ศรีลังกา 69 จะน�ำไปสู่การฟื้นฟูบูรณะเสริมสร้างความสนใจในวงวรรณคดีและประวัติศาสตร์ อัน เป็นภูมิปัญญาของชาวลังกาที่ปรากฏพบเห็นสมัยพุทธศตวรรษที่ ๗๓๑ ยังมีความจริงอีกอย่างหนึ่งที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง กล่าวคือบุคลิกภาพของ พระเจา้ ทฏุ ฐคามณี ผใู้ ฝใ่ จในการประกาศพระศาสนา กลา่ วกนั วา่ พระองคท์ รงทำ� หนา้ ที่ แสดงธรรมด้วยพระองค์เอง ส่วนจ�ำนวนผู้เข้าร่วมฟังธรรมมีไม่น้อยไปกว่าพระภิกษุ ผู้อาศัยอยู่ในโลหปราสาท๓๒ คราวน้ันพระองค์ทรงประทับนั่งบนธรรมาสน์ตรงกลาง ศาลาแสดงธรรม ทรงหยิบยกเอาเน้ือหาในมงคลสูตรมาอธิบาย เหตุเพราะพระองค์ ไม่ทรงเชี่ยวชาญในพระไตรปิฎก การอธิบายหัวข้อธรรมจึงไม่กระจ่างชัด สังเกตได้ จากเม่ือพระองค์เสด็จลงจากธรรมาสน์ พระเสโทไหลโทรมทั่วพระวรกาย พระองค์ ทรงทราบดีว่าการแสดงธรรมมีความยากเพียงใด ต้ังแต่นั้นเป็นต้นมาโปรดให้มีการแสดงพระสูตรส�ำคัญทุกอารามตลอด แว่นแคว้นแดนลังกา ทรงสนับสนุนให้พระสงฆ์แสดงธรรมเผยแผ่ค�ำสอนของ พระบรมศาสดาเจ้า จนกลายเป็นประเพณีการเทศน์ตามวัดแม้ในหมู่บ้านห่างไกลตาม ชนบท (ภาษาสิงหล เรียกว่าสวดภาณะ) ประเพณีดังกล่าวยังมีการรักษาสืบมาไม่ขาด สายจนถึงปัจจุบัน๓๓ สมัยอดตี วดั ตามหมู่บา้ นชนบทเป็นสถานศกึ ษาของชาวบ้าน แตเ่ พราะขาดการ สนับสนุนจากบ้านเมืองและการล่มสลายของระบบการศึกษาแบบเดิม ผู้น�ำด้านการ ศึกษาจึงเปล่ียนมือจากพระสงฆ์มาเป็นฆราวาส แต่หากศึกษาประวัติศาสตร์ย้อนรอย ๓๑ Ibid., pp. 893-4. ๓๒ JRAS., Oct. 1901, ๓๓ ปาร์กเกอร์อ้างถึงหนึ่งในส�ำเนาเก่ียวกับศรีลังกาว่า ตนเห็นชาวบ้านเดินทางทุกวันเพ็ญ ระยะทาง ๓๘ กิโลเมตร พร้อมจัดเตรียมเสบียงส�ำหรับเดินทาง พากันน่ังบนพื้นทรายรอบต้นโพธ์ิพร้อม แสงแห่งพระจันทร์อันสุกสกาว ขณะล้อมวงก็จะฟังผู้แสดงพระสูตรเร่ืองแล้วเร่ืองเล่าจนรุ่งสาง การ สวดตลอดคนื เช่นน้ียังคงรักษาสืบเนื่องจนถงึ วนั นี้ จนชีวิตสมยั ใหม่ไม่สามารถแทรกซึมได้ 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 69 1/18/20 1:16 PM
70 เริ่มต้นบันทึกวรรณกรรม ถอยหลังจะพบว่า หากสมัยใดชาวบ้านตามชนบทห่างไกลสามารถมีรากฐานการศึกษา เป็นอย่างดี นั่นแสดงว่าพระสงฆ์ตามหมู่บ้านชนบทเหล่านั้น ได้ช่วยกันรักษาสืบต่อ พระธรรมวินัยด้วยวิธีมุขปาฐะ แม้ปัจจุบันนี้ประชากรส่วนใหญ่ตามชนบทเป็นผู้ใช้แรงงานการศึกษาน้อย แต่ ไม่ควรวิจารณ์ชาวนาเหล่าน้ันว่าไร้การศึกษา เพราะคนเหล่านี้เองเป็นผู้รักษาประเพณี ซงึ่ เปน็ มรดกตกทอดมาจากบรรพบรุ ษุ ดว้ ยวธิ กี ารชาญฉลาด ดว้ ยความรกั ความศรทั ธา และเชื่อฟังอย่างซื่อสัตย์ น้ีแลชื่อว่าเป็นการศึกษาท่ีแท้จริงและสมบูรณ์แบบ หากมอง ในทัศนะของนักประวัติศาสตร์ด้านวรรณคดีแล้ว การศึกษาตามอารามวิหารเหล่าน้ีแล มีความส�ำคัญอย่างยิ่ง นอกจากหลากหลายเร่ืองราวดังกล่าวแล้ว ยังสามารถสืบค้น ได้จากต้นก�ำเนิดคัมภีร์กถาวัตถุ ซึ่งเป็นหนังสือเก่ียวกับศาสนาและประเพณี ต่อมา ยุคปัจจุบันกลายเป็นสมบัติอันล้�ำค่าท่ีเก็บรักษาไว้ตามห้องสมุดของวัดตามหมู่บ้าน ความวุ่นวายภายหลังพระเจ้าทุฏฐคามณี ผู้ครองราชย์สืบต่อมาคือพระอนุชานามว่าพระเจ้าสัทธาติสสะ ทรงครองราชย์ ๑๘ ปี สมัยนี้ลังกาประเทศเป็นยุคแห่งความรุ่งเรืองอย่างไม่เคยมีมาก่อน ความส�ำเร็จ ด้านวรรณคดีสิงหลได้รับความอุปถัมภ์ด้วยดีจากพระเจ้าแผ่นดิน อีกท้ังเชื้อพระวงศ์ สิงหลส่วนใหญ่ล้วนชื่นชมหลงใหลในวรรณกรรม ช่วยกันผลิตงานเขียนออกสู่บรรณ โลกเป็นจ�ำนวนมาก มีเรื่องราวอย่างหน่ึงเกี่ยวข้องกับพระองค์คือ คราวหนึ่งมีการประกาศว่า พระเถระนามว่าพุทธรักขิตะจะแสดงพระธรรมเทศนาที่มิหินตะเลในยามราตรีกาล พระเจา้ แผน่ ดนิ รบี รดุ เสดจ็ ไปฟงั ธรรม แตเ่ สดจ็ เดนิ ทางมาถงึ ขณะพระเถระกำ� ลงั แสดง พระธรรมเทศนา พระองค์ไม่ประสงค์จะรบกวนผู้ฟังธรรม จึงประทับยืนภายนอก ธรรมศาลาฟังธรรมด้วยความเพลิดเพลิน พระสูตรที่พระเถระน�ำมาแสดงในวันนั้น ยาวนานจนถึงรุ่งเช้า เมื่อพระเถระกล่าวสรุปพระธรรมเทศนาด้วยผลานิสงส์แห่งการ ฟังธรรมเหมือนทุกคร้ัง เสียงเปล่งสาธุการของพระเจ้าแผ่นดินท�ำให้พระเถระรับทราบ ครั้นเสด็จเข้ามาใกล้พระมหาเถระจึงทูลถามว่าพระองค์เสด็จมาถึงเมื่อใด พระราชาตรสั ตอบวา่ เมอ่ื พระคณุ เจา้ กำ� ลงั เรม่ิ ตน้ แสดงธรรม พระเถระทลู วา่ มหาบพติ ร 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 70 1/18/20 1:16 PM
ศรีลังกา 71 พระองค์นั้นเป็นพระเจ้าแผ่นดินไม่คุ้นเคยกับความล�ำบากตรากตร�ำ ทรงประทับยืน ภายนอกศาลาตลอดท้ังคืนได้อย่างไร ตรัสตอบว่าข้าแต่พระคุณเจ้า มิใช่เพียงคืนหน่ึง เท่าน้ันดอก โยมสามารถฟังธรรมเช่นน้ีได้อีกหลายเพลา หากผู้แสดงธรรมสามารถ อธิบายธรรมได้อย่างแจ่มแจ้งเช่นเดียวกับพระคุณเจ้า ขอให้โยมได้แสดงความเคารพ ต่อพระสัทธรรมเถิด โยมไม่ลืมแม้อักษรตัวหน่ึงในธรรมเทศนาของพระคุณเจ้าเลย หลังจากสิ้นสุดการสนทนาแล้ว พระองค์ได้มอบถวายราชสมบัติเพ่ือเป็นธรรมบูชา แต่พระเถระถวายคืนพร้อมกราบทูลว่า มหาบพิตร ขอให้พระองค์ทรงปกครองบ้าน เมืองตามครรลองแห่งธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเถิด๓๔ หลังจากพระเจ้าสัทธาติสสะสวรรคตส้ินแล้ว เกิดความวุ่นวายภายในราชวงศ์ สิงหล พระสงฆ์เริ่มแทรกแซงอาณาจักร โดยพยายามแต่งตั้งเช้ือพระวงศ์ท่ีเห็นว่า เหมาะสมถูกต้องตามกฎมณเฑียรบาล ให้ขึ้นครองราชย์เหนือบัลลังก์ลังกา ความ พยายามจบลงด้วยความล้มเหลวและน�ำหายนะมาสู่คณะสงฆ์เอง๓๕ เมื่อทายาทโดย ชอบธรรมแห่งราชบัลลังก์ไม่พอใจพฤติกรรมของคณะสงฆ์ ได้ปฏิเสธประเพณีของ บูรพกษัตริย์ที่เคยอุปถัมภ์พระพุทธศาสนา ความช่วยเหลือจากกษัตริย์จึงถูกตัดขาด ต้ังแต่บัดนั้น เมื่อขาดการสนับสนุนจากบ้านเมือง การศึกษาของคณะสงฆ์ก็เป็นไปด้วย ความล�ำยาก การปฏิเสธความช่วยเหลือคร้ังน้ันสร้างความยากล�ำบากแก่คณะสงฆ์ย่ิง นัก เป็นเหตุน�ำไปสู่การหยุดยั้งความก้าวหน้าทางวรรณกรรม พระเจ้าแผ่นดินทรงหัน ไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือยด้านอ่ืน โดยเฉพาะการสร้างพระราชวังอันใหญ่โตมโหฬาร ครั้นพระเจ้าแผ่นดินองค์ใหม่ขึ้นครองราชย์สืบต่อ เสนาบดีของพระองค์ได้ ก่อกบฏข้ึนแล้วจับพระเจ้าแผ่นดินปลงพระชนม์เสียเพื่อหวังครองราชย์สืบแทน แต่ยัง มีกลมุ่ อ�ำนาจอน่ื อกี ท่มี ีอทิ ธพิ ลเหนือกวา่ ปรากฏตัวออกมา กล่าวคอื พระเจ้าวัฏฏคามณี อภัย หลังจากเกิดกบฏเพียงวันเดียวเท่านั้น เสนาบดีผู้แย่งชิงราชบัลลังก์ก็ถูกจับ ๓๔ Saddharmalankaraya, Colombo, Ed., p. 123. 1/18/20 1:16 PM ๓๕ M.V., xxxiii, vv. 17-21. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 71
72 เร่ิมต้นบันทึกวรรณกรรม ประหารชีวิต จากนั้นพระเจ้าวัฏฏคามณีอภัยทรงปราบดาภิเษกขึ้นเป็นกษัตริย์ครอง ลังกา แต่ไม่นานความสงบสุขของบ้านเมืองก็ถูกรบกวนแทรกแซง ด้วยกบฏภายใน และการรุกรานจากภายนอก เม่ือพวกมลบาร์ชาวอินเดียใต้ (Malabars) ถือโอกาส ท่ีแผ่นดินลังกาเกิดความวุ่นวายภายใน ได้ยกกองทัพอันย่ิงใหญ่เกรียงไกรบุก เกาะลังกาเพื่อยึดครองราชบัลลังก์ เมื่อสงครามปะทุข้ึนปรากฏว่าทหารสิงหลพ่ายแพ้ราบคาบ พระเจ้าแผ่นดิน ลังกาจึงต้องเสด็จหนีราชภัยเข้าป่า ไปอาศัยความเมตตาสงเคราะห์จากพระเถระนาม ว่ามหาติสสะและนายบ้านตนสีวะ๓๖ ชาวสิงหลส่วนหน่ึงอ่อนน้อมยอมรับทมิฬหินชาติ ว่าเป็นกษัตริย์เหนือลังกา แต่ยังมั่นใจว่าสักวันหนึ่งราชวงศ์สิงหลจะกลับมากู้ชาติ บ้านเมือง ด้านกองก�ำลังทหารกล้าชาวสิงหลได้รวมตัวกันฝึกซ้อมศาสตราวุธบริเวณ เทือกเขาสูงกลางป่าลึก หลังจากหลบซ่อนตัวหนีราชภัยได้ ๑๔ ปี พระเจ้าวัฏฏคามณี อภัยได้ยาตราทัพเข้าสังหารพวกทมิฬจนหมดส้ิน แล้วประกาศเอกราชให้แก่บ้านเมือง ข้ึนครองราชย์อีกคร้ังหนึ่ง ก�ำเนิดอภัยคิรีวิหาร หลังจากขึ้นครองราชย์ไม่นาน พระองค์โปรดให้สร้างอภัยคิรีวิหารบริเวณ ติตถาราม อันเคยเป็นท่ีอยู่ของพวกนิครนถ์ เหตุเพราะนิครนถ์เหล่าน้ันขาดความ เอื้อเฟื้อพระเจ้าแผ่นดินประการหน่ึง เหตุเพราะแสดงอาการเยาะเย้ยความพ่ายแพ้ของ พระเจ้าแผ่นดิน หันไปชื่นชมยินดีต่อชัยชนะของอริราชศัตรูประการหนึ่ง๓๗ หลังจาก มีชัยเหนืออริราชศัตรูกู้บ้านเมืองและศักด์ิศรีคืนแล้ว พระเจ้าวัฏฏคามณีอภัยโปรดให้ สร้างอภัยคิรีเจดีย์ข้ึนตรงติตถาราม ความกว้างใหญ่ของเจดีย์โดยรอบวัดได้ประมาณ ๑๐ เมตร ความสูง ๑๒๐ เมตร จากนั้นทรงมอบถวายวิหารแก่พระมหาติสสเถระ ผู้อุปถัมภ์สงเคราะห์พระองค์ยามตกยาก ๓๖ M.V., xxxiii, vv. 50 foll. ๓๗ Ibid., xxxiii, vv. 44-6 and 81-3. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 72 1/18/20 1:16 PM
ศรีลังกา 73 วิหารแห่งนี้เก่ียวข้องกับเหตุการณ์ทางพระศาสนาและวรรณคดีในลังกาเป็น เวลายาวนาน การที่พระมหาติสสเถระยอมรับอภัยคิรีวิหารครั้งนั้น กลายเป็นข้อถกเถียงกัน ข้ึนเพราะเชื่อว่าท่านประจบคุ้นเคยกับตระกูล พระมหาเถระแห่งส�ำนักมหาวิหาร ในฐานะผู้ท�ำหน้าที่รักษาความบริสุทธิ์และชื่อเสียงของศาสนาในลังกา ได้ปรึกษากันลง สังฆานุมัติปรับอาบัติแก่พระมหาติสสเถระ คราวนั้นพระเถระรูปหน่ึงซ่ึงเป็นศิษย์ของ พระมหาติสสเถระได้คัดค้านการลงโทษเช่นนั้น คณะสงฆ์ส�ำนักมหาวิหารได้ต�ำหนิ พฤติกรรมของท่านพร้อมขับไล่ออกจากส�ำนักมหาวิหาร ท่านไม่พอใจค�ำตัดสินของ คณะสงฆ์ส�ำนักมหาวิหาร จึงชักชวนลูกศิษย์จ�ำนวนหนึ่งแยกตัวออกจากคณะสงฆ์ ส�ำนักมหาวิหาร ย้ายมาอยู่กับอาจารย์แห่งตน ณ ส�ำนักอภัยคิรีวิหาร สมัยต่อมาคณะสงฆ์ส�ำนักอภัยคิรีวิหารแข็งแกร่งมากข้ึน เม่ือรับพระสงฆ์จาก ปัลลรารามแห่งอินเดียใต้ ซ่ึงถูกตราหน้าว่าเป็นพระสงฆ์นอกรีตของอินเดียและลังกา เข้าเป็นสมาชิก ความจริงคือพระสงฆ์เหล่าน้ีสืบสายมาจากภิกษุวัชชีบุตรนิกาย อันเป็น หนึ่งในหลายนิกายที่ถูกพระโมคคัลลีบุตรติสสเถระวินิจฉัยว่ามีค�ำสอนนอกธรรมนอก วินัย เมื่อคราวสังคายนาครั้งที่ ๓ สมัยนั้นผู้เป็นหัวหน้าคณะนามว่าธรรมรุจิ เม่ือ คณะสงฆ์ส�ำนักมหาวิหารไม่ยอมรับ พระสงฆ์วัชชีบุตรนิกายจึงต้องหันไปเข้ากับ คณะสงฆ์ส�ำนักอภัยคิรีวิหารแทน ซ่ึงยินดีต้อนรับเข้าเป็นสมาชิกจนต่อมายอมรับ ค�ำสอนและแนวปฏิบัติโดยปริยาย นานวันเข้าพระมหาติสสเถระผู้เป็นหัวหน้าส�ำนัก อภัยคิรีวิหารก็ขนานนามตัวเองว่าธรรมรุจยาจารย์ ตั้งแต่น้ันเป็นต้นมาส�ำนัก อภัยคิรีวิหารเป็นท่ีรู้จักกันดีในนามธรรมรุจินิกาย หลักฐานทางประวัติศาสตร์ระบุว่า ส�ำนักอภัยคิรีวิหารก่อต้ังข้ึนปีที่ ๑๕ แห่ง รัชสมัยของพระเจ้าวัฏฏคามณีอภัย ตรงกับปี ๔๕๔ หลังพุทธปรินิพพานล่วงแล้ว๓๘ ๓๘ Nikaya-sangraha, pp. 11 and 12. 1/18/20 1:16 PM 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 73
74 เริ่มต้นบันทึกวรรณกรรม น้ีเป็นจุดเริ่มต้นการแตกแยกของคณะสงฆ์ลังกา การแบ่งแยกแตกกลุ่มเร่ิม มาจากเหตุผลส่วนบุคคลจนบานปลายกลายเป็นเร่ืองเก่ียวกับพระวินัย ความแตกต่าง ด้านค�ำสอนระหว่างส�ำนักมหาวิหารและส�ำนักอภัยคิรีวิหารเกิดข้ึน เก่ียวข้องผูกพันกัน เรื่อยมายาวนานประมาณ ๑,๒๐๐ ปี ส่วนดีคือพระสงฆ์สองส�ำนักต่างช่วยกันผลิตผล งานด้านวรรณกรรมตามแนวความคิดของตนเองเป็นจ�ำนวนมาก แต่น่าเสียดายว่า พระเจ้าแผ่นดินลังกายุคต่อมา ผู้ต้องการเห็นความบริสุทธิ์ของฝ่ายเถรวาทได้ท�ำลาย คมั ภรี ข์ องสำ� นกั อภยั คริ วี หิ ารหมดสน้ิ จงึ ไมม่ หี ลกั ฐานชน้ิ ใดหลงเหลอื ใหเ้ หน็ ในปจั จบุ นั ๓๙ เป็นที่น่าสนใจอย่างหนึ่งคือ การด�ำรงอยู่เคียงคู่กันเป็นเวลายาวนาน ระหว่างส�ำนัก อภัยคิรีวิหารและส�ำนักมหาวิหาร มีลักษณะเป็นมิตรมากกว่าเป็นศัตรู บันทึกพุทธพจน์ลงในใบลาน รัชสมัยของพระเจ้าวัฏฏคามณีอภัยนั้น ได้เกิดเหตุการณ์ส�ำคัญเกี่ยวกับ วรรณคดีภาษาบาลี มิใช่มีในลังกาเท่าน้ันแต่รวมถึงประเทศอื่นด้วย (ประเทศอินเดีย) กล่าวคือ บรรดาพระสงฆ์ผู้ชาญฉลาดท�ำหน้าท่ีสืบต่อพระธรรมวินัยจากบูรพาจารย์ ด้วยวิธีมุขปาฐะ พากันคิดว่าชาวพุทธเร่ิมเสื่อมคลายถอยห่างจากพระศาสนา จึงรวม ตัวกันบันทึกค�ำสอนของพระพุทธเจ้าลงในใบลาน๔๐ หลักฐานหลายแห่งระบุว่าการ บันทึกพระธรรมวินัยลงบนใบลานคราวนั้น จัดท�ำโดยพระสงฆ์ทั้งหมด ๕๐๐ รูป ภาย ใต้การสนับสนุนของนายบ้านมาตะเล ณ วัดถ�้ำอาลุวิหาร นับเป็นเวลาประมาณ ๔๐๐ กว่าปี ที่ค�ำสอนของพระพุทธเจ้าสืบต่อกันมาด้วยวิธีมุขปาฐะ๔๑ ต�ำนานเก่าแก่ของลังกาได้ระบุนามของพระเถระที่ช่วยกันรักษาสืบต่อ พระธรรมวินัย นับต้ังแต่สมัยพุทธกาลจนถึงการสังคายนาที่อาลุวิหาร เริ่มต้นจาก พระอุบาลีเถระผู้ท�ำหน้าท่ีสาธยายพระวินัย จากน้ันสืบต่อเร่ือยมาตามล�ำดับ กล่าวคือ พระทาสกเถระ พระโสณกเถระ พระสคิ ควเถระ พระโมคคลั ลบี ตุ รตสิ สเถระ พระมหนิ ท- ๓๙ คัมภีร์หลายเล่มอ้างว่าคณะสงฆ์นิกายน้ีด�ำรงอยู่ถึงปัจจุบัน และมีข้อสังเกตอีกหลายแห่ง ๔๐ M.V., xxxiii, vv. 100-1, also Dipavamsa, xx, 20, 21. ๔๑ See Nikaya-sangraha, pp. 10 and 11. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 74 1/18/20 1:16 PM
ศรีลังกา 75 เถระและคณะ (พระอิตติยเถระ พระอุตติยเถระ พระสัมพลเถระ และพระภัทท- สาลเถระ) พระเถระเหล่าน้ีล้วนแล้วเป็นศิษย์ของพระโมคคัลลีบุตรติสสเถระ พระเถระ รูปแรกท่ีสืบทอดประเพณีมุขปาฐะในลังกาคือ พระอริฏฐเถระผู้เป็นศิษย์ของพระ มหินทเถระ จากนั้นสืบต่อกันมาตามรายช่ือท่ีปรากฏทางประวัติศาสตร์ ซ่ึงเป็นเร่ือง ยากท่ีจะระบุให้แน่นอนชัดเจน ส�ำหรับรูปสุดท้ายนามว่าพระสิวเถระ ผู้ท�ำหน้าที่เป็น ประธานการสังคายนาบันทึกพระธรรมวินัยลงบนใบลาน ณ อาลุวิหาร ไม่ว่าการบันทึกพระพุทธพจน์ลงในใบลานคร้ังนี้ จะมีความเหมือนหรือแตก ต่างจากต้นฉบับด้ังเดิมสมัยสังคายนาครั้งท่ี ๓ ซ่ึงน�ำมาลังกาโดยพระมหินทเถระหรือ ไม่ก็ตาม ไม่ว่าหลังจากเผยแผ่ค�ำสอนบนเกาะลังกาแล้ว ข้อความบางแห่งอาจจะแตก ต่างจากเนื้อหาเดิมหรือเพ่ิมเติมแตกหน่อจากฉบับด้ังเดิมหรือไม่ก็ตาม ไม่ว่าการ สังคายนาที่อาลุวิหารจะเพิ่มเน้ือความเข้าไปใหม่ก็ตาม และไม่ว่าพระธรรมวินัยหรือ คัมภีร์อรรถกถาจะถูกตัดทอนดังฉบับที่มีอยู่ในปัจจุบันหรือไม่ก็ตาม ท้ังหลายท้ังปวง น้ีต่างไม่มีใครสามารถบอกได้ แต่ยอมรับกันว่าเป็นเหตุการณ์ส�ำคัญอย่างย่ิง นับต้ังแต่ พุทธศตวรรษที่ ๑๐ เป็นต้นมา พระไตรปิฎกฉบับปัจจุบันได้รับการพิจารณายืนยันแล้วว่า เป็นคัมภีร์ด้ังเดิม สอดคล้องต้องกันท้ังของอินเดียและลังกา เพราะมีหลักฐานยืนยันม่ันคงจากการเดิน ทางมาของพระพุทธโฆษาจารย์และภิกษุฟาเหียน และด้วยความพากเพียรพยายาม อย่างย่ิงของพระสงฆ์เถรวาทที่รักษาความบริสุทธ์ิของพุทธพจน์ จึงเชื่อว่าเป็นการยาก อย่างย่ิงท่ีเน้ือหาในคัมภีร์พระไตรปิฎก จะมีการสับเปลี่ยนหรือเพิ่มเติมสอดแทรก เน้ือหาเข้ามาใหม่ ค�ำถามเกิดขึ้นว่ามีงานเขียนพระพุทธพจน์ก่อนหน้านี้หรือไม่? ประเด็นน้ีวิกรมสิงหะแสดงทัศนะไว้ว่า๔๒ การเขียนวรรณคดีมีอยู่บนผืนเกาะ ลังกาก่อนการสังคายนาท่ีอาลุวิหารอย่างน้อยหน่ึงศตวรรษ โดยแสดงหลักฐานยืนยัน ๔๒ Catalogue, p. x. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 75 1/18/20 1:16 PM
76 เริ่มต้นบันทึกวรรณกรรม ทัศนะของตัวเองว่า มีหลักฐานหลายแห่งในคัมภีร์มหาวงศ์ที่ระบุว่า การเขียนเป็นเร่ือง ปกติและมีมาก่อนสมัยพระเจ้าวัฏฏคามณีอภัย โดยเฉพาะสมัยพระเจ้าทุฏฐคามณี คัมภีร์มหาวงศ์เองได้อ้างถึงคัมภีร์สีหลัตถกถามหาวงศ์และคัมภีร์มหาวังสฎีกา ด้วย หลักฐานดังกล่าววิกรมสิงหะจึงมั่นใจว่าต้องมีการเขียนต�ำราบ้างแล้ว นอกจากน้ันศิลาจารึกเวสสคิริยังระบุอีกว่า๔๓ สมัยน้ันชาวสิงหลคุ้นเคย กับอักษรพราหมีพอที่จะเขียนแม้แต่ภาษาสันสกฤตได้ การกล่าวว่าตั้งแต่สมัยพระเจ้า วัฏฏคามณีอภัยเป็นต้นมา คัมภีร์ส�ำคัญทางพระพุทธศาสนาล้วนถูกถ่ายทอดด้วยมุข ปาฐะคงจะเกินความเป็นจริง บรรดาพระสงฆ์ผู้รู้พระธรรมคัมภีร์เชื่อกันว่า พระไตรปิฎกและอรรถกถา ภาษาสิงหลรวบรวมข้ึนโดยพระมหินทเถระ จึงหมดความสงสัยเร่ืองการสืบทอด พุทธพจน์ด้วยวิธีมุขปาฐะ อาจจะเป็นไปได้ว่าสมัยพระเจ้าวัฏฏคามณีอภัยนั้น พระธรรมวินัยยังไม่มีการจัดระเบียบที่ดี เป็นของหายาก ไม่สมบูรณ์ และเต็มไปด้วย ขอ้ ผดิ พลาดบกพรอ่ ง ซง่ึ เหมอื นกบั คมั ภรี ต์ น้ ฉบบั หลายเลม่ ในปจั จบุ นั ๔๔ การสงั คายนา พระธรรมวินัย ณ อาลุวิหารครานั้น ได้มีการสวดและตรวจทานเนื้อหาในพระไตรปิฎก อย่างละเอียด ส่วนคัมภีร์อรรถกถาได้มีการทบทวนและจ�ำแนกเสียใหม่๔๕ ความจริงการเขียนเป็นท่ีรู้จักกันแม้ในสมัยพุทธกาล กล่าวกันว่าพระเจ้า ปกุ กสุ าตเิ คยเขยี นพระราชสาสนถ์ งึ พระเจา้ โกศลมเี นอื้ หาวา่ ดว้ ยการพรรณนาเชงิ ธรรมะ๔๖ แตส่ นั นษิ ฐานวา่ การเขยี นอาจจะเปน็ เพยี งจดหมายมเี นอ้ื หาสน้ั กะทดั รดั เปน็ ไปไดอ้ ยา่ ง ย่ิงว่าเนื่องจากขาดวัตถุดิบในการขีดเขียน นวัตกรรมทางการเขียนจึงมีขอบเขตจ�ำกัด นอกจากนั้นยังเก่ียวข้องกับการแสดงความเคารพต่อการพูดค�ำสัตย์ทางศาสนา ๔๓ Ep. Zey., i, p. 14. ๔๔ Wickremasinghe, Catal., p. xi. ๔๕ Maha-vagga, i, 43, and again ibid., i, 49 ('sace kho Upali lekham sikkhissati\"). Oldenberg, vol. i, p. 75 and p. 77. ๔๖ Papanca-sudani, Col. Ed., p. 234; also JPTS. 1883, pp. 47-9. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 76 1/18/20 1:16 PM
ศรีลังกา 77 (Saying of religious truths) และเชื่อกันว่าเป็นเร่ืองส�ำคัญสูงสุดเพราะรับโดยตรง จากปากของอาจารย์ แม้ปัจจุบันนี้เราท่านท้ังหลายก็แสดงความเคารพอย่างสูงต่อผู้ สืบทอดพระพุทธพจน์ด้วยการทรงจ�ำ เพราะพระเถราจารย์เหล่าน้ันคือผู้รู้คัมภีร์เป็น อย่างดี ไม่ว่าคัมภีร์จะสูญหายหรือถูกท�ำลายก็ยังรักษาสืบต่อ ส่วนคนท่ีเชื่อถือคัมภีร์เพียงเพ่ือต้องการจับผิดด้วยหลักฐาน ถูกเปรียบเทียบ ว่าเป็นดั่งหนังสือขนาดใหญ่เก็บไว้เต็มบ้านแต่ไม่รู้ความหมาย ปัจจุบันคนท่ีเข้าวัดตาม ชนบทในลังกา จะพบเห็นใบลานห่อหุ้มด้วยผ้าไหมราคาแพงเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี และระวังป้องกันด้วยความทนุถนอมบรรจุไว้ในตู้ ซึ่งฉลุด้วยลวดลายวิจิตรบรรจง บางคนบูชาด้วยดอกไม้ธูปเทียน โดยเช่ือว่าเป็นการกราบไหว้บูชาพระพุทธพจน์ ด้วยวิธีดังกล่าวมาพระสงฆ์จึงได้รับการคาดหมายว่าจะท�ำหน้าที่สืบทอดค�ำสอนด้วย การทรงจ�ำ พระธรรมค�ำสอนของพระศาสดาเจ้าล้วนจดจ�ำด้วยวิธีมุขปาฐะ เบื้องต้น เพียงรูปเดียวต่อมากลายเป็นหมู่คณะ การกระท�ำเช่นนี้หมายถึงการรักษาเผยแผ่ ความรู้เกี่ยวกับพระศาสนา จากข้อมูลท่ีเกิดการยักย้ายถ่ายเทสามารถสร้างจินตนาการ จนเห็นภาพชัดเจนว่าวิธีเช่นนี้มีความเป็นไปได้ พระพุทธโฆษาจารย์กล่าวว่าคร้ังปฐมสังคายนา ณ กรุงราชคฤห์ เมื่อเร่ิมต้น สาธยายพระวินัยปิฎก พระอุบาลีมหาเถระได้รับฉันทานุมัติให้ตรวจทานและรักษา พระวินัยปิฎก๔๗ ส่วนปิฎกอ่ืนก็เช่นเดียวกันต่างได้รับการรักษาโดยพระมหาเถระและ ลูกศิษย์สืบต่อกันมา มีหลายส�ำนักเกี่ยวข้องกับการรักษาพระธรรมวินัย จนกระทั่ง เวลาล่วงเลยผ่านไปจึงเกิดมีพระภิกษุผู้เช่ียวชาญแตกฉานเฉพาะด้าน ดังเช่น ทีฆภาณกะ หมายถึงกลุ่มพระสงฆ์ศึกษาท่องจ�ำทีฆนิกาย มัชฌิมภาณกะ หมายถึง กลุ่มพระสงฆ์ศึกษาท่องจ�ำมัชฌิมนิกาย เป็นต้น ๔๗ Sumangala-vilasini, P.T.S. Ed, p. 15. 1/18/20 1:16 PM 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 77
78 เร่ิมต้นบันทึกวรรณกรรม นอกจากน้ัน คัมภีร์อรรถกถายังกล่าวถึงค�ำว่า วินัยธร (ผู้ทรงพระวินัย) และติเปฏกิ (ผู้เช่ียวชาญพระไตรปิฎก) วิธีการเช่นนี้เป็นส่วนหน่ึงในการสืบทอด พระธรรมวินัยจากต้นก�ำเนิดเดิมแท้เป็นเวลายาวนาน ศิลาจารึกของพระเจ้ากัสสปะที่ ๕ ณ มิหินตะเลระบุว่า พระสงฆ์ผู้ท�ำหน้าท่ี ท่องบ่นส่วนแห่งพระไตรปิฎกอย่างช�ำนาญด้วยวิธีมุขปาฐะย่อมได้รับความเคารพ สูงสุด๔๘ ส�ำหรับภาระหน้าที่ของพระสงฆ์ ๕๐๐ รูป ผู้ท�ำการสังคายนาที่อาลุวิหาร คือ จัดแบ่งเน้ือความในพระไตรปิฎกและอรรถกถาอย่างเป็นระเบียบ จนกระท่ังอะไรที่ผิด พลาดคลาดเคล่ือนแม้เพียงน้อยนิดก็ไม่ปรากฏพบเห็น จนกลายมาเป็นมรดกอันล�้ำค่า ของคนจ�ำนวนมาก ภารกิจส�ำคัญใหญ่หลวงเช่นน้ีถือว่าเป็นการก้าวไปข้างหน้าอย่าง มน่ั คง ตง้ั แตน่ นั้ เปน็ ตน้ มา พระสงฆน์ กั ปราชญต์ า่ งชว่ ยกนั ศกึ ษาสว่ นแหง่ พระไตรปฎิ ก ด้วยการท่องจ�ำ ส่ังสอนลูกศิษย์และอธิบายเป็นภาษาสิงหล แต่ละก้าวย่างต่างเป็นอยู่ ด้วยการรวบรวมค�ำสอนที่เป็นแก่นแท้ การช่วยเหลือจดจ�ำส่ิงท่ีบรรยายด้วยคาถาอัน ซับซ้อน บ่อยครั้งย่อมเกิดข้อผิดพลาดไม่ตรงตามแบบแผนต้นฉบับดั้งเดิม แต่ คัมภีร์เหล่าน้ันไม่หลงเหลือตกทอดมาถึงปัจจุบัน เหตุเพราะการสังคายนาท่ีอาลุวิหาร ได้เปลี่ยนแปลงข้อผิดพลาดเหล่าน้ันหมดส้ิน พระเถราจารย์เหล่านั้นได้ช่วยกันจัดระบบค�ำสอนในพระไตรปิฎกเสียใหม่ จนกระท่ังการศึกษาพระไตรปิฎกกลายเป็นของง่ายขึ้น การบันทึกวรรณคดีลงในใบ ลานชว่ ยใหเ้ กดิ พฒั นาการเปน็ มาตรฐานขน้ึ เพราะการเขยี นวรรณกรรมเหลา่ นน้ั สามารถ พัฒนาได้อย่างรวดเร็วในระยะเวลาอันสั้นดีกว่าการจดจ�ำด้วยมุขปาฐะ เม่ือแต่ละปิฎก ได้รับการส่ังสอนจากอาจารย์สู่ลูกศิษย์โดยท�ำหน้าที่รักษาสืบต่อ การสังคายนาท่ี อาลุวิหารจึงได้รับการเคารพยกย่องว่าเป็นผลงานอันประเมินค่ามิได้ ๔๘ Ep. Zey., i, pt. ii, p. 56. 1/18/20 1:16 PM 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 78
ศรีลังกา 79 ท่านข้าหลวงอังกฤษนามว่า ลอร์ด โรเบิร์ต ชาลเมอร์ส (Lord Robert Chalmers) กล่าวไว้ว่า๔๙ บรรดาเราท่านทั้งหลาย ซอกเขาเล็กแคบของอาลุวิหาร แห่งน้ี ท�าให้ร�าลึกนึกถึงร่องรอยทางประวัติศาสตร์ท่ีหลงเหลืออยู่ เป็นร่องรอยแห่ง ความทรงจ�าสะท้อนให้เห็นถึงความพากเพียรของพระสงฆ์ ๕๐๐ รูป ที่เสียสละทุ่มเท จนกระทง่ั ฝากผลงานอนั ทรงคณุ คา่ อมตะ กลายเปน็ ประวตั ศิ าสตรแ์ หง่ วงการวรรณกรรม ของโลก หลายศตวรรษต่อมาพระพุทธโฆษาจารย์นักปราชญ์ด้านสารานุกรม ได้เดิน ทางมาเยี่ยมชมสถานที่ส�าคัญทางประวัติศาสตร์แห่งน้ี การสังคายนาพระธรรมวินัยดังกล่าวชื่อว่าเป็นการศึกษาประเพณีดั้งเดิมแท้ ของเถรวาท เป็นการปกป้องรักษาพระธรรมวินัยอย่างเสียสละกล้าหาญท่ามกลาง สงครามและความอดยากแรน้ แคน้ สว่ นขอ้ มลู หลกั ฐานทเี่ รยี บเรยี งเสรจ็ สนิ้ ครง้ั สงั คายนา คราน้ัน ได้สะสมเก็บไว้ที่ส�านักมหาวิหารและอารามส�าคัญหลายแห่งทั่วเกาะลังกา๕๐ ๔๙ Public Hall, Colombo, 27th February, 1915. 1/18/20 1:16 PM ๕๐ Pujavaliya, Col. Ed., p. 198. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 79
80 เร่ิมต้นบันทึกวรรณกรรม (บนซ้าย) รูปปั้นพระนางวิหารมหาเทวี และ (บนขวา) รูปปั้นพระเจ้ากากวัณณติสสะ ภายใน บริเวณวัดติสสมหารามราชมหาวิหาร เมืองติสสมหารามะ (คัดลอกภาพจาก www.google. co.th-maps) การกระท�ำยุทธหัตถีระหว่างพระเจ้าทุฏฐคามณีกับพระเจ้าเอฬาระ (คัดลอกภาพจาก http:// rasinisamarasinghe.blogspot.com) 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 80 1/18/20 1:16 PM
ศรีลังกา 81 ติสสมหารามเจดีย์ เมืองติสสมหารามะ (คัดลอกภาพจาก www.google.co.th/maps) พระพุทธรูปศิลาภายในวัดโสมาวตีราชมหาวิหาร นอกเมืองเก่าโปโฬนนารุวะ (คัดลอกภาพจาก www.google.co.th/maps) 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 81 1/18/20 1:16 PM
82 เริ่มต้นบันทึกวรรณกรรม (บนซ้าย) พระไตรปิฎกชาดกบาลีอักษรสิงหล และ (บนขวา) พระไตรปิฎก- ทีฆนิกายบาลีอักษรสิงหล (ล่างซ้าย) คัมภีร์ธัมมสังคณีปปกรณะอักษรสิงหล และ (ล่างขวา) คัมภีร์ เนตติปปกรณะอักษรสิงหล 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 82 1/18/20 1:16 PM
ศรีลังกา 83 รุวันแวฬิแสยเจดีย์หรือต้นแบบเจดีย์ช้างล้อมของไทย เมืองเก่าอนุราธปุระ (คัดลอกภาพจาก www.google.co.th/maps) มิริสแวฏิยเจดีย์ เมืองเก่าอนุราธปุระ (คัดลอกภาพจาก www.google.co.th/maps) 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 83 1/18/20 1:16 PM
84 พัฒนาการด้านวัฒนธรรม 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 84 1/18/20 1:16 PM
ศรีลังกา 85 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 85 1/18/20 1:16 PM
ภาพจิตรกรรมฝาผนังวัดศรีสุโพธาราม เขตเดหิวาละ เมืองหลวงโคลัมโบ 1/18/20 1:16 PM 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 86
บทที่ ๔ พัฒนาการด้านวัฒนธรรม เรื่องราวภายในพระราชส�ำนัก หลังจากพระเจ้าวัฏฏคามณีอภัยสวรรคตสิ้นแล้ว กษัตริย์ครองราชย์สืบต่อมา ไม่ค่อยมีชื่อเสียงมากนัก อีกทั้งอายุการครองราชย์ก็แสนสั้น พระองค์แรกคือพระเจ้า มหาจูฬิมหาติสสะ ผู้ศรัทธาม่ันคงในพระเถระนามว่าสุมนะ ช่วงท้ายการครองราชย์ ของพระองค์มีเหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้น กล่าวคือพระราชนัดดานามว่านาคะหรือโจรนา คะก่อการจลาจล กษัตริย์พระองค์นี้เป็นท่ีรู้จักกันว่าย�่ำแย่ที่สุดหากเปรียบเทียบกับ บูรพกษัตริย์ เพราะมีอุปนิสัยโลเลโหดร้ายทารุณ ถึงแม้จะปรากฏมีศาสนสถานอันยิ่ง ใหญ่หลายราชวงศ์เคยอุปถมั ภ์สร้างไว้ อันเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกถึงความศรัทธามัน่ คง ต่อพุทธศาสนา แต่ส่ิงเหล่าน้ีมิได้แสดงว่าเป็นความม่ังค่ังแท้จริงอันใดเลย เพราะศัตรู ภายในของชาวสิงหลคือพระเจ้าโจรนาคะน่ันเอง พระองค์เป็นผู้ท�ำลายคณะสงฆ์ เหตุเพราะพระสงฆ์เคยปฏิเสธให้ความช่วยเหลือคราวเม่ือพระองค์เที่ยวปล้นสะดม ชาวบ้าน พระองค์มิได้สงเคราะห์พระพุทธศาสนาแม้แต่น้อย ตลอดการครองราชย์ ๑๒ ปี เต็มไปด้วยการกดขี่ข่มเหงไพร่ฟ้าประชาชน จนเป็นเหตุให้พระมเหสีนามว่า อนุลาลอบวางยาพิษ อาณาประชาราษฎร์จึงหายใจโล่งอก แต่พระนางอนุลาเทวีเองก็ ไม่ต่างอะไรกับพระสวามีมากนัก เหตุเพราะมักมากในกามารมณ์หมกหมุ่นคาวโลกีย์ ใฝ่หากามราคะไม่รู้จักพอ จนกล่าวกันว่าไม่มีสิ่งใดท�ำให้พระนางละเลิกพฤติกรรมอัน น่ารังเกียจอับอายได้ นอกจากยาพิษเท่าน้ัน ต�ำนานลังกาขนานนามพระนางว่าพระนางเมสสลินาแห่งลังกา ต่อมาไม่นานพระนางถูกลอบปลงพระชนม์โดยเจ้าชายกูฏกัณณติสสะ ผู้ทน เห็นความทุกข์เข็ญของไพร่ฟ้าประชาชนโดยปราศจากผู้น�ำกอปรด้วยคุณธรรมไม่ได้ พระองค์จึงสละเพศบรรพชิตออกมาน�ำชาวบ้านจับพระนางอนุลาปลงพระชนม์เสีย 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 87 1/18/20 1:16 PM
88 พัฒนาการด้านวัฒนธรรม พระองค์ทรงครองราชย์อยู่หลายปีก่อนท่ีจะเสด็จสู่สวรรคาลัย๑ พระราชโอรสนามว่า ภาฏิกอภัยทรงครองราชย์สืบแทน เป็นระยะเวลา ๒๘ ปี ตลอดรัชสมัยของพระองค์ ไม่มีเหตุการณ์วุ่นวายสิ่งใดเกิดขึ้น กล่าวกันว่าพระองค์ทรงเป็นผู้น�ำที่มีความเท่ียงตรง กอปรด้วยคุณธรรมน่าสรรเสริญ ส่ิงแรกที่พระองค์ทรงกระท�ำหลังจากขึ้นครองราชย์ คืองดรายจ่ายเกี่ยวกับพระองค์เอง๒ ส่วนด้านพระพุทธศาสนาก็ศรัทธาม่ันคงอุปถัมภ์ คณะสงฆ์เป็นอย่างดี ต�ำนานได้สาธยายอย่างยืดยาวเกี่ยวกับเทศกาลท่ีพระองค์ทรง ให้จัดข้ึนทุกปี โดยเฉพาะงานเฉลิมฉลองพระมหาสถูป (รุวันแวลิมหาแสยะเจดีย์) ผู้เฒ่าผู้แก่ต่างเล่าสู่ลูกหลานถึงพระเกียรติประวัติเหมือนนิทานปรัมปราจนถึงปัจจุบัน คร้ังหน่ึงพระองค์รับสั่งให้ใช้เงินส่วนพระองค์ซื้อดอกมะลิ แล้วปูเป็นพรมจาก บันไดข้ันแรกของพระมหาเจดีย์จนถึงยอดฉัตรโดยล�ำเลียงมาทางน้�ำจากอ่างเก็บน้�ำ อภัยด้วยเครื่องยนต์ อีกทั้งคลุมด้วยดอกไม้หลากหลายสี๓ นอกจากนั้นโปรดให้สร้าง ตาขา่ ยทำ� ดว้ ยหนิ ปะการงั สำ� หรบั ครอบเจดยี ์ ตาขา่ ยแตล่ ะตาประดบั ประดาดว้ ยดอกบวั ทองขนาดใหญ่เท่าดุมเกวียน พร้อมท้ังห้อยพวงระย้าแห่งมุกดาภายในดอกบัวใหญ่ อีกช้ันหน่ึง พระองค์ทรงบูชามหาสถูปด้วยไทยธรรมมากมายขนาดนี้แล ส�ำหรับปัญจ ปริเวณะรอบพระนครเมืองหลวงน้ัน โปรดให้อุปถัมภ์ดูแลด้วยปัจจัยส่ีตลอด พระชนม์ชีพ หนงึ่ ศตวรรษหลงั จากรชั สมยั ของพระเจา้ ภาฏกิ อภยั เปน็ ยคุ แหง่ การเปลย่ี นแปลง ราชวงศ์สิงหลคร้ังส�ำคัญ กษัตริย์หลายพระองค์สืบทอดราชสมบัติอย่างรวดเร็ว อาจเปน็ เพราะมผี อู้ า้ งสทิ ธเ์ิ หนอื บลั ลงั กล์ งั กาเปน็ จำ� นวนมาก สมยั พระเจา้ กนริ ชาณตุ สิ สะ พระสงฆ์พยายามแทรกแซงการเมืองจนท�ำให้เกิดความเสียหายตามมา๔ ๑ M.V., xxxiv, vv. 16 foll. 1/18/20 1:16 PM ๒ Ibid., xxxiv, v. 38. ๓ Ibid., xxxiv, vv. 44 foll. ๔ Ibid., xxxv, vv. 10,11. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 88
ศรีลังกา 89 ต่อมาราชวงศ์ลัมพกัณณะ ซึ่งสืบเช้ือสายมาจากเจ้าชายที่เดินทางเข้ามาลังกา พร้อมกับพระสังฆมิตตาเถรีคราวนั้น มีจ�ำนวนสมาชิกเพ่ิมมากข้ึนจนมีอิทธิพลต่อ แผน่ ดนิ ลงั กา เชอื้ พระวงศเ์ หลา่ นก้ี ลายเปน็ ผสู้ รา้ งความวนุ่ วายอยเู่ นอื งนติ ย์ จนสดุ ทา้ ย สามารถแย่งชิงราชสมบัติได้ส�ำเร็จ ตลอดการครองราชย์ของราชวงศ์ลัมพกัณณะ มีเพียงพระเจ้าวสภะเท่านั้นที่น่าสนใจ พระองค์ทรงเป็นปราชญ์มุ่งม่ันแต่เร่ืองท�ำ ความดี โปรดให้อุปถัมภ์ถวายเครื่องไทยธรรมแก่พระสงฆ์เป็นนิตย์ แต่สงเคราะห์ เฉพาะพระสงฆ์ผู้เป็นพระธรรมกถึกและผู้ท�ำหน้าที่เป็นครูสอนเท่าน้ัน๕ นอกจากนั้น โปรดให้บูรณปฏิสังขรณ์อารามวิหารอีกมากหลายตลอดดินแดนแคว้นลังกา เพ่ือให้ เป็นสถาบันการศึกษาของพระสงฆ์ จารึกบรรยายไว้ว่าพระองค์ได้มอบถวายรางวัลแก่ พระเถระนามว่ามชิพกาผู้พ�ำนักใกล้เมืองหลวงอนุราธปุระ๖ สมัยต่อมาพวกทมิฬโจฬะเข้ามารุกรานลังกาและปล้นชิงทรัพย์สมบัติไปเป็น จ�ำนวนมาก อีกท้ังจับชาวสิงหลมากมายไปเป็นเชลย การเหยียดหยามคร้ังน้ีเป็นเหตุ ให้พระเจ้าคชพาหุยกทัพเข้าตีนครตันชอร์ (Tanjore) กษัตริย์แห่งตันชอร์ถูกโจมตี โดยไม่ได้ระวังต้ังตัว จึงยอมท�ำตามค�ำเรียกร้องของพระเจ้าคชพาหุทุกประการ๗ เหตุการณ์คร้ังนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกที่กษัตริย์สิงหลยกทัพออกนอกเกาะลังกา ผลแห่ง ความส�ำเร็จครั้งนั้นน�ำมาซึ่งชื่อเสียงและความภาคภูมิใจ เชลยชาวทมิฬโจฬะ ๑๒๐,๐๐๐ คน ถูกน�ำมายังอาณาจักรอนุราธปุระ และโปรดให้ต้ังถ่ินฐานตามบริเวณ โดยรอบเกาะลังกา จนต่อมากลายเป็นประชากรของลังกาโดยปริยาย ลูกหลานของ เชลยเหล่านั้นท่ีอาศัยอยู่ตามบรรดาหัวเมืองน้อยใหญ่ต่างสืบเชื้อสายต่อมาจนถึง ปัจจุบัน จึงเป็นเหตุให้ภาษาทมิฬมีอิทธิพลต่อภาษาสิงหล จนสามารถพบเห็นเป็น จ�ำนวนมากในวรรณคดีภาษาสิงหล ๕ M.V., xxxv, vv. 92-93. 1/18/20 1:16 PM ๖ Ep. Zey., vol. i, pt. ii, p. 69. ๗ Pieris, op. cit., p. 9. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 89
90 พัฒนาการด้านวัฒนธรรม ครั้งนั้นกษัตริย์ทมิฬโจฬะได้มอบถวายก�ำไลเท้าอัญมณีของเทพธิดาปัตตินิ อีกท้ังสัญลักษณ์เคร่ืองหมายของเทพวิษณุ (Visnu) เทพกรติเกยะ (Kartikeya) เทพนาถะ (Natha) และเทพธิดาปัตตินิ (Pattini) ความเชื่อเกี่ยวกับเทพเจ้าเหล่านี้ จึงเป็นท่ีรู้จักแพร่หลายตั้งแต่บัดน้ันมา วรรณคดีมากหลายที่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ เทพเจ้าเหล่าน้ีสามารถพบเห็นแม้ในปัจจุบัน อีกท้ังตระกูลท่ีท�ำพิธีกรรมบูชา สวดสรรเสริญเทพเจ้าเหล่าน้ียังมีการรักษาสืบต่อจนถึงทุกวันนี้๘ ท�ำลายพวกไวตุลยะ ตั้งแต่บัดน้ันเป็นต้นมา ไม่มีเหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้นจนย่างเข้าสู่รัชสมัย ของพระเจ้าโวหารกติสสะ เหตุที่มีพระนามเช่นนั้นเพราะพระองค์ทรงมีความเช่ียวชาญ ด้านกฎหมายย่ิงนัก พระองค์โปรดให้ยกเลิกกฏหมายว่าด้วยการลงโทษขั้นรุนแรง ดังเช่นการประหารชีวิต ทรงเป็นศาสนูปถัมภกด้านการศึกษาและสนับสนุนคณะสงฆ์ ทุกด้าน๙ สมัยน้ันมีพระเถระสองรูป ผู้เป็นท่ีเคารพนับถือของพระองค์ กล่าวคือ พระเทวเถระ พระนักเทศน์นามอุโฆษแห่งวัดกัปปุกคามะ และพระมหาติสสเถระ จอมปราชญ์แห่งวัดอนุราราม ณ แคว้นโรหณะแดนใต้ ส่วนคุณูปการที่พระองค์มีต่อ คณะสงฆ์นั้นมากมายยิ่งนักเกินจะพรรณนา เหตุการณ์น่าสนใจสมัยพระองค์คือโปรดให้พระสงฆ์สวดคัมภีร์อริยวังสะ เป็นกิจวัตรเช้าเย็น ทรงรับส่ังว่าการสวดมนต์ต้องจัดให้มีข้ึนท่ัวเกาะลังกา เพ่ือแสดง ความเคารพต่อค�ำสอนอันบริสุทธ์ิแท้จริง๑๐ ปัจจุบันคัมภีร์อริยวังสะได้เปล่ียนแปลง ความหมายใหม่เป็นคัมภีร์ศักด์ิสิทธ์ิ เน้ือหาของคัมภีร์ว่าด้วยประวัติพระอริยสาวก และพระอริยสาวิกาองค์ส�ำคัญ กล่าวกันว่าเป็นแบบอย่างอันดีย่ิงส�ำหรับการด�ำเนิน ชีวิตของไพร่ฟ้าประชาชน ๘ JRAS, (C.B.), vol. viii (29), 462; ix (32, 312); 43. ๙ M.V., xxxvi, vv. 28 foll. ๑๐ Ibid., xxxvi, v. 38. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 90 1/18/20 1:16 PM
ศรีลังกา 91 ความจริงชาวพุทธคุ้นเคยกับประเพณีการสวดมนต์เช่นนี้มาก่อนแล้ว ประเพณีดังกล่าวยังมีการรักษาสืบเนื่องเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะตามหมู่บ้าน ชนบทห่างไกล ทุกวันเพ็ญสิบห้าค�่ำชาวบ้านต่างมาชุมนุมพร้อมกันท่ีวัด พระสงฆ์ จะทำ� หนา้ ทสี่ าธยายเรอื่ งราวชวี ติ ของอบุ าสกอบุ าสกิ าคนสำ� คญั จากหนงั สอื เกา่ แกโ่ บราณ บรรดาเรื่องเหล่านั้นน�ำมาจากคัมภีร์อรรถกถาชาดกและอรรถกถาธรรมบท ปัจจุบัน ไม่สามารถระบุได้ว่าคัมภีร์อริยวังสะฉบับเดิมแต่งเป็นภาษาสิงหลหรือภาษาบาลี หรืออาจจะแต่งเป็นทั้งสองภาษา ไม่ว่าชาวบ้านจะสามารถประพฤติปฏิบัติตามเร่ืองราว เหล่านั้นได้หรือไม่ พระสงฆ์ก็ยังท�ำหน้าที่สาธยายบอกกล่าวเรื่อยมาจวบจนปัจจุบัน สมัยเดียวกันนี้เอง คณะสงฆ์ต้องประสบกับปัญหาความวุ่นวายแตกแยก ด้วยว่าเกิดการโต้เถียงขัดแยังกันขึ้นระหว่างส�ำนักมหาวิหารและส�ำนักอภัยคิรีวิหาร ซึ่งต่างแยกกันปกครองกลุ่มตัวเองเป็นเอกเทศ๑๑ อีกทั้งไม่ร่วมท�ำสังฆกรรมลงอุโบสถ เดียวกัน ทั้งสองฝ่ายต่างเป็นศูนย์กลางการศึกษาสงฆ์เหมือนกัน ความคิดเห็น แตกต่างเก่ียวกับพระธรรมวินัยเกิดมีข้ึนต้ังแต่สมัยพระเจ้าภาฏิกอภัย แต่กลายมาเป็น การถกเถียงโต้แย้งขั้นรุนแรงสมัยน้ี ก่อนที่ปัญหาจะลุกลามใหญ่โต พระเจ้าแผ่นดิน มอบหมายแต่งต้ังเสนาบดีทีฆการายนะผู้แตกฉานพระไตรปิฎก ให้ท�ำหน้าท่ีช�ำระ ไตส่ วนระงับอธกิ รณ์ หลังจากตรวจสอบอย่างละเอยี ดรอบคอบแล้ว เสนาบดีตดั สนิ ใจ ให้พระสงฆ์ส�ำนักมหาวิหารเป็นฝ่ายชนะ๑๒ กล่าวตามหลักฐานพระเจ้าโวหารกติสสะไม่ทรงเห็นความแตกต่างด้านหลัก ค�ำสอนระหว่างสองส�ำนัก จึงโปรดให้ความอุปถัมภ์พระสงฆ์ท้ังสองฝ่ายอย่างเท่าเทียม กัน แม้ชาวบ้านก็เช่นเดียวกันต่างมองไม่เห็นความแตกต่างเรื่องวัตรปฏิบัติของ พระสงฆ์ทั้งสองกลุ่ม จึงให้การสนับสนุนช่วยเหลือเสมอเหมือนกัน พระสงฆ์กลุ่ม ธรรมรุจิน้ันถึงแม้ไม่สามารถเป็นผู้น�ำด้านค�ำสอนตามที่คิดกันเอาไว้ก็ตาม แต่ได้ก่อ เกิดพัฒนาการทางความคิดมากมายต่อลังกา ๑๑ Nikaya-sangraha, pp. 12-13. ๑๒ Colombo Ed., p. 189. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 91 1/18/20 1:16 PM
92 พัฒนาการด้านวัฒนธรรม กษัตริย์ลังกาทุกพระองค์ต่างให้ความอุปถัมภ์ทั้งสองส�ำนักด้วยความเสมอ ภาคเท่าเทียมกันตลอดมา ดังเช่น พระเจ้าวสภะโปรดให้สร้างกุฎีถวายท้ังส�ำนัก มหาวหิ ารและสำ� นกั อภยั คริ วี หิ าร๑๓ พระเจา้ คชพาหโุ ปรดใหส้ รา้ งยอดฉตั รอภยตุ ตรสถปู มอบถวายส�ำนักมหาวิหาร และสร้างอ่างเก็บน้�ำคามณิติสสะมอบถวายส�ำนักอภัย- คิรีวิหาร๑๔ สว่ นพระเจ้ากณฏิ ฐติสสะโปรดใหส้ ร้างอาคารขนาดใหญ่นามวา่ รตั นปราสาท มอบถวายพระมหานาคเถระแหง่ สำ� นกั อภยั คริ วี หิ าร พรอ้ มกนั นนั้ โปรดใหส้ รา้ งปราสาท ๑๒ หลัง แล้วมอบถวายแด่ส�ำนักมหาวิหาร และโปรดให้สร้างถนนมุ่งตรงไปยัง ทักขิณาคิรีวิหารด้วย๑๕ จะเห็นได้ว่าทั้งสองส�ำนักต่างด�ำรงคงอยู่เคียงข้างกัน พระสงฆ์ส�ำนักมหาวิหารน้ันขาดความประนีประนอมด้านค�ำสอน ขณะท่ี ส�ำนักอภัยคิรีวิหารเปิดกว้างส�ำหรับความคิดแบบใหม่ การโต้เถียงได้ปะทุข้ึนอีกคร้ัง ตอนปลายรัชสมัยของพระเจ้าโวหารกติสสะ เมื่อพระสงฆ์แห่งส�ำนักอภัยคิรีวิหารได้ ยอมรับพระธรรมวินัยของพวกไวตุลยะ ซึ่งผู้น�ำเป็นพราหมณ์นามว่าไวตุลยะ แต่งตัว เลียนแบบพระสงฆ์มีจุดประสงค์ท�ำลายพระพุทธศาสนา ซ่ึงแยกตัวมาสมัยพระเจ้า อโศกมหาราช โดยอ้างว่าพระธรรมวินัยที่ตนนับถือเป็นค�ำสอนแท้จริงของพระพุทธเจ้า ครน้ั เปรยี บเทยี บกบั คำ� สอนดง้ั เดมิ แทแ้ ลว้ พระสงฆแ์ หง่ สำ� นกั มหาวหิ ารผเู้ ปน็ เถรนกิ าย จึงได้ปฏิเสธค�ำสอนของพวกไวตุลยะเสีย เพราะเห็นว่าตรงกันข้ามกับค�ำสอนของ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า๑๖ หลักฐานบอกว่ายุคสมัยพระเจ้าอโศกมหาราชน้ัน มหายานถือก�ำเนิดขึ้น เรยี บรอ้ ยแลว้ คำ� วา่ ไวตลุ ยะนา่ จะมาจากไวตลุ ยสตู ร ซงึ่ เชอื่ วา่ เปน็ คำ� สอนของมหายาน๑๗ ก�ำเนิดมหายานเป็นท่ีรู้จักกันว่ามีมาตั้งแต่สมัยหลังพุทธปรินิพพานสองศตวรรษหรือ ๑๓ M.V., xxxv, v. 57. ๑๔ Ibid., xxxv, vv. 119-22. ๑๕ Ibid., xxxvi, vv. 7-14. ๑๖ p. 12. ๑๗ See also Geiger, M.V., p. 259, footnote 2. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 92 1/18/20 1:16 PM
ศรีลังกา 93 อาจจะมีมาก่อนหน้านั้น แต่กลายมาเป็นท่ีรู้จักแพร่หลายสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช อีกท้ังมีงานเขียนของท่านอัศวโฆษะเป็นพยานหลักฐานยืนยัน การโต้ตอบของส�ำนักมหาวิหารบานปลายกลายเป็นเรื่องลุกลามใหญ่โต จน ทางอาณาจักรต้องเข้ามาแทรกแซงช่วยเหลือ โดยพระเจ้าโวหารกติสสะมอบหมายให้ เสนาบดนี ามวา่ กปลิ ะเปน็ ผทู้ ำ� หนา้ ทไ่ี ตส่ วนระงบั อธกิ รณ์ เพราะเปน็ ผเู้ ชยี่ วชาญแตกฉาน ความรู้หลากหลายสาขา หลังจากตรวจสอบโดยละเอียดแล้ว เสนาบดีกปิละกราบทูล ว่าค�ำสอนของพวกไวตุลยะขัดแย้งกับค�ำสอนของพระศาสดาเจ้าจริง พระเจ้าโวหาร กติสสะจึงรับส่ังให้เผาท�ำลายคัมภีร์ของพวกไวตุลยะหมดส้ิน และถอดยศพวกภิกษุ ส�ำนักอภัยคิรีวิหารที่ยอมรับค�ำสอนของคนนอกรีต พร้อมทั้งให้เนรเทศออกจาก เกาะลังกาเสีย๑๘ น้ีเป็นปฏิกิริยาอันเลวร้ายท่ีสุดอันเนื่องมาจากการขาดความผ่อนปรน จนไม่มี ต�ำราของพวกไวตุลยะแม้แต่เล่มเดียวหลงเหลือตกทอดมาถึงปัจจุบัน จึงไม่สามารถ ยืนยันได้ว่าแนวค�ำสอนของส�ำนักอภัยคิรีวิหารแตกต่างจากส�ำนักมหาวิหาร ซ่ึงอ้างตน ว่าเป็นเถรวาทด้ังเดิมมากน้อยอย่างไร ควรบันทึกไว้ตรงนี้ว่าสมัยพุทธกาลน้ันค�ำสอน เน้นการประนีประนอมกับความเชื่อท่ีกลุ่มอื่นชื่นชอบ แต่พระสงฆ์กลับแสดง ความรุนแรงกล่ันแกล้งกันเองจนเกิดการแตกแยกแบ่งฝ่าย พระวินัยน้ันพยายามน�ำความสามัคคีเข้ามาเป็นแบบแผนเดียวกัน ภายใต้ ร่มเงาความเป็นสาวกของพระสมณโคดม แต่ความม่ันใจแน่วแน่ในความยิ่งใหญ่ ของศาสนาแห่งตน เป็นการยืนยันม่ันคงปราศจากความสนใจข้อผิดพลาดจนมองเห็น ว่ากลุ่มอื่นเป็นปรปักษ์ หรือภูมิใจในความถูกต้องแห่งค�ำสอนที่รักษาสืบต่อกันมา แล้วโจมตีคู่ปรปักษ์อย่างเปิดเผยโดยไม่ใส่ใจว่าถูกหรือผิด เพราะม่ันใจแน่วแน่ใน ความแข็งแกร่งแห่งศรัทธาและเฝ้าระวังการตื่นตัวคัดค้านภายใน ความชื่นชอบกลาย เป็นเหตุแห่งการแตกแยก ความไม่ประนีประนอมจึงแสดงผลทันที เม่ือพระสงฆ์ ๑๘ Nikaya-sangraha, p. 13. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 93 1/18/20 1:16 PM
94 พัฒนาการด้านวัฒนธรรม (บน) ทวารบาลบริเวณทางเข้าพระราชวัง เมืองเก่าอนุราธปุระ (ล่าง) ซากพระราชวัง เมืองเก่า อนุราธปุระ (คัดลอกภาพจาก www.google.co.th/maps) 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 94 1/18/20 1:16 PM
ศรีลังกา 95 หัลเปปัตตินิเทวาลัย เขตบดุลละ (คัดลอกภาพจาก https://en.wikipedia.org) 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 95 1/18/20 1:16 PM
96 พัฒนาการด้านวัฒนธรรม อภัยคิรีเจดีย์ เมืองเก่าอนุราธปุระ (คัดลอกภาพจาก www.goolge.co.th/maps) บริเวณส�ำนักอภัยคิรีวิหาร เมืองเก่าอนุราธปุระ (คัดลอกภาพจาก www.google.co.th/maps) 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 96 1/18/20 1:16 PM
ศรีลังกา 97 (บน) รูปปั้นพระเจ้าสิริสังฆโพธิ ภายในวัดอัตตนคัลลวิหาร และ (ล่าง) วฎทาเคหรือวิหาร ทรงกลม ภายในวัดอัตตนคัลลวิหาร (คัดลอกภาพจาก www.google.co.th/maps) 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 97 1/18/20 1:16 PM
98 พัฒนาการด้านวัฒนธรรม ส�ำนักมหาวิหารแสดงปฏิกิริยาตอบโต้อย่างรุนแรง เปรียบเหมือนเห็ดท่ีเบ่งบานยาม รัตติกาล พระสงฆ์ส�ำนักอภัยคิรีวิหารพวกนอกรีตนั้นเริ่มแข็งแกร่งขึ้นทีละเล็กละน้อย คอยโอกาสที่จะโต้ตอบแก้แค้น โอกาสของพวกนอกศาสนาจึงไม่นานเกินรอ กษัตริย์นักบุญสิริสังฆโพธิ กษัตริย์พระองค์ต่อมานามว่าพระเจ้าสิริสังฆโพธิ เป็นท่ีรู้จักกันในนามนักบุญ มากกว่านักปกครอง ทรงเป็นพระเจ้าแผ่นดินอีกพระองค์หน่ึงท่ีได้รับการนับถือมาก ท่ีสุดในประวัติศาสตร์ลังกา พระองค์เสด็จออกผนวชและเสียสละพระชนม์ชีพเพื่อเห็น แก่ประเทศชาติบ้านเมือง เป็นการด�ำเนินรอยตามแบบอย่างองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์เป็นกษัตริย์ที่มีสายพระเนตรอันยาวไกล เปรียบเหมือนบุรุษบนผืนโลกเสีย สละให้แก่ท้องนภากาศ ด้วยเหตุน้ีเองชะตากรรมของพระองค์จึงประสบกับหายนะ คร้ังใหญ่ เหตุเพราะพระองค์ซ่ือสัตย์ยึดม่ันในคุณธรรมตลอดพระชนม์ชีพ คัมภีร์หัตถวนคัลลวังสะวิหารวังสะ ระบุว่าพระองค์ประสูติใต้ร่มเงาแห่ง มหิยังคณเจดีย์ ซ่ึงสร้างข้ึนตรงบริเวณอันเชื่อว่าพระพุทธเจ้าเสด็จเยือนลังกา ทรงได้ รับการส่ังสอนจากพระมหานันทเถระผู้เป็นพระปิตุลา ซ่ึงเพียรพยายามกล่อมเกลาให้ พระองค์เป็นนักปราชญ์กอปรด้วยคุณธรรม หลังจากขึ้นครองราชย์แล้วทรงประพฤติ ในเมตตาธรรม น�ำพาไพร่ฟ้าประชาชนให้อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขร่มเย็นเหมือน ดั่งสวรรค์บนผืนพิภพ ทรงบริหารปกครองบ้านเมืองด้วยความยุติธรรม แต่อาณา ประชาราษฎรผ์ คู้ นุ้ เคยกบั ระบบเดมิ กลบั ไมพ่ อใจแสดงตวั เปน็ พาลจรติ พากนั กอ่ จลาจล น�ำโดยเสนาบดีนามว่าโคฐาภยะ เพราะไม่ปรารถนาเห็นความขัดแย้งสูญเสียของบ้าน เมือง พระเจ้าสิริสังฆโพธิจึงยินดีสละบัลลังก์ออกผนวชเป็นบรรพชิตมุ่งหน้าสู่พงไพร อาศัยมูลผลาหารยังชีพ แต่อริราชศัตรูกลับไม่ปล่อยให้พระองค์มีชีวิตอยู่ได้นาน ตราบ ใดท่ีพระองค์ยังคงใช้นามว่าสิริสังฆโพธิอยู่ รางวัลจ�ำนวนมหาศาลเพื่อพระเศียรของ พระองค์ จึงได้ป่าวประกาศกระจายออกไปท่ัวเกาะลังกา คราน้ันมีผู้รับเคราะห์ถูก ประหารชีวิตเป็นจ�ำนวนมากเหตุเพราะหน้าตาละม้ายคล้ายพระองค์ พระเจ้าสิริสังฆโพธิในเพศบรรพชิตได้เสด็จไปยังอัตตนคัลละ ดินแดนอัน อุดมสมบูรณ์ด้วยแมกไม้นานาพันธุ์ ด้วยสายพระเนตรอันสดใสคมวาวบนร่มเงาแห่ง 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 98 1/18/20 1:16 PM
ศรีลังกา 99 ศลิ าหนาแนน่ แลแมกไมเ้ ขยี วขจี อกี ทงั้ เพยี บพรอ้ มดว้ ยผลาผลไมแ้ ละบปุ ผชาตนิ านาชนดิ พระองค์จึงประทับอยู่บริเวณแห่งนี้มีชีวิตสันโดษด้วยการปฏิบัติธรรม ต่อมาพระองค์ ได้พบกับชาวนาคนหนึ่งซึ่งเดินทางผ่านมา ชาวนาเองไม่ทราบว่าพระองค์เป็นใครเพราะ ทรงด�ำรงเพศเป็นบรรพชิต ครั้นสอบถามถึงเหตุการณ์บ้านเมือง ชาวนาได้กราบทูลให้ ทรงทราบตามความเป็นจริง ด้วยตั้งพระทัยอย่างแน่วแน่ประสงค์เสียสละครั้งย่ิงใหญ่ พระองค์จึงแจ้งให้ชาวนาทราบว่าพระองค์เป็นใคร พร้อมแนะน�ำให้ชาวนาน�ำพระเศียร ของพระองค์ไปมอบถวายกษัตริย์ลังกาเพ่ือรับรางวัลเป็นค่าตอบแทน ชาวนาสามัญ กม้ ลงกราบทพี่ ระบาทพรอ้ มปฎเิ สธการกระทำ� ดงั กลา่ ว แตแ่ ลว้ พระองคไ์ ดต้ ดั พระเศยี ร แล้วมอบให้ชาวนาน�ำไปยังพระราชส�ำนัก เพ่ือมอบถวายแก่พระเจ้าโคฐาภยะ ครั้นเห็นพระเศียรของพระเจ้าสิริสังฆโพธิดังนั้นแล้ว พระเจ้าแผ่นดินลังกา ทรงโศกเศร้าเสียพระทัยยิ่งนักเสด็จด่วนไปยังอัตตนคัลละ คราน้ันนอกจากพบร่างอัน ไร้วิญญาณของพระเจ้าสิริสังฆโพธิแล้ว ยังเห็นร่างของพระมเหสีนอนเคียงใกล้อีก ศพหนึ่ง เพราะพระนางเองออกสืบค้นหาพระสวามีผู้เป็นท่ีรักมาแรมเดือน จากนั้น พระบรมศพของสองพระองค์ได้ประกอบพิธีอย่างย่ิงใหญ่เยี่ยงวีรกษัตริย์ ต้ังแต่น้ันเป็นต้นมาพระเจ้าโคฐาภยะได้เปลี่ยนพฤติกรรมจากคนโหดร้าย กลายเป็นคนดี พระองค์โปรดให้สร้างอนุสาวรีย์แด่พระเจ้าสังฆโพธิผู้จากไป บริเวณ ใกล้สถานท่ีอันพระองค์เคยหลบหลีกความวุ่นวายหาแหล่งปฏิบัติธรรม โดยเฉพาะ ส่ิงก่อสร้างที่ส�ำคัญยิ่งคือวฏทาเค หรือวิหารทรงกลมส�ำหรับบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ โปรดให้ก่อสร้างตรงบริเวณพระจิตกาธานของพระเจ้าสิริสังฆโพธิ๑๙ ด้านศาสนาทรง อุปถัมภ์คณะสงฆ์อย่างต่อเน่ือง ด้วยคุณงามความดีดังกล่าวมา พระองค์จึงสามารถ ผูกมัดใจอาณาประชาราษฎร์ได้อย่างดีย่ิง ความศรัทธาม่ันคงเช่นนี้กลายมาเป็น ขุมทรัพย์มหาศาลแก่ชาวโลก ๑๙ Hatthavanagalla-vamsa (concluding chapters). 1/18/20 1:16 PM 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 99
100 พัฒนาการด้านวัฒนธรรม ตอนตน้ รชั สมยั ของพระองค์ พวกนอกศาสนาไวตลุ ยะกลบั มารงุ่ เรอื งอกี ครง้ั หนง่ึ กลายเป็นความวุ่นวายครั้งใหญ่ย่ิงกว่าครั้งก่อนหลายเท่านัก๒๐ สมัยน้ันมีพระเถระรูป หนึ่งนามว่าอุสสิลิยติสสะผู้เป็นสาวกของพวกไวตุลยะแต่ปฏิเสธเข้าร่วมสังฆกรรมกับ พวกไวตุลยะ ได้พาศิษย์จ�ำนวนหน่ึงแยกตัวออกจากส�ำนักอภัยคิรีวิหารเดินทางไปยัง ทักขิณาคิรีวิหาร พระสงฆ์เหล่าน้ีพากันยอมรับพระสาคลเถระว่าเป็นหัวหน้าแห่งตน เพราะเหตุน้ันจึงรู้จักกันในนามสาคลิยนิกาย ความจริงแล้วพระสาคลเถระก็แยกตัว ออกมาจากพวกธรรมรุจิแห่งส�ำนักอภัยคิรีวิหารเช่นกันแต่หลายปีก่อน เหตุเพราะ ไม่ยอมรับวัตรปฏิบัติของพวกธรรมรุจิ เม่ือพระเจ้าแผ่นดินทรงทราบความวุ่นวายภายในคณะสงฆ์ จึงโปรดให้ พระเถระผู้ใหญ่ห้ารูปแห่งวัดใหญ่ กล่าวคือ มหาวิหาร ถูปาราม อิสสรสมณาราม เวสสคิริวิหาร และเจติยวิหาร ให้ประชุมไต่สวนระงับอธิกรณ์ พระเถระเหล่าน้ันล้วน เป็นเสาหลักของคณะสงฆ์เถรวาท หลังจากไต่สวนพวกคนนอกไวตุลยะอย่างละเอียด แล้ว พระเถระทั้งสิ้นได้ลงสังฆานุมัติพร้อมกันว่าค�ำสอนของไวตุลยะผิดเพ้ียนจาก พระธรรมวินัยของพระพุทธเจ้า พระเจ้าโคฐาภยะจึงโปรดให้เผาท�ำลายคัมภีร์ของ พวกไวตุลยะเสียส้ิน และรับสั่งให้จับพระสงฆ์ผู้เป็นสมัครพรรคพวกไวตุลยะ ๖๐ รูป แล้วเนรเทศออกจากเกาะลังกาเสีย๒๑ พระสงฆ์ที่ถูกเนรเทศเหล่าน้ันพากันไปอาศัยอยู่ที่กาวีระ (Kavira) ทางอินเดีย ตอนใต้ โดยพยายามสร้างฐานอ�ำนาจข้ึนมาใหม่ บรรดาศิษย์ของพวกไวตุลยะเหล่าน้ัน มีหนุ่มนามหน่ึงซึ่งเป็นนักแสวงโชคหันมาบวชเป็นสาวกของพวกไวตุลยะ มีนาม เรียกขานกันว่าสังฆมิตตะ เล่ากันว่าวันหนึ่งขณะพวกภิกษุก�ำลังเปล้ืองผ้าจีวรสรงน้�ำ พระหนุ่มสังฆมิตตะได้เห็นรอยสักอันเป็นสัญลักษณ์บนร่างกายของภิกษุเหล่าน้ัน จึงสอบถามความเป็นมา ครั้นทราบข้อเท็จจริงทั้งสิ้นทั้งปวงแล้ว จึงรับอาสาตามแต่ พระเถราจารย์จะเห็นสมควรเรียกใช้ พระสงฆ์เหล่าน้ันแนะน�ำว่า หากเธอสามารถ ๒๐ Nikaya-sangraha, p. 13. ๒๑ รายละเอียดเกี่ยวกับการแตกแยกนิกายเหล่าน้ี เน้ือหาส่วนใหญ่คัดลอกมาจากคัมภีร์ นิกายสังครหะ 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 100 1/18/20 1:16 PM
ศรีลังกา 101 เดินทางไปลังกาประเทศ และท�ำตนให้เป็นท่ีรู้จักในนามไวตุลยะ พวกเราท้ังปวงอาจ จะสามารถช�ำระหนี้แค้นศัตรูได้ ภกิ ษุหนมุ่ สงั ฆมิตตะผ้เู ช่ือมน่ั ในความสามารถแหง่ ตน จึงรับปากอยา่ งเขม้ แข็ง ว่า ตัวกระผมจะเดินทางไปลังกา เปลี่ยนความคิดพระสงฆ์ส�ำนักมหาวิหารให้หันมา ยอมรับหลักค�ำสอนของไวตุลยะให้จงได้ หากไม่เป็นเช่นนั้นแล้วไซร้ ส�ำนักมหาวิหาร จะต้องถูกท�ำลายถอนรากถอนโคนจนสิ้นซาก จากน้ันพระสังฆมิตตะได้เดินทางถึง มหานครอนุราธปุระและเข้าพักอาศัยส�ำนักอภัยคิรีวิหาร แล้วเร่ิมต้นด�ำเนินการ ตามแผนที่คิดแต่งเอาไว้ ขณะเดียวกันพระสงฆ์นิกายสาคลิยะที่แยกตัวออกมาจากพวกธรรมรุจิ หลายปีก่อนก็มิได้อยู่น่ิงเฉย ได้พยายามทุกวิถีทางเพื่อประกาศค�ำสอนของกลุ่มตนให้ เป็นท่ีรู้จักแพร่หลาย เมื่อเกิดมีความคิดหลากหลาย ชาวบ้านเริ่มสับสนไม่สามารถ ตัดสินใจได้ว่าค�ำสอนของกลุ่มใดเป็นค�ำสอนแท้จริง เพื่อยุติการโต้เถียงกันอันจะน�ำ ไปสู่การทะเลาะวิวาทครั้งใหญ่ พระเจ้าแผ่นดินจึงโปรดให้ทุกนิกายประชุมพร้อมกัน ณ พลับพลาช่ัวคราวบริเวณถูปารามเจดีย์ โปรดให้มีการโต้วาทีแสดงจุดยืนหลัก ค�ำสอนของแต่ละนิกาย คร้ังนี้เองที่พระสังฆมิตตเถระได้ล้มล้างค�ำสอนของเถริยนิกาย และหลักปฏิบัติของส�ำนักมหาวิหารอย่างส้ินเชิง คราวนั้นกษัตริย์ลังกาเข้าใจอย่าง ถ่องแท้ว่าค�ำสอนของพวกไวตุลยะน้ันแล้วถูกต้องตามพระธรรมวินัย แม้ภิกษุผู้เป็น พระปิตุลานามว่าโคฐาภยเถระ ผู้เป็นสมาชิกแห่งส�ำนักมหาวิหารจะพยายามอธิบาย ให้พระองค์เข้าใจว่า ความคิดเช่นนั้นเป็นมิจฉาทิฐิแต่ก็ไร้ผล ชัยชนะจึงเป็นของ พระสังฆมิตตเถระ นับจากบัดน้ันมาถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นแห่งหายนะครั้งใหญ่ของพระสงฆ์ ส�ำนักมหาวิหาร ผู้ท�ำลายส�ำนักมหาวิหาร นี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนาของลังกา ท่ีพระเจ้าแผ่นดิน สิงหลยอมรับค�ำสอนของพวกนอกรีตว่าเป็นศาสนาประจ�ำชาติ นอกเหนือจากค�ำสอน 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 101 1/18/20 1:16 PM
102 พัฒนาการด้านวัฒนธรรม ของเถรวาทดั้งเดิม ตลอดห้าร้อยกว่าปีที่พระสงฆ์ส�ำนักมหาวิหารช่วยกันปกปักรักษา ความบริสุทธ์ิแห่งพระศาสนาเอาไว้ ความล�ำเอียงช่ืนชอบของพระเจ้าแผ่นดินครั้งนี้ ท�ำให้วงการคณะสงฆ์สั่นสะเทือน พวกไวตุลยะน้ันได้จัดประชุมอีกหลายคร้ังเพ่ือหาแนวทางด�ำเนินการ พระ สังฆมิตตเถระกลายเป็นผู้มีอิทธิพลสูงสุดต่อกษัตริย์ลังกา โดยได้รับการแต่งตั้งให้ ด�ำรงต�ำแหน่งเป็นราชครู ผู้ท�ำหน้าที่ส่ังสอนพระราชโอรสสองพระองค์ พระสังฆมิตต เถระทราบว่าพระโอรสเชฏฐาติสสะผู้เป็นเชษฐานั้น ทรงปรีชาฉลาดหลักแหลมนักยาก ต่อการเกลี้ยกล่อมด้วยค�ำสอนท่ีผิด จึงมุ่งความสนใจไปที่พระอนุชานามว่ามหาเสนะ ถึงแม้พระเจ้าโคฐาภยะจะศรัทธาอุปถัมภ์พวกไวตุลยะเป็นอย่างดียิ่ง แต่มิได้ หมายความว่าศรัทธาของพระองค์ต่อพระสงฆ์ส�ำนักมหาวิหารจะเสื่อมคลายลง ยังคงท�ำหน้าที่ปกป้องส�ำนักมหาวิหารจากเจตนาร้ายจ้องท�ำลายของพระสังฆมิตตเถระ เรื่อยมา เพียงแต่ไม่สนับสนุนเต็มท่ีเหมือนเคยกระท�ำมาแต่กาลก่อน หลังจากพระองค์สวรรคตสิ้นแล้ว พระราชโอรสพระองค์ใหญ่นามว่าเชฏฐา ติสสะเสวยราชสมบัติสืบต่อ พระองค์เป็นกษัตริย์หนุ่มยิ่งยโส ทรงมีอุปนิสัยโหดร้าย ป่าเถ่ือนต่อเหล่าราชวงศ์ที่สงสัยว่าไม่จงรักภักดี จนมีพระนามเรียกขานกันว่าพระเจ้า จัณฑาโศก วันเสวยราชสมบัติน้ันพระสังฆมิตตเถระทราบว่ากษัตริย์พระองค์ใหม่ ไม่เป็นมิตร จึงปรึกษากับพระอนุชามหาเสนะผู้เป็นศิษย์ แล้วหลบหนีออกจากลังกา ไปอาศัยอยู่ที่กาวีระทางอินเดียตอนใต้ รอคอยวันที่เจ้าชายมหาเสนะขึ้นเสวยราชย์ เหนือบัลลังก์ลังกา ตลอดรัชสมัยของพระเจ้าเชฏฐาติสสะ พระองค์ทรงอุปถัมภ์ พระสงฆ์ส�ำนักมหาวิหารอย่างเต็มที่ ครั้นสิ้นพระชนม์แล้วผู้สืบทอดต�ำแหน่งคือ พระอนุชามหาเสนะ ทันทีท่ีขึ้นครองราชย์พระองค์ได้ส่งพระราชสาสน์ไปนิมนต์ พระสังฆมิตตเถระอาจารย์แห่งตน ผู้สอบถามการเสวยราชย์ของพระองค์อยู่ทุกคืนวัน พระราชสาสน์นั้นแสดงให้เห็นว่าพระองค์ก�ำหนดชะตากรรมของพระสงฆ์ส�ำนัก มหาวิหาร นบั จากวนั ยา่ งกายเขา้ สอู่ าณาจกั รอนรุ าธปรุ ะอกี ครา พระสงั ฆมติ ตเถระพยายาม ทุกวิถีทาง เพื่อเกลี้ยกล่อมพระสงฆ์ส�ำนักมหาวิหารให้ยอมรับค�ำสอนของไวตุลยะ 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 102 1/18/20 1:16 PM
ศรีลังกา 103 แตส่ ำ� นกั มหาวหิ ารยงั มนั่ คงแนว่ แนต่ อ่ คำ� สอนอนั จรงิ แท้ ซง่ึ รกั ษาสบื ตอ่ มาจากบรู พาจารย์ พระสังฆมิตตเถระประกาศว่าการปฏิเสธเช่นน้ันจะถูกลงโทษ แต่เป็นเพียงแค่ค�ำขู่หา มีเหตุการณ์อันใดเกิดข้ึนไม่ พระสังฆมิตตเถระจึงตัดสินใจเข้าเพ็ดทูลกษัตริย์ว่า ดูกรมหาบพิตรสมภารราชเจ้า อันว่าพวกภิกษุผู้อยู่อาศัยส�ำนักมหาวิหาร มิได้สั่งสอน พระธรรมวนิ ยั ตามครรลองแหง่ พทุ ธบญั ญตั แิ ทจ้ รงิ มเี พยี งพระสงฆส์ ำ� นกั อภยั คริ วี หิ าร เท่านั้นท่ีท�ำหน้าที่รักษาค�ำสอนด้ังเดิมแท้จริงของพระศาสดาเจ้า พระเจ้ามหาเสนะผู้มีความคิดโง่เขลาง่ายต่อการชักจูงอีกท้ังศรัทธาอาจารย์ แห่งตนเป็นพ้ืน จึงหลงเช่ือค�ำแนะน�ำของพระสังฆมิตตเถระโดยง่าย แต่ประเพณีอัน ดีงามท่ีรักษาสืบทอดมาจากบูรพกษัตริย์หลายศตวรรษท�ำให้พระองค์ยังม่ันคง หรืออาจเป็นไปได้ว่าทรงพิจารณาเห็นผลเสียหายตามมา หากท�ำตามค�ำแนะน�ำของ พระสังฆมิตตเถระ พระองค์จึงยังไม่เอนเอียงตามค�ำแนะน�ำของพระสังฆมิตตเถระ ทั้งหมด พระสังฆมิตตเถระมิได้หยุดเพียงเท่านั้น ได้กล่าวย้�ำวิงวอนพระเจ้าแผ่นดิน หลายตอ่ หลายครงั้ วา่ พวกปศี าจแหง่ สำ� นกั มหาวหิ ารลอกเลยี นคำ� สอนจากพระไตรปฎิ ก เพื่อจุดประสงค์แห่งกลุ่มตน สุดท้ายพระเจ้ามหาเสนะก็ทนต่อการรบเร้าของพระ สังฆมิตตเถระมิได้ จึงท�ำการทุกสิ่งอย่างตามความปรารถนาของอาจารย์แห่งตน ทั้งน้ีเพราะความลังเลอ่อนแอทางจิตใจของพระองค์ เหตุการณ์หลังจากน้ีถือว่าเป็นประวัติศาสตร์อันมืดมนแห่งพระพุทธศาสนา ยุคต้นของลังกา ศลิ าจารกึ บนั ทกึ เหตกุ ารณไ์ วว้ า่ ผใู้ ดถวายอาหารบณิ ฑบาตแกพ่ ระภกิ ษผุ อู้ าศยั ส�ำนักมหาวิหาร จะต้องถูกปรับ ๑๐๐ เหรียญเงิน จึงไม่มีใครกล้าท้าทายค�ำสั่งของ พระเจ้าแผ่นดิน สามวันท่ีพระภิกษุส�ำนักมหาวิหารออกเดินบิณฑบาตรอบมหานคร อนรุ าธปรุ ะ แตล่ ะวนั พระสงฆท์ กุ รปู ตอ้ งผดิ หวงั กลบั วดั ดว้ ยบาตรเปลา่ นเี้ ปน็ เหตกุ ารณ์ ครัง้ แรกในรอบหกศตวรรษท่พี ระสงฆ์สำ� นกั มหาวิหารต้องทุกข์ทรมานต่อความหิวโหย คร้ันย่างเข้าวันที่ส่ีพระเถระน้อยใหญ่แห่งส�ำนักมหาวิหารได้ประชุมพร้อมกัน ณ โลหมหาปราสาท ประกาศการตดั สนิ เปน็ ฉนั ทานมุ ตั วิ า่ ถงึ แมจ้ ะทนหวิ จนถงึ มรณภาพ สิ้นชีวิต พวกเราก็จะไม่ยอมรับค�ำสอนของพวกนอกรีตว่าเป็นค�ำสอนท่ีถูกต้องตาม 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 103 1/18/20 1:16 PM
104 พัฒนาการด้านวัฒนธรรม พระธรรมวินัย แต่การกระท�ำเช่นน้ีภิกษุเหล่าอื่นที่เช่ือตามจะทนทุกข์ล�ำบาก ความผิด ก็จะตกแก่พวกเรา อีกทั้งชีวิตและค�ำสอนของพวกเราจะเป็นอันตราย พวกเรา ต้องปฏิเสธอย่างแข็งขันไม่ยอมรับค�ำสอนของพวกไวตุลยะ ด้วยการแก้ปัญหาอย่างแกล้วกล้า ด้วยความศรัทธาม่ันคงต่อค�ำสอนของ พระศาสดาเจ้า ด้วยค�ำนึงถึงความบริสุทธิ์แห่งค�ำสอนสูงค่าย่ิงกว่าชีวิตของตนเอง และด้วยความต้ังใจแน่วแน่เสียสละชีวิตเพ่ือรักษาธรรม ถึงแม้พวกไวตุลยจะมีชัยต่อ ชาวลังกาท่ีภาคภูมิใจว่าแผ่นดินนี้เป็นศูนย์กลางแห่งพระพุทธศาสนา มีค�ำสอนบริสุทธ์ิ ไร้มลทินด่างพร้อยจากพวกนอกรีต พระสงฆ์ส�ำนักมหาวิหารท้ังส้ินจึงได้ละท้ิงอาราม แห่งตน ซ่ึงเป็นศูนย์กลางการศึกษาอันยิ่งใหญ่ ชวนกันเดินทางออกจากอนุราธปุระ เมืองหลวงหลบหนีไปอาศัยดินแดนแคว้นอื่น บางกลุ่มแยกไปอยู่เขตมายารฏะ บางกลุ่มเดินทางลงใต้ไปอาศัยเขตโรหณรฏะ รอคอยวันเวลาส้ินสุดจากหายนะ พระสังฆมิตตเถระนั้นเสวยผลแห่งความส�ำเร็จอย่างไร้ขอบเขต นี้คือชัยชนะ ท่ีท่านปรารถนาและวางแผนมาตลอดชีวิต ทุกส่ิงอย่างกลายเป็นจริงดังใจปรารถนา และแผนการที่วางเอาไว้ก็สำ� เร็จสมบูรณ์ ที่ดินของสำ� นักมหาวิหารกลายเป็นสมบัติของ พระเจ้าแผ่นดิน พระสังฆมิตตเถระเพ็ดทูลพระเจ้ามหาเสนะว่า เม่ือพระสงฆ์ส�ำนัก มหาวิหารทิ้งอารามเสียแล้ว ทรัพย์สมบัติทุกอย่างควรตกเป็นของพระเจ้าแผ่นดิน และพวกธรรมรุจิ การดำ� เนนิ การทกุ สง่ิ อยา่ งอยภู่ ายใตก้ ารดแู ลของพระสงั ฆมติ ตเถระและเสนาบดี นามว่าโสณะ ท้ังสองคนส่ังให้ร้ือท�ำลายทุกส่ิงอย่างที่เป็นของปรปักษ์ ส่ิงก่อสร้าง ถูกร้ือเผาหลังแล้วหลังเล่า มหาวิหาร โลหมหาปราสาท และศาสนสถานทุกแห่งท่ีสร้าง และบูรณปฏิสังขรณ์โดยศรัทธาของบูรพกษัตริย์และเหล่าข้าราชบริพาร เพ่ือเป็น ประโยชน์ต่อพระสงฆ์ส�ำนักมหาวิหาร ต่างถูกท�ำลายเตียนโล่งเหลือแต่ซาก ปริเวณะ ๓๖๔ แห่ง ถูกเผาท�ำลายหมดส้ิน๒๒ ทรัพย์สมบัติถูกน�ำไปประดับตกแต่งแห่งอาราม ๒๒ Nikaya-sangraha, p. 14. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 104 1/18/20 1:16 PM
ศรีลังกา 105 ส�ำนักอภัยคิรีวิหาร ซ่ึงขณะนั้นรุ่งเรืองงดงามด้วยทรัพย์สมบัติของส�ำนักมหาวิหาร กลายเป็นวัดรุ่งเรืองร�่ำรวยท่ีสุดในเกาะลังกา เกือบทศวรรษท่ีพระสังฆมิตตเถระ เสพสุขบนกองทุกข์ของส�ำนักมหาวิหาร ต่อมาเกิดความไม่พอใจต่อพฤติกรรมของกษัตริย์ ผู้เช่ือฟังยอมตามที่ปรึกษา อันร้ายกาจทั้งสอง จึงกลายเป็นเหตุให้เกิดการจลาจลโดยการน�ำของเสนาบดีนามว่า เมฆวัณณาภยะ พระเจ้ามหาเสนะทรงยกทัพไปปราบพวกกบฏ เม่ือกองทัพทั้งสองฝ่าย เผชิญหน้ากันที่มหาคามะ เกิดเหตุการณ์อันน่าสนใจยิ่ง กล่าวคือ เสนาบดีหัวหน้ากบฏ พยายามช้ีแจงสาเหตุท่ีตัวท่านคิดร้ายต่อพระเจ้าแผ่นดิน โดยกราบทูลว่าถึงแม้ตัวเอง ออกต่อสู้จนตายในสมรภูมิก็ไม่เสียดายชีวิต หากแต่ท�ำไปเพราะต้องการคุ้มครอง ป้องกันพระศาสนา ธรรมดาของพระเจ้ามหาเสนะทรงอดทนทุกสิ่งอย่าง แม้กระท่ังความรักต่อ เมฆวัณณาภยะ จึงตรัสถามเสนาบดีถึงสาเหตุท่ีก่อการจลาจล คราวนั้นพวกทหารได้ ตระเตรียมอาหารและเครื่องดื่มบนโต๊ะ เสนาบดีเมฆวัณณาภยะได้ทูลเชิญกษัตริย์เข้า เสวยและพูดคุยด้วยความสนิทสนม ด้วยความเช่ือใจพระเจ้ามหาเสนะจึงทรง ประทบั นง่ั ครนั้ เสวยพระกระยาหารเสรจ็ แลว้ ไดต้ รสั ถามเสนาบดวี า่ ดกู รเมฆวณั ณาภยะ ผู้เป็นสหายอันเป็นท่ีรักแห่งเรา ส่ิงใดเล่าน�ำพาให้เจ้าก่อกบฏต่อเราผู้เป็นเจ้าเหนือหัว เสนาบดีกราบทูลด้วยน�้ำตานองหน้าว่า เหตุเพราะพระองค์ส่ังให้รื้อท�ำลายส�ำนักมหา วิหาร พระเจ้ามหาเสนะให้สัญญาว่า ดูกรเมฆวัณณาภยะผู้เป็นสหาย เราจะสร้างส�ำนัก มหาวิหารให้รุ่งเรืองดังเดิม ยกโทษให้เราผู้ท�ำผิดพลาดไปเพราะความเขลาหลงผิด จากน้ันท้ังสองฝ่ายต่างสนทนาถ้อยทีถ้อยอาศัยกลายเป็นสมานฉันท์สามัคคี แล้วได้ พร้อมใจกันยกกองทัพกลับมหานครอนุราธปุระเมืองหลวง ส่วนประชาชนน้ันเล่าเม่ือทราบข่าวได้พากันประณามพระสังฆมิตตเถระ อย่างรุนแรง โดยมีพระมเหสีของพระเจ้ามหาเสนะเป็นผู้นำ� พระนางทรงข่มพระทัยมา นานต้ังแต่ส�ำนักมหาวิหารถูกท�ำลาย พระนางไม่เคยยกโทษให้พระสังฆมิตตเถระผู้มี จติ ใจดงั่ มารเขา้ สงิ ผทู้ ำ� ลายลา้ งสำ� นกั มหาวหิ ารจนสนิ้ ซาก จากนน้ั ไมน่ านพระสงั ฆมติ ต- เถระถูกสังหารโดยช่างไม้ เพราะขัดขวางการก่อสร้างถูปารามซึ่งพระมเหสีโปรดเกล้า 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 105 1/18/20 1:16 PM
106 พัฒนาการด้านวัฒนธรรม ให้บูรณปฏิสังขรณ์ ส่วนเสนาบดีโสณะถูกชาวบ้านปิดล้อมเคหาสน์ช่วยกันจับตัวทุบตี จนสน้ิ ชวี ติ แลว้ โยนลงในหลมุ แหง่ คถู สตั ว์ จากนนั้ พระมเหสผี กู้ รว้ิ โกรธรบั สง่ั ใหร้ วบรวม ต�ำราของพวกไวตุลยะแล้วเผาท�ำลายจนหมดส้ิน ก�ำเนิดส�ำนักเชตวันวิหาร พระเจ้ามหาเสนะทรงรักษาค�ำสัตย์ปฏิญาณดังค�ำตรัส โดยโปรดให้บูรณ- ปฏสิ งั ขรณส์ ำ� นกั มหาวหิ ารขนึ้ มาใหมใ่ นเวลาอนั สนั้ และนมิ นตพ์ ระสงฆส์ ำ� นกั มหาวหิ าร ที่หลบหนีออกนอกเมืองอนุราธปุระให้กลับคืนสู่เมืองหลวงดังเดิม ตลอดการครอง ราชยท์ เ่ี หลอื จงึ เปน็ ยคุ แหง่ ความสงบสขุ แตไ่ มน่ านนกั พระเจา้ แผน่ ดนิ ผชู้ น่ื ชอบคำ� สอน ของพวกนอกรีต ได้หันไปศรัทธาพระโกโหนติสสเถระแห่งสาคลิยนิกาย ซ่ึงแยกตัว ออกจากส�ำนักอภัยคิรีวิหารมาอาศัยอยู่ที่ทักขิณาคิรีวิหาร พระองค์ได้เร่ิมสร้าง ความวุ่นวายแก่ส�ำนักมหาวิหารอีกคร้ัง กล่าวคือพระองค์ปรารถนาจะสร้างอารามใน บรเิ วณของสำ� นกั มหาวหิ ารมอบถวายแกพ่ ระโกโหนตสิ สเถระ เมอ่ื ทราบดงั นนั้ พระสงฆ์ ส�ำนักมหาวิหารต่างพากันประท้วงอย่างรุนแรง แต่สุดท้ายพระเจ้าแผ่นดินกลับดื้อดึง โปรดให้อ�ำมาตย์เข้าไปจับจองพื้นท่ี เพ่ือสร้างวิหารถวายแด่พระเถระ มีเสียงลือเล่ากันว่าปีศาจร้ายตัวใหญ่เท่าขุนเขาถือท่อนเหล็กปรากฏกายขึ้น คนงานทั้งหลายต่างต่ืนกลัวเตลิดหนีกันสิ้น เมื่อพระเจ้าแผ่นดินทรงทราบข่าวเช่นนั้น จึงโปรดให้ซ่อมแซมส่วนท่ีช�ำรุดและมอบให้เป็นสิทธ์ิแก่เจ้าของเดิม เวลาต่อมาพระองค์โปรดให้สร้างอารามอย่างยิ่งใหญ่นามว่าเชตวันวิหารใน บริเวณของส�ำนักมหาวิหาร แล้วมอบถวายแก่พระโกโหนติสสเถระ แต่คณะสงฆ์ ส�ำนักมหาวิหารพากันปฏิเสธพร้อมกับลงโทษพระโกโหนติสสะผู้รับอารามจากกษัตริย์ ด้วยการลงสังฆานุมัติให้ลาสิกขาเสียเพราะพิจารณาตัดสินแล้วว่ามีความผิดจริง พระเจ้ามหาเสนะไม่ทรงพอพระทัยกับค�ำตัดสินของพระสงฆ์ส�ำนักมหาวิหาร จึงโปรดให้เสนาบดีนามว่าธรรมิกะสอบสวนคดีความอีกครั้งหนึ่ง แต่พระองค์ต้องเสีย พระทัยเป็นอย่างมาก เม่ือเสนาบดีธรรมิกะตัดสินคดีด้วยความซ่ือตรงไม่เกรงกลัว ต่อพระราชอาญา ด้วยการสั่งให้พระโกโหนติสสะลาสิกขาแล้วเนรเทศออกจาก เกาะลังกาเสีย 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 106 1/18/20 1:16 PM
ศรีลังกา 107 พระเจา้ มหาเสนะทรงพา่ ยแพภ้ ยั ของพระองคเ์ อง ทรงเสยี พระทยั ตอ่ เหตกุ ารณ์ ท่ีพระองค์ได้ท�ำลงไปด้วยความเขลา ภายหลังพระองค์ได้หันกลับมาเป็นมิตร และสนับสนุนส�ำนักมหาวิหารดังเดิม แม้ไม่มีหลักฐานบันทึกว่าพระองค์ถวายข้าวน้�ำ แกพ่ ระสงฆม์ ากนอ้ ยเพยี งใด แตก่ ารสนบั สนนุ ภกิ ษผุ ทู้ มุ่ เทดา้ นการศกึ ษาและวรรณคดี กลายเป็นที่ยอมรับของพระสงฆ์ท้ังสามนิกาย๒๓ หลังจากพระเจ้ามหาเสนะสวรรคตสิ้นแล้ว ถือเป็นการสิ้นสุดแห่งการบันทึก คัมภีร์มหาวงศ์ หรือราชวงศ์อันยิ่งใหญ่ของกษัตริย์สิงหล คัมภีร์ราชาวลีกล่าวไว้ว่า การครองราชย์ของกษัตริย์สมัยคัมภีร์จุลวงศ์ไม่ยาวนาน เหตุเพราะเก่ียวข้องกับ สายเลอื ดหลายฝา่ ย มเี พยี งอนุชนรนุ่ หลังนอ้ ยนดิ เทา่ นัน้ ที่เป็นสายเลอื ดสืบทอดมาจาก สุริยวงศ์ ยังมีกลุ่มอ่ืนท่ีเข้ามาพร้อมก่ิงพระศรีมหาโพธิ์ หรือน�ำพระเข้ียวแก้ว เข้ามาถวายกษัตริย์ลังกา กษัตริย์ภายหลังพระเจ้ามหาเสนะต่างไม่ครองราชย์ยืนยาว จนชราภาพ๒๔ เมื่อราชวงศ์อันยิ่งใหญ่ดับสูญไป บ้านเมืองเริ่มรุ่งเรืองมั่งคั่งด้วยทรัพยากร อาณาประชาราษฎร์สามารถแลกเปล่ียนซื้อขายอย่างสันติสุข ถึงแม้บางโอกาสจะมี เหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้นบ้าง แต่ก็เกิดความผาสุกตลอดท่ัวแคว้นแดนลังกา และ ความมงุ่ มนั่ ทพี่ ระเจา้ แผน่ ดนิ ทรงมตี อ่ การชลประทานทำ� ใหบ้ า้ นเมอื งอดุ มสมบรู ณด์ ว้ ย ข้าวปลาอาหาร จนมีทรัพย์สินจ�ำนวนมากสามารถน�ำมาประดับตกแต่งพระนคร อุทิศแก่ศาสนสถาน อาคารก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ อุทยาน และสวนรุกขชาติท่ีงามตา เหล่านี้ท้ังปวงล้วนเป็นพยานยืนยันความร่�ำรวยแห่งอาณาจักรอนุราธปุระ หลักฐาน ดังกล่าวพบเห็นในจดหมายของภิกษุฟาเหียน ผู้เดินทางมาแวะพักเกาะลังกาเป็นเวลา ประมาณสองปี ซ่ึงสนับสนุนข้อมูลที่บันทึกไว้ในคัมภีร์มหาวงศ์ได้เป็นอย่างดี ๒๓ M.V., xxxvii, v. 46. 1/18/20 1:16 PM ๒๔ Rajavali (Upham), p. 239. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 107
108 พัฒนาการด้านวัฒนธรรม ภิกษุฟาเหียนบันทึกไว้ว่ามหานครอนุราธปุระมากมายด้วยผู้คนหลากหลาย เช้ือชาติ ทั้งราชส�ำนักฝ่ายใน เสนาอ�ำมาตย์ และพ่อค้าวาณิชต่างชาติ บ้านเมืองสวยงาม ด้วยอาคารส่ิงก่อสร้าง ประดับประดาอลังการสวยสดงดงาม ถนนหนทางบาทวิถีก็ กว้างใหญ่ง่ายต่อการสัญจร มีธรรมสภาน้อยใหญ่ใกล้ทางส่ีแพร่ง มีการแสดงธรรม เทศนาตลอดเส้นทางหลวง เกาะลังกามีพระสงฆ์ไม่น้อยกว่า ๕๐,๐๐๐ - ๖๐,๐๐๐ รูป พระสงฆ์ท้ังมวลล้วนได้รับการอุปถัมภ์สนับสนุนจากพระเจ้าแผ่นดินทั้งสิ้น๒๕ ลักษณะพิเศษของวรรณคดีล้วนแตกหน่อแยกก่ิงก้านสาขา ผู้คนหญิงชายหมดความ กงั วลเรอื่ งปากทอ้ งตา่ งหนั มาสนใจใฝธ่ รรมเพอื่ ขดั เกลาจติ ใจ พากนั ศกึ ษาพระไตรปฎิ ก และคัมภีร์อรรถกถารวมถึงหลากหลายสาขาวิชาความรู้ นอกจากนั้น ลังกายังมีความ สมั พันธเ์ ก่ยี วขอ้ งกบั อนิ เดียแผน่ ดินแม่และอกี หลายประเทศแถบเอเชีย แม้พอ่ คา้ มัวร์ ผู้เดินทางมาจากอารเบียเพื่อเสนอขายสินค้าก็พบเห็นดาษดื่น พลินี (Pliny) บันทึกไว้ว่าต้นพุทธศตวรรษท่ี ๙ คณะราชทูตจากลังกา ๔ ท่าน ได้เดินทางไปเชื่อมสัมพันธไมตรีกับกรุงโรม ความสัมพันธ์เกี่ยวข้องดังกล่าว มีพยานหลักฐานยืนยันชัดเจน หลังจากมีการค้นพบเหรียญโรมันบนเกาะลังกา๒๖ เมื่อมีการเกี่ยวข้องด้านค้าขายจึงท�ำให้ชาวลังกาเรียนรู้และลอกเลียนแบบ วฒั นธรรมของตา่ งชาติ ยคุ สมยั แหง่ ความสนั ตสิ ขุ กระตนุ้ ใหเ้ กดิ การพฒั นาดา้ นภมู ปิ ญั ญา ไม่มีหลักฐานยืนยันว่าวรรณคดีก�ำเนิดขึ้นในช่วงเวลาน้ีหรือไม่ เพราะส่วนใหญ่สูญหาย ไปเหลือทงิ้ ไวเ้ พียงแคค่ วามทรงจำ� เบือ้ งหลงั จงึ ได้แตภ่ าคภูมใิ จและคาดเดาเอาไว้เพยี ง ภาพอันลางเลือน ๒๕ Giles' translation, pp. 69-70. 1/18/20 1:16 PM ๒๖ Pieris, Ceylons and the Portuguese, p. 9. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 108
ศรีลังกา 109 (บน) สิตุลเพาวะเจดีย์ และ (ล่าง) ซากอารามวิหาร ภายในวัดสิตุลเพาวะ เขตหัมบันโตตะ (คัดลอกภาพจาก www.google.co.th/maps) 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 109 1/18/20 1:16 PM
110 พัฒนาการด้านวัฒนธรรม (บน) มิริสแวฏิยเจดีย์ เมืองเก่าอนุราะปุระ และ (ล่าง) ปัญจวาสะของภิกษุณี บริเวณถูปาราม เจดีย์ เมืองเก่าอนุราธปุระ (คัดลอกภาพจาก www.google.co.th/maps) 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 110 1/18/20 1:16 PM
ศรีลังกา 111 หนังสือบันทึกการเดินทางของภิกษุฟาเหียน ผลงานแปลของเจมส์ เกรย์ ถ้�ำฟาเหียนคะละ เขตกาฬุตะระ (คัดลอกภาพจาก www.google.co.th/maps) 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 111 1/18/20 1:16 PM
112 ก่อก�ำเนิดวงการวรรณคดี 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 112 1/18/20 1:16 PM
ศรีลังกา 113 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 113 1/18/20 1:16 PM
ภาพจิตรกรรมฝาผนังวัดศรีสุโพธาราม เขตเดหิวาละ เมืองหลวงโคลัมโบ 1/18/20 1:16 PM 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 114
บทที่ ๕ ก่อก�ำเนิดวงการวรรณคดี พระทันตธาตุเข้าสู่ลังกา หลังจากพระเจ้ามหาเสนะสวรรคตส้ินแล้ว พระเจ้าสิริเมฆวัณณะผู้โอรสได้ ซ่อมแซมส�ำนักมหาวิหารขึ้นใหม่ เพื่อลบล้างความผิดท่ีพระราชบิดาเคยทำ� ไว้ พระองค์ โปรดให้นิมนต์พระสงฆ์ส�ำนักมหาวิหารท่ีอพยพหลบหนีคราวหายนะภัยครั้งนั้น ให้เข้ามาอยู่อาศัยมหาวิหารดังเดิม จากนั้นทูลถามพระสงฆ์ส�ำนักมหาวิหารว่า ควร กระท�ำเช่นใดจึงจะช่ือว่าลบล้างตราบาปของพระบิดาได้ เมื่อได้รับค�ำแนะน�ำจาก คณะสงฆแ์ ลว้ พระองคโ์ ปรดใหส้ รา้ งโลหปราสาทขน้ึ มาใหมอ่ ยา่ งสวยสดงดงามทา่ มกลาง มหานครอนุราธปุระ และให้สร้างปริเวณะข้ึนมาใหม่หลายแห่งแทนของเดิมท่ีถูกร้ือ เผาท�ำลาย อีกท้ังถวายที่ดินมอบคืนแก่พระสงฆ์ส�ำนักมหาวิหารดังเดิม อันว่าพระเจ้าสิริเมฆวัณณะน้ันทรงเชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ย่ิงนัก ครั้น พระองค์ทรงทราบว่าพระมหินทเถระมีคุณูปการมากมายใหญ่หลวงแก่ลังกาประเทศ จึงโปรดให้หล่อรูปพระเถรเจ้าพร้อมให้จัดงานเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ อีกทั้งโปรดให้ เจ้าหน้าที่ออกป่าวประกาศแจ้งข่าวแก่คณะสงฆ์และไพร่ฟ้าประชาชนทั่วเกาะลังกาว่า๑ ประเพณีอันดีงามเช่นน้ีควรจัดข้ึนเป็นประจ�ำทุกปีหลังสิ้นสุดวสันตฤดูแล้ว พระราชด�ำรัสของพระองค์ได้รับการปฏิบัติรักษาสืบต่อเรื่อยมาเป็นเวลายาวนาน ก่อนที่จะสูญหายไปตามกาลเวลาคราเม่ือบ้านเมืองแตกแยกระส่�ำระสาย เพราะ ภัยสงครามจากคนนอก๒ ๑ M.V., xxxvii, vv. 66 foll. 1/18/20 1:16 PM ๒ ปัจจุบันมีความพยายามฟื้นฟูประเพณีเช่นน้ีข้ึนอีกครั้ง 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 115
116 ก่อก�ำเนิดวงการวรรณคดี เหตุการณ์ส�ำคัญที่สุดสมัยพระองค์คือ การเข้ามาของพระทันตธาตุเบ้ืองขวา จากแคว้นกาลิงคะแห่งอินเดียประเทศ ซึ่งบันทึกไว้ในคัมภีร์ทาฐาวังสะ โดยอาศัย ข้อมูลจากคัมภีร์เก่าแก่แต่ด้ังเดิมนามว่าดาฬดาวังสะ เช่ือว่าเขียนขึ้นในปีที่ ๙ แห่ง รัชสมัยของพระองค์ตรงกับปีที่พระทันตธาตุเข้ามาลังกา คัมภีร์เล่มน้ีแต่งขึ้นตาม พระราชดำ� รสั ของกษตั รยิ ล์ งั กา เชอ่ื กนั วา่ การเรยี บเรยี งประวตั ศิ าสตรข์ องพระทนั ตธาตุ น้ัน มีมาตั้งแต่คร้ังพุทธปรินิพพานจนถึงการอัญเชิญเข้ามายังลังกาทวีป จึงสันนิษฐาน ว่าน่าจะมีงานเขียนเล่มอื่นอีกช่ือว่าทาฐาธาตุวังสะ๓ ซึ่งเขียนขึ้นในเวลาเดียวกันหรือ ใกล้เคียงกัน เพราะมีหลักฐานระบุไว้ชัดในคัมภีร์มหาวงศ์ แม้เทอร์เนอร์ผู้แปลคัมภีร์ มหาวงศ์ก็ระบุว่า คัมภีร์ทาฐาธาตุวังสะยังคงมีอยู่จนถึงปัจจุบัน แต่จากการสืบค้น ของผู้เขียนกลับไม่พบคัมภีร์ดังกล่าว ส่วนฟอร์บส์ (Forbes) ยืนยันว่าคัมภีร์ดังกล่าว ช่ือว่าดาฬดาวังสะ แต่ไม่ได้ให้เหตุผลว่าเพราะเหตุไรจึงกล่าวเช่นนั้น๔ ส่วนคัมภีร์ทาฐาวังสะน้ันแต่งโดยพระธรรมกิตติเถระ ประมาณพุทธศตวรรษ ที่ ๑๗ ได้บรรยายประวัติความเป็นมาของพระทันตธาตุไว้ว่า พระทันตธาตุเข้ามาลังกา โดยการอัญเชิญมาจากนครทันตปุระแห่งแคว้นกาลิงคะ ประเทศอินเดีย ตรงกับสมัย ของพระเจ้าสิริเมฆวัณณะผู้เป็นกษัตริย์ลังกา ส�ำหรับผู้ท�ำหน้าที่อัญเชิญมาคือ พระนางเหมมาลาพระราชธิดาของพระเจ้าคุหาสิวะ กษัตริย์แห่งแคว้นกาลิงคะ และพระสวามีนามว่าทันตกุมารผู้เป็นเชื้อพระวงศ์แห่งแคว้นอวันตี ย้อนรอยถอยหลังก่อนหน้านั้นแปดศตวรรษ พระทันตธาตุเดิมประดิษฐาน อยู่ท่ีนครทันตปุระน้ันแล ล่วงเข้าสมัยพระเจ้าคุหาสิวะผู้ครองแคว้นกาลิงคะ เดิม พระองค์นับถือศาสนาพราหมณ์แต่หันมานับถือพระพุทธศาสนา เพราะศรัทธามั่นคง ในพระทันตธาตุ การยอมตนเป็นพุทธมามกะของพระเจ้าคุหาสิวะ สร้างความไม่พอ ให้แก่พวกพราหมณ์เป็นย่ิงนัก จึงพากันเดินทางไปเข้าเฝ้าพระเจ้าปาณฑุแห่งนคร ปาฏลีบุตร กราบทูลให้ทรงทราบว่าพระเจ้าคุหาสิวะเป็นมิจฉาทิฐิน�ำพาประชาชนบูชา ๓ Turnour, Maha-vamsa, p. 241, footnote. ๔ See Datha-vamsa discussion. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 116 1/18/20 1:16 PM
ศรีลังกา 117 กระดูกคนตาย พระเจ้าปาณฑุจึงรับสั่งให้น�ำพระทันตธาตุเข้ามายังพระนครปาฏลีบุตร เนื้อความตามคัมภีร์กล่าวไว้ว่าครานั้นพระทันตธาตุได้แสดงปาฏิหาริย์ จนพระเจ้า ปาณฑุและข้าราชบริพารหันมานับถือพระพุทธศาสนากันหมดส้ิน สมัยต่อมาพระเจ้าแผ่นดินแห่งแคว้นพาราณสีทราบกิตติศัพท์ของพระ ทันตธาตุ ได้ยกกองทัพเข้ามาประชิดปิดล้อมเมืองปาฏลีบุตร เพ่ือขอพระทันตธาตุไป ประดิษฐาน ณ แว่นแคว้นแห่งตน เมื่อพระเจ้าปาณฑุทรงปฏิเสธ สงครามระหว่างสอง แคว้นจึงเกิดขึ้น สุดท้ายพระเจ้าปาณฑุเป็นฝ่ายปราชัย แต่พระทันธาตุแสดงปาฏิหาริย์ เสด็จมาประดิษฐานทีแ่ คว้นกาลงิ คะของพระเจา้ คหุ าสวิ ะดงั เดมิ ครัง้ หนึง่ พระโอรสของ พระเจ้าแผ่นดินแห่งแคว้นอวันตีนามว่าเจ้าชายทันตกุมาร ผู้ศรัทธามั่นคงในบวร พระพุทธศาสนา ได้เดินทางมายังนครทันตปุระเพ่ือสักการบูชาพระทันตธาตุ ต่อมา ได้อภิเษกสมรสกับพระนางเหมมาลาพระราชธิดาของพระเจ้าคุหาสิวะ อีกหลายปีต่อมากองทัพของพระเจ้าพาราณสีบุกโจมตีแคว้นกาลิงคะ เพื่อ ต้องการครอบครองพระทันตธาตุ พระเจ้าคุหาสิวะทรงทราบว่ากองทัพของพระเจ้า พาราณสมี มี ากมายมหาศาลยากตอ่ การตา้ นทาน จงึ รบั สง่ั ใหพ้ ระราชธดิ าและราชบตุ รเขย อัญเชิญพระทันตธาตุหลบหนีออกจากพระนคร ท้ังสองพระองค์ทรงปลอมเพศเป็น นักบวช เดินทางรอนแรมหลายเพลามาถึงเกาะลังกา และน�ำพระทันตธาตุเข้าไป ถวายพระเจ้าแผ่นดินลังกา พระเจ้าสิริเมฆวัณณะผู้เป็นกษัตริย์ลังกาสมัยนั้น ทรงปีติปรีดาปราโมทย์ เป็นอย่างย่ิง โปรดให้จัดพิธีต้อนรับแห่แหนพระทันตธาตุอย่างย่ิงใหญ่ตระการตา เพราะถือว่าเป็นส่ิงศักด์ิสิทธิ์สูงสุดเสมือนสัญลักษณ์แทนองค์สมเด็จพระสัมมา สัมพุทธเจ้า คร้ันอัญเชิญพระทันตธาตุเข้าสู่มหานครอนุราธปุระเมืองหลวงแล้ว พระเจา้ แผน่ ดนิ พรอ้ มกบั ขา้ ราชบรพิ ารตา่ งแสดงความเคารพสงู สดุ ดว้ ยการประดษิ ฐาน พระทันตธาตุไว้ในผอบอัญมณีอันล้�ำค่ามีธรรมจักรเป็นฐาน ซึ่งสร้างข้ึนมาเน่ินนาน ต้ังแต่สมัยพระเจ้าเทวานัมปิยติสสะผู้เป็นบูรพกษัตริย์คร้ังอดีต 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 117 1/18/20 1:16 PM
118 ก่อก�ำเนิดวงการวรรณคดี คมั ภรี ์มหาวงศ์บรรยายเหตกุ ารณส์ �ำคัญครง้ั นไ้ี วว้ า่ ๕ พระเจ้าแผ่นดินลังกาทรง เลื่อมใสศรัทธาในพระทันตธาตุยิ่งนัก ทรงบริจาคทรัพย์เก้าแสนเหรียญเงิน เพ่ือจัด งานเฉลิมฉลองพระทันตธาตุ พร้อมกันนั้นโปรดให้ป่าวประกาศว่าควรให้มีพิธีแห่แหน พระทันตธาตุเป็นประจ�ำทุกปี เพื่อให้ไพร่ฟ้าประชาชนได้สักการบูชาอย่างใกล้ชิด โดยขบวนแห่เริ่มต้นจากส�ำนักอภัยคิรีวิหาร หน่ึงศตวรรษต่อมา ภิกษุฟาเหียนนักบวชชาวจีนเดินทางมาแวะพักเกาะลังกา ได้เห็นพิธีแห่แหนพระทันตธาตุจึงบรรยายความยิ่งใหญ่อลังการอย่างต่ืนเต้น ประทับใจ๖ แม้พระธรรมกิตติเถระก็บรรยายถึงพิธีการแห่แหนพระทันตธาตุไว้ อย่างละเอียด ประเพณีอันดีงามสมัยโบราณได้รับการสืบทอดต่อเนื่องเร่ือยมา จน กระท่ังพระทันตธาตุได้ประดิษฐานม่ันคงท่ีเมืองแคนดีจวบจนปัจจุบัน๗ กล่าวกันว่าเมื่อพระทันตธาตุเข้ามาลังกาทวีปครั้งแรกนั้น ได้รับการต้อนรับ ด้วยพิธีย่ิงใหญ่จากชาวสิงหลเหมือนประเพณีเฉลิมฉลองเทพเจ้าโบราณของชาวโรมัน เพราะบ้านเมืองเป็นของหมู่ชนผู้ศรัทธามั่นคงต่อพระทันตธาตุ ตราบเท่าถึงปัจจุบันยัง ไม่มีส่ิงใดมีค่าที่ควรเคารพสักการะย่ิงกว่าพระทันตธาตุอีกแล้ว ความมั่งคั่งรุ่งเรือง ของบ้านเมืองล้วนน้อมลงถวายแก่พระทันตธาตุส้ิน ไม่ว่าพระราชวังจะถูกสร้างขึ้น ณ สถานท่ีแห่งใด ภายในบริเวณพระราชวังจ�ำต้องสร้างพระวิหาร ส�ำหรับประดิษฐาน พระทันตธาตุโดยเฉพาะ (ภาษาสิงหลเรียกว่าดาฬดามาลิกาวะ) แม้จะเล็กด้วยรูปทรง แต่ต้องให้งดงามเหนือกว่าพระราชวังของพระมหากษัตริย์ หมู่บ้านทั้งหมดตลอด แว่นแคว้นแดนลังกาต่างส่งส่วยอุทิศถวายพระทันตธาตุ อีกท้ังสนับสนุนผู้ท�ำหน้าที่ บชู าพระทนั ตธาตุ ด้วยขา้ ว ดอกไม้ ธูป และน้ำ� มนั อันเปน็ ประเพณีรกั ษาสืบต่อกันมา แมพ้ ระราชาทกุ พระองคจ์ ำ� ตอ้ งถวายพทุ ธบชู าดว้ ยตวั เอง เพอ่ื แสดงออกถงึ ความศรทั ธา มั่นคงแน่วแน่ต่อพระทันตธาตุ ซึ่งเป็นสมบัติล้�ำค่าคู่บ้านคู่เมือง๘ ๕ M.V., xxxvii, v. 96. ๖ Giles' Translation, pp. 69-70. ๗ Datha-vamasa, p. 16. ๘ Kirti Sri Raja-Sinha, Pieris, op. cit., p. 11. 2.���������������������������� (�������� �) p.01-546 new.indd 118 1/18/20 1:16 PM
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 580
Pages: