พระสุตตนั ตปฎก ขทุ ทกนิกาย วิมานวัตถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนาท่ี 173ทไ่ี หนหนอดังน้ี ไมท รงเหน็ ในดาวดงึ ส จึงเขาไปหาทานมหากัสสปะในยามกลาง [ เท่ียงคนื ] แหงราตรี เมอื่ ถามถงึ สถานที่เกดิ ของหญิงนน้ัไดต รัสคาถา ๒ คาถาวา เม่อื พระคุณเจา เท่ียวไปบณิ ฑบาตยืนนงิ่ อยู หญงิ ผใู ด เข็ญใจยากไร อาศัยชายคาเรอื นคนอ่ืน เลอ่ื มใสแลวถวายขา วตงั ดว ยมือตนเองแกพระคณุ เจา หญิงผนู ั้นละกายมนุษยแ ลว ไดไปสวรรคช ั้นไรหนอ เจาขา . บรรดาบทเหลานัน้ บทวา ปณฑฺ าย คอื เพ่ือบิณฑบาต. คําวาตณุ ฺหีภูตสสิ ตฏิ โต น้แี สดงอาการเท่ยี วบิณฑบาต. อธบิ ายวา เจาะจงยนื . บทวา ทลทิ ฺทา แปลวา เข็ญใจ. บทวา กปณา แปลวา ยากไร.ดวยบทวา ทลทิ ฺทา นี้ ทานแสดงความเส่ือมโภคทรัพยข องหญงิ น้นั .ดวยบทวา กปณา น้ี แสดงความเส่อื มญาต.ิ บทวา ปราคาร อวสิ ฺสิตาความวา อาศยั เรือนคนอนื่ คอื อาศัยชายคาเรือนของคนเหลา อนื่ . บทคาถาวา ก นุ สาทิสต คตา ความวา ไดไปทิศอะไร โดยเกิดในเทวโลกกามาวจร ๖ ชัน้ ดังน้ัน ทา วสักกะ ทรงดาํ ริวา หญิงท่ีพระเถระทําอนเุ คราะหอยอู ยา งนั้น มีสวนแหงทพิ ยสมบตั ิอันโอฬาร แตก็มิไดเห็นเลย เมอื่ ไมท รงเหน็ ในเทวโลกชนั้ ตํา่ สองชั้น ทรงนกึ สงสัยจงึตรัสถาม. ลําดับนน้ั พระเถระเมือ่ ทลู คําตอบโดยทํานองท่ที าวเธอทูลถามแลว น่นั แล ไดทูลบอกสถานที่บงั เกิดของหญิงนน้ั แกท าวสักกะนน้ั วา
พระสตุ ตันตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย วิมานวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ท่ี 174 เมื่ออาตมาเท่ียวไปบิณฑบาตยืนน่งิ อยู หญงิ ผู ใดเข็ญใจยากไร อาศัยชายคาเรือนคนอื่น เลอ่ื มใส แลวถวายขาวตังดวยมือตนเองแกอ าตมา หญิงผูนั้น ละกายมนษุ ยแลว เคลอ่ื นพน จากความลาํ เค็ญนีแ้ ลว ทวยเทพมีฤทธิ์มาก ชือ่ ชัน้ นมิ มานรดมี อยู หญงิ ผู ถวายเพียงขาวตังน้นั กบ็ นั เทงิ สขุ อยูในสวรรคชนั้ นิมมานรดนี ้นั . บรรดาบทเหลา น้ัน บทวา วปิ ฺปมุตตฺ า ไดแ ก หลดุ พน ไปจากความมโี ชครา ยของมนุษย จากความเปน อยูทน่ี า กรณุ าเปนอยา งยิ่งนน้ั . บทวา โมทติ า จามทายิกา ความวา ก็หญงิ ชือ่ นนั้ ถวายทานเพยี งขาวตัง ยังบนั เทิงอยดู ว ยทพิ ยสมบตั ใิ นกามาวจรสวรรคชั้นที่ ๕ทา นแสดงวา ขอทานจงดูผลของทานซ่งึ พรง่ั พรอมดวยเขตสัมปทา [ คือพระทักษิไณยบคุ คลผเู ปนปฏคิ าหก] ทา วสักกะ สดบั วาทานของหญิงนน้ั มผี ลใหญ และมอี านิสงสผลใหญแ ลว เม่ือทรงสรรเสริญทานน้ันอีก จงึ ตรัสวา นาอศั จรรยจ ริงหนอ ทานทีห่ ญิงผูยากไรต้งั ไว ดีแลว ในพระคณุ เจากัสสปะ ดวยไทยทานทน่ี าง นาํ มาแตผอู ื่น ทกั ษณิ ายังสําเร็จผลไดจ ริงหนอ ขอที่ นารีผงู ามทั่วสรรพางค สามีมองไมจดื ไดรบั อภิเษก เปนเอกอคั รมเหสีของพระเจา จกั รพรรดิ ก็ยงั ไมเ ทา เส้ียวที่ ๑๖ ของอาจามทานนี้ [ถวายขา วตัง]
พระสุตตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย วิมานวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ที่ 175 ทองคาํ รอ ยนิกขะ มา รอยตัว รถเทยี มมาอัสดรรอย คัน หญิงสาวผูสวมกุณฑลมณีจาํ นวนแสนนางก็ยัง ไมเทาเสีย้ วที่ ๑๖ ของอาจามหานน้ี พระยาชาง ตระกลู เหมวตะ มงี างอน มีกําลังและวอ งไว มี สายรัดทองคํา มีตัวใหญ มเี ครอื่ งประดบั เปน ทอง รอ ยเชือก กย็ งั ไมเ ทาเสีย้ วท่ี ๑๖ ของอาจามทานนี้ ถึงแมพระเจาจกั รพรรดิ ทรงครองความเปน เจา ทวปี ใหญท ้งั ส่ี ก็ยงั ไมเ ทาเสีย้ วท่ี ๑๖ ของอาจาม- ทานนี้. บรรดาบทเหลานัน้ บทวา อโห เปนนบิ าต ใชใ นอรรถวาอัศจรรย. บทวา วรากิยา แปลวา หญิงยากไร. บทวา ปราภเตนไดแก ไทยทานทีเ่ ขานํานาแตคนอน่ื . อธบิ ายวา ท่ีไดม าดวยการเทย่ี วขอจากเรือนของคนอ่นื . บทวา ทาเนน ไดแ ก ดวยไทยธรรม เพยี งขาวตังท่ีพงึ ถวาย. บทวา อชิ ฺฌติ ฺถ วต ทกขฺ ิณา ความวา นาอัศจรรยจรงิ หนอ ทักษณิ าทานสาํ เรจ็ ผลแลว คอื ไดม ผี ลมาก รงุ เรอื งมาก กวางใหญม ากจริงหนอ. บัดน้ี ทาวสักกะตรสั คําเปนตนวา ยา มเหสิตฺต กาเรยยฺ ดังนี้กเ็ พ่ือแสดงวา ถงึ นางแกว เปน ตน กไ็ มถ งึ ทง้ั สว นรอ ย ท้งั สว นพันของทานนั้น. ในบทเหลา น้นั บทวา สพฺพงคฺ กลยฺ าณี ความวา สวยงามดดี ว ยสวนคอื เหตทุ ง้ั หมด หรอื อวยั วะทกุ สวนท่ที า นกลาวไวอ ยางนว้ี า ไมสูงนัก ไมต่ํานกั ไมผ อมนกั ไมอ ว นนกั ไมดําไมขาวนกั เกนิ
พระสุตตันตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย วิมานวัตถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ท่ี 176วรรณมนษุ ย แตไ มถึงวรรณทพิ ย. บาทคาถาวา ภตฺตุ จาโนมทสฺสกิ า ไดแ ก สามดี ไู มจืดจางคือ นา ดู นา เลอื่ มใสอยา งดยี ่งิ . บทวา เอตสฺสา จามทานสสฺ กลนาคฆฺ ติ โสฬสึ ความวา แมความเปน นางแกวของพระเจาจกั รพรรดิกม็ ีคา ไมถ งึ เส้ียวที่ ๑๖ กลา วคอื สวนท่ีเขาแบงผลของอาจามทาน ที่นางถวายแลว นน้ั ใหเปน ๑๖ สวน จาก ๑๖ สว นนนั้ แบงสว นหน่ึงใหเปนอกี ๑๖ สวน. อาจารยบ างพวกกลา ววา ทองคาํ ๑๕ ธรณะ เปนนิกขะอีกพวกกลา ววา รอยธรณะ [ เปนนกิ ขะ ]. บทวา เหมวตา ไดแก พระยาชา งเกิดในปาหมิ พานต หรือมีกําเนดิ ในตระกูลชา งเหมวตะ. กพ็ ระยาชา งเหลานนั้ ตัวใหญถึงพรอ มดว ยกาํ ลงั และความเรว็ . บทวา อสี า ทนตฺ า ไดแก มงี าดุจงอนรถ. อธบิ ายวามีงาคดแตน อยหน่ึง [งอน] เพราะงางอนน้นั จึงกนั งาขยายกวา งออกไปได. บทวา อุรูฬฺหวา ไดแก เพ่ิมพนู ดว ยกาํ ลังความเรว็ และความบากบั่น อธบิ ายวา สามารถนาํ รบใหญไ ด. บทวา สุวณฺณกจฺฉา ไดแ กสวมเครอ่ื งประดบั คอทองคาํ . ก็ทา นกลา วสว นประกอบชา งท้ังหมดดวยสายรดั กลางตวั ชา งเปน สาํ คญั . บทวา เหมกปปฺ นวิ าสสา ไดแก พรง่ัพรอ มดว ยเครอ่ื งประดบั ชางมเี คร่ืองลาดและปลอกชา งขลบิ ทองเปน ตน . หลายบทวา จตนุ นฺ มหาทปี าน อสิ สฺ รยิ ความวา เปน เจา มหา-ทวีปทง้ั สมี่ ชี มพทู วีปเปนตน ซง่ึ มีทวีปนอ ยเปน บริวารทวปี ละสองพัน.ดว ยบทนน้ั ทานกลา วเอาสริ ขิ องพระเจาจักรพรรดิทัง้ สนิ้ นีร้ ุง เรืองดวยรตั นะ ๗ ประการ. ก็คาํ ซงึ่ ขา พเจา ไมกลาวไวในทน่ี ี้ กม็ นี ัยอยา งที่กลาวมาแลว ในหนหลัง. ทานมหากัสสปเถระ กราบทลู คําทั้งหมดท่ีทา วสักกเทวราช
พระสตุ ตันตปฎก ขุททกนกิ าย วิมานวัตถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนาที่ 177กับตนกลาวแลวในทนี่ ี้ ถวายพระผมู พี ระภาคเจา . พระผมู ีพระภาคเจาทรงทาํ คํานน้ั ใหเ ปน อัตถปุ ปต ตเิ หตุเกดิ เร่อื งแลว จงึ ทรงแสดงธรรมโดยพิสดารโปรดบริษัทที่ประชมุ กนั . พระธรรมเทศนานน้ั ไดมปี ระโยชนแกมหาชนแล. จบอรรถกถาอาจามทายิกาวิมาน ๔. จัณฑาลวิ มิ าน วาดวยจณั ฑาลิวิมาน [๒๑] พระมหาโมคคัลลานเถระไดกลาวคาถาสองคาถาวา ดกู อนนางจณั ฑาลี ทา นจงถวายอภวิ าทพระ- บาทยคุ ลของพระโคดมผมู พี ระเกียรติยศ พระผูเปน พระพทุ ธเจาองคที่ ๗ ประทบั ยืนอยูเพื่อทรง อนุเคราะหท า นคนเดยี ว ทานจงทาํ ใจใหเ ล่ือมใสย่งิ ในพระพทุ ธเจา ผูเ ปน พระอรหันต คงท่ี แลว จง ประคองอัญชลีถวายอภิวาทโดยเร็วเถิด ชีวิตของทา น ยังนอยเต็มที. เพื่อจะแสดงประวัติของนางจัณฑาลนี ัน้ โดยตลอด พระสงั คตี กิ าจารยจงึ กลาวคาถาสองคาถานี้วา หญงิ จณั ฑาลผี ูน้ี อันพระมหาเถระผมู ตี นอนั อบรมแลว ดํารงไวซึง่ สรีระอันที่สุด ตกั เตือนแลว
พระสตุ ตนั ตปฎก ขุททกนิกาย วิมานวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนาท่ี 178จึงถวายบังคมพระบาทยุคลของพระโคดม ผมู พี ระ-เกยี รติยศ แมโ คไดขวดิ นางในขณะท่กี ําลงั ยนื ประ-คองอญั ชลี นมสั การพระสัมมาสมั พทุ ธเจา ผสู อ งแสงสวา งในโลกมืด. เพือ่ ประกาศเรื่องไปของตน เทพธิดาจงึ กลา ววา ขาแตทา นวีรบรุ ษุ ผูมีอานภุ าพมาก ดีฉันถงึ แลว ซึ่งเทวฤทธ์ิ เขา มาหาทา นผูส้ินอาสวะปราศจากกเิ ลสธลุ ี เปนผูไ มหวนั่ ไหว นัง่ เรน อยูผเู ดยี วในปา ขอไหวท า นผนู น้ั เจาคะ . พระมหาโมคคัลลานเถระจงึ กลา วกะนางนัน้ วา ดกู อนเทพธดิ าผสู วยงาม ทา นเปน ใคร มีรศั มีดงั ทองงามรุงโรจน มีเกียรตยิ ศมาก งามตระการมใิ ชนอ ย แวดลอ มดว ยหมูอัปสรพากนั ลงมาจาก วิมาน จึงไหวอาตมา. เทพธิดานนั้ ถกู พระมหาเถระถามอยางนี้ จงึ กลาวคาถา ๔ คาถาวา ทา นเจาขา ครั้งเกิดเปนมนุษยอ ยูใ นมนุษยโลกดฉิ นั เปน หญงิ จัณฑาล ถูกทานผเู ปน วรี บุรษุ สงไปเพ่ือถวายบังคมพระบาทของพระพทุ ธเจา ดีฉนั ไดถ วายบงั คมพระบาทยคุ ล ของพระโคดมผูเ ปนพระอรหนั ตมีพระเกียรตยิ ศอนั งาม ครน้ั ไดถวายบงั คมพระบาทยุคลแลว จตุ จิ ากกําเนิดหญงิ จณั ฑาลก็เขาถงึ วิมานอันจาํ เริญโดยประการทงั้ ปวง ในเทวอทุ ยานมนี ามวา
พระสุตตันตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย วมิ านวัตถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนาท่ี 179 นนั ทนวนั เทพอปั สรประมาณพันหนง่ึ พากนั มายืนหอม ลอมดฉี ัน ดีฉันเห็นผปู ระเสริฐเลิศกวาเทพอปั สรน้ัน โดยรัศมี เกียรติยศ และอายุ ดฉี ันไดกระทํา กัลยาณธรรมไวมาก มสี ตสิ ัมปชัญญะ ทา นเจาขา ดฉี ันมาในโลกครั้งนี้ กเ็ พอื่ ถวายนมัสการทา นปราชญ ผูป ระกอบดว ยความกรณุ าเจา คะ เทพธดิ าน้ัน ครนั้ กลาวถอ ยคํานแ้ี ลว เปน ผปู ระกอบดวยความกตญั ู กตเวที ไหวเ ทา ทง้ั สองของพระมหาโมคคลั ลานเถระ องคอรหันตแ ลวกอ็ นั ตรธานไป ณ ทนี่ ้นั นั่นเอง. จบจณั ฑาลิวมิ าน อรรถกถาจณั ฑาลิวิมาน จัณฑาลวิ ิมานมีคาถาวา จณฑฺ าลิ วนทฺ ปาทานิ ดังนี้เปน ตน.จณั ฑาลวิ ิมานนัน้ เกดิ ขึน้ อยา งไร ? พระผูมพี ระภาคเจา ประทบั อยู ณ กรงุ ราชคฤห ในเวลาใกลรุงทรงเขา มหากรุณาสมาบัติ ท่ีพระพทุ ธเจาปฏบิ ตั ิกันมาแลว เมอื่ ทรงออกแลว ตรวจดูโลกอยู ไดทรงเหน็ หญิงจัณฑาลแกค นหนึง่ ซึ่งอยูในจณั ฑาลิคาม ในนครนัน้ น่ันเองส้ินอายุ ก็กรรมของนางทน่ี าํ ไปนรกปรากฏชัดแลว. พระองคทรงมีพระทยั อันพระมหากรุณาใหข ะมักเขมน แลวทรงดาํ รวิ า เราใหนางทาํ กรรมอนั นาํ ไปสสู วรรค จักหา มการเกิดในนรกของนางดว ยกรรมน้นั ใหดํารงอยูบนสวรรค จึงเสดจ็ เขาไป
พระสุตตันตปฎก ขทุ ทกนิกาย วมิ านวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ท่ี 180บิณฑบาตยงั กรุงราชคฤหพ รอมดวยภกิ ษุหมใู หญ ก็สมัยนนั้ หญิงจณั ฑาลีนนั้ ถือไมออกจากนคร พบพระผูมีพระภาคเจากําลงั เสด็จมาไดย นืประจนั หนา กันแลว . แมพ ระผูมีพระภาคเจา ประทบั ยืนตรงหนาเหมือนหามมิใหน างไป. ครัง้ นน้ั ทา นพระมหาโมคคัลลานะ รูพ ระทัยของพระศาสดา และความหมดอายขุ องหญงิ นน้ั แลว เม่ือจะใหนางถวายบงั คมพระผูมพี ระภาคเจา จึงไดก ลา วคาถา ๒ คาถาวา ดูกอ นแมจ ณั ฑาล ทา นจงถวายบังคมพระบาท ยคุ ลของพระโคดม ผมู พี ระเกยี รติยศเถิด พระโคดม ผูเ ปนพระพทุ ธเจา องคที่ ๗ ประทบั ยื่นเพือ่ อนุเคราะห ทานคนเดยี ว ทานจงทาํ จิตใหเล่ือมใสย่ิง ในพระองค ผูเ ปน พระอรหนั ต ผูคงท่ี แลวจงรีบประคองอัญชลี ถวายบังคมเถดิ ชวี ติ ของทานนอ ยเต็มท่.ี บรรดาบทเหลา นนั้ ดวยบทวา จณฺฑาลิ พระเถระเรียกนางท่ีมีชอ่ื มาแตก ําเนดิ . บทวา วนฺท ไดแก จงถวายบังคม. บทวา ปาทานิไดแก จรณะคือพระบาทอันเปน สรณะของโลก พรอมดว ยเทวโลก. บาทคาถาวา ตเมว อนกุ มฺปาย ไดแก เพอื่ อนุเคราะหท านเทาน้นั . อธบิ ายวาเพอ่ื ปอ งกนั การเกดิ ในอบายมาใหบงั เกดิ ในสวรรค. บทวา อฏาสิ ไดแ กประทบั ยืนไมเสด็จเขาไปสพู ระนคร. บทวา อสิ ิสตฺตโม ความวาพระองคเปนผูสูงสดุ คอื อกุ ฤษฏ กวาฤษชี าวโลก พระเสขะ พระอเสขะพระปจ เจกพทุ ธเจา อีกอยา งหนึง่ ช่อื วา อสิ ิสตฺตโม เพราะบรรดาพุทธฤษีท้ังหลายมพี ระวิปส สีเปนตน เปน ฤษี [พระพทุ ธเจา ] พระองคท่ี ๗.
พระสุตตันตปฎ ก ขุททกนกิ าย วมิ านวัตถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนาท่ี 181 บาทคาถาวา อภิปฺปสาเทหิ มน ความวา จงทําจติ ของทา นใหเลอ่ื มใสวา พระผูมีพระภาคเจา เปนผตู รัสรเู องโดยชอบ. บทวาอรหนฺตมฺหิ ตาทเิ น ความวา ช่อื วาพระอรหนั ต เพราะกเิ ลสท้งั หลายหางไกล เพราะกาํ จดั กเิ ลสเหลา นนั้ ซง่ึ เปน ขา ศกึ เพราะกาํ จัดกาํ แหงสังสารจกั ร เพราะเปนผคู วรแกปจ จยั ทั้งหลาย และเพราะไมม คี วามลับในการทําบาป ช่อื วา ตาทิ เพราะถงึ ความคงทีใ่ นโลกธรรมมีอิฏฐารมณเปน ตน . บาทคาถาวา ขปิ ฺป ปชฺ ลิกา วนทฺ ความวา ทา นจงประคองอญั ชลแี ลว จงถวายบังคมเรว็ ๆ เถดิ . หากถามวา เพราะเหตไุ ร ? ตอบวาเพราะชวี ติ ของทานนอยเต็มที่ เพราะชวี ิตของทานจะตองแตกเปนสภาพในที่นี้ จึงยังเหลือนอย คือนิดหนอย. พระเถระ เมื่อระบพุ ระคณุ ของพระผูมีพระภาคเจา ดว ยคาถา ๒ คาถาอยา งนี้ อยใู นอานุภาพของตน ทาํ นางใหส ลดใจดวยการช้ีชัดวา นางหมดอายุ ประกอบนางไวใ นการถวายบังคมพระศาสดา. ก็นางไดฟงคาํนัน้ แลว เกิดสลดใจ มใี จเล่อื มใสในพระศาสดา ถวายบงั คมดว ยเบญจางคประดิษฐ ประคองอญั ชลนี มัสการอยู ไดย นื มีจติ เปน สมาธิดวยปตอิ ันซา นไปในพระพุทธคุณ. พระผูมีพระภาคเจา เสด็จเขา ไปพระนครพรอ มดวยภกิ ษสุ งฆดวยทรงดาํ รวิ า เทาน้กี พ็ อจะใหนางเกิดในสวรรคไ ดด ังน้.ี ตอ มา แมโคลกู ออ นตวั หน่งึ หนั วง่ิ ตรงไปจากทนี่ น้ัเอาเขาขวดิ นางจนเสยี ชีวิต. ทานพระสงั คตี ิกาจารย เพ่อื แสดงเรอื่ งน้นัท้ังหมด ไดกลา วคาถา ๒ คาถาวา หญงิ จณั ฑาลผูน้ี อันพระมหาเถระผูม ีตนอัน อบรมแลว ธํารงไวซง่ึ สรรี ะอันสดุ ทาย ตักเตือนแลว
พระสุตตันตปฎ ก ขุททกนกิ าย วมิ านวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนาท่ี 182 จึงถวายบังคมพระบาทยุคลของพระโคดม ผมู พี ระ- เกยี รติยศ แมโ คไดข วดิ นางในขณะท่ีกําลงั ยืนประ- คองอัญชลี นมสั การพระสัมมาสมั พุทธเจา ผูสอง แสงสวางในโลกมดื ดงั น้ี. บรรดาบทเหลา นนั้ บทวา ปชฺ ลึ ิต นมสสฺ มาน สมฺพุทธฺ ความวา เมอื่ พระผมู พี ระภาคเจา แมเ สด็จไปแลว นางก็ยงั มจี ิตเปนสมาธิดว ยปต ิมีพระพทุ ธคุณเปนอารมณ ยนื ประคองอัญชลเี หมือนอยเู ฉพาะพระ-พกั ตร. บทวา อนฺธกาเร ไดแก ในโลกอันมดื ดวยความมืดคืออวิชชาและมดื ดวยกิเลสทง้ั สิน้ . บทวา ปภงฺกร คือ ผทู ําแสงสวา งคือญาณ. ก็นางจุติจากนัน้ ไปบงั เกิดในภพดาวดึงส. นางมีอปั สรแสนหนึ่งเปนบริวาร. กแ็ ลในทันใดน่ันเอง นางมาพรอ มกับวิมาน ลงจากวิมานแลว ไดเ ขาไปหาทา นพระมหาโมคัลลานะถวายนมสั การ. เพ่ือแสดงความขอ นั้น นางเทพธดิ า ไดก ลาววา ขาแตท านวรี บุรุษผมู อี านุภาพมาก ดีฉันบรรลุ เทวฤทธิ์แลว เขา มาหาทา นผูสน้ิ อาสวะปราศกิเลสธุลี เห็นผไู มห ว่นั ไหว นัง่ เรน อยูผเู ดียวในปา ขอไหว ทานเจา คะ. พระเถระไดถ ามเทพธิดาน้นั วา ดกู อนเทพธดิ าผูส งางาม ทา นเปนใคร มีรัศมี ดงั ทองงามรงุ โรจน มเี กยี รติยศมาก งานตระการ* อรรถกถาวา นางมีอปั สรแสนหนึง่ บาลีวา มีอปั สรพันหนึ่ง
พระสตุ ตนั ตปฎ ก ขุททกนิกาย วมิ านวัตถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ท่ี 183 มใิ ชนอ ย แวดลอ มดว ยหมูเ ทพอปั สรพากันลงมาจาก วมิ าน จงึ มาไหวอาตมา. บรรดาบทเหลานนั้ บทวา ชลติ า ไดแก รงุ โรจนโชตชิ วงดว ยรศั มีแหง สรรี ะผาและอาภรณเปนตน ของตน. บทวา มหาสยา ไดแกมีบรวิ ารมาก. บทวา วมิ านโมรุยหฺ แปลวา ลงจากวมิ าน. บทวาอเนกจิตฺตา ไดแ ก ประกอบดวยความงามหลากหลาย. บทวา สุเภ แปลวาผูมีคณุ อันงาม. บทวา มม แปลวา อาตมา. เทพธดิ าน้นั ไดถกู พระเถระถามอยา งนีแ้ ลว จงึ กลา วคาถา ๔ คาถาอกี วา ทานเจาขา ดิฉนั เปนหญงิ จัณฑาล ถกู ทา นผู เปน วรี บุรษุ สงไปถวายบังคมพระบาทยคุ ลของพระ- โคดม ผูเปนพระอรหนั ต มีพระเกยี รตยิ ศ คร้ันได ถวายบงั คมพระยุคลบาทแลว จตุ ิจากกาํ เนิดหญงิ จัณฑาลไปเขา ถึงวิมาน อันเพรยี บพรอ มดวยสมบัติ ท้งั ปวง ในอุทยานนนั ทนวนั เทพอปั สรพันหนึ่งพากัน มายนื หอมลอม ดีฉนั เปน ผูประเสรฐิ เลศิ กวาเทพ- อปั สรเหลานน้ั โดยวรรณะ เกยี รติยศ และอายุ ดฉี นั ไดก ระทํากรรมอันงามมากมาย มสี ติสมั ปชัญญะ ทานเจา ขา ดฉิ ันมามนษุ ยโลกคร้ังนี้ ก็เพ่อื ถวาย นมัสการพระมนุ ีผูมกี รณุ า เจาคะ . บรรดาบทเหลา นนั้ บทวา เปสติ า ความวา หญิงจณั ฑาลถูก
พระสตุ ตันตปฎก ขุททกนิกาย วมิ านวัตถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ท่ี 184ทานผูเปนวรี บุรษุ สง ไปเพือ่ ถวายนมสั การดวยคาํ เปน ตน วา ดูกอนแม-จณั ฑาล ทา นจงถวายพระยคุ ลบาทเถดิ . บญุ ท่ีสาํ เร็จดวยการถวายบังคมนัน้ถงึ จะนอยโดยชว่ั ขณะประเดี๋ยวก็จรงิ ถึงกระนัน้ กช็ ่อื วามากเกินทีจ่ ะเปรยี บได เพราะมเี ขต [เขตตสมั ปทา] ใหญ และมีผลใหญ เพราะเหตุนน้ั นางจงึ ไดก ลาววา ปหูตกตกลยฺ าณา ดังน้ี อน่ึง นางหมายถงึ ความบรสิ ุทธ์ขิ องปญญาและสติ ในขณะความเปนไปแหงปต ิมีพระพุทธคณุ เปนอารมณ จึงไดก ลาววา สมฺปชานา ปติสสฺ ตา ดงั นี.้ ทานพระสังคตี ิ-กาจารย ตัง้ คาถาไวอีกวา เทพธิดาจัณฑาลี ผูก ตญั กู ตเวที ครน้ั กลาว ถอยคาํ นแ้ี ลว ไหวเ ทาทง้ั สองของทา นพระมหาโมค- คลั ลานเถระ องคพระอรหันตแ ลว กอ็ นั ตรธานไป ณ ทน่ี ั้นนัน่ เองแล. บรรดาบทเหลา นัน้ บทวา จณฺฑาลี ทา นกลาววา เคยเปนหญงิจณั ฑาล. คําใด เปน การกลาวเรยี กกนั ติดปากในมนษุ ยโลก คํานี้ก็ปฏบิ ัติตดิ มาในเทวโลกเชน กัน. คาํ ท่เี หลือมีนยั ดังท่กี ลาวมาแลว. สวนทานพระมหาโมคคัลลานเถระ กราบทลู เรอื่ งถวายพระผมู ีพระ-ภาคเจา แลว . พระผูม พี ระภาคเจา ทรงทาํ ขอ ความนั้นใหเปนอัตถปุ ปต ติเหตุเกดิ เรอื่ ง ทรงแสดงธรรมแกบ รษิ ัทที่ประชมุ กัน พระธรรมเทศนาน้ันไดเปนประโยชนแกประชาชนแล. จบอรรถกถาจัณฑาลิวิมาน
พระสุตตันตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย วมิ านวัตถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนาท่ี 185 ๕. ภัททิตถกิ าวมิ าน วาดว ยภทั ทิตถิกาวิมาน [๒๒] พระผมู พี ระภาคเจา ตรัสถามถึงบุรพกรรมที่ ภทั ทาเทพธิดานัน้ ไดก ระทําไวว า ดกู อนเทพธิดาผูมีปญญาดี ทา นสวมไวเ หนือ ศรี ษะ ซึ่งมาลยั ดอกมณฑารพ ซง่ึ มสี ตี า ง ๆ คอื คาํ แดงเขม และแดง แวดลอมดว ยกลบี เกสรจาก ตน ไมเ หลา ใด ตนไมเหลานไ้ี มมใี นหมูเ ทพเหลาอนื่ เพราะบญุ อะไร ทา นผมู ียศจงึ เขาถงึ หมูเทวดาช้นั ดาวดงึ ส ดูกอ นเทพธดิ า ทา นถูกเราถามแลว โปรดบอกสิวาน้ีเปน ผขิ องบญุ กรรมอะไร. เทพธิดาถกู พระผูมีพระภาคเจา ตรัสถามอยางนีแ้ ลว จึงทลู พยากรณดว ยคาถาเหลา น้วี า ชนทงั้ หลายรูจักขา พระองควา ภัตทิตถกิ า ขาพระองคเปน อบุ าสกิ าอยใู นกมิ พลิ นคร เปนผูสม- บูรณดว ยศรทั ธา และศีล ยนิ ดใี นการจําแนกทาน ทุกเม่ือ มีจิตอนั เล่ือมใสในพระอริยเจาผปู ฏิบัตติ รง ไดถ วายผา นุงหม อาหาร เสนาสนะ และเคร่ือง ประทปี ขาพระองคไ ดเ ขารักษาอุโบสถอันประกอบ ดว ยองค ๘ ประการตลอดดิถีท่ี ๑๔-๑๕ และดถิ ีที่ ๘ ของปก ษ และตลอดปาฏิหารยิ ปก ษ เปนผสู ํารวม
พระสตุ ตันตปฎ ก ขุททกนกิ าย วมิ านวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ท่ี 186แลวดว ยดใี นศีลทกุ เมอื่ งดเวน จากปาณาตบิ าต เปนผเู วนจากการถือเอาสง่ิ ของของผอู ่ืนดว ยไถยจิต จากการประพฤติผดิ ในกาม สาํ รวมจากมสุ าวาท และจากการดมื่ น้าํ เมา เปน ผยู นิ ดีในสกิ ขาบทท้งั ๕ และเปนผฉู ลาดในอริยสัจ มีปกติเปน อยดู วยความไมประมาท เปนอบุ าสกิ าของพระพทุ ธเจาผมู พี ระ-สมันตจกั ษุ ขา พระองคบ าํ เพ็ญสจุ รติ กุศลธรรมสาํ เร็จแลว จตุ จิ ากมนุษยโลกนัน้ แลว เปนนางเทพธิดาผูมีรัศมีในกายตัวเอง เทีย่ วชมอยูรอบ ๆ สวนนันทนวนัอนงึ่ ขา พระองคไ ดเ ลยี้ งดซู ึง่ ทา นภิกษผุ ูเปนอัครสาวกท้ังสอง ผอู นุเคราะหช าวโลกดว ยประโยชนเกอ้ื กลูอยา งยง่ิ เปน มหาปราชญ และไดบ าํ เพ็ญสุจรติ กศุ ล-ธรรมไวมาก ครน้ั จุติจากมนุษยโลกนั้นแลว ไดบังเกดิ เปนเทพธิดา ผูมีรศั มีในกายของตนเอง เท่ียว ชมอยรู อบ ๆ สวนนนั ทนวัน ขา พระองคไ ดเขารักษาอุโบสถ อันประกอบดวยองค ๘ ประการ นํามา ซง่ึ ความสุขอันกาํ หนดมิไดเนืองนิตย และไดสรา งสจุ รติ กศุ ลธรรมความชอบไวบรบิ รู ณแ ลว ครัน้ จตุ ิจาก มนษุ ยโลกนั้นแลว ไดบงั เกดิ เปนนางเทวดาผูม ีรศั มใี นกายตัวเอง เทยี่ วชมอยูรอบ ๆ นันทนวนั . จบภัททติ ถกิ าวมิ าน
พระสตุ ตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย วิมานวัตถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ท่ี 187 อรรถกถาภัททิตถกิ าวมิ าน ภัททติ ถิกาวมิ านมคี าถาวา นลี า ปตา จ กาฬา จ ดังนเ้ี ปนตน .ภทั ทติ ถกิ าวมิ านน้ันเกิดขนึ้ อยา งไร ? พระผมู ีพระภาคเจา ประทับอยู ณ พระเชตวัน อารามของอนาถ-บณิ ฑกิ ะ กรุงสาวตั ถี สมยั นนั้ ในกมิ ิลนคร มีคหบดีบตุ รผหู น่ึงชอ่ืโรหกะ มศี รัทธาปสาทะ ถึงพรอ มดวยศลี และอาจาระ ในนครน้นั แลมีทาริกาเด็กหญิงคนหนงึ่ ในตระกูลทม่ี ีโภคทรพั ยมาก ทัดเทียมกับนายโรหกะน้ัน เปน ผูมีศรัทธาเล่อื มใส มีนามวา ภัททา เพราะเจริญแมตามปกติ ครน้ั ตอมา มารดาบดิ าของโรหกะ ไดเ ลอื กกุมารีน้นั นํานางมาในเวลาน้นั ไดทาํ อาวาหววิ ามงคลกนั . สองสามภี รยิ านัน้ ก็อยูรวมกนั ดวยสามคั คี ก็เพราะอาจารสมบัติของตน นางจงึ ไดเปน คนเดน รูจักกนั ไปทั่วพระนครน้ันวา ภทั ทติ ถี แมหญงิ ภัทรา. ก็สมัยน้นั พระอคั รสาวกท้งั ๒ มภี กิ ษเุ ปน บรวิ าร รปู ละ ๕๐๐จารกิ เที่ยวไปในชนบท ถึงกมิ ิลนคร. นายโรหกะ รูวา พระอคั รสาวกน้นัไปทก่ี มิ ิลนครนั้น เกิดโสมนสั เขาไปหาพระเถระทง้ั สองรูป ไหวแ ลวนิมนตฉันในวนั พรุงนี้ อังคาสทานพรอมดว ยบริวารใหอ มิ่ หนาํ สาํ ราญดวยของเคย้ี วของฉันอันประณตี ในวนั รุงข้ึน พรอ มดว ยบุตรและภรรยา ไดฟงพระธรรมเทศนาท่ีทาแสดงแลว ต้งั อยูในโอวาทของทา น รับสรณะสมาทานเบญจศีล. สว นภรรยาของเขา กเ็ ขารกั ษาอโุ บสถศลี เปน วัน ๘ ค่ํา๑๔ คํา่ ๑๕ ค่ํา และวนั ปาฏิหาริยปก ษ. เฉพาะอยา งยง่ิ นางไดเปนผถู ึงพรอ มดวยศลี และอาจาระ และเทวดาท้งั หลาย อนุเคราะหแลว ก็ดวย
พระสุตตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย วิมานวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ที่ 188ความอนุเคราะหข องเทวดานนั้ แล นางกป็ ลดเปลอื้ งคาํ วารา ยผิด ๆ ท่ีตกมาเหนือตนหายไปได กลายเปน ผมู ีเกียรตยิ ศแพรไปทว่ั โลกอยางยิ่งเพราะนางมศี ีลและอาจาระหมดจดดวยดีแล. กภ็ รรยานนั้ อยูใ นกมิ ิลนครนน้ั เอง สวนสามขี องนางอยคู าขายในตกั กศิลานคร ในวนั มหรสพรืน่ เรงิ กนั เม่ือถกู พวกเพอื่ นรบเรากเ็ กิดคดิอยากเลนงานมหรสพตามเทศกาล เทวดาผปู ระจําเรอื นกช็ วยนาํ นางไปในตกั กศลิ านครนัน้ ดว ยอานุภาพทพิ ยของตนแลว สง ไปรวมกบั สามี เพราะอยรู วมกนั นนั่ แล ก็ตง้ั ครรภ เทวดาชว ยนาํ กลบั กมิ ลิ นคร เมอ่ื ครรภปรากฏชัดขน้ึ โดยลาํ ดบั ถูกแมผ วั เปนตน รังเกยี จวา นางประพฤตนิ อกใจสามี เม่ือกระแสนํ้าในแมน า้ํ คงคาถกู เทวดานัน้ แล บนั ดาลใหเ ปน เหมอื นหลงมาทว มกมิ ลิ นคร ดวยอานภุ าพของตน ประสบความยงุ ยาก ซึ่งตกลงมาเหนือตนดังกระแสนํา้ ในแมน ้ําคงคาท่มี เี กลียวคล่นื เกดิ เพราะแรงลมดวยการสมถะมีสจั จาธิษฐานเปนเบื้องตน ซึง่ พิสูจนว า ตนเปน หญิงจงรกัสามี ถงึ จะกลบั มาอยรู ว มกบั สามี สามีนน้ั กร็ งั เกยี จ เหมือนแมผัวเปน ตนรังเกยี จมากอน และตอ งอางสัญญาณเคร่อื งหมาย ซึ่งสามีนน้ั ประทบั ชื่อใหไ วใ นตกั กศลิ านคร จงึ แกค วามรังเกียจนัน้ ได กลายเปน ผูทญี่ าตฝิ ายสามีและมหาชนยกยอ ง ดว ยเหตนุ นั้ ขาพเจา จงึ กลาววา สุวิสทุ ธฺ สีลา-จารตาย อตวิ ิย โลเก ปตถฺ ฏยสา อโหสิ ไดเ ปน ผูมีเกียรตยิ ศแพรไปในโลกอยา งยง่ิ เพราะเปน ผูม ศี ลี และอาจาระหมดจดด.ี สมยั ตอ มา นางทํากาละตาย ไปบงั เกิดในภพดาวดงึ ส คร้ังเมือ่พระผมู พี ระภาคเจา เสดจ็ มาจากกรุงสาวัตถไี ปยังภพดาวดึงส ประทับนงั่บนบณั ฑุกัมพลศิลา ณ โคนตน ปาริฉัตร และเมือ่ เทพบรษิ ทั เขาไปเฝา
พระสุตตันตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย วมิ านวัตถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนาท่ี 189พระผมู พี ระภาคเจา ถวายบงั คมแลว นั่ง ณ ทค่ี วรสว นขา งหนง่ึ แมภทั ทติ ถเี ทพธดิ ากไ็ ดเ ขาไปเฝาถวายบงั คมแลว ไดยนื อยู ณ ท่ีควรสว นขา งหนง่ึ . ลาํ ดับนั้น พระผมู พี ระภาคเจา เมือ่ จะทรงถามบญุ กรรมที่เทพธดิ านั้นทาํ ไว ณ ทามกลางเทวดาบรษิ ทั และพระพรหมบรษิ ัททป่ี ระชุมพรอ มกนั ในหม่ืนโลกธาตุ ไดตรัสวา ดูกอนเทพธดิ าผูมปี ญญาดี ทา นทดั ทรงไว เหนอื ศรี ษะ ซึ่งพวงมาลยั ดอกมณฑารพ อันมสี ี ตาง ๆ กนั คอื เขยี ว เหลือง ดาํ แดงเขม และแดง ท่ีหอมลอ มดว ยกลบี เกสร จากตนไมเหลาใด ตน ไม เหลา น้ี ไมม ีในเทพหมอู ่นื เพราะบุญอะไร ทานผู เลอยศจึงเขา ถงึ หมูเทพชน้ั ดาวดึงส ดกู อนเทพธดิ า ทา นถกู เราถามแลว จงบอกมาสิวาน้ีเปน ผลของบุญ อะไร. ในคาถาน้ัน จ ศัพทในบาทคาถานีว้ า นลี า ปต า จ กาฬา จมฺชฏิ า อถ โลหติ า เปน การกลา วควบบท จ ศัพทนัน้ พึงประกอบแตล ะบทโดยเปนตน วา นีลา จ ปต า จ. ศัพทว า อถ เปน นบิ าตใชในอรรถอน่ื . ดวย อถ ศัพทนั้น ทานรวมวรรณะท่ไี มไ ดก ลา วมสี ีขาวเปนตนไวด วย. พึงทราบวาอติ ิศัพททานลบเสียแลว แสดงไว [ไมม ีอิติศัพท]อกี อยา งหน่ึง จ ศพั ท ควบขอ ความท่ไี มไ ดก ลาวไว อิติ ศัพท เปนนิบาต. บทวา อุจจฺ าวจาน . ในบาทคาถาวา อจุ จฺ ารจาน วณฺณาน น้ีพงึ เห็นวา ไมล บวภิ ัตติ อธบิ ายวา มีสีสงู และตําคือมสี ตี าง ๆ กนั . อน่ึง
พระสุตตนั ตปฎก ขทุ ทกนิกาย วิมานวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนาท่ี 190บทวา วณณฺ าน แปลวา ซ่งึ มรี ศั มีคือสี. บาทคาถาวา กิ ชฺ กขฺ ปรวิ ารติ าไดแ ก แวดลอมดวยกลีบเกสรดอกไม. ทจี่ ริงบทนั้นเปน ปฐมาวิภัตตแิ ตใชในอรรถฉัฏฐวี ิภตั ติ. มีคําอธิบายดังนี้วา ดูกอนเทพธิดา ทานทัดทรงประดบั ไวเ หนือเศยี ร ซ่ึงมาลยั ดอกมณฑารพ คือพวงมาลยั ที่ทําดวยดอกมณฑารพเหลา นนั้ เพราะดอกมณฑารพเหลา นนั้ ซง่ึ สสี รรตางๆ คือ เขยี วเหลือง ดํา แดงเขม แดงและสอี ่นื ๆ มสี ขี าวเปน ตน อนั หอ มลอ มดวยกลีบเกสรคอื ละออง ตามที่เปนอยมู ีสณั ฐานทรวดทรงงามเปนตน หรือเพราะสแี หงวรรณะตามทกี่ ลา วแลวตา ง ๆ กนั เกดิ จากตน มณฑารพ. เพอ่ื แสดงวา ตนไมท ี่มดี อกเหลา นน้ั ไมท ว่ั ไปแกสวรรคช นั้ อื่น เพราะดอกไมเ หลา นน้ั มีสีพิเศษแปลกออกไป พระผูม พี ระภาคเจาจึงตรสั วานยเิ ม อฺเสุ กาเยสุ รกุ ฺขา สนฺติ สุเมธเส ดังน้.ี ในบทเหลานัน้บทวา อิเม ประกอบความวา ตนไมมีดอกประกอบดวยสแี ละสณั ฐานเปนตน ตามทก่ี ลา วแลว ไมม.ี บทวา กาเยสุ แปลวา ในหมูเทพทงั้ หลาย.บทวา สเุ มธเส แปลวา ดูกอ นเทพธิดาผมู ปี ญญาดี. บรรดาบทเหลา นั้น บทวา นลี า ไดแก มีสเี ขยี ว โดยมณรี ัตนะมีอนิ ทนิลและมหานลิ เปน ตน. บทวา ปตา ไดแ ก มีสเี หลอื ง โดยมณรี ตั นะ มบี ษุ ราคัมกักเกตนะและปลุ กะเปนตน และทองสิงคี. วากาฬา ไดแ ก มสี ีดาํ โดยมณรี ตั นะมแี กวหนิ อสั มกะ แกว หินอุปลกะเปน ตน. บทวา มชฺ ฏิ า ไดแก มีสแี ดงเขม โดยมณีรัตนะมแี กว โชติรสแกวโคปุตตาและแกวโคเมทกะเปน ตน. บทวา โลหติ า ไดแ ก มสี ีแดงโดยมณีรัตนะมีแกวทบั ทิม แกวแดง แกวประพาฬเปนตน สวนอาจารยบางพวก เอาบทมีนีละ เปนตนกบั บทน้ีวา รกุ ฺขา ประกอบกนั กลา ววา
พระสตุ ตนั ตปฎก ขทุ ทกนกิ าย วมิ านวัตถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ท่ี 191นลี ารุกฺขา เปน ตน . ทีจ่ ริง แมตนไมยอ มไดโวหารวา เขียวเปน ตนเพราะประกอบดวยสเี ขียวเปน ตน เหตปุ กคลุมดว ยดอกไมมีสีเขียวเปน ตนเพราะเหตนุ ้ัน ดวยบทเหลา น้นั วา นีลา ปต า จ กาฬา จ ฯ ป ฯนยิเม อฺเสุ กาเยสุ รกุ ขฺ า สนฺติ สเุ มธเส ดังนี้ พงึ ประกอบความวา ทา นทดั ทรงพวงดอกมณฑารพ ซ่ึงมสี ีสรรตา ง ๆ ฯลฯ หอ มลอมดว ยกลบี เกสรจากตนไมใ ด การแสดงตน ไมไ วแผนกหนึ่ง ดว ยการระบุดอกไมอันประกอบดว ยสีแปลกออกไปตามท่ีเห็นแลว ดว ยการแสดงถึงภาวะท่ีดอกไมเหลา นน้ั เปนของไมทัว่ ไป จดั เปนปฐมนยั . การแสดงดอกไมไวแผนกหนง่ึ ดวยการแสดงภาวะท่ีตนไมเ ปนของไมท ่ัวไป จัดเปนทตุ ยิ นยั . สีเปน ตน ในปฐมนยั ทา นถือเอาโดยสภาพ. ในทุตยิ นยัทา นถอื เอาโดยมขุ คอื ตน ไมอ ันเปนที่อาศัย [ ของสี ] ในขอ น้ันสแี ละตนไมเหลาน้ัน แปลกกนั ดงั กลาวมาน้ี. บทวา เกน ประกอบความวา เพราะบญุ กรรมอะไร ทานจึงเขาถงึ หมเู ทพชนั้ ดาวดงึ ส. บทวา ปุจฺฉติ าจิกขฺ ความวา ทา นถูกเราถามแลว จงบอกจงกลาวมาเถิด. เทพธดิ านัน้ ถกู พระผูมพี ระภาคเจา ตรสั ถามอยางน้แี ลว จึงไดทูลพยากรณดวยคาถาเหลานวี้ า ชนท้งั หลายรูจ ักขา พระองคว า ภัททิตถิกา แม หญิงภทั รา ขา พระองคเปนอุบาสิกาอยูในกมิ พลิ นคร เปนผูสมบูรณด วยศรทั ธาและศลี ยินดีในการจาํ แนก ของเปนทานทุกเมือ่ มีจติ ผอ งใส ไดถ วายผา นุงหม
พระสุตตนั ตปฎก ขุททกนกิ าย วมิ านวัตถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนาที่ 192อาหาร เสนาสนะ และเคร่ืองประทีป ในพระอรยิ -เจาผูป ฏิบตั ติ รง ขาพระองคไดเ ขารกั ษาอุโบสถ อนัประกอบดวยองค ๘ ประการ ตลอดดิถที ี่ ๑๔-๑๕และดถิ ที ่ี ๘ ของปก ษ และตลอดปาฏหิ ารยิ ปก ษขาพระองคเ ปนผูสํารวมแลวดว ยดใี นศีลทุกเม่ือ มีสัญญมะ และแจกทาน จงึ ครอบครองวมิ าน. ดฉี นังดเวน จากปาณาตบิ าต เปนผเู วนจากการถอื เอาสงิ่ ของของผอู นื่ ดว ยไถยจิต จากการประพฤติผิดในกามสาํ รวมจากมุสาวาท และจากการด่ืมนาํ เมา เปนผูยนิ ดีในสิกขาบททง้ั ๕ และเปน ผฉู ลาดในอริยสจัเปนอุบาสิกาของพระพุทธเจาผมู พี ระสมันตจักษุ มีปกตเิ ปน ผูอยดู ว ยความไมประมาท. ขา พระองคไ ดโอกาสบําเพญ็ กศุ ลธรรม จตุ ิจากมนษุ ยโลกน้นั แลว เปน เทพธิดา มีรศั มขี องตนเองเท่ยี วชมสวนนันทนวันอยู อน่ึง ขา พระองคไดเล้ยี งดูทานภิกษอุ คั รสาวกทงั้ สอง ผอู นเุ คราะหช าวโลกดว ยประโยชนเกอ้ื กูลอยา งย่ิง เปนมหาปราชญ และไดโอกาสบาํ เพ็ญกุศลธรรม ครน้ั จตุ ิจากมนุษยโลกนนั้แลว ไดบังเกดิ เปน เทพธิดาผูมรี ศั มีในตนเอง เที่ยวชมสวนนันทนวันอยู ขาพระองคไ ดเ ขา รกั ษาอุโบสถอนั ประกอบดวยองค ๘ ประการ อันนําความสขุ มาหาประมาณมไิ ดอ ยูเนอื งนติ ย และไดโ อถาสราง
พระสตุ ตันตปฎก ขทุ ทกนิกาย วมิ านวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนาที่ 193 กุศลธรรม ครั้นจตุ ิจากมนุษยโลกน้ันแลว ไดบงั เกดิ เปนนางเทพธิดา ผมู รี ศั มใี นตนเอง เทย่ี วชมสวน นนั ทนวนั อยู. ในบทเหลานั้น บาทคาถาวา ภทฺทติ ถฺ ิกาติ ม อฺึสุ กิมฺพิลายอปุ าสกิ า ความวา หญงิ นเ้ี จรญิ ดี เกิดการตดั สนิ ใจไววา เปนผมู ีศีลไมขาด เพราะกลบั กระแสนํา้ ใหญท ่ีกาํ ลงั เบยี ดเบียน ดวยอาจารสมบัติดว ยการการทําสัจ เพราะฉะน้นั ชาวกิมพลิ นครจึงรูจกั ขาพระองคว าอุบาสกิ าชอ่ื วา ภัททติ ถิกา. บาทคาถาเปนตนวา สทธฺ าสีเลน สมปฺ นนฺ ามเี นื้อความงายท้ังนั้น เพราะมีนยั ทีก่ ลา วมาแลวในหนหลงั . อกี อยา งหนงึ่ เทพธิดาแสดงทรัพยคอื ศรทั ธาดว ยบทนว้ี า สทธฺ า.ทรัพยคอื จาคะดว ยบทนวี้ า ขาพระองคยินดีในการจําแนกของเปน ทานมีจิตผองใส ไดถ วายผา นงุ หม อาหาร เสนาสนะและเคร่อื งประทปี ในพระอริยะ ผปู ฏิบัตติ รง. ทรัพยค ือศีล ทรพั ยคอื หิริ และทรัพยคอืโอตตัปปะดวยบทน้วี า ขา พระองคส มบูรณดว ยศลี ตลอดดถิ ี ๑๔-๑๕ ค่ําฯ ล ฯ มสี ิกขาบท ๕ ประการ แสดงทรัพยค อื สตุ ะ และทรัพยคือปญญาดวยบทนวี้ า อริยสจจฺ าน โกวิทา. เทพธดิ านน้ั แสดงการไดอริยทรพั ย๗ ประการของตนดงั กลา วมาฉะน.ี้ เทพธดิ าชี้แจงอานสิ งสของอรยิ ทรพั ย๗ นนั้ ท้ังทเี่ ปนปจจบุ ัน ท้งั ทเี่ ปน ภายหนา ดว ยบาทคาถาน้ีวาอุปาสกิ า จกขฺ ุมโต ฯ เป ฯ อนุวิจรามิ นนฺทน . ในบทเหลา นั้นบทวา กตาวาสา ไดแก ไดบ าํ เพ็ญสจุ รติ กรรมเครอื่ งอยสู าํ เร็จแลว .จรงิ อยู สจุ ริตกรรมเรยี กวา อาวาสทอี่ ยูแหง สขุ วหิ ารธรรม เพราะเหตุอยู
พระสตุ ตนั ตปฎก ขุททกนกิ าย วิมานวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนาท่ี 194เปนสขุ ในปจ จบุ ันและอนาคต ดว ยเหตุน้ัน เทพธิดาจงึ กลาววา กตกุสลาดงั น้ี. เทพธิดากลา วบุญสาํ เรจ็ ดว ยทานของตนอนั เปน เขตพิเศษท่มี ไิ ดแ ตะตองมากอ นแลว บดั น้ี เพอ่ื จะแสดงความท่ีเขตพิเศษเปน บอ เกดิ แหง บุญนน้ั จงึ กลาวคําวา ภกิ ขฺ ู จ เปน ตน . ในบทเหลา น้นั วา ภิกฺขูชื่อวา ภกิ ษุเพราะเปนผูทาํ ลายกิเลสมิใหเ หลอื . บทวา ปรมหติ านกุ มฺปเกไดแก ผอู นุเคราะหป ระโยชนเกือ้ กลู ในปจจบุ ันเปนตน เปนอยา งย่งิ คอืเหลอื เกนิ . บทวา อโภชยึ ไดแก ขาพระองคไ ดใ หท า นฉันโภชนะอันประณีต. บทวา ตปสฺสยิ คุ ความวา คู [สองอัครสาวก] ผมู ตี บะเพราะเผาผลาญตัดกเิ ลสมลทนิ ท้ังหมดไดเด็ดขาดดวยตบะอนั สงู สุด. บทวามหามุนึ ความวา เปนผูแสวงคณุ ใหญเพราะตบธรรมนนั้ น่ันแล หรือช่ือวามหาปราชญเพราะรูคือกาํ หนดวิสยั ของตนไดดวยญาณอยา งใหญน่ันเทีย่ ว. คําน้นั ท้ังหมด เทพธิดากลา วหมายเอาพระอัครสาวกทงั้ สอง. บทวา อปรมิ ติ สขุ าวห ทานกลา วมิไดลบนคิ หิต ไดแ กอันใหเกดิ หิตสุขมีปริมาณเกนิ พระดํารัสแมข องพระผมู ีพระภาคเจา เพราะพระบาลีวา ดูกอนภิกษทุ ง้ั หลาย ขอ นีผ้ ูบ อกจะทําใหบ รรลุ ตลอดถึงสุขบนสวรรคไมง ายนกั หรือนาํ สุขมาหาประมาณมไิ ด คอื นาํ สุขมาดว ยอานภุ าพของตน. บทวา สตต แปลวา ทุกเวลา. ประกอบความวาไมลดวนั รกั ษาอโุ บสถนัน้ ๆ หรอื ทําวนั รกั ษาอุโบสถนั้นไมใ หข าด ทําใหบรบิ ูรณนําความสขุ มาใหเนืองนิตย หรือทุกเวลา. คาํ ทีเ่ หลอื เหมอื นนยั ท่ีกลาวมาแลว ในหนหลัง.
พระสุตตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย วิมานวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนาที่ 195 ครัง้ นนั้ พระผูม ีพระภาคเจา ทรงแสดงอภิธรรมปฎ กตลอดสามเดอื นโปรดหมเู ทวดาและพรหม ผอู ยูในหมื่นโลกธาตุ มพี ระมารดาเทพ-บุตรเปนประธาน เสดจ็ กลบั มายงั มนุษยโลกแลว ทรงแสดงภัททิตถิกา-วิมานโปรดแกภ ิกษุทั้งหลาย. พระธรรมเทศนานน้ั ไดเ ปนประโยชนแ กบรษิ ัทผปู ระชมุ กนั แล. จบอรรถกถาภัททติ ถกิ าวิมาน ๖. โสณทินนาวิมาน วาดว ยโสณทินนาวิมาน [๒๓] พระมหาโมคคัลลานเถระ ไดสอบถามนางเทพธดิ าดวยคาถาวา ดูกอนเทพธดิ า ทานมวี รรณะงาม สองสวาง ไสวไปทุกทศิ เหมอื นดาวประกายพรึก เพราะบญุ อะไร ทานจึงมีผวิ พรรณเชนน้ี เพราะบุญอะไร อฐิ ผลนจ้ี ึงสาํ เร็จแกท าน และโภคสมบัติทุกอยางท่ี นา รกั จึงเกดิ ขึ้นแกทาน. ดกู อ นเทพธดิ า ผมู อี านุภาพมาก อาตมาขอ ถามทาน ครง้ั เกดิ เปนมนุษยทานไดก ระทาํ บุญอะไร ไว และเพราะบญุ อะไร ทานจงึ มอี านุภาพรงุ เรือง อยา งน้ี และรศั มีของทา นจงึ สวา งไสวไปทกุ ทศิ .
พระสตุ ตันตปฎก ขทุ ทกนิกาย วิมานวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนาท่ี 196 เทพธดิ านนั้ ถกู พระโมคคลั ลานเถระถามแลวดีใจ ก็พยากรณปญหาแหง กรรมทมี่ ีผลอยา งน้ีวา ชนชาวนาลนั ทานครรจู ักดิฉนั วา โสณทนิ นาดฉี ันเปนอบุ าสิกาอยูใ นเมืองนาลนั ทา เปนผูสมบรู ณดวยศรทั ธาและศลี ยนิ ดแี ลว ในทานบริจาคเสมอ มีจิตผองใส ไดถ วายผานุงหม อาหาร เสนาสนะ และเครื่องประทปี เครื่องอปุ กรณ ในพระอริยะผปู ฏบิ ตั ิตรง ดีฉนั ไดเขารกั ษาอุโบสถศีลอนั ประกอบดว ยองค๘ ประการ ตลอดวัน ๑๔ คํ่า ๑๕ ค่ํา และวัน ๘ คาํ่แหงปกษ และตลอดปาฏิหารยิ ปกษ เปน ผสู าํ รวมดวยดใี นศลี ทกุ เม่ือ คอื เปน ผงู ดเวนจากปาณาตบิ าตเวน หางไกลจากอทนิ นาทาน จากการประพฤตผิ ดิ ในกาม สํารวมจากมุสาวาท และจากการด่มื น้าํ เมา ดฉี นัเปนผยู นิ ดีในสกิ ขาบทท้งั ๕ มีปญ ญาเฉลียวฉลาดในอริยสจั เปน อุบาสกิ าของพระโคดมผูม ีพระจักษุและพระเกียรตยิ ศ เพราะบญุ น้ัน ดีฉนั จงึ มรี ัศมีเชน น้ีฯลฯ และรศั มีของดฉี นั จึงสวา งไสวไปทกุ ทศิ . จบโสณทินนาวมิ าน
พระสุตตนั ตปฎก ขุททกนกิ าย วมิ านวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ท่ี 197 อรรถกถาโสณทนิ นาวมิ าน โสณทินนาวิมานมีคาถาวา อภิกกฺ นฺเตน วณฺเณน ดงั นเ้ี ปนตน .โสณทินนาวมิ านนั้นเกดิ ขึ้นอยา งไร ? พระผมู พี ระภาคเจา ประทบั อยู ณ พระเชตวัน กรุงสาวัตถี. ก็สมัยน้ัน อบุ าสกิ าคนหนงึ่ ชอ่ื โสณทนิ นาในเมืองนาลันทามศี รัทธาเล่ือมใส บํารุงภกิ ษทุ ัง้ หลายดว ยปจจยั ๔ โดยเคารพ มีนิจศลี อนั บริสุทธ์ิดี เขารักษาแมอุโบสถประกอบดว ยองค ๘ ประการ. นางโสณทนิ นานนั้ ไดค วามสบายในการฟง ธรรม เม่อื เพิม่ พนู กมั มฏั ฐานในสจั จะ ก็ไดเ ปน โสดาบันเพราะถึงพรอมดวยอุปนสิ ยั ตอ มา นางเปนโรคชนิดหนงึ่ แลวกต็ ายไปเกดิ ในชั้นดาวดึงส. ทา นพระมหาโมคคัลลานเถระไดสอบถามเทพธิดาน้นัดวยคาถาสามคาถาเหลา นน้ั วา ดกู อนเทพธดิ า ทานมีวรรณะงาม มีรัศมี สองสวา งไสวไปทกุ ทิศ เหมอื นดาวประกายพรึก เพราะบุญอะไร ทานจงึ มวี รรณะเชน นี้ เพราะบญุ อะไร อฐิ ผลน้ีจงึ สาํ เร็จแกทา น และโภคสมบตั ิ ทกุ อยา งท่ีนา รักจงึ เกิดข้นึ แกท าน. ดกู อนเทพธดิ า ผมู ีอานุภาพมาก อาตมาขอ ถามทาน ครัง้ เกิดเปน มนุษย ทา นไดท าํ บญุ อะไรไว และเพราะบญุ อะไร ทานจึงมอี านุภาพรุงเรืองอยางนี้ และรศั มีของทา นจงึ สวางไสวไปทุกทิศ.
พระสุตตันตปฎ ก ขุททกนิกาย วมิ านวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนาที่ 198 เทพธิดานนั้ ถกู พระโมคคัลลานเถระถามแลวดใี จ ก็พยากรณป ญหาของกรรมทม่ี ผี ลอยา งน้ีวา ชนชาวเมืองนาลันทา รูจักดิฉันวาโสณทนิ นาดฉี นั เปนอุบาสกิ าอยใู นเมอื งนาลันทา เปน ผสู มบรู ณดวยศรทั ธาและศีลยินดีแลว ในทานบริจาคเสมอ มีจติผองใส ไดถวายผานุง หม อาหาร เสนาสนะและเคร่ืองประทปี เคร่ืองอปุ กรณ ในพระอริยะผูปฏิบตั ติ รงดฉี นั ไดเ ขา รกั ษาอุโบสถศลี อันประกอบดวยองค ๘ประการ ตลอดวนั ๑๔ คา่ํ ๑๕ คํ่า และวนั ๘ คาํ่แหงปกษ และตลอดปาฏหิ ารยิ ปกษ เปนผสู าํ รวมดว ยดใี นศลี ทกุ เม่ือ. เปน ผูง ดเวน จากปาณาตบิ าตเวน หางไกลจากอทินนาทาน จากการประพฤตผิ ิดในกาม สํารวมจากมุสาวาท และจากการดม่ื น้ําเมา ดีฉันเปนผยู นิ ดใี นสกิ ขาบทท้งั ๕ มปี ญ ญาเฉลียวฉลาดในอริยสจั เปนอบุ าสิกาของพระโคดมผมู พี ระจักษุ และพระเกยี รตยิ ศ เพราะบุญน้นั ดีฉันจงึ มวี รรณะเชนนี้อฐิ ผลนี้จึงสาํ เร็จแกดฉี นั และโภคสมบตั ทิ ุกอยางท่นี า รักจึงเกิดขน้ึ แกดีฉนั . ขา แตทานภิกษุผมู อี านุภาพมาก ดีฉันขอบอกแกท า น ครงั้ เกดิ เปนมนุษยดฉี นั ไดกระทําบุญใดไว
พระสตุ ตันตปฎ ก ขุททกนิกาย วิมานวตั ถุ เลม ๒ ภาค ๑ - หนา ท่ี 199 เพราะบุญนนั้ ดฉี ันจึงมีอานุภาพรุงเรืองอยางน้ี และ รศั มขี องดฉี ันจึงสวางไสวไปทกุ ทศิ . คาํ นั้นทั้งหมด เหมือนนัยทีก่ ลา วมาในหนหลงั . จบอรรถกถาโสณทนิ นาวิมาน ๗. อุโบสถาวมิ าน วา ดว ยอโุ บสถาวิมาน [๒๔] ทา นพระมหาโมคคัลลานเถระ ไดถามถงึ บุรพกรรมของเทพธิดานั้นวา ดกู อ นเทพธดิ า ทานมีวรรณะงาม มีรศั มีสอ ง สวางไสวไปทกุ ทิศ เหมอื นดาวประกายพรกึ เพราะ บุญอะไร ทานจงึ มีวรรณะเชน นี้ ฯ ล ฯ และรศั มี ของทา นจงึ สวางไสวไปทุกทิศ. นางเทพธดิ านนั้ ถกู พระโมคคลั ลานเถระถาม แลว ดใี จ ก็ไดพยากรณปญ หาแหง กรรมที่มีผล อยางนว้ี า ประชาชนรูจ กั ดฉิ ันวา แมอ ุโบสถา ดฉี ันเปน อุบาสกิ าอยใู นเมอื งสาเกต เปนผูสมบูรณดวยศรัทธา และศลี ... ไดเปนอุบาสกิ าของพระโคดมผมู พี ระจักษุ สมบรู ณด ว ยพระเกยี รตยิ ศ เพราะบุญนัน้ ดีฉนั จึง
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 599
- 600
- 601
- 602
- 603
- 604
- 605
- 606
- 607
- 608
- 609
- 610
- 611
- 612
- 613
- 614
- 615
- 616
- 617
- 618
- 619
- 620
- 621
- 622
- 623
- 624
- 625
- 626
- 627
- 628
- 629
- 630
- 631
- 632
- 633
- 634
- 635
- 636
- 637
- 638
- 639
- 640
- 641
- 642
- 643
- 644
- 645
- 646
- 647
- 648
- 649
- 650
- 651
- 652
- 653
- 654
- 655
- 656
- 657
- 658
- 659
- 660
- 661
- 662
- 663
- 664
- 665
- 666
- 667
- 668
- 669
- 670
- 671
- 672
- 673
- 674
- 675
- 676
- 677
- 678
- 679
- 680
- 681
- 682
- 683
- 684
- 685
- 686
- 687
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 600
- 601 - 650
- 651 - 687
Pages: