พระวนิ ัยปฎ ก ภกิ ขุนวี ภิ ังค เลม ๓ - หนา ท่ี 484 พระบญั ญตั ิ ๑๔๔. ๖. อนึ่ง ภกิ ษณุ ีใด อาบนํ้าดวยกํายานทอ่ี บ เปนปาจติ ตยี . เรือ่ งภกิ ษุณฉี ัพพคั คยี จบ สกิ ขาบทวิภังค [๔๖๔] บทวา อน่ึง. . .ใด ความวา ผใู ด คอื ผูเ ชน ใด. . . บทวา ภิกษุณี ความวา ทชี่ ่อื วา ภิกษณุ ี เพราะอรรถวา เปน ผขู อ. . .น้ชี อื่ วา ภกิ ษุณี ทที่ รงประสงคในอรรถนี.้ ทีช่ ่อื วา อบ ไดแ ก วตั ถุทอี่ บดวยของหอมชนดิ ใดชนิดหน่ึง. ที่ชอ่ื วา กํายาน ไดแ ก วตั ถทุ เี่ รียกวา แปงงา. บทวา อาบนํา้ คอื ทําใหสะอาด เปน ทุกกฏในประโยค อาบเสรจ็ตองอาบัตปิ าจติ ตยี . อนาปต ตวิ าร [๔๖๕] เหตอุ าพาธ ๑ อาบน้าํ กํายานธรรมดา ๑ วิกลจรติ ๑ อาทิ-กมั มกิ า ๑ ไมตองอาบตั ิแล. ฉัตตุปาหนวรรค สิกขาบทที่ ๖ จบ อรรถกถาฉัตตวรรค สกิ ขาบทที่ ๖ คาํ ท้ังหมดในสิกขาบทที่ ๖ เปน เชนเดยี วกนั กบั คําทก่ี ลาวแลว ในสิกขาบทที่ ๕ นนั้ แล. อรรถกถาฉตั ตวรรค สิกขาบทท่ี ๖ จบ
พระวนิ ัยปฎ ก ภกิ ขุนีวภิ ังค เลม ๓ - หนาท่ี 485 ฉัตตุปาหนวรรค สิกขาบทท่ี ๗ เร่อื งภกิ ษุณหี ลายรปู [๔๖๖] โดยสมยั น้ัน พระผูมพี ระภาคพทุ ธเจาประทับ อยู ณ พระ-เชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกคหบดี เขตพระนครสาวตั ถี ครัง้ น้นั ภกิ ษุณีทั้งหลายใชภกิ ษณุ ีใหนวดบาง ใหฟนบาง คนทัง้ หลายเท่ยี วไปในวิหารพบเหน็ แลว พากันเพง โทษ ตเิ ตยี น โพนทะนาวา ไฉนภิกษุณที ้ังหลายจงึ ไดใชภ ิกษุณใี หน วดบาง ใหฟนบา ง เหมือนสตรีคฤหัสถผบู รโิ ภคกามเลา. ภกิ ษุณีทง้ั หลายไดย นิ คนเหลา นน้ั เพงโทษ ตเิ ตยี น โพนทะนาอยูบรรดาทีเ่ ปน ผูมักนอย . . .ตา งก็เพงโทษ ติเตียน โพนทะนาวา ไฉนภิกษุณีทง้ั หลายจึงไดใ ชภกิ ษณุ ีใหน วดบา ง ใหฟน บาง. . . ทรงสอบถาม พระผูมีพระภาคเจาทรงสอบถามภิกษุน้ันวา ดกู อ นภิกษุทัง้ หลายขาววา พวกภกิ ษณุ ีใชภกิ ษุณใี หนวดบา ง ใหฟ น บาง จริงหรอื . ภกิ ษุท้งั หลายกราบทูลวา จริง พระพทุ ธเจา ขา . ทรงติเตยี นแลวบัญญัตสิ กิ ขาบท พระผมู ีพระภาคพทุ ธเจา ทรงติเตียนวา ดกู อนภกิ ษุทง้ั หลาย ไฉนพวกภกิ ษณุ ีจงึ ไดใชภ ิกษุณีใหนวดบา ง ใหฟน บา งเลา การกระทาํ ของพวกนางน่ัน ไมเปน ไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชนท่ยี ังไมเลือ่ มใส. . . ดกู อ นภิกษทุ ้งั หลาย ก็แลภิกษณุ ที งั้ หลายจงยกสกิ ขาบทนีข้ นึ้ แสดงอยา งน้ี วาดังน้ี :-
พระวนิ ยั ปฎ ก ภิกขนุ ีวภิ ังค เลม ๓ - หนาที่ 486 พระบัญญตั ิ ๑๔๕. ๗. อน่ึง ภิกษณุ ใี ด ยงั ภกิ ษณุ ใี หนวดก็ดี ใหฟนก็ดีเปนปาจิตตีย. เรือ่ งภิกษุณีหลายรูป จบ สกิ ขาบทวิภังค [๔๖๗] บทวา อนึ่ง. . .ใด ความวา ผูใด คือ ผูเชน ใด. . . บทวา ภกิ ษณุ ี ความวา ที่ชือ่ วา ภิกษุณี เพราะอรรถวา เปน ผูขอ. . . นช้ี ือ่ วา ภกิ ษุณี ทที่ รงประสงคใ นอรรถน.้ี บทวา ยังภกิ ษุณี ไดแก ภิกษณุ ีรปู อื่น. บทวา ใหนวด คือ ใหบีบ ตองอาบตั ิปาจิตตยี . บทวา ใหฟน คอื ใหขยํา ตองอาบัติปาจิตตีย. อนาปต ตวิ าร [๘๖๘] อาพาธ ๑ มเี หตจุ าํ เปน ๑ วิกลจรติ ๑ อาทิกมั มกิ า ๑ ไมตอ งอาบตั ิแล. ฉัตตุปาหนวรรค สิกขาบทที่ ๗ จบ
พระวินยั ปฎ ก ภิกขนุ ีวภิ ังค เลม ๓ - หนาที่ 487 อรรถกถาฉัตตวรรค สิกขาบทที่ ๗ วนิ ิจฉยั ในสกิ ขาบทท่ี ๗ พึงทราบดงั น:ี้ - ในคําวา อมุ ฺมทฺทาเปติ อาปตฺติ ปาจติ ตฺ ยิ สสฺ นี้ มวี ินิจฉัยวาในการบบี นวดไมปลอ ยมอื เปนอาบัตเิ พยี งตัวเดียว. ในการบีบนวดปลอ ยมอื ๆเปนอาบัตมิ ากตัว โดยการนับประโยค. แมใ นการขยํากน็ ัยนน้ี ั่นแล. บทวา คิลานาย ไดแก มีอาพาธ โดยทสี่ ดุ แมด ว ยความเมื่อยลา ในการเดนิ ทาง. บทวา อาปทาสุ ไดแก ในอันตรายมรี า งกายสั่นเทา เพราะความกลวั พวกโจรเปนตน . คาํ ท่เี หลือ งา ยทั้งนน้ั . สมฏุ ฐานเปนตนเชน เดียวกันกบั สิกขาบทที่ ๓ นั้น แล. อรรถกถาฉัตตวรรค สกิ ขาบทท่ี ๗ จบ
พระวนิ ัยปฎ ก ภกิ ขนุ ีวภิ งั ค เลม ๓ - หนาท่ี 488 ฉัตตปุ าหนวรรค สิกขาบทท่ี ๘ เรื่องภกิ ษุณหี ลายรปู [๔๖๙] โดยสมยั นั้น พระผมู พี ระภาคพุทธเจาประทับอยู ณ พระ-เชตวัน อารามของอนาถบิณฑกิ คหบดี เขตพระนครสาวัตถี ครั้งน้ัน ภิกษณุ ที ้งัหลายใชส ิกขมานาใหนวดบาง ใหฟ น บา ง คนทั้งหลายเท่ียวไปในวิหารพบเห็นแลว พากนั เพงโทษ ติเตียน โพนทะนาวา ไฉนภกิ ษณุ ที ง้ั หลายจงึ ไดใ ชสิกขมานาใหน วดบาง ใหฟน บาง เหมือนสตรีคฤหสั ถผ ูบริโภคกามเลา . ภกิ ษุณที ้ังหลายไดย ินคนเหลา น้นั เพงโทษ ติเตียน โพนทะนาอยูบรรดาท่เี ปนผูมกั นอ ย. . .ตางกเ็ พงโทษ ติเตียน โพนทะนาวา ไฉน พวกภกิ ษุณีท้งั หลายจึงไดใชส ิกขมานาใหนวดบา ง ใหฟนบา งเลา. . . ทรงสอบถาม พระผูม ีพระภาคเจา ทรงสอบถามภิกษุท้งั หลายวา ดกู อนภิกษทุ งั้ หลายขาววา พวกภิกษณุ ใี ชสิกขมานาใหน วดบาง ใหฟน บาง จรงิ หรอื . ภกิ ษุทัง้ หลายกราบทลู วา จรงิ พระพทุ ธเจาขา . ทรงติเตียนแลวบัญญตั ิสกิ ขาบท พระผูมีพระภาคพุทธเจา ทรงติเตียนวา ดูกอนภกิ ษทุ ง้ั หลาย ไฉนพวกภิกษณุ ีจงึ ไดใ ชสกิ ขมานาใหน วดบาง ใหฟ น บา งเลา การกระทําของพวกนางนนั่ ไมเ ปนไปเพ่อื ความเล่ือมใสของชุมชนทีย่ ังไมเล่อื มใสแลว. . . ดกู อ นภิกษทุ ้ังหลาย กแ็ ลภิกษณุ ีทั้งหลายจงยกสิกขาบทนข้ี ึน้ แสดงอยา งนี้ วา ดังน้ี :-
พระวนิ ยั ปฎก ภิกขนุ วี ภิ งั ค เลม ๓ - หนาท่ี 489 พระบญั ญัติ ๑๔๖. ๘. อน่งึ ภกิ ษุณใี ด ยงั สิกขมานาใหนวดก็ดี ใหฟ นกด็ ี เปน ปาจติ ตีย. เร่ืองภกิ ษุณหี ลายรปู จบ สกิ ขาบทวิภังค [๔๗๐] บทวา อนง่ึ . . .ใด ความวา ผูใ ด คอื ผูเ ชนใด. . . บทวา ภกิ ษุณี ความวา ทีช่ ่อื วา ภิกษุณี เพราะอรรถวาเปน ผูขอ. . . นช้ี ือ่ วา ภกิ ษุณี ทที่ รงประสงคใ นอรรถนี.้ ทชี่ ่อื วา สกิ ขมานา ไดแ ก สตรผี ไู ดศกึ ษาสกิ ขาในธรรม ๖ ประการตลอด ๒ ปแลว . บทวา ใหนวด คือ ใหบีบ ตอ งอาบตั ิปาจิตตีย. บทวา ใหฟ น คือ ใหข ยํา ตอ งอาบตั ิปาจติ ตยี . อนาปตตวิ าร [๔๗๑] เหตอุ าพาธ ๑ มเี หตจุ ําเปน ๑ วกิ ลจริต ๑ อาทิกัมมิกา ๑ไมต องอาบัติแล. ฉตั ตุปาหนวรรค สกิ ขาบทท่ี ๘ จบ
พระวินัยปฎก ภกิ ขนุ วี ิภังค เลม ๓ - หนา ที่ 490 ฉตั ตปุ าหนวรรค สิกขาบทท่ี ๙ เร่อื งภกิ ษุณีหลายรูป โดยสมยั นน้ั พระผมู พี ระภาคพทุ ธเจา ประทับอยู ณ พระเชตวนัอารามของอนาถบณิ ฑิกคหบดี เขตพระนครสาวตั ถี ครง้ั น้ัน ภกิ ษุณที ง้ั หลายใชส ามเณรใี หนวดบา ง ใหฟ นบาง คนท้ังหลายเทย่ี วไปในวหิ ารพบเห็นแลวพากนั เพงโทษ ติเตียน โพนทะนาวา ไฉนภิกษุณที ั้งหลายจงึ ไดใชสามเณรีใหนวดบาง ใหฟ นบาง เหมอื นสตรีคฤหัสถผบู ริโภคกามเลา . ภิกษณุ ที งั้ หลายไดย ินคนพวกนน้ั เพง โทษ ตเิ ตียน โพนทะนาอยูบรรดาท่ีเปนผูมกั นอย. . . ตา งก็เพง โทษ ติเตยี น โพนทะนาวา ไฉนภิกษณุ ีทัง้ หลายจึงไดใ ชสามเณรใี หน วดบาง ใหฟน บา งเลา . . . ทรงสอบถาม พระผูมีพระภาคเจาทรงสอบถามภิกษุท้งั หลายวา ดูกอนภิกษุทั้งหลายขาววา พวกภกิ ษณุ ีใชส ามเณรีใหนวดบา ง ใหฟ น บา ง จรงิ หรือ. ภกิ ษุทงั้ หลายกราบทลู วา จรงิ พระพุทธเจา ขา . ทรงตเิ ตยี นแลว บญั ญัตสิ กิ ขาบท พระผมู ีพระภาคพุทธเจาทรงตเิ ตียนวา ดกู อ นภกิ ษุทัง้ หลาย ไฉนพวกภกิ ษณุ ีจงึ ไดใชสามเณรีใหน วดบาง ใหฟน บาง การกระทาํ ของพวกนางนนั้ ไมเ ปนไปเพอื่ ความเล่ือมใสของชุมชนทีย่ งั ไมเ ลื่อมใส. . . ดูกอนภิกษทุ ้ังหลาย ก็แลภกิ ษุณที ัง้ หลายจงยกสกิ ขาบทนี้ข้ึนแสดงอยางน้ี วาดงั นี้ :-
พระวนิ ัยปฎ ก ภิกขุนีวภิ ังค เลม ๓ - หนาที่ 491 พระบัญญัติ ๑๔๗. ๙. อนึง่ ภิกษณุ ใี ด ยังสามเณรีใหนวดกด็ ี ใหฟ นก็ดี เปน ปาจติ ตีย. เรื่องภกิ ษุณีหลายรปู จบ สิกขาบทวิภงั ค บทวา อนึ่ง. . .ใด ความวา ผูใ ด คอื ผูเชน ใด. . . บทวา ภกิ ษุณี ความวา ทีช่ อื่ วา ภิกษณุ ี เพราะอรรถวาเปนผูขอ. . . น้ีช่อื วา ภกิ ษุณี ที่ทรงประสงคใ นอรรถนี้. ท่ชี ือ่ วา สามเณรี ไดแก สตรผี สู มาทานสิกขาบท ๑๐ บทวา ใหน วด คือ ใหบ ีบ ตอ งอาบตั ิปาจติ ตีย. บทวา ใหฟ น คอื ใหข ยํา ตองอาบตั ิปาจิตตีย. อนาปต ติวาร เหตุอาพาธ ๑ มีเหตุจาํ เปน ๑ วิกลจรติ ๑ อาทิกมั มิกา ๑ ไมตอ งอาบัตแิ ล. ฉัตตุปาหนวรรค สกิ ขาบทท่ี ๙ จบ
พระวนิ ัยปฎก ภกิ ขนุ ีวิภงั ค เลม ๓ - หนา ท่ี 492 ฉตั ตปุ าหนวรรค สกิ ขาบทท่ี ๑๐ เรอื่ งภกิ ษุณหี ลายรปู โดยสมยั น้ัน พระผูมพี ระภาคพทุ ธเจา ประทบั อยู ณ พระเชตวนัอารามของอนาถบิณฑกิ คหบดี เขตพระนครสาวัตถี ครัง้ นั้น ภกิ ษุณีทัง้ หลายใชสตรีคฤหสั ถใหนวดบา ง ใหฟ น บา ง คนทัง้ หลายเทยี่ วไปในวหิ ารพบเห็นแลว พากันเพงโทษ ตเิ ตยี น โพนทะนาวา ไฉนภิกษณุ ที ั้งหลายจงึ ไดใ ชสตรคี ฤหสั ถใ หน วดบาง ใหฟ นบาง เหมอื นสตรคี ฤหัสถผบู รโิ ภคกามเลา. ภิกษุณที ั้งหลายไดย นิ คนเหลานัน้ เพงโทษ ติเตียน โพนทะนาอยูบรรดาที่เปนผูมักนอ ย. . . ตางก็เพงโทษ ติเตียน โพนทะนาวา ไฉนภกิ ษณุ ีทัง้ หลายจึงไดใ ชสตรคี ฤหสั ถใ หนวดบา ง ใหฟน บางเลา . ทรงสอบถาม พระผมู พี ระภาคเจา ทรงสอบถามภิกษทุ งั้ หลายวา ดูกอนภิกษทุ ั้งหลายขา ววา พวกภิกษุณีใชส ตรีคฤหัสถใหน วดบา ง ใหฟ นบาง จรงิ หรือ. ภกิ ษทุ ง้ั หลายกราบทูลวา จริง พระพุทธเจา ขา . ทรงตเิ ตียนแลว บญั ญตั ิสิกขาบท พระผมู พี ระภาคพทุ ธเจาทรงตเิ ตยี นวา ดกู อนภิกษุทงั้ หลาย ไฉนพวกภิกษุณีจึงไดใ ชสตรีคฤหัสถใ หน วดบา ง ใหฟ น บางเลา การกระทําของพวกนางนน่ั ไมเ ปน ไปเพื่อความเลือ่ มใสของชมุ ชนทยี่ ังไมเ ลือ่ มใส. . . ดูกอนภกิ ษทุ ้งั หลาย กแ็ ลภกิ ษุณีทั้งหลายจงยกสิกขาบทนข้ี น้ึ แสดงอยา งน้ี วา ดงั น้ี :-
พระวนิ ัยปฎ ก ภิกขนุ วี ภิ งั ค เลม ๓ - หนา ท่ี 493 พระบญั ญัติ ๑๔๘. ๑๐. อน่ึง ภิกษุณใี ด ยงั สตรคี ฤหัสถใหน วดกด็ ี ใหฟน กด็ ี เปน ปาจติ ตยี . เร่ืองภิกษณุ หี ลายรปู จบ สกิ ขาบทวภิ งั ค บทวา อนงึ่ . . .ใด ความวา ผใู ด คือ ผูเชน ใด. . . บทวา ภิกษณุ ี ความวา ที่ช่อื วา ภิกษุณี เพราะอรรถวาเปน ผูขอ. . . น้ีชื่อวา ภกิ ษุณี ทที่ รงประสงคในอรรถน้.ี ท่ีชือ่ วา สตรีคฤหสั ถ ไดแ ก สตรีทเ่ี รยี กวา ผคู รองเรือน. บทวา ใหน วด คือ ใหบ ีบ ตอ งอาบัตปิ าจติ ตีย. บทวา ใหฟน คอื ใหข ยํา ตอ งอาบัติปาจิตตีย. อนาปตตวิ าร เหตุอาพาธ ๑ มีเหตจุ ําเปน ๑ วิกลจรติ ๑ อาทิกัมมกิ า ๑ ไมต อ งอาบัติแล. ฉตั ตปุ าหนวรรค สิกขาบทท่ี ๑๐ จบ อรรถกถาฉตั ตวรรค สิกขาบทที่ ๘-๙-๑๐ ใน ๓ สิกขาบท มสี ิกขาบทที่ ๘ เปน ตน. คาํ วา สิกขฺ มานายสามเณรยิ า คิหนิ ยิ า น้ีเทานั้นทาํ ใหต า งกัน. คาํ ท่เี หลอื เหมอื นกันกับคําทกี่ ลา วแลวในสิกขาบทท่ี ๗ น้ันแล. อรรถกถาฉตั ตวรรค สกิ ขาบทท่ี ๘-๙-๑๐ จบ
พระวินัยปฎ ก ภิกขุนวี ภิ ังค เลม ๓ - หนา ที่ 494 ฉัตตปุ าหนวรรค สิกขาบทท่ี ๑๑ เร่ืองภกิ ษุณหี ลายรูป [๔๗๒] โดยสมยั นน้ั พระผูมีพระภาคพุทธเจา ประทบั อยู ณ พระ-เชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกคหบดี เขตพระนครสาวัตถี ครงั้ นัน้ ภิกษณุ ีทัง้ หลายไมข อโอกาส น่งั บนอาสนะเบือ้ งหนา ภกิ ษุ ภกิ ษทุ ง้ั หลายพากันเพง โทษตเิ ตียน โพนทะนาวา ไฉนภกิ ขุณีท้งั หลายจงึ ไดไมขอโอกาส นงั่ บนอาสนะเบอ้ื งหนา ภกิ ษุเลา . . . ทรงสอบถาม พระผมู ีพระภาคเจาทรงสอบถามภิกษทุ ั้งหลายวา ดกู อนภกิ ษุทง้ั หลายขาววา ภิกษณุ ที ง้ั หลายไมข อโอกาส นั่งบนอาสนะเบือ้ งหนา ภิกษุ จริงหรือ. ภิกษทุ ั้งหลายกราบทูลวา จรงิ พระพุทธเจา ขา. ทรงตเิ ตยี นแลวบญั ญตั ิสกิ ขาบท พระผูมีพระภาคพุทธเจา ทรงติเตียนวา ดกู อ นภกิ ษุท้ังหลาย ไฉนพวกภิกษุณจี ึงไดไ มขอโอกาส น่ังบนอาสนะเบ้อื งหนาภิกษุเลา การกระทําของพวกนางน่ัน ไมเปนไปเพอื่ ความเล่อื มใสของชุมชนทย่ี ังไมเ ลอื่ มใส . . . ดูกอ นภกิ ษทุ ัง้ หลาย กแ็ ลภกิ ษุณที ั้งหลายจงยกสิกขาบทนขี้ ึน้ แสดงอยางน้ี วา ดังน:ี้ - พระบัญญตั ิ ๑๔๙. ๑๑. อนึ่ง ภกิ ษุณีใด ไมขอโอกาส น่ังบนอาสนะเบ้อื งหนา ภกิ ษุ เปน ปาจติ ตีย. เร่ืองภิกษณุ ีหลายรปู จบ
พระวนิ ยั ปฎก ภิกขนุ ีวภิ งั ค เลม ๓ - หนา ที่ 495 สิกขาบทวภิ งั ค [๔๗๓] บทวา อนง่ึ . . .ใด ความวา ผใู ด คอื ผเู ชนใด. . . บทวา ภิกษณุ ี ความวา ท่ีชื่อวา ภกิ ษณุ ี เพราะอรรถวาเปนผูขอ. . . นช้ี ือ่ วา ภิกษณุ ี ที่ทรงประสงคในอรรถนี้. คําวา เบ้อื งหนา ภกิ ษุ คือ ตรงหนา อุปสมั บันภกิ ษ.ุ บทวา ไมขอโอกาส คอื ไมบอกกลาวกอ น. คาํ วา น่ังบนอาสนะ คอื โดยทีส่ ดุ แมน ง่ั บนฟน ดิน ตอ งอาบัติปาจติ ตยี . บทภาชนีย ตกิ ะปาจติ ตีย [๔๗๔] ยังไมไดข อโอกาส ภิกษณุ สี าํ คัญวา ยงั ไมไดขอโอกาสนัง่ บนอาสนะ ตองอาบัตปิ าจติ ตีย. ยังไมไดขอโอกาส ภิกษุณีมคี วามสงสยั นงั่ บนอาสนะ ตอ งอาบตั ิปาจิตตีย. ยังไมไดข อโอกาส ภกิ ษณุ ีสาํ คัญวา ขอโอกาสแลว นั่งบนอาสนะ ตองอาบตั ิปาจติ ตยี . ทุกะทุกกฏ ขอโอกาสแลว ภิกษุณีสาํ คัญวา ยังไมไ ดขอโอกาส ตอ งอาบัติทกุ กฏ. ขอโอกาสแลว ภกิ ษุณีมคี วามสงสัย ตอ งอาบัตทิ กุ กฏ. ไมต อ งอาบัติ ขอโอกาสแลว ภกิ ษณุ ีสําคญั วา ขอโอกาสแลว ไมตอ งอาบตั ิ.
พระวนิ ยั ปฎก ภกิ ขนุ วี ภิ งั ค เลม ๓ - หนา ท่ี 496 อนาปตติวาร [๔๗๕] ขอโอกาส นัง่ บนอาสนะ ๑ อาพาธ ๑ มีเหตจุ าํ เปน ๑วิกลจริต ๑ อาทกิ ัมมิกา ๑ ไมต อ งอาบัตแิ ล. ฉตั ตปุ าหนวรรค สิกขาบทท่ี ๑๑ จบ อรรถกถาฉตั ตวรรค สกิ ขาบทที่ ๑๑ วนิ ิจฉัยในสิกขาบทท่ี ๑๑ พึงทราบดงั นี้ :- สองบทวา ภิกขฺ ุสฺส ปุรโต คือ ตรงหนา จัง ๆ. กค็ ํานีบ้ ัณฑิตพงึ ทราบวา ทานกลา วหมายเอาอปุ จาร (ทใ่ี กลโดยรอบ ๑๒ ศอก). คําท่ีเหลอืงา ยทงั้ น้นั . สกิ ขาบทน้ี มสี มฏุ ฐานดุจกฐนิ สิกขาบท เกิดขน้ึ ทางกายกบั วาจา ๑ทางกายวาจากบั จิต ๑ เปนท้งั กิริยาทงั้ อกิริยา โนสัญญาวิโมกข อจติ ตกะปณณตั ติวชั ชะ กายกรรม วจีกรรม มจี ติ ๓ มีเวทนา ๓ แล. อรรถกถาฉัตตวรรค สิกขาบทท่ี ๑๑ จบ
พระวนิ ัยปฎก ภกิ ขนุ ีวภิ งั ค เลม ๓ - หนา ที่ 497 ฉตั ตุปาหนวรรค สิกขาบทที่ ๑๒ เรอื่ งภกิ ษุณีหลายรูป [๔๗๖] โดยสมยั นั้น พระผมู ีพระภาคพุทธเจา ประทับอยู ณ พระ-เชตวนั อารามของอนาถบิณฑิกคหบดี เขตพระนครสาวัตถี คร้งั น้ัน ภกิ ษุณีทัง้ หลายถามปญหากะภกิ ษผุ ูท ่ีตนไมไดขอโอกาส ภกิ ษทุ ้ังหลายพากันเพง โทษติเตยี น โพนทะนาวา ไฉนภิกษุณีทัง้ หลายจึงไดถามปญ หากะภิกษุทต่ี นยงั มไิ ดขอโอกาสเลา . . . ทรงสอบถาม พระผมู ีพระภาคเจาทรงสอบถามภกิ ษุท้ังหลายวา ดูกอ นภิกษุทง้ั หลายขาววา พวกภกิ ษุณีถามปญหากะภิกษุผูท ตี่ นยังไมไดข อโอกาส จรงิ หรือ. ภิกษุทัง้ หลายกราบทลู วา จริง พระพุทธเจาขา . ทรงติเตยี นแลว บญั ญัติสกิ ขาบท พระผูมีพระภาคพุทธเจา ทรงติเตยี นวา ดกู อ นภิกษทุ ้งั หลาย ไฉนพวกภิกษณุ ีจงึ ไดถ ามปญ หากะภิกษผุ ทู ่ีตนยังมิไดขอโอกาสเลา การกระทําของพวกนางนั่น ไมเ ปน ไปเพ่อื ความเลื่อมใสของชุมชนที่ยงั ไมเ ล่อื มใส. . . ดูกอนภกิ ษุท้ังหลาย ก็แลภกิ ษณุ ีทั้งหลายจงยกสิกขาบทนข้ี ึ้นแสดงอยา งนี้ วาดงั น:้ี - พระบัญญตั ิ ๑๕๐. ๑๒. อนงึ่ ภกิ ษุณใี ด ถามปญหากะภิกษผุ ทู ี่ตนยงั มิไดขอโอกาส เปน ปาจติ ตีย. เรือ่ งภกิ ษุณีหลายรูป จบ
พระวินัยปฎ ก ภกิ ขนุ วี ิภังค เลม ๓ - หนาที่ 498 สกิ ขาบทวภิ งั ค [๔๗๗] บทวา อนึ่ง. . .ใด ความวา ผใู ด คือ ผูเชน ใด. . . บทวา ภกิ ษุณี ความวา ท่ชี อื่ วา ภกิ ษุณี เพราะอรรถวา เปน ผูขอ. . . นชี้ ือ่ วา ภกิ ษณุ ี ที่ทรงประสงคใ นอรรถนี้ . บทวา ผูท่ีตนยงั มไิ ดขอโอกาส คอื ตนยงั มไิ ดบ อกกลาว. บทวา ภิกษุ ไดแก อปุ สัมบนั ภกิ ษุ. คาํ วา ถามปญหา คือ ยังภิกษุใหทาํ โอกาสในพระสูตรแลว ถามพระวนิ ัย หรือพระอภิธรรม ตอ งอาบตั ิปาจิตตีย. ยังภกิ ษใุ หทาํ โอกาสในพระวินัย แลว ถามพระสูตร หรอื พระอภธิ รรมตองอาบตั ิปาจติ ตีย. ยังภกิ ษใุ หทาํ โอกาสในพระอภิธรรม แลวถามพระสตู ร หรอื พระวนิ ยัตองอาบตั ปิ าจติ ตยี . บทภาชนยี ตกิ ะปาจิตตยี [๔๗๘] ยังมไิ ดขอโอกาส ภกิ ษณุ ีสาํ คญั วา ยงั มิไดขอโอกาส ถามปญหา ตองอาบัติปาจิตตีย. ยงั มไิ ดขอโอกาส ภกิ ษณุ ีมีความสงสัย ถามปญหา ตอ งอาบัตปิ าจิตตีย. ยงั มิไดข อโอกาส ภิกษุณีสาํ คญั วาขอโอกาสแลว ถามปญหา ตองอาบตั ิปาจติ ตีย. ทกุ ะทุกกฏ ขอโอกาสแลว ภิกษณุ ีสําคัญวา ยังมิไดขอโอกาส ตอ งอาบัตทิ กุ กฏ. ขอโอกาสแลว ภิกษุณมี คี วามสงสยั ตองอาบตั ิทุกกฏ.
พระวินยั ปฎก ภกิ ขุนวี ภิ ังค เลม ๓ - หนาที่ 499 ไมต อ งอาบตั ิ ขอโอกาสแลว ภิกษณุ สี ําคัญวาขอโอกาสแลว ไมตองอาบัติ. อนาปต ตวิ าร [๔๗๙] ยงั ภิกษใุ หท ําโอกาสแลวถาม ๑ ยงั ภิกษุใหทาํ โอกาสไมเ จาะ-จงแลว ถามปญหาในปฏ กหน่ึง ๑ วิกลจริต ๑ อาทิกัมมิกา ๑ ไมตองอาบตั ิแล. ฉัตตปุ าหนวรรค สิกขาบทท่ี ๑๒ จบ อรรถกถาฉตั ตวรรค สกิ ขาบทที่ ๑๒ วนิ จิ ฉยั ในสกิ ขาบทที่ ๑๒ พึงทราบดังน:้ี - บทวา อโนกาสกต ไดแก ผทู ่ีตนยังมไิ ดทําการขอโอกาสอยา งนี้วาดฉิ ันจักถามในสถานท่ีโนน . ดวยเหตนุ ั้น พระผมู ีพระภาคเจาจงึ ตรสั วา บทวาผูท่ตี นยงั มิไดขอโอกาส คือ ตนยังไมไดบ อกกลา ว. บทวา อนุททฺ สิ สฺ มคี วามวา ไมกาํ หนดอยา งนี้วา ดิฉนั จักถามในฐานะชือ่ โนน กลาวอยา งนอ้ี ยา งเดยี ววา ดิฉันจะถามขอท่คี วรถาม ซงึ่ มีอยูพระผเู ปน เจา ! คาํ ท่เี หลือ งา ยท้งั นัน้ . สิกขาบทนี้ มสี มฏุ ฐานดุจปทโสธรรมสิกขาบท เกิดข้นึ ทางวาจา ๑ทางวาจากับจิต ๑ เปน ทัง้ กริ ิยาทั้งอกิริยา โนสญั ญาวิโมกข อจิตตกะ ปณ -ณัตติวัชชะ วจกี รรม มีจติ ๓ มเี วทนา ๓ แล. อรรถกถาฉัตตวรรค สิกขาบทท่ี ๑๒ จบ
พระวินยั ปฎ ก ภกิ ขุนวี ิภังค เลม ๓ - หนาที่ 500 ฉัตตุปาหนวรรค สิกขาบทท่ี ๑๓ เรอื่ งภิกษุณีรปู หน่ึง [๔๘๐] โดยสมยั นัน้ พระผูมพี ระภาคพุทธเจาประทับ อยู ณ พระ-เชตวนั อารามของอนาถบณิ ฑิกคหบดี เขตพระนครสาวตั ถี ครั้งนน้ั ภกิ ษุณีรูปหนึง่ ไมมีผารดั ถนั เขาไปเพอ่ื บิณฑะในหมบู าน ลมบา หมูพดั เวกิ ผาสงั ฆาฏิขึ้นทถี่ นนนั้น คนทงั้ หลายไดส งเสียงวา ถนั และทอ งของแมเ จาสวย ภิกษณุ ีรปู นน้ั ถูกคนท้ังหลายเยาะเยยไดเปน ผเู กอเขนิ คร้นั นางไปถงึ สาํ นกั แลว ไดเ ลาเรื่องนนั้ ใหภ ิกษุณที ัง้ หลายฟง. บรรดาภกิ ษุณีที่เปน ผมู ักนอ ย. . . ตา งกเ็ พง โทษ ติเตยี น โพนทะนาวา ไฉนภิกษุณีจึงไมมีผา รดั ถนั เขาบา นเลา. . . ทรงสอบถาม พระผมู พี ระภาคเจา ทรงสอบถามภกิ ษุทั้งหลายวา ดกู อนภิกษทุ ง้ั หลายขา ววา ภกิ ษุณไี มม ีผา รดั ถนั เขาบาน จริงหรือ. ภกิ ษทุ ้ังหลายกราบทูลวา จรงิ พระพทุ ธเจา ขา. ทรงติเตยี นแลวบญั ญตั ิสิกขาบท พระผมู ีพระภาคพุทธเจาทรงติเตียนวา ดกู อ นภิกษุทง้ั หลาย ไฉนภิกษุณีจงึ ไมม ีผา รดั ถันเขาบานเลา การกระทาํ ของนางนนั่ ไมเปนไปเพ่อืความเลื่อมใสของชุมชนทย่ี งั ไมเลอ่ื มใส . . . ดกู อ นภกิ ษุทงั้ หลาย กแ็ ลภกิ ษุณที ง้ั หลายจงยกสิกขาบทนข้ี ้นึ แสดงอยา งนี้ วา ดงั น;ี้ -
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 547
Pages: