Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore tripitaka_13

tripitaka_13

Published by sadudees, 2017-01-10 01:15:39

Description: tripitaka_13

Search

Read the Text Version

พระสตุ ตนั ตปฎก ทีฆนกิ าย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ท่ี 281เปนไฉน. ดูกอนอานนท แผน ดินใหญต ้ังอยูบนน้ํา นํา้ ตง้ั อยูบนลม ลมต้ังอยบู นอากาศ สมัยที่ลมใหญพ ดั เมอื่ ลมใหญพัด ยอมทํานํ้าใหไ หว ครน้ันาํ้ ไหวแลว ทําใหแ ผน ดินไหว น้ีเปนเหตเุ ปนปจจยั ขอ ที่หน่งึ ทาํ ใหแ ผน-ดนิ ใหญไ หวได. ดกู อ นอานนท ยงั มีอกี ขอ หนง่ึ สมณะหรอื พราหมณผ มู ฤี ทธถ์ิ ึงความชาํ นาญทางจิต หรอื เทวดาผูมีฤทธิ์มาก มีอานภุ าพมาก เขาเจรญิ ปฐวสี ญั ญาเล็กนอย เจริญอาโปสญั ญามาก เราทาํ แผนดินใหไหว สะเทอื น กําเรบิหวัน่ ไหว นเี้ ปนเหตเุ ปนปจจัย ขอ ทีส่ อง ทําใหแผน ดินใหญไ หวได. ยังมอี กี ขอ หนึง่ เมื่อใดพระโพธิสตั วเคลือ่ นจากดสุ ิต มสี ตสิ ัมปชัญญะกา วลงสูพระครรภพระมารดา เมอื่ น้นั แผนดนิ นี้ ยอ มไหว สะเทอื น กาํ เรบิหวั่นไหว น้เี ปน เหตุ เปนปจจัยขอ ท่ีสามทําใหแ ผนดนิ ใหญไหวได. ยังมอี กี ขอ หน่งึ เมื่อใดพระโพธิสตั ว มีสตสิ ัมปชญั ญะ ประสตู จิ ากพระครรภพ ระมารดา เม่ือนัน้ แผน ดินน้ี ยอ มไหว สะเทอื น กําเรบิ หว่นั ไหวนี้เปน เหตุเปนปจจยั ขอที่สี่ ทาํ ใหแผนดนิ ใหญไ หวได. ยังมีอีกขอ หน่งึ เม่อื ใด ตถาคตตรสั รูอนตุ ตรสัมมาสมั โพธิญาณเมอื่ นัน้ แผน ดนิ น้ี ยอ มไหว สะเทือน กาํ เรบิ หวัน่ ไหว นเ้ี ปน เหตเุ ปนปจ จัย ขอทหี่ า ทําใหแ ผนดนิ ใหญไ หวได. ยังมอี ีกขอหนึง่ เมอ่ื ใดตถาคต ยังธรรมจักรอันยอดเย่ียมใหเ ปน ไปเมอ่ื นน้ั แผน ดินนี้ ยอมไหว สะเทือน กาํ เริบ หว่ันไหว นเี้ ปน เหตเุ ปนปจจยั ขอ ทห่ี ก ทําใหแผน ดินใหญไ หวได. ยงั มอี กี ขอหน่งึ เมอ่ื ใดตถาคต มีสติสัมปชญั ญะ ปลงอายุสังขารเมอ่ื นัน้ แผนดนิ น้ี ยอมไหว สะเทือน กําเรบิ หวนั่ ไหว นเี้ ปนเหตุเปนปจ จัย ขอทีเ่ จด็ ทาํ ใหแผนดินใหญไหวได.

พระสุตตนั ตปฎ ก ทีฆนกิ าย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๑ - หนาที่ 282 ยังมีอกี ขอ หน่งึ เมือ่ ใด ตถาคตยอมปรนิ ิพพานดว ยอนปุ าทเิ สสนพิ พานธาตุ เม่ือนั้น แผนดนิ นี้ ยอ มไหว สะเทือน กาํ เรบิ หว่ันไหวน้ีเปน เหตุเปน ปจจยั ขอ ทแ่ี ปด ทําใหแ ผน ดินใหญไหวได. บริษทั ๘ [๙๙] ดกู อ นอานนท บรษิ ัท ๘ เหลา นี้เปน ไฉน. คอื ขัตติยบริษทัพราหมณบรษิ ัท คหปติบรษิ ัท สมณบริษัท จาตมุ มหาราชกิ บรษิ ัท ดาวดึงสบริษทั มารบรษิ ัท พรหมบริษัท. เรายงั จาํ ไดวา เราเขา ไปหาขัตตยิ บริษทั หลายรอ ยครง้ั ณ ท่ขี ัตติยบรษิ ทั นนั้ เราเคยนง่ั รวม เคยปราศรัย เคยสนทนา. วรรณะของพวกนน้ั เปน เชน ใด ของเราเปน เชนนัน้ เสียงของพวกนัน้ เปนเชนใดของเราเปน เชน น้ัน. เราใหพ วกนนั้ เห็นแจง ใหสมาทาน ใหอาจหาญ ใหราเรงิดว ยธรรมีกถา พวกนัน้ ไมร จู กั เราผพู ูดวา ผนู ้ีใครหนอพูดอยูจะเปนเทวดาหรือมนุษย. คร้ันเราใหพวกนั้นเห็นแจง ใหสมาทาน ใหอาจหาญ ใหราเรงิแลวก็หายไป พวกน้นั ไมร ูจ กั เราหายไปแลว วา น้ีใครหนอหายไปแลวจะเปนเทวดาหรอื มนษุ ยด งั น.ี้ ดกู อนอานนท เรายังจาํ ไดว า เราเขา ไปหาพราหมณบรษิ ทั หลายรอยครงั้ . . .คหบดบี ริษัท. . . สมณบริษัท. . . จาตุมมหาราชกิ บรษิ ัท. . . ดาวดงึ สบรษิ ทั . . . มารบริษัท . . . พรหมบรษิ ัทหลายรอ ยครงั้ . แมในบริษัทนน้ั เรากเ็ คยฟง รวม เคยปราศรัย เคยสนทนา. วรรณะของพวกเขาเปนเชนใด ของเราก็เปน เชนนัน้ . . . ผนู ีใ้ ครหนอแล หายไปแลว จะเปน เทวดาหรอื มนษุ ยด ังน้ีอานนท บรษิ ัท ๘ เหลา นแี้ ล.

พระสุตตนั ตปฎก ทฆี นกิ าย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๑ - หนาที่ 283ื อภภิ ายตนะ ๘ อยา ง [๑๐๐] ดูกอ นอานนท อภภิ ายตนะ ๘ อยางเหลา น้แี ล เปนไฉน. คอืผูหน่งึ มีความสําคญั ในรปู ภายใน เหน็ รูปภายนอกทเ่ี ล็กมีผวิ พรรณดี และมีผวิพรรณทราม ครอบงาํ รปู เหลาน้นั แลว มคี วามสําคญั อยางนี้วา เรารเู ราเหน็ น้ีเปน อภภิ ายตนะขอท่ีหนึ่ง. ผหู นง่ึ มีความสาํ คญั ในรูปภายในเหน็ รูปภายนอกใหญมีผวิ พรรณดีและมผี วิ พรรณทราม ครอบงาํ รูปเหลานัน้ มีความสําคญั อยา งนว้ี าเรารูเราเหน็ นเี้ ปน อภภิ ายตนะขอทส่ี อง. ผหู น่ึงมีความสาํ คัญในอรปู ภายในเห็นรปู ภายนอกเล็กมผี ิวพรรณดีและมีผิวพรรณทราม ครอบงาํ รปู เหลา นน้ั มีความสาํ คัญอยา งนี้วาเรารูเราเห็น น้ีเปนอภิภายตนะขอทส่ี าม. ผหู นง่ึ มคี วามสาํ คญั ในอรปู ภายใน เหน็ รูปภายนอกใหญมผี วิ พรรณดแี ละมีผวิ พรรณทรามครอบงาํ รปู เหลานนั้ มีความสําคัญอยางนีว้ าเรารเู ราเหน็ นเ้ี ปน อภิภายตนะขอท่ีสี.่ ผหู น่งึ มีความสําคัญในอรปู ภายในเหน็ รูปภายนอกเขยี ว สเี ขยี ว แสงเขียว รัศมีเขียว ดอกผักตบเขยี ว สเี ขียว แสงเขยี ว มรี ัศมเี ขียว หรือผา ท่ีทาํ ในกรงุ พาราณสีมีเนอ้ื เกล้ียงทง้ั สองขางเขียว สเี ขยี ว แสงเขยี ว รัศมเี ขยี วแมฉ ันใด ผหู น่งึมีความสาํ คญั ในอรูปภายใน เหน็ รปู ภายนอก เขียว สีเขียว แสงเขียว รัศมีเขียว ฉันนั้นเหมือนกัน ครอบงาํ รูปเหลา น้นั มคี วามสําคญั อยา งน้ีวาเรารเู ราเหน็ นเ้ี ปนอภภิ ายตนะขอท่ีหา . ผหู นึง่ มคี วามสําคญั ในอรปู ภายใน เหน็ รูปภายนอกเหลอื ง สีเหลือง แสงเหลอื ง มีรศั มีเหลอื ง ดอกกรรณิการเหลอื งสเี หลอื ง แสงเหลอื ง มรี ศั มเี หลือง หรือวาผา ทําในกรงุ พาราณสี มีเน้อื เกลยี้ งท้ังสองขา งเหลือง สีเหลอื ง แสงเหลอื ง มีรศั มเี หลอื ง แมฉ ันใด ผูหน่ึงมีความสาํ คญั ในอรูปภายใน เหน็ รูปภายนอกเหลอื ง สเี หลอื ง แสงเหลือง มรี ัศมีเหลอื ง ฉนั น้นั เหมอื นกัน ครอบงํารูปเหลานนั้ มีความสําคัญอยางนว้ี าเรารูเราเห็น นีเ้ ปนอภิภายตนะขอ ที่หก. ผหู นึ่งมีความสาํ คัญ ในอรปู ภายใน เห็นรูป

พระสตุ ตันตปฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ท่ี 284ภายนอกแดง สแี ดง แสงแดง มรี ศั มีแดง ดอกชะบาแดง สีแดง แสงแดงมีรัศมีแดง หรือวาผา ทําในกรงุ พาราณสี มเี น้อื เกลยี้ งทงั้ สองขางแดง สีแดงแสงแดง มรี ัศมแี ดง แมฉนั ใด ผหู นงึ่ มีความสําคัญในอรปู ภายใน เห็นรูปภายนอกแดง สีแดง แสงแดง มีรศั มแี ดง ฉนั นน้ั เหมอื นกัน ครอบงาํ รปูเหลานน้ั มีความสําคัญอยางนีว้ า เรารูเราเหน็ นี้เปน อภภิ ายตนะขอทีเ่ จด็ .ผหู นึง่ มีความสาํ คญั ในอรปู ภายใน เหน็ รูปภายนอกขาว สขี าว แสงขาว มีรศั มีขาว ดาวประกายพรกึ ขาว สขี าว แสงขาว มรี ัศมีขาว หรอื วา ผาทําในกรุงพาราณสี มเี นื้อเกลี้ยงทงั้ สองขางขาว สขี าว แสงขาว มีรัศมขี าว แมฉันใดผหู น่งึ มคี วามสําคัญในอรูปภายใน เห็นรปู ภายนอกขาว สขี าว แสงขาว มีรศั มขี าว ฉนั น้นั เหมอื นกนั ครอบงาํ รูปเหลานัน้ มคี วามสาํ คัญอยา งนวี้ า เรารูเ ราเหน็ น้เี ปนอภิภายตนะขอ ที่แปด. อานนท อภิภายตนะ ๘ อยา งเหลา นแ้ี ล. วิโมกข ๘ อยาง [๑๐๑] ดกู อนอานนท วโิ มกข ๘ อยางเหลา น้เี ปนไฉน. คอื ภกิ ษุมีรปู ยอมเหน็ รูป นเ้ี ปนวิโมกขขอทห่ี น่ึง. ภิกษุมคี วามสาํ คญั ในอรปู ภายในยอมเหน็ รูปภายนอก น้ีเปน วิโมกขขอ ท่สี อง. ภิกษุนอ มใจไปวา น้ีงาม นเี้ ปนวิโมกขขอทส่ี าม. เพราะลวงรูปสญั ญาโดยประการท้งั ปวง ดงั ปฏฆิ สัญญา ไมกระทํานานัตตสัญญาไวในใจ ภิกษเุ ขา ถึงอากาสานญั จายตนะวาอากาศ ไมม ีท่ีสุดอยู นีเ้ ปน วโิ มกขข อ ทีส่ ่ี. ลว งอากาสานัญจายตนะ โดยประการทั้งปวงเขา ถึงวิญญาณญั จายตนะวา วญิ ญาณไมมที ี่สดุ อยู นี้เปน วโิ มกขขอที่หา. ลวงวิญญาณัญจายตนะ โดยประการทงั้ ปวง เขาถึงอากิญจัญญายตนะวา ไมมอี ะไรอยู นเี้ ปน วิโมกขข อ ท่หี ก. ลวงอากิญจญั ญายตนะ โดยประการทั้งปวง เขาถึงเนวสัญญานาสัญญายตนะอยู น้ีเปนวโิ มกขขอ ทีเ่ จด็ . ลว งเนวสญั ญานาสัญญา-

พระสุตตันตปฎ ก ทีฆนกิ าย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ที่ 285ยตนะ โดยประการทั้งปวง เขาถึงสญั ญาเวทยิตนิโรธอยู น้เี ปนวิโมกขข อ ที่แปด. อานนท วิโมกข ๘ อยางเหลานแ้ี ล. เรือ่ งมาร [๑๐๒] ดกู อ นอานนท สมัยหนง่ึ เราแรกตรสั รู พกั อยทู ตี่ น ไมอชปาลนโิ ครธ ฝงแมนา้ํ เนรญั ชรา ในอุรเุ วลาประเทศ. คร้ังนน้ั มารผูมีบาปไดเ ขาไปหาเรา ยืนอยู ณ ทีค่ วรสว นขางหน่ึง. มารผูม บี าปไดกลา วกะเราวาขา แตพระองคผเู จริญ ขอพระผมู ีพระภาคเจา จงปรนิ ิพพาน ขอพระสคุ ตจงปรนิ พิ พานในบดั น้ีเถดิ บดั นี้เปน เวลาปรินิพพานของพระผมู พี ระภาคเจา เมื่อมารกลา วอยา งน้ีแลว เราไดก ลา วกะมารผูม บี าปนน้ั วา มารผมู บี าป ภิกษผุ ูเปนสาวกของเรา จกั เปน ผูฉลาดไดรับแนะนํา แกลว กลา พหูสูต ทรงธรรมปฏิบตั ิธรรมสมควรแกธรรม เปน ผปู ฏบิ ัติชอบ ประพฤติตามธรรม เรยี นกับอาจารยข องตนแลว จกั บอก แสดงบญั ญัติ แตงต้งั เปดเผย จําแนก กระทําใหต ื้นไดแสดงธรรมมีปาฏิหาริยข ม ขปี่ รับปวาทที่เกดิ ขน้ึ ใหเ รยี บรอ ย โดยสหธรรมยงั ไมไ ดเพียงใด เราจักยงั ไมปรินพิ พานเพยี งนน้ั . ภกิ ษุณีผเู ปนสาวิกาของเรา. . . อุบาสกผูเปนสาวกของเรา . . . อบุ าสกิ าผเู ปน สาวกิ าของเรา . . . จักยังไมฉลาด . . .เพียงใด เราจกั ยังไมป รนิ พิ พานเพยี งนั้น. มารผูมบี าป พรหมจรรยน ขี้ องเรา จักยงั ไมบริบรูณกวางขวางแพรหลายรูกนั โดยมาก เปนปกแผนตราบเทาท่ีพวกเทวดาและมนษุ ยป ระกาศไดดีแลว เพียงใด เราจักยังไมป รินพิ พานเพยี งนนั้ . พทุ ธบริษัท ๔ อานนท วนั น้เี ดยี๋ วน้แี ล มารผมู ีบาปเขา ไปหาเราทป่ี าวาลเจดยี  ไดยนื อยู ณ ที่สมควรสวนขา งหน่งึ . ไดก ลาวกะเราวา ขา แตพ ระองคผ ูเจริญ

พระสตุ ตนั ตปฎก ทีฆนกิ าย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ท่ี 286ขอพระผมู ีพระภาคเจาจงปรินิพพาน ขอพระสุคตจงปรนิ ิพพานในบดั น้เี ถิดบัดน้เี ปนเวลาปรนิ พิ พานของพระผูมีพระภาคเจา พระผมู พี ระภาคเจาไดต รสั วามารผมู บี าป ภิกษผุ เู ปน สาวกของเรา. . . ภกิ ษณุ ผี ูเ ปน สาวกิ าของเรา . . . อบุ าสกผเู ปน สาวกของเรา . . . อุบาสิกาผูเ ปน สาวกิ าของเรา . . . จักยงั ไมฉ ลาด . . ....พรหมจรรยข องเรานี้ จกั ไมบ ริบรณู  กวางขวางแพรห ลาย รูกนั มากเปนปก แผตราบเทาท่พี วกเทวดาเละมนุษยป ระกาศไดด แี ลว ยังไมไดเพียงใด เราจกั ยังไมปรนิ พิ พานเพียงนั้น. ขา แตพระองคผเู จริญ กใ็ นกาลบดั น้ี พรหมจรรยของพระผมู พี ระภาคเจาสมบูรณแ ลว กวา งขวางแพรหลายรกู นั โดยมาก เปนปก แผนตราบเทาทีพ่ วกเทวดาและมนุษยประกาศไดดีแลว ขาแตพระองคผูเจริญ ขอพระผมู ีพระภาคเจาจะปรนิ พิ พาน ขอพระสคุ ตจงปรินิพพานในกาลบัดน้ีเถดิ บัดนเี้ ปน เวลาปรินิพพานของพระผูมีพระภาคเจา. เมื่อมารกลาวอยางน้แี ลว เราไดกลา วกะมารผมู ีบาปนั้นวา มารผูมบี าป ทา นจงมคี วามขวนขวายนอ ยเถิด ไมนานตถาคตจักปรินิพพาน จากน้ลี ว งไปสามเดือน ตถาคตจักปรินพิ พาน อานนท ในวนั นี้เดย๋ี วนแี้ ล ตถาคตมสี ตสิ ัมปชญั ญะปลงอายุสงั ขารทป่ี าวาลเจดยี . เม่อื พระผมู ีพระภาคเจา ตรัสอยา งน้แี ลว ทานพระอานนท ไดกราบทลูพระผมู ีพระภาคเจาวา ขาแตพ ระองคผ ูเ จริญ ขอพระผมู พี ระภาคเจาจงทรงดํารงอยูตลอดกัป ขอพระสคุ ตจงทรงดาํ รงอยตู ลอดกัป เพื่อประโยชนแกชนเปน อันมาก เพอื่ ความสขุ แกช นเปนอนั มาก เพ่อื อนุเคราะหโลก เพือ่ ประ-โยชน เพ่อื เกื้อกูล เพอื่ ความสขุ แกเ ทวดาและนนษุ ย. พระผมู ีพระภาคเจาตรสั วา อยา เลย อานนท อยาวิงวอนตถาคตเลย บดั นไ้ี มใชเ วลาที่จะวิงวอนตถาคต. แมครงั้ ท่สี อง. . . แมค รงั้ ท่สี าม. . . ทานพระอานนทยงั กราบทลู วาขาแตพระองคผ ูเจริญ ขอพระผมู ีพระภาคเจา จงทรงดาํ รงอยตู ลอดกปั . . .เพ่ือ

พระสุตตนั ตปฎก ทฆี นิกาย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ที่ 287ความสุขแกเ ทวดาและมนุษย. อานนท เธอเชื่อความตรัสรูของตถาคตหรอื .ขา พระองคเ ช่ือ. เมื่อเชอ่ื ไฉนจึงไดร บเรา ตถาคตถึงสามครั้งเลา . ขา พระองคไ ดฟง มา ไดร บั มาเฉพาะพระพกั ตรพ ระผูมีพระภาคเจา วาอานนท อทิ ธิบาท ๔ อนั ผูใ ดผูห นงึ่ เจริญแลว ทาํ ใหมากแลว ทาํ ใหเปน ดุจยาน ทําใหเปน ทต่ี ้ัง ใหตัง้ มั่นแลวอบรมปรารภดีแลว ตถาคตนน้ั เมอ่ื จาํ นงอยูจะพงึ ดํารงอยูไ ดตลอดกัป หรือเกินกวากปั . อานนท อทิ ธิบาท ๔ ตถาคตเจริญแลว ทาํ ใหม ากแลว ทําใหเ ปนดุจยาน ทาํ ใหเปนทตี่ งั้ ใหตง้ั ม่นั แลวอบรมแลว ปรารภดีแลว อานนท ตถาคตเมอ่ื จํานงอยู พึงดํารงอยไู ดตลอดกปั หรือเกนิ กวากปั . อานนท เธอเชอ่ื หรอื . ขา พระองคเ ชอื่ . อานนท เพราะฉะนัน้ เร่ืองนเ้ี ปน การทาํ ไมด เี ปนความผิดพลาดของเธอผูเดยี ว เพราะเมื่อตถาคตทํานมิ ติ อันหยาบ ทาํ โอภาสอันหยาบอยางนี้ เธอไมส ามารถรูเทา ทันได จงึ มิไดว งิ วอนตถาคตวา ขอพระผูมพี ระภาคเจาจงทรงดํารงอยูตลอดกปั ขอพระสุคตจงทรงดํารงอยตู ลอดกปั เพือ่ ประโยชน เพื่อความสุขแกช นมาก เพอื่ อนุเคราะหโลก เพอ่ื ประโยชนเ กือ้ กูลเพือ่ ความสขุ แกเทวดาและมนษุ ย. ถา เธอวิงวอนตถาคต ตถาคตจะพงึ หา มวาจาเธอสองครง้ัเทา นั้น ครงั้ ท่สี ามตถาคตพงึ รบั เพราะเหตนุ น้ั แหละ อานนท เรอื่ งนเ้ี ปนการทําไมด ีเปน ความผดิ พลาดของเธอผูเดียว. อิทธบิ าทภาวนา [๑๐๓] ดูกอ นอานนท สมยั หนงึ่ เราอยูท่ภี ูเขาคิชฌกูฏ ใกลก รงุ ราช-คฤห. แมท ่ีนนั้ เราเรยี กเธอมาบอกวา อานนท กรงุ ราชคฤหน าร่นื รมย ภูเขาคิชฌกูฏนาร่ืนรมย. . .เพราะเหตุนน้ั แหละ อานนท เรอื่ งนี้เปนการทาํ ไมด ีเปน ความผดิ พลาดของเธอผูเดยี ว.

พระสตุ ตนั ตปฎก ทฆี นิกาย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ที่ 288 [๑๐๔] อานนท เราอยทู ี่โคตมนิโครธ ในกรุงราชคฤหน ั้น. . .เราอยทู ่เี หวเปนท่ีท้ิงโจร . . . เราอยูที่ถํ้าสัตตบรรณคหู า ขา งภเู ขาเวภารบรรพต. . .เราอยูท ่ีกาฬสิลา ขา งภเู ขาอิสคิ ิลิ. . . เราอยูท ีเ่ งือ้ มชอ่ื สปั ปโสณฑิก ณสตี วนั . . . เราอยูที่ตโปทาราม . . . เราอยทู ่ีเวฬุวันกลันทกนวิ าปสถาน. . . เราอยทู ่ีชีวกัมพวัน. . . เราอยทู ่ีมัททกจุ ฉิมฤคทายวัน ในกรุงราชคฤหนน้ั . ณทีน่ ้ันเราเรยี กเธอมาบอกวา อานนท กรุงราชคฤห นารืน่ รมย ภเู ขาคมิ ฌกูฏโคตมนโิ ครธ เหวทท่ี ง้ิ โจร ถา สตั ตบรรณคหู า ขา งภูเขาเวภารบรรพต กาฬ-สิลา ขางภเู ขาอสิ ิคิลิ เงอื้ มช่ือวา สปั ปโสณฑกิ สีตวัน ตโปทาราม เวฬุวนักลันทกนวิ าปสถาน ชีวกมั พวัน มทั ทกจุ ฉมิ ฤคทายวนั ตา งนา ร่นื รมย อิทธิบาท ๔ อันผูใดผหู นึ่งเจริญแลว . . . เพราะเหตนุ นั้ แหละ อานนท เร่ืองน้ีเปนการทําไมด เี ปน ความผิดพลาดของเธอผูเดียว. [๑๐๕] ดกู อนอานนท สมัยหนงึ่ เราอยูทอี่ เุ ทนเจดีย ในกรงุ เวสาลีนี้ณ ทนี่ น้ั เราเรยี กเธอมาบอกวา กรุงเวสาลนี าร่ืนรมย อุเทนเจดยี นารื่นรมย. . .อานนท อทิ ธิบาท ๔ อนั ผูใดผหู นง่ึ เจรญิ แลว. . . เพราะเหตุน้ันแหละอานนท เรือ่ งนเ้ี ปนการทําไมด เี ปน ความผดิ พลาดของเธอผูเ ดยี ว. สังเวชนียกถา [๑๐๖] ดูกอ นอานนท สมยั หนงึ่ . เราอยทู ีโ่ คตมกเจดียในกรงุ เวสาลีน.้ี . . เราอยูท่ีสัตตมั พเจดีย. . . เราอยทู ี่พหปุ ุตตเจดยี . . . เราอยทู ่สี ารันทท-เจดีย ในกรุงเวสาลนี ี้. ในวนั นเ้ี อง เราบอกเธอทปี่ าวาลเจดียว า กรุงเวสาลีนาร่นื รมย อุเทนเจดีย โคตมกเจดีย สัตตมั พเจดีย พหปู ตุ ตเจดยี  สารนั ททเจดีย ปาวาลเจดีย ตางนา ร่นื รมย อิทธบิ าท ๔ อันผใู ดผูหน่งึ เจริญแลวทาํ ใหม ากแลว ทาํ ใหเ ปน ดุจยาน ทาํ ใหเ ปนทีต่ ง้ั ใหต ง้ั มนั่ แลว อบรมแลว

พระสุตตนั ตปฎ ก ทฆี นิกาย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ท่ี 289ปรารภดีแลว ผูนน้ั เมื่อจํานงอยู พึงดาํ รงอยตู ลอดกปั หรือเกนิ กวา กปั .อทิ ธิบาท ๔ ตถาคตเจรญิ แลว ทาํ ใหม ากแลว ทาํ ใหเปนดจุ ยาน ทาํ ใหเปนทต่ี ั้งใหต ง้ั มัน่ แลว อบรมแลว ปรารภดแี ลว ตถาคตน้นั เมือ่ หวังอยู พงึ ดาํ รงอยูไดต ลอดกัปหรือเกินกวากปั อานนท ตถาคตทํานมิ ิตอันหยาบ ทาํ โอภาสอนัหยาบ แมอยางน้แี ล เธอไมสามารถรูเทา ทนั ได จงึ มไิ ดว ิงวอนตถาคตวาขอพระผูม ีพระภาคเจา จงทรงดาํ รงอยูตลอดกปั เถดิ ขอพระสุคตจงทรงดาํ รงอยูตลอดกปั เถิด เพอ่ื ประโยชน เพื่อความสุขแกชนมาก เพ่ืออนุเคราะหโ ลกเพ่อื ประโยชนเกื้อกูล เพื่อความสขุ แกพ วกเทวดาและมนษุ ย. อานนท ถาเธอพึงวงิ วอนตถาคต ตถาคตจะพึงหา มวาจาเธอเสยี สองคร้งั เทานน้ั ครัง้ ทส่ี ามตถาคตพงึ รบั เพราะเหตุนนั้ แหละ อานนท เรื่องน้เี ปนการทาํ ไมดเี ปน ความผดิ พลาดของเธอผูเดียว. เราไดบอกกอนแลว ไมใชหรือวา ความเปน ตาง ๆ กัน ความพลัดพราก ความเปนอยางอ่ืน จากสงิ่ และบคุ คลเปนท่รี ักและทชี่ อบใจท้ังหมดนัน้ แลมีอยู เพราะฉะนนั้ จะหาไดในส่ิงและบคุ คลนั้นแตท ่ไี หน สิง่ ใดเกดิ แลว เปน แลวปรุงแตงแลว มีความทาํ ลายเปนธรรมดา ความปรารถนาวาขอสิง่ น้ันอยาทาํ ลายไปเลย น่นั ไมเ ปน ฐานะทีจ่ ะมไี ด. ก็สง่ิ ใดที่ตถาคตสละแลว คายแลว พน แลวละแลว วางแลว อายุสงั ขารตถาคตปลงแลว วาจาที่ตถาคตกลาวไวแ ลว โดยสวนเดยี ววา ไมชา ตถาคตจกั ปรินพิ พาน จากน้ีลวงไปสามเดอื น ตถาคตจกัปรนิ พิ พาน ตถาคตจักกลบั คนื สิ่งนน้ั เพราะเหตุชวี ติ อีก นน้ั ไมเ ปนฐานะทจี่ ะมีได. มาเถิด อานนท เราจักเขาไปยังกูฏาคารศาลาปา มหาวนั . ทา นพระอานนททูลรับ พระดํารัสของพระผมู ีพระภาคเจา แลว. ลําดับนน้ั พระผูมีพระภาคเจาพรอ มกับทานพระอานนท เขา ไปยังกูฏาคารศาลาปา มหาวัน ครนั้ แลวตรสักะทา นพระอานนทว า ไปเถิด อานนท เธอจงใหพวกภิกษุทอี่ าศัยกรุงเวสาลอี ยู

พระสุตตนั ตปฎ ก ทีฆนกิ าย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ท่ี 290ท้ังหมดประชุมกนั ทอี่ ปุ ฏ ฐานศาลา. ทา นพระอานนททูลรับพระดาํ รสั ของพระ-ผมู พี ระภาคเจาแลว จงึ ใหภ กิ ษทุ อ่ี าศัยกรุงเวสาลอี ยูทั้งหมดประชมุ กันแลวท่ีอปุ ฏ ฐานศาลาแลว เขาไปเฝา พระผูม พี ระภาคเจา ถวายบังคมยนื ณ ท่สี มควรสว นขา งหน่ึง. ไดกราบทูลวา ขา แตพ ระองคผเู จริญ ภิกษุสงฆป ระชมุ พรอมกนั แลว ขอพระองคทรงทราบกาลอันควรในบัดนี้เถิด. อภิญญาเทสติ ธรรกถา [๑๐๗] ลําดับนั้น พระผูม พี ระภาคเจา เสดจ็ ไปยงั อุปฏ ฐานศาลาประทบั นั่งบนอาสนะทจ่ี ดั ถวาย. ตรัสเรียกภกิ ษุท้ังหลายวา ดูกอนภกิ ษทุ ้ังหลายธรรมเหลาใดท่เี ราแสดงแลวเพอื่ ความรยู ่ิง ธรรมเหลานน้ั พวกเธอเรยี นแลวพึงสอ งเสพ พึงเจริญ พึงกระทําใหมากดว ยดี โดยท่พี รหมจรรยน ้ี พึงยัง่ ยนืพึงดาํ รงอยูไดนาน เพื่อประโยชน เพ่ือความสขุ แกชนเปน อันมาก เพ่อื อนุเคราะหโลก เพ่ือประโยชนเกื้อกลู เพอื่ ความสขุ แกเ ทวดาและมนุษย. ดกู อ นภกิ ษทุ งั้ หลายธรรม ท่ีเราแสดงแลว เพ่ือความรูย งิ่ เปน ไฉน. . . คือ สตปิ ฏ ฐาน๔ สมั มัปปธาน ๔ อทิ ธิบาท ๔ อินทรยี  ๕ พละ ๕ โพซฌงค ๗ อรยิ มรรคมีองค ๘. ดูกอ นภกิ ษุทั้งหลาย ธรรมเหลานี้ท่เี ราแสดงแลว เพ่อื ความรูยงิ่ แกพวกเธอ. . . ลําดับนน้ั พระผูมพี ระภาคเจา ตรัสเตอื นภกิ ษทุ ง้ั หลายวา ภิกษุทั้งหลาย บัดนีเ้ ราขอเตอื นพวกเธอ สงั ขารทง้ั หลายมีความเสอ่ื มเปนธรรมดา ขอทานท้งั หลายจงยังความไมประมาทใหถ ึงพรอ มเถดิ . ไมช าตถาคตจักปรินิพพานจากน้ีลวงไปสามเดอื นตถาคตจักปรินพิ พาน. พระผูมีพระภาคเจาสคุ ตศาสดาครนั้ ตรสั ไวยากรณภาษติ นีแ้ ลว จึงไดต รสั คาถาประพนั ธตอ ไปอีกวา [๑๐๘] คนเหลา ใด ท้ังเด็กผูใ หญ ท้งั พาล ทั้ง บณั ฑิต ทงั้ มั่งมที งั้ ขัดสน ลวนมีความ

พระสตุ ตนั ตปฎ ก ทฆี นกิ าย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ท่ี 291 ตายเปนเบ้อื งหนา. ภาชนะดนิ ทชี่ าง หมอ ทาํ ทั้งเล็กทง้ั ใหญ ทั้งสุกทง้ั ดิบ ทุกชนิดมคี วามแตกเปน ทส่ี ุดฉันใด ชวี ิต ของสัตวทั้งหลาย กฉ็ ันน้นั . พระศาสดาไดต รัสคาถาประพนั ธตอ ไปอกี วา วัยของเราแกหงอ มแลว ชวี ิตของเรา เปน ของนอ ย เราจกั ละพวกเธอไป เรา ทาํ ที่พง่ึ แกตนแลว . ดูกอนภิกษทุ ง้ั หลาย พวกเธอจงไม ประมาทมสี ติ มศี ีลดว ยดีเถดิ จงเปนผมู ี ความดําริต้งั มัน่ ดว ยดี จงตามรกั ษาจิต ของตนเถดิ . ผใู ดจักเปนผไู มป ระมาทอยูในธรรม วินยั น้ี ผูนน้ั จักละชาตสิ งสาร แลวการทาํ ทีส่ ุดทกุ ขไ ด. จบตติยภาณวาร จตุราริยธรรมกถา [๑๐๙] ครง้ั นั้น เวลาเชา พระผมู ีพระภาคเจาทรงนงุ แลว ทรงถอืบาตรและจวี ร เสดจ็ เขา ไปยังกรงุ เวสาลเี พื่อบิณฑบาต เสดจ็ เทีย่ วบณิ ฑบาตในกรุงเวสาลี ภายหลังภัต เสด็จกลบั จากบณิ ฑบาต ทอดพระเนตรกรุงเวสาลีเปน นาคาวโลกแลว ตรัสกะทานพระอานนทว า อานนท การเห็นกรงุ เวสาลีของตถาคตครัง้ น้ี จักเปน ครัง้ สุดทาย มากนั เถิด อานนท เราจักไปยังบานภัณฑ-

พระสตุ ตันตปฎ ก ทฆี นิกาย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ท่ี 292คาม. ทานพระอานนททูลรับพระดาํ รสั ของพระผมู พี ระภาคเจา แลว. ลําดับนัน้พระผูมพี ระภาคเจา พรอ มดวยภกิ ษสุ งฆหมใู หญ เสดจ็ ถึงบานภณั ฑคามแลว.ไดยินวา พระผมู พี ระภาคเจาประทบั อยู ณ บา นภณั ฑคามน้ัน. ณ ทีน่ น่ั แลพระผมู พี ระภาคเจาตรสั กะภกิ ษทุ ง้ั หลายวา ภกิ ษทุ ้ังหลาย เพราะไมรูแจงแทงตลอดธรรม ๔ ประการ เราและพวกเธอเรร อนเที่ยวไปสิ้นกาลนานอยางนี้.๔ ประการเปนไฉน. เพราะไมร แู จง แทงตลอดศลี อนั เปนอริยะ เราและพวกเธอเรรอนเท่ยี วไปสิ้นกาลนาน เพราะไมร ูแจง แทงตลอดสมาธิอันเปน อรยิ ะ. . .ปญญาอนั เปน อริยะ . . . วมิ ตุ ติอนั เปน อริยะ เราและพวกเธอ จงึ เรรอ นเทีย่ วไปส้ินกาลนานอยา งนี้. ดูกอ นภกิ ษทุ ั้งหลาย เราไดร แู จง แทงตลอด ศลี อันเปนอริยะ สมาธิ ปญญา วิมุตติ อันเปน อริยะแลว ภวตณั หาเราถอนเลียแลวตณั หาอนั จะนาํ ไปสภู พสนิ้ แลว บัดนภี้ พใหมไมม.ี พระผูมีพระภาคเจา ผสู ุคตศาสดา ครน้ั ไดตรสั ไวยากรณภาษิตนีแ้ ลว จึงตรสั คาถาประพันธตอ ไปอกี วา [๑๑๐] ธรรมเหลา นค้ี อื ศีล สมาธิ ปญญา วมิ ตุ ตอิ ันยอดเย่ยี ม อันพระโคดมผมู ยี ศ ตรัสรูแ ลว ดงั นน้ั พระพุทธเจา ทรงบอก ธรรมแกภ กิ ษทุ งั้ หลาย เพ่อื ความรยู ่ิง พระศาสดาผูกระทํา ซง่ึ ทีส่ ุดแหงทุกข มพี ระจกั ษปุ รนิ ิพพานแลว. [๑๑๑] ไดยินวา พระผมู ีพระภาคเจาเมื่อประทับ ณ บานภัณฑคามนน้ัทรงกระทาํ ธรรมีกถาน้แี หละเปน อนั มากแกภ ิกษทุ งั้ หลายวา อยางนีศ้ ลี อยางนสี้ มาธิ อยา งนปี้ ญ ญา สมาธิอนั ศีลอบรมแลวมีผลมาก มอี านสิ งสม ากปญ ญาอนั สมาธอิ บรมแลว มีผลมาก มีอานิสงสมาก จิตอันปญญาอบรมแลวยอมหลุดพน จากอาสวะ โดยชอบคือ กามาสวะ ภวาสวะ อวชิ ชาสวะ.

พระสุตตันตปฎ ก ทีฆนิกาย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๑ - หนาท่ี 293 [๑๑๒] คร้งั นัน้ พระผมู ีพระภาคเจาประทบั อยตู ามความพอพระทยัในบานภัณฑคามแลว ตรสั กะทา นพระอานนทว า มาเถิด อานนท เราจักไปยงับา นหัตถคี าม อัมพคาม ชัมพคุ าม และโภคนคร. ทา นพระอานนทท ลู รบัพระดาํ รสั ของพระผมู ีพระภาคเจาแลว. เรื่องมหาปเทส ๔ อยาง ลาํ ดบั นั้น พระผูม พี ระภาคเจา พรอมดวยภิกษสุ งฆหมูใหญ เสด็จถึงโภคนครแลว. ไดยนิ วา พระผมู พี ระภาคเจาประทบั ณ อานันทเจดยี ในโภคนครนนั้ . ณ ท่นี น้ั พระผมู พี ระภาคเจา ตรสั กะภิกษทุ ั้งหลายวา ดูกอนภิกษทุ ้ังหลาย เราจกั แสดงมหาปเทส ๔ เหลาน้ี พวกเธอจงฟง จงต้ังใจฟง ใหดี เราจักกลาว. ภิกษุเหลาน้นั ทูลรบั พระดาํ รสั ของพระผมู พี ระภาคเจาแลว . พระผมู ีพระภาคเจา ไดตรสั ดังตอไปน้.ี [๑๑๓] ดกู อ นภกิ ษทุ ้งั หลาย ภิกษใุ นธรรมวนิ ัยนี้ พึงกลาวอยา งนี้วา ผูมีอายุทั้งหลาย ขอ น้ขี า พเจา ไดสดับมา ไดร ับมาเฉพาะพระพักตร พระผมู ีพระภาคเจาวา นเี้ ปนธรรม นเี้ ปน วนิ ยั นเี้ ปน คาํ สอนของพระศาสดาพวกเธอไมพึงชืน่ ชม ไมพ ึงคัดคานคาํ กลา วของภกิ ษุนั้น. ครัน้ ไมชนื่ ชม ไมคดั คา นแลว พงึ เรียนบทพยัญชนะเหลานั้นใหด แี ลว สอบสวนในพระสตู รเทียบเคียงในพระวินัย. ถาสอบสวนในพระสตู ร เทียบเคียงในพระวนิ ัย ลงในพระสตู รไมไ ด เทียบเคยี งในพระวนิ ัยไมได. พงึ ถงึ ความตกลงใจในขอ นี้วานีไ้ มใชคาํ สอนของพระผมู พี ระภาคเจา พระองคน้นั และภกิ ษุน้จี าํ มาผดิ แลวแนนอน ดงั น้นั พวกเธอพึงทิง้ คํากลา วน้นั เสีย. ถาเมอื่ สอบสวนในพระสูตร

พระสตุ ตนั ตปฎก ทฆี นิกาย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๑ - หนาท่ี 294เทยี บเคียงในพระวินัย ลงในพระสตู รได เทยี บเคยี งในพระวินัยได. พึงถงึความตกลงใจในขอ นี้วา น้ีคาํ สอนของพระผูม ีพระภาคเจา พระองคน้ัน และภิกษนุ ีจ้ าํ มาถูกตอ งแลว แนน อน ภกิ ษทุ ง้ั หลาย พวกเธอพงึ ทรงจาํ มหาปเทสขอท่หี นง่ึ น้ีไว. [๑๑๔] ดูกอนภิกษทุ งั้ หลาย ภกิ ษใุ นธรรมวนิ ัยนี้ พึงกลา วอยา งน้ีวาสงฆพ รอ มทั้งพระเถระ พรอ มท้งั ปาโมกขอ ยูใ นอาวาสโนน ขา พเจาไดส ดบั มาไดร ับมาเฉพาะหนาของสงฆน ้ันวา น้ีเปน ธรรม นีเ้ ปน วินยั นเี้ ปนคาํ สอนของพระศาสดาดงั นี้ พวกเธอไมพ งึ ชนื่ ชม ไมพ ึงคัดคาน คาํ กลาวของภกิ ษุนน้ั . ครนั้ ไมชื่นชม ไมค ัดคานแลว พงึ เรียนบทพยัญชนะเหลา น้ันใหดีสอบสวนในพระสูตร เทยี บเคยี งในพระวนิ ยั . ถาเม่อื สอบสวนในพระสตู รเทียบเคียงในพระวินยั ลงในพระสูตรไมไ ด เทยี บเคยี งในพระวินยั ไมได.พึงถงึ ความตกลงใจในขอ น้ีวา นไี้ มใชค ําสอนของพระผมู ีพระภาคเจาพระองคน้นั และภิกษสุ งฆจ าํ มาผดิ แลวแนน อน ดงั นน้ั พวกเธอพงึ ท้งิ คํากลา วน้ันเสยี .ถา บทพยญั ชนะเหลา นัน้ สอบสวนในพระสูตร เทยี บเคยี งในพระวินยั ลงในพระสตู รได เทียบเคียงในพระวนิ ัยได. พึงถงึ ความตกลงใจในขอนีว้ า นีเ้ ปนคําสอนของพระผมู พี ระภาคเจา พระองคน้ัน และภกิ ษุสงฆน้นั จาํ มาถกู ตอ งแลวแนนอน ภกิ ษุท้งั หลาย พวกเธอพงึ ทรงจํามหาปเทสขอที่สองนีไ้ ว. [๑๑๕] ดกู อ นภิกษุทั้งหลาย ภิกษใุ นธรรมวนิ ยั น้ี พึงกลาวอยา งน้วี าภิกษุเปนพระเถระมากรูปอยใู นอาวาสโนน เปน พหูสตู มอี าคมอันมาถึงแลวเปน ผทู รงธรรม ทรงวนิ ยั ทรงมาติกา ขา พเจา ไดส ดบั มาไดร บั มาเฉพาะหนาพระเถระเหลา นนั้ วา นี้เปน ธรรม นี้เปน วินัย นเี้ ปน คําสอนของพระศาสดาดังนี้ พวกเธอไมพ ึงชนื่ ชม. . .เทยี บเคยี งในพระวนิ ัยไมได. พงึ ถึงความตกลงใจในขอน้วี า นไ้ี มใ ชคําสอนของพระผมู พี ระภาคเจา พระองคน น้ั และ

พระสตุ ตนั ตปฎ ก ทฆี นิกาย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๑ - หนาท่ี 295พระเถระเหลา นัน้ จาํ มาผิดแลว แนน อน ดงั น้นั พวกเธอพงึ ทิ้งคํากลา วน้ันเสีย.ถา บทพยัญชนะเหลาน้นั สอบสวนในพระสูตร. . . เทียบเคียงในพระวินยั ได.พงึ ถึงความตกลงใจในขอ น้ีวา เปน คาํ สอนของพระผมู ีพระภาคเจา พระองคน ้ันและพระเถระเหลา น้ัน จาํ มาถูกตองแลวแนนอน ภิกษุทงั้ หลาย พวกเธอพึงทรงจาํ มหาปเทสขอทส่ี ามนไ้ี ว. [๑๑๖] ดูกอ นภกิ ษุทัง้ หลาย ภิกษใุ นธรรมวินยั นี้ พึงกลา วอยา งนี้วาภกิ ษุผเู ปน เถระอยูในอาวาสโนน เปน พหูสูต มีอาคมอนั มาถึงแลว ทรงธรรมทรงวนิ ยั ทรงมาติกา ขาพเจาไดสดับมา ไดร บั มาเฉพาะหนา พระเถระนนั้ วานีเ้ ปน ธรรม น้เี ปน วินยั นีเ้ ปน คาํ สอนของพระผมู พี ระภาคเจา ดังนี้ พวกเธอไมพ ึงชนื่ ชม ไมพ งึ คดั คานคาํ กลาวของภิกษนุ ้นั . คร้นั ไมช ื่นชม ไมค ัดคานแลว เรยี นบทพยัญชนะเหลานน้ั ใหด แี ลว สอบสวนในพระสูตร เทียบเคยี งในพระวินยั . ถา บทพยัญชนะเหลานั้นสอบสวนในพระสตู ร เทยี บเคียงในพระวินยั ลงในพระสตู รไมได เทยี บเคยี งในพระวนิ ัยไมไ ด. พงึ ถึงความตกลงใจในขอ น้วี า. . . นีค้ ําสอนของพระผูมพี ระภาคเจาพระองคน ัน้ และพระเถระน้นั จํามาถูกตอ งแลวแนน อน ภิกษุทงั้ หลาย พวกเธอพึงทรงจาํ มหาปเทสขอ ท่ีส่นี ้ีไว. พวกเธอพงึ ทรงจาํ มหาปเทส ๔ เหลานัน้ ไว ดวยประการฉะนี.้ ไดย นิ วา พระผูมพี ระภาคเจาประทบั อยู ณ อานนั ทเจดียใ นโภคนครนั้นทรงกระทาํ ธรรมกี ถานี้แหละเปนอนั มากแกภกิ ษุทั้งหลายวา อยางน้ีศลี อยางนี้สมาธิ อยางนป้ี ญ ญา สมาธิอันศลี อบรมแลว มผี ลมาก มีอานิสงสมากปญญาอนั สมาธิอบรมแลว มผี ลมาก มอี านิสงสม าก จติ อนั ปญญาอบรมแลวยอ มหลุดพนจากอาสวะโดยชอบคือ กามาสวะ ภวาสวะ อวชิ ชาสวะ.

พระสุตตันตปฎก ทีฆนกิ าย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ท่ี 296 เร่ืองนายจนุ ทกมั มารบตุ ร [๑๑๗] ครั้งนนั้ พระผมู ีพระภาคเจา ประทับ อยใู นโภคนครตามความพอพระทัยแลว ตรัสกะทานพระอานนทว า มาเถิด อานนท เราจกั ไปยังปาวานคร.ทา นพระอานนทท ูลรับพระดาํ รสั ของพระผมู พี ระภาคเจา แลว. ลําดบั นนั้ พระผูมพี ระภาคเจา พรอ มดว ยภกิ ษสุ งฆห มูใหญ เสดจ็ ถงึ ปาวานครแลว. ไดยนิวา พระผูมีพระภาคเจาประทบั อยู ณ อัมพวันของนายจนุ ทกัมมารบุตร ในเมอื งปาวานน้ั . นายจนุ ทกัมมารบตุ รไดสดับวา พระผมู ีพระภาคเจาเสด็จถึงเมอื งปาวาประทับอยู ณ อมั พวันของเราในเมอื งปาวา จึงเขา ไปเฝา พระผมู พี ระภาคเจาครั้นเขาไปเฝา แลว ถวายบงั คมพระผมู ีพระภาคเจา นง่ั ณ ท่ีควรสว นขา งหน่ึง.พระผูม พี ระภาคเจาทรงยงั นายจุนทกัมมารบตุ ร ผนู ัง่ เรียบรอยแลวใหเ ห็นแจงใหสมาทาน ใหอาจหาญ ใหรืน่ เรงิ ดวยธรรมกี ถา. ลําดับนั้น นายจนุ ทกัม-มารบตุ ร อันพระผมู พี ระภาคเจา ใหเ หน็ แจง ใหสมาทาน ใหอ าจหาญใหร ่ืนเรงิ ดว ยธรรมีกถาแลว ไดก ราบทูลพระผมู ีพระภาคเจาวา ขา แตพ ระองคผเู จริญ ขอพระผมู ีพระภาคเจาพรอมดวยภิกษสุ งฆ จงทรงรับภตั ของขาพระองค เพือ่ เสวยในวันพรงุ น้เี ถดิ . พระผูม ีพระภาคเจา ทรงรับดว ยดุษณีภาพ. ลําดับนั้น นายจนุ ทกมั มารบตุ รทราบการรับของพระผมู ีพระภาคเจาแลว ลุกจากอาสนะ ถวายบงั คมพระผูม พี ระภาคเจา กระทําประทักษิณแลว หลกีไป. นายจุนทกมั มารบตุ รใหต ระเตรียมของเค้ียวของฉนั อันประณตี และสูกรมัททวะเปนอันมากในนเิ วศนของตน โดยลวงราตรีนนั้ ไปใหก ราบทลกาล แดพระผูมีพระภาคเจา วา ขา แดพ ระองคผเู จรญิ ไดเ วลาแลว ภัตตาหารสําเรจ็ แลว .

พระสตุ ตันตปฎ ก ทีฆนิกาย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ที่ 297 ถวายสูกรมทั ทวบณิ ฑบาต คร้งั นน้ั เวลาเชา พระผูมีพระภาคเจา ทรงนงุ แลว ทรงถือบาตรและจวี ร พรอ มดวยภิกษสุ งฆเ สด็จเขา ไปยงั นเิ วศนของนายจนุ ทกมั มารบุตรประทับน่งั บนอาสนะท่ีเขาจัดถวาย. ตรสั กะนายจุนทกมั มารบุตรวา ดูกอ นจุนททานจงองั คาสเราดว ยสกู รมทั ทวะที่ทา นตระเตรียมไว จงอังคาสภกิ ษสุ งฆดว ยของเคี้ยวของฉันอยางอน่ื ท่ีทานตระเตรียมไว. นายจุนทกัมมารบตุ รทลู รับพระดํารัสของพระผมู พี ระภาคเจา แลว จึงอังคาสพระผมู ีพระภาคเจา ดวยสูกรมัททวะทต่ี นตระเตรยี มไว องั คาสภกิ ษสุ งฆด ว ยของเคยี้ วของฉันอยา งอื่นท่ตี นตระเตรียมไว. ลําดับน้นั พระผมู พี ระภาคเจารบั สงั่ กะนายจนุ ทกัมมารบตุ รวาจนุ ท ทา นจงฝงสูกรมทั ทวะท่เี หลอื เสยี ในหลุม เรายงั ไมเ ห็นบคุ คลในโลกพรอ มทง้ั เทวโลก มารโลก พรหมโลก ในหมูสตั ว พรอ มท้ังสมณพราหมณ เทวดาและมนษุ ย ซ่ึงบริโภคสกู รมัททวะน้ันแลว จะพึงใหย อยไปดว ยดนี อกจากตถาคต. นายจนุ ทกมั มารบตุ รทูลรับพระดํารสั ของพระผมู พี ระภาคเจา แลวฝง สกู รมทั ทวะท่ยี งั เหลือในหลมุ เสยี เขา ไปเฝาพระผูมีพระภาคเจา ครัน้ เขาไปเฝา ถวายบังคมนัง่ ณ ท่ีควรสวนขางหนึง่ . พระผมู พี ระภาคเจา ทรงยังนายจนุ ทกมั มารบุตรผูน่งั เรียบรอ ยแลว ใหเหน็ แจง ใหสมาทาน ใหอ าจหาญ ใหรื่นเรงิ ดว ยธรรมีกถาแลว เสด็จลุกจากอาสนะหลีกไป. ลําดับนัน้ เมื่อพระผมู พี ระภาคเจาเสวยภัตตาหารของนายจุนทกมั มาร-บุตร เกดิ อาพาธอยา งแรงกลา มเี วทนากลาเกิดแตการประชวรลงพระโลหิตใกลนพิ พาน. ไดยินวา พระผมู ีพระภาคเจา ทรงมีสติสัมปชัญญะ ทรงอดกลั้นเวทนาเหลา นนั้ ไว มไิ ดท รงพรั่นพรึง. รับสงั่ กะทานพระอานนทวา มาเถดิอานนท เราจกั ไปกรุงกุสนิ ารา. พระอานนททูลรบั พระดํารัสของพระผมู พี ระ-ภาคเจาแลว .

พระสุตตนั ตปฎก ทฆี นกิ าย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๑ - หนาท่ี 298 เรอ่ื งโลหติ ปกขนั ทกิ าพาธ [๑๑๘] ขา พเจา ไดฟ งมาแลว วา พระผมู ีพระ- ภาคเจาเสวยภตั ตาหารของนายจุนทกัมมาร บุตรทรงอาพาธหนักใกลน ิพพาน. เม่อื พระศาสดาเสวยสกู รมัททวะแลว เกิด อาพาธหนัก พระผมู พี ระภาคเจา ลงพระ- บังคน ไดต รัสวา เราจะไปเมอื งกุสินารา คาถาเหลา น้ี พระสังคตี กิ าจารยกลา วไวใ นเวลาสงั คายนา. [๑๑๙] ลําดบั นนั้ พระผูมพี ระภาคเจา ทรงหลีกออกจากทาง เสดจ็เขา ไปยังโคนตนไมต น หนึ่ง ตรสั กะทา นพระอานนทวา ดูกอ นอานนท เธอจงชว ยปูผา สงั ฆาฏิพบั เปน ๔ ช้ันใหเ รา เราเหน่ือยจกั นง่ั . ทา นพระอานนททูลรับพระดํารสั ของพระผมู ีพระภาคเจา แลว จึงปูผา สังฆาฏพิ ับเปน ๔ ช้นัพระผูมีพระภาคเจา ประทับน่ังบนอาสนะท่ีจดั ถวายแลว . พระผูมีพระภาคเจาประทบั นั่งแลว ตรสั กะทานพระอานนทวา อานนท เธอจงนาํ นํา้ มาใหเ ราด่มืเรากระหายจกั ดืม่ นํา้ . เมอ่ื พระผูมพี ระภาคเจาตรสั อยา งนี้แลว ทานพระ-อานนทกราบทูลวา ขา แตพระองคผ เู จริญ เมื่อก้นี เี้ กวยี น ๕๐๐ เลม ขามไปนํ้าน้นั มีนอยถูกลอ เกวยี นบดขุน มวั ไหลไปอยู แมน ํ้ากกุธานทีอยูไมไ กล มนี ้าํใส จืด เย็น ขาว มที าเรียบนา รนื่ รมย พระองคทรงดม่ื น้าํ และทรงสรงพระ-องคใ นแมนํ้าน้นั . แมครง้ั ท่ีสองพระผมู ีพระภาคเจา กต็ รัสกะทา นพระ-อานนท. . . แมค ร้ังท่สี าม. . . ทา นพระอานนททูลรับพระดํารสั ของพระผมู ีพระภาคเจาแลว ถอื บาตรไปยังแมน ้ํานัน้ . ครงั้ นน้ั แมนํ้านนั้ มนี ้ํานอย ถกู ลอเกวยี นบดขุน มวั ไหลไปอยู เมอื่ ทานพระอานนทเขาไปใกล นํา้ กก็ ลับใสสะอาด

พระสุตตันตปฎก ทฆี นกิ าย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๑ - หนาที่ 299ไมขนุ มัวไหลไป. ทานพระอานนทไดมีความดํารวิ า นา อัศจรรยห นอ เหตุไมเคยมกี ม็ ีมาแลว ความทีพ่ ระตถาคตมฤี ทธิ์มาก มีอานภุ าพมาก ความจรงิ แมนํ้านีน้ น้ั มนี ้ํานอย ถูกลอเกวยี นบดขุนมัวไหลไปอยู เม่ือเราเขาไปใกลกลบั ใสสะอาดไมขุน มัวไหลไปอยู ตักนํ้าดวยบาตรแลว เขาไปเฝา พระผูมีพระภาคเจากราบทลู วา นาอศั จรรยห นอ เหตไุ มเคยมี กม็ ีมาแลวความทพ่ี ระตถาคตมฤี ทธ์ิมาก มอี านุภาพมาก. เม่อื กน้ี แ้ี มน ํ้านน้ั มีนา้ํ นอย ถกู เกวยี นบดขุนมัวไหลไปอยู เม่อื ขาพระองคเ ขา ไปใกลก ลับใสสะอาดไมขนุ มัวไหลไปอยู ขอพระผมู ีพระภาคเจาจงทรงด่มื น้ํา ขอพระสุคตจงทรงดม่ื นํา้ เถิด พระเจา ขา. ลําดับนั้นพระผมู พี ระภาคเจา ไดท รงดมื่ นํา้ แลว . ปกุ กสุ มลั ลบุตร [๑๒๐] สมยั น้นั แล ปกุ กสุ มลั ลบตุ ร เปน สาวกของอาฬารดาบส-กาลามโคตร ออกจากเมอื งกุสนิ าราเดนิ ทางไปยงั เมอื งปาวา. ไดเ หน็ พระผูม ีพระภาคเจา ประทับนั่ง ณ. โคนตน ไมตนหนึง่ จึงเขา ไปเฝาพระผูม ีพระภาคเจาถวายบงั คมแลวนัง่ ณ ทสี่ มควรสว นขา งหน่ึง. ไดก ราบทลู วา ขาแตพระองคผเู จรญิ นา อัศจรรย เหตุไมเ คยมี กม็ มี าแลว พวกบรรพชิตยอ มอยดู ว ยวิหารธรรมอันสงบหนอ เรอื่ งเคยมมี าแลวอาฬารดาบสกาลามโคตรเดนิ ทางหลีกออกจากทาง น่ังพกั กลางวันท่โี คนตน ไมต นหนึ่งในท่ไี มไกล ครง้ั นัน้ เกวียนประมาณ ๕๐๐ เลม ตดิ กันไดผ านอาฬารดาบสกาลามโคตรไปแลว บุรษุ คนหนง่ึ เดนิ ตามหลงั หมูเกวยี นมา จงึ เขา ไปหาอาฬารดาบสกาลามโคตร ไดถ ามวาทา นไดเหน็ เกวยี นประมาณ ๕๐๐ เลม ผานไปบา งหรอื . เราไมเ ห็นเลย. ไดย นิเสียงบางหรือ. เราไมไ ดย ิน ทานหลับไปหรือ. เราไมไ ดห ลบั . ทานมสี ญั ญาอยูหรือ. เปน อยา งนน้ั ทา นนั้นมสี ัญญาต่ืนอยู ไมเห็นเกวียนประมาณ ๕๐๐

พระสตุ ตันตปฎ ก ทฆี นกิ าย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ที่ 300เลม ผานติดกนั ไป ทงั้ ไมไ ดย ินเสียง ก็ผา สงั ฆาฏขิ องทานเปอ นดว ยธลุ ีบา งหรอื . เปน อยา งนัน้ . ขาแตพ ระองคผเู จริญ ลาํ ดบั นั้น บุรษุ นั้นไดม คี วามคดิ วา นา อัศจรรยหนอ เหตุไมเคยเปน ก็ไดเปนแลว พวกบรรพชติ อยดู วยวิหารธรรมอันสงบหนอ อาฬารดาบสกาลามโคตรมีสัญญาต่นื อยู ยอ มไมเหน็ เกวยี นประมาณ๕๐๐ เลม ผา นตดิ กันไป ทัง้ ไมไดย ินเสยี ง บุรุษนน้ั ประกาศความเลือ่ มใสอันยิ่งในอาฬารดาบสกาลามโคตรแลว หลีกไป. พระผูมีพระภาคเจา ตรัสกะปกุ กุสมลั ล-บตุ รวา ดูกอ นปกุ กสุ ะ ทา นจะสําคัญขอ น้ันเปนไฉน ผูมสี ญั ญาต่ืนอยไู มพ งึ เหน็เกวียนประมาณ ๕๐๐ เลม ผานตดิ กันไป ท้ังไมไดยินเสียงอยา งหนึ่ง ผูม ีสัญญาตื่นอยเู มื่อฝนกําลังตก ตกอยางหนักฟา แลบ ฟา ผา อยูไ มพงึ เห็น ท้ังไมพ งึ ไดย ินเสียงอยา งหน่ึง อยางไฉนจะทําไดยากกวา กนั หรอื ทําใหเ กดิ ยากกวากนั . ปุกกสุ -มัลลบตุ รกราบทูลวา ขาแตพระองคผ เู จริญ เกวยี น ๕๐๐ เลม ๖๐๐ เลม๗๐๐ เลม ๘๐๐ เลม ๙๐๐ เลม ๑,๐๐๐ เลม. . .แสนเลม จักทาํ อะไรได ผมู ีสญั ญาตื่นอยูเม่ือฝนกาํ ลงั ตก ตกหนกั ฟา แลบ ฟา ผา อยไู มพึงเหน็ ท้งั ไมพ งึไดย นิ เสียงอยางน้แี หละ ทาํ ไดยากกวาและทาํ ใหเ กิดยากกวา . อพั ภตู ธรรมกถา [๑๒๑] ดกู อนปุกกสุ ะ สมยั หนึ่ง เราอยใู นโรงกระเด่อื งในเมืองอาตมุ า.สมยั น้นั เม่อื ฝนกําลงั ตก ตกอยอู ยางหนัก ฟาแลบ ฟาผาอยู ชาวนาสองพี่นอ งและโคผู ๔ ตัว ถกู สายฟา ฟาดในท่ีใกลโรงกระเดอ่ื ง. ปกุ กุสะ ลาํ ดบั นัน้หมูมหาชนในเมอื งอาตุมาออกมาแลว เขาไปหาชาวนาสองพ่นี อ งน้นั และโคผู๔ ตวั ถูกสายฟาฟาด. สมยั นัน้ เราออกจากโรงกระเดือ่ ง จงกรมอยใู นทีแ่ จง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook