พระสุตตันตปฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๑ - หนาท่ี 501 อรรถถกถามหาสุทสั สนสตู ร มหาสทุ ัสสนสตู รขน้ึ ตนวา ขา พเจา ไดฟงมาแลว อยางนี.้ การพรรณนาตามลาํ ดับบทในมหาสุทสั สนสตู รน้ัน มดี ังน้ี ในคําวา เอาแกว ทุกอยางมาสรางปนกนั นนั้ อฐิ กอ นหนึ่งทําดวยทอง กอ นหนึ่งทําดวยเงนิ กอนหนึง่ทําดวยแกว ไพฑรู ย กอ นหนง่ึ ทําดว ยแกวผลึก กอ นหนง่ึ ทําดว ยโกเมน กอนหนงึ่ทาํ ดว ยบษุ ราคัม กอนหนง่ึ ทําดว ยรตั นะทุกอยาง. กาํ แพงน้ีอยูภ ายในกาํ แพงทัง้ หมด สูงประมาณ ๖๐ ศอก. แตพ ระเถระพวกหนึง่ กลาววา ชอ่ื วานคร เม่ือคนยืนอยภู ายในแลดกู จ็ ะมสี ัณฐานกลม เพราะฉะน้ัน กาํ แพงทอ่ี ยขู า งนอกทง้ั หมดจงึ สูง ๖๐ ศอก กําแพงท่ีเหลือจึงตาํ่ โดยลําดับ. พวกหน่ึงกลา ววา นครน้ี เม่ือคนยนื อยูภายนอกแลดู ก็จะมีสัณฐานกลม เพราะฉะนนั้ กําแพงในทส่ี ุด จึงสูง ๖๐ศอก กําแพงที่เหลือจึงตํ่าโดยลําดบั . พวกหนง่ึ กลาววา นครนี้ เมื่อคนยืนอยูภายในและภายนอกแลดู ก็จะมสี ัณฐานกลม เพราะฉะนั้น กาํ แพงในทา มกลา วจึงสงู ๖๐ ศอก กาํ แพงภายใน ๓ แหง และภายนอก ๓ แหง จงึ ตํ่าโดยลําดบั . บทวา เอกสิกา คอื เสาระเนยี ด. บทวา ติโปรสิ งฺคา ความวาแขนบุรุษคนหนึ่งพนั แขนกัน ๓ คน รวมกนั เปน ๑๕ แขน. ก็เสาระเนียดเหลา นัน้ ต้งั อยูอ ยางไร. โดยขา งนอกพระนคร ใกลป ก พระทวารใหญแตละแหง มีเสาระเนียดแหงละ ๑ ตน ใกลป กพระทวารเลก็ แตล ะแหง มีเสาระเนยี ดแหง ละ ๑ ตน ระหวา งพระทวารใหญ และพระทวารเล็กแหงละ๓ ตน. บรรดาตนตาลทที่ ําดวยรตั นะทัง้ หมดในแถวตาลทั้งหลาย ตาลตนหนึ่งทาํ ดวยทอง เพราะฉะนัน้ พึงทราบลกั ษณะท่ีกลาวแลวในกําแพงนนั่ เทยี ว.
พระสุตตันตปฎ ก ทีฆนิกาย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๑ - หนาที่ 502แมใ นใบและผลทั้งหลาย ก็มีนัยเชน เดยี วกนั . ก็แถวตาลเหลา นั้น สูง ๘๐ ศอกตงั้ อยใู นระหวา งกาํ แพงแหง ละ ๑ แถว ในพนื้ ทร่ี าบเรียบซง่ึ เกลีย่ ดว ยทราย. บทวาวคคฺ ู แปลวา ฉลาดด.ี บทวา รชนีโย แปลวา สามารถเพ่ือกําหนัด. บทวากมนีโย แปลวา เม่อื ฟงแมตลอดวนั ก็ไมเ บื่อ. บทวา มทนีโย แปลวาทําใหเกิดเมาใจ เมาคน. บทวา ปจฺ งฺคิกสฺส ความวา ประกอบดว ยองค๕ ประการ คือ อาตฏะ วติ ฏะ อาตฏวิตฏะ สรุ ิระ ฆนะ. ในองค ๕ประการนน้ั ดรุ ิยางค ท่หี มุ หนังหนาเดยี ว ในบรรดากลองเปนตน ซ่ึงหมุดว ยหนัง ช่อื วา อาตฏะ ดรุ ิยางคท ี่หุมทั้ง ๒ หนา ชือ่ วา วติ ฏะ ดุรยิ างคทห่ี มุ ทงั้ หมด ชือ่ วา อาตฏวิตฏะ. ปแ ลสงั ขเปน ตน ชอ่ื วา สุสริ ะ. สัมม-ตาลเปนตน ชอื่ วา ฆนะ. บทวา สวุ นิ ตี สสฺ ความวา ขงึ ดแี ลว ดว ยทาํ ใหหยอนเปนตน . บทวา สปุ ฏติ าพติ สสฺ ความวา ตีเทียบดแี ลว เพอ่ื ใหร วู าพอด.ี บทวา กสุ เลหิ สมนฺนาหตสสฺ ความวา บรรเลงโดยผูเ ชีย่ วชาญซึง่ สามารถทีจ่ ะบรรเลง. บทวา ธุตฺตา แปลวา นักเลงการพนัน. บทวาโสณฑฺ า ความวา นกั เลงสุรา. นกั เลงสรุ าเหลานัน้ เทยี ว ชอ่ื วา นักด่มืดวยความสามารถด่ืมไดบ อย ๆ. บทวา ปรจิ าเรสุ แปลวา ถือจังหวะมือจังหวะเทา ฟอนเลน. บทวา สีสนฺหาตสสฺ แปลวา ทรงอาบดวยน้ํากล่ินหอมทวั่ พระเศยี ร. บทวา อุโปสถกิ สสฺ ความวา ทรงสมาทานองคอ โุ บสถ. บทวาอุปริปาสาทวรคตสสฺ ความวา เสดจ็ ขึน้ ปราสาทอนั ประเสริฐ ทรงเสวยพระกระยาหารแลว เสด็จเขา ไปยังหอ งศริ ิ เบ้อื งบน คอื บนพน้ื ใหญแหงพระปราสาทอนั ประเสรฐิ แลว ทรงระลกึ ถงึ ศลี . ไดยนิ วา คร้งั น้ันพระราชาทรงแกปญ หาตัง้ แสน ตงั้ แตเ ชาตรแู ลว ทรงถวายมหาทาน ทรงชําระพระเศยี ร ดวยนา้ํ หอม ๑๖ หมอ เสวยพระกระยาหารเชา ทรงสพักสไบอันบรสิ ทุ ธิ์ ประทบั น่งั สมาธใิ นหอ งบรรทมบนพระปราสาทอันประเสรฐิ ทรง
พระสุตตนั ตปฎก ทฆี นิกาย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๑ - หนาท่ี 503ระลึกถงึ เหตแุ หง บญุ ซง่ึ สําเรจ็ ดวยทาน ทมะ และสัญญมะ ของพระองค. นี้เปนธรรมดาของพระเจาจักรพรรดทิ ง้ั ปวง. เมือ่ พระเจาจกั รพรรดิเหลานั้นทรงระลกึ ถึงศีลอยา งน้ัน จักรรตั นะอันเปนทพิ ย เชน กบั กอนแกวมณีสเี ขียวอันมสี มฏุ ฐานจากบุญกรรม ปจจัยและฤดูดงั กลาวแลว ยอมปรากฏเหมือนพ้ืนน้าํ สมุทรดานปราจนี ถกู คลนื่ พดั เหมือนอากาศอันประดับประดาแลวฉะนัน้ . จักรรัตนะนัน้ ไดป รากฏแกพระเจา มหาสทุ สั สนจักรพรรดิราชฉนั น้ันเหมือนกนั . จกั รรตั นะนีน้ ้ัน ทานกลา ววาเปน ทิพย เพราะประกอบดวยอานภุ าพอนัเปน ทพิ ย. จักรรตั นะมีกาํ ตงั้ พัน จงึ ชอื่ วา สหสฺสาร . มีกงและมีดุม จึงชอื่วา สเนมิก สนาภกิ . บรบิ รู ณด วย อาการทงั้ ปวง จึงช่ือวา สพพฺ า-การปริปรู . จกั รในมหาสทุ ัสสนสูตร น้นั ดว ย เปนรัตนะดว ย เพราะอรรถวา ใหเกิดความยินดี เพราะฉะนัน้ จึงชือ่ วา จกั รรตั นะ. ก็จกั รรตั นะทา นกลาววาสนาภิก ดว ยดุมใด ดมุ นนั้ ทําดวยแกว มณีสีเขยี ว. ก็ทามกลางแหงดุม ซ่ึงทําดว ยเงินแท รุง โรจนเ หมอื นเบยี ดเสยี ดดวยระเบียบฟนท่ขี าวสนทิ . ลอมดว ยแผนเงนิ ท้งั ภายนอกและภายใน ทัง้ สอง เหมือนมณฑลแหงจันทรท ม่ี ีจดุ ในทา มกลางฉะนน้ั . ก็ลวดลายที่แกะสลกั ในที่อันสมควรในแผนลอ มดมุ และซี่นนั้ ปรากฏวา จัดแบง ไวเ ปน อยา งดี. ความบริบูรณด ว ยอาการทั้งปวงแหง ดมุแหง จกั รรตั นเพียงเทาน้ีกอน. จกั รรตั นะนน้ั ทานกลาววา สหสสฺ าร ดว ยกาํ เหลาใด กาํ เหลา นัน้ ทาํ ดว ยรัตนะเจ็ดประการ ถึงพรอมดว ยแสงสวา งเหมอื นรศั มแี หงพระอาทิตยฉ ะนัน้ . อาการมีลวดลายสลักดว ยกอนแกว แหง กําแมเ หลา นี้ ปรากฏเปน จกั ร แบง เปน อยา งดที ีเดียว. นเ้ี ปน ความสมบรู ณโ ดยอาการท้งั ปวงแหงกําแหงจกั รรัตนะนั้น. อนง่ึ จักรรตั นะน้ัน ทา นกลาววา
พระสตุ ตันตปฎก ทฆี นกิ าย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๑ - หนาท่ี 504สเนมกิ ดวยกงใด กงนั้นทาํ ดว ยแกว ประพาฬอันแดงจัด บรสิ ุทธส์ิ นิท เหมือนกับจะเยาะเยยศิรแิ หง กลมุ รัศมีพระอาทิตยออ น ๆ ฉะน้นั . กใ็ นท่ตี อ แหงกงนนั้ลวดลายทส่ี ลักกลม มศี ริ ิเปนกอ นขาวแดงบริสทุ ธ์ิดี ดาดาษดว ยชมพนู ทุ สแี ดงปรากฏเปนอันจดั แบงไวเปน อยา งด.ี น้ีคอื ความบริบรู ณ โดยอาการทัง้ ปวงแหงกงจักรรตั นะนน้ั . กใ็ นระหวา งกาํ ท้ังสบิ แหง จักรรัตนะนั้น ในเบือ้ งหลังแหงบรเิ วณกง มีกอ นแกวประพาฬจบั ลม แกะสลกั เปน ศีรษะภายในเหมอื นกลมุ ควันฉะนั้น. จักรรตั นะใดทีต่ องลมแลว มเี สยี งไพเราะ ยวนใจ ชวนใหฟ ง ใหเคลิบเคลม้ิ เหมอื นเสียงดนตรีทปี่ ระกอบดวยองค หา ท่ีบรรเลงโดยผชู าํ นาญดีแลว ฉะนน้ั กจ็ ักรรตั นะนน้ั ในเบอ้ื งบนแหงคัน แกวประพาฬมีฉัตรขาวในขา งท้ังสอง มแี ถวลวดลายดอกทองคํารวมกนั เปน สองแถว ภายในดมุ และซีแ่ มทัง้ สอง ลอ มกงซึง่ งามพรอ มดว ยคันแกว ประพาฬรอยคนั ทรงฉัตรขาวตง้ัรอ ย มแี ถวลวดลายดอกทองคําท่รี วมประชุมสองรอยอยางน้เี ปนบริวาร มีมุขสหี ะสองมขุ มีพวงแกวมุกดาประมาณเทาลําตาล ๒ พวง อันสวยงามเหมือนประกายแสะพระจนั ทรเ พญ็ ดาดาษดว ยผา กัมพลสแี ดงเสมอเหมอื นดวงพระ-อาทติ ยออน ๆ รอน ๆ จะเยอความงามทีแ่ ผก ระจายในอากาศ และแมน ํ้าคงคาฉะน้นั หอ ยระยาอยู มวี งจักร ๓ วง พรอมกบั จักรรตั นะปรากฏเหมอื นหมนุในอากาศ พรอ มกันฉะน้นั นี้ ความบรสิ ทุ ธิ์ทกุ อยา งโดยประการท้งั ปวงแหงจักรรตั นะนั้น. กจ็ กั รรตั นะน้ีน้ัน สมบูรณด วยอาการทั้งปวงดังน้ี เหมือนกบั มวลมนษุ ยบ ริโภคอาหารเยน็ ตามปกติ น่งั บนอาสนะท่ปี ลู าด ท่ีประตบู า นของตน ๆสนทนากนั เด็ก ๆ กําลังเลนในทางส่แี พรง เปนตน ใหอากาศไมส ูงนกัไมตํ่านกั ประมาณปลายไมใหส วา งไสวอยู เหมอื นใหไดยินเสยี งสัตวท ง้ั หลาย
พระสตุ ตันตปฎก ทีฆนกิ าย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๑ - หนาที่ 505ดวยเสียงไพเราะซงึ่ ฟงไดต ้งั แตปลายกิ่งไม ถึงสิบสองโยชน ทาํ ใหนยั นตามองเหน็ ดวยสีอันรุงเรืองดวยแสงตาง ๆ ถึงโยชน เหมอื นกบั โฆษณา บุญญา-นุภาพแหง พระเจา จักรพรรดิ กลับมายังราชธานี. ลาํ ดบั น้ัน ดว ยการฟงเสยี งจกั รรตั นะน่นั เอง มวลมนุษยท่แี ลดูทิศตะวนั ออก มีจติ จดจอวา น้เี ปนเสียงของใครจากทไ่ี หนหนอ ตา งก็กลา วกะกนั วา ทานผเู จรญิ ดอู ศั จรรยจ รงิแตก าลกอ นพระจันทรเพ็ญข้นึ เพียงดวงเดยี ว แตว ันน้ี ไฉนจึงขึ้นเปน ๒ ดวงก็น่นั เปนพระจันทรเพญ็ คูเหมือนราชหงษคปู ระดบั ทอ งฟา เหมอื นอยา งแตกาลกอ น. คนอ่นื กก็ ลา วกะคนนน่ั วา พูดอะไรเพือ่ น ทานเคยเห็นพระจนั ทร๒ ดวงขน้ึ พรอ มกนั แตทไ่ี หน น่นั เปน พระอาทิตยทรงกลดมใิ ชห รือ. คนอื่นยมิ้ แลว กลาวกะคนนัน้ วา ทานเปนบาหรือ พระอาทิตยพ งึ ตกเดย๋ี วนม้ี ิใชห รือพระอาทิตยน ั้น จกั ขึ้นตามพระจันทรเ พญ็ นอ้ี ยา งไร ก็นั่นจกั เปน วิมานของผูมีบญุ คนหน่งึ ซง่ึ รุงโรจนด ว ยแสงรตั นะ แนแ ท. มนษุ ยแมท ้งั หมดเหลานัน้ ตางไมเชอ่ื กนั กก็ ลาวกะคนเหลา อืน่ อยา งนวี้ า ทานผเู จริญ พูดมากไปทําไม นไ้ี มใ ชพ ระจันทรเ พ็ญ ไมใชพ ระอาทติ ย ไมใ ชว ิมานของเทพ และไมใ ชศริ สิ มบตั ิของเหลา เทพปานนี้ แตพ งึ เปนจักรรัตนะอยางหน่ึงแนน อน.เมอื่ ชนนน้ั สนทนากันอยา งน้ีแลว จักรรัตนะนน้ั ก็ละเสียซงึ่ มณฑลแหง พระจนั ทรม ุง ตรงตอราชธานี. แตน ัน้ ถา พูดวา จักรรัตนะนี้ เกดิ แกใ ครหนอ ก็จะมคี นพูดวาจักรรัตนะน่ันไมเ กดิ แกใ ครอนื่ แตเ กิดแกพ ระเจามหาจกั รพรรดิผมู พี ระบารมีบริบูรณของพวกเรามใิ ชห รอื . ลําดบั นนั้ มหาชนนั้นและชนผอู ่ืน ๆ ทง้ั หมดกต็ ิดตามจักรรัตนะนน่ั เทยี ว. จกั รรัตนะแมน นั้ เหมอื นประสงคจ ะใหรูถึงภาวะเปน ไปแหงตนเพ่อื ประโยชนแ กพ ระเจา จักรพรรดิ วนเลยี บพระนครสูงประมาณกําแพงถึง ๗ ครั้ง ทําประทักษิณพระนครของพระเจาจักรพรรดแิ ลว
พระสุตตันตปฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ท่ี 506ประดษิ ฐานอยูใ นทเี่ ชนสีหบัญชรดา นเหนอื ภายในแหงราชธานี ปรากฏเหมือนใหม หาชนสะดวกแกการบชู า ดว ยของหอมและดอกไมเ ปน ตน ฉะนั้น. ก็เมอื่จกั รรตั นะนั้นตัง้ อยูอยางนแ้ี ลว กจ็ ะมพี ระราชาพระองคผ ปู ระสงคจ ะทอดพระ-เนตรดูจกั รรัตนะซงึ่ มกี ลมุ แสงทําใหภ ายในปราสาทสวางไสวดว ยแสงรัตนะหลากสี ซึง่ พงุ ออกมาทางชองบานหนา ตา ง. แมป ริชนผูม ากบั พระราชาน้นั ก็ปรารภถงึ คาํ นารกั แหง จกั รรัตนะนัน้ จึงประกาศเนอื้ ความนัน้ . ลําดับนน้ั พระราชาทรงมีพระสรีระ ผดุ ผอ งดวยพระปติ และปราโมทยเ ปนกาํ ลงั ทรงเลิกสมาธิเสดจ็ ลุกขน้ึ จากพระราชอาสน เสดจ็ ไปใกลสีหบัญชร ทรงเห็นจักรรัตนะน้นั ทรงพระดาํ ริวา ก็จกั รรัตนะนั้น เราไดฟ งแลว ดังน้เี ปนตน. จกั รรัตนะนน้ั ท้งั หมดไดเปน อยา งนัน้ แกพ ระเจามหา-สุทสั สนจกั รพรรดริ าช. ดวยเหตนุ ั้น ทานจึงกลา ววา รฺโ มหาสทุ สสฺ นสฺส ฯเปฯ อสฺส นุโข อห ราชา จกฺกวตฺติ. ในบทนั้นมอี รรถวา พระราชาพระองคน น้ั เปน พระเจา จักรพรรดิ. ถามวา เปนพระเจาจกั รพรรดิ ดวยเหตุมปี ระมาณเทาใด. พระผมู พี ระภาคเจา ครนั้ จกั รรตั นะพงุ ข้นึ ไปสูอ ากาศ แมเ พยี งหน่ึงองคลุ สี ององคุลี ทรงแสดงกิจจะพึงกระทํา เพอื่ ยังจักรรัตนะน้ันเปน ไป ณบดั น้ี จึงตรสั วา อถโข อานนฺท เปนตน . ในบทเหลา น้นั บทวา อฏุ ายาสนา ความวา เสด็จลกุ จากพระราช-อาสนะที่ประทับแลว เสดจ็ มาใกลจกั รรตั นะ. บทวา สวุ ณฺณภงิ ฺคาร คเหตวฺ าความวา ทรงยกพระสุวรรณภงิ คารมที ะนานเชน งวงชา ง. บทวา อนฺวเทว ราชา มหาสทุ สฺสโน สทฺธึ จตุรงฺคินิยา เสนายความวา กพ็ ระเจามหาสุทสั สนจกั รพรรดิราช นน้ั ทรงพระนามวา จกั รพรรดิชัว่ กาลใกลเ คยี งกับจักรรัตนะพงุ ขน้ึ เวหาใกลเคยี งกบั พระเจาพรรดทิ งั้ หลาย
พระสุตตันตปฎ ก ทีฆนิกาย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ที่ 507ทรงรนิ นา้ํ แลว ตรสั วา ขอจกั รรตั นะจงอภิชิตจักรภพ. กค็ ร้นั จักรรัตนะเปนไปแลว พระเจา จักรพรรดิเสดจ็ ตดิ ตามจกั รรัตนะนนั้ เสด็จไปยังยานอนั ประเสรฐิแลว พุง ข้นึ สเู วหาส. ลาํ ดบั น้นั ปริชนและอันใดชนของพระราชานนั้ ถอืฉัตรและจามรเปนตน ตอจากนน้ั หมอู ุปราชและเสนาบดพี รอมกับพลกําลังประดับประดาดว ยเสอ้ื ผา เกราะเปน ตน รงุ เรอื งดวยแสงอาภรณตา ง ๆ ตกแตงดวยธงปฏากอันสวยงาม พงุ ขนึ้ สเู วหาสแวดลอมพระราชา. ก็บรรดาเภรรี าชยตุกใ็ หตเี ทีย่ วไปในถนนพระนคร เพอื่ สงเคราะหช นวา ดกู อนพอ ท้ังหลาย จกั รรตั นะไดบังเกดิ แกพระราชาของพวกเราแลว ทานท้งั หลายจงตกแตงประดับประดา ตามสมควรแกท รพั ยข องตน ๆ แลวมาประชมุ . และแมมหาชนละกิจท้ังปวงตามปกติดวยเสยี งจักรรตั นะน่นั เทยี ว ถอื ของหอมและดอกไมเ ปนตนประชุมกันแลว . มหาชนแมน ้ันทั้งหมด เหาะข้นึ เวหาสแวดลอมพระราชานนั่เทียว. ก็มหาชนใด ๆ ประสงคจะไปกับพระราชา มหาชนนน้ั ๆ ก็ไปสูอากาศเทียว. บริษัทยาวกวางประมาณสิบสองโยชนอยางนี้. ในบรษิ ทั นัน้ แมค นหนึ่ง จะมสี รีระขาดแตก หรอื ผา เปอ นกไ็ มม ี. จริงอยู พระเจา จักรพรรดทิ รงมีราชบริวารอนั สะอาด. ขนึ้ ชือ่ วา บรษิ ทั ของพระเจาจกั รพรรดิ เหาะไดเหมอื นวิทยาธร เปนเชนกบั แกว มณที ี่เกลอื่ นกลนในทอ งฟา สีเขยี ว. บริษัทแมของพระเจา มหาสุทสั สนจกั รพรรดริ าช ก็เปน เชน น้นั เหมือนกนั . ดว ยเหตนุ ัน้ทา นจงึ กลา ววา อนฺวเทว ราชา มหาสทุ สสฺ โน สทธฺ ึ จตรุ งฺคินิยา เสนาย. กจ็ กั รรัตนะน้ัน ยอ มพุงไปบนทองฟา เหนือยอดไมโดยไมสูงนัก ไมตา่ํ นกั เหมอื นคนตองการดอกผล และเถาวัลย ของตนไม กอ็ าจจบั ดอกผลเหลานั้นไดงา ย และเหมือนคนยืนอยบู นแผน ดิน ก็อาจจะสงั เกตวา น่นั พระ-ราชา น่นั อุปราช น่นั เสนาบดี. ก็ในบรรดาอิรยิ าบถมียืนเปนตน ผูใดตอ งการอิริยาบถใด ผูน้ันก็ดาํ เนนิ ไปดวยอิรยิ าบถนน้ั ได. ก็ในทน่ี ้ผี ขู วนขวาย
พระสุตตันตปฎ ก ทฆี นกิ าย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ที่ 508ศลิ ปะมจี ิตรกรรมเปน ตน เม่อื ทาํ กจิ ของตน ๆ ไป กจิ ทง้ั ปวงของชนเหลา นน้ักย็ อมสําเรจ็ ในอากาศนั้นเทยี วเหมือนแผนดิน จกั รรัตนะนน้ั พาบริษทัพระเจาจกั รพรรดไิ ปดว ยอาการอยางน้ี และละเขาพระสเุ มรุทางเบื้องซา ยไปสูปุพพวิเทหประเทศ ประมาณแปดพนั โยชนใ นสว นเบอื้ งบนแหงมหาสมทุ ร.ในที่นัน้ ภมู ภิ าคใดสว นกวา งลอมรอบได ๑๒ โยชน ควรแกการอยอู าศัยของบรษิ ทั ๑๖ โยชน มีอาหารเครื่องอุปกรณห าไดง า ย สมบูรณด วยรมเงาและน้ํามีภาคพน้ื สะอาดสมํ่าเสมอ นาร่ืนรมย จักรรัตนะนนั้ ต้ังอยูเหมอื นไมหว่นั ไหวในสว นเบ้ืองบนแหง ภูมิภาคนน้ั ๆ ลําดบั นนั้ ดวยสัญญาณน้นั มหาชนนน้ั กล็ งทํากจิ ทงั้ ปวงมีการอาบและการกินเปนตน ตามใจชอบ สําเรจ็ การอยู. จักรรตั นะท้ังปวงไดเปน เชนนั้น แมของพระเจา มหาสทุ ัสสนจกั รพรรดกิ เ็ ปนเชนน้ัน ดวยเหตุนน้ั ทา นจึงกลาววา ดูกอ นอานนท กจ็ ักรรตั นประดษิ ฐอยูในประเทศใดพระเจา มหาสุทัสสนจักรพรรดิ ก็เสด็จเขาไปประทบั อยใู นประเทศน้ัน พรอ มดวยจตุรงคเสนา. ครน้ั พระเจาจกั รพรรดปิ ระทบั อยูอ ยา งนแ้ี ลว พระราชาท้ังหลายในประเทศน้นั แมไดฟ งแลววา จกั รมาแลว ก็ยอ มไมป ระชุมกําลังพลเตรยี มรบ.เพราะในระหวา งอุบตั ขิ ้นึ แหง จักรรตั นะ ธรรมดาสัตวทจ่ี ะพยายามยกอาวธุ ตอพระราชานน้ั ดว ยสําคญั วา เปนศตั รูไมม ีเลย. นีเ้ ปน อานภุ าพแหงจกั รรตั นะ.ก็ขา ศึกศตั รูที่เหลือของพระราชาน้นั ยอมเขา ถงึ การฝก ดว ยอานภุ าพแหง จักร.ธรรมดาการฝก ศัตรูเปนหนา ท่ีของพระราชาผเู ปนใหญแ หง คน ดวยเหตนุ น้ัทา นจงึ กลา วถงึ จกั รของพระราชานัน้ . เพราะฉะนั้น พระราชาเหลานน้ั แมท งั้หมดทรงถอื บรรณาการอนั สมควรแกราชศริ สิ มบัติของตน ๆ เสดจ็ เขา เฝาพระราชานัน้ ทรงนอมพระเศียร ทาํ การบชู าพระบาทแหง พระราชาน้ัน ดวยอภเิ ษกแหงรัศมีแกว มณีพระโมลีของตนถึงซึง่ การตอนรับพระราชาน้นั ดวยพระวจนะวา ขา แตพ ระมหาราช ขอพระองคจ งเสด็จมาดังนี้เปนตน . พระราชา
พระสุตตนั ตปฎก ทฆี นกิ าย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๑ - หนาที่ 509ท้งั หลายกไ็ ดก ระทําอยางนั้น แกพ ระเจา มหาสทุ สั สนจักรพรรดิราชเหมอื นกนั .ดวยเหตนุ ้ัน ทานจงึ กลาววา เย โข ปนานนฺท ปรุ ตถฺ มิ าย ทสิ าย ฯเปฯอนสุ าส มหาราช ดงั น.้ี บรรดาบทเหลา นัน้ บทวา สฺวาคต แปลวา เสดจ็ มาดแี ลว. ทานกลา ววา กค็ ร้ันพระราชาองคหนึ่งเสดจ็ มา ราชศัตรูกเ็ ศราโศก ครั้นเสด็จไปกท็ รงเพลดิ เพลิน ครั้นพระราชาบางองคเสดจ็ มา ราชศัตรกู ็ทรงเพลดิ เพลินคร้นั เสด็จไป ก็ทรงเศราโศก พระองคกเ็ ปนเชนน้นั ทรงเสด็จมาเพลิดเพลนิเสดจ็ ไปเศรา โศก เพราะฉะนัน้ การเสดจ็ มาของพระองค จงึ เปน การเสด็จมาดี กค็ ร้นั กลาวอยางนีแ้ ลว พระเจาจกั รพรรดจิ ะไมต รสั วา ทา นท้งั หลายจงนําพลอี ันสมควร มีประมาณเทา นใี้ หแ กเราบา ง จะไมต ัดเอาโภคะของพระราชาองคอ ื่นไป พระราชทานแกพ ระราชาอกี องคบา ง แตจะทรงหยิบยกคาํ วาปาณาติปาตา เปนตน ขึน้ กลา วดว ยปญ ญาอนั สมควร แกค วามท่พี ระองคเปนธรรมราชา ทรงแสดงพระธรรมดว ยพระวจนะอนั เปน ทร่ี กั อนั ละเอียดออ น โดยนัยเปน อาทิวา ดูกรพอ ทงั้ หลาย ทา นจงดู ข้ึนช่ือวา การฆาสตั วนน่ั อนั เสพแลว เจรญิ แลว ทาํ ใหมากแลว ยอ มเปน ไปเพ่อื นรก ยอมพระราชทานพระโอวาทเปนอาทิวา ไมพ งึ ฆาสัตวด งั น.้ี แมพ ระเจา มหาสุทัสสนจักรพรรดิ กท็ รงกระทําอยางน้เี หมอื นกัน. ดวยเหตุนน้ั ทา นจงึ กลา ววา พระเจามหาสุทัสสนจกั รพรรดติ รสั อยางน้วี า ทานไมพึงฆาสตั ว ฯลฯ และทา นพงึบรโิ ภคตามสมควร. ถามวา กพ็ ระราชาแมท งั้ หมด ทรงถอื เอาพระโอวาทนีข้ องพระราชาหรือไม. ตอบวา พระราชาแมท ง้ั หมด ยังไมถ ือเอาพระโอวาทแมของพระพุทธเจา จักถือเอาพระโอวาทของพระราชาไดอยา งไร. เพราะฉะน้ัน พระราชาเหลา ใด ทรงเปน บณั ฑิต เฉลียวฉลาด มปี ญญา พระราชาเหลานัน้
พระสตุ ตันตปฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ท่ี 510กจ็ ะทรงถือเอา. แตพระราชาทัง้ หมดทรงตามเสดจ็ เพราะฉะนั้น พระผูมีพระภาคเจาจึงตรัสวา เยโข ปนานนทฺ ดงั นเ้ี ปนตน. ลําดบั นน้ั จกั รรัตนะนน้ั ครั้นพระราชาใหพ ระโอวาทแกช าวบุพพ-วเิ ทหะ อยางนแ้ี ลว กพ็ ุงขึน้ สูเวหาสพรอ มกับกําลงั ของจักรพรรดทิ ไี่ ดร ับประทานอาหารเชาเสรจ็ แลว ก็ยางเขา สสู มทุ รดา นปุรัตถมิ ทศิ ผานคลน่ื อนั กวา งขวาง เหมอื นนาคราชไดก ลน่ิ งแู ลว แผพงั พานฉะน้ัน บินเหนือนาํ้ มหาสมุทรประมาณหนงึ่ โยชนต ัง้ อยูภายในมหาสมทุ รประดุจระเบียบแกว ไพฑรู ย ฉะนนั้ .และในขณะน้ัน รตั นนานาชนิดเกลอ่ื นกลน ในพืน้ มหาสมุทร ดจุ ประสงคจะเห็นบุญศิรขิ องพระราชาพระองคน้ัน มาจากท่นี น้ั ๆ เต็มประเทศน้นั ๆ ลําดับนนั้บรษิ ัทแหง พระราชาน้นั เห็นพน้ื มหาสมทุ รเต็มดวยรตั นนานาชนิดน้นั ก็ถือเอาดวยกอบเปนตนตามใจชอบ. ก็เม่อื บรษิ ทั ไดถอื เอารัตนะตามชอบ จักรรัตนะน้นั ก็กลับ. ก็ครนั้ จกั รรตั นะนั้นกลับ บริษัทไมไดไป พระราชาอยใู นทา มกลาง จกั รรัตนะอยูใ นทสี่ ุด. จักรรัตนะน้นั กระทบรอบ ๆ กงโดยการแยกนน้ัเหมอื นกระทบพื้นนํ้าทะเล และเหมอื นขม ดวยจกั รรัตนศิรเิ ขา ไปชัว่ นริ นั ดร.พระเจา จกั รพรรดิทรงชาํ นะ ปุพพวเิ ทหประเทศ ซงึ่ มีมหาสมุทรดานทิศตะวนัออกเปน ขอบเขตอยา งนี้แลว ทรงประสงคจ ะชาํ นะชมพทู วีป ซึง่ มีสมุทรดา นทศิ ใตเปน ขอบเขต เสด็จไปมงุ ตรงตอสมุทรดานทิศใต ตามทางท่จี ักรรตั นะแสดงนาํ ไป. แมพ ระเจามหาสทุ สั สนจักรพรรดิกเ็ สดจ็ ไปเชนนนั้ เหมอื นกัน.ดวยเหตนุ น้ั ทานจึงกลา ววา ดูกอนอานนท ลาํ ดบั น้นั แล จักรรตั นะนัน้ ขา มไปยังสมุทรทศิ ตะวนั ออกแลว กลบั ไปยงั ทิศใตดงั น.ี้ ก็เมือ่ จักรรตั นะนนั้ เปน ไปอยา งนี้ คาํ วา วธิ ีกลบั การพกั อยูแหงเสนา การเสด็จมาแหง พระอริราช การพระราชทานอนุสาสนีแกเหลาพระอรริ าชนน้ั ๆ การขา มไปยังสมทุ รดา นทิศใต การข้ึนไปเหนือนาํ้ สมุทร การ
พระสตุ ตันตปฎก ทฆี นกิ าย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ท่ี 511ถอื เอารตั นนานาชนดิ ทั้งหมด พึงทราบโดยนัยกอนน้ันเทยี ว. กท็ รงชํานะชมพทู วีปประมาณหน่ึงโยชนน น้ั แลว กลบั จากสมทุ รทางทศิ ใต เสด็จไปโดยนยั กลาวแลวในบทกอน เพื่อชํานะอมรโดยานมเี จ็ดพนั โยชน เปน ประมาณทรงชนะอมรโดยานแมน ัน้ ซงึ่ มสี มทุ รเปน ขอบเขตอยา งน้ัน เสดจ็ ขามไปจากสมุทรทางทศิ ตะวันตกเสดจ็ ไปอยางนนั้ เพอ่ื ชํานะอตุ รกรุ ุ ซงึ่ มแี ปดพันโยชนเปน ประมาณ ทรงชนะอุตรกรุ แุ มน น้ั ซง่ึ มสี มุทรเปนขอบเขตเชนกัน แลวเสดจ็ กลับจากสมทุ รทางทิศเหนือ. พระจา จกั รพรรดทิ รงบรรลุความเปนผยู ิง่ใหญแ หงปฐพี ซง่ึ มมี หาสมทุ รทัง้ สเ่ี ปน ขอบเขต ดวยประการฉะน.้ี พระราชาพระองคนั้น ทรงชนะวิเศษดวยอันชาํ นะแลว อยางน้ี มบี ริษัทเพ่อื แสดงถึงศิรริ าชสมบตั ขิ องพระองค ทรงแหงนดูทองฟา เบือ้ งบน ทรงแลดูมหาทวีปสี่ ซ่งึ มเี กาะเลก็ ประมาณ ๕๐๐ ๆ เปนบรวิ าร เหมอื นสระเกิดขึน้ เองท้งั ส่ี ทวี่ จิ ิตรดวยปา ปทมุ อุบล กุมทุ และบณุ ฑริก ทบ่ี านแยม ดีแลวฉะนั้นเสดจ็ กลับไปสูร าชธานี ของพระองคตามลําดบั ตามทางที่จกั รรัตนะแสดงแลวนั่นเทยี ว. ลําดับนนั้ จกั รรัตนะนน้ั กต็ งั้ อยูเหมือนยังภายในประตแู หง บุรใี หงดงามฉะน้นั . กค็ ร้ันจกั รรตั นะน้ันประดิษฐานอยูอยา งนแ้ี ลว กจิ อนั จะพงึ กระทาํบางอยา งดว ยคบเพลิง หรอื ดว ยประทีปภายในราชบุรี ก็ไมม ี. แสงสวางแหงจกั รรัตนะน่นั เทยี ว ยอ มกําจดั ความมืดแหง ราตรี. แตบุคคลเหลา ใด ตองการความมดื ความมดื นน่ั เทียวกย็ อ มมีแกบคุ คลเหลา นนั้ . จักรรตั นะน้ันท้ังหมดไดมแี ลว อยา งนี้ แมแกพ ระเจา มหาสุทัสสนจักรพรรด.ิ ดวยเหตนุ น้ั ทานจึงกลา ววา ทกขฺ ณิ สมทุ ฺท อชโฺ ฌคาเหตฺวา ฯเปฯ เอวรูป จกกฺ รตน ปาตุร-โหสิ. อํามาตยท้งั หลาย ของพระเจา จักรพรรดิผูมีจักรรตั นะปรากฏอยางน้ีกใ็ หก ระทําสถานทอ่ี ยขู องชางมงคลปกติใหเ ปนภูมิภาคสมํา่ เสมอบริสุทธส์ิ ะอาด
พระสุตตันตปฎก ทีฆนกิ าย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ท่ี 512ประพรมดว ยกลน่ิ สุรภี มีจนั ทนแดงเปน ตน ตบแตงใหสวยงามเหมือนวิมานเทพภายใตเกลือ่ นกลนดว ยดอกสรุ ภีดอกกุสมุ อนั มีสีวจิ ติ ร เบ้อื งบนมเี พดานประดับประดาดว ยลายกุสุมอันพึงพอใจรวบรวมภายในดวงดาวทองแลวทูลวาขา แตสมตเิ ทพ ขอพระองคจงพระดํารกิ ารมาแหง หัตถีรัตนะมีรูปปานน.้ีพระราชานนั้ ก็ทรงถวายมหาทาน โดยนยั ทก่ี ลา วแลว ในกาลกอ น และทรงสมาทานศลี แลว ประทับนงั่ ระลกึ ถงึ บญุ สมบตั นิ ้นั . ลาํ ดบั นั้น ชา งประเสรฐิ อันอานภุ าพแหง บญุ ของพระราชานั้น เตอื นแลว เหมือนจะครอบงําสกั การะพิเศษนั้นจากตระกลู ฉัททันต หรือจากตระกูลอุโบสถ มีสรรี ะขาวปลอดตกแตง การเดิน คอและปากมสี แี ดงดุจมณฑลแหง พระอาทติ ยอ อน ๆ มีที่ประดิษฐเจด็ ประการ มรี ูปรางอวยั วะนอ ยใหญต ั้งไวอยางดี มนี ม เลบ็ และปลายงวงแดงแยม สามารถเหาะไดเหมอื นโยคีผูมฤี ทธิ์ ใหญขาว เหมอื นบรเิ วณที่ยอมดวยจุณแหง มโนสิลา มายืนอยูใ นประเทศน้ัน. ชา งนัน้ มาจากตระกูลชางฉทั ทนั ต ยอ มเล็กกวา ชา งทัง้ หมด. ชางทีม่ าจากตระกูลชางอโุ บสถ ยอมใหญก วา ชางทงั้ ปวง. แตในบาลี ยอมมาวา นาคราชชอ่ื อุโบสถ ดังนี.้ทานกลา วไวในอรรถกถาท้งั หลายวา ขึ้นชอื่ วา ชา งนาคราช ไมค คู วรแกใ ครๆเปน ชางเล็กกวาชา งทง้ั หมด ยอมมาดังนี้. ชางนนี้ ้ันยอ มมาแกพระเจา จกั รพรรดิผมู วี ตั รแหงจกั รพรรดิ ทรงดาํ รโิ ดยนยั กลา วแลวนนั่ เทยี ว. กช็ างนาคราชมาสูโรงชางมงคลปกติเองไมกําจดั ชางมงคล ยนื อยใู นทีน่ ั้น. ดวยเหตุนน้ั ทานจึงกลาววา ปนุ จปร อานนฺท ฯเปฯ นาคราช ดังน้.ี กบ็ ุคคลทัง้ หลายมคี นเล้ยี งชางเปน ตน เหน็ หตั ถรี ัตนะท่ปี รากฏอยางน้นั แลว รนื่ เริงดใี จรีบไปทลู แดพ ระราชา. พระราชารีบเสดจ็ มาดู หัตถี-รตั นะนน้ั ทรงมพี ระราชหฤทัยผอ งใส ทรงคดิ วา หตั ถียานประเสรฐิ หนอถา สมควรนําเขาฝก ดงั น.ี้ ทรงเหยียดพระหตั ถ ลําดบั น้นั ชา งนั้นเหมอื น
พระสุตตนั ตปฎ ก ทฆี นกิ าย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ที่ 513กบั ชา งแมนม สยายหแู สดงเสยี งรองเขาไปเฝาพระราชา. พระราชาทรงใครจ ะเสดจ็ ขน้ึ ประทบั ชางน้นั . ลาํ ดบั นัน้ ปรชิ นของพระราชานั้นรูพระประสงค ทําธงทอง เครอื่ งประดับทองคลุมดว ยขา ยทองนําเขา หาหตั ถรี ตั นะน้ัน. พระราชาไมใหประทับนั่งชา งนน้ั เสด็จขึ้นบันไดที่ทาํ ดว ยรัตนะเจ็ดประการ มีพระราชหฤทยั นอมไปในอากาศ. พรอ มดว ยจิตตบุ าท ของพระราชานน้ั หัตถินาค-ราชนั้น ก็ลอยขนึ้ สูทอ งฟา ท่รี ุงเรอื งดวยแสงแกวอนิ ทนลิ และแกว มณี เหมอื นราชหงษฉะน้นั . ตอ จากน้ัน บริษัทของพระราชาทั้งหมดก็เหาะขน้ึ โดยนยั อนักลา วแลวในจักกจาริกาน่นั เทียว. พระราชาพรอมกบั บริษทั ข้ึนชมปฐวที ั้งสิ้นก็กลบั ราชธานภี ายในอาหารเชา ดวยประการฉะนี.้ หตั ถีรัตนะแมของพระเจามหาสทุ สั สนจักรพรรดริ าชก็เปนเชน นนั่ เทยี ว. ดวยเหตนุ นั้ ทานจงึ กลา ววาหสิ วฺ า รฺโ ฯเปฯ ปาตุรโหสิ ดังน้.ี ก็อาํ มาตยทั้งหลาย ของพระเจาจักรพรรดิผูมีหตั ถรี ัตนะปรากฏอยา งนแี้ ลว ใหก ระทาํ และประดบั ประดา โรงมามงคลตามปกติ ใหม พี ้ืนสะอาดราบเรียบ ยงั พระอุตสาหะใหเกิดขนึ้ แกพระราชา เพ่ือทรงคิดการมาแหงมา น้นัโดยนัยกอ นน่ันเทียว. พระราชาน้ัน ทรงมสี กั การะนอมในทานท่ที รงกระทําแลวโดยนยั กอ นนน่ั เทียว ทรงสมาทานศีลและวัตร ประทับนั่งสําราญบนพ้ืนปราสาททรงระลึกบุญสมบตั ิ. ลาํ ดบั นน้ั อัศวราช ชือ่ วา วลาหก จากตระกูลมาสนิ ธพ อนั อานภุ าพแหง บุญของพระราชานนั้ เตือนแลว มศี ริ ิแหงกลุม เมฆขาวในสรทกาลทีต่ องสายฟา มเี ทา แดง มกี ลบี เทาแดง มีรปู รา งแขง็ แรงบรสิ ทุ ธ์ิสนทิ เชน กับกลมุ รศั มีแหง พระจันทร มศี ีรษะดํา เพราะถงึ พรอมดว ยขนตง้ั ตรงวงกลมละเอียดสีขาวเชน หญาปลอ งท่ีสาํ เร็จดว ยดตี ั้งไวแ ลว สามารถเหาะไดม าอยูในโรงน้ัน. ก็อศั วราชนน้ั มาแลวแกพ ระเจา มหาสุทสั สนจักรพรรดิเหมือนหตั ถีรัตนะฉะนัน้ . บททง้ั ปวงทเ่ี หลือ พึงทราบโดยนยั กลาวแลวใน
พระสตุ ตันตปฎก ทฆี นกิ าย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ที่ 514หตั ถรี ตั นะน่ันแหละ. พระผมู พี ระภาคเจา ทรงหมายถงึ อสั สรัตนะอยางนัน้ จึงตรสั วา ปุน จปร ดังน้เี ปน ตน . กม็ ณรี ตั นะจากวบิ ลุ บรรพตยาวส่ศี อก มรี ปู ทรงงดงาม ประดบั ประดาดวยทองและปทมุ ท้งั สอง มกี ลบี เปนมกุ ดา อันบริสทุ ธเ์ิ ปลง ออกจากสองกอ นในทีส่ ดุ สองขา งมมี ณแี ปดหมื่นส่พี นั เปนบริวาร ราวจะแผไ ปกระทบศิริแหงพระจนั ทรเพ็ญ ท่ีหมูด าวลอ มรอบ มาแกพ ระเจา จักรพรรดิ ผูมอี สั สรัตนะปรากฏแลว อยางน.้ี เมอื่ มณีรัตนะนน้ั มาแลวอยางนี้ อันบุคคลวางไวใ นขายมุกดา ยกขนึ้ สูอ ากาศประมาณหกสิบศอก เพียงยอดไมไ ผ แสงสวา งจะแผไ ปสโู อกาส ประมาณหน่งึ โยชนโดยรอบ อนั เปน เหตใุ หโอกาสน้นั ทง้ั หมด เกดิแสงสวางเหมือนในเวลาอรุณขึน้ ฉะน้นั . แตนั้น ชาวนาก็ประกอบกสกิ รรมพอคาก็ประกอบการซ้อื ขาย ศีลปนนั้น ๆ ก็ประกอบการงานนนั้ ๆ สาํ คญั วาเปนกลางวนั . มณรี ัตนะนน้ั ท้งั หมดไดมีแลวอยางนน้ั แมแ กพ ระเจามหาสทุ ัสสนจกั รพรรดนิ ่นั เทียว. ดว ยเหตุนน้ั พระผูมพี ระภาคเจาจึงตรัสวา ปุน จปรอานนฺท ฯเปฯ มณริ ตน ปาตุรโหสิ ดงั น้ี. อติ ถรี ัตนะมกี ารณพเิ ศษปรากฏแกพ ระเจา จกั พรรดิผทู รงมีสขุ วิสยั พเิ ศษมีมณีรตั นะปรากฏแลวอยา งน.ี้ ก็พระญาตทิ ัง้ หลาย ยอ มนําอติ ถรี ัตนะนั้นจากมทั รราชตระกูลมาเปน อคั รมเหสีของพระเจาจกั รพรรดินนั้ . หรอื มาจากอุตตร-กรุ ุประเทศดว ยบญุ ญานุภาพ. ก็สมบัติแหง อิตถรี ตั นะนน้ั ทเ่ี หลอื มาแลวในบาลีน่ันเทียว โดยนัยมอี าทิวา ดกู รพระอานนท อีกประการหนึง่ อิตถีรตั นะซ่งึมรี ปู สดุ สวย นาด.ู ปรากฏแลว แกพระเจา มหาสุทสั สนจักรพรรดิราช. ในบรรดาสมบตั ินน้ั ชอื่ วา อภริ ปู า เพราะอติ ถรี ัตนะนน้ั มรี ปู สวยงาม บรบิ ูรณดวยทรวดทรง. และ ชอ่ื วา ทัสสนยี า เพราะเม่ือดกู ็ถูกตา แมต องเลิกธุรกจิอยางอนื่ มองดู. ช่อื วา ปาสาทกิ า เพราะเมอื่ ดกู ย็ ังใหเลอ่ื มใสดว ยอาํ นาจ
พระสตุ ตันตปฎก ทีฆนกิ าย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ท่ี 515โสมนัส. บทวา ปรมาย ความวา อุดมเพราะนาํ มาซงึ่ ความเลื่อมใสอยา งนี.้บทวา วณณฺ โปกขฺ รตาย ความวา เพราะวรรณงาม. บทวา สมนฺนาคตาความวา เขา ถงึ แลว . อีกประการหนึ่ง ช่ือวา อภริ ูปา เพราะไมสงู นกั ไมเตีย้ นกั . ชือ่ วา ทสั สนียา เพราะไมผ อมนัก ไมอวนนัก. ชอื่ วา ปาสาทกิ าเพราะไมดาํ นักไมข าวนกั . ช่อื วา ปรมาย วณณฺ โปกฺขรตาย สมนฺนาคตาเพราะกาวลวงวรรณมนุษย แตไ มถ ึงวรรณทิพย. จริงอยู แสงสวา งวรรณะของพวกมนษุ ย ยอ มไมเปลงออกภายนอก. แตข องเทพทง้ั หลาย ยอมเปลงไปแมไ กล.สวนแสงสวางสรรี ะแหงอิตถรี ตั นะน้นั ยอมยังประเทศประมาณสบิ สองศอกใหสวา งได. กใ็ นบรรดาสมบัตมิ ีไมสงู นกั เปนตน ของอิตถรี ัตนะนั้น ทา นกลา วอาโรหสมบตั ิ ดว ยคูทีห่ นึ่ง กลา วปรณิ าหสมบตั ิ ดว ยคูทสี่ อง กลาววรรณ-สมบัติดวยคทู ่สี าม กลาวความท่ีกายวบิ ัติดวยกายวิบัตดิ ว ยอาการหกประการน่ัน.กลาวกายสมบัตดิ ว ยบทนว้ี า อติกฺกนฺตา มานุสวณฺณ . บทวา ตลู ปจุโน วากปฺปาสปจโุ น วา ความวา ดุจปยุ นนุ หรือ ปุยฝาย แหงกายสัมผัส ซง่ึเอาไปวางไวบ นกอนเนยใส แลวแยกออกเจ็ดสว น. บทวา สีเต ความวาอบอนุ ในการท่ีพระราชาเย็น. บทวา อณุ เฺ ห ความวา เย็น ในเวลาที่พระราชารอ น. บทวา จนทฺ นคนฺโธ ความวา กลิ่นจนั ทนแ ดงอันประกอบดว ยชาตสิ ่ชี นิด ยงั ใหมบ ดละเอียดดตี ลอดกาล ยอมระเหยออกจากกาย. บทวาอุปฺปลคนฺโธ ความวา กลน่ิ หอมอยา งยิ่งแหงนลี ุบล ซ่ึงบานแยม ขณะน้ันยอ มพุง ออกจากปากในเวลาไอหรือพดู . ก็เพอื่ ทรงแสดงอาจาระ อันสมควรแหง สรีรสมบตั ิ ประกอบดว ยสมั ผัสสมบัติและคันธสมบตั ิอยางนี้ จงึ ตรสั วา ตโข ปน เปนตน. ในอาจาระนั้น อิตถรี ตั นะเห็นพระราชาแลวลุกขน้ึ กอ นทีเดียวจากอาสนะทีน่ ่งั เหมอื นคนถกู ไฟไหม เพราะฉะน้ัน จงึ ชอ่ื วา ปุพฺพฏุ ายินครนั้ พระราชาน้นั ประทับนงั่ แลว อิตถีรตั นะกระทาํ กจิ มพี ัดดว ยใบตาลเปน ตน
พระสตุ ตนั ตปฎ ก ทีฆนกิ าย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ท่ี 516แกพระราชานัน้ แลว จงึ พัก คอื นง่ั ทห่ี ลงั เพราะฉะน้นั จงึ ชอื่ วา ปจฉานิ-ปาติน.ี อิตถีรัตนะยอ มขวนขวายกจิ อนั พงึ ทาํ ดว ยวาจาวา ขาแตเ ทวะ หมอมฉนั จะทําอะไรแกพ ระองค เพราะฉะน้นั จึงชือ่ วา กกึ ารปฏสิ าวนี ี. อิตถรี ตั นะยอ มพระพฤติ ยอมกระทาํ สิ่งทพ่ี อพระราชหฤทยั ของพระราชาเทา น้ัน เพราะฉะนั้น จึงชื่อวา มนาปจารนิ ี. อิตถีรัตนะ ยอ มกลาวคาํ ท่ีนา รกั แกพระราชาเทานัน้ เพราะฉะนนั้ . จึงชื่อวา ปย วาทินี. บัดน้ี พระผูมพี ระภาคเจาจงึ ตรัสวาต โข ปน เปนตน เพอื่ ทรงแสดงวา อาจาระของอิตถีรัตนะน้นี ั้น บรสิ ทุ ธถ์ิ ายเดียว โดยไมม สี าไถยะเลย. บรรดาบทเหลาน้ัน บทวา โน อตจิ ารี ความวาไมประพฤตลิ วงเกนิ . ทา นกลาววา อติ ถรี ัตนะไมป รารถนาชายอ่นื แมด ว ยจิตนอกจากพระราชา. ในบทน้ัน อาจาระเหลาใดของอิตถรี ัตนะนัน้ ทานกลา ววา อภิรูปา เปน ตน ในเบอื้ งตน และกลา ววา ปพุ พฏุ ฐายินีในท่ีสดุ อาจาระเหลาน้นั เปน คณุ โดยปกติเทานั้นเอง. กส็ มบตั ิเปน ตน วา อตกิ กฺ นตฺ า มา-นุสวณณฺ พึงทราบวา บังเกิดขนึ้ แลว ดวยอานภุ าพกรรมเกา ต้ังแตจักรรตั นะปรากฏขึน้ เพราะอาศยั บญุ ของพระเจาจกั รพรรด.ิ หรือ สมบตั วิ าอภิรปู ตา เปนตน เกิดบริบูรณดว ยอาการทง้ั ปวง ต้งั แตจ ักรรัตนะปรากฏแลว .ดว ยเหตุน้ัน พระผูมพี ระภาคเจา จงึ ตรสั วา เอวรปู อิตฺถรี ตน ปาตุรโหสิดังนี้. ก็คหบดีรตั นะ เพ่อื ใหก ิจท้ังหลายทีพ่ ึงกระทาํ ดว ยทรัพย เปน ไปโดยสะดวก ยอ มปรากฏแกพระเจาจกั รพรรดิ ผูม ีอติ ถีรัตนะ ปรากฏแลวอยา งน.ี้คหบดนี ้นั โดยปกตมิ โี ภคะมากเกิดในตระกูลมโี ภคะมาก เจรญิ ดวยกองทรพั ยของพระราชา เปน เศรษฐคี หบด.ี ก็ทิพยจกั ษอุ นั เปน เหตุเห็นขมุ ทรัพยภายในหน่ึงโยชนแ มในภายในปฐพี ซงึ่ เกิดแตผ ลกรรม สงเคราะหด วยอานภุ าพจักรรตั นะ ยอ มปรากฏแกค หบดีรตั นะน้ัน คหบดรี ัตนะนน้ั เหน็ สมบตั ิน้ัน
พระสุตตันตปฎ ก ทีฆนกิ าย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ที่ 517แลว ดีใจ ไปปวารณาพระราชาดว ยทรพั ย รบั ทาํ กิจท้ังหลาย ทจี่ ะพงึ ทาํ ดว ยทรพั ยท ้ังหมดใหส ําเร็จ. คหบดรี ัตนะแมของพระเจา มหาสุทัสสนจกั รพรรดิ ก็ยังกิจอันพึงทําทรพั ยใ หส ําเรจ็ อยางนั้น เหมอื นกัน. ดวยเหตุน้นั พระผูมีพระภาคเจา จงึ ตรสั วา ปุน จปร อานนทฺ ฯ เป ฯ เอวรูป คหปติรตนปาตรุ โหสิ ดงั นี.้ ก็ปรณิ ายกรตั นะ ซง่ึ สามารถจัดแจงสรรพกิจ ยอมปรากฏแกพระเจา-จกั รพรรดิผมู ีคหบดรี ัตนะ ปรากฏแลว อยางน้ี. ปรณิ ายกรตั นะน้นั เปนพระราชโอรสองคใหญของพระราชานน่ั เทียว. โดยปกติทเี ดียว ปริณายกรัตนะนั้นเปนบัณฑิต เฉลยี วฉลาด มีปญ ญาอาศัยบญุ ญานุภาพของพระราชา ยอ มเขา ถึงญาณรจู ติ ของบุคคลอื่นดว ยอานภุ าพแหง กรรมของตน ซึ่งเปน เหตุใหรูวาระจติ แหงบริษทั ประมาณสิบสองโยชน สามารถกําหนดรูหติ ะประโยชนและอหิตะประโยชน แกพ ระราชาได. ปรณิ ายกรัตนะแมนัน้ เห็นอานภุ าพของตนนนั้ ดใี จปวารณาพระราชาดวยการบรหิ ารกจิ ทัง้ หมด. ปริณายกรัตนะปวารณาแมพ ระเจา มหาสุทสั สนจักรพรรดอิ ยางน้นั เหมอื นกัน. ดว ยเหตนุ ัน้พระผมู พี ระภาคเจา จงึ ตรสั วา ปุนจปร อานนสฺ ท ฯ เป ฯ ปรณิ ายกรตนปาตุรโหสิ ดังนี.้ ในบทเหลา น้ัน บทวา เปตพพฺ เปตุ ความวาเพอ่ื ตงั้ ใหดํารงในฐานันดรนั้น ๆ. บทวา สมเวปากนิ ยิ า ความวา อันเกิดแตผลกรรมอนั สมา่ํ เสมอ.บทวา คหณยิ า ความวา ดว ยเตโชธาตอันเกิดแกกรรม. ในบทนี้ อาหารสกั วา เสวยแลว ของพระเจา มหาสุทสั สนจักรพรรดิ ยอ มยอย กห็ รือยอมต้งั อยูอยา งน้ันเหมอื นภตั ท่เี สวย ถงึ พรอมดว ยเตโชธาตอุ ันเกิดแตว ิบากอนั สมํ่าเสมอแมทัง้ สองนั้น. กค็ วามพอพระราชหฤทยั ในพระกระยาหารในกาลแหง ภัต ยอ มบงั เกดิ ขน้ึ แกพ ระเจามหาสุทสั สนจักรพรรดใิ ด พระเจามหาสทุ สั สนจักรพรรด-ิราชนี้ ทรงถึงพรอ มดวยเตโชธาตุอนั เกดิ แตวิบากอนั สม่าํ เสมอ ดังน้ี.
พระสตุ ตนั ตปฎก ทีฆนกิ าย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ที่ 518 บทวา มาเปสโิ ข ความวา ทรงใหตีกลองประกาศในพระนครทรงใหฝ งู ชนกระทาํ การสรา ง. ก็สระโบกขรณี ๘๔,๐๐๐ แหงกผ็ ดุ ข้ึนพรอ มกับความเกิดข้ึนแหงพระราชดําริ ของพระราชา. บทวา มาเปสโิ ข นนั่ พระผูมพี ระภาคเจาตรสั หมายถงึ สระโบกขรณีเหลา นัน้ . บทวา ทฺวหี ิ เวทกิ าหิความวา ลอมดวยอิฐกอ นหนง่ึ ในท่ีสุดแหงอิฐทงั้ หลาย ลอมดว ยอฐิ กอนหนง่ึในท่ีสุดกําหนดบรเิ วณ. บทวา เอตทโหสิ ความวา ไดม แี ลวเพราะอะไร. ไดย นิ วา ในวนั หนึ่ง มหาบรุ ุษมองดมู หาชนไปอาบ และด่มื คิดวาชนเหลานัน้ ยอมไปดว ยเพศคนบา ถาพึงมดี อกไมประดบั ในสระนั่นแกชนเหลา น้ัน ก็จะเปนการดี ลําดับนนั้ พระเจา มหาสุทัสสนจกั รพรรดนิ น้ั ไดมีพระราชดาํ ริ ดังน.ี้ ในบทเหลา นน้ั บทวา สพโฺ พตกุ ความวา พระเจามหาสทุ สั สนจักรพรรดิทรงดําริวา ธรรมดาดอกไมยอ มบานในฤดเู ดยี วเทา น้นัก็เราจักทําโดยประการทีด่ อกไมจักบาน ในทุกฤด.ู บทวา โรปาเปสิความวา ทรงใหนาํ พชื อบุ ลนานาชนิดเปนตน จากท่นี ้นั ๆ ทรงใหป ลกู .ดอกไมทั้งหมด กส็ ําเร็จพรอมกับการเกดิ ขึ้นแหง พระราชดําริของพระเจา มหาสุทสั สนจกั รพรรดินนั้ . ชาวโลกเขา ใจวา ดอกไมนั้นพระราชาทรงใหป ลูก.ดวยเหตุน้นั พระผูมีพระภาคเจา จงึ ตรสั วา โรปาเปสิ ดังน้.ี ตั้งแตนั้นมามหาชนไดประดบั ดอกไมท ่ีเกิดจากนํา้ และเกิดจากบนบกนานบั ประการไปเหมอื นเลนนกั ขัตฤกษฉะน้นั . ลําดบั นนั้ พระราชาทรงมีพระราชประสงคท ี่จะทาํ ชนใหถงึ พรอมดว ยความสขุ ยิง่ กวา นั้น จึงทรงคิดจัดหาความสขุ แกช นดวยบทวา ยนฺนูนาหอิมาส โปกฺขรณนี ตีเร เปน ตน แลวทรงกระทํากจิ ทงั้ ปวง. ในบรรดาบทเหลานั้น บทวา นหฺ าเปสุ ความวา คนอืน่ ชําระรา งกาย คนอนื่ ประกอบ
พระสตุ ตันตปฎ ก ทีฆนิกาย มหาวรรค เลม ๒ ภาค ๑ - หนาท่ี 519จณุ ทงั้ หลาย คนอืน่ นาํ น้าํ มาใหแ กผอู าบน้ําท่ีขอบสระโบกขรณี คนอืน่ รบั ผาและใหผา . บทวา ปฏ เปสิ ความวา ทรงตง้ั อยางไร. ทรงต้งั พนักงานประดบั ประดาอนั สมควรแกสตรี และบรุ ุษทัง้ หลาย ทรงตงั้ เพียงสตรีเทาน้นัดวยสามารถบําเรอในทนี่ นั้ ๆ ทรงตงั้ กจิ ท้งั หมดทเี่ หลือดวยสามารถการบรจิ าคทรงใหตีกลองประกาศวา พระเจา มหาสุทสั สนจกั รพรรดทิ รงถวายทาน ทานท้งั หลายจงบรโิ ภคทานนน้ั . มหาชนมาสขู อบสระโบกขรณอี าบนํ้า เปลีย่ นผา ลบู ไลดว ยของหอมตาง ๆ ประดับประดาอนั วจิ ติ ร ไปโรงทาน กินและด่ืมสงิ่ ที่ตอ งการในบรรดายาคู ภัต และขบเคย้ี วหลายประการ และเครอ่ื งดื่ม ๘ อยาง นุงหม ผาฝายอันละเอียดออน มีสีตาง ๆ เสวยสมบัติละบุคคลผมู ีของเชนนนั้ ไป. คนที่ไมม ขี องเชน นนั้ ถอื เอาแลว จากไป. บุคคลทน่ี ง่ั ในชาง มา และยานเปนตนเทย่ี วไปนดิ หนอ ย ไมต องการก็จากไป ตอ งการก็ถอื เอาไป. บคุ คลท่นี อนแมในท่นี อนอันประเสรฐิ เสวยสมบัตแิ ลว ไมต องการกจ็ ากไป ตอ งการกร็ ับไป.ผทู ี่เสวยสมบัติกับสตรีทงั้ หลาย ไมต อ งการก็จากไป ตองการกร็ บั เอาไป.ผปู ระดับประดาเครื่องรัตนะเจ็ดชนิด เสวยสมบัตแิ ลว ไมต อ งการกจ็ ากไปตองการก็รับเอาไป. ทานแมน ้ัน พระเจามหาสุทัสสนจกั รพรรดิทรงลกุ ข้ึนแลวก็ทรงถวาย. การงานอยางอืน่ ของชาวชมพทู วปี ทง้ั หลายไมม .ี ชาวชมพทู วีปเทีย่ วบริโภคทานของพระราชาเทา นน้ั . ลําดับนนั้ พราหมณคหบดที ั้งหลายคดิ วา พระราชานี้ แมเมื่อจะถวายทานปานนี้ ก็ไมท รงใหน าํ อะไรมาวา ทา นท้ังหลายจงใหขา วสารเปน ตนหรอื ใหน้ํานมเปนตน แกเ รา กข็ อน้นั ไมส มควรทีจ่ ะนง่ิ ดูดายวา พระราชาของพวกเรา ไมทรงใหนาํ มา. พราหมณค หบดีเหลา น้ัน ก็รวบรวมทรัพยสมบัติจาํ นวนมากนาํ ไปทูลถวายแดพ ระราชา. เพราะฉะน้ัน พระผมู ีพระภาคเจาจงึ ตรัสวา อถโข อานนทฺ พฺราหมฺ ณคหปตกิ า ดังน้ีเปน ตน .
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 560
Pages: