พระสุตตันตปฎ ก ขุททกนิกาย ชาดก เลม ๓ ภาค ๖ - หนาที่ 477เพราะฉะนน้ั พวกทานจงบอกเรา ใครหนอเปนศตั รแู กเ ราในที่น้.ี บทวาอุทธฺ คฺคราชี ความวา มาพรอมกบั พญาเนอ้ื ลายพาดขน้ึ พวกหมกู ลาวหมายเอาเสอื โครงนน่ั เอง. บทวา โยป ความวา ในบรรดาระหวา งพวกเราแมต วั เดยี วหนีไป พวกเราจกั ฆาตวั นน้ั ในภายหลงั . ตจั ฉกสกุ ร การทําพวกหมูทงั้ หมดใหม ใี จเดียวกัน แลวถามวา เสือจกั มาเวลาไหน. พวกหมตู อบวา วนั นี้ ตอนเชา ตรู มนั มาจับไปตัวหน่ึงแลวคงมาในวันพรุงนี้เชา เปนแน. ตจั ฉกสุกรนนั้ ฉลาดในการรบรูชยั ภูมิวา ต้ังในฐานนไี้ มอาจชนะได เหตุน้ันจงึ ตรวจดูประเทศแหง หน่งึ ใหพ วกหมูหากนิเสียแตก ลางคนื ทเี ดียว พอถงึ เวลาคอ นรุงกลา ววา อันขบวนรบมี ๓ อยา งดวยอํานาจขบวนรบรูปเกวียนเปน ตน แลว จดั แจงขบวนรบแบบดอกปทุมต้งั พวกลกู หมูท่ีกําลงั ดมื่ นาํ้ นมไวตรงกลาง วางแมหมเู หลาน้ันลอมไว คัดนางหมูรุน กลางลอมแมห มูเหลานนั้ ระหวางนางหมูเหลา นนั้ วางลูกหมูหยานมแลวลอมไว ระหวางลูกหมเู หลานนั้ วางหมูรนุ ๆ เข้ียวตูม ๆ ระหวา งน้นั วางพวกหมูเขยี้ วใหญ ระหวา งน้ันวางหมทู แ่ี ก ๆ แลวตง้ั กองกําลังแบงเปน พวก ๆพวกละ ๑๐ ตัว ๒๐ ตวั และ ๓๐ ตัว ไวใ นทีน่ ้นั ๆ ใหข ดุ หลมุ หลุมหนึ่งสําหรบั ตน ขุดหลุมอกี หลุมหนง่ึ เพ่ือดกั เสอื กระทาํ ใหเ ปน ตะพกั มสี ัณฐานเหมือนกระดง ระหวา งหลมุ ทัง้ ๒ ใหก ระทําต่ังสําหรบั ตนอย.ู ตจั ฉกสุกรนัน้คุมพวกหมูสาํ หรบั รบทมี่ ีเรีย่ วแรงแขง็ ขัน เทย่ี วปลกุ ใจฝงู หมูในท่ีน้นั ๆ. พอตจั ฉกจดั การเรยี บรอย พอดพี ระอาทิตยข ้นึ . ทนี ้นั พญาเสอื โครงออกจากอาศรม-บทของชฎิลโกง ยนื สะบัดกายอยทู ่ีพ้ืนภูเขา. พวกหมูเห็นมนั แลวพากันบอกวาเจาพอคณุ เอย ไพรขี องพวกเรามาแลว ละ. ตจั ฉกสกุ รบอกวา พวกเจา อยากลวัมันทาํ อาการใด พวกเจา จงทาํ อาการนั้นเปน ปฏิปก ษกันทุกอยา ง. เสอื โครง
พระสุตตนั ตปฎก ขุททกนิกาย ชาดก เลม ๓ ภาค ๖ - หนาท่ี 478สะบัดรา งกาย ยอตัวลงหนอ ยหน่ึง ถายปสสาวะ พวกหมูเลากก็ ระทําอยางนั้นบา งเสอื โครง มองดูพวกหมูแลว คาํ รามเสียงดัง พวกหมกู พ็ ากันกระทาํ อยา งน้ันบางเหมือนกนั . มนั เห็นกริยาของพวกหมูนน้ั คดิ วา หมเู หลานไี้ มเ หมอื นหมกู อ น ๆวันน้ีพากันตง้ั เปนพวก ๆ เปน ศตั รตู อเรา. เสนานายกของพวกมันทเี่ ปน ผูสั่งการคงจะมี วนั นเ้ี ราไมควรไปใกลพ วกมันเลย กลัวตายข้นึ มาหันกลับไปหาชฎิลโกง. คร้ันชฎิลโกงนน้ั เห็นมันมาเปลา ๆ จึงกลา วคาถาท่ี ๙ วา ดกู อ นพญาเนอื้ ทเ่ี กง กลา วันนเี้ จา คงจะงดเวน จากการฆา สตั วละซิหนอ ทา นใหอภัยในสตั วท ้ังปวง เสียแลวหรือ หรอื เขีย้ วของทา นคงไมม ี เจา มาถึง กลางฝงู สุกรแลว จึงซบเซาอยูดงั คนกาํ พราฉะนน้ั . บรรดาบทเหลานน้ั บทวา สงฺฆปฺปตโฺ ต ความวา เจา ไดอ ยใู นหมูแหง สกุ ร ไมไ ดก นิ อาหารอะไร ๆ ยอมซบเซาเหมอื นคนกาํ พราฉะน้นั . ครัง้ น้ัน เสอื โครง กลา วคาถาวา มิใชวาเขีย้ วของขา พเจา ไมม ี กาํ ลงั กายของ ขา พเจาก็มอี ยูพร่ังพรอม แตขา พเจา เหน็ สุกรทงั้ หลาย ทเี่ ปน ญาติกันรวมใจเปน อนั หน่งึ อนั เดียวกัน เหตุฉะนัน้ ขาพเจาจงึ ซบเซาแตผเู ดียวในปา เมอ่ื กอ นสุกรเหลาน้ี พอขา พเจาลืมตาแลดูเทา นน้ั ตา งกก็ ลัวตายหาทหี่ ลบ- ซอนว่งิ กระเจิดกระเจงิ ไปตามทิศานทุ ิศ บัดนี้ พวกมนั มาประชมุ พรอ มเปนอนั หนึ่งอันเดยี วกัน ในภูมิภาคที่ พวกมนั ยืนอยนู ั้นขาพเจา ขม พวกมันไดย ากในวนั นี้ พวกมนั คงมีขนุ พล จึงพรกั พรอมกนั คงเปน เสยี ง
พระสตุ ตันตปฎ ก ขุททกนกิ าย ชาดก เลม ๓ ภาค ๖ - หนาที่ 479 เดยี วกนั คงรว มมือรว มใจกันเบยี ดเบียนขาพเจา เพราะ เหตนุ ัน้ ขา พเจาจึงไมป รารถนาสกุ รเหลานั้น. บรรดาบทเหลา นั้น บทวา สมงคฺ ิ เอกโต ความวา ผูรวมใจกันเปน อนั หน่ึงอนั เดยี ว. บทวา อิมสฺสุท ความวา แมใ นกาลกอ น พวกหมูเหลานน้ี ะ หรอื เพียงขาพเจา ลมื ตาดูเทา นัน้ กว็ ิง่ กระเจงิ ไปทั่วทศิ านทุ ิศ. บทวาวสิ ุ วสิ ุ แปลวา คนละแผนก. บทวา ยตฺถ ิตา ความวา มาประชมุกนั อยูใ นภมู ภิ าคใด. บทวา ปรนิ ายกสมฺปนนฺ า ความวา พวกมันสมบรู ณดวยขุนพล. บทวา ตสฺมา เตส น ปฏเย ความวา เพราะเหตนุ ั้นขา พเจาจงึ ไมปรารถนาพวกนัน้ . ชฎิลโกงฟงคํานนั้ แลว เม่ือจะยุใหม ันเกดิ ความอาจหาญขน้ึ จึงกลาวคาถาวา พระอินทรองคเดยี วเทาน้ัน ยงั เอาชนะอสูร ทง้ั หลายได เหย่ียวตวั เดียวเทา น้นั ยอ มขม ฆานก ทงั้ หลายได เสอื โครง ตวั เดียวเหมือนกัน ไปถึง ทา มกลางฝูงสุกรแลว กย็ อมฆา สุกรตัวพี ๆ ได เพราะ กาํ ลังของมันเปน เชนนน้ั . บรรดาบทเหลา น้ัน บทวา มคิ สงฆฺ ปปฺ ตฺโต ความวา เสือโครงไปถึงฝงู เนือ้ แลว ยอมฆา ตวั ดี ๆ ได. บทวา พลหฺ ิ ตาทิส ความวาเพราะกาํ ลงั ของมนั เปน เชนนั้น. ลาํ ดบั นัน้ เสือโครง จึงกลา วคาถากะเขาวา จะเปนพระอนิ ทร จะเปน เหย่ยี ว แมจะเปน เสือโครงผูเปนใหญก วาเนอื้ ก็ทําญาติผพู รอมเพรียง
พระสุตตันตปฎ ก ขุททกนิกาย ชาดก เลม ๓ ภาค ๖ - หนา ที่ 480 กันม่ันคง ซึ่งเปน เชนกบั เสือโครง ไวในอํานาจไมไ ด ท้ังน้นั แหละ. บรรดาบทเหลา นนั้ บทวา พยคโฺ ฆ น ความวา เสือโครง ไมก ระทาํฝูงสกุ รท่กี ระทาํ อาการเปน ตนวา สะบัดรางกาย เชนกบั เสือโครง ไวใ นอํานาจได คือ ไมสามารถใหเ ปน ไปในอาํ นาจของตนได. ชฎลิ เม่ือจะปลกุ มันใหอ าจหาญอีก จึงไดกลา ว ๒ คาถาวา ฝกู งนกตวั นอย ๆ มีชื่อวา กุมภิลกะ เปนนกมีพวก เที่ยวไปเปน หมวดหมู ราเริงบนั เทิงใน โผผินบินรอน ไปเปนกลุม ๆ ก็เมื่อฝูงนกเหลานั้นบนิ ไป บรรดานก เหลาน้ัน คงมสี กั ตวั หนึง่ ที่แตกฝูงไป เหย่ยี วยอม โฉบจบั นกตวั นน้ั ได น่เี ปนคตขิ องเสือโครง ท้ังหลาย โดยแท. บรรดาบทเหลา นน้ั บทวา กมุ ฺภลิ กา ไดแก ฝูงนกตวั นอ ย ๆ ซึ่งมีชอ่ื อยางนน้ั . บทวา อปุ ปฺ ตนฺติ ไดแก ไปเที่ยวหากิน. บทวา อยุ ยฺ นฺติ จความวา บนิ ไปหากนิ ทางอากาศ. บทวา เอเกตถฺ อปสกฺกติ ความวาในบรรดาฝงู นกเหลาน้นั มีตัวเดียวท่ีลา หลัง หรือก็บนิ แยกไปทางหน่ึง. บทวานิตาเลติ ความวา เหยยี่ วยอมโฉบเอาไปได. บทวา เวยยฺ คฆฺ เิ ยว สา คติความวา คตินนั้ ชอื่ วา เปนทาํ นองเดียวกบั เสอื โครง เพราะเปน คติของเสอื โครงนั่นเอง คอื แมเมอ่ื พวกเสอื โครง จะไปหาฝูงสตั วท่ีอยรู ว มกัน ก็มคี ตทิ าํ นองนี้จงึ ไดช อื่ วาเปน คตขิ องเสอื โครง แท ๆ อันท่ีจรงิ ทกุ ๆ ตัว ไมอาจจะบนิ ไปโดยกลมุ เดยี วกันไดดอก เหตนุ ้นั ในฝงู น้นั ตวั ใดบินไปตัวเดยี วอยา งนี้ ก็จับเอาตวั น้นั ไป.
พระสตุ ตันตปฎก ขุททกนกิ าย ชาดก เลม ๓ ภาค ๖ - หนา ที่ 481 ก็แลคร้ันกลาวอยา งนี้แลว กป็ ลกุ ใจเสือโครง วา พญาเสอื โครงเอยเจา มไิ ดรกู ําลงั ของตน อยากลัวเลยนะ คํารามแลว ว่งิ ปรี่เขาไปทาเดียวเทานน้ัพวกสกุ รทีค่ มุ กันอยูเ ปน กลมุ ไดไมมีเลยละ มันไดกระทาํ อยางน้นั . พระศาสดา เม่ือทรงประกาศเนือ้ ความนั้นจงึ ตรสั วา เสอื โครงเปนสตั วม ีเข้ียว ถูกชฎิลผูห ยาบชา เห็นแกอ ามสิ ปลกุ ใจใหฮ กึ เหมิ สาํ คัญจะทาํ ไดเ หมอื น เมอ่ื คร้งั กอ น จงึ ว่งิ เขาไปในฝูงสกุ รที่มีเขีย้ ว. บรรดาบทเหลา นน้ั บทวา ทาฑคิ วามวา เสือโครง ท่ีมเี ขี้ยวเปนอาวุธเอง โถมเขา ไปในฝูงสกุ รทมี่ เี ขีย้ วเปน อาวธุ ดุจกัน. บทวา ยถา ปุเรความวา เพราะสาํ คญั เสยี วา เหมอื นในคร้งั กอน ๆ. เลากนั มาวา เสือโครงนัน้ ไปหยุดยืนท่ีพื้นภูเขา. พวกหมพู ากนั บอกแกต ัจฉกสุกรวา นายเอย ไอโ จรมันมาอีกแลว. ตจั ฉกสุกรปลอบใจพวกนั้นวา พวกเจาอยากลวั เลย ลกุ ข้นึ ยืนบนต่งั ระหวางหลมุ ทัง้ สอง. เสอื โครง จงึเผน โผนโจนใสตจั ฉกสุกร ตจั ฉกสุกรหลบกลบั หนาเปน หลัง ตกลงในหลุมแรก. เสอื โครงไมย งั ความเรว็ ไวได จึงไปตกในหลุมท่เี ปนตะพกั เหมอื นกระดงแนน อัดเหมอื นฟอ นหญา. ตัจฉกสุกรลุกขน้ึ โดยเร็ว เผน จากหลมุ จดเขย้ี วลงตรงข้ัวไสข องมนั ขวิดขาดไปจดหทัย กินเน้อื แลวเอาปากคาบเหว่ียงไปนอกหลมุ บอกวา พวกเจาจงพากนั กนิ เนือ้ ซิ. พวกหมูท่มี ากอน ไดโ อกาสเพยี งจอจะงอยปากลงไปครงั้ เดยี วเทา นัน้ . ทมี่ าครั้งหลังไมไดเ ลย ตา งพูดกนั วาอนั เนือ้ เสอื โครง รสชาติมันเปน อยางไรนะ. ตัจฉกสุกร โดดขน้ึ จากหลมุ แลวมองดพู วกหมทู งั้ หลาย กลาววา เอะ อยางไรเลา พวกเจาจึงไมด ีใจกนั .พวกหมูพากนั ตอบวา นายเอย พวกเราเพียงจับเสือโครงไดต ัวเดยี วเทานั้น
พระสุตตนั ตปฎ ก ขุททกนกิ าย ชาดก เลม ๓ ภาค ๖ - หนา ที่ 482กเ็ ทากบั พวกเราจับเสอื โครง ตวั ท่ปี ระทษุ รา ยไดต วั หนงึ่ แตน อกจากนี้ผูท่ีจะนาํเสือโครง มาไดยงั มอี ยู. ถามวา นน่ั ชอ่ื ไร. ตอบวา ชฎิลโกงผูคอยกนิ มังสะท่ีเสือโครงนํามาแลว ๆ. กลาววา ถาเชนนน้ั พากันมาเถิด พวกเราตองจับมนัใหได แลวว่ิงแนว ไปกับพวกหมเู หลานั้น. กลา วถึงชฎลิ นึกวาเสอื โครงมัวชาอยู มองดทู างมาของมนั เห็นพวกหมูเปนอันมากกรวู งิ่ มา คดิ วาชะรอยพวกหมูเหลา น้ฆี า เสือโครงไดแ ลว พากนั วงิ่ มาเพ่อื ฆา เรา หนขี ้นึ ตน มะเดื่อตนหน่งึพวกหนูพากันรองวา มนั ขึ้นตนไมไ ปแลว. ตจั ฉกสกุ รถามวา ตน ไมอะไร.ตอบวา ตน มะเดอ่ื . ตจั ฉกสุกรกลา ววา ถาเชนนั้นอยา เสียใจเลย ประเดย๋ี วพวกเราตองจับมนั ได พลางเรียกหมูหนมุ ๆ มาใหช วยกันคยุ ดินออกจากโคนตน ไม ใหแ มห มทู ง้ั หลายไปอมน้าํ มา ใหพ วกหมูท่ีมีเขีย้ วใหญ ๆ ชว ยกนัขวิดรากโดยรอบ จนเหลอื แตรากแกวที่หยงั่ ลงไปตรงรากเดียวเทา น้นั ตอจากนัน้ กร็ อ งบอกพวกหมทู ่เี หลือ ๆ วา พวกเจาพากนั หลบเสียเถดิ แลวคุกเขาเอาเขยี้ วขวดิ ตรงรากแกว ขาดไปเหมือนฟนดวยขวาน ตนไมน ัน้ กพ็ ลกิ พอชฎิลโกงตกลงมาเทานัน้ พวกหมกู ็พากันรับไวแลวรุมกนิ เน้อื เสีย. รุกขเทวดาเห็นเหตุอัศจรรยนั้น จึงกลาวคาถาวา ญาตทิ ้งั หลายมมี ากดว ยกัน ยอ มยังประโยชนให สําเรจ็ ถงึ ตนไมทง้ั หลายท่ีเกิดในปา กเ็ หมือนกัน สกุ รท้ังหลายพรอมเพรียงกนั เขา ฆาเสอื โครงเสียได เพราะประพฤติรวมใจอันหนง่ึ อันเดยี วกัน. บรรดาบทเหลา น้นั บทวา เอกายเน หโต ความวา ฆาเสอื โครงเสียได เพราะมีความพรอมเพรยี งเปนอันหนึง่ อันเดยี วกันนนั้ เอง. พระศาสดา เมือ่ ทรงประกาศความทพ่ี วกสกุ รเหลา นนั้ กําจัดศัตรูทงั้ ๒ เสยี ไดจ งึ ตรสั พระคาถาวา
พระสตุ ตนั ตปฎก ขทุ ทกนกิ าย ชาดก เลม ๓ ภาค ๖ - หนา ที่ 483 สุกรทัง้ หลายชวยกนั ฆาพราหมณ และเสือโครง ท้ัง ๒ ไดแลว ตา งราเรงิ บันเทิงใจ พากนั บันลือศัพท สาํ เนียงเสียงสนัน่ . ตจั ฉกสกุ รถามอกี วา ศตั รูของพวกเจาแมอ ืน่ ๆ ยังมีหรอื . พวกสกุ รพากนั ตอบวา ไมมีละนายเอย ตกลงกันวา พวกเราตอ งอภิเษกทา นใหเปนพระราชา พากนั เท่ยี วหาน้ํา เห็นสังขสาํ หรบั ตกั นํา้ ด่ืมของชฎลิ สงั ขนน้ั เปนสงั ขท ักษิณาวัฏ (เวยี นขวา) เปนสงั ขรัตนะ จงึ ตกั นํา้ มาเต็มสังข อภิเษกตัจฉกสกุ ร ณ โคนตนมะเดอื่ นัน้ เอง แลวพากนั ใหน างสกุ รสรงน้ําอภิเษกเปน มเหสีของพญาตจั ฉกสุกรน้นั ต้งั แตค รั้งนนั้ การนง่ั ตัง่ ไมมะเดอื่ รดนํ้าดว ยสังขท ักษิณาวัฏ ก็ไดรับประพฤตสิ บื มา. พระศาสดา เม่อื ทรงประกาศความแมน้นั ตรสั พระคาถาสุดทายวา สกุ รเหลา นนั้ มาประชุมพรอ มกนั ท่ีโคนตน มะเดอื่ อภิเษกตัจฉกสกุ รดวยคําวา ทานเปน พระราชา เปน เจา เปนใหญข องพวกเรา. พระศาสดา ทรงนาํ พระธรรมเทศนานีม้ าแลว ตรัสวา ดกู อ นภกิ ษุท้ังหลาย มใิ ชแตในบัดนีเ้ ทา นัน้ ถึงในครั้งกอน ธนคุ คหติสสะเคยฉลาดในการจัดขบวนรบเหมอื นกัน ทรงประชมุ ชาดกวา ชฎลิ โกงในครง้ั น้ัน ไดม าเปนเทวทตั ตัจฉลสกุ รไดม าเปนธนุคคหติสสะ สวนรกุ ขเทวดาไดมาเปนเราตถาคตแล จบอรรถกถาตจั ฉกสกุ รชาดก
พระสุตตันตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย ชาดก เลม ๓ ภาค ๖ - หนา ที่ 484 ๑๐. มหาวาณิชชาดก วา ดวยโลภมากจนตวั ตาย [๑๙๙๐] พวกพอคาพากันมาจากรัฐตา ง ๆ กระทาํการประชุมกันในเมอื งพาราณสี ต้ังพอคาคนหนึง่ ใหเปนหวั หนา แลวพากนั ขนเอาทรพั ยกลบั ไป พอ คาเหลานน้ัมาถงึ แดนกนั ดาร ไมมอี าหาร ไมมนี ้าํ ไดเ ห็นตน ไทรใหญม ีรมเงาเยน็ สบาย นารนื่ รมยใจ ก็พากนั เขา ไปนัง่พักที่รมตน ไทรน้ัน พอ คา ท้งั หลายเปนคนโงเ ขลา ถูกโมหะครอบงํา คดิ รว มกนั วา ไมตนนีบ้ างทีจะมีนํ้าไหลซึมอยู เชิญพวกเราเหลาพอคามาชว ยกนั ตัดกิ่งขา งทิศตะวันออกแหง ตนไมน น้ั ดทู เี ถดิ พอก่งิ นั้นถูกตดั ขาดออก นาํ้ ใสไมขนุ มัวไหลออกมา พอคาเหลา น้นักพ็ ากันอาบและดื่ม ทสี่ ายน้าํ นัน้ จนสมปรารถนาพอ คาท้ังหลาย ผูโ งเขลา ถูกโมหะครอบงาํ รวมคดิกันเปนครงั้ ที่ ๒ วา ขอใหพ วกเราชว ยกันตดั กิง่ขางทิศใตแหงตน ไมนัน้ อีกเถิด พอก่งิ นั้นถูกตัดขาดออก ขาวสาลี เนอ้ื สกุ ขนมถว่ั ซง่ึ มสี ีเหมอื นขา ว-ปายาสปราศจากนาํ้ แกงออ มปลาดุก ก็ไหลออกมามากมาย พอ คา เหลา นั้นพากันบริโภคเค้ียวกินจนสมปรารถนา พอคาทงั้ หลายผูโ งเ ขลา ถกู โมหะครอบงาํรว มคดิ กันเปนครงั้ ที่ ๓ วา ขอใหพวกเราชวยกนั ตัด
พระสตุ ตันตปฎ ก ขุททกนิกาย ชาดก เลม ๓ ภาค ๖ - หนาที่ 485กง่ิ ขา งทิศตะวนั ตกแหง ตน ไมน นั้ อกี เถิด พอก่ิงน้นั ถกูตัดขาดออก เหลา นางนารีแตงตวั งามสมสว น มีผาและเครอื่ งอารมณอ นั วจิ ติ ร ใสตา งหแู กวมณี พากนัออกมา นารที ้งั หลายตา งแยกกันบําเรอพอ คา คนละนาง นารี ๒๕ นาง ตา งกแ็ วดลอ มพอคา ผูเปนหวั หนา อยูโดยรอบ ท่ีรม แหงตนไทรนน้ั พอ คา เหลานัน้แวดลอ มดวยนารเี หลานั้นจนสมปรารถนา พอ คาทง้ั หลายผโู งเขลา ถูกโมหะครอบงาํ รว มคดิ เปนครั้งที่ ๔ วา ขอใหพวกเราชว ยกันตัดกง่ิ ขางทิศเหนือแหงตนไมอ ีกเถิด พอกิ่งนั้นถกู ตัดขาดออก แกวมุกดาแกวไพฑูรย เงนิ ทอง เครอ่ื งประดับมือ เครือ่ งปลู าดผากาสิกพัสตรและผา กัมพล ชอ่ื อทุ ธยิ ะ ก็พรง่ั พรูออกมาเปนอันมาก พอ คา เหลา นั้นพากันขนบรรทกุใสในเกวยี นเหลา นั้นจนสมปรารถนา พอ คาเหลานั้นเปน คนโงเ ขลา ถกู โมหะครอบงํา รว มคดิ กนั เปนครัง้ ที่ ๕ วา ขอใหพวกเราชวยกนั ตัดโคนตน ไมนัน้เสยี ทเี ดียว บางทจี ะไดของมากไปกวาน้ีอีก ทันใดนนั้นายกองเกวยี นจงึ ลุกข้ึน ประคองอญั ชลรี องขอวาดกู อนพอคา ทัง้ หลาย ตนไทรทาํ ผดิ อะไรหรือ (จงึ พากนั จะทําราย) ขอใหท านจงมคี วามเจรญิ เถดิ ดูกอนพอคา ทงั้ หลาย กิง่ ทางทิศตะวันออกกใ็ หน้าํ ก่ิงทางทิศใตก ใ็ หข า วและนาํ้ กิง่ ทางทิศตะวันตก ก็ใหน าง
พระสตุ ตนั ตปฎก ขทุ ทกนิกาย ชาดก เลม ๓ ภาค ๖ - หนาท่ี 486นารี และกง่ิ ทางทศิ เหนือกใ็ หสิง่ ทป่ี รารถนาทกุ อยางตนไทรทําผิดอะไรหรือ (จึงพากันจะทาํ รา ย) ขอใหทา นจงมคี วามเจรญิ เถดิ บุคคลพงึ นัง่ หรอื นอนทรี่ ม เงาแหงตนไมใด กไ็ มค วรหกั รานกานแหงตนไมนน้ัเพราะประทษุ รา ยมติ รเปน คนเลวทราม แตพอ คาเหลา นนั้ มากดวยกนั ไมเ ชอ่ื ถอื ถอยคาํ นายกองเกวียนผูเดียว ตางก็ถือขวานทล่ี ับแลว พากนั เขา ไปหมายจะตดั ตนไทรนั้นทโี่ คน. [๑๙๙๑] ทันใดน้ัน นาคทง้ั หลายกพ็ ากนั ออกไปพวกสวมเกราะ ๒๕ พวกถือธนู ๓๐๐ พวกถอื โล๖,๐๐๐. [๑๙๙๒] ทา นทั้งหลายจงจบั พวกนมี้ ัดฆาเสียอยา ไวชวี ติ เลย เวน ไวแตน ายกองเกวียนเทานนั้นอกนนั้ จงสังหารมนั ทุกคนใหเ ปน ภัสมธุลไี ป. [๑๙๙๓] เพราะเหตนุ ้แี หละ บรุ ุษผูเปนบัณฑติเม่อื พิจารณาถึงประโยชนข องตน ไมค วรลอุ าํ นาจแหงความโลภ พงึ กําจัดใจอนั ประกอบดวยความโลภเสียภกิ ษุรูโ ทษอยา งนี้ และรตู ัณหาวา เปนแดนเกดิ แหง ทุกขพึงเปน ผปู ราศจากตณั หา ไมมีความถือมัน่ พึงเปนผูมีสตลิ ะเวนโดยรอบเถิด. จบมหาวาณชิ ชาดกที่ ๑๐
พระสุตตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย ชาดก เลม ๓ ภาค ๖ - หนาท่ี 487 อรรถกถามหาวาณชิ ชาดก พระศาสดาเม่อื เสด็จประทบั อยู ณ พระวิหารเชตวนั ทรงพระปรารภพวกพอคา ชาวพระนครสาวตั ถี ตรสั เรื่องนี้ มีคําเร่มิ ตนวา วาณชิ าสมิตึ กตฺวา ดังน.้ี เรอื่ งมวี า พอ คา เหลานั้นเม่อื จะไปคา ขาย ถวายมหาทานแดพ ระศาสดาดาํ รงม่นั ในสรณะและศีล กราบทลู วา ขาแตพ ระองคผูเ จริญ ถาพวกขาพระองคจักไมมีโรคกลับมาได จักขอบังคมพระบาทยุคลของพระองคอีกพระเจา ขา ออกเดนิ ทางไปกบั เกวยี น ๕๐๐ เลม ถงึ แดนกันดาร กําหนดหนทางไมได เลยพากันหลงทางทอ งเทยี่ วไปในปา ขาดนํา้ ขาดอาหาร เห็นตนไทรซึ่งนาคยดึครองตน หน่งึ ก็ชวนกันปลดเกวียน นัง่ ทโี่ คนตน . พวกนั้นเหน็ ไทรใบเขยี วชอมุ ประหนึง่ ตะไครน ้ํา กิ่งไทรเลาก็เปน เหมือนอ่ิมดว ยนา้ํ จึงคิดกันวาในตน ไมน ้ี ปรากฏเหมือนมนี ้ําเอบิ อาบ พวกเราตัดก่ิงตะวันออกของตน ไมน ี้เถอะเพอ่ื จะหล่งั นํา้ ดม่ื ใหได คร้นั แลวคนหน่งึ กข็ ึน้ สตู นไมต ัดกงิ่ ขาด. ทอ นาํ้ขนาดลําตาลไหลพรั่ง พวกนั้นพากันอาบพากันด่ืม ณ ทีน่ ัน้ แลวพากันตดั กงิ่ทางใต. โภชนะมีรสเลิศตาง ๆ พร่งั พรอู อกจากน้นั พากันบรโิ ภค แลว ตดั กิง่ตะวนั ตก. เหลาสตรีผูตกแตง รา งกายแลว พากันออกมาจากก่งิ นัน้ พากนัอภิรมยกบั หมสู ตรนี ้ัน แลว ตดั กง่ิ ทางเหนอื . แกว ๗ ประการหลง่ั ไหลออกจากกงิ่ น้นั พากันเก็บแกว เหลา นน้ั บรรทกุ เต็มเกวยี นทัง้ ๕๐๐ เลม กลบั มาสูพระนครสาวตั ถี เก็บงาํ ทรพั ยแ ลว ชวนกันถือของหอมและมาลาเปน ตน ไปสูพระมหาวหิ ารเชตวัน ถวายบงั คมพระศาสดาบูชาแลว นง่ั ณ สว นขา งหนึ่งฟง ธรรมกถาแลว ทลู นมิ นตถ วายมหาทานในวนั รุงขึน้ พากนั ใหสวนบญุ วา
พระสตุ ตันตปฎ ก ขุททกนกิ าย ชาดก เลม ๓ ภาค ๖ - หนาท่ี 488ขา แตพระองคผเู จรญิ พวกขาพระองคข อใหส วนบุญในทานครง้ั นี้ แกรกุ ขเทวดาผูใหทรัพยแ กพวกขา พระองคพ ระเจาขา. พระศาสดาทรงฉนั เสร็จ ตรัสถามวาพวกเธอใหสว นบญุ แกรุกขเทวดาองคไหน. พวกพอคาพากันกราบทูลเหตทุ ี่พวกตนไดทรัพย ในตน ไทรแดพ ระตถาคต. พระศาสดาตรัสวา พวกเธอมิไดลุอาํ นาจตณั หา เพราะเปนผูรจู กั ประมาณดอกนะจึงไดทรพั ย แตใ นครง้ั กอนพวกท่ลี อุ าํ นาจตัณหา เพราะไมร ูจ ักประมาณ พากันละทง้ิ เสยี ทงั้ ทรพั ยและชีวติ พอ คาเหลาน้นั พากนั กราบทูลอาราธนาทรงนําอดตี นิทานมา ดงั ตอ ไปน้ี ในอดีตกาล ทางกนั ดารน้นั เอง ตนไทรกต็ นนนั้ แหละ แตเ มอื งเปนพระนครพาราณสี พอ คา พอคา หลงทางพบตนไทรนน้ั เหมือนกนั . พระศาสดาตรสั รแู ลว เมื่อจะทรงแสดงขอความนัน้ จึงตรสั พระคาถาทง้ั หลายวา พวกพอคา พากนั มาจากรัฐตา ง ๆ กระทาํ การ ประชุมฉันในเมอื งพาราณสี ต้ังพอ คาคนหนงึ่ ใหเปน หัวหนา แลว พากนั ขนเอาทรพั ยก ลบั ไป พอ คา เหลานั้น มาถงึ แดนกนั ดาร ไมมอี าหาร ไมมีน้ํา ไดเ ห็นตน ไทรใหญม รี มเงาเยน็ สบาย นา รืน่ รมยใ จ กพ็ ากนั ไป น่ังพักท่ีรม ตน ไทรนั้น พอ คาทัง้ หลายเปน คนโงเขลา ถกู โมหะครอบงํา คดิ รวมกนั วา ไมต น นีบ้ างทีจะมี นํ้าไหลซึมอยู เชญิ พวกเราเหลา พอคา มาชวยกนั ตัดก่ิง ขา งทศิ ตะวันออกแหง ตน ไมน ้นั ดูทีเถิด พอกง่ิ นน้ั ถกู ตดั ขาดออกนํา้ ใสไมข ุนมวั ไหลออกมา พอคา เหลา นัน้ ก็พากันอาบและดื่ม ทีส่ ายนํา้ นนั้ จนสมปรารถนาพอคา
พระสตุ ตนั ตปฎก ขุททกนกิ าย ชาดก เลม ๓ ภาค ๖ - หนาที่ 489ทั้งหลายผโู งเ ขลา ถูกโมทะครอบงาํ รวมคดิ กันเปนคร้งั ท่ี ๒ วา ขอใหพ วกเราดว ยกนั ตัดกิ่ง ขา งทศิ ใตแหงตนไมน น้ั อกี เถดิ พอกง่ิ นั้นถกู ตดั ขาดออก ขา วสาลี เนอ้ื สกุ ขนมถว่ั ซึง่ มีสีเหมือนขา วปราศจากน้าํแกงออ ม ปลาดุก ก็ไหลออกมามากมาย พอคาเหลา น้ันพากนั บริโภคเค้ยี วกินจนสมปรารถนา พอ คา ท้งั หลายผโู งเขลา ถกู โมหะครอบงํา รวมคดิ เปนคร้ังที่ ๓ วาขอใหพวกเราชว ยกันตัดก่งิ ขางทิศตะวันตกแหงตนไมนนั้ อีกเถิด พอกงิ่ น้ันถกู ตดั ขาดออก เหลาน้นี ารแี ตง ตวังามสมสวน มผี าและเคร่อื งอาภรณอ ันวิจิตร ใสตา งหูแกว มณี พากันออกมา นารที ้งั หลายตางแยกกันบําเรอพอ คาคนละนาง นารี ๒๕ นางตา งกแ็ วดลอมพอคาผูเ ปนหัวหนา อยูโดยรอบ ทรี่ ม แหงตนไทรนน้ั พอ คาเหลา น้นั แวดลอมดวยนารีเหลา นนั้ จนสมปรารถนาพอ คาท้งั หลายผโู งเ ขลา ถูกโมหะครอบงํา รว มคดิเปนครงั้ ที่ ๔ วา ขอใหพวกเราชวยกนั ตดั กิ่งขางทศิเหนอื แหงตนไมอ กี เถิด พอกิ่งนัน้ ถูกตดั ขาดออกแกวมุกดา แลว ไพฑูรย เงนิ ทอง เครอ่ื งประดับเครือ่ งปลู าด ผา กาสกิ พสั ตรและผา กัมพล ช่อื อุทธยิ ะก็พรง่ั พรอู อกมาเปน อนั มาก พอคา เหลา นนั้ พากันขนบรรทกุ ใสใ นเกวยี นเหลานั้นจนสมปรารถนา พอคาเหลา นนั้ เปน คนโงเ ขลา ถูกโมหะครอบงํา รว มคิด
พระสุตตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย ชาดก เลม ๓ ภาค ๖ - หนา ที่ 490 กนั เปน ครั้งท่ี ๕ วา ขอใหพวกเราชวยกนั ตัดโคนตน ไม นัน้ เสียทเี ดยี ว บางทจี ะไดของมากไปกวานอ้ี ีก ทนั ใด นั้นนายกองเกวยี นจงึ ลุกข้นึ ประคองอญั ชลรี อ งขอวา ดูกอนพอคาทั้งหลาย ตน ไทรทาํ ผดิ อะไรหรือ (จึง พากนั ทําราย) ขอใหท านจงมคี วามเจริญเถิด ดูกอ น พอ คาทั้งหลาย กง่ิ ทางทิศตะวนั ออกกใ็ หนํ้า กงิ่ ทาง ทิศใตกใ็ หข าวและนาํ้ ก่งิ ทางทศิ ตะวนั ตกก็ใหน ารี ก่ิงทางทิศเหนอื กใ็ หสิง่ ทีป่ รารถนาทกุ อยา ง ตน ไทร ทาํ ผดิ อะไรหรือ (จงึ พากันจะทาํ ราย) ขอใหท านจง มคี วามเจริญเถดิ บคุ คลพงึ น่ังหรือนอน ท่รี มเงาแหง ตนไมใ ด ก็ไมควรหักรานกานแหงตน ไมน ัน้ เพราะ ผูประทุษรายมติ รเปนคนเลวทราม แตพอ คาเหลานน้ั มากดว ยกัน ไมเ ช่ือถือคาํ ของนายกองเกวยี นผูเดียว ตางก็ถือขวานทล่ี ับแลว พากันเขา ไปหมายจะตัดตน ไทรนัน้ ที่โคน. บรรดาบทเหลานนั้ บทวา สมิตึ กตฺวา ความวา จดั เปน สมาคมคอื มากคนรวมกนั เปนอนั หน่ึงอันเดยี วในกรุงพาราณสี. บทวา ปกฺกมสึ ุความวา บรรทกุ สิ่งของทมี่ ีในกรุงพาราณสีดว ยเกวียน ๕๐๐ เลมเดินทางไป.บทวา คามณึ ความวา ตงั้ ผูมีปญ ญาผูหน่งึ ใหเปนนายกองเกวียน. บทวาฉาทยิ า แปลวา ทรี่ ม เงา. บทวา อลลฺ ายเต คือ ปรากฏเปน เหมอื นเตม็ดวยนาํ้ . บทวา ฉนิ ฺนาว ปคฺฆรติ พระศาสดาทรงแสดงวา ผฉู ลาดในการขนึ้ตน ไมค นหนงึ่ ขึน้ ไปตดั กง่ิ นั้น พอกงิ่ นั้นถูกตดั ขาดนาํ้ ใสก็ไหลพลัง่ . แมข า งหนา
พระสุตตันตปฎก ขทุ ทกนกิ าย ชาดก เลม ๓ ภาค ๖ - หนา ที่ 491ก็นัยนี้เหมือนกัน. บทวา อปโฺ ปทกวณฺเณ กมุ ฺมาเส คอื ขนมกมุ มาสท่ีเปนเสมือนกับขาวปายาสท่มี นี าํ้ นอ ย. บทวา สิงคฺ ิ คือแกงออมมแี กงที่ใสข ิงเปน ตน . บทวา วทิ ลสุปโย คือแกงถั่วเขยี วเปน ตน . บทวา วาณชิ า เอกาคือ แกพอ คาแตล ะคน พอคามจี าํ นวนเทาใด ในจาํ นวนนัน้ คนละ ๑ นางแตใ นสาํ นักของนายกองเกวียนมอี ยูถึง ๒๕ นาง. บทวา ปรกิ รึสุ ความวาแวดลอ ม ก็แลพรอม ๆ กนั กบั นางเหลานน้ั ยังมีเพดานและท่ีนอนเปน ตนเหลา นนั้ ไหลออกมาดว ยอานภุ าพแหงพญานาค. บทวา กุตตฺ ิโย ไดแกถุงมอื เปนตน . บทวา ปฏยิ านิ จ ไดแก เครอ่ื งปลู าด มีเครอื่ งปลู าดอนัสําเร็จดว ยขนแกะอนั ฟเู ปนตน . บางอาจารยทา นกลา ววา ผากมั พลขาวก็ม.ีบทวา อุฏฏ ยิ าเนว กมพฺ ลา คอื ผา กัมพลชนิดทช่ี ื่อวา อุฏฏิยานะมีอย.ู บทวาเต ตตฺถ ภาเร พนธฺ ติ วฺ า ความวา ตองการเทาใดก็ขนเอาในทน่ี นั้ เทา นัน้บรรทุกเกวียน ๕๐๐ เลม . บทวา วาณชิ า ภทฺทมตถฺ ุ เต ความวานายกองเกวียนรองเรียกพอคาแตล ะคน จงึ กลาววา ความเจริญจงมีแกท านเถดิ . บทวา อนนฺ ปานจฺ ความวา ไดใ หขาวและนา้ํ . บทวา สพฺพกาเม จความวา ไดใหส ่ิงที่นาปรารถนาทงั้ ปวง. บทวา มิตตฺ ทุพโฺ ภ ความวาเพราะวาผทู ําลายมติ รทั้งหลาย คอื บุรุษผมู งุ รา ยตอ มิตรท้งั หลาย ชอ่ื วาเปน คนช่ัวชาลามก. บทวา อนาทิยติ ฺวา ความวา ไมยดึ ถือ คอื ไมข อรบั ถอ ยคําของนายกองเกวยี นนนั้ . บทวา อปุ กกฺ มุ ความวา เตรยี มการโคน คอืเรม่ิ จะตัดเพราะโมหะ. คร้งั น้นั พญานาคเห็นพอ คา เหลานั้น พากนั เขา ไปใกลตน ไม เพื่อทจี่ ะตัด ดาํ ริวา เราบนั ดาลน้าํ ดืม่ แกพวกนี้ผูก ําลังกระหาย จากนน้ั ใหโ ภชนะอนัเปน ทพิ ยมหิ นําซ้ํายงั ใหทนี่ อนและนางบาํ เรอแกเ ขา จากนนั้ เลา ยงั ใหรตั นะ
พระสุตตนั ตปฎ ก ขุททกนกิ าย ชาดก เลม ๓ ภาค ๖ - หนา ที่ 492เตม็ ๕๐๐ เลมเกวียน แตว า บดั นพี้ วกน้พี ูดกนั วา จกั ตัดตน ไมเ สียทั้งโคนเลยละโมบเหลอื เกิน ควรทีเ่ ราจะฆา เสียใหหมดเวน แตน ายกองเกวยี น. พญานาคนั้นจึงตระเตรยี มเสนา สง่ั วา ทหารหมุ เกราะจาํ นวนเทาน้ี จงเคลือ่ นออกไปทหารแมนธนจู ํานวนเทาน้ี จงเคลือ่ นออกไป ทหารโลจํานวนเทาน้ี จงเคลอ่ื นออกไป. พระศาสดาเมือ่ ทรงประกาศเนื้อความนั้น จงึ ตรัสพระคาถานวี้ า ตอจากนน้ั นาคท้งั หลายก็พากนั ออกไป พวก สวมเกราะ ๒๕ พวกถือธนู ๓๐๐ พวกถือโล ๖,๐๐๐ นาย. บรรดาบทเหลานั้น บทวา สนฺนทฺธา คอื พวกท่ีคลุมรา งกายดวยเกราะหน่ึงอนั ประดบั ดว ยทองและแกวเปนตน . บทวา ธนุคคฺ หาน ตสิ ตาความวา พวกทหารท่ีถอื ธนูอนั ทาํ ดว ยเขาแกะมปี ระมาณ ๓๐๐. บทวา จมมฺ ิโนคอื พวกทหารท่ีถือแผนโลท ําดว ยหนังมีประมาณ ๖,๐๐๐ นาย. ทา นทง้ั หลายจงจับพวกน้ีมดั ฆาเสยี อยาไวชวี ติ เลย เวน ไวแตน ายกองเกวียนเทานั้น นอกน้ันจง สงั หารมนั ทกุ คนใหเ ปน ภสั มธลุ ไี ป. น้เี ปนคาถาทีพ่ ญานาคกลา ว. บรรดาบทเหลา นนั้ บทวา มา โว มุ ฺจิตฺถ ชีวติ ความวาทานท้ังหลาย อยาปลอ ยชวี ิตแกใคร ๆ แมส ักคนเดยี วเลย. นาคท้งั หลาย กระทาํ ตามนั้น แลวขนเอาสง่ิ ของมเี ครื่องปูลาดชนดิ ดี ๆเปน ตน บรรทกุ เกวยี น ๕๐๐ เลม ชวนนายกองเกวยี นพากนั ขับเกวียนเหลา น้ันดวยตนเองไปสกู รงุ พาราณสี เก็บทรัพยท ัง้ ปวงไวใ นกองเกวียนของทานแลวชวนกันอาํ ลาทานไปสูนาคพภิ พของตนดังเดมิ .
พระสตุ ตนั ตปฎก ขทุ ทกนิกาย ชาดก เลม ๓ ภาค ๖ - หนา ท่ี 493 พระศาสดา ทรงทราบเน้ือความนั้น จงึ ตรัสพระคาถาสดุ ทายวา เพราะเหตุน้ันแหละ บรุ ุษผูเปน บัณฑติ เมื่อ พจิ ารณาถงึ ประโยชนข องตน ไมค วรลุอาํ นาจแหง ความโลภ พึงกาํ จดั ใจอนั ประกอบดวยความโลภเสีย ภกิ ษุรโู ทษอยางนี้และรตู ัณหาวา เปน แดนเกดิ แหง ทกุ ข พึงเปนผปู ราศจากตัณหา ไมมคี วามถอื ม่นั พึงเปนผู มสี ตลิ ะเวน โดยรอบเถิด. บรรดาบทเหลานั้น บทวา ตสมฺ า ความวา เพราะเหตุทีพ่ วกพอคาทลี่ ุอาํ นาจความโลภพากนั ถงึ ความวอดวายอยางใหญห ลวง อธบิ ายวา นายกองเกวียนบรรลสุ มบตั ิอนั อุดม. บทวา หเนยฺย ทิสก มน ความวา บัณฑิตพงึ กาํ จัดใจ คือ จิตท่ปี ระกอบดวยโลภะทเ่ี ปนของฝงู สัตวผ มู คี วามโลภมอี ยางตางๆ ทีเ่ กดิ ขึน้ แกต น. บทวา เอวนาทีนว ความวา ภิกษทุ ราบโทษในความโลภอยา งน้ีแลว . บทวา ตณหฺ า ทุกขฺ สฺส สมฺภว ความวา และทราบวาตณั หานน้ั เปนเหตเุ กิดพรอ มแหง ทกุ ขม ีชาตเิ ปน ตน คือ ทกุ ขน้นั เกดิ ขึ้นแลว อยา งน้ีเพราะตณั หาน้ัน ตณั หาน่นั แหละเปน เหตเุ กดิ แหง ทกุ ขอยา งนี้ ภิกษรุ แู ลว พงึระลึกไวดวยสตอิ ันมาแลวโดยมรรคเปนผปู ราศจากตณั หา ไมม คี วามยึดมนั่ ถอืม่นั . บทวา ปริพพฺ เช ความวา พึงประพฤตอิ ริ ิยาบถ. พระศาสดาทรงถือเอายอดเทศนาดวยพระอรหัต. ก็และคร้นั ทรงนาํ พระธรรมเทศนานีม้ าแลว ตรสั วา ดูกอ นอุบาสกทั้งหลาย พวกพอ คา ทีล่ อุ าํ นาจความโลภ พากนั ถึงความพนิ าศใหญหลวงในปางกอนอยางน้ี เหตนุ ้นั พงึ เปนผไู มลอุ ํานาจความโลภทั่วกนั ตรัสประกาศสัจจะทั้งหลาย เมอื่ จบสจั จะพอคาเหลานั้นพากนั ดาํ รงในโสดาปต ตผิ ล แลว ทรงประชุมชาดกวา พญานาคในคร้ังน้ันไดมาเปน สารบี ตุ ร สว นนายกองเกวียนไดมาเปนเราตถาคตแล. จบอรรถกถามหาวาณชิ ชาดก
พระสตุ ตันตปฎ ก ขุททกนกิ าย ชาดก เลม ๓ ภาค ๖ - หนาที่ 494 ๑๑. สาธนิ ราชชาดก วาดวยพระเจาวเิ ทหราชประพาสดาวดงึ ส [๑๙๙๔] อัศจรรยจริงหนอ ขนพองสยองเกลาเกดิ ขน้ึ แลว ในโลก รถทิพยไดปรากฏแกพ ระเจาวิเทหราชผเู รอื งยศ. [๑๙๙๕] มาตลีเทพบุตรเทพสารถีผูม ฤี ทธ์ิมากไดเชอ้ื เชญิ พระเจาวเิ ทหราชผูครองมถิ ิลานครวา ขาแตพระราชาผูทรงพระคุณอนั ประเสรฐิ ผเู ปนใหญทั่วทิศขอเชญิ พระองคเสดจ็ ขึน้ ทรงรถนเ้ี ถดิ ดวยวาทวยเทพชนดาวดงึ สพ รอ มดว ยสมเดจ็ อมรินทราธิราช ใครจ ะเหน็ พระองค ทวยเทพเหลา นัน้ ประชมุ พรอ มกันอยูณ สธุ รรมาเทวสภา ลําดบั น้นั แล พระเจา วิเทหราชพระนามวา สาธนิ ะ ผูครองมถิ ลิ านคร เสด็จทรงรถอันเทียมดว ยมาพนั หนึ่งไดเ สด็จไปยังสาํ นักของเทวดาทั้งหลาย (พระมหาราชาทรงประทบั ยืนบนทพิ ยานอันเทียมดวยมา พนั หนงึ่ ซึ่งมา พาลากไป เสด็จไปอยูไดท อดพระเนตรเหน็ เทวสภานี)้ ทวยเทพเหน็ พระ-ราชาเสดจ็ มาดงั น้ัน ก็พากันชน่ื ชมยนิ ดีกระทําปฏิสณั ฐานเชอ้ื เชิญวา ขา แตพ ระมหาราชา พระองคเสด็จมาดแี ลว อนง่ึ ชือ่ วาพระองคมไิ ดเ สด็จมารา ยขาแตพ ระราชาผแู สวงหาคณุ ใหญ ขอพระองคทรง
พระสุตตนั ตปฎก ขทุ ทกนิกาย ชาดก เลม ๓ ภาค ๖ - หนา ที่ 495ประทบั ใกล ๆ กบั ทาวเทวราชเสยี แตบ ัดนีเ้ ถิด ฝา ยทา ววาสวสกั กเทวราชทรงช่ืนชมยนิ ดี เชอื้ เชิญพระเจาสาธินราชผูค รองมถิ ิลานครดวยทิพยกามารมณและอาสนะวา ขาแตพ ระราชฤาษี เปนการดแี ลวทพ่ี ระองคเสดจ็ มาถงึ ทอี่ ยูของทวยเทพ ผูบันดาลใหเ ปนไปในอํานาจได ขอเชิญพระองคป ระทับอยใู นหมูทวยเทพผใู หสําเร็จทพิ ยกามารมณทกุ อยา ง ขอเชญิ พระองคทรงเสวยกามคณุ อนั มิใชข องมนุษยในหมูทวยเทพชาวดาวดึงสเ ถิด. [๑๙๙๖] ขาแตพระองคผ ปู ระเสริฐกวา จอมเทพเมอื่ กอ นหมอมฉนั มาถงึ สวรรคแลว ยอมยนิ ดีดว ยการฟอนรําขับรองและเครื่องประโคมทง้ั หลาย บัดนี้หมอ มฉนั ไมย ินดีอยูในสวรรคเ ลย จะหมดอายุ หรอืใกลจ ะตายหรือวา หมอ มฉันหลงใหลไป. [๑๙๙๗] ขาแตพระองคผูแ กลวกลากวานรชนผูประเสริฐ พระชนมายขุ องพระองคยังไมห มดสิน้ความสน้ิ พระชนมก ย็ งั หา งไกล อนง่ึ พระองคจะไดทรงหลงใหลไปกห็ าไม แตวา วบิ ากแหงบญุ กศุ ลของพระองค ทไี่ ดท รงเสวยในเทวโลกนี้มนี อ ยไป ขาแตพระราชาผูประเสริฐ ผูเปน ใหญท่วั ทศิ ขอเชญิพระองคป ระทบั อยู เสวยกามคุณอันมใิ ชของมนษุ ยในหมูทวยเทพชาวดาวดงึ ส ดว ยเทวานภุ าพตอไปเถดิ .
พระสตุ ตันตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย ชาดก เลม ๓ ภาค ๖ - หนา ที่ 496 [๑๙๙๘] ขอยืมยานเขามาขับ ขอยมื ทรพั ยเขามาใชฉันใด การที่ไดเสวยความสุข เปนความสขุ ทผี่ อู ่ืนย่ืนให กเ็ ปรียบกนั ไดฉ ะนนั้ แล กแ็ ลการไดเ สวยความสขุ โดยเปนความสขุ ที่ผูอนื่ ยนื่ ให หมอ มฉันไมป รารถนาเลย บญุ ทงั้ หลายอันหมอ มฉนั ทาํ เองแลวนั้น ยอ มเปน ทรัพยอนั อาจติดตามหมอมฉนั ไปไดหมอ มฉนั ไปในมนุษยโลกแลว จกั ไดทาํ กุศลใหม ากที่บคุ คลกระทําแลว ไดรับความสุข และไมตองเดือดรอนในภายหลัง ดวยทาน ดว ยการประพฤติสมาํ่ เสมอดวยการสํารวม ดวยการฝก ตน. [๑๙๙๙] ที่ตรงนเ้ี ปน ไรน า ที่ตรงน้ีตรงรอ งนํ้าตรงดี ทตี่ รงนเ้ี ปนภมู ภิ าค มีหญาแพรกเขยี วสะพรง่ัที่ตรงนเ้ี ปน แมน า้ํ ไหลอยูไมขาดสาย ท่ีตรงน้ีเปนสระโบกขรณีอันนา ร่นื รมย มีฝูงนกจกั รพรากรองเสยี งระงม เปย มไปดวยน้าํ ใสสะอาด ดารดาษไปดว ยดอกปทุมและดอกอบุ ล พวกเขาเฝาและนกั สนมพากนั ยึดถือสถานเหลา น้วี า เปนของเรา เขาเหลา นนั้ พากนั ไปเสยี ทศิ ทางใดหนอ ดกู อนพอนารทะ ไรนาเหลา น้ันภมู ิภาคตรงนั้น และอปุ จารแหง สวนและปา ไมย งั คงมีอยดู งั เดิม เม่ือเราไมเ หน็ หมชู นเหลานั้น ทศิ ทัง้ หลายกป็ รากฏวาวา งเปลา แกเ รา.
พระสตุ ตันตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย ชาดก เลม ๓ ภาค ๖ - หนาท่ี 497 [๒๐๐๐] วมิ านทั้งหลายอันโอภาสทัว่ ท้ังส่ีทศิฉนั ไดเ หน็ แลวเฉพาะพระพักตรข องทา วสกั กเทวราชและเฉพาะหนาของทวยเทพชาวไตรทศ ภพทฉ่ี นั อยกู ็เปน ทิพย กามทั้งหลายอันมใิ ชข องมนษุ ยฉ ันไดบริโภคแลว ในทวยเทพชาวไตรทศ ภพท่ฉี นั อยกู ็เปนทิพยกามท้งั หลายอันมใิ ชข องมนุษยฉนั ไดบ ริโภคแลว ในทวยเทพชาวดาวดงึ ส ผใู หสาํ เรจ็ ส่งิ ที่นา ปรารถนาทกุ อยา ง ฉันนน้ั ละสมบตั เิ ชน นัน้ เสยี แลวมาในมนษุ ย-โลกน้ี เพอ่ื ตอ งการทําบญุ เทา น้ัน ฉนั จกั ประพฤตแิ ตธรรมเทานนั้ ฉันไมมคี วามตอ งการดว ยราชสมบัติฉนั จัดดําเนนิ ไปตามทางทท่ี า นผูไมมอี าชญาพากันทอ งเทย่ี วไป อันพระสมั มาสัมพทุ ธเจาทรงแสดงไว ซึ่งเปน ทางสําหรับไปของทานผมู วี ตั รงามทั้งหลาย. จบสาธินราชชาดกท่ี ๑๑
พระสตุ ตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย ชาดก เลม ๓ ภาค ๖ - หนาที่ 498 อรรถกถาสาธินราชชาดก พระศาสดา เมื่อเสดจ็ ประทับ ณ พระวิหารเชตวัน ทรงพระปรารภพวกอบุ าสกรกั ษาอโุ บสถ ตรัสเรอ่ื งนี้มีคําขนึ้ ตนวา อพภฺ โู ต วต โลกสมฺ ึดงั น.ี้ มีเรือ่ งยอวา คร้งั นน้ั พระศาสดาตรัสวา ดกู อนอบุ าสกทั้งหลาย บัณฑติแตค รง้ั กอน อาศัยอุโบสถกรรมของตน ไปสเู ทวโลกอยูสิ้นกาลนานดวยสรีระแหง มนุษยน ัน่ แล ทรงนําอดตี นิทานมา ดงั ตอ ไปน้ี ในอดีตกาล พระราชาทรงพระนามสาธินะ ทรงครองราชสมบตั โิ ดยธรรม ณ พระนครมถิ ิลา ทา วเธอไดสรา งโรงทานไว ๖ แหง คือ ทป่ี ระตูพระนครท้งั ๔ ที่กลางพระนคร และทีป่ ระตูราชนิเวศน ทรงบําเพญ็มหาทาน กระทําชมพทู วีปทุกแหง หน ใหเกบ็ ไถได พระราชทานทรัพยประมาณหกแสนกระษาปณ เปน ราชทรพั ยท ที่ รงใชจ ายทุก ๆ วนั ทรงรักษาศลี ๕ ทรงถืออโุ ปสถ. ชาวแวนแควน เลา ก็พากนั ต้งั อยูในโอวาทของทาวเธอ ตางกระทําบุญมีใหทานเปนตน ตายแลว ๆ บงั เกิดในเมอื งเทวดาทงั้ นัน้ฝูงเทพพากนั น่งั แนนเทวสภาช่อื สธุ รรมา ตา งพรรณนาพระคณุ มศี ลี เปนตน ของพระราชาเทา นน้ั . เทพท่เี หลือฟงเรอ่ื งนั้นแลว กม็ ีปรารถนาที่จะเหน็ พระราชาไปตาม ๆ กนั . ทา วสักกเทวราช ทรงทราบใจของเทพเหลา นั้น ตรสั วาพวกเธอปรารถนาจะเหน็ พระเจา สาธินราชหรือ พวกเทพพากนั กราบทูลวาพระเจาขา ขาแตพระผเู ปน เทพเจา . ทา วเธอจงึ ตรัสสงั่ เทพบุตรมาตลีวา เธอจงไปจดั เวชยันตรถ รับพระเจา สาธินราชมา. เทพบตุ รมาตลรี บั เทวบัญชาวาสาธุ แลวจัดรถไปสแู ควนวเิ ทหะ คร้ังนัน้ เปน วันเพญ็ เวลาทพี่ วกมนษุ ยบริโภค
พระสุตตันตปฎก ขทุ ทกนกิ าย ชาดก เลม ๓ ภาค ๖ - หนา ท่ี 499อาหารเยน็ แลวนั่งสนทนากันดวยสขุ กถาท่ปี ระตเู รือน มาตลเี ทพบุตรก็ขับรถพรอมกับจนั ทรมณฑล. ฝงู ชนพากนั กลาววา พระจันทรข ึน้ สองดวง แตคร้ันเหน็ ทง้ั รถทง้ั จนั ทรมณฑลว่ิงมาพากนั ชืน่ ชมโสมนสั วา นไ่ี มใ ชด วงจันทร น่ีเปนรถ ทงั้ เทพบตุ รก็ปรากฏ รถทพิ ยเทยี มดวยสนิ ธพมโนมัยคันนม้ี ารับใคร ไมม ีคนอน่ื ละ ตองเปนพระราชาของพวกเรา เพราะวา พระราชาของพวกเราทรงธรรมเปนพระธรรมราชา แลวตา งยนื ประครองอัญชลี กลาวคาถาเปนปฐมวา อัศจรรยจ ริงหนอ ขนพองสยองเกลา เกิดข้ึน แลวในโลก รถทพิ ยไ ดปรากฏแกพ ระเจา วิเทหราชผู เรืองยศ. คําอันเปนคาถานน้ั มีอธบิ ายวา พระจอมวิเทหะผูเรอื งพระยศ ราชาของพวกเรานัน้ เปนผนู าอศั จรรย จริงละ ความขนพองสยองเกลาเกดิ แลว ในโลกตรงท่ีรถทพิ ยป รากฏเพื่อพระองค. มาตลเี ทพบตุ รนาํ รถมาถึง เมอื่ ฝูงชนพากนั บชู าดวยดอกไมเ ปน ตนกก็ ระทาํ ประทักษณิ พระนคร ๓ รอบ แลว ไปสทู วารวงั ของพระราชากลับรถจอดไวใกลธรณีชองพระแกลทางสว นดา นหลงั ยืนเตรยี มรับเสด็จ วนั นน้ั เลาพระราชาตรวจโรงทาน ตรัสสงั่ วา สทู ง้ั หลายจงใหท านโดยทํานองนท้ี เี ดียว ทรงสมาทานอุโบสถ ประทบั ยบั ยง้ั อยูตลอดวัน มีหมอู ํามาตยแวดลอ ม ประทบั นัง่ ผนัพระพักตรเ ฉพาะชอ งพระแกลดา นตะวันออก ตรัสกถาอันประกอบดว ยธรรมอยู ณ ทอ งพระโรงอันอลงกต. ครัง้ น้ันมาตลเี ทพบตุ ร กท็ ลู เชิญพระองคเสดจ็ ขน้ึ สรู ถ พาไป.
พระสุตตันตปฎก ขุททกนิกาย ชาดก เลม ๓ ภาค ๖ - หนาท่ี 500พระศาสดา เม่อื ทรงประกาศเนื้อความนัน้ ไดต รัสพระคาถาเหลาน้ีวา มาตลเี ทพบุตรเทพสารถผี มู ฤี ทธิม์ าก ไดเช้อื เชญิพระเจา วเิ ทหราชผคู รองมถิ ลิ านครวา ขาแตพ ระราชาผทู รงพระคุณอนั ประเสริฐ ผูเ ปน ใหญทั่วทศิ ขอเชิญพระองคเ สดจ็ ทรงรถนเ้ี ถดิ ดวยวาทวยเทพช้ันดาวดงึ สพรอมดวยสมเดจ็ อมรนิ ทราธริ าช ใครจะเห็นพระองคทวยเทพเหลา น้ัน ประชุมพรอ มกนั อยู ณ สธุ รรมาเทวสภา ลาํ ดบั นนั้ แล พระเจาวเิ ทหราชพระนามวาสาธินะ ผูค รองมิถิลานคร เสด็จทรงรถอนั เทยี มดวยมาพันหนึ่ง ไดเสดจ็ ไปยังสํานกั เทวดาท้ังหลาย (พระ-มหาราชาทรงประทบั ยืนบนทิพยาน อันเทียมดวยมาพนั หน่งึ ซงึ่ มา ลากไป เสดจ็ ไปอยู ไดท อดพระเนตรเห็นเทวสภาน้)ี ทวยเทพเห็นพระราชาเสด็จมาดังนั้นกพ็ ากนั ชื่นชมยินดี กระทําปฏิสัณฐารเชื้อเชญิ วา ขาแตพระมหาราชา พระองคเ สดจ็ มาดแี ลว อนึง่ ช่อื วาพระองคมไิ ดเ สด็จมาราย ขาแตพ ระราชาผูแสวงหาคณุ ใหญ ขอพระองคทรงประทบั ใกล ๆ กับทาวเทวราชเสียแตบัดนี้เถดิ ฝา ยทา ววาสวสักกเทวราวชทรงช่นื ชมยนิ ดี เชอ้ื เชญิ พระเจา สาธนิ ราชผคู รองมถิ ลิ านครดว ยทิพยกามารมณแ ละอาสนะวา ขาแตพ ระราชฤาษีเปนการดีแลวทีพ่ ระองคเสดจ็ มาถงึ ท่ีอยขู องทวยเทพผบู นั ดาลใหเปน ไปในอํานาจได ขอเชญิ พระองค
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 540
Pages: