีพระภาคพทุ ธเจาทรงติเตยี นวา ดกู อนภกิ ษทุ ัง้ หลาย ไฉนภกิ ษุณีทงั้ หลายจึงไดไ มต ดิ ตามปวตั ตินีผูใหบ วชถึง ๒ ปเ ลา การกระทาํ ของพวกนางนนั่ ไมเ ปนไปเพอื่ ความเลอื่ มใสของชุมชนทยี่ งั ไมเลอ่ื มใส. . . ดูกอ นภิกษุทงั้ หลาย กแ็ ลภิกษุณีท้ังหลายจงยกสิกขาบทนีข้ ้นึ แสดงอยา งน้ี วา ดังน้ี:- พระบญั ญัติ ๑๒๔. ๙. อนง่ึ ภกิ ษณุ ใี ด ไมตดิ ตามปวัตตนิ ีผูใ หบวชสน้ิสองฝน เปนปาจิตตยี . เร่ืองภกิ ษณุ หี ลายรูป จบ
พระวินัยปฎ ก ภกิ ขนุ ีวภิ ังค เลม ๓ - หนา ท่ี 419 สกิ ขาบทวิภังค [๓๙๖] บทวา อนึ่ง. . .ใด ความวา ผูใด คอื ผเู ชนใด . . . บทวา ภกิ ษุณี ความวา ทีช่ ื่อวา ภกิ ษณุ ี เพราะอรรถวาเปนผูขอ. . . นช้ี อื่ วา ภิกษุณี ที่ทรงประสงคใ นอรรถนี.้ บทวา ผใู หบวช คือ ผูใ หอุปสมบท. ทีช่ ่อื วา ปวัตตินี ไดแก ภกิ ษณุ ีทีเ่ ขาเรยี กกัน วาอุปชฌาย. บทวา ส้ินสองฝน คือ ตลอด ๒ ป. บทวา ไมติดตาม คอื ไมอุปฏฐาก. พอทอดธุระวา จกั ไมต ดิ ตามตลอด ๒ ป ตองอาบตั ปิ าจติ ตีย. อนาปตติวาร [๓๙๗] อปุ ชฌายเ ปน คนเขลา หรอื เปนคนไมละอาย ๑ อาพาธ ๑มีเหตขุ ัดของ ๑ วกิ ลจริต ๑ อาทกิ มั มกิ า ๑ ไมตอ งอาบตั ิแล. คัพภนิ วี รรค สกิ ขาบทท่ี ๙ จบ อรรถกถาคพั ภนิ ีวรรค สิกขาบทท่ี ๙ วินิจฉยั ในสกิ ขาบทท่ี ๙ พงึ ทราบดังนี้ :- บทวา น อปุ ฏเหยฺย มคี วามวา ไมบํารุงดวยกิจทค่ี วรทาํ น้นั ๆอยา งน้ี คอื ดวยจณุ ดว ยดนิ เหนยี ว ดว ยไมส ฟี น ดว ยนํ้าลา งหนา . คาํ ท่ีเหลอื ต้ืนทง้ั น้นั . สกิ ขาบทน้ี มสี มุฏฐานดุจปฐมปาราชิกสกิ ขาบท เปนอกริ ิยา สญั ญา-วิโมกข สจิตตกะ โลกวชั ชะ กายกรรม อกุศลกรรม เปนทกุ ขเวทนา แล. อรรถกถาคพั ภินีวรรค สกิ ขาบทท่ี ๙ จบ
พระวนิ ัยปฎ ก ภิกขุนวี ิภังค เลม ๓ - หนา ที่ 420 คพั ภนิ วี รรค สิกขาบทท่ี ๑๐ เรอ่ื งภิกษุณถี ลุ ลนันทา [๓๙๘] โดยสมยั นัน้ พระผมู ีพระภาคพุทธเจา ประทับ อยู ณ พระ-เชตวนั อารามของอนาถบณิ ฑกิ คหบดี เขตพระนครสาวตั ถี ครั้งน้นั ภกิ ษุณีถุลลนนั ทาบวชสหชีวนิ ไี วแ ลว ไมพาไปดวย ไมใหผ อู ื่นพาไปดว ย นายไดจบั ตัวไป. บรรดาภกิ ษณุ ีท่เี ปนผมู กั นอ ย. . .ตา งกเ็ พงโทษ ติเตยี น โพนทะนาวา ไฉนแมเจา ถุลลนันทาบวชสหชวี นิ ไี วแ ลว จึงไมพาไปดว ย ไมใหผูอนื่ พาไปดวยเลา นายไดจับตัวไป ถา ภิกษณุ ีนี้ พงึ ไปดวย นายก็จะไมพงึ จับตวั ไปได. . . ทรงสอบถาม พระผูมพี ระภาคเจา ทรงสอบถามภิกษทุ ัง้ หลายวา ดกู อนภิกษุท้ังหลายขา ววา ภิกษณุ ีถลุ ลนันทาบวชสหชีวนิ ีไวแ ลว ไมพาไปเอง ไมใ หผ ูอ่นื พาไปนายไดจับตัวไปแลว จริงหรอื . ภิกษทุ ั้งหลายกราบทลู วา จริง พระพุทธเจาขา. ทรงติเตียนแลว บญั ญตั ิสิกขาบท พระผมู ีพระภาคพทุ ธเจา ทรงตเิ ตยี นวา ดูกอนภิกษทุ ั้งหลาย ไฉนภิกษุณีถุลลนนั ทาบวชสหชวี นิ ไี วแ ลว จึงไดไมพ าไป ไมใหผูอ นื่ พาไป นายจึงไดจ บั ตัวไป การกระทําของนางนั่น ไมเ ปนไปเพ่ือความเลือ่ มใสของชมุ ชนทย่ี งั ไมเล่อื มใส . . .
พระวนิ ยั ปฎ ก ภิกขนุ ีวภิ ังค เลม ๓ - หนาที่ 421 ดกู อ นภิกษุท้ังหลาย กแ็ ลภิกษณุ ที ั้งหลายจงยกสิกขาบทนข้ี ึ้นแสดงอยางนี้ วาดังน้ี:- พระบัญญัติ ๑๒๕. ๑๐. อนึง่ ภกิ ษณุ ใี ด ยงั สหชวี นิ ีใหบ วชแลว ไมพาหลกี ไป ไมใ หพ าหลีกไป โดยที่สุดแมสั้นระยะทาง ๕- ๖ โยชนเปนปาจิตตยี . เรอื่ งภิกษณุ ีถลุ ลนันทา จบ สกิ ขาบทวิภงั ค [๓๙๙] บทวา อนง่ึ . . .ใด ความวา ผใู ด คอื ผเู ชนใด. . . บทวา ภิกษณุ ี ความวา ที่ชอ่ื วา ภกิ ษณุ ี เพราะอรรถวา เปน ผูขอ. . .น้ชี อ่ื วา ภกิ ษุณี ทท่ี รงประสงคในอรรถน้.ี ทีช่ ่ือวา สหชีวินี ไดแก ภกิ ษุณีที่เขาเรยี กกันวา สทั ธวิ หิ ารนิ ี. บทวา ใหบวชแลว คอื ใหอ ุปสมบทแลว . บทวา ไมพ าหลีกไป คอื ตนเองไมพ าหลีกไป. บทวา ไมใ หพาหลกี ไป คอื ไมส ่ังผอู ืน่ . พอทอดธรุ ะวา จกั ไมพาหลกี ไป จักไมใ หพาหลีกไป โดยทีส่ ดุ แมสิ้นระยะทาง ๕-๖ โยชน ตอ งอาบตั ิปาจิตตีย. อนาปต ตวิ าร [๔๐๐] มีอนั ตราย ๑ แสวงหาแลวไมไดภกิ ษุณีผสู หาย ๑ มีเหตุขดั -ขอ ง ๑ วกิ ลจริต ๑ อาทิกมั มกิ า ๑ ไมตอ งอาบัติแล. คัพภนิ วี รรค สิกขาบทท่ี ๑๐ จบ คพั ภินีวรรคที่ ๗ จบ
พระวนิ ัยปฎก ภกิ ขนุ วี ภิ ังค เลม ๓ - หนาท่ี 422 อรรถกถาคพั ภินีวรรค สิกขาบทที่ ๑๐ วนิ ิจฉัยในสกิ ขาบทที่ ๑๐ พึงทราบดงั น้:ี - บทวา เนว วปู กาเสยยฺ ไดแ ก ไมพาเอาสหชีวินีไป. บทวา น วูปกาสาเปยยฺ ไดแก ไมส ง่ั ภกิ ษุณอี ืน่ วา แมเจา !ขอจงพาภิกษณุ ีน้ไี ป. คาํ ทีเ่ หลือในสิกขาบทนี้ ต้ืนทงั้ นน้ั . สกิ ขาบทนี้ มกี ารทอดธุระเปนสมฏุ ฐาน เปนอกริ ิยา สัญญาวโิ มกขสจิตตกะ โลกวชั ชะ กายกรรม วจีกรรม อกุศลจติ เปนทุกขเวทนา แล. อรรถกถาคพั ภินวี รรค สกิ ขาบทท่ี ๑๐ จบ อรรถกถาคพั ภนิ วี รรคท่ี ๗ จบ
พระวินัยปฎก ภิกขนุ วี ิภังค เลม ๓ - หนาท่ี 423 ปาจิตตยี กมุ ารภี ูตวรรคที่ ๘ กุมารีภูตวรรค สกิ ขาบทท่ี ๑ เรอื่ งภกิ ษุณีหลายรูป [๔๐๑] โดยสมยั นน้ั พระผูมีพระภาคพทุ ธเจาประทบั อยู ณ พระ-เชตวนั อารามของอนาถบณิ ฑกิ คหบดี เขตพระนครสาวตั ถี ครั้งนั้น ภกิ ษุณีท้งั หลายใหสามเณรมี อี ายุหยอ น ๒๐ ฝน อปุ สมบท เธอเหลา นั้นอดทนไมไดตอความหนาว ความรอ น ความหวิ กระกระหาย ไมอ ดทนตอ สมั ผสั แหงเหลอื บ ยุง ลม แดด และสัตวเสือกคลาน มักไมอดกล้ันตอถอ ยคําทเ่ี ขากลา วราย หยาบคาบ มปี รกตไิ มอดทนตอ ทุกขเวทนาที่เกดิ ในสรรี ะอยา งแรงกลา หยาบชา เผด็ รอน ไมนายินดี ไมนา พอใจ อนั อาจพรา ชวี ิตเสยี . บรรดาภิกษุณีที่เปน ผูมกั นอ ย. . .ตางเพงโทษ ตเิ ตยี น โพนทะนาวาไฉนภิกษณุ ที ้งั หลายจงึ ไดใ หสามเณรมี ีอายุหยอน ๒๐ ฝน อปุ สมบทเลา. . . ทรงสอบถาม พระผมู ีพระภาคเจาทรงสอบถามภกิ ษุท้งั หลายวา ดกู อ นภิกษทุ ้งั หลายขา ววา ภิกษณุ ใี หส ามเณรี มอี ายหุ ยอน ๒๐ ฝน อปุ สมบท จริงหรือ. ภิกษุทงั้ หลายกราบทลู วา จรงิ พระพทุ ธเจาขา. ทรงตเิ ตียนแลวบญั ญัตสิ กิ ขาบท พระผูมพี ระภาคพุทธเจา ทรงติเตียนวา ดกู อนภกิ ษทุ ้ังหลาย ไฉนภกิ ษณุ ที งั้ หลายจงึ ไดใ หสามเณรี มอี ายุหยอ น ๒๐ ฝน อปุ สมบทเลา เพราะสามเณรมี อี ายหุ ยอน ๒๐ ฝน เปน ผอู ดทนไมไ ดต อ ความหนาว ความรอ น
พระวนิ ยั ปฎ ก ภกิ ขนุ ีวิภังค เลม ๓ - หนา ที่ 424ความหวิ ความระหาย ไมอ ดทนตอ สัมผสั แหงเหลือบ ยุง ลม แดด และสตั วเ สือกคลาน มักไมอ ดกลน้ั ตอถอยคําที่เขากลาวราย หยาบคาย มปี รกติไมอดทนตอทุกขเวทนาทเ่ี กดิ ในสรรี ะอยา งแรงกลา หยาบชา เผ็ดรอน ไมนายนิ ดี ไมน าพอใจ อนั อาจพรา ชีวติ เสีย การกระทําของพวกนางนน่ั ไมเปนไปเพือ่ ความเลอ่ื มใสของชมุ ชนที่ยังไมเ ลอื่ มใส. . . ดูกอนภกิ ษทุ ้งั หลาย ก็แลภิกษุณีท้งั หลายจงยกสกิ ขาบทน้ขี ึน้ แสดงอยา งน้ี วาดังน:้ี - พระบัญญตั ิ ๑๒๖. ๑. อน่งึ ภิกษณุ ีใด ยังสตรีผเู ปนกมุ ารี มอี ายหุ ยอน๒๐ ป ใหบ วช เปนปาจติ ตีย. เร่อื งภิกษณุ หี ลายรปู จบ สิกขาบทวิภังค [๔๐๒] บทวา อนง่ึ . . .ใด ความวา ผใู ด คือ ผเู ชนใด. . . บทวา ภกิ ษุณี ความวา ท่ีชอ่ื วา ภกิ ษณุ ี เพราะอรรถวาเปนผขู อ. . .นีช้ ือ่ วา ภิกษณุ ี ทท่ี รงประสงคในอรรถน้ี. ทชี่ ื่อวา มอี ายหุ ยอน ๒๐ ป คอื มอี ายุยังไมถึง ๒๐ ฝน. ทีช่ ่ือวา สตรีผยู งั เปน กุมารี ไดแ ก สตรีทีเ่ รยี กกนั วา สามเณรี. บทวา ใหบวช คอื ใหอ ุปสมบท. ต้งั ใจวา จกั ใหอุปสมบท แลว แสวงหาคณะก็ดี อาจารยก็ดี บาตรก็ดีจีวรกด็ ี สมมติสมี าก็ดี ตอ งอาบตั ทิ ุกกฏ จบญตั ติ ตองอาบัตทิ ุกกฏ จบกรรมวาจาสองคร้ัง ตองอาบตั ิทกุ กฏ ๒ ตัว จบกรรมวาจาคร้งั สดุ ภกิ ษุณีผูอปุ ช ฌาย ตองอาบตั ิปาจิตตยี คณะและอาจารย ตองอาบตั ทิ ุกกฏ.
พระวนิ ยั ปฎก ภกิ ขนุ วี ิภงั ค เลม ๓ - หนา ที่ 425 บทภาชนีย [๔๐๓] สามเณรมี ีอายหุ ยอ น ๒๐ ป ภิกษณุ สี าํ คัญวามอี ายหุ ยอ น๒๐ ป ใหบวช ตองอาบัตปิ าจิตตีย. สามเณรีมอี ายหุ ยอน ๒๐ ป ภิกษุณีสงสัย ใหบวช ตอ งอาบตั ทิ ุกกฏ. สามเณรมี อี ายหุ ยอ น ๒๐ ป ภกิ ษณุ สี ําคญั วา มีอายคุ รบแลว ใหบ วชไมต อ งอาบตั ิ. สามเณรีมีอายคุ รบ ๒๐ ป ภิกษณุ ีสาํ คญั วา มอี ายหุ ยอน ๒๐ ป ตองอาบัตทิ ุกกฏ. สามเณรีมอี ายคุ รบ ๒๐ ป ภิกษณุ สี งสยั ตอ งอาบัตทิ ุกกฏ. สามเณรีมอี ายุครบ ๒๐ ป ภกิ ษุณสี ําคัญวามีอายุครบแลว ไมตองอาบัต.ิ อนาปต ตวิ าร [๔๐๔] บวชกุมารผี ูม ีอายหุ ยอน ๒๐ ฝน สาํ คญั วามีอายุครบแลว ๑บวชกุมารผี ูมอี ายคุ รบ ๒๐ ฝนแลว สําคัญวา มีอายคุ รบแลว ๑ วกิ ลจรติ ๑อาทกิ มั มิกา ๑ ไมต อ งอาบัตแิ ล. กุมารีภตู วรรค สกิ ขาบทท่ี ๑ จบ
พระวนิ ยั ปฎก ภิกขุนวี ิภังค เลม ๓ - หนาที่ 426 กมุ ารีภูตวรรค สกิ ขาบทที่ ๒ เรื่องภิกษณุ หี ลายรูป [๔๐๕] โดยสมัยนัน้ พระผูมพี ระภาคพุทธเจา ประทับอยู ณ พระเชต-วัน อารามของอนาถบณิ ฑิกคหบดี เขตพระนครสาวตั ถี คร้งั นั้น ภิกษณุ ีทง้ั หลายพากันบวชสามเณรมี ีอายคุ รบ ๒๐ ป ผยู ังมิไดศกึ ษาสิกขาในธรรม ๖ประการ ตลอด ๒ ป เธอเหลานนั้ จงึ เปน คนเขลา ไมฉ ลาด ไมร สู งิ่ ท่คี วรหรอื ไมค วร. บรรดาภิกษณุ ีท่ีเปน ผูมกั นอย. . . ตางกเ็ พง โทษ ตเิ ตยี น โพนทะนาวา ไฉนภกิ ษุณที ้ังหลายจงึ ไดพ ากันบวชสามเณรีมีอายคุ รบ ๒๐ ป ผูยังมิไดศึกษาสกิ ขาในธรรม ๖ ประการ ตลอด ๒ ป เลา. . . ทรงสอบถาม พระผมู ีพระภาคเจา ทรงสอบถามภกิ ษุทง้ั หลายวา ดูกอ นภกิ ษทุ ้งั หลายขาววา ภกิ ษณุ ที ง้ั หลายพากนั บวชสามเณรมี ีอายุครบ ๒๐ ป ผยู ังมไิ ดศ กึ ษาสกิ ขาในธรรม ๖ ประการ ตลอด ๒ ป จรงิ หรือ. ภิกษทุ ั้งหลายกราบทลู วา จรงิ พระพุทธเจา ขา . ทรงติเตียนแลวบญั ญัติสกิ ขาบท พระผูมพี ระภาคพทุ ธเจาทรงตเิ ตยี นวา ดกู อนภิกษทุ งั้ หลาย ไฉนภกิ ษณุ ีทัง้ หลายจึงไดพากันบวชสามเณรีมีอายคุ รบ ๒๐ ป ผยู ังมิไดศ ึกษาสิกขาในธรรม ๖ ประการ ตลอด ๒ ปเ ลา การกระทาํ ของพวกนางน่นั ไมเ ปนไปเพ่ือความเล่อื มใสของชมุ ชนที่ยังไมเ ลอ่ื มใส. . . คร้นั แลว ทรงกระทําธรรมีกถารบั ส่งั กะภิกษุทง้ั หลายวา .
พระวินยั ปฎก ภิกขุนวี ิภงั ค เลม ๓ - หนา ที่ 427 ดูกอนภิกษทุ ั้งหลาย เราอนญุ าตใหส กิ ขาสมมติในธรรม ๖ ประการตลอด ๒ ป แกสามเณรีผูยังเปน กมุ ารี มีอายุ ๑๘ ป. ดูกอนภกิ ษุท้ังหลาย ก็แลสกิ ขาสมมตนิ ้นั อันภกิ ษุณพี ึงใหอยางนี้:- วธิ ีใหสกิ ขาสมมตแิ กสามเณรีอายุ ๑๘ ป อนั สามเณรีผูมอี ายุ ๑๘ ปน ้ัน พงึ เขาไปหาสงฆ หมผาอุตราสงคเฉวยี งบา กราบเทาภิกษณุ ที ั้งหลายแลว นัง่ กระโหยงประคองอญั ชลี กลาวอยางนี้วา. แมเ จา ดฉิ นั ชื่อนี้ เปนสามเณรีของแมเ จาช่ือน้ี มีอายุ ๑๘ ป ขอสกิ ขาสมมติในธรรม ๖ ประการ ตลอด ๒ ป ตอ สงฆ. พึงขอแมครัง้ ทีส่ อง. พึงขอแมค ร้ังที่สาม. ภกิ ษณุ ผี ฉู ลาด ผสู ามารถ พึงประกาศใหส งฆท ราบดวยญตั ติทตุ ยิ กรรมวาจา วาดังน;้ี - กรรมวาจา แมเ จา ขอสงฆจ งฟง ขา พเจา สามเณรีน้ีช่อื น้ี ของแมเจาชือ่ นี้ มอี ายุ ๑๘ ป ขอสกิ ขาสมมตใิ นธรรม ๖ ประการ ตลอด ๒ ปตอสงฆ ถา ความพรอมพรง่ั ของสงฆถงึ ทแ่ี ลว สงฆพงึ ใหส ิกขาสมมตใิ นธรรม ๖ ประการ ตลอด ๒ ป แกส ามเณรชอื่ นี้ ผูมอี ายุ๑๘ ป น่เี ปนญตั ต.ิ แมเ จา ขอสงฆจงฟงขา พเจา สามเณรีนีช้ ่ือนี้ ของแมเจาช่อื น้ี มอี ายุ ๑๘ ป ขอสกิ ขาสมมติในธรรม ๖ ประการ ตลอด ๒ ปตอสงฆ สงฆใ หสกิ ขาสมมติในธรรม ๖ ประการ ตลอด ๒ ป แกสามเณรี ชอ่ื นี้ ผมู อี ายุ ๑๘ ป การใหสิกขาสมมตใิ นธรรม ๖ ประการ
พระวินัยปฎก ภิกขนุ ีวิภังค เลม ๓ - หนา ท่ี 428ตลอด ๒ ป แกสามเณรชี ่ือน้ี มอี ายุ ๑๘ ป ชอบแกแมเจา ผใู ดแมเจาผนู ั้นพงึ นิ่ง ไมชอบแกแมเ จา ผใู ด แมเ จา ผนู ัน้ พึงพูด. สิกขาสมมติในธรรม ๖ ประการ ตลอด ๒ ป สงฆใหแลว แกสามเณรชื่อน้ี ผมู อี ายุ ๑๘ ป ชอบแกสงฆ เหตุน้ันจงึ นิง่ ขา พเจาทรงความน้ีไวด วยอยางน.ี้ ภิกษุณผี ฉู ลาด ผสู ามารถนน้ั พงึ กลา วกะสามเณรีผมู ีอายุ ๑๘ ปน ้ันวาเธอจงกลา วอยางนี้ แลว พงึ กลาววา ดังน้ี;- ๑. ขาพเจา สมาทานสกิ ขา คือ เวน จากการทาํ สตั วมชี ีวิตใหตกลว งไปมน่ั ไมล วงละเมิดตลอด ๒ ป. ๒. ขาพเจา สมาทานสิกขา คือ เวนจากถือเอาพัสดอุ นั เจา ของมิไดใหมนั่ ไมล ะเมิดตลอด ๒ ป. ๓. ขาพเจาสมาทานสกิ ขา คอื เวนจากประพฤติผดิ มิใชกิจพรหมจรรยมั่น ไมลว งละเมิดตลอด ๒ ป. ๔. ขา พเจาสมาทานสกิ ขา คือ เวนจากพดู เท็จ ม่นั ไมล วงละเมิดตลอด ๒ ป. ๕. ขาพเจา สมาทานสิกขา คอื เวน จากน้ําเมาคอื สรุ าเมรัย อนั เปนฐานแหง ความประมาท มั่น ไมลวงละเมดิ ตลอด ๒ ป. ๖. ขา พเจา สมาทานสกิ ขา คอื เวนจากบรโิ ภคอาหารในเวลาวกิ าล มั่นไมล วงละเมิด ตลอด ๒ ป. พระผูมีพระภาคเจา ทรงตเิ ตยี นภกิ ษุณีเหลานัน้ โดยอเนกปริยายดงั นี้แลวตรสั โทษแหง ความเปน คนเล้ยี งยาก. . . ดูกอ นภกิ ษทุ ัง้ หลาย กแ็ ลภิกษณุ ีท้ังหลายจงยกสกิ ขาบทนข้ี ึ้นแสดงอยางนี้ วาดังน้ี:-
พระวนิ ัยปฎก ภิกขนุ ีวิภังค เลม ๓ - หนา ที่ 429 พระบญั ญตั ิ ๑๒๗. ๒. อนึ่ง ภิกษุณใี ด ยงั สตรีผูเปน กุมารี มอี ายุครบ๒๐ ปแลว ผูยงั มไิ ดศกึ ษาสกิ ขาในธรรม ๖ ประการ ตลอด ๒ ฝนใหบวช เปน ปาจติ ตยี . เรื่องภกิ ษุณีหลายรูป จบ สกิ ขาบทวภิ งั ค [๔๐๖] บทวา อน่ึง. . .ใด ความวา ผใู ด คอื ผเู ชนใด. . . บทวา ภกิ ษุณี ความวา ท่ชี อื่ วา ภกิ ษุณี เพราะอรรถวา เปนผูขอ. . . นช้ี ื่อวา ภกิ ษณุ ี ที่ทรงประสงคในอรรถนี้. ทชี่ ือ่ วา มีอายคุ รบ ๒๐ ปแลว คอื มีอายุถึง ๒๐ ฝนแลว . ทช่ี อื่ วา สตรีผูเปน กุมารี ไดแก สตรีทเ่ี รยี กกนั วา สามเณรี. บทวา ตลอด ๒ ฝน คอื ตลอด ๒ ป. ทีช่ ่ือวา ผูยังมิไดศึกษาสิกขา คอื สงฆย งั ไมไ ดใหส กิ ขา หรือใหแลว แตเ ธอทาํ ขาดเสยี . บทวา ใหบวช คอื อุปสมบท. ตัง้ ใจวา จกั ใหบวช แลวแสวงหาคณะก็ดี อาจารยก็ดี บาตรกด็ ี จีวรกด็ ี สมมตสิ ีมาก็ดี ตองอาบตั ทิ ุกกฏ จบญตั ติ ตองอาบตั ิทกุ กฏ จบกรรมวาจาสองครง้ั ตอ งอาบตั ทิ กุ กฏสองตัว จบกรรมวาจาครง้ั สุด ภกิ ษณุ ีผูอุปช ฌายตอ งอาบัติปาจติ ตยี คณะและอาจารย ตอ งอาบตั ทิ กุ กฏ.
พระวนิ ัยปฎก ภิกขนุ ีวิภังค เลม ๓ - หนาท่ี 430 บทภาชนยี ติกะปาจติ ตยี [๔๐๗] กรรมเปน ธรรม ภกิ ษุณสี าํ คัญวา กรรมเปนธรรม ใหบวชตองอาบตั ปิ าจิตตีย. กรรมเปนธรรม ภิกษณุ ีสงสัย ใหบ วช ตองอาบัติปาจติ ตยี . กรรมเปนธรรม ภกิ ษุณสี าํ คัญวา กรรมไมเ ปน ธรรม ใหบวช ตอ งอาบัติปาจิตตยี . ตกิ ะทุกกฏ กรรมไมเ ปนธรรม ภกิ ษณุ สี ําคญั วา กรรมเปน ธรรม ตอ งอาบัติทกุ กฏ. กรรมไมเปน ธรรม ภิกษณุ ีสงสัย ตองอาบัตทิ ุกกฏ. กรรมไมเปน ธรรม ภิกษณุ ีสําคัญวา กรรมไมเปน ธรรม ตองอาบัติทกุ กฏ. อนาปตตวิ าร [๔๐๘] บวชสามเณรมี อี ายคุ รบ ๒๐ ป ผูไดศึกษาสิกขาในธรรม ๖ประการ ตลอด ๒ ป ๑ วกิ ลจรติ ๑ อาทกิ ัมมิกา ๑ ไมต องอาบตั แิ ล. กมุ ารภี ตู วรรค สิกขาบทที่ ๒ จบ
พระวนิ ัยปฎ ก ภกิ ขุนีวิภงั ค เลม ๓ - หนาที่ 431 กุมารีภตู วรรค สกิ ขาบทท่ี ๓ เรือ่ งภิกษณุ ีหลายรูป [๔๐๙] โดยสมัยน้นั พระผมู พี ระภาคพุทธเจา ประทบั อยู ณ พระ-เชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกคหบดี เขตพระนครสาวตั ถี ครั้งนน้ั ภกิ ษุณีทั้งหลายพากันบวชสามเณรผี มู อี ายุครบ ๒๐ ป ผไู ดศ ึกษาสกิ ขาในธรรม ๖ประการ ตลอด ๒ ปแลว แตส งฆยังมไิ ดสมมติ. ภิกษุณที งั้ หลายพากนั กลาวอยา งน้ีวา มานี่ สกิ ขมานา เธอจงรวู ตั ถุน้ี จงประเคนวัตถนุ ี้ จงนาํ วตั ถุนี้มา ฉนั ตองการวตั ถนุ ้ี เธอจงทาํ วัตถุนใ้ี หเปน กปั ปยะ. เธอเหลา นน้ั กลาวอยางน้วี า แมเจา พวกดิฉนั ไมใ ชส กิ ขมานา พวกดฉิ ันเปน ภกิ ษณุ ี. บรรดาภิกษุณีที่เปน ผมู กั นอย. . . ตางก็เพงโทษ ตเิ ตียน โพนทะนาวาไฉนภกิ ษุณที ัง้ หลายจึงไดบ วชสามเณรี ผมู อี ายคุ รบ ๒๐ ป ผไู ดศึกษาสกิ ขาในธรรม ๖ ประการ ตลอด ๒ ปแลว แตส งฆยังมไิ ดสมมตเิ ลา . . . ทรงสอบถาม พระผูม ีพระภาคเจา ทรงสอบถามภิกษทุ งั้ หลายวา ดกู อ นภิกษุทง้ั หลายขา ววา พวกภกิ ษุณพี ากันบวชสามเณรผี มู ีอายคุ รบ ๒๐ ป ผูไดศ ึกษาสิกขาในธรรม ๖ ประการ ตลอด ๒ ปแ ลว แตสงฆยังมไิ ดสมมติ จริงหรือ. ภิกษุท้ังหลายกราบทูลวา จรงิ พระพุทธเจาขา .
พระวินยั ปฎก ภิกขนุ ีวภิ ังค เลม ๓ - หนาท่ี 432 ทรงติเตยี นแลว บัญญตั ิสิกขาบท พระผูมพี ระภาคพุทธเจา ทรงติเตยี นวา ดูกอ นภิกษทุ ้ังหลาย ไฉนพวกภิกษณุ ีจึงไดบวชสามเณรผี มู ีอายุครบ ๒๐ ป ผูไ ดศกึ ษาสิกขาในธรรม ๖ ประ-การ ตลอด ๒ ปแลว แตสงฆย งั มิไดสมมตเิ ลา การกระทาํ ของพวกนางน่ัน ไมเปนไปเพ่ือความเล่อื มใสของชมุ ชนท่ียงั ไมเลือ่ มใส. . . ครัน้ แลว ทรงกระทาํธรรมกี ถารบั สัง่ กะภกิ ษทุ ั้งหลายวา. ดูกอนภกิ ษทุ งั้ หลาย เราอนุญาตใหส งฆสมมติการอุปสมบทแกส ามเณรีผมู ีอายคุ รบ ๒๐ ป ผูไดศ ึกษาสิกขาในธรรม ๖ ประการ ตลอด ๒ ปแลว. ดกู อ นภกิ ษทุ ้งั หลาย ก็แลวิธกี ารใหสมมติการอุปสมบทนัน้ อนั สงฆพงึ ใหอยา งน้ี:- วิธีการใหส มมติอปุ สมบท อันสามเณรผี มู ีอายคุ รบ ๒๐ ป ผูไ ดศึกษาสิกขาในธรรม ๖ ประการตลอด ๒ ปแลวนัน้ พงึ เขาไปหาสงฆ หมผา อตุ ราสงค เฉวียงบา กราบเทาภกิ ษุณีท้ังหลายแลว นั่งกระโหยง ประคองอญั ชลี กลาวอยางนี้วา. แมเจา ดิฉนั ชือ่ นี้ เปนสามเณรขี องแมเ จาชื่อนี้ มีอายคุ รบ ๒๐ ปไดศึกษาสิกขาในธรรม ๖ ประการ ตลอด ๒ ปแ ลว ขอสมมตกิ ารอุปสมบทตอ สงฆ. พึงขอแมค ร้งั ท่ีสอง พึงขอแมค ร้ังท่สี าม. ภิกษณุ ีผฉู ลาด ผสู ามารถ พงึ ประกาศใหส งฆท ราบดวยญัตติทุติย-กรรมวาจา วาดงั น้:ี -
พระวินัยปฎ ก ภิกขุนวี ิภงั ค เลม ๓ - หนา ท่ี 433 กรรมวาจา แมเ จา ขอสงฆจงฟง ขาพเจา สามเณรช่อื นีผ้ นู ้ี ของแมเจาชอื่ น้ี มอี ายคุ รบ ๒๐ ป ไดศ กึ ษาสกิ ขาในธรรม ๖ ประการ ตลอด๒ ปแ ลว ขอสมมตกิ ารอุปสมบทตอ สงฆ ถาความพรอ มพรัง่ ของสงฆถงึ ทีแ่ ลว สงฆพ ึงไหสมมติการอปุ ลมบทแกสามเณรชี ่ือน้ี ผมู ีอายุครบ ๒๐ ป ผูไดศ ึกษาสิกขาในธรรม ๖ ประการ ตลอด ๒ ปแลว นีเ้ ปน ญตั ต.ิ แมเจา ขอสงฆจงฟง ขา พเจา สามเณรีช่อื น้ผี นู ี้ ของแมเจาชอื่ นี้มีอายุครบ ๒ ป ไดศกึ ษาสิกขาในธรรม ๖ ประการ ตลอด ๒ปแ ลว ขอสมมตกิ ารอปุ สมบทตอ สงฆ สงฆส มมติการอปุ สมบทแกสามเณรีช่ือน้ผี ูม อี ายคุ รบ ๒๐ ป ผูไดศึกษาสกิ ขาในธรรม ๖ ประ-การ ตลอด ๒ ปแลว การใหส มมติการอุปสมบทแกสามเณรีช่ือนี้ มีอายคุ รบ ๒๐ ป ผไู ดศึกษาสิกขาในธรรม ๖ ประการ ตลอด ๒ ปแลว ชอบแกแ มเจาผใู ด แมเจาผนู ้นั พงึ เปนผูน่ิง ไมชอบแกแมเ จาผใู ด แมเ จา ผนู น้ั พึงพูด. สมมตกิ ารอุปสมบท อันสงฆใ หแ ลวแกส ามเณรีชอ่ื นี้ ผูม ีอายคุ รบ ๒๐ ป ผไู ดศึกษาสิกขาในธรรม ๖ ประการ ตลอด ๒ ปแลว ชอบแกสงฆ เหตนุ ั้นจงึ นิง่ ขาพเจา ทรงความน้ีไวด ว ยอยางนี้. พระผูมีพระภาคเจาทรงตเิ ตียนภกิ ษณุ เี หลา นน้ั โดยอเนกปรยิ ายดงั น้ีแลว ตรัสโทษแหงความเปนคนเล้ียงยาก. . . ดกู อนภกิ ษุทง้ั หลาย ก็แลภิกษุณีทง้ั หลายจงยกสกิ ขาบทน้ี ข้นึ แสดงอยา งน้ี วาดังน้:ี -
พระวินยั ปฎก ภิกขนุ ีวิภงั ค เลม ๓ - หนา ที่ 434 พระบัญญัติ ๑๒๘. ๓. อนงึ่ ภิกษณุ ใี ด ยงั สตรีผเู ปน กมุ ารี มอี ายคุ รบ๒๐ ป ผูไดศ ึกษาสิกขาในธรรม ๖ ประการ ตลอด ๒ ฝนแลว อันสงฆยังมิไดส มมติ ใหบวช เปนปาจิตตยี . เรอ่ื งภกิ ษณุ หี ลายรูป จบ สิกขาบทวิภงั ค [๔๑๐] บทวา อน่งึ . . .ใด ความวา ผูใด คอื ผเู ชน ใด. . . บทวา ภิกษณุ ี ความวา ทช่ี ื่อวา ภิกษุณี เพราะอรรถวา เปนผขู อ. . .นี้ชือ่ วา ภิกษุณี ทที่ รงประสงคใ นอรรถน.้ี ทช่ี อ่ื วา มีอายุครบ ๒๐ ป คือ มีอายุถงึ ๒๐ ฝนแลว . ทีช่ ื่อวา สตรผี ูเปนกุมารี ไดแก สตรที ีเ่ รยี กกันวา สามเณร.ี บทวา ตลอด ๒ ฝน คอื ตลอด ๒ ป. ทีช่ ่ือวา ผูไดศึกษาสกิ ขา คือ ผูมสี กิ ขาในธรรม ๖ ประการอันไดศ ึกษาแลว . ทช่ี ่อื วา ยงั มไิ ดส มมติ คือ สงฆย งั มไิ ดใหสมมตกิ ารอุปสมบทดวยญัตติทตุ ยิ กรรม. บทวา ใหบวช คือ ใหอ ุปสมบท. ต้ังใจวา จักใหบ วช แลว แสวงหาคณะกด็ ี อาจารยกด็ ี บาตรก็ดี จีวรกด็ ี สมมตสิ ีมากด็ ี ตอ งอาบตั ิทกุ กฏ จบญตั ติ ตอ งอาบัติทุกกฏ จบกรรมวาจา ๒ ครงั้ ตอ งอาบตั ทิ กุ กฏ ๒ ตวั จบกรรมวาจาครงั้ สดุ ภกิ ษณุ ีผอู ุปช -ฌายต องอาบตั ิปาจติ ตีย และคณะอาจารย ตองอาบตั ทิ ุกกฏ.
พระวนิ ัยปฎ ก ภิกขุนีวิภงั ค เลม ๓ - หนาท่ี 435 บทภาชนยี ตกิ ะปาจติ ตีย [๔๑๑] กรรมเปนธรรม ภกิ ษณุ ีสําคัญวา กรรมเปน ธรรม ใหบวชตอ งอาบัติปาจิตตยี กรรมเปนธรรม ภกิ ษุณสี งสัย ใหบ วช ตองอาบตั ิปาจิตตีย. กรรมเปนธรรม ภิกษณุ ีสาํ คัญวา กรรมไมเปนธรรม ใหบวช ตอ งอาบตั ปิ าจิตตยี . ตกิ ะทุกกฏ กรรมเปน ธรรม ภิกษณุ สี ําคญั วา กรรมเปน ธรรม ตองอาบัติทุกกฏ. กรรมไมเ ปนธรรม ภกิ ษุณีสงสัย ตอ งอาบัติทุกกฏ. กรรมไมเ ปนธรรม ภกิ ษุณสี ําคัญวา กรรมไมเปนธรรม ตอ งอาบตั ิทุกกฏ. อนาปตตวิ าร [๔๑๒] บวชสามเณรผี ูม อี ายคุ รบ ๒๐ ป ผูไดศกึ ษาสิกขาในธรรม๖ ประการ ตลอด ๒ ปแ ลว อนั สงฆสมมตแิ ลว ๑ วิกลจรติ ๑ อาทกิ ัมมกิ า ๑ไมต องอาบัตแิ ล. กุมารภี ูตวรรค สิกขาบทท่ี ๓ จบ
พระวินยั ปฎ ก ภกิ ขุนีวภิ งั ค เลม ๓ - หนาท่ี 436 อรรถกถากุมารีภตู วรรคท่ี ๘ อรรถกถากมุ ารีภูตวรรค สิกขาบทที่ ๑-๒-๓ สิกขาบทที่ ๑ ท่ี ๒ และที่ ๓ แหง กมุ ารภี คู วรรค เชน เดียวกบั คิหคิ ตสกิ ขาบทท้ัง ๓ นั่นเอง. ก็มหาสกิ ขมานา ๒ รูปกอ นเขาทงั้ หมดบณั ฑติ พึงทราบวา มีอายลุ ว ง ๒๐ ปแลว มหาสิกขมานาเหลาน้ันจะเปนสตรีคฤหสั ถ (เคยมีสามีแลว) หรือมใิ ชส ตรีคฤหสั ถก ็ตามที สงฆควรเรยี กวา สกิ ขมานา เหมือนกนัในสมมตกิ รรมเปนตน ไมควรเรยี กวา ติหคิ ตา หรอื วา กมุ ารีภตู า. ภิกษุณีสงฆพงึ ใหสกิ ขาสมมติแกส ตรีคฤหสั ถใ นเวลามอี ายุ ๑๐ ป แลวทําการอปุ สมบทในเวลามีอายุ ๑๒ ป. ใหใ นเวลามีอายุ ๑๑ ป แลวทําอุปสมบทในเวลามอี ายุ๑๓ ป. ใหสมมตใิ นเวลามีอายุ ๑๒ ป ๑๓ ป ๑๔ ป ๑๕ ป ๑๖ ป ๑๗ ป และ๑๘ ป แลวพึงกระทําการอปุ สมบทในเวลามี ๑๔-๑๕-๑๖-๑๗-๑๘-๑๙-๒๐ป. กแ็ ล ตัง้ แตเวลามีอายุ ๑๘ ปขึ้นไป สตรคี ฤหสั ถนี้ จะเรยี กวา คิหิคตาบาง วา กมุ ารภี ตู าบา ง กไ็ ด. แตสตรผี ูเ ปนกมุ ารีภูตา ไมค วรเรยี กวา คิหคิ ตาควรเรียกวา กมุ ารภี ูตาเทาน้นั . ฝายมหาสกิ ขมานา จะเรยี กวา คิหคิ ตาบา งก็ไมควร. จะเรียกวา กุมารีภูตาบาง ก็ไมควร. แมท ง้ั ๓ นาง ควรเรียกวาสกิ ขมานาดว ยอํานาจการใหส กิ ขาสมมติ. อรรถกถากมุ ารีภตู วรรค สิกขาบทท่ี ๑-๒-๓ จบ
พระวินัยปฎก ภกิ ขนุ ีวภิ งั ค เลม ๓ - หนาท่ี 437 กมุ ารีภตู วรรค สกิ ขาบทที่ ๔ เรื่องภกิ ษุณีหลายรปู [๔๑๓] โดยสมัยน้ัน พระผมู พี ระภาคพุทธเจาประทบั อยู ณ พระ-เชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกคหบดี เขตพระนครสาวตั ถี ครัง้ นนั้ พวกภิกษณุ ีผูมพี รรษาหยอ น ๑๒ พากันบวชกุลธิดา ภิกษณุ ผี อู ปุ ช ฌายะเหลานน้ัเปน คนเขลาไมฉลาด ไมร สู ง่ิ ทคี่ วรหรอื ไมควร แมส ัทธิวิหารินีทงั้ หลายกเ็ ปนคนเขลาไมฉ ลาด ไมร ูสิง่ ทค่ี วรหรือไมค วร. บรรดาภิกษณุ ีทเี่ ปน ผูมักนอย. . . ตา งกเ็ พงโทษ ติเตยี น โพนทะนาวาไฉนภิกษณุ ีท้ังหลายมีพรรษาหยอน ๑๒ จงึ ไดบวชกุลธิดาเลา . . . ทรงสอบถาม พระผูมพี ระภาคเจา ทรงสอบถามภกิ ษุทั้งหลายวา ดูกอ นภิกษทุ งั้ หลายขาววาภิกษณุ ีท้งั หลายมพี รรษาหยอ น ๑๒ บวชกุลธดิ า จริงหรอื . ภิกษทุ งั้ หลายกราบทูลวา จรงิ พระพุทธเจาขา . ทรงตเิ ตยี นแลว บญั ญัตสิ ิกขาบท พระผูมพี ระภาคเจา ทรงติเตียนวา ดูกอ นภกิ ษทุ ้งั หลาย ไฉนภกิ ษณุ ีทงั้ หลาย มพี รรษาหยอน ๑๒ จงึ ไดบวชกลุ ธิดาเลา การกระทาํ ของพวกนางน่นัไมเ ปนไปเพอื่ ความเลอื่ มใสของชมุ ชนท่ียงั ไมเลอ่ื มใส. . . ดูกอ นภิกษทุ ้ังหลาย ก็แลภิกษณุ ที ง้ั หลายจงยกสิกขาบทนี้ขน้ึ แสดงอยา งน้ี วาดังนี้:-
พระวนิ ัยปฎก ภกิ ขุนีวภิ ังค เลม ๓ - หนาที่ 438 พระบัญญตั ิ ๑๒๙. ๔. อน่ึง ภิกษณุ ใี ด มีพรรษาหยอน ๑๒ ยงั กลุ ธกิ าใหบ วช เปน ปาจิตตีย. เรือ่ งภกิ ษณุ หี ลายรูป จบ สกิ ขาบทวภิ งั ค [๔๑๔] บทวา อน่ึง. . .ใด ความวา ผูใด คือ ผเู ชน ใด. . . บทวา ภิกษณุ ี ความวา ทีช่ ่ือวา ภิกษุณี เพราะอรรถวา เปนผขู อ. . . นีช้ ื่อวา ภิกษณุ ี ที่ทรงประสงคใ นอรรถน้ี . ชื่อวา มพี รรษาหยอน ๑๒ คือ มีพรรษายงั ไมถ ึง ๑๒. บทวา ยังกลุ ธิดาใหบวช คือ ใหกลุ ธิดาอุปสมบท. ต้งั ใจวา จักใหบวช แลวแสวงหาคณะกด็ ี อาจารยก ็ดี บาตรกด็ ีจวี รกด็ ี สมมติสีมาก็ดี ตอ งอาบัติทกุ กฏ จบญัตติ ตองอาบัตทิ กุ กฏ จบกรรมวาจา ๒ ครง้ั ตอ งอาบัติทุกกฏ ๒ ตัว จบกรรมวาจาครั้งสดุ ภกิ ษณุ ีผอู ปุ ชฌาย ตอ งอาบัติปาจิตตีย คณะและอาจารย ตองอาบัติทกุ กฏ. อนาปตติวาร [๔๑๕] มพี รรษาครบ ๑๒ แลว ยังกุลธิดาใหบ วช ๑ วกิ ลจรติ ๑อาทกิ ัมมกิ า ๑ ไมต อ งอาบตั ิแล. กุมารีภูตวรรคสกิ ขาบทที่ ๔ จบ
พระวินยั ปฎก ภิกขุนีวภิ ังค เลม ๓ - หนาที่ 439 กุมารภี ตู วรรค สิกขาบทท่ี ๕ เรื่องภกิ ษณุ หี ลายรูป [๔๑๖] โดยสมยั น้ัน พระผมู พี ระภาคพุทธเจาประทับอยู ณ พระ-เชตวนั อารามของอนาถบิณฑกิ คหบดี เขตพระนครสาวตั ถี ครัง้ นน้ั ภกิ ษณุ ีมพี รรษาครบ ๑๒ แลว แตสงฆย งั มิไดส มมติ ไดพ ากนั บวชกลุ ธิดา ภิกษณุ ีอุปช ฌายะเหลา น้ัน เปนคนเขลา ไมฉ ลาด ไมรูส ่งิ ทค่ี วรหรือไมค วร แมสทั ธวิ ิหารนิ ี กเ็ ปนคนเขลา ไมฉ ลาด ไมรูสิ่งทคี่ วรหรือไมควร. บรรดาภกิ ษณุ ที ี่เปน ผมู กั นอย. . . ตางกเ็ พง โทษ ตเิ ตียน โพนทะนาวาไฉนพวกภิกษณุ ีมพี รรษาครบ ๑๒ แลว แตส งฆยงั มไิ ดสมมติ จึงไดพากนับวชกุลธิดาเลา . . . ทรงสอบถาม พระผมู พี ระภาคเจา ทรงสอบถามภกิ ษุทัง้ หลายวา ดกู อนภกิ ษทุ ัง้ หลายขา ววา พวกภกิ ษุณมี ีพรรษาครบ ๑๒ แลว แตส งฆยังมิไดส มมติ ไดพากันบวชกุลธิดา จริงหรือ. ภิกษุท้งั หลายกราบทูลวา จริง พระพทุ ธเจา ขา . ทรงตเิ ตยี นแลว บญั ญตั ิสกิ ขาบท พระผูมีพระภาคพทุ ธเจาทรงตเิ ตียนวา ดูกอ นภิกษุทั้งหลาย ไฉนพวกภกิ ษุณมี ีพรรษาครบ ๑๒ แลว แตสงฆยงั มไิ ดสมมติ จึงไดพ ากนั บวชกลุ ธิดาเลา การกระทาํ ของพวกนางนัน่ ไมเปน ไปเพ่อื ความเลือ่ มใสของชมุ ชนทีย่ งั ไมเลอื่ มใส. . . ครั้นแลว ทรงกระทําธรรมกี ถารับสัง่ กะภกิ ษุท้ังหลายวา
พระวนิ ัยปฎก ภิกขุนีวภิ ังค เลม ๓ - หนาท่ี 440 ดกู อนภิกษทุ ้งั หลาย เราอนญุ าตใหสงฆส มมติการอปุ สมบทแกภกิ ษณุ ีผูม พี รรษาครบ ๑๒ แลว . ดูกอ นภิกษุทงั้ หลาย กแ็ ลวิธกี ารสมมตใิ หอปุ สมบทนนั้ อนั สงฆพ งึ ใหอยางน้ี:- วธิ ีใหส มมติการใหอ ปุ สมบทแกภิกษุณผี ูม ีพรรษาครบ ๑๒ อนั ภิกษุณผี ูมพี รรษาครบ ๑๒ แลวน้ัน พงึ เขา ไปหาสงฆ หมผาอตุ ราสงคเฉวียงบา กราบเทา ภิกษณุ ผี แู กพ รรษากวา แลว นัง่ กระโหยง ประคองอัญชลี กลา วอยา งนว้ี า . แมเ จา ดิฉนั ชอื่ นี้ มพี รรษาครบ ๑๒ แลว ขอสมมตกิ ารใหอุปสมบทตอ สงฆ. พงึ ขอแมคร้งั ทส่ี อง พึงขอแมครั้งทส่ี าม. ภิกษุณนี นั้ อันสงฆพึงกาํ หนดวา ภกิ ษุณนี เี้ ปนคนฉลาด มคี วามละอายถา เธอเปน คนเขลา และไมม คี วามละอาย ก็ไมควรให ถา เปน คนเขลา แตมีความละอาย กไ็ มควรให ถาเปน คนฉลาด แตไมมคี วามละอาย ก็ไมควรให ถา เปน คนฉลาดดว ย มีความละอายดว ย จึงควรให. ครน้ั แลว สงฆพึงใหส มมตกิ ารใหอุปสมบทนน้ั อยา งน:้ี - ภิกษุณผี ูฉลาด ผสู ามารถ พงึ ประกาศใหสงฆท ราบดวยญตั ตทิ ุติย-วาจา วาดังน้:ี - กรรมวาจา แมเ จา ขอสงฆจ งฟงขาพเจา ภกิ ษณุ ชี ื่อน้ีผูน ้ี มีพรรษาครบ ๑๒ แลว ขอสมมติการใหอ ปุ สมบทตอสงฆ ถา ความพรอ มพร่งั ของสงฆถ งึ ทแ่ี ลว สงฆพ ึงใหสมมตกิ ารใหอุปสมบทแกภกิ ษณุ ีชอ่ื นี้ ผูมีพรรษาครบ ๑๒ แลว นเ้ี ปน ญัตต.ิ
พระวินยั ปฎ ก ภิกขนุ ีวภิ งั ค เลม ๓ - หนา ท่ี 441 แมเจา ขอสงฆจงฟง ขา พเจา ภิกษุณชี อื่ น้ผี นู ี้ มพี รรษาครบ๑๒ แลว ขอสมมติการใหอ ุปสมบทตอสงฆ สงฆใหส มมตกิ ารใหอปุ สมบทแกภิกษณุ ีชอ่ื นี้ ผมู พี รรษาครบ ๑๒ แลว การใหส มมติการใหอุปสมบทแกภิกษณุ ีช่ือนี้ ผูม ีพรรษาครบ ๑๒ แลว ชอบแกแมเ จาผใู ด แมเจา ผนู ้นั พึงเปนผนู ง่ิ ไมช อบแกแมเจาผูใด แมเ จาผูน ้ันพึงพูด. การใหส มมติการใหอ ปุ สมบท อันสงฆใหแลว แกภกิ ษณุ ีชื่อนี้ ผมู ีพรรษาครบ ๑๒ แลว ชอบแกสงฆ เหตนุ ั้นจงึ นิง่ ขา พเจาทรงความนี้ไว ดว ยอยา งน.ี้ พระผูมพี ระภาคเจา ทรงติเตยี นภกิ ษณุ ีเหลาน้นั โดยอเนกปรยิ าย ดงั นี้แลว ตรัสโทษแหงความเปนคนเล้ยี งยาก. . . ดูกอนภกิ ษุทงั้ หลาย ก็แลภกิ ษณุ ีทงั้ หลายจงยกสกิ ขาบทนข้ี ้ึนแสดงอยา งน้ี วาดังน:้ี - พระบญั ญัติ ๑๓๐. ๕. อน่ึง ภิกษณุ ใี ด มีพรรษาครบ ๑๒ แลว อันสงฆย ังมไิ ดสมมติ ยงั กุลธดิ าใหบ วช เปนปาจิตตีย. เรือ่ งภกิ ษณุ ีหลายรูป จบ สิกขาบทวภิ งั ค [๔๑๗] บทวา อนง่ึ . . .ใด ความวา ผูใด คอื ผูเ ชนใด. . . บทวา ภิกษณุ ี ความวา ทชี่ ่อื วา ภิกษณุ ี เพราะอรรถวาเปน ผูขอ. . . นช้ี อ่ื วา ภิกษณุ ี ท่ีทรงประสงคในอรรถน.ี้ ท่ีชอ่ื วา มพี รรษาครบ ๑๒ แลว คอื มีพรรษาถึง ๑๒ แลว.
พระวินยั ปฎ ก ภกิ ขุนีวภิ ังค เลม ๓ - หนา ที่ 442 ท่ีชื่อวา ยงั มไิ ดส มมติ คือ สงฆยงั มไิ ดใ หส มมตกิ ารใหอุปสมบทดว ยญัตติทตุ ิยกรรม. บทวา ยังกลุ ธดิ าใหบวช คอื ใหก ุลธิดาอุปสมบท. ตง้ั ใจวาจกั ใหบ วช แสวงหาคณะก็ดี อาจารยก ด็ ี บาตรก็ดี จีวรกด็ ีสมมตสิ ีมากด็ ี ตองอาบตั ทิ ุกกฏ จบญตั ติ ตองอาบัตทิ ุกกฏ จบกรรมวาจาสองคร้ัง ตองอาบตั ิทกุ กฏสองตวั จบกรรมวาจาครง้ั สดุ ภิกษณุ ผี อู ุปชฌายตอ งอาบัตปิ าจิตตีย คณะและอาจารย ตอ งอาบตั ิทุกกฏ. บทภาชนีย ติกะปาจติ ตีย [๔๑๘] กรรมเปนธรรม ภกิ ษุณีสําคญั วา กรรมเปนธรรม ใหบวชตอ งอาบตั ิปาจติ ตีย. กรรมเปน ธรรม ภิกษุณีสงสัย ใหบวช ตอ งอาบัตปิ าจิตตีย. กรรมเปนธรรม ภกิ ษุณสี าํ คัญวากรรมไมเ ปนธรรม ใหบวช ตองอาบัตปิ าจิตตยี . ตกิ ะทุกกฏ กรรมไมเ ปน ธรรม ภกิ ษุณสี าํ คญั วา กรรมเปนธรรม ตองอาบตั ทิ ุกกฏ. กรรมไมเปน ธรรม ภกิ ษุณสี งสยั ตอ งอาบัตทิ ุกกฏ. กรรมไมเ ปนธรรม ภกิ ษุณสี ําคัญวา กรรมไมเ ปน ธรรม ตอ งอาบตั ิทุกกฏ. อนาปต ตวิ าร [๔๑๙] มีพรรษาครบ ๑๒ แลว อันสงฆส มมติแลว ยังกุลธดิ าใหบวช ๑ วกิ ลจริต ๑ อาทกิ ัมมกิ า ๑ ไมต อ งอาบัติแล. กมุ ารภี ูตวรรค สกิ ขาบทท่ี ๕ จบ
พระวนิ ัยปฎ ก ภกิ ขนุ วี ิภังค เลม ๓ - หนาท่ี 443 กุมารีภตู วรรค สิกขาบทที่ ๖ เร่ืองภกิ ษุณีจณั ฑกาลี [๔๒๐] โดยสมยั นนั้ พระผูม พี ระภาคพุทธเจาประทับอยู ณ พระ-เชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกคหบดี เขตพระนครสาวตั ถี ครงั้ นั้น ภกิ ษุณีจัณฑกาลเี ขาไปหาภกิ ษุณีสงฆ ขอสมมติการใหอ ุปสมบท ภกิ ษณุ ีสงฆพ ิจารณาดูภกิ ษุณีจณั ฑกาลีในขณะนน้ั แลว กลา ววา ดูกอนแมเ จา เธอยังไมคนควรใหก ลุ ธิดาบวชกอ น แลวมิไดใหส มมติการใหอุปสมบท ภิกษุณีจัณฑกาลรี บัคาํ วา ดีแลว. ครัน้ สมยั ตอมา ภกิ ษณุ ีสงฆส มมตกิ ารใหอปุ สมบทแกภ ิกษณุ เี หลาอื่นภกิ ษุณจี ัณฑกาลจี งึ เพง โทษ ตเิ ตียน โพนทะนา ดฉิ นั คนเดียวเปนคนเขลาดิฉนั คนเดยี วเปน คนไมมคี วามละอาย เพราะสงฆใ หสมมติการใหอ ุปสมบทแกภิกษณุ เี หลา อืน่ ไมใหกะดฉิ ันคนเดียว. บรรดาภิกษุณีทเี่ ปน ผูมักนอ ย. . .ตา งก็เพง โทษ ตเิ ตียน โพนทะนาวา ไฉนแมเจา จณั ฑกาลี อนั ภิกษุณีสงฆก ลาวอยวู า ดูกอนแมเ จา เธอยังไมสมควรใหกลุ ธดิ าบวชกอน ดงั น้ี รับคําวา ดีแลว ภายหลังจงึ ไดถึงการบนวา เลา . . . ทรงสอบถาม พระผูมีพระภาคเจาทรงสอบถามภกิ ษทุ ้ังหลายวา ดกู อนภิกษทุ ้ังหลายขาววา ภิกษุณจี ณั ฑกาลอี ันสงฆกลา วอยวู า ดกู อ นแมเจา เธอยังไมส มควรใหก ุลธิดาบวชกอน ดังนี้ รับคําวา ดแี ลว ภายหลงั ไดถงึ การบนวา จรงิ หรอื . ภกิ ษุทงั้ หลายกราบทลู วา จริง พระพทุ ธเจา ขา .
พระวนิ ัยปฎ ก ภิกขุนีวภิ งั ค เลม ๓ - หนา ท่ี 444 ทรงติเตยี นแลวบัญญตั ิสกิ ขาบท พระผูม พี ระภาคพทุ ธเจาทรงตเิ ตยี นวา ดกู อนภกิ ษทุ ้ังหลาย ไฉนภกิ ษุณีจัณฑกาลอี ันภกิ ษณุ ีสงฆกลา วอยูวา ดูกอ นแมเ จา เธอยังไมสมควรใหกุลธิดาบวชกอน ดงั นี้ รบั คําวา ดีแลว ภายหลงั จึงไดถ ึงการบนวา เลา การกระทาํ ของนางนน่ั ไมเ ปน ไปเพอ่ื ความเลือ่ มใสของชมุ ชนทย่ี ังไมเล่ือมใส. . . ดูกอนภกิ ษุทั้งหลาย ก็แลภกิ ษุณที ง้ั หลายจงยกสิกขาบทนขี้ ้ึนแสดงอยางน้ี วา ดงั น.้ี . . พระบญั ญัติ ๑๓๑. ๖. อน่ึง ภิกษณุ ใี ด อนั ภกิ ษณุ สี งฆกลา วอยูว า ดูกอ นแมเจา เธอยังไมส มควรใหกุลธดิ าบวชกอน ดังน้ี รับคาํ วาดแี ลว ภายหลงั ถึงธรรมคือบนวา เปนปาจติ ตยี . เร่อื งภกิ ษณุ จี ัณฑกาลี จบ สิกขาบทวภิ งั ค [๔๒๑] บทวา อนึ่ง. . . ใด ความวา ผูใด คอื ผูเชน ใด. . . บทวา ภิกษณุ ี ความวา ที่ชอื่ วา ภกิ ษุณี เพราะอรรถวา เปนผูขอ. . . น้ชี อ่ื วา ภกิ ษณุ ี ท่ที รงประสงคในอรรถนี้ . คําวา ดูกอนแมเ จา เธอยังไมสมควรใหกุลธิดาบวชกอ นความวา ดูกอ นแมเจา เธอยังไมค วรกอ น ทจ่ี ะเปนผูใหกุลธดิ าอปุ สมบท. คาํ วา รบั คําวา ดแี ลว ความวา ถงึ ธรรมคือบน วา ในภายหลังตอ งอาบัติปาจติ ตีย.
พระวนิ ัยปฎ ก ภิกขนุ วี ภิ ังค เลม ๓ - หนาท่ี 445 อนาปตติวาร [๔๒๒] บน วาภิกษณุ สี งฆผูทาํ เพราะฉนั ทาคติ เพราะโทสาคติเพราะโมหาคติ เพราะภยาคติ โดยปกติ ๑ วิกลจริต ๑ อาทิกัมมกิ า ๑ ไมตอ งอาบตั แิ ล. กมุ ารภี ูตวรรค สิกขาบทท่ี ๖ จบ อรรถกถากมุ ารีภตู วรรค สกิ ขาบทที่ ๔-๕-๖ คาํ ท้งั หมดในสิกขาบทที่ ๔ ที่ ๕ และท่ี ๖ ต้นื ทง้ั นัน้ . ทกุ สิกขาบทมสี มุฏฐาน ๓. สกิ ขาบทท่ี ๔ เปน กิริยา สัญญาวิโมกข สจติ ตกะ ปณณัตต-ิวชั ชะ กายกรรม วจีกรรม มีจิต ๓ มเี วทนา ๓ แล. สกิ ขาบทที่ ๕ เปน ทง้ั กิริยาทงั้ อกริ ยิ า สัญญาวโิ มกข สจิตตกะปณณตั ตวิ ัชชะ กายกรรม วจีกรรม มจี ิต ๓ มเี วทนา ๓ แล. สวนวาคาํ ท่ีพระผมู ีพระภาคเจาตรัสไวใ นสิกขาบทท่ี ๕ น้วี า สงเฺ ฆน ปริจฉฺ นิ -ฺทิตพพฺ า มีใจความวา อนั สงฆพึงพิจารณาด.ู สกิ ขาบทที่ ๖ เปนกริ ิยา สัญญาวโิ มกข สจิตตกะ โลกวชั ชะกายกรรม วจกี รรม อกุศลจิต เปนทกุ ขเวทนาแล. แตค าํ ท่ตี รสั ไวในสิกขาบทท่ี ๖ นว้ี า ปริจฺฉนิ ทฺ ิตวฺ า มใี จความวา ไดพิจารณาดูแลว. อรรถกถากุมารีภตู วรรค สกิ ขาบทที่ ๔-๕-๖ จบ
พระวนิ ยั ปฎก ภิกขนุ ีวภิ งั ค เลม ๓ - หนา ที่ 446 กมุ ารภี ตู วรรค สกิ ขาบทที่ ๗ เรื่องภกิ ษุณถี ลุ ลนันทา [๔๒๓] โดยสมยั น้ัน พระผูมพี ระภาคพทุ ธเจา ประทบั อยู ณ พระ-เชตวนั อารามของอนาถบณิ ฑกิ คหบดี เขตพระนครสาวัตถี ครงั้ น้ัน สกิ ขมา-นารปู หนง่ึ เขา ไปหาภิกษณุ ีถุลลนนั ทาขออปุ สมบท ภิกษณุ ีถุลลนันทากลาวกะสกิ ขมานารปู นั้นวา ดูกอ นแมเจา ถา เธอจักใหจวี รแกเ รา เม่ือไดเชน นี้ เราจงึ จะใหเธออปุ สมบทแลวไมใ หนางอปุ สมบท ไมขวนขวายเพอ่ื ใหน างอปุ สมบทสิกขมานารปู นนั้ จงึ ไดแจง เรอื่ งนัน้ แกภ กิ ษุณที งั้ หลาย. บรรดาภกิ ษณุ ีทเ่ี ปน ผมู ักนอ ย. . . ตา งก็เพง โทษ ติเตียน โพนทะนาวา ไฉนแมเ จาถุลลนนั ทาจงึ ไดก ลา วกะสกิ ขมานาวา ดูกอ นแมเ จา ถา เธอจกัใหจีวรแกเรา เมอื่ ไดเ ชนนี้ เราจงึ จะใหเ ธออุปสมบท แลวไมใหน างอุปสมบทไมขวนขวายเพอื่ ใหน างอุปสมบทเลา . . . ทรงสอบถาม พระผูมีพระภาคเจาทรงสอบถามภิกษทุ ้งั หลายวา ดูกอนภกิ ษุทั้งหลายขา ววา ภิกษณุ ถี ลุ ลนันทาไดก ลาวกะสิกขมานาวา ดกู อนแมเจา ถา เธอจกั ใหจีวรแกเ รา เม่อื ไดเ ชนนี้ เราจงึ จะใหเ ธออุปสมบท แลว ไมใ หนางอุปสมบทไมข วนขวายเพอื่ ใหนางอปุ สมบท จรงิ หรอื . ภกิ ษทุ ้ังหลายกราบทูลวา จรงิ พระพทุ ธเจาขา. ทรงติเตยี นแลวบัญญตั ิสกิ ขาบท พระผมู พี ระภาคพทุ ธเจาทรงติเตยี นวา ดูกอ นภกิ ษทุ ัง้ หลาย ไฉนภกิ ษุณถี ุลลนันทาจงึ ไดกลา วกะสกิ ขมานาวา ดูกอนแมเจา ถา เธอจกั ใหจีวรแก
พระวนิ ยั ปฎก ภิกขนุ ีวภิ งั ค เลม ๓ - หนา ท่ี 447เรา เม่ือไดเ ชนน้ี เราจงึ จะใหเ ธออปุ สมบท แลว ไมใหน างอุปสมบท ไมขวน-ขวายเพ่ือใหน างอปุ สมบทเลา การกระทาํ ของนางนนั่ ไมเ ปน ไปเพ่ือความเลอ่ื มใสของชมุ ชนท่ยี ังไมเล่ือมใส. . . ดกู อ นภกิ ษทุ ัง้ หลาย กแ็ ลภิกษุณที ั้งหลายจงยกสิกขาบทนี้ขนึ้ แสดงอยา งนี้ วา ดงั น้ี. . . พระบัญญตั ิ ๑๓๒. ๗. อนงึ่ ภิกษุณีใด กลาวกะสิกขมานาวา ดกู อนแมเ จา ถาเธอจกั ใหจีวรแกเ รา เมอ่ื ไดเชนน้ี เราจึงจะใหเธออุปสมบทดังนแี้ ลว นางไมม อี ันตรายในภายหลงั ไมใ หอปุ สมบท ไมท าํ การขวนขวายเพอื่ ใหอ ปุ สมบท เปน ปาจิตตีย. เรอ่ื งภกิ ษณุ ีถุลลนันทา จบ สิกขาบทวภิ ังค [๔๒๔] บทวา อนึ่ง. . .ใด ความวา ผใู ด คือ ผูเชน ใด. . . บทวา ภกิ ษุณี ความวา ทช่ี อื่ วา ภกิ ษุณี เพราะอรรถวา เปน ผูขอ. . .นชี้ ่ือวา ภกิ ษณุ ี ท่ที รงประสงคในอรรถนี.้ ที่ช่อื วา สกิ ขมานา ไดแ ก สตรีผไู ดศ กึ ษาสิกขาในธรรม ๖ ประการตลอด ๒ ปแลว . คําวา ดกู อนแมเจา ถาเธอจักใหจีวรแกเ รา เม่ือไดเชนน้ีเราจงึ จะใหเ ธออุปสมบท ความวา เมื่อเราไดจ วี รแลว เราจึงจะใหเ ธออุปสมบท.
พระวนิ ยั ปฎก ภิกขุนีวภิ ังค เลม ๓ - หนาท่ี 448 คาํ วา นางไมมีอันตรายในภายหลัง คอื ในเมื่ออนั ตรายไมม.ี บทวา ไมใหอุปสมบท คอื ไมบวชใหด ว ยตนเอง. บทวา ไมท ําการขวนขวายเพ่อื ใหอุปสมบท คอื ไมมอบหมายภิกษณุ ีรูปอ่ืนจัดการแทน. พอทอดธุระวา จกั ไมใ หอปุ สมบท จกั ไมข วนขวายเพอ่ื ใหอุปสมบทดงั นี้ ตอ งอาบตั ปิ าจติ ตยี . อนาปตติวาร [๔๒๕] ในเมอื่ อนั ตรายมี ๑ แสวงหาแลวไมได ๑ อาพาธ ๑ มีเหตขุ ัดขอ ง ๑ วิกลจริต ๑ อาทกิ ัมมกิ า ๑ ไมต องอาบัติแล. กมุ ารีภตู วรรค สกิ ขาบทท่ี ๗ จบ อรรถกถากุมารีภูตวรรค สกิ ขาบทที่ ๗ คําท้งั หมดในสกิ ขาบทที่ ๗ ตื้นท้งั นั้น. สิกขาบทนี้ มีการทอดธรุ ะเปน สมฏุ ฐาน เปน กริ ยิ า สัญญาวโิ มกข สจิตตกะ โลกวชั ชะ กายกรรม วจีกรรม อกุศลจิต เปนทุกขเวทนา แล. อรรถกถากุมารภี ูตวรรค สกิ ขาบทท่ี ๗ จบ
พระวินยั ปฎ ก ภกิ ขุนวี ิภังค เลม ๓ - หนาท่ี 449 กมุ ารภี ูตวรรค สิกขาบทที่ ๘ เรือ่ งภิกษุณีถุลลนันทา [๔๒๖] โดยสมยั นัน้ พระผูมีพระภาคพุทธเจาประทับอยู ณ พระ-เชตวัน อารามของอนาถบณิ ฑกิ คหบดี เขตพระนครสาวตั ถี ครัง้ นั้น สิกขมานารปู หน่งึ เขาไปหาภกิ ษณุ ีถุลลนันทาขออุปสมบท ภกิ ษุณีถลุ ลนันทากลาวกะสกิ ขมานารูปนั้นวา ดกู อนแมเจา ถาเธอจักตดิ ตามเราตลอด ๒ ป เมือ่ ไดด งั นี้เราจงึ จะใหเ ธออปุ สมบท แลวไมใหนางอปุ สมบท ไมขวนขวายเพือ่ ใหน างอปุ สมบท สิกขมานารปู นนั้ จึงไดแ จงเรื่องนัน้ แกภ กิ ษุณที ั้งหลาย. บรรดาภิกษณุ ที เี่ ปนผูมกั นอย . . . ตา งกเ็ พงโทษ ตเิ ตียน โพนทะนาวา ไฉนแมเจาถุลลนันทาจงึ ไดก ลา วกะสิกขมานาวา ดกู อ นแมเ จา ถา เธอจักติดตามเราตลอด ๒ ป เม่ือไดดงั น้ี เราจึงจะใหเ ธออุปสมบท แลว ไมใ หน างอุปสมบท ไมขวนขวายเพ่ือใหนางอุปสมบทเลา . . . ทรงสอบถาม พระผมู พี ระภาคเจา ทรงสอบถามภกิ ษทุ งั้ หลายวา ดูกอ นภกิ ษทุ ้งั หลายขา ววาภิกษุณีถุลลนนั ทาไดกลา วกะสกิ ขมานาวา ดูกอนแมเจา ถา เธอจกั ตดิ ตามเราตลอด ๒ ป เมอื่ ไดด งั นี้ เราจึงจะใหเ ธออุปสมบท แลวไมใหนางอปุ สมบทไมข วนขวายเพอื่ ใหน างอปุ สมบท จริงหรือ. ภกิ ษทุ ัง้ หลายกราบทลู วา จรงิ พระพทุ ธเจา ขา . ทรงตเิ ตียนแลว บญั ญัตสิ กิ ขาบท พระผูม พี ระภาคพุทธเจา ทรงตเิ ตียนวา ดกู อนภิกษทุ ง้ั หลาย ไฉนภิกษุณีถลุ ลนนั ทาจงึ ไดกลาวกะสิกขมานาวา ดูกอ นแมเ จา ถา เธอจกั ติดตามเรา
พระวินัยปฎก ภิกขนุ ีวิภงั ค เลม ๓ - หนา ท่ี 450ตลอด ๒ ป เม่ือไดดงั นี้ เราจะใหเ ธออุปสมบท แลว ไมใหนางอปุ สมบทไมข วนขวายเพอ่ื ใหน างอุปสมบทเลา การกระทาํ ของนางนนั่ ไมเ ปนไปเพอ่ืความเล่อื มใสของชุมชนที่ยังไมเลือ่ มใส . . . ดกู อ นภิกษทุ ้ังหลาย ก็แลภิกษณุ ที ้ังหลายจงยกสิกขาบทนี้ขน้ึ แสดงอยางน้ี วา ดังน้.ี . . พระบัญญัติ ๑๓๓. ๘. อน่งึ ภกิ ษณุ ีใด กลาวกะสกิ ขมานาวา ดกู อนแมเ จาถา เธอจกั ติดตามเราตลอด ๒ ป เมื่อไดเชนนี้ เราจึงจะใหเธออุปสมบทดังนแี้ ลว นางไมม ีอันตรายในภายหลัง ไมใ หอุปสมบท ไมทําการขวนขวายเพ่ือใหอ ปุ สมบท เปน ปาจิตตีย. เรอื่ งภิกษุณีถลุ ลนนั นทา จบ สกิ ขาบทวิภงั ค [๔๒๗] บทวา อนง่ึ . . .ใด ความวา ผูใ ด คือ ผเู ชนใด. . . บทวา ภิกษุณี ความวา ทีช่ อื่ วา ภกิ ษุณี เพราะอรรถวาเปนผูขอ. . . นช้ี ่อื วา ภิกษุณี ทที่ รงประสงคในอรรถนี้. ทชี่ ่อื วา สกิ ขมานา ไดแ ก สตรีผูไดศึกษาสิกขาในธรรม ๖ ประการตลอด ๒ ปแ ลว . คาํ วา ดกู อ นแมเ จา ถาเธอจกั ติดตามเราตลอด ๒ ป ความวาเธอจักอุปฏ ฐากตลอด ๒ ป. คําวา เมือ่ ไดเ ชนน้ี เราจึงจะใหเธออุปสมบท ความวา. เมอื่เธอทาํ ไดเ ชน น้ี เราจงึ จะใหเ ธออปุ สมบท.
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 547
Pages: