Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการสอนภาษาอังกฤษ ป.4.2566_merged

แผนการสอนภาษาอังกฤษ ป.4.2566_merged

Published by juthamanee.suksawai, 2023-05-19 08:43:12

Description: แผนการสอนภาษาอังกฤษ ป.4.2566_merged

Search

Read the Text Version

168 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง Function : Talking about favourite film star or singer Structure : What is his/her name? Her name is Beau Sunita. What does he/she look like? She has got long hair. She is not thin. She’s got round cheeks Vocabulary : คำศพั ทใ์ หม่ - คำศพั ท์ทบทวน - 3.2 สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถิ่น - 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น  ความสามารถในการสือ่ สาร  ความสามารถในการคิด  ความสามารถในการแกป้ ัญหา  ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต  ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์  รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์  อยู่อย่างพอเพียง  ซื่อสตั ยส์ ุจรติ  มงุ่ มน่ั ในการทำงาน  มวี ินยั  รกั ความเปน็ ไทย  ใฝ่เรียนรู้  มจี ิตสาธารณะ 6. จดุ เน้นสูก่ ารพฒั นาผู้เรยี น ความสามารถและทกั ษะของผ้เู รยี นศตวรรษที่ 21 (3Rs x 8Cs x 2Ls)  R1– Reading (อ่านออก)  R2– (W)Riting (เขยี นได้)  R3 – (A)Rithmetics (คิดเลขเป็น)  C1 - Critical Thinking and Problem Solving ( ทกั ษะดา้ นการคิดอย่างมีวจิ ารณญาณ และทกั ษะในการแก้ปัญหา)  C2 - Creativity and Innovation (ทักษะด้านการสรา้ งสรรค์และนวตั กรรม)  C3 - Cross-cultural Understanding (ทกั ษะดา้ นความเขา้ ใจต่างวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทศั น)์

169  C4 - Collaboration, Teamwork and Leadership (ทกั ษะดา้ นความรว่ มมอื การทำงานเปน็ ทมี และภาวะผนู้ ำ)  C5 – Communications, Information and Media Literacy (ทักษะดา้ นการส่ือสาร สารสนเทศ และรู้เท่าทันสือ่ )  C6 - Computing and ICT Literacy (ทักษะดา้ นคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสือ่ สาร)  C7 - Career and Learning Skills (ทกั ษะอาชีพและทักษะการเรยี นร้)ู  C8 – Compassion (ความมเี มตตากรุณา วินยั คณุ ธรรม จรยิ ธรรม)  L1 – Learning (ทกั ษะการเรยี นรู)้  L2 – Leadership (ทักษะความเป็นผูน้ ำ) 7. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1.ข้นั นำ (Warm up) 1. ครูพูดทกั ทายกบั นักเรียนในช้ันเรยี น Teacher: Good morning. How are you today? Students: I’m fine, thank you. And you? Teacher: I’m great. 2. ครูสนทนากบั นักเรยี นเกยี่ วนักรอ้ งหรอื ดารา ให้นกั เรียนบอกว่าชอบชอบนักร้องหรอื ดาราคนไหน และบอกเหตุผลด้วยว่าทำไมถงึ ชอบ โดยครูอนุญาตให้นกั เรียนตอบเป็นภาษาไทยได้ เพราะครตู อ้ งการให้นกั เรียนฝึก แสดงความคิดเห็น 2.ขั้นนำเสนอ (Presentation) 1. นักเรยี นจับคูก่ ับเพือ่ นทมี่ ลี ักษณะคล้ายกนั (Pair work) เพอื่ สนทนาเกีย่ วกับนกั รอ้ งทชี่ ืน่ ชอบ โดยครูให้นักเรียนอา่ นคำถามในหนงั สือเรยี น หนา้ 26 ข้อ 1 Talk about your favourite film star or singer. พร้อม กันก่อน โดยครเู ป็นผู้ตอบคำถาม เพื่อเปน็ ตวั อย่างใหก้ บั นักเรียน จากนน้ั ให้นักเรยี นฝกึ สนทนากับคู่ของตนเอง Students : What is his/her name? Teacher : Her name is Beau Sunita. Students : What does he/she look like? Teacher : She has got long hair. She is not thin. She’s got round cheeks เม่อื สนทนาเสรจ็ แลว้ ครใู หน้ ักเรียนอกี คนสลับเป็นผถู้ ามบ้าง 2. นักเรียนเปลยี่ นไปจับค่กู บั เพือ่ นคนใหม่ แล้วดูภาพคน 2 คน ซึ่งมีลักษณะแตกต่างกันอยา่ งเหน็ ได้ ชดั ในหนงั สอื เรียน หน้า 26 ข้อ 2 Talk about these two men. What do they look like? นักเรยี นทั้งคู่ตา่ ง อภปิ รายถงึ รูปรา่ งลกั ษณะท่ีแตกต่างกนั ของคนทัง้ สองคน และเขียนบันทกึ ย่อสัน้ ๆ เพื่อเตรยี มนำเสนอหน้าช้ัน

170 A has got big eyes and a big mouth. His nose is small but his hands and feet are big. He is short. B has got small eyes and a small mouth. His nose is big but his hands and feet are small. He is tall. 3.ขน้ั ฝึก (Practice) นกั เรยี นดภู าพประกอบเนอ้ื เรื่องในหนงั สอื เรียน หน้า 27 ข้อ 3 Read and answer the questions. ครูใหน้ ักเรียนทำกจิ กรรมกอ่ นอา่ น โดยชว่ ยกนั พดู บรรยายเก่ยี วกบั ลักษณะของเดก็ ผหู้ ญิงในภาพ Teacher : Look! Who is she? (ครชู ภี้ าพเด็กผหู้ ญิงในหนงั สือเรยี น) Students : Emma. Teacher : What is she like? (หรอื What does she look like?) Students : She is tall. She’s got short straight hair. Her eyes are small. She is beautiful ..... etc. Teacher : Excellent! ครูให้นกั เรยี นอ่านคำถาม 1-4 ดา้ นลา่ ง เพื่อใหน้ ักเรยี นมีจดุ มุง่ หมายในการอา่ น จากนน้ั นกั เรยี นอา่ น เน้ือเรอื่ งทก่ี ำหนดใหใ้ นใจ แล้วตอบคำถามดังกลา่ ว ครสู ุ่มเรียกนักเรยี น 4 คน ให้ยืนข้นึ อา่ นคำถามและคำตอบของ ตนเอง จากน้ันครูเฉลยโดยการเขียนคำตอบท่ีถกู ต้องสัน้ ๆ บนกระดาน เสรจ็ แลว้ ให้นักเรียนอ่านออกเสียงเนอื้ เรอ่ื ง พร้อมๆ กนั Key 1. 12 years old. 3. She has got short hair. 2. 133 cms. 4. Music. 4.ขน้ั นำไปใช้ (Production) ครูถามนักเรยี นแถวหน้า 2-3 คน ว่ามพี ่สี าว น้องสาว พ่ีชาย หรอื น้องชายหรือไม่ แลว้ ครูถามนักเรียน เกี่ยวกับชือ่ เพ่ือนสนทิ อายุ ความสงู ลกั ษณะรูปร่างของเพ่ือน และวชิ าทเี่ พื่อนชอบ โดยครถู ามเปน็ ภาษาไทย แล้วครู บอกนกั เรยี นว่าตอ่ ไปครจู ะเปลีย่ นประโยคคำถามเหลา่ นี้เป็นภาษาอังกฤษ จากนั้นครูสมุ่ เรียกนักเรยี น 1 คน แลว้ ถาม คำถามในหนังสอื เรยี น หน้า 28 ข้อ 4 Answer the questions. ดังนี้ Teacher : What is the name of your best friend? Sompit : Her name is Suda. Teacher : How old is she?

171 Sompit : She is 15 years old. Teacher : How tall is she? Sompit : She is 155 centimetres tall. Teacher : What does she look like? Sompit : She’s got long wavy hair. Her eyes and mouth are big. Teacher : What is her favourite subject? Sompit : Her favourite subject is computers. ครูให้นักเรยี นจับคู่กัน ตามความสมัครใจ แล้วฝกึ พูดถาม-ตอบเหมอื นดงั ตัวอยา่ ง เสร็จแล้วครอู า่ นคำสงั่ ใน หนงั สือเรียน หนา้ 28 Now draw and write about your best friend. ครูอธบิ ายภาระงานให้นกั เรียนฟงั ว่า ให้ นกั เรียนวาดภาพเพื่อนสนทิ 1 คน ลงในสมุดของตนเอง ครกู ระตุ้นให้นกั เรยี นพยายามวาดลกั ษณะเด่นๆ บนใบหนา้ ของเพ่ือนสนิทตนเอง เพือ่ ใหร้ ปู ท่วี าดมีข้อมูลตรงกบั ความเปน็ จริงมากทส่ี ุด เชน่ มหี ูกาง ตาเล็ก/ใหญ่ ผมสั้น/ยาว เป็น ต้น จากนนั้ ใหน้ ักเรียนระบายสีให้สวยงาม แลว้ เขียนบรรยายใหถ้ ูกตอ้ ง This is my best friend. Her name is Suda. She is fifteen years old. She is one hundred and fifty-five centimetres tall. She’s got long wavy hair. Her eyes and mouth are big. Her favourite subject is computers. 5.ข้ันสรปุ (Wrap up) ครใู ห้นกั เรยี นแลกเปลยี่ นผลงานกัน และแสดงความคิดเหน็ เกยี่ วกับผลงานของเพอ่ื น ครเู ดินดูขณะ นักเรยี นทำกจิ กรรม และคอยให้ความช่วยเหลือ จากนั้นครูคัดเลอื กผลงาน ที่ดี 5 ชนิ้ โดยใช้เกณฑ์ คือ วาดภาพดี ระบายสีสวย และเขียนบรรยายถูกหลกั ไวยากรณ์ และสือ่ ความหมายได้ตรงกบั ภาพ ครใู หน้ ักเรียนทเ่ี ปน็ เจา้ ของ ผลงาน ยนื ขึ้นอา่ นคำบรรยายของตนเอง และแสดงผลงานใหเ้ พ่ือนๆ ดหู นา้ ชัน้ เรยี น 8. การวดั และประเมินผล สง่ิ ทวี่ ดั วิธีวดั ผล เครอ่ื งมือวดั ผล เกณฑ์การประเมนิ ผล ด้านความรู้ (K) ให้ขอ้ มลู คำศัพทเ์ กยี่ วกับ ประเมินการเขยี น แบบประเมนิ การเขียน 60% ขึ้นไป ผา่ น ดาราหรอื นกั รอ้ งที่ชอบได้ ด้านทักษะกระบวนการ (P) พดู อ่านออกเสยี งประโยค ประเมนิ การพูด แบบประเมินการพดู 60% ขน้ึ ไป ผ่าน และนำเสนอเกย่ี วกับดารา และนักร้องที่ชอบได้

172 ด้านคณุ ลักษณะ การสงั เกตการร่วม แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั 60% ข้ึนไป ผา่ น อันพงึ ประสงค์ (A) กจิ กรรมในช้นั เรยี น พงึ ประสงค์ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้และมุ่งม่ัน ในการทำงาน 9. สอ่ื /แหล่งเรียนรู้ 9.1 สือ่ การเรยี นรู้ 1 หนังสือเรียน Smile ป.4 2. ใบงาน 9.2 แหลง่ เรยี นรู้ 1. หอ้ งสมุด

173 ใบงานวชิ าภาษาอังกฤษ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 4 ชือ่ ....................................................................................................... ชั้น ......................... เลขที่ ...................... Draw and write about your best friend. ……………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………..

174 แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 11 กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ (รายวิชาภาษาองั กฤษ อ14101) ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 เรอ่ื ง The amazing body เวลา 12 ชวั่ โมง เรื่อง Make a graph. เวลา 1 ชัว่ โมง ครผู สู้ อน นางสาวจุฑามณี สุขไสว 1. สาระสำคัญ / ความคิดรวบยอด การเรียนรคู้ ำศพั ทเ์ กี่ยวกบั รปู ร่างลักษณะ โครงสร้างประโยคในการเปรียบเทยี บขัน้ กวา่ อา่ นเน้ือเร่ืองสน้ั ๆ ทำ ใหผ้ เู้ รียนสามารถพูดถาม-ตอบ และเขยี นบรรยาย/เปรียบเทียบรูปรา่ งลกั ษณะของบคุ คลได้ และยังบรู ณาการร่วมกบั กลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ ่ืนอกี ดว้ ย 2. มาตรฐาน/ตวั ช้ีวัด/จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 2.1 มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่อื งทฟี่ ังและอ่านจากส่ือประเภทตา่ งๆ และแสดงความคิดเหน็ อยา่ งมีเหตุผล ต 1.3 นำเสนอขอ้ มลู ข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรอื่ งต่างๆ โดยการพูดและการเขยี น ต 4.1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ทง้ั ในสถานศึกษา ชุมชน และสงั คม 2.2 ตวั ชี้วัด ต 1.1 ป. 4/2 อ่านออกเสยี งคำ สะกดคำ อา่ นกลุ่มคำ ประโยค ข้อความง่ายๆ และบทพูดเข้าจังหวะ ถูกตอ้ ง ตามหลักการอา่ น ต 1.3 ป. 4/2 พดู /วาดภาพแสดงความสมั พันธ์ของสง่ิ ต่างๆ ใกล้ตวั ตามทฟี่ ังหรอื อา่ น ต 4.1 ป. 4/1 ฟงั และพูด/อ่านในสถานการณท์ ี่เกดิ ขนึ้ ในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา 2.3 จุดประสงค์การเรยี นรู้ ความรู้ (K) ให้ข้อมลู คำศัพทเ์ กี่ยวกับการทำแผนภูมแิ ทง่ ทกั ษะ/กระบวนการ (P) พูด อ่านออกเสียงกลุ่มคำทมี่ ีความหมายสมั พนั ธข์ องสง่ิ ต่างๆ ใกล้ตัว เช่น แผนภูมิแท่ง เจตคติ (A) มวี นิ ัย ใฝ่เรียนรแู้ ละมงุ่ ม่ันในการทำงาน 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง Function : Talking about countries and nationalities Structure : How tall are you? I am ….........… centimetres tall. Vocabulary : คำศพั ทใ์ หม่

175 - คำศพั ท์ทบทวน neck, teeth, shoulder, stomach, head, toes 3.2 สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถ่ิน - 4. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน  ความสามารถในการสื่อสาร  ความสามารถในการคิด  ความสามารถในการแกป้ ญั หา  ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต  ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์  รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์  อยู่อย่างพอเพียง  ซ่อื สัตย์สุจรติ  มุ่งม่ันในการทำงาน  มวี ินัย  รกั ความเปน็ ไทย  ใฝ่เรียนรู้  มจี ติ สาธารณะ 6. จดุ เน้นสกู่ ารพัฒนาผเู้ รียน ความสามารถและทักษะของผู้เรียนศตวรรษท่ี 21 (3Rs x 8Cs x 2Ls)  R1– Reading (อา่ นออก)  R2– (W)Riting (เขียนได้)  R3 – (A)Rithmetics (คดิ เลขเป็น)  C1 - Critical Thinking and Problem Solving ( ทักษะดา้ นการคดิ อยา่ งมีวจิ ารณญาณ และทักษะในการแกป้ ัญหา)  C2 - Creativity and Innovation (ทกั ษะด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม)  C3 - Cross-cultural Understanding (ทกั ษะดา้ นความเขา้ ใจต่างวัฒนธรรม ต่างกระบวนทัศน์)  C4 - Collaboration, Teamwork and Leadership (ทกั ษะดา้ นความรว่ มมือ การทำงานเปน็ ทมี และภาวะผู้นำ)  C5 – Communications, Information and Media Literacy (ทักษะดา้ นการส่ือสาร สารสนเทศ และรู้เท่าทันสอื่ )  C6 - Computing and ICT Literacy (ทกั ษะด้านคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร)  C7 - Career and Learning Skills (ทกั ษะอาชีพและทกั ษะการเรียนร้)ู  C8 – Compassion (ความมเี มตตากรณุ า วินยั คณุ ธรรม จริยธรรม)  L1 – Learning (ทักษะการเรยี นรู้)  L2 – Leadership (ทักษะความเปน็ ผนู้ ำ)

176 7. กิจกรรมการเรียนรู้ 1.ข้ันนำ (Warm up) 1. ครูพดู ทักทายกบั นกั เรยี นในชั้นเรยี น Teacher: Good morning. How are you today? Students: I’m fine, thank you. And you? Teacher: I’m great. 2. ครสู มุ่ เรยี กนักเรียน 3-4 คน ใหอ้ อกมาหนา้ ชั้นเรียนทีละคน แล้วพูดบอกบุคลกิ ลักษณะ และข้อมลู ส่วนตวั ของเพอ่ื นคนใดคนหนงึ่ ในหอ้ ง โดยไม่บอกชอ่ื แล้วใหเ้ พอื่ นๆ ในหอ้ งชว่ ยกนั ทาย เช่น Student: She’s got short black hair. She’s short and thin. She’s friendly. Her favourite actor is Pancake. 2.ข้นั นำเสนอ (Presentation) 1. นักเรียนแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 3 คน เพอื่ ทำโครงงานในหนังสอื เรยี น หนา้ 29 หวั ข้อ Project time ซงึ่ นักเรยี นจะไดส้ ำรวจความสงู ของเพือ่ นในห้องเรยี นและนำเสนอผลการสำรวจในรปู ของแผนภูมิแทง่ (Bar graph) โดยครใู ห้นักเรียนนำอปุ กรณ์ในการทำงานทค่ี รูให้นักเรยี นเตรยี มไว้มาวางบนโต๊ะ ได้แก่ กระดาษเพอ่ื เขยี นแผนภูมแิ ทง่ ดินสอ ดินสอสี และไมบ้ รรทัด 2. นักเรียนถามสว่ นสูงของเพื่อนๆ กลุม่ อ่ืน 6 คน เหมือนดังตวั อย่างท่ีกำหนดให้ในหนังสือเรยี น หนา้ 29 ขอ้ 2 Ask four friends this questions. A : How tall are you? B : I am ….........… centimetres tall. 3. เมือ่ สำรวจสว่ นสงู ของเพ่ือนได้ครบตามจำนวนท่ีกำหนดไวแ้ ลว้ ใหน้ ักเรียนนำเสนอข้อมูลทไ่ี ด้มาใน รูปของแผนภมู ิแท่ง ดงั ตวั อยา่ งในหนังสือเรยี น หน้า 29 ขอ้ 3 Make a graph. ครูอธิบายวธิ กี ารทำให้นกั เรยี นฟัง ครา่ วๆ และบอกใหน้ ักเรยี นประยกุ ตค์ วามรู้ทน่ี กั เรยี นไดเ้ รยี นมาแล้วจากในวิชาคณิตศาสตร์ในการทำช้นิ งานน้ี 3.ขนั้ ฝกึ (Practice) ครูอ่านคำสงั่ ในหนงั สอื เรยี น หน้า 29 ขอ้ 4 Write sentences describing the graph. แล้วให้ นักเรียน ในแตล่ ะกลุ่มชว่ ยกันแตง่ ประโยคเพ่อื บรรยายแผนภมู ิแทง่ ของตนเอง โดยใช้โครงสรา้ งประโยค Comparative degree จากนั้นนำผลงานมาส่งครู Sunaree and Manop are shorter than Pongsak, Pramote, Mayuree and Sornram. Pongsak is shorter than Pramote, Mayuree and Sornram. Sornram is shorter than Pramote and Mayuree. Pramote is shorter than Mayuree. Mayuree is taller than Pramote, Sornram, Pongsak, Sunaree and Manop.

177 ใหต้ ัวแทนแต่ละกลุม่ ออกมาอา่ นคำบรรยายของกลมุ่ ตนเองท่แี กไ้ ขถกู ต้องแลว้ 4.ขัน้ นำไปใช้ (Production) นกั เรียนดูภาพในหนังสอื เรียน หน้า 30 ข้อ 1 Listen, sing and act. แล้วบอกครวู า่ เดก็ ทอี่ ยู่ในรปู กำลังทำอะไร นกั เรยี นตอบครเู ปน็ ภาษาไทยได้ เพอ่ื ฝึกการแสดงความคิดเห็น จากนัน้ ครูอา่ นเน้ือเพลงใหน้ กั เรยี นฟงั 1 รอบ โดยใหน้ กั เรียนทุกคนปดิ หนังสอื เรยี น The body song Walking around it’s so nice. I’m walking slowly and close my eyes. Point to your nose, point to your toes. Show us your hands, have to dance. Point to your nose, point to your toes. Show us your hands, have to dance. Running around everywhere I want to feel the wind in my hair. Point to your nose, point to your toes. Show us your hands, have to dance. Point to your nose, point to your toes. Show us your hands, have to dance. Running around is so good. ครูถามนกั เรยี นว่าไดย้ นิ คำศพั ท์ส่วนใดของร่างกายในเนอื้ เพลง Teacher : What parts of the body do you hear in the song? Students : Nose, hands, toes, hair, eyes. Teacher : Good! ครูใหน้ ักเรียนชว่ ยกนั คดิ ท่าทางประกอบเพลง โดยให้นกั เรียนคิดสรา้ งสรรคท์ า่ ทางแปลกใหม่ เสร็จแล้วให้ นกั เรยี นท้ังหอ้ งฝกึ แสดงท่าทางประกอบเพลงโดยพรอ้ มเพรยี งกนั 5.ข้นั สรุป (Wrap up) นกั เรียนดภู าพในหนังสอื เรยี น หนา้ 30 ขอ้ 2 Look, write and sing. แลว้ นำคำศัพทท์ ี่เห็นในภาพ เติมลงในเนื้อเพลง โดยทำลงในสมดุ จากนน้ั ครใู ห้นกั เรยี นร้องเพลงตามเนื้อท่ีเขียนใหม่น้ีพร้อมๆ กัน

178 Key neck, teeth, shoulder, stomach, head, toes 8. การวดั และประเมินผล วธิ ีวดั ผล เครือ่ งมือวัดผล เกณฑ์การประเมินผล ส่ิงที่วัด ประเมนิ การพูด ประเมินการพูด แบบประเมินการพูด 60% ขึ้นไป ผ่าน ด้านความรู้ (K) ให้ขอ้ มูลคำศัพท์เก่ียวกบั การสงั เกตการรว่ ม แบบประเมนิ การพดู 60% ขึน้ ไป ผา่ น การทำแผนภมู แิ ทง่ กจิ กรรมในชัน้ เรียน ด้านทักษะกระบวนการ (P) แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอัน 60% ขึ้นไป ผ่าน พดู อ่านออกเสยี งกลุ่มคำที่ พงึ ประสงค์ มีความหมายสมั พันธ์ของสงิ่ ตา่ งๆ ใกลต้ วั เชน่ แผนภูมิ แทง่ ด้านคณุ ลกั ษณะ อันพงึ ประสงค์ (A) มีวินัย ใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่น ในการทำงาน 9. สอื่ /แหล่งเรยี นรู้ 9.1 ส่ือการเรยี นรู้ 1 หนงั สือเรียน Smile ป.4 9.2 แหลง่ เรียนรู้ 1. หอ้ งสมุด

179 แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 12 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ (รายวิชาภาษาอังกฤษ อ14101) ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 เรอ่ื ง The amazing body เวลา 12 ชัว่ โมง เร่ือง Test yourself. เวลา 1 ชว่ั โมง ครูผสู้ อน นางสาวจุฑามณี สขุ ไสว 1. สาระสำคัญ / ความคดิ รวบยอด การเรยี นรู้คำศัพท์เก่ยี วกบั รูปรา่ งลักษณะ โครงสร้างประโยคในการเปรยี บเทยี บขัน้ กว่า อา่ นเนอื้ เร่ืองสัน้ ๆ ทำ ใหผ้ เู้ รียนสามารถพดู ถาม-ตอบ และเขียนบรรยาย/เปรียบเทยี บรูปร่างลกั ษณะของบุคคลได้ และยงั บูรณาการร่วมกับ กลุ่มสาระการเรยี นรอู้ ืน่ อีกด้วย 2. มาตรฐาน/ตวั ช้วี ัด/จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่อื งทฟ่ี งั และอา่ นจากสื่อประเภทตา่ งๆ และแสดงความคดิ เหน็ อย่างมเี หตุผล ต 1.2 มีทกั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปล่ียนข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรสู้ กึ และความคิดเห็นอยา่ งมี ประสิทธภิ าพ ต 1.3 นำเสนอข้อมูลขา่ วสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรอ่ื งต่างๆ โดยการพูดและการเขยี น ต 2.1 เข้าใจความสมั พันธร์ ะหวา่ งภาษากับวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษาและนำไปใชไ้ ด้อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ ต 2.2 เขา้ ใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับภาษาและ วฒั นธรรมไทย และนำมาใชอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง และเหมาะสม ต 3.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการเชอื่ มโยงความรู้กบั กลุ่มสาระการเรียนรอู้ ื่น และเปน็ พืน้ ฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทศั นข์ องตน ต 4.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณต์ ่างๆ ทง้ั ในสถานศึกษา ชมุ ชน และสงั คม ต 4.2 ใช้ภาษาตา่ งประเทศเป็นเครื่องมือพนื้ ฐานในการศึกษาต่อการประกอบอาชีพ และการแลกเปลีย่ น เรยี นรูก้ บั สังคมโลก 2.2 ตวั ชว้ี ัด ต 1.1 ป. 4/1 ปฏิบตั ติ ามคำสงั่ คำขอรอ้ งและคำแนะนำ (Instructions) งา่ ยๆ ทฟี่ ังหรอื อ่าน ต 1.1 ป. 4/2 อา่ นออกเสยี งคำ สะกดคำ อา่ นกลุ่มคำ ประโยค ขอ้ ความงา่ ยๆ และบทพดู เขา้ จงั หวะ ถูกต้อง ตามหลกั การอา่ น ต 1.1 ป. 4/3 เลอื ก/ระบุ ภาพ หรือสญั ลักษณ์ หรอื เครื่องหมายตรงตามความหมายของประโยค และ ขอ้ ความส้นั ๆ ท่ีฟงั หรอื อา่ น ต 1.1 ป. 4/4 ตอบคำถามจากการฟงั และอ่านประโยค บทสนทนา และนิทานงา่ ยๆ ต 1.2 ป. 4/1 พูด/เขยี นโต้ตอบในการสอื่ สารระหวา่ งบคุ คล

180 ต 1.2 ป. 4/2 ใช้คำส่ัง คำขอรอ้ งและคำขออนญุ าตงา่ ยๆ ต 1.2 ป. 4/3 พดู /เขยี นแสดงความตอ้ งการของตนเองและขอความช่วยเหลอื ในสถานการณง์ ่ายๆ ต 1.2 ป. 4/4 พดู /เขียนเพอื่ ขอและใหข้ ้อมูลเกยี่ วกับตนเอง เพอื่ นและครอบครัว ต 1.2 ป. 4/5 พดู แสดงความรูส้ ึกของตนเองเกย่ี วกบั เร่อื งตา่ งๆ ใกล้ตัวและกิจกรรมตา่ งๆ ตามแบบทีฟ่ งั ต 1.3 ป. 4/1 พูด/เขียนใหข้ อ้ มูลเกยี่ วกับตนเองและเรื่องใกล้ตัว ต 1.3 ป. 4/2 พูด/วาดภาพแสดงความสมั พันธข์ องส่ิงต่างๆ ใกล้ตวั ตามทฟี่ ังหรืออ่าน ต 1.3 ป. 4/3 พดู แสดงความคิดเหน็ ง่ายๆ เก่ียวกับเร่อื งต่างๆ ใกลต้ วั ต 2.1 ป. 4/1 พูดและทำท่าประกอบอยา่ งสภุ าพตามมารยาทสงั คมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา ต 2.1 ป. 4/2 ตอบคำถามเก่ยี วกับเทศกาล/วันสำคัญ/งานฉลองและชวี ิตความเป็นอยู่ง่ายๆของเจ้าของ ภาษา ต 2.1 ป. 4/3 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมท่เี หมาะสมกบั วยั ต 2.2 ป. 4/1 บอกความแตกต่างของเสยี งตัวอักษรคำ กลุ่มคำ ประโยคและข้อความของภาษาอังกฤษ และ ภาษาไทย ต 2.2 ป. 4/2 บอกความเหมือน/ความแตกต่างระหว่างเทศกาลและงานฉลองตามวัฒนธรรมของเจ้าของ ภาษากบั ของไทย ต 3.1 ป. 4/1 ค้นคว้า/รวบรวมคำศพั ท์ท่เี ก่ียวขอ้ งกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อนื่ และนำเสนอด้วยการพูด/ การเขียน ต 4.1 ป. 4/1 ฟงั และพูด/อา่ นในสถานการณ์ท่ีเกิดข้นึ ในห้องเรยี นและสถานศึกษา ต 4.2 ป. 4/1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมข้อมลู ตา่ งๆ 2.3 จุดประสงค์การเรยี นรู้ ความรู้ (K) ทำแบบทดสอบท้ายบทเรยี นได้ ทักษะ/กระบวนการ (P) ประเมินตนเองได้ เจตคติ (A) มวี นิ ัย ใฝเ่ รียนรู้และมงุ่ มั่นในการทำงาน 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรยี นร้แู กนกลาง - 3.2 สาระการเรียนรู้ทอ้ งถนิ่ -

181 4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น  ความสามารถในการสอ่ื สาร  ความสามารถในการคดิ  ความสามารถในการแกป้ ญั หา  ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ  ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์  รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์  อยู่อย่างพอเพียง  ซื่อสัตย์สุจรติ  ม่งุ มั่นในการทำงาน  มวี ินัย  รักความเป็นไทย  ใฝ่เรียนรู้  มจี ติ สาธารณะ 6. จดุ เนน้ สกู่ ารพฒั นาผเู้ รยี น ความสามารถและทักษะของผเู้ รยี นศตวรรษที่ 21 (3Rs x 8Cs x 2Ls)  R1– Reading (อ่านออก)  R2– (W)Riting (เขียนได้)  R3 – (A)Rithmetics (คดิ เลขเป็น)  C1 - Critical Thinking and Problem Solving ( ทักษะด้านการคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหา)  C2 - Creativity and Innovation (ทักษะด้านการสรา้ งสรรคแ์ ละนวัตกรรม)  C3 - Cross-cultural Understanding (ทกั ษะด้านความเขา้ ใจตา่ งวฒั นธรรม ต่างกระบวนทัศน์)  C4 - Collaboration, Teamwork and Leadership (ทักษะดา้ นความรว่ มมือ การทำงานเปน็ ทมี และภาวะผู้นำ)  C5 – Communications, Information and Media Literacy (ทกั ษะด้านการส่ือสาร สารสนเทศ และรเู้ ท่าทนั สื่อ)  C6 - Computing and ICT Literacy (ทกั ษะด้านคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสอื่ สาร)  C7 - Career and Learning Skills (ทักษะอาชพี และทกั ษะการเรยี นร้)ู  C8 – Compassion (ความมีเมตตากรณุ า วนิ ัย คณุ ธรรม จริยธรรม)  L1 – Learning (ทกั ษะการเรยี นรู้)  L2 – Leadership (ทักษะความเป็นผนู้ ำ)

182 7. กิจกรรมการเรียนรู้ 1.ขน้ั นำ (Warm up) ครพู ูดทกั ทายกบั นักเรยี นในช้นั เรียน Teacher: Good morning. How are you today? Students: I’m fine, thank you. And you? Teacher: I’m great. 2.ขัน้ นำเสนอ (Presentation) ครสู นทนากบั นักเรยี น ทบทวนบทเรียนท่ีได้เรยี นมา 3.ขั้นฝกึ (Practice) นกั เรียนทำแบบทดสอบทา้ ยบท 4. ขนั้ นำไปใช้ (Production) - 5.ขัน้ สรปุ (Wrap up) ครูเฉลยแบบทดสอบ 8. การวัดและประเมนิ ผล สิง่ ท่ีวดั วิธวี ดั ผล เครือ่ งมือวดั ผล เกณฑ์การประเมินผล 60% ขนึ้ ไป ผ่าน ดา้ นความรู้ (K) ประเมนิ การทำ แบบประเมินการทำ 60% ขึ้นไป ผา่ น 60% ขึ้นไป ผา่ น ทำแบบทดสอบท้าย แบบทดสอบท้าย แบบทดสอบท้ายบทเรยี น บทเรียนได้ บทเรยี น ด้านทักษะกระบวนการ (P) ประเมนิ ตนเองได้ ประเมินการพดู แบบประเมินการพดู ด้านคณุ ลกั ษณะ อันพงึ ประสงค์ (A) มีวินัย ใฝ่เรียนรู้และมุ่งม่ัน การสงั เกตการรว่ ม แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั ในการทำงาน กจิ กรรมในชัน้ เรียน พงึ ประสงค์

183 9. สอ่ื /แหล่งเรียนรู้ 9.1 ส่ือการเรยี นรู้ 1. แบบทดสอบ 9.2 แหล่งเรยี นรู้ -

184 แบบบันทกึ การประเมินการพดู ประเด็น/คะแนน ความ การแสดงทา่ ทาง/ รวมคะแนน เลขที่ ความถกู ต้อง คลอ่ งแคล่ว นำ้ เสยี ง 20 ชือ่ – สกลุ 8 8 ประกอบการพูด 4 ลงชอ่ื .....................................................ผู้ประเมิน (นางสาวจุฑามณี สขุ ไสว)

ระดับคะแนน เกณฑ์การใหค้ ะแนนการพดู 185 เกณฑ์การให้คะแนน นำ้ หนกั / คะแนน ความสำคญั รวม ประเด็น 43 2 1 การประเมนิ 2 8 ความถกู ต้อง ออกเสยี ง ออกเสียง ออกเสียง ออกเสียง 2 8 ตัวอักษร ตัวอักษร ตัวอักษร ตวั อักษร/ คำ/ 1 4 คำศพั ทแ์ ละ คำศัพท์และ คำศัพทแ์ ละ ประโยคผดิ 5 20 ประโยคได้ ประโยคได้ ประโยคได้ หลักการออก ถูกต้องตาม ถกู ต้องตาม ถกู ตอ้ งเปน็ เสียง หลัก หลัก ส่วนใหญ่ ขาด ทำให้สื่อสารไม่ได้ การออกเสยี ง การออกเสียง การออกเสยี ง ออกเสยี งเน้น ออกเสียงเนน้ เนน้ หนัก-เบาใน หนัก-เบาใน หนัก-เบาใน คำและเสยี งสูง- คำและเสยี ง คำและเสียง ตำ่ ในประโยค สูง-ตำ่ ใน สูง-ตำ่ ใน ประโยคอย่าง ประโยคเปน็ สมบรู ณ์ สว่ นใหญ่ ความคล่องแคลว่ พูดต่อเน่อื ง พูดตะกุก พูดเป็นคำๆ พูดได้บางคำ ไมต่ ดิ ขัด ตะกกั บ้าง แต่ หยดุ เป็นชว่ งๆ ทำให้ส่อื พูดชดั เจน ยังพอสอื่ สาร ทำใหส้ ่อื สาร ความหมาย ทำให้สือ่ สาร ได้ ได้ไมช่ ัดเจน ไม่ได้ ได้ การแสดงทา่ ทางและ แสดงทา่ ทาง แสดงทา่ ทาง แสดงท่าทางไม่ ไม่แสดงท่าทาง น้ำเสียงประกอบ และพดู ด้วย และพูดด้วย เป็นธรรมชาติ ประกอบการพดู การพูด นำ้ เสยี ง น้ำเสียง พดู เหมือนอา่ น พูดได้นอ้ ยมาก เหมาะสมกบั เหมาะสมกบั บทพูดอย่าง บทพดู เปน็ สมบูรณ์ ส่วนใหญ่ รวม การกำหนดระดบั คุณภาพโดยรวมทงั้ หน่วย - ระดบั ดีมาก คะแนนระหวา่ ง 17-20 - ระดับดี คะแนนระหวา่ ง 13-16 - ระดบั พอใช้ คะแนนระหว่าง 9-12 - ระดับปรบั ปรุง คะแนนระหว่าง 0-8

186 แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ (A) ท่ี ชอื่ -สกุล มีวนิ ัย รายการประเมิน มุ่งมน่ั ในการ คะแนน ระดับ 321 ใฝเ่ รียนรู้ ทำงาน รวม คุณภาพ (9) 321 3 21 เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ ลงช่ือ.........................................................ผู้ประเมนิ (...................................................) ระดับคุณภาพ คะแนนรวม ดี พอใช้ ปรับปรงุ 7-9 คะแนน 4-6 คะแนน ต่ำกวา่ 4 คะแนน

187 เกณฑ์การใหค้ ะแนนดา้ นคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ : มวี ินยั คะแนน : ระดบั คณุ ภาพ คณุ ลักษณะทป่ี รากฏใหเ้ หน็ 3 : ดี ผลงานสะอาดเรยี บรอ้ ย ปฏบิ ตั ิตนอยู่ในขอ้ ตกลงทก่ี ำหนดใหร้ ่วมกนั ทกุ ครั้ง 2 : พอใช้ ผลงานส่วนใหญ่สะอาดเรียบร้อย ปฏบิ ัตติ นอยใู่ นข้อตกลงทีก่ ำหนดใหร้ ว่ มกันเปน็ ส่วนใหญ่ 1 : ปรับปรุง ผลงานไม่ค่อยเรยี บร้อย ปฏิบตั ิตนอยู่ในข้อตกลงทก่ี ำหนดใหร้ ว่ มกัน บางครง้ั ตอ้ งอาศัยการ แนะนำ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ : ใฝเ่ รยี นรู้ คะแนน : ระดับคณุ ภาพ คุณลักษณะทป่ี รากฏใหเ้ หน็ 3 : ดี มคี วามสนใจ /ความตง้ั ใจตลอดระยะเวลาการเรียนรู้ 2 : พอใช้ มีความสนใจ /ความตั้งใจเป็นบางครง้ั 1 : ปรบั ปรงุ มีความสนใจ /ความตงั้ ใจในระยะเวลาสั้นๆ ชอบเล่นในเวลาเรียน คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ : ม่งุ ม่นั ในการทำงาน คะแนน : ระดบั คณุ ภาพ คณุ ลักษณะทป่ี รากฏให้เห็น 3 : ดี สง่ งานก่อนหรอื ตรงกำหนดเวลานดั หมาย รบั ผิดชอบในงานทไี่ ดร้ ับมอบหายและปฏบิ ัติตนจนเป็นนิสัย เปน็ ตวั อย่างแกผ่ ู้อื่น และแนะนำชกั ชวน 2 : พอใช้ ส่งงานช้ากว่ากำหนด รบั ผดิ ชอบในงานทีไ่ ดร้ ับมอบหายและปฏบิ ัตติ นจนเป็นนสิ ัย 1 : ปรบั ปรงุ ส่งงานช้ากวา่ กำหนด รับผดิ ชอบในงานทไี่ ดร้ บั มอบหายและปฏิบัตติ นจนเป็นนิสยั ปฏิบตั งิ านโดยอาศัยการชี้แนะ แนะนำ ตกั เตือน

แบบทดสอบ ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 5 188 ชื่อ ……………………………………………..………………………. ช้นั ……………. เลขที่ ……………… Choose the correct answer. 2. mouth 1. I look at things with my _____________. 4. foot 1. eye 3. nose 2. I listen with my _____________. 2. hand 1. nose 4. ear 3. arm 3. I breathe with my _____________. 2. nose 1. toe 4. eye 3. ear 4. I speak with my ____________. 2. nose 1. mouth 4. eye 3. ear 5. 145 อ่านเป็นภาษาองั กฤษว่าอย่างไร 2. one hundred and forty- five 1. one hundred and forty-one 4. Six hundred and fifty-five 3. two hundred and forty-five

6. 15,000 อา่ นเป็นภาษาองั กฤษวา่ อย่างไร 189 1. fourteen thousand 3. fifteen thousand 2. thirteen thousand 4. twenty thousand 7. 1,850 อ่านเป็นภาษาอังกฤษว่าอยา่ งไร 1. one thousand eight hundred and sixty 2. one thousand seven hundred 3. one thousand eighty hundred and five 4. one thousand eight hundred and fifty 8. What does your older sister look like? 1. She has got long brown hair. 2. She has got long white hair. 3. She has got long pink hair. 4. She has got long black hair. 9. What does he look like? 1. He is short and thin. 2. He is tall and fat. 3. He is short and fat. 4. He is big and tall. 10. A : How tall are you? B : ………………………………………………. 2. She is 138 centimetres tall. 1. I am 159 centimetres tall. 4. We are 148 centimetres tall. 3. He is 130 centimetres tall.

190 เฉลย 1. I look at things with my _____________. 1. eye 2. mouth 4. foot 3. nose 2. hand 2. I listen with my _____________. 4. ear 1. nose 3. arm 2. nose 4. eye 3. I breathe with my _____________. 1. toe 3. ear 4. I speak with my ____________. 2. nose 1. mouth 4. eye 3. ear 5. 145 อ่านเป็นภาษาองั กฤษว่าอย่างไร 2. one hundred and forty- five 1. one hundred and forty-one 4. Six hundred and fifty-five 3. two hundred and forty-five

191 6. 15,000 อา่ นเป็นภาษาอังกฤษว่าอย่างไร 2. thirteen thousand 1. fourteen thousand 4. twenty thousand 3. fifteen thousand 7. 1,850 อ่านเป็นภาษาองั กฤษว่าอย่างไร 1. one thousand eight hundred and sixty 2. one thousand seven hundred 3. one thousand eighty hundred and five 4. one thousand eight hundred and fifty 8. What does your older sister look like? 1. She has got long brown hair. 2. She has got long white hair. 3. She has got long pink hair. 4. She has got long black hair. 9. What does he look like? 1. He is short and thin. 2. He is tall and fat. 3. He is short and fat. 4. He is big and tall. 10. A : How tall are you? B : ………………………………………………. 2. She is 138 centimetres tall. 1. I am 159 centimetres tall. 4. We are 148 centimetres tall. 3. He is 130 centimetres tall.

192 แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ (รายวิชาภาษาอังกฤษ อ14101) ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 4 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 3 เร่ือง At the supermarket เวลา 14 ช่ัวโมง เร่อื ง What can you see เวลา 1 ช่วั โมง ครผู ู้สอน นางสาวจฑุ ามณี สุขไสว 1. สาระสำคญั / ความคิดรวบยอด เรียนรู้คำศัพท์เก่ียวกับอาหาร ผัก และผลไม้ การใช้ some/any, there is/there are, have got/has got การออกเสียงคำศัพท์ท่ีข้ึนต้นด้วย c (initial sound /k/) ทำให้ผู้เรียนสามารถสนทนาขอและให้ข้อมูลเกยี่ วกับอาหาร หรือสินค้า การอ่านและการเขียนบรรยายส้ันๆ เก่ียวกับอาหาร ซ่ึงเป็นการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อนำไปใช้ส่ือสารใน ชีวิตประจำวัน 2. มาตรฐาน/ตวั ชีว้ ัด/จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องทีฟ่ งั และอ่านจากส่ือประเภทต่างๆ และแสดงความคดิ เหน็ อย่างมเี หตุผล ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชือ่ มโยงความรู้กบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อ่นื และเปน็ พื้นฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทศั นข์ องตน 2.2 ตัวช้ีวัด ต 1.1 ป. 4/2 อา่ นออกเสยี งคำ สะกดคำ อา่ นกลุ่มคำ ประโยค ข้อความง่ายๆ และบทพดู เข้าจงั หวะ ถูกตอ้ ง ตามหลกั การอ่าน ต 1.1 ป. 4/3 เลอื ก/ระบุ ภาพ หรือสญั ลกั ษณ์ หรือเคร่อื งหมายตรงตามความหมายของประโยค และ ข้อความสั้นๆ ทฟ่ี ังหรอื อา่ น ต 3.1 ป. 4/1คน้ ควา้ /รวบรวมคำศพั ทท์ ี่เก่ียวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรูอ้ น่ื และนำเสนอดว้ ยการพูด/ การ เขยี น 2.3 จุดประสงค์การเรยี นรู้ ความรู้ (K) ใหข้ ้อมูลคำศัพทเ์ กย่ี วกับอาหารได้ ทกั ษะ/กระบวนการ (P) อ่านออกเสียง สะกดคำเก่ยี วกับอาหารได้ เจตคติ (A) มีวินัย ใฝเ่ รียนรูแ้ ละมุ่งมั่นในการทำงาน 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง Function : Talking about food

193 Structure : What can you see in the supermarket Vocabulary : Could you spell this, please? คำศัพทใ์ หม่ bread, chicken, biscuits, pears, strawberries, carrots, cake egg, rice, soup คำศพั ทท์ บทวน - 3.2 สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถ่นิ - 4. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น  ความสามารถในการสอื่ สาร  ความสามารถในการคิด  ความสามารถในการแกป้ ญั หา  ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต  ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์  รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์  อยู่อย่างพอเพียง  ซ่ือสัตย์สุจริต  มุง่ มั่นในการทำงาน  มวี นิ ัย  รักความเปน็ ไทย  ใฝ่เรยี นรู้  มจี ิตสาธารณะ 6. จุดเน้นสู่การพัฒนาผเู้ รียน ความสามารถและทักษะของผู้เรียนศตวรรษท่ี 21 (3Rs x 8Cs x 2Ls)  R1– Reading (อา่ นออก)  R2– (W)Riting (เขียนได)้  R3 – (A)Rithmetics (คดิ เลขเป็น)  C1 - Critical Thinking and Problem Solving ( ทกั ษะด้านการคดิ อย่างมีวิจารณญาณ และทักษะในการแกป้ ญั หา)  C2 - Creativity and Innovation (ทักษะด้านการสรา้ งสรรคแ์ ละนวตั กรรม)  C3 - Cross-cultural Understanding (ทักษะด้านความเข้าใจตา่ งวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทศั น)์  C4 - Collaboration, Teamwork and Leadership (ทักษะด้านความร่วมมือ การทำงานเป็น ทมี และภาวะผู้นำ)  C5 – Communications, Information and Media Literacy (ทกั ษะด้านการส่ือสาร สารสนเทศ และร้เู ทา่ ทันส่อื )  C6 - Computing and ICT Literacy (ทกั ษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ

194 และการส่ือสาร)  C7 - Career and Learning Skills (ทกั ษะอาชีพและทักษะการเรียนรู้)  C8 – Compassion (ความมเี มตตากรณุ า วนิ ัย คณุ ธรรม จริยธรรม)  L1 – Learning (ทกั ษะการเรียนรู้)  L2 – Leadership (ทักษะความเปน็ ผ้นู ำ) 7. กิจกรรมการเรยี นรู้ 1.ขนั้ นำ (Warm up) 1. ครูพดู ทกั ทายกับนกั เรียนในชัน้ เรียน Teacher: Good morning. How are you today? Students: I’m fine, thank you. And you? Teacher: I’m great. 2. นักเรยี นดภู าพ Supermarket ในหนังสือเรียน หนา้ 32 ข้อ 1 What can you see? แลว้ บอกครูวา่ เห็นสินคา้ อะไรบา้ ง Teacher: What can you see in the supermarket? Students: oranges, rice, bananas, soup, chicken, eggs, pears, strawberries, carrots, cookies, cake 2.ขั้นนำเสนอ (Presentation) ครูสอนคำศพั ท์ใหม่เก่ยี วกับอาหาร ครูติดบัตรภาพและบตั รคำบนกระดานใหน้ ักเรียนดทู ลี ะ 1 ภาพ ครูออกเสียงคำศัพท์ และให้นกั เรียนออกเสยี งคำศัพท์ตามไปด้วย จากนั้นครใู ห้นกั เรยี นสะกดคำศพั ทท์ ีค่ รเู ขยี นบน กระดาน Teacher : Could you spell this, please? (ครูชบู ัตรภาพขนมปัง) Students : B – R – E – A – D. bread chicken biscuits pears strawberries carrots cake egg rice soup 3.ขั้นฝกึ (Practice) 1. นกั เรยี นอ่านออกเสียงคำศัพท์ ในหนังสอื เรียน หนา้ 32 ข้อ 2 Read, look and find. แลว้ หาว่าภาพ คำศพั ท์เหลา่ นอ้ี ย่ตู รงส่วนไหนของภาพใหญใ่ น ขอ้ 1 ขา้ งบน เมื่อพบแล้วจงึ บอกครู 2. ดรู ูปภาพในหนังสือเรยี น หน้า 33 ข้อ 2 Listen and number. แล้วตอบคำถามครูว่าภาพในแต่ละ ภาพคอื ภาพอะไร

195 Teacher : What is picture A? Students : It is bread. Teacher : What is picture B? Students : It is cake. Teacher : What is picture C? Students : They are biscuits. จากน้นั ครูอา่ นประโยคให้นักเรียนฟัง 2 ครง้ั แล้วให้นักเรียนเรียงลำดับรูปภาพตามประโยคที่ไดย้ นิ 1. I eat rice every day. 2. The strawberries are red. 3. Carrots are good for eyes. 4. Bobby doesn’t like biscuits. 5. I eat eggs every day. 6. Give me a cake, please. 7. Chicken is my favourite food. 8. Is there a pear? 9. My sister likes bread. 10.I don’t like soup. Key 1. F 4. C 7. G 10. D 2. I 5. E 8. H 3. J 6. B 9. A 4.ขนั้ นำไปใช้ (Production) นักเรียนอา่ นประโยคทกี่ ำหนดให้ ในหนงั สือเรยี น หน้า 33 ขอ้ 3 Listen and write. แล้วครูอา่ น ประโยคให้นักเรยี นฟัง 2 รอบ และเตมิ คำที่ขาดหายไปในประโยคให้สมบรู ณ์ โดยทำลงในสมดุ เสร็จแล้วครเู ฉลย คำตอบ 1. I like bread. 2. I don’t like biscuits.

196 3. Mark doesn’t like carrots. 4. Mary and Maria like chicken. 5. They don’t like strawberries. 1. bread Key 5. strawberries 2. biscuits 3. carrots 4. chicken 5.ขัน้ สรุป (Wrap up) 1. นักเรยี นทำใบงาน Look and write the words. 2. นักเรียนสรปุ คำศัพท์และความหมายลงในสมุดคำศัพท์ 8. การวัดและประเมินผล ส่ิงทว่ี ัด วิธีวัดผล เคร่อื งมือวดั ผล เกณฑ์การประเมนิ ผล 60% ข้นึ ไป ผ่าน ดา้ นความรู้ (K) 60% ขน้ึ ไป ผา่ น ใหข้ อ้ มูลคำศัพท์เกย่ี วกบั ตรวจแบบฝึกหัด แบบฝกึ หัด 60% ข้ึนไป ผ่าน อาหารได้ ด้านทกั ษะกระบวนการ (P) อา่ นออกเสียง สะกดคำ ประเมินการพดู แบบประเมนิ การพูด เกี่ยวกบั อาหารได้ ด้านคุณลกั ษณะ อันพึงประสงค์ (A) มีวินัย ใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่น การสงั เกตการรว่ ม แบบประเมนิ คุณลักษณะอัน ในการทำงาน กจิ กรรมในชั้นเรียน พงึ ประสงค์ 9. สอ่ื /แหล่งเรียนรู้ 9.1 สือ่ การเรียนรู้ 1 หนงั สอื เรยี น Smile ป.4 2. ใบงาน 3. บตั รภาพ 4. บัตรคำ 5. สมดุ คำศพั ท์ 9.2 แหลง่ เรียนรู้ 1. หอ้ งสมดุ

197

198 บัตรภาพ

199

200

201

202

203 บัตรคำ bread carrots chicken cake biscuits egg pears rice strawberries soup

204 แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 2 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ (รายวชิ าภาษาอังกฤษ อ14101) ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 4 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3 เร่ือง At the supermarket เวลา 14 ช่วั โมง เรื่อง There is/There are เวลา 1 ช่ัวโมง ครผู ้สู อน นางสาวจฑุ ามณี สขุ ไสว 1. สาระสำคัญ / ความคดิ รวบยอด เรียนรู้คำศัพท์เกี่ยวกับอาหาร ผัก และผลไม้ การใช้ some/any, there is/there are, have got/has got การออกเสียงคำศัพท์ท่ีขึ้นต้นด้วย c (initial sound /k/) ทำให้ผู้เรียนสามารถสนทนาขอและให้ข้อมูลเกย่ี วกับอาหาร หรือสินค้า การอ่านและการเขียนบรรยายสั้นๆ เก่ียวกับอาหาร ซ่ึงเป็นการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อนำไปใช้สื่อสารใน ชีวิตประจำวัน 2. มาตรฐาน/ตวั ช้วี ัด/จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นขอ้ มลู ข่าวสาร แสดงความรูส้ กึ และความคิดเหน็ อย่างมี ประสทิ ธภิ าพ 2.2 ตัวชวี้ ัด ต 1.2 ป. 4/4 พดู /เขยี นเพอื่ ขอและให้ขอ้ มูลเกย่ี วกับตนเอง เพอื่ นและครอบครัว ต 1.2 ป. 4/5 พดู แสดงความรู้สึกของตนเองเก่ียวกับเร่ืองต่างๆ ใกลต้ ัวและกิจกรรมต่างๆ ตามแบบทีฟ่ งั 2.3 จุดประสงค์การเรยี นรู้ ความรู้ (K) ให้ขอ้ มูลคำศพั ทเ์ กย่ี วกับอาหารและการใช้ There is/There are ได้ ทกั ษะ/กระบวนการ (P) อ่านออกเสียง สะกดคำเกีย่ วกับอาหารและประโยค There is/There are ได้ เจตคติ (A) มวี นิ ัย ใฝ่เรียนรแู้ ละมงุ่ มน่ั ในการทำงาน 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง Function : Talking about there is are there are Structure : There is + a/an + คำนามเอกพจน์ + place. There is a pen on a table. There are + คำนามพหูพจน์ + place. There are 15 students in the classroom. Vocabulary : คำศัพทใ์ หม่

205 there is, there are คำศพั ท์ทบทวน bread, chicken, biscuits, pears, strawberries, carrots, cake egg, rice, soup 3.2 สาระการเรียนรู้ทอ้ งถิ่น - 4. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น  ความสามารถในการสอ่ื สาร  ความสามารถในการคดิ  ความสามารถในการแก้ปัญหา  ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ  ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์  รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์  อยู่อย่างพอเพียง  ซ่อื สัตยส์ ุจรติ  ม่งุ มน่ั ในการทำงาน  มวี นิ ยั  รกั ความเปน็ ไทย  ใฝ่เรยี นรู้  มจี ิตสาธารณะ 6. จดุ เนน้ สูก่ ารพฒั นาผเู้ รยี น ความสามารถและทักษะของผู้เรยี นศตวรรษท่ี 21 (3Rs x 8Cs x 2Ls)  R1– Reading (อา่ นออก)  R2– (W)Riting (เขียนได)้  R3 – (A)Rithmetics (คดิ เลขเป็น)  C1 - Critical Thinking and Problem Solving ( ทกั ษะด้านการคดิ อย่างมวี จิ ารณญาณ และทกั ษะในการแกป้ ญั หา)  C2 - Creativity and Innovation (ทักษะด้านการสรา้ งสรรค์และนวตั กรรม)  C3 - Cross-cultural Understanding (ทักษะดา้ นความเข้าใจตา่ งวฒั นธรรม ตา่ งกระบวนทัศน์)  C4 - Collaboration, Teamwork and Leadership (ทักษะด้านความรว่ มมอื การทำงานเปน็ ทีม และภาวะผูน้ ำ)  C5 – Communications, Information and Media Literacy (ทกั ษะด้านการสือ่ สาร สารสนเทศ และรูเ้ ท่าทันสื่อ)  C6 - Computing and ICT Literacy (ทกั ษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสือ่ สาร)  C7 - Career and Learning Skills (ทกั ษะอาชีพและทกั ษะการเรียนรู)้  C8 – Compassion (ความมเี มตตากรุณา วนิ ยั คณุ ธรรม จริยธรรม)

206  L1 – Learning (ทักษะการเรยี นรู้)  L2 – Leadership (ทักษะความเปน็ ผนู้ ำ) 7. กิจกรรมการเรยี นรู้ 1.ข้นั นำ (Warm up) 1. ครพู ดู ทักทายกบั นกั เรียนในชน้ั เรยี น Teacher: Good morning. How are you today? Students: I’m fine, thank you. And you? Teacher: I’m great. 2. นักเรยี นทบทวนคำศัพท์เร่ืองอาหาร ครูติดบัตรภาพบนกระดาน ครแู จกบตั รคำใหน้ กั เรียนทกุ คน ให้ นกั เรยี นนำบตั รคำตดิ ใต้ภาพใหถ้ ูกต้อง พรอ้ มอ่านออกเสียง สะกดคำศัพท์ 2.ขั้นนำเสนอ (Presentation) 1. ครูอธบิ ายเกี่ยวกบั การใช้ There is/There are ใหน้ กั เรยี นฟังวา่ There is/There are มคี วามหมายวา่ ‘มี’ 2. ครูเขยี นโครงสรา้ งประโยคลงบนกระดาน ดงั น้ี There is + a/an + คำนามเอกพจน์ + place. เชน่ There is a pen on a table. There are + คำนามพหพู จน์ + place. เชน่ There are 15 students in the classroom. 3.ข้นั ฝึก (Practice) นกั เรยี นทำใบงาน Write there is or there are in the blank. 4.ขน้ั นำไปใช้ (Production) นกั เรยี นทำใบงาน Find the words. 5.ขนั้ สรปุ (Wrap up) นักเรยี นสรปุ การใช้ There is/There are ลงในสมุด

207 8. การวดั และประเมินผล วธิ ีวดั ผล เครอื่ งมอื วัดผล เกณฑ์การประเมินผล สงิ่ ทว่ี ัด ตรวจแบบฝึกหัด แบบฝึกหดั 60% ขึ้นไป ผ่าน ดา้ นความรู้ (K) ประเมนิ การพดู แบบประเมนิ การพูด 60% ขึน้ ไป ผา่ น ให้ขอ้ มูลคำศัพทเ์ กย่ี วกับ อาหารและการใช้ There การสงั เกตการรว่ ม แบบประเมินคุณลักษณะอนั 60% ขึ้นไป ผา่ น is/There are ได้ กจิ กรรมในชนั้ เรียน พงึ ประสงค์ ด้านทกั ษะกระบวนการ (P) อา่ นออกเสียง สะกดคำ เก่ยี วกับอาหารและประโยค There is/There are ได้ ดา้ นคณุ ลักษณะ อนั พึงประสงค์ (A) มีวินัย ใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่น ในการทำงาน 9. สื่อ/แหลง่ เรียนรู้ 9.1 สอื่ การเรยี นรู้ 1 หนงั สือเรียน Smile ป.4 2. ใบงาน 3. บัตรภาพ 4. บัตรคำ 5. สมดุ คำศพั ท์ 9.2 แหล่งเรยี นรู้ 1. ห้องสมุด

208 ใบงานวิชาภาษาอังกฤษ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 ชอ่ื .......................................................................................................... ชั้น ........................ เลขที่ ........................ Write there is or there are in the blank. 1. ___________________ ten books on the table. 2. ____________________ an egg in the basket. 3. ____________________ five monkeys in the cage. 4. ____________________ one monk in the temple. 5. ____________________ two pencils in the box. 6. ____________________ a television in my house. 7. ____________________ twenty-five ducks in the farm. 8. ____________________ two pillows on the bed. 9. ____________________ a pen on the table. 10. ___________________ thirty tables in the classroom.

209

210 บัตรภาพ

211

212

213

214

215 บัตรคำ bread carrots chicken cake biscuits egg pears rice strawberries soup

216 แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ (รายวิชาภาษาอังกฤษ) ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 4 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 เรอื่ ง At the supermarket เวลา 14 ช่ัวโมง เรอื่ ง There is/There are เวลา 1 ชั่วโมง ครูผูส้ อน นางสาวจุฑามณี สขุ ไสว 1. สาระสำคัญ / ความคิดรวบยอด เรียนรู้คำศัพท์เกี่ยวกับอาหาร ผัก และผลไม้ การใช้ some/any, there is/there are, have got/has got การออกเสียงคำศัพท์ท่ีข้ึนต้นด้วย c (initial sound /k/) ทำให้ผู้เรียนสามารถสนทนาขอและให้ข้อมูลเกย่ี วกับอาหาร หรือสินค้า การอ่านและการเขียนบรรยายสั้นๆ เก่ียวกับอาหาร ซึ่งเป็นการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อนำไปใช้ส่ือสารใน ชีวติ ประจำวัน 2. มาตรฐาน/ตวั ชวี้ ดั /จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสือ่ สารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรสู้ ึกและความคิดเห็นอย่างมี ประสทิ ธภิ าพ 2.2 ตัวชี้วัด ต 1.2 ป. 4/4 พูด/เขยี นเพือ่ ขอและใหข้ อ้ มลู เกย่ี วกับตนเอง เพอื่ นและครอบครัว ต 1.2 ป. 4/5 พูดแสดงความรสู้ กึ ของตนเองเกีย่ วกบั เร่อื งตา่ งๆ ใกล้ตวั และกิจกรรมตา่ งๆ ตามแบบท่ฟี ัง 2.3 จุดประสงค์การเรียนรู้ ความรู้ (K) ใหข้ ้อมูลคำศพั ทเ์ กี่ยวกับอาหารและการใช้ There is/There are ได้ ทักษะ/กระบวนการ (P) อ่านออกเสียง สะกดคำเกีย่ วกบั อาหารและประโยค There is/There are ได้ เจตคติ (A) มวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้และมุ่งม่ันในการทำงาน 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง Function : Talking about there is are there are Structure : There is + not + a/an + คำนามเอกพจน์ + place. There is not a pen on a table. There are + not + คำนามพหพู จน์ + place. There are not 15 students in the classroom. Vocabulary : คำศัพทใ์ หม่

217 not คำศัพทท์ บทวน bread, chicken, biscuits, pears, strawberries, carrots, cake egg, rice, soup, there is, there are 3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น - 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน  ความสามารถในการส่อื สาร  ความสามารถในการคดิ  ความสามารถในการแกป้ ัญหา  ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ  ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์  รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์  อยู่อย่างพอเพียง  ซ่ือสตั ย์สุจรติ  มงุ่ มน่ั ในการทำงาน  มีวินยั  รกั ความเป็นไทย  ใฝ่เรียนรู้  มีจติ สาธารณะ 6. จดุ เน้นส่กู ารพฒั นาผูเ้ รียน ความสามารถและทักษะของผู้เรยี นศตวรรษที่ 21 (3Rs x 8Cs x 2Ls)  R1– Reading (อา่ นออก)  R2– (W)Riting (เขยี นได)้  R3 – (A)Rithmetics (คดิ เลขเป็น)  C1 - Critical Thinking and Problem Solving ( ทักษะด้านการคดิ อย่างมวี จิ ารณญาณ และทกั ษะในการแก้ปญั หา)  C2 - Creativity and Innovation (ทกั ษะด้านการสร้างสรรค์และนวตั กรรม)  C3 - Cross-cultural Understanding (ทักษะด้านความเข้าใจตา่ งวฒั นธรรม ตา่ งกระบวนทัศน)์  C4 - Collaboration, Teamwork and Leadership (ทกั ษะด้านความรว่ มมอื การทำงานเปน็ ทมี และภาวะผูน้ ำ)  C5 – Communications, Information and Media Literacy (ทักษะด้านการสือ่ สาร สารสนเทศ และรูเ้ ท่าทันส่อื )  C6 - Computing and ICT Literacy (ทกั ษะด้านคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร)  C7 - Career and Learning Skills (ทกั ษะอาชีพและทักษะการเรยี นรู)้  C8 – Compassion (ความมีเมตตากรุณา วนิ ัย คณุ ธรรม จรยิ ธรรม)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook