พระสตุ ตันตปฎก ทฆี นิกาย ปาฏิกวรรค เลม ๓ ภาค ๒ - หนา ท่ี 101บดั นี้ จึงตรัสวา ดกู อ นคฤหบดบี ุตร โทษ ๖ ประการเหลา น้ีแล ดังนี้เปน ตน . ในบทเหลา นน้ั บทวา อันตนเห็นเอง คอื ความเปนอยูในโลกนี้อันตนพึงเห็นเอง. บทวา ธนชานิ แปลวา เส่ือมทรพั ย. บทวา กอการทะเลาะ ความวา กอ การทะเลาะดว ยวาจาและการทะเลาะดวยการใชมือเปน ตน . บทวา นํา้ เมา เปนบอ เกดิ แหงโรคทง้ั หลาย ความวา นา้ํ เมาเปน เขตแดนแหงโรคเหลา นัน้ มโี รคตาเปน ตน . บทวา นํา้ เมาเปนเหตุเสยี ชื่อเสยี ง ความวา เพราะชนด่ืมนํ้าเมาแลว ยอมประหารแมม ารดาแมบดิ าได ยอมกลาวคาํ ท่ไี มค วรกลา ว แมอ ่ืนอีกมาก ยอ มทําส่ิงทไี่ มค วรทํา ดว ยเหตุนี้ ชนท้ังหลาย ถึงการติเตยี นบา ง ลงโทษบาง ตัดอวยั วะมมี อืและเทาเปน ตน บาง ถงึ ความเสียชือ่ เสยี ง ในโลกน้ีบาง ในโลกหนาบาง.ดวยประการฉะน้ี สรุ านั้น จงึ ช่ือวาเปนเหตเุ สยี ชอ่ื เสียงของชนเหลา น้ัน.บทวา น้ําเมาเปนเหตุ ไมรจู กั ละอาย ความวา เพราะนํ้าเมายอ มยงัความละอายอันเปน ทซ่ี ง่ึ ควรซอนเรน ควรปกปด ใหก าํ เริบ ใหพินาศเพราะฉะน้ัน ทานจึงกลาววา ยงั หิริใหก าํ เรบิ ดังน้.ี อนึ่ง คนเมาสุราเปดอวยั วะน้ัน ๆ แลวเทีย่ วไปได. ดวยเหตุนนั้ สุรานนั้ ทานจึงกลา ววาเปน เหตุไมร ูจ ักละอาย เพราะทําหริ ใิ หก าํ เรบิ . บทวา น้าํ เมา เปนเหตุทอนกําลงั ปญญา ความวา นา้ํ เมา ยอ มทําความรูวา สัตวมีกรรมเปนของตนใหออ นลงเหมือนปญ ญาของพระสาคตเถระฉะนน้ั เพราะฉะนัน้ ทานจงึ กลาววา นาํ้ เมาเปนเหตทุ อนกาํ ลงั ปญ ญา. แตนํ้าเมาไมอ าจทําผูไ ดม รรคปญ ญาใหออนได. เพราะสุรานน้ั ยอ มไมเขาไปภายในปากของทานทบี่ รรลุมรรคแลว . บทวา ฉฏ ปท แปลวา เหตทุ ่ี ๖.
พระสตุ ตันตปฎ ก ทฆี นกิ าย ปาฏิกวรรค เลม ๓ ภาค ๒ - หนาท่ี 102 บทวา ชื่อวา ไมคมุ ครอง ไมรักษาตัว อธิบายวา เพราะบคุ คลเที่ยวไปมใิ ชเวลายอมเหยียบตอและหนามเปนตน บา ง พบงบู า ง ยักษเ ปนตน บาง แมศัตรูรูว าจะไปยังทนี่ นั้ ๆ กแ็ อบจบั ตัวหรือฆา . ดว ยเหตุนี้จึงชอ่ื วา ไมคุม ครอง ไมร กั ษาตวั . แมบุตรและภรรยาคดิ วา บิดาของเราสามขี องเรา เทยี่ วในกลางคนื จะกลา วไปไยถึงตวั เราดังน.ี้ ดว ยเหตุนี้แมบ ตุ รธดิ า แมภรรยาของเขากระทําธรุ กจิ นอกบา นเที่ยวไปในกลางคืนกย็ อ มถึงความพินาศ. แมบ ตุ รภรรยาของเขากช็ ่อื วาเปนผูไมคมุ ครองตวัไมรักษาตวั ดวยอาการอยา งน้.ี บทวา ทรพั ยส มบตั ิ ความวา พวกโจรรคู วามท่บี ริวารชนพรอมดวยบตุ รภรรยาน้นั เทยี่ วในกลางคืน จะเขาไปยังเรือนทีว่ า งคน นาํ เอาของทีต่ องการไป. ดว ยอาการอยา งน้ี ชอื่ วาเปน ผไู มคมุ ครอง ไมร กั ษาแมท รพั ยสมบตั ิ. บทวา เปน ทรี่ ะแวง ความวา เปนผูท่คี วรระแวงวา คนนจี้ กั เปนผูกระทําแมใ นกรรมอนั ลามกทค่ี นอ่ืนทํา. เมื่อกลาวคําวา บุคคล ไปโดยประตเู รอื นของผใู ด ๆ โจรกรรมหรือปรทารกิ -กรรม การขมขืน ใดอันคนอ่นื ทาํ ไวใ นท่ีนนั้ กรรมนนั้ เปนอนั วา บคุ คลผูน ก้ี ระทํากรรมนน้ั แมไมจ ริง ไมม กี ็ยอมปรากฏ คอื ยอ มตัง้ อยู ในบุคคลนน้ั . บทวา การเที่ยวกลางคืนอันเปน เหตุแหง ทุกขเปนอันมาก ความวา ใคร ๆ ไมอ าจกลา ววา ทกุ ขมปี ระมาณเทานี้ โทมนัสมปี ระมาณเทานี้ ของผทู ถ่ี ูกเขารังเกยี จในบคุ คลอืน่ นน้ั แล. ดวยประการดงั นี้ ผูเ ที่ยวกลางคนืน้นั จงึ เปน ผูประสบเหตแุ หง ทุกขเ ปน อันมาก คอื ไดร บั ความลาํ บากมาก. บทวา ฟอ นทไ่ี หน ไปทีน่ ั้น ความวา การฟอน มรี ํา และละครเปน ตน มอี ยู ในทไี่ หน แลว พึงไปในบานหรอื นคิ มท่มี ีการฟอ นน้ัน. เม่อืผูที่เตรียมผาของหอมและดอกไมเ ปน ตน ในวนั น้ดี ว ยคิดวา พรุง น้เี ราจกั ไปดู
พระสตุ ตันตปฎ ก ทีฆนิกาย ปาฏกิ วรรค เลม ๓ ภาค ๒ - หนา ท่ี 103การฟอ นของเขา เปนอนั ทิ้งการงานตลอดวัน. ยอ มปรากฏในที่น้นั ตลอดวนั หนง่ึ บา ง สองวันบาง ตามวันบา ง ดวยการดูการฟอน. เมอื่ ผเู ทีย่ วกลางคนื แมไ ดก ารถึงพรอมดวยฝนเปน ตน กไ็ มทําการหวาน เม่อื ถึงกาลหวา นเปนตน โภคะท้งั หลายทีย่ งั ไมเกิด ยอมไมเ กิด. เมอ่ื เรือนไมม คี นเฝา พวกโจรรคู วามท่เี จาของบา นไปขางนอก ยอมลักของท่ตี องการไป. ดว ยเหตนุ ั้น โภคะแมเกิดแกเขากย็ อมพนิ าศ. แมในบทวา ขับรองมีทไ่ี หนไปในทนี่ ั้น เปนตน ก็มีนยั นี้แล. การกระทําตา ง ๆ ของชนเหลานัน้ ทา นกลา วแลว ในพรหมชาลสูตร. บทวา ผชู นะยอมกอ เวร ความวา ผูชนะยอมถอื เอาซงึ่ ผาสาฎกหรือผาโพกของผูอน่ื ในทา มกลางชุมชนดว ยคดิ วา เราชนะแลว ดังนี้ ผูชนะยอ มผกู เวรในบคุ คลนัน้ วา เขาดูหมนิ่ เราในทา มกลางชมุ ชน ชา งเถดิเราจกั ใหบทเรยี นเขาดงั นี้. เมอื่ ชนะอยางนย้ี อมประสบเวร บทวา ผูแพความวา ผูแพยอมเศราโศกถึงผา โพก ผาสาฎกหรือทรัพยส นิ มีเงินและทองเปน ตนอยางอ่นื ของเขาทผี่ อู ่นื ไดไป เขายอมเศรา โศก เพราะทรัพยน ้นัเปน เหตวุ า ทรพั ยน นั้ ไดม ีแลว แกเราหนอ ทรพั ยน้ันยอมไมม ีแกเราหนอดงั น้ี ดวยอาการอยา งน้ี ผูแพย อ มเสยี ดายทรัพย บทวา คําพูดของนกั การพนันที่ไปพูดในท่ีประชมุ ฟงไมข ึ้น ความวา เม่ือเขาถกู ถามเพราะเปนพยานในทว่ี ินิจฉัย ดว ยคาํ ฟง ไมข น้ึ . ชนทั้งหลายจะพากนั พดู วา ผูน้ีเปนนักเลงสะกา เลน การพนัน พวกทานอยาเชอ่ื คาํ พูดของเขา. บทวา ถูกมติ รอมาตยดูหมิ่น ความวา จรงิ อยู พวกมติ รอมาตยจ ะพดู กะเขาอยา งน้ีวาสหาย แมท า นกเ็ ปนบตุ รของผูม ตี ระกลู เลน การพนัน เปนผูต ดั เปน ผู
พระสตุ ตันตปฎก ทีฆนกิ าย ปาฏิกวรรค เลม ๓ ภาค ๒ - หนา ท่ี 104ทําลาย เทย่ี วไปนี้ ไมสมควร แกชาตแิ ละโคตรของทาน ต้งั แตน ีไ้ ปทา นไมพ ึงทาํ อยา งน.ี้ นักการพนันนัน้ แมถ กู เขากลา วอยางนก้ี ไ็ มเ ชื่อเขา แตน้ันพวกมติ รและสหายเหลา นน้ั ไมย ืน ไมน งั่ รว มกับเขา. แมพ วกเขาถูกถามเปนพยานกไ็ มย อมพดู เพราะเหตุนักการพนนั นั้น. ดวยอาการอยา งน้ีนักการพนันจึงเปน ผถู ูกมิตรและสหายดูหม่นิ . บทวา อาวาหะและววิ าหะความวา ผปู ระสงคจะนําหญิงสาวไปจากเรือนของเขา ชอ่ื วา อาวาหะ ผูประสงคจ ะใหห ญงิ สาวอยูในเรือนของเขาช่อื วา วิวาหะ. บทวา อปปฺ ฏโิ ตโหติ แปลวา ไมม ีใครปรารถนา บทวา นาล ทารภรณาย ความวา นกัการพนัน ไมสามารถจะเลีย้ งภรรยาได. ความวา แมใ หหญงิ สาวในเรอื นของเขา แมมาจากเรือนของเขา พวกเราก็จกั พงึ เล้ยี งดูได. บทวา เย ธตุ ตฺ า นักเลงการพนัน. บทวา โสณฺฑา ความวานาํ ใหเปน นกั เลงหญงิ นาํ ใหเปน นักเลงลักขาว นําใหเปน นกั เลงเหลานาํ ใหเ ปน นกั เลงลกั เผอื กมัน. บทวา ปป าสา แปลวา นักเลงดืม่ . บทวาเนกตกิ า คือลวงดว ยของปลอม. บทวา วจฺ นกิ า คือ ลวงซึ่งหนา บทวานาํ ใหเปน นกั เลงหวั ไม ความวา เปนผูทาํ การงานรว มกับผอู ่นื ทอี่ ยอู าคารเดียวกนั เปนตน. บทวา พวกนัน้ เปน มิตรของเขา คือ เขาไมย ินดีกับคนอน่ื ที่เปน คนดี เขาไปหามิตรลามกเหลานนั้ อยางเดียว เหมือนสกุ รที่เขาประดับดวยของหอมและดอกไมเปน ตน แลวใหน อนบนทน่ี อนอยางดีกย็ ังเขาไปสหู ลมุ คถู ฉะนน้ั เพราะฉะน้ัน ผูคบคนช่วั เปน มติ รยอมเขา ถงึความฉิบหายเปน อนั มากทั้งในภพนี้ และภพหนา บทวา อา งวา เยน็ นักแลวไมท ําการงาน ความวา พวกมนุษย
พระสตุ ตันตปฎ ก ทฆี นกิ าย ปาฏิกวรรค เลม ๓ ภาค ๒ - หนา ท่ี 105ลุกขึ้น แตเ ชา ตรูพดู วา พอมหาจําเริญ มาไปทําการงานกนั เถิด คนเกียจครานจะพดู วา ยังหนาวเหลอื เกิน กระดูกจะแตก พวกทา นไปกันเถิดเราจักไปทห่ี ลงั แลว นั่งผิงไฟ. มนษุ ยเ หลานน้ั ไปทําการงานกัน. การงานของคนเกยี จครานยอ มเสอ่ื ม. แมใ นบททัง้ หลายวา รอ นเหลือเกนิ ก็มีนัยนแ้ี ล. บทวา ชอ่ื วา เพอื่ ด่ืมกม็ ี ความวา บางคนเปนสหายกันในโรงเหลาอันเปนที่ดมื่ นนั่ แหละ. ปาฐะวา ปนฺนสขา ดงั นี้กม็ .ี ความอยา งเดียวกนั . บทวา เพ่อื นกลา วแตปากวา เพ่ือน ๆ ก็มี ความวา บางคนพูดวา เพอ่ื น เพอ่ื น เปน เพ่ือตอหนา เทานนั้ ลบั หลงั เปน เชนศตั รูยอ มแสวงหาชอ งทางอยา งเดยี ว. บทวา เมอื่ ประโยชนท ัง้ หลายเกดิ ขึน้ความวา เม่ือกิจเหน็ ปานนนั้ เกิดข้ึนแลว. บทวา เวรปฺปสงโฺ ค แปลวามากดวยเวร. บทวา อนตถฺ ตา แปลวาทําความฉิบหาย. บทวา ความเปน ผูตระหนี่เหนยี วแนน ความวา ความเปนผตู ระหนี่เหนยี วแนน คือ ความเปนผูตระหนี่จดั . บทวา เขาจักจมลงสูหน้ี เหมือนกอ นหินจมนา้ํฉะนั้น ความวา เขาจมลงสหู น้ี เหมือนกอ นหนิ ในกลางคนื เปน ปกต.ิเกลียดชงั การลกุ ขน้ึ ในกลางคนื คือ ไมล ุกขน้ึ ในกลางคืนเปน ปกติ.บทวา มักอา งวา เยน็ เสยี แลว คอื เขากลาวอยา งนวี้ า เวลานเ้ี ย็นนกั แลวไมท ําการงาน บทวา สละการงาน คือ พูดอยางน้แี ลว ไมท าํ การงานบทวา ประโยชนยอ มลวงเลยมาณพทงั้ หลาย ความวา ประโยชนท้ังหลาย ยอมลว งเลยบุคคลเห็นปานน้ี คือ ไมต ัง้ อยูใ นบคุ คลเหลา น้นั .
พระสตุ ตนั ตปฎก ทีฆนิกาย ปาฏกิ วรรค เลม ๓ ภาค ๒ - หนา ท่ี 106บทวา ติณณฺ า ภยิ ฺโย แปลวา ยิง่ กวาหญา. บทวา เขายอมไมเ สอื่ มจากความสุข ความวา บุรุษนั้น ยอ มไมล ะความสขุ ยอ มเปนผูส มบูรณด ว ยความสุขทีเดียว. พระผมู ีพระภาคเจาทรงแสดงเนื้อความนี้ ดวยกถามรรคน้ี.อันผคู รองเรือน ไมค วรทาํ กรรมน้ี ช่อื ความเจรญิ ยอ มไมม แี กผ ูกระทาํผกู ระทาํ ยอมไดร บั การตเิ ตียนอยางเดยี วทัง้ ในโลกนี้และโลกหนา . บดั นี้ พระผมู พี ระภาคเจา เพอ่ื ทรงแสดงถงึ ผูไมใ ชมติ รเปน มติ รเทียม เปนคนพาลวา ผูใดกระทําอยางนี้ ความฉิบหายยอ มเกิดข้ึนแกผ ูนนั้ก็หรือภยั อยา งอ่นื ๆ อนั ตรายใด ๆ อปุ สรรคใด ๆ ทั้งหมดนน้ั ยอ มเกิดข้ึนเพราะอาศยั คนพาล เพราะฉะน้นั ไมควรคบคนพาลเห็นปานน้นั ดงั นี้ จงึตรสั คาํ เปนตนวา ดกู อ นคฤหบดีบุตร คนไมใ ชม ิตรมี จําพวกเหลาน้ีดงั น้ี. ในบทเหลา นน้ั บทวา คนปอกลอก ความวา ตนเองมมี อื เปลามาแลว นาํ เอาของอยางใดอยา งหนง่ึ ไปโดยสวนเดยี ว. บทวา ดแี ตพดูความวา เปน ดจุ ผใู หก ระทาํ เพยี งคําพดู เทาน้นั . บทวา คนหัวประจบคือ ยอ มพูดคลอยตาม. บทวา คนชักชวนในทางฉบิ หาย คือ เปน สหายในทางเสื่อม แหงโภคะทัง้ หลาย. พระผูมีพระภาคเจาทรงแสดงถึงคนท่ีไมใชมติ ร . จําพวกอยา งนี้แลว เม่อื จะทรงจาํ แนกเหตุอยางหนึ่ง ๆ ในคนที่ไมใ ชม ติ รน้ัน ดวยเหตุ ๔ อยาง จึงตรสั คาํ เปน ตน วา ดูกอ นคฤหบดีบตุ รดวยฐานะ ๔ อยา ง ดงั น้ี. ในบททั้งหลายนน้ั บทวา เปนคนปอกลอก ความวา เปนผูนาํไปโดยสวนเดยี วเทานนั้ . ความวา เปน ผมู ีมือเปลา มาสูเรือนของสหายแลวพูดถงึ คุณของผา สาฎกทีต่ นนุงเปนตน . คนปอกลอกพดู วา ดกู อ นสหายคนน้นั ยอมกลา วถงึ คณุ ของผา ผนื นี้กะทา นเหลอื เกินดังนแี้ ลว นุงผา ผืนอืน่
พระสุตตันตปฎ ก ทีฆนกิ าย ปาฏิกวรรค เลม ๓ ภาค ๒ - หนา ที่ 107ใหผืนน้ันไป. บทวา เสียใหนอยคดิ เอาใหไดม าก คอื ใหข องอยา งใดอยางหนงึ่ แตนอย แลวปรารถนาของมากจากเขา. บทวา เม่อื มีภัยยอมทาํ กจิ ความวา เม่อื ภยั เกดิ ขนึ้ แกต น ยอ มทาํ กจิ นัน้ ๆ เหมอื นเปน ทาสของเขา คนปอกลอกน้ี ไมท ําในกาลทง้ั ปวง เมื่อภัยเกิดขน้ึ จึงทํา ไมทําดว ยความรกั เพราะฉะนนั้ จงึ ชือ่ วาเปน ผไู มใชม ติ ร. บทวา คบเพื่อนเพราะเหน็ แกประโยชน ความวา ไมค บดว ยสามารถ เปนผูคนุ เคยฉันมิตรทปี่ ระโยชนของตนฝายเดียวจึงคบ. บทวา อา งเอาของทลี่ ว งแลว มาปราศรัย ความวา คนดแี ตพ ดู ยอ มสงเคราะหดวยสง่ิ ทล่ี วงแลวอยางนวี้ าเมือ่ สหายมา เม่อื วาระน้ี ทา นไมม า วาระน้ี ขาวกลาของพวกเราสาํ เรจ็เรียบรอ ย พวกเราตงั้ ขา วสาลี ขาวเหนยี วและพชื เปนตน เปนอันมาก แลวนั่งดูหนทาง แตวันนีส้ ิ้นไปทงั้ หมดแลว ดงั นี้. บทวา อางส่งิ ท่ียงั ไมถึงมาปราศรัย ความวา คนดแี ตพ ดู ยอมสงเคราะหด ว ยสิง่ ทีย่ งั ไมมาถึงอยา งนีว้ าในวนั น้ี ขา วกลาของเราจักเปน ทปี่ ลม้ื ใจ เม่อื เราทําการสงเคราะหด วยขา วกลามขี าวสาลีเปนตน เปนอันมีผลเตม็ ท่ีแลว เราจักสามารถเพอื่ ทําการสงเคราะหแกพวกทา นไดดงั น้ี บทวาคนดแี ตพดู สงเคราะหดวยสง่ิ หาประโยชนมิได ความวา คนดแี ตพดู น่งั บนคอชางหรือบนหลังมา คร้ันเหน็ สหายแลว กลาววา เพือ่ นเอย เพื่อนจงมาน่งั ณ ที่นเี้ ถดิ คนดีแตพดูนุง ผา สาฏกผนื ท่ีชอบ แลวกลาววา ผาผนื น้ีสมควรแกส หายของเราจริงหนอแตเราไมมผี า ผนื อืน่ . อยางน้ีชื่อวาสงเคราะหด ว ยสงิ่ ไมม ปี ระโยชน. บทวาเม่อื กจิ เกิดข้ึน แสดงความขัดของ ออกปากพ่งึ ไมไ ด ความวา เมื่อมีผูกลาววา ขาพเจาตองการเกวยี น คนดแี ตพดู กลาวคาํ เปนตน วา เสยี ดายจรงิ ลอ เกวียน เพลาเกวียนหักเสียแลว. บทวา คนหวั ประจบ ตามใจ
พระสุตตันตปฎก ทฆี นิกาย ปาฏกิ วรรค เลม ๓ ภาค ๒ - หนา ท่ี 121สหายผมู าดวยคดิ วา เราจักไปเรือนของสหายแลว จักถอื เอาส่งิ น้ีดงั น้ี เขามาดวยประโยชนอ นั ใด ยงั ประโยชนอ ันน้ันใหส ําเรจ็ ชอ่ื วา รูคําพูดแมตรวจตราดแู ลว ใหส ิ่งทส่ี หายพรอ ง กช็ ่อื วา เปนผรู คู าํ พดู เหมอื นกนับทวา เปนผแู นะนํา ความวา เม่อื จะช้แี จงเน้อื ความน้นั ๆ เปนผแู นะนาํดวยปญญา. ชีแ้ จงเหตุหลาย ๆ อยาง แนะนาํ ชือ่ วาเปน ผแู นะนาํ เหตผุ ลแนะนําบอ ย ๆ ชื่อวา ตามแนะนาํ . บทวา ตตถฺ ตตฺถ ความวา ในบคุ คลนั้น ๆ. บทวา เหมือนสลกั รถอันแลนไปอยู ความวา เม่อื การสงเคราะหเหลาน้ี ยงั มีอยโู ดยแท โลกยังเปน ไปได เมอื่ ไมมีโลกก็เปนไปไมได เหมอื นสลักยังมอี ยู รถยอมแลน ไปได เมือ่ สลกั ไมม ี รถกแ็ ลนไปไมไ ด ฉะนัน้ . เพราะฉะน้ันทา นจึงกลา ววา การสงเคราะหเ หลา นี้แลในโลกเหมอื นสลกั รถแลนไปอยูฉะน้ัน. บทวา มารดาไมไ ดรบั ความนบั ถอืบชู าเพราะเหตแุ หง บตุ ร ความวา ผิวา มารดาไมพ ึงทาํ การสงเคราะหใหเ ลานีแ้ กบ ุตร มารดาไมพ งึ ไดความนบั ถอื หรือความบชู าเพราะเหตุแหงบตุ ร. บทวา สงฺคเห เอเต. เปนปฐมาวิภตั ต์ิ ลงในอรรถทตุ ยิ าวภิ ตั ต์.ิหรือปาฐะวา สงฺคเห เอเต. บทวา สมมฺ เปกฺขนตฺ ิ ตดั บทเปน สมมฺ าเปกขฺ นฺต.ิ บทวา ปส สา จา ภวนตฺ ิ แปลวา ควรไดรบั การสรรเสริญ. ดวยประการดังนี้ พระผมู พี ระภาคเจา ตรัสวา ดกู อนคฤหบดบี ุตรเธอจงนอบนอ มทิศที่บดิ าของเธอกลา วหมายถึง แลว ทรงแสดงทิศ ๖ เหลา นี้นนั้ วา ผิวา เธอทาํ ตามคาํ บดิ า เธอจงนอบนอมทศิ เหลานี้ ทรงต้ังคาํ ถามแกสิงคาลกะ ยังเทศนาใหถึงที่สดุ แลว เสดจ็ เขาไปยังกรงุ ราชคฤหเ พอ่ืบิณฑบาต. แมส ิงคาลกะก็ไดต งั้ อยูในสรณะทั้งหลาย แลว เฉลย่ี ทรพั ย ๔๐
พระสุตตันตปฎก ทีฆนกิ าย ปาฏิกวรรค เลม ๓ ภาค ๒ - หนา ที่ 122โกฏิ ไวใ นพระพุทธศาสนากระทํากรรมอันเปน บญุ ไดเปนผูมีสวรรคเปนทไ่ี ปในเบื้องหนา. กใ็ นสตู รนี้ ช่อื วา กรรมใดที่คฤหัสถควรทาํ อยางใดอยา งหนง่ึ กรรมน้นั อนั พระผมู พี ระภาคเจา มไิ ดต รสั ไว ยอมไมมี พระ-สตู รน้ี ชื่อวา คหิ วิ ินยั เพราะฉะนนั้ เมือ่ ฟง พระสูตรนแ้ี ลว ปฏบิ ตั ิตามท่ีไดส อนไว ความเจรญิ เทานนั้ เปน อันหวงั ได ไมมีความเสือ่ มฉะน้ี. จบอรรถกถาสงิ คาลกสตู ร ที่ ๘ ในทฆี นิกายอรรถกถา ชื่อ สุมงั คลวลิ าสนิ ี ดวยประการฉะน้ี.
พระสตุ ตันตปฎก ทฆี นกิ าย ปาฏกิ วรรค เลม ๓ ภาค ๒ - หนา ที่ 123 ๙. อาฏานาฏิยสูตร เรอื่ งทา วจาตมุ หาราช [๒๐๗] ขา พเจา ( พระอานนทเถระเจา ) ไดสดบั มาอยา งน้ี :- สมัยหนึ่ง พระผมู ีพระภาคเจา ประทับอยู ณ ภูเขาคชิ ฌกฏู ใกลเมอื งราชคฤห. คร้ังนน้ั ทา วมหาราชทงั้ ๔ ต้งั การคุมครองไวท ้ัง ๔ ทิศต้งั กองทพั ไวท ัง้ ๔ ทศิ ต้งั การปองกันไวท้ัง ๔ ทิศ ดวยเสนายกั ษก องใหญดว ยเสนาคนธรรพกองใหญ ดว ยเสนากมุ ภัณฑก องใหญแ ละดวยเสนานาคกองใหญ เม่อื ลว งราตรไี ปแลว มรี ศั มงี ามย่งิ ยังภเู ขาคชิ ฌกูฏท้ังสิ้นใหสวา งไสว แลวเขา ไปเฝา พระผมู ีพระภาคเจา ถึงทป่ี ระทบั ถวายบงั คมพระผูมพี ระภาคเจา แลว นง่ั ณ ที่ควรสวนขา งหนึ่ง. ฝายยักษเ หลานั้นบางพวก ถวายบงั คมพระผูมีพระภาคเจาแลว นง่ั ณ ท่ีควรสวนขางหน่งึบางพวกไดป ราศรยั กับพระผูม พี ระภาคเจา ครนั้ สัมโมทนยี กถา อันเปนท่ีระลึกถงึ กนั ผานไปแลวจึงน่ัง ณ ทีค่ วรสวนขา งหนึ่ง บางพวกประณมอัญชลีไปทางท่พี ระผมู พี ระภาคเจา ประทับ แลวนงั่ ณ ทีค่ วรสว นขางหนึ่ง บางพวกประกาศช่ือและโคตรแลว นงั่ ณ ทคี่ วรสวนขางหน่ึง บางพวกนง่ั นิ่งอยูณ ทีค่ วรสวนขา งหน่ึง. [๒๐๘] ทาวเวสวณั มหาราชประทับนัง่ ณ ทค่ี วรสวนขา งหนงึ่ไดกราบทูลพระผมู พี ระภาคเจา วา ขา แตพระองคผูเจริญ ยกั ษช น้ั สงู บางพวกมไิ ดเ ล่อื มใสตอ พระผูมพี ระภาคเจากม็ ี ยกั ษชนั้ สูงบางพวกท่ีเลือ่ มใสตอ
พระสตุ ตนั ตปฎก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค เลม ๓ ภาค ๒ - หนาที่ 124พระผูม พี ระภาคเจากม็ ี ยกั ษช้นั กลางที่ไมเลือ่ มใสตอ พระผมู ีพระภาคเจา กม็ ียกั ษชัน้ กลางทเ่ี ลื่อมใสตอ พระผูมีพระภาคเจา กม็ ี ยักษช ้นั ตา่ํ ทไ่ี มเ ลือ่ มใสตอ พระผมู พี ระภาคเจาก็มี ยกั ษช ้นั ตํ่าทีเ่ ลือ่ มใสตอพระผูมีพระภาคเจา กม็ .ีขา แตพระองคผเู จริญ โดยมากยกั ษม ไิ ดเล่อื มใสตอ พระผมู พี ระภาคเจาเลยขอ น้นั เพราะเหตุไร เพราะพระผูม พี ระภาคเจา ทรงแสดงธรรม เพ่อืงดเวนจากปาณาติบาต ทรงแสดงธรรมเพ่ืองดเวนจากอทินนาทาน ทรงแสดงธรรมเพื่องดเวนจากกาเมสุมจิ ฉาจาร ทรงแสดงธรรมเพือ่ งดเวนจากมุสาวาท. ทรงแสดงธรรมเพือ่ งดเวนจากการด่มื นํ้าเมา คือสรุ าและเมรยัอันเปน ทีต่ ้ังแหงความประมาท. แตโดยมากพวกยักษ มไิ ดงดเวนจากปาณาติบาต มิไดง ดเวน จากอทนิ นาทาน มไิ ดงดเวน จากกาเมสุมจิ ฉาจารมิไดงดเวน จากมสุ าวาท มิไดงดเวนจากการดม่ื นาํ้ เมา คือ สรุ าและเมรยั อนัเปน ที่ตงั้ แหงความประมาท ขอน้ันจงึ ไมเ ปนท่รี ัก ไมเ ปนทชี่ อบใจของยกั ษเหตนุ ัน้ . ขาแตพระองคผ เู จริญ สาวกของพระผูม ีพระภาคเจา บางพวกยอมเสพเสนาสนะอนั เปน ราวไพร ในปา มเี สียงนอ ย มเี สียงดังนอยปราศจากลมแตช นผูเดนิ เขาออก ควรแกการทาํ กรรมอนั เรนลับของมนษุ ยควรแกการหลีกเรน ยกั ขชั้นสงู บางพวกมอี ยูในปาน้ัน ขาแตพระองคผูเจรญิ ขอพระผมู พี ระภาคเจาจงทรงเรียนอาฏานาฏยิ รกั ษ เพ่ือใหย กั ษพวกที่ไมเล่ือมใสในคาํ สอนของพระผูมพี ระภาคเจานี้เลอ่ื มใส เพอื่ คุม ครองเพอื่ รกั ษา เพอ่ื ไมเบียดเบียน เพอื่ ยูสาํ ราญของภิกษุ ภกิ ษณุ ี อบุ าสกอบุ าสกิ า ทั้งหลายเถิด พระเจาขา. พระผูม พี ระภาคเจาทรงรบั โดยดุษณภี าพ.ลาํ ดบั น้ัน ทาวเวสวณั มหาราช ทรงทราบการทรงรับของพระผูม ีพระภาคเจาแลว ไดท รงกลา วอาฏานาฏิยรักษนี้ ในเวลานนั้ วา
พระสตุ ตนั ตปฎ ก ทีฆนิกาย ปาฏกิ วรรค เลม ๓ ภาค ๒ - หนาที่ 125[๒๐๙] ขอนอบนอมแดพระวปิ สสพี ุทธเจา ผูมี พระจักษุ มีพระสิริ ขอนอบนอมแดพระสขิ ีพุทธเจา ผูทรง อนเุ คราะหแ กส ัตวทว่ั หนา. ขอนอบนอมแดพระเวสสภูพุทธเจา ผู ชาํ ระกิเลส มคี วามเพยี ร ขอนอมนอมแดพ ระกกุสนั ธพทุ ธเจา ผู ทรงยา่ํ ยมี ารและเสนามาร. ขอนอบนอ มแดพ ระโกนาคมนพทุ ธเจา ผู มบี าปอันลอยแลว อยูจบพรหมจรรย ขอนอบนอ มแดพ ระกัสสปพทุ ธเจา ผพู น พเิ ศษแลว ในธรรมท้งั ปวง. ขอนอบนอมแดพ ระอังครี สพทุ ธเจา ผู ศากยบตุ ร ผมู ีพระสิริ พระผมู พี ระภาคเจา พระองคใด ไดท รง แสดงธรรมน้ี อนั เปนเครอื่ งบรรเทาทุกขท ั้ง ปวง. อน่งึ พระพุทธเจา เหลา ใดผูดับแลว ในโลก ทรงเหน็ แจง แลว ตามความเปน จรงิ พระพุทธ- เจา เหลา นน้ั เปน ผูไมส อ เสยี ด เปน ผยู ง่ิ ใหญ ปราศจากความครั่นคราม. เทวดาและมนุษยทงั้ หลาย นอบนอมพระ
พระสุตตนั ตปฎก ทีฆนิกาย ปาฏกิ วรรค เลม ๓ ภาค ๒ - หนา ท่ี 126พทุ ธเจา พระองคใด ผโู คตมโคตร ทรงเกือ้ กลู แกเ ทวดาและมนุษยทั้งหลาย ทรงถงึ พรอ ม ดวยวชิ ชา และจรณะ เปนผยู งิ่ ใหญป ราศจาก ความครัน่ ครา ม. พระสุริยาทิตย มมี ณฑลใหญข ้ึนแตทิศใด เม่อื พระอาทติ ยข ้ึนราตรกี ็หายไป. เมอ่ื พระอาทติ ยขน้ึ ยอ มเรียกวากลางวนั แมหว งน้าํ ในท่ีพระอาทติ ยขน้ึ นั้นเปน สมุทรลึก มนี าํ้ แผเ ต็มไป ชนท้งั หลายยอมรจู กั หว งน้ํา น้ัน ในท่ีน้ัน อยางนี้วา สมทุ รมนี ้ําแผเตม็ ไป.[๒๑๐] แตนีไ้ ป ทิศทช่ี นเรยี กกนั วา ปรุ ิมทิศที่ ทาวมหาราชผทู รงยศ เปน เจา เปน ใหญข องคน ธรรพท รงนามวา ทาวธตรฏั ฐอนั พวกคนธรรพ แวดลอมแลวทรงโปรดปรานดว ยการฟอ นรํา ขับรอง ทรงอภบิ าลอย.ู ขาพเจา สดบั มาวา โอรสของเทา เธอมีมาก องค มีพระนามเดยี วกันท้งั เกา สบิ เอ็ดองค มีพระนามวา อนิ ทะ ทรงพระกาํ ลงั มาก ทา วธต- รัฏฐและพระโอรสเหลา นน้ั เหน็ พระพทุ ธเจา ผูเบิกบานแลว เปนเผาพนั ธแ หง พระอาทิตย พากันถวายบงั คมพระพุทธเจา ซง่ึ เปน ผยู ิง่ ใหญ
พระสุตตนั ตปฎ ก ทีฆนกิ าย ปาฏกิ วรรค เลม ๓ ภาค ๒ - หนา ท่ี 127 ปราศจากความครั่นครามแตท่ีไกล. ขาแตพ ระผูเ ปนบรุ ษุ อาชาไนย ขาพระ พุทะเจา ขอนอบนอ มแดพระองค ขา แตพระ อดุ มบรุ ษุ ขา พระพุทธเจาขอนอบนอ มแด พระองค ขอพระองคท รงตรวจดมู หาชนดว ย พระญาณอันฉลาด แมพวกอมนษุ ยก ็ถวาย บังคมพระองค. ขา พระพทุ ธเจาทง้ั หลายไดส ดบั มาเนอื ง ๆ เพราะฉะน้นั จึงกลา วเชน นี้ ขาพระพุทธเจา ทัง้ หลายถามเขาวา พวกทา นถวายบังคมพระ ชนิ โคดมหรือ เขาพากนั ตอบวา ถวายบังคม พระชนิ โคดม ขาพระพุทธเจา ท้ังหลายขอ ถวายบงั คมพระพทุ ธเจา ผโู คดม ถงึ พรอมดว ย วชิ ชา และจรณะ ชนทงั้ หลายผูกลา วสอเสยี ด ผกู ดั เนื้อ ขางหลงั ทําปาณาตบิ าตลามกเปน โจร เปน คน ตลบตะแลงตายแลว ชนทง้ั หลายพากันกลา ว วา จงนําออกไปโดยทศิ ใด. ทาววิรุฬหะถวายบงั คม[๒๑๑] แตนไี้ ปทศิ ท่ีชนทั้งหลายเรยี กกันวา ทกั -ขณิ ทศิ มหาราชผูทรงยศเปน เจาเปน ใหญข อง
พระสตุ ตนั ตปฎ ก ทฆี นิกาย ปาฏกิ วรรค เลม ๓ ภาค ๒ - หนาที่ 128พวกกมุ ภณั ฑทรงนามวา ทาววริ ุฬหะ อันพวก กมุ ภณั ฑแ วดลอ มทรงโปรดปรานการฟอ น รําขับรอ ง ทรงอภิบาลอย.ู ขาพเจาไดส ดบั มาวา โอรสของทาวเธอ มมี ากองค มีพระนามเดยี วกนั ทั้งเกาสบิ เอ็ด องค มพี ระนามวาอนิ ทะ ทรงพระกาํ ลงั มาก ทัง้ ทาววิรุฬหะและพระโอรสเหลา น้ัน ไดเหน็ พระพทุ ธเจาผูเ บิกบานแลว ผูเ ปนเผา พันธุ แหงพระอาทิตย พากนั ถวายบงั คมพระพุทธ- เจา ซงึ่ เปนผูใหญย่งิ ปราศจากความครั่นครา ม แตทีไ่ กล. ขา แตพระผเู ปนบรุ ุษอาชาไนย ขาพระ- พุทธเจา ขอนอบนอ มแดพ ระองค ขาแตพระ อุดมบุรษุ ขาพระพทุ ธเจาขอนอบนอ มแดพระ องค ขอพระองคทรงตรวจดมู หาชนดว ยพระ ญาณอนั ฉลาด แมพวกอมนษุ ยก ็ถวายบงั คม พระองค. ขา พระพุทธเจา ทง้ั หลายไดส ดับมาอยาง น้นั เนือง ๆ ฉะน้นั จึงกลา วเชน นี้ ขา พระ- พุทธเจา ทัง้ หลายถามเขาวา พวกทา นถวาย บังคมพระชนิ โคดมหรอื เขาพากนั ตอบวา
พระสุตตนั ตปฎ ก ทีฆนกิ าย ปาฏกิ วรรค เลม ๓ ภาค ๒ - หนาท่ี 129ถวายบังคมพระชนิ โคดม ขาพระพทุ ธเจา ทง้ั หลาย ขอถวายบังคมพระพทุ ธโคดม ผูถึง พรอ มดวยวิชชาและจรณะ. พระสรุ ยิ าทติ ย มีมณฑลใหญตกในทิศใด และเมอ่ื พระอาทติ ยตก กลางวนั ดับไป คร้ัน พระอาทิตยต กแลว ยอ มเรยี กกนั วา กลางคนื . แมหว งนํา้ ในที่พระอาทิตยต กแลว เปน สมทุ รลกึ มีนํ้าแผเต็มไป ชนทง้ั หลายยอ มรจู ัก หวงนํา้ มัน ในท่ีนั้นอยา งน้ีวา สมทุ รมีนาํ้ แผ เต็มไป. ทาววริ ปู กษถ วายบังคม[๒๑๒] แตน ้ไี ปทศิ ทีม่ หาชนเรียกกนั วา ปจ ฉิมทิศ ท่ที าวมหาราชผูทรงยศ เปนเจาเปน ใหญของ พวกนาค ทรงนามวา ทาววริ ูปกษ อันพวก นาคแวดลอมแลว ทรงโปรดปรานดว ยการ ฟอนราํ ขบั รอ ง ทรงอภิบาลอยู. ขาพเจา ไดส ดบั มาวา โอรสของทา วเธอมี มากองค มพี ระนามเดยี วกันทั้งเกา สิบเอ็ดองค มนี ามวา อินทะ ทรงพระกาํ ลงั มาก ท้ังทา ววริ ู- ปก ษ และโอรสเหลา น้ันไดเห็นพระพุทธเจา ผเู บิกบานแลว ผเู ปน เผา พนั ธแุ หงพระอาทิตย
พระสุตตนั ตปฎ ก ทีฆนกิ าย ปาฏกิ วรรค เลม ๓ ภาค ๒ - หนาที่ 130พากันถวายบงั คมพระพุทธเจา ซึ่งเปน ผู ย่งิ ใหญปราศจากความครนั่ ครามแตท ีไ่ กลเทียว. ขาแตพ ระผเู ปนบุรษุ อาชาไนย ขา พระ- พุทธเจาขอนอบนอ มแดพระองค ขา แตพ ระ อดุ มบรุ ษุ ขาพระองคท รงตรวจดมู หาชนดว ย พระญาณอันฉลาด แมพ วกอมนษุ ยทัง้ หลาย กถ็ วายบังคมพระองค. ขาพระพทุ ธเจา ทั้งหลาย ไดสดับมาอยา ง นั้นเนือง ๆ ฉะนนั้ จึงกลาวเชน นี้ ขา พระ- พทุ ธเจาทง้ั หลาย ถามเขาวา พวกทา นท้ังหลาย ถวายบงั คมพระชินโคดมหรือเขาพากันตอบวา ทง้ั หลายบงั คมพระชนิ โคดม ขา พระพุทธเจา พรอมดว ยวิชชาและจรณะ. อตุ ตรกรุ ทุ วปี เปน รมณียสถาน มีภูเขา หลวงชือ่ สิเนรุ แลดงู ดงาม ตั้งอยทู ิศใด พวกมนุษยซ ง่ึ เกดิ ในอตุ ตรกรุ ุทวปี นน้ั ไมยดึ ถอื สิง่ ใดวา เปนของตนไมหวงแหนกนั . มนษุ ยเ หลานน้ั ไมต องหวานพชื และไม ตองนําไถออกไถ หมูมนษุ ยบริโภคขาวสาลี
พระสุตตันตปฎ ก ทีฆนิกาย ปาฏกิ วรรค เลม ๓ ภาค ๒ - หนาที่ 131อันผลิตผลในทไ่ี มต อ งไถ ไมม รี ํา ไมม ีแกลบบรสิ ุทธิ์ มกี ลน่ิ หอม เปน เมล็ดขา วสารหุงในเตาอันปราศจากควนั แลว บริโภคโภชนะแตท นี่ ้ัน. ทําแมโ คใหมีกบี เดียว แลวเทย่ี วไปสูทศินอยทิศใหญ ทาํ สัตวเ ลี้ยงใหม กี ีบเดียว เที่ยวไปสทู ิศนอ ยทศิ ใหญ. ทําหญงิ ใหเ ปนพาหนะ แลว เที่ยวไปสูทิศนอ ยทศิ ใหญ ทาํ ชายใหเ ปน พาหนะแลวเท่ยี วไปสูทศิ นอยทิศใหญ. ทํากุมารีใหเปน พาหนะแลว เท่ียวไปสทู ศินอ ยทิศใหญ ทาํ กุมารใหเ ปน พาหนะแลวเทยี่ วไปสูทศิ นอยทศิ ใหญ. บรรดานางบําเรอของพระราชานั้นก็ข้ึนยานเหลา นั้นตามหอ มลอ มไปทุกทิศดว ย. ยานชาง ยานมา ยานทิพย ปราสาท และวอ ก็ปรากฏแกทา วมหาราชผทู รงยศ. และทาวมหาราชนั้นไดทรงนิรมิตนครไวบนอากาศคอื อาฏานาฏานคร กุสนิ าฏานครปรกุสนิ าฏานคร นาฏปริยานคร ปรกสุ ติ นา-ฏานคร.
พระสตุ ตนั ตปฎก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค เลม ๓ ภาค ๒ - หนาที่ 132 ทางทิศอุดร มกี ปวันตนคร และอีกนครหนงึ่ ชอ่ื ชโนฆะ อกี นครหน่ึงชือ่ นวนวติยะอีกนครหนึง่ ช่อื อมั พรอมั พรวติยะ มรี าชธานีช่ือ อาฬกมันทา ขา แตพระองคผ ูนริ ทุกขกร็ าชธานีของทา วกุเวรมหาราช ชอื่ วิสาณาฉะนน้ั มหาชนจงึ เรยี กทาวกเุ วรมหาราชวาทาวเวสวัณ. ยักษช ่ือ ตโตลา ชื่อตตั ตลา ชือ่ ตโตตลาชือ่ โอชสี ชอ่ื เตชสี ชือ่ ตโตชสี ชือ่ สรุ ะชื่อราชา ชื่ออรฏิ ฐะ ชื่อเนมิ ยอ มปรากฏมหี นาทีค่ นละแผนก. ในวสิ าณราชธานีน้นั มีหวงน้าํ ช่ือ ธรณีเปน แดนท่เี กิดเมฆ เกดิ ฝนตก ในวิสาณราช-ธานีนั้น มสี ภาช่อื ภคลวดี เปนทีป่ ระชุมของพวกยกั ษ. ณ ทน่ี ้ัน มตี นไมเปนอันมาก มผี ลเปน นิจดารดาษ ดวยหมนู กตาง ๆ มนี กยูงนกกะเรียนนกดุเหวา อนั มเี สียงหวานประสานเสียง มีนกรอง ช่ือวา ชีวะ ชวี ะ และบางเหลามีเสยี งปลกุ ใจ มีไกปา มปี ู และนกโปรขรสาตกะ อยใู นสระประทุม. ในท่ีน้ันมีเสียงนกสกุ ะ และนกสาลิกา
พระสตุ ตันตปฎ ก ทีฆนกิ าย ปาฏกิ วรรค เลม ๓ ภาค ๒ - หนาท่ี 133และหมูน กทณั ฑมาณวะ สระนฬินี ของทาวกุเวรนั้นงดงามอยตู ลอดกาล. ทา วกุเวรถวายบงั คม [๒๑๓] แตท ิศนไี้ ปทศิ ที่ชนเรียกกันวา อตุ ตรทศิท่ที าวมหาราชผทู รงยศ เปน เจา เปน ใหญของยกั ษทงั้ หลายทรงนามวาทาวกุเวร อนั ยักษท้งั หลาย แวดลอมแลวทรงโปรดปราน ดวยการฟอ นราํ ขับรอง ทรงอภบิ าลอยู. ขาพเจา ไดส ดับมาวา โอรสของทา วเธอมีมากองค มพี ระนามเดียวกนั ทัง้ เกาสิบเอ็ดพระองค มีพระนามวา อนิ ทะ ทรงพระกาํ ลังมาก. ท้ังทา วกุเวรและโอรสเหลา นัน้ ไดเหน็ พระ-พทุ ธเจาผูเบกิ บานแลว ผูเปน เผา พนั ธแหงพระอาทติ ย พากนั ถวายบงั คมพระพุทธเจาซึง่ เปนผูย่งิ ใหญป ราศจากความครน่ั คราม แตท่ไี กล. ขา แตพ ระบุรษุ อาชาไนย ขาพระพทุ ธเจาทั้งหลายขอนอบนอมแดพ ระองค ขาแตพ ระอดุ มบรุ ุษ ขา พระพทุ ธเจา ขอนอบนอมแดพระองค ขอพระองคทรงตรวจดมู หาชนดว ย
พระสตุ ตนั ตปฎก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค เลม ๓ ภาค ๒ - หนา ท่ี 134 พระญาณอนั ฉลาด แมพ วกอมนษุ ยก็ถวาย บงั คมพระองค. ขาพระพุทธเจาไดส ดบั อยางนน้ั มาเนือง ๆ ฉะน้นั จงึ กลา วเชนนัน้ พวกขาพระพุทธเจา ทงั้ หลายถามเขาวา พวกทานถวายบังคม พระชินโคดมหรือ พวกเขากพ็ ากนั ตอบวา ถวายบังคมพระชินโคดม ขาพระพุทธเจา ทง้ั - หลายขอถวายบงั คมพระพทุ ธโคดมผูถงึ พรอม ดว ยวิชชาและจรณะ. วา ดว ยวธิ ีปอ งกันอมนุษย [๒๑๔] ขา แตทานผูนริ ทกุ ข อาฏานาฏิยรักษน ี้น้นั เพอ่ื คมุ ครองเพื่อรกั ษา เพอ่ื ไมเบียดเบยี น เพือ่ สขุ สําราญของภิกษุ ภกิ ษณุ ี อุบาสกอบุ าสิกาทง้ั หลาย. ขาแตท า นผนู ิรทกุ ข ผูใดผูหน่ึง ภกิ ษุก็ตาม ภกิ ษณุ ีกต็ ามอบุ าสกก็ตาม อบุ าสกิ าก็ตาม จกั เปน ผูย ึดถือดว ยดี เรยี นครบบรบิ ูรณซ ึ่งอาฏานาฏยิ รกั ษนี้ หากวา อมนษุ ย เปน ยกั ษ เปนยักษิณี เปน บุตรยักษเปน ธดิ ายักษ เปน มหาอํามาตยย ักษ เปน บรษิ ทั ยกั ษ เปนยกั ษผรู ับใชเปนคนธรรพ เปน นางคนธรรพ เปนบุตรคนธรรพ เปน ธดิ าคนธรรพเปนมหาอาํ มาตยของคนธรรพ เปน คนธรรพบ รษิ ทั เปน คนธรรพผ รู บั ใชเปน กุมภัณฑ เปน นางกมุ ภัณฑ เปนบุตรกุมภณั ฑ เปน ธดิ ากุมภัณฑเปนมหาอาํ มาตยของกุมภัณฑ เปนกมุ ภณั ฑบริษัท เปน กมุ ภัณฑผรู ับใชเปนนาค เปน นางนาค เปน บตุ รนาค เปน ธิดานาค เปน มหาอํามาตย
พระสตุ ตนั ตปฎก ทีฆนกิ าย ปาฏิกวรรค เลม ๓ ภาค ๒ - หนา ที่ 135ของนาค เปน นาคบรษิ ัท หรอื เปนนาคผรู บั ใช เปนผูมจี ิตประทุษรา ยพงึ เดินตามภิกษุ ภกิ ษณุ ี อุบาสก อุบาสกิ า ผเู ดินไปอยู หรือ พึงยนืใกลภ กิ ษุ ภิกษุณี อบุ าสก อบุ าสิกา ผยู นื อยู หรอื พงึ น่งั ใกลภิกษุภกิ ษณุ ี อบุ าสก อุบาสิกา ผูนง่ั อยู หรือพงึ นอนใกลภ กิ ษุ ภกิ ษณุ ีอุบาสก อุบาสิกา ผนู อนอยู. ขา แตทา นผนู ริ ทุกข อมนุษยนน้ั ไมพ ึงไดส ักการะ หรือ ความเคารพ ในบานหรอื ในนิคม ของขา พระพทุ ธเจา.ขา แตทา นผนู ิรทกุ ข อมนษุ ยน้นั ไมพ ึงไดว ตั ถุ หรือการอยูในราชธานีชอื่ วาอาฬกมนั ฑา ของขาพระพุทธเจา. ขา แตท านผูน ริ ทกุ ข อมนุษยน้นัไมพ ึงได เพอ่ื เขาสมาคมของพวกยกั ษ ของขา พระพุทธเจา. อนง่ึอมนุษยทง้ั หลาย ไมพ งึ ทาํ การอาวาหะ และวิวาหะกะอมนษุ ย. อน่งึอมนุษยท งั้ หลายพงึ บริภาษอมนษุ ยนัน้ ดว ยความดูหมิ่น ครบบรบิ รู ณดงั กลาวแลวโดยแท. อน่งึ อมนุษยท ้ังหลาย พงึ ครอบบาตรเปลาบนศรี ษะอมนษุ ยนั้นโดยแท. อน่ึง อมนษุ ยท งั้ หลาย พึงผาศรี ษะอมนษุ ยน ั้นออก.๗ เสีย่ งโดยแท. ขาแตท า นผนู ริ ทกุ ข อมนษุ ยท ้ังหลาย ดรุ าย รา ยกาจ ทําเกนิ เหตุมีอยู อมนุษยเหลา นั้นไมเชอ่ื ทาวมหาราช ไมเ ชือ่ ยักษเ สนาบดี ของทา วมหาราช ไมเ ช่อื ถอ ยคาํ ของรองยักขเสนาบดขี องทา วมหาราช. ขา แตทานผนู ริ ทุกข อมนุษยเ หลา นน้ั แล ทา นกลาววา ช่ือวาเปน ขาศกึ ศัตรูของทา วมหาราช. เหมือนโจรท้ังหลาย ในแวน แควน ของพระราชามคธ โจรเหลา น้ัน ไมเช่อื พระราชามคธ ไมเชื่อเสนาบดีของพระราชามคธ ไมเ ช่ือถอยคําของเสนาบดขี องพระราชามคธ ไมเ ชือ่ รองเสนาบดีของพระราชา-มคธ ขา แตทานผูน ิรทกุ ข มหาโจรเหลา นัน้ ทานกลา ววา ชือ่ วา เปน ขาศึก
พระสุตตันตปฎ ก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค เลม ๓ ภาค ๒ - หนาท่ี 136ศตั รขู องพระราชามคธ ฉันใด กอ็ มนุษยท งั้ หลาย ดรุ า ย รา ยกาจ ทําเกินกวาเหตุมีอยู อมนษุ ยเ หลา นน้ั ไมเชื่อทาวมหาราช ไมเชื่อยักขเสนาบดีของทา วมหาราช ไมเชื่อถอ ยคําของรองยักขเสนาบดีของทา วมหาราช ขาแตทานผนู ริ ทกุ ข อมนษุ ยเหลานัน้ แล ทานกลาววาเปนขาศึกศัตรูของทาว.มหาราชฉนั นนั้ . กอ็ มนุษยผใู ดผูหนง่ึ เปน ยักษ เปน ยกั ษณิ ี เปน บตุ รยกั ษเปน ธิดายักษ เปนมหาอํามาตยข องยักษ เปน ยักขบรษิ ัท เปนยกั ษผ รู บั ใชเปนคนธรรพ เปน นางคนธรรพ เปน บุตรคนธรรพ เปนธดิ าคนธรรพเปน มหาอํามาตยข องคนธรรพ เปน คนธรรพบ รษิ ทั เปน คนธรรพผรู บั ใชเปนกุมภัณฑ เปนนางกมุ ภัณฑ เปนบุตรกุมภณั ฑ เปน ธดิ ากมุ ภัณฑ เปนมหาอํามาตยของกุมภณั ฑ เปนกุมภณั ฑบ ริษัท เปนกมุ ภณั ฑผ รู ับใช เปนนาค เปนนางนาค เปนบุตรนาค เปน ธดิ านาค เปนมหาอํามาตยของนาคเปน นาคบรษิ ทั หรอื เปน นาคผูร บั ใช เปนผูม ีจิตประทุษราย พึงเดินตามภิกษุ ภิกษณุ ี อุบาสก อบุ าสกิ า ผเู ดินอยู พึงยินใกล ภกิ ษุ ภกิ ษณุ ีอุบาสก หรืออบุ าสกิ า ผยู นื อยู พงึ นั่งใกล ภกิ ษุ ภกิ ษณุ ี อุบาสก หรอือุบาสิกา ผูนง่ั อยู พึงนอนใกล ภกิ ษุ ภกิ ษณุ ี อบุ าสก อบุ าสิกา ผูน อนอยู.พงึ ยกโทษ พึงคราํ่ ครวญ พึงรอง แกยักษ มหายกั ษว า ยักษน ้สี ิง ยักษน้ีติดตาม ยกั ษน ร้ี ุกราน ยักษน ีเ้ บียดเบียน ยกั ษนี้ทําใหเดือดรอน ยกั ษน ้ีทําใหเกดิ ทกุ ข ยักษน ไี้ มปลอ ย ดังน.้ี [๒๑๕] ยกั ษ มหายกั ษ เสนาบดี มหาเสนาบดี เหลาไหน คอื อนิ ทะ โสมะ วรุณะ ภารทวาชะ ปชาปติ จนั ทนะ กามเสฏฐะ กนิ นุมณั ฑุ นฆิ ณั ฑ.ุ
พระสุตตันตปฎ ก ทฆี นิกาย ปาฏิกวรรค เลม ๓ ภาค ๒ - หนาท่ี 137 ปนาทะ โอปมญั ญะ เทวสตู ะ มาตลิ จติ ตเสนะ คันธัพพะ มโฬราชาชโนสภะ สาตาคิระ เหมวตะ ปณุ ณกะ กริตยิ ะ คุละ สวิ กะ มจุ จลินทะ เวสสามิตตะ ยคุ นั ธระ. โคปาละ สุปปเคธะ หริ ิ เนตตะ มนั ทิยะ ปญ จาลจนั ทะ อาลวกะ ปชณุ ณะ สมุ ขุ ะ มธิมุขะ มณี มานจิ ระ ทีฆะ และ เสรสี กะ. [๒๑๖] พึงยกโทษ พึงคราํ่ ครวญ พึงรอ งแกย กั ษ มหายกั ษเสนาบดี มหาเสนาบดี เหลานว้ี า ยักษน ี้สงิ ยกั ษน้ีตดิ ตาม ยกั ษนี้รุกรานยกั ษน ี้เบยี ดเบยี น ยกั ษนี้ทําใหเดอื ดรอน ยักษน้ีทําใหเกดิ ทุกข ยกั ษน ี้ไมป ลอ ย ดังน้.ี [๒๑๗] ขาแตทา นผูนิรทกุ ข อาฏานาฏิยรักษนีแ้ ล เพือ่ คมุ ครองเพือ่ รกั ษา เพอ่ื ไมเ บียดเบียน เพื่อความอยูสําราญของภกิ ษุ ภิกษุณีอบุ าสก อุบาสิกาท้ังหลาย. ขาแตท านผนู ริ ทกุ ข ขอโอกาสบดั นี้ ขา พระ-พุทธเจาทง้ั หลาย มกี ิจมาก มีธุระทจี่ ะตอ งทาํ มาก ขอกราบทูลลาไป. ดูกอ นทา วมหาราชทัง้ หลาย พวกทานจงสําคัญซง่ึ กาลอันควร ณ บัดนีเ้ ถิด. [๒๑๘] ครง้ั น้ัน ทา วมหาราชทง้ั ๔ ลุกจากอาสนะถวายบงั คมพระผมู พี ระภาคเจาแลว กระทําประทักษิณ แลวอันตรธานไป ณ ท่นี ัน้ เอง.พวกยักษแ มเ หลาน้ันก็ลุกจากอาสนะบางพวกก็ถวายบังคมพระผูมพี ระภาคเจา กระทาํ ประทักษณิ แลวอนั ตรธานไป ณ ท่ีน้ันเอง บางพวกปราศรยักับพระผูม ีพระภาคเจาครน้ั ผา นสัมโมทนยี กถา อนั เปน ทร่ี ะลึกถึงกนั ไปแลว
พระสุตตันตปฎก ทฆี นิกาย ปาฏกิ วรรค เลม ๓ ภาค ๒ - หนา ท่ี 138ไดอนั ตรธานไป ณ ท่นี ้ันเอง บางพวกประนมอญั ชลไี ปทางที่พระผมู ีพระภาคเจา ประทับ แลวอนั ตรธานไป ณ ทีน่ ้นั เอง บางพวกประกาศชอื่และโคตรแลว อันตรธานไป ณ ท่นี น้ั เอง บางพวกนัง่ น่ิงแลว อนั ตรธานไปณ ทน่ี ้นั เอง. [๒๑๙] ครง้ั นัน้ แล พระผูมีพระภาคเจา โดยราตรีน้นั ลวงไปไดตรัสเรียกภิกษทุ ัง้ หลายวา ดูกอ นภิกษุท้ังหลาย ตลอดราตรนี ีท้ าวมหาราชทงั้๔ ตั้งกองรกั ษาไวท ั้ง ๔ ทิศ ต้ังกองทัพไวท้งั ๔ ทิศ ต้งั ผตู รวจตราไวทัง้ ๔ ทิศดว ยเสนายกั ษกองใหญ ดวยเสนาคนธรรพก องใหญ ดว ยเสนากุมภัณฑกองใหญและดวยเสนานาคกองใหญ เมอื่ ราตรีลวงไปแลว เปลง รัศมีงามยิ่งยังภูเขาคชิ ฌกูฏทั้งส้นิ ใหส วางไสวเขา ไปหาเราถึงทีอ่ ยู ไหวเ ราแลว น่ัง ณท่ีควรสว นขา งหนึง่ . ยกั ษเหลาน้นั แล บางพวกไหวเราแลว นัง่ ณ ที่ควรสวนขา งหนงึ่ บางพวกปราศรยั กบั เรา คร้นั ผา นสัมโมทนยี กถาอันเปนที่ระลกึ ถงึ กันไปแลว นงั่ ณ ทีค่ วรสว นขา งหนง่ึ บางพวกประณมอญั ชลไี ปทางท่เี ราอยู แลว น่ัง ณ ทีค่ วรสว นขางหน่งึ บางพวกประกาศช่ือและโคตรแลว นงั่ ณ ท่ีควรสว นขางหนึง่ บางพวกนั่งนง่ิ อยู ณ ท่คี วรสวนขา งหนึ่ง ดกู อ นภกิ ษุทั้งหลาย ทาวเวสวณั มหาราช น่งั ณ ท่ีควรสวนขา งหน่งึไดก ลา วกะเราวา ขา แตพ ระองคผ เู จรญิ กย็ ักษทงั้ หลายชน้ั สูง บางพวกไมเ ลื่อมใสพระผูม ีพระภาคเจากม็ ี ยกั ษท ัง้ หลายชน้ั สูงเลอ่ื มใสพระผูมีพระภาคเจา ก็มี ยักษท ้ังหลายชนั้ กลางไมเลอื่ มใสพระผมู พี ระภาคเจา ก็มียกั ษท ั้งหลายชั้นกลางเล่อื มใสพระผมู ีพระภาคเจากม็ ี ยักษท ้ังหลายชน้ั ตํา่ไมเล่ือมใสพระผมู พี ระภาคเจาก็มี ยกั ษท้งั หลายช้นั ตา่ํ เลื่อมใสพระผมู ี
พระสุตตันตปฎ ก ทีฆนิกาย ปาฏกิ วรรค เลม ๓ ภาค ๒ - หนาท่ี 139พระภาคเจากม็ ี ขาแตพระองคผ ูเจรญิ โดยมากยักษมไิ ดเลอื่ มใสตอพระผมู ีพระภาคเจาเลย ขอนัน้ เพราะเหตไุ ร. เพราะพระผมู พี ระภาคเจา ทรงแสดงธรรมเพ่ืองดเวน จากปาณาตบิ าต จากอทินนาทาน จากกาเมสมุ ิจฉาจารจากมุสาวาท จากการดม่ื นํ้าเมา คอื สรุ าและเมรัย อนั เปนท่ตี ้งั แหง ความประมาท แตโดยมากพวกยักษม ิไดง ดเวนจากปาณาติบาต จากอทินนาทานจากกาเมสุมิจฉาจาร จากมสุ าวาท จากการด่ืมน้ําเมา คอื สรุ าและเมรยัอนั เปน ทต่ี งั้ แหง ความประมาท ขอท่ีพระองคใหง ดเวนน้นั จงึ ไมเ ปน ที่รกัไมเปนทช่ี อบใจของพวกยกั ษเ หลานนั้ ขาแตพระองคผูเจริญ กส็ าวกของพระผูมีพระภาคเจา บางพวกเสพเสนาสนะอนั สงดั ราวไพรในปา มีเสียงนอยมเี สียงกกึ กองนอ ย ปราศจากลมแตช นผูเ ขาออก ควรแกก ารทํากรรมอนัเรน ลบั ของมนุษย ควรแกการหลีกเรน ยกั ษช ั้นสูงบางพวกมักอยูใ นปา นัน้พวกใดมิไดเลือ่ มใสในคําสอนของพระผมู ีพระภาคเจานี้ ขอพระผูมีพระ-ภาคเจาจะทรงเรียนอาฏานาฏิยรักษเพื่อใหย กั ษพวกน้ันเลอ่ื มใส เพื่อความคมุ ครอง เพอื่ รักษา เพ่อื ไมเบยี ดเบียน เพือ่ อยูส าํ ราญ ของภิกษุ ภกิ ษณุ ีอุบาสก อุบาสิกา ท้งั หลายเถดิ พระเจาขา . ดกู อนภิกษทุ ั้งหลาย เรารับโดยดุษณีภาพ. คร้งั นน้ั แล ทาวเวสวณั มหาราชทราบการรับรองเราแลวไดกลาว อาฏานาฏยิ รักษน ใ้ี นเวลานน้ั วา
พระสุตตันตปฎก ทฆี นกิ าย ปาฏิกวรรค เลม ๓ ภาค ๒ - หนา ท่ี 140 ขา แตทานผูนริ ทุกข อาฏานาฏยิ รักษน้ีแล เพอื่ ความคุมครอง เพ่อืความรักษา เพื่อความไมเบยี ดเบียน เพอื่ ความอยูสําราญของภิกษุ ภกิ ษุณีอบุ าสก อบุ าสิกาทง้ั หลาย. ขาแตทานผนู ิรทกุ ข ขอโอกาสบัดนี้ พวกขาพระพุทธเจามกี ิจมาก มธี ุระที่จะตอ งทาํ มาก ขอกราบทูลลาไปดังน.้ี ดูกอนมหาบพติ ร พวกทานจงสาํ คญั กาลอันควรในบัดนเ้ี ถิด. ดูกอนภกิ ษทุ ั้งหลาย คร้งั นน้ั แล ทาวมหาราชทั้ง ๔ ลุกจากอาสนะไหวเรา แลวกระทาํ ประทกั ษิณแลว อนั ตรธานไป ณ ทีน่ ั้นเอง. แมพ วกยักษเ หลาน้ันก็ลกุ จากอาสนะ บางพวกไหวเ รา กระทาํ ประทกั ษณิ แลวอนั ตรธานไป ณ ทน่ี ั้นเอง บางพวกปราศรัยกับเรา ครน้ั ผา นการปราศรยัพอใหระลึกถงึ กันแลว ก็อนั ตรธานไป ณ ที่นัน้ เอง บางพวกประณมอญั ชลีไปทางท่ีเราอยู แลวอันตรธานไป ณ ที่นัน้ เอง บางพวกประกาศชอื่ และโคตรแลวอันตรธานไป บางพวกนั่งนิ่งแลวอันตรธานไป ณ ท่นี ั้นเอง.ดกู อ นภิกษุทง้ั หลาย พวกเธอจงเรียนอาฏานาฏิยรกั ษ จงขวนขวายอาฏานา-ฏิยรักษ จงทรงอาฏานาฏิยรักษไ ว ดกู อนภกิ ษุทงั้ หลาย อาฏนาฏิยรักษน ี้ประกอบดว ยประโยชน เพอื่ คุมครอง เพื่อรกั ษา เพอื่ ความไมเบยี ดเบียนเพอื่ ความอยูส าํ ราญ แหง ภิกษุ ภกิ ษุณี อุบาสก อุบาสิกาทัง้ หลาย. พระผูมีพระภาคเจา ไดตรสั พทุ ธพจนนีแ้ ลว. ภิกษุเหลานั้นช่ืนชมยนิ ดี พระภาษติของพระผมู พี ระภาคเจา ดังน้แี ล. จบอาฏานาฏยิ สูตรท่ี ๙
พระสุตตันตปฎก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค เลม ๓ ภาค ๒ - หนาที่ 141 อรรถกถาอาฏานาฏยิ สตู ร เอวมฺเม สุตนตฺ ิ อาฏานาฏิยสตุ ฺต ตอไปนี้ เปน การพรรณนาบทตามลําดับในสูตรนัน้ . บทวา ตงั้ การรักษา ในทศิ ทัง้ ๔ ความวา ต้ังอารักขาแกท า วสักกะผเู ปนจอมเทวดาท้งั หลายในทศิ ทั้ง ๔ เพือ่ ปอ งกันทัพอสรู . บทวา ตั้งกองทัพ คอื ต้ังกองกาํ ลัง. บทวา ตง้ั ผูตรวจตรา คอื ตัง้ หนวยรกั ษาการณใ นทศิ ทั้ง ๔. อธิบายวาทา วมหาราชทั้ง ๔ ไดจ ดั การอารกั ขาเปน อยา งดี แกทาวสักกะผูเปนเทวราชอยา งนี้ ประทับน่ัง ในอาฏานาฏานคร ปรารภถงึ พระพทุ ธเจา ทงั้ หลาย๗ พระองค แลวผูกเครื่องปองกันนี้ แลว ประกาศวา ผใู ดไมเชือ่ ฟงธรรมอาชญา ของพระศาสดา และราชอาชญาของเรา เราจกั ทาํ สง่ิ นี้ สง่ิ นี้แกผนู ้นั ดังนี้ แลวจดั อารักขาดวยเสนา. เหลา มียักขเสนาใหญเปน ตนในทศิ ทั้ง ๔ ของตนเมอื่ ราตรลี วงไปแลว ฯลฯ น่ัง ณ ที่ควรสว นขา งหนงึ่ . อภกิ กันตศพั ทในบทนว้ี า เมือ่ ราตรลี วงไปแลว ดงั นี้ ยอ มปรากฏในความวา สิน้ ไปดี งามย่ิง ยนิ ดียิ่ง เปน ตน . อภกิ กนั ตศพั ทในบทนัน้ปรากฏในความสิ้นในบทมอี าทอิ ยางนีว้ า ขา แตพ ระองคผูเ จรญิ ราตรีสิ้นแลวยามแรกผา นไปแลว หมภู ิกษุนง่ั นานแลว ขอพระผมู พี ระภาคเจา จงทรงสวดพระปาฏิโมกขแ กภิกษุท้งั หลายเถดิ พระพทุ ธเจาขา. ในความวาดีในบทมอี าทิอยา งน้วี า พระผูมีพระภาค นีด้ ีกวา และประณีตกวา บุคคล ๔ เหลานี้ดงั นี้. ในความวา รัศมงี าม ในบทมีอาทิวา ใครรุงเรอื งดวยฤทธ์ิดว ยยศ มรี ัศมงี ามยงิ่ นัก ยังทศิ ทัง้ หมดใหสวา งไสว ไหวเ ทา ของเราดงั น้ี. ในความวา นา ยนิ ดยี ่ิงนักในบทมอี าทอิ ยา งนี้วา
พระสุตตนั ตปฎก ทีฆนกิ าย ปาฏิกวรรค เลม ๓ ภาค ๒ - หนา ที่ 142ขาแตพ ระโคดมผูเจริญ นา ยินดยี ิง่ นัก ขา แตพระโคดมผูเ จรญิ นา ยินดยี ิ่งนกัดงั น้ี. แตอภกิ กันตศพั ทในที่น้ีเปนไปในความวา สน้ิ ไป. ดวยเหตุน้ันทานจงึ กลาววา เมื่อราตรีลว งไปคือ เม่อื ราตรสี น้ิ ไปดังน้ี. อภิกกนั ตศพั ทในบทนว้ี า มรี ัศมีงามยงิ่ นัก เปน ไปในรูปงามย่ิง. แตวณั ณศัพท ยอ มปรากฏในความวา ผวิ สรรเสรญิ ตระกูล เหตุ สัญฐานประมาณ รูปายตนะ เปนตน. ในบททง้ั หลายน้นั วัณณศัพท เปน ไปในความวา ผิว ในบทมอี าทิอยางนว้ี า ขาแตพระผูม พี ระภาคเจา พระองคมผี วิ ดุจทองคํา. วัณณศัพท เปนไปในความวา สรรเสริญ ในบทมอี าทิอยางน้วี า ดูกอ นคหบดี ก็การสรรเสริญ พระสมณโคดมของทานจะปรากฏไดเมื่อไรดงั นี้. เปนไปในความวาชาตติ ระกลู ในบทมอี าทิอยา งนวี้ า ขา แตพระโคดมผูเ จรญิ ชาตติ ระกลู ๔ เหลานีด้ ังน้ี. เปนไปในความวา เหตุ ในบทมีอาทอิ ยา งน้ี วา เออกด็ วยเหตุไรหนอทานจงึ กลาววาเปน ผูขโมยกล่นิ . เปนไปไนความวาสณั ฐาน ในบทมอี าทิอยา งนวี้ า เนรมติ สัณฐาน เทาพระยาชางใหญ. เปนไปในความวา ประมาณในบทมีอาทิอยางนว้ี า ประมาณของบาตร ๓ อยาง. เปนไปในความวา รปู ายตนะในบทมอี าทอิ ยางนี้วา รูปกล่นิ รส โอชะดงั นี้. วณั ณศพั ทน ้ัน ในทีน่ ้พี งึ ทราบวา เปนไปในความวาผวิ . ดว ยเหตุนีท้ า นจงึ กลาววา บทวา มรี ัศมงี ามนกั คอื มผี วิ งามยงิ่ ดังนี้ เกวลศัพท ในบทวา เกวลกปั ปะน้ี มคี วามไมนอยเปนตน วา ไมมีสวนเหลือ โดยมากไมมีเจอื ปน ไมยง่ิ ไปกวา แนว แน แยกกนั . มีอธิบายดวยประการนั้น คอื เกวลศพั ทค วามวา ไมมีสวนเหลือในบทมีอาทอิ ยางน้ีวา พรหมจรรยบรสิ ทุ ธบ์ิ รบิ ูรณส้นิ เชงิ . มคี วามวา โดยมากในบทมอี าทิอยางนีว้ า ชาวเมอื งองั คะ และชาวเมืองมคธ สว นมากเปน ผูใครจะถอื เอา
พระสตุ ตนั ตปฎ ก ทฆี นิกาย ปาฏิกวรรค เลม ๓ ภาค ๒ - หนา ที่ 143ของเค้ยี ว ของบรโิ ภค จนเพียงพอแลว หลีกไปดงั นี.้ มีความวา ไมมีเจอื ปนในบทมอี าทิอยางนวี้ า เปนเหตเุ กิดแหงกองทุกขลว น ๆ มคี วามวา ไมย ่ิงกวาในบทมิอาทิอยางนว้ี า ทานผูมอี ายนุ ้ี เพียงมศิ รทั ธาไมย ่งิ ไปกวา. มีความวาแนวแน ในบทมีอาทิอยา งนว้ี า พระพาหกิ ะ สัทธวิ หิ าริกของทานอนุรุทธะตัง้ อยใู นสังฆเภทอยางแนว แน. มคี วามวา แยกกันในบทมีอาทิอยา งนวี้ า อุดมบุรุษ แยกกนั อยดู งั นี้. แตใ นที่นี้ เกวลศัพทท านประสงคเอาความ คอื ไมม สี วนเหลือ. อนึ่ง กปั ปศพั ทน ม้ี ีความหลายอยาง เปนตน วา ความเช่ืออยา งยิง่โวหาร กาล บัญญัติ การตดั วิกปั เลส ความเปนโดยรอบ. มีอธบิ ายดว ยประการน้ัน คือกัปปศัพทมคี วามวา ความเชือ่ อยางยง่ิ ในบทมีอาทอิ ยางนว้ี าโดยที่พระโคดมผเู จริญ ผเู ปนพระอรหนั ตสมั มาสัมพุทธเจา ควรไวใจไดมคี วามวา โวหาร ในบทมอี าทิอยางนวี้ า ดูกอนภกิ ษทุ ้งั หลาย เราอนญุ าตเพ่ือบรโิ ภคผลไมดวยโวหารของสมณะ ๕. มคี วามวา กาลในบทมอี าทิอยางนี้วา ไดยินวาเราอยูต ลอดกาลเปนนจิ . มคี วามวา บัญญัติในบทมีอาทิอยา งนีว้ า ทา นผมู อี ายุ เปนผบู ัญญตั ิไวดว ยประการฉะน.ี้ มคี วามวาตดั ในบทมีอาทอิ ยา งน้วี า ตกแตง แลว คือ ตัดผมและโกนหนวด. มีความวา วิกปั ในบทมีอาทอิ ยา งน้วี า ประมาณ ๒ น้ิว จึงควร. มคี วามวาเลสในบทมอี าทอิ ยางนีว้ า หาเลส เพื่อจะนอนมีอยู. มคี วามวา ความเปนโดยรอบ ในบทมีอาทิอยา งนีว้ า ยงั พระเวฬวุ นั ใหส วา งไสว โดยรอบก็ในทน่ี ้ีทา นประสงค กัปปศพั ท มคี วามวา ความเปน โดยรอบ. เพราะฉะนั้น ในบทนวี้ า ยังภูเขาคิชฌกฏู ท้ังสิ้นใหส วางไสวดังนี้ พึงเห็นความอยา งนีว้ า ยงั เขาคิชฌกูฏใหสวา งไสวโดยรอบ ไมม สี วนเหลือ.
พระสตุ ตันตปฎ ก ทีฆนกิ าย ปาฏกิ วรรค เลม ๓ ภาค ๒ - หนา ท่ี 144 บทวา ใหสวา งไสว ความวา แผพ ระรัศมพี วยพุง จาก สรรี ะประดับดวยผา และดอกไม. อธิบายวา กระทาํ ใหมแี สงสวางเปนอนั เดียว ใหรุงเรือง เปน อนั เดียว ดุจพระจนั ทรแ ละพระอาทติ ย. บทวา เอกมนตฺ ินิสีทสึ ุ ความวา ช่อื วาทน่ี ัง่ ในสํานักพระทศพลของเทวดาท้ังหลายไมมาก. แตใ นพระสตู รนี้ พวกเทวดานัง่ ดว ยความเคารพพระปรติ . บทวา ทา วเวสวัณ ความวา ทา วมหาราชท้ัง ๔ เสดจ็ มาก็จรงิแตท าวเวสวัณ เปน ผคู นุ เคยของพระทศพล ฉลาดในการกราบทูล มกี ารศกึ ษาเปนอยา งดี เพราะฉะนน้ั ทาวเวสวณั มหาราช จึงไดก ราบทลู กะพระผูมีพระภาคเจา. บทวา ชนั้ สูง คอื เปน ผูมีศักด์ิใหญถงึ พรอ มดว ยอานุภาพ. บทวา เพื่อเวน จากปาณาตบิ าต ความวา พระผมู ีพระภาคเจาทรงแสดงโทษอนั เปนไปในปจจบุ ันและภพหนา ในปาณาติบาต แลว ทรงแสดงธรรม เพ่อื เวน จากปาณาติบาตนน้ั . แมในบททเ่ี หลือกน็ ัยนีแ้ ล. บทวายกั ษชัน้ สูงบางพวกมักอยูในปาน้นั ก็มี ความวา ในเสนาสนะเหลา นัน้มียกั ษชัน้ สูงมกั อยเู ปนประจํา. บทวา อาฏานาฏิยะ ความวา ชอ่ื อยางนี้เพราะผูกข้นึ ใน อาฏานาฏานคร. ถามวา ชอื่ วาธรรมทไี่ มแจม แจง มอี ยูแ กพระผมู พี ระภาคเจา หรือ. ตอบวา ไมม ี. ถามวา เมื่อเปนเชน นน้ั เพราะเหตไุ ร ทาวเวสวัณ จึงกราบทูลวา ขาแตพระองคผ เู จริญ ขอพระผูมีพระภาคโปรดเรียน อาฏานาฏิยรักษเ ถดิ พระเจาขา ดังน.ี้ ตอบวา เพอื่หาโอกาส. ดวยวา ทาวเวสวณั นั้นคอยโอกาสเพ่อื จะใหไ ดฟ งพระปริตนี้กะพระผูมพี ระภาคเจา จึงกราบทูลอยางน.ี้ โบราณกบณั ทติ กลา ววา เมื่อทา วเวสวัณกราบทูลแดพ ระผูมีพระภาคเจา แลวพระปรติ นจี้ ักเปน ครูดังนี้
พระสุตตนั ตปฎก ทีฆนิกาย ปาฏกิ วรรค เลม ๓ ภาค ๒ - หนา ท่ี 145บา ง. บทวา เพอื่ ความอยูสําราญ ความวา เพือ่ อยเู ปนสุข ในอิรยิ าบถทั้ง ๔ มเี ดนิ ยืน เปนตน . บทวา มจี ักษุ ความวา ไมใชพ ระวปิ สสีพุทธเจาเทานนั้ มจี ักษุแมพ ระพุทธเจา ๗ พระองค กม็ จี กั ษุ เพราะฉะน้นั พระพทุ ธเจาองคหนง่ึ ๆยอมมีช่อื เจ็ดอยางเหลา นี.้ แมพระพทุ ธเจา ทงั้ หลายก็มจี ักษุ ผูท รงอนุเคราะหส ัตวท ่วั หนา ผูทรงชาํ ระกเิ ลส เพราะมกี ิเลสอนั ทรงชาํ ระแลวทรงยา่ํ ยมี ารและเสนามาร ทรงอยจู บพรหมจรรย ทรงพน วเิ ศษแลว มีพระนามวา อังคีรส เพราะรัศมอี อกจากพระวรกาย. อน่ึง ช่อื ทง้ั เจด็เหลา นี้ มใิ ชข องพระพุทธเจา ทัง้ หลาย โดยสิ้นเชงิ . ทานกลา ววา ทานผูแสวงหาคุณใหญ ดวยมคี ณุ ยอมมชี ือ่ นบั ไมถว น. ก็ทาวเวสวัณกลาวอยางน้ีดวยสามารถพระนามอันปรากฏแกตน. ในบทวา ชนเหลานั้นนี้ ทานประสงคถึง ชนผเู ปนขีณาสพ.บทวา ไมสอ เสยี ด นี้เพียงเปน ยอดของเทศนา. อธิบายวา ไมพดู เท็จไมพูดสอ เสยี ด ไมพดู หยาบ พดู พอประมาณ. บทวา มหตตฺ า ความวาถงึ ความเปนผยู ิง่ ใหญ. บาลวี า มหนฺตา ดงั นี้บาง. ความวา ใหญบทวา ปราศจากความคร่ันคราม คือ ไมมคี วามครัน่ ครา ม ปราศจากขนพองสยองเกลา . บทวา ประโยชนเ กือ้ กลู คอื เปนประโยชนด วยการแผเ มตตา. คา วา ย ในบทน้วี า ย นมสฺสนตฺ ิ เปน เพียงนิบาต.บทวา มหตฺต ไดแก ใหญ. อีกประการหนง่ึ บาลีกเ็ ปน อยางนี้ เปน อันทา นกลาวบทนีไ้ ววา บทวา พระพุทธเจา เหลาใด ผูด ับแลว ในโลกความวา พระพทุ ธเจาทั้งหลาย ดับแลวดวยการดับกิเลสทรงเหน็ แจงตาม
พระสตุ ตนั ตปฎก ทฆี นิกาย ปาฏิกวรรค เลม ๓ ภาค ๒ - หนา ท่ี 146ความเปนจรงิ อนง่ึ เทวดาและมนษุ ยทัง้ หลาย นอบนอมพระโคดม ผทู รงเกอื้ กลู แกเทวดาและมนุษยท งั้ หลาย ทรงถึงพรอมดว ยคณุ ธรรม มวี ชิ ชาเปน ตน พระพทุ ธเจาทงั้ หลายแมเ หลาน้นั ไมตรัสสอ เสยี ด ขอความนอบนอมจงมแี ดพ ระพทุ ธเจา แมเ หลา นนั้ . แตในอรรถกถากลา ววา บทวาชนท้ังหลายเหลา น้นั เปนผูไ มส อเสียด ความวา พระพุทธเจาทั้งหลายเหลานน้ั เปนผไู มสอเสียดดงั นี้. ทา วเวสวัณมหาราชกลา วสรรเสรญิพระพทุ ธเจา ทงั้ หลาย ดว ยคาถาบทแรกอยางน้ี เพราะฉะน้ัน ทาวเวสวณั .มหาราชกลา วคาถาบทแรกดวยอํานาจของพระพุทธเจา ทง้ั หลาย ๗ พระ-องค. บทวา พระโคดมในคาถาทสี่ องน้ีเปนเพยี งมุขของเทศนา. พงึ ทราบคาถาทีส่ องนี้วา ทา วเวสวณั มหาราชกลาวดว ยอาํ นาจของพระพุทธเจา ทั้ง๗ พระองคเ หมือนกนั . กใ็ นบทนี้มอี ธบิ ายดังนีว้ า เทวดาและมนุษยทงั้ หลาย ผูเปน บัณฑติ ในโลก ยอ มนอบนอ มพระโคดมพระองคใ ด ขอความนอบนอมจงมแี ดพระโคดมนั้น และพระพุทธเจา ทั้งหลาย ทมี่ มี ากอ น แตพระโคดมน้นั . บทวา ยโต อุคคฺ จฺฉติ ความวา ยอ มขน้ึ แตท่ีใด. บทวา พระอาทิตย ไดแ กบ ตุ รของพระอาทิต.ิ หรือวาบทนเ้ี ปนเพยี งไวพจนของ สุรยิ ศพั ท. พระอาทติ ยช ื่อวา มัณฑลีมหา เพราะมีมณฑลใหญ. บทวา ยสสฺ จุคฺคจฉฺ มานสสิ ความวา คร้ันพระอาทติ ยใดขึ้นอยู. บทวา ส วรปี นริ ชุ ฺฌติ ความวา กลางคืนยอมหายไป. บทวายสฺส จคุ ฺคเต ความวา คร้ันพระอาทิตยข ึ้นแลว . บทวา รหโท ความวาหว งนํ้า. บทวา ในทน่ี ัน้ ความวา ในทท่ี ่พี ระอาทติ ยข น้ึ . บทวา สมทุ โฺ ทคอื สมุทรใด ทานกลาววา หวงนา้ํ สมุทรนน้ั ไมใ ชอ่นื คือสมุทรนนั้
พระสตุ ตันตปฎ ก ทีฆนิกาย ปาฏกิ วรรค เลม ๓ ภาค ๒ - หนาท่ี 147เอง. บทวา มนี ้ําแผเ ต็มไป คอื นํ้าไหลเออ ความวา แมน ้ําท้ังหลายมีประการตาง ๆ แผเตม็ ไปหรือไหลเขา ไปในนาํ้ ของสมุทรนน้ั เพราะเหตุนัน้ จึงชื่อวา สมทุ รมีนํ้าแผเตม็ ไป. บทวา ชนทง้ั หลายยอมรจู ักหวงน้าํ นัน้ ในทีน่ น้ั อยา งนี้ ความวา ยอรหู ว งนาํ้ นน้ั ในทน่ี ้ันอยา งนี้. ถามวารูจกั วา อยางไร. ตอบวา รูจกั อยางน้วี า สมุทรมีนํา้ แผไ ปเตม็ ดงั น.้ี บทวาแตนไ้ี ป ความวา แตภเู ขาสเิ นรหุ รือ แตท ่ีที่พวกเทวดาเหลานนั้ น่งั . บทวาชโน คือ มหาชนน.ี้ บทวา มชี อื่ เดยี ว คือมชี ่อื เดียววา อินทะ. ไดยินวาทาวมหาราชท้ัง ๔ ไดต้ังชื่อของทา วสักกเทวราชใหเปน ชื่อของโอรสเหลานน้ั ทกุ พระองค. บทวา อสตี ิ ทส เอโก จ คอื บุตร ๙๑ พระองคบทวา อินทนามะ คอื มีช่อื อยา งน้ีวา อนิ ทะ อินทะ. บทวา พระพทุ ธเจาผูต่นื แลว ผเู ปน เผา พนั ธพุ ระอาทิตย ความวา ผูต ืน่ แลว เพราะปราศจากความหลับ คือกเิ ลส ผเู ปน เผา พันธุพระอาทิตย เพราะความเปนผมู โี คตรเสมอดว ยพระอาทิตย. บทวา พระองคท รงตรวจดมู หาชนดวยความฉลาด ความวา ทรงตรวจดมู หาชนดวยพระสัพพญั ุตญาณ อันไมมีโทษ หรือละเอียด. บทวา แมอ มนุษยท ง้ั หลายกพ็ ากนั ถวายบงั คมพระองค ความวา แมอมนุษยทั้งหลายกลาววา พระพุทธเจา ทรงตรวจดูมหาชน ดว ยสพั พัญุตญาณแลว กพ็ ากนั ถวายบงั คมพระพทุ ธเจาพระองคนนั้ บทวา สุต เนต อภณิ หฺ โส ความวา ความขอนั้นขาพระองคท้งั หลายไดฟง เนือง ๆ. บทวา ขา พระพทุ ธเจา ทง้ั หลายถวายบังคมพระชินโคดม ความวา ขา พระพทุ ธเจาทง้ั หลายถามเขาวา พวกทานถวายบังคมพระชินโคดมหรอื เขาพากันตอบวา ถวายบงั คมพระชนิ โคดม.บทวา ตายแลว ชนท้งั หลายพากนั กลา ววา จงนําออกไปโดยทิศใด
พระสุตตนั ตปฎ ก ทีฆนกิ าย ปาฏิกวรรค เลม ๓ ภาค ๒ - หนาท่ี 148ความวา ชนตายแลวชอ่ื วาเปรต ชนทงั้ หลายพากันกลา ววา จงนําชนผตู ายแลวเหลานั้นออกไปโดยทศิ ใด. บทวา พดู สอ เสยี ดกดั เนอื้ ขา งหลงั ความวา ผกู ลาวคําสอเสียดนนั่ แล เปน ดจุ กดั เนือ้ ขางหลงั และตเิ ตียนลบั หลัง ชนทงั้ หลายพากนั กลาววา จะนาํ ชนเหลา น้อี อกไปโดยทิศใด. ทา นกลา วอยา งนี้วา ชนทง้ั หลายนําคนเหลาน้นั แมท้งั หมดออกทางทิศทกั ษิณ จงเผา หรือจงทําลาย หรือจงฆา ดานทิศทักษณิ ของพระนครดังน.ี้ บทวา แตนไี้ ปทศิ ท่ชี นเรียกกันวา ทิศทักษิณนน้ั ความวาชนท้ังหลายพากนั กลาววา จงนําคนที่กลาวสอเสียดเปน ตน ท่ตี ายไปแลวออกไปโดยทศิ าภาคใด แตน ้ไี ปทศิ ทีช่ นเรยี กกนั วา ทิศทักษณิ นัน้ . บทวาแตน้ไี ป ความวา แตภ เู ขาสเิ นรุ หรือแตท ่ีท่เี ทวดาเหลา นน้ั นง่ั . บทวาเปนเจา เปนใหญของพวกกุมภัณฑ ความวา ไดท ราบวา เทาดาเหลานัน้เปนผูมีทองใหญ. อนึ่ง ลูกอณั ฑะของเทวดาเหลา น้นั ใหญดจุ หมอ เพราะฉะนนั้ ทานจงึ กลาววา กุมภัณฑ. บทวา พระอาทติ ยต กในท่ใี ด ความวาพระอาทติ ยอัสดงคตโดยทิศาภาคใด โดยทิศาภาคนัน้ . บทวา มหาเนรุ คือภูเขาหลวงช่ือสิเนรุ. บทวา ดูงดงาม คอื ดูงาม เพราะสําเร็จดวยทอง.ดว ยวา ขางทศิ ปราจนิ ของภูเขาสเิ นรุ สําเร็จดวยเงนิ ขา งทศิ ทกั ษณิสาํ เร็จดว ยแกว มณี ขางทิศปจฉมิ สําเร็จดว ยแกว ผลกึ ขา งทศิ อุดรสําเร็จดว ยทอง ขา งทศิ อุดรนนั้ เปน ขางทีด่ เู พลนิ เพราะฉะนนั้ ภูเขาสเิ นรุ เปนภูเขาท่ดี ูงดงาม โดยทศิ าภาคใด นี้เปนใจความในภูเขาสิเนรุนี้. บทวามนสุ ฺสา ตตฺถ ชายนฺติ ความวา มนุษยทัง้ หลายเกิดในอุตตรกุรุทวปี นั้น.
พระสุตตนั ตปฎก ทีฆนกิ าย ปาฏิกวรรค เลม ๓ ภาค ๒ - หนา ท่ี 149บทวา ไมย ึดถอื วาเปนของตน ความวา เวน จากความยึดถือวา เปนของเราแมในผา อาภรณ นํา้ ดื่ม และของบริโภคเปนตน . บทวา ไมห วงแหนกันคอื ไมห วงแหนดวยความหวงแหนในหญิง. อธบิ ายวา ไดย ินวา มนุษยเหลา นน้ั ไมมีความหวงแหนวา น้ภี รรยาของเรา. ความกําหนดั ดวยความพอใจ ยอมไมเกิดขึน้ เพราะเห็นมารดาหรอื นองสาว. บทวา ไมตอ งนําไถออกไถ ความวา แมไ ถก็ไมต องนําออกไปสนู าดว ยความประสงควาเราจักทําการกสกิ รรมในนาน้ัน. บทวา ขา วสาลอี นั ผลติ ผลในทีไ่ มต องไถ ความวา ขา วสาลเี กดิ ขนึ้ เองในปา อันเปน พ้นื ท่ที ไี่ มต อ งไถ. บทวาเปนเมล็ดขา วสาร คอื ขาวสารนนั้ แล เปน ผลของพื้นทนี่ ั้น บทวาหงุ ในเตาอันปราศจากควนั คือ เกลี่ยขา วสาร ลงไปในหมอ แลว หุงดว ยไฟ อันปราศจากควัน และเถา. ไดยนิ วา ในที่นนั้ ช่ือ โชติกปาสาณะท่นี ้นั ชนทงั้ หลายวางหนิ ๓ กอ น แลว ยกหมอ ขึ้นต้งั ไฟต้งั ขน้ึ จากหินแลวหุงขา ว. บทวา บริโภคขา วจากหมอ น้นั นั่นเอง ความวา บริโภคโภชนะนั้นเองจากหมอขา วนั้น. ไมแกงหรือผดั อยา งอ่ืน. อน่งึ รสของขา วน้นั เปน รสบํารงุ ใจของผบู รโิ ภคอยา งดี. ชนเหลานัน้ ยอมใหแ กผ ูมาถึงท่นี น้ัทกุ คน ชื่อวาจิตตระหน่ียอมไมม ี. แมพ ระพุทธเจาและพระปจ เจกพุทธเจาเปนตน ทรงฤทธิ์มาก เสดจ็ ไป ณ ทน่ี น้ั ยอมรบั บณิ ฑบาต. บทวา ทาํ แมโ คใหมีกบี เดียว ความวา ยกั ษท ้ังหลาย ผรู ับใชทา วเวสวัณ จบั แมโ ค ใหมกี ีบเดียวเปน พาหนะ เหมอื นมา แลวขแี่ มโ คน้ันติดตามไป สทู ิศนอยทิศใหญ คอื เทยี่ วตามไปในทิศน้นั ๆ. บทวา กระทาํปศสุ ัตวใหมกี ีบเดยี ว ความวา กระทาํ ปศสุ ตั ว ๔ เทา ท่ีเหลือเวนแมโ คใหม ีกีบเดียว เปนพาหนะ แลวตดิ ตามไปสทู ศิ นอ ยทิศใหญ. บทวา กระทาํ
พระสตุ ตันตปฎ ก ทฆี นิกาย ปาฏกิ วรรค เลม ๓ ภาค ๒ - หนาท่ี 150สตรีใหเปนพาหนะ ความวา กระทาํ มาตคุ ามมคี รรภใหเปน พาหนะแลว น่งับนหลงั มาตคุ ามน้นั เทย่ี วไป. นัยวา หลงั ของหญงิ มีครรภน นั้ อดกลน้ั เมื่อจะกม ลง. หญงิ นอกน้ใี ชเทียมยาน. บทวา กระทําชายใหเปนพาหนะความวา จบั ชายใหเ ทยี มยาน. อนึ่ง เมอื่ จบั ไมส ามารถจบั ชนผูเ ปน สัมมาทิฐิได. โดยมากจบั พวกทีอ่ ยูช ายแดน และคนปา เถอ่ื น. ไดยนิ วา ชาวชนบทคนใดคนหนึ่ง ในจําพวกน้ีน่งั หลบั ใกลพ ระเถระรูปหนงึ่ . พระเถระถามวาอุบาสกทา นหลบั ไปหรือ. เขาตอบ ทา นขอรับวันน้ผี มเพลยี เพราะรับใชทาวเวสวัณตลอดคนื ขอรบั . บทวา ทําเด็กหญิงใหเ ปน พาหนะ ความวาจบั เด็กหญงิ ทาํ ใหเปนพาหนะเทยี มรถ. แมใ นการจับเดก็ ชายใหเปนพาหนะกม็ นี ยั นแี้ ล. บทวา บรรดานางบาํ เรอของพระราชาน้ัน ความวา หญงิผเู ปนนางบาํ เรอของพระราชาน้นั . บทวา ยานชา ง ยานมา ความวาไมใชยานโค อยางเดยี วเทา น้ัน ขแ่ี มย านชาง ยานมา เปนตน เท่ยี วไปบทวา ยานทพิ ย ความวา ยานทพิ ยม ากอยา งแม อน่ื ก็ไดปรากฏแกม นษุ ยเหลา นั้น. ยานเหลาน้ีเปน ยานเขาไปถึงมนษุ ยเ หลานั้นกอน. ก็มนษุ ยเหลานั้นนอนบนทีน่ อนอันประเสริฐที่ปราสาทและนั่งบนต่งั และวอเปน ตนเท่ยี วไป. ดวยเหตุนน้ั ทานจงึ กลา ววา ปราสาทและวอดังน้ี. บทวา ปรากฏแกทา งมหาราชผทู รงยศ ความวา ยานเหลานีย้ อ มเกิดขึน้ แกท าวมหาราชผทู รงยศ ผูถ ึงพรอ มดวยอนภุ าพอยา งน้ี. บทวา และทา วมหาราชนนั้ ไดท รงนริ มติ นครไวบนอากาศความวา พระราชานั้นไดทรงนิรมิตนครมี อาฏานาฏานครเปนตน เหลา นน้ัไวบ นอากาศ คอื นครท้ังหลายไดม แี ลว. ก็นครหนง่ึ ของทาวมหาราชนน้ัไดช อื่ อาฏานาฏา นครหนงึ่ ชอื่ กสุ ินาฏา นครหน่งึ ชื่อ ปรกสุ นิ าฏา
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 476
Pages: