Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore tripitaka_48

tripitaka_48

Published by sadudees, 2017-01-10 01:15:41

Description: tripitaka_48

Search

Read the Text Version

พระสุตตันตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย วิมานวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ที่ 259๒. ผลมะพลบั สกุ ฯ ล ฯ๓. ออยทอ นหนึ่ง ฯ ล ฯ ๔. แตงโมผลหนึง่ ฯ ล ฯ ๕. ฟกทองผลหนึ่ง ฯ ล ฯ๖. ยอดผักตม ฯ ล ฯ๗. ผลลนิ้ จ่ี ฯ ล ฯ ๘. เชงิ กราน ฯ ล ฯ ๙. ผักดองกําหนงึ่ ฯ ล ฯ ๑๐. ดอกไมก ําหน่ึง ฯ ล ฯ๑๑. มัน ฯ ล ฯ ๑๒. สะเดากําหนง่ึ ฯ ล ฯ๑๓. น้าํ ผกั ดอง ฯ ล ฯ ๑๔. แปงคลุกงาค่วั ฯ ล ฯ๑๕. ประคดเอว ฯ ล ฯ ๑๖. ผา องั สะ ฯ ล ฯ๑๗. พดั ฯ ล ฯ ๑๘. พดั สี่เหลี่ยม ฯ ล ฯ ๑๙. พดั ใบตาล ฯ ล ฯ ๒๐. หางนกยงู กาํ หนงึ่ ฯ ล ฯ๒๑. รม ๒๒. รองเทา ฯ ล ฯ๒๓. ขนม ฯ ล ฯ

พระสุตตันตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย วมิ านวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ท่ี 260 ๒๔. ขนมตม ฯ ล ฯ ๒๕. นาํ้ ตาลกรวด แกภกิ ษุรูปหนึ่งผกู ําลังบณิ ฑบาตอยู นมิ นตพระ- คณุ เจาดวู ิมานของดีฉันนนั้ เถดิ ย่ิงกวา นน้ั ดีฉนั ยังเปน นางฟา ทมี่ รี ปู รา งและผวิ พรรณนารกั ท้งั ยงั เปน ผเู ลิศกวานางอัปสรตั้งพนั นางอกี ดว ย เพราะบญุ กรรม นั้น ดฉี นั จงึ มีวรรณะงามเชน น้ี ฯ ล ฯ และมรี ัศมี สวา งไสวไปทั่วทกุ ทิศ เพราะบญุ กรรมนนั้ . เมอื่ นางเทพธดิ าเหลาน้นั เฉลยผลกรรมท่ไี ดท ํามาเปน อันดอี ยางน้ีแลว คุตติลบณั ฑิตรา เริง บนั เทิงใจ เม่อื จะแสดงความชน่ื ชมยินดีของตนจงึ กลา ววา ขาพเจามาถงึ เมอื งสวรรควนั นี้ เปน การดแี ท เปนฤกษง ามยามดีทีข่ าพเจาไดเห็นนางเทพธิดาทัง้ - หลาย ทเ่ี ปน นางฟา มีรูปรางและผิวพรรณนา รกั ใคร ท้งั ยังไดฟ ง ธรรมอันแนะนาํ ทางบญุ กศุ ลจากเธอเหลา - น้ันดว ย แตน ้ีไป ขา พเจา จกั การทาํ บุญกศุ ลใหมาก ดวยการใหทาน ดวยการประพฤติธรรมสมาํ่ เสมอ ดวยการรักษาศลี สงั วร และดวยการฝกอินทรยี  ขา พเจา จักไดไ ปสสู ถานที่ ๆ ไปแลว ไมเ ศราโศก. จบคตุ ตลิ วิมาน

พระสตุ ตันตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย วิมานวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนาที่ 261 อรรถกถาคุตติลวมิ าน คตุ ติลวิมาน มคี าถาวา สตฺตตนฺตึ สุมธุร ดังนเี้ ปน ตน. คุตตลิ วมิ านน้นั เกดิ ขนึ้ อยา งไร ? เมอ่ื พระผมู ีพระภาคเจาประทบั อยู ณ กรงุ ราชคฤห ทา นพระ-มหาโมคคัลลานะ จาริกไปยังเทวโลก ตามนัยทกี่ ลาวแลว ในหนหลงั นนั่ แลครน้ั ไปถงึ ภพดาวดงึ ส เห็นเทพธิดา ๓๖ นาง แตละนางมีนางอัปสรเปน บรวิ าร เสวยทิพยสมบัตใิ หญใ น ๓๖ วมิ าน ซง่ึ ตัง้ อยู ณ ภพดาวดึงสนน้ั จึงถามถงึ กรรมท่เี ทพธดิ าเหลานนั้ ไดก ระทาํ มาในกาลกอ นตามลาํ ดับดว ยคาถาทัง้ หลาย ๓ คาถา มีอาทิวา อภกิ ฺกนเฺ ตน วณเฺ ณน มีวรรณงามยิ่งนัก ดงั น.้ี แมเทพธิดาเหลาน้ันกไ็ ดตอบตามลาํ ดบั คําถามของพระมหาโมคคัลลานเถระ โดยนยั มีอาทวิ า วตถฺ ุตตฺ มทายกิ า นารี ดีฉนั เปน นารีไดถ วาย ผาเน้อื ดี ดงั นี.้ ลําดับนน้ั พระเถระจึงออกจากเทวโลกลงมาสมู นุษยโลก ไดก ราบทูลความนั้นแดพ ระผูมพี ระภาคเจา . พระผูมพี ระภาคเจา ครนั้ ไดสดบั ดงัน้นั แลว จงึ ตรสั วา โมคคลั ลานะ เทพธิดาเหลา นน้ั มิไดตอบอยา งที่เธอถามในบดั นอี้ ยางเดยี วเทา น้ัน เมอื่ กอนกไ็ ดตอบอยางท่เี ราถามเหมือนกนั .พระเถระกราบทูลขอรองใหตรสั พระองคจ ึงไดต รสั เลาเร่ืองของพระองคครั้งเปนคุตตลิ ะอาจารยในอดตี ใหฟงดงั ตอไปนี้ ในครัง้ อดีต เม่อื พระเจาพรหมทัตเสวยราชสมบัติอยูในกรงุ พาราณสีพระโพธิสตั วอบุ ัติอยใู นตระกลู คนธรรพ ไดเ ปน อาจารยปรากฏชือ่ เสยี งเปนท่ีรูจ กั กันทว่ั ไปในทกุ ทิศโดยช่ือวา คุตตลิ ะ เชนเดียวกบั ตมิ พรูนารทะเพราะเปนผมู ศี ลิ ปะบริสุทธิใ์ นศลิ ปะของคนธรรพ. คุตตลิ ะน้ันเล้ยี งดมู ารดา

พระสุตตันตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย วิมานวัตถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนาท่ี 262บิดาผูแกเ ฒา ตาบอด. คนธรรพ ชื่อมุสิละ ชาวอุชเชนี ไดท ราบถึงความสาํ เร็จทางศิลปะของอาจารยคุตติละน้ัน จึงเขา ไปหาทาํ ความเคารพแลวยนืณ สวนขา งหน่งึ เม่ืออาจารยค ุตตกิ ารละกามวา ทา นมีธรุ ะอะไรหรือ จงึ บอกวาประสงคจ ะเรยี นศิลปะในสํานกั ของอาจารย. อาจารยค ุตติละมองดูมุสิละคนธรรพน น้ั เพราะเปนผฉู ลาดในการดูลกั ษณะ คดิ วา เจา นมี้ อี ัธยาศัยไมเ รียบรอ ยหยาบคาย จกั เปน คนไมรูจ กั คณุ คน ไมค วรสงเคราะห ดงั น้ีจงึ ไมใ หโ อกาสที่จะเรยี นศลิ ปะ มสุ ิละจึงเขา ไปหามารดาบดิ าของอาจารยคุตติละ ขอรองใหม ารดาบิดาชว ย. อาจารยคุตติละ เมื่อถกู มารดาบดิ าแคน ได จึงคิดวา ถอยคําของครู ควรแกคา ดังนี้ จงึ เรมิ่ บอกศลิ ปะแกมุสิละ เพราะอาจารยค ุตตลิ ะปราศจากความตระหน่ี และเพราะมีความกรุณาจงึ ไมทาํ อาจริยมุฏฐิ (หวงความรู) ใหมสุ ลิ ะศึกษาศลิ ปะโดยสิน้ เชิง. แมม ุสลิ ะนั้น เพราะเปนคนฉลาด เพราะสะสมบุญมากอนและเพราะไมเ กยี จครา น ไมชากเ็ รยี นจบศลิ ปะจึงคิดวา กรงุ พาราณสีน้ี เปนนครเลศิ ในชมพูทวปี ถา กระไร เราควรแสดงศิลปะแกบริษัทหนาพระทนี่ งั่ในนครนี้ เมือ่ เปนเชนน้ัน เราก็จกั ปรากฏชือ่ เสียงเปนทรี่ จู กั ยิ่งกวา อาจารยในชมพูทวปี ดงั น้ี. มสุ ลิ ะ จงึ บอกแกอ าจารยวา กระผมประสงคจ ะแสดงศิลปะหนาพระทนี่ ั่ง ขอทานอาจารยไ ดโปรดนํากระผมเขาเฝาดวยเถดิ .พระมหาสตั ว มคี วามกรณุ าวา มสุ ลิ ะนี้ เรียนศิลปะในสาํ นักของเราจงไดรับอปุ ถัมภ ดงั นี้ จงึ นําเขาเขา เฝา พระราชา แลวกราบทูลวา ขอเดชะฝา ละอองธุลพี ระบาท ขอพระองคไดโ ปรดทอดพระเนตรดูความชาํ นิชาํ นาญในการดดี พิณของลกู ศษิ ย ของขา พระพทุ ธเจา ผนู ีเ้ ถิด พระเจาขาพระราชาตรัสส่งั วา ดแี ลว ทรงสดบั การดีดพิณของมุสลิ ะนน้ั พอพระทยั

พระสุตตันตปฎก ขทุ ทกนิกาย วมิ านวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ท่ี 263ย่ิงนัก ครน้ั มุสลิ ะกราบทลู ลา ทรงหามแลว ตรสั วา เจา จงอยรู ับราชการกบั เราเถิด เราจักใหครงึ่ หนงึ่ จากสวนทใ่ี หแกอ าจารย. มุสิละกราบทลู วาขอเดชะ. ขา พระองคจะไมข อรับตาํ่ กวา อาจารย ขอพระองคไดโปรดพระ-ราชทานเทา กบั อาจารยเ ถดิ พระเจาขา เมอ่ื พระราชาตรัสวา เจา อยาพูดอยา งนั้นซิ ธรรมดาอาจารยเ ปนผใู หญ เราจกั ใหเ จาคร่งึ หนึ่งเทา นนั้ มุสิละกราบทลู วา ขอเดชะพระอาญาไมพนเกลา ฯ ขอพระองคไดโปรดทอดพระเนตรศลิ ปะของขาพระองคและอาจารยเ ถดิ พระเจา ขา แลวก็ออกจากกรงุ ราชคฤห เที่ยวโฆษณาไปในท่นี ้ัน ๆ วา จากน้ไี ป ๗ วัน จกั มกี ารแสดงศลิ ปะ ที่หนาพระลานหลวง ระหวางขาพเจา และอาจารยคุตติละขอเชญิ ผูประสงคจ ะชมศลิ ปะนนั้ จงพากนั นาชมเถิด. พระมหาสตั ว สดับดังนัน้ แลวคิดวา มสุ ิละนี้ ยงั หนุมมกี าํ ลัง สว นเราแกแลวกําลังก็นอ ย ถาเราแพ เราตายเสียดกี วา เพราะฉะนนั้ เราจะเขา ไปปาผกู คอตายละ จึงไปปา เกิดกลวั ตายกก็ ลับ อยากตายอกี ไปปากลวั ตายอกี ก็กลับ เมอ่ื พระมหาสัตวไป ๆ มา ๆ อยูอยา งน้ี ท่นี ัน้ เตยี นโลงไมม ีหญา เลย. ลําดับน้ัน เทวราชเขา ไปหาพระมหาสัตวป รากฏรปู ประ-ดษิ ฐานอยูบนอากาศ กลา วอยา งนว้ี า ทานอาจารยทาํ อะไร. พระ-มหาสัตวไดทลู ตอบแสดงความเจบ็ ใจของตนวา ขาแตทาวโกสยี  ขาพระองคไ ดสอนวิชาดดี พณิ ๗ สาย มเี สียงไพเราะมากนารน่ื รมย แกม ุสลิ ะผู เปน ศษิ ย เขาต้งั ใจจะดดี พิณประชันกับขาพระองค กลางเวที ขอพระองคไ ดโ ปรดเห็นท่ีพง่ึ แกขาพระองค ดวยเกดิ .

พระสตุ ตนั ตปฎ ก ขุททกนกิ าย วมิ านวัตถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนาที่ 264 อธิบายความวา ขาแตเทวราช ขาพระองคไ ดส อนศลิ ปะของคนธรรพมิใหเ สียงขบั รอ ง ๔ อยาง มเี สยี งเหมอื นนกยูงรอ งเปน ตน เส่ือมไปจากการจําแนกเสยี งเปนตน อนั ไดแ กวิชาชอื่ วา พณิ ๗ สาย เพราะแสดงเสยี ง ๗ อยา ง มเี สยี งเหมือนนกยูงรองเปนตน เพราะมีสาย ๗ สาย ช่ือวามเี สยี งไพเราะมาก เพราะทาํ เสียงนนั้ ไมใหเ สื่อมไปจากชนดิ ของเสียง ๒๒อยา ง ตามสมควร ดังนีจ้ งึ ชื่อ สุมธรุ ะ ช่ือวา นารนื่ รมย เพราะเสียงและพณิ นารืน่ รมยอยา งยงิ่ แกผฟู งโดยการเทียบกันและกัน เพราะเปน ผูฉลาดในการปรับเสียงครบ ๕๐ เสยี ง ตามที่เรียนมา เพราะเหตนุ ้นัขาพระองคไ ดสอนไดใหเ รียนไดใ หศ กึ ษาแกลกู ศษิ ย ชือ่ วา มุสิละ. มสุ ิละนั้นเปนลูกศษิ ย จะดดี พณิ ประชันกบั ขาพระองคผูเ ปนอาจารยข องตนบนเวที คือ ทาทาย เพ่อื แสดงความวเิ ศษของตนดวยการแขงดี เขาบอกกะขาพระองควา อาจารยจ งมาแสดงศิลปะกันเถิด ดงั นี้ ขาแตท าวโกสีย-เทวราช ขอพระองคจ งเปน ทีพ่ ึ่งอาศยั แกขา พระองคดวยเถดิ . ทาวสกั กเทวราชไดสดบั ดงั นัน้ เมือ่ จะทรงปลอบวา อาจารยอยากลวั เลย ขา พเจา เปนที่พึ่ง ชวยบรรเทาทุกขข องอาจารย จงึ ตรัสวา ทา นอาจารย ขา พเจา จะเปน ท่ีพึงของอาจารย ขาพเจาเปน ผูบูชาทานอาจารย ขาพเจาผเู ปน ศิษยจ ะ ไมป ลอ ยใหทานอาจารยแพ ทา นอาจารยจ ะตอ งชนะ นายมสุ ลิ ะผูเปนศษิ ยแนน อน. นัยวา พระมหาสตั วไดเ ปน อาจารยข องทาวสกั กเทวราชในอัตภาพกอ น. ดว ยเหตุน้ัน ทา วสักกเทวราชจึงกลา ววา อหมาจรยิ ปูชโก

พระสุตตันตปฎ ก ขุททกนิกาย วมิ านวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ท่ี 265ขาพเจา เปนผบู ชู าทา นอาจารย ดังนี้ ไมใ ชค แู ขงขนั เหมือนนายมุสิละ.เม่ือลูกศษิ ยเ ชน ขาพเจายง่ิ มีอยู อาจารยเ ชนทานจะแพไดอ ยา งไร. เพราะ-ฉะน้ัน ศษิ ยจ กั ไมช นะทา นอาจารยได. ทา นอาจารยนั่นแหละจักชนะนายมุสิละผูเ ปน ศิษยอยา งแนนอน. อธิบายวา นายมุสิละนน้ั เมอื่ แพแ ลว จักถงึความพินาศ. กแ็ ลครั้นทาวสักกเทวราชตรัสอยา งน้ี แลวจงึ ปลอบวา ในวนั ที่ ๗ ขาพเจา จกั มายังโรงแข็งขนั กัน ขอใหท านอาจารยวางใจ เลนดนตรีไปเถิด แลว กเ็ สดจ็ ไป. คร้นั ถึงวันท่ี ๗ พระราชาพรอ มดวยขาราชบริพารประทับนง่ั ณทองพระโรง. อาจารยค ตุ ติละและนายมุสิละ เตรียมตัวเพอื่ แสดงศลิ ปะเขา ไปถวายบังคมพระราชา นั่งบนอาสนะที่ตนได แลว ดีดพิณ ทา วสกั กะเสดจ็ ยืนบนอากาศ. พระมหาสัตวเ ห็นทา วสักกะนนั้ แตคนนอกน้นั ไมเ ห็น.พวกบรษิ ัทไดต้งั ใจฟง ในการดดี พิณของทัง้ ๒ คณะ ทาวสักกะตรสั กับอาจารยค ตุ ติละวา ทา นอาจารยจ งดดี สายท่ี ๑. เมอ่ื ดดี สายท่ี ๑ แลวพิณไดมเี สยี งกังวานไพเราะ ทาวสกั กะตรสั ตอ ไปวา ทา นอาจารยจงดีดสายที่ ๒ ที่ ๓ ท่ี ๔ ที่ ๕ ที่ ๖ ท่ี ๗. เมอ่ื ดดี พณิ เหลานั้นแลว พณิ กไ็ ดมีเสียงกองกงั วานไพเราะย่ิงขึ้น. นายมุสลิ ะเหน็ ดังน้นั เหน็ ทีวา ตนแพแนถึงกบั คอตก. พวกบริษัทตางราเริงยินดี ยกผืนผา โบกไปมา ซองสาธกุ ารแกอ าจารยคตุ ติละ. พระราชาตรัสสัง่ ใหนาํ นายมสุ ิละออกจากทอ งพระโรง.มหาชนเอากอนดินทอนไมเปนตน ขวา งปา จนนายมุสลิ ะถงึ แกค วามตายในทน่ี ้ันนั่นเอง. ทา วสกั กเทวราชแสดงความช่นื ชมยินดีกบั พระมหาบุรุษ แลวเสด็จกลับสูเทวโลกทันท.ี ทวยเทพทลู ถามทาวสักกะวา ขา แตมหาราช พระองค

พระสตุ ตันตปฎก ขทุ ทกนกิ าย วมิ านวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ที่ 266เสดจ็ ไปไหนมา คร้ันไดฟงเรอ่ื งราวน้ันแลว จึงพากนั กราบทูลวา ขา แตมหาราช พวกขา พระองคอ ยากเห็นพระอาจารยคตุ ติละ ขอประทานโอกาสขอพระองคท รงนาํ อาจารยคุตติละมาแสดงแกพวกขาพระองค ณ ท่นี ีเ้ ถิดทา วสกั กะสดบั คาํ ของทวยเทพแลว มีเทวบญั ชาใหม าตลี เอาเวชยันตรถไปรับอาจารยค ุตตลิ ะมาใหพวกเรา ทวยเทพอยากจะเหน็ อาจารยน ้ัน. มาตลีไดทําตามเทวบัญชา. ทา วสกั กะทรงทาํ ความชื่นชมยินดีกับพระมหาสตั วแลว ตรสั วา ทานอาจารยโ ปรดดีดพิณ ทวยเทพอยากฟง . อาจารยคตุ ติละทลู วา ขาพระองคเลย้ี งชพี ดวยศิลปะ เมื่อไมมีคา จา งก็จะไมแ สดงศลิ ปะ.ทา วสักกะตรสั ถามวา ก็อาจารยตองการคา จา งเชนไรเลา . อาจารยค ุตติละทลู วา ขาพระองคไมต อ งการคา จา งอยางอืน่ แตขอใหท วยเทพเหลานี้บอกถงึ กศุ ลกรรมที่ตนทาํ มาแลวในชาตกิ อนน่ันแล เปนคาจา งของขา-พระองคล ะ. ทวยเทพตางรับวาดีแลว . ลําดับน้ัน พระมหาสตั ว เมือ่ จะถามถงึ ความประพฤติชอบท่ีทวยเทพเหลานน้ั กระทําแลว ในอัตภาพกอน อันเปนเหตุแหงสมบัตินั้นโดยการประ-กาศถึงสมบัตทิ ท่ี วยเทพเหลานัน้ ไดใ นครงั้ นั้นเฉพาะตน จึงถามดว ยคาถามีอาทวิ า ภกิ ฺกนฺเตน วณเฺ ณน ดงั นี้ ดจุ ทา นมหาโมคคลั ลานะถามฉะนน้ั .แมท วยเทพเหลานั้นก็ตอบแกอ าจารยคตุ ติละ เหมือนอยางทต่ี อบแกพ ระ-เถระ ดวยบทมีอาทิวา วตถฺ ุตตฺ มทายกิ า นารี ดงั นี้. ดวยเหตนุ ้ันพระผูมพี ระภาคเจาจึงตรัสวา ดกู อนโมคคัลลานะ เทวดาเหลาน้ันมิไดตอบอยางเดยี วกบั ทีเ่ ธอถามเทานัน้ เมือ่ กอนกไ็ ดต อบเหมือนอยางท่ีเราถามเหมอื นกันดังนี้. ไดย ินวา หญิงเหลา น้ัน คร้ังศาสนาพระกัสสปสมั มาสมั พทุ ธเจา เกดิ

พระสุตตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย วมิ านวัตถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนาท่ี 267เปน มนษุ ย ไดก ระทําบุญอยา งนนั้ ๆ. บรรดาหญิงเหลา น้นั คนหน่ึงไดถวายผา คนหนง่ึ ไดถวายพวงดอกมะลิหน่งึ พวง ตน หนึ่งไดถ วายของหอมคนหน่ึงไดถ วายผลไมอ ยางดี คนหนงึ่ ไดถวายออย คนหนึ่งไดถ วายของหอม ๕ อยางประพรมในเจดียของพระผูมีพระภาคเจา คนหน่ึงรักษาอโุ บสถ คนหนง่ึ ไดถวายนา้ํ แกภิกษุผฉู ันที่เรือในเวลาเขาไปใกล คนหนงึ่เมื่อแมผ วั พอผัวโกรธกไ็ มโกรธตอบ ไดทําการปรนนบิ ตั ิ คนหน่ึงเปนทาสี ไมเ กียจครานมมี ารยาทดี คนหนงึ่ ไดถวายขา วเจือดวยนํ้านมแกภิกษุผูออกบิณฑบาต คนหน่งึ ไดถวายนาํ้ ออย คนหนึ่งไดถ วายทอนออ ย คนหน่ึงไดถ วายมะพลับ คนหนึ่งไดถ วายแตงกวา คนหนง่ึ ไดถ วายฟกเหลอื งคนหนึ่งไดถวายยอดผกั คนหนงึ่ ไดถ วายล้ินจี่ คนหนึ่งไดถ วายเชงิ กรานคนหน่งึ ไดถวายผกั ดองกาํ หนึง่ คนหน่งึ ไดถ วายดอกไมก ําหน่ึง คนหนึง่ไดถ วายหัวมัน คนหน่งึ ไดถ วายสะเดากําหนึ่ง คนหน่งึ ไดถ วายผกั ดองคนหนงึ่ ไดถวายแปงงา คนหนง่ึ ไดถวายผารดั เอว คนหน่งึ ไดถ วายผา อังสะคนหนง่ึ ไดถ วายพัด คนหน่ึงไดถวายพัดสี่เหลยี่ ม คนหน่ึงไดถ วายพัดใบตาล คนหน่งึ ไดถวายกําหางนกยูง คนหนงึ่ ไดถวายรม คนหนึ่งไดถวายรองเทา คนหน่งึ ไดถวายขนม คนหนึง่ ไดถวายขนมกอ น คนหนงึ่ไดถ วายนาํ้ ตาลกรวด. เทพธดิ าเหลา นนั้ องคหนึง่ ๆ มนี างอปั สรพนั หนึง่เปน บรวิ ารรุงเรอื งดวยเทวฤทธใ์ิ หญ บงั เกิดเปนบริจารกิ าของทาวสกั ก-เทวราช ในภพดาวดงึ ส ถูกอาจารยค ตุ ตกิ ารละกาม จึงตอบถงึ กุศลท่ตี นทาํตามลาํ ดับ โดยนัยมอี าทิวา วตถฺ ุตฺตมทายิกา นารี ดงั น.้ี อาจารยค ตุ ตลิ ะไดถามบรุ พกรรมของเทพธดิ าเหลาน้ันวา ดูกอ นแมเทพธดิ า ทา นมีวรรณะงามยิ่งนกั ยัง ทศิ ทงั้ ปวงใหส วา งไสว สถิตอยูเ หมอื นดาวประกายพรึก

พระสุตตนั ตปฎก ขุททกนกิ าย วมิ านวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ที่ 268เพราะกรรมอะไร ทานจึงมวี รรณะงานเชน นน้ั เพราะกรรมอะไร จึงสําเร็จแกท านในเทวโลกน้ี โภคะท้งั -หลายไร ๆ เหน็ ท่รี กั ยอ มเกิดแกทา น เพราะกรรมอะไร. ดกู อนเทวี ผมู อี านภุ าพมาก ขา พเจาขอถามทาน เมอ่ื ครั้งทานเปนมนษุ ยไดทําบญุ อะไรไว เพราะกรรมอะไร ทา นจงึ มีอานภุ าพรุง เรอื งอยา งนี้ และรศั มี ของทา นรุงเรอื งไปท่วั ทศิ เพราะกรรมอะไร. เทพธิดาน้ัน อันอาจารยค ุตตลิ ะถามเหมอื นพระโมคคัลลานะถาม แลว มีใจยนิ ดี จึงตอบถงึผลกรรมนนั้ วา ดฉี ันเปนสตรีผูป ระเสรฐิ ในนระและนารีท้งั -หลาย ไดถวายผา เน้ือดีแกภิกษุหน่ึง ดฉี นั ไดถ วายผาอันนารักอยา งน้ี จึงไดเขา ถึงฐานะอนั เปนทพิ ยอยางน้ี เชิญดวู มิ านของดีฉันเถดิ ดีฉนั ยงั เปน นางฟาทม่ี ผี วิ พรรณนา รกั ทั้งเปน ผเู ลศิ กวา นางอัปสรตง้ั พันเชิญดผู ลแหง บญุ ท้ังหลายเถิด เพราะผลแหงบญุ นน้ัดฉี ันจึงมวี รรณะงามเชนนีค้ วามสาํ เร็จในท่ีน้ีของดีฉันเพราะผลบุญนน้ั โภคะทงั้ หลายอันเปน ทรี่ ักยอ มเกดิแกด ีฉนั เพราะผลบญุ นั้น. แกภ ิกษุผมู อี านุภาพมาก ดีฉนั ขอบอกทานวาเมื่อครั้งดฉี ันเปนมนุษยไดท าํ บญุ อะไรไว เพราะบุญ

พระสตุ ตันตปฎก ขุททกนกิ าย วมิ านวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนาท่ี 269นัน้ ดฉี ันจงึ มีอานภุ าพรงุ เรืองอยา งนัน้ และมรี ศั มีสวา งไสวไปท่วั ทกุ ทศิ .วมิ าน ๔ นอกนี้ มคี วามพิสดารเหมอื นวัตถตุ ตมทายิกาวิมาน.พระมหาโมคคลั ลานเถระถามวา ดกู อ นเทพธดิ า ทานมีวรรณะงามยิ่งนกั ฯ ล ฯ และมรี ศั มสี วา งไปทัว่ ทุกทิศ เพราะกรรมอะไร. นางเทพธิดานั้น อันพระโมคคลั ลานะถามแลวมคี วามปลื้มใจ ไดต อบถึงผลแหง กรรมนัน้ วา ดีฉนั เปน สตรีประเสรฐิ ในนระและนารีท้ังหลาย ไดถวายดอกไมอ ยา งดแี กภ ิกษรุ ูปหน่ึง ดีฉันไดถ วาย ดอกไมนา รกั อยา งนี้ จึงไดเ ขาถงึ ฐานะอนั เปนทพิ ยนา ปลืม้ ใจอยา งน้ี นมิ นตพระคณุ เจา ดูวิมานของดฉี ัน เถิด ดฉี นั เปน นางฟา ทม่ี ีผิวพรรณนารัก ท้งั ยังเปนผู เลศิ กวา นางอปั สรตงั้ พัน เพราะบุญกรรมน้นั ดีฉนั จึงมวี รรณะงามเชนนี้ และมีรศั มีสวางไสวไปทั่วทกุ ทศิ .พระมหาโมคคลั ลานะถามวา ดกู อนเทพธิดา ทา นมีวรรณะงามยงิ่ นัก ฯ ล ฯ และมรี ศั มสี วางไสวไปท่วั ทกุ ทิศเพราะบญุ กรรมอะไร.นางเทพธดิ าตอบวา ดฉี ันเปน นารีผูประเสรฐิ ในนระและนารีทง้ั -

พระสุตตันตปฎ ก ขุททกนิกาย วมิ านวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนาที่ 270หลาย ไดถ วายของหอมอยา งดีแกภิกษุรปู หนึ่ง ฯ ล ฯ เพราะบุญกรรมนั้น ดีฉันจงึ มวี รรณะงามเชน น้ี และมีรัศมสี วางไสวไปท่วั ทุกทิศ. พระมหาโมคคัลลานเถระถามวา ดูกอ นเทพธดิ า ทานมวี รรณะงามยิง่ นกั และ มีรัศมสี วา งไสวไปท่วั ทกุ ทิศ ฯ ล ฯ เพราะบญุ กรรมอะไร ทา นจงึ มวี รรณะงามเชน นี้ และมีรศั มสี วา งไสวไปท่ัวทกุ ทิศ. เทพธิดาตอบวา ดฉี ันเปน สตรีผปู ระเสรฐิ ในนระและนารีท้ัง-หลาย ไดถวายผลไมอ ยางดีแกภกิ ษุรปู หน่ึง ฯ ล ฯ เพราะบุญกรรมนน้ั ดีฉันจึงมวี รรณะงามเชน น้ี และมีรศั มสี วางไสวไปท่ัวทกุ ทิศ. พระมหาโมคคัลลานเถระถามวา ดูกอ นเทพธิดา ทานมวี รรณะงามย่ิงนัก และ มีรศั มสี วา งไสวไปท่วั ทกุ ทศิ ฯ ล ฯ เพราะบุญกรรมอะไร ทานจงึ มีวรรณะงามเชน น้ี และมรี ัศมีสวางไสวไปท่วั ทกุ ทิศ. เทพธดิ าตอบวา ดฉี ันเปนสตรผี ูประเสรฐิ ในนระและนารีทงั้ หลายไดถวายอาหารมีรสอยา งดีแกภ กิ ษหุ น่งึ เพราะบญุ

พระสตุ ตันตปฎก ขุททกนกิ าย วมิ านวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ท่ี 271 กรรมนัน้ ดีฉันจงึ มีวรรณะงามเชน น้ี และมรี ศั มสี วางไสวไปทั่วทุกทศิ . พระมหาโมคคลั ลานเถระถามวา ดกู อ นเทพธิดา ทานมวี รรณะงามยงิ่ นกั มรี ัศมีสวางไสวไปท่ัวทุกทศิ ฯ ล ฯ เพราะบญุ กรรมอะไร. เทพธดิ าตอบวา ดีฉันไดถ วายของหอม ๕ อยา งประพรมที่พระสถูปบรรจพุ ระบรมธาตุ ของพระผมู ีพระภาคเจาพระนามวากสั สป เพราะบญุ กรรมนัน้ ดีฉันจงึ มีวรรณะงามเชนนี้ และมีรศั มีสวางไสวไปท่ัวทุกทิศ. วมิ าน ๔ นอกน้ี มีความพสิ ดารเหมอื นคนั ธปญ จงั คุลกิ วมิ าน. พระมหาโมคคลั ลานเถระถามวา ดกู อนเทพธดิ า ทานมวี รรณะงามย่งิ นกั มีรศั มี สวางไสวไปทั่วทุกทศิ ฯ ล ฯ เพราะบุญกรรมอะไร ทานจงึ มีวรรณะงามเชนนี้ และมรี ัศมีสวางไสวไปทว่ัทกุ ทิศ. เทพธิดาตอบวา ดฉี นั ไดเห็นภกิ ษุและภิกษุณพี ากันเดนิ ทางไกล ไดฟ ง ธรรมของทานเหลาน้นั ไดเขารกั ษาอุโบสถอยู วนั หนึง่ คืนหนึ่ง เพราะบญุ กรรมนัน้ ดฉี นั จึงมวี รรณะงามเชน น้ี และมีรัศมสี วางไสวไปทั่วทุกทศิ .

พระสตุ ตันตปฎ ก ขุททกนกิ าย วิมานวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ท่ี 272พระมหาโมคคลั ลานเถระถามวา ดูกอ นเทพธิดา ทา นมีวรรณะงามยง่ิ นัก มีรศั มีสวา งไสวไปท่ัวทุกทศิ ฯ ล ฯ เพราะบุญกรรมอะไร ทานจงึ มีวรรณะงามเชนนี้ และมีรัศมีสวางไสวไปทั่วทุกทิศ. เทพธิดาตอบวา ดีฉนั ยืนอยูในนํา้ มจี ติ เลอื่ มใส ไดถ วายนาํ้ แกภกิ ษรุ ปู หน่งึ เพราะบญุ กรรมนนั้ ดฉี นั จึงมวี รรณะงามเชน นี้ และมีรศั มสี วา งไสวไปทวั่ ทกุ ทศิ . พระมหาโมคคลั ลานเถระถามวา ดกู อ นเทพธิดา ทา นมวี รรณะงามย่ิงนกั มรี ัศมีสวา งไสวไปทว่ั ทุกทิศ ฯ ล ฯ เพราะบญุ กรรมอะไร ทานจึงมวี รรณะงามเชน นี้ และมีรศั มสี วางไสวไปทั่วทุกทศิ . เทพธิดาตอบวา ดีฉันไมคิดรายตง้ั ใจปฏบิ ตั ิเปนอยางดี ซ่ึง แมผวั และพอผัวผูด ุราย โกรธงา ยและหยาบคายดฉี ันไมประมาทในการรักษาศีลของตน ฯ ล ฯ เพราะ บญุ กรรมนั้น ดฉี ันจงึ มวี รรณะงามเชน น้ี ฯ ลฯ และมีรัศมี สวา งไสวไปทว่ั ทุกทิศ. พระมหาโมคคลั ลานเถระถามวา ดกู อ นเทพธดิ า ทานมีวรรณะงามย่ิงนัก มี รศั มีสวางไสวไปทั่วทุกทิศ ฯ ล ฯ เพราะบญุ กรรม

พระสุตตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย วิมานวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ที่ 273 อะไร ทานจงึ มวี รรณะงามเชนนี้ ฯ ล ฯ และมีรัศมี สวางไสวไปทว่ั ทุกทศิ . เทพธิดาตอบวา ดฉี ันเปน หญิงรับใชร บั จางทาํ การงานของคนอื่น ไมเกียจครา น ไมโ กรธงาย ไมถือตัว ชอบแบงปน สิง่ ของอันเปน สวนของตนใหแกตนท่ีตองการ ฯ ล ฯ เพราะบุญกรรมนัน้ ดีฉนั จึงมวี รรณะงามเชนนี้ ฯ ล ฯ และมรี ัศมสี วางไสวไปทั่วทุกทศิ . พระมหาโมคคัลลานเถระถามวา เทพธิดา ทานมวี รรณะงามยิ่งนัก มีรัศมีสวา ง- ไสวไปท่ัวทกุ ทศิ ฯ ล ฯ เพราะบุญกรรมอะไร ทาน จงึ มีวรรณะงามเชน นี้ ฯ ล ฯ และมรี ัศมสี วางไสว ไปทัว่ ทกุ ทิศ. เทพธิดาตอบวา ดฉี ันไดถ วายขาวสุกคลุกนํา้ มนั สด แกภ กิ ษุ รูปหน่งึ กาํ ลงั ออกบิณฑบาตอยู ฯ ล ฯ เพราะบุญ- กรรมนั้น ดฉี นั จงึ มวี รรณะงามเชนน้ี ฯ ล ฯ และมี รศั มีสวางไสวไปท่ัวทกุ ทศิ ดีฉันทาํ กรรมดีจึงเขา ถงึ สคุ ติบันเทงิ เริงรมยอยูอยางนี.้ ในวิมานเหลาน้นั วิมาน ๒๕ นอกนี้ มคี วามพสิ ดารเหมอื นกบัขโี รทนทายิกาวิมาน. พระมหาโมคคลั ลานเถระถามวา

พระสุตตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย วิมานวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนาที่ 274 ดูกอ นเทพธดิ า ทา นมวี รรณะงามยงิ่ นัก และมี รศั มสี วา งไสวไปทัว่ ทกุ ทศิ ฯลฯ เพราะบุญกรรม อะไร.เทพธดิ าตอบวา ดฉี ันไดถวาย ๑. นาํ้ ออ ย ฯ ล ฯ ๒. ทอนออ ย ฯ ล ฯ ๓. ผลมะพลบั สกุ ฯ ล ฯ ๔. แตงกวา ฯ ล ฯ ๕. ฟก ทอง ฯ ล ฯ ๖. ยอดผกั ตม ฯ ล ฯ ๗. ผลล้ินจี่ ฯ ล ฯ ๘. เชงิ กราน ฯ ล ฯ ๙. ผักดองกําหน่ึง ฯ ล ฯ ๑๐. ดอกไมก าํ หน่งึ ฯ ล ฯ ๑๑. มนั ฯ ล ฯ ๑๒. สะเดากาํ หนึ่ง ฯ ล ฯ ๑๓. น้าํ ผกั ดอง ฯ ล ฯ ๑๔. แปง คลุกงา ฯ ล ฯ ๑๕. ประคดเอว ฯ ล ฯ ๑๖. ผา องั สะ ฯ ล ฯ ๑๗. พัด ฯ ล ฯ

พระสุตตันตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย วมิ านวัตถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ที่ 275 ๑๘. พัดสเ่ี หล่ียม ฯ ล ฯ ๑๙. พัดใบตาล ฯ ล ฯ ๒๐. พดั หางนกยูง ฯ ล ฯ ๒๐. รม ฯ ล ฯ ๒๒. รองเทา ฯ ล ฯ ๒๓. ขนม ฯ ล ฯ ๒๔. กอ นขนม ฯ ล ฯ ๒๕. น้าํ ตาลกรวด ฯ ล ฯ แกภกิ ษุรปู หน่ึงผกู าํ ลงั บิณฑบาตอยู ฯ ล ฯ เพราะ บญุ กรรมนั้น ดฉี ันจงึ มีวรรณะงามเชน น้ี ฯ ล ฯ และ มรี ศั มสี วา งไสวไปทว่ั ทกุ ทิศ. พระมหาสัตว เมือ่ เทพธดิ าเหลานน้ั ตอบผลกรรมทต่ี นทํามาเปนอันดีอยา งน้แี ลว กม็ ีใจยินดี เมือ่ จะแสดงความยนิ ดขี องตน และเม่ือจะประกาศความทตี่ นขวนขวายในการประพฤติสจุ รติ และความที่ตนมีอธั ยาศยั ในนพิ พาน จึงกลา ววา วันน้ขี าพเจามาดีแลว เปนฤกษง ามยามดที ่ี ขา พเจา ไดเ ห็นเทพธดิ าท้งั หลาย ท่เี ปน นางฟามีรปู - รางผวิ พรรณนา รกั ใคร ทั้งไดฟงธรรมอันแนะนาํ ทาง บญุ กุศล จากเทพธิดาเหลานนั้ ดวย ตอไปน้ี ขาพเจา ทาํ บญุ กุศลใหม ากดวยการใหท าน ดว ยการประ- พฤตธิ รรมสมํา่ เสมอ ดวยการสํารวม ดว ยการฝกฝน

พระสตุ ตันตปฎก ขทุ ทกนิกาย วมิ านวัตถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ท่ี 276 ขาพเจา จักไดไ ปสูสถานท่ีที่ไปแลวไมเ ศราโศก. ในบทเหลา นัน้ บทวา วตถฺ ุตตฺ มทายิกา ไดแก ผาสูงสดุ คอืประเสรฐิ สุดกวา ผาทัง้ หลาย หรอื ผา ดเี ลิศประเสริฐช้นั ยอด ที่เก็บสะสมไวใ นจาํ นวนผาเปนอนั มาก ชือ่ วาผา ช้นั เย่ยี ม ถวายผา ช้นั เย่ียมน้นั . แมในบทมอี าทวิ า ปปุ ฺผุตตฺ มทายกิ า กม็ นี ัยนี่เหมือนกนั . บทวา ปย รปู ทายกิ าไดแก ใหว ัตถมุ สี ภาพนา รกั และมีกําเนิดนารกั . บทวา มนาป แปลวาเจรญิ ใจ. บทวา ทพิ ฺพ ไดแ ก ช่ือวาเปน ทิพย เพราะเปนสมบตั ิทพิ ย.บทวา อปุ จฺจ ไดแก เขาถึง คอื ตง้ั ใจ อธิบายวา ดาํ ริแลววา เราพงึ ไดสง่ิ นี้ดังน.้ี บทวา าน ไดแก ฐานะมวี มิ านเปนตน หรือความอสิ ระ.ปาฐะวา มนาปา ดังนบ้ี าง. อธบิ ายวา เปนที่เจริญใจของผอู น่ื . บทวา ปสฺส ปุ ฺาน วิปาก ความวา เทพธิดาภูมิใจสมบตั ิที่ตนได จึงกลาววา เชิญดูผลแหงการถวายผา อยา งดเี ชน น้ีเถดิ . บทวา ปุปผฺ ตุ ฺตมทายิกา ไดแก ถวายดอกไมอยางดี เพ่อื บูชาพระรตั นตรัย. พึงเหน็ บทวา คนฺธตุ ฺตมทายิกา กเ็ หมอื นอยา งน้นั .ดอกไมอยางดีในบทวา ปปุ ฺผุตตฺ มทายิกา ไดแ ก ดอกมะลเิ ปนตน.ของหอมอยางดี ไดแก จนั ทนห อมเปน ตน. ผลไมอยา งดี ไดแ ก ผลขนนุเปน ตน . พึงทราบวา อาหารมีรสอยางดี มีเนยใสคลุกดวยนมโคสดเปนตน . บทวา คนฺธปจฺ งคฺ ลุ กิ  ไดแก ถวายของหอม ๕ อยาง สําหรบัประพรม. บทวา กสฺสปสสฺ ภควโต ถูปมหฺ ิ ไดแ ก พระสถปู ทองคาํสูงโยชนหน่ึง บรรจุพระบรมธาตขุ องพระกสั สปสัมมาสมั พุทธเจา . บทวา ปนถฺ ปฏปิ นฺเน ไดแ ก เดินไปตามทาง. บทวา เอกโู ปสถ

พระสุตตนั ตปฎก ขุททกนกิ าย วมิ านวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ท่ี 277ไดแ ก อยรู กั ษาอโุ บสถตลอดวนั หนึ่ง. บทวา อทุ กมทาสึ ไดแ ก ดีฉันไดถวายน้ําใช น้าํ ฉนั สําหรบั บว นปากและสาหรับด่มื . บทวา จณฑฺ เิ ก ไดแ ก ดุราย. บทวา อนสุ ฺสุยฺยกิ า ไดแ กเวนจากความริษยา. บทวา ปรกกฺ มมฺ การี ไดแก รับจา งทําการงานแกผอู ื่น. บทวา อตฺเถน ไดแก กิจที่เปน ประโยชน. บทวา ส วิภาคินีสกสฺส ภาคสสฺ ไดแก มปี กตแิ จกสวนที่ตนไดแ กผ อู นื่ . บทวา ขีโรทก ไดแ ก ขาวสุกเจือดวยนมสด. หรือขาวสกุ กบั นมสด. บทวา ตมิ พฺ รสู ก ไดแก ผลมะพลับ. มะพลบั เปนไมเ ถาชนดิ หนง่ึคลา ยแตงโม. อาจารยบ างพวกกลาววา ผลแตงโมนั้น คอื ตมิ พรสุ กะ. บทวา กกฺการกิ  ไดแก ฟกทอง อาจารยบางพวกกลาววา ไดแ กแตงกวา. บทวา หตถฺ ปฺปตาปก ไดแ ก เชงิ กราน. บทวา อมฺพกฺชิกไดแก น้ําผักดอง. บทวา โทณินิมฺมชฺชนึ ไดแก แปง คลุกงาคัว่ . บทวาวธิ ปู น ไดแก พัดสี่เหลี่ยม. บทวา ตาลปณฺณ ไดแก พดั กลมทําดว ยใบตาล. บทวา โมรหตฺถ ไดแ ก พัดไลยุงทาํ ดวยหางนกยงู . บทวาสฺวาคต วต เม ความวา ขาพเจา มาในทีน่ ี้ ดแี ท ดเี หลือเกนิ . บทวาอชชฺ สปุ ภาต สหุ ฏุ  ิต ไดแ ก วนั นี้ฤกษง ามยานดไี ดเ กิดแกขาพเจา ในกลางคืน แมลกุ จากท่ีนอนกม็ ีฤกษดี คือลกุ ขึ้นดว ยด.ี ถามวา เพราะเหตไุ ร พระมหาสัตวจึงกลาวอยา งนนั้ . ตอบวา เพราะเหตุทีไ่ ดเหน็ เทพ-ธดิ าเหลา น้นั . บทวา ธมฺม สุตวฺ า ความวา ไดฟง ธรรมอนั เปนกุศลทพ่ี วกทานทําไว โดยเห็นประจักษถ งึ ผลกรรม. บทวา กาหามิ แปลวา จกั กระทาํ .

พระสุตตันตปฎก ขทุ ทกนิกาย วิมานวัตถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ท่ี 278บทวา สมจรยิ าย ไดแ ก ดว ยการประพฤตสิ ุจริตอันเปน ความประพฤติชอบทางกาย. บทวา สฺเมน ไดแก ศลี สงั วร. บทวา ทเมนไดแ ก ดวยการฝกอินทรยี ม ใี จเปนที่หก. บัดนี้ พระมหาสตั ว เพอื่ จะแสดงความท่ีกศุ ลนั้น และโลกของตนเปนอุปนสิ ยั แหง วิวัฏฏะ (นพิ พาน)จึงกลา ววา สวฺ าห ตตถฺ คมิสสฺ ามิ ยตถฺ คนฺตวา น โสจเร ความวาขาพเจาจกั ไปในทท่ี ไ่ี ปแลว ไมเศรา โศก ดงั น.้ี ผวิ า เทศนานจี้ ัดเขา ในวมิ าน ๓๖ มีวัตถุตตมทายิกาวมิ านเปนตนเปนไปแลว ดวยการชแ้ี จงของอาจารยคุตตลิ ะ ดุจของทา นพระมหา-โมคคลั ลานะไซร กจ็ ัดเขา ในคตุ ตลิ วมิ านนัน่ แล. แตว มิ านที่เกย่ี วกับหญิงจัดเขาใน อติ ถวิ ิมาน ท้งั นน้ั . อน่งึ พงึ ทราบวา หญิงเหลานั้น เม่อื ครัง้ ศาสนาของพระทศพลพระนามวากสั สป ไดทอ งเท่ียวไปในเทวโลกตลอดพทุ ธันดรหนง่ึ ต้ังแตอตั ภาพท่สี องดวยเจตนาอนั เกิดสืบตอ กันมาในการประพฤติธรรม ดงั ไดกลาวแลว ครนั้ ถงึ ศาสนาของพระผมู พี ระภาคเจาของเราทัง้ หลาย หญงิเหลานน้ั ไดเ กดิ ในภพดาวดึงสนั้นเอง อันพระมหาโมคคลั ลานะไดถามปญ หา หญิงเหลา นน้ั กไ็ ดต อบปญหา เหมอื นอยา งในเวลาที่อาจารยคตุ ตลิ ะถาม เพ่ือใหเ ห็นผลกรรมคลา ย ๆ กนั . จบอรรถกถาคตุ ติลวมิ าน

พระสตุ ตนั ตปฎ ก ขุททกนิกาย วมิ านวัตถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนาท่ี 279 ๖. ทัททัลลวิมาน วา ดวยททั ทัลลวิมาน [๓๔] นางภทั ทาเทพธดิ าผูพีส่ าว ไดถามนางสภุ ทั ทาเทพธิดาผูนอ งสาววา ทานรงุ เรืองดว ยรศั มี ทงั้ เปน ผูเรื่องยศ ยอ ม รงุ โรจนล วงเทพเจาชาวดาวดึงสท ้ังหมด ดวยรัศมี ดีฉนั ไมเ คยเห็นทาน เพิง่ จะมาเหน็ ในวันน้ีเปน ครั้ง แรก ทานมาจากเทวโลกชน้ั ไหน จงมาเรยี กดฉี นั โดยช่อื เดมิ วา ภัททา ดงั นีเ้ ลา. นางสุภัททาเทพธิดาผูนองสาวตอบวา ขาแตพีภ่ ทั ทา ฉันชื่อวาสภุ ัททา ในภพกอน ครง้ั ยังเปน มนษุ ยอ ยู ดฉี ันไดเ ปน นอ งสาวของพี่ ท้ัง ไดเ คยเปนภรยิ ารว มสามีเดียวกับพ่มี าดวย ดฉี นั ตาย จากมนษุ ยโลกนั้นมาแลว ไดม าเกิดเปนเทพธดิ า ประจําสวรรคช นั้ นิมมานรด.ี นางภทั ทาเทพธิดาจงึ ถามตอ ไปอกี วา ดูกอนแมสุภัททา ขอเธอไดบอกการอุบตั ิของ เธอในหมูเทพเจาเหลา นมิ มานรดี ซ่ึงเปนท่ี ๆ สตั ว ไดส ั่งสมบญุ กศุ ลไวมาก แลว จงึ ไดม าบงั เกดิ เธอ ไดมาเกดิ ในทน่ี เี้ พราะทาํ บุญกศุ ลสง่ิ ใดไว และใคร เปน ครูผูแนะนาํ สง่ั สอนเธอ เธอเปน ผเู รืองยศ และ

พระสุตตันตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย วิมานวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ที่ 280 ถงึ ความสุขพเิ ศษไพบลู ยเชน น้ี เพราะไดใหทานและรกั ษาศลี เชนไรไว ดกู อ นแมเ ทพธิดา ฉนั ถาม เธอแลว นเี่ ปน ผลแหง กรรมอะไร โปรดตอบฉันดวย. นางสภุ ัททาเทพธดิ าตอบวา เม่ือชาติกอ น ดฉี ันมีใจเลือ่ มใส ไดถวาย บิณฑบาต ๘ ที่ แกสงฆผ เู ปน ทักขิไณยบคุ คล ๘ รปูดว ยมือของตน เพราะบุญกรรมน้นั ดีฉนั จงึ มีวรรณะ งามเชนน้ี ฯ ล ฯ และมรี ศั มสี วา งไสวไปทั่วทกุ ทิศเพราะบุญกรรมน้นั .นางภัททาเทพธิดาไดถ ามตอ ไปอกี วา พ่ีเล้ยี งดูพระภกิ ษุทั้งหลาย ผสู าํ รวมดี ผูประพฤติพรหมจรรย ใหอิ่มหนาํ สาํ ราญดวยขา วและ น้ํา ดว ยมือของตนเอง มากกวา เธอ ครนั้ ใหท านมากกวาเธอแลว ก็ยงั ไดบังเกิดในเหลา เทพเจา ตา่ํ กวาเธอ สว นเธอไดถวายทานเพยี งเลก็ นอย อยางไรจงึ มาไดผ ลอยา งพิเศษไพบูลยถึงเชนนเ้ี ลา แนะ แม เทพธิดา ฉันถามเธอแลว นีเ่ ปนผลแหงกรรมอะไรโปรดตอบฉันดวย. นางสภุ ัททาเทพธิดาตอบวา เม่อื ชาติกอน ดฉี นั ไดเห็นพระภกิ ษุผอู บรม ทางจิตใจเพือ่ คณุ อนั ย่ิงใหญ จงึ ไดนมิ นตทานรวม

พระสตุ ตนั ตปฎก ขทุ ทกนิกาย วิมานวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ท่ี 281 ๘ รูปดวยกัน มพี ระเรวตเถระเปน ประธาน ดว ย ภตั ตาหาร ทา นพระเรวตเถระนนั้ มุงจะใหเกิดประ- โยชน อนุเคราะหแ กดฉี ัน จึงบอกดีฉนั วา จงถวาย สงฆเ ถดิ ดฉี ันไดท าํ ตามคําของทา น ทกั ขณิ าของ ดฉี ันนน้ั จึงเปนสังฆทาน ดฉี ันใหเขา ไปตัง้ ไวใ นสงฆ เปน ทานที่ไมอ าจปริมาณผลไดวา มีอยเู ทา ไร สวน ทานทค่ี ณุ พี่ไดถ วายแกภ กิ ษุ ดวยความเลื่อมใสเปน รายบุคคล จึงมผี ลไมมาก. นางภัททาเทพธดิ า เมือ่ จะรบั รองความขอนน้ั จงึ กลาววา พ่เี พ่งิ รูเด๋ียวนเ้ี องวา การถวายสังฆทานนี้ มี ผลมาก ถาวา พีไ่ ดไ ปบังเกดิ เปน มนุษยอกี จกั เปนผู รูความประสงคของผขู อ ปราศจากความตระหน่ี ถวายสังฆทาน และไมประมาทเปนนติ ย. เมื่อสนทนากนั แลว นางสภุ ทั ทาเทพธิดากก็ ลบั ไปสูท ิพยวิมานของตน บนสวรรคช ั้นนมิ มานรดี ทา วสักกเทวราชไดท รงสดับการสนทนานัน้ เมือ่ นางสุภัททาเทพธิดากลับไปแลว จึงตรสั ถามนางเทพธิดาวา ดกู อ นนางภทั ทา เทพธดิ าผนู ้นั เปนใคร มา สนทนาอยูก ับเธอ ยอ มรงุ โรจนก วาเทพเจา เหลา ดาวดึงสท ้งั หมดดว ยรศั มี. นางภัททาเทพธดิ า เมือ่ จะบรรยายขอทีส่ งั ฆทานของเทพธดิ าผูนอ งสาว วามีผลมาก จึงทูลวา

พระสุตตนั ตปฎก ขุททกนิกาย วมิ านวัตถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ท่ี 282 ขอเดชะ ขา แตพ ระองคผเู ปนจอมเทพ เทพ-ธิดาผูน้นั เมือ่ ชาติกอนยงั เปนมนุษยอยูในมนุษยโลกเปน นอ งสาวของหมอ มฉนั และยงั ไดเคยรวมสามีเดียวกนั กบั หมอ มฉันดว ย เธอสัง่ สมบุญกุศลคือถวายสงั ฆทาน จงึ ไดไ พโรจนถ ึงอยางนเี้ พคะ .สมเด็จอมรนิ ทราธิราช เมื่อจะทรงสรรเสรญิ สังฆทาน จงึ ตรัสวา ดกู อนนางภัททา นองสาวของเธอไพโรจนกวาเธอ กเ็ พราะเหตุในปางกอ น คอื การถวายสังฆทานทไี่ มอาจจะปรมิ าณแผลได อันท่ีจริง ฉนั ไดทลู ถามพระพทุ ธเจา ครง้ั ประทบั อยู ณ ภเู ขาคชิ ฌกูฏ ถึงผลแหงไทยธรรมที่ไดจ ดั แจงถวายในเขตทม่ี ีผลมาก ของมนุษยทั้งหลายผมู ุงบุญใหทานอยู หรอื ทาํ บุญปรารภเหตุแหงการเวียนเกิดเวียนตาย จะถวายในบคุ คลประเภทใดจึงจะมผี ลมาก พระพุทธเจา ตรสัตอบขอ ความน้นั แกฉันอยา งแจมแจงวา ทา นผูปฏิบตั ิเพอ่ื อริยมรรค ๔ จําพวก และทา นผตู ั้งอยูในอริยมรรค ๔ จาํ พวก พระอรยิ บุคคล ๘ จาํ พวกนี้ชื่อวาสงฆ เปน ผปู ฏบิ ตั ติ รงดาํ รงมน่ั อยใู นปญญาและศลี เมอื่ มนุษยทัง้ หลายผมู งุ บญุ ถวายทานในทา น เหลา น้ี หรอื ทาํ บุญปรารภการเวียนเกิดเวยี นตายทานทถี่ วายในสงฆย อ มมผี ลมาก พระสงฆนี้เปนผูมีคุณความดีอันย่งิ ใหญ ยังผลใหเกิดแกผ ถู วายทานใน

พระสตุ ตันตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย วมิ านวัตถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนาท่ี 283ทา นอยา งไพบลู ย ยากทีใ่ ครจะปรมิ าณวา เทาน้ี ๆ ไดเหมอื นทะเลยากท่ีจะคาดคะเนไดว ามีนําเทานี้ ๆ ไดฉะนัน้ พระสงฆเหลาน้แี ล เปน ผปู ระเสรฐิ สดุเปน สาวกของพระพทุ ธเจา ผูมีความเพียรเปนเยยี่ มในหมูนรชน เปนแหลง สรางแสงสวาง คือ ญาณของชาวโลก ไดแ ก นําเอาแสงสวา ง คอื พระสทั ธรรมที่พระพทุ ธเจา ทรงประกาศไวแ ลวมาชีแ้ จง ปวงชนผูใครต อบญุ เหลาใด ถวายทานมุง ตรงตอสงฆ ทกั ขณิ าของเขาเหลา นั้น ชือ่ วา เปน ทกั ขณิ าทีถ่ วายดีแลวเปนยัญวธิ ที เี่ ซน สรวงถูกตอ ง จดั เปนบูชากรรมทบ่ี ชู าแลว ชอบ เพราะทกั ขิณานั้นจัดเปน สังฆทาน มีผลมาก อนั พระสัมมาสมั พทุ ธเจาท้งั หลายผูรูแจงโลกทรงสรรเสริญ ชนเหลา ใดยังทอ งเท่ยี วอยใู นโลก มาหวนระลึกถึงบญุ เชน น้ไี ด เกดิ ปต ิโสมนัส กจ็ ะกาํ จัดมลทิน คอื ความตระหน่พี รอ มทงั้ ความรเู ทา ไมถึงการณ ความลงั เลในใจ และความวิปลาส อันเปนมลู ฐานเสยี ได ทงั้ จะไมเปนผูถกู ผรู ตู เิ ตียน ชนเหลานนั้ กจ็ ะเขา ถงึ สถานที่ ๆ เปน แดนสวรรค. จบทัททลั ลวมิ าน

พระสุตตันตปฎก ขทุ ทกนิกาย วมิ านวัตถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ท่ี 284 อรรถกถาททั ทลั ลวิมาน ททั ทลั ลวมิ าน มคี าถาวา ททฺทลลฺ มานา วณเฺ ณน ดงั น้ีเปนตน .ทัททัลลวมิ านนั้นเกิดขน้ึ อยางไร ? พระผมู พี ระภาคเจาประทบั อยู ณ เชตวนั มหาวิหาร อารามของอนาถบณิ ฑิกเศรษฐี ใกลก รงุ สาวตั ถ.ี กส็ มัยนั้น กฎุ ม พคี นหนึ่งเปนอปุ ฏฐากของทา นพระเรวตเถระ จากนาลกคาม ไดม ีธิดาสองคน คนหนึง่ชอ่ื ภทั ทา อีกคนหนงึ่ ชื่อ สุภัททา. ในธดิ าสองคนนน้ั นางภทั ทาไปสูตระกลู สามี นางมีศรัทธาเล่อื มใสฉลาด และเปน หมัน. นางภทั ทาพูดกะสามวี าฉันมีนอ งสาวอยคู นหนึง่ ช่อื สุภทั ทา พี่ไปนาํ เขามาเถดิ หากนองสุภทั ทาน้ันพึงมบี ุตร บุตรน้ันกจ็ ะเปน บตุ รของฉันดว ย และวงศต ระกูลนก้ี ็จะไมส ญู . สามีรับคาํ ไดทําตามท่ภี รรยาบอก. จึงนางภทั ทาไดสอนนางสุภัททาวา นองสภุ ัททา นอ งตอ งยนิ ดใี นการแจกทาน ไมป ระมาทในการประพฤติธรรม ดว ยอาการอยางนี้ประโยชนใ นปจ จบุ ันและสมั ปรายภพ กจ็ ะอยใู นเง้อื มมือของนองแนน อน.นางสุภัททาตั้งอยูในโอวาทของพ่สี าว ปฏบิ ตั ิตามที่พ่สี าวสอน วนั หนง่ึนางนินนททานพระเรวตเถระ เปน รูปท่ี ๘ พระเถระหวงั ใหน างสภุ ทั ทาสรางสมบุญจงึ พาภกิ ษุ ๗ รูป โดยเปน องคสงฆ ไปเรือนของนาง. นางสุภัททามจี ติ เล่ือมใส องั คาสทา นพระเรวตเถระและภกิ ษเุ หลาน้นั ดว ยของเคยี้ ว ของบริโภคดว ยนํา้ มอื ของตนเอง. พระเถระทาํ อนุโมทนาแลว กลับคร้ันตอมา นางสุภทั ทาถึงแกกรรมไปเกดิ เปนสหายกบั เทวดาชน้ั นิมมานรด.ีสว นนางภทั ทาไดใหท านในบุคคลท้ังหลาย แลว ก็ไปเกิดเปน บรจิ าริกาของทา วสักกะจอมเทพ .

พระสุตตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย วมิ านวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ท่ี 285 ครั้งน้ัน นางสุภทั ทาพจิ ารณาถงึ สมบตั ขิ องตนครุนคดิ อยวู า เรามาเกิดในสวรรคนด้ี ว ยบญุ อะไรหนอ จึงเห็นวา เราต้งั อยูในโอวาทของพี่ภัททา จึงประสบสมบตั ิน้ดี วยทักษิณาทมี่ ุงไปในสงฆ พภ่ี ทั ทาไปเกิดท่ีไหนหนอ ไดเ ห็นนางภทั ทาน้ันไปเกิดเปน บริจารกิ าของทาวสกั กะ จงึหวังจะอนุเคราะห ไดเขา ไปยงั วิมานของนางภทั ทาเทพธดิ า. นางภทั ทาเทพธดิ า จงึ ถามนางสภุ ทั ทาเทพธดิ า ดวยคาถา ๒คาถาวา ทา นรุงเรอื งดวยรัศมี ท้ังเปน ผเู ร่อื งยศ ยอ ม รงุ โรจนเกินทวยเทพช้ันดาวดงึ สท ้งั หมด ดว ยรัศมี ขาพเจา ไมเคยเหน็ ทา น เพ่ิงจะมาเห็นในวนั น้ี เปน คร้งั แรก ทา นมาจากเทวโลกชน้ั ไหน จึงไดเ รียก ขาพเจาโดยชื่อเดิมวา ภทั ทา ดังนเ้ี ลา. นางสภุ ทั ทาเทพธดิ าจงึ บอกแกนางภทั ทาเทพธดิ า ดวยคาถา ๒คาถาวา พภี่ ัททา นอ งชอ่ื สภุ ัททา ในภพครงั้ ยงั เปน มนุษยอยู นองไดเ ปน นอ งสาวของพ่ที งั้ ไดเปน ภรรยา รวมสามกี ันกับพี่ดว ย นอ งตายจากมนุษยโลกนัน้ มา แลว ไดม าเถดิ เปน เทพธดิ า รวมกบั เทวดาช้นั นิม- มานรดี. ในบทเหลานั้น บทวา วณเฺ ณน ไดแก สมบตั มิ ีวรรณะเปนตน .บทวา ทสฺสน นาภชิ านามิ ไดแก ขา พเจาไมเ คยเหน็ ทา นมากอ นเลย.






























Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook