Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore tripitaka_48

tripitaka_48

Published by sadudees, 2017-01-10 01:15:41

Description: tripitaka_48

Search

Read the Text Version

พระสุตตนั ตปฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนาที่ 101 ๑๓. ปฐมสณุ สิ าวิมาน วาดวยสณุ สิ าวมิ าน ๑[๑๓] พระโมคคัลลานะถามวา ดกู อนเทวดา ทา นมวี รรณะงาม สองแสง สวางไปทุกทศิ เหมอื นกับดาวประกายพรึก เพราะ บญุ อะไร ทา นจึงมีวรรณะอยางนี้ เพราะบญุ อะไร ผลนจี้ ึงสาํ เร็จแกท า น และโภคะทกุ อยา งทน่ี า รกั จึงเกดิ ขนึ้ แกทาน. ดูกอ นเทพผี มู ีอานุภาพมาก อาตมาขอถามทาน ครงั้ เปนมนุษยอยู ทา นไดท ําบญุ อะไรไว เพราะบญุ อะไร ทานจึงมีอานภุ าพอันรุงเรื่องถงึ อยางน้ี อนงึ่ วรรณะ ของทานจงึ สวา งไสวไปทกุ ทศิ . เทวดานน้ั อันพระโมคคลั ลานะซักถาม แลวดใี จ กพ็ ยากรณปญ หาของกรรมที่มผี ลอยางนวี้ า คร้งั เปน มนษุ ยอยูในหมูมนุษย ดฉี นั ไดเ ปน บุตรสะใภอยใู นตระกูลแหงพอผวั ไดเ ห็นภกิ ษผุ ู ปราศจากกิเลสดุจธลุ ี ผองใส ไมข ุนมวั ก็เล่อื มใส ไดถ วายขนมครึ่งหนึง่ แกภกิ ษุรูปนั้นดว ยมอื ทัง้ สองของ ตน คร้ันถวายขนมครึ่งหนง่ึ แลว ดฉี นั จึงมาบันเทงิ อยูใ นสวนนันทนวัน เพราะบุญน้ัน ดฉี ันจึงมวี รรณะ อยา งนี้ เพราะบญุ น้นั ผลน้ีจึงสําเร็จแกด ฉี นั อนง่ึ โภคะทุกอยางทนี่ ารักจึงเกดิ แกด ีฉนั เพราะบุญน้ัน

พระสุตตันตปฎ ก ขุททกนกิ าย วมิ านวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ท่ี 102 ดฉี นั จงึ มีอานุภาพรุงเรอื งอยา งน้ี และวรรณะของดฉี นั จงึ สวา งไสวไปทุกทศิ . จบปฐมสณุ สิ าวิมาน อรรถกถาปฐมสุณสิ าวิมาน ปฐมสณุ สิ าวิมาน มคี าถาวา อภกิ ฺกนเฺ ตน วณเฺ ณน เปนตน.ปฐมสุณิสาวิมาน้นั เกิดขน้ึ อยางไร ? สะใภข องครอบครวั ผูหนึง่ ในเรือนหลงั หน่งึ ในกรุงสาวตั ถี เห็นพระเถระขณี าสพเขา มาบณิ ฑบาตยงั เรอื น กเ็ กดิ ปต ิโสมนัสวา นี้บุญเขตอนั ยอดเยยี่ มมาปรากฏแกเราแลว จงึ แบงขนมสวนหนึ่งซงึ่ ตนไดมาแลวนอ มเขาไปถวายพระเถระดว ยอาการเออ้ื เฟอ . พระเถระรับขนมน้นั อนโุ ม-ทนาแลวก็ไป. ตอ มา สะใภผ นู น้ั ก็ตายไปบังเกิดในภพดาวดึงส. คาํ ท่ีเหลอื ทงั้ หมด กเ็ ชน เดียวกบั ทก่ี ลา วมาแลวในหนหลังนน่ั แล. ดวยเหตุนั้นพระธรรมสังคาหกาจารยจ งกลา ววา ทา นพระโมคคลั ลานะถามวา ดูกอนเทวดา ทา นมีวรรณะงาม สอ งสวา งไป ทุกทิศ ประหน่งึ ดาวประกายพรึก เพราะบญุ อะไร วรรณะของทา นจงึ เปน เชนน้ี เพราะบุญอะไร ผลนี้ จงึ สาํ เร็จแกท าน และโภคะทกุ อยางทีน่ ารกั จงึ เกดิ แกท าน. ดกู อนเพพีผูม อี านภุ าพมาก อาตมาขอถามทา น ครน้ั เกดิ เปน มนษุ ย ทานไดท าํ บญุ อะไร เพราะบญุ

พระสตุ ตันตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย วมิ านวัตถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ที่ 103 อะไร ทานจึงมอี านภุ าพรุงเรอื งอยา งน้ี และวรรณะ ของทา นจงึ สวา งไสวไปทกุ ทศิ . เทวดาองคนน้ั ดีใจ ถูกทานพระโมคคลั ลานะ ถามแลว ก็พยากรณปญหาของกรรมท่มี ีผลอยา งนี้ จึงกลา วตอบวา คร้งั เกิดเปนมนษุ ยอยูใ นหมูมนษุ ย ดฉี ันเปน สะใภใ นเรือนพอผวั . ดฉี นั เหน็ พระภกิ ษุผูป ราศจาก กิเลสดุจธุลี ผอ งใสไมหมนหมองก็เล่ือมใส จงึ ได ถวายขนมแกท านดวยมอื ตนเอง ครัน้ ถวายขนมครึ่ง หน่งึ แลว กบ็ ันเทงิ อยูใ นสวนนนั ทนวัน. เพราะบญุ น้ัน วรรณะของดฉิ นั จึงเปน เชน นี้ เพราะบุญนน้ั ผลนจ้ี ึงสาํ เรจ็ แกดฉี ัน และโภคะ ทกุ อยา งที่นา รกั จึงเกิดแกดฉี ัน. เพราะบญุ นั้น ดีฉัน จึงมอี านุภาพมากอยางน้ี และวรรณะของดฉี นั จงึ สวา งไสวไปทุกทศิ . บรรดาบทเหลานน้ั บทวา สณุ สิ า ไดแ ก ภรยิ าของบตุ ร. จรงิ อยูบิดาของสามีแหง หญิง เรียกกันวาสสั สรุ ะ พอผัว. สว นหญงิ [ ภริยาของบตุ ร] ของบิดาสามนี ั้น เรยี กกนั วา สุณิสา สะใภ เพราะเหตนุ น้ั เทวดาหมายถึงบิดาของสามนี ั้น จึงกลา ววา ไดเปน สะใภ ในเรอื นของพอ ผวั . บทวา ภาคฑฺฒภาค ความวา ไดถวายขนมครง้ั หนึ่ง จากสวนท่ีตนไดม า. ดวยบทวา โมทามิ นนฺทเน วเน เทวดากลา ว เพราะพระเถระ

พระสตุ ตนั ตปฎก ขทุ ทกนิกาย วิมานวัตถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ท่ี 104พบตนในสวนนันทนวนั . คาํ ทเ่ี หลือ มีนัยทก่ี ลาวมาแลว ท้ังนนั้ แล. จบอรรถกถาปฐมสุณสิ าวมิ าน ๑๔. ทุติยสุณสิ าวิมาน วา ดวยสณุ สิ าวมิ าร ๒ [๑๔] พระโมคคลั ลานะถามวา ดูกอ นเทวดา ทานมีวรรณะงาม สอ งแสงสวา ง ไปทกุ ทศิ เหมือนกบั ดาวประกายพรกึ เพราะบญุ อะไร ทา นจงึ มีวรรณะเชน นี้ เพราะบุญอะไร ผลนี้ จงึ สาํ เร็จแกทาน และโภคะทกุ อยา งทนี่ า รักจึงเกดิ แกท า น. ดูกอ นเทพีผมู อี านุภาพมาก อาตมาขอถามทาน ครง้ั เกดิ เห็นมนุษยอยู ทานไดท าํ บญุ อะไรไว ทา นจึง มอี านภุ าพอนั รุงเรืองถึงอยา งนี้ และวรรณะของทาน จึงสวา งไสวไปทกุ ทิศ. เทวดานน้ั ถกู พระโมคคลั ลานเถระถามแลว ดใี จ ไดพยากรณปญ หาของกรรมที่มผี ลอยา งน้วี า ครั้งเปนมนษุ ยอยใู นหมูม นุษย ดีฉนั ไดเ ปน บตุ รสะใภอยูในตระกูลแหงพอผัว ไดเ หน็ ภกิ ษุผู ปราศจากกิเลสดจุ ผองใส ไมขุน มัว กเ็ ลื่อมใส ไดถ วายชน้ิ ขนมแกภ ิกษุรูปนนั้ ดวยมอื ตนเอง ครน้ั

พระสุตตันตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย วมิ านวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนาที่ 105 ถวายแลว จึงมาบนั เทิงใจอยูในสวนนนั ทนวัน เพราะ บญุ นน้ั ดฉี ันจึงมีวรรณะเชน นี้ เพราะบญุ นั้น ผลนี้ จึงสําเร็จแกดฉี ัน อนง่ึ โภคะทกุ อยางท่ีนารกั จงึ เกิด แกดีฉัน เพราะบุญน้ัน ดีฉนั จงึ มอี านุภาพรงุ เรือง อยา งน้ี และวรรณะของดฉี นั จงึ สวา งไสวไปทุกทศิ . จบทุติยสุณสิ าวิมาน อรรถกถาทุติยสุณิสาวมิ าน ทตุ ิยสุณสิ าวมิ าน มคี าถาวา อภิกฺกนเฺ ตน วณฺเณน เปน ตน . ก็ในทตุ ิยสุณิสาวิมานนนั้ เคยกลาวมาแลวทงั้ น้นั . ในวัตถปุ ปต ตเิ หตเุ กดิ เร่อื งตา งกันเฉพาะถวายขนมสดเทาน้นั . ดว ยเหตุน้ัน พระธรรมสังคาหกาจารยจงึ กลา ววา ทา นพระโมคคัลลานะถามวา ดูกอ นเทวดา ทานมวี รรณะงาม สองสวา งไป ทุกทศิ ประหนึง่ ดาวประกายพรกึ เพราะบุญอะไร วรรณะของทานจงึ เปน เชน น้ี เพราะบญุ อะไร ผลนี้ จึงสาํ เร็จแกท าน และโภคะทุกอยา งทนี่ า รกั จงึ เกิด แกท า น. ดกู อนเทพผี ูมอี านุภาพมาก อาตมาขอถาม ทาน ครัง้ เกิดเปนมนษุ ย ทานไดท ําบุญอะไรไว เพราะบญุ อะไร ทา นจึงมีอานภุ าพรุงเรอื งอยา งน้ี และ วรรณะของทานจึงสวางไสวไปทกุ ทิศ.

พระสตุ ตนั ตปฎก ขทุ ทกนกิ าย วมิ านวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนาที่ 106 เทวดาองคน ั้นดใี จ ถกู ทา นพระโมคคัลลานะ ถามแลว ก็พยากรณป ญ หาของกรรมท่ีมผี ลอยางน้ี กลาวตอบวา ครั้งเกิดเปน มนษุ ยใ นหมูมนุษย ดีฉนั เปนบุตร สะใภในเรอื นพอผัว ดิฉนั ไดเหน็ พระภิกษผุ ูปราศจาก กิเลสดุจธุลี ผองใสไมหมนหมอง กเ็ ลื่อมใสแลว จงึ ไดถ วายขนมสดครงั้ หนึ่งแกทานดว ยมือตนเอง คร้นั ถวายช้นิ ขนมสดแลว กบ็ ันเทงิ อยูในสวน นันทนวัน. เพราะบุญนั้น วรรณะของดฉี นั จงึ เปน เชน น้ี เพราะบญุ นัน้ ผลนจ้ี งึ สําเรจ็ แกด ฉี ัน และโภคะ ทุกอยางท่ีนารกั จึงเกดิ แกด ีฉนั . ขาแตทา นภกิ ษุผมู ีอานภุ าพมา ดีฉนั ขอบอก แกทา น คร้งั เกิดเปน มนษุ ย ดฉี ันไดทาํ บญุ ใดไว เพราะบุญน้ัน ดฉี ันจงึ มอี านุภาพรงุ เรอื งอยางน้ี และ วรรณะของดีฉนั จงึ สวา งไสวไปทุกทิศ. บรรดาบทเหลาน้ัน บทวา ภาค ไดแ ก สวนของขนมสด ดว ยเหตนุ ัน้ เทวดาจงึ กลา ววา ครน้ั ถวายชน้ิ ขนมสดแลว . ขนมทที่ าํ ดว ยขาวเหนียว ทานเรยี กวากุมมาส ขนมสด. คําท่ีเหลือ มีนัยทกี่ ลา วไวแลวท้งั นั้น. จบอรรถกถาทุตยิ สณุ สิ าวมิ าน

พระสตุ ตันตปฎ ก ขุททกนิกาย วมิ านวัตถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ท่ี 107 ๑๕. อตุ ตราวมิ าน วา ดว ยอตุ ตราวมิ าน[๑๕] พระโมคคลั ลานะถามวา ดกู อ นเทวดา ทานมวี รรณะงาม สอ งแสงสวา ง ไปทุกทิศ เหมือนกบั ดาวประกายพรกึ เพราะบญุ อะไร ทานจงึ มีวรรณะอยา งนี้ เพราะบญุ อะไร ผลน้ี จึงสาํ เรจ็ แกทาน และโภคะทกุ อยา งทีน่ า รกั จงึ เกิด แกทาน. ดูกอนเทพีผมู อี านภุ าพมาก อาตมาขอถามทาน ครั้งเปน มนุษย ทานไดทําบุญอะไรไว เพราะบุญอะไร ทา นจึงมอี านุภาพรุงเรอื งอยางน้ี อนงึ่ วรรณะของ ทานจงึ สวา งไสวไปทกุ ทิศ. เทวดานั้น ถูกพระโมคคัลลานเถระถามแลว ดใี จ ไดพยากรณปญหาของกรรมทม่ี ผี ลอยางนว้ี า เมื่อดีฉนั ยงั ครองเรือนอยู ดฉี นั ไมมีความริษยา ไมม คี วามตระหน่ี ไมตเี สมอ ไมโกรธ อยูใ นโอวาท ของสามี ไมประมาทเปน นจิ ในวันอโุ บสถ เขา จํา อโุ บสถอันประกอบดวยองค ๘ ประการ ตลอดวัน ๑๔ ค่าํ วนั ๑๕ คํ่า และวนั ๘ ค่ําแหง ปกษ และ ตลอดปาฏหิ ารยิ ปกษ [ วนั รับวนั สง ] สาํ รวมในศลี ระมัดระวังจาํ แนกทาน เขา อยปู ระจําวมิ าน เวน จาก ปาณาตบิ าต ๑ งดเวนจากความเปน ขโมย ๑ ไมประ-

พระสตุ ตันตปฎก ขุททกนกิ าย วิมานวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนาท่ี 108 พฤตลิ ว งประเวณี ๑ เวน ขาดจากการพดู เท็จ ๑ หาง ไกลจากการด่ืมนํา้ เมา ๑ ยนิ ดีในสกิ ขาบททัง้ ๕ ดฉี นั เปนผฉู ลาดในอริยสัจธรรม เปนอบุ าสกิ าของพระ- โคดมผมู ีพระจกั ษุทรงพระยศ ดฉี นั นนั้ เปน ผมู ยี ศโดย ยศก็เพราะศลี ของตนเอง ดฉิ นั ไดเ สวยผลแหงบญุ ของตนอยู จึงสขุ ใจสุขกายไรโ รค เพราะบุญนนั้ ดีฉันจงึ มีวรรณะเชนนี้ เพราะบุญนัน้ ผูนี้จงึ สาํ เร็จ แกดฉี นั โภคะทกุ อยางท่ีนารกั จึงเกิดแกดีฉนั . ขา แตท านภิกษผุ มู อี านภุ าพมาก ดีฉันขอบอก แกทา น ครั้งเปน มนุษยอยู ดฉี นั ไดทําบญุ ใดไว เพราะบุญนนั้ ดฉี ันจึงมีอานภุ าพรุงเรืองอยางนี้ อนง่ึ วรรณะของดฉี นั จึงสวางไสวไปทกุ ทศิ . กแ็ ลเทพธดิ าสัง่ ความวา ทานเจาขา ขอทานไดก รณุ านําความไปกราบทลู แดพ ระผูมีพระภาคเจาตามคําของดฉี นั ดวยเถดิ วา นางอตุ ตรา-อุบาสิกา ขอถวายบังคมพระบาทยุคลของพระผมู ีพระเจาดวยเศยี รเกลาขาแตท า นผเู จริญ ขอ ทพ่ี ระผมู พี ระภาคเจา พงึ ทรงพยากรณดฉี ัน ในสามัญผลอยางใดอยางหน่ึงนนั้ ไมน าอัศจรรยเลย เพราะพระผมู ีพระ-ภาคเจาทรงพยากรณดฉี นั ไวในสกทาคามผิ ลน้นั แลว . จบอตุ ตราวมิ าน

พระสตุ ตันตปฎ ก ขุททกนกิ าย วมิ านวัตถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ที่ 109 อรรถกถาอุตตราวิมาน อตุ ตราวิมาน มีคาถาวา อภกิ กฺ นเฺ ตน วณเฺ ณน เปนตน . อุตตรา-วิมานนน้ั เกดิ ขน้ึ อยางไร ? พระผูม พี ระภาคเจา ประทบั อยู ณ พระเวฬุวนั กลนั ทกนิวาปสถานกรงุ ราชคฤห. สมยั นัน้ บุรุษเขญ็ ใจ ชอื่ ปณุ ณะ อาศัยราชคฤหเศรษฐีเลยี้ งชพี อยู. ภรยิ าของเขาช่ือวา อตุ ตรา. หญิงทีเ่ ปน คนในเรือน ช่ือวาอุตตรา มี ๒ คน รวมทง้ั ธดิ า [ ของเขาดวย ] ตอ มาวนั หนงึ่ เขาโฆษณาวา มหาชนในกรุงราชคฤหควรเลน นักษตั ร ๗ วนั . เศรษฐีฟง เรอื่ งน้ันแลว พดู กะปุณณะซง่ึ มาแตเชา วา พอ เอย คนใกลบา นเรือนเคยี งของเราประสงคจ ะเลน นกั ษัตรกัน เจา เลา จกั เลน นักษตั รหรือจักทาํ งานรบั จาง.ปุณณะตอบวา นายทา น ธรรมดางานนักษตั ร ก็สาํ หรบั คนมที รพั ยด อกขอรบั . สวนในเรือนของกระผม ไมมีแมแ ตท รพั ยแ ละขาวสารทีจ่ ะกินในวนั พรุงน้ี กระผมไมตองการงานนักษัตร ไดโ คก็จักไปไถนา. เศรษฐีกลา ววา ถาอยางน้ัน กจ็ งรบั เอาโคไป. เขารับเอาโคงานและไถจางงานไป กลาวกะภรยิ าวา แมน าง ชาวเมอื งเลนงานนักษตั รกนั เพราะเปนคนจน ฉนั กต็ อ งไปทํางานรบั จา ง เจา หุงตมอาหารเปน ๒ เทา ในวันน้ีกอนแลว คอ ยนําไปใหฉ นั นะ แลว ก็ไปนา. แมทานพระสารบี ตุ รเถระ เขา นโิ รธสมาบัติ ๗ วันแลว ออกจากนิโรธสมาบตั ินน้ั สํารวจดูวา วนั นี้ เราควรจะสงเคราะหใครเลา หนอก็เหน็ ปุณณะเขา อยูใ นขา ย คอื ญาณของตน ใครค รวญดวู า ปุณณะผนู ี้มศี รัทธาอาจสงเคราะหเราไหมหนอ กร็ ูวา เขามีศรัทธาสามารถสงเคราะหได และเขาจะไดม หาสมบัติ เพราะขอ นน้ั เปนปจจยั จงึ ถอื บาตรจวี ร

พระสุตตนั ตปฎก ขุททกนกิ าย วมิ านวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนาท่ี 110ไปยังที่ เขาไถนา เห็นกอไมก อหนง่ึ ใกลริมบอ จึงยืนอยู. ปณุ ณะเหน็พระเถระแลว หยุดไถนา ไหวพระเถระดวยเบญจางคประดษิ ฐ คดิ วาพระเถระคงตอ งการไมช ําระฟน จงึ ทาํ กปั ปย ะไมช ําระฟน แลว ถวาย. พระ-เถระจึงนาํ บาตรและผากรองนํ้าใหเขาไป. เขาคดิ วา พระเถระคงตอ งการนาํ้ จึงรับบาตรและผากรองน้ําน้นั กรองนาํ้ แลวถวาย. พระเถระคิดวา ปุณณะนี้ อยูห ลงั เรือนของคนอนื่ ๆ ถาเราจกั ไปยงั ประตูเรือนของเขา ภริยาของปุณณะนี้คงจกั ไมอ าจเห็นเราได จาํ เราจกั อยใู นที่ตรงน้ีแหละ จนกวา ภรยิ าของเขานาํ อาหารเดินทางมา. พระ-เถระรออยูหนอ ยหน่ึงในท่ตี รงนน้ั นัน่ แหละ รูวา ภริยาของเขตเดินทางมาแลว ก็ออกเดนิ บายหนาไปภายในกรงุ . ระหวางทาง นางเหน็ พระเถระกค็ ดิ วา บางคราวเม่ือมไี ทยธรรม เราก็ไมพ บพระผูเปนเจา บางคราวเมอ่ื เราพบพระผเู ปนเจา ก็ไมมไี ทยธรรม แตว ันนี้ เราพบพระผูเปน เจาดว ย ไทยธรรมน้ีกม็ อี ยูดว ย พระผูเปน เจา จักสงเคราะหเราไดไ หมหนอ.นางลดภาชนะอาหารลงแลว ไหวพระเถระดว ยเบญจางคประดษิ ฐก ลาววาทา นเจาขา ขออยา คดิ เลยวา ของนีป้ อนหรอื ประณตี โปรดสงเคราะหดีฉนั ผเู ปนทาสเถดิ . ขณะนนั้ พระเถระก็นอมบาตรเขาไป เมือ่ นางเอามือขางหนง่ึ ถือภาชนะ เอามืออกี ขา งหนึ่งถวายอาหารจากภาชนะน้นัเมอ่ื ถวายไดค รึ่งหนึ่ง ทานก็เอามอื ปด บาตรบอกวา พอละ. นางจงึ กลาววาทานเจาขา อาหารนี้มีสวนเดยี ว ไมอาจแบงเปน สองสวนได ขอทานโปรดอยาสงเคราะหเ ฉพาะโลกนี้แกท าสของทานเลย สงเคราะหถ งึ โลกหนาดว ย ดฉี ันปรารถนาจะถวายหมดไมเหลอื เลยเจา ขา แลวเอาอาหารทง้ั หมด วางลงในบาตรของทา น ทงั้ ความปรารถนา ขอดฉี นั วา จงมสี วน

พระสุตตันตปฎก ขทุ ทกนิกาย วิมานวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ท่ี 111แหงธรรมท่ที า นเห็นแลว ดว ยนะเจา ขา. พระเถระกลาววา จงสมปรารถนาเถิด แลว ยืนทาํ อนุโมทนา น่ังฉนั ณ ทสี่ ะดวกดว ยนํ้าแหงหนงึ่ . แมนางกก็ ลับไปหาขาวสารหงุ เปน ขาวสวย. สวนปณุ ณะไถทปี่ ระมาณ ๘ กรีส ไมอาจทนความหิวได กป็ ลดโคเขา ไปยงั รม ไมแหง หน่งึ นง่ั มองนางอยู. ขณะน้ัน ภรยิ าของเขาถืออาหารเดนิ ไป เหน็ เขาแลว ก็คิดวา เขาหิวน่ังมองเรา ถาจักตะคอกเราวา ชางชาเหลอื เกนิ แลว ตีดว ยดามปฏกั ไซร กรรมท่เี ราทํากจ็ ักไรประโยชนจาํ เราจักบอกกลาวเขาเสยี กอ น จงึ พดู อยา งน้ีวา นายจา วนั นี้ดีฉนั ทําจิตผอ งใสทัง้ วัน โปรดอยทู ํากรรมทด่ี ีฉันทาํ ไวแลวใหไรป ระโยชนเ ลย ดฉี นันําอาหารสาํ หรับนายมาแตเ ชา ระหวางทาง พบทา นพระธรรมเสนาบดีจึงถวายอาหารสําหรบั นายแกท า น แลว กลับบานหุงอาหารแลว จงึ มา นายจาโปรดทําจิตใหผองใสเถิด. ปณุ ณะนนั้ ถามวา แมนางพูดอะไร ฟงเรื่องน้นัสักคร้ัง แลว กลาววา แมนาง เจาถวายอาหารสําหรับฉันแกพระผูเปนเจาชา งทําดีแท แมฉ ันก็ถวายไมชําระฟนและน้ําบว นปากแกท านเมือ่ เชาตรูวนั นี้ เขามใี จผอ งใส ยินดถี อยคาํ น้นั ลําบากกายเพราะไดอาหารตอนสายจึงวางศรี ษะหนุนตักของนางแลว ก็หลบั ไป. ลาํ ดับนน้ั เน้อื ที่ ๆ เขาไถตอนเชา ละเอียดเปนฝุน กลายเปน ทองสีแดงไปหมด ปรากฏงดงามเหมอื นกองดอกกรรณกิ าร. เขาตืน่ แลวมองดูกลาวกะภริยาวา แมน าง เนื้อที่ ๆ ฉนั ไถไวแ หงหนง่ึ ปรากฏชดั แกฉ นัเปน ทองไปหมด หรือลูกตาของฉนั ฝาดไป เพราะไดอ าหารสายเกินไปหนอภรยิ ากลาววา นายจา มนั ปรากฏแกส ายตาของดีฉันก็อยา งน้ันเหมือนกนัจะ . เขาลกุ ข้นึ เดินไปที่น้ันหยบิ ขึ้นมากอนหน่งึ ทุบทหี่ ัวไถ กร็ ูวา เปน ทอง

พระสุตตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย วมิ านวัตถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ที่ 112จรงิ ๆ คิดวา โอ ! ผลในทานทเี่ ราถวายพระผเู ปน เจา พระธรรมเสนาบดีแสดงในวันนี้แลว สหิ นอ เราไมอ าจปกปด ทรพั ยเทานไ้ี วบ รโิ ภคไดแลวบรรจทุ องเตม็ ภาชนะอาหาร ทภ่ี ริยานาํ มา ไปยงั ราชสกลุ พระราชาพระ-ราชทานโอกาสแลวเขาไปถวายบังคม เมื่อตรัสถามวา อะไรกนั พอเอยจงึ กราบทูลวา ขา แตส มมติเทพ วนั นเี้ น้อื ท่ี ๆ ขาพระบาทไถนา กลายเปนกองทองไปหมด จะโปรดใหนาํ ทองทเ่ี กดิ นาไวก ็ควรดว ยเกลา พระเจา ขา.พระราชาตรสั ถามวา เจาเปนใคร. กราบทูลวา ขา พระบาท ช่อื ปุณณะพระเจาขา. ตรัสถามวา วันนเ้ี จา ทาํ บญุ อะไร. กราบทลู วา ขา พระบาทถวายไมชําระฟนและนํ้าบวนปากแตเชาตรแู กท า นพระธรรมเสนาบดี สวนภรยิ าของขาพระบาท ถวายอาหารท่ีเขานํามาสาํ หรับขา พระบาทแกพ ระผ-ูเปน เจาเหมือนกนั พระเจาขา. พระราชาทรงสดบั เรือ่ งนัน้ แลว ตรสั วา ทานท้ังหลาย เขาวาผลทานทถ่ี วายทานพระธรรมเสนาบดีแสดงออกแลวในวันนน้ี ี่เอง ตรสัถามวา พอเอย เจาจะทาํ อยา งไร. กราบทลู วา โปรดสง เกวียนหลายพนั เลม ใหข นทองเขา มาเถิด พระเจาขา. พระราชาก็ทรงสงเกวยี นไปขนเม่อื พวกราชบรุ ษุ ถอื เอาทอง ดวยพดู วา สมบัตขิ องพระราชา ทองท่ีถอื เอากก็ ลายเปนดินไป จึงไปกราบทูลพระราชา. ตรสั ถานวา พวกเจาพดู วา กระไร จึงถือเอา. กราบทูลวา สมบตั ิของพระองค พระเจา ขา.จึงทรงส่ังวา พอ เอย พวกเจาจงไปใหม กลาววา สมบตั ิของปุณณะ. แลวถอื เอามา. พวกราชบรุ ษุ ก็ปฏิบัติตามที่ทรงสงั่ ไว. ทองที่ถอื เอา ๆ ก็เปนทองดังเดมิ . พวกเขาขนทองมาหมดแลว ทําเปน กองไวทพ่ี ระลานหลวงกองสูงถงึ ๘๐ ศอก. พระราชาจึงทรงสั่งใหช าวกรุงประชุมกนั ตรสั ถามวา

พระสุตตันตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย วิมานวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ที่ 113ในพระนครนี้ ทองของใครมเี ทานบี้ า ง กราบทูลวา ไมมี พระเจาขา .ตรัสถามวา ควรใหอะไรแกเ ขาเลา . กราบทูลวา ฉัตรตาํ แหนง เศรษฐี พระ-เจาขา พระราชาตรสั วา ปณุ ณะจงเปนเศรษฐีมีทรพั ยมาก แลว พระราช-ทานฉัตรตําแหนง เศรษฐีแกเขาพรอมดว ยโภคสมบัตยิ ิง่ ใหญ. ครง้ั นัน้ ปุณณะนน้ั กราบทูลพระราชาวา ขาแตส มมติเทพ ขาพระบาทอยใู นสกลุ อ่นื ตลอดเวลาเทานี้ ขอโปรดพระราชทานที่อยูแกข าพระบาทดว ย. พระราชาตรัสวา ถาอยา งน้ัน จงดู น่นั กองไมปรากฏอยูจงใหนํากองไมนัน้ มาปลูกเรือนเสีย ตรัสบอกสถานทเ่ี ปน เรือนของเศรษฐีเกา. ปุณณเศรษฐนี ้นั ใหปลูกเรือน ๒-๓ วนั เทา นน้ั ตรงที่น้ัน รวมงานมงคลขนึ้ บา นและงานมงคลฉลองฉัตรตาํ แหนงเปนงานเดยี วกัน ไดถ วายทานแกภกิ ษสุ งฆ มีพระพทุ ธเจาเปน ประมุข ๗ วนั ครั้งนั้น พระศาสดาเมื่อทรงอนโุ มทนาทาน ตรัสอนุปุพพีกถาแกเขา จบธรรมกถา ปณุ ณ-เศรษฐีภรยิ าและธิดาของเขา ชอ่ื อุตตรารวม ๓ คนไดเ ปน โสดาบัน. ตอ มา ราชคหเศรษฐีขอธดิ าของปณุ ณเศรษฐีใหบ ตุ รของตน ถกูปุณณเศรษฐปี ฏเิ สธ จึงกลาววา อยาทาํ อยางนี้เลย ทานอาศัยเราอยูตลอดเวลาเทานจี้ งึ ไดสมบตั ิ จงใหธ ดิ าของทานแกบ ุตรเราเถดิ ปณุ ณเศรษฐีนน้ั กลาววาพวกทา นเปนมิจฉาทฏิ ฐิ ธดิ าของเราเวนพระรัตนตรัยเสีย กอ็ ยูดวยไมไ ด เราจึงไมใ หธิดาแกบุตรของทานน้ัน. ครงั้ นัน้ กุลบุตรเศรษฐีคฤหบดีเปน ตน เปน อนั มาก พากนั ออนวอนปุณณเศรษฐีน้ันวา ทา นอยาทําลายความคนุ เคยกบั ราชคหเศรษฐนี ้ันเลย โปรดใหธดิ าแกเ ขาเถดิ ปณุ ณ-เศรษฐีนนั้ รับคําของคนเหลา นั้น แลวไดใ หธิดาในดิถีเพญ็ เดอื น ๘ ครั้งน้นั ต้งั แตมีสามี อตุ ตราธิดานั้น ไมไดเขา ไปหาภกิ ษุหรอื ภิกษุณี ถวายทาน










































































Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook